• Hashcards: เครื่องมือทบทวนความรู้แบบเรียบง่าย

    บทความจาก borretti.me แนะนำ Hashcards ซึ่งเป็นระบบ Spaced Repetition ที่ใช้ไฟล์ Plain Text ในการจัดเก็บข้อมูลการ์ดคำถาม-คำตอบ ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและแก้ไขได้ง่ายโดยไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมซับซ้อนหรือฐานข้อมูลปิด การออกแบบนี้ช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องมือใดก็ได้ที่รองรับข้อความธรรมดา เช่น Git หรือโปรแกรมแก้ไขข้อความทั่วไป

    จุดเด่นของ Hashcards
    Hashcards ถูกออกแบบมาเพื่อความโปร่งใสและความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถดูและแก้ไขข้อมูลการ์ดได้โดยตรง ไม่ต้องกังวลเรื่องการล็อกอินหรือการผูกติดกับแพลตฟอร์มใดๆ อีกทั้งยังสามารถซิงก์ไฟล์กับระบบควบคุมเวอร์ชัน เช่น Git เพื่อเก็บประวัติการเรียนรู้และแชร์กับผู้อื่นได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการใช้ อัลกอริทึม Spaced Repetition ที่ช่วยให้การทบทวนมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเน้นการทบทวนในช่วงเวลาที่เหมาะสม

    หลักการสำคัญของ Spaced Repetition
    Spacing Effect: งานวิจัยด้านจิตวิทยาพบว่า การทบทวนข้อมูลแบบเว้นระยะ (เช่น 1 วัน, 3 วัน, 1 สัปดาห์) จะช่วยให้สมองจดจำได้ดีกว่าการท่องจำติดกันในช่วงสั้นๆ
    Active Recall: การดึงข้อมูลออกมาใช้จริง เช่น การตอบคำถามหรือทำแฟลชการ์ด จะช่วยให้สมองสร้างการเชื่อมโยงที่แข็งแรงกว่าการอ่านซ้ำเฉยๆ
    Feedback: แอปมักให้ผลตอบกลับทันทีว่าคุณจำถูกหรือผิด ซึ่งช่วยปรับการเรียนรู้ให้แม่นยำขึ้น
    Prioritization: เน้นทบทวนสิ่งที่จำยากบ่อยกว่า ส่วนสิ่งที่จำได้แล้วจะถูกเลื่อนออกไปทบทวนห่างขึ้น

    ความแตกต่างจากระบบปิด
    ต่างจากแอป Spaced Repetition ที่นิยมอย่าง Anki หรือ Quizlet ซึ่งมักใช้ฐานข้อมูลเฉพาะและมีข้อจำกัดในการเข้าถึง Hashcards เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียข้อมูลหากแพลตฟอร์มปิดตัวลง อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบการเรียนรู้ได้ตามความต้องการ โดยไม่ถูกจำกัดด้วย UI หรือฟีเจอร์ที่ตายตัว

    ผลกระทบต่อการเรียนรู้และชุมชน
    Hashcards เป็นตัวอย่างของการนำแนวคิดโอเพ่นซอร์สมาประยุกต์ใช้กับการศึกษา ทำให้ผู้เรียนสามารถสร้างระบบทบทวนที่เหมาะกับตนเองได้จริง และยังเปิดโอกาสให้ชุมชนร่วมกันพัฒนา ปรับปรุง หรือแชร์ชุดการ์ดความรู้ได้อย่างอิสระ ถือเป็นการคืนอำนาจการเรียนรู้ให้กับผู้ใช้โดยตรง

    สรุปสาระสำคัญ
    คุณสมบัติของ Hashcards
    ใช้ Plain Text ในการจัดเก็บข้อมูล
    รองรับการซิงก์กับ Git และเครื่องมือทั่วไป

    ข้อดีของระบบ
    โปร่งใสและยืดหยุ่น
    ไม่ผูกติดกับแพลตฟอร์มใดๆ
    ใช้อัลกอริทึม Spaced Repetition เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้

    ข้อควรระวัง
    ต้องการความเข้าใจพื้นฐานด้านการจัดการไฟล์และข้อความ
    อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ UI สำเร็จรูปและใช้งานง่ายทันที

    https://borretti.me/article/hashcards-plain-text-spaced-repetition
    📝 Hashcards: เครื่องมือทบทวนความรู้แบบเรียบง่าย บทความจาก borretti.me แนะนำ Hashcards ซึ่งเป็นระบบ Spaced Repetition ที่ใช้ไฟล์ Plain Text ในการจัดเก็บข้อมูลการ์ดคำถาม-คำตอบ ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและแก้ไขได้ง่ายโดยไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมซับซ้อนหรือฐานข้อมูลปิด การออกแบบนี้ช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องมือใดก็ได้ที่รองรับข้อความธรรมดา เช่น Git หรือโปรแกรมแก้ไขข้อความทั่วไป ⚡ จุดเด่นของ Hashcards Hashcards ถูกออกแบบมาเพื่อความโปร่งใสและความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถดูและแก้ไขข้อมูลการ์ดได้โดยตรง ไม่ต้องกังวลเรื่องการล็อกอินหรือการผูกติดกับแพลตฟอร์มใดๆ อีกทั้งยังสามารถซิงก์ไฟล์กับระบบควบคุมเวอร์ชัน เช่น Git เพื่อเก็บประวัติการเรียนรู้และแชร์กับผู้อื่นได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการใช้ อัลกอริทึม Spaced Repetition ที่ช่วยให้การทบทวนมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเน้นการทบทวนในช่วงเวลาที่เหมาะสม 🧠 หลักการสำคัญของ Spaced Repetition 💠 Spacing Effect: งานวิจัยด้านจิตวิทยาพบว่า การทบทวนข้อมูลแบบเว้นระยะ (เช่น 1 วัน, 3 วัน, 1 สัปดาห์) จะช่วยให้สมองจดจำได้ดีกว่าการท่องจำติดกันในช่วงสั้นๆ 💠 Active Recall: การดึงข้อมูลออกมาใช้จริง เช่น การตอบคำถามหรือทำแฟลชการ์ด จะช่วยให้สมองสร้างการเชื่อมโยงที่แข็งแรงกว่าการอ่านซ้ำเฉยๆ 💠 Feedback: แอปมักให้ผลตอบกลับทันทีว่าคุณจำถูกหรือผิด ซึ่งช่วยปรับการเรียนรู้ให้แม่นยำขึ้น 💠 Prioritization: เน้นทบทวนสิ่งที่จำยากบ่อยกว่า ส่วนสิ่งที่จำได้แล้วจะถูกเลื่อนออกไปทบทวนห่างขึ้น 🔒 ความแตกต่างจากระบบปิด ต่างจากแอป Spaced Repetition ที่นิยมอย่าง Anki หรือ Quizlet ซึ่งมักใช้ฐานข้อมูลเฉพาะและมีข้อจำกัดในการเข้าถึง Hashcards เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียข้อมูลหากแพลตฟอร์มปิดตัวลง อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบการเรียนรู้ได้ตามความต้องการ โดยไม่ถูกจำกัดด้วย UI หรือฟีเจอร์ที่ตายตัว 🌍 ผลกระทบต่อการเรียนรู้และชุมชน Hashcards เป็นตัวอย่างของการนำแนวคิดโอเพ่นซอร์สมาประยุกต์ใช้กับการศึกษา ทำให้ผู้เรียนสามารถสร้างระบบทบทวนที่เหมาะกับตนเองได้จริง และยังเปิดโอกาสให้ชุมชนร่วมกันพัฒนา ปรับปรุง หรือแชร์ชุดการ์ดความรู้ได้อย่างอิสระ ถือเป็นการคืนอำนาจการเรียนรู้ให้กับผู้ใช้โดยตรง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ คุณสมบัติของ Hashcards ➡️ ใช้ Plain Text ในการจัดเก็บข้อมูล ➡️ รองรับการซิงก์กับ Git และเครื่องมือทั่วไป ✅ ข้อดีของระบบ ➡️ โปร่งใสและยืดหยุ่น ➡️ ไม่ผูกติดกับแพลตฟอร์มใดๆ ➡️ ใช้อัลกอริทึม Spaced Repetition เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ต้องการความเข้าใจพื้นฐานด้านการจัดการไฟล์และข้อความ ⛔ อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ UI สำเร็จรูปและใช้งานง่ายทันที https://borretti.me/article/hashcards-plain-text-spaced-repetition
    BORRETTI.ME
    Hashcards: A Plain-Text Spaced Repetition System
    Announcing my latest open-source project.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเขียนที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็น AI

    Marcus Olang’ เล่าว่าเขาเคยได้รับคำวิจารณ์ว่างานเขียนของเขา “เหมือน ChatGPT” และถูกขอให้ปรับให้มี “ความเป็นมนุษย์มากขึ้น” ทั้งที่จริงแล้วสไตล์การเขียนนั้นเป็นผลจากการฝึกฝนในระบบการศึกษาเคนยา ที่เน้นความเป็นทางการและโครงสร้างที่ชัดเจน เขาชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ถูกตีความว่าเป็น “ลายเซ็นของ AI” แท้จริงแล้วคือผลผลิตจากการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในห้องเรียนเคนยา

    รากฐานจากระบบการศึกษาและมรดกอาณานิคม
    เขาอธิบายว่าในโรงเรียนเคนยา การสอบเขียนเรียงความเป็นเหมือนพิธีกรรมสำคัญ นักเรียนถูกฝึกให้ใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย โครงสร้างประโยคที่ซับซ้อน และการเชื่อมโยงที่เป็นระบบ สิ่งเหล่านี้สืบทอดมาจากการเรียนภาษาอังกฤษแบบ “Queen’s English” ที่ได้รับจากยุคอาณานิคมอังกฤษ ซึ่งถูกใช้เป็นเครื่องมือแสดงความมีการศึกษาและสถานะทางสังคม

    ความขัดแย้งกับเครื่องตรวจจับ AI
    Marcus ชี้ให้เห็นว่าเครื่องตรวจจับ AI มักใช้เกณฑ์ “perplexity” และ “burstiness” เพื่อตัดสินว่างานเขียนเป็นของมนุษย์หรือไม่ แต่ระบบการศึกษาเคนยากลับสอนให้นักเรียนเขียนอย่างมีตรรกะและคงเส้นคงวา ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่เครื่องตรวจจับมองว่าเป็น “มนุษย์” ผลคือ งานเขียนของผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาอังกฤษโดยกำเนิด มักถูกตีความผิดว่าเป็นงานของ AI

    มุมมองต่อความเป็นมนุษย์ในงานเขียน
    เขาสรุปว่า การเขียนของเขาไม่ใช่ผลผลิตจากเครื่องจักร แต่เป็นผลจากประวัติศาสตร์ การศึกษา และความพยายามของมนุษย์ หากโลกยังใช้มาตรฐานที่แคบในการตัดสินว่าอะไรคือ “มนุษย์” ก็จะเป็นการกีดกันนักเขียนจากภูมิภาคอื่นที่มีรูปแบบการเขียนแตกต่างออกไป

    สรุปสาระสำคัญ
    ประสบการณ์ของ Marcus Olang’
    งานเขียนถูกเข้าใจผิดว่าเป็น AI เพราะมีโครงสร้างเป็นทางการและสมบูรณ์แบบ

    ระบบการศึกษาเคนยา
    เน้นการใช้คำศัพท์หลากหลายและโครงสร้างเรียงความที่เข้มงวด
    สืบทอดจากภาษาอังกฤษยุคอาณานิคม

    ปัญหาจากเครื่องตรวจจับ AI
    ใช้เกณฑ์ที่ไม่สอดคล้องกับรูปแบบการเขียนของผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา
    เสี่ยงต่อการตีความผิดและลดคุณค่าของงานเขียนมนุษย์

    ข้อคิดสำคัญ
    งานเขียนที่ถูกมองว่า “เหมือน AI” อาจสะท้อนถึงวัฒนธรรมและการศึกษา
    ความเป็นมนุษย์ในงานเขียนควรถูกมองอย่างหลากหลาย ไม่ใช่จำกัดแค่สไตล์เดียว

    https://marcusolang.substack.com/p/im-kenyan-i-dont-write-like-chatgpt
    ✍️ การเขียนที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็น AI Marcus Olang’ เล่าว่าเขาเคยได้รับคำวิจารณ์ว่างานเขียนของเขา “เหมือน ChatGPT” และถูกขอให้ปรับให้มี “ความเป็นมนุษย์มากขึ้น” ทั้งที่จริงแล้วสไตล์การเขียนนั้นเป็นผลจากการฝึกฝนในระบบการศึกษาเคนยา ที่เน้นความเป็นทางการและโครงสร้างที่ชัดเจน เขาชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ถูกตีความว่าเป็น “ลายเซ็นของ AI” แท้จริงแล้วคือผลผลิตจากการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในห้องเรียนเคนยา 📚 รากฐานจากระบบการศึกษาและมรดกอาณานิคม เขาอธิบายว่าในโรงเรียนเคนยา การสอบเขียนเรียงความเป็นเหมือนพิธีกรรมสำคัญ นักเรียนถูกฝึกให้ใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย โครงสร้างประโยคที่ซับซ้อน และการเชื่อมโยงที่เป็นระบบ สิ่งเหล่านี้สืบทอดมาจากการเรียนภาษาอังกฤษแบบ “Queen’s English” ที่ได้รับจากยุคอาณานิคมอังกฤษ ซึ่งถูกใช้เป็นเครื่องมือแสดงความมีการศึกษาและสถานะทางสังคม 🤖 ความขัดแย้งกับเครื่องตรวจจับ AI Marcus ชี้ให้เห็นว่าเครื่องตรวจจับ AI มักใช้เกณฑ์ “perplexity” และ “burstiness” เพื่อตัดสินว่างานเขียนเป็นของมนุษย์หรือไม่ แต่ระบบการศึกษาเคนยากลับสอนให้นักเรียนเขียนอย่างมีตรรกะและคงเส้นคงวา ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่เครื่องตรวจจับมองว่าเป็น “มนุษย์” ผลคือ งานเขียนของผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาอังกฤษโดยกำเนิด มักถูกตีความผิดว่าเป็นงานของ AI 🌍 มุมมองต่อความเป็นมนุษย์ในงานเขียน เขาสรุปว่า การเขียนของเขาไม่ใช่ผลผลิตจากเครื่องจักร แต่เป็นผลจากประวัติศาสตร์ การศึกษา และความพยายามของมนุษย์ หากโลกยังใช้มาตรฐานที่แคบในการตัดสินว่าอะไรคือ “มนุษย์” ก็จะเป็นการกีดกันนักเขียนจากภูมิภาคอื่นที่มีรูปแบบการเขียนแตกต่างออกไป 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ประสบการณ์ของ Marcus Olang’ ➡️ งานเขียนถูกเข้าใจผิดว่าเป็น AI เพราะมีโครงสร้างเป็นทางการและสมบูรณ์แบบ ✅ ระบบการศึกษาเคนยา ➡️ เน้นการใช้คำศัพท์หลากหลายและโครงสร้างเรียงความที่เข้มงวด ➡️ สืบทอดจากภาษาอังกฤษยุคอาณานิคม ‼️ ปัญหาจากเครื่องตรวจจับ AI ⛔ ใช้เกณฑ์ที่ไม่สอดคล้องกับรูปแบบการเขียนของผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา ⛔ เสี่ยงต่อการตีความผิดและลดคุณค่าของงานเขียนมนุษย์ ✅ ข้อคิดสำคัญ ➡️ งานเขียนที่ถูกมองว่า “เหมือน AI” อาจสะท้อนถึงวัฒนธรรมและการศึกษา ➡️ ความเป็นมนุษย์ในงานเขียนควรถูกมองอย่างหลากหลาย ไม่ใช่จำกัดแค่สไตล์เดียว https://marcusolang.substack.com/p/im-kenyan-i-dont-write-like-chatgpt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรั่วไหลครั้งใหญ่ของฐานข้อมูล MongoDB

    นักวิจัยด้านความปลอดภัย Bob Diachenko ร่วมกับทีมจาก nexos.ai ได้ค้นพบฐานข้อมูล MongoDB ที่ไม่ได้รับการป้องกันเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2025 ฐานข้อมูลนี้มีขนาดมหึมา 16TB และบรรจุข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด ซึ่งรวมถึงชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ประวัติการทำงาน การศึกษา และลิงก์ไปยังโปรไฟล์ LinkedIn ของผู้ใช้จำนวนมหาศาล

    แม้เจ้าของฐานข้อมูลจะรีบปิดการเข้าถึงภายในสองวันหลังถูกแจ้งเตือน แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครได้เข้าถึงข้อมูลไปแล้วบ้าง ข้อมูลที่รั่วไหลถูกแบ่งออกเป็น 9 คอลเลกชัน เช่น “profiles”, “people” และ “unique_profiles” โดยเฉพาะคอลเลกชัน “unique_profiles” ที่มีมากกว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ

    ความเสี่ยงและผลกระทบ
    นักวิจัย Cybernews ระบุว่าข้อมูลที่รั่วไหลนี้มีโครงสร้างชัดเจนและละเอียดมาก จึงเป็น ขุมทองสำหรับอาชญากรไซเบอร์ เพราะสามารถนำไปใช้สร้างฐานข้อมูลค้นหาเพื่อทำการโจมตีแบบเจาะจง เช่น ฟิชชิ่ง (Phishing) หรือ CEO Fraud ที่เลียนแบบผู้บริหารเพื่อหลอกให้พนักงานโอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ

    นอกจากนี้ยังพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจถูกเก็บมาจากการ Scraping หรือการดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมถึงการรั่วไหลก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2021 ทำให้ยากต่อการระบุเจ้าของที่แท้จริงของฐานข้อมูล แต่มีหลักฐานบางอย่างชี้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับบริษัทด้าน Lead Generation ที่ทำธุรกิจหาลูกค้าให้กับองค์กรต่างๆ

    วิธีป้องกันสำหรับผู้ใช้
    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้ ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน พร้อมเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่ออุดช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี การรั่วไหลครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่เราฝากไว้กับแพลตฟอร์มออนไลน์อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ทุกเมื่อ

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบฐานข้อมูลรั่วไหล
    ขนาด 16TB มีข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด
    รวมชื่อ อีเมล เบอร์โทร ประวัติการทำงาน และ LinkedIn

    รายละเอียดคอลเลกชันข้อมูล
    “profiles” กว่า 1.1 พันล้านเรคคอร์ด
    “unique_profiles” กว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ

    ความเสี่ยงจากการรั่วไหล
    อาชญากรสามารถใช้ข้อมูลทำฟิชชิ่งและ CEO Fraud
    ข้อมูลอาจถูก Scraping จากหลายแหล่ง ทำให้ระบุเจ้าของยาก

    คำแนะนำด้านความปลอดภัย
    ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน
    เปิดใช้งาน 2FA และอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ

    https://hackread.com/mongodb-database-expose-lead-gen-records/
    🔐 การรั่วไหลครั้งใหญ่ของฐานข้อมูล MongoDB นักวิจัยด้านความปลอดภัย Bob Diachenko ร่วมกับทีมจาก nexos.ai ได้ค้นพบฐานข้อมูล MongoDB ที่ไม่ได้รับการป้องกันเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2025 ฐานข้อมูลนี้มีขนาดมหึมา 16TB และบรรจุข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด ซึ่งรวมถึงชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ประวัติการทำงาน การศึกษา และลิงก์ไปยังโปรไฟล์ LinkedIn ของผู้ใช้จำนวนมหาศาล แม้เจ้าของฐานข้อมูลจะรีบปิดการเข้าถึงภายในสองวันหลังถูกแจ้งเตือน แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครได้เข้าถึงข้อมูลไปแล้วบ้าง ข้อมูลที่รั่วไหลถูกแบ่งออกเป็น 9 คอลเลกชัน เช่น “profiles”, “people” และ “unique_profiles” โดยเฉพาะคอลเลกชัน “unique_profiles” ที่มีมากกว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ ⚠️ ความเสี่ยงและผลกระทบ นักวิจัย Cybernews ระบุว่าข้อมูลที่รั่วไหลนี้มีโครงสร้างชัดเจนและละเอียดมาก จึงเป็น ขุมทองสำหรับอาชญากรไซเบอร์ เพราะสามารถนำไปใช้สร้างฐานข้อมูลค้นหาเพื่อทำการโจมตีแบบเจาะจง เช่น ฟิชชิ่ง (Phishing) หรือ CEO Fraud ที่เลียนแบบผู้บริหารเพื่อหลอกให้พนักงานโอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ นอกจากนี้ยังพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจถูกเก็บมาจากการ Scraping หรือการดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมถึงการรั่วไหลก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2021 ทำให้ยากต่อการระบุเจ้าของที่แท้จริงของฐานข้อมูล แต่มีหลักฐานบางอย่างชี้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับบริษัทด้าน Lead Generation ที่ทำธุรกิจหาลูกค้าให้กับองค์กรต่างๆ 🛡️ วิธีป้องกันสำหรับผู้ใช้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้ ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน พร้อมเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่ออุดช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี การรั่วไหลครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่เราฝากไว้กับแพลตฟอร์มออนไลน์อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ทุกเมื่อ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบฐานข้อมูลรั่วไหล ➡️ ขนาด 16TB มีข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด ➡️ รวมชื่อ อีเมล เบอร์โทร ประวัติการทำงาน และ LinkedIn ✅ รายละเอียดคอลเลกชันข้อมูล ➡️ “profiles” กว่า 1.1 พันล้านเรคคอร์ด ➡️ “unique_profiles” กว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ ‼️ ความเสี่ยงจากการรั่วไหล ⛔ อาชญากรสามารถใช้ข้อมูลทำฟิชชิ่งและ CEO Fraud ⛔ ข้อมูลอาจถูก Scraping จากหลายแหล่ง ทำให้ระบุเจ้าของยาก ‼️ คำแนะนำด้านความปลอดภัย ⛔ ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน ⛔ เปิดใช้งาน 2FA และอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ https://hackread.com/mongodb-database-expose-lead-gen-records/
    HACKREAD.COM
    16TB of MongoDB Database Exposes 4.3 Billion Lead Gen Records
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • The Gulf Conspiracy ศึกละแวก เดิมพันอธิปไตย : คนเคาะข่าว 15-12-68
    .
    เทปบันทึกงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 / 18 ตุลาคม 2568
    .
    ดำเนินรายการโดย ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที / ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=LPJHY0FBQnY
    The Gulf Conspiracy ศึกละแวก เดิมพันอธิปไตย : คนเคาะข่าว 15-12-68 . เทปบันทึกงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 / 18 ตุลาคม 2568 . ดำเนินรายการโดย ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที / ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ . https://www.youtube.com/watch?v=LPJHY0FBQnY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นำคณะลงพื้นที่หาดใหญ่ เยี่ยมประชาชน โรงเรียน และภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยหนัก ชี้สถานการณ์ “สุญญากาศทางการเมือง” อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟู หากการตัดสินใจล่าช้า
    อดีตนายกฯ เสนอให้รัฐบาลและ กกต. เร่งกระบวนการเพิ่มกำลังซื้อ โดยเฉพาะแนวคิด “คนละครึ่งพลัส” เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคใต้ พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งฟื้นฟูโรงเรียน ดูแลสภาพจิตใจเด็ก และสนับสนุนอุปกรณ์การเรียนที่เสียหายจากน้ำท่วม
    นอกจากนี้ ยังเสนอให้ตั้งคณะกรรมการอิสระด้านวิชาการ ถอดบทเรียนรับมือน้ำท่วมในอนาคต ไม่ใช่เพื่อเอาผิดใคร แต่เพื่อปรับปรุงโครงสร้างเมือง ระบบเตือนภัย และการบูรณาการทำงาน ลดความเสียหายในระยะยาว
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120582
    .
    #News1live #News1 #อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ #หาดใหญ่ #ฟื้นฟูเศรษฐกิจ #น้ำท่วมภาคใต้ #คนละครึ่ง #สุญญากาศการเมือง
    “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นำคณะลงพื้นที่หาดใหญ่ เยี่ยมประชาชน โรงเรียน และภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยหนัก ชี้สถานการณ์ “สุญญากาศทางการเมือง” อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟู หากการตัดสินใจล่าช้า อดีตนายกฯ เสนอให้รัฐบาลและ กกต. เร่งกระบวนการเพิ่มกำลังซื้อ โดยเฉพาะแนวคิด “คนละครึ่งพลัส” เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคใต้ พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งฟื้นฟูโรงเรียน ดูแลสภาพจิตใจเด็ก และสนับสนุนอุปกรณ์การเรียนที่เสียหายจากน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังเสนอให้ตั้งคณะกรรมการอิสระด้านวิชาการ ถอดบทเรียนรับมือน้ำท่วมในอนาคต ไม่ใช่เพื่อเอาผิดใคร แต่เพื่อปรับปรุงโครงสร้างเมือง ระบบเตือนภัย และการบูรณาการทำงาน ลดความเสียหายในระยะยาว . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120582 . #News1live #News1 #อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ #หาดใหญ่ #ฟื้นฟูเศรษฐกิจ #น้ำท่วมภาคใต้ #คนละครึ่ง #สุญญากาศการเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาวเคราะห์นอกระบบ WASP-121b กับหางก๊าซยักษ์สองเส้น

    ทีมนักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (JWST) ตรวจพบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบนดาวเคราะห์นอกระบบ WASP-121b หรือที่เรียกว่า Tylos ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 880 ปีแสง ดาวเคราะห์แก๊สยักษ์นี้กำลังสูญเสียบรรยากาศอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็น หางก๊าซฮีเลียมสองเส้นขนาดมหึมา ที่ทอดยาวครอบคลุมเกือบ 60% ของวงโคจรรอบดาวแม่

    การค้นพบที่ไม่ธรรมดา
    ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์เคยพบดาวเคราะห์ที่มีบรรยากาศรั่วไหล แต่ส่วนใหญ่จะเห็นเพียงชั่วคราวเมื่อดาวเคราะห์เคลื่อนผ่านหน้าดาวแม่ ครั้งนี้ JWST สามารถติดตามการรั่วไหลตลอดวงโคจรเต็มรอบกว่า 30 ชั่วโมง ทำให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดที่สุดเกี่ยวกับการสูญเสียบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบ

    ปริศนาของหางคู่
    สิ่งที่ทำให้นักวิจัยประหลาดใจคือการเกิดหางสองเส้นที่พุ่งไปคนละทิศทาง หางหนึ่งทอดตามหลังดาวเคราะห์ ขณะที่อีกหางหนึ่งกลับพุ่งนำหน้า ซึ่งแบบจำลองเดิมไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน นักวิทยาศาสตร์คาดว่าแรงโน้มถ่วงของดาวแม่และลมดาวฤกษ์อาจมีบทบาทในการกำหนดทิศทางของหางเหล่านี้

    ความหมายต่อวิวัฒนาการดาวเคราะห์
    การค้นพบนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจว่าดาวเคราะห์แก๊สยักษ์อาจสูญเสียบรรยากาศจนกลายเป็นดาวเคราะห์หินในอนาคต การศึกษาลักษณะการรั่วไหลของก๊าซจะช่วยให้นักดาราศาสตร์สร้างแบบจำลองใหม่ ๆ เกี่ยวกับวิวัฒนาการของดาวเคราะห์และความเป็นไปได้ในการเกิดระบบที่คล้ายโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบจาก JWST
    พบดาว WASP-121b มีหางก๊าซฮีเลียมสองเส้น
    ครอบคลุมเกือบ 60% ของวงโคจร

    ความพิเศษ
    เป็นครั้งแรกที่ติดตามการรั่วไหลตลอดวงโคจรเต็มรอบ
    หางหนึ่งตามหลัง อีกหางหนึ่งนำหน้า

    ความหมายทางวิทยาศาสตร์
    ช่วยเข้าใจการสูญเสียบรรยากาศของดาวเคราะห์
    อาจอธิบายการเปลี่ยนจากดาวแก๊สยักษ์เป็นดาวหิน

    ข้อจำกัดและปริศนา
    แบบจำลองปัจจุบันยังไม่สามารถอธิบายหางคู่ได้ครบถ้วน
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อสร้างแบบจำลอง 3D ที่แม่นยำ

    https://www.sciencealert.com/jwst-catches-record-breaking-planet-sprouting-two-enormous-tails
    🌌 ดาวเคราะห์นอกระบบ WASP-121b กับหางก๊าซยักษ์สองเส้น ทีมนักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (JWST) ตรวจพบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบนดาวเคราะห์นอกระบบ WASP-121b หรือที่เรียกว่า Tylos ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 880 ปีแสง ดาวเคราะห์แก๊สยักษ์นี้กำลังสูญเสียบรรยากาศอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็น หางก๊าซฮีเลียมสองเส้นขนาดมหึมา ที่ทอดยาวครอบคลุมเกือบ 60% ของวงโคจรรอบดาวแม่ 🔬 การค้นพบที่ไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์เคยพบดาวเคราะห์ที่มีบรรยากาศรั่วไหล แต่ส่วนใหญ่จะเห็นเพียงชั่วคราวเมื่อดาวเคราะห์เคลื่อนผ่านหน้าดาวแม่ ครั้งนี้ JWST สามารถติดตามการรั่วไหลตลอดวงโคจรเต็มรอบกว่า 30 ชั่วโมง ทำให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดที่สุดเกี่ยวกับการสูญเสียบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบ 🌪️ ปริศนาของหางคู่ สิ่งที่ทำให้นักวิจัยประหลาดใจคือการเกิดหางสองเส้นที่พุ่งไปคนละทิศทาง หางหนึ่งทอดตามหลังดาวเคราะห์ ขณะที่อีกหางหนึ่งกลับพุ่งนำหน้า ซึ่งแบบจำลองเดิมไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน นักวิทยาศาสตร์คาดว่าแรงโน้มถ่วงของดาวแม่และลมดาวฤกษ์อาจมีบทบาทในการกำหนดทิศทางของหางเหล่านี้ 🚀 ความหมายต่อวิวัฒนาการดาวเคราะห์ การค้นพบนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจว่าดาวเคราะห์แก๊สยักษ์อาจสูญเสียบรรยากาศจนกลายเป็นดาวเคราะห์หินในอนาคต การศึกษาลักษณะการรั่วไหลของก๊าซจะช่วยให้นักดาราศาสตร์สร้างแบบจำลองใหม่ ๆ เกี่ยวกับวิวัฒนาการของดาวเคราะห์และความเป็นไปได้ในการเกิดระบบที่คล้ายโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบจาก JWST ➡️ พบดาว WASP-121b มีหางก๊าซฮีเลียมสองเส้น ➡️ ครอบคลุมเกือบ 60% ของวงโคจร ✅ ความพิเศษ ➡️ เป็นครั้งแรกที่ติดตามการรั่วไหลตลอดวงโคจรเต็มรอบ ➡️ หางหนึ่งตามหลัง อีกหางหนึ่งนำหน้า ✅ ความหมายทางวิทยาศาสตร์ ➡️ ช่วยเข้าใจการสูญเสียบรรยากาศของดาวเคราะห์ ➡️ อาจอธิบายการเปลี่ยนจากดาวแก๊สยักษ์เป็นดาวหิน ‼️ ข้อจำกัดและปริศนา ⛔ แบบจำลองปัจจุบันยังไม่สามารถอธิบายหางคู่ได้ครบถ้วน ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อสร้างแบบจำลอง 3D ที่แม่นยำ https://www.sciencealert.com/jwst-catches-record-breaking-planet-sprouting-two-enormous-tails
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    JWST Catches Record-Breaking Planet Sprouting Two Enormous Tails
    About 880 light-years from Earth, a hot mess of an exoplanet is slowly spilling its atmosphere into space, creating two enormous tails of helium that stretch more than halfway around its star.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีเอ็นเอจากเส้นผม Beethoven เผยความลับ 200 ปีต่อมา

    นักวิจัยจาก Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology และมหาวิทยาลัย Cambridge ได้ทำการวิเคราะห์เส้นผมที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นของ Ludwig van Beethoven เพื่อหาสาเหตุการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตของเขา ผลการศึกษาล่าสุดเผยให้เห็นข้อมูลใหม่ที่น่าประหลาดใจเกี่ยวกับสุขภาพและประวัติครอบครัวของคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่

    สุขภาพและโรคที่พบ
    ทีมวิจัยพบหลักฐานการติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) ร่วมกับปัจจัยเสี่ยงด้านพันธุกรรมและการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Beethoven เสียชีวิตด้วยโรคตับในวัยเพียง 56 ปี นอกจากนี้ยังพบความเสี่ยงทางพันธุกรรมต่อโรคตับและปัญหาทางเดินอาหาร แต่ไม่พบสาเหตุชัดเจนของการสูญเสียการได้ยินที่ทำให้เขากลายเป็นคนหูหนวก

    การค้นพบด้านสายเลือด
    การเปรียบเทียบโครโมโซม Y จากเส้นผมกับลูกหลานสายตรงของครอบครัว Beethoven พบความไม่ตรงกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมี “การเกิดนอกสายสมรส” (extrapair paternity) ในช่วงหลายรุ่นก่อนหน้า นี่เป็นข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน และอาจเปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติครอบครัวของเขา

    ความหมายต่อประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    การศึกษานี้ไม่เพียงช่วยไขปริศนาเกี่ยวกับสุขภาพของ Beethoven แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการใช้ DNA โบราณในการทำความเข้าใจบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ การค้นพบดังกล่าวยังสะท้อนถึงความซับซ้อนของโรคทางพันธุกรรมและการติดเชื้อที่อาจส่งผลต่อชีวิตและผลงานของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่

    สรุปสาระสำคัญ
    สุขภาพของ Beethoven
    พบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
    มีความเสี่ยงทางพันธุกรรมต่อโรคตับและทางเดินอาหาร

    การค้นพบใหม่
    ไม่พบสาเหตุชัดเจนของการสูญเสียการได้ยิน
    พบความไม่ตรงกันในโครโมโซม Y ของสายครอบครัว

    ความหมายต่อวิทยาศาสตร์
    ใช้ DNA โบราณไขปริศนาทางประวัติศาสตร์
    เปิดมุมมองใหม่ต่อชีวิตและผลงานของ Beethoven

    ข้อควรระวัง
    การตีความข้อมูลพันธุกรรมยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตได้ 100%
    ความลับด้านสายเลือดอาจสร้างข้อถกเถียงทางประวัติศาสตร์

    https://www.sciencealert.com/dna-from-beethovens-hair-reveals-a-surprise-200-years-later
    🎼 ดีเอ็นเอจากเส้นผม Beethoven เผยความลับ 200 ปีต่อมา นักวิจัยจาก Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology และมหาวิทยาลัย Cambridge ได้ทำการวิเคราะห์เส้นผมที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นของ Ludwig van Beethoven เพื่อหาสาเหตุการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตของเขา ผลการศึกษาล่าสุดเผยให้เห็นข้อมูลใหม่ที่น่าประหลาดใจเกี่ยวกับสุขภาพและประวัติครอบครัวของคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ 🧬 สุขภาพและโรคที่พบ ทีมวิจัยพบหลักฐานการติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) ร่วมกับปัจจัยเสี่ยงด้านพันธุกรรมและการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Beethoven เสียชีวิตด้วยโรคตับในวัยเพียง 56 ปี นอกจากนี้ยังพบความเสี่ยงทางพันธุกรรมต่อโรคตับและปัญหาทางเดินอาหาร แต่ไม่พบสาเหตุชัดเจนของการสูญเสียการได้ยินที่ทำให้เขากลายเป็นคนหูหนวก 🧩 การค้นพบด้านสายเลือด การเปรียบเทียบโครโมโซม Y จากเส้นผมกับลูกหลานสายตรงของครอบครัว Beethoven พบความไม่ตรงกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมี “การเกิดนอกสายสมรส” (extrapair paternity) ในช่วงหลายรุ่นก่อนหน้า นี่เป็นข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน และอาจเปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติครอบครัวของเขา ⚠️ ความหมายต่อประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์ การศึกษานี้ไม่เพียงช่วยไขปริศนาเกี่ยวกับสุขภาพของ Beethoven แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการใช้ DNA โบราณในการทำความเข้าใจบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ การค้นพบดังกล่าวยังสะท้อนถึงความซับซ้อนของโรคทางพันธุกรรมและการติดเชื้อที่อาจส่งผลต่อชีวิตและผลงานของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สุขภาพของ Beethoven ➡️ พบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ➡️ มีความเสี่ยงทางพันธุกรรมต่อโรคตับและทางเดินอาหาร ✅ การค้นพบใหม่ ➡️ ไม่พบสาเหตุชัดเจนของการสูญเสียการได้ยิน ➡️ พบความไม่ตรงกันในโครโมโซม Y ของสายครอบครัว ✅ ความหมายต่อวิทยาศาสตร์ ➡️ ใช้ DNA โบราณไขปริศนาทางประวัติศาสตร์ ➡️ เปิดมุมมองใหม่ต่อชีวิตและผลงานของ Beethoven ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การตีความข้อมูลพันธุกรรมยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตได้ 100% ⛔ ความลับด้านสายเลือดอาจสร้างข้อถกเถียงทางประวัติศาสตร์ https://www.sciencealert.com/dna-from-beethovens-hair-reveals-a-surprise-200-years-later
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    DNA From Beethoven's Hair Reveals a Surprise 200 Years Later
    On a stormy Monday in March, 1827, the German composer Ludwig van Beethoven passed away after a protracted illness.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาตรฐานบัสเก่าแก่กลับมามีชีวิตใหม่

    GPIB หรือที่รู้จักกันในชื่อ HP-IB ถูกสร้างขึ้นโดย Hewlett-Packard ในปี 1972 เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์วัดและเครื่องมือในห้องแล็บเข้ากับคอมพิวเตอร์ มันถูกใช้แพร่หลายในเครื่องมืออย่างออสซิลโลสโคป, มัลติมิเตอร์ และเครื่องวิเคราะห์ตรรกะ ต่อมาได้รับการรับรองเป็นมาตรฐาน IEEE 488 ในปี 1975 และถูกใช้งานในคอมพิวเตอร์ Commodore 64 และ Acorn ด้วย

    การเข้าสู่ Linux Kernel
    แม้ว่า GPIB จะถูกแทนที่ด้วยมาตรฐานใหม่อย่าง USB และ Ethernet แต่กลุ่มผู้สนใจฮาร์ดแวร์วินเทจยังคงพัฒนาไดรเวอร์ให้ใช้งานได้ ล่าสุดใน Linux Kernel 6.19 ทีมพัฒนาได้ย้าย GPIB ออกจาก staging tree และเข้าสู่ kernel หลักอย่างเป็นทางการ ทำให้การสนับสนุนอุปกรณ์เก่าเหล่านี้มีความเสถียรและใช้งานได้ง่ายขึ้น

    ความสำคัญต่อวงการวิจัยและการศึกษา
    การที่ GPIB ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการใน Linux หมายความว่าอุปกรณ์วัดเก่า ๆ ที่ยังคงใช้งานอยู่ในห้องแล็บทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ได้โดยตรง สิ่งนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือใหม่ และยังเป็นการอนุรักษ์เทคโนโลยีที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์

    ข้อจำกัดและความท้าทาย
    แม้จะมีการสนับสนุนแล้ว แต่ GPIB ก็ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน ความเร็วสูงสุดเพียง 8 MB/s และข้อจำกัดด้านระยะทาง (20 เมตร) ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์วินเทจ มันยังคงเป็นเครื่องมือที่มีค่า

    สรุปสาระสำคัญ
    การกลับมาของ GPIB
    เปิดตัวครั้งแรกโดย HP ในปี 1972
    ได้รับรองเป็น IEEE 488 ในปี 1975

    การสนับสนุนใน Linux
    เข้าสู่ Linux Kernel 6.19 อย่างเป็นทางการ
    ช่วยให้ใช้งานอุปกรณ์วินเทจได้ง่ายขึ้น

    ความสำคัญ
    ลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือใหม่
    อนุรักษ์เทคโนโลยีเก่าแก่ในห้องแล็บ

    ข้อจำกัด
    ความเร็วสูงสุดเพียง 8 MB/s
    ระยะทางจำกัดเพียง 20 เมตร

    https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/53-years-later-bus-standard-launched-by-hp-in-1972-gets-stable-linux-driver-general-purpose-interface-bus-has-blistering-8-mb-s-of-bandwidth
    🖥️ มาตรฐานบัสเก่าแก่กลับมามีชีวิตใหม่ GPIB หรือที่รู้จักกันในชื่อ HP-IB ถูกสร้างขึ้นโดย Hewlett-Packard ในปี 1972 เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์วัดและเครื่องมือในห้องแล็บเข้ากับคอมพิวเตอร์ มันถูกใช้แพร่หลายในเครื่องมืออย่างออสซิลโลสโคป, มัลติมิเตอร์ และเครื่องวิเคราะห์ตรรกะ ต่อมาได้รับการรับรองเป็นมาตรฐาน IEEE 488 ในปี 1975 และถูกใช้งานในคอมพิวเตอร์ Commodore 64 และ Acorn ด้วย ⚙️ การเข้าสู่ Linux Kernel แม้ว่า GPIB จะถูกแทนที่ด้วยมาตรฐานใหม่อย่าง USB และ Ethernet แต่กลุ่มผู้สนใจฮาร์ดแวร์วินเทจยังคงพัฒนาไดรเวอร์ให้ใช้งานได้ ล่าสุดใน Linux Kernel 6.19 ทีมพัฒนาได้ย้าย GPIB ออกจาก staging tree และเข้าสู่ kernel หลักอย่างเป็นทางการ ทำให้การสนับสนุนอุปกรณ์เก่าเหล่านี้มีความเสถียรและใช้งานได้ง่ายขึ้น 🔬 ความสำคัญต่อวงการวิจัยและการศึกษา การที่ GPIB ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการใน Linux หมายความว่าอุปกรณ์วัดเก่า ๆ ที่ยังคงใช้งานอยู่ในห้องแล็บทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ได้โดยตรง สิ่งนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือใหม่ และยังเป็นการอนุรักษ์เทคโนโลยีที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ⚠️ ข้อจำกัดและความท้าทาย แม้จะมีการสนับสนุนแล้ว แต่ GPIB ก็ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน ความเร็วสูงสุดเพียง 8 MB/s และข้อจำกัดด้านระยะทาง (20 เมตร) ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์วินเทจ มันยังคงเป็นเครื่องมือที่มีค่า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การกลับมาของ GPIB ➡️ เปิดตัวครั้งแรกโดย HP ในปี 1972 ➡️ ได้รับรองเป็น IEEE 488 ในปี 1975 ✅ การสนับสนุนใน Linux ➡️ เข้าสู่ Linux Kernel 6.19 อย่างเป็นทางการ ➡️ ช่วยให้ใช้งานอุปกรณ์วินเทจได้ง่ายขึ้น ✅ ความสำคัญ ➡️ ลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือใหม่ ➡️ อนุรักษ์เทคโนโลยีเก่าแก่ในห้องแล็บ ‼️ ข้อจำกัด ⛔ ความเร็วสูงสุดเพียง 8 MB/s ⛔ ระยะทางจำกัดเพียง 20 เมตร https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/53-years-later-bus-standard-launched-by-hp-in-1972-gets-stable-linux-driver-general-purpose-interface-bus-has-blistering-8-mb-s-of-bandwidth
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    53 years later, bus standard launched by HP in 1972 gets stable Linux driver — General Purpose Interface Bus has blistering 8 MB/s of bandwidth
    GPIB was used on vintage lab instruments and similar hardware. It was later adopted by C64 and Acorn computer peripherals under the IEEE 488 banner.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าว: VPN หลายเจ้าโฆษณาเกินจริง ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ไม่ตรงกับความจริง

    การศึกษาล่าสุดจาก IPinfo วิเคราะห์ VPN 20 ราย พบว่า 17 รายมีการ mismatch ระหว่างประเทศที่โฆษณากับประเทศที่ทราฟฟิกออกจริง โดยบางเจ้าอ้างว่ามีเซิร์ฟเวอร์กว่า 100 ประเทศ แต่แท้จริงแล้วใช้เพียงไม่กี่ศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ และยุโรป การตรวจสอบกว่า 150,000 IP พบว่ามีถึง 38 ประเทศที่เป็น “virtual-only” คือมีชื่ออยู่ในรายการ แต่ไม่เคยมีการเชื่อมต่อจริงเลย

    Virtual Location: ภาพลวงตาของการเชื่อมต่อ
    ตัวอย่างเช่น VPN ที่ให้ผู้ใช้เลือก “Bahamas” หรือ “Somalia” แต่การวัด latency และ routing แสดงว่าทราฟฟิกจริงออกจากสหรัฐฯ หรือยุโรป การตั้งค่าเช่นนี้ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าตัวเองอยู่ในประเทศที่เลือก ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่ การพึ่งพาเพียงข้อมูล self-declared ของผู้ให้บริการยิ่งทำให้ฐานข้อมูล IP อื่น ๆ ติดตามผิดพลาดไปด้วย

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจาก VPN
    นอกจากปัญหาการโฆษณาเกินจริงแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า VPN ยังมีช่องโหว่หลายประการ เช่น การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle หากเซิร์ฟเวอร์ถูกเจาะ, การรั่วไหลของข้อมูล (IP/DNS leaks), การใช้โปรโตคอลเข้ารหัสที่อ่อนแอ, หรือแม้แต่การเจอผู้ให้บริการ VPN ที่แฝงมัลแวร์และขายข้อมูลผู้ใช้ต่อไป ความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้การเลือก VPN ที่น่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญมาก

    บทเรียนสำหรับผู้ใช้
    รายงานนี้ไม่ใช่การบอกว่า VPN ทั้งหมด “ไม่ดี” แต่ชี้ให้เห็นว่า ผู้ใช้ควรตรวจสอบความโปร่งใสของผู้ให้บริการ เช่น การระบุว่าเซิร์ฟเวอร์ใดเป็น virtual, มีการทดสอบ latency จริงหรือไม่ และมีนโยบายไม่เก็บ log ที่ชัดเจนหรือเปล่า การใช้ VPN ที่มีมาตรฐานเข้ารหัสแข็งแรงและมีชื่อเสียงด้านความโปร่งใส จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ผลการศึกษา VPN
    17 จาก 20 ผู้ให้บริการมีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ไม่ตรงกับที่โฆษณา
    พบ 38 ประเทศที่เป็น “virtual-only” ไม่มีเซิร์ฟเวอร์จริง

    ตัวอย่าง Virtual Location
    Bahamas ที่แท้จริงเชื่อมต่อจากสหรัฐฯ
    Somalia ที่แท้จริงเชื่อมต่อจากฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร

    ผู้ให้บริการที่ตรวจสอบแล้วตรงจริง
    Mullvad, IVPN และ Windscribe ไม่มี mismatch

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    Man-in-the-Middle Attack หากเซิร์ฟเวอร์ถูกเจาะ
    การรั่วไหลของข้อมูล (IP/DNS leaks)
    VPN ปลอมที่แฝงมัลแวร์และขายข้อมูลผู้ใช้
    โปรโตคอลเข้ารหัสที่อ่อนแอ ทำให้ถูกเจาะได้ง่าย

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    อย่าเลือก VPN เพียงเพราะจำนวนประเทศที่โฆษณา
    ตรวจสอบนโยบายความโปร่งใสและการไม่เก็บ log ก่อนใช้งาน

    https://ipinfo.io/blog/vpn-location-mismatch-report
    🌐 ข่าว: VPN หลายเจ้าโฆษณาเกินจริง ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ไม่ตรงกับความจริง การศึกษาล่าสุดจาก IPinfo วิเคราะห์ VPN 20 ราย พบว่า 17 รายมีการ mismatch ระหว่างประเทศที่โฆษณากับประเทศที่ทราฟฟิกออกจริง โดยบางเจ้าอ้างว่ามีเซิร์ฟเวอร์กว่า 100 ประเทศ แต่แท้จริงแล้วใช้เพียงไม่กี่ศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ และยุโรป การตรวจสอบกว่า 150,000 IP พบว่ามีถึง 38 ประเทศที่เป็น “virtual-only” คือมีชื่ออยู่ในรายการ แต่ไม่เคยมีการเชื่อมต่อจริงเลย 🔍 Virtual Location: ภาพลวงตาของการเชื่อมต่อ ตัวอย่างเช่น VPN ที่ให้ผู้ใช้เลือก “Bahamas” หรือ “Somalia” แต่การวัด latency และ routing แสดงว่าทราฟฟิกจริงออกจากสหรัฐฯ หรือยุโรป การตั้งค่าเช่นนี้ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าตัวเองอยู่ในประเทศที่เลือก ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่ การพึ่งพาเพียงข้อมูล self-declared ของผู้ให้บริการยิ่งทำให้ฐานข้อมูล IP อื่น ๆ ติดตามผิดพลาดไปด้วย ⚠️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจาก VPN นอกจากปัญหาการโฆษณาเกินจริงแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า VPN ยังมีช่องโหว่หลายประการ เช่น การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle หากเซิร์ฟเวอร์ถูกเจาะ, การรั่วไหลของข้อมูล (IP/DNS leaks), การใช้โปรโตคอลเข้ารหัสที่อ่อนแอ, หรือแม้แต่การเจอผู้ให้บริการ VPN ที่แฝงมัลแวร์และขายข้อมูลผู้ใช้ต่อไป ความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้การเลือก VPN ที่น่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญมาก 🛡️ บทเรียนสำหรับผู้ใช้ รายงานนี้ไม่ใช่การบอกว่า VPN ทั้งหมด “ไม่ดี” แต่ชี้ให้เห็นว่า ผู้ใช้ควรตรวจสอบความโปร่งใสของผู้ให้บริการ เช่น การระบุว่าเซิร์ฟเวอร์ใดเป็น virtual, มีการทดสอบ latency จริงหรือไม่ และมีนโยบายไม่เก็บ log ที่ชัดเจนหรือเปล่า การใช้ VPN ที่มีมาตรฐานเข้ารหัสแข็งแรงและมีชื่อเสียงด้านความโปร่งใส จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ผลการศึกษา VPN ➡️ 17 จาก 20 ผู้ให้บริการมีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ไม่ตรงกับที่โฆษณา ➡️ พบ 38 ประเทศที่เป็น “virtual-only” ไม่มีเซิร์ฟเวอร์จริง ✅ ตัวอย่าง Virtual Location ➡️ Bahamas ที่แท้จริงเชื่อมต่อจากสหรัฐฯ ➡️ Somalia ที่แท้จริงเชื่อมต่อจากฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ✅ ผู้ให้บริการที่ตรวจสอบแล้วตรงจริง ➡️ Mullvad, IVPN และ Windscribe ไม่มี mismatch ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ⛔ Man-in-the-Middle Attack หากเซิร์ฟเวอร์ถูกเจาะ ⛔ การรั่วไหลของข้อมูล (IP/DNS leaks) ⛔ VPN ปลอมที่แฝงมัลแวร์และขายข้อมูลผู้ใช้ ⛔ โปรโตคอลเข้ารหัสที่อ่อนแอ ทำให้ถูกเจาะได้ง่าย ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ อย่าเลือก VPN เพียงเพราะจำนวนประเทศที่โฆษณา ⛔ ตรวจสอบนโยบายความโปร่งใสและการไม่เก็บ log ก่อนใช้งาน https://ipinfo.io/blog/vpn-location-mismatch-report
    IPINFO.IO
    Should You Trust Your VPN Location?
    17 out of 20 popular VPNs exit traffic from different countries than they claim. Dig into what that means and why it matters in our VPN report.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI Moderation กำลังทำลายระบบนิเวศ Creator

    บทความนี้เล่าถึงปัญหาที่ YouTube ใช้ระบบ AI ตรวจสอบคอนเทนต์มากขึ้น จนทำให้วิดีโอสอนเทคนิคและช่องใหญ่ ๆ ถูกลบหรือปิดโดยไม่ชัดเจน การอุทธรณ์ก็เหมือนถูกตัดสินแบบอัตโนมัติ สร้างความไม่มั่นใจและบั่นทอนระบบนิเวศของผู้สร้างคอนเทนต์

    YouTube อ้างว่าการตรวจสอบคอนเทนต์เป็นการผสมผสานระหว่าง “มนุษย์และระบบอัตโนมัติ” แต่หลายเหตุการณ์ชี้ว่า การลบวิดีโอและการปฏิเสธอุทธรณ์เกิดขึ้นเร็วผิดปกติ จนดูเหมือนเป็นการตัดสินใจโดย AI ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น วิดีโอสอนติดตั้ง Windows 11 บนเครื่องที่ไม่รองรับถูกลบว่า “อันตราย” ทั้งที่เป็นเพียงคู่มือเชิงเทคนิค

    ผลกระทบต่อผู้สร้างคอนเทนต์
    ช่องใหญ่ถูกปิดโดยไม่ชัดเจน เช่น Enderman ที่ถูกเชื่อมโยงผิดกับบัญชีอื่นที่เคยโดนแบน
    ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ: การโดน strike เพียงครั้งเดียวอาจทำให้รายได้หายและผู้สนับสนุนถอนตัว
    ความเหนื่อยล้าในการอุทธรณ์: เมื่อระบบอุทธรณ์ดูเหมือนอัตโนมัติ ผู้สร้างหลายคนเลิกพยายามและหันไปหลีกเลี่ยงหัวข้อเสี่ยงแทน

    ปัญหาที่ซ่อนอยู่
    AI มักตีความคำอย่าง “bypass” หรือ “workaround” ว่าเป็นสัญญาณเสี่ยง ทำให้ คอนเทนต์การศึกษาโดนลงโทษ ทั้งที่ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์หรือกฎจริง ๆ ขณะเดียวกัน คอนเทนต์คุณภาพต่ำที่สร้างด้วย AI กลับยังคงผ่านการตรวจสอบและปรากฏใน feed ของผู้ใช้ สะท้อนว่า สัญญาณการบังคับใช้กลับหัวกลับหาง

    ทางออกที่เสนอ
    ผู้เขียนแนะนำว่า YouTube ควร:
    ออกนโยบายละเอียดสำหรับวิดีโอสอนที่เกี่ยวกับการตั้งค่า OS หรือเฟิร์มแวร์
    เพิ่มขั้นตอนอุทธรณ์ที่มีมนุษย์ตรวจสอบจริง พร้อมหลักฐานการตัดสินใจ
    แยกนโยบาย “การกระทำอันตราย” ออกจาก “การปรับแต่งซอฟต์แวร์”
    ทำให้เครื่องมือแนะนำหัวข้อของ Creator สอดคล้องกับนโยบายบังคับใช้

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    วิดีโอสอน Windows 11 ถูกลบว่า “อันตราย”
    ช่องใหญ่ถูกปิดโดยการเชื่อมโยงผิด

    ผลกระทบต่อ Creator
    รายได้และผู้สนับสนุนหายไปเมื่อโดน strike
    ผู้สร้างเลิกอุทธรณ์เพราะระบบดูเหมือนอัตโนมัติ

    ปัญหาที่ซ่อนอยู่
    คำอย่าง “bypass” ทำให้คอนเทนต์การศึกษาถูกลงโทษ
    คอนเทนต์ AI คุณภาพต่ำยังผ่านการตรวจสอบ

    ทางออกที่เสนอ
    ออกนโยบายละเอียดสำหรับวิดีโอสอน OS/เฟิร์มแวร์
    เพิ่มการตรวจสอบอุทธรณ์โดยมนุษย์จริง
    แยกนโยบาย “อันตราย” ออกจาก “การปรับแต่งซอฟต์แวร์”

    ข้อควรระวัง
    ความไม่โปร่งใสทำให้ผู้สร้างไม่มั่นใจ
    ระบบอัตโนมัติอาจลงโทษคอนเทนต์ที่ไม่ผิดจริง
    เสี่ยงต่อการทำให้คอนเทนต์คุณภาพหายไปจากแพลตฟอร์ม

    https://itsfoss.com/news/youtubes-ai-mod-enshittification/
    🤖 AI Moderation กำลังทำลายระบบนิเวศ Creator บทความนี้เล่าถึงปัญหาที่ YouTube ใช้ระบบ AI ตรวจสอบคอนเทนต์มากขึ้น จนทำให้วิดีโอสอนเทคนิคและช่องใหญ่ ๆ ถูกลบหรือปิดโดยไม่ชัดเจน การอุทธรณ์ก็เหมือนถูกตัดสินแบบอัตโนมัติ สร้างความไม่มั่นใจและบั่นทอนระบบนิเวศของผู้สร้างคอนเทนต์ YouTube อ้างว่าการตรวจสอบคอนเทนต์เป็นการผสมผสานระหว่าง “มนุษย์และระบบอัตโนมัติ” แต่หลายเหตุการณ์ชี้ว่า การลบวิดีโอและการปฏิเสธอุทธรณ์เกิดขึ้นเร็วผิดปกติ จนดูเหมือนเป็นการตัดสินใจโดย AI ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น วิดีโอสอนติดตั้ง Windows 11 บนเครื่องที่ไม่รองรับถูกลบว่า “อันตราย” ทั้งที่เป็นเพียงคู่มือเชิงเทคนิค ⚠️ ผลกระทบต่อผู้สร้างคอนเทนต์ 💠 ช่องใหญ่ถูกปิดโดยไม่ชัดเจน เช่น Enderman ที่ถูกเชื่อมโยงผิดกับบัญชีอื่นที่เคยโดนแบน 💠 ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ: การโดน strike เพียงครั้งเดียวอาจทำให้รายได้หายและผู้สนับสนุนถอนตัว 💠 ความเหนื่อยล้าในการอุทธรณ์: เมื่อระบบอุทธรณ์ดูเหมือนอัตโนมัติ ผู้สร้างหลายคนเลิกพยายามและหันไปหลีกเลี่ยงหัวข้อเสี่ยงแทน 🧩 ปัญหาที่ซ่อนอยู่ AI มักตีความคำอย่าง “bypass” หรือ “workaround” ว่าเป็นสัญญาณเสี่ยง ทำให้ คอนเทนต์การศึกษาโดนลงโทษ ทั้งที่ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์หรือกฎจริง ๆ ขณะเดียวกัน คอนเทนต์คุณภาพต่ำที่สร้างด้วย AI กลับยังคงผ่านการตรวจสอบและปรากฏใน feed ของผู้ใช้ สะท้อนว่า สัญญาณการบังคับใช้กลับหัวกลับหาง 🔮 ทางออกที่เสนอ ผู้เขียนแนะนำว่า YouTube ควร: 💠 ออกนโยบายละเอียดสำหรับวิดีโอสอนที่เกี่ยวกับการตั้งค่า OS หรือเฟิร์มแวร์ 💠 เพิ่มขั้นตอนอุทธรณ์ที่มีมนุษย์ตรวจสอบจริง พร้อมหลักฐานการตัดสินใจ 💠 แยกนโยบาย “การกระทำอันตราย” ออกจาก “การปรับแต่งซอฟต์แวร์” 💠 ทำให้เครื่องมือแนะนำหัวข้อของ Creator สอดคล้องกับนโยบายบังคับใช้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ➡️ วิดีโอสอน Windows 11 ถูกลบว่า “อันตราย” ➡️ ช่องใหญ่ถูกปิดโดยการเชื่อมโยงผิด ✅ ผลกระทบต่อ Creator ➡️ รายได้และผู้สนับสนุนหายไปเมื่อโดน strike ➡️ ผู้สร้างเลิกอุทธรณ์เพราะระบบดูเหมือนอัตโนมัติ ✅ ปัญหาที่ซ่อนอยู่ ➡️ คำอย่าง “bypass” ทำให้คอนเทนต์การศึกษาถูกลงโทษ ➡️ คอนเทนต์ AI คุณภาพต่ำยังผ่านการตรวจสอบ ✅ ทางออกที่เสนอ ➡️ ออกนโยบายละเอียดสำหรับวิดีโอสอน OS/เฟิร์มแวร์ ➡️ เพิ่มการตรวจสอบอุทธรณ์โดยมนุษย์จริง ➡️ แยกนโยบาย “อันตราย” ออกจาก “การปรับแต่งซอฟต์แวร์” ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ความไม่โปร่งใสทำให้ผู้สร้างไม่มั่นใจ ⛔ ระบบอัตโนมัติอาจลงโทษคอนเทนต์ที่ไม่ผิดจริง ⛔ เสี่ยงต่อการทำให้คอนเทนต์คุณภาพหายไปจากแพลตฟอร์ม https://itsfoss.com/news/youtubes-ai-mod-enshittification/
    ITSFOSS.COM
    YouTube’s AI is Breaking the Creator Ecosystem
    A moderation system that leans on automation just knocked legitimate tech tutorials and even entire channels offline. The appeals felt automated, too. Creators are powerless against opaque enforcement and the incentives that should favor craft and trust are tilting toward noise.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🪸 ฟองน้ำกินเนื้อ “Death-Ball”

    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบฟองน้ำสายพันธุ์ใหม่ในทะเลลึกแอนตาร์กติกา ที่ถูกเรียกว่า “death-ball sponge” เพราะมีลักษณะคล้ายลูกบอลและเป็นฟองน้ำกินเนื้อ ใช้ตะขอเล็ก ๆ จับสัตว์น้ำที่ว่ายผ่าน ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ที่ถูกบันทึกในการสำรวจครั้งนี้

    ฟองน้ำชนิดใหม่นี้ถูกจัดอยู่ในสกุล Chondrocladia หรือที่รู้จักกันว่า “ping pong ball sponges” เพราะรูปร่างคล้ายลูกบอลเล็ก ๆ ที่ติดอยู่บนก้าน แต่ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูไม่อันตราย มันกลับมีตะขอจิ๋วที่ใช้จับสัตว์น้ำเล็ก ๆ เช่นครัสเตเชียนที่ว่ายผ่านไป

    การค้นพบในทะเลลึก
    การสำรวจโดยโครงการ Nippon Foundation–Nekton Ocean Census ในปี 2025 ใช้ยานควบคุมระยะไกล (ROV) ลงไปที่ความลึกกว่า 3,600 เมตร ใกล้เกาะ Montagu ในมหาสมุทรใต้ ผลลัพธ์คือการค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ รวมถึงฟองน้ำกินเนื้อชนิดนี้ หนอนเกล็ดที่มีเกราะสะท้อนแสง และสัตว์ทะเลอื่น ๆ

    ไฮไลท์ของภารกิจ
    นอกจากฟองน้ำแล้ว ทีมวิจัยยังบันทึกวิดีโอแรกของลูกหมึกยักษ์โคลอสซัลในวัยเด็ก และค้นพบระบบนิเวศใหม่ที่ซ่อนอยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาที่แตกออกจากธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติกา การค้นพบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่ยังไม่ถูกศึกษาในมหาสมุทรใต้

    ความหมายต่อวิทยาศาสตร์
    Michelle Taylor หัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์ของ Ocean Census ระบุว่า ปัจจุบันยังมีการวิเคราะห์ตัวอย่างเพียง 30% ของทั้งหมด แต่ก็สามารถยืนยันสิ่งมีชีวิตใหม่ได้แล้วกว่า 30 สายพันธุ์ แสดงให้เห็นว่ามหาสมุทรใต้ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีความลึกลับและเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การค้นพบฟองน้ำกินเนื้อ
    ฟองน้ำ “death-ball” อยู่ในสกุล Chondrocladia
    ใช้ตะขอเล็ก ๆ จับสัตว์น้ำที่ว่ายผ่าน

    การสำรวจในมหาสมุทรใต้
    ใช้ ROV ลงไปที่ความลึก 3,601 เมตร
    พบสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์

    ไฮไลท์ของภารกิจ
    บันทึกวิดีโอลูกหมึกโคลอสซัลครั้งแรก
    พบระบบนิเวศใหม่ใต้ภูเขาน้ำแข็ง

    ความหมายต่อวิทยาศาสตร์
    ยืนยันสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์
    ยังมีตัวอย่างอีกมากที่รอการวิเคราะห์

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    การค้นพบยังอยู่ในขั้นต้น ต้องการการตรวจสอบเพิ่มเติม
    ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของฟองน้ำในระบบนิเวศยังไม่สมบูรณ์
    การสำรวจทะเลลึกยังมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีและค่าใช้จ่ายสูง

    https://www.sciencealert.com/meet-the-latest-deep-sea-horror-meat-eating-death-ball-sponges
    🪸 ฟองน้ำกินเนื้อ “Death-Ball” นักวิทยาศาสตร์ค้นพบฟองน้ำสายพันธุ์ใหม่ในทะเลลึกแอนตาร์กติกา ที่ถูกเรียกว่า “death-ball sponge” เพราะมีลักษณะคล้ายลูกบอลและเป็นฟองน้ำกินเนื้อ ใช้ตะขอเล็ก ๆ จับสัตว์น้ำที่ว่ายผ่าน ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ที่ถูกบันทึกในการสำรวจครั้งนี้ ฟองน้ำชนิดใหม่นี้ถูกจัดอยู่ในสกุล Chondrocladia หรือที่รู้จักกันว่า “ping pong ball sponges” เพราะรูปร่างคล้ายลูกบอลเล็ก ๆ ที่ติดอยู่บนก้าน แต่ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูไม่อันตราย มันกลับมีตะขอจิ๋วที่ใช้จับสัตว์น้ำเล็ก ๆ เช่นครัสเตเชียนที่ว่ายผ่านไป 🌊 การค้นพบในทะเลลึก การสำรวจโดยโครงการ Nippon Foundation–Nekton Ocean Census ในปี 2025 ใช้ยานควบคุมระยะไกล (ROV) ลงไปที่ความลึกกว่า 3,600 เมตร ใกล้เกาะ Montagu ในมหาสมุทรใต้ ผลลัพธ์คือการค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ รวมถึงฟองน้ำกินเนื้อชนิดนี้ หนอนเกล็ดที่มีเกราะสะท้อนแสง และสัตว์ทะเลอื่น ๆ 🦑 ไฮไลท์ของภารกิจ นอกจากฟองน้ำแล้ว ทีมวิจัยยังบันทึกวิดีโอแรกของลูกหมึกยักษ์โคลอสซัลในวัยเด็ก และค้นพบระบบนิเวศใหม่ที่ซ่อนอยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาที่แตกออกจากธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติกา การค้นพบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่ยังไม่ถูกศึกษาในมหาสมุทรใต้ 🔬 ความหมายต่อวิทยาศาสตร์ Michelle Taylor หัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์ของ Ocean Census ระบุว่า ปัจจุบันยังมีการวิเคราะห์ตัวอย่างเพียง 30% ของทั้งหมด แต่ก็สามารถยืนยันสิ่งมีชีวิตใหม่ได้แล้วกว่า 30 สายพันธุ์ แสดงให้เห็นว่ามหาสมุทรใต้ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีความลึกลับและเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การค้นพบฟองน้ำกินเนื้อ ➡️ ฟองน้ำ “death-ball” อยู่ในสกุล Chondrocladia ➡️ ใช้ตะขอเล็ก ๆ จับสัตว์น้ำที่ว่ายผ่าน ✅ การสำรวจในมหาสมุทรใต้ ➡️ ใช้ ROV ลงไปที่ความลึก 3,601 เมตร ➡️ พบสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ ✅ ไฮไลท์ของภารกิจ ➡️ บันทึกวิดีโอลูกหมึกโคลอสซัลครั้งแรก ➡️ พบระบบนิเวศใหม่ใต้ภูเขาน้ำแข็ง ✅ ความหมายต่อวิทยาศาสตร์ ➡️ ยืนยันสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ ➡️ ยังมีตัวอย่างอีกมากที่รอการวิเคราะห์ ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ การค้นพบยังอยู่ในขั้นต้น ต้องการการตรวจสอบเพิ่มเติม ⛔ ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของฟองน้ำในระบบนิเวศยังไม่สมบูรณ์ ⛔ การสำรวจทะเลลึกยังมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีและค่าใช้จ่ายสูง https://www.sciencealert.com/meet-the-latest-deep-sea-horror-meat-eating-death-ball-sponges
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Meet The Latest Deep-Sea Horror: Meat-Eating 'Death-Ball' Sponges
    Sponges are some of the simplest and least dangerous animals on Earth, but a new species seems to be shooting for a cooler reputation.
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนอนริบบิ้นอายุยืนที่สุดในโลก

    หนอนริบบิ้นสายพันธุ์ Baseodiscus punnetti ที่ชื่อเล่นว่า “B” กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea เท่าที่เคยบันทึกได้ โดยมีอายุราว 26–30 ปี การค้นพบนี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อการศึกษาความยืนยาวของสัตว์ทะเล

    นักชีววิทยา Jon Allen จากมหาวิทยาลัย William & Mary ได้เลี้ยงหนอนริบบิ้นชื่อ “B” มาตั้งแต่ปี 2005 หลังจากได้รับมาจากมหาวิทยาลัย North Carolina ปัจจุบันการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมและการติดตามพฤติกรรมบ่งชี้ว่า B มีอายุอย่างน้อย 26 ปี และอาจใกล้ 30 ปี ซึ่งทำให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea ที่เคยมีการบันทึก

    ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์
    ก่อนหน้านี้ ข้อมูลอายุของหนอนริบบิ้นแทบไม่มีการบันทึกเลย โดยตัวที่เคยมีรายงานมากที่สุดมีอายุเพียง 3 ปี การค้นพบนี้จึงเพิ่มขอบเขตความรู้ขึ้นถึงสิบเท่า และชี้ให้เห็นว่าหนอนริบบิ้นอาจมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศทะเลในฐานะนักล่าที่มีอายุยืนยาวกว่าที่เคยเข้าใจ

    การเดินทางของ “B”
    ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา B ได้เดินทางไปหลายแห่งในสหรัฐฯ ตั้งแต่รัฐวอชิงตันไปจนถึงเวอร์จิเนีย โดยถูกเลี้ยงในตู้ที่มีดินโคลนเพื่อให้มันเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ การดูแลอย่างต่อเนื่องทำให้สามารถติดตามพฤติกรรมและสุขภาพของมันได้อย่างละเอียด

    ความหมายต่อการวิจัยอนาคต
    การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เติมเต็มช่องว่างความรู้เกี่ยวกับอายุขัยของสัตว์ทะเล แต่ยังอาจช่วยนักวิทยาศาสตร์เข้าใจกลไกความยืนยาวของสิ่งมีชีวิต และนำไปสู่การศึกษาด้านชีววิทยาการชราภาพ รวมถึงการประเมินผลกระทบทางนิเวศวิทยาของสัตว์นักล่าที่มีอายุยืน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การค้นพบหนอนริบบิ้นอายุยืน
    “B” มีอายุราว 26–30 ปี
    เป็นสิ่งมีชีวิตที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea

    ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์
    เพิ่มข้อมูลอายุขัยจาก 3 ปีเป็น 30 ปี
    ชี้ให้เห็นบทบาทใหม่ในระบบนิเวศทะเล

    การเดินทางและการเลี้ยงดู
    ถูกเลี้ยงตั้งแต่ปี 2005 ในหลายรัฐของสหรัฐฯ
    ใช้ตู้ดินโคลนเพื่อจำลองสภาพธรรมชาติ

    ความหมายต่ออนาคตการวิจัย
    เปิดทางสู่การศึกษาเรื่องความยืนยาวของสิ่งมีชีวิต
    อาจช่วยทำความเข้าใจชีววิทยาการชราภาพ

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ข้อมูลอายุยังคงเป็นการประมาณ ไม่ใช่วันเกิดที่แน่นอน
    การเลี้ยงในสภาพแวดล้อมควบคุมอาจไม่สะท้อนธรรมชาติทั้งหมด
    ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความยืนยาวในสายพันธุ์อื่น

    https://www.sciencealert.com/this-insanely-long-ribbon-worm-turns-out-to-be-the-oldest-on-record
    🪱 หนอนริบบิ้นอายุยืนที่สุดในโลก หนอนริบบิ้นสายพันธุ์ Baseodiscus punnetti ที่ชื่อเล่นว่า “B” กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea เท่าที่เคยบันทึกได้ โดยมีอายุราว 26–30 ปี การค้นพบนี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อการศึกษาความยืนยาวของสัตว์ทะเล นักชีววิทยา Jon Allen จากมหาวิทยาลัย William & Mary ได้เลี้ยงหนอนริบบิ้นชื่อ “B” มาตั้งแต่ปี 2005 หลังจากได้รับมาจากมหาวิทยาลัย North Carolina ปัจจุบันการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมและการติดตามพฤติกรรมบ่งชี้ว่า B มีอายุอย่างน้อย 26 ปี และอาจใกล้ 30 ปี ซึ่งทำให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea ที่เคยมีการบันทึก 🔬 ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์ ก่อนหน้านี้ ข้อมูลอายุของหนอนริบบิ้นแทบไม่มีการบันทึกเลย โดยตัวที่เคยมีรายงานมากที่สุดมีอายุเพียง 3 ปี การค้นพบนี้จึงเพิ่มขอบเขตความรู้ขึ้นถึงสิบเท่า และชี้ให้เห็นว่าหนอนริบบิ้นอาจมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศทะเลในฐานะนักล่าที่มีอายุยืนยาวกว่าที่เคยเข้าใจ 🌍 การเดินทางของ “B” ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา B ได้เดินทางไปหลายแห่งในสหรัฐฯ ตั้งแต่รัฐวอชิงตันไปจนถึงเวอร์จิเนีย โดยถูกเลี้ยงในตู้ที่มีดินโคลนเพื่อให้มันเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ การดูแลอย่างต่อเนื่องทำให้สามารถติดตามพฤติกรรมและสุขภาพของมันได้อย่างละเอียด 🧩 ความหมายต่อการวิจัยอนาคต การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เติมเต็มช่องว่างความรู้เกี่ยวกับอายุขัยของสัตว์ทะเล แต่ยังอาจช่วยนักวิทยาศาสตร์เข้าใจกลไกความยืนยาวของสิ่งมีชีวิต และนำไปสู่การศึกษาด้านชีววิทยาการชราภาพ รวมถึงการประเมินผลกระทบทางนิเวศวิทยาของสัตว์นักล่าที่มีอายุยืน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การค้นพบหนอนริบบิ้นอายุยืน ➡️ “B” มีอายุราว 26–30 ปี ➡️ เป็นสิ่งมีชีวิตที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea ✅ ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์ ➡️ เพิ่มข้อมูลอายุขัยจาก 3 ปีเป็น 30 ปี ➡️ ชี้ให้เห็นบทบาทใหม่ในระบบนิเวศทะเล ✅ การเดินทางและการเลี้ยงดู ➡️ ถูกเลี้ยงตั้งแต่ปี 2005 ในหลายรัฐของสหรัฐฯ ➡️ ใช้ตู้ดินโคลนเพื่อจำลองสภาพธรรมชาติ ✅ ความหมายต่ออนาคตการวิจัย ➡️ เปิดทางสู่การศึกษาเรื่องความยืนยาวของสิ่งมีชีวิต ➡️ อาจช่วยทำความเข้าใจชีววิทยาการชราภาพ ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ข้อมูลอายุยังคงเป็นการประมาณ ไม่ใช่วันเกิดที่แน่นอน ⛔ การเลี้ยงในสภาพแวดล้อมควบคุมอาจไม่สะท้อนธรรมชาติทั้งหมด ⛔ ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความยืนยาวในสายพันธุ์อื่น https://www.sciencealert.com/this-insanely-long-ribbon-worm-turns-out-to-be-the-oldest-on-record
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    This Insanely Long Ribbon Worm Turns Out to Be The Oldest on Record
    Biologist Jon Allen is the proud owner of the world's oldest ribbon worm on record.
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนูนักล่าในโลกเสมือน Doom

    โครงการฝึกหนูให้เล่นเกม Doom ก้าวหน้าไปอีกขั้น หนูสามารถ “ยิงศัตรู” ได้แล้วผ่านระบบ VR ที่ใช้จอ AMOLED โอบรอบ พร้อมกลไกตอบสนองที่ซับซ้อนขึ้น ถือเป็นการทดลองที่ผสมผสานวิศวกรรม ฮาร์ดแวร์ และพฤติกรรมสัตว์อย่างน่าสนใจ

    การทดลองที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 โดยนักประสาทวิศวกร Viktor Tóth ได้สร้างความฮือฮาเมื่อหนูถูกฝึกให้เคลื่อนที่ในเกม Doom II ผ่านการใช้ลูกบอลทรงกลมและจอภาพ VR แบบโอบรอบ ล่าสุดระบบถูกพัฒนาให้หนูสามารถ “ยิง” ศัตรูได้ด้วยการกดกลไกที่เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ถือเป็นการยกระดับจากการเดินไปมาในฉากสู่การมีปฏิสัมพันธ์กับกลไกเกมจริง ๆ

    วิทยาศาสตร์เบื้องหลังการทดลอง
    การฝึกใช้หลักการ operant conditioning หรือการให้รางวัลเมื่อสัตว์ทำพฤติกรรมที่ถูกต้อง เช่น น้ำหวานผสมที่ถูกจ่ายออกมาเมื่อหนูเดินหรือยิงถูกเป้าหมาย ระบบยังเพิ่มการตอบสนองทางกายภาพ เช่นการเป่าลมเบา ๆ ที่จมูกเพื่อบอกว่าหนูชนกำแพงในเกม วิธีนี้ช่วยให้สัตว์เรียนรู้ได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการลองผิดลองถูกเพียงอย่างเดียว

    ฮาร์ดแวร์และการออกแบบ
    การทดลองใช้จอ AMOLED แบบโค้งที่โอบรอบสายตาของหนู ทำให้ภาพเสมือนสมจริงมากขึ้น พร้อมลูกบอลทรงกลมที่ทำหน้าที่เป็น “ลู่วิ่ง” ให้หนูเคลื่อนไหวในเกม การออกแบบนี้ยังคงเป็นแบบเปิด (open-source) เพื่อให้นักวิจัยและผู้สนใจสามารถนำไปต่อยอดได้ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างงานวิศวกรรม DIY และการวิจัยเชิงประสาทวิทยา

    ความหมายต่ออนาคตการวิจัย
    แม้หนูจะไม่ได้เข้าใจเกม Doom ในเชิงกลยุทธ์ แต่การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า เกมเอนจิน สามารถเป็นแพลตฟอร์มราคาถูกและยืดหยุ่นสำหรับการศึกษาพฤติกรรมสัตว์ในโลกเสมือน การเปิดประตูสู่การทดลองใหม่ ๆ เช่นการใช้ VR เพื่อศึกษาการตัดสินใจ การเรียนรู้ หรือแม้แต่การพัฒนาอินเตอร์เฟซสมอง-เครื่องจักรในอนาคต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ความก้าวหน้าของโครงการฝึกหนูเล่น Doom
    หนูสามารถเคลื่อนไหวและยิงศัตรูในเกมได้จริง
    ใช้ระบบ VR จอ AMOLED โอบรอบสายตา

    วิธีการฝึกและการตอบสนอง
    ใช้การให้รางวัลด้วยน้ำหวานเมื่อทำถูกต้อง
    ใช้การเป่าลมเบา ๆ เพื่อบอกการชนกำแพง

    ฮาร์ดแวร์และการออกแบบระบบ
    ลูกบอลทรงกลมทำหน้าที่เป็นลู่วิ่ง
    ระบบเปิด (open-source) ให้นำไปต่อยอดได้

    ความหมายต่อการวิจัยอนาคต
    เกมเอนจินเป็นแพลตฟอร์มราคาถูกและยืดหยุ่น
    เปิดทางสู่การศึกษาอินเตอร์เฟซสมอง-เครื่องจักร

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    หนูไม่ได้เข้าใจเกมในเชิงกลยุทธ์หรือเป้าหมายจริง
    การฝึกใช้เวลานานและต้องการการออกแบบที่ซับซ้อน
    อาจมีข้อถกเถียงด้านจริยธรรมการใช้สัตว์ทดลอง

    https://www.tomshardware.com/virtual-reality/rats-are-still-being-taught-to-play-doom-now-with-a-curved-amoled-and-a-shoot-button
    🕹️ หนูนักล่าในโลกเสมือน Doom โครงการฝึกหนูให้เล่นเกม Doom ก้าวหน้าไปอีกขั้น หนูสามารถ “ยิงศัตรู” ได้แล้วผ่านระบบ VR ที่ใช้จอ AMOLED โอบรอบ พร้อมกลไกตอบสนองที่ซับซ้อนขึ้น ถือเป็นการทดลองที่ผสมผสานวิศวกรรม ฮาร์ดแวร์ และพฤติกรรมสัตว์อย่างน่าสนใจ การทดลองที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 โดยนักประสาทวิศวกร Viktor Tóth ได้สร้างความฮือฮาเมื่อหนูถูกฝึกให้เคลื่อนที่ในเกม Doom II ผ่านการใช้ลูกบอลทรงกลมและจอภาพ VR แบบโอบรอบ ล่าสุดระบบถูกพัฒนาให้หนูสามารถ “ยิง” ศัตรูได้ด้วยการกดกลไกที่เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ถือเป็นการยกระดับจากการเดินไปมาในฉากสู่การมีปฏิสัมพันธ์กับกลไกเกมจริง ๆ 🧠 วิทยาศาสตร์เบื้องหลังการทดลอง การฝึกใช้หลักการ operant conditioning หรือการให้รางวัลเมื่อสัตว์ทำพฤติกรรมที่ถูกต้อง เช่น น้ำหวานผสมที่ถูกจ่ายออกมาเมื่อหนูเดินหรือยิงถูกเป้าหมาย ระบบยังเพิ่มการตอบสนองทางกายภาพ เช่นการเป่าลมเบา ๆ ที่จมูกเพื่อบอกว่าหนูชนกำแพงในเกม วิธีนี้ช่วยให้สัตว์เรียนรู้ได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการลองผิดลองถูกเพียงอย่างเดียว 🔧 ฮาร์ดแวร์และการออกแบบ การทดลองใช้จอ AMOLED แบบโค้งที่โอบรอบสายตาของหนู ทำให้ภาพเสมือนสมจริงมากขึ้น พร้อมลูกบอลทรงกลมที่ทำหน้าที่เป็น “ลู่วิ่ง” ให้หนูเคลื่อนไหวในเกม การออกแบบนี้ยังคงเป็นแบบเปิด (open-source) เพื่อให้นักวิจัยและผู้สนใจสามารถนำไปต่อยอดได้ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างงานวิศวกรรม DIY และการวิจัยเชิงประสาทวิทยา 🌐 ความหมายต่ออนาคตการวิจัย แม้หนูจะไม่ได้เข้าใจเกม Doom ในเชิงกลยุทธ์ แต่การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า เกมเอนจิน สามารถเป็นแพลตฟอร์มราคาถูกและยืดหยุ่นสำหรับการศึกษาพฤติกรรมสัตว์ในโลกเสมือน การเปิดประตูสู่การทดลองใหม่ ๆ เช่นการใช้ VR เพื่อศึกษาการตัดสินใจ การเรียนรู้ หรือแม้แต่การพัฒนาอินเตอร์เฟซสมอง-เครื่องจักรในอนาคต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ความก้าวหน้าของโครงการฝึกหนูเล่น Doom ➡️ หนูสามารถเคลื่อนไหวและยิงศัตรูในเกมได้จริง ➡️ ใช้ระบบ VR จอ AMOLED โอบรอบสายตา ✅ วิธีการฝึกและการตอบสนอง ➡️ ใช้การให้รางวัลด้วยน้ำหวานเมื่อทำถูกต้อง ➡️ ใช้การเป่าลมเบา ๆ เพื่อบอกการชนกำแพง ✅ ฮาร์ดแวร์และการออกแบบระบบ ➡️ ลูกบอลทรงกลมทำหน้าที่เป็นลู่วิ่ง ➡️ ระบบเปิด (open-source) ให้นำไปต่อยอดได้ ✅ ความหมายต่อการวิจัยอนาคต ➡️ เกมเอนจินเป็นแพลตฟอร์มราคาถูกและยืดหยุ่น ➡️ เปิดทางสู่การศึกษาอินเตอร์เฟซสมอง-เครื่องจักร ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ หนูไม่ได้เข้าใจเกมในเชิงกลยุทธ์หรือเป้าหมายจริง ⛔ การฝึกใช้เวลานานและต้องการการออกแบบที่ซับซ้อน ⛔ อาจมีข้อถกเถียงด้านจริยธรรมการใช้สัตว์ทดลอง https://www.tomshardware.com/virtual-reality/rats-are-still-being-taught-to-play-doom-now-with-a-curved-amoled-and-a-shoot-button
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุบสภาองศาเดือด การเมืองป่วน การบ้านวุ่น เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง?, อนุทิน ชาญวีรกูล ตัดสินใจยุบสภา เปิดเกมเลือกตั้งใหม่ท่ามกลางศึกการเมืองร้อน ปมแก้รัฐธรรมนูญ–แรงกดดันอภิปรายไม่ไว้วางใจ กลายเป็นชนวนรีเซตอำนาจ เดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งใน 45–60 วัน

    อ่านต่อ…..https://news1live.com/detail/9680000120048

    #News1live #News1 #ปมร้อนข่าวลึก #truthfromthailand #newsupdate #ยุบสภา #การเมืองไทย #เลือกตั้ง
    ยุบสภาองศาเดือด การเมืองป่วน การบ้านวุ่น เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง?, อนุทิน ชาญวีรกูล ตัดสินใจยุบสภา เปิดเกมเลือกตั้งใหม่ท่ามกลางศึกการเมืองร้อน ปมแก้รัฐธรรมนูญ–แรงกดดันอภิปรายไม่ไว้วางใจ กลายเป็นชนวนรีเซตอำนาจ เดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งใน 45–60 วัน • อ่านต่อ…..https://news1live.com/detail/9680000120048 • #News1live #News1 #ปมร้อนข่าวลึก #truthfromthailand #newsupdate #ยุบสภา #การเมืองไทย #เลือกตั้ง
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเรือประกาศกำหนดเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ในพื้นที่จังหวัดตราด เพื่อยกระดับมาตรการความมั่นคง จากสถานการณ์ชายแดนที่ยังตึงเครียด
    .
    เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2568 เวลา 08.52 น. กปช.จต. แจ้งบังคับใช้เคอร์ฟิวช่วงเวลา 19.00–05.00 น. ครอบคลุม อ.เมืองตราด คลองใหญ่ บ่อไร่ เขาสมิง และแหลมงอบ ยกเว้น อ.เกาะช้าง และ อ.เกาะกูด เริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
    .
    กองทัพเรือยืนยันการบังคับใช้จะเป็นไปอย่างเหมาะสมตามกฎหมายกฎอัยการศึก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน พร้อมประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120063
    .
    #News1live #News1 #เคอร์ฟิว #ตราด #กองทัพเรือ #ความมั่นคง #สถานการณ์ชายแดน #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    กองทัพเรือประกาศกำหนดเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ในพื้นที่จังหวัดตราด เพื่อยกระดับมาตรการความมั่นคง จากสถานการณ์ชายแดนที่ยังตึงเครียด . เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2568 เวลา 08.52 น. กปช.จต. แจ้งบังคับใช้เคอร์ฟิวช่วงเวลา 19.00–05.00 น. ครอบคลุม อ.เมืองตราด คลองใหญ่ บ่อไร่ เขาสมิง และแหลมงอบ ยกเว้น อ.เกาะช้าง และ อ.เกาะกูด เริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป . กองทัพเรือยืนยันการบังคับใช้จะเป็นไปอย่างเหมาะสมตามกฎหมายกฎอัยการศึก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน พร้อมประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120063 . #News1live #News1 #เคอร์ฟิว #ตราด #กองทัพเรือ #ความมั่นคง #สถานการณ์ชายแดน #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาสิโนพนมเปญ ใต้ทุนมาเลเซีย

    การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ มีประเด็นนักกีฬาทีมชาติกัมพูชาสวมเสื้อแจ็กเก็ตที่มีโลโก้กาสิโน "NAGAWORLD" อยู่บนหน้าอกด้านซ้ายใต้ธงชาติกัมพูชา แม้นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย จะให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายโฆษณาการพนันตามกฎหมายไทยหรือไม่ แต่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่กัมพูชารวม 137 คน ถอนตัวออกจากการแข่งขันเสียก่อน สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเรื่องนี้คือ นากาเวิลด์ เป็นกาสิโนหนึ่งเดียวในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่นายทุนเป็นชาวมาเลเซีย

    นากาเวิลด์ ก่อตั้งโดย นายเฉิน ลิบ เกียง (Chen Lip Keong) นักธุรกิจชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดในครอบครัวผู้อพยพจากจีนรุ่นที่ 2 เติบโตที่เหมืองแร่ดีบุกบนหุบเขาคินตา ทางตอนกลางของมาเลเซีย จบการศึกษาด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยมาลายา เริ่มต้นเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป แต่กลับสนใจทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผลิตชิ้นส่วนการบิน ต่อมาในปี 2533 นายเฉินไปกัมพูชาเพื่อสำรวจน้ำมันในอ่าวไทย แต่เมื่อรัฐบาลกัมพูชาเปิดประมูลใบอนุญาตกาสิโน เขากลับคว้าใบอนุญาตนั้นมาได้

    นายเฉินจัดตั้งกาสิโนเมื่อปี 2538 โดยใช้เรือเช่าตามแม่น้ำบาสัก (Bassac River) ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำโขง ใกล้กับพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล (พระราชวังหลวง) ในกรุงพนมเปญ กระทั่งได้ซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารนากาเวิลด์ ย้ายมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบันในปี 2546 จากนั้นในปี 2549 บริษัทนากาคอร์ปฯ (NagaCorp) ที่จัดตั้งขึ้นในหมู่เกาะเคย์แมนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และขยายอาคารหลังที่สองในปี 2560 โดยมีนากาซิตี้วอล์ก (Naga City Walk) เป็นทางเชื่อมใต้ดิน

    กาสิโนแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตถึงปี 2608 โดยผูกขาดเพียงรายเดียวในรัศมี 200 กิโลเมตร ถึงปี 2588 ประกอบด้วยโรงแรม 1,658 ห้อง ภัตตาคารและไนต์คลับ 20 แห่ง สปา 2 แห่ง ศูนย์การค้าใต้ดิน ร้านค้าปลอดภาษีจาก China Duty Free Group สถานที่จัดประชุมสัมมนา (MICE) รองรับผู้เข้าร่วมประชุม 1,000 คน และโรงละคร NABA ความจุ 2,000 ที่นั่ง

    นายเฉินถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีมาเลเซียอันดับ 7 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์เมื่อเดือน พ.ค. 2566 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัญฯ เขาเคยมีโครงการก่อตั้งกาสิโนอีกแห่งในเมืองวลาดิโวสต็อก ประเทศรัสเซีย แต่กลับระงับการก่อสร้างอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

    นายเฉินเสียชีวิตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เนื่องจากอาการเจ็บป่วย รวมอายุได้ 75 ปี ส่งมอบอำนาจให้แก่นายเฉิน ยี่ ฟอน (Chen Yiy Fon) ลูกชายเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มคนใหม่

    #Newskit
    กาสิโนพนมเปญ ใต้ทุนมาเลเซีย การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ มีประเด็นนักกีฬาทีมชาติกัมพูชาสวมเสื้อแจ็กเก็ตที่มีโลโก้กาสิโน "NAGAWORLD" อยู่บนหน้าอกด้านซ้ายใต้ธงชาติกัมพูชา แม้นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย จะให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายโฆษณาการพนันตามกฎหมายไทยหรือไม่ แต่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่กัมพูชารวม 137 คน ถอนตัวออกจากการแข่งขันเสียก่อน สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเรื่องนี้คือ นากาเวิลด์ เป็นกาสิโนหนึ่งเดียวในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่นายทุนเป็นชาวมาเลเซีย นากาเวิลด์ ก่อตั้งโดย นายเฉิน ลิบ เกียง (Chen Lip Keong) นักธุรกิจชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดในครอบครัวผู้อพยพจากจีนรุ่นที่ 2 เติบโตที่เหมืองแร่ดีบุกบนหุบเขาคินตา ทางตอนกลางของมาเลเซีย จบการศึกษาด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยมาลายา เริ่มต้นเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป แต่กลับสนใจทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผลิตชิ้นส่วนการบิน ต่อมาในปี 2533 นายเฉินไปกัมพูชาเพื่อสำรวจน้ำมันในอ่าวไทย แต่เมื่อรัฐบาลกัมพูชาเปิดประมูลใบอนุญาตกาสิโน เขากลับคว้าใบอนุญาตนั้นมาได้ นายเฉินจัดตั้งกาสิโนเมื่อปี 2538 โดยใช้เรือเช่าตามแม่น้ำบาสัก (Bassac River) ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำโขง ใกล้กับพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล (พระราชวังหลวง) ในกรุงพนมเปญ กระทั่งได้ซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารนากาเวิลด์ ย้ายมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบันในปี 2546 จากนั้นในปี 2549 บริษัทนากาคอร์ปฯ (NagaCorp) ที่จัดตั้งขึ้นในหมู่เกาะเคย์แมนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และขยายอาคารหลังที่สองในปี 2560 โดยมีนากาซิตี้วอล์ก (Naga City Walk) เป็นทางเชื่อมใต้ดิน กาสิโนแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตถึงปี 2608 โดยผูกขาดเพียงรายเดียวในรัศมี 200 กิโลเมตร ถึงปี 2588 ประกอบด้วยโรงแรม 1,658 ห้อง ภัตตาคารและไนต์คลับ 20 แห่ง สปา 2 แห่ง ศูนย์การค้าใต้ดิน ร้านค้าปลอดภาษีจาก China Duty Free Group สถานที่จัดประชุมสัมมนา (MICE) รองรับผู้เข้าร่วมประชุม 1,000 คน และโรงละคร NABA ความจุ 2,000 ที่นั่ง นายเฉินถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีมาเลเซียอันดับ 7 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์เมื่อเดือน พ.ค. 2566 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัญฯ เขาเคยมีโครงการก่อตั้งกาสิโนอีกแห่งในเมืองวลาดิโวสต็อก ประเทศรัสเซีย แต่กลับระงับการก่อสร้างอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน นายเฉินเสียชีวิตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เนื่องจากอาการเจ็บป่วย รวมอายุได้ 75 ปี ส่งมอบอำนาจให้แก่นายเฉิน ยี่ ฟอน (Chen Yiy Fon) ลูกชายเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มคนใหม่ #Newskit
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • Roxette ถือเป็นหนึ่งในวงดนตรีป๊อปร็อกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจากสวีเดนในยุค 80s-90s โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1986 ที่เมืองฮาล์มสตัด ประเทศสวีเดน วงประกอบด้วยสมาชิกหลักสองคนคือ Marie Fredriksson นักร้องนำหญิงที่มีน้ำเสียงอันทรงพลังและเคยมีอาชีพเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จในสวีเดนตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1980 และ Per Gessle นักร้อง นักแต่งเพลง และมือกีตาร์ที่เคยโด่งดังกับวง Gyllene Tider ซึ่งเป็นวงร็อกสวีเดนที่ฮิตมากในประเทศบ้านเกิดตั้งแต่ปี 1979

    การรวมตัวของทั้งคู่เริ่มต้นจากความร่วมมือในโปรเจกต์เดี่ยวของ Marie ที่ Per เข้ามาช่วยแต่งเพลง “Neverending Love” ซึ่งกลายเป็นฮิตในสวีเดนปี 1986 และนำไปสู่การก่อตั้ง Roxette อย่างเป็นทางการ ชื่อวงได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง “Roxette” ของวงร็อกอังกฤษ Dr. Feelgood ซึ่ง Per ชื่นชอบเป็นพิเศษ。 ในช่วงแรก Roxette มุ่งเน้นตลาดสวีเดนและยุโรป โดยอัลบั้มแรก Pearls of Passion (1986) ประสบความสำเร็จในระดับภูมิภาค แต่ความก้าวหน้าครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาขยายสู่ตลาดนานาชาติด้วยอัลบั้ม Look Sharp! ในปี 1988 ซึ่งมีเพลงฮิตอย่าง “The Look” ที่ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาในปี 1989 และทำให้ Roxette กลายเป็นศิลปินสวีเดนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกนับตั้งแต่ ABBA 。 วงออกอัลบั้มต่อเนื่องอย่าง Joyride (1991) ซึ่งมีเพลงฮิตอันดับ 1 อีกเพลงอย่าง “Joyride” และ “It Must Have Been Love” ที่ใช้ในภาพยนตร์ Pretty Woman ทำให้ยอดขายทะลุ 11 ล้านชุดทั่วโลก 。 Roxette มีช่วงหยุดพักในปี 2002 หลังจาก Marie ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมอง แต่พวกเขากลับมาร่วมงานกันในปี 2010 กับอัลบั้ม Charm School และทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก จนกระทั่ง Marie เสียชีวิตในปี 2019 ด้วยวัย 61 ปีจากโรคแทรกซ้อน。 หลังจากนั้น Per ได้ดำเนินโครงการต่อในชื่อ PG Roxette ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อรำลึกถึง Marie และรักษามรดกของวงไว้。 โดยรวม Roxette ขายอัลบั้มได้กว่า 75 ล้านชุดทั่วโลกและมีเพลงฮิตอันดับ 1 ในสหรัฐถึง 4 เพลง ซึ่งเป็นสถิติที่หาได้ยากสำหรับศิลปินที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ 。

    เพลง “Listen To Your Heart” เป็นหนึ่งในผลงานที่กำหนดเอกลักษณ์ของ Roxette โดยถูกเขียนขึ้นในปี 1988 และออกครั้งแรกในสวีเดนเดือนกันยายน 1988 ในฐานะซิงเกิลที่สองจากอัลบั้ม Look Sharp! ซึ่งผลิตโดย Clarence Öfwerman 。 Per Gessle ผู้แต่งเนื้อร้องและทำนองหลัก ร่วมกับ Mats Persson มือกีตาร์จาก Gyllene Tider ได้รับแรงบันดาลใจจากบทสนทนายามดึกกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่กำลังเผชิญความรักที่ยุ่งยากและเจ็บปวด โดยเพื่อนคนนั้นถูกกดดันจากสังคมให้เลิกกับคนรัก 。 เพลงนี้มีโครงสร้างแบบบัลลาดป๊อปร็อก เริ่มต้นด้วยเปียโนช้า ๆ ก่อนเข้าสู่ส่วนกีตาร์และเสียงร้องอันไพเราะของ Marie ที่เพิ่มความเข้มข้นในท่อนคอรัส。 ในเวอร์ชันแรก เพลงนี้ได้รับความนิยมในสวีเดนและยุโรปเหนือ แต่การปรับแต่งสำหรับตลาดสหรัฐโดย Tom Keane ทำให้มันมีเวอร์ชันที่ยาวขึ้นและเน้นเสียงซินธ์มากกว่า。 น่าสนใจว่ามีการเปรียบเทียบกับเพลง “Alone” ของ Heart ในปี 1987 ซึ่งมีทำนองคล้ายกัน จน Roxette ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์บางส่วนให้ Heart แม้ Per จะยืนยันว่าเป็นเรื่องบังเอิญ。 เพลงนี้ถูกบันทึกที่สตูดิโอ EMI ในสตอกโฮล์ม และกลายเป็นส่วนสำคัญของอัลบั้ม Look Sharp! ที่มียอดขายกว่า 9 ล้านชุด。

    ในแง่ความหมาย เพลง “Listen To Your Heart” สื่อสารข้อความที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการฟังเสียงหัวใจตัวเองในเรื่องความรัก โดยเฉพาะเมื่อความสัมพันธ์ถูกท้าทายจากปัจจัยภายนอก เช่น ความเห็นจากสังคม เพื่อนฝูง หรืออุปสรรคอื่น ๆ ที่อาจทำให้คู่รักต้องแยกทาง 。 เนื้อเพลงอย่าง “I know there’s something in the wake of your smile / I get a notion from the look in your eyes” แสดงถึงการสังเกตสัญญาณความรักที่แท้จริง ก่อนที่จะเตือนว่า “Listen to your heart when he’s calling for you / Listen to your heart, there’s nothing else you can do”。 มันเป็นเพลงที่ให้กำลังใจให้เชื่อมั่นในความรู้สึกภายใน แม้จะเจ็บปวดหรือสับสน และบางครั้งถูกตีความว่าเป็นการต่อต้านการแทรกแซงจากภายนอกในความรักที่บริสุทธิ์。 ในบริบทกว้างขึ้น เพลงนี้ยังถูกนำไปประยุกต์กับธีมอื่น ๆ เช่น การต่อสู้กับโรคหัวใจหรือปัญหาสุขภาพส่วนตัวในยุคปัจจุบัน โดยบางคนมองว่ามันเป็นเพลงที่ให้แรงบันดาลใจในการ “ฟังหัวใจ” ในความหมายตามตัวอักษร 。 ความหมายนี้ทำให้เพลงคงความนิยมข้ามกาลเวลา และถูกนำไปใช้ในสื่อต่าง ๆ เช่น ภาพยนตร์ โฆษณา และรายการทีวี。

    ความสำเร็จระดับโลกของ “Listen To Your Heart” ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับ Roxette โดยเพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ขายดีที่สุดของปี 1989 ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard Hot 100 ของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 1989 และครองตำแหน่งนั้น 1 สัปดาห์ รวมถึงขึ้นอันดับ 1 ในแคนาดาและติดชาร์ตสูงในยุโรป 。 มันเป็นเพลงฮิตอันดับ 1 เพลงที่สองของ Roxette ในสหรัฐ ต่อจาก “The Look” และช่วยให้วงมีเพลงอันดับ 1 รวม 4 เพลงใน Billboard Hot 100 ซึ่งเป็นสถิติที่ ABBA ยังไม่เคยทำได้ 。 ในออสเตรเลีย เพลงนี้ขึ้นอันดับ 10 ในชาร์ต ARIA เมื่อเดือนพฤศจิกายน 1989 และเป็นส่วนหนึ่งของเพลงฮิตจากอัลบั้ม Look Sharp! ที่รวม “Dressed For Success” (อันดับ 3) และ “Dangerous” (อันดับ 9)。 ความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งมาจากนักศึกษาชาวอเมริกันจากมินนิโซตาที่ศึกษาอยู่ในสวีเดนและนำเทปเพลงกลับไปโปรโมตในสถานีวิทยุท้องถิ่น ซึ่งนำไปสู่การเซ็นสัญญากับ EMI ในสหรัฐและการบุกตลาดโลก 。 เพลงนี้ยังได้รับการรับรองแพลตตินัมในหลายประเทศและถูก cover โดยศิลปินอื่น ๆ เช่น เวอร์ชันแดนซ์ของ D.H.T. ในปี 2005 ที่ขึ้นอันดับ 8 ใน Billboard Hot 100 。 มรดกของเพลงนี้ยังคงอยู่ โดยถูกนำไปใช้ในวัฒนธรรมป๊อปและได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงคลาสสิกยุค 80s ที่ช่วยกำหนดภาพลักษณ์ของ Roxette ในฐานะศิลปินสวีเดนที่บุกตลาดโลกได้สำเร็จ。

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://www.youtube.com/watch?v=dpfbKWoBpRw
    😇 Roxette ถือเป็นหนึ่งในวงดนตรีป๊อปร็อกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจากสวีเดนในยุค 80s-90s โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1986 ที่เมืองฮาล์มสตัด ประเทศสวีเดน วงประกอบด้วยสมาชิกหลักสองคนคือ Marie Fredriksson นักร้องนำหญิงที่มีน้ำเสียงอันทรงพลังและเคยมีอาชีพเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จในสวีเดนตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1980 และ Per Gessle นักร้อง นักแต่งเพลง และมือกีตาร์ที่เคยโด่งดังกับวง Gyllene Tider ซึ่งเป็นวงร็อกสวีเดนที่ฮิตมากในประเทศบ้านเกิดตั้งแต่ปี 1979 🎸 การรวมตัวของทั้งคู่เริ่มต้นจากความร่วมมือในโปรเจกต์เดี่ยวของ Marie ที่ Per เข้ามาช่วยแต่งเพลง “Neverending Love” ซึ่งกลายเป็นฮิตในสวีเดนปี 1986 และนำไปสู่การก่อตั้ง Roxette อย่างเป็นทางการ ชื่อวงได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง “Roxette” ของวงร็อกอังกฤษ Dr. Feelgood ซึ่ง Per ชื่นชอบเป็นพิเศษ。 ในช่วงแรก Roxette มุ่งเน้นตลาดสวีเดนและยุโรป โดยอัลบั้มแรก Pearls of Passion (1986) ประสบความสำเร็จในระดับภูมิภาค แต่ความก้าวหน้าครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาขยายสู่ตลาดนานาชาติด้วยอัลบั้ม Look Sharp! ในปี 1988 ซึ่งมีเพลงฮิตอย่าง “The Look” ที่ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาในปี 1989 และทำให้ Roxette กลายเป็นศิลปินสวีเดนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกนับตั้งแต่ ABBA 。 วงออกอัลบั้มต่อเนื่องอย่าง Joyride (1991) ซึ่งมีเพลงฮิตอันดับ 1 อีกเพลงอย่าง “Joyride” และ “It Must Have Been Love” ที่ใช้ในภาพยนตร์ Pretty Woman ทำให้ยอดขายทะลุ 11 ล้านชุดทั่วโลก 。 Roxette มีช่วงหยุดพักในปี 2002 หลังจาก Marie ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมอง แต่พวกเขากลับมาร่วมงานกันในปี 2010 กับอัลบั้ม Charm School และทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก จนกระทั่ง Marie เสียชีวิตในปี 2019 ด้วยวัย 61 ปีจากโรคแทรกซ้อน。 หลังจากนั้น Per ได้ดำเนินโครงการต่อในชื่อ PG Roxette ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อรำลึกถึง Marie และรักษามรดกของวงไว้。 โดยรวม Roxette ขายอัลบั้มได้กว่า 75 ล้านชุดทั่วโลกและมีเพลงฮิตอันดับ 1 ในสหรัฐถึง 4 เพลง ซึ่งเป็นสถิติที่หาได้ยากสำหรับศิลปินที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ 。 🎶 เพลง “Listen To Your Heart” เป็นหนึ่งในผลงานที่กำหนดเอกลักษณ์ของ Roxette โดยถูกเขียนขึ้นในปี 1988 และออกครั้งแรกในสวีเดนเดือนกันยายน 1988 ในฐานะซิงเกิลที่สองจากอัลบั้ม Look Sharp! ซึ่งผลิตโดย Clarence Öfwerman 。 Per Gessle ผู้แต่งเนื้อร้องและทำนองหลัก ร่วมกับ Mats Persson มือกีตาร์จาก Gyllene Tider ได้รับแรงบันดาลใจจากบทสนทนายามดึกกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่กำลังเผชิญความรักที่ยุ่งยากและเจ็บปวด โดยเพื่อนคนนั้นถูกกดดันจากสังคมให้เลิกกับคนรัก 。 เพลงนี้มีโครงสร้างแบบบัลลาดป๊อปร็อก เริ่มต้นด้วยเปียโนช้า ๆ ก่อนเข้าสู่ส่วนกีตาร์และเสียงร้องอันไพเราะของ Marie ที่เพิ่มความเข้มข้นในท่อนคอรัส。 ในเวอร์ชันแรก เพลงนี้ได้รับความนิยมในสวีเดนและยุโรปเหนือ แต่การปรับแต่งสำหรับตลาดสหรัฐโดย Tom Keane ทำให้มันมีเวอร์ชันที่ยาวขึ้นและเน้นเสียงซินธ์มากกว่า。 น่าสนใจว่ามีการเปรียบเทียบกับเพลง “Alone” ของ Heart ในปี 1987 ซึ่งมีทำนองคล้ายกัน จน Roxette ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์บางส่วนให้ Heart แม้ Per จะยืนยันว่าเป็นเรื่องบังเอิญ。 เพลงนี้ถูกบันทึกที่สตูดิโอ EMI ในสตอกโฮล์ม และกลายเป็นส่วนสำคัญของอัลบั้ม Look Sharp! ที่มียอดขายกว่า 9 ล้านชุด。 💖 ในแง่ความหมาย เพลง “Listen To Your Heart” สื่อสารข้อความที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการฟังเสียงหัวใจตัวเองในเรื่องความรัก โดยเฉพาะเมื่อความสัมพันธ์ถูกท้าทายจากปัจจัยภายนอก เช่น ความเห็นจากสังคม เพื่อนฝูง หรืออุปสรรคอื่น ๆ ที่อาจทำให้คู่รักต้องแยกทาง 。 เนื้อเพลงอย่าง “I know there’s something in the wake of your smile / I get a notion from the look in your eyes” แสดงถึงการสังเกตสัญญาณความรักที่แท้จริง ก่อนที่จะเตือนว่า “Listen to your heart when he’s calling for you / Listen to your heart, there’s nothing else you can do”。 มันเป็นเพลงที่ให้กำลังใจให้เชื่อมั่นในความรู้สึกภายใน แม้จะเจ็บปวดหรือสับสน และบางครั้งถูกตีความว่าเป็นการต่อต้านการแทรกแซงจากภายนอกในความรักที่บริสุทธิ์。 ในบริบทกว้างขึ้น เพลงนี้ยังถูกนำไปประยุกต์กับธีมอื่น ๆ เช่น การต่อสู้กับโรคหัวใจหรือปัญหาสุขภาพส่วนตัวในยุคปัจจุบัน โดยบางคนมองว่ามันเป็นเพลงที่ให้แรงบันดาลใจในการ “ฟังหัวใจ” ในความหมายตามตัวอักษร 。 ความหมายนี้ทำให้เพลงคงความนิยมข้ามกาลเวลา และถูกนำไปใช้ในสื่อต่าง ๆ เช่น ภาพยนตร์ โฆษณา และรายการทีวี。 🌍 ความสำเร็จระดับโลกของ “Listen To Your Heart” ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับ Roxette โดยเพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ขายดีที่สุดของปี 1989 ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard Hot 100 ของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 1989 และครองตำแหน่งนั้น 1 สัปดาห์ รวมถึงขึ้นอันดับ 1 ในแคนาดาและติดชาร์ตสูงในยุโรป 。 มันเป็นเพลงฮิตอันดับ 1 เพลงที่สองของ Roxette ในสหรัฐ ต่อจาก “The Look” และช่วยให้วงมีเพลงอันดับ 1 รวม 4 เพลงใน Billboard Hot 100 ซึ่งเป็นสถิติที่ ABBA ยังไม่เคยทำได้ 。 ในออสเตรเลีย เพลงนี้ขึ้นอันดับ 10 ในชาร์ต ARIA เมื่อเดือนพฤศจิกายน 1989 และเป็นส่วนหนึ่งของเพลงฮิตจากอัลบั้ม Look Sharp! ที่รวม “Dressed For Success” (อันดับ 3) และ “Dangerous” (อันดับ 9)。 ความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งมาจากนักศึกษาชาวอเมริกันจากมินนิโซตาที่ศึกษาอยู่ในสวีเดนและนำเทปเพลงกลับไปโปรโมตในสถานีวิทยุท้องถิ่น ซึ่งนำไปสู่การเซ็นสัญญากับ EMI ในสหรัฐและการบุกตลาดโลก 。 เพลงนี้ยังได้รับการรับรองแพลตตินัมในหลายประเทศและถูก cover โดยศิลปินอื่น ๆ เช่น เวอร์ชันแดนซ์ของ D.H.T. ในปี 2005 ที่ขึ้นอันดับ 8 ใน Billboard Hot 100 。 มรดกของเพลงนี้ยังคงอยู่ โดยถูกนำไปใช้ในวัฒนธรรมป๊อปและได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงคลาสสิกยุค 80s ที่ช่วยกำหนดภาพลักษณ์ของ Roxette ในฐานะศิลปินสวีเดนที่บุกตลาดโลกได้สำเร็จ。 #ลุงเล่าหลานฟัง https://www.youtube.com/watch?v=dpfbKWoBpRw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar

    นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่”
    เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้
    https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears

    “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time
    ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why

    สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN
    ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children

    อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน
    รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data

    หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน
    งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions

    Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่
    สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform

    กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง
    กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware

    วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ
    ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี
    https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time

    รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด
    รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech

    Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11
    ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store

    Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย
    เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
    https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia

    Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย
    แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที
    https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams

    EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware
    สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน
    https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition

    Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm

    พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools

    iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ
    Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย
    https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone

    AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต
    บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it

    YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย
    Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น
    https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades

    Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด
    Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง
    https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia

    แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้
    มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data

    AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก
    AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp

    Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว
    Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง
    https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition

    อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์
    ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ
    https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud

    สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI
    รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china

    ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด
    OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is

    AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน
    รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย
    https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims

    ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง”
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar 📰 นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่” เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears 👥 “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why 🔒 สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children 🇮🇳 อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data ⚠️ หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions 🛡️ Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่ สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform 💻 กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware 💾 วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time 🌐 รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech 🎨 Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11 ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store 📰 Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia 🤖 Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams ⚖️ EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition 💵 Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm 🛡️ พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools 📱 iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone 🤖 AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it 📺 YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades 💻 Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia 🛡️ แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้ มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data 🖥️ AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp 💻 Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition ⚖️ อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์ ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud 🌐 สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china 🤖 ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is 🧑‍💻 AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims 🤖 ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง” OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 542 มุมมอง 0 รีวิว
  • EFF เปิดตัว Age Verification Hub ต่อต้านกฎหมายตรวจสอบอายุออนไลน์

    EFF ประกาศเปิดตัว Age Verification Hub ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการตรวจสอบอายุออนไลน์ที่กำลังถูกผลักดันในหลายประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชน, นักวิชาการ, นักกฎหมาย และผู้กำหนดนโยบายเข้าใจผลกระทบที่แท้จริงของมาตรการเหล่านี้.

    องค์กรเตือนว่ากฎหมายตรวจสอบอายุออนไลน์มักถูกอ้างว่าเพื่อปกป้องเยาวชนจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ในทางปฏิบัติกลับสร้างความเสี่ยงต่อ ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เนื่องจากต้องมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชนหรือข้อมูลชีวมิติ ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือรั่วไหล.

    EFF ยังชี้ว่ามาตรการดังกล่าวอาจนำไปสู่การ เซ็นเซอร์เนื้อหาออนไลน์ และการจำกัดเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพ, การศึกษา, หรือสิทธิพลเมือง ซึ่งอาจถูกบล็อกโดยระบบตรวจสอบอายุที่เข้มงวดเกินไป.

    Age Verification Hub จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการให้ความรู้, สนับสนุนการวิจัย, และเป็นฐานข้อมูลสำหรับผู้ที่ต้องการต่อสู้กับกฎหมายที่ถูกมองว่า “misguided” หรือผิดทิศทาง โดยเน้นการปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    EFF เปิดตัว Age Verification Hub
    เป็นศูนย์รวมข้อมูลและทรัพยากรเกี่ยวกับกฎหมายตรวจสอบอายุออนไลน์
    สนับสนุนประชาชนและนักวิชาการในการทำความเข้าใจผลกระทบ

    ปัญหาของกฎหมายตรวจสอบอายุ
    เสี่ยงต่อการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
    อาจนำไปสู่การเซ็นเซอร์และจำกัดเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล

    เป้าหมายของ Hub
    ให้ความรู้และสนับสนุนการวิจัย
    เป็นฐานข้อมูลสำหรับการต่อสู้กับกฎหมายที่ผิดทิศทาง

    ข้อกังวลและคำเตือน
    การตรวจสอบอายุอาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลหรือถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด
    ระบบที่เข้มงวดเกินไปอาจบล็อกการเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น สุขภาพและสิทธิพลเมือง

    https://www.eff.org/press/releases/eff-launches-age-verification-hub-resource-against-misguided-laws
    🔐 EFF เปิดตัว Age Verification Hub ต่อต้านกฎหมายตรวจสอบอายุออนไลน์ EFF ประกาศเปิดตัว Age Verification Hub ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการตรวจสอบอายุออนไลน์ที่กำลังถูกผลักดันในหลายประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชน, นักวิชาการ, นักกฎหมาย และผู้กำหนดนโยบายเข้าใจผลกระทบที่แท้จริงของมาตรการเหล่านี้. องค์กรเตือนว่ากฎหมายตรวจสอบอายุออนไลน์มักถูกอ้างว่าเพื่อปกป้องเยาวชนจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ในทางปฏิบัติกลับสร้างความเสี่ยงต่อ ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เนื่องจากต้องมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชนหรือข้อมูลชีวมิติ ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือรั่วไหล. EFF ยังชี้ว่ามาตรการดังกล่าวอาจนำไปสู่การ เซ็นเซอร์เนื้อหาออนไลน์ และการจำกัดเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพ, การศึกษา, หรือสิทธิพลเมือง ซึ่งอาจถูกบล็อกโดยระบบตรวจสอบอายุที่เข้มงวดเกินไป. Age Verification Hub จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการให้ความรู้, สนับสนุนการวิจัย, และเป็นฐานข้อมูลสำหรับผู้ที่ต้องการต่อสู้กับกฎหมายที่ถูกมองว่า “misguided” หรือผิดทิศทาง โดยเน้นการปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ EFF เปิดตัว Age Verification Hub ➡️ เป็นศูนย์รวมข้อมูลและทรัพยากรเกี่ยวกับกฎหมายตรวจสอบอายุออนไลน์ ➡️ สนับสนุนประชาชนและนักวิชาการในการทำความเข้าใจผลกระทบ ✅ ปัญหาของกฎหมายตรวจสอบอายุ ➡️ เสี่ยงต่อการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ➡️ อาจนำไปสู่การเซ็นเซอร์และจำกัดเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล ✅ เป้าหมายของ Hub ➡️ ให้ความรู้และสนับสนุนการวิจัย ➡️ เป็นฐานข้อมูลสำหรับการต่อสู้กับกฎหมายที่ผิดทิศทาง ‼️ ข้อกังวลและคำเตือน ⛔ การตรวจสอบอายุอาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลหรือถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ⛔ ระบบที่เข้มงวดเกินไปอาจบล็อกการเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น สุขภาพและสิทธิพลเมือง https://www.eff.org/press/releases/eff-launches-age-verification-hub-resource-against-misguided-laws
    WWW.EFF.ORG
    EFF Launches Age Verification Hub as Resource Against Misguided Laws
    With ill-advised and dangerous age verification laws proliferating across the United States and around the world, creating surveillance and censorship regimes that will be used to harm both youth and adults, the Electronic Frontier Foundation has launched a new resource hub that will sort through the mess and help people fight back. To mark the hub's launch, EFF will host a Reddit AMA (“Ask Me Anything”) next week and a free livestreamed panel discussion on January 15 highlighting the dangers of these misguided laws.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • UK House of Lords พยายามห้ามเยาวชนใช้ VPN

    รายงานจาก Alec Muffett ระบุว่า สภาขุนนางแห่งสหราชอาณาจักร (UK House of Lords) กำลังพิจารณากฎหมายที่มีเป้าหมายห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN (Virtual Private Network) โดยให้เหตุผลว่าเป็นการป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย.

    อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์จำนวนมากมองว่ามาตรการนี้เป็นการ ละเมิดเสรีภาพดิจิทัล และอาจทำให้เยาวชนสูญเสียเครื่องมือสำคัญในการปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์. VPN ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและป้องกันการสอดส่องจากบุคคลที่สาม รวมถึงช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์.

    การห้ามใช้ VPN อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูลของเยาวชน โดยเฉพาะในยุคที่การศึกษาและการสื่อสารจำนวนมากอาศัยแพลตฟอร์มออนไลน์. นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า กฎหมายลักษณะนี้อาจถูกใช้เป็น ข้ออ้างในการควบคุมอินเทอร์เน็ต และเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์มากขึ้น.

    นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิ์ดิจิทัลเตือนว่า หากกฎหมายนี้ผ่าน อาจเป็น แบบอย่างที่อันตราย ซึ่งประเทศอื่น ๆ อาจนำไปใช้ตาม และจะกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อเสนอจาก UK House of Lords
    ห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN
    อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยและการป้องกันเนื้อหาไม่เหมาะสม

    บทบาทของ VPN
    ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและปกป้องความเป็นส่วนตัว
    ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    เยาวชนสูญเสียเครื่องมือปกป้องข้อมูลออนไลน์
    กระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูล

    ข้อกังวลและคำเตือน
    อาจเป็นการละเมิดเสรีภาพดิจิทัลและเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์
    หากผ่านกฎหมาย อาจเป็นแบบอย่างที่ประเทศอื่นนำไปใช้ตาม

    https://alecmuffett.com/article/134925
    🛑 UK House of Lords พยายามห้ามเยาวชนใช้ VPN รายงานจาก Alec Muffett ระบุว่า สภาขุนนางแห่งสหราชอาณาจักร (UK House of Lords) กำลังพิจารณากฎหมายที่มีเป้าหมายห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN (Virtual Private Network) โดยให้เหตุผลว่าเป็นการป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย. อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์จำนวนมากมองว่ามาตรการนี้เป็นการ ละเมิดเสรีภาพดิจิทัล และอาจทำให้เยาวชนสูญเสียเครื่องมือสำคัญในการปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์. VPN ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและป้องกันการสอดส่องจากบุคคลที่สาม รวมถึงช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์. การห้ามใช้ VPN อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูลของเยาวชน โดยเฉพาะในยุคที่การศึกษาและการสื่อสารจำนวนมากอาศัยแพลตฟอร์มออนไลน์. นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า กฎหมายลักษณะนี้อาจถูกใช้เป็น ข้ออ้างในการควบคุมอินเทอร์เน็ต และเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์มากขึ้น. นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิ์ดิจิทัลเตือนว่า หากกฎหมายนี้ผ่าน อาจเป็น แบบอย่างที่อันตราย ซึ่งประเทศอื่น ๆ อาจนำไปใช้ตาม และจะกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อเสนอจาก UK House of Lords ➡️ ห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN ➡️ อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยและการป้องกันเนื้อหาไม่เหมาะสม ✅ บทบาทของ VPN ➡️ ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและปกป้องความเป็นส่วนตัว ➡️ ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์ ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ เยาวชนสูญเสียเครื่องมือปกป้องข้อมูลออนไลน์ ➡️ กระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูล ‼️ข้อกังวลและคำเตือน ⛔ อาจเป็นการละเมิดเสรีภาพดิจิทัลและเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์ ⛔ หากผ่านกฎหมาย อาจเป็นแบบอย่างที่ประเทศอื่นนำไปใช้ตาม https://alecmuffett.com/article/134925
    ALECMUFFETT.COM
    IT GETS WORSE: UK House of Lords attempting to ban use of VPNs by anyone under 16
    This is deranged, each nation’s boomers and reactionaries attempting to outdo the others: “Action to prohibit the provision of VPN services to children in the United Kingdom” … th…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกชายแดนไทย–กัมพูชา “ยกสอง” เข้าสู่ยุคสงครามโดรนเต็มตัว ทั้งโดรนทิ้งระเบิด และโดรนพลีชีพ FPV (Kamikaze) ที่ถูกใช้เป็นอาวุธหลักเพื่อชิงความได้เปรียบในสนามรบ
    .
    รายงานระบุว่า กัมพูชาเพิ่มการใช้โดรนโจมตีควบคู่ BM-21 และปืนใหญ่ในหลายจุดยุทธศาสตร์ ขณะที่ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยโดรนติดอาวุธ การโจมตีเป้าหมายทางทหาร และการประสาน “โดรน+ปืนใหญ่” เพื่อค้นหาเป้า ระบุพิกัด และปรับการยิงแบบเรียลไทม์ จนกลายเป็นภาพสงครามรูปแบบใหม่ที่เข้มข้นขึ้นทุกวัน
    .
    ด้านกองทัพภาคที่ 2 เตือน “โดรนพลีชีพ” คือภัยคุกคามใหม่ พร้อมกำชับห้ามเข้าใกล้ซากโดรนหรือวัตถุต้องสงสัย และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ขณะที่ กพท.ออกประกาศห้ามปล่อยอากาศยานไร้คนขับใน 7 จังหวัดชายแดน เพื่อป้องกันกระทบความมั่นคง
    .
    อ่านเต็ม >> https://news1live.com/detail/9680000119735
    .
    #News1Live #News1 #สงครามโดรน #โดรนพลีชีพ #FPV #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #กองทัพไทย #โดรนทิ้งระเบิด #ข่าวความมั่นคง #TruthFromThailand
    ศึกชายแดนไทย–กัมพูชา “ยกสอง” เข้าสู่ยุคสงครามโดรนเต็มตัว ทั้งโดรนทิ้งระเบิด และโดรนพลีชีพ FPV (Kamikaze) ที่ถูกใช้เป็นอาวุธหลักเพื่อชิงความได้เปรียบในสนามรบ . รายงานระบุว่า กัมพูชาเพิ่มการใช้โดรนโจมตีควบคู่ BM-21 และปืนใหญ่ในหลายจุดยุทธศาสตร์ ขณะที่ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยโดรนติดอาวุธ การโจมตีเป้าหมายทางทหาร และการประสาน “โดรน+ปืนใหญ่” เพื่อค้นหาเป้า ระบุพิกัด และปรับการยิงแบบเรียลไทม์ จนกลายเป็นภาพสงครามรูปแบบใหม่ที่เข้มข้นขึ้นทุกวัน . ด้านกองทัพภาคที่ 2 เตือน “โดรนพลีชีพ” คือภัยคุกคามใหม่ พร้อมกำชับห้ามเข้าใกล้ซากโดรนหรือวัตถุต้องสงสัย และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ขณะที่ กพท.ออกประกาศห้ามปล่อยอากาศยานไร้คนขับใน 7 จังหวัดชายแดน เพื่อป้องกันกระทบความมั่นคง . อ่านเต็ม >> https://news1live.com/detail/9680000119735 . #News1Live #News1 #สงครามโดรน #โดรนพลีชีพ #FPV #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #กองทัพไทย #โดรนทิ้งระเบิด #ข่าวความมั่นคง #TruthFromThailand
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัมพูชาและไทยเปิดศึกการทูตบนเวทีสหประชาชาติ ต่างยื่นหนังสือกล่าวหาอีกฝ่ายรุกรานข้ามแดน แต่ล่าสุดคำร้องของกัมพูชาที่ขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ประณามไทย ยังไร้การตอบสนอง ขณะที่ฝ่ายไทยย้ำใช้สิทธิการป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล และชี้กัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119329
    .
    #News1live #News1 #UN #UNSC #ศึกการทูต #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    กัมพูชาและไทยเปิดศึกการทูตบนเวทีสหประชาชาติ ต่างยื่นหนังสือกล่าวหาอีกฝ่ายรุกรานข้ามแดน แต่ล่าสุดคำร้องของกัมพูชาที่ขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ประณามไทย ยังไร้การตอบสนอง ขณะที่ฝ่ายไทยย้ำใช้สิทธิการป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล และชี้กัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119329 . #News1live #News1 #UN #UNSC #ศึกการทูต #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคเพื่อไทยแถลงวิจารณ์การยุบสภา ชี้เป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและสะท้อนความล้มเหลวในการบริหารประเทศ พร้อมประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง โดย “จุลพันธ์” ระบุวันที่ 16 ธ.ค. จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน พร้อมนโยบายชุดแรก ภายใต้แคมเปญ “ยกเครื่องเพื่อไทย เพื่อไทยทำได้”
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119468
    .
    #News1live #News1 #เพื่อไทย #ยุบสภา #เลือกตั้งใหม่ #แคนดิเดตนายก #การเมืองไทย
    พรรคเพื่อไทยแถลงวิจารณ์การยุบสภา ชี้เป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและสะท้อนความล้มเหลวในการบริหารประเทศ พร้อมประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง โดย “จุลพันธ์” ระบุวันที่ 16 ธ.ค. จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน พร้อมนโยบายชุดแรก ภายใต้แคมเปญ “ยกเครื่องเพื่อไทย เพื่อไทยทำได้” . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119468 . #News1live #News1 #เพื่อไทย #ยุบสภา #เลือกตั้งใหม่ #แคนดิเดตนายก #การเมืองไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาเจียน "เจษชวา"
    ปั่นกระแส "สู้รบการละคร" พอหนูผียุบสภาฯ ฮุนเซนก็สั่งหยุดปะทะ น่าพาแมร่งไปทัศนศึกษาจริงๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    อาเจียน "เจษชวา" ปั่นกระแส "สู้รบการละคร" พอหนูผียุบสภาฯ ฮุนเซนก็สั่งหยุดปะทะ น่าพาแมร่งไปทัศนศึกษาจริงๆ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : ปชน.แท้จริงคือ...ไส้ศึก อยากคุยแต่กับโจร ด้อมส้มตาสว่างสักที

    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #ด้อมส้ม #พรรคประชาชน
    Newsstory : ปชน.แท้จริงคือ...ไส้ศึก อยากคุยแต่กับโจร ด้อมส้มตาสว่างสักที #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ด้อมส้ม #พรรคประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts