วิกฤติช่องโหว่ FortiGate SSO ถูกโจมตีจริง
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2025 มีรายงานว่าแฮกเกอร์เริ่มใช้ช่องโหว่ CVE-2025-59718 และ CVE-2025-59719 ซึ่งมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.1–9.8 เพื่อเจาะระบบ FortiGate และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Fortinet ผ่านการปลอมแปลงข้อความ SAML ทำให้สามารถเข้าสู่ระบบในสิทธิ์ผู้ดูแลได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่านใด ๆ การโจมตีนี้ถูกยืนยันว่าเกิดขึ้นจริงและมีการขโมยการตั้งค่าระบบออกไป ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลบัญชี VPN และผู้ใช้ภายในองค์กร
สาเหตุและความเสี่ยงที่แท้จริง
แม้ Fortinet ระบุว่า FortiCloud SSO ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น แต่เมื่อผู้ดูแลลงทะเบียนอุปกรณ์ผ่าน FortiCare ฟีเจอร์นี้จะถูกเปิดโดยอัตโนมัติหากไม่ได้ปิดสวิตช์ “Allow administrative login using FortiCloud SSO” ทำให้หลายองค์กรไม่รู้ตัวว่ากำลังเปิดช่องโหว่ไว้โดยตรง การโจมตีที่พบมีรูปแบบชัดเจนคือเจาะเข้าบัญชี admin แล้วดึงการตั้งค่าผ่าน GUI ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี
การแก้ไขและแพตช์ล่าสุด
Fortinet ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน เช่น FortiOS 7.6.4, 7.4.9, 7.2.12 และ 7.0.18 รวมถึง FortiProxy, FortiWeb และ FortiSwitchManager รุ่นใหม่ ผู้ดูแลระบบที่ไม่สามารถอัปเดตได้ทันทีสามารถใช้วิธีแก้ไขชั่วคราวโดยปิดการใช้งาน FortiCloud SSO ผ่าน CLI หรือ GUI เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม
มุมมองจากวงการไซเบอร์
นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า ช่องโหว่ลักษณะนี้เป็นตัวอย่างของการที่ “ฟีเจอร์สะดวก” กลายเป็น “ประตูหลัง” ให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยตรง หากองค์กรไม่ตรวจสอบการตั้งค่าอย่างละเอียด การโจมตีที่เกิดขึ้นยังสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการใช้ MFA (Multi-Factor Authentication) และการตรวจสอบ log อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ผิดปกติ
สรุปประเด็นสำคัญ
ช่องโหว่ที่ถูกโจมตี
CVE-2025-59718 และ CVE-2025-59719 มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.1–9.8
ใช้การปลอมแปลง SAML เพื่อข้ามการยืนยันตัวตน SSO
สาเหตุที่ฟีเจอร์เสี่ยง
FortiCloud SSO ถูกเปิดอัตโนมัติเมื่อสมัคร FortiCare หากไม่ปิดสวิตช์
ทำให้ผู้ดูแลหลายคนไม่รู้ว่ากำลังเปิดช่องโหว่ไว้
การแก้ไขและแพตช์
อัปเดตเป็น FortiOS 7.6.4, 7.4.9, 7.2.12, 7.0.18
ปิด FortiCloud SSO ผ่าน CLI หากยังไม่สามารถอัปเดตได้
คำเตือนด้านความปลอดภัย
การตั้งค่า firewall ที่ถูกขโมยอาจมีข้อมูลบัญชี VPN และผู้ใช้ภายใน
หากไม่อัปเดตหรือปิดฟีเจอร์ทันที อาจถูกยึดสิทธิ์ผู้ดูแลและควบคุมระบบทั้งหมด
https://securityonline.info/critical-fortigate-sso-flaw-under-active-exploitation-attackers-bypass-auth-and-exfiltrate-configs/
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2025 มีรายงานว่าแฮกเกอร์เริ่มใช้ช่องโหว่ CVE-2025-59718 และ CVE-2025-59719 ซึ่งมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.1–9.8 เพื่อเจาะระบบ FortiGate และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Fortinet ผ่านการปลอมแปลงข้อความ SAML ทำให้สามารถเข้าสู่ระบบในสิทธิ์ผู้ดูแลได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่านใด ๆ การโจมตีนี้ถูกยืนยันว่าเกิดขึ้นจริงและมีการขโมยการตั้งค่าระบบออกไป ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลบัญชี VPN และผู้ใช้ภายในองค์กร
สาเหตุและความเสี่ยงที่แท้จริง
แม้ Fortinet ระบุว่า FortiCloud SSO ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น แต่เมื่อผู้ดูแลลงทะเบียนอุปกรณ์ผ่าน FortiCare ฟีเจอร์นี้จะถูกเปิดโดยอัตโนมัติหากไม่ได้ปิดสวิตช์ “Allow administrative login using FortiCloud SSO” ทำให้หลายองค์กรไม่รู้ตัวว่ากำลังเปิดช่องโหว่ไว้โดยตรง การโจมตีที่พบมีรูปแบบชัดเจนคือเจาะเข้าบัญชี admin แล้วดึงการตั้งค่าผ่าน GUI ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี
การแก้ไขและแพตช์ล่าสุด
Fortinet ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน เช่น FortiOS 7.6.4, 7.4.9, 7.2.12 และ 7.0.18 รวมถึง FortiProxy, FortiWeb และ FortiSwitchManager รุ่นใหม่ ผู้ดูแลระบบที่ไม่สามารถอัปเดตได้ทันทีสามารถใช้วิธีแก้ไขชั่วคราวโดยปิดการใช้งาน FortiCloud SSO ผ่าน CLI หรือ GUI เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม
มุมมองจากวงการไซเบอร์
นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า ช่องโหว่ลักษณะนี้เป็นตัวอย่างของการที่ “ฟีเจอร์สะดวก” กลายเป็น “ประตูหลัง” ให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยตรง หากองค์กรไม่ตรวจสอบการตั้งค่าอย่างละเอียด การโจมตีที่เกิดขึ้นยังสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการใช้ MFA (Multi-Factor Authentication) และการตรวจสอบ log อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ผิดปกติ
สรุปประเด็นสำคัญ
ช่องโหว่ที่ถูกโจมตี
CVE-2025-59718 และ CVE-2025-59719 มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.1–9.8
ใช้การปลอมแปลง SAML เพื่อข้ามการยืนยันตัวตน SSO
สาเหตุที่ฟีเจอร์เสี่ยง
FortiCloud SSO ถูกเปิดอัตโนมัติเมื่อสมัคร FortiCare หากไม่ปิดสวิตช์
ทำให้ผู้ดูแลหลายคนไม่รู้ว่ากำลังเปิดช่องโหว่ไว้
การแก้ไขและแพตช์
อัปเดตเป็น FortiOS 7.6.4, 7.4.9, 7.2.12, 7.0.18
ปิด FortiCloud SSO ผ่าน CLI หากยังไม่สามารถอัปเดตได้
คำเตือนด้านความปลอดภัย
การตั้งค่า firewall ที่ถูกขโมยอาจมีข้อมูลบัญชี VPN และผู้ใช้ภายใน
หากไม่อัปเดตหรือปิดฟีเจอร์ทันที อาจถูกยึดสิทธิ์ผู้ดูแลและควบคุมระบบทั้งหมด
https://securityonline.info/critical-fortigate-sso-flaw-under-active-exploitation-attackers-bypass-auth-and-exfiltrate-configs/
🔐 วิกฤติช่องโหว่ FortiGate SSO ถูกโจมตีจริง
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2025 มีรายงานว่าแฮกเกอร์เริ่มใช้ช่องโหว่ CVE-2025-59718 และ CVE-2025-59719 ซึ่งมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.1–9.8 เพื่อเจาะระบบ FortiGate และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Fortinet ผ่านการปลอมแปลงข้อความ SAML ทำให้สามารถเข้าสู่ระบบในสิทธิ์ผู้ดูแลได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่านใด ๆ การโจมตีนี้ถูกยืนยันว่าเกิดขึ้นจริงและมีการขโมยการตั้งค่าระบบออกไป ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลบัญชี VPN และผู้ใช้ภายในองค์กร
⚙️ สาเหตุและความเสี่ยงที่แท้จริง
แม้ Fortinet ระบุว่า FortiCloud SSO ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น แต่เมื่อผู้ดูแลลงทะเบียนอุปกรณ์ผ่าน FortiCare ฟีเจอร์นี้จะถูกเปิดโดยอัตโนมัติหากไม่ได้ปิดสวิตช์ “Allow administrative login using FortiCloud SSO” ทำให้หลายองค์กรไม่รู้ตัวว่ากำลังเปิดช่องโหว่ไว้โดยตรง การโจมตีที่พบมีรูปแบบชัดเจนคือเจาะเข้าบัญชี admin แล้วดึงการตั้งค่าผ่าน GUI ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี
🛡️ การแก้ไขและแพตช์ล่าสุด
Fortinet ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน เช่น FortiOS 7.6.4, 7.4.9, 7.2.12 และ 7.0.18 รวมถึง FortiProxy, FortiWeb และ FortiSwitchManager รุ่นใหม่ ผู้ดูแลระบบที่ไม่สามารถอัปเดตได้ทันทีสามารถใช้วิธีแก้ไขชั่วคราวโดยปิดการใช้งาน FortiCloud SSO ผ่าน CLI หรือ GUI เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม
🌍 มุมมองจากวงการไซเบอร์
นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า ช่องโหว่ลักษณะนี้เป็นตัวอย่างของการที่ “ฟีเจอร์สะดวก” กลายเป็น “ประตูหลัง” ให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยตรง หากองค์กรไม่ตรวจสอบการตั้งค่าอย่างละเอียด การโจมตีที่เกิดขึ้นยังสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการใช้ MFA (Multi-Factor Authentication) และการตรวจสอบ log อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ผิดปกติ
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ช่องโหว่ที่ถูกโจมตี
➡️ CVE-2025-59718 และ CVE-2025-59719 มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.1–9.8
➡️ ใช้การปลอมแปลง SAML เพื่อข้ามการยืนยันตัวตน SSO
✅ สาเหตุที่ฟีเจอร์เสี่ยง
➡️ FortiCloud SSO ถูกเปิดอัตโนมัติเมื่อสมัคร FortiCare หากไม่ปิดสวิตช์
➡️ ทำให้ผู้ดูแลหลายคนไม่รู้ว่ากำลังเปิดช่องโหว่ไว้
✅ การแก้ไขและแพตช์
➡️ อัปเดตเป็น FortiOS 7.6.4, 7.4.9, 7.2.12, 7.0.18
➡️ ปิด FortiCloud SSO ผ่าน CLI หากยังไม่สามารถอัปเดตได้
‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย
⛔ การตั้งค่า firewall ที่ถูกขโมยอาจมีข้อมูลบัญชี VPN และผู้ใช้ภายใน
⛔ หากไม่อัปเดตหรือปิดฟีเจอร์ทันที อาจถูกยึดสิทธิ์ผู้ดูแลและควบคุมระบบทั้งหมด
https://securityonline.info/critical-fortigate-sso-flaw-under-active-exploitation-attackers-bypass-auth-and-exfiltrate-configs/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
20 มุมมอง
0 รีวิว