• ซื้อหุ้นคืน เครื่องมือปั่นราคาหุ้น? 19/12/68 #ราคาหุ้น #ซื้อหุ้นคืน #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    ซื้อหุ้นคืน เครื่องมือปั่นราคาหุ้น? 19/12/68 #ราคาหุ้น #ซื้อหุ้นคืน #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.47

    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นองค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศที่โดดเด่นและมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในเชิงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงมวลมนุษยชาติภายใต้อาณัติของกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญสูงสุดของประชาคมโลก ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งทำให้องค์กรนี้มีความพิเศษกว่าองค์กรอื่นในระบบสหประชาชาติคืออำนาจในการออกข้อมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐสมาชิกทั้งหมดตามมาตรายี่สิบห้าแห่งกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งระบุให้รัฐสมาชิกตกลงยอมรับและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคง อันเป็นการโอนอ่อนอำนาจอธิปไตยบางส่วนในเชิงความมั่นคงมาไว้ที่การตัดสินใจร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลุกลามจนกลายเป็นสงครามวงกว้าง โดยโครงสร้างทางกฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจของรัฐมหาอำนาจที่มีสถานะเป็นสมาชิกถาวรห้าประเทศกับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งอีกสิบประเทศ แม้ว่าในเชิงนิติศาสตร์มักมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เท่าเทียมจากสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ที่สมาชิกถาวรครอบครองอยู่แต่ในอีกมุมหนึ่งโครงสร้างนี้คือกลไกเชิงประจักษ์ที่รักษาเสถียรภาพระหว่างมหาอำนาจเพื่อไม่ให้ระบบกฎหมายโลกพังทลายลงเหมือนเช่นในอดีต

    กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ในหมวดที่หกและหมวดที่เจ็ดของกฎบัตรสหประชาชาติโดยเริ่มต้นจากการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านการสืบสวนและการประนีประนอมแต่หากสถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นการคุกคามต่อสันติภาพหรือการกระทำอันเป็นการรุกรานคณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจตามหมวดที่เจ็ดในการใช้มาตรการบังคับซึ่งรวมถึงมาตรการที่มิใช่การใช้กำลังทางทหารเช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการจำกัดการคมนาคมขนส่งไปจนถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือการอนุญาตให้ใช้กำลังทางทหารเพื่อรักษาสันติภาพกลับคืนมาการตัดสินใจเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตีความกฎหมายและการประเมินข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของรัฐอธิปไตยอย่างรุนแรงอำนาจหน้าที่เชิงนิติบัญญัติและนิติบริหารของคณะมนตรีความมั่นคงจึงถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการกำหนดทิศทางของกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดนิยามของการก่อการร้ายและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับร้ายแรงที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงสากล

    บทสรุปของบทบาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมิติทางกฎหมายจึงมิได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเจรจาต่อรองทางการเมืองเท่านั้นแต่คือเสาหลักของการบังคับใช้ระเบียบโลกที่อาศัยหลักนิติธรรมเป็นเครื่องนำทางท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันแม้ว่าความท้าทายใหม่ๆเช่นอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือความขัดแย้งในรูปแบบพันทางจะขยายขอบเขตออกไปเกินกว่าที่ผู้ร่างกฎบัตรเมื่อแปดสิบปีก่อนจะคาดคิดแต่คณะมนตรีความมั่นคงยังคงต้องปรับตัวและตีความกฎหมายที่มีอยู่ให้สอดรับกับพลวัตของโลกเพื่อให้มั่นใจว่าเจตนารมณ์สูงสุดในการพิทักษ์สันติภาพจะยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนสืบไปความสำเร็จขององค์กรนี้จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐสมาชิกในการปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายและการเคารพในมติที่ออกมาเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมของมวลมนุษยชาติมากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงลำพังอันจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในเวทีโลกอย่างแท้จริง
    บทความกฎหมาย EP.47 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นองค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศที่โดดเด่นและมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในเชิงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงมวลมนุษยชาติภายใต้อาณัติของกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญสูงสุดของประชาคมโลก ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งทำให้องค์กรนี้มีความพิเศษกว่าองค์กรอื่นในระบบสหประชาชาติคืออำนาจในการออกข้อมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐสมาชิกทั้งหมดตามมาตรายี่สิบห้าแห่งกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งระบุให้รัฐสมาชิกตกลงยอมรับและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคง อันเป็นการโอนอ่อนอำนาจอธิปไตยบางส่วนในเชิงความมั่นคงมาไว้ที่การตัดสินใจร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลุกลามจนกลายเป็นสงครามวงกว้าง โดยโครงสร้างทางกฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจของรัฐมหาอำนาจที่มีสถานะเป็นสมาชิกถาวรห้าประเทศกับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งอีกสิบประเทศ แม้ว่าในเชิงนิติศาสตร์มักมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เท่าเทียมจากสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ที่สมาชิกถาวรครอบครองอยู่แต่ในอีกมุมหนึ่งโครงสร้างนี้คือกลไกเชิงประจักษ์ที่รักษาเสถียรภาพระหว่างมหาอำนาจเพื่อไม่ให้ระบบกฎหมายโลกพังทลายลงเหมือนเช่นในอดีต กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ในหมวดที่หกและหมวดที่เจ็ดของกฎบัตรสหประชาชาติโดยเริ่มต้นจากการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านการสืบสวนและการประนีประนอมแต่หากสถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นการคุกคามต่อสันติภาพหรือการกระทำอันเป็นการรุกรานคณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจตามหมวดที่เจ็ดในการใช้มาตรการบังคับซึ่งรวมถึงมาตรการที่มิใช่การใช้กำลังทางทหารเช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการจำกัดการคมนาคมขนส่งไปจนถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือการอนุญาตให้ใช้กำลังทางทหารเพื่อรักษาสันติภาพกลับคืนมาการตัดสินใจเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตีความกฎหมายและการประเมินข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของรัฐอธิปไตยอย่างรุนแรงอำนาจหน้าที่เชิงนิติบัญญัติและนิติบริหารของคณะมนตรีความมั่นคงจึงถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการกำหนดทิศทางของกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดนิยามของการก่อการร้ายและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับร้ายแรงที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงสากล บทสรุปของบทบาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมิติทางกฎหมายจึงมิได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเจรจาต่อรองทางการเมืองเท่านั้นแต่คือเสาหลักของการบังคับใช้ระเบียบโลกที่อาศัยหลักนิติธรรมเป็นเครื่องนำทางท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันแม้ว่าความท้าทายใหม่ๆเช่นอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือความขัดแย้งในรูปแบบพันทางจะขยายขอบเขตออกไปเกินกว่าที่ผู้ร่างกฎบัตรเมื่อแปดสิบปีก่อนจะคาดคิดแต่คณะมนตรีความมั่นคงยังคงต้องปรับตัวและตีความกฎหมายที่มีอยู่ให้สอดรับกับพลวัตของโลกเพื่อให้มั่นใจว่าเจตนารมณ์สูงสุดในการพิทักษ์สันติภาพจะยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนสืบไปความสำเร็จขององค์กรนี้จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐสมาชิกในการปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายและการเคารพในมติที่ออกมาเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมของมวลมนุษยชาติมากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงลำพังอันจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในเวทีโลกอย่างแท้จริง
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar

    มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้
    เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า
    https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about

    ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว
    Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน
    https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix

    สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI
    บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots

    ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน
    CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe

    กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+
    Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น
    https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting

    ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว
    Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day

    รีวิว Agile CRM ปี 2026
    Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้
    https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review

    จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ
    บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ
    https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront

    โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์
    รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา
    https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output

    รีวิว Geekom AX8 Max mini PC
    Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง
    https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review

    Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini
    ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted

    Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์
    Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน
    https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity

    คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel
    ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน
    https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated

    Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว
    รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง
    https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review

    ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails

    Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้
    มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe

    Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น
    Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices

    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar 🖥️ มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้ เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า 🔗 https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about ⚠️ ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix 🤖 สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots 🔒 ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe 🏠 กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+ Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day 📊 รีวิว Agile CRM ปี 2026 Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review 🌐 จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront 🐞 โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์ รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output 💻 รีวิว Geekom AX8 Max mini PC Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง 🔗 https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review 🗺️ Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted 🔋 Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์ Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity 📈 คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated 🎮 Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง 🔗 https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review 💳 ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails 🌐 Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้ มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe 🐧 Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline


    Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI
    Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge
    https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse

    Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน
    Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก
    https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover

    หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน
    ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account

    Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows
    ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน
    https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users

    OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon
    มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์
    https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch

    Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19%
    รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์
    https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge

    Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด
    https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining

    Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT
    รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ
    https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures

    “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้
    https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls

    Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม
    กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ
    https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes

    Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ
    นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์
    https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports

    GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner
    เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้
    https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry

    ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที
    Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่
    https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers

    CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains

    แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email
    Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น
    https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit

    SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root
    SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline 🦊 Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge 🔗 https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse 🔒 Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์ เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover 🚦 หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account 💻 Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users 💰 OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch 🌐 Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19% รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์ 🔗 https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge 🖥️ Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด 🔗 https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining 📧 Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ 🔗 https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures 🔐 “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้ 🔗 https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls 🐉 Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ 🔗 https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes 📚 Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports 🛠️ GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้ 🔗 https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers 🚨 CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 🔗 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains 🐚 แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น 🔗 https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit 🔒 SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • Texas Instruments เปิดโรงงานใหม่ ผลิตชิปวันละหลายสิบล้าน

    Texas Instruments (TI) ประกาศเปิดโรงงานผลิตเวเฟอร์ 300 มิลลิเมตร แห่งใหม่ที่เมือง Sherman รัฐเท็กซัส หลังจากลงทุนกว่า 60 พันล้านดอลลาร์ โดยโรงงานนี้ถือเป็นหนึ่งในสี่แห่งที่ TI วางแผนสร้างเพื่อเสริมกำลังการผลิตในสหรัฐฯ โรงงานแรก (SM1) เริ่มเดินเครื่องแล้ว และพร้อมส่งมอบชิปให้ลูกค้าในตลาดทันที

    โรงงาน SM1 จะเน้นผลิตชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟส่องสว่างในรถยนต์ และระบบพลังงานในศูนย์ข้อมูล ไม่ได้มุ่งผลิตชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับคอมพิวเตอร์ขั้นสูงเหมือน Intel หรือ TSMC แต่จะเน้นตลาดที่ต้องการความเสถียรและการผลิตในปริมาณมหาศาล ซึ่ง TI มองว่าเป็นจุดแข็งของบริษัท

    การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Made in USA” เพื่อเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ TI คาดว่าโรงงานทั้งสี่แห่งใน Sherman จะสร้างงานโดยตรงกว่า 3,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน TI ก็ทยอยปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มิลลิเมตร เพื่อปรับสมดุลกำลังการผลิตไปสู่มาตรฐานใหม่

    นอกจากการเพิ่มกำลังผลิตแล้ว TI ยังเน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน เช่น การลดการใช้พลังงานขณะสแตนด์บาย การเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน และการลดสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) เพื่อให้ชิปที่ผลิตออกมามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การลงทุนครั้งใหญ่ของ TI
    มูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงงาน 4 แห่งที่ Sherman, Texas

    โรงงาน SM1 เริ่มผลิตแล้ว
    เน้นชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น รถยนต์และศูนย์ข้อมูล

    ผลกระทบต่อการจ้างงาน
    คาดว่าจะสร้างงานกว่า 3,000 ตำแหน่งในพื้นที่

    การปรับสมดุลกำลังการผลิต
    ปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มม. เพื่อย้ายไปสู่มาตรฐาน 300 มม.

    การพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน
    ลดการใช้พลังงานสแตนด์บาย เพิ่มความหนาแน่น และลด EMI

    คำเตือนด้านการแข่งขันและห่วงโซ่อุปทาน
    TI ไม่ได้ผลิตชิปขั้นสูงสำหรับ AI หรือ HPC อาจเสียเปรียบในตลาดประสิทธิภาพสูง
    แม้จะช่วยเสริมความมั่นคง แต่การลงทุนมหาศาลยังเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดเซมิคอนดักเตอร์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/new-texas-instruments-fab-will-pump-out-tens-of-millions-of-chips-per-day-first-300mm-fab-starts-production-after-usd60-billion-investment
    🏭 Texas Instruments เปิดโรงงานใหม่ ผลิตชิปวันละหลายสิบล้าน Texas Instruments (TI) ประกาศเปิดโรงงานผลิตเวเฟอร์ 300 มิลลิเมตร แห่งใหม่ที่เมือง Sherman รัฐเท็กซัส หลังจากลงทุนกว่า 60 พันล้านดอลลาร์ โดยโรงงานนี้ถือเป็นหนึ่งในสี่แห่งที่ TI วางแผนสร้างเพื่อเสริมกำลังการผลิตในสหรัฐฯ โรงงานแรก (SM1) เริ่มเดินเครื่องแล้ว และพร้อมส่งมอบชิปให้ลูกค้าในตลาดทันที โรงงาน SM1 จะเน้นผลิตชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟส่องสว่างในรถยนต์ และระบบพลังงานในศูนย์ข้อมูล ไม่ได้มุ่งผลิตชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับคอมพิวเตอร์ขั้นสูงเหมือน Intel หรือ TSMC แต่จะเน้นตลาดที่ต้องการความเสถียรและการผลิตในปริมาณมหาศาล ซึ่ง TI มองว่าเป็นจุดแข็งของบริษัท การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Made in USA” เพื่อเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ TI คาดว่าโรงงานทั้งสี่แห่งใน Sherman จะสร้างงานโดยตรงกว่า 3,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน TI ก็ทยอยปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มิลลิเมตร เพื่อปรับสมดุลกำลังการผลิตไปสู่มาตรฐานใหม่ นอกจากการเพิ่มกำลังผลิตแล้ว TI ยังเน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน เช่น การลดการใช้พลังงานขณะสแตนด์บาย การเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน และการลดสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) เพื่อให้ชิปที่ผลิตออกมามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การลงทุนครั้งใหญ่ของ TI ➡️ มูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงงาน 4 แห่งที่ Sherman, Texas ✅ โรงงาน SM1 เริ่มผลิตแล้ว ➡️ เน้นชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น รถยนต์และศูนย์ข้อมูล ✅ ผลกระทบต่อการจ้างงาน ➡️ คาดว่าจะสร้างงานกว่า 3,000 ตำแหน่งในพื้นที่ ✅ การปรับสมดุลกำลังการผลิต ➡️ ปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มม. เพื่อย้ายไปสู่มาตรฐาน 300 มม. ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน ➡️ ลดการใช้พลังงานสแตนด์บาย เพิ่มความหนาแน่น และลด EMI ‼️ คำเตือนด้านการแข่งขันและห่วงโซ่อุปทาน ⛔ TI ไม่ได้ผลิตชิปขั้นสูงสำหรับ AI หรือ HPC อาจเสียเปรียบในตลาดประสิทธิภาพสูง ⛔ แม้จะช่วยเสริมความมั่นคง แต่การลงทุนมหาศาลยังเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/new-texas-instruments-fab-will-pump-out-tens-of-millions-of-chips-per-day-first-300mm-fab-starts-production-after-usd60-billion-investment
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • Intel Battlemage GPU: หลักฐานใหม่ยืนยันชิป BMG-G31

    รายงานล่าสุดจาก Tom’s Hardware เผยว่า Intel กำลังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ในตระกูล Battlemage โดยมีการพบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิป BMG-G31 ในซอฟต์แวร์ XPU Manager เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบ GPU ของ Intel ในศูนย์ข้อมูล การปรากฏของรหัสชิปนี้บ่งชี้ว่า Intel กำลังทดสอบและเตรียมเปิดตัว GPU ขนาดใหญ่กว่ารุ่น Arc B580 ที่ใช้ชิป G21

    ข้อมูลจากการรั่วไหลและการอัปเดตไดรเวอร์โอเพนซอร์สชี้ว่า BMG-G31 อาจมี 32 Xe2/Xe cores, บัสหน่วยความจำ 256-bit และหน่วยความจำ GDDR6 อย่างน้อย 16GB พร้อมค่า TDP ที่อาจสูงถึง 300W หากเป็นรุ่นสำหรับเดสก์ท็อป สิ่งนี้ทำให้ Battlemage รุ่นใหม่ถูกคาดหวังว่าจะสามารถแข่งขันกับ GPU ระดับกลางของ Nvidia และ AMD ได้จริงในตลาด 1440p

    อย่างไรก็ตาม การผลิตชิปขนาดใหญ่เช่นนี้มีความเสี่ยงด้านต้นทุนและผลผลิตต่อเวเฟอร์ที่ต่ำลง ซึ่งอาจทำให้ Intel ต้องเผชิญกับความท้าทายในการตั้งราคาที่แข่งขันได้โดยไม่กระทบต่อกำไร นอกจากนี้ ความสำเร็จของ Battlemage จะขึ้นอยู่กับ ความสมบูรณ์ของไดรเวอร์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ Intel พยายามแก้ไขมาตลอดในรุ่นก่อนหน้า

    หาก Intel สามารถเปิดตัว Battlemage ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ในปี 2026 จะเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในตลาด GPU และอาจสร้างแรงกดดันต่อคู่แข่งที่ครองตลาดมานาน แต่หากการพัฒนาไม่เป็นไปตามเป้า ก็อาจทำให้ Intel สูญเสียโอกาสสำคัญในการสร้างฐานผู้ใช้ใหม่ในตลาดเกมและเวิร์กสเตชัน

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การยืนยันชิป BMG-G31
    พบใน XPU Manager และไดรเวอร์โอเพนซอร์ส ยืนยันการพัฒนา Battlemage รุ่นใหม่

    สเปกที่คาดการณ์
    32 Xe2 cores, บัส 256-bit, GDDR6 16GB, TDP สูงสุด ~300W

    เป้าหมายตลาด
    แข่งขันกับ GPU ระดับกลางของ Nvidia และ AMD ในตลาด 1440p

    ความท้าทายด้านต้นทุน
    ชิปขนาดใหญ่ทำให้ผลผลิตต่อเวเฟอร์ต่ำลง กดดันการตั้งราคา

    คำเตือนด้านไดรเวอร์และการเปิดตัว
    ความสำเร็จขึ้นอยู่กับคุณภาพไดรเวอร์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Intel ในอดีต
    หากเปิดตัวล่าช้าหรือไม่สามารถแข่งขันได้ อาจทำให้ Intel สูญเสียโอกาสในตลาด GPU

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/evidence-of-intels-big-battlemage-gpu-continues-to-mount-as-bmg-g31-chip-gets-another-official-confirmation
    🎮 Intel Battlemage GPU: หลักฐานใหม่ยืนยันชิป BMG-G31 รายงานล่าสุดจาก Tom’s Hardware เผยว่า Intel กำลังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ในตระกูล Battlemage โดยมีการพบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิป BMG-G31 ในซอฟต์แวร์ XPU Manager เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบ GPU ของ Intel ในศูนย์ข้อมูล การปรากฏของรหัสชิปนี้บ่งชี้ว่า Intel กำลังทดสอบและเตรียมเปิดตัว GPU ขนาดใหญ่กว่ารุ่น Arc B580 ที่ใช้ชิป G21 ข้อมูลจากการรั่วไหลและการอัปเดตไดรเวอร์โอเพนซอร์สชี้ว่า BMG-G31 อาจมี 32 Xe2/Xe cores, บัสหน่วยความจำ 256-bit และหน่วยความจำ GDDR6 อย่างน้อย 16GB พร้อมค่า TDP ที่อาจสูงถึง 300W หากเป็นรุ่นสำหรับเดสก์ท็อป สิ่งนี้ทำให้ Battlemage รุ่นใหม่ถูกคาดหวังว่าจะสามารถแข่งขันกับ GPU ระดับกลางของ Nvidia และ AMD ได้จริงในตลาด 1440p อย่างไรก็ตาม การผลิตชิปขนาดใหญ่เช่นนี้มีความเสี่ยงด้านต้นทุนและผลผลิตต่อเวเฟอร์ที่ต่ำลง ซึ่งอาจทำให้ Intel ต้องเผชิญกับความท้าทายในการตั้งราคาที่แข่งขันได้โดยไม่กระทบต่อกำไร นอกจากนี้ ความสำเร็จของ Battlemage จะขึ้นอยู่กับ ความสมบูรณ์ของไดรเวอร์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ Intel พยายามแก้ไขมาตลอดในรุ่นก่อนหน้า หาก Intel สามารถเปิดตัว Battlemage ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ในปี 2026 จะเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในตลาด GPU และอาจสร้างแรงกดดันต่อคู่แข่งที่ครองตลาดมานาน แต่หากการพัฒนาไม่เป็นไปตามเป้า ก็อาจทำให้ Intel สูญเสียโอกาสสำคัญในการสร้างฐานผู้ใช้ใหม่ในตลาดเกมและเวิร์กสเตชัน 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การยืนยันชิป BMG-G31 ➡️ พบใน XPU Manager และไดรเวอร์โอเพนซอร์ส ยืนยันการพัฒนา Battlemage รุ่นใหม่ ✅ สเปกที่คาดการณ์ ➡️ 32 Xe2 cores, บัส 256-bit, GDDR6 16GB, TDP สูงสุด ~300W ✅ เป้าหมายตลาด ➡️ แข่งขันกับ GPU ระดับกลางของ Nvidia และ AMD ในตลาด 1440p ✅ ความท้าทายด้านต้นทุน ➡️ ชิปขนาดใหญ่ทำให้ผลผลิตต่อเวเฟอร์ต่ำลง กดดันการตั้งราคา ‼️ คำเตือนด้านไดรเวอร์และการเปิดตัว ⛔ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับคุณภาพไดรเวอร์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Intel ในอดีต ⛔ หากเปิดตัวล่าช้าหรือไม่สามารถแข่งขันได้ อาจทำให้ Intel สูญเสียโอกาสในตลาด GPU https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/evidence-of-intels-big-battlemage-gpu-continues-to-mount-as-bmg-g31-chip-gets-another-official-confirmation
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Evidence of Intel's 'Big Battlemage' GPU continues to mount, as BMG-G31 chip gets another official confirmation
    The XPU Manager tool is for monitoring Intel's datacenter GPUs, meaning it's very likely these parts are coming soon.
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • Amazon จับได้พนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือด้วย Keystroke Lag

    Amazon เปิดเผยกรณีการตรวจจับพนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือที่พยายามแฝงตัวเข้ามาทำงานในฝ่าย IT ของบริษัทในสหรัฐฯ โดยใช้วิธีการ Remote Control ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในอเมริกา แต่จริง ๆ แล้วถูกควบคุมจากต่างประเทศ ความผิดปกติที่นำไปสู่การจับได้คือ ความหน่วงในการพิมพ์ (Keystroke Lag) ที่มากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งสูงกว่าค่าปกติของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่มักอยู่ในระดับไม่กี่สิบมิลลิวินาที

    Stephen Schmidt, Chief Security Officer ของ Amazon ระบุว่า บริษัทได้สกัดกั้นความพยายามแฝงตัวของเกาหลีเหนือมากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และจำนวนความพยายามยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส การแฝงตัวเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมถึงอาจใช้เพื่อการจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม

    การตรวจจับครั้งนี้เกิดขึ้นจากระบบเฝ้าระวังที่แจ้งเตือนพฤติกรรมผิดปกติของพนักงานใหม่ ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยตรวจสอบและพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยบุคคลในเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังพบผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้กับแรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกไปก่อนหน้านี้

    กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการแฝงตัวในองค์กรขนาดใหญ่ และความสำคัญของการตรวจสอบพฤติกรรมดิจิทัลที่ละเอียดอ่อน เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษาและสำนวนที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเป็นเบาะแสสำคัญในการตรวจจับผู้แฝงตัว

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การตรวจจับด้วย Keystroke Lag
    พบความหน่วงมากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งผิดปกติสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ

    จำนวนความพยายามแฝงตัว
    Amazon สกัดกั้นได้มากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และยังเพิ่มขึ้น 27% ต่อไตรมาส

    เป้าหมายของการแฝงตัว
    เพื่อสร้างรายได้ให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ และอาจใช้เพื่อจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม

    การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง
    ผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้แรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกแล้ว

    คำเตือนด้านความปลอดภัยองค์กร
    การแฝงตัวอาจเกิดขึ้นได้แม้ในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด
    พฤติกรรมดิจิทัลเล็ก ๆ เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษา อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/north-korean-infiltrator-caught-working-in-amazon-it-department-thanks-to-lag-110ms-keystroke-input-raises-red-flags-over-true-location
    🛡️ Amazon จับได้พนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือด้วย Keystroke Lag Amazon เปิดเผยกรณีการตรวจจับพนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือที่พยายามแฝงตัวเข้ามาทำงานในฝ่าย IT ของบริษัทในสหรัฐฯ โดยใช้วิธีการ Remote Control ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในอเมริกา แต่จริง ๆ แล้วถูกควบคุมจากต่างประเทศ ความผิดปกติที่นำไปสู่การจับได้คือ ความหน่วงในการพิมพ์ (Keystroke Lag) ที่มากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งสูงกว่าค่าปกติของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่มักอยู่ในระดับไม่กี่สิบมิลลิวินาที Stephen Schmidt, Chief Security Officer ของ Amazon ระบุว่า บริษัทได้สกัดกั้นความพยายามแฝงตัวของเกาหลีเหนือมากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และจำนวนความพยายามยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส การแฝงตัวเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมถึงอาจใช้เพื่อการจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม การตรวจจับครั้งนี้เกิดขึ้นจากระบบเฝ้าระวังที่แจ้งเตือนพฤติกรรมผิดปกติของพนักงานใหม่ ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยตรวจสอบและพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยบุคคลในเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังพบผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้กับแรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกไปก่อนหน้านี้ กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการแฝงตัวในองค์กรขนาดใหญ่ และความสำคัญของการตรวจสอบพฤติกรรมดิจิทัลที่ละเอียดอ่อน เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษาและสำนวนที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเป็นเบาะแสสำคัญในการตรวจจับผู้แฝงตัว 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การตรวจจับด้วย Keystroke Lag ➡️ พบความหน่วงมากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งผิดปกติสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ ✅ จำนวนความพยายามแฝงตัว ➡️ Amazon สกัดกั้นได้มากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และยังเพิ่มขึ้น 27% ต่อไตรมาส ✅ เป้าหมายของการแฝงตัว ➡️ เพื่อสร้างรายได้ให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ และอาจใช้เพื่อจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม ✅ การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง ➡️ ผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้แรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกแล้ว ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัยองค์กร ⛔ การแฝงตัวอาจเกิดขึ้นได้แม้ในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ⛔ พฤติกรรมดิจิทัลเล็ก ๆ เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษา อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/north-korean-infiltrator-caught-working-in-amazon-it-department-thanks-to-lag-110ms-keystroke-input-raises-red-flags-over-true-location
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • จีนกับความพยายาม Reverse Engineering เครื่อง EUV Lithography

    รายงานจาก Reuters และ Tom’s Hardware ระบุว่า จีนได้ตั้งห้องแล็บลับในเซินเจิ้นเพื่อสร้างเครื่อง EUV Lithography ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยอ้างว่าใช้วิธี Reverse Engineering จากเครื่องของ ASML บริษัทเนเธอร์แลนด์ที่เป็นผู้ผลิตรายเดียวในโลกที่สามารถทำเครื่อง EUV ได้สำเร็จ ปัจจุบันเครื่องต้นแบบของจีนสามารถสร้างแสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรได้ แต่ยังไม่สามารถใช้ผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้

    เครื่องดังกล่าวใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML โดยยิงเลเซอร์ไปที่หยดดีบุกขนาดไมครอนเพื่อสร้างพลาสมาที่ปล่อยแสง EUV อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบออปติกที่ซับซ้อนมาก เช่น กระจกสะท้อนที่เคลือบด้วยชั้น Mo/Si และระบบ Projection Optics ที่ต้องการความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้สมบูรณ์

    รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะมีต้นแบบที่สามารถผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความเป็นจริงอาจต้องรอถึงปี 2030 หรือหลังจากนั้น เนื่องจากการสร้างเครื่อง EUV ต้องอาศัยการบูรณาการมากกว่า 100,000 ชิ้นส่วน และความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ซึ่งปัจจุบันจีนยังต้องพึ่งพาอดีตวิศวกรจาก ASML และนักวิจัยมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบใหม่

    หากจีนสามารถพัฒนาเครื่อง EUV ได้สำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพราะปัจจุบันจีนถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐและพันธมิตร แต่ในทางกลับกัน หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาด้านออปติกและระบบกลไกได้ ความพยายามนี้อาจกลายเป็นเพียงการทดลองที่ไม่สามารถใช้จริงในเชิงพาณิชย์

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การสร้างเครื่อง EUV ในจีน
    ห้องแล็บลับในเซินเจิ้นสร้างเครื่องต้นแบบที่สามารถผลิตแสง EUV ได้แล้ว

    เทคนิคที่ใช้
    ใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML

    เป้าหมายรัฐบาลจีน
    ต้องการให้มีต้นแบบที่ผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจช้ากว่านั้น

    ความท้าทายด้านเทคนิค
    ระบบออปติกและกลไกที่ซับซ้อนยังไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์

    คำเตือนด้านความเป็นจริง
    การสร้างเครื่อง EUV ต้องใช้มากกว่า 100,000 ชิ้นส่วนและความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้
    แม้จะมีความก้าวหน้า แต่ยังไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-may-have-reverse-engineered-euv-lithography-tool-in-covert-lab-report-claims-employees-given-fake-ids-to-avoid-secret-project-being-detected-prototypes-expected-in-2028
    🔬 จีนกับความพยายาม Reverse Engineering เครื่อง EUV Lithography รายงานจาก Reuters และ Tom’s Hardware ระบุว่า จีนได้ตั้งห้องแล็บลับในเซินเจิ้นเพื่อสร้างเครื่อง EUV Lithography ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยอ้างว่าใช้วิธี Reverse Engineering จากเครื่องของ ASML บริษัทเนเธอร์แลนด์ที่เป็นผู้ผลิตรายเดียวในโลกที่สามารถทำเครื่อง EUV ได้สำเร็จ ปัจจุบันเครื่องต้นแบบของจีนสามารถสร้างแสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรได้ แต่ยังไม่สามารถใช้ผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ เครื่องดังกล่าวใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML โดยยิงเลเซอร์ไปที่หยดดีบุกขนาดไมครอนเพื่อสร้างพลาสมาที่ปล่อยแสง EUV อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบออปติกที่ซับซ้อนมาก เช่น กระจกสะท้อนที่เคลือบด้วยชั้น Mo/Si และระบบ Projection Optics ที่ต้องการความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้สมบูรณ์ รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะมีต้นแบบที่สามารถผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความเป็นจริงอาจต้องรอถึงปี 2030 หรือหลังจากนั้น เนื่องจากการสร้างเครื่อง EUV ต้องอาศัยการบูรณาการมากกว่า 100,000 ชิ้นส่วน และความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ซึ่งปัจจุบันจีนยังต้องพึ่งพาอดีตวิศวกรจาก ASML และนักวิจัยมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบใหม่ หากจีนสามารถพัฒนาเครื่อง EUV ได้สำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพราะปัจจุบันจีนถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐและพันธมิตร แต่ในทางกลับกัน หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาด้านออปติกและระบบกลไกได้ ความพยายามนี้อาจกลายเป็นเพียงการทดลองที่ไม่สามารถใช้จริงในเชิงพาณิชย์ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การสร้างเครื่อง EUV ในจีน ➡️ ห้องแล็บลับในเซินเจิ้นสร้างเครื่องต้นแบบที่สามารถผลิตแสง EUV ได้แล้ว ✅ เทคนิคที่ใช้ ➡️ ใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML ✅ เป้าหมายรัฐบาลจีน ➡️ ต้องการให้มีต้นแบบที่ผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจช้ากว่านั้น ✅ ความท้าทายด้านเทคนิค ➡️ ระบบออปติกและกลไกที่ซับซ้อนยังไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์ ‼️ คำเตือนด้านความเป็นจริง ⛔ การสร้างเครื่อง EUV ต้องใช้มากกว่า 100,000 ชิ้นส่วนและความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้ ⛔ แม้จะมีความก้าวหน้า แต่ยังไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-may-have-reverse-engineered-euv-lithography-tool-in-covert-lab-report-claims-employees-given-fake-ids-to-avoid-secret-project-being-detected-prototypes-expected-in-2028
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • ใช้ Raspberry Pi เป็น Desktop – เลือก OS ที่เหมาะสม

    บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่า Raspberry Pi แม้จะไม่ใช่เครื่องที่ทรงพลัง แต่ก็สามารถใช้เป็น desktop computer ได้ หากเลือกระบบปฏิบัติการ (OS) ที่เหมาะสม โดยมีหลายตัวเลือกที่ตอบโจทย์ต่างกัน ตั้งแต่ OS ที่เบามากไปจนถึง OS ที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับเครื่อง PC จริง.

    หนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นคือ DietPi ซึ่งเป็น Debian-based distro ที่เบามาก ใช้ทรัพยากรน้อย เหมาะกับ Pi ที่มี RAM เพียง 1 GB แต่ต้องเลือก desktop environment เอง เช่น LXDE หรือ XFCE อีกตัวคือ Twister OS ที่มีจุดขายด้าน “ThemeTwister” ให้ผู้ใช้เปลี่ยนหน้าตาเป็น Windows 95, XP, 7, 10 หรือ macOS ได้ พร้อม emulator Box86/Box64 สำหรับรันแอป x86 และ Chromium Media Edition สำหรับดู Netflix หรือ Disney+.

    สำหรับผู้ที่ต้องการความหลากหลายของ desktop environment มี Armbian ที่รองรับ XFCE, GNOME และ Cinnamon พร้อม community support ที่แข็งแรง ส่วน piCore (Tiny Core Linux) เป็นตัวเลือกที่เล็กมาก (image เพียง 40 MB) เหมาะกับ Pi รุ่นเล็ก เช่น Pi Zero แต่ไม่เหมาะกับงานหนัก ขณะที่ RISC OS ถือเป็นระบบดั้งเดิมของ ARM ที่ย้อนกลับไปถึงปี 1987 แม้จะไม่ใช่ mainstream แต่ยังมี community พัฒนาต่อ.

    นอกจากนี้ยังมี ARM version ของ Linux distro ยอดนิยม เช่น Ubuntu, Pop!_OS, Manjaro และ Kali ที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับ PC จริง แต่บทสรุปของผู้เขียนคือ Raspberry Pi OS ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เพราะ ecosystem ที่ครบถ้วนและมีเอกสาร/คู่มือมากที่สุด.

    สรุปสาระสำคัญ
    DietPi – เบาและเร็ว
    Debian-based, ใช้ทรัพยากรต่ำ
    ต้องเลือก desktop environment เอง

    Twister OS – สนุกและหลากหลาย
    ThemeTwister เปลี่ยนหน้าตาเป็น Windows/macOS
    มี emulator และ Chromium Media Edition

    Armbian – ยืดหยุ่นและ community แข็งแรง
    รองรับ XFCE, GNOME, Cinnamon
    มีเครื่องมือ armbian-config สำหรับตั้งค่า

    piCore – เล็กมากสำหรับ Pi รุ่นเล็ก
    image เพียง 40 MB
    เหมาะกับงานเบา ไม่รองรับ modern apps

    RISC OS – ระบบดั้งเดิมของ ARM
    เริ่มตั้งแต่ปี 1987 โดย Acorn Computers
    community ยังพัฒนาต่อ แต่ไม่ใช่ mainstream

    Linux distro ARM version
    Ubuntu, Pop!_OS, Manjaro, Kali รองรับ Raspberry Pi
    Fedora ยังไม่รองรับ Pi 5

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    Raspberry Pi อาจช้ากับงานหนัก เช่น เล่นวิดีโอ HD หรือ multitasking
    OS บางตัว experimental เช่น RISC OS อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป

    https://itsfoss.com/raspberry-pi-desktop-os/
    🖥️ ใช้ Raspberry Pi เป็น Desktop – เลือก OS ที่เหมาะสม บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่า Raspberry Pi แม้จะไม่ใช่เครื่องที่ทรงพลัง แต่ก็สามารถใช้เป็น desktop computer ได้ หากเลือกระบบปฏิบัติการ (OS) ที่เหมาะสม โดยมีหลายตัวเลือกที่ตอบโจทย์ต่างกัน ตั้งแต่ OS ที่เบามากไปจนถึง OS ที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับเครื่อง PC จริง. หนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นคือ DietPi ซึ่งเป็น Debian-based distro ที่เบามาก ใช้ทรัพยากรน้อย เหมาะกับ Pi ที่มี RAM เพียง 1 GB แต่ต้องเลือก desktop environment เอง เช่น LXDE หรือ XFCE อีกตัวคือ Twister OS ที่มีจุดขายด้าน “ThemeTwister” ให้ผู้ใช้เปลี่ยนหน้าตาเป็น Windows 95, XP, 7, 10 หรือ macOS ได้ พร้อม emulator Box86/Box64 สำหรับรันแอป x86 และ Chromium Media Edition สำหรับดู Netflix หรือ Disney+. สำหรับผู้ที่ต้องการความหลากหลายของ desktop environment มี Armbian ที่รองรับ XFCE, GNOME และ Cinnamon พร้อม community support ที่แข็งแรง ส่วน piCore (Tiny Core Linux) เป็นตัวเลือกที่เล็กมาก (image เพียง 40 MB) เหมาะกับ Pi รุ่นเล็ก เช่น Pi Zero แต่ไม่เหมาะกับงานหนัก ขณะที่ RISC OS ถือเป็นระบบดั้งเดิมของ ARM ที่ย้อนกลับไปถึงปี 1987 แม้จะไม่ใช่ mainstream แต่ยังมี community พัฒนาต่อ. นอกจากนี้ยังมี ARM version ของ Linux distro ยอดนิยม เช่น Ubuntu, Pop!_OS, Manjaro และ Kali ที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับ PC จริง แต่บทสรุปของผู้เขียนคือ Raspberry Pi OS ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เพราะ ecosystem ที่ครบถ้วนและมีเอกสาร/คู่มือมากที่สุด. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ DietPi – เบาและเร็ว ➡️ Debian-based, ใช้ทรัพยากรต่ำ ➡️ ต้องเลือก desktop environment เอง ✅ Twister OS – สนุกและหลากหลาย ➡️ ThemeTwister เปลี่ยนหน้าตาเป็น Windows/macOS ➡️ มี emulator และ Chromium Media Edition ✅ Armbian – ยืดหยุ่นและ community แข็งแรง ➡️ รองรับ XFCE, GNOME, Cinnamon ➡️ มีเครื่องมือ armbian-config สำหรับตั้งค่า ✅ piCore – เล็กมากสำหรับ Pi รุ่นเล็ก ➡️ image เพียง 40 MB ➡️ เหมาะกับงานเบา ไม่รองรับ modern apps ✅ RISC OS – ระบบดั้งเดิมของ ARM ➡️ เริ่มตั้งแต่ปี 1987 โดย Acorn Computers ➡️ community ยังพัฒนาต่อ แต่ไม่ใช่ mainstream ✅ Linux distro ARM version ➡️ Ubuntu, Pop!_OS, Manjaro, Kali รองรับ Raspberry Pi ➡️ Fedora ยังไม่รองรับ Pi 5 ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ Raspberry Pi อาจช้ากับงานหนัก เช่น เล่นวิดีโอ HD หรือ multitasking ⛔ OS บางตัว experimental เช่น RISC OS อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป https://itsfoss.com/raspberry-pi-desktop-os/
    ITSFOSS.COM
    Your Raspberry Pi Can Be a Real Desktop (If You Pick the Right OS)
    Here are the operating system choices when you want to use Raspberry Pi in a desktop setup.
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • Armbian Imager – เครื่องมือแฟลช OS สำหรับ SBC กว่า 300 รุ่น

    ผู้ใช้ Raspberry Pi คุ้นเคยกับ Raspberry Pi Imager ที่ช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวก แต่สำหรับผู้ใช้บอร์ด SBC อื่น ๆ เช่น ArmSom AIM7 ตอนนี้มีทางเลือกใหม่คือ Armbian Imager ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Armbian เพื่อให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน โดยรองรับบอร์ดกว่า 300 รุ่นจาก 70+ ผู้ผลิต.

    Armbian Imager ทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกบอร์ด เลือกประเภท image (desktop, server, minimal) ไปจนถึงดาวน์โหลดและแฟลชลง SD card พร้อมตรวจสอบความถูกต้องด้วย SHA256 checksum เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับ custom images ในหลายรูปแบบ เช่น .img, .img.xz, .img.gz, .img.bz2, และ .img.zst.

    สิ่งที่โดดเด่นคือ Armbian Imager ถูกสร้างด้วย Tauri และ Rust แทนที่จะใช้ Electron ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเพียง ~15 MB ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับแอป Electron ที่มักมีขนาด 150–200 MB เนื่องจากต้องบรรจุ Chromium มาด้วย ฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์มก็ถูกใส่มา เช่น UDisks2 + pkexec บน Linux, UAC prompt บน Windows และ Touch ID บน macOS.

    แม้ยังอยู่ในช่วง Public Preview และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก GitHub แล้วทดลองใช้งานได้ทันที จุดนี้สะท้อนว่า Armbian กำลังทดสอบตลาดก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ และเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ SBC ที่ไม่ใช่ Raspberry Pi มีเครื่องมือแฟลช OS ที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น.

    สรุปสาระสำคัญ
    Armbian Imager เปิดตัวสำหรับ SBC
    รองรับกว่า 300 บอร์ดจาก 70+ ผู้ผลิต
    เลือก image ได้ทั้ง desktop, server, minimal

    ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความสะดวก
    ตรวจสอบไฟล์ด้วย SHA256 checksum
    รองรับ custom image หลายรูปแบบ

    เทคโนโลยีเบาและทันสมัย
    ใช้ Tauri + Rust ทำให้ไฟล์ติดตั้งเพียง ~15 MB
    มีฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น UAC, Touch ID

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ยังอยู่ในช่วง Public Preview อาจมีบั๊กหรือปัญหาการใช้งาน
    ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและติดตามอัปเดตจากทีม Armbian

    https://itsfoss.com/news/armbian-imager-quietly-debuts/
    🛠️ Armbian Imager – เครื่องมือแฟลช OS สำหรับ SBC กว่า 300 รุ่น ผู้ใช้ Raspberry Pi คุ้นเคยกับ Raspberry Pi Imager ที่ช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวก แต่สำหรับผู้ใช้บอร์ด SBC อื่น ๆ เช่น ArmSom AIM7 ตอนนี้มีทางเลือกใหม่คือ Armbian Imager ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Armbian เพื่อให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน โดยรองรับบอร์ดกว่า 300 รุ่นจาก 70+ ผู้ผลิต. Armbian Imager ทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกบอร์ด เลือกประเภท image (desktop, server, minimal) ไปจนถึงดาวน์โหลดและแฟลชลง SD card พร้อมตรวจสอบความถูกต้องด้วย SHA256 checksum เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับ custom images ในหลายรูปแบบ เช่น .img, .img.xz, .img.gz, .img.bz2, และ .img.zst. สิ่งที่โดดเด่นคือ Armbian Imager ถูกสร้างด้วย Tauri และ Rust แทนที่จะใช้ Electron ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเพียง ~15 MB ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับแอป Electron ที่มักมีขนาด 150–200 MB เนื่องจากต้องบรรจุ Chromium มาด้วย ฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์มก็ถูกใส่มา เช่น UDisks2 + pkexec บน Linux, UAC prompt บน Windows และ Touch ID บน macOS. แม้ยังอยู่ในช่วง Public Preview และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก GitHub แล้วทดลองใช้งานได้ทันที จุดนี้สะท้อนว่า Armbian กำลังทดสอบตลาดก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ และเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ SBC ที่ไม่ใช่ Raspberry Pi มีเครื่องมือแฟลช OS ที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Armbian Imager เปิดตัวสำหรับ SBC ➡️ รองรับกว่า 300 บอร์ดจาก 70+ ผู้ผลิต ➡️ เลือก image ได้ทั้ง desktop, server, minimal ✅ ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความสะดวก ➡️ ตรวจสอบไฟล์ด้วย SHA256 checksum ➡️ รองรับ custom image หลายรูปแบบ ✅ เทคโนโลยีเบาและทันสมัย ➡️ ใช้ Tauri + Rust ทำให้ไฟล์ติดตั้งเพียง ~15 MB ➡️ มีฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น UAC, Touch ID ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ยังอยู่ในช่วง Public Preview อาจมีบั๊กหรือปัญหาการใช้งาน ⛔ ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและติดตามอัปเดตจากทีม Armbian https://itsfoss.com/news/armbian-imager-quietly-debuts/
    ITSFOSS.COM
    The Upcoming Armbian Imager Tool is a Godsend for Non-Raspberry Pi SBC Owners
    Official Armbian utility supports over 300 boards with smart image filtering and verified writes.
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่ Rust แรกใน Linux Kernel – แค่ทำให้ระบบ Crash แต่ไม่ถูกยึดเครื่อง

    การประกาศช่องโหว่ CVE-2025-68260 ใน Linux Kernel ที่เขียนด้วยภาษา Rust ถือเป็นครั้งแรกที่ Rust ถูกบันทึกในฐานข้อมูล CVE ของ Kernel โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นใน Android Binder driver ซึ่งทำหน้าที่สื่อสารระหว่างส่วนต่าง ๆ ของระบบ Android เมื่อเกิดการเข้าถึงข้อมูลพร้อมกัน (data race) ทำให้ระบบล่ม แต่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องหรือขโมยข้อมูลได้ ซึ่งถือว่าเบากว่าช่องโหว่ใน C ที่มักนำไปสู่การโจมตีร้ายแรง

    สิ่งที่น่าสนใจคือ ในวันเดียวกันมีการประกาศช่องโหว่กว่า 159 รายการในโค้ด C ของ Kernel ซึ่งตอกย้ำว่า Rust แม้ไม่ใช่ “กระสุนเงิน” ที่แก้ปัญหาทั้งหมด แต่ช่วยลดจำนวนช่องโหว่ที่ร้ายแรงได้มาก การที่ Rust ถูกนำมาใช้ใน Kernel จึงเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อความปลอดภัยในระยะยาว แม้จะยังมีบั๊กที่ทำให้ระบบ crash อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นเปิดช่องให้โจมตี

    จากมุมมองวงการโอเพนซอร์ส การที่ Rust เริ่มถูกใช้ในโครงการใหญ่ ๆ เช่น Linux Kernel และ Tor Project แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านจากภาษา C ที่ครองโลกมานาน Rust มีจุดแข็งด้าน memory safety และ concurrency ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบ buffer overflow หรือ use-after-free ซึ่งเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในโค้ด C มาหลายสิบปี

    อย่างไรก็ตาม การนำ Rust มาใช้ก็ยังมีความท้าทาย เช่น การผสมผสานกับโค้ด C ที่มีอยู่เดิม การจัดการทีมพัฒนา และการทำให้ ecosystem ของ Rust เติบโตพอที่จะรองรับงานระดับ Kernel แต่ทิศทางนี้สะท้อนว่าโลกโอเพนซอร์สกำลังมุ่งไปสู่ความปลอดภัยที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยไม่ทิ้งการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    สรุปสาระสำคัญ
    ช่องโหว่ Rust CVE-2025-68260
    เกิดใน Android Binder driver ของ Linux 6.18
    ทำให้ระบบ crash แต่ไม่เปิดช่องให้โจมตี

    Rust ไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แต่ช่วยลดความเสี่ยง
    Greg Kroah-Hartman ย้ำว่า Rust ไม่ใช่ “silver bullet”
    แต่ช่วยลดจำนวนช่องโหว่ร้ายแรงเมื่อเทียบกับ C

    การเปลี่ยนผ่านสู่ Rust ในโครงการใหญ่
    Linux Kernel และ Tor Project เริ่มใช้ Rust
    จุดแข็งคือ memory safety และ concurrency

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    แม้ช่องโหว่ Rust ครั้งนี้ไม่ร้ายแรง แต่ระบบยัง crash ได้
    ผู้ใช้ควรอัปเดต Kernel เป็นเวอร์ชันล่าสุด (6.18.1 หรือ 6.19-RC1) เพื่อความปลอดภัย

    https://itsfoss.com/news/first-linux-kernel-rust-cve/
    🖥️ ช่องโหว่ Rust แรกใน Linux Kernel – แค่ทำให้ระบบ Crash แต่ไม่ถูกยึดเครื่อง การประกาศช่องโหว่ CVE-2025-68260 ใน Linux Kernel ที่เขียนด้วยภาษา Rust ถือเป็นครั้งแรกที่ Rust ถูกบันทึกในฐานข้อมูล CVE ของ Kernel โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นใน Android Binder driver ซึ่งทำหน้าที่สื่อสารระหว่างส่วนต่าง ๆ ของระบบ Android เมื่อเกิดการเข้าถึงข้อมูลพร้อมกัน (data race) ทำให้ระบบล่ม แต่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องหรือขโมยข้อมูลได้ ซึ่งถือว่าเบากว่าช่องโหว่ใน C ที่มักนำไปสู่การโจมตีร้ายแรง สิ่งที่น่าสนใจคือ ในวันเดียวกันมีการประกาศช่องโหว่กว่า 159 รายการในโค้ด C ของ Kernel ซึ่งตอกย้ำว่า Rust แม้ไม่ใช่ “กระสุนเงิน” ที่แก้ปัญหาทั้งหมด แต่ช่วยลดจำนวนช่องโหว่ที่ร้ายแรงได้มาก การที่ Rust ถูกนำมาใช้ใน Kernel จึงเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อความปลอดภัยในระยะยาว แม้จะยังมีบั๊กที่ทำให้ระบบ crash อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นเปิดช่องให้โจมตี จากมุมมองวงการโอเพนซอร์ส การที่ Rust เริ่มถูกใช้ในโครงการใหญ่ ๆ เช่น Linux Kernel และ Tor Project แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านจากภาษา C ที่ครองโลกมานาน Rust มีจุดแข็งด้าน memory safety และ concurrency ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบ buffer overflow หรือ use-after-free ซึ่งเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในโค้ด C มาหลายสิบปี อย่างไรก็ตาม การนำ Rust มาใช้ก็ยังมีความท้าทาย เช่น การผสมผสานกับโค้ด C ที่มีอยู่เดิม การจัดการทีมพัฒนา และการทำให้ ecosystem ของ Rust เติบโตพอที่จะรองรับงานระดับ Kernel แต่ทิศทางนี้สะท้อนว่าโลกโอเพนซอร์สกำลังมุ่งไปสู่ความปลอดภัยที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยไม่ทิ้งการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ช่องโหว่ Rust CVE-2025-68260 ➡️ เกิดใน Android Binder driver ของ Linux 6.18 ➡️ ทำให้ระบบ crash แต่ไม่เปิดช่องให้โจมตี ✅ Rust ไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แต่ช่วยลดความเสี่ยง ➡️ Greg Kroah-Hartman ย้ำว่า Rust ไม่ใช่ “silver bullet” ➡️ แต่ช่วยลดจำนวนช่องโหว่ร้ายแรงเมื่อเทียบกับ C ✅ การเปลี่ยนผ่านสู่ Rust ในโครงการใหญ่ ➡️ Linux Kernel และ Tor Project เริ่มใช้ Rust ➡️ จุดแข็งคือ memory safety และ concurrency ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ แม้ช่องโหว่ Rust ครั้งนี้ไม่ร้ายแรง แต่ระบบยัง crash ได้ ⛔ ผู้ใช้ควรอัปเดต Kernel เป็นเวอร์ชันล่าสุด (6.18.1 หรือ 6.19-RC1) เพื่อความปลอดภัย https://itsfoss.com/news/first-linux-kernel-rust-cve/
    ITSFOSS.COM
    The First Rust CVE in Linux Kernel Only Makes Your System Crash
    Greg Kroah-Hartman announced this alongside 150+ C code vulnerabilities that were addressed.
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • Thin Desires กำลังกัดกินชีวิตเรา

    บทความ Thin Desires Are Eating Your Life ของ Joan Westenberg วิเคราะห์ว่าโลกยุคดิจิทัลกำลังทำให้เราติดอยู่กับ “thin desires” หรือความปรารถนาที่ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตจริง เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพโซเชียลมีเดีย แทนที่จะลงทุนใน “thick desires” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและความหมาย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่หรือการสร้างชุมชน.

    Westenberg อธิบายว่า thin desires คือความปรารถนาที่ให้ความพึงพอใจชั่วคราวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ในทางตรงกันข้าม thick desires อย่างการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การฝึกฝนงานฝีมือ หรือการสร้างความสัมพันธ์จริง จะเปลี่ยนแปลงผู้คนในระยะยาว ทำให้พวกเขามีความสามารถและมุมมองใหม่ ๆ.

    ธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมากใช้โมเดลที่ “แยกชิ้นส่วน” ความปรารถนาแบบหนา แล้วส่งมอบเฉพาะส่วนที่ให้รางวัลทางสมอง เช่น โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง, สื่อลามกให้ความพึงพอใจทางเพศโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์, แอป productivity ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง สิ่งเหล่านี้ง่ายต่อการทำซ้ำ ขยาย และทำเงิน แต่กลับทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับวงจรความว่างเปล่า.

    ผลลัพธ์คือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหงา ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แม้เราจะ “เชื่อมต่อ” กันมากกว่าที่เคย แต่กลับรู้สึกขาดความหมาย Westenberg ชี้ว่า thick desires ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันที ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกทำลายลงเรื่อย ๆ เช่น การหายไปของเวิร์กช็อป การลดลงของการฝึกงาน และการแทนที่พื้นที่สาธารณะด้วยการใช้ชีวิตคนเดียวกับอุปกรณ์.

    ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็ก ๆ ในการต่อต้าน เช่น การอบขนมปังที่ไม่สามารถเร่งเวลาได้, การเขียนจดหมายด้วยมือที่ไม่สามารถแก้ไขหรือ unsend ได้, หรือการสร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อนหนึ่งคน สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถ scale หรือ monetize ได้ แต่ช่วยให้เรากลับมาสัมผัสกับความอดทน ความหมาย และความสัมพันธ์ที่แท้จริง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    แนวคิด Thin vs Thick Desires
    Thin = ความพึงพอใจชั่วคราว ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิต
    Thick = ความปรารถนาที่เปลี่ยนแปลงตัวตนและสร้างความหมาย

    ธุรกิจเทคโนโลยีใช้ Thin Desires
    โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง
    Productivity apps ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง

    ผลกระทบต่อสังคม
    ความเหงา วิตกกังวล และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น
    โครงสร้างสนับสนุน Thick Desires ถูกทำลาย เช่น เวิร์กช็อปและชุมชน

    แนวทางต่อต้าน Thin Desires
    อบขนมปัง ใช้เวลาและความอดทน
    เขียนจดหมายด้วยมือ สื่อสารนอกระบบ metrics
    สร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อน

    คำเตือน
    การเสพ Thin Desires อย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตว่างเปล่าและขาดความหมาย
    หากไม่สร้าง Thick Desires เราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และความอดทน

    https://www.joanwestenberg.com/thin-desires-are-eating-your-life/
    📱 Thin Desires กำลังกัดกินชีวิตเรา บทความ Thin Desires Are Eating Your Life ของ Joan Westenberg วิเคราะห์ว่าโลกยุคดิจิทัลกำลังทำให้เราติดอยู่กับ “thin desires” หรือความปรารถนาที่ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตจริง เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพโซเชียลมีเดีย แทนที่จะลงทุนใน “thick desires” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและความหมาย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่หรือการสร้างชุมชน. Westenberg อธิบายว่า thin desires คือความปรารถนาที่ให้ความพึงพอใจชั่วคราวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ในทางตรงกันข้าม thick desires อย่างการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การฝึกฝนงานฝีมือ หรือการสร้างความสัมพันธ์จริง จะเปลี่ยนแปลงผู้คนในระยะยาว ทำให้พวกเขามีความสามารถและมุมมองใหม่ ๆ. ธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมากใช้โมเดลที่ “แยกชิ้นส่วน” ความปรารถนาแบบหนา แล้วส่งมอบเฉพาะส่วนที่ให้รางวัลทางสมอง เช่น โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง, สื่อลามกให้ความพึงพอใจทางเพศโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์, แอป productivity ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง สิ่งเหล่านี้ง่ายต่อการทำซ้ำ ขยาย และทำเงิน แต่กลับทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับวงจรความว่างเปล่า. ผลลัพธ์คือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหงา ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แม้เราจะ “เชื่อมต่อ” กันมากกว่าที่เคย แต่กลับรู้สึกขาดความหมาย Westenberg ชี้ว่า thick desires ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันที ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกทำลายลงเรื่อย ๆ เช่น การหายไปของเวิร์กช็อป การลดลงของการฝึกงาน และการแทนที่พื้นที่สาธารณะด้วยการใช้ชีวิตคนเดียวกับอุปกรณ์. ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็ก ๆ ในการต่อต้าน เช่น การอบขนมปังที่ไม่สามารถเร่งเวลาได้, การเขียนจดหมายด้วยมือที่ไม่สามารถแก้ไขหรือ unsend ได้, หรือการสร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อนหนึ่งคน สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถ scale หรือ monetize ได้ แต่ช่วยให้เรากลับมาสัมผัสกับความอดทน ความหมาย และความสัมพันธ์ที่แท้จริง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ แนวคิด Thin vs Thick Desires ➡️ Thin = ความพึงพอใจชั่วคราว ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิต ➡️ Thick = ความปรารถนาที่เปลี่ยนแปลงตัวตนและสร้างความหมาย ✅ ธุรกิจเทคโนโลยีใช้ Thin Desires ➡️ โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง ➡️ Productivity apps ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง ✅ ผลกระทบต่อสังคม ➡️ ความเหงา วิตกกังวล และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น ➡️ โครงสร้างสนับสนุน Thick Desires ถูกทำลาย เช่น เวิร์กช็อปและชุมชน ✅ แนวทางต่อต้าน Thin Desires ➡️ อบขนมปัง ใช้เวลาและความอดทน ➡️ เขียนจดหมายด้วยมือ สื่อสารนอกระบบ metrics ➡️ สร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อน ‼️ คำเตือน ⛔ การเสพ Thin Desires อย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตว่างเปล่าและขาดความหมาย ⛔ หากไม่สร้าง Thick Desires เราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และความอดทน https://www.joanwestenberg.com/thin-desires-are-eating-your-life/
    WWW.JOANWESTENBERG.COM
    Thin Desires Are Eating Your Life
    The defining experience of our age seems to be hunger. We're hungry for more, but we have more than we need. We're hungry for less, while more accumulates and multiplies. We're hungry and we don't have words to articulate why. We're hungry, and we're lacking and we're wanting. We are
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • Mozilla ก้าวสู่บทใหม่ภายใต้ CEO คนใหม่

    Anthony Enzor-DeMeo เข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Mozilla Corporation เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 โดยเขาเน้นว่าความไว้วางใจจะเป็น “ประเด็นนิยาม” ของเทคโนโลยีในยุคนี้ และเบราว์เซอร์คือสนามรบหลักที่เรื่องความโปร่งใสและการควบคุมข้อมูลจะถูกทดสอบ เขาขอบคุณ Laura Chambers อดีต CEO ชั่วคราวที่นำ Mozilla ผ่านช่วงสำคัญ ทั้งการมาถึงของ AI, คดีต่อต้านการผูกขาด, การเติบโตของ Firefox บนมือถือ และการเริ่มต้นกลยุทธ์กระจายรายได้.

    Enzor-DeMeo ระบุว่า Mozilla จะมุ่งสู่การเป็น Trusted Software Company โดยมีสามเสาหลัก ได้แก่ (1) ทุกผลิตภัณฑ์ต้องให้ผู้ใช้มีสิทธิ์ควบคุมและเข้าใจได้ง่าย โดยเฉพาะเรื่อง AI และข้อมูล, (2) โมเดลธุรกิจต้องโปร่งใสและสอดคล้องกับความไว้วางใจ, และ (3) Firefox จะขยายจากเบราว์เซอร์ไปสู่ ecosystem ของซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ โดยยังคงเป็น “anchor” ขององค์กร.

    Mozilla วางเป้าหมายในสามปีข้างหน้าเพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด ได้แก่ การลงทุนใน AI ที่สะท้อน Mozilla Manifesto, การกระจายรายได้ให้พ้นจากการพึ่งพาการค้นหา, และการสร้างเครื่องมือใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้หลายเจเนอเรชัน โดยจะวัดผลด้วย “double bottom line” คือทั้งความสำเร็จทางธุรกิจและการขับเคลื่อนพันธกิจด้านความโปร่งใสและสิทธิผู้ใช้.

    Enzor-DeMeo ย้ำว่า AI กำลังเปลี่ยนซอฟต์แวร์และเบราว์เซอร์กำลังกลายเป็นจุดควบคุมชีวิตดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและความคาดหวังของผู้ใช้เป็นโอกาสที่ Mozilla สามารถใช้จุดแข็งด้านแบรนด์และความไว้วางใจเพื่อสร้างความยั่งยืนและความเป็นอิสระในตลาด เขาสรุปว่า Mozilla พร้อมสำหรับบทใหม่ที่จะยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การแต่งตั้ง CEO คนใหม่
    Anthony Enzor-DeMeo รับตำแหน่ง CEO Mozilla
    ขอบคุณ Laura Chambers ที่นำองค์กรผ่านช่วงสำคัญ

    กลยุทธ์ Trusted Software Company
    ทุกผลิตภัณฑ์ต้องโปร่งใสและให้ผู้ใช้ควบคุมได้
    โมเดลธุรกิจต้องสอดคล้องกับความไว้วางใจ
    Firefox จะขยายสู่ ecosystem ของซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้

    เป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า
    ลงทุนใน AI ที่สะท้อน Mozilla Manifesto
    กระจายรายได้พ้นจากการพึ่งพาการค้นหา
    วัดผลด้วย double bottom line (พันธกิจ + ธุรกิจ)

    คำเตือนและความท้าทาย
    การผสาน AI ต้องโปร่งใสและให้ผู้ใช้เลือกได้ ไม่เช่นนั้นอาจบั่นทอนความเชื่อมั่น
    การขยาย Firefox สู่ ecosystem ใหม่เสี่ยงต่อการสูญเสียเอกลักษณ์หากไม่รักษาจุดแข็งเดิม

    https://blog.mozilla.org/en/mozilla/leadership/mozillas-next-chapter-anthony-enzor-demeo-new-ceo/
    🌐 Mozilla ก้าวสู่บทใหม่ภายใต้ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo เข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Mozilla Corporation เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 โดยเขาเน้นว่าความไว้วางใจจะเป็น “ประเด็นนิยาม” ของเทคโนโลยีในยุคนี้ และเบราว์เซอร์คือสนามรบหลักที่เรื่องความโปร่งใสและการควบคุมข้อมูลจะถูกทดสอบ เขาขอบคุณ Laura Chambers อดีต CEO ชั่วคราวที่นำ Mozilla ผ่านช่วงสำคัญ ทั้งการมาถึงของ AI, คดีต่อต้านการผูกขาด, การเติบโตของ Firefox บนมือถือ และการเริ่มต้นกลยุทธ์กระจายรายได้. Enzor-DeMeo ระบุว่า Mozilla จะมุ่งสู่การเป็น Trusted Software Company โดยมีสามเสาหลัก ได้แก่ (1) ทุกผลิตภัณฑ์ต้องให้ผู้ใช้มีสิทธิ์ควบคุมและเข้าใจได้ง่าย โดยเฉพาะเรื่อง AI และข้อมูล, (2) โมเดลธุรกิจต้องโปร่งใสและสอดคล้องกับความไว้วางใจ, และ (3) Firefox จะขยายจากเบราว์เซอร์ไปสู่ ecosystem ของซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ โดยยังคงเป็น “anchor” ขององค์กร. Mozilla วางเป้าหมายในสามปีข้างหน้าเพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด ได้แก่ การลงทุนใน AI ที่สะท้อน Mozilla Manifesto, การกระจายรายได้ให้พ้นจากการพึ่งพาการค้นหา, และการสร้างเครื่องมือใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้หลายเจเนอเรชัน โดยจะวัดผลด้วย “double bottom line” คือทั้งความสำเร็จทางธุรกิจและการขับเคลื่อนพันธกิจด้านความโปร่งใสและสิทธิผู้ใช้. Enzor-DeMeo ย้ำว่า AI กำลังเปลี่ยนซอฟต์แวร์และเบราว์เซอร์กำลังกลายเป็นจุดควบคุมชีวิตดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและความคาดหวังของผู้ใช้เป็นโอกาสที่ Mozilla สามารถใช้จุดแข็งด้านแบรนด์และความไว้วางใจเพื่อสร้างความยั่งยืนและความเป็นอิสระในตลาด เขาสรุปว่า Mozilla พร้อมสำหรับบทใหม่ที่จะยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การแต่งตั้ง CEO คนใหม่ ➡️ Anthony Enzor-DeMeo รับตำแหน่ง CEO Mozilla ➡️ ขอบคุณ Laura Chambers ที่นำองค์กรผ่านช่วงสำคัญ ✅ กลยุทธ์ Trusted Software Company ➡️ ทุกผลิตภัณฑ์ต้องโปร่งใสและให้ผู้ใช้ควบคุมได้ ➡️ โมเดลธุรกิจต้องสอดคล้องกับความไว้วางใจ ➡️ Firefox จะขยายสู่ ecosystem ของซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ ✅ เป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า ➡️ ลงทุนใน AI ที่สะท้อน Mozilla Manifesto ➡️ กระจายรายได้พ้นจากการพึ่งพาการค้นหา ➡️ วัดผลด้วย double bottom line (พันธกิจ + ธุรกิจ) ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ การผสาน AI ต้องโปร่งใสและให้ผู้ใช้เลือกได้ ไม่เช่นนั้นอาจบั่นทอนความเชื่อมั่น ⛔ การขยาย Firefox สู่ ecosystem ใหม่เสี่ยงต่อการสูญเสียเอกลักษณ์หากไม่รักษาจุดแข็งเดิม https://blog.mozilla.org/en/mozilla/leadership/mozillas-next-chapter-anthony-enzor-demeo-new-ceo/
    BLOG.MOZILLA.ORG
    Mozilla’s next chapter: Building the world’s most trusted software company
    Today, I step into the role of CEO of Mozilla Corporation. It is a privilege to lead an organization with a long history of standing up for people and buil
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • Astral เปิดตัว ty – Type Checker ที่เร็วที่สุดสำหรับ Python

    Astral ผู้พัฒนาเครื่องมือดังอย่าง uv (package manager) และ Ruff (linter/formatter) ประกาศเปิดตัว ty ในสถานะ Beta รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเป็น extremely fast Python type checker และ language server เขียนด้วย Rust เพื่อเป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright และ Pylance โดยทีมงานยืนยันว่าได้ใช้ ty ในโปรเจกต์จริงแล้ว และพร้อมแนะนำให้ผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงนำไปใช้ใน production.

    จุดเด่นของ ty คือ ความเร็วเหนือชั้น โดยไม่ใช้ caching ก็ยังเร็วกว่า mypy และ Pyright ถึง 10–60 เท่า และเมื่อใช้งานใน editor ความต่างยิ่งชัดเจน เช่น การแก้ไขไฟล์สำคัญใน PyTorch repository ty ใช้เวลาเพียง 4.7ms ในการ recompute diagnostics เทียบกับ Pyright ที่ใช้ 386ms และ Pyrefly ที่ใช้ 2.38 วินาที นั่นหมายถึงการตอบสนองแบบ real-time ที่แทบไม่สะดุดสำหรับนักพัฒนา.

    นอกจากความเร็วแล้ว ty ยังมาพร้อม ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีขั้นสูง เช่น intersection types, type narrowing และ reachability analysis ที่ช่วยลด false positives และให้ feedback ที่แม่นยำกว่าเดิม ระบบ diagnostic ได้แรงบันดาลใจจาก Rust compiler โดยสามารถอธิบายปัญหาแบบ cross-file และเสนอแนวทางแก้ไข ทำให้ผู้ใช้เข้าใจได้ทั้ง “อะไรผิด” และ “ทำไมผิด”.

    ty รองรับ Language Server Protocol เต็มรูปแบบ เช่น Go to Definition, Auto-Complete, Semantic Highlighting และ Inlay Hints พร้อม extension สำหรับ VS Code และ Cursor ทีม Astral ตั้งเป้าออก Stable release ในปีหน้า โดยจะเพิ่มการรองรับ third-party libraries อย่าง Pydantic และ Django รวมถึงฟีเจอร์เชิง semantic เช่น dead code elimination, CVE reachability analysis และ type-aware linting เพื่อผลักดัน Python ให้เป็น ecosystem ที่ productive ที่สุด.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เปิดตัว ty Beta โดย Astral
    เขียนด้วย Rust เป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright, Pylance
    ใช้งานจริงแล้วในโปรเจกต์ของทีม Astral

    ความเร็วเหนือคู่แข่ง
    เร็วกว่า mypy และ Pyright 10–60 เท่า
    Recompute diagnostics ใน PyTorch repository เพียง 4.7ms

    ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีและระบบ Diagnostic
    Intersection types, type narrowing, reachability analysis
    Diagnostic อธิบายปัญหาแบบ cross-file พร้อมแนวทางแก้ไข

    รองรับการใช้งานใน Editor และ Ecosystem
    รองรับ LSP เต็มรูปแบบ (Auto-Complete, Go to Definition ฯลฯ)
    เตรียมเพิ่มการรองรับ Pydantic, Django และฟีเจอร์ semantic อื่น ๆ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    ยังอยู่ในสถานะ Beta อาจมีบั๊กและต้องการเสถียรภาพเพิ่ม
    การใช้งานกับ third-party libraries ยังไม่สมบูรณ์ ต้องรอ Stable release

    https://astral.sh/blog/ty
    🚀 Astral เปิดตัว ty – Type Checker ที่เร็วที่สุดสำหรับ Python Astral ผู้พัฒนาเครื่องมือดังอย่าง uv (package manager) และ Ruff (linter/formatter) ประกาศเปิดตัว ty ในสถานะ Beta รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเป็น extremely fast Python type checker และ language server เขียนด้วย Rust เพื่อเป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright และ Pylance โดยทีมงานยืนยันว่าได้ใช้ ty ในโปรเจกต์จริงแล้ว และพร้อมแนะนำให้ผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงนำไปใช้ใน production. จุดเด่นของ ty คือ ความเร็วเหนือชั้น โดยไม่ใช้ caching ก็ยังเร็วกว่า mypy และ Pyright ถึง 10–60 เท่า และเมื่อใช้งานใน editor ความต่างยิ่งชัดเจน เช่น การแก้ไขไฟล์สำคัญใน PyTorch repository ty ใช้เวลาเพียง 4.7ms ในการ recompute diagnostics เทียบกับ Pyright ที่ใช้ 386ms และ Pyrefly ที่ใช้ 2.38 วินาที นั่นหมายถึงการตอบสนองแบบ real-time ที่แทบไม่สะดุดสำหรับนักพัฒนา. นอกจากความเร็วแล้ว ty ยังมาพร้อม ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีขั้นสูง เช่น intersection types, type narrowing และ reachability analysis ที่ช่วยลด false positives และให้ feedback ที่แม่นยำกว่าเดิม ระบบ diagnostic ได้แรงบันดาลใจจาก Rust compiler โดยสามารถอธิบายปัญหาแบบ cross-file และเสนอแนวทางแก้ไข ทำให้ผู้ใช้เข้าใจได้ทั้ง “อะไรผิด” และ “ทำไมผิด”. ty รองรับ Language Server Protocol เต็มรูปแบบ เช่น Go to Definition, Auto-Complete, Semantic Highlighting และ Inlay Hints พร้อม extension สำหรับ VS Code และ Cursor ทีม Astral ตั้งเป้าออก Stable release ในปีหน้า โดยจะเพิ่มการรองรับ third-party libraries อย่าง Pydantic และ Django รวมถึงฟีเจอร์เชิง semantic เช่น dead code elimination, CVE reachability analysis และ type-aware linting เพื่อผลักดัน Python ให้เป็น ecosystem ที่ productive ที่สุด. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เปิดตัว ty Beta โดย Astral ➡️ เขียนด้วย Rust เป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright, Pylance ➡️ ใช้งานจริงแล้วในโปรเจกต์ของทีม Astral ✅ ความเร็วเหนือคู่แข่ง ➡️ เร็วกว่า mypy และ Pyright 10–60 เท่า ➡️ Recompute diagnostics ใน PyTorch repository เพียง 4.7ms ✅ ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีและระบบ Diagnostic ➡️ Intersection types, type narrowing, reachability analysis ➡️ Diagnostic อธิบายปัญหาแบบ cross-file พร้อมแนวทางแก้ไข ✅ รองรับการใช้งานใน Editor และ Ecosystem ➡️ รองรับ LSP เต็มรูปแบบ (Auto-Complete, Go to Definition ฯลฯ) ➡️ เตรียมเพิ่มการรองรับ Pydantic, Django และฟีเจอร์ semantic อื่น ๆ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ ยังอยู่ในสถานะ Beta อาจมีบั๊กและต้องการเสถียรภาพเพิ่ม ⛔ การใช้งานกับ third-party libraries ยังไม่สมบูรณ์ ต้องรอ Stable release https://astral.sh/blog/ty
    ASTRAL.SH
    ty: An extremely fast Python type checker and language server
    ty is an extremely fast Python type checker and language server, written in Rust, and designed as an alternative to mypy, Pyright, and Pylance.
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • Google เปิดตัว Gemini 3 Flash – AI เร็ว แรง และเข้าถึงได้ทั่วโลก

    Google ประกาศเปิดตัว Gemini 3 Flash ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ในตระกูล Gemini 3 โดยเน้นความเร็วและต้นทุนต่ำ แต่ยังคงความสามารถด้านการให้เหตุผลและการทำงานแบบมัลติโหมด (multimodal) เทียบเท่ารุ่น Pro จุดเด่นคือสามารถประมวลผลได้เร็วกว่า Gemini 2.5 Pro ถึง 3 เท่า และใช้โทเคนเฉลี่ยน้อยลงถึง 30% ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น การพัฒนาโค้ด การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างแอปพลิเคชันแบบโต้ตอบ.

    Gemini 3 Flash ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยจะเป็นโมเดลเริ่มต้นในแอป Gemini และ AI Mode ใน Google Search ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วโลกจะได้สัมผัสประสบการณ์ AI ที่เร็วและฉลาดขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังเปิดให้ใช้งานผ่าน Google AI Studio, Gemini CLI และแพลตฟอร์มใหม่ Google Antigravity สำหรับนักพัฒนา.

    ในด้านประสิทธิภาพ Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลาย benchmark เช่น GPQA Diamond และ SWE-bench Verified ซึ่งใช้วัดความสามารถในการให้เหตุผลและการแก้ปัญหาด้านโค้ด โดยมีบริษัทใหญ่เช่น JetBrains, Bridgewater Associates และ Figma นำไปใช้งานแล้ว เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานและสร้างระบบที่ตอบสนองได้รวดเร็ว.

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Gemini 3 Flash ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพียงเพื่อความเร็ว แต่ยังคงรักษาความสามารถในการคิดเชิงลึกและการทำงานแบบ multimodal เช่น การวิเคราะห์วิดีโอ การสร้างคำอธิบายภาพ และการออกแบบ UI แบบโต้ตอบในเวลาเกือบเรียลไทม์ ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่เหมาะทั้งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนาที่ต้องการความสมดุลระหว่างคุณภาพ ความเร็ว และต้นทุน.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Gemini 3 Flash เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
    เร็วกว่า Gemini 2.5 Pro ถึง 3 เท่า
    ใช้โทเคนน้อยลง 30% แต่ยังคงคุณภาพสูง

    เข้าถึงได้ทั่วโลก
    เป็นโมเดลเริ่มต้นในแอป Gemini และ AI Mode ใน Search
    ใช้งานได้ฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    ประสิทธิภาพระดับสูง
    ทำคะแนนสูงใน benchmark เช่น GPQA Diamond และ SWE-bench Verified
    บริษัทใหญ่เช่น JetBrains และ Figma นำไปใช้งานแล้ว

    รองรับงานมัลติโหมดและเชิงลึก
    วิเคราะห์วิดีโอ สร้างคำอธิบายภาพ และออกแบบ UI แบบโต้ตอบ
    เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนาที่ต้องการความเร็วและคุณภาพ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    แม้จะเร็วและถูกกว่า แต่การใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูงยังต้องตรวจสอบผลลัพธ์อย่างรอบคอบ
    การพึ่งพา AI ในการสร้างโค้ดหรือออกแบบระบบอาจเสี่ยงต่อข้อผิดพลาดหากไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์

    https://blog.google/products/gemini/gemini-3-flash/
    ⚡ Google เปิดตัว Gemini 3 Flash – AI เร็ว แรง และเข้าถึงได้ทั่วโลก Google ประกาศเปิดตัว Gemini 3 Flash ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ในตระกูล Gemini 3 โดยเน้นความเร็วและต้นทุนต่ำ แต่ยังคงความสามารถด้านการให้เหตุผลและการทำงานแบบมัลติโหมด (multimodal) เทียบเท่ารุ่น Pro จุดเด่นคือสามารถประมวลผลได้เร็วกว่า Gemini 2.5 Pro ถึง 3 เท่า และใช้โทเคนเฉลี่ยน้อยลงถึง 30% ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น การพัฒนาโค้ด การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างแอปพลิเคชันแบบโต้ตอบ. Gemini 3 Flash ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยจะเป็นโมเดลเริ่มต้นในแอป Gemini และ AI Mode ใน Google Search ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วโลกจะได้สัมผัสประสบการณ์ AI ที่เร็วและฉลาดขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังเปิดให้ใช้งานผ่าน Google AI Studio, Gemini CLI และแพลตฟอร์มใหม่ Google Antigravity สำหรับนักพัฒนา. ในด้านประสิทธิภาพ Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลาย benchmark เช่น GPQA Diamond และ SWE-bench Verified ซึ่งใช้วัดความสามารถในการให้เหตุผลและการแก้ปัญหาด้านโค้ด โดยมีบริษัทใหญ่เช่น JetBrains, Bridgewater Associates และ Figma นำไปใช้งานแล้ว เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานและสร้างระบบที่ตอบสนองได้รวดเร็ว. สิ่งที่น่าสนใจคือ Gemini 3 Flash ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพียงเพื่อความเร็ว แต่ยังคงรักษาความสามารถในการคิดเชิงลึกและการทำงานแบบ multimodal เช่น การวิเคราะห์วิดีโอ การสร้างคำอธิบายภาพ และการออกแบบ UI แบบโต้ตอบในเวลาเกือบเรียลไทม์ ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่เหมาะทั้งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนาที่ต้องการความสมดุลระหว่างคุณภาพ ความเร็ว และต้นทุน. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Gemini 3 Flash เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ➡️ เร็วกว่า Gemini 2.5 Pro ถึง 3 เท่า ➡️ ใช้โทเคนน้อยลง 30% แต่ยังคงคุณภาพสูง ✅ เข้าถึงได้ทั่วโลก ➡️ เป็นโมเดลเริ่มต้นในแอป Gemini และ AI Mode ใน Search ➡️ ใช้งานได้ฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ✅ ประสิทธิภาพระดับสูง ➡️ ทำคะแนนสูงใน benchmark เช่น GPQA Diamond และ SWE-bench Verified ➡️ บริษัทใหญ่เช่น JetBrains และ Figma นำไปใช้งานแล้ว ✅ รองรับงานมัลติโหมดและเชิงลึก ➡️ วิเคราะห์วิดีโอ สร้างคำอธิบายภาพ และออกแบบ UI แบบโต้ตอบ ➡️ เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนาที่ต้องการความเร็วและคุณภาพ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ แม้จะเร็วและถูกกว่า แต่การใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูงยังต้องตรวจสอบผลลัพธ์อย่างรอบคอบ ⛔ การพึ่งพา AI ในการสร้างโค้ดหรือออกแบบระบบอาจเสี่ยงต่อข้อผิดพลาดหากไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ https://blog.google/products/gemini/gemini-3-flash/
    BLOG.GOOGLE
    Gemini 3 Flash: frontier intelligence built for speed
    Gemini 3 Flash offers frontier intelligence built for speed at a fraction of the cost.
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • AWS CEO ชี้ AI ไม่สามารถแทนที่นักพัฒนาใหม่ได้

    ในโลกเทคโนโลยีที่หลายบริษัทกำลังมอง AI เป็นเครื่องมือแทนแรงงานมนุษย์ Matt Garman CEO ของ Amazon Web Services ออกมาโต้แย้งอย่างหนัก โดยเขาให้สัมภาษณ์ใน WIRED’s The Big Interview ว่า การแทนที่นักพัฒนาใหม่ด้วย AI เป็นแนวคิดที่ผิดพลาด เพราะคนรุ่นใหม่มักจะเชี่ยวชาญการใช้เครื่องมือ AI มากกว่าคนที่มีประสบการณ์ ทำให้พวกเขาสามารถดึงประโยชน์จาก AI ได้เต็มที่.

    เขาอธิบายว่า นักพัฒนาใหม่มักมีค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนและสวัสดิการต่ำกว่าพนักงานอาวุโส การตัดพวกเขาออกจึงไม่ได้ช่วยลดต้นทุนมากนัก ในทางกลับกัน ข้อมูลจาก Deloitte ยังชี้ว่า 30% ของบริษัทที่ปลดพนักงานเพื่อหวังลดค่าใช้จ่าย กลับต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและต้องจ้างใหม่ภายหลัง ซึ่งสะท้อนว่าการลดคนโดยเฉพาะระดับเริ่มต้นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่แท้จริง.

    อีกประเด็นสำคัญคือ การสร้างท่อส่งบุคลากร (talent pipeline) หากไม่มีการจ้างนักพัฒนาใหม่ บริษัทจะขาดคนรุ่นใหม่ที่สามารถเติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำในอนาคต การเปรียบเทียบของ Garman คือเหมือนทีมกีฬาที่มีแต่ผู้เล่นเก่าโดยไม่รับมือใหม่ เมื่อถึงเวลาที่ผู้เล่นเก่าเลิกเล่น ทีมก็จะไม่มีใครสืบทอดต่อ ส่งผลให้บริษัทเสี่ยงต่อการขาดแคลนบุคลากรในระยะยาว.

    แม้ Garman จะยอมรับว่า AI จะเปลี่ยนแปลงงานของนักพัฒนาอย่างมาก แต่เขามองว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างงานใหม่มากกว่าที่จะทำลายงานเดิม เขาย้ำว่า การมีนักพัฒนาใหม่ที่เข้าใจพื้นฐานวิทยาการคอมพิวเตอร์ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ในอนาคต.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    นักพัฒนาใหม่เชี่ยวชาญ AI มากกว่า
    Gen Z ใช้ AI tools เป็นประจำ และช่วยสอนพนักงานอาวุโส
    55.5% ของนักพัฒนาใหม่ใช้ AI ทุกวันในการทำงาน

    การลดนักพัฒนาใหม่ไม่ช่วยประหยัดจริง
    เงินเดือนและสวัสดิการต่ำอยู่แล้ว
    30% ของบริษัทที่ปลดคนกลับมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและต้องจ้างใหม่

    ท่อส่งบุคลากรคือหัวใจขององค์กร
    การไม่จ้างคนใหม่ทำให้ขาดผู้นำในอนาคต
    บริษัทเสี่ยงต่อการขาดแคลนบุคลากรเมื่อโครงการขยายตัว

    คำเตือนจาก AWS CEO
    การแทนที่นักพัฒนาใหม่ด้วย AI อาจทำลายความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
    บริษัทที่พึ่งพา AI อย่างเดียวจะเสี่ยงต่อการไม่มีบุคลากรที่มีทักษะพื้นฐานในอนาคต

    https://www.finalroundai.com/blog/aws-ceo-ai-cannot-replace-junior-developers
    💻 AWS CEO ชี้ AI ไม่สามารถแทนที่นักพัฒนาใหม่ได้ ในโลกเทคโนโลยีที่หลายบริษัทกำลังมอง AI เป็นเครื่องมือแทนแรงงานมนุษย์ Matt Garman CEO ของ Amazon Web Services ออกมาโต้แย้งอย่างหนัก โดยเขาให้สัมภาษณ์ใน WIRED’s The Big Interview ว่า การแทนที่นักพัฒนาใหม่ด้วย AI เป็นแนวคิดที่ผิดพลาด เพราะคนรุ่นใหม่มักจะเชี่ยวชาญการใช้เครื่องมือ AI มากกว่าคนที่มีประสบการณ์ ทำให้พวกเขาสามารถดึงประโยชน์จาก AI ได้เต็มที่. เขาอธิบายว่า นักพัฒนาใหม่มักมีค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนและสวัสดิการต่ำกว่าพนักงานอาวุโส การตัดพวกเขาออกจึงไม่ได้ช่วยลดต้นทุนมากนัก ในทางกลับกัน ข้อมูลจาก Deloitte ยังชี้ว่า 30% ของบริษัทที่ปลดพนักงานเพื่อหวังลดค่าใช้จ่าย กลับต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและต้องจ้างใหม่ภายหลัง ซึ่งสะท้อนว่าการลดคนโดยเฉพาะระดับเริ่มต้นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่แท้จริง. อีกประเด็นสำคัญคือ การสร้างท่อส่งบุคลากร (talent pipeline) หากไม่มีการจ้างนักพัฒนาใหม่ บริษัทจะขาดคนรุ่นใหม่ที่สามารถเติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำในอนาคต การเปรียบเทียบของ Garman คือเหมือนทีมกีฬาที่มีแต่ผู้เล่นเก่าโดยไม่รับมือใหม่ เมื่อถึงเวลาที่ผู้เล่นเก่าเลิกเล่น ทีมก็จะไม่มีใครสืบทอดต่อ ส่งผลให้บริษัทเสี่ยงต่อการขาดแคลนบุคลากรในระยะยาว. แม้ Garman จะยอมรับว่า AI จะเปลี่ยนแปลงงานของนักพัฒนาอย่างมาก แต่เขามองว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างงานใหม่มากกว่าที่จะทำลายงานเดิม เขาย้ำว่า การมีนักพัฒนาใหม่ที่เข้าใจพื้นฐานวิทยาการคอมพิวเตอร์ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ในอนาคต. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ นักพัฒนาใหม่เชี่ยวชาญ AI มากกว่า ➡️ Gen Z ใช้ AI tools เป็นประจำ และช่วยสอนพนักงานอาวุโส ➡️ 55.5% ของนักพัฒนาใหม่ใช้ AI ทุกวันในการทำงาน ✅ การลดนักพัฒนาใหม่ไม่ช่วยประหยัดจริง ➡️ เงินเดือนและสวัสดิการต่ำอยู่แล้ว ➡️ 30% ของบริษัทที่ปลดคนกลับมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและต้องจ้างใหม่ ✅ ท่อส่งบุคลากรคือหัวใจขององค์กร ➡️ การไม่จ้างคนใหม่ทำให้ขาดผู้นำในอนาคต ➡️ บริษัทเสี่ยงต่อการขาดแคลนบุคลากรเมื่อโครงการขยายตัว ‼️ คำเตือนจาก AWS CEO ⛔ การแทนที่นักพัฒนาใหม่ด้วย AI อาจทำลายความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ⛔ บริษัทที่พึ่งพา AI อย่างเดียวจะเสี่ยงต่อการไม่มีบุคลากรที่มีทักษะพื้นฐานในอนาคต https://www.finalroundai.com/blog/aws-ceo-ai-cannot-replace-junior-developers
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • Mozilla กับความเสี่ยงในการสูญเสียฐานผู้ใช้ที่ภักดี

    บทความจาก Bruno’s Ramblings ชี้ให้เห็นถึงความกังวลที่เกิดขึ้นหลังจาก Anthony Enzor-DeMeo CEO คนใหม่ของ Mozilla ให้สัมภาษณ์กับ The Verge โดยกล่าวว่าเขา “สามารถบล็อก AdBlockers ใน Firefox เพื่อสร้างรายได้เพิ่มอีก 150 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่อยากทำเพราะมันขัดกับพันธกิจ”. แม้จะพูดว่าไม่อยากทำ แต่การกล่าวถึงตัวเลือกนี้ก็สร้างความไม่มั่นใจและกระแสวิจารณ์ว่า Mozilla อาจกำลังพิจารณาแนวทางที่ขัดกับจุดยืนเดิม.

    ผู้เขียนบทความเล่าว่าตนเองเป็นผู้ใช้ Firefox มาตั้งแต่ยุคแรก และสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ภักดีคือ การสนับสนุนมาตรฐานเปิด, ระบบเสริม (add-on) ที่ทรงพลัง และการปกป้องความเป็นส่วนตัว. การบล็อก AdBlocker จึงถูกมองว่าเป็นการทำลายข้อได้เปรียบสำคัญเหนือ Chromium และอาจทำให้ผู้ใช้กลุ่ม “geeks & nerds” ที่เป็นฐานหลักรู้สึกถูกทอดทิ้ง.

    นอกจากนี้ AdBlocker ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือป้องกันโฆษณาที่น่ารำคาญ แต่ยังเป็น ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ที่ช่วยป้องกันภัยจาก malvertising (โฆษณาที่แฝงมัลแวร์). หาก Mozilla ตัดสินใจบล็อก AdBlocker อาจทำให้ผู้ใช้มองว่าองค์กรละเลยความปลอดภัยของพวกเขา และอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ในฐานะผู้พิทักษ์เว็บเสรี.

    แม้ผู้เขียนจะเข้าใจว่า Mozilla ต้องหารายได้เพื่อความอยู่รอด แต่การพูดถึงแนวทางที่ขัดกับพันธกิจโดยตรงก็สร้าง “PR Disaster” ขึ้นมาแล้วในชุมชนออนไลน์ เช่น Reddit. ความกังวลคือ หาก Mozilla เดินตามเส้นทางนี้จริง อาจสูญเสียความไว้วางใจจากผู้ใช้ที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญในการแนะนำ Firefox ให้กับผู้ใช้ทั่วไป.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    คำพูดของ CEO Mozilla จุดกระแสกังวล
    กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการบล็อก AdBlocker เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม
    แม้จะบอกว่าไม่อยากทำ แต่การพูดถึงก็สร้างความไม่มั่นใจ

    AdBlocker คือข้อได้เปรียบและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
    เป็นจุดแข็งเหนือ Chromium ที่ทำให้ผู้ใช้ภักดี
    ป้องกันภัยจาก malvertising ซึ่งเป็นภัยคุกคามจริง

    ผลกระทบต่อฐานผู้ใช้และภาพลักษณ์
    ผู้ใช้กลุ่มที่ใส่ใจความเป็นส่วนตัวอาจรู้สึกถูกทอดทิ้ง
    อาจทำให้ Firefox สูญเสียความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากชุมชน

    คำเตือนต่อ Mozilla
    การบล็อก AdBlocker อาจเป็น “อีกตะปูหนึ่งบนโลงศพ” ของ Firefox
    ความผิดพลาดด้าน PR อาจทำให้สูญเสียผู้ใช้ที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญ

    https://infosec.press/brunomiguel/is-mozilla-trying-hard-to-kill-itself
    📰 Mozilla กับความเสี่ยงในการสูญเสียฐานผู้ใช้ที่ภักดี บทความจาก Bruno’s Ramblings ชี้ให้เห็นถึงความกังวลที่เกิดขึ้นหลังจาก Anthony Enzor-DeMeo CEO คนใหม่ของ Mozilla ให้สัมภาษณ์กับ The Verge โดยกล่าวว่าเขา “สามารถบล็อก AdBlockers ใน Firefox เพื่อสร้างรายได้เพิ่มอีก 150 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่อยากทำเพราะมันขัดกับพันธกิจ”. แม้จะพูดว่าไม่อยากทำ แต่การกล่าวถึงตัวเลือกนี้ก็สร้างความไม่มั่นใจและกระแสวิจารณ์ว่า Mozilla อาจกำลังพิจารณาแนวทางที่ขัดกับจุดยืนเดิม. ผู้เขียนบทความเล่าว่าตนเองเป็นผู้ใช้ Firefox มาตั้งแต่ยุคแรก และสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ภักดีคือ การสนับสนุนมาตรฐานเปิด, ระบบเสริม (add-on) ที่ทรงพลัง และการปกป้องความเป็นส่วนตัว. การบล็อก AdBlocker จึงถูกมองว่าเป็นการทำลายข้อได้เปรียบสำคัญเหนือ Chromium และอาจทำให้ผู้ใช้กลุ่ม “geeks & nerds” ที่เป็นฐานหลักรู้สึกถูกทอดทิ้ง. นอกจากนี้ AdBlocker ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือป้องกันโฆษณาที่น่ารำคาญ แต่ยังเป็น ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ที่ช่วยป้องกันภัยจาก malvertising (โฆษณาที่แฝงมัลแวร์). หาก Mozilla ตัดสินใจบล็อก AdBlocker อาจทำให้ผู้ใช้มองว่าองค์กรละเลยความปลอดภัยของพวกเขา และอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ในฐานะผู้พิทักษ์เว็บเสรี. แม้ผู้เขียนจะเข้าใจว่า Mozilla ต้องหารายได้เพื่อความอยู่รอด แต่การพูดถึงแนวทางที่ขัดกับพันธกิจโดยตรงก็สร้าง “PR Disaster” ขึ้นมาแล้วในชุมชนออนไลน์ เช่น Reddit. ความกังวลคือ หาก Mozilla เดินตามเส้นทางนี้จริง อาจสูญเสียความไว้วางใจจากผู้ใช้ที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญในการแนะนำ Firefox ให้กับผู้ใช้ทั่วไป. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ คำพูดของ CEO Mozilla จุดกระแสกังวล ➡️ กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการบล็อก AdBlocker เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม ➡️ แม้จะบอกว่าไม่อยากทำ แต่การพูดถึงก็สร้างความไม่มั่นใจ ✅ AdBlocker คือข้อได้เปรียบและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ➡️ เป็นจุดแข็งเหนือ Chromium ที่ทำให้ผู้ใช้ภักดี ➡️ ป้องกันภัยจาก malvertising ซึ่งเป็นภัยคุกคามจริง ✅ ผลกระทบต่อฐานผู้ใช้และภาพลักษณ์ ➡️ ผู้ใช้กลุ่มที่ใส่ใจความเป็นส่วนตัวอาจรู้สึกถูกทอดทิ้ง ➡️ อาจทำให้ Firefox สูญเสียความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากชุมชน ‼️ คำเตือนต่อ Mozilla ⛔ การบล็อก AdBlocker อาจเป็น “อีกตะปูหนึ่งบนโลงศพ” ของ Firefox ⛔ ความผิดพลาดด้าน PR อาจทำให้สูญเสียผู้ใช้ที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญ https://infosec.press/brunomiguel/is-mozilla-trying-hard-to-kill-itself
    INFOSEC.PRESS
    📝 Is Mozilla trying hard to kill itself?
    In an interview with "The Verge", the new Mozilla CEO, Enzor-DeMeo, IMHO hints that axing adblockers is something that, at the very least...
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • เกิดปฏิบัติการทางอากาศครั้งที่ 2 ในวันเดียวกัน หลังมีรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทย เปิดฉากโจมตีเป้าหมายทางทหารในพื้นที่เมืองปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย ประเทศกัมพูชา ตรงข้ามอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
    .
    รายงานระบุว่า การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. โดยเป็นการทิ้งระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการทางทหารกัมพูชาเขตที่ 5 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตรวจพบการซ่องสุมกำลังพลและอาวุธในลักษณะคุกคามต่อความมั่นคงและอธิปไตยของไทย
    .
    เป้าหมายดังกล่าวยังถูกระบุว่าเป็นอาคารที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ และใช้เป็นคลังอาวุธของฝ่ายกัมพูชา โดยการปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีรอบที่สองของวัน หลังมีรายงานการใช้กำลังทางอากาศในพื้นที่เดียวกันก่อนหน้านี้
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121878
    .
    #News1live #News1 #F16 #ปอยเปต #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพอากาศ #สแกมเมอร์
    เกิดปฏิบัติการทางอากาศครั้งที่ 2 ในวันเดียวกัน หลังมีรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทย เปิดฉากโจมตีเป้าหมายทางทหารในพื้นที่เมืองปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย ประเทศกัมพูชา ตรงข้ามอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว . รายงานระบุว่า การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. โดยเป็นการทิ้งระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการทางทหารกัมพูชาเขตที่ 5 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตรวจพบการซ่องสุมกำลังพลและอาวุธในลักษณะคุกคามต่อความมั่นคงและอธิปไตยของไทย . เป้าหมายดังกล่าวยังถูกระบุว่าเป็นอาคารที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ และใช้เป็นคลังอาวุธของฝ่ายกัมพูชา โดยการปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีรอบที่สองของวัน หลังมีรายงานการใช้กำลังทางอากาศในพื้นที่เดียวกันก่อนหน้านี้ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121878 . #News1live #News1 #F16 #ปอยเปต #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพอากาศ #สแกมเมอร์
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 199 Views 0 Reviews
  • กองทัพอากาศชี้แจงกรณีการใช้เครื่องบิน F-16 ปฏิบัติการทางอากาศ หลังมีการเผยแพร่วิดีโอการโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ใกล้เมืองปอยเปต ยืนยันว่าไม่ได้โจมตีพื้นที่เมืองหรือพลเรือน
    .
    โฆษกกองทัพอากาศระบุว่า เป้าหมายของปฏิบัติการคือ สป.5 ซึ่งเป็นคลังเก็บอาวุธ กระสุน และวัตถุระเบิด โดยข้อมูลทางการข่าวยืนยันว่าเป็นจุดจัดเก็บจรวด BM-21 ที่เข้าข่ายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศไทย
    .
    การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามสิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ มุ่งเป้าเฉพาะวัตถุประสงค์ทางทหาร เพื่อจำกัดและลดทอนขีดความสามารถของฝ่ายคู่กรณี
    .
    กองทัพอากาศยืนยันว่า การกำหนดเป้าหมายทุกครั้งผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ ใช้ข้อมูลจากระบบตรวจจับและข่าวกรองภาคพื้นดิน และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121844
    .
    #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #F16 #BM21 #ปอยเปต #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    กองทัพอากาศชี้แจงกรณีการใช้เครื่องบิน F-16 ปฏิบัติการทางอากาศ หลังมีการเผยแพร่วิดีโอการโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ใกล้เมืองปอยเปต ยืนยันว่าไม่ได้โจมตีพื้นที่เมืองหรือพลเรือน . โฆษกกองทัพอากาศระบุว่า เป้าหมายของปฏิบัติการคือ สป.5 ซึ่งเป็นคลังเก็บอาวุธ กระสุน และวัตถุระเบิด โดยข้อมูลทางการข่าวยืนยันว่าเป็นจุดจัดเก็บจรวด BM-21 ที่เข้าข่ายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศไทย . การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามสิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ มุ่งเป้าเฉพาะวัตถุประสงค์ทางทหาร เพื่อจำกัดและลดทอนขีดความสามารถของฝ่ายคู่กรณี . กองทัพอากาศยืนยันว่า การกำหนดเป้าหมายทุกครั้งผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ ใช้ข้อมูลจากระบบตรวจจับและข่าวกรองภาคพื้นดิน และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121844 . #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #F16 #BM21 #ปอยเปต #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    0 Comments 0 Shares 203 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา
    เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2555 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก 3 วาระ.. พระเกจิสายใต้นั่งปรกร่วมพิธีคับคั่ง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านนิรันตรา แคล้วคลาดจากอันตรายทุกชนิด เมตตามหานิยม เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง คงกระพันชาตรี ป้องกันภัย สารพัดศัตรู และให้ความเป็นสิริมงคล มหาลาภ ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น **

    ** เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2555 ปลุกเสกพิธีใหญ่

    วาระที่ 1 วันอังคารที่ 25 กย. 2555 พุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดเมีองยะลา เกจิสายใต้นั่งปรกร่วมพิธีคับคั่งอาทิ พ่อท่านฉิ้น พ่อท่านเขียว พ่อท่านพรหม พ่อท่านแสง พ่อท่านพล พ่อท่านหวาน พ่อท่านจ่างเป็นต้นรวม 24 รูป

    วาระที่ 2 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราขกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงยกฉัตรพระมหาธาตุเจดีย์และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดเมืองยะลา พระอารามหลวง จ. ยะลา วันที่ 26 ก.ย. พ.ศ. 2555 เวลา 14.45 น. ประธานฝ่ายฆราวาส สมเด็จวัดพิชัยญาติ ประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีเจริญชัยคาถาพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่สหธรรมิกหลวงพ่อวัดเมืองยะลาจากทั่วประเทศ เจริญพระพุทธมนต์

    วาระที่ 3 พ่อท่านฉิ้นปลุกเสกเดี่ยวก่อนและหลังพิธีอีกทุกวันประมาณ 15 รอบ 15 วัน ในพิธีนี้เกิดปรากฎการณ์ศักดิ์สิทธิ์น่าอัศจรรย์เกิดฝนตกหนักมากแต่พอก่อนจะเริ่มพิธีฝนก็หยุดทันทีนอกจากนั้นในระหว่างพิธีเกิดลมพัดหวนเฉพาะบริเวณประรำพิธีของพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่และเหล่าเกจิจากทั่วประเทศเท่านั้นจนข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์ประดับฃุ้มกระเจิงหลายหมื่นบาทแต่ประรำพิธีของสมเด็จพระเทพฯฃื่งอยู่ติดกันกลับมิได้เป็นอะไรเลยมิได้แตะต้องประรำของท่านแต่อย่างใด **

    ** พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2555 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก 3 วาระ.. พระเกจิสายใต้นั่งปรกร่วมพิธีคับคั่ง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านนิรันตรา แคล้วคลาดจากอันตรายทุกชนิด เมตตามหานิยม เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง คงกระพันชาตรี ป้องกันภัย สารพัดศัตรู และให้ความเป็นสิริมงคล มหาลาภ ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ** ** เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2555 ปลุกเสกพิธีใหญ่ วาระที่ 1 วันอังคารที่ 25 กย. 2555 พุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดเมีองยะลา เกจิสายใต้นั่งปรกร่วมพิธีคับคั่งอาทิ พ่อท่านฉิ้น พ่อท่านเขียว พ่อท่านพรหม พ่อท่านแสง พ่อท่านพล พ่อท่านหวาน พ่อท่านจ่างเป็นต้นรวม 24 รูป วาระที่ 2 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราขกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงยกฉัตรพระมหาธาตุเจดีย์และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดเมืองยะลา พระอารามหลวง จ. ยะลา วันที่ 26 ก.ย. พ.ศ. 2555 เวลา 14.45 น. ประธานฝ่ายฆราวาส สมเด็จวัดพิชัยญาติ ประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีเจริญชัยคาถาพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่สหธรรมิกหลวงพ่อวัดเมืองยะลาจากทั่วประเทศ เจริญพระพุทธมนต์ วาระที่ 3 พ่อท่านฉิ้นปลุกเสกเดี่ยวก่อนและหลังพิธีอีกทุกวันประมาณ 15 รอบ 15 วัน ในพิธีนี้เกิดปรากฎการณ์ศักดิ์สิทธิ์น่าอัศจรรย์เกิดฝนตกหนักมากแต่พอก่อนจะเริ่มพิธีฝนก็หยุดทันทีนอกจากนั้นในระหว่างพิธีเกิดลมพัดหวนเฉพาะบริเวณประรำพิธีของพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่และเหล่าเกจิจากทั่วประเทศเท่านั้นจนข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์ประดับฃุ้มกระเจิงหลายหมื่นบาทแต่ประรำพิธีของสมเด็จพระเทพฯฃื่งอยู่ติดกันกลับมิได้เป็นอะไรเลยมิได้แตะต้องประรำของท่านแต่อย่างใด ** ** พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • เกิดเหตุไฟไหม้รถตู้โดยสารนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพมหานคร บนเส้นทางขึ้นเขาค้อ ทางหลวงหมายเลข 12 ช่วงอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ไฟลุกจากห้องเครื่องก่อนลุกลามอย่างรวดเร็ว เผารถวอดทั้งคัน
    .
    ผู้โดยสารทั้งหมดสามารถหนีออกจากรถได้ทัน ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยเร่งเข้าควบคุมสถานการณ์จนเพลิงสงบ
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความแตกตื่นแก่ผู้ใช้ถนน และเป็นอุทาหรณ์เตือนนักท่องเที่ยวให้ตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทาง โดยเฉพาะเส้นทางภูเขาที่ต้องใช้เครื่องยนต์อย่างหนัก
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121602
    .
    #News1live #News1 #เขาค้อ #เพชรบูรณ์ #ไฟไหม้รถ #อุบัติเหตุ #เตือนภัยการเดินทาง
    เกิดเหตุไฟไหม้รถตู้โดยสารนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพมหานคร บนเส้นทางขึ้นเขาค้อ ทางหลวงหมายเลข 12 ช่วงอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ไฟลุกจากห้องเครื่องก่อนลุกลามอย่างรวดเร็ว เผารถวอดทั้งคัน . ผู้โดยสารทั้งหมดสามารถหนีออกจากรถได้ทัน ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยเร่งเข้าควบคุมสถานการณ์จนเพลิงสงบ . เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความแตกตื่นแก่ผู้ใช้ถนน และเป็นอุทาหรณ์เตือนนักท่องเที่ยวให้ตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทาง โดยเฉพาะเส้นทางภูเขาที่ต้องใช้เครื่องยนต์อย่างหนัก . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121602 . #News1live #News1 #เขาค้อ #เพชรบูรณ์ #ไฟไหม้รถ #อุบัติเหตุ #เตือนภัยการเดินทาง
    Love
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • ไหวเหรอยศชนัน ลูกสมชายเจ๊แดง

    การเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ในช่วงการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา นอกจากกระแสสังคมจะเงียบเชียบแล้ว แคนดิเดต 3 คนที่เสนอมา สองคนแรกไม่มีอะไรใหม่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่มีผลงานโดดเด่น แม้สมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะอยู่กระทรวงเกรดเอ ในตำแหน่ง รมช.คลัง หนำซ้ำนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทก็ล้มเหลว ส่วนนายสุุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คนที่ติดตามการเมืองมานานจะร้องยี้ เพราะเวียนวนเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยันรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่คุมกระทรวงคมนาคม หนำซ้ำยังถูกเคลือบแคลงสงสัยกรณี CTX9000

    จะมีหน้าใหม่อยู่คนเดียว คือ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ หรือ เชน แม้จะมีโปร์ไฟล์เป็นถึงอดีตรองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีผลงานวิจัยมากมาย แต่สังคมไม่ได้สนใจเท่ากับเป็นลูกชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จึงถูกจับตามองทันทีว่าสืบทอดอำนาจทางการเมืองในตระกูลชินวัตรหรือไม่ หลังครอบครัวและเครือญาติตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีโทษจำคุกคดีโครงการรับจำนำข้าว และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปเสียงนายฮุน เซน แห่งกัมพูชา

    พรรคเพื่อไทยพยายามยกเครื่องพรรคเพื่อสลัดภาพความเป็นพรรครากหญ้า พรรคประชานิยมแจกแหลก ด้วยวาทกรรม "ยกเครื่องประเทศไทย" ออกแบบด้วยวิทยาศาสตร์และเหตุผล ไปสู้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างพรรคประชาชน แต่ก็ยังมีนโยบายประชานิยมติดมาด้วย ทั้งรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ถูกตั้งคำถามว่าจะยั่งยืนหรือไม่ รวมไปถึงนโยบายล้างหนี้ให้คนไทย สูงสุด 100,000 บาท แต่ไม่พูดถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่เป็นบาดแผลของพรรค รวมทั้งปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีข้อกล่าวหาผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างตระกูลชินวัตร กับครอบครัวนายฮุน เซน

    อีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยยังคงเลือดไหลไม่หยุด สส. มากกว่า 10 คน เห็นท่าไม่ดีย้ายไปพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังเหลืออีกส่วนหนึ่งที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับตระกูลชินวัตร แม้นายทักษิณที่เป็นศาสดาของพรรค จะถูกจำคุกในคดีทุจริต รวมทั้งคดีมาตรา 112 ที่อัยการสูงสุดสั่งให้อุทธรณ์ แถมยังแพ้คดีภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ 1.76 หมื่นล้านบาท กลายเป็นมีดปักหลังตระกูลการเมืองผู้มั่งคั่ง ที่หากดึงออกเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น ความล้มเหลวของรัฐบาลแพทองธาร รวมทั้งข้อกล่าวหาขายชาติ อาจทำให้หาเสียงยากที่สุด จึงกลายเป็นคำถามว่า ทั้งคนทั้งพรรคจะเข็นกันไหวหรือ?

    #Newskit
    ไหวเหรอยศชนัน ลูกสมชายเจ๊แดง การเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ในช่วงการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา นอกจากกระแสสังคมจะเงียบเชียบแล้ว แคนดิเดต 3 คนที่เสนอมา สองคนแรกไม่มีอะไรใหม่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่มีผลงานโดดเด่น แม้สมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะอยู่กระทรวงเกรดเอ ในตำแหน่ง รมช.คลัง หนำซ้ำนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทก็ล้มเหลว ส่วนนายสุุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คนที่ติดตามการเมืองมานานจะร้องยี้ เพราะเวียนวนเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยันรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่คุมกระทรวงคมนาคม หนำซ้ำยังถูกเคลือบแคลงสงสัยกรณี CTX9000 จะมีหน้าใหม่อยู่คนเดียว คือ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ หรือ เชน แม้จะมีโปร์ไฟล์เป็นถึงอดีตรองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีผลงานวิจัยมากมาย แต่สังคมไม่ได้สนใจเท่ากับเป็นลูกชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จึงถูกจับตามองทันทีว่าสืบทอดอำนาจทางการเมืองในตระกูลชินวัตรหรือไม่ หลังครอบครัวและเครือญาติตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีโทษจำคุกคดีโครงการรับจำนำข้าว และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปเสียงนายฮุน เซน แห่งกัมพูชา พรรคเพื่อไทยพยายามยกเครื่องพรรคเพื่อสลัดภาพความเป็นพรรครากหญ้า พรรคประชานิยมแจกแหลก ด้วยวาทกรรม "ยกเครื่องประเทศไทย" ออกแบบด้วยวิทยาศาสตร์และเหตุผล ไปสู้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างพรรคประชาชน แต่ก็ยังมีนโยบายประชานิยมติดมาด้วย ทั้งรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ถูกตั้งคำถามว่าจะยั่งยืนหรือไม่ รวมไปถึงนโยบายล้างหนี้ให้คนไทย สูงสุด 100,000 บาท แต่ไม่พูดถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่เป็นบาดแผลของพรรค รวมทั้งปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีข้อกล่าวหาผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างตระกูลชินวัตร กับครอบครัวนายฮุน เซน อีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยยังคงเลือดไหลไม่หยุด สส. มากกว่า 10 คน เห็นท่าไม่ดีย้ายไปพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังเหลืออีกส่วนหนึ่งที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับตระกูลชินวัตร แม้นายทักษิณที่เป็นศาสดาของพรรค จะถูกจำคุกในคดีทุจริต รวมทั้งคดีมาตรา 112 ที่อัยการสูงสุดสั่งให้อุทธรณ์ แถมยังแพ้คดีภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ 1.76 หมื่นล้านบาท กลายเป็นมีดปักหลังตระกูลการเมืองผู้มั่งคั่ง ที่หากดึงออกเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น ความล้มเหลวของรัฐบาลแพทองธาร รวมทั้งข้อกล่าวหาขายชาติ อาจทำให้หาเสียงยากที่สุด จึงกลายเป็นคำถามว่า ทั้งคนทั้งพรรคจะเข็นกันไหวหรือ? #Newskit
    1 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • ชวนคุณผู้อ่าน ลองพิจารณาตาม ช่วงนี้ได้ยินเสียงรถประชาสัมพันธ์เลือกตั้ง อบต. แล้วมีข้อความที่ใช้ภาษาศาสตร์มาพิจารณาดังนี้
    "ส่งเสริม" เรื่องโน้นนี้ หลายๆ ส่งเสริม คำว่า "ส่งเสริม" ตามความเห็นผม มันน้ำหนักน้อยกว่าจะทำโน้นนี้ ในช่วงเวลาใด แสดงว่านโยบายกับวิสัยทัศน์ ผู้สมัครเขายังไม่เข้าใจ หรือพูดออกไปให้ดูมากๆ ไม่มีใครจำได้หรอก เมื่อไรหนอผู้สมัครจะบอกว่าตัวเองจะทำอะไรในเวลาปีที่ หนึ่ง สอง สาม และจะทำประมาณอย่างไร ไม่ใช่มีแต่รูปกับเบอร์

    เข้าเรื่อง "ส่งเสริม" หากผู้ปกครองเด็ก บอกส่งเสริม คือถ้าเด็กสนใจกีฬาและหวังแข่งขัน หากผู้ปกครองมีกำลังสนับสนุน ก็ส่งเสริมได้ แต่ถ้าบอกส่งเสริมให้เรียนสูงๆ แต่เด็ก ไม่เรียน ไม่ชอบกีฬา ไม่ชอบเล่นเครื่องดนตรี ปากบอกส่งเสริมไป ก็ไม่เกิดชิ้นงาน เห็นภาพใช่ไหมครับ ส่งเสริม แต่ไม่มีชาวบ้านเริ่มก่อน ไม่มีนโยบายส่งงบฉีดวัคซีนกันโรคระบาด ต่อให้ส่งเสริม มันก็เกิดไม่ได้

    นโยบายส่งเสริมสุขภาพชุมชน แต่รถแห่เปิดเสียงดังมากๆ เกินพอดี แล้วจะไม่เรียกว่าเห็นแก่ประโยชน์ตน ไม่คำนึงถึงระดับเสียงเดซิเบล เกินความปลอดภัยหรือ
    ชวนคุณผู้อ่าน ลองพิจารณาตาม ช่วงนี้ได้ยินเสียงรถประชาสัมพันธ์เลือกตั้ง อบต. แล้วมีข้อความที่ใช้ภาษาศาสตร์มาพิจารณาดังนี้ "ส่งเสริม" เรื่องโน้นนี้ หลายๆ ส่งเสริม คำว่า "ส่งเสริม" ตามความเห็นผม มันน้ำหนักน้อยกว่าจะทำโน้นนี้ ในช่วงเวลาใด แสดงว่านโยบายกับวิสัยทัศน์ ผู้สมัครเขายังไม่เข้าใจ หรือพูดออกไปให้ดูมากๆ ไม่มีใครจำได้หรอก เมื่อไรหนอผู้สมัครจะบอกว่าตัวเองจะทำอะไรในเวลาปีที่ หนึ่ง สอง สาม และจะทำประมาณอย่างไร ไม่ใช่มีแต่รูปกับเบอร์ เข้าเรื่อง "ส่งเสริม" หากผู้ปกครองเด็ก บอกส่งเสริม คือถ้าเด็กสนใจกีฬาและหวังแข่งขัน หากผู้ปกครองมีกำลังสนับสนุน ก็ส่งเสริมได้ แต่ถ้าบอกส่งเสริมให้เรียนสูงๆ แต่เด็ก ไม่เรียน ไม่ชอบกีฬา ไม่ชอบเล่นเครื่องดนตรี ปากบอกส่งเสริมไป ก็ไม่เกิดชิ้นงาน เห็นภาพใช่ไหมครับ ส่งเสริม แต่ไม่มีชาวบ้านเริ่มก่อน ไม่มีนโยบายส่งงบฉีดวัคซีนกันโรคระบาด ต่อให้ส่งเสริม มันก็เกิดไม่ได้ นโยบายส่งเสริมสุขภาพชุมชน แต่รถแห่เปิดเสียงดังมากๆ เกินพอดี แล้วจะไม่เรียกว่าเห็นแก่ประโยชน์ตน ไม่คำนึงถึงระดับเสียงเดซิเบล เกินความปลอดภัยหรือ
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 5

    ” ข่าวลือ ข่าวลวง”
    ตอน 5
    เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ซาอุดิอารเบียใช้เวลากวาดกลุ่มอัลไคดา ให้หมดไปจากบ้านตัวเอง อัลไคดาหมดไปจากซาอุ แต่ไม่ได้สูญพันธ์ กลับขยายตัวแพร่กระจายไปทั่วตะวันออกกลาง และอาฟริกา ในปี ค.ศ.2009 กลุ่มอัลไคดาที่หลบออกไปจากซาอุ ไปโผล่ที่เยเมนแทน และมีแผนที่จะระเบิดเครื่องบินที่จะบินไปอเมริกา บิน นาเยฟ หรือ MBN ตามที่อเมริกาเรียก ได้แจ้งข่าวนี้ไปทางวอชิงตัน และในที่สุดก็จับตัวคนที่พกระเบิดขึ้นเครื่องบินได้ (อ่านรายละเอียดตอนนี้ได้ในนิทานเรื่อง “แผนชั่ว”)
    บิน นาเยฟ ได้รับความชื่นชมจากอเมริกาอย่าง ยิ่ง ถึงขนาดเรียกเขาว่า เป็นเจ้าพ่อข่าวกรอง บิน นาเยฟ ยังแสดงผลงานต่อ เมื่อ อับดุลลา อสิรี Abdullah Asiri อัลไคดา ระดับหัวหน้าคนหนึ่ง ตกลงจะมอบตัว โดยมีเงื่อนไขว่า จะมอบตัวกับ บิน นาเยฟ คนเดียวเท่านั้น และถ้า บิน นาเยฟ ตกลง เขาอาจจะพูดให้พี่ชาย อิบราฮิม อสิรี Ibrahim Asiri มือวางระเบิดคนสำคัญ มามอบตัวอีกด้วย บิน นาเยฟ ตกลง และนัดมอบตัวกัน ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ.2009
    เมื่อพบกัน ทั้ง 2 นั่งบนเบาะที่วางบนพื้น หันหน้าเข้าหากัน หลังจากนั้น อสิรี ก็ร้องไห้ และหยิบโทรศัพท์ที่ซ่อนมาในเสื้อคลุม ขอโทรไปหาครอบครัว และพูดกับพี่ชาย พูดเสร็จก็ยื่นโทรศัพท์ให้บิน นาเยฟ บอกว่าพี่ชายจะพูดด้วย ระหว่างที่ บิน นาเยฟ ยื่นมือไปรับโทรศัพท์ พร้อมกล่าวคำทักทาย อิสิรี ก็กดระเบิดที่ซ่อนมาในทวารหนัก ระเบิดเป็นหลุมลึกใต้เบาะที่เขานั่ง ส่วนตัวเขา แหลกละเอียด ตายต่อหน้า บิน นาเยฟ ซึ่งโดนสะเก็ดระเบิดด้วย แต่ไม่สาหัส
    ในปี ค.ศ.2011 เจ้าชายนาเยฟ the Black Prince ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นมงกุฏราชกุมาร ซึ่งทำให้ฝั่งอเมริกาตาเหลือกไปทั้งทำเนียบในวอชิงตัน และ ในปีนั้นเอง ตะวันออกกลางก็เกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่อเมริกาอ้างว่า ได้รับการชื่นชมจากพวกตะวันตก อย่างยิ่ง ที่ผู้นำเผด็จการทั้งหลาย ต่างร่วงผล่อยไปตามๆกัน ไล่มาตั้งแต่ตูนิเซีย อียิปต์ และมาถึง บาห์เรน เพื่อนบ้านของซาอุดิ อารเบีย
    มันเป็นการเขียนเสือให้วัว หรืออูฐ กลัว หรือเปล่านะ
    เจ้าชายนาเยฟ เดือดดาลมาก ที่โอบามา บีบให้มูบารัคประธานาธิบดีของอียิปต์ลาออก และเมื่อบาห์เรน ซึ่งดูเหมือนจะเจอเทศกาลอาหรับสปริงไปด้วย นาเยฟ ไม่ยอมให้บาห์เรนเป็นเหมือนอียิปต์ เขาให้ราชวงศ์ซาอูด ช่วยราชวงศ์ของบาห์เรน ซึ่งเป็นนิกายสุนนีด้วยกัน จึงทำให้เกิดมีการเผชิญหน้ากัน ระหว่างนิกายชีอะ กับสุนนี่ในบาห์เรนอีกด้วย การปราบปรามในบาห์เรนใช้ไม้แข็ง หรือลูกตะกั่ว ซึ่งอเมริกาอ้างว่า ได้ประท้วงการใช้ความรุนแรงอย่างนั้นแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ และกองทัพของซาอุดิอารเบีย ก็ยังอยู่เต็มในบาห์เรนจนทุกวันนี้
    เจ้าชายนาเยฟ หรือ the Black Prince ในสายตาของอเมริกา ได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่เข้มงวด และใช้อำนาจของซาอุดิอารเบียอย่างเต็มอัตรา อเมริกาเหน็บแนมว่า เจ้าชายนาเยฟ กำลังส่งเสริมให้ซาอุดิอารเบียใช้อำนาจของราชวงศ์ซาอูด แบบ “Pax Saudiana” คือสันติภาพและเสรีภาพแบบซาอุดิอารเบีย ใครที่ไม่ปฏิบัติตาม เป็นผู้ก่อการร้ายทั้งสิ้น
    … แล้วต่างอะไรกับ Pax Americana ของอเมริกา ต้องเป็นประชาธิปไตย ต้องมีเสรีภาพ ต้องทำตามที่กูบอกเท่านั้น...ไม่งั้นเป็นผู้ก่อการร้าย….ฮาครับ
    นอกจากนี้ เจ้าชายนาเยฟ ยังถูกอเมริกาวิจารณ์ว่า เจ้าชาย เป็นคนยุ กษัตริย์ อับดุลลาห์ ว่า อย่ายอมใจอ่อน กับพวกที่ต้องการให้มีการปฏิรูป เด็ดขาด ขณะที่กษัตริย์อับดุลลาห์ มีแนวโน้มที่จะเดินสายกลาง โดยพยายามจะเปลี่ยนประเทศ อย่างช้าๆเป็นขั้นตอน เน้นให้ประชาชนมีการศึกษามากขึ้น และ เคยพูดว่า อาจเปิดทางให้ผู้หญิงมีสิทธิขับรถได้ด้วย นอกจากนี้ กษัตริย์อับดุลลาห์ ยังจัดสรรเงินเป็นจำนวนมาก เพื่อปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของชนชั้นกลาง และชั้นล่างของ ซาอุดิอารเบียอีกด้วย
    ถึงกระนั้น ในสายตาของอเมริกา กษัตริย์อับดุลลาห์ ก็ไม่เคยแตะเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อของศาสนาเลย และเจ้าชาย บิน นาเยฟ ที่รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยแทนพ่อ ก็เคร่งครัดเรื่องศาสนา และดำเนินการรุนแรง กับผู้ที่กระทำผิดทางคำสอนของศาสนาเช่นกัน
    อเมริกาบอก บิน นาเยฟ อาจจะเชี่ยวชาญ ในการจัดการกับผู้ก่อการร้ายในราชอาณาจักรซาอุดิอารเบีย แต่ไม่เห็นอันตราย ของการห้ามประชาชนที่จะแสดงความเห็นอย่างอิสระ และทำให้ความพยายามของอับดุลลาห์ ที่จะปฏิรูปประเทศ ก็เลยเหมือนกับค้างอยู่กลางทาง
    เจ้าชายนาเยฟ ขึ้นมาเป็นมงกุฏราชกุมารได้เพียงปีเดียว ใน ปี ค.ศ.2012 ก็ล้มป่วยและสิ้นพระชนม์ในวัย 78 ปี ที่โรงพยาบาลในเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกับเสียงถอนหายใจโล่งอก ดังยาวไปทั้งทางเดินที่ทำเนียบในวอชิงตัน …..นี่ ผมเขียนตามถ้อยคำ ที่คนเขียนบทความเกี่ยวกับ the Black Prince ใช้เลยนะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    21 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 5 ” ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 5 เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ซาอุดิอารเบียใช้เวลากวาดกลุ่มอัลไคดา ให้หมดไปจากบ้านตัวเอง อัลไคดาหมดไปจากซาอุ แต่ไม่ได้สูญพันธ์ กลับขยายตัวแพร่กระจายไปทั่วตะวันออกกลาง และอาฟริกา ในปี ค.ศ.2009 กลุ่มอัลไคดาที่หลบออกไปจากซาอุ ไปโผล่ที่เยเมนแทน และมีแผนที่จะระเบิดเครื่องบินที่จะบินไปอเมริกา บิน นาเยฟ หรือ MBN ตามที่อเมริกาเรียก ได้แจ้งข่าวนี้ไปทางวอชิงตัน และในที่สุดก็จับตัวคนที่พกระเบิดขึ้นเครื่องบินได้ (อ่านรายละเอียดตอนนี้ได้ในนิทานเรื่อง “แผนชั่ว”) บิน นาเยฟ ได้รับความชื่นชมจากอเมริกาอย่าง ยิ่ง ถึงขนาดเรียกเขาว่า เป็นเจ้าพ่อข่าวกรอง บิน นาเยฟ ยังแสดงผลงานต่อ เมื่อ อับดุลลา อสิรี Abdullah Asiri อัลไคดา ระดับหัวหน้าคนหนึ่ง ตกลงจะมอบตัว โดยมีเงื่อนไขว่า จะมอบตัวกับ บิน นาเยฟ คนเดียวเท่านั้น และถ้า บิน นาเยฟ ตกลง เขาอาจจะพูดให้พี่ชาย อิบราฮิม อสิรี Ibrahim Asiri มือวางระเบิดคนสำคัญ มามอบตัวอีกด้วย บิน นาเยฟ ตกลง และนัดมอบตัวกัน ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ.2009 เมื่อพบกัน ทั้ง 2 นั่งบนเบาะที่วางบนพื้น หันหน้าเข้าหากัน หลังจากนั้น อสิรี ก็ร้องไห้ และหยิบโทรศัพท์ที่ซ่อนมาในเสื้อคลุม ขอโทรไปหาครอบครัว และพูดกับพี่ชาย พูดเสร็จก็ยื่นโทรศัพท์ให้บิน นาเยฟ บอกว่าพี่ชายจะพูดด้วย ระหว่างที่ บิน นาเยฟ ยื่นมือไปรับโทรศัพท์ พร้อมกล่าวคำทักทาย อิสิรี ก็กดระเบิดที่ซ่อนมาในทวารหนัก ระเบิดเป็นหลุมลึกใต้เบาะที่เขานั่ง ส่วนตัวเขา แหลกละเอียด ตายต่อหน้า บิน นาเยฟ ซึ่งโดนสะเก็ดระเบิดด้วย แต่ไม่สาหัส ในปี ค.ศ.2011 เจ้าชายนาเยฟ the Black Prince ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นมงกุฏราชกุมาร ซึ่งทำให้ฝั่งอเมริกาตาเหลือกไปทั้งทำเนียบในวอชิงตัน และ ในปีนั้นเอง ตะวันออกกลางก็เกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่อเมริกาอ้างว่า ได้รับการชื่นชมจากพวกตะวันตก อย่างยิ่ง ที่ผู้นำเผด็จการทั้งหลาย ต่างร่วงผล่อยไปตามๆกัน ไล่มาตั้งแต่ตูนิเซีย อียิปต์ และมาถึง บาห์เรน เพื่อนบ้านของซาอุดิ อารเบีย มันเป็นการเขียนเสือให้วัว หรืออูฐ กลัว หรือเปล่านะ เจ้าชายนาเยฟ เดือดดาลมาก ที่โอบามา บีบให้มูบารัคประธานาธิบดีของอียิปต์ลาออก และเมื่อบาห์เรน ซึ่งดูเหมือนจะเจอเทศกาลอาหรับสปริงไปด้วย นาเยฟ ไม่ยอมให้บาห์เรนเป็นเหมือนอียิปต์ เขาให้ราชวงศ์ซาอูด ช่วยราชวงศ์ของบาห์เรน ซึ่งเป็นนิกายสุนนีด้วยกัน จึงทำให้เกิดมีการเผชิญหน้ากัน ระหว่างนิกายชีอะ กับสุนนี่ในบาห์เรนอีกด้วย การปราบปรามในบาห์เรนใช้ไม้แข็ง หรือลูกตะกั่ว ซึ่งอเมริกาอ้างว่า ได้ประท้วงการใช้ความรุนแรงอย่างนั้นแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ และกองทัพของซาอุดิอารเบีย ก็ยังอยู่เต็มในบาห์เรนจนทุกวันนี้ เจ้าชายนาเยฟ หรือ the Black Prince ในสายตาของอเมริกา ได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่เข้มงวด และใช้อำนาจของซาอุดิอารเบียอย่างเต็มอัตรา อเมริกาเหน็บแนมว่า เจ้าชายนาเยฟ กำลังส่งเสริมให้ซาอุดิอารเบียใช้อำนาจของราชวงศ์ซาอูด แบบ “Pax Saudiana” คือสันติภาพและเสรีภาพแบบซาอุดิอารเบีย ใครที่ไม่ปฏิบัติตาม เป็นผู้ก่อการร้ายทั้งสิ้น … แล้วต่างอะไรกับ Pax Americana ของอเมริกา ต้องเป็นประชาธิปไตย ต้องมีเสรีภาพ ต้องทำตามที่กูบอกเท่านั้น...ไม่งั้นเป็นผู้ก่อการร้าย….ฮาครับ นอกจากนี้ เจ้าชายนาเยฟ ยังถูกอเมริกาวิจารณ์ว่า เจ้าชาย เป็นคนยุ กษัตริย์ อับดุลลาห์ ว่า อย่ายอมใจอ่อน กับพวกที่ต้องการให้มีการปฏิรูป เด็ดขาด ขณะที่กษัตริย์อับดุลลาห์ มีแนวโน้มที่จะเดินสายกลาง โดยพยายามจะเปลี่ยนประเทศ อย่างช้าๆเป็นขั้นตอน เน้นให้ประชาชนมีการศึกษามากขึ้น และ เคยพูดว่า อาจเปิดทางให้ผู้หญิงมีสิทธิขับรถได้ด้วย นอกจากนี้ กษัตริย์อับดุลลาห์ ยังจัดสรรเงินเป็นจำนวนมาก เพื่อปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของชนชั้นกลาง และชั้นล่างของ ซาอุดิอารเบียอีกด้วย ถึงกระนั้น ในสายตาของอเมริกา กษัตริย์อับดุลลาห์ ก็ไม่เคยแตะเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อของศาสนาเลย และเจ้าชาย บิน นาเยฟ ที่รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยแทนพ่อ ก็เคร่งครัดเรื่องศาสนา และดำเนินการรุนแรง กับผู้ที่กระทำผิดทางคำสอนของศาสนาเช่นกัน อเมริกาบอก บิน นาเยฟ อาจจะเชี่ยวชาญ ในการจัดการกับผู้ก่อการร้ายในราชอาณาจักรซาอุดิอารเบีย แต่ไม่เห็นอันตราย ของการห้ามประชาชนที่จะแสดงความเห็นอย่างอิสระ และทำให้ความพยายามของอับดุลลาห์ ที่จะปฏิรูปประเทศ ก็เลยเหมือนกับค้างอยู่กลางทาง เจ้าชายนาเยฟ ขึ้นมาเป็นมงกุฏราชกุมารได้เพียงปีเดียว ใน ปี ค.ศ.2012 ก็ล้มป่วยและสิ้นพระชนม์ในวัย 78 ปี ที่โรงพยาบาลในเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกับเสียงถอนหายใจโล่งอก ดังยาวไปทั้งทางเดินที่ทำเนียบในวอชิงตัน …..นี่ ผมเขียนตามถ้อยคำ ที่คนเขียนบทความเกี่ยวกับ the Black Prince ใช้เลยนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 21 ต.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • เหรียญล็อกเก็ตหลวงปู่ทวดหลังสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    เหรียญล็อกเก็ตหลวงปู่ทวดหลังสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี // พระหลวงปู่ทวด และ สมเด็จพุฒาจารย์โต สองพระเกจิอาจารย์ในตำนานที่รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนไทยมาอย่างยาวนานนับร้อยปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย พร้อมซองเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย **

    ** หากพูดถึงพระมหาเกจิอาจารย์ของเมืองไทย ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนไทยให้ความศรัทธาอย่างกว้างขวาง 'หลวงปู่ทวด' และ 'หลวงปู่โต' คือสองพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาที่มีคนกราบไหว้บูชาในทุกช่วงยุคสมัยจนถึงปัจจุบันกาล ดังปรากฏหลักฐานแรงศรัทธาจากความนิยมในพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ และ สมเด็จพุฒาจารย์โต ถูกยกให้เป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่มีมูลค่าสูงสุดตลอดกาล ของวงการพระเครื่องไทย **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย พร้อมซองเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญล็อกเก็ตหลวงปู่ทวดหลังสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เหรียญล็อกเก็ตหลวงปู่ทวดหลังสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี // พระหลวงปู่ทวด และ สมเด็จพุฒาจารย์โต สองพระเกจิอาจารย์ในตำนานที่รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนไทยมาอย่างยาวนานนับร้อยปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย พร้อมซองเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** ** หากพูดถึงพระมหาเกจิอาจารย์ของเมืองไทย ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนไทยให้ความศรัทธาอย่างกว้างขวาง 'หลวงปู่ทวด' และ 'หลวงปู่โต' คือสองพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาที่มีคนกราบไหว้บูชาในทุกช่วงยุคสมัยจนถึงปัจจุบันกาล ดังปรากฏหลักฐานแรงศรัทธาจากความนิยมในพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ และ สมเด็จพุฒาจารย์โต ถูกยกให้เป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่มีมูลค่าสูงสุดตลอดกาล ของวงการพระเครื่องไทย ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย พร้อมซองเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
More Results