• หัวข้อข่าว: Microsoft ปรับชื่ออัปเดต Windows แบบใหม่—สั้นลงแต่ทำ IT ปวดหัว

    Microsoft ได้เปลี่ยนรูปแบบการตั้งชื่ออัปเดต Windows โดยตัดข้อมูลสำคัญออกไป เช่น เวอร์ชันระบบปฏิบัติการ, สถาปัตยกรรม, เดือนและปีของการปล่อยอัปเดต ซึ่งเคยช่วยให้ผู้ดูแลระบบและผู้ใช้ทั่วไปสามารถระบุอัปเดตได้อย่างแม่นยำ การเปลี่ยนแปลงนี้จุดชนวนให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชุมชน IT อย่างกว้างขวาง

    รูปแบบชื่อเดิมของอัปเดต Windows
    ตัวอย่าง: Cumulative Update Preview for Windows 11 Version 24H2 for x64-based Systems (KB5065789) (26100.6725)
    มีข้อมูลครบถ้วน เช่น ประเภทอัปเดต, เวอร์ชัน OS, สถาปัตยกรรม, เดือน/ปี, รหัส KB, และ build number

    รูปแบบชื่อใหม่ที่ Microsoft นำมาใช้
    ตัวอย่าง: Security Update (KB5034123) (26100.4747)
    ตัดข้อมูลสำคัญออก เหลือเพียงประเภทอัปเดต, รหัส KB และ build number

    เหตุผลของ Microsoft
    ต้องการให้ชื่ออัปเดตอ่านง่ายขึ้นในหน้า Settings และประวัติการอัปเดต
    อ้างว่าเป็นประโยชน์ต่อ OEM และพันธมิตรด้านบริการ

    เสียงคัดค้านจากผู้ดูแลระบบ
    มองว่าชื่อใหม่ทำให้ยากต่อการติดตามและวิเคราะห์ปัญหา
    เรียกร้องให้ Microsoft กลับไปใช้รูปแบบเดิมที่ให้ข้อมูลครบถ้วน

    ตัวอย่างชื่ออัปเดตในรูปแบบใหม่
    Monthly Security: Security Update (KB5034123) (26100.4747)
    Preview: Preview Update (KB5062660) (26100.4770)
    .NET: .NET Framework Security Update (KB5056579)
    Driver: Logitech Driver Update (123.331.1.0)
    AI Component: Phi Silica AI Component Update (KB5064650) (1.2507.793.0)

    https://securityonline.info/streamlined-microsoft-strips-critical-info-from-windows-update-names-causing-it-backlash/
    🪟 หัวข้อข่าว: Microsoft ปรับชื่ออัปเดต Windows แบบใหม่—สั้นลงแต่ทำ IT ปวดหัว Microsoft ได้เปลี่ยนรูปแบบการตั้งชื่ออัปเดต Windows โดยตัดข้อมูลสำคัญออกไป เช่น เวอร์ชันระบบปฏิบัติการ, สถาปัตยกรรม, เดือนและปีของการปล่อยอัปเดต ซึ่งเคยช่วยให้ผู้ดูแลระบบและผู้ใช้ทั่วไปสามารถระบุอัปเดตได้อย่างแม่นยำ การเปลี่ยนแปลงนี้จุดชนวนให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชุมชน IT อย่างกว้างขวาง ✅ รูปแบบชื่อเดิมของอัปเดต Windows ➡️ ตัวอย่าง: Cumulative Update Preview for Windows 11 Version 24H2 for x64-based Systems (KB5065789) (26100.6725) ➡️ มีข้อมูลครบถ้วน เช่น ประเภทอัปเดต, เวอร์ชัน OS, สถาปัตยกรรม, เดือน/ปี, รหัส KB, และ build number ✅ รูปแบบชื่อใหม่ที่ Microsoft นำมาใช้ ➡️ ตัวอย่าง: Security Update (KB5034123) (26100.4747) ➡️ ตัดข้อมูลสำคัญออก เหลือเพียงประเภทอัปเดต, รหัส KB และ build number ✅ เหตุผลของ Microsoft ➡️ ต้องการให้ชื่ออัปเดตอ่านง่ายขึ้นในหน้า Settings และประวัติการอัปเดต ➡️ อ้างว่าเป็นประโยชน์ต่อ OEM และพันธมิตรด้านบริการ ✅ เสียงคัดค้านจากผู้ดูแลระบบ ➡️ มองว่าชื่อใหม่ทำให้ยากต่อการติดตามและวิเคราะห์ปัญหา ➡️ เรียกร้องให้ Microsoft กลับไปใช้รูปแบบเดิมที่ให้ข้อมูลครบถ้วน ✅ ตัวอย่างชื่ออัปเดตในรูปแบบใหม่ ➡️ Monthly Security: Security Update (KB5034123) (26100.4747) ➡️ Preview: Preview Update (KB5062660) (26100.4770) ➡️ .NET: .NET Framework Security Update (KB5056579) ➡️ Driver: Logitech Driver Update (123.331.1.0) ➡️ AI Component: Phi Silica AI Component Update (KB5064650) (1.2507.793.0) https://securityonline.info/streamlined-microsoft-strips-critical-info-from-windows-update-names-causing-it-backlash/
    SECURITYONLINE.INFO
    Streamlined? Microsoft Strips Critical Info from Windows Update Names, Causing IT Backlash
    Microsoft is simplifying Windows Update names by removing OS version, date, and architecture—a change criticized by admins for degrading readability and context.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อกฎหมายไซเบอร์กลายเป็นเครื่องมือปราบนักข่าว

    บทความจาก Columbia Journalism Review เปิดเผยว่า กฎหมายไซเบอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำลังถูกใช้เพื่อกดขี่เสรีภาพสื่อในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแอฟริกาและตะวันออกกลาง เช่น ไนจีเรีย ปากีสถาน จอร์แดน และไนเจอร์

    ตัวอย่างที่เด่นชัดคือกรณีของ Daniel Ojukwu นักข่าววัย 26 ปีจากไนจีเรีย ที่ถูกจับกุมโดยไม่มีการแจ้งข้อหาอย่างชัดเจน หลังจากเขาเขียนบทความเกี่ยวกับการทุจริตในสำนักงานประธานาธิบดี เขาถูกกล่าวหาว่าละเมิด Cybercrime Act ปี 2015 ซึ่งมีบทบัญญัติที่คลุมเครือ เช่น ห้ามเผยแพร่ข้อมูล “น่ารำคาญ” หรือ “หยาบคาย” ทางออนไลน์

    แม้จะมีการแก้ไขกฎหมายในปี 2024 แต่ข้อความใหม่ยังคงเปิดช่องให้ตีความได้กว้าง เช่น การเผยแพร่ข้อมูล “เท็จโดยเจตนา” ที่อาจ “ทำให้เกิดความวุ่นวาย” หรือ “คุกคามชีวิต” ซึ่งยังคงถูกใช้เล่นงานนักข่าวสายสืบสวนอย่างต่อเนื่อง

    ประเทศอื่นก็มีแนวโน้มคล้ายกัน เช่น:
    ไนเจอร์ กลับมาใช้โทษจำคุกสำหรับการหมิ่นประมาทและเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบศักดิ์ศรีมนุษย์”
    จอร์แดน ดำเนินคดีนักข่าวอย่างน้อย 15 คนภายใต้กฎหมายไซเบอร์ฉบับขยายปี 2023
    ปากีสถานและตุรกี ใช้กฎหมาย “ต่อต้านข่าวปลอม” เพื่อควบคุมเนื้อหาสื่อ

    นักวิจัยจาก Citizen Lab เตือนว่า กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยลดข่าวปลอมจริง ๆ แต่กลับเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ และเมื่อประเทศประชาธิปไตยก็เริ่มออกกฎหมายคล้ายกัน ก็ยิ่งเปิดช่องให้รัฐบาลเผด็จการใช้เป็นข้ออ้างในการเซ็นเซอร์

    กฎหมายไซเบอร์ถูกใช้เพื่อปราบปรามนักข่าวในหลายประเทศ
    โดยเฉพาะผู้ที่เปิดโปงการทุจริตหรือวิพากษ์รัฐบาล

    Cybercrime Act ของไนจีเรียมีบทบัญญัติคลุมเครือ
    เช่น “ข้อมูลเท็จที่คุกคามชีวิต” หรือ “น่ารำคาญ”
    เปิดช่องให้ตีความและใช้เล่นงานนักข่าว

    นักข่าวถูกจับกุมโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน
    เช่นกรณี Daniel Ojukwu และทีม Informant247
    ถูกควบคุมตัวร่วมกับนักโทษทั่วไปในสภาพแย่

    กฎหมายคล้ายกันถูกใช้ในไนเจอร์ จอร์แดน ปากีสถาน และตุรกี
    เพิ่มโทษจำคุกสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบความสงบ”
    ใช้ข้อหา “ข่าวปลอม” เป็นเครื่องมือควบคุมสื่อ

    นักวิจัยเตือนว่ากฎหมายเหล่านี้ไม่ช่วยลด misinformation
    แต่เพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหา
    ประเทศประชาธิปไตยที่ออกกฎหมายคล้ายกันยิ่งเปิดช่องให้เผด็จการเลียนแบบ

    https://www.cjr.org/analysis/nigeria-pakistan-jordan-cybercrime-laws-journalism.php
    🛑 เมื่อกฎหมายไซเบอร์กลายเป็นเครื่องมือปราบนักข่าว บทความจาก Columbia Journalism Review เปิดเผยว่า กฎหมายไซเบอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำลังถูกใช้เพื่อกดขี่เสรีภาพสื่อในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแอฟริกาและตะวันออกกลาง เช่น ไนจีเรีย ปากีสถาน จอร์แดน และไนเจอร์ ตัวอย่างที่เด่นชัดคือกรณีของ Daniel Ojukwu นักข่าววัย 26 ปีจากไนจีเรีย ที่ถูกจับกุมโดยไม่มีการแจ้งข้อหาอย่างชัดเจน หลังจากเขาเขียนบทความเกี่ยวกับการทุจริตในสำนักงานประธานาธิบดี เขาถูกกล่าวหาว่าละเมิด Cybercrime Act ปี 2015 ซึ่งมีบทบัญญัติที่คลุมเครือ เช่น ห้ามเผยแพร่ข้อมูล “น่ารำคาญ” หรือ “หยาบคาย” ทางออนไลน์ แม้จะมีการแก้ไขกฎหมายในปี 2024 แต่ข้อความใหม่ยังคงเปิดช่องให้ตีความได้กว้าง เช่น การเผยแพร่ข้อมูล “เท็จโดยเจตนา” ที่อาจ “ทำให้เกิดความวุ่นวาย” หรือ “คุกคามชีวิต” ซึ่งยังคงถูกใช้เล่นงานนักข่าวสายสืบสวนอย่างต่อเนื่อง ประเทศอื่นก็มีแนวโน้มคล้ายกัน เช่น: 🎃 ไนเจอร์ กลับมาใช้โทษจำคุกสำหรับการหมิ่นประมาทและเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบศักดิ์ศรีมนุษย์” 🎃 จอร์แดน ดำเนินคดีนักข่าวอย่างน้อย 15 คนภายใต้กฎหมายไซเบอร์ฉบับขยายปี 2023 🎃 ปากีสถานและตุรกี ใช้กฎหมาย “ต่อต้านข่าวปลอม” เพื่อควบคุมเนื้อหาสื่อ นักวิจัยจาก Citizen Lab เตือนว่า กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยลดข่าวปลอมจริง ๆ แต่กลับเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ และเมื่อประเทศประชาธิปไตยก็เริ่มออกกฎหมายคล้ายกัน ก็ยิ่งเปิดช่องให้รัฐบาลเผด็จการใช้เป็นข้ออ้างในการเซ็นเซอร์ ✅ กฎหมายไซเบอร์ถูกใช้เพื่อปราบปรามนักข่าวในหลายประเทศ ➡️ โดยเฉพาะผู้ที่เปิดโปงการทุจริตหรือวิพากษ์รัฐบาล ✅ Cybercrime Act ของไนจีเรียมีบทบัญญัติคลุมเครือ ➡️ เช่น “ข้อมูลเท็จที่คุกคามชีวิต” หรือ “น่ารำคาญ” ➡️ เปิดช่องให้ตีความและใช้เล่นงานนักข่าว ✅ นักข่าวถูกจับกุมโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน ➡️ เช่นกรณี Daniel Ojukwu และทีม Informant247 ➡️ ถูกควบคุมตัวร่วมกับนักโทษทั่วไปในสภาพแย่ ✅ กฎหมายคล้ายกันถูกใช้ในไนเจอร์ จอร์แดน ปากีสถาน และตุรกี ➡️ เพิ่มโทษจำคุกสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลที่ “กระทบความสงบ” ➡️ ใช้ข้อหา “ข่าวปลอม” เป็นเครื่องมือควบคุมสื่อ ✅ นักวิจัยเตือนว่ากฎหมายเหล่านี้ไม่ช่วยลด misinformation ➡️ แต่เพิ่มอำนาจให้รัฐบาลควบคุมเนื้อหา ➡️ ประเทศประชาธิปไตยที่ออกกฎหมายคล้ายกันยิ่งเปิดช่องให้เผด็จการเลียนแบบ https://www.cjr.org/analysis/nigeria-pakistan-jordan-cybercrime-laws-journalism.php
    WWW.CJR.ORG
    How anti-cybercrime laws are being weaponized to repress journalism.
    Across the world, well-meaning laws intended to reduce online fraud and other scourges of the internet are being put to a very different use.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไม Nextcloud ถึงรู้สึกช้า? เมื่อ JavaScript กลายเป็นตัวถ่วงประสบการณ์ผู้ใช้

    ผู้ใช้รายหนึ่งที่ตั้งใจใช้ Nextcloud เป็นศูนย์รวมบริการส่วนตัว เช่น ไฟล์, ปฏิทิน, โน้ต, รายการสิ่งที่ต้องทำ ฯลฯ ได้แชร์ประสบการณ์ว่า แม้จะใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพดีและปรับแต่งแล้ว แต่ Nextcloud ก็ยังรู้สึกช้าอย่างน่าหงุดหงิด

    เมื่อเปิด Developer Tools เพื่อวิเคราะห์ พบว่า Nextcloud โหลด JavaScript จำนวนมหาศาลในแต่ละหน้า — มากถึง 15–20 MB ต่อการโหลดหนึ่งครั้ง (แม้จะถูกบีบอัดเหลือ 4–5 MB ก็ยังถือว่าหนักมาก)

    ตัวอย่างเช่น:
    core-common.js ขนาด 4.71 MB
    NotificationsApp.chunk.mjs ขนาด 1.06 MB
    Calendar app ใช้ 5.94 MB เพื่อแสดงปฏิทินพื้นฐาน
    Files app มีหลายไฟล์ย่อย เช่น EditorOutline (1.77 MB), previewUtils (1.17 MB), emoji-picker (0.9 MB)
    Notes app ใช้ 4.36 MB สำหรับ editor พื้นฐาน

    แม้จะมีการแคชในเบราว์เซอร์ แต่ทุกครั้งที่เข้าใช้งาน ผู้ใช้ต้องรอให้เบราว์เซอร์ประมวลผลโค้ดทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งใช้เวลานาน โดยเฉพาะในเครือข่ายที่ช้า หรืออุปกรณ์ที่ไม่แรงมาก เช่น iPhone 13 mini

    ผู้เขียนบทความจึงเริ่มแยกบางฟีเจอร์ออกจาก Nextcloud เช่น ใช้ Vikunja แทน Tasks app และ Immich แทน Photos ซึ่งให้ประสบการณ์ที่เร็วกว่าอย่างชัดเจน

    Nextcloud ใช้ JavaScript จำนวนมากในการโหลดแต่ละหน้า
    โหลด 15–20 MB ต่อหน้า แม้บีบอัดแล้วก็ยังหนัก
    ส่งผลให้การใช้งานรู้สึกช้า แม้ใช้ฮาร์ดแวร์ดี

    แอปต่าง ๆ ใน Nextcloud มีขนาดไฟล์ JS ใหญ่เกินจำเป็น
    Calendar app ใช้ 5.94 MB
    Files app รวมแล้วเกือบ 19 MB
    Notes app ใช้ 4.36 MB สำหรับ editor พื้นฐาน

    ผู้ใช้เริ่มแยกบริการบางส่วนออกจาก Nextcloud
    ใช้ Vikunja แทน Tasks app (โหลดเพียง 1.5 MB)
    ใช้ Immich แทน Photos เพื่อความเร็วที่ดีกว่า

    ความสะดวกของ Nextcloud ยังเป็นจุดแข็ง
    รวมหลายบริการไว้ในที่เดียว
    ยังคงใช้งานบางฟีเจอร์ต่อไปเพราะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า

    https://ounapuu.ee/posts/2025/11/03/nextcloud-slow/
    🐢 ทำไม Nextcloud ถึงรู้สึกช้า? เมื่อ JavaScript กลายเป็นตัวถ่วงประสบการณ์ผู้ใช้ ผู้ใช้รายหนึ่งที่ตั้งใจใช้ Nextcloud เป็นศูนย์รวมบริการส่วนตัว เช่น ไฟล์, ปฏิทิน, โน้ต, รายการสิ่งที่ต้องทำ ฯลฯ ได้แชร์ประสบการณ์ว่า แม้จะใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพดีและปรับแต่งแล้ว แต่ Nextcloud ก็ยังรู้สึกช้าอย่างน่าหงุดหงิด เมื่อเปิด Developer Tools เพื่อวิเคราะห์ พบว่า Nextcloud โหลด JavaScript จำนวนมหาศาลในแต่ละหน้า — มากถึง 15–20 MB ต่อการโหลดหนึ่งครั้ง (แม้จะถูกบีบอัดเหลือ 4–5 MB ก็ยังถือว่าหนักมาก) ตัวอย่างเช่น: 🔖 core-common.js ขนาด 4.71 MB 🔖 NotificationsApp.chunk.mjs ขนาด 1.06 MB 🔖 Calendar app ใช้ 5.94 MB เพื่อแสดงปฏิทินพื้นฐาน 🔖 Files app มีหลายไฟล์ย่อย เช่น EditorOutline (1.77 MB), previewUtils (1.17 MB), emoji-picker (0.9 MB) 🔖 Notes app ใช้ 4.36 MB สำหรับ editor พื้นฐาน แม้จะมีการแคชในเบราว์เซอร์ แต่ทุกครั้งที่เข้าใช้งาน ผู้ใช้ต้องรอให้เบราว์เซอร์ประมวลผลโค้ดทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งใช้เวลานาน โดยเฉพาะในเครือข่ายที่ช้า หรืออุปกรณ์ที่ไม่แรงมาก เช่น iPhone 13 mini ผู้เขียนบทความจึงเริ่มแยกบางฟีเจอร์ออกจาก Nextcloud เช่น ใช้ Vikunja แทน Tasks app และ Immich แทน Photos ซึ่งให้ประสบการณ์ที่เร็วกว่าอย่างชัดเจน ✅ Nextcloud ใช้ JavaScript จำนวนมากในการโหลดแต่ละหน้า ➡️ โหลด 15–20 MB ต่อหน้า แม้บีบอัดแล้วก็ยังหนัก ➡️ ส่งผลให้การใช้งานรู้สึกช้า แม้ใช้ฮาร์ดแวร์ดี ✅ แอปต่าง ๆ ใน Nextcloud มีขนาดไฟล์ JS ใหญ่เกินจำเป็น ➡️ Calendar app ใช้ 5.94 MB ➡️ Files app รวมแล้วเกือบ 19 MB ➡️ Notes app ใช้ 4.36 MB สำหรับ editor พื้นฐาน ✅ ผู้ใช้เริ่มแยกบริการบางส่วนออกจาก Nextcloud ➡️ ใช้ Vikunja แทน Tasks app (โหลดเพียง 1.5 MB) ➡️ ใช้ Immich แทน Photos เพื่อความเร็วที่ดีกว่า ✅ ความสะดวกของ Nextcloud ยังเป็นจุดแข็ง ➡️ รวมหลายบริการไว้ในที่เดียว ➡️ ยังคงใช้งานบางฟีเจอร์ต่อไปเพราะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า https://ounapuu.ee/posts/2025/11/03/nextcloud-slow/
    OUNAPUU.EE
    Why Nextcloud feels slow to use
    No amount of tuning the backend service performance helped, and then I learned why. Oh no. Oh no no no no.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • Buy Trustpilot Reviews
    https://smmbostsell.com/product/buy-trustpilot-reviews/
    24 Hours Reply/Contact

    ✓➤Telegram: smmbostsell

    ✓➤WhatsApp: +1(909)202-1828

    ✓➤Email: smmbostsell@gmail.com

    #buytrustpilotreviews #seo #socialmedia #digitalmarketer #seoservice #usaaccount #topseller
    Buy Trustpilot Reviews https://smmbostsell.com/product/buy-trustpilot-reviews/ 24 Hours Reply/Contact ✓➤Telegram: smmbostsell ✓➤WhatsApp: +1(909)202-1828 ✓➤Email: smmbostsell@gmail.com #buytrustpilotreviews #seo #socialmedia #digitalmarketer #seoservice #usaaccount #topseller
    SMMBOSTSELL.COM
    Buy Trustpilot Reviews
    Buy Trust with Real Trustpilot Reviews from Smmbostsell — Reputation matters, and with Smmbostsell, your brand can shine where it counts most. We deliver 100% authentic, verified Trustpilot reviews from real, active profiles that help enhance your brand image and attract loyal customers. Trustpilot is more than just a review platform — it’s a powerful trust signal that improves your rating, builds credibility, and gives your business the competitive edge to grow. From startups to global brands, Smmbostsell is your trusted source for long-term online credibility. Get noticed. Get trusted. Grow with Smmbostsell.Com. Our Service Features- ❖100% Safe and Guaranteed. ❖Full Completed Profiles. ❖100% Recovery Guaranty (Lifetime). ❖Realistic Photo Attached Accounts. ❖Mostly USA, European Profile’s Bio and Photo. ❖No bots, programs/software used. 24 Hours Reply/Contact Telegram: smmbostsell WhatsApp: +1(909)202-1828 Email: smmbostsell@gmail.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว

  • Buy Google Play Store Reviews
    https://smmbostsell.com/product/buy-google-play-store-reviews/
    24 Hours Reply/Contact

    ✓➤Telegram: smmbostsell

    ✓➤WhatsApp: +1(909)202-1828

    ✓➤Email: smmbostsell@gmail.com

    #buygoogleplaystorereviews #seo #socialmedia #digitalmarketer #seoservice #usaaccount #topseller
    Buy Google Play Store Reviews https://smmbostsell.com/product/buy-google-play-store-reviews/ 24 Hours Reply/Contact ✓➤Telegram: smmbostsell ✓➤WhatsApp: +1(909)202-1828 ✓➤Email: smmbostsell@gmail.com #buygoogleplaystorereviews #seo #socialmedia #digitalmarketer #seoservice #usaaccount #topseller
    SMMBOSTSELL.COM
    Buy Google Play Store Reviews
    Buying Google Play Store Reviews from Smmbostsell.com. Smmbostsell delivers 100% real, verified user reviews that boost your app’s visibility and build lasting credibility. As a trusted platform across the U.S. and beyond, we’ve helped thousands of app creators gain traction through authentic, high-quality feedback that both users and algorithms rely on. Our reviews do more than just look good — they help increase installs, boost user confidence, and give your app the edge it needs to stand out in today’s competitive marketplace. Choose Smmbostsell today and watch your app grow with real results, real users, and real credibility. Your success begins with social proof that speaks for itself. Our Service Features- ❖Instant Work Start & Quick deliver. ❖Mostly USA, UK, CA, AUS Profile’s Bio, and Photo. ❖Full Completed Profiles. ❖100% Satisfaction Guarantee. ❖100% safe and stable accounts. ❖100% Recovery Guarantee. ❖Manual and Non-drop. ❖24/7 Customer Support. 24 Hours Reply/Contact Telegram: smmbostsell WhatsApp: +1(909)202-1828 Email: smmbostsell@gmail.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • Buy Google 5 Star Reviews
    https://smmbostsell.com/product/buy-google-5-star-reviews/
    24 Hours Reply/Contact

    ✓➤Telegram: smmbostsell

    ✓➤WhatsApp: +1(909)202-1828

    ✓➤Email: smmbostsell@gmail.com

    #buygoogle5starreviews #seo #socialmedia #digitalmarketer #seoservice #usaaccount #topseller
    Buy Google 5 Star Reviews https://smmbostsell.com/product/buy-google-5-star-reviews/ 24 Hours Reply/Contact ✓➤Telegram: smmbostsell ✓➤WhatsApp: +1(909)202-1828 ✓➤Email: smmbostsell@gmail.com #buygoogle5starreviews #seo #socialmedia #digitalmarketer #seoservice #usaaccount #topseller
    SMMBOSTSELL.COM
    Buy Google 5 Star Reviews
    Buy Google 5 Star Reviews Smmbostsell.com. We can give you the best Google 5 Star Reviews. USA, UK, CA, AS any country reviews provider 5-star positive reviews. 100% non-drop real safe Permanent Reviews.100% trusted.Strengthen your brand reputation, gain customer confidence, and grow faster-all with powerful reviews from Smmbostsell.com. Our Service Features- ❖High-Quality Service ❖100% Safe & Secure Service ❖High-Quality Reviews Service ❖100% Recovery Guarantee ❖Full Complete Profiles ❖100% Satisfaction Guaranteed 24 Hours Reply/Contact Telegram: smmbostsell WhatsApp: +1(909)202-1828 Email: smmbostsell@gmail.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • Buy Facebook Reviews
    https://smmbostsell.com/product/buy-facebook-reviews/
    24 Hours Reply/Contact

    ✓➤Telegram: smmbostsell

    ✓➤WhatsApp: +1(909)202-1828

    ✓➤Email: smmbostsell@gmail.com

    #buyfacebookreviews #seo #socialmedia #digitalmarketer #seoservice #usaaccount #topseller
    Buy Facebook Reviews https://smmbostsell.com/product/buy-facebook-reviews/ 24 Hours Reply/Contact ✓➤Telegram: smmbostsell ✓➤WhatsApp: +1(909)202-1828 ✓➤Email: smmbostsell@gmail.com #buyfacebookreviews #seo #socialmedia #digitalmarketer #seoservice #usaaccount #topseller
    SMMBOSTSELL.COM
    Buy Facebook Reviews
    Buy Facebook Reviews from Smmbostsell – Real Feedback, Real Impact Want to make your Facebook page look trustworthy and professional? Smmbostsell.com delivers 100% genuine 5‑star reviews from active users to boost your reputation. These real reviews help increase your visibility, attract more engagement, and influence new customers to choose your business. Build strong social proof and grow faster — get started today with verified reviews that make a difference. Our Service Features- ❖Manual & Non-drop Reviews. ❖Express Delivery. ❖High quality. ❖24/7 Customer Support. ❖100% Safe & Secure Service. ❖USA, UK, CA, AU Facebook Reviews. ❖Money Back Guarantee. 24 Hours Reply/Contact Telegram: smmbostsell WhatsApp: +1(909)202-1828 Email: smmbostsell@gmail.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “Microsoft ยอมรับปัญหาไดรเวอร์ Error 0x80070103 – เตรียมปล่อยอัปเดตแก้ไขใน Windows 11”

    Microsoft ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการถึงปัญหาไดรเวอร์ที่ไม่สามารถติดตั้งผ่าน Windows Update โดยเฉพาะ Error 0x80070103 ซึ่งสร้างความปวดหัวให้ผู้ใช้จำนวนมาก ล่าสุดมีการปรับปรุงในอัปเดต Preview และเตรียมปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนนี้

    หลายคนที่ใช้ Windows 11 อาจเคยเจอปัญหาอัปเดตไดรเวอร์ไม่ผ่าน พร้อมขึ้นรหัส Error 0x80070103 ซึ่งเป็นปัญหาที่ถูกพูดถึงบ่อยใน Feedback Hub ของ Microsoft โดยก่อนหน้านี้ Microsoft แนะนำให้ “เคลียร์แคชอัปเดต” แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริง

    ล่าสุด Microsoft ได้ออกเอกสารสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจริง และได้ทำการปรับปรุงในอัปเดต Preview KB5067036 (Build 26200.7019/26100.1079) ที่ปล่อยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม โดยมีการเปลี่ยนแปลงภายในเพื่อ “ลดโอกาสที่ผู้ใช้จะเจอ Error 0x80070103”

    แม้จะยังไม่ใช่การแก้ไขแบบถาวร แต่ Microsoft ระบุว่าการปรับปรุงนี้จะช่วยให้การติดตั้งไดรเวอร์ผ่าน Windows Update มีความเสถียรมากขึ้น และจะปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอัปเดต “B release” เดือนพฤศจิกายน

    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Error อื่นๆ เช่น 0x800f0983 ก็เกิดขึ้นในบางกรณี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขเฉพาะของระบบแต่ละเครื่อง

    Microsoft ยอมรับปัญหา Error 0x80070103 ใน Windows 11
    เกิดจากการติดตั้งไดรเวอร์ผ่าน Windows Update ล้มเหลว

    เคยแนะนำให้เคลียร์แคชอัปเดต แต่ไม่ได้ผลจริง
    ผู้ใช้ยังเจอปัญหาซ้ำแม้ทำตามคำแนะนำ

    มีการปรับปรุงในอัปเดต Preview KB5067036
    Build 26200.7019/26100.1079 ปล่อยเมื่อ 28 ตุลาคม 2025

    การแก้ไขจะปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอัปเดตเดือนพฤศจิกายน
    คาดว่าจะช่วยให้การติดตั้งไดรเวอร์เสถียรมากขึ้น

    ยังมี Error อื่นๆ เช่น 0x800f0983 ที่เกิดในบางกรณี
    อาจเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขเฉพาะของระบบแต่ละเครื่อง

    https://securityonline.info/the-fix-is-coming-microsoft-acknowledges-and-mitigates-widespread-driver-error-0x80070103/
    🛠️💻 หัวข้อข่าว: “Microsoft ยอมรับปัญหาไดรเวอร์ Error 0x80070103 – เตรียมปล่อยอัปเดตแก้ไขใน Windows 11” Microsoft ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการถึงปัญหาไดรเวอร์ที่ไม่สามารถติดตั้งผ่าน Windows Update โดยเฉพาะ Error 0x80070103 ซึ่งสร้างความปวดหัวให้ผู้ใช้จำนวนมาก ล่าสุดมีการปรับปรุงในอัปเดต Preview และเตรียมปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลายคนที่ใช้ Windows 11 อาจเคยเจอปัญหาอัปเดตไดรเวอร์ไม่ผ่าน พร้อมขึ้นรหัส Error 0x80070103 ซึ่งเป็นปัญหาที่ถูกพูดถึงบ่อยใน Feedback Hub ของ Microsoft โดยก่อนหน้านี้ Microsoft แนะนำให้ “เคลียร์แคชอัปเดต” แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ล่าสุด Microsoft ได้ออกเอกสารสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจริง และได้ทำการปรับปรุงในอัปเดต Preview KB5067036 (Build 26200.7019/26100.1079) ที่ปล่อยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม โดยมีการเปลี่ยนแปลงภายในเพื่อ “ลดโอกาสที่ผู้ใช้จะเจอ Error 0x80070103” แม้จะยังไม่ใช่การแก้ไขแบบถาวร แต่ Microsoft ระบุว่าการปรับปรุงนี้จะช่วยให้การติดตั้งไดรเวอร์ผ่าน Windows Update มีความเสถียรมากขึ้น และจะปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอัปเดต “B release” เดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Error อื่นๆ เช่น 0x800f0983 ก็เกิดขึ้นในบางกรณี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขเฉพาะของระบบแต่ละเครื่อง ✅ Microsoft ยอมรับปัญหา Error 0x80070103 ใน Windows 11 ➡️ เกิดจากการติดตั้งไดรเวอร์ผ่าน Windows Update ล้มเหลว ✅ เคยแนะนำให้เคลียร์แคชอัปเดต แต่ไม่ได้ผลจริง ➡️ ผู้ใช้ยังเจอปัญหาซ้ำแม้ทำตามคำแนะนำ ✅ มีการปรับปรุงในอัปเดต Preview KB5067036 ➡️ Build 26200.7019/26100.1079 ปล่อยเมื่อ 28 ตุลาคม 2025 ✅ การแก้ไขจะปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอัปเดตเดือนพฤศจิกายน ➡️ คาดว่าจะช่วยให้การติดตั้งไดรเวอร์เสถียรมากขึ้น ✅ ยังมี Error อื่นๆ เช่น 0x800f0983 ที่เกิดในบางกรณี ➡️ อาจเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขเฉพาะของระบบแต่ละเครื่อง https://securityonline.info/the-fix-is-coming-microsoft-acknowledges-and-mitigates-widespread-driver-error-0x80070103/
    SECURITYONLINE.INFO
    The Fix is Coming: Microsoft Acknowledges and Mitigates Widespread Driver Error 0x80070103
    Microsoft officially acknowledged and fixed Windows 11 driver installation error 0x80070103 in Build 26200.7019. The update is expected to roll out to all users in November.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • Stellar Toolkit for Outlook: เครื่องมือจัดการไฟล์ PST/OST แบบครบวงจรสำหรับผู้ใช้ Outlook ที่ต้องการความเสถียรและความปลอดภัย

    บทความรีวิวจาก HackRead แนะนำ Stellar Toolkit for Outlook ว่าเป็นชุดเครื่องมือ 7-in-1 ที่ช่วยแก้ปัญหาไฟล์ข้อมูล Outlook ได้อย่างครอบคลุม ทั้งการซ่อม, แปลง, รวม, แยก, ย่อขนาด, กู้คืน และปลดล็อกรหัสผ่านจากไฟล์ PST/OST

    ผู้ใช้ Outlook มักเจอปัญหาไฟล์ PST/OST เสียหาย, ขนาดใหญ่เกินไป, ลืมรหัสผ่าน, หรือไม่สามารถเปิดไฟล์ OST ได้หลังจากบัญชีถูกลบจาก Exchange ซึ่งทั้งหมดนี้ Stellar Toolkit for Outlook สามารถจัดการได้ในโปรแกรมเดียว

    ฟีเจอร์เด่นของชุดเครื่องมือนี้ ได้แก่:
    1️⃣ ซ่อมไฟล์ PST ที่เสียหาย พร้อมกู้คืนอีเมล, ปฏิทิน, รายชื่อ ฯลฯ
    2️⃣ แปลงไฟล์ OST เป็น PST แม้เป็นไฟล์ที่ถูกเข้ารหัสหรือ orphaned
    3️⃣ แยกไฟล์ PST ตามขนาด, วันที่, หรืออีเมล เพื่อป้องกันการเสียหาย
    4️⃣ ย่อขนาดไฟล์ PST โดยแยกไฟล์แนบออกและล้างข้อมูลขยะ
    5️⃣ รวมไฟล์ PST หลายไฟล์ ให้เป็นไฟล์เดียวโดยไม่เสียข้อมูล
    6️⃣ กู้คืนข้อมูลที่ถูกลบจากไฟล์ PST/OST พร้อม preview ก่อน export
    7️⃣ ปลดล็อกรหัสผ่านไฟล์ PST โดยสร้างรหัสผ่านใหม่ให้เลือกใช้

    นอกจากนี้ยังมี คอนโซลรวม ที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงทุกฟังก์ชันจากหน้าจอเดียว ไม่ต้องติดตั้งหลายโปรแกรม และรองรับ Outlook ตั้งแต่เวอร์ชัน 2013 ถึง 2019

    ฟีเจอร์หลักของ Stellar Toolkit for Outlook
    ซ่อมไฟล์ PST ที่เสียหายทุกระดับ
    แปลง OST เป็น PST แม้ไฟล์ถูกลบหรือเข้ารหัส
    แยก, รวม, ย่อขนาดไฟล์ PST ได้ตามต้องการ
    กู้คืนข้อมูลที่ถูกลบจากไฟล์ Outlook
    ปลดล็อกรหัสผ่านไฟล์ PST ที่ลืมหรือสูญหาย
    มีคอนโซลรวม ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งหลายโปรแกรม

    เหมาะกับใคร
    ผู้ดูแลระบบ IT ที่ต้องจัดการข้อมูล Outlook จำนวนมาก
    ผู้ใช้ทั่วไปที่เจอปัญหาไฟล์ Outlook เสียหายหรือเปิดไม่ได้
    องค์กรที่ใช้ Office 365 และต้องการเครื่องมือกู้คืนข้อมูล

    https://hackread.com/stellar-toolkit-outlook-review-pst-ost-file-management/
    🛠️📧 Stellar Toolkit for Outlook: เครื่องมือจัดการไฟล์ PST/OST แบบครบวงจรสำหรับผู้ใช้ Outlook ที่ต้องการความเสถียรและความปลอดภัย บทความรีวิวจาก HackRead แนะนำ Stellar Toolkit for Outlook ว่าเป็นชุดเครื่องมือ 7-in-1 ที่ช่วยแก้ปัญหาไฟล์ข้อมูล Outlook ได้อย่างครอบคลุม ทั้งการซ่อม, แปลง, รวม, แยก, ย่อขนาด, กู้คืน และปลดล็อกรหัสผ่านจากไฟล์ PST/OST ผู้ใช้ Outlook มักเจอปัญหาไฟล์ PST/OST เสียหาย, ขนาดใหญ่เกินไป, ลืมรหัสผ่าน, หรือไม่สามารถเปิดไฟล์ OST ได้หลังจากบัญชีถูกลบจาก Exchange ซึ่งทั้งหมดนี้ Stellar Toolkit for Outlook สามารถจัดการได้ในโปรแกรมเดียว ฟีเจอร์เด่นของชุดเครื่องมือนี้ ได้แก่: 1️⃣ ซ่อมไฟล์ PST ที่เสียหาย พร้อมกู้คืนอีเมล, ปฏิทิน, รายชื่อ ฯลฯ 2️⃣ แปลงไฟล์ OST เป็น PST แม้เป็นไฟล์ที่ถูกเข้ารหัสหรือ orphaned 3️⃣ แยกไฟล์ PST ตามขนาด, วันที่, หรืออีเมล เพื่อป้องกันการเสียหาย 4️⃣ ย่อขนาดไฟล์ PST โดยแยกไฟล์แนบออกและล้างข้อมูลขยะ 5️⃣ รวมไฟล์ PST หลายไฟล์ ให้เป็นไฟล์เดียวโดยไม่เสียข้อมูล 6️⃣ กู้คืนข้อมูลที่ถูกลบจากไฟล์ PST/OST พร้อม preview ก่อน export 7️⃣ ปลดล็อกรหัสผ่านไฟล์ PST โดยสร้างรหัสผ่านใหม่ให้เลือกใช้ นอกจากนี้ยังมี คอนโซลรวม ที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงทุกฟังก์ชันจากหน้าจอเดียว ไม่ต้องติดตั้งหลายโปรแกรม และรองรับ Outlook ตั้งแต่เวอร์ชัน 2013 ถึง 2019 ✅ ฟีเจอร์หลักของ Stellar Toolkit for Outlook ➡️ ซ่อมไฟล์ PST ที่เสียหายทุกระดับ ➡️ แปลง OST เป็น PST แม้ไฟล์ถูกลบหรือเข้ารหัส ➡️ แยก, รวม, ย่อขนาดไฟล์ PST ได้ตามต้องการ ➡️ กู้คืนข้อมูลที่ถูกลบจากไฟล์ Outlook ➡️ ปลดล็อกรหัสผ่านไฟล์ PST ที่ลืมหรือสูญหาย ➡️ มีคอนโซลรวม ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งหลายโปรแกรม ✅ เหมาะกับใคร ➡️ ผู้ดูแลระบบ IT ที่ต้องจัดการข้อมูล Outlook จำนวนมาก ➡️ ผู้ใช้ทั่วไปที่เจอปัญหาไฟล์ Outlook เสียหายหรือเปิดไม่ได้ ➡️ องค์กรที่ใช้ Office 365 และต้องการเครื่องมือกู้คืนข้อมูล https://hackread.com/stellar-toolkit-outlook-review-pst-ost-file-management/
    HACKREAD.COM
    Stellar Toolkit for Outlook Review: Simplify and Optimize PST/OST File Management
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • Shotcut 25.10 มาแล้ว! เพิ่มฟีเจอร์บันทึกหน้าจอและเอฟเฟกต์พิมพ์ดีดสำหรับข้อความในวิดีโอ

    Shotcut โปรแกรมตัดต่อวิดีโอแบบโอเพ่นซอร์สยอดนิยม ปล่อยเวอร์ชัน 25.10 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ ได้แก่ การบันทึกหน้าจอในตัว และเอฟเฟกต์ข้อความแบบ “พิมพ์ดีด” ที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับวิดีโอของคุณ

    Shotcut 25.10 เปิดตัวเมื่อปลายตุลาคม 2025 โดยเน้นเพิ่มความสามารถในการสร้างวิดีโอแบบมืออาชีพโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเสริม

    ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น:

    Screen Recording (บันทึกหน้าจอ) ผู้ใช้สามารถบันทึกหน้าจอได้โดยตรงจาก Shotcut โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมภายนอก เช่น OBS หรือ SimpleScreenRecorder เหมาะสำหรับการทำวิดีโอสอน, รีวิวซอฟต์แวร์ หรือการนำเสนอ

    Typewriter Text Effect (เอฟเฟกต์พิมพ์ดีด) เพิ่มลูกเล่นให้ข้อความในวิดีโอปรากฏทีละตัวเหมือนพิมพ์ดีด เหมาะสำหรับการเน้นคำพูด, ใส่คำบรรยาย หรือสร้างความน่าสนใจในวิดีโอสั้น

    ปรับปรุง UI และประสิทธิภาพ มีการปรับปรุงการจัดการ timeline, การแสดงผล preview และการเรนเดอร์ให้เร็วขึ้น รวมถึงแก้บั๊กที่เกี่ยวกับการ export และการใช้งาน filter บางตัว

    รองรับหลายแพลตฟอร์ม Shotcut รองรับ Windows, macOS และ Linux โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์หลัก

    https://9to5linux.com/shotcut-25-10-video-editor-released-with-screen-recording-typewriter-text-effect
    🖥️✂️ Shotcut 25.10 มาแล้ว! เพิ่มฟีเจอร์บันทึกหน้าจอและเอฟเฟกต์พิมพ์ดีดสำหรับข้อความในวิดีโอ Shotcut โปรแกรมตัดต่อวิดีโอแบบโอเพ่นซอร์สยอดนิยม ปล่อยเวอร์ชัน 25.10 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ ได้แก่ การบันทึกหน้าจอในตัว และเอฟเฟกต์ข้อความแบบ “พิมพ์ดีด” ที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับวิดีโอของคุณ Shotcut 25.10 เปิดตัวเมื่อปลายตุลาคม 2025 โดยเน้นเพิ่มความสามารถในการสร้างวิดีโอแบบมืออาชีพโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเสริม ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น: 🎗️ Screen Recording (บันทึกหน้าจอ) ผู้ใช้สามารถบันทึกหน้าจอได้โดยตรงจาก Shotcut โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมภายนอก เช่น OBS หรือ SimpleScreenRecorder เหมาะสำหรับการทำวิดีโอสอน, รีวิวซอฟต์แวร์ หรือการนำเสนอ 🎗️ Typewriter Text Effect (เอฟเฟกต์พิมพ์ดีด) เพิ่มลูกเล่นให้ข้อความในวิดีโอปรากฏทีละตัวเหมือนพิมพ์ดีด เหมาะสำหรับการเน้นคำพูด, ใส่คำบรรยาย หรือสร้างความน่าสนใจในวิดีโอสั้น 🎗️ ปรับปรุง UI และประสิทธิภาพ มีการปรับปรุงการจัดการ timeline, การแสดงผล preview และการเรนเดอร์ให้เร็วขึ้น รวมถึงแก้บั๊กที่เกี่ยวกับการ export และการใช้งาน filter บางตัว 🎗️ รองรับหลายแพลตฟอร์ม Shotcut รองรับ Windows, macOS และ Linux โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์หลัก https://9to5linux.com/shotcut-25-10-video-editor-released-with-screen-recording-typewriter-text-effect
    9TO5LINUX.COM
    Shotcut 25.10 Video Editor Released with Screen Recording, Typewriter Text Effect - 9to5Linux
    Shotcut 25.10 open-source video editor is now available for download with screen recording. Typewriter text effect, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ตรวจสอบ RAM หลังเกิด BSOD เพื่อช่วยวิเคราะห์สาเหตุการล่มของระบบ

    Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่จะช่วยผู้ใช้ตรวจสอบปัญหาที่อาจเกิดจากหน่วยความจำ (RAM) หลังจากเกิด Blue Screen of Death (BSOD) หรือหน้าจอฟ้าอันโด่งดังที่บ่งบอกว่าระบบล่ม

    ฟีเจอร์นี้จะเริ่มทำงานหลังจากเครื่องรีบูตจาก BSOD โดยจะมีหน้าต่างป๊อปอัปแนะนำให้ผู้ใช้ “สแกนหน่วยความจำ” ในการรีบูตครั้งถัดไป ผู้ใช้สามารถเลือกข้ามหรือกำหนดให้สแกนได้ตามต้องการ

    Microsoft ระบุว่าเป้าหมายของฟีเจอร์นี้คือช่วยให้เข้าใจสาเหตุของการล่มที่เกี่ยวข้องกับการเสียหายของหน่วยความจำ และในอนาคตจะปรับปรุงให้ระบบเรียกใช้การสแกนเฉพาะเมื่อพบว่าการล่มอาจเกี่ยวข้องกับ RAM โดยตรง

    สิ่งที่น่าสนใจคือ ปัญหาหน่วยความจำไม่เสถียรอาจไม่แสดงอาการทันที และสามารถซ่อนอยู่ในระบบเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการล่มแบบสุ่มหรือแม้แต่การเสียหายของข้อมูลโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้ RAM แบบ XMP หรือ EXPO ซึ่งเป็นการโอเวอร์คล็อกจากโรงงาน อาจทำให้ตัวควบคุมหน่วยความจำของ CPU ทำงานหนักเกินไปและเกิดความไม่เสถียร

    การเพิ่มฟีเจอร์นี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการช่วยผู้ใช้ตรวจสอบปัญหาที่ซับซ้อนและยากต่อการวินิจฉัย

    Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ตรวจสอบ RAM หลังเกิด BSOD
    ฟีเจอร์จะทำงานหลังรีบูตจาก BSOD โดยมีป๊อปอัปแนะนำให้สแกน
    ผู้ใช้สามารถเลือกข้ามหรือกำหนดให้สแกนในการรีบูตครั้งถัดไป
    ฟีเจอร์นี้มีใน Windows 11 Insider Preview Build 26220.6982

    เป้าหมายคือช่วยวิเคราะห์สาเหตุการล่มที่เกี่ยวข้องกับ RAM
    จะปรับปรุงให้เรียกใช้เฉพาะเมื่อพบว่าการล่มอาจเกี่ยวข้องกับหน่วยความจำ
    ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น

    ปัญหา RAM ไม่เสถียรอาจซ่อนอยู่ในระบบเป็นเวลานาน
    ทำให้เกิดการล่มแบบสุ่มหรือข้อมูลเสียหายโดยไม่รู้ตัว
    โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้ RAM แบบ XMP หรือ EXPO ที่โอเวอร์คล็อกจากโรงงาน

    การใช้ RAM แบบโอเวอร์คล็อกอาจทำให้ระบบไม่เสถียร
    ตัวควบคุมหน่วยความจำของ CPU อาจไม่รองรับความเร็วที่สูงเกินไป
    อาจทำให้เกิดการล่มหรือข้อมูลเสียหายโดยไม่รู้ตัว

    การไม่ตรวจสอบ RAM อาจทำให้ปัญหายืดเยื้อ
    ผู้ใช้ไม่สามารถระบุสาเหตุของ BSOD ได้ชัดเจน
    อาจนำไปสู่การเปลี่ยนฮาร์ดแวร์โดยไม่จำเป็น

    https://www.tomshardware.com/software/windows/new-windows-11-feature-aims-to-diagnose-crashes-will-check-ram-after-bsods-to-look-for-problems
    🎯 Windows 11 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ตรวจสอบ RAM หลังเกิด BSOD เพื่อช่วยวิเคราะห์สาเหตุการล่มของระบบ Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่จะช่วยผู้ใช้ตรวจสอบปัญหาที่อาจเกิดจากหน่วยความจำ (RAM) หลังจากเกิด Blue Screen of Death (BSOD) หรือหน้าจอฟ้าอันโด่งดังที่บ่งบอกว่าระบบล่ม ฟีเจอร์นี้จะเริ่มทำงานหลังจากเครื่องรีบูตจาก BSOD โดยจะมีหน้าต่างป๊อปอัปแนะนำให้ผู้ใช้ “สแกนหน่วยความจำ” ในการรีบูตครั้งถัดไป ผู้ใช้สามารถเลือกข้ามหรือกำหนดให้สแกนได้ตามต้องการ Microsoft ระบุว่าเป้าหมายของฟีเจอร์นี้คือช่วยให้เข้าใจสาเหตุของการล่มที่เกี่ยวข้องกับการเสียหายของหน่วยความจำ และในอนาคตจะปรับปรุงให้ระบบเรียกใช้การสแกนเฉพาะเมื่อพบว่าการล่มอาจเกี่ยวข้องกับ RAM โดยตรง สิ่งที่น่าสนใจคือ ปัญหาหน่วยความจำไม่เสถียรอาจไม่แสดงอาการทันที และสามารถซ่อนอยู่ในระบบเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการล่มแบบสุ่มหรือแม้แต่การเสียหายของข้อมูลโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้ RAM แบบ XMP หรือ EXPO ซึ่งเป็นการโอเวอร์คล็อกจากโรงงาน อาจทำให้ตัวควบคุมหน่วยความจำของ CPU ทำงานหนักเกินไปและเกิดความไม่เสถียร การเพิ่มฟีเจอร์นี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการช่วยผู้ใช้ตรวจสอบปัญหาที่ซับซ้อนและยากต่อการวินิจฉัย ✅ Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ตรวจสอบ RAM หลังเกิด BSOD ➡️ ฟีเจอร์จะทำงานหลังรีบูตจาก BSOD โดยมีป๊อปอัปแนะนำให้สแกน ➡️ ผู้ใช้สามารถเลือกข้ามหรือกำหนดให้สแกนในการรีบูตครั้งถัดไป ➡️ ฟีเจอร์นี้มีใน Windows 11 Insider Preview Build 26220.6982 ✅ เป้าหมายคือช่วยวิเคราะห์สาเหตุการล่มที่เกี่ยวข้องกับ RAM ➡️ จะปรับปรุงให้เรียกใช้เฉพาะเมื่อพบว่าการล่มอาจเกี่ยวข้องกับหน่วยความจำ ➡️ ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น ✅ ปัญหา RAM ไม่เสถียรอาจซ่อนอยู่ในระบบเป็นเวลานาน ➡️ ทำให้เกิดการล่มแบบสุ่มหรือข้อมูลเสียหายโดยไม่รู้ตัว ➡️ โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้ RAM แบบ XMP หรือ EXPO ที่โอเวอร์คล็อกจากโรงงาน ‼️ การใช้ RAM แบบโอเวอร์คล็อกอาจทำให้ระบบไม่เสถียร ⛔ ตัวควบคุมหน่วยความจำของ CPU อาจไม่รองรับความเร็วที่สูงเกินไป ⛔ อาจทำให้เกิดการล่มหรือข้อมูลเสียหายโดยไม่รู้ตัว ‼️ การไม่ตรวจสอบ RAM อาจทำให้ปัญหายืดเยื้อ ⛔ ผู้ใช้ไม่สามารถระบุสาเหตุของ BSOD ได้ชัดเจน ⛔ อาจนำไปสู่การเปลี่ยนฮาร์ดแวร์โดยไม่จำเป็น https://www.tomshardware.com/software/windows/new-windows-11-feature-aims-to-diagnose-crashes-will-check-ram-after-bsods-to-look-for-problems
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 เพิ่มฟีเจอร์ตรวจสอบหน่วยความจำอัตโนมัติ พร้อมอุดช่องโหว่ File Explorer เพื่อความเสถียรและปลอดภัยยิ่งขึ้น

    Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่ชื่อว่า “Proactive Memory Diagnostics” ซึ่งจะช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหาหน่วยความจำที่อาจทำให้ระบบล่ม พร้อมกับการอัปเดตด้านความปลอดภัยใน File Explorer ที่ปิดช่องโหว่สำคัญในการแสดงตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต

    Proactive Memory Diagnostics คืออะไร?
    ฟีเจอร์นี้จะทำงานเมื่อระบบเกิด “bugcheck” หรือการล่มแบบ Black Screen of Death
    หลังรีสตาร์ท ผู้ใช้จะได้รับแจ้งให้รันการสแกนหน่วยความจำ
    การสแกนใช้เวลาประมาณ 5 นาที และหากพบปัญหา Microsoft จะพยายามแก้ไขให้อัตโนมัติ
    ผู้ใช้สามารถเลือกไม่รันการสแกนได้ หากไม่ต้องการรอในระหว่างรีบูต

    การอัปเดต File Explorer เพื่อความปลอดภัย
    Microsoft ปิดการแสดงตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตใน File Explorer
    หากคลิกดูไฟล์ จะมีข้อความเตือนว่า “ไฟล์อาจเป็นอันตราย” และแนะนำให้เปิดไฟล์ด้วยความระมัดระวัง
    ผู้ใช้สามารถ “Unblock” ไฟล์ได้ด้วยตนเองผ่าน Properties หากมั่นใจในแหล่งที่มา
    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการค้นพบช่องโหว่ที่สามารถถูกโจมตีผ่าน preview pane

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11
    Proactive Memory Diagnostics ช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหาหน่วยความจำ
    แจ้งเตือนให้สแกนหลังเกิดระบบล่มแบบ bugcheck
    ใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 5 นาทีในการสแกน
    ผู้ใช้สามารถเลือกไม่รันการสแกนได้

    การอัปเดตด้านความปลอดภัยใน File Explorer
    ปิดการแสดงตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต
    เพิ่มข้อความเตือนเมื่อเปิดไฟล์ที่อาจเป็นอันตราย
    ผู้ใช้สามารถ “Unblock” ไฟล์ได้หากมั่นใจในความปลอดภัย
    ป้องกันการโจมตีผ่านช่องโหว่ใน preview pane

    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-is-getting-a-new-trick-to-make-your-pc-more-reliable-and-microsoft-has-fixed-a-security-flaw-in-file-explorer
    🧠🛡️ Windows 11 เพิ่มฟีเจอร์ตรวจสอบหน่วยความจำอัตโนมัติ พร้อมอุดช่องโหว่ File Explorer เพื่อความเสถียรและปลอดภัยยิ่งขึ้น Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่ชื่อว่า “Proactive Memory Diagnostics” ซึ่งจะช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหาหน่วยความจำที่อาจทำให้ระบบล่ม พร้อมกับการอัปเดตด้านความปลอดภัยใน File Explorer ที่ปิดช่องโหว่สำคัญในการแสดงตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต 🧠 Proactive Memory Diagnostics คืออะไร? 💠 ฟีเจอร์นี้จะทำงานเมื่อระบบเกิด “bugcheck” หรือการล่มแบบ Black Screen of Death 💠 หลังรีสตาร์ท ผู้ใช้จะได้รับแจ้งให้รันการสแกนหน่วยความจำ 💠 การสแกนใช้เวลาประมาณ 5 นาที และหากพบปัญหา Microsoft จะพยายามแก้ไขให้อัตโนมัติ 💠 ผู้ใช้สามารถเลือกไม่รันการสแกนได้ หากไม่ต้องการรอในระหว่างรีบูต 🛡️ การอัปเดต File Explorer เพื่อความปลอดภัย 💠 Microsoft ปิดการแสดงตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตใน File Explorer 💠 หากคลิกดูไฟล์ จะมีข้อความเตือนว่า “ไฟล์อาจเป็นอันตราย” และแนะนำให้เปิดไฟล์ด้วยความระมัดระวัง 💠 ผู้ใช้สามารถ “Unblock” ไฟล์ได้ด้วยตนเองผ่าน Properties หากมั่นใจในแหล่งที่มา 💠 การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการค้นพบช่องโหว่ที่สามารถถูกโจมตีผ่าน preview pane ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ➡️ Proactive Memory Diagnostics ช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหาหน่วยความจำ ➡️ แจ้งเตือนให้สแกนหลังเกิดระบบล่มแบบ bugcheck ➡️ ใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 5 นาทีในการสแกน ➡️ ผู้ใช้สามารถเลือกไม่รันการสแกนได้ ✅ การอัปเดตด้านความปลอดภัยใน File Explorer ➡️ ปิดการแสดงตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต ➡️ เพิ่มข้อความเตือนเมื่อเปิดไฟล์ที่อาจเป็นอันตราย ➡️ ผู้ใช้สามารถ “Unblock” ไฟล์ได้หากมั่นใจในความปลอดภัย ➡️ ป้องกันการโจมตีผ่านช่องโหว่ใน preview pane https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-is-getting-a-new-trick-to-make-your-pc-more-reliable-and-microsoft-has-fixed-a-security-flaw-in-file-explorer
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “Swift เปิดตัว SDK สำหรับ Android – ก้าวใหม่ของการพัฒนาแอปข้ามแพลตฟอร์ม”

    หลังจาก Swift เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งในด้านการพัฒนาแอปบนคลาวด์, Windows, เบราว์เซอร์ และแม้แต่ไมโครคอนโทรลเลอร์ ล่าสุด Swift ได้ขยายขอบเขตไปยัง Android อย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัว “Swift SDK for Android” เวอร์ชัน nightly preview

    การเปิดตัวครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือของ Android Workgroup ซึ่งเป็นกลุ่มเปิดที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดัน Swift ให้สามารถพัฒนาแอปบน Android ได้อย่างเต็มรูปแบบ

    นักพัฒนาสามารถเริ่มต้นใช้งาน SDK ได้ทันที โดยมีคู่มือและตัวอย่างโค้ดให้ทดลองใช้งาน พร้อมรองรับการพอร์ตแพ็กเกจ Swift ไปยัง Android ได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันกว่า 25% ของแพ็กเกจใน Swift Package Index สามารถ build บน Android ได้แล้ว

    นอกจากนี้ยังมีโครงการ swift-java ที่ช่วยให้ Swift สามารถทำงานร่วมกับ Java ได้ทั้งสองทาง โดยมีระบบสร้าง binding อัตโนมัติที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

    Swift SDK for Android เปิดตัวในรูปแบบ nightly preview
    เปิดโอกาสให้นักพัฒนาเขียนแอป Android ด้วยภาษา Swift
    รองรับการพัฒนาแบบ native และการพอร์ตแพ็กเกจ Swift

    การสนับสนุนจาก Android Workgroup
    เป็นกลุ่มเปิดที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้
    มีการร่างเอกสารวิสัยทัศน์เพื่อกำหนดทิศทางในอนาคต

    เครื่องมือและทรัพยากรสำหรับนักพัฒนา
    มีคู่มือ Getting Started สำหรับเริ่มต้นใช้งาน
    มีตัวอย่าง Swift for Android Examples สำหรับ workflow แบบ end-to-end
    Community Showcase แสดงแพ็กเกจที่รองรับ Android

    การทำงานร่วมกับ Java ผ่าน swift-java
    เป็นทั้งไลบรารีและเครื่องมือสร้างโค้ด binding ระหว่าง Swift และ Java
    รองรับการนำ business logic จาก Swift ไปใช้บน Android ได้ง่ายขึ้น

    การติดตามและพัฒนาในอนาคต
    มี project board สำหรับติดตามสถานะของงานหลัก
    มีระบบ CI อย่างเป็นทางการสำหรับ Swift SDK for Android
    เปิดรับความคิดเห็นและไอเดียผ่าน Swift forums

    https://www.swift.org/blog/nightly-swift-sdk-for-android/
    📰 หัวข้อข่าว: “Swift เปิดตัว SDK สำหรับ Android – ก้าวใหม่ของการพัฒนาแอปข้ามแพลตฟอร์ม” หลังจาก Swift เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งในด้านการพัฒนาแอปบนคลาวด์, Windows, เบราว์เซอร์ และแม้แต่ไมโครคอนโทรลเลอร์ ล่าสุด Swift ได้ขยายขอบเขตไปยัง Android อย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัว “Swift SDK for Android” เวอร์ชัน nightly preview การเปิดตัวครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือของ Android Workgroup ซึ่งเป็นกลุ่มเปิดที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดัน Swift ให้สามารถพัฒนาแอปบน Android ได้อย่างเต็มรูปแบบ นักพัฒนาสามารถเริ่มต้นใช้งาน SDK ได้ทันที โดยมีคู่มือและตัวอย่างโค้ดให้ทดลองใช้งาน พร้อมรองรับการพอร์ตแพ็กเกจ Swift ไปยัง Android ได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันกว่า 25% ของแพ็กเกจใน Swift Package Index สามารถ build บน Android ได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีโครงการ swift-java ที่ช่วยให้ Swift สามารถทำงานร่วมกับ Java ได้ทั้งสองทาง โดยมีระบบสร้าง binding อัตโนมัติที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ✅ Swift SDK for Android เปิดตัวในรูปแบบ nightly preview ➡️ เปิดโอกาสให้นักพัฒนาเขียนแอป Android ด้วยภาษา Swift ➡️ รองรับการพัฒนาแบบ native และการพอร์ตแพ็กเกจ Swift ✅ การสนับสนุนจาก Android Workgroup ➡️ เป็นกลุ่มเปิดที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ ➡️ มีการร่างเอกสารวิสัยทัศน์เพื่อกำหนดทิศทางในอนาคต ✅ เครื่องมือและทรัพยากรสำหรับนักพัฒนา ➡️ มีคู่มือ Getting Started สำหรับเริ่มต้นใช้งาน ➡️ มีตัวอย่าง Swift for Android Examples สำหรับ workflow แบบ end-to-end ➡️ Community Showcase แสดงแพ็กเกจที่รองรับ Android ✅ การทำงานร่วมกับ Java ผ่าน swift-java ➡️ เป็นทั้งไลบรารีและเครื่องมือสร้างโค้ด binding ระหว่าง Swift และ Java ➡️ รองรับการนำ business logic จาก Swift ไปใช้บน Android ได้ง่ายขึ้น ✅ การติดตามและพัฒนาในอนาคต ➡️ มี project board สำหรับติดตามสถานะของงานหลัก ➡️ มีระบบ CI อย่างเป็นทางการสำหรับ Swift SDK for Android ➡️ เปิดรับความคิดเห็นและไอเดียผ่าน Swift forums https://www.swift.org/blog/nightly-swift-sdk-for-android/
    WWW.SWIFT.ORG
    Announcing the Swift SDK for Android
    Swift has matured significantly over the past decade — extending from cloud services to Windows applications, browser apps, and microcontrollers. Swift powers apps and services of all kinds, and thanks to its great interoperability, you can share code across platforms.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มาชวนทำกุนเชียงปลาทอดด้วยน้ำเปล่ากันค่ะ ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ ทำอาหารแบบงดใช้น้ำมันก็ทำให้รู้สึก Healthy ขึ้นมานิดนึง

    แม่ค้าใช้กุนเชียงปลาประมาณสี่แท่งยาว ทอดด้วยน้ำเปล่า ใช้ไฟกลางถึงอ่อนทอดไปเรื่อยเรื่อยจนน้ำแห้ง …. เราจะได้กุนเชียงเนื้อแน่นแน่น นิ่มกำลังดี ทานได้ทั้งครอบครัว ผู้สูงวัยฟันไม่ดี เด็กเล็กยังเป็นฟันน้ำนม เคี้ยวทานได้สบายๆค่ะ

    จะทานกับข้าวเหนียว ข้าวสวย ข้าวต้ม ได้หมดเลย อร่อยมากๆค่ะ

    กุนเชียงร้านเราเป็นสินค้าขายดี จนทำให้ร้านเราได้เป็นร้านแนะนำยอดเยี่ยม ทั้งใน TikTok และ Shopee … ลูกค้ากดไปอ่าน Review ลูกค้าท่านอื่นก่อนตัดสินใจสั่งซื้อได้เลยค่ะ … ราคาดีราคาโดนใจ อร่อยสะอาดถูกหลักอนามัย กดสั่งในตะกร้าได้ตามนี้เลยค่ะ

    ผ่านมาเห็นโพสต์นี้แล้วฝากกดติดตามร้านทั้งสามช่องทางเลยนะคะ Facebook, TikTok และ Shopee จะได้ไม่พลาด โปรดีดีของร้านเราค่ะ


    กดสั่งซื้อในตะกร้าด้านล่างได้เลยค่ะ

    ⭕️

    กุนเชียงหมู ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSMYbDdHr/

    กุนเชียงหมู ใน Shopee
    https://th.shp.ee/icytTqn

    กุนเชียงปลา ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSMYgRyc2/

    กุนเชียงปลา ใน Shopee
    https://th.shp.ee/UP94YQL

    เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_

    เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ

    #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาเกล็ดขาว #กุนเชียงหมู #กุนเชียงปลา #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาซิว #หมึกกะตอยแห้ง #ถุงตราปู #ถุง #ถุงร้อน #ถุงเย็น #ถุงใส่แก้วน้ำ #ถุงหูหิ้ว #ถุงหูหิ้วไฮโซ #กุนเชียง #หมูฝอย #ปลาจิ้งจ้างงา #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #ปลาจื้งจ้างสมุนไพร #ปลาไล้กอ #ปลาข้างเหลือง #ปลาข้าวสาร
    วันนี้มาชวนทำกุนเชียงปลาทอดด้วยน้ำเปล่ากันค่ะ ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ ทำอาหารแบบงดใช้น้ำมันก็ทำให้รู้สึก Healthy ขึ้นมานิดนึง แม่ค้าใช้กุนเชียงปลาประมาณสี่แท่งยาว ทอดด้วยน้ำเปล่า ใช้ไฟกลางถึงอ่อนทอดไปเรื่อยเรื่อยจนน้ำแห้ง …. เราจะได้กุนเชียงเนื้อแน่นแน่น นิ่มกำลังดี ทานได้ทั้งครอบครัว ผู้สูงวัยฟันไม่ดี เด็กเล็กยังเป็นฟันน้ำนม เคี้ยวทานได้สบายๆค่ะ จะทานกับข้าวเหนียว ข้าวสวย ข้าวต้ม ได้หมดเลย อร่อยมากๆค่ะ กุนเชียงร้านเราเป็นสินค้าขายดี จนทำให้ร้านเราได้เป็นร้านแนะนำยอดเยี่ยม ทั้งใน TikTok และ Shopee … ลูกค้ากดไปอ่าน Review ลูกค้าท่านอื่นก่อนตัดสินใจสั่งซื้อได้เลยค่ะ … ราคาดีราคาโดนใจ อร่อยสะอาดถูกหลักอนามัย กดสั่งในตะกร้าได้ตามนี้เลยค่ะ ผ่านมาเห็นโพสต์นี้แล้วฝากกดติดตามร้านทั้งสามช่องทางเลยนะคะ Facebook, TikTok และ Shopee จะได้ไม่พลาด โปรดีดีของร้านเราค่ะ กดสั่งซื้อในตะกร้าด้านล่างได้เลยค่ะ 🌶️♨️⭕️ กุนเชียงหมู 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMYbDdHr/ กุนเชียงหมู 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/icytTqn กุนเชียงปลา 🐟🐠 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMYgRyc2/ กุนเชียงปลา 🐠🐟 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/UP94YQL เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_ เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาเกล็ดขาว #กุนเชียงหมู #กุนเชียงปลา #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาซิว #หมึกกะตอยแห้ง #ถุงตราปู #ถุง #ถุงร้อน #ถุงเย็น #ถุงใส่แก้วน้ำ #ถุงหูหิ้ว #ถุงหูหิ้วไฮโซ #กุนเชียง #หมูฝอย #ปลาจิ้งจ้างงา #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #ปลาจื้งจ้างสมุนไพร #ปลาไล้กอ #ปลาข้างเหลือง #ปลาข้าวสาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 348 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Windows 11 ปรับระบบความปลอดภัย: ปิดการแสดงตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากเว็บ

    Microsoft ได้ออกอัปเดตใหม่สำหรับ Windows 11 ที่มุ่งเน้นการเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในส่วนของ File Explorer ซึ่งตอนนี้จะไม่แสดงตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการค้นพบช่องโหว่ที่อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น NTLM authentication hashes ผ่านการ preview ไฟล์ HTML ที่มีการอ้างอิงไปยัง path ภายนอก

    เมื่อผู้ใช้พยายามเปิด preview ไฟล์ที่มี “web mark” หรือถูกระบุว่ามาจากอินเทอร์เน็ต ระบบจะแสดงคำเตือนว่า “ไฟล์นี้อาจเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ” และแนะนำให้เปิดไฟล์ด้วยความระมัดระวัง หากผู้ใช้มั่นใจว่าไฟล์ปลอดภัย ก็สามารถคลิกขวา เลือก Properties แล้วกด “Unblock” เพื่อเปิด preview ได้ตามปกติ

    การปรับปรุงนี้ครอบคลุม Windows 11, Windows 10 (รวมเวอร์ชัน ESU), Windows Server 2012/2012 R2/2016/2019/2025 และ Windows Server version 23H2

    การเปลี่ยนแปลงใน File Explorer
    ปิดการแสดง preview สำหรับไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากเว็บ
    แสดงคำเตือนเมื่อพยายาม preview ไฟล์ที่มี “web mark”
    ผู้ใช้สามารถ “Unblock” ไฟล์เพื่อเปิด preview ได้

    เหตุผลด้านความปลอดภัย
    ป้องกันการรั่วไหลของ NTLM authentication hashes
    ช่องโหว่เกิดจากการ preview ไฟล์ HTML ที่อ้างอิง path ภายนอก
    ลดความเสี่ยงจากการเปิดไฟล์อันตรายโดยไม่ตั้งใจ

    ระบบที่ได้รับผลกระทบ
    Windows 11 และ Windows 10 ทุกเวอร์ชัน
    Windows Server 2012 ถึง 2025 รวมถึงเวอร์ชัน 23H2

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
    อย่าเปิด preview ไฟล์จากอินเทอร์เน็ตโดยไม่ตรวจสอบแหล่งที่มา
    ไฟล์ HTML ที่มีการอ้างอิงภายนอกอาจเป็นช่องทางโจมตี
    การเปิด preview โดยไม่ “Unblock” อาจทำให้ระบบแสดงคำเตือนหรือปิดการทำงานบางส่วน

    คำแนะนำเพิ่มเติม
    ตรวจสอบแหล่งที่มาของไฟล์ก่อนเปิดใช้งาน
    ใช้ฟีเจอร์ “Unblock” เฉพาะเมื่อมั่นใจว่าไฟล์ปลอดภัย
    อัปเดตระบบให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรับการป้องกันเต็มรูปแบบ

    https://securityonline.info/security-first-windows-11-disables-file-previews-for-web-downloads/
    🛡️ Windows 11 ปรับระบบความปลอดภัย: ปิดการแสดงตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากเว็บ Microsoft ได้ออกอัปเดตใหม่สำหรับ Windows 11 ที่มุ่งเน้นการเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในส่วนของ File Explorer ซึ่งตอนนี้จะไม่แสดงตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการค้นพบช่องโหว่ที่อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น NTLM authentication hashes ผ่านการ preview ไฟล์ HTML ที่มีการอ้างอิงไปยัง path ภายนอก เมื่อผู้ใช้พยายามเปิด preview ไฟล์ที่มี “web mark” หรือถูกระบุว่ามาจากอินเทอร์เน็ต ระบบจะแสดงคำเตือนว่า “ไฟล์นี้อาจเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ” และแนะนำให้เปิดไฟล์ด้วยความระมัดระวัง หากผู้ใช้มั่นใจว่าไฟล์ปลอดภัย ก็สามารถคลิกขวา เลือก Properties แล้วกด “Unblock” เพื่อเปิด preview ได้ตามปกติ การปรับปรุงนี้ครอบคลุม Windows 11, Windows 10 (รวมเวอร์ชัน ESU), Windows Server 2012/2012 R2/2016/2019/2025 และ Windows Server version 23H2 ✅ การเปลี่ยนแปลงใน File Explorer ➡️ ปิดการแสดง preview สำหรับไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากเว็บ ➡️ แสดงคำเตือนเมื่อพยายาม preview ไฟล์ที่มี “web mark” ➡️ ผู้ใช้สามารถ “Unblock” ไฟล์เพื่อเปิด preview ได้ ✅ เหตุผลด้านความปลอดภัย ➡️ ป้องกันการรั่วไหลของ NTLM authentication hashes ➡️ ช่องโหว่เกิดจากการ preview ไฟล์ HTML ที่อ้างอิง path ภายนอก ➡️ ลดความเสี่ยงจากการเปิดไฟล์อันตรายโดยไม่ตั้งใจ ✅ ระบบที่ได้รับผลกระทบ ➡️ Windows 11 และ Windows 10 ทุกเวอร์ชัน ➡️ Windows Server 2012 ถึง 2025 รวมถึงเวอร์ชัน 23H2 ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน ⛔ อย่าเปิด preview ไฟล์จากอินเทอร์เน็ตโดยไม่ตรวจสอบแหล่งที่มา ⛔ ไฟล์ HTML ที่มีการอ้างอิงภายนอกอาจเป็นช่องทางโจมตี ⛔ การเปิด preview โดยไม่ “Unblock” อาจทำให้ระบบแสดงคำเตือนหรือปิดการทำงานบางส่วน ‼️ คำแนะนำเพิ่มเติม ⛔ ตรวจสอบแหล่งที่มาของไฟล์ก่อนเปิดใช้งาน ⛔ ใช้ฟีเจอร์ “Unblock” เฉพาะเมื่อมั่นใจว่าไฟล์ปลอดภัย ⛔ อัปเดตระบบให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรับการป้องกันเต็มรูปแบบ https://securityonline.info/security-first-windows-11-disables-file-previews-for-web-downloads/
    SECURITYONLINE.INFO
    Security First: Windows 11 Disables File Previews for Web Downloads
    Microsoft disabled File Explorer previews for web-downloaded files to block an NTLM hash leak vulnerability, prioritizing security over convenience.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Claude Code เปิดให้ใช้งานบนเว็บ – สั่งงานโค้ดจากเบราว์เซอร์ได้ทันที พร้อมระบบรันแบบ sandbox ปลอดภัยสูง”

    Anthropic เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Claude Code on the web ซึ่งเป็นการนำความสามารถด้านการเขียนโค้ดของ Claude มาไว้ในเบราว์เซอร์โดยตรง ไม่ต้องเปิดเทอร์มินัลหรือรัน local environment อีกต่อไป

    ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับ GitHub repositories แล้วสั่งงาน Claude ให้แก้บั๊ก, ทำงาน backend, หรือแม้แต่รันหลาย task พร้อมกันแบบ parallel ได้เลย โดยทุก session จะรันใน environment ที่แยกจากกัน พร้อมระบบติดตามความคืบหน้าแบบ real-time และสามารถปรับคำสั่งระหว่างรันได้

    ฟีเจอร์นี้ยังรองรับการใช้งานบนมือถือผ่านแอป iOS ของ Claude ซึ่งเปิดให้ทดลองใช้ในช่วง beta เพื่อเก็บ feedback จากนักพัฒนา

    ด้านความปลอดภัย Claude Code ใช้ระบบ sandbox ที่มีการจำกัด network และ filesystem อย่างเข้มงวด โดย Git interaction จะผ่าน proxy ที่ปลอดภัย และผู้ใช้สามารถกำหนดว่า Claude จะเชื่อมต่อกับ domain ใดได้บ้าง เช่น npm หรือ API ภายนอก

    ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานในรูปแบบ research preview สำหรับผู้ใช้ระดับ Pro และ Max โดยสามารถเริ่มต้นได้ที่ claude.com/code

    Claude Code บนเว็บ
    สั่งงานโค้ดจากเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องเปิดเทอร์มินัล
    เชื่อมต่อกับ GitHub repositories ได้โดยตรง
    รันหลาย task พร้อมกันแบบ parallel
    มีระบบติดตามความคืบหน้าและปรับคำสั่งระหว่างรันได้
    สร้าง PR และสรุปการเปลี่ยนแปลงให้อัตโนมัติ

    การใช้งานบนมือถือ
    รองรับผ่านแอป Claude บน iOS
    เปิดให้ทดลองใช้ในช่วง beta
    เก็บ feedback เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน

    ความปลอดภัยของระบบ
    รันใน sandbox ที่แยกจากกัน
    จำกัด network และ filesystem
    Git interaction ผ่าน proxy ที่ปลอดภัย
    ผู้ใช้สามารถกำหนด domain ที่ Claude เชื่อมต่อได้
    รองรับการดาวน์โหลด dependency เช่น npm เพื่อรัน test

    การเริ่มต้นใช้งาน
    เปิดให้ใช้ในรูปแบบ research preview
    รองรับผู้ใช้ระดับ Pro และ Max
    เริ่มต้นได้ที่ claude.com/code
    การใช้งานบนคลาวด์แชร์ rate limit กับ Claude Code แบบอื่น

    https://www.anthropic.com/news/claude-code-on-the-web
    💻 “Claude Code เปิดให้ใช้งานบนเว็บ – สั่งงานโค้ดจากเบราว์เซอร์ได้ทันที พร้อมระบบรันแบบ sandbox ปลอดภัยสูง” Anthropic เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Claude Code on the web ซึ่งเป็นการนำความสามารถด้านการเขียนโค้ดของ Claude มาไว้ในเบราว์เซอร์โดยตรง ไม่ต้องเปิดเทอร์มินัลหรือรัน local environment อีกต่อไป ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับ GitHub repositories แล้วสั่งงาน Claude ให้แก้บั๊ก, ทำงาน backend, หรือแม้แต่รันหลาย task พร้อมกันแบบ parallel ได้เลย โดยทุก session จะรันใน environment ที่แยกจากกัน พร้อมระบบติดตามความคืบหน้าแบบ real-time และสามารถปรับคำสั่งระหว่างรันได้ ฟีเจอร์นี้ยังรองรับการใช้งานบนมือถือผ่านแอป iOS ของ Claude ซึ่งเปิดให้ทดลองใช้ในช่วง beta เพื่อเก็บ feedback จากนักพัฒนา ด้านความปลอดภัย Claude Code ใช้ระบบ sandbox ที่มีการจำกัด network และ filesystem อย่างเข้มงวด โดย Git interaction จะผ่าน proxy ที่ปลอดภัย และผู้ใช้สามารถกำหนดว่า Claude จะเชื่อมต่อกับ domain ใดได้บ้าง เช่น npm หรือ API ภายนอก ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานในรูปแบบ research preview สำหรับผู้ใช้ระดับ Pro และ Max โดยสามารถเริ่มต้นได้ที่ claude.com/code ✅ Claude Code บนเว็บ ➡️ สั่งงานโค้ดจากเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องเปิดเทอร์มินัล ➡️ เชื่อมต่อกับ GitHub repositories ได้โดยตรง ➡️ รันหลาย task พร้อมกันแบบ parallel ➡️ มีระบบติดตามความคืบหน้าและปรับคำสั่งระหว่างรันได้ ➡️ สร้าง PR และสรุปการเปลี่ยนแปลงให้อัตโนมัติ ✅ การใช้งานบนมือถือ ➡️ รองรับผ่านแอป Claude บน iOS ➡️ เปิดให้ทดลองใช้ในช่วง beta ➡️ เก็บ feedback เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน ✅ ความปลอดภัยของระบบ ➡️ รันใน sandbox ที่แยกจากกัน ➡️ จำกัด network และ filesystem ➡️ Git interaction ผ่าน proxy ที่ปลอดภัย ➡️ ผู้ใช้สามารถกำหนด domain ที่ Claude เชื่อมต่อได้ ➡️ รองรับการดาวน์โหลด dependency เช่น npm เพื่อรัน test ✅ การเริ่มต้นใช้งาน ➡️ เปิดให้ใช้ในรูปแบบ research preview ➡️ รองรับผู้ใช้ระดับ Pro และ Max ➡️ เริ่มต้นได้ที่ claude.com/code ➡️ การใช้งานบนคลาวด์แชร์ rate limit กับ Claude Code แบบอื่น https://www.anthropic.com/news/claude-code-on-the-web
    WWW.ANTHROPIC.COM
    Claude Code on the web
    Anthropic is an AI safety and research company that's working to build reliable, interpretable, and steerable AI systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายกลายเป็นจุดอ่อน — ช่องโหว่ยุค 90 ยังหลอกหลอนองค์กรในปี 2025” — เมื่อไฟร์วอลล์และ VPN ที่ควรป้องกัน กลับกลายเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์เจาะระบบ

    บทความจาก CSO Online โดย Lucian Constantin เปิดเผยว่าอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่าย เช่น ไฟร์วอลล์, VPN, และเกตเวย์อีเมล กำลังกลายเป็นจุดอ่อนหลักขององค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะจากช่องโหว่พื้นฐานอย่าง buffer overflow, command injection และ SQL injection ที่ควรหมดไปตั้งแต่ยุค 1990

    Google Threat Intelligence Group รายงานว่าในปี 2024 มีช่องโหว่ zero-day ถูกใช้โจมตีถึง 75 รายการ โดยหนึ่งในสามเป็นการเจาะอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Citrix, Ivanti, Fortinet, Palo Alto, Cisco, SonicWall และ Juniper ซึ่งมักถูกละเลยจากการตรวจสอบ endpoint และ logging

    เหตุผลที่ช่องโหว่เหล่านี้ยังคงอยู่:
    โค้ดเก่าที่สืบทอดจากการซื้อกิจการ
    ทีมพัฒนาเดิมลาออกไปหมดแล้ว
    ความกลัวว่าการแก้ไขจะทำให้ระบบพัง
    ขาดแรงจูงใจทางการเงินในการปรับปรุง

    นักวิจัยชี้ว่าแม้ช่องโหว่บางอย่างจะซับซ้อน แต่หลายจุดกลับ “ง่ายจนไม่น่าให้อภัย” และควรถูกตรวจพบด้วยเครื่องมือวิเคราะห์โค้ดอัตโนมัติหรือการรีวิวโค้ดทั่วไป

    การโจมตีอุปกรณ์เครือข่ายเพิ่มขึ้นหลังยุค COVID-19 ที่องค์กรเร่งติดตั้ง VPN และเกตเวย์เพื่อรองรับการทำงานจากบ้าน ขณะเดียวกัน phishing ก็เริ่มได้ผลน้อยลง ทำให้แฮกเกอร์หันมาใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์แทน

    ช่องโหว่ zero-day ในอุปกรณ์เครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    1 ใน 3 ของช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีในปี 2024 มาจากอุปกรณ์เครือข่าย

    ช่องโหว่ที่พบยังเป็นประเภทพื้นฐาน เช่น buffer overflow และ command injection
    เป็นช่องโหว่ที่ควรหมดไปตั้งแต่ยุค 1990

    อุปกรณ์เครือข่ายมักไม่ถูกตรวจสอบโดย endpoint protection หรือ logging
    ทำให้แฮกเกอร์ใช้เป็นช่องทางเจาะระบบ

    การโจมตีเพิ่มขึ้นหลังองค์กรติดตั้ง VPN และเกตเวย์ช่วง COVID-19
    เพื่อรองรับการทำงานจากบ้าน

    Phishing มีประสิทธิภาพลดลง ทำให้แฮกเกอร์หันมาใช้ช่องโหว่แทน
    เพราะ phishing ต้องลงทุนสูงและถูกป้องกันมากขึ้น

    นักวิจัยชี้ว่าหลายช่องโหว่ควรถูกตรวจพบด้วยเครื่องมืออัตโนมัติ
    เช่น static code analysis และ code review

    ผู้ผลิตบางรายเริ่มปรับปรุง เช่น Palo Alto ใช้ SELinux และ IMA
    เพื่อเสริมความปลอดภัยระดับ platform

    CISA ส่งเสริมแนวทาง Secure by Design และแบบฟอร์ม attestation
    เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตรับผิดชอบมากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/4074945/network-security-devices-endanger-orgs-with-90s-era-flaws.html
    🛡️ “อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายกลายเป็นจุดอ่อน — ช่องโหว่ยุค 90 ยังหลอกหลอนองค์กรในปี 2025” — เมื่อไฟร์วอลล์และ VPN ที่ควรป้องกัน กลับกลายเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์เจาะระบบ บทความจาก CSO Online โดย Lucian Constantin เปิดเผยว่าอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่าย เช่น ไฟร์วอลล์, VPN, และเกตเวย์อีเมล กำลังกลายเป็นจุดอ่อนหลักขององค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะจากช่องโหว่พื้นฐานอย่าง buffer overflow, command injection และ SQL injection ที่ควรหมดไปตั้งแต่ยุค 1990 Google Threat Intelligence Group รายงานว่าในปี 2024 มีช่องโหว่ zero-day ถูกใช้โจมตีถึง 75 รายการ โดยหนึ่งในสามเป็นการเจาะอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Citrix, Ivanti, Fortinet, Palo Alto, Cisco, SonicWall และ Juniper ซึ่งมักถูกละเลยจากการตรวจสอบ endpoint และ logging เหตุผลที่ช่องโหว่เหล่านี้ยังคงอยู่: 🪲 โค้ดเก่าที่สืบทอดจากการซื้อกิจการ 🪲 ทีมพัฒนาเดิมลาออกไปหมดแล้ว 🪲 ความกลัวว่าการแก้ไขจะทำให้ระบบพัง 🪲 ขาดแรงจูงใจทางการเงินในการปรับปรุง นักวิจัยชี้ว่าแม้ช่องโหว่บางอย่างจะซับซ้อน แต่หลายจุดกลับ “ง่ายจนไม่น่าให้อภัย” และควรถูกตรวจพบด้วยเครื่องมือวิเคราะห์โค้ดอัตโนมัติหรือการรีวิวโค้ดทั่วไป การโจมตีอุปกรณ์เครือข่ายเพิ่มขึ้นหลังยุค COVID-19 ที่องค์กรเร่งติดตั้ง VPN และเกตเวย์เพื่อรองรับการทำงานจากบ้าน ขณะเดียวกัน phishing ก็เริ่มได้ผลน้อยลง ทำให้แฮกเกอร์หันมาใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์แทน ✅ ช่องโหว่ zero-day ในอุปกรณ์เครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ➡️ 1 ใน 3 ของช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีในปี 2024 มาจากอุปกรณ์เครือข่าย ✅ ช่องโหว่ที่พบยังเป็นประเภทพื้นฐาน เช่น buffer overflow และ command injection ➡️ เป็นช่องโหว่ที่ควรหมดไปตั้งแต่ยุค 1990 ✅ อุปกรณ์เครือข่ายมักไม่ถูกตรวจสอบโดย endpoint protection หรือ logging ➡️ ทำให้แฮกเกอร์ใช้เป็นช่องทางเจาะระบบ ✅ การโจมตีเพิ่มขึ้นหลังองค์กรติดตั้ง VPN และเกตเวย์ช่วง COVID-19 ➡️ เพื่อรองรับการทำงานจากบ้าน ✅ Phishing มีประสิทธิภาพลดลง ทำให้แฮกเกอร์หันมาใช้ช่องโหว่แทน ➡️ เพราะ phishing ต้องลงทุนสูงและถูกป้องกันมากขึ้น ✅ นักวิจัยชี้ว่าหลายช่องโหว่ควรถูกตรวจพบด้วยเครื่องมืออัตโนมัติ ➡️ เช่น static code analysis และ code review ✅ ผู้ผลิตบางรายเริ่มปรับปรุง เช่น Palo Alto ใช้ SELinux และ IMA ➡️ เพื่อเสริมความปลอดภัยระดับ platform ✅ CISA ส่งเสริมแนวทาง Secure by Design และแบบฟอร์ม attestation ➡️ เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตรับผิดชอบมากขึ้น https://www.csoonline.com/article/4074945/network-security-devices-endanger-orgs-with-90s-era-flaws.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Network security devices endanger orgs with ’90s era flaws
    Built to defend enterprise networks, network edge security devices are becoming liabilities, with an alarming rise in zero-day exploits of what experts describe as basic vulnerabilities. Can the security device industry correct course?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Nvidia DGX Spark: เดสก์ท็อป AI ที่อาจเป็น ‘Apple Mac Moment’ ของ Nvidia”

    Nvidia เปิดตัว DGX Spark ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากนักรีวิวว่าเป็น “เครื่องมือ AI ระดับวิจัยที่อยู่บนโต๊ะทำงาน” ด้วยขนาดเล็กแต่ทรงพลัง DGX Spark ใช้ชิป Grace Blackwell GB200 ที่รวม CPU และ GPU พร้อมหน่วยความจำ unified ขนาด 128GB ทำให้สามารถรันโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์

    รีวิวจากหลายสำนักชี้ว่า DGX Spark มีประสิทธิภาพสูงในการรันโมเดล Llama 3.1 70B และ Gemma 3 27B โดยตรงจากหน่วยความจำภายใน พร้อมระบบระบายความร้อนที่เงียบและเสถียร แม้จะมีข้อจำกัดด้าน bandwidth จาก LPDDR5X แต่ก็ยังถือว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับนักพัฒนาและนักวิจัยที่ต้องการทดลอง AI แบบ local

    สเปกและความสามารถของ DGX Spark
    ใช้ชิป Grace Blackwell GB200 รวม CPU + GPU
    หน่วยความจำ unified 128GB รองรับโมเดลขนาดใหญ่
    รัน Llama 3.1 70B และ Gemma 3 27B ได้โดยตรงจาก RAM
    มี batching efficiency และ throughput consistency สูง

    จุดเด่นด้านการใช้งาน
    ขนาดเล็ก วางบนโต๊ะทำงานได้
    เสียงเงียบและระบบระบายความร้อนมีประสิทธิภาพ
    ใช้พลังงานน้อยกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึงครึ่งหนึ่ง
    รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Nvidia Sync จากเครื่องอื่น

    ความเห็นจากนักรีวิว
    LMSYS: “เครื่องวิจัยที่สวยงามและทรงพลัง”
    ServeTheHome: “จะทำให้การรันโมเดลขนาดใหญ่เป็นเรื่องของทุกคน”
    HotHardware: “เหมาะเป็นเครื่องเสริมสำหรับนักพัฒนา ไม่ใช่แทนที่ workstation”
    The Register: “เหมาะกับงานทดลอง ไม่ใช่สำหรับ productivity หรือ gaming”

    คำเตือนและข้อจำกัด
    Bandwidth ของ LPDDR5X ยังเป็นคอขวดเมื่อเทียบกับ GPU แยก
    Driver และซอฟต์แวร์บางส่วนยังไม่สมบูรณ์
    ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการเครื่องสำหรับงานทั่วไปหรือเล่นเกม
    หากต้องการประสิทธิภาพสูงสุด อาจต้องรอเวอร์ชันที่ใช้ GB200 ในเครื่อง Windows

    https://www.techradar.com/pro/so-freaking-cool-first-reviews-of-nvidia-dgx-spark-leave-absolutely-no-doubt-this-may-be-nvidias-apple-mac-moment
    🖥️ “Nvidia DGX Spark: เดสก์ท็อป AI ที่อาจเป็น ‘Apple Mac Moment’ ของ Nvidia” Nvidia เปิดตัว DGX Spark ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากนักรีวิวว่าเป็น “เครื่องมือ AI ระดับวิจัยที่อยู่บนโต๊ะทำงาน” ด้วยขนาดเล็กแต่ทรงพลัง DGX Spark ใช้ชิป Grace Blackwell GB200 ที่รวม CPU และ GPU พร้อมหน่วยความจำ unified ขนาด 128GB ทำให้สามารถรันโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ รีวิวจากหลายสำนักชี้ว่า DGX Spark มีประสิทธิภาพสูงในการรันโมเดล Llama 3.1 70B และ Gemma 3 27B โดยตรงจากหน่วยความจำภายใน พร้อมระบบระบายความร้อนที่เงียบและเสถียร แม้จะมีข้อจำกัดด้าน bandwidth จาก LPDDR5X แต่ก็ยังถือว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับนักพัฒนาและนักวิจัยที่ต้องการทดลอง AI แบบ local ✅ สเปกและความสามารถของ DGX Spark ➡️ ใช้ชิป Grace Blackwell GB200 รวม CPU + GPU ➡️ หน่วยความจำ unified 128GB รองรับโมเดลขนาดใหญ่ ➡️ รัน Llama 3.1 70B และ Gemma 3 27B ได้โดยตรงจาก RAM ➡️ มี batching efficiency และ throughput consistency สูง ✅ จุดเด่นด้านการใช้งาน ➡️ ขนาดเล็ก วางบนโต๊ะทำงานได้ ➡️ เสียงเงียบและระบบระบายความร้อนมีประสิทธิภาพ ➡️ ใช้พลังงานน้อยกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึงครึ่งหนึ่ง ➡️ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Nvidia Sync จากเครื่องอื่น ✅ ความเห็นจากนักรีวิว ➡️ LMSYS: “เครื่องวิจัยที่สวยงามและทรงพลัง” ➡️ ServeTheHome: “จะทำให้การรันโมเดลขนาดใหญ่เป็นเรื่องของทุกคน” ➡️ HotHardware: “เหมาะเป็นเครื่องเสริมสำหรับนักพัฒนา ไม่ใช่แทนที่ workstation” ➡️ The Register: “เหมาะกับงานทดลอง ไม่ใช่สำหรับ productivity หรือ gaming” ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ Bandwidth ของ LPDDR5X ยังเป็นคอขวดเมื่อเทียบกับ GPU แยก ⛔ Driver และซอฟต์แวร์บางส่วนยังไม่สมบูรณ์ ⛔ ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการเครื่องสำหรับงานทั่วไปหรือเล่นเกม ⛔ หากต้องการประสิทธิภาพสูงสุด อาจต้องรอเวอร์ชันที่ใช้ GB200 ในเครื่อง Windows https://www.techradar.com/pro/so-freaking-cool-first-reviews-of-nvidia-dgx-spark-leave-absolutely-no-doubt-this-may-be-nvidias-apple-mac-moment
    WWW.TECHRADAR.COM
    Reviews praise Nvidia DGX Spark as a compact local AI workstation
    Early hardware and software quirks do raise concerns, however
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • “digiKam 8.8 เพิ่มฟีเจอร์ใช้โปรไฟล์สีจอภาพอัตโนมัติบน Wayland” — เมื่อการจัดการภาพถ่ายก้าวสู่ความแม่นยำระดับมืออาชีพ

    digiKam 8.8 ซึ่งเป็นแอปจัดการภาพถ่ายแบบโอเพ่นซอร์ส ได้เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการรองรับการใช้โปรไฟล์สีของจอภาพแบบอัตโนมัติบนระบบ Wayland ซึ่งช่วยให้การแสดงผลภาพมีความเที่ยงตรงมากขึ้น โดยไม่ต้องตั้งค่าด้วยตนเอง

    นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น:

    รองรับการแสดงจุดโฟกัสของกล้อง FujiFilm และ Olympus/OM Systems ในโหมด Preview
    เพิ่มเครื่องมือเบลอพื้นหลังแบบค่อยเป็นค่อยไปใน Image Editor
    อัปเดตปลั๊กอิน G’MIC-Qt เป็นเวอร์ชัน 3.6 เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลภาพ
    ปรับปรุงระบบแจ้งเตือน (Progress Manager) ให้ใช้ native desktop notifications บน Linux, macOS และ Windows
    แก้ปัญหาความเสถียรใน Wayland และ Windows 11
    รองรับ Qt 6.10 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการใหม่
    ปรับปรุงการจัดการแท็ก, การแสดง thumbnail, การเลือกภาษา และการแปลเป็น 61 ภาษา

    ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด digiKam 8.8 ได้ในรูปแบบ AppImage ซึ่งสามารถรันได้บน Linux ทุกดิสโทรโดยไม่ต้องติดตั้ง หรือเลือกติดตั้งผ่าน repository หรือ Flatpak จาก Flathub

    https://9to5linux.com/digikam-8-8-adds-support-to-automatically-use-monitor-color-profiles-on-wayland
    🖼️ “digiKam 8.8 เพิ่มฟีเจอร์ใช้โปรไฟล์สีจอภาพอัตโนมัติบน Wayland” — เมื่อการจัดการภาพถ่ายก้าวสู่ความแม่นยำระดับมืออาชีพ digiKam 8.8 ซึ่งเป็นแอปจัดการภาพถ่ายแบบโอเพ่นซอร์ส ได้เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการรองรับการใช้โปรไฟล์สีของจอภาพแบบอัตโนมัติบนระบบ Wayland ซึ่งช่วยให้การแสดงผลภาพมีความเที่ยงตรงมากขึ้น โดยไม่ต้องตั้งค่าด้วยตนเอง นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น: 👍 รองรับการแสดงจุดโฟกัสของกล้อง FujiFilm และ Olympus/OM Systems ในโหมด Preview 👍 เพิ่มเครื่องมือเบลอพื้นหลังแบบค่อยเป็นค่อยไปใน Image Editor 👍 อัปเดตปลั๊กอิน G’MIC-Qt เป็นเวอร์ชัน 3.6 เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลภาพ 👍 ปรับปรุงระบบแจ้งเตือน (Progress Manager) ให้ใช้ native desktop notifications บน Linux, macOS และ Windows 👍 แก้ปัญหาความเสถียรใน Wayland และ Windows 11 👍 รองรับ Qt 6.10 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการใหม่ 👍 ปรับปรุงการจัดการแท็ก, การแสดง thumbnail, การเลือกภาษา และการแปลเป็น 61 ภาษา ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด digiKam 8.8 ได้ในรูปแบบ AppImage ซึ่งสามารถรันได้บน Linux ทุกดิสโทรโดยไม่ต้องติดตั้ง หรือเลือกติดตั้งผ่าน repository หรือ Flatpak จาก Flathub https://9to5linux.com/digikam-8-8-adds-support-to-automatically-use-monitor-color-profiles-on-wayland
    9TO5LINUX.COM
    digiKam 8.8 Adds Support to Automatically Use Monitor Color Profiles on Wayland - 9to5Linux
    digiKam 8.8 open-source digital photo management software is now available for download with various new features and improvements.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.wantedly.com/users/197531983/post_articles/998067/preview?token=3476f9b8fb5e8a7e2fd2ccf8f750ef99
    https://www.wantedly.com/users/197531983/post_articles/998067/preview?token=3476f9b8fb5e8a7e2fd2ccf8f750ef99
    WWW.WANTEDLY.COM
    Wantedly: Social Recruiting Service
    At Wantedly, we connect talents with companies that believe in your passion and values. See a company you're interested in? You can make a casual visit to to the office to find out more!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • “PeaZip 10.7 เพิ่มฟีเจอร์ดูภาพในไฟล์ — ครบเครื่องทั้งบีบอัดและพรีวิว”

    PeaZip 10.7 เวอร์ชันล่าสุดของโปรแกรมจัดการไฟล์แบบโอเพ่นซอร์ส ได้เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ: ตัวดูภาพ (image viewer) ที่สามารถพรีวิวภาพภายในไฟล์บีบอัดได้โดยไม่ต้องแตกไฟล์ออกมาก่อน

    ฟีเจอร์ใหม่นี้อยู่ในเมนู “File manager > View images” และรองรับการซูม, โหมด immersive, การเปลี่ยนชื่อ, ลบไฟล์ และการนำทางภาพแบบพื้นฐาน นอกจากนี้ยังสามารถแสดง thumbnail ของภาพในตัวจัดการไฟล์ได้ทุกแพลตฟอร์ม

    PeaZip 10.7 ยังปรับปรุงการทำงานร่วมกับ ClamAV (แอนตี้ไวรัสโอเพ่นซอร์ส), เพิ่มการพรีวิวไฟล์ในฟอร์แมต Zpaq, และปรับปรุงการเรียกดูไฟล์ .pkg รวมถึงเพิ่มตัวเลือก “Quick Look” บน macOS

    ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่:

    การสำรวจ path ของไฟล์พรีวิวผ่านเบราว์เซอร์ของระบบ
    การพรีวิวข้อความพร้อมฟีเจอร์ค้นหา, นับจำนวนคำ/บรรทัด/ตัวอักษร, เปลี่ยน encoding และ word wrap
    ปรับปรุงธีม “Line custom”
    เพิ่มตัวเลือกให้เก็บไฟล์ไว้แม้การแตกไฟล์ล้มเหลว (เฉพาะ backend Zstd)
    ปรับปรุงการรายงานระดับการบีบอัดของ Brotli และ Zpaq
    ปรับปรุงการตั้งชื่อหน่วยและรายการต่าง ๆ
    ปรับปรุงเมนู “Functions” ให้เรียงตามตัวอักษรและใช้งานง่ายขึ้น
    อัปเดตไลบรารี crypto/hash ให้รองรับสถาปัตยกรรม non-x86/x86_64

    PeaZip 10.7 พร้อมให้ดาวน์โหลดทั้งเวอร์ชัน GTK และ Qt รวมถึง Flatpak ผ่าน Flathub

    PeaZip 10.7 เพิ่มฟีเจอร์ image viewer
    ดูภาพและพรีวิวภาพในไฟล์บีบอัดได้โดยไม่ต้องแตกไฟล์

    รองรับการแสดง thumbnail ใน file manager ทุกแพลตฟอร์ม
    ช่วยให้ดูภาพในไฟล์บีบอัดได้สะดวกขึ้น

    ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ ClamAV
    เพิ่มความปลอดภัยในการจัดการไฟล์

    รองรับการพรีวิวไฟล์ Zpaq และ .pkg
    ขยายความสามารถในการจัดการฟอร์แมตเฉพาะ

    เพิ่ม Quick Look บน macOS และปรับปรุง Text preview
    รองรับการค้นหา, นับคำ, เปลี่ยน encoding ฯลฯ

    ปรับปรุงเมนู Functions และธีม Line custom
    ใช้งานง่ายและดูสบายตายิ่งขึ้น

    เพิ่มตัวเลือกเก็บไฟล์แม้แตกไฟล์ล้มเหลว (Zstd)
    ป้องกันการสูญหายของข้อมูล

    อัปเดตไลบรารี crypto/hash ให้รองรับสถาปัตยกรรมหลากหลาย
    เพิ่มความเข้ากันได้กับระบบที่ไม่ใช่ x86

    https://9to5linux.com/peazip-10-7-open-source-archive-manager-introduces-an-image-viewer
    🗂️ “PeaZip 10.7 เพิ่มฟีเจอร์ดูภาพในไฟล์ — ครบเครื่องทั้งบีบอัดและพรีวิว” PeaZip 10.7 เวอร์ชันล่าสุดของโปรแกรมจัดการไฟล์แบบโอเพ่นซอร์ส ได้เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ: ตัวดูภาพ (image viewer) ที่สามารถพรีวิวภาพภายในไฟล์บีบอัดได้โดยไม่ต้องแตกไฟล์ออกมาก่อน ฟีเจอร์ใหม่นี้อยู่ในเมนู “File manager > View images” และรองรับการซูม, โหมด immersive, การเปลี่ยนชื่อ, ลบไฟล์ และการนำทางภาพแบบพื้นฐาน นอกจากนี้ยังสามารถแสดง thumbnail ของภาพในตัวจัดการไฟล์ได้ทุกแพลตฟอร์ม PeaZip 10.7 ยังปรับปรุงการทำงานร่วมกับ ClamAV (แอนตี้ไวรัสโอเพ่นซอร์ส), เพิ่มการพรีวิวไฟล์ในฟอร์แมต Zpaq, และปรับปรุงการเรียกดูไฟล์ .pkg รวมถึงเพิ่มตัวเลือก “Quick Look” บน macOS ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่: 🛄 การสำรวจ path ของไฟล์พรีวิวผ่านเบราว์เซอร์ของระบบ 🛄 การพรีวิวข้อความพร้อมฟีเจอร์ค้นหา, นับจำนวนคำ/บรรทัด/ตัวอักษร, เปลี่ยน encoding และ word wrap 🛄 ปรับปรุงธีม “Line custom” 🛄 เพิ่มตัวเลือกให้เก็บไฟล์ไว้แม้การแตกไฟล์ล้มเหลว (เฉพาะ backend Zstd) 🛄 ปรับปรุงการรายงานระดับการบีบอัดของ Brotli และ Zpaq 🛄 ปรับปรุงการตั้งชื่อหน่วยและรายการต่าง ๆ 🛄 ปรับปรุงเมนู “Functions” ให้เรียงตามตัวอักษรและใช้งานง่ายขึ้น 🛄 อัปเดตไลบรารี crypto/hash ให้รองรับสถาปัตยกรรม non-x86/x86_64 PeaZip 10.7 พร้อมให้ดาวน์โหลดทั้งเวอร์ชัน GTK และ Qt รวมถึง Flatpak ผ่าน Flathub ✅ PeaZip 10.7 เพิ่มฟีเจอร์ image viewer ➡️ ดูภาพและพรีวิวภาพในไฟล์บีบอัดได้โดยไม่ต้องแตกไฟล์ ✅ รองรับการแสดง thumbnail ใน file manager ทุกแพลตฟอร์ม ➡️ ช่วยให้ดูภาพในไฟล์บีบอัดได้สะดวกขึ้น ✅ ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ ClamAV ➡️ เพิ่มความปลอดภัยในการจัดการไฟล์ ✅ รองรับการพรีวิวไฟล์ Zpaq และ .pkg ➡️ ขยายความสามารถในการจัดการฟอร์แมตเฉพาะ ✅ เพิ่ม Quick Look บน macOS และปรับปรุง Text preview ➡️ รองรับการค้นหา, นับคำ, เปลี่ยน encoding ฯลฯ ✅ ปรับปรุงเมนู Functions และธีม Line custom ➡️ ใช้งานง่ายและดูสบายตายิ่งขึ้น ✅ เพิ่มตัวเลือกเก็บไฟล์แม้แตกไฟล์ล้มเหลว (Zstd) ➡️ ป้องกันการสูญหายของข้อมูล ✅ อัปเดตไลบรารี crypto/hash ให้รองรับสถาปัตยกรรมหลากหลาย ➡️ เพิ่มความเข้ากันได้กับระบบที่ไม่ใช่ x86 https://9to5linux.com/peazip-10-7-open-source-archive-manager-introduces-an-image-viewer
    9TO5LINUX.COM
    PeaZip 10.7 Open-Source Archive Manager Introduces an Image Viewer - 9to5Linux
    PeaZip 10.7 open-source archive manager is now available for download with a new image viewer component and various improvements.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • Visit Now: https://boostbizs.com/product/buy-google-5-star-reviews/
    ➤E-mail : boostbizs2022@ gmail.com
    ➤WhatsApp : +44 7577-329388
    ➤Telegram : @boostbizs
    ➤Skype : Boost Bizs
    #boostbizs #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    #webdesign #branding #business #onlinemarketing #contentmarketing #website #marketingdigital #searchengineoptimization #google #ecommerce #webdevelopment #digitalmarketingagency #marketingstrategy #instagram #advertising #entrepreneur #marketingtips #design #wordpress #digital #graphicdesign #websitedesign #smallbusiness #smm #emailmarketing

    Visit Now: https://boostbizs.com/product/buy-google-5-star-reviews/ ➤E-mail : boostbizs2022@ gmail.com ➤WhatsApp : +44 7577-329388 ➤Telegram : @boostbizs ➤Skype : Boost Bizs #boostbizs #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s #webdesign #branding #business #onlinemarketing #contentmarketing #website #marketingdigital #searchengineoptimization #google #ecommerce #webdevelopment #digitalmarketingagency #marketingstrategy #instagram #advertising #entrepreneur #marketingtips #design #wordpress #digital #graphicdesign #websitedesign #smallbusiness #smm #emailmarketing
    BOOSTBIZS.COM
    Buy Google 5 Star Reviews
    Buy Google 5 Star Reviews.100% trusted and permanent 5 star Positive google reviews. This Google Reviews Services 100% Real and Active.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • Visit Now: https://boostbizs.com/product/buy-negative-google-reviews/
    ➤E-mail : boostbizs2022@ gmail.com
    ➤WhatsApp : +44 7577-329388
    ➤Telegram : @boostbizs
    ➤Skype : Boost Bizs
    #boostbizs #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    #webdesign #branding #business #onlinemarketing #contentmarketing #website #marketingdigital #searchengineoptimization #google #ecommerce #webdevelopment #digitalmarketingagency #marketingstrategy #instagram #advertising #entrepreneur #marketingtips #design #wordpress #digital #graphicdesign #websitedesign #smallbusiness #smm #emailmarketing

    Visit Now: https://boostbizs.com/product/buy-negative-google-reviews/ ➤E-mail : boostbizs2022@ gmail.com ➤WhatsApp : +44 7577-329388 ➤Telegram : @boostbizs ➤Skype : Boost Bizs #boostbizs #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s #webdesign #branding #business #onlinemarketing #contentmarketing #website #marketingdigital #searchengineoptimization #google #ecommerce #webdevelopment #digitalmarketingagency #marketingstrategy #instagram #advertising #entrepreneur #marketingtips #design #wordpress #digital #graphicdesign #websitedesign #smallbusiness #smm #emailmarketing
    BOOSTBIZS.COM
    Buy Negative Google Reviews
    Buy Negative Google Reviews from boostbizs. We provide best and non-drop reviews for your business. We provide 24/7 help and support.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • Visit Now: https://boostbizs.com/product/buy-trustpilot-reviews/
    ➤E-mail : boostbizs2022@ gmail.com
    ➤WhatsApp : +44 7577-329388
    ➤Telegram : @boostbizs
    ➤Skype : Boost Bizs
    #boostbizs #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    #webdesign #branding #business #onlinemarketing #contentmarketing #website #marketingdigital #searchengineoptimization #google #ecommerce #webdevelopment #digitalmarketingagency #marketingstrategy #instagram #advertising #entrepreneur #marketingtips #design #wordpress #digital #graphicdesign #websitedesign #smallbusiness #smm #emailmarketing

    Visit Now: https://boostbizs.com/product/buy-trustpilot-reviews/ ➤E-mail : boostbizs2022@ gmail.com ➤WhatsApp : +44 7577-329388 ➤Telegram : @boostbizs ➤Skype : Boost Bizs #boostbizs #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s #webdesign #branding #business #onlinemarketing #contentmarketing #website #marketingdigital #searchengineoptimization #google #ecommerce #webdevelopment #digitalmarketingagency #marketingstrategy #instagram #advertising #entrepreneur #marketingtips #design #wordpress #digital #graphicdesign #websitedesign #smallbusiness #smm #emailmarketing
    BOOSTBIZS.COM
    Buy Trustpilot Reviews
    Buy Trustpilot Reviews - grows your online local business's reach. You can select specifics as well. 100% stick guaranteed, targeted country & profile, custom name & profile and lifetime refill guaranteed if any review are missing.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • Visit Now: https://boostbizs.com/product/buy-tripadvisor-reviews/
    ➤E-mail : boostbizs2022@ gmail.com
    ➤WhatsApp : +44 7577-329388
    ➤Telegram : @boostbizs
    ➤Skype : Boost Bizs
    #boostbizs #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    #webdesign #branding #business #onlinemarketing #contentmarketing #website #marketingdigital #searchengineoptimization #google #ecommerce #webdevelopment #digitalmarketingagency #marketingstrategy #instagram #advertising #entrepreneur #marketingtips #design #wordpress #digital #graphicdesign #websitedesign #smallbusiness #smm #emailmarketing

    Visit Now: https://boostbizs.com/product/buy-tripadvisor-reviews/ ➤E-mail : boostbizs2022@ gmail.com ➤WhatsApp : +44 7577-329388 ➤Telegram : @boostbizs ➤Skype : Boost Bizs #boostbizs #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s #webdesign #branding #business #onlinemarketing #contentmarketing #website #marketingdigital #searchengineoptimization #google #ecommerce #webdevelopment #digitalmarketingagency #marketingstrategy #instagram #advertising #entrepreneur #marketingtips #design #wordpress #digital #graphicdesign #websitedesign #smallbusiness #smm #emailmarketing
    BOOSTBIZS.COM
    Buy TripAdvisor Reviews
    Buy Tripadvisor Reviews from us. We provide best quality trip advisor reviews for UK and USA. All of our reviews are manual and looks like real reviews. 24/7 Help and support.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts