• "อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ"! "อันวาร์" ผิดคิว หรือ ตั้งใจ? 19/04/68 #อันวาร์ #ทักษิณ #ประธานอาเซียน #รัฐบาล
    "อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ"! "อันวาร์" ผิดคิว หรือ ตั้งใจ? 19/04/68 #อันวาร์ #ทักษิณ #ประธานอาเซียน #รัฐบาล
    Haha
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 483 Views 21 0 Reviews
  • 08-04-68/04 : หมี CNN / "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP8 (ซัดให้เละ ขยี้ให้แหลก)

    อะไรน่ะ! 6 เหล่าทัพ ไม่เห็นหัวรัฐบาล ไอ้สัส! จริงดิ? เพิ่งรู้เหรอ ดีออก! สายตรงวังนานแล้ว ไอ้ควาย เค้ากำลังจะล่อมรึงอยู่นี่ไง? เมษาเลือด เมษาเดือด โลกตะลุมบอล พอแตะพฤษภา ก็ถึงคิวอีร่านหน้าเหลี่ยมทันที สัญญานยังไม่ชัดพออีกเหรอ? อยู่ไปวันวัน ให้หนักแผ่นดินพ่อกูทำไม? ไม่อยากจะบอกว่า เบื้องบนส่งคนมาควบคุมกำกับเองน่ะมรึง ทุกคดีความที่สร้างความเสียหายหนักให้ประเทศ และชีวิตประชากรควายไทยบัดซบทั้งหลาย สติไม่มี สมองไม่มา ก็ถูกเค้าหลอกร่ำไป โง่ดักดาน จนควายตัวจริง ยังเดินหนี? การบริหารแผ่นดินจนได้รับความเสียหาย การแหกกฎ ระเบียบข้อบังคับ และวิถีปฎิบัติเก่าก่อน ใครเค้าจะเก็บมรึงเอาไว้อีก?

    อะไรอีกน่ะ! ISKANDER-M ล่อผบ.เหี้ยตายคาตรีน ผบ.อีเศษฝรั่ง อีสิงโต ร่างกระจุย ลากทหารนาโต้กว่า 85 นาย ระเหยไปพร้อมกันหมดทีเดียว แรงจริง ไม่พูดเยอะ อยากลองของ ต้องได้ลอง ตายไม่ต้องพูด เพราะไม่รอด กล้าเข้ามา ก็เตรียมกลายเป็นปุ๋ยไปซะน่ะ จนอีเคียฟ ต้องร้องขอชีวิต นาโต้บีบเหี้ยมะกันช่วยกูด้วย อีทรัมปป์สวนกลับ อยากให้กูช่วยยกกรีนแลนด์ให้กูสิ ดีออก? ไม่ว่ายุโรปจะหันไปทางไหน ก็เสร็จอีทรัมปป์ กับ ขั้วใหม่อยู่ดี ทางเลือกมีไม่มาก อยากให้ใครแดร๊ก ก็จิ้มคนนั้น แต่อย่าลืมน่ะว่า ตอนนี้ รัสเซีย จีน คือที่สุดของมหาอำนาจโลก แสนยานุภาพอันดับ 1 เลือกอีทรัมปป์ใช่ว่าจะรอด ดังนั้น สุดท้าย..ไม่พ้นต้องกลับมากราบตรีนปูตินจนได้

    ครั้งแรกของประวัติศาสตร์เมืองไทย เมื่อเหล่ากองทัพสีทั้งหลาย รวมตัวกันเพื่อภารกิจพิเศษเฉพาะ แดง เหลือง ฟ้า น้ำเงิน เขียว ม่วง มาหมด แห่กันเตรียมทอดกฐินรัฐบาลเถื่อนชาติหมา งานนี้ ดิ้นหนีตาย เผ่นหางจุกตูดออกนอกกันหมดเกลี้ยง กูเคยบอกแล้วว่า เพ่แดง เค้าจองเวร จองกรรมกับไอ้อีตระกูลเสนียดจัญไรแผ่นดินมายาวนาน ครั้งนี้ เตรียมแผนเด็ดหัวเหี้ยแบบรวบรัด เอาให้ช็อคแดร๊กทั้งแผ่นดิน รอดูลีลาเพ่ทหาร บู๊ทเขียวตรีนโต จะเล่นบทโหด มันส์ ฮา ขนาดไหน? ม็อบกู้ชาติลงถนนอีกครั้ง แน่นอน ย่อมมีกองกำลังจัดตั้ง และมีสายแข็งปะปนอยู่ในกลุ่มม็อบชัวร์ รออีกากี เล่นแรงเมื่อไหร่ งานนี้ น้องๆ TEXAS FESTIVAL เลยจ๊ะ พกกันมาเพี๊ยบ อย่าเอ็ดไป จุ๊..จุ๊ สวนมา สวนกลับไม่มีโกง วงในเค้ารู้ ไอ้ตัวแบ็คอัพข้างหลัง มันใหญ่แค่ไหน? สามารถสั่งทั้งไอ้อีทั้งกรมปทุมวัน หุบปากได้ อย่าเสือก งานนี้ กูขอ?

    เพ่อัจยังซัดต่อ ไม่เกรงใจใคร ผู้การ ผอ. นายพล เอี่ยวหมด แตะตรงไหน แดร๊กสะบัดช่อ ทุนจีนเทาเปย์หนัก เท่าไหร่ว่ามา เงินถึง เสี่ยงคุกก็กล้า? คิดว่าเคลียร์ได้ แต่ผลกระทบวงกว้าง เชิญไปเคลียร์กับพ่องในศาลล่ะกันน่ะ เพ่อัจ ไม่ได้กล่าว? เรื่องผีอีโม กำลังได้ข้อสรุปแล้ว ศาลเจ้าเถื่อนนนท์ จะตัดสินตามสำนวนอีกากีตอแหลเสนอไปก็ตาม แต่คดีพลิกไปแล้ว งานนี้ คุกรออยู่ 5 ตัวบนเรือ ถูกบูชายันต์ก่อนใคร? เพราะแก่นแท้ใจความแห่งคดีคือ "โดยประมาท" แต่มันไม่ใช่ปัจจัยหลักอีกต่อไปแล้ว เพราะถูกฆาตกรรมอำพรางคดี พิสูจน์หลักฐานชัด ผีอีโมไม่ได้อยู่บนเรือ ดังนั้น ใครทำสำนวนเก่ายื่น เตรียมรับกรรมได้เลย คุกมาแล้วจ๊า แถไม่ออก เถียงไม่ขึ้น? หลังสงกรานต์ จะมีเหี้ยร้องโหยหวนกันอีกเยอะ ตายยกรัง ทั้งกรมอีกากีเสนียดจัญไรแผ่นดินด้วย หมอใครเซ็นต์ ศพใครชันสูตร โดนหมดทั้งองคาพยพ!

    จีนไม่ใช่ไก่รองบ่อนมรึงน่ะ ไอ้ควาย? ซัดมา ซัดกลับ ไม่มีโกง เก็บกูเพิ่มเท่าไหร่ กูก็คิดเท่ากัน ไม่เอาเปรียบ เหี้ยกรี๊ด อีทรัมปป์ฉุน หากยังไม่ยอมหยุดตอบโต้กู กูจะขึ้นเป็น 50% เอามั้ย? จีนกลัวจนตัวสั่น กลัวหัวหดตดหาย เลยซัดกลับไปเลยว่า งั้นมรึงไม่ต้องเอาเหี้ยอะไรจากกูอีกต่อไป แร่หายาก แรเอิร์ธทั้งหมดบนโลก ไม่ส่งขายให้มรึง ดีมั้ยจ๊ะ? อีทรัมมป์ไบ้แดร๊ก เซมิคอนดั๊กเตอร์มรึงตายโหงทันที เพราะแร่แรเอิร์ธ จีนส่งออกมากกว่า 70% ทั้งโลก มวยคนละรุ่น ยาจก รึจะริเทียบชั้น เจ้าสัวโลก ดีออก? ล่าสุด เสือเหลือง ประธานอาเซียนปีนี้ ประกาศลั่น อาเซียนต้องจับมือกัน คุยกับเหี้ย อย่าแยกเดี่ยว ไปให้เป็นกลุ่มชาติอาเซียนจะมีอำนาจต่อรองเยอะกว่า จะไม่ยอมให้เหี้ยกระทำฝ่ายเดียว หากร่วมมือ แบนสินค้าอเมริกา งานนี้ถึงเจ๊งน่ะมรึง ทั้งโลกอาจจะทำ หากมรึงยังกระต่ายขาเดียวไม่เลิก เข้าทางตรีนขั้วใหม่สิจ๊ะ

    ปล.ไอ้สัส! THE TERMONIATOR มาจริงแล้วมรึง ไม่ได้ฝันไปน่ะเนี่ย? หุ่นยนต์ AI มนุษย์ ทำงานเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง ปรากฎตัวแล้วจ๊ะ ด้วยนวตรรมชิป 1 นาโนเมตร พ่องตาย? มรึงจะทะลุมิติดาวคู่ขนานอยู่แล้วน่ะมรึง? ทำเลียนแบบมนุษย์ได้หมด ทำงานบ้านได้ตามที่ต้องการ เป็นนายแบบ นางแบบได้ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ยักษ์ใหญ่จีน เริ่มใช้เข้าประจำการจริงแล้ว ทำงานไม่บ่น ไม่ฉี่ ไม่ขี้ ไม่แดร๊ก ไม่บ่น ไม่นินทานาย และไม่อู้งาน NON STOP 24 ชม. ลดต้นทุนไปได้เท่าไหร่? ล่าสุดงานมอเตอร์โชว์ ที่เพิ่งจบไป BYD ทะลุ 10000 คันไปแล้ว กระแส NO แบรนด์หรู สินค้าแฟชั่นตกต่ำ กระแสจ่ายค่าโง่รถคันละล้าน ตกกระป่องไปแล้ว ดีและถูก มีอยู่จริงแค่ 770000 ที่ราคารถเป็นล้านของอียุ่นปี่ เทียบไม่ติดขี้ตรีน ดีกว่าทุกรูขุมขน ทั้งฟังก์ชั่นและครอบคลุมประกันตลอดอายุการใช้งาน จีนบุกตลาดโลก ไม่ต้องไปตามแข่งกับเค้า ตามน้ำอย่างเดียว เดี๋ยวรวยเอง ทุนเค้าเยอะกว่า เทคโนโลยีสูงกว่า ต้นทุน วัตถุดิบต่ำกว่า เพราะผลิตเองทั้งหมด ไม่แปลกที่สหรัฐขาดดุลการค้าจีนมาโดยตลอด จะเอาเหี้ยอะไรไปขายจีนได้อีกล่ะ แม่งมีเกือบจะทุกอย่างแล้ว? ตามจีน ตามรัสเซีย เหี้ยไม่กัด หลวงพ่อปูติน หลวงเพ่สีจิ้นผิง ของเค้าขลังจริง อะไรจริง!

    หมี CNN(มีเรื่องนึงที่กูจำเป็นต้องพูด จำเป็นต้องบอก ส่วนพวกมรึงไปพิจารณาตามความเหมาะสมของตัวเอง เพราะปัจจัยแต่ละคนไม่เท่ากัน จำไว้ว่า สงครามมาปุ๊บ สิ่งที่สำคัญกว่าเงิน คือความปลอดภัย มั่นคง และความสงบสุข ตอนนี้ ต่างชาติ แห่กันเข้ามาซื้อคอนโด บ้านกันเยอะ ทุกภาคในประเทศไทย เหตุผลคือ เค้ามองแล้วว่า สงครามจะกินเวลายาวนาน กว่าจะหาผู้ชนะแท้จริงได้ หรือนำไปสู่โต๊ะเจรจา อาเซียนเป็นกลุ่มชาติที่น่าลี้ภัยมากที่สุด จากนี้ไป ราคาที่ดี ที่พัก คอนโด ที่มรึงคิดว่าน่าจะตกฮวบ จะกลับมาพุ่งทะยานฟ้าอีกครั้ง เหตุเพราะพื้นที่ในตัวเมืองมีจำกัดอย่างถึงที่สุด ใครอยากอยู่ในตัวเมืองก็ต้องยอมจ่ายแพง ใครร้อนเงิน จำเป็นต้องใช้เงิน กำไรแล้วขายได้ก็ทำไป แต่หากใครที่ยังไม่รีบร้อน ไม่เดือดร้อน เวลามีนายหน้ามาติดต่อขอซื้อตอนนี้ ให้บอกไปเลยว่า ยังไม่มีอารมณ์ขายจ๊ะ เพราะอีกไม่ถึง 5 ปีข้างหน้า ราคาบ้าน ที่ดิน คอนโด มรึงจะพุ่งขึ้นอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ ยิ่งต่างชาติมาซื้อ มรึงอย่าขายถูก ตั้งราคาสูงเข้าไว้ได้เลย หากจะเอา ก็ต้องยอมจ่าย สรุปคืออสังหาริมทรัพย์อาจจะพุ่งขึ้น 300% ภายใน 5 ปีนี้ แนวโน้มสูง)
    08 เมษายน 68
    13.23 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    08-04-68/04 : หมี CNN / "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP8 (ซัดให้เละ ขยี้ให้แหลก) อะไรน่ะ! 6 เหล่าทัพ ไม่เห็นหัวรัฐบาล ไอ้สัส! จริงดิ? เพิ่งรู้เหรอ ดีออก! สายตรงวังนานแล้ว ไอ้ควาย เค้ากำลังจะล่อมรึงอยู่นี่ไง? เมษาเลือด เมษาเดือด โลกตะลุมบอล พอแตะพฤษภา ก็ถึงคิวอีร่านหน้าเหลี่ยมทันที สัญญานยังไม่ชัดพออีกเหรอ? อยู่ไปวันวัน ให้หนักแผ่นดินพ่อกูทำไม? ไม่อยากจะบอกว่า เบื้องบนส่งคนมาควบคุมกำกับเองน่ะมรึง ทุกคดีความที่สร้างความเสียหายหนักให้ประเทศ และชีวิตประชากรควายไทยบัดซบทั้งหลาย สติไม่มี สมองไม่มา ก็ถูกเค้าหลอกร่ำไป โง่ดักดาน จนควายตัวจริง ยังเดินหนี? การบริหารแผ่นดินจนได้รับความเสียหาย การแหกกฎ ระเบียบข้อบังคับ และวิถีปฎิบัติเก่าก่อน ใครเค้าจะเก็บมรึงเอาไว้อีก? อะไรอีกน่ะ! ISKANDER-M ล่อผบ.เหี้ยตายคาตรีน ผบ.อีเศษฝรั่ง อีสิงโต ร่างกระจุย ลากทหารนาโต้กว่า 85 นาย ระเหยไปพร้อมกันหมดทีเดียว แรงจริง ไม่พูดเยอะ อยากลองของ ต้องได้ลอง ตายไม่ต้องพูด เพราะไม่รอด กล้าเข้ามา ก็เตรียมกลายเป็นปุ๋ยไปซะน่ะ จนอีเคียฟ ต้องร้องขอชีวิต นาโต้บีบเหี้ยมะกันช่วยกูด้วย อีทรัมปป์สวนกลับ อยากให้กูช่วยยกกรีนแลนด์ให้กูสิ ดีออก? ไม่ว่ายุโรปจะหันไปทางไหน ก็เสร็จอีทรัมปป์ กับ ขั้วใหม่อยู่ดี ทางเลือกมีไม่มาก อยากให้ใครแดร๊ก ก็จิ้มคนนั้น แต่อย่าลืมน่ะว่า ตอนนี้ รัสเซีย จีน คือที่สุดของมหาอำนาจโลก แสนยานุภาพอันดับ 1 เลือกอีทรัมปป์ใช่ว่าจะรอด ดังนั้น สุดท้าย..ไม่พ้นต้องกลับมากราบตรีนปูตินจนได้ ครั้งแรกของประวัติศาสตร์เมืองไทย เมื่อเหล่ากองทัพสีทั้งหลาย รวมตัวกันเพื่อภารกิจพิเศษเฉพาะ แดง เหลือง ฟ้า น้ำเงิน เขียว ม่วง มาหมด แห่กันเตรียมทอดกฐินรัฐบาลเถื่อนชาติหมา งานนี้ ดิ้นหนีตาย เผ่นหางจุกตูดออกนอกกันหมดเกลี้ยง กูเคยบอกแล้วว่า เพ่แดง เค้าจองเวร จองกรรมกับไอ้อีตระกูลเสนียดจัญไรแผ่นดินมายาวนาน ครั้งนี้ เตรียมแผนเด็ดหัวเหี้ยแบบรวบรัด เอาให้ช็อคแดร๊กทั้งแผ่นดิน รอดูลีลาเพ่ทหาร บู๊ทเขียวตรีนโต จะเล่นบทโหด มันส์ ฮา ขนาดไหน? ม็อบกู้ชาติลงถนนอีกครั้ง แน่นอน ย่อมมีกองกำลังจัดตั้ง และมีสายแข็งปะปนอยู่ในกลุ่มม็อบชัวร์ รออีกากี เล่นแรงเมื่อไหร่ งานนี้ น้องๆ TEXAS FESTIVAL เลยจ๊ะ พกกันมาเพี๊ยบ อย่าเอ็ดไป จุ๊..จุ๊ สวนมา สวนกลับไม่มีโกง วงในเค้ารู้ ไอ้ตัวแบ็คอัพข้างหลัง มันใหญ่แค่ไหน? สามารถสั่งทั้งไอ้อีทั้งกรมปทุมวัน หุบปากได้ อย่าเสือก งานนี้ กูขอ? เพ่อัจยังซัดต่อ ไม่เกรงใจใคร ผู้การ ผอ. นายพล เอี่ยวหมด แตะตรงไหน แดร๊กสะบัดช่อ ทุนจีนเทาเปย์หนัก เท่าไหร่ว่ามา เงินถึง เสี่ยงคุกก็กล้า? คิดว่าเคลียร์ได้ แต่ผลกระทบวงกว้าง เชิญไปเคลียร์กับพ่องในศาลล่ะกันน่ะ เพ่อัจ ไม่ได้กล่าว? เรื่องผีอีโม กำลังได้ข้อสรุปแล้ว ศาลเจ้าเถื่อนนนท์ จะตัดสินตามสำนวนอีกากีตอแหลเสนอไปก็ตาม แต่คดีพลิกไปแล้ว งานนี้ คุกรออยู่ 5 ตัวบนเรือ ถูกบูชายันต์ก่อนใคร? เพราะแก่นแท้ใจความแห่งคดีคือ "โดยประมาท" แต่มันไม่ใช่ปัจจัยหลักอีกต่อไปแล้ว เพราะถูกฆาตกรรมอำพรางคดี พิสูจน์หลักฐานชัด ผีอีโมไม่ได้อยู่บนเรือ ดังนั้น ใครทำสำนวนเก่ายื่น เตรียมรับกรรมได้เลย คุกมาแล้วจ๊า แถไม่ออก เถียงไม่ขึ้น? หลังสงกรานต์ จะมีเหี้ยร้องโหยหวนกันอีกเยอะ ตายยกรัง ทั้งกรมอีกากีเสนียดจัญไรแผ่นดินด้วย หมอใครเซ็นต์ ศพใครชันสูตร โดนหมดทั้งองคาพยพ! จีนไม่ใช่ไก่รองบ่อนมรึงน่ะ ไอ้ควาย? ซัดมา ซัดกลับ ไม่มีโกง เก็บกูเพิ่มเท่าไหร่ กูก็คิดเท่ากัน ไม่เอาเปรียบ เหี้ยกรี๊ด อีทรัมปป์ฉุน หากยังไม่ยอมหยุดตอบโต้กู กูจะขึ้นเป็น 50% เอามั้ย? จีนกลัวจนตัวสั่น กลัวหัวหดตดหาย เลยซัดกลับไปเลยว่า งั้นมรึงไม่ต้องเอาเหี้ยอะไรจากกูอีกต่อไป แร่หายาก แรเอิร์ธทั้งหมดบนโลก ไม่ส่งขายให้มรึง ดีมั้ยจ๊ะ? อีทรัมมป์ไบ้แดร๊ก เซมิคอนดั๊กเตอร์มรึงตายโหงทันที เพราะแร่แรเอิร์ธ จีนส่งออกมากกว่า 70% ทั้งโลก มวยคนละรุ่น ยาจก รึจะริเทียบชั้น เจ้าสัวโลก ดีออก? ล่าสุด เสือเหลือง ประธานอาเซียนปีนี้ ประกาศลั่น อาเซียนต้องจับมือกัน คุยกับเหี้ย อย่าแยกเดี่ยว ไปให้เป็นกลุ่มชาติอาเซียนจะมีอำนาจต่อรองเยอะกว่า จะไม่ยอมให้เหี้ยกระทำฝ่ายเดียว หากร่วมมือ แบนสินค้าอเมริกา งานนี้ถึงเจ๊งน่ะมรึง ทั้งโลกอาจจะทำ หากมรึงยังกระต่ายขาเดียวไม่เลิก เข้าทางตรีนขั้วใหม่สิจ๊ะ ปล.ไอ้สัส! THE TERMONIATOR มาจริงแล้วมรึง ไม่ได้ฝันไปน่ะเนี่ย? หุ่นยนต์ AI มนุษย์ ทำงานเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง ปรากฎตัวแล้วจ๊ะ ด้วยนวตรรมชิป 1 นาโนเมตร พ่องตาย? มรึงจะทะลุมิติดาวคู่ขนานอยู่แล้วน่ะมรึง? ทำเลียนแบบมนุษย์ได้หมด ทำงานบ้านได้ตามที่ต้องการ เป็นนายแบบ นางแบบได้ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ยักษ์ใหญ่จีน เริ่มใช้เข้าประจำการจริงแล้ว ทำงานไม่บ่น ไม่ฉี่ ไม่ขี้ ไม่แดร๊ก ไม่บ่น ไม่นินทานาย และไม่อู้งาน NON STOP 24 ชม. ลดต้นทุนไปได้เท่าไหร่? ล่าสุดงานมอเตอร์โชว์ ที่เพิ่งจบไป BYD ทะลุ 10000 คันไปแล้ว กระแส NO แบรนด์หรู สินค้าแฟชั่นตกต่ำ กระแสจ่ายค่าโง่รถคันละล้าน ตกกระป่องไปแล้ว ดีและถูก มีอยู่จริงแค่ 770000 ที่ราคารถเป็นล้านของอียุ่นปี่ เทียบไม่ติดขี้ตรีน ดีกว่าทุกรูขุมขน ทั้งฟังก์ชั่นและครอบคลุมประกันตลอดอายุการใช้งาน จีนบุกตลาดโลก ไม่ต้องไปตามแข่งกับเค้า ตามน้ำอย่างเดียว เดี๋ยวรวยเอง ทุนเค้าเยอะกว่า เทคโนโลยีสูงกว่า ต้นทุน วัตถุดิบต่ำกว่า เพราะผลิตเองทั้งหมด ไม่แปลกที่สหรัฐขาดดุลการค้าจีนมาโดยตลอด จะเอาเหี้ยอะไรไปขายจีนได้อีกล่ะ แม่งมีเกือบจะทุกอย่างแล้ว? ตามจีน ตามรัสเซีย เหี้ยไม่กัด หลวงพ่อปูติน หลวงเพ่สีจิ้นผิง ของเค้าขลังจริง อะไรจริง! หมี CNN(มีเรื่องนึงที่กูจำเป็นต้องพูด จำเป็นต้องบอก ส่วนพวกมรึงไปพิจารณาตามความเหมาะสมของตัวเอง เพราะปัจจัยแต่ละคนไม่เท่ากัน จำไว้ว่า สงครามมาปุ๊บ สิ่งที่สำคัญกว่าเงิน คือความปลอดภัย มั่นคง และความสงบสุข ตอนนี้ ต่างชาติ แห่กันเข้ามาซื้อคอนโด บ้านกันเยอะ ทุกภาคในประเทศไทย เหตุผลคือ เค้ามองแล้วว่า สงครามจะกินเวลายาวนาน กว่าจะหาผู้ชนะแท้จริงได้ หรือนำไปสู่โต๊ะเจรจา อาเซียนเป็นกลุ่มชาติที่น่าลี้ภัยมากที่สุด จากนี้ไป ราคาที่ดี ที่พัก คอนโด ที่มรึงคิดว่าน่าจะตกฮวบ จะกลับมาพุ่งทะยานฟ้าอีกครั้ง เหตุเพราะพื้นที่ในตัวเมืองมีจำกัดอย่างถึงที่สุด ใครอยากอยู่ในตัวเมืองก็ต้องยอมจ่ายแพง ใครร้อนเงิน จำเป็นต้องใช้เงิน กำไรแล้วขายได้ก็ทำไป แต่หากใครที่ยังไม่รีบร้อน ไม่เดือดร้อน เวลามีนายหน้ามาติดต่อขอซื้อตอนนี้ ให้บอกไปเลยว่า ยังไม่มีอารมณ์ขายจ๊ะ เพราะอีกไม่ถึง 5 ปีข้างหน้า ราคาบ้าน ที่ดิน คอนโด มรึงจะพุ่งขึ้นอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ ยิ่งต่างชาติมาซื้อ มรึงอย่าขายถูก ตั้งราคาสูงเข้าไว้ได้เลย หากจะเอา ก็ต้องยอมจ่าย สรุปคืออสังหาริมทรัพย์อาจจะพุ่งขึ้น 300% ภายใน 5 ปีนี้ แนวโน้มสูง) 08 เมษายน 68 13.23 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 424 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศไปอินโดนีเซีย ชี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ หลังเจ้าตัวพร้อมทนายความยื่นคำร้องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
    .
    วันนี้ (6 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทักษิณ พร้อมด้วย นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เดินทางมายื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
    .
    ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นายทักษิณเคยได้รับอนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 31 ม.ค. ยื่นคำร้องไปประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ. ตามคำเชิญของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ศาลอนุญาตโดยได้วางหลักประกันจำนวน 5 ล้านบาท และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย และแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทราบ
    .
    ต่อมาวันที่ 14 ก.พ. ได้ยื่นคำร้องไปประเทศบรูไน ระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. เพื่อไปประชุมตามคำเชิญของนายอันวาร์ ซึ่งศาลอนุญาตโดยวางหลักประกันจำนวน 5 ล้านบาท แต่ขณะเดียวกัน นายทักษิณยื่นคำร้องขอเดินทางไปประเทศเวียดนาม และกัมพูชาในช่วงเดียวกัน ศาลไม่อนุญาตเพราะเห็นว่าไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนาม ถือว่าเป็นการเชิญส่วนตัว ไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการไปกัมพูชา เป็นการเชิญจากสมเด็จฯ ฮุนเซน ในนามส่วนตัว ไม่ใช่รัฐบาลกัมพูชาเช่นกันศาลอาญาไม่อนุญาต ทักษิณ ไปอินโดนีเซีย ชี้ยังไม่มีเหตุเพียงพอ
    .
    ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศไปอินโดนีเซีย ชี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ หลังเจ้าตัวพร้อมทนายความยื่นคำร้องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
    .
    วันนี้ (6 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทักษิณ พร้อมด้วย นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เดินทางมายื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
    .
    ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นายทักษิณเคยได้รับอนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 31 ม.ค. ยื่นคำร้องไปประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ. ตามคำเชิญของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ศาลอนุญาตโดยได้วางหลักประกันจำนวน 5 ล้านบาท และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย และแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทราบ
    .
    ต่อมาวันที่ 14 ก.พ. ได้ยื่นคำร้องไปประเทศบรูไน ระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. เพื่อไปประชุมตามคำเชิญของนายอันวาร์ ซึ่งศาลอนุญาตโดยวางหลักประกันจำนวน 5 ล้านบาท แต่ขณะเดียวกัน นายทักษิณยื่นคำร้องขอเดินทางไปประเทศเวียดนาม และกัมพูชาในช่วงเดียวกัน ศาลไม่อนุญาตเพราะเห็นว่าไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนาม ถือว่าเป็นการเชิญส่วนตัว ไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการไปกัมพูชา เป็นการเชิญจากสมเด็จฯ ฮุนเซน ในนามส่วนตัว ไม่ใช่รัฐบาลกัมพูชาเช่นกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021861
    .........
    Sondhi X
    ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศไปอินโดนีเซีย ชี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ หลังเจ้าตัวพร้อมทนายความยื่นคำร้องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา . วันนี้ (6 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทักษิณ พร้อมด้วย นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เดินทางมายื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร . ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นายทักษิณเคยได้รับอนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 31 ม.ค. ยื่นคำร้องไปประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ. ตามคำเชิญของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ศาลอนุญาตโดยได้วางหลักประกันจำนวน 5 ล้านบาท และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย และแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทราบ . ต่อมาวันที่ 14 ก.พ. ได้ยื่นคำร้องไปประเทศบรูไน ระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. เพื่อไปประชุมตามคำเชิญของนายอันวาร์ ซึ่งศาลอนุญาตโดยวางหลักประกันจำนวน 5 ล้านบาท แต่ขณะเดียวกัน นายทักษิณยื่นคำร้องขอเดินทางไปประเทศเวียดนาม และกัมพูชาในช่วงเดียวกัน ศาลไม่อนุญาตเพราะเห็นว่าไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนาม ถือว่าเป็นการเชิญส่วนตัว ไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการไปกัมพูชา เป็นการเชิญจากสมเด็จฯ ฮุนเซน ในนามส่วนตัว ไม่ใช่รัฐบาลกัมพูชาเช่นกันศาลอาญาไม่อนุญาต ทักษิณ ไปอินโดนีเซีย ชี้ยังไม่มีเหตุเพียงพอ . ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศไปอินโดนีเซีย ชี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ หลังเจ้าตัวพร้อมทนายความยื่นคำร้องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา . วันนี้ (6 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทักษิณ พร้อมด้วย นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เดินทางมายื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร . ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นายทักษิณเคยได้รับอนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 31 ม.ค. ยื่นคำร้องไปประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ. ตามคำเชิญของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ศาลอนุญาตโดยได้วางหลักประกันจำนวน 5 ล้านบาท และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย และแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทราบ . ต่อมาวันที่ 14 ก.พ. ได้ยื่นคำร้องไปประเทศบรูไน ระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. เพื่อไปประชุมตามคำเชิญของนายอันวาร์ ซึ่งศาลอนุญาตโดยวางหลักประกันจำนวน 5 ล้านบาท แต่ขณะเดียวกัน นายทักษิณยื่นคำร้องขอเดินทางไปประเทศเวียดนาม และกัมพูชาในช่วงเดียวกัน ศาลไม่อนุญาตเพราะเห็นว่าไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนาม ถือว่าเป็นการเชิญส่วนตัว ไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการไปกัมพูชา เป็นการเชิญจากสมเด็จฯ ฮุนเซน ในนามส่วนตัว ไม่ใช่รัฐบาลกัมพูชาเช่นกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021861 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Sad
    27
    1 Comments 0 Shares 2663 Views 0 Reviews
  • 'ไทยภักดี' ยื่นหนังสือจี้ ‘อันวาร์’ ทบทวนบทบาท ‘ที่ปรึกษาประธานอาเซียน’ หวั่นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    https://www.thai-tai.tv/news/17517/
    'ไทยภักดี' ยื่นหนังสือจี้ ‘อันวาร์’ ทบทวนบทบาท ‘ที่ปรึกษาประธานอาเซียน’ หวั่นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ https://www.thai-tai.tv/news/17517/
    0 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • ทักษิณขออภัยกรณีตากใบ อ้างทำงานผิดพลาด

    นับเป็นการลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบประมาณ 20 ปี สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษานายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2568 นายทักษิณพร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และคณะ เดินทางมายังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส

    ช่วงหนึ่งนายทักษิณได้กล่าวกับคณะครูและประชาชนที่มาต้อนรับว่า ขออภัยต่อความผิดพลาดในเหตุการณ์ตากใบ แล้วต่อมานายทักษิณให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า "เรื่องตากใบ ตอนผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน พี่น้องมุสลิมมีสิ่งที่สำคัญมาก ถูกสอนมาว่า ความเข้าใจ เกรงใจ รักสันติสุข การให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ผมอาจจะทำสิ่งที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ผมต้องขออภัยด้วย"

    สำหรับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สถานีตำรวจภูธรตากใบ จ.นราธิวาส เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 ชาวบ้านกว่า 2,000 คน รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวมุสลิม 6 คน ที่ถูกควบคุมตัวโดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนและก่อความไม่สงบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมเสียชีวิตทันที 5 คน ที่เหลือนอนทับซ้อนกันในรถบรรทุกทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ห่างออกไป 150 กิโลเมตร มีผู้ชุมนุมขาดอากาศหายใจ เสียชีวิต 78 คน บาดเจ็บและพิการอีกมาก

    สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการตั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นคณะกรรมการเยียวยาฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. จ่ายเงินเยียวยากว่า 641 ล้านบาท ผู้เสียชีวิตจ่ายรายละ 7.5 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บ ผู้พิการได้รับลดหลั่นกันไป แต่ต่อมาในปี 2567 มีครอบครัวผู้เสียชีวิต 48 รายพร้อมญาติยื่นฟ้องคดีด้วยเอง ศาลประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2567 และออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน พบว่าแต่ละคนหลบหนี โดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นใบลาออกจาก สส. กระทั่งคดีขาดอายุความ หลังเที่ยงคืนวันที่ 26 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา

    ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ไปสัมภาษณ์ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกรณีตากใบ ระบุว่า พวกเขาต้องการได้ยินคำขอโทษจากนายทักษิณ และทวงถามความยุติธรรม แม้คดีขาดอายุความไปแล้ว

    #Newskit
    ทักษิณขออภัยกรณีตากใบ อ้างทำงานผิดพลาด นับเป็นการลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบประมาณ 20 ปี สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษานายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2568 นายทักษิณพร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และคณะ เดินทางมายังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ช่วงหนึ่งนายทักษิณได้กล่าวกับคณะครูและประชาชนที่มาต้อนรับว่า ขออภัยต่อความผิดพลาดในเหตุการณ์ตากใบ แล้วต่อมานายทักษิณให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า "เรื่องตากใบ ตอนผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน พี่น้องมุสลิมมีสิ่งที่สำคัญมาก ถูกสอนมาว่า ความเข้าใจ เกรงใจ รักสันติสุข การให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ผมอาจจะทำสิ่งที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ผมต้องขออภัยด้วย" สำหรับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สถานีตำรวจภูธรตากใบ จ.นราธิวาส เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 ชาวบ้านกว่า 2,000 คน รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวมุสลิม 6 คน ที่ถูกควบคุมตัวโดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนและก่อความไม่สงบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมเสียชีวิตทันที 5 คน ที่เหลือนอนทับซ้อนกันในรถบรรทุกทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ห่างออกไป 150 กิโลเมตร มีผู้ชุมนุมขาดอากาศหายใจ เสียชีวิต 78 คน บาดเจ็บและพิการอีกมาก สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการตั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นคณะกรรมการเยียวยาฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. จ่ายเงินเยียวยากว่า 641 ล้านบาท ผู้เสียชีวิตจ่ายรายละ 7.5 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บ ผู้พิการได้รับลดหลั่นกันไป แต่ต่อมาในปี 2567 มีครอบครัวผู้เสียชีวิต 48 รายพร้อมญาติยื่นฟ้องคดีด้วยเอง ศาลประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2567 และออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน พบว่าแต่ละคนหลบหนี โดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นใบลาออกจาก สส. กระทั่งคดีขาดอายุความ หลังเที่ยงคืนวันที่ 26 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ไปสัมภาษณ์ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกรณีตากใบ ระบุว่า พวกเขาต้องการได้ยินคำขอโทษจากนายทักษิณ และทวงถามความยุติธรรม แม้คดีขาดอายุความไปแล้ว #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 837 Views 0 Reviews
  • ปัตตานี – “ทักษิณ” พร้อมคณะลงพื้นที่โรงเรียนสอนศาสนา จ.ปัตตานี หาแนวทางแก้ปัญหาและการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดอกขออภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต เชื่อชายแดนใต้จะกลับไปสู่สันติสุข

    วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ รร.สายบุรีอิสลามวิทยา อ.สายบุรี จ.ปัตตานี นายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาประธานอาเซียน พร้อมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะ ในโอกาสเป็นตัวแทนรัฐบาลเดินหน้าหาแนวทางแก้ปัญหาและการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ นายนิเดร์ วาบา ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ภาคประชาสังคมและประชาชน นักเรียนให้การต้อนรับกว่า 1,000 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความยิ้มแย้ม เด็กนักเรียนทั้งหญิงและชายต่างขอถ่ายรูปเซลฟี่กันอย่างหนาแน่น

    โดยการลงมาเยือนชายแดนใต้ครั้งนี้ มีวาระประเด็นสำคัญว่า มีแนวคิดอ้างอิงจาก “โมเดล 66/2523” ซึ่งเคยใช้แนวทาง “นิรโทษกรรม” ต่ออดีตผู้ก่อความไม่สงบในช่วงหลังเหตุการณ์ 6ตุลาคม 2519 จะกลับมาใช้อีกครั้งหรือไม่ ซึ่งกำลังดำเนินการทำรายละเอียด ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ย้ำว่าแนวทางใหม่นี้จะไม่ใช่การนิรโทษกรรมโดยตรง แต่จะมีหลักเกณฑ์ชัดเจน และใช้แนวคิด “การเมืองนำการทหาร” ในการดำเนินการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/south/detail/9680000017889

    #MGROnline #ปัตตานี #ทักษิณ
    ปัตตานี – “ทักษิณ” พร้อมคณะลงพื้นที่โรงเรียนสอนศาสนา จ.ปัตตานี หาแนวทางแก้ปัญหาและการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดอกขออภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต เชื่อชายแดนใต้จะกลับไปสู่สันติสุข • วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ รร.สายบุรีอิสลามวิทยา อ.สายบุรี จ.ปัตตานี นายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาประธานอาเซียน พร้อมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะ ในโอกาสเป็นตัวแทนรัฐบาลเดินหน้าหาแนวทางแก้ปัญหาและการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ นายนิเดร์ วาบา ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ภาคประชาสังคมและประชาชน นักเรียนให้การต้อนรับกว่า 1,000 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความยิ้มแย้ม เด็กนักเรียนทั้งหญิงและชายต่างขอถ่ายรูปเซลฟี่กันอย่างหนาแน่น • โดยการลงมาเยือนชายแดนใต้ครั้งนี้ มีวาระประเด็นสำคัญว่า มีแนวคิดอ้างอิงจาก “โมเดล 66/2523” ซึ่งเคยใช้แนวทาง “นิรโทษกรรม” ต่ออดีตผู้ก่อความไม่สงบในช่วงหลังเหตุการณ์ 6ตุลาคม 2519 จะกลับมาใช้อีกครั้งหรือไม่ ซึ่งกำลังดำเนินการทำรายละเอียด ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ย้ำว่าแนวทางใหม่นี้จะไม่ใช่การนิรโทษกรรมโดยตรง แต่จะมีหลักเกณฑ์ชัดเจน และใช้แนวคิด “การเมืองนำการทหาร” ในการดำเนินการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/south/detail/9680000017889 • #MGROnline #ปัตตานี #ทักษิณ
    0 Comments 0 Shares 475 Views 0 Reviews
  • "ทักษิณ" เผยลงพื้นที่ จชต.สวม 3 บทบาท ทั้งอดีตนายก-ที่ปรึกษา ปธ.อาเซียน-ผู้สนับสนุนรัฐบาล อยากเห็นสันติสุขเกิดขึ้น เตรียมนำปัญหาคนสองสัญชาติเข้าหารือเวทีอาเซียน พร้อมนำแนวทาง 66/23 มาปรับใช้ ยอมรับ 20 ปีผ่านไปความปรองดองฟื้นฟูขึ้นเยอะ ยิ่งได้ประสานงานกับต่างประเทศด้วยมั่นใจว่าหาข้อยุติได้ เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

    วันนี้ (23 ก.พ. 68) ที่ รร.สัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ว่า มีความตั้งใจที่อยากเห็นสันติสุขเกิดขึ้น ซึ่งจากบทบาทที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตนเองอยากเห็นความร่วมมือในพื้นที่และความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านเป็นหัวใจสำคัญ ในการคืนสันติสุขให้กับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ซึ่งในพื้นที่เราต้องมีการพูดคุยกันให้เข้าใจ ตนเองได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้นำประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลาย ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องทุกคนอยากเห็นประเทศไทยและอยากเห็นอาเซียนมีความสงบสุข และได้มีการลงทุน การท่องเที่ยวกันมากขึ้น ฉะนั้นทุกคนร่วมมือกันหมด ซึ่งการร่วมมือตนเองมีความรู้สึกว่าเป็นการร่วมมือที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเหมือนครั้งนี้เชื่อมั่นว่าเราน่าจะแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดีกว่าจากความร่วมมือทั้งในประเทศและต่างประเทศ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000017865

    #MGROnline #ทักษิณ
    "ทักษิณ" เผยลงพื้นที่ จชต.สวม 3 บทบาท ทั้งอดีตนายก-ที่ปรึกษา ปธ.อาเซียน-ผู้สนับสนุนรัฐบาล อยากเห็นสันติสุขเกิดขึ้น เตรียมนำปัญหาคนสองสัญชาติเข้าหารือเวทีอาเซียน พร้อมนำแนวทาง 66/23 มาปรับใช้ ยอมรับ 20 ปีผ่านไปความปรองดองฟื้นฟูขึ้นเยอะ ยิ่งได้ประสานงานกับต่างประเทศด้วยมั่นใจว่าหาข้อยุติได้ เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ • วันนี้ (23 ก.พ. 68) ที่ รร.สัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ว่า มีความตั้งใจที่อยากเห็นสันติสุขเกิดขึ้น ซึ่งจากบทบาทที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตนเองอยากเห็นความร่วมมือในพื้นที่และความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านเป็นหัวใจสำคัญ ในการคืนสันติสุขให้กับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ซึ่งในพื้นที่เราต้องมีการพูดคุยกันให้เข้าใจ ตนเองได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้นำประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลาย ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องทุกคนอยากเห็นประเทศไทยและอยากเห็นอาเซียนมีความสงบสุข และได้มีการลงทุน การท่องเที่ยวกันมากขึ้น ฉะนั้นทุกคนร่วมมือกันหมด ซึ่งการร่วมมือตนเองมีความรู้สึกว่าเป็นการร่วมมือที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเหมือนครั้งนี้เชื่อมั่นว่าเราน่าจะแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดีกว่าจากความร่วมมือทั้งในประเทศและต่างประเทศ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000017865 • #MGROnline #ทักษิณ
    0 Comments 0 Shares 534 Views 0 Reviews
  • เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ท่าอากาศยานนราธิวาส โดยคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องผูกไว้กับรถกระบะของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสนามบิน ทำให้รถได้รับความเสียหาย ก่อนที่อดีตนายกฯ ทักษิณ รองนายกฯ ภูมิธรรม และคณะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนหน้านี้เกิดเหุระเบิดที่บันนังสตา
    .
    วันนี้ (23 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 08.35 น. เหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่ท่าอากาศยานนราธิวาส หรือสนามบินบ้านทอน ต.โคกเคียน อ.เมืองฯ จ.นราธิวาส โดยคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องผูกไว้ใต้ท้องรถกระบะ อีซูซุ ดีแมกซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 6955 นราธิวาส ซึ่งเป็นของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ท่าอากาศยานนราธิวาส ทำให้รถกระบะได้รับความเสียหาย ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในอีกประมาณ 50 นาทีข้างหน้า ส่วนบรรยากาศภายในสนามบิน เจ้าหน้าที่ได้มีการกันรถที่ไม่เกี่ยวข้องบางส่วนออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อคืนที่ผ่านมา (22 ก.พ.) เกิดเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดร้อยเวร 2-0 สายตรวจบริการ และ ชป.จู่โจม ของ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนดูแลความสงบเรียบร้อยในเขตเทศบาลบันนังสตา เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านมินิบิ๊กซี สาขาบันนังสตา ทำให้มีกำลังพลซึ่งเป็นตำรวจได้รับบาดเจ็บ 7 นาย อีกทั้งยังมีชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย โดยล่าสุดมีรายงานว่า มีชาวบ้านเสียชีวิตแล้ว 1 ราย
    .
    สำหรับกำหนดการนายทักษิณ ที่ปรึกษานายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนปี 2568 และคณะ ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยะชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มจากสนามกีฬา อบต.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ต่อด้วยวัดประชุมชนธารา โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา จากนั้นไปยังโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา อ.สายบุรี จ.ปัตตานี อุทยานการเรียนรู้ TK Park เทศบาลนครยะลา จ.ยะลา และบ้านนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร บ้านศรียะลา จ.ยะลา ก่อนกลับกรุงเทพมหานคร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000017778
    ..............
    Sondhi X
    เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ท่าอากาศยานนราธิวาส โดยคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องผูกไว้กับรถกระบะของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสนามบิน ทำให้รถได้รับความเสียหาย ก่อนที่อดีตนายกฯ ทักษิณ รองนายกฯ ภูมิธรรม และคณะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนหน้านี้เกิดเหุระเบิดที่บันนังสตา . วันนี้ (23 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 08.35 น. เหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่ท่าอากาศยานนราธิวาส หรือสนามบินบ้านทอน ต.โคกเคียน อ.เมืองฯ จ.นราธิวาส โดยคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องผูกไว้ใต้ท้องรถกระบะ อีซูซุ ดีแมกซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 6955 นราธิวาส ซึ่งเป็นของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ท่าอากาศยานนราธิวาส ทำให้รถกระบะได้รับความเสียหาย ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในอีกประมาณ 50 นาทีข้างหน้า ส่วนบรรยากาศภายในสนามบิน เจ้าหน้าที่ได้มีการกันรถที่ไม่เกี่ยวข้องบางส่วนออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย . ก่อนหน้านี้เมื่อคืนที่ผ่านมา (22 ก.พ.) เกิดเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดร้อยเวร 2-0 สายตรวจบริการ และ ชป.จู่โจม ของ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนดูแลความสงบเรียบร้อยในเขตเทศบาลบันนังสตา เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านมินิบิ๊กซี สาขาบันนังสตา ทำให้มีกำลังพลซึ่งเป็นตำรวจได้รับบาดเจ็บ 7 นาย อีกทั้งยังมีชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย โดยล่าสุดมีรายงานว่า มีชาวบ้านเสียชีวิตแล้ว 1 ราย . สำหรับกำหนดการนายทักษิณ ที่ปรึกษานายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนปี 2568 และคณะ ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยะชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มจากสนามกีฬา อบต.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ต่อด้วยวัดประชุมชนธารา โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา จากนั้นไปยังโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา อ.สายบุรี จ.ปัตตานี อุทยานการเรียนรู้ TK Park เทศบาลนครยะลา จ.ยะลา และบ้านนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร บ้านศรียะลา จ.ยะลา ก่อนกลับกรุงเทพมหานคร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000017778 .............. Sondhi X
    Like
    10
    0 Comments 0 Shares 1997 Views 0 Reviews
  • ได้คืบจะเอาศอก 'ทักษิณ' อยากพบ 'ฮุนเซน' แต่ศาลไทยไม่อนุญาต
    .
    'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กำลังจะได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง ภายหลังมีรายงานว่าได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศบรูไน ดารุสลาม โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูตไทย กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญนายทักษิณไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว
    .
    นายทักษิณยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และศาลอาญา ได้นัดไต่สวนพยานวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 มีพยาน 2 ปากคือนายทักษิณ เเละ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ โดยศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้อง จึงมีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ และให้วางหลักประกันตามที่เสนอ จำนวน 5 ล้านบาท และให้กลับมารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่เดินทางกลับ แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ทราบ
    .
    อย่างไรก็ตาม ปรากฎคำร้องของทักษิณที่ต้องการเดินทางไปยังกัมพูชาและเวียดนามนั้น ศาลไม่อนุญาต โดยได้พิจารณาคำร้องของนายทักษิณที่อ้างว่าไปประเทศ เวียดนาม เเละประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเดินไปประเทศบรูไน ดารุสลามแล้วเห็นว่า การเดินทางไปประเทศเวียดนาม นั้นเป็นไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนา ซึ่งมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาในหน่วยงานรัฐของเวียดนาม เเต่เป็นการเชิญส่วนตัวไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการขออนุญาตเดินทางไปประเทศกัมพูชา ก็เป็นคำเชิญจาก สมเด็จฮุน เซน ซึ้งเป็นในนามส่วนตัวเช่นกันไม่ใช่ในนามรัฐบาลกัมพูชาแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีไม่มีเหตุจำเป็น ศาลจึงยกคำร้อง
    .
    สำหรับนายทักษิณ ก่อนหน้านี้ศาลอาญาที่อนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยศาลอาญาอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
    ..............
    Sondhi X
    ได้คืบจะเอาศอก 'ทักษิณ' อยากพบ 'ฮุนเซน' แต่ศาลไทยไม่อนุญาต . 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กำลังจะได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง ภายหลังมีรายงานว่าได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศบรูไน ดารุสลาม โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูตไทย กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญนายทักษิณไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว . นายทักษิณยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และศาลอาญา ได้นัดไต่สวนพยานวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 มีพยาน 2 ปากคือนายทักษิณ เเละ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ โดยศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้อง จึงมีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ และให้วางหลักประกันตามที่เสนอ จำนวน 5 ล้านบาท และให้กลับมารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่เดินทางกลับ แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ทราบ . อย่างไรก็ตาม ปรากฎคำร้องของทักษิณที่ต้องการเดินทางไปยังกัมพูชาและเวียดนามนั้น ศาลไม่อนุญาต โดยได้พิจารณาคำร้องของนายทักษิณที่อ้างว่าไปประเทศ เวียดนาม เเละประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเดินไปประเทศบรูไน ดารุสลามแล้วเห็นว่า การเดินทางไปประเทศเวียดนาม นั้นเป็นไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนา ซึ่งมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาในหน่วยงานรัฐของเวียดนาม เเต่เป็นการเชิญส่วนตัวไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการขออนุญาตเดินทางไปประเทศกัมพูชา ก็เป็นคำเชิญจาก สมเด็จฮุน เซน ซึ้งเป็นในนามส่วนตัวเช่นกันไม่ใช่ในนามรัฐบาลกัมพูชาแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีไม่มีเหตุจำเป็น ศาลจึงยกคำร้อง . สำหรับนายทักษิณ ก่อนหน้านี้ศาลอาญาที่อนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยศาลอาญาอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    3
    0 Comments 0 Shares 579 Views 0 Reviews
  • ได้คืบจะเอาศอก 'ทักษิณ' อยากพบ 'ฮุนเซน' แต่ศาลไทยไม่อนุญาต
    .
    'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กำลังจะได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง ภายหลังมีรายงานว่าได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศบรูไน ดารุสลาม โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูตไทย กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญนายทักษิณไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว
    .
    นายทักษิณยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และศาลอาญา ได้นัดไต่สวนพยานวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 มีพยาน 2 ปากคือนายทักษิณ เเละ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ โดยศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้อง จึงมีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ และให้วางหลักประกันตามที่เสนอ จำนวน 5 ล้านบาท และให้กลับมารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่เดินทางกลับ แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ทราบ
    .
    อย่างไรก็ตาม ปรากฎคำร้องของทักษิณที่ต้องการเดินทางไปยังกัมพูชาและเวียดนามนั้น ศาลไม่อนุญาต โดยได้พิจารณาคำร้องของนายทักษิณที่อ้างว่าไปประเทศ เวียดนาม เเละประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเดินไปประเทศบรูไน ดารุสลามแล้วเห็นว่า การเดินทางไปประเทศเวียดนาม นั้นเป็นไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนา ซึ่งมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาในหน่วยงานรัฐของเวียดนาม เเต่เป็นการเชิญส่วนตัวไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการขออนุญาตเดินทางไปประเทศกัมพูชา ก็เป็นคำเชิญจาก สมเด็จฮุน เซน ซึ้งเป็นในนามส่วนตัวเช่นกันไม่ใช่ในนามรัฐบาลกัมพูชาแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีไม่มีเหตุจำเป็น ศาลจึงยกคำร้อง
    .
    สำหรับนายทักษิณ ก่อนหน้านี้ศาลอาญาที่อนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยศาลอาญาอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
    ..............
    Sondhi X
    ได้คืบจะเอาศอก 'ทักษิณ' อยากพบ 'ฮุนเซน' แต่ศาลไทยไม่อนุญาต . 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กำลังจะได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง ภายหลังมีรายงานว่าได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศบรูไน ดารุสลาม โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูตไทย กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญนายทักษิณไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว . นายทักษิณยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และศาลอาญา ได้นัดไต่สวนพยานวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 มีพยาน 2 ปากคือนายทักษิณ เเละ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ โดยศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้อง จึงมีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ และให้วางหลักประกันตามที่เสนอ จำนวน 5 ล้านบาท และให้กลับมารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่เดินทางกลับ แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ทราบ . อย่างไรก็ตาม ปรากฎคำร้องของทักษิณที่ต้องการเดินทางไปยังกัมพูชาและเวียดนามนั้น ศาลไม่อนุญาต โดยได้พิจารณาคำร้องของนายทักษิณที่อ้างว่าไปประเทศ เวียดนาม เเละประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเดินไปประเทศบรูไน ดารุสลามแล้วเห็นว่า การเดินทางไปประเทศเวียดนาม นั้นเป็นไปตามคำเชิญของนักธุรกิจชาวเวียดนา ซึ่งมีตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาในหน่วยงานรัฐของเวียดนาม เเต่เป็นการเชิญส่วนตัวไม่ใช่ในนามรัฐบาลเวียดนาม ส่วนการขออนุญาตเดินทางไปประเทศกัมพูชา ก็เป็นคำเชิญจาก สมเด็จฮุน เซน ซึ้งเป็นในนามส่วนตัวเช่นกันไม่ใช่ในนามรัฐบาลกัมพูชาแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีไม่มีเหตุจำเป็น ศาลจึงยกคำร้อง . สำหรับนายทักษิณ ก่อนหน้านี้ศาลอาญาที่อนุญาตให้นายทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยศาลอาญาอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    Wow
    28
    4 Comments 1 Shares 1898 Views 1 Reviews
  • ศาลอนุญาต “ทักษิณ” เดินทางออกนอกประเทศครั้งที่ 2 ไปบรูไน ประชุมอาเซียน ตามคำเชิญ “อันวาร์” ผ่านสถานทูต 18-19 ก.พ.นี้ โดยให้วางเงินค้ำประกัน 5 ล้านบาท เเต่ไม่อนุญาตไปเวียดนาม-กัมพูชาในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะไม่ได้เชิญในนามรัฐบาล

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตในคำร้องที่ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. ที่ประเทศบรูไน โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลในครั้งนี้ มาจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูต ผ่านกระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว

    ซึ่งนายทักษิณยื่นคำร้องตั้งเเต่วันที่ 13 ก.พ.2568 ศาลอาญานัดไต่สวนวันที่ 14 ก.พ.2569 มีการไต่สวนพยาน 2 ปาก คือนายทักษิณ เเละ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาเเล้วมีเหตุจำเป็นตามคำร้องมีคำสั่งอนุญาตออกนอกประเทศระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ.2568 ให้วางหลักประกันตามที่เสนอ( 5 ล้านบาทเท่าเดิม ) และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ

    ภายหลังศาลอาญาอนุญาตนายทักษิณก็ได้ทำสัญญาในช่วงเย็นวันดังกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015199

    #MGROnline #ทักษิณ
    ศาลอนุญาต “ทักษิณ” เดินทางออกนอกประเทศครั้งที่ 2 ไปบรูไน ประชุมอาเซียน ตามคำเชิญ “อันวาร์” ผ่านสถานทูต 18-19 ก.พ.นี้ โดยให้วางเงินค้ำประกัน 5 ล้านบาท เเต่ไม่อนุญาตไปเวียดนาม-กัมพูชาในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะไม่ได้เชิญในนามรัฐบาล • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตในคำร้องที่ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. ที่ประเทศบรูไน โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลในครั้งนี้ มาจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูต ผ่านกระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว • ซึ่งนายทักษิณยื่นคำร้องตั้งเเต่วันที่ 13 ก.พ.2568 ศาลอาญานัดไต่สวนวันที่ 14 ก.พ.2569 มีการไต่สวนพยาน 2 ปาก คือนายทักษิณ เเละ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาเเล้วมีเหตุจำเป็นตามคำร้องมีคำสั่งอนุญาตออกนอกประเทศระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ.2568 ให้วางหลักประกันตามที่เสนอ( 5 ล้านบาทเท่าเดิม ) และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ • ภายหลังศาลอาญาอนุญาตนายทักษิณก็ได้ทำสัญญาในช่วงเย็นวันดังกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015199 • #MGROnline #ทักษิณ
    0 Comments 0 Shares 522 Views 0 Reviews
  • 'รู้ผลาญ' แต่ 'หน้าที่' ไม่รู้
    1 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 0:01 น.

    ถ้า "แทงหวยแม่น" เหมือนที่้เคยบอก....
    ว่าทักษิณจะอ้างเหตุ "ที่ปรึกษาประธานอาเซียน" ขออนุญาตศาล บินออกนอกประเทศนั่นละก็
    วันนี้ผมรวย ชนิดเลี้ยงหมาจรจัดได้ทั้งประเทศ  บอกไม่เชื่อ!
    เพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อวาน (๓๑ ม.ค.๖๘) ศาลอาญามีคำสั่งว่า
    "พิเคราะห์ข้อเท็จจริงในทางไต่สวนแล้ว จำเลยอ้างตนเองเป็นพยาน โดยมี "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ" มาเบิกความสนับสนุน
    พร้อมพยานเอกสารยืนยันให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรในระหว่างวันที่ ๒-๓ ก.พ.๖๘ 
    เห็นว่า ช่วงเวลาที่จำเลยขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ไม่กระทบต่อวันนัดพิจารณาคดี 
    เหตุผลและความจำเป็นที่จำเลยอ้าง เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐ
    กรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ตามที่ขอ 
    โดยวางหลักประกันตามที่เสนอ และให้มารายงานตัวภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย
    แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ" 
    "๕ ล้านบาท" คือหลักประกันว่าทักษิณจะไม่หนี!
    เอ้า...
    ใครจะตกลง-ต่อรองหรือจะเสนออะไร ทางธุรกิจ-ลงทุน ไม่ว่าจะบ่อน จะพนันออนไลน์ จะทำ "ปฏิญญามาเลย์"
    ก็ไปเจอกันที่นั่นตามวัน-เวลานัดหมายละกัน
    กลับมาเรื่อง "รัฐบาลไทย" ที่ต้องให้จีนส่งคนเข้ามาใช้ "ฝ่ามือทิพย์" ลูบหน้า สอนรู้จักหน้าที่ ที่ "รัฐบาล (ถ้ามี) ความโปร่งใส" ควรทำ
    เรื่อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งค้ามนุษย์ แก๊งพนันทุกรูปแบบ แก๊งฟอกเงิน ซึ่ง "จีนเทา" เข้าไปสร้าง "เมืองคนบาป" ในฝั่งพม่าตรงข้าม "แม่สอด-แม่สาย"
    และใช้ไทย "เป็นประตู" หลอกเหยื่อไปบังคับเป็น "ทาสมนุษย์" ผ่านทางชายแดนไทย
    ทั้งน้ำ-ทั้งไฟ-ทั้งเน็ต บริการจากฝั่งไทยครบวงจร!
    โลกเดือดร้อน โดยเฉพาะจีน เพราะคนของเขา ถูก "จีนเทา" ซึ่งก็คนของเขา หลอกพวกเดียวกันเองไปเป็นเหยื่อมากที่สุด
    จะว่าไป ต้นตอของเรื่องอยู่ในพม่า กลุ่มก่อเหตุ ก็กลุ่มชาติพันธุ์ในพม่า เชื้อสายจีน สมคบพวกจีน แต่เป็น "แก๊งจีนเทา" จีนก็ควรไปจัดการจีนกันเอง
    ความจริง ก็ควรเป็นเช่นนั้น....
    แต่ที่มันไม่เป็น เพราะจีนเทา ใช้ไทยเป็น "ประตูเข้า-ออก" ตามด่านต่างๆ "ไฟฟ้า-เน็ต" ก็ไปจากไทย
    แทนที่ไทยจะแก้ปัญหาแก๊งจีนเทาใช้เป็นฐาน หัว-คือรัฐบาลกลับส่าย หาง-เจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ก็เลยกระดิกตามไปทุกระดับชั้น
    ถึงขั้น ธุรกิจเครือข่ายนักการเมืองรัฐบาล ขายบ้านจัดสรรให้จีนเทา "ยกทั้งโครงการ" ด้วยซ้ำ!
    "จีน" อดรนทนไม่ไหว ต้องส่งคณะ "ความมั่นคง" เข้ามาลูบหน้าถึงในประเทศ
    ผมเท้าความให้ทราบคร่าวๆ ส่วนประเด็นคุยวันนี้ มีว่า
    แล้วประเทศชาติ (กู) จะอยู่ได้อย่างไร?
    ในเมื่อ มี "ผู้นำรัฐบาล" ไม่รู้ว่าห่า คืออะไร ไม่รู้ว่าเหวคืออะไร แล้วจะให้รู้จัก "บทบาท-หน้าที่" ผู้นำบริหารได้อย่างไร?
    ก็ยกยอ-ปอปั้น "เด็กวานซืน" ที่ไม่รู้กระทั่งว่า "วัวต่างกับควาย" ตรงไหน ให้เป็น "ผู้นำบริหาร" ประเทศ!!!
    เมื่อมีเรื่องด้าน "ความมั่นคง" ต้องตัดสินใจ ประเด็นว่า ไทยควร "ตัดไฟ-ตัดเน็ต" ที่ส่งไปขายเมียวดี ชเวก๊กโก ด้านแม่สอด ตาก, ท่าขี้เหล็ก ด้านแม่สาย เชียงราย
    ปัญหาที่เกิดตามมา คือ...
    "แล้วใครล่ะ" มี "อำนาจหน้าที่" สั่งการในเรื่องนี้?
    ทั้งรัฐบาล ทั้งข้าราชการ "ทุกระดับ" ไม่ใช่กู ทั้งนั้น!
    เมื่อต้องหาใครซักคนมาเป็นแพะเพื่อเชือด-เพื่อด่า ก็ "การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค" นี่ละวะ!
    กฟภ.ขึ้นกับมหาดไทยนี่หว่า งั้น "นายอนุทิน" รัฐมนตรีมหาดไทยนี่แหละ ต้องไปสั่งตัด
    ทั้งฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ก็เลยรุมสกรัมนายอนุทิน เป็นการสกัดดาวรุ่งตัวชิงบัลลังก์การเมืองกันคนละตุ้บ-ละตั้บ
    กฟภ.ซึ่ง "เนื้อไม่ได้กิน แต่ถูกเขาเอากระดูกแขวนคอ" ทนไม่ไหว เลยออกมาแฉ
    "ตัด-ไม่ตัด" อยู่ที่ฝ่าย "ความมั่นคง" โน่น!
    ตามอำนาจหน้าที่ "เรื่องความมั่นคง" เป็นเรื่องของ สมช.คือ "สภาความมั่นคงแห่งชาติ" ที่ "นายฉัตรชัย บางชวด" เป็นเลขาธิการฯ อยู่ขณะนี้
    แต่อย่าเพิ่งทึกทักนายฉัตรชัยเป็นแพะตัวที่ ๒  เขาเป็นแค่เลขาฯ เท่านั้น
    งั้น...ใครล่ะ "ใหญ่สุด" ใน สมช. มีอำนาจชี้เป็น-ชี้ตาย?
    ก็คณะบุคคลที่ประกอบกันเป็นสมาชิก "สภาความมั่นคงแห่งชาติ" นั่นไง ตามตำแหน่งนี้แหละ
    ๑.นายกรัฐมนตรี ประธาน ๒.รองนายกฯ รองประธาน
    ๓.รมว.กลาโหม ๔.รมว.คลัง ๕.รมว.ต่างประเทศ
    ๖.รมว.คมนาคม ๗.รมว.ดิจิทัลฯ ๘.รมว.มหาดไทย
    ๙.รมว.ยุติธรรม ๑๐.ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นสมาชิก
    ๑๑.เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาฯ
    นี่คือ ๑๑ เสือ สมช.หรือ ๑๑ แมว ก็ไม่รู้นะ แต่อนาคตประเทศชาติบนความมั่นคง อยู่ในมือ ๑๑ เสือแมว นี้แหละ
    แล้ว "สภาความมั่นคงฯ" มีหน้าที่อะไร?
    เอาที่ตรงสเปกเรื่องร้อนตอนนี้มาให้ดูซัก ๔ อย่าง
    -กำหนดแนวทาง, มาตรการป้องกัน, แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ เสนอนายกฯ หรือ ครม.พิจารณา
    -ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ภาพรวมในเชิงยุทธศาสตร์อันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ
    -กำกับและติดตามการดำเนินการตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ
    -ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.นี้และกฎหมายอื่นหรือตามที่นายกฯ หรือ ครม.มอบหมาย
    สรุป นายกฯ แพทองธาร ประธาน สมช.และหัวหน้า ครม.นั่นแหละ มีอำนาจหน้าที่โดยตรง ที่จะสั่ง "ตัดไฟ-ตัดเน็ต" ที่ส่งไปขายเมืองคนบาป
    อยากเป็นผู้นำ อย่าเอาแต่ "หลุบหัว-หลุบหาง" ออกจอจ้อแต่เรื่องสวะเอาหน้า แต่กับเรื่อง "เอาชาติบ้านเมือง" กลับผลุบหาย!
    เนี่ย ตอนนี้ ก็เลยโทษกันวุ่น นายกฯ ก็ไม่เกี่ยว  ภูมิธรรมก็ไม่เกี่ยว สมช.ก็ไม่เกี่ยว
    มีแต่นายอนุทิน กับ กฟภ.เท่านั้นเกี่้ยว เห็นแล้ว มันโคตรระยำแมวเลย!
    รองจากนายกฯ ก็ "นายภูมิธรรม" มีหน้าที่รับผิดชอบเต็มสองพระบาท
    เพราะนายกฯ มอบให้กำกับดูแล "กระทรวงเกี่ยวกับด้านความมั่นคง" และ "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ"
    เรื่องในหน้าที่ตัว แต่เงียบกริ๊บ ไม่เก่งเหมือนตอนเป็นฝ่ายแค้น ที่ออกมาคุยโต เบ่งทับรัฐบาลประยุทธ์เลย!
    เอาข่าวเมื่อ ๑๑ พ.ย.๖๗ มาให้นายภูมิธรรมอ่าน เผื่อต่อมสำนึกจะทำงาน
    ...................................
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รัฐมนตรีกลาโหม ได้นำ นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาฯ นายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองของนายภูมิธรรม
    พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ปรึกษารองนายกฯ, พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
    เดินดูห้องทำงานของแต่ละคนภายในตึกบัญชาการ ๑ จากนั้น นายภูมิธรรมได้มอบนโยบายและแบ่งงาน
    -พล.อ.นิพัทธ์ ดูกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
    -พล.ต.อ.รอย ดูงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
    -พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ ดูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)
    ...................................
    ทั้งหมดนี้ สรุปลงในคำถามว่า "Where the hell are you?"
    ประเทศที่รัฐบาลเอาแต่อำนาจ แต่ไม่รู้หน้าที่
    ประเทศที่นักการเมือง, ข้าราชการ, ทหาร-ตำรวจ รู้แต่เอาตัวรอด บ้านเมืองช่างมัน
    ประเทศที่มีแต่ประชาชนรอเงินแจก-บูชาโจร
    แล้วประเทศ (กู) จะรอดมั้ยเนี่ย?
    เปลว สีเงิน
    ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
    วันเสาร์ที่ปลายซอย

    เปลว สีเงิน
    'รู้ผลาญ' แต่ 'หน้าที่' ไม่รู้ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 0:01 น. ถ้า "แทงหวยแม่น" เหมือนที่้เคยบอก.... ว่าทักษิณจะอ้างเหตุ "ที่ปรึกษาประธานอาเซียน" ขออนุญาตศาล บินออกนอกประเทศนั่นละก็ วันนี้ผมรวย ชนิดเลี้ยงหมาจรจัดได้ทั้งประเทศ  บอกไม่เชื่อ! เพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อวาน (๓๑ ม.ค.๖๘) ศาลอาญามีคำสั่งว่า "พิเคราะห์ข้อเท็จจริงในทางไต่สวนแล้ว จำเลยอ้างตนเองเป็นพยาน โดยมี "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ" มาเบิกความสนับสนุน พร้อมพยานเอกสารยืนยันให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรในระหว่างวันที่ ๒-๓ ก.พ.๖๘  เห็นว่า ช่วงเวลาที่จำเลยขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ไม่กระทบต่อวันนัดพิจารณาคดี  เหตุผลและความจำเป็นที่จำเลยอ้าง เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐ กรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ตามที่ขอ  โดยวางหลักประกันตามที่เสนอ และให้มารายงานตัวภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ"  "๕ ล้านบาท" คือหลักประกันว่าทักษิณจะไม่หนี! เอ้า... ใครจะตกลง-ต่อรองหรือจะเสนออะไร ทางธุรกิจ-ลงทุน ไม่ว่าจะบ่อน จะพนันออนไลน์ จะทำ "ปฏิญญามาเลย์" ก็ไปเจอกันที่นั่นตามวัน-เวลานัดหมายละกัน กลับมาเรื่อง "รัฐบาลไทย" ที่ต้องให้จีนส่งคนเข้ามาใช้ "ฝ่ามือทิพย์" ลูบหน้า สอนรู้จักหน้าที่ ที่ "รัฐบาล (ถ้ามี) ความโปร่งใส" ควรทำ เรื่อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งค้ามนุษย์ แก๊งพนันทุกรูปแบบ แก๊งฟอกเงิน ซึ่ง "จีนเทา" เข้าไปสร้าง "เมืองคนบาป" ในฝั่งพม่าตรงข้าม "แม่สอด-แม่สาย" และใช้ไทย "เป็นประตู" หลอกเหยื่อไปบังคับเป็น "ทาสมนุษย์" ผ่านทางชายแดนไทย ทั้งน้ำ-ทั้งไฟ-ทั้งเน็ต บริการจากฝั่งไทยครบวงจร! โลกเดือดร้อน โดยเฉพาะจีน เพราะคนของเขา ถูก "จีนเทา" ซึ่งก็คนของเขา หลอกพวกเดียวกันเองไปเป็นเหยื่อมากที่สุด จะว่าไป ต้นตอของเรื่องอยู่ในพม่า กลุ่มก่อเหตุ ก็กลุ่มชาติพันธุ์ในพม่า เชื้อสายจีน สมคบพวกจีน แต่เป็น "แก๊งจีนเทา" จีนก็ควรไปจัดการจีนกันเอง ความจริง ก็ควรเป็นเช่นนั้น.... แต่ที่มันไม่เป็น เพราะจีนเทา ใช้ไทยเป็น "ประตูเข้า-ออก" ตามด่านต่างๆ "ไฟฟ้า-เน็ต" ก็ไปจากไทย แทนที่ไทยจะแก้ปัญหาแก๊งจีนเทาใช้เป็นฐาน หัว-คือรัฐบาลกลับส่าย หาง-เจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ก็เลยกระดิกตามไปทุกระดับชั้น ถึงขั้น ธุรกิจเครือข่ายนักการเมืองรัฐบาล ขายบ้านจัดสรรให้จีนเทา "ยกทั้งโครงการ" ด้วยซ้ำ! "จีน" อดรนทนไม่ไหว ต้องส่งคณะ "ความมั่นคง" เข้ามาลูบหน้าถึงในประเทศ ผมเท้าความให้ทราบคร่าวๆ ส่วนประเด็นคุยวันนี้ มีว่า แล้วประเทศชาติ (กู) จะอยู่ได้อย่างไร? ในเมื่อ มี "ผู้นำรัฐบาล" ไม่รู้ว่าห่า คืออะไร ไม่รู้ว่าเหวคืออะไร แล้วจะให้รู้จัก "บทบาท-หน้าที่" ผู้นำบริหารได้อย่างไร? ก็ยกยอ-ปอปั้น "เด็กวานซืน" ที่ไม่รู้กระทั่งว่า "วัวต่างกับควาย" ตรงไหน ให้เป็น "ผู้นำบริหาร" ประเทศ!!! เมื่อมีเรื่องด้าน "ความมั่นคง" ต้องตัดสินใจ ประเด็นว่า ไทยควร "ตัดไฟ-ตัดเน็ต" ที่ส่งไปขายเมียวดี ชเวก๊กโก ด้านแม่สอด ตาก, ท่าขี้เหล็ก ด้านแม่สาย เชียงราย ปัญหาที่เกิดตามมา คือ... "แล้วใครล่ะ" มี "อำนาจหน้าที่" สั่งการในเรื่องนี้? ทั้งรัฐบาล ทั้งข้าราชการ "ทุกระดับ" ไม่ใช่กู ทั้งนั้น! เมื่อต้องหาใครซักคนมาเป็นแพะเพื่อเชือด-เพื่อด่า ก็ "การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค" นี่ละวะ! กฟภ.ขึ้นกับมหาดไทยนี่หว่า งั้น "นายอนุทิน" รัฐมนตรีมหาดไทยนี่แหละ ต้องไปสั่งตัด ทั้งฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ก็เลยรุมสกรัมนายอนุทิน เป็นการสกัดดาวรุ่งตัวชิงบัลลังก์การเมืองกันคนละตุ้บ-ละตั้บ กฟภ.ซึ่ง "เนื้อไม่ได้กิน แต่ถูกเขาเอากระดูกแขวนคอ" ทนไม่ไหว เลยออกมาแฉ "ตัด-ไม่ตัด" อยู่ที่ฝ่าย "ความมั่นคง" โน่น! ตามอำนาจหน้าที่ "เรื่องความมั่นคง" เป็นเรื่องของ สมช.คือ "สภาความมั่นคงแห่งชาติ" ที่ "นายฉัตรชัย บางชวด" เป็นเลขาธิการฯ อยู่ขณะนี้ แต่อย่าเพิ่งทึกทักนายฉัตรชัยเป็นแพะตัวที่ ๒  เขาเป็นแค่เลขาฯ เท่านั้น งั้น...ใครล่ะ "ใหญ่สุด" ใน สมช. มีอำนาจชี้เป็น-ชี้ตาย? ก็คณะบุคคลที่ประกอบกันเป็นสมาชิก "สภาความมั่นคงแห่งชาติ" นั่นไง ตามตำแหน่งนี้แหละ ๑.นายกรัฐมนตรี ประธาน ๒.รองนายกฯ รองประธาน ๓.รมว.กลาโหม ๔.รมว.คลัง ๕.รมว.ต่างประเทศ ๖.รมว.คมนาคม ๗.รมว.ดิจิทัลฯ ๘.รมว.มหาดไทย ๙.รมว.ยุติธรรม ๑๐.ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นสมาชิก ๑๑.เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาฯ นี่คือ ๑๑ เสือ สมช.หรือ ๑๑ แมว ก็ไม่รู้นะ แต่อนาคตประเทศชาติบนความมั่นคง อยู่ในมือ ๑๑ เสือแมว นี้แหละ แล้ว "สภาความมั่นคงฯ" มีหน้าที่อะไร? เอาที่ตรงสเปกเรื่องร้อนตอนนี้มาให้ดูซัก ๔ อย่าง -กำหนดแนวทาง, มาตรการป้องกัน, แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ เสนอนายกฯ หรือ ครม.พิจารณา -ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ภาพรวมในเชิงยุทธศาสตร์อันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ -กำกับและติดตามการดำเนินการตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ -ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.นี้และกฎหมายอื่นหรือตามที่นายกฯ หรือ ครม.มอบหมาย สรุป นายกฯ แพทองธาร ประธาน สมช.และหัวหน้า ครม.นั่นแหละ มีอำนาจหน้าที่โดยตรง ที่จะสั่ง "ตัดไฟ-ตัดเน็ต" ที่ส่งไปขายเมืองคนบาป อยากเป็นผู้นำ อย่าเอาแต่ "หลุบหัว-หลุบหาง" ออกจอจ้อแต่เรื่องสวะเอาหน้า แต่กับเรื่อง "เอาชาติบ้านเมือง" กลับผลุบหาย! เนี่ย ตอนนี้ ก็เลยโทษกันวุ่น นายกฯ ก็ไม่เกี่ยว  ภูมิธรรมก็ไม่เกี่ยว สมช.ก็ไม่เกี่ยว มีแต่นายอนุทิน กับ กฟภ.เท่านั้นเกี่้ยว เห็นแล้ว มันโคตรระยำแมวเลย! รองจากนายกฯ ก็ "นายภูมิธรรม" มีหน้าที่รับผิดชอบเต็มสองพระบาท เพราะนายกฯ มอบให้กำกับดูแล "กระทรวงเกี่ยวกับด้านความมั่นคง" และ "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เรื่องในหน้าที่ตัว แต่เงียบกริ๊บ ไม่เก่งเหมือนตอนเป็นฝ่ายแค้น ที่ออกมาคุยโต เบ่งทับรัฐบาลประยุทธ์เลย! เอาข่าวเมื่อ ๑๑ พ.ย.๖๗ มาให้นายภูมิธรรมอ่าน เผื่อต่อมสำนึกจะทำงาน ................................... นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รัฐมนตรีกลาโหม ได้นำ นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาฯ นายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองของนายภูมิธรรม พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ปรึกษารองนายกฯ, พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เดินดูห้องทำงานของแต่ละคนภายในตึกบัญชาการ ๑ จากนั้น นายภูมิธรรมได้มอบนโยบายและแบ่งงาน -พล.อ.นิพัทธ์ ดูกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) -พล.ต.อ.รอย ดูงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง -พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ ดูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ................................... ทั้งหมดนี้ สรุปลงในคำถามว่า "Where the hell are you?" ประเทศที่รัฐบาลเอาแต่อำนาจ แต่ไม่รู้หน้าที่ ประเทศที่นักการเมือง, ข้าราชการ, ทหาร-ตำรวจ รู้แต่เอาตัวรอด บ้านเมืองช่างมัน ประเทศที่มีแต่ประชาชนรอเงินแจก-บูชาโจร แล้วประเทศ (กู) จะรอดมั้ยเนี่ย? เปลว สีเงิน ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ วันเสาร์ที่ปลายซอย เปลว สีเงิน
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 1061 Views 0 Reviews
  • “๑ ประเทศ ๒ รัฐบาล” #เปลวสีเงิน
    plew

    เปลว สีเงิน

    คงเป็น “ที่สุดแห่งปี” จริงๆ
    สำหรับประเทศแห่งประชากรผู้หิวโหยและเทิดทูน ๒ พ่อลูก “ตระกูลชิน”
    บ่ายวาน(๒๗ ธ.ค.๖๗)นายกฯมาเลย์ฯ “นายอันวาร์” โพสต์เฟซ พร้อมภาพถ่ายคู่ทักษิณ

    Anwar Ibrahim
    รู้สึกยินดีที่ได้พบอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยและเพื่อนรักอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือกันอย่างน่าสนใจ ครอบคลุมและมีประโยชน์

    รวมทั้งในฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของมาเลเซีย ในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน

    การสนทนามุ่งเน้นประเด็นสำคัญในภูมิภาค ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ของไทย และการแก้ไขวิกฤตเมียนมา

    เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคของคุณทักษิณ ประกอบกับความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของเขา ได้ให้คำมั่นว่า

    จะเปิดโอกาสอันล้ำค่าสำหรับมาเลเซียและอาเซียนเพื่อรับมือกับความท้าทาย ด้วยความมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางเสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ระหว่างมาเลเซียและไทย
    ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การพัฒนาอย่างยั่งยืนและความสามัคคีในภูมิภาค

    ที่ผมมีร่วมกับ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย

    หลายทศวรรษที่ผ่านทักษิณและผมเชื่อมั่นว่า มาเลเซียและไทยสามารถบรรลุผลสำเร็จได้มากกว่านี้มาก เมื่อร่วมมือกัน

    ไม่เพียงแต่สำหรับประเทศของเราเท่านั้น
    แต่สำหรับภูมิภาคโดยรวมด้วย เรามุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้น กลายเป็นความจริง.

    นั่นคือบทบาท “นายกฯ-ผู้พ่อ” ปิดศักราช ๒๕๖๗ เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ทีนี้อยากให้ดูบทบาท “นายกฯ-ผู้ลูก” ส่งท้ายปีบ้าง

    ๒๗ ธันวา. นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร”
    ส่งหนังสือลากิจ ๑ วัน ไปที่ “สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี” (สลค.)

    “หยุดงาน” ยาวต่อเนื่องข้ามศักราชไปถึงปีหน้า บอกว่า “เพื่อใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว”
    จะกลับมา “ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง วันที่ ๒ มกรา.๖๘

    โดยเป็นประธานพิธีทำบุญในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ตอนเช้า
    นายกฯ บอกลาอย่างนี้แล้ว รู้สึกยังไงกันบ้างครับ?

    ในความรู้สึกผม….
    ประเทศเหมือน “ครอบครัวหนึ่ง” มีสมาชิก ๖๐ กว่าล้านคน มีรัฐบาลโดย “นายกฯ” เป็นหัวหน้า “รับผิดชอบ” ดูแลครอบครัว

    ปีใหม่ “หยุดยาว” สมาชิกในครอบครัว พากันไปเที่ยวไหน-ต่อไหนกันจนกรุงเทพฯ แทบโล่ง ประมาณ ๑ สัปดาห์

    แต่แทนที่ “หัวหน้าครอบครัว” จะบอกว่า หยุดยาว เที่ยวกันให้สนุกนะ ไม่ต้องห่วงหรอก จะระวังขะโมย-ขะโจรให้เอง

    กลับตรงกันข้าม ลูกบ้านหยุดยาวไปเที่ยว หัวหน้าบ้านก็หยุดยาวบ้าง แถมชิงเอาเปรียบ “ลาหยุด” ล่วงหน้าซะอีก ๑ วัน!

    ถามว่าผิดมั้ย?
    ก็ไม่ผิด แต่มันขาด “ภาวะสำนึก” แห่งความรับผิดชอบของ “คนเป็นผู้นำ”

    หรือพูดกันชัดๆ…
    นางสาวแพทองธาร ลูกนายทักษิณ ไม่มีทั้งวุฒิภาวะ ไม่มีทั้งสำนึกภาวะ ไม่คู่ควรตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เลย!

    เป็น “ผู้นำ” เป็นตลอด ๒๔ ชั่วโมง….
    หยุุดงาน-หยุดได้ แต่ไม่ใช่เห็นชาวบ้านเขาหยุดยาวในเทศกาล กูก็จะหยุดมั่ง แบบนี้

    มีธุระสำคัญอะไรที่ต้องลาหยุดเพิ่มให้เป็น “แบบอย่าง” ที่ไม่ดี เช่นนี้?
    เปล่า…ลาหยุดพักผ่อนกับครอบครัว!?

    แถมบอก “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง ในวันที่ ๒ มกรา.๖๘ นั้น
    น่ารังเกียจ ประหนึ่ง “ไร้เดียงสา”!

    ต้องเข้าใจนะอุ๊งอิ๊ง คุณพ่อไม่สอนหรือว่า การไปทำงานนั้น “หยุด…คือไม่ไปที่ทำงาน” นั้น ได้

    แต่ “หน้าที่นายกฯ” มันหยุดปฎิบัติไม่ได้-ลาไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน แบบไหน กำลังกิน กำลังนอน กำลังถ่าย แม้แขม็บๆ กำลังจะตาย

    “ลาออก” จากตำแหน่งนายกฯ ได้
    แต่ลา “ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” ไม่ได้!

    เช่นเดียวกับ “ข้าราชการ” ไม่ว่าข้าราชการพลเรือน ข้าราชครู ข้าราชการทหาร ตำรวจ แม้กระทั่ง แพทย์ พยาบาล
    “หยุดงาน-ลางาน” ได้

    แต่หยุด “หน้าที่” คนเป็นข้าราชการไม่ได้ ต่อให้ไปไหน-อยู่ไหน เขาพร้อม “ปฎิบัติหน้าที่” ในทันที เมื่อมีสถานการณ์

    คนเป็นผู้นำบริหารประเทศ “สำนึกภาวะ” ด้านรับผิดชอบในหน้าที่ “ต้องสูงกว่าข้าราชการ” ขึ้นไปอีกขั้น

    อย่างปีใหม่ “หยุดยาวข้ามปี”…….
    นายกฯ อยู่บ้านหรือมาทำเนียบ “ค่าเท่ากัน”

    ไม่ต้องทำเป็น “ลาก่ง-ลากิจ” ให้ดูตลกปัญญาอ่อนหรอก

    ที่สำคัญ ผู้นำต้องส่งสัญญานให้ประชาชนรู้ว่า ในขณะที่เขาทิ้งบ้านไปไหนต่อไหนกันนั้น
    ฉัน..นายกฯ อยู่นะ รัฐบาล “อยู่โยง” ทำหน้าที่ “มอนิเตอร์ประเทศ” ให้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงนะ

    เที่ยวกันให้สนุก ไม่ต้อง “ห่วงหน้า-พะวงหลัง”
    เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงาน ที่ต้องทำงานในเทศกาลหยุดยาว เขาก็พลอยมีกำลังใจ

    ว่าไม่เพียงพวกเขาต้องแกร่ว “อยู่เวร-อยู่ยาม”
    “ผู้นำรัฐบาล” ก็แกร่วอยู่ด้วย

    คอยตรวจตราสั่งการ “รักษาบ้าน-เฝ้าเมือง” ให้ประชาชน ไม่ได้ตะแล๊ดแต๊ดแต๋ละทิ้งหน้าที่ไปทางไหนแต่อย่างใด!
    นี่คือ “สำนึกผู้นำ”

    ไม่ใช่ชาวบ้านเขาลาหยุดยาว กูก็ลาหยุดยาวบ้าง แถมบอกเสร็จสรรพ “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่” ในที่ ๒ มกรา.๕๘! จะให้ “ชาวบ้าน-ชาวเมือง” เข้าใจว่า…..

    จากวันนี้ จนถึง ๒ มกรา.๖๘ บ้านเมือง “ว่างเปล่า” ไม่มีผู้ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ งั้นหรือ?

    โบราณท่านบอก….
    เป็นหัวหน้างาน “อย่าไปแย่งงานลูกน้องทำ”

    แต่คนเป็นหัวหน้าคน “ต้องตื่นก่อน-นอนทีหลัง”

    เป็นนายกฯ เป็นแม่ทัพ-นายกอง เป็นหัวหน้าครอบครัว ถึงเทศกาล ลูกน้อง-ลูกบ้าน เขาจะสนุกสนาน เที่ยวเตร่กัน
    คนเป็นนายก็ต้อง “เฝ้าบ้าน-เฝ้าประเทศ” คอยระหวังหลังให้พวกเขา

    มันไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เป็นแค่ “สามัญสำนึกพื้นฐาน” ของคนเป็นนายคนเท่านั้นเอง

    พูดถึงลูกแล้ว มาพูดถึงพ่อบ้าง
    จากหลีเป๊ะ-สตูล ไปลังกาวี-มาเลเซีย ๕๒ กิโลเท่านั้นเอง ถ้านั่งเรือ ก็ชั่วโมงกว่าๆ

    ตอนเป็นเด็กวัดเคยอ่านบันทึกของ “หลุย คีรีวัต” ที่ถูกขัง
    คุกเกาะ “ตะรุเตา” กับเพื่อนนักโทษกบฎอีก ๒-๓ คน มี “โหรแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์” รวมอยู่ด้วย

    หลบหนีคุก ลอยคอจากเกาะตะรุเตา ไปขึ้นที่เกาะลังกาวี ซึ่งเกาะนี้ อยู่ใน “รัฐเคดะห์”

    อดีตเป็นส่วนหนึ่งของเมืองไทยบุรี ดินแดนของสยาม แต่เราจำต้องเสียให้อังกฤษไป ในสมัยรัชกาลที่ ๕
    เกาะนี้ “ถูกสาป” จนมีเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานรักของหญิงไทยจนถึงทุกวันนี้ ไปหาอ่านกันเอาเองละกัน

    ผมเล่าตามข่าวนะ …..
    “ทักษิณ” กับ “นายอันวาร์” นายกฯ มาเลย์ เขานัดพบกัน ส่วนจะพบในดินแดนมาเลย์ ที่ลังกาวี
    หรือลอยเรือในทะเลคุยกันในเขตไทยแถวๆ หลีเป๊ะ?
    ลองทายกันดูซิ….

    เพราะในทุกข่าวสาร เผยแพร่ภาพพบกัน แต่ไม่มีข่าวสารไหนยอมระบุว่าพบกันที่ไหน
    “ในแดนไทย” หรือ “ในแดนมาลย์” ที่ลังกาวี?

    แค่บอกว่า
    “ทักษิณกับร.อ.ธรรมนัส อดีตรมว.เกษตรฯ เดินทางด้วยขบวนเรือยอชต์ ๖ ลำ แวะเยือนเกาะหลีเป๊ะ สตูล

    โดยมาถึงชายฝั่งเกาะหลีเป๊ะตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธ.ค. เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. โดยไม่มีผู้ใดทราบล่วงหน้า เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป

    จนกระทั่งเช้าวันที่ ๒๖ ธ.ค. เวลา ๐๙.๐๐-๑๑.๐๐ น. ทั้งสองขึ้นฝั่งเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่ “โรงแรมบูโลว คาซ่าแกรนด์วิว” รีสอร์ท”

    ผมไม่สนทั้งสองเขาคุยอะไรกัน เพราะที่เขาบอก “เรื่องแต่ง” ส่วน “เรื่องจริง” ใครเขาจะบอก!

    แต่ฉงนในประเด็น ทักษิณมาดูลาดเลา “ช่องทางธรรมชาติ” หรืออย่างไร?

    อย่าลืม ทักษิณเป็นจำเลยคดีมาตรา ๑๑๒ ได้ประกันตัวจากศาล ด้วยเงื่อนไข “ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ”

    แล้วเชื่อได้ขนาดไหน มีใครยืนยันได้ ว่านายกฯมาเลย์กับทักษิณ นั่งเรือคุยกันในทะเลฝั่งไทย

    ไม่ใช่ทักษิณนั่งเรือยอชต์ไปพบนายอันวาร์ที่เกาะลังกาวี ในดินแดนมาเลย์
    พบ-พูดคุยกันแล้ว….
    อีกวันถึงลอยเรือยอชต์ ปรากฎตัวให้คนเห็นเป็นข่าวที่หลีเป๊ะ-เขตไทย?

    อีกประเด็นที่ผมสน “ทักษิณมีสถานะอะไร และนายอันวาร์ต้องการอะไร”
    จึงเล่นบท “การเมืองลับๆ ล่อๆ” กับทักษิณ?

    -ฟื้นฟูเศรษฐกิจ, ส่งเสริมสันติภาพ ๓ จว.ใต้, แก้ไขวิกฤตเมียนมา, เสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคี “มาเลเซีย-ไทย”

    ทักษิณมีตำแหน่ง-หน้าที่ใด ที่นายอันวาร์ต้องนำมาคุย นอกจากเป็นนักโทษเทวดา เป็นพ่อนายกฯ เป็นหัวหน้าแก๊งเปลี่ยนระบอบเป็น “แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา” เป็นเจ้าของคอกหมา และฯลฯ

    อีกคุณสมบัติเดียว คุณค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคนี้ของทักษิณ คือ วิชา “ขายแผ่นดิน”

    และวิชา “แปลง” ทุนสำรองระหว่างประเทศ “เป็นเงินโปรย” ประชานิยม”!

    “การเมืองลับๆ ล่อๆ” นี้ “ฉีกประเทศไทย” ให้มี ๒ รัฐบาล คือ “รัฐบาลพ่อ” กับ “รัฐบาลลูก”
    แล้วกูจะต้องปฎิบัติตัวยังไงดีวะ ในประเทศ ๒ รัฐบาล?

    เปลว สีเงิน
    ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
    “๑ ประเทศ ๒ รัฐบาล” #เปลวสีเงิน plew เปลว สีเงิน คงเป็น “ที่สุดแห่งปี” จริงๆ สำหรับประเทศแห่งประชากรผู้หิวโหยและเทิดทูน ๒ พ่อลูก “ตระกูลชิน” บ่ายวาน(๒๗ ธ.ค.๖๗)นายกฯมาเลย์ฯ “นายอันวาร์” โพสต์เฟซ พร้อมภาพถ่ายคู่ทักษิณ Anwar Ibrahim รู้สึกยินดีที่ได้พบอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยและเพื่อนรักอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือกันอย่างน่าสนใจ ครอบคลุมและมีประโยชน์ รวมทั้งในฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของมาเลเซีย ในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน การสนทนามุ่งเน้นประเด็นสำคัญในภูมิภาค ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ของไทย และการแก้ไขวิกฤตเมียนมา เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคของคุณทักษิณ ประกอบกับความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของเขา ได้ให้คำมั่นว่า จะเปิดโอกาสอันล้ำค่าสำหรับมาเลเซียและอาเซียนเพื่อรับมือกับความท้าทาย ด้วยความมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางเสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ระหว่างมาเลเซียและไทย ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การพัฒนาอย่างยั่งยืนและความสามัคคีในภูมิภาค ที่ผมมีร่วมกับ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย หลายทศวรรษที่ผ่านทักษิณและผมเชื่อมั่นว่า มาเลเซียและไทยสามารถบรรลุผลสำเร็จได้มากกว่านี้มาก เมื่อร่วมมือกัน ไม่เพียงแต่สำหรับประเทศของเราเท่านั้น แต่สำหรับภูมิภาคโดยรวมด้วย เรามุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้น กลายเป็นความจริง. นั่นคือบทบาท “นายกฯ-ผู้พ่อ” ปิดศักราช ๒๕๖๗ เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ทีนี้อยากให้ดูบทบาท “นายกฯ-ผู้ลูก” ส่งท้ายปีบ้าง ๒๗ ธันวา. นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” ส่งหนังสือลากิจ ๑ วัน ไปที่ “สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี” (สลค.) “หยุดงาน” ยาวต่อเนื่องข้ามศักราชไปถึงปีหน้า บอกว่า “เพื่อใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว” จะกลับมา “ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง วันที่ ๒ มกรา.๖๘ โดยเป็นประธานพิธีทำบุญในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ตอนเช้า นายกฯ บอกลาอย่างนี้แล้ว รู้สึกยังไงกันบ้างครับ? ในความรู้สึกผม…. ประเทศเหมือน “ครอบครัวหนึ่ง” มีสมาชิก ๖๐ กว่าล้านคน มีรัฐบาลโดย “นายกฯ” เป็นหัวหน้า “รับผิดชอบ” ดูแลครอบครัว ปีใหม่ “หยุดยาว” สมาชิกในครอบครัว พากันไปเที่ยวไหน-ต่อไหนกันจนกรุงเทพฯ แทบโล่ง ประมาณ ๑ สัปดาห์ แต่แทนที่ “หัวหน้าครอบครัว” จะบอกว่า หยุดยาว เที่ยวกันให้สนุกนะ ไม่ต้องห่วงหรอก จะระวังขะโมย-ขะโจรให้เอง กลับตรงกันข้าม ลูกบ้านหยุดยาวไปเที่ยว หัวหน้าบ้านก็หยุดยาวบ้าง แถมชิงเอาเปรียบ “ลาหยุด” ล่วงหน้าซะอีก ๑ วัน! ถามว่าผิดมั้ย? ก็ไม่ผิด แต่มันขาด “ภาวะสำนึก” แห่งความรับผิดชอบของ “คนเป็นผู้นำ” หรือพูดกันชัดๆ… นางสาวแพทองธาร ลูกนายทักษิณ ไม่มีทั้งวุฒิภาวะ ไม่มีทั้งสำนึกภาวะ ไม่คู่ควรตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เลย! เป็น “ผู้นำ” เป็นตลอด ๒๔ ชั่วโมง…. หยุุดงาน-หยุดได้ แต่ไม่ใช่เห็นชาวบ้านเขาหยุดยาวในเทศกาล กูก็จะหยุดมั่ง แบบนี้ มีธุระสำคัญอะไรที่ต้องลาหยุดเพิ่มให้เป็น “แบบอย่าง” ที่ไม่ดี เช่นนี้? เปล่า…ลาหยุดพักผ่อนกับครอบครัว!? แถมบอก “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง ในวันที่ ๒ มกรา.๖๘ นั้น น่ารังเกียจ ประหนึ่ง “ไร้เดียงสา”! ต้องเข้าใจนะอุ๊งอิ๊ง คุณพ่อไม่สอนหรือว่า การไปทำงานนั้น “หยุด…คือไม่ไปที่ทำงาน” นั้น ได้ แต่ “หน้าที่นายกฯ” มันหยุดปฎิบัติไม่ได้-ลาไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน แบบไหน กำลังกิน กำลังนอน กำลังถ่าย แม้แขม็บๆ กำลังจะตาย “ลาออก” จากตำแหน่งนายกฯ ได้ แต่ลา “ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” ไม่ได้! เช่นเดียวกับ “ข้าราชการ” ไม่ว่าข้าราชการพลเรือน ข้าราชครู ข้าราชการทหาร ตำรวจ แม้กระทั่ง แพทย์ พยาบาล “หยุดงาน-ลางาน” ได้ แต่หยุด “หน้าที่” คนเป็นข้าราชการไม่ได้ ต่อให้ไปไหน-อยู่ไหน เขาพร้อม “ปฎิบัติหน้าที่” ในทันที เมื่อมีสถานการณ์ คนเป็นผู้นำบริหารประเทศ “สำนึกภาวะ” ด้านรับผิดชอบในหน้าที่ “ต้องสูงกว่าข้าราชการ” ขึ้นไปอีกขั้น อย่างปีใหม่ “หยุดยาวข้ามปี”……. นายกฯ อยู่บ้านหรือมาทำเนียบ “ค่าเท่ากัน” ไม่ต้องทำเป็น “ลาก่ง-ลากิจ” ให้ดูตลกปัญญาอ่อนหรอก ที่สำคัญ ผู้นำต้องส่งสัญญานให้ประชาชนรู้ว่า ในขณะที่เขาทิ้งบ้านไปไหนต่อไหนกันนั้น ฉัน..นายกฯ อยู่นะ รัฐบาล “อยู่โยง” ทำหน้าที่ “มอนิเตอร์ประเทศ” ให้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงนะ เที่ยวกันให้สนุก ไม่ต้อง “ห่วงหน้า-พะวงหลัง” เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงาน ที่ต้องทำงานในเทศกาลหยุดยาว เขาก็พลอยมีกำลังใจ ว่าไม่เพียงพวกเขาต้องแกร่ว “อยู่เวร-อยู่ยาม” “ผู้นำรัฐบาล” ก็แกร่วอยู่ด้วย คอยตรวจตราสั่งการ “รักษาบ้าน-เฝ้าเมือง” ให้ประชาชน ไม่ได้ตะแล๊ดแต๊ดแต๋ละทิ้งหน้าที่ไปทางไหนแต่อย่างใด! นี่คือ “สำนึกผู้นำ” ไม่ใช่ชาวบ้านเขาลาหยุดยาว กูก็ลาหยุดยาวบ้าง แถมบอกเสร็จสรรพ “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่” ในที่ ๒ มกรา.๕๘! จะให้ “ชาวบ้าน-ชาวเมือง” เข้าใจว่า….. จากวันนี้ จนถึง ๒ มกรา.๖๘ บ้านเมือง “ว่างเปล่า” ไม่มีผู้ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ งั้นหรือ? โบราณท่านบอก…. เป็นหัวหน้างาน “อย่าไปแย่งงานลูกน้องทำ” แต่คนเป็นหัวหน้าคน “ต้องตื่นก่อน-นอนทีหลัง” เป็นนายกฯ เป็นแม่ทัพ-นายกอง เป็นหัวหน้าครอบครัว ถึงเทศกาล ลูกน้อง-ลูกบ้าน เขาจะสนุกสนาน เที่ยวเตร่กัน คนเป็นนายก็ต้อง “เฝ้าบ้าน-เฝ้าประเทศ” คอยระหวังหลังให้พวกเขา มันไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เป็นแค่ “สามัญสำนึกพื้นฐาน” ของคนเป็นนายคนเท่านั้นเอง พูดถึงลูกแล้ว มาพูดถึงพ่อบ้าง จากหลีเป๊ะ-สตูล ไปลังกาวี-มาเลเซีย ๕๒ กิโลเท่านั้นเอง ถ้านั่งเรือ ก็ชั่วโมงกว่าๆ ตอนเป็นเด็กวัดเคยอ่านบันทึกของ “หลุย คีรีวัต” ที่ถูกขัง คุกเกาะ “ตะรุเตา” กับเพื่อนนักโทษกบฎอีก ๒-๓ คน มี “โหรแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์” รวมอยู่ด้วย หลบหนีคุก ลอยคอจากเกาะตะรุเตา ไปขึ้นที่เกาะลังกาวี ซึ่งเกาะนี้ อยู่ใน “รัฐเคดะห์” อดีตเป็นส่วนหนึ่งของเมืองไทยบุรี ดินแดนของสยาม แต่เราจำต้องเสียให้อังกฤษไป ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เกาะนี้ “ถูกสาป” จนมีเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานรักของหญิงไทยจนถึงทุกวันนี้ ไปหาอ่านกันเอาเองละกัน ผมเล่าตามข่าวนะ ….. “ทักษิณ” กับ “นายอันวาร์” นายกฯ มาเลย์ เขานัดพบกัน ส่วนจะพบในดินแดนมาเลย์ ที่ลังกาวี หรือลอยเรือในทะเลคุยกันในเขตไทยแถวๆ หลีเป๊ะ? ลองทายกันดูซิ…. เพราะในทุกข่าวสาร เผยแพร่ภาพพบกัน แต่ไม่มีข่าวสารไหนยอมระบุว่าพบกันที่ไหน “ในแดนไทย” หรือ “ในแดนมาลย์” ที่ลังกาวี? แค่บอกว่า “ทักษิณกับร.อ.ธรรมนัส อดีตรมว.เกษตรฯ เดินทางด้วยขบวนเรือยอชต์ ๖ ลำ แวะเยือนเกาะหลีเป๊ะ สตูล โดยมาถึงชายฝั่งเกาะหลีเป๊ะตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธ.ค. เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. โดยไม่มีผู้ใดทราบล่วงหน้า เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป จนกระทั่งเช้าวันที่ ๒๖ ธ.ค. เวลา ๐๙.๐๐-๑๑.๐๐ น. ทั้งสองขึ้นฝั่งเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่ “โรงแรมบูโลว คาซ่าแกรนด์วิว” รีสอร์ท” ผมไม่สนทั้งสองเขาคุยอะไรกัน เพราะที่เขาบอก “เรื่องแต่ง” ส่วน “เรื่องจริง” ใครเขาจะบอก! แต่ฉงนในประเด็น ทักษิณมาดูลาดเลา “ช่องทางธรรมชาติ” หรืออย่างไร? อย่าลืม ทักษิณเป็นจำเลยคดีมาตรา ๑๑๒ ได้ประกันตัวจากศาล ด้วยเงื่อนไข “ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ” แล้วเชื่อได้ขนาดไหน มีใครยืนยันได้ ว่านายกฯมาเลย์กับทักษิณ นั่งเรือคุยกันในทะเลฝั่งไทย ไม่ใช่ทักษิณนั่งเรือยอชต์ไปพบนายอันวาร์ที่เกาะลังกาวี ในดินแดนมาเลย์ พบ-พูดคุยกันแล้ว…. อีกวันถึงลอยเรือยอชต์ ปรากฎตัวให้คนเห็นเป็นข่าวที่หลีเป๊ะ-เขตไทย? อีกประเด็นที่ผมสน “ทักษิณมีสถานะอะไร และนายอันวาร์ต้องการอะไร” จึงเล่นบท “การเมืองลับๆ ล่อๆ” กับทักษิณ? -ฟื้นฟูเศรษฐกิจ, ส่งเสริมสันติภาพ ๓ จว.ใต้, แก้ไขวิกฤตเมียนมา, เสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคี “มาเลเซีย-ไทย” ทักษิณมีตำแหน่ง-หน้าที่ใด ที่นายอันวาร์ต้องนำมาคุย นอกจากเป็นนักโทษเทวดา เป็นพ่อนายกฯ เป็นหัวหน้าแก๊งเปลี่ยนระบอบเป็น “แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา” เป็นเจ้าของคอกหมา และฯลฯ อีกคุณสมบัติเดียว คุณค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคนี้ของทักษิณ คือ วิชา “ขายแผ่นดิน” และวิชา “แปลง” ทุนสำรองระหว่างประเทศ “เป็นเงินโปรย” ประชานิยม”! “การเมืองลับๆ ล่อๆ” นี้ “ฉีกประเทศไทย” ให้มี ๒ รัฐบาล คือ “รัฐบาลพ่อ” กับ “รัฐบาลลูก” แล้วกูจะต้องปฎิบัติตัวยังไงดีวะ ในประเทศ ๒ รัฐบาล? เปลว สีเงิน ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1177 Views 0 Reviews
  • "ทักษิณ" เผยคุย นายกฯมาเลเซีย เรื่องเศรษฐกิจ การสร้างอาเซียน ห่วงสถานการณ์สื่อขยายข่าวมากเกินไป ชี้นำสังคมด้วยอารมณ์ แนะอยู่กับความจริง

    วันนี้ (27ธ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเดินทางไปพบนายอันวา อิบาฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวานนี้ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ได้พูดคุยเรื่องสถานการณ์ในภาคใต้ เรื่องอาเซียนและเมียนมาร์ รวมถึงสถานการณ์ของโลก หลังจากที่โลกได้เปลี่ยนแปลงไป

    โดยได้พูดคุยกันเยอะ โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศไทย เพราะการจะสร้างให้อาเซียน เพราะตอนนี้อาเซียนต่างคนต่างอยู่จึงอยากให้อาเซียนมีความเข้มแข็ง รวมกันเป็นหนึ่งและเป็นพลังของ 700 ล้านคน ให้มีพลังมากกว่าเดิม ถ้าไม่เช่นนั้นจะเป็นพลังของประเทศไทยกว่า 70 กว่าล้านและมาเลเซีย 20 กว่าล้าน การจะทำให้รวมกันจะทำให้เป็นพลังรวมกันได้ก็ต่อเมื่อร่วมไม้ร่วมมือกัน เป็นนโยบายรวมของอาเซียน

    นอกจากนี้ นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า หลังกลับเข้ามาในประเทศไทยและใช้ชีวิตได้หนึ่งปีกว่า ว่า วันนี้เป็นห่วงเรื่องสื่อมวลชน เพราะหาสื่อไปขยายข่าวมากเกินไปจากเนื้อหาที่แท้จริงซึ่งการอธิบายข่าวเป็นเรื่องที่ดีแต่การขยายข่าวบางทีอาจทำให้เพราะหาสื่อไปขยายข้างมากเกินไปจากเนื้อหาที่แท้จริงซึ่งการอธิบายข่าวเป็นเรื่องที่ดีแต่การขยายข่าวบางทีอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งตนไม่อยากให้สื่อไปชี้นำซึ่งตนเองไม่อยากให้สื่อไปชี้นำสังคมด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกของตนเอง อยากให้สื่อมวลชนอยู่กับความจริง อยู่กับหลักวิชาที่ถูกต้องมากกว่าจะอยู่ด้วยอารมณ์และความชอบไม่ชอบ

    #MGROnline #ทักษิณ #มาเลเซีย
    "ทักษิณ" เผยคุย นายกฯมาเลเซีย เรื่องเศรษฐกิจ การสร้างอาเซียน ห่วงสถานการณ์สื่อขยายข่าวมากเกินไป ชี้นำสังคมด้วยอารมณ์ แนะอยู่กับความจริง • วันนี้ (27ธ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเดินทางไปพบนายอันวา อิบาฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวานนี้ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ได้พูดคุยเรื่องสถานการณ์ในภาคใต้ เรื่องอาเซียนและเมียนมาร์ รวมถึงสถานการณ์ของโลก หลังจากที่โลกได้เปลี่ยนแปลงไป • โดยได้พูดคุยกันเยอะ โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศไทย เพราะการจะสร้างให้อาเซียน เพราะตอนนี้อาเซียนต่างคนต่างอยู่จึงอยากให้อาเซียนมีความเข้มแข็ง รวมกันเป็นหนึ่งและเป็นพลังของ 700 ล้านคน ให้มีพลังมากกว่าเดิม ถ้าไม่เช่นนั้นจะเป็นพลังของประเทศไทยกว่า 70 กว่าล้านและมาเลเซีย 20 กว่าล้าน การจะทำให้รวมกันจะทำให้เป็นพลังรวมกันได้ก็ต่อเมื่อร่วมไม้ร่วมมือกัน เป็นนโยบายรวมของอาเซียน • นอกจากนี้ นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า หลังกลับเข้ามาในประเทศไทยและใช้ชีวิตได้หนึ่งปีกว่า ว่า วันนี้เป็นห่วงเรื่องสื่อมวลชน เพราะหาสื่อไปขยายข่าวมากเกินไปจากเนื้อหาที่แท้จริงซึ่งการอธิบายข่าวเป็นเรื่องที่ดีแต่การขยายข่าวบางทีอาจทำให้เพราะหาสื่อไปขยายข้างมากเกินไปจากเนื้อหาที่แท้จริงซึ่งการอธิบายข่าวเป็นเรื่องที่ดีแต่การขยายข่าวบางทีอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งตนไม่อยากให้สื่อไปชี้นำซึ่งตนเองไม่อยากให้สื่อไปชี้นำสังคมด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกของตนเอง อยากให้สื่อมวลชนอยู่กับความจริง อยู่กับหลักวิชาที่ถูกต้องมากกว่าจะอยู่ด้วยอารมณ์และความชอบไม่ชอบ • #MGROnline #ทักษิณ #มาเลเซีย
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 385 Views 0 Reviews
  • ผู้นำมาเลย์ โพสต์ยินดีได้พบ "ทักษิณ" ถกบทบาทนั่งที่ปรึกษาปธ.อาเซียน กระตุ้นศก. บุกเบิกสันติภาพใต้ กระชับความสัมพันธ์สองประเทศ ให้ประสบร่วมกันทั้งภูมิภาค

    วันนี้ (27ธ.ค.) นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกับการพบปะ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาดังนี้

    ยินดีที่ได้พบปะอดีตนายกรัฐมนตรีไทยและเพื่อนรัก ดร.ทักษิณ ชินวัตร สําหรับการอภิปรายที่กว้างขวางและเกิดผล รวมถึงความสามารถของเขาในฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการในการเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซีย

    การสนทนาของเราเป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับความสําคัญของภูมิภาค: เศรษฐกิจฟื้นฟู การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเกิดใหม่ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ ประเทศไทย และแก้ไขปัญหาวิกฤตของเมียนมา

    เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนใครของทักษิณทั่วภูมิภาค ควบคู่กับความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของเขา สัญญาว่าจะเปิดโอกาสอันล้ําค่าให้กับมาเลเซียและอาเซียนที่จะจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ด้วยความมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    เรายังได้หารือถึงวิธีการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งระหว่างมาเลเซียและ ประเทศไทย ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและความร่วมมือในภูมิภาคที่ฉันแบ่งปันกับนายกรัฐมนตรี แพตองธาร ชินวัตร

    เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ ทักษิณและผมได้แบ่งปันความเชื่อที่ว่ามาเลเซียและ ประเทศไทย จะสามารถประสบความสําเร็จร่วมกันได้มากขึ้น ไม่เพียงแต่สําหรับชาติของเราเท่านั้น แต่สําหรับภูมิภาคโดยรวม เรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนวิสัยทัศน์นั้นให้เป็นจริง

    #MGROnline #MalaysiaMADANI
    ผู้นำมาเลย์ โพสต์ยินดีได้พบ "ทักษิณ" ถกบทบาทนั่งที่ปรึกษาปธ.อาเซียน กระตุ้นศก. บุกเบิกสันติภาพใต้ กระชับความสัมพันธ์สองประเทศ ให้ประสบร่วมกันทั้งภูมิภาค • วันนี้ (27ธ.ค.) นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกับการพบปะ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาดังนี้ • ยินดีที่ได้พบปะอดีตนายกรัฐมนตรีไทยและเพื่อนรัก ดร.ทักษิณ ชินวัตร สําหรับการอภิปรายที่กว้างขวางและเกิดผล รวมถึงความสามารถของเขาในฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการในการเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซีย • การสนทนาของเราเป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับความสําคัญของภูมิภาค: เศรษฐกิจฟื้นฟู การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเกิดใหม่ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ ประเทศไทย และแก้ไขปัญหาวิกฤตของเมียนมา • เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนใครของทักษิณทั่วภูมิภาค ควบคู่กับความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของเขา สัญญาว่าจะเปิดโอกาสอันล้ําค่าให้กับมาเลเซียและอาเซียนที่จะจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ด้วยความมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น • เรายังได้หารือถึงวิธีการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งระหว่างมาเลเซียและ ประเทศไทย ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและความร่วมมือในภูมิภาคที่ฉันแบ่งปันกับนายกรัฐมนตรี แพตองธาร ชินวัตร • เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ ทักษิณและผมได้แบ่งปันความเชื่อที่ว่ามาเลเซียและ ประเทศไทย จะสามารถประสบความสําเร็จร่วมกันได้มากขึ้น ไม่เพียงแต่สําหรับชาติของเราเท่านั้น แต่สําหรับภูมิภาคโดยรวม เรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนวิสัยทัศน์นั้นให้เป็นจริง • #MGROnline #MalaysiaMADANI
    0 Comments 0 Shares 616 Views 0 Reviews
  • “นายกฯ อิ๊งค์” ยังไม่ทราบ “ทักษิณ” บินมาเลเซีย พบนายกอันวาร์ อิบราฮิม วันที่ 26 ธ.ค. แต่น่าจะเป็นเรื่องดี น่าจะส่งผลดีต่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

    เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 23 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีที่มีรายงานข่าวจากสื่อมาเลเซีย ระบุว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวของประธานอาเซียนในปี 2568 เตรียมเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อพบกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานาธิบดี อินโดนีเซีย ในโอกาสที่มีวาระการหารือ ประเด็นยุทธศาสตร์และการพัฒนาอาเซียน ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ ว่า ยังไม่ทราบ

    ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางไปครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย น.ส. แพทองธาร กล่าวว่า ที่จริงเราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทางมาเลเซียแต่ถ้าได้เจอได้พบกัน น่าจะดี แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร

    เมื่อถามว่า นายทักษิณได้ตอบรับที่จะเดินทางไปแล้วใช่หรือไม่แพรทองทานกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยจริงๆ เดี๋ยวจะถามให้

    #MGROnline #อิ๊งค์ #ทักษิณ #มาเลเซีย
    “นายกฯ อิ๊งค์” ยังไม่ทราบ “ทักษิณ” บินมาเลเซีย พบนายกอันวาร์ อิบราฮิม วันที่ 26 ธ.ค. แต่น่าจะเป็นเรื่องดี น่าจะส่งผลดีต่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย • เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 23 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีที่มีรายงานข่าวจากสื่อมาเลเซีย ระบุว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวของประธานอาเซียนในปี 2568 เตรียมเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อพบกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานาธิบดี อินโดนีเซีย ในโอกาสที่มีวาระการหารือ ประเด็นยุทธศาสตร์และการพัฒนาอาเซียน ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ ว่า ยังไม่ทราบ • ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางไปครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย น.ส. แพทองธาร กล่าวว่า ที่จริงเราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทางมาเลเซียแต่ถ้าได้เจอได้พบกัน น่าจะดี แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร • เมื่อถามว่า นายทักษิณได้ตอบรับที่จะเดินทางไปแล้วใช่หรือไม่แพรทองทานกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยจริงๆ เดี๋ยวจะถามให้ • #MGROnline #อิ๊งค์ #ทักษิณ #มาเลเซีย
    0 Comments 0 Shares 467 Views 0 Reviews
  • ฝ่ายค้านมาเลเซียวิจารณ์หนัก "อันวาร์ อิบราฮิม" ตั้ง "ทักษิณ" เป็นที่ปรึกษาช่วงเป็นประธานอาเซียนปี 2025 ถามอาเซียนจะได้ประโยชน์จริงหรือ ซัดตั้งคนที่ถูกพิพากษาจำคุกฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ ทำไมไม่ตั้งนักการทูตหรือนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศ ด้าน "ดร.มหาเธร์" งง ทำไมเลือกทักษิณ ทั้งที่มีคนอื่นมากมาย

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000121256

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ฝ่ายค้านมาเลเซียวิจารณ์หนัก "อันวาร์ อิบราฮิม" ตั้ง "ทักษิณ" เป็นที่ปรึกษาช่วงเป็นประธานอาเซียนปี 2025 ถามอาเซียนจะได้ประโยชน์จริงหรือ ซัดตั้งคนที่ถูกพิพากษาจำคุกฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ ทำไมไม่ตั้งนักการทูตหรือนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศ ด้าน "ดร.มหาเธร์" งง ทำไมเลือกทักษิณ ทั้งที่มีคนอื่นมากมาย อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000121256 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Yay
    10
    0 Comments 1 Shares 1006 Views 0 Reviews
  • อันวาร์ตั้งทักษิณ ฝ่าด่านออกนอกประเทศ

    การประกาศแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2568 ระหว่างการเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอันวาร์มั่นใจว่าประสบการณ์นายทักษิณในฐานะนักการเมืองจะให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า พร้อมกับทีมงานจากประเทศสมาชิกอาเซียนในรูปแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งมาเลเซียต้องการประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญการเมือง (Statesmen) เหล่านี้

    นายโมฮัมหมัด ฮะซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า นายทักษิณจะมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา และมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีน ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาเซียน นายทักษิณและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ที่จะประกาศแต่งตั้งในภายหลังร่วมงานกับนายอันวาร์มายาวนาน สามารถเสนอข้อมูลเชิงลึกว่าอาเซียนจะก้าวต่อไปได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่คณะที่ปรึกษาอาเซียน แต่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน และไม่ใช่องค์กรอย่างเป็นทางการหรือหน่วยงานใหม่ในอาเซียน

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ศาลอาญาให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายทักษิณ ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ตีราคาประกัน 500,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล นายทักษิณเคยขอเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพบแพทย์ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไปพบบุคคลสำคัญ แต่ศาลอาญายกคำร้องไม่อนุญาต เพราะอาการป่วยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญก็เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็น

    นายทักษิณอาจใช้การเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียนของนายอันวาร์ เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศก็เป็นได้ ซึ่งคดีมาตรา 112 ศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในช่วงเดือน ก.ค. 2568

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง เห็นว่าการที่นายอันวาร์แต่งตั้งนายทักษิณ ช่วยอุดช่องว่างเรื่องที่รัฐบาลชุดปัจจุบันขาดความรู้ความชำนาญในเรื่องมาเลเซีย เพราะ น.ส.แพทองธาร ไม่มีความพร้อมในหลายเรื่อง โดยเฉพาะความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็เป็นดาบสองคม หากใช้ไม่ระวัง ไม่มีความชัดเจนและโปร่งใส เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศในแนวทางที่ถูกต้อง อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และคนไทยโดยรวมได้ในที่สุด

    #Newskit
    อันวาร์ตั้งทักษิณ ฝ่าด่านออกนอกประเทศ การประกาศแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2568 ระหว่างการเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอันวาร์มั่นใจว่าประสบการณ์นายทักษิณในฐานะนักการเมืองจะให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า พร้อมกับทีมงานจากประเทศสมาชิกอาเซียนในรูปแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งมาเลเซียต้องการประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญการเมือง (Statesmen) เหล่านี้ นายโมฮัมหมัด ฮะซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า นายทักษิณจะมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา และมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีน ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาเซียน นายทักษิณและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ที่จะประกาศแต่งตั้งในภายหลังร่วมงานกับนายอันวาร์มายาวนาน สามารถเสนอข้อมูลเชิงลึกว่าอาเซียนจะก้าวต่อไปได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่คณะที่ปรึกษาอาเซียน แต่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน และไม่ใช่องค์กรอย่างเป็นทางการหรือหน่วยงานใหม่ในอาเซียน เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ศาลอาญาให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายทักษิณ ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ตีราคาประกัน 500,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล นายทักษิณเคยขอเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพบแพทย์ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไปพบบุคคลสำคัญ แต่ศาลอาญายกคำร้องไม่อนุญาต เพราะอาการป่วยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญก็เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็น นายทักษิณอาจใช้การเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียนของนายอันวาร์ เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศก็เป็นได้ ซึ่งคดีมาตรา 112 ศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในช่วงเดือน ก.ค. 2568 รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง เห็นว่าการที่นายอันวาร์แต่งตั้งนายทักษิณ ช่วยอุดช่องว่างเรื่องที่รัฐบาลชุดปัจจุบันขาดความรู้ความชำนาญในเรื่องมาเลเซีย เพราะ น.ส.แพทองธาร ไม่มีความพร้อมในหลายเรื่อง โดยเฉพาะความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็เป็นดาบสองคม หากใช้ไม่ระวัง ไม่มีความชัดเจนและโปร่งใส เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศในแนวทางที่ถูกต้อง อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และคนไทยโดยรวมได้ในที่สุด #Newskit
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 1039 Views 0 Reviews