• ..ยกเลิกได้เลยโดยคณะรัฐมนตรีนั้นล่ะเพราะอำนาจอยู่ที่ ครม.และตัวจริงเสียงจริงคือนายกฯด้วย ,สถานะนายกฯในปัจจุบันที่ตนกำลังเป็นอยู่นี้มีอำนาจเต็มแล้วโดยสมบูรณ์สามารถทำการยกเลิกได้ทันที,จะไปอ้างว่า ถ้าตนไปทำเอง ตนจะยกเลิกไปแล้ว แบบนั้นอ้างไม่ได้,เพราะสถานะคนที่ไปทำในยุคนั้นมิใช่สถานะนายนางสาวบุคคลธรรมดาไทบ้านประชาชน,แต่มันไปทำกันโดยสถานะนายกฯซึ่งตนมีสถานะเดียวกันนี้นั้นเต็มบริบูรณ์เหมือนกัน,ไปทำกันเองด้วยแบบไม่ผ่านลงมติกับประชาชนทั่วประเทศอะไรเลยในปี43, ลุแก่อำนาจทำจนให้สำเร็จสมบูรณ์จนบรรลุเป้าหมายเองชัดเจน .,สถานะนายกฯและคณะครม.ชุดนั้นๆในอดีตปฏิบัติหน้าที่สมบูรณ์แล้ว มิใช่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมความจึงทำการให้สมบูรณ์แล้วนั้นเองในอดีตจนเขมรสามารถอ้างการปฏิบัติหน้าที่ของสถานะนายกฯและคณะครม.ชุดสมัยนั้นดำเนินการรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยได้อย่าหน้าด้านหน้าหนาหน้ามึนในปัจจุบันของปี68ยิงประชาชนเราตายคาปั้มน้ำมันคา7/11ด้วย และคนบริสุทธิ์ไม่รู้ห่าอะไรด้วยตรึม,พวกนี้ทั้งหมดต้องถูกอาญาแผ่นดินไทยลงโทษทั้งหมดในฐานะใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ผิดจริยธรรมด้านอธิปไตยความมั่นคงของชาติอย่างร้ายแรงด้วย และอื่นๆอีกเพียบ,นายกฯหนู เรา..ประชาชนเตือนท่านแล้ว,เนปาล2อาจเกิดในยุคท่านได้หากตัดสินใจผิดพลาด,นักการเมืองทัังอดีตและปัจจุบันอาจถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมด,สัญชาติไทยอาจถูกถอดถอนทั้งวงศ์ตระกูล,อย่าล่อเล่นกับระบบประชาชนคนไทยเรา,พฤษภาทมิฬอาจเด็กๆรวมถึง14ตุลาด้วย.

    ..หากรัฐบาลอนุทินและคณะครม.ผลักภาระการตัดสินใจยกเลิกmou43,44,tor46ให้ประชาชนสำเร็จแบบกาลงมติสำเร็จ แน่นอนเข้าแผนชั่วร้ายคนจะล้มพรรคภูมิใจไทยแบบไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดแน่นอนล่ะ ได้ข้อหา ม.157เต็มๆและอาจผิดจริยธรรมร้ายแรงในฐานะนายกฯผู้นำประเทศด้วย ขยายความซวยกรณีอื่นๆอีกตรึม,

    ..นายกฯอนุทินและคณะครม.ชุดปัจจุบันนี้ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยสมบูรณ์ทันที ม.157เต็มๆนั้นเอง

    ..ศัตรูพรรคภูมิใจไทยสูบบุหรี่นั่งรอดูบวกหัวเราะขี้แตกขี้แตนเลยล่ะ รอดูการล่มสลายของพรรคภูมิใจไทยอย่างสบายใจบวกรอเก็บเกี่ยวกำไรชื่อเสียงผลงานเป็นว่าเล่น,มีคนโคตรบรมโง่และหน้าโง่มาเป็นแพะแทนกูแล้วมันว่าหรือแทนอดีตนายกฯแบบกูและแทนคณะครม.ต่างๆของยุคกู อดีตรัฐบาลกูก่อนๆชุดก่อนๆกูก็ว่า,กูรอดแล้ว รอด ม.157แล้วโว้ยมันว่าโน้น ,

    ..ไม่ต้องศึกษาอะไรอีกหรอก หากผลของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา MOU 2543-2544 ออกมาว่าไม่ต้องศึกษาอีกแล้ว ไม่เป็นประโยชน์ใดกับประเทศไทยตลอดระยะเวลา25ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทำเขมรลุแก่ใจ ยึดดินแดนอธิปไตยไทยกว่า20-30จุดอีก สร้างบ่อนคาสิโนบนแผ่นดินไทย สร้างอาคารสถานที่เป็นฮับค้ามนุษย์ข้ามชาติระดับสากลโลกโน้น ,ฮับสแกมเมอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระดับโลกอีก,ถ้ายังผีบ้าไปกอดไว้หรือโยนความรับผิดชอบไปให้ประชาชนซวยแน่นอน อาจถูกฟ้องโดยประชาชนได้ด้วยจากทั่วประเทศ มรึงในนามนายกฯเวลาพวกมรึงเซ็นต์ลงนามตกลงผีบ้าอะไรกันเสือกไม่ผ่านสภาฯไม่ทำประชามติลงมติจากประชาชนพอเกิดเรื่องแดงขึ้นเสือกมาโยนให้ประชาชนมาจัดการช่วยด้วย ลงมติยกเลิกมั้ยครับประชาชนท่านสมันว่า,จึงเตรียมตัวซวยเลยในอนาคต,

    ..เรา..ประเทศไทยที่นำโดยผู้นำคนปัจจุบันคือ นายกฯอนุทินและพร้อมคณะครม.ต้องยกเลิกทันทีเลย, มันยกเลิกได้อยู่แล้ว กูรูระดับเทพเรายืนยันแล้ว,ยกเลิกฝ่ายเดียวแม้ระดับสนธิสัญญาก็ยกเลิกได้,นายกฯสมัยหน้าคือคนที่33 เป็นนายกฯอนุทินอีกแน่นอน อย่างยืดอกภาคภูมิใจสมชื่อภูมิใจไทยล่ะ,คะแนนมาแน่นอน คนไทยเกือบทั้งประเทศกาให้แน่นอน เผลอ สส.พรรคภูมิใจไทยลงสมัครที่ไหนได้สส.หมดล่ะ,เพราะคนไทยให้โอกาสแน่นอน.ลอยมานอนมาเลยตำแหน่งนายกฯคนที่33..

    https://youtu.be/aNnnPaNhAaQ?si=amZCpV5Jz4CLJN4N
    ..ยกเลิกได้เลยโดยคณะรัฐมนตรีนั้นล่ะเพราะอำนาจอยู่ที่ ครม.และตัวจริงเสียงจริงคือนายกฯด้วย ,สถานะนายกฯในปัจจุบันที่ตนกำลังเป็นอยู่นี้มีอำนาจเต็มแล้วโดยสมบูรณ์สามารถทำการยกเลิกได้ทันที,จะไปอ้างว่า ถ้าตนไปทำเอง ตนจะยกเลิกไปแล้ว แบบนั้นอ้างไม่ได้,เพราะสถานะคนที่ไปทำในยุคนั้นมิใช่สถานะนายนางสาวบุคคลธรรมดาไทบ้านประชาชน,แต่มันไปทำกันโดยสถานะนายกฯซึ่งตนมีสถานะเดียวกันนี้นั้นเต็มบริบูรณ์เหมือนกัน,ไปทำกันเองด้วยแบบไม่ผ่านลงมติกับประชาชนทั่วประเทศอะไรเลยในปี43, ลุแก่อำนาจทำจนให้สำเร็จสมบูรณ์จนบรรลุเป้าหมายเองชัดเจน .,สถานะนายกฯและคณะครม.ชุดนั้นๆในอดีตปฏิบัติหน้าที่สมบูรณ์แล้ว มิใช่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมความจึงทำการให้สมบูรณ์แล้วนั้นเองในอดีตจนเขมรสามารถอ้างการปฏิบัติหน้าที่ของสถานะนายกฯและคณะครม.ชุดสมัยนั้นดำเนินการรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยได้อย่าหน้าด้านหน้าหนาหน้ามึนในปัจจุบันของปี68ยิงประชาชนเราตายคาปั้มน้ำมันคา7/11ด้วย และคนบริสุทธิ์ไม่รู้ห่าอะไรด้วยตรึม,พวกนี้ทั้งหมดต้องถูกอาญาแผ่นดินไทยลงโทษทั้งหมดในฐานะใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ผิดจริยธรรมด้านอธิปไตยความมั่นคงของชาติอย่างร้ายแรงด้วย และอื่นๆอีกเพียบ,นายกฯหนู เรา..ประชาชนเตือนท่านแล้ว,เนปาล2อาจเกิดในยุคท่านได้หากตัดสินใจผิดพลาด,นักการเมืองทัังอดีตและปัจจุบันอาจถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมด,สัญชาติไทยอาจถูกถอดถอนทั้งวงศ์ตระกูล,อย่าล่อเล่นกับระบบประชาชนคนไทยเรา,พฤษภาทมิฬอาจเด็กๆรวมถึง14ตุลาด้วย. ..หากรัฐบาลอนุทินและคณะครม.ผลักภาระการตัดสินใจยกเลิกmou43,44,tor46ให้ประชาชนสำเร็จแบบกาลงมติสำเร็จ แน่นอนเข้าแผนชั่วร้ายคนจะล้มพรรคภูมิใจไทยแบบไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดแน่นอนล่ะ ได้ข้อหา ม.157เต็มๆและอาจผิดจริยธรรมร้ายแรงในฐานะนายกฯผู้นำประเทศด้วย ขยายความซวยกรณีอื่นๆอีกตรึม, ..นายกฯอนุทินและคณะครม.ชุดปัจจุบันนี้ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยสมบูรณ์ทันที ม.157เต็มๆนั้นเอง ..ศัตรูพรรคภูมิใจไทยสูบบุหรี่นั่งรอดูบวกหัวเราะขี้แตกขี้แตนเลยล่ะ รอดูการล่มสลายของพรรคภูมิใจไทยอย่างสบายใจบวกรอเก็บเกี่ยวกำไรชื่อเสียงผลงานเป็นว่าเล่น,มีคนโคตรบรมโง่และหน้าโง่มาเป็นแพะแทนกูแล้วมันว่าหรือแทนอดีตนายกฯแบบกูและแทนคณะครม.ต่างๆของยุคกู อดีตรัฐบาลกูก่อนๆชุดก่อนๆกูก็ว่า,กูรอดแล้ว รอด ม.157แล้วโว้ยมันว่าโน้น , ..ไม่ต้องศึกษาอะไรอีกหรอก หากผลของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา MOU 2543-2544 ออกมาว่าไม่ต้องศึกษาอีกแล้ว ไม่เป็นประโยชน์ใดกับประเทศไทยตลอดระยะเวลา25ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทำเขมรลุแก่ใจ ยึดดินแดนอธิปไตยไทยกว่า20-30จุดอีก สร้างบ่อนคาสิโนบนแผ่นดินไทย สร้างอาคารสถานที่เป็นฮับค้ามนุษย์ข้ามชาติระดับสากลโลกโน้น ,ฮับสแกมเมอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระดับโลกอีก,ถ้ายังผีบ้าไปกอดไว้หรือโยนความรับผิดชอบไปให้ประชาชนซวยแน่นอน อาจถูกฟ้องโดยประชาชนได้ด้วยจากทั่วประเทศ มรึงในนามนายกฯเวลาพวกมรึงเซ็นต์ลงนามตกลงผีบ้าอะไรกันเสือกไม่ผ่านสภาฯไม่ทำประชามติลงมติจากประชาชนพอเกิดเรื่องแดงขึ้นเสือกมาโยนให้ประชาชนมาจัดการช่วยด้วย ลงมติยกเลิกมั้ยครับประชาชนท่านสมันว่า,จึงเตรียมตัวซวยเลยในอนาคต, ..เรา..ประเทศไทยที่นำโดยผู้นำคนปัจจุบันคือ นายกฯอนุทินและพร้อมคณะครม.ต้องยกเลิกทันทีเลย, มันยกเลิกได้อยู่แล้ว กูรูระดับเทพเรายืนยันแล้ว,ยกเลิกฝ่ายเดียวแม้ระดับสนธิสัญญาก็ยกเลิกได้,นายกฯสมัยหน้าคือคนที่33 เป็นนายกฯอนุทินอีกแน่นอน อย่างยืดอกภาคภูมิใจสมชื่อภูมิใจไทยล่ะ,คะแนนมาแน่นอน คนไทยเกือบทั้งประเทศกาให้แน่นอน เผลอ สส.พรรคภูมิใจไทยลงสมัครที่ไหนได้สส.หมดล่ะ,เพราะคนไทยให้โอกาสแน่นอน.ลอยมานอนมาเลยตำแหน่งนายกฯคนที่33.. https://youtu.be/aNnnPaNhAaQ?si=amZCpV5Jz4CLJN4N
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกสายเลือดดุสิตธานี รายย่อยงัดข้อป้องชนินทธ์

    ความขัดแย้งในกลุ่มทายาท ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี นับตั้งแต่นางสินี เธียรประสิทธิ์ และนางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค น้องสาวทั้งสองคน ถอดถอนนายชนินทธ์ โทณวณิก พี่ชายคนโต ซึ่งเป็นรักษาการประธานกรรมการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT ออกจากกรรมการบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 49.74% ใน DUSIT ต่อด้วยฝั่งบริษัท ชนัตถ์และลูก ไม่อนุมัติงบการเงินปี 2567 และเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ถอดถอนนายชนินทธ์ ออกจากกรรมการบริษัทฯ

    ปรากฎว่าการประชุมดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ก.ย.) ผู้ถือหุ้นรายย่อย 420 คน ไม่อนุมัติถอดถอนนายชนินทธ์ มีผู้เห็นด้วยเพียงแค่ 42 ราย งดออกเสียง 11 ราย และไม่ลงคะแนนเสียง 10 ราย ซึ่งวาระดังกล่าวต้องใช้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนผู้ถือหุ้น ซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ตามกฎหมายบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ถือหุ้นรายย่อย เปรียบดังพลังมดที่ทำให้นายชนินทธ์ ยังคงรักษาตำแหน่งกรรมการบริษัทเอาไว้ได้

    แต่อีกวาระหนึ่ง คือ พิจารณาอนุมัติเพิ่มจำนวนกรรมการ แต่งตั้งกรรมการเข้าใหม่ และเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ ปรากฎว่ามีผู้ถือหุ้นรายย่อย ร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ให้ตรวจสอบบริษัท ชนัตถ์และลูก และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ที่ถือหุ้น 17.09% ใน DUSIT ว่ามีพฤติกรรมร่วมมือกันเพื่อครอบงำกิจการหรือไม่ ทำให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันที่ 4 ธ.ค. 2568

    น่าสังเกตว่า วาระดังกล่าว บริษัท ชนัตถ์และลูก เสนอเพิ่มจำนวนกรรมการบริษัทจาก 12 คนเป็น 18 คน โดยพบว่า นายปัณฑิต มงคลกุล และนายภูม โอสถานนท์ มาจากกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ DUSIT ในธุรกิจโรงแรม ส่วน ดร.กฤษดา กวีญาณ เป็นกรรมการบริษัท ไอแอมไชน่าทาวน์ จำกัด และบริษัท อัลทัส แคปปิตอล สยาม แอคควิซิชั่น ทู จำกัด ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าเป็นกิจการที่มีลักษณะเดียวกัน และอาจเป็นคู่แข่งกัน

    นอกจากนี้ ยังมีวาระเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการที่จะกระทำการแทนบริษัท จากเดิมนายชนินทธ์ เปลี่ยนเป็นเป็นนางสินี พร้อมบุคคลภายนอกอีก 2 คน ได้แก่ ดร.กฤษดา และนายศุภศักดิ์ จิรเสวีนุประพันธ์ หากผ่านวาระดังกล่าวอาจทำให้นายชนินทธ์ถูกลดบทบาทการบริหารงานลง แม้จะดำรงตำแหน่งรักษาการประธานกรรมการ ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (กรุ๊ปซีอีโอ) แทนนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ที่ขอเกษียณก่อนกำหนด เพื่อไปดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ก็ตาม

    #Newskit
    ศึกสายเลือดดุสิตธานี รายย่อยงัดข้อป้องชนินทธ์ ความขัดแย้งในกลุ่มทายาท ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี นับตั้งแต่นางสินี เธียรประสิทธิ์ และนางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค น้องสาวทั้งสองคน ถอดถอนนายชนินทธ์ โทณวณิก พี่ชายคนโต ซึ่งเป็นรักษาการประธานกรรมการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT ออกจากกรรมการบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 49.74% ใน DUSIT ต่อด้วยฝั่งบริษัท ชนัตถ์และลูก ไม่อนุมัติงบการเงินปี 2567 และเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ถอดถอนนายชนินทธ์ ออกจากกรรมการบริษัทฯ ปรากฎว่าการประชุมดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ก.ย.) ผู้ถือหุ้นรายย่อย 420 คน ไม่อนุมัติถอดถอนนายชนินทธ์ มีผู้เห็นด้วยเพียงแค่ 42 ราย งดออกเสียง 11 ราย และไม่ลงคะแนนเสียง 10 ราย ซึ่งวาระดังกล่าวต้องใช้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนผู้ถือหุ้น ซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ตามกฎหมายบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ถือหุ้นรายย่อย เปรียบดังพลังมดที่ทำให้นายชนินทธ์ ยังคงรักษาตำแหน่งกรรมการบริษัทเอาไว้ได้ แต่อีกวาระหนึ่ง คือ พิจารณาอนุมัติเพิ่มจำนวนกรรมการ แต่งตั้งกรรมการเข้าใหม่ และเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ ปรากฎว่ามีผู้ถือหุ้นรายย่อย ร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ให้ตรวจสอบบริษัท ชนัตถ์และลูก และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ที่ถือหุ้น 17.09% ใน DUSIT ว่ามีพฤติกรรมร่วมมือกันเพื่อครอบงำกิจการหรือไม่ ทำให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันที่ 4 ธ.ค. 2568 น่าสังเกตว่า วาระดังกล่าว บริษัท ชนัตถ์และลูก เสนอเพิ่มจำนวนกรรมการบริษัทจาก 12 คนเป็น 18 คน โดยพบว่า นายปัณฑิต มงคลกุล และนายภูม โอสถานนท์ มาจากกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ DUSIT ในธุรกิจโรงแรม ส่วน ดร.กฤษดา กวีญาณ เป็นกรรมการบริษัท ไอแอมไชน่าทาวน์ จำกัด และบริษัท อัลทัส แคปปิตอล สยาม แอคควิซิชั่น ทู จำกัด ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าเป็นกิจการที่มีลักษณะเดียวกัน และอาจเป็นคู่แข่งกัน นอกจากนี้ ยังมีวาระเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการที่จะกระทำการแทนบริษัท จากเดิมนายชนินทธ์ เปลี่ยนเป็นเป็นนางสินี พร้อมบุคคลภายนอกอีก 2 คน ได้แก่ ดร.กฤษดา และนายศุภศักดิ์ จิรเสวีนุประพันธ์ หากผ่านวาระดังกล่าวอาจทำให้นายชนินทธ์ถูกลดบทบาทการบริหารงานลง แม้จะดำรงตำแหน่งรักษาการประธานกรรมการ ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (กรุ๊ปซีอีโอ) แทนนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ที่ขอเกษียณก่อนกำหนด เพื่อไปดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ก็ตาม #Newskit
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 15-9-68
    .
    สวัสดีวันจันทร์ วันนี้บ้านพระอาทิตย์มีเมนูอาหารเช้าเป็น "ก๋วยเตี๋ยวไก่ สูตรคุณสนธิ" โดยหลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานแล้ว ก็ได้พูดคุยกันในหลายประเด็นเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพการรักษาโรคมะเร็ง, สถานการณ์การเมืองโลก และการเมืองไทย ที่เห็นได้ชัดว่ากระแสฝ่ายอนุรักษ์นิยม (ฝ่ายขวา) กำลังมาแรง ทั้งในสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ยุโรป, ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทย โดยมีการพูดคุยกันถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา นำโดย นายไชยชนก ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่มีการเชิญ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์เข้าไปเป็นที่ปรึกษาด้วย
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=vWs995gNVh0
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #มะเร็ง #การเมืองโลก #การเมืองไทย #MOU2543 #MOU2544
    สนธิเล่าเรื่อง 15-9-68 . สวัสดีวันจันทร์ วันนี้บ้านพระอาทิตย์มีเมนูอาหารเช้าเป็น "ก๋วยเตี๋ยวไก่ สูตรคุณสนธิ" โดยหลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานแล้ว ก็ได้พูดคุยกันในหลายประเด็นเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพการรักษาโรคมะเร็ง, สถานการณ์การเมืองโลก และการเมืองไทย ที่เห็นได้ชัดว่ากระแสฝ่ายอนุรักษ์นิยม (ฝ่ายขวา) กำลังมาแรง ทั้งในสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ยุโรป, ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทย โดยมีการพูดคุยกันถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา นำโดย นายไชยชนก ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่มีการเชิญ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์เข้าไปเป็นที่ปรึกษาด้วย . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=vWs995gNVh0 . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #มะเร็ง #การเมืองโลก #การเมืองไทย #MOU2543 #MOU2544
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดุสิตธานีลมสงบ ชนินทธ์ควบกรุ๊ปซีอีโอ

    การแถลงข่าวทิศทางการบริหารงานของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) พบว่านายชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการฯ ออกมากล่าวถึงความขัดแย้งในครอบครัวท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี ผู้ล่วงลับ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่า จบลงได้ดีไม่ต้องเป็นห่วง พูดคุยแก้ไขปัญหาทุกวัน เพราะทุกคนอยากจะให้ทุกอย่างออกมาดี ให้เชื่อมั่นประเด็นดุสิตธานีจะจบลงด้วยดี รวมทั้งยังทำงานร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลได้

    นอกจากนี้ คณะกรรมการ DUSIT ยังมีมติแต่งตั้งนายชนินทธ์ ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (กรุ๊ปซีอีโอ) หลังจากนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ได้รับการทาบทามจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ แต่ก็พร้อมเปิดทางกลับมา เปรียบได้กับคลื่นลมสงบ ก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 ก.ย.ที่จะถึงนี้ หนึ่งในวาระการประชุม คือการพิจารณาอนุมัติถอดถอนนายชนินทธ์ ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทฯ ตามที่บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด เสนอวาระดังกล่าว

    ท่านผู้หญิงชนัตถ์มีบุตรธิดา 3 คน คือ นายชนินทธ์ โทณวณิก ลูกชายคนโต, นางสินี เธียรประสิทธิ์ ลูกสาวคนกลาง สมรสกับนายฐิตินันท์ เธียรประสิทธิ์ และนางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค ลูกสาวคนเล็ก สมรสกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายชนินทธ์แถลงข่าวว่า ถูกนางสินีและนางสุนงค์เปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการเดิม และปลดออกจากรรมการบริษัท ชนัตถ์และลูก ต่อด้วยไม่อนุมัติงบการเงิน DUSIT ล่าสุดพยายามถอดถอนตนออกจาก DUSIT แต่งตั้งคนนอกครอบครัว ยึดกิจการที่ครอบครัวสร้างมา พร้อมกับเสนอกรรมการใหม่ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) แม้จะเป็นพันธมิตรโครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค แต่ลับหลังซื้อหุ้น 22.5% โดยไม่แจ้งให้ทราบ ต้องเจรจาให้ขายหุ้นออกครึ่งหนึ่ง และขอไม่ให้ส่งคนมานั่งกรรมการ เพราะมีธุรกิจทับซ้อนกัน

    ต่อมานางสินีและนางสุนงค์ตอบโต้นายชนินทร์ ปฎิเสธข้อกล่าวหาและถามกลับว่าที่แถลงข่าวมีเจตนาอะไร อ้างว่าที่เสนอเปลี่ยนแปลงบอร์ดเพราะขาดทุนกว่า 1,254 ล้านบาท และไม่ได้จ่ายปันผลมาแล้ว 5 ปี จึงต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ DUSIT กลับมามีกำไร และเชื่อว่า CPN มีความเป็นมืออาชีพ ไม่คิดเทกโอเวอร์

    อนึ่ง บริษัท ชนัตถ์และลูก จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2533 ทุนจดทะเบียน 752 ล้านบาท เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของดุสิตธานี 49.74% ปัจจุบันพบว่ากรรมการบริษัทมี 4 คน คือ นางสินีและลูกสาว นางสุนงค์และลูกชาย

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.2568)
    ดุสิตธานีลมสงบ ชนินทธ์ควบกรุ๊ปซีอีโอ การแถลงข่าวทิศทางการบริหารงานของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) พบว่านายชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการฯ ออกมากล่าวถึงความขัดแย้งในครอบครัวท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี ผู้ล่วงลับ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่า จบลงได้ดีไม่ต้องเป็นห่วง พูดคุยแก้ไขปัญหาทุกวัน เพราะทุกคนอยากจะให้ทุกอย่างออกมาดี ให้เชื่อมั่นประเด็นดุสิตธานีจะจบลงด้วยดี รวมทั้งยังทำงานร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลได้ นอกจากนี้ คณะกรรมการ DUSIT ยังมีมติแต่งตั้งนายชนินทธ์ ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (กรุ๊ปซีอีโอ) หลังจากนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ได้รับการทาบทามจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ แต่ก็พร้อมเปิดทางกลับมา เปรียบได้กับคลื่นลมสงบ ก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 ก.ย.ที่จะถึงนี้ หนึ่งในวาระการประชุม คือการพิจารณาอนุมัติถอดถอนนายชนินทธ์ ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทฯ ตามที่บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด เสนอวาระดังกล่าว ท่านผู้หญิงชนัตถ์มีบุตรธิดา 3 คน คือ นายชนินทธ์ โทณวณิก ลูกชายคนโต, นางสินี เธียรประสิทธิ์ ลูกสาวคนกลาง สมรสกับนายฐิตินันท์ เธียรประสิทธิ์ และนางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค ลูกสาวคนเล็ก สมรสกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายชนินทธ์แถลงข่าวว่า ถูกนางสินีและนางสุนงค์เปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการเดิม และปลดออกจากรรมการบริษัท ชนัตถ์และลูก ต่อด้วยไม่อนุมัติงบการเงิน DUSIT ล่าสุดพยายามถอดถอนตนออกจาก DUSIT แต่งตั้งคนนอกครอบครัว ยึดกิจการที่ครอบครัวสร้างมา พร้อมกับเสนอกรรมการใหม่ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) แม้จะเป็นพันธมิตรโครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค แต่ลับหลังซื้อหุ้น 22.5% โดยไม่แจ้งให้ทราบ ต้องเจรจาให้ขายหุ้นออกครึ่งหนึ่ง และขอไม่ให้ส่งคนมานั่งกรรมการ เพราะมีธุรกิจทับซ้อนกัน ต่อมานางสินีและนางสุนงค์ตอบโต้นายชนินทร์ ปฎิเสธข้อกล่าวหาและถามกลับว่าที่แถลงข่าวมีเจตนาอะไร อ้างว่าที่เสนอเปลี่ยนแปลงบอร์ดเพราะขาดทุนกว่า 1,254 ล้านบาท และไม่ได้จ่ายปันผลมาแล้ว 5 ปี จึงต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ DUSIT กลับมามีกำไร และเชื่อว่า CPN มีความเป็นมืออาชีพ ไม่คิดเทกโอเวอร์ อนึ่ง บริษัท ชนัตถ์และลูก จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2533 ทุนจดทะเบียน 752 ล้านบาท เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของดุสิตธานี 49.74% ปัจจุบันพบว่ากรรมการบริษัทมี 4 คน คือ นางสินีและลูกสาว นางสุนงค์และลูกชาย #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.2568)
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสนาธิการ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี–ตราด นำคณะเข้าร่วมการประชุมกองเลขานุการ (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจัดขึ้นที่ จ.ไพลิน ประเทศ​กัมพูชา​ หวังสร้างสัมพันธ์​ที่ดีระหว่างกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000080559

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เสนาธิการ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี–ตราด นำคณะเข้าร่วมการประชุมกองเลขานุการ (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจัดขึ้นที่ จ.ไพลิน ประเทศ​กัมพูชา​ หวังสร้างสัมพันธ์​ที่ดีระหว่างกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000080559 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ล่มประชุมRBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่สระแก้ว ​เริ่มตอนตีหนึ่ง เห็นชอบร่างบันทึกการประชุม เตรียมลุยต่อช่วงเช้าวันนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000079943

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ไม่ล่มประชุมRBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่สระแก้ว ​เริ่มตอนตีหนึ่ง เห็นชอบร่างบันทึกการประชุม เตรียมลุยต่อช่วงเช้าวันนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000079943 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทย-กัมพูชา ลงนามหยุดยิงภายใต้ข้อตกลง 13 ข้อ ในการประชุม GBC ณ ประเทศมาเลเซีย

    7 ส.ค. 2025 การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กระทรวงกลาโหมมาเลเซีย สิ้นสุดลงด้วยการลงนาม MOU 13 ข้อ เพื่อยืนยันการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข

    รายละเอียดข้อตกลง 13 ข้อ:
    1. หยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข : ทั้งสองฝ่ายยุติการยิงทุกประเภทตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. 2568
    2. ห้ามเคลื่อนย้ายกองกำลัง : ห้ามเพิ่มกำลังทหารหรือเคลื่อนย้ายกองทัพในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
    3. ห้ามโจมตีพลเรือน : ห้ามการยิงหรือโจมตีเป้าหมายพลเรือน เช่น โรงเรียน, โรงพยาบาล ฯลฯ (แต่กัมพูชาทำฉ่ำ)
    4. จัดตั้งกลไกตรวจสอบ : สร้างทีมสังเกตการณ์ ASEAN นำโดยมาเลเซีย ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลง
    5. ฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร : เปิดช่องทางตรงระหว่างนายกฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ และกลาโหมของทั้งสองฝ่าย
    6. อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม : อนุญาตให้ส่งคืนผู้บาดเจ็บและศพจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงช่วยเหลือพลเรือน
    7. จัดตั้งคณะทำงานท้องถิ่น : สร้างทีมประสานงานระดับท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ชายแดน
    8. ห้ามใช้ระเบิดหรืออาวุธหนัก : จำกัดการใช้ระเบิด เช่น จรวด BM-21 หรือการโจมตีทางอากาศ
    9. ถอนทหารจากพื้นที่พิพาท : ค่อย ๆ ลดกำลังทหารในพื้นที่ เช่น บริเวณพระวิหารและภูมะเขือ
    10. เคารพหลัก ASEAN : ใช้กรอบทวิภาคีเป็นหลัก โดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลาง ไม่ยอมให้มหาอำนาจครอบงำ
    11. จัดการปัญหาแรงงาน : อำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชากลับไทยอย่างปลอดภัย และลดความตึงเครียดในชุมชน
    12. เจรจาต่อเนื่องใน GBC : กำหนดประชุม GBC ครั้งต่อไปที่กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาการกำหนดเขตแดน
    13. รายงานความคืบหน้า : ทั้งสองฝ่ายต้องรายงานการปฏิบัติตามข้อตกลงต่ออาเซียนและผู้สังเกตการณ์ทุก 2 สัปดาห์
    ไทย-กัมพูชา ลงนามหยุดยิงภายใต้ข้อตกลง 13 ข้อ ในการประชุม GBC ณ ประเทศมาเลเซีย 7 ส.ค. 2025 การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กระทรวงกลาโหมมาเลเซีย สิ้นสุดลงด้วยการลงนาม MOU 13 ข้อ เพื่อยืนยันการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข รายละเอียดข้อตกลง 13 ข้อ: 🔘1. หยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข : ทั้งสองฝ่ายยุติการยิงทุกประเภทตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. 2568 🔘2. ห้ามเคลื่อนย้ายกองกำลัง : ห้ามเพิ่มกำลังทหารหรือเคลื่อนย้ายกองทัพในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด 🔘3. ห้ามโจมตีพลเรือน : ห้ามการยิงหรือโจมตีเป้าหมายพลเรือน เช่น โรงเรียน, โรงพยาบาล ฯลฯ (แต่กัมพูชาทำฉ่ำ) 🔘4. จัดตั้งกลไกตรวจสอบ : สร้างทีมสังเกตการณ์ ASEAN นำโดยมาเลเซีย ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลง 🔘5. ฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร : เปิดช่องทางตรงระหว่างนายกฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ และกลาโหมของทั้งสองฝ่าย 🔘6. อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม : อนุญาตให้ส่งคืนผู้บาดเจ็บและศพจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงช่วยเหลือพลเรือน 🔘7. จัดตั้งคณะทำงานท้องถิ่น : สร้างทีมประสานงานระดับท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ชายแดน 🔘8. ห้ามใช้ระเบิดหรืออาวุธหนัก : จำกัดการใช้ระเบิด เช่น จรวด BM-21 หรือการโจมตีทางอากาศ 🔘9. ถอนทหารจากพื้นที่พิพาท : ค่อย ๆ ลดกำลังทหารในพื้นที่ เช่น บริเวณพระวิหารและภูมะเขือ 🔘10. เคารพหลัก ASEAN : ใช้กรอบทวิภาคีเป็นหลัก โดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลาง ไม่ยอมให้มหาอำนาจครอบงำ 🔘11. จัดการปัญหาแรงงาน : อำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชากลับไทยอย่างปลอดภัย และลดความตึงเครียดในชุมชน 🔘12. เจรจาต่อเนื่องใน GBC : กำหนดประชุม GBC ครั้งต่อไปที่กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาการกำหนดเขตแดน 🔘13. รายงานความคืบหน้า : ทั้งสองฝ่ายต้องรายงานการปฏิบัติตามข้อตกลงต่ออาเซียนและผู้สังเกตการณ์ทุก 2 สัปดาห์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 640 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดภาพ "พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์" รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร Subang ประเทศมาเลเซีย เมื่อเวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าเวลาตามประเทศไทย 1 ชั่วโมง

    ช่วงเช้า พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคารวะนายอันวา อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะเจ้าภาพของสถานที่การประชุม ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ในช่วงบ่าย

    สำหรับการประชุมครั้งนี้จะเจรจามุ่งเน้นความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของระชาชนของทั้ง 2 ประเทศเป็นหลัก โดยต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศไทย กฎหมายระหว่างประเทศ และยึดผลประโยชน์ของชาติ
    เปิดภาพ "พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์" รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร Subang ประเทศมาเลเซีย เมื่อเวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าเวลาตามประเทศไทย 1 ชั่วโมง ช่วงเช้า พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคารวะนายอันวา อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะเจ้าภาพของสถานที่การประชุม ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ในช่วงบ่าย สำหรับการประชุมครั้งนี้จะเจรจามุ่งเน้นความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของระชาชนของทั้ง 2 ประเทศเป็นหลัก โดยต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศไทย กฎหมายระหว่างประเทศ และยึดผลประโยชน์ของชาติ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • BIG Story | แหกคุกทมิฬ

    คดีแหกคุกในตำนาน! เมื่อปี 2543 นักโทษชาวเมียนมาจับ 7 ตัวประกัน หลบหนีสุดระทึกยาวกว่า 21 ชั่วโมง ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ก่อนจบลงด้วยการวิสามัญ 9 ศพ ย้อนรอยภารกิจไล่ล่าที่เดิมพันด้วยชีวิตและเวลา กับเหตุการณ์ที่ทั้งประเทศต้องลุ้นระทึกไปพร้อมกัน

    ติดตามสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: แหกคุกทมิฬ ได้ที่ Thaitimes App

    #BigStory #แหกคุกทมิฬ #คดีแหกคุก #ตัวประกัน #ไล่ล่าระทึก #วิสามัญ #ThaiTimes
    BIG Story | แหกคุกทมิฬ คดีแหกคุกในตำนาน! เมื่อปี 2543 นักโทษชาวเมียนมาจับ 7 ตัวประกัน หลบหนีสุดระทึกยาวกว่า 21 ชั่วโมง ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ก่อนจบลงด้วยการวิสามัญ 9 ศพ ย้อนรอยภารกิจไล่ล่าที่เดิมพันด้วยชีวิตและเวลา กับเหตุการณ์ที่ทั้งประเทศต้องลุ้นระทึกไปพร้อมกัน 📲 ติดตามสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: แหกคุกทมิฬ ได้ที่ Thaitimes App #BigStory #แหกคุกทมิฬ #คดีแหกคุก #ตัวประกัน #ไล่ล่าระทึก #วิสามัญ #ThaiTimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 857 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อบจ.โคราช ปัดฝุ่นแปลนก่อสร้าง สนง.แห่งใหม่
    หลัง สภาฯ ไฟเขียว กู้เงิน “ก.ส.อ.”

    สภา อบจ.โคราช ไฟเขียวยกมือผ่านญัตติเห็นชอบ ให้กู้เงินสร้าง สนง.อบจ.แห่งใหม่ หลังพบว่าอาคารหลังเก่าทรุดโทรม เนื่องจากใช้งานมาเป็นระยะเวลานานร่วม 30 ปี ด้าน “ดร.ยลดาฯ” เผย เมื่อเข้ามาเป็นนายก อบจ. ได้พยายามผลักดันที่จะสร้าง สนง.แห่งใหม่ เพราะเห็นถึงปัญหาและอุปสรรคด้านอาคารสถานที่ ที่คับแคบไม่เพียงพอ ต้องเช่าอาคารสำนักงานชั่วคราวหลายแห่ง ค่าเช่าในแต่ละปีมีมูลค่าสูง การติดต่อประสานงานในเรื่องเอกสารล่าช้า อีกทั้งเวลาจัดประชุมสภา อบจ. แต่ละครั้ง ต้องเช่าสถานที่ภายนอกซึ่งมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากเช่นกัน เชื่อว่า หากได้สำนักงานแห่งใหม่ ทุกส่วนราชการก็จะรวมอยู่ที่เดียวกัน ส่งผลให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ในเรื่องการประสานงาน รวมถึงการให้บริการพี่น้องประชาชน ก็จะสะดวกและรวดเร็วตามมาด้วย
    .
    วันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ห้องประชุมแกรนดด์ บอลรูม โรงแรมฟอร์จูน โคราช สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) นครราชสีมา จัดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2568 โดยฝ่ายสภาประกอบด้วย นายเลิศชัย ธนประศาสน์ ประธานสภา อบจ. พร้อมรองประธานสภา เลขานุการสภา, ฝ่ายบริหาร ประกอบด้วย นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. พร้อมรองนายก และสมาชิกสภา อบจ. 40 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 48 คน นอกจากนี้ ยังมีหัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
    .
    ในระเบียบวาระการประชุมที่ 3 เป็นวาระที่สมาชิกสภาฯ ให้ความสนใจลุกขึ้นอภิปรายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็น ญัตติเรื่องขอความเห็นชอบกู้เงินทุนส่งเสริมกิจการ อบจ. (ก.ส.อ.) ก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ก่อนที่จะมีมติเห็นชอบ 36 คน และงดออกเสียง 4 คน ให้ฝ่ายบริหารกู้เงิน ก.ส.อ. เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคาร สนง. แห่งใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางการบริหารงานที่มีความเหมาะสม ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการให้บริการแก่ประชาชนอย่างเป็นระบบ
    .
    นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยภายหลังการลงมติจากที่ประชุมว่า ขอขอบคุณสภา อบจ.นครราชสีมา อันทรงเกียรติแห่งนี้ ที่ได้เห็นความสำคัญและความจำเป็นของการดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงาน อบจ. นครราชสีมา แห่งใหม่ เนื่องจากอาคารสำนักงาน ณ ปัจจุบันที่ตั้งอยู่บริเวณริมคูเมืองเก่า สภาพแออัด ชำรุดทรุดโทรม คับแคบ พื้นที่ใช้สอยน้อย พื้นที่ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องเสียงบประมาณจำนวนมากเพื่อจ่ายค่าเช่าสำนักงานชั่วคราวหลายแห่ง ฉะนั้นหากเราสร้าง สนง.แห่งใหม่ จะเป็นการรวมศูนย์ราชการในสังกัดฯ ไว้ที่เดียวกันก็จะทำให้ประหยัดงบประมาณค่าเช่าสถานที่ และอำนวยความสะดวกด้านการบริหารจัดการภายใน รวมถึงการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
    .
    อาคารสำนักงาน อบจ.นครราชสีมา แห่งใหม่ ก่อสร้างบนที่ดินสาธารณประโยชน์ บ.เดื่อ หมู่ที่ 8 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 289 ไร่ 3 งาน 65.3 ตรว. โดย อบจ. ได้ใช้ที่ดินตามความในมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 46 ไร่ 99 ตรว. แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 อาคารสำนักงาน คสล. 9 ชั้น และอาคารประกอบอื่น งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 985,130,000 บาท ระยะที่ 2 อาคารที่จอดรถ คสล. 5 ชั้น งบประมาณ 149,870,000 บาท (ค่อยดำเนินการทีหลัง) ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างจะดำเนินงานตามแผน 4 ปี (2569 – 2572) เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐและเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ในอนาคต”
    อบจ.โคราช ปัดฝุ่นแปลนก่อสร้าง สนง.แห่งใหม่ หลัง สภาฯ ไฟเขียว กู้เงิน “ก.ส.อ.” สภา อบจ.โคราช ไฟเขียวยกมือผ่านญัตติเห็นชอบ ให้กู้เงินสร้าง สนง.อบจ.แห่งใหม่ หลังพบว่าอาคารหลังเก่าทรุดโทรม เนื่องจากใช้งานมาเป็นระยะเวลานานร่วม 30 ปี ด้าน “ดร.ยลดาฯ” เผย เมื่อเข้ามาเป็นนายก อบจ. ได้พยายามผลักดันที่จะสร้าง สนง.แห่งใหม่ เพราะเห็นถึงปัญหาและอุปสรรคด้านอาคารสถานที่ ที่คับแคบไม่เพียงพอ ต้องเช่าอาคารสำนักงานชั่วคราวหลายแห่ง ค่าเช่าในแต่ละปีมีมูลค่าสูง การติดต่อประสานงานในเรื่องเอกสารล่าช้า อีกทั้งเวลาจัดประชุมสภา อบจ. แต่ละครั้ง ต้องเช่าสถานที่ภายนอกซึ่งมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากเช่นกัน เชื่อว่า หากได้สำนักงานแห่งใหม่ ทุกส่วนราชการก็จะรวมอยู่ที่เดียวกัน ส่งผลให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ในเรื่องการประสานงาน รวมถึงการให้บริการพี่น้องประชาชน ก็จะสะดวกและรวดเร็วตามมาด้วย . วันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ห้องประชุมแกรนดด์ บอลรูม โรงแรมฟอร์จูน โคราช สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) นครราชสีมา จัดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2568 โดยฝ่ายสภาประกอบด้วย นายเลิศชัย ธนประศาสน์ ประธานสภา อบจ. พร้อมรองประธานสภา เลขานุการสภา, ฝ่ายบริหาร ประกอบด้วย นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. พร้อมรองนายก และสมาชิกสภา อบจ. 40 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 48 คน นอกจากนี้ ยังมีหัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม . ในระเบียบวาระการประชุมที่ 3 เป็นวาระที่สมาชิกสภาฯ ให้ความสนใจลุกขึ้นอภิปรายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็น ญัตติเรื่องขอความเห็นชอบกู้เงินทุนส่งเสริมกิจการ อบจ. (ก.ส.อ.) ก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ก่อนที่จะมีมติเห็นชอบ 36 คน และงดออกเสียง 4 คน ให้ฝ่ายบริหารกู้เงิน ก.ส.อ. เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคาร สนง. แห่งใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางการบริหารงานที่มีความเหมาะสม ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการให้บริการแก่ประชาชนอย่างเป็นระบบ . นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยภายหลังการลงมติจากที่ประชุมว่า ขอขอบคุณสภา อบจ.นครราชสีมา อันทรงเกียรติแห่งนี้ ที่ได้เห็นความสำคัญและความจำเป็นของการดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงาน อบจ. นครราชสีมา แห่งใหม่ เนื่องจากอาคารสำนักงาน ณ ปัจจุบันที่ตั้งอยู่บริเวณริมคูเมืองเก่า สภาพแออัด ชำรุดทรุดโทรม คับแคบ พื้นที่ใช้สอยน้อย พื้นที่ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องเสียงบประมาณจำนวนมากเพื่อจ่ายค่าเช่าสำนักงานชั่วคราวหลายแห่ง ฉะนั้นหากเราสร้าง สนง.แห่งใหม่ จะเป็นการรวมศูนย์ราชการในสังกัดฯ ไว้ที่เดียวกันก็จะทำให้ประหยัดงบประมาณค่าเช่าสถานที่ และอำนวยความสะดวกด้านการบริหารจัดการภายใน รวมถึงการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ . อาคารสำนักงาน อบจ.นครราชสีมา แห่งใหม่ ก่อสร้างบนที่ดินสาธารณประโยชน์ บ.เดื่อ หมู่ที่ 8 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 289 ไร่ 3 งาน 65.3 ตรว. โดย อบจ. ได้ใช้ที่ดินตามความในมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 46 ไร่ 99 ตรว. แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 อาคารสำนักงาน คสล. 9 ชั้น และอาคารประกอบอื่น งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 985,130,000 บาท ระยะที่ 2 อาคารที่จอดรถ คสล. 5 ชั้น งบประมาณ 149,870,000 บาท (ค่อยดำเนินการทีหลัง) ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างจะดำเนินงานตามแผน 4 ปี (2569 – 2572) เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐและเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ในอนาคต”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 637 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครม.ไม่รับลูก สว. เปิดประชุมสมัยวิสามัญ ถกปมชายแดน บอกสถานการณ์คลี่คลายแล้ว
    https://www.thai-tai.tv/news/19331/
    ครม.ไม่รับลูก สว. เปิดประชุมสมัยวิสามัญ ถกปมชายแดน บอกสถานการณ์คลี่คลายแล้ว https://www.thai-tai.tv/news/19331/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • ค่ายน้ำเงินทันกระแส "อนุทิน" ลุยชายแดนไทย-กัมพูชา ให้กำลังใจทหาร-ชาวบ้าน พร้อมตรวจหลุมหลบภัย ด้าน ส.ว.จี้เปิดสภาวิสามัญ ถกปัญหาชายแดน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000053785

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ค่ายน้ำเงินทันกระแส "อนุทิน" ลุยชายแดนไทย-กัมพูชา ให้กำลังใจทหาร-ชาวบ้าน พร้อมตรวจหลุมหลบภัย ด้าน ส.ว.จี้เปิดสภาวิสามัญ ถกปัญหาชายแดน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000053785 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 985 มุมมอง 0 รีวิว
  • BIG Story | "โจ ด่านช้าง" วิสามัญอำพราง

    ย้อนรอยคดีอื้อฉาวปลายปี 2539 เมื่อ “โจ ด่านช้าง” กับพวกรวม 6 คน ถูกตำรวจนับร้อยนายล้อมจับ หลังถูกระบุว่าเป็นมือปืนรับจ้างและเอเย่นต์ยาม้า ผู้ก่อคดีโชกโชน ทั้งหมดจับตัวประกันก่อนยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อยอมมอบตัวแล้วกลับถูกวิสามัญเสียชีวิตทั้งหมด จุดจบที่ควรคลี่คลายกลับกลายเป็นปริศนา และจุดคำถามใหญ่ต่อพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ

    #BigStory #โจด่านช้าง #วิสามัญอำพราง #คดีอื้อฉาว #สิทธิมนุษยชน #ความจริงที่ยังไม่ถูกพูดถึง #ThaiTimes
    BIG Story | "โจ ด่านช้าง" วิสามัญอำพราง ย้อนรอยคดีอื้อฉาวปลายปี 2539 เมื่อ “โจ ด่านช้าง” กับพวกรวม 6 คน ถูกตำรวจนับร้อยนายล้อมจับ หลังถูกระบุว่าเป็นมือปืนรับจ้างและเอเย่นต์ยาม้า ผู้ก่อคดีโชกโชน ทั้งหมดจับตัวประกันก่อนยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อยอมมอบตัวแล้วกลับถูกวิสามัญเสียชีวิตทั้งหมด จุดจบที่ควรคลี่คลายกลับกลายเป็นปริศนา และจุดคำถามใหญ่ต่อพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ #BigStory #โจด่านช้าง #วิสามัญอำพราง #คดีอื้อฉาว #สิทธิมนุษยชน #ความจริงที่ยังไม่ถูกพูดถึง #ThaiTimes
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1379 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • ฝ่ายค้านขึงพืด ถล่มหนักงบ 69 งบลับ-งบกลาง-งบสภา ไม่รอด
    .
    การเมืองสัปดาห์นี้ กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เพราะจะมีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญฯ ระหว่าง 28-31 พ.ค. ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ในช่วงวันที่ 29 พ.ค.ไปจนถึง 31 พ.ค. ที่จะเป็นการพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระแรก ซึ่งวิปรัฐบาลให้เวลาอภิปราย 29-31 พ.ค.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000049036

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ฝ่ายค้านขึงพืด ถล่มหนักงบ 69 งบลับ-งบกลาง-งบสภา ไม่รอด . การเมืองสัปดาห์นี้ กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เพราะจะมีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญฯ ระหว่าง 28-31 พ.ค. ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ในช่วงวันที่ 29 พ.ค.ไปจนถึง 31 พ.ค. ที่จะเป็นการพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระแรก ซึ่งวิปรัฐบาลให้เวลาอภิปราย 29-31 พ.ค. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000049036 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 612 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22 สว. เขย่าหินผา กก.สืบคดีฮั้วเมินถูกร้อง : [NEWS UPDATE]

    ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่ สว. 22 คน ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ขอมีคําสั่งให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดํา อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) หยุดสืบสวนสอบสวนคดีฮั้วเลือก สว. และให้ดําเนินคดีกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เนื่องจากร่วมกันดำเนินคดีที่ไม่อยู่ในอำนาจตนเอง ไม่ส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะสืบสวนไต่สวน เนื่องจากยึดตามพยานหลักฐานสำคัญที่ปรากฏ ดำเนินการตามที่กฎหมายให้อำนาจ คือ เชิญ สว. กลุ่มแรกมารับทราบข้อกล่าวหา เปิดโอกาสให้ชี้แจง การถูกร้องเรียนดังกล่าวไม่ได้ทำให้คณะฯ หวั่นใจแต่อย่างใด

    -เปิดสภาวิสามัญถกงบ 2569

    -กรณีเลวร้าย"ทักษิณ"ยังรอด

    -เดินหน้ากระเช้าขึ้นภูกระดึง

    -พบเฟิร์นชนิดใหม่ของโลก
    22 สว. เขย่าหินผา กก.สืบคดีฮั้วเมินถูกร้อง : [NEWS UPDATE] ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่ สว. 22 คน ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ขอมีคําสั่งให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดํา อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) หยุดสืบสวนสอบสวนคดีฮั้วเลือก สว. และให้ดําเนินคดีกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เนื่องจากร่วมกันดำเนินคดีที่ไม่อยู่ในอำนาจตนเอง ไม่ส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะสืบสวนไต่สวน เนื่องจากยึดตามพยานหลักฐานสำคัญที่ปรากฏ ดำเนินการตามที่กฎหมายให้อำนาจ คือ เชิญ สว. กลุ่มแรกมารับทราบข้อกล่าวหา เปิดโอกาสให้ชี้แจง การถูกร้องเรียนดังกล่าวไม่ได้ทำให้คณะฯ หวั่นใจแต่อย่างใด -เปิดสภาวิสามัญถกงบ 2569 -กรณีเลวร้าย"ทักษิณ"ยังรอด -เดินหน้ากระเช้าขึ้นภูกระดึง -พบเฟิร์นชนิดใหม่ของโลก
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 878 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • 'หมอเปรม' จี้ 'มงคล' เลื่อนวาระพิจารณาแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ หลังโผล่วาระแฝงเร้นในประชุมวิสามัญ
    https://www.thai-tai.tv/news/18661/
    'หมอเปรม' จี้ 'มงคล' เลื่อนวาระพิจารณาแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ หลังโผล่วาระแฝงเร้นในประชุมวิสามัญ https://www.thai-tai.tv/news/18661/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • BIG Story ตอน ปริศนาวิสามัญฆาตรกรรม "ชัยภูมิ ป่าแส"

    จะพาไปย้อนคดีที่แม้ผ่านมา 5 ปี ก็ยังเป็นคดีที่ไม่มีผู้รับผิด นับจากเหตุการณ์ทหารวิสามัญฯ จะอุ๊ ชัยภูมิ ป่าแส’ เยาวชนนักกิจกรรม ชาวลาหู่ ที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิชาติพันธุ์ และผู้ขับเคลื่อนต่อต้านยาเสพติด โดยระบุว่าเขาขนยาบ้าและพยายามปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ขณะถูกจับ แต่หลายอย่างยังขัดแย้งและไร้การปรากฎของภาพกล้อวงจรปิดที่สาบสูญไปนาน 5 ปี จนกลายเป็นอีกคดีที่สะท้อนกระบวนการยุติธรรมที่ถูกกังขา

    #BigStory #ชัยภูมิป่าแส #วิสามัญฆาตกรรม #สิทธิชาติพันธุ์ #ความยุติธรรมที่หายไป #กระบวนการยุติธรรมไทย #ThaiTimes
    BIG Story ตอน ปริศนาวิสามัญฆาตรกรรม "ชัยภูมิ ป่าแส" จะพาไปย้อนคดีที่แม้ผ่านมา 5 ปี ก็ยังเป็นคดีที่ไม่มีผู้รับผิด นับจากเหตุการณ์ทหารวิสามัญฯ จะอุ๊ ชัยภูมิ ป่าแส’ เยาวชนนักกิจกรรม ชาวลาหู่ ที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิชาติพันธุ์ และผู้ขับเคลื่อนต่อต้านยาเสพติด โดยระบุว่าเขาขนยาบ้าและพยายามปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ขณะถูกจับ แต่หลายอย่างยังขัดแย้งและไร้การปรากฎของภาพกล้อวงจรปิดที่สาบสูญไปนาน 5 ปี จนกลายเป็นอีกคดีที่สะท้อนกระบวนการยุติธรรมที่ถูกกังขา #BigStory #ชัยภูมิป่าแส #วิสามัญฆาตกรรม #สิทธิชาติพันธุ์ #ความยุติธรรมที่หายไป #กระบวนการยุติธรรมไทย #ThaiTimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1251 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • นายสุทธิพงศ์ บุญนิล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นำเอกสารข้อมูลการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ชี้แจงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ พบใช้วิธี E-bidding ในการจัดซื้อจัดจ้าง ราคากลาง 2,522,153,000 บาท มีผู้ซื้อเอกสารประกวดราคา 16 ราย ปรากฏชื่อบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์10 (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) แต่มีผู้ยื่นเสนอราคา 7 ราย ซึ่งมีการยื่นประมูลของสองบริษัทในนาม กิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี และเป็นผู้ชนะประมูล ในวงเงิน 2,136 ล้านบาท มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง 9 ครั้ง อาทิ CORE LIFT อาคาร A, แบบบันได อาคาร B , CORE WALL อาคาร A ในครั้งที่ 4 และปรากฎการแก้ไข Core Wall อาคาร A อีกในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 6 และในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 8 ผู้รับจ้างขอแก้ไขงวดงานก่อสร้าง เนื่องจากมีหลายรายการไม่สอดคล้องกับขั้นตอนการปฎิบัติงาน จำเป็นต้องแก้ไข 18 รายการ ในงวดที่ 20 - 35 ประกอบด้วย งานโครงสร้าง , งานก่ออิฐ , งานผิวผนัง , งานฝ้าเพดาน , งานพื้นและงานผิวพื้น , งานฝังยึดราวบันได , งานสำเร็จบันได , งานประตูหน้าต่าง , งานสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ , งานบัวเชิงผนัง , งานสถาปัตยกรรมห้องเครื่อง , งานหลังคา , งานเบ็ดเตล็ดและอื่นๆ , งาน Curtain Wall , การตกแต่งภายใน , งานป้ายสัญลักษณ์ , งานเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว งานภูมิสถาปัตยกรรมและงานภายนอก สำหรับการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 9 เป็นการปรับแผนการทำงานใหม่โดยนำระยะเวลาการทำงานจำนวน 1,080 วัน มานับต่อจากวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาตามแผนการทำงานใหม่

    -9 ต้นตอตึก สตง. ถล่ม
    -หารือจุฬาราชมนตรีดับไฟใต้
    -เร่งเปิด 3 จุด ค้นหา
    -ทัวร์รัฐสภาดูโครงการของบ
    นายสุทธิพงศ์ บุญนิล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นำเอกสารข้อมูลการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ชี้แจงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ พบใช้วิธี E-bidding ในการจัดซื้อจัดจ้าง ราคากลาง 2,522,153,000 บาท มีผู้ซื้อเอกสารประกวดราคา 16 ราย ปรากฏชื่อบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์10 (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) แต่มีผู้ยื่นเสนอราคา 7 ราย ซึ่งมีการยื่นประมูลของสองบริษัทในนาม กิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี และเป็นผู้ชนะประมูล ในวงเงิน 2,136 ล้านบาท มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง 9 ครั้ง อาทิ CORE LIFT อาคาร A, แบบบันได อาคาร B , CORE WALL อาคาร A ในครั้งที่ 4 และปรากฎการแก้ไข Core Wall อาคาร A อีกในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 6 และในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 8 ผู้รับจ้างขอแก้ไขงวดงานก่อสร้าง เนื่องจากมีหลายรายการไม่สอดคล้องกับขั้นตอนการปฎิบัติงาน จำเป็นต้องแก้ไข 18 รายการ ในงวดที่ 20 - 35 ประกอบด้วย งานโครงสร้าง , งานก่ออิฐ , งานผิวผนัง , งานฝ้าเพดาน , งานพื้นและงานผิวพื้น , งานฝังยึดราวบันได , งานสำเร็จบันได , งานประตูหน้าต่าง , งานสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ , งานบัวเชิงผนัง , งานสถาปัตยกรรมห้องเครื่อง , งานหลังคา , งานเบ็ดเตล็ดและอื่นๆ , งาน Curtain Wall , การตกแต่งภายใน , งานป้ายสัญลักษณ์ , งานเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว งานภูมิสถาปัตยกรรมและงานภายนอก สำหรับการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 9 เป็นการปรับแผนการทำงานใหม่โดยนำระยะเวลาการทำงานจำนวน 1,080 วัน มานับต่อจากวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาตามแผนการทำงานใหม่ -9 ต้นตอตึก สตง. ถล่ม -หารือจุฬาราชมนตรีดับไฟใต้ -เร่งเปิด 3 จุด ค้นหา -ทัวร์รัฐสภาดูโครงการของบ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1070 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร เผยหลังผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ไม่เข้าชี้แจงกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ถล่ม เนื่องจากติดภารกิจไปให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ต้องเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ ต้องเล่าให้ฟังว่ามีอะไรเกิดขึ้น อย่าปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่มีอะไรแน่นอน อย่าอ้างปฏิบัติตามระเบียบ 100% ถ้าปฏิบัติ 100% แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ก็แปลว่าระเบียบเฮงซวยใช้ไม่ได้ ถามกลับ หากเกิดกับหน่วยงานอื่น จะให้คำแนะนำอย่างไร ตึกนี้ใช้เงินก่อสร้างกว่า 2,000 ล้านบาท สร้างโครงสร้างเสร็จแล้ว ถล่มภายใน 8 วินาที เราต้องช่วยกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

    -ต้องหาทางออกร่วมกัน
    -จับยาเสพติดล็อตใหญ่
    -สว​.ไม่เคลียร์นายใหญ่​
    เตือนหลุมรายได้ 1.6 ล้านล้าน
    นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร เผยหลังผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ไม่เข้าชี้แจงกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ถล่ม เนื่องจากติดภารกิจไปให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ต้องเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ ต้องเล่าให้ฟังว่ามีอะไรเกิดขึ้น อย่าปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่มีอะไรแน่นอน อย่าอ้างปฏิบัติตามระเบียบ 100% ถ้าปฏิบัติ 100% แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ก็แปลว่าระเบียบเฮงซวยใช้ไม่ได้ ถามกลับ หากเกิดกับหน่วยงานอื่น จะให้คำแนะนำอย่างไร ตึกนี้ใช้เงินก่อสร้างกว่า 2,000 ล้านบาท สร้างโครงสร้างเสร็จแล้ว ถล่มภายใน 8 วินาที เราต้องช่วยกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -ต้องหาทางออกร่วมกัน -จับยาเสพติดล็อตใหญ่ -สว​.ไม่เคลียร์นายใหญ่​ เตือนหลุมรายได้ 1.6 ล้านล้าน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 749 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • ผู้ว่าสตง.เบี้ยวแจงตึกถล่ม มีอะไรซ่อนอยู่แน่นอน : [THE MESSAGE]

    นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร เผยหลังผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ไม่เข้าชี้แจงกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ถล่ม เนื่องจากติดภารกิจไปให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ต้องเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ ต้องเล่าให้ฟังว่ามีอะไรเกิดขึ้น อย่าปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่มีอะไรแน่นอน อย่าอ้างปฏิบัติตามระเบียบ 100% ถ้าปฏิบัติ 100% แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ก็แปลว่าระเบียบเฮงซวยใช้ไม่ได้ ถามกลับ หากเกิดกับหน่วยงานอื่น จะให้คำแนะนำกับหน่วยงานอื่นอย่างไร
    ผู้ว่าสตง.เบี้ยวแจงตึกถล่ม มีอะไรซ่อนอยู่แน่นอน : [THE MESSAGE] นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร เผยหลังผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ไม่เข้าชี้แจงกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ถล่ม เนื่องจากติดภารกิจไปให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ต้องเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ ต้องเล่าให้ฟังว่ามีอะไรเกิดขึ้น อย่าปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่มีอะไรแน่นอน อย่าอ้างปฏิบัติตามระเบียบ 100% ถ้าปฏิบัติ 100% แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ก็แปลว่าระเบียบเฮงซวยใช้ไม่ได้ ถามกลับ หากเกิดกับหน่วยงานอื่น จะให้คำแนะนำกับหน่วยงานอื่นอย่างไร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 763 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • 78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง

    เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า?

    เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว

    เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก

    "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ"

    “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี

    "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5”

    ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน

    แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง

    เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป

    สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน

    ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย”

    “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ”

    ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน

    เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ

    “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ”

    เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง

    จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน”

    สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา

    การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก...

    ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี”

    แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล”

    ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร

    “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้

    เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ

    เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร

    เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ

    ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่...

    เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า”

    คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ

    ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ?

    ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง?

    ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว?

    เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ
    แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี

    เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568

    #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅 เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า? เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥 เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ" “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี 😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5” ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨 ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน 🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️ “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ” 🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ” 🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน” สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา 📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก... ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌ แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล” 😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้ เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ 🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร 🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ 🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่... เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า” คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ? ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง? ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว? 🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568 📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1242 มุมมอง 0 รีวิว
  • การประชุมนัดแรกของคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) วุฒิสภานัดแรก เพื่อคัดเลือกตำแหน่งต่าง ๆ ในกรรมาธิการ มี กมธ.ที่เข้าประชุมรวม 22 คน จาก กมธ.ที่มี 34 คน

    มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตำแหน่งประธาน กมธ.นั้นมีการเสนอชื่อบุคคลอย่างน้อย 3 คนคือ นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. และนายจรัญ ภักดีธนากุล ทั้งนี้ นายจรัญให้สัมภาษณ์โดยปฏิเสธการรับตำแหน่ง เพราะติดงานสอนจำนวนมาก

    ผลปรากฏว่าที่ประชุมได้โหวตเลือกนายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย นั่งเป็นประธาน

    สำหรับตำแหน่งอื่นๆใน กมธ. ประกอบด้วย:
    นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย เป็นประธาน
    นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. เป็นรองประธานคนที่ 1
    นายนิพนธ์ เอกวานิช สว. เป็นรองประธานคนที่ 2
    นายประเทือง มนตรี สว. เป็นรองประธานคนที่ 3
    นาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. เป็นรองประธานคนที่ 4
    น.ส.อัจฉรพรรณ หอมรส สว. เป็นเลขานุการ กมธ.
    น.ส.กัญญารัตน์ โคตรภูเขียว เป็นรองเลขานุการ
    นายแสนศักดิ์ ศิริพานิช เป็นรองเลขานุการ
    นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สว. เป็นโฆษก กมธ.

    โดยจะมีการประชุมทุกวันพฤหัสบดี เวลา 10.00 น
    การประชุมนัดแรกของคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) วุฒิสภานัดแรก เพื่อคัดเลือกตำแหน่งต่าง ๆ ในกรรมาธิการ มี กมธ.ที่เข้าประชุมรวม 22 คน จาก กมธ.ที่มี 34 คน มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตำแหน่งประธาน กมธ.นั้นมีการเสนอชื่อบุคคลอย่างน้อย 3 คนคือ นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. และนายจรัญ ภักดีธนากุล ทั้งนี้ นายจรัญให้สัมภาษณ์โดยปฏิเสธการรับตำแหน่ง เพราะติดงานสอนจำนวนมาก ผลปรากฏว่าที่ประชุมได้โหวตเลือกนายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย นั่งเป็นประธาน สำหรับตำแหน่งอื่นๆใน กมธ. ประกอบด้วย: นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย เป็นประธาน นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. เป็นรองประธานคนที่ 1 นายนิพนธ์ เอกวานิช สว. เป็นรองประธานคนที่ 2 นายประเทือง มนตรี สว. เป็นรองประธานคนที่ 3 นาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. เป็นรองประธานคนที่ 4 น.ส.อัจฉรพรรณ หอมรส สว. เป็นเลขานุการ กมธ. น.ส.กัญญารัตน์ โคตรภูเขียว เป็นรองเลขานุการ นายแสนศักดิ์ ศิริพานิช เป็นรองเลขานุการ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สว. เป็นโฆษก กมธ. โดยจะมีการประชุมทุกวันพฤหัสบดี เวลา 10.00 น
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อไทย 888 กาสิโนสุดซอย

    การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดสุดท้าย ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง ในวันที่ 9 เม.ย. ที่จะถึงนี้ วาระที่สังคมกำลังจับตามอง คือการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนเป็นหลักใหญ่ใจความ หลังจากนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเลื่อนขึ้นมาพิจารณาเป็นอันดับ 1 พร้อมกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข 4 ฉบับ เสมือนเหล้าพ่วงเบียร์ที่ต้องการบีบให้ สส. ยอมรับเพื่อแลกกับได้พิจารณาร่างกฎหมายที่ค้างในสภาฯ

    สื่อหลายค่ายรายงานว่า นายใหญ่อย่างอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร บิดา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลโดยตรง ให้ สส.ในพรรคลงมติวาระรับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หากพบว่าพรรคไหนแตกแถว ไม่เห็นชอบ จะพิจารณาให้ออกจากรัฐบาลทันที ท่ามกลางเสียง สส.ในสภาฯ จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจล่าสุด 319 เสียง พบว่ามีบางพรรคลังเลใจ เช่น พรรคประชาชาติ ที่มี สส.ในสภา 8 คนเป็นชาวมุสลิมจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ยื่นหนังสือถึงประธานวิปรัฐบาล กังวลว่าอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อเยาวชนในเรื่องการละเว้นอบายมุข ตามคำสอนและหลักการของแต่ละศาสนา จึงเห็นควรให้มีบทบัญญัติที่คำนึงถึงหลักการดังกล่าวด้วย

    อย่างไรก็ตาม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์เครือเนชั่น มั่นใจว่าจะผ่านวาระรับหลักการ เตรียมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 31 คน เป็นประธานเอง คัดรายชื่อเอง เน้นคนเข้ามาทำงานจริง ตั้งตามจำนวนที่จำเป็น และให้พรรคร่วมรัฐบาลส่งคนที่มีภาพลักษณ์ดีไม่เข้ามาหาประโยชน์ คาดว่าจะเสนอพิจารณาวาระ 2-3 ในเดือน ก.ค.2568 รวมทั้งรัฐบาลตั้งเป้าผลักดันนโยบาย ตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายฯ ออกกฎหมายลูก อาจเปิดประมูลเพื่อให้เกิดการลงทุนได้ทันทีในรัฐบาลหน้า

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชาวเน็ตต่างแห่ตั้งฉายาพรรคเพื่อไทยว่า "เพื่อไทย 888" ตอบโต้กรณีที่พรรคเพื่อไทยชี้แจงข้อกล่าวหาในการประชุมสภาฯ ว่า กาสิโนมาก่อนแผ่นดินไหวไม่เป็นความจริง อีกด้านหนึ่ง แม้การชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) กลุ่ม ศปปส. และกองทัพธรรมยังไม่เป็นข่าวมากนัก แต่ก็พบว่าหลายองค์กรภาคประชาชนทั้งกลุ่มผู้นำทางศาสนา กลุ่มนักวิชาการ นักรัฐศาสตร์ ต่างออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แม้จะห้ามไม่ได้ที่ฝ่ายรัฐบาลจะผลักดันกฎหมายฉบับนี้แบบสุดซอย ไม่สนใจเสียงคัดค้านก็ตาม

    #Newskit
    เพื่อไทย 888 กาสิโนสุดซอย การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดสุดท้าย ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง ในวันที่ 9 เม.ย. ที่จะถึงนี้ วาระที่สังคมกำลังจับตามอง คือการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนเป็นหลักใหญ่ใจความ หลังจากนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเลื่อนขึ้นมาพิจารณาเป็นอันดับ 1 พร้อมกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข 4 ฉบับ เสมือนเหล้าพ่วงเบียร์ที่ต้องการบีบให้ สส. ยอมรับเพื่อแลกกับได้พิจารณาร่างกฎหมายที่ค้างในสภาฯ สื่อหลายค่ายรายงานว่า นายใหญ่อย่างอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร บิดา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลโดยตรง ให้ สส.ในพรรคลงมติวาระรับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หากพบว่าพรรคไหนแตกแถว ไม่เห็นชอบ จะพิจารณาให้ออกจากรัฐบาลทันที ท่ามกลางเสียง สส.ในสภาฯ จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจล่าสุด 319 เสียง พบว่ามีบางพรรคลังเลใจ เช่น พรรคประชาชาติ ที่มี สส.ในสภา 8 คนเป็นชาวมุสลิมจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ยื่นหนังสือถึงประธานวิปรัฐบาล กังวลว่าอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อเยาวชนในเรื่องการละเว้นอบายมุข ตามคำสอนและหลักการของแต่ละศาสนา จึงเห็นควรให้มีบทบัญญัติที่คำนึงถึงหลักการดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์เครือเนชั่น มั่นใจว่าจะผ่านวาระรับหลักการ เตรียมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 31 คน เป็นประธานเอง คัดรายชื่อเอง เน้นคนเข้ามาทำงานจริง ตั้งตามจำนวนที่จำเป็น และให้พรรคร่วมรัฐบาลส่งคนที่มีภาพลักษณ์ดีไม่เข้ามาหาประโยชน์ คาดว่าจะเสนอพิจารณาวาระ 2-3 ในเดือน ก.ค.2568 รวมทั้งรัฐบาลตั้งเป้าผลักดันนโยบาย ตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายฯ ออกกฎหมายลูก อาจเปิดประมูลเพื่อให้เกิดการลงทุนได้ทันทีในรัฐบาลหน้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชาวเน็ตต่างแห่ตั้งฉายาพรรคเพื่อไทยว่า "เพื่อไทย 888" ตอบโต้กรณีที่พรรคเพื่อไทยชี้แจงข้อกล่าวหาในการประชุมสภาฯ ว่า กาสิโนมาก่อนแผ่นดินไหวไม่เป็นความจริง อีกด้านหนึ่ง แม้การชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) กลุ่ม ศปปส. และกองทัพธรรมยังไม่เป็นข่าวมากนัก แต่ก็พบว่าหลายองค์กรภาคประชาชนทั้งกลุ่มผู้นำทางศาสนา กลุ่มนักวิชาการ นักรัฐศาสตร์ ต่างออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แม้จะห้ามไม่ได้ที่ฝ่ายรัฐบาลจะผลักดันกฎหมายฉบับนี้แบบสุดซอย ไม่สนใจเสียงคัดค้านก็ตาม #Newskit
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1228 มุมมอง 0 รีวิว
  • สส.กำแพงเพชร วอน ฝ่ายเห็นต่าง กม.กาสิโน อย่าเพิ่งกดดัน เชื่อ ยังถกหา กม.บังคับใช้ร่วมกันได้ มอง สถานที่ตั้งควรเป็นเมืองรองจะช่วยกระจายความเจริญ

    เมื่อวันที่ (6 เม.ย.) เวลา 10.20 น.นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม(กธ.)ในฐานะอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex)กล่าวถึง(ร่าง) พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.. ซึ่งน่าจะมีการพิจาาณาในวันที่ 9 เม.ย. 2568 ว่า แนวคิดดังกล่าวถูกนำมาพิจารณากันตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว เพราะต้องยอมรับว่า ประเทศไทยเรามีบ่อนการพนันผิดกฎหมายอยู่ทั่วไปหมด ซึ่งมันมีทางเลือกในการแก้ไขปัญหาอยู่ 2 ทางคือ 1.เอาของที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน 2.เดินหน้าปราบปรามอย่างเข้มงวด ซึ่งในคณะกรรมาธิการตอนนั้นทุกคนมองว่า การพนันใต้ดินเราไม่เคยปราบปรามได้ ดังนั้น เราจึงควรที่จะนำสิ่งที่ผิดกฎหมายขึ้นมาทำให้ถูกต้อง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000032771

    #MGROnline #กาสิโน
    สส.กำแพงเพชร วอน ฝ่ายเห็นต่าง กม.กาสิโน อย่าเพิ่งกดดัน เชื่อ ยังถกหา กม.บังคับใช้ร่วมกันได้ มอง สถานที่ตั้งควรเป็นเมืองรองจะช่วยกระจายความเจริญ • เมื่อวันที่ (6 เม.ย.) เวลา 10.20 น.นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม(กธ.)ในฐานะอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex)กล่าวถึง(ร่าง) พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.. ซึ่งน่าจะมีการพิจาาณาในวันที่ 9 เม.ย. 2568 ว่า แนวคิดดังกล่าวถูกนำมาพิจารณากันตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว เพราะต้องยอมรับว่า ประเทศไทยเรามีบ่อนการพนันผิดกฎหมายอยู่ทั่วไปหมด ซึ่งมันมีทางเลือกในการแก้ไขปัญหาอยู่ 2 ทางคือ 1.เอาของที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน 2.เดินหน้าปราบปรามอย่างเข้มงวด ซึ่งในคณะกรรมาธิการตอนนั้นทุกคนมองว่า การพนันใต้ดินเราไม่เคยปราบปรามได้ ดังนั้น เราจึงควรที่จะนำสิ่งที่ผิดกฎหมายขึ้นมาทำให้ถูกต้อง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000032771 • #MGROnline #กาสิโน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 489 มุมมอง 0 รีวิว
  • สบช่องแผ่นดินไหว ดึงกาสิโนเข้าสภาฯ

    ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. อีกทั้งสังคมยังคงให้ความสนใจปฎิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารที่ทำการ สตง.แห่งใหม่ถล่มลงมา โดยมีตัวเลขผู้เสียชีวิตรวม 13 ราย บาดเจ็บ 19 ราย และผู้สูญหายประมาณ 70 คน ปรากฎว่ามีความพยายามจากฝ่ายการเมืองในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และเตรียมเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาตามขั้นตอน

    ปรากฎว่า ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แจ้งว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ มีคำสั่งให้บรรจุเรื่องตามระเบียบวาระเรื่องด่วนที่ 15 เพิ่มเติม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย.นี้ โดยคาดว่าต้องการให้ สส. ลงมติเห็นชอบวาระรับหลักการ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้ได้ ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่ 11 เม.ย. เพราะหากไม่ทันก็ต้องรอเปิดสมัยประชุมสภาฯ อีกครั้งเดือน ก.ค. ถือเป็นความรวดเร็วและเร่งรีบอย่างมีพิรุธ

    เพราะรัฐบาลมีเสียง สส. สนับสนุนอยู่ในมือ 319 เสียง เพียงพอที่จะล็อบบี้หรือสั่งการกรรมาธิการเสียงข้างมาก ที่เป็นคนของฝ่ายรัฐบาลให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรโดยเร็ว เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ อีกครั้งในเดือน ก.ค. กรรมาธิการส่งร่างกฎหมายเข้าสภาฯ วิปรัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยก็จะผลักดันให้นำร่าง พ.ร.บ.เข้ามาพิจารณาโดยเร็ว และใช้เสียงข้างมากโหวตให้ผ่านสภาฯ วาระสาม ก่อนส่งต่อให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) พิจารณาต่อ หาก สว.สายสีน้ำเงินตกลงกันได้และไม่ขวาง ก็สามารถปิดเกมกฎหมาย พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ภายในไม่เกินปลายปี 2568

    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องมีการคุยกันก่อน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง อ้างว่ามีบริษัทต่างชาติระดับโลกสนใจลงทุน นายวิสุทธิ์ ไชณยรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ถ้าตัดสินใจจะทำอะไรก็ต้องทำ ถ้าไม่ตัดสินใจหรือตัดสินใจช้าก็ไม่ได้ทำ ใครไม่เห็นด้วยก็คัดค้านไป ไม่กังวลอะไร ถ้ากลัวก็ไม่ทำ ทำแล้วไม่กลัวแน่นอน ส่วนนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อ้างว่าอย่าไปคิดเร่งรัดเกินไป เป็นนโยบายของรัฐบาลซึ่งแถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว ไม่ใช่คิดโดยพลการ และอ้างว่าไม่เกี่ยวกัน หากกฎหมายไม่ผ่านวาระแรกรัฐบาลจะยุบสภา

    #Newskit
    สบช่องแผ่นดินไหว ดึงกาสิโนเข้าสภาฯ ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. อีกทั้งสังคมยังคงให้ความสนใจปฎิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารที่ทำการ สตง.แห่งใหม่ถล่มลงมา โดยมีตัวเลขผู้เสียชีวิตรวม 13 ราย บาดเจ็บ 19 ราย และผู้สูญหายประมาณ 70 คน ปรากฎว่ามีความพยายามจากฝ่ายการเมืองในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และเตรียมเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาตามขั้นตอน ปรากฎว่า ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แจ้งว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ มีคำสั่งให้บรรจุเรื่องตามระเบียบวาระเรื่องด่วนที่ 15 เพิ่มเติม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย.นี้ โดยคาดว่าต้องการให้ สส. ลงมติเห็นชอบวาระรับหลักการ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้ได้ ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่ 11 เม.ย. เพราะหากไม่ทันก็ต้องรอเปิดสมัยประชุมสภาฯ อีกครั้งเดือน ก.ค. ถือเป็นความรวดเร็วและเร่งรีบอย่างมีพิรุธ เพราะรัฐบาลมีเสียง สส. สนับสนุนอยู่ในมือ 319 เสียง เพียงพอที่จะล็อบบี้หรือสั่งการกรรมาธิการเสียงข้างมาก ที่เป็นคนของฝ่ายรัฐบาลให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรโดยเร็ว เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ อีกครั้งในเดือน ก.ค. กรรมาธิการส่งร่างกฎหมายเข้าสภาฯ วิปรัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยก็จะผลักดันให้นำร่าง พ.ร.บ.เข้ามาพิจารณาโดยเร็ว และใช้เสียงข้างมากโหวตให้ผ่านสภาฯ วาระสาม ก่อนส่งต่อให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) พิจารณาต่อ หาก สว.สายสีน้ำเงินตกลงกันได้และไม่ขวาง ก็สามารถปิดเกมกฎหมาย พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ภายในไม่เกินปลายปี 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องมีการคุยกันก่อน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง อ้างว่ามีบริษัทต่างชาติระดับโลกสนใจลงทุน นายวิสุทธิ์ ไชณยรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ถ้าตัดสินใจจะทำอะไรก็ต้องทำ ถ้าไม่ตัดสินใจหรือตัดสินใจช้าก็ไม่ได้ทำ ใครไม่เห็นด้วยก็คัดค้านไป ไม่กังวลอะไร ถ้ากลัวก็ไม่ทำ ทำแล้วไม่กลัวแน่นอน ส่วนนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อ้างว่าอย่าไปคิดเร่งรัดเกินไป เป็นนโยบายของรัฐบาลซึ่งแถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว ไม่ใช่คิดโดยพลการ และอ้างว่าไม่เกี่ยวกัน หากกฎหมายไม่ผ่านวาระแรกรัฐบาลจะยุบสภา #Newskit
    Like
    Sad
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 887 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts