อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
สัทธรรมลำดับที่ : 640
ชื่อบทธรรม : -ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=640
เนื้อความทั้งหมด :-
--ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
--ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ (วิมุตฺตายตนํ) ห้าประการ เหล่านี้ มีอยู่,
http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=วิมุตฺตายตน
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ
ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ.
ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติห้าประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการ คือ:-
๑. ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้
: พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ย่อม #แสดงธรรมแก่ภิกษุ,
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม
ในธรรมนั้นตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีแสดงแล้วอย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถรู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด;
เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น ;
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่หนึ่ง,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๒. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
#แต่เธอแสดงธรรมตามที่ได้ฟังมา ได้เล่าเรียนมา แก่ชนทั้งหลายเหล่าอื่น โดยพิสดารอยู่,
เธอนั้นย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรม
ตามที่เธอแสดงแก่ชนเหล่าอื่น โดยพิสดารตามที่เธอฟังมาแล้วเล่าเรียนมาแล้วอย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ;
เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สอง,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๓. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
#แต่เธอกระทำการท่องบ่นซึ่งธรรม โดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา อยู่.
http://etipitaka.com/read/pali/22/24/?keywords=สชฺฌายํ+วิมุตฺตายตน
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น
ตามที่เธอทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมาอย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ;
เมื่อใจปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สาม,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่าเธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๔. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ;
#แต่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่เธอฟังมาเล่าเรียนมา อยู่,
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม
ในธรรมนั้นตามที่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต
ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา อย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สี่,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๕. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอไดัฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ;
ทั้งเธอก็มิได้ตรึกตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา ;
#แต่ว่าสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอนั้นถือเอาดีแล้ว
กระทำไว้ในใจดีแล้ว เข้าไปทรงไว้ดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อยู่,
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น
ตามที่สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอถือเอาด้วยดี กระทำไว้ในใจดี
เข้าไปทรงไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา อย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้วปีติย่อมเกิด ;
เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข(ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่ห้า,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาทมีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่.
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
--ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องเข้าถึง #วิมุตติห้าประการ เหล่านี้
http://etipitaka.com/read/pali/22/25/?keywords=ปญฺจ+วิมุตฺตายตน
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงที่ซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า
#เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตน
ยังไม่บรรลุตามลำดับ,
ดังนี้แล.-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/20-23/26.
http://etipitaka.com/read/thai/22/20/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๒-๒๕/๒๖.
http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
ศึกษาเพิ่มเติม...
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43&id=640
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43
ลำดับสาธยายธรรม : 43 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_43.mp3
สัทธรรมลำดับที่ : 640
ชื่อบทธรรม : -ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=640
เนื้อความทั้งหมด :-
--ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
--ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ (วิมุตฺตายตนํ) ห้าประการ เหล่านี้ มีอยู่,
http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=วิมุตฺตายตน
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ
ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ.
ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติห้าประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการ คือ:-
๑. ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้
: พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ย่อม #แสดงธรรมแก่ภิกษุ,
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม
ในธรรมนั้นตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีแสดงแล้วอย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถรู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด;
เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น ;
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่หนึ่ง,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๒. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
#แต่เธอแสดงธรรมตามที่ได้ฟังมา ได้เล่าเรียนมา แก่ชนทั้งหลายเหล่าอื่น โดยพิสดารอยู่,
เธอนั้นย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรม
ตามที่เธอแสดงแก่ชนเหล่าอื่น โดยพิสดารตามที่เธอฟังมาแล้วเล่าเรียนมาแล้วอย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ;
เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สอง,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๓. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
#แต่เธอกระทำการท่องบ่นซึ่งธรรม โดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา อยู่.
http://etipitaka.com/read/pali/22/24/?keywords=สชฺฌายํ+วิมุตฺตายตน
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น
ตามที่เธอทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมาอย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ;
เมื่อใจปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สาม,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่าเธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๔. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ;
#แต่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่เธอฟังมาเล่าเรียนมา อยู่,
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม
ในธรรมนั้นตามที่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต
ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา อย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สี่,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๕. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอไดัฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ;
ทั้งเธอก็มิได้ตรึกตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา ;
#แต่ว่าสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอนั้นถือเอาดีแล้ว
กระทำไว้ในใจดีแล้ว เข้าไปทรงไว้ดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อยู่,
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น
ตามที่สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอถือเอาด้วยดี กระทำไว้ในใจดี
เข้าไปทรงไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา อย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้วปีติย่อมเกิด ;
เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข(ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่ห้า,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาทมีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่.
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
--ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องเข้าถึง #วิมุตติห้าประการ เหล่านี้
http://etipitaka.com/read/pali/22/25/?keywords=ปญฺจ+วิมุตฺตายตน
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงที่ซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า
#เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตน
ยังไม่บรรลุตามลำดับ,
ดังนี้แล.-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/20-23/26.
http://etipitaka.com/read/thai/22/20/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๒-๒๕/๒๖.
http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
ศึกษาเพิ่มเติม...
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43&id=640
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43
ลำดับสาธยายธรรม : 43 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_43.mp3
อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
สัทธรรมลำดับที่ : 640
ชื่อบทธรรม : -ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=640
เนื้อความทั้งหมด :-
--ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
--ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ (วิมุตฺตายตนํ) ห้าประการ เหล่านี้ มีอยู่,
http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=วิมุตฺตายตน
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ
ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ.
ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติห้าประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการ คือ:-
๑. ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้
: พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ย่อม #แสดงธรรมแก่ภิกษุ,
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม
ในธรรมนั้นตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีแสดงแล้วอย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถรู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด;
เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น ;
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่หนึ่ง,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๒. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
#แต่เธอแสดงธรรมตามที่ได้ฟังมา ได้เล่าเรียนมา แก่ชนทั้งหลายเหล่าอื่น โดยพิสดารอยู่,
เธอนั้นย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรม
ตามที่เธอแสดงแก่ชนเหล่าอื่น โดยพิสดารตามที่เธอฟังมาแล้วเล่าเรียนมาแล้วอย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ;
เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สอง,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๓. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
#แต่เธอกระทำการท่องบ่นซึ่งธรรม โดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา อยู่.
http://etipitaka.com/read/pali/22/24/?keywords=สชฺฌายํ+วิมุตฺตายตน
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น
ตามที่เธอทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมาอย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ;
เมื่อใจปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สาม,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่าเธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๔. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ;
#แต่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่เธอฟังมาเล่าเรียนมา อยู่,
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม
ในธรรมนั้นตามที่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต
ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา อย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สี่,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
๕. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
: พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี
ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอไดัฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ;
ทั้งเธอก็มิได้ตรึกตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา ;
#แต่ว่าสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอนั้นถือเอาดีแล้ว
กระทำไว้ในใจดีแล้ว เข้าไปทรงไว้ดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อยู่,
เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น
ตามที่สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอถือเอาด้วยดี กระทำไว้ในใจดี
เข้าไปทรงไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา อย่างไร.
เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
เมื่อปราโมทย์แล้วปีติย่อมเกิด ;
เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข(ด้วยนามกาย) ;
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
+--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่ห้า,
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาทมีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่.
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
--ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องเข้าถึง #วิมุตติห้าประการ เหล่านี้
http://etipitaka.com/read/pali/22/25/?keywords=ปญฺจ+วิมุตฺตายตน
ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงที่ซึ่งความสิ้นรอบ
หรือว่า
#เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตน
ยังไม่บรรลุตามลำดับ,
ดังนี้แล.-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/20-23/26.
http://etipitaka.com/read/thai/22/20/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๒-๒๕/๒๖.
http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
ศึกษาเพิ่มเติม...
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43&id=640
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43
ลำดับสาธยายธรรม : 43 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_43.mp3
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
12 มุมมอง
0 รีวิว