• ประกาศขออภัย.jpg สูตรสำเร็จแก้วิกฤต

    บ่อยครั้งที่เมื่อมีวิกฤตเกิดขึ้นกับแบรนด์ อินโฟกราฟิก "ประกาศขออภัย" มักจะถูกนำมาใช้สื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดีย ตามหลักบริหารจัดการ การสื่อสารในภาวะวิกฤต (Crisis Management) เมื่อเกิดปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กร พนักงาน โดยเฉพาะภาพลักษณ์ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ ชื่อเสียง เกียรติภูมิ และอาจรวมไปถึงผู้มีส่วนได้เสีย กรณีที่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ถือหุ้น

    แต่บ่อยครั้งที่พบว่า ประกาศขออภัยมักจะไม่ระบุข้อความที่เป็นตัวหนังสือ หรือแคปชัน (Caption) กำกับลงไปด้วย แม้จะอ้างได้ว่าเพื่อให้สามารถกระจายได้หลายแพลตฟอร์ม และลดความซ้ำซ้อน แต่การไม่กำกับข้อความ อีกนัยยะหนึ่งคือการไม่พึงปรารถนาที่จะให้ข้อความดังกล่าว ถูกปรากฎและบันทึกเป็นร่องรอยดิจิทัล (Digital Footprint) ในอนาคต แม้อาจจะไม่ได้ผลเมื่อมีเทคโนโลยี แปลงภาพเป็นข้อความ และสำนักข่าวต่างๆ นำเนื้อหาประกาศขออภัยไปเผยแพร่ต่อ

    แถลงการณ์จากช่องวัน 31 ขอโทษกรณีความไม่เหมาะสมของฉากที่ใช้แมวร่วมแสดงในซีรีย์แม่หยัว ลงวันที่ 10 พ.ย. 2567 ก็เช่นกัน ระบุแคปชันว่า "แถลงการณ์จากช่องวัน31" แต่เนื้อหาของแถลงการณ์อยู่ในอินโฟกราฟิกทั้งหมด

    ระบุว่า "ตามที่มีกระแสข่าวถึงความไม่เหมาะสมของฉากที่ใช้แมวร่วมแสดง ในซีรีส์ “แม่หยั่ว” จนเกิดความไม่สบายใจของผู้ชมนั้น ช่องวัน 31 ขอชี้แจงว่า ทางเราคํานึงถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัย ของสัตว์เป็นสําคัญ โดยแมวที่นํามาถ่ายทํานั้นมาจากบริษัทโมเดลลิ่งสัตว์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนําสัตว์ร่วมถ่ายทําละครและภาพยนตร์โดยเฉพาะ มากว่า 10 ปี และเป็นเจ้าของแมวตัวดังกล่าว รวมถึงเป็นผู้ดูแลแมวตลอด ระยะเวลาการถ่ายท่าในทุกขั้นตอน

    ช่องวัน 31 รู้สึกเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่ทําให้ผู้ชม เกิดความรู้สึกที่ไม่สบายใจ เราจะนําข้อชี้แนะ ความคิดเห็น กลับไปพิจารณา ในการทํางานร่วมกับสัตว์ และระมัดระวังไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ช่องวัน 31 ขอน้อมรับ และขอขอบคุณทุกความคิดเห็นมา ณ ที่นี้"

    ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของ "ประกาศขออภัย.jpg" แบบไม่ระบุแคปชัน ที่กลายเป็นสูตรสำเร็จในการจัดการกับภาวะวิกฤต ในหลายองค์กร ซึ่งในสายตาของผู้รับสารอาจตีความได้หลากหลาย ส่วนจะเป็นการขอโทษอย่างจริงใจหรือไม่ ผู้รับสารจะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ เช่น การตอบสนองต่อเหตุการณ์ในภาวะวิกฤตว่า ใช้เวลาชี้แจงกับสังคมนานเพียงใด ความคืบหน้าในการจัดการกับปัญหาโดยที่ผู้รับสารเห็นภาพ การแก้ไขปัญหาและการป้องกันในอนาคตที่ไม่ใช่แค่คำมั่นสัญญา เป็นต้น

    #Newskit #ประกาศขออภัย
    ประกาศขออภัย.jpg สูตรสำเร็จแก้วิกฤต บ่อยครั้งที่เมื่อมีวิกฤตเกิดขึ้นกับแบรนด์ อินโฟกราฟิก "ประกาศขออภัย" มักจะถูกนำมาใช้สื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดีย ตามหลักบริหารจัดการ การสื่อสารในภาวะวิกฤต (Crisis Management) เมื่อเกิดปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กร พนักงาน โดยเฉพาะภาพลักษณ์ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ ชื่อเสียง เกียรติภูมิ และอาจรวมไปถึงผู้มีส่วนได้เสีย กรณีที่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ถือหุ้น แต่บ่อยครั้งที่พบว่า ประกาศขออภัยมักจะไม่ระบุข้อความที่เป็นตัวหนังสือ หรือแคปชัน (Caption) กำกับลงไปด้วย แม้จะอ้างได้ว่าเพื่อให้สามารถกระจายได้หลายแพลตฟอร์ม และลดความซ้ำซ้อน แต่การไม่กำกับข้อความ อีกนัยยะหนึ่งคือการไม่พึงปรารถนาที่จะให้ข้อความดังกล่าว ถูกปรากฎและบันทึกเป็นร่องรอยดิจิทัล (Digital Footprint) ในอนาคต แม้อาจจะไม่ได้ผลเมื่อมีเทคโนโลยี แปลงภาพเป็นข้อความ และสำนักข่าวต่างๆ นำเนื้อหาประกาศขออภัยไปเผยแพร่ต่อ แถลงการณ์จากช่องวัน 31 ขอโทษกรณีความไม่เหมาะสมของฉากที่ใช้แมวร่วมแสดงในซีรีย์แม่หยัว ลงวันที่ 10 พ.ย. 2567 ก็เช่นกัน ระบุแคปชันว่า "แถลงการณ์จากช่องวัน31" แต่เนื้อหาของแถลงการณ์อยู่ในอินโฟกราฟิกทั้งหมด ระบุว่า "ตามที่มีกระแสข่าวถึงความไม่เหมาะสมของฉากที่ใช้แมวร่วมแสดง ในซีรีส์ “แม่หยั่ว” จนเกิดความไม่สบายใจของผู้ชมนั้น ช่องวัน 31 ขอชี้แจงว่า ทางเราคํานึงถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัย ของสัตว์เป็นสําคัญ โดยแมวที่นํามาถ่ายทํานั้นมาจากบริษัทโมเดลลิ่งสัตว์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนําสัตว์ร่วมถ่ายทําละครและภาพยนตร์โดยเฉพาะ มากว่า 10 ปี และเป็นเจ้าของแมวตัวดังกล่าว รวมถึงเป็นผู้ดูแลแมวตลอด ระยะเวลาการถ่ายท่าในทุกขั้นตอน ช่องวัน 31 รู้สึกเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่ทําให้ผู้ชม เกิดความรู้สึกที่ไม่สบายใจ เราจะนําข้อชี้แนะ ความคิดเห็น กลับไปพิจารณา ในการทํางานร่วมกับสัตว์ และระมัดระวังไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ช่องวัน 31 ขอน้อมรับ และขอขอบคุณทุกความคิดเห็นมา ณ ที่นี้" ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของ "ประกาศขออภัย.jpg" แบบไม่ระบุแคปชัน ที่กลายเป็นสูตรสำเร็จในการจัดการกับภาวะวิกฤต ในหลายองค์กร ซึ่งในสายตาของผู้รับสารอาจตีความได้หลากหลาย ส่วนจะเป็นการขอโทษอย่างจริงใจหรือไม่ ผู้รับสารจะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ เช่น การตอบสนองต่อเหตุการณ์ในภาวะวิกฤตว่า ใช้เวลาชี้แจงกับสังคมนานเพียงใด ความคืบหน้าในการจัดการกับปัญหาโดยที่ผู้รับสารเห็นภาพ การแก้ไขปัญหาและการป้องกันในอนาคตที่ไม่ใช่แค่คำมั่นสัญญา เป็นต้น #Newskit #ประกาศขออภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็คุยกันไม่ได้ อีกฝ่ายจะรมแก๊สสลิ่ม เอ้ย! เกิดความแตกแยกรุนแรง ทั้งทางความคิดและการใช้ชีวิต จนเกิดเป็นกระแสความขัดแย้งที่ลุกลามไปเป็นการปะทะกันเอง (เห็นไม๊? ม็อบชนม็อบ ตำรวจนอนเล่นเฟสบุคสบายใจจุง)
    แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็คุยกันไม่ได้ อีกฝ่ายจะรมแก๊สสลิ่ม เอ้ย! เกิดความแตกแยกรุนแรง ทั้งทางความคิดและการใช้ชีวิต จนเกิดเป็นกระแสความขัดแย้งที่ลุกลามไปเป็นการปะทะกันเอง (เห็นไม๊? ม็อบชนม็อบ ตำรวจนอนเล่นเฟสบุคสบายใจจุง)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มหากาพย์ไมดาน จุดเริ่มต้นของสงครามตัวแทนและ Hybrid War" ตอนที่ 1
    ล้างแค้น 30 ปีก็ไม่สาย ลูกผู้ชายชื่อปูตินตั้งสัจจะเอาไว้ว่าตราบใดที่รัสเซียยังไม่กินอิ่มนอนอุ่น ตราบนั้นโลกตะวันตกจงอย่าได้ย่างกรายมาเพ่นพ่านแถวขอบรั้วรัสเซีย
    ***เนื้อหานำเสนออีกด้านหนึ่งของข้อมูล ส่วนจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น? โปรดพิจารณาเอาเอง สมองใครสมองมัน ไม่ต้องมาเถียงกับผม ผมไม่มีเวลาเถียงด้วย จะเชื่อหรือไม่เชื่อเงินในบัญชีผมก็เท่าเดิม คือร้อยกว่าบาท 555 ฉะนั้นผมไม่แคร์ว่าจะมีใครเชื่อ
    ***เนื้อหาทั้งหมดผมแคปมาจากสารคดีซึ่งผลิตโดยช่องข่าว RT ของรัสเซีย และช่อง RUPTLY ซึ่งผมไม่มีส่วนได้เสียในการสร้าง การนำเสนอ นอกจากชี้ให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และขอให้คนไทยเรียนรู้และปรับใช้เพื่อเอาชาติให้รอด ใครชังชาติ...จะปล่อยชาติล่มจมก็ไม่ควรอ่าน เสียเวลาคุณ คุณควรเอาเวลาไปบ่อนทำลายชาติจะตรงจุดประสงค์คุณมากกว่า
    ***เนื้อหาเรียงลำดับตามที่ปรากฏในสารคดี ซึ่งเมื่อลดทอนเป็นเพียงภาพบางช่วง อาจจะไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมด หรือเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกได้ ต้องขออภัยไว้ก่อน หากทาง RT อนุญาต ผมจะนำ VDO ชุดนี้มาเผยแพร่ต่อไป
    ***การรับชม คลิกที่รูปภาพ เนื้อหาอยู่ในคำบรรยายแต่ละภาพเรียงลำดับกันไป
    ผมไม่อยากบอกว่า "ขอให้สนุก" เพราะเนื้อหามันสะเทือนใจและตรงกับความจริงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยที่คนไทยถูกยุแยงให้แตกแยกทางความคิด เราเชื่อกันคนละอย่างและนำไปสู่ความเกลียดชังสุดขั้ว
    ไทยเรากำลังอยู่บนปากเหวอย่างเช่นที่อูเครนเคยอยู่มาก่อน...เชื่อผมเถอะ!
    "มหากาพย์ไมดาน จุดเริ่มต้นของสงครามตัวแทนและ Hybrid War" ตอนที่ 1 ล้างแค้น 30 ปีก็ไม่สาย ลูกผู้ชายชื่อปูตินตั้งสัจจะเอาไว้ว่าตราบใดที่รัสเซียยังไม่กินอิ่มนอนอุ่น ตราบนั้นโลกตะวันตกจงอย่าได้ย่างกรายมาเพ่นพ่านแถวขอบรั้วรัสเซีย ***เนื้อหานำเสนออีกด้านหนึ่งของข้อมูล ส่วนจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น? โปรดพิจารณาเอาเอง สมองใครสมองมัน ไม่ต้องมาเถียงกับผม ผมไม่มีเวลาเถียงด้วย จะเชื่อหรือไม่เชื่อเงินในบัญชีผมก็เท่าเดิม คือร้อยกว่าบาท 555 ฉะนั้นผมไม่แคร์ว่าจะมีใครเชื่อ ***เนื้อหาทั้งหมดผมแคปมาจากสารคดีซึ่งผลิตโดยช่องข่าว RT ของรัสเซีย และช่อง RUPTLY ซึ่งผมไม่มีส่วนได้เสียในการสร้าง การนำเสนอ นอกจากชี้ให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และขอให้คนไทยเรียนรู้และปรับใช้เพื่อเอาชาติให้รอด ใครชังชาติ...จะปล่อยชาติล่มจมก็ไม่ควรอ่าน เสียเวลาคุณ คุณควรเอาเวลาไปบ่อนทำลายชาติจะตรงจุดประสงค์คุณมากกว่า ***เนื้อหาเรียงลำดับตามที่ปรากฏในสารคดี ซึ่งเมื่อลดทอนเป็นเพียงภาพบางช่วง อาจจะไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมด หรือเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกได้ ต้องขออภัยไว้ก่อน หากทาง RT อนุญาต ผมจะนำ VDO ชุดนี้มาเผยแพร่ต่อไป ***การรับชม คลิกที่รูปภาพ เนื้อหาอยู่ในคำบรรยายแต่ละภาพเรียงลำดับกันไป ผมไม่อยากบอกว่า "ขอให้สนุก" เพราะเนื้อหามันสะเทือนใจและตรงกับความจริงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยที่คนไทยถูกยุแยงให้แตกแยกทางความคิด เราเชื่อกันคนละอย่างและนำไปสู่ความเกลียดชังสุดขั้ว ไทยเรากำลังอยู่บนปากเหวอย่างเช่นที่อูเครนเคยอยู่มาก่อน...เชื่อผมเถอะ!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวในกรุงเคียฟ ให้สัญญาสนับสนุนยูเครนไม่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางข้อสงสัยเกี่ยวกับท่าทีนับแต่นี้ของสหรัฐฯ คำยืนยันซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งแรก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
    .
    ชัยชนะของตัวแทนจากรีพับลิกันที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อความกังวลปกคลุมยูเครนและยุโรป ต่อกรณีที่ว่า ทรัมป์ อาจหยุดการสนับสนุนของวอชิงตันที่มอบแก่เคียฟ ในการทำศึกสงครามต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
    .
    "จุดประสงค์ที่ชัดเจนของการเดินทางเยือนครั้งนี้ก็คือ แสดงจุดยืนของสหภาพยุโรปในการสนับสนุนยูเครน และแรงสนับสนุนนี้จะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง" บอร์เรลกล่าว ในขณะที่เขามีกำหนดพ้นจากตำแหน่งในเดือนหน้า "แน่นอนว่าแรงสนับสนุนนี้มีความจำเป็นสำหรับพวกคุณอย่างยิ่ง ในการเดินหน้าปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย"
    .
    ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ก่อความสงสัยต่อการคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนทางทหารและทางการเงินอันมหาศาลที่สหรัฐฯ มอบให้แก่ยูเครน และบอกว่าจะหาทางบรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็วเพื่อยุติทำสงคราม
    .
    "ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ารัฐบาลใหม่กำลังทำอะไร" บอร์เรลระบุ พร้อมชี้ว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังเหลือเวลาอยู่ในอำนาจอีก 2 เดือน สำหรับทำการตัดสินใจต่างๆ "เราจำเป็นต้องทำให้มากกว่าเดิมและรวดเร็วขึ้น สนับสนุนทางทหารมากขึ้น เพิ่มปริมาณการฝึกฝน เพิ่มเงิน จัดหาอาวุธยุทธโปกรณ์รวดเร็วกว่าเดิม และเช่นกัน เราจำเป็นต้องอนุญาตให้โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของศัตรูที่อยู่ในดินแดนของพวกเขา"
    .
    บอร์เรลกล่าวต่อว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย "ไม่ต้องการเจรจาและจะไม่เจรจาจนกว่าเขาจะถูกบีบให้ทำเช่นนั้น"
    .
    รวมกันแล้ว ยุโรปใช้จ่ายเงินไปแล้วราว 125,000 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนยูเครน นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในปี 2022 ขณะที่สหรัฐฯ เพียงชาติเดียวมอบแรงสนับสนนแก่เคียฟ ไปแล้วมากกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์
    .
    การคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนของวอชิงตัน ถูกมองว่ามีความสำคัญที่สุดในการรับประกันว่าเคียฟจะสามารถเดินหน้าสู้รบกับรัสเซียได้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้มีความไม่แน่นอนทางการเมืองในบรรดามหาอำนาจยุโรปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี และฝรั่งเศส
    .
    ในสมรภูมิรบ ทหารที่เหนื่อยอ่อนของยูเครน กำลังดิ้นรนสกัดการรุกคืบของรัสเซีย ในขณะที่การสู้รบเต็มรูปแบบลากยาวใกล้เข้าครบ 3 ปีแล้ว
    .
    คำยืนยันของบอร์เรล มีขึ้นในขณะที่เหล่าประเทศสมาชิกหลายชาติ ในนั้นรวมถึงฮังการี ซึ่งคัดค้านการมอบแรงสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน มีความฮึกเหิมมากขึ้นในจุดยืนดังกล่าว ตามหลัง ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง ซึ่งมันยิ่งทำให้เป็นเรื่องยากที่อียูจะมีความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในวิกฤตความขัดแย้งยูเครน
    .
    อันดรีย์ ชีบีกา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เน้นย้ำเสียงคัดค้านของเคียฟ โดยบอกว่าพวกเขาไม่ควรถูกบีบบังคับให้ยอมอ่อนข้อแก่รัสเซีย "ทุกๆ คนจำเป็นต้องตระหนักว่าการเอาใจพวกผู้รุกรานนั้นไม่ได้ผล" เขากล่าว "เราต้องการสันติภาพที่แท้จริง ไม่ใช่การเอาใจที่จะนำมาซึ่งสงครามเพิ่มเติม"
    .
    นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน บอกว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ "มักเป็นตัวแทนแห่งความหวังและโอกาสเสมอ โอกาสที่จะเร่งเข้าสู่สันติภาพ"
    .
    เขาบอกว่าได้มีการติดต่อกับทีมงานของทรัมป์ หลังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โทรศัพท์แสดงความยินดีกับตัวแทนพรรครีพับลิกัน และเวลานี้อยู่ระหว่างการทำงานในความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมพูดคุยรอบใหม่ระหว่างผู้นำทั้ง 2
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108072
    ..............
    Sondhi X
    โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวในกรุงเคียฟ ให้สัญญาสนับสนุนยูเครนไม่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางข้อสงสัยเกี่ยวกับท่าทีนับแต่นี้ของสหรัฐฯ คำยืนยันซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งแรก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา . ชัยชนะของตัวแทนจากรีพับลิกันที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อความกังวลปกคลุมยูเครนและยุโรป ต่อกรณีที่ว่า ทรัมป์ อาจหยุดการสนับสนุนของวอชิงตันที่มอบแก่เคียฟ ในการทำศึกสงครามต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย . "จุดประสงค์ที่ชัดเจนของการเดินทางเยือนครั้งนี้ก็คือ แสดงจุดยืนของสหภาพยุโรปในการสนับสนุนยูเครน และแรงสนับสนุนนี้จะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง" บอร์เรลกล่าว ในขณะที่เขามีกำหนดพ้นจากตำแหน่งในเดือนหน้า "แน่นอนว่าแรงสนับสนุนนี้มีความจำเป็นสำหรับพวกคุณอย่างยิ่ง ในการเดินหน้าปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย" . ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ก่อความสงสัยต่อการคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนทางทหารและทางการเงินอันมหาศาลที่สหรัฐฯ มอบให้แก่ยูเครน และบอกว่าจะหาทางบรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็วเพื่อยุติทำสงคราม . "ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ารัฐบาลใหม่กำลังทำอะไร" บอร์เรลระบุ พร้อมชี้ว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังเหลือเวลาอยู่ในอำนาจอีก 2 เดือน สำหรับทำการตัดสินใจต่างๆ "เราจำเป็นต้องทำให้มากกว่าเดิมและรวดเร็วขึ้น สนับสนุนทางทหารมากขึ้น เพิ่มปริมาณการฝึกฝน เพิ่มเงิน จัดหาอาวุธยุทธโปกรณ์รวดเร็วกว่าเดิม และเช่นกัน เราจำเป็นต้องอนุญาตให้โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของศัตรูที่อยู่ในดินแดนของพวกเขา" . บอร์เรลกล่าวต่อว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย "ไม่ต้องการเจรจาและจะไม่เจรจาจนกว่าเขาจะถูกบีบให้ทำเช่นนั้น" . รวมกันแล้ว ยุโรปใช้จ่ายเงินไปแล้วราว 125,000 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนยูเครน นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในปี 2022 ขณะที่สหรัฐฯ เพียงชาติเดียวมอบแรงสนับสนนแก่เคียฟ ไปแล้วมากกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์ . การคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนของวอชิงตัน ถูกมองว่ามีความสำคัญที่สุดในการรับประกันว่าเคียฟจะสามารถเดินหน้าสู้รบกับรัสเซียได้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้มีความไม่แน่นอนทางการเมืองในบรรดามหาอำนาจยุโรปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี และฝรั่งเศส . ในสมรภูมิรบ ทหารที่เหนื่อยอ่อนของยูเครน กำลังดิ้นรนสกัดการรุกคืบของรัสเซีย ในขณะที่การสู้รบเต็มรูปแบบลากยาวใกล้เข้าครบ 3 ปีแล้ว . คำยืนยันของบอร์เรล มีขึ้นในขณะที่เหล่าประเทศสมาชิกหลายชาติ ในนั้นรวมถึงฮังการี ซึ่งคัดค้านการมอบแรงสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน มีความฮึกเหิมมากขึ้นในจุดยืนดังกล่าว ตามหลัง ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง ซึ่งมันยิ่งทำให้เป็นเรื่องยากที่อียูจะมีความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในวิกฤตความขัดแย้งยูเครน . อันดรีย์ ชีบีกา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เน้นย้ำเสียงคัดค้านของเคียฟ โดยบอกว่าพวกเขาไม่ควรถูกบีบบังคับให้ยอมอ่อนข้อแก่รัสเซีย "ทุกๆ คนจำเป็นต้องตระหนักว่าการเอาใจพวกผู้รุกรานนั้นไม่ได้ผล" เขากล่าว "เราต้องการสันติภาพที่แท้จริง ไม่ใช่การเอาใจที่จะนำมาซึ่งสงครามเพิ่มเติม" . นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน บอกว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ "มักเป็นตัวแทนแห่งความหวังและโอกาสเสมอ โอกาสที่จะเร่งเข้าสู่สันติภาพ" . เขาบอกว่าได้มีการติดต่อกับทีมงานของทรัมป์ หลังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โทรศัพท์แสดงความยินดีกับตัวแทนพรรครีพับลิกัน และเวลานี้อยู่ระหว่างการทำงานในความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมพูดคุยรอบใหม่ระหว่างผู้นำทั้ง 2 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108072 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครคือ ริชาร์ด เกรเนลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศที่ทรัมป์เลือก?

    อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติและเอกอัครราชทูตประจำเยอรมนี รายงานระบุว่า ริชาร์ด เกรเนลล์ ติดอยู่ในรายชื่อผู้รับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ – ตำแหน่งที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษาประธานาธิบดีเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศและดำเนินการตามการตัดสินใจ

    ถ้อยแถลงและการกระทำต่อสาธารณะของเกรเนลล์ ให้เบาะแสเกี่ยวกับแนวทางนโยบายต่างประเทศที่เขาอาจมอบให้โดนัลด์ ทรัมป์:

    🔸 ผู้สมัครรายนี้เชื่อว่ามีความปรารถนาเช่นเดียวกับทรัมป์ที่ต้องการยุติความขัดแย้งในยูเครน ในเดือนกรกฎาคม, เขาพูดถึง "เขตปกครองตนเอง" ในพื้นที่ขัดแย้ง, และกล่าวว่าเคียฟไม่ควรคาดหวังว่าจะเข้าร่วมนาโตในเร็วๆนี้

    🔸 มีรายงานว่า Grenell เข้าร่วมการประชุมระหว่างทรัมป์กับ Zelensky ในเดือนกันยายน

    🔸 “[ทรัมป์] ได้แสดงให้เห็นว่าเขารู้วิธีที่จะนำทั้งสองฝ่ายมาเจรจากัน เขาทำมาอย่างต่อเนื่อง อาหรับและอิสราเอล, รัสเซียและยูเครน จะเป็นรายต่อไป” เกรเนลล์กล่าวในบทความ FP ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์นี้เกี่ยวกับ “แผนนโยบายต่างประเทศของทรัมป์”

    🔸 สื่อของยูเครนเกรงว่าการแต่งตั้งเกรเนลล์จะ "ให้ความสำคัญกับความปรารถนาของทรัมป์ที่จะยุติสงครามอย่างรวดเร็ว, แม้ว่าจะหมายถึงการยอมประนีประนอมที่สำคัญสำหรับยูเครนก็ตาม"

    🔸 ตำแหน่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ Grenell หูเบากับรัสเซีย ในปี ๒๐๑๙, ขณะที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำเยอรมนี, Grenell ได้ขู่บริษัทในยุโรปซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยการคว่ำบาตรเนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการท่อส่งก๊าซ Nord Stream ๒ จนทำให้บรรดานักการเมืองเยอรมันประณามเขาว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ยึดครอง” และเรียกร้องให้ขับไล่เขาออกไป

    “วิกฤตยูเครนยังคงเป็นประเด็นสำคัญในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรัมป์อยู่ในอำนาจ” นักวิเคราะห์การเมือง Massimiliano Bonne กล่าวกับ Sputnik โดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้ง Grenell ที่อาจเกิดขึ้น

    “ในช่วงบริหารชุดก่อน, ทรัมป์มีทัศนคติที่คลุมเครือต่อรัสเซีย แม้จะมีความตึงเครียดในยุโรปตะวันออกก็ตาม, รัฐบาลชุดใหม่นี้อาจพบว่าตัวเองต้องรับมือกับความขัดแย้งที่ยืดเยื้อระหว่างเคียฟและมอสโกว์, ซึ่งต้องรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนยูเครนและหลีกเลี่ยงการยกระดับปัญหาโดยตรงกับรัสเซีย” บอนเน่กล่าว
    .
    WHO IS POTENTIAL TRUMP SEC. STATE PICK RICHARD GRENELL?

    Ex-director of national intelligence and ambassador to Germany Richard Grenell has reportedly made the shortlist of potential candidates for the job of secretary of state – a post entailing responsibility for advising the president on foreign policy and carrying out his decisions.

    Grenell’s public statements and actions provide clues about the kind of foreign policy guidance he might give Donald Trump:

    🔸 The candidate is thought to share Trump’s desire to end the conflict in Ukraine. In July, he spitballed so-called “autonomous regions” in the conflict area, and said Kiev shouldn’t expect to join NATO anytime soon.

    🔸 Grenell reportedly sat in on Trump’s meeting with Zelensky in September.

    🔸 “[Trump] has shown he knows how to bring both sides to the table. He’s done it consistently. Arabs and Israelis, Russians and Ukrainians will be next,” Grenell said in a FP piece published this week on “Trump’s foreign policy plan.”

    🔸 Ukrainian media fear Grenell’s appointment would “prioritize Trump’s desire to end the war quickly, even if it means making significant concessions for Ukraine.”

    🔸 These positions don’t make Grenell a softy on Russia. In 2019, while serving as ambassador to Germany, Grenell repeatedly threatened European companies with sanctions over their involvement in the Nord Stream 2 gas pipeline project, prompting German politicians to brand him an “occupation officer” and to demand his expulsion.

    “The Ukraine crisis remains a crucial issue in US foreign policy, especially with Trump in power,” political analyst Massimiliano Bonne told Sputnik, commenting on Grenell’s potential appointment.

    “During his previous administration, Trump had adopted an ambivalent attitude towards Russia, despite the tensions in Eastern Europe. The new administration could find itself dealing with a protracted conflict between Kiev and Moscow, striking a difficult balance between supporting Ukraine and avoiding a direct escalation with Russia,” Bonne said.
    .
    3:00 AM · Nov 9, 2024 · 3,855 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1854977191844385066
    ใครคือ ริชาร์ด เกรเนลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศที่ทรัมป์เลือก? อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติและเอกอัครราชทูตประจำเยอรมนี รายงานระบุว่า ริชาร์ด เกรเนลล์ ติดอยู่ในรายชื่อผู้รับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ – ตำแหน่งที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษาประธานาธิบดีเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศและดำเนินการตามการตัดสินใจ ถ้อยแถลงและการกระทำต่อสาธารณะของเกรเนลล์ ให้เบาะแสเกี่ยวกับแนวทางนโยบายต่างประเทศที่เขาอาจมอบให้โดนัลด์ ทรัมป์: 🔸 ผู้สมัครรายนี้เชื่อว่ามีความปรารถนาเช่นเดียวกับทรัมป์ที่ต้องการยุติความขัดแย้งในยูเครน ในเดือนกรกฎาคม, เขาพูดถึง "เขตปกครองตนเอง" ในพื้นที่ขัดแย้ง, และกล่าวว่าเคียฟไม่ควรคาดหวังว่าจะเข้าร่วมนาโตในเร็วๆนี้ 🔸 มีรายงานว่า Grenell เข้าร่วมการประชุมระหว่างทรัมป์กับ Zelensky ในเดือนกันยายน 🔸 “[ทรัมป์] ได้แสดงให้เห็นว่าเขารู้วิธีที่จะนำทั้งสองฝ่ายมาเจรจากัน เขาทำมาอย่างต่อเนื่อง อาหรับและอิสราเอล, รัสเซียและยูเครน จะเป็นรายต่อไป” เกรเนลล์กล่าวในบทความ FP ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์นี้เกี่ยวกับ “แผนนโยบายต่างประเทศของทรัมป์” 🔸 สื่อของยูเครนเกรงว่าการแต่งตั้งเกรเนลล์จะ "ให้ความสำคัญกับความปรารถนาของทรัมป์ที่จะยุติสงครามอย่างรวดเร็ว, แม้ว่าจะหมายถึงการยอมประนีประนอมที่สำคัญสำหรับยูเครนก็ตาม" 🔸 ตำแหน่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ Grenell หูเบากับรัสเซีย ในปี ๒๐๑๙, ขณะที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำเยอรมนี, Grenell ได้ขู่บริษัทในยุโรปซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยการคว่ำบาตรเนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการท่อส่งก๊าซ Nord Stream ๒ จนทำให้บรรดานักการเมืองเยอรมันประณามเขาว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ยึดครอง” และเรียกร้องให้ขับไล่เขาออกไป “วิกฤตยูเครนยังคงเป็นประเด็นสำคัญในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรัมป์อยู่ในอำนาจ” นักวิเคราะห์การเมือง Massimiliano Bonne กล่าวกับ Sputnik โดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้ง Grenell ที่อาจเกิดขึ้น “ในช่วงบริหารชุดก่อน, ทรัมป์มีทัศนคติที่คลุมเครือต่อรัสเซีย แม้จะมีความตึงเครียดในยุโรปตะวันออกก็ตาม, รัฐบาลชุดใหม่นี้อาจพบว่าตัวเองต้องรับมือกับความขัดแย้งที่ยืดเยื้อระหว่างเคียฟและมอสโกว์, ซึ่งต้องรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนยูเครนและหลีกเลี่ยงการยกระดับปัญหาโดยตรงกับรัสเซีย” บอนเน่กล่าว . WHO IS POTENTIAL TRUMP SEC. STATE PICK RICHARD GRENELL? Ex-director of national intelligence and ambassador to Germany Richard Grenell has reportedly made the shortlist of potential candidates for the job of secretary of state – a post entailing responsibility for advising the president on foreign policy and carrying out his decisions. Grenell’s public statements and actions provide clues about the kind of foreign policy guidance he might give Donald Trump: 🔸 The candidate is thought to share Trump’s desire to end the conflict in Ukraine. In July, he spitballed so-called “autonomous regions” in the conflict area, and said Kiev shouldn’t expect to join NATO anytime soon. 🔸 Grenell reportedly sat in on Trump’s meeting with Zelensky in September. 🔸 “[Trump] has shown he knows how to bring both sides to the table. He’s done it consistently. Arabs and Israelis, Russians and Ukrainians will be next,” Grenell said in a FP piece published this week on “Trump’s foreign policy plan.” 🔸 Ukrainian media fear Grenell’s appointment would “prioritize Trump’s desire to end the war quickly, even if it means making significant concessions for Ukraine.” 🔸 These positions don’t make Grenell a softy on Russia. In 2019, while serving as ambassador to Germany, Grenell repeatedly threatened European companies with sanctions over their involvement in the Nord Stream 2 gas pipeline project, prompting German politicians to brand him an “occupation officer” and to demand his expulsion. “The Ukraine crisis remains a crucial issue in US foreign policy, especially with Trump in power,” political analyst Massimiliano Bonne told Sputnik, commenting on Grenell’s potential appointment. “During his previous administration, Trump had adopted an ambivalent attitude towards Russia, despite the tensions in Eastern Europe. The new administration could find itself dealing with a protracted conflict between Kiev and Moscow, striking a difficult balance between supporting Ukraine and avoiding a direct escalation with Russia,” Bonne said. . 3:00 AM · Nov 9, 2024 · 3,855 Views https://x.com/SputnikInt/status/1854977191844385066
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียพูดถึงยุโรป:

    "ผมถามคณะทำงานและผู้เชี่ยวชาญของผมว่ายุโรปกำลังขาดอะไรอยู่บ้าง และคำตอบก็คือพวกเขายังขาดทางด้านความคิด" (ขาดสมอง)

    "I ask my colleagues, my experts, what is lacking in Europe right now. And the answer is that they rack of brains."
    ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียพูดถึงยุโรป: "ผมถามคณะทำงานและผู้เชี่ยวชาญของผมว่ายุโรปกำลังขาดอะไรอยู่บ้าง และคำตอบก็คือพวกเขายังขาดทางด้านความคิด" (ขาดสมอง) "I ask my colleagues, my experts, what is lacking in Europe right now. And the answer is that they rack of brains."
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 40 0 รีวิว
  • บางส่วนของคนดังฮอลลี่วูดที่ประกาศ "ย้ายประเทศ" หากโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

    - บาร์บรา สไตรแซนด์ (Barbra Streisand) จะย้ายไปอยู่อังกฤษ “อาจจะไปอังกฤษ ฉันชอบอังกฤษ” เธอกล่าวในระหว่างร่วมรายการ The Late Show with Stephen Colbert เธอ "ไม่สามารถอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ" ได้ หากทรัมป์ประสบความสำเร็จในการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง นอกจากนี้บาร์บรา ยังกล่าวสนับสนุนไบเดนว่า "ฉันชอบไบเดน ฉันคิดว่าเขาทำหน้าที่ได้ดี ฉันคิดว่าเขามีเมตตา เขาฉลาด เขาสนับสนุนสิ่งที่ถูกต้อง"

    - Cher (แชร์) นักร้องและนักแสดงชื่อดัง กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ถึงความสยดสยองเมื่อนึกถึงการที่ทรัมป์จะกลับมาที่ทำเนียบขาวอีกครั้ง “ฉันต้องเป็นแผลในกระเพาะเมื่อครั้งที่แล้ว ที่เขาดำรงตำแหน่ง เพราะฉันเครียดกับการกระทำของเขา” “ถ้าเขากลับเข้ามาได้อีกครั้ง คราวนี้ฉันคงต้องออกจากประเทศนี้” - เมื่อ 8 ปีที่แล้ว แชร์เคยประกาศจะออกจากสหรัฐไปแล้วครั้งหนึ่ง หากทรัมป์ได้รับการเสนอชื่อจากรีพับลิกันให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่จนแล้งจนรอดเธอก็อาศัยอยูามาจนถึงการเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองของทรัมป์ และเธอก็ประกาศอีกครั้ง!

    - ชารอน สโตน (Sharon Stone) กล่าวในช่วงที่ทรัมป์กำลังหาเสียงว่า จะย้ายไปอยู่ในอิตาลีหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง “ฉันคิดว่านี่เป็นความคิดที่ฉลาดที่สุดของฉัน” นอกจากนี้ เธอยังวิจารณ์ทรัมป์ว่า “นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉัน ที่ฉันเห็นคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ชูนโยบายแห่งความเกลียดชังและการกดขี่”

    - ไมลีย์ ไซรัส (Miley Cyrus) โพสต์บนอินสตาแกรมของเธอว่า จะย้ายประเทศ ถ้าทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี เธอยังยืนยันหลังจากมีนักข่าวสอบถามอีกว่า เธอจะไม่พูดอะไรในสิ่งที่ตัวเธอไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆ

    - ลีน่า ดันแฮม (Lena Dunham) ดาราสาวจากซีรีส์ Girls ประกาศอย่างมุ่งมั่นว่าเธอจะย้ายไปแคนาดา!

    - วูปี้ โกลด์เบิร์ก (Whoopi Goldberg) ดาราสาวเจ้าของรางวัลออสการ์เรื่อง Ghost ให้นิยามตัวทรัมว่าเป็นบุคคลที่ "ไร้สาระ" และประกาศหลายครั้งว่าหากทรัมป์ชนะ เธอจะย้ายไปอยู่แคนาดา!
    บางส่วนของคนดังฮอลลี่วูดที่ประกาศ "ย้ายประเทศ" หากโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ - บาร์บรา สไตรแซนด์ (Barbra Streisand) จะย้ายไปอยู่อังกฤษ “อาจจะไปอังกฤษ ฉันชอบอังกฤษ” เธอกล่าวในระหว่างร่วมรายการ The Late Show with Stephen Colbert เธอ "ไม่สามารถอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ" ได้ หากทรัมป์ประสบความสำเร็จในการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง นอกจากนี้บาร์บรา ยังกล่าวสนับสนุนไบเดนว่า "ฉันชอบไบเดน ฉันคิดว่าเขาทำหน้าที่ได้ดี ฉันคิดว่าเขามีเมตตา เขาฉลาด เขาสนับสนุนสิ่งที่ถูกต้อง" - Cher (แชร์) นักร้องและนักแสดงชื่อดัง กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ถึงความสยดสยองเมื่อนึกถึงการที่ทรัมป์จะกลับมาที่ทำเนียบขาวอีกครั้ง “ฉันต้องเป็นแผลในกระเพาะเมื่อครั้งที่แล้ว ที่เขาดำรงตำแหน่ง เพราะฉันเครียดกับการกระทำของเขา” “ถ้าเขากลับเข้ามาได้อีกครั้ง คราวนี้ฉันคงต้องออกจากประเทศนี้” - เมื่อ 8 ปีที่แล้ว แชร์เคยประกาศจะออกจากสหรัฐไปแล้วครั้งหนึ่ง หากทรัมป์ได้รับการเสนอชื่อจากรีพับลิกันให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่จนแล้งจนรอดเธอก็อาศัยอยูามาจนถึงการเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองของทรัมป์ และเธอก็ประกาศอีกครั้ง! - ชารอน สโตน (Sharon Stone) กล่าวในช่วงที่ทรัมป์กำลังหาเสียงว่า จะย้ายไปอยู่ในอิตาลีหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง “ฉันคิดว่านี่เป็นความคิดที่ฉลาดที่สุดของฉัน” นอกจากนี้ เธอยังวิจารณ์ทรัมป์ว่า “นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉัน ที่ฉันเห็นคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ชูนโยบายแห่งความเกลียดชังและการกดขี่” - ไมลีย์ ไซรัส (Miley Cyrus) โพสต์บนอินสตาแกรมของเธอว่า จะย้ายประเทศ ถ้าทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี เธอยังยืนยันหลังจากมีนักข่าวสอบถามอีกว่า เธอจะไม่พูดอะไรในสิ่งที่ตัวเธอไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆ - ลีน่า ดันแฮม (Lena Dunham) ดาราสาวจากซีรีส์ Girls ประกาศอย่างมุ่งมั่นว่าเธอจะย้ายไปแคนาดา! - วูปี้ โกลด์เบิร์ก (Whoopi Goldberg) ดาราสาวเจ้าของรางวัลออสการ์เรื่อง Ghost ให้นิยามตัวทรัมว่าเป็นบุคคลที่ "ไร้สาระ" และประกาศหลายครั้งว่าหากทรัมป์ชนะ เธอจะย้ายไปอยู่แคนาดา!
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ลอยกระทงสุโขทัย๒๕๖๗

    เริ่มแล้ว...
    งานประเพณีลอยกระทง
    เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี ๒๕๖๗
    จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๘ - ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
    (การแสดงวันที่ ๘ - ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗)
    ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
    เมืองเก่าสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

    จองรอบการแสดงได้ที่
    https://m.thaiticketmajor.com/performance/ngaan-loi-gra-tong-pao-tiian-len-fai-jang-wat-su-koh-tai-2566.html

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
    ● โทรศัพท์ ๐๖๑-๒๒๖๖๖๕๔, ๐๒-๒๖๒๓๔๕๖
    ● ID Line: @LS2023 หรือ https://lin.ee/9dQFNbz หรือสแกน QR CODE ในข้อความความคิดเห็นแรก
    #ลอยกระทงสุโขทัย๒๕๖๗ เริ่มแล้ว... งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี ๒๕๖๗ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๘ - ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (การแสดงวันที่ ๘ - ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมืองเก่าสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย จองรอบการแสดงได้ที่ https://m.thaiticketmajor.com/performance/ngaan-loi-gra-tong-pao-tiian-len-fai-jang-wat-su-koh-tai-2566.html สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ● โทรศัพท์ ๐๖๑-๒๒๖๖๖๕๔, ๐๒-๒๖๒๓๔๕๖ ● ID Line: @LS2023 หรือ https://lin.ee/9dQFNbz หรือสแกน QR CODE ในข้อความความคิดเห็นแรก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝันดีแค่ไหนก็ต้องตื่น
    มีแต่ความจริงเท่านั้นที่อยู่กับเราไปตลอด
    ความจริงที่มิได้สวยงามสมบูรณ์แบบ
    แต่มันก็เป็นชีวิตของเรา

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    ฝันดีแค่ไหนก็ต้องตื่น มีแต่ความจริงเท่านั้นที่อยู่กับเราไปตลอด ความจริงที่มิได้สวยงามสมบูรณ์แบบ แต่มันก็เป็นชีวิตของเรา จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่เราอยากลงหลักปักฐาน
    ที่เกาะสักแห่งที่เราเลือกแล้ว
    มิใช่เพราะมันสวยงามไร้ที่ติ
    แต่เพราะเรายอมรับตำหนิที่มันมีอยู่

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    วันที่เราอยากลงหลักปักฐาน ที่เกาะสักแห่งที่เราเลือกแล้ว มิใช่เพราะมันสวยงามไร้ที่ติ แต่เพราะเรายอมรับตำหนิที่มันมีอยู่ จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • โลกยังกว้าง
    ชีวิตยังมีเวลา

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    โลกยังกว้าง ชีวิตยังมีเวลา จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนจะเป็นกัปตัน
    เราล้วนเคยเป็นมือใหม่

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    ก่อนจะเป็นกัปตัน เราล้วนเคยเป็นมือใหม่ จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ไม่รู้ว่าทะเลกว้าง
    หรือว่าเราตัวเล็กกันแน่"

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    "ไม่รู้ว่าทะเลกว้าง หรือว่าเราตัวเล็กกันแน่" จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • การที่คนหนึ่งคนหายไปจากชีวิต
    เป็นไปไม่ได้ ที่ชีวิตจะเหมือนเดิม

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    การที่คนหนึ่งคนหายไปจากชีวิต เป็นไปไม่ได้ ที่ชีวิตจะเหมือนเดิม จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเงียบจะสิ้นสุดลง
    เมื่อลมเคลื่อนไหว

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    ความเงียบจะสิ้นสุดลง เมื่อลมเคลื่อนไหว จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเหงา
    เป็นเรื่องปกติของชีวิต
    อย่าไปรังเกียจมัน
    อย่าไปปฏิเสธว่าฉันไม่เหงา
    เราต้องอยู่กับมันให้ได้
    มันมาก็ทักทาย
    แล้วก็หัวเราะไปกับมัน

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    ความเหงา เป็นเรื่องปกติของชีวิต อย่าไปรังเกียจมัน อย่าไปปฏิเสธว่าฉันไม่เหงา เราต้องอยู่กับมันให้ได้ มันมาก็ทักทาย แล้วก็หัวเราะไปกับมัน จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนบางคนรู้ว่าชีวิตที่มีความสุขคืออะไร
    แต่ไม่กล้าใช้ชีวิตแบบนั้น


    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    คนบางคนรู้ว่าชีวิตที่มีความสุขคืออะไร แต่ไม่กล้าใช้ชีวิตแบบนั้น จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำหรับนักเดินทาง
    ที่ใช้ชีวิตโยกย้ายถิ่นฐานมาหลายครั้ง
    "การเริ่มต้นใหม่นี้"
    สถานที่ใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลจนเกินไป
    ที่ไหนก็เป็นบ้านได้เช่นกัน


    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    สำหรับนักเดินทาง ที่ใช้ชีวิตโยกย้ายถิ่นฐานมาหลายครั้ง "การเริ่มต้นใหม่นี้" สถานที่ใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลจนเกินไป ที่ไหนก็เป็นบ้านได้เช่นกัน จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราสามารถคิดได้ทีละเรื่องเท่านั้น ตอนได้ยินประโยคนี้ครั้งแรกฉันนึกสงสัยว่าทำไมฉันถึงไม่เคยนึกถึงสิ่งที่ชัดเจนแจ่มแจ้งแบบนี้ได้มาก่อน ถ้าเราสามารถคิดได้แค่ทีละหนึ่งเรื่องเท่านั้น งั้นเราแค่เลือกความคิดเชิงบวกแทนความคิดเชิงลบก็ได้แล้วไม่ใช่หรือไง คำตอบคือใช่

    จากหนังสือ Manifest
    เราสามารถคิดได้ทีละเรื่องเท่านั้น ตอนได้ยินประโยคนี้ครั้งแรกฉันนึกสงสัยว่าทำไมฉันถึงไม่เคยนึกถึงสิ่งที่ชัดเจนแจ่มแจ้งแบบนี้ได้มาก่อน ถ้าเราสามารถคิดได้แค่ทีละหนึ่งเรื่องเท่านั้น งั้นเราแค่เลือกความคิดเชิงบวกแทนความคิดเชิงลบก็ได้แล้วไม่ใช่หรือไง คำตอบคือใช่ จากหนังสือ Manifest
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • การควบคุมตนเองยามโกรธ คือทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของจิต เมื่อโกรธ เรามักรู้สึกอยากพูดหรือทำสิ่งที่อาจไม่เป็นตัวเราอย่างแท้จริง การสังเกตและยับยั้งไม่ให้แสดงออกทันที ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นความเป็นไปของอารมณ์และความคิดได้ชัดเจนขึ้น

    ยามโกรธให้ลองรอจนความรู้สึกเย็นลงแล้วค่อยทบทวนว่าความคิดหรือคำพูดนั้นเหมาะสมจริงหรือไม่ การระงับปากก่อนโพล่งทำให้เราสังเกตเห็นความต่างของจิตระหว่างโกรธและสงบ ซึ่งไม่เพียงทำให้เราเข้าใจตนเองมากขึ้น แต่ยังทำให้เราเข้าใจผู้อื่นดีขึ้นด้วย เพราะเราเห็นได้ว่า คนอื่นก็มีช่วงที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เช่นกัน การที่เราเข้าใจธรรมชาติของตนเองนี้เองจะช่วยให้เราถือสาและคาดหวังจากผู้อื่นน้อยลง

    ท้ายที่สุด การยับยั้งคำพูดเพื่อทบทวนอารมณ์และเหตุผล จะช่วยให้เราเจริญสติในทุกสถานการณ์และรู้จักปรุงแต่งความคิดอย่างเหมาะสม เมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งใดควรพูดหรือไม่ควรพูด ชีวิตก็จะเรียบง่ายและเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ วันต่อวัน
    การควบคุมตนเองยามโกรธ คือทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของจิต เมื่อโกรธ เรามักรู้สึกอยากพูดหรือทำสิ่งที่อาจไม่เป็นตัวเราอย่างแท้จริง การสังเกตและยับยั้งไม่ให้แสดงออกทันที ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นความเป็นไปของอารมณ์และความคิดได้ชัดเจนขึ้น ยามโกรธให้ลองรอจนความรู้สึกเย็นลงแล้วค่อยทบทวนว่าความคิดหรือคำพูดนั้นเหมาะสมจริงหรือไม่ การระงับปากก่อนโพล่งทำให้เราสังเกตเห็นความต่างของจิตระหว่างโกรธและสงบ ซึ่งไม่เพียงทำให้เราเข้าใจตนเองมากขึ้น แต่ยังทำให้เราเข้าใจผู้อื่นดีขึ้นด้วย เพราะเราเห็นได้ว่า คนอื่นก็มีช่วงที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เช่นกัน การที่เราเข้าใจธรรมชาติของตนเองนี้เองจะช่วยให้เราถือสาและคาดหวังจากผู้อื่นน้อยลง ท้ายที่สุด การยับยั้งคำพูดเพื่อทบทวนอารมณ์และเหตุผล จะช่วยให้เราเจริญสติในทุกสถานการณ์และรู้จักปรุงแต่งความคิดอย่างเหมาะสม เมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งใดควรพูดหรือไม่ควรพูด ชีวิตก็จะเรียบง่ายและเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ วันต่อวัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺 ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน กล่าวว่า เสรีนิยมตะวันตกเป็นสาเหตุของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พลเรือนจำนวนมาก

    "เสรีนิยมตะวันตกเสื่อมถอยลงสู่ความไม่ยอมรับและการรุกรานอย่างรุนแรงต่อทางเลือกใดๆ, ต่อความคิดที่เป็นอิสระและมีอำนาจอธิปไตย

    และในปัจจุบัน, ลัทธิเสรีนิยมตะวันตกได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการต่อต้านลัทธินีโอ-นาซี, การก่อการร้าย, การเหยียดเชื้อชาติ, และแม้แต่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พลเรือนจำนวนมาก"
    .
    JUST IN: 🇷🇺 Russian President Putin says Western liberalism is responsible for the mass genocide of civilian populations.

    "Western liberalism has degenerated into extreme intolerance and aggression towards any alternative, towards any sovereign and independent thought.

    And today, it justifies neo-Nazism, terrorism, racism, and even the mass genocide of civilian populations."
    .
    5:31 AM · Nov 8, 2024 · 78.6K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1854652932937093475
    🇷🇺 ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน กล่าวว่า เสรีนิยมตะวันตกเป็นสาเหตุของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พลเรือนจำนวนมาก "เสรีนิยมตะวันตกเสื่อมถอยลงสู่ความไม่ยอมรับและการรุกรานอย่างรุนแรงต่อทางเลือกใดๆ, ต่อความคิดที่เป็นอิสระและมีอำนาจอธิปไตย และในปัจจุบัน, ลัทธิเสรีนิยมตะวันตกได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการต่อต้านลัทธินีโอ-นาซี, การก่อการร้าย, การเหยียดเชื้อชาติ, และแม้แต่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พลเรือนจำนวนมาก" . JUST IN: 🇷🇺 Russian President Putin says Western liberalism is responsible for the mass genocide of civilian populations. "Western liberalism has degenerated into extreme intolerance and aggression towards any alternative, towards any sovereign and independent thought. And today, it justifies neo-Nazism, terrorism, racism, and even the mass genocide of civilian populations." . 5:31 AM · Nov 8, 2024 · 78.6K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1854652932937093475
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • 7/11/67

    “ปริศนาจากพระพุทธรูป"

    คงไม่มีใครไม่เคยเห็นพระพุทธรูป แต่คงจะมีน้อยคนที่รู้ว่า ลักษณะของพระพุทธรูปที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้งนั้น แฝงข้อคิดอันประเสริฐสุดในชีวิตเอาไว้ ถึง 5 ประการ
    คือ

    1. พระเศียรแหลม

    มีคำถามว่า ทำไมพระพุทธรูปจึงมีพระเศียรแหลมในเมื่อพระพุทธเจ้าของเราก็เป็นมนุษย์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คิดเป็นปริศนาธรรม

    พระเศียรแหลมนั้นหมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลมในการดำเนินชีวิต สอนให้เราใช้ชีวิตและรู้จักแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์

    ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน แล้วความผิดพลาดจะเกิดขึ้นน้อย หรือแม้มันเกิดขึ้น เราก็จะเรียนรู้จากมันได้อย่างรวดเร็ว

    ปัญญาคือ ที่สุดแห่งธรรม หากมีปัญญา ชีวิตจะไม่มีปัญหา เพราะทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาจะกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้พัฒนาจิตใจได้เสมอ

    2. พระกรรณยาน

    หูยานเป็นปริศนาธรรมให้ชาวพุทธเป็นคนหูหนัก คือ มีความหนักแน่นมั่นคง ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ แต่หมั่นคิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาอันแยบคาย แล้วจึงเชื่อในหลักฐานและข้อพิสูจน์ที่ตัวเองได้นำไปทดสอบแล้ว

    เราต้องเชื่อมั่นในหลักเหตุและผล (Cause & Effect) เชื่อว่าบุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เชื่อว่าสุดท้าย คน ๆเดียวที่จะสามารถทำให้เราสุขหรือทุกข์ ดีหรือเลวได้คือ ตัวเราเอง และ ชีวิตเราจะเสื่อมทรามหรือเจริญรุ่งเรือง ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจภายนอกหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับความคิด คำพูด และการกระทำของเราเองฉะนั้น ในการใช้ชีวิต ให้มีความสุขุมเยือกเย็น มีสติ และ มีเหตุผลเข้าไว้ อย่าปล่อยใจไปยึดตามสิ่งที่ได้ยิน เชื่อตามคนอื่น หรือตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นจนเกินไป ลองพิสูจน์สิ่งต่าง ๆด้วยตัวเองเสียก่อนจะเชื่อ ตามหลัก “กาลามสูตร” เพื่อฝึกฝนการเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง ดั่งองค์พระพุทธฯ

    3. พระเนตรมองต่ำ

    พระพุทธรูปที่สร้างโดยทั่วไปจะมีพระเนตรมองลงที่พระวรกายของพระองค์ ไม่ได้มองดูหน้าต่าง หรือมองดูประตูพระอุโบสถว่าจะมีใครเข้ามาไหว้บ้าง นี่เป็นปริศนาธรรม

    สอนให้มองตนเองและพิจารณาตนเองเสมอ ตักเตือนแก้ไขตนเองก่อนจะไปคอยจับผิดผู้อื่น ตามปกติคนเรามักจะมองเห็นแต่ความผิดพลาดของบุคคลอื่น โดยลืมมองข้อบกพร่องของตนเอง มัวแต่เอาเวลาไปนินทาว่าร้ายและจ้องแต่จะคอยวิจารณ์หรือเปลี่ยนแปลงคนรอบข้างอย่างเดียว ทำให้สูญเสียโอกาสในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ใครเล่าจะตักเตือนตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง จึงมีพุทธพจน์ตรัสให้เตือนตนเองว่า

    “อตฺตนา โจทยตฺตาน”

    ซึ่งแปลเป็นกลอนได้ว่า...

    “จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด
    ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน
    ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน
    ตนแชเชือนรีบเตือนตนให้พ้นภัย”

    นอกจากนั้น พระเนตรที่มองต่ำคือ การสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่เหม่อมองฟ้าจนฝันเฟื่องถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น หรือ มัวหลงล่องลอยอยู่ในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้วและไม่มีวันหวนกลับมา ตาที่มองลงต่ำจะช่วยย้ำเตือนใจเราว่า “กลับมาก่อนเถิด... กลับบ้านมาอยู่กับลมหายใจที่ปลายจมูก... เพราะนั่นคือ ดินแดนแห่งสวรรค์ที่แท้จริง”

    4. พระพักตร์อันสงบนิ่ง

    ไม่ว่าใครจะด่าว่าพระพุทธรูปอย่างไร ท่านก็ยังสงบนิ่ง ไม่ว่าน้ำจะท่วม แผ่นดินจะไหว หรือใครจะเตะ ต่อย นินทา หรือทำร้ายพระพุทธรูปมากแค่ไหน ท่านก็นิ่งสงบรับแรงกระทบต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างมั่นคง เบิกบาน และไม่หวั่นไหวไปกับปัญหาทั้งเล็กและใหญ่

    ให้ความรู้สึกเย็นสบายต่อผู้พบเห็นอยู่เสมอ ในชีวิตของเรา ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมคนอยู่เสมอ แต่ถ้าเราสามารถฝึกรับแรงกระแทกทุกรูปแบบด้วยความนิ่งสงบได้ เราก็จะสามารถตอบโต้อย่างสร้างสรรค์และทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เพราะคนบ้าจะโต้ตอบแบบหน้ามืด และคนโง่จะตอบโต้ตอนที่ตัวเองกำลังโกรธ ส่งผลให้ตัวเองและคนอื่นตกตายไปตามกัน

    หากเรารู้จักนิ่งสงบรับแรงกระแทกต่าง ๆ ในชีวิตได้เหมือนพระพุทธรูป ขั้นตอนต่อไปของการตอบโต้จะเกิดจากสติ เกิดจากปัญญา และเกิดจากพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาจากใจที่สงบนิ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สร้างบาดแผลให้กับคนอื่นหรือตัวเอง

    5. รอยยิ้มของผู้ที่เข้าใจโลก

    สุดท้าย คือปริศนาจากพระโอษฐ์ที่แย้มยิ้มอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่รักสรรพสิ่ง รักโลก และเข้าใจความจริงของโลก...

    ความจริงที่ว่า... ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดาความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรแน่นอน
    ความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรคงทนถาวรความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง

    ความสุขและความทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ ฉะนั้น

    “ผู้ที่เข้าใจความจริง” จะสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ในธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่วิ่งตามกระแสโลกจนเหนื่อยเกินไป และสามารถใช้ชีวิตอย่างเบิกบานได้ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ เพราะมีสัจธรรมเป็นที่พักพิง

    นอกจากนั้นรอยยิ้มของพระพุทธรูป คือ รอยยิ้มของผู้ที่ถ่อมตัว แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจความยิ่งใหญ่และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ รู้ว่าแม้ตัวเองจะเป็นเพียงเศษผงธุลีหนึ่งในจักรวาล แต่ก็เป็นเศษผงธุลีที่สามารถเข้าใจความจริงของจักรวาลได้ จึงทั้งเป็นสิ่งที่พิเศษและไม่พิเศษ ในเวลาเดียวกัน...

    อย่าลืมนะ ว่า ในจิตใจของพวกเราทุกคน มีความเป็นพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) ซ่อนอยู่ โดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะหลายคนอาจไม่ทราบว่า แท้จริงคำว่า “พระพุทธเจ้า” (ผู้ตื่นรู้) ไม่ใช่ “ชื่อ” แต่เป็น “คำนำหน้าชื่อ”

    และในอดีตก็เคยมีพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ โดยองค์ปัจจุบันที่เรารู้จักกันดีมีพระนามว่า

    “โคตมะ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ขับไล่ความมืด (อวิชชา) ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา”

    ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า
    ไม่ว่าใครก็สามารถไปถึงจุดของความเป็น “พุทธะ” ได้ทั้งนั้น หากคนคนนั้นหมั่นใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีปัญญาอยู่เสมอ

    # ฉะนั้น เมื่อใดที่เราก้มลงกราบพระพุทธรูป นอกจากจะระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็อย่าลืมระลึกถึงปรัชญาที่แฝงไว้ด้วย
    7/11/67 “ปริศนาจากพระพุทธรูป" คงไม่มีใครไม่เคยเห็นพระพุทธรูป แต่คงจะมีน้อยคนที่รู้ว่า ลักษณะของพระพุทธรูปที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้งนั้น แฝงข้อคิดอันประเสริฐสุดในชีวิตเอาไว้ ถึง 5 ประการ คือ 1. พระเศียรแหลม มีคำถามว่า ทำไมพระพุทธรูปจึงมีพระเศียรแหลมในเมื่อพระพุทธเจ้าของเราก็เป็นมนุษย์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คิดเป็นปริศนาธรรม พระเศียรแหลมนั้นหมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลมในการดำเนินชีวิต สอนให้เราใช้ชีวิตและรู้จักแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน แล้วความผิดพลาดจะเกิดขึ้นน้อย หรือแม้มันเกิดขึ้น เราก็จะเรียนรู้จากมันได้อย่างรวดเร็ว ปัญญาคือ ที่สุดแห่งธรรม หากมีปัญญา ชีวิตจะไม่มีปัญหา เพราะทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาจะกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้พัฒนาจิตใจได้เสมอ 2. พระกรรณยาน หูยานเป็นปริศนาธรรมให้ชาวพุทธเป็นคนหูหนัก คือ มีความหนักแน่นมั่นคง ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ แต่หมั่นคิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาอันแยบคาย แล้วจึงเชื่อในหลักฐานและข้อพิสูจน์ที่ตัวเองได้นำไปทดสอบแล้ว เราต้องเชื่อมั่นในหลักเหตุและผล (Cause & Effect) เชื่อว่าบุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เชื่อว่าสุดท้าย คน ๆเดียวที่จะสามารถทำให้เราสุขหรือทุกข์ ดีหรือเลวได้คือ ตัวเราเอง และ ชีวิตเราจะเสื่อมทรามหรือเจริญรุ่งเรือง ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจภายนอกหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับความคิด คำพูด และการกระทำของเราเองฉะนั้น ในการใช้ชีวิต ให้มีความสุขุมเยือกเย็น มีสติ และ มีเหตุผลเข้าไว้ อย่าปล่อยใจไปยึดตามสิ่งที่ได้ยิน เชื่อตามคนอื่น หรือตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นจนเกินไป ลองพิสูจน์สิ่งต่าง ๆด้วยตัวเองเสียก่อนจะเชื่อ ตามหลัก “กาลามสูตร” เพื่อฝึกฝนการเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง ดั่งองค์พระพุทธฯ 3. พระเนตรมองต่ำ พระพุทธรูปที่สร้างโดยทั่วไปจะมีพระเนตรมองลงที่พระวรกายของพระองค์ ไม่ได้มองดูหน้าต่าง หรือมองดูประตูพระอุโบสถว่าจะมีใครเข้ามาไหว้บ้าง นี่เป็นปริศนาธรรม สอนให้มองตนเองและพิจารณาตนเองเสมอ ตักเตือนแก้ไขตนเองก่อนจะไปคอยจับผิดผู้อื่น ตามปกติคนเรามักจะมองเห็นแต่ความผิดพลาดของบุคคลอื่น โดยลืมมองข้อบกพร่องของตนเอง มัวแต่เอาเวลาไปนินทาว่าร้ายและจ้องแต่จะคอยวิจารณ์หรือเปลี่ยนแปลงคนรอบข้างอย่างเดียว ทำให้สูญเสียโอกาสในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ใครเล่าจะตักเตือนตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง จึงมีพุทธพจน์ตรัสให้เตือนตนเองว่า “อตฺตนา โจทยตฺตาน” ซึ่งแปลเป็นกลอนได้ว่า... “จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน ตนแชเชือนรีบเตือนตนให้พ้นภัย” นอกจากนั้น พระเนตรที่มองต่ำคือ การสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่เหม่อมองฟ้าจนฝันเฟื่องถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น หรือ มัวหลงล่องลอยอยู่ในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้วและไม่มีวันหวนกลับมา ตาที่มองลงต่ำจะช่วยย้ำเตือนใจเราว่า “กลับมาก่อนเถิด... กลับบ้านมาอยู่กับลมหายใจที่ปลายจมูก... เพราะนั่นคือ ดินแดนแห่งสวรรค์ที่แท้จริง” 4. พระพักตร์อันสงบนิ่ง ไม่ว่าใครจะด่าว่าพระพุทธรูปอย่างไร ท่านก็ยังสงบนิ่ง ไม่ว่าน้ำจะท่วม แผ่นดินจะไหว หรือใครจะเตะ ต่อย นินทา หรือทำร้ายพระพุทธรูปมากแค่ไหน ท่านก็นิ่งสงบรับแรงกระทบต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างมั่นคง เบิกบาน และไม่หวั่นไหวไปกับปัญหาทั้งเล็กและใหญ่ ให้ความรู้สึกเย็นสบายต่อผู้พบเห็นอยู่เสมอ ในชีวิตของเรา ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมคนอยู่เสมอ แต่ถ้าเราสามารถฝึกรับแรงกระแทกทุกรูปแบบด้วยความนิ่งสงบได้ เราก็จะสามารถตอบโต้อย่างสร้างสรรค์และทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เพราะคนบ้าจะโต้ตอบแบบหน้ามืด และคนโง่จะตอบโต้ตอนที่ตัวเองกำลังโกรธ ส่งผลให้ตัวเองและคนอื่นตกตายไปตามกัน หากเรารู้จักนิ่งสงบรับแรงกระแทกต่าง ๆ ในชีวิตได้เหมือนพระพุทธรูป ขั้นตอนต่อไปของการตอบโต้จะเกิดจากสติ เกิดจากปัญญา และเกิดจากพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาจากใจที่สงบนิ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สร้างบาดแผลให้กับคนอื่นหรือตัวเอง 5. รอยยิ้มของผู้ที่เข้าใจโลก สุดท้าย คือปริศนาจากพระโอษฐ์ที่แย้มยิ้มอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่รักสรรพสิ่ง รักโลก และเข้าใจความจริงของโลก... ความจริงที่ว่า... ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดาความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรแน่นอน ความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรคงทนถาวรความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง ความสุขและความทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ ฉะนั้น “ผู้ที่เข้าใจความจริง” จะสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ในธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่วิ่งตามกระแสโลกจนเหนื่อยเกินไป และสามารถใช้ชีวิตอย่างเบิกบานได้ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ เพราะมีสัจธรรมเป็นที่พักพิง นอกจากนั้นรอยยิ้มของพระพุทธรูป คือ รอยยิ้มของผู้ที่ถ่อมตัว แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจความยิ่งใหญ่และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ รู้ว่าแม้ตัวเองจะเป็นเพียงเศษผงธุลีหนึ่งในจักรวาล แต่ก็เป็นเศษผงธุลีที่สามารถเข้าใจความจริงของจักรวาลได้ จึงทั้งเป็นสิ่งที่พิเศษและไม่พิเศษ ในเวลาเดียวกัน... อย่าลืมนะ ว่า ในจิตใจของพวกเราทุกคน มีความเป็นพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) ซ่อนอยู่ โดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะหลายคนอาจไม่ทราบว่า แท้จริงคำว่า “พระพุทธเจ้า” (ผู้ตื่นรู้) ไม่ใช่ “ชื่อ” แต่เป็น “คำนำหน้าชื่อ” และในอดีตก็เคยมีพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ โดยองค์ปัจจุบันที่เรารู้จักกันดีมีพระนามว่า “โคตมะ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ขับไล่ความมืด (อวิชชา) ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา” ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าใครก็สามารถไปถึงจุดของความเป็น “พุทธะ” ได้ทั้งนั้น หากคนคนนั้นหมั่นใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีปัญญาอยู่เสมอ # ฉะนั้น เมื่อใดที่เราก้มลงกราบพระพุทธรูป นอกจากจะระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็อย่าลืมระลึกถึงปรัชญาที่แฝงไว้ด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงเวลาปรับสื่อ กรองสันด..านแขก ก่อนออกรายการ
    จากคดีทนายตั้มนายสิทธา เบี้ยบังเกิด ที่สังคมกําลังสนใจว่าจะจบลงอย่างไรเพราะมีการแจ้งความเอาผิดเพิ่มอีกสามคดี คือคดีหลอกลวงได้เงินไปสามสิบเก้าล้านบาท คดีอมเงินซื้อรถเบนซ์และ คดีเงินค่าออกแบบโรงแรมเก้าล้านบาทของพี่อ้อย
    สิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่มองข้ามคือการสร้างฮีโร่โดยกลุ่มเครือข่ายสื่อ รายการต่างๆ อย่าลืมว่าทนายตั้มเป็นฝ่ายออกตัวปูดเรื่องเงิน 71ล้าน ขึ้นมาเองกลางรายการโหนกระแสว่าได้มาโดยเสน่หารับด้วยอาการตกใจของหนุ่มกรรชัยซึ่ งจนบัดนี้ก็ยังมีคนสงสัยอยู่ดีว่าหนุ่มและตั้มตกใจจริง หรือว่ารู้กัน
    แม้ว่าหนุ่มกรรชัยจะยืนยันไปแล้วด้วยเกียรติของพิธีกรใหญ่ว่าเขาไม่รู้จริงๆว่าทนายตั้มจับโผงเรื่องนี้ขึ้นมา ทุกวันนี้สื่อเครือข่ายมีอิทธิพลในการชักจูงความคิดคนย้อนไปตั้งแต่เรื่องลุงพลจากผู้ต้องสงสัยกลายเป็นผู้ต้องสงสาร
    แล้วสื่อก็รุมปั้นจนลุงพลกลายเป็นซุปตาร์ไปเลย จากชาวไร่จนๆเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐีในเวลาอันสั้นแต่สุดท้ายลุงพลกลับถูกศาลลงโทษจําคุกนานถึง20 ปี
    การปั้นฮีโร่กันแบบลวกลวกไม่ดูตาม้าตาเรืออีกบทบาทสื่อซึ่งกําลังถูกสังคมตั้งคําถามคือการปั้นซุปเปอร์ฮีโร่หน้าจอออกมาแสดงตัวเป็นคนดีกอบกู้สังคมเลวร้ายไปไปมาๆกลุ่มคนที่ยึดหน้าจอเป็นซุปเปอร์ฮีโร่พวกนี้กลับดีแตกกันทีละคน 2 คนตัวอย่างชัดเจนสุดก็คือทนายตั้มทนายต้มซึ่งถูกพีอ้อย จตุพรเศรษฐีนีใจดีแจ้งจับฉ้อโกงรวมมูลค่าความเสียหายเกิน 100,000,000 ส่งผลให้เกิดภาวะน้ําลดตอผุดบันไดเหยื่อเก่าเก่าออกมาแสดงตัวแฉวีรกรรมสารพัดอย่างของทนายตั้มจนกลายเป็นทนายต้มแม้แต่จังหวะฟอกขาวตัวเองทนายตั้มก็วิ่งไปหารายการเรตติ้งสูงอย่างโหนกระแสและรายการคนดังนั่งเคลียร์เพื่อชิงเคลียร์ตัวเองว่ารวยจากเสน่หา
    เรียกว่าทนายตั้มใช้สื่อเครือข่ายอย่างคุ้มค่าทั้งสร้างตัวตนให้เป็นคนดังทั้งฟอกขาวตัวเองยามไปก่อเรื่องเลวร้าย
    สื่อทีวีทั้งหลายจะรับรู้ถึงความผิดพลาดหรือไม่ เมื่อบรรดาเด็กปั้นผลผลิตจากหน้าจอทั้งหลายเนื้อแท้ดันไม่ได้ดีพร้อม อาจถึงเวลาต้องกลั่นกรองคนให้ละเอียดกว่านี้แค่เน้นเอามัน มันไม่พอ
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ถึงเวลาปรับสื่อ กรองสันด..านแขก ก่อนออกรายการ จากคดีทนายตั้มนายสิทธา เบี้ยบังเกิด ที่สังคมกําลังสนใจว่าจะจบลงอย่างไรเพราะมีการแจ้งความเอาผิดเพิ่มอีกสามคดี คือคดีหลอกลวงได้เงินไปสามสิบเก้าล้านบาท คดีอมเงินซื้อรถเบนซ์และ คดีเงินค่าออกแบบโรงแรมเก้าล้านบาทของพี่อ้อย สิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่มองข้ามคือการสร้างฮีโร่โดยกลุ่มเครือข่ายสื่อ รายการต่างๆ อย่าลืมว่าทนายตั้มเป็นฝ่ายออกตัวปูดเรื่องเงิน 71ล้าน ขึ้นมาเองกลางรายการโหนกระแสว่าได้มาโดยเสน่หารับด้วยอาการตกใจของหนุ่มกรรชัยซึ่ งจนบัดนี้ก็ยังมีคนสงสัยอยู่ดีว่าหนุ่มและตั้มตกใจจริง หรือว่ารู้กัน แม้ว่าหนุ่มกรรชัยจะยืนยันไปแล้วด้วยเกียรติของพิธีกรใหญ่ว่าเขาไม่รู้จริงๆว่าทนายตั้มจับโผงเรื่องนี้ขึ้นมา ทุกวันนี้สื่อเครือข่ายมีอิทธิพลในการชักจูงความคิดคนย้อนไปตั้งแต่เรื่องลุงพลจากผู้ต้องสงสัยกลายเป็นผู้ต้องสงสาร แล้วสื่อก็รุมปั้นจนลุงพลกลายเป็นซุปตาร์ไปเลย จากชาวไร่จนๆเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐีในเวลาอันสั้นแต่สุดท้ายลุงพลกลับถูกศาลลงโทษจําคุกนานถึง20 ปี การปั้นฮีโร่กันแบบลวกลวกไม่ดูตาม้าตาเรืออีกบทบาทสื่อซึ่งกําลังถูกสังคมตั้งคําถามคือการปั้นซุปเปอร์ฮีโร่หน้าจอออกมาแสดงตัวเป็นคนดีกอบกู้สังคมเลวร้ายไปไปมาๆกลุ่มคนที่ยึดหน้าจอเป็นซุปเปอร์ฮีโร่พวกนี้กลับดีแตกกันทีละคน 2 คนตัวอย่างชัดเจนสุดก็คือทนายตั้มทนายต้มซึ่งถูกพีอ้อย จตุพรเศรษฐีนีใจดีแจ้งจับฉ้อโกงรวมมูลค่าความเสียหายเกิน 100,000,000 ส่งผลให้เกิดภาวะน้ําลดตอผุดบันไดเหยื่อเก่าเก่าออกมาแสดงตัวแฉวีรกรรมสารพัดอย่างของทนายตั้มจนกลายเป็นทนายต้มแม้แต่จังหวะฟอกขาวตัวเองทนายตั้มก็วิ่งไปหารายการเรตติ้งสูงอย่างโหนกระแสและรายการคนดังนั่งเคลียร์เพื่อชิงเคลียร์ตัวเองว่ารวยจากเสน่หา เรียกว่าทนายตั้มใช้สื่อเครือข่ายอย่างคุ้มค่าทั้งสร้างตัวตนให้เป็นคนดังทั้งฟอกขาวตัวเองยามไปก่อเรื่องเลวร้าย สื่อทีวีทั้งหลายจะรับรู้ถึงความผิดพลาดหรือไม่ เมื่อบรรดาเด็กปั้นผลผลิตจากหน้าจอทั้งหลายเนื้อแท้ดันไม่ได้ดีพร้อม อาจถึงเวลาต้องกลั่นกรองคนให้ละเอียดกว่านี้แค่เน้นเอามัน มันไม่พอ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 1 รีวิว
  • เพราะโลกกว้าง
    คนข้างๆจึงสำคัญ

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #นิ้วกลม
    เพราะโลกกว้าง คนข้างๆจึงสำคัญ จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #นิ้วกลม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยากมีชีวิตเป็นอิสระ
    รักได้แต่ต้องไม่หวง

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #นิ้วกลม
    อยากมีชีวิตเป็นอิสระ รักได้แต่ต้องไม่หวง จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #นิ้วกลม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts