• คมนาคมทุบโต๊ะ รถเมล์ร้อนหมดไป

    การหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการเดินรถโดยสารประจำทางสายที่ 2-38 (สาย 8 เดิม) ที่มีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 มีประเด็นที่น่าสนใจก็คือ นโยบายลดจำนวนรถธรรมดา หรือรถร้อน เปลี่ยนเป็นรถปรับอากาศ หรือรถแอร์ทั้งหมด ภายในปี 2568 คาดหวังว่ารถร้อนจะหายไปจากถนน นายสุรพงษ์กล่าวว่า ต้นทุนของรถร้อนและรถแอร์ไม่ต่างกัน แต่การจัดเก็บค่าโดยสารค่อนข้างสูงเกินไป จึงมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกไปศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมใหม่ โดยเบื้องต้นพบว่า ต้นทุนเฉลี่ยรถแอร์ของเอกชนอยู่ที่ประมาณ 18 บาทต่อคน

    นอกจากนี้ ยังต้องการให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้บริการรถเมล์ของเอกชนได้ เช่นเดียวกับรถเมล์ ขสมก. จึงได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง และเอกชนผู้เดินรถ เชื่อมต่อเข้ากับระบบเคลียร์ริ่งเฮ้าส์ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันว่าไม่มีใครอยากนั่งรถร้อนแต่อยู่ที่ราคา ประชาชนอยากนั่งรถที่ดีและราคาถูกเท่านั้นเอง ซึ่งรัฐต้องดูแลกลุ่มเปราะบางอย่างเต็มที่ โดยตัวแทนจากบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้ประกอบการเดินรถ 124 เส้นทาง รับปากว่าไม่เกินต้นปี 2568 จะปรับระบบสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่ในระบบประมาณ 6-7 แสนคน

    ด้านนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ได้รับงบผูกพัน 7 ปี (2568-2575) ในโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศ EV จำนวน 1,520 คัน ด้วยวิธีการเช่า ประมูลแบบ e-bidding วงเงิน 15,355 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณา ตามแผนงานหากเสนอ ครม.ได้ภายในปีนี้ กระบวนการประมูลแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถเริ่มรับมอบได้ภายในเดือน ก.ค. ถึง ส.ค. 2568 ส่วนระยะที่ 2 จำนวน 1,520 คัน จะเป็นรูปแบบการร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP) อยู่ระหว่างรอกระทรวงการคลังบรรจุลงใน Project Pipeline

    โดยหลักการเบื้องต้น ขสมก.จะให้เอกชนผู้จัดหารถโดยสาร ขสมก.ดำเนินการเรื่องคนขับและบริหารจัดการเอง พร้อมร่วมลงทุนโดยนำพื้นที่อู่จอดรถเมล์บางเขน มาพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อลดภาระงบประมาณของรัฐ ซึ่งหาก ขสมก. มีรถ EV ใหม่เข้ามาทั้งหมด 3,040 คัน จะช่วยลดภาระค่าเหมาซ่อมจากปีละ 1,700 ล้านบาทเหลือ 1,000 ล้านบาท ลดค่าพลังงานจากปีละ 2,000 ล้านบาทเหลือ 700 ล้านบาท รวมแล้วลดค่าใช้จ่ายได้ 2,500 ล้านบาทต่อปี

    อนึ่ง รายงานประจำปี 2566 ระบุว่า ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารรวม 2,885 คัน แยกเป็นรถธรรมดา 1,520 คัน และรถปรับอากาศ 1,365 คัน

    #Newskit #ขสมก #รถเมล์แอร์
    คมนาคมทุบโต๊ะ รถเมล์ร้อนหมดไป การหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการเดินรถโดยสารประจำทางสายที่ 2-38 (สาย 8 เดิม) ที่มีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 มีประเด็นที่น่าสนใจก็คือ นโยบายลดจำนวนรถธรรมดา หรือรถร้อน เปลี่ยนเป็นรถปรับอากาศ หรือรถแอร์ทั้งหมด ภายในปี 2568 คาดหวังว่ารถร้อนจะหายไปจากถนน นายสุรพงษ์กล่าวว่า ต้นทุนของรถร้อนและรถแอร์ไม่ต่างกัน แต่การจัดเก็บค่าโดยสารค่อนข้างสูงเกินไป จึงมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกไปศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมใหม่ โดยเบื้องต้นพบว่า ต้นทุนเฉลี่ยรถแอร์ของเอกชนอยู่ที่ประมาณ 18 บาทต่อคน นอกจากนี้ ยังต้องการให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้บริการรถเมล์ของเอกชนได้ เช่นเดียวกับรถเมล์ ขสมก. จึงได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง และเอกชนผู้เดินรถ เชื่อมต่อเข้ากับระบบเคลียร์ริ่งเฮ้าส์ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันว่าไม่มีใครอยากนั่งรถร้อนแต่อยู่ที่ราคา ประชาชนอยากนั่งรถที่ดีและราคาถูกเท่านั้นเอง ซึ่งรัฐต้องดูแลกลุ่มเปราะบางอย่างเต็มที่ โดยตัวแทนจากบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้ประกอบการเดินรถ 124 เส้นทาง รับปากว่าไม่เกินต้นปี 2568 จะปรับระบบสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่ในระบบประมาณ 6-7 แสนคน ด้านนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ได้รับงบผูกพัน 7 ปี (2568-2575) ในโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศ EV จำนวน 1,520 คัน ด้วยวิธีการเช่า ประมูลแบบ e-bidding วงเงิน 15,355 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณา ตามแผนงานหากเสนอ ครม.ได้ภายในปีนี้ กระบวนการประมูลแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถเริ่มรับมอบได้ภายในเดือน ก.ค. ถึง ส.ค. 2568 ส่วนระยะที่ 2 จำนวน 1,520 คัน จะเป็นรูปแบบการร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP) อยู่ระหว่างรอกระทรวงการคลังบรรจุลงใน Project Pipeline โดยหลักการเบื้องต้น ขสมก.จะให้เอกชนผู้จัดหารถโดยสาร ขสมก.ดำเนินการเรื่องคนขับและบริหารจัดการเอง พร้อมร่วมลงทุนโดยนำพื้นที่อู่จอดรถเมล์บางเขน มาพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อลดภาระงบประมาณของรัฐ ซึ่งหาก ขสมก. มีรถ EV ใหม่เข้ามาทั้งหมด 3,040 คัน จะช่วยลดภาระค่าเหมาซ่อมจากปีละ 1,700 ล้านบาทเหลือ 1,000 ล้านบาท ลดค่าพลังงานจากปีละ 2,000 ล้านบาทเหลือ 700 ล้านบาท รวมแล้วลดค่าใช้จ่ายได้ 2,500 ล้านบาทต่อปี อนึ่ง รายงานประจำปี 2566 ระบุว่า ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารรวม 2,885 คัน แยกเป็นรถธรรมดา 1,520 คัน และรถปรับอากาศ 1,365 คัน #Newskit #ขสมก #รถเมล์แอร์
    Like
    Love
    Angry
    5
    1 Comments 0 Shares 656 Views 0 Reviews
  • #งานนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ประจำปี๒๕๖๗

    ขอเชิญเที่ยวงานนมัสการ
    #องค์พระปฐมเจดีย์ ประจำปี ๒๕๖๗
    ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม
    #งานประจำปี ๙ วัน ๙ คืน ระหว่างวันที่ ๑๒ - ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
    #งานออกร้าน ระหว่างวันที่ ๑ พฤศจิกายน - ๘ ธันวาคม ๒๕๖๗

    นอกจากนี้
    เชิญชวนนมัสการและสักการะ
    ปูชนียวัตถุสถานภายในพระอาราม
    อาทิ...
    ● พระบรมสารีริกธาตุ
    ● พระร่วงโรจน์ฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชบูชนิยบพิตร์ ฉลอง ๑๐๙ ปี (๒ พฤศจิกายน ๒๔๕๘-๒๕๖๗) หน้าพระเจดีย์ด้านทิศเหนือ
    ● พระพุทธรูปศิลาขาว (ศิลปะทวารวดี) พระประธานในพระอุโบสถ
    ● พระพุทธนรเชษฐ์ เศวตอัศมมัยมุนี ศรีทวารวดี ปูชนียบพิตร หน้าพระวิหารทิศใต้
    ● พระพุทธสิหิงค์จำลอง บนองค์พระเจดีย์
    ● พระพุทธรูปปางโปรดปัญจวัคคีย์ ในพระวิหารทิศใต้
    ● พระประธานในพระวิหารทิศตะวันออก
    ● พระพุทธไสยาสน์ ในพระวิหารทิศตะวันตก
    ● พระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาติโมกข์
    ● พระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ พร้อมด้วยพระสรีรางคาร พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีในรัชกาลที่ ๖ และพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งประดิษฐานไว้ที่ผนังเบื้องหลังพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่พระวิหารทิศเหนือ

    และเยี่ยมชม
    พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์
    ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ (ขวาพระ)
    ภายนอกตรงข้ามสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม
    #งานนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ประจำปี๒๕๖๗ ขอเชิญเที่ยวงานนมัสการ #องค์พระปฐมเจดีย์ ประจำปี ๒๕๖๗ ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม ● #งานประจำปี ๙ วัน ๙ คืน ระหว่างวันที่ ๑๒ - ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ● #งานออกร้าน ระหว่างวันที่ ๑ พฤศจิกายน - ๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ นอกจากนี้ เชิญชวนนมัสการและสักการะ ปูชนียวัตถุสถานภายในพระอาราม อาทิ... ● พระบรมสารีริกธาตุ ● พระร่วงโรจน์ฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชบูชนิยบพิตร์ ฉลอง ๑๐๙ ปี (๒ พฤศจิกายน ๒๔๕๘-๒๕๖๗) หน้าพระเจดีย์ด้านทิศเหนือ ● พระพุทธรูปศิลาขาว (ศิลปะทวารวดี) พระประธานในพระอุโบสถ ● พระพุทธนรเชษฐ์ เศวตอัศมมัยมุนี ศรีทวารวดี ปูชนียบพิตร หน้าพระวิหารทิศใต้ ● พระพุทธสิหิงค์จำลอง บนองค์พระเจดีย์ ● พระพุทธรูปปางโปรดปัญจวัคคีย์ ในพระวิหารทิศใต้ ● พระประธานในพระวิหารทิศตะวันออก ● พระพุทธไสยาสน์ ในพระวิหารทิศตะวันตก ● พระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาติโมกข์ ● พระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ พร้อมด้วยพระสรีรางคาร พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีในรัชกาลที่ ๖ และพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งประดิษฐานไว้ที่ผนังเบื้องหลังพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่พระวิหารทิศเหนือ และเยี่ยมชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ (ขวาพระ) ภายนอกตรงข้ามสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม
    0 Comments 0 Shares 249 Views 0 Reviews
  • ส่องไทยเที่ยวมาเลย์ฯ ครึ่งปี 8.1 แสนคน

    ในขณะที่กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยสะสมระหว่าง 1 ม.ค. ถึง 15 ก.ย. 2567 พบว่ามีจำนวน 24,810,988 คน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวจีนสูงสุด 5,002,975 คน รองลงมาคือ มาเลเซีย 3,517,586 คน อินเดีย 1,442,978 คน เกาหลีใต้ 1,316,895 คน และรัสเซีย 1,119,768 คน

    มาดูกันที่การท่องเที่ยวมาเลเซีย (Tourism Malaysia) เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยสะสมระหว่าง ม.ค. ถึง มิ.ย. 2567 รวม 11,808,937 คน สร้างรายได้ 45,422 ล้านริงกิต โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวสิงคโปร์สูงสุด 4,276,007 คน รองลงมาคือ อินโดนีเซีย 1,786,630 คน จีน 1,449,711 คน ไทย 813,783 คน และบรูไน 565,999 คน

    ส่วนรูปแบบการเดินทาง พบว่าทางบก 5 อันดับแรก มีผู้เดินทางผ่านด่านทัมบักยะโฮร์ รัฐยะโฮร์มากที่สุด 2,711,430 คน รองลงมาคือ ด่านเกอลังปาตาห์ รัฐยะโฮร์ 1,976,578 คน ทั้งสองด่านติดกับสิงคโปร์ อันดับสาม ด่านสุไหงตูจูห์ รัฐซาราวัก 326,038 คน ติดกับบรูไน อันดับสี่ ด่านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเคดะห์ 267,902 คน และด่านปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส 198,546 คน ทั้งสองด่านติดกับประเทศไทย

    ทางอากาศ 5 อันดับแรก มีผู้เดินทางผ่านสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) มากที่สุด 1,926,191 คน รองลงมาคือ กัวลาลัมเปอร์ 2 (KLIA 2) 1,749,623 คน อันดับสาม สนามบินบายันเลอปัซ รัฐปีนัง (PEN) 523,920 คน อันดับสี่ สนามบินโคตาคินาบาลู (BKI) ซาบาห์ 290,021 คน และอันดับ 5 สนามบินเซไน รัฐยะโฮร์ (JHB) 63,244 คน

    ที่น่าสนใจก็คือ นักท่องเที่ยวแบบทัศนาจร (Excursionist Arrivals) รวม 5,670,061 คน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวสิงคโปร์สูงสุด 4,121,879 คน รองลงมาคือ ไทย 361,035 คน บรูไน 319,421 คน อินโดนีเซีย 244,481 คน และจีน 157,702 คน โดยพบว่าเดินทางผ่านทางบกมากที่สุด 91.7% รองลงมาคือทางอากาศ 6.1% ทางรถไฟ 1.9% และทางทะเล 0.4%

    ก่อนหน้านี้ในรายงานประจำปี 2023 พบว่าประเทศมาเลเซียต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศรวม 20,141,846 คน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 71,308.5 ล้านริงกิต โดยพบว่าอันดับ 1 สิงคโปร์ 8,308,230 คน อันดับ 2 อินโดนีเซีย 3,108,165 คน อันดับ 3 ประเทศไทย 1,551,282 คน อันดับ 4 จีน 1,474,114 คน และอันดับ 5 บรูไน 811,833 คน

    ส่วนนักท่องเที่ยวแบบทัศนาจร มีทั้งหมด 8,822,462 คน โดยพบว่าอันดับ 1 สิงคโปร์ 6,520,323 คน อันดับ 2 ประเทศไทย 748,876 คน อันดับ 3 อินโดนีเซีย 371,227 คน อันดับ 4 บรูไน 304,378 คน และอันดับ 5 จีน 139,198 คน

    #Newskit #TourismMalaysia #การท่องเที่ยวมาเลเซีย
    ส่องไทยเที่ยวมาเลย์ฯ ครึ่งปี 8.1 แสนคน ในขณะที่กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยสะสมระหว่าง 1 ม.ค. ถึง 15 ก.ย. 2567 พบว่ามีจำนวน 24,810,988 คน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวจีนสูงสุด 5,002,975 คน รองลงมาคือ มาเลเซีย 3,517,586 คน อินเดีย 1,442,978 คน เกาหลีใต้ 1,316,895 คน และรัสเซีย 1,119,768 คน มาดูกันที่การท่องเที่ยวมาเลเซีย (Tourism Malaysia) เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยสะสมระหว่าง ม.ค. ถึง มิ.ย. 2567 รวม 11,808,937 คน สร้างรายได้ 45,422 ล้านริงกิต โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวสิงคโปร์สูงสุด 4,276,007 คน รองลงมาคือ อินโดนีเซีย 1,786,630 คน จีน 1,449,711 คน ไทย 813,783 คน และบรูไน 565,999 คน ส่วนรูปแบบการเดินทาง พบว่าทางบก 5 อันดับแรก มีผู้เดินทางผ่านด่านทัมบักยะโฮร์ รัฐยะโฮร์มากที่สุด 2,711,430 คน รองลงมาคือ ด่านเกอลังปาตาห์ รัฐยะโฮร์ 1,976,578 คน ทั้งสองด่านติดกับสิงคโปร์ อันดับสาม ด่านสุไหงตูจูห์ รัฐซาราวัก 326,038 คน ติดกับบรูไน อันดับสี่ ด่านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเคดะห์ 267,902 คน และด่านปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส 198,546 คน ทั้งสองด่านติดกับประเทศไทย ทางอากาศ 5 อันดับแรก มีผู้เดินทางผ่านสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) มากที่สุด 1,926,191 คน รองลงมาคือ กัวลาลัมเปอร์ 2 (KLIA 2) 1,749,623 คน อันดับสาม สนามบินบายันเลอปัซ รัฐปีนัง (PEN) 523,920 คน อันดับสี่ สนามบินโคตาคินาบาลู (BKI) ซาบาห์ 290,021 คน และอันดับ 5 สนามบินเซไน รัฐยะโฮร์ (JHB) 63,244 คน ที่น่าสนใจก็คือ นักท่องเที่ยวแบบทัศนาจร (Excursionist Arrivals) รวม 5,670,061 คน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวสิงคโปร์สูงสุด 4,121,879 คน รองลงมาคือ ไทย 361,035 คน บรูไน 319,421 คน อินโดนีเซีย 244,481 คน และจีน 157,702 คน โดยพบว่าเดินทางผ่านทางบกมากที่สุด 91.7% รองลงมาคือทางอากาศ 6.1% ทางรถไฟ 1.9% และทางทะเล 0.4% ก่อนหน้านี้ในรายงานประจำปี 2023 พบว่าประเทศมาเลเซียต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศรวม 20,141,846 คน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 71,308.5 ล้านริงกิต โดยพบว่าอันดับ 1 สิงคโปร์ 8,308,230 คน อันดับ 2 อินโดนีเซีย 3,108,165 คน อันดับ 3 ประเทศไทย 1,551,282 คน อันดับ 4 จีน 1,474,114 คน และอันดับ 5 บรูไน 811,833 คน ส่วนนักท่องเที่ยวแบบทัศนาจร มีทั้งหมด 8,822,462 คน โดยพบว่าอันดับ 1 สิงคโปร์ 6,520,323 คน อันดับ 2 ประเทศไทย 748,876 คน อันดับ 3 อินโดนีเซีย 371,227 คน อันดับ 4 บรูไน 304,378 คน และอันดับ 5 จีน 139,198 คน #Newskit #TourismMalaysia #การท่องเที่ยวมาเลเซีย
    Like
    Love
    9
    1 Comments 1 Shares 879 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีสมโภชน์หลวงพ่อบึงสามพัน ณ บริเวณถนนหน้าที่ว่าการอำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
    งานประจำปีสมโภชน์หลวงพ่อบึงสามพัน ณ บริเวณถนนหน้าที่ว่าการอำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีวัดทองนพคุณ (บางแสม) ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
    งานประจำปีวัดทองนพคุณ (บางแสม) ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • งานประจำปี วัดศรีประจันตคาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ระหว่างวันที่ 7 - 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
    งานประจำปี วัดศรีประจันตคาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ระหว่างวันที่ 7 - 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • งานประจำปี ปิดทองพระพุทธชินราช และพระโพธิสัตว์กวนอิม ณ วัดโคกบำรุงราษฎร์ ตำบลดอนกรวย อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
    งานประจำปี ปิดทองพระพุทธชินราช และพระโพธิสัตว์กวนอิม ณ วัดโคกบำรุงราษฎร์ ตำบลดอนกรวย อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 190 Views 0 Reviews
  • ปิดฉากบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ไม่ต่อที่ดินกลุ่มเซ็นทรัล

    ก่อนหน้านี้ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จะปิดถาวร 2 สาขา ได้แก่ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สุขาภิบาล 3 (แยกบ้านม้า) และบิ๊กซี รังสิต 2 (ตลาดสี่มุมเมือง) ซึ่งเคยเป็นห้างคาร์ฟูร์ในอดีต ล่าสุด นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ จะเปิดให้บริการ 31 ต.ค.เป็นวันสุดท้าย ซึ่งจะย้ายไปยังทำเลใหม่ที่ใกล้เคียง เป็นทำเลทองติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่ดิน Freehold (ที่ดินกรรมสิทธิ์) ในกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2568

    นับเป็นการเปิดฉากยุติสัญญาเช่าที่ดินกับกลุ่มเซ็นทรัลอย่างชัดเจน พร้อมกับปิดตำนานห้างบิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ ที่เปิดให้บริการมานานเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่เปิดวันแรก 10 พ.ย. 2537 เดิมคือห้างเซ็นทรัล ซูเปอร์สโตร์ สาขาที่สองต่อจากสาขาวงศ์สว่าง แต่เมื่อกลุ่มเซ็นทรัลเปิดห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ เป็นสาขาแรก เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2537 จึงต้องเปลี่ยนเป็นบิ๊กซี จากรายงานประจำปี 2556 ของบิ๊กซี พบว่าบริษัท เซ็นทรัลซูเปอร์สโตร์ จำกัด เช่าที่ดินกับบริษัท เซ็นทรัล ธนบุรี จำกัด บริษัทในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป สัญญา 30 ปี เริ่ม 1 พ.ค. 2538 ถึง 30 เม.ย. 2568

    น่าสังเกตว่า ห้างบิ๊กซีบนที่ดินและสิทธิการเช่าของกลุ่มเซ็นทรัลจะอยู่หรือไป เช่น บิ๊กซี โคราช จ.นครราชสีมา เช่ากับบริษัท เตียง จิราธิวัฒน์ จำกัด สัญญา 30 ปี เริ่ม 1 ธ.ค. 2539 ถึง 30 พ.ย. 2569 บิ๊กซี ขอนแก่น เช่ากับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ขอนแก่น จำกัด สัญญา 30 ปี เริ่ม 17 ก.ค. 2539 (ถึง 16 ก.ค. 2569) และยังมีบิ๊กซี วงศ์สว่าง ในมาร์เก็ตเพลสวงศ์สว่าง บิ๊กซี หัวหมาก ในหัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์ บิ๊กซี แฟชั่นไอส์แลนด์ ที่้เช่าช่วงจากสรรพสินค้าเซ็นทรัล บิ๊กซี พัทยาในเซ็นทรัลมารีน่า และบิ๊กซี ชลบุรี 3 ในเซ็นทรัล ชลบุรี (อดีตห้างคาร์ฟูร์) เป็นต้น

    ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหลักทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) พบว่าร้านค้าขนาดใหญ่ (Big Format) ตั้งอยู่บนที่ดินที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ มีจำนวน 66 แห่ง ส่วนร้านค้าขนาดใหญ่และร้านค้าปลีกสมัยใหม่ตั้งอยู่บนที่ดินที่บริษัทฯ เช่า มีจำนวน 123 แห่ง และจากการสืบค้นข้อมูลในแบบ 56-1 เมื่อปี 2558 พบว่าสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่บิ๊กซีเป็นเจ้าของที่ดินมีประมาณ 10 สาขา ได้แก่ แจ้งวัฒนะ ลาดพร้าว บางปะกอก สุขสวัสดิ์ ติวานนท์ บางใหญ่ ลำลูกกา นวนคร สมุทรปราการ บางพลี เป็นต้น

    #Newskit #บิ๊กซีราษฎร์บูรณะ #กลุ่มเซ็นทรัล
    ปิดฉากบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ไม่ต่อที่ดินกลุ่มเซ็นทรัล ก่อนหน้านี้ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จะปิดถาวร 2 สาขา ได้แก่ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สุขาภิบาล 3 (แยกบ้านม้า) และบิ๊กซี รังสิต 2 (ตลาดสี่มุมเมือง) ซึ่งเคยเป็นห้างคาร์ฟูร์ในอดีต ล่าสุด นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ จะเปิดให้บริการ 31 ต.ค.เป็นวันสุดท้าย ซึ่งจะย้ายไปยังทำเลใหม่ที่ใกล้เคียง เป็นทำเลทองติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่ดิน Freehold (ที่ดินกรรมสิทธิ์) ในกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2568 นับเป็นการเปิดฉากยุติสัญญาเช่าที่ดินกับกลุ่มเซ็นทรัลอย่างชัดเจน พร้อมกับปิดตำนานห้างบิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ ที่เปิดให้บริการมานานเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่เปิดวันแรก 10 พ.ย. 2537 เดิมคือห้างเซ็นทรัล ซูเปอร์สโตร์ สาขาที่สองต่อจากสาขาวงศ์สว่าง แต่เมื่อกลุ่มเซ็นทรัลเปิดห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ เป็นสาขาแรก เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2537 จึงต้องเปลี่ยนเป็นบิ๊กซี จากรายงานประจำปี 2556 ของบิ๊กซี พบว่าบริษัท เซ็นทรัลซูเปอร์สโตร์ จำกัด เช่าที่ดินกับบริษัท เซ็นทรัล ธนบุรี จำกัด บริษัทในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป สัญญา 30 ปี เริ่ม 1 พ.ค. 2538 ถึง 30 เม.ย. 2568 น่าสังเกตว่า ห้างบิ๊กซีบนที่ดินและสิทธิการเช่าของกลุ่มเซ็นทรัลจะอยู่หรือไป เช่น บิ๊กซี โคราช จ.นครราชสีมา เช่ากับบริษัท เตียง จิราธิวัฒน์ จำกัด สัญญา 30 ปี เริ่ม 1 ธ.ค. 2539 ถึง 30 พ.ย. 2569 บิ๊กซี ขอนแก่น เช่ากับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ขอนแก่น จำกัด สัญญา 30 ปี เริ่ม 17 ก.ค. 2539 (ถึง 16 ก.ค. 2569) และยังมีบิ๊กซี วงศ์สว่าง ในมาร์เก็ตเพลสวงศ์สว่าง บิ๊กซี หัวหมาก ในหัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์ บิ๊กซี แฟชั่นไอส์แลนด์ ที่้เช่าช่วงจากสรรพสินค้าเซ็นทรัล บิ๊กซี พัทยาในเซ็นทรัลมารีน่า และบิ๊กซี ชลบุรี 3 ในเซ็นทรัล ชลบุรี (อดีตห้างคาร์ฟูร์) เป็นต้น ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหลักทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) พบว่าร้านค้าขนาดใหญ่ (Big Format) ตั้งอยู่บนที่ดินที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ มีจำนวน 66 แห่ง ส่วนร้านค้าขนาดใหญ่และร้านค้าปลีกสมัยใหม่ตั้งอยู่บนที่ดินที่บริษัทฯ เช่า มีจำนวน 123 แห่ง และจากการสืบค้นข้อมูลในแบบ 56-1 เมื่อปี 2558 พบว่าสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่บิ๊กซีเป็นเจ้าของที่ดินมีประมาณ 10 สาขา ได้แก่ แจ้งวัฒนะ ลาดพร้าว บางปะกอก สุขสวัสดิ์ ติวานนท์ บางใหญ่ ลำลูกกา นวนคร สมุทรปราการ บางพลี เป็นต้น #Newskit #บิ๊กซีราษฎร์บูรณะ #กลุ่มเซ็นทรัล
    Like
    6
    1 Comments 0 Shares 985 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีนมัสการปิดทองหลวงพ่อปู่ วัดราษฎร์รังสรรค์ (วัดคอกกระบือ) ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร ระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
    งานประจำปีนมัสการปิดทองหลวงพ่อปู่ วัดราษฎร์รังสรรค์ (วัดคอกกระบือ) ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร ระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีปิดทองพระ ปิดทองหลวงปู่บุญยัง จันทสาโร ปิดทองช่อฟ้าวิหาร 16 ช่อ และทอดผ้าป่าสามัคคี วัดบางจาก ตำบลคลองพระอุดม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
    งานประจำปีปิดทองพระ ปิดทองหลวงปู่บุญยัง จันทสาโร ปิดทองช่อฟ้าวิหาร 16 ช่อ และทอดผ้าป่าสามัคคี วัดบางจาก ตำบลคลองพระอุดม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีปิดทองหล่อพระหลวงปู่แสง วัดโพธิ์ไทร ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 9 - 15 มกราคม พ.ศ. 2568
    งานประจำปีปิดทองหล่อพระหลวงปู่แสง วัดโพธิ์ไทร ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 9 - 15 มกราคม พ.ศ. 2568
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีปิดทองฝังลูกนิมิต และงานสมโภช 100 ปี วัดธรรมิการามวรวิหาร (วัดเขาช่องกระจก) อำเภอเมืองฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 6 - 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567
    งานประจำปีปิดทองฝังลูกนิมิต และงานสมโภช 100 ปี วัดธรรมิการามวรวิหาร (วัดเขาช่องกระจก) อำเภอเมืองฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 6 - 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีศาลเจ้าพ่อปู่ไผ่ดำ ณ บริเวณถนนริมเขื่อน คลอง 9 ถนนรังสิต-นครนายก อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม ถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

    (ภาพโฆษณาฉบับร่าง โปรดติดตามภาพโฆษณาฉบับทางการในโอกาสต่อไป)
    งานประจำปีศาลเจ้าพ่อปู่ไผ่ดำ ณ บริเวณถนนริมเขื่อน คลอง 9 ถนนรังสิต-นครนายก อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม ถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 (ภาพโฆษณาฉบับร่าง โปรดติดตามภาพโฆษณาฉบับทางการในโอกาสต่อไป)
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีศาลเจ้าพ่อองครักษ์ ฉลองครบรอบ 104 ปี ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 13 - 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    งานประจำปีศาลเจ้าพ่อองครักษ์ ฉลองครบรอบ 104 ปี ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 13 - 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่โค้งไผ่ ณ ตลาดโค้งไผ่ อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ระหว่างวันที่ 2 - 6 ธันวาคม พ.ศ. 2567
    งานประจำปีศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่โค้งไผ่ ณ ตลาดโค้งไผ่ อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ระหว่างวันที่ 2 - 6 ธันวาคม พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีบุญสารทเดือนสิบ รับตายาย และทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถหลังใหม่ ณ วัดบ้านใน หมู่ที่ 5 ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 17 - 21 กันยายน พ.ศ. 2567
    งานประจำปีบุญสารทเดือนสิบ รับตายาย และทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถหลังใหม่ ณ วัดบ้านใน หมู่ที่ 5 ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 17 - 21 กันยายน พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีปิดทองหลวงพ่อทองศักดิ์สิทธิ์ วัดศรีวังคาง ตำบลตาคลี อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 21 - 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
    งานประจำปีปิดทองหลวงพ่อทองศักดิ์สิทธิ์ วัดศรีวังคาง ตำบลตาคลี อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 21 - 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีปักธงชัย ไหว้พ่อขุนศรีอินทราทิตย์และงานกาชาด ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 6 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
    (ภาพโฆษณาฉบับร่าง โปรดติดตามรายละเอียดในครั้งต่อไป)
    งานประจำปีปักธงชัย ไหว้พ่อขุนศรีอินทราทิตย์และงานกาชาด ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 6 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 (ภาพโฆษณาฉบับร่าง โปรดติดตามรายละเอียดในครั้งต่อไป)
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีปิดทองหลวงพ่อธรรมจักร ณ วัดธรรมามูลวรวิหาร ตำบลธรรมามูล อำเภอเมืองฯ จังหวัดชัยนาท ระหว่างวันที่ 1 - 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
    งานประจำปีปิดทองหลวงพ่อธรรมจักร ณ วัดธรรมามูลวรวิหาร ตำบลธรรมามูล อำเภอเมืองฯ จังหวัดชัยนาท ระหว่างวันที่ 1 - 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีปิดทองพระ แข่งขันเรือยาว ณ วัดหนองมน ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 23 - 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    งานประจำปีปิดทองพระ แข่งขันเรือยาว ณ วัดหนองมน ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 23 - 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีปิดทองหลวงพ่อพุทธนิมิตรมงคล และประเพณีแข่งเรือสารทไทย ณ วัดทวีพูลรังสรรค์ ตำบลทรายมูล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 27 กันยายน ถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    งานประจำปีปิดทองหลวงพ่อพุทธนิมิตรมงคล และประเพณีแข่งเรือสารทไทย ณ วัดทวีพูลรังสรรค์ ตำบลทรายมูล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 27 กันยายน ถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • งานประจำปีศาลเจ้าพ่อวิหารแดง (ปึงเถ่ากง) ณ บริเวณถนนเทศบาลวิหารแดง อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 22 กันยายน ถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    งานประจำปีศาลเจ้าพ่อวิหารแดง (ปึงเถ่ากง) ณ บริเวณถนนเทศบาลวิหารแดง อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 22 กันยายน ถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • บริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่นจะถอนตัวจากการร่วมทุนกับ Baoshan Iron & Steel ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยน ส่งผลให้กำลังการผลิตเหล็กของ Nippon Steel ในจีนลดลง 70% โดยอ้างว่าการขยายธุรกิจที่จีนคงเป็นเรื่องยาก และจะเน้นไปที่แหล่งการลงทุนในสหรัฐอเมริกาและอินเดียแทน

    25 กรกฎาคม 2567- Nikkei รายงานข่าวว่า บริษัท Baosteel-Nippon Steel Automotive Steel Sheets (BNA) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 โดยเป็นการร่วมทุนในสัดส่วน 50-50 ระหว่าง Nippon Steel และ Baoshan Iron & Steel หรือ Baosteel ซึ่งเป็นสมาชิกของ China Baowu Steel Group มาเป็นเวลา 20 ปี ทางกลุ่มNippon Steel ได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญาที่จะสิ้นสุดในปลายเดือนสิงหาคม2567นี้ บริษัทประกาศเมื่อวันอังคารที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทกล่าวว่ามีแผนที่จะขายหุ้น BNA ทั้งหมดให้กับ Baosteel ในราคา 1.758 พันล้านหยวน (241 ล้านดอลลาร์) ขึ้นอยู่กับการอนุมัติตามกฎระเบียบ

    คณะกรรมการของ Baosteel กล่าวเมื่อวันอังคารในการยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ว่ามีมติเป็นเอกฉันท์ให้อนุมัติการซื้อหุ้น 50% ในกิจการร่วมค้าที่ถือโดย Nippon Steel มูลค่าการซื้อขั้นสุดท้ายของ Baosteel จะพิจารณาจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกิจการร่วมค้า

    ตามรายงานประจำปีล่าสุดของ Baosteel ที่เผยแพร่เมื่อปลายเดือนเมษายน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของ BNA อยู่ที่ 3.92 พันล้านหยวน ณ สิ้นปีที่แล้ว เมื่อปีที่แล้ว บริษัทร่วมทุนมีกำไรสุทธิ 410 ล้านหยวน

    ที่มา:https://asia.nikkei.com/Business/Business-deals/Nippon-Steel-to-end-20-year-joint-venture-with-China-s-Baosteel
    บริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่นจะถอนตัวจากการร่วมทุนกับ Baoshan Iron & Steel ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยน ส่งผลให้กำลังการผลิตเหล็กของ Nippon Steel ในจีนลดลง 70% โดยอ้างว่าการขยายธุรกิจที่จีนคงเป็นเรื่องยาก และจะเน้นไปที่แหล่งการลงทุนในสหรัฐอเมริกาและอินเดียแทน 25 กรกฎาคม 2567- Nikkei รายงานข่าวว่า บริษัท Baosteel-Nippon Steel Automotive Steel Sheets (BNA) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 โดยเป็นการร่วมทุนในสัดส่วน 50-50 ระหว่าง Nippon Steel และ Baoshan Iron & Steel หรือ Baosteel ซึ่งเป็นสมาชิกของ China Baowu Steel Group มาเป็นเวลา 20 ปี ทางกลุ่มNippon Steel ได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญาที่จะสิ้นสุดในปลายเดือนสิงหาคม2567นี้ บริษัทประกาศเมื่อวันอังคารที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทกล่าวว่ามีแผนที่จะขายหุ้น BNA ทั้งหมดให้กับ Baosteel ในราคา 1.758 พันล้านหยวน (241 ล้านดอลลาร์) ขึ้นอยู่กับการอนุมัติตามกฎระเบียบ คณะกรรมการของ Baosteel กล่าวเมื่อวันอังคารในการยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ว่ามีมติเป็นเอกฉันท์ให้อนุมัติการซื้อหุ้น 50% ในกิจการร่วมค้าที่ถือโดย Nippon Steel มูลค่าการซื้อขั้นสุดท้ายของ Baosteel จะพิจารณาจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกิจการร่วมค้า ตามรายงานประจำปีล่าสุดของ Baosteel ที่เผยแพร่เมื่อปลายเดือนเมษายน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของ BNA อยู่ที่ 3.92 พันล้านหยวน ณ สิ้นปีที่แล้ว เมื่อปีที่แล้ว บริษัทร่วมทุนมีกำไรสุทธิ 410 ล้านหยวน ที่มา:https://asia.nikkei.com/Business/Business-deals/Nippon-Steel-to-end-20-year-joint-venture-with-China-s-Baosteel
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 384 Views 0 Reviews