• จาเร็ด​ คุชเนอร์ (Jared Kushner) สามีของอิวังก้า ทรัมป์ ลูกสาวคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกสื่อมวลชนเปิดโปงว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดให้สหรัฐเข้ายึดครองกาซา และขับไล่ชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนออกไปจากถิ่นกำเนิดพวกเขา เพื่อสร้างกาซาขึ้นใหม่

    เนื่องจากแผนการของทรัมป์ คือสิ่งที่ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของเขา เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ว่าอิสราเอลควรขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาและพัฒนาพื้นที่ริมทะเลแห่งนี้ขึ้นใหม่ โดยเรียกพื้นที่ตรงนั้นว่า “มีค่ามหาศาล” (very valuable)

    นายจาเร็ด คุชเนอร์ ชาวยิวที่มีบรรพบุรุษมาจากเบลารุส ปู่และย่าของเขารอดชีวิตจากค่ายกักกันที่นาซีเยอรมนีดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างยึดครองเบลารุสอยู่ และอพยพมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2492 ต่อมา "ชาร์ล คุชเนอร์" พ่อของจาเร็ดก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ จนประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมาก

    ทรัมป์สมัยแรก แต่งตั้งให้ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับอาวุโสในทำเนียบขาว โดยให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อทรัมป์โดยตรง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็น "มือขวา" ของทรัมป์ในสมัยนั้น

    เขาเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน และเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ New York Observer

    ต่อมาในทรัมป์สมัยที่สอง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการแต่งตั้ง ชาร์ลส์ คุชเนอร์ วัย 70 ปี พ่อของจาเร็ด เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฝรั่งเศส ทั้งที่เคยถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปีเมื่อปี 2548 หลังจากรับสารภาพในความผิด 18 กระทงในคดีบริจาคเงินหาเสียงอย่างผิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงถูกเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นทนายความในรัฐนิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก และเพนซิลเวเนีย แต่ได้รับการอภัยโทษทั้งหมดจากทรัมป์ในปี 2563 เมื่อครั้งที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก





    จาเร็ด​ คุชเนอร์ (Jared Kushner) สามีของอิวังก้า ทรัมป์ ลูกสาวคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกสื่อมวลชนเปิดโปงว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดให้สหรัฐเข้ายึดครองกาซา และขับไล่ชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนออกไปจากถิ่นกำเนิดพวกเขา เพื่อสร้างกาซาขึ้นใหม่ เนื่องจากแผนการของทรัมป์ คือสิ่งที่ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของเขา เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ว่าอิสราเอลควรขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาและพัฒนาพื้นที่ริมทะเลแห่งนี้ขึ้นใหม่ โดยเรียกพื้นที่ตรงนั้นว่า “มีค่ามหาศาล” (very valuable) นายจาเร็ด คุชเนอร์ ชาวยิวที่มีบรรพบุรุษมาจากเบลารุส ปู่และย่าของเขารอดชีวิตจากค่ายกักกันที่นาซีเยอรมนีดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างยึดครองเบลารุสอยู่ และอพยพมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2492 ต่อมา "ชาร์ล คุชเนอร์" พ่อของจาเร็ดก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ จนประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมาก ทรัมป์สมัยแรก แต่งตั้งให้ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับอาวุโสในทำเนียบขาว โดยให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อทรัมป์โดยตรง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็น "มือขวา" ของทรัมป์ในสมัยนั้น เขาเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน และเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ New York Observer ต่อมาในทรัมป์สมัยที่สอง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการแต่งตั้ง ชาร์ลส์ คุชเนอร์ วัย 70 ปี พ่อของจาเร็ด เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฝรั่งเศส ทั้งที่เคยถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปีเมื่อปี 2548 หลังจากรับสารภาพในความผิด 18 กระทงในคดีบริจาคเงินหาเสียงอย่างผิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงถูกเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นทนายความในรัฐนิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก และเพนซิลเวเนีย แต่ได้รับการอภัยโทษทั้งหมดจากทรัมป์ในปี 2563 เมื่อครั้งที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • ห้องสมุดสาธารณะกำลังเผชิญกับปัญหาหนังสือที่สร้างจาก AI ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาคุณภาพต่ำและทำให้การตรวจสอบยากขึ้น ข่าวนี้เปิดเผยว่าหลายบริษัทที่ให้บริการหนังสือดิจิทัลแก่ห้องสมุด ไม่สามารถควบคุมปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    บริษัท OverDrive และ Hoopla ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการให้ยืมอีบุ๊ค กำลังประสบปัญหาในการกรองเนื้อหาคุณภาพต่ำที่สร้างจาก AI โดย OverDrive อนุญาตให้ห้องสมุดคัดเลือกหนังสือที่จะเสนอ ส่วน Hoopla ให้เข้าถึงแคตาล็อกทั้งหมดได้โดยไม่มีการกรอง ทำให้มีเนื้อหาปลอม (vendor slurry) มากมายเข้ามาในระบบ

    ตัวอย่างหนึ่งของปัญหานี้คือบริษัท IRB Media ที่มีหนังสือหลายร้อยเล่มบน Hoopla ซึ่งเป็นสรุปที่สร้างจาก AI ของหนังสือที่มีอยู่แล้ว การให้ยืมเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพนี้ทำให้ห้องสมุดต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ กลับมา

    สองปีที่แล้ว กลุ่ม Library Futures และ Library Freedom Project ได้เรียกร้องให้ Hoopla และ OverDrive แก้ไขปัญหาหนังสือคุณภาพต่ำ โดยเฉพาะหนังสือที่ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของชาวยิวหรือแสดงความเกลียดชังต่อชนกลุ่มน้อย Hoopla ได้ลบหนังสือที่มีปัญหาออก แต่ระบบอัตโนมัติและการตรวจสอบด้วยมนุษย์ยังไม่เพียงพอในการป้องกันปัญหานี้

    Luca Bartlomiejczyk บรรณารักษ์จากห้องสมุด Edith Wheeler Memorial ใน Monroe, Connecticut กล่าวว่าความรับผิดชอบในการควบคุมเนื้อหาจาก AI เป็นสิ่งสำคัญ และเนื้อหาดังกล่าวควรมีป้ายกำกับชัดเจนในแคตาล็อก เพื่อให้ผู้อ่านทราบว่าพวกเขากำลังดาวน์โหลดอะไรมาอ่าน

    สรุปแล้ว หนังสือที่สร้างจาก AI กำลังเกลื่อนห้องสมุดสาธารณะ และยังไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหานี้ที่ง่ายหรือแน่ชัด การควบคุมและการตรวจสอบเนื้อหายังคงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปอย่างเร่งด่วน

    https://www.techspot.com/news/106656-ai-generated-books-have-overrun-public-libraries-no.html
    ห้องสมุดสาธารณะกำลังเผชิญกับปัญหาหนังสือที่สร้างจาก AI ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาคุณภาพต่ำและทำให้การตรวจสอบยากขึ้น ข่าวนี้เปิดเผยว่าหลายบริษัทที่ให้บริการหนังสือดิจิทัลแก่ห้องสมุด ไม่สามารถควบคุมปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท OverDrive และ Hoopla ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการให้ยืมอีบุ๊ค กำลังประสบปัญหาในการกรองเนื้อหาคุณภาพต่ำที่สร้างจาก AI โดย OverDrive อนุญาตให้ห้องสมุดคัดเลือกหนังสือที่จะเสนอ ส่วน Hoopla ให้เข้าถึงแคตาล็อกทั้งหมดได้โดยไม่มีการกรอง ทำให้มีเนื้อหาปลอม (vendor slurry) มากมายเข้ามาในระบบ ตัวอย่างหนึ่งของปัญหานี้คือบริษัท IRB Media ที่มีหนังสือหลายร้อยเล่มบน Hoopla ซึ่งเป็นสรุปที่สร้างจาก AI ของหนังสือที่มีอยู่แล้ว การให้ยืมเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพนี้ทำให้ห้องสมุดต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ กลับมา สองปีที่แล้ว กลุ่ม Library Futures และ Library Freedom Project ได้เรียกร้องให้ Hoopla และ OverDrive แก้ไขปัญหาหนังสือคุณภาพต่ำ โดยเฉพาะหนังสือที่ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของชาวยิวหรือแสดงความเกลียดชังต่อชนกลุ่มน้อย Hoopla ได้ลบหนังสือที่มีปัญหาออก แต่ระบบอัตโนมัติและการตรวจสอบด้วยมนุษย์ยังไม่เพียงพอในการป้องกันปัญหานี้ Luca Bartlomiejczyk บรรณารักษ์จากห้องสมุด Edith Wheeler Memorial ใน Monroe, Connecticut กล่าวว่าความรับผิดชอบในการควบคุมเนื้อหาจาก AI เป็นสิ่งสำคัญ และเนื้อหาดังกล่าวควรมีป้ายกำกับชัดเจนในแคตาล็อก เพื่อให้ผู้อ่านทราบว่าพวกเขากำลังดาวน์โหลดอะไรมาอ่าน สรุปแล้ว หนังสือที่สร้างจาก AI กำลังเกลื่อนห้องสมุดสาธารณะ และยังไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหานี้ที่ง่ายหรือแน่ชัด การควบคุมและการตรวจสอบเนื้อหายังคงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปอย่างเร่งด่วน https://www.techspot.com/news/106656-ai-generated-books-have-overrun-public-libraries-no.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI-generated books have overrun public libraries, with no easy solution in sight
    The internet is becoming a wasteland, devoid of human interaction, as bots consume global bandwidth with malicious and worthless traffic. According to those in the ebook lending...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานสื่อของรัฐบาลปาเลสไตน์ในฉนวนกาซารายงานภาพรวมของการโจมตีจากอิสราเอล:

    ➤ ประชาชนมากกว่า 61,000 คน ตกเป็นเหยื่อของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซา

    ➤ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่าสองล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานจากบ้านเรือนของตน

    ➤ ที่อยู่อาศัยมากกว่า 150,000 ยูนิต ได้รับความเสียหายในฉนวนกาซาจากการโจมตีทำลายของอิสราเอล

    ➤ กองกำลังอิสราเอลก่อเหตุสังหารหมู่ยกครอบครัวไปมากถึง 9,268 คตรอบครัว ในระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา

    ➤ กองกำลังอิสราเอลสังหารบุคลากรทางการแพทย์ไป 1,155 ราย นักข่าว 205 ราย และเจ้าหน้าที่บริการสาธารธภัยพลเรือน 194 ราย

    ➤ กองกำลังอิสราเอลทำลายโรงพยาบาลประมาณ 34 แห่งในฉนวนกาซา
    สำนักงานสื่อของรัฐบาลปาเลสไตน์ในฉนวนกาซารายงานภาพรวมของการโจมตีจากอิสราเอล: ➤ ประชาชนมากกว่า 61,000 คน ตกเป็นเหยื่อของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซา ➤ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่าสองล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานจากบ้านเรือนของตน ➤ ที่อยู่อาศัยมากกว่า 150,000 ยูนิต ได้รับความเสียหายในฉนวนกาซาจากการโจมตีทำลายของอิสราเอล ➤ กองกำลังอิสราเอลก่อเหตุสังหารหมู่ยกครอบครัวไปมากถึง 9,268 คตรอบครัว ในระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา ➤ กองกำลังอิสราเอลสังหารบุคลากรทางการแพทย์ไป 1,155 ราย นักข่าว 205 ราย และเจ้าหน้าที่บริการสาธารธภัยพลเรือน 194 ราย ➤ กองกำลังอิสราเอลทำลายโรงพยาบาลประมาณ 34 แห่งในฉนวนกาซา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • คลิปเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบคำถามกับนักข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ในแผนการกวาดล้างชาติพันธุ์ในฉนวนกาซา:

    'ผมอยากให้อียิปต์ช่วยกันกวาดต้อนผู้คน และอยากให้จอร์แดนร่วมด้วย คุณกำลังพูดถึงผู้คนเป็นหนึ่งล้านห้าแสนคน และเราแค่กวาดล้างทุกอย่างนั้น'

    'คุณรู้ไหมว่าตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา มีความขัดแย้งมากมาย ผมไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก ที่นั่นมันมีกลายเป็นสถานที่ที่ถูกรื้อถอนทำลายอย่างแท้จริง ทุกอย่างถูกทำลายไปเกือบหมด และผู้คนกำลังตายอยู่ในนั้น ดังนั้น ผมอยากให้ประเทศอาหรับบางประเทศช่วยกันสร้างที่อยู่อาศัยในสถานที่อื่นที่พวกเขาอาจจะใช้อาศัยอยู่อย่างสันติบ้าง'
    .

    ทรัมป์อาจจะไม่รู้ว่าส่วนอื่นๆของโลก กลับมีความเห็นที่ดีกว่านั้น นั่นคือการหยุดการล่าอาณานิคมที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอล และให้ชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่บนดินแดนที่พวกเขาอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนอย่างสงบสุข
    คลิปเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบคำถามกับนักข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ในแผนการกวาดล้างชาติพันธุ์ในฉนวนกาซา: 'ผมอยากให้อียิปต์ช่วยกันกวาดต้อนผู้คน และอยากให้จอร์แดนร่วมด้วย คุณกำลังพูดถึงผู้คนเป็นหนึ่งล้านห้าแสนคน และเราแค่กวาดล้างทุกอย่างนั้น' 'คุณรู้ไหมว่าตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา มีความขัดแย้งมากมาย ผมไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก ที่นั่นมันมีกลายเป็นสถานที่ที่ถูกรื้อถอนทำลายอย่างแท้จริง ทุกอย่างถูกทำลายไปเกือบหมด และผู้คนกำลังตายอยู่ในนั้น ดังนั้น ผมอยากให้ประเทศอาหรับบางประเทศช่วยกันสร้างที่อยู่อาศัยในสถานที่อื่นที่พวกเขาอาจจะใช้อาศัยอยู่อย่างสันติบ้าง' . ทรัมป์อาจจะไม่รู้ว่าส่วนอื่นๆของโลก กลับมีความเห็นที่ดีกว่านั้น นั่นคือการหยุดการล่าอาณานิคมที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอล และให้ชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่บนดินแดนที่พวกเขาอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนอย่างสงบสุข
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • "เด็กเสียชีวิตไปกว่า 30,000 คน ยังไม่เพียงพอสำหรับระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เหล่านี้!!!"

    ทรัมป์อนุมัติให้ส่งระเบิด MK-84 น้ำหนัก 2,000 ปอนด์ จำนวน 1,800 ลูกไปยังอิสราเอล

    ซึ่งเป็นการพลิกกลับคำสั่งห้ามส่งระเบิดที่บังคับใช้ในสมัยรัฐบาลของไบเดนช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว การตัดสินใจของไบเดนในครั้งนั้นได้ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านความสัมพันธ์ครั้งใหญ่ระหว่างสหรัฐและอิสราเอล

    ระเบิดดังกล่าวขึ้นชื่อว่ามีพลังทำลายล้างสูง และคาดว่าจะมาถึงอิสราเอลภายในไม่กี่วันนี้
    "เด็กเสียชีวิตไปกว่า 30,000 คน ยังไม่เพียงพอสำหรับระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เหล่านี้!!!" ทรัมป์อนุมัติให้ส่งระเบิด MK-84 น้ำหนัก 2,000 ปอนด์ จำนวน 1,800 ลูกไปยังอิสราเอล ซึ่งเป็นการพลิกกลับคำสั่งห้ามส่งระเบิดที่บังคับใช้ในสมัยรัฐบาลของไบเดนช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว การตัดสินใจของไบเดนในครั้งนั้นได้ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านความสัมพันธ์ครั้งใหญ่ระหว่างสหรัฐและอิสราเอล ระเบิดดังกล่าวขึ้นชื่อว่ามีพลังทำลายล้างสูง และคาดว่าจะมาถึงอิสราเอลภายในไม่กี่วันนี้
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ บอกลาตำแหน่งของเขาไปพร้อมกับคำครหาว่าเขาคือหนึ่งในทีมงานของโจ ไบเดน ที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา รวมทั้งขัดขวางการยุติสงครามในยูเครนที่ควรจบลงตั้งแต่ปี 2565 ทำให้ยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน
    แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ บอกลาตำแหน่งของเขาไปพร้อมกับคำครหาว่าเขาคือหนึ่งในทีมงานของโจ ไบเดน ที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา รวมทั้งขัดขวางการยุติสงครามในยูเครนที่ควรจบลงตั้งแต่ปี 2565 ทำให้ยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน
    Sad
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • 83 ปี แห่งการประชุมวันเซ จุดเริ่มไอน์ซัทซ์กรุพเพิน นาซีเยอรมนี ปฏิบัติการล้างบางชาวยิว


    ย้อนไปเมื่อ 83 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2485 การประชุมวันเซ (Wannsee Conference) ณ คฤหาสน์โกเบน วันเซ ชานกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่เปลี่ยนโฉมหน้า ประวัติศาสตร์โลก ไปตลอดกาล ที่นี่ ผู้นำนาซีเยอรมัน รวมถึงสมาชิกระดับสูง ของหน่วยเอสเอส (SS) และเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อดำเนิน "การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย" หรือ “Final Solution” ซึ่งเป็นโครงการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ทั่วทวีปยุโรป

    การประชุมวันเซ จุดเริ่มต้นการล้างบาง
    การประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย ไรน์ฮาร์ด ไฮดริช (Reinhard Heydrich) ผู้อำนวยการ สำนักความมั่นคงหลักไรช์ (Reich Security Main Office) โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผน และสร้างความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ของเยอรมนี ในปฏิบัติการกำจัดชาวยิว ทั่วทั้งทวีปยุโรป ไฮดริชต้องการความแน่ใจว่า หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ จะปฏิบัติตามแผนการ ที่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน

    นอกจากการสร้างความร่วมมือ ไฮดริชยังได้ใช้การประชุมครั้งนี้ เพื่อชี้แจงแผนการ ส่งชาวยิวในยุโรปตะวันตก ไปยังค่ายมรณะในโปแลนด์ เช่น ค่ายเอาชวิทซ์ (Auschwitz) และเทรบลินกา (Treblinka) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย”

    ผู้เข้าร่วมการประชุม มีทั้งหมด 15 คน ซึ่งเป็นตัวแทนระดับสูง จากหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้นำจากหน่วยเอสเอส ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการระดับสูง หนึ่งในนั้นคือ อัดอล์ฟ ไอช์มันน์ (Adolf Eichmann) ผู้มีบทบาทสำคัญ ในการประสานงาน และดำเนินการขนส่งชาวยิว ไปยังค่ายมรณะ

    ในบันทึกการประชุม ที่หลงเหลือมาจากสงคราม แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมไม่ได้แสดงความขัดแย้ง ต่อแผนการนี้ แต่กลับสนับสนุน และมีการพูดคุย ถึงวิธีการอย่างละเอียด

    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน กองกำลังสังหาร ที่ปฏิบัติการในแนวรบตะวันออก
    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน (Einsatzgruppen) หรือ "หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ" เป็นกลุ่มกองกำลัง ของหน่วยเอสเอส ที่ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อปฏิบัติภารกิจสังหารหมู่ ในพื้นที่ที่กองทัพเยอรมันยึดครอง โดยเฉพาะในยุโรปตะวันออก หลังการรุกรานโปแลนด์ และสหภาพโซเวียต หน่วยเหล่านี้ มีหน้าที่กำจัดกลุ่มคน ที่ถูกระบุว่า เป็นภัยต่อระบอบนาซี เช่น ชาวยิว ชาวโรมานี (ยิปซี) ปัญญาชน และสมาชิกฝ่ายตรงข้าม ทางการเมือง

    ปฏิบัติการไอน์ซัทซ์กรุพเพิน
    การสังหารหมู่ส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นผ่านการยิงเป้า ในพื้นที่ชนบทหรือป่าลึก ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักคือ การสังหารหมู่ที่บาบี ยาร์ (Babi Yar) ในยูเครน เมื่อเดือนกันยายน 2484 ซึ่งมีชาวยิวมากกว่า 33,000 คน ถูกสังหารภายในเวลาเพียง 2 วัน

    ในช่วงแรก เหยื่อถูกบังคับ ให้ขุดหลุมศพของตนเอง ก่อนจะถูกยิงเป้า ต่อมานาซีเริ่มใช้วิธีการที่ "มีประสิทธิภาพมากขึ้น" เช่น การส่งเหยื่อไปยังค่ายมรณะ และสังหารในห้องรมแก๊ส

    ตามการประเมิน ของนักประวัติศาสตร์ หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน มีส่วนรับผิดชอบ ต่อการสังหารผู้คนกว่า 2 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีชาวยิวประมาณ 1.3 ล้านคน

    มาตรการสุดท้าย การล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ
    บังคับใช้กฎหมาย แบ่งแยกชาวยิว
    ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีเริ่มจากการบังคับใช้ กฎหมายเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Laws) ในปี 1935 ซึ่งแยกชาวยิว ออกจากสังคมเยอรมัน อย่างเป็นทางการ

    ตั้งเกตโต
    ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวถูกบังคับ ให้ย้ายไปอาศัยในเขตเกตโต (Ghetto) เช่น เกตโตวอร์ซอ (Warsaw Ghetto) ซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด และไร้มนุษยธรรม

    การเนรเทศและสังหารหมู่
    ชาวยิวถูกขนส่งใน "รถไฟมรณะ" ไปยังค่ายมรณะ เช่น เอาชวิทซ์ เพื่อถูกสังหาร ในห้องรมแก๊ส

    มาตรการสุดท้ายของนาซี นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 6 ล้านคน คิดเป็นสองในสาม ของประชากรยิวในยุโรป ในขณะนั้น

    เอกสารที่หลงเหลือ
    หลังสงครามสิ้นสุดลง สำเนาพิธีสารการประชุมวันเซ ถูกค้นพบโดยฝ่ายสัมพันธมิตร และถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Trials) เพื่อดำเนินคดี กับผู้นำนาซี

    สำนึกผิดและสร้างอนุสรณ์
    ปัจจุบัน อาคารที่เคยใช้จัดการประชุมวันเซ ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์สถาน เพื่อรำลึกถึงเหยื่อ ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

    คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. การประชุมวันเซ มีผลกระทบอย่างไรต่อชาวยิว?
    การประชุมวันเซ เป็นการกำหนดแผนปฏิบัติการ สังหารหมู่ชาวยิว อย่างเป็นระบบ ทั่วทวีปยุโรป ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิต ของชาวยิวกว่า 6 ล้านคน

    2. หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน ทำหน้าที่อะไร?
    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน เป็นหน่วยกองกำลังของเอสเอส ที่มีหน้าที่ปฏิบัติการสังหารหมู่ ในยุโรปตะวันออก โดยใช้วิธีการยิงเป้า และการสังหารหมู่ในระดับใหญ่

    3. มีชาวยิวกี่คนที่เสียชีวิต ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์?
    ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ ชาวยิวประมาณ 6 ล้านคน ถูกสังหาร รวมถึงผู้เสียชีวิตจากกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกกว่า 11 ล้านคน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200908 ม.ค. 2568

    #Holocaust #WannseeConference #Einsatzgruppen #FinalSolution #NaziGermany #JewishHistory #WorldWarII #Genocide #NeverAgain #HistoryMatters
    83 ปี แห่งการประชุมวันเซ จุดเริ่มไอน์ซัทซ์กรุพเพิน นาซีเยอรมนี ปฏิบัติการล้างบางชาวยิว ย้อนไปเมื่อ 83 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2485 การประชุมวันเซ (Wannsee Conference) ณ คฤหาสน์โกเบน วันเซ ชานกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่เปลี่ยนโฉมหน้า ประวัติศาสตร์โลก ไปตลอดกาล ที่นี่ ผู้นำนาซีเยอรมัน รวมถึงสมาชิกระดับสูง ของหน่วยเอสเอส (SS) และเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อดำเนิน "การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย" หรือ “Final Solution” ซึ่งเป็นโครงการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ทั่วทวีปยุโรป การประชุมวันเซ จุดเริ่มต้นการล้างบาง การประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย ไรน์ฮาร์ด ไฮดริช (Reinhard Heydrich) ผู้อำนวยการ สำนักความมั่นคงหลักไรช์ (Reich Security Main Office) โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผน และสร้างความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ของเยอรมนี ในปฏิบัติการกำจัดชาวยิว ทั่วทั้งทวีปยุโรป ไฮดริชต้องการความแน่ใจว่า หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ จะปฏิบัติตามแผนการ ที่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน นอกจากการสร้างความร่วมมือ ไฮดริชยังได้ใช้การประชุมครั้งนี้ เพื่อชี้แจงแผนการ ส่งชาวยิวในยุโรปตะวันตก ไปยังค่ายมรณะในโปแลนด์ เช่น ค่ายเอาชวิทซ์ (Auschwitz) และเทรบลินกา (Treblinka) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย” ผู้เข้าร่วมการประชุม มีทั้งหมด 15 คน ซึ่งเป็นตัวแทนระดับสูง จากหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้นำจากหน่วยเอสเอส ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการระดับสูง หนึ่งในนั้นคือ อัดอล์ฟ ไอช์มันน์ (Adolf Eichmann) ผู้มีบทบาทสำคัญ ในการประสานงาน และดำเนินการขนส่งชาวยิว ไปยังค่ายมรณะ ในบันทึกการประชุม ที่หลงเหลือมาจากสงคราม แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมไม่ได้แสดงความขัดแย้ง ต่อแผนการนี้ แต่กลับสนับสนุน และมีการพูดคุย ถึงวิธีการอย่างละเอียด ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน กองกำลังสังหาร ที่ปฏิบัติการในแนวรบตะวันออก ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน (Einsatzgruppen) หรือ "หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ" เป็นกลุ่มกองกำลัง ของหน่วยเอสเอส ที่ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อปฏิบัติภารกิจสังหารหมู่ ในพื้นที่ที่กองทัพเยอรมันยึดครอง โดยเฉพาะในยุโรปตะวันออก หลังการรุกรานโปแลนด์ และสหภาพโซเวียต หน่วยเหล่านี้ มีหน้าที่กำจัดกลุ่มคน ที่ถูกระบุว่า เป็นภัยต่อระบอบนาซี เช่น ชาวยิว ชาวโรมานี (ยิปซี) ปัญญาชน และสมาชิกฝ่ายตรงข้าม ทางการเมือง ปฏิบัติการไอน์ซัทซ์กรุพเพิน การสังหารหมู่ส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นผ่านการยิงเป้า ในพื้นที่ชนบทหรือป่าลึก ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักคือ การสังหารหมู่ที่บาบี ยาร์ (Babi Yar) ในยูเครน เมื่อเดือนกันยายน 2484 ซึ่งมีชาวยิวมากกว่า 33,000 คน ถูกสังหารภายในเวลาเพียง 2 วัน ในช่วงแรก เหยื่อถูกบังคับ ให้ขุดหลุมศพของตนเอง ก่อนจะถูกยิงเป้า ต่อมานาซีเริ่มใช้วิธีการที่ "มีประสิทธิภาพมากขึ้น" เช่น การส่งเหยื่อไปยังค่ายมรณะ และสังหารในห้องรมแก๊ส ตามการประเมิน ของนักประวัติศาสตร์ หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน มีส่วนรับผิดชอบ ต่อการสังหารผู้คนกว่า 2 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีชาวยิวประมาณ 1.3 ล้านคน มาตรการสุดท้าย การล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ บังคับใช้กฎหมาย แบ่งแยกชาวยิว ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีเริ่มจากการบังคับใช้ กฎหมายเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Laws) ในปี 1935 ซึ่งแยกชาวยิว ออกจากสังคมเยอรมัน อย่างเป็นทางการ ตั้งเกตโต ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวถูกบังคับ ให้ย้ายไปอาศัยในเขตเกตโต (Ghetto) เช่น เกตโตวอร์ซอ (Warsaw Ghetto) ซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด และไร้มนุษยธรรม การเนรเทศและสังหารหมู่ ชาวยิวถูกขนส่งใน "รถไฟมรณะ" ไปยังค่ายมรณะ เช่น เอาชวิทซ์ เพื่อถูกสังหาร ในห้องรมแก๊ส มาตรการสุดท้ายของนาซี นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 6 ล้านคน คิดเป็นสองในสาม ของประชากรยิวในยุโรป ในขณะนั้น เอกสารที่หลงเหลือ หลังสงครามสิ้นสุดลง สำเนาพิธีสารการประชุมวันเซ ถูกค้นพบโดยฝ่ายสัมพันธมิตร และถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Trials) เพื่อดำเนินคดี กับผู้นำนาซี สำนึกผิดและสร้างอนุสรณ์ ปัจจุบัน อาคารที่เคยใช้จัดการประชุมวันเซ ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์สถาน เพื่อรำลึกถึงเหยื่อ ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ คำถามที่พบบ่อย (FAQs) 1. การประชุมวันเซ มีผลกระทบอย่างไรต่อชาวยิว? การประชุมวันเซ เป็นการกำหนดแผนปฏิบัติการ สังหารหมู่ชาวยิว อย่างเป็นระบบ ทั่วทวีปยุโรป ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิต ของชาวยิวกว่า 6 ล้านคน 2. หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน ทำหน้าที่อะไร? ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน เป็นหน่วยกองกำลังของเอสเอส ที่มีหน้าที่ปฏิบัติการสังหารหมู่ ในยุโรปตะวันออก โดยใช้วิธีการยิงเป้า และการสังหารหมู่ในระดับใหญ่ 3. มีชาวยิวกี่คนที่เสียชีวิต ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์? ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ ชาวยิวประมาณ 6 ล้านคน ถูกสังหาร รวมถึงผู้เสียชีวิตจากกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกกว่า 11 ล้านคน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200908 ม.ค. 2568 #Holocaust #WannseeConference #Einsatzgruppen #FinalSolution #NaziGermany #JewishHistory #WorldWarII #Genocide #NeverAgain #HistoryMatters
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 508 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงเวลาที่ "แม็กซ์ บลูเมนธัล" (Max Blumentha) เผชิญหน้ากับ แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ โดยกล่าวหาว่าเขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา

    'ทำไมคุณถึงปล่อยให้เพื่อนนักข่าวของผมถูกสังหาร ทำไมคุณถึงยอมให้บ้านของเพื่อนผมถูกทำลาย ทำไมคุณถึงยังปล่อยให้มีการทิ้งระเบิดในขณะที่เราสามารถทำข้อตกลงสันติภาพได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม คุณกำลังประนีประนอมกับอิสราเอลอยู่หรือเปล่า ทำไมคุณถึงยอมให้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นในยุคของ'


    ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำเนียบขาวเลือกที่จะไม่ตอบคำถามจากนักข่าวและพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากฝีมือของอิสราเอล ทั้งที่รู้กันทั้งโลกว่าใครเป็นคนทำ

    ครั้งนีนับเป็นการแสดงความกล้าหาญอีกครั้งของนักข่าว ที่โลกควรจดจำ "แม็กซ์ บลูเมนธัล"
    ช่วงเวลาที่ "แม็กซ์ บลูเมนธัล" (Max Blumentha) เผชิญหน้ากับ แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ โดยกล่าวหาว่าเขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา 'ทำไมคุณถึงปล่อยให้เพื่อนนักข่าวของผมถูกสังหาร ทำไมคุณถึงยอมให้บ้านของเพื่อนผมถูกทำลาย ทำไมคุณถึงยังปล่อยให้มีการทิ้งระเบิดในขณะที่เราสามารถทำข้อตกลงสันติภาพได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม คุณกำลังประนีประนอมกับอิสราเอลอยู่หรือเปล่า ทำไมคุณถึงยอมให้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นในยุคของ' ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำเนียบขาวเลือกที่จะไม่ตอบคำถามจากนักข่าวและพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากฝีมือของอิสราเอล ทั้งที่รู้กันทั้งโลกว่าใครเป็นคนทำ ครั้งนีนับเป็นการแสดงความกล้าหาญอีกครั้งของนักข่าว ที่โลกควรจดจำ "แม็กซ์ บลูเมนธัล"
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 632 มุมมอง 51 0 รีวิว
  • 2/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย

    การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    2/ เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • 1/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย

    การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    1/ เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • ภาพของผู้หญิงรายหนึ่งเข้าขัดจังหวะระหว่างการแถลงข่าวของบลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ พร้อมกับตะโกนใส่หน้าเขา:

    “บลิงเคน ชายที่โหดร้าย เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”

    “เราจะไม่มีวันลืม เราจะไม่มีวันให้อภัย”
    ภาพของผู้หญิงรายหนึ่งเข้าขัดจังหวะระหว่างการแถลงข่าวของบลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ พร้อมกับตะโกนใส่หน้าเขา: “บลิงเคน ชายที่โหดร้าย เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” “เราจะไม่มีวันลืม เราจะไม่มีวันให้อภัย”
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • "ตั้งใจเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์??"

    นาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้รับการโหวตให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอน โดยที่ทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวว่า ซาลามจะเดินทางกลับเลบานอนในวันอังคารนี้เลย

    นาวาฟ ซาลาม (Nawaf Salam) ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในกรุงเฮก ซึ่งกำลังพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ในข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ได้รับคะแนนโหวตในรัฐสภาเลบานอนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 53 ของเลบานอน

    สมาชิกรัฐสภา 128 คน ลงคะแนนเลือก
    - นาวาฟ ซาลาม 85 เสียง
    - ขณะที่ นาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีคนเดิมได้รับความไว้วางใจเพียง 9 เสียง
    - ส่วนที่เหลืออีก 34 เสียง งดออกเสียง

    ซาลาม ว่าที่นายกรัฐมนตรีซึ่งมีสมาชิกครอบครัวในสาย "ซุนนี" สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sciences Po ในฝรั่งเศส ปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sorbonne และปริญญาโทสาขานิติศาสตร์จากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด

    ซาลามทำงานเป็นทนายความและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งก่อนที่จะดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรของเลบานอนประจำสหประชาชาติในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017

    เขาเข้าเป็นสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติ ในปี 2018 และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเป็นเวลา 3 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ในขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ซึ่งกล่าวหาว่ากองกำลังอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
    "ตั้งใจเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์??" นาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้รับการโหวตให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอน โดยที่ทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวว่า ซาลามจะเดินทางกลับเลบานอนในวันอังคารนี้เลย นาวาฟ ซาลาม (Nawaf Salam) ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในกรุงเฮก ซึ่งกำลังพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ในข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ได้รับคะแนนโหวตในรัฐสภาเลบานอนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 53 ของเลบานอน สมาชิกรัฐสภา 128 คน ลงคะแนนเลือก - นาวาฟ ซาลาม 85 เสียง - ขณะที่ นาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีคนเดิมได้รับความไว้วางใจเพียง 9 เสียง - ส่วนที่เหลืออีก 34 เสียง งดออกเสียง ซาลาม ว่าที่นายกรัฐมนตรีซึ่งมีสมาชิกครอบครัวในสาย "ซุนนี" สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sciences Po ในฝรั่งเศส ปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sorbonne และปริญญาโทสาขานิติศาสตร์จากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด ซาลามทำงานเป็นทนายความและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งก่อนที่จะดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรของเลบานอนประจำสหประชาชาติในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017 เขาเข้าเป็นสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติ ในปี 2018 และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเป็นเวลา 3 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ในขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ซึ่งกล่าวหาว่ากองกำลังอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานประจำวันโดยกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยอิสราเอล:

    กองกำลังอิสราเอลได้ก่อเหตุสังหารหมู่ครอบครัวในฉนวนกาซา 2 ครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 28 ราย และบาดเจ็บอีก 89 ราย

    ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการบันทึกจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 46,565 ราย และบาดเจ็บอีก 109,660 รายตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023
    รายงานประจำวันโดยกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยอิสราเอล: กองกำลังอิสราเอลได้ก่อเหตุสังหารหมู่ครอบครัวในฉนวนกาซา 2 ครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 28 ราย และบาดเจ็บอีก 89 ราย ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการบันทึกจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 46,565 ราย และบาดเจ็บอีก 109,660 รายตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023
    Sad
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใหญ่คับจักรวาล!!
    สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายในการคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในวันนี้ เพื่อเป็นการประท้วงต่อการที่ ICC ออกหมายจับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล

    ร่างกฎหมาย "Illegitimate Court Counteraction Act" ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 243 ต่อ 140 เสียง ซึ่งถือเป็นสัญญาณของการสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งแกร่ง! ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว

    สาระสำคัญบางส่วนของกฎหมายดังกล่าว จะมีการเสนอให้ลงโทษชาวต่างชาติที่ช่วยเหลือ ICC ในการพยายามสืบสวน กักขัง หรือดำเนินคดีกับพลเมืองสหรัฐฯ หรือพลเมืองของประเทศพันธมิตรที่ไม่ยอมรับอำนาจของศาล

    การลงโทษดังกล่าวรวมถึงการอายัดทรัพย์สิน ตลอดจนการปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับบุคคลเหล่านี้

    “อเมริกากำลังผ่านกฎหมายที่สำคัญฉบับนี้ เพราะศาลเตี้ยกำลังพยายามจับกุมนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของเรา” ส.ส. ไบรอัน แมสต์ ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน กล่าวในการปราศรัยก่อนการลงคะแนนเสียงในวันพฤหัสบดี

    จอห์น ธูน (John Thune) วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำเสียงข้างมาก ให้คำมั่นว่าจะพิจารณากฎหมายดังกล่าวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทรัมป์สามารถลงนามเป็นกฎหมายได้หลังจากเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม

    เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนต์ ในข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ โดยตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้งในเดือนตุลาคม 2023 ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 46,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติได้ประณามวิธีการของอิสราเอลในฉนวนกาซาว่า "สอดคล้องกับลักษณะของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

    ในช่วงปี 2020 ซึ่งเป็นสมัยแรกในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ เขาเคยลงโทษผู้นำระดับสูงของศาลอาญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการสืบสวนอาชญากรรมของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน
    ใหญ่คับจักรวาล!! สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายในการคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในวันนี้ เพื่อเป็นการประท้วงต่อการที่ ICC ออกหมายจับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ร่างกฎหมาย "Illegitimate Court Counteraction Act" ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 243 ต่อ 140 เสียง ซึ่งถือเป็นสัญญาณของการสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งแกร่ง! ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว สาระสำคัญบางส่วนของกฎหมายดังกล่าว จะมีการเสนอให้ลงโทษชาวต่างชาติที่ช่วยเหลือ ICC ในการพยายามสืบสวน กักขัง หรือดำเนินคดีกับพลเมืองสหรัฐฯ หรือพลเมืองของประเทศพันธมิตรที่ไม่ยอมรับอำนาจของศาล การลงโทษดังกล่าวรวมถึงการอายัดทรัพย์สิน ตลอดจนการปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับบุคคลเหล่านี้ “อเมริกากำลังผ่านกฎหมายที่สำคัญฉบับนี้ เพราะศาลเตี้ยกำลังพยายามจับกุมนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของเรา” ส.ส. ไบรอัน แมสต์ ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน กล่าวในการปราศรัยก่อนการลงคะแนนเสียงในวันพฤหัสบดี จอห์น ธูน (John Thune) วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำเสียงข้างมาก ให้คำมั่นว่าจะพิจารณากฎหมายดังกล่าวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทรัมป์สามารถลงนามเป็นกฎหมายได้หลังจากเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนต์ ในข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ โดยตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้งในเดือนตุลาคม 2023 ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 46,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติได้ประณามวิธีการของอิสราเอลในฉนวนกาซาว่า "สอดคล้องกับลักษณะของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ในช่วงปี 2020 ซึ่งเป็นสมัยแรกในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ เขาเคยลงโทษผู้นำระดับสูงของศาลอาญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการสืบสวนอาชญากรรมของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 742 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาซารายงานยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจนถึงวันนี้ จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยอิสราเอล

    เสียชีวิต - 45,936 ราย
    บาดเจ็บ - 109,274 ราย
    กาซารายงานยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจนถึงวันนี้ จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยอิสราเอล เสียชีวิต - 45,936 ราย บาดเจ็บ - 109,274 ราย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องนี้ ทรัมป์ พูดไม่ผิด...
    .
    ปูติน พูดบ่อยมาก และ เคยอธิบายว่า ทำไมถึงยอมให้ ยูเครน เข้า NATO ไม่ได้...!!!
    .
    เพราะ เมื่อเข้า NATO แล้ว อเมริกา จะนำกองทัพ และ ขีปนาวุธเข้ามาติดตั้งใน ยูเครน
    .
    นั่นเท่ากับว่า อเมริกา เอา ขีปนาวุธ มาจ่อ
    รัสเซีย ที่หน้าประตูบ้านเลย...!!!
    .
    และ ขีปนาวุธ พวกนั้น จะใช้เวลาเพียง 5 นาที ในการเข้ามา ถล่มถึง กรุงมอสโก ใน รัสเซีย...
    .
    นี่คือสิ่งที่ รัสเซีย ยอมไม่ได้...!!!
    .
    และถ้าใครจะเถียงว่า ประเทศเจริญแล้ว มี อารยะ อย่าง อเมริกา จะไม่ทำแบบนี้แน่นอน...
    .
    ให้กลับไปดูตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วว่า...
    .
    - อเมริกา เป็นคนสร้าง กลุ่ม ISIS ขึ้นมา
    - อเมริกา ในยุค ทรัมป์ วางแผนลอบสังหาร นายพล กอเซ็ม สุไลมานี โดยหลอกให้ ประเทศอิรัก เชิญ นายพล กอเซ็ม สุไลมานี มาประชุม พอรู้เส้นทางการเดินทาง Mossad ของ อิสราเอล ก็เป็นผู้ชี้เป้า สุดท้าย อเมริกา ใช้ โดรนพิฆาต ลอบสังหาร นายพล กอเซ็ม สุไลมานี
    - อเมริกา เรียกร้องหา สิทธิมนุษยชน ไปทั่วโลกกับประเทศที่มองว่าเป็นศัตรู แต่ สนับสนุน การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ใน ฉนวนกาซา อย่างไร้เงื่อนไข
    - อเมริกา ยกกองทัพ เข้าไปใน ซีเรีย โดยที่ ซีเรีย ไม่ได้ร้องขอ
    - อเมริกา ยึดบ่อน้ำมัน และ ขโมยน้ำมัน ของ ซีเรีย ไปขาย
    - อเมริกา ยึดเรือส่งสินค้า ของ ซีเรีย ที่ขนธัญพืชไปขาย
    .
    คุณคิดเหรอว่า อเมริกา เป็น ประเทศที่ มีอารยะ เคารพกฎเกณฑ์ เคารพหลักสิทธิมนุษยชน จริงๆ...???
    .
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣

    เรื่องนี้ ทรัมป์ พูดไม่ผิด... . ปูติน พูดบ่อยมาก และ เคยอธิบายว่า ทำไมถึงยอมให้ ยูเครน เข้า NATO ไม่ได้...!!! . เพราะ เมื่อเข้า NATO แล้ว อเมริกา จะนำกองทัพ และ ขีปนาวุธเข้ามาติดตั้งใน ยูเครน . นั่นเท่ากับว่า อเมริกา เอา ขีปนาวุธ มาจ่อ รัสเซีย ที่หน้าประตูบ้านเลย...!!! . และ ขีปนาวุธ พวกนั้น จะใช้เวลาเพียง 5 นาที ในการเข้ามา ถล่มถึง กรุงมอสโก ใน รัสเซีย... . นี่คือสิ่งที่ รัสเซีย ยอมไม่ได้...!!! . และถ้าใครจะเถียงว่า ประเทศเจริญแล้ว มี อารยะ อย่าง อเมริกา จะไม่ทำแบบนี้แน่นอน... . ให้กลับไปดูตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วว่า... . - อเมริกา เป็นคนสร้าง กลุ่ม ISIS ขึ้นมา - อเมริกา ในยุค ทรัมป์ วางแผนลอบสังหาร นายพล กอเซ็ม สุไลมานี โดยหลอกให้ ประเทศอิรัก เชิญ นายพล กอเซ็ม สุไลมานี มาประชุม พอรู้เส้นทางการเดินทาง Mossad ของ อิสราเอล ก็เป็นผู้ชี้เป้า สุดท้าย อเมริกา ใช้ โดรนพิฆาต ลอบสังหาร นายพล กอเซ็ม สุไลมานี - อเมริกา เรียกร้องหา สิทธิมนุษยชน ไปทั่วโลกกับประเทศที่มองว่าเป็นศัตรู แต่ สนับสนุน การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ใน ฉนวนกาซา อย่างไร้เงื่อนไข - อเมริกา ยกกองทัพ เข้าไปใน ซีเรีย โดยที่ ซีเรีย ไม่ได้ร้องขอ - อเมริกา ยึดบ่อน้ำมัน และ ขโมยน้ำมัน ของ ซีเรีย ไปขาย - อเมริกา ยึดเรือส่งสินค้า ของ ซีเรีย ที่ขนธัญพืชไปขาย . คุณคิดเหรอว่า อเมริกา เป็น ประเทศที่ มีอารยะ เคารพกฎเกณฑ์ เคารพหลักสิทธิมนุษยชน จริงๆ...??? . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    ทรัมป์กล่าวว่าเขาเข้าใจว่าทำไมรัสเซียไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าร่วมนาโต้ และโทษโจ ไบเดน ที่เป็นฝ่ายทำให้เกิดสงครามในยูเครน

    “รัสเซียพูดมาหลายปีแล้วว่าไม่อยากให้นาโต้เข้ามาเกี่ยวข้องกับยูเครน ซึ่งมันก็เหมือนกับเป็นคำประกาศที่เป็นตัวหนังสือของรัสเซีย แต่ไบเดนกลับบอกว่าไม่ พวกเขาควรเข้าร่วมนาโต้ได้

    ถ้าทำอย่างนั้น เท่ากับว่ารัสเซียก็จะมีคนมาอยู่หน้าประตูบ้านของพวกเขา ซึ่งผมเข้าใจความรู้สึกของรัสเซียเกี่ยวกับเรื่องนั้นดีนะ”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • ละครเพลงสุดเหนือจริง Emilia Perez และดราม่าผู้อพยพสุดยิ่งใหญ่ The Brutalist คว้ารางวัลใหญ่ในงานลูกโลกทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการแบ่งปันรางวัลอย่างกว้างขวางในหมู่ภาพยนตร์นานาชาติ ณ งานประกาศรางวัลใหญ่ครั้งแรกของปี

    Emilia Perez ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเม็กซิโกโดยผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ฌาคส์ โอเดียร์ด กวาดไปถึง 4 รางวัล รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทตลกหรือเพลง ส่วน The Brutalist ได้รับรางวัลภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม พร้อมรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาทของ เอเดรียน โบรดี ในบทผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฮังการี

    Emilia Perez ที่เล่าเรื่องราวของเจ้าพ่อค้ายาที่เปลี่ยนชีวิตตัวเองมาเป็นผู้หญิง เข้าชิงรางวัลสูงสุดถึง 10 สาขา และคว้ารางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมและเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดย โซอี้ ซัลดานา คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม เอาชนะ เซเลนา โกเมซ นักแสดงร่วมในเรื่องเดียวกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000001347

    #MGROnline #EmiliaPérez #TheBrutalist #GoldenGlobes
    ละครเพลงสุดเหนือจริง Emilia Perez และดราม่าผู้อพยพสุดยิ่งใหญ่ The Brutalist คว้ารางวัลใหญ่ในงานลูกโลกทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการแบ่งปันรางวัลอย่างกว้างขวางในหมู่ภาพยนตร์นานาชาติ ณ งานประกาศรางวัลใหญ่ครั้งแรกของปี • Emilia Perez ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเม็กซิโกโดยผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ฌาคส์ โอเดียร์ด กวาดไปถึง 4 รางวัล รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทตลกหรือเพลง ส่วน The Brutalist ได้รับรางวัลภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม พร้อมรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาทของ เอเดรียน โบรดี ในบทผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฮังการี • Emilia Perez ที่เล่าเรื่องราวของเจ้าพ่อค้ายาที่เปลี่ยนชีวิตตัวเองมาเป็นผู้หญิง เข้าชิงรางวัลสูงสุดถึง 10 สาขา และคว้ารางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมและเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดย โซอี้ ซัลดานา คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม เอาชนะ เซเลนา โกเมซ นักแสดงร่วมในเรื่องเดียวกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000001347 • #MGROnline #EmiliaPérez #TheBrutalist #GoldenGlobes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 509 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ไบเดนย่องเงียบ" อนุมัติแผนการขายอาวุธ 8,000 ล้านเหรียญให้อิสราเอล

    กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งต่อรัฐสภา "อย่างไม่เป็นทางการ" ถึงข้อเสนอข้อตกลงด้านอาวุธมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์กับอิสราเอล ซึ่งจะรวมถึงอาวุธสำหรับเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์โจมตี รวมถึงกระสุนปืนใหญ่

    แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศแจ้งต่อรัฐสภาว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อ "สนับสนุนความมั่นคงในระยะยาวของอิสราเอลโดยการจัดหาอาวุธสำคัญและความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม"

    "ประธานาธิบดีได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าอิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องพลเมืองของตน สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และในการยับยั้งการรุกรานจากอิหร่านและองค์กรตัวแทนของอิหร่าน" เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าว

    การขายอาวุธครั้งนี้รวมถึงขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 AMRAAM สำหรับเครื่องบินขับไล่เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางอากาศ รวมถึงโดรน

    ยังรวมถึงกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. และขีปนาวุธ Hellfire AGM-114 สำหรับเฮลิคอปเตอร์โจมตีด้วย

    ข้อตกลงที่เสนอนี้ยังรวมถึงระเบิดขนาดเล็ก ระเบิดดัดแปลง JDAM ที่มีหัวรบขนาด 500 ปอนด์

    ในขณะที่:
    - แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    - ฮิวแมนไรท์วอทช์: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    - รายงานของสหประชาชาติ: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    - นักวิชาการด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    - ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ International Criminal Court (ICC): กำลังดำเนินคดีกับเนทันยาฮูในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    - แต่ไบเดนยังคงเดินหน้าขายอาวุธอีก 8,000 ล้านเหรียญให้อิสราเอล
    "ไบเดนย่องเงียบ" อนุมัติแผนการขายอาวุธ 8,000 ล้านเหรียญให้อิสราเอล กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งต่อรัฐสภา "อย่างไม่เป็นทางการ" ถึงข้อเสนอข้อตกลงด้านอาวุธมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์กับอิสราเอล ซึ่งจะรวมถึงอาวุธสำหรับเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์โจมตี รวมถึงกระสุนปืนใหญ่ แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศแจ้งต่อรัฐสภาว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อ "สนับสนุนความมั่นคงในระยะยาวของอิสราเอลโดยการจัดหาอาวุธสำคัญและความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม" "ประธานาธิบดีได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าอิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องพลเมืองของตน สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และในการยับยั้งการรุกรานจากอิหร่านและองค์กรตัวแทนของอิหร่าน" เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าว การขายอาวุธครั้งนี้รวมถึงขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 AMRAAM สำหรับเครื่องบินขับไล่เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางอากาศ รวมถึงโดรน ยังรวมถึงกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. และขีปนาวุธ Hellfire AGM-114 สำหรับเฮลิคอปเตอร์โจมตีด้วย ข้อตกลงที่เสนอนี้ยังรวมถึงระเบิดขนาดเล็ก ระเบิดดัดแปลง JDAM ที่มีหัวรบขนาด 500 ปอนด์ ในขณะที่: - แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ - ฮิวแมนไรท์วอทช์: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ - รายงานของสหประชาชาติ: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ - นักวิชาการด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ - ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ International Criminal Court (ICC): กำลังดำเนินคดีกับเนทันยาฮูในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ - แต่ไบเดนยังคงเดินหน้าขายอาวุธอีก 8,000 ล้านเหรียญให้อิสราเอล
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหตุฆาตกรรมบนรถไฟในสหรัฐอเมริกา หลายคนเห็นคลิปวิดีโอและมีการตั้งคำถามถึงการให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่และพลเมืองอเมริกัน ที่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์รุนแรงเหล่านี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเขาไปแล้ว

    การใส่ใจเข้าช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกทำร้ายจึงมีลดน้อยลง

    จากในรูป ผู้โพสต์บรรยายว่า:
    "ตำรวจเดินผ่านเธอขณะที่ไฟกำลังเผาเธอ ชาวบ้านก็แค่ยืนดูและไม่มีใครคิดจะเข้าไปช่วยเหลือ
    จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ฉันได้พบเห็นในชีวิต เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองที่สุดที่ฉันเคยเห็นมา
    ไม่ใช่เพราะว่าภาพที่เห็นมันน่าสยดสยอง แต่มันน่าสยดสยองเพราะมันกลายเป็น "ไม่ใช่เรื่องใหญ่" สำหรับทุกคนที่ทำได้แค่ยืนดูและถ่ายวิดีโอเหตุการณ์นี้เท่านั้น"

    การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา พวกเขาถึงไม่ใส่ใจ ความรุนแรงมันคงฝังลึกเข้าไปในจิตใจพวกเขาแล้ว
    เหตุฆาตกรรมบนรถไฟในสหรัฐอเมริกา หลายคนเห็นคลิปวิดีโอและมีการตั้งคำถามถึงการให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่และพลเมืองอเมริกัน ที่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์รุนแรงเหล่านี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเขาไปแล้ว การใส่ใจเข้าช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกทำร้ายจึงมีลดน้อยลง จากในรูป ผู้โพสต์บรรยายว่า: "ตำรวจเดินผ่านเธอขณะที่ไฟกำลังเผาเธอ ชาวบ้านก็แค่ยืนดูและไม่มีใครคิดจะเข้าไปช่วยเหลือ จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ฉันได้พบเห็นในชีวิต เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองที่สุดที่ฉันเคยเห็นมา ไม่ใช่เพราะว่าภาพที่เห็นมันน่าสยดสยอง แต่มันน่าสยดสยองเพราะมันกลายเป็น "ไม่ใช่เรื่องใหญ่" สำหรับทุกคนที่ทำได้แค่ยืนดูและถ่ายวิดีโอเหตุการณ์นี้เท่านั้น" การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา พวกเขาถึงไม่ใส่ใจ ความรุนแรงมันคงฝังลึกเข้าไปในจิตใจพวกเขาแล้ว
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    นี่มันไม่ใช่สงคราม แต่มันคือ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"


    ภาพน่าเวทนาเมื่อแมวที่หิวโหยกำลังกัดกินศพชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ศพเหล่านี้ถูกห่อด้วยผ้าเปื้อนโคลนที่กระจัดกระจายอยู่บนถนน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถลำเลียงออกไปได้หมดในครั้งเดียว
    2/ นี่มันไม่ใช่สงคราม แต่มันคือ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ภาพน่าเวทนาเมื่อแมวที่หิวโหยกำลังกัดกินศพชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ศพเหล่านี้ถูกห่อด้วยผ้าเปื้อนโคลนที่กระจัดกระจายอยู่บนถนน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถลำเลียงออกไปได้หมดในครั้งเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • 1/
    นี่มันไม่ใช่สงคราม แต่มันคือ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

    ภาพวิดีโอที่เศร้าที่สุดอีกครั้ง เป็นภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยเหลือชุมชนในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัต หลังจากที่อิสราเอลทิ้งระเบิดและยิงปืนใส่พื้นที่ดังกล่าว

    มีรายงานว่า กว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเข้าไปถึง ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง เนื่องจากกองกำลังอิสราเอลไม่ยอมหยุดโจมตีเพื่อเปิดทางให้
    1/ นี่มันไม่ใช่สงคราม แต่มันคือ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ภาพวิดีโอที่เศร้าที่สุดอีกครั้ง เป็นภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยเหลือชุมชนในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัต หลังจากที่อิสราเอลทิ้งระเบิดและยิงปืนใส่พื้นที่ดังกล่าว มีรายงานว่า กว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเข้าไปถึง ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง เนื่องจากกองกำลังอิสราเอลไม่ยอมหยุดโจมตีเพื่อเปิดทางให้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • สโลวีเนียได้เรียกร้องให้อิสราเอลถูกแบนจากการแข่งขันร้องเพลง Eurovision 2025 จากการโจมตีทำลายฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง

    ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์สาธารณะ RTV กลายเป็นสถานีแรกที่ลงมติเรียกร้องให้สหภาพการออกอากาศของยุโรปห้ามอิสราเอลเข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลง Eurovision 2025 ในปีหน้าที่สวิตเซอร์แลนด์ทันที เนื่องจากสงครามในฉนวนกาซาและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ตามรายงานของสื่อสโลวีเนีย
    สโลวีเนียได้เรียกร้องให้อิสราเอลถูกแบนจากการแข่งขันร้องเพลง Eurovision 2025 จากการโจมตีทำลายฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์สาธารณะ RTV กลายเป็นสถานีแรกที่ลงมติเรียกร้องให้สหภาพการออกอากาศของยุโรปห้ามอิสราเอลเข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลง Eurovision 2025 ในปีหน้าที่สวิตเซอร์แลนด์ทันที เนื่องจากสงครามในฉนวนกาซาและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ตามรายงานของสื่อสโลวีเนีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • "แก้แค้นแทนนาย!"
    เครื่องบินรบของสหรัฐและอังกฤษกำลังทิ้งระเบิดใส่กรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า

    วอชิงตันและลอนดอน "ทาสผู้ซื่อสัตย์" กำลังลงโทษเยเมนที่กล้าลุกขึ้นต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา และโจมตีเทลอาวีฟเมื่อวันก่อน

    ขณะเดียวกันนาโตประณามรัสเซียที่โจมตียูเครนเมื่อสองวันก่อน
    "แก้แค้นแทนนาย!" เครื่องบินรบของสหรัฐและอังกฤษกำลังทิ้งระเบิดใส่กรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า วอชิงตันและลอนดอน "ทาสผู้ซื่อสัตย์" กำลังลงโทษเยเมนที่กล้าลุกขึ้นต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา และโจมตีเทลอาวีฟเมื่อวันก่อน ขณะเดียวกันนาโตประณามรัสเซียที่โจมตียูเครนเมื่อสองวันก่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอลตัดสินใจไม่เข้าร่วมพิธีรำลึกเหตุการณ์โฮโลคอสต์ในโปแลนด์ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับหมายจับของ ICC ซึ่งเขาอาจถูกจับกุมได้

    สหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 27 ม.ค. เป็นวันรำลึกการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุสากล หรือโฮโลคอสต์ (Holocaust) เพื่อรำลึกถึงเหยื่อเคราะห์ร้ายกว่า 6 ล้านคนที่ถูกสังหารโดยกองทัพนาซี เยอรมนี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

    สำหรับงานที่โปแลนด์จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การต่อสู้ที่ค่ายกักกันเก็ตโตวอร์ซอ ซึ่งเป็นเรื่องราวการลุกฮือของชาวยิวเมื่อพ.ศ. 2486 (เก็ตโต คือ อาณาเขตที่มีรั้วรอบขอบชิด เพื่อแยกชาวยิวออกจากพลเมืองอื่นๆ ที่ไม่ใช่ยิว) เหตุการณ์นี้เป็นการก่อกบถต่อต้านนาซีที่เกิดขึ้นในเขตเมืองเป็นครั้งแรกของบรรดาดินแดนที่ถูกยึดครองโดยระบอบนาซี ทั้งยังเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานที่สุด โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากที่สุด
    นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอลตัดสินใจไม่เข้าร่วมพิธีรำลึกเหตุการณ์โฮโลคอสต์ในโปแลนด์ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับหมายจับของ ICC ซึ่งเขาอาจถูกจับกุมได้ สหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 27 ม.ค. เป็นวันรำลึกการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุสากล หรือโฮโลคอสต์ (Holocaust) เพื่อรำลึกถึงเหยื่อเคราะห์ร้ายกว่า 6 ล้านคนที่ถูกสังหารโดยกองทัพนาซี เยอรมนี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับงานที่โปแลนด์จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การต่อสู้ที่ค่ายกักกันเก็ตโตวอร์ซอ ซึ่งเป็นเรื่องราวการลุกฮือของชาวยิวเมื่อพ.ศ. 2486 (เก็ตโต คือ อาณาเขตที่มีรั้วรอบขอบชิด เพื่อแยกชาวยิวออกจากพลเมืองอื่นๆ ที่ไม่ใช่ยิว) เหตุการณ์นี้เป็นการก่อกบถต่อต้านนาซีที่เกิดขึ้นในเขตเมืองเป็นครั้งแรกของบรรดาดินแดนที่ถูกยึดครองโดยระบอบนาซี ทั้งยังเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานที่สุด โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากที่สุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลสั่งปิดสถานทูตในดับลิน โดยกล่าวโทษ "นโยบายต่อต้านอิสราเอลอย่างรุนแรงของรัฐบาลไอร์แลนด์"
    - รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิสราเอล กล่าว

    การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลไอร์แลนด์ปรพกาศว่า จะขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ขยายความหมายของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยอ้างว่าอิสราเอลได้สังหารหมู่ประชาชนในฉนวนกาซา
    อิสราเอลสั่งปิดสถานทูตในดับลิน โดยกล่าวโทษ "นโยบายต่อต้านอิสราเอลอย่างรุนแรงของรัฐบาลไอร์แลนด์" - รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิสราเอล กล่าว การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลไอร์แลนด์ปรพกาศว่า จะขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ขยายความหมายของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยอ้างว่าอิสราเอลได้สังหารหมู่ประชาชนในฉนวนกาซา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts