• เดอะ สเตรท์สไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นางรอสมาห์ มันซอร์ ภรรยา วัย 72 ปีของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกำลังรับโทษในคดีทุจริตอยู่นั้น ถูกศาลสูงของมาเลเซียตัดสินให้พ้นผิดจากข้อหารวม 12 กระทงในคดีฟอกเงิน มูลค่า 7 ล้านริงกิต (ราว 53.8 ล้านบาท) และอีก 5 กระทงฐานไม่แจ้งรายได้ของตนเองต่อสรรพากร
    เดอะ สเตรท์สไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นางรอสมาห์ มันซอร์ ภรรยา วัย 72 ปีของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกำลังรับโทษในคดีทุจริตอยู่นั้น ถูกศาลสูงของมาเลเซียตัดสินให้พ้นผิดจากข้อหารวม 12 กระทงในคดีฟอกเงิน มูลค่า 7 ล้านริงกิต (ราว 53.8 ล้านบาท) และอีก 5 กระทงฐานไม่แจ้งรายได้ของตนเองต่อสรรพากร
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • เวลาประหารยามอู่สามเค่อสวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับอีกเกร็ดเล็กๆ จาก เรื่อง <ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์>ในฉากที่เริ่มการสอบชิงเข้าเป็นศิษย์ของหลี่ฉางเซิงนั้น มีการโยนป้ายคำสั่งให้เริ่มแข่ง ทำให้เยี่ยติ่งจือถึงกับหลุดปากออกมาว่าได้อารมณ์เหมือนตอนลงทัณฑ์นักโทษยามอู่สามเค่อ เลยเป็นที่มาของความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ ว่า ในหลายซีรีส์เรามักเห็นเขานั่งรอเวลาประหารนักโทษกัน มันมีความนัยอย่างไรหรือไม่? Storyฯ ไปทำการบ้านมาพบว่าในสมัยจีนโบราณมีหลักเกณฑ์การเลือกเวลาประหารนักโทษค่ะยามอู่สามเค่อคือกี่โมง? ยามอู่คือช่วงเวลาระหว่าง 11.00 – 12.59น. และหนึ่งเค่อคือระยะเวลาประมาณ 15 นาที ส่วนยามอู่ที่ถูกกล่าวถึงใน ‘ยามอู่สามเค่อ’นั้น เป็นที่ถกเถียงกันไม่น้อยว่าหมายถึง ‘เข้ายามอู่’ (คือ 11.00น.) หรือ ‘ยามอู่หลัก’ (12.00น.) แต่ด้วยความนัยของเวลาประหารนักโทษ หลายข้อมูลที่หาพบจึงกล่าวว่า ‘ยามอู่สามเค่อ’ ก็คือเวลา 11.45น. นั่นเอง ถามว่าทำไมต้องเลือกเวลานี้เพื่อทำการประหารนักโทษ? เรื่องนี้เกี่ยวพันกับความเชื่อเรื่องพลังแห่งหยางและดวงวิญญาณในวัฒนธรรมจีนโบราณมีความเชื่อเรื่องตายแล้วเกิดใหม่ และก่อนจะได้ไปเกิดใหม่วิญญาณอาจวนเวียนอยู่ใกล้สถานที่ตายหรือผู้ที่สังหารตนได้ และในส่วนนักโทษที่มีโทษหนักนั้น ก็จะมีความเชื่อว่าวิญญาณเหล่านั้นจะมีแรงอาฆาตสูง ดังนั้น การเลือกเวลาประหารควรเลือกเวลาที่มีพลังหยางสูงสุดเพื่อลดทอนพลังหยินและแรงอาฆาตของวิญญาณเหล่านี้ และเวลา 11.45น. นี้เป็นเวลาที่คนโบราณเชื่อว่าแสงแดดแรงสุด พลังหยางสูงสุด คนที่ถูกฆ่าในเวลานี้ดวงวิญญาณจะถูกทำลายสิ้นไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้และแน่นอนว่าไม่สามารถมาวนเวียนก่อกวนความสงบสุขของใครได้ นับว่าเป็นการลงทัณฑ์ที่ร้ายแรงที่สุดแล้วแต่เวลาประหารนักโทษนี้ เดิมไม่ได้เลือกเวลา 11.45น. เสมอไป ในสมัยถังและซ่งนั้น เวลาประหารนักโทษคือเวลาตะวันคล้อยก่อนเลิกงานซึ่งก็คือช่วงยามเซิน (15.00-16.59น.) เป็นนัยว่าเพื่อส่งให้เขาเหล่านั้นไปยังปรโลกได้โดยเร็ว เว้นแต่นักโทษประหารที่ก่อคดีร้ายแรงมาก จึงจะเลือกเวลา 11.45น. เพื่อไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิด แต่ต่อมาในช่วงปลายหมิงและชิงได้เปลี่ยนแนวปฏิบัติมาใช้เวลา 11.45น. สำหรับโทษประหารทุกคน บางคนวิเคราะห์เหตุผลว่า นอกจากความเชื่อเรื่องแรงอาฆาตของดวงวิญญาณแล้ว เวลาใกล้เที่ยงนี้ยังเป็นเวลาที่เรียกคนมาชมการประหารได้มาก ยิ่งส่งเสริมการ ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’ เพื่อให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวต่อการถูกประหารจนไม่กล้าทำความผิดทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกวันที่จะทำการประหารนักโทษได้ ในแต่ละยุคสมัยยังมีการระบุว่าวันใดที่ห้ามทำการประหารนักโทษ อย่างเช่นในสมัยถัง ห้ามประหารนักโทษในวันขึ้น 1, 8, 14, 15 ค่ำของทุกเดือน ฯลฯ (ซึ่ง Storyฯ ก็ไม่ทราบความนัย) อีกทั้งไม่ให้ทำการประหารในยามฝนตกอีกด้วย ดังนั้น เอาจริงๆ แล้วในหนึ่งปีก็มีไม่กี่วันหรอกค่ะ ที่สามารถทำการประหารนักโทษได้ในไทยโบราณมีเลือกเวลาอย่างนี้ไหมคะ มีใครทราบบ้าง? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20240724A06SDS00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://www.sohu.com/a/565335367_121249220 https://www.163.com/dy/article/J5AAPH670543LPNW.html https://www.sohu.com/a/820535074_121629584 https://www.zxls.com/Item/5992.aspx #ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์ #ยามอู่สามเค่อ #เวลาประหารนักโทษ #สาระจีน
    เวลาประหารยามอู่สามเค่อสวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับอีกเกร็ดเล็กๆ จาก เรื่อง <ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์>ในฉากที่เริ่มการสอบชิงเข้าเป็นศิษย์ของหลี่ฉางเซิงนั้น มีการโยนป้ายคำสั่งให้เริ่มแข่ง ทำให้เยี่ยติ่งจือถึงกับหลุดปากออกมาว่าได้อารมณ์เหมือนตอนลงทัณฑ์นักโทษยามอู่สามเค่อ เลยเป็นที่มาของความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ ว่า ในหลายซีรีส์เรามักเห็นเขานั่งรอเวลาประหารนักโทษกัน มันมีความนัยอย่างไรหรือไม่? Storyฯ ไปทำการบ้านมาพบว่าในสมัยจีนโบราณมีหลักเกณฑ์การเลือกเวลาประหารนักโทษค่ะยามอู่สามเค่อคือกี่โมง? ยามอู่คือช่วงเวลาระหว่าง 11.00 – 12.59น. และหนึ่งเค่อคือระยะเวลาประมาณ 15 นาที ส่วนยามอู่ที่ถูกกล่าวถึงใน ‘ยามอู่สามเค่อ’นั้น เป็นที่ถกเถียงกันไม่น้อยว่าหมายถึง ‘เข้ายามอู่’ (คือ 11.00น.) หรือ ‘ยามอู่หลัก’ (12.00น.) แต่ด้วยความนัยของเวลาประหารนักโทษ หลายข้อมูลที่หาพบจึงกล่าวว่า ‘ยามอู่สามเค่อ’ ก็คือเวลา 11.45น. นั่นเอง ถามว่าทำไมต้องเลือกเวลานี้เพื่อทำการประหารนักโทษ? เรื่องนี้เกี่ยวพันกับความเชื่อเรื่องพลังแห่งหยางและดวงวิญญาณในวัฒนธรรมจีนโบราณมีความเชื่อเรื่องตายแล้วเกิดใหม่ และก่อนจะได้ไปเกิดใหม่วิญญาณอาจวนเวียนอยู่ใกล้สถานที่ตายหรือผู้ที่สังหารตนได้ และในส่วนนักโทษที่มีโทษหนักนั้น ก็จะมีความเชื่อว่าวิญญาณเหล่านั้นจะมีแรงอาฆาตสูง ดังนั้น การเลือกเวลาประหารควรเลือกเวลาที่มีพลังหยางสูงสุดเพื่อลดทอนพลังหยินและแรงอาฆาตของวิญญาณเหล่านี้ และเวลา 11.45น. นี้เป็นเวลาที่คนโบราณเชื่อว่าแสงแดดแรงสุด พลังหยางสูงสุด คนที่ถูกฆ่าในเวลานี้ดวงวิญญาณจะถูกทำลายสิ้นไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้และแน่นอนว่าไม่สามารถมาวนเวียนก่อกวนความสงบสุขของใครได้ นับว่าเป็นการลงทัณฑ์ที่ร้ายแรงที่สุดแล้วแต่เวลาประหารนักโทษนี้ เดิมไม่ได้เลือกเวลา 11.45น. เสมอไป ในสมัยถังและซ่งนั้น เวลาประหารนักโทษคือเวลาตะวันคล้อยก่อนเลิกงานซึ่งก็คือช่วงยามเซิน (15.00-16.59น.) เป็นนัยว่าเพื่อส่งให้เขาเหล่านั้นไปยังปรโลกได้โดยเร็ว เว้นแต่นักโทษประหารที่ก่อคดีร้ายแรงมาก จึงจะเลือกเวลา 11.45น. เพื่อไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิด แต่ต่อมาในช่วงปลายหมิงและชิงได้เปลี่ยนแนวปฏิบัติมาใช้เวลา 11.45น. สำหรับโทษประหารทุกคน บางคนวิเคราะห์เหตุผลว่า นอกจากความเชื่อเรื่องแรงอาฆาตของดวงวิญญาณแล้ว เวลาใกล้เที่ยงนี้ยังเป็นเวลาที่เรียกคนมาชมการประหารได้มาก ยิ่งส่งเสริมการ ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’ เพื่อให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวต่อการถูกประหารจนไม่กล้าทำความผิดทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกวันที่จะทำการประหารนักโทษได้ ในแต่ละยุคสมัยยังมีการระบุว่าวันใดที่ห้ามทำการประหารนักโทษ อย่างเช่นในสมัยถัง ห้ามประหารนักโทษในวันขึ้น 1, 8, 14, 15 ค่ำของทุกเดือน ฯลฯ (ซึ่ง Storyฯ ก็ไม่ทราบความนัย) อีกทั้งไม่ให้ทำการประหารในยามฝนตกอีกด้วย ดังนั้น เอาจริงๆ แล้วในหนึ่งปีก็มีไม่กี่วันหรอกค่ะ ที่สามารถทำการประหารนักโทษได้ในไทยโบราณมีเลือกเวลาอย่างนี้ไหมคะ มีใครทราบบ้าง? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20240724A06SDS00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://www.sohu.com/a/565335367_121249220 https://www.163.com/dy/article/J5AAPH670543LPNW.html https://www.sohu.com/a/820535074_121629584 https://www.zxls.com/Item/5992.aspx #ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์ #ยามอู่สามเค่อ #เวลาประหารนักโทษ #สาระจีน
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • นักข่าวจาก TASS ถามปธน.ปูติน เกี่ยวกับปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ว่าอยู่ใกล้ชัยชนะหรือยัง คาดหวังความคืบหน้าไว้ขนาดไหน

    ประธานาธิบดีปูตินไม่ตอบโดยตรง แต่ประกาศยังยึดมั่นเป้าหมายเดิมของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร นั่นหมายถึงต้องปลดปล่อยดินแดนทั้งสี่ภูมิภาค

    “ผมมีคำถามประเภทนี้อยู่ตลอดเวลา ผมขอบอกแบบนี้ว่า สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การเคลื่อนไหวกำลังดำเนินไปตลอดแนวหน้า ทุกวันนักรบของเรากำลังยึดคืนพื้นที่ได้เป็นตารางกิโลเมตร

    เรากำลังมุ่งหน้าสู่การแก้ปัญหาภารกิจหลักของเรา ซึ่งเราได้กำหนดไว้ในช่วงเริ่มต้นของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร พวกเขากำลังดำเนินการอย่างกล้าหาญ ขีดความสามารถของกองกำลังติดอาวุธของสหพันธรัฐรัสเซียกำลังเติบโตขึ้น

    ขณะนี้มีการสู้รบเกิดขึ้น ขอให้พวกเขาโชคดี มีชัยชนะ และกลับบ้านกันทุกคน”
    นักข่าวจาก TASS ถามปธน.ปูติน เกี่ยวกับปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ว่าอยู่ใกล้ชัยชนะหรือยัง คาดหวังความคืบหน้าไว้ขนาดไหน ประธานาธิบดีปูตินไม่ตอบโดยตรง แต่ประกาศยังยึดมั่นเป้าหมายเดิมของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร นั่นหมายถึงต้องปลดปล่อยดินแดนทั้งสี่ภูมิภาค “ผมมีคำถามประเภทนี้อยู่ตลอดเวลา ผมขอบอกแบบนี้ว่า สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การเคลื่อนไหวกำลังดำเนินไปตลอดแนวหน้า ทุกวันนักรบของเรากำลังยึดคืนพื้นที่ได้เป็นตารางกิโลเมตร เรากำลังมุ่งหน้าสู่การแก้ปัญหาภารกิจหลักของเรา ซึ่งเราได้กำหนดไว้ในช่วงเริ่มต้นของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร พวกเขากำลังดำเนินการอย่างกล้าหาญ ขีดความสามารถของกองกำลังติดอาวุธของสหพันธรัฐรัสเซียกำลังเติบโตขึ้น ขณะนี้มีการสู้รบเกิดขึ้น ขอให้พวกเขาโชคดี มีชัยชนะ และกลับบ้านกันทุกคน”
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • ทักษิณ กลับลำหลอกประชาชน จุดจบสุดท้ายคงไม่สวย
    การพูดเอามัน ตามสไตล์ทักษิณ อาจมีปัญหาตามมาอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้ การพูดของทักษิณดังกล่าวจะถูกนําเข้ามาพิจารณาในคดียุบพรรคเพื่อไทย ในข้อหาครอบงําพรรคการเมือง
    ในที่สุด ทักษิณ ชินวัตร ก็เผยธาตุแท้ออกมาให้คนไทยได้เห็นกัน จากที่ต้องการกลับประเทศไทยเพื่อมาเลี้ยงหลาน ในฐานะอากงคนหนึ่ง แต่ทุกวันนี้คงเห็นแล้วนอกจากเลี้ยงหลานแล้วยังกลับมาเลี้ยงลูกสาวคนเล็ก แพทองทาน นายกรัฐมนตรีอีกด้วย หลังจากเข้าร่วมสัมมนากับพรรคเพื่อไทยพร้อมกับประกาศไล่แกนนําพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่จริงใจออกจากการเป็นรัฐบาล การประกาศเช่นนั้นด้านหนึ่งก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า
    ทักษิณกําลังออกมาปกป้องลูกสาวตัวเอง ซึ่งถ้าเป็นเรื่องครอบครัวปกติทั่วไป ก็คงไม่ผิด แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการบ้านเมืองปฏิเสธไม่ได้ว่าหมิ่นเหม่ และท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายพอสมควร
    เดิมทีการแสดงความคิดเห็นต่อการบริหารประเทศหรือการแสดงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศแม้บางเรื่องที่รัฐบาลดําเนินการในปัจจุบัน จะดันไปสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของทักษิณแต่ด้วยความบังเอิญหรือจงใจ
    ก็ยังพอเข้าใจได้ว่า ถ้าจะเอาผิดตามกฎหมายจากเรื่องทํานองนี้อาจเป็นการบังคับใช้กฎหมาย ที่ดูจะเกินเลยไปหน่อย เช่นเดียวกับการเปิดบ้านจันทร์ส่องล่า ให้แกนนําพรรคร่วมรัฐบาลมากินมาม่าด้วยกัน ก็ยังมีช่องทางที่รอดจากคมหอกของกฎหมายไปได้
    แต่การที่ทักษิณออกมาพูดล้วงลึกไปถึงเรื่องภายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น ถือว่าเป็นการล้ําเส้นพอสมควร กล่าวก็คือโดยหลักการแล้วการประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ได้เป็นการจัดการประชุมที่เปิดเผยต่อสาธารณะ
    เหมือนกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาพูดง่ายๆ คือการประชุมคณะรัฐมนตรีจะเป็นการประชุมภายในเฉพาะรัฐมนตรี
    นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า นายใหญ่รู้เห็นทุกอย่าง แต่อีกมุมในแง่ทางกฎหมายที่ว่าด้วยการยุบพรรคการเมืองนั้น ก็นับว่าเป็นการพาพรรคเพื่อไทยเข้าสู่กองไฟอย่างเห็นได้ชัด ใน เวลานี้ กกต ได้เห็นไพ่ในมือของพรรคเพื่อไทยเกือบหมดแล้วแต่พรรคเพื่อไทยกลับยังไม่เห็นของในมือกกต เลยแม้แต่น้อย ว่ากกต จะมีทีเด็ดอะไรมาเอาผิดกับพรรคเพื่อไทยดังนั้นคําพูดของนายใหญ่ที่ออกมาจึงเป็นการทําให้พรรคเพื่อไทยเข้าใกล้ศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปอีกก้าว
    ติดตามเจาะลึกแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ทักษิณ กลับลำหลอกประชาชน จุดจบสุดท้ายคงไม่สวย การพูดเอามัน ตามสไตล์ทักษิณ อาจมีปัญหาตามมาอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้ การพูดของทักษิณดังกล่าวจะถูกนําเข้ามาพิจารณาในคดียุบพรรคเพื่อไทย ในข้อหาครอบงําพรรคการเมือง ในที่สุด ทักษิณ ชินวัตร ก็เผยธาตุแท้ออกมาให้คนไทยได้เห็นกัน จากที่ต้องการกลับประเทศไทยเพื่อมาเลี้ยงหลาน ในฐานะอากงคนหนึ่ง แต่ทุกวันนี้คงเห็นแล้วนอกจากเลี้ยงหลานแล้วยังกลับมาเลี้ยงลูกสาวคนเล็ก แพทองทาน นายกรัฐมนตรีอีกด้วย หลังจากเข้าร่วมสัมมนากับพรรคเพื่อไทยพร้อมกับประกาศไล่แกนนําพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่จริงใจออกจากการเป็นรัฐบาล การประกาศเช่นนั้นด้านหนึ่งก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า ทักษิณกําลังออกมาปกป้องลูกสาวตัวเอง ซึ่งถ้าเป็นเรื่องครอบครัวปกติทั่วไป ก็คงไม่ผิด แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการบ้านเมืองปฏิเสธไม่ได้ว่าหมิ่นเหม่ และท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายพอสมควร เดิมทีการแสดงความคิดเห็นต่อการบริหารประเทศหรือการแสดงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศแม้บางเรื่องที่รัฐบาลดําเนินการในปัจจุบัน จะดันไปสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของทักษิณแต่ด้วยความบังเอิญหรือจงใจ ก็ยังพอเข้าใจได้ว่า ถ้าจะเอาผิดตามกฎหมายจากเรื่องทํานองนี้อาจเป็นการบังคับใช้กฎหมาย ที่ดูจะเกินเลยไปหน่อย เช่นเดียวกับการเปิดบ้านจันทร์ส่องล่า ให้แกนนําพรรคร่วมรัฐบาลมากินมาม่าด้วยกัน ก็ยังมีช่องทางที่รอดจากคมหอกของกฎหมายไปได้ แต่การที่ทักษิณออกมาพูดล้วงลึกไปถึงเรื่องภายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น ถือว่าเป็นการล้ําเส้นพอสมควร กล่าวก็คือโดยหลักการแล้วการประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ได้เป็นการจัดการประชุมที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เหมือนกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาพูดง่ายๆ คือการประชุมคณะรัฐมนตรีจะเป็นการประชุมภายในเฉพาะรัฐมนตรี นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า นายใหญ่รู้เห็นทุกอย่าง แต่อีกมุมในแง่ทางกฎหมายที่ว่าด้วยการยุบพรรคการเมืองนั้น ก็นับว่าเป็นการพาพรรคเพื่อไทยเข้าสู่กองไฟอย่างเห็นได้ชัด ใน เวลานี้ กกต ได้เห็นไพ่ในมือของพรรคเพื่อไทยเกือบหมดแล้วแต่พรรคเพื่อไทยกลับยังไม่เห็นของในมือกกต เลยแม้แต่น้อย ว่ากกต จะมีทีเด็ดอะไรมาเอาผิดกับพรรคเพื่อไทยดังนั้นคําพูดของนายใหญ่ที่ออกมาจึงเป็นการทําให้พรรคเพื่อไทยเข้าใกล้ศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปอีกก้าว ติดตามเจาะลึกแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • รักษาการ ผบช.ภ.2 ส่งมอบสำนวนคดี สจ.โต้งให้กองปราบ ยืนยัน "รองอุ๊" ยังไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องในคดีและผู้ต้องทางคดียังไม่มีเพิ่มเติม เผยที่ผ่านมาตำรวจทำงานเต็มที่แต่คดีมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลกว้างขวางในพื้นที่ กองปราบ จึงเป็นหน่วยงานกลางที่เหมาะทำคดีต่อ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121939

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รักษาการ ผบช.ภ.2 ส่งมอบสำนวนคดี สจ.โต้งให้กองปราบ ยืนยัน "รองอุ๊" ยังไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องในคดีและผู้ต้องทางคดียังไม่มีเพิ่มเติม เผยที่ผ่านมาตำรวจทำงานเต็มที่แต่คดีมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลกว้างขวางในพื้นที่ กองปราบ จึงเป็นหน่วยงานกลางที่เหมาะทำคดีต่อ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121939 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • สั่งเก็บ! "ปานเทพ-ธวัชชัย-สนธิ "เรื่องจริง! (19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #รื้อคดีแตงโม #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว #ทำหน้าที่สือให้ดีที่สุด
    สั่งเก็บ! "ปานเทพ-ธวัชชัย-สนธิ "เรื่องจริง! (19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #รื้อคดีแตงโม #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว #ทำหน้าที่สือให้ดีที่สุด
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 171 Views 18 0 Reviews
  • อายเขามั้ย?!?ชาวมาเลย์รุมสับ"อันวาร์"สิ้นคิด! ตั้ง"นักโทษหนีคดี"เป็นที่ปรึกษาฯ 19/12/67 #ชาวมาเลย์ #อันวาร์ #นักโทษหนีคดี #มาเลเซีย
    อายเขามั้ย?!?ชาวมาเลย์รุมสับ"อันวาร์"สิ้นคิด! ตั้ง"นักโทษหนีคดี"เป็นที่ปรึกษาฯ 19/12/67 #ชาวมาเลย์ #อันวาร์ #นักโทษหนีคดี #มาเลเซีย
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 201 Views 9 0 Reviews
  • ผบ.ตร.ปัดมีใบสั่งการเมืองตั้งธงเอาผิด คดียิง สจ.โต้ง แม้พ่อ รรท.ผบช.ภ.2 เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนละขั้ว สจ.โต้ง สั่งสอบตำรวจรับใช้นักการเมืองท้องถิ่น ชี้ ผลตรวจเขม่าดินปืนมีประโยชน์ต่อรูปคดีส่งให้กองปราบฯ พร้อมสำนวนแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121848

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร.ปัดมีใบสั่งการเมืองตั้งธงเอาผิด คดียิง สจ.โต้ง แม้พ่อ รรท.ผบช.ภ.2 เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนละขั้ว สจ.โต้ง สั่งสอบตำรวจรับใช้นักการเมืองท้องถิ่น ชี้ ผลตรวจเขม่าดินปืนมีประโยชน์ต่อรูปคดีส่งให้กองปราบฯ พร้อมสำนวนแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121848 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 192 Views 0 Reviews
  • "อัจฉริยะ" เปิดแผลขาขวา "แตงโม" ถูกกรีดยาว ! ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ(19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #รื้อคดีแตงโม #แตงโมไม่ได้ตกเรือ #บาดแผลน้องแตงโม
    "อัจฉริยะ" เปิดแผลขาขวา "แตงโม" ถูกกรีดยาว ! ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ(19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #รื้อคดีแตงโม #แตงโมไม่ได้ตกเรือ #บาดแผลน้องแตงโม
    Like
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 212 Views 12 0 Reviews
  • "ธรรมนัส"รับ เจอ"สจ.โต้ง" บ่อย แต่ไม่รู้ ค่าหัว 30 ล้าน (19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #สจ.โต้ง #คดี สจ.โต้ง #เลือกนายก อบจ.ปราจีนบุรี
    "ธรรมนัส"รับ เจอ"สจ.โต้ง" บ่อย แต่ไม่รู้ ค่าหัว 30 ล้าน (19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #สจ.โต้ง #คดี สจ.โต้ง #เลือกนายก อบจ.ปราจีนบุรี
    0 Comments 0 Shares 231 Views 14 0 Reviews
  • ศาลอาญาสั่งจำคุก “อานนท์ นำภา” ปราศรัยม็อบ “แฮร์รี่พอตเตอร์” หมิ่นเบื้องสูง อีก 2 ปี 8 เดือน รวมโทษจำคุก 6 คดี 18 ปี 10 เดือน 20 วัน เจ้าตัวขอบคุณมวลชนที่มาให้กำลังใจ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121802

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ศาลอาญาสั่งจำคุก “อานนท์ นำภา” ปราศรัยม็อบ “แฮร์รี่พอตเตอร์” หมิ่นเบื้องสูง อีก 2 ปี 8 เดือน รวมโทษจำคุก 6 คดี 18 ปี 10 เดือน 20 วัน เจ้าตัวขอบคุณมวลชนที่มาให้กำลังใจ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121802 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • อัจฉริยะยื่น รมว.ยุติธรรม รื้อคดีแตงโม (19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง # รื้อคดีแตงโม #พยานหลักฐานใหม่คดีแตงโม #กระทรวงยุติธรรม
    อัจฉริยะยื่น รมว.ยุติธรรม รื้อคดีแตงโม (19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง # รื้อคดีแตงโม #พยานหลักฐานใหม่คดีแตงโม #กระทรวงยุติธรรม
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 225 Views 25 0 Reviews
  • ทวียันคดีแตงโมรื้อได้ถ้าพบหลักฐานใหม่ (19/12/67) #news1 #คดีแตงโม #แตงโมนิดา #ฆาตกรรม
    ทวียันคดีแตงโมรื้อได้ถ้าพบหลักฐานใหม่ (19/12/67) #news1 #คดีแตงโม #แตงโมนิดา #ฆาตกรรม
    0 Comments 0 Shares 233 Views 26 0 Reviews
  • กกต.เร่งรุกจบคดียุบ 'เพื่อไทย' เรียก 'แพทองธาร' ชี้แจง
    .
    การทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ในการพิจารณาคดียุบพรรคเพื่อไทยจากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ครอบงำพรรคเพื่อไทยนั้นถือว่ามีความคืบหน้าพอสมคว โดยเฉพาะท่าทีของกกต.ที่เตรียมนำการขึ้นเวทีสัมมนาพรรคเพื่อไทยของอดีตนายกฯทักษิณ มาเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาคดีด้วย อีกทั้ง ยังจะพิจารณาถึงการเรียกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้แจงข้อกล่าวหาเช่นกัน
    .
    ในเรื่องนี้นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. เปิดเผยว่า การส่งหนังสือเชิญนางสาวแพทองธารนั้น เมื่อมีคนยื่นคำร้องว่ามีพฤติกรรมที่อาจผิดกฎหมายพรรคการเมือง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะพิจารณาว่าคำร้องดังกล่าวมีมูลให้ตรวจสอบต่อหรือไม่ หากพบว่ามีมูลสมควรเพียงพอและรับไว้พิจารณา นายทะเบียนพรรคการเมืองก็จะสั่งให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานรับไปดำเนินการ รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำ ก่อนสรุปความเห็นส่งให้เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อใช้ดุลพินิจพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร หากสั่งยุติเรื่องต้องแจ้งให้คณะกรรมการ กกต. ทราบ แต่ที่ประชุมคณะกรรมการสามารถมีคำสั่งเป็นอื่นได้
    .
    "กกต. จะไม่แทรกแซงหรือก้าวก่ายการทำงานของผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ ทั้งนี้ ทราบว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิญผู้ร้องทั้ง 4 คำร้องมาให้ถ้อยคำแล้ว และมีหนังสือเชิญผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำด้วย แต่จะเมื่อไร อย่างไร ส่วนตัวไม่ทราบ และไม่แน่ใจว่ามีการเชิญนายทักษิณมาให้ถ้อยคำด้วยหรือไม่" ประธาน กกต. ระบุ
    .
    อย่างไรก็ตาม ประธานกกต.ยอมรับว่า หากนายทักษิณไม่พร้อมที่จะมาให้ข้อมูล ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ไม่อาจมีอำนาจจะทำอะไรได้ เพราะกฎหมายและระเบียบไม่ได้ให้อำนาจไว้ เพราะเป็นลักษณะการเชิญมาให้ถ้อยคำและส่วนใหญ่จะได้รับความร่วมมือ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการเดินทางมาให้ถ้อยคำด้วยตนเอง ส่งหนังสือชี้แจง หรือมอบหมายผู้มาชี้แจงแทนได้ แต่หากไม่มาชี้แจงก็สามารถพิจารณาตามข้อมูลเท่าที่มีอยู่ได้ แต่การชี้แจงจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพราะจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ถูกร้องมาชี้แจงโต้ตอบแก้ข้อกล่าวหาได้
    .
    ด้าน นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ยังไม่ได้รับหนังสือจากกกต.อย่างเป็นทางการ ขณะที่ เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่าหากได้รับหนังสือแล้ว จะเดินทางไปชี้แจงกับ กกต. ด้วยตัวเอง หรือจะส่งตัวแทนไป นายกรัฐมนตรี ตอบว่า "หนังสือว่าอย่างไร" ผู้สื่อข่าวจึงตอบไปว่า เป็นการเชิญให้หัวหน้าพรรคไปชี้แจง นายกรัฐมนตรีตอบเพียงสั้นๆ ว่า "อ๋อ" ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที
    ...........
    Sondhi X
    กกต.เร่งรุกจบคดียุบ 'เพื่อไทย' เรียก 'แพทองธาร' ชี้แจง . การทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ในการพิจารณาคดียุบพรรคเพื่อไทยจากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ครอบงำพรรคเพื่อไทยนั้นถือว่ามีความคืบหน้าพอสมคว โดยเฉพาะท่าทีของกกต.ที่เตรียมนำการขึ้นเวทีสัมมนาพรรคเพื่อไทยของอดีตนายกฯทักษิณ มาเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาคดีด้วย อีกทั้ง ยังจะพิจารณาถึงการเรียกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้แจงข้อกล่าวหาเช่นกัน . ในเรื่องนี้นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. เปิดเผยว่า การส่งหนังสือเชิญนางสาวแพทองธารนั้น เมื่อมีคนยื่นคำร้องว่ามีพฤติกรรมที่อาจผิดกฎหมายพรรคการเมือง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะพิจารณาว่าคำร้องดังกล่าวมีมูลให้ตรวจสอบต่อหรือไม่ หากพบว่ามีมูลสมควรเพียงพอและรับไว้พิจารณา นายทะเบียนพรรคการเมืองก็จะสั่งให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานรับไปดำเนินการ รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำ ก่อนสรุปความเห็นส่งให้เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อใช้ดุลพินิจพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร หากสั่งยุติเรื่องต้องแจ้งให้คณะกรรมการ กกต. ทราบ แต่ที่ประชุมคณะกรรมการสามารถมีคำสั่งเป็นอื่นได้ . "กกต. จะไม่แทรกแซงหรือก้าวก่ายการทำงานของผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ ทั้งนี้ ทราบว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิญผู้ร้องทั้ง 4 คำร้องมาให้ถ้อยคำแล้ว และมีหนังสือเชิญผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำด้วย แต่จะเมื่อไร อย่างไร ส่วนตัวไม่ทราบ และไม่แน่ใจว่ามีการเชิญนายทักษิณมาให้ถ้อยคำด้วยหรือไม่" ประธาน กกต. ระบุ . อย่างไรก็ตาม ประธานกกต.ยอมรับว่า หากนายทักษิณไม่พร้อมที่จะมาให้ข้อมูล ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ไม่อาจมีอำนาจจะทำอะไรได้ เพราะกฎหมายและระเบียบไม่ได้ให้อำนาจไว้ เพราะเป็นลักษณะการเชิญมาให้ถ้อยคำและส่วนใหญ่จะได้รับความร่วมมือ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการเดินทางมาให้ถ้อยคำด้วยตนเอง ส่งหนังสือชี้แจง หรือมอบหมายผู้มาชี้แจงแทนได้ แต่หากไม่มาชี้แจงก็สามารถพิจารณาตามข้อมูลเท่าที่มีอยู่ได้ แต่การชี้แจงจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพราะจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ถูกร้องมาชี้แจงโต้ตอบแก้ข้อกล่าวหาได้ . ด้าน นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ยังไม่ได้รับหนังสือจากกกต.อย่างเป็นทางการ ขณะที่ เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่าหากได้รับหนังสือแล้ว จะเดินทางไปชี้แจงกับ กกต. ด้วยตัวเอง หรือจะส่งตัวแทนไป นายกรัฐมนตรี ตอบว่า "หนังสือว่าอย่างไร" ผู้สื่อข่าวจึงตอบไปว่า เป็นการเชิญให้หัวหน้าพรรคไปชี้แจง นายกรัฐมนตรีตอบเพียงสั้นๆ ว่า "อ๋อ" ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที ........... Sondhi X
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • สัประยุทธ์ “ธรรมะ-อธรรม” #เปลวสีเงินplewเปลว สีเงิน“กฎหมาย” มีไว้สร้างสมดุลทาง “สังคมเป็นธรรม”แต่ทุกวันนี้คนใน “๓ สถาบันอำนาจ” คือ อำนาจนิติบัญญัติ, อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ “บางคน”ใช้กฎหมายสร้าง “สังคมอยุติธรรม” ทำลายสมดุลความเป็นคนที่เท่าเทียมทางกฎหมาย จนเกิดคำว่า “ป่วยทิพย์-คุกทิพย์”บ่งบอกถึง “เลือกปฎิบัติ-สองมาตรฐาน” ซึ่งชาวบ้านทั่วไป ไม่มีสิทธิได้รับโอกาสนั้น (เว้นแต่มีเงิน)คนใน ๓ สถาบันอำนาจเท่านั้น….ที่จะทำให้ “สังคมเป็นธรรม” กลายเป็น “สังคมระยำ” เช่นนั้นได้!มันก็แปลก คนกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนที่เรียกเรียก “เจ้าหน้าที่รัฐ” กลับมีอำนาจ “เหนือชีวิตประชาชน”นายจ้าง คือคนเสียภาษีแท้ๆ กลับถูก “ส้นตีนอำนาจ” ยัดปากตลอดกาลแค่จะคุกเข่า ยกสองมืออ่อนล้า วอนเมตตาและความเป็นธรรม ก็ยังถูกตราหน้า “พวกทำให้บ้านเมืองเสียโอกาส”โอกาสโกงบ้าน-กินเมืองละก็ใช่แต่ไมใช่โอกาสคืนความชอบธรรมให้กับบ้านเมือง!สังคมชาติที่ผู้คน “ตัวใคร-ตัวมัน” เห็นประโยชน์ชาติ ไม่ใช่ประโยชน์กู แล้วต่างทอดธุระและชาวบ้านก็เอาแต่ “ชะแง้รอแจก”ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ สยบยอมโจร ใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่เป็นกุญแจไข เปิดทางให้มัน “ปล้นบ้าน-ชำเราเมือง” จนย่ามใจ กร่างใหญ่คับประเทศผมก็ได้แต่ทอดถอนใจ ทำได้เพียง “รักบ้าน-รักเมือง” ด้วยปากไปวันๆเมื่อสัปดาห์ก่อน เห็นคนที่ไม่เอาแต่นั่งทอดถอนใจอย่างผม เขาเห็นการประทำย่ำยีบ้านเมืองจากไอ้ตัวกาลีเมืองแล้ว พวกเขาร้อนใจนัดกันไปคุยตามประสาคนห่วงบ้าน-ห่วงเมือง ผมอ่านข่าว ก็มีท่านเหล่านี้แก้วสรร อติโพธิ, ดร.เจิม ศักดิ์ ปิ่นทอง, ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ, ขวัญสรวง อติโพธิ, พลเอกสมเจตน์ บุญถนอมจตุพร พรหมพันธุ์, ทนายนกเขา, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์,สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, พิชิต ไชยมงคล,สาวิทย์ แก้วหวาน, ประสาร มฤคพิทักษ์, ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว), แซมดิน เลิศบุศย์สมชาย แสวงการ, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์, ชาญชัย อิสระเสนารักษ์, ปรีดา เตียสุวรรณ์ และฯลฯหลายท่าน รู้จักมักคุ้น หลายท่านได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยพบสรุป ท่านเหล่านั้น มีที่มาเดียวกันบ้าง ต่างกันบ้าง คิดและทำเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้างแต่ที่สุดแล้ว หนีหลักธรรมชาติไม่พ้นธรรมะ คือธรรมชาติ สิ่งจัดสรรมนุษย์คือธรรมชาติ รวงข้าว เมื่อแก่ ย่อมค้อมรวงบัว เกิดจากโคลนตม เมื่อพ้นน้ำ ย่อมปลดเปลื้องจากโคลนตม พิสุทธิ์แทนใจ บูชาธรรมคณะบุคคลเหล่านั้น ก็ประมาณนี้ …..ในความต่างที่มา ที่คิด ที่ทำ ในความเป็นบัณฑิตแห่งธาตุคน ที่สุดแล้ว คนธาตุบัณฑิตย่อมไหลรวมในหมู่บัณฑิตด้วยกันจะเรียกเขาเหล่านั้นว่าอะไรดีล่ะ?เพราะมีทั้ง พันธมิตรฯ ทั้ง กปปส. ทั้งกลุ่มหลอมรวม ทั้งเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ทั้งกลุ่มสันติอโศกเรียกคณะ “ปชพช.” ดีมั้ย ….เป็นอักษรรวมความเพื่อให้ “เรียกง่าย-จำง่าย”ปชพช. “คณะปัญญาชนพิทักษ์ชาติ” ดูเหมาะสมกับสิ่งที่พวกเขาทำเมื่อวาน (๑๘ ธค.๖๗)คือ คณะปัญญาชนพากันเดินไปที่ “สำนักงานคณะกรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ “​(ป.ป.ช.​)ไม่ได้ไปก่อกวน ก้าวร้าว เยี่ยงอันธพาลเมือง แต่ไปเยี่ยงบัณฑิต กระทำเยี่ยงบัณฑิตเพื่อยื่นหนังสือให้ป.ป.ช.ตระหนักคิด กรณี ป.ป.ช.​ รับพิจารณาข้อกล่าวหา….“นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำ แพทย์รพ.ราชทัณฑ์ และรพ.ตำรวจ รวม ๑๒ คนส่งตัวผู้ต้องขังรายนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ​ให้ป.ป.ช.เร่งรัดพิจารณาเรื่องนี้และดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว​ ในหนังสือ มี ๔ ข้อ๑.คดีส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำพบว่า มีพยานเป็นบุคคลชัดเจน ได้เข้าไปเยี่ยมและพบว่าไม่มีอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุม หรือประจำอยู่ห้องพิเศษดังกล่าวและยังไม่ปรากฏหลักฐานการตรวจ หรือหลักฐานความเห็นของแพทย์ที่อนุญาตให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจซึ่งพิธีการทั้งหมดนี้ ขัดต่อขั้นตอนกฎกระทรวงทั้งสิ้น และไม่ว่าป.ป.ช.จะขอความร่วมมือไปเท่าไร ก็ไม่ได้รับจึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายทุจริตช่วยเหลือกันโดยมิชอบส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.จึงต้องเร่งไต่สวน๒.คดีให้อยู่บ้านพักโทษ โดยมติการให้พักโทษ โดยอ้าง นักโทษมีสภาพร่างกายที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการนั่ง เดินขึ้นบันได อาบน้ำ แต่งตัวรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องพักโทษให้แต่ปรากฏว่า หลังการพักโทษ นักโทษกลับแข็งแรงขึ้นมาโดยพลัน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นปราศรัย ร่วมงานเลี้ยง ใช้ชีวิตปกติได้ทุกอย่าง จึงไม่อาจเชื่อได้ว่าการพักโทษมาจากการประเมินสภาพร่างกายโดยสุจริตและถูกต้อง​ดังนั้น จึงอยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคดีในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.ด้วย๓.เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย กฎหมายไทยพยายามปราบปรามคดีทุจริตคอร์รัปชันเป็นพิเศษแต่ปรากฏว่า หลังดำเนินคดีไปแล้วไม่มีกรอบเกณฑ์​การตรวจสอบที่เคร่งครัดปล่อยให้กระบวนการทุจริต ตัดทอนโทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา กำเริบเสิบสานเป็นผลให้ความยุติธรรมเสื่อมสลาย จนประชาชนสิ้นศรัทธา๔.เข้าข่ายเป็นกระบวนการทุจริตระดับชาติ ใช้เงินสร้างอำนาจ แล้วใช้อำนาจมา​สร้างเงิน​ สร้างพวก​ สร้างสื่อ สร้างผลงานทุจริตไว้ ๒ ทศวรรษ​ จนเสียหายไปกว่าแสนล้าน และหัวหน้าขบวนการ ก็ยังยอมรับคำขออภัยโทษ ว่าได้ทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่มาบัดนี้ แทนที่จะยอมรับโทษกลับหลีกเลี่ยง แสดงตน เข้าครอบงำพรรค​ ผลักดันนโยบายทุจริต สร้างประชานิยมไม่หยุดยั้งและล่าสุดยังประกาศจะพาน้องสาวที่เป็นจำเลยหนีคดีทุจริตรับจำนำข้าวกลับมาด้วยถือเป็นพฤติการณ์ทุจริตฉ้อฉลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมหยุดบทบาทการเมือง และพาประเทศไปในทางต่ำ“นี่คือหายนะที่เห็นได้ชัดเจน และอนาคตที่มืดมิดเช่นนี้ จึงฝาก ป.ป.ช.ตระหนักและทุ่มเท รับผิดชอบ กู้อนาคตบ้านเมืองอย่างเต็มสติกำลัง”ขณะเดียวกัน ​”คณะปชพช.” ยังบอกว่า….จะยื่นให้สอบบุคคลเพิ่มเติม​ทั้ง ​”พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง” ​รมว.ยุติธรรม และ “​นางพงษ์สวาท นีละโยธิน” ปลัดฯ ยุติธรรม เพราะมองว่าอยู่ในกระบวนการที่ช่วยนายทักษิณ​อาจารย์ “แก้วสรร อติโพธิ” อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์และรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวต่อหน้าเลขาฯ ป.ป.ช.ว่า“มั่นใจในการทำงาน ป.ป.ช.และคิดว่ากฎหมายกำลังเดินไปตามทางที่ถูก-ที่ควร​ จึงขอให้เดินหน้าเต็มที่​และคิดว่าจะใช้เวลาไม่นานพร้อมขอให้แพทย์ที่รักษานายทักษิณออกมาพูด โดยขอให้เอาตัวการจริงๆ มาลงโทษ​หลายคนถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนายทักษิณ คำตอบในทางกฎหมาย ถ้าหมายศาลให้ขังและหากไม่มีการขังตามหมายต้องออกหมายใหม่ กลับไปเข้าคุกเป็นอำนาจ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง” ที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ กำลังจะไปร้อง ซึ่งศาลสามารถเรียกสำนวนจากป.ป.ช.ไปดูและวินิจฉัยได้“จุดสำคัญ ศาลสั่งกลับเข้าคุกได้ ถ้าหลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยของป.ป.ช.เพราะคดีนี้ เป็นคดีเจ้าหน้าที่ ดังนั้น นายทักษิณ​ เตรียมตัวได้​”อาจารย์แก้วสรร ยังสัมโมทนียกถาว่า “หากป.ป.ช.ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง จะยอมกราบเลย”“จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำนปช.ผู้พ้นขอบเหวคืนสู่ฟากฝั่ง กล่าวว่า“มาให้กำลังใจป.ป.ช.ทั้งมีความไม่สบายใจในอนาคต เพราะคดีของนายทักษิณ ป.ป.ช.เป็นผู้ชี้มูลเองวันนี้มาด้วยความหวังในการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.อย่างตรงไปตรงมา ในจำนวนผู้ที่ถูกตั้งองค์คณะไต่สวน ๑๒ คนนี้ ใครไม่ผิด คือไม่ผิด ไม่ได้ต้องการมาทำให้ “ดำเป็นขาว- ขาวเป็นดำ” แต่ต้องการมาให้ “ถูกเป็นถูก-ผิดเป็นผิด, ดีเป็นดี- ชั่วเป็นชั่ว”ยอมรับว่าเรื่องการไต่สวน วันนี้ “ยังไม่ไว้ใจป.ป.ช.” จนกว่าจะได้พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัยแล้ว และได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตถึงวันนั้น ผมและคณะจะมาขอบคุณอีกครั้งขณะนี้ เป็นที่ประจักษ์ นายทักษิณไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว เราต้องการเห็นน้ำยาของ ป.ป.ช.ไม่ต้องการเห็นขนมจีน….”ครับ….ผมก็เกรงว่า คุณจตุพรจะเห็นแต่ “ขนมจีน” เท่านั้นแหละ ตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา ๕๑ ให้กรอบเวลาไว้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนเองทั้งคณะ ต้องทำให้เสร็จภายใน ๒ ปี ถ้าไม่เสร็จ ขยายเวลาได้อีก ๑ ปีสรุป “รอไปอีก ๓ ปี” กว่าจะเสร็จขั้นไต่สวน!ตอนนี้ ป.ป.ช.ครบวาระ ๓ ท่าน อยู่ช่วงกรรมการสรรหากำลังพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัคร กว่าจะได้ครบ ก็คงกลางปีหน้าโน่นและถ้าถึงขั้นชี้มูลความผิด ต้องเรียก ๑๒ ผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ กี่ปีถึงครบ ๑๒ ปากล่ะ ?เอาว่า “๕ ปี” เร็วสุด!ที่อาจารย์แก้วสรรบอก “คิดว่าจะใช้เวลาไม่นาน” นั้นรออีก ๕-๘ ปี นานมั้ย?เห็นที คณะปชพช.คงต้องทำหน้าที่ “ไม้แยงก้น” ป.ป.ช.เป็นรายการ “ทวงถามรายเดือน” แล้วหละไม่งั้น “กราบป.ป.ช.” ของอาจารย์แก้วสรรสู้ “กราบแผ่นดิน” ของ “พระเจ้ามูลเมือง” ผู้กลับชาติมาเกิดไม่ได้หรอก!เปลว สีเงิน๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๗
    สัประยุทธ์ “ธรรมะ-อธรรม” #เปลวสีเงินplewเปลว สีเงิน“กฎหมาย” มีไว้สร้างสมดุลทาง “สังคมเป็นธรรม”แต่ทุกวันนี้คนใน “๓ สถาบันอำนาจ” คือ อำนาจนิติบัญญัติ, อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ “บางคน”ใช้กฎหมายสร้าง “สังคมอยุติธรรม” ทำลายสมดุลความเป็นคนที่เท่าเทียมทางกฎหมาย จนเกิดคำว่า “ป่วยทิพย์-คุกทิพย์”บ่งบอกถึง “เลือกปฎิบัติ-สองมาตรฐาน” ซึ่งชาวบ้านทั่วไป ไม่มีสิทธิได้รับโอกาสนั้น (เว้นแต่มีเงิน)คนใน ๓ สถาบันอำนาจเท่านั้น….ที่จะทำให้ “สังคมเป็นธรรม” กลายเป็น “สังคมระยำ” เช่นนั้นได้!มันก็แปลก คนกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนที่เรียกเรียก “เจ้าหน้าที่รัฐ” กลับมีอำนาจ “เหนือชีวิตประชาชน”นายจ้าง คือคนเสียภาษีแท้ๆ กลับถูก “ส้นตีนอำนาจ” ยัดปากตลอดกาลแค่จะคุกเข่า ยกสองมืออ่อนล้า วอนเมตตาและความเป็นธรรม ก็ยังถูกตราหน้า “พวกทำให้บ้านเมืองเสียโอกาส”โอกาสโกงบ้าน-กินเมืองละก็ใช่แต่ไมใช่โอกาสคืนความชอบธรรมให้กับบ้านเมือง!สังคมชาติที่ผู้คน “ตัวใคร-ตัวมัน” เห็นประโยชน์ชาติ ไม่ใช่ประโยชน์กู แล้วต่างทอดธุระและชาวบ้านก็เอาแต่ “ชะแง้รอแจก”ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ สยบยอมโจร ใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่เป็นกุญแจไข เปิดทางให้มัน “ปล้นบ้าน-ชำเราเมือง” จนย่ามใจ กร่างใหญ่คับประเทศผมก็ได้แต่ทอดถอนใจ ทำได้เพียง “รักบ้าน-รักเมือง” ด้วยปากไปวันๆเมื่อสัปดาห์ก่อน เห็นคนที่ไม่เอาแต่นั่งทอดถอนใจอย่างผม เขาเห็นการประทำย่ำยีบ้านเมืองจากไอ้ตัวกาลีเมืองแล้ว พวกเขาร้อนใจนัดกันไปคุยตามประสาคนห่วงบ้าน-ห่วงเมือง ผมอ่านข่าว ก็มีท่านเหล่านี้แก้วสรร อติโพธิ, ดร.เจิม ศักดิ์ ปิ่นทอง, ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ, ขวัญสรวง อติโพธิ, พลเอกสมเจตน์ บุญถนอมจตุพร พรหมพันธุ์, ทนายนกเขา, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์,สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, พิชิต ไชยมงคล,สาวิทย์ แก้วหวาน, ประสาร มฤคพิทักษ์, ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว), แซมดิน เลิศบุศย์สมชาย แสวงการ, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์, ชาญชัย อิสระเสนารักษ์, ปรีดา เตียสุวรรณ์ และฯลฯหลายท่าน รู้จักมักคุ้น หลายท่านได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยพบสรุป ท่านเหล่านั้น มีที่มาเดียวกันบ้าง ต่างกันบ้าง คิดและทำเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้างแต่ที่สุดแล้ว หนีหลักธรรมชาติไม่พ้นธรรมะ คือธรรมชาติ สิ่งจัดสรรมนุษย์คือธรรมชาติ รวงข้าว เมื่อแก่ ย่อมค้อมรวงบัว เกิดจากโคลนตม เมื่อพ้นน้ำ ย่อมปลดเปลื้องจากโคลนตม พิสุทธิ์แทนใจ บูชาธรรมคณะบุคคลเหล่านั้น ก็ประมาณนี้ …..ในความต่างที่มา ที่คิด ที่ทำ ในความเป็นบัณฑิตแห่งธาตุคน ที่สุดแล้ว คนธาตุบัณฑิตย่อมไหลรวมในหมู่บัณฑิตด้วยกันจะเรียกเขาเหล่านั้นว่าอะไรดีล่ะ?เพราะมีทั้ง พันธมิตรฯ ทั้ง กปปส. ทั้งกลุ่มหลอมรวม ทั้งเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ทั้งกลุ่มสันติอโศกเรียกคณะ “ปชพช.” ดีมั้ย ….เป็นอักษรรวมความเพื่อให้ “เรียกง่าย-จำง่าย”ปชพช. “คณะปัญญาชนพิทักษ์ชาติ” ดูเหมาะสมกับสิ่งที่พวกเขาทำเมื่อวาน (๑๘ ธค.๖๗)คือ คณะปัญญาชนพากันเดินไปที่ “สำนักงานคณะกรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ “​(ป.ป.ช.​)ไม่ได้ไปก่อกวน ก้าวร้าว เยี่ยงอันธพาลเมือง แต่ไปเยี่ยงบัณฑิต กระทำเยี่ยงบัณฑิตเพื่อยื่นหนังสือให้ป.ป.ช.ตระหนักคิด กรณี ป.ป.ช.​ รับพิจารณาข้อกล่าวหา….“นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำ แพทย์รพ.ราชทัณฑ์ และรพ.ตำรวจ รวม ๑๒ คนส่งตัวผู้ต้องขังรายนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ​ให้ป.ป.ช.เร่งรัดพิจารณาเรื่องนี้และดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว​ ในหนังสือ มี ๔ ข้อ๑.คดีส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำพบว่า มีพยานเป็นบุคคลชัดเจน ได้เข้าไปเยี่ยมและพบว่าไม่มีอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุม หรือประจำอยู่ห้องพิเศษดังกล่าวและยังไม่ปรากฏหลักฐานการตรวจ หรือหลักฐานความเห็นของแพทย์ที่อนุญาตให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจซึ่งพิธีการทั้งหมดนี้ ขัดต่อขั้นตอนกฎกระทรวงทั้งสิ้น และไม่ว่าป.ป.ช.จะขอความร่วมมือไปเท่าไร ก็ไม่ได้รับจึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายทุจริตช่วยเหลือกันโดยมิชอบส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.จึงต้องเร่งไต่สวน๒.คดีให้อยู่บ้านพักโทษ โดยมติการให้พักโทษ โดยอ้าง นักโทษมีสภาพร่างกายที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการนั่ง เดินขึ้นบันได อาบน้ำ แต่งตัวรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องพักโทษให้แต่ปรากฏว่า หลังการพักโทษ นักโทษกลับแข็งแรงขึ้นมาโดยพลัน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นปราศรัย ร่วมงานเลี้ยง ใช้ชีวิตปกติได้ทุกอย่าง จึงไม่อาจเชื่อได้ว่าการพักโทษมาจากการประเมินสภาพร่างกายโดยสุจริตและถูกต้อง​ดังนั้น จึงอยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคดีในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.ด้วย๓.เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย กฎหมายไทยพยายามปราบปรามคดีทุจริตคอร์รัปชันเป็นพิเศษแต่ปรากฏว่า หลังดำเนินคดีไปแล้วไม่มีกรอบเกณฑ์​การตรวจสอบที่เคร่งครัดปล่อยให้กระบวนการทุจริต ตัดทอนโทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา กำเริบเสิบสานเป็นผลให้ความยุติธรรมเสื่อมสลาย จนประชาชนสิ้นศรัทธา๔.เข้าข่ายเป็นกระบวนการทุจริตระดับชาติ ใช้เงินสร้างอำนาจ แล้วใช้อำนาจมา​สร้างเงิน​ สร้างพวก​ สร้างสื่อ สร้างผลงานทุจริตไว้ ๒ ทศวรรษ​ จนเสียหายไปกว่าแสนล้าน และหัวหน้าขบวนการ ก็ยังยอมรับคำขออภัยโทษ ว่าได้ทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่มาบัดนี้ แทนที่จะยอมรับโทษกลับหลีกเลี่ยง แสดงตน เข้าครอบงำพรรค​ ผลักดันนโยบายทุจริต สร้างประชานิยมไม่หยุดยั้งและล่าสุดยังประกาศจะพาน้องสาวที่เป็นจำเลยหนีคดีทุจริตรับจำนำข้าวกลับมาด้วยถือเป็นพฤติการณ์ทุจริตฉ้อฉลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมหยุดบทบาทการเมือง และพาประเทศไปในทางต่ำ“นี่คือหายนะที่เห็นได้ชัดเจน และอนาคตที่มืดมิดเช่นนี้ จึงฝาก ป.ป.ช.ตระหนักและทุ่มเท รับผิดชอบ กู้อนาคตบ้านเมืองอย่างเต็มสติกำลัง”ขณะเดียวกัน ​”คณะปชพช.” ยังบอกว่า….จะยื่นให้สอบบุคคลเพิ่มเติม​ทั้ง ​”พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง” ​รมว.ยุติธรรม และ “​นางพงษ์สวาท นีละโยธิน” ปลัดฯ ยุติธรรม เพราะมองว่าอยู่ในกระบวนการที่ช่วยนายทักษิณ​อาจารย์ “แก้วสรร อติโพธิ” อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์และรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวต่อหน้าเลขาฯ ป.ป.ช.ว่า“มั่นใจในการทำงาน ป.ป.ช.และคิดว่ากฎหมายกำลังเดินไปตามทางที่ถูก-ที่ควร​ จึงขอให้เดินหน้าเต็มที่​และคิดว่าจะใช้เวลาไม่นานพร้อมขอให้แพทย์ที่รักษานายทักษิณออกมาพูด โดยขอให้เอาตัวการจริงๆ มาลงโทษ​หลายคนถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนายทักษิณ คำตอบในทางกฎหมาย ถ้าหมายศาลให้ขังและหากไม่มีการขังตามหมายต้องออกหมายใหม่ กลับไปเข้าคุกเป็นอำนาจ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง” ที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ กำลังจะไปร้อง ซึ่งศาลสามารถเรียกสำนวนจากป.ป.ช.ไปดูและวินิจฉัยได้“จุดสำคัญ ศาลสั่งกลับเข้าคุกได้ ถ้าหลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยของป.ป.ช.เพราะคดีนี้ เป็นคดีเจ้าหน้าที่ ดังนั้น นายทักษิณ​ เตรียมตัวได้​”อาจารย์แก้วสรร ยังสัมโมทนียกถาว่า “หากป.ป.ช.ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง จะยอมกราบเลย”“จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำนปช.ผู้พ้นขอบเหวคืนสู่ฟากฝั่ง กล่าวว่า“มาให้กำลังใจป.ป.ช.ทั้งมีความไม่สบายใจในอนาคต เพราะคดีของนายทักษิณ ป.ป.ช.เป็นผู้ชี้มูลเองวันนี้มาด้วยความหวังในการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.อย่างตรงไปตรงมา ในจำนวนผู้ที่ถูกตั้งองค์คณะไต่สวน ๑๒ คนนี้ ใครไม่ผิด คือไม่ผิด ไม่ได้ต้องการมาทำให้ “ดำเป็นขาว- ขาวเป็นดำ” แต่ต้องการมาให้ “ถูกเป็นถูก-ผิดเป็นผิด, ดีเป็นดี- ชั่วเป็นชั่ว”ยอมรับว่าเรื่องการไต่สวน วันนี้ “ยังไม่ไว้ใจป.ป.ช.” จนกว่าจะได้พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัยแล้ว และได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตถึงวันนั้น ผมและคณะจะมาขอบคุณอีกครั้งขณะนี้ เป็นที่ประจักษ์ นายทักษิณไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว เราต้องการเห็นน้ำยาของ ป.ป.ช.ไม่ต้องการเห็นขนมจีน….”ครับ….ผมก็เกรงว่า คุณจตุพรจะเห็นแต่ “ขนมจีน” เท่านั้นแหละ ตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา ๕๑ ให้กรอบเวลาไว้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนเองทั้งคณะ ต้องทำให้เสร็จภายใน ๒ ปี ถ้าไม่เสร็จ ขยายเวลาได้อีก ๑ ปีสรุป “รอไปอีก ๓ ปี” กว่าจะเสร็จขั้นไต่สวน!ตอนนี้ ป.ป.ช.ครบวาระ ๓ ท่าน อยู่ช่วงกรรมการสรรหากำลังพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัคร กว่าจะได้ครบ ก็คงกลางปีหน้าโน่นและถ้าถึงขั้นชี้มูลความผิด ต้องเรียก ๑๒ ผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ กี่ปีถึงครบ ๑๒ ปากล่ะ ?เอาว่า “๕ ปี” เร็วสุด!ที่อาจารย์แก้วสรรบอก “คิดว่าจะใช้เวลาไม่นาน” นั้นรออีก ๕-๘ ปี นานมั้ย?เห็นที คณะปชพช.คงต้องทำหน้าที่ “ไม้แยงก้น” ป.ป.ช.เป็นรายการ “ทวงถามรายเดือน” แล้วหละไม่งั้น “กราบป.ป.ช.” ของอาจารย์แก้วสรรสู้ “กราบแผ่นดิน” ของ “พระเจ้ามูลเมือง” ผู้กลับชาติมาเกิดไม่ได้หรอก!เปลว สีเงิน๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๗
    Like
    Love
    Yay
    3
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • 18-12-67/01 : หมี CNN / "หมีองค์ลง" EP.2 ด่าเฉพาะกิจ เหี้ยมา เหี้ยกลับ ไม่มีโกง (อายุต่ำกว่า 8 ขวบ อย่าฟัง เดี๋ยวของจะขึ้น?)

    E-DOK! ความจริงบัดซบจนมรึงรับไม่ไหว? อีแม่ อีเด สายเหลือง ขายลูกกิน ยอมแลกเศษเงิน ปัดพยานปากเอกคุณหมอ พลิกคดี ตายบนบก คือ "ฆาตกรรม" ไม่ใช่อุบัติเหตุ ลิ่มเลือดพิสูจน์ชัด ตายก่อนจะขึ้นเรือ งานนี้ ไอ้อีที่เร่งปิดคดีหนีตาย มรึงโดนขุดลากถอนโคนหมดแก๊งค์ อะไรน่ะ กว่า 60 เสนียดจัญไร จะโดนสอยหมด ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ อีศาลเจ้านนท์ เยี่ยวเหลืองแล้ว ผีอีโม ออกอาละวาดทั่วกรุงแล้ว กระแสตีกลับ ใครยังแถ ตายทั้งเป็น? อีตำหนวดโผล่ หวังดีจะช่วยเคลียร์อ.ปานเทพ(อ๋อเหรอ) อยากคุย 2 ต่อ 2 เหรอ จะไล่เก็บคนแฉทั้งแผ่นดินเลยมุย? กว่า 10000 เพจ ที่กูเห็นเนี่ย มรึงไม่ไล่ตามฆ่าให้หมดเลยดีมั้ยล่ะ อย่าลืมว่า มีมือ มีตรีน เหมือนกัน ระวังจะถูกเค้าลากหัวมรึงลงขุมนรกบ้าง มรึงจ้างได้ ใครก็ลงขันจ้างได้ เงินมา เงินกลับ ไม่มีโกง? ส่วนตัว อยากให้ผีอีโมเล่นอีหมอขะแมร์ก่อนเพื่อน ไอ้ระยำ! สะกดวิญญานกูเหรอ? โคตรอำมะหิต มนต์ดำเนี่ย มันจะย้อนเข้าตัวมรึงเองน่ะ รู้มั้ย? งานนี้ไม่จบ ลองถึงมืออ.ปานเทพแล้ว กูบอกเลย "สุดซอย" เพราะความจริงมีแค่เพียง 1 เดียว รอลงถนนก่อนมรึง เดี๋ยวกูจะเตรียมป้าย "FC ผีอีโม แจกม็อบถือให้เกลื่อนเมือง" เอาความจริงคืนมา!

    หมดแล้วมรึง! อีกรมกากี หลักฐานชัดซะขนาดนี้ ยังกล้าแถสู่สายตาชาวโลก อายควายมั้ย? คดีอุ้มลูกอีกระทุ้ง ยังไม่จบ สร้างแต่เรื่อง จะมีไปทำพ่อง? แผลมันฟ้อง รอยมีดกรีด ยังจะแถใบพัด ควายยังมึน? ควายกันหมดประเทศแล้วมั้ง? รอยรัดคอ ลิ้นจุกปาก ยังแถจมน้ำต่อได้ มรึงต้องเปลี่ยนสโลแกนใหม่แล้วล่ะ "ตอแหลเรียกเพ่ เงินดีเรียกพ่อ" ความมันส์ มันอยู่ที่ศาลท่านอยู่เป็น มรึงยื่นบาลีเลี่ยง "โจทย์ฟ้องอย่าง" แต่ศาลท่านอธิบายชัดเจนตามพยานหลักฐาน แจงออกมาทีละจุด นัยยะคืออะไรล่ะ? มรึงปลอมหลักฐานเท็จไงล่ะ? มรึงรอดู วิญญานผีอีโม เอาแน่! แสงทำงาน ความจริงจะปรากฎ ใครสั่งฆ่า ใครอนุมัติให้ฆ่า อำมะหิตไร้เมตตาขนาดนี้ ใหญ่คับฟ้า เหนือกฎหมาย ก่อนประหาร ชาวบ้านขอ "ประชาตรีนซักรอบ" จะไม่ลืมพระคุณ จับตาอีกากีดิ้นกันทั้งโรงพัก ต้นตอมาจากไหน? ใครทำลายหลักฐานเค้ารู้หมด? ปลายกลียุค มันสนุกสุดเหวี่ยงอย่างงี้นี่เอง เหี้ยดิ้นกันหย่าย ไฟนรกรอพวกมรึงอยู่

    อีเบียร์ไล่อีโง่โอลาฟกลางสภา คิดพลิกเกมส์ ดึงอินทรีเหล็กกลับมาผงาดใหม่ ถามจริง? มรึงแกล้งโง่ หรือโง่จริงฟ่ะ? หากเยอมนีไม่มีพลังงานรัสเซีย มรึงก็แค่ "หมาตัวนึง" ต้นทุนพลังงานคือต้นทุนสินค้าทุกชนิด อีโง่โอลาฟเข้ามาแทนอีป้าแมร์เคิล ที่ทำดีมากว่า 10 ปี แค่ปีเดียว ฉิบหายเกลี้ยง มรึงเห็นยัง? "ประชาธิปไตยเบ่งบานในชาติขี้ข้ายิวทั้งนั้น" เมื่อผู้นำเป็นขี้ข้ายิว แล้วใครเสือกเลือกมรึงเข้ามา ยอมรับมั้ย? มรึงควายกันทั้งแผ่นดิน? หากไม่ตกผลึก เลือกกี่ครั้งก็แค่ขี้ข้านายทุน? นี่ไง ปชต.ตัวจริง! พ่อปกครองลูกคือคำตอบของโลกยุคใหม่ กษัตริย์จำเป็นต้องกลับมา เพราะใครแดร๊กก็ไม่แตกต่าง หากแต่อยู่ที่ แบ่งปัน ช่วยเหลือ เมตตา ใส่ใจ ไม่ใช่ แดร๊กเดี่ยว แดร๊กดุ รวบแดร๊กฝ่ายเดียว แบบที่ปชต.โคตรพ่องสอนกันมา? ปูตินเคยบอกอีป้าแล้วน่ะ หลังที่รักไปแล้ว กูจะไม่ปราณีใครอีก? เป็นไงล่ะ คว่ำบาตรเค้า แต่ตัวเองตายโหง โง่กว่ามรึงมีอีกมุย? ขนาดเบลารุส เซอร์เบีย ฮังการี ยังรู้งาน ใครจะเห่ายังไงก็ช่าง กูเกาะรัสเซียคือรอดตายชัวร์! อี NATO อี EU ถึงได้เจ๊งระเนระนาดทุกวันนี้ไงล่ะ? สัญญานมาเต็ม เยอรมนีถอยแล้ว ขวาจัดมาแน่ ฝรั่งเศสก็เช่นกัน โชคดีของอีอัสซูรี่ ที่อีนู๋เมโลนี่ มันอยู่เป็น ตามน้ำ ไม่สุดโต่
    ง กิ๊กใหม่เพ่ปูเค้า ลับหลังมาเฟียรัสเซีย มาเฟียอิตาลี เค้าซี้กัน!

    อ่านเกมมส์ให้ออก มรึงรู้ยัง? ว่าทำไม อีเหลี่ยมชาติชั่ว ถึงออกตัวแรง ดึงอีน้องสาวร่าน 8 สีสันกลับบ้านให้ได้ หน้าที่ของเหี้ยขี้ข้าคือ "ทำอะไรก็ได้เพื่อสร้างความแตกแยก" ทำให้ชาวอโยธยาไม่มีความสุข ที่มันทำทั้งหมด ก็เพื่อจะล่อให้ทหารออกมาไงล่ะ? ทหารเค้ารู้ ว่ามรึงจ้องอะไร? ถึงได้เตรียมจะแก้กฎหมาย ห้ามปฎิวัติ มันคือละครยั่วยุ หมากตานี้ ทหารเค้าอ่านออกมาเป็นชาติแล้วไอ้ควาย? สุดท้ายยังไงก็ออกแน่ แต่จะออกเพราะคำสั่งศาลชี้เป้าเท่านั้น นั่นคือความชอบธรรม ถึงได้บอกไงล่ะว่า ศาล วัง กองทัพ เค้าทำงานประสานมือกันมาโดยตลอด ไม่งั้นนิทานเหี้ยเกลื่อนแผ่นดินไม่มีวันจบดอกน่ะ ปล่อยเค้าจัดการตามแผน และกลยุทธของเค้า เราไม่ต้องไปยุ่ง รอแค่ลงถนนพอ ยามใหญ่สั่งลุย นั่นคือไฟเขียวมาแล้วนั่นเอง รอเหี้ยอะไรล่ะ? ไปให้สุด แล้วจบที่ชัยชนะ! ฉากนี้เค้าจัดมาเพื่อพวกมรึงโดยเฉพาะ "ประชาชน(ที่รู้คุณแผ่นดิน)เป็นใหญ่ในแผ่นดิน" ศึกสุดท้ายของมรึงและกูแล้ว ก่อนตาย ทำบุญให้แผ่นดิน คืนคุณแผ่นดิน ทำให้พ่ออยู่หัว ตายก็คุ้ม?

    อย่าต๊กกะใจ! ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ มีประจำ เห็นกันบ่อย ลอบกัด ลอบฆ่า ระเบิดแสวงเครื่อง ล่อเป้าหมาย ฆ่าคนนี้ คนใหม่ก็มาแทน มันสะท้อนอะไร? หลังระเบิดลอบฆ่าหัวหน้าฝ่ายนิวเคลียร์รัสเซีย มองในมุมกลศึก ยุทธวิธีการรบ มรึงฆ่าเค้าได้แค่ 1-2 คน แต่เค้าฆ่ามรึงตายห่าทั้งกองพัน ค่ายทหาร ฐานบัญชาการ ศูนย์ฝึกกำลังสำรอง กูก็งง..กับตรรกะสื่อเหี้ย ฆ่า 1 คน ร้ายแรงกว่าฆ่า 1000 คนซะงั้น จะตื่นเต้นอะไรนักหน่า? มันเพิ่งจะฆ่าเหรอ? ยิ่งทำบ่อย แปลว่าแพ้ยับเยิน ถึงแก้เกี้ยว เอาคืน เพราะไม่มีปัญญาถล่มค่ายทหารเค้า หมีเห็นข่าวมา 2 วันแล้ว ขี้เกียจพูด มันเทียบกันไม่ได้เลย กับสิ่งที่อียิวเสียหายหนัก อียูเครนมันสิ้นชาติไปนานแล้ว เหลือแต่กลุ่มก่อการร้ายไม่กี่ตัวเนี่ย ที่เหลือก็แค่นีโอนาซีหนีตาย เอาตัวให้รอดก็เก่งแล้ว? ดูทรงก็รู้ ระเบิดเพื่อยั่วยุ ทำให้ควายโลกเห็น ว่ากูยังอยู่ ยังไม่ตายซะทีเดียว? นี่มันคือสงครามน่ะเฟ้ย จะไม่ให้มีคนตายห่ากันเลยรึ? โลกสวยไปป่ะ? รอดูรัสเซียเอาคืนดีกว่ามุย? ตาย 1 แลก 1000 คุ้มฉิบหาย? เอาอีกสิ ดีออก!

    ปล.ฮาแตกมั้ยล่ะมรึง? ยุโรปเรียกร้องหยุดคว่ำบาตรรัสเซีย ขอพลังงานถูกให้กูใช้เถอะ มากราบตรีนปูตินสิจ๊ะ? ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา อีโง่ เหมือนอีร่าน 6 สีสัน บ้านกูเลย? อะไรน่ะ อีอุ้งๆ โง่กว่าเหรอ? เรื่องความโง่ กูวัดไม่เก่งดอก เพราะมันโง่ไร้ที่ติ เครื่องวัดยังจับไม่เจอ? รัสเซีย จีน อิหร่าน ควบคุมโลกไว้ได้เบ็ดเสร็จโดยพฤตินัยเรียบร้อยแล้ว หลังซีเรียผลัดใบ เพื่อขับไล่เหี้ยออกไปจากแผ่นดิน หลายคนสงสัย ทำไมข่าวเยรูซาเล็มเงียบกริบ? กูบอกเลย ซัดกันเละเทะ โดนทุกวัน ไล่สอยทุกคืน สื่อแถจนตายคาจอมาหลายช่องแล้ว สัญญานชัด อียิวกำลังขี้แตก! ถึงได้จัดฉากละครมั่วซั่วไปเรื่อย อย่าคิดว่าแสงหลับน่ะจ๊ะ เห็นผีอีโม ออกอาละวาด ชั้น 14 จะได้พักหายใจ โน้น..คดีเดินเต็มกำลังแล้วจ๊ะ เพราะมันโยงเกี่ยวกับพรรค โยงเกี่ยวกับทูลความเท็จ โยงเกี่ยวกับนิรโทษกรรม มาเป็นชุด ตายม้วนเดียวจบ! กูบอกเลย ให้ไว อีเหลี่ยมชาติหมา มรึงรีบพาอีน้องสาวร่านกลับมาด่วน อีถุงชมพู รอรับปิดจ็อบที่ 8 สีสัน ที่เก่าเวลาเดิม ตายยกครัวแน่มรึง? ทหารเค้าปล่อยให้มรึงออกลายเต็มที่ ช้าอยู่ใย เอาให้สุดซอยสิจ๊ะ ริจะเหี้ย ต้องเอาให้เหี้ยเรียกพ่อ อีเด สายเหลือง อีสายบัว ชิดซ้าย เพ่อัจ เค้าแรงจริง อะไรจริง ตอนนี้ เปิดหน้าแลกสุดชีวิตเพื่ออีโม อีต้มตุ๊ดดีใจ แสงไฟ ไปฉายที่อื่นแทนกู ไม่งั้นกูโดนคดีเพิ่มอีกเพี๊ยบ ทนายคือรักษากฎหมาย ช่วยผู้บริสุทธิ์ แต่ทนายยุคใหม่ อุ้มคนรวย ช่วยคนเหี้ย เงินถึงแก้ได้หมด มรึงไม่เอากันแล้วชิมิ จรรยาบรรณ กลียุคคือ "เงินใหญ่กว่าชีวิตมรึงสิน่ะ" เศษกระดาษมีค่ามากกว่าอิสรภาพ มิน่า แห่กันเข้าคุกยกแก๊งค์ สมรู้ร่วมคิด บิดเบือนคดี แจ้งความเท็จ ข่มขู่พยาน แม้แต่อีกากีบางตัวที่มีเอี่ยว ก็ไม่รอด ถามจริง ทั้งโรงพัก ยังจะเหลือตำหนวดแกะดำซักกี่ตัวฟ่ะเนี่ย เหี้ยกันทั้งบาง? ชาตินี้ กูคงจะเป็นตำหนวดไม่ได้ดอก เพราะเข้าไปตั้งแต่วันแรก คงถูกเก็บทันที ตรงเกินไป ไม้บรรทัดเกินไป ซื่อสัตย์เกินไป อีกากีเค้าไม่ชอบ? นี่เหรอ ขบวนการยุติธรรมต้นน้ำบ้านเรา ใครหวังพึ่งก็โง่? ทุกอย่างต้องทำเองหมด แล้วจะมีมรึงไปทำเหี้ยอะไร? อาชีพเกาะชาวบ้านแดร๊ก ศักดิ์ศรีมีเหลือมั้ย? ไม่สำเหนียกเงินภาษีที่เอาไปเลี้ยงลูกเมียมรึง แม้แต่เมียน้อย เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ทำงาน แล้วจะมีไปเพื่อ? รอกูเป็นนายกหมีตัวแรกของเมืองไทยก่อน ยกเลิกอีกรมกากีทันที กระจายอำนาจให้หมด ไม่ให้อำนาจผูกขาดฝ่ายเดียว ไม่มีเลือกตั้ง ไม่มีพรรคการเมือง อิสระทั้งแผ่นดิน พ่อปกครองลูกเท่านั้น คนดี คนจริง คนซื่อ 70 คน ไปดูแลหัวเมืองทั้งหมด คัดสรรข้าราชการใหม่ทั้งหมด โยกย้ายขี้ข้าเหี้ยออกไป ดันคนรุ่นใหม่ หัวใจพ่ออยู่หัวเข้าแทน แล้วมรึงมาดู ว่าปชต.ตอแหล กับพ่อปกครองลูก ใครจะไปได้ไกลกว่ากัน? แก้กฎหมายทั้งหมด ชูวังมาเต็มตรีน ห้ามแตะต้องทุกกรณี พื้นที่ ดินแดน แผ่นดิน เป็นอำนาจสิทธิ์ขาดของพ่ออยู่หัวเพียงผู้เดียว คืนพระราชอำนาจเต็มให้พ่อท่าน เพราะมันเป็นของท่านมาตั้งแต่แรกแล้ว ใครให้มรึงไปปล้นท่านมา?

    หมี CNN(ยุคสุดท้ายของกลียุคแล้ว เอาให้สุดซอย ปล่อยให้เต็มที่ เมื่อถึงเวลาชำระล้าง จงยืนหยัดต่อสู้ให้ถึงที่สุด หมดเวลาเกรงกลัว มีแต่วิ่งเข้าใส่ เพราะแสงให้พลังแก่ผู้ที่คิดดี ทำดี สู้มัน อย่าได้ถอย เปลี่ยนความกลัวเป็นพลังความแค้น ต้องล้างบาง ต้องรักษาแผ่นดินพ่อให้สุดใจ เหี้ยมันฝ่อ หากเจอคนจริง เจอศัตรูที่น่ากลัวที่สุด นั่นคือ "ศรัทธาคน" เชื่อมั่น แล้วใส่เต็มตรีนซะ อย่าได้ปราณีไอ้อีขายชาติทั้งหลาย คนที่มรึงต้องกลัวคือ คนดี เท่านั้น)
    18 ธันวาคม 67
    11.00 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    18-12-67/01 : หมี CNN / "หมีองค์ลง" EP.2 ด่าเฉพาะกิจ เหี้ยมา เหี้ยกลับ ไม่มีโกง (อายุต่ำกว่า 8 ขวบ อย่าฟัง เดี๋ยวของจะขึ้น?) E-DOK! ความจริงบัดซบจนมรึงรับไม่ไหว? อีแม่ อีเด สายเหลือง ขายลูกกิน ยอมแลกเศษเงิน ปัดพยานปากเอกคุณหมอ พลิกคดี ตายบนบก คือ "ฆาตกรรม" ไม่ใช่อุบัติเหตุ ลิ่มเลือดพิสูจน์ชัด ตายก่อนจะขึ้นเรือ งานนี้ ไอ้อีที่เร่งปิดคดีหนีตาย มรึงโดนขุดลากถอนโคนหมดแก๊งค์ อะไรน่ะ กว่า 60 เสนียดจัญไร จะโดนสอยหมด ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ อีศาลเจ้านนท์ เยี่ยวเหลืองแล้ว ผีอีโม ออกอาละวาดทั่วกรุงแล้ว กระแสตีกลับ ใครยังแถ ตายทั้งเป็น? อีตำหนวดโผล่ หวังดีจะช่วยเคลียร์อ.ปานเทพ(อ๋อเหรอ) อยากคุย 2 ต่อ 2 เหรอ จะไล่เก็บคนแฉทั้งแผ่นดินเลยมุย? กว่า 10000 เพจ ที่กูเห็นเนี่ย มรึงไม่ไล่ตามฆ่าให้หมดเลยดีมั้ยล่ะ อย่าลืมว่า มีมือ มีตรีน เหมือนกัน ระวังจะถูกเค้าลากหัวมรึงลงขุมนรกบ้าง มรึงจ้างได้ ใครก็ลงขันจ้างได้ เงินมา เงินกลับ ไม่มีโกง? ส่วนตัว อยากให้ผีอีโมเล่นอีหมอขะแมร์ก่อนเพื่อน ไอ้ระยำ! สะกดวิญญานกูเหรอ? โคตรอำมะหิต มนต์ดำเนี่ย มันจะย้อนเข้าตัวมรึงเองน่ะ รู้มั้ย? งานนี้ไม่จบ ลองถึงมืออ.ปานเทพแล้ว กูบอกเลย "สุดซอย" เพราะความจริงมีแค่เพียง 1 เดียว รอลงถนนก่อนมรึง เดี๋ยวกูจะเตรียมป้าย "FC ผีอีโม แจกม็อบถือให้เกลื่อนเมือง" เอาความจริงคืนมา! หมดแล้วมรึง! อีกรมกากี หลักฐานชัดซะขนาดนี้ ยังกล้าแถสู่สายตาชาวโลก อายควายมั้ย? คดีอุ้มลูกอีกระทุ้ง ยังไม่จบ สร้างแต่เรื่อง จะมีไปทำพ่อง? แผลมันฟ้อง รอยมีดกรีด ยังจะแถใบพัด ควายยังมึน? ควายกันหมดประเทศแล้วมั้ง? รอยรัดคอ ลิ้นจุกปาก ยังแถจมน้ำต่อได้ มรึงต้องเปลี่ยนสโลแกนใหม่แล้วล่ะ "ตอแหลเรียกเพ่ เงินดีเรียกพ่อ" ความมันส์ มันอยู่ที่ศาลท่านอยู่เป็น มรึงยื่นบาลีเลี่ยง "โจทย์ฟ้องอย่าง" แต่ศาลท่านอธิบายชัดเจนตามพยานหลักฐาน แจงออกมาทีละจุด นัยยะคืออะไรล่ะ? มรึงปลอมหลักฐานเท็จไงล่ะ? มรึงรอดู วิญญานผีอีโม เอาแน่! แสงทำงาน ความจริงจะปรากฎ ใครสั่งฆ่า ใครอนุมัติให้ฆ่า อำมะหิตไร้เมตตาขนาดนี้ ใหญ่คับฟ้า เหนือกฎหมาย ก่อนประหาร ชาวบ้านขอ "ประชาตรีนซักรอบ" จะไม่ลืมพระคุณ จับตาอีกากีดิ้นกันทั้งโรงพัก ต้นตอมาจากไหน? ใครทำลายหลักฐานเค้ารู้หมด? ปลายกลียุค มันสนุกสุดเหวี่ยงอย่างงี้นี่เอง เหี้ยดิ้นกันหย่าย ไฟนรกรอพวกมรึงอยู่ อีเบียร์ไล่อีโง่โอลาฟกลางสภา คิดพลิกเกมส์ ดึงอินทรีเหล็กกลับมาผงาดใหม่ ถามจริง? มรึงแกล้งโง่ หรือโง่จริงฟ่ะ? หากเยอมนีไม่มีพลังงานรัสเซีย มรึงก็แค่ "หมาตัวนึง" ต้นทุนพลังงานคือต้นทุนสินค้าทุกชนิด อีโง่โอลาฟเข้ามาแทนอีป้าแมร์เคิล ที่ทำดีมากว่า 10 ปี แค่ปีเดียว ฉิบหายเกลี้ยง มรึงเห็นยัง? "ประชาธิปไตยเบ่งบานในชาติขี้ข้ายิวทั้งนั้น" เมื่อผู้นำเป็นขี้ข้ายิว แล้วใครเสือกเลือกมรึงเข้ามา ยอมรับมั้ย? มรึงควายกันทั้งแผ่นดิน? หากไม่ตกผลึก เลือกกี่ครั้งก็แค่ขี้ข้านายทุน? นี่ไง ปชต.ตัวจริง! พ่อปกครองลูกคือคำตอบของโลกยุคใหม่ กษัตริย์จำเป็นต้องกลับมา เพราะใครแดร๊กก็ไม่แตกต่าง หากแต่อยู่ที่ แบ่งปัน ช่วยเหลือ เมตตา ใส่ใจ ไม่ใช่ แดร๊กเดี่ยว แดร๊กดุ รวบแดร๊กฝ่ายเดียว แบบที่ปชต.โคตรพ่องสอนกันมา? ปูตินเคยบอกอีป้าแล้วน่ะ หลังที่รักไปแล้ว กูจะไม่ปราณีใครอีก? เป็นไงล่ะ คว่ำบาตรเค้า แต่ตัวเองตายโหง โง่กว่ามรึงมีอีกมุย? ขนาดเบลารุส เซอร์เบีย ฮังการี ยังรู้งาน ใครจะเห่ายังไงก็ช่าง กูเกาะรัสเซียคือรอดตายชัวร์! อี NATO อี EU ถึงได้เจ๊งระเนระนาดทุกวันนี้ไงล่ะ? สัญญานมาเต็ม เยอรมนีถอยแล้ว ขวาจัดมาแน่ ฝรั่งเศสก็เช่นกัน โชคดีของอีอัสซูรี่ ที่อีนู๋เมโลนี่ มันอยู่เป็น ตามน้ำ ไม่สุดโต่ ง กิ๊กใหม่เพ่ปูเค้า ลับหลังมาเฟียรัสเซีย มาเฟียอิตาลี เค้าซี้กัน! อ่านเกมมส์ให้ออก มรึงรู้ยัง? ว่าทำไม อีเหลี่ยมชาติชั่ว ถึงออกตัวแรง ดึงอีน้องสาวร่าน 8 สีสันกลับบ้านให้ได้ หน้าที่ของเหี้ยขี้ข้าคือ "ทำอะไรก็ได้เพื่อสร้างความแตกแยก" ทำให้ชาวอโยธยาไม่มีความสุข ที่มันทำทั้งหมด ก็เพื่อจะล่อให้ทหารออกมาไงล่ะ? ทหารเค้ารู้ ว่ามรึงจ้องอะไร? ถึงได้เตรียมจะแก้กฎหมาย ห้ามปฎิวัติ มันคือละครยั่วยุ หมากตานี้ ทหารเค้าอ่านออกมาเป็นชาติแล้วไอ้ควาย? สุดท้ายยังไงก็ออกแน่ แต่จะออกเพราะคำสั่งศาลชี้เป้าเท่านั้น นั่นคือความชอบธรรม ถึงได้บอกไงล่ะว่า ศาล วัง กองทัพ เค้าทำงานประสานมือกันมาโดยตลอด ไม่งั้นนิทานเหี้ยเกลื่อนแผ่นดินไม่มีวันจบดอกน่ะ ปล่อยเค้าจัดการตามแผน และกลยุทธของเค้า เราไม่ต้องไปยุ่ง รอแค่ลงถนนพอ ยามใหญ่สั่งลุย นั่นคือไฟเขียวมาแล้วนั่นเอง รอเหี้ยอะไรล่ะ? ไปให้สุด แล้วจบที่ชัยชนะ! ฉากนี้เค้าจัดมาเพื่อพวกมรึงโดยเฉพาะ "ประชาชน(ที่รู้คุณแผ่นดิน)เป็นใหญ่ในแผ่นดิน" ศึกสุดท้ายของมรึงและกูแล้ว ก่อนตาย ทำบุญให้แผ่นดิน คืนคุณแผ่นดิน ทำให้พ่ออยู่หัว ตายก็คุ้ม? อย่าต๊กกะใจ! ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ มีประจำ เห็นกันบ่อย ลอบกัด ลอบฆ่า ระเบิดแสวงเครื่อง ล่อเป้าหมาย ฆ่าคนนี้ คนใหม่ก็มาแทน มันสะท้อนอะไร? หลังระเบิดลอบฆ่าหัวหน้าฝ่ายนิวเคลียร์รัสเซีย มองในมุมกลศึก ยุทธวิธีการรบ มรึงฆ่าเค้าได้แค่ 1-2 คน แต่เค้าฆ่ามรึงตายห่าทั้งกองพัน ค่ายทหาร ฐานบัญชาการ ศูนย์ฝึกกำลังสำรอง กูก็งง..กับตรรกะสื่อเหี้ย ฆ่า 1 คน ร้ายแรงกว่าฆ่า 1000 คนซะงั้น จะตื่นเต้นอะไรนักหน่า? มันเพิ่งจะฆ่าเหรอ? ยิ่งทำบ่อย แปลว่าแพ้ยับเยิน ถึงแก้เกี้ยว เอาคืน เพราะไม่มีปัญญาถล่มค่ายทหารเค้า หมีเห็นข่าวมา 2 วันแล้ว ขี้เกียจพูด มันเทียบกันไม่ได้เลย กับสิ่งที่อียิวเสียหายหนัก อียูเครนมันสิ้นชาติไปนานแล้ว เหลือแต่กลุ่มก่อการร้ายไม่กี่ตัวเนี่ย ที่เหลือก็แค่นีโอนาซีหนีตาย เอาตัวให้รอดก็เก่งแล้ว? ดูทรงก็รู้ ระเบิดเพื่อยั่วยุ ทำให้ควายโลกเห็น ว่ากูยังอยู่ ยังไม่ตายซะทีเดียว? นี่มันคือสงครามน่ะเฟ้ย จะไม่ให้มีคนตายห่ากันเลยรึ? โลกสวยไปป่ะ? รอดูรัสเซียเอาคืนดีกว่ามุย? ตาย 1 แลก 1000 คุ้มฉิบหาย? เอาอีกสิ ดีออก! ปล.ฮาแตกมั้ยล่ะมรึง? ยุโรปเรียกร้องหยุดคว่ำบาตรรัสเซีย ขอพลังงานถูกให้กูใช้เถอะ มากราบตรีนปูตินสิจ๊ะ? ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา อีโง่ เหมือนอีร่าน 6 สีสัน บ้านกูเลย? อะไรน่ะ อีอุ้งๆ โง่กว่าเหรอ? เรื่องความโง่ กูวัดไม่เก่งดอก เพราะมันโง่ไร้ที่ติ เครื่องวัดยังจับไม่เจอ? รัสเซีย จีน อิหร่าน ควบคุมโลกไว้ได้เบ็ดเสร็จโดยพฤตินัยเรียบร้อยแล้ว หลังซีเรียผลัดใบ เพื่อขับไล่เหี้ยออกไปจากแผ่นดิน หลายคนสงสัย ทำไมข่าวเยรูซาเล็มเงียบกริบ? กูบอกเลย ซัดกันเละเทะ โดนทุกวัน ไล่สอยทุกคืน สื่อแถจนตายคาจอมาหลายช่องแล้ว สัญญานชัด อียิวกำลังขี้แตก! ถึงได้จัดฉากละครมั่วซั่วไปเรื่อย อย่าคิดว่าแสงหลับน่ะจ๊ะ เห็นผีอีโม ออกอาละวาด ชั้น 14 จะได้พักหายใจ โน้น..คดีเดินเต็มกำลังแล้วจ๊ะ เพราะมันโยงเกี่ยวกับพรรค โยงเกี่ยวกับทูลความเท็จ โยงเกี่ยวกับนิรโทษกรรม มาเป็นชุด ตายม้วนเดียวจบ! กูบอกเลย ให้ไว อีเหลี่ยมชาติหมา มรึงรีบพาอีน้องสาวร่านกลับมาด่วน อีถุงชมพู รอรับปิดจ็อบที่ 8 สีสัน ที่เก่าเวลาเดิม ตายยกครัวแน่มรึง? ทหารเค้าปล่อยให้มรึงออกลายเต็มที่ ช้าอยู่ใย เอาให้สุดซอยสิจ๊ะ ริจะเหี้ย ต้องเอาให้เหี้ยเรียกพ่อ อีเด สายเหลือง อีสายบัว ชิดซ้าย เพ่อัจ เค้าแรงจริง อะไรจริง ตอนนี้ เปิดหน้าแลกสุดชีวิตเพื่ออีโม อีต้มตุ๊ดดีใจ แสงไฟ ไปฉายที่อื่นแทนกู ไม่งั้นกูโดนคดีเพิ่มอีกเพี๊ยบ ทนายคือรักษากฎหมาย ช่วยผู้บริสุทธิ์ แต่ทนายยุคใหม่ อุ้มคนรวย ช่วยคนเหี้ย เงินถึงแก้ได้หมด มรึงไม่เอากันแล้วชิมิ จรรยาบรรณ กลียุคคือ "เงินใหญ่กว่าชีวิตมรึงสิน่ะ" เศษกระดาษมีค่ามากกว่าอิสรภาพ มิน่า แห่กันเข้าคุกยกแก๊งค์ สมรู้ร่วมคิด บิดเบือนคดี แจ้งความเท็จ ข่มขู่พยาน แม้แต่อีกากีบางตัวที่มีเอี่ยว ก็ไม่รอด ถามจริง ทั้งโรงพัก ยังจะเหลือตำหนวดแกะดำซักกี่ตัวฟ่ะเนี่ย เหี้ยกันทั้งบาง? ชาตินี้ กูคงจะเป็นตำหนวดไม่ได้ดอก เพราะเข้าไปตั้งแต่วันแรก คงถูกเก็บทันที ตรงเกินไป ไม้บรรทัดเกินไป ซื่อสัตย์เกินไป อีกากีเค้าไม่ชอบ? นี่เหรอ ขบวนการยุติธรรมต้นน้ำบ้านเรา ใครหวังพึ่งก็โง่? ทุกอย่างต้องทำเองหมด แล้วจะมีมรึงไปทำเหี้ยอะไร? อาชีพเกาะชาวบ้านแดร๊ก ศักดิ์ศรีมีเหลือมั้ย? ไม่สำเหนียกเงินภาษีที่เอาไปเลี้ยงลูกเมียมรึง แม้แต่เมียน้อย เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ทำงาน แล้วจะมีไปเพื่อ? รอกูเป็นนายกหมีตัวแรกของเมืองไทยก่อน ยกเลิกอีกรมกากีทันที กระจายอำนาจให้หมด ไม่ให้อำนาจผูกขาดฝ่ายเดียว ไม่มีเลือกตั้ง ไม่มีพรรคการเมือง อิสระทั้งแผ่นดิน พ่อปกครองลูกเท่านั้น คนดี คนจริง คนซื่อ 70 คน ไปดูแลหัวเมืองทั้งหมด คัดสรรข้าราชการใหม่ทั้งหมด โยกย้ายขี้ข้าเหี้ยออกไป ดันคนรุ่นใหม่ หัวใจพ่ออยู่หัวเข้าแทน แล้วมรึงมาดู ว่าปชต.ตอแหล กับพ่อปกครองลูก ใครจะไปได้ไกลกว่ากัน? แก้กฎหมายทั้งหมด ชูวังมาเต็มตรีน ห้ามแตะต้องทุกกรณี พื้นที่ ดินแดน แผ่นดิน เป็นอำนาจสิทธิ์ขาดของพ่ออยู่หัวเพียงผู้เดียว คืนพระราชอำนาจเต็มให้พ่อท่าน เพราะมันเป็นของท่านมาตั้งแต่แรกแล้ว ใครให้มรึงไปปล้นท่านมา? หมี CNN(ยุคสุดท้ายของกลียุคแล้ว เอาให้สุดซอย ปล่อยให้เต็มที่ เมื่อถึงเวลาชำระล้าง จงยืนหยัดต่อสู้ให้ถึงที่สุด หมดเวลาเกรงกลัว มีแต่วิ่งเข้าใส่ เพราะแสงให้พลังแก่ผู้ที่คิดดี ทำดี สู้มัน อย่าได้ถอย เปลี่ยนความกลัวเป็นพลังความแค้น ต้องล้างบาง ต้องรักษาแผ่นดินพ่อให้สุดใจ เหี้ยมันฝ่อ หากเจอคนจริง เจอศัตรูที่น่ากลัวที่สุด นั่นคือ "ศรัทธาคน" เชื่อมั่น แล้วใส่เต็มตรีนซะ อย่าได้ปราณีไอ้อีขายชาติทั้งหลาย คนที่มรึงต้องกลัวคือ คนดี เท่านั้น) 18 ธันวาคม 67 11.00 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงเรื่อง <ทำนองรักกังวานแดนดิน> ที่มีช่วงหนึ่งพระนางต้องไปสืบคดีที่เมืองกานหนานเต้าและได้พบกันพานฉือ มีฉากหนึ่งที่พานฉือนั่งดื่มสุราดับทุกข์และเหยียนซิ่งมาปลอบโดยกล่าวถึงบทความหนึ่งของพานฉือที่เคยโด่งดังในแวดวงผู้มีการศึกษา และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่าบัณฑิตที่ไม่ได้มาจากตระกูลขุนนางใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วบทความที่เหยียนซิ่งกล่าวถึงนี้เป็นการยกเอาวรรคเด็ดจากหลายบทกวีโบราณมายำรวมกัน สัปดาห์ที่แล้วคุยกันไปประโยคหนึ่ง วันนี้มาคุยต่อ ซึ่งคือบทพูดยาวที่เหยียนซิ่งกล่าวว่า “ผู้สูงศักดิ์แม้มองตนสูงค่า กลับต่ำต้อยเยี่ยงธุลีดิน คนต่ำต้อยแม้ด้อยค่าตนเอง ทว่าน้ำหนักดุจพันจวิน”(贵者虽自贵,视之若埃尘。贱者虽自贱,重之若千钧。) (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)ทั้งนี้ ‘จวิน’ เป็นหน่วยวัดน้ำหนักในสมัยโบราณ เทียบเท่าประมาณสิบห้ากิโลกรัม และ ‘พันจวิน’ เป็นการอุปมาอุปมัยว่าน้ำหนักมากมีค่ามากยิ่งนักวลีสี่วรรคนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทกวีบทที่หกจากชุดบทกวีแปดบท ‘หยงสื่อปาโส่ว’ (咏史八首) ของจั่วซือ (ค.ศ. 250-305) นักประพันธ์เลื่องชื่อในสมัยจิ้นตะวันตกจั่วซือมาจากครอบครัวขุนนางเก่าแก่แต่บิดาไม่ได้มีตำแหน่งสูงนัก เรียกได้ว่าเป็นคนจากตระกูล ‘หานเหมิน’ ซึ่งก็คือครอบครัวขุนนางเก่าหรือขุนนางชั้นล่างที่ไม่มีอิทธิพลหรืออำนาจทางการเมือง (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนอธิบายถึงหานเหมินไปแล้ว ลองย้อนอ่านทำความเข้าใจได้ที่ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid02irzPP9WVBtk8DXM6MFwphMu3ngFyjoz511zYfX8rWt8zHjHrFvk2ZwRiPXWuVWUal)ในช่วงที่จิ้นอู่ตี้ (ซือหม่าเหยียน ปฐมกษัตรย์แห่งราชวงศ์จิ้น) เกณฑ์สตรีจากครอบครัวขุนนางระดับกลางถึงระดับบนเข้าวังเป็นนางในเป็นจำนวนมากนั้น น้องสาวของจั่วซือก็ถูกเกณฑ์เข้าวังเป็นสนมเช่นกัน เขาเลยย้ายเข้าเมืองหลวงลั่วหยางพร้อมครอบครัวและพยายามหาหนทางเข้ารับราชการแต่ไม่ประสบความสำเร็จ และเขาพบว่ามีความฟอนเฟะในระบบราชการไม่น้อย ต่อมาเขาใช้เวลาสิบปีประพันธ์บทความที่เรียกว่า ‘ซานตูฟู่’ (三都赋/บทประพันธ์สามนคร) โดยยกตัวอย่างของแต่ละเมืองในบทความเพื่อสะท้อนแนวคิดและหลักการบริหารบ้านเมือง ต่อมาบทความนี้ได้รับการยอมรับอย่างมากมายจนในที่สุดจั่วซือได้เข้ารับราชการเป็นบรรณารักษ์แห่งหอพระสมุดว่ากันว่ากวีแปดบทนี้เป็นผลงานช่วงแรกที่เขาเข้ามาลั่วหยางและพบทางตันในการพยายามเป็นขุนนางจนรู้สึกท้อแท้และอัดอั้นตันใจ เป็นชุดบทกวีที่สะท้อนให้เห็นสภาวะทางสังคม อุดมการณ์อันยิ่งใหญ่และความคับแค้นใจของผู้ที่มาจากตระกูล ‘หานเหมิน’ ในยุคสมัยที่ไม่มีการสอบราชบัณฑิต โดยบทกวีแต่ละบทเป็นการยืมเรื่องในประวัติศาสตร์มาเล่าในเชิงยกย่องสรรเสริญและบทกวีบทที่หกนี้ เป็นการสรรเสริญ ‘จิงเคอ’ ซึ่งก็คือหนึ่งในมือสังหารที่มีชื่อที่สุดของจีน ถูกส่งไปลอบสังหารจิ๋นซีฮ่องเต้ในช่วงก่อนรวบรวมแผ่นดินเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันสำเร็จ (คือต้นแบบของนักฆ่านิรนาม ‘อู๋หมิง’ ในภาพยนต์เรื่อง <Hero> ปี 2002 ของจางอี้โหมวที่เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ดู) ซึ่งการลอบสังหารนั้นอยู่บนความเชื่อที่ว่ากษัตริย์แคว้นฉิ๋นโหดเหี้ยมบ้าอำนาจคิดกวาดล้างทำลายแคว้นอื่น จะทำให้ผู้คนล้มตายบ้านแตกสาแหรกขาดอีกไม่น้อย บทกวีบทที่หกนี้สรุปใจความได้ประมาณว่า จิงเคอร่ำสุราสำราญใจอย่างไม่แคร์ผู้ใด อุปนิสัยใจกล้าองอาจ เป็นคนที่มีเอกลักษณ์ไม่อาจมองข้าม แม้ไม่ใช่คนจากสังคมชั้นสูงแต่กลับมีคุณค่ามากมายเพราะสละชีพเพื่อผองชน และในสายตาของจิงเคอแล้วนั้น พวกตระกูลขุนนางชั้นสูงไม่มีคุณค่าใด บทกวีนี้จึงไม่เพียงสรรเสริญจิงเคอหากยังเสียดสีถึงคนจากสังคมชั้นสูงในสมัยนั้นอีกด้วย“ผู้สูงศักดิ์แม้มองตนสูงค่า กลับต่ำต้อยเยี่ยงธุลีดิน คนต่ำต้อยแม้ด้อยค่าตนเอง ทว่าน้ำหนักดุจพันจวิน” วลีสี่วรรคนี้ที่เหยียนซิ่งกล่าวในเรื่อง <ทำนองรักกังวานแดนดิน> โดยในซีรีส์สมมุติไว้ว่านี่เป็นประโยคที่พานฉือแต่งขึ้น จึงเป็นการเท้าความถึงตอนที่พานฉือเดินทางเข้ากรุงใหม่ๆ ยังเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์และความเชื่อมั่นอันแรงกล้า และเป็นการปลอบใจให้พานฉืออย่าได้ท้อใจในอุปสรรคที่ได้พบเจอ เพราะคุณค่าของคนอยู่ที่ตนเอง ไม่ใช่จากพื้นเพชาติตระกูล(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.ifensi.com/index.php?m=home&c=View&a=index&aid=4545http://zhld.com/zkwb/html/2017-04/21/content_7602721.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:http://zhld.com/zkwb/html/2017-04/21/content_7602721.htm https://m.guoxuedashi.net/shici/81367k.html https://www.gushiwen.cn/mingju/juv_d4a0651f3a21.aspxhttps://baike.baidu.com/item/左思/582418 #ทำนองรักกังวานแดนดิน #วลีจีน #จั่วซือ #บทกวีจีนโบราณ #จิงเคอ #สาระจีน
    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงเรื่อง <ทำนองรักกังวานแดนดิน> ที่มีช่วงหนึ่งพระนางต้องไปสืบคดีที่เมืองกานหนานเต้าและได้พบกันพานฉือ มีฉากหนึ่งที่พานฉือนั่งดื่มสุราดับทุกข์และเหยียนซิ่งมาปลอบโดยกล่าวถึงบทความหนึ่งของพานฉือที่เคยโด่งดังในแวดวงผู้มีการศึกษา และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่าบัณฑิตที่ไม่ได้มาจากตระกูลขุนนางใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วบทความที่เหยียนซิ่งกล่าวถึงนี้เป็นการยกเอาวรรคเด็ดจากหลายบทกวีโบราณมายำรวมกัน สัปดาห์ที่แล้วคุยกันไปประโยคหนึ่ง วันนี้มาคุยต่อ ซึ่งคือบทพูดยาวที่เหยียนซิ่งกล่าวว่า “ผู้สูงศักดิ์แม้มองตนสูงค่า กลับต่ำต้อยเยี่ยงธุลีดิน คนต่ำต้อยแม้ด้อยค่าตนเอง ทว่าน้ำหนักดุจพันจวิน”(贵者虽自贵,视之若埃尘。贱者虽自贱,重之若千钧。) (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)ทั้งนี้ ‘จวิน’ เป็นหน่วยวัดน้ำหนักในสมัยโบราณ เทียบเท่าประมาณสิบห้ากิโลกรัม และ ‘พันจวิน’ เป็นการอุปมาอุปมัยว่าน้ำหนักมากมีค่ามากยิ่งนักวลีสี่วรรคนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทกวีบทที่หกจากชุดบทกวีแปดบท ‘หยงสื่อปาโส่ว’ (咏史八首) ของจั่วซือ (ค.ศ. 250-305) นักประพันธ์เลื่องชื่อในสมัยจิ้นตะวันตกจั่วซือมาจากครอบครัวขุนนางเก่าแก่แต่บิดาไม่ได้มีตำแหน่งสูงนัก เรียกได้ว่าเป็นคนจากตระกูล ‘หานเหมิน’ ซึ่งก็คือครอบครัวขุนนางเก่าหรือขุนนางชั้นล่างที่ไม่มีอิทธิพลหรืออำนาจทางการเมือง (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนอธิบายถึงหานเหมินไปแล้ว ลองย้อนอ่านทำความเข้าใจได้ที่ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid02irzPP9WVBtk8DXM6MFwphMu3ngFyjoz511zYfX8rWt8zHjHrFvk2ZwRiPXWuVWUal)ในช่วงที่จิ้นอู่ตี้ (ซือหม่าเหยียน ปฐมกษัตรย์แห่งราชวงศ์จิ้น) เกณฑ์สตรีจากครอบครัวขุนนางระดับกลางถึงระดับบนเข้าวังเป็นนางในเป็นจำนวนมากนั้น น้องสาวของจั่วซือก็ถูกเกณฑ์เข้าวังเป็นสนมเช่นกัน เขาเลยย้ายเข้าเมืองหลวงลั่วหยางพร้อมครอบครัวและพยายามหาหนทางเข้ารับราชการแต่ไม่ประสบความสำเร็จ และเขาพบว่ามีความฟอนเฟะในระบบราชการไม่น้อย ต่อมาเขาใช้เวลาสิบปีประพันธ์บทความที่เรียกว่า ‘ซานตูฟู่’ (三都赋/บทประพันธ์สามนคร) โดยยกตัวอย่างของแต่ละเมืองในบทความเพื่อสะท้อนแนวคิดและหลักการบริหารบ้านเมือง ต่อมาบทความนี้ได้รับการยอมรับอย่างมากมายจนในที่สุดจั่วซือได้เข้ารับราชการเป็นบรรณารักษ์แห่งหอพระสมุดว่ากันว่ากวีแปดบทนี้เป็นผลงานช่วงแรกที่เขาเข้ามาลั่วหยางและพบทางตันในการพยายามเป็นขุนนางจนรู้สึกท้อแท้และอัดอั้นตันใจ เป็นชุดบทกวีที่สะท้อนให้เห็นสภาวะทางสังคม อุดมการณ์อันยิ่งใหญ่และความคับแค้นใจของผู้ที่มาจากตระกูล ‘หานเหมิน’ ในยุคสมัยที่ไม่มีการสอบราชบัณฑิต โดยบทกวีแต่ละบทเป็นการยืมเรื่องในประวัติศาสตร์มาเล่าในเชิงยกย่องสรรเสริญและบทกวีบทที่หกนี้ เป็นการสรรเสริญ ‘จิงเคอ’ ซึ่งก็คือหนึ่งในมือสังหารที่มีชื่อที่สุดของจีน ถูกส่งไปลอบสังหารจิ๋นซีฮ่องเต้ในช่วงก่อนรวบรวมแผ่นดินเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันสำเร็จ (คือต้นแบบของนักฆ่านิรนาม ‘อู๋หมิง’ ในภาพยนต์เรื่อง <Hero> ปี 2002 ของจางอี้โหมวที่เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ดู) ซึ่งการลอบสังหารนั้นอยู่บนความเชื่อที่ว่ากษัตริย์แคว้นฉิ๋นโหดเหี้ยมบ้าอำนาจคิดกวาดล้างทำลายแคว้นอื่น จะทำให้ผู้คนล้มตายบ้านแตกสาแหรกขาดอีกไม่น้อย บทกวีบทที่หกนี้สรุปใจความได้ประมาณว่า จิงเคอร่ำสุราสำราญใจอย่างไม่แคร์ผู้ใด อุปนิสัยใจกล้าองอาจ เป็นคนที่มีเอกลักษณ์ไม่อาจมองข้าม แม้ไม่ใช่คนจากสังคมชั้นสูงแต่กลับมีคุณค่ามากมายเพราะสละชีพเพื่อผองชน และในสายตาของจิงเคอแล้วนั้น พวกตระกูลขุนนางชั้นสูงไม่มีคุณค่าใด บทกวีนี้จึงไม่เพียงสรรเสริญจิงเคอหากยังเสียดสีถึงคนจากสังคมชั้นสูงในสมัยนั้นอีกด้วย“ผู้สูงศักดิ์แม้มองตนสูงค่า กลับต่ำต้อยเยี่ยงธุลีดิน คนต่ำต้อยแม้ด้อยค่าตนเอง ทว่าน้ำหนักดุจพันจวิน” วลีสี่วรรคนี้ที่เหยียนซิ่งกล่าวในเรื่อง <ทำนองรักกังวานแดนดิน> โดยในซีรีส์สมมุติไว้ว่านี่เป็นประโยคที่พานฉือแต่งขึ้น จึงเป็นการเท้าความถึงตอนที่พานฉือเดินทางเข้ากรุงใหม่ๆ ยังเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์และความเชื่อมั่นอันแรงกล้า และเป็นการปลอบใจให้พานฉืออย่าได้ท้อใจในอุปสรรคที่ได้พบเจอ เพราะคุณค่าของคนอยู่ที่ตนเอง ไม่ใช่จากพื้นเพชาติตระกูล(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.ifensi.com/index.php?m=home&c=View&a=index&aid=4545http://zhld.com/zkwb/html/2017-04/21/content_7602721.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:http://zhld.com/zkwb/html/2017-04/21/content_7602721.htm https://m.guoxuedashi.net/shici/81367k.html https://www.gushiwen.cn/mingju/juv_d4a0651f3a21.aspxhttps://baike.baidu.com/item/左思/582418 #ทำนองรักกังวานแดนดิน #วลีจีน #จั่วซือ #บทกวีจีนโบราณ #จิงเคอ #สาระจีน
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • 17 ธันวาคม 2567-รายงานข่าว share2trade.comระบุว่า TRUE แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ว่าศาลปกครองยกคำร้องคดีพิพาทกับ NT เรื่องการลดค่าบริการโทรทางไกล โครงการNT1234  ทำให้ TRUE จะต้องจ่ายชดเชยให้ NT ตามที่ศาลกำหนดให้ใหม่ราว 7,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปี อย่างไรก็ตาม TRUE ยังคงมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ภายใน 90 วัน ประกอบกับคำร้องของ NT อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดทั้งนี้นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่าเป็น sentiment เชิงลบในระยะสั้นต่อ TRUE จากความกังวลต่อภาระทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยปี 2568ประมาณการเดิม ทางฝ่ายคาดขาดทุนสุทธิ 6,331 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 13.49 บาท คำแนะนำ”ซื้อ” อย่างไรก็ตามหากบันทึกค่าใช้จ่ายชดเชยดังกล่าว คาดขาดทุนสุทธิ 9,831 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 12.47 บาท คงคำแนะนำ”ซื้อ”https://www.share2trade.com/news/38024
    17 ธันวาคม 2567-รายงานข่าว share2trade.comระบุว่า TRUE แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ว่าศาลปกครองยกคำร้องคดีพิพาทกับ NT เรื่องการลดค่าบริการโทรทางไกล โครงการNT1234  ทำให้ TRUE จะต้องจ่ายชดเชยให้ NT ตามที่ศาลกำหนดให้ใหม่ราว 7,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปี อย่างไรก็ตาม TRUE ยังคงมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ภายใน 90 วัน ประกอบกับคำร้องของ NT อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดทั้งนี้นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่าเป็น sentiment เชิงลบในระยะสั้นต่อ TRUE จากความกังวลต่อภาระทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยปี 2568ประมาณการเดิม ทางฝ่ายคาดขาดทุนสุทธิ 6,331 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 13.49 บาท คำแนะนำ”ซื้อ” อย่างไรก็ตามหากบันทึกค่าใช้จ่ายชดเชยดังกล่าว คาดขาดทุนสุทธิ 9,831 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 12.47 บาท คงคำแนะนำ”ซื้อ”https://www.share2trade.com/news/38024
    0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร. อนุมัติโอนสำนวนคดี "สจ.โต้ง" ให้กองปราบแล้ว เตรียมเสนอ ผบช.ก.ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121504

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร. อนุมัติโอนสำนวนคดี "สจ.โต้ง" ให้กองปราบแล้ว เตรียมเสนอ ผบช.ก.ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121504 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Haha
    15
    1 Comments 0 Shares 452 Views 0 Reviews
  • โกทรมีโอกาสรอด เพราะบทเรียนในอดีตเปิดช่องโหว่
    ถึงเวลาที่โกทร เจ้าพ่อปราจีนจะสิ้นอิสรภาพเข้าไปอยู่ในคู่กับมือปูน ติดตามทั้งหกเนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี กรณีคดีจ้างวานคิล ที่มีเจ้าพ่ออยู่เบื้องหลังคําสั่งคิล ย่อมผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี ที่สําคัญหลังเหยื่อตุยคดีความจะเป็นไปในทิศทางไหนก็ต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้วจึงเชื่อกันว่า เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล มีโอกาสที่โกธรจะหลุดจากคดีเนื่องจากมือปืนของโกธร 2 คนให้การสารภาพในลักษณะสมอ้างว่า
    ลงมือรัวคิลสอจอโต้งด้วยเรื่องส่วนตัวเหตุจากความบันดาลโทสะถูก สอจอโต้งตบหัวขณะที่มือปูนอีกสี่คนก็ให้การสอดรับไปในทางเดียวกัน โดยกันตัวโกธรไปจากฉากนองเลือ.ดอ้างว่าตอนเกิดเหตุโกธรเข้าไปนอนแล้วไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แม้ในทางสืบสวนรูปคดีส่อเค้าว่าการสังหาน สจโต้งคือการวางแผน รวมค่ายอย่างแยบยลถึงขั้นลงทุนใช้บ้านตัวเองเป็นสถานที่ลงมือ
    แต่การพิสูจน์ในศาลเป็นอีกเรื่องหนึ่งการนําเสนอให้ศาลเชื่อในน้ำหนักของพยานหลักฐานในเมื่อพยานทุกคนในที่เกิดเหตุให้การไปในทางเดียวกัน ในลักษณะเตี๊ยมกันมาแล้วเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรที่จะสาวไปถึงคนบงการโดยเฉพาะสองมือปูนของโกธรพร้อมจะรับการติดคุกเองด้วยการยอมรับผิดเอง ไม่ยอมเปิดปากซัดทอดใครทั้งสิ้น
    ในอดีตก็เคยมีคดีดังซึ่งมือปูนยอมติดคุกเอง ไม่ยอมพาดพิงถึงผู้จ้างวานเป็นผลให้กฎหมายทําอะไรคนสั่งการไม่ได้ต่อให้รู้ทั้งรู้ก็ตาม ย้อนไปเมื่อปี2533 เคยเกิดคดีดังสนั่นเมือง
    เมื่อนายบุญสิทธิ์อายุ 47 ปีเจ้าของกิจการบางกอกแฮมตราหมูตัวเดียว ถูกมือปูนชุดยีนส์รัวคิลด้วยปูนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่ม กระสุ.นเจาะเกราะ รถเปอโย ขณะเสี่ยบางกอกแฮมนั่งรถของทนายความประจําตัวออกจากบ้าน มือปูนสาดกระสูนจากกระจกหน้าต่างฝั่งซ้ายกระสูนเจาะร่างเสี่ยดัง
    ทั้งที่ปกติเสี่ยบุญสิทธิ์ระวังตัวมาตลอดเพราะรู้ว่าอริจ้องเอาชีวิต ถึงขั้นเตรียมกระเป๋าเจมส์บอนด์เสริมเหล็กไว้ป้องกันกระสูนปูนแต่วันนั้นไม่ทันยกกันเลยจบชีวิต
    หลังการลงมือตํารวจนครบาลรู้ในทันที สาเหตุเป็นเรื่องการคิลล้างแค้นอย่างแน่นอนเป็นผลต่อเนื่องมาจากคดียิ..งป๋าตงเจ็บ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทฟลาวเวอร์เอ็กซ์เพรสส่งออกดอกไม้ประดิษฐ์คู่แข่งอีกธุรกิจของเสี่ยบุญสิทธิ์ จึงทำให้นายบุญสิทธิ์ใช้ปูนเป็นเครื่องมือกําจัดคู่แข่ง ส่งมือปูนสองคนใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ปืนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่มเป็นอาวุธถล่มยิ.งป๋าตง ใจกลางกรุงกระสุนเจาะขมับป๋าตงแม้ไม่ถึงตุย
    แต่ก็พิการตาบอดสนิททั้งสองข้างต้องอยู่ในโลกมืดไปชั่วชีวิตต่อมาตํารวจจับมือปูนและคนบงการได้ซึ่งก็คือน้องชายของนายบุญสิทธิ์ ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์มวยชื่อดังรวมถึงตัวนายบุญสิทธิ์เองด้วย แต่มือปูนไม่ซัดทอดศาลก็เลยยกฟ้องในส่วนของคนจ้างวานจากปี 2530 มาถึงปี 2531 ดังนั้นเหตุการณ์ของโกทร ก็คงไม่แตกต่างกับเรื่องในอดีตอย่างแน่นอน
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ

    โกทรมีโอกาสรอด เพราะบทเรียนในอดีตเปิดช่องโหว่ ถึงเวลาที่โกทร เจ้าพ่อปราจีนจะสิ้นอิสรภาพเข้าไปอยู่ในคู่กับมือปูน ติดตามทั้งหกเนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี กรณีคดีจ้างวานคิล ที่มีเจ้าพ่ออยู่เบื้องหลังคําสั่งคิล ย่อมผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี ที่สําคัญหลังเหยื่อตุยคดีความจะเป็นไปในทิศทางไหนก็ต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้วจึงเชื่อกันว่า เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล มีโอกาสที่โกธรจะหลุดจากคดีเนื่องจากมือปืนของโกธร 2 คนให้การสารภาพในลักษณะสมอ้างว่า ลงมือรัวคิลสอจอโต้งด้วยเรื่องส่วนตัวเหตุจากความบันดาลโทสะถูก สอจอโต้งตบหัวขณะที่มือปูนอีกสี่คนก็ให้การสอดรับไปในทางเดียวกัน โดยกันตัวโกธรไปจากฉากนองเลือ.ดอ้างว่าตอนเกิดเหตุโกธรเข้าไปนอนแล้วไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แม้ในทางสืบสวนรูปคดีส่อเค้าว่าการสังหาน สจโต้งคือการวางแผน รวมค่ายอย่างแยบยลถึงขั้นลงทุนใช้บ้านตัวเองเป็นสถานที่ลงมือ แต่การพิสูจน์ในศาลเป็นอีกเรื่องหนึ่งการนําเสนอให้ศาลเชื่อในน้ำหนักของพยานหลักฐานในเมื่อพยานทุกคนในที่เกิดเหตุให้การไปในทางเดียวกัน ในลักษณะเตี๊ยมกันมาแล้วเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรที่จะสาวไปถึงคนบงการโดยเฉพาะสองมือปูนของโกธรพร้อมจะรับการติดคุกเองด้วยการยอมรับผิดเอง ไม่ยอมเปิดปากซัดทอดใครทั้งสิ้น ในอดีตก็เคยมีคดีดังซึ่งมือปูนยอมติดคุกเอง ไม่ยอมพาดพิงถึงผู้จ้างวานเป็นผลให้กฎหมายทําอะไรคนสั่งการไม่ได้ต่อให้รู้ทั้งรู้ก็ตาม ย้อนไปเมื่อปี2533 เคยเกิดคดีดังสนั่นเมือง เมื่อนายบุญสิทธิ์อายุ 47 ปีเจ้าของกิจการบางกอกแฮมตราหมูตัวเดียว ถูกมือปูนชุดยีนส์รัวคิลด้วยปูนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่ม กระสุ.นเจาะเกราะ รถเปอโย ขณะเสี่ยบางกอกแฮมนั่งรถของทนายความประจําตัวออกจากบ้าน มือปูนสาดกระสูนจากกระจกหน้าต่างฝั่งซ้ายกระสูนเจาะร่างเสี่ยดัง ทั้งที่ปกติเสี่ยบุญสิทธิ์ระวังตัวมาตลอดเพราะรู้ว่าอริจ้องเอาชีวิต ถึงขั้นเตรียมกระเป๋าเจมส์บอนด์เสริมเหล็กไว้ป้องกันกระสูนปูนแต่วันนั้นไม่ทันยกกันเลยจบชีวิต หลังการลงมือตํารวจนครบาลรู้ในทันที สาเหตุเป็นเรื่องการคิลล้างแค้นอย่างแน่นอนเป็นผลต่อเนื่องมาจากคดียิ..งป๋าตงเจ็บ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทฟลาวเวอร์เอ็กซ์เพรสส่งออกดอกไม้ประดิษฐ์คู่แข่งอีกธุรกิจของเสี่ยบุญสิทธิ์ จึงทำให้นายบุญสิทธิ์ใช้ปูนเป็นเครื่องมือกําจัดคู่แข่ง ส่งมือปูนสองคนใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ปืนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่มเป็นอาวุธถล่มยิ.งป๋าตง ใจกลางกรุงกระสุนเจาะขมับป๋าตงแม้ไม่ถึงตุย แต่ก็พิการตาบอดสนิททั้งสองข้างต้องอยู่ในโลกมืดไปชั่วชีวิตต่อมาตํารวจจับมือปูนและคนบงการได้ซึ่งก็คือน้องชายของนายบุญสิทธิ์ ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์มวยชื่อดังรวมถึงตัวนายบุญสิทธิ์เองด้วย แต่มือปูนไม่ซัดทอดศาลก็เลยยกฟ้องในส่วนของคนจ้างวานจากปี 2530 มาถึงปี 2531 ดังนั้นเหตุการณ์ของโกทร ก็คงไม่แตกต่างกับเรื่องในอดีตอย่างแน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Sad
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • คปท.-ศปปส.พร้อม "จตุพร พรหมพันธุ์" รวมตัวยื่นหนังสือ ป.ป.ช.เร่งคดีชั้น 14 "แก้วสรร" ชี้หากพบกระบวนการช่วยเหลือ​ ศาลฎีกานักการเมืองสั่งจับ​ "ทักษิณ" กลับขังคุกได้โดยไม่ต้องรอ ป.ป.ช.ชี้มูล​ "จตุพร" แนะใช้​ ม.157 ขู่ เรียกเวชระเบียน​ เลขาฯ​ ป.ป.ช.ขออย่ากังวล ทำหน้าที่ตามพยานหลักฐาน รับอาจไม่ถูกใจบางคน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121447

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    คปท.-ศปปส.พร้อม "จตุพร พรหมพันธุ์" รวมตัวยื่นหนังสือ ป.ป.ช.เร่งคดีชั้น 14 "แก้วสรร" ชี้หากพบกระบวนการช่วยเหลือ​ ศาลฎีกานักการเมืองสั่งจับ​ "ทักษิณ" กลับขังคุกได้โดยไม่ต้องรอ ป.ป.ช.ชี้มูล​ "จตุพร" แนะใช้​ ม.157 ขู่ เรียกเวชระเบียน​ เลขาฯ​ ป.ป.ช.ขออย่ากังวล ทำหน้าที่ตามพยานหลักฐาน รับอาจไม่ถูกใจบางคน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121447 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    11
    0 Comments 0 Shares 451 Views 0 Reviews
  • สส.ปชป. ลั่นเคยบอกแล้ว "ทักษิณ" คงไม่ผิด เป็นแค่ผู้ได้รับผล หลัง ป.ป.ช. รับพิจารณาปมชั้น 14 ชี้ ขรก.ร่วมขบวนการต้องไปสู้เอง ขอความเป็นธรรมกมธ.ตร. ทำเต็มที่ส่งข้อมูลหน่วยงานสอบต่อแล้ว เร็วช้าอยู่ที่พยานหลักฐาน หนุน ป.ป.ช.ทำคดี หากออกมาไม่ผิดปชช.จะได้ทราบต่อไปทำตามแบบได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121460

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สส.ปชป. ลั่นเคยบอกแล้ว "ทักษิณ" คงไม่ผิด เป็นแค่ผู้ได้รับผล หลัง ป.ป.ช. รับพิจารณาปมชั้น 14 ชี้ ขรก.ร่วมขบวนการต้องไปสู้เอง ขอความเป็นธรรมกมธ.ตร. ทำเต็มที่ส่งข้อมูลหน่วยงานสอบต่อแล้ว เร็วช้าอยู่ที่พยานหลักฐาน หนุน ป.ป.ช.ทำคดี หากออกมาไม่ผิดปชช.จะได้ทราบต่อไปทำตามแบบได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121460 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 449 Views 0 Reviews
  • เร่งแก้คำฟ้องคดีแตงโม หลังพบหลักฐานใหม่ 18/12/67 #อัจฉริยะ #คดีแตงโม #หลักฐานใหม่
    เร่งแก้คำฟ้องคดีแตงโม หลังพบหลักฐานใหม่ 18/12/67 #อัจฉริยะ #คดีแตงโม #หลักฐานใหม่
    Like
    8
    0 Comments 0 Shares 461 Views 28 0 Reviews
  • สื่ออังกฤษป้ายสีนักธุรกิจจีนว่าเป็นสายลับ บิดคำพิพากษาของศาล กรณีของเจ้าชายแอนดรูว์และ “สายลับจีน” โดยบทวิเคราะห์ของArnaud Bertrand เขียนในXระบุว่า การดำเนินการของสื่อของอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าหวาดระแวงเกี่ยวกับ “ภัยสีเหลือง” ที่สุดที่เคยพบเห็นเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว จะพบว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง ในทางปฏิบัติแล้ว หมายความว่าชาวจีนทุกคน - ไม่จำเป็นต้องเป็นคนจีนด้วยซ้ำ อาจเป็นใครก็ได้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน - จะถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร หากพวกเขามีความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักรก่อนอื่น มาดูกันว่าสื่อมีแนวคิดเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไร พาดหัวข่าวระบุว่า “สายลับจีนเชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์ ส.ส. เตือนว่าเขาไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย” (The Independent: independent.co.uk/news/uk/politi… ) “เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสายลับกับเจ้าชายแอนดรูว์อาจทำให้มีการเปิดโปงภัยคุกคามจากจีนมากขึ้น”(The Guardian: theguardian.com/world/2024/dec… ) "'สายลับ' ชาวจีนที่เชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์เป็นเพียง 'ส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็ง' เท่านั้น" (Politico: politico.eu/article/china-… )สื่อหลักทุกสำนักข่าวของอังกฤษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่อง "สายลับจีน" ต่างพากันวาดภาพอันชั่วร้ายของการแทรกซึมเข้าสู่ระดับสูงสุดของสังคมอังกฤษ โดยถือเป็น "หลักฐาน" ของ "ภัยคุกคามอันเลวร้ายจากจีน"ทั้งหมดนี้ไม่เป็นความความจริและเหลือเชื่อ เมื่อคุณพิจารณาความเป็นจริงของคดี (อ่านคำพิพากษาของศาลได้ที่นี่: judiciary.uk/judgments/h6-v… ) ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ไม่มีหลักฐานใดๆ ของการจารกรรม ไม่มีหลักฐานของการกระทำผิดใดๆ เลย จริงๆ แล้วไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เลยเกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกิดขึ้น ไม่มีเลย ไม่มีเลย ไม่มีเลยแต่ในความเป็นจริงแล้วคดีของรัฐบาลประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้:- นายหยางมีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกงานแนวร่วมและพรรคคอมมิวนิสต์) ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่า "อาจใช้ได้กับนักธุรกิจชาวจีนทุกคน"- เขาถูกกล่าวหาว่าไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้และป้ายสีว่าเขาโกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ - ทั้ๆที่เขายอมรับว่าความเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" สำหรับนักธุรกิจจีน (ซึ่งเป็นเพียงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจในจีน)แม้ว่าศาลจะยอมรับในคำพิพากษาว่า "ไม่มีหลักฐานมากมาย" ที่สนับสนุนความเชื่อมโยงเหล่านี้ในตอนแรก- เขาสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญของอังกฤษ (โดยเฉพาะเจ้าชายแอนดรูว์) ผ่านทางโครงการธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Pitch@Palace ซึ่งรัฐบาลอังกฤษโต้แย้งว่า "สามารถนำมาใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคตได้ แม้ว่าศาลจะเขียนว่า "อาจเป็นเพียงแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจปกติ" ก็ตามนั่นแหละ นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน: judiciary.uk/judgments/h6-v… นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆไม่มีหลักฐานหรือข้อกล่าวหา (!), เกี่ยวกับการจารกรรมในคดีที่สื่อทั้งหมดนำเสนอว่าเป็น "สายลับจีน" ความผิดของนายหยางคือการเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่มีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์กับชนชั้นนำอังกฤษผ่านการร่วมทุนทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพียงแค่ความจริงที่ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถ "ใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคต  แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาตั้งใจจะทำเช่นนั้นหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสมก็ตามและนี่คือจุดที่ทุกอย่างกลายเป็นโลกดิสโทเปียอย่างแท้จริง นายหยางถูกห้ามเข้าสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ได้อ้างกฎหมายหรือหลักฐานการกระทำผิดใดๆ แต่อยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์โบราณที่เรียกว่า "พระราชอำนาจพิเศษ" รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรผิด พวกเขาเพียงแค่ต้องโต้แย้งว่าเป็นเรื่อง "สมเหตุสมผล" ที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจของเขาสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างอิทธิพลในสักวันหนึ่งลองคิดดูว่าสิ่งนี้มีความหมายอย่างไรในทางปฏิบัติ นักธุรกิจชาวจีนที่:- พัฒนาความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักร (ซึ่งมักจำเป็นต่อการทำธุรกิจ)- มีความสัมพันธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับสถาบันของจีน (ซึ่งมักจะเป็นเช่นนี้เกือบเสมอ)- ถือเป็นการไม่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้อาจถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ต้องก่ออาชญากรรมหรือกระทำผิดใดๆ รัฐบาลเพียงแค่ต้องโบกไม้กายสิทธิ์แห่ง "ความมั่นคงแห่งชาติ" และเสนอแนะความเสี่ยงในอนาคตตามทฤษฎีสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือสื่อตะวันตกล้มเหลวในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไมคนๆ หนึ่งจึงถูกตราหน้าว่าเป็น "สายลับ" และถูกห้ามเข้าประเทศเพียงเพราะไม่มีหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการจารกรรม พวกเขากลับขยายความหวาดระแวงด้วยพาดหัวข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกและอ้างคำพูดของสมาชิกรัฐสภาที่เตือนว่านี่เป็นเพียง "ส่วนเล็กๆ ของเรื่องใหญ่" และเขา "ไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย"โดยพื้นฐานแล้ว เรากำลังเฝ้าดูการสร้างกรอบกฎหมายสำหรับการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองจีน (และอาจรวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีนด้วย) โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำ แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่รัฐบาลคิดว่าพวกเขาอาจทำในอนาคตโดยอาศัยพื้นฐานง่ายๆ ว่าพวกเขาเป็นชาวจีน ในขณะที่สื่อมวลชนก็เชียร์การกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายและศีลธรรมพื้นฐานนี้ด้วยวาทกรรม "สายลับ" ที่ยั่วยุและไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของคาฟคาทั้งสิ้นลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากจีนเริ่มสั่งห้ามนักธุรกิจชาวอังกฤษเข้าประเทศอย่างถาวร เนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์กับสถาบันของอังกฤษ และพัฒนาความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่จีนที่ "สามารถใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลได้ ซึ่งหมายถึงนักธุรกิจชาวอังกฤษเกือบทั้งหมดในจีนที่มีอาวุโสในระดับหนึ่ง ดังนั้น เราจะต้องเผชิญหน้ากับการเนรเทศชุมชนธุรกิจชาวอังกฤษออกจากจีนเกือบทั้งหมด...แม้แต่จากมุมมองของผลประโยชน์ของชาติอังกฤษแล้ว ก็ไม่สมเหตุสมผลเลย พวกเขาควรต้องการให้นักธุรกิจชาวจีนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาทำธุรกิจที่นั่น เพราะความสัมพันธ์เหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจ หากพวกเขากังวลว่าความสัมพันธ์เหล่านี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อมีอิทธิพลที่ไม่เหมาะสม การตอบสนองของพวกเขาควรเสริมสร้างมาตรการต่อต้านการทุจริตในประเทศ ไม่ใช่ห้ามนักธุรกิจชาวจีนสร้างความสัมพันธ์ที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ แนวทางนี้ไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่กลับสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาโดยสร้างผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศคดีของหยาง เติงโป ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่น่าเศร้าอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชาติตะวันตกต้องคลี่คลายสิ่งที่ชาติตะวันตกอ้างว่าเป็น "ค่านิยมพื้นฐาน" ของตน เมื่อเราเริ่มลงโทษผู้คนไม่ใช่เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ แต่เพราะสิ่งที่พวกเขาอาจทำในทางทฤษฎีเพราะสัญชาติของพวกเขา เรากำลังก้าวข้ามเส้นที่ควรทำให้ผู้ที่เชื่อในหลักนิติธรรมและความยุติธรรมขั้นพื้นฐานวิตกกังวล สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ทำให้เรามีความยุติธรรมน้อยลงเท่านั้น หากสิ่งนี้ไม่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้เกิดขึ้นได้
    สื่ออังกฤษป้ายสีนักธุรกิจจีนว่าเป็นสายลับ บิดคำพิพากษาของศาล กรณีของเจ้าชายแอนดรูว์และ “สายลับจีน” โดยบทวิเคราะห์ของArnaud Bertrand เขียนในXระบุว่า การดำเนินการของสื่อของอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าหวาดระแวงเกี่ยวกับ “ภัยสีเหลือง” ที่สุดที่เคยพบเห็นเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว จะพบว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง ในทางปฏิบัติแล้ว หมายความว่าชาวจีนทุกคน - ไม่จำเป็นต้องเป็นคนจีนด้วยซ้ำ อาจเป็นใครก็ได้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน - จะถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร หากพวกเขามีความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักรก่อนอื่น มาดูกันว่าสื่อมีแนวคิดเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไร พาดหัวข่าวระบุว่า “สายลับจีนเชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์ ส.ส. เตือนว่าเขาไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย” (The Independent: independent.co.uk/news/uk/politi… ) “เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสายลับกับเจ้าชายแอนดรูว์อาจทำให้มีการเปิดโปงภัยคุกคามจากจีนมากขึ้น”(The Guardian: theguardian.com/world/2024/dec… ) "'สายลับ' ชาวจีนที่เชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์เป็นเพียง 'ส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็ง' เท่านั้น" (Politico: politico.eu/article/china-… )สื่อหลักทุกสำนักข่าวของอังกฤษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่อง "สายลับจีน" ต่างพากันวาดภาพอันชั่วร้ายของการแทรกซึมเข้าสู่ระดับสูงสุดของสังคมอังกฤษ โดยถือเป็น "หลักฐาน" ของ "ภัยคุกคามอันเลวร้ายจากจีน"ทั้งหมดนี้ไม่เป็นความความจริและเหลือเชื่อ เมื่อคุณพิจารณาความเป็นจริงของคดี (อ่านคำพิพากษาของศาลได้ที่นี่: judiciary.uk/judgments/h6-v… ) ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ไม่มีหลักฐานใดๆ ของการจารกรรม ไม่มีหลักฐานของการกระทำผิดใดๆ เลย จริงๆ แล้วไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เลยเกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกิดขึ้น ไม่มีเลย ไม่มีเลย ไม่มีเลยแต่ในความเป็นจริงแล้วคดีของรัฐบาลประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้:- นายหยางมีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกงานแนวร่วมและพรรคคอมมิวนิสต์) ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่า "อาจใช้ได้กับนักธุรกิจชาวจีนทุกคน"- เขาถูกกล่าวหาว่าไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้และป้ายสีว่าเขาโกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ - ทั้ๆที่เขายอมรับว่าความเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" สำหรับนักธุรกิจจีน (ซึ่งเป็นเพียงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจในจีน)แม้ว่าศาลจะยอมรับในคำพิพากษาว่า "ไม่มีหลักฐานมากมาย" ที่สนับสนุนความเชื่อมโยงเหล่านี้ในตอนแรก- เขาสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญของอังกฤษ (โดยเฉพาะเจ้าชายแอนดรูว์) ผ่านทางโครงการธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Pitch@Palace ซึ่งรัฐบาลอังกฤษโต้แย้งว่า "สามารถนำมาใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคตได้ แม้ว่าศาลจะเขียนว่า "อาจเป็นเพียงแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจปกติ" ก็ตามนั่นแหละ นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน: judiciary.uk/judgments/h6-v… นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆไม่มีหลักฐานหรือข้อกล่าวหา (!), เกี่ยวกับการจารกรรมในคดีที่สื่อทั้งหมดนำเสนอว่าเป็น "สายลับจีน" ความผิดของนายหยางคือการเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่มีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์กับชนชั้นนำอังกฤษผ่านการร่วมทุนทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพียงแค่ความจริงที่ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถ "ใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคต  แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาตั้งใจจะทำเช่นนั้นหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสมก็ตามและนี่คือจุดที่ทุกอย่างกลายเป็นโลกดิสโทเปียอย่างแท้จริง นายหยางถูกห้ามเข้าสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ได้อ้างกฎหมายหรือหลักฐานการกระทำผิดใดๆ แต่อยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์โบราณที่เรียกว่า "พระราชอำนาจพิเศษ" รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรผิด พวกเขาเพียงแค่ต้องโต้แย้งว่าเป็นเรื่อง "สมเหตุสมผล" ที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจของเขาสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างอิทธิพลในสักวันหนึ่งลองคิดดูว่าสิ่งนี้มีความหมายอย่างไรในทางปฏิบัติ นักธุรกิจชาวจีนที่:- พัฒนาความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักร (ซึ่งมักจำเป็นต่อการทำธุรกิจ)- มีความสัมพันธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับสถาบันของจีน (ซึ่งมักจะเป็นเช่นนี้เกือบเสมอ)- ถือเป็นการไม่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้อาจถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ต้องก่ออาชญากรรมหรือกระทำผิดใดๆ รัฐบาลเพียงแค่ต้องโบกไม้กายสิทธิ์แห่ง "ความมั่นคงแห่งชาติ" และเสนอแนะความเสี่ยงในอนาคตตามทฤษฎีสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือสื่อตะวันตกล้มเหลวในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไมคนๆ หนึ่งจึงถูกตราหน้าว่าเป็น "สายลับ" และถูกห้ามเข้าประเทศเพียงเพราะไม่มีหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการจารกรรม พวกเขากลับขยายความหวาดระแวงด้วยพาดหัวข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกและอ้างคำพูดของสมาชิกรัฐสภาที่เตือนว่านี่เป็นเพียง "ส่วนเล็กๆ ของเรื่องใหญ่" และเขา "ไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย"โดยพื้นฐานแล้ว เรากำลังเฝ้าดูการสร้างกรอบกฎหมายสำหรับการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองจีน (และอาจรวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีนด้วย) โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำ แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่รัฐบาลคิดว่าพวกเขาอาจทำในอนาคตโดยอาศัยพื้นฐานง่ายๆ ว่าพวกเขาเป็นชาวจีน ในขณะที่สื่อมวลชนก็เชียร์การกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายและศีลธรรมพื้นฐานนี้ด้วยวาทกรรม "สายลับ" ที่ยั่วยุและไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของคาฟคาทั้งสิ้นลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากจีนเริ่มสั่งห้ามนักธุรกิจชาวอังกฤษเข้าประเทศอย่างถาวร เนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์กับสถาบันของอังกฤษ และพัฒนาความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่จีนที่ "สามารถใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลได้ ซึ่งหมายถึงนักธุรกิจชาวอังกฤษเกือบทั้งหมดในจีนที่มีอาวุโสในระดับหนึ่ง ดังนั้น เราจะต้องเผชิญหน้ากับการเนรเทศชุมชนธุรกิจชาวอังกฤษออกจากจีนเกือบทั้งหมด...แม้แต่จากมุมมองของผลประโยชน์ของชาติอังกฤษแล้ว ก็ไม่สมเหตุสมผลเลย พวกเขาควรต้องการให้นักธุรกิจชาวจีนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาทำธุรกิจที่นั่น เพราะความสัมพันธ์เหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจ หากพวกเขากังวลว่าความสัมพันธ์เหล่านี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อมีอิทธิพลที่ไม่เหมาะสม การตอบสนองของพวกเขาควรเสริมสร้างมาตรการต่อต้านการทุจริตในประเทศ ไม่ใช่ห้ามนักธุรกิจชาวจีนสร้างความสัมพันธ์ที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ แนวทางนี้ไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่กลับสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาโดยสร้างผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศคดีของหยาง เติงโป ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่น่าเศร้าอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชาติตะวันตกต้องคลี่คลายสิ่งที่ชาติตะวันตกอ้างว่าเป็น "ค่านิยมพื้นฐาน" ของตน เมื่อเราเริ่มลงโทษผู้คนไม่ใช่เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ แต่เพราะสิ่งที่พวกเขาอาจทำในทางทฤษฎีเพราะสัญชาติของพวกเขา เรากำลังก้าวข้ามเส้นที่ควรทำให้ผู้ที่เชื่อในหลักนิติธรรมและความยุติธรรมขั้นพื้นฐานวิตกกังวล สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ทำให้เรามีความยุติธรรมน้อยลงเท่านั้น หากสิ่งนี้ไม่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้เกิดขึ้นได้
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • วันที่ 18 ธ.ค. 67 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สนามบินน้ำ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตแกนนำเสื้อเหลือง และอดีตแกนนำเสื้อแดงประกอบด้วย นายแก้วสรร อติโพธิ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายคมสัน โพธิ์คง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายประพันธ์ คูณมี นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ นายปรีดา เตียสุวรรณ์ นายแซมดิน เลิศบุศย์ นายเสน่ห์ หงษ์ทอง น.ส.นีรนุช จิตต์สม นายมานพ เกื้อรัตน์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา นายอานนท์ กลิ่นแก้ว นายใจเพชร กล้าจน นายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ คอนเทนต์แนะนำพร้อมมวลชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาทำกิจกรรม พร้อมอ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือให้กำลังใจป.ป.ช. ภายหลังมีมติสั่งสอบ 12 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ปมนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้เร่งรัดพิจารณาเรื่องนี้ และดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว​ โดยมีนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยนายพิชิต​ ได้อ่านแถลงการณ์ ดังนี้​ ข้อ​ 1 คดีส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำพบว่ามีพยานเป็นบุคคลชัดเจน ได้เข้าไปเยี่ยมและพบว่าไม่มีอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุม หรือประจำอยู่ห้องพิเศษดังกล่าว และยังไม่ปรากฏ หลักฐานการตรวจ หรือหลักฐานความเห็นของแพทย์ที่อนุญาต ให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งพิธีการทั้งหมดขัดต่อขั้นตอนกฎกระทรวง ทั้งสิ้น และไม่ว่าป.ป.ช.จะขอความร่วมมือไปเท่าไรก็ไม่ได้รับ จึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าขทุจริตช่วยเหลือกัน โดยมิชอบ ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.จึงต้องเร่งไต่สวน ข้อ​ 2 คดีให้อยู่บ้านพักโทษ โดยมติการให้พักโทษ โดยอ้างว่า​ นักโทษมีสภาพร่างกายที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการนั่งเดินขึ้นบันไดอาบน้ำแต่งตัวรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องพักโทษให้ แต่ปรากฏว่าหลังการพักโทษ นักโทษกับแข็งแรงขึ้นมาโดยพลัน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นปราศรัย ร่วมงานเลี้ยง ใช้ชีวิตปกติได้ทุกอย่างจึงไม่อาจเชื่อได้ว่า การพักโทษ มาจากการประเมินสภาพร่างกายโดยสุจริตและถูกต้อง​ ดังนั้นจึงอยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคดีในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.ด้วย ข้อ 3 เรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย โดยกฎหมายไทยพยายาม ปราบปรามคดีทุจริตคอรัปชั่นเป็นพิเศษ แต่ปรากฏว่า หลังดำเนินคดีไปแล้วไม่มีกรอบ เกณฑ์​การตรวจสอบที่เคร่ง ปล่อยให้กระบวนการทุจริตตัดทอน โทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา กำเริบเสิบสาน เป็นผลให้ความยุติธรรมเสื่อมสลาย จนประชาชนสิ้นศรัทธา ข้อ 4 เข้าข่ายเป็นกระบวนการทุจริตระดับชาติ ใช้เงินสร้างอำนาจ แล้วใช้อำนาจมา​ สร้างเงิน​ สร้างพวก​ สร้างสื่อ สร้างผลงานทุจริตไว้ 2 ทศวรรษ​ จนเสียหายไปกว่าแสนล้าน และ หัวหน้ากระบวนการก็ยังยอมรับคำขออภัยโทษ ว่าได้ทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่มาบัดนี้แทนที่จะยอมรับโทษ กับหลีกเลี่ยงแสงตน เข้าครอบงำพรรค​ ผลักดันนโยบายทุจริต สร้างประชานิยมไม่หยุดยั้งและล่าสุด ยังประกาศจะพาน้องสาวที่เป็นจำเลยหนีคดีทุจริตรับจำนำข้าวกลับมาด้วย ถือเป็นพฤติการณ์ทุจริตฉ้อฉลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมหยุดบทบาทการเมือง และพาประเทศไปในทางต่ำ พร้อมกับย้ำว่านี่คือหายนะ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน และอนาคตที่มืดมิดเช่นนี้ จึงฝากปปช ตระหนักและทุ่มเท รับผิดชอบ กู้อนาคตบ้านเมืองอย่างเต็มสติกำลัง​ขณะเดียวกัน​ ยังจะมีการยื่นให้สอบบุคคลเพิ่มเติม​ ทั้ง​พันตำรวจเอกทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม และ​ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม​ เพราะมองว่าอยู่ในกระบวนการที่ช่วยนายทักษิณ​ จากนั้นนายแก้วสรร กล่าวว่า ตนก็รู้สึกดีใจที่ ป.ป.ช.มีมติสั่งสอบ 12 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจดังกล่าว เพราะไม่เช่นนั้นก็จะหาว่าพวกเรามาบีบบังคับแล้วท่านก็คล้อยตามพวกเรา โดยไม่มีเหตุผล ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้น ในฐานะนักกฎหมาย และเคยตรวจสอบยึดทรัพย์นายทักษิณมาแล้ว ก็อยากจะบอกว่างานนี้ทั้งหลักฐานและข้อกฎหมายมันชัดเจนเห็นตรงกันว่ามีมูล และ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่มาแล้ว ในฐานะที่ตนเคยตรวจสอบมาพออ่านเกมออก งานนี้ถ้าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจมีหลักฐานว่าป่วยจริงก็แค่เอามาให้ ป.ป.ช. ซึ่งก็จะไม่มามาถึงวันนี้แน่นอน แต่การที่กลบหลักฐาน ไม่ยอมให้หลักฐานอะไรเลย รวมถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เสรีพิศุทธ์ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกว่าเห็นนายทักษิณนั่งยิ้มกินข้าวเหนียวมะม่วง แถมออกจากโรงพยาบาลมาแล้วก็ใส่ปลอกคอแค่พักเดียว ก็เดินไปทั่วประเทศ เพียงเท่านี้ก็มีมูลชัดเจนแล้วว่าคุณไม่ยอมให้ความร่วมมือ นายแก้วสรร กล่าวว่า ดังนั้นวันนี้ตนมั่นใจใน ป.ป.ช. ว่ากฎหมายกำลังเดินไปตามทางที่ถูกที่ควร งานนี้ไม่ใช่งานการเมือง แต่เป็นกระบวนการยุติธรรมที่สร้างขึ้นมา วันนี้ ป.ป.ช.กำลังเจอกับกระบวนการทุจริตแห่งชาติ เพราะฉะนั้นกำลังใจจึงสำคัญ ตนและประชาชนขอให้ท่านเดินหน้าเต็มที่ ใครไม่ผิดก็ปล่อยเขาไป แต่ใครที่เป็นตัวการจริงๆ และให้ความเห็นว่าหากนายทักษิณอยู่เรือนจำต้องต้องตายแน่ ถามว่ามีหรือไม่ และหมอคนนั้นคือใคร ขอให้นำหลักฐานมา เพราะฉะนั้นนับแต่นี้ต่อไปเมื่อไต่สวนคดี สิ่งที่เราจะเห็นคืออำนาจเด็ดขาด หากไม่ให้เอกสาร ไม่ให้ปากคำจะต้องติดคุก แค่ถามว่าป่วยจริงไหม ใครเกี่ยวข้อง ใครให้ความเห็นเท่านั้น เรื่องจะไม่ช้าแน่นอน เมื่อตรวจสอบเพียงพอแล้วต้องสรุปข้อกล่าวหาส่งให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจง ใครเห็นว่าไม่ทุจริตก็ปล่อยเขาไป ไม่ต้องตั้งข้อกล่าวหา แต่ใครที่นั่งเงียบๆ แล้วหลักฐานไปถึง ขอให้เรียกเข้ามาตั้งข้อหาเพิ่ม จากนั้นแจ้งข้อหาให้มีการต่อสู้ เชื่อว่างานนี้จะไม่นาน นายแก้วสรร กล่าวว่า ส่วนที่หลายคนถามว่าจะเกิดอะไรกับนายทักษิณ ในทางกฎหมาย ถ้าหมายศาลให้ขังแล้วไม่มีการขังตามหมาย ก็ต้องออกหมายใหม่ เพื่อให้กลับไปเข้าคุก เป็นอำนาจ ของศาลคดีอาญาทางการเมือง ศาลสั่งกลับเข้าคุกได้ ถ้าหลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอผลคดีนี้ ที่เป็นคดีของเจ้าหน้าที่ว่าปล่อยตัวให้ไปรักษาถูกต้องหรือไม่ และมีใครทุจริตหรือไม่ ส่วนการขังที่ไม่เกิดขึ้นนั้นไม่ว่าจะมีคนทุจริตกี่คนหรือทุจริตหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยว ดังนั้นนายทักษิณเตรียมตัวได้ ด้านนายจตุพร กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบ เพราะนายทักษิณไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว เราต้องการเห็นน้ำยาของ ป.ป.ช. ส่วนเรื่องเวชระเบียน หากโรงพยาบาลตำรวจไม่ให้ ป.ป.ช.ต้องดำเนินคดีตั้งแต่ ผบ.ตร. โรงพยาบาลตำรวจ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้การทำการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. ทำให้แผ่นดินนี้สูงขึ้นเยอะ ณ วันนี้เรามาด้วยความหวัง และให้กำลังใจ ป.ป.ช.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เจ้าหน้าที่ในจำนวน 12 คนนี้ ถ้าใครไม่ผิดก็คือไม่ผิด แต่ถ้าใครผิดก็ว่าตามผิด วันนี้ไม่ได้ต้องการมาทำให้ดำเป็นขาว หรือขาวเป็นดำ แต่ต้องการมาทำให้ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด ดีเป็นดี ชั่วเป็นชั่ว ไม่เช่นนั้นเราจะมีความหวังได้อย่างไร เพราะฉะนั้นตนฝากไปถึงเลขา ป.ป.ช.ตนวาดหวังว่า ป.ป.ช.จะทำหน้าที่ แต่ก็ยังไม่ไว้ใจการไต่สวน จนกว่าจะมีการพิสูจน์ให้สิ้นสงสัยแล้วว่าได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ส่วน นพ.วรงค์ กล่าวว่า การพักโทษกรณีพิเศษในช่วง 6 เดือนหลัง ถือว่านักโทษอายุเกิน 70 ปีต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย และนักโทษคนนี้ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสังคม หรือโอกาสที่จะทำผิดซ้ำนั้นมีน้อยมาก ถามว่าแล้ววันนี้เป็นอย่างไร ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อสังคม สังคมจะกลียุคและฆ่ากันตาย ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องรีบดำเนินการ และยืนยันว่าการพักโทษกรณีนี้ไม่ได้ไปใช้บั้นปลายชีวิตกับครอบครัว ทั้งนี้ ป.ป.ช.ต้องทำหน้าที่อิสระอย่างแท้จริง ต้องตรวจสอบและถ่วงดุล เพราะสภาฯทำหน้าที่ไม่ได้ จึงต้องมาอาศัย ป.ป.ช. เพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชน เพื่อให้ประเทศอยู่ได้และประชาธิปไตยอยู่รอด ถ้า ป.ป.ช.ไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน ประเทศก็จะอยู่ไม่ได้ และ ป.ป.ช.ก็จะไม่มีอีกต่อไป ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ขอขอบคุณที่มาให้กำลังใจในวันนี้ ซึ่งตอนนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งองค์คณะได้ตั้งไต่สวนบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ในการดำเนินการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็มีมติค่อนข้างชัดเจนว่า หากไต่สวนพบบุคคลอื่นที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ก็ให้ดำเนินการไต่สวนต่อไปด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามความคาดหวังของประชาชน และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ ขอยืนยันว่าในส่วนของ ป.ป.ช. เราทำหน้าที่ไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐานตามพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงเป็นหลัก ดังนั้นในบางเรื่องอาจจะไม่ตรงตามใจที่ประชาชนรับทราบข้อมูลจากสื่อโซเชียลต่างๆ เพราะการพิจารณาต้องดูพยานหลักฐานเป็นหลัก และพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและเป็นเสาหลักในกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองต่อไป
    วันที่ 18 ธ.ค. 67 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สนามบินน้ำ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตแกนนำเสื้อเหลือง และอดีตแกนนำเสื้อแดงประกอบด้วย นายแก้วสรร อติโพธิ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายคมสัน โพธิ์คง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายประพันธ์ คูณมี นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ นายปรีดา เตียสุวรรณ์ นายแซมดิน เลิศบุศย์ นายเสน่ห์ หงษ์ทอง น.ส.นีรนุช จิตต์สม นายมานพ เกื้อรัตน์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา นายอานนท์ กลิ่นแก้ว นายใจเพชร กล้าจน นายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ คอนเทนต์แนะนำพร้อมมวลชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาทำกิจกรรม พร้อมอ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือให้กำลังใจป.ป.ช. ภายหลังมีมติสั่งสอบ 12 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ปมนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้เร่งรัดพิจารณาเรื่องนี้ และดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว​ โดยมีนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยนายพิชิต​ ได้อ่านแถลงการณ์ ดังนี้​ ข้อ​ 1 คดีส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำพบว่ามีพยานเป็นบุคคลชัดเจน ได้เข้าไปเยี่ยมและพบว่าไม่มีอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุม หรือประจำอยู่ห้องพิเศษดังกล่าว และยังไม่ปรากฏ หลักฐานการตรวจ หรือหลักฐานความเห็นของแพทย์ที่อนุญาต ให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งพิธีการทั้งหมดขัดต่อขั้นตอนกฎกระทรวง ทั้งสิ้น และไม่ว่าป.ป.ช.จะขอความร่วมมือไปเท่าไรก็ไม่ได้รับ จึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าขทุจริตช่วยเหลือกัน โดยมิชอบ ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.จึงต้องเร่งไต่สวน ข้อ​ 2 คดีให้อยู่บ้านพักโทษ โดยมติการให้พักโทษ โดยอ้างว่า​ นักโทษมีสภาพร่างกายที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการนั่งเดินขึ้นบันไดอาบน้ำแต่งตัวรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องพักโทษให้ แต่ปรากฏว่าหลังการพักโทษ นักโทษกับแข็งแรงขึ้นมาโดยพลัน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นปราศรัย ร่วมงานเลี้ยง ใช้ชีวิตปกติได้ทุกอย่างจึงไม่อาจเชื่อได้ว่า การพักโทษ มาจากการประเมินสภาพร่างกายโดยสุจริตและถูกต้อง​ ดังนั้นจึงอยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคดีในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.ด้วย ข้อ 3 เรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย โดยกฎหมายไทยพยายาม ปราบปรามคดีทุจริตคอรัปชั่นเป็นพิเศษ แต่ปรากฏว่า หลังดำเนินคดีไปแล้วไม่มีกรอบ เกณฑ์​การตรวจสอบที่เคร่ง ปล่อยให้กระบวนการทุจริตตัดทอน โทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา กำเริบเสิบสาน เป็นผลให้ความยุติธรรมเสื่อมสลาย จนประชาชนสิ้นศรัทธา ข้อ 4 เข้าข่ายเป็นกระบวนการทุจริตระดับชาติ ใช้เงินสร้างอำนาจ แล้วใช้อำนาจมา​ สร้างเงิน​ สร้างพวก​ สร้างสื่อ สร้างผลงานทุจริตไว้ 2 ทศวรรษ​ จนเสียหายไปกว่าแสนล้าน และ หัวหน้ากระบวนการก็ยังยอมรับคำขออภัยโทษ ว่าได้ทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่มาบัดนี้แทนที่จะยอมรับโทษ กับหลีกเลี่ยงแสงตน เข้าครอบงำพรรค​ ผลักดันนโยบายทุจริต สร้างประชานิยมไม่หยุดยั้งและล่าสุด ยังประกาศจะพาน้องสาวที่เป็นจำเลยหนีคดีทุจริตรับจำนำข้าวกลับมาด้วย ถือเป็นพฤติการณ์ทุจริตฉ้อฉลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมหยุดบทบาทการเมือง และพาประเทศไปในทางต่ำ พร้อมกับย้ำว่านี่คือหายนะ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน และอนาคตที่มืดมิดเช่นนี้ จึงฝากปปช ตระหนักและทุ่มเท รับผิดชอบ กู้อนาคตบ้านเมืองอย่างเต็มสติกำลัง​ขณะเดียวกัน​ ยังจะมีการยื่นให้สอบบุคคลเพิ่มเติม​ ทั้ง​พันตำรวจเอกทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม และ​ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม​ เพราะมองว่าอยู่ในกระบวนการที่ช่วยนายทักษิณ​ จากนั้นนายแก้วสรร กล่าวว่า ตนก็รู้สึกดีใจที่ ป.ป.ช.มีมติสั่งสอบ 12 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจดังกล่าว เพราะไม่เช่นนั้นก็จะหาว่าพวกเรามาบีบบังคับแล้วท่านก็คล้อยตามพวกเรา โดยไม่มีเหตุผล ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้น ในฐานะนักกฎหมาย และเคยตรวจสอบยึดทรัพย์นายทักษิณมาแล้ว ก็อยากจะบอกว่างานนี้ทั้งหลักฐานและข้อกฎหมายมันชัดเจนเห็นตรงกันว่ามีมูล และ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่มาแล้ว ในฐานะที่ตนเคยตรวจสอบมาพออ่านเกมออก งานนี้ถ้าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจมีหลักฐานว่าป่วยจริงก็แค่เอามาให้ ป.ป.ช. ซึ่งก็จะไม่มามาถึงวันนี้แน่นอน แต่การที่กลบหลักฐาน ไม่ยอมให้หลักฐานอะไรเลย รวมถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เสรีพิศุทธ์ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกว่าเห็นนายทักษิณนั่งยิ้มกินข้าวเหนียวมะม่วง แถมออกจากโรงพยาบาลมาแล้วก็ใส่ปลอกคอแค่พักเดียว ก็เดินไปทั่วประเทศ เพียงเท่านี้ก็มีมูลชัดเจนแล้วว่าคุณไม่ยอมให้ความร่วมมือ นายแก้วสรร กล่าวว่า ดังนั้นวันนี้ตนมั่นใจใน ป.ป.ช. ว่ากฎหมายกำลังเดินไปตามทางที่ถูกที่ควร งานนี้ไม่ใช่งานการเมือง แต่เป็นกระบวนการยุติธรรมที่สร้างขึ้นมา วันนี้ ป.ป.ช.กำลังเจอกับกระบวนการทุจริตแห่งชาติ เพราะฉะนั้นกำลังใจจึงสำคัญ ตนและประชาชนขอให้ท่านเดินหน้าเต็มที่ ใครไม่ผิดก็ปล่อยเขาไป แต่ใครที่เป็นตัวการจริงๆ และให้ความเห็นว่าหากนายทักษิณอยู่เรือนจำต้องต้องตายแน่ ถามว่ามีหรือไม่ และหมอคนนั้นคือใคร ขอให้นำหลักฐานมา เพราะฉะนั้นนับแต่นี้ต่อไปเมื่อไต่สวนคดี สิ่งที่เราจะเห็นคืออำนาจเด็ดขาด หากไม่ให้เอกสาร ไม่ให้ปากคำจะต้องติดคุก แค่ถามว่าป่วยจริงไหม ใครเกี่ยวข้อง ใครให้ความเห็นเท่านั้น เรื่องจะไม่ช้าแน่นอน เมื่อตรวจสอบเพียงพอแล้วต้องสรุปข้อกล่าวหาส่งให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจง ใครเห็นว่าไม่ทุจริตก็ปล่อยเขาไป ไม่ต้องตั้งข้อกล่าวหา แต่ใครที่นั่งเงียบๆ แล้วหลักฐานไปถึง ขอให้เรียกเข้ามาตั้งข้อหาเพิ่ม จากนั้นแจ้งข้อหาให้มีการต่อสู้ เชื่อว่างานนี้จะไม่นาน นายแก้วสรร กล่าวว่า ส่วนที่หลายคนถามว่าจะเกิดอะไรกับนายทักษิณ ในทางกฎหมาย ถ้าหมายศาลให้ขังแล้วไม่มีการขังตามหมาย ก็ต้องออกหมายใหม่ เพื่อให้กลับไปเข้าคุก เป็นอำนาจ ของศาลคดีอาญาทางการเมือง ศาลสั่งกลับเข้าคุกได้ ถ้าหลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอผลคดีนี้ ที่เป็นคดีของเจ้าหน้าที่ว่าปล่อยตัวให้ไปรักษาถูกต้องหรือไม่ และมีใครทุจริตหรือไม่ ส่วนการขังที่ไม่เกิดขึ้นนั้นไม่ว่าจะมีคนทุจริตกี่คนหรือทุจริตหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยว ดังนั้นนายทักษิณเตรียมตัวได้ ด้านนายจตุพร กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบ เพราะนายทักษิณไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว เราต้องการเห็นน้ำยาของ ป.ป.ช. ส่วนเรื่องเวชระเบียน หากโรงพยาบาลตำรวจไม่ให้ ป.ป.ช.ต้องดำเนินคดีตั้งแต่ ผบ.ตร. โรงพยาบาลตำรวจ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้การทำการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. ทำให้แผ่นดินนี้สูงขึ้นเยอะ ณ วันนี้เรามาด้วยความหวัง และให้กำลังใจ ป.ป.ช.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เจ้าหน้าที่ในจำนวน 12 คนนี้ ถ้าใครไม่ผิดก็คือไม่ผิด แต่ถ้าใครผิดก็ว่าตามผิด วันนี้ไม่ได้ต้องการมาทำให้ดำเป็นขาว หรือขาวเป็นดำ แต่ต้องการมาทำให้ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด ดีเป็นดี ชั่วเป็นชั่ว ไม่เช่นนั้นเราจะมีความหวังได้อย่างไร เพราะฉะนั้นตนฝากไปถึงเลขา ป.ป.ช.ตนวาดหวังว่า ป.ป.ช.จะทำหน้าที่ แต่ก็ยังไม่ไว้ใจการไต่สวน จนกว่าจะมีการพิสูจน์ให้สิ้นสงสัยแล้วว่าได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ส่วน นพ.วรงค์ กล่าวว่า การพักโทษกรณีพิเศษในช่วง 6 เดือนหลัง ถือว่านักโทษอายุเกิน 70 ปีต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย และนักโทษคนนี้ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสังคม หรือโอกาสที่จะทำผิดซ้ำนั้นมีน้อยมาก ถามว่าแล้ววันนี้เป็นอย่างไร ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อสังคม สังคมจะกลียุคและฆ่ากันตาย ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องรีบดำเนินการ และยืนยันว่าการพักโทษกรณีนี้ไม่ได้ไปใช้บั้นปลายชีวิตกับครอบครัว ทั้งนี้ ป.ป.ช.ต้องทำหน้าที่อิสระอย่างแท้จริง ต้องตรวจสอบและถ่วงดุล เพราะสภาฯทำหน้าที่ไม่ได้ จึงต้องมาอาศัย ป.ป.ช. เพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชน เพื่อให้ประเทศอยู่ได้และประชาธิปไตยอยู่รอด ถ้า ป.ป.ช.ไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน ประเทศก็จะอยู่ไม่ได้ และ ป.ป.ช.ก็จะไม่มีอีกต่อไป ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ขอขอบคุณที่มาให้กำลังใจในวันนี้ ซึ่งตอนนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งองค์คณะได้ตั้งไต่สวนบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ในการดำเนินการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็มีมติค่อนข้างชัดเจนว่า หากไต่สวนพบบุคคลอื่นที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ก็ให้ดำเนินการไต่สวนต่อไปด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามความคาดหวังของประชาชน และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ ขอยืนยันว่าในส่วนของ ป.ป.ช. เราทำหน้าที่ไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐานตามพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงเป็นหลัก ดังนั้นในบางเรื่องอาจจะไม่ตรงตามใจที่ประชาชนรับทราบข้อมูลจากสื่อโซเชียลต่างๆ เพราะการพิจารณาต้องดูพยานหลักฐานเป็นหลัก และพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและเป็นเสาหลักในกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองต่อไป
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
More Results