• “Intel พลิกเกมด้วยดีล 5 พันล้านจาก Nvidia — พร้อมเดินหน้าขอทุนจาก Apple, TSMC และกลุ่ม Magnificent 7”

    หลังจากเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจมาหลายปี Intel กำลังกลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง ด้วยการประกาศดีลมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์จาก Nvidia ซึ่งจะให้ Intel ออกแบบชิป x86 แบบคัสตอมสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ Nvidia ดีลนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มทุนให้ Intel แต่ยังทำให้มูลค่าตลาดของ Nvidia พุ่งขึ้นถึง 150 พันล้านดอลลาร์ทันทีหลังประกาศ

    แต่ Intel ไม่หยุดแค่นั้น — รายงานจาก The Wall Street Journal และ Bloomberg ระบุว่า Intel ได้เริ่มเจรจากับ Apple และ TSMC เพื่อขอความร่วมมือและการลงทุนเพิ่มเติม โดยหวังว่าจะดึงดูดบริษัทในกลุ่ม “Magnificent 7” ซึ่งประกอบด้วย Microsoft, Alphabet, Amazon, Meta และ Tesla ภายในสิ้นปีนี้

    แม้ Apple จะเคยใช้ชิปของ Intel ใน Mac แต่ได้เปลี่ยนไปใช้ Apple Silicon ตั้งแต่ปี 2020 และผลิตผ่าน TSMC ทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนจากพันธมิตรเป็นคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม Apple ยังมีความสนใจในบริการ foundry ของ Intel โดยเฉพาะในบริบทของการผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการลงทุนภายในประเทศที่ Apple ขยายเป็น 600 พันล้านดอลลาร์

    ด้าน TSMC ปฏิเสธข่าวการเจรจา โดยระบุว่าไม่มีแผนร่วมทุนกับ Intel ในขณะนี้ แต่นักวิเคราะห์มองว่าแรงกดดันทางการเมืองอาจทำให้บริษัทต่างชาติหันมาพิจารณาการผลิตในสหรัฐฯ มากขึ้น

    Intel อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยมีมูลค่าตลาดลดลงเหลือไม่ถึง 160 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Nvidia พุ่งทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ การหาพันธมิตรใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาโมเมนตัมและความมั่นคงในระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Nvidia ลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ใน Intel เพื่อพัฒนาชิป x86 สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI
    มูลค่าตลาดของ Nvidia เพิ่มขึ้น 150 พันล้านดอลลาร์หลังประกาศดีล
    Intel เริ่มเจรจากับ Apple และ TSMC เพื่อขอความร่วมมือและการลงทุน
    Apple เคยใช้ชิป Intel ใน Mac ก่อนเปลี่ยนไปใช้ Apple Silicon ที่ผลิตโดย TSMC
    Apple ขยายการลงทุนในสหรัฐฯ เป็น 600 พันล้านดอลลาร์ อาจสนใจบริการ foundry ของ Intel
    TSMC ปฏิเสธข่าวการเจรจา โดยระบุว่าไม่มีแผนร่วมทุนกับ Intel
    Intel ตั้งเป้าขอความร่วมมือจากบริษัทในกลุ่ม Magnificent 7 ภายในสิ้นปีนี้
    มูลค่าตลาดของ Intel ลดลงเหลือไม่ถึง 160 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Nvidia พุ่งทะลุ 4 ล้านล้าน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    กลุ่ม Magnificent 7 คือบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่มีอิทธิพลสูงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
    Intel เคยขายธุรกิจโมเด็มให้ Apple หลังไม่สามารถผลิตชิป 5G ได้ตามมาตรฐาน
    SoftBank ลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ใน Intel ก่อนหน้าดีลกับ Nvidia
    รัฐบาลสหรัฐฯ ซื้อหุ้น 9.9% ของ Intel เพื่อเร่งการผลิตในรัฐโอไฮโอ
    การผลิตชิปในประเทศเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ความมั่นคงของสหรัฐฯ

    https://www.techradar.com/pro/reports-claim-intel-approached-apple-for-collaboration-and-investment-i-predict-that-the-rest-of-the-magnificent-7-will-get-the-same-call-before-the-end-of-the-year
    💼 “Intel พลิกเกมด้วยดีล 5 พันล้านจาก Nvidia — พร้อมเดินหน้าขอทุนจาก Apple, TSMC และกลุ่ม Magnificent 7” หลังจากเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจมาหลายปี Intel กำลังกลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง ด้วยการประกาศดีลมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์จาก Nvidia ซึ่งจะให้ Intel ออกแบบชิป x86 แบบคัสตอมสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ Nvidia ดีลนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มทุนให้ Intel แต่ยังทำให้มูลค่าตลาดของ Nvidia พุ่งขึ้นถึง 150 พันล้านดอลลาร์ทันทีหลังประกาศ แต่ Intel ไม่หยุดแค่นั้น — รายงานจาก The Wall Street Journal และ Bloomberg ระบุว่า Intel ได้เริ่มเจรจากับ Apple และ TSMC เพื่อขอความร่วมมือและการลงทุนเพิ่มเติม โดยหวังว่าจะดึงดูดบริษัทในกลุ่ม “Magnificent 7” ซึ่งประกอบด้วย Microsoft, Alphabet, Amazon, Meta และ Tesla ภายในสิ้นปีนี้ แม้ Apple จะเคยใช้ชิปของ Intel ใน Mac แต่ได้เปลี่ยนไปใช้ Apple Silicon ตั้งแต่ปี 2020 และผลิตผ่าน TSMC ทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนจากพันธมิตรเป็นคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม Apple ยังมีความสนใจในบริการ foundry ของ Intel โดยเฉพาะในบริบทของการผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการลงทุนภายในประเทศที่ Apple ขยายเป็น 600 พันล้านดอลลาร์ ด้าน TSMC ปฏิเสธข่าวการเจรจา โดยระบุว่าไม่มีแผนร่วมทุนกับ Intel ในขณะนี้ แต่นักวิเคราะห์มองว่าแรงกดดันทางการเมืองอาจทำให้บริษัทต่างชาติหันมาพิจารณาการผลิตในสหรัฐฯ มากขึ้น Intel อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยมีมูลค่าตลาดลดลงเหลือไม่ถึง 160 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Nvidia พุ่งทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ การหาพันธมิตรใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาโมเมนตัมและความมั่นคงในระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Nvidia ลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ใน Intel เพื่อพัฒนาชิป x86 สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ➡️ มูลค่าตลาดของ Nvidia เพิ่มขึ้น 150 พันล้านดอลลาร์หลังประกาศดีล ➡️ Intel เริ่มเจรจากับ Apple และ TSMC เพื่อขอความร่วมมือและการลงทุน ➡️ Apple เคยใช้ชิป Intel ใน Mac ก่อนเปลี่ยนไปใช้ Apple Silicon ที่ผลิตโดย TSMC ➡️ Apple ขยายการลงทุนในสหรัฐฯ เป็น 600 พันล้านดอลลาร์ อาจสนใจบริการ foundry ของ Intel ➡️ TSMC ปฏิเสธข่าวการเจรจา โดยระบุว่าไม่มีแผนร่วมทุนกับ Intel ➡️ Intel ตั้งเป้าขอความร่วมมือจากบริษัทในกลุ่ม Magnificent 7 ภายในสิ้นปีนี้ ➡️ มูลค่าตลาดของ Intel ลดลงเหลือไม่ถึง 160 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Nvidia พุ่งทะลุ 4 ล้านล้าน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ กลุ่ม Magnificent 7 คือบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่มีอิทธิพลสูงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ➡️ Intel เคยขายธุรกิจโมเด็มให้ Apple หลังไม่สามารถผลิตชิป 5G ได้ตามมาตรฐาน ➡️ SoftBank ลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ใน Intel ก่อนหน้าดีลกับ Nvidia ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ ซื้อหุ้น 9.9% ของ Intel เพื่อเร่งการผลิตในรัฐโอไฮโอ ➡️ การผลิตชิปในประเทศเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ความมั่นคงของสหรัฐฯ https://www.techradar.com/pro/reports-claim-intel-approached-apple-for-collaboration-and-investment-i-predict-that-the-rest-of-the-magnificent-7-will-get-the-same-call-before-the-end-of-the-year
    0 Comments 0 Shares 184 Views 0 Reviews
  • กองทัพภาคที่ 2 สั่งเฝ้าระวังเข้มตามแนว ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังศูนย์ปฏิบัติการฯ สรุปสถานการณ์ล่าสุด ตรวจพบโดรนของฝ่ายกัมพูชาจำนวน 3 ลำ บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควายและตาเมือน ขณะที่กองกำลังทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่น ทภ.2 ชี้มีสิ่งบอกเหตุหลายประการที่อาจนำไปสู่ความไม่สงบ ขอความร่วมมือประชาชนให้ติดตามข้อมูลจากช่องทางราชการอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพื่อป้องกันความสับสนจาก ข่าวปลอม ที่อาจบิดเบือนสถานการณ์ตามแนวชายแดน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000092329

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กองทัพภาคที่ 2 สั่งเฝ้าระวังเข้มตามแนว ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังศูนย์ปฏิบัติการฯ สรุปสถานการณ์ล่าสุด ตรวจพบโดรนของฝ่ายกัมพูชาจำนวน 3 ลำ บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควายและตาเมือน ขณะที่กองกำลังทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่น ทภ.2 ชี้มีสิ่งบอกเหตุหลายประการที่อาจนำไปสู่ความไม่สงบ ขอความร่วมมือประชาชนให้ติดตามข้อมูลจากช่องทางราชการอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพื่อป้องกันความสับสนจาก ข่าวปลอม ที่อาจบิดเบือนสถานการณ์ตามแนวชายแดน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000092329 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 404 Views 0 Reviews
  • Anthropic เปิดเบื้องหลัง 3 บั๊กใหญ่ที่ทำให้ Claude ตอบผิดเพี้ยน — เมื่อ AI ไม่ได้ “เนิร์ฟ” แต่โครงสร้างพื้นฐานพัง

    ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงต้นกันยายน 2025 ผู้ใช้ Claude หลายคนเริ่มสังเกตว่าคุณภาพการตอบกลับของโมเดลลดลงอย่างผิดปกติ บางคนได้รับคำตอบที่แปลกประหลาด เช่นมีตัวอักษรไทยโผล่กลางข้อความภาษาอังกฤษ หรือโค้ดที่ผิดไวยากรณ์อย่างชัดเจน จนเกิดข้อสงสัยว่า Anthropic กำลัง “ลดคุณภาพ” ของโมเดลเพื่อจัดการกับโหลดหรือควบคุมต้นทุน

    แต่ล่าสุด Anthropic ได้ออกมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดจาก “บั๊กในโครงสร้างพื้นฐาน” ไม่ใช่การลดคุณภาพโดยเจตนา โดยมีทั้งหมด 3 บั๊กที่เกิดขึ้นพร้อมกันและส่งผลกระทบต่อโมเดล Claude หลายรุ่น ได้แก่ Sonnet 4, Opus 4.1, Haiku 3.5 และ Opus 3

    บั๊กแรกคือการ “ส่งคำขอผิดเซิร์ฟเวอร์” โดยคำขอที่ควรใช้ context window แบบสั้น กลับถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เตรียมไว้สำหรับ context window ขนาด 1 ล้านโทเคน ซึ่งยังไม่พร้อมใช้งาน ทำให้การตอบกลับผิดเพี้ยนและช้า โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบ load balancing ทำให้คำขอผิดพลาดเพิ่มขึ้นถึง 16%

    บั๊กที่สองคือ “การสร้างโทเคนผิดพลาด” บนเซิร์ฟเวอร์ TPU ซึ่งเกิดจากการปรับแต่งประสิทธิภาพที่ทำให้โมเดลเลือกโทเคนที่ไม่ควรปรากฏ เช่น ตัวอักษรจีนหรือไทยในคำตอบภาษาอังกฤษ หรือโค้ดที่มี syntax ผิดอย่างชัดเจน

    บั๊กสุดท้ายคือ “การคอมไพล์ผิดพลาดใน XLA:TPU” ซึ่งเกิดจากการใช้การคำนวณแบบ approximate top-k ที่ควรช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กลับทำให้โมเดลเลือกโทเคนผิด โดยเฉพาะเมื่อใช้ precision ที่ไม่ตรงกันระหว่าง bf16 และ fp32 ทำให้โทเคนที่ควรมีโอกาสสูงสุดถูกตัดออกไปโดยไม่ตั้งใจ

    Anthropic ได้แก้ไขบั๊กทั้งหมดแล้ว และประกาศแผนปรับปรุงระบบตรวจสอบคุณภาพให้ละเอียดขึ้น รวมถึงพัฒนาเครื่องมือ debug ที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ใช้ให้ส่ง feedback เมื่อพบปัญหา เพื่อช่วยให้ทีมงานตรวจสอบได้เร็วขึ้น

    Claude ตอบผิดเพี้ยนจาก 3 บั๊กในโครงสร้างพื้นฐาน
    ไม่ใช่การลดคุณภาพโดยเจตนา
    ส่งผลกระทบต่อหลายรุ่น เช่น Sonnet 4, Opus 4.1, Haiku 3.5

    บั๊กที่ 1: Context window routing error
    คำขอถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ context window 1M โดยผิดพลาด
    ส่งผลให้คำตอบผิดเพี้ยน โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนสิงหาคม

    บั๊กที่ 2: Output corruption บน TPU
    โทเคนที่ไม่ควรปรากฏถูกเลือก เช่น “สวัสดี” ในคำตอบภาษาอังกฤษ
    เกิดจากการปรับแต่งประสิทธิภาพที่ผิดพลาด

    บั๊กที่ 3: XLA:TPU miscompilation
    การใช้ approximate top-k ทำให้โทเคนที่ควรมีโอกาสสูงสุดถูกตัดออก
    เกิดจาก precision mismatch ระหว่าง bf16 และ fp32

    Anthropic แก้ไขบั๊กทั้งหมดแล้ว
    ปรับ routing logic / rollback การเปลี่ยนแปลง / ใช้ exact top-k แทน
    เพิ่มการตรวจสอบคุณภาพและเครื่องมือ debug ใหม่

    ผู้ใช้สามารถช่วยแจ้งปัญหาได้โดยใช้ /bug หรือปุ่ม thumbs down
    Feedback จากผู้ใช้ช่วยให้ทีมงานตรวจสอบได้เร็วขึ้น
    Anthropic ยืนยันความโปร่งใสและขอบคุณชุมชนที่ช่วยเหลือ

    https://www.anthropic.com/engineering/a-postmortem-of-three-recent-issues
    📰 Anthropic เปิดเบื้องหลัง 3 บั๊กใหญ่ที่ทำให้ Claude ตอบผิดเพี้ยน — เมื่อ AI ไม่ได้ “เนิร์ฟ” แต่โครงสร้างพื้นฐานพัง ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงต้นกันยายน 2025 ผู้ใช้ Claude หลายคนเริ่มสังเกตว่าคุณภาพการตอบกลับของโมเดลลดลงอย่างผิดปกติ บางคนได้รับคำตอบที่แปลกประหลาด เช่นมีตัวอักษรไทยโผล่กลางข้อความภาษาอังกฤษ หรือโค้ดที่ผิดไวยากรณ์อย่างชัดเจน จนเกิดข้อสงสัยว่า Anthropic กำลัง “ลดคุณภาพ” ของโมเดลเพื่อจัดการกับโหลดหรือควบคุมต้นทุน แต่ล่าสุด Anthropic ได้ออกมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดจาก “บั๊กในโครงสร้างพื้นฐาน” ไม่ใช่การลดคุณภาพโดยเจตนา โดยมีทั้งหมด 3 บั๊กที่เกิดขึ้นพร้อมกันและส่งผลกระทบต่อโมเดล Claude หลายรุ่น ได้แก่ Sonnet 4, Opus 4.1, Haiku 3.5 และ Opus 3 บั๊กแรกคือการ “ส่งคำขอผิดเซิร์ฟเวอร์” โดยคำขอที่ควรใช้ context window แบบสั้น กลับถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เตรียมไว้สำหรับ context window ขนาด 1 ล้านโทเคน ซึ่งยังไม่พร้อมใช้งาน ทำให้การตอบกลับผิดเพี้ยนและช้า โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบ load balancing ทำให้คำขอผิดพลาดเพิ่มขึ้นถึง 16% บั๊กที่สองคือ “การสร้างโทเคนผิดพลาด” บนเซิร์ฟเวอร์ TPU ซึ่งเกิดจากการปรับแต่งประสิทธิภาพที่ทำให้โมเดลเลือกโทเคนที่ไม่ควรปรากฏ เช่น ตัวอักษรจีนหรือไทยในคำตอบภาษาอังกฤษ หรือโค้ดที่มี syntax ผิดอย่างชัดเจน บั๊กสุดท้ายคือ “การคอมไพล์ผิดพลาดใน XLA:TPU” ซึ่งเกิดจากการใช้การคำนวณแบบ approximate top-k ที่ควรช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กลับทำให้โมเดลเลือกโทเคนผิด โดยเฉพาะเมื่อใช้ precision ที่ไม่ตรงกันระหว่าง bf16 และ fp32 ทำให้โทเคนที่ควรมีโอกาสสูงสุดถูกตัดออกไปโดยไม่ตั้งใจ Anthropic ได้แก้ไขบั๊กทั้งหมดแล้ว และประกาศแผนปรับปรุงระบบตรวจสอบคุณภาพให้ละเอียดขึ้น รวมถึงพัฒนาเครื่องมือ debug ที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ใช้ให้ส่ง feedback เมื่อพบปัญหา เพื่อช่วยให้ทีมงานตรวจสอบได้เร็วขึ้น ✅ Claude ตอบผิดเพี้ยนจาก 3 บั๊กในโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ ไม่ใช่การลดคุณภาพโดยเจตนา ➡️ ส่งผลกระทบต่อหลายรุ่น เช่น Sonnet 4, Opus 4.1, Haiku 3.5 ✅ บั๊กที่ 1: Context window routing error ➡️ คำขอถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ context window 1M โดยผิดพลาด ➡️ ส่งผลให้คำตอบผิดเพี้ยน โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนสิงหาคม ✅ บั๊กที่ 2: Output corruption บน TPU ➡️ โทเคนที่ไม่ควรปรากฏถูกเลือก เช่น “สวัสดี” ในคำตอบภาษาอังกฤษ ➡️ เกิดจากการปรับแต่งประสิทธิภาพที่ผิดพลาด ✅ บั๊กที่ 3: XLA:TPU miscompilation ➡️ การใช้ approximate top-k ทำให้โทเคนที่ควรมีโอกาสสูงสุดถูกตัดออก ➡️ เกิดจาก precision mismatch ระหว่าง bf16 และ fp32 ✅ Anthropic แก้ไขบั๊กทั้งหมดแล้ว ➡️ ปรับ routing logic / rollback การเปลี่ยนแปลง / ใช้ exact top-k แทน ➡️ เพิ่มการตรวจสอบคุณภาพและเครื่องมือ debug ใหม่ ✅ ผู้ใช้สามารถช่วยแจ้งปัญหาได้โดยใช้ /bug หรือปุ่ม thumbs down ➡️ Feedback จากผู้ใช้ช่วยให้ทีมงานตรวจสอบได้เร็วขึ้น ➡️ Anthropic ยืนยันความโปร่งใสและขอบคุณชุมชนที่ช่วยเหลือ https://www.anthropic.com/engineering/a-postmortem-of-three-recent-issues
    WWW.ANTHROPIC.COM
    A postmortem of three recent issues
    This is a technical report on three bugs that intermittently degraded responses from Claude. Below we explain what happened, why it took time to fix, and what we're changing.
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews
  • รมช.กลาโหม กำชับกองทัพภาคที่ 1 ขอความร่วมมือมวลชนที่เคลื่อนไหวบริเวณบ้านหนองจาน ออกจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย รอกลไก GBC แก้ปัญหา ยืนยันทำหน้าที่บนพื้นฐานผลประโยชน์ชาติ ไม่มีใบสั่งจากใคร

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000082410

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    รมช.กลาโหม กำชับกองทัพภาคที่ 1 ขอความร่วมมือมวลชนที่เคลื่อนไหวบริเวณบ้านหนองจาน ออกจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย รอกลไก GBC แก้ปัญหา ยืนยันทำหน้าที่บนพื้นฐานผลประโยชน์ชาติ ไม่มีใบสั่งจากใคร อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000082410 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 616 Views 0 Reviews
  • ผบ.สส.ใช้เวทีประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอินโดแปซิฟิก ชี้แจงข้อเท็จจริงปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา พร้อมขอความร่วมมือนานาชาติ สนับสนุนการเก็บกู้ทุนระเบิด ส่วนชายแดนพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เตรียมสร้างกำแพงถาวรแบ่งเขตแดนให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการรุกรานอธิปไตย ยืนยันพร้อมสนับสนุนทุกการกระทำของกองทัพ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081870

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ผบ.สส.ใช้เวทีประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอินโดแปซิฟิก ชี้แจงข้อเท็จจริงปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา พร้อมขอความร่วมมือนานาชาติ สนับสนุนการเก็บกู้ทุนระเบิด ส่วนชายแดนพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เตรียมสร้างกำแพงถาวรแบ่งเขตแดนให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการรุกรานอธิปไตย ยืนยันพร้อมสนับสนุนทุกการกระทำของกองทัพ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081870 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Love
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 442 Views 0 Reviews
  • มีรายงานว่า เขมรบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ รวมทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ไทยเสนอตัวเข้าช่วยก็ตาม ด้านพลเอง "เตีย เซียฮา อ้างเหตุผลว่า การประชุมครั้งนี้ขอคุยแค่เรื่องข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ไปคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้าต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า

    พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ

    พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ

    1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย

    2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง

    พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย

    "ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม"

    "ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
    มีรายงานว่า เขมรบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ รวมทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ไทยเสนอตัวเข้าช่วยก็ตาม ด้านพลเอง "เตีย เซียฮา อ้างเหตุผลว่า การประชุมครั้งนี้ขอคุยแค่เรื่องข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ไปคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้าต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ 1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย 2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย "ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม" "ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 640 Views 0 Reviews
  • ดูด่วน! ภาค 2 แถลงสื่อสารถึงคนไทย ขอความร่วมมือจับตาโดรนสายลับต่างชาติ
    (Urgent: Thai 2nd Army urges public to watch for foreign spy drones.) [30/7/68]

    #ภาค2แถลงแล้ว #จับตาโดรนสายลับ #เตือนภัยความมั่นคง #SpyDroneAlert #เฝ้าระวังชายแดน #สื่อสารถึงประชาชน #ThaiArmyWarning #ข่าวความมั่นคง #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง

    #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #CambodiaNoCeasefire #TruthFromThailand #Hunsenfiredfirst #thaitimes #news1 #shorts
    ดูด่วน! ภาค 2 แถลงสื่อสารถึงคนไทย ขอความร่วมมือจับตาโดรนสายลับต่างชาติ (Urgent: Thai 2nd Army urges public to watch for foreign spy drones.) [30/7/68] #ภาค2แถลงแล้ว #จับตาโดรนสายลับ #เตือนภัยความมั่นคง #SpyDroneAlert #เฝ้าระวังชายแดน #สื่อสารถึงประชาชน #ThaiArmyWarning #ข่าวความมั่นคง #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #CambodiaNoCeasefire #TruthFromThailand #Hunsenfiredfirst #thaitimes #news1 #shorts
    0 Comments 0 Shares 383 Views 0 0 Reviews
  • แพทองธาร ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กลงพื้นที่สุรินทร์ บอกพิกัดหมดเลยว่าไปไหนมาบ้าง ทั้งที่ทหารขอความร่วมมือห้ามแล้ว แต่ก็ยังเฟียส แค่แก้ไขข้อความไม่ได้ลบ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070996

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แพทองธาร ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กลงพื้นที่สุรินทร์ บอกพิกัดหมดเลยว่าไปไหนมาบ้าง ทั้งที่ทหารขอความร่วมมือห้ามแล้ว แต่ก็ยังเฟียส แค่แก้ไขข้อความไม่ได้ลบ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070996 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    6
    0 Comments 0 Shares 522 Views 0 Reviews
  • “กองบัญชาการกองทัพไทย” ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกท่านงดเผยแพร่ภาพ-ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางทหาร เพื่อความมั่นคงของชาติ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000069705

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    “กองบัญชาการกองทัพไทย” ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกท่านงดเผยแพร่ภาพ-ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางทหาร เพื่อความมั่นคงของชาติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000069705 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 585 Views 0 Reviews
  • "กองทัพบก" ขอความร่วมมือประชาชนและสื่อมวลชน งดเผยแพร่ภาพและข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางทหาร พร้อมระบุว่า การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และอาจถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำไปใช้บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือสร้างความเสียหายต่อภารกิจและความน่าเชื่อถือของกองทัพ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประเทศชาติ กองทัพบกจึงวอนขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000069565

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    "กองทัพบก" ขอความร่วมมือประชาชนและสื่อมวลชน งดเผยแพร่ภาพและข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางทหาร พร้อมระบุว่า การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และอาจถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำไปใช้บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือสร้างความเสียหายต่อภารกิจและความน่าเชื่อถือของกองทัพ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประเทศชาติ กองทัพบกจึงวอนขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000069565 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    11
    0 Comments 1 Shares 1117 Views 0 Reviews
  • ทบ.ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน-ประชาชน งดเผยแพร่ภาพ- ข้อมูล
    ปฏิบัติการทางทหาร การลำเลียงอาวุธ การระดมกำลังทหาร เพื่อความมั่นคงของชาติและความได้เปรียบในการสู้รบ
    .
    พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนทุกท่าน งดการบันทึกภาพนิ่ง คลิปวิดีโอ หรือการเผยแพร่ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายกำลังพล ยุทโธปกรณ์ หรือยานพาหนะทางทหารขนาดใหญ่ รวมถึงการระบุสถานที่หรือเส้นทางการเคลื่อนย้าย ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ผ่านช่องทางสื่อสาธารณะหรือสื่อออนไลน์ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

    ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลด้านความมั่นคงถูกนำไปใช้โดยกลุ่มผู้ไม่หวังดี อันอาจนำไปสู่ การบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของภารกิจทางทหาร

    กองทัพบกตระหนักถึง ความสำคัญของการดำเนินภารกิจด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัย และมีเอกภาพ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน ในการหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจของกำลังพลในพื้นที่ และเพื่อให้กองทัพสามารถทำหน้าที่ในการพิทักษ์อธิปไตย และดูแลความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างเต็มศักยภาพ

    กองทัพบกขอขอบคุณในความเข้าใจ ร่วมมือ และกำลังใจที่ประชาชนมีให้แก่กำลังพลเสมอมา และขอยืนยันว่ากองทัพจะปฏิบัติภารกิจในการปกป้องประเทศชาติด้วยความเสียสละและมุ่งมั่น เพื่อสร้างความสงบสุขให้แก่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ
    ทบ.ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน-ประชาชน งดเผยแพร่ภาพ- ข้อมูล ปฏิบัติการทางทหาร การลำเลียงอาวุธ การระดมกำลังทหาร เพื่อความมั่นคงของชาติและความได้เปรียบในการสู้รบ . พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนทุกท่าน งดการบันทึกภาพนิ่ง คลิปวิดีโอ หรือการเผยแพร่ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายกำลังพล ยุทโธปกรณ์ หรือยานพาหนะทางทหารขนาดใหญ่ รวมถึงการระบุสถานที่หรือเส้นทางการเคลื่อนย้าย ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ผ่านช่องทางสื่อสาธารณะหรือสื่อออนไลน์ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลด้านความมั่นคงถูกนำไปใช้โดยกลุ่มผู้ไม่หวังดี อันอาจนำไปสู่ การบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของภารกิจทางทหาร กองทัพบกตระหนักถึง ความสำคัญของการดำเนินภารกิจด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัย และมีเอกภาพ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน ในการหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจของกำลังพลในพื้นที่ และเพื่อให้กองทัพสามารถทำหน้าที่ในการพิทักษ์อธิปไตย และดูแลความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างเต็มศักยภาพ กองทัพบกขอขอบคุณในความเข้าใจ ร่วมมือ และกำลังใจที่ประชาชนมีให้แก่กำลังพลเสมอมา และขอยืนยันว่ากองทัพจะปฏิบัติภารกิจในการปกป้องประเทศชาติด้วยความเสียสละและมุ่งมั่น เพื่อสร้างความสงบสุขให้แก่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ
    0 Comments 0 Shares 399 Views 0 Reviews
  • ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิมชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบกเตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง

    วันนี้ (21 ก.ค.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68

    ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น

    การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ทางไทยและกัมพูชาล้วนได้ให้สัตยาบัน เข้าเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาดังกล่าวด้วย กองทัพบกจึงขอเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวนี้ต่อสาธารณะ พร้อมขอความร่วมมือประเทศสมาชิกอาเซียนรวมถึงนานาประเทศ ร่วมประณามการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรงของประเทศกัมพูชา นอกจากนี้กรมข่าวทหารบกจะได้มีการเชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย มารับทราบข้อเท็จจริงในกรณีเหตุการณ์ดังกล่าวในวันพรุ่งนี้อีกด้วย
    ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิมชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบกเตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง วันนี้ (21 ก.ค.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ทางไทยและกัมพูชาล้วนได้ให้สัตยาบัน เข้าเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาดังกล่าวด้วย กองทัพบกจึงขอเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวนี้ต่อสาธารณะ พร้อมขอความร่วมมือประเทศสมาชิกอาเซียนรวมถึงนานาประเทศ ร่วมประณามการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรงของประเทศกัมพูชา นอกจากนี้กรมข่าวทหารบกจะได้มีการเชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย มารับทราบข้อเท็จจริงในกรณีเหตุการณ์ดังกล่าวในวันพรุ่งนี้อีกด้วย
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 545 Views 0 Reviews
  • ในข้อกฏหมาย ถ้าเรื่องเก๊แท้ ตกลงกันไม่จบ คืนไม่ได้...จงแจ้งความ...ในทางปฏิบัติ เมื่อเป็นคดี ...เวลานำสืบ..เจาจะมีหนังสือขอความร่วมมือ ส่งผู้เขี่ยวชาญของสมาคม (พันทิพย์) มาตรวจสอบ...และชี้ขาด....ถามว่า ...ถ้าคุณไม่เล่นตามเขา...แล้วเก๊แท้...มันจะจบตรงไหน? ...แค่ที่แน่ๆเลยคือ ไม่เล่่นตามแบบที่เขาเล่น #ขายไม่ได้...ซื้อมาจากไหน ต้องไปขายที่นั่น (ถ้ามันรับคืนนะ)
    ในข้อกฏหมาย ถ้าเรื่องเก๊แท้ ตกลงกันไม่จบ คืนไม่ได้...จงแจ้งความ...ในทางปฏิบัติ เมื่อเป็นคดี ...เวลานำสืบ..เจาจะมีหนังสือขอความร่วมมือ ส่งผู้เขี่ยวชาญของสมาคม (พันทิพย์) มาตรวจสอบ...และชี้ขาด....ถามว่า ...ถ้าคุณไม่เล่นตามเขา...แล้วเก๊แท้...มันจะจบตรงไหน? ...แค่ที่แน่ๆเลยคือ ไม่เล่่นตามแบบที่เขาเล่น #ขายไม่ได้...ซื้อมาจากไหน ต้องไปขายที่นั่น (ถ้ามันรับคืนนะ)
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • ..555,มาแล้ว.
    ..คุณคือฮีโร่ของไทย,ส่วนตัวถ้าเราเป็นแฮ็กเกอร์นะจะแฮ็กฯปล้นคริปโตฯโทเคนตังดิจิดัลของเดอะแก๊งทั้งหมดในเขมรเลยแล้วโอนตังมันทั้งหลายไปเข้าบัญชีบริจาคช่วยเหลือคนตกทุกข์คนยากจนคนพิการหรือเหยื่ออาชญากรรมและค้ามนุษยทั่วโลกเลย,โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ดีๆดูแลรักษาคนลักษณะนี้ กระทั่งทุนวิจัยผลิตยารักษาคนฟรีๆสร้างโรงงานฟรีๆสกัดยาสาระพัดก็ด้วยเพื่อมุ่งไม่หวังผลตอบแทน,แฮ๊กดาต้าข้อมูลทุกๆคนที่ก่อการเป็นเครือข่ายในเขมรตลอดสนับสนุนเงินทุนด้วย,ร่วมกันแฮ็กทำลายมันจากแฮ็กเกอร์ทั่วโลกนะโดยแฮ็กเกอร์ไทยขอความร่วมมือจากแฮ็กเกอร์ทั่วโลกอีกทีจัดการเดอะแก็งทั้งหมดในเขมรจะตังจากค้ายาค้ามนุษย์ตังจากคอลเซ็นเตอร์คือแฮ็กเกอร์ทั่วโลกร่วมกันจัดการตังมันทุกๆตัวก็ว่าจะระดับเดอะรัฐบาลเขมรหรือจีนเทาที่มาลงตังในเขมรก็ตาม,ถ้าแฮ๊กเกอร์ทั่วโลกลงขันให้พวกนี้ไปวัดพังทัังเขมรศูนย์บัญชาการใหญ่อาชญากรรมโลกที่เขมรลงได้นะ ทุกๆคนคือเดอะฮีโร่ของจริงเลยล่ะ,ต้องส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือคุ้มครองคนเหล่านี้ทันที,ไทยเราออกหน้าทางลับๆก็ได้,สายทหารเราก็ว่า,และแฮ็กเกอร์ทั่วโลกก็ช่วยเหลือคุ้มครองกันและกันด้วยเช่นกัน,สายตัดเคเบิลใต้ทะเลที่เขมรใช้สื่อสารสมควรมีด้วย,ตัดสายที่ทะเลดำก็ได้ที่ต่อมาเขมรหรือทะเลจีนใต้ก็ด้วยที่เคเบิลเน็ตผ่านทาง.มีหนาวแน่นอน,เน็ตเขมรตัดย่อมอนาถทันที,ยุคนี้ถ้าไม่ใช้เน็ตพวกนี้พังทันที,แฮ็กเน็ตดาวเทียมมันด้วยเช่นใช้starlinkก็แฉออกมาว่าเน็ตดาวเทียมstarlinkคือเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการก่ออาชญากรรมต่อชาวโลกด้วยของเขมรและการค้ามนุษย์ในเขมรก็ว่า,ประจานมันเลยหากแฮ็กstarlinkได้ยิ่งดี ปั่นจนระบบพังตกไปเลยหรือถ้าใช้บอลลูนบินจริงในดาวเทียมเน็ตต่างๆก็ทำลายระบบควบคุมลมบอลลูนเลยตกทุกๆดวงแน่นอน555.
    ..แฮ็กเกอร์คือองค์กรเฉพาะกิจหน่วยงานหนึ่งที่จำเป็น,และในหลายๆประเทศแบบอเมริกา จีน รัสเชีย และหลายๆชาติทั่วโลกตั้งตรงทางลับชัดเจนในการก่อการสาระพัด,และจะไม่ใช่ตั้งในประเทศตนเองด้วยเพื่อปิดบังสายตาชาวโลกมองมาที่ตนได้เด่นชัดเกินไป จึงตั้งบนประเทศอื่น เกาะอื่นๆแต่รับรู้สั่งการตรงใจกัน,มุมมืดในแต่ละชาติต้องมีประจำตัว เพราะบางอย่างไม่สามารถจัดการที่สว่างนั้นเองติดภาพผู้ดีในสายตาชาวโลกหนักไป,
    ..เขมรสมควรโดนนานแล้ว,เรา..ปล่อยเรื่องนี้นานเกินไปแล้วคือปล่อยให้รัฐบาลนี้ยังอยู่ทั้งหมดได้อย่างไร มีแต่จะทำให้ชาติไทยโกลาหลวุ่นวายไม่หยุดหย่อนจริงๆ.


    https://youtu.be/Ckm2Mt3Abtw?si=GonUGlwAffjYLSBO
    ..555,มาแล้ว. ..คุณคือฮีโร่ของไทย,ส่วนตัวถ้าเราเป็นแฮ็กเกอร์นะจะแฮ็กฯปล้นคริปโตฯโทเคนตังดิจิดัลของเดอะแก๊งทั้งหมดในเขมรเลยแล้วโอนตังมันทั้งหลายไปเข้าบัญชีบริจาคช่วยเหลือคนตกทุกข์คนยากจนคนพิการหรือเหยื่ออาชญากรรมและค้ามนุษยทั่วโลกเลย,โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ดีๆดูแลรักษาคนลักษณะนี้ กระทั่งทุนวิจัยผลิตยารักษาคนฟรีๆสร้างโรงงานฟรีๆสกัดยาสาระพัดก็ด้วยเพื่อมุ่งไม่หวังผลตอบแทน,แฮ๊กดาต้าข้อมูลทุกๆคนที่ก่อการเป็นเครือข่ายในเขมรตลอดสนับสนุนเงินทุนด้วย,ร่วมกันแฮ็กทำลายมันจากแฮ็กเกอร์ทั่วโลกนะโดยแฮ็กเกอร์ไทยขอความร่วมมือจากแฮ็กเกอร์ทั่วโลกอีกทีจัดการเดอะแก็งทั้งหมดในเขมรจะตังจากค้ายาค้ามนุษย์ตังจากคอลเซ็นเตอร์คือแฮ็กเกอร์ทั่วโลกร่วมกันจัดการตังมันทุกๆตัวก็ว่าจะระดับเดอะรัฐบาลเขมรหรือจีนเทาที่มาลงตังในเขมรก็ตาม,ถ้าแฮ๊กเกอร์ทั่วโลกลงขันให้พวกนี้ไปวัดพังทัังเขมรศูนย์บัญชาการใหญ่อาชญากรรมโลกที่เขมรลงได้นะ ทุกๆคนคือเดอะฮีโร่ของจริงเลยล่ะ,ต้องส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือคุ้มครองคนเหล่านี้ทันที,ไทยเราออกหน้าทางลับๆก็ได้,สายทหารเราก็ว่า,และแฮ็กเกอร์ทั่วโลกก็ช่วยเหลือคุ้มครองกันและกันด้วยเช่นกัน,สายตัดเคเบิลใต้ทะเลที่เขมรใช้สื่อสารสมควรมีด้วย,ตัดสายที่ทะเลดำก็ได้ที่ต่อมาเขมรหรือทะเลจีนใต้ก็ด้วยที่เคเบิลเน็ตผ่านทาง.มีหนาวแน่นอน,เน็ตเขมรตัดย่อมอนาถทันที,ยุคนี้ถ้าไม่ใช้เน็ตพวกนี้พังทันที,แฮ็กเน็ตดาวเทียมมันด้วยเช่นใช้starlinkก็แฉออกมาว่าเน็ตดาวเทียมstarlinkคือเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการก่ออาชญากรรมต่อชาวโลกด้วยของเขมรและการค้ามนุษย์ในเขมรก็ว่า,ประจานมันเลยหากแฮ็กstarlinkได้ยิ่งดี ปั่นจนระบบพังตกไปเลยหรือถ้าใช้บอลลูนบินจริงในดาวเทียมเน็ตต่างๆก็ทำลายระบบควบคุมลมบอลลูนเลยตกทุกๆดวงแน่นอน555. ..แฮ็กเกอร์คือองค์กรเฉพาะกิจหน่วยงานหนึ่งที่จำเป็น,และในหลายๆประเทศแบบอเมริกา จีน รัสเชีย และหลายๆชาติทั่วโลกตั้งตรงทางลับชัดเจนในการก่อการสาระพัด,และจะไม่ใช่ตั้งในประเทศตนเองด้วยเพื่อปิดบังสายตาชาวโลกมองมาที่ตนได้เด่นชัดเกินไป จึงตั้งบนประเทศอื่น เกาะอื่นๆแต่รับรู้สั่งการตรงใจกัน,มุมมืดในแต่ละชาติต้องมีประจำตัว เพราะบางอย่างไม่สามารถจัดการที่สว่างนั้นเองติดภาพผู้ดีในสายตาชาวโลกหนักไป, ..เขมรสมควรโดนนานแล้ว,เรา..ปล่อยเรื่องนี้นานเกินไปแล้วคือปล่อยให้รัฐบาลนี้ยังอยู่ทั้งหมดได้อย่างไร มีแต่จะทำให้ชาติไทยโกลาหลวุ่นวายไม่หยุดหย่อนจริงๆ. https://youtu.be/Ckm2Mt3Abtw?si=GonUGlwAffjYLSBO
    0 Comments 0 Shares 378 Views 0 Reviews
  • พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เผยกรณีนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์สดเรื่องประเทศไทย เป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนกองทัพดูแลความมั่นคงเป็นหลัก โดยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เราก็ตรึงกำลังเพราะเขายังไม่ถอนกำลัง เพื่อรอการเจรจาและความชัดเจนจากผู้นำทั้งสองประเทศ ถ้าตกลงกันได้ก็จะดีขึ้น ฝากประชาชนคนไทย ปัญหาชายแดนยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สถานการณ์ยังปกติสามารถควบคุมได้ กองทัพทั้งสองประเทศพยายามพูดคุยกันในระดับผู้ปฏิบัติให้หลีกเลี่ยงการใช้อาวุธ และขอความร่วมมืองดการแสดงออกที่ล่อแหลมบริเวณปราสาทตาเมือนธม

    -บินรบพร้อมขึ้นใน 5 นาที
    -เฝ้าระวังโดรนชายแดน
    -ขำกัมพูชายิงไกลถึง กทม.
    -ลุงอัดหลานเข้าข่ายกบฏ
    พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เผยกรณีนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์สดเรื่องประเทศไทย เป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนกองทัพดูแลความมั่นคงเป็นหลัก โดยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เราก็ตรึงกำลังเพราะเขายังไม่ถอนกำลัง เพื่อรอการเจรจาและความชัดเจนจากผู้นำทั้งสองประเทศ ถ้าตกลงกันได้ก็จะดีขึ้น ฝากประชาชนคนไทย ปัญหาชายแดนยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สถานการณ์ยังปกติสามารถควบคุมได้ กองทัพทั้งสองประเทศพยายามพูดคุยกันในระดับผู้ปฏิบัติให้หลีกเลี่ยงการใช้อาวุธ และขอความร่วมมืองดการแสดงออกที่ล่อแหลมบริเวณปราสาทตาเมือนธม -บินรบพร้อมขึ้นใน 5 นาที -เฝ้าระวังโดรนชายแดน -ขำกัมพูชายิงไกลถึง กทม. -ลุงอัดหลานเข้าข่ายกบฏ
    Love
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 887 Views 32 0 Reviews
  • งดเผยแพร่ภาพเคลื่อนทัพทหารไทยนะพี่น้อง แม้ทหารพร้อมปกป้องประเทศ แต่ก็กลายเป็นเข้าแผนไอ้เชี้ยแม้วมัน ที่ต้องการให้ทหารโฟกัสชายแดน แทนตัวมัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ขอความร่วมมือ
    #งดเผยแพร่ภาพเคลื่อนทัพทหารไทย
    งดเผยแพร่ภาพเคลื่อนทัพทหารไทยนะพี่น้อง แม้ทหารพร้อมปกป้องประเทศ แต่ก็กลายเป็นเข้าแผนไอ้เชี้ยแม้วมัน ที่ต้องการให้ทหารโฟกัสชายแดน แทนตัวมัน #คิงส์โพธิ์แดง #ขอความร่วมมือ #งดเผยแพร่ภาพเคลื่อนทัพทหารไทย
    Like
    2
    0 Comments 1 Shares 653 Views 0 Reviews
  • นายอำเภอเมืองลพบุรี เยี่ยมร้านที่จำหน่ายกระท้อน แปรรูป
    เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว เทศกาลงานกระท้อน ประจำปี 68 ปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี

    ////////////////////

    นายอำเภอเมืองลพบุรีเป็นห่วงแม่ค้า ลุยเยี่ยม
    แม่ค้าขายกระท้อน ในบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี
    เป็นสถานที่จัดงานกระท้อนหวาน
    ประจำปี 68 ระหว่าง 21 มิย.-2 กค.68

    เมื่อเวลา 08.00 น
    ในวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568
    นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี
    เยี่ยมแม่ค้าขายกระท้อนที่เป็นผลและแปรรูปแล้ว เพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจและเป็นแนวทางในการประชาสัมพันธ์เทศกาลงานกระท้อนหวาน ประจำปี 68 ระหว่าง 21 มิย.-2 กค.68
    ณ สนามหน้า
    ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี

    นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้ไปเยี่ยมร้านที่จำหน่ายกระท้อน มีชาวสวนนำมาจำหน่าย พร้อมทั้งมอบธงให้เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นอาหารปลอดภัยและเป็นกระท้อนที่มาจากสวนโดยตรง
    สำหรับการจัดงานเทศกาลกระท้อนหวานและของดีเมืองลพบุรีในครั้งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย

    นอกจากนี้ มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระท้อนหวานเมืองลพบุรี การแปรรูปกระท้อน การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดลพบุรี การจัดแสดงพันธุ์ไม้ และสินค้าของดีเมืองลพบุรีอีกมากมายมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี อีกด้วย

    โดยนายอำเภอเมืองลพบุรี
    กล่าวว่า “กระท้อนตะลุง” อำเภอเมืองลพบุรี เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ได้รับความนิยมจากตลาดมากขึ้นทุกปี ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดี สิ่งสำคัญมาจากการจัดงานเพื่อเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ผลผลิตของกระท้อน ทำให้กระท้อนลพบุรีเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอย่างแพร่หลาย สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมงาน และจับจ่ายซื้อหาสินค้าต่างๆ ภายในงานได้อย่างครบครัน สิ่งสำคัญที่อยากจะฝากและขอความร่วมมือ พี่น้องเกษตรกรคือ เรื่องคุณภาพกระท้อน ความปลอดภัยของผู้บริโภค และไม่เอารัดเอาเปรียบผู้ซื้อ ให้คิดเสมอว่า ผู้ผลิตอยู่รอด ผู้บริโภคปลอดภัยจากการบริโภค ผลผลิตไร้สารเคมีต่างๆ และส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น

    รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูโดดเด่น น่าซื้อหา เป็นการเพิ่มมูลค่าอีกทางหนึ่งด้วย ที่สำคัญ “กระท้อนตะลุง” ถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นของจังหวัดลพบุรี ซึ่งจังหวัดลพบุรี ได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของประเทศไทย โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขึ้นทะเบียนกระท้อนตะลุง เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า GI แล้ว เพื่อเป็นการคุ้มครองและรักษาชื่อเสียงให้กระท้อนตะลุง ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อกระท้อนตะลุงที่มีคุณภาพได้ง่าย และมั่นใจยิ่งขึ้นอีกด้วย
    นายอำเภอเมืองลพบุรี เยี่ยมร้านที่จำหน่ายกระท้อน แปรรูป เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว เทศกาลงานกระท้อน ประจำปี 68 ปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี //////////////////// นายอำเภอเมืองลพบุรีเป็นห่วงแม่ค้า ลุยเยี่ยม แม่ค้าขายกระท้อน ในบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี เป็นสถานที่จัดงานกระท้อนหวาน ประจำปี 68 ระหว่าง 21 มิย.-2 กค.68 เมื่อเวลา 08.00 น ในวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี เยี่ยมแม่ค้าขายกระท้อนที่เป็นผลและแปรรูปแล้ว เพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจและเป็นแนวทางในการประชาสัมพันธ์เทศกาลงานกระท้อนหวาน ประจำปี 68 ระหว่าง 21 มิย.-2 กค.68 ณ สนามหน้า ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้ไปเยี่ยมร้านที่จำหน่ายกระท้อน มีชาวสวนนำมาจำหน่าย พร้อมทั้งมอบธงให้เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นอาหารปลอดภัยและเป็นกระท้อนที่มาจากสวนโดยตรง สำหรับการจัดงานเทศกาลกระท้อนหวานและของดีเมืองลพบุรีในครั้งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระท้อนหวานเมืองลพบุรี การแปรรูปกระท้อน การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดลพบุรี การจัดแสดงพันธุ์ไม้ และสินค้าของดีเมืองลพบุรีอีกมากมายมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี อีกด้วย โดยนายอำเภอเมืองลพบุรี กล่าวว่า “กระท้อนตะลุง” อำเภอเมืองลพบุรี เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ได้รับความนิยมจากตลาดมากขึ้นทุกปี ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดี สิ่งสำคัญมาจากการจัดงานเพื่อเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ผลผลิตของกระท้อน ทำให้กระท้อนลพบุรีเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอย่างแพร่หลาย สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมงาน และจับจ่ายซื้อหาสินค้าต่างๆ ภายในงานได้อย่างครบครัน สิ่งสำคัญที่อยากจะฝากและขอความร่วมมือ พี่น้องเกษตรกรคือ เรื่องคุณภาพกระท้อน ความปลอดภัยของผู้บริโภค และไม่เอารัดเอาเปรียบผู้ซื้อ ให้คิดเสมอว่า ผู้ผลิตอยู่รอด ผู้บริโภคปลอดภัยจากการบริโภค ผลผลิตไร้สารเคมีต่างๆ และส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูโดดเด่น น่าซื้อหา เป็นการเพิ่มมูลค่าอีกทางหนึ่งด้วย ที่สำคัญ “กระท้อนตะลุง” ถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นของจังหวัดลพบุรี ซึ่งจังหวัดลพบุรี ได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของประเทศไทย โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขึ้นทะเบียนกระท้อนตะลุง เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า GI แล้ว เพื่อเป็นการคุ้มครองและรักษาชื่อเสียงให้กระท้อนตะลุง ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อกระท้อนตะลุงที่มีคุณภาพได้ง่าย และมั่นใจยิ่งขึ้นอีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 572 Views 10 0 Reviews
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 Comments 0 Shares 887 Views 0 Reviews
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง, จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง, จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 Comments 0 Shares 979 Views 0 Reviews
  • 'ดีเอสไอ' ส่งหนังสือด่วนถึง ผบ.ตร.-ปลัด มท.ขอความร่วมมือสอบคดีฟอกเงินโยง "ฮั้วเลือก ส.ว."
    https://www.thai-tai.tv/news/18602/
    'ดีเอสไอ' ส่งหนังสือด่วนถึง ผบ.ตร.-ปลัด มท.ขอความร่วมมือสอบคดีฟอกเงินโยง "ฮั้วเลือก ส.ว." https://www.thai-tai.tv/news/18602/
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • สยบเกาเหลา 'อนุทิน-เอกนัฎ' แค่บอกให้ทราบ
    .
    หลังมีข่าวลือสะพัดว่าพรรคภูมิใจไทยกับรวมไทยสร้างชาติอาจมีปัญหา ปมอภิปรายเรื่องมาตรฐานเหล็กในที่ประชุม ครม. “อนุทิน” เคลียร์ชัด แค่ขอความร่วมมือตรวจสอบ ไม่ได้ตำหนิ พร้อมเผยตรวจสอบการร่วมงานของบริษัทจีนกับ กฟภ. อยู่ในความดูแล หากพบความเสี่ยง พร้อมดำเนินการทันที

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000032244
    สยบเกาเหลา 'อนุทิน-เอกนัฎ' แค่บอกให้ทราบ . หลังมีข่าวลือสะพัดว่าพรรคภูมิใจไทยกับรวมไทยสร้างชาติอาจมีปัญหา ปมอภิปรายเรื่องมาตรฐานเหล็กในที่ประชุม ครม. “อนุทิน” เคลียร์ชัด แค่ขอความร่วมมือตรวจสอบ ไม่ได้ตำหนิ พร้อมเผยตรวจสอบการร่วมงานของบริษัทจีนกับ กฟภ. อยู่ในความดูแล หากพบความเสี่ยง พร้อมดำเนินการทันที อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000032244
    Haha
    Like
    Angry
    5
    0 Comments 0 Shares 910 Views 0 Reviews
  • ระบบสแกนจ่ายไม่ดี ระวังจะเสียลูกค้า

    ในช่วงนี้บรรดาผู้ใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) กำลังวิตกกังวลเรื่องอี-สลิปปลอม ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ซึ่งมีคนออกมาเตือนว่า สามารถปลอมได้ค่อนข้างแนบเนียน ไม่ต้องใช้โปรแกรมตัดต่อภาพอย่าง Photoshop อีกต่อไป แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเห็นว่า สลิปที่สร้างโดยเอไอไม่แนบเนียน ลายเส้นมักไม่คม แนะนำว่าให้ผู้ค้าตรวจสอบโดยการนำ QR Code บนอี-สลิปไปสแกนผ่านแอปฯ ธนาคาร

    ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แนะนำแก่ลูกค้าว่า หลังรับโอนเงินควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสลิปโอนเงินนั้นของแท้ หรือของปลอม ด้วยการสแกน QR Code บนสลิป แต่จะมีอายุจำกัด ตั้งเเต่ 7 วัน ถึง 60 วัน แต่หากสลิปโอนเงินนั้นไม่มี QR Code ให้เข้าไปเช็กยอดเงินในโมบายแบงกิ้ง เพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่แท้จริงได้

    ปัจจุบันการชำระเงินด้วยการสแกนจ่าย ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังคงเกิดปัญหาระหว่างลูกค้ากับร้านค้าเป็นระยะ เช่น แอปฯ ธนาคารล่ม หรือไม่แจ้งเตือนเงินเข้าในบางเวลา เมื่อสัปดาห์ก่อนที่จังหวัดแห่งหนึ่งติดกับกรุงเทพมหานคร เจ้าของร้านกาแฟแห่งหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊กข่าวสารของจังหวัดดังกล่าว เรียกร้องให้ลูกค้ารายหนึ่งจ่ายเงินค่ากาแฟ 160 บาท อ้างว่าลูกค้าสแกนจ่ายแล้วเงินไม่เข้า มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมใบหน้าลูกค้าเสมือนประจาน ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแชร์และประณามลูกค้าจำนวนมาก เพื่อกดดันให้กลับมาจ่ายเงินตามที่เจ้าของร้านกล่าวหา

    ปรากฎว่าในเวลาต่อมาคดีพลิก เพราะเจ้าของร้านโพสต์ข้อความขอโทษลูกค้าที่ถูกพาดพิง หลังพบว่ามีเงินเข้าแต่ระบบไม่ได้แจ้ง และยอมรับว่าทางร้านดูสลิปโอนเงินไม่ชัดเจน ไม่มีเจตนาที่จะประจานลูกค้าแต่อย่างใด ผลก็คือทัวร์ที่เคยลงลูกค้ากลับมาลงที่เจ้าของร้านแทน เรียกร้องให้ชดเชยเยียวยา บางคนแนะให้ลูกค้าแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะเป็นผู้เสียหาย บางคนกล่าวว่าจะไม่อุดหนุนร้านนี้อีก เพราะไม่รู้ว่าวันไหนตัวเองจะโดนเช่นนั้น เมื่อดูสลิปที่เจ้าของร้านกาแฟโพสต์ ปรากฎว่าปลายทางเป็นแอปฯ รับเงินของลูกค้าจากค่ายอี-วอลเล็ต ซึ่งไม่ใช่ธนาคาร

    ปัจจุบันโมบายแบงกิ้งแต่ละธนาคารมักแจ้งเตือนเงินเข้าล่าช้าในบางเวลา ขณะที่บางธนาคารมีแอปฯ สำหรับให้ร้านค้ารับเงินจากลูกค้าโดยเฉพาะ และยังแจ้งเตือนเงินเข้าทั้งแบบข้อความแจ้งเตือน และเสียงแจ้งเตือนเงินเข้าที่ระบุจำนวนเงินชัดเจน อีกด้านหนึ่ง มีบางร้านค้าขอความร่วมมือให้พนักงานถ่ายภาพอี-สลิปจากลูกค้าเพื่อใช้ตรวจสอบภายหลังกรณีเงินไม่เข้าบัญชีและอื่นๆ ต่อไป

    #Newskit
    ระบบสแกนจ่ายไม่ดี ระวังจะเสียลูกค้า ในช่วงนี้บรรดาผู้ใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) กำลังวิตกกังวลเรื่องอี-สลิปปลอม ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ซึ่งมีคนออกมาเตือนว่า สามารถปลอมได้ค่อนข้างแนบเนียน ไม่ต้องใช้โปรแกรมตัดต่อภาพอย่าง Photoshop อีกต่อไป แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเห็นว่า สลิปที่สร้างโดยเอไอไม่แนบเนียน ลายเส้นมักไม่คม แนะนำว่าให้ผู้ค้าตรวจสอบโดยการนำ QR Code บนอี-สลิปไปสแกนผ่านแอปฯ ธนาคาร ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แนะนำแก่ลูกค้าว่า หลังรับโอนเงินควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสลิปโอนเงินนั้นของแท้ หรือของปลอม ด้วยการสแกน QR Code บนสลิป แต่จะมีอายุจำกัด ตั้งเเต่ 7 วัน ถึง 60 วัน แต่หากสลิปโอนเงินนั้นไม่มี QR Code ให้เข้าไปเช็กยอดเงินในโมบายแบงกิ้ง เพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่แท้จริงได้ ปัจจุบันการชำระเงินด้วยการสแกนจ่าย ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังคงเกิดปัญหาระหว่างลูกค้ากับร้านค้าเป็นระยะ เช่น แอปฯ ธนาคารล่ม หรือไม่แจ้งเตือนเงินเข้าในบางเวลา เมื่อสัปดาห์ก่อนที่จังหวัดแห่งหนึ่งติดกับกรุงเทพมหานคร เจ้าของร้านกาแฟแห่งหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊กข่าวสารของจังหวัดดังกล่าว เรียกร้องให้ลูกค้ารายหนึ่งจ่ายเงินค่ากาแฟ 160 บาท อ้างว่าลูกค้าสแกนจ่ายแล้วเงินไม่เข้า มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมใบหน้าลูกค้าเสมือนประจาน ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแชร์และประณามลูกค้าจำนวนมาก เพื่อกดดันให้กลับมาจ่ายเงินตามที่เจ้าของร้านกล่าวหา ปรากฎว่าในเวลาต่อมาคดีพลิก เพราะเจ้าของร้านโพสต์ข้อความขอโทษลูกค้าที่ถูกพาดพิง หลังพบว่ามีเงินเข้าแต่ระบบไม่ได้แจ้ง และยอมรับว่าทางร้านดูสลิปโอนเงินไม่ชัดเจน ไม่มีเจตนาที่จะประจานลูกค้าแต่อย่างใด ผลก็คือทัวร์ที่เคยลงลูกค้ากลับมาลงที่เจ้าของร้านแทน เรียกร้องให้ชดเชยเยียวยา บางคนแนะให้ลูกค้าแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะเป็นผู้เสียหาย บางคนกล่าวว่าจะไม่อุดหนุนร้านนี้อีก เพราะไม่รู้ว่าวันไหนตัวเองจะโดนเช่นนั้น เมื่อดูสลิปที่เจ้าของร้านกาแฟโพสต์ ปรากฎว่าปลายทางเป็นแอปฯ รับเงินของลูกค้าจากค่ายอี-วอลเล็ต ซึ่งไม่ใช่ธนาคาร ปัจจุบันโมบายแบงกิ้งแต่ละธนาคารมักแจ้งเตือนเงินเข้าล่าช้าในบางเวลา ขณะที่บางธนาคารมีแอปฯ สำหรับให้ร้านค้ารับเงินจากลูกค้าโดยเฉพาะ และยังแจ้งเตือนเงินเข้าทั้งแบบข้อความแจ้งเตือน และเสียงแจ้งเตือนเงินเข้าที่ระบุจำนวนเงินชัดเจน อีกด้านหนึ่ง มีบางร้านค้าขอความร่วมมือให้พนักงานถ่ายภาพอี-สลิปจากลูกค้าเพื่อใช้ตรวจสอบภายหลังกรณีเงินไม่เข้าบัญชีและอื่นๆ ต่อไป #Newskit
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 820 Views 0 Reviews
  • “รองนพศิลป์” ติดตามความคืบหน้า การเสียชีวิตของสาวในคอนโดหรู เร่งล่าสุดแฟนหนุ่มต้องสงสัย หลังพบว่าขับรถมุ่งหน้าไปชายแดนเชียงราย

    เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่ สน.ทองหล่อ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต. โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีพบศพ นางสาวพราวพิลาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว จ.ขอนแก่นเสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมหรูย่านสุขุมวิท ที่ สน.ทองหล่อ และพบว่าผู้ต้องสงสัยคือ นายเดเนียล (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาวสิงคโปร์ แฟนหนุ่ม

    พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวานช่วงประมาณ 18.00 น. สน. ทองหล่อได้รับแจ้งจากเพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่าไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นก็มาแจ้งความและไปที่พักที่คอนโด เพื่อขอความร่วมมือจากทางนิติบุคคล ขึ้นไปตรวจสอบที่ห้องชั้น 22 ปรากฏว่าห้องยังเปิดแอร์ ประตูไม่ได้ล็อก เมื่อเข้าไปภายในห้องไปเจอกับผู้เสียชีวิต นอนอยู่ในห้องน้ำ ลักษณะถูกนำเอาผ้าสีฟ้าและสีขาวคลุมไว้ และพบกองเลือดในห้องน้ำ จึงได้แจ้งให้กับตำรวจนิติเวช และพนักงานสอบสวนตรวจสอบซึ่งเพื่อยืนยันว่า ผู้ตายเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตจริง ๆ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000029145

    #MGROnline #สนทองหล่อ #ผู้เสียชีวิต #ทรัพย์สินแบรนด์เนม

    “รองนพศิลป์” ติดตามความคืบหน้า การเสียชีวิตของสาวในคอนโดหรู เร่งล่าสุดแฟนหนุ่มต้องสงสัย หลังพบว่าขับรถมุ่งหน้าไปชายแดนเชียงราย • เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่ สน.ทองหล่อ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต. โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีพบศพ นางสาวพราวพิลาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว จ.ขอนแก่นเสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมหรูย่านสุขุมวิท ที่ สน.ทองหล่อ และพบว่าผู้ต้องสงสัยคือ นายเดเนียล (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาวสิงคโปร์ แฟนหนุ่ม • พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวานช่วงประมาณ 18.00 น. สน. ทองหล่อได้รับแจ้งจากเพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่าไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นก็มาแจ้งความและไปที่พักที่คอนโด เพื่อขอความร่วมมือจากทางนิติบุคคล ขึ้นไปตรวจสอบที่ห้องชั้น 22 ปรากฏว่าห้องยังเปิดแอร์ ประตูไม่ได้ล็อก เมื่อเข้าไปภายในห้องไปเจอกับผู้เสียชีวิต นอนอยู่ในห้องน้ำ ลักษณะถูกนำเอาผ้าสีฟ้าและสีขาวคลุมไว้ และพบกองเลือดในห้องน้ำ จึงได้แจ้งให้กับตำรวจนิติเวช และพนักงานสอบสวนตรวจสอบซึ่งเพื่อยืนยันว่า ผู้ตายเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตจริง ๆ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000029145 • #MGROnline #สนทองหล่อ #ผู้เสียชีวิต #ทรัพย์สินแบรนด์เนม
    0 Comments 0 Shares 684 Views 0 Reviews
  • แจ้งข่าวต่างประเทศสั้นๆ 01/03/2025

    1. ล่าสุดไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ในการไปเยือนสหรัฐของเซเลนสกีเพื่อลงนามในดีลแร่ธาตุธรรมชาติฯ เกิดการโต้เถียงระหว่างเซเลนสกี กับแวนซ์รองประธานาธิบดีฯและลุงทรัมป์ในห้องรูปไข่ แล้วลงเอยด้วยเซเลนสกีถูกลุงทรัมป์เอ็ดต่อหน้ากองทัพสื่อฯจนนั่งหน้าจ๋อย ..... โดนเอ็ด โดนชักสีหน้าใส่แบบไม่เหลือเกียรติศักดิ์ศรีของผู้นำประเทศ ประเทศนึงเลย (คลิปอยู่ในเม้นความยาวสิบนาที ดูเถอะ ดูบรรยากาศความเดือดก็น่าจะพอเห็นอะไรบ้างแล้ว)
    .
    เรื่องใหญ่แบบนี้เดี๋ยวสื่อบ้านเราคงรายงานแบบถอดเทปกัน ถ้าไม่รายงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ก็น่าเกลียดเกิน แต่จะสรุปใจความสั้นๆให้ว่า เซเลนสกีถูกลุงทรัมป์และแวนซ์ตำหนิต่อหน้าต่อตาแบบไม่ให้ราคาเลยว่า ...... "ไม่ได้รู้สึกขอบคุณสหรัฐ" "disrespectful" "attitude ของเซเลนสกีมีปัญหา" "เอาคนไปตุยทำบ้านเมืองเสียหายเพราะความเกลียดปูติน(เป็นการส่วนตัว)" "เซเลนสกีเอาโลกไปเสี่ยงต่อการเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม" "เซเลนสกีไม่มีอำนาจที่จะต่อรองอะไรได้เลย ไม่อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไร(แต่ชอบทำเรื่องเยอะ)" "ถ้าสหรัฐหยุดความช่วยเหลือวันนี้ยูเครนจะเสร็จรัสเซียในเวลารวดเร็ว" "การหยุดยิง สันติภาพไม่เกิดขึ้นก็เพราะเซเลนสกีเรื่องเยอะ" "ยังไม่ทันไร ยังไม่เริ่มคุย ไอนั่นก็ไม่เอาไอนี่ก็ไม่เอา" ฯลฯ
    .
    2. จากข้อ1 ...... ลุงทรัมป์เลยเปลี่ยนใจไม่ลงนามในดีลแร่ธาตุธรรมชาติฯกับเซเลนสกีแล้ว โดยบอกว่า
    เซเลนสกีไม่พร้อมสำหรับสันติภาพตราบใดที่มีสหรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง แล้วประชดด้วยว่าเซเลนสกีรู้สึกว่าการมีส่วนร่วมของสหรัฐจะทำให้เค้าได้เปรียบอย่างมากในการเจรจาฯ ลุงทรัมป์ไม่ได้ต้องการความได้เปรียบแต่ต้องการสันติภาพ
    เซเลนสกีแสดงความไม่เคารพสหรัฐในห้องรูปไข่ (ห้องทำงานของประธานาธิบดีฯ สัญลักษณ์แห่งอำนาจของสหรัฐ) เอาไว้เซเลนสกีพร้อมสำหรับสันติภาพแล้วค่อยกลับมา
    และได้ทำการยกเลิกการแถลงข่าวร่วมฯของผู้นำสั้งสอง
    ..... แล้วก็มีรายงานข่าวว่า เซเลนสกีถูกเชิญออกจากทำเนียบขาวแบบไม่ให้เกียรติ ..... ถ้าเป็นเรื่องจริง นั่นผู้นำประเทศหนึ่งนะ ไม่เหลือทรงเลย เฮ้อออออ เห็นใจชาวยูเครนจริงๆ 🥹🥹
    .
    นั่นแหละครับ เซเลนสกีไม่มีอานาจ ไม่มีอะไรที่จะเอาไปต่อรองได้เลย
    นอกจากชีวิตของชาวยูเครนแล้วก็ไม่ได้มีต้นทุนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการทำสงครามเลย ทุกอย่างต้องขอชาวบ้านมาตลอดสามปี ตลอดสามปีที่ผ่านมาเคยเห็นเค้าหยุดเดินสายขอชาวบ้านมั้ย?
    จะทำสงครามต่อไปได้แค่ไหนก็ต้องอาศัยความเมตตาจากประเทศอื่น
    แต่ก็ยังจะลากประเทศเข้าสู่สงครามที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตั้งแต่แรก สงครามเกิดแล้วก็ยังสามารถยุติได้ตั้งแต่ต้นๆ แต่ก็ไม่เอาอีก
    .
    ผ่านมาสามปี วันนี้ประเทศผู้สนับสนุนหลักที่เคยเมตตา เค้าไม่เมตตาเหมือนเดิมบอกให้หยุดสู้รบได้แล้ว ถ้าไม่หยุดก็ไปหาทางทำสงครามต่อเอาเอง แล้วจะไปยังไงต่อ?
    ผู้คนก็ตุยไปแล้ว ดินแดนก็เสียไปแล้ว จะทำสงครามต่อก็ไม่มีปัญญารบได้ด้วยตัวเอง แถมล่าสุดก็ไปโดนสหรัฐฉีกหน้าต่อหน้าโลกซะขนาดนั้น ...... แต่ส่วนตัวเชื่อว่ายังไงเซเลนสกีก็ต้องเดินตัวลีบๆไปขอร้องให้เค้าช่วยอยู่ดี
    เฮ้ออออ ถึงได้บอกว่า คนนี้เค้าเหมือนเด็กอมมือบทเวทีโลก
    ก่อนสงครามไปจนถึงช่วงต้นของสงคราม อำนาจต่อรองอยู่ที่เซเลนสกี แต่เค้าไม่ยอมเจรจาฯเอง ..... พอตอนนี้ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรแล้ว กลับมางอแงจะมีส่วนร่วมในการเจรจาฯ
    .
    ส่วนทางทรัมป์กับแวนซ์ เค้าเคยบอกว่าไม่ได้จะไปเอาเงื่อนไขของรัสเซียมาบังคับให้ยูเครนยอมรับ แต่ต้องการไปคุยกับรัสเซียก่อน แล้วค่อยมาคุยกับเซเลนสกี จะรับไม่รับ ทั้งสองฝ่ายค่อยมาต่อรองอีกที
    ก็เพราะเซเลนสกีเป็นแบบนี้แหละ ยังไม่ทันไรก็ตั้งเงื่อนไขเว่อร์ๆผ่านสื่อฯไว้ก่อน ไปเอาเซเลนสกีเข้ามาตั้งแต่แรก การเจรจายุติสงครามฯก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้
    (หนึ่งในตัวอย่างของความเว่อร์เซเลนสกีที่เคยพูดไว้ สงครามจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียคืนดินแดนทั้งหมด ปลดอาวุธนิวเคลียร์ ลดขนาดกองทัพ และ ลดความสามารถทางทหารของตัวเอง ..... เอาแค่ข้อไหนข้อเดียวก็เป็นไปไม่ได้แล้ว)
    .
    ที่สำคัญ ลุงทรัมป์เค้าชัดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า เค้าอยู่ในฐานะตัวกลางที่จะยึดเอาตามสถานการณ์จริงในพื้นที่สู้รบ
    มันไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของลุงทรัมป์ที่ต้องไปทวงดินแดนที่เสียไปคืนให้ยูเครน (ที่เซเลนสกีงอแงมีปัญหาก็เพราะตรงนี้แหละ)
    ทางยูเครนเองก็ไม่ได้มีต้นทุนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการทำสงครามเลย ยิ่งไม่มีทางที่จะเอาชนะรัสเซียยึดดินแดนที่เสียไปคืนมาได้อยู่แล้ว
    ..... หยุดซะตอนนี้เลยดีกว่า ยูเครนจะเสียน้อยกว่าปล่อยให้สงครามยืดเยื้อออกไป เป็นการดีต่อชาวยูเครนเอง
    .
    3. ต้นเดือนที่ผ่านมา สหรัฐประสบความสำเร็จในการใช้อาวุธแสงเลเซอร์ "HELIOS" ที่ติดตั้งบนเรือรบสอยโดรนลงได้ ..... มีข่าวออกมาสองทาง ทางหนึ่งบอกว่าเป็นการทดสอบ ส่วนอีกทางบอกว่าสอยโดรนของฮูตีลงมาได้
    แต่ไม่ว่าอย่างไร เชื่อว่าในตอนนี้อาวุธแสงเลเซอร์ "HELIOS" ของสหรัฐสามารถนำมาใช้จริงในสนามรบได้แล้ว
    .
    4. มีข่าวว่าสหรัฐจะปิดคลังอาวุธลับในกรีซ ซึ่งเป็นคลังที่เก็บอาวุธเพื่อส่งเข้าไปในยูเครน
    .
    5. เมื่อวานนี้ เกาหลีใต้ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในส่วนที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้ว
    .
    6. นครนิวยอร์คเก็บค่า Congestion Charge จากรถยนต์ชนิดต่างๆในการเข้าเขตเศรษฐกิจที่มีการจราจรหนาแน่นในแมนแฮทตันในเดือนแรกได้เกือบ 50 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 1.7 พันล้านบาท
    (Congestion Charge คือค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นมากๆ ส่วนใหญ่ก็จะเรียกเก็บกันในเวลากลางวันหรือในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อจูงใจให้ผู้คนหันไปใช้บริการขนส่งสาธารณะ เพื่อลดความหนาแน่นของรถยนต์ในพื้นที่นั้นๆ ..... เห็นผ่านๆตาว่าบ้านเราก็กำลังมีแนวคิดที่จะทำอยู่)
    .
    ภาพประกอบ ..... เรื่องวุ่นๆของวัยรุ่นทำเนียบขาว 🥹🥹

    ***เช่นเคย ขอความร่วมมืออย่าโยงมาการเมืองและนักการเมืองบ้านเรากันนะครับ ...... ถ้าทนไม่ไหวแนะนำให้แชร์ไปด่าที่กลุ่มหรือที่เฟสตัวเองครับ*** CR. https://www.facebook.com/share/1X94bYrs7p/?mibextid=wwXIfr ซิริอุส เป็นเรื่องของดวงดาว
    แจ้งข่าวต่างประเทศสั้นๆ 01/03/2025 1. ล่าสุดไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ในการไปเยือนสหรัฐของเซเลนสกีเพื่อลงนามในดีลแร่ธาตุธรรมชาติฯ เกิดการโต้เถียงระหว่างเซเลนสกี กับแวนซ์รองประธานาธิบดีฯและลุงทรัมป์ในห้องรูปไข่ แล้วลงเอยด้วยเซเลนสกีถูกลุงทรัมป์เอ็ดต่อหน้ากองทัพสื่อฯจนนั่งหน้าจ๋อย ..... โดนเอ็ด โดนชักสีหน้าใส่แบบไม่เหลือเกียรติศักดิ์ศรีของผู้นำประเทศ ประเทศนึงเลย (คลิปอยู่ในเม้นความยาวสิบนาที ดูเถอะ ดูบรรยากาศความเดือดก็น่าจะพอเห็นอะไรบ้างแล้ว) . เรื่องใหญ่แบบนี้เดี๋ยวสื่อบ้านเราคงรายงานแบบถอดเทปกัน ถ้าไม่รายงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ก็น่าเกลียดเกิน แต่จะสรุปใจความสั้นๆให้ว่า เซเลนสกีถูกลุงทรัมป์และแวนซ์ตำหนิต่อหน้าต่อตาแบบไม่ให้ราคาเลยว่า ...... "ไม่ได้รู้สึกขอบคุณสหรัฐ" "disrespectful" "attitude ของเซเลนสกีมีปัญหา" "เอาคนไปตุยทำบ้านเมืองเสียหายเพราะความเกลียดปูติน(เป็นการส่วนตัว)" "เซเลนสกีเอาโลกไปเสี่ยงต่อการเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม" "เซเลนสกีไม่มีอำนาจที่จะต่อรองอะไรได้เลย ไม่อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไร(แต่ชอบทำเรื่องเยอะ)" "ถ้าสหรัฐหยุดความช่วยเหลือวันนี้ยูเครนจะเสร็จรัสเซียในเวลารวดเร็ว" "การหยุดยิง สันติภาพไม่เกิดขึ้นก็เพราะเซเลนสกีเรื่องเยอะ" "ยังไม่ทันไร ยังไม่เริ่มคุย ไอนั่นก็ไม่เอาไอนี่ก็ไม่เอา" ฯลฯ . 2. จากข้อ1 ...... ลุงทรัมป์เลยเปลี่ยนใจไม่ลงนามในดีลแร่ธาตุธรรมชาติฯกับเซเลนสกีแล้ว โดยบอกว่า เซเลนสกีไม่พร้อมสำหรับสันติภาพตราบใดที่มีสหรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง แล้วประชดด้วยว่าเซเลนสกีรู้สึกว่าการมีส่วนร่วมของสหรัฐจะทำให้เค้าได้เปรียบอย่างมากในการเจรจาฯ ลุงทรัมป์ไม่ได้ต้องการความได้เปรียบแต่ต้องการสันติภาพ เซเลนสกีแสดงความไม่เคารพสหรัฐในห้องรูปไข่ (ห้องทำงานของประธานาธิบดีฯ สัญลักษณ์แห่งอำนาจของสหรัฐ) เอาไว้เซเลนสกีพร้อมสำหรับสันติภาพแล้วค่อยกลับมา และได้ทำการยกเลิกการแถลงข่าวร่วมฯของผู้นำสั้งสอง ..... แล้วก็มีรายงานข่าวว่า เซเลนสกีถูกเชิญออกจากทำเนียบขาวแบบไม่ให้เกียรติ ..... ถ้าเป็นเรื่องจริง นั่นผู้นำประเทศหนึ่งนะ ไม่เหลือทรงเลย เฮ้อออออ เห็นใจชาวยูเครนจริงๆ 🥹🥹 . นั่นแหละครับ เซเลนสกีไม่มีอานาจ ไม่มีอะไรที่จะเอาไปต่อรองได้เลย นอกจากชีวิตของชาวยูเครนแล้วก็ไม่ได้มีต้นทุนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการทำสงครามเลย ทุกอย่างต้องขอชาวบ้านมาตลอดสามปี ตลอดสามปีที่ผ่านมาเคยเห็นเค้าหยุดเดินสายขอชาวบ้านมั้ย? จะทำสงครามต่อไปได้แค่ไหนก็ต้องอาศัยความเมตตาจากประเทศอื่น แต่ก็ยังจะลากประเทศเข้าสู่สงครามที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตั้งแต่แรก สงครามเกิดแล้วก็ยังสามารถยุติได้ตั้งแต่ต้นๆ แต่ก็ไม่เอาอีก . ผ่านมาสามปี วันนี้ประเทศผู้สนับสนุนหลักที่เคยเมตตา เค้าไม่เมตตาเหมือนเดิมบอกให้หยุดสู้รบได้แล้ว ถ้าไม่หยุดก็ไปหาทางทำสงครามต่อเอาเอง แล้วจะไปยังไงต่อ? ผู้คนก็ตุยไปแล้ว ดินแดนก็เสียไปแล้ว จะทำสงครามต่อก็ไม่มีปัญญารบได้ด้วยตัวเอง แถมล่าสุดก็ไปโดนสหรัฐฉีกหน้าต่อหน้าโลกซะขนาดนั้น ...... แต่ส่วนตัวเชื่อว่ายังไงเซเลนสกีก็ต้องเดินตัวลีบๆไปขอร้องให้เค้าช่วยอยู่ดี เฮ้ออออ ถึงได้บอกว่า คนนี้เค้าเหมือนเด็กอมมือบทเวทีโลก ก่อนสงครามไปจนถึงช่วงต้นของสงคราม อำนาจต่อรองอยู่ที่เซเลนสกี แต่เค้าไม่ยอมเจรจาฯเอง ..... พอตอนนี้ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรแล้ว กลับมางอแงจะมีส่วนร่วมในการเจรจาฯ . ส่วนทางทรัมป์กับแวนซ์ เค้าเคยบอกว่าไม่ได้จะไปเอาเงื่อนไขของรัสเซียมาบังคับให้ยูเครนยอมรับ แต่ต้องการไปคุยกับรัสเซียก่อน แล้วค่อยมาคุยกับเซเลนสกี จะรับไม่รับ ทั้งสองฝ่ายค่อยมาต่อรองอีกที ก็เพราะเซเลนสกีเป็นแบบนี้แหละ ยังไม่ทันไรก็ตั้งเงื่อนไขเว่อร์ๆผ่านสื่อฯไว้ก่อน ไปเอาเซเลนสกีเข้ามาตั้งแต่แรก การเจรจายุติสงครามฯก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ (หนึ่งในตัวอย่างของความเว่อร์เซเลนสกีที่เคยพูดไว้ สงครามจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียคืนดินแดนทั้งหมด ปลดอาวุธนิวเคลียร์ ลดขนาดกองทัพ และ ลดความสามารถทางทหารของตัวเอง ..... เอาแค่ข้อไหนข้อเดียวก็เป็นไปไม่ได้แล้ว) . ที่สำคัญ ลุงทรัมป์เค้าชัดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า เค้าอยู่ในฐานะตัวกลางที่จะยึดเอาตามสถานการณ์จริงในพื้นที่สู้รบ มันไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของลุงทรัมป์ที่ต้องไปทวงดินแดนที่เสียไปคืนให้ยูเครน (ที่เซเลนสกีงอแงมีปัญหาก็เพราะตรงนี้แหละ) ทางยูเครนเองก็ไม่ได้มีต้นทุนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการทำสงครามเลย ยิ่งไม่มีทางที่จะเอาชนะรัสเซียยึดดินแดนที่เสียไปคืนมาได้อยู่แล้ว ..... หยุดซะตอนนี้เลยดีกว่า ยูเครนจะเสียน้อยกว่าปล่อยให้สงครามยืดเยื้อออกไป เป็นการดีต่อชาวยูเครนเอง . 3. ต้นเดือนที่ผ่านมา สหรัฐประสบความสำเร็จในการใช้อาวุธแสงเลเซอร์ "HELIOS" ที่ติดตั้งบนเรือรบสอยโดรนลงได้ ..... มีข่าวออกมาสองทาง ทางหนึ่งบอกว่าเป็นการทดสอบ ส่วนอีกทางบอกว่าสอยโดรนของฮูตีลงมาได้ แต่ไม่ว่าอย่างไร เชื่อว่าในตอนนี้อาวุธแสงเลเซอร์ "HELIOS" ของสหรัฐสามารถนำมาใช้จริงในสนามรบได้แล้ว . 4. มีข่าวว่าสหรัฐจะปิดคลังอาวุธลับในกรีซ ซึ่งเป็นคลังที่เก็บอาวุธเพื่อส่งเข้าไปในยูเครน . 5. เมื่อวานนี้ เกาหลีใต้ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในส่วนที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้ว . 6. นครนิวยอร์คเก็บค่า Congestion Charge จากรถยนต์ชนิดต่างๆในการเข้าเขตเศรษฐกิจที่มีการจราจรหนาแน่นในแมนแฮทตันในเดือนแรกได้เกือบ 50 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 1.7 พันล้านบาท (Congestion Charge คือค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นมากๆ ส่วนใหญ่ก็จะเรียกเก็บกันในเวลากลางวันหรือในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อจูงใจให้ผู้คนหันไปใช้บริการขนส่งสาธารณะ เพื่อลดความหนาแน่นของรถยนต์ในพื้นที่นั้นๆ ..... เห็นผ่านๆตาว่าบ้านเราก็กำลังมีแนวคิดที่จะทำอยู่) . ภาพประกอบ ..... เรื่องวุ่นๆของวัยรุ่นทำเนียบขาว 🥹🥹 ***เช่นเคย ขอความร่วมมืออย่าโยงมาการเมืองและนักการเมืองบ้านเรากันนะครับ ...... ถ้าทนไม่ไหวแนะนำให้แชร์ไปด่าที่กลุ่มหรือที่เฟสตัวเองครับ*** CR. https://www.facebook.com/share/1X94bYrs7p/?mibextid=wwXIfr ซิริอุส เป็นเรื่องของดวงดาว
    0 Comments 0 Shares 1005 Views 0 Reviews
  • จับผิดฮั้วเลือก ส.ว.สายสีน้ำเงินขยับ "นันทนา" เชียร์ดีเอสไอ
    .
    ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของส.ว.บางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่เข้ามาตรวจสอบกระบวนการเลือกส.ว. ปรากฎว่ายังมีส.ว.อีกส่วนหนึ่งที่สนับสนุนการทำงานของดีเอสไอ นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ส.ว.ในกลุ่มอิสระ ซึ่งระบุว่า เดิมทีทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการสืบสวน สอบสวนการทุจริตเลือกตั้งต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 7 เดือนแล้ว กกต.ยังเงียบอยู่ ทำให้มีประชาชนเริ่มกังขาการทำหน้าที่ของ กกต. และการที่ดีเอสไอแสดงท่าทีว่าจะเข้ามารับทำคดีนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่เขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง ส.ว.ชุดนี้
    .
    "ส่วนกระบวนการที่ดีเอสไอจะดำเนินการสืบสวนนั้น เข้าใจว่าเป็นเรื่องทางคดีอาญาเกี่ยวกับการอั้งยี่ที่แยกออกจากเรื่องคดีเลือกตั้ง ซึ่งหากทางดีเอสไอเข้ามาดำเนินการและสามารถทำให้คลายข้อสงสัยของประชาชนจำนวนมากได้ ก็เห็นด้วย"
    .
    "ส่วนตัวเห็นว่ากระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.ตรงนี้มันวิปริตบิดเบี้ยวไปตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ นั่นคือเป็นกระบวนการที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม เพราะเป็นคนที่สมัคร จ่ายเงิน และเข้ามาเลือกกันเอง ฉะนั้น หากกระบวนการไปถึงขั้นตอนที่พบว่ามีความผิดปกติ ไม่ชอบมาพากล และต้องมีการล้มกระดาน คิดว่าก่อนที่จะมีการล้มกระดานควรจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง ส.ว. เพื่อเปลี่ยนกติกาก่อน เพราะหากมีการล้มกระดานจริง แต่ยังใช้กติกาเดิม มันก็เหมือนเดิม ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร" ส.ว.นันทนา ระบุ
    .
    ขณะเดียวกัน มีรายงานจากวุฒิสภาว่า นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภาหรือ วิปวุฒิสภา ได้นัดหารือวิปวุฒิสภา เป็นกรณีพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 24 ก.พ.นี้ ที่ห้องประชุม 406-407 ตึกวุฒิสภา เวลา 08.00 น. ที่เป็นช่วงก่อนเข้าประชุมวุฒิสภา โดยได้มีการส่งข้อความถึงสว.ที่อยู่ในวิปวุฒิสภาให้แจ้งการเข้าประชุม โดยหากใครลาการประชุมขอให้แจ้งล่วงหน้า ซึ่งเดิมที วิปวุฒิสภา จะนัดประชุมวันที่ 26 ก.พ.แต่ได้เลื่อนมาเป็น 24 ก.พ. หลังคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือบอร์ดดีเอสไอ นัดประชุมวันที่ 25 ก.พ. เพื่อลงมติว่าจะรับเรื่องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าสอบสวนการเลือกสว.ชุดปัจจุบันเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งการจะรับเป็นคดีพิเศษ ต้องใช้เสียงของกรรมการอย่างน้อย 2 ใน 3 จากกรรมการที่มีอยู่ 22 คนหรือประมาณ 15 เสียง ดีเอสไอถึงเข้าสอบสวนได้ แต่ต้องจับตาว่าจะมีกรรมการเข้าประชุมครบหรือไม่
    .
    นอกจากนี้ ยังมีการรายงานอีกว่า ได้มีการขอความร่วมมือจากกลุ่มส.ว.ให้งดการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไว้ก่อน เพื่อรอฟังมติที่ประชุมบอร์ดดีเอสไอในวันอังคารที่ 25 ก.พ.
    .............
    Sondhi X
    จับผิดฮั้วเลือก ส.ว.สายสีน้ำเงินขยับ "นันทนา" เชียร์ดีเอสไอ . ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของส.ว.บางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่เข้ามาตรวจสอบกระบวนการเลือกส.ว. ปรากฎว่ายังมีส.ว.อีกส่วนหนึ่งที่สนับสนุนการทำงานของดีเอสไอ นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ส.ว.ในกลุ่มอิสระ ซึ่งระบุว่า เดิมทีทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการสืบสวน สอบสวนการทุจริตเลือกตั้งต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 7 เดือนแล้ว กกต.ยังเงียบอยู่ ทำให้มีประชาชนเริ่มกังขาการทำหน้าที่ของ กกต. และการที่ดีเอสไอแสดงท่าทีว่าจะเข้ามารับทำคดีนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่เขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง ส.ว.ชุดนี้ . "ส่วนกระบวนการที่ดีเอสไอจะดำเนินการสืบสวนนั้น เข้าใจว่าเป็นเรื่องทางคดีอาญาเกี่ยวกับการอั้งยี่ที่แยกออกจากเรื่องคดีเลือกตั้ง ซึ่งหากทางดีเอสไอเข้ามาดำเนินการและสามารถทำให้คลายข้อสงสัยของประชาชนจำนวนมากได้ ก็เห็นด้วย" . "ส่วนตัวเห็นว่ากระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.ตรงนี้มันวิปริตบิดเบี้ยวไปตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ นั่นคือเป็นกระบวนการที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม เพราะเป็นคนที่สมัคร จ่ายเงิน และเข้ามาเลือกกันเอง ฉะนั้น หากกระบวนการไปถึงขั้นตอนที่พบว่ามีความผิดปกติ ไม่ชอบมาพากล และต้องมีการล้มกระดาน คิดว่าก่อนที่จะมีการล้มกระดานควรจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง ส.ว. เพื่อเปลี่ยนกติกาก่อน เพราะหากมีการล้มกระดานจริง แต่ยังใช้กติกาเดิม มันก็เหมือนเดิม ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร" ส.ว.นันทนา ระบุ . ขณะเดียวกัน มีรายงานจากวุฒิสภาว่า นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภาหรือ วิปวุฒิสภา ได้นัดหารือวิปวุฒิสภา เป็นกรณีพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 24 ก.พ.นี้ ที่ห้องประชุม 406-407 ตึกวุฒิสภา เวลา 08.00 น. ที่เป็นช่วงก่อนเข้าประชุมวุฒิสภา โดยได้มีการส่งข้อความถึงสว.ที่อยู่ในวิปวุฒิสภาให้แจ้งการเข้าประชุม โดยหากใครลาการประชุมขอให้แจ้งล่วงหน้า ซึ่งเดิมที วิปวุฒิสภา จะนัดประชุมวันที่ 26 ก.พ.แต่ได้เลื่อนมาเป็น 24 ก.พ. หลังคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือบอร์ดดีเอสไอ นัดประชุมวันที่ 25 ก.พ. เพื่อลงมติว่าจะรับเรื่องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าสอบสวนการเลือกสว.ชุดปัจจุบันเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งการจะรับเป็นคดีพิเศษ ต้องใช้เสียงของกรรมการอย่างน้อย 2 ใน 3 จากกรรมการที่มีอยู่ 22 คนหรือประมาณ 15 เสียง ดีเอสไอถึงเข้าสอบสวนได้ แต่ต้องจับตาว่าจะมีกรรมการเข้าประชุมครบหรือไม่ . นอกจากนี้ ยังมีการรายงานอีกว่า ได้มีการขอความร่วมมือจากกลุ่มส.ว.ให้งดการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไว้ก่อน เพื่อรอฟังมติที่ประชุมบอร์ดดีเอสไอในวันอังคารที่ 25 ก.พ. ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    11
    0 Comments 0 Shares 2645 Views 0 Reviews
More Results