• ทางผ่านแวะหน่อยแล้วกัน 😍 @Taman Sari (สวนน้ำของบรรดานางสนมขององค์สุลต่าน) มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งเยอะมาก และชื่นชมอีกอย่าง มีไกค์ชาวบ้านคอยแนะนำเยอะเลย ส่งเสริมให้ชาวบ้านและชุมชนรอบข้าง (ราคาคนท้องถิ่น 15,000 รูเปีย ประมาณ 40฿ ต่อคน)https://maps.app.goo.gl/3GmqVW2PBQhHV8qB9?g_st=com.google.maps.preview.copyTaman Sari หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Water Castle” เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดย สุลต่านฮาเมงกูบูโวที่ 1 (Sultan Hamengkubuwono I) แห่งราชอาณาจักรยอกยาการ์ตา จุดประสงค์ดั้งเดิมของ Taman Sari คือการเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์และใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา การป้องกัน รวมถึงเป็นสวนน้ำเพื่อความเพลิดเพลิน  ประวัติที่สำคัญ: 1. การก่อสร้างTaman Sari ถูกสร้างขึ้นในปี 1758-1765 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุโรป ผสมผสานกับสไตล์ชวา มีสระน้ำ พื้นที่พักผ่อน และอาคารหลากหลายที่ออกแบบอย่างประณีต เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัวของสุลต่าน และหอคอยชมวิว  2. หน้าที่การใช้งาน ใช้เป็น ที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์ เป็น ป้อมปราการทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมีอุโมงค์ใต้ดินและพื้นที่ลับเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ใช้สำหรับ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพิธีทางน้ำที่เกี่ยวข้องกับสุลต่านและครอบครัว  3. สถานะในปัจจุบันTaman Sari ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมส่วนต่าง ๆ เช่น สระน้ำกลางแจ้งที่ยังคงสภาพดี และโครงสร้างบางส่วนที่ได้รับการบูรณะ  ด้วยความผสมผสานของวัฒนธรรมท้องถิ่นและตะวันตก Taman Sari จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของอินโดนีเซียในยุคโบราณ.
    ทางผ่านแวะหน่อยแล้วกัน 😍 @Taman Sari (สวนน้ำของบรรดานางสนมขององค์สุลต่าน) มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งเยอะมาก และชื่นชมอีกอย่าง มีไกค์ชาวบ้านคอยแนะนำเยอะเลย ส่งเสริมให้ชาวบ้านและชุมชนรอบข้าง (ราคาคนท้องถิ่น 15,000 รูเปีย ประมาณ 40฿ ต่อคน)https://maps.app.goo.gl/3GmqVW2PBQhHV8qB9?g_st=com.google.maps.preview.copyTaman Sari หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Water Castle” เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดย สุลต่านฮาเมงกูบูโวที่ 1 (Sultan Hamengkubuwono I) แห่งราชอาณาจักรยอกยาการ์ตา จุดประสงค์ดั้งเดิมของ Taman Sari คือการเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์และใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา การป้องกัน รวมถึงเป็นสวนน้ำเพื่อความเพลิดเพลิน  ประวัติที่สำคัญ: 1. การก่อสร้างTaman Sari ถูกสร้างขึ้นในปี 1758-1765 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุโรป ผสมผสานกับสไตล์ชวา มีสระน้ำ พื้นที่พักผ่อน และอาคารหลากหลายที่ออกแบบอย่างประณีต เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัวของสุลต่าน และหอคอยชมวิว  2. หน้าที่การใช้งาน ใช้เป็น ที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์ เป็น ป้อมปราการทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมีอุโมงค์ใต้ดินและพื้นที่ลับเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ใช้สำหรับ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพิธีทางน้ำที่เกี่ยวข้องกับสุลต่านและครอบครัว  3. สถานะในปัจจุบันTaman Sari ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมส่วนต่าง ๆ เช่น สระน้ำกลางแจ้งที่ยังคงสภาพดี และโครงสร้างบางส่วนที่ได้รับการบูรณะ  ด้วยความผสมผสานของวัฒนธรรมท้องถิ่นและตะวันตก Taman Sari จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของอินโดนีเซียในยุคโบราณ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอสโกว์แก้ไขหลักคำสอนเรื่องนิวเคลียร์ของตน หลังสหรัฐฯอนุมัติการโจมตีระยะไกลภายในรัสเซีย; รัสเซียท้าทายอำนาจครอบงำของชาติตะวันตกในกลุ่ม G20; และอิสราเอล, เลบานอนกำลังมุ่งสู่การหยุดยิง:
    .
    Moscow revises its nuclear doctrine following the US approval of long-range attacks inside Russia; Russia challenges Western hegemony within the G20; and Israel, Lebanon move toward a ceasefire:
    https://tass.com/pressreview/1875031
    .
    5:37 PM · Nov 20, 2024 · 1,908 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1859184404511314165
    มอสโกว์แก้ไขหลักคำสอนเรื่องนิวเคลียร์ของตน หลังสหรัฐฯอนุมัติการโจมตีระยะไกลภายในรัสเซีย; รัสเซียท้าทายอำนาจครอบงำของชาติตะวันตกในกลุ่ม G20; และอิสราเอล, เลบานอนกำลังมุ่งสู่การหยุดยิง: . Moscow revises its nuclear doctrine following the US approval of long-range attacks inside Russia; Russia challenges Western hegemony within the G20; and Israel, Lebanon move toward a ceasefire: https://tass.com/pressreview/1875031 . 5:37 PM · Nov 20, 2024 · 1,908 Views https://x.com/tassagency_en/status/1859184404511314165
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์, อาจทบทวนการตัดสินใจของอดีตประธานาธิบดีในการอนุมัติการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯจัดหาให้โจมตีภายในรัสเซีย, สมาชิกทีมเปลี่ยนผ่านคนหนึ่งของทรัมป์ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าวกับ TASS:
    .
    Donald Trump, may review his predecessor’s decision to authorize the use of US-supplied long-range missiles to strike inside Russia, a member of Trump’s transition team who asked not to be named told TASS:
    https://tass.com/world/1873761
    .
    7:43 AM · Nov 18, 2024 · 14.6K Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1858310101938962940
    โดนัลด์ ทรัมป์, อาจทบทวนการตัดสินใจของอดีตประธานาธิบดีในการอนุมัติการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯจัดหาให้โจมตีภายในรัสเซีย, สมาชิกทีมเปลี่ยนผ่านคนหนึ่งของทรัมป์ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าวกับ TASS: . Donald Trump, may review his predecessor’s decision to authorize the use of US-supplied long-range missiles to strike inside Russia, a member of Trump’s transition team who asked not to be named told TASS: https://tass.com/world/1873761 . 7:43 AM · Nov 18, 2024 · 14.6K Views https://x.com/tassagency_en/status/1858310101938962940
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทวิเคราะห์ข่าว: สวิตเซอร์แลนด์เปิดกว้างสำหรับการเป็นเจ้าภาพการเจรจาระหว่างปูติน-ทรัมป์ ขณะที่นาโตและสหภาพยุโรปสนับสนุนยูเครน ข่าวเด่นจากสื่อรัสเซียในวันศุกร์, ที่ ๑๕ พฤศจิกายน:
    .
    Press review: Switzerland open to hosting Putin-Trump talks as NATO and EU back Ukraine. Top stories from the Russian press on Friday, November 15th:
    https://tass.com/pressreview/1872655
    .
    5:52 PM · Nov 15, 2024 · 2,980 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1857375999140282387
    บทวิเคราะห์ข่าว: สวิตเซอร์แลนด์เปิดกว้างสำหรับการเป็นเจ้าภาพการเจรจาระหว่างปูติน-ทรัมป์ ขณะที่นาโตและสหภาพยุโรปสนับสนุนยูเครน ข่าวเด่นจากสื่อรัสเซียในวันศุกร์, ที่ ๑๕ พฤศจิกายน: . Press review: Switzerland open to hosting Putin-Trump talks as NATO and EU back Ukraine. Top stories from the Russian press on Friday, November 15th: https://tass.com/pressreview/1872655 . 5:52 PM · Nov 15, 2024 · 2,980 Views https://x.com/tassagency_en/status/1857375999140282387
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา, กลยุทธ์การพัฒนากองทัพเรือรัสเซีย, และสายตรงของ วลาดิมีร์ ปูติน กับประเทศ เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ทั่วรัสเซีย:

    บทวิเคราะห์ข่าว: สหรัฐฯจะรักษาความช่วยเหลือแก่อิสราเอล ขณะที่ระบอบเคียฟเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความช่วยเหลือ
    .
    US President-elect Donald Trump’s potential cabinet, the development strategy for the Russian Navy, and Vladimir Putin’s Direct Line with the country. These stories topped the headlines in newspapers across Russia:

    Press review: US to maintain aid to Israel while Kiev regime faces challenge to retain it
    https://tass.com/pressreview/1872115
    .
    5:22 PM · Nov 14, 2024 · 2,404 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1857006252603130161
    คณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา, กลยุทธ์การพัฒนากองทัพเรือรัสเซีย, และสายตรงของ วลาดิมีร์ ปูติน กับประเทศ เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ทั่วรัสเซีย: บทวิเคราะห์ข่าว: สหรัฐฯจะรักษาความช่วยเหลือแก่อิสราเอล ขณะที่ระบอบเคียฟเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความช่วยเหลือ . US President-elect Donald Trump’s potential cabinet, the development strategy for the Russian Navy, and Vladimir Putin’s Direct Line with the country. These stories topped the headlines in newspapers across Russia: Press review: US to maintain aid to Israel while Kiev regime faces challenge to retain it https://tass.com/pressreview/1872115 . 5:22 PM · Nov 14, 2024 · 2,404 Views https://x.com/tassagency_en/status/1857006252603130161
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซีคอนฯ ทุ่มเพื่อคนกรุงฯ ป้ายรถเมล์ติดแอร์ พลังงานแสงอาทิตย์ - Ibusiness review
    ซีคอนฯ ทุ่มเพื่อคนกรุงฯ ป้ายรถเมล์ติดแอร์ พลังงานแสงอาทิตย์ - Ibusiness review
    Like
    Love
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพแรก
    ซ้าย ไม่มี ฟลูออไรด์
    ขวา มี ฟลูออไรด์
    โลกคือมายา #ลวงทั้งโลก
    ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ⁉️
    ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานการวิจัยที่ว่าด้วยฟลูออไรด์ต่อการลดความสามารถทางปัญญาในเด็กได้ถึง 32 หน้าฟรี ๆ ที่นี่
    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3491930/
    Source :
    https://youtu.be/KLsjwWo1F2I
    --------------------------------------------------
    โดยทั่วไป #ฟลูออไรด์ เป็นสารทำลายต่อมไร้ท่อเนื่องจากฟลูออไรด์เป็นฮาไลด์ (halide)เช่นกัน มันจึงแข่งขันกับฮาไลด์ตัวอื่นที่ตัวรับเดียวกันในต่อมไทรอยด์ และที่อื่นๆ เพื่อจับกับไอโอดีน สิ่งนี้จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ
    มีการพิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อ
    แต่ความจริงข้อนี้ถูกละเลยโดยหน่วยงาน และสมาคมที่ยังคงส่งเสริมการใช้ฟลูออไรด์ต่อไป
    จากรายงานของ National Research Council of the National Academies ในปี 2549
    ฟลูออไรด์ "เป็นตัวทำลายต่อมไร้ท่อในแง่กว้างโดยปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อที่เป็นปกติ"
    ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และต่อมไพเนียลรวมถึงต่อมหมวกไต ตับอ่อน และต่อมใต้สมอง
    ต่อมไทรอยด์ของคุณ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการรักษาอัตราการเผาผลาญโดยรวมของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติ เนื่องจากเซลล์ที่มีการเผาผลาญทั้งหมดต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อการทำงานที่เหมาะสม
    การหยุดชะงักของระบบนี้ อาจมีผลกระทบที่หลากหลายต่อแทบทุกระบบในร่างกายของคุณ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดของโรคต่อมไร้ท่อ
    การใช้ฟลูออไรด์ในอดีต เป็นการแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับ Hyperthyroid
    จนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปได้กำหนดให้ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อลดอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในผู้ป่วยที่มีต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์งานหนึ่งรายงานว่า
    ปริมาณฟลูออไรด์เพียง 2 - 3 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก ถ้าได้รับอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอที่จะลดกิจกรรมของต่อมไทรอยด์ในผู้ป่วยได้
    การใช้ฟลูออไรด์เพื่อการรักษาต่อมไทรอยด์ได้รับการกระตุ้นโดยการวิจัยที่เริ่มต้นในปี 1800 ซึ่งเชื่อมโยงการบริโภคฟลูออไรด์กับคอพอก การบวมของต่อมไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
    ในรายงานเมื่อปี 2549 Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards, the National Research Council (NRC) รายงานว่า
    "ข้อมูลหลายบรรทัด แสดงถึงผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์" โดยเฉพาะรายงานที่กล่าวถึงการวิจัยแสดงให้เห็นว่า
    "การได้รับฟลูออไรด์ในมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของ TSH ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความแพร่หลายของคอพอก และเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ T4 และ T3" นอกจากนั้นยังมีผลที่คล้ายกันใน T4 และ T3 รายงานในสัตว์ทดลอง
    นอกจากนี้ NRC ยังกล่าวถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงฟลูออไรด์ กับผลกระทบต่อกิจกรรมของพาราไธรอยด์ การด้อยค่าของการทนต่อกลูโคส และระยะเวลาของการคงไว้ซึ่งสภาวะทางเพศ
    จากการค้นพบเหล่านี้ คณะกรรมการ NRC แนะนำว่า "ผลกระทบของฟลูออไรด์ในแง่มุมต่างๆ ต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ ควรได้รับการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ในการพัฒนาโรคต่างๆ
    อย่างไรก็ตามผู้เสนอให้ใช้ฟลูออไรด์ยังคงเพิกเฉยต่อวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นอันตราย
    ฟลูออไรด์จำนวนเล็กน้อย เปลี่ยนการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ
    การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการได้รับฟลูออไรด์ในระดับต่ำถึง 0.05 - 0.1 มก. ฟลูออไรด์ต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน (มก. / กก. / วัน) หรือ 0.03 มก. / กก. / วัน
    สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม (154 ปอนด์) หมายความว่าฟลูออไรด์ 3.5 มก. ต่อวัน (หรือฟลูออไรด์ 0.7 มก. ต่อวันที่มีการขาดไอโอดีน) อาจทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
    การวิเคราะห์โดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ประมาณการว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปบริโภคฟลูออไรด์เกือบ 3 มิลลิกรัมทุกวัน และบางคนบริโภคเป็นประจำวันละ 6 มก. ขึ้นไป
    สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 14 กิโลกรัม (30 ปอนด์) ฟลูออไรด์ที่ได้รับมากกว่า 0.7 มก. ต่อวัน (หรือ 0.14 มก. ต่อวันหากขาดไอโอดีน) ทำให้เด็กเสี่ยงต่อความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ
    และ EPA (2010) ได้ทำการประเมินว่าเด็กที่อยู่ในช่วงน้ำหนักนี้ (อายุ 1- 3 ปี) ได้บริโภคฟลูออไรด์มากกว่า 1.5 มก. ในแต่ละวัน หรือมากกว่า 2 เท่า ของจำนวนที่จำเป็นในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลง การได้รับอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและตลอดชีวิตต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ทางสังคม ทางเพศ และทางกายภาพโดยรวมของเด็ก
    การศึกษาจำนวนมากพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฟลูออไรด์ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และการลด IQ ในเด็ก แม้แต่ระดับฟลูออไรด์ที่น้อยกว่า 1.0 มก. / ล. ก็มีความสัมพันธ์กับ IQ ที่ลดลง และความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภาวะไทรอยด์ทำงานในเด็กที่มีอาการขาดสารไอโอดีน
    การพิจารณาอย่างจริงจัง ว่าต่อมไทรอยด์ของคุณอาจเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางที่สุดในร่างกายของคุณต่อฟลูออไรด์ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ
    ฟลูออไรด์สะสมในต่อมไทรอยด์ของคุณมากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ
    ฟลูออไรด์อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณโดยตรง หรือโดยอ้อมด้วยการกระทำที่เป็นไปได้ รวมถึงความสามารถของฟลูออไรด์ในการเลียนแบบฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH)
    - ทำลาย G-proteins ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยการสร้างของตัวรับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ
    -ทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ของคุณ
    -ทำลาย DNA ของคุณ
    -รบกวนการแปลงจากไทรอยด์ฮอร์โมน (T4) ที่ไม่ได้ใช้งานไปเป็นแบบฟอร์มที่ต้องใช้งาน (T3)
    จากข้อมูลของ PubMed Health พบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดภาวะพร่อง หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ เกือบ 4% ของประชากรสหรัฐอเมริกา
    มากกว่า 11 ล้านคน มีภาวะไทรอยด์ทำงานหนักเกินจริง นอกจากนี้ 10% ของประชากรทั่วไป 21 ล้านคน มีภาวะพร่องที่ไม่แสดงอาการซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาต่อมาของภาวะพร่องไทรอยด์
    แม้จะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่อัตราการเกิดภาวะพร่องของ hypothyroidism ทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นเกือบ 75% ในช่วง 2ทศวรรษที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ส่งผลกระทบต่อ 1 ในทุกๆ 2,370 ของการเกิดภาวะพร่องในทารกแรกเกิดที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อน การชะลอการเจริญเติบโต และปัญหาหัวใจ
    เด็กที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือเยาวชน ได้รับรายงานว่ามีการล่าช้าของการงอกของฟัน หรือข้อบกพร่องในการเคลือบฟัน แม้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างการค้นพบเหล่านี้กับผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อไทรอยด์ยังไม่ได้ทำการศึกษา
    สิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างความรุนแรงของอาการที่ไม่แสดงอาการในหญิงตั้งครรภ์และ IQ ที่ลดลงของบุตรหลาน
    การพร่องของมารดายังได้รับการเสนอให้เป็นสาเหตุ หรือผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาออทิสติก
    ศักยภาพของฟลูออไรด์ที่จะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกหลายประการ
    ดังนั้นวิธีการใช้ฟลูออไรด์วิธีการแบบไม่เจาะจง / การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มสาธารณะโดยเจตนา / การผสมเข้าไปในยาสีฟัน / การเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ เป็นปัญหาอย่างยิ่ง
    เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ หรือความอ่อนไหวส่วนตัว และเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของเภสัชวิทยาสมัยใหม่
    -----------------------------------
    Andersson M, de Benoist B,Delange F, Zupan J. 2007.Prevention and control of iodine deficiency in pregnant and lactating women and in children less
    Bharaktiya S, et al., 2010.Hypothyroidism. Medscape Reference.
    Delange F. 2004. Optimal iodine nutrition during pregnancy, lactation and neonatal period. Int J Endocrinol Metab 89:3851.
    Drugs.com. Undated. Top-selling drugs of 2009.
    IOM (Institute of Medicine). 2001. Dietary Reference Intakes for Vitamin A, Vitamin K, Arsenic, Boron, Chromium, Copper, Iodine, Iron, Manganese
    Larsen PR, Davies TF, Schlumberger MJ, Hay ID. 2002. Thyroid physiology and diagnostic evaluation of patients with thyroid disorders. Pp. 331-373
    PubMed Health. 2009. Neonatal hypothyroidism.
    PubMed Health. 2010. Hypothyroidism.
    Wang H, Yang Z, Zhou B, et al. 2009. Fluoride-induced thyroid dysfunction in rats: roles of dietary protein and calcium level. Toxicol Ind Health
    Zimmermann MB. 2009. Iodine deficiency in pregnancy and the effects of maternal iodine supplementation on the offspring: a review. Am J Clin Nutr
    1 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 507 pp.
    2 Maumené E. 1854. Compt Rend Acad Sci 39:538. May W. 1935. Antagonismus Zwischen Jod und Fluor im Organismus. Klinische Wochenschrift 14:790-92.
    3 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    4 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    5 EPA (U.S. Environmental Protection Agency). 2010. Fluoride: Exposure and Relative Source Contribution Analysis.
    6 Connett P, Beck J, Micklem HS. 2010. The Case Against Fluoride. How Hazardous Waste Ended Up in Our Drinking Water and the Bad Science
    7 Lin FF, Aihaiti HX, Zhao J, et al. 1991. The relationship of a low-iodine and high-fluoride environment to subclinical cretinism in Xinjiang.
    8 ICCIDD (International Council for the Control of Iodine Deficiency Disorders). 2011. Iodine Deficiency.
    9 Hollowell JG, Staehling NW, Hannon WH, et al. 1998. Iodine nutrition in the United States. Trends and public health implications: iodine excretion
    10 Lee SL, et al. 2009. Iodine Deficiency. Medscape Reference.
    11 Caldwell KL, Miller GA, Wang RY, et al. 2008. Iodine status of the U.S. population, National Health and Nutrition Examination Survey 2003-2004.
    12 Shashi A. 1988. Biochemical effects of Fluoride on thyroid gland duringexperimental fluorosis. Fluoride 21:127–130.
    13 Monsour PA, Kruger BJ. 1985. Effect of fluoride on soft tissue in vertebrates. Fluoride 18:53-61. / Call RA, Greenwood DA, LeCheminant H, et al. 1965.
    14 Ge Y, Ning H, Wang S, Wang J. 2005. DNA damage in thyroid gland cells of rats exposed to long-term intake of high fluoride and low iodine. Fluoride
    15 Gas'kov A, Savchenkov MF, Lushkov NN. 2005. [The specific features of the development of iodine deficiencies in children living under pollution]
    16 Aoki Y, Belin RM, Clickner R, et al. 2007. Serum TSH and total T4 in the United States population
    17 Olney RS, Grosse SD, Vogt RF. 2010. Prevalence of Congenital Hypothyroidism—Current Trends and Future Directions: Workshop Summary. Pediatrics 125
    18 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    19 Klein RZ, Sargent JD, Larsen PR, et al. 2001. Relation of severity of maternal hypothyroidism to cognitive development in offspring. J Med Screen
    20 Román GC. 2007. Autism: Transient in utero hypothyroxinemia related to maternal flavonoid ingestion during pregnancy.
    Biological Trace Element Research :
    https://www.researchgate.net/.../345973053_In_Vitro...
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58
    https://youtu.be/AYAJJSOmdJo
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ปฏิวัติสุขภาพกับอ.ปานเทพ เรื่อง ฟลูออไรด์ ภัยเงียบในน้ำดื่มน้ำใช้ยาสีฟัน
    https://youtu.be/741TFbVWJwQ
    https://youtu.be/s-ElDeuDl1I
    https://youtu.be/Y5Ad9L-B21c
    https://youtu.be/1KgS-_E05YE
    https://youtu.be/KLsjwWo1F2I
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดย อ.สันติ มานะดี
    https://www.facebook.com/10000435.../posts/1352913331530352/
    ✨✨✨✨✨✨✨
    สารฟลูโอไรด์ ( Fluoride )
    Little Girl Healthy SHOP - สินค้าส่งตรงจากอเมริกา
    กราฟแสดงระดับความรุนแรงของสารตะกั่ว สารหนูและฟลูโอไรด์
    ค่าระดับความเป็นพิษของฟลูโอไรด์ที่พุ่งแรงแซงสารตะกั่วไปอยู่ที่ระดับ 4 เกือบๆ 5 นั่นแปลว่า มันเป็นพิษมากจนถึงขั้นรุนแรง! ยิ่งถ้าบ้านใครมียาฆ่าหนูและแมลงสาบลองพลิกดูที่ส่วนผสมข้างกล่อง คุณอาจจะช็อกตาค้างมากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนูคือฟลูโอไรด์
    ซึ่งความจริงแล้ว ฟลูออไรด์ได้นำมาใช้ครั้งแรกในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นยาเบื่อหนู ถามว่า.. แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในยาสีฟันล่ะ?
    จริงๆแล้วฟลูออไรด์ที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่างแท้จริงมันคือ “แคลเซียมฟลูออไรด์ “ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันมันคือ "โซเดียมฟลูออไรด์"
    เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นในโรงงานซึ่งมีราคาถูกกว่า
    และถ้าใครที่คิดว่าฟลููโอไรด์ช่วยให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ แบบที่เคยได้ยินกันจนคุ้นหูคุ้นตาในโฆษณาทีวีตั้งแต่เด็กๆคงต้องคิดใหม่ เพราะมันกลับเป็นตัวการทำให้เกิดฟันตกกระที่เรียกว่า Dental Fluorosis เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างที่ผิวฟันจากการสะสมของสารพิษฟลูโอไรด์ในระยะยาว แถมยังมีผลต่อกระดูกทำให้กระดูกพรุนด้วย ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ของรัฐนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า มีการใช้สารฟลูออไรด์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) แต่ผลกลับกลายเป็นว่า อัตราการเกิดกระดูกตะโพกร้าวสูงขึ้นกว่าปกติ
    และในปี 1993 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาต่อต้านการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและอาหาร นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ยืนยันว่า ฟลูออไรด์ไม่ได้ป้องกันฟันผุ ผลตรงกันข้าม กลับมีเหตุการณ์แน่ชัดว่า มันเป็นตัวก่อมะเร็งได้ http://www.biowish.net/pages/med.htm
    เคยมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองผสมฟลูโอไรด์ในน้ำของค่ายกักกันที่รัซเซียในยุคคอมมิวนิสต์และอีกที่ในช่วงยุคนาซีที่เยอร์มัน มีจุดประสงค์ในการทดลองเพื่อจะดูว่าถ้านักโทษผู้โชคร้ายทั้งหลายกินน้ำผสมฟลูโอไรด์เข้าไปแล้วนักโทษจะเป็นยังไง
    ผลปรากฎว่า อารมณ์รุนแรงของนักโทษลดลงอย่างเห็นได้ชัด เปลี่ยนจากนักโทษโหดๆเป็นแมวหง่าวนั่งหงอย ไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างใดๆ ไม่ยกพวกตีกันเหมือนก่อน
    ฟังแล้วดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ.. แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวซะมากกว่า เพราะว่าฟลูโอไรด์มันมีผลโดยตรงต่อสมองน่ะสิ โดยมันเข้าไปทำลายต่อมไพนีล (Pineal gland) หรือเรียกว่าดวงตาที่ 3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารณ์ต่างๆ เช่นความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์
    ดังนั้นเมื่อต่อมนี้โดนทำลาย จึงทำให้เกิดความท้อแท้ หมดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม เป็นตัวลดไอคิว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาลครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ฟลูโอไรด์เลยมาอยู่ในยาสีฟันให้เราใช้กันทุกวัน เปรียบได้กับอาวุธของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนโง่และเป็นการควบคุมประชากรไปในตัว ในบางประเทศอย่างไอร์แลนด์ อเมริกา ถึงกับโดนมัดมือชกให้กินน้ำผสมยาพิษฟลูโอไรด์กันเลยทีเดียว
    โดยผสมมันลงในน้ำประปาสาธารณะ โดยอ้างว่าหวังดีอยากป้องกันโรคฟันผุให้ประชาชน แต่มีการพิสูจน์แล้วโดยเปรียบเทียบสุขภาพฟันของคนอังกฤษและอเมริกัน ปรากฎว่าสุขภาพฟันไม่ต่างกันเลยทั้งๆที่น้ำในประเทศอังกฤษไม่มีการฟลูโอไรด์ลงในน้ำ การกระทำที่มีนัยยะแอบแฝงแบบนี้เลยสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคนในหลายประเทศที่ไม่เต็มใจจะโดนวางยาพิษในน้ำก๊อกที่ทำให้โง่และเป็นโรค แถมการเอาน้ำไปต้มให้เดือดก็ไม่ได้ช่วยอะไรยกเว้นเพิ่มความแรงของสารพิษให้สูงขึ้นอึก 7 เท่าตัว
    เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าอีคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านมากไปป่ะ? ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย! Fluoride Alert .Org
    แคลเซียมฟลูออไรด์เป็นธาตุที่จำเป็น พบเป็นส่วนใหญ่ในกระดูก และเคลือบฟัน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และทำให้ฟันทนต่อการผุมากขึ้น แคลเซียมฟลูออไรด์อาจช่วยป้องกันโรคปริทันต์ด้วย และป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมฟลูออไรด์พบในธรรมชาติ ในรูปของแคลเซียมคลอไรด์ มีอยู่ในพืชทุกชนิด สัตว์ น้ำ และ ดิน
    โซเดียมฟลูออไรด์ (Sodium Fluoride) เป็นสารอนินทรีย์ที่เกิดจากธาตุฟลูออรีน (Fluorine) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำเอาโซเดียมฟลูออไรด์ไปผสมกับผลิตภัณฑ์ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากด้วยโซเดียมฟลูออไรด์
    การได้รับฟลูออรีน จะเกิดการสะสมของฟลูออรีนไว้ในร่างกายทีละน้อย จะทำให้เกิดความเสียหายและข้อบกพร่องขึ้นกับระบบโครงกระดูกและฟันสำหรับความผิดปกติของฟัน
    เกิดขึ้นโดยฟันจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขุ่นๆ ซึ่งเดิมมีลักษณะใส นอกจากนี้ยังทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ฟันจึงมักชำรุดแตกบิ่นง่าย ส่วนในระบบโครงกระดูกอาการที่พบคือ กระดูกจะเจริญเร็วมาก ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากกระดูกขา กราม กระดูกซี่โครง ขากระเผลก เดินลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการเจริญมากเกินไปของกระดูกหรือเกิดจากที่หินปูนไปจับกับเอ็นและข้อต่อของขา จึงทำให้ขาแข็ง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นอาการแบบถาวร
    แหล่งอาหาร แคลเซียมฟลูออไรด์ ตามธรรมชาติ
    1. ข้าวต่างๆ
    2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่
    3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง
    4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่
    5. เมล็ดทานตะวัน
    6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล
    #สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันก่อให้เกิดมะเร็ง จริงหรือไม่?
    ☠️☠️
    ทำไมเด็กในอเมริกาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 นักวิจัยหลายๆท่านที่อเมริกา รวมทั้ง Charlotte Gerson ได้ไปทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า ยาสีฟันที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปรวมทั้งยี่ห้อที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
    Charlotte ให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งที่คลีนิคของเธอทุกคนเลิกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ เธอยังบอกอีกว่าไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ทำไมเด็กในอเมริกาเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เพราะยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ ผสม สารฟลูออไรด์ แล้วยังใส่รสชาติเหมือนขนมหวานให้เด็กๆติดใจและอยากจะใช้ยาสีฟันแบบนี้
    🚑🚑
    เธอบอกความจริงว่าถ้าผู้บริโภคไม่มีใครป่วยเป็นโรคอะไรเลยแล้วผู้ผลิตยาจะทำธุรกิจได้กำไรจากที่ไหน ลองไปดูสิคะผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกันกับผู้ผลิตยานั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่หมอฟันใช้กับคนไข้ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้อุดฟันล้วนแล้วเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น
    🎗🎗
    ใครที่เป็นมะเร็งอยู่ก็ดูยาสีฟันกันหน่อยนะคะ
    ⛑⛑
    (ปีนี้ 2018 Charlotte Gerson เธออายุ 96 ปียังแข็งแรงและเดินสายสัมมนาเรื่องมะเร็ง นับถือจริงๆ)
    ด้วยความปรารถนาดี
    ...โค้ชนาตาลี
    ❤️❤️
    อ่านต่อ...
    From the book: Never Fear Cancer again by Raymond Francis
    ..........
    Fluoride Fluoride both switches on and drives cancer. Federal health officials continue to call fluoridation one of the ten great public-health achievements of the twentieth century, while it has long been known as one of our greatest public-health blunders. The scientific evidence that fluoride causes cancer is overwhelming, and this has been known for decades, despite attempts to obscure it.
    💉💉
    For example, recorded in the Congressional Record of 21 July 1976, the chief chemist of the National Cancer Institute, Dr. Dean Burke, stated before Congress, “In point of fact, fluoride causes more cancer death, and causes it faster than any other chemical.”
    ☠️☠️
    Fluoride is a general cellular poison, doing catastrophic biological damage that is beyond the scope of this chapter to describe, yet many of us are now ingesting daily amounts that far exceed even the government’s inadequate safety standards. Hundreds of studies have found a connection between fluoride and cancer; cities that fluoridate their water have significantly more cancer deaths than cities that do not fluoridate.
    ☠️☠️
    ***Fluoride causes cancer by reacting with enzymes, changing their shape and disabling them.***
    ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️

    ด้วยรักและยาสีฟัน
    เวชหนุ่ม
    ภาพแรก ซ้าย ไม่มี ฟลูออไรด์ ขวา มี ฟลูออไรด์ โลกคือมายา #ลวงทั้งโลก ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ⁉️ ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานการวิจัยที่ว่าด้วยฟลูออไรด์ต่อการลดความสามารถทางปัญญาในเด็กได้ถึง 32 หน้าฟรี ๆ ที่นี่ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3491930/ Source : https://youtu.be/KLsjwWo1F2I -------------------------------------------------- โดยทั่วไป #ฟลูออไรด์ เป็นสารทำลายต่อมไร้ท่อเนื่องจากฟลูออไรด์เป็นฮาไลด์ (halide)เช่นกัน มันจึงแข่งขันกับฮาไลด์ตัวอื่นที่ตัวรับเดียวกันในต่อมไทรอยด์ และที่อื่นๆ เพื่อจับกับไอโอดีน สิ่งนี้จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ มีการพิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อ แต่ความจริงข้อนี้ถูกละเลยโดยหน่วยงาน และสมาคมที่ยังคงส่งเสริมการใช้ฟลูออไรด์ต่อไป จากรายงานของ National Research Council of the National Academies ในปี 2549 ฟลูออไรด์ "เป็นตัวทำลายต่อมไร้ท่อในแง่กว้างโดยปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อที่เป็นปกติ" ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และต่อมไพเนียลรวมถึงต่อมหมวกไต ตับอ่อน และต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ของคุณ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการรักษาอัตราการเผาผลาญโดยรวมของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติ เนื่องจากเซลล์ที่มีการเผาผลาญทั้งหมดต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อการทำงานที่เหมาะสม การหยุดชะงักของระบบนี้ อาจมีผลกระทบที่หลากหลายต่อแทบทุกระบบในร่างกายของคุณ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดของโรคต่อมไร้ท่อ การใช้ฟลูออไรด์ในอดีต เป็นการแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับ Hyperthyroid จนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปได้กำหนดให้ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อลดอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในผู้ป่วยที่มีต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์งานหนึ่งรายงานว่า ปริมาณฟลูออไรด์เพียง 2 - 3 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก ถ้าได้รับอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอที่จะลดกิจกรรมของต่อมไทรอยด์ในผู้ป่วยได้ การใช้ฟลูออไรด์เพื่อการรักษาต่อมไทรอยด์ได้รับการกระตุ้นโดยการวิจัยที่เริ่มต้นในปี 1800 ซึ่งเชื่อมโยงการบริโภคฟลูออไรด์กับคอพอก การบวมของต่อมไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ในรายงานเมื่อปี 2549 Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards, the National Research Council (NRC) รายงานว่า "ข้อมูลหลายบรรทัด แสดงถึงผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์" โดยเฉพาะรายงานที่กล่าวถึงการวิจัยแสดงให้เห็นว่า "การได้รับฟลูออไรด์ในมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของ TSH ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความแพร่หลายของคอพอก และเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ T4 และ T3" นอกจากนั้นยังมีผลที่คล้ายกันใน T4 และ T3 รายงานในสัตว์ทดลอง นอกจากนี้ NRC ยังกล่าวถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงฟลูออไรด์ กับผลกระทบต่อกิจกรรมของพาราไธรอยด์ การด้อยค่าของการทนต่อกลูโคส และระยะเวลาของการคงไว้ซึ่งสภาวะทางเพศ จากการค้นพบเหล่านี้ คณะกรรมการ NRC แนะนำว่า "ผลกระทบของฟลูออไรด์ในแง่มุมต่างๆ ต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ ควรได้รับการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ในการพัฒนาโรคต่างๆ อย่างไรก็ตามผู้เสนอให้ใช้ฟลูออไรด์ยังคงเพิกเฉยต่อวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นอันตราย ฟลูออไรด์จำนวนเล็กน้อย เปลี่ยนการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการได้รับฟลูออไรด์ในระดับต่ำถึง 0.05 - 0.1 มก. ฟลูออไรด์ต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน (มก. / กก. / วัน) หรือ 0.03 มก. / กก. / วัน สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม (154 ปอนด์) หมายความว่าฟลูออไรด์ 3.5 มก. ต่อวัน (หรือฟลูออไรด์ 0.7 มก. ต่อวันที่มีการขาดไอโอดีน) อาจทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ การวิเคราะห์โดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ประมาณการว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปบริโภคฟลูออไรด์เกือบ 3 มิลลิกรัมทุกวัน และบางคนบริโภคเป็นประจำวันละ 6 มก. ขึ้นไป สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 14 กิโลกรัม (30 ปอนด์) ฟลูออไรด์ที่ได้รับมากกว่า 0.7 มก. ต่อวัน (หรือ 0.14 มก. ต่อวันหากขาดไอโอดีน) ทำให้เด็กเสี่ยงต่อความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ และ EPA (2010) ได้ทำการประเมินว่าเด็กที่อยู่ในช่วงน้ำหนักนี้ (อายุ 1- 3 ปี) ได้บริโภคฟลูออไรด์มากกว่า 1.5 มก. ในแต่ละวัน หรือมากกว่า 2 เท่า ของจำนวนที่จำเป็นในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลง การได้รับอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและตลอดชีวิตต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ทางสังคม ทางเพศ และทางกายภาพโดยรวมของเด็ก การศึกษาจำนวนมากพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฟลูออไรด์ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และการลด IQ ในเด็ก แม้แต่ระดับฟลูออไรด์ที่น้อยกว่า 1.0 มก. / ล. ก็มีความสัมพันธ์กับ IQ ที่ลดลง และความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภาวะไทรอยด์ทำงานในเด็กที่มีอาการขาดสารไอโอดีน การพิจารณาอย่างจริงจัง ว่าต่อมไทรอยด์ของคุณอาจเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางที่สุดในร่างกายของคุณต่อฟลูออไรด์ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ ฟลูออไรด์สะสมในต่อมไทรอยด์ของคุณมากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ ฟลูออไรด์อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณโดยตรง หรือโดยอ้อมด้วยการกระทำที่เป็นไปได้ รวมถึงความสามารถของฟลูออไรด์ในการเลียนแบบฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) - ทำลาย G-proteins ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยการสร้างของตัวรับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ -ทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ของคุณ -ทำลาย DNA ของคุณ -รบกวนการแปลงจากไทรอยด์ฮอร์โมน (T4) ที่ไม่ได้ใช้งานไปเป็นแบบฟอร์มที่ต้องใช้งาน (T3) จากข้อมูลของ PubMed Health พบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดภาวะพร่อง หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ เกือบ 4% ของประชากรสหรัฐอเมริกา มากกว่า 11 ล้านคน มีภาวะไทรอยด์ทำงานหนักเกินจริง นอกจากนี้ 10% ของประชากรทั่วไป 21 ล้านคน มีภาวะพร่องที่ไม่แสดงอาการซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาต่อมาของภาวะพร่องไทรอยด์ แม้จะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่อัตราการเกิดภาวะพร่องของ hypothyroidism ทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นเกือบ 75% ในช่วง 2ทศวรรษที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ส่งผลกระทบต่อ 1 ในทุกๆ 2,370 ของการเกิดภาวะพร่องในทารกแรกเกิดที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อน การชะลอการเจริญเติบโต และปัญหาหัวใจ เด็กที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือเยาวชน ได้รับรายงานว่ามีการล่าช้าของการงอกของฟัน หรือข้อบกพร่องในการเคลือบฟัน แม้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างการค้นพบเหล่านี้กับผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อไทรอยด์ยังไม่ได้ทำการศึกษา สิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างความรุนแรงของอาการที่ไม่แสดงอาการในหญิงตั้งครรภ์และ IQ ที่ลดลงของบุตรหลาน การพร่องของมารดายังได้รับการเสนอให้เป็นสาเหตุ หรือผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาออทิสติก ศักยภาพของฟลูออไรด์ที่จะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกหลายประการ ดังนั้นวิธีการใช้ฟลูออไรด์วิธีการแบบไม่เจาะจง / การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มสาธารณะโดยเจตนา / การผสมเข้าไปในยาสีฟัน / การเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ เป็นปัญหาอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ หรือความอ่อนไหวส่วนตัว และเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของเภสัชวิทยาสมัยใหม่ ----------------------------------- Andersson M, de Benoist B,Delange F, Zupan J. 2007.Prevention and control of iodine deficiency in pregnant and lactating women and in children less Bharaktiya S, et al., 2010.Hypothyroidism. Medscape Reference. Delange F. 2004. Optimal iodine nutrition during pregnancy, lactation and neonatal period. Int J Endocrinol Metab 89:3851. Drugs.com. Undated. Top-selling drugs of 2009. IOM (Institute of Medicine). 2001. Dietary Reference Intakes for Vitamin A, Vitamin K, Arsenic, Boron, Chromium, Copper, Iodine, Iron, Manganese Larsen PR, Davies TF, Schlumberger MJ, Hay ID. 2002. Thyroid physiology and diagnostic evaluation of patients with thyroid disorders. Pp. 331-373 PubMed Health. 2009. Neonatal hypothyroidism. PubMed Health. 2010. Hypothyroidism. Wang H, Yang Z, Zhou B, et al. 2009. Fluoride-induced thyroid dysfunction in rats: roles of dietary protein and calcium level. Toxicol Ind Health Zimmermann MB. 2009. Iodine deficiency in pregnancy and the effects of maternal iodine supplementation on the offspring: a review. Am J Clin Nutr 1 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 507 pp. 2 Maumené E. 1854. Compt Rend Acad Sci 39:538. May W. 1935. Antagonismus Zwischen Jod und Fluor im Organismus. Klinische Wochenschrift 14:790-92. 3 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 4 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 5 EPA (U.S. Environmental Protection Agency). 2010. Fluoride: Exposure and Relative Source Contribution Analysis. 6 Connett P, Beck J, Micklem HS. 2010. The Case Against Fluoride. How Hazardous Waste Ended Up in Our Drinking Water and the Bad Science 7 Lin FF, Aihaiti HX, Zhao J, et al. 1991. The relationship of a low-iodine and high-fluoride environment to subclinical cretinism in Xinjiang. 8 ICCIDD (International Council for the Control of Iodine Deficiency Disorders). 2011. Iodine Deficiency. 9 Hollowell JG, Staehling NW, Hannon WH, et al. 1998. Iodine nutrition in the United States. Trends and public health implications: iodine excretion 10 Lee SL, et al. 2009. Iodine Deficiency. Medscape Reference. 11 Caldwell KL, Miller GA, Wang RY, et al. 2008. Iodine status of the U.S. population, National Health and Nutrition Examination Survey 2003-2004. 12 Shashi A. 1988. Biochemical effects of Fluoride on thyroid gland duringexperimental fluorosis. Fluoride 21:127–130. 13 Monsour PA, Kruger BJ. 1985. Effect of fluoride on soft tissue in vertebrates. Fluoride 18:53-61. / Call RA, Greenwood DA, LeCheminant H, et al. 1965. 14 Ge Y, Ning H, Wang S, Wang J. 2005. DNA damage in thyroid gland cells of rats exposed to long-term intake of high fluoride and low iodine. Fluoride 15 Gas'kov A, Savchenkov MF, Lushkov NN. 2005. [The specific features of the development of iodine deficiencies in children living under pollution] 16 Aoki Y, Belin RM, Clickner R, et al. 2007. Serum TSH and total T4 in the United States population 17 Olney RS, Grosse SD, Vogt RF. 2010. Prevalence of Congenital Hypothyroidism—Current Trends and Future Directions: Workshop Summary. Pediatrics 125 18 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 19 Klein RZ, Sargent JD, Larsen PR, et al. 2001. Relation of severity of maternal hypothyroidism to cognitive development in offspring. J Med Screen 20 Román GC. 2007. Autism: Transient in utero hypothyroxinemia related to maternal flavonoid ingestion during pregnancy. Biological Trace Element Research : https://www.researchgate.net/.../345973053_In_Vitro... ✨✨✨✨✨✨✨ ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo ✨✨✨✨✨✨✨ ปฏิวัติสุขภาพกับอ.ปานเทพ เรื่อง ฟลูออไรด์ ภัยเงียบในน้ำดื่มน้ำใช้ยาสีฟัน https://youtu.be/741TFbVWJwQ https://youtu.be/s-ElDeuDl1I https://youtu.be/Y5Ad9L-B21c https://youtu.be/1KgS-_E05YE https://youtu.be/KLsjwWo1F2I ✨✨✨✨✨✨✨ ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดย อ.สันติ มานะดี https://www.facebook.com/10000435.../posts/1352913331530352/ ✨✨✨✨✨✨✨ สารฟลูโอไรด์ ( Fluoride ) Little Girl Healthy SHOP - สินค้าส่งตรงจากอเมริกา กราฟแสดงระดับความรุนแรงของสารตะกั่ว สารหนูและฟลูโอไรด์ ค่าระดับความเป็นพิษของฟลูโอไรด์ที่พุ่งแรงแซงสารตะกั่วไปอยู่ที่ระดับ 4 เกือบๆ 5 นั่นแปลว่า มันเป็นพิษมากจนถึงขั้นรุนแรง! ยิ่งถ้าบ้านใครมียาฆ่าหนูและแมลงสาบลองพลิกดูที่ส่วนผสมข้างกล่อง คุณอาจจะช็อกตาค้างมากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนูคือฟลูโอไรด์ ซึ่งความจริงแล้ว ฟลูออไรด์ได้นำมาใช้ครั้งแรกในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นยาเบื่อหนู ถามว่า.. แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในยาสีฟันล่ะ? จริงๆแล้วฟลูออไรด์ที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่างแท้จริงมันคือ “แคลเซียมฟลูออไรด์ “ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันมันคือ "โซเดียมฟลูออไรด์" เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นในโรงงานซึ่งมีราคาถูกกว่า และถ้าใครที่คิดว่าฟลููโอไรด์ช่วยให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ แบบที่เคยได้ยินกันจนคุ้นหูคุ้นตาในโฆษณาทีวีตั้งแต่เด็กๆคงต้องคิดใหม่ เพราะมันกลับเป็นตัวการทำให้เกิดฟันตกกระที่เรียกว่า Dental Fluorosis เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างที่ผิวฟันจากการสะสมของสารพิษฟลูโอไรด์ในระยะยาว แถมยังมีผลต่อกระดูกทำให้กระดูกพรุนด้วย ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ของรัฐนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า มีการใช้สารฟลูออไรด์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) แต่ผลกลับกลายเป็นว่า อัตราการเกิดกระดูกตะโพกร้าวสูงขึ้นกว่าปกติ และในปี 1993 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาต่อต้านการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและอาหาร นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ยืนยันว่า ฟลูออไรด์ไม่ได้ป้องกันฟันผุ ผลตรงกันข้าม กลับมีเหตุการณ์แน่ชัดว่า มันเป็นตัวก่อมะเร็งได้ http://www.biowish.net/pages/med.htm เคยมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองผสมฟลูโอไรด์ในน้ำของค่ายกักกันที่รัซเซียในยุคคอมมิวนิสต์และอีกที่ในช่วงยุคนาซีที่เยอร์มัน มีจุดประสงค์ในการทดลองเพื่อจะดูว่าถ้านักโทษผู้โชคร้ายทั้งหลายกินน้ำผสมฟลูโอไรด์เข้าไปแล้วนักโทษจะเป็นยังไง ผลปรากฎว่า อารมณ์รุนแรงของนักโทษลดลงอย่างเห็นได้ชัด เปลี่ยนจากนักโทษโหดๆเป็นแมวหง่าวนั่งหงอย ไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างใดๆ ไม่ยกพวกตีกันเหมือนก่อน ฟังแล้วดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ.. แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวซะมากกว่า เพราะว่าฟลูโอไรด์มันมีผลโดยตรงต่อสมองน่ะสิ โดยมันเข้าไปทำลายต่อมไพนีล (Pineal gland) หรือเรียกว่าดวงตาที่ 3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารณ์ต่างๆ เช่นความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์ ดังนั้นเมื่อต่อมนี้โดนทำลาย จึงทำให้เกิดความท้อแท้ หมดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม เป็นตัวลดไอคิว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาลครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ฟลูโอไรด์เลยมาอยู่ในยาสีฟันให้เราใช้กันทุกวัน เปรียบได้กับอาวุธของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนโง่และเป็นการควบคุมประชากรไปในตัว ในบางประเทศอย่างไอร์แลนด์ อเมริกา ถึงกับโดนมัดมือชกให้กินน้ำผสมยาพิษฟลูโอไรด์กันเลยทีเดียว โดยผสมมันลงในน้ำประปาสาธารณะ โดยอ้างว่าหวังดีอยากป้องกันโรคฟันผุให้ประชาชน แต่มีการพิสูจน์แล้วโดยเปรียบเทียบสุขภาพฟันของคนอังกฤษและอเมริกัน ปรากฎว่าสุขภาพฟันไม่ต่างกันเลยทั้งๆที่น้ำในประเทศอังกฤษไม่มีการฟลูโอไรด์ลงในน้ำ การกระทำที่มีนัยยะแอบแฝงแบบนี้เลยสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคนในหลายประเทศที่ไม่เต็มใจจะโดนวางยาพิษในน้ำก๊อกที่ทำให้โง่และเป็นโรค แถมการเอาน้ำไปต้มให้เดือดก็ไม่ได้ช่วยอะไรยกเว้นเพิ่มความแรงของสารพิษให้สูงขึ้นอึก 7 เท่าตัว เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าอีคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านมากไปป่ะ? ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย! Fluoride Alert .Org แคลเซียมฟลูออไรด์เป็นธาตุที่จำเป็น พบเป็นส่วนใหญ่ในกระดูก และเคลือบฟัน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และทำให้ฟันทนต่อการผุมากขึ้น แคลเซียมฟลูออไรด์อาจช่วยป้องกันโรคปริทันต์ด้วย และป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมฟลูออไรด์พบในธรรมชาติ ในรูปของแคลเซียมคลอไรด์ มีอยู่ในพืชทุกชนิด สัตว์ น้ำ และ ดิน โซเดียมฟลูออไรด์ (Sodium Fluoride) เป็นสารอนินทรีย์ที่เกิดจากธาตุฟลูออรีน (Fluorine) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำเอาโซเดียมฟลูออไรด์ไปผสมกับผลิตภัณฑ์ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากด้วยโซเดียมฟลูออไรด์ การได้รับฟลูออรีน จะเกิดการสะสมของฟลูออรีนไว้ในร่างกายทีละน้อย จะทำให้เกิดความเสียหายและข้อบกพร่องขึ้นกับระบบโครงกระดูกและฟันสำหรับความผิดปกติของฟัน เกิดขึ้นโดยฟันจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขุ่นๆ ซึ่งเดิมมีลักษณะใส นอกจากนี้ยังทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ฟันจึงมักชำรุดแตกบิ่นง่าย ส่วนในระบบโครงกระดูกอาการที่พบคือ กระดูกจะเจริญเร็วมาก ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากกระดูกขา กราม กระดูกซี่โครง ขากระเผลก เดินลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการเจริญมากเกินไปของกระดูกหรือเกิดจากที่หินปูนไปจับกับเอ็นและข้อต่อของขา จึงทำให้ขาแข็ง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นอาการแบบถาวร แหล่งอาหาร แคลเซียมฟลูออไรด์ ตามธรรมชาติ 1. ข้าวต่างๆ 2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่ 3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง 4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่ 5. เมล็ดทานตะวัน 6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล #สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันก่อให้เกิดมะเร็ง จริงหรือไม่? ☠️☠️ ทำไมเด็กในอเมริกาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 นักวิจัยหลายๆท่านที่อเมริกา รวมทั้ง Charlotte Gerson ได้ไปทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า ยาสีฟันที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปรวมทั้งยี่ห้อที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง Charlotte ให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งที่คลีนิคของเธอทุกคนเลิกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ เธอยังบอกอีกว่าไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ทำไมเด็กในอเมริกาเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เพราะยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ ผสม สารฟลูออไรด์ แล้วยังใส่รสชาติเหมือนขนมหวานให้เด็กๆติดใจและอยากจะใช้ยาสีฟันแบบนี้ 🚑🚑 เธอบอกความจริงว่าถ้าผู้บริโภคไม่มีใครป่วยเป็นโรคอะไรเลยแล้วผู้ผลิตยาจะทำธุรกิจได้กำไรจากที่ไหน ลองไปดูสิคะผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกันกับผู้ผลิตยานั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่หมอฟันใช้กับคนไข้ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้อุดฟันล้วนแล้วเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น 🎗🎗 ใครที่เป็นมะเร็งอยู่ก็ดูยาสีฟันกันหน่อยนะคะ ⛑⛑ (ปีนี้ 2018 Charlotte Gerson เธออายุ 96 ปียังแข็งแรงและเดินสายสัมมนาเรื่องมะเร็ง นับถือจริงๆ) ด้วยความปรารถนาดี ...โค้ชนาตาลี ❤️❤️ อ่านต่อ... From the book: Never Fear Cancer again by Raymond Francis .......... Fluoride Fluoride both switches on and drives cancer. Federal health officials continue to call fluoridation one of the ten great public-health achievements of the twentieth century, while it has long been known as one of our greatest public-health blunders. The scientific evidence that fluoride causes cancer is overwhelming, and this has been known for decades, despite attempts to obscure it. 💉💉 For example, recorded in the Congressional Record of 21 July 1976, the chief chemist of the National Cancer Institute, Dr. Dean Burke, stated before Congress, “In point of fact, fluoride causes more cancer death, and causes it faster than any other chemical.” ☠️☠️ Fluoride is a general cellular poison, doing catastrophic biological damage that is beyond the scope of this chapter to describe, yet many of us are now ingesting daily amounts that far exceed even the government’s inadequate safety standards. Hundreds of studies have found a connection between fluoride and cancer; cities that fluoridate their water have significantly more cancer deaths than cities that do not fluoridate. ☠️☠️ ***Fluoride causes cancer by reacting with enzymes, changing their shape and disabling them.*** ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ด้วยรักและยาสีฟัน เวชหนุ่ม
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 595 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Disaster” Synonyms For When Things Don’t Go As Planned

    Most of the time, we like to keep things positive around here and provide you with plenty of inspiring, motivational words to brighten up your day. This … this is not that list.

    Are you done setting intentions? Are you through repeating mantras into the mirror? Do you just need a perfectly wretched word to capture what’s not working right now? Then this is the list for you. We’ve traveled through hell and goat rodeos to bring you the words that will describe the snafus and fiascos of your life or the world around you.

    If your desperate times call for desperate words, here are 20 provocative synonyms for the word disaster and some example sentences to inspire use.

    apocalypse

    We begin our list with a disaster of Biblical proportions. The word apocalypse originally comes from the Greek apokálypsis, meaning “revelation.” Since at least the 1100s, the word apocalypse has been used to refer to the Book of Revelation in the Christian Bible, which tells how the world will be nearly destroyed when good finally defeats evil. Today, the word apocalypse is often used generally (and ominously) to refer to a doomsday-level scenario.

    Example: You’d think, by the mess in the kitchen, that we were witnessing a true apocalypse.

    bloodbath

    The word bloodbath is often used to describe violent slaughters or massacres. The word creates the mental image of a carnage so intense that someone could take a bath in the spilled blood. Figuratively, though, bloodbath is used to describe disastrous events or severe instances of bad fortune. While this word came to English in the 1800s, a similar term, blodbad (literally “bath in blood”), was recorded in the 1500s in Swedish.

    Example: If our star player can’t play, the opening game is going to be a bloodbath.

    cataclysm

    Cataclysm is a word so disastrous that it rocks the entire Earth to its core. The word cataclysm means “a violent upheaval” and is used in geography to refer to violent events that manage to alter the surface of Earth. This is the word you need if you want to literally or figuratively describe something as earth-shaking.

    Example: Barring an unforeseen cataclysm, this family is finally going on vacation this summer.

    fiasco

    The word fiasco means “a complete and ignominious failure” and has a bit of a strange history. Fiasco is an Italian word that literally translates to “bottle,” and it is related to the word flask. The English meaning of “failure” comes from the Italian idiom fare fiasco which means “to fail” (though it literally translates to “make a bottle”).

    Example: My spouse somehow managed to salvage the dessert fiasco I haphazardly concocted.

    bouleversement

    We go from a strange Italian word to an even stranger (or at least longer) French one. The word bouleversement means “an overturning” or “turmoil.” This is the one you want if you really need to bring out the twenty-dollar word.

    Example: The rebel leader said that the country would emerge from the bouleversement stronger than it had ever been.

    calamity

    Get the tissues ready, because our next word is calamity. Calamity is a synonym of disaster, but it indicates that a horrific event specifically caused misery and lots of tears—so, like a dentist appointment?

    Example: I’ve been beset with calamity after calamity since the pandemic started, and I’m losing it.

    catastrophe

    Catastrophe is a synonym that can highlight the destruction and loss brought about by a tremendous event. If nothing is left standing or a disaster will continue to cause pain and suffering for the foreseeable future, we might label it a catastrophe.

    Example: Did you see the bathroom after the pipe burst? What a catastrophe!

    pandemonium

    Things have gone to hell in a hand basket thanks to our next word: pandemonium. Pandemonium refers to a wild state of disorder, noise, and chaos. This disastrous word actually comes from Pandaemonium, the name that John Milton used for the capital of hell in Paradise Lost.

    Example: The muddy dogs tore through the living room, knocking over two lamps, and pandemonium ensued.

    debacle

    The word debacle is one of several that implies a failure was caused by failure or incompetence, especially ones that result from disorganization. Its original meaning in the 1800s, however, referred to a “breaking up of ice in a river” or rush of water “which breaks down opposing barriers, and carries before it blocks of stone and other debris.” That does sound like a mess.

    Example: With half the students out sick, the class performance devolved into a total debacle.

    blunder

    The word blunder is a synonym of the word mistake and is often used to describe an error resulting from severe incompetence or stupidity. Unlike most of the other words on this list, blunder can also be used as a verb (“to make a careless or stupid mistake”).

    Example: The clumsy waiter spilled wine on the mayor and was later fired for this horrible blunder.

    epic fail

    LOL! The slang term epic fail is used to describe particularly humiliating mistakes. Our disastrous list of words has been bad so far, but epic fail might just be the worst of the bunch. Why? Because this is the phrase to use when that embarrassing mistake has been broadcast on social media! (And once that happens, only an especially clever cat meme can save you.)

    Example: ROFL My brother just fell into the pool! #epicfail

    meltdown

    With our next word, our disaster has just gone nuclear. Meltdown is a word used to refer to severe nuclear reactor accidents. It’s figuratively used to describe sudden situations that quickly spiral out of control.

    Example: The guitarist’s meltdown surprised no one, given tensions have been high between band members.

    kick in the teeth

    Ouch! The idiom kick in the teeth refers to a sudden and humiliating setback. Why a kick? In the English language, slang phrases like kick in the head and kick in the pants rely on the image of a kick (instead of punches) to describe particularly humiliating blows.

    Example: The terrible reviews were a real kick in the teeth for the young Broadway star.

    goat rodeo

    Giddyup, cowboys and cowgirls, because it’s time to wrangle some … goats? Goat rodeo is an example of one of several goat-related slang terms for monumental screwups. A relatively new term from the 2000s, it creates a good mental image of a wild rodeo full of screaming goats. You may have heard the term goat-roping (used similarly) and other more obscene versions, but goat rodeo is considered the most extreme of all. We repeat, a goat rodeo is as disastrous as a situation can get.

    Example: This is no concert. It’s a goat rodeo of drunk performers and technical difficulties!

    dog’s breakfast

    This list has really gone to the dogs. The slang term dog’s breakfast, mainly used in Canada and the UK, describes a confused, disorderly mess. The phrase most likely refers to the fact that many dogs will eat pretty much anything you put in front of them. In any case, dog’s breakfast is a fun word to use when everything has gone to “Shih Tzu.”

    Example: The drive was an absolute dog’s breakfast. We arrived two hours late after being stuck in traffic and getting lost.

    disarray

    Disarray describes a situation that is especially chaotic, disorganized, or marred by confusion. Disarray is a word you can use when you’ve got a disorderly mess or a comedy of errors on your hands.

    Example: Hyped up on cake and sugar, the children left the room in a state of total disarray.

    turmoil

    Turmoil is another word to convey that you’re in the midst of great confusion or disorder. Fittingly, we are not actually sure where this verb-turned-noun originates from.

    Example: Without enough employees to cover the day’s shift, the company was thrown into turmoil.

    dumpster fire

    The slang term dumpster fire means something is so disastrously bad it is beyond all hope of saving. Often, the dumpster fire is result of terribly bad decisions or extraordinary levels of incompetence. It’s best to stay the heck away from a dumpster fire because, as its name implies, it is likely to just keep getting worse.

    Example: The movie was a complete dumpster fire that didn’t get a single positive review.

    shitshow

    The not-very-nice word shitshow is used to describe essentially the same situation as a dumpster fire: a mess that is completely unsalvageable. To go the extra mile, shitshow throws in a swear word to capture the magnitude of a truly unbelievable disaster.

    Example: Last year was a real shitshow but I’m hoping things turn around soon.

    snafu and fubar

    It might be time for reinforcements. Snafu and fubar are two abbreviations that can be traced back to military jargon and have some … colorful meanings. Snafu stands for “situation normal: all f–ed up” and fubar stands for “f–ed up beyond all reason.” Now fix the disaster, cadet, and then drop and give us twenty!

    Example: The trip started with a series of major snafus, like when the luggage arrived in the wrong city.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    “Disaster” Synonyms For When Things Don’t Go As Planned Most of the time, we like to keep things positive around here and provide you with plenty of inspiring, motivational words to brighten up your day. This … this is not that list. Are you done setting intentions? Are you through repeating mantras into the mirror? Do you just need a perfectly wretched word to capture what’s not working right now? Then this is the list for you. We’ve traveled through hell and goat rodeos to bring you the words that will describe the snafus and fiascos of your life or the world around you. If your desperate times call for desperate words, here are 20 provocative synonyms for the word disaster and some example sentences to inspire use. apocalypse We begin our list with a disaster of Biblical proportions. The word apocalypse originally comes from the Greek apokálypsis, meaning “revelation.” Since at least the 1100s, the word apocalypse has been used to refer to the Book of Revelation in the Christian Bible, which tells how the world will be nearly destroyed when good finally defeats evil. Today, the word apocalypse is often used generally (and ominously) to refer to a doomsday-level scenario. Example: You’d think, by the mess in the kitchen, that we were witnessing a true apocalypse. bloodbath The word bloodbath is often used to describe violent slaughters or massacres. The word creates the mental image of a carnage so intense that someone could take a bath in the spilled blood. Figuratively, though, bloodbath is used to describe disastrous events or severe instances of bad fortune. While this word came to English in the 1800s, a similar term, blodbad (literally “bath in blood”), was recorded in the 1500s in Swedish. Example: If our star player can’t play, the opening game is going to be a bloodbath. cataclysm Cataclysm is a word so disastrous that it rocks the entire Earth to its core. The word cataclysm means “a violent upheaval” and is used in geography to refer to violent events that manage to alter the surface of Earth. This is the word you need if you want to literally or figuratively describe something as earth-shaking. Example: Barring an unforeseen cataclysm, this family is finally going on vacation this summer. fiasco The word fiasco means “a complete and ignominious failure” and has a bit of a strange history. Fiasco is an Italian word that literally translates to “bottle,” and it is related to the word flask. The English meaning of “failure” comes from the Italian idiom fare fiasco which means “to fail” (though it literally translates to “make a bottle”). Example: My spouse somehow managed to salvage the dessert fiasco I haphazardly concocted. bouleversement We go from a strange Italian word to an even stranger (or at least longer) French one. The word bouleversement means “an overturning” or “turmoil.” This is the one you want if you really need to bring out the twenty-dollar word. Example: The rebel leader said that the country would emerge from the bouleversement stronger than it had ever been. calamity Get the tissues ready, because our next word is calamity. Calamity is a synonym of disaster, but it indicates that a horrific event specifically caused misery and lots of tears—so, like a dentist appointment? Example: I’ve been beset with calamity after calamity since the pandemic started, and I’m losing it. catastrophe Catastrophe is a synonym that can highlight the destruction and loss brought about by a tremendous event. If nothing is left standing or a disaster will continue to cause pain and suffering for the foreseeable future, we might label it a catastrophe. Example: Did you see the bathroom after the pipe burst? What a catastrophe! pandemonium Things have gone to hell in a hand basket thanks to our next word: pandemonium. Pandemonium refers to a wild state of disorder, noise, and chaos. This disastrous word actually comes from Pandaemonium, the name that John Milton used for the capital of hell in Paradise Lost. Example: The muddy dogs tore through the living room, knocking over two lamps, and pandemonium ensued. debacle The word debacle is one of several that implies a failure was caused by failure or incompetence, especially ones that result from disorganization. Its original meaning in the 1800s, however, referred to a “breaking up of ice in a river” or rush of water “which breaks down opposing barriers, and carries before it blocks of stone and other debris.” That does sound like a mess. Example: With half the students out sick, the class performance devolved into a total debacle. blunder The word blunder is a synonym of the word mistake and is often used to describe an error resulting from severe incompetence or stupidity. Unlike most of the other words on this list, blunder can also be used as a verb (“to make a careless or stupid mistake”). Example: The clumsy waiter spilled wine on the mayor and was later fired for this horrible blunder. epic fail LOL! The slang term epic fail is used to describe particularly humiliating mistakes. Our disastrous list of words has been bad so far, but epic fail might just be the worst of the bunch. Why? Because this is the phrase to use when that embarrassing mistake has been broadcast on social media! (And once that happens, only an especially clever cat meme can save you.) Example: ROFL My brother just fell into the pool! #epicfail meltdown With our next word, our disaster has just gone nuclear. Meltdown is a word used to refer to severe nuclear reactor accidents. It’s figuratively used to describe sudden situations that quickly spiral out of control. Example: The guitarist’s meltdown surprised no one, given tensions have been high between band members. kick in the teeth Ouch! The idiom kick in the teeth refers to a sudden and humiliating setback. Why a kick? In the English language, slang phrases like kick in the head and kick in the pants rely on the image of a kick (instead of punches) to describe particularly humiliating blows. Example: The terrible reviews were a real kick in the teeth for the young Broadway star. goat rodeo Giddyup, cowboys and cowgirls, because it’s time to wrangle some … goats? Goat rodeo is an example of one of several goat-related slang terms for monumental screwups. A relatively new term from the 2000s, it creates a good mental image of a wild rodeo full of screaming goats. You may have heard the term goat-roping (used similarly) and other more obscene versions, but goat rodeo is considered the most extreme of all. We repeat, a goat rodeo is as disastrous as a situation can get. Example: This is no concert. It’s a goat rodeo of drunk performers and technical difficulties! dog’s breakfast This list has really gone to the dogs. The slang term dog’s breakfast, mainly used in Canada and the UK, describes a confused, disorderly mess. The phrase most likely refers to the fact that many dogs will eat pretty much anything you put in front of them. In any case, dog’s breakfast is a fun word to use when everything has gone to “Shih Tzu.” Example: The drive was an absolute dog’s breakfast. We arrived two hours late after being stuck in traffic and getting lost. disarray Disarray describes a situation that is especially chaotic, disorganized, or marred by confusion. Disarray is a word you can use when you’ve got a disorderly mess or a comedy of errors on your hands. Example: Hyped up on cake and sugar, the children left the room in a state of total disarray. turmoil Turmoil is another word to convey that you’re in the midst of great confusion or disorder. Fittingly, we are not actually sure where this verb-turned-noun originates from. Example: Without enough employees to cover the day’s shift, the company was thrown into turmoil. dumpster fire The slang term dumpster fire means something is so disastrously bad it is beyond all hope of saving. Often, the dumpster fire is result of terribly bad decisions or extraordinary levels of incompetence. It’s best to stay the heck away from a dumpster fire because, as its name implies, it is likely to just keep getting worse. Example: The movie was a complete dumpster fire that didn’t get a single positive review. shitshow The not-very-nice word shitshow is used to describe essentially the same situation as a dumpster fire: a mess that is completely unsalvageable. To go the extra mile, shitshow throws in a swear word to capture the magnitude of a truly unbelievable disaster. Example: Last year was a real shitshow but I’m hoping things turn around soon. snafu and fubar It might be time for reinforcements. Snafu and fubar are two abbreviations that can be traced back to military jargon and have some … colorful meanings. Snafu stands for “situation normal: all f–ed up” and fubar stands for “f–ed up beyond all reason.” Now fix the disaster, cadet, and then drop and give us twenty! Example: The trip started with a series of major snafus, like when the luggage arrived in the wrong city. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=WRAFnZ3PLak
    บทสนทนาเจ้านายกับเลขาที่สำนักงาน
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเจ้านายกับเลขาที่สำนักงาน
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #secretary

    The conversations from the clip :

    Secretary: Hello, Mr. Johnson! I just wanted to confirm the details of the upcoming meeting with the client next week.
    Boss: Hi, Lisa. Good idea. It’s scheduled for Tuesday, right?
    Secretary: Yes, Tuesday at 10 a.m., in the main conference room.
    Boss: Perfect. And who will be joining from the client’s side?
    Secretary: They’ll be bringing their CEO, the project manager, and a few team members.
    Boss: Got it. Have you prepared the meeting agenda?
    Secretary: Yes, I have. I’ll send a copy to all participants and email one to you for review.
    Boss: Great. Make sure to include some time for questions at the end.
    Secretary: Absolutely. I’ve added a 15-minute Q&A session at the end.
    Boss: Good thinking. Do we need any special equipment for the presentation?
    Secretary: I’ve booked a projector and screen. Is there anything else you’d like?
    Boss: No, that should be enough. Will you have printed copies of the report ready?
    Secretary: Yes, I’ll prepare the handouts and place them in the conference room before the meeting.
    Boss: Excellent. Have you also arranged refreshments?
    Secretary: Yes, coffee and snacks will be delivered by 9:45 a.m.
    Boss: Perfect, Lisa. Thanks for handling everything.
    Secretary: You’re very welcome, Mr. Johnson. Let me know if anything changes.

    เลขา: สวัสดีค่ะ คุณจอห์นสัน! ดิฉันอยากจะยืนยันรายละเอียดเกี่ยวกับการประชุมกับลูกค้าในสัปดาห์หน้านี้ค่ะ
    เจ้านาย: สวัสดี ลิซ่า ดีเลย การประชุมกำหนดไว้วันอังคาร ใช่ไหม?
    เลขา: ใช่ค่ะ วันอังคาร เวลา 10 โมงเช้า ที่ห้องประชุมใหญ่ค่ะ
    เจ้านาย: ดีมาก แล้วใครจะมาจากทางฝั่งลูกค้าบ้าง?
    เลขา: พวกเขาจะพา CEO ผู้จัดการโครงการ และสมาชิกทีมบางคนมาค่ะ
    เจ้านาย: เข้าใจแล้ว คุณได้เตรียมวาระการประชุมหรือยัง?
    เลขา: เรียบร้อยแล้วค่ะ ดิฉันจะส่งสำเนาให้กับผู้เข้าร่วมทุกคน และส่งอีเมลให้คุณตรวจสอบด้วย
    เจ้านาย: เยี่ยมเลย อย่าลืมกันเวลาสำหรับคำถามไว้ช่วงท้ายด้วยนะ
    เลขา: แน่นอนค่ะ ดิฉันได้เพิ่มช่วงถาม-ตอบ 15 นาทีไว้ท้ายการประชุมแล้วค่ะ
    เจ้านาย: คิดได้ดีมาก เราต้องใช้อุปกรณ์พิเศษอะไรสำหรับการนำเสนอไหม?
    เลขา: ดิฉันจองโปรเจ็กเตอร์กับจอไว้แล้วค่ะ ต้องการอุปกรณ์อื่นเพิ่มเติมไหมคะ?
    เจ้านาย: ไม่ล่ะ น่าจะพอแล้ว จะมีสำเนารายงานแจกไว้พร้อมหรือยัง?
    เลขา: ใช่ค่ะ ดิฉันจะเตรียมเอกสารแจก และนำไปวางที่ห้องประชุมก่อนเวลาเริ่ม
    เจ้านาย: ยอดเยี่ยม ลิซ่า ได้จัดเตรียมเครื่องดื่มไว้ด้วยไหม?
    เลขา: เรียบร้อยแล้วค่ะ จะมีบริการกาแฟและขนมตอน 9:45 น.
    เจ้านาย: ดีมาก ลิซ่า ขอบคุณมากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อย
    เลขา: ยินดีค่ะ คุณจอห์นสัน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรจะรีบแจ้งให้ทราบค่ะ

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Schedule (สเคด-ดูล) n. แปลว่า ตารางเวลา
    Conference (คอน-เฟอ-เรินซ) n. แปลว่า การประชุม
    Client (ไคล-เอินท) n. แปลว่า ลูกค้า
    Assistant (อะ-ซิส-แทนท) n. แปลว่า ผู้ช่วย
    Equipment (อิค-วิพ-เมินท) n. แปลว่า อุปกรณ์
    Projector (โพร-เจค-เทอะ) n. แปลว่า เครื่องฉาย
    Refreshments (รี-เฟรช-เมินซ) n. แปลว่า อาหารว่าง/เครื่องดื่ม
    Q&A (คิว-แอนด์-เอ) n. แปลว่า คำถามและคำตอบ
    Meeting (มีท-ทิง) n. แปลว่า การประชุม
    Confirm (คอน-เฟิร์ม) v. แปลว่า ยืนยัน
    Discuss (ดิส-คัส) v. แปลว่า อภิปราย
    Time slot (ไทม์-สลอท) n. แปลว่า ช่วงเวลา
    Agenda (อะ-เจน-ดะ) n. แปลว่า วาระการประชุม
    Team (ทีม) n. แปลว่า ทีม
    Presentation (เพร-เซน-เท-เชิน) n. แปลว่า การนำเสนอ
    https://www.youtube.com/watch?v=WRAFnZ3PLak บทสนทนาเจ้านายกับเลขาที่สำนักงาน (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเจ้านายกับเลขาที่สำนักงาน มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #secretary The conversations from the clip : Secretary: Hello, Mr. Johnson! I just wanted to confirm the details of the upcoming meeting with the client next week. Boss: Hi, Lisa. Good idea. It’s scheduled for Tuesday, right? Secretary: Yes, Tuesday at 10 a.m., in the main conference room. Boss: Perfect. And who will be joining from the client’s side? Secretary: They’ll be bringing their CEO, the project manager, and a few team members. Boss: Got it. Have you prepared the meeting agenda? Secretary: Yes, I have. I’ll send a copy to all participants and email one to you for review. Boss: Great. Make sure to include some time for questions at the end. Secretary: Absolutely. I’ve added a 15-minute Q&A session at the end. Boss: Good thinking. Do we need any special equipment for the presentation? Secretary: I’ve booked a projector and screen. Is there anything else you’d like? Boss: No, that should be enough. Will you have printed copies of the report ready? Secretary: Yes, I’ll prepare the handouts and place them in the conference room before the meeting. Boss: Excellent. Have you also arranged refreshments? Secretary: Yes, coffee and snacks will be delivered by 9:45 a.m. Boss: Perfect, Lisa. Thanks for handling everything. Secretary: You’re very welcome, Mr. Johnson. Let me know if anything changes. เลขา: สวัสดีค่ะ คุณจอห์นสัน! ดิฉันอยากจะยืนยันรายละเอียดเกี่ยวกับการประชุมกับลูกค้าในสัปดาห์หน้านี้ค่ะ เจ้านาย: สวัสดี ลิซ่า ดีเลย การประชุมกำหนดไว้วันอังคาร ใช่ไหม? เลขา: ใช่ค่ะ วันอังคาร เวลา 10 โมงเช้า ที่ห้องประชุมใหญ่ค่ะ เจ้านาย: ดีมาก แล้วใครจะมาจากทางฝั่งลูกค้าบ้าง? เลขา: พวกเขาจะพา CEO ผู้จัดการโครงการ และสมาชิกทีมบางคนมาค่ะ เจ้านาย: เข้าใจแล้ว คุณได้เตรียมวาระการประชุมหรือยัง? เลขา: เรียบร้อยแล้วค่ะ ดิฉันจะส่งสำเนาให้กับผู้เข้าร่วมทุกคน และส่งอีเมลให้คุณตรวจสอบด้วย เจ้านาย: เยี่ยมเลย อย่าลืมกันเวลาสำหรับคำถามไว้ช่วงท้ายด้วยนะ เลขา: แน่นอนค่ะ ดิฉันได้เพิ่มช่วงถาม-ตอบ 15 นาทีไว้ท้ายการประชุมแล้วค่ะ เจ้านาย: คิดได้ดีมาก เราต้องใช้อุปกรณ์พิเศษอะไรสำหรับการนำเสนอไหม? เลขา: ดิฉันจองโปรเจ็กเตอร์กับจอไว้แล้วค่ะ ต้องการอุปกรณ์อื่นเพิ่มเติมไหมคะ? เจ้านาย: ไม่ล่ะ น่าจะพอแล้ว จะมีสำเนารายงานแจกไว้พร้อมหรือยัง? เลขา: ใช่ค่ะ ดิฉันจะเตรียมเอกสารแจก และนำไปวางที่ห้องประชุมก่อนเวลาเริ่ม เจ้านาย: ยอดเยี่ยม ลิซ่า ได้จัดเตรียมเครื่องดื่มไว้ด้วยไหม? เลขา: เรียบร้อยแล้วค่ะ จะมีบริการกาแฟและขนมตอน 9:45 น. เจ้านาย: ดีมาก ลิซ่า ขอบคุณมากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อย เลขา: ยินดีค่ะ คุณจอห์นสัน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรจะรีบแจ้งให้ทราบค่ะ Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Schedule (สเคด-ดูล) n. แปลว่า ตารางเวลา Conference (คอน-เฟอ-เรินซ) n. แปลว่า การประชุม Client (ไคล-เอินท) n. แปลว่า ลูกค้า Assistant (อะ-ซิส-แทนท) n. แปลว่า ผู้ช่วย Equipment (อิค-วิพ-เมินท) n. แปลว่า อุปกรณ์ Projector (โพร-เจค-เทอะ) n. แปลว่า เครื่องฉาย Refreshments (รี-เฟรช-เมินซ) n. แปลว่า อาหารว่าง/เครื่องดื่ม Q&A (คิว-แอนด์-เอ) n. แปลว่า คำถามและคำตอบ Meeting (มีท-ทิง) n. แปลว่า การประชุม Confirm (คอน-เฟิร์ม) v. แปลว่า ยืนยัน Discuss (ดิส-คัส) v. แปลว่า อภิปราย Time slot (ไทม์-สลอท) n. แปลว่า ช่วงเวลา Agenda (อะ-เจน-ดะ) n. แปลว่า วาระการประชุม Team (ทีม) n. แปลว่า ทีม Presentation (เพร-เซน-เท-เชิน) n. แปลว่า การนำเสนอ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส.ส.สหรัฐเรียกร้องให้ทบทวนภัยคุกคามจากเทคโนโลยีโฟโตนิกส์ของจีน

    28 ตุลาคม 2567-สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า กลุ่มสมาชิกรัฐสภาสหรัฐจากทั้ง 2 พรรคเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติจากการพัฒนาเทคโนโลยีซิลิคอนโฟโตนิกส์ของจีน ซึ่งเป็นสาขาที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วที่สามารถเร่งการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ได้

    โฟโตนิกส์ซิลิคอนนั้นอาศัยแสงแทนสัญญาณไฟฟ้าในการเคลื่อนย้ายข้อมูลภายในระบบคอมพิวเตอร์ และมีการใช้ในระบบปัญญาประดิษฐ์ที่เชื่อมต่อชิปคอมพิวเตอร์หลายหมื่นชิ้น บริษัทชิป AI ชั้นนำ เช่น Nvidia (NVDA.O)และบริษัท Advanced Micro Devices (AMD.O)ได้เผยแพร่ผลงานวิจัยเกี่ยวกับวิธีการผสานโฟโตนิกส์เข้ากับชิปของตน ขณะที่ Lightmatter ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์เพิ่งระดมทุน 400 ล้านดอลลาร์สำหรับเทคโนโลยีโฟโตนิกส์ของตน ส่งผลให้มูลค่าบริษัทพุ่งสูงถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์

    จีนยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างเข้มข้น โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มณฑลกวางตุ้งได้เข้าร่วมโครงการระดมทุนมากมายที่มุ่งสร้างชิปโฟโตนิกส์ในจีน ตามรายงานของสื่อของรัฐ
    เมื่อวันจันทร์ คณะกรรมาธิการวิสามัญเรื่องจีนของสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบว่าการทำงานด้านโฟโตนิกส์ของจีนอาจก่อให้เกิดภัยคุกคามใดบ้าง และควรแก้ไขกฎการควบคุมการส่งออกเพื่อปกป้องความพยายามของสหรัฐฯ หรือไม่

    “ลักษณะการใช้งานสองแบบของเทคโนโลยีโฟโตนิกส์ทำให้มีความเสี่ยงเป็นพิเศษที่จะถูกนำไปใช้ในทางการทหารโดยผู้ที่มีปัญหา” ส.ส. จอห์น มูเลนนาร์ จากพรรครีพับลิกัน และราชา กฤษณมูรติ จากพรรคเดโมแครต เขียนในจดหมายของพวกเขา

    Sunny Cheung นักวิจัยประจำภาควิชาศึกษาจีนที่ Jamestown Foundation ซึ่งศึกษาความพยายามของจีน กล่าวกับ Reuters ว่า "จีนอาจเป็นรัฐวิสาหกิจที่เร็วที่สุดในการระดมทรัพยากรและสนับสนุนให้รัฐบาลท้องถิ่นและระดับภูมิภาคทำงานด้านเทคโนโลยีโฟโตนิกส์"

    ที่มา https://www.reuters.com/technology/us-lawmakers-urge-review-china-threat-photonics-technology-2024-10-28

    #Thaitimes

    ส.ส.สหรัฐเรียกร้องให้ทบทวนภัยคุกคามจากเทคโนโลยีโฟโตนิกส์ของจีน 28 ตุลาคม 2567-สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า กลุ่มสมาชิกรัฐสภาสหรัฐจากทั้ง 2 พรรคเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติจากการพัฒนาเทคโนโลยีซิลิคอนโฟโตนิกส์ของจีน ซึ่งเป็นสาขาที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วที่สามารถเร่งการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ได้ โฟโตนิกส์ซิลิคอนนั้นอาศัยแสงแทนสัญญาณไฟฟ้าในการเคลื่อนย้ายข้อมูลภายในระบบคอมพิวเตอร์ และมีการใช้ในระบบปัญญาประดิษฐ์ที่เชื่อมต่อชิปคอมพิวเตอร์หลายหมื่นชิ้น บริษัทชิป AI ชั้นนำ เช่น Nvidia (NVDA.O)และบริษัท Advanced Micro Devices (AMD.O)ได้เผยแพร่ผลงานวิจัยเกี่ยวกับวิธีการผสานโฟโตนิกส์เข้ากับชิปของตน ขณะที่ Lightmatter ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์เพิ่งระดมทุน 400 ล้านดอลลาร์สำหรับเทคโนโลยีโฟโตนิกส์ของตน ส่งผลให้มูลค่าบริษัทพุ่งสูงถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์ จีนยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างเข้มข้น โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มณฑลกวางตุ้งได้เข้าร่วมโครงการระดมทุนมากมายที่มุ่งสร้างชิปโฟโตนิกส์ในจีน ตามรายงานของสื่อของรัฐ เมื่อวันจันทร์ คณะกรรมาธิการวิสามัญเรื่องจีนของสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบว่าการทำงานด้านโฟโตนิกส์ของจีนอาจก่อให้เกิดภัยคุกคามใดบ้าง และควรแก้ไขกฎการควบคุมการส่งออกเพื่อปกป้องความพยายามของสหรัฐฯ หรือไม่ “ลักษณะการใช้งานสองแบบของเทคโนโลยีโฟโตนิกส์ทำให้มีความเสี่ยงเป็นพิเศษที่จะถูกนำไปใช้ในทางการทหารโดยผู้ที่มีปัญหา” ส.ส. จอห์น มูเลนนาร์ จากพรรครีพับลิกัน และราชา กฤษณมูรติ จากพรรคเดโมแครต เขียนในจดหมายของพวกเขา Sunny Cheung นักวิจัยประจำภาควิชาศึกษาจีนที่ Jamestown Foundation ซึ่งศึกษาความพยายามของจีน กล่าวกับ Reuters ว่า "จีนอาจเป็นรัฐวิสาหกิจที่เร็วที่สุดในการระดมทรัพยากรและสนับสนุนให้รัฐบาลท้องถิ่นและระดับภูมิภาคทำงานด้านเทคโนโลยีโฟโตนิกส์" ที่มา https://www.reuters.com/technology/us-lawmakers-urge-review-china-threat-photonics-technology-2024-10-28 #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 561 มุมมอง 0 รีวิว
  • วารสารถูกตั้งคำถามว่ามีความเที่ยงตรงหรือไม่?

    ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา วงการวิชาการ อาทิ แพทย์ วิทยาศาสตร์เป็นต้น จะให้ความเชื่อถือว่า บทความใดที่ตีพิมพ์ในวารสาร ที่เรียกว่า peer reviewed journal เป็นที่เชื่อถือได้
    เพราะมีคณะกรรมการที่อ่าน บทความ และพิจารณาหลักฐานที่มากระบวนการศึกษา และจะทำการให้ความเห็นว่า จะไม่รับ หรือรับ แต่มีเงื่อนไข ประเด็นต้องแก้ไขใหญ่ หรือเล็ก หรือต้องมีการทำการทดลองใหม่ในบางส่วนหรือไม่
    วารสารที่มีชื่อเหล่านี้จะถูกนำไปอ้างอิงในวงวิชาการต่างๆทำให้รับรู้กันทั่วไป

    ในการส่งบทความเพื่อ ไปตีพิมพ์ในวารสารนั้น
    ผู้วิจัยจะต้องประกาศว่ามีผลประโยชน์ใดหรือไม่อย่างไร กับ บริษัทผลิตภัณฑ์ ยา วัคซีน รวมทั้งได้ค่าตอบแทนในรูปลักษณะใด ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา รับเงิน หรือสิ่งตอบแทน รวมค่าเดินทางค่าที่พัก เวลาไปบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ และเชื่อมโยงมาถึงการใช้ผลิตภัณฑ์หรือวัคซีนเป็นต้น

    แต่กรรมการผู้พิจารณา กลับไม่ต้องมีการแจงรายละเอียดชัดเจน เหล่านี้อาจมีเพียงแต่ว่า มีประเด็นที่ขัดแย้ง กับผู้ส่งบทความหรือผู้ทำวิจัย หรือไม่ หรือทำวิจัยในเรื่องเดียวกัน ที่อาจจะเป็นการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตนได้

    บทความนี้ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน (journal of American Medical Association JAMA) วันที่ 10 ตุลาคม 2024 ได้รายงานถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรรมการผู้พิจารณาบทความ (reviewers) ว่า แท้จริงแล้ว เกินครึ่งของบุคคลกรรมการเหล่านี้ ต่างได้รับเงินสนับสนุนในการศึกษาวิจัย หรือเงินสนับสนุนในด้านผลิตภัณฑ์เครื่องมือ ต่างๆ จากบริษัทที่ตรงมาเข้าบุคคลนั้น หรือที่เข้ามายังบุคคลนั้น และสถาบันที่บุคคลนั้นอยู่

    และเป็นประเด็นที่ตั้งคำถามถึง ความเที่ยงตรง integrity และ ความมีอิสระเที่ยงตรงในการตัดสิน ในการที่จะไม่รับ หรือรับตีพิมพ์บทความที่ส่งเข้ามา

    และหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ จากหลายสถาบัน ในต่างประเทศ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอังกฤษ ต่างให้ข้อมูลที่ตนเองประสบและถ่ายทอดในสื่อต่างๆโดยเฉพาะที่ประสบในช่วงโควิด
    ที่เกี่ยวข้องกับการไม่ให้ลงตีพิมพ์ การใช้ยาบางตัว ที่มีการทดสอบแล้วว่าได้ผลทั้งๆที่ราคาถูก เข้าถึงได้ และจนกระทั่งถึงงานที่ตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการถอดออก และ ที่สำคัญก็คือเรื่องผลกระทบของวัคซีนที่ ถึงชีวิตหรือพิการ
    วารสารที่ถูกเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ ที่กรรมการพิจารณาบทความได้รับเงินสนับสนุน ต่างก็เป็นวารสารชั้นนำ เช่น British Medical journal Lancet New England journal เป็นต้น
    โดยมูลค่าของเงินสนับสนุนเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1,000,000,000 เหรียญสหรัฐ

    สูตรสำเร็จ เช่น เมื่อมีการพูด ผลกระทบของวัคซีน จะมีกลุ่มที่ออกมาวิจารณ์ว่า ไม่ได้ลงตีพิมพ์ในวารสารชั้นดี หรือตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการสั่งถอดออกแสดงว่า เชื่อถือไม่ได้

    แม้กระทั่ง บทความเรื่องโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์หลังได้รับวัคซีนโควิดไปภายในช่วงสองสัปดาห์และเสียชีวิตภายในเวลาห้าเดือน จากคณะ ชองProf Luc Montagnier ซึ่งได้รับ รางวัล โนเบล จากการค้นพบไวรัสเอดส์ ถูกไม่รับพิจารณาในวารสาร จนกระทั่งตีพิมพ์ในวรสารในระดับรองลงมาและข้อมูลหลักฐานประกอบในบทความเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่คงเลือกได้ว่าน่าตื่นเต้นและประทับใจในการค้นพบและเชื่อมโยงการเกิดโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์กับวัคซีนได้อย่างชัดเจน

    https://jamanetwork.com/journals/jama/article-abstract/2824834?utm_source=substack&utm_medium=email

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    เชื่อถือได้หรือ? “หมอธีระวัฒน์” เผยวารสารการแพทย์ชื่อดังปล่อย กก.พิจารณาบทความรับผลประโยชน์จากบริษัทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000100753





    Two years ago, we discussed the lack of evidence supporting the idea that peer review improves the quality of scientific research. 
    Peer review is meant to guarantee the publication of high-quality research and enhance the quality of published manuscripts. The process should involve independent experts evaluating and assessing research for its quality and reliability.
    However, a recent JAMA publication questions the integrity and independence of peer review. The research letter addresses the Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals.
    The authors identified peer reviewers for The BMJ, JAMA, The Lancet, and The New England Journal of Medicine (NEJM) using each journal’s 2022 reviewer list. They then used a US Open payments database to identify whether reviewers had received industry payments.
    What did they find?
    Between 2020 and 2022, 1155/1962 peer reviewers (59%) received at least one industry payment. More than half (54%) accepted general payments, while 32% received research payments.
    Between 2020 and 2022, reviewers received over $1.2 billion in industry payments, including $1 billion to individuals or their institutions. Over the three years, the median general payment was $7,614.  
    What does this mean?
    Journals such as the BMJ pride themselves on their competing interest policy. Readers should know the author's competing interests if they publish an article. They ask reviewers to provide a fair, honest, and unbiased assessment of the manuscript's strengths and weaknesses. But how is that possible if you're on the payroll of pharma?
    Furthermore, no one can identify who is being paid as there is no central database like the US where you can look up who is paying who. The voluntary nature of the system means companies can often conceal payments. For example, the drug industry’s self-regulatory body reprimanded  Novo Nordisk for failing to disclose approximately 500 payments worth £7.8m to over 150 recipients between 2020 and 2022.
    This latest publication further enhances the status of peer review: it is broken.
    A system that dates back over 200 years persists because no one can be bothered to address its shortcomings, and too many journals make hefty profits out of its inadequacies to affect the status quo.
    THE JAMA authors consider that ‘additional research and transparency regarding industry payments in the peer review process are needed.” We think this will be another smokescreen to permit the current system to limp on. 
    Editorial peer reviews are largely untested; their effects are uncertain and tainted by industry influence. The system needs a radical overhaul which starts with abandoning the current journal system that sucks in vast amounts of cash and distorts the research agenda.
    The main reasons for the survival of a broken system are tied to the biomedical publication industry. For editors, peer review is a Kevlar shield, a sloping shoulders device - “it ain’t me guv” cop-out clause. For academic authors who have to climb the greasy pole, it’s a system that works both ways; for industry and all those who have to sell something, it’s a cheap advert chance. You only need to read our Antivirals series to understand how the system works and how the public was sold and continues to sell dummies. Rotten decision-makers only have to point to ghost-written trials in mega journals to justify their decisions.
    You only have to look at our recent Zum Zum posts to see the devastating effects of this broken system. Or look up the Comirnaty series, which was written without data published in journals—it was regulatory data, the closest we are ever going to get to reality.
    This post was written by two old geezers who have been peer-viewed and have peer-reviewed countless times.
    Consider becoming a paid subscriber to receive new posts and support our work.

    October 10, 2024
    Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals
    David-Dan Nguyen, MDCM, MPH1,2; Anju Muramaya3,4; Anna-Lisa Nguyen, BHSc5; et al
    วารสารถูกตั้งคำถามว่ามีความเที่ยงตรงหรือไม่? ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา วงการวิชาการ อาทิ แพทย์ วิทยาศาสตร์เป็นต้น จะให้ความเชื่อถือว่า บทความใดที่ตีพิมพ์ในวารสาร ที่เรียกว่า peer reviewed journal เป็นที่เชื่อถือได้ เพราะมีคณะกรรมการที่อ่าน บทความ และพิจารณาหลักฐานที่มากระบวนการศึกษา และจะทำการให้ความเห็นว่า จะไม่รับ หรือรับ แต่มีเงื่อนไข ประเด็นต้องแก้ไขใหญ่ หรือเล็ก หรือต้องมีการทำการทดลองใหม่ในบางส่วนหรือไม่ วารสารที่มีชื่อเหล่านี้จะถูกนำไปอ้างอิงในวงวิชาการต่างๆทำให้รับรู้กันทั่วไป ในการส่งบทความเพื่อ ไปตีพิมพ์ในวารสารนั้น ผู้วิจัยจะต้องประกาศว่ามีผลประโยชน์ใดหรือไม่อย่างไร กับ บริษัทผลิตภัณฑ์ ยา วัคซีน รวมทั้งได้ค่าตอบแทนในรูปลักษณะใด ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา รับเงิน หรือสิ่งตอบแทน รวมค่าเดินทางค่าที่พัก เวลาไปบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ และเชื่อมโยงมาถึงการใช้ผลิตภัณฑ์หรือวัคซีนเป็นต้น แต่กรรมการผู้พิจารณา กลับไม่ต้องมีการแจงรายละเอียดชัดเจน เหล่านี้อาจมีเพียงแต่ว่า มีประเด็นที่ขัดแย้ง กับผู้ส่งบทความหรือผู้ทำวิจัย หรือไม่ หรือทำวิจัยในเรื่องเดียวกัน ที่อาจจะเป็นการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตนได้ บทความนี้ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน (journal of American Medical Association JAMA) วันที่ 10 ตุลาคม 2024 ได้รายงานถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรรมการผู้พิจารณาบทความ (reviewers) ว่า แท้จริงแล้ว เกินครึ่งของบุคคลกรรมการเหล่านี้ ต่างได้รับเงินสนับสนุนในการศึกษาวิจัย หรือเงินสนับสนุนในด้านผลิตภัณฑ์เครื่องมือ ต่างๆ จากบริษัทที่ตรงมาเข้าบุคคลนั้น หรือที่เข้ามายังบุคคลนั้น และสถาบันที่บุคคลนั้นอยู่ และเป็นประเด็นที่ตั้งคำถามถึง ความเที่ยงตรง integrity และ ความมีอิสระเที่ยงตรงในการตัดสิน ในการที่จะไม่รับ หรือรับตีพิมพ์บทความที่ส่งเข้ามา และหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ จากหลายสถาบัน ในต่างประเทศ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอังกฤษ ต่างให้ข้อมูลที่ตนเองประสบและถ่ายทอดในสื่อต่างๆโดยเฉพาะที่ประสบในช่วงโควิด ที่เกี่ยวข้องกับการไม่ให้ลงตีพิมพ์ การใช้ยาบางตัว ที่มีการทดสอบแล้วว่าได้ผลทั้งๆที่ราคาถูก เข้าถึงได้ และจนกระทั่งถึงงานที่ตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการถอดออก และ ที่สำคัญก็คือเรื่องผลกระทบของวัคซีนที่ ถึงชีวิตหรือพิการ วารสารที่ถูกเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ ที่กรรมการพิจารณาบทความได้รับเงินสนับสนุน ต่างก็เป็นวารสารชั้นนำ เช่น British Medical journal Lancet New England journal เป็นต้น โดยมูลค่าของเงินสนับสนุนเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1,000,000,000 เหรียญสหรัฐ สูตรสำเร็จ เช่น เมื่อมีการพูด ผลกระทบของวัคซีน จะมีกลุ่มที่ออกมาวิจารณ์ว่า ไม่ได้ลงตีพิมพ์ในวารสารชั้นดี หรือตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการสั่งถอดออกแสดงว่า เชื่อถือไม่ได้ แม้กระทั่ง บทความเรื่องโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์หลังได้รับวัคซีนโควิดไปภายในช่วงสองสัปดาห์และเสียชีวิตภายในเวลาห้าเดือน จากคณะ ชองProf Luc Montagnier ซึ่งได้รับ รางวัล โนเบล จากการค้นพบไวรัสเอดส์ ถูกไม่รับพิจารณาในวารสาร จนกระทั่งตีพิมพ์ในวรสารในระดับรองลงมาและข้อมูลหลักฐานประกอบในบทความเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่คงเลือกได้ว่าน่าตื่นเต้นและประทับใจในการค้นพบและเชื่อมโยงการเกิดโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์กับวัคซีนได้อย่างชัดเจน https://jamanetwork.com/journals/jama/article-abstract/2824834?utm_source=substack&utm_medium=email ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เชื่อถือได้หรือ? “หมอธีระวัฒน์” เผยวารสารการแพทย์ชื่อดังปล่อย กก.พิจารณาบทความรับผลประโยชน์จากบริษัทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000100753 Two years ago, we discussed the lack of evidence supporting the idea that peer review improves the quality of scientific research.  Peer review is meant to guarantee the publication of high-quality research and enhance the quality of published manuscripts. The process should involve independent experts evaluating and assessing research for its quality and reliability. However, a recent JAMA publication questions the integrity and independence of peer review. The research letter addresses the Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals. The authors identified peer reviewers for The BMJ, JAMA, The Lancet, and The New England Journal of Medicine (NEJM) using each journal’s 2022 reviewer list. They then used a US Open payments database to identify whether reviewers had received industry payments. What did they find? Between 2020 and 2022, 1155/1962 peer reviewers (59%) received at least one industry payment. More than half (54%) accepted general payments, while 32% received research payments. Between 2020 and 2022, reviewers received over $1.2 billion in industry payments, including $1 billion to individuals or their institutions. Over the three years, the median general payment was $7,614.   What does this mean? Journals such as the BMJ pride themselves on their competing interest policy. Readers should know the author's competing interests if they publish an article. They ask reviewers to provide a fair, honest, and unbiased assessment of the manuscript's strengths and weaknesses. But how is that possible if you're on the payroll of pharma? Furthermore, no one can identify who is being paid as there is no central database like the US where you can look up who is paying who. The voluntary nature of the system means companies can often conceal payments. For example, the drug industry’s self-regulatory body reprimanded  Novo Nordisk for failing to disclose approximately 500 payments worth £7.8m to over 150 recipients between 2020 and 2022. This latest publication further enhances the status of peer review: it is broken. A system that dates back over 200 years persists because no one can be bothered to address its shortcomings, and too many journals make hefty profits out of its inadequacies to affect the status quo. THE JAMA authors consider that ‘additional research and transparency regarding industry payments in the peer review process are needed.” We think this will be another smokescreen to permit the current system to limp on.  Editorial peer reviews are largely untested; their effects are uncertain and tainted by industry influence. The system needs a radical overhaul which starts with abandoning the current journal system that sucks in vast amounts of cash and distorts the research agenda. The main reasons for the survival of a broken system are tied to the biomedical publication industry. For editors, peer review is a Kevlar shield, a sloping shoulders device - “it ain’t me guv” cop-out clause. For academic authors who have to climb the greasy pole, it’s a system that works both ways; for industry and all those who have to sell something, it’s a cheap advert chance. You only need to read our Antivirals series to understand how the system works and how the public was sold and continues to sell dummies. Rotten decision-makers only have to point to ghost-written trials in mega journals to justify their decisions. You only have to look at our recent Zum Zum posts to see the devastating effects of this broken system. Or look up the Comirnaty series, which was written without data published in journals—it was regulatory data, the closest we are ever going to get to reality. This post was written by two old geezers who have been peer-viewed and have peer-reviewed countless times. Consider becoming a paid subscriber to receive new posts and support our work. October 10, 2024 Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals David-Dan Nguyen, MDCM, MPH1,2; Anju Muramaya3,4; Anna-Lisa Nguyen, BHSc5; et al
    JAMANETWORK.COM
    Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals
    This study characterizes payments by drug and medical device manufacturers to US peer reviewers of major medical journals.
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 511 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประโยชน์ของเทมเป้ต่อสุขภาพ
    ข้อมูลจาก

    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภญ.จิราพร เลื่อนผลเจริญชัย

    ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิด

    1. อุดมไปด้วยโปรตีน

    ปริมาณโปรตีนที่แนะนำให้ผู้ใหญ่บริโภคต่อวันคือ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติควรได้รับโปรตีนจากถั่วเหลืองในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อทดแทนการได้รับโปรตีนไม่เพียงพอจากการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ โดยเทมเป้ให้โปรตีนสูงกว่าอาหารที่ทำจากถั่วชนิดอื่น เช่น เต้าหู้ปริมาณ 84 กรัม ให้โปรตีนประมาณ 6 กรัม ขณะที่เทมเป้ที่มีปริมาณเท่ากันให้โปรตีนสูงถึง 15 กรัม จึงเหมาะสำหรับผู้รับประทานมังสวิรัติ และผู้ที่ออกกำลังกายเพราะการรับประทานโปรตีนอย่างเพียงพอจะช่วยเสริมมวลกล้ามเนื้อที่เสียไปจากการออกกำลังกาย นอกจากนี้ เทมเป้ที่ทำจากถั่วเหลืองยังมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง และจะได้รับจากการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนอย่างเพียงพอเท่านั้น ซึ่งอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองจะให้ครบทั้ง 9 ชนิด ได้แก่ ฮิสติดีน ลิวซีน ไอโซลิวซีน วาลีน ทรีโอนีน ไลซีน เมไทโอนีน ฟีนิลอะลานีน และทริปโตเฟน ต่างจากธัญพืชอื่นๆ ที่อาจให้กรดอะมิโนจำเป็นได้ไม่ครบ

    2. ดีต่อหัวใจและช่วยควบคุมน้ำหนัก

    เทมเป้ 1 ถ้วย (166 กรัม) ประกอบด้วยไขมัน 18 กรัม โดยไขมันส่วนใหญ่ในเทมเป้จะเป็นไขมันไม่อิ่มตัวชนิดเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งเป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อันมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ เทมเป้ 1 ถ้วยประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตเพียง 13 กรัม และมีโปรตีนสูงที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องและยับยั้งความรู้สึกอยากอาหาร ซึ่งอาจเป็นตัวเลือกที่ดีเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย

    3. แหล่งของวิตามินและแร่ธาตุ

    การรับประทานเทมเป้ให้สารอาหารจำพวกวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามินบี 2 ที่มีส่วนช่วยในการสร้างพลังงาน การมองเห็น และบำรุงผิวพรรณ วิตามินบี 3 ที่ช่วยเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพลังงาน เสริมการทำงานของสมอง ระบบย่อยอาหาร และผิวพรรณ และวิตามินบี 12 ที่มีบทบาทในการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งพบมากในเนื้อสัตว์และนม จึงเป็นทางเลือกของคนที่รับประทานมังสวิรัติ นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมสูงจึงเป็นแหล่งของแคลเซียมที่เหมาะกับคนที่ไม่ดื่มนมวัว และยังมีแร่ธาตุต่างๆ เช่น สังกะสี ทองแดง เหล็ก แมงกานีส และฟอสฟอรัส ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย

    4. แหล่งของสารไอโซฟลาโวน

    เทมเป้ประกอบด้วยสารไอโซฟลาโวน ซึ่งพบมากในถั่วเหลืองและอาหารที่ทำจากถั่วเหลือง โดยปกติบนห่อผลิตภัณฑ์เทมเป้จะระบุปริมาณไอโซฟลาโวนให้เห็นโดยมีปริมาณอยู่ที่ 40-50 กรัมต่อ 1 ชิ้น โดยไอโซฟลาโวนมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวม คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (low density lipoprotein หรือ LDL) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ซึ่งไขมันชนิดไม่ดีเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ ไอโซฟลาโวนจัดเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนจากพืช (phytoestrogen) ที่ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ ลดอาการวัยทองในหญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ชะลอความเสื่อมของเซลล์จากอนุมูลอิสระ และอาจช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น

    5. เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายของร่างกาย

    การรับประทานถั่วและธัญพืชบางชนิดอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและมีอาการท้องอืด แต่การรับประทานเทมเป้มักไม่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น โรคลำไส้แปรปรวน เป็นต้น นอกจากนี้เทมเป้ได้จากการหมักถั่วกับเชื้อรา จึงมีโพรไบโอติกส์ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และมีพรีไบโอติกส์ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดหนึ่งและเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโพรไบโอติกส์ โดยเทมเป้ 85 กรัม มีใยอาหารสูงถึง 7 กรัม จึงมีส่วนช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ

    6. บำรุงสมองและระบบประสาท

    เทมเป้ประกอบด้วยสารเลซิตินที่ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท เนื่องจากเป็นสารตั้งต้นของการสร้างสารสื่อประสาทในสมองคือ acetylcholine หากร่างกายได้รับเลซิตินในปริมาณที่เพียงพอก็จะช่วยป้องกันและรักษาอาการผิดปกติของระบบประสาทบางประเภทได้

    7. บำรุงตับ ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี

    สารเลซิตินในเทมเป้ยังช่วยบำรุงตับได้ดี เนื่องจากประกอบด้วยกรดไขมันคือฟอสเฟตและโคลีน ซึ่งโคลีนมีส่วนช่วยให้เซลล์ตับมีการเผาผลาญไขมันได้อย่างปกติ ลดการเกิดภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคตับอักเสบและตับแข็ง นอกจากนี้ เลซิตินยังมีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลายของน้ำดี ช่วยให้น้ำดีไม่จับตัวจนเป็นก้อนนิ่ว ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้

    8. เสริมสร้างการเจริญเติบโตและสร้างเม็ดเลือดให้เป็นปกติ

    วิตามินบี 12 ถือว่าเป็นวิตามินที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในวัยเด็ก เนื่องจากช่วยเพิ่มความอยากอาหาร ทำให้ทานอาหารได้มาก ในขณะที่ผู้สูงอายุการได้รับวิตามินบี 12 จะช่วยในเรื่องของการสร้างเม็ดเลือดให้เป็นปกติ และยังช่วยบำรุงระบบประสาท ทำให้เคลื่อนไหวได้ดี ลดอาการอ่อนแรง ซึ่งปกติแล้ว วิตามินบี 12 จะพบได้ในเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่หากทานเทมเป้เข้าไปก็จะได้รับวิตามินชนิดนี้เช่นกัน

    ข้อควรระวังในการรับประทานเทมเป้
    คนทั่วไปสามารถรับประทานเทมเป้ได้อย่างปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่คนที่มีภาวะสุขภาพบางอย่างไม่ควรรับประทานเทมเป้ เช่น (1) แพ้ถั่วเหลือง เนื่องจากเทมเป้มีส่วนประกอบหลักคือถั่วเหลือง การรับประทานเทมเป้อาจทำให้คนที่แพ้ถั่วเหลืองมีอาการคัน เกิดผื่นลมพิษ ใบหน้าและลำคอบวม หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด ปวดท้อง ท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน และบางคนอาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต (2) ภาวะผิดปกติเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เพราะเทมเป้มีสารกอยโตรเจน (goitrogen) ที่อาจยับยั้งการสังเคราะห์ไทรอยด์ฮอร์โมน และลดประสิทธิภาพการดูดซึมยารักษาไทรอยด์

    แหล่งอ้างอิง/ที่มา
    U.S. Department of Agriculture. 2023. FoodData Central: Foundation foods (April).
    Teoh SQ, Chin NL, Chong CW, Ripen AM, How S, Lim JJL. A review on health benefits and processing of tempeh with outlines on its functional microbes. Future Foods. 2024; 9: 100330.
    Pobpad. เทมเป้ อาหารเพื่อสุขภาพและวิธีรับประทานให้ได้ประโยชน์.
    #tempeh #เทมเป้ #เทมเป้โปรตีน
    #โปรตีนจากพืช
    ประโยชน์ของเทมเป้ต่อสุขภาพ ข้อมูลจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภญ.จิราพร เลื่อนผลเจริญชัย ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิด 1. อุดมไปด้วยโปรตีน ปริมาณโปรตีนที่แนะนำให้ผู้ใหญ่บริโภคต่อวันคือ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติควรได้รับโปรตีนจากถั่วเหลืองในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อทดแทนการได้รับโปรตีนไม่เพียงพอจากการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ โดยเทมเป้ให้โปรตีนสูงกว่าอาหารที่ทำจากถั่วชนิดอื่น เช่น เต้าหู้ปริมาณ 84 กรัม ให้โปรตีนประมาณ 6 กรัม ขณะที่เทมเป้ที่มีปริมาณเท่ากันให้โปรตีนสูงถึง 15 กรัม จึงเหมาะสำหรับผู้รับประทานมังสวิรัติ และผู้ที่ออกกำลังกายเพราะการรับประทานโปรตีนอย่างเพียงพอจะช่วยเสริมมวลกล้ามเนื้อที่เสียไปจากการออกกำลังกาย นอกจากนี้ เทมเป้ที่ทำจากถั่วเหลืองยังมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง และจะได้รับจากการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนอย่างเพียงพอเท่านั้น ซึ่งอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองจะให้ครบทั้ง 9 ชนิด ได้แก่ ฮิสติดีน ลิวซีน ไอโซลิวซีน วาลีน ทรีโอนีน ไลซีน เมไทโอนีน ฟีนิลอะลานีน และทริปโตเฟน ต่างจากธัญพืชอื่นๆ ที่อาจให้กรดอะมิโนจำเป็นได้ไม่ครบ 2. ดีต่อหัวใจและช่วยควบคุมน้ำหนัก เทมเป้ 1 ถ้วย (166 กรัม) ประกอบด้วยไขมัน 18 กรัม โดยไขมันส่วนใหญ่ในเทมเป้จะเป็นไขมันไม่อิ่มตัวชนิดเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งเป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อันมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ เทมเป้ 1 ถ้วยประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตเพียง 13 กรัม และมีโปรตีนสูงที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องและยับยั้งความรู้สึกอยากอาหาร ซึ่งอาจเป็นตัวเลือกที่ดีเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย 3. แหล่งของวิตามินและแร่ธาตุ การรับประทานเทมเป้ให้สารอาหารจำพวกวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามินบี 2 ที่มีส่วนช่วยในการสร้างพลังงาน การมองเห็น และบำรุงผิวพรรณ วิตามินบี 3 ที่ช่วยเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพลังงาน เสริมการทำงานของสมอง ระบบย่อยอาหาร และผิวพรรณ และวิตามินบี 12 ที่มีบทบาทในการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งพบมากในเนื้อสัตว์และนม จึงเป็นทางเลือกของคนที่รับประทานมังสวิรัติ นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมสูงจึงเป็นแหล่งของแคลเซียมที่เหมาะกับคนที่ไม่ดื่มนมวัว และยังมีแร่ธาตุต่างๆ เช่น สังกะสี ทองแดง เหล็ก แมงกานีส และฟอสฟอรัส ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย 4. แหล่งของสารไอโซฟลาโวน เทมเป้ประกอบด้วยสารไอโซฟลาโวน ซึ่งพบมากในถั่วเหลืองและอาหารที่ทำจากถั่วเหลือง โดยปกติบนห่อผลิตภัณฑ์เทมเป้จะระบุปริมาณไอโซฟลาโวนให้เห็นโดยมีปริมาณอยู่ที่ 40-50 กรัมต่อ 1 ชิ้น โดยไอโซฟลาโวนมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวม คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (low density lipoprotein หรือ LDL) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ซึ่งไขมันชนิดไม่ดีเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ ไอโซฟลาโวนจัดเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนจากพืช (phytoestrogen) ที่ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ ลดอาการวัยทองในหญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ชะลอความเสื่อมของเซลล์จากอนุมูลอิสระ และอาจช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น 5. เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายของร่างกาย การรับประทานถั่วและธัญพืชบางชนิดอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและมีอาการท้องอืด แต่การรับประทานเทมเป้มักไม่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น โรคลำไส้แปรปรวน เป็นต้น นอกจากนี้เทมเป้ได้จากการหมักถั่วกับเชื้อรา จึงมีโพรไบโอติกส์ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และมีพรีไบโอติกส์ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดหนึ่งและเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโพรไบโอติกส์ โดยเทมเป้ 85 กรัม มีใยอาหารสูงถึง 7 กรัม จึงมีส่วนช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ 6. บำรุงสมองและระบบประสาท เทมเป้ประกอบด้วยสารเลซิตินที่ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท เนื่องจากเป็นสารตั้งต้นของการสร้างสารสื่อประสาทในสมองคือ acetylcholine หากร่างกายได้รับเลซิตินในปริมาณที่เพียงพอก็จะช่วยป้องกันและรักษาอาการผิดปกติของระบบประสาทบางประเภทได้ 7. บำรุงตับ ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี สารเลซิตินในเทมเป้ยังช่วยบำรุงตับได้ดี เนื่องจากประกอบด้วยกรดไขมันคือฟอสเฟตและโคลีน ซึ่งโคลีนมีส่วนช่วยให้เซลล์ตับมีการเผาผลาญไขมันได้อย่างปกติ ลดการเกิดภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคตับอักเสบและตับแข็ง นอกจากนี้ เลซิตินยังมีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลายของน้ำดี ช่วยให้น้ำดีไม่จับตัวจนเป็นก้อนนิ่ว ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ 8. เสริมสร้างการเจริญเติบโตและสร้างเม็ดเลือดให้เป็นปกติ วิตามินบี 12 ถือว่าเป็นวิตามินที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในวัยเด็ก เนื่องจากช่วยเพิ่มความอยากอาหาร ทำให้ทานอาหารได้มาก ในขณะที่ผู้สูงอายุการได้รับวิตามินบี 12 จะช่วยในเรื่องของการสร้างเม็ดเลือดให้เป็นปกติ และยังช่วยบำรุงระบบประสาท ทำให้เคลื่อนไหวได้ดี ลดอาการอ่อนแรง ซึ่งปกติแล้ว วิตามินบี 12 จะพบได้ในเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่หากทานเทมเป้เข้าไปก็จะได้รับวิตามินชนิดนี้เช่นกัน ข้อควรระวังในการรับประทานเทมเป้ คนทั่วไปสามารถรับประทานเทมเป้ได้อย่างปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่คนที่มีภาวะสุขภาพบางอย่างไม่ควรรับประทานเทมเป้ เช่น (1) แพ้ถั่วเหลือง เนื่องจากเทมเป้มีส่วนประกอบหลักคือถั่วเหลือง การรับประทานเทมเป้อาจทำให้คนที่แพ้ถั่วเหลืองมีอาการคัน เกิดผื่นลมพิษ ใบหน้าและลำคอบวม หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด ปวดท้อง ท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน และบางคนอาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต (2) ภาวะผิดปกติเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เพราะเทมเป้มีสารกอยโตรเจน (goitrogen) ที่อาจยับยั้งการสังเคราะห์ไทรอยด์ฮอร์โมน และลดประสิทธิภาพการดูดซึมยารักษาไทรอยด์ แหล่งอ้างอิง/ที่มา U.S. Department of Agriculture. 2023. FoodData Central: Foundation foods (April). Teoh SQ, Chin NL, Chong CW, Ripen AM, How S, Lim JJL. A review on health benefits and processing of tempeh with outlines on its functional microbes. Future Foods. 2024; 9: 100330. Pobpad. เทมเป้ อาหารเพื่อสุขภาพและวิธีรับประทานให้ได้ประโยชน์. #tempeh #เทมเป้ #เทมเป้โปรตีน #โปรตีนจากพืช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • Are you or someone you love suffering from sleepless nights?

    Have you ever stayed up all night watching someone you love struggle to sleep? I have, and this is how I cared for my daughter without relying on medication...


    Whether it’s your child, partner, parent, or a dear friend, watching someone you care about struggle with insomnia is heartbreaking. I’ve been there too, as a father caring for my daughter. I’ve shared my journey and the knowledge I gained in The Secret of Insomnia. If you’re seeking hope or guidance, I encourage you to read this personal review. Sometimes, understanding and sharing experiences can make all the difference.

    If you're interested in learning more, please read A Personal Review of "The Secret of Insomnia" below:

    A Personal Review of "The Secret of Insomnia"

    As the author of this book, I feel a deep responsibility to write this review—not for my own benefit, but to help others who may be struggling with a loved one suffering from insomnia.

    I used the knowledge in this book to care for my 8-year-old daughter, who had difficulty sleeping at night. I deeply understand the pain of watching someone you love, especially your own child, experience sleeplessness. My daughter began to have trouble sleeping after her mother—my beloved wife—passed away when she was just 6 years old.

    At first, she managed to sleep well enough. But after about a year, she began to experience issues. She found it difficult to fall asleep and often stayed awake until the early morning. Sometimes, she would wake up at 1 or 2 a.m., and it would take her hours—sometimes between 2 to 6 hours—to fall back asleep. Over time, she developed what I call "unconscious bedtime anxiety," a dangerous stage in insomnia. If someone begins to fear sleep without realizing it, the situation can quickly spiral out of control.

    Knowing this, I felt an immense sense of responsibility to prevent her from reaching that stage. I committed myself to understanding and creating knowledge to help her before things worsened. This sense of duty led me to write "The Secret of Insomnia," a book I describe as "Truth from Phenomena," shaped by my direct observations and experiences with my daughter's sleeplessness. Every method, every process detailed in this book stems from the responsibility I felt in addressing my daughter's insomnia.

    Today, although my daughter’s condition has improved significantly, there are still moments when new emotional challenges arise. When she carries heavy emotional burdens, it affects her ability to sleep, and the insomnia returns. During these times, I guide her back to the knowledge within this book. Together, we reflect and apply the lessons, helping her to navigate through the insomnia. Throughout this journey, I have never relied on medication—only the methods developed in this book.

    Although I am the author, I use the knowledge in this book as a reader as well. That’s why I’m writing this review—not to promote the book, but to give hope to those suffering from insomnia, whether it’s yourself or someone you love. I hope this knowledge can guide you or your loved ones through this suffering.

    Lastly, I want to thank every reader who has taken the time to understand this book, even though it’s not always easy. It contains complexities, including scientific insights from Future Frontier Science, but for those willing to persevere, the knowledge within can be transformative.

    I would also like to extend my heartfelt gratitude to the person who rated this book 4 stars last night. I had been anxiously waiting, wondering if anyone would find value in the book. Your review gave me the courage to write this—not just as the author, but as a father who uses this knowledge to care for his daughter, who is the heart of my love and my late wife’s legacy.

    With Conscientious Responsibility,
    Ekarach Chandon


    If you’d like to purchase the book, you can click the link here: The Secret of Insomnia.

    https://www.amazon.com/dp/B0CRKSVV3H
    Are you or someone you love suffering from sleepless nights? Have you ever stayed up all night watching someone you love struggle to sleep? I have, and this is how I cared for my daughter without relying on medication... Whether it’s your child, partner, parent, or a dear friend, watching someone you care about struggle with insomnia is heartbreaking. I’ve been there too, as a father caring for my daughter. I’ve shared my journey and the knowledge I gained in The Secret of Insomnia. If you’re seeking hope or guidance, I encourage you to read this personal review. Sometimes, understanding and sharing experiences can make all the difference. If you're interested in learning more, please read A Personal Review of "The Secret of Insomnia" below: A Personal Review of "The Secret of Insomnia" As the author of this book, I feel a deep responsibility to write this review—not for my own benefit, but to help others who may be struggling with a loved one suffering from insomnia. I used the knowledge in this book to care for my 8-year-old daughter, who had difficulty sleeping at night. I deeply understand the pain of watching someone you love, especially your own child, experience sleeplessness. My daughter began to have trouble sleeping after her mother—my beloved wife—passed away when she was just 6 years old. At first, she managed to sleep well enough. But after about a year, she began to experience issues. She found it difficult to fall asleep and often stayed awake until the early morning. Sometimes, she would wake up at 1 or 2 a.m., and it would take her hours—sometimes between 2 to 6 hours—to fall back asleep. Over time, she developed what I call "unconscious bedtime anxiety," a dangerous stage in insomnia. If someone begins to fear sleep without realizing it, the situation can quickly spiral out of control. Knowing this, I felt an immense sense of responsibility to prevent her from reaching that stage. I committed myself to understanding and creating knowledge to help her before things worsened. This sense of duty led me to write "The Secret of Insomnia," a book I describe as "Truth from Phenomena," shaped by my direct observations and experiences with my daughter's sleeplessness. Every method, every process detailed in this book stems from the responsibility I felt in addressing my daughter's insomnia. Today, although my daughter’s condition has improved significantly, there are still moments when new emotional challenges arise. When she carries heavy emotional burdens, it affects her ability to sleep, and the insomnia returns. During these times, I guide her back to the knowledge within this book. Together, we reflect and apply the lessons, helping her to navigate through the insomnia. Throughout this journey, I have never relied on medication—only the methods developed in this book. Although I am the author, I use the knowledge in this book as a reader as well. That’s why I’m writing this review—not to promote the book, but to give hope to those suffering from insomnia, whether it’s yourself or someone you love. I hope this knowledge can guide you or your loved ones through this suffering. Lastly, I want to thank every reader who has taken the time to understand this book, even though it’s not always easy. It contains complexities, including scientific insights from Future Frontier Science, but for those willing to persevere, the knowledge within can be transformative. I would also like to extend my heartfelt gratitude to the person who rated this book 4 stars last night. I had been anxiously waiting, wondering if anyone would find value in the book. Your review gave me the courage to write this—not just as the author, but as a father who uses this knowledge to care for his daughter, who is the heart of my love and my late wife’s legacy. With Conscientious Responsibility, Ekarach Chandon If you’d like to purchase the book, you can click the link here: The Secret of Insomnia. https://www.amazon.com/dp/B0CRKSVV3H
    The Secrets of Insomnia: Self-Training for Healing,: Guided Strategies for Overcoming Sleeplessness (Derivative Knowledge Applied Truth from New ... Guide for Everyday Life Solutions.) [Chandon, Ekarach, Chandon Mooksombud, Mesa] on Amazon.com. *FREE* shipping on qualifying offers. The Secrets of Insomnia: Self-Training for Healing,: Guided Strategies for Overcoming Sleeplessness (Derivative Knowledge Applied Truth from New ... Guide for Everyday Life Solutions.)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รีวิวทัวร์ #ทัวร์ดูไบ คุณจินตชา 2ท่าน เดินทาง 27ก.ย.-1ต.ค.67 ขอให้เที่ยวสนุก นะจ้ะ
    #รีวิว #review
    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr

    ติดต่อ Office Line ID : @navarich
    เบอร์สำนักงาน : 083-6995654
    HOT LINE พนักงานขาย
    093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236
    เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ
    #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่ #นองปิง
    #รีวิวทัวร์ #ทัวร์ดูไบ คุณจินตชา 2ท่าน เดินทาง 27ก.ย.-1ต.ค.67 ขอให้เที่ยวสนุก นะจ้ะ #รีวิว #review สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr ติดต่อ Office Line ID : @navarich เบอร์สำนักงาน : 083-6995654 HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236 เลขทะเบียน ททท. : 11/08116 #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่ #นองปิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รีวิวทัวร์ #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง คุณณัฐพล 3ท่าน เดินทาง 22-27ก.ย.67 ขอให้เที่ยวสนุก นะจ้ะ
    #รีวิว #review
    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr

    ติดต่อ Office Line ID : @navarich
    เบอร์สำนักงาน : 083-6995654
    HOT LINE พนักงานขาย
    093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236
    เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ
    #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่
    #รีวิวทัวร์ #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง คุณณัฐพล 3ท่าน เดินทาง 22-27ก.ย.67 ขอให้เที่ยวสนุก นะจ้ะ #รีวิว #review สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr ติดต่อ Office Line ID : @navarich เบอร์สำนักงาน : 083-6995654 HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236 เลขทะเบียน ททท. : 11/08116 #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รีวิว #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์นอรเวย์ #สวีเดน #เดนมาร์ก คุณปริพันธ์ 2ท่าน เดินทาง 17-25ก.ย.67 ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวนะจ้ะ
    #รีวิว #review

    ติดต่อ Office Line ID : @navarich
    เบอร์สำนักงาน : 083-6995654
    HOT LINE พนักงานขาย
    093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236
    เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ
    #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่ #นองปิง #โป๋หลิน #พระใหญ่ #จูไห่ #เซินเจิ้น #พุกาม #เว้ #ดานัง
    #ทัวร์นครวัด #เสียมราฐ #ฮอยอัน #บานาฮิลล์
    #บุโรพุทโธ #แพ็คเกจมัลดีฟส์ #ล่องเรือสำราญ
    #รีวิว #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์นอรเวย์ #สวีเดน #เดนมาร์ก คุณปริพันธ์ 2ท่าน เดินทาง 17-25ก.ย.67 ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวนะจ้ะ #รีวิว #review ติดต่อ Office Line ID : @navarich เบอร์สำนักงาน : 083-6995654 HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236 เลขทะเบียน ททท. : 11/08116 #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่ #นองปิง #โป๋หลิน #พระใหญ่ #จูไห่ #เซินเจิ้น #พุกาม #เว้ #ดานัง #ทัวร์นครวัด #เสียมราฐ #ฮอยอัน #บานาฮิลล์ #บุโรพุทโธ #แพ็คเกจมัลดีฟส์ #ล่องเรือสำราญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รีวิวทัวร์ #ทัวร์เวียดนามกลาง คุณภัคค์ปภัส 2ท่าน เดินทาง 14-16ก.ย.67 ขอให้เที่ยวสนุก นะจ้ะ
    #รีวิว #review
    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr

    ติดต่อ Office Line ID : @navarich
    เบอร์สำนักงาน : 083-6995654
    HOT LINE พนักงานขาย
    093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236
    เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ
    #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่ #นองปิง
    #รีวิวทัวร์ #ทัวร์เวียดนามกลาง คุณภัคค์ปภัส 2ท่าน เดินทาง 14-16ก.ย.67 ขอให้เที่ยวสนุก นะจ้ะ #รีวิว #review สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr ติดต่อ Office Line ID : @navarich เบอร์สำนักงาน : 083-6995654 HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236 เลขทะเบียน ททท. : 11/08116 #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่ #นองปิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รีวิวทัวร์ #ทัวร์เวียดนามกลาง คุณหมวย 6ท่าน เดินทาง 7-10ส.ค.67 ขอให้เที่ยวสนุก นะจ้ะ
    #รีวิว #review
    สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr

    ติดต่อ Office Line ID : @navarich
    เบอร์สำนักงาน : 083-6995654
    HOT LINE พนักงานขาย
    093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236
    เลขทะเบียน ททท. : 11/08116

    #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ
    #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่ #นองปิง
    #รีวิวทัวร์ #ทัวร์เวียดนามกลาง คุณหมวย 6ท่าน เดินทาง 7-10ส.ค.67 ขอให้เที่ยวสนุก นะจ้ะ #รีวิว #review สอบถามรายละเอียด คลิก http://bit.ly/3XQPjEr ติดต่อ Office Line ID : @navarich เบอร์สำนักงาน : 083-6995654 HOT LINE พนักงานขาย 093-629-6354, 061-624-9254, 061-626-3249, 063-593-5142, 065-324-6951, 061-626-9236 เลขทะเบียน ททท. : 11/08116 #รวมทัวร์ #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์ถูก #hotseat #โปรไฟไหม้ #ที่หลุด #ทัวร์ด่วน #ทัวร์วันปิดเทอม #ทัวร์วันจักรี #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #โกเบ #ทัวร์ทตโทริ #เทียนสิน #ซัวเถา #แต้จิ๋ว #ฟ่งหวง #เฉินตู #ทัวร์จิ่วจ้ายโกว #หวงหลง #เล่อซาน #ง้อไบ๊ #อู่หลู่มูฉี #จางเย่ #นองปิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรงแรมสะเหน่ นิมมาน
    ราคาโปรโมชั่นสำหรับการเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - ตุลาคม 2567 (ยกเว้นช่วงวันหยุดยาวและเทศกาล)
    ⭐ ห้อง Suite room King bed & Twin beds
    โปรโมชั่นคืนละ 2,700 บาท
    แพ็คเกจ 3 คืน 6,999 บาท (คืนละ 2,333 บาท)
    ⭐ ห้อง Executive Suite room King bed
    โปรโมชั่นคืนละ 3,900 บาท
    แพ็คเกจ 3 คืน 9,999 บาท (คืนละ 3,333 บาท)
    ⭐ ห้อง Sanae' Signature Suite King bed
    โปรโมชั่นคืนละ 5,100 บาท
    แพ็คเกจ 3 คืนละ 13,350 บาท (คืนละ 4,450 บาท)
    ⭐ ห้อง Ground floor Suite room King bed & Twin beds
    โปรโมชั่นคืนละ 2,400 บาท
    แพ็คเกจ 3 คืน 6,000 บาท (คืนละ 2,000 บาท)
    ⭐ ห้อง Townhouse
    **หมายเหตุ : ห้องพักประเภทนี้จะอยู่แยกจากอาคารหลักของโรงแรม แต่อยู่ในบริเวณเดียวกัน**
    โปรโมชั่นคืนละ 2,200 บาท
    แพ็คเกจ 3 คืน 5,550 บาท (คืนละ 1,850 บาท)
    #พิเศษทุกการจองแถมเซ็ทอาหารเช้าหลากหลายเมนู
    💛💛โรงแรมสะเหน่ ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย SHA💛💛
    👉 สิ่งอำนวยความสะดวก
    ✅ฟรี Internet Wifi
    ✅เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง ✅ทีวี 2 เครื่องขนาด 40-50 นิ้ว
    ✅ตู้เย็น ✅น้ำดื่ม 4 ขวดในห้องพัก
    ✅ตู้เซฟ ✅ไดร์เป่าผม
    ✅สระว่ายน้ำส่วนกลาง ✅ที่จอดรถใต้อาคาร
    ☎️สอบถามข้อมูลห้องพัก : 053-222-299
    🌍 Line : sanaehotel
    🏡 Website : www.sanaehotel.com❤❤
    #สะเหน่เชียงใหม่ #hotel #โรงเเรมสะเหน่ #ที่พักในเชียงใหม่ #โรงแรมเชียงใหม่ #โรงแรมดังเชียงใหม่ #โปรโมชั่นโรงแรม #ที่พักนิมมาน #นักธุรกิจ #ท่องเที่ยว #คู่รัก #ครอบครัว #โปรโมชั่นห้องพัก #รีวิวเชียงใหม่ #reviewchiangmai #sanaehotel #sanae #nimman #tripchiangmai #เที่ยวเชียงใหม่ #สะเหน่โฮเท็ล #ฤดูหนาว #เดินทางท่องเที่ยว
    Sanae' Hotel Nimman
    โรงแรมสะเหน่ นิมมาน ราคาโปรโมชั่นสำหรับการเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - ตุลาคม 2567 (ยกเว้นช่วงวันหยุดยาวและเทศกาล) ⭐ ห้อง Suite room King bed & Twin beds โปรโมชั่นคืนละ 2,700 บาท แพ็คเกจ 3 คืน 6,999 บาท (คืนละ 2,333 บาท) ⭐ ห้อง Executive Suite room King bed โปรโมชั่นคืนละ 3,900 บาท แพ็คเกจ 3 คืน 9,999 บาท (คืนละ 3,333 บาท) ⭐ ห้อง Sanae' Signature Suite King bed โปรโมชั่นคืนละ 5,100 บาท แพ็คเกจ 3 คืนละ 13,350 บาท (คืนละ 4,450 บาท) ⭐ ห้อง Ground floor Suite room King bed & Twin beds โปรโมชั่นคืนละ 2,400 บาท แพ็คเกจ 3 คืน 6,000 บาท (คืนละ 2,000 บาท) ⭐ ห้อง Townhouse **หมายเหตุ : ห้องพักประเภทนี้จะอยู่แยกจากอาคารหลักของโรงแรม แต่อยู่ในบริเวณเดียวกัน** โปรโมชั่นคืนละ 2,200 บาท แพ็คเกจ 3 คืน 5,550 บาท (คืนละ 1,850 บาท) #พิเศษทุกการจองแถมเซ็ทอาหารเช้าหลากหลายเมนู 💛💛โรงแรมสะเหน่ ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย SHA💛💛 👉 สิ่งอำนวยความสะดวก ✅ฟรี Internet Wifi ✅เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง ✅ทีวี 2 เครื่องขนาด 40-50 นิ้ว ✅ตู้เย็น ✅น้ำดื่ม 4 ขวดในห้องพัก ✅ตู้เซฟ ✅ไดร์เป่าผม ✅สระว่ายน้ำส่วนกลาง ✅ที่จอดรถใต้อาคาร ☎️สอบถามข้อมูลห้องพัก : 053-222-299 🌍 Line : sanaehotel 🏡 Website : www.sanaehotel.com❤❤ #สะเหน่เชียงใหม่ #hotel #โรงเเรมสะเหน่ #ที่พักในเชียงใหม่ #โรงแรมเชียงใหม่ #โรงแรมดังเชียงใหม่ #โปรโมชั่นโรงแรม #ที่พักนิมมาน #นักธุรกิจ #ท่องเที่ยว #คู่รัก #ครอบครัว #โปรโมชั่นห้องพัก #รีวิวเชียงใหม่ #reviewchiangmai #sanaehotel #sanae #nimman #tripchiangmai #เที่ยวเชียงใหม่ #สะเหน่โฮเท็ล #ฤดูหนาว #เดินทางท่องเที่ยว Sanae' Hotel Nimman
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 720 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกมจบแล้วสำหรับสหรัฐอเมริกา!

    ตอนนี้จีนมีเครื่องพิมพ์หิน DUV ของตัวเอง; และมีการยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับ EUV แล้ว

    ตอนนี้, มีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่สามารถผลิต EUV ได้ นั่นก็คือ — บริษัท ASML ของเนเธอร์แลนด์

    ในไม่ช้านี้, จีนจะผลิตชิปทุกตัวที่สหรัฐอเมริกาผลิตได้

    Nvidia, Apple, Qualcomm… ข้อได้เปรียบด้านชิปทั้งหมดของพวกเขาจะหายไป รวมถึงราคาหุ้นของพวกเขาด้วย!
    .
    น่าตกใจทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

    🤣นโยบายควบคุมจีนของอเมริกาล้มเหลวอย่างยับเยิน🤣

    ในปี ๒๐๑๙, ทรัมป์ป้องกันไม่ให้ ASML ขายเครื่อง EUV ให้กับจีน

    ตั้งแต่นั้นมา, บริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของจีนทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
    .
    ตอนนี้, จีนจะทำกับชิปแบบเดียวกับที่ทำกับสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้า

    📌เป็นสิ่งที่ดีสำหรับโลก, แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับสหรัฐฯ📌
    .
    It’s game over for USA!

    China now has its own DUV lithography machines; and a patent has been filed for EUV.

    Right now, there’s only ONE company that can make EUV — Dutch firm ASML.

    Soon, China will make every chip that the US can.

    Nvidia, Apple, Qualcomm… all their chip advantages will vanish. Also with their share prices!
    .
    Economic and geopolitical shocker.

    America’s China containment policy failed miserably.

    In 2019, Trump prevented ASML from selling an EUV machine to China.

    Since then, all the Chinese semiconductor chip firms have been under US sanctions.
    .
    Now, China will do to chips what it did to smartphones and EV.

    It’s good for the world, but terrible news for the US.
    .
    Source: Chinese chip making shows progress with new EUV patent from domestic lithography champion

    The patent from Shanghai Micro Electronics Equipment is still under review, but producing EUV tools in China would break a monopoly held by ASML

    https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3278235/chinese-chip-making-shows-progress-new-euv-patent-domestic-lithography-champion
    .
    4:03 AM · Sep 17, 2024 · 380.3K Views
    https://x.com/Kanthan2030/status/1835786533921788137
    เกมจบแล้วสำหรับสหรัฐอเมริกา! ตอนนี้จีนมีเครื่องพิมพ์หิน DUV ของตัวเอง; และมีการยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับ EUV แล้ว ตอนนี้, มีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่สามารถผลิต EUV ได้ นั่นก็คือ — บริษัท ASML ของเนเธอร์แลนด์ ในไม่ช้านี้, จีนจะผลิตชิปทุกตัวที่สหรัฐอเมริกาผลิตได้ Nvidia, Apple, Qualcomm… ข้อได้เปรียบด้านชิปทั้งหมดของพวกเขาจะหายไป รวมถึงราคาหุ้นของพวกเขาด้วย! . น่าตกใจทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ 🤣นโยบายควบคุมจีนของอเมริกาล้มเหลวอย่างยับเยิน🤣 ในปี ๒๐๑๙, ทรัมป์ป้องกันไม่ให้ ASML ขายเครื่อง EUV ให้กับจีน ตั้งแต่นั้นมา, บริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของจีนทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ . ตอนนี้, จีนจะทำกับชิปแบบเดียวกับที่ทำกับสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้า 📌เป็นสิ่งที่ดีสำหรับโลก, แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับสหรัฐฯ📌 . It’s game over for USA! China now has its own DUV lithography machines; and a patent has been filed for EUV. Right now, there’s only ONE company that can make EUV — Dutch firm ASML. Soon, China will make every chip that the US can. Nvidia, Apple, Qualcomm… all their chip advantages will vanish. Also with their share prices! . Economic and geopolitical shocker. America’s China containment policy failed miserably. In 2019, Trump prevented ASML from selling an EUV machine to China. Since then, all the Chinese semiconductor chip firms have been under US sanctions. . Now, China will do to chips what it did to smartphones and EV. It’s good for the world, but terrible news for the US. . Source: Chinese chip making shows progress with new EUV patent from domestic lithography champion The patent from Shanghai Micro Electronics Equipment is still under review, but producing EUV tools in China would break a monopoly held by ASML https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3278235/chinese-chip-making-shows-progress-new-euv-patent-domestic-lithography-champion . 4:03 AM · Sep 17, 2024 · 380.3K Views https://x.com/Kanthan2030/status/1835786533921788137
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 457 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กับดักคนโลภ#
    ของหลักแสน ขายในราคาหลักพัน.. มีการจัดฉาก บ้านเก่าเสาโย้ มีการ Pre review ก่อนล่วงหน้าให้คนติดตาม..Live สด .. อาศัยความอยาก ดูตำหนิอะไรก็ไม่ทันหรอก..รู้กฏหมายดี มีข้อความชัดเจน ว่าไม่รับประกัน และอย่างที่เคยเขียน ไม่ได้ขายในราคาของแท้ ..องค์ประกอบในทางการฉัอโกงจึงไม่ครบ..
    #คนโลภก็โดนไป# มีเยอะด้วยนะเพจแบบนี้.
    #กับดักคนโลภ# ของหลักแสน ขายในราคาหลักพัน.. มีการจัดฉาก บ้านเก่าเสาโย้ มีการ Pre review ก่อนล่วงหน้าให้คนติดตาม..Live สด .. อาศัยความอยาก ดูตำหนิอะไรก็ไม่ทันหรอก..รู้กฏหมายดี มีข้อความชัดเจน ว่าไม่รับประกัน และอย่างที่เคยเขียน ไม่ได้ขายในราคาของแท้ ..องค์ประกอบในทางการฉัอโกงจึงไม่ครบ.. #คนโลภก็โดนไป# มีเยอะด้วยนะเพจแบบนี้.
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • โค้ก x Oreo สองแบรนด์รวมกันความมันส์บังเกิด #iBusinessReview
    โค้ก x Oreo สองแบรนด์รวมกันความมันส์บังเกิด #iBusinessReview
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts