• ทำบุญช่วยน้ำท่วมเชียงราย กันคะ มีน้อยทำน้อย
    ทำบุญช่วยน้ำท่วมเชียงราย กันคะ มีน้อยทำน้อย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่งใจและสิ่งของไปกับแคมเปญ "ไปรษณีย์ไทย เชื่อมโยงน้ำใจ ส่งต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม" ส่งฟรี!! ของบริจาคช่วยน้ำท่วมที่ไปรษณีย์ไทยได้ฟรี โดยระบุจ่าหน้าไปยังจังหวัดที่มีผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่งได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ขอแนะนำว่าควรซักเสื้อผ้าใช้แล้วให้สะอาดก่อนบริจาค

    ข้อมูลที่อยู่ศาลากลาง จังหวัดที่มีน้ำท่วมรับสิ่งของ

    ศาลากลางจังหวัดเชียงราย
    ถ.แม่ฟ้าหลวง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 57100

    ศาลากลางจังหวัดพะเยา (หลังใหม่)
    ถ.พหลโยธิน ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา 56000

    ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
    ถ.โชตนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000

    ศาลากลางจังหวัดน่าน
    ถ.สุริยพงษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.น่าน 55000

    ศาลากลางจังหวัดแพร่
    ถ.ไชยบูรณ์ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ 54000

    ศาลากลางจังหวัดสตูล
    ถ.สตูลธานี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล 91000

    ศาลากลางจังหวัดชุมพร
    ถ.ไตรรัตน์ ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร 86000

    ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
    9/99 ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000

    ศาลากลางจังหวัดหนองคาย
    ถ.มิตรภาพหนองคาย - อุดรธานี ต. หนองกอมเกาะ อ. เมือง จ.หนองคาย 43000

    ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่)
    ถ.อภิบาลบัญชา ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 48000
    ใช้รหัสรับฝาก 4440

    ที่มา : รายชื่อที่อยู่ศาลากลางสำหรับส่งสิ่งของบริจาค : https://drive.google.com/drive/folders/12hvhl5Zc1cY1HUBqHYU8r6NXvlWl-yQ0

    รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.thailandpost.co.th/un/article_detail/article/11/32595

    #Thaitimes
    ส่งใจและสิ่งของไปกับแคมเปญ "ไปรษณีย์ไทย เชื่อมโยงน้ำใจ ส่งต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม" ส่งฟรี!! ของบริจาคช่วยน้ำท่วมที่ไปรษณีย์ไทยได้ฟรี โดยระบุจ่าหน้าไปยังจังหวัดที่มีผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่งได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ขอแนะนำว่าควรซักเสื้อผ้าใช้แล้วให้สะอาดก่อนบริจาค ข้อมูลที่อยู่ศาลากลาง จังหวัดที่มีน้ำท่วมรับสิ่งของ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ถ.แม่ฟ้าหลวง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 57100 ศาลากลางจังหวัดพะเยา (หลังใหม่) ถ.พหลโยธิน ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา 56000 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ถ.โชตนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000 ศาลากลางจังหวัดน่าน ถ.สุริยพงษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.น่าน 55000 ศาลากลางจังหวัดแพร่ ถ.ไชยบูรณ์ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ 54000 ศาลากลางจังหวัดสตูล ถ.สตูลธานี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล 91000 ศาลากลางจังหวัดชุมพร ถ.ไตรรัตน์ ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร 86000 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต 9/99 ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย ถ.มิตรภาพหนองคาย - อุดรธานี ต. หนองกอมเกาะ อ. เมือง จ.หนองคาย 43000 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) ถ.อภิบาลบัญชา ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 48000 ใช้รหัสรับฝาก 4440 ที่มา : รายชื่อที่อยู่ศาลากลางสำหรับส่งสิ่งของบริจาค : https://drive.google.com/drive/folders/12hvhl5Zc1cY1HUBqHYU8r6NXvlWl-yQ0 รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.thailandpost.co.th/un/article_detail/article/11/32595 #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้าวเหนียวห่อใบตอง จากใจฅนดอยคำ

    เมื่อวันก่อนมีภาพข้าวเหนียวไก่ย่างห่อใบตองติดป้ายดอยคำ ที่นำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ถูกนำไปโจมตี ผลก็คือมีชาวเน็ตจำนวนมากตอบโต้ ถึงข้อดีของการนำอาหารห่อใบตอง เมื่อเทียบกับกล่องพลาสติกหรือโฟม เพราะเมื่อทิ้งเป็นขยะ ใบตองสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ นอกจากนี้ เมนูข้าวเหนียวสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสียง่าย

    ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ ดอยคำ - Doi Kham ของบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เผยแพร่ภาพที่บริษัทฯ มอบหมายให้โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) พร้อมด้วยฅนดอยคำ ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดทำข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตองเพิ่มจำนวน 500 ชุด สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอแม่สาย และ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยได้รับสนับสนุนเงินบริจาคจากเจ้าหน้าที่ พนักงานฅนดอยคำ ประจำสำนักงานใหญ่และโรงงานหลวงฯ ทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ข้าวสารและอาหารแห้งอีกด้วย

    หนึ่งในภาพที่นำมาเผยแพร่ เป็นกระบวนการผลิตข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตอง ที่พบว่าพนักงานพิถีพัถัน โดยเฉพาะการสวมหมวกคุมศีรษะ การใช้ถุงมือในการปรุงอาหาร และหยิบจับอาหารมาบรรจุลงในใบตอง แสดงให้เห็นถึงการปฎิบัติตามหลักความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) อย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นกิจกรรมทำอาหารเพื่อแจกจ่ายก็ตาม

    สำหรับดอยคำก่อตั้งเมื่อปี 2537 ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลไม้แปรรูป ในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ส่งเสริมการเพาะปลูกและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม โดยมีกำไรพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้ ใช้ในการดูแลพนักงาน นำกลับมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ปัจจุบันมีโรงงานอาหารสำเร็จรูป 3 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และสกลนคร

    ข้อมูลจากสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30 กล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากใบตองว่า ใช้ในการห่อผักสดและอาหาร เนื่องจากใบตองสดมีความชื้น ช่วยรักษาผักหรืออาหารให้สดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทนทานต่อความเย็นและความร้อน เมื่อนำใบตองห่ออาหารแล้วเอาไปปิ้ง นึ่ง ต้ม จะไม่สลายหรือละลายเหมือนพลาสติก จึงมีอาหารหลายอย่างที่ห่อใบตองแล้วนำไปนึ่ง เช่น ห่อหมก ข้าวต้มผัด ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ หรือเอาไปปิ้ง เช่น ข้าวเหนียวปิ้ง หรือนำไปต้ม เช่น ข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มจิ้ม อาหารเหล่านี้ยังทำให้เกิดความหอมของใบตองอีกด้วย สำหรับใบตองแห้ง นำมาใช้ทำกระทงเพื่อใส่อาหาร ห่อกะละแม มวนบุหรี่ โดยใบตองแห้งก็จะมีกลิ่นหอมเช่นกัน

    #Newskit #น้ำท่วมเชียงราย #ดอยคำ
    ข้าวเหนียวห่อใบตอง จากใจฅนดอยคำ เมื่อวันก่อนมีภาพข้าวเหนียวไก่ย่างห่อใบตองติดป้ายดอยคำ ที่นำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ถูกนำไปโจมตี ผลก็คือมีชาวเน็ตจำนวนมากตอบโต้ ถึงข้อดีของการนำอาหารห่อใบตอง เมื่อเทียบกับกล่องพลาสติกหรือโฟม เพราะเมื่อทิ้งเป็นขยะ ใบตองสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ นอกจากนี้ เมนูข้าวเหนียวสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสียง่าย ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ ดอยคำ - Doi Kham ของบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เผยแพร่ภาพที่บริษัทฯ มอบหมายให้โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) พร้อมด้วยฅนดอยคำ ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดทำข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตองเพิ่มจำนวน 500 ชุด สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอแม่สาย และ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยได้รับสนับสนุนเงินบริจาคจากเจ้าหน้าที่ พนักงานฅนดอยคำ ประจำสำนักงานใหญ่และโรงงานหลวงฯ ทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ข้าวสารและอาหารแห้งอีกด้วย หนึ่งในภาพที่นำมาเผยแพร่ เป็นกระบวนการผลิตข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตอง ที่พบว่าพนักงานพิถีพัถัน โดยเฉพาะการสวมหมวกคุมศีรษะ การใช้ถุงมือในการปรุงอาหาร และหยิบจับอาหารมาบรรจุลงในใบตอง แสดงให้เห็นถึงการปฎิบัติตามหลักความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) อย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นกิจกรรมทำอาหารเพื่อแจกจ่ายก็ตาม สำหรับดอยคำก่อตั้งเมื่อปี 2537 ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลไม้แปรรูป ในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ส่งเสริมการเพาะปลูกและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม โดยมีกำไรพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้ ใช้ในการดูแลพนักงาน นำกลับมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ปัจจุบันมีโรงงานอาหารสำเร็จรูป 3 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และสกลนคร ข้อมูลจากสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30 กล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากใบตองว่า ใช้ในการห่อผักสดและอาหาร เนื่องจากใบตองสดมีความชื้น ช่วยรักษาผักหรืออาหารให้สดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทนทานต่อความเย็นและความร้อน เมื่อนำใบตองห่ออาหารแล้วเอาไปปิ้ง นึ่ง ต้ม จะไม่สลายหรือละลายเหมือนพลาสติก จึงมีอาหารหลายอย่างที่ห่อใบตองแล้วนำไปนึ่ง เช่น ห่อหมก ข้าวต้มผัด ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ หรือเอาไปปิ้ง เช่น ข้าวเหนียวปิ้ง หรือนำไปต้ม เช่น ข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มจิ้ม อาหารเหล่านี้ยังทำให้เกิดความหอมของใบตองอีกด้วย สำหรับใบตองแห้ง นำมาใช้ทำกระทงเพื่อใส่อาหาร ห่อกะละแม มวนบุหรี่ โดยใบตองแห้งก็จะมีกลิ่นหอมเช่นกัน #Newskit #น้ำท่วมเชียงราย #ดอยคำ
    Like
    Love
    7
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เชิญถุงยังชีพพระราชทาน ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยดินโคลนถล่ม พร้อมทั้งอัญเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ผู้ประสบภัย ณ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
    —-
    His Majesty King Maha Vajiralongkorn and Her Majesty Queen Suthida of Thailand graciously ordered Mr. Plakorn Suwannarat, Privy Councilor, to deliver royal relief bags to those affected by floods and mudslides and along with inviting the Royal Messages of His Majesty the King and Her Majesty the Queen to speak to the victims in Mae Sai District, Chiang Rai Province.
    _____________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เชิญถุงยังชีพพระราชทาน ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยดินโคลนถล่ม พร้อมทั้งอัญเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ผู้ประสบภัย ณ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย —- His Majesty King Maha Vajiralongkorn and Her Majesty Queen Suthida of Thailand graciously ordered Mr. Plakorn Suwannarat, Privy Councilor, to deliver royal relief bags to those affected by floods and mudslides and along with inviting the Royal Messages of His Majesty the King and Her Majesty the Queen to speak to the victims in Mae Sai District, Chiang Rai Province. _____________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลจาก
    》》สวท. แม่สะเรียง《《

    ■นักศึกษาน้ำใจงาม
    ♡น้อง ๆ จากวิทยาลัย
    ล้านนา
    》》ร่วมแรงร่วมใจทำกิจกรรมฟื้นฟูหลังน้าท่วม
    》》ณ ชุมชนรั้วเหล็ก จังหวัดเชียงราย

    #นักศึกษา #คนไทยน้ำใจงาเชียงราย #ช่วยน้ำท่วม #เชียงราย #ฟื้นฟู #น้ำท่วม67 #กรมประชาสัมพันธ์ #สวทแม่สะเรียง
    ข้อมูลจาก 》》สวท. แม่สะเรียง《《 ■นักศึกษาน้ำใจงาม ♡น้อง ๆ จากวิทยาลัย ล้านนา 》》ร่วมแรงร่วมใจทำกิจกรรมฟื้นฟูหลังน้าท่วม 》》ณ ชุมชนรั้วเหล็ก จังหวัดเชียงราย #นักศึกษา #คนไทยน้ำใจงาเชียงราย #ช่วยน้ำท่วม #เชียงราย #ฟื้นฟู #น้ำท่วม67 #กรมประชาสัมพันธ์ #สวทแม่สะเรียง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 52 0 รีวิว
  • ข้อมูลจาก
    》》ท.ทหารร้องเพลง《《

    "เพราะผู้ประสบภัยรอไม่ได้"

    ทบ. ใช้น้องล่อ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ดินถล่ม ในเส้นทางที่ถูก ตัดขาดโดยกองพันสัตว์ต่าง
    ค่ายตากสิน จ.เชียงใหม่

    #กรีนสกรีนวิดีโอ #น้ำท่วม เชียงราย #saveเชียงราย #savechiangrai #กองทัพบก #กองพัน สัตว์ต่าง #ค่ายตากสิน #ศูนย์บรรเทา สาธารณภัยกองทัพบก #กองทัพบกเคียงข้างประชาชน #หมู่แพรว #ทหาร
    ข้อมูลจาก 》》ท.ทหารร้องเพลง《《 "เพราะผู้ประสบภัยรอไม่ได้" ทบ. ใช้น้องล่อ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ดินถล่ม ในเส้นทางที่ถูก ตัดขาดโดยกองพันสัตว์ต่าง ค่ายตากสิน จ.เชียงใหม่ #กรีนสกรีนวิดีโอ #น้ำท่วม เชียงราย #saveเชียงราย #savechiangrai #กองทัพบก #กองพัน สัตว์ต่าง #ค่ายตากสิน #ศูนย์บรรเทา สาธารณภัยกองทัพบก #กองทัพบกเคียงข้างประชาชน #หมู่แพรว #ทหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • ใต้ร่มพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพืชผลทางการเกษตร โครงการหลวง อาทิ ฟักทองญี่ปุ่น ฟักทองสีขาว ซาโยเต้ มะเขือเทศ เพื่อนำไปประกอบอาหารให้แก่ผู้ประสบภัยอุทกภัยน้ำท่วม กว่า ๑,๕๐๐ หลังคาเรือน ภายใต้กิจกรรม "เปิดครัวโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน" ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ แห่งประเทศไทย มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ ศูนย์ประสานงานภาคเหนือ สมาคมเชฟจิตอาสา จิตอาสาจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย

    
—
    
His Majesty King Maha Vajiralongkorn and Her Majesty Queen Suthida of Thailand have donation of agricultural products from the Royal Project, such as Japanese pumpkin, white pumpkin, chayote, and tomatoes, to be used in cooking for over 1,500 households affected by the floods under the activity "Opening the Kitchen of the Royal Kindness Project", which is a collaboration between the Social Welfare Council of Thailand, the Miracle of Life Foundation, the Northern Coordination Center, the Volunteer Chef Association, volunteers in Chiang Mai and Chiang Rai provinces.
___________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida 
Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    ใต้ร่มพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพืชผลทางการเกษตร โครงการหลวง อาทิ ฟักทองญี่ปุ่น ฟักทองสีขาว ซาโยเต้ มะเขือเทศ เพื่อนำไปประกอบอาหารให้แก่ผู้ประสบภัยอุทกภัยน้ำท่วม กว่า ๑,๕๐๐ หลังคาเรือน ภายใต้กิจกรรม "เปิดครัวโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน" ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ แห่งประเทศไทย มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ ศูนย์ประสานงานภาคเหนือ สมาคมเชฟจิตอาสา จิตอาสาจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย 
— 
His Majesty King Maha Vajiralongkorn and Her Majesty Queen Suthida of Thailand have donation of agricultural products from the Royal Project, such as Japanese pumpkin, white pumpkin, chayote, and tomatoes, to be used in cooking for over 1,500 households affected by the floods under the activity "Opening the Kitchen of the Royal Kindness Project", which is a collaboration between the Social Welfare Council of Thailand, the Miracle of Life Foundation, the Northern Coordination Center, the Volunteer Chef Association, volunteers in Chiang Mai and Chiang Rai provinces.
___________________________ 
#พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida 
Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,519
    วันจันทร์: ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๗ (16 September 2024)

    ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 แห่ง เป็นเงิน 200 บาท
    01. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67)
    02. รร.บ้านหนองเต็งรัง อ ตาคลี จ นครสวรรค์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67)
    03. รร.วัดยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67)
    04. รร.บ้านคลองกรวด อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 26 ก.ย.67)
    05. รร.บ้านเพิก-รัฐประชาสามัคคี อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 26 ก.ย.67)
    06. รร.บ้านคล้อมิตรภาพที่226 อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    07. รร.บ้านม่วงลีบ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    08. รร.แม่วินสามัคคี อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    09. รร.วัดท่าเตียน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    10. รร.วัดบ้านลาด อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๙ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,519 วันจันทร์: ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๗ (16 September 2024) ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 แห่ง เป็นเงิน 200 บาท 01. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67) 02. รร.บ้านหนองเต็งรัง อ ตาคลี จ นครสวรรค์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67) 03. รร.วัดยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67) 04. รร.บ้านคลองกรวด อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 26 ก.ย.67) 05. รร.บ้านเพิก-รัฐประชาสามัคคี อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา (ทอดผ้าป่าสามัคคี 26 ก.ย.67) 06. รร.บ้านคล้อมิตรภาพที่226 อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 07. รร.บ้านม่วงลีบ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 08. รร.แม่วินสามัคคี อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 09. รร.วัดท่าเตียน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 10. รร.วัดบ้านลาด อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๙ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,519
    วันจันทร์: ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๗ (16 September 2024)

    ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 แห่ง เป็นเงิน 200 บาท
    01. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67)
    02. รร.บ้านหนองเต็งรัง อ ตาคลี จ นครสวรรค์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67)
    03. รร.วัดยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67)
    04. รร.บ้านคลองกรวด อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 26 ก.ย.67)
    05. รร.บ้านเพิก-รัฐประชาสามัคคี อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 26 ก.ย.67)
    06. รร.บ้านคล้อมิตรภาพที่226 อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    07. รร.บ้านม่วงลีบ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    08. รร.แม่วินสามัคคี อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    09. รร.วัดท่าเตียน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    10. รร.วัดบ้านลาด อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๙ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,519 วันจันทร์: ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๗ (16 September 2024) ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 แห่ง เป็นเงิน 200 บาท 01. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67) 02. รร.บ้านหนองเต็งรัง อ ตาคลี จ นครสวรรค์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67) 03. รร.วัดยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 25 ก.ย.67) 04. รร.บ้านคลองกรวด อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 26 ก.ย.67) 05. รร.บ้านเพิก-รัฐประชาสามัคคี อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา (ทอดผ้าป่าสามัคคี 26 ก.ย.67) 06. รร.บ้านคล้อมิตรภาพที่226 อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 07. รร.บ้านม่วงลีบ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 08. รร.แม่วินสามัคคี อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 09. รร.วัดท่าเตียน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 10. รร.วัดบ้านลาด อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๙ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงรายบอบช้ำหนักมาก​ ปลายปีช่วยกันไปเที่ยวกันหน่อยนะครับ​ ช่วยต่ออายุธุรกิจชาวเชียงรายกันด้วยนะครับ
    เชียงรายบอบช้ำหนักมาก​ ปลายปีช่วยกันไปเที่ยวกันหน่อยนะครับ​ ช่วยต่ออายุธุรกิจชาวเชียงรายกันด้วยนะครับ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดส่งสิ่งของพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค โดยเร่งด่วนเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพิ่มเติมอีก รวมจำนวน ๕,๐๐๐ ชุด
    .
    นับแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗ - ปัจจุบัน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ มอบถุงยังชีพพระราชทานไปแล้วกว่า ๒๑,๘๒๖ ชุด ทั้งหมด ๑๓ จังหวัดที่เกิดเหตุอุทกภัย คิดเป็นมูลค่าในการให้ความช่วยเหลือด้านอุทกภัยกว่า ๓๒ ล้านบาท
    ----
    His Majesty King Maha Vajiralongkorn and Her Majesty Queen Suthida of Thailand have command the Rajaprajanugroh Foundation under Royal Patronage has urgently delivered royal relief supplies to help people in Chiang Rai Province, totaling 5,000 sets.

    Since August 2024 to present, the Rajaprajanugroh Foundation has delivered more than 21,826 royal relief bags to all 13 flood-affected provinces, totaling more than 32 millionTHB in flood relief assistance.
    ____________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดส่งสิ่งของพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค โดยเร่งด่วนเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพิ่มเติมอีก รวมจำนวน ๕,๐๐๐ ชุด . นับแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗ - ปัจจุบัน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ มอบถุงยังชีพพระราชทานไปแล้วกว่า ๒๑,๘๒๖ ชุด ทั้งหมด ๑๓ จังหวัดที่เกิดเหตุอุทกภัย คิดเป็นมูลค่าในการให้ความช่วยเหลือด้านอุทกภัยกว่า ๓๒ ล้านบาท ---- His Majesty King Maha Vajiralongkorn and Her Majesty Queen Suthida of Thailand have command the Rajaprajanugroh Foundation under Royal Patronage has urgently delivered royal relief supplies to help people in Chiang Rai Province, totaling 5,000 sets. Since August 2024 to present, the Rajaprajanugroh Foundation has delivered more than 21,826 royal relief bags to all 13 flood-affected provinces, totaling more than 32 millionTHB in flood relief assistance. ____________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimes #พิธา #น้ำท่ามเชียงราย
    https://th.mentboard.com/thread/2g3u0v3/
    #thaitimes #พิธา #น้ำท่ามเชียงราย https://th.mentboard.com/thread/2g3u0v3/
    TH.MENTBOARD.COM
    น้ำมาหัว ‘พ่อส้ม’ เลยไม่ผุด
    โพสต์โดยคุณผู้มาก่อนกาล (ID:4B022)เป็นที่ทราบกันดีว่า ‘พ่อส้ม’ อดีตแคนดิเดตนายกฯพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาชนที่ได้รับผมกระทบจากภัยพิบัติ #เชียงราย
    ประชาชนที่ได้รับผมกระทบจากภัยพิบัติ #เชียงราย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความรุนแรงจากภัยพิบัติน้ำท่วม #เชียงราย
    ความรุนแรงจากภัยพิบัติน้ำท่วม #เชียงราย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนขับรถแบล๊คโฮผวา...ตักดินโคลนเคลียร์ทางถนนตักไปเจอศพจมโคลนที่ถนน #เชียงราย #น้ำท่วม #ชีวิตคน
    คนขับรถแบล๊คโฮผวา...ตักดินโคลนเคลียร์ทางถนนตักไปเจอศพจมโคลนที่ถนน #เชียงราย #น้ำท่วม #ชีวิตคน
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 52 0 รีวิว
  • คนรักหมาแมว"เอส“จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค" กู้ภัยช่วยชีวิตหมาแมวจากน้ำท่วมใหญ่ จ.เชียงราย เสียชีวิตกะทันหันหลังเสร็จสิ้นภารกิจ โลกออนไลน์ร่วมแสดงความอาลัยและเสียใจต่อการจากไป

    15 กันยายน2567-รายงานจากโลกออนไลน์ระบุว่า ทางมูลนิธิ ดิ อาร์ค ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ เดินทางมารอรับศพ คุณเอส หรือ นายภรัญโรจน์ กิตติภัทร์ฐากรณ์ โดยมีคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิเสียใจร้องไห้อยู่เพราะตัวเองเป็นคนเปิดประตูเข้าไปแล้วก็เห็นว่าคุณเอสหมดสติอยู่บนเตียง

    ส่วนคุณแชมป์ น้องชาย กล่าวว่า พี่ชายเป็นคนรักหมารักแมวมาก เมื่อวานยังโทรคุยงาน พี่ชายบอกเลยว่าให้เตรียมคอกสัตว์เอาไว้ อาจจะต้องมีสุนัขไปประมาณ 20 พี่เอสเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงาน ตนอยู่กับพี่มาไม่เคยได้กอดพี่เลย จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย พี่ชายคิดว่าตัวเองไม่รัก แต่ตัวเองรักพี่ชายมาก ขอให้พี่ชายไปดี อยากจะบอกกับพี่ว่าผมรักพี่มาก

    ต่อมา มีรายงานว่า ได้เคลื่อนร่างของคุณเอสออกมาจากอาคารบ้านหลังสุดท้าย โรงพยาบาลแม่สาย โดยมีทางคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิ เรียกดวงวิญญาณคุณเอสกลับบ้าน ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ร้องไห้เสียใจเพราะว่าทำภารกิจในการช่วยเหลือมาด้วยกัน 14 ปี ไม่คิดเหมือนกันว่านี่คือภารกิจสุดท้ายของคุณเอสในการช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวจนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวังธาร อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่.

    นายดลชนก บุณโยทยาน รองประธานมูลนิธิวินวิน กล่าวว่า น้องเอสทำมูลนิธิ 14 ปี มาเริ่มภารกิจที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่พฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 และกำหนดวันนี้จะมูฟไปที่เชียงราย คือเมื่อวาน (14 กันยายน) จะมีคลิปที่ไปเก็บศพน้องหมาน้องแมว เอสก็เป็นคนไปขุดหลุมฝังสุนัขเอง ตอนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีเหนื่อยหรือว่าอะไร และกลับมาที่โรงแรมก็ทานอาหารกัน บอกว่าน่าจะเป็นกรดไหลย้อน

    พอเข้าไปในห้องพักสักพัก พี่บัณฑิต ประธานมูลนิธิก็เข้าไปเจอแล้วก็รีบทำซีพีอาร์เพราะว่ากู้ภัยอยู่ด้วยกันเยอะ แต่สุดท้ายไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตได้ แพทย์ระบุว่าเสียชีวิต ตนก็อยากบอกชื่นชมเอสว่า เอสเป็นคนที่มองจุดเล็ก ๆ ว่าทุกคนเขาก็ให้ความสำคัญคุณค่ากระทั่งชีวิตสัตว์ที่เสียชีวิตก็ยังนำไปทำให้เหมาะสม ในเฟซบุ๊กของนายดลชนกได้เล่าว่า

    ”หลังเสร็จภารกิจเรากลับเข้าโรงแรมนั่งทานข้าวกัน มันเป็นอาหารที่อร่อยเอสทานเยอะมาก

    เอสบ่นว่าตัวเองน่าจะกรดไหลย้อนขอตัวกลับห้องก่อน เราก็นั่งคุยกับลุงดิ๊บต่ออีกซัก 1 ชม. ก็แยกย้ายกันกลับห้อง ไม่นานลุงดิ๊บโทรมาว่าพี้ต้อยเอสไม่หายใจ เรากับน้องอีกคนวิ่งไปอย่างเร็ว ไปถึงพบเอสตัวเริ่มซีดหยุดหายใจ เราก็ทำ CPR น้องอีกคนวิ่งไปตามกู้ภัยเพราะในรีสอร์ทมีแต่กู้ภัยพัก มีน้องๆนับ 10 คนมาช่วยกันเอารถกู้ชีพพาไปส่ง รพ.แม่สาย แต่ด้วยเวลาที่หยุดหายใจนานเกินไปเอสได้จากพวกเราไปอย่างสงบ

    ใครรู้จักลุงดิ๊บ,เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยให้เพื่อนเราด้วยกัน“

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/f2yhP9hDfW6Ztpag/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    คนรักหมาแมว"เอส“จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค" กู้ภัยช่วยชีวิตหมาแมวจากน้ำท่วมใหญ่ จ.เชียงราย เสียชีวิตกะทันหันหลังเสร็จสิ้นภารกิจ โลกออนไลน์ร่วมแสดงความอาลัยและเสียใจต่อการจากไป 15 กันยายน2567-รายงานจากโลกออนไลน์ระบุว่า ทางมูลนิธิ ดิ อาร์ค ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ เดินทางมารอรับศพ คุณเอส หรือ นายภรัญโรจน์ กิตติภัทร์ฐากรณ์ โดยมีคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิเสียใจร้องไห้อยู่เพราะตัวเองเป็นคนเปิดประตูเข้าไปแล้วก็เห็นว่าคุณเอสหมดสติอยู่บนเตียง ส่วนคุณแชมป์ น้องชาย กล่าวว่า พี่ชายเป็นคนรักหมารักแมวมาก เมื่อวานยังโทรคุยงาน พี่ชายบอกเลยว่าให้เตรียมคอกสัตว์เอาไว้ อาจจะต้องมีสุนัขไปประมาณ 20 พี่เอสเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงาน ตนอยู่กับพี่มาไม่เคยได้กอดพี่เลย จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย พี่ชายคิดว่าตัวเองไม่รัก แต่ตัวเองรักพี่ชายมาก ขอให้พี่ชายไปดี อยากจะบอกกับพี่ว่าผมรักพี่มาก ต่อมา มีรายงานว่า ได้เคลื่อนร่างของคุณเอสออกมาจากอาคารบ้านหลังสุดท้าย โรงพยาบาลแม่สาย โดยมีทางคุณบัณฑิต เจ้าของมูลนิธิ เรียกดวงวิญญาณคุณเอสกลับบ้าน ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ร้องไห้เสียใจเพราะว่าทำภารกิจในการช่วยเหลือมาด้วยกัน 14 ปี ไม่คิดเหมือนกันว่านี่คือภารกิจสุดท้ายของคุณเอสในการช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวจนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวังธาร อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่. นายดลชนก บุณโยทยาน รองประธานมูลนิธิวินวิน กล่าวว่า น้องเอสทำมูลนิธิ 14 ปี มาเริ่มภารกิจที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่พฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 และกำหนดวันนี้จะมูฟไปที่เชียงราย คือเมื่อวาน (14 กันยายน) จะมีคลิปที่ไปเก็บศพน้องหมาน้องแมว เอสก็เป็นคนไปขุดหลุมฝังสุนัขเอง ตอนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีเหนื่อยหรือว่าอะไร และกลับมาที่โรงแรมก็ทานอาหารกัน บอกว่าน่าจะเป็นกรดไหลย้อน พอเข้าไปในห้องพักสักพัก พี่บัณฑิต ประธานมูลนิธิก็เข้าไปเจอแล้วก็รีบทำซีพีอาร์เพราะว่ากู้ภัยอยู่ด้วยกันเยอะ แต่สุดท้ายไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตได้ แพทย์ระบุว่าเสียชีวิต ตนก็อยากบอกชื่นชมเอสว่า เอสเป็นคนที่มองจุดเล็ก ๆ ว่าทุกคนเขาก็ให้ความสำคัญคุณค่ากระทั่งชีวิตสัตว์ที่เสียชีวิตก็ยังนำไปทำให้เหมาะสม ในเฟซบุ๊กของนายดลชนกได้เล่าว่า ”หลังเสร็จภารกิจเรากลับเข้าโรงแรมนั่งทานข้าวกัน มันเป็นอาหารที่อร่อยเอสทานเยอะมาก เอสบ่นว่าตัวเองน่าจะกรดไหลย้อนขอตัวกลับห้องก่อน เราก็นั่งคุยกับลุงดิ๊บต่ออีกซัก 1 ชม. ก็แยกย้ายกันกลับห้อง ไม่นานลุงดิ๊บโทรมาว่าพี้ต้อยเอสไม่หายใจ เรากับน้องอีกคนวิ่งไปอย่างเร็ว ไปถึงพบเอสตัวเริ่มซีดหยุดหายใจ เราก็ทำ CPR น้องอีกคนวิ่งไปตามกู้ภัยเพราะในรีสอร์ทมีแต่กู้ภัยพัก มีน้องๆนับ 10 คนมาช่วยกันเอารถกู้ชีพพาไปส่ง รพ.แม่สาย แต่ด้วยเวลาที่หยุดหายใจนานเกินไปเอสได้จากพวกเราไปอย่างสงบ ใครรู้จักลุงดิ๊บ,เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยให้เพื่อนเราด้วยกัน“ ที่มา : https://www.facebook.com/share/f2yhP9hDfW6Ztpag/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Sad
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้ำท่วมเร็วมากเพราะมวลน้ำมากมาจากเมียนมาร์!:

    ฟังผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำท่วมหลายรอบนะครับ ฟังแล้วก็เบื่อ ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพฯ อุบลฯ ฯลฯ และล่าสุดก็คือเชียงราย เวลาให้สัมภาษณ์ พวกเขาจะบอกเหมือนกันว่า ‘น้ำมามาก น้ำมาเร็ว ใช้เวลาไม่นาน แล้วตั้งตัวไม่ทัน น้ำจึงท่วมมาก’ อีกนัยก็คือ ‘เห็นใจพวกผมหน่อย น้ำมามาก น้ำมาเร็ว พวกผมทำงานไม่ทัน’

    ผมเคยเขียนวิจารณ์หลายครั้งแล้วว่าน้ำจะมามากหรือน้อยไม่สำคัญ จะมาจากเมียนมาร์ ทิเบต ขั้วโลกเหนือหรือจากภูเขาหิมาลัยที่ประเทศเนปาลก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญซึ่งในหลวงร.๙ ทรงรับสั่งหลายครั้งก็คือให้เตรียมทางน้ำ (flood way) ให้มวลน้ำใหลผ่านโดยสะดวก น้ำจะได้ไม่ท่วมขังนาน

    ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหลายในขณะนี้ได้เตรียมทำทางน้ำไว้แล้วหรือยัง? จังหวัดต่างๆ ได้อนุมัติให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์สร้างหมู่บ้านจัดสรรขวางทางน้ำหรือไม่? อนุมัติให้เจ้าสัวสร้างห้างสรรพสินค้าขวางทางน้ำหรือไม่? ฯลฯ ถ้าสร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำ แล้วน้ำท่วมก็เหมาะสมแล้ว ประชาชนควรจะพากันเฉ่งผู้ว่าราชการจังหวัดของตนจึงจะถูก

    ฝนตกและทำให้มีน้ำมาก เป็นเรื่องปรกติธรรมดาของธรรมชาติ แต่ว่าทุกจังหวัดที่สุ่มเสี่ยงมากมักจะได้รับงบประมาณเพื่อเตรียมหาทางน้ำ ให้มวลน้ำที่มามากๆ ผ่านไปลงทะเลหรือแม่น้ำโขงโดยเร็วกันทั้งนั้น

    ต้องถามว่าผู้ว่าเมืองเชียงรายหลายยุคสมัยที่ผ่านมาไม่พากันเตรียมการหาทางน้ำให้มวลน้ำมากๆ ใหลผ่านโดยสะดวกเลยหรือ? น้ำจะได้ไม่ท่วมขังนาน งบประมาณเอาไปทำอะไรกันหมด?

    ตอนนี้ จังหวัดไหนที่น้ำสุ่มเสี่ยงจะท่วมและไม่อยากถูกน้ำท่วม ชาวบ้านทั้งหลายต้องหาไม้หน้าสามมาถือให้พร้อม แล้วพากันบุกไปถามผู้ว่าราชการจังหวัดที่ตนอยู่อาศัยเลยครับว่าเตรียมหาทางน้ำให้น้ำใหลผ่านได้สะดวกหรือยัง? ถ้ายังไม่ทำอะไรเลยก็แนะนำให้พากันลาออกไปเสียเถิด


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    น้ำท่วมเร็วมากเพราะมวลน้ำมากมาจากเมียนมาร์!: ฟังผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำท่วมหลายรอบนะครับ ฟังแล้วก็เบื่อ ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพฯ อุบลฯ ฯลฯ และล่าสุดก็คือเชียงราย เวลาให้สัมภาษณ์ พวกเขาจะบอกเหมือนกันว่า ‘น้ำมามาก น้ำมาเร็ว ใช้เวลาไม่นาน แล้วตั้งตัวไม่ทัน น้ำจึงท่วมมาก’ อีกนัยก็คือ ‘เห็นใจพวกผมหน่อย น้ำมามาก น้ำมาเร็ว พวกผมทำงานไม่ทัน’ ผมเคยเขียนวิจารณ์หลายครั้งแล้วว่าน้ำจะมามากหรือน้อยไม่สำคัญ จะมาจากเมียนมาร์ ทิเบต ขั้วโลกเหนือหรือจากภูเขาหิมาลัยที่ประเทศเนปาลก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญซึ่งในหลวงร.๙ ทรงรับสั่งหลายครั้งก็คือให้เตรียมทางน้ำ (flood way) ให้มวลน้ำใหลผ่านโดยสะดวก น้ำจะได้ไม่ท่วมขังนาน ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหลายในขณะนี้ได้เตรียมทำทางน้ำไว้แล้วหรือยัง? จังหวัดต่างๆ ได้อนุมัติให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์สร้างหมู่บ้านจัดสรรขวางทางน้ำหรือไม่? อนุมัติให้เจ้าสัวสร้างห้างสรรพสินค้าขวางทางน้ำหรือไม่? ฯลฯ ถ้าสร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำ แล้วน้ำท่วมก็เหมาะสมแล้ว ประชาชนควรจะพากันเฉ่งผู้ว่าราชการจังหวัดของตนจึงจะถูก ฝนตกและทำให้มีน้ำมาก เป็นเรื่องปรกติธรรมดาของธรรมชาติ แต่ว่าทุกจังหวัดที่สุ่มเสี่ยงมากมักจะได้รับงบประมาณเพื่อเตรียมหาทางน้ำ ให้มวลน้ำที่มามากๆ ผ่านไปลงทะเลหรือแม่น้ำโขงโดยเร็วกันทั้งนั้น ต้องถามว่าผู้ว่าเมืองเชียงรายหลายยุคสมัยที่ผ่านมาไม่พากันเตรียมการหาทางน้ำให้มวลน้ำมากๆ ใหลผ่านโดยสะดวกเลยหรือ? น้ำจะได้ไม่ท่วมขังนาน งบประมาณเอาไปทำอะไรกันหมด? ตอนนี้ จังหวัดไหนที่น้ำสุ่มเสี่ยงจะท่วมและไม่อยากถูกน้ำท่วม ชาวบ้านทั้งหลายต้องหาไม้หน้าสามมาถือให้พร้อม แล้วพากันบุกไปถามผู้ว่าราชการจังหวัดที่ตนอยู่อาศัยเลยครับว่าเตรียมหาทางน้ำให้น้ำใหลผ่านได้สะดวกหรือยัง? ถ้ายังไม่ทำอะไรเลยก็แนะนำให้พากันลาออกไปเสียเถิด ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ของที่หลายท่านฝาก lit nit ไปแจกบนดอย ขอส่งไปให้พี่น้องทางเชียงรายก่อนนะครับ
    ....
    มีทั้งเสื้อผ้า หมอน ผ้าห่ม รองเท้า ของใช้เด็กอ่อน แก้วน้ำ จานชาม และหมา 2 ตัว
    ....
    แต่ว่าหมาพี่เขาขอไม่รับด้วยเหตุผลที่ว่าพิจารณาแล้วจากโหงวเฮ้งซอทรายแล้วหาประโยชน์มิได้
    #เป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ที่ประสบน้ำท่วมทุกจังหวัดครับ
    ของที่หลายท่านฝาก lit nit ไปแจกบนดอย ขอส่งไปให้พี่น้องทางเชียงรายก่อนนะครับ .... มีทั้งเสื้อผ้า หมอน ผ้าห่ม รองเท้า ของใช้เด็กอ่อน แก้วน้ำ จานชาม และหมา 2 ตัว .... แต่ว่าหมาพี่เขาขอไม่รับด้วยเหตุผลที่ว่าพิจารณาแล้วจากโหงวเฮ้งซอทรายแล้วหาประโยชน์มิได้ #เป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ที่ประสบน้ำท่วมทุกจังหวัดครับ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sep. 13, 2024

    วันนี้เห็นคลิปทหารทุกหมู่เหล่า หน่วยกู้ภัย มูลนิธิต่างๆ และจิตอาสา ต่างระดมกำลังกัน ช่วยชาวบ้านออกจากพื้นที่อันตราย ส่งข้าว ส่งน้ำ และของประทังชีวิตให้ถึงมือทั้งทางเรือ และทางอากาศ
    https://youtu.be/-jaZXpfHsgo?si=YFcFCL5e6vndU-XQ

    มันช่างต่างกับคลิปบ่ายเบี่ยงของนายกคนลูก และออกไปสร้างภาพช่วยผู้ประสบภัยอีกครั้ง หลังจากนายกคนพ่อไปถ่ายรูปสร้างภาพที่สุโขทัยตอนน้ำสูงเท่าพื้นรองเท้า และจัดฉากให้คนนั่งในเรือยกมือไหว้มันซะด้วย ล่อลวงด้วยนโยบายแจกเงินสกุล digital หมื่นนึง ซึ่งบัดนี้กลายเป็นแจกเงินสดที่เลื่อนวันจ่ายออกไปเรื่อยๆ...มันช่างน่าทุเรศใจเหลือเกิน

    คิดย้อนไปถึงตอนก่อนเราจะกลับจาก New York ช่วงพฤศจิกายน 2022 ตอนนั้น Powerball Lotto คือ lottery game ของรัฐที่เข้าร่วมทั้งหมด 45 รัฐ รางวัลที่ฮือฮามากเมื่อก่อน covid คือเกือบ $700 ล้านเหรียญ ถ้าไม่มีใครถูก รางวัลก็จะทบไปเรื่อยๆ จน Jackpot แตกไปเมื่อวันที่ 7 พย. 2022 คือ $2040 ล้านเหรียญ ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา และที่สำคัญ Jackpot winner มีคนเดียวด้วย

    ติ๊ต่างว่าเราคือคนๆนั้นนะ และเราเลือกที่จะไม่รับเบี้ยหัวแตก 30 ปี แต่เราเลือกเอาก้อนเดียวเลย เงินรางวัลเราก็จะได้ครึ่งเดียว คือเหลือ $1020 ล้านเหรียญ จากนั้นก่อนจะอุ้มเงินหนีกลับบ้าน คุณจะโดนหัก state & federal tax อีก 37% ก็จะเหลือกลมๆประมาณ $640 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ตอนนั้น ฿35/$1 ก็คือ ฿22,400 ล้านบาทไทย...ก็เอาละวะ

    ตอนกลับมาไทย เราชอบชวน taxi และคนในพื้นที่ที่ภูเก็ตคุย เราก็จะเล่าเรื่องหวยฝรั่งรางวัลใหญ่ให้พี่ๆ taxi และหลายๆคนฟัง แล้วเราก็นึกสนุกขึ้นมา จึงตั้งคำถามกับ taxi และคนที่ภูเก็ตอีกหลายต่อหลายคนว่า...

    "ถ้าหนูมีเงิน $640 ล้านเหรียญ และในเมืองไทยมีคนอยู่ในประเทศ 70 ล้านคนนะ อ้ะๆ ให้ 80 ล้านคนเลย (เผื่อพม่า ลาว เขมรจะวิ่งเข้ามาด้วย) หนูแจกตังให้ฟรีๆคนละ $1 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยคือคนละ ฿35 ล้านบาท) หนูก็จะเหลือตังอีก $560 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยก็เหลืออีกตั้ง ฿19,600 ล้านบาทไทย) แจกแบบนับจำนวนหัว ไม่ดูอายุกันเลยนะ คุณยายจะตายพรุ่งนี้ก็แจก เด็กเกิดใหม่อายุ 1 วันก็ได้นะ แต่หนูไม่แจกคนที่ติดคุกอยู่ และพระสงฆ์ค่ะ...พี่ว่ามันจะดีมั้ยคะ คิดดีๆก่อนตอบนะ ไม่ต้องรีบ ถามคำถามก่อนตอบก็ได้นะ"

    80% เป็นการตอบแบบไม่หยุดคิดก่อนเลยซักวินาทีเดียว
    "ดีสิครับ" "ดีเด่ะพี่" "โห ผมให้เลขบัญชีคนทั้งครอบครัวพี่เดี๋ยวนี้เลย"
    15% มีการยิงคำถามบ้าง แล้วก็ตอบว่า "ดีครับ ควรแจกครับ"
    มีแค่ 5% ที่คิด-ถาม-คิดอีกที จึงตอบว่า
    "ประเทศเละแน่ๆครับ" "ผมว่าพี่อาจจะโดนยิงตายภายใน 3 วัน" "ผมว่าน่าจะมีหลายคนที่ไม่เคยมี และเขาสามารถทำให้เงินหมดได้ภายในเวลาแป๊บเดียวนะ"

    คราวนี้ตาเราถามพวก 80% แรกกลับบ้าง
    "คำถามแรก ทุกคนมีหนี้นอกระบบพะรุงพะรังถูกมั้ยคะ มีใครคิดจะใช้หนี้ให้หมดก่อนมั้ย หรือคิดว่า ก็เจ้าหนี้ ก็ได้ ฿35 ล้านบาทแล้วไง งั้นก็ไม่ต้องใช้คืนก็ได้
    แล้วหนูบอกว่าหนูแจกทุกคนเลยนะ นักโทษฆ่าข่มขืนเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาหนูก็แจกนะ คนค้ายาค้ามนุษย์ คนบ้าข้างถนน หนูก็แจกนะคะ ถ้าผัวเมียชาวนามีลูก 8 คน ครอบครัวนั้นจะได้เงิน ฿350 ล้านบาทนะคะ
    คำถามต่อไปคือ พี่ว่าชาวนาจะยังปลูกข้าวอยู่มั้ย พี่ว่าพระจะสึกออกมารับเงินกันกี่รูป พี่ว่าคุณลุงคุณป้าที่ทำร้านอาหารอยู่ แล้วอีกวันเขามีเงินรวมกัน ฿70 ล้านบาท เขาจะเปิดร้านต่อมั้ย พี่เข้าไปร้าน 7-11 แล้วจะมีใครทำงานมั้ย พี่ว่าข้าราชการ ครู ตำรวจ ทหาร จะยังอยากรับใช้ประชาชนแบบเช้าชามเย็นชามเพื่อรอเงินบำนาญอยู่มั้ย พี่ว่ารปภ. คนส่ง Grab คนรับจ้างตัดหญ้า คนรับจ้างกรีดยาง คณะละครร้องรำตามงานวัด จะยังอยากทำงานต่อมั้ย งานวัดจะมีอีกมั้ยเพราะคนทำชิงช้าสวรรค์ ขายสายไหม ซุ้มปาเป้า อาจจะไปเที่ยวยุโรปกันหมดแล้ว ไม่มีใครทำงานแล้ว คนต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทย จะยังได้รับรอยยิ้มสยาม และการต้อนรับอย่างดีอยู่อีกมั้ย ทำไมต้องมานั่งนวดฝรั่งริมหาดร้อนๆด้วยเนอะ ชาวประมงใส่นาฬิกา 3 ล้านบาทได้เหมือนนักการเมืองแล้วนะ แถมเหลือตังอีกตั้งแยะ เขาจะยังออกไปจับปลามาขายมั้ย...ที่แย่ที่สุดคือ พี่ว่าคนในครอบครัวจะฆ่ากันเองเพราะโลภอยากได้เงินพี่น้องพ่อแม่หรือผัวเมียตัวเองมั้ย
    ...ตกลงพี่ว่าหนูยังควรแจกตังอยู่มั้ยคะ"
    นี่คือความคิดโง่ๆทุเรศๆของเราเล่นๆ แต่มีคนสนับสนุนความคิดบ้องตื้นของเราถึง 80% เพียงเพราะอยากได้เงินก้อนโต

    เวลาผ่านไป 2 ปี มีนักการเมืองเอาความคิดคล้ายๆกัน แต่จะไปกู้เงินมาหยิบยื่นให้ประชาชน แต่ให้แบบเอาไปทำอะไรก็ไม่ได้ ทุกคนเป็นหนี้ท่วมหัวชั่วลูกชั่วหลานหนักกว่าเดิม แต่คนส่วนนึงก็ยังสนับสนุนความคิดนี้อย่างแข็งขัน เพราะอยากได้เงินแค่หมื่นเดียว

    ตอนนี้ผู้ประสบภัยพิบัติมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีนักการเมืองแวะมาดูๆ ถ่ายรูปตอนมอบถุงยังชีพ 2-3 แชะ แล้วหนูน้อยก็บอกว่า "ตอนนี้น้ำแรงมาก เรือท้องแบนเข้าไปไม่ได้ เมื่อน้ำลดลง พวกเราพร้อมจะเข้าช่วยทันที" อ๋ออออ เรือท้องท้องแบนเข้าไปสู้กับน้ำเชี่ยวๆได้แหละเนอะ น้ำไม่ค่อยแรงหรอก ไว้เรือท้องแบนเข้าได้ แล้วค่อยไปก็ได้ คนไทยอดข้าวอดน้ำ 4-5 วันได้ อึฉี่บนหลังคาบ้านก็ได้ เก่งจะตาย ไม่รีบๆ
    https://x.com/Kawaaii13/status/1834174006418964973?t=Qgom67KE-O0gYasaeateSA&s=19

    ลองเข้าไปดู tiktok ของ @tiktok.thailand89 นะคะ ยอดเยี่ยมมากๆเลยค่ะ ขับ jet ski เก่งมากๆทุกคนเลยค่ะ
    https://www.tiktok.com/@tiktok.thailand89?_t=8pghh09pg0q&_r=1

    นายกหนูน้อยคะ นี่ไงคะ แพร่ลดแล้ว สุโขทัยลดแล้ว เมืองพังเละเทะ ที่ว่าพร้อมจะเข้าช่วยทันที ว้า..แย่จัง ตอนนี้ต้องไปช่วยเชียงรายก่อน ไหนจะต้องแอบเร่งทำเรื่องคาสิโนให้ผ่าน ช่วงที่กำลังอลหม่านเรื่องน้ำท่วมนี่แหละ แถมทีม IO ก็ค่อยๆทยอยลงคลิปเสียงคนโน้นคนนี้ ปล่อยข่าวดาราไทยที่โดนดาราชาติอื่นๆหลอก ฯลฯ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้คนด่านายกหนูน้อยเยอะ มุขมันเก่าไปแล้วค่ะ รายการเจาะลึกทั่วไทย เอาคลิปลุงมาสร้างกระแส เอาจริงๆ ลุงหยุมแกก็อยากเป็นใหญ่ ใครๆก็รู้มาตั้งนานแล้วป่ะ คุณมดดำ ก็สร้างกระแส acting ทำเป็นโกรธดาราเกาหลีมากมาย ได้ตังกันไปเท่าไหร่จ๊ะ

    สังเกตุมั้ย ครอบครัวนี้ขึ้นมามีอำนาจทีไร น้ำท่วมใหญ่ทุกที โดนทั้งอา ทั้งหลานเลย มันคือสัญญาณอะไรเอ่ย คล้ายกับธรรมชาติไม่พอใจพฤติกรรมของมนุษย์ จึงส่งภัยพิบัติมาช่วยเบิกเนตรให้คนตาสว่าง งั้นเราขอถามคำถามตอนนี้ว่า

    ติ๊ต่างนะคะ ว่าตอนนี้มีเงินหมื่นบาทลอยเข้า app เป๋าตังเรียบร้อยแล้ว...แต่ไปซื้อของก็ไม่ได้ เพราะน้ำท่วมร้านค้ามิดหลังคาเลย ได้ข้าวสารมา แต่ไม่มีไฟฟ้าให้หุงข้าว จะหุงด้วยฟืน ฟืนก็เปียกน้ำหมด เหลือแต่ตัวกับเงินหมื่นบาทใน app

    ก็น่าจะเป็นที่ประจักษ์ ของวิญญูชนชัดเจนแล้วว่า การเอาเงินมาแจกให้คน ไม่ว่าจะมากหรือน้อย มันไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องค่ะ หากแต่การให้ความรู้แก่ผู้ใฝ่รู้ที่มีความพยายาม ความอดทน และความมุ่งมั่นต่างหาก ที่จะเป็นทางออกที่แท้จริงให้กับประชาชนและประเทศชาติ

    มีชายท่านนึง ท่านเคยศึกษา และทดลองทำอะไร หลายสิ่งหลายอย่าง มีโครงการมากมายที่ได้ผลสำเร็จ และนำเอาความรู้เหล่านั้นมาเผยแพร่ให้ฟรีๆ และยังเป็นศาสตร์ความรู้ที่นำมาใช้ต่อไปได้ไม่จำกัดกาล แต่คนส่วนใหญ่ กลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่าต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลมันนานเกินไป จนภัยมาถึงตัวในวันนี้

    และนี่อาจจะเป็นเหตุผลนึง ที่ทำให้คนที่มีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน ยังเก็บเงินไว้กับตัว เพราะเขาอาจจะต้องการให้สังคมยังมีความเหลื่อมล้ำมากอยู่ตลอดไป ไม่งั้นจะไปหาคนรองมือรองตีนได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะหาลูกหนี้ได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะไปหาเหยื่อที่เห็นเงินตาโตแล้วร้อยไว้ใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ

    ปล.
    ภูเก็ตก็หนักอยู่ เตรียมรับอีกลูกวันที่ 17 จ้ะ
    ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ
    https://www.facebook.com/share/v/YGS8GsJ3YXbtrxjK/?mibextid=D5vuiz
    Sep. 13, 2024 วันนี้เห็นคลิปทหารทุกหมู่เหล่า หน่วยกู้ภัย มูลนิธิต่างๆ และจิตอาสา ต่างระดมกำลังกัน ช่วยชาวบ้านออกจากพื้นที่อันตราย ส่งข้าว ส่งน้ำ และของประทังชีวิตให้ถึงมือทั้งทางเรือ และทางอากาศ https://youtu.be/-jaZXpfHsgo?si=YFcFCL5e6vndU-XQ มันช่างต่างกับคลิปบ่ายเบี่ยงของนายกคนลูก และออกไปสร้างภาพช่วยผู้ประสบภัยอีกครั้ง หลังจากนายกคนพ่อไปถ่ายรูปสร้างภาพที่สุโขทัยตอนน้ำสูงเท่าพื้นรองเท้า และจัดฉากให้คนนั่งในเรือยกมือไหว้มันซะด้วย ล่อลวงด้วยนโยบายแจกเงินสกุล digital หมื่นนึง ซึ่งบัดนี้กลายเป็นแจกเงินสดที่เลื่อนวันจ่ายออกไปเรื่อยๆ...มันช่างน่าทุเรศใจเหลือเกิน คิดย้อนไปถึงตอนก่อนเราจะกลับจาก New York ช่วงพฤศจิกายน 2022 ตอนนั้น Powerball Lotto คือ lottery game ของรัฐที่เข้าร่วมทั้งหมด 45 รัฐ รางวัลที่ฮือฮามากเมื่อก่อน covid คือเกือบ $700 ล้านเหรียญ ถ้าไม่มีใครถูก รางวัลก็จะทบไปเรื่อยๆ จน Jackpot แตกไปเมื่อวันที่ 7 พย. 2022 คือ $2040 ล้านเหรียญ ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา และที่สำคัญ Jackpot winner มีคนเดียวด้วย ติ๊ต่างว่าเราคือคนๆนั้นนะ และเราเลือกที่จะไม่รับเบี้ยหัวแตก 30 ปี แต่เราเลือกเอาก้อนเดียวเลย เงินรางวัลเราก็จะได้ครึ่งเดียว คือเหลือ $1020 ล้านเหรียญ จากนั้นก่อนจะอุ้มเงินหนีกลับบ้าน คุณจะโดนหัก state & federal tax อีก 37% ก็จะเหลือกลมๆประมาณ $640 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ตอนนั้น ฿35/$1 ก็คือ ฿22,400 ล้านบาทไทย...ก็เอาละวะ ตอนกลับมาไทย เราชอบชวน taxi และคนในพื้นที่ที่ภูเก็ตคุย เราก็จะเล่าเรื่องหวยฝรั่งรางวัลใหญ่ให้พี่ๆ taxi และหลายๆคนฟัง แล้วเราก็นึกสนุกขึ้นมา จึงตั้งคำถามกับ taxi และคนที่ภูเก็ตอีกหลายต่อหลายคนว่า... "ถ้าหนูมีเงิน $640 ล้านเหรียญ และในเมืองไทยมีคนอยู่ในประเทศ 70 ล้านคนนะ อ้ะๆ ให้ 80 ล้านคนเลย (เผื่อพม่า ลาว เขมรจะวิ่งเข้ามาด้วย) หนูแจกตังให้ฟรีๆคนละ $1 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยคือคนละ ฿35 ล้านบาท) หนูก็จะเหลือตังอีก $560 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยก็เหลืออีกตั้ง ฿19,600 ล้านบาทไทย) แจกแบบนับจำนวนหัว ไม่ดูอายุกันเลยนะ คุณยายจะตายพรุ่งนี้ก็แจก เด็กเกิดใหม่อายุ 1 วันก็ได้นะ แต่หนูไม่แจกคนที่ติดคุกอยู่ และพระสงฆ์ค่ะ...พี่ว่ามันจะดีมั้ยคะ คิดดีๆก่อนตอบนะ ไม่ต้องรีบ ถามคำถามก่อนตอบก็ได้นะ" 80% เป็นการตอบแบบไม่หยุดคิดก่อนเลยซักวินาทีเดียว "ดีสิครับ" "ดีเด่ะพี่" "โห ผมให้เลขบัญชีคนทั้งครอบครัวพี่เดี๋ยวนี้เลย" 15% มีการยิงคำถามบ้าง แล้วก็ตอบว่า "ดีครับ ควรแจกครับ" มีแค่ 5% ที่คิด-ถาม-คิดอีกที จึงตอบว่า "ประเทศเละแน่ๆครับ" "ผมว่าพี่อาจจะโดนยิงตายภายใน 3 วัน" "ผมว่าน่าจะมีหลายคนที่ไม่เคยมี และเขาสามารถทำให้เงินหมดได้ภายในเวลาแป๊บเดียวนะ" คราวนี้ตาเราถามพวก 80% แรกกลับบ้าง "คำถามแรก ทุกคนมีหนี้นอกระบบพะรุงพะรังถูกมั้ยคะ มีใครคิดจะใช้หนี้ให้หมดก่อนมั้ย หรือคิดว่า ก็เจ้าหนี้ ก็ได้ ฿35 ล้านบาทแล้วไง งั้นก็ไม่ต้องใช้คืนก็ได้ แล้วหนูบอกว่าหนูแจกทุกคนเลยนะ นักโทษฆ่าข่มขืนเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาหนูก็แจกนะ คนค้ายาค้ามนุษย์ คนบ้าข้างถนน หนูก็แจกนะคะ ถ้าผัวเมียชาวนามีลูก 8 คน ครอบครัวนั้นจะได้เงิน ฿350 ล้านบาทนะคะ คำถามต่อไปคือ พี่ว่าชาวนาจะยังปลูกข้าวอยู่มั้ย พี่ว่าพระจะสึกออกมารับเงินกันกี่รูป พี่ว่าคุณลุงคุณป้าที่ทำร้านอาหารอยู่ แล้วอีกวันเขามีเงินรวมกัน ฿70 ล้านบาท เขาจะเปิดร้านต่อมั้ย พี่เข้าไปร้าน 7-11 แล้วจะมีใครทำงานมั้ย พี่ว่าข้าราชการ ครู ตำรวจ ทหาร จะยังอยากรับใช้ประชาชนแบบเช้าชามเย็นชามเพื่อรอเงินบำนาญอยู่มั้ย พี่ว่ารปภ. คนส่ง Grab คนรับจ้างตัดหญ้า คนรับจ้างกรีดยาง คณะละครร้องรำตามงานวัด จะยังอยากทำงานต่อมั้ย งานวัดจะมีอีกมั้ยเพราะคนทำชิงช้าสวรรค์ ขายสายไหม ซุ้มปาเป้า อาจจะไปเที่ยวยุโรปกันหมดแล้ว ไม่มีใครทำงานแล้ว คนต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทย จะยังได้รับรอยยิ้มสยาม และการต้อนรับอย่างดีอยู่อีกมั้ย ทำไมต้องมานั่งนวดฝรั่งริมหาดร้อนๆด้วยเนอะ ชาวประมงใส่นาฬิกา 3 ล้านบาทได้เหมือนนักการเมืองแล้วนะ แถมเหลือตังอีกตั้งแยะ เขาจะยังออกไปจับปลามาขายมั้ย...ที่แย่ที่สุดคือ พี่ว่าคนในครอบครัวจะฆ่ากันเองเพราะโลภอยากได้เงินพี่น้องพ่อแม่หรือผัวเมียตัวเองมั้ย ...ตกลงพี่ว่าหนูยังควรแจกตังอยู่มั้ยคะ" นี่คือความคิดโง่ๆทุเรศๆของเราเล่นๆ แต่มีคนสนับสนุนความคิดบ้องตื้นของเราถึง 80% เพียงเพราะอยากได้เงินก้อนโต เวลาผ่านไป 2 ปี มีนักการเมืองเอาความคิดคล้ายๆกัน แต่จะไปกู้เงินมาหยิบยื่นให้ประชาชน แต่ให้แบบเอาไปทำอะไรก็ไม่ได้ ทุกคนเป็นหนี้ท่วมหัวชั่วลูกชั่วหลานหนักกว่าเดิม แต่คนส่วนนึงก็ยังสนับสนุนความคิดนี้อย่างแข็งขัน เพราะอยากได้เงินแค่หมื่นเดียว ตอนนี้ผู้ประสบภัยพิบัติมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีนักการเมืองแวะมาดูๆ ถ่ายรูปตอนมอบถุงยังชีพ 2-3 แชะ แล้วหนูน้อยก็บอกว่า "ตอนนี้น้ำแรงมาก เรือท้องแบนเข้าไปไม่ได้ เมื่อน้ำลดลง พวกเราพร้อมจะเข้าช่วยทันที" อ๋ออออ เรือท้องท้องแบนเข้าไปสู้กับน้ำเชี่ยวๆได้แหละเนอะ น้ำไม่ค่อยแรงหรอก ไว้เรือท้องแบนเข้าได้ แล้วค่อยไปก็ได้ คนไทยอดข้าวอดน้ำ 4-5 วันได้ อึฉี่บนหลังคาบ้านก็ได้ เก่งจะตาย ไม่รีบๆ https://x.com/Kawaaii13/status/1834174006418964973?t=Qgom67KE-O0gYasaeateSA&s=19 ลองเข้าไปดู tiktok ของ @tiktok.thailand89 นะคะ ยอดเยี่ยมมากๆเลยค่ะ ขับ jet ski เก่งมากๆทุกคนเลยค่ะ https://www.tiktok.com/@tiktok.thailand89?_t=8pghh09pg0q&_r=1 นายกหนูน้อยคะ นี่ไงคะ แพร่ลดแล้ว สุโขทัยลดแล้ว เมืองพังเละเทะ ที่ว่าพร้อมจะเข้าช่วยทันที ว้า..แย่จัง ตอนนี้ต้องไปช่วยเชียงรายก่อน ไหนจะต้องแอบเร่งทำเรื่องคาสิโนให้ผ่าน ช่วงที่กำลังอลหม่านเรื่องน้ำท่วมนี่แหละ แถมทีม IO ก็ค่อยๆทยอยลงคลิปเสียงคนโน้นคนนี้ ปล่อยข่าวดาราไทยที่โดนดาราชาติอื่นๆหลอก ฯลฯ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้คนด่านายกหนูน้อยเยอะ มุขมันเก่าไปแล้วค่ะ รายการเจาะลึกทั่วไทย เอาคลิปลุงมาสร้างกระแส เอาจริงๆ ลุงหยุมแกก็อยากเป็นใหญ่ ใครๆก็รู้มาตั้งนานแล้วป่ะ คุณมดดำ ก็สร้างกระแส acting ทำเป็นโกรธดาราเกาหลีมากมาย ได้ตังกันไปเท่าไหร่จ๊ะ สังเกตุมั้ย ครอบครัวนี้ขึ้นมามีอำนาจทีไร น้ำท่วมใหญ่ทุกที โดนทั้งอา ทั้งหลานเลย มันคือสัญญาณอะไรเอ่ย คล้ายกับธรรมชาติไม่พอใจพฤติกรรมของมนุษย์ จึงส่งภัยพิบัติมาช่วยเบิกเนตรให้คนตาสว่าง งั้นเราขอถามคำถามตอนนี้ว่า ติ๊ต่างนะคะ ว่าตอนนี้มีเงินหมื่นบาทลอยเข้า app เป๋าตังเรียบร้อยแล้ว...แต่ไปซื้อของก็ไม่ได้ เพราะน้ำท่วมร้านค้ามิดหลังคาเลย ได้ข้าวสารมา แต่ไม่มีไฟฟ้าให้หุงข้าว จะหุงด้วยฟืน ฟืนก็เปียกน้ำหมด เหลือแต่ตัวกับเงินหมื่นบาทใน app ก็น่าจะเป็นที่ประจักษ์ ของวิญญูชนชัดเจนแล้วว่า การเอาเงินมาแจกให้คน ไม่ว่าจะมากหรือน้อย มันไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องค่ะ หากแต่การให้ความรู้แก่ผู้ใฝ่รู้ที่มีความพยายาม ความอดทน และความมุ่งมั่นต่างหาก ที่จะเป็นทางออกที่แท้จริงให้กับประชาชนและประเทศชาติ มีชายท่านนึง ท่านเคยศึกษา และทดลองทำอะไร หลายสิ่งหลายอย่าง มีโครงการมากมายที่ได้ผลสำเร็จ และนำเอาความรู้เหล่านั้นมาเผยแพร่ให้ฟรีๆ และยังเป็นศาสตร์ความรู้ที่นำมาใช้ต่อไปได้ไม่จำกัดกาล แต่คนส่วนใหญ่ กลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่าต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลมันนานเกินไป จนภัยมาถึงตัวในวันนี้ และนี่อาจจะเป็นเหตุผลนึง ที่ทำให้คนที่มีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน ยังเก็บเงินไว้กับตัว เพราะเขาอาจจะต้องการให้สังคมยังมีความเหลื่อมล้ำมากอยู่ตลอดไป ไม่งั้นจะไปหาคนรองมือรองตีนได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะหาลูกหนี้ได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะไปหาเหยื่อที่เห็นเงินตาโตแล้วร้อยไว้ใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ ปล. ภูเก็ตก็หนักอยู่ เตรียมรับอีกลูกวันที่ 17 จ้ะ ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ https://www.facebook.com/share/v/YGS8GsJ3YXbtrxjK/?mibextid=D5vuiz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
    ออกประกาศแจ้งเตือน 16 จังหวัด เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่ม
    น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 13-15 กันยายน ได้แก่
    เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, เลย, หนองคาย,
    ศรีษะเกษ, อุบลราชธานี, จันทบุรี, ตราด, ระนอง, พังงา,
    ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และ สตูล
    ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กรมทรัพยากรธรณี
    #พื้นที่เฝ้าระวัง #thaitimes
    🔥🔥กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ออกประกาศแจ้งเตือน 16 จังหวัด เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 13-15 กันยายน ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, เลย, หนองคาย, ศรีษะเกษ, อุบลราชธานี, จันทบุรี, ตราด, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และ สตูล ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กรมทรัพยากรธรณี #พื้นที่เฝ้าระวัง #thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 820 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี้คือส่วนหนึ่งของกลุ่มคน ที่ช่วยน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย

    ถ้าจะกอด . จงกอดบุคคลเหล่านี้

    ซึ่งพวกเขาอดนอน เปียกปอนทุกวัน เสี่ยงภัย และห่วงใยพวกท่านอย่างแท้จริง

    ไม่ใช่ไปกอดนักการเมือง .

    ทั้งที่เป็นนักการเมืองขิงแก่ และพวกหน้าอ่อน
    ...




    Padipon Apinyankul
    นี้คือส่วนหนึ่งของกลุ่มคน ที่ช่วยน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย ถ้าจะกอด . จงกอดบุคคลเหล่านี้ ซึ่งพวกเขาอดนอน เปียกปอนทุกวัน เสี่ยงภัย และห่วงใยพวกท่านอย่างแท้จริง ไม่ใช่ไปกอดนักการเมือง . ทั้งที่เป็นนักการเมืองขิงแก่ และพวกหน้าอ่อน ... 🫂❤️🫂🛶🛶 Padipon Apinyankul
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องเชียงรายและจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ร่วมฝ่าวิกฤติไปด้วยกันค่ะ
    ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องเชียงรายและจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ร่วมฝ่าวิกฤติไปด้วยกันค่ะ✌️✌️
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าช่วยเหลือประชาชน และหมาแมว บ้านเมืองงิม ซอยโพธิ์ทอง ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย
    หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าช่วยเหลือประชาชน และหมาแมว บ้านเมืองงิม ซอยโพธิ์ทอง ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยกู้ภัย411,465 และกู้ชีพ123 พร้อมทีมกู้ภัย สรรพราเชนทร์ และกู้ภัยฉะเชิงเทรา ให้การช่วยเหลืออพยพหญิง สูงอายุหนึ่งราย(ติดค้าง)และสุนัข1ตัวซอย บริเวณซอยเทศบาล2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย นำขึ้นสู่ที่ปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย
    หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยกู้ภัย411,465 และกู้ชีพ123 พร้อมทีมกู้ภัย สรรพราเชนทร์ และกู้ภัยฉะเชิงเทรา ให้การช่วยเหลืออพยพหญิง สูงอายุหนึ่งราย(ติดค้าง)และสุนัข1ตัวซอย บริเวณซอยเทศบาล2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย นำขึ้นสู่ที่ปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยคณะกรรมการฯมอบหมายให้นายสำอางค์ สว่างแจ้ง ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกอาสาสมัคร นำกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ภัยจุดต่างๆ ปลายบาง บางใหญ่​ บางศรีเมือง​ บางบัวทอง​ ราษฎร์​บูรณะ​ บุปผาราม​ นนทรี​ บางมด พร้อมเครื่อง​ อุปโภค​บริโภค​ ถุงยังชีพ​ โรงครัวเคลื่อนที่​ ว.10​ มูลนิธิ​สาธารณกุศล​สงเคราะห์​เชียงราย​ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยคณะกรรมการฯมอบหมายให้นายสำอางค์ สว่างแจ้ง ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกอาสาสมัคร นำกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ภัยจุดต่างๆ ปลายบาง บางใหญ่​ บางศรีเมือง​ บางบัวทอง​ ราษฎร์​บูรณะ​ บุปผาราม​ นนทรี​ บางมด พร้อมเครื่อง​ อุปโภค​บริโภค​ ถุงยังชีพ​ โรงครัวเคลื่อนที่​ ว.10​ มูลนิธิ​สาธารณกุศล​สงเคราะห์​เชียงราย​ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและนายอำเภอแม่สาย ตรวจเยี่ยมและสอบถามสถานการณ์น้ำท่วม จากทีมกู้ภัยของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย
    นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและนายอำเภอแม่สาย ตรวจเยี่ยมและสอบถามสถานการณ์น้ำท่วม จากทีมกู้ภัยของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอดมินขอเป็นกระบอกเสียง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
    ที่เชียงราย โดยบริจาคผ่านบัญชีมูลนิธิไร่เชิญตะวัน
    ธ.ออมสิน หมายเลขบัญชี 020343149256
    ตามกำลัง ขอบคุณครับ

    #หุ้นติดดอย #ช่วยน้ำท่วมเชียงราย #thaitimes
    แอดมินขอเป็นกระบอกเสียง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่เชียงราย โดยบริจาคผ่านบัญชีมูลนิธิไร่เชิญตะวัน ธ.ออมสิน หมายเลขบัญชี 020343149256 ตามกำลัง ขอบคุณครับ #หุ้นติดดอย #ช่วยน้ำท่วมเชียงราย #thaitimes
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 853 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอดมินนั่งดูข่าวน้ำท่วม เชียงราย-เชียงใหม่
    สถานการณ์หนักมาก ที่เชียงราย ชาวบ้านในพื้นที่
    บอกว่า น้ำท่วมรอบนี้หนักสุดในรอบกว่า 100 ปี
    ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 2 หมื่นครัวเรือน
    พื้นที่น้ำท่วม ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ รวมกว่า
    8 หมื่นไร่

    ตอนนี้ทุกสรรพกำลัง อาสาสมัคร กู้ภัย มูลนิธิ ทหาร
    และอีกหลายๆหน่วยงานได้เข้าไปในพื้นที่แล้ว

    ขอให้วิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และ
    ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องทางภาคเหนือ เชียงราย
    เชียงใหม่ ที่ประสบภัยน้ำท่วม รวมทั้งเจ้าหน้าที่
    และอาสาสมัครทุกๆท่าน ปลอดภัยในการดำเนินงาน
    และขอให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติโดยเร็วครับ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #น้ำท่วมเชียงรายเชียงใหม่
    #thaitimes
    แอดมินนั่งดูข่าวน้ำท่วม เชียงราย-เชียงใหม่ สถานการณ์หนักมาก ที่เชียงราย ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า น้ำท่วมรอบนี้หนักสุดในรอบกว่า 100 ปี ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 2 หมื่นครัวเรือน พื้นที่น้ำท่วม ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ รวมกว่า 8 หมื่นไร่ ตอนนี้ทุกสรรพกำลัง อาสาสมัคร กู้ภัย มูลนิธิ ทหาร และอีกหลายๆหน่วยงานได้เข้าไปในพื้นที่แล้ว ขอให้วิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และ ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องทางภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ ที่ประสบภัยน้ำท่วม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครทุกๆท่าน ปลอดภัยในการดำเนินงาน และขอให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติโดยเร็วครับ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #น้ำท่วมเชียงรายเชียงใหม่ #thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 997 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    “ไข้ทรพิษ” หรือฝีดาษเป็นโรคติดต่อร้ายแรง มีลักษณะเฉพาะคือมีผื่นขึ้นตามตัว ไข้สูง ปวดศีรษะ ชัก และอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน มีอัตราการเสียชีวิต 30% เกิดจากเชื้อไวรัส แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ

    1.ไข้ทรพิษชนิดร้ายแรง เกิดจากเชื้อ “วาริโอลา เมเจอร์” (Variola major or classical smallpox)

    2.ไข้ทรพิษชนิดอ่อน ซึ่งมีความรุนแรงน้อยกว่าชนิดแรก เกิดจากเชื้อ “วาริโอลา ไมเนอร์”  (Variola minor or alastrim)[1]

    เว็บไซต์กรมควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา ได้รายงานหลักฐานแรกสุดของโรคนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตศักราชในอียิปต์[2] และเมื่อเวลาผ่านไปก็ทยอยลุกลามไปทั่วโลก

    ทั้งนี้เชื้อไวรัสฝีดาษ (Variolar) นี้สามารถแพร่กระจายไปในอากาศ จากละอองสิ่งคัดหลั่งจากคนที่เป็นโรค เช่น น้ำมูก, น้ำลาย หรือจากการสัมผัสกับผิวหนังที่มีแผลฝีดาษ เชื้อนี้มีความคงทนต่อสภาพอากาศ สามารถแพร่ได้ไม่ว่าจะอากาศร้อนหรือหนาว และสามารถติดต่อจากคนไปสู่คนได้โดยง่าย

    อย่างไรก็ตาม การรณรงค์ฉีดวัคซีนกวาดล้างโรคฝีดาษ ตลอดศตวรรษที่ 19-20 โดยการประสานงานขององค์การอนามัยโลก เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510-2518 ทำให้ผู้ป่วยฝีดาษทั่วโลกลดลงอย่างมาก ตามรายงานขององค์การอนามัยโลกแจ้งว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคฝีดาษรายสุดท้าย เกิดขึ้นที่ ประเทศโซมาเลีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2520

    ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศว่า ฝีดาษถูกกวาดล้าง (eradicate) หมดไปจากโลกในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2523[2]

    จึงถือว่าเป็นโรคระบาดที่มนุษย์สามารถเอาชนะได้หลังจากใช้เวลานานกว่า 3,000 ปี

    อย่างไรก็ตามแม้ว่าโรคจะถูกกวาดล้างไปแล้ว แต่เชื้อไวรัสฝีดาษยังถูกเก็บไว้ในห้องปฏิบัติการและอยู่ในความดูแลอย่างเข้มงวดที่ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติ (CDC) เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาและที่ State Research Centre of Virology and Biotechnology สหพันธ์สาธารณรัฐ รัสเซีย ซึ่งหน่วยงานทั้ง 2 แห่งในประเทศนี้ได้รับอนุญาตจาก WHA ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2542 ให้เป็นที่เก็บไวรัส Variola ที่มีชีวิตเพื่อนำมาใช้ในการศึกษาวิจัยในกรณีที่อาจมีโรคฝีดาษอุบัติใหม่ขึ้นมา[3],[4]

    ซึ่งแปลว่าคนในโลกนี้ควรจะปลอดจากเชื้อฝีดาษไปตลอดกาลแล้ว นับตั้งแต่ปี พ.ศ.​2523 หากไม่มีการรั่วไหล หรือมีวาระซ่อนเร้นในการทำธุรกิจกับชีวิตของมนุษยชาติ จริงหรือไม่?

    อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุการณ์พบขวดทดลองที่มีลักษณะแห้งและแช่แข็งบรรจุเชื้อไข้ทรพิษจำนวน 6 ขวด เก็บอยู่ในกล่องในห้องเก็บของที่มีการควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 5 องศาเซลเซียส ของสถาบันเพื่อสุขภาพแห่งชาติอเมริกา (National Institutes of Health: NIH) ในสังกัดองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ในเบเธสดา รัฐแมรีแลนด์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมา[3]

    เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตระหนกแก่ประชาชนที่ทราบข่าว เนื่องจากความกลัวว่าจะมีการนำเชื้อไข้ทรพิษเป็นอาวุธชีวภาพ ทำให้มีการกำหนดมาตรฐานการเก็บรักษาเชื้อไวรัสไข้ทรพิษหรือฝีดาษ ว่าจะต้องถูกเก็บรักษาไว้ใน BSL-4 หรือแล็บความปลอดภัยด้านชีวภาพระดับ 4[3]

    แต่ห้องเก็บของที่พบกล่องบรรจุขวดเชื้อไวรัสฝีดาษไม่เข้ามาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูง ทำให้มีการสอบสวนที่มาที่ไปของขวดตัวอย่างที่พบและนำเข้าสู่ระบบการทำลายเชื้อ เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าจะไม่มีการนำไปใช้ในทางที่ผิด อันเนื่องมาจากความรุนแรงของโรคที่เคยปรากฏในอดีตที่ผ่านมา[3]

    คำถามที่ตามมามีอยู่ว่าในเมื่อเชื้อฝีดาษหายไปจากโลกกว่า 40 ปี และเชื้อตัวอย่างยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแค่ห้องปฏิบัติการ 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา กับ รัสเซีย หากฝีดาษจะมีการกลับมาระบาดอีกครั้งในโลก ย่อมต้องถูกตั้งข้อสงสัยว่ามาจากสหรัฐอเมริกา หรือ รัสเซียกันแน่

    ปรากฏในรายงานผลการสอบสวนของกรรมาธิการของวุฒิสภาในสหรัฐอเมริกาฉบับเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2567[5] พบว่าฝีดาษลิงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ อาจเป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เป็นการประดิษฐ์ขึ้นโดยมนุษย์

    เรื่องดังกล่าวนี้ทำให้ศาสตราจารย์นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567[6] นำรายงานผลการสอบสวนดังกล่าว และโพสต์ข้อความว่า

    “ไวรัสฝีดาษตัวใหม่ที่่ทั่วโลกกำลังตื่นตระหนก จากการประกาศขององค์การอนามัยโลกประสานกับองค์กรของสหรัฐฯ และพยายามจะให้มีการสะสมวัคซีนตลอดจนให้มีการใช้ทั่วโลก เป็นการเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือมีการประดิษฐ์มีการตรวจสอบโดยกรรมาธิการเฉพาะของวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยกรรมาธิการดังกล่าวออกรายงาน 73 หน้า ในวันที่ 11 มิถุนายน 2024 เป็นการสอบสวนการทำวิจัยไวรัสฝีดาษลิง ที่มีความเสี่ยงสูงโดยทำให้มีความรุนแรงมากขึ้นและติดต่อได้ง่ายขึ้นระหว่างคนสู่คน

    ขั้นตอนติดต่อส่วนของไวรัสในกลุ่มที่สอง ไปยังกลุ่มที่หนึ่งปรากฏว่าความรุนแรงลดลง

    ดังนั้นเลยมีกระบวนการที่ทำโดยเอาส่วนที่หนึ่งเสียบไปยังกลุ่มที่สองจนได้ผลสำเร็จ มีความรุนแรงมากขึ้นและแพร่ได้เร็ว เกิดการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    สืบจนพบว่าเป็นการอนุมัติทุนในองค์กร NIH NIAID ของสหรัฐฯ ในปี 2015 และรายงานความสำเร็จในปี 2022 ซึ่งในขณะนั้นเอง ก่อให้เกิดความวิตกกังวลของนักวิทยาศาสตร์ทั่วไปถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น

    และนำไปสู่การสืบสวนจนกระทั่งถึงผู้อนุมัติสนับสนุนงานสร้างไวรัสใหม่ คือ ดร.เฟาซี (ดร.แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับแนวหน้าของสหรัฐฯ และหัวหน้าทีมที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของประธานาธิบดี โจ ไบเดน)

    และเหตุการณ์ที่คล้องจอง คือการฝึกซ้อมรับมือผู้ก่อการร้าย โดยสมมุติว่ามีการใช้อาวุธชีวภาพ คือไวรัสฝีดาษลิงที่ตัดต่อพันธุกรรม ชื่อ Akhmeta ทั้งในปี 2021 และในปี 2022 โดยสร้างฉากทัศน์ เริ่มจากการปล่อยไวรัสจนกระทั่งมีการระบาดทั่วโลกและล้มตายไปหลายร้อยล้านคนและในขณะเดียวกันมีการตระเตรียมยาและวัคซีน

    เหตุการณ์ที่เกิดในปัจจุบันที่มีการติดเชื้อฝีดาษลิงในมนุษย์ที่ง่ายขึ้น เริ่มเกิดขึ้นในปี 2021 และ 2022 และทยอยแพร่ไปทั่วโลก

    จนองค์การอนามัยโลกประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินและผลักดันให้มีการฉีดวัคซีนทั่วโลก[6]

    ส่วนประเทศไทยได้ปรากฏข้อมูลที่รวมรวมโดยเว็บไซต์ Hfocus รายงานว่าการเกิดโรคฝีดาษในไทยพบหลักฐานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ดังปรากฎในพระราชพงศาวดารสมัยกรุงศรีอยุธยาว่า

    ถึงขนาดว่ามีพระมหากษัตริย์ไทยสวรรคตด้วยฝีดาษ 2 พระองค์  ได้แก่ สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 หน่อพุทธางกูร พระมหากษัตริย์ ลำดับที่ 11 ของกรุงศรีอยุธยา ทรงพระประชวรด้วยโรคไข้ทรพิษ และเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2076 หรือประมาณ 491 ปีที่แล้ว

    อีก 72 ปีต่อมา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ประชวรที่เมืองหาง (เมืองห้างหลวง ในรัฐฉาน) เป็นฝีละลอกขึ้นที่พระพักตร์ กลายเป็นพิษ และสวรรคต เมื่อ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 ซึ่งตรงกับช่วงศตวรรษที่ 16 มีการระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก และยังมีการระบาดในพ.ศ. 2292 สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ที่ทำให้มีคนตายมาก[3]

    โรคฝีดาษ หรือ ไข้ทรพิษ ในอดีตนั้นมีความร้ายแรง เพราะยังถึงขั้นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จสวรรคตถึง 2 พระองค์ได้ จึงมีความแตกต่างจากโรคระบาดชนิดอื่นๆ

    ดังนั้นในเวลาต่อๆมา โรคฝีดาษ หรือ ไข้ทรพิษ จึงเป็นโรคระบาดที่สำคัญที่ต้องมีการพัฒนาอย่างเร่งด่วน ทั้งการป้องกันการเกิดโรคระบาด จนถึงขั้นการรักษาโรค

    ในสมัยรัตนโกสินทร์ มีการระบาดของฝีดาษเช่นกัน จากบันทึกของหมอบรัดเลย์ ที่ระบุว่าในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการระบาดของฝีดาษอย่างหนัก ทำให้หมอบรัดเลย์ริเริ่มการปลูกฝีบำบัดโรคฝีดาษเป็นครั้งแรกในไทยในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2379 โดยใช้เชื้อหนองฝีโคที่นำเข้ามาจากอเมริกา และได้เขียนตำราชื่อ “ตำราปลูกฝีให้กันโรคธระพิศม์ไม่ให้ขึ้นได้” ปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้[3]

    ในระยะ พ.ศ. 2460 – 2504 ยังมีการระบาดของฝีดาษเกิดขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2488 – 2489 ช่วงการเกิดสงครามมีการระบาดของฝีดาษครั้งใหญ่สุดเริ่มต้นจากเชลยพม่าที่ทหารญี่ปุ่นจับมาสร้างทางรถไฟสายมรณะข้ามแม่นํ้าแควป่วยเป็นไข้ทรพิษและแพร่ไปยังกลุ่มกรรมกรไทยจากภาคต่างๆที่มารับจ้างทํางานในแถบนั้น เมื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน ได้นําโรคกลับไปแพร่ระบาดใหญ่ทั่วประเทศ มีผู้ป่วยมากถึง 62,837 คน และเสียชีวิต 15,621 คน[3]

    การระบาดเกิดขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2502 ทำให้มีผู้ป่วย 1,548 คน ตาย 272 คน และการระบาดครั้งสุดท้ายมีการบันทึกไว้ว่าเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2504 ที่อําเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีผู้ป่วย 34 ราย ตาย 5 ราย โดยรับเชื้อมาจากรัฐเชียงตุงของพม่า ทำให้กระทรวงสาธารณสุขเริ่มโครงการกวาดล้างไข้ทรพิษหรือฝีดาษในประเทศไทย รณรงค์ปลูกฝีป้องกันโรค จนปีพ.ศ. 2523 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่าฝีดาษได้ถูกกวาดล้างแล้วจึงหยุดการปลูกฝีป้องกันโรค   และนับแต่นั้นมาไม่เคยปรากฏว่ามีฝีดาษเกิดขึ้นในประเทศไทย[3]

    นี่คือเหตุผลว่าประเทศไทยได้ทำการปลูกฝี เพื่อป้องกันโรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษในปี พ.ศ. 2532 เป็นปีสุดท้าย หรือเมื่อประมาณ 44 ปีที่แล้ว ดังนั้นประชาชนไทยที่อายุมากกว่า 44 ปีขึ้นไป ก็น่าจะได้รับการปลูกฝีไปเกือบทั้งหมดแล้ว

    แต่เมื่อฝีดาษลิงกลับมาระบาดอีกครั้ง ก็ทำให้เกิดคำถามว่าประเทศไทยจะรับมืออย่างไร และเราควรจะฉีดวัคซีนหรือไม่? และคนที่มีอายุเกิน 44 ปี (ซึ่งส่วนใหญ่ได้ปลูกฝีไข้ทรพิษมาแล้ว)จะมีคนติดเชื้อโรคฝีดาษลิงหรือไม่

    โดยวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567 เว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์ฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง)จนถึงปัจจุบันว่า มีผู้ป่วยฝีดาษลิงในประเทศไทย จำนวน 835 ราย เป็นเพศชายเกือบทั้งหมดมากถึง 814 ราย คิดเป็นร้อยละ 97.49 ในขณะที่เป็นเพศหญิง 21 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.51 เท่านั้น[7]

    ซึ่งถือว่าโอกาสติดเชื้อฝีดาษลิงในผู้หญิงน้อยมาก

    แต่ที่น่าสนใจคือ กลุ่มคนวัยหนุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เอชไอวี อย่างไรก็ตามกลุ่มคนที่เคยปลูกฝีไข้ทรพิษแล้วยังสามารถติดเชื้อฝีดาษลิงได้อยู่ดีแต่น้อยกว่าคนที่ไม่ได้ปลูกฝี ดังนี้

    ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 0-14 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 2 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.36 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมด

    ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 15-19 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 3 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.24 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย

    ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 20-24 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 81 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.70 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย

    ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 25-29 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 172 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.59 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย

    ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 30-39 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 347 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.56 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย

    ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 40-49 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 174 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.83 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย ในกลุ่มนี้หากพิจารณาแยกแยะผู้ที่มีอายุ 40-44 ปี ซึ่งไม่เคยได้รับการปลูกฝีมาก่อนมีจำนวน 130 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.65 ในขณะที่ผู้ที่มีอายุมากกว่า 45-49 ที่เชื่อว่าน่าจะได้รับการปลูกฝีแล้วติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว 44 ราย คิดเป็นเพียงร้อยละ 5.27 เท่านั้น

    ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 50-59 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 29 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.47 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย

    ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ติดเชื้อฝีดาษลิง 8 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.95 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย[7]

    จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ในประเทศไทยผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไปซึ่งน่าจะมีการปลูกฝีไข้ทรพิษไปแล้วก็ยังมีโอกาสติดเชื้อฝีดาษลิงได้ เพียงแต่มีสัดส่วนน้อยกว่าประชากรที่ยังไม่เคยได้รับการปลูกฝี คือ ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปีลงมา มีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงจำนวน 754 รายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90.30 ในขณะที่ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้น (ซึ่งส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดได้รับการปลูกฝีไปแล้ว)มีผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งสิ้น 81 รายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.70 ราย

    อย่างไรก็ตามในภาวะดังกล่าว มีคำแถลงจากนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความเห็นเอาไว้เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ความว่า

    “โดยจริงๆ วัคซีนไม่จำเป็นต้องฉีดทุกคน ไม่มีการระบาดทั่วไป เพราะอัตราการระบาดต่ำ แต่จะพบในผู้ป่วยเฉพาะ เช่น ผู้ขายบริการทางเพศ และชายรักชาย อีกทั้ง ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากผู้ป่วยเอชไอวี และไม่ทานยาทั้งหมด 13 รายที่ผ่านมา (เชื้อเคลด2)”[8]

    นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยังได้

    “คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการควบคุมโรค แต่เนื่องจากวัคซีนป้องกันฝีดาษวานรยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ทางกรมควบคุมโรคจึงใช้ มาตรา 13(5) เพื่อการควบคุมโรค ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510  จะมีการใช้งบประมาณ กรมควบคุมโรค วงเงิน 21 ล้านบาท เพื่อการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว รวม 3,000 โดส  เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง  3 กลุ่ม ประกอบด้วย  

    1. บุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงต่อการติดโรค อาทิ ไปสัมผัสเสี่ยงสูง คือ สัมผัสคนติดเชื้อ

    2. กลุ่มไปสัมผัสโรค เสี่ยงว่าจะติดเชื้อ ก็จะฉีดภายใน 4 วัน

    และ3. มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดคนติดเชื้อ เช่น คนในครอบครัวที่ติดเชื้อ ซึ่ง 3 กลุ่มเสี่ยงนี้ กรมควบคุมโรคจะดูแลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย“[8]

    เรื่องดังกล่าวนี้ทำให้ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิตให้ความเห็น เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 ในเรื่องความพยายามกระพือข่าวให้กลัวเพื่อให้เกิดการระดมฉีดวัคซีน ความว่า

    “กรมควบคุมโรคประกาศแล้ว ฝีดาษลิงอัตราการระบาดต่ำ ทั้งประเทศมีประมาณ 800 ราย และที่เสียชีวิตนั้น เพราะมีติดเชื้อไวรัสเอดส์ และโรคทางเพศสัมพันธ์อื่น การติดตามของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ผู้ติดเชื้อปลอดภัยดี

    วัคซีนขณะนี้ “ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน” และกระทรวงสาธารณสุข จะจัดการให้ฉีดฟรีใน “กลุ่มเสี่ยง” เท่านั้น ได้แก่

    1. บุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ
    2. คนที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยต้องฉีดภายใน 4 วัน

    ทั้งสองกลุ่มนี้ฟรี
    ส่วนกลุ่มที่ต้องเดินทางในพื้นที่เสี่ยงนั้น การฉีดนั้นต้องจ่ายเงิน

    “กลุ่มที่กระพือข่าวให้น่ากลัว โดยไม่ยึดความจริง และอาจทำให้นำไปสู่การค้าวัคซีน ควรต้องจับตามองอย่างเข้มข้น””[9]

    อย่างไรก็ตามแม้ว่าฝีดาษลิงจะเป็นเชื้อที่ยังติดได้ยาก ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยเฉพาะคือ ขายบริการทางเพศ และชายรักชาย อีกทั้งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากผู้ป่วยเอชไอวีที่ไม่ทานยาทั้งหมด ส่วนการติดนั้นต้องอาศัยการสัมผัสผิวใกล้ชิด อัตราการเสียชีวิตอยู่ในระดับต่ำ คนส่วนใหญ่จึงยังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนแต่ประการใด

    อย่างไรก็ตามเนื่องจากโรคฝีดาษที่กลับมาระบาดอีกครั้งในรอบ 44 ปี ทำให้ความรู้ในการรักษาผู้ป่วยขาดตอนไป คงเหลือแต่การค้นคว้ากรรมวิธีการรักษาในประวัติศาสตร์ของคนไทยว่าใช้วิธีการรักษาอย่างไร

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า “โรคฝีดาษ” เป็นโรคที่มีความจำเพาะ ถึงขนาดทำให้พระมหากษัตริย์สมัยอยุธยาเสด็จสวรรคตถึง 2 พระองค์

    จึงปรากฏเรื่องของตำรับยาและสมุนไพรที่เกี่ยวกับการรักษา “โรคฝีดาษ” แยกออกมาต่างหากจากโรคระบาดอื่นๆ บันทึกปรากฏอยู่ในแผ่นศิลาจารึกในสมัยรัชกาลที่ 2 ของจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร[10]-[12] และอยู่ในแผ่นศิลาจารึกในสมัยรัชกาลที่ 3 ในแผ่นศิลาจารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม[10],[13]-[15]

    นอกจากนั้น โรคฝีดาษไม่ใช่เป็นโรคระบาดอื่นๆที่ใช้ “ยาขาว”ที่ใช้กับโรคระบาดหลายชนิดในตำรับยาเดียว ที่ปรากฏในศิลาจารึกในสมัยรัชกาลที่ 3 ในแผ่นศิลาจารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามอีกด้วย[16]

    หลักฐานที่ว่า “โรคฝีดาษ” ไม่ใช่โรคระบาดทั่วไปนั้น จะเห็นได้จากพระคัมภีร์ตักกะศิลาที่บันทึกภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 และบันทึกมาโดยเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ที่ตกทอดมาถึงตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวงในสมัยรัชกาลที่ 5 หรือตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ไม่พบการกล่าวถึงคำว่า “ฝีดาษ” แต่ประการใด

    แต่ในที่สุดก็ได้พบตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวงในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ระบุคัมภีร์ชื่อ “พระตำหรับแผนฝีดาษ” บันทึกในสมุดไทย มีรายละเอียดจำนวนมากเกี่ยวกับโรคฝีดาษเป็นการเฉพาะ และมีจำนวนมากถึง 3 เล่ม จนไม่สามารถที่จะถ่ายทอดมาให้อ่านในหมดในบทความนี้

    โดย “พระตำหรับแผนฝีดาษ” ในสมัยรัชกาลที่ 5 นั้น มีการกล่าวถึงลักษณะของฝีแต่ละชนิด และจุดที่เกิดฝีว่าบริเวณใดเป็นแล้วไม่เสียชีวิต รวมถึงบริเวณใดจะทำให้เสียชีวิตภายในกี่วัน จึงได้มีการแบ่งแยกวิธีการรักษาอย่างละเอียดยิบ

    อย่างไรก็ตามก็มีวาง “หลักการ“ ถึงวิธีการรักษาโรคฝีดาษปรากฏอยู่ใน ”พระตำหรับแผนฝีดาษ เล่ม 2“ ที่ระบุความตอนหนึ่งว่า

    ”๏ สิทธิการิยะ พระตำราประสะฝีดาษทั้งปวง ถ้าแพทย์ผู้ใดจะรักษาฝีดาษ ถ้าเห็นศีศะรู้ว่าเปนฝีดาษแน่แล้ว ให้กินยาล้อมตับดับพิศม์และให้กินยารุเสีย แลกินยาแปรภายใน พ่นยาแปรภายนอกแลกินยากะทุ้ง…“[17]

    หลังจากนั้นพอวันเวลาเปลี่ยนไปก็มีตำรับยาเฉพาะที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆจนรักษาฝีดาษจนหายในที่สุด

    ซึ่งในโอกาสอันสมควรก็น่าจะมีการรื้อฟื้น ศึกษา พระตำหรับแผนฝีดาษ สมัยรัชกาลที่ 5 แล้วทำการวิจัย พัฒนา เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับโรคฝีดาษในยุคปัจจุบันต่อไป

    ด้วยความปรารถนาดี
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    12 กันยายน 2567

    อ้างอิง
    [1] Ryan KJ, Ray CG, บ.ก. (2004). Sherris Medical Microbiology (4th ed.). McGraw Hill. pp. 525–28. ISBN 978-0-8385-8529-0.

    [2] CDC, History of Smallpox, 25 July 2017
    https://www.cdc.gov/smallpox/history/history.html

    [3] Hfocus, โรคระบาดร้ายแรงในอดีต ตอนที่ 3 โรคไข้ทรพิษ (ฝีดาษ), วันที่ 26 สิงหาคม 2558
    https://www.hfocus.org/content/2014/08/7977

    [4] World Health Organization, Small Pox, Media Center
    https://web.archive.org/web/20070921235036/http://www.who.int/mediacentre/factsheets/smallpox/en/

    [5] U.S. House of Representatives, Interim Staff Report on Investigation into Risky MPXV Experiment at the National Institute of Allergy and Infectious Diseases, June 14 2024
    https://d1dth6e84htgma.cloudfront.net/Mpox_Memo_Rpt_correction_18e95e3204.pdf?utm_source=substack&utm_medium=email&fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR0YlqstCXKzOUttRicgqQ6lG00dtMnZ_9pFf4FqtlBbSAyw5uR-tGR6QIM_aem_ZXPXy1XgTiGCTixSJJ-aFg

    [6] ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา, “หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษย์ประดิษฐ์, ผู้จัดการออนไลน์, 6 กันยายน 2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903

    [7] กรมควบคุมโรค, รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อฝีดาษวานร (Mpox), 12 กันยายน 2567
    https://ddc.moph.go.th/monkeypox/dashboard.php

    [8] Hfocus, กรมควบคุมโรค ทุ่มงบ 21 ล้านบาท จัดหา “วัคซีนฝีดาษวานร” 3 พันโดสให้เฉพาะ 3 กลุ่มเสี่ยง, 6 กันยายน 2567
    https://www.hfocus.org/content/2024/09/31577

    [9] ผู้จัดการออนไลน์, “หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ, 7 กันยายน 2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178

    [10] ผู้จัดการออนไลน์, “ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง”, เผยแพร่: 5 กันยายน 2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615

    [11] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 18 ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557( อัพเดทเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567)
    https://db.sac.or.th/inscript.../inscribe/image_detail/14798

    [12] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 46 (ยาผายเลือด) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อ โพสต์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558
    https://db.sac.or.th/inscript.../inscribe/image_detail/16335

    [13] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(ว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวง แผ่นที่ 22 ยาแก้จักษุโรคคือต้อ(5), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2560
    https://db.sac.or.th/.../file/22-chaksurok-to5-tr2.pdf

    [14] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 7 ท้าวยายม่อม ข่าใหญ่ ข่าลิง กระทือ ไพล กระชาย หอม และกระเทียม) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564
    https://db.sac.or.th/.../7-thaoyaimom-khayai-khaling-tr1.pdf

    [15] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 แตงหนู ชิงชี่ บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี บอระเพ็ดพุงช้าง ผักปอดตัวเมีย ผักปอดตัวผู้ และพลูแก), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567
    https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/17723

    [16] โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์), ตำรายา ศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระนคร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จารึกไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบับสมบูรณ์ ฉบับ พ.ศ.​๒๕๑๖ หน้า ๖๒ - ๖๔

    [17] คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒, ตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒

    ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ “ไข้ทรพิษ” หรือฝีดาษเป็นโรคติดต่อร้ายแรง มีลักษณะเฉพาะคือมีผื่นขึ้นตามตัว ไข้สูง ปวดศีรษะ ชัก และอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน มีอัตราการเสียชีวิต 30% เกิดจากเชื้อไวรัส แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ 1.ไข้ทรพิษชนิดร้ายแรง เกิดจากเชื้อ “วาริโอลา เมเจอร์” (Variola major or classical smallpox) 2.ไข้ทรพิษชนิดอ่อน ซึ่งมีความรุนแรงน้อยกว่าชนิดแรก เกิดจากเชื้อ “วาริโอลา ไมเนอร์”  (Variola minor or alastrim)[1] เว็บไซต์กรมควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา ได้รายงานหลักฐานแรกสุดของโรคนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตศักราชในอียิปต์[2] และเมื่อเวลาผ่านไปก็ทยอยลุกลามไปทั่วโลก ทั้งนี้เชื้อไวรัสฝีดาษ (Variolar) นี้สามารถแพร่กระจายไปในอากาศ จากละอองสิ่งคัดหลั่งจากคนที่เป็นโรค เช่น น้ำมูก, น้ำลาย หรือจากการสัมผัสกับผิวหนังที่มีแผลฝีดาษ เชื้อนี้มีความคงทนต่อสภาพอากาศ สามารถแพร่ได้ไม่ว่าจะอากาศร้อนหรือหนาว และสามารถติดต่อจากคนไปสู่คนได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม การรณรงค์ฉีดวัคซีนกวาดล้างโรคฝีดาษ ตลอดศตวรรษที่ 19-20 โดยการประสานงานขององค์การอนามัยโลก เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510-2518 ทำให้ผู้ป่วยฝีดาษทั่วโลกลดลงอย่างมาก ตามรายงานขององค์การอนามัยโลกแจ้งว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคฝีดาษรายสุดท้าย เกิดขึ้นที่ ประเทศโซมาเลีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2520 ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศว่า ฝีดาษถูกกวาดล้าง (eradicate) หมดไปจากโลกในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2523[2] จึงถือว่าเป็นโรคระบาดที่มนุษย์สามารถเอาชนะได้หลังจากใช้เวลานานกว่า 3,000 ปี อย่างไรก็ตามแม้ว่าโรคจะถูกกวาดล้างไปแล้ว แต่เชื้อไวรัสฝีดาษยังถูกเก็บไว้ในห้องปฏิบัติการและอยู่ในความดูแลอย่างเข้มงวดที่ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติ (CDC) เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาและที่ State Research Centre of Virology and Biotechnology สหพันธ์สาธารณรัฐ รัสเซีย ซึ่งหน่วยงานทั้ง 2 แห่งในประเทศนี้ได้รับอนุญาตจาก WHA ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2542 ให้เป็นที่เก็บไวรัส Variola ที่มีชีวิตเพื่อนำมาใช้ในการศึกษาวิจัยในกรณีที่อาจมีโรคฝีดาษอุบัติใหม่ขึ้นมา[3],[4] ซึ่งแปลว่าคนในโลกนี้ควรจะปลอดจากเชื้อฝีดาษไปตลอดกาลแล้ว นับตั้งแต่ปี พ.ศ.​2523 หากไม่มีการรั่วไหล หรือมีวาระซ่อนเร้นในการทำธุรกิจกับชีวิตของมนุษยชาติ จริงหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุการณ์พบขวดทดลองที่มีลักษณะแห้งและแช่แข็งบรรจุเชื้อไข้ทรพิษจำนวน 6 ขวด เก็บอยู่ในกล่องในห้องเก็บของที่มีการควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 5 องศาเซลเซียส ของสถาบันเพื่อสุขภาพแห่งชาติอเมริกา (National Institutes of Health: NIH) ในสังกัดองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ในเบเธสดา รัฐแมรีแลนด์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมา[3] เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตระหนกแก่ประชาชนที่ทราบข่าว เนื่องจากความกลัวว่าจะมีการนำเชื้อไข้ทรพิษเป็นอาวุธชีวภาพ ทำให้มีการกำหนดมาตรฐานการเก็บรักษาเชื้อไวรัสไข้ทรพิษหรือฝีดาษ ว่าจะต้องถูกเก็บรักษาไว้ใน BSL-4 หรือแล็บความปลอดภัยด้านชีวภาพระดับ 4[3] แต่ห้องเก็บของที่พบกล่องบรรจุขวดเชื้อไวรัสฝีดาษไม่เข้ามาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูง ทำให้มีการสอบสวนที่มาที่ไปของขวดตัวอย่างที่พบและนำเข้าสู่ระบบการทำลายเชื้อ เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าจะไม่มีการนำไปใช้ในทางที่ผิด อันเนื่องมาจากความรุนแรงของโรคที่เคยปรากฏในอดีตที่ผ่านมา[3] คำถามที่ตามมามีอยู่ว่าในเมื่อเชื้อฝีดาษหายไปจากโลกกว่า 40 ปี และเชื้อตัวอย่างยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแค่ห้องปฏิบัติการ 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา กับ รัสเซีย หากฝีดาษจะมีการกลับมาระบาดอีกครั้งในโลก ย่อมต้องถูกตั้งข้อสงสัยว่ามาจากสหรัฐอเมริกา หรือ รัสเซียกันแน่ ปรากฏในรายงานผลการสอบสวนของกรรมาธิการของวุฒิสภาในสหรัฐอเมริกาฉบับเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2567[5] พบว่าฝีดาษลิงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ อาจเป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เป็นการประดิษฐ์ขึ้นโดยมนุษย์ เรื่องดังกล่าวนี้ทำให้ศาสตราจารย์นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567[6] นำรายงานผลการสอบสวนดังกล่าว และโพสต์ข้อความว่า “ไวรัสฝีดาษตัวใหม่ที่่ทั่วโลกกำลังตื่นตระหนก จากการประกาศขององค์การอนามัยโลกประสานกับองค์กรของสหรัฐฯ และพยายามจะให้มีการสะสมวัคซีนตลอดจนให้มีการใช้ทั่วโลก เป็นการเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือมีการประดิษฐ์มีการตรวจสอบโดยกรรมาธิการเฉพาะของวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยกรรมาธิการดังกล่าวออกรายงาน 73 หน้า ในวันที่ 11 มิถุนายน 2024 เป็นการสอบสวนการทำวิจัยไวรัสฝีดาษลิง ที่มีความเสี่ยงสูงโดยทำให้มีความรุนแรงมากขึ้นและติดต่อได้ง่ายขึ้นระหว่างคนสู่คน ขั้นตอนติดต่อส่วนของไวรัสในกลุ่มที่สอง ไปยังกลุ่มที่หนึ่งปรากฏว่าความรุนแรงลดลง ดังนั้นเลยมีกระบวนการที่ทำโดยเอาส่วนที่หนึ่งเสียบไปยังกลุ่มที่สองจนได้ผลสำเร็จ มีความรุนแรงมากขึ้นและแพร่ได้เร็ว เกิดการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สืบจนพบว่าเป็นการอนุมัติทุนในองค์กร NIH NIAID ของสหรัฐฯ ในปี 2015 และรายงานความสำเร็จในปี 2022 ซึ่งในขณะนั้นเอง ก่อให้เกิดความวิตกกังวลของนักวิทยาศาสตร์ทั่วไปถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น และนำไปสู่การสืบสวนจนกระทั่งถึงผู้อนุมัติสนับสนุนงานสร้างไวรัสใหม่ คือ ดร.เฟาซี (ดร.แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับแนวหน้าของสหรัฐฯ และหัวหน้าทีมที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของประธานาธิบดี โจ ไบเดน) และเหตุการณ์ที่คล้องจอง คือการฝึกซ้อมรับมือผู้ก่อการร้าย โดยสมมุติว่ามีการใช้อาวุธชีวภาพ คือไวรัสฝีดาษลิงที่ตัดต่อพันธุกรรม ชื่อ Akhmeta ทั้งในปี 2021 และในปี 2022 โดยสร้างฉากทัศน์ เริ่มจากการปล่อยไวรัสจนกระทั่งมีการระบาดทั่วโลกและล้มตายไปหลายร้อยล้านคนและในขณะเดียวกันมีการตระเตรียมยาและวัคซีน เหตุการณ์ที่เกิดในปัจจุบันที่มีการติดเชื้อฝีดาษลิงในมนุษย์ที่ง่ายขึ้น เริ่มเกิดขึ้นในปี 2021 และ 2022 และทยอยแพร่ไปทั่วโลก จนองค์การอนามัยโลกประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินและผลักดันให้มีการฉีดวัคซีนทั่วโลก[6] ส่วนประเทศไทยได้ปรากฏข้อมูลที่รวมรวมโดยเว็บไซต์ Hfocus รายงานว่าการเกิดโรคฝีดาษในไทยพบหลักฐานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ดังปรากฎในพระราชพงศาวดารสมัยกรุงศรีอยุธยาว่า ถึงขนาดว่ามีพระมหากษัตริย์ไทยสวรรคตด้วยฝีดาษ 2 พระองค์  ได้แก่ สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 หน่อพุทธางกูร พระมหากษัตริย์ ลำดับที่ 11 ของกรุงศรีอยุธยา ทรงพระประชวรด้วยโรคไข้ทรพิษ และเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2076 หรือประมาณ 491 ปีที่แล้ว อีก 72 ปีต่อมา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ประชวรที่เมืองหาง (เมืองห้างหลวง ในรัฐฉาน) เป็นฝีละลอกขึ้นที่พระพักตร์ กลายเป็นพิษ และสวรรคต เมื่อ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 ซึ่งตรงกับช่วงศตวรรษที่ 16 มีการระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก และยังมีการระบาดในพ.ศ. 2292 สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ที่ทำให้มีคนตายมาก[3] โรคฝีดาษ หรือ ไข้ทรพิษ ในอดีตนั้นมีความร้ายแรง เพราะยังถึงขั้นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จสวรรคตถึง 2 พระองค์ได้ จึงมีความแตกต่างจากโรคระบาดชนิดอื่นๆ ดังนั้นในเวลาต่อๆมา โรคฝีดาษ หรือ ไข้ทรพิษ จึงเป็นโรคระบาดที่สำคัญที่ต้องมีการพัฒนาอย่างเร่งด่วน ทั้งการป้องกันการเกิดโรคระบาด จนถึงขั้นการรักษาโรค ในสมัยรัตนโกสินทร์ มีการระบาดของฝีดาษเช่นกัน จากบันทึกของหมอบรัดเลย์ ที่ระบุว่าในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการระบาดของฝีดาษอย่างหนัก ทำให้หมอบรัดเลย์ริเริ่มการปลูกฝีบำบัดโรคฝีดาษเป็นครั้งแรกในไทยในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2379 โดยใช้เชื้อหนองฝีโคที่นำเข้ามาจากอเมริกา และได้เขียนตำราชื่อ “ตำราปลูกฝีให้กันโรคธระพิศม์ไม่ให้ขึ้นได้” ปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้[3] ในระยะ พ.ศ. 2460 – 2504 ยังมีการระบาดของฝีดาษเกิดขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2488 – 2489 ช่วงการเกิดสงครามมีการระบาดของฝีดาษครั้งใหญ่สุดเริ่มต้นจากเชลยพม่าที่ทหารญี่ปุ่นจับมาสร้างทางรถไฟสายมรณะข้ามแม่นํ้าแควป่วยเป็นไข้ทรพิษและแพร่ไปยังกลุ่มกรรมกรไทยจากภาคต่างๆที่มารับจ้างทํางานในแถบนั้น เมื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน ได้นําโรคกลับไปแพร่ระบาดใหญ่ทั่วประเทศ มีผู้ป่วยมากถึง 62,837 คน และเสียชีวิต 15,621 คน[3] การระบาดเกิดขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2502 ทำให้มีผู้ป่วย 1,548 คน ตาย 272 คน และการระบาดครั้งสุดท้ายมีการบันทึกไว้ว่าเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2504 ที่อําเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีผู้ป่วย 34 ราย ตาย 5 ราย โดยรับเชื้อมาจากรัฐเชียงตุงของพม่า ทำให้กระทรวงสาธารณสุขเริ่มโครงการกวาดล้างไข้ทรพิษหรือฝีดาษในประเทศไทย รณรงค์ปลูกฝีป้องกันโรค จนปีพ.ศ. 2523 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่าฝีดาษได้ถูกกวาดล้างแล้วจึงหยุดการปลูกฝีป้องกันโรค   และนับแต่นั้นมาไม่เคยปรากฏว่ามีฝีดาษเกิดขึ้นในประเทศไทย[3] นี่คือเหตุผลว่าประเทศไทยได้ทำการปลูกฝี เพื่อป้องกันโรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษในปี พ.ศ. 2532 เป็นปีสุดท้าย หรือเมื่อประมาณ 44 ปีที่แล้ว ดังนั้นประชาชนไทยที่อายุมากกว่า 44 ปีขึ้นไป ก็น่าจะได้รับการปลูกฝีไปเกือบทั้งหมดแล้ว แต่เมื่อฝีดาษลิงกลับมาระบาดอีกครั้ง ก็ทำให้เกิดคำถามว่าประเทศไทยจะรับมืออย่างไร และเราควรจะฉีดวัคซีนหรือไม่? และคนที่มีอายุเกิน 44 ปี (ซึ่งส่วนใหญ่ได้ปลูกฝีไข้ทรพิษมาแล้ว)จะมีคนติดเชื้อโรคฝีดาษลิงหรือไม่ โดยวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567 เว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์ฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง)จนถึงปัจจุบันว่า มีผู้ป่วยฝีดาษลิงในประเทศไทย จำนวน 835 ราย เป็นเพศชายเกือบทั้งหมดมากถึง 814 ราย คิดเป็นร้อยละ 97.49 ในขณะที่เป็นเพศหญิง 21 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.51 เท่านั้น[7] ซึ่งถือว่าโอกาสติดเชื้อฝีดาษลิงในผู้หญิงน้อยมาก แต่ที่น่าสนใจคือ กลุ่มคนวัยหนุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เอชไอวี อย่างไรก็ตามกลุ่มคนที่เคยปลูกฝีไข้ทรพิษแล้วยังสามารถติดเชื้อฝีดาษลิงได้อยู่ดีแต่น้อยกว่าคนที่ไม่ได้ปลูกฝี ดังนี้ ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 0-14 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 2 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.36 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมด ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 15-19 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 3 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.24 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 20-24 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 81 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.70 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 25-29 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 172 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.59 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 30-39 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 347 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.56 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 40-49 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 174 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.83 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย ในกลุ่มนี้หากพิจารณาแยกแยะผู้ที่มีอายุ 40-44 ปี ซึ่งไม่เคยได้รับการปลูกฝีมาก่อนมีจำนวน 130 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.65 ในขณะที่ผู้ที่มีอายุมากกว่า 45-49 ที่เชื่อว่าน่าจะได้รับการปลูกฝีแล้วติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว 44 ราย คิดเป็นเพียงร้อยละ 5.27 เท่านั้น ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 50-59 ปี ติดเชื้อฝีดาษลิง 29 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.47 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ติดเชื้อฝีดาษลิง 8 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.95 ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดในประเทศไทย[7] จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ในประเทศไทยผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไปซึ่งน่าจะมีการปลูกฝีไข้ทรพิษไปแล้วก็ยังมีโอกาสติดเชื้อฝีดาษลิงได้ เพียงแต่มีสัดส่วนน้อยกว่าประชากรที่ยังไม่เคยได้รับการปลูกฝี คือ ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปีลงมา มีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงจำนวน 754 รายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90.30 ในขณะที่ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้น (ซึ่งส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดได้รับการปลูกฝีไปแล้ว)มีผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งสิ้น 81 รายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.70 ราย อย่างไรก็ตามในภาวะดังกล่าว มีคำแถลงจากนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความเห็นเอาไว้เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ความว่า “โดยจริงๆ วัคซีนไม่จำเป็นต้องฉีดทุกคน ไม่มีการระบาดทั่วไป เพราะอัตราการระบาดต่ำ แต่จะพบในผู้ป่วยเฉพาะ เช่น ผู้ขายบริการทางเพศ และชายรักชาย อีกทั้ง ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากผู้ป่วยเอชไอวี และไม่ทานยาทั้งหมด 13 รายที่ผ่านมา (เชื้อเคลด2)”[8] นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยังได้ “คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการควบคุมโรค แต่เนื่องจากวัคซีนป้องกันฝีดาษวานรยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ทางกรมควบคุมโรคจึงใช้ มาตรา 13(5) เพื่อการควบคุมโรค ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510  จะมีการใช้งบประมาณ กรมควบคุมโรค วงเงิน 21 ล้านบาท เพื่อการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว รวม 3,000 โดส  เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง  3 กลุ่ม ประกอบด้วย   1. บุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงต่อการติดโรค อาทิ ไปสัมผัสเสี่ยงสูง คือ สัมผัสคนติดเชื้อ 2. กลุ่มไปสัมผัสโรค เสี่ยงว่าจะติดเชื้อ ก็จะฉีดภายใน 4 วัน และ3. มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดคนติดเชื้อ เช่น คนในครอบครัวที่ติดเชื้อ ซึ่ง 3 กลุ่มเสี่ยงนี้ กรมควบคุมโรคจะดูแลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย“[8] เรื่องดังกล่าวนี้ทำให้ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิตให้ความเห็น เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 ในเรื่องความพยายามกระพือข่าวให้กลัวเพื่อให้เกิดการระดมฉีดวัคซีน ความว่า “กรมควบคุมโรคประกาศแล้ว ฝีดาษลิงอัตราการระบาดต่ำ ทั้งประเทศมีประมาณ 800 ราย และที่เสียชีวิตนั้น เพราะมีติดเชื้อไวรัสเอดส์ และโรคทางเพศสัมพันธ์อื่น การติดตามของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ผู้ติดเชื้อปลอดภัยดี วัคซีนขณะนี้ “ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน” และกระทรวงสาธารณสุข จะจัดการให้ฉีดฟรีใน “กลุ่มเสี่ยง” เท่านั้น ได้แก่ 1. บุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ 2. คนที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยต้องฉีดภายใน 4 วัน ทั้งสองกลุ่มนี้ฟรี ส่วนกลุ่มที่ต้องเดินทางในพื้นที่เสี่ยงนั้น การฉีดนั้นต้องจ่ายเงิน “กลุ่มที่กระพือข่าวให้น่ากลัว โดยไม่ยึดความจริง และอาจทำให้นำไปสู่การค้าวัคซีน ควรต้องจับตามองอย่างเข้มข้น””[9] อย่างไรก็ตามแม้ว่าฝีดาษลิงจะเป็นเชื้อที่ยังติดได้ยาก ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยเฉพาะคือ ขายบริการทางเพศ และชายรักชาย อีกทั้งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากผู้ป่วยเอชไอวีที่ไม่ทานยาทั้งหมด ส่วนการติดนั้นต้องอาศัยการสัมผัสผิวใกล้ชิด อัตราการเสียชีวิตอยู่ในระดับต่ำ คนส่วนใหญ่จึงยังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนแต่ประการใด อย่างไรก็ตามเนื่องจากโรคฝีดาษที่กลับมาระบาดอีกครั้งในรอบ 44 ปี ทำให้ความรู้ในการรักษาผู้ป่วยขาดตอนไป คงเหลือแต่การค้นคว้ากรรมวิธีการรักษาในประวัติศาสตร์ของคนไทยว่าใช้วิธีการรักษาอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า “โรคฝีดาษ” เป็นโรคที่มีความจำเพาะ ถึงขนาดทำให้พระมหากษัตริย์สมัยอยุธยาเสด็จสวรรคตถึง 2 พระองค์ จึงปรากฏเรื่องของตำรับยาและสมุนไพรที่เกี่ยวกับการรักษา “โรคฝีดาษ” แยกออกมาต่างหากจากโรคระบาดอื่นๆ บันทึกปรากฏอยู่ในแผ่นศิลาจารึกในสมัยรัชกาลที่ 2 ของจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร[10]-[12] และอยู่ในแผ่นศิลาจารึกในสมัยรัชกาลที่ 3 ในแผ่นศิลาจารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม[10],[13]-[15] นอกจากนั้น โรคฝีดาษไม่ใช่เป็นโรคระบาดอื่นๆที่ใช้ “ยาขาว”ที่ใช้กับโรคระบาดหลายชนิดในตำรับยาเดียว ที่ปรากฏในศิลาจารึกในสมัยรัชกาลที่ 3 ในแผ่นศิลาจารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามอีกด้วย[16] หลักฐานที่ว่า “โรคฝีดาษ” ไม่ใช่โรคระบาดทั่วไปนั้น จะเห็นได้จากพระคัมภีร์ตักกะศิลาที่บันทึกภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 และบันทึกมาโดยเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ที่ตกทอดมาถึงตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวงในสมัยรัชกาลที่ 5 หรือตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ไม่พบการกล่าวถึงคำว่า “ฝีดาษ” แต่ประการใด แต่ในที่สุดก็ได้พบตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวงในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ระบุคัมภีร์ชื่อ “พระตำหรับแผนฝีดาษ” บันทึกในสมุดไทย มีรายละเอียดจำนวนมากเกี่ยวกับโรคฝีดาษเป็นการเฉพาะ และมีจำนวนมากถึง 3 เล่ม จนไม่สามารถที่จะถ่ายทอดมาให้อ่านในหมดในบทความนี้ โดย “พระตำหรับแผนฝีดาษ” ในสมัยรัชกาลที่ 5 นั้น มีการกล่าวถึงลักษณะของฝีแต่ละชนิด และจุดที่เกิดฝีว่าบริเวณใดเป็นแล้วไม่เสียชีวิต รวมถึงบริเวณใดจะทำให้เสียชีวิตภายในกี่วัน จึงได้มีการแบ่งแยกวิธีการรักษาอย่างละเอียดยิบ อย่างไรก็ตามก็มีวาง “หลักการ“ ถึงวิธีการรักษาโรคฝีดาษปรากฏอยู่ใน ”พระตำหรับแผนฝีดาษ เล่ม 2“ ที่ระบุความตอนหนึ่งว่า ”๏ สิทธิการิยะ พระตำราประสะฝีดาษทั้งปวง ถ้าแพทย์ผู้ใดจะรักษาฝีดาษ ถ้าเห็นศีศะรู้ว่าเปนฝีดาษแน่แล้ว ให้กินยาล้อมตับดับพิศม์และให้กินยารุเสีย แลกินยาแปรภายใน พ่นยาแปรภายนอกแลกินยากะทุ้ง…“[17] หลังจากนั้นพอวันเวลาเปลี่ยนไปก็มีตำรับยาเฉพาะที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆจนรักษาฝีดาษจนหายในที่สุด ซึ่งในโอกาสอันสมควรก็น่าจะมีการรื้อฟื้น ศึกษา พระตำหรับแผนฝีดาษ สมัยรัชกาลที่ 5 แล้วทำการวิจัย พัฒนา เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับโรคฝีดาษในยุคปัจจุบันต่อไป ด้วยความปรารถนาดี ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 12 กันยายน 2567 อ้างอิง [1] Ryan KJ, Ray CG, บ.ก. (2004). Sherris Medical Microbiology (4th ed.). McGraw Hill. pp. 525–28. ISBN 978-0-8385-8529-0. [2] CDC, History of Smallpox, 25 July 2017 https://www.cdc.gov/smallpox/history/history.html [3] Hfocus, โรคระบาดร้ายแรงในอดีต ตอนที่ 3 โรคไข้ทรพิษ (ฝีดาษ), วันที่ 26 สิงหาคม 2558 https://www.hfocus.org/content/2014/08/7977 [4] World Health Organization, Small Pox, Media Center https://web.archive.org/web/20070921235036/http://www.who.int/mediacentre/factsheets/smallpox/en/ [5] U.S. House of Representatives, Interim Staff Report on Investigation into Risky MPXV Experiment at the National Institute of Allergy and Infectious Diseases, June 14 2024 https://d1dth6e84htgma.cloudfront.net/Mpox_Memo_Rpt_correction_18e95e3204.pdf?utm_source=substack&utm_medium=email&fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR0YlqstCXKzOUttRicgqQ6lG00dtMnZ_9pFf4FqtlBbSAyw5uR-tGR6QIM_aem_ZXPXy1XgTiGCTixSJJ-aFg [6] ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา, “หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษย์ประดิษฐ์, ผู้จัดการออนไลน์, 6 กันยายน 2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903 [7] กรมควบคุมโรค, รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อฝีดาษวานร (Mpox), 12 กันยายน 2567 https://ddc.moph.go.th/monkeypox/dashboard.php [8] Hfocus, กรมควบคุมโรค ทุ่มงบ 21 ล้านบาท จัดหา “วัคซีนฝีดาษวานร” 3 พันโดสให้เฉพาะ 3 กลุ่มเสี่ยง, 6 กันยายน 2567 https://www.hfocus.org/content/2024/09/31577 [9] ผู้จัดการออนไลน์, “หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ, 7 กันยายน 2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178 [10] ผู้จัดการออนไลน์, “ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง”, เผยแพร่: 5 กันยายน 2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615 [11] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 18 ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557( อัพเดทเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567) https://db.sac.or.th/inscript.../inscribe/image_detail/14798 [12] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 46 (ยาผายเลือด) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อ โพสต์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 https://db.sac.or.th/inscript.../inscribe/image_detail/16335 [13] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(ว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวง แผ่นที่ 22 ยาแก้จักษุโรคคือต้อ(5), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2560 https://db.sac.or.th/.../file/22-chaksurok-to5-tr2.pdf [14] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 7 ท้าวยายม่อม ข่าใหญ่ ข่าลิง กระทือ ไพล กระชาย หอม และกระเทียม) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 https://db.sac.or.th/.../7-thaoyaimom-khayai-khaling-tr1.pdf [15] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 แตงหนู ชิงชี่ บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี บอระเพ็ดพุงช้าง ผักปอดตัวเมีย ผักปอดตัวผู้ และพลูแก), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/17723 [16] โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์), ตำรายา ศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระนคร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จารึกไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบับสมบูรณ์ ฉบับ พ.ศ.​๒๕๑๖ หน้า ๖๒ - ๖๔ [17] คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒, ตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๒
    Like
    Love
    47
    3 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1447 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,516
    วันศุกร์: ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗ (13 September 2024)

    โอนเงินทำบุญ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท
    01. วัดป่าสันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่
    (ถวายภัตตาหาร)
    02. วัดป่าเมตตาวนาราม อ.พาน จ.เชียงราย
    (ถวายภัตตาหาร)
    03. วัดประชาสามัคคี อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ
    (ถวายน้ำดื่ม)
    04. วัดซับตะเคียน อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
    (ถวายน้ำดื่ม)
    05. วัดคงคานิมิตร อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
    (ถวายข้าวสาร)
    06. วัดเวียงมนมงคลพนาราม อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย
    (ถวายข้าวสาร)
    07. วัดห้วยไร่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
    (ถวายข้าวสาร)
    08. วัดนิวาสสถาน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
    (ถวายยารักษาโรค)
    09. วัดท้ายหาด อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม
    (สร้างกำแพงล้อมรอบอุโบสถ)
    10. วัดนาแช่ อ.งาว จ.ลำปาง
    (สร้างพระธาตุเจดีย์)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๒ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,516 วันศุกร์: ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗ (13 September 2024) โอนเงินทำบุญ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท 01. วัดป่าสันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ (ถวายภัตตาหาร) 02. วัดป่าเมตตาวนาราม อ.พาน จ.เชียงราย (ถวายภัตตาหาร) 03. วัดประชาสามัคคี อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ (ถวายน้ำดื่ม) 04. วัดซับตะเคียน อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ (ถวายน้ำดื่ม) 05. วัดคงคานิมิตร อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ (ถวายข้าวสาร) 06. วัดเวียงมนมงคลพนาราม อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย (ถวายข้าวสาร) 07. วัดห้วยไร่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย (ถวายข้าวสาร) 08. วัดนิวาสสถาน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ (ถวายยารักษาโรค) 09. วัดท้ายหาด อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม (สร้างกำแพงล้อมรอบอุโบสถ) 10. วัดนาแช่ อ.งาว จ.ลำปาง (สร้างพระธาตุเจดีย์) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๒ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,516
    วันศุกร์: ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗ (13 September 2024)

    โอนเงินทำบุญ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท
    01. วัดป่าสันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่
    (ถวายภัตตาหาร)
    02. วัดป่าเมตตาวนาราม อ.พาน จ.เชียงราย
    (ถวายภัตตาหาร)
    03. วัดประชาสามัคคี อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ
    (ถวายน้ำดื่ม)
    04. วัดซับตะเคียน อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
    (ถวายน้ำดื่ม)
    05. วัดคงคานิมิตร อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
    (ถวายข้าวสาร)
    06. วัดเวียงมนมงคลพนาราม อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย
    (ถวายข้าวสาร)
    07. วัดห้วยไร่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
    (ถวายข้าวสาร)
    08. วัดนิวาสสถาน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
    (ถวายยารักษาโรค)
    09. วัดท้ายหาด อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม
    (สร้างกำแพงล้อมรอบอุโบสถ)
    10. วัดนาแช่ อ.งาว จ.ลำปาง
    (สร้างพระธาตุเจดีย์)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๒ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,516 วันศุกร์: ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗ (13 September 2024) โอนเงินทำบุญ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท 01. วัดป่าสันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ (ถวายภัตตาหาร) 02. วัดป่าเมตตาวนาราม อ.พาน จ.เชียงราย (ถวายภัตตาหาร) 03. วัดประชาสามัคคี อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ (ถวายน้ำดื่ม) 04. วัดซับตะเคียน อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ (ถวายน้ำดื่ม) 05. วัดคงคานิมิตร อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ (ถวายข้าวสาร) 06. วัดเวียงมนมงคลพนาราม อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย (ถวายข้าวสาร) 07. วัดห้วยไร่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย (ถวายข้าวสาร) 08. วัดนิวาสสถาน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ (ถวายยารักษาโรค) 09. วัดท้ายหาด อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม (สร้างกำแพงล้อมรอบอุโบสถ) 10. วัดนาแช่ อ.งาว จ.ลำปาง (สร้างพระธาตุเจดีย์) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๒ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่วมแล้วไปไหน? จับตาอีสาน 7 จังหวัดริมโขง

    อิทธิพลของพายุยางิ ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ฝนตกทั้งวันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มวลน้ำจากประเทศเมียนมา ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก เข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลแม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ตามมาด้วยแม่น้ำกก เข้าท่วมเขตเทศบาลนครเชียงราย ข้อมูลสะสม ณ วันที่ 12 ก.ย. จังหวัดเชียงรายได้รับความเสียหายรวม 6 อำเภอ 25 ตำบล 125 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (22 ชุมชน) ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ 2 แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบ 51,353 ครัวเรือน เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

    ปลายทางของมวลน้ำทั้งสองสายอยู่ที่อำเภอเชียงแสน โดยแม่น้ำรวกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่วนแม่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สบกก (ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน) แต่การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระดับน้ำที่สูงขึ้น และเข้าท่วมเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีมวลน้ำสาขาจาก สปป.ลาว ไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยเฉพาะแม่น้ำทาจากแขวงหลวงน้ำทา ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว รวมทั้งแขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไซ และแขวงไชยบุรี ยังประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย

    สิ่งที่น่าเป็นห่วงนับจากนี้ คือ 7 จังหวัดภาคอีสานที่อยู่ริมแม่น้ำโขง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อ.เชียงคาน จ.เลย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00-3.60 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50-1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. อ.เมือง จ.หนองคาย และ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.50-3.90 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 1.50-2.50 เมตรในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00-2.60 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50-1.30 เมตร

    ด้านเทศบาลเมืองหนองคาย ยกระดับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมเป็นธงสีแดง (มากกว่า 12 เมตร) สภาวะน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ให้อาศัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อสั่งการ โดยระดับน้ำยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ ล่าสุดเมื่อเวลา 00.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) ระดับน้ำที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 12.82 เมตร สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยของตลิ่งถึง 62 เซนติเมตร

    (ระบบติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง https://monitoring.tnmc-is.org)

    #Newskit #น้ำท่วม #แม่น้ำโขง
    ท่วมแล้วไปไหน? จับตาอีสาน 7 จังหวัดริมโขง อิทธิพลของพายุยางิ ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ฝนตกทั้งวันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มวลน้ำจากประเทศเมียนมา ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก เข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลแม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ตามมาด้วยแม่น้ำกก เข้าท่วมเขตเทศบาลนครเชียงราย ข้อมูลสะสม ณ วันที่ 12 ก.ย. จังหวัดเชียงรายได้รับความเสียหายรวม 6 อำเภอ 25 ตำบล 125 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (22 ชุมชน) ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ 2 แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบ 51,353 ครัวเรือน เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ปลายทางของมวลน้ำทั้งสองสายอยู่ที่อำเภอเชียงแสน โดยแม่น้ำรวกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่วนแม่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สบกก (ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน) แต่การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระดับน้ำที่สูงขึ้น และเข้าท่วมเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีมวลน้ำสาขาจาก สปป.ลาว ไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยเฉพาะแม่น้ำทาจากแขวงหลวงน้ำทา ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว รวมทั้งแขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไซ และแขวงไชยบุรี ยังประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย สิ่งที่น่าเป็นห่วงนับจากนี้ คือ 7 จังหวัดภาคอีสานที่อยู่ริมแม่น้ำโขง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อ.เชียงคาน จ.เลย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00-3.60 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50-1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. อ.เมือง จ.หนองคาย และ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.50-3.90 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 1.50-2.50 เมตรในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00-2.60 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50-1.30 เมตร ด้านเทศบาลเมืองหนองคาย ยกระดับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมเป็นธงสีแดง (มากกว่า 12 เมตร) สภาวะน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ให้อาศัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อสั่งการ โดยระดับน้ำยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ ล่าสุดเมื่อเวลา 00.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) ระดับน้ำที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 12.82 เมตร สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยของตลิ่งถึง 62 เซนติเมตร (ระบบติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง https://monitoring.tnmc-is.org) #Newskit #น้ำท่วม #แม่น้ำโขง
    Like
    Sad
    7
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ ยังน่าเป็นห่วง
    GISTDA เปิดภาพดาวเทียม น้ำท่วมพื้นที่รวมกว่า
    86,438 ไร่ 8 อำเภอจมบาดาล ประชาชนในพื้นที่
    ได้รับความเดือดร้อนหนัก วอนทุกหน่วยงาน
    เข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
    ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #น้ำท่วม #thaitimes
    🔥🔥สถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ ยังน่าเป็นห่วง GISTDA เปิดภาพดาวเทียม น้ำท่วมพื้นที่รวมกว่า 86,438 ไร่ 8 อำเภอจมบาดาล ประชาชนในพื้นที่ ได้รับความเดือดร้อนหนัก วอนทุกหน่วยงาน เข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #น้ำท่วม #thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 979 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,515
    วันพฤหัสบดี: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ (12 September 2024)

    Photo Album 1/5
    โอนเงินทำบุญ 48 วัด เป็นเงิน 960 บาท
    01. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    02. วัดศรีลังกา(วัดต้นโชค) อ.หางดง จ.เชียงใหม่
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    03. วัดเขาน้อยคงคาราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    04. วัดหนองปลาขอ อ.เมือง จ.ลำพูน
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    05. วัดโนนเชียงคูณ อ.สระใคร จ.หนองคาย
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    06. วัดป่ายางสบยาบ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    07. วัดอินทาราม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    08. วัดขวางใหม่หนองเงิน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    09. วัดปูเลย อ.เมือง จ.ลำพูน
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    10. วัดท่าสูง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๓ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,515 วันพฤหัสบดี: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ (12 September 2024) Photo Album 1/5 โอนเงินทำบุญ 48 วัด เป็นเงิน 960 บาท 01. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 02. วัดศรีลังกา(วัดต้นโชค) อ.หางดง จ.เชียงใหม่ (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 03. วัดเขาน้อยคงคาราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 04. วัดหนองปลาขอ อ.เมือง จ.ลำพูน (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 05. วัดโนนเชียงคูณ อ.สระใคร จ.หนองคาย (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 06. วัดป่ายางสบยาบ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 07. วัดอินทาราม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 08. วัดขวางใหม่หนองเงิน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 09. วัดปูเลย อ.เมือง จ.ลำพูน (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 10. วัดท่าสูง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๓ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,515
    วันพฤหัสบดี: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ (12 September 2024)

    Photo Album 3/5
    โอนเงินทำบุญ 48 วัด เป็นเงิน 960 บาท
    21. วัดธรรมเจริญภูวนาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ
    (สร้างศาลาหอฉัน)
    22. วัดป่าวิริยะพล อ.เต่างอย จ.สกลนคร
    (สร้างโรงครัว)
    23. วัดป่าวิมานธรรม อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
    (สร้างโรงครัว)
    24. วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน
    (สร้างมหามณฑป)
    25. วัดรางฉนวน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง
    (สร้างมณฑป)
    26. วัดริมร่องสะหลีศรีบุญค้ำ อ.เวียงยอง จ.ลำพูน
    (สร้างหอแก้วพระเจ้าบุญค้ำ)
    27. วัดพระเกิดคงคาราม อ.เทิง จ.เชียงราย
    (สร้างหอระฆัง)
    28. วัดแสนหลวง อ.สารภี จ.เชียงใหม่
    (สร้างวิหารจตุรมุข)
    29. วัดตระพังทองหลาง อ.เมือง จ.สุโขทัย
    (มุงหลังคาต่อเติมพระวิหาร)
    30. วัดวิมลนิวาส อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
    (สร้างศาลาธรรมสังเวช)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๓ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,515 วันพฤหัสบดี: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ (12 September 2024) Photo Album 3/5 โอนเงินทำบุญ 48 วัด เป็นเงิน 960 บาท 21. วัดธรรมเจริญภูวนาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ (สร้างศาลาหอฉัน) 22. วัดป่าวิริยะพล อ.เต่างอย จ.สกลนคร (สร้างโรงครัว) 23. วัดป่าวิมานธรรม อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี (สร้างโรงครัว) 24. วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน (สร้างมหามณฑป) 25. วัดรางฉนวน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง (สร้างมณฑป) 26. วัดริมร่องสะหลีศรีบุญค้ำ อ.เวียงยอง จ.ลำพูน (สร้างหอแก้วพระเจ้าบุญค้ำ) 27. วัดพระเกิดคงคาราม อ.เทิง จ.เชียงราย (สร้างหอระฆัง) 28. วัดแสนหลวง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ (สร้างวิหารจตุรมุข) 29. วัดตระพังทองหลาง อ.เมือง จ.สุโขทัย (มุงหลังคาต่อเติมพระวิหาร) 30. วัดวิมลนิวาส อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด (สร้างศาลาธรรมสังเวช) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๓ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใต้ร่มพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามและทรงห่วงใยพสกนิกรจากเหตุอุทกภัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำเฮลิคอปเตอร์ จำนวน ๒ ลำ และจิตอาสาพระราชทานจังหวัดเชียงราย ให้การช่วยเหลืออพยพประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งพระราชทานสิ่งของ อาหารที่จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ณ จังหวัดเชียงราย
    ----
    His Majesty King Maha Vajiralongkorn and Her Majesty Queen Suthida of Thailand are following and caring for the people from inundation their have command Royal Volunteer of His Majesty King Maha Vajiralongkorn Established the Royal Kitchen Area of Chiang Rai and Royal Rainmaking Department and Agricultural Aviation Take 2 helicopters Provide assistance to evacuate people affected by floods and provide essential items and food to alleviate their initial suffering in Chiang Rai Province.
    _________________________

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    ใต้ร่มพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามและทรงห่วงใยพสกนิกรจากเหตุอุทกภัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำเฮลิคอปเตอร์ จำนวน ๒ ลำ และจิตอาสาพระราชทานจังหวัดเชียงราย ให้การช่วยเหลืออพยพประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งพระราชทานสิ่งของ อาหารที่จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ณ จังหวัดเชียงราย ---- His Majesty King Maha Vajiralongkorn and Her Majesty Queen Suthida of Thailand are following and caring for the people from inundation their have command Royal Volunteer of His Majesty King Maha Vajiralongkorn Established the Royal Kitchen Area of Chiang Rai and Royal Rainmaking Department and Agricultural Aviation Take 2 helicopters Provide assistance to evacuate people affected by floods and provide essential items and food to alleviate their initial suffering in Chiang Rai Province. _________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
    กู้ภัย 411,465 และกู้ชีพ123พร้อมคู่สายกู้ชีพ131 และทีมเรือกู้ภัยฉะเชิงเทราให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยติดค้างภายในหมู่บ้าน เหมืองแดง อ.แม่สาย จ.เชียงราย
    - ที่ติดค้างอยู่ภายในบ้าน สู่เข้าที่ปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย

    รวมหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน ช่วยเหลือ น้ำท่วมแม่สาย...

    กองอำนวยการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 0949529544

    ศูนย์อำนายการ 📞️ 095-540-7938
    กองทัพบก โดยทหาร มทบ.37 📞️ 053-711-200
    นายกเทศบาลแม่สาย 📞️ 089-755-7555
    ปภ. 📞️ 1784
    รพ.แม่สาย 📞️ 086-428-5890
    สสอ.แม่สาย 📞️ 053-731-503
    ประสานงาน ปลัดฯ อ.แม่สาย 📞️ 063-901-8472 /️ 063-901-8198
    หน่วยกู้ภัยแม่โจ้ 📞️ 096-980-5082 / 061-790-3337

    กู้ภัยสยามแม่สาย 📞️ 084-226-1669
    กู้ภัยปิยะมิตร 📞️ 090-096-2255
    กู้ภัยพรหมวิหาร 📞️ 053733422
    หน่วยกู้ภัย มูลนิธิสยามเชียงราย จุดอำเภอแม่จัน 📞️ 083-212-1669
    หัวหน้าชุดบรรเทาสาธารณภัย กอ.ปภ.อ.แม่สาย 📞️ 091-054-1693
    ทีมกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กู้ภัย 411,465 และกู้ชีพ123พร้อมคู่สายกู้ชีพ131 และทีมเรือกู้ภัยฉะเชิงเทราให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยติดค้างภายในหมู่บ้าน เหมืองแดง อ.แม่สาย จ.เชียงราย - ที่ติดค้างอยู่ภายในบ้าน สู่เข้าที่ปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย รวมหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน ช่วยเหลือ น้ำท่วมแม่สาย... กองอำนวยการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 0949529544 ศูนย์อำนายการ 📞️ 095-540-7938 ▪️ กองทัพบก โดยทหาร มทบ.37 📞️ 053-711-200 ▪️ นายกเทศบาลแม่สาย 📞️ 089-755-7555 ▪️ ปภ. 📞️ 1784 ▪️ รพ.แม่สาย 📞️ 086-428-5890 ▪️ สสอ.แม่สาย 📞️ 053-731-503 ▪️ ประสานงาน ปลัดฯ อ.แม่สาย 📞️ 063-901-8472 /️ 063-901-8198 ▪️ หน่วยกู้ภัยแม่โจ้ 📞️ 096-980-5082 / 061-790-3337 ▪️กู้ภัยสยามแม่สาย 📞️ 084-226-1669 ▪️กู้ภัยปิยะมิตร 📞️ 090-096-2255 ▪️กู้ภัยพรหมวิหาร 📞️ 053733422 ▪️หน่วยกู้ภัย มูลนิธิสยามเชียงราย จุดอำเภอแม่จัน 📞️ 083-212-1669 ▪️หัวหน้าชุดบรรเทาสาธารณภัย กอ.ปภ.อ.แม่สาย 📞️ 091-054-1693
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,515
    วันพฤหัสบดี: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ (12 September 2024)

    Photo Album 1/5
    โอนเงินทำบุญ 48 วัด เป็นเงิน 960 บาท
    01. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    02. วัดศรีลังกา(วัดต้นโชค) อ.หางดง จ.เชียงใหม่
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    03. วัดเขาน้อยคงคาราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    04. วัดหนองปลาขอ อ.เมือง จ.ลำพูน
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    05. วัดโนนเชียงคูณ อ.สระใคร จ.หนองคาย
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    06. วัดป่ายางสบยาบ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    07. วัดอินทาราม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    08. วัดขวางใหม่หนองเงิน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    09. วัดปูเลย อ.เมือง จ.ลำพูน
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    10. วัดท่าสูง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
    (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๓ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,515 วันพฤหัสบดี: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ (12 September 2024) Photo Album 1/5 โอนเงินทำบุญ 48 วัด เป็นเงิน 960 บาท 01. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 02. วัดศรีลังกา(วัดต้นโชค) อ.หางดง จ.เชียงใหม่ (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 03. วัดเขาน้อยคงคาราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 04. วัดหนองปลาขอ อ.เมือง จ.ลำพูน (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 05. วัดโนนเชียงคูณ อ.สระใคร จ.หนองคาย (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 06. วัดป่ายางสบยาบ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 07. วัดอินทาราม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 08. วัดขวางใหม่หนองเงิน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 09. วัดปูเลย อ.เมือง จ.ลำพูน (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) 10. วัดท่าสูง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช (ชำระหนี้สงฆ์ ประจำเดือน ก.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๓ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,515
    วันพฤหัสบดี: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ (12 September 2024)

    Photo Album 3/5
    โอนเงินทำบุญ 48 วัด เป็นเงิน 960 บาท
    21. วัดธรรมเจริญภูวนาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ
    (สร้างศาลาหอฉัน)
    22. วัดป่าวิริยะพล อ.เต่างอย จ.สกลนคร
    (สร้างโรงครัว)
    23. วัดป่าวิมานธรรม อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
    (สร้างโรงครัว)
    24. วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน
    (สร้างมหามณฑป)
    25. วัดรางฉนวน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง
    (สร้างมณฑป)
    26. วัดริมร่องสะหลีศรีบุญค้ำ อ.เวียงยอง จ.ลำพูน
    (สร้างหอแก้วพระเจ้าบุญค้ำ)
    27. วัดพระเกิดคงคาราม อ.เทิง จ.เชียงราย
    (สร้างหอระฆัง)
    28. วัดแสนหลวง อ.สารภี จ.เชียงใหม่
    (สร้างวิหารจตุรมุข)
    29. วัดตระพังทองหลาง อ.เมือง จ.สุโขทัย
    (มุงหลังคาต่อเติมพระวิหาร)
    30. วัดวิมลนิวาส อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
    (สร้างศาลาธรรมสังเวช)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๓ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,515 วันพฤหัสบดี: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ (12 September 2024) Photo Album 3/5 โอนเงินทำบุญ 48 วัด เป็นเงิน 960 บาท 21. วัดธรรมเจริญภูวนาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ (สร้างศาลาหอฉัน) 22. วัดป่าวิริยะพล อ.เต่างอย จ.สกลนคร (สร้างโรงครัว) 23. วัดป่าวิมานธรรม อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี (สร้างโรงครัว) 24. วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน (สร้างมหามณฑป) 25. วัดรางฉนวน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง (สร้างมณฑป) 26. วัดริมร่องสะหลีศรีบุญค้ำ อ.เวียงยอง จ.ลำพูน (สร้างหอแก้วพระเจ้าบุญค้ำ) 27. วัดพระเกิดคงคาราม อ.เทิง จ.เชียงราย (สร้างหอระฆัง) 28. วัดแสนหลวง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ (สร้างวิหารจตุรมุข) 29. วัดตระพังทองหลาง อ.เมือง จ.สุโขทัย (มุงหลังคาต่อเติมพระวิหาร) 30. วัดวิมลนิวาส อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด (สร้างศาลาธรรมสังเวช) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๓ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • Live สถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงราย ถนนแม่ยาวมุ่งหน้าสู่สนามบินแม่ฟ้าหลวง จาก FB คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    .
    คลิกชม >> https://www.facebook.com/share/v/aN8PsSm64xkKRu2P/
    Live สถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงราย ถนนแม่ยาวมุ่งหน้าสู่สนามบินแม่ฟ้าหลวง จาก FB คุยทุกเรื่องกับสนธิ . คลิกชม >> https://www.facebook.com/share/v/aN8PsSm64xkKRu2P/
    Like
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 801 มุมมอง 0 รีวิว
  • #Saveเชียงราย ด้วยรักและห่วงกัน
    แบ่งปันส่งกำลังใจช่วยเหลือกันครับชาวไทย
    ขอให้ปลอดภัยผ่านไปด้วยดีครับ
    #Saveเชียงราย ด้วยรักและห่วงกัน แบ่งปันส่งกำลังใจช่วยเหลือกันครับชาวไทย ขอให้ปลอดภัยผ่านไปด้วยดีครับ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • สส.ฉัตร สุภัทรวณิชย์ อภิปรายหารือประธานสภา 11 กย. 67

    1. บ่อขยะ - รถเครื่องจักรไถกลบขยะ เมืองโคราช :
    เร่งแก้ไขปัญหารถเครื่องจักร รถแทรคเตอร์, แทคโคร, รถน้ำ ทั้ง 3 คันที่ใช้ในบ่อขยะ ซึ่งเทศบาลนคร นครราชสีมา ดูแลรับผิดชอบอยู่ ใช้งานมานานกว่า 20 ปีและชำรุดพังหมดแล้ว ปัจจุบันใช้รถนอก 2 คัน แต่ตกบ่อขยะไปแล้ว 1 ยังกู้ขึ้นมาจากบ่อไม่ได้ เหลือเพียงคันเดียวที่เจ้าของขับเองโดยไม่มีประสบการณ์ ไม่ชำนาญการปรับเกลี่ยขยะ ขอให้ ทน.นม. เร่งพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างอย่างเหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาโดยด่วน

    2. การก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์ ลำตะคอง : ภูมิทัศน์ที่ต้องการ "คลองชองเกยซอน" ปัจจุบันแปรเป็น คลองชอง "เก๊" ซอน การก่อสร้างคลุมเครือตั้งแต่ต้น ชาวบ้านถามหาการทำประชาพิจารณ์, การขออนุญาตกรมเจ้าท่า / กรมชลประทาน จวบจนปัจจุบันการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ยืดเยื้อเรื้อรังเกินจากระยะเวลาที่ติดป้ายเอาไว้ คนโคราชกังวลช่วงนี้ฝนตกหนักเรื่อยๆ เกรงกีดขวางทางระบายน้ำ โครงการนี้ทำให้ลำน้ำแแคบ ตื้นเขิน สร้างเสร็จแล้วหน่วยงานใดจะรับผิดชอบดูแลในอนาคต

    3. ฟุตบาท : การก่อสร้างซ่อมแซมฟุตบาท ทุบของเก่าแล้วสร้างของใหม่ทับ เป็นเหตุให้การระบายน้ำในเมืองติดขัดหรือไม่ ? มีการเปิดฝาท่อ - หลุม ขนาดใหญ่โดยมีเพียงเชือกมากั้นล้อมเอาไว้ กลัวว่าจะทำให้เด็กนักเรียน ชาวบ้าน เดินตกท่อได้

    4. ร้านค้า ตึกแถว อาคารในเมืองที่ปิด - หยุดกิจการ ในตัวเมืองโคราชจำนวนมาก หลายแห่งปิดประตูทางเข้าไว้ เมื่อฝนตกเกิดน้ำท่วมขัง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และทำให้ภูมิทัศน์เมืองไม่สวยงาม ไม่มีระเบียบ ขอให้ทางเทศบาลประสานเจ้าของอาคารแก้ไขปัญหาโดยด่วน

    5. เมื่อคืนมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เกิดน้ำท่วมหนักฉับพลันในหลายพื้นที่ หลายอำเภอ ขอหารือให้ทุกหน่วยงานของจังหวัดที่เกี่ยวข้องได้เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวเชียงรายโดยด่วน
    🔻สส.ฉัตร สุภัทรวณิชย์ อภิปรายหารือประธานสภา 11 กย. 67 1. บ่อขยะ - รถเครื่องจักรไถกลบขยะ เมืองโคราช : เร่งแก้ไขปัญหารถเครื่องจักร รถแทรคเตอร์, แทคโคร, รถน้ำ ทั้ง 3 คันที่ใช้ในบ่อขยะ ซึ่งเทศบาลนคร นครราชสีมา ดูแลรับผิดชอบอยู่ ใช้งานมานานกว่า 20 ปีและชำรุดพังหมดแล้ว ปัจจุบันใช้รถนอก 2 คัน แต่ตกบ่อขยะไปแล้ว 1 ยังกู้ขึ้นมาจากบ่อไม่ได้ เหลือเพียงคันเดียวที่เจ้าของขับเองโดยไม่มีประสบการณ์ ไม่ชำนาญการปรับเกลี่ยขยะ ขอให้ ทน.นม. เร่งพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างอย่างเหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาโดยด่วน 2. การก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์ ลำตะคอง : ภูมิทัศน์ที่ต้องการ "คลองชองเกยซอน" ปัจจุบันแปรเป็น คลองชอง "เก๊" ซอน การก่อสร้างคลุมเครือตั้งแต่ต้น ชาวบ้านถามหาการทำประชาพิจารณ์, การขออนุญาตกรมเจ้าท่า / กรมชลประทาน จวบจนปัจจุบันการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ยืดเยื้อเรื้อรังเกินจากระยะเวลาที่ติดป้ายเอาไว้ คนโคราชกังวลช่วงนี้ฝนตกหนักเรื่อยๆ เกรงกีดขวางทางระบายน้ำ โครงการนี้ทำให้ลำน้ำแแคบ ตื้นเขิน สร้างเสร็จแล้วหน่วยงานใดจะรับผิดชอบดูแลในอนาคต 3. ฟุตบาท : การก่อสร้างซ่อมแซมฟุตบาท ทุบของเก่าแล้วสร้างของใหม่ทับ เป็นเหตุให้การระบายน้ำในเมืองติดขัดหรือไม่ ? มีการเปิดฝาท่อ - หลุม ขนาดใหญ่โดยมีเพียงเชือกมากั้นล้อมเอาไว้ กลัวว่าจะทำให้เด็กนักเรียน ชาวบ้าน เดินตกท่อได้ 4. ร้านค้า ตึกแถว อาคารในเมืองที่ปิด - หยุดกิจการ ในตัวเมืองโคราชจำนวนมาก หลายแห่งปิดประตูทางเข้าไว้ เมื่อฝนตกเกิดน้ำท่วมขัง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และทำให้ภูมิทัศน์เมืองไม่สวยงาม ไม่มีระเบียบ ขอให้ทางเทศบาลประสานเจ้าของอาคารแก้ไขปัญหาโดยด่วน 5. เมื่อคืนมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เกิดน้ำท่วมหนักฉับพลันในหลายพื้นที่ หลายอำเภอ ขอหารือให้ทุกหน่วยงานของจังหวัดที่เกี่ยวข้องได้เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวเชียงรายโดยด่วน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • GISTDA เผยภาพดาวเทียม น้ำท่วม "เชียงราย-พะเยา"
    ท่วมไปแล้วกว่า 1 แสนไร่ โดยพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ทางการเกษตร
    หนักสุด ระดับน้ำมีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1-1.5 เมตร
    ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #น้ำท่วมเชียงรายพะเยา #thaitimes
    GISTDA เผยภาพดาวเทียม น้ำท่วม "เชียงราย-พะเยา" ท่วมไปแล้วกว่า 1 แสนไร่ โดยพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ทางการเกษตร หนักสุด ระดับน้ำมีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1-1.5 เมตร ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #น้ำท่วมเชียงรายพะเยา #thaitimes
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 776 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 4 ล้านบาท เร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด และช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จังหวัด พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันเพื่อประเมินการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
    .
    ระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยนางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน สุโขทัย และแพร่ รวม 5 จังหวัด เครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 8,500 ชุด นอกจากนี้ยังได้ มอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 9 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการช่วยเหลือทั้งสิ้น 4,005,000 บาท (สี่ล้านห้าพันบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายมูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี
    .
    นอกจากนี้ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ แผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา คัดกรองเบาหวาน ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย แพร่ และน่าน โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก
    .
    เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์
    .
    ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการภารกิจในพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป
    .
    ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 4 ล้านบาท เร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด และช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จังหวัด พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันเพื่อประเมินการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด . ระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยนางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน สุโขทัย และแพร่ รวม 5 จังหวัด เครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 8,500 ชุด นอกจากนี้ยังได้ มอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 9 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการช่วยเหลือทั้งสิ้น 4,005,000 บาท (สี่ล้านห้าพันบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายมูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี . นอกจากนี้ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ แผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา คัดกรองเบาหวาน ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย แพร่ และน่าน โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก . เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ . ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการภารกิจในพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป . ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,508
    วันพฤหัสบดี: ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๗ (5 September 2024)

    สร้างกุฏิสงฆ์ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท
    01. วัดป่าสัก อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
    02. วัดท่าทรุด อ.เมือง จ.พิษณุโลก
    03. วัดโพธาราม อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
    04. วัดสันผักแค อ.พาน จ.เชียงราย
    05. วัดหน้าพระเมรุราชิการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    06. วัดสุชน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
    07. วัดสว่างอารมณ์ อ.แม่สอด จ.ตาก
    08. วัดโคกพิกุลเรียง อ.เมือง จ.ราชบุรี
    09. วัดหุบกระทิง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
    10. สำนักสงฆ์ป่าพุทธธรรม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๖๐ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,508 วันพฤหัสบดี: ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๗ (5 September 2024) สร้างกุฏิสงฆ์ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท 01. วัดป่าสัก อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก 02. วัดท่าทรุด อ.เมือง จ.พิษณุโลก 03. วัดโพธาราม อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช 04. วัดสันผักแค อ.พาน จ.เชียงราย 05. วัดหน้าพระเมรุราชิการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา 06. วัดสุชน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 07. วัดสว่างอารมณ์ อ.แม่สอด จ.ตาก 08. วัดโคกพิกุลเรียง อ.เมือง จ.ราชบุรี 09. วัดหุบกระทิง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี 10. สำนักสงฆ์ป่าพุทธธรรม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๖๐ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พ่อเป็นน้ำ แม่เป็นป่า"
    ประพันธ์คำร้อง-ทำนองโดย​ โอฬาร เนตรหาญ
    เรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา,
    ขับร้องโดย หม่อมหลวงวันรัชดา วรวุฒิ
    ศิลปินรับเชิญ ผศ.ดร.สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์ (ปกาเกอะญอ) - พิณเตหน่า
    .
    ตัวแทนชาวไทยภูเขาจากหกชนเผ่าร่วมขับร้อง ประกอบด้วย..
    .
    คุณเล็ก นารี ภักดีคีรี (อาข่า)
    น้องนิว ยุพา ตามิ (ลีซอ)
    น้องชาติ สว่างชาติ แซ่ย่าง (ม้ง)
    ศาสนาจารย์ กินุ เฉิมเลี่ยมทอง (ปกาเกอะญอ)
    น้องก้อย ปรียา อินต๊ะ (ลาหู่)
    คุณแม่เหมยจ้อย แซ่เติ้น (อิ้วเมี่ยน)
    ==========================
    .
    โอกาสนี้ขอถวายพระพรชัยมงคล
    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานตลอดกาลตลอดไป
    .
    -=== ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ===-
    ปวงข้าพระพุทธเจ้าคณะทำงานโครงการ
    ==========================
    .
    โครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี
    .
    สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ • สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส • สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับคณะทำงานจิตอาสาอันประกอบด้วยคณะนักแต่งเพลงนำโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรีปี ๒๕๖๐ คณะศิลปินนักร้องที่เคยถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ ศิลปินสาขาทัศนศิลป์และคณะบุคคลผู้มีความจงรักภักดี ได้ริเริ่มร่วมมือกันจัดทำโครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายใต้ชื่อโครงการว่า “คีตามาลัย เทิดไท้พระพันปี” โดยมีจุดประสงค์เพื่อเผยแผ่เรื่องราวพระราชกรณียกิจอันน่าประทับใจและทรงคุณูปการต่ออาณาประชาราษฎร์ชาวไทยและแผ่นดินไทยมาเป็นเวลายาวนาน ผ่านทางบทเพลงที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษจำนวนทั้งสิ้น ๑๐ เพลง อีกทั้งยังเป็นการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านเนื่องในวาระอันเป็นมหาศุภมงคลทรงมีพระชนมพรรษาครบ ๙๐ พรรษาในปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ ที่ผ่านไปอีกด้วย
    .
    คณะทำงานโครงการประกอบด้วย
    .
    = ผู้สนับสนุนโครงการหลัก =
    สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
    สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
    สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม
    .
    = ที่ปรึกษาโครงการ =
    นาตยา นันทวนิช
    ณัฐจารวี ธันยวานิชย์กุล
    สมศักดิ์ ตรีเทพวิจิตร
    ปิยฉัตร เตชะสุนทโรวาท
    สมยศ เกียรติอร่ามกุล
    ประสพ เรียงเงิน
    พ.ต.ต.สุทศธวรรศ อารีย์รัตนะนคร
    กฤษณะ บุญญภัทโร
    นายแพทย์อานนท์ โชติรสนิรมิต
    ดร.ชัยภัฏ จันทร์วิไล
    .
    = ผู้สนับสนุนห้องบันทึกเสียง =
    คณิต พฤกษ์พระกานต์ (ห้องบันทึกเสียงบัตเตอร์ฟลาย สตูดิโอ - กรุงเทพ)
    วีระ วัฒนะจันทรกุล (ห้องบันทึกเสียงคอน โมโต้ สตูดิโอ - เชียงใหม่)
    รัฐกรณ์ โกมล (ห้องบันทึกเสียงสายน้ำตัวโน๊ต สตูดิโอ - กรุงเทพ)
    จรินพร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ห้องบันทึกเสียงฮัมมิ่ง เฮ้าส์ สตูดิโอ - กรุงเทพ)
    .
    ภาพปกพระฉายาสาทิสลักษณ์ วาดโดยศิลปินอาสา : นิติกร กรัยวิเชียร
    โปสการ์ดภาพพระฉายาสาทิสลักษณ์ จำนวน ๑๐ ภาพ วาดโดยศิลปินอาสา : สุวิทย์ ใจป้อม
    ปกข้อมูลด้านในภาพพระฉายาสาทิสลักษณ์ วาดโดยศิลปินอาสา : ปันนรัตน์ บวรภัคพาณิช
    .
    = ผู้อำนวยการผลิต =
    พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส
    .
    = ประสานงานโครงการและสื่อประชาสัมพันธ์ =
    พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า
    อนุรักษ์ ภูมิทรัพย์
    .
    มิวสิคไดเร็คเตอร์ : พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
    โปรดิวเซอร์ : รัฐกรณ์ โกมล และ ชาตรี ทับละม่อม
    บันทึกเสียง : เกรียงไกร กุศลจริยากูล และ รัฐกรณ์ โกมล
    มิกซ์เสียง : พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ รัฐกรณ์ โกมล
    ประสานงานการผลิต : โอฬาร เนตรหาญ เสนีย์ สอนเย็น และ กฤตภาส สุภาพ
    .
    ==========================
    .
    ขอบพระคุณ
    คุณเอ วีระ วัฒนจันทรกุล ห้องบันทึกเสียง Con Moto เชียงใหม่
    เอื้อเฟื้อห้องบันทึกเสียง
    โอฬาร เนตรหาญ เอื้อเฟื้อสถานที่พัก "เรียวกัง" เชียงราย
    ชาตรี ทับละม่อม เอื้อเฟื้อสถานที่พัก เชียงใหม่
    คุณแมว ช่วยประสานงานพี่น้องชนเผ่า
    ไหนควร แซ่ว่าง ล่ามแปลภาษา
    .
    "พ่อเป็นน้ำ แม่เป็นป่า" ประพันธ์คำร้อง-ทำนองโดย​ โอฬาร เนตรหาญ เรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา, ขับร้องโดย หม่อมหลวงวันรัชดา วรวุฒิ ศิลปินรับเชิญ ผศ.ดร.สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์ (ปกาเกอะญอ) - พิณเตหน่า . ตัวแทนชาวไทยภูเขาจากหกชนเผ่าร่วมขับร้อง ประกอบด้วย.. . คุณเล็ก นารี ภักดีคีรี (อาข่า) น้องนิว ยุพา ตามิ (ลีซอ) น้องชาติ สว่างชาติ แซ่ย่าง (ม้ง) ศาสนาจารย์ กินุ เฉิมเลี่ยมทอง (ปกาเกอะญอ) น้องก้อย ปรียา อินต๊ะ (ลาหู่) คุณแม่เหมยจ้อย แซ่เติ้น (อิ้วเมี่ยน) ========================== . โอกาสนี้ขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานตลอดกาลตลอดไป . -=== ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ===- ปวงข้าพระพุทธเจ้าคณะทำงานโครงการ ========================== . โครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี . สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ • สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส • สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับคณะทำงานจิตอาสาอันประกอบด้วยคณะนักแต่งเพลงนำโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรีปี ๒๕๖๐ คณะศิลปินนักร้องที่เคยถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ ศิลปินสาขาทัศนศิลป์และคณะบุคคลผู้มีความจงรักภักดี ได้ริเริ่มร่วมมือกันจัดทำโครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายใต้ชื่อโครงการว่า “คีตามาลัย เทิดไท้พระพันปี” โดยมีจุดประสงค์เพื่อเผยแผ่เรื่องราวพระราชกรณียกิจอันน่าประทับใจและทรงคุณูปการต่ออาณาประชาราษฎร์ชาวไทยและแผ่นดินไทยมาเป็นเวลายาวนาน ผ่านทางบทเพลงที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษจำนวนทั้งสิ้น ๑๐ เพลง อีกทั้งยังเป็นการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านเนื่องในวาระอันเป็นมหาศุภมงคลทรงมีพระชนมพรรษาครบ ๙๐ พรรษาในปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ ที่ผ่านไปอีกด้วย . คณะทำงานโครงการประกอบด้วย . = ผู้สนับสนุนโครงการหลัก = สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม . = ที่ปรึกษาโครงการ = นาตยา นันทวนิช ณัฐจารวี ธันยวานิชย์กุล สมศักดิ์ ตรีเทพวิจิตร ปิยฉัตร เตชะสุนทโรวาท สมยศ เกียรติอร่ามกุล ประสพ เรียงเงิน พ.ต.ต.สุทศธวรรศ อารีย์รัตนะนคร กฤษณะ บุญญภัทโร นายแพทย์อานนท์ โชติรสนิรมิต ดร.ชัยภัฏ จันทร์วิไล . = ผู้สนับสนุนห้องบันทึกเสียง = คณิต พฤกษ์พระกานต์ (ห้องบันทึกเสียงบัตเตอร์ฟลาย สตูดิโอ - กรุงเทพ) วีระ วัฒนะจันทรกุล (ห้องบันทึกเสียงคอน โมโต้ สตูดิโอ - เชียงใหม่) รัฐกรณ์ โกมล (ห้องบันทึกเสียงสายน้ำตัวโน๊ต สตูดิโอ - กรุงเทพ) จรินพร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ห้องบันทึกเสียงฮัมมิ่ง เฮ้าส์ สตูดิโอ - กรุงเทพ) . ภาพปกพระฉายาสาทิสลักษณ์ วาดโดยศิลปินอาสา : นิติกร กรัยวิเชียร โปสการ์ดภาพพระฉายาสาทิสลักษณ์ จำนวน ๑๐ ภาพ วาดโดยศิลปินอาสา : สุวิทย์ ใจป้อม ปกข้อมูลด้านในภาพพระฉายาสาทิสลักษณ์ วาดโดยศิลปินอาสา : ปันนรัตน์ บวรภัคพาณิช . = ผู้อำนวยการผลิต = พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส . = ประสานงานโครงการและสื่อประชาสัมพันธ์ = พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า อนุรักษ์ ภูมิทรัพย์ . มิวสิคไดเร็คเตอร์ : พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา โปรดิวเซอร์ : รัฐกรณ์ โกมล และ ชาตรี ทับละม่อม บันทึกเสียง : เกรียงไกร กุศลจริยากูล และ รัฐกรณ์ โกมล มิกซ์เสียง : พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ รัฐกรณ์ โกมล ประสานงานการผลิต : โอฬาร เนตรหาญ เสนีย์ สอนเย็น และ กฤตภาส สุภาพ . ========================== . ขอบพระคุณ คุณเอ วีระ วัฒนจันทรกุล ห้องบันทึกเสียง Con Moto เชียงใหม่ เอื้อเฟื้อห้องบันทึกเสียง โอฬาร เนตรหาญ เอื้อเฟื้อสถานที่พัก "เรียวกัง" เชียงราย ชาตรี ทับละม่อม เอื้อเฟื้อสถานที่พัก เชียงใหม่ คุณแมว ช่วยประสานงานพี่น้องชนเผ่า ไหนควร แซ่ว่าง ล่ามแปลภาษา .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 385 มุมมอง 39 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,507
    วันพุธ: ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๗ (4 September 2024)

    บูรณะปฏิสังขรณ์ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท
    01. วัดอัมพวัน อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี
    (บูรณะศาลาการเปรียญ)
    02. วัดหงษ์ทอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
    (บูรณะศาลาการเปรียญ)
    03. วัดไทรทอง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ
    (บูรณะศาลาการเปรียญ)
    04. วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    (บูรณะพระเจดีย์)
    05. วัดสันธาตุ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
    (บูรณะพระธาตุศรีมงคลโยนก)
    06. วัดเขาวงพระจันทร์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
    (บูรณะมณฑปรอยพระพุทธบาท)
    07. วัดมะสง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
    (บูรณะเมรุ)
    08. วัดโสมนัส อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
    (บูรณะกุฏิสงฆ์)
    09. วัดอินทาราม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
    (บูรณะพื้นรอบอุโบสถ)
    10. วัดสุภาพัฒนาราม อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี
    (ปูกระเบื้องรอบพระอุโบสถ)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๖๑ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,507 วันพุธ: ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๗ (4 September 2024) บูรณะปฏิสังขรณ์ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท 01. วัดอัมพวัน อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี (บูรณะศาลาการเปรียญ) 02. วัดหงษ์ทอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา (บูรณะศาลาการเปรียญ) 03. วัดไทรทอง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ (บูรณะศาลาการเปรียญ) 04. วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ (บูรณะพระเจดีย์) 05. วัดสันธาตุ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย (บูรณะพระธาตุศรีมงคลโยนก) 06. วัดเขาวงพระจันทร์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี (บูรณะมณฑปรอยพระพุทธบาท) 07. วัดมะสง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี (บูรณะเมรุ) 08. วัดโสมนัส อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ (บูรณะกุฏิสงฆ์) 09. วัดอินทาราม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม (บูรณะพื้นรอบอุโบสถ) 10. วัดสุภาพัฒนาราม อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี (ปูกระเบื้องรอบพระอุโบสถ) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๖๑ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่งกำลังใจแด่ทหารหาญทุกหมู่เหล่า
    ที่ช่วยเหลือเราชาวไทยในทุกสถานการณ์
    เพลง เรารักทหารไทย
    Shaw Sherry Duck (ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก)
    เรียบเรียง​ อ.สุ​พิษ​ เล็บ​ขาว​&เฮียช​อว์​
    ขอขอบคุณ
    คลิปภาพจากสื่อทุกคลิป
    #เรารักทหารไทย #คนไทยไม่ทิ้งกัน
    #น้ำท่วม2567 #เชียงราย #น่าน #พะเยา #แพร่ #สุโขทัย #เชียงใหม่ #อุตรดิตถ์ #ภูเก็ต#กำลังใจ #shawsherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก
    ส่งกำลังใจแด่ทหารหาญทุกหมู่เหล่า ที่ช่วยเหลือเราชาวไทยในทุกสถานการณ์ เพลง เรารักทหารไทย Shaw Sherry Duck (ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก) เรียบเรียง​ อ.สุ​พิษ​ เล็บ​ขาว​&เฮียช​อว์​ ขอขอบคุณ คลิปภาพจากสื่อทุกคลิป #เรารักทหารไทย #คนไทยไม่ทิ้งกัน #น้ำท่วม2567 #เชียงราย #น่าน #พะเยา #แพร่ #สุโขทัย #เชียงใหม่ #อุตรดิตถ์ #ภูเก็ต​ #กำลังใจ #shawsherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 48 0 รีวิว
  • ถ้าไม่ลำบากกันเกินไป ซื้อหม้อหุ้งข้าวใหม่กันดีไหมครับ
    แล้วห้องหุ้งข้าวเดิมที่ใช้อยู่ บริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    ปิยะชีพ วัชโรบล (อ.หนุ่ย)
    โครงการที่เก็บเมล็ดพันธุ์พืชใต้ดิน
    ๒๔๔ หมู่ ๙ บ้านแสนสุข ตำบลศรีค้ำ
    อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ๕๗๑๑๐
    โทรศัพท์ ๐๙๖๖๐๓๐๙๖๑

    ทำบุญหมัอหุ้งข้าว กุศลส่งทุกครั้งที่เขาใช้ประโยชน์หุ้งข้าวกิน
    เราอาจไปจุติก่อนหม้อใช้งานไม่ได้ บุญก็ส่งข้ามภพภูมิต่อได้นะครับ
    ถ้าไม่ลำบากกันเกินไป ซื้อหม้อหุ้งข้าวใหม่กันดีไหมครับ แล้วห้องหุ้งข้าวเดิมที่ใช้อยู่ บริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ปิยะชีพ วัชโรบล (อ.หนุ่ย) โครงการที่เก็บเมล็ดพันธุ์พืชใต้ดิน ๒๔๔ หมู่ ๙ บ้านแสนสุข ตำบลศรีค้ำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ๕๗๑๑๐ โทรศัพท์ ๐๙๖๖๐๓๐๙๖๑ ทำบุญหมัอหุ้งข้าว กุศลส่งทุกครั้งที่เขาใช้ประโยชน์หุ้งข้าวกิน เราอาจไปจุติก่อนหม้อใช้งานไม่ได้ บุญก็ส่งข้ามภพภูมิต่อได้นะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่งความห่วงใยและกำลังใจ
    ด้วยรักและแบ่งปันครับชาวไทยที่เคารพรัก
    เพลง เราต้องช่วยกัน
    Shaw Sherry Duck (ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก)
    เรียบเรียง​ อ.สุพิษ​ เล็บขาว​&เฮียชอว์
    ขอขอบคุณ
    คลิปภาพจากสื่อทุกคลิป
    #เราต้องช่วยกัน #คนไทยไม่ทิ้งกัน
    #น้ำท่วม2567 #เชียงราย #น่าน #พะเยา #แพร่ #สุโขทัย#ภูเก็ต#กำลังใจ #shawsherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก
    ส่งความห่วงใยและกำลังใจ ด้วยรักและแบ่งปันครับชาวไทยที่เคารพรัก เพลง เราต้องช่วยกัน Shaw Sherry Duck (ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก) เรียบเรียง​ อ.สุพิษ​ เล็บขาว​&เฮียชอว์ ขอขอบคุณ คลิปภาพจากสื่อทุกคลิป #เราต้องช่วยกัน #คนไทยไม่ทิ้งกัน #น้ำท่วม2567 #เชียงราย #น่าน #พะเยา #แพร่ #สุโขทัย​ #ภูเก็ต​ #กำลังใจ #shawsherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 62 0 รีวิว
Pages Boosts