• บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า

    “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ

    แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย

    ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก

    เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด

    ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้

    ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง

    เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว”

    แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

    ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี

    ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก

    สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว

    จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้

    แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม

    ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture

    ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media

    เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก

    พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง

    ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้

    จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”

    https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/

    #Thaitimes
    บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้ ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้ แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้ จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/ #Thaitimes
    WWW.SALIKA.CO
    UGC เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”
    User-Generated Content (UGC) หมายถึง Story ที่ผู้บริโภค หรือลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย สร้างขึ้นมาเอง โดยผู้คนเหล่านั้น จะพูดถึงเรื่องราวที่พวกเขาประทับใจ หรือให้ความสนใจ โดยที่ต้นเรื่องไม่ต้องเสียเงินจ้างแม้แต่บาทเดียว
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรการแข่งขันการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรไทย-จีน
    ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ลงแข่งขันในนามทีมชาติไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2567 เวลา 18.00 น. ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทั้งสองประเทศมีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีกันมาอย่างยาวนาน

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB: สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 4 กรมประชาสัมพันธ์
    ขอเชิญประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรการแข่งขันการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรไทย-จีน ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ลงแข่งขันในนามทีมชาติไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2567 เวลา 18.00 น. ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทั้งสองประเทศมีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีกันมาอย่างยาวนาน #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB: สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 4 กรมประชาสัมพันธ์
    Love
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรือรบและเครื่องบินขับไล่ของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ทิ้งบอมบ์ถล่มที่ตั้งมากกว่า 10 แห่ง ตามพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกฮูตีในเยเมน ในนั้นรวมถึงกรุงซานา และเมืองท่าโฮเดดาห์ อ้างว่าเพื่อพิทักษ์สิทธิการเดินเรือและเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้นของน่านน้ำสากล
    .
    พวกฮูตีคือกลุ่มชีอะห์ที่กล่าวอ้าวตนเองในฐานะรัฐบาลเยเมน และควบคุมพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ พวกเขาขัดขวางการเดินเรือของอิสราเอลและตะวันตกในทะเลแดงมานานเกือบ 1 ปี เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนนักรบปาเลสไตน์ฮามาส และกดดันอิสราเอลให้หยุดโจมตีฉนวนกาซา
    .
    อ้างอิงจากกองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีเล็งเป้าเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ของพวกฮูตี 15 แห่งในช่วงบ่ายวันศุกร์ (4 ต.ค.) สำแดงแสนยานุภาพทางทหารเชิงรุก เพื่อปกป้องไว้ซึ่งเสรีภาพในการเดินเรือและทำให้น่านน้ำสากลมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างความอุ่นใจแก่เรือของสหรัฐฯ พันธมิตรและเรือสินค้าต่างๆ
    .
    ก่อนหน้าถ้อยแถลงของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของอเมริกาเปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า ปฏิบัติการโจมตีเล็งเป้าเล่นงาน "ระบบอาวุธ ฐานที่มั่นและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ใน 5 ตำแหน่ง"
    .
    อ้างอิงรายงานข่าวของสื่อมวลชนเยเมน ระบุว่ามีการโจมตี 7 รอบ เล่นงานสนามบินโฮเดดาห์ และฐานทัพในเมืองคาเตอิบ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการระเบิด 2 รอบในจังหวัดดามาร์และ 3 รอบในจังหวัดบายดา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงซานา ขณะที่ตัวเมืองหลวงตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี 4 รอบ
    .
    การโจมตีในวันศุกร์ (4 ต.ค.) ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่สหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีพวกฮูตี ในขณะที่ฝูงบินรบของอิสราเอลเปิดฉากถล่มเมืองโฮเดดาห์เช่นกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังพวกฮูตียิงขีปนาวุธลูกหนึ่งเข้าใส่อิสราเอล
    .
    พวกติดอาวุธในเยเมนกลุ่มนี้ ยิงขีปนาวุธและปล่อยโดรนเล่นงานเรือสินค้าไปแล้วมากกว่า 80 ลำ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน ครั้งที่อิสราเอลประกาศสงครามกับฮามาสในกาซา ตามหลังกลุ่มนักรบปาเลสไตน์บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม
    .
    เบื้องต้น พวกฮูตีเล็งเป้าเล่นงานเฉพาะเรือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล แต่ขยายขอบเขตปฏิบัติการไปยังเรือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรด้วย หลังจากทั้ง 2 ประเทศจับมือกันโจมตีทางอากาศในเดือนมกราคม
    .
    วอชิงตันส่งเรือรบหลายลำเข้าสู่ภูมิภาค ส่วนหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการผู้พิทักษ์ความเจริญรุ่งเรือง (Operation Prosperity Guardian)'" ความพยายามไม่ให้มีการปิดกั้นช่องแคบบับ เอล-มันเดบ อย่างไรก็ตามกองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่อาจป้องปรามพวกฮูตีได้ ส่งผลให้เรือสินค้าต่างๆ ของตะวันตกต้องหลีกเลี่ยงคลองสุเอซ และเบี่ยงเส้นทางไปอ้อมแอฟริกาแทน
    .
    ฮูตีอ้างว่าพวกเขาสอยร่วงโดรนสอดแนมของสหรัฐฯ หลายสิบลำ เช่นเดียวกับการโจมตีด้วยโดรน ขณะเดียวกันพวกเขาก็ยิงเข้าใส่บรรดาเรือรบของอเมริกาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ยืนยันว่าขีปนาวุธและโดรนที่พุ่งเข้ามาทั้งหมดถูกสกัดเอาไว้ได้
    .
    สหรัฐฯ กล่าวหาพวกฮูตีเป็นตัวแทนของอิหร่าน แต่ทางกลุ่มปฏิเสธ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ อิหร่านรัวยิงขีปนาวุธห่าใหญ่เข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นเหตุลอบสังหารพวกผู้นำฮามาสและฮิซบอลเลาะห์เมื่อเร็วๆ นี้ เช่นเดียวกับนายพลระดับสูงรายหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิบัติอิสลามแห่งอิหร่านในเลบานอน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000094761
    ..................
    Sondhi X
    เรือรบและเครื่องบินขับไล่ของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ทิ้งบอมบ์ถล่มที่ตั้งมากกว่า 10 แห่ง ตามพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกฮูตีในเยเมน ในนั้นรวมถึงกรุงซานา และเมืองท่าโฮเดดาห์ อ้างว่าเพื่อพิทักษ์สิทธิการเดินเรือและเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้นของน่านน้ำสากล . พวกฮูตีคือกลุ่มชีอะห์ที่กล่าวอ้าวตนเองในฐานะรัฐบาลเยเมน และควบคุมพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ พวกเขาขัดขวางการเดินเรือของอิสราเอลและตะวันตกในทะเลแดงมานานเกือบ 1 ปี เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนนักรบปาเลสไตน์ฮามาส และกดดันอิสราเอลให้หยุดโจมตีฉนวนกาซา . อ้างอิงจากกองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีเล็งเป้าเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ของพวกฮูตี 15 แห่งในช่วงบ่ายวันศุกร์ (4 ต.ค.) สำแดงแสนยานุภาพทางทหารเชิงรุก เพื่อปกป้องไว้ซึ่งเสรีภาพในการเดินเรือและทำให้น่านน้ำสากลมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างความอุ่นใจแก่เรือของสหรัฐฯ พันธมิตรและเรือสินค้าต่างๆ . ก่อนหน้าถ้อยแถลงของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของอเมริกาเปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า ปฏิบัติการโจมตีเล็งเป้าเล่นงาน "ระบบอาวุธ ฐานที่มั่นและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ใน 5 ตำแหน่ง" . อ้างอิงรายงานข่าวของสื่อมวลชนเยเมน ระบุว่ามีการโจมตี 7 รอบ เล่นงานสนามบินโฮเดดาห์ และฐานทัพในเมืองคาเตอิบ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการระเบิด 2 รอบในจังหวัดดามาร์และ 3 รอบในจังหวัดบายดา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงซานา ขณะที่ตัวเมืองหลวงตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี 4 รอบ . การโจมตีในวันศุกร์ (4 ต.ค.) ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่สหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีพวกฮูตี ในขณะที่ฝูงบินรบของอิสราเอลเปิดฉากถล่มเมืองโฮเดดาห์เช่นกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังพวกฮูตียิงขีปนาวุธลูกหนึ่งเข้าใส่อิสราเอล . พวกติดอาวุธในเยเมนกลุ่มนี้ ยิงขีปนาวุธและปล่อยโดรนเล่นงานเรือสินค้าไปแล้วมากกว่า 80 ลำ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน ครั้งที่อิสราเอลประกาศสงครามกับฮามาสในกาซา ตามหลังกลุ่มนักรบปาเลสไตน์บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม . เบื้องต้น พวกฮูตีเล็งเป้าเล่นงานเฉพาะเรือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล แต่ขยายขอบเขตปฏิบัติการไปยังเรือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรด้วย หลังจากทั้ง 2 ประเทศจับมือกันโจมตีทางอากาศในเดือนมกราคม . วอชิงตันส่งเรือรบหลายลำเข้าสู่ภูมิภาค ส่วนหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการผู้พิทักษ์ความเจริญรุ่งเรือง (Operation Prosperity Guardian)'" ความพยายามไม่ให้มีการปิดกั้นช่องแคบบับ เอล-มันเดบ อย่างไรก็ตามกองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่อาจป้องปรามพวกฮูตีได้ ส่งผลให้เรือสินค้าต่างๆ ของตะวันตกต้องหลีกเลี่ยงคลองสุเอซ และเบี่ยงเส้นทางไปอ้อมแอฟริกาแทน . ฮูตีอ้างว่าพวกเขาสอยร่วงโดรนสอดแนมของสหรัฐฯ หลายสิบลำ เช่นเดียวกับการโจมตีด้วยโดรน ขณะเดียวกันพวกเขาก็ยิงเข้าใส่บรรดาเรือรบของอเมริกาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ยืนยันว่าขีปนาวุธและโดรนที่พุ่งเข้ามาทั้งหมดถูกสกัดเอาไว้ได้ . สหรัฐฯ กล่าวหาพวกฮูตีเป็นตัวแทนของอิหร่าน แต่ทางกลุ่มปฏิเสธ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ อิหร่านรัวยิงขีปนาวุธห่าใหญ่เข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นเหตุลอบสังหารพวกผู้นำฮามาสและฮิซบอลเลาะห์เมื่อเร็วๆ นี้ เช่นเดียวกับนายพลระดับสูงรายหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิบัติอิสลามแห่งอิหร่านในเลบานอน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000094761 .................. Sondhi X
    Like
    Sad
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อ่านแล้วประยุกต์ใช้ได้กับวิชามารยาท

    สมัยเรียนมัธยม ก่อนคุณครูเข้าห้อง ก็ธรรมชาติเด็ก พอคุณครูเข้ามา ก็จะอบรมแบบครูโบราณ ประโยคที่ครูอบรมนักเรียนทั้งชั้น ที่จำได้ไม่ลืม ว่า "หนังสือสมบัติผู้ดีให้ไปอ่านซะ ถ้ามันไม่เข้าก็ให้ไปต้มกิน" แรง! ครูสอนภาษาอังกฤษ แต่อบรมมารยาทไทย ผมไปหาซื้อมาอ่าน เพราะอยากรู้หนังสือเป็นอย่างไร เล่มเล็ก บางๆ แต่อ่านแล้วก็ลืมเนื้อหาไปแล้ว แต่มารยาทอะไร ที่สามัญสำนึกพึงกระทำ เบสิค คือเดินโค้งศีรษะก้มตัว เดินอ้ออม ถอดรองเท้า แต่งกายให้สุภาพแก่สถานที่และเจ้าภาพ ตามฐานะ
    ท่าแกว่งแขนเดินแบบทหาร เรียนจากวิชาทหารรักษาดินแดน คือแกว่งปลายแขนมือเฉียงออกจากลำตัว พอมาเรียนวิชาฮวงจุ้ย ก็แขว่งปลายแขนมือออกจากลำตัว (แกว่งปลายแขนมือออกจากก้น แบบจิ๊กโก๋ คือปัดเงินออกตัว) เข้าเรื่องเลย อ่านบทความแล้ว เป็นวิชามารยาท เรียนไว้ ประยุกต์ใช้ได้กับทุกคน

    https://mgronline.com/daily/detail/9670000094676
    #อ่านแล้วประยุกต์ใช้ได้กับวิชามารยาท สมัยเรียนมัธยม ก่อนคุณครูเข้าห้อง ก็ธรรมชาติเด็ก พอคุณครูเข้ามา ก็จะอบรมแบบครูโบราณ ประโยคที่ครูอบรมนักเรียนทั้งชั้น ที่จำได้ไม่ลืม ว่า "หนังสือสมบัติผู้ดีให้ไปอ่านซะ ถ้ามันไม่เข้าก็ให้ไปต้มกิน" แรง! ครูสอนภาษาอังกฤษ แต่อบรมมารยาทไทย ผมไปหาซื้อมาอ่าน เพราะอยากรู้หนังสือเป็นอย่างไร เล่มเล็ก บางๆ แต่อ่านแล้วก็ลืมเนื้อหาไปแล้ว แต่มารยาทอะไร ที่สามัญสำนึกพึงกระทำ เบสิค คือเดินโค้งศีรษะก้มตัว เดินอ้ออม ถอดรองเท้า แต่งกายให้สุภาพแก่สถานที่และเจ้าภาพ ตามฐานะ ท่าแกว่งแขนเดินแบบทหาร เรียนจากวิชาทหารรักษาดินแดน คือแกว่งปลายแขนมือเฉียงออกจากลำตัว พอมาเรียนวิชาฮวงจุ้ย ก็แขว่งปลายแขนมือออกจากลำตัว (แกว่งปลายแขนมือออกจากก้น แบบจิ๊กโก๋ คือปัดเงินออกตัว) เข้าเรื่องเลย อ่านบทความแล้ว เป็นวิชามารยาท เรียนไว้ ประยุกต์ใช้ได้กับทุกคน https://mgronline.com/daily/detail/9670000094676
    MGRONLINE.COM
    ศักดินา-กิริยา เจ้านาย-ไพร่
    เช้านี้เห็นภาพที่เด็กหนุ่มผู้เป็นไอดอลนักข่าวขวัญใจวัยรุ่นสีส้มผู้เปี่ยมไปด้วยความยโสโอหังห่อหุ้มอัตตาอันแข็งแกร่ง ปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมต้น แสดงให้เห็นว่าศักดินานั้นไม่มีแล้วอีกต่อไป ที่ยังคงหลงเหลืออยู่มากมายคือกิริยาไพร่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิพากษ์หนังสือ “ในนามความมั่นคงภายในฯ” (1)

    หลังจากได้อ่านหนังสือ ในนามความมั่นคงภายในฯ ซึ่งเขียนโดยอาจารย์พวงทอง ภวัครพันธุ์ แล้ว ขออนุญาตใช้เสรีภาพทางวิชาการ วิพากษ์หนังสือเล่มนี้นะครับ

    ประเด็นแรกต้องกล่าวถึงคือ แนวคิดและทฤษฎีที่นำมาใช้ในงานวิจัย จากที่อ่านนั้น อาจารย์พวงทองไม่ได้กล่าวถึงแนวคิดทฤษฎีใดเป็นรายทฤษฎีโดยเฉพาะ ต้องแกะจากเนื้อหา ส่วนที่อาจารย์พวงทองได้กล่าวถึงในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ นั้นได้เอ่ยถึงเพียงแค่ทฤษฎี Civil Control ในสังคมประชาธิปไตยเท่านั้น [1]

    จากที่แกะจากเนื้อหาจะเห็นร่องรอยแนวคิดหลักสำคัญแนวคิดแรก คือ แนวคิดเรื่องชุมชนจินตกรรมของเบเนดิกซ์ แอนเดอร์สัน ซึ่งส่งต่ออิทธิพลแนวคิดให้กับปัญญาชนไทยอย่าง นิธิ เอียวศรีวงศ์, ธงชัย วินิจจะกูล รวมถึง เกษียรเตชะพีระ จนก่อเกิดเป็นงานเขียนซึ่งเกษียรได้ระบุว่าประยุกต์ต่อยอดและพัฒนาแนวคิดชุมชนจินตกรรมหลายเล่ม[2] เล่มที่น่าสนใจคืองาน Siam Mapped : A History of the Geo-Body of a Nation ของธงชัย วินิจจะกูล ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยโดย อ.พวงทอง และคณะ

    แนวความคิดชุมชนจินตกรรม คือ “ความเป็นชาติ และชาตินิยมนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์เฉพาะทางวัตนธรรมอย่างหนึ่ง”[3] ซึ่งนักวิชาการไทยนำมาต่อยอดว่ากระบวนการสร้างชาตินั้นใช้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างชาติ

    ร่องรอยเหล่านี้ปรากฎอยู่ในวลี อุดมการณ์ราชาชาตินิยม ซึ่งปรากฎอยู่หลายต่อหลายครั้งในหนังสือ รวมทั้งประโยคที่ว่า “แม้ว่าชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมจะเชื่อมั่นในวิธีการครอบงำเชิงอุดมการณ์ที่พวกเขาดำเนินมาเกินศตวรรษ”[4]

    ธงชัยได้เขียนไว้ในหนังสือออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทยว่า “...ประวัติศาตร์แบบราชาชาตินิยมที่แพร่หลายครอบงำสังคมไทย หรือเป็น ขนบ (Convention) ของความรู้ประวัติศาสตร์ของไทยในยุคปัจจุบัน มิใช่การไต่สวนค้นคว้าเพื่ออธิบายอดีตหรือปัจจุบันอย่างรอบคอบ แต่เป็นประวัติศาสตร์เพื่อปลูกฝังความเชื่อและศรัทธาชุดหนึ่งที่ไม่พึงสงสัย และตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก [5]

    ร่องรอยอิทธิพลแนวคิดชุมชนจินตกรรมอีกประการคือ จากหนังสือชาติไทย, เมืองไทย,แบบเรียน และอนุสาวรีย์ มีประเด็นหนึ่งที่ใกล้เคียงกับแนวคิดของหนังสือ อ.พวงทองก็คือ นิธิ ได้กล่าวไว้ว่า “ชนชั้นนำทางอำนาจมีความชอบธรรมจะดำรงฐานะนั้นอยู่ได้ก็เพื่อปกป้องชาติจากศัตรู เมื่อใดที่หาศัตรูให้แก่ชาติไม่ได้ ชนชั้นนำก็หาเหตุผลที่จะดำรงสถานะนั้นไว้ได้ยากขึ้น”[6]

    ส่วน อ.พวงทอง นั้นได้กล่าวว่า “ไม่ใช่การป้องกันภัยคุกคามจากภายนอกประเทศหรอก แต่คือภารกิจการป้องกันความมั่นคงภายในประเทศต่างหากที่เป็นสารัตถะ เป็นเหตุผลของการดำรงอยู่ (raison d'être) ของกองทัพไทย” [7]

    จากอิทธิพลแนวคิดของ นิธิ ได้ทำให้ อ.พวงทองได้สรุปในตอนท้ายว่า “กอ.รมน. ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคอมมิวนิสต์ เพื่อ พคท.พ่ายแพ้ลงแล้ว กอ.รมน. ก็ควรถูกยกเลิกไปด้วย แต่กองทัพและชนชั้นนำจารีตกลับช่วยกันสร้างสภาวะยกเว้นใหม่ๆขึ้นมา สร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา และผลักดันกฏหมายฉบับใหม่ที่ให้อำนาจกับ กอ.รมน.มากขึ้น”[8]

    ทฤษฎีที่สองที่พบจากหนังสือเล่มนี้ คือ ทฤษฎีวิพากษ์ (Critical Theory) ซึ่งธงชัย วินิจจะกูลได้เขียนไว้ว่า เขาได้รับอิทธิพลของทฤษฎีวิพากษ์ยุคหลังมาร์กซ์ (post-Marxist critical theories) ซึ่งเป็นกลุ่มความคิดที่ท้าทายขนบที่สุด และตนมีประสบการณ์กับความโหดร้ายของประวัติศาตร์ตามขนบราชาชาตินิยม จึงตั้งความปราถนาที่จะรื้อสร้างประวัติศาสตร์ไทยกันใหม่ [9]

    งานที่ธงชัยพยายามท้าทายรื้อประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยมแบ่งเป็น 3 ประเภท อย่างแรกได้แก่ หนังสือ Siam Mapped อย่างที่สองรวมอยู่ในหนังสือ “โฉมหน้าราชาชาตินิยม” และอย่างที่สาม คือบทความที่แนะนำวิธีวิทยาและแนวคิดต่างๆที่ท้าทายประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยม [10]

    จำกันได้มั้ยครับใครคือผู้แปลหนังสือเรื่อง Siam Mapped จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมจึงมีคำว่า “ราชาชาตินิยม” ปรากฎอยู่หลายที่ในหนังสือในนามความมั่นคงฯ

    แต่ในฐานะที่งานเรื่องนี้ เป็นงานวิจัยด้านความมั่นคง เราคงไม่สามารถมองโลกด้วยแว่นชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้นครับ

    ทฤษฎี หรือ แนวคิดที่ควรศึกษาแต่ว่าขาดหายไป มีอยู่หลายแนวคิด เช่น

    แนวคิดความมั่นคงแบบองค์รวม (Comprehensive Security) เป็นแนวคิดที่ขยายขอบเขตมุมมองด้านความมั่นคงให้ครอบคลุมมากกว่ามิติทางการทหาร แต่ยังรวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง [11]

    โดย Richard H. Ullman (1983) ในปี 1983 เป็นคนแรก ๆ ที่กล่าวถึงการขยายขอบเขตของความท้าทายด้านความมั่นคงออกไปจากภัยคุกคามทางทหาร ในบทความวิชาการที่ชื่อว่า “Redefining Security” [12]

    แนวคิดนี้แทบจะเป็นแนวคิดหลักในสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดูจากวารสารมุมมองด้านความมั่นคง[13] จะพบแนวคิด Comprehensive Security เยอะมาก

    หาก อ.พวงทองศึกษาเรื่องนี้สักนิดคงไม่สรุปว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา เพราะแนวคิดภัยคุกคามที่ว่านี้ Richard H. Ullman เป็นคนแรกๆที่นำเสนอครับ

    นอกจากนั้นแล้วงานวิจัยชิ้นนี้ยังไม่กล่าวถึงผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเช่นการแข่งขันกันของจีนกับสหรัฐฯที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายใน ซึ่งมีแนวคิดที่สำคัญเช่น ความโกลาหลที่ควบคุมได้ (Controlled Chaos) ซึ่งถูกพัฒนาโดยหน่วยงานวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เช่น RAND Corporation ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความไม่เสถียรหรือความวุ่นวายในระบบสังคมและการเมืองของประเทศเป้าหมาย แต่ยังคงมีการควบคุมผลลัพธ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ตามที่ต้องการ ซึ่งการเข้าไปแทรกแซงประกอบด้วย การสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) สื่อมวลชนที่เป็นอิสระ และการให้ทุนวิจัยในสาขาสังคมศาสตร์ ซึ่งการให้ทุนนี้มักมุ่งสร้างเนื้อหาที่เป็นเชิงลบต่อรัฐบาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในห้วงการปฏิวัติสี และที่รัสเซีย [14]

    อีกทั้งการปฏิบัติการในพื้นที่สีเทาของสหรัฐฯ ก็ยืนยันแนวคิดนี้ เนื่องจากหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯมีภารกิจในการค้ำยันบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่คล้อยตามนโยบายสหรัฐฯ แต่จะโค่นบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่ไม่สนับสนุนนโยบาย ซึ่งจากเดิมนั้นจะสนับสนุนกองโจรเป็นหลักในการเคลื่อนไหวล้มล้าง แต่หลังจากการปฏิวัติบูลโดเซอร์ สหรัฐฯได้หันมาสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมแทน เนื่องจากได้ผลและเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศมากกว่า[15]

    หากศึกษาแนวคิดเหล่านี้จะเห็นภาพของการแทรกแซงจากต่างชาติเพื่อเข้ามาบ่อนทำลายความมั่นคงภายในของประเทศ การตีความข้อมูลเท่าที่มีแล้วสรุปผลว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา นั้นย่อมเป็นการตีความที่ไม่ได้สำรวจจากมุมมองที่หลากหลาย แต่เป็นการตีความจากมุมมองชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้น

    การตีความข้อมูลนั้นเป็นเสรีของนักวิจัยก็จริง แต่ก่อนจะตีความ นักวิจัยควรสำรวจข้อมูลที่มี ว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ครบถ้วนรอบด้านแล้วหรือยัง

    งานวิจัยชิ้นนี้ที่เสนอยุบกอ.รมน.โดยไม่ได้ศึกษาทฤษฎีความมั่นคงอย่างรอบด้าน ก็คล้ายกับคนที่เสนอให้เลิกดื่มกาแฟ โดยฉายภาพให้เห็นเฉพาะข้อเสียของกาแฟ แต่ไม่กล่าวถึงข้อดี

    งานชิ้นนี้จึงไม่ต่างไปจากการผลิตซ้ำอุดมการณ์ของนิธิ เอียวศรีวงศ์ กับ ธงชัย วินิจจะกูลสักเท่าไหร่

    ยังมีอีกหลายประเด็นเอาไว้ว่ากันต่อในโพสหน้าครับ

    ---

    อ้างอิง

    [1] พวงทอง ภวัครพันธุ์ VS กอ.รมน. เผชิญหน้า ถกปมหนังสือ ในนามของความมั่นคงภายใน, Matichon TV, (นาทีที่ 17:50), https://youtu.be/W2fQ0NrKoqA?si=SgJpjHhEliaNz8vH (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [2] เกษียร เตชะพีระ, จินตนากรรมที่แปลกแยกจากชุมชน (2), มติชนสุดสัปดาห์, 14 ธันวาคม 2566, https://www.matichonweekly.com/column/article_730383 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [3] Benedict Anderson, Imagined Communities, London, Verso, 1983, หน้า 13. อ้างถึงใน นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 40.

    [4] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2567), หน้า 199.

    [5] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2562), หน้า 5.

    [6] นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 149.

    [7] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย, หน้า 14.

    [8] เรื่องเดียวกัน, หน้า 220.

    [9] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย, หน้า 8.

    [10] เรื่องเดียวกัน, หน้า 10.

    [11] ดวงมน สุขสมาน, "แนวทางการสร้างความมั่นคงของไทยต่อกลุ่มประเทศ CLMV," วารสารมุมมองความมั่นคง, ฉบับที่ 14 (ตุลาคม 2566-มกราคม 2567), หน้า 30, https://www.nsc.go.th/wp-content/uploads/Journal/article-01403.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [12] จารุพล เรืองสุวรรณ, ทบทวนแนวโน้มสถานการณ์ความมั่นคงของโลก สิ่งที่ไทยควรตระหนักและเตรียมการรับมือ, สถาบันวิจัยดิเรก ชัยนาม, 2 มิถุนายน 2564, http://www.polsci.tu.ac.th/direk/view.aspx?id=505&Keyword=%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [13] ศึกษาวารสารมุมมองความมั่นคงได้ที่ https://www.nsc.go.th/ebook-%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%87/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [14] A.S. Brychkov and G.A. Nikonorov, "Color Revolutions," Journal of the Academy of Military Science (Russia), แปลโดย Boris Vainer, https://www.armyupress.army.mil/Portals/7/Hot%20Spots/Documents/Russia/Color-Revolutions-Brychkov-Nikonorov.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [15] Joseph L. Votel, Charles T. Cleveland, Charles T. Connett, and Will Irwin, "Unconventional Warfare in the Gray Zone," Joint Force Quarterly, NDU Press, ฉบับที่ 80, ไตรมาสที่ 1 ปี 2016, หน้า 101-109, https://ndupress.ndu.edu/JFQ/Joint-Force-Quarterly-80/article/643108/unconventional-warfare-in-the-gray-zone/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    ---


    ต. ตุลยากร
    วิพากษ์หนังสือ “ในนามความมั่นคงภายในฯ” (1) หลังจากได้อ่านหนังสือ ในนามความมั่นคงภายในฯ ซึ่งเขียนโดยอาจารย์พวงทอง ภวัครพันธุ์ แล้ว ขออนุญาตใช้เสรีภาพทางวิชาการ วิพากษ์หนังสือเล่มนี้นะครับ ประเด็นแรกต้องกล่าวถึงคือ แนวคิดและทฤษฎีที่นำมาใช้ในงานวิจัย จากที่อ่านนั้น อาจารย์พวงทองไม่ได้กล่าวถึงแนวคิดทฤษฎีใดเป็นรายทฤษฎีโดยเฉพาะ ต้องแกะจากเนื้อหา ส่วนที่อาจารย์พวงทองได้กล่าวถึงในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ นั้นได้เอ่ยถึงเพียงแค่ทฤษฎี Civil Control ในสังคมประชาธิปไตยเท่านั้น [1] จากที่แกะจากเนื้อหาจะเห็นร่องรอยแนวคิดหลักสำคัญแนวคิดแรก คือ แนวคิดเรื่องชุมชนจินตกรรมของเบเนดิกซ์ แอนเดอร์สัน ซึ่งส่งต่ออิทธิพลแนวคิดให้กับปัญญาชนไทยอย่าง นิธิ เอียวศรีวงศ์, ธงชัย วินิจจะกูล รวมถึง เกษียรเตชะพีระ จนก่อเกิดเป็นงานเขียนซึ่งเกษียรได้ระบุว่าประยุกต์ต่อยอดและพัฒนาแนวคิดชุมชนจินตกรรมหลายเล่ม[2] เล่มที่น่าสนใจคืองาน Siam Mapped : A History of the Geo-Body of a Nation ของธงชัย วินิจจะกูล ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยโดย อ.พวงทอง และคณะ แนวความคิดชุมชนจินตกรรม คือ “ความเป็นชาติ และชาตินิยมนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์เฉพาะทางวัตนธรรมอย่างหนึ่ง”[3] ซึ่งนักวิชาการไทยนำมาต่อยอดว่ากระบวนการสร้างชาตินั้นใช้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างชาติ ร่องรอยเหล่านี้ปรากฎอยู่ในวลี อุดมการณ์ราชาชาตินิยม ซึ่งปรากฎอยู่หลายต่อหลายครั้งในหนังสือ รวมทั้งประโยคที่ว่า “แม้ว่าชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมจะเชื่อมั่นในวิธีการครอบงำเชิงอุดมการณ์ที่พวกเขาดำเนินมาเกินศตวรรษ”[4] ธงชัยได้เขียนไว้ในหนังสือออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทยว่า “...ประวัติศาตร์แบบราชาชาตินิยมที่แพร่หลายครอบงำสังคมไทย หรือเป็น ขนบ (Convention) ของความรู้ประวัติศาสตร์ของไทยในยุคปัจจุบัน มิใช่การไต่สวนค้นคว้าเพื่ออธิบายอดีตหรือปัจจุบันอย่างรอบคอบ แต่เป็นประวัติศาสตร์เพื่อปลูกฝังความเชื่อและศรัทธาชุดหนึ่งที่ไม่พึงสงสัย และตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก [5] ร่องรอยอิทธิพลแนวคิดชุมชนจินตกรรมอีกประการคือ จากหนังสือชาติไทย, เมืองไทย,แบบเรียน และอนุสาวรีย์ มีประเด็นหนึ่งที่ใกล้เคียงกับแนวคิดของหนังสือ อ.พวงทองก็คือ นิธิ ได้กล่าวไว้ว่า “ชนชั้นนำทางอำนาจมีความชอบธรรมจะดำรงฐานะนั้นอยู่ได้ก็เพื่อปกป้องชาติจากศัตรู เมื่อใดที่หาศัตรูให้แก่ชาติไม่ได้ ชนชั้นนำก็หาเหตุผลที่จะดำรงสถานะนั้นไว้ได้ยากขึ้น”[6] ส่วน อ.พวงทอง นั้นได้กล่าวว่า “ไม่ใช่การป้องกันภัยคุกคามจากภายนอกประเทศหรอก แต่คือภารกิจการป้องกันความมั่นคงภายในประเทศต่างหากที่เป็นสารัตถะ เป็นเหตุผลของการดำรงอยู่ (raison d'être) ของกองทัพไทย” [7] จากอิทธิพลแนวคิดของ นิธิ ได้ทำให้ อ.พวงทองได้สรุปในตอนท้ายว่า “กอ.รมน. ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคอมมิวนิสต์ เพื่อ พคท.พ่ายแพ้ลงแล้ว กอ.รมน. ก็ควรถูกยกเลิกไปด้วย แต่กองทัพและชนชั้นนำจารีตกลับช่วยกันสร้างสภาวะยกเว้นใหม่ๆขึ้นมา สร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา และผลักดันกฏหมายฉบับใหม่ที่ให้อำนาจกับ กอ.รมน.มากขึ้น”[8] ทฤษฎีที่สองที่พบจากหนังสือเล่มนี้ คือ ทฤษฎีวิพากษ์ (Critical Theory) ซึ่งธงชัย วินิจจะกูลได้เขียนไว้ว่า เขาได้รับอิทธิพลของทฤษฎีวิพากษ์ยุคหลังมาร์กซ์ (post-Marxist critical theories) ซึ่งเป็นกลุ่มความคิดที่ท้าทายขนบที่สุด และตนมีประสบการณ์กับความโหดร้ายของประวัติศาตร์ตามขนบราชาชาตินิยม จึงตั้งความปราถนาที่จะรื้อสร้างประวัติศาสตร์ไทยกันใหม่ [9] งานที่ธงชัยพยายามท้าทายรื้อประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยมแบ่งเป็น 3 ประเภท อย่างแรกได้แก่ หนังสือ Siam Mapped อย่างที่สองรวมอยู่ในหนังสือ “โฉมหน้าราชาชาตินิยม” และอย่างที่สาม คือบทความที่แนะนำวิธีวิทยาและแนวคิดต่างๆที่ท้าทายประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยม [10] จำกันได้มั้ยครับใครคือผู้แปลหนังสือเรื่อง Siam Mapped จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมจึงมีคำว่า “ราชาชาตินิยม” ปรากฎอยู่หลายที่ในหนังสือในนามความมั่นคงฯ แต่ในฐานะที่งานเรื่องนี้ เป็นงานวิจัยด้านความมั่นคง เราคงไม่สามารถมองโลกด้วยแว่นชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้นครับ ทฤษฎี หรือ แนวคิดที่ควรศึกษาแต่ว่าขาดหายไป มีอยู่หลายแนวคิด เช่น แนวคิดความมั่นคงแบบองค์รวม (Comprehensive Security) เป็นแนวคิดที่ขยายขอบเขตมุมมองด้านความมั่นคงให้ครอบคลุมมากกว่ามิติทางการทหาร แต่ยังรวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง [11] โดย Richard H. Ullman (1983) ในปี 1983 เป็นคนแรก ๆ ที่กล่าวถึงการขยายขอบเขตของความท้าทายด้านความมั่นคงออกไปจากภัยคุกคามทางทหาร ในบทความวิชาการที่ชื่อว่า “Redefining Security” [12] แนวคิดนี้แทบจะเป็นแนวคิดหลักในสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดูจากวารสารมุมมองด้านความมั่นคง[13] จะพบแนวคิด Comprehensive Security เยอะมาก หาก อ.พวงทองศึกษาเรื่องนี้สักนิดคงไม่สรุปว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา เพราะแนวคิดภัยคุกคามที่ว่านี้ Richard H. Ullman เป็นคนแรกๆที่นำเสนอครับ นอกจากนั้นแล้วงานวิจัยชิ้นนี้ยังไม่กล่าวถึงผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเช่นการแข่งขันกันของจีนกับสหรัฐฯที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายใน ซึ่งมีแนวคิดที่สำคัญเช่น ความโกลาหลที่ควบคุมได้ (Controlled Chaos) ซึ่งถูกพัฒนาโดยหน่วยงานวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เช่น RAND Corporation ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความไม่เสถียรหรือความวุ่นวายในระบบสังคมและการเมืองของประเทศเป้าหมาย แต่ยังคงมีการควบคุมผลลัพธ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ตามที่ต้องการ ซึ่งการเข้าไปแทรกแซงประกอบด้วย การสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) สื่อมวลชนที่เป็นอิสระ และการให้ทุนวิจัยในสาขาสังคมศาสตร์ ซึ่งการให้ทุนนี้มักมุ่งสร้างเนื้อหาที่เป็นเชิงลบต่อรัฐบาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในห้วงการปฏิวัติสี และที่รัสเซีย [14] อีกทั้งการปฏิบัติการในพื้นที่สีเทาของสหรัฐฯ ก็ยืนยันแนวคิดนี้ เนื่องจากหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯมีภารกิจในการค้ำยันบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่คล้อยตามนโยบายสหรัฐฯ แต่จะโค่นบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่ไม่สนับสนุนนโยบาย ซึ่งจากเดิมนั้นจะสนับสนุนกองโจรเป็นหลักในการเคลื่อนไหวล้มล้าง แต่หลังจากการปฏิวัติบูลโดเซอร์ สหรัฐฯได้หันมาสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมแทน เนื่องจากได้ผลและเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศมากกว่า[15] หากศึกษาแนวคิดเหล่านี้จะเห็นภาพของการแทรกแซงจากต่างชาติเพื่อเข้ามาบ่อนทำลายความมั่นคงภายในของประเทศ การตีความข้อมูลเท่าที่มีแล้วสรุปผลว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา นั้นย่อมเป็นการตีความที่ไม่ได้สำรวจจากมุมมองที่หลากหลาย แต่เป็นการตีความจากมุมมองชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้น การตีความข้อมูลนั้นเป็นเสรีของนักวิจัยก็จริง แต่ก่อนจะตีความ นักวิจัยควรสำรวจข้อมูลที่มี ว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ครบถ้วนรอบด้านแล้วหรือยัง งานวิจัยชิ้นนี้ที่เสนอยุบกอ.รมน.โดยไม่ได้ศึกษาทฤษฎีความมั่นคงอย่างรอบด้าน ก็คล้ายกับคนที่เสนอให้เลิกดื่มกาแฟ โดยฉายภาพให้เห็นเฉพาะข้อเสียของกาแฟ แต่ไม่กล่าวถึงข้อดี งานชิ้นนี้จึงไม่ต่างไปจากการผลิตซ้ำอุดมการณ์ของนิธิ เอียวศรีวงศ์ กับ ธงชัย วินิจจะกูลสักเท่าไหร่ ยังมีอีกหลายประเด็นเอาไว้ว่ากันต่อในโพสหน้าครับ --- อ้างอิง [1] พวงทอง ภวัครพันธุ์ VS กอ.รมน. เผชิญหน้า ถกปมหนังสือ ในนามของความมั่นคงภายใน, Matichon TV, (นาทีที่ 17:50), https://youtu.be/W2fQ0NrKoqA?si=SgJpjHhEliaNz8vH (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [2] เกษียร เตชะพีระ, จินตนากรรมที่แปลกแยกจากชุมชน (2), มติชนสุดสัปดาห์, 14 ธันวาคม 2566, https://www.matichonweekly.com/column/article_730383 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [3] Benedict Anderson, Imagined Communities, London, Verso, 1983, หน้า 13. อ้างถึงใน นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 40. [4] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2567), หน้า 199. [5] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2562), หน้า 5. [6] นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 149. [7] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย, หน้า 14. [8] เรื่องเดียวกัน, หน้า 220. [9] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย, หน้า 8. [10] เรื่องเดียวกัน, หน้า 10. [11] ดวงมน สุขสมาน, "แนวทางการสร้างความมั่นคงของไทยต่อกลุ่มประเทศ CLMV," วารสารมุมมองความมั่นคง, ฉบับที่ 14 (ตุลาคม 2566-มกราคม 2567), หน้า 30, https://www.nsc.go.th/wp-content/uploads/Journal/article-01403.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [12] จารุพล เรืองสุวรรณ, ทบทวนแนวโน้มสถานการณ์ความมั่นคงของโลก สิ่งที่ไทยควรตระหนักและเตรียมการรับมือ, สถาบันวิจัยดิเรก ชัยนาม, 2 มิถุนายน 2564, http://www.polsci.tu.ac.th/direk/view.aspx?id=505&Keyword=%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [13] ศึกษาวารสารมุมมองความมั่นคงได้ที่ https://www.nsc.go.th/ebook-%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%87/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [14] A.S. Brychkov and G.A. Nikonorov, "Color Revolutions," Journal of the Academy of Military Science (Russia), แปลโดย Boris Vainer, https://www.armyupress.army.mil/Portals/7/Hot%20Spots/Documents/Russia/Color-Revolutions-Brychkov-Nikonorov.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [15] Joseph L. Votel, Charles T. Cleveland, Charles T. Connett, and Will Irwin, "Unconventional Warfare in the Gray Zone," Joint Force Quarterly, NDU Press, ฉบับที่ 80, ไตรมาสที่ 1 ปี 2016, หน้า 101-109, https://ndupress.ndu.edu/JFQ/Joint-Force-Quarterly-80/article/643108/unconventional-warfare-in-the-gray-zone/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). --- ต. ตุลยากร
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟิล์มกรองแสงมีความหลากหลาย เลือกระดับความเข้มของฟิล์มกรองแสงได้ตามความเหมาะสม ให้เหมาะกับสภาพห้องหรือการใช้งานในแต่ละจุด
    ___________________________
    ✅ข้อดีของการติดฟิล์ม บ้าน อาคาร สำนักงาน
    👍-ช่วยลดความร้อนไอร้อนจากภายนอกบ้าน หรืออาคารได้
    👍-ช่วยป้องกันรังสี UV/ A B C และ IR รังสีอินฟราเรดได้
    👍-ช่วยถนอมอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่านโซฟา พื้นไม้
    👍-ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าแอร์ทำงานน้อยลง เย็นเร็วขึ้น
    👍-ช่วยให้บ้านและอาคาร ดูสวยมีสไตล์ให้ความเป็นส่วนตัวสูงมองออกจากภายในชัดเจนเคลียร์ตามปกติส่วนภายนอก ดำเข้มมองเข้ายากขึ้น
    👍-ช่วยยึดกระจกไม่ให้แตกกระจาย
    👍-ติดแล้วเย็น เห็นผลทันทีหลังติดเสร็จ
    บริการประเมินราคาให้ ฟรี
    --------------------------------
    ร้านสิริภิวัฒน์ FilmShop
    บริการรับติดฟิล์มกรองแสงกันความร้อนบ้านอาคาร
    โทร 0649149165
    ส่งและรับข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม Line OA ของทางร้าน
    ID LINE: @325ptbdq
    หรือ Click Add Line OA
    https:lin.ee/HDTVQjb
    กดลิงค์ กดเปิดไลน์

    ผลงานการติดตั้งสามารถชมได้ที่ Facebook Link ด้านล่างนี้
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100069860653236&mibextid=ZbWKwL

    Google Map แผนที่หน้า
    ร้าน สิริภิวัฒน์ FilmShop
    สาขา ราชพฤกษ์
    https:maps.app.goo.gl/rUDBcJJygdFGdGoz9

    #สิริภิวัฒน์_FilmShop
    #ฟิล์มกรองแสง #ฟิล์มเซรามิค
    #ฟิล์มประหยัดพลังงานเบอร์5
    #ฟิล์มสะท้อนความร้อน
    #ฟิล์มกันความร้อนกันUV
    #ติดฟิล์มบ้าน #ติดฟิล์มอาคาร #ฟิล์มติดกระจก
    #ฟิล์มฝ้า #ฟิล์มตกแต่ง
    #ฟิล์มนิรภัย #ติดฟิล์มบ้าน
    #ฟิล์มอาคาร
    ฟิล์มกรองแสงมีความหลากหลาย เลือกระดับความเข้มของฟิล์มกรองแสงได้ตามความเหมาะสม ให้เหมาะกับสภาพห้องหรือการใช้งานในแต่ละจุด ___________________________ ✅ข้อดีของการติดฟิล์ม บ้าน อาคาร สำนักงาน 👍-ช่วยลดความร้อนไอร้อนจากภายนอกบ้าน หรืออาคารได้ 👍-ช่วยป้องกันรังสี UV/ A B C และ IR รังสีอินฟราเรดได้ 👍-ช่วยถนอมอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่านโซฟา พื้นไม้ 👍-ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าแอร์ทำงานน้อยลง เย็นเร็วขึ้น 👍-ช่วยให้บ้านและอาคาร ดูสวยมีสไตล์ให้ความเป็นส่วนตัวสูงมองออกจากภายในชัดเจนเคลียร์ตามปกติส่วนภายนอก ดำเข้มมองเข้ายากขึ้น 👍-ช่วยยึดกระจกไม่ให้แตกกระจาย 👍-ติดแล้วเย็น เห็นผลทันทีหลังติดเสร็จ บริการประเมินราคาให้ ฟรี -------------------------------- ร้านสิริภิวัฒน์ FilmShop บริการรับติดฟิล์มกรองแสงกันความร้อนบ้านอาคาร โทร 0649149165 ส่งและรับข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม Line OA ของทางร้าน ID LINE: @325ptbdq หรือ Click Add Line OA https:lin.ee/HDTVQjb กดลิงค์ กดเปิดไลน์ ผลงานการติดตั้งสามารถชมได้ที่ Facebook Link ด้านล่างนี้ https://www.facebook.com/profile.php?id=100069860653236&mibextid=ZbWKwL Google Map แผนที่หน้า ร้าน สิริภิวัฒน์ FilmShop สาขา ราชพฤกษ์ https:maps.app.goo.gl/rUDBcJJygdFGdGoz9 #สิริภิวัฒน์_FilmShop #ฟิล์มกรองแสง #ฟิล์มเซรามิค #ฟิล์มประหยัดพลังงานเบอร์5 #ฟิล์มสะท้อนความร้อน #ฟิล์มกันความร้อนกันUV #ติดฟิล์มบ้าน #ติดฟิล์มอาคาร #ฟิล์มติดกระจก #ฟิล์มฝ้า #ฟิล์มตกแต่ง #ฟิล์มนิรภัย #ติดฟิล์มบ้าน #ฟิล์มอาคาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮิซบุลเลาะห์รายงานการโจมตีฐานทัพอากาศอิสราเอลด้วยขีปนาวุธฟาดี-๑

    กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนได้โจมตีฐานทัพอากาศ รามัต เดวิด ของอิสราเอล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองไฮฟา, สำนักข่าวของกลุ่มรายงานเมื่อวันเสาร์

    “นักรบอิสลามต่อต้านโจมตีฐานทัพ รามัต เดวิด ด้วยขีปนาวุธฟาดี-๑” แถลงการณ์ระบุ
    .
    HEZBOLLAH REPORTS STRIKING ISRAELI AIRBASE WITH FADI-1 MISSILE

    The Lebanese movement Hezbollah have struck Israel's Ramat David Airbase located north of the city of Haifa, the movement's press service said on Saturday.

    "Islamic resistance fighters attacked Ramat David base with Fadi-1 missiles," the statement read.
    .
    3:53 PM · Oct 5, 2024 · 1,093 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1842488227728347329
    ฮิซบุลเลาะห์รายงานการโจมตีฐานทัพอากาศอิสราเอลด้วยขีปนาวุธฟาดี-๑ กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนได้โจมตีฐานทัพอากาศ รามัต เดวิด ของอิสราเอล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองไฮฟา, สำนักข่าวของกลุ่มรายงานเมื่อวันเสาร์ “นักรบอิสลามต่อต้านโจมตีฐานทัพ รามัต เดวิด ด้วยขีปนาวุธฟาดี-๑” แถลงการณ์ระบุ . HEZBOLLAH REPORTS STRIKING ISRAELI AIRBASE WITH FADI-1 MISSILE The Lebanese movement Hezbollah have struck Israel's Ramat David Airbase located north of the city of Haifa, the movement's press service said on Saturday. "Islamic resistance fighters attacked Ramat David base with Fadi-1 missiles," the statement read. . 3:53 PM · Oct 5, 2024 · 1,093 Views https://x.com/SputnikInt/status/1842488227728347329
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • เด็กหญิง 14 ปี ที่บาดเจ็บจากเพลิงไหม้รถบัสมรณะ อาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้แขนทั้งสองข้างดีขึ้นไม่ติดเชื้อ เริ่มฟื้นฟูฝึกการหายใจ ฝึกกายภาพไหล่และแขน ผลการรักษาเป็นที่พอใจของทีมแพทย์ แต่ต้องใช้เวลารักษาและฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ

    #รถบัสทัศนศึกษา

    ที่มา : @ThePublisher สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
    เด็กหญิง 14 ปี ที่บาดเจ็บจากเพลิงไหม้รถบัสมรณะ อาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้แขนทั้งสองข้างดีขึ้นไม่ติดเชื้อ เริ่มฟื้นฟูฝึกการหายใจ ฝึกกายภาพไหล่และแขน ผลการรักษาเป็นที่พอใจของทีมแพทย์ แต่ต้องใช้เวลารักษาและฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ #รถบัสทัศนศึกษา ที่มา : @ThePublisher สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,538
    วันเสาร์: ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ (5 October 2024)

    รายการทำบุญ(Photo Album) ชุดที่ 2/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    11. วัดเมืองมูล อ.งาว จ.ลำปาง
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    12. วัดวิมุตยาราม เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    13. วัดศรีบุญเรือง อ.นาทม จ.นครพนม
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    14. วัดสมบูรณ์สามัคคี อ.เมือง จ.นครนายก
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    15. วัดสว่างชาติประชาบำรุง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    16. วัดหนองไคร้หลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    17. วัดหนองต้นไทร อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    18. วัดอ้อน้อย(ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    19. วัดอู่ตะเภา อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    20. สำนักสงฆ์ทรัพย์สวนพลู อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๓๐ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,538 วันเสาร์: ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ (5 October 2024) รายการทำบุญ(Photo Album) ชุดที่ 2/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 11. วัดเมืองมูล อ.งาว จ.ลำปาง (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 12. วัดวิมุตยาราม เขตบางพลัด กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 13. วัดศรีบุญเรือง อ.นาทม จ.นครพนม (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 14. วัดสมบูรณ์สามัคคี อ.เมือง จ.นครนายก (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 15. วัดสว่างชาติประชาบำรุง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 16. วัดหนองไคร้หลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 17. วัดหนองต้นไทร อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 18. วัดอ้อน้อย(ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 19. วัดอู่ตะเภา อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 20. สำนักสงฆ์ทรัพย์สวนพลู อ.แก่งคอย จ.สระบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๓๐ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,538
    วันเสาร์: ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ (5 October 2024)

    รายการทำบุญ(Photo Album) ชุดที่ 2/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    11. วัดเมืองมูล อ.งาว จ.ลำปาง
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    12. วัดวิมุตยาราม เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    13. วัดศรีบุญเรือง อ.นาทม จ.นครพนม
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    14. วัดสมบูรณ์สามัคคี อ.เมือง จ.นครนายก
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    15. วัดสว่างชาติประชาบำรุง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    16. วัดหนองไคร้หลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    17. วัดหนองต้นไทร อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    18. วัดอ้อน้อย(ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    19. วัดอู่ตะเภา อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    20. สำนักสงฆ์ทรัพย์สวนพลู อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๓๐ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,538 วันเสาร์: ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ (5 October 2024) รายการทำบุญ(Photo Album) ชุดที่ 2/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 11. วัดเมืองมูล อ.งาว จ.ลำปาง (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 12. วัดวิมุตยาราม เขตบางพลัด กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 13. วัดศรีบุญเรือง อ.นาทม จ.นครพนม (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 14. วัดสมบูรณ์สามัคคี อ.เมือง จ.นครนายก (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 15. วัดสว่างชาติประชาบำรุง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 16. วัดหนองไคร้หลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 17. วัดหนองต้นไทร อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 18. วัดอ้อน้อย(ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 19. วัดอู่ตะเภา อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) 20. สำนักสงฆ์ทรัพย์สวนพลู อ.แก่งคอย จ.สระบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 02 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๓๐ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 01.🤠

    😎#ออกจากประตูหยก😎

    🥸การเดินทางของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปทางทิศตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ แต่ด้วยเหตุนี้ มุมมองของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่มีต่อภูมิภาคตะวันตกจึงมีความเป็นพลเรือนมากกว่า เป็นกลางมากกว่า และเป็นจริงมากกว่า🥸

    🥸ต่อไปนี้เชิญท่านมาเผชิญหน้ากับท่ามกลางท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยลมและทราย เดินย่ำเหยียบฝ่าหมอกควันทะเลทราย เริ่มต้นเข้าร่วมกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ในการเดินทางอันน่ามหัศจรรย์ของเขาเพื่อร่างขอบเขตดินแดนของภูมิภาคตะวันตก🥸

    😎ออกจากประตูหยก(玉门)ไปทางทิศตะวันตก 😎

    🥸ในปีคริสตศักราช 629 ภัยพิบัติน้ำแข็งเกิดขึ้นในพื้นที่กวนจง(关中) ราชวงศ์ถัง(唐)ออกคำสั่งให้พระภิกษุและฆราวาสในพื้นที่ คยองกี(Gyeonggi京畿) ย้ายไปยังสถานที่อื่นเพื่อหาอาหารและหลีกเลี่ยงหลบหนีจากความอดอยาก พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ซึ่งแต่เดิมต้องการออกจากด่านทางผ่าน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนักจึงใช้โอกาสนี้ออกจากฉางอาน(长安)🥸 เขาเดินทางผ่านหลานโจว(兰州)และเหลียงโจว(凉州) เขาหลีกเลี่ยงการติดตามจัยกุมของทางการโดยการเดินทางเวลากลางคืนและพักเวลากลางวัน ต่อมา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เสี่ยงภัยเดินทางผ่าน กวัวโจว(瓜州) และ อวี้เหมินกวน(Yumen Pass玉门关) ผ่านหอคอยสัญญาณไฟ 5 แห่งที่มีกองทหารคุ้มกันตามลำดับรายทาง ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรักษาชายแดนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ข้ามทะเลทรายโกบีด้วยพลังแห่งความศรัทธาและความอุตสาหะอย่างแรงกล้าก่อนจะไปถึงอีหวู(伊吾) และเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตก

    🥸สถานีแรกของการเดินทาง อีหวู(伊吾) ได้มีการส่งมอบการมาถึงอย่างกะทันหันของพระภิกษุให้กับเกาชาง(Gaochang高昌) (ปัจจุบันคือเมืองถูหลู่ฟาน(Turfan 吐鲁番) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์(Xinjiang Uygur Autonomous Region 新疆维吾尔自治区)) เจ้าเหนือหัวองค์น้อยทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมแอ่งถูหลู่ฟาน(Turfan Depression吐鲁番盆地)🥸

    🥸หลังจากได้ยินข่าวว่า พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)มาถึงแล้ว กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) เสนาบดี และสาวใช้ออกมาจากพระราชวังในเวลากลางคืน ทรงจุดเทียน และเข้าแถวเพื่อต้อนรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เข้าสู่พระราชวังด้วยความเคารพ🥸 หลังจากเห็น พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) แล้ว ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ดีใจมากและบอกกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ว่า: นับตั้งแต่ฉันรู้ชื่ออาจารย์ ฉันมีความสุขมากจนลืมกินลืมนอน ฉันรู้ว่าพระภิกษุผู้แสวงธรรมจากตะวันออกจะมาคืนนี้ ฉันก็เลยพร้อมกับพระราชินีและเจ้าชายทรงพากันสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอการมาถึงของพระอาจารย์

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ถูกจัดให้อยู่ที่สนามหลวงทางพิธีกรรมของศาสนาถัดจากพระราชวังกษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) และจัดขันทีให้ดูแลอาหารและชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)

    รัฐเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)เป็นนครรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันตก และถูกปกครองโดยผู้รอดชีวิตจากราชวงศ์ฮั่น(汉)และเว่ย(魏) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางการเมืองที่รวมหู(胡)และฮั่น(汉)เข้าด้วยกัน ในบรรดาพลเมืองนั้น ไม่เพียงแต่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพชาวฮั่น(汉)เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากภูมิภาคตะวันตกด้วย เช่น ชาวซ็อกเดียน(Sogdians粟特) ชาวซานซาน(Shanshan鄯善人)และชาวเติร์ก(Turks突厥人) 🥸ก่อนที่ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)จะมาถึง ประเทศนี้ก็ก่อตั้งขึ้นที่นั่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าข้อมูลจำเพาะของเมืองที่นี่มีความคล้ายคลึงกับเมืองฉางอัน(长安)ในราชวงศ์ซุย(隋)และราชวงศ์ถัง(唐)มาก นอกจากนี้ยังมีรูปของ ดยุคไอแห่งหลู่(鲁哀公)สอดถามขงจื๊อ(孔子)เกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่แขวนอยู่ในพระราชวังของอาณาจักร เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)🥸

    😎การต้อนรับด้วยมารยาทอันสูงส่ง😎

    🥸ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และบิดาของเขาเดินทางไปยังราชวงศ์สุย(隋)ในยุครุ่งเรืองเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิสุยหยางตี้(隋炀帝)🥸 เขาไม่เพียงแต่เดินทางไปยังฉางอาน(长安) ล่อหยาง(洛阳) เฝินหยาง(汾阳) เอี้ยนตี้(燕地) ไต้ตี้(代地) และเมืองสำคัญอื่นๆ และได้เห็นวัฒนธรรมฮั่น(汉)ของที่ราบตอนกลางดั้งเดิม แต่เขายังไปเยี่ยมคารวะพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงและผู้มีคุณธรรมอีกมากมาย และเขาก็ชื่นชมที่ราบภาคกลางที่เป็นบ้านเกิดทางวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างมาก แต่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในอดีตของราชวงศ์ซุย ความฉลาดสามารถของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)นั้นเหนือกว่ามาก

    เมื่อใดก็ตามที่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)บรรยายธรรมแก่ขุนนางของเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ในเต็นท์ใหญ่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ถือกระถางธูปเพื่อเคลียร์นำทางให้พระภิกษุผู้มีชื่อเสียงด้วยตนเอง เมื่อพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปที่แท่นธรรมาสน์เพื่อขึ้นเทศนาธรรม กษัตริย์แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ถึงกับคุกเข่าโน้มตัวลง และทำหน้าที่เป็นบันไดให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ก้าวขึ้นแท่นธรรมาสน์ การปฏิบัตินี้ไม่สอดคล้องกับประเพณีตะวันออก แต่ก็มีบันทึกไว้ในหนังสือดั้งเดิมของอินเดียบางเรื่อง สิ่งนี้พิสูจน์ได้จากสิ่งแวดล้อมข้วงเคียงว่า เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)คือจุดทางสี่แยกของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการบูชาสักการะอย่างสูงสุดต่อ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ยังคัดเลือกพระภิกษุในท้องถิ่นหลายแห่งใน เกาชาง(Gaochang高昌)ให้เป็นนักเรียนและคนรับใช้ นิสัยปกิบัติในการรับลูกศิษย์ไปตลอดทางนี้ กลายเป็นต้นแบบทางประวัติศาสตร์สำหรับทีมอาจารย์และลูกศิษย์ของภิกษุราชวงศ์ถัง(唐)ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน "บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก(Journey to the West西游记)" แม้ว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)จะชื่นชมพรสวรรค์และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เขาถึงกับมีความคิดหน่วงรั้งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้ที่เกาชาง(Gaochang高昌)ด้วยซ้ำ และขอให้ประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป แสดงธรรมสั่งสอนให้ความรู้ความกระจ่างแก่คนทั่วไป จนกระทั่งเป็นพระอาจารย์ระดับชาติของ เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เห็นด้วยเพราะมีตวามเห็นว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่กว่า กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)เห็นว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) มีความมุ่งมั่นดังนั้นเขาจึงจำต้องโยนไพ่ตายทางเลือกสุดท้ายของเขาออกไป: 🥸ถ้าพระคุณท่านไม่ปรารถนาอยู่ในเกาชาง(Gaochang高昌) ข้าพระเจ้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งท่านอาจารย์กลับไปทางทิศตะวันออก🥸

    เมื่อต้องเผชิญกับกลยุทธ์ไม้แข็งและไม้อ่อนร่วมกันของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองว่า: 🥸พระองค์สามารถจะเพียงได้รับกระดูกของอาตมาเอาไว้ได้ แต่พระองค์ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจของอาตมาที่จะไปทางตะวันตกได้🥸

    😎หนทางเบื้องหน้าอันยาวไกล😎

    🥸ด้วยเหตุนี้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) จึงอดอาหารเป็นเวลาสามวันเพื่อแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตก🥸 ในฐานะเป็นอาณาจักรในภูมิภาคตะวันตกที่นับถือศาสนาพุทธ หากมีพระภิกษุที่แสวงหาธรรมะมาอดอยากจนตายภายในดินแดนของตน ชื่อเสียงสู่ภายนอกของเกาชาง(Gaochang高昌)ในภูมิภาคตะวันตกจะเสียหายอย่างมาก และเขาจะพลอยได้รับชื่อเสียงเสื่อมเสียงจากการทำร้ายพระภิกษุที่มีชื่อเสียงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความจริงแล้ว การขัดขวางการเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตกของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ด้วยเพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของเขาเองก็เป็นการขัดแย้งกับความตั้งใจเดิมของเขา

    🥸เมื่อเขาคิดมาถึง ณ จุดนี้ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ก้มหัวให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เพื่อขอโทษ🥸 ความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาที่มีต่อเกาชาง(Gaochang高昌) ก็ถูกขจัดออกไปในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นมีเมตตาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในเวลาเดียวกันกับขณะที่รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะแสวงหาธรรมะโดยปราศจากสิ่งภายนอกมาบั่นทอนความตั้งใจ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ได้สาบานต่อฟ้าดินสัญญาเป็นพี่น้องกัน ภายใต้การอุปถัมภ์จากแม่ของแผ่นดินเจ้าจอมมารดา จาง(张太妃) เพื่อให้พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เดินทางไปถึงอินเดียได้อย่างราบรื่น กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) ทรงสั่งการให้จัดทีมงานเล็กๆ ประกอบด้วยม้า 30 ตัว พนักงานข้าราชการเกาชาง(Gaochang高昌)1 คน ผู้ติดตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ 25 คน และพระภิกษุหนุ่ม 4 รูป เพื่อดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมหน้ากากและหมวกพิเศษสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สำหรับการเดินทางผ่านภูเขาและทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะ รวมถึงเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับเขตภูมิอากาศต่างๆ จัดทหารม้าขนนำทองคำ เงิน และผ้าไหมจำนวนมากไว้สำหรับการครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทนทุกข์จากความหิวโหยระหว่างทางไปอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีเงินเพียงพอที่จะทำทานอีกด้วย ในสิ่งแต่งเคิมเหล่านี้เป็นรายละเอียดด้านที่อ่อนโยนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออัครสาวก

    🥸นอกจากทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากเจ้าผู้ครองแคว้นตะวันตกในขณะนั้น คือ ข่านเตอร์กตะวันตก(西突厥)ได้สมรสกับราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ยังมีจดหมายแสดงความเคารพที่กษัตริย์แห่งเกาชาง(Gaochang高昌)มอบให้กับข่านแห่งเติร์กตะวันตก(西突厥) อธิบายถึงความตั้งใจของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะไปทางดินแดนแคว้นตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะ🥸 ภายใต้การคุ้มครองของเตอร์กข่านตะวันตก (西突厥) ทุกประเทศในภูมิภาคตะวันตกตลอดเส้นทางให้ความเคารพแก่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) และให้การสนับสนุนทางทหารที่เข้มแข็งและมีควาทปลอดภัยที่สุดสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)และคณะเดินทางของเขา และจดหมายแสดงความเคารพของกษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ถึงพระมหากษัตริย์ของยี่สิบสี่ประเทศในภูมิภาคตะวันตกจะช่วยให้การเดินทางของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก

    🥸ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการอำลาอาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌) บรรดาราชวงศ์และชาวเกาชาง(Gaochang高昌)ก็ออกจากเมืองเพื่อส่งอำลา🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สัญญาว่า เมื่อเดินทางผ่านเกาชาง(Gaochang高昌)หลังจากกลับจากการศึกษาในอินเดียจะแสดงเทศนาธรรมอีก จากนั้นเขาก็กล่าวคำอำลากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ด้วยน้ำตา พวกบรรดาราชวงศ์ เกาชาง(Gaochang高昌)เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวพุทธต่างพากันออกจากเมืองส่งเสียงอำลาดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถิ่น ราวกับว่ามือแห่งโชคชะตาได้ฉีกหัวใจและจิตวิญญาณออกจากร่างกายของชาวเกาชาง(Gaochang高昌) ทำให้พวกเขาสูญเสียสมบัติของชาติไปตลอดกาล

    บรรดาพวกราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ส่งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ออกไปนอกเมืองหลายสิบลี้ แม้ว่าพระภิกษุสมณเพศจะมองเห็นบรรลุแล้วการจากแยกอำลาในทางโลกแล้วก็ตาม แต่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนและยังคงเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก เขาขอบคุณต่ออาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌)อย่างสุดซึ้งอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจ ราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังจับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ร่ำไห้ราวกับสายฝนกล่าวว่า 🥸ในเมื่อพระคุณท่านถือเป็นพี่น้องกัน สัตว์พาหนะต่าง ๆ ในประเทศก็มีเจ้าของคนเดียวกัน แล้วเหตุใดจึงต้องขอบคุณพวกเขาด้วย?🥸

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ตอบว่า: 🥸ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของเสด็จพี่ตลอดชีวิตของอาตมา ในวันที่อาตมากลับจากนำพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนากลับมา อาตมาจะอยู่สอนธรรมะในเกาชาง(Gaochang高昌)เป็นเวลาสามปีเป็นการตอบแทน!🥸

    หลายปีต่อมาในฉางอาน(长安) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เหล่าสาวกฟัง มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่มีต่อราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังคงเกินคำบรรยาย ดูเหมือนราวกับว่าพิธีอำลาที่หรูหราและยิ่งใหญ่นั้นได่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นเขาไม่รู้ 🥸นี่ยังจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบกับพี่ชายร่วมสาบานของเขา🥸

    🥳โปรดติดตามบทความ#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 02.
    #อาณาจักรคาราซาห์และคูชาที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 01.🤠 😎#ออกจากประตูหยก😎 🥸การเดินทางของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปทางทิศตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ แต่ด้วยเหตุนี้ มุมมองของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่มีต่อภูมิภาคตะวันตกจึงมีความเป็นพลเรือนมากกว่า เป็นกลางมากกว่า และเป็นจริงมากกว่า🥸 🥸ต่อไปนี้เชิญท่านมาเผชิญหน้ากับท่ามกลางท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยลมและทราย เดินย่ำเหยียบฝ่าหมอกควันทะเลทราย เริ่มต้นเข้าร่วมกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ในการเดินทางอันน่ามหัศจรรย์ของเขาเพื่อร่างขอบเขตดินแดนของภูมิภาคตะวันตก🥸 😎ออกจากประตูหยก(玉门)ไปทางทิศตะวันตก 😎 🥸ในปีคริสตศักราช 629 ภัยพิบัติน้ำแข็งเกิดขึ้นในพื้นที่กวนจง(关中) ราชวงศ์ถัง(唐)ออกคำสั่งให้พระภิกษุและฆราวาสในพื้นที่ คยองกี(Gyeonggi京畿) ย้ายไปยังสถานที่อื่นเพื่อหาอาหารและหลีกเลี่ยงหลบหนีจากความอดอยาก พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ซึ่งแต่เดิมต้องการออกจากด่านทางผ่าน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนักจึงใช้โอกาสนี้ออกจากฉางอาน(长安)🥸 เขาเดินทางผ่านหลานโจว(兰州)และเหลียงโจว(凉州) เขาหลีกเลี่ยงการติดตามจัยกุมของทางการโดยการเดินทางเวลากลางคืนและพักเวลากลางวัน ต่อมา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เสี่ยงภัยเดินทางผ่าน กวัวโจว(瓜州) และ อวี้เหมินกวน(Yumen Pass玉门关) ผ่านหอคอยสัญญาณไฟ 5 แห่งที่มีกองทหารคุ้มกันตามลำดับรายทาง ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรักษาชายแดนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ข้ามทะเลทรายโกบีด้วยพลังแห่งความศรัทธาและความอุตสาหะอย่างแรงกล้าก่อนจะไปถึงอีหวู(伊吾) และเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตก 🥸สถานีแรกของการเดินทาง อีหวู(伊吾) ได้มีการส่งมอบการมาถึงอย่างกะทันหันของพระภิกษุให้กับเกาชาง(Gaochang高昌) (ปัจจุบันคือเมืองถูหลู่ฟาน(Turfan 吐鲁番) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์(Xinjiang Uygur Autonomous Region 新疆维吾尔自治区)) เจ้าเหนือหัวองค์น้อยทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมแอ่งถูหลู่ฟาน(Turfan Depression吐鲁番盆地)🥸 🥸หลังจากได้ยินข่าวว่า พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)มาถึงแล้ว กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) เสนาบดี และสาวใช้ออกมาจากพระราชวังในเวลากลางคืน ทรงจุดเทียน และเข้าแถวเพื่อต้อนรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เข้าสู่พระราชวังด้วยความเคารพ🥸 หลังจากเห็น พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) แล้ว ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ดีใจมากและบอกกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ว่า: นับตั้งแต่ฉันรู้ชื่ออาจารย์ ฉันมีความสุขมากจนลืมกินลืมนอน ฉันรู้ว่าพระภิกษุผู้แสวงธรรมจากตะวันออกจะมาคืนนี้ ฉันก็เลยพร้อมกับพระราชินีและเจ้าชายทรงพากันสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอการมาถึงของพระอาจารย์ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ถูกจัดให้อยู่ที่สนามหลวงทางพิธีกรรมของศาสนาถัดจากพระราชวังกษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) และจัดขันทีให้ดูแลอาหารและชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) รัฐเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)เป็นนครรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันตก และถูกปกครองโดยผู้รอดชีวิตจากราชวงศ์ฮั่น(汉)และเว่ย(魏) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางการเมืองที่รวมหู(胡)และฮั่น(汉)เข้าด้วยกัน ในบรรดาพลเมืองนั้น ไม่เพียงแต่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพชาวฮั่น(汉)เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากภูมิภาคตะวันตกด้วย เช่น ชาวซ็อกเดียน(Sogdians粟特) ชาวซานซาน(Shanshan鄯善人)และชาวเติร์ก(Turks突厥人) 🥸ก่อนที่ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)จะมาถึง ประเทศนี้ก็ก่อตั้งขึ้นที่นั่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าข้อมูลจำเพาะของเมืองที่นี่มีความคล้ายคลึงกับเมืองฉางอัน(长安)ในราชวงศ์ซุย(隋)และราชวงศ์ถัง(唐)มาก นอกจากนี้ยังมีรูปของ ดยุคไอแห่งหลู่(鲁哀公)สอดถามขงจื๊อ(孔子)เกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่แขวนอยู่ในพระราชวังของอาณาจักร เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)🥸 😎การต้อนรับด้วยมารยาทอันสูงส่ง😎 🥸ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และบิดาของเขาเดินทางไปยังราชวงศ์สุย(隋)ในยุครุ่งเรืองเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิสุยหยางตี้(隋炀帝)🥸 เขาไม่เพียงแต่เดินทางไปยังฉางอาน(长安) ล่อหยาง(洛阳) เฝินหยาง(汾阳) เอี้ยนตี้(燕地) ไต้ตี้(代地) และเมืองสำคัญอื่นๆ และได้เห็นวัฒนธรรมฮั่น(汉)ของที่ราบตอนกลางดั้งเดิม แต่เขายังไปเยี่ยมคารวะพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงและผู้มีคุณธรรมอีกมากมาย และเขาก็ชื่นชมที่ราบภาคกลางที่เป็นบ้านเกิดทางวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างมาก แต่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในอดีตของราชวงศ์ซุย ความฉลาดสามารถของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)นั้นเหนือกว่ามาก เมื่อใดก็ตามที่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)บรรยายธรรมแก่ขุนนางของเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ในเต็นท์ใหญ่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ถือกระถางธูปเพื่อเคลียร์นำทางให้พระภิกษุผู้มีชื่อเสียงด้วยตนเอง เมื่อพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปที่แท่นธรรมาสน์เพื่อขึ้นเทศนาธรรม กษัตริย์แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ถึงกับคุกเข่าโน้มตัวลง และทำหน้าที่เป็นบันไดให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ก้าวขึ้นแท่นธรรมาสน์ การปฏิบัตินี้ไม่สอดคล้องกับประเพณีตะวันออก แต่ก็มีบันทึกไว้ในหนังสือดั้งเดิมของอินเดียบางเรื่อง สิ่งนี้พิสูจน์ได้จากสิ่งแวดล้อมข้วงเคียงว่า เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)คือจุดทางสี่แยกของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการบูชาสักการะอย่างสูงสุดต่อ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ยังคัดเลือกพระภิกษุในท้องถิ่นหลายแห่งใน เกาชาง(Gaochang高昌)ให้เป็นนักเรียนและคนรับใช้ นิสัยปกิบัติในการรับลูกศิษย์ไปตลอดทางนี้ กลายเป็นต้นแบบทางประวัติศาสตร์สำหรับทีมอาจารย์และลูกศิษย์ของภิกษุราชวงศ์ถัง(唐)ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน "บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก(Journey to the West西游记)" แม้ว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)จะชื่นชมพรสวรรค์และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เขาถึงกับมีความคิดหน่วงรั้งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้ที่เกาชาง(Gaochang高昌)ด้วยซ้ำ และขอให้ประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป แสดงธรรมสั่งสอนให้ความรู้ความกระจ่างแก่คนทั่วไป จนกระทั่งเป็นพระอาจารย์ระดับชาติของ เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เห็นด้วยเพราะมีตวามเห็นว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่กว่า กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)เห็นว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) มีความมุ่งมั่นดังนั้นเขาจึงจำต้องโยนไพ่ตายทางเลือกสุดท้ายของเขาออกไป: 🥸ถ้าพระคุณท่านไม่ปรารถนาอยู่ในเกาชาง(Gaochang高昌) ข้าพระเจ้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งท่านอาจารย์กลับไปทางทิศตะวันออก🥸 เมื่อต้องเผชิญกับกลยุทธ์ไม้แข็งและไม้อ่อนร่วมกันของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองว่า: 🥸พระองค์สามารถจะเพียงได้รับกระดูกของอาตมาเอาไว้ได้ แต่พระองค์ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจของอาตมาที่จะไปทางตะวันตกได้🥸 😎หนทางเบื้องหน้าอันยาวไกล😎 🥸ด้วยเหตุนี้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) จึงอดอาหารเป็นเวลาสามวันเพื่อแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตก🥸 ในฐานะเป็นอาณาจักรในภูมิภาคตะวันตกที่นับถือศาสนาพุทธ หากมีพระภิกษุที่แสวงหาธรรมะมาอดอยากจนตายภายในดินแดนของตน ชื่อเสียงสู่ภายนอกของเกาชาง(Gaochang高昌)ในภูมิภาคตะวันตกจะเสียหายอย่างมาก และเขาจะพลอยได้รับชื่อเสียงเสื่อมเสียงจากการทำร้ายพระภิกษุที่มีชื่อเสียงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความจริงแล้ว การขัดขวางการเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตกของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ด้วยเพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของเขาเองก็เป็นการขัดแย้งกับความตั้งใจเดิมของเขา 🥸เมื่อเขาคิดมาถึง ณ จุดนี้ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ก้มหัวให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เพื่อขอโทษ🥸 ความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาที่มีต่อเกาชาง(Gaochang高昌) ก็ถูกขจัดออกไปในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นมีเมตตาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในเวลาเดียวกันกับขณะที่รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะแสวงหาธรรมะโดยปราศจากสิ่งภายนอกมาบั่นทอนความตั้งใจ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ได้สาบานต่อฟ้าดินสัญญาเป็นพี่น้องกัน ภายใต้การอุปถัมภ์จากแม่ของแผ่นดินเจ้าจอมมารดา จาง(张太妃) เพื่อให้พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เดินทางไปถึงอินเดียได้อย่างราบรื่น กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) ทรงสั่งการให้จัดทีมงานเล็กๆ ประกอบด้วยม้า 30 ตัว พนักงานข้าราชการเกาชาง(Gaochang高昌)1 คน ผู้ติดตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ 25 คน และพระภิกษุหนุ่ม 4 รูป เพื่อดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมหน้ากากและหมวกพิเศษสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สำหรับการเดินทางผ่านภูเขาและทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะ รวมถึงเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับเขตภูมิอากาศต่างๆ จัดทหารม้าขนนำทองคำ เงิน และผ้าไหมจำนวนมากไว้สำหรับการครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทนทุกข์จากความหิวโหยระหว่างทางไปอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีเงินเพียงพอที่จะทำทานอีกด้วย ในสิ่งแต่งเคิมเหล่านี้เป็นรายละเอียดด้านที่อ่อนโยนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออัครสาวก 🥸นอกจากทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากเจ้าผู้ครองแคว้นตะวันตกในขณะนั้น คือ ข่านเตอร์กตะวันตก(西突厥)ได้สมรสกับราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ยังมีจดหมายแสดงความเคารพที่กษัตริย์แห่งเกาชาง(Gaochang高昌)มอบให้กับข่านแห่งเติร์กตะวันตก(西突厥) อธิบายถึงความตั้งใจของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะไปทางดินแดนแคว้นตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะ🥸 ภายใต้การคุ้มครองของเตอร์กข่านตะวันตก (西突厥) ทุกประเทศในภูมิภาคตะวันตกตลอดเส้นทางให้ความเคารพแก่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) และให้การสนับสนุนทางทหารที่เข้มแข็งและมีควาทปลอดภัยที่สุดสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)และคณะเดินทางของเขา และจดหมายแสดงความเคารพของกษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ถึงพระมหากษัตริย์ของยี่สิบสี่ประเทศในภูมิภาคตะวันตกจะช่วยให้การเดินทางของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก 🥸ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการอำลาอาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌) บรรดาราชวงศ์และชาวเกาชาง(Gaochang高昌)ก็ออกจากเมืองเพื่อส่งอำลา🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สัญญาว่า เมื่อเดินทางผ่านเกาชาง(Gaochang高昌)หลังจากกลับจากการศึกษาในอินเดียจะแสดงเทศนาธรรมอีก จากนั้นเขาก็กล่าวคำอำลากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ด้วยน้ำตา พวกบรรดาราชวงศ์ เกาชาง(Gaochang高昌)เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวพุทธต่างพากันออกจากเมืองส่งเสียงอำลาดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถิ่น ราวกับว่ามือแห่งโชคชะตาได้ฉีกหัวใจและจิตวิญญาณออกจากร่างกายของชาวเกาชาง(Gaochang高昌) ทำให้พวกเขาสูญเสียสมบัติของชาติไปตลอดกาล บรรดาพวกราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ส่งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ออกไปนอกเมืองหลายสิบลี้ แม้ว่าพระภิกษุสมณเพศจะมองเห็นบรรลุแล้วการจากแยกอำลาในทางโลกแล้วก็ตาม แต่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนและยังคงเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก เขาขอบคุณต่ออาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌)อย่างสุดซึ้งอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจ ราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังจับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ร่ำไห้ราวกับสายฝนกล่าวว่า 🥸ในเมื่อพระคุณท่านถือเป็นพี่น้องกัน สัตว์พาหนะต่าง ๆ ในประเทศก็มีเจ้าของคนเดียวกัน แล้วเหตุใดจึงต้องขอบคุณพวกเขาด้วย?🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ตอบว่า: 🥸ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของเสด็จพี่ตลอดชีวิตของอาตมา ในวันที่อาตมากลับจากนำพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนากลับมา อาตมาจะอยู่สอนธรรมะในเกาชาง(Gaochang高昌)เป็นเวลาสามปีเป็นการตอบแทน!🥸 หลายปีต่อมาในฉางอาน(长安) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เหล่าสาวกฟัง มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่มีต่อราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังคงเกินคำบรรยาย ดูเหมือนราวกับว่าพิธีอำลาที่หรูหราและยิ่งใหญ่นั้นได่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นเขาไม่รู้ 🥸นี่ยังจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบกับพี่ชายร่วมสาบานของเขา🥸 🥳โปรดติดตามบทความ#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 02. #อาณาจักรคาราซาห์และคูชาที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • TOM TAILOR DENIM
    DVSN Since. 2007
    Men’s Classic Suede Ankle Sneakers
    Size. EUR 45 /29 cm

    🔥 Price : 590฿

    รองเท้าผ้าใบลำลองแนวสตรีทสัญชาติเยอรมัน ดีไซน์เรียบๆแต่ดูเท่มีเสน่ห์ด้วยผ้ายีนส์ติดป้ายโลโก้ผ้า ทรงสวย ใส่สบายเข้ากับไลฟสไตล์การแต่งตัวได้หลากหลาย

    👉 เรื่องราว :-
    Tom Tailor เป็นแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่ไม่เป็นทางการของเยอรมัน มีสำนักงานใหญ่อยู่ในฮัมบูร์ก สินค้า มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้าและเครื่องประดับสำหรับบุรุษและสตรีทุกวัยในกลุ่มราคาระดับกลางจนถึงระดับบน มีสไตล์ที่โมเดิร์นด้วยรูปทรงและรายละเอียดที่ร่วมสมัย (ลุคสบายๆ)
    Tom Tailor ก่อตั้งขึ้นในปี 1962 ในฮัมบูร์ก ในชื่อ Henke & Co. และได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ Tom Tailor ในปี 1989
    ปัจจุบันมีร้านค้าปลีกของตัวเอง 248 แห่ง ได้แก่ Tom Tailor E-Shop ในเยอรมนี ออสเตรีย และเนเธอร์แลนด์ ร้านค้าแฟรนไชส์ 155 แห่ง และร้านค้าในร้านค้า 1,786 แห่ง ใน 35 ประเทศทั่วโลก
    ตลาดหลักของบริษัทได้แก่ เยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ กลุ่ม ประเทศ เบเนลักซ์และฝรั่งเศส
    TOM TAILOR DENIM DVSN Since. 2007 Men’s Classic Suede Ankle Sneakers Size. EUR 45 /29 cm 🔥 Price : 590฿ รองเท้าผ้าใบลำลองแนวสตรีทสัญชาติเยอรมัน ดีไซน์เรียบๆแต่ดูเท่มีเสน่ห์ด้วยผ้ายีนส์ติดป้ายโลโก้ผ้า ทรงสวย ใส่สบายเข้ากับไลฟสไตล์การแต่งตัวได้หลากหลาย 👉 เรื่องราว :- Tom Tailor เป็นแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่ไม่เป็นทางการของเยอรมัน มีสำนักงานใหญ่อยู่ในฮัมบูร์ก สินค้า มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้าและเครื่องประดับสำหรับบุรุษและสตรีทุกวัยในกลุ่มราคาระดับกลางจนถึงระดับบน มีสไตล์ที่โมเดิร์นด้วยรูปทรงและรายละเอียดที่ร่วมสมัย (ลุคสบายๆ) Tom Tailor ก่อตั้งขึ้นในปี 1962 ในฮัมบูร์ก ในชื่อ Henke & Co. และได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ Tom Tailor ในปี 1989 ปัจจุบันมีร้านค้าปลีกของตัวเอง 248 แห่ง ได้แก่ Tom Tailor E-Shop ในเยอรมนี ออสเตรีย และเนเธอร์แลนด์ ร้านค้าแฟรนไชส์ 155 แห่ง และร้านค้าในร้านค้า 1,786 แห่ง ใน 35 ประเทศทั่วโลก ตลาดหลักของบริษัทได้แก่ เยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ กลุ่ม ประเทศ เบเนลักซ์และฝรั่งเศส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥อัตราการจ้างงานของสหรัฐฯ พุ่งสูงในเดือนกันยายน
    ส่วนอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4.1%

    โดยการเติบโตของการจ้างงานของสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น
    ในเดือนกันยายน ที่ผ่านมา และอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4.1%
    ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องรักษาการปรับลด
    อัตราดอกเบี้ยในการประชุมสองครั้งที่เหลือของปีนี้อีกต่อไป

    สำนักงานสถิติแรงงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
    เปิดเผยรายงานการจ้างงานที่ติดตามอย่างใกล้ชิดเมื่อวันศุกร์ว่า
    การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว
    หลังจากที่เพิ่มขึ้น 159,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม

    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #อัตราการจ้างงานการว่างงานสหรัฐ
    #thaitimes
    🔥🔥อัตราการจ้างงานของสหรัฐฯ พุ่งสูงในเดือนกันยายน ส่วนอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4.1% โดยการเติบโตของการจ้างงานของสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น ในเดือนกันยายน ที่ผ่านมา และอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4.1% ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องรักษาการปรับลด อัตราดอกเบี้ยในการประชุมสองครั้งที่เหลือของปีนี้อีกต่อไป สำนักงานสถิติแรงงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานการจ้างงานที่ติดตามอย่างใกล้ชิดเมื่อวันศุกร์ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 159,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #อัตราการจ้างงานการว่างงานสหรัฐ #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 798 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออภัยนะคะ……ไปเที่ยวมานิดนึง แต่……ในฐานะติ่งอาวุโส ก็ต้องรีบกลับมาประจำที่ค่าาา……พี่ปูเค้ากำลังฮ็อต…!!!

    ตอนยี่สิบสอง……เรื่องการแทรกแซงในยูเครนไม่ใช่เรื่องใหม่……ยังไงก็ต้องเป็นสนามรบ……!!!

    2013 ในระหว่างที่รัสเซียกำลังพุ่งแรงในเรื่องของเศรษฐกิจและการส่งพลังงาน อเมริกาก็เริ่มอึดอัด……เพราะระหว่างสัมพันธภาพดีๆระหว่างรัสเซียกับอเมริกานั้น……ก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกในสำนักข่าวเท่านั้น
    ที่เหลือคือ…การคุมเชิงกันแบบไม่กระพริบตา……
    โชคได้เข้าข้างปูติน……แบบบุญหล่นทับ……ในวันที่ 23 มิถุนายน 2013
    ที่สายการบินแอโรฟลอตได้นำชายอเมริกันคนหนึ่งมาสู่แผ่นดินรัสเซีย
    เขาคนนั้นคือ Edward Snowden ชายวัย 40 ปี ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมของบริษัท Dell และ Booz Allen Hamilton ที่เป็นบริษัทที่ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของ NSA (National Security Agency) หรือ ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา
    สโนว์เดน……ได้พบกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐ ด้วยหลักฐานหลายๆอย่างที่มีการดักฟังโทรศัพท์ประชาชน และ ควบคุมเพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในทุกที่ ที่ข้ามไปถึง แคนาดา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์
    เขาได้ข้อมูลไปกระจายใน WikiLeaks และ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เช่น The Guardian, The Washington Post
    และได้หลบหนีไปยังฮ่องกง เพื่อไปพบกับใครบางคนที่สถานกงสุลรัสเซียที่นั่น……
    จากนั้นเขาตั้งใจจะไปที่คิวบา………แต่ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอายัดพาสปอร์ตของเขาและมีหมายจับ……นั่นหมายความว่าเขาจะไปที่ไหนไม่ได้ นอกจากจะต้องส่งกลับ หรือ ต้องติดอยู่ที่สนามบินที่ฮ่องกงเพื่อรอการจับกุมตัว

    แต่ทางฮ่องกงได้ส่งเขาขึ้นเครื่องบินไปที่มอสโคว์..…ที่ทางรัฐบาลของปูตินปูพรมแดงรอรับ……ที่หัวหน้าของ FSB ไปรอรับด้วยตัวเองในฐานะแขกผู้มีเกียรติและถือว่าเป็นว่าวีรบุรุษ……

    ปธน. บารัค โอบามา พยายามที่จะติดต่อขอตัว”ผู้ร้าย” กลับไป โดยอ้างว่าสโนว์เดนเป็นคนขายชาติ และเป็นพิษเป็นภัยกับความมั่นคง
    รวมทั้งสัญญาว่า……จะไม่มีการทำร้าย หรือ จับไปทารุณกรรม จะดำเนินคดีตามกฏหมายเท่านั้น……
    ปูตินตอกกลับไปว่า……เขาไม่ได้มีความผิดอะไรในรัสเซีย และ ด้วยสิทธิมนุษยชน เขามีสิทธิที่จะขออยู่ในรัสเซียได้ เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน
    ว่าแล้ว…สโนว์เดนก็ได้รับวีซ่าลี้ภัยให้อยู่ในรัสเซียแบบยาวนาน

    การเปิดเผยความลับของสโนว์เดนนี้ ผู้นำหลายชาติจึงได้ทราบว่า โทรศัพท์ของตัวเองมีการถูกดักฟัง เช่น นางแองเจลา เมอร์เคิล ด้วยระบบ
    SORM (System of Operative-Investigative Measures) ที่อเมริกาได้สร้างเป็นมุ้งคลุมไว้ทั่วเพื่อเป็นสปายทางระบบใยแก้ว

    เมื่อความลับจากสโนว์เดนที่แจกแจงออกมาให้ชาวโลกได้ทราบ
    โอบามายิ่งแค้นปูตินมากขึ้นเป็นทวีคูณ……เขามีกำหนดการที่จะต้องพบกับปูตินในเดือนกันยายน ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในการประชุม G20
    แต่…ขอยกเลิก……โดยอ้างกับนักข่าวว่า พบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรัสเซียทำตรงกันข้ามทุกอย่าง เช่นการเท่าเทียมทางกลุ่มรักร่วมเพศ,
    การลดขนาดการสร้างอาวุธ, ยกเลิกการรับเลี้ยงดูเด็ก และความวุ่นวายที่ตะวันออกกลาง
    แต่……โอบามาไม่ปริปากในเรื่องการรั่วไหลของความลับที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนั้น…
    ทางฝ่ายโฆษกของรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่า……ตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง……!!!

    ผลจากวิกิลีคส์ ที่เผยแพร่ไปได้สร้างความหวั่นไหวให้กับหลายๆชาติ
    ที่ตอนนี้เริ่มมองเห็นความสำคัญของรัสเซีย เพราะทุกคนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า……รัฐบาลรัสเซียได้ล่วงรู้ข้อมูลลับไปมากน้อยแค่ไหน
    สายตาทั้งหมดที่มองไปที่สหรัฐอเมริกา……มีแต่ความเคลือบแคลงและหมดความไว้ใจ
    แม้แต่นิตยสาร Forbes ได้ติดตำแหน่งให้ปูตินเป็นบุคคลที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก
    บุคคลที่ทรงอานุภาพ……ได้หันมาโฟกัสที่ยูเครนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
    เพราะเมื่อปี 2010 ที่ Viktor Yanukovych ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี
    ได้มีความกลมเกลียวเป็นอันดีกับรัสเซีย แต่พอมาปลายสมัย คือ 2015
    เขาเริ่มเปลี่ยนไป……หันไปซบกับตะวันตก ที่กำลังขยายยุโรปมาจนติดชายขอบ เช่น Moldova, Georgia และ Armenia โดยเริ่มจากลงนามในสนธิสัญญาทางการค้า โดยหวังว่าจะต่อยอดไปจนถึงสมาชิกสภายูโรเปี้ยน

    สำหรับปูติน……การก้าวล่วงมาถึงยูเครน……มันเกินกว่าที่จะรับได้
    เพราะเขามองออกว่า……นั่นคือ สิ่งที่ตะวันตกต้องการมากที่สุด คือ พื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นเขตทหารในนามของนาโต้……
    และทางพลังงาน……ที่จะเข้ามาควบคุมแหล่งทรัพยากร……
    ถ้าเกิดมีสงครามระหว่าง รัสเซียกับอเมริกา (มีความเป็นไปได้สูง)
    ทางตะวันตกแทบไม่ต้องลงแรงรบเลย เพราะ มีพลังงานให้ใช้ไม่มีหมด
    มีการหนุนหลังเรื่องเสบียงจากยุโรปไม่อั้น และ สามารถปิดกั้นทะเลบอลติก……
    ดังนั้น ยูเครนคือกล่องดวงใจ……ที่ต้องเต้นตามจังหวะของรัสเซียเท่านั้น
    ปูตินตั้งใจที่จะสร้างกลุ่ม Eurasian Union ขึ้นมา คือ เป็นการรวมตัวของโลกฝั่งตะวันออก ( ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว คือ BRICS)
    แต่หัวใจสำคัญคือ ยูเครนที่ปูตินถือว่า เป็นดินแดน(เก่าแก่)ต้นกำเนิดของรัสเซียจะต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดตะวันตก….โดยเริ่มความเป็น Eurasian Union จากพรมแดนตรงนั้น……
    แต่ไปๆมาๆ…ยูเครนได้หันไปโปรตะวันตกอย่างออกหน้าออกตา
    โดยเฉพาะกับนางฮิลลารี คลินตันที่เคยออกมาเย้ยเยาะว่า (2012)
    “ถ้าคิดว่ายูเครนคือหมูในอวย…ฝันไปเถอะ……”

    ก่อนที่ EU จะรับ Lithuania เข้าไปเป็นสมาชิก อียูได้หันมาเร่งให้ยูเครนรีบเซ็นสัญญาค้าขายกันเสียก่อน เพื่อจะได้เอาไว้เป็นเครดิตว่ามีกิจกรรมกับทางยุโรป
    ปูตินพยายามคัดค้าน และพยายามไปเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2013 ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนาร่วมกัน ที่ปูตินได้ย้ำเตือนถึงความเป็นออโธด็อกซ์ที่ผูกพันมาตั้งแต่ ปี 988

    ฝ่ายพ่อค้ายูเครนที่โปรตะวันตก เช่น บริษัท Roshen (ขายขนมทอฟฟี่)
    ปูตินสั่งบอยคอต……ห้ามเข้า
    เขาได้พบกับประธานาธิบดี Yanukovych สองครั้งติดกันในเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายน และบอกตรงๆว่า……ยูเครนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หากคิดที่จะหวังไปร่วมกับยุโรป……รวมทั้ง พลังงานทั้งหลายแหล่ จะต้องถูกตัดขาด……
    เมื่อโดนเข้าไปเต็มๆ……ท่าทีของยานุโควิชที่มีต่อยูโรปได้เปลี่ยนไปไม่กล้าที่จะออกความเห็นหรือตัดสินใจ เขาได้บอกกับทางอียูไปตรงๆว่า
    ยูเครนเป็นหนี้รัสเซียอยู่ แสนหกหมื่นล้านเหรียญ ถ้าทางสภายุโรปมีหนทางที่จะช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้ ยูเครนก็จะได้มีโอกาสทำสัญญาทางการค้าด้วย
    สภายุโรปได้ยินจำนวนเงิน………ก็ลมจับ ไม่เสนอหน้ามาชวนอีกเลย

    แต่ก่อนที่จะโดนปูตินอัดเข้าไป ยานุโควิชได้ทำการโฆษณาให้ความหวังกับประชาชนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะเปิดความสัมพันธ์กับยูโรป และจะพยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสภาอียู
    แต่เมื่อถึงเวลาการประชุม ที่ลิธัวเนีย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน
    ยานุโควิช……ได้ประกาศออกสื่อให้ทราบทั่วกันว่า เขาเปลี่ยนใจแล้ว
    ไม่ขอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสัมพันธ์ทางพานิชย์กับอียู
    อยู่อย่างนี้เหมือนเดิม…
    ผลคือ……ประชาชนออกมาเดินขบวน แน่นหนาเต็มเมือง
    แต่คราวนี้ไม่ใช่ธงสีส้ม……แต่เป็นธงอียูสีฟ้าที่มีดาวเหลืองเป็นวงกลม

    ยานุโควิช……แทบไม่ต้องแก้ไขอะไรเพราะในเวลานั้นเป็นฤดูหนาวที่ใกล้เทศกาลปลายปี ชุมนุมกันก็ได้แค่เดี๋ยวเดียว เขาบินไปจีน ไปทำสัญญาการค้าขาย (แทนยุโรป) ก่อนไปที่จีน เขาแวะพบกับปูตินเพื่อทำการตกลงกันว่า ทางรัสเซียจะให้เงินอุดหนุนสภาพคล่องหมื่นห้าพันล้านเหรียญ
    และลดราคาก๊าส จาก$400 คิวบิตเมตร เป็น $268
    ที่จะเก็บเป็นความลับไปจนกว่าจะถึงวันที่ 9 มีนาคม 2014 ที่ผู้นำทั้งสองจะมีการพบปะกัน แล้วค่อยประกาศอย่างเป็นทางการ………

    เป็นอันว่า…ในยกนี้ ปูตินได้เอาชนะต่อคำเยาะเย้ยของนางคลินตันไปได้

    ตอนนั้นเป็นช่วงที่ใกล้จะเปิดพิธีกีฬาโอลิมปิกที่ Sochi ประมุขของประเทศต่างๆจะเข้ามาเป็นอาคันตุกะ เขาได้ทำการปล่อยนักโทษการเมือง ให้เป็นอิสระ อย่างเช่น Mikhaïl Khodorkovsky ที่จำคุกมาแล้ว10 ปี
    โดยมีการทำสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับการเมืองอีก…… และปลดปล่อยกลุ่มสาวห่าม ***** Riot ตามด้วยกลุ่มที่เคยประท้วงอื่นๆ
    สองวันก่อนที่จะมีพิธีเปิด….กลุ่มนักข่าวสามสิบกว่าคนได้ทำการเขียนข่าวในทำนองว่า เป็นการใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองเพื่อสนองความต้องการของคนคนเดียว……
    ปูตินให้สัมภาษณ์โต้ว่า……”การทำให้คนรักเรา สรรเสริญเรา ชื่นชมเรา นั้นทำไม่ยากเลย..”
    นักข่าวถามว่า ต้องทำอย่างไร?
    คำตอบคือ……ก็เวลาที่เราลดขนาดกองทัพ…ยกพื้นที่ให้เขา…ขายทรัพยากรให้เขาอย่างถูกๆไงล่ะ ……แค่นั้นเขาก็จะรักเรา ดีกับเราสารพัด…!!
    แต่เมื่อพิธีงานเปิดผ่านไป.……คนที่เคยติ……คนที่เคยต่อต้านกลับมาชื่นชมในผลงานและภาคภูมิใจไปตามๆกัน

    สำหรับปูติน.……มันคือการเรียกศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืนมา เฉกเช่นเมื่อครั้ง Yuri Gagarin ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ……และกองทัพแดงได้ชัยชนะในสงครามกับนาซี
    ความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้…ได้ส่งข้ามไปถึงสหรัฐอเมริกา ที่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ไม่ได้เข้ามาร่วม เพราะหนึ่งคือความขัดแย้ง
    สองคือ……ความบาดตาบาดใจ…!!!!


    Wiwanda W. Vichit
    ขออภัยนะคะ……ไปเที่ยวมานิดนึง แต่……ในฐานะติ่งอาวุโส ก็ต้องรีบกลับมาประจำที่ค่าาา……พี่ปูเค้ากำลังฮ็อต…!!! ตอนยี่สิบสอง……เรื่องการแทรกแซงในยูเครนไม่ใช่เรื่องใหม่……ยังไงก็ต้องเป็นสนามรบ……!!! 2013 ในระหว่างที่รัสเซียกำลังพุ่งแรงในเรื่องของเศรษฐกิจและการส่งพลังงาน อเมริกาก็เริ่มอึดอัด……เพราะระหว่างสัมพันธภาพดีๆระหว่างรัสเซียกับอเมริกานั้น……ก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกในสำนักข่าวเท่านั้น ที่เหลือคือ…การคุมเชิงกันแบบไม่กระพริบตา…… โชคได้เข้าข้างปูติน……แบบบุญหล่นทับ……ในวันที่ 23 มิถุนายน 2013 ที่สายการบินแอโรฟลอตได้นำชายอเมริกันคนหนึ่งมาสู่แผ่นดินรัสเซีย เขาคนนั้นคือ Edward Snowden ชายวัย 40 ปี ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมของบริษัท Dell และ Booz Allen Hamilton ที่เป็นบริษัทที่ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของ NSA (National Security Agency) หรือ ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา สโนว์เดน……ได้พบกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐ ด้วยหลักฐานหลายๆอย่างที่มีการดักฟังโทรศัพท์ประชาชน และ ควบคุมเพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในทุกที่ ที่ข้ามไปถึง แคนาดา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เขาได้ข้อมูลไปกระจายใน WikiLeaks และ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เช่น The Guardian, The Washington Post และได้หลบหนีไปยังฮ่องกง เพื่อไปพบกับใครบางคนที่สถานกงสุลรัสเซียที่นั่น…… จากนั้นเขาตั้งใจจะไปที่คิวบา………แต่ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอายัดพาสปอร์ตของเขาและมีหมายจับ……นั่นหมายความว่าเขาจะไปที่ไหนไม่ได้ นอกจากจะต้องส่งกลับ หรือ ต้องติดอยู่ที่สนามบินที่ฮ่องกงเพื่อรอการจับกุมตัว แต่ทางฮ่องกงได้ส่งเขาขึ้นเครื่องบินไปที่มอสโคว์..…ที่ทางรัฐบาลของปูตินปูพรมแดงรอรับ……ที่หัวหน้าของ FSB ไปรอรับด้วยตัวเองในฐานะแขกผู้มีเกียรติและถือว่าเป็นว่าวีรบุรุษ…… ปธน. บารัค โอบามา พยายามที่จะติดต่อขอตัว”ผู้ร้าย” กลับไป โดยอ้างว่าสโนว์เดนเป็นคนขายชาติ และเป็นพิษเป็นภัยกับความมั่นคง รวมทั้งสัญญาว่า……จะไม่มีการทำร้าย หรือ จับไปทารุณกรรม จะดำเนินคดีตามกฏหมายเท่านั้น…… ปูตินตอกกลับไปว่า……เขาไม่ได้มีความผิดอะไรในรัสเซีย และ ด้วยสิทธิมนุษยชน เขามีสิทธิที่จะขออยู่ในรัสเซียได้ เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน ว่าแล้ว…สโนว์เดนก็ได้รับวีซ่าลี้ภัยให้อยู่ในรัสเซียแบบยาวนาน การเปิดเผยความลับของสโนว์เดนนี้ ผู้นำหลายชาติจึงได้ทราบว่า โทรศัพท์ของตัวเองมีการถูกดักฟัง เช่น นางแองเจลา เมอร์เคิล ด้วยระบบ SORM (System of Operative-Investigative Measures) ที่อเมริกาได้สร้างเป็นมุ้งคลุมไว้ทั่วเพื่อเป็นสปายทางระบบใยแก้ว เมื่อความลับจากสโนว์เดนที่แจกแจงออกมาให้ชาวโลกได้ทราบ โอบามายิ่งแค้นปูตินมากขึ้นเป็นทวีคูณ……เขามีกำหนดการที่จะต้องพบกับปูตินในเดือนกันยายน ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในการประชุม G20 แต่…ขอยกเลิก……โดยอ้างกับนักข่าวว่า พบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรัสเซียทำตรงกันข้ามทุกอย่าง เช่นการเท่าเทียมทางกลุ่มรักร่วมเพศ, การลดขนาดการสร้างอาวุธ, ยกเลิกการรับเลี้ยงดูเด็ก และความวุ่นวายที่ตะวันออกกลาง แต่……โอบามาไม่ปริปากในเรื่องการรั่วไหลของความลับที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนั้น… ทางฝ่ายโฆษกของรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่า……ตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง……!!! ผลจากวิกิลีคส์ ที่เผยแพร่ไปได้สร้างความหวั่นไหวให้กับหลายๆชาติ ที่ตอนนี้เริ่มมองเห็นความสำคัญของรัสเซีย เพราะทุกคนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า……รัฐบาลรัสเซียได้ล่วงรู้ข้อมูลลับไปมากน้อยแค่ไหน สายตาทั้งหมดที่มองไปที่สหรัฐอเมริกา……มีแต่ความเคลือบแคลงและหมดความไว้ใจ แม้แต่นิตยสาร Forbes ได้ติดตำแหน่งให้ปูตินเป็นบุคคลที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก บุคคลที่ทรงอานุภาพ……ได้หันมาโฟกัสที่ยูเครนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเมื่อปี 2010 ที่ Viktor Yanukovych ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ได้มีความกลมเกลียวเป็นอันดีกับรัสเซีย แต่พอมาปลายสมัย คือ 2015 เขาเริ่มเปลี่ยนไป……หันไปซบกับตะวันตก ที่กำลังขยายยุโรปมาจนติดชายขอบ เช่น Moldova, Georgia และ Armenia โดยเริ่มจากลงนามในสนธิสัญญาทางการค้า โดยหวังว่าจะต่อยอดไปจนถึงสมาชิกสภายูโรเปี้ยน สำหรับปูติน……การก้าวล่วงมาถึงยูเครน……มันเกินกว่าที่จะรับได้ เพราะเขามองออกว่า……นั่นคือ สิ่งที่ตะวันตกต้องการมากที่สุด คือ พื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นเขตทหารในนามของนาโต้…… และทางพลังงาน……ที่จะเข้ามาควบคุมแหล่งทรัพยากร…… ถ้าเกิดมีสงครามระหว่าง รัสเซียกับอเมริกา (มีความเป็นไปได้สูง) ทางตะวันตกแทบไม่ต้องลงแรงรบเลย เพราะ มีพลังงานให้ใช้ไม่มีหมด มีการหนุนหลังเรื่องเสบียงจากยุโรปไม่อั้น และ สามารถปิดกั้นทะเลบอลติก…… ดังนั้น ยูเครนคือกล่องดวงใจ……ที่ต้องเต้นตามจังหวะของรัสเซียเท่านั้น ปูตินตั้งใจที่จะสร้างกลุ่ม Eurasian Union ขึ้นมา คือ เป็นการรวมตัวของโลกฝั่งตะวันออก ( ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว คือ BRICS) แต่หัวใจสำคัญคือ ยูเครนที่ปูตินถือว่า เป็นดินแดน(เก่าแก่)ต้นกำเนิดของรัสเซียจะต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดตะวันตก….โดยเริ่มความเป็น Eurasian Union จากพรมแดนตรงนั้น…… แต่ไปๆมาๆ…ยูเครนได้หันไปโปรตะวันตกอย่างออกหน้าออกตา โดยเฉพาะกับนางฮิลลารี คลินตันที่เคยออกมาเย้ยเยาะว่า (2012) “ถ้าคิดว่ายูเครนคือหมูในอวย…ฝันไปเถอะ……” ก่อนที่ EU จะรับ Lithuania เข้าไปเป็นสมาชิก อียูได้หันมาเร่งให้ยูเครนรีบเซ็นสัญญาค้าขายกันเสียก่อน เพื่อจะได้เอาไว้เป็นเครดิตว่ามีกิจกรรมกับทางยุโรป ปูตินพยายามคัดค้าน และพยายามไปเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2013 ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนาร่วมกัน ที่ปูตินได้ย้ำเตือนถึงความเป็นออโธด็อกซ์ที่ผูกพันมาตั้งแต่ ปี 988 ฝ่ายพ่อค้ายูเครนที่โปรตะวันตก เช่น บริษัท Roshen (ขายขนมทอฟฟี่) ปูตินสั่งบอยคอต……ห้ามเข้า เขาได้พบกับประธานาธิบดี Yanukovych สองครั้งติดกันในเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายน และบอกตรงๆว่า……ยูเครนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หากคิดที่จะหวังไปร่วมกับยุโรป……รวมทั้ง พลังงานทั้งหลายแหล่ จะต้องถูกตัดขาด…… เมื่อโดนเข้าไปเต็มๆ……ท่าทีของยานุโควิชที่มีต่อยูโรปได้เปลี่ยนไปไม่กล้าที่จะออกความเห็นหรือตัดสินใจ เขาได้บอกกับทางอียูไปตรงๆว่า ยูเครนเป็นหนี้รัสเซียอยู่ แสนหกหมื่นล้านเหรียญ ถ้าทางสภายุโรปมีหนทางที่จะช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้ ยูเครนก็จะได้มีโอกาสทำสัญญาทางการค้าด้วย สภายุโรปได้ยินจำนวนเงิน………ก็ลมจับ ไม่เสนอหน้ามาชวนอีกเลย แต่ก่อนที่จะโดนปูตินอัดเข้าไป ยานุโควิชได้ทำการโฆษณาให้ความหวังกับประชาชนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะเปิดความสัมพันธ์กับยูโรป และจะพยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสภาอียู แต่เมื่อถึงเวลาการประชุม ที่ลิธัวเนีย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ยานุโควิช……ได้ประกาศออกสื่อให้ทราบทั่วกันว่า เขาเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ขอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสัมพันธ์ทางพานิชย์กับอียู อยู่อย่างนี้เหมือนเดิม… ผลคือ……ประชาชนออกมาเดินขบวน แน่นหนาเต็มเมือง แต่คราวนี้ไม่ใช่ธงสีส้ม……แต่เป็นธงอียูสีฟ้าที่มีดาวเหลืองเป็นวงกลม ยานุโควิช……แทบไม่ต้องแก้ไขอะไรเพราะในเวลานั้นเป็นฤดูหนาวที่ใกล้เทศกาลปลายปี ชุมนุมกันก็ได้แค่เดี๋ยวเดียว เขาบินไปจีน ไปทำสัญญาการค้าขาย (แทนยุโรป) ก่อนไปที่จีน เขาแวะพบกับปูตินเพื่อทำการตกลงกันว่า ทางรัสเซียจะให้เงินอุดหนุนสภาพคล่องหมื่นห้าพันล้านเหรียญ และลดราคาก๊าส จาก$400 คิวบิตเมตร เป็น $268 ที่จะเก็บเป็นความลับไปจนกว่าจะถึงวันที่ 9 มีนาคม 2014 ที่ผู้นำทั้งสองจะมีการพบปะกัน แล้วค่อยประกาศอย่างเป็นทางการ……… เป็นอันว่า…ในยกนี้ ปูตินได้เอาชนะต่อคำเยาะเย้ยของนางคลินตันไปได้ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ใกล้จะเปิดพิธีกีฬาโอลิมปิกที่ Sochi ประมุขของประเทศต่างๆจะเข้ามาเป็นอาคันตุกะ เขาได้ทำการปล่อยนักโทษการเมือง ให้เป็นอิสระ อย่างเช่น Mikhaïl Khodorkovsky ที่จำคุกมาแล้ว10 ปี โดยมีการทำสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับการเมืองอีก…… และปลดปล่อยกลุ่มสาวห่าม Pussy Riot ตามด้วยกลุ่มที่เคยประท้วงอื่นๆ สองวันก่อนที่จะมีพิธีเปิด….กลุ่มนักข่าวสามสิบกว่าคนได้ทำการเขียนข่าวในทำนองว่า เป็นการใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองเพื่อสนองความต้องการของคนคนเดียว…… ปูตินให้สัมภาษณ์โต้ว่า……”การทำให้คนรักเรา สรรเสริญเรา ชื่นชมเรา นั้นทำไม่ยากเลย..” นักข่าวถามว่า ต้องทำอย่างไร? คำตอบคือ……ก็เวลาที่เราลดขนาดกองทัพ…ยกพื้นที่ให้เขา…ขายทรัพยากรให้เขาอย่างถูกๆไงล่ะ ……แค่นั้นเขาก็จะรักเรา ดีกับเราสารพัด…!! แต่เมื่อพิธีงานเปิดผ่านไป.……คนที่เคยติ……คนที่เคยต่อต้านกลับมาชื่นชมในผลงานและภาคภูมิใจไปตามๆกัน สำหรับปูติน.……มันคือการเรียกศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืนมา เฉกเช่นเมื่อครั้ง Yuri Gagarin ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ……และกองทัพแดงได้ชัยชนะในสงครามกับนาซี ความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้…ได้ส่งข้ามไปถึงสหรัฐอเมริกา ที่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ไม่ได้เข้ามาร่วม เพราะหนึ่งคือความขัดแย้ง สองคือ……ความบาดตาบาดใจ…!!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นี่ไงเอาเอาหลักต๋านมาก็หาว่าตัดแต่งข้อความ
    อิโจ และบรรดาทุยทั้งหลาย
    เมิงอ่านดีๆนะ ข้อความที่แคป มันไม่ได้เห็นแค่กรรรูคนเดียว
    เค้าเห็นกันทั่ว แม้จะลบ ก็ตามได้
    เอางี้มั๊ย ให้อิโจสาบานก็ได้ ว่าข้อความนี้มันไม่ได้พิมพ์
    ถ้ามันพิมพ์ ของให้มันตกขาวจนตุยมั๊ย เอามั๊ย
    ไม่คิดเลย โจ จบม.ต้น ป๋วยจิต เฉบติดดราม่า ทำอะไรก็ล้มเหลว
    จะเลือกเวย์ออกแบบนี้ หาหลักฐานมาโชว์
    ก็บอก ตัดต่ออักษร อิฟาย สำนวนเมิงอะ มีลายเซ็น
    ใครอ่านก็รู้ว่า น้ำเน่าแบบนี้ คือฝีมือ โจมณทนี
    555555555555555555555
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #นี่ไงเอาเอาหลักต๋านมาก็หาว่าตัดแต่งข้อความ อิโจ และบรรดาทุยทั้งหลาย เมิงอ่านดีๆนะ ข้อความที่แคป มันไม่ได้เห็นแค่กรรรูคนเดียว เค้าเห็นกันทั่ว แม้จะลบ ก็ตามได้ เอางี้มั๊ย ให้อิโจสาบานก็ได้ ว่าข้อความนี้มันไม่ได้พิมพ์ ถ้ามันพิมพ์ ของให้มันตกขาวจนตุยมั๊ย เอามั๊ย ไม่คิดเลย โจ จบม.ต้น ป๋วยจิต เฉบติดดราม่า ทำอะไรก็ล้มเหลว จะเลือกเวย์ออกแบบนี้ หาหลักฐานมาโชว์ ก็บอก ตัดต่ออักษร อิฟาย สำนวนเมิงอะ มีลายเซ็น ใครอ่านก็รู้ว่า น้ำเน่าแบบนี้ คือฝีมือ โจมณทนี 555555555555555555555 #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 611 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ส่งสารจากคิงส์โพธิ์แดง
    #ถึงเอเจนซี่ตตและกลุ่มทุนดาร์ค
    สวัสดี เราไม่เคยได้สื่อสารกัน ตั้งแต่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้เปิดเรื่องราวของพวกท่าน สู่สาธารณะและพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ จนส่งผลให้ท่านต้องหยุดกิจกรรมการฟอก ผ่านบิ๊กแม๊ต และตำแต่งบช และนำออกมาเสียภาษี จนได้เป็นเงินขาวสะอาดไประยะเวลานานพอสมควร
    - จากปฐมบทจริงๆ ที่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้มาขุดเรื่องนี้ คือการเห็นนักแสดงชายคือแน๊กชาลี ที่เราเห็นน้องคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆ และคนไทยได้ดูการเติบโตของน้อง ได้เห็นความดีในตัวของน้อง ได้ออกมาพูดคุยด้วยความอัดอั้น จากการถูกรังแก จากใครก็ไม่รู้ ทำให้พี่คิงส์ต้องสืบค้นหาข้อมูลอย่างมโหฬาร จึงรู้ว่า มีนังโจมณฑนี เป็นผู้อยู่เบื้องหลักการให้ร้ายน้อง กับการบรรยายมาราธอน ดุจเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง โรคะจิตตะ นาซิซีส ซึ่งไม่ว่านังคนนี้บรรยายห้องไหนในโซเชียล ในคอมเม้นต่างก็ชี้เป้าไปที่ น้องแน๊กชาลี ถึงนังโจจะไม่เอ่ยชื่อ แต่ใช้คำแทนต่างๆที่ทุกคนในกลุ่มของอินังนี่ พูดใช้ถ้อยคำหยาบกับน้องแน๊กในหลายกรรม หลายวาระ เพียงเป้าหมายจะยกตัวแสดงของคุณ คือ จีกามิน ให้เป็นตัวละครที่น่าสงสาร
    - เพจคิงส์โพธิ์แดง เราไม่ได้เพิ่งจะเริ่มทำเพจ เราทำมานานมาก และเราไปเปิดความจริงกับผู้มีอำนาจที่ปะปนความทุจจริต มีทั้งกลุ่มฟอก ที่เป็น ตร. ทะนาย หรือนกม. และเราไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
    - ลำดับถัดมา ที่เรายิ่งต้องขุดความจริงคือ การโพสท้าทายจากโจมณฑนี ที่ข๋มขุ่เพจคิงส์โพธิ์แดง ว่าถ้าหากเราเปิดเรื่องนี้ อินังนี่จะฟ๊อง ซึ่งเพจเรา ไม่ชอบการถูกข๋มขุ่ มันจึงเป็นพลังในการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ
    - หลังจากการที่เราได้เปิดเผยความจริง ว่าคุณที่เป็นตัวใหญ่ คือกลุ่มทุนดาร์คที่ระเห็ดจาก ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียประเทศอื่นๆ หวังมาใช้ไทยเป็นฐานฟอก จริงๆแล้ว ภาระกิจเรื่องนี้ของเราก็เสร็จสิ้นแล้ว เพราะคุณเองก็น่าจะทราบความเคลื่นอไหวของ สตช.ระดับหนึ่ง ทั้งปปง. สตช. ต่างกำลังสืบเส้นเงินพวกคุณและเครือข่ายอยู่ มันจึงถือว่าจบภาระกิจ
    - แต่ โจมณทนี กลับเปิดหน้า ไปร่วมมือกับเพจที่ชื่อ Diy reviwe v2 ที่เจ้าของเพจ เป็นผู้สูงอายุที่ไร้คุณภาพ เหมือนเพจที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเป็นที่พ่น บ่น ระบาย ของคนวัยเฒ่า พยายามยั่วยุเพจเรา ให้เดินเรื่องขุดต่อ โดยโจมณฑนี มันคอมเม้นให้กำลังใจ กับเพจนี้เสมอในการยั่วให้เราเปิดความจริงที่ลึกลงไปอีกเรื่องๆ
    - ทั้งๆที่เพจคิงส์โพธิ์แดงเอง ก็เคยโพสแถลงการไปแล้วด้วยซ้ำ ผู้บริหารเอเจนซี่และกลุ่มทุนดาร์ค ทั้งในประเทศ888และข้ามชาติ ไปดูที่ปักหมุดไว้ได้ ว่าเราต้องการนำเสนอข่าวอื่นๆที่เป็นประโยชน์กับคนไทย
    - แต่เราก็หยุดไม่ได้จริงๆ เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุดขุดเรื่องพวกคุณเพิ่ม โจมณฑนีจะใช้ เฒ่าตันหากลับแอดมินเพจกากดังกล่าว มายั่วเราทันที เช่น ไหนจะขุดต่อ หรือ กลัวหรืออย่างไร อะไรประมาณนี้ จนเพจคิงส์ตัดปัญหาเพราะความหยะแหยงในภาษาในการโพสไร้สาระ เช่น จีบวัยรุ่นที่เป็นลูกเพจ เพ้อเพราะลูกเพจสาวทิ้ง และสำนวนภาษาชั้นต๋ำที่ไม่อยากจะเอ่ยถึงให้ไปดูเอาเองก็แล้วกัน
    - จนล่าสุด เมื่อวานนี้ เราตั้งใจจะพักเรื่องนี้เพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ดาราสาวที่กำลังจะเดินทางผิดไปสู่ก้นเหว ก็อย่างที่บอก ข้อมูลที่สำคัญของพวกคุณ ส่วนสำคัญๆมันเป็นที่ประจักษ์กับคนไทยแล้ว ก็เลยจะดูข้อมูลส่วนอื่น แต่โจมณฑนีอีกแล้ว กลับออกมาท้าทายผ่านคอมเม้นของเพจเฒ่าตันหากลับว่า "เพจคิงคองแดง ไม่ใจ ไม่ใจเลย" ถึงสำนวนสก็อยแต่คิงส์ฯอ่านเข้าใจไม่ยาก ว่านี่คือการท้าทาย เราจึงได้ชัดไปชุดเล็กๆ และก็นังโจมณฑนี่อีกนี่แหละ ที่ไปโพส สม ออย ว่าตัวเองถูกรังงแก เช้ามาท้าทาย บ่ายมาร้องโฮ
    - ดังนัั้น จึงขอแจ้งไปยังกลุ่มทุนดาร์ค และเอเจนซี่ของเครื่อข่ายฟอกว่า ถึงแม้ว่า ข้อมูลสำคัญเราได้เปิดไปหมดแล้ว แต่เราก็ยังหยุดไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะคุณเลือกคนที่มีความเหมาะสมมากที่มาทำงานปกป้องพวกคุณ โดยว่าจ้าง โจมณฑนี อดีตสก็อยใจแตก วุฒิแค่ม.ต้น มาทำงานใหญ่ของพวกคุณ เพราะ โจมณฑนี นี่แหละ ที่จะทำให้พวกคุณพัง ไม่ได้พังน้อยๆ แต่จะพังทั้ง ขบก. เพราะโจมณฑนี จะคัดคนมาเป็นมือซ้ายมือขวา ก็คงไม่สามารถหากุนซือที่มีสติปัญญามาได้ จะหาได้ก็แค่ตามพื้นถนน เช่น ชายวัยสามสิบ ชื่อเป็ด ที่ไม่มีแก่นสาร เป็นคนที่มีความหี่น กัมหนัดท่วมท้น เป็นคนมีประวัติอันเสื่อมเสีย เคยวิ่งงานไรเดอร์ ก็เชิดจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน วันนี้ ก็ได้เศษเงินจากกลุ่มทุนดาร์ค อย่างพวกคุณนี่แหละ มาปั่น มาหยาบ จนคนจำนวนไม่น้อง รู้สึกหยะแหย๋ง จีกามินของคุณ เพราะสะสมแต่คนกักกขละ สถูนแบบนี้
    สรุป เพจคิงส์โพธิ์แดง จะขอบคุณสำหรับการเลือกคนที่ถูกต้องมาทำงานนี้ ทำให้เรา หยุดที่จะขุดความจริงต่อไม่ได้ คุณจงสั่งให้เค้าท้าทายเราต่อไป และให้ข๋มขุ่เราให้มากกว่านี้ เพื่อที่เราจะยังได้ไม่เบนเข็มทิศไปเรื่องอื่น และยังคงต้องอยู่กับเรื่องของพวกคุณไปอีกนานๆ เอาให้ถึงก้นบึ้งของสตอรี่พวกคุณอย่างแท้จริง
    "โจ มณฑนี จะทำให้พังทั้งขบก" เยี่ยมไปเลย คัดคนได้ดี
    แจ้งเพื่อทราบ
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #ส่งสารจากคิงส์โพธิ์แดง #ถึงเอเจนซี่ตตและกลุ่มทุนดาร์ค สวัสดี เราไม่เคยได้สื่อสารกัน ตั้งแต่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้เปิดเรื่องราวของพวกท่าน สู่สาธารณะและพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ จนส่งผลให้ท่านต้องหยุดกิจกรรมการฟอก ผ่านบิ๊กแม๊ต และตำแต่งบช และนำออกมาเสียภาษี จนได้เป็นเงินขาวสะอาดไประยะเวลานานพอสมควร - จากปฐมบทจริงๆ ที่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้มาขุดเรื่องนี้ คือการเห็นนักแสดงชายคือแน๊กชาลี ที่เราเห็นน้องคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆ และคนไทยได้ดูการเติบโตของน้อง ได้เห็นความดีในตัวของน้อง ได้ออกมาพูดคุยด้วยความอัดอั้น จากการถูกรังแก จากใครก็ไม่รู้ ทำให้พี่คิงส์ต้องสืบค้นหาข้อมูลอย่างมโหฬาร จึงรู้ว่า มีนังโจมณฑนี เป็นผู้อยู่เบื้องหลักการให้ร้ายน้อง กับการบรรยายมาราธอน ดุจเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง โรคะจิตตะ นาซิซีส ซึ่งไม่ว่านังคนนี้บรรยายห้องไหนในโซเชียล ในคอมเม้นต่างก็ชี้เป้าไปที่ น้องแน๊กชาลี ถึงนังโจจะไม่เอ่ยชื่อ แต่ใช้คำแทนต่างๆที่ทุกคนในกลุ่มของอินังนี่ พูดใช้ถ้อยคำหยาบกับน้องแน๊กในหลายกรรม หลายวาระ เพียงเป้าหมายจะยกตัวแสดงของคุณ คือ จีกามิน ให้เป็นตัวละครที่น่าสงสาร - เพจคิงส์โพธิ์แดง เราไม่ได้เพิ่งจะเริ่มทำเพจ เราทำมานานมาก และเราไปเปิดความจริงกับผู้มีอำนาจที่ปะปนความทุจจริต มีทั้งกลุ่มฟอก ที่เป็น ตร. ทะนาย หรือนกม. และเราไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว - ลำดับถัดมา ที่เรายิ่งต้องขุดความจริงคือ การโพสท้าทายจากโจมณฑนี ที่ข๋มขุ่เพจคิงส์โพธิ์แดง ว่าถ้าหากเราเปิดเรื่องนี้ อินังนี่จะฟ๊อง ซึ่งเพจเรา ไม่ชอบการถูกข๋มขุ่ มันจึงเป็นพลังในการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ - หลังจากการที่เราได้เปิดเผยความจริง ว่าคุณที่เป็นตัวใหญ่ คือกลุ่มทุนดาร์คที่ระเห็ดจาก ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียประเทศอื่นๆ หวังมาใช้ไทยเป็นฐานฟอก จริงๆแล้ว ภาระกิจเรื่องนี้ของเราก็เสร็จสิ้นแล้ว เพราะคุณเองก็น่าจะทราบความเคลื่นอไหวของ สตช.ระดับหนึ่ง ทั้งปปง. สตช. ต่างกำลังสืบเส้นเงินพวกคุณและเครือข่ายอยู่ มันจึงถือว่าจบภาระกิจ - แต่ โจมณทนี กลับเปิดหน้า ไปร่วมมือกับเพจที่ชื่อ Diy reviwe v2 ที่เจ้าของเพจ เป็นผู้สูงอายุที่ไร้คุณภาพ เหมือนเพจที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเป็นที่พ่น บ่น ระบาย ของคนวัยเฒ่า พยายามยั่วยุเพจเรา ให้เดินเรื่องขุดต่อ โดยโจมณฑนี มันคอมเม้นให้กำลังใจ กับเพจนี้เสมอในการยั่วให้เราเปิดความจริงที่ลึกลงไปอีกเรื่องๆ - ทั้งๆที่เพจคิงส์โพธิ์แดงเอง ก็เคยโพสแถลงการไปแล้วด้วยซ้ำ ผู้บริหารเอเจนซี่และกลุ่มทุนดาร์ค ทั้งในประเทศ888และข้ามชาติ ไปดูที่ปักหมุดไว้ได้ ว่าเราต้องการนำเสนอข่าวอื่นๆที่เป็นประโยชน์กับคนไทย - แต่เราก็หยุดไม่ได้จริงๆ เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุดขุดเรื่องพวกคุณเพิ่ม โจมณฑนีจะใช้ เฒ่าตันหากลับแอดมินเพจกากดังกล่าว มายั่วเราทันที เช่น ไหนจะขุดต่อ หรือ กลัวหรืออย่างไร อะไรประมาณนี้ จนเพจคิงส์ตัดปัญหาเพราะความหยะแหยงในภาษาในการโพสไร้สาระ เช่น จีบวัยรุ่นที่เป็นลูกเพจ เพ้อเพราะลูกเพจสาวทิ้ง และสำนวนภาษาชั้นต๋ำที่ไม่อยากจะเอ่ยถึงให้ไปดูเอาเองก็แล้วกัน - จนล่าสุด เมื่อวานนี้ เราตั้งใจจะพักเรื่องนี้เพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ดาราสาวที่กำลังจะเดินทางผิดไปสู่ก้นเหว ก็อย่างที่บอก ข้อมูลที่สำคัญของพวกคุณ ส่วนสำคัญๆมันเป็นที่ประจักษ์กับคนไทยแล้ว ก็เลยจะดูข้อมูลส่วนอื่น แต่โจมณฑนีอีกแล้ว กลับออกมาท้าทายผ่านคอมเม้นของเพจเฒ่าตันหากลับว่า "เพจคิงคองแดง ไม่ใจ ไม่ใจเลย" ถึงสำนวนสก็อยแต่คิงส์ฯอ่านเข้าใจไม่ยาก ว่านี่คือการท้าทาย เราจึงได้ชัดไปชุดเล็กๆ และก็นังโจมณฑนี่อีกนี่แหละ ที่ไปโพส สม ออย ว่าตัวเองถูกรังงแก เช้ามาท้าทาย บ่ายมาร้องโฮ - ดังนัั้น จึงขอแจ้งไปยังกลุ่มทุนดาร์ค และเอเจนซี่ของเครื่อข่ายฟอกว่า ถึงแม้ว่า ข้อมูลสำคัญเราได้เปิดไปหมดแล้ว แต่เราก็ยังหยุดไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะคุณเลือกคนที่มีความเหมาะสมมากที่มาทำงานปกป้องพวกคุณ โดยว่าจ้าง โจมณฑนี อดีตสก็อยใจแตก วุฒิแค่ม.ต้น มาทำงานใหญ่ของพวกคุณ เพราะ โจมณฑนี นี่แหละ ที่จะทำให้พวกคุณพัง ไม่ได้พังน้อยๆ แต่จะพังทั้ง ขบก. เพราะโจมณฑนี จะคัดคนมาเป็นมือซ้ายมือขวา ก็คงไม่สามารถหากุนซือที่มีสติปัญญามาได้ จะหาได้ก็แค่ตามพื้นถนน เช่น ชายวัยสามสิบ ชื่อเป็ด ที่ไม่มีแก่นสาร เป็นคนที่มีความหี่น กัมหนัดท่วมท้น เป็นคนมีประวัติอันเสื่อมเสีย เคยวิ่งงานไรเดอร์ ก็เชิดจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน วันนี้ ก็ได้เศษเงินจากกลุ่มทุนดาร์ค อย่างพวกคุณนี่แหละ มาปั่น มาหยาบ จนคนจำนวนไม่น้อง รู้สึกหยะแหย๋ง จีกามินของคุณ เพราะสะสมแต่คนกักกขละ สถูนแบบนี้ สรุป เพจคิงส์โพธิ์แดง จะขอบคุณสำหรับการเลือกคนที่ถูกต้องมาทำงานนี้ ทำให้เรา หยุดที่จะขุดความจริงต่อไม่ได้ คุณจงสั่งให้เค้าท้าทายเราต่อไป และให้ข๋มขุ่เราให้มากกว่านี้ เพื่อที่เราจะยังได้ไม่เบนเข็มทิศไปเรื่องอื่น และยังคงต้องอยู่กับเรื่องของพวกคุณไปอีกนานๆ เอาให้ถึงก้นบึ้งของสตอรี่พวกคุณอย่างแท้จริง "โจ มณฑนี จะทำให้พังทั้งขบก" เยี่ยมไปเลย คัดคนได้ดี แจ้งเพื่อทราบ #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 638 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อินังโจมณฑนีเมิงนี่ต้องไปเช็คสมงสะหมองแล้วนะ
    เมื่อเช้า กรรูก็นิ่งๆ สบายๆจะพักขุดซักวันอยู่ดีๆ
    แค่กรรูบล็อคเพจไอ่เฒ่าลุงตันหากลับเพราะหยะแหย๋ง
    เมิงก็ไปคอมเม้นท้าทาย ว่าไม่ใจเลย เออเอากะเมิง
    -----
    พอกรรูจัดให้ตามความ Want บ่ายเมิงก็มาตีบทดราม่าอีก
    สรุป นอกจากเฉบติดดราม่าแล้ว เมิงยังเป็น ไบ-โพ-ล่า ด้วยมั๊ย
    เมิงบอก อิเหม็นถามเมิงทุกวันเป็นยังไง
    เมิงก็บอกมันไปตรงๆดิ เมิงแกว่งทรีนนนหาเสี้ยนเอง
    อยู่ดีไม่ว่าดี แล้วก็จริงแหละ ทั้งขบก.นะ
    จะพังเพราะเมิงนี่แหละโจ ทั้งเปิดหน้าซัพพอตคนที่
    โพสเล่นงานแน๊กชาลี แถมยังสอนให้มันซื้อแอด
    เมิงดิ้นไม่ออกหรอก สะสมแต่คนกากๆแบบขากทุ๊ย
    ทั้งไอ่เป็ด ทั้งไอ่เฒ่าตันหากลับ นี่ก็เป็นที่ประจักษ์
    เมิงทำตัวเป็น ศ.ดร.ทั้งๆที่จบแค่วุฒ มอต้น นี่ก็ของแท้
    กรรรูปั่นตรงไหน มันไม่จริงตรงไหน
    เมิงบรรยาย นาซีซีสห่านอะไรนั่น เมิงไม่เอ่ยชื่อ
    แต่ไปดูคอมเม้นสิ อิด็อกท็อง หยาบถึงแน็กนี่ฉ่ำโบ๊ะมาก
    มันสื่อถึงอะไร
    แล้วที่กรรรูบอกว่า ขบก.นี้ จะพังเพราะโจ
    มันมีอะไรไม่จริง ส่วนใหญ่ เมิง ไอ่เป็ด ไอ่เฒ่า
    ก็หลุดกันมาเอง อันไหนไม่จริง
    สำนวนที่เมิงเป็นวาทะกรรมที่เคยพูด เคยพิมพ์
    ว่อนอยู่กับยูซผี ในx รวมถึงอีกเยอะ ที่มันก็หลักฐานทั้งนั้น
    โดยเฉพาะ วันนี้ พี่คิงส์ไม่ได้พูดเอาฮา กรรูนิ่งมาก
    เป็นวันที่ตั้งใจว่า จะสบายๆวันนึง แต่เมิ๊ง ก็ไม่วาย
    ต้องให้กรรูลุกขึ้นมาขุดต่อ จะรายงานนายหญิงเมิงอะ
    ช่วยรายงานให้ตรงๆหน่อย กรรูบอกแล้ว
    ถ้าขบก.พวกเมิง พัง เอเจนซี่พัง
    ไม่ใช่เพราะคนอื่น เพราะเมิงแหละอิโจ
    โจ ทำให้ทุกอย่างพัง
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #อินังโจมณฑนีเมิงนี่ต้องไปเช็คสมงสะหมองแล้วนะ เมื่อเช้า กรรูก็นิ่งๆ สบายๆจะพักขุดซักวันอยู่ดีๆ แค่กรรูบล็อคเพจไอ่เฒ่าลุงตันหากลับเพราะหยะแหย๋ง เมิงก็ไปคอมเม้นท้าทาย ว่าไม่ใจเลย เออเอากะเมิง ----- พอกรรูจัดให้ตามความ Want บ่ายเมิงก็มาตีบทดราม่าอีก สรุป นอกจากเฉบติดดราม่าแล้ว เมิงยังเป็น ไบ-โพ-ล่า ด้วยมั๊ย เมิงบอก อิเหม็นถามเมิงทุกวันเป็นยังไง เมิงก็บอกมันไปตรงๆดิ เมิงแกว่งทรีนนนหาเสี้ยนเอง อยู่ดีไม่ว่าดี แล้วก็จริงแหละ ทั้งขบก.นะ จะพังเพราะเมิงนี่แหละโจ ทั้งเปิดหน้าซัพพอตคนที่ โพสเล่นงานแน๊กชาลี แถมยังสอนให้มันซื้อแอด เมิงดิ้นไม่ออกหรอก สะสมแต่คนกากๆแบบขากทุ๊ย ทั้งไอ่เป็ด ทั้งไอ่เฒ่าตันหากลับ นี่ก็เป็นที่ประจักษ์ เมิงทำตัวเป็น ศ.ดร.ทั้งๆที่จบแค่วุฒ มอต้น นี่ก็ของแท้ กรรรูปั่นตรงไหน มันไม่จริงตรงไหน เมิงบรรยาย นาซีซีสห่านอะไรนั่น เมิงไม่เอ่ยชื่อ แต่ไปดูคอมเม้นสิ อิด็อกท็อง หยาบถึงแน็กนี่ฉ่ำโบ๊ะมาก มันสื่อถึงอะไร แล้วที่กรรรูบอกว่า ขบก.นี้ จะพังเพราะโจ มันมีอะไรไม่จริง ส่วนใหญ่ เมิง ไอ่เป็ด ไอ่เฒ่า ก็หลุดกันมาเอง อันไหนไม่จริง สำนวนที่เมิงเป็นวาทะกรรมที่เคยพูด เคยพิมพ์ ว่อนอยู่กับยูซผี ในx รวมถึงอีกเยอะ ที่มันก็หลักฐานทั้งนั้น โดยเฉพาะ วันนี้ พี่คิงส์ไม่ได้พูดเอาฮา กรรูนิ่งมาก เป็นวันที่ตั้งใจว่า จะสบายๆวันนึง แต่เมิ๊ง ก็ไม่วาย ต้องให้กรรูลุกขึ้นมาขุดต่อ จะรายงานนายหญิงเมิงอะ ช่วยรายงานให้ตรงๆหน่อย กรรูบอกแล้ว ถ้าขบก.พวกเมิง พัง เอเจนซี่พัง ไม่ใช่เพราะคนอื่น เพราะเมิงแหละอิโจ โจ ทำให้ทุกอย่างพัง อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌สหรัฐฯยังคงควบคุมอิสราเอลต่อไป แม้จะทำผิดก็ตาม📌

    อิหร่านยิงขีปนาวุธอย่างน้อย ๑๘๐ ลูก เข้าไปในอิสราเอลเมื่อวันอังคาร ขณะที่ภูมิภาคนี้กำลังเข้าสู่ภาวะตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนอาจส่งผลให้ตะวันออกกลางเข้าสู่สงครามที่กว้างขึ้น ตามรายงานระบุว่า, ชาวอิสราเอล “รีบหาที่หลบภัยขณะที่เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นและแสงสีส้มของขีปนาวุธพุ่งผ่านท้องฟ้า,” หลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้

    💬 “ผมคิดว่ากลยุทธ์ของอิสราเอลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคือการพยายามดึงสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรงมากขึ้นในฝั่งของอิสราเอล [ประธานาธิบดีมาซูด] เปเซชเคียนและรัฐบาลอิหร่านได้แสดงให้เห็นถึงความอดกลั้นอย่างยิ่ง ความอดกลั้นอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับการโจมตีโดยตรงจากอิสราเอล,” จอห์น คิริอากู, อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอและผู้ร่วมดำเนินรายการ Sputnik’s Political Misfits, กล่าวกับ Sputnik’s Fault Lines

    อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอกล่าวเสริมว่ารัฐบาลอิหร่านอยู่ภายใต้ “แรงกดดันอย่างหนัก” จากประชาชนให้ดำเนินการเมื่อเผชิญกับความรุนแรงของอิสราเอล, ซึ่งเราต้องเริ่มคิดว่า “ปลอดภัยสำหรับรัฐบาลอิหร่าน” หรือไม่ที่จะไม่ตอบโต้

    💬 “ขอพูดให้ชัดเจนว่า, [สหรัฐฯ] พูดจากทั้งสองด้าน สหรัฐฯบอกว่าต้องการหยุดยิง, แต่, ในทางกลับกัน, สหรัฐฯยังคงให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุน, และมีการอ้างอื่นๆจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าสหรัฐฯจะสนับสนุนอิสราเอลหากอิสราเอลเข้าไปในเลบานอน,” ไมเคิล มาลูฟ อดีตนักวิเคราะห์นโยบายความมั่นคงอาวุโสในสำนักงานรัฐมนตรีกลาโหม, ซึ่งให้สัมภาษณ์กับ Fault Lines อีกด้วย กล่าวเสริม

    💬 “อิสราเอลเพิกเฉยต่อคำเตือนของสหรัฐฯทั้งหมด, และพวกเขารู้ดีว่า สหรัฐฯจะไม่ทำอะไรเลย,” มาลูฟกล่าวเสริม
    .
    US continues to hand-hold Israel despite its wrongdoings

    Iran launched at least 180 missiles into Israel on Tuesday as the region has entered a growing escalation that is threatening to push the Middle East into a wider war. According to reports, Israelis “scrambled for bomb shelters as air raid sirens sounded and the orange glow of missiles streaked across the sky," following Iran's retaliatory missile launch.

    💬 “I think that the strategy on the part of the Israelis for the past many months has been to try to draw the US more directly into the conflict on Israel's side. [President Masoud] Pezeshkian and the Iranian government have shown great restraint. Great restraint in the face of direct attacks from the Israelis,” John Kiriakou, a former CIA officer and co-host of Sputnik’s Political Misfits, told Sputnik’s Fault Lines.

    The former CIA officer added that the Iranian government is under “great pressure” from its public to act in the face of Israel's violence, where one has to start thinking about whether or not it’s “safe for the Iranian government" not to respond.

    💬 “Let's be clear, [the US] speak out of both ends of their mouth. The US says it wants a ceasefire, but, on the other hand, it continues providing the assistance and backing, and with other claims made by US officials that they will back Israel should it go into Lebanon,” added Michael Maloof, a former senior security policy analyst in the Office of the Secretary of Defense, who also spoke to Fault Lines.

    💬 “The Israelis are ignoring all cautionaries from the US, and they know that the United States will do nothing,” Maloof added.
    .
    11:46 AM · Oct 4, 2024 · 3,009 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1842063800360489097
    📌สหรัฐฯยังคงควบคุมอิสราเอลต่อไป แม้จะทำผิดก็ตาม📌 อิหร่านยิงขีปนาวุธอย่างน้อย ๑๘๐ ลูก เข้าไปในอิสราเอลเมื่อวันอังคาร ขณะที่ภูมิภาคนี้กำลังเข้าสู่ภาวะตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนอาจส่งผลให้ตะวันออกกลางเข้าสู่สงครามที่กว้างขึ้น ตามรายงานระบุว่า, ชาวอิสราเอล “รีบหาที่หลบภัยขณะที่เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นและแสงสีส้มของขีปนาวุธพุ่งผ่านท้องฟ้า,” หลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้ 💬 “ผมคิดว่ากลยุทธ์ของอิสราเอลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคือการพยายามดึงสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรงมากขึ้นในฝั่งของอิสราเอล [ประธานาธิบดีมาซูด] เปเซชเคียนและรัฐบาลอิหร่านได้แสดงให้เห็นถึงความอดกลั้นอย่างยิ่ง ความอดกลั้นอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับการโจมตีโดยตรงจากอิสราเอล,” จอห์น คิริอากู, อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอและผู้ร่วมดำเนินรายการ Sputnik’s Political Misfits, กล่าวกับ Sputnik’s Fault Lines อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอกล่าวเสริมว่ารัฐบาลอิหร่านอยู่ภายใต้ “แรงกดดันอย่างหนัก” จากประชาชนให้ดำเนินการเมื่อเผชิญกับความรุนแรงของอิสราเอล, ซึ่งเราต้องเริ่มคิดว่า “ปลอดภัยสำหรับรัฐบาลอิหร่าน” หรือไม่ที่จะไม่ตอบโต้ 💬 “ขอพูดให้ชัดเจนว่า, [สหรัฐฯ] พูดจากทั้งสองด้าน สหรัฐฯบอกว่าต้องการหยุดยิง, แต่, ในทางกลับกัน, สหรัฐฯยังคงให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุน, และมีการอ้างอื่นๆจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าสหรัฐฯจะสนับสนุนอิสราเอลหากอิสราเอลเข้าไปในเลบานอน,” ไมเคิล มาลูฟ อดีตนักวิเคราะห์นโยบายความมั่นคงอาวุโสในสำนักงานรัฐมนตรีกลาโหม, ซึ่งให้สัมภาษณ์กับ Fault Lines อีกด้วย กล่าวเสริม 💬 “อิสราเอลเพิกเฉยต่อคำเตือนของสหรัฐฯทั้งหมด, และพวกเขารู้ดีว่า สหรัฐฯจะไม่ทำอะไรเลย,” มาลูฟกล่าวเสริม . US continues to hand-hold Israel despite its wrongdoings Iran launched at least 180 missiles into Israel on Tuesday as the region has entered a growing escalation that is threatening to push the Middle East into a wider war. According to reports, Israelis “scrambled for bomb shelters as air raid sirens sounded and the orange glow of missiles streaked across the sky," following Iran's retaliatory missile launch. 💬 “I think that the strategy on the part of the Israelis for the past many months has been to try to draw the US more directly into the conflict on Israel's side. [President Masoud] Pezeshkian and the Iranian government have shown great restraint. Great restraint in the face of direct attacks from the Israelis,” John Kiriakou, a former CIA officer and co-host of Sputnik’s Political Misfits, told Sputnik’s Fault Lines. The former CIA officer added that the Iranian government is under “great pressure” from its public to act in the face of Israel's violence, where one has to start thinking about whether or not it’s “safe for the Iranian government" not to respond. 💬 “Let's be clear, [the US] speak out of both ends of their mouth. The US says it wants a ceasefire, but, on the other hand, it continues providing the assistance and backing, and with other claims made by US officials that they will back Israel should it go into Lebanon,” added Michael Maloof, a former senior security policy analyst in the Office of the Secretary of Defense, who also spoke to Fault Lines. 💬 “The Israelis are ignoring all cautionaries from the US, and they know that the United States will do nothing,” Maloof added. . 11:46 AM · Oct 4, 2024 · 3,009 Views https://x.com/SputnikInt/status/1842063800360489097
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้องกระทุ้งให้สำนึก ว่านโยบายเร่งด่วนคือความปลอดภัยของชีวิตพี่น้องประชาชน มิใช่เร่งผลักดันโครงการขนาดใหญ่เพื่อได้เงินทอน แล้วได้คุณภาพงานชุ่ยๆ ที่พร้อมคร่าชีวิตผู้คน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ต้องกระทุ้งให้สำนึก ว่านโยบายเร่งด่วนคือความปลอดภัยของชีวิตพี่น้องประชาชน มิใช่เร่งผลักดันโครงการขนาดใหญ่เพื่อได้เงินทอน แล้วได้คุณภาพงานชุ่ยๆ ที่พร้อมคร่าชีวิตผู้คน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 577 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตแม่ทัพ 4 หนีศาล 'พิศาล' โดนหมายจับ สภาเปิดทางจับได้เลย
    .
    ในขณะที่กองทัพต้องการให้ชายไทยเข้ามารับการตรวจเลือกเป็นทหารเกณฑ์ แต่อีกด้านหนึ่งก็มีอดีตนายทหารระดับแม่ทัพหนีคดีไม่ยอมมาขึ้นศาล โดยเอกสิทธิ์ความเป็นส.ส.หลบหลีกครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งนายทหารคนที่ว่านั้น คือ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 จำเลยในคดีการสลายการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ โดยล่าสุด ศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ พล.อ.พิศาล แล้ว เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนีไม่มาตามศาลตามกำหนด ซึ่งเป็นตามคำร้องทนายโจทก์ขอให้ศาลออกหมายจับ
    .
    แม้พล.อ.พิศาล จะเป็นส.ส. แต่ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า เลขาธิการศาลยุติธรรมเคยมีหนังสือมาถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรขออนุญาตดำเนินคดีกับ พล.อ.พิศาล ซึ่งทางสำนักงานเลขาธิการสภาได้ประชุมกันเรียบร้อยแล้ว และมีหนังสือตอบกลับไปยังเลขาธิการศาลยุติธรรม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าขอให้ศาลดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 124 วรรคสี่ คือ สามารถดำเนินคดีกับ พล.อ.พิศาลได้เลย โดยที่ไม่ต้องมาขออนุมัติจากสภา ดังนั้น หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะจับกุม พล.อ.พิศาลหรือไม่ เพราะสภาได้มีมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 124 วรรคสี่ เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ต้องมาขออนุญาตต่อสภาอีก
    .
    ส่วนกรณีที่ พล.อ.พิศาล ไม่เคยมาประชุมสภาเลยนั้น เลขาธิการสภากล่าวว่า พล.อ.พิศาลได้ยื่นหนังสือลาประชุมต่อสภาโดยอ้างเหตุผลว่าป่วย และเดินทางไปรักษาตัวต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม ถึง 30 ตุลาคม ซึ่งนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาได้เซ็นหนังสืออนุมัติให้
    .
    “หลังจากนี้เป็นดุลพินิจของศาล ถ้าเจอตัว พล.อ.พิศาล ก็สามารถจับได้เลยเพียงแต่ว่าวันไหนที่มีการประชุมสภา ศาลก็ต้องปล่อยตัว พล.อ.พิศาลให้กลับมาประชุม พอประชุมเสร็จแล้วให้นำตัวกลับไปควบคุมใหม่” ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์กล่าว
    .
    การควบคุมตัวพล.อ.พิศาล มาดำเนินคดีได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากคดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้
    ................
    Sondhi X
    อดีตแม่ทัพ 4 หนีศาล 'พิศาล' โดนหมายจับ สภาเปิดทางจับได้เลย . ในขณะที่กองทัพต้องการให้ชายไทยเข้ามารับการตรวจเลือกเป็นทหารเกณฑ์ แต่อีกด้านหนึ่งก็มีอดีตนายทหารระดับแม่ทัพหนีคดีไม่ยอมมาขึ้นศาล โดยเอกสิทธิ์ความเป็นส.ส.หลบหลีกครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งนายทหารคนที่ว่านั้น คือ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 จำเลยในคดีการสลายการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ โดยล่าสุด ศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ พล.อ.พิศาล แล้ว เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนีไม่มาตามศาลตามกำหนด ซึ่งเป็นตามคำร้องทนายโจทก์ขอให้ศาลออกหมายจับ . แม้พล.อ.พิศาล จะเป็นส.ส. แต่ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า เลขาธิการศาลยุติธรรมเคยมีหนังสือมาถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรขออนุญาตดำเนินคดีกับ พล.อ.พิศาล ซึ่งทางสำนักงานเลขาธิการสภาได้ประชุมกันเรียบร้อยแล้ว และมีหนังสือตอบกลับไปยังเลขาธิการศาลยุติธรรม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าขอให้ศาลดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 124 วรรคสี่ คือ สามารถดำเนินคดีกับ พล.อ.พิศาลได้เลย โดยที่ไม่ต้องมาขออนุมัติจากสภา ดังนั้น หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะจับกุม พล.อ.พิศาลหรือไม่ เพราะสภาได้มีมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 124 วรรคสี่ เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ต้องมาขออนุญาตต่อสภาอีก . ส่วนกรณีที่ พล.อ.พิศาล ไม่เคยมาประชุมสภาเลยนั้น เลขาธิการสภากล่าวว่า พล.อ.พิศาลได้ยื่นหนังสือลาประชุมต่อสภาโดยอ้างเหตุผลว่าป่วย และเดินทางไปรักษาตัวต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม ถึง 30 ตุลาคม ซึ่งนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาได้เซ็นหนังสืออนุมัติให้ . “หลังจากนี้เป็นดุลพินิจของศาล ถ้าเจอตัว พล.อ.พิศาล ก็สามารถจับได้เลยเพียงแต่ว่าวันไหนที่มีการประชุมสภา ศาลก็ต้องปล่อยตัว พล.อ.พิศาลให้กลับมาประชุม พอประชุมเสร็จแล้วให้นำตัวกลับไปควบคุมใหม่” ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์กล่าว . การควบคุมตัวพล.อ.พิศาล มาดำเนินคดีได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากคดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ................ Sondhi X
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 497 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIA เปิดรับสมัคร "สายลับ" สำหรับปฏิบัติการใน จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ

    4 ตุลาคม 2567-รายงานข่าว INN World News ระบุว่า หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐหรือ CIA เปิดรับสมัครสายลับในประเทศที่เป็นเป้าหมายและคู่แข่งสำคัญของสหรัฐ ที่ผู้สนใจสามารถส่งชื่อและข้อมูลสมัครได้ทางเว็บไซต์

    CIA ได้โพสต์ประกาศรับสมัครสายลับในหลายประเทศที่เป็นคู่แข่งกับสหรัฐฯ เช่น จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั้ง X, Facebook, YouTube, Instagram, Telegram และ LinkedIn รวมถึงในเว็บมืด เป็นทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีนกลาง ภาษาฟาร์ซี และภาษาเกาหลี ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวยังระบุถึงวิธีการสมัครและการติดต่อกับ CIA อย่างถูกต้อง

    อีกทั้ง CIA ยังขอให้ผู้สนใจแจ้งชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลการติดต่อของตนกลับมา รวมไปถึงได้แนะนำให้ผู้ใช้งานติดต่อ CIA ผ่านเว็บไซต์ทางการ โดยใช้เครือข่าย VPN ที่มีการเข้ารหัสที่น่าเชื่อถือ หรือผ่านเบราว์เซอร์เว็บแบบไม่ระบุตัวตนที่รู้จักกันในชื่อเครือข่าย Tor ซึ่งมักใช้ในการเข้าถึงเว็บมืด

    ส่วนสาเหตุที่ทำไม CIA ต้องประกาศรับสมัครสายลับผ่านโซเชียลมีเดียแทนที่จะไปหาสายลับกันแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้โฆษก CIA กล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราต้องการให้แน่ใจว่าบุคคลในระบอบเผด็จการอื่น ๆ รู้ว่าเราพร้อมอยู่เสมอ"

    เดวิด โคเฮน รองผู้อำนวยการ CIA แสดงความมั่นใจกับสำนักข่าว Bloomberg ว่าจะมีคนจากประเทศเหล่านี้จำนวนมาก มาสมัครเป็นสายลับกับ CIA อย่างแน่นอน โดยเขาบอกว่า มีคนจำนวนมากที่เข้าถึงข้อมูลภายในของรัฐบาลตัวเองและไม่พอใจกับระบอบการปกครองในประเทศของตัวเอง CIA จึงมั่นใจว่าคนกลุ่มนี้จะมาสมัคร

    อย่างไรก็ตาม เกิดคำถามว่าแล้วคนเกาหลีเหนือที่สนใจจะสมัครเป็นสายลับให้ CIA จะสมัครได้อย่างไร เพราะคนเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ CIA คาดว่าเป็นไปได้ที่คนเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ติดชายแดนจีนมักจะข้ามพรมแดนเข้ามาค้าขายในจีนแล้วกลับไปที่เกาหลีเหนือ จุงทำให้ในช่วงที่มาฝั่งจีนเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและอาจสนใจสมัครเป็นสายลับให้ CIA

    ขณะที่ โฆษกสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันดี.ซี. กล่าวว่า “ความพยายามใดๆ ที่จะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างชาวจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะล้มเหลวอย่างแน่นอน" ซึ่งที่ผ่านมา จีนพยายามเตือนประชาชนของตัวเองให้ระวังถูกสายลับต่างชาติล่อลวงให้เผยแพร่ข้อมูลความลับ ส่วนในต่างประเทศก็มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคนที่เป็นสายลับให้ประเทศจีน โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าในยุคนี้เราจะเริ่มเห็นหลายประเทศกลับมาใช้ "สายลับ" เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำสงครามด้านข้อมูลอีกครั้ง

    ภาพ: Stock.Adobe
    ที่มา : TNNWorldNews
    https://www.facebook.com/share/p/EEvjf5xsd4aYD1vk/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    CIA เปิดรับสมัคร "สายลับ" สำหรับปฏิบัติการใน จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ 4 ตุลาคม 2567-รายงานข่าว INN World News ระบุว่า หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐหรือ CIA เปิดรับสมัครสายลับในประเทศที่เป็นเป้าหมายและคู่แข่งสำคัญของสหรัฐ ที่ผู้สนใจสามารถส่งชื่อและข้อมูลสมัครได้ทางเว็บไซต์ CIA ได้โพสต์ประกาศรับสมัครสายลับในหลายประเทศที่เป็นคู่แข่งกับสหรัฐฯ เช่น จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั้ง X, Facebook, YouTube, Instagram, Telegram และ LinkedIn รวมถึงในเว็บมืด เป็นทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีนกลาง ภาษาฟาร์ซี และภาษาเกาหลี ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวยังระบุถึงวิธีการสมัครและการติดต่อกับ CIA อย่างถูกต้อง อีกทั้ง CIA ยังขอให้ผู้สนใจแจ้งชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลการติดต่อของตนกลับมา รวมไปถึงได้แนะนำให้ผู้ใช้งานติดต่อ CIA ผ่านเว็บไซต์ทางการ โดยใช้เครือข่าย VPN ที่มีการเข้ารหัสที่น่าเชื่อถือ หรือผ่านเบราว์เซอร์เว็บแบบไม่ระบุตัวตนที่รู้จักกันในชื่อเครือข่าย Tor ซึ่งมักใช้ในการเข้าถึงเว็บมืด ส่วนสาเหตุที่ทำไม CIA ต้องประกาศรับสมัครสายลับผ่านโซเชียลมีเดียแทนที่จะไปหาสายลับกันแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้โฆษก CIA กล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราต้องการให้แน่ใจว่าบุคคลในระบอบเผด็จการอื่น ๆ รู้ว่าเราพร้อมอยู่เสมอ" เดวิด โคเฮน รองผู้อำนวยการ CIA แสดงความมั่นใจกับสำนักข่าว Bloomberg ว่าจะมีคนจากประเทศเหล่านี้จำนวนมาก มาสมัครเป็นสายลับกับ CIA อย่างแน่นอน โดยเขาบอกว่า มีคนจำนวนมากที่เข้าถึงข้อมูลภายในของรัฐบาลตัวเองและไม่พอใจกับระบอบการปกครองในประเทศของตัวเอง CIA จึงมั่นใจว่าคนกลุ่มนี้จะมาสมัคร อย่างไรก็ตาม เกิดคำถามว่าแล้วคนเกาหลีเหนือที่สนใจจะสมัครเป็นสายลับให้ CIA จะสมัครได้อย่างไร เพราะคนเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ CIA คาดว่าเป็นไปได้ที่คนเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ติดชายแดนจีนมักจะข้ามพรมแดนเข้ามาค้าขายในจีนแล้วกลับไปที่เกาหลีเหนือ จุงทำให้ในช่วงที่มาฝั่งจีนเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและอาจสนใจสมัครเป็นสายลับให้ CIA ขณะที่ โฆษกสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันดี.ซี. กล่าวว่า “ความพยายามใดๆ ที่จะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างชาวจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะล้มเหลวอย่างแน่นอน" ซึ่งที่ผ่านมา จีนพยายามเตือนประชาชนของตัวเองให้ระวังถูกสายลับต่างชาติล่อลวงให้เผยแพร่ข้อมูลความลับ ส่วนในต่างประเทศก็มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคนที่เป็นสายลับให้ประเทศจีน โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าในยุคนี้เราจะเริ่มเห็นหลายประเทศกลับมาใช้ "สายลับ" เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำสงครามด้านข้อมูลอีกครั้ง ภาพ: Stock.Adobe ที่มา : TNNWorldNews https://www.facebook.com/share/p/EEvjf5xsd4aYD1vk/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 830 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รีวิวทัวร์ #ทัวร์ดูไบ คุณจินตชา 2ท่าน เดินทาง 27ก.ย.-1ต.ค.67 ขอให้เที่ยวสนุก นะจ้ะ
    #รีวิว #review
    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr

    ติดต่อ Office Line ID : @navarich
    เบอร์สำนักงาน : 083-6995654
    HOT LINE พนักงานขาย
    093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236
    เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ
    #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่ #นองปิง
    #รีวิวทัวร์ #ทัวร์ดูไบ คุณจินตชา 2ท่าน เดินทาง 27ก.ย.-1ต.ค.67 ขอให้เที่ยวสนุก นะจ้ะ #รีวิว #review สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr ติดต่อ Office Line ID : @navarich เบอร์สำนักงาน : 083-6995654 HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236 เลขทะเบียน ททท. : 11/08116 #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่ #นองปิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2567 ซึ่งจะมีการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 นี้ สถาบันไทยศึกษา ร่วมกับคณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันสุนทรภู่ ดำริจัดโครงการประชุมวิชาการ “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในวรรณคดีและศิลปกรรมไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคล และเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเห่เรือที่มีความสำคัญต่อวรรณคดีและศิลปกรรมของไทย

    คณะผู้จัดงานขอเรียนเชิญร่วมการประชุมวิชาการและพิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 8.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 15 อาคารบรมราชกุมารี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    ลงทะเบียนทาง https://forms.gle/UKMzgSJzomVUhZCn7

    --------

    กำหนดการ

    08.30 - 09.00
    ลงทะเบียน

    09.00 - 09.15
    พิธีการ

    09.15 - 09.30
    อาเศียรวาทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    09.30 - 10.10
    กาพย์เห่เฉลิมพระเกียรติ
    ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต
    - ราชบัณฑิต สาขาวิชาวรรณกรรมร้อยกรอง ประเภทวิชาวรรณศิลป์ สำนักศิลปกรรม

    10.10 - 10.50
    “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในศิลปกรรมไทย
    ดร.ไพโรจน์ ทองคำสุก
    - ราชบัณฑิต สาขาวิชานาฏกรรมไทย ประเภทวิชาวิจิตรศิลป์ สำนักศิลปกรรม

    10.50 - 11.10
    พักการประชุม

    11.10 – 11.30
    การแสดงเห่เรือ ผลงานผู้ชนะเลิศประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา

    11.30 - 12.00
    พิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/o2aBwLn4SrE69GYz/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2567 ซึ่งจะมีการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 นี้ สถาบันไทยศึกษา ร่วมกับคณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันสุนทรภู่ ดำริจัดโครงการประชุมวิชาการ “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในวรรณคดีและศิลปกรรมไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคล และเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเห่เรือที่มีความสำคัญต่อวรรณคดีและศิลปกรรมของไทย คณะผู้จัดงานขอเรียนเชิญร่วมการประชุมวิชาการและพิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 8.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 15 อาคารบรมราชกุมารี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงทะเบียนทาง https://forms.gle/UKMzgSJzomVUhZCn7 -------- กำหนดการ 08.30 - 09.00 ลงทะเบียน 09.00 - 09.15 พิธีการ 09.15 - 09.30 อาเศียรวาทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 09.30 - 10.10 กาพย์เห่เฉลิมพระเกียรติ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต - ราชบัณฑิต สาขาวิชาวรรณกรรมร้อยกรอง ประเภทวิชาวรรณศิลป์ สำนักศิลปกรรม 10.10 - 10.50 “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในศิลปกรรมไทย ดร.ไพโรจน์ ทองคำสุก - ราชบัณฑิต สาขาวิชานาฏกรรมไทย ประเภทวิชาวิจิตรศิลป์ สำนักศิลปกรรม 10.50 - 11.10 พักการประชุม 11.10 – 11.30 การแสดงเห่เรือ ผลงานผู้ชนะเลิศประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา 11.30 - 12.00 พิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/o2aBwLn4SrE69GYz/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Love
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 638 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,537
    วันศุกร์: ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๗ (4 October 2024)

    Photo Album 3/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    21. วัดสะแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67)
    22. ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67)
    23. สำนักสงฆ์วัดป่าดอนขาม อ.เมือง จ.สกลนคร
    (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67)
    24. สำนักสงฆ์สว่างใจ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67)
    25. วัดบ้านท่ามะเขือ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
    (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67)
    26. วัดประชาสามัคคี อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ
    (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67)
    27. วัดบึง อ.เมือง จ.สุโขทัย
    (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67)
    28. ที่พักสงฆ์ซำสะโหมง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
    (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67)
    29. วัดคลองวัดไร่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
    (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67)
    30. วัดวังรีบุญเลิศ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๓๑ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,537 วันศุกร์: ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๗ (4 October 2024) Photo Album 3/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 21. วัดสะแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67) 22. ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67) 23. สำนักสงฆ์วัดป่าดอนขาม อ.เมือง จ.สกลนคร (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67) 24. สำนักสงฆ์สว่างใจ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67) 25. วัดบ้านท่ามะเขือ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67) 26. วัดประชาสามัคคี อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67) 27. วัดบึง อ.เมือง จ.สุโขทัย (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67) 28. ที่พักสงฆ์ซำสะโหมง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67) 29. วัดคลองวัดไร่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67) 30. วัดวังรีบุญเลิศ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๓๑ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,537
    วันศุกร์: ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๗ (4 October 2024)

    Photo Album 3/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    21. วัดสะแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67)
    22. ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67)
    23. สำนักสงฆ์วัดป่าดอนขาม อ.เมือง จ.สกลนคร
    (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67)
    24. สำนักสงฆ์สว่างใจ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67)
    25. วัดบ้านท่ามะเขือ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
    (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67)
    26. วัดประชาสามัคคี อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ
    (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67)
    27. วัดบึง อ.เมือง จ.สุโขทัย
    (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67)
    28. ที่พักสงฆ์ซำสะโหมง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
    (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67)
    29. วัดคลองวัดไร่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
    (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67)
    30. วัดวังรีบุญเลิศ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๓๑ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,537 วันศุกร์: ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๗ (4 October 2024) Photo Album 3/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 21. วัดสะแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67) 22. ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67) 23. สำนักสงฆ์วัดป่าดอนขาม อ.เมือง จ.สกลนคร (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67) 24. สำนักสงฆ์สว่างใจ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 27 ต.ค.67) 25. วัดบ้านท่ามะเขือ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67) 26. วัดประชาสามัคคี อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67) 27. วัดบึง อ.เมือง จ.สุโขทัย (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67) 28. ที่พักสงฆ์ซำสะโหมง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67) 29. วัดคลองวัดไร่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67) 30. วัดวังรีบุญเลิศ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๓๑ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย แนะรัฐตรวจเข้มกลุ่มรถที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมจัดงบฯ – สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ

    เหตุการณ์รถบัสนักเรียนไฟไหม้ ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สะท้อนความล้มเหลวในการป้องกัน และควบคุมการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนไทย ตอกย้ำสมญานามประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการจราจรมากที่สุด สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และครองแชมป์อันดับ 1 ในอาเซียน
    อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่เพียงชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยง ทั้งในด้านพฤติกรรมการขับขี่ ความรู้ในการเผชิญเหตุฉุกเฉิน ยังได้นำไปสู่การเปิดโปงข้อบกพร่องของ “ระบบตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย” โดยเฉพาะรถทัศนาจร หรือ “รถรับจ้างไม่ประจำทาง” ที่วิ่งให้บริการขวักไขว่ อันเป็นภาพคุ้นชินตาของคนไทย

    ‘ทีดีอาร์ไอ’ เผยมีรถรับจ้างไม่ประจำทางเพียง 5% ผ่าน “มาตรฐานลุกไหม้”
    ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า แม้ว่ากรมการขนส่งทางบก จะมีความพยายามในการปรับปรุงมาตรฐานรถโดยสารขนาดใหญ่ในหลายประเด็น รวมถึงมาตรฐานด้านการลุกไหม้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยออกประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่องกำหนดคุณสมบัติด้านการลุกไหม้การลามไฟของวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในรถโดยสาร แต่ปรากฎว่าประกาศดังกล่าวถูกเลื่อนการบังคับใช้อยู่เรื่อย ๆ
    ด้วยเหตุผลเพราะผู้ประกอบการ ไม่มีความพร้อมในการแบกรับต้นทุน จากการเปลี่ยนไปใช้วัสดุกันไฟที่มีราคาแพง จนกระทั่งสุดท้ายเพิ่งบังคับใช้ได้จริงในปี 2565 แต่กลับไม่มีผลย้อนหลัง ซึ่งหมายความว่าใช้บังคับได้เฉพาะกับรถที่จดทะเบียนใหม่ หรือ มีการปรับปรุงตัวถังใหม่ในปี 2565 เท่านั้น “รถคันที่เกิดเหตุก็เป็นหนึ่งในกรณี ที่ไม่เข้าเงื่อนไขของประกาศฉบับนี้ เนื่องจากมีการจดเบียนใหม่ในปี 2561”

    ดร.สุเมธ ระบุว่าปัจจุบันรถทัศนาจรในกลุ่มมาตรฐาน 1 ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับรถคันที่เกิดเหตุ มีจำนวน 5,896 คัน และรถมาตรฐาน 4 หรือรถ 2 ชั้น มีจำนวน 4,972 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในจำนวนทั้งหมดกว่า 1 หมื่นคัน มีจำนวนเพียง 5% เท่านั้น ที่ผ่านมาตรฐานด้านการลุกไหม้ และอนุมานได้ว่าส่วนที่เหลืออีก 95% ที่เป็นรถจดทะเบียนก่อนประกาศดังกล่าวบังคับใช้ ยังไม่ถูกกำหนดให้มีมาตรฐานนี้ ขณะที่ในต่างประเทศเวลากำหนดมาตรฐานในเรื่องเหล่านี้ จะให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังด้วย และต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี

    “คาดว่ามีรถที่ไม่ผ่านหรือไม่ได้มาตรฐานใหม่ ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเป็นหมื่นคัน แสดงให้เห็นถึงขนาดของปัญหาที่วิ่งอยู่บนท้องถนนตอนนี้ เสมือนกับเป็นระเบิดเวลาที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุขึ้นอีกเมื่อไหร่ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบก ควรติดตามตรวจสอบรถในกลุ่มนี้ ที่ยังวิ่งอยู่ในระบบ เช่น ด้านมาตรฐานทนไฟ การชนด้านหน้า สภาพรถเป็นอย่างไร ติดก๊าซหรือไม่ ฯลฯ โดยเร่งกำหนดมาตรการอย่างเข้มข้นในรถกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงก่อน”

    จี้ ขบ.ตรวจเข้มรถเสี่ยงสูง – เสนอรัฐจัดงบฯหนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ
    ดร.สุเมธ เน้นย้ำว่าเหตุที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ของมาตรฐานความปลอดภัยของรถทัศนาจร ซึ่งความเสี่ยงนี้กระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชน โจทย์ใหญ่ของรัฐคือจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงให้รถเหล่านี้มีมาตรฐานดีขึ้นได้อย่างไร ทั้งการเปลี่ยนวัสดุไวไฟ เช่น เบาะที่นั่ง ม่าน พรม ให้เป็นไปตามมาตรฐาน UNECE ซึ่งคือการใช้วัสดุที่ทนไฟได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟลุกไหม้จะไม่เร็วและแรง สามารถช่วยซื้อเวลาให้ผู้โดยสารหนีออกภายนอกตัวรถได้
    “ภาครัฐอาจจะต้องเข้ามาร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานให้ดีขึ้น โดยสร้างแรงจูงใจต่าง ๆ เช่น การให้เงินช่วยเหลือโดยตรงไปยังผู้ประกอบการ หรือ อาจมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทุนในการปรับปรุงมาตรฐานรถ”

    สำหรับกรณีระยะเวลาการใช้งานของรถคันเกิดเหตุ ที่พบว่ามีการจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2513 นั้น ดร.สุเมธ กล่าวว่า องค์ประกอบหลักของรถจะมี 2 ส่วน คือ
    ส่วนที่ 1 : โครงหลัก หรือที่เรียกว่า “แชสซี” ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของรถ ซึ่งอยู่ด้านใต้ตัวรถติดกับโครงล้อ ซึ่งปกติรถขนาดใหญ่จะจดทะเบียนครั้งแรกด้วยแชสซี ซึ่งส่วนนี้มีอายุการใช้งาน 70-80 ปี
    ส่วนที่ 2 : ตัวถังรถ ประกอบไปด้วย หลังคา ประตู เบาะที่นั่ง โดยตัวถังรถมีอายุการใช้งาน 8-10 ปีเท่านั้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะ
    อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะปรับปรุงตัวถังรถหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเป็นหลักว่าต้องการเปลี่ยนหรือไม่ เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีมาตรการกำหนดอายุรถ หรือระยะเวลาการปรับปรุงสภาพรถ มีแต่การตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยกรมการขนส่งทางบก 2 ครั้งต่อปี

    “ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง จะมีการปรับปรุงความเสี่ยงเหล่านี้อย่างไร การตรวจสอบมีความเข้มงวดมากน้อยขนาดไหน ตรงนี้ล้วนเป็นประเด็น เพราะมาตรฐานการติดตั้ง ยังเป็นสิ่งที่มีความท้าทายในการตรวจสอบอยู่ หากการติดตั้งทำโดยช่างผู้ชำนาญการก็จะได้มาตรฐานสูง แต่ถ้าติดตั้งโดยไม่รัดกุมมากนัก ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ประกายไฟ ได้” ดร.สุเมธ ระบุ

    ยกระดับทัศนศึกษาปลอดภัย ซักซ้อม – วางแผน – ลงรายละเอียด รับมือเหตุไม่คาดคิด

    ด้าน นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถึงเวลาที่กระทรวงศึกษาธิการ ต้องทบทวนเชิงระบบ เพื่อสร้างแนวทางการไปทัศนศึกษาที่ปลอดภัย โดยปัจจุบันการไปทัศนศึกษาของเด็กมีอยู่ 2 รูปแบบ 1. ไปเช้า – เย็นกลับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการทัศนศึกษาในช่วงปิดเทอมหนึ่ง ประมาณเดือนตุลาคม กับ 2. ทัศนศึกษาแบบพักค้างคืนจะอยู่ในช่วงเทอมสอง ซึ่งจะมีการเดินทางช่วงกลางคืน มีการใช้รถบัสสองชั้น การเกิดอุบัติเหตุจึงมักจะเกิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม

    นพ.ธนะพงศ์ กล่าวว่า คณะผู้จัดกิจกรรมไปทัศนศึกษา ต้องวางแผนโดยการลงรายละเอียด ทั้งการเตรียมครูประจำรถกี่คนต่อจำนวนเด็ก ยิ่งเป็นเด็กเล็กยิ่งต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เช่น อาจจะต้องเป็นครูหนึ่งคนต่อ 10 คน เป็นต้น หรือหากเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ หรือเกิดเพลิงไหม้ คุณครูก็ต้องรู้จักการใช้ถังดับเพลิง และถ้าจำเป็นต้องอพยพ คุณครูจะต้องวางแผนอพยพออกทางไหน ประตูอยู่ตรงจุดไหน เป็นต้น

    เสนอยกเลิกรถสองชั้นเด็ดขาด – เพิ่มวงเงินประกันภัยภาคบังคับ

    นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวถึงข้อเสนอในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยเน้นย้ำการยกเลิกการใช้รถสองชั้นในการรับจ้างแบบไม่ประจำทาง อันเป็นสิ่งที่องค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ ได้มีข้อเสนอเป็นระยะเวลาหลายปี แต่ยังไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง รวมถึงรื้อระบบตรวจสภาพรถบริการขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันตรวจสภาพปีละสองครั้ง แต่ในบางประเทศตรวจทุกไตรมาส ซึ่งจริง ๆ ควรจะดูตามจํานวนการใช้งาน หรือกำหนดเป็นระยะเวลาตายตัวเพียงอย่างเดียว

    นอกจากนี้ เสนอให้ขยายวงเงินประกันภัยภาคบังคับ ของรถโดยสารแบบไม่ประจำทาง โดยเพิ่มวงเงินประกันเป็น 30 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันการทำประกันภัยรถภาคบังคับตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 กำหนดความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน แต่มีข้อกำหนดวงเงินเฉลี่ยจ่ายจากวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งไม่ครอบคลุมความเสียหายเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

    “ความสูญเสียที่เกิดขึ้นต้องนำไปสู่การพัฒนากฎ ระเบียบ มาตรการต่าง ๆ และวิธีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรถโดยสาร” เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าว

    จากอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ สู่ปัญหา “รถโรงเรียนไทยไม่ปลอดภัย”

    ความไม่ปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียนไทย ไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง และเปรียบเทียบมาตรฐานความปลอดภัยของไทยกับต่างประเทศ โดยล่าสุดในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูล รถรับส่งนักเรียนในสหรัฐ มีการควบคุมความปลอดภัยมากกว่ารถปกติถึง 70 เท่า ขณะที่ของญี่ปุ่นกรณีรถบัสทัศนศึกษา นอกจากการตรวจสอบมาตรฐานตัวรถที่เข้มงวด ยังมีการติดตั้ง GPS ควบคุมความเร็วในการขับขี่อีกด้วย

    สำหรับประเทศไทย หากย้อนกลับไปที่ข้อมูลของ ศวปถ. และสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งระบุในคู่มือการจัดระบบรถโรงเรียนให้ปลอดภัยและเป็นธรรม พบว่าระหว่างปี 2562 – 2564 เกิดอุบัติเหตุกับรถโรงเรียนมากถึง 38 ครั้ง มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 431 ราย

    จากการสํารวจข้อมูลรถโรงเรียนทุกภูมิภาค ได้สะท้อนภาพปัญหาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง 3 ปมปัญหาใหญ่ที่รอเวลาเกิดเหตุ ได้แก่

    สภาพรถที่ไม่ได้มาตรฐาน : ดัดแปลงรถ ไม่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงขาดอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ควรมี เช่น ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง เป็นต้น

    ผู้ขับประมาทไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร : ใช้ประสบการณ์ความเคยชินขับเร็วเสี่ยงอันตราย ขาดความรู้ความเข้าใจบทบาทการขับรถส่งนักเรียน

    ขาดระบบจัดการรถที่ดี : ขาดระบบกำกับควบคุมผู้ขับขี่ รวมถึงกลไกสนับสนุนเพื่อให้เกิดระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพ

    แม้การเพิ่มมาตรการและความเข้มงวดภายหลังเกิดเหตุ จะหนีไม่พ้นคำพูดที่ว่า “วัวหายล้อมคอก” แต่ในบริบทของประเทศไทย เมื่อเกิดบทเรียนขึ้นแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันล้อมคอกไม่ให้เกิดเหตุสลด เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

    ที่มา https://thaipublica.org/2024/10/tdri-reveals-95-of-non-regular-taxis-are-ticking-time-bombs-on-thai-roads/

    #Thaitimes
    ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย แนะรัฐตรวจเข้มกลุ่มรถที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมจัดงบฯ – สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ เหตุการณ์รถบัสนักเรียนไฟไหม้ ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สะท้อนความล้มเหลวในการป้องกัน และควบคุมการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนไทย ตอกย้ำสมญานามประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการจราจรมากที่สุด สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และครองแชมป์อันดับ 1 ในอาเซียน อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่เพียงชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยง ทั้งในด้านพฤติกรรมการขับขี่ ความรู้ในการเผชิญเหตุฉุกเฉิน ยังได้นำไปสู่การเปิดโปงข้อบกพร่องของ “ระบบตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย” โดยเฉพาะรถทัศนาจร หรือ “รถรับจ้างไม่ประจำทาง” ที่วิ่งให้บริการขวักไขว่ อันเป็นภาพคุ้นชินตาของคนไทย ‘ทีดีอาร์ไอ’ เผยมีรถรับจ้างไม่ประจำทางเพียง 5% ผ่าน “มาตรฐานลุกไหม้” ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า แม้ว่ากรมการขนส่งทางบก จะมีความพยายามในการปรับปรุงมาตรฐานรถโดยสารขนาดใหญ่ในหลายประเด็น รวมถึงมาตรฐานด้านการลุกไหม้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยออกประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่องกำหนดคุณสมบัติด้านการลุกไหม้การลามไฟของวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในรถโดยสาร แต่ปรากฎว่าประกาศดังกล่าวถูกเลื่อนการบังคับใช้อยู่เรื่อย ๆ ด้วยเหตุผลเพราะผู้ประกอบการ ไม่มีความพร้อมในการแบกรับต้นทุน จากการเปลี่ยนไปใช้วัสดุกันไฟที่มีราคาแพง จนกระทั่งสุดท้ายเพิ่งบังคับใช้ได้จริงในปี 2565 แต่กลับไม่มีผลย้อนหลัง ซึ่งหมายความว่าใช้บังคับได้เฉพาะกับรถที่จดทะเบียนใหม่ หรือ มีการปรับปรุงตัวถังใหม่ในปี 2565 เท่านั้น “รถคันที่เกิดเหตุก็เป็นหนึ่งในกรณี ที่ไม่เข้าเงื่อนไขของประกาศฉบับนี้ เนื่องจากมีการจดเบียนใหม่ในปี 2561” ดร.สุเมธ ระบุว่าปัจจุบันรถทัศนาจรในกลุ่มมาตรฐาน 1 ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับรถคันที่เกิดเหตุ มีจำนวน 5,896 คัน และรถมาตรฐาน 4 หรือรถ 2 ชั้น มีจำนวน 4,972 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในจำนวนทั้งหมดกว่า 1 หมื่นคัน มีจำนวนเพียง 5% เท่านั้น ที่ผ่านมาตรฐานด้านการลุกไหม้ และอนุมานได้ว่าส่วนที่เหลืออีก 95% ที่เป็นรถจดทะเบียนก่อนประกาศดังกล่าวบังคับใช้ ยังไม่ถูกกำหนดให้มีมาตรฐานนี้ ขณะที่ในต่างประเทศเวลากำหนดมาตรฐานในเรื่องเหล่านี้ จะให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังด้วย และต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี “คาดว่ามีรถที่ไม่ผ่านหรือไม่ได้มาตรฐานใหม่ ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเป็นหมื่นคัน แสดงให้เห็นถึงขนาดของปัญหาที่วิ่งอยู่บนท้องถนนตอนนี้ เสมือนกับเป็นระเบิดเวลาที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุขึ้นอีกเมื่อไหร่ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบก ควรติดตามตรวจสอบรถในกลุ่มนี้ ที่ยังวิ่งอยู่ในระบบ เช่น ด้านมาตรฐานทนไฟ การชนด้านหน้า สภาพรถเป็นอย่างไร ติดก๊าซหรือไม่ ฯลฯ โดยเร่งกำหนดมาตรการอย่างเข้มข้นในรถกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงก่อน” จี้ ขบ.ตรวจเข้มรถเสี่ยงสูง – เสนอรัฐจัดงบฯหนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ ดร.สุเมธ เน้นย้ำว่าเหตุที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ของมาตรฐานความปลอดภัยของรถทัศนาจร ซึ่งความเสี่ยงนี้กระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชน โจทย์ใหญ่ของรัฐคือจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงให้รถเหล่านี้มีมาตรฐานดีขึ้นได้อย่างไร ทั้งการเปลี่ยนวัสดุไวไฟ เช่น เบาะที่นั่ง ม่าน พรม ให้เป็นไปตามมาตรฐาน UNECE ซึ่งคือการใช้วัสดุที่ทนไฟได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟลุกไหม้จะไม่เร็วและแรง สามารถช่วยซื้อเวลาให้ผู้โดยสารหนีออกภายนอกตัวรถได้ “ภาครัฐอาจจะต้องเข้ามาร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานให้ดีขึ้น โดยสร้างแรงจูงใจต่าง ๆ เช่น การให้เงินช่วยเหลือโดยตรงไปยังผู้ประกอบการ หรือ อาจมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทุนในการปรับปรุงมาตรฐานรถ” สำหรับกรณีระยะเวลาการใช้งานของรถคันเกิดเหตุ ที่พบว่ามีการจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2513 นั้น ดร.สุเมธ กล่าวว่า องค์ประกอบหลักของรถจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 : โครงหลัก หรือที่เรียกว่า “แชสซี” ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของรถ ซึ่งอยู่ด้านใต้ตัวรถติดกับโครงล้อ ซึ่งปกติรถขนาดใหญ่จะจดทะเบียนครั้งแรกด้วยแชสซี ซึ่งส่วนนี้มีอายุการใช้งาน 70-80 ปี ส่วนที่ 2 : ตัวถังรถ ประกอบไปด้วย หลังคา ประตู เบาะที่นั่ง โดยตัวถังรถมีอายุการใช้งาน 8-10 ปีเท่านั้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะปรับปรุงตัวถังรถหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเป็นหลักว่าต้องการเปลี่ยนหรือไม่ เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีมาตรการกำหนดอายุรถ หรือระยะเวลาการปรับปรุงสภาพรถ มีแต่การตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยกรมการขนส่งทางบก 2 ครั้งต่อปี “ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง จะมีการปรับปรุงความเสี่ยงเหล่านี้อย่างไร การตรวจสอบมีความเข้มงวดมากน้อยขนาดไหน ตรงนี้ล้วนเป็นประเด็น เพราะมาตรฐานการติดตั้ง ยังเป็นสิ่งที่มีความท้าทายในการตรวจสอบอยู่ หากการติดตั้งทำโดยช่างผู้ชำนาญการก็จะได้มาตรฐานสูง แต่ถ้าติดตั้งโดยไม่รัดกุมมากนัก ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ประกายไฟ ได้” ดร.สุเมธ ระบุ ยกระดับทัศนศึกษาปลอดภัย ซักซ้อม – วางแผน – ลงรายละเอียด รับมือเหตุไม่คาดคิด ด้าน นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถึงเวลาที่กระทรวงศึกษาธิการ ต้องทบทวนเชิงระบบ เพื่อสร้างแนวทางการไปทัศนศึกษาที่ปลอดภัย โดยปัจจุบันการไปทัศนศึกษาของเด็กมีอยู่ 2 รูปแบบ 1. ไปเช้า – เย็นกลับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการทัศนศึกษาในช่วงปิดเทอมหนึ่ง ประมาณเดือนตุลาคม กับ 2. ทัศนศึกษาแบบพักค้างคืนจะอยู่ในช่วงเทอมสอง ซึ่งจะมีการเดินทางช่วงกลางคืน มีการใช้รถบัสสองชั้น การเกิดอุบัติเหตุจึงมักจะเกิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม นพ.ธนะพงศ์ กล่าวว่า คณะผู้จัดกิจกรรมไปทัศนศึกษา ต้องวางแผนโดยการลงรายละเอียด ทั้งการเตรียมครูประจำรถกี่คนต่อจำนวนเด็ก ยิ่งเป็นเด็กเล็กยิ่งต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เช่น อาจจะต้องเป็นครูหนึ่งคนต่อ 10 คน เป็นต้น หรือหากเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ หรือเกิดเพลิงไหม้ คุณครูก็ต้องรู้จักการใช้ถังดับเพลิง และถ้าจำเป็นต้องอพยพ คุณครูจะต้องวางแผนอพยพออกทางไหน ประตูอยู่ตรงจุดไหน เป็นต้น เสนอยกเลิกรถสองชั้นเด็ดขาด – เพิ่มวงเงินประกันภัยภาคบังคับ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวถึงข้อเสนอในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยเน้นย้ำการยกเลิกการใช้รถสองชั้นในการรับจ้างแบบไม่ประจำทาง อันเป็นสิ่งที่องค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ ได้มีข้อเสนอเป็นระยะเวลาหลายปี แต่ยังไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง รวมถึงรื้อระบบตรวจสภาพรถบริการขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันตรวจสภาพปีละสองครั้ง แต่ในบางประเทศตรวจทุกไตรมาส ซึ่งจริง ๆ ควรจะดูตามจํานวนการใช้งาน หรือกำหนดเป็นระยะเวลาตายตัวเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ เสนอให้ขยายวงเงินประกันภัยภาคบังคับ ของรถโดยสารแบบไม่ประจำทาง โดยเพิ่มวงเงินประกันเป็น 30 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันการทำประกันภัยรถภาคบังคับตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 กำหนดความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน แต่มีข้อกำหนดวงเงินเฉลี่ยจ่ายจากวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งไม่ครอบคลุมความเสียหายเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก “ความสูญเสียที่เกิดขึ้นต้องนำไปสู่การพัฒนากฎ ระเบียบ มาตรการต่าง ๆ และวิธีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรถโดยสาร” เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าว จากอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ สู่ปัญหา “รถโรงเรียนไทยไม่ปลอดภัย” ความไม่ปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียนไทย ไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง และเปรียบเทียบมาตรฐานความปลอดภัยของไทยกับต่างประเทศ โดยล่าสุดในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูล รถรับส่งนักเรียนในสหรัฐ มีการควบคุมความปลอดภัยมากกว่ารถปกติถึง 70 เท่า ขณะที่ของญี่ปุ่นกรณีรถบัสทัศนศึกษา นอกจากการตรวจสอบมาตรฐานตัวรถที่เข้มงวด ยังมีการติดตั้ง GPS ควบคุมความเร็วในการขับขี่อีกด้วย สำหรับประเทศไทย หากย้อนกลับไปที่ข้อมูลของ ศวปถ. และสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งระบุในคู่มือการจัดระบบรถโรงเรียนให้ปลอดภัยและเป็นธรรม พบว่าระหว่างปี 2562 – 2564 เกิดอุบัติเหตุกับรถโรงเรียนมากถึง 38 ครั้ง มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 431 ราย จากการสํารวจข้อมูลรถโรงเรียนทุกภูมิภาค ได้สะท้อนภาพปัญหาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง 3 ปมปัญหาใหญ่ที่รอเวลาเกิดเหตุ ได้แก่ สภาพรถที่ไม่ได้มาตรฐาน : ดัดแปลงรถ ไม่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงขาดอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ควรมี เช่น ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง เป็นต้น ผู้ขับประมาทไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร : ใช้ประสบการณ์ความเคยชินขับเร็วเสี่ยงอันตราย ขาดความรู้ความเข้าใจบทบาทการขับรถส่งนักเรียน ขาดระบบจัดการรถที่ดี : ขาดระบบกำกับควบคุมผู้ขับขี่ รวมถึงกลไกสนับสนุนเพื่อให้เกิดระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพ แม้การเพิ่มมาตรการและความเข้มงวดภายหลังเกิดเหตุ จะหนีไม่พ้นคำพูดที่ว่า “วัวหายล้อมคอก” แต่ในบริบทของประเทศไทย เมื่อเกิดบทเรียนขึ้นแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันล้อมคอกไม่ให้เกิดเหตุสลด เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต ที่มา https://thaipublica.org/2024/10/tdri-reveals-95-of-non-regular-taxis-are-ticking-time-bombs-on-thai-roads/ #Thaitimes
    THAIPUBLICA.ORG
    ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย
    ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย แนะรัฐตรวจเข้มกลุ่มรถที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมจัดงบฯ - สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 696 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่าน facebook ส่วนตัวเป็นภาพข่าวพระขณะกำลังซ้อมยิงปืน พร้อมระบุข้อความว่า

    “ สิ้นคิด :

    ตามที่สื่อไทยรัฐออนไลน์เสนอข่าวคลิปพระภิกษุรูปหนึ่งใช้อาวุธปืนสั้นแสดงออกมาคล้ายซ้อมยิงปืน นั้น

    ถือว่าเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับเพศบรรพชิต เป็นการประพฤติตนเยี่ยงคฤหัสถ์ ไม่เหมาะสมและควรถูกตำหนิโดยประการทั้งปวง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาในหมู่ชาวพุทธเป็นอย่างมาก

    โดยในชั้นต้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ขอความร่วมมือผู้อำนวยการสำนักงานพระพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศ ประสานเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์เพื่อตรวจสอบพระภิกษุที่ปรากฎในคลิปดังกล่าว หากพบว่าเป็นพระภิกษุสังกัดวัดใด ให้รีบแจ้งเจ้าอาวาสเพื่อให้ท่านเจ้าอาวาสแนะนำและว่ากล่าวตักเตือนรวมถึงพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องอาวุธปืนและหรือความผิดทางโลก ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ”

    ที่มา : Ch Kitti Kittitharangkoon
    https://www.facebook.com/100000982132819/posts/27104679089148129/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
    ภาพ : NBT Connext

    #Thaitimes
    นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่าน facebook ส่วนตัวเป็นภาพข่าวพระขณะกำลังซ้อมยิงปืน พร้อมระบุข้อความว่า “ สิ้นคิด : ตามที่สื่อไทยรัฐออนไลน์เสนอข่าวคลิปพระภิกษุรูปหนึ่งใช้อาวุธปืนสั้นแสดงออกมาคล้ายซ้อมยิงปืน นั้น ถือว่าเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับเพศบรรพชิต เป็นการประพฤติตนเยี่ยงคฤหัสถ์ ไม่เหมาะสมและควรถูกตำหนิโดยประการทั้งปวง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาในหมู่ชาวพุทธเป็นอย่างมาก โดยในชั้นต้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ขอความร่วมมือผู้อำนวยการสำนักงานพระพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศ ประสานเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์เพื่อตรวจสอบพระภิกษุที่ปรากฎในคลิปดังกล่าว หากพบว่าเป็นพระภิกษุสังกัดวัดใด ให้รีบแจ้งเจ้าอาวาสเพื่อให้ท่านเจ้าอาวาสแนะนำและว่ากล่าวตักเตือนรวมถึงพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องอาวุธปืนและหรือความผิดทางโลก ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” ที่มา : Ch Kitti Kittitharangkoon https://www.facebook.com/100000982132819/posts/27104679089148129/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v ภาพ : NBT Connext #Thaitimes
    Like
    Sad
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 694 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปปง.ติดป้ายยึดทรัพย์โครงการคฤหาสน์หรูทุนจีนหลังละ 200 ล้านบาทย่านสนามบินน้ำ ล่าสุดผู้จัดการโครงการล่องหนแล้ว  แต่คนงานยังเดินหน้าก่อสร้าง 

    3 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวมติชนระบุว่า หลังจากบริษัทแห่งหนึ่งของกลุ่มทุนจีนที่ร่วมกับคนไทย เข้าไปพัฒนาโครงการคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินประมาณ 30 ไร่ ติดถนนสนามบินน้ำ และแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาเป็นคฤหาสน์หรูราคาแพง เดิมเคยระบุว่าราคาเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท ล่าสุดระบุว่าเริ่มต้นหลังละ 200 ล้านบาท และสูงสุดอาจถึง 700 ล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยวหรู 5 ชั้น ประมาณ 60 หลัง ซึ่งทุกหลังมีห้องใต้ดินและสระว่ายน้ำ ยังมีอาคาร 2 ชั้น เป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน ท่าเรือ และเริ่มการก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568

    แต่ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมนี้ มีรายงานว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) ได้มีการดำเนินการปิดประกาศการยึดทรัพย์คฤหาสน์หรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567

    ต่อมาบ่ายวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวมติชนลงพื้นที่ พบว่าโครงการยังคงมีการก่อสร้าง จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.)ของโครงการ ระบุเพียงว่า โครงการไม่ได้หยุดการก่อสร้าง ส่วนกรณีที่ ปปง.ได้นำป้ายมาติดประกาศยึดทรัพย์นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากวันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่โครงการ ส่วนผู้จัดการโครงการ ได้กลับไปประเทศจีน คาดว่าจะกลับมาในเร็วๆนี้

    ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4826062#m1teo54z9zv43g2vhh4

    #Thaitimes
    ปปง.ติดป้ายยึดทรัพย์โครงการคฤหาสน์หรูทุนจีนหลังละ 200 ล้านบาทย่านสนามบินน้ำ ล่าสุดผู้จัดการโครงการล่องหนแล้ว  แต่คนงานยังเดินหน้าก่อสร้าง  3 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวมติชนระบุว่า หลังจากบริษัทแห่งหนึ่งของกลุ่มทุนจีนที่ร่วมกับคนไทย เข้าไปพัฒนาโครงการคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินประมาณ 30 ไร่ ติดถนนสนามบินน้ำ และแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาเป็นคฤหาสน์หรูราคาแพง เดิมเคยระบุว่าราคาเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท ล่าสุดระบุว่าเริ่มต้นหลังละ 200 ล้านบาท และสูงสุดอาจถึง 700 ล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยวหรู 5 ชั้น ประมาณ 60 หลัง ซึ่งทุกหลังมีห้องใต้ดินและสระว่ายน้ำ ยังมีอาคาร 2 ชั้น เป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน ท่าเรือ และเริ่มการก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 แต่ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมนี้ มีรายงานว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) ได้มีการดำเนินการปิดประกาศการยึดทรัพย์คฤหาสน์หรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567 ต่อมาบ่ายวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวมติชนลงพื้นที่ พบว่าโครงการยังคงมีการก่อสร้าง จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.)ของโครงการ ระบุเพียงว่า โครงการไม่ได้หยุดการก่อสร้าง ส่วนกรณีที่ ปปง.ได้นำป้ายมาติดประกาศยึดทรัพย์นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากวันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่โครงการ ส่วนผู้จัดการโครงการ ได้กลับไปประเทศจีน คาดว่าจะกลับมาในเร็วๆนี้ ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4826062#m1teo54z9zv43g2vhh4 #Thaitimes
    WWW.MATICHON.CO.TH
    สะพัด โครงการคฤหาสน์หรู ทุนจีนหลังละ 200 ล.ย่านสนามบินน้ำ ถูกปปง.ติดป้ายยึดทรัพย์
    สะพัด โครงการคฤหาสน์หรูทุนจีนหลังละ 200 ล.ย่านสนามบินน้ำ ถูกปปง.ติดป้ายยึดทรัพย์ ล่าสุดล่องหนแล้ว คนงานยังเดินหน้าก่อสร้าง
    Like
    Sad
    4
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 700 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความบางส่วนเรื่อง“ช้างบรรณาการ” จากรัชกาลที่ ๔ จบชีวิตที่ร้านขายเนื้อกรุงปารีสจริงหรือ?โดย ไกรฤกษ์ นานา นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกันยายน ๒๕๕๙

    “ เครื่องราชบรรณาการจากสยามสมัยรัชกาลที่ ๔ ส่งไปพระราชทานพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ถึงฝรั่งเศส ไม่ได้มีเพียงพระมหามงกุฎเท่านั้น แต่ยังมีช้างสยามอีก ๒ เชือก ที่มีชีวิตอยู่ที่นั่นนานกว่า ๑๐ ปี แต่อนิจจา ช้างทั้ง ๒ เชือก ต้องเผชิญชะตากรรมน่ารันทด และจบชีวิตลงด้วยฝีมือทหารฝรั่งเศส ใน ค.ศ.๑๘๗๐ เกิดอะไรขึ้นกับของขวัญจากสยาม

    ช้างบรรณาการจากสยามได้รับการต้อนรับที่ปารีสอย่างอบอุ่น พระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ได้ทรงมอบให้หน่วยงานของสวนสัตว์กรุงปารีสเป็นผู้ดูแลเป็นอย่างดี จนพอจะคุ้นเคยกับสภาพภูมิอากาศแบบเมืองหนาว และมีชื่อเสียงอย่างกว้างขวางกับเด็กๆ ที่มาเยี่ยมเยียนสวนสัตว์อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เมื่อใดที่มีการโฆษณาหรือพูดถึงสวนสัตว์ Jardin des Plantes ช้างสยาม ๒ เชือกนี้ก็จะเป็นดาวเด่นในใบโฆษณาเสมอ

    ที่ปารีสพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ได้พระราชทานชื่อใหม่อันโก้หร่านให้ช้างบรรณาการคู่นี้ว่า คาสเตอร์ และพอลลุกซ์ (Castor & Pollux) ตามชื่อของพระโอรสแฝดของเทพธิดาลีด และเทพเจ้าซีอุส (Leda & Zeus) ทำให้ช้างทั้งคู่มีสถานภาพค่อนข้างมีเส้นสายกับทางราชสำนักและมีกิตติศัพท์พอควร

    ช้างสยามทั้ง ๒ เชือก ใช้ชีวิตอยู่ภายในสวนสัตว์กรุงปารีสจนมีอายุราว ๑๔ ปี ก็เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองขึ้นปลายรัชกาลของพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของช้างคู่นี้โดยตรง!?

    ในปี ค.ศ. ๑๘๗๐-๗๑ เกิดสงครามฟรังโก-ปรัสเซีย ส่งผลให้ฝรั่งเศสพ่ายแพ้อย่างยับเยิน พวกสาธารณรัฐนิยมในปารีสฉวยโอกาสทำการปฏิวัติล้มราชบัลลังก์ แล้วจัดตั้งระบอบสาธารณรัฐขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยโจมตีและประณามพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ว่าเป็นต้นเหตุของความพ่ายแพ้และอับจน ทรงถูกจับและเนรเทศออกนอกประเทศอย่างน่าเวทนา คุณความดีของราชวงศ์โบนาปาร์ตลบเลือนออกไปจากหัวใจของประชาชนจนหมดสิ้น

    กรุงปารีสถูกปิดล้อมนานหลายเดือน เกิดยุคข้าวยากหมากแพง แต่ในปารีสเป็นที่อยู่ของทั้งคนรวยและคนจน คนจนต้องจับหนู และเอาหมาแมวที่ตนเลี้ยงไว้มากินกันตาย

    แต่คนรวยที่อยู่ในปารีสก็ยังพอใช้เงินซื้อหาอาหารได้ แต่ที่ขาดแคลนคืออาหารชั้นดีที่คนมีฐานะต้องการในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของสังคมมีระดับปลายปี ค.ศ. ๑๘๗๐ ทางการจึงตัดสินใจชำแหละเนื้อของสัตว์ในสวนสัตว์อันเป็นแหล่งเนื้อชั้นดีแห่งเดียวที่เหลืออยู่ และกองกำลังป้องกันชาติตั้งกองกำลังดูแลสัตว์จากการถูกขโมยมาปีกว่า

    แต่แล้วในที่สุด ช้างสยาม ๒ เชือกสุดท้าย ซึ่งเป็นของขวัญจากพระเจ้ากรุงสยามก็ถูกสังเวยชีวิตเพื่อเอาใจคนมีฐานะ ถูกฆ่าและชำแหละที่ร้านขายเนื้อ เป็นเมนูอาหารชั้นเลิศ ณ ภัตตาคารหรูของปารีส เป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วยุโรปต้นปี ค.ศ. ๑๘๑๗”

    #Thaitimes
    บทความบางส่วนเรื่อง“ช้างบรรณาการ” จากรัชกาลที่ ๔ จบชีวิตที่ร้านขายเนื้อกรุงปารีสจริงหรือ?โดย ไกรฤกษ์ นานา นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกันยายน ๒๕๕๙ “ เครื่องราชบรรณาการจากสยามสมัยรัชกาลที่ ๔ ส่งไปพระราชทานพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ถึงฝรั่งเศส ไม่ได้มีเพียงพระมหามงกุฎเท่านั้น แต่ยังมีช้างสยามอีก ๒ เชือก ที่มีชีวิตอยู่ที่นั่นนานกว่า ๑๐ ปี แต่อนิจจา ช้างทั้ง ๒ เชือก ต้องเผชิญชะตากรรมน่ารันทด และจบชีวิตลงด้วยฝีมือทหารฝรั่งเศส ใน ค.ศ.๑๘๗๐ เกิดอะไรขึ้นกับของขวัญจากสยาม ช้างบรรณาการจากสยามได้รับการต้อนรับที่ปารีสอย่างอบอุ่น พระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ได้ทรงมอบให้หน่วยงานของสวนสัตว์กรุงปารีสเป็นผู้ดูแลเป็นอย่างดี จนพอจะคุ้นเคยกับสภาพภูมิอากาศแบบเมืองหนาว และมีชื่อเสียงอย่างกว้างขวางกับเด็กๆ ที่มาเยี่ยมเยียนสวนสัตว์อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เมื่อใดที่มีการโฆษณาหรือพูดถึงสวนสัตว์ Jardin des Plantes ช้างสยาม ๒ เชือกนี้ก็จะเป็นดาวเด่นในใบโฆษณาเสมอ ที่ปารีสพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ได้พระราชทานชื่อใหม่อันโก้หร่านให้ช้างบรรณาการคู่นี้ว่า คาสเตอร์ และพอลลุกซ์ (Castor & Pollux) ตามชื่อของพระโอรสแฝดของเทพธิดาลีด และเทพเจ้าซีอุส (Leda & Zeus) ทำให้ช้างทั้งคู่มีสถานภาพค่อนข้างมีเส้นสายกับทางราชสำนักและมีกิตติศัพท์พอควร ช้างสยามทั้ง ๒ เชือก ใช้ชีวิตอยู่ภายในสวนสัตว์กรุงปารีสจนมีอายุราว ๑๔ ปี ก็เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองขึ้นปลายรัชกาลของพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของช้างคู่นี้โดยตรง!? ในปี ค.ศ. ๑๘๗๐-๗๑ เกิดสงครามฟรังโก-ปรัสเซีย ส่งผลให้ฝรั่งเศสพ่ายแพ้อย่างยับเยิน พวกสาธารณรัฐนิยมในปารีสฉวยโอกาสทำการปฏิวัติล้มราชบัลลังก์ แล้วจัดตั้งระบอบสาธารณรัฐขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยโจมตีและประณามพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ว่าเป็นต้นเหตุของความพ่ายแพ้และอับจน ทรงถูกจับและเนรเทศออกนอกประเทศอย่างน่าเวทนา คุณความดีของราชวงศ์โบนาปาร์ตลบเลือนออกไปจากหัวใจของประชาชนจนหมดสิ้น กรุงปารีสถูกปิดล้อมนานหลายเดือน เกิดยุคข้าวยากหมากแพง แต่ในปารีสเป็นที่อยู่ของทั้งคนรวยและคนจน คนจนต้องจับหนู และเอาหมาแมวที่ตนเลี้ยงไว้มากินกันตาย แต่คนรวยที่อยู่ในปารีสก็ยังพอใช้เงินซื้อหาอาหารได้ แต่ที่ขาดแคลนคืออาหารชั้นดีที่คนมีฐานะต้องการในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของสังคมมีระดับปลายปี ค.ศ. ๑๘๗๐ ทางการจึงตัดสินใจชำแหละเนื้อของสัตว์ในสวนสัตว์อันเป็นแหล่งเนื้อชั้นดีแห่งเดียวที่เหลืออยู่ และกองกำลังป้องกันชาติตั้งกองกำลังดูแลสัตว์จากการถูกขโมยมาปีกว่า แต่แล้วในที่สุด ช้างสยาม ๒ เชือกสุดท้าย ซึ่งเป็นของขวัญจากพระเจ้ากรุงสยามก็ถูกสังเวยชีวิตเพื่อเอาใจคนมีฐานะ ถูกฆ่าและชำแหละที่ร้านขายเนื้อ เป็นเมนูอาหารชั้นเลิศ ณ ภัตตาคารหรูของปารีส เป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วยุโรปต้นปี ค.ศ. ๑๘๑๗” #Thaitimes
    Sad
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 685 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานขนส่ง จ.สิงห์บุรี ยืนยันตรวจสภาพรถบัสคันเกิดเหตุเพลิงไหม้ พบติดตั้งถังแก๊ส 6 ถัง ตามการจดทะเบียนหนังสือรับรอง ปฏิเสธไม่ทราบรถคันเกิดเหตุไปติดแก๊ส 11 ถังช่วงไหน นักข่าวรอรถบัสเจ้าของเดียวกับคันที่เกิดเหตุมาตรวจสภาพที่ลพบุรี ต้องรอเก้อ เพราะคันที่นัดมาตรวจพร้อมพวกร่วมขบวนอีก 5 คันถูกอายัดที่โคราช
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000093706

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สำนักงานขนส่ง จ.สิงห์บุรี ยืนยันตรวจสภาพรถบัสคันเกิดเหตุเพลิงไหม้ พบติดตั้งถังแก๊ส 6 ถัง ตามการจดทะเบียนหนังสือรับรอง ปฏิเสธไม่ทราบรถคันเกิดเหตุไปติดแก๊ส 11 ถังช่วงไหน นักข่าวรอรถบัสเจ้าของเดียวกับคันที่เกิดเหตุมาตรวจสภาพที่ลพบุรี ต้องรอเก้อ เพราะคันที่นัดมาตรวจพร้อมพวกร่วมขบวนอีก 5 คันถูกอายัดที่โคราช อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000093706 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Sad
    Haha
    Love
    Yay
    36
    3 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 3034 มุมมอง 1 รีวิว
  • ตำรวจ ปคบ.ร่วม ป.ป.ง.ลุยตรวจค้นบ้านและบริษัทของ "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ยึดปอร์เช่-แมคลาเรน พร้อมรถหรูยี่ห้ออื่นรวม 5 คัน เงินฝากและทรัพย์สินอื่นอีกหลายรายการ รวมเบ็ดเสร็จมูลค่ากว่า 70 ล้าน

    3 ตุลาคม 2567 -รายงานข่าวระบุว่า เวลาประมาณ 11.00 น. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ., โดยได้บูรณาการกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ภายใต้การอำนวยการของ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ได้สั่งการให้นายวรเศรษฐ์ สุรพนานนท์ชัย ผอ.กองข่าวกรองทางการเงิน เจ้าหน้าที่ชุดตรวจต้น นำโดย พ.ต.ท.กิตติพศ คงสูงเนิน และ พ.ต.ท.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สว.กก1 บก.ปคบ. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ แช่มมั่นคง ผอ.สสง.1,น.ส.พรรณจิรา ระดมกิจ ,พ.ต.ท.บริสุทธิ์ จันทร และ น.ส.จีรญาดา สำนวนกลาง นสส.ชก. นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้น จำนวน 2 จุด ดังนี้

    1.บ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
    2.บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด และ บริษัท ขายทุกอย่าง บายป๋าเบียร์ จำกัด ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
    ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ดังนี้
    1. รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE E-HYBRID COUPE สีส้ม จำนวน 1 คัน
    2. รถยนต์ยี่ห้อ MC LAREN สีส้ม จำนวน 1 คัน
    3. รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS สีดำ จำนวน 1 คัน
    4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น TR TRANSFOMER สีเหลือง ดำ จำนวน 1 คัน
    5.รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD สีขาว จำนวน 1 คัน
    6.อายัดบัญชีเงินฝาก และทรัพย์สินรายการอื่นๆ
    รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท

    พฤติการณ์ในการตรวจค้น สืบเนื่องจากกรณีมีผู้เสียหายหลายคนได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ บจก.เคทูเอ็น โกลด์ (ห้างเพชรทองเคทูเอ็น) โดยมีนายกานต์พล ฯ หรือป๋าเบียร์ กรรมการผู้มีอำนาจ กับพวก หลังผู้เสียหายหลายคนเป็นลูกค้าที่ซื้อทองรูปพรรณพร้อมของแถมผ่านการไลฟ์สดในสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมมีการอ้างว่าทองที่ขายดังกล่าว เป็นทองแท้ 99.99 % แต่เมื่อได้รับสินค้าแล้วทองเหล่านั้นไม่ตรงกับที่โฆษณาไว้ และยังเป็นทองที่ไม่ได้คุณภาพอีกด้วย ทำให้ได้รับความเสียหาย ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ยื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ก่อนจะสามารถจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา พร้อมนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวนไปแล้วก่อนหน้านี้

    วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ได้นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรีเข้าตรวจค้น จำนวน 2 จุด พร้อมกับทำการตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการตามบัญชีของกลางข้างต้น รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท โดยเป็นการปฏิบัติการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. ตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าวข้างต้น เป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องหรือได้มาเกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือไม่

    #Thaitimes
    ตำรวจ ปคบ.ร่วม ป.ป.ง.ลุยตรวจค้นบ้านและบริษัทของ "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ยึดปอร์เช่-แมคลาเรน พร้อมรถหรูยี่ห้ออื่นรวม 5 คัน เงินฝากและทรัพย์สินอื่นอีกหลายรายการ รวมเบ็ดเสร็จมูลค่ากว่า 70 ล้าน 3 ตุลาคม 2567 -รายงานข่าวระบุว่า เวลาประมาณ 11.00 น. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ., โดยได้บูรณาการกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ภายใต้การอำนวยการของ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ได้สั่งการให้นายวรเศรษฐ์ สุรพนานนท์ชัย ผอ.กองข่าวกรองทางการเงิน เจ้าหน้าที่ชุดตรวจต้น นำโดย พ.ต.ท.กิตติพศ คงสูงเนิน และ พ.ต.ท.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สว.กก1 บก.ปคบ. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ แช่มมั่นคง ผอ.สสง.1,น.ส.พรรณจิรา ระดมกิจ ,พ.ต.ท.บริสุทธิ์ จันทร และ น.ส.จีรญาดา สำนวนกลาง นสส.ชก. นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้น จำนวน 2 จุด ดังนี้ 1.บ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 2.บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด และ บริษัท ขายทุกอย่าง บายป๋าเบียร์ จำกัด ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ดังนี้ 1. รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE E-HYBRID COUPE สีส้ม จำนวน 1 คัน 2. รถยนต์ยี่ห้อ MC LAREN สีส้ม จำนวน 1 คัน 3. รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS สีดำ จำนวน 1 คัน 4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น TR TRANSFOMER สีเหลือง ดำ จำนวน 1 คัน 5.รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD สีขาว จำนวน 1 คัน 6.อายัดบัญชีเงินฝาก และทรัพย์สินรายการอื่นๆ รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท พฤติการณ์ในการตรวจค้น สืบเนื่องจากกรณีมีผู้เสียหายหลายคนได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ บจก.เคทูเอ็น โกลด์ (ห้างเพชรทองเคทูเอ็น) โดยมีนายกานต์พล ฯ หรือป๋าเบียร์ กรรมการผู้มีอำนาจ กับพวก หลังผู้เสียหายหลายคนเป็นลูกค้าที่ซื้อทองรูปพรรณพร้อมของแถมผ่านการไลฟ์สดในสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมมีการอ้างว่าทองที่ขายดังกล่าว เป็นทองแท้ 99.99 % แต่เมื่อได้รับสินค้าแล้วทองเหล่านั้นไม่ตรงกับที่โฆษณาไว้ และยังเป็นทองที่ไม่ได้คุณภาพอีกด้วย ทำให้ได้รับความเสียหาย ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ยื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ก่อนจะสามารถจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา พร้อมนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวนไปแล้วก่อนหน้านี้ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ได้นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรีเข้าตรวจค้น จำนวน 2 จุด พร้อมกับทำการตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการตามบัญชีของกลางข้างต้น รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท โดยเป็นการปฏิบัติการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. ตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าวข้างต้น เป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องหรือได้มาเกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือไม่ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 543 มุมมอง 0 รีวิว
  • AFP ตีข่าว ถนนไทยอันตรายอันดับ 2 ของเอเชีย ชี้ปัญหาส่วนหนึ่งจากเหตุทุจริตตรวจยานพาหนะ

    @สำนักข่าวอิศรา

    https://www.isranews.org/article/isranews-news/132274-isranews-ASIAA.html?fbclid=IwY2xjawFrSiFleHRuA2FlbQIxMQABHSOB7F3pVf-ZbbeJp169XkUQfVL5cjlbnkVD-zJJ7jNSUO58pRaezkPktA_aem_IqwIA5eouEh34AJMWOXbhA
    AFP ตีข่าว ถนนไทยอันตรายอันดับ 2 ของเอเชีย ชี้ปัญหาส่วนหนึ่งจากเหตุทุจริตตรวจยานพาหนะ @สำนักข่าวอิศรา https://www.isranews.org/article/isranews-news/132274-isranews-ASIAA.html?fbclid=IwY2xjawFrSiFleHRuA2FlbQIxMQABHSOB7F3pVf-ZbbeJp169XkUQfVL5cjlbnkVD-zJJ7jNSUO58pRaezkPktA_aem_IqwIA5eouEh34AJMWOXbhA
    WWW.ISRANEWS.ORG
    AFP ตีข่าว ถนนไทยอันตรายอันดับ 2 ของเอเชีย ชี้ปัญหาส่วนหนึ่งจากเหตุทุจริตตรวจยานพาหนะ
    AFP อ้างข้อมูล WHO ชี้ถนนไทยอันตราย 2 ของเอเชีย เสียชีวิตจากเหตุบนท้องถนนอันดับ 16 ของโลก -ปัญหาส่วนมากจากเมาแล้วขับ ออกแบบถนนไม่ดี เหตุทุจริตตรวจประสิทธิภาพยานพาหนะ ยกข่าว จนท.ทล.รับสินบนเป็นตัวอย่าง ขณะ รพ.ไทยแม้ประสิทธิภาพจะดี แต่การบริการฉุกเฉินในต่างจังหวัดยังเป็นปัญหา
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 3 ต.ค.พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ได้นำกำลังตำรวจพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้น เป้าหมายจำนวน 2 จุด เพื่อยึดทรัพย์คดีค้าทองคำจากผู้ต้องหาได้แก่ “แม่ตั๊ก-กรกนก สุวรรณบุตร” เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมและห้างเพชรทอง เคทูเอ็น ย่านถนนหทัยราษฎร์ และนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ เรืองอร่าม ผู้เป็นสามี

    สำหรับการตรวจค้นทั้ง 2 จุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ประกอบด้วยบ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านพักของสองผู้ต้องหา และบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด และ บริษัท ขายทุกอย่าง บายป๋าเบียร์ จำกัด ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

    โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย 1. รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE E-HYBRID COUPE สีส้ม จำนวน 1 คัน 2. รถยนต์ยี่ห้อ MCLAREN สีส้ม จำนวน 1 คัน ราคาราว 30 กว่าล้านบาท 3. รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS สีดำ จำนวน 1 คัน 4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น TR TRANSFOMER สีเหลือง ดำ จำนวน 1 คัน 5.รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD สีขาว จำนวน 1 คัน และ 6.อายัดบัญชีเงินฝาก และทรัพย์สินรายการอื่นๆ รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท

    @สำนักข่าวอิศรา

    https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/132284-isranews-yudsup.html?fbclid=IwY2xjawFrRgFleHRuA2FlbQIxMQABHYolkVUrBtBkDlWZQvi93mEP3GSdKTzMDpB60j0o_Fir4oWnucCe9uzqvw_aem_c0EUIraXw_Mox4ISiNs01w
    เมื่อวันที่ 3 ต.ค.พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ได้นำกำลังตำรวจพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้น เป้าหมายจำนวน 2 จุด เพื่อยึดทรัพย์คดีค้าทองคำจากผู้ต้องหาได้แก่ “แม่ตั๊ก-กรกนก สุวรรณบุตร” เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมและห้างเพชรทอง เคทูเอ็น ย่านถนนหทัยราษฎร์ และนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ เรืองอร่าม ผู้เป็นสามี สำหรับการตรวจค้นทั้ง 2 จุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ประกอบด้วยบ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านพักของสองผู้ต้องหา และบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด และ บริษัท ขายทุกอย่าง บายป๋าเบียร์ จำกัด ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย 1. รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE E-HYBRID COUPE สีส้ม จำนวน 1 คัน 2. รถยนต์ยี่ห้อ MCLAREN สีส้ม จำนวน 1 คัน ราคาราว 30 กว่าล้านบาท 3. รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS สีดำ จำนวน 1 คัน 4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น TR TRANSFOMER สีเหลือง ดำ จำนวน 1 คัน 5.รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD สีขาว จำนวน 1 คัน และ 6.อายัดบัญชีเงินฝาก และทรัพย์สินรายการอื่นๆ รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท @สำนักข่าวอิศรา https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/132284-isranews-yudsup.html?fbclid=IwY2xjawFrRgFleHRuA2FlbQIxMQABHYolkVUrBtBkDlWZQvi93mEP3GSdKTzMDpB60j0o_Fir4oWnucCe9uzqvw_aem_c0EUIraXw_Mox4ISiNs01w
    WWW.ISRANEWS.ORG
    ปคบ.สนธิกำลัง ปปง.เข้ายึดทรัพย์คดี 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' ค้าทองคำ อายัดรถ-เงินสด รวม 70ล.
    ปคบ.สนธิกำลัง ปปง.เข้ายึดทรัพย์คดี 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' ค้าทองคำ เบื้องต้นยึดรถหรู 30 ล้าน อายัดเงินฝาก ทรัพย์สินอื่นๆรวม 70 ล้าน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • #วันนี้จริงๆแล้วตั้งใจจะไม่โพสถึงเพจกากนี้อีกแล้ว
    ตอบคำถามให้ลุงนุหายสงสัยก่อนว่า
    ทำไมยังไม่เปิดข้อมูล ก็ไม่มีอะไรมาก ข้อมูลมันเยอะ และมีแฟนเพจเค้าตามีปัญหาหลายท่าน ที่อยากทราบข้อความข้อมูลที่พี่คิงส์พิมพ์แต่อ่านไม่ไหว ก็เลยทำเป็นคลิปมีเสียงแทน ซึ่งถ้าลุงนะแหหกตาดูนิดนึงก็เห็นแล้วแหละ แต่คงไม่เข้าใจหรอกว่าพี่คิงส์ทำอะไรเพื่ออะไร ก็มีอาจารย์มีวุฒิแค่ม.ต้น ยังเพิ่งซื้อแอดเป็นแล้วดีใจนั่นแหละ จะไปรู้อะไรที่มันลึกซึ้ง
    ข้อมูล มันจะมีสามแบบ
    1. ข้อมูลที่เปิดเผยได้เลย
    2. ข้อมูลที่ต้องรอเวลา
    3. ข้อมูลที่เปิดเผยไม่ได้ต้องส่งเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่
    คือ ถ้าเพจคิงส์โพสแบบที่ลุงนุโพส คือไม่ต้องหาข้อมูล โพสไปเรื่อย โพสแบบไม่มีแก่นสาร มันทำได้วันเป็นพันโพสนะไอ่นุ แต่นี่คือข้อมูล ที่พี่คิงส์ก็จะมีการซ้อนอ้างอิงไว้ในภาพ หรือในคอมเม้น ซึ่งลุงก็ไม่มีวันเข้าใจตอีกแหละ สรุปจบนะ ที่ถามว่าทำไมไม่โพสไอ่ที่ว่า
    ส่วนที่บอกว่าไม่โพสถึงเพราะกลัวลุงอะไรนั่น อ่านให้ดีๆนับจากบรรทัดนี้ไป
    และจะพิมพ์ถึงเมิงครั้งสุดท้ายแล้วไอ่นุ
    แฟนเพจก็ดูเอา โจมณฑนีลงทุนสอน แล้วอัดงบซื้อแอดให้ด้วยรึเปล่าไม่รู้
    แล้วดู ลุงโพสดิ แล้วจะให้พี่คิงส์ไปโพสถึงอะไรอีก มันเริ่มหยะแหย๋งไปเรื่อยๆ ดาวน์ลงไปแบบ สะอิดสเอียนจริงๆ
    แต่พอดี โพสพาดพิงถึงเพจคิงส์โพธิ์แดง
    ลักษณะว่า เพจลุงนุ เป็นเพจมีคุณภาพ
    คือ ขอถอนหงอกอีกซักรอบนะครับ
    คือ ตอนแรก พี่คิงส์คิดว่า แกเป็นคนเฒ่าที่แค่หลงตต.เกอร์เกาหลี
    เหมือนกับเฒ่าตันหากลับแบบพื้นๆ ที่เปย์กระเป๋าแบรนด์เนม
    ลาออกจากงานมาเพื่อโพสแต่เรื่องตต.เกอร์เกาหลีธรรมดา
    แต่พออ่านโพสพวกนี้แล้ว มันเกิดอธิบายจริงๆ
    มันมีคำถามขุึ้นมาในใจเลยว่า อายุขนาดนี้ ต้องมีลูก มีภรรยา
    รวมถึงต้องมีรุ่นหลานแล้วด้วย ซึ่งแกแสดงตนว่าตัวแกโสด
    แต่ก็มีคนบอกว่า แกมีลูกโตแล้ว ทำงานแล้วอะไรแบบนี้
    นั่นแปลว่า มีสองทาง เมียแกต้องไม่อยู่เพราะตรุย แต่พี่คิงส์คิดว่า
    สภาพนี้ เมียน่าจะทิ้งละครับ ดูสำนวนภาษาที่พิมพ์
    มันบ่งบอกถึงความ ถ๋อย สถูน ทราาม ยังไงไม่รู้
    แล้วเพ้อพรรณณา เดาว่า น่าจะเป็นแฟนเพจรุ่นลูกรุ่นหลานนี่แหละ
    แล้วไอ่เฒ่านี่ก็ไปจีบ แล้วล่อว่าจะดูแล พอน้องมันได้สติ
    ก็เผ่นดิครับ
    ถ้า ณุ เหงือกแดงผู้ไร้ฟัน เฒ่าชราตันหากลับ อยากรู้ว่า
    ทำไมพี่คิงส์ไม่โพสหา และไม่คิดจะโพสอะไรอีกแล้วถึงเมิง
    ขอให้รู้ไว้ว่า กรรูสะอิดสะเอืยน ไม่ไหว แค่คิดถึงภาพโปรไฟล์เพจแดงๆ
    แล้วมีตัวอักษร Diy reviwev2 มันก็รู้สึกพะอืดพะอม
    และยังคิดว่า ทำไม คนที่หลงรักกามิจ มันเป็นแบบนี้ทุกตัวเลย
    ไอ่เป็ดก็ไม่ต่างกัน ตอนแรกก็คิดว่า ลุงจะดีกว่ามันซักนิดนึง
    สุดท้าย กินกันไม่ลงเลย พอกันทั้งคู่
    นี่ใช่มั๊ย ทีมงานคนดีย์ของโจมณฑนี
    นี่นะเหรอ ผู้ปกป้องดอกเดซี่ แต่ละคน
    ไม่น่าจะมีตัวตนในสังคมจริงได้เลย
    พฤติกรรมของลุงนุนี่นะ โครตน่าอัวสำหรับหญิงสาว
    ที่อยู่ใกล้ชิดมากๆ แก่แบบ ยิ่งกว่ากะโหลกกะลา
    แต่เกินเยียวยา รอแค่ให้รีบ "ตาห่าย" ไปเร็วๆ
    คนแถวบ้าน ลูกชาวบ้าน เมียชาวบ้านระแวกบ้านลุง
    จะได้เดินในที่สาธารณะได้อย่างปลอดภัย
    หรือถ้าใครอยู่แถวนั้น ก็ฝากเตือนๆกันด้วยนะครับ
    เป็นชายผอม หน้าตอบ ชราแล้วแต่ย้อมผมครับ
    คิดว่าสาววัยรุ่นจะดูไม่ออกว่าตัวเองเฒ่าแล้ว
    แกจะไม่ยอมยิ้มเห็นฟันเด็ดขาด เพราะอ้าปากจะเจอแต่เหงือกดำๆ
    กินแอปเปิดแบบไม่เฉาะไม่ได้นะครับ มันจะปลิ้นไปปลิ้นมา
    แล้วชอบคิดว่าตัวเองหล่อมาก เหมือนอาโนลชวาเสน็กเกอร์
    แต่สาระ รูป อาจต้องอุทานว่า อนาถแท้
    ฝากด้วยนะครับ แปะป้ายติดประกาศไว้ก็จะยิ่งเป็นบุญ
    ให้กับลูกกับเมียคนระแวกนั้นได้ครับ
    เอาหละ ณุ ต่อจากนี้ไป เมิงไม่ต้องมาโพสพาดพิงพี่คิงส์อีก
    และขอแฟนเพจ อย่าส่งอะไรที่มันโพสมาอีก
    ชายคนนี้ น่าหยะแหยงเกินกว่าที่จะนำมาเอ่ยถึง
    หรือแม้กระทั่งนึกถึง ทีมงานโจมณฑนี เครือข่ายห้องดีซี
    เค้าคัดมาแล้วจริงๆ คัดแบบที่สังคมจริงไม่เอา
    สังคมจริงเททิ้ง ถ้าเปรียบบัวสี่เหล่า นี่คือยิ่งกว่าชั้นใต้ตม
    แต่เป็นชั้นที่จมต่ำระดับเต่าเผลอไปเคี้ยวยังต้องถุยทิ้งเลย
    ขอความร่วมมือจากแฟนเพจทุกท่านด้วยนะครับ
    ให้มัน ถ๋อย ทราาม และตาาายตามธรรมชาติไปครับ
    อย่าไปให้ความสำคัญ เดี๋ยวมันก็เจอทรรีนคนแถวนั้นเอง
    ไม่น่าอยู่มาได้ถึงวันนี้จริงๆ
    ขอทิ้งท้ายให้สตินะ อายุลุงตอนนี้นะ อีกไม่เกินแบบเต็มที่เลย
    10 ปี ก็เดินไม่ไหวแล้ว เมิงคิดจะใช้ชีวิตแบบนี้จนตาาายจริงๆเหรอ
    ก็แล้วแต่นะ เอาที่สบายใจ กรรรูสบายใจแบบนี้แหละ
    ที่ไม่ยุ่งกับขยะเก่าๆเปียกๆแบบเมิงอีก
    โจเลือกแม่ทัพเพื่อมาตอบโต้กับคิงส์ได้สมกับ
    ที่จบการศึกษาแค่ม.ต้นจริงๆ ขอชื่นชม
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #วันนี้จริงๆแล้วตั้งใจจะไม่โพสถึงเพจกากนี้อีกแล้ว ตอบคำถามให้ลุงนุหายสงสัยก่อนว่า ทำไมยังไม่เปิดข้อมูล ก็ไม่มีอะไรมาก ข้อมูลมันเยอะ และมีแฟนเพจเค้าตามีปัญหาหลายท่าน ที่อยากทราบข้อความข้อมูลที่พี่คิงส์พิมพ์แต่อ่านไม่ไหว ก็เลยทำเป็นคลิปมีเสียงแทน ซึ่งถ้าลุงนะแหหกตาดูนิดนึงก็เห็นแล้วแหละ แต่คงไม่เข้าใจหรอกว่าพี่คิงส์ทำอะไรเพื่ออะไร ก็มีอาจารย์มีวุฒิแค่ม.ต้น ยังเพิ่งซื้อแอดเป็นแล้วดีใจนั่นแหละ จะไปรู้อะไรที่มันลึกซึ้ง ข้อมูล มันจะมีสามแบบ 1. ข้อมูลที่เปิดเผยได้เลย 2. ข้อมูลที่ต้องรอเวลา 3. ข้อมูลที่เปิดเผยไม่ได้ต้องส่งเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ คือ ถ้าเพจคิงส์โพสแบบที่ลุงนุโพส คือไม่ต้องหาข้อมูล โพสไปเรื่อย โพสแบบไม่มีแก่นสาร มันทำได้วันเป็นพันโพสนะไอ่นุ แต่นี่คือข้อมูล ที่พี่คิงส์ก็จะมีการซ้อนอ้างอิงไว้ในภาพ หรือในคอมเม้น ซึ่งลุงก็ไม่มีวันเข้าใจตอีกแหละ สรุปจบนะ ที่ถามว่าทำไมไม่โพสไอ่ที่ว่า ส่วนที่บอกว่าไม่โพสถึงเพราะกลัวลุงอะไรนั่น อ่านให้ดีๆนับจากบรรทัดนี้ไป และจะพิมพ์ถึงเมิงครั้งสุดท้ายแล้วไอ่นุ แฟนเพจก็ดูเอา โจมณฑนีลงทุนสอน แล้วอัดงบซื้อแอดให้ด้วยรึเปล่าไม่รู้ แล้วดู ลุงโพสดิ แล้วจะให้พี่คิงส์ไปโพสถึงอะไรอีก มันเริ่มหยะแหย๋งไปเรื่อยๆ ดาวน์ลงไปแบบ สะอิดสเอียนจริงๆ แต่พอดี โพสพาดพิงถึงเพจคิงส์โพธิ์แดง ลักษณะว่า เพจลุงนุ เป็นเพจมีคุณภาพ คือ ขอถอนหงอกอีกซักรอบนะครับ คือ ตอนแรก พี่คิงส์คิดว่า แกเป็นคนเฒ่าที่แค่หลงตต.เกอร์เกาหลี เหมือนกับเฒ่าตันหากลับแบบพื้นๆ ที่เปย์กระเป๋าแบรนด์เนม ลาออกจากงานมาเพื่อโพสแต่เรื่องตต.เกอร์เกาหลีธรรมดา แต่พออ่านโพสพวกนี้แล้ว มันเกิดอธิบายจริงๆ มันมีคำถามขุึ้นมาในใจเลยว่า อายุขนาดนี้ ต้องมีลูก มีภรรยา รวมถึงต้องมีรุ่นหลานแล้วด้วย ซึ่งแกแสดงตนว่าตัวแกโสด แต่ก็มีคนบอกว่า แกมีลูกโตแล้ว ทำงานแล้วอะไรแบบนี้ นั่นแปลว่า มีสองทาง เมียแกต้องไม่อยู่เพราะตรุย แต่พี่คิงส์คิดว่า สภาพนี้ เมียน่าจะทิ้งละครับ ดูสำนวนภาษาที่พิมพ์ มันบ่งบอกถึงความ ถ๋อย สถูน ทราาม ยังไงไม่รู้ แล้วเพ้อพรรณณา เดาว่า น่าจะเป็นแฟนเพจรุ่นลูกรุ่นหลานนี่แหละ แล้วไอ่เฒ่านี่ก็ไปจีบ แล้วล่อว่าจะดูแล พอน้องมันได้สติ ก็เผ่นดิครับ ถ้า ณุ เหงือกแดงผู้ไร้ฟัน เฒ่าชราตันหากลับ อยากรู้ว่า ทำไมพี่คิงส์ไม่โพสหา และไม่คิดจะโพสอะไรอีกแล้วถึงเมิง ขอให้รู้ไว้ว่า กรรูสะอิดสะเอืยน ไม่ไหว แค่คิดถึงภาพโปรไฟล์เพจแดงๆ แล้วมีตัวอักษร Diy reviwev2 มันก็รู้สึกพะอืดพะอม และยังคิดว่า ทำไม คนที่หลงรักกามิจ มันเป็นแบบนี้ทุกตัวเลย ไอ่เป็ดก็ไม่ต่างกัน ตอนแรกก็คิดว่า ลุงจะดีกว่ามันซักนิดนึง สุดท้าย กินกันไม่ลงเลย พอกันทั้งคู่ นี่ใช่มั๊ย ทีมงานคนดีย์ของโจมณฑนี นี่นะเหรอ ผู้ปกป้องดอกเดซี่ แต่ละคน ไม่น่าจะมีตัวตนในสังคมจริงได้เลย พฤติกรรมของลุงนุนี่นะ โครตน่าอัวสำหรับหญิงสาว ที่อยู่ใกล้ชิดมากๆ แก่แบบ ยิ่งกว่ากะโหลกกะลา แต่เกินเยียวยา รอแค่ให้รีบ "ตาห่าย" ไปเร็วๆ คนแถวบ้าน ลูกชาวบ้าน เมียชาวบ้านระแวกบ้านลุง จะได้เดินในที่สาธารณะได้อย่างปลอดภัย หรือถ้าใครอยู่แถวนั้น ก็ฝากเตือนๆกันด้วยนะครับ เป็นชายผอม หน้าตอบ ชราแล้วแต่ย้อมผมครับ คิดว่าสาววัยรุ่นจะดูไม่ออกว่าตัวเองเฒ่าแล้ว แกจะไม่ยอมยิ้มเห็นฟันเด็ดขาด เพราะอ้าปากจะเจอแต่เหงือกดำๆ กินแอปเปิดแบบไม่เฉาะไม่ได้นะครับ มันจะปลิ้นไปปลิ้นมา แล้วชอบคิดว่าตัวเองหล่อมาก เหมือนอาโนลชวาเสน็กเกอร์ แต่สาระ รูป อาจต้องอุทานว่า อนาถแท้ ฝากด้วยนะครับ แปะป้ายติดประกาศไว้ก็จะยิ่งเป็นบุญ ให้กับลูกกับเมียคนระแวกนั้นได้ครับ เอาหละ ณุ ต่อจากนี้ไป เมิงไม่ต้องมาโพสพาดพิงพี่คิงส์อีก และขอแฟนเพจ อย่าส่งอะไรที่มันโพสมาอีก ชายคนนี้ น่าหยะแหยงเกินกว่าที่จะนำมาเอ่ยถึง หรือแม้กระทั่งนึกถึง ทีมงานโจมณฑนี เครือข่ายห้องดีซี เค้าคัดมาแล้วจริงๆ คัดแบบที่สังคมจริงไม่เอา สังคมจริงเททิ้ง ถ้าเปรียบบัวสี่เหล่า นี่คือยิ่งกว่าชั้นใต้ตม แต่เป็นชั้นที่จมต่ำระดับเต่าเผลอไปเคี้ยวยังต้องถุยทิ้งเลย ขอความร่วมมือจากแฟนเพจทุกท่านด้วยนะครับ ให้มัน ถ๋อย ทราาม และตาาายตามธรรมชาติไปครับ อย่าไปให้ความสำคัญ เดี๋ยวมันก็เจอทรรีนคนแถวนั้นเอง ไม่น่าอยู่มาได้ถึงวันนี้จริงๆ ขอทิ้งท้ายให้สตินะ อายุลุงตอนนี้นะ อีกไม่เกินแบบเต็มที่เลย 10 ปี ก็เดินไม่ไหวแล้ว เมิงคิดจะใช้ชีวิตแบบนี้จนตาาายจริงๆเหรอ ก็แล้วแต่นะ เอาที่สบายใจ กรรรูสบายใจแบบนี้แหละ ที่ไม่ยุ่งกับขยะเก่าๆเปียกๆแบบเมิงอีก โจเลือกแม่ทัพเพื่อมาตอบโต้กับคิงส์ได้สมกับ ที่จบการศึกษาแค่ม.ต้นจริงๆ ขอชื่นชม #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 802 มุมมอง 0 รีวิว
  • รับมือแม่สายระดับน้ำสูง อพยพชาวบ้านสายลมจอย การไฟฟ้าฯ ดับไฟฉุกเฉิน
    .
    วันนี้ (3 ต.ค.) สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำสาย บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสาย บริเวณด่านพรมแดนแม่สาย ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และร้านค้าบริเวณตลาดสายลมจอย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์แล้ว
    .
    ล่าสุด เมื่อเวลา 11.50 น. อำเภอแม่สาย สั่งอพยพชาวบ้านบริเวณซอยสายลมจอย ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว อยู่ที่วัดดอยเวา วัดถ้ำผาจม ส่วนเครื่องจักรกลต่างๆ ที่เข้าไปฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดระลอกแรก หยุดดำเนินการชั่วคราว เนื่องจากระดับน้ำสูง ปฏิบัติงานไม่ได้
    .
    ด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาแม่สาย ประกาศว่า เวลา 11.10 น. จะมีการดับกระแสไฟฟ้าฉุกเฉินบริเวณสายลมจอย ถึงเกาะทราย เนื่องจากระดับน้ำท่วมขึ้นสูงบริเวณถนนสายลมจอย โดยจะมีผู้ได้รับผลกระทบ บริเวณบ้านถ้ำผาจม ถึงสายลมจอย หมู่บ้านไม้ลุงขน หมู่บ้านเกาะทราย ผามควาย
    .
    ขณะที่สถานการณ์ในจังหวัดเชียงราย พบว่าฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 2 ต.ค. ทำให้ช่วงเช้าวันนี้หลายพื่นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงรายมีน้ำท่วมขัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งระบายน้ำลดผลกระทบให้กับประชาชนเป็นการเร่งด่วนแล้ว
    .
    ขณะทีีสถานีอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้มีการคาดหมายลักษณะอากาศวันนี้ ว่ายังคงมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้มีการประกาศ เฝ้าระวัง น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังแม่น้ำกก ช่วงวันที่ 2-9 ต.ค. 2567 เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ทำให้ฝนตกหนักมากในพื้นที่ต้นน้ำในเขต อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำกก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าระดับน้ำจะล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้แม่น้ำกก บริเวณ อ.เมืองเชียงราย เวียงชัย เวียงเชียงรุ้ง แม่จัน ดอยหลวง และเชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 0.5 - 1.0 เมตร
    .
    ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งเตือนทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือทันที ตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อได้รับการร้องขอ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย (ศปช. ส่วนหน้า จ.เชียงราย) หมายเลขโทรศัพท์ 09 3131 1784 สายด่วน 1567
    ..............
    Sondhi X
    รับมือแม่สายระดับน้ำสูง อพยพชาวบ้านสายลมจอย การไฟฟ้าฯ ดับไฟฉุกเฉิน . วันนี้ (3 ต.ค.) สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำสาย บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสาย บริเวณด่านพรมแดนแม่สาย ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และร้านค้าบริเวณตลาดสายลมจอย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์แล้ว . ล่าสุด เมื่อเวลา 11.50 น. อำเภอแม่สาย สั่งอพยพชาวบ้านบริเวณซอยสายลมจอย ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว อยู่ที่วัดดอยเวา วัดถ้ำผาจม ส่วนเครื่องจักรกลต่างๆ ที่เข้าไปฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดระลอกแรก หยุดดำเนินการชั่วคราว เนื่องจากระดับน้ำสูง ปฏิบัติงานไม่ได้ . ด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาแม่สาย ประกาศว่า เวลา 11.10 น. จะมีการดับกระแสไฟฟ้าฉุกเฉินบริเวณสายลมจอย ถึงเกาะทราย เนื่องจากระดับน้ำท่วมขึ้นสูงบริเวณถนนสายลมจอย โดยจะมีผู้ได้รับผลกระทบ บริเวณบ้านถ้ำผาจม ถึงสายลมจอย หมู่บ้านไม้ลุงขน หมู่บ้านเกาะทราย ผามควาย . ขณะที่สถานการณ์ในจังหวัดเชียงราย พบว่าฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 2 ต.ค. ทำให้ช่วงเช้าวันนี้หลายพื่นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงรายมีน้ำท่วมขัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งระบายน้ำลดผลกระทบให้กับประชาชนเป็นการเร่งด่วนแล้ว . ขณะทีีสถานีอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้มีการคาดหมายลักษณะอากาศวันนี้ ว่ายังคงมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้มีการประกาศ เฝ้าระวัง น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังแม่น้ำกก ช่วงวันที่ 2-9 ต.ค. 2567 เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ทำให้ฝนตกหนักมากในพื้นที่ต้นน้ำในเขต อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำกก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าระดับน้ำจะล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้แม่น้ำกก บริเวณ อ.เมืองเชียงราย เวียงชัย เวียงเชียงรุ้ง แม่จัน ดอยหลวง และเชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 0.5 - 1.0 เมตร . ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งเตือนทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือทันที ตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อได้รับการร้องขอ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย (ศปช. ส่วนหน้า จ.เชียงราย) หมายเลขโทรศัพท์ 09 3131 1784 สายด่วน 1567 .............. Sondhi X
    Sad
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 556 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## ขีปนาวุธ กว่า 200 ลูก ถล่ม รัฐเถื่อน อิสราเอล ##
    ..
    ..
    การถล่ม อิสราเอล ครั้งนี้ของ อิหร่าน เป็นการ ตอบโต้ การสังหารเจ้าหน้าที่ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส และ IRGC
    .
    ที่สำคัญที่สุดคือ การลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ด้วยการ ยิงจรวดนำวิถี เล็งเป้าบ้านพักรับรอง ในกรุงเตหะราน ใจกลาง ประเทศอิหร่าน
    .
    ซึ่งคำสั่งให้ยิงขีปนาวุธโจมตี อิสราเอล ในครั้งนี้นั้น ได้รับมาจากผู้นำสูงสุดของประเทศอย่าง อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี
    .
    โดย ขีปนาวุธ มุ่งเป้าไปที่ ฐานทัพทหาร 3 แห่ง ในพื้นที่ "เทลอาวีฟ"
    .
    เหตุเกิดเมื่อวันที่ 01/10/2567 โดยสื่อไทย (ใจฝรั่ง) ส่วนใหญ่ เกือบทั้งหมดมีแต่คลิปขีปนาวุธ บินว่อนอยู่บนท้องฟ้า...
    .
    โดยที่ ไม่มีคลิปขีปนาวุธตกกระทบพื้นเลย...!!!
    .
    เพราะซื้อข่าวจาก สำนักข่าว Hollywood มาแปล แล้ว อ่านให้เราฟังต่อว่า...
    .
    "ขีปนาวุธ ทั้งหมด ถูก ไอรอนโดม และ ทัพเรือ อเมริกา ยิงทำลายทิ้งได้เกือบทั้งหมด อิสราเอล ไม่ได้เสียหายอะไรเลย เศษระเบิดลงสู่พื้นที่โล่งว่างเปล่า และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2-3 คน"
    .
    เรื่องจริง ไม่อิงสำนักข่าว Hollywood คือ รัฐเถื่อน อิสราเอล เสียหายหนักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...!!!
    .
    ขีปนาวุธ กว่า 200 ลูก ลงสู่เป้าหมายเกือบทุกลูก ไอรอนโดม ที่คุยว่าแน่ รวมกับ ทัพเรือ อเมริกา ที่ช่วย ยิงสกัด ยังต้านไม่อยู่...
    .
    นี่คือ อานุภาพของ ขีปนาวุธ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น Hyper Sonic ที่ อิหร่าน มีแล้ว แต่ อเมริกา ยังไม่มี...
    .
    ก่อนหน้านี้มีคลิปที่ อิหร่าน ปล่อยออกมา เป็น วิดีโอ ที่ถูกถ่ายจาก โดรน ถึงสภาพภูมิประเทศต่างๆของ อิสราเอล
    .
    ที่น่าแปลกใจคือ บินถ่ายออกมาได้อย่างอิสระเสรี ได้ยังไงโดยที่ อิสราเอล ไม่รู้ระแคะระคาย โดยที่ ไม่ถูกไอรอนโดม ยิงทิ้ง...
    .
    วันนี้ก็พิสูจน์ชัดว่าเป็น โดรนล่องหน ของอิหร่าน และ อิหร่าน รู้สภาพพื้นที่ของ อิสราเอล ปรุโปร่ง...
    .
    หลังจากนี้ ทัพเรือ อเมริกา ที่ ไปจ่อน่านน้ำแถวนั้น ต้องสำเนียกตัวเองเสียใหม่ ว่ามีโอกาสถูกจมได้เสมอ จาก ขีปนาวุธ Hyper Sonic...
    .
    https://www.aljazeera.com/news/2024/10/1/irans-missile-attack-against-israel-what-we-know-and-what-comes-next
    ## ขีปนาวุธ กว่า 200 ลูก ถล่ม รัฐเถื่อน อิสราเอล ## .. .. การถล่ม อิสราเอล ครั้งนี้ของ อิหร่าน เป็นการ ตอบโต้ การสังหารเจ้าหน้าที่ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส และ IRGC . ที่สำคัญที่สุดคือ การลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ด้วยการ ยิงจรวดนำวิถี เล็งเป้าบ้านพักรับรอง ในกรุงเตหะราน ใจกลาง ประเทศอิหร่าน . ซึ่งคำสั่งให้ยิงขีปนาวุธโจมตี อิสราเอล ในครั้งนี้นั้น ได้รับมาจากผู้นำสูงสุดของประเทศอย่าง อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี . โดย ขีปนาวุธ มุ่งเป้าไปที่ ฐานทัพทหาร 3 แห่ง ในพื้นที่ "เทลอาวีฟ" . เหตุเกิดเมื่อวันที่ 01/10/2567 โดยสื่อไทย (ใจฝรั่ง) ส่วนใหญ่ เกือบทั้งหมดมีแต่คลิปขีปนาวุธ บินว่อนอยู่บนท้องฟ้า... . โดยที่ ไม่มีคลิปขีปนาวุธตกกระทบพื้นเลย...!!! . เพราะซื้อข่าวจาก สำนักข่าว Hollywood มาแปล แล้ว อ่านให้เราฟังต่อว่า... . "ขีปนาวุธ ทั้งหมด ถูก ไอรอนโดม และ ทัพเรือ อเมริกา ยิงทำลายทิ้งได้เกือบทั้งหมด อิสราเอล ไม่ได้เสียหายอะไรเลย เศษระเบิดลงสู่พื้นที่โล่งว่างเปล่า และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2-3 คน" . เรื่องจริง ไม่อิงสำนักข่าว Hollywood คือ รัฐเถื่อน อิสราเอล เสียหายหนักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...!!! . ขีปนาวุธ กว่า 200 ลูก ลงสู่เป้าหมายเกือบทุกลูก ไอรอนโดม ที่คุยว่าแน่ รวมกับ ทัพเรือ อเมริกา ที่ช่วย ยิงสกัด ยังต้านไม่อยู่... . นี่คือ อานุภาพของ ขีปนาวุธ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น Hyper Sonic ที่ อิหร่าน มีแล้ว แต่ อเมริกา ยังไม่มี... . ก่อนหน้านี้มีคลิปที่ อิหร่าน ปล่อยออกมา เป็น วิดีโอ ที่ถูกถ่ายจาก โดรน ถึงสภาพภูมิประเทศต่างๆของ อิสราเอล . ที่น่าแปลกใจคือ บินถ่ายออกมาได้อย่างอิสระเสรี ได้ยังไงโดยที่ อิสราเอล ไม่รู้ระแคะระคาย โดยที่ ไม่ถูกไอรอนโดม ยิงทิ้ง... . วันนี้ก็พิสูจน์ชัดว่าเป็น โดรนล่องหน ของอิหร่าน และ อิหร่าน รู้สภาพพื้นที่ของ อิสราเอล ปรุโปร่ง... . หลังจากนี้ ทัพเรือ อเมริกา ที่ ไปจ่อน่านน้ำแถวนั้น ต้องสำเนียกตัวเองเสียใหม่ ว่ามีโอกาสถูกจมได้เสมอ จาก ขีปนาวุธ Hyper Sonic... . https://www.aljazeera.com/news/2024/10/1/irans-missile-attack-against-israel-what-we-know-and-what-comes-next
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 69 0 รีวิว
  • ## ขีปนาวุธ กว่า 200 ลูก ถล่ม รัฐเถื่อน อิสราเอล ##
    ..
    ..
    การถล่ม อิสราเอล ครั้งนี้ของ อิหร่าน เป็นการ ตอบโต้ การสังหารเจ้าหน้าที่ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส และ IRGC
    .
    ที่สำคัญที่สุดคือ การลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ด้วยการ ยิงจรวดนำวิถี เล็งเป้าบ้านพักรับรอง ในกรุงเตหะราน ใจกลาง ประเทศอิหร่าน
    .
    ซึ่งคำสั่งให้ยิงขีปนาวุธโจมตี อิสราเอล ในครั้งนี้นั้น ได้รับมาจากผู้นำสูงสุดของประเทศอย่าง อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี
    .
    โดย ขีปนาวุธ มุ่งเป้าไปที่ ฐานทัพทหาร 3 แห่ง ในพื้นที่ "เทลอาวีฟ"
    .
    เหตุเกิดเมื่อวันที่ 01/10/2567 โดยสื่อไทย (ใจฝรั่ง) ส่วนใหญ่ เกือบทั้งหมดมีแต่คลิปขีปนาวุธ บินว่อนอยู่บนท้องฟ้า...
    .
    โดยที่ ไม่มีคลิปขีปนาวุธตกกระทบพื้นเลย...!!!
    .
    เพราะซื้อข่าวจาก สำนักข่าว Hollywood มาแปล แล้ว อ่านให้เราฟังต่อว่า...
    .
    "ขีปนาวุธ ทั้งหมด ถูก ไอรอนโดม และ ทัพเรือ อเมริกา ยิงทำลายทิ้งได้เกือบทั้งหมด อิสราเอล ไม่ได้เสียหายอะไรเลย เศษระเบิดลงสู่พื้นที่โล่งว่างเปล่า และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2-3 คน"
    .
    เรื่องจริง ไม่อิงสำนักข่าว Hollywood คือ รัฐเถื่อน อิสราเอล เสียหายหนักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...!!!
    .
    ขีปนาวุธ กว่า 200 ลูก ลงสู่เป้าหมายเกือบทุกลูก ไอรอนโดม ที่คุยว่าแน่ รวมกับ ทัพเรือ อเมริกา ที่ช่วย ยิงสกัด ยังต้านไม่อยู่...
    .
    นี่คือ อานุภาพของ ขีปนาวุธ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น Hyper Sonic ที่ อิหร่าน มีแล้ว แต่ อเมริกา ยังไม่มี...
    .
    ก่อนหน้านี้มีคลิปที่ อิหร่าน ปล่อยออกมา เป็น วิดีโอ ที่ถูกถ่ายจาก โดรน ถึงสภาพภูมิประเทศต่างๆของ อิสราเอล
    .
    ที่น่าแปลกใจคือ บินถ่ายออกมาได้อย่างอิสระเสรี ได้ยังไงโดยที่ อิสราเอล ไม่รู้ระแคะระคาย โดยที่ ไม่ถูกไอรอนโดม ยิงทิ้ง...
    .
    วันนี้ก็พิสูจน์ชัดว่าเป็น โดรนล่องหน ของอิหร่าน และ อิหร่าน รู้สภาพพื้นที่ของ อิสราเอล ปรุโปร่ง...
    .
    หลังจากนี้ ทัพเรือ อเมริกา ที่ ไปจ่อน่านน้ำแถวนั้น ต้องสำเนียกตัวเองเสียใหม่ ว่ามีโอกาสถูกจมได้เสมอ จาก ขีปนาวุธ Hyper Sonic...
    .
    https://www.aljazeera.com/news/2024/10/1/irans-missile-attack-against-israel-what-we-know-and-what-comes-next
    ## ขีปนาวุธ กว่า 200 ลูก ถล่ม รัฐเถื่อน อิสราเอล ## .. .. การถล่ม อิสราเอล ครั้งนี้ของ อิหร่าน เป็นการ ตอบโต้ การสังหารเจ้าหน้าที่ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส และ IRGC . ที่สำคัญที่สุดคือ การลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ด้วยการ ยิงจรวดนำวิถี เล็งเป้าบ้านพักรับรอง ในกรุงเตหะราน ใจกลาง ประเทศอิหร่าน . ซึ่งคำสั่งให้ยิงขีปนาวุธโจมตี อิสราเอล ในครั้งนี้นั้น ได้รับมาจากผู้นำสูงสุดของประเทศอย่าง อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี . โดย ขีปนาวุธ มุ่งเป้าไปที่ ฐานทัพทหาร 3 แห่ง ในพื้นที่ "เทลอาวีฟ" . เหตุเกิดเมื่อวันที่ 01/10/2567 โดยสื่อไทย (ใจฝรั่ง) ส่วนใหญ่ เกือบทั้งหมดมีแต่คลิปขีปนาวุธ บินว่อนอยู่บนท้องฟ้า... . โดยที่ ไม่มีคลิปขีปนาวุธตกกระทบพื้นเลย...!!! . เพราะซื้อข่าวจาก สำนักข่าว Hollywood มาแปล แล้ว อ่านให้เราฟังต่อว่า... . "ขีปนาวุธ ทั้งหมด ถูก ไอรอนโดม และ ทัพเรือ อเมริกา ยิงทำลายทิ้งได้เกือบทั้งหมด อิสราเอล ไม่ได้เสียหายอะไรเลย เศษระเบิดลงสู่พื้นที่โล่งว่างเปล่า และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2-3 คน" . เรื่องจริง ไม่อิงสำนักข่าว Hollywood คือ รัฐเถื่อน อิสราเอล เสียหายหนักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...!!! . ขีปนาวุธ กว่า 200 ลูก ลงสู่เป้าหมายเกือบทุกลูก ไอรอนโดม ที่คุยว่าแน่ รวมกับ ทัพเรือ อเมริกา ที่ช่วย ยิงสกัด ยังต้านไม่อยู่... . นี่คือ อานุภาพของ ขีปนาวุธ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น Hyper Sonic ที่ อิหร่าน มีแล้ว แต่ อเมริกา ยังไม่มี... . ก่อนหน้านี้มีคลิปที่ อิหร่าน ปล่อยออกมา เป็น วิดีโอ ที่ถูกถ่ายจาก โดรน ถึงสภาพภูมิประเทศต่างๆของ อิสราเอล . ที่น่าแปลกใจคือ บินถ่ายออกมาได้อย่างอิสระเสรี ได้ยังไงโดยที่ อิสราเอล ไม่รู้ระแคะระคาย โดยที่ ไม่ถูกไอรอนโดม ยิงทิ้ง... . วันนี้ก็พิสูจน์ชัดว่าเป็น โดรนล่องหน ของอิหร่าน และ อิหร่าน รู้สภาพพื้นที่ของ อิสราเอล ปรุโปร่ง... . หลังจากนี้ ทัพเรือ อเมริกา ที่ ไปจ่อน่านน้ำแถวนั้น ต้องสำเนียกตัวเองเสียใหม่ ว่ามีโอกาสถูกจมได้เสมอ จาก ขีปนาวุธ Hyper Sonic... . https://www.aljazeera.com/news/2024/10/1/irans-missile-attack-against-israel-what-we-know-and-what-comes-next
    WWW.ALJAZEERA.COM
    Iran’s missile attack against Israel: What we know and what comes next
    Israel vows to retaliate after barrage of Iranian missiles fired in response to killings of Hamas, Hezbollah leaders.
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr
    📱Office Line ID : @navarich
    📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654
    ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354
    ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 ,
    063-653-9242
    ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr 📱Office Line ID : @navarich 📞เบอร์สำนักงาน : 083-699-5654 ☎️ HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354 ,063-593-5142 ,065-324-6951 , 061-626-9236 , 063-653-9242 ♥️เลขทะเบียน ททท. : 11/08116
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไม..ไม่ควรกินไข่

    1. ผิดศีล-ลักขโมย ไข่สามารถพัฒนาเป็นลูกสัตว์ ซึ่งใครๆก็รักลูกใช่ไหม?
    2. สรุปผลจากงานวิจัย พบว่า ไข่ มี Lecithin และ Choline เป็นสารตั้งต้น เร่งทำให้เกิดตะกรัน จับที่ผนังของหลอดเลือดสมอง และ หัวใจ

    โดยที่แบคทีเรีย(ตัวไม่ดี)ในลำไส้ เปลี่ยนสารทั้งสองนี้ ให้เป็น #ไตรเมทิลามีนอ๊อกไซด์ TMAO หรือ #เป็นโมเลกุลจากนรก ได้ถึง 70% ไปจับที่ผนังของหลอดเลือด ไม่ต่างจากการกินเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม

    (เคยเขียนมาแล้ว) https://www.facebook.com/photo.php?fbid=520041798714886&set=pb.100021272116347.-2207520000&type=3

    3. ไข่ เป็น อาหารกรด โดยเฉพาะ "ไข่แดง" Egg Yolk=อันตรายมาก เพราะ เมื่อกินเข้าไป ผลสุดท้ายจากการย่อยจะทำให้ร่างกานเป็นกรดอย่างแรง (Potential Renal Acid Load Score=23.4)
    อ้างอิง : https://www.bobbiemcphail.com/pral

    ดังนั้น วิวัฒนาการทางธรรมชาติ
    สร้างมนุษย์มาให้กินผัก ผลไม้
    ถูกต้องแล้ว ค่ะ
    .

    เจริญธรรม สำนึกดี

    พัชรี ว่องไววิทย์
    July24, 2024
    Sausalito, CA94965
    ทำไม..ไม่ควรกินไข่ 1. ผิดศีล-ลักขโมย ไข่สามารถพัฒนาเป็นลูกสัตว์ ซึ่งใครๆก็รักลูกใช่ไหม? 2. สรุปผลจากงานวิจัย พบว่า ไข่ มี Lecithin และ Choline เป็นสารตั้งต้น เร่งทำให้เกิดตะกรัน จับที่ผนังของหลอดเลือดสมอง และ หัวใจ โดยที่แบคทีเรีย(ตัวไม่ดี)ในลำไส้ เปลี่ยนสารทั้งสองนี้ ให้เป็น #ไตรเมทิลามีนอ๊อกไซด์ TMAO หรือ #เป็นโมเลกุลจากนรก ได้ถึง 70% ไปจับที่ผนังของหลอดเลือด ไม่ต่างจากการกินเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม (เคยเขียนมาแล้ว) https://www.facebook.com/photo.php?fbid=520041798714886&set=pb.100021272116347.-2207520000&type=3 3. ไข่ เป็น อาหารกรด โดยเฉพาะ "ไข่แดง" Egg Yolk=อันตรายมาก เพราะ เมื่อกินเข้าไป ผลสุดท้ายจากการย่อยจะทำให้ร่างกานเป็นกรดอย่างแรง (Potential Renal Acid Load Score=23.4) อ้างอิง : https://www.bobbiemcphail.com/pral ดังนั้น วิวัฒนาการทางธรรมชาติ สร้างมนุษย์มาให้กินผัก ผลไม้ ถูกต้องแล้ว ค่ะ . เจริญธรรม สำนึกดี พัชรี ว่องไววิทย์ July24, 2024 Sausalito, CA94965
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts