• เมื่อเสียงสมน้ำหน้า เคล้าก่นด่า ดังกว่า... ตึก สตง. ถล่ม! วิกฤตศรัทธาหน่วยตรวจ ลืมสำรวจตัวเอง? ไม่ใช่แค่ตึกที่พัง แต่ความเชื่อมั่น ในกระบวนการของภาครัฐเอง ก็สั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ 😓

    🏢 เหตุการณ์ถล่ม ของตึกเดียวในประเทศไทย จากแผ่นดินไหว จุดชนวนคำถามถึงความโปร่งใส ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ และทำให้หน่วยงาน “ผู้ตรวจ” กลายเป็น “ผู้ถูกตรวจสอบ” เสียเอง

    🔎 เมื่อคำถามไม่ได้มีแค่ “ทำไมตึกถล่ม” แต่เป็น “ใครจะรับผิดชอบ?” 28 มีนาคม 2568 เวลา 14.37 น. กรุงเทพฯ สะเทือนจากแรงแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ศูนย์กลางที่เมียนมา 🌏 ในขณะที่อาคารสูงทั่วกรุงเทพฯ แกว่งไกวเล็กน้อยเพียงชั่วครู่ แต่กลับมีตึกหนึ่งที่ “พังลงทั้งหลัง” 😱 ตึกแห่งนั้นคือ อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

    เสียงระเบิดของโครงสร้างถล่มลงมา เสียงผู้รอดชีวิตร้องขอความช่วยเหลือ... และเสียง “ประชาชน” ที่เริ่มตั้งคำถามดังยิ่งกว่าเสียงไหน ๆ

    ทำไมตึกเดียวในไทยถึงถล่มทั้งหลัง?

    สตง. ไม่ตรวจสอบโครงการของตนเองหรือ?

    หรือระบบรัฐไทยล้มเหลวในระดับโครงสร้าง... ทั้งจริง ๆ และเชิงเปรียบเทียบ?

    📘 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือ Office of the Auditor General of Thailand คือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ 🇹🇭 มีภารกิจสำคัญในการตรวจสอบ การใช้เงินของภาครัฐให้ถูกต้อง โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

    📌 ภารกิจหลักของ สตง.
    1. ตรวจสอบงบประมาณหน่วยงานรัฐ (Financial Audit)
    2. ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance Audit)
    3. ตรวจสอบประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Performance Audit)

    นอกจากบทบาทในการตรวจสอบ สตง. ยังเสนอแนะการบริหาร และใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมจัดทำรายงานประจำปีต่อรัฐสภา และประชาชนผ่านเว็บไซต์ www.audit.go.th เพื่อให้เกิด “ธรรมาภิบาล” ที่แท้จริง

    สตง. ทำหน้าที่เป็น “ผู้ตรวจสอบความโปร่งใสของรัฐ” แต่เมื่อสำนักงานของตัวเองถล่ม... ใครจะตรวจสอบ “ผู้ตรวจสอบ”?

    🧱 โครงการตึกใหม่ สตง. ต้นทุน 2,560 ล้านบาท แลกกับภาพลักษณ์องค์กร

    🏗️ ข้อมูลโครงการ
    สร้างที่:ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

    ขนาดอาคาร 30 ชั้น บนพื้นที่ 11 ไร่

    งบประมาณรวม 2,560 ล้านบาท

    ผู้รับเหมาคือ กิจการร่วมค้า ITD-CREC เป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด

    บริษัทควบคุมงานคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู (PKW) ที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทพี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และ สหาย คอนซัลแตนตส์ จํากัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด

    การก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ปี 2563 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 โดยตั้งเป้าเป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รองรับการขยายตัวขององค์กรในอนาคต 🌱

    แต่ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 หลังจากสร้างมาได้เพียง 30%... ตึกก็ถล่มทั้งหลัง 😰

    💣 สาเหตุ? อุบัติเหตุ? หรือสะท้อนปัญหาลึกของระบบ?

    📍 แรงแผ่นดินไหว หรือโครงสร้างอ่อนแอ? แม้แผ่นดินไหวขนาด 8.2 จะถือว่ารุนแรง แต่บริเวณกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจตุจักร ได้รับแรงสั่นสะเทือนประมาณ 5.1 เท่านั้น ซึ่งถือว่า ไม่แรงพอที่จะทำให้อาคารพังราบทั้งหลัง ตามมาตรฐานของกรมโยธาธิการและผังเมือง

    แล้วอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาคารพัง?

    วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน? 🧱

    โครงสร้างไม่รองรับแรงสั่น?

    ขั้นตอนตรวจสอบขาดความรัดกุม?

    จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหล็กเส้นที่ใช้ในอาคารส่วนใหญ่ มาจากบริษัทต่างชาติ ที่ถูกสั่งปิดโรงงานในปลายปี 2567 เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ‼️

    🧪 ตรวจสอบวัสดุจริง กับข้อเท็จจริงที่น่าหวั่นใจ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ สวทช. และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เข้าตรวจสอบเหล็กเส้น จากสถานที่เกิดเหตุ พบว่า เหล็ก 5 จาก 6 ประเภท มาจากโรงงานเดียวกัน โรงงานนี้เคยมีประวัติการระเบิด และเครนหล่น อีกทั้งยังเคยถูกสั่งปิดชั่วคราว จากเหตุผลด้านความปลอดภัย

    ❗ คำถามคือ เหล็กจากแหล่งที่ไม่มีคุณภาพเหล่านี้ ผ่านการอนุมัติเข้าโครงการระดับพันล้าน ได้อย่างไร?

    🧠 เมื่อ “ผู้ตรวจ” ลืม “ตรวจสอบตัวเอง”? กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐไทย แม้จะมีกฎหมายและระเบียบที่รัดกุม แต่ในทางปฏิบัติ กลับพบว่า…

    การประมูลมักให้น้ำหนักกับ “ราคาถูก” มากกว่าคุณภาพ ผู้รับเหมาจึงใช้วัสดุราคาต่ำกว่ามาตรฐาน การกำกับดูแลไม่ทั่วถึง เพราะผู้ควบคุมโครงการ ก็อยู่ภายใต้งบจำกัด

    น่าเจ็บปวดที่เหตุการณ์นี้เกิดกับ “สตง.” ผู้ที่ควรจะเป็นต้นแบบของความโปร่งใส

    ⚖️ การเมืองในองค์กรอิสระ: อิสระจริง หรือเลือกกันเอง? โครงสร้าง คตง. และการสรรหา คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มาจากการสรรหาโดย ส.ว. ปัจจุบันผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับการแต่งตั้งโดย ส.ว. ชุดพิเศษ การแต่งตั้งกรรมการหลายคน มีข้อครหาว่าไม่โปร่งใส และถูกฟ้องต่อศาลปกครอง

    ⛔ จุดนี้เองที่ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึง “อิสรภาพ” ขององค์กรที่ควรเป็นอิสระจากการเมือง

    📣 กระแสโซเชียล & ประชาชน “เสียงสมน้ำหน้า” ดังยิ่งกว่าความเศร้า ในขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ยังรอการกู้ร่างในซากตึก โลกออนไลน์กลับเต็มไปด้วยเสียงแดกดัน เช่น

    “ผู้ตรวจ ลืมตรวจตึกตัวเอง”

    “สมน้ำหน้าที่พังเพราะไม่โปร่งใส”

    “เงินภาษีคนไทยพังลงต่อหน้า”

    คำพูดเหล่านี้อาจดูโหดร้าย แต่ก็สะท้อนความรู้สึกของคนจำนวนมาก ที่รู้สึกว่า “แม้แต่หน่วยงานตรวจสอบ ก็ยังไม่รอดจากระบบที่พัง”

    📉 วิกฤตศรัทธา & บทเรียนราคาแพง สิ่งที่สูญเสียไม่ใช่แค่งบประมาณ หรือชีวิต… แต่คือ ความเชื่อมั่นต่อระบบรัฐ

    🚨 บทเรียนสำคัญที่รัฐต้องรับให้ได้ การคัดเลือกผู้รับเหมา ควรมีระบบที่ยึด “คุณภาพ” เป็นหลัก ต้องมีการตรวจสอบหลายชั้น โดยอิสระจริง ๆ ปฏิรูประบบจัดซื้อจัดจ้าง ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพิ่มบทลงโทษกรณีวัสดุหรือผู้รับเหมาไม่ได้มาตรฐาน

    📌 จากตึกถล่ม สู่การตรวจสอบศรัทธาประชาชน เหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่เจ็บปวดของประเทศไทย 🕯️ แต่ในขณะเดียวกัน... นี่อาจเป็นโอกาสในการทบทวนระบบราชการ และการบริหารงบประมาณของรัฐอย่างแท้จริง

    อย่าให้เสียง “สมน้ำหน้า” ดังกลบเสียงของผู้เสียชีวิต อย่าให้ตึกที่พัง เป็นเพียงข่าวแค่ไม่กี่วัน แต่ให้มันเป็นบทเรียนที่สร้าง “การเปลี่ยนแปลง”

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 021119 เม.ย. 2568

    📢#ตึกสตงถล่ม #ผู้ตรวจถูกตรวจ #แผ่นดินไหว2568 #ข่าวด่วน #เหล็กไม่ได้มาตรฐาน #สตงคือใคร #ความโปร่งใสภาครัฐ #อาคารถล่มกรุงเทพ #ITDCREC #ข่าวไทย
    เมื่อเสียงสมน้ำหน้า เคล้าก่นด่า ดังกว่า... ตึก สตง. ถล่ม! วิกฤตศรัทธาหน่วยตรวจ ลืมสำรวจตัวเอง? ไม่ใช่แค่ตึกที่พัง แต่ความเชื่อมั่น ในกระบวนการของภาครัฐเอง ก็สั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ 😓 🏢 เหตุการณ์ถล่ม ของตึกเดียวในประเทศไทย จากแผ่นดินไหว จุดชนวนคำถามถึงความโปร่งใส ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ และทำให้หน่วยงาน “ผู้ตรวจ” กลายเป็น “ผู้ถูกตรวจสอบ” เสียเอง 🔎 เมื่อคำถามไม่ได้มีแค่ “ทำไมตึกถล่ม” แต่เป็น “ใครจะรับผิดชอบ?” 28 มีนาคม 2568 เวลา 14.37 น. กรุงเทพฯ สะเทือนจากแรงแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ศูนย์กลางที่เมียนมา 🌏 ในขณะที่อาคารสูงทั่วกรุงเทพฯ แกว่งไกวเล็กน้อยเพียงชั่วครู่ แต่กลับมีตึกหนึ่งที่ “พังลงทั้งหลัง” 😱 ตึกแห่งนั้นคือ อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เสียงระเบิดของโครงสร้างถล่มลงมา เสียงผู้รอดชีวิตร้องขอความช่วยเหลือ... และเสียง “ประชาชน” ที่เริ่มตั้งคำถามดังยิ่งกว่าเสียงไหน ๆ ทำไมตึกเดียวในไทยถึงถล่มทั้งหลัง? สตง. ไม่ตรวจสอบโครงการของตนเองหรือ? หรือระบบรัฐไทยล้มเหลวในระดับโครงสร้าง... ทั้งจริง ๆ และเชิงเปรียบเทียบ? 📘 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือ Office of the Auditor General of Thailand คือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ 🇹🇭 มีภารกิจสำคัญในการตรวจสอบ การใช้เงินของภาครัฐให้ถูกต้อง โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน 📌 ภารกิจหลักของ สตง. 1. ตรวจสอบงบประมาณหน่วยงานรัฐ (Financial Audit) 2. ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance Audit) 3. ตรวจสอบประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Performance Audit) นอกจากบทบาทในการตรวจสอบ สตง. ยังเสนอแนะการบริหาร และใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมจัดทำรายงานประจำปีต่อรัฐสภา และประชาชนผ่านเว็บไซต์ www.audit.go.th เพื่อให้เกิด “ธรรมาภิบาล” ที่แท้จริง สตง. ทำหน้าที่เป็น “ผู้ตรวจสอบความโปร่งใสของรัฐ” แต่เมื่อสำนักงานของตัวเองถล่ม... ใครจะตรวจสอบ “ผู้ตรวจสอบ”? 🧱 โครงการตึกใหม่ สตง. ต้นทุน 2,560 ล้านบาท แลกกับภาพลักษณ์องค์กร 🏗️ ข้อมูลโครงการ สร้างที่:ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ขนาดอาคาร 30 ชั้น บนพื้นที่ 11 ไร่ งบประมาณรวม 2,560 ล้านบาท ผู้รับเหมาคือ กิจการร่วมค้า ITD-CREC เป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทควบคุมงานคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู (PKW) ที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทพี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และ สหาย คอนซัลแตนตส์ จํากัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด การก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ปี 2563 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 โดยตั้งเป้าเป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รองรับการขยายตัวขององค์กรในอนาคต 🌱 แต่ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 หลังจากสร้างมาได้เพียง 30%... ตึกก็ถล่มทั้งหลัง 😰 💣 สาเหตุ? อุบัติเหตุ? หรือสะท้อนปัญหาลึกของระบบ? 📍 แรงแผ่นดินไหว หรือโครงสร้างอ่อนแอ? แม้แผ่นดินไหวขนาด 8.2 จะถือว่ารุนแรง แต่บริเวณกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจตุจักร ได้รับแรงสั่นสะเทือนประมาณ 5.1 เท่านั้น ซึ่งถือว่า ไม่แรงพอที่จะทำให้อาคารพังราบทั้งหลัง ตามมาตรฐานของกรมโยธาธิการและผังเมือง แล้วอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาคารพัง? วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน? 🧱 โครงสร้างไม่รองรับแรงสั่น? ขั้นตอนตรวจสอบขาดความรัดกุม? จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหล็กเส้นที่ใช้ในอาคารส่วนใหญ่ มาจากบริษัทต่างชาติ ที่ถูกสั่งปิดโรงงานในปลายปี 2567 เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ‼️ 🧪 ตรวจสอบวัสดุจริง กับข้อเท็จจริงที่น่าหวั่นใจ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ สวทช. และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เข้าตรวจสอบเหล็กเส้น จากสถานที่เกิดเหตุ พบว่า เหล็ก 5 จาก 6 ประเภท มาจากโรงงานเดียวกัน โรงงานนี้เคยมีประวัติการระเบิด และเครนหล่น อีกทั้งยังเคยถูกสั่งปิดชั่วคราว จากเหตุผลด้านความปลอดภัย ❗ คำถามคือ เหล็กจากแหล่งที่ไม่มีคุณภาพเหล่านี้ ผ่านการอนุมัติเข้าโครงการระดับพันล้าน ได้อย่างไร? 🧠 เมื่อ “ผู้ตรวจ” ลืม “ตรวจสอบตัวเอง”? กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐไทย แม้จะมีกฎหมายและระเบียบที่รัดกุม แต่ในทางปฏิบัติ กลับพบว่า… การประมูลมักให้น้ำหนักกับ “ราคาถูก” มากกว่าคุณภาพ ผู้รับเหมาจึงใช้วัสดุราคาต่ำกว่ามาตรฐาน การกำกับดูแลไม่ทั่วถึง เพราะผู้ควบคุมโครงการ ก็อยู่ภายใต้งบจำกัด น่าเจ็บปวดที่เหตุการณ์นี้เกิดกับ “สตง.” ผู้ที่ควรจะเป็นต้นแบบของความโปร่งใส ⚖️ การเมืองในองค์กรอิสระ: อิสระจริง หรือเลือกกันเอง? โครงสร้าง คตง. และการสรรหา คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มาจากการสรรหาโดย ส.ว. ปัจจุบันผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับการแต่งตั้งโดย ส.ว. ชุดพิเศษ การแต่งตั้งกรรมการหลายคน มีข้อครหาว่าไม่โปร่งใส และถูกฟ้องต่อศาลปกครอง ⛔ จุดนี้เองที่ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึง “อิสรภาพ” ขององค์กรที่ควรเป็นอิสระจากการเมือง 📣 กระแสโซเชียล & ประชาชน “เสียงสมน้ำหน้า” ดังยิ่งกว่าความเศร้า ในขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ยังรอการกู้ร่างในซากตึก โลกออนไลน์กลับเต็มไปด้วยเสียงแดกดัน เช่น “ผู้ตรวจ ลืมตรวจตึกตัวเอง” “สมน้ำหน้าที่พังเพราะไม่โปร่งใส” “เงินภาษีคนไทยพังลงต่อหน้า” คำพูดเหล่านี้อาจดูโหดร้าย แต่ก็สะท้อนความรู้สึกของคนจำนวนมาก ที่รู้สึกว่า “แม้แต่หน่วยงานตรวจสอบ ก็ยังไม่รอดจากระบบที่พัง” 📉 วิกฤตศรัทธา & บทเรียนราคาแพง สิ่งที่สูญเสียไม่ใช่แค่งบประมาณ หรือชีวิต… แต่คือ ความเชื่อมั่นต่อระบบรัฐ 🚨 บทเรียนสำคัญที่รัฐต้องรับให้ได้ การคัดเลือกผู้รับเหมา ควรมีระบบที่ยึด “คุณภาพ” เป็นหลัก ต้องมีการตรวจสอบหลายชั้น โดยอิสระจริง ๆ ปฏิรูประบบจัดซื้อจัดจ้าง ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพิ่มบทลงโทษกรณีวัสดุหรือผู้รับเหมาไม่ได้มาตรฐาน 📌 จากตึกถล่ม สู่การตรวจสอบศรัทธาประชาชน เหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่เจ็บปวดของประเทศไทย 🕯️ แต่ในขณะเดียวกัน... นี่อาจเป็นโอกาสในการทบทวนระบบราชการ และการบริหารงบประมาณของรัฐอย่างแท้จริง อย่าให้เสียง “สมน้ำหน้า” ดังกลบเสียงของผู้เสียชีวิต อย่าให้ตึกที่พัง เป็นเพียงข่าวแค่ไม่กี่วัน แต่ให้มันเป็นบทเรียนที่สร้าง “การเปลี่ยนแปลง” ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 021119 เม.ย. 2568 📢#ตึกสตงถล่ม #ผู้ตรวจถูกตรวจ #แผ่นดินไหว2568 #ข่าวด่วน #เหล็กไม่ได้มาตรฐาน #สตงคือใคร #ความโปร่งใสภาครัฐ #อาคารถล่มกรุงเทพ #ITDCREC #ข่าวไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัญหา ไฟไหม้ขยะและศูนย์รีไซเคิล เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน ในบุหรี่ไฟฟ้า ล่าสุด Fire Rover ซึ่งเป็นบริษัทด้านระบบดับเพลิงอัตโนมัติ รายงานว่าจำนวนไฟไหม้ขยะในปี 2024 พุ่งขึ้น 60% จากปี 2023 และสูงขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับปี 2022

    ✅ ตัวเลขไฟไหม้ขยะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - ในปี 2024 มีเหตุไฟไหม้ขยะ 2,910 ครั้ง เพิ่มขึ้นจาก 1,809 ครั้งในปี 2023
    - ศูนย์รีไซเคิลต้องเรียกทีมดับเพลิง 398 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ Fire Rover เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 2016

    ✅ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสาเหตุหลัก เนื่องจากการกำจัดที่ผิดวิธี
    - ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ทิ้งบุหรี่ไฟฟ้าในขยะทั่วไป แต่ใช้ ถังรีไซเคิล ซึ่งก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน
    - แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสามารถติดไฟได้หลายวิธี เช่น แรงกดทับ, การเจาะ, ไฟฟ้าลัดวงจร และความสั่นสะเทือน จากกระบวนการในโรงงาน

    ✅ ค่าเสียหายสูงถึง $2.5 พันล้านในปี 2024
    - Fire Rover ประเมินว่า 50% ของเหตุไฟไหม้ขยะมาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
    - ศูนย์กำจัดขยะต้องรับภาระค่าเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากไม่มีระบบรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ

    ✅ อุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าถูกตั้งคำถามเรื่องความรับผิดชอบ
    - รายงานของ Fire Rover วิจารณ์ว่า อุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ลงทุนเพียงพอ ในระบบกำจัดแบตเตอรี่
    - 1.2 พันล้านชิ้น ของบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งเข้าสู่ขยะและรีไซเคิลทุกปี แต่ไม่มีมาตรการชัดเจนในการจัดการ

    ✅ การแก้ปัญหาในอนาคต
    - Fire Rover เสนอให้ มีโครงสร้างพื้นฐานรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่เข้มงวดขึ้น
    - ศูนย์กำจัดขยะควร เพิ่มมาตรการตรวจสอบและแยกแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนออกจากขยะทั่วไป

    https://www.techspot.com/news/107379-waste-fires-rise-largely-thanks-lithium-ion-batteries.html
    ปัญหา ไฟไหม้ขยะและศูนย์รีไซเคิล เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน ในบุหรี่ไฟฟ้า ล่าสุด Fire Rover ซึ่งเป็นบริษัทด้านระบบดับเพลิงอัตโนมัติ รายงานว่าจำนวนไฟไหม้ขยะในปี 2024 พุ่งขึ้น 60% จากปี 2023 และสูงขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับปี 2022 ✅ ตัวเลขไฟไหม้ขยะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว - ในปี 2024 มีเหตุไฟไหม้ขยะ 2,910 ครั้ง เพิ่มขึ้นจาก 1,809 ครั้งในปี 2023 - ศูนย์รีไซเคิลต้องเรียกทีมดับเพลิง 398 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ Fire Rover เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 2016 ✅ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสาเหตุหลัก เนื่องจากการกำจัดที่ผิดวิธี - ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ทิ้งบุหรี่ไฟฟ้าในขยะทั่วไป แต่ใช้ ถังรีไซเคิล ซึ่งก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน - แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสามารถติดไฟได้หลายวิธี เช่น แรงกดทับ, การเจาะ, ไฟฟ้าลัดวงจร และความสั่นสะเทือน จากกระบวนการในโรงงาน ✅ ค่าเสียหายสูงถึง $2.5 พันล้านในปี 2024 - Fire Rover ประเมินว่า 50% ของเหตุไฟไหม้ขยะมาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน - ศูนย์กำจัดขยะต้องรับภาระค่าเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากไม่มีระบบรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ ✅ อุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าถูกตั้งคำถามเรื่องความรับผิดชอบ - รายงานของ Fire Rover วิจารณ์ว่า อุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ลงทุนเพียงพอ ในระบบกำจัดแบตเตอรี่ - 1.2 พันล้านชิ้น ของบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งเข้าสู่ขยะและรีไซเคิลทุกปี แต่ไม่มีมาตรการชัดเจนในการจัดการ ✅ การแก้ปัญหาในอนาคต - Fire Rover เสนอให้ มีโครงสร้างพื้นฐานรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่เข้มงวดขึ้น - ศูนย์กำจัดขยะควร เพิ่มมาตรการตรวจสอบและแยกแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนออกจากขยะทั่วไป https://www.techspot.com/news/107379-waste-fires-rise-largely-thanks-lithium-ion-batteries.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Waste fires are on the rise largely thanks to the lithium-ion batteries in vape pens
    Fire Rover, a company that specializes in automated and semi-automated fire suppression systems, released its annual report noting that waste and recycling fires are steadily rising. In...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานมากกว่า 100 กรณี ที่ชิป AMD Ryzen 7 9800X3D หยุดทำงานหลังจากใช้งานไปได้ระยะหนึ่ง โดยไม่มีสัญญาณบ่งชี้ล่วงหน้า สิ่งที่น่าสนใจคือ 82% ของกรณีเหล่านี้เกิดขึ้นบนเมนบอร์ด Asrock ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเนื่องจากราคาประหยัด ขณะที่นักวิเคราะห์กำลังหาสาเหตุว่าปัญหานี้เกิดจาก การออกแบบเมนบอร์ด, ข้อผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ หรือการตั้งค่าของผู้ใช้

    อาการเสียหายโดยไม่ทราบสาเหตุ
    - ผู้ใช้บางรายกล่าวว่า CPU ผ่าน POST (Power-On Self Test) และทำงานได้ตามปกติเป็นระยะเวลาตั้งแต่ ครึ่งชั่วโมงถึงหลายเดือน ก่อนหยุดทำงาน
    - ในบางกรณี พบว่า CPU และเมนบอร์ดเกิด ความเสียหายจากความร้อนสูง ทั้งที่ไม่ได้โอเวอร์คล็อก

    ปัญหาของเมนบอร์ด Asrock และเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ล่าสุด
    - Asrock X870, B850 และ B650 เป็นรุ่นที่พบการเสียหายของชิปมากที่สุด
    - ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 Asrock ปล่อยอัปเดตเฟิร์มแวร์ใหม่สำหรับ AM5 เพื่อปรับปรุงปัญหาบูตของ CPU AMD 9000 Series ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเหล่านี้

    คล้ายกับปัญหาความร้อนของ Ryzen 7000X3D ในอดีต
    - ปัญหานี้คล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2023 ที่เกี่ยวข้องกับ AMD EXPO Profiles และแรงดันไฟของ SoC ซึ่งทำให้ Asus ต้อง ปรับนโยบายการรับประกันเมนบอร์ด AM5

    AMD ยังคงเงียบ—แต่ผู้ใช้เริ่มกังวล
    - AMD ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับปัญหานี้
    - ผู้ใช้เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับการออกแบบเมนบอร์ดและการตั้งค่าแรงดันไฟที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยง

    https://www.techspot.com/news/107370-ryzen-7-9800x3d-cpus-dying-unexpectedly-mostly-asrock.html
    มีรายงานมากกว่า 100 กรณี ที่ชิป AMD Ryzen 7 9800X3D หยุดทำงานหลังจากใช้งานไปได้ระยะหนึ่ง โดยไม่มีสัญญาณบ่งชี้ล่วงหน้า สิ่งที่น่าสนใจคือ 82% ของกรณีเหล่านี้เกิดขึ้นบนเมนบอร์ด Asrock ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเนื่องจากราคาประหยัด ขณะที่นักวิเคราะห์กำลังหาสาเหตุว่าปัญหานี้เกิดจาก การออกแบบเมนบอร์ด, ข้อผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ หรือการตั้งค่าของผู้ใช้ อาการเสียหายโดยไม่ทราบสาเหตุ - ผู้ใช้บางรายกล่าวว่า CPU ผ่าน POST (Power-On Self Test) และทำงานได้ตามปกติเป็นระยะเวลาตั้งแต่ ครึ่งชั่วโมงถึงหลายเดือน ก่อนหยุดทำงาน - ในบางกรณี พบว่า CPU และเมนบอร์ดเกิด ความเสียหายจากความร้อนสูง ทั้งที่ไม่ได้โอเวอร์คล็อก ปัญหาของเมนบอร์ด Asrock และเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ล่าสุด - Asrock X870, B850 และ B650 เป็นรุ่นที่พบการเสียหายของชิปมากที่สุด - ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 Asrock ปล่อยอัปเดตเฟิร์มแวร์ใหม่สำหรับ AM5 เพื่อปรับปรุงปัญหาบูตของ CPU AMD 9000 Series ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเหล่านี้ คล้ายกับปัญหาความร้อนของ Ryzen 7000X3D ในอดีต - ปัญหานี้คล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2023 ที่เกี่ยวข้องกับ AMD EXPO Profiles และแรงดันไฟของ SoC ซึ่งทำให้ Asus ต้อง ปรับนโยบายการรับประกันเมนบอร์ด AM5 AMD ยังคงเงียบ—แต่ผู้ใช้เริ่มกังวล - AMD ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับปัญหานี้ - ผู้ใช้เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับการออกแบบเมนบอร์ดและการตั้งค่าแรงดันไฟที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยง https://www.techspot.com/news/107370-ryzen-7-9800x3d-cpus-dying-unexpectedly-mostly-asrock.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Some Ryzen 7 9800X3D CPUs are dying unexpectedly, mostly on Asrock motherboards – is user error to blame?
    Reddit user natty_overlord compiled a list of all 108 Reddit posts involving a Ryzen 7 9800X3D that died. The chips passed POST and worked for varying amounts...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลออสเตรเลียตัดสินให้ Billy Mitchell ชนะคดีหมิ่นประมาท และ Karl Jobst ต้องจ่ายเงิน $230,000 หลังจากที่ Jobst อ้างว่า Mitchell เป็นสาเหตุที่ทำให้ YouTuber Apollo Legend เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ศาลระบุว่า ไม่มีหลักฐานว่า Apollo Legend ต้องจ่ายเงินให้ Mitchell ขณะที่ Mitchell เคยมีประวัติฟ้องร้อง Twin Galaxies และ Guinness World Records เพื่อคืนสถิติของเขา

    ข้อกล่าวหาของ Karl Jobst ต่อ Billy Mitchell
    - ในปี 2021 Jobst โพสต์วิดีโอชื่อ "The Biggest Conmen in Video Game History Strike Again!"
    - อ้างว่า YouTuber Apollo Legend (Benjamin Smith) ต้องจ่ายเงินจำนวนมากให้ Mitchell จนเป็นหนี้สินและนำไปสู่การเสียชีวิตในปี 2020
    - Jobst ยังกล่าวว่า Mitchell "มีความสุขกับข่าวการเสียชีวิตของ Apollo Legend"

    คำตัดสินของศาล
    - ศาล Brisbane District Court ตัดสินให้ Mitchell ชนะคดี และได้รับเงิน AU$350,000 (ประมาณ $230,000)
    - ศาลระบุว่า ไม่มีหลักฐานว่า Apollo Legend จ่ายเงินให้ Mitchell ในการไกล่เกลี่ยคดี
    - Jobst เคยแก้ไขวิดีโอหลายครั้งหลังจากถูกเตือน แต่ศาลเห็นว่า ยังมีเนื้อหาที่เป็นเท็จอยู่

    ปัญหาคดีเก่าของ Billy Mitchell
    - Mitchell เคยถูกกล่าวหาว่าใช้โปรแกรมจำลองเกม (MAME) แทนเครื่องอาร์เคดจริงเพื่อสร้างสถิติ Donkey Kong
    - เว็บไซต์ Twin Galaxies และ Guinness World Records ลบสถิติของเขาในปี 2018
    - Mitchell ฟ้องร้องทั้งสององค์กร และ Guinness World Records คืนสถิติให้เขาในปี 2020 ส่วน Twin Galaxies คืนสถิติในปี 2024 หลังมีการไกล่เกลี่ย

    ความเห็นจาก Karl Jobst และ Billy Mitchell
    - Jobst โพสต์บน X (Twitter) ว่า "ผมแพ้คดี ศาลเชื่อในคำให้การของ Mitchell และไม่มีอะไรช่วยผมได้แล้ว"
    - ขณะที่ Mitchell โพสต์ว่า "ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่ากลิ่นแห่งชัยชนะในอากาศยามเย็น"

    https://www.techspot.com/news/107368-youtuber-ordered-pay-king-kong-billy-mitchell-230000.html
    ศาลออสเตรเลียตัดสินให้ Billy Mitchell ชนะคดีหมิ่นประมาท และ Karl Jobst ต้องจ่ายเงิน $230,000 หลังจากที่ Jobst อ้างว่า Mitchell เป็นสาเหตุที่ทำให้ YouTuber Apollo Legend เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ศาลระบุว่า ไม่มีหลักฐานว่า Apollo Legend ต้องจ่ายเงินให้ Mitchell ขณะที่ Mitchell เคยมีประวัติฟ้องร้อง Twin Galaxies และ Guinness World Records เพื่อคืนสถิติของเขา ข้อกล่าวหาของ Karl Jobst ต่อ Billy Mitchell - ในปี 2021 Jobst โพสต์วิดีโอชื่อ "The Biggest Conmen in Video Game History Strike Again!" - อ้างว่า YouTuber Apollo Legend (Benjamin Smith) ต้องจ่ายเงินจำนวนมากให้ Mitchell จนเป็นหนี้สินและนำไปสู่การเสียชีวิตในปี 2020 - Jobst ยังกล่าวว่า Mitchell "มีความสุขกับข่าวการเสียชีวิตของ Apollo Legend" คำตัดสินของศาล - ศาล Brisbane District Court ตัดสินให้ Mitchell ชนะคดี และได้รับเงิน AU$350,000 (ประมาณ $230,000) - ศาลระบุว่า ไม่มีหลักฐานว่า Apollo Legend จ่ายเงินให้ Mitchell ในการไกล่เกลี่ยคดี - Jobst เคยแก้ไขวิดีโอหลายครั้งหลังจากถูกเตือน แต่ศาลเห็นว่า ยังมีเนื้อหาที่เป็นเท็จอยู่ ปัญหาคดีเก่าของ Billy Mitchell - Mitchell เคยถูกกล่าวหาว่าใช้โปรแกรมจำลองเกม (MAME) แทนเครื่องอาร์เคดจริงเพื่อสร้างสถิติ Donkey Kong - เว็บไซต์ Twin Galaxies และ Guinness World Records ลบสถิติของเขาในปี 2018 - Mitchell ฟ้องร้องทั้งสององค์กร และ Guinness World Records คืนสถิติให้เขาในปี 2020 ส่วน Twin Galaxies คืนสถิติในปี 2024 หลังมีการไกล่เกลี่ย ความเห็นจาก Karl Jobst และ Billy Mitchell - Jobst โพสต์บน X (Twitter) ว่า "ผมแพ้คดี ศาลเชื่อในคำให้การของ Mitchell และไม่มีอะไรช่วยผมได้แล้ว" - ขณะที่ Mitchell โพสต์ว่า "ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่ากลิ่นแห่งชัยชนะในอากาศยามเย็น" https://www.techspot.com/news/107368-youtuber-ordered-pay-king-kong-billy-mitchell-230000.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    YouTuber ordered to pay "King of Kong" Billy Mitchell $230,000 over defamation claims
    Mitchell has appeared in several documentaries related to his achievements in Donkey Kong and Pac-Man, including King of Kong in 2007. But in 2018, he was accused...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • Reuters รายงานว่า Arm เคยสนใจเข้าซื้อ Alphawave บริษัทด้านเทคโนโลยี SerDes (serializer-deserializer) จากสหราชอาณาจักร แต่สุดท้ายได้ถอนตัวจากดีลโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ Arm สนใจ Alphawave คือ เทคโนโลยี SerDes ขั้นสูงที่ช่วยให้การสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Arm ยังไม่มีเทคโนโลยีในระดับเดียวกัน

    SerDes มีความสำคัญมากขึ้นในยุค AI
    - เทคโนโลยีนี้ใช้ในการแปลงข้อมูลจากรูปแบบ parallel ไปเป็น serial และกลับมาอีกครั้ง ซึ่งจำเป็นสำหรับระบบที่มีการส่งข้อมูลความเร็วสูง
    - AI เช่น ChatGPT และ Gemini ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์จำนวนมากในการให้บริการ ทำให้ SerDes เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นต่อการประมวลผล

    Broadcom เป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้
    - Broadcom มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Google และ OpenAI ซึ่งใช้ SerDes สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล

    Alphawave มีมูลค่าตลาดกว่า 913 ล้านดอลลาร์
    - แม้ว่าดีลกับ Arm จะล่มลง Alphawave กำลังได้รับความสนใจจากบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องการซื้อกิจการ

    ปัญหาความมั่นคงทางเทคโนโลยีเป็นสาเหตุที่ Arm ถอนตัว
    - Alphawave มีบริษัทร่วมทุนในจีนชื่อ WiseWave ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Wise Road Capital ที่ติดบัญชีดำด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ
    - Arm เคยประสบปัญหาด้านความสัมพันธ์กับจีนตอนเข้าตลาดหุ้น (IPO) ปี 2023 จึงอาจไม่ต้องการเผชิญปัญหาแบบเดิมจากการเข้าซื้อ Alphawave

    https://www.neowin.net/news/serdes-technologys-strategic-value-revealed-as-arms-acquisition-falls-through/
    Reuters รายงานว่า Arm เคยสนใจเข้าซื้อ Alphawave บริษัทด้านเทคโนโลยี SerDes (serializer-deserializer) จากสหราชอาณาจักร แต่สุดท้ายได้ถอนตัวจากดีลโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ Arm สนใจ Alphawave คือ เทคโนโลยี SerDes ขั้นสูงที่ช่วยให้การสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Arm ยังไม่มีเทคโนโลยีในระดับเดียวกัน SerDes มีความสำคัญมากขึ้นในยุค AI - เทคโนโลยีนี้ใช้ในการแปลงข้อมูลจากรูปแบบ parallel ไปเป็น serial และกลับมาอีกครั้ง ซึ่งจำเป็นสำหรับระบบที่มีการส่งข้อมูลความเร็วสูง - AI เช่น ChatGPT และ Gemini ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์จำนวนมากในการให้บริการ ทำให้ SerDes เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นต่อการประมวลผล Broadcom เป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้ - Broadcom มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Google และ OpenAI ซึ่งใช้ SerDes สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล Alphawave มีมูลค่าตลาดกว่า 913 ล้านดอลลาร์ - แม้ว่าดีลกับ Arm จะล่มลง Alphawave กำลังได้รับความสนใจจากบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องการซื้อกิจการ ปัญหาความมั่นคงทางเทคโนโลยีเป็นสาเหตุที่ Arm ถอนตัว - Alphawave มีบริษัทร่วมทุนในจีนชื่อ WiseWave ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Wise Road Capital ที่ติดบัญชีดำด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ - Arm เคยประสบปัญหาด้านความสัมพันธ์กับจีนตอนเข้าตลาดหุ้น (IPO) ปี 2023 จึงอาจไม่ต้องการเผชิญปัญหาแบบเดิมจากการเข้าซื้อ Alphawave https://www.neowin.net/news/serdes-technologys-strategic-value-revealed-as-arms-acquisition-falls-through/
    WWW.NEOWIN.NET
    SerDes technology's strategic value revealed as Arm's acquisition falls through
    AI hype is driving a need for faster data transfers, making SerDes an important technology. Arm tried to acquire a leading firm in this field but the deal collapsed for this reason.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนที่แสดงแนวการเกิดแผ่นดินไหวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระดับ 4.0 Magnitude ขึ้นไป ตั้งแต่ 1 มกราคม 1975 จนถึง 28 มีนาคม 2025 ซึ่งเป็นวันที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในเมียนมาวัดระดับได้ 7.7 Magnitude

    เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคหนึ่งของโลกที่มีแผ่นดินไหวบ่อยที่สุด โดยแผ่นเปลือกโลกหลัก เช่น แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย (Eurasian Plate) และแผ่นเปลือกโลกออสเตรเลีย (Australian Plate) เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่รุนแรง

    เมื่อปี 2004 (2547) เกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง และคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 230,000 รายทั่วเอเชียและแอฟริกา

    ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่ต้องรับมือกับแผ่นดินไหวมากที่สุดต่อปี รองลงมาคือเมียนมา เนื่องจากรอยเลื่อนและร่องลึกจำนวนมากที่เคลื่อนตัวผ่านประเทศดังกล่าว

    ในขณะที่ ประเทศไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม มักไม่ประสบกับแผ่นดินไหวรุนแรง ความตื่นตระหนกที่แผ่ขยายไปทั่วประเทศเหล่านี้หลังจากแผ่นดินไหวรุนแรงในเมียนมา เมื่อ 28 มีนาคม แสดงให้เห็นถึงประชาชนในประเทศกลุ่มนี้ไม่คุ้นเคยกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่
    แผนที่แสดงแนวการเกิดแผ่นดินไหวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระดับ 4.0 Magnitude ขึ้นไป ตั้งแต่ 1 มกราคม 1975 จนถึง 28 มีนาคม 2025 ซึ่งเป็นวันที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในเมียนมาวัดระดับได้ 7.7 Magnitude เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคหนึ่งของโลกที่มีแผ่นดินไหวบ่อยที่สุด โดยแผ่นเปลือกโลกหลัก เช่น แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย (Eurasian Plate) และแผ่นเปลือกโลกออสเตรเลีย (Australian Plate) เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่รุนแรง เมื่อปี 2004 (2547) เกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง และคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 230,000 รายทั่วเอเชียและแอฟริกา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่ต้องรับมือกับแผ่นดินไหวมากที่สุดต่อปี รองลงมาคือเมียนมา เนื่องจากรอยเลื่อนและร่องลึกจำนวนมากที่เคลื่อนตัวผ่านประเทศดังกล่าว ในขณะที่ ประเทศไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม มักไม่ประสบกับแผ่นดินไหวรุนแรง ความตื่นตระหนกที่แผ่ขยายไปทั่วประเทศเหล่านี้หลังจากแผ่นดินไหวรุนแรงในเมียนมา เมื่อ 28 มีนาคม แสดงให้เห็นถึงประชาชนในประเทศกลุ่มนี้ไม่คุ้นเคยกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เตรียมเปลี่ยนโฉม Blue Screen of Death (BSOD) ใน Windows 11 ให้เป็นหน้าจอข้อผิดพลาดแบบใหม่ที่มีดีไซน์ทันสมัยขึ้น โดยลดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็น เช่น อีโมจิและ QR Code และอาจเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ เป้าหมายคือให้ข้อมูลข้อผิดพลาดกระชับขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้กลับไปทำงานได้เร็วขึ้น

    เปลี่ยนดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้น
    - หน้าจอข้อผิดพลาดใหม่นี้มีการจัดวางข้อมูลที่กระชับขึ้น โดยยังคง รหัสข้อผิดพลาด (Stop Code) และสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาไว้ แต่ตัดข้อความที่ซับซ้อนออก

    ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก
    - ในรูปแบบใหม่ของ BSOD จะไม่มี อีโมจิเครื่องหน้าบึ้ง หรือ QR Code ที่เคยใช้แสดงข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการลดองค์ประกอบที่อาจรบกวนสายตาผู้ใช้

    สีของหน้าจอยังไม่แน่นอน
    - แม้ Microsoft จะแสดงตัวอย่าง หน้าจอสีเขียว แต่มีข้อมูลจาก Windows Latest ระบุว่าเวอร์ชันสุดท้ายอาจใช้ สีดำ แทนสีดั้งเดิม

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนา
    - การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนแนวทางที่ Microsoft ต้องการให้ Windows 11 มีดีไซน์ที่สอดคล้องกันมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้สามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้นหลังเกิดปัญหา

    https://www.techspot.com/news/107360-microsoft-replacing-blue-screen-death-windows-11.html
    Microsoft เตรียมเปลี่ยนโฉม Blue Screen of Death (BSOD) ใน Windows 11 ให้เป็นหน้าจอข้อผิดพลาดแบบใหม่ที่มีดีไซน์ทันสมัยขึ้น โดยลดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็น เช่น อีโมจิและ QR Code และอาจเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ เป้าหมายคือให้ข้อมูลข้อผิดพลาดกระชับขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้กลับไปทำงานได้เร็วขึ้น เปลี่ยนดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้น - หน้าจอข้อผิดพลาดใหม่นี้มีการจัดวางข้อมูลที่กระชับขึ้น โดยยังคง รหัสข้อผิดพลาด (Stop Code) และสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาไว้ แต่ตัดข้อความที่ซับซ้อนออก ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก - ในรูปแบบใหม่ของ BSOD จะไม่มี อีโมจิเครื่องหน้าบึ้ง หรือ QR Code ที่เคยใช้แสดงข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการลดองค์ประกอบที่อาจรบกวนสายตาผู้ใช้ สีของหน้าจอยังไม่แน่นอน - แม้ Microsoft จะแสดงตัวอย่าง หน้าจอสีเขียว แต่มีข้อมูลจาก Windows Latest ระบุว่าเวอร์ชันสุดท้ายอาจใช้ สีดำ แทนสีดั้งเดิม ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนา - การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนแนวทางที่ Microsoft ต้องการให้ Windows 11 มีดีไซน์ที่สอดคล้องกันมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้สามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้นหลังเกิดปัญหา https://www.techspot.com/news/107360-microsoft-replacing-blue-screen-death-windows-11.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft is replacing the Blue Screen of Death in Windows 11
    Microsoft in a recent Windows Insider blog said the updated user interface additionally supports their goal of getting users back to productivity as fast as possible.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามหาความจริง ตึกถล่มจตุจักร

    แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ลึก 10 กิโลเมตร บริเวณเมืองลอยกอ ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 13.20 น. ของวันศุกร์ที่ 28 มี.ค. สั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล หนึ่งในนั้นคือโครงการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ สูง 30 ชั้น บนถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร พังถล่มลงมา ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.มีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 11 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย บาดเจ็บ 18 ราย สูญหายอีกจำนวนมาก

    สังคมตั้งข้อสงสัยไปที่การก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้คุณภาพ โครงการนี้ใช้งบประมาณ 2,136 ล้านบาท ผู้รับจ้างคือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด ส่วนผู้ควบคุมงานก่อสร้างคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จํากัด และ บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด งบประมาณ 74.653 ล้านบาท

    มีการตรวจสอบบริษัทผู้รับจ้างอย่างไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) พบความผิดปกติตรงที่เมื่อปี 2567 ได้โพสต์ภาพและข่าวการเฉลิมฉลองปิดงานก่อสร้างชั้นดาดฟ้า ในบัญชีโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ นำเสนอว่าใช้ระบบโครงสร้างแบบแกนกลางรับแรง และพื้นไร้คาน พอเกิดเหตุได้ลบบทความทิ้ง ไม่นับรวมการตรวจสอบที่ตั้งบริษัท พบว่าเป็นตึกแถวธรรมดาในซอยพุทธบูชา 44 แยก 11 เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ

    ขณะที่ สตง.เจ้าของโครงการ ชี้แจงว่าได้ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ยืนยีนว่ากระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการแก้แบบโครงสร้างให้เล็กลงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะออกแบบให้เสาสี่เหลี่ยมด้านหน้าอาคารสูงสามชั้นมีขนาด 1.40 x 1.40 เมตร ส่วนชั้น 29 ถึงดาดฟ้า เป็นเสากลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 เมตร เพื่อรองรับหลังคาตึก เป็นไปตามที่ผู้ออกแบบกำหนดไว้ไม่มีการแก้ไข

    กระทรวงอุตสาหกรรมได้เก็บตัวอย่างเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างไปตรวจสอบที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย พบว่ามีเหล็กบางส่วนไม่ได้มาตรฐานมาจากบริษัทที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สั่งปิดไปเมื่อเดือน ธ.ค.2567 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่ได้ตามมาตรฐาน

    ถึงบัดนี้นอกจากความรับผิดชอบของผู้รับจ้างแล้ว การค้นหาความจริงถึงสาเหตุตึกถล่มมาจากภัยธรรมชาติหรือการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานยังคงดำเนินต่อไป ตามที่ รมว.มหาดไทยตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีวิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นประธาน ซึ่งให้เวลาสืบสวนภายใน 7 วัน

    #Newskit
    ตามหาความจริง ตึกถล่มจตุจักร แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ลึก 10 กิโลเมตร บริเวณเมืองลอยกอ ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 13.20 น. ของวันศุกร์ที่ 28 มี.ค. สั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล หนึ่งในนั้นคือโครงการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ สูง 30 ชั้น บนถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร พังถล่มลงมา ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.มีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 11 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย บาดเจ็บ 18 ราย สูญหายอีกจำนวนมาก สังคมตั้งข้อสงสัยไปที่การก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้คุณภาพ โครงการนี้ใช้งบประมาณ 2,136 ล้านบาท ผู้รับจ้างคือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด ส่วนผู้ควบคุมงานก่อสร้างคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จํากัด และ บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด งบประมาณ 74.653 ล้านบาท มีการตรวจสอบบริษัทผู้รับจ้างอย่างไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) พบความผิดปกติตรงที่เมื่อปี 2567 ได้โพสต์ภาพและข่าวการเฉลิมฉลองปิดงานก่อสร้างชั้นดาดฟ้า ในบัญชีโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ นำเสนอว่าใช้ระบบโครงสร้างแบบแกนกลางรับแรง และพื้นไร้คาน พอเกิดเหตุได้ลบบทความทิ้ง ไม่นับรวมการตรวจสอบที่ตั้งบริษัท พบว่าเป็นตึกแถวธรรมดาในซอยพุทธบูชา 44 แยก 11 เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ขณะที่ สตง.เจ้าของโครงการ ชี้แจงว่าได้ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ยืนยีนว่ากระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการแก้แบบโครงสร้างให้เล็กลงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะออกแบบให้เสาสี่เหลี่ยมด้านหน้าอาคารสูงสามชั้นมีขนาด 1.40 x 1.40 เมตร ส่วนชั้น 29 ถึงดาดฟ้า เป็นเสากลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 เมตร เพื่อรองรับหลังคาตึก เป็นไปตามที่ผู้ออกแบบกำหนดไว้ไม่มีการแก้ไข กระทรวงอุตสาหกรรมได้เก็บตัวอย่างเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างไปตรวจสอบที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย พบว่ามีเหล็กบางส่วนไม่ได้มาตรฐานมาจากบริษัทที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สั่งปิดไปเมื่อเดือน ธ.ค.2567 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่ได้ตามมาตรฐาน ถึงบัดนี้นอกจากความรับผิดชอบของผู้รับจ้างแล้ว การค้นหาความจริงถึงสาเหตุตึกถล่มมาจากภัยธรรมชาติหรือการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานยังคงดำเนินต่อไป ตามที่ รมว.มหาดไทยตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีวิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นประธาน ซึ่งให้เวลาสืบสวนภายใน 7 วัน #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลตรวจสอบเหล็กตึก สตง.ถล่ม พบเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 2 ไซส์ ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุ-จ่อเก็บตัวอย่างเพิ่ม
    https://www.thai-tai.tv/news/17954/
    ผลตรวจสอบเหล็กตึก สตง.ถล่ม พบเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 2 ไซส์ ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุ-จ่อเก็บตัวอย่างเพิ่ม https://www.thai-tai.tv/news/17954/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥

    ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร

    📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ!

    อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲

    โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸

    แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱

    🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

    สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ...
    🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง
    💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี
    📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้
    ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน

    ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅
    2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข
    1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค
    18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค
    31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
    3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่
    1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ

    📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี!

    กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯
    🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ
    มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง

    📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ
    - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท

    - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท

    - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท

    💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว!

    ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค

    🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน
    - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน
    - ภาษาไทย 20 คะแนน
    - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน

    🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น
    - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร
    - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน
    - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี

    🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    - บุคลิกภาพ
    - ทัศนคติ
    - ความสามารถในการสื่อสาร
    - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง

    เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖
    ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข

    ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ

    ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️

    ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice

    🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น!

    🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌

    🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅

    🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง!

    🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้

    🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝

    ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ
    - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น!
    - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน
    - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม

    📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪

    ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้!

    ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568

    📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥 ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร 📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ! อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲 โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸 แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱 🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ... 🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง 💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี 📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้ ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅 2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข 1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค 18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค 31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ 3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่ 1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ 📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี! กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯 🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง 📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท 💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว! ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค 🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน - ภาษาไทย 20 คะแนน - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน 🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี 🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน - บุคลิกภาพ - ทัศนคติ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖 ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️ ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice 🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น! 🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌ 🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅ 🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง! 🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้ 🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝 ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น! - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม 📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪 ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้! ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568 📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานว่า CPU Ryzen 7 9800X3D เสียหายมากกว่า 100 กรณี ส่วนใหญ่เกิดในเมนบอร์ด ASRock 800 series แม้จะมีกรณีที่ไม่ได้ปรับแต่งใด ๆ ก็เสียหายได้เช่นกัน AMD และผู้ผลิตเมนบอร์ดจำเป็นต้องตรวจสอบปัญหาอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

    ต้นเหตุที่ยังคลุมเครือ:
    - ปัญหาบางส่วนเกิดขึ้นหลังการเปิดใช้งาน EXPO หรือการโอเวอร์คล็อก CPU แต่ก็มีกรณีที่ผู้ใช้ไม่ได้ปรับแต่ง BIOS ใด ๆ และ CPU ก็เสียหายเช่นกัน

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน:
    - ผู้ใช้งานหลายคนต้องผ่านกระบวนการ RMA (Return Merchandise Authorization) มากกว่าหนึ่งครั้ง ซึ่งสร้างความยุ่งยากและความไม่มั่นใจในการใช้งานผลิตภัณฑ์

    จุดสำคัญในการพัฒนา:
    - ปัญหานี้อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น คุณภาพของ CPU แรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียร หรือการออกแบบของเมนบอร์ด ซึ่งจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมทั้งจาก AMD และผู้ผลิตเมนบอร์ด

    ความเคลื่อนไหวในอนาคต:
    - AMD และ ASRock รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ ต้องมีการตรวจสอบอย่างลึกซึ้ง พร้อมสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาและปรับปรุงเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

    https://wccftech.com/over-100-dead-ryzen-7-9800x3d-cases-have-been-reported-till-now-mostly-on-asrock-motherboards/
    มีรายงานว่า CPU Ryzen 7 9800X3D เสียหายมากกว่า 100 กรณี ส่วนใหญ่เกิดในเมนบอร์ด ASRock 800 series แม้จะมีกรณีที่ไม่ได้ปรับแต่งใด ๆ ก็เสียหายได้เช่นกัน AMD และผู้ผลิตเมนบอร์ดจำเป็นต้องตรวจสอบปัญหาอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ต้นเหตุที่ยังคลุมเครือ: - ปัญหาบางส่วนเกิดขึ้นหลังการเปิดใช้งาน EXPO หรือการโอเวอร์คล็อก CPU แต่ก็มีกรณีที่ผู้ใช้ไม่ได้ปรับแต่ง BIOS ใด ๆ และ CPU ก็เสียหายเช่นกัน ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน: - ผู้ใช้งานหลายคนต้องผ่านกระบวนการ RMA (Return Merchandise Authorization) มากกว่าหนึ่งครั้ง ซึ่งสร้างความยุ่งยากและความไม่มั่นใจในการใช้งานผลิตภัณฑ์ จุดสำคัญในการพัฒนา: - ปัญหานี้อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น คุณภาพของ CPU แรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียร หรือการออกแบบของเมนบอร์ด ซึ่งจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมทั้งจาก AMD และผู้ผลิตเมนบอร์ด ความเคลื่อนไหวในอนาคต: - AMD และ ASRock รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ ต้องมีการตรวจสอบอย่างลึกซึ้ง พร้อมสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาและปรับปรุงเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต https://wccftech.com/over-100-dead-ryzen-7-9800x3d-cases-have-been-reported-till-now-mostly-on-asrock-motherboards/
    WCCFTECH.COM
    Over 100 Dead Ryzen 7 9800X3D Cases Have Been Reported Till Now, Mostly On ASRock Motherboards; In Some Cases, The CPU Didn't Even Run For An Hour
    In the last two months, as many as 107 cases of dead Ryzen 7 9800X3D have been reported, majority were on ASRock motherboards.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อนุทิน" หารือ "ทูตจีน" พร้อมหนุนช่วยเหลือเหตุอาคารสตง.ถล่ม เผย "มท." ตั้งคกก.สอบสาเหตุภายใน 7 วัน
    https://www.thai-tai.tv/news/17943/
    "อนุทิน" หารือ "ทูตจีน" พร้อมหนุนช่วยเหลือเหตุอาคารสตง.ถล่ม เผย "มท." ตั้งคกก.สอบสาเหตุภายใน 7 วัน https://www.thai-tai.tv/news/17943/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • สตง.โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจต่อความสูญเสียจากเหตุแผ่นดินไหว เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มความสามารถ พร้อมตรวจสอบหาสาเหตุเพื่อชี้แจงให้ทราบโดยเร็ว

    จากรณีเหตุแผ่นดินไหวความรุนแรง 8.4 แมกนิจูด มีศูนย์กลางในประเทศเมียนม่า แต่ได้ส่งแรงสันสะเทือนมาถึงกรุงเทพมหานคร ส่งผลกระทบทำให้อาคารสูงหลายแห่งเกิดการสั่นไหว แตกร้าว และอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ขนาด 30 ชั้น มูลค่า 2,136 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง พังถล่มลงมาทั้งหลัง เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น

    ล่าสุด ในเฟซบุ๊ก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มีการโพสต์ข้อความว่า “สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สตง. ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น และจะได้ชี้แจงให้ทุกท่านทราบโดยเร็วต่อไป”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030037

    #MGROnline #สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน #สตง. #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    สตง.โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจต่อความสูญเสียจากเหตุแผ่นดินไหว เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มความสามารถ พร้อมตรวจสอบหาสาเหตุเพื่อชี้แจงให้ทราบโดยเร็ว • จากรณีเหตุแผ่นดินไหวความรุนแรง 8.4 แมกนิจูด มีศูนย์กลางในประเทศเมียนม่า แต่ได้ส่งแรงสันสะเทือนมาถึงกรุงเทพมหานคร ส่งผลกระทบทำให้อาคารสูงหลายแห่งเกิดการสั่นไหว แตกร้าว และอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ขนาด 30 ชั้น มูลค่า 2,136 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง พังถล่มลงมาทั้งหลัง เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น • ล่าสุด ในเฟซบุ๊ก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มีการโพสต์ข้อความว่า “สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สตง. ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น และจะได้ชี้แจงให้ทุกท่านทราบโดยเร็วต่อไป” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030037 • #MGROnline #สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน #สตง. #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • สตง.โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจต่อความสูญเสียจากเหตุแผ่นดินไหว เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มความสามารถ พร้อมตรวจสอบหาสาเหตุเพื่อชี้แจงให้ทราบโดยเร็ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030037
    สตง.โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจต่อความสูญเสียจากเหตุแผ่นดินไหว เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มความสามารถ พร้อมตรวจสอบหาสาเหตุเพื่อชี้แจงให้ทราบโดยเร็ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030037
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเมืองไทยมีความซับซ้อนและมีปัญหาหลายด้านที่ต้องแก้ไขเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ปัญหาหลักๆ และแนวทางการแก้ไขอาจรวมถึง以下几个方面:

    ### 1. **ปัญหาความแตกแยกและความขัดแย้งทางการเมือง**
    - **สาเหตุ**: ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองต่าง ๆ เช่น คณะรัฐประหาร ประชาชน และพรรคการเมือง
    - **แนวทางแก้ไข**:
    - ส่งเสริม **การเจรจาและปรองดอง** ระหว่างกลุ่มการเมืองที่ขัดแย้งกัน
    - ลดการใช้อำนาจรัฐเพื่อปราบปรามฝ่ายตรงข้าม
    - สร้างกลไกแก้ไขความขัดแย้งที่เป็นกลาง เช่น คณะกรรมการอิสระ

    ### 2. **ระบบเลือกตั้งที่ไม่สมบูรณ์**
    - **สาเหตุ**: ระบบเลือกตั้งอาจไม่สะท้อนเสียงประชาชนอย่างแท้จริง เช่น การแบ่งเขตเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม หรือกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้พรรคใหญ่
    - **แนวทางแก้ไข**:
    - ปรับปรุง **ระบบเลือกตั้ง** ให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้น เช่น ใช้ระบบสัดส่วนผสม (Mixed-Member Proportional: MMP)
    - เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองขนาดเล็กมีส่วนร่วมในสภา
    - ป้องกันการทุจริตเลือกตั้งด้วยเทคโนโลยีและกลไกตรวจสอบ

    ### 3. **ปัญหาอำนาจนอกระบบ (อำนาจนอกการเมือง)**
    - **สาเหตุ**: การแทรกแซงทางการเมืองโดยสถาบันอื่นที่ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
    - **แนวทางแก้ไข**:
    - เสริมสร้าง **หลักนิติธรรม** และลดบทบาทของอำนาจนอกระบบในการเมือง
    - ปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้กองทัพและองค์กรอิสระอยู่ภายใต้การควบคุมของพลเรือน

    ### 4. **การทุจริตและระบบอุปถัมภ์**
    - **สาเหตุ**: การคอร์รัปชันในวงราชการและระบบอุปถัมภ์ที่ทำให้การเมืองไทยไม่โปร่งใส
    - **แนวทางแก้ไข**:
    - เสริมสร้าง **กลไกตรวจสอบ** เช่น ปรับปรุงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.)
    - เปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (Open Data) เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้
    - ส่งเสริมวัฒนธรรมการต่อต้านคอร์รัปชันตั้งแต่ระดับการศึกษา

    ### 5. **การกระจายอำนาจที่ไม่ทั่วถึง**
    - **สาเหตุ**: อำนาจยังรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ และรัฐบาลกลาง ทำให้ท้องถิ่นขาดอิสระ
    - **แนวทางแก้ไข**:
    - **กระจายอำนาจการปกครอง** ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากขึ้น
    - ให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการจัดเก็บภาษีและบริหารงบประมาณเอง

    ### 6. **ปัญหาการเซ็นเซอร์และเสรีภาพสื่อ**
    - **สาเหตุ**: การควบคุมสื่อโดยรัฐ และการใช้กฎหมายเช่น พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เพื่อจำกัดเสรีภาพ
    - **แนวทางแก้ไข**:
    - ยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพสื่อ
    - ส่งเสริมสื่ออิสระและปลอดจากการแทรกแซงของรัฐ

    ### 7. **การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม**
    - **สาเหตุ**: กระบวนการยุติธรรมอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
    - **แนวทางแก้ไข**:
    - ปรับปรุงระบบตุลาการให้เป็นอิสระและเป็นกลาง
    - ตรวจสอบการใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม

    ### 8. **การมีส่วนร่วมของประชาชน**
    - **แนวทางแก้ไข**:
    - ส่งเสริม **ประชาธิปไตยทางตรง** เช่น การลงประชามติในประเด็นสำคัญ
    - ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อรับฟังความเห็นประชาชน (E-Participation)

    ### **สรุป**
    การเมืองไทยต้องการการปฏิรูปหลายด้าน ทั้งระบบเลือกตั้ง การลดอำนาจนอกระบบ การต่อต้านคอร์รัปชัน การกระจายอำนาจ และการส่งเสริมเสรีภาพ หากแก้ไขได้อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้การเมืองไทยมีความมั่นคงและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

    คุณคิดว่าประเด็นไหนสำคัญที่สุดหรือควรเริ่มแก้ไขก่อน?
    การเมืองไทยมีความซับซ้อนและมีปัญหาหลายด้านที่ต้องแก้ไขเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ปัญหาหลักๆ และแนวทางการแก้ไขอาจรวมถึง以下几个方面: ### 1. **ปัญหาความแตกแยกและความขัดแย้งทางการเมือง** - **สาเหตุ**: ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองต่าง ๆ เช่น คณะรัฐประหาร ประชาชน และพรรคการเมือง - **แนวทางแก้ไข**: - ส่งเสริม **การเจรจาและปรองดอง** ระหว่างกลุ่มการเมืองที่ขัดแย้งกัน - ลดการใช้อำนาจรัฐเพื่อปราบปรามฝ่ายตรงข้าม - สร้างกลไกแก้ไขความขัดแย้งที่เป็นกลาง เช่น คณะกรรมการอิสระ ### 2. **ระบบเลือกตั้งที่ไม่สมบูรณ์** - **สาเหตุ**: ระบบเลือกตั้งอาจไม่สะท้อนเสียงประชาชนอย่างแท้จริง เช่น การแบ่งเขตเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม หรือกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้พรรคใหญ่ - **แนวทางแก้ไข**: - ปรับปรุง **ระบบเลือกตั้ง** ให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้น เช่น ใช้ระบบสัดส่วนผสม (Mixed-Member Proportional: MMP) - เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองขนาดเล็กมีส่วนร่วมในสภา - ป้องกันการทุจริตเลือกตั้งด้วยเทคโนโลยีและกลไกตรวจสอบ ### 3. **ปัญหาอำนาจนอกระบบ (อำนาจนอกการเมือง)** - **สาเหตุ**: การแทรกแซงทางการเมืองโดยสถาบันอื่นที่ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง - **แนวทางแก้ไข**: - เสริมสร้าง **หลักนิติธรรม** และลดบทบาทของอำนาจนอกระบบในการเมือง - ปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้กองทัพและองค์กรอิสระอยู่ภายใต้การควบคุมของพลเรือน ### 4. **การทุจริตและระบบอุปถัมภ์** - **สาเหตุ**: การคอร์รัปชันในวงราชการและระบบอุปถัมภ์ที่ทำให้การเมืองไทยไม่โปร่งใส - **แนวทางแก้ไข**: - เสริมสร้าง **กลไกตรวจสอบ** เช่น ปรับปรุงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) - เปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (Open Data) เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ - ส่งเสริมวัฒนธรรมการต่อต้านคอร์รัปชันตั้งแต่ระดับการศึกษา ### 5. **การกระจายอำนาจที่ไม่ทั่วถึง** - **สาเหตุ**: อำนาจยังรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ และรัฐบาลกลาง ทำให้ท้องถิ่นขาดอิสระ - **แนวทางแก้ไข**: - **กระจายอำนาจการปกครอง** ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากขึ้น - ให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการจัดเก็บภาษีและบริหารงบประมาณเอง ### 6. **ปัญหาการเซ็นเซอร์และเสรีภาพสื่อ** - **สาเหตุ**: การควบคุมสื่อโดยรัฐ และการใช้กฎหมายเช่น พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เพื่อจำกัดเสรีภาพ - **แนวทางแก้ไข**: - ยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพสื่อ - ส่งเสริมสื่ออิสระและปลอดจากการแทรกแซงของรัฐ ### 7. **การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม** - **สาเหตุ**: กระบวนการยุติธรรมอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง - **แนวทางแก้ไข**: - ปรับปรุงระบบตุลาการให้เป็นอิสระและเป็นกลาง - ตรวจสอบการใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ### 8. **การมีส่วนร่วมของประชาชน** - **แนวทางแก้ไข**: - ส่งเสริม **ประชาธิปไตยทางตรง** เช่น การลงประชามติในประเด็นสำคัญ - ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อรับฟังความเห็นประชาชน (E-Participation) ### **สรุป** การเมืองไทยต้องการการปฏิรูปหลายด้าน ทั้งระบบเลือกตั้ง การลดอำนาจนอกระบบ การต่อต้านคอร์รัปชัน การกระจายอำนาจ และการส่งเสริมเสรีภาพ หากแก้ไขได้อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้การเมืองไทยมีความมั่นคงและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น คุณคิดว่าประเด็นไหนสำคัญที่สุดหรือควรเริ่มแก้ไขก่อน?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • สตง.เคลื่อนไหวแล้ว แสดงความเสียใจสุดซึ้ง-เร่งหาสาเหตุตึกถล่ม
    https://www.thai-tai.tv/news/17933/
    สตง.เคลื่อนไหวแล้ว แสดงความเสียใจสุดซึ้ง-เร่งหาสาเหตุตึกถล่ม https://www.thai-tai.tv/news/17933/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 สาเหตุ ที่ทำให้ ตับอักเสบ
    1. แอลกอฮอล์
    2. ไวรัส
    3. ไขมันพอกตับ ถุง หวาน ทอด ไตร เลว เบา
    3 สาเหตุ ที่ทำให้ ตับอักเสบ 1. แอลกอฮอล์ 2. ไวรัส 3. ไขมันพอกตับ ถุง หวาน ทอด ไตร เลว เบา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • **คุยเรื่องสีแดงจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับบทกวีและสีแดงหลากเฉดที่ถูกนำมาใช้ในเรื่อง <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ซึ่งเดินเรื่องราวด้วยสูตรสีย้อมผ้าไหมสูจิ่นสีแดงของพ่อนางเอกที่ในเรื่องเรียกว่า ‘สู่หง’ ซึ่งถูกยกย่องขึ้นเป็นสุดยอดของสีแดงตามจินตนาการของผู้แต่งนิยายต้นฉบับ

    เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่องนี้จะจำได้ว่าก่อนที่นางเอกจะค้นคว้าสูตรลับนี้ของพ่อขึ้นมาอีกได้สำเร็จ นางเอกได้พัฒนาสีแดงขึ้นสามสีโดยอธิบายว่า ‘สู่หง’ แท้จริงแล้วหมายถึงสีแดงจากพื้นที่สู่ (สองสัปดาห์ก่อนเรากล่าวถึงดินแดนแคว้นสู่ไปแล้วลองย้อนอ่านดูได้) และนางได้จัดงานแฟชั่นโชว์ขึ้นเพื่อแสดงชุดที่ทอจากไหมสามสีใหม่นี้ โดยนางและพี่ชายได้บรรยายถึงสีเหล่านี้ด้วยการกล่าวอิงกับบทกวี วันนี้เรามาคุยถึงเกร็ดวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในนี้กัน

    เริ่มจากชุดแรกที่นางเอกกล่าวว่าสีแดงนี้ได้อารมณ์อิสระและความมีชีวิตชีวาจากบทกวีของกวีผู้ที่นางเรียกว่า ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’

    ในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าเขาผู้นี้คือใครและคำแปลซับไทยอาจทำให้เข้าใจเป็นอื่น แต่จริงๆ แล้ว ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’ (青莲居士 / ชิงเหลียนจวีซื่อ) เป็นฉายาของกวีเอกสมัยถังหลี่ไป๋ และเป็นฉายาที่เราชาวไทยไม่คุ้นหู ซึ่งสาเหตุที่หลี่ไป๋ถูกเรียกขานเช่นนี้เป็นเพราะว่าบ้านเกิดของเขาคือหมู่บ้านชิงเหลียน (ปัจจุบันคือตำบลชิงเหลียน อำเภอจิ่นหยาง มณฑลเสฉวน) และกลอนบทที่พูดถึงในตอนนี้มีชื่อว่า ‘ซานจงอวี่โยวเหรินตุ้ยจั๋ว’ (山中与幽人对酌 แปลได้ว่าร่ำสุรากลางเขาคู่กับสหายผู้ปลีกวิเวก) ในบทกวีไม่ได้กล่าวถึงสีแดง แต่บรรยายถึงความสนุกสุขสันต์ที่ได้ร่ำสุรากับผู้รู้ใจท่ามกลางวิวดอกไม้บานเต็มเขา

    ต่อมาชุดที่สองนี้มีหลากเฉดสีเช่นแดง ชมพูและส้มเหลือง โดยบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวีของ ‘เลขาธิการหญิง’ (女校书 / หนี่ว์เจี้ยวซู) ซึ่งในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าคือใคร

    กวีที่ถูกกล่าวถึงนี้คือเซวียเทา (薛涛) ผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่กวีเอกสตรีแห่งราชวงศ์ถัง มีผลงานกว่าห้าร้อยชิ้น มีบทกลอนที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันกว่าเก้าสิบบท เกิดที่ฉางอันแต่ติดตามบิดาผู้เป็นขุนนางมารับราชการที่เมืองเฉิงตู นางได้รับการศึกษาอย่างดีและเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านดนตรีและบทกวี แต่งกลอนยาวได้ตั้งแต่อายุเพียงแปดปี เชี่ยวชาญด้านการออกเสียงและดนตรี

    เมื่อเซวียเทาอายุได้สิบสี่ปี บิดาของนางป่วยตายในระหว่างไปปฏิบัติหน้าที่ต่างเมือง นางและมารดาพยายามหาเลี้ยงชีพอย่างยากลำบาก ในที่สุดนางตัดสินใจเข้าเป็นนางคณิกาหลวงประเภทขับร้อง (ในสมัยนั้นเรียกว่า ‘เกอจี้’) เพื่อจะได้มีเงินเดือนหลวงยังชีพ โดยรับหน้าที่ขับร้องในงานเลี้ยงของทางการต่างๆ มีโอกาสได้แต่งบทกวีในงานเลี้ยงต่อหน้าขุนนางชั้นผู้ใหญ่จนเป็นที่โด่งดัง ต่อมาได้รับการเคารพยกย่องจากผู้คนมากมายด้วยความปราดเปรื่องด้านงานกวี และได้รู้จักสนิทสนมกับเหวยเกาเริ่น เจี๋ยตู้สื่อผู้ปกครองเขตพื้นที่นั้น

    เจี๋ยตู้สื่อเหวยเกาเริ่นชื่นชมผลงานและความสามารถของเซวียเทาถึงขนาดยื่นฎีกาต่อฮ่องเต้เพื่อขอให้แต่งตั้งนางเป็น ‘เจี้ยวซูหลาง’ (校书郎) ซึ่งเป็นตำแหน่งเลขาธิการผู้ดูแลงานด้านพิสูจน์อักษรของเอกสารทางการและบันทึกโบราณ จัดเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นที่เก้า แต่ไม่เคยมีสตรีดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนจึงมีข้อจำกัดมากมาย สุดท้ายนางก็ไม่ได้รับการอนุมัติให้ดำรงตำแหน่งนี้ แต่อย่างไรก็ดีเรื่องที่นางได้รับการเสนอชื่อไม่ใช่ความลับ ชาวเมืองเฉิงตูจึงเรียกนางอย่างยกย่องว่า ‘เลขาธิการหญิง’ นั่นเอง

    บทกวีของเซวียเทาที่ถูกยกมากล่าวในซีรีส์นี้บรรยายถึงสีสันสวยงามบนแดนสวรรค์ที่แต่งแต้มจนดอกไม้ดารดาษมีสีสันสวยงาม แต่ที่ Storyฯ คิดว่าน่าสนใจยิ่งกว่าบทกวีนี้คือสีแดงที่เกี่ยวข้องกับเซวียเทา ว่ากันว่านางชื่นชอบสีแดงมาก มักแต่งกายด้วยสีแดง และได้คิดค้นกระดาษสีแดงขึ้นไว้สำหรับเขียนบทกลอนของตัวเอง บทกลอนบนกระดาษแดงสีพิเศษที่เขียนและลงนามโดยเซวียเทาถือว่าเป็นของที่มีค่าอันทรงเกียรติมากในสมัยนั้น โดยมีบางแผ่นมีลายวาดดอกไม้ที่บางคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นฝีมือการวาดของเซวียเทาเอง ต่อมากระดาษดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายสำหรับชนชั้นมีการศึกษาในสมัยนั้นและกลายมาเป็นสินค้าที่นางผลิตขายยังชีพได้ในที่สุด เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์จีนว่ากระดาษเซวียเทา (薛涛笺 / เซวียเทาเจียน โดย ‘เจียน’ เป็นคำเรียกทั่วไปของกระดาษเขียนหนังสือ)

    Storyฯ เคยเขียนถึงวิธีการทำกระดาษจีนโบราณในบทความอื่น (ดูลิ้งค์ได้ที่ท้ายเรื่อง) ซึ่งมีกรรมวิธีการทำคล้ายกระดาษสา และกวีโบราณหลายท่านจะทำกระดาษของตัวเองไว้ใช้จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เซวียเทาก็เช่นกัน หลังจากที่นางถอนตนออกจากการเป็นนางคณิกาหลวงแล้วก็พำนักอยู่ในบริเวณห่วนฮวาซีที่เมืองเฉิงตูนี้ (คือสถานที่ล้างไหมของนางเอกในซีรีส์ที่ Storyฯ เขียนถึงเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว) ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นแหล่งผลิตกระดาษชื่อดังในสมัยราชวงศ์ถังอีกด้วย ว่ากันว่าเป็นเพราะคุณสมบัติของแหล่งน้ำแถวนี้เหมาะสมต่อการผสมเยื่อกระดาษ และกระดาษเซวียเทาถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากระดาษห่วนฮวา (浣花笺 / ห่วนฮวาเจียน)

    เซวียเทาใช้น้ำจากลำธารห่วนฮวาซี เยื่อไม้จากเปลือกต้นพุดตาน และสีที่คั้นจากกลีบดอกพุดตานทำกระดาษเซวียเทานี้ จากงานเขียนของท่านอื่นในสมัยนั้นมีการกล่าวว่าจริงๆ แล้วเนื้อกระดาษเซวียเทาไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่มันมีความโดดเด่นด้วยสีของกระดาษที่สวยงามไม่มีใครเทียม และบางครั้งยังมีเศษดอกไม้อัดติดมาในกระดาษด้วย แต่สีของกระดาษที่แท้จริงแล้วนั้นเป็นสีอะไรยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจวบจนปัจจุบัน บ้างว่าเป็นสีชมพูแดงของดอกท้อซึ่งเป็นสีโปรดของนาง บ้างอ้างอิงจากกระดาษจริงของผลงานบทกวีของเซวียเทาที่มีคนสะสมไว้ พบว่ามีร่วมสิบเฉดสีไล่ไปตั้งแต่ชมพูแดง ม่วง ชมพูอมส้ม ส้มเขียว ส้มเหลือง จนถึงเหลืองนวล

    เซวียเทาเป็นหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นความภาคภูมิใจของเมืองเฉิงตู มีรูปปั้นของนางตั้งอยู่ที่สวนวั่งเจียงโหลว เพื่อนเพจที่ไปเที่ยวเมืองเฉิงตูลองสังเกตดูนะคะ เผื่อว่าจะเห็นร่องรอยเกี่ยวกับเซวียเทาบ้าง

    ส่วนชุดที่สามในซีรีส์ นางเอกบอกไว้ว่าเป็นชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ (虞美人 / โฉมงามอวี๋) แต่ในซีรีส์ยังไม่ทันได้ท่องบทกวีนี้ก็เกิดเหตุการณ์อื่นขึ้นเสียก่อน

    บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ นี้มีวลีเด็ดที่หลายท่านอาจร้อง “อ๋อ” คือวลี ‘บุปผาวสันต์จันทราสารทฤดู’ Storyฯ เคยเขียนถึงบทกวีนี้เมื่อนานมาแล้วแต่ถูกลบไป เข้าใจว่าเป็นเพราะมันมีลิ้งค์ต้องห้าม เดี๋ยว Storyฯ จะแก้ไขและลงให้อ่านใหม่ในสัปดาห์หน้า ส่วนสีแดงที่เกี่ยวข้องก็คือสีแดงดอกป๊อปปี้ เพราะอวี๋เหม่ยเหรินคือชื่อเรียกของดอกป๊อปปี้ในภาษาจีนค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    ลิ้งค์บทความเกี่ยวกับกระดาษไป๋ลู่จากเรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/953057363489223

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.agentm.tw/310261/
    https://news.qq.com/rain/a/20200731A0U80V00
    https://www.yeeyi.com/news/details/629504/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/李白/1043
    https://baike.baidu.com/item/薛涛/2719
    http://scdfz.sc.gov.cn/scyx/scrw/sclsmr/depsclsmr/xt/content_40259
    https://baike.baidu.com/item/薛涛笺/5523904
    https://www.sohu.com/a/538839040_355475
    http://scdfz.sc.gov.cn/whzh/slzc1/content_105211#

    #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #เฉิงตู #สีแดงหงสู่ #บัณฑิตชิงเหลียน #เลขาธิการหญิง #โฉมงามอวี๋ #เซวียเทา #กระดาษจีนโบราณ #สาระจีน
    **คุยเรื่องสีแดงจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับบทกวีและสีแดงหลากเฉดที่ถูกนำมาใช้ในเรื่อง <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ซึ่งเดินเรื่องราวด้วยสูตรสีย้อมผ้าไหมสูจิ่นสีแดงของพ่อนางเอกที่ในเรื่องเรียกว่า ‘สู่หง’ ซึ่งถูกยกย่องขึ้นเป็นสุดยอดของสีแดงตามจินตนาการของผู้แต่งนิยายต้นฉบับ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่องนี้จะจำได้ว่าก่อนที่นางเอกจะค้นคว้าสูตรลับนี้ของพ่อขึ้นมาอีกได้สำเร็จ นางเอกได้พัฒนาสีแดงขึ้นสามสีโดยอธิบายว่า ‘สู่หง’ แท้จริงแล้วหมายถึงสีแดงจากพื้นที่สู่ (สองสัปดาห์ก่อนเรากล่าวถึงดินแดนแคว้นสู่ไปแล้วลองย้อนอ่านดูได้) และนางได้จัดงานแฟชั่นโชว์ขึ้นเพื่อแสดงชุดที่ทอจากไหมสามสีใหม่นี้ โดยนางและพี่ชายได้บรรยายถึงสีเหล่านี้ด้วยการกล่าวอิงกับบทกวี วันนี้เรามาคุยถึงเกร็ดวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในนี้กัน เริ่มจากชุดแรกที่นางเอกกล่าวว่าสีแดงนี้ได้อารมณ์อิสระและความมีชีวิตชีวาจากบทกวีของกวีผู้ที่นางเรียกว่า ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’ ในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าเขาผู้นี้คือใครและคำแปลซับไทยอาจทำให้เข้าใจเป็นอื่น แต่จริงๆ แล้ว ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’ (青莲居士 / ชิงเหลียนจวีซื่อ) เป็นฉายาของกวีเอกสมัยถังหลี่ไป๋ และเป็นฉายาที่เราชาวไทยไม่คุ้นหู ซึ่งสาเหตุที่หลี่ไป๋ถูกเรียกขานเช่นนี้เป็นเพราะว่าบ้านเกิดของเขาคือหมู่บ้านชิงเหลียน (ปัจจุบันคือตำบลชิงเหลียน อำเภอจิ่นหยาง มณฑลเสฉวน) และกลอนบทที่พูดถึงในตอนนี้มีชื่อว่า ‘ซานจงอวี่โยวเหรินตุ้ยจั๋ว’ (山中与幽人对酌 แปลได้ว่าร่ำสุรากลางเขาคู่กับสหายผู้ปลีกวิเวก) ในบทกวีไม่ได้กล่าวถึงสีแดง แต่บรรยายถึงความสนุกสุขสันต์ที่ได้ร่ำสุรากับผู้รู้ใจท่ามกลางวิวดอกไม้บานเต็มเขา ต่อมาชุดที่สองนี้มีหลากเฉดสีเช่นแดง ชมพูและส้มเหลือง โดยบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวีของ ‘เลขาธิการหญิง’ (女校书 / หนี่ว์เจี้ยวซู) ซึ่งในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าคือใคร กวีที่ถูกกล่าวถึงนี้คือเซวียเทา (薛涛) ผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่กวีเอกสตรีแห่งราชวงศ์ถัง มีผลงานกว่าห้าร้อยชิ้น มีบทกลอนที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันกว่าเก้าสิบบท เกิดที่ฉางอันแต่ติดตามบิดาผู้เป็นขุนนางมารับราชการที่เมืองเฉิงตู นางได้รับการศึกษาอย่างดีและเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านดนตรีและบทกวี แต่งกลอนยาวได้ตั้งแต่อายุเพียงแปดปี เชี่ยวชาญด้านการออกเสียงและดนตรี เมื่อเซวียเทาอายุได้สิบสี่ปี บิดาของนางป่วยตายในระหว่างไปปฏิบัติหน้าที่ต่างเมือง นางและมารดาพยายามหาเลี้ยงชีพอย่างยากลำบาก ในที่สุดนางตัดสินใจเข้าเป็นนางคณิกาหลวงประเภทขับร้อง (ในสมัยนั้นเรียกว่า ‘เกอจี้’) เพื่อจะได้มีเงินเดือนหลวงยังชีพ โดยรับหน้าที่ขับร้องในงานเลี้ยงของทางการต่างๆ มีโอกาสได้แต่งบทกวีในงานเลี้ยงต่อหน้าขุนนางชั้นผู้ใหญ่จนเป็นที่โด่งดัง ต่อมาได้รับการเคารพยกย่องจากผู้คนมากมายด้วยความปราดเปรื่องด้านงานกวี และได้รู้จักสนิทสนมกับเหวยเกาเริ่น เจี๋ยตู้สื่อผู้ปกครองเขตพื้นที่นั้น เจี๋ยตู้สื่อเหวยเกาเริ่นชื่นชมผลงานและความสามารถของเซวียเทาถึงขนาดยื่นฎีกาต่อฮ่องเต้เพื่อขอให้แต่งตั้งนางเป็น ‘เจี้ยวซูหลาง’ (校书郎) ซึ่งเป็นตำแหน่งเลขาธิการผู้ดูแลงานด้านพิสูจน์อักษรของเอกสารทางการและบันทึกโบราณ จัดเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นที่เก้า แต่ไม่เคยมีสตรีดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนจึงมีข้อจำกัดมากมาย สุดท้ายนางก็ไม่ได้รับการอนุมัติให้ดำรงตำแหน่งนี้ แต่อย่างไรก็ดีเรื่องที่นางได้รับการเสนอชื่อไม่ใช่ความลับ ชาวเมืองเฉิงตูจึงเรียกนางอย่างยกย่องว่า ‘เลขาธิการหญิง’ นั่นเอง บทกวีของเซวียเทาที่ถูกยกมากล่าวในซีรีส์นี้บรรยายถึงสีสันสวยงามบนแดนสวรรค์ที่แต่งแต้มจนดอกไม้ดารดาษมีสีสันสวยงาม แต่ที่ Storyฯ คิดว่าน่าสนใจยิ่งกว่าบทกวีนี้คือสีแดงที่เกี่ยวข้องกับเซวียเทา ว่ากันว่านางชื่นชอบสีแดงมาก มักแต่งกายด้วยสีแดง และได้คิดค้นกระดาษสีแดงขึ้นไว้สำหรับเขียนบทกลอนของตัวเอง บทกลอนบนกระดาษแดงสีพิเศษที่เขียนและลงนามโดยเซวียเทาถือว่าเป็นของที่มีค่าอันทรงเกียรติมากในสมัยนั้น โดยมีบางแผ่นมีลายวาดดอกไม้ที่บางคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นฝีมือการวาดของเซวียเทาเอง ต่อมากระดาษดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายสำหรับชนชั้นมีการศึกษาในสมัยนั้นและกลายมาเป็นสินค้าที่นางผลิตขายยังชีพได้ในที่สุด เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์จีนว่ากระดาษเซวียเทา (薛涛笺 / เซวียเทาเจียน โดย ‘เจียน’ เป็นคำเรียกทั่วไปของกระดาษเขียนหนังสือ) Storyฯ เคยเขียนถึงวิธีการทำกระดาษจีนโบราณในบทความอื่น (ดูลิ้งค์ได้ที่ท้ายเรื่อง) ซึ่งมีกรรมวิธีการทำคล้ายกระดาษสา และกวีโบราณหลายท่านจะทำกระดาษของตัวเองไว้ใช้จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เซวียเทาก็เช่นกัน หลังจากที่นางถอนตนออกจากการเป็นนางคณิกาหลวงแล้วก็พำนักอยู่ในบริเวณห่วนฮวาซีที่เมืองเฉิงตูนี้ (คือสถานที่ล้างไหมของนางเอกในซีรีส์ที่ Storyฯ เขียนถึงเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว) ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นแหล่งผลิตกระดาษชื่อดังในสมัยราชวงศ์ถังอีกด้วย ว่ากันว่าเป็นเพราะคุณสมบัติของแหล่งน้ำแถวนี้เหมาะสมต่อการผสมเยื่อกระดาษ และกระดาษเซวียเทาถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากระดาษห่วนฮวา (浣花笺 / ห่วนฮวาเจียน) เซวียเทาใช้น้ำจากลำธารห่วนฮวาซี เยื่อไม้จากเปลือกต้นพุดตาน และสีที่คั้นจากกลีบดอกพุดตานทำกระดาษเซวียเทานี้ จากงานเขียนของท่านอื่นในสมัยนั้นมีการกล่าวว่าจริงๆ แล้วเนื้อกระดาษเซวียเทาไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่มันมีความโดดเด่นด้วยสีของกระดาษที่สวยงามไม่มีใครเทียม และบางครั้งยังมีเศษดอกไม้อัดติดมาในกระดาษด้วย แต่สีของกระดาษที่แท้จริงแล้วนั้นเป็นสีอะไรยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจวบจนปัจจุบัน บ้างว่าเป็นสีชมพูแดงของดอกท้อซึ่งเป็นสีโปรดของนาง บ้างอ้างอิงจากกระดาษจริงของผลงานบทกวีของเซวียเทาที่มีคนสะสมไว้ พบว่ามีร่วมสิบเฉดสีไล่ไปตั้งแต่ชมพูแดง ม่วง ชมพูอมส้ม ส้มเขียว ส้มเหลือง จนถึงเหลืองนวล เซวียเทาเป็นหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นความภาคภูมิใจของเมืองเฉิงตู มีรูปปั้นของนางตั้งอยู่ที่สวนวั่งเจียงโหลว เพื่อนเพจที่ไปเที่ยวเมืองเฉิงตูลองสังเกตดูนะคะ เผื่อว่าจะเห็นร่องรอยเกี่ยวกับเซวียเทาบ้าง ส่วนชุดที่สามในซีรีส์ นางเอกบอกไว้ว่าเป็นชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ (虞美人 / โฉมงามอวี๋) แต่ในซีรีส์ยังไม่ทันได้ท่องบทกวีนี้ก็เกิดเหตุการณ์อื่นขึ้นเสียก่อน บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ นี้มีวลีเด็ดที่หลายท่านอาจร้อง “อ๋อ” คือวลี ‘บุปผาวสันต์จันทราสารทฤดู’ Storyฯ เคยเขียนถึงบทกวีนี้เมื่อนานมาแล้วแต่ถูกลบไป เข้าใจว่าเป็นเพราะมันมีลิ้งค์ต้องห้าม เดี๋ยว Storyฯ จะแก้ไขและลงให้อ่านใหม่ในสัปดาห์หน้า ส่วนสีแดงที่เกี่ยวข้องก็คือสีแดงดอกป๊อปปี้ เพราะอวี๋เหม่ยเหรินคือชื่อเรียกของดอกป๊อปปี้ในภาษาจีนค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) ลิ้งค์บทความเกี่ยวกับกระดาษไป๋ลู่จากเรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/953057363489223 Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.agentm.tw/310261/ https://news.qq.com/rain/a/20200731A0U80V00 https://www.yeeyi.com/news/details/629504/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/李白/1043 https://baike.baidu.com/item/薛涛/2719 http://scdfz.sc.gov.cn/scyx/scrw/sclsmr/depsclsmr/xt/content_40259 https://baike.baidu.com/item/薛涛笺/5523904 https://www.sohu.com/a/538839040_355475 http://scdfz.sc.gov.cn/whzh/slzc1/content_105211# #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #เฉิงตู #สีแดงหงสู่ #บัณฑิตชิงเหลียน #เลขาธิการหญิง #โฉมงามอวี๋ #เซวียเทา #กระดาษจีนโบราณ #สาระจีน
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • 27-03-68/03 : หมี CNN / "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP2

    "เปิดแผนสวรรค์ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่มรึงเองยังไม่กล้าจะคิด?" หลายคนไม่เชื่อ หลายคนหมดศรัทธากับแผ่นดินนี้ แต่ช้าก่อน โปรดฟัง และคิดตามนี้ โลกยุคเก่านำโดยสหรัฐและฝูงเหี้ย ใช้ปชต.ตอแหลบังคับให้ชาติประเทศที่ 3 หรือด้อยพัฒนา ต้องปฎิบัติตามเพื่อคำว่า "สากล" มาดูปีนี้ พศ.นี้ 2025 ใครนำโลก ใครคือขั้วใหม่ รัสเซีย จีน เค้าเป็นปชต.เต็มรูปแบบมั้ยล่ะ? ตอบว่าไม่ ทุกอย่างรัสเซียใช้สภาดูม่าออกกฎหมายบังคับทั้งประเทศ จีนใช้พรรคคอมมิวนิสต์จีน ปกครองแผ่นดินมายาวนาน หลังปฎิวัติใหญ่สำเร็จ ดังนั้น รูปแบบการปกครองจึงต้องเปลี่ยนไปตามเจ้ามือโลกใหม่ไงล่ะ ถามว่า หากมรึงเป็นปชต.จ๋า จะเอาแต่โหวดอย่างเดียว เค้าก็ไม่ว่ามรึงดอก ตราบใดที่มรึงยังไม่ขัดแข้งขัดขาเค้า หรือรับใช้เป็นขี้ข้าเหี้ยขั้วเก่าไม่เลิก เค้าก็ไม่เอามรึงไงล่ะ เพราะวัตถุดิบโลก อาหารโลก พลังงานโลก อยู่ในมือขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ใครกล้างัดกันล่ะ ขนาดสหรัฐ และยุโรป ยังต้องกราบตรีน ดังนั้น ในอดีต สยามประเทศปกครองโดยกษัตริย์ จนมาถึงยุคปล้นพระราชอำนาจ พศ.2475 ครั้นไทยเราจะกลับไปใช้การปกครองเดิม ถามว่าเจ้ามือโลกใหม่จะมีปัญหามั้ย? ตอบว่าไม่ แถมเชิญให้ไว เข้าใจยัง? ทุกอย่างในโลก มันอยู่ที่เจ้ามือ ไอ้สัส! เมือไทยนำโด่ง เปลี่ยนการปกครอง กลับไปใช้ระบบกษัตริย์ ยุโรป และแอฟริกา อาจจะตามมาทันที เพราะเบื่อการเมืองบัดซบมาเต็มกลืนแล้ว ตอนนี้ ทราบหรือไม่ ยุโรปจะมีการนำระบบกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง หลัง EU แตกจ๊ะ เพราะอะไร เพราะเจ้ามือเก่ามันไม่อยู่แล้วไง เจ้ามือเก่าไม่มีเงินจ่ายแล้ว ปชต.อยู่ได้เพราะเงินจ๊ะ เมื่อ BRICS กลายเป็นศูนย์กลางโลก ใยต้องกังวลว่าจะต้องเป็นการปกครองแบบใดอีก เพราะทุกชาติถูกปลดแอกจากเหี้ยหมดแล้ว มรึงยังจะอยากเป็นทาสไปตลอดชีวิตรึไง ทุกชาติจะหันกลับมาใช้การปกครองที่เหมาะกับตัวเอง โดยมีรัสเซีย จีน ให้การสนับสนุน สิ่งที่มรึงมองไม่เห็นแต่กูมองเห็น เป็นเพราะ "เจ้ามือ" ไงล่ะ หัวนำ ใครก็ตาม หัวเหี้ย โลกก็เหี้ย หัวดี โลกก็สดใส ยิ่งการเมืองปาหี่บ้านเรา ยิ่งมีกระแสโหยหา "มอบพระราชอำนาจคืนให้พ่อท่าน" อย่าเอาอีกเลย ไอ้นักการเมืองหัวกวยเนี่ย? เอามาให้แดร๊กแผ่นดิน กินหัวคิวไม่เลิกเหรอ? ส่วนอีควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว จะเงิบแดร๊ก เมื่อคนทั้งแผ่นดิน ยกมือกราบไหว้ "ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน" มรึงจะกลายเป็นส่วนเกินของสังคมทันที ปชต.จะหายสาปสูญไปตลอดกาล ทุกอย่างอยู่ที่เจ้ามือจ๊ะ ไม่ได้เปลี่ยนเพราะอยากจะเปลี่ยน แต่เปลี่ยนเพราะเหี้ยมันตาย และเจ้ามือใหม่ ไม่ต้องการปชต.ตอแหล ชัดน่ะ? ที่มาว่าทำไม มรึงถึงยังไม่เชื่อในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ เพราะกูพูดในสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า อันมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงโลกนั่นเอง โลกนำ สยามตาม เข้าใจตรงกันน่ะ? ส่วนเรื่องผนวกดินแดนเพิ่ม กูไม่ได้พูดเล่น เอามันส์ เมื่อไทยเป็นฮับ อยากได้เงินบาทไทยที่แข็งโป๊กมั้ย ที่นิยมใช้กันทั้งอาเซียน ก็ย้ายเข้ามาอยู่ร่วมกัน เริ่มแรก อาจจะเป็นรัฐอิสระ ที่แยกตัวออกมาจากพม่า และบางส่วนจากอีขะแมร์ บางส่วนจากลาว แต่ต่อไป หากไทยรุ่งเรืองจนขีดสุด ใครล่ะ ไม่อยากจะเป็นเมืองใต้อาณัติที่มีอนาคตสดใสรออยู่ มันจะมาเอง มรึงไม่ต้องไปไล่ล่าอะไรทั้งนั้น ของมันดี ใครก็อยากจะเข้า BRICS นี่แหละ จะทำให้ไทยรวมแผ่นดินพ่อเดิม ยุคพ่อร.5 กลับมา เหมือนที่ปูตินจะได้อดีตโซเวียตเดิมกลับมา เหมือนที่สีจิ้นผิงจะได้ไต้หวันกลับมาอีกครั้ง ทุกอย่างมันมาทิศทางเดียวกันหมด อะไรที่เป็นของเรา มันก็คือของเราอยู่วันยันค่ำ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ 100 ปี ก็ตาม?

    หมี CNN(ความกังวลของมรึง มันอยู่ในอกพ่ออยู่หัว นับตั้งแต่รัชกาลที่ 3 มานานแล้ว พ่อสอนลูก ส่งไม้ต่อ แล้วเมื่อถึงเวลา ยุคศิวิไล ไทยเราจะได้ผนวกรวมแผ่นดินเดิมกลับคืนสู่ดินแดนสุวรรณภูมิอีกครั้ง วันนี้ มรึงยังไม่เชื่อ แต่อีกไม่นาน มรึงจะเริ่มเห็นแสงสีทองตามที่กูบอก ไม่มีผิด เพราะกูนั่งไทม์แมชชีนไปกับโดราเอมอน ไปดูมาแล้ว อะไรน่ะ โนบิตะได้แต่งงานกับชิซูกะหรือไม่ อ๋อ..เสร็จอีโดราเอม่อนจ๊ะ 555+)
    27 มีนาคม 68
    17.24 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    27-03-68/03 : หมี CNN / "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP2 "เปิดแผนสวรรค์ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่มรึงเองยังไม่กล้าจะคิด?" หลายคนไม่เชื่อ หลายคนหมดศรัทธากับแผ่นดินนี้ แต่ช้าก่อน โปรดฟัง และคิดตามนี้ โลกยุคเก่านำโดยสหรัฐและฝูงเหี้ย ใช้ปชต.ตอแหลบังคับให้ชาติประเทศที่ 3 หรือด้อยพัฒนา ต้องปฎิบัติตามเพื่อคำว่า "สากล" มาดูปีนี้ พศ.นี้ 2025 ใครนำโลก ใครคือขั้วใหม่ รัสเซีย จีน เค้าเป็นปชต.เต็มรูปแบบมั้ยล่ะ? ตอบว่าไม่ ทุกอย่างรัสเซียใช้สภาดูม่าออกกฎหมายบังคับทั้งประเทศ จีนใช้พรรคคอมมิวนิสต์จีน ปกครองแผ่นดินมายาวนาน หลังปฎิวัติใหญ่สำเร็จ ดังนั้น รูปแบบการปกครองจึงต้องเปลี่ยนไปตามเจ้ามือโลกใหม่ไงล่ะ ถามว่า หากมรึงเป็นปชต.จ๋า จะเอาแต่โหวดอย่างเดียว เค้าก็ไม่ว่ามรึงดอก ตราบใดที่มรึงยังไม่ขัดแข้งขัดขาเค้า หรือรับใช้เป็นขี้ข้าเหี้ยขั้วเก่าไม่เลิก เค้าก็ไม่เอามรึงไงล่ะ เพราะวัตถุดิบโลก อาหารโลก พลังงานโลก อยู่ในมือขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ใครกล้างัดกันล่ะ ขนาดสหรัฐ และยุโรป ยังต้องกราบตรีน ดังนั้น ในอดีต สยามประเทศปกครองโดยกษัตริย์ จนมาถึงยุคปล้นพระราชอำนาจ พศ.2475 ครั้นไทยเราจะกลับไปใช้การปกครองเดิม ถามว่าเจ้ามือโลกใหม่จะมีปัญหามั้ย? ตอบว่าไม่ แถมเชิญให้ไว เข้าใจยัง? ทุกอย่างในโลก มันอยู่ที่เจ้ามือ ไอ้สัส! เมือไทยนำโด่ง เปลี่ยนการปกครอง กลับไปใช้ระบบกษัตริย์ ยุโรป และแอฟริกา อาจจะตามมาทันที เพราะเบื่อการเมืองบัดซบมาเต็มกลืนแล้ว ตอนนี้ ทราบหรือไม่ ยุโรปจะมีการนำระบบกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง หลัง EU แตกจ๊ะ เพราะอะไร เพราะเจ้ามือเก่ามันไม่อยู่แล้วไง เจ้ามือเก่าไม่มีเงินจ่ายแล้ว ปชต.อยู่ได้เพราะเงินจ๊ะ เมื่อ BRICS กลายเป็นศูนย์กลางโลก ใยต้องกังวลว่าจะต้องเป็นการปกครองแบบใดอีก เพราะทุกชาติถูกปลดแอกจากเหี้ยหมดแล้ว มรึงยังจะอยากเป็นทาสไปตลอดชีวิตรึไง ทุกชาติจะหันกลับมาใช้การปกครองที่เหมาะกับตัวเอง โดยมีรัสเซีย จีน ให้การสนับสนุน สิ่งที่มรึงมองไม่เห็นแต่กูมองเห็น เป็นเพราะ "เจ้ามือ" ไงล่ะ หัวนำ ใครก็ตาม หัวเหี้ย โลกก็เหี้ย หัวดี โลกก็สดใส ยิ่งการเมืองปาหี่บ้านเรา ยิ่งมีกระแสโหยหา "มอบพระราชอำนาจคืนให้พ่อท่าน" อย่าเอาอีกเลย ไอ้นักการเมืองหัวกวยเนี่ย? เอามาให้แดร๊กแผ่นดิน กินหัวคิวไม่เลิกเหรอ? ส่วนอีควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว จะเงิบแดร๊ก เมื่อคนทั้งแผ่นดิน ยกมือกราบไหว้ "ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน" มรึงจะกลายเป็นส่วนเกินของสังคมทันที ปชต.จะหายสาปสูญไปตลอดกาล ทุกอย่างอยู่ที่เจ้ามือจ๊ะ ไม่ได้เปลี่ยนเพราะอยากจะเปลี่ยน แต่เปลี่ยนเพราะเหี้ยมันตาย และเจ้ามือใหม่ ไม่ต้องการปชต.ตอแหล ชัดน่ะ? ที่มาว่าทำไม มรึงถึงยังไม่เชื่อในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ เพราะกูพูดในสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า อันมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงโลกนั่นเอง โลกนำ สยามตาม เข้าใจตรงกันน่ะ? ส่วนเรื่องผนวกดินแดนเพิ่ม กูไม่ได้พูดเล่น เอามันส์ เมื่อไทยเป็นฮับ อยากได้เงินบาทไทยที่แข็งโป๊กมั้ย ที่นิยมใช้กันทั้งอาเซียน ก็ย้ายเข้ามาอยู่ร่วมกัน เริ่มแรก อาจจะเป็นรัฐอิสระ ที่แยกตัวออกมาจากพม่า และบางส่วนจากอีขะแมร์ บางส่วนจากลาว แต่ต่อไป หากไทยรุ่งเรืองจนขีดสุด ใครล่ะ ไม่อยากจะเป็นเมืองใต้อาณัติที่มีอนาคตสดใสรออยู่ มันจะมาเอง มรึงไม่ต้องไปไล่ล่าอะไรทั้งนั้น ของมันดี ใครก็อยากจะเข้า BRICS นี่แหละ จะทำให้ไทยรวมแผ่นดินพ่อเดิม ยุคพ่อร.5 กลับมา เหมือนที่ปูตินจะได้อดีตโซเวียตเดิมกลับมา เหมือนที่สีจิ้นผิงจะได้ไต้หวันกลับมาอีกครั้ง ทุกอย่างมันมาทิศทางเดียวกันหมด อะไรที่เป็นของเรา มันก็คือของเราอยู่วันยันค่ำ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ 100 ปี ก็ตาม? หมี CNN(ความกังวลของมรึง มันอยู่ในอกพ่ออยู่หัว นับตั้งแต่รัชกาลที่ 3 มานานแล้ว พ่อสอนลูก ส่งไม้ต่อ แล้วเมื่อถึงเวลา ยุคศิวิไล ไทยเราจะได้ผนวกรวมแผ่นดินเดิมกลับคืนสู่ดินแดนสุวรรณภูมิอีกครั้ง วันนี้ มรึงยังไม่เชื่อ แต่อีกไม่นาน มรึงจะเริ่มเห็นแสงสีทองตามที่กูบอก ไม่มีผิด เพราะกูนั่งไทม์แมชชีนไปกับโดราเอมอน ไปดูมาแล้ว อะไรน่ะ โนบิตะได้แต่งงานกับชิซูกะหรือไม่ อ๋อ..เสร็จอีโดราเอม่อนจ๊ะ 555+) 27 มีนาคม 68 17.24 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อว่ากองทัพรัสเซียจะจัดการกับกองกำลังยูเครนให้สิ้นซาก”
    -- ประธานาธิบดีปูตินกล่าวระหว่างการสนทนากับลูกเรือของเรือดำน้ำอาร์คันเกลสค์ (Arkhangelsk submarine)
    “เราจะค่อยๆดำเนินการไปทีละน้อย ไม่เร่งรีบอย่างที่หลายคนคาดหวัง เพราะเราต้องการเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงและมั่นใจ เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งหมดที่ประกาศไว้ในช่วงเริ่มต้นปฏิบัติการพิเศษทางทหารครั้งนี้ กองกำลังของเรามีแผนยุทธศาสตร์ตลอดทั้งแนวรบ ผมเพิ่งพูดไปเมื่อไม่นานนี้ว่า “เราจะจัดการกับพวกเขาให้สิ้นซาก” มันมีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อได้ว่าเราจะต้องจัดการกับพวกเขา และกองกำลังยูเครนจะต้องยอมรับถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น”

    นอกจากนี้ ยังมีคำพูดอื่นๆที่น่าสนใจของปูติน:
    👉 ปูตินเสนอให้หารือเรื่องการนำการปกครองชั่วคราวมาใช้ในยูเครนภายใต้การรับรองของสหประชาชาติและประเทศต่างๆ เพื่อจัดการเลือกตั้งที่นั่น
    👉 หากเซเลนสกีดำรงตำแหน่งโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เกิดจากการแต่งตั้งของเซเลนสกีก็เช่นกัน โดยรวมแล้วน่าจะทั้งหมด
    👉รัสเซียยังไม่รู้เลยว่า ควรลงนามอะไรกับใครในยูเครน
    👉"พวกนาซี" มีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน "เราจะคุยกับคนพวกนี้ได้อย่างไร" เช่นพวก “อาซอฟ” (Azov) (องค์กรก่อการร้ายที่ถูกห้ามในสหพันธรัฐรัสเซีย) และหน่วยชาตินิยมอื่นๆ กำลังมีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน
    👉รัสเซียพร้อมที่จะทำงานเพื่อยุติปัญหายูเครนกับยุโรป แต่ "พวกเขาพยายามจะมีอิทธิพลสั่งให้เราทำตาม" ซึ่งมันไม่ถูกต้อง
    👉กองทัพรัสเซียได้ปลดปล่อยดินแดนลูฮันสก์ (LPR) ไปแล้ว 99%
    👉รัสเซียต้องการความจริงใจโดยไม่มีอะไรแอบแฝงจากทรัมป์ในการยุติความขัดแย้งในยูเครน
    👉รัสเซียจะไม่ทำผิดพลาดอีกต่อไป ในเรื่องความไว้วางใจที่มากเกินไปกับพันธมิตร
    👉รัสเซียต้องการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี แต่มีเงื่อนไขว่าต้อง "กำจัดสาเหตุที่แท้จริง" ให้หมดไปด้วย
    👉รัสเซียของเราเป็นหนึ่งในสี่ของโลกในด้านเศรษฐกิจ รองจากจีน สหรัฐฯ และอินเดีย
    👉เศรษฐกิจและการเงินของรัสเซียอยู่ในสภาพที่มั่นคงและน่าพอใจ แม้ว่าเราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเม็ดเงินอยู่บ้าง
    👉อังกฤษ ชาติที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อรัสเซีย แต่เศรษฐกิจของพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 9-10 ของโลก และมีกองทัพที่ขนาดเล็กมาก
    “มีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อว่ากองทัพรัสเซียจะจัดการกับกองกำลังยูเครนให้สิ้นซาก” -- ประธานาธิบดีปูตินกล่าวระหว่างการสนทนากับลูกเรือของเรือดำน้ำอาร์คันเกลสค์ (Arkhangelsk submarine) “เราจะค่อยๆดำเนินการไปทีละน้อย ไม่เร่งรีบอย่างที่หลายคนคาดหวัง เพราะเราต้องการเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงและมั่นใจ เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งหมดที่ประกาศไว้ในช่วงเริ่มต้นปฏิบัติการพิเศษทางทหารครั้งนี้ กองกำลังของเรามีแผนยุทธศาสตร์ตลอดทั้งแนวรบ ผมเพิ่งพูดไปเมื่อไม่นานนี้ว่า “เราจะจัดการกับพวกเขาให้สิ้นซาก” มันมีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อได้ว่าเราจะต้องจัดการกับพวกเขา และกองกำลังยูเครนจะต้องยอมรับถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น” นอกจากนี้ ยังมีคำพูดอื่นๆที่น่าสนใจของปูติน: 👉 ปูตินเสนอให้หารือเรื่องการนำการปกครองชั่วคราวมาใช้ในยูเครนภายใต้การรับรองของสหประชาชาติและประเทศต่างๆ เพื่อจัดการเลือกตั้งที่นั่น 👉 หากเซเลนสกีดำรงตำแหน่งโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เกิดจากการแต่งตั้งของเซเลนสกีก็เช่นกัน โดยรวมแล้วน่าจะทั้งหมด 👉รัสเซียยังไม่รู้เลยว่า ควรลงนามอะไรกับใครในยูเครน 👉"พวกนาซี" มีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน "เราจะคุยกับคนพวกนี้ได้อย่างไร" เช่นพวก “อาซอฟ” (Azov) (องค์กรก่อการร้ายที่ถูกห้ามในสหพันธรัฐรัสเซีย) และหน่วยชาตินิยมอื่นๆ กำลังมีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน 👉รัสเซียพร้อมที่จะทำงานเพื่อยุติปัญหายูเครนกับยุโรป แต่ "พวกเขาพยายามจะมีอิทธิพลสั่งให้เราทำตาม" ซึ่งมันไม่ถูกต้อง 👉กองทัพรัสเซียได้ปลดปล่อยดินแดนลูฮันสก์ (LPR) ไปแล้ว 99% 👉รัสเซียต้องการความจริงใจโดยไม่มีอะไรแอบแฝงจากทรัมป์ในการยุติความขัดแย้งในยูเครน 👉รัสเซียจะไม่ทำผิดพลาดอีกต่อไป ในเรื่องความไว้วางใจที่มากเกินไปกับพันธมิตร 👉รัสเซียต้องการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี แต่มีเงื่อนไขว่าต้อง "กำจัดสาเหตุที่แท้จริง" ให้หมดไปด้วย 👉รัสเซียของเราเป็นหนึ่งในสี่ของโลกในด้านเศรษฐกิจ รองจากจีน สหรัฐฯ และอินเดีย 👉เศรษฐกิจและการเงินของรัสเซียอยู่ในสภาพที่มั่นคงและน่าพอใจ แม้ว่าเราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเม็ดเงินอยู่บ้าง 👉อังกฤษ ชาติที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อรัสเซีย แต่เศรษฐกิจของพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 9-10 ของโลก และมีกองทัพที่ขนาดเล็กมาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • วันที่ 27 มีนาคม เวลา 13.30 น. ตามเวลาเกาหลี ทนายความ พูจีซอก จากสำนักงานกฎหมาย Buyou ได้จัดแถลงข่าว ณ Space Share ใกล้สถานีคังนัม ย่านซอโชดง กรุงโซล ในนามของครอบครัวผู้ล่วงลับ คิมแซรน นักแสดงสาวที่จากไปก่อนวัยอันควร โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อขอความเห็นใจจากสังคม และชี้แจงข้อเท็จจริงที่ทำให้ครอบครัวต้องเผชิญกับความทุกข์อย่างแสนสาหัส

    “ช่วงหลังมานี้ มีการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของคิมแซรนอย่างไม่ยั้งคิดบนโลกออนไลน์แทบทุกวัน นำมาซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์และการคาดเดาอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจต่อครอบครัวของผู้ล่วงลับ” ทนายพูเปิดเผย

    เขาระบุว่าจุดประสงค์ของการแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อเปิดเผยสาเหตุการตัดสินใจจบชีวิตของคิมแซรน แต่เพื่อขอให้สังคมหยุดโจมตีครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมย้ำว่าทางครอบครัวไม่ต้องการยืดเยื้อหรือโต้แย้งเรื่องข้อเท็จจริงในสื่ออีกต่อไป

    ทนายพูยังเปิดเผยว่า ครอบครัวจำเป็นต้องเปิดเผยว่า คิมซูฮยอน นักแสดงหนุ่มชื่อดัง เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับคิมแซรนตั้งแต่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยเหตุที่จำต้องเปิดเผยเรื่องนี้ เนื่องจากครอบครัวกำลังเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายกับยูทูบเบอร์ อีจินโฮ ซึ่งเผยแพร่ข้อมูลเท็จและดูหมิ่นผู้ล่วงลับจนทำให้เธอทุกข์ทรมานทางจิตใจอย่างหนัก

    อย่างไรก็ตาม ฝ่ายคิมซูฮยอนกลับปฏิเสธว่าไม่เคยคบหากับคิมแซรน ก่อนที่จะมีหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ และถึงแม้จะมีหลักฐานดังกล่าวแล้ว เขาก็ยังไม่เคยออกมาขอโทษใดๆ และยืนกรานว่าเริ่มคบกันหลังคิมแซรนเป็นผู้ใหญ่แล้ว

    ทนายยังกล่าวหาร่วมว่าอีจินโฮและบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จงใจขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของคิมแซรน พร้อมใส่ความโดยไร้หลักฐานอย่างต่อเนื่อง

    ล่าสุดในงานแถลง ทนายพูได้เปิดเผยภาพข้อความแชต KakaoTalk ระหว่างคิมแซรนและคิมซูฮยอนลงวันที่ 24 มิถุนายน 2559 (ขณะคิมแซรนอายุเพียง 17 ปี) ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่เกินกว่าความเป็นพี่น้องหรือเพื่อนร่วมงาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000029159

    #MGROnline #คิมซูฮยอน #คิมแซรน #คิมแซรอน #KimSooHyun #KimSaeron
    วันที่ 27 มีนาคม เวลา 13.30 น. ตามเวลาเกาหลี ทนายความ พูจีซอก จากสำนักงานกฎหมาย Buyou ได้จัดแถลงข่าว ณ Space Share ใกล้สถานีคังนัม ย่านซอโชดง กรุงโซล ในนามของครอบครัวผู้ล่วงลับ คิมแซรน นักแสดงสาวที่จากไปก่อนวัยอันควร โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อขอความเห็นใจจากสังคม และชี้แจงข้อเท็จจริงที่ทำให้ครอบครัวต้องเผชิญกับความทุกข์อย่างแสนสาหัส • “ช่วงหลังมานี้ มีการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของคิมแซรนอย่างไม่ยั้งคิดบนโลกออนไลน์แทบทุกวัน นำมาซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์และการคาดเดาอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจต่อครอบครัวของผู้ล่วงลับ” ทนายพูเปิดเผย • เขาระบุว่าจุดประสงค์ของการแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อเปิดเผยสาเหตุการตัดสินใจจบชีวิตของคิมแซรน แต่เพื่อขอให้สังคมหยุดโจมตีครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมย้ำว่าทางครอบครัวไม่ต้องการยืดเยื้อหรือโต้แย้งเรื่องข้อเท็จจริงในสื่ออีกต่อไป • ทนายพูยังเปิดเผยว่า ครอบครัวจำเป็นต้องเปิดเผยว่า คิมซูฮยอน นักแสดงหนุ่มชื่อดัง เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับคิมแซรนตั้งแต่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยเหตุที่จำต้องเปิดเผยเรื่องนี้ เนื่องจากครอบครัวกำลังเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายกับยูทูบเบอร์ อีจินโฮ ซึ่งเผยแพร่ข้อมูลเท็จและดูหมิ่นผู้ล่วงลับจนทำให้เธอทุกข์ทรมานทางจิตใจอย่างหนัก • อย่างไรก็ตาม ฝ่ายคิมซูฮยอนกลับปฏิเสธว่าไม่เคยคบหากับคิมแซรน ก่อนที่จะมีหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ และถึงแม้จะมีหลักฐานดังกล่าวแล้ว เขาก็ยังไม่เคยออกมาขอโทษใดๆ และยืนกรานว่าเริ่มคบกันหลังคิมแซรนเป็นผู้ใหญ่แล้ว • ทนายยังกล่าวหาร่วมว่าอีจินโฮและบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จงใจขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของคิมแซรน พร้อมใส่ความโดยไร้หลักฐานอย่างต่อเนื่อง • ล่าสุดในงานแถลง ทนายพูได้เปิดเผยภาพข้อความแชต KakaoTalk ระหว่างคิมแซรนและคิมซูฮยอนลงวันที่ 24 มิถุนายน 2559 (ขณะคิมแซรนอายุเพียง 17 ปี) ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่เกินกว่าความเป็นพี่น้องหรือเพื่อนร่วมงาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000029159 • #MGROnline #คิมซูฮยอน #คิมแซรน #คิมแซรอน #KimSooHyun #KimSaeron
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • 48 ปี โศกนาฏกรรมกลางรันเวย์ “โบอิง 747” ชนกันที่เตเนริเฟ 🇪🇸✈️ สำเนียงสเปนพ่นพิษ นักบินสื่อสารผิดพลาด 583 ศพ บทเรียนราคาแพงจากท่าอากาศยาน ท่ามกลางหมอกหนา ความเครียด และสำเนียงที่ฟังยาก

    🌫️ โศกนาฏกรรมแห่งเตเนริเฟ 🔥 ย้อนไปเมื่อ 48 ปี ที่ผ่านมา ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 เป็นวันที่โลกต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การบิน เมื่อเครื่องบินโดยสารขนาดยักษ์ โบอิง 747 ของสายการบิน KLM และ Pan Am ชนกันกลางรันเวย์ที่สนามบินโลสโรเดโอส ปัจจุบันคือท่าอากาศยานเตเนริเฟนอร์เต เกาะเตเนริเฟ ประเทศสเปน

    ผลที่ตามมาคือ ผู้เสียชีวิต 583 ราย และบาดเจ็บ 61 คน เป็นอุบัติเหตุทางอากาศ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีขัดข้อง หากแต่เป็นผลพวงจากปัจจัยมนุษย์ (Human Error) และการสื่อสารที่ผิดพลาด ท่ามกลางความกดดัน

    ✈️💥 บริบทก่อนเกิดเหตุ ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 "สนามบินกรันกานาเรีย" ซึ่งเป็นสนามบินหลักของหมู่เกาะคานารี ถูกขู่วางระเบิด ทำให้ต้องปิดการใช้งานชั่วคราว ✋🔴

    เครื่องบินหลายลำ รวมถึงเที่ยวบิน KLM 4805 และ Pan Am 1736 จำเป็นต้องลงจอดที่สนามบินสำรองอย่าง “โลสโรเดโอส” ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็ก ที่ไม่มีความพร้อมรองรับ เครื่องบินลำใหญ่จำนวนมาก

    🕰️ จุดเริ่มต้นของหายนะ 🧨
    - KLM 4805 เดินทางจากอัมสเตอร์ดัม พร้อมผู้โดยสาร 234 คน และลูกเรือ 14 คน
    - Pan Am 1736:เดินทางจากลอสแอนเจลิส แวะนิวยอร์ก มุ่งหน้ากรุงมาดริด พร้อมผู้โดยสาร 380 คน และลูกเรือ 16 คน

    หลังจากเครื่องบินหลายลำลงจอด และจอดเรียงรายกันในพื้นที่จำกัด เจ้าหน้าที่ต้องบริหารพื้นที่ อย่างเร่งด่วน ก่อให้เกิดความเครียด ทั้งในหอบังคับการบินและลูกเรือ

    🚧 จุดเปลี่ยนสำคัญคือ กัปตันของ KLM ตัดสินใจเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อเลี่ยงเติมที่สนามบินปลายทางเ พราะราคาถูกกว่า ทำให้ต้องจอดนานกว่าเดิม และขัดขวางการเคลื่อนตัวของ Pan Am

    ☁️ หมอกและความสับสน ภัยเงียบแห่งรันเวย์ 🗣️ เมื่อสนามบินกรันกานาเรียเปิดใช้งานอีกครั้ง การจราจรทางอากาศในโลสโรเดโอส วุ่นวายทันที

    📻 หอบังคับการบิน ต้องจัดการเครื่องบินหลายลำ แต่ขาดเรดาร์ภาคพื้นดิน ทำให้พวกเขามองไม่เห็นตำแหน่งเครื่องบิน ต้องอาศัยการสื่อสารวิทยุแทน

    ✋ จุดวิกฤตเกิดขึ้นเมื่อ KLM เข้าใจผิดว่า สามารถนำเครื่องขึ้นได้ทันที ขณะที่ Pan Am ยังอยู่บนรันเวย์เดียวกัน!

    สำเนียงสเปน กับความคลุมเครือของคำว่า “Takeoff” 😓📡

    📌 ขณะที่ KLM กำลังเตรียมนำเครื่องขึ้น นักบินผู้ช่วยพูดว่า

    “We are now at takeoff.”

    ซึ่งไม่ใช่ประโยคขออนุญาตขึ้นบินโดยตรง แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจคลุมเครือ หอบังคับการบินตอบกลับว่า

    “OK, stand by for takeoff, I will call you.”

    แต่...❗เสียงตอบกลับนั้น ถูกกลืนหายไปกับคลื่นรบกวน ทำให้นักบิน KLM ไม่ได้ยินคำสั่งเต็ม ๆ

    🔥 การชนที่ไม่ควรเกิดขึ้น 💔 KLM เร่งนำเครื่องขึ้น โดยเข้าใจว่าได้รับอนุญาต ขณะที่ Pan Am กำลังเคลื่อนผ่านทางแยก วิ่งบนรันเวย์เดียวกัน หมอกหนาทำให้มองไม่เห็น

    ผลลัพธ์คือ ❌

    ✈️ เครื่องบิน KLM ชนเข้ากลางลำ Pan Am อย่างรุนแรง

    💥 ไฟลุกท่วมเครื่องบินทั้งสองลำในทันที

    - เสียชีวิตจาก KLM 248 ศพ (รอด = 0)
    - เสียชีวิตจาก Pan Am 335 ศพ (รอด = 61 คน)

    😢 บทวิเคราะห์: สาเหตุแห่งหายนะ 🔍
    ปัจจัยมนุษย์ (Human Error)
    - ความเครียดของกัปตัน KLM ที่ต้องรับแรงกดดัน จากบริษัทห้ามดีเลย์ 🕒
    - ขาดการสื่อสารชัดเจน ระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน 📻
    - สำเนียงสเปน ทำให้สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ชัดเจน 🗣️

    ปัจจัยสิ่งแวดล้อม
    - สนามบินโลสโรเดโอส ไม่มีเรดาร์พื้นดิน ❌
    - หมอกลงจัด มองไม่เห็นปลายรันเวย์ 🌫️
    - พื้นที่สนามบิน ไม่พร้อมรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่หลายลำ 🚫

    📚🛫 หลังเหตุการณ์นี้ อุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ได้ปรับปรุงมาตรการอย่างจริงจัง
    ✅ การสื่อสารต้องใช้ภาษามาตรฐาน และชัดเจนมากขึ้น (Standard Phraseology)
    ✅ ห้ามนักบินตีความเอง โดยไม่มีการอนุญาตชัดเจน
    ✅ มีการพัฒนา Cockpit Resource Management (CRM) เพื่อเน้นการทำงานเป็นทีมระหว่างลูกเรือ
    ✅ ระบบเรดาร์พื้นดิน (Ground Radar) ถูกติดตั้งในสนามบินใหญ่ ๆ ทั่วโลก

    😨 เหตุการณ์ที่เกือบซ้ำรอยในปี 2542 🛬
    เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ที่สนามบินโอแฮร์ สหรัฐอเมริกา ✈️
    - Korean Air เที่ยวบิน 36 Boeing 747 พร้อมผู้โดยสาร 340 คน
    - China Airlines เที่ยวบิน 9018 Boeing 747 เช่นกัน

    เกือบชนกันกลางรันเวย์ เนื่องจากความเข้าใจผิด ในการจราจรทางอากาศ แต่โชคดีที่หลีกเลี่ยงได้ทันโดยเครื่องบินอยู่ห่างกันเพียง 75 ฟุตเท่านั้น 😱

    🕯️ 583 ชีวิต กับบทเรียนที่ไม่มีวันลืม ✈️ “โศกนาฏกรรมเตเนริเฟ” เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ ที่สอนเราให้ระมัดระวังในการสื่อสาร การจัดการความเสี่ยง และให้ความสำคัญ กับมาตรฐานความปลอดภัยการบิน ✈️🧠

    แม้เวลาจะผ่านไป 48 ปี... แต่ความสูญเสีย และบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ยังคงส่องแสงเป็นคำเตือน ถึงทุกคนในวงการการบินเสมอ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 271250 มี.ค. 2568

    📲 #TenerifeDisaster #Boeing747 #PlaneCrashHistory #AirlineSafety #KLM4805 #PanAm1736 #AirCrashInvestigation #อุบัติเหตุทางการบิน #โบอิง747ชนกัน #บทเรียนการบิน
    48 ปี โศกนาฏกรรมกลางรันเวย์ “โบอิง 747” ชนกันที่เตเนริเฟ 🇪🇸✈️ สำเนียงสเปนพ่นพิษ นักบินสื่อสารผิดพลาด 583 ศพ บทเรียนราคาแพงจากท่าอากาศยาน ท่ามกลางหมอกหนา ความเครียด และสำเนียงที่ฟังยาก 🌫️ โศกนาฏกรรมแห่งเตเนริเฟ 🔥 ย้อนไปเมื่อ 48 ปี ที่ผ่านมา ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 เป็นวันที่โลกต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การบิน เมื่อเครื่องบินโดยสารขนาดยักษ์ โบอิง 747 ของสายการบิน KLM และ Pan Am ชนกันกลางรันเวย์ที่สนามบินโลสโรเดโอส ปัจจุบันคือท่าอากาศยานเตเนริเฟนอร์เต เกาะเตเนริเฟ ประเทศสเปน ผลที่ตามมาคือ ผู้เสียชีวิต 583 ราย และบาดเจ็บ 61 คน เป็นอุบัติเหตุทางอากาศ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีขัดข้อง หากแต่เป็นผลพวงจากปัจจัยมนุษย์ (Human Error) และการสื่อสารที่ผิดพลาด ท่ามกลางความกดดัน ✈️💥 บริบทก่อนเกิดเหตุ ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 "สนามบินกรันกานาเรีย" ซึ่งเป็นสนามบินหลักของหมู่เกาะคานารี ถูกขู่วางระเบิด ทำให้ต้องปิดการใช้งานชั่วคราว ✋🔴 เครื่องบินหลายลำ รวมถึงเที่ยวบิน KLM 4805 และ Pan Am 1736 จำเป็นต้องลงจอดที่สนามบินสำรองอย่าง “โลสโรเดโอส” ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็ก ที่ไม่มีความพร้อมรองรับ เครื่องบินลำใหญ่จำนวนมาก 🕰️ จุดเริ่มต้นของหายนะ 🧨 - KLM 4805 เดินทางจากอัมสเตอร์ดัม พร้อมผู้โดยสาร 234 คน และลูกเรือ 14 คน - Pan Am 1736:เดินทางจากลอสแอนเจลิส แวะนิวยอร์ก มุ่งหน้ากรุงมาดริด พร้อมผู้โดยสาร 380 คน และลูกเรือ 16 คน หลังจากเครื่องบินหลายลำลงจอด และจอดเรียงรายกันในพื้นที่จำกัด เจ้าหน้าที่ต้องบริหารพื้นที่ อย่างเร่งด่วน ก่อให้เกิดความเครียด ทั้งในหอบังคับการบินและลูกเรือ 🚧 จุดเปลี่ยนสำคัญคือ กัปตันของ KLM ตัดสินใจเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อเลี่ยงเติมที่สนามบินปลายทางเ พราะราคาถูกกว่า ทำให้ต้องจอดนานกว่าเดิม และขัดขวางการเคลื่อนตัวของ Pan Am ☁️ หมอกและความสับสน ภัยเงียบแห่งรันเวย์ 🗣️ เมื่อสนามบินกรันกานาเรียเปิดใช้งานอีกครั้ง การจราจรทางอากาศในโลสโรเดโอส วุ่นวายทันที 📻 หอบังคับการบิน ต้องจัดการเครื่องบินหลายลำ แต่ขาดเรดาร์ภาคพื้นดิน ทำให้พวกเขามองไม่เห็นตำแหน่งเครื่องบิน ต้องอาศัยการสื่อสารวิทยุแทน ✋ จุดวิกฤตเกิดขึ้นเมื่อ KLM เข้าใจผิดว่า สามารถนำเครื่องขึ้นได้ทันที ขณะที่ Pan Am ยังอยู่บนรันเวย์เดียวกัน! สำเนียงสเปน กับความคลุมเครือของคำว่า “Takeoff” 😓📡 📌 ขณะที่ KLM กำลังเตรียมนำเครื่องขึ้น นักบินผู้ช่วยพูดว่า “We are now at takeoff.” ซึ่งไม่ใช่ประโยคขออนุญาตขึ้นบินโดยตรง แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจคลุมเครือ หอบังคับการบินตอบกลับว่า “OK, stand by for takeoff, I will call you.” แต่...❗เสียงตอบกลับนั้น ถูกกลืนหายไปกับคลื่นรบกวน ทำให้นักบิน KLM ไม่ได้ยินคำสั่งเต็ม ๆ 🔥 การชนที่ไม่ควรเกิดขึ้น 💔 KLM เร่งนำเครื่องขึ้น โดยเข้าใจว่าได้รับอนุญาต ขณะที่ Pan Am กำลังเคลื่อนผ่านทางแยก วิ่งบนรันเวย์เดียวกัน หมอกหนาทำให้มองไม่เห็น ผลลัพธ์คือ ❌ ✈️ เครื่องบิน KLM ชนเข้ากลางลำ Pan Am อย่างรุนแรง 💥 ไฟลุกท่วมเครื่องบินทั้งสองลำในทันที - เสียชีวิตจาก KLM 248 ศพ (รอด = 0) - เสียชีวิตจาก Pan Am 335 ศพ (รอด = 61 คน) 😢 บทวิเคราะห์: สาเหตุแห่งหายนะ 🔍 ปัจจัยมนุษย์ (Human Error) - ความเครียดของกัปตัน KLM ที่ต้องรับแรงกดดัน จากบริษัทห้ามดีเลย์ 🕒 - ขาดการสื่อสารชัดเจน ระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน 📻 - สำเนียงสเปน ทำให้สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ชัดเจน 🗣️ ปัจจัยสิ่งแวดล้อม - สนามบินโลสโรเดโอส ไม่มีเรดาร์พื้นดิน ❌ - หมอกลงจัด มองไม่เห็นปลายรันเวย์ 🌫️ - พื้นที่สนามบิน ไม่พร้อมรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่หลายลำ 🚫 📚🛫 หลังเหตุการณ์นี้ อุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ได้ปรับปรุงมาตรการอย่างจริงจัง ✅ การสื่อสารต้องใช้ภาษามาตรฐาน และชัดเจนมากขึ้น (Standard Phraseology) ✅ ห้ามนักบินตีความเอง โดยไม่มีการอนุญาตชัดเจน ✅ มีการพัฒนา Cockpit Resource Management (CRM) เพื่อเน้นการทำงานเป็นทีมระหว่างลูกเรือ ✅ ระบบเรดาร์พื้นดิน (Ground Radar) ถูกติดตั้งในสนามบินใหญ่ ๆ ทั่วโลก 😨 เหตุการณ์ที่เกือบซ้ำรอยในปี 2542 🛬 เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ที่สนามบินโอแฮร์ สหรัฐอเมริกา ✈️ - Korean Air เที่ยวบิน 36 Boeing 747 พร้อมผู้โดยสาร 340 คน - China Airlines เที่ยวบิน 9018 Boeing 747 เช่นกัน เกือบชนกันกลางรันเวย์ เนื่องจากความเข้าใจผิด ในการจราจรทางอากาศ แต่โชคดีที่หลีกเลี่ยงได้ทันโดยเครื่องบินอยู่ห่างกันเพียง 75 ฟุตเท่านั้น 😱 🕯️ 583 ชีวิต กับบทเรียนที่ไม่มีวันลืม ✈️ “โศกนาฏกรรมเตเนริเฟ” เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ ที่สอนเราให้ระมัดระวังในการสื่อสาร การจัดการความเสี่ยง และให้ความสำคัญ กับมาตรฐานความปลอดภัยการบิน ✈️🧠 แม้เวลาจะผ่านไป 48 ปี... แต่ความสูญเสีย และบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ยังคงส่องแสงเป็นคำเตือน ถึงทุกคนในวงการการบินเสมอ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 271250 มี.ค. 2568 📲 #TenerifeDisaster #Boeing747 #PlaneCrashHistory #AirlineSafety #KLM4805 #PanAm1736 #AirCrashInvestigation #อุบัติเหตุทางการบิน #โบอิง747ชนกัน #บทเรียนการบิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้รายงานการสำรวจที่จัดขึ้นโดย Western Digital เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการสำรองข้อมูลของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล พบว่ากว่า 87% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะด้วยวิธีอัตโนมัติหรือด้วยตนเอง สาเหตุหลักที่กระตุ้นให้ผู้คนสำรองข้อมูลคือความกังวลเรื่องการสูญเสียไฟล์สำคัญ การต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่ม และการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ อย่างไรก็ตาม 63% ของผู้ตอบยังคงประสบปัญหาการสูญเสียข้อมูลจากอุบัติเหตุ เช่น การลบไฟล์โดยไม่ตั้งใจ หรือการโจมตีทางไซเบอร์

    เรื่องราวที่เน้นความสำคัญของการสำรองข้อมูล:
    - ในการผลิตภาพยนตร์เรื่อง Toy Story 2 มีการลบไฟล์แอนิเมชันส่วนใหญ่โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งถึงแม้จะมีการสำรองข้อมูลไว้ แต่ไฟล์เหล่านั้นบางส่วนก็เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ทีมงานสามารถกู้คืนไฟล์และสร้างภาพยนตร์ได้สำเร็จ.
    - อีกกรณีหนึ่งคือเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ศูนย์ข้อมูลของ OVHcloud ในปี 2021 ทำให้หลายเว็บไซต์และบริการสูญเสียข้อมูลสำคัญ ผู้ที่ใช้บริการสำรองข้อมูลเพิ่มเติมสามารถกู้คืนข้อมูลได้ แต่ผู้ที่พึ่งพาเพียงการจัดเก็บในศูนย์ข้อมูลสูญเสียข้อมูลไปอย่างถาวร.

    การสำรองข้อมูลในยุคใหม่:
    - แนวคิด 3-2-1 Backup Strategy ถูกแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งหมายถึงการเก็บข้อมูล 3 ชุดบนสื่อ 2 ประเภท และ 1 ชุดนอกสถานที่.
    - การสำรองข้อมูลแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างคลาวด์และอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอกกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่จัดเก็บฟรีในคลาวด์.

    https://www.techspot.com/news/107304-surprisingly-87-people-back-up-their-data-but.html
    ข่าวนี้รายงานการสำรวจที่จัดขึ้นโดย Western Digital เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการสำรองข้อมูลของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล พบว่ากว่า 87% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะด้วยวิธีอัตโนมัติหรือด้วยตนเอง สาเหตุหลักที่กระตุ้นให้ผู้คนสำรองข้อมูลคือความกังวลเรื่องการสูญเสียไฟล์สำคัญ การต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่ม และการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ อย่างไรก็ตาม 63% ของผู้ตอบยังคงประสบปัญหาการสูญเสียข้อมูลจากอุบัติเหตุ เช่น การลบไฟล์โดยไม่ตั้งใจ หรือการโจมตีทางไซเบอร์ เรื่องราวที่เน้นความสำคัญของการสำรองข้อมูล: - ในการผลิตภาพยนตร์เรื่อง Toy Story 2 มีการลบไฟล์แอนิเมชันส่วนใหญ่โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งถึงแม้จะมีการสำรองข้อมูลไว้ แต่ไฟล์เหล่านั้นบางส่วนก็เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ทีมงานสามารถกู้คืนไฟล์และสร้างภาพยนตร์ได้สำเร็จ. - อีกกรณีหนึ่งคือเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ศูนย์ข้อมูลของ OVHcloud ในปี 2021 ทำให้หลายเว็บไซต์และบริการสูญเสียข้อมูลสำคัญ ผู้ที่ใช้บริการสำรองข้อมูลเพิ่มเติมสามารถกู้คืนข้อมูลได้ แต่ผู้ที่พึ่งพาเพียงการจัดเก็บในศูนย์ข้อมูลสูญเสียข้อมูลไปอย่างถาวร. การสำรองข้อมูลในยุคใหม่: - แนวคิด 3-2-1 Backup Strategy ถูกแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งหมายถึงการเก็บข้อมูล 3 ชุดบนสื่อ 2 ประเภท และ 1 ชุดนอกสถานที่. - การสำรองข้อมูลแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างคลาวด์และอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอกกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่จัดเก็บฟรีในคลาวด์. https://www.techspot.com/news/107304-surprisingly-87-people-back-up-their-data-but.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Surprisingly, 87% of people back up their data, but data loss accidents persist
    Despite these efforts, data loss remains widespread: 63 percent of respondents reported losing data due to device failures, accidental deletions, or cyberattacks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสำรวจพบว่าความไม่ยืดหยุ่นในนโยบายการทำงานเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พนักงานเทคลาออกเป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมา การจัดการที่ยืดหยุ่นไม่เพียงช่วยลดความเครียด แต่ยังสร้างความไว้วางใจและความผูกพันในที่ทำงาน บริษัทที่ไม่ปรับตัวอาจเสียพนักงานเก่ง ๆ ไป ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมนี้ยังคงเป็นหนึ่งในตลาดที่มีค่าตอบแทนสูงสุด

    ผลกระทบของนโยบาย:
    - พนักงานที่ทำงานแบบรีโมทจำนวนมากกล่าวว่าการจัดการเวลาที่ยืดหยุ่นเพิ่มความรู้สึก "เป็นส่วนหนึ่งของทีม" และ 68% เชื่อว่าความยืดหยุ่นช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างพนักงานและบริษัทได้มากขึ้น.

    ปัญหาความเหนื่อยล้าในอุตสาหกรรม:
    - มากกว่า 73% ของพนักงานไอทีรู้สึกเครียดหรือหมดไฟจากความกดดัน เช่น งานที่หนักเกินไป กำหนดเวลาที่แน่น และทรัพยากรที่ไม่เพียงพอ.

    ความสำคัญของความยืดหยุ่น:
    - Graig Paglieri ซีอีโอของ Randstad ชี้ว่าบริษัทที่เสนอสิทธิประโยชน์ส่วนบุคคลและการทำงานแบบยืดหยุ่นไม่เพียงช่วยดึงดูดแต่ยังรักษาพนักงานในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อีกด้วย.

    ผลตอบแทนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี:
    - แม้จะเผชิญปัญหา แต่เทคโนโลยียังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ให้ค่าตอบแทนสูงสุด โดยมีพนักงานจำนวนมากที่ได้รับเงินเดือนสูง

    https://www.techradar.com/pro/inflexible-work-policies-are-pushing-tech-workers-to-quit
    การสำรวจพบว่าความไม่ยืดหยุ่นในนโยบายการทำงานเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พนักงานเทคลาออกเป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมา การจัดการที่ยืดหยุ่นไม่เพียงช่วยลดความเครียด แต่ยังสร้างความไว้วางใจและความผูกพันในที่ทำงาน บริษัทที่ไม่ปรับตัวอาจเสียพนักงานเก่ง ๆ ไป ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมนี้ยังคงเป็นหนึ่งในตลาดที่มีค่าตอบแทนสูงสุด ผลกระทบของนโยบาย: - พนักงานที่ทำงานแบบรีโมทจำนวนมากกล่าวว่าการจัดการเวลาที่ยืดหยุ่นเพิ่มความรู้สึก "เป็นส่วนหนึ่งของทีม" และ 68% เชื่อว่าความยืดหยุ่นช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างพนักงานและบริษัทได้มากขึ้น. ปัญหาความเหนื่อยล้าในอุตสาหกรรม: - มากกว่า 73% ของพนักงานไอทีรู้สึกเครียดหรือหมดไฟจากความกดดัน เช่น งานที่หนักเกินไป กำหนดเวลาที่แน่น และทรัพยากรที่ไม่เพียงพอ. ความสำคัญของความยืดหยุ่น: - Graig Paglieri ซีอีโอของ Randstad ชี้ว่าบริษัทที่เสนอสิทธิประโยชน์ส่วนบุคคลและการทำงานแบบยืดหยุ่นไม่เพียงช่วยดึงดูดแต่ยังรักษาพนักงานในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อีกด้วย. ผลตอบแทนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: - แม้จะเผชิญปัญหา แต่เทคโนโลยียังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ให้ค่าตอบแทนสูงสุด โดยมีพนักงานจำนวนมากที่ได้รับเงินเดือนสูง https://www.techradar.com/pro/inflexible-work-policies-are-pushing-tech-workers-to-quit
    WWW.TECHRADAR.COM
    Inflexible work policies are pushing tech workers to quit
    2 in 5 workers quit in the last year due to workplace policies
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts