• คืนนี้ รอคลิปคิงส์ แฉ๋พรรคพม่า YAKYOKเงินบริจาคกว่า 15 ล้าน
    เงินจากสาวก ยังYAKYOK เงินประเทศจะเหลือรึ ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    คืนนี้ รอคลิปคิงส์ แฉ๋พรรคพม่า YAKYOKเงินบริจาคกว่า 15 ล้าน เงินจากสาวก ยังYAKYOK เงินประเทศจะเหลือรึ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถลุงเงินบริจาคจนร่อยหรอ แบมือขอเงินเพิ่ม แต่สาวกเริ่มตาสว่าง ไม่บริจาคแถมด่ากลับ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ถลุงเงินบริจาคจนร่อยหรอ แบมือขอเงินเพิ่ม แต่สาวกเริ่มตาสว่าง ไม่บริจาคแถมด่ากลับ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคพม่า เคยโอ้อวดตอนเปิดตัว ว่าได้เงินบริจาคทะลุ 23 ล้าน มาวันนี้ แบมือขอเงินจากประชาชนอีกแล้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    พรรคพม่า เคยโอ้อวดตอนเปิดตัว ว่าได้เงินบริจาคทะลุ 23 ล้าน มาวันนี้ แบมือขอเงินจากประชาชนอีกแล้ว #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • คืนนี้ รอคลิปคิงส์ แฉ๋พรรคพม่า YAKYOKเงินบริจาคกว่า 15 ล้าน
    เงินจากสาวก ยังYAKYOK เงินประเทศจะเหลือรึ ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    คืนนี้ รอคลิปคิงส์ แฉ๋พรรคพม่า YAKYOKเงินบริจาคกว่า 15 ล้าน เงินจากสาวก ยังYAKYOK เงินประเทศจะเหลือรึ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อานนท์ดังมากในแดน
    เรื่องนี้พี่คิงส์ไม่ได้แซะ หรืออำ
    ไม่เชื่อ ใครมีญาติอยู่แดนเดียวกับอานนท์เลย
    เมื่อใดที่มีคนใหม่ๆหน้าอ่อนๆ เข้ามา
    อานนท์จะเอาเงินบริจาคเอามาซื้อหนมแจก
    ละอ่อนเข้ามาก็ไม่รู้ดิ นึกว่าน๊านนท์คนดี
    ที่ไหนได้ กลางคืน คลานต่ำ
    เหมือนตะหารราบ ไปกระซิบข้างหูละอ่อน
    หนมน๊า หนมน๊า จำได้มั๊ย
    เล่นซะละอ่อนต้องtoodระบม
    เฮี้ยมากอะ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อานนท์ดังมากในแดน เรื่องนี้พี่คิงส์ไม่ได้แซะ หรืออำ ไม่เชื่อ ใครมีญาติอยู่แดนเดียวกับอานนท์เลย เมื่อใดที่มีคนใหม่ๆหน้าอ่อนๆ เข้ามา อานนท์จะเอาเงินบริจาคเอามาซื้อหนมแจก ละอ่อนเข้ามาก็ไม่รู้ดิ นึกว่าน๊านนท์คนดี ที่ไหนได้ กลางคืน คลานต่ำ เหมือนตะหารราบ ไปกระซิบข้างหูละอ่อน หนมน๊า หนมน๊า จำได้มั๊ย เล่นซะละอ่อนต้องtoodระบม เฮี้ยมากอะ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองกำลังรัสเซียทำลายเครื่องยิงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน "แพทริออต" 4 หน่วย ที่บรรดาตะวันตกจัดหาให้แก่ยูเครน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่ามกลางปฏิบัติการรุกคืบที่ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
    .
    ถ้อยแถลงของกองทัพรัสเซียระบุว่า เครื่องบินกองทัพอากาศ 4 ลำ รวมถึงโดรนและกองปืนใหญ่ ได้ทำลายยานยนต์ควบคุมการรบ, สถานีเรดาร์ AN/MPQ-65 จำนวน 1 สถานี และแท่นยิงระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแพทริออต 4 ชุด ที่ผลิตในอเมริกา
    .
    นอกเหนือจากนี้แล้ว ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทหารรัสเซียยังปลดปล่อยหมู่บ้าน 2 แห่ง ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตส์ก หนึ่งในนั้นได้แก่หมู่บ้านเวเซลี ไก ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองคูรัคโฮโว ไปทางใต้ราว 10 กิโลเมตร และหมู่บ้านปุชคิโน ที่อยู่ห่างจากเมืองโปครอฟส์ก ไปทางใต้ราวๆ 15 กิโลเมตร
    .
    ที่ผ่านมา กองกำลังยูเครนคุ้มกันอย่างหนาแน่นป้องกันเมืองโครัคโฮโว หนึ่งในพื้นที่ชุมชนใหญ่ๆไม่กี่แห่งที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเคียฟ ในภูมิภาคดอนบาส โดยถิ่นพักอาศัยใหญ่ที่สุดที่อยู่ภายใต้การยูเครนคือเมืองโปครอฟส์ก ตั้งอยู่ห่างจากเมืองคูรัคโฮโว ไปทางเหนือราว 30 กิโลเมตร
    .
    เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้คำจำกัดความพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง ว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดสำหรับกองกำลังเคียฟ
    .
    ในช่วง 2 เดือนหลังสุด กองทัพรัสเซียสามารถรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ความเป็นปรปักษ์เริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ยึดครองดินแดนได้ราวๆ 1,500 ตารางกิโลเมตร
    .
    ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางสัปดาห์ เซเลนสกี แสดงความผิดหวังกับบรรดาผู้บริจาคอาวุธตะวันตก ต่อกรณีที่ไม่ยอมทำตามเสียงเรียกร้องของเขาที่ขอระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม เนื่องจากยูเครนกำลังเผชิญความท้าทายต่างๆนานาในสมรภูมิรบ และกำลังดิ้นรนปกป้องตำแหน่งสำคัญๆจากการโจมตีพิสัยไกล
    .
    ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน เซเลนสกีบอกว่ายูเครนต้องการระบบแพทริออต 25 หน่วย เพื่อต้านทานการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศเเผยว่ากำลังมีความพยายามในการให้ได้มาซึ่งระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมอีกอย่างน้อยๆ "20 หน่วย" และเน้นว่าระบบแพทริออต คือตัวเลือกลำดับต้นๆที่ร้องขอไป
    .
    พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียเน้นย้ำว่าไม่มีความช่วยเหลือทางทหารของตะวันตกใดๆที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของความขัดแย้ง และความพยายามดังกล่าวรังแต่จะทำให้สงครามยืดเยื้อ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120426
    ..............
    Sondhi X
    กองกำลังรัสเซียทำลายเครื่องยิงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน "แพทริออต" 4 หน่วย ที่บรรดาตะวันตกจัดหาให้แก่ยูเครน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่ามกลางปฏิบัติการรุกคืบที่ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย . ถ้อยแถลงของกองทัพรัสเซียระบุว่า เครื่องบินกองทัพอากาศ 4 ลำ รวมถึงโดรนและกองปืนใหญ่ ได้ทำลายยานยนต์ควบคุมการรบ, สถานีเรดาร์ AN/MPQ-65 จำนวน 1 สถานี และแท่นยิงระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแพทริออต 4 ชุด ที่ผลิตในอเมริกา . นอกเหนือจากนี้แล้ว ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทหารรัสเซียยังปลดปล่อยหมู่บ้าน 2 แห่ง ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตส์ก หนึ่งในนั้นได้แก่หมู่บ้านเวเซลี ไก ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองคูรัคโฮโว ไปทางใต้ราว 10 กิโลเมตร และหมู่บ้านปุชคิโน ที่อยู่ห่างจากเมืองโปครอฟส์ก ไปทางใต้ราวๆ 15 กิโลเมตร . ที่ผ่านมา กองกำลังยูเครนคุ้มกันอย่างหนาแน่นป้องกันเมืองโครัคโฮโว หนึ่งในพื้นที่ชุมชนใหญ่ๆไม่กี่แห่งที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเคียฟ ในภูมิภาคดอนบาส โดยถิ่นพักอาศัยใหญ่ที่สุดที่อยู่ภายใต้การยูเครนคือเมืองโปครอฟส์ก ตั้งอยู่ห่างจากเมืองคูรัคโฮโว ไปทางเหนือราว 30 กิโลเมตร . เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้คำจำกัดความพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง ว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดสำหรับกองกำลังเคียฟ . ในช่วง 2 เดือนหลังสุด กองทัพรัสเซียสามารถรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ความเป็นปรปักษ์เริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ยึดครองดินแดนได้ราวๆ 1,500 ตารางกิโลเมตร . ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางสัปดาห์ เซเลนสกี แสดงความผิดหวังกับบรรดาผู้บริจาคอาวุธตะวันตก ต่อกรณีที่ไม่ยอมทำตามเสียงเรียกร้องของเขาที่ขอระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม เนื่องจากยูเครนกำลังเผชิญความท้าทายต่างๆนานาในสมรภูมิรบ และกำลังดิ้นรนปกป้องตำแหน่งสำคัญๆจากการโจมตีพิสัยไกล . ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน เซเลนสกีบอกว่ายูเครนต้องการระบบแพทริออต 25 หน่วย เพื่อต้านทานการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศเเผยว่ากำลังมีความพยายามในการให้ได้มาซึ่งระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมอีกอย่างน้อยๆ "20 หน่วย" และเน้นว่าระบบแพทริออต คือตัวเลือกลำดับต้นๆที่ร้องขอไป . พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียเน้นย้ำว่าไม่มีความช่วยเหลือทางทหารของตะวันตกใดๆที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของความขัดแย้ง และความพยายามดังกล่าวรังแต่จะทำให้สงครามยืดเยื้อ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120426 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลี่ เสมียนหลวงโบราณวันนี้เรามาคุยกันสั้นๆ ถึงอีกเกร็ดหนึ่งจากซีรีส์เรื่อง <หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร ภาค 2> อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ เพื่อนเพจที่ได้ดูแล้วคงจำได้ว่าในตอนปลายของเรื่องนั้น ไต้เท้าฟ่านเสียนได้เดินทางไปซูโจว และเอาเงินและของที่ได้รับกำนัลจากเหล่าขุนนางท้องถิ่นไปบริจาคให้ชาวบ้านที่หนีภัยธรรมชาติมายังซูโจว ในเหตุการณ์นี้ ฟ่านเสียนมอบหมายให้เสมียนหลวงเป็นคนเอาของไปแจกจ่าย คำกล่าวของเขาคือ เสมียนไม่ใช่ขุนนาง จึงมีสถานะห่างจากชาวบ้านธรรมดาน้อยหน่อยเสมียนหลวงหรือที่เรียกว่า ‘ลี่’ (吏) นี้หากดูจากขอบเขตหน้าที่การทำงานแล้ว คงเปรียบได้กับข้าราชการพลเรือนสามัญในระบบราชการไทย แต่ ‘ลี่’ นี้ ในระบบข้าราชการของจีนโบราณมีสถานะแตกต่างกันไปตามยุคสมัย บางสมัยนับเป็นข้าราชการ บางสมัยไม่ใช่ ในเรื่อง <หาญท้าฯ> นี้ ขุนนางเรียกว่า ‘กวน’ (官) ในขณะที่ ‘ลี่’ คือเสมียน แต่จริงๆ แล้วในยุคแรกๆ ทั้งกวนและลี่ล้วนใช้กับข้าราชการเหมือนกันและมักเรียกรวมเป็นกวนลี่ และในเอกสารต่างๆ เรียกขุนนางว่าลี่ โดยหมายรวมถึงขุนนางระดับสูงด้วย ตัวอย่างเช่น เอกสารบันทึกสมัยชุนชิวที่เรียกว่าจั่วจ้วน (左传) มีการกล่าวถึงว่า ข้าหลวงตัวแทนพระองค์มีอำนาจและยศต่ำกว่า ‘ซานลี่’ (ลี่สามตำแหน่ง) ซึ่งหมายถึง ‘ซานกง’ (บางคนแปลว่าสามพระยา บางคนแปลว่าสามมหาเสนา) ซึ่งเป็นขุนนางสูงสุดสามตำแหน่งในสมัยนั้นต่อมาคำว่า ‘ลี่’ ถูกใช้เรียกข้าราชการท้องถิ่นเป็นหลัก ในสมัยฮั่นมีการวางระบบข้าราชการเพิ่มเติมและแยกข้าราชการท้องถิ่นออกเป็นสามระดับคือ กวน จ่างลี่ (长吏) และส้าวลี่ (少吏) และกำหนดเกณฑ์ว่าผู้ที่ได้รับเงินเดือนสูงกว่าข้าวสองร้อยต้านคือกวน ต่ำกว่านั้นคือลี่ เห็นได้ว่า แม้ว่าลี่ยังเป็นข้าราชการแต่จัดเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยต่อมาการแบ่งแยกระหว่างกวนและลี่มีมากขึ้นภายใต้ระบบขุนนางเก้าขั้นและเมื่อขุนนางท้องถิ่นถูกลดทอนอำนาจ ในสมัยราชวงศ์เหนือใต้มีการยกเลิกการให้เงินเดือนหลวงกับลี่และจำนวนขุนนางที่ไปประจำการท้องถิ่นมีน้อยลง จึงต้องว่าจ้างคนในพื้นที่ทำงาน กลายเป็นว่าลี่คือเสมียนรับจ้างจากข้าราชการอีกที ทำให้ในสมัยถังและซ่ง ลี่ถูกมองว่าเป็นคนชั้นล่าง การแบ่งแยกนี้ยิ่งชัดเจนขึ้นในสมัยหมิง เมื่อมีการกำหนดว่าผู้ที่ทำหน้าที่เสมียนหลวงห้ามสอบขุนนาง นั่นแปลว่า ‘ลี่’ เข้ารับราชการไม่ได้เลย ดังนั้น จากเดิมที่ลี่เป็นข้าราชการเช่นเดียวกับกวน ผ่านไปกว่าพันปีกลับกลายเป็นว่า ลี่แม้ทำงานในที่ว่าการท้องถิ่น แต่ไม่ใช่ข้าราชการ ไม่มียศขั้น ไม่มีเงินเดือนหลวงประจำตำแหน่งหากแต่ได้รับค่าจ้างตามแต่ข้าราชการท้องถิ่นจะมีงบประมาณว่าจ้าง ในยุคสมัยที่ขุนนางได้รับการยกย่องว่าเป็นชนชั้นสูงมีหน้ามีตาในสังคม จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นภาพเช่นในเรื่อง <หาญท้าฯ> ที่มีการดูถูกเสมียนหลวงว่าเป็นคนที่ต่ำต้อย และไม่แปลกว่าทำไมฟ่านเสียนจึงบอกว่า เสมียนหลวงไม่ใช่ข้าราชการและนับว่ามีสถานะใกล้ชิดกับชาวบ้านมากกว่าขุนนางในความเป็นจริง เสมียนหลวงมีความสำคัญไม่น้อยแม้ไม่ได้รับการยกย่องชูเกียรติเหมือนขุนนาง เนื่องเพราะพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ของที่ว่าการท้องถิ่น ดูแลงานต่างๆ ประจำวัน อาจกล่าวได้ว่างานหลายเรื่องจะถูกดองหรือไม่ขึ้นอยู่กับพวกเขา นอกจากนี้ ขุนนางที่ไปประจำการท้องถิ่นโดยปกติจะมีการโยกย้ายทุกสามปี แต่เสมียนหลวงเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ไม่ต้องถูกโยกย้ายไปประจำการในพื้นที่อื่นและรู้ตื้นลึกหนาบางในพื้นที่ของตนเป็นอย่างดี และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมในเรื่อง <หาญท้าฯ> จึงมีคนท้วงฟ่านเสียนว่าเหตุใดจึงไม่กลัวว่าเสมียนหลวงจะยักยอกเงิน(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.ejdz.cn/download/news/n134541.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://ctext.org/chun-qiu-zuo-zhuan/cheng-gong-er-nian/zhs https://web.stanford.edu/~xgzhou/zhou_16_GuanLi_EN.pdfhttps://www.sohu.com/a/574234_109477https://www.sohu.com/a/460112987_120129611 https://www.163.com/dy/article/DAJGGOVH0523F8UN.html #หาญท้าชะตาฟ้า #ขุนนางจีน #เสมียนหลวง #ลี่ #กวน #สาระจีน
    ลี่ เสมียนหลวงโบราณวันนี้เรามาคุยกันสั้นๆ ถึงอีกเกร็ดหนึ่งจากซีรีส์เรื่อง <หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร ภาค 2> อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ เพื่อนเพจที่ได้ดูแล้วคงจำได้ว่าในตอนปลายของเรื่องนั้น ไต้เท้าฟ่านเสียนได้เดินทางไปซูโจว และเอาเงินและของที่ได้รับกำนัลจากเหล่าขุนนางท้องถิ่นไปบริจาคให้ชาวบ้านที่หนีภัยธรรมชาติมายังซูโจว ในเหตุการณ์นี้ ฟ่านเสียนมอบหมายให้เสมียนหลวงเป็นคนเอาของไปแจกจ่าย คำกล่าวของเขาคือ เสมียนไม่ใช่ขุนนาง จึงมีสถานะห่างจากชาวบ้านธรรมดาน้อยหน่อยเสมียนหลวงหรือที่เรียกว่า ‘ลี่’ (吏) นี้หากดูจากขอบเขตหน้าที่การทำงานแล้ว คงเปรียบได้กับข้าราชการพลเรือนสามัญในระบบราชการไทย แต่ ‘ลี่’ นี้ ในระบบข้าราชการของจีนโบราณมีสถานะแตกต่างกันไปตามยุคสมัย บางสมัยนับเป็นข้าราชการ บางสมัยไม่ใช่ ในเรื่อง <หาญท้าฯ> นี้ ขุนนางเรียกว่า ‘กวน’ (官) ในขณะที่ ‘ลี่’ คือเสมียน แต่จริงๆ แล้วในยุคแรกๆ ทั้งกวนและลี่ล้วนใช้กับข้าราชการเหมือนกันและมักเรียกรวมเป็นกวนลี่ และในเอกสารต่างๆ เรียกขุนนางว่าลี่ โดยหมายรวมถึงขุนนางระดับสูงด้วย ตัวอย่างเช่น เอกสารบันทึกสมัยชุนชิวที่เรียกว่าจั่วจ้วน (左传) มีการกล่าวถึงว่า ข้าหลวงตัวแทนพระองค์มีอำนาจและยศต่ำกว่า ‘ซานลี่’ (ลี่สามตำแหน่ง) ซึ่งหมายถึง ‘ซานกง’ (บางคนแปลว่าสามพระยา บางคนแปลว่าสามมหาเสนา) ซึ่งเป็นขุนนางสูงสุดสามตำแหน่งในสมัยนั้นต่อมาคำว่า ‘ลี่’ ถูกใช้เรียกข้าราชการท้องถิ่นเป็นหลัก ในสมัยฮั่นมีการวางระบบข้าราชการเพิ่มเติมและแยกข้าราชการท้องถิ่นออกเป็นสามระดับคือ กวน จ่างลี่ (长吏) และส้าวลี่ (少吏) และกำหนดเกณฑ์ว่าผู้ที่ได้รับเงินเดือนสูงกว่าข้าวสองร้อยต้านคือกวน ต่ำกว่านั้นคือลี่ เห็นได้ว่า แม้ว่าลี่ยังเป็นข้าราชการแต่จัดเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยต่อมาการแบ่งแยกระหว่างกวนและลี่มีมากขึ้นภายใต้ระบบขุนนางเก้าขั้นและเมื่อขุนนางท้องถิ่นถูกลดทอนอำนาจ ในสมัยราชวงศ์เหนือใต้มีการยกเลิกการให้เงินเดือนหลวงกับลี่และจำนวนขุนนางที่ไปประจำการท้องถิ่นมีน้อยลง จึงต้องว่าจ้างคนในพื้นที่ทำงาน กลายเป็นว่าลี่คือเสมียนรับจ้างจากข้าราชการอีกที ทำให้ในสมัยถังและซ่ง ลี่ถูกมองว่าเป็นคนชั้นล่าง การแบ่งแยกนี้ยิ่งชัดเจนขึ้นในสมัยหมิง เมื่อมีการกำหนดว่าผู้ที่ทำหน้าที่เสมียนหลวงห้ามสอบขุนนาง นั่นแปลว่า ‘ลี่’ เข้ารับราชการไม่ได้เลย ดังนั้น จากเดิมที่ลี่เป็นข้าราชการเช่นเดียวกับกวน ผ่านไปกว่าพันปีกลับกลายเป็นว่า ลี่แม้ทำงานในที่ว่าการท้องถิ่น แต่ไม่ใช่ข้าราชการ ไม่มียศขั้น ไม่มีเงินเดือนหลวงประจำตำแหน่งหากแต่ได้รับค่าจ้างตามแต่ข้าราชการท้องถิ่นจะมีงบประมาณว่าจ้าง ในยุคสมัยที่ขุนนางได้รับการยกย่องว่าเป็นชนชั้นสูงมีหน้ามีตาในสังคม จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นภาพเช่นในเรื่อง <หาญท้าฯ> ที่มีการดูถูกเสมียนหลวงว่าเป็นคนที่ต่ำต้อย และไม่แปลกว่าทำไมฟ่านเสียนจึงบอกว่า เสมียนหลวงไม่ใช่ข้าราชการและนับว่ามีสถานะใกล้ชิดกับชาวบ้านมากกว่าขุนนางในความเป็นจริง เสมียนหลวงมีความสำคัญไม่น้อยแม้ไม่ได้รับการยกย่องชูเกียรติเหมือนขุนนาง เนื่องเพราะพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ของที่ว่าการท้องถิ่น ดูแลงานต่างๆ ประจำวัน อาจกล่าวได้ว่างานหลายเรื่องจะถูกดองหรือไม่ขึ้นอยู่กับพวกเขา นอกจากนี้ ขุนนางที่ไปประจำการท้องถิ่นโดยปกติจะมีการโยกย้ายทุกสามปี แต่เสมียนหลวงเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ไม่ต้องถูกโยกย้ายไปประจำการในพื้นที่อื่นและรู้ตื้นลึกหนาบางในพื้นที่ของตนเป็นอย่างดี และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมในเรื่อง <หาญท้าฯ> จึงมีคนท้วงฟ่านเสียนว่าเหตุใดจึงไม่กลัวว่าเสมียนหลวงจะยักยอกเงิน(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.ejdz.cn/download/news/n134541.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://ctext.org/chun-qiu-zuo-zhuan/cheng-gong-er-nian/zhs https://web.stanford.edu/~xgzhou/zhou_16_GuanLi_EN.pdfhttps://www.sohu.com/a/574234_109477https://www.sohu.com/a/460112987_120129611 https://www.163.com/dy/article/DAJGGOVH0523F8UN.html #หาญท้าชะตาฟ้า #ขุนนางจีน #เสมียนหลวง #ลี่ #กวน #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเมืองของอังกฤษกำลังน่าสนใจไม่น้อยเมื่อ "นิค แคนดี้" (Nick Candy) มหาเศรษฐีชาวอังกฤษผู้บริจาคหลักของพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservatives - พรรคของริชี ซูนัค อดีตนายกฯอังกฤษ) ประกาศหันมาสนับสนุนพรรคปฏิรูปอังกฤษ (Reform UK) ซึ่งมี ไนเจล ฟาร์ราจ (Nigel Farage) เป็นผู้นำพรรค

    นิค แคนดี้ ประกาศว่า "ผมจะระดมเงินให้กับพรรครีฟอร์มมากกว่าพรรคการเมืองใดๆ ในสหราชอาณาจักรที่เคยทำได้ ไนเจล ฟาราจจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไป!"

    "ไนเจล ฟาร์ราจ" ผู้นำพรรคปฏิรูปยูเคของอังกฤษ (Reform UK) เพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงกลางปีนี้ หลังความพยายามทั้งหมด 7 ครั้ง ในที่สุดประสบผลสำเร็จในครั้งที่ 8

    ฟาร์ราจ เป็นที่รู้จักอย่างดีจากการเป็นหนึ่งในแกนนำ ในความพยายามให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit
    นอกจากนี้ เขายังมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง โดยการต่อต้านผู้ลี้ภัยในอังกฤษ

    ช่วงการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของอังกลฤษเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ไนเจล ฟาร์ราจ ให้สัมภาษณ์ผ่าน BBC กล่าวหาว่าชาติตะวันตกเป็นฝ่าย “ยั่วยุ” รัสเซียให้รุกรานยูเครนก่อน โดยการขยายตัวของสหภาพยุโรปและนาโตทำให้วลาดิมีร์ ปูตินมีข้ออ้างให้เกิดสงครามส่งผลถึงอังกฤษด้วย

    การเมืองของอังกฤษกำลังน่าสนใจไม่น้อยเมื่อ "นิค แคนดี้" (Nick Candy) มหาเศรษฐีชาวอังกฤษผู้บริจาคหลักของพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservatives - พรรคของริชี ซูนัค อดีตนายกฯอังกฤษ) ประกาศหันมาสนับสนุนพรรคปฏิรูปอังกฤษ (Reform UK) ซึ่งมี ไนเจล ฟาร์ราจ (Nigel Farage) เป็นผู้นำพรรค นิค แคนดี้ ประกาศว่า "ผมจะระดมเงินให้กับพรรครีฟอร์มมากกว่าพรรคการเมืองใดๆ ในสหราชอาณาจักรที่เคยทำได้ ไนเจล ฟาราจจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไป!" "ไนเจล ฟาร์ราจ" ผู้นำพรรคปฏิรูปยูเคของอังกฤษ (Reform UK) เพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงกลางปีนี้ หลังความพยายามทั้งหมด 7 ครั้ง ในที่สุดประสบผลสำเร็จในครั้งที่ 8 ฟาร์ราจ เป็นที่รู้จักอย่างดีจากการเป็นหนึ่งในแกนนำ ในความพยายามให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit นอกจากนี้ เขายังมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง โดยการต่อต้านผู้ลี้ภัยในอังกฤษ ช่วงการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของอังกลฤษเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ไนเจล ฟาร์ราจ ให้สัมภาษณ์ผ่าน BBC กล่าวหาว่าชาติตะวันตกเป็นฝ่าย “ยั่วยุ” รัสเซียให้รุกรานยูเครนก่อน โดยการขยายตัวของสหภาพยุโรปและนาโตทำให้วลาดิมีร์ ปูตินมีข้ออ้างให้เกิดสงครามส่งผลถึงอังกฤษด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมมาตอนนี้เกิน ๓ วันแล้ว แต่ว่าหลายต่อหลายท่านกำลังใจยังฟุ้งซ่านเป็นปกติ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ใจไปต่อต้านแนวทางปฏิบัติที่ตนเองไม่คุ้นเคย พูดง่าย ๆ ว่าไม่สามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับกรรมฐานแบบใหม่ได้ และโดยเฉพาะความรู้สึกต่อต้านที่ว่า ไม่ใช่แบบที่ครูบาอาจารย์ของเราสอนมา..!ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายใฝ่รู้ใฝ่เรียนเสียอย่างเดียว ไม่ว่ากรรมฐานแนวไหนท่านก็จะรับได้ เพราะว่าไม่มีกรรมฐานสายโน้น ไม่มีกรรมฐานสายนี้ เนื่องเพราะว่ากรรมฐานทุกรูปแบบ มาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งนั้น เพียงแต่ว่าครูบาอาจารย์ท่านถนัดแบบไหน ก็เอาแบบนั้นมาสอน แล้วคนที่ชอบก็ติดตามไปปฏิบัติ จนกระทั่งกลายเป็นกรรมฐานสายโน้นสายนี้ขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงเทศน์สอนอยู่พระองค์เดียว..!หรือแม้กระทั่งบุคคลที่น่าจะเป็นรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ไปจัดการกับวัด ๆ หนึ่ง ซึ่งได้รับบริจาคร่างกายของผู้ตายมาเพื่อให้ฝึกกรรมฐาน โดยที่ผู้ใหญ่ระดับนั้นไปฟันธงว่า "การใช้ซากศพฝึกกรรมฐานไม่มีผล" ถ้าแบบนี้ควรที่จะหาคนอื่นมาดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแทน เนื่องเพราะว่าไม่ได้ศึกษาอะไรมาเลย..!อย่าลืมว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนถึงการพิจารณาซากศพ ๙ แบบด้วยกัน ถ้าสงสัยข้องใจสามารถไปดูได้ในมหาสติปัฏฐานสูตร ทีฆนิกาย พระสุตตันตปิฎก นวสีวถิกาปัพพะ ในเมื่อเราไม่เข้าใจแล้วอยู่ในฐานะผู้มีอำนาจในแผ่นดิน ไปกล่าวในลักษณะแบบนั้น บรรดาลูกน้องที่โง่กว่าหรือโง่พอกับเจ้านาย ก็อาจจะรีบสนองด้วยการไปเล่นงานพระเสียอีก..!ถ้าหากว่าลักษณะแบบนั้น จะทำให้พระพุทธศาสนาของเราโดนจำกัดแนวทางในการปฏิบัติไป ทั้ง ๆ ที่การกำหนดอสุภกรรมฐาน เป็นกรรมฐานสำคัญที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้พวกเราพิจารณาเพื่อตัดร่างกายของตนเอง และร่างกายของคนอื่น พูดง่าย ๆ ว่าเมื่อเห็นความจริงว่าร่างกายเมื่อตายลงแล้วมีสภาพน่าเกลียดน่าชังแบบนี้ ก็จะได้สติ ถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของตนเองออกมา แล้วเมื่อถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของตนเองออกไปได้ ก็สามารถถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของคนอื่นได้ส่วนบรรดาผู้เข้าอบรมพัฒนาศักยภาพของพระวิปัสสนาจารย์ ส่วนหนึ่งนอกจากจะต่อต้านการปฏิบัติ ไม่น้อมใจตามไปแล้ว ยังทำตนเหมือนกับคนมีเวลาว่างมาก แทนที่ทุกเวลาจะอยู่กับการปฏิบัติธรรม เพราะว่ามีเวลาแค่ ๑๕ วันเท่านั้น แต่กลับทำตัวตามสบาย หลายท่านกระผม/อาตมภาพบรรยายจบแล้ว ยังมาไม่ถึงห้องกรรมฐานเลย แล้วท่านทั้งหลายคิดว่าบุคคลแบบนี้ ถ้าไปเป็นพระวิปัสสนาจารย์สอนผู้อื่นต่อ จะเอาดีได้หรือไม่ ?พูดง่าย ๆ ว่าผู้บังคับบัญชา ตลอดจนกระทั่งพระสังฆาธิการ ทุ่มเทงบประมาณจำนวนมากมายลงไป โดยเฉพาะการกิน การอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟของคนเป็นร้อย ๆ แต่ละวันมากมายมหาศาล แต่ผลที่หวังดูท่าจะไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ นอกจากจะรู้สึกต่อต้านเพราะว่าเป็นกรรมฐานที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ตนเองศึกษาเรียนรู้มาแล้ว หลายท่านยังยอมสารภาพตรง ๆ ว่า "โดนผู้บังคับบัญชาบังคับให้มา" เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านละโอกาสซึ่งหาได้ยากที่สุดในโลกเนื่องเพราะว่าในส่วนของบุญกุศลที่ทุกคนก็พึงหวัง สามารถที่จะมีได้ใน ๑๐ อย่างด้วยกัน แต่เน้นหนักที่ ทาน ศีล ภาวนา บุญจากการภาวนาถือว่าสูงที่สุด ถ้าใครตั้งหน้าตั้งตาทำ สามารถเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี หรือเรียกว่า "พลิกชีวิต" ได้เลย แต่กลับไม่คิดที่จะทำกันให้เต็มที่ภายในเวลาที่จำกัด ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่ญาติโยมทั้งหลายจะได้ศึกษาหาความรู้ จะได้แบบอย่างที่ดีงามไปเพื่อปฏิบัติตาม ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าแม่ปูเดินคดเสียแล้ว จะให้ลูกปูเดินตรงทางก็ย่อมเป็นไปได้ยากเราท่านทั้งหลายต้องตระหนักว่าจุดมุ่งหมายในการอุปสมบท องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำหนดเอาไว้แล้ว พระอุปัชฌาย์อาจารย์ท่านให้เราปฏิญาณว่า "นิพพานัสสะ สัจฉิกะระณัตถายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา - ข้าพเจ้าขอรับเอาผ้ากาสาวพัสตร์นี้มา เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน" แม้ว่างานคันถธุระ จะเรื่องของการศึกษาเล่าเรียน บูรณปฏิสังขรณ์ หรือว่าสาธารณสงเคราะห์อะไรจะสำคัญก็ตาม ท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมเป้าหมายตรงนี้เป็นอันขาดสมัยเป็นพระใหม่อยู่วัดท่าซุง กระผม/อาตมภาพทำงานทุกอย่าง งานตรงหน้าหมดก็เร่หางานอื่นต่อไป ปรากฏว่าไปช่วยงานรุ่นพี่ท่านหนึ่ง พอได้เวลา ๕ โมงเย็นก็ได้เรียนท่านว่า "ขอตัวก่อนนะครับ ผมต้องไปทำวัตรเย็น" ท่านชี้งานที่อยู่ตรงหน้า บอกว่า "นี่ก็ทำวัตรเหมือนกัน" กระผม/อาตมภาพก็เลยบอกว่า "นี่มันวัตรของหลวงพี่ ไม่ใช่วัตรของผม วัตรของผมอยู่ที่ตึกธัมมวิโมกข์โน่น" แล้วก็ไปสรงน้ำ แต่งตัว เดินไปเจริญพระกรรมฐาน แล้วทำวัตรที่ตึกธัมมวิโมกข์ ซึ่งมาภายหลังเมื่อมีวิหาร ๑๐๐ เมตร ก็ไปทำวัตรเจริญพระกรรมฐานกันที่พระวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตรแทนท่านลองคิดดูว่า ขนาดอยู่กับครูบาอาจารย์ที่เคร่งครัดขนาดหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ก็ยังมีประเภท "หลุดคิวซี" อย่างนี้อยู่เป็นประจำ ท่านทั้งหลายจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า พระภิกษุสมัยนั้นอยู่กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ๔๐ - ๕๐ รูปทุกปี พระอาคันตุกะอีก ๓๐๐ - ๔๐๐ รูป แล้วทำไมถึงมีบุคคลที่ออกไปเป็นหลักให้กับลูกศิษย์สายหลวงพ่อได้แค่ไม่กี่รูปโบราณเขาบอกว่า "อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน" บุคคลถ้าหากว่าปัญญาน้อย ความเพียรต้องมาก เพื่อเอาไปชดเชยกับปัญญาของเรา พูดง่าย ๆ ว่าลองผิดลองถูกไปเรื่อย จะต้องถูกเข้าสักครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ปัญญามากความเพียรน้อย จะได้มีโอกาสรอดไปได้ แล้วถ้าหากว่าปัญญาน้อย ความเพียรน้อย โอกาสที่จะได้ดีย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้น..เมื่อเห็นพระวิปัสสนาจารย์ในโครงการซึ่งมาถึงครึ่งทางแล้ว ยังปฏิบัติอยู่ในลักษณะถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง แถมยังรู้สึกว่าตัวเองทำดีแล้ว อุตส่าห์เสียสละมาตั้ง ๑๕ วัน กระผม/อาตมภาพรู้สึกเสียดายเวลาแทนเพราะว่าการปฏิบัติธรรมนั้นไม่ใช่ปฏิบัติ ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมงแล้วพัก แต่ต้องปฏิบัติอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก เพราะว่ากิเลสกินเราไม่มีเวลาพัก แล้วเราไปพักรอให้กิเลสมากินเรา ก็เหมือนกับบุคคลรอให้ไฟไหม้มาถึงตัวแล้วค่อยขยับหนี เผลอเมื่อไรขยับไม่ทันก็โดนไหม้ทั้งตัว..!จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องตระหนักว่า โครงการนี้จะมีอยู่ทุกปี ถ้าใครได้ไปเข้าโครงการ ขอให้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ไม่ใช่สักแต่ว่ารอให้ครบ ๑๕ วัน พูดง่าย ๆ ว่า เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้จริง ศึกษาแล้วต้องนำมาบอกต่อสอนต่อได้ จึงถือว่าประสบความสำเร็จตามโครงการอย่างแท้จริงพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนวันเสาร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
    ท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมมาตอนนี้เกิน ๓ วันแล้ว แต่ว่าหลายต่อหลายท่านกำลังใจยังฟุ้งซ่านเป็นปกติ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ใจไปต่อต้านแนวทางปฏิบัติที่ตนเองไม่คุ้นเคย พูดง่าย ๆ ว่าไม่สามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับกรรมฐานแบบใหม่ได้ และโดยเฉพาะความรู้สึกต่อต้านที่ว่า ไม่ใช่แบบที่ครูบาอาจารย์ของเราสอนมา..!ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายใฝ่รู้ใฝ่เรียนเสียอย่างเดียว ไม่ว่ากรรมฐานแนวไหนท่านก็จะรับได้ เพราะว่าไม่มีกรรมฐานสายโน้น ไม่มีกรรมฐานสายนี้ เนื่องเพราะว่ากรรมฐานทุกรูปแบบ มาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งนั้น เพียงแต่ว่าครูบาอาจารย์ท่านถนัดแบบไหน ก็เอาแบบนั้นมาสอน แล้วคนที่ชอบก็ติดตามไปปฏิบัติ จนกระทั่งกลายเป็นกรรมฐานสายโน้นสายนี้ขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงเทศน์สอนอยู่พระองค์เดียว..!หรือแม้กระทั่งบุคคลที่น่าจะเป็นรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ไปจัดการกับวัด ๆ หนึ่ง ซึ่งได้รับบริจาคร่างกายของผู้ตายมาเพื่อให้ฝึกกรรมฐาน โดยที่ผู้ใหญ่ระดับนั้นไปฟันธงว่า "การใช้ซากศพฝึกกรรมฐานไม่มีผล" ถ้าแบบนี้ควรที่จะหาคนอื่นมาดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแทน เนื่องเพราะว่าไม่ได้ศึกษาอะไรมาเลย..!อย่าลืมว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนถึงการพิจารณาซากศพ ๙ แบบด้วยกัน ถ้าสงสัยข้องใจสามารถไปดูได้ในมหาสติปัฏฐานสูตร ทีฆนิกาย พระสุตตันตปิฎก นวสีวถิกาปัพพะ ในเมื่อเราไม่เข้าใจแล้วอยู่ในฐานะผู้มีอำนาจในแผ่นดิน ไปกล่าวในลักษณะแบบนั้น บรรดาลูกน้องที่โง่กว่าหรือโง่พอกับเจ้านาย ก็อาจจะรีบสนองด้วยการไปเล่นงานพระเสียอีก..!ถ้าหากว่าลักษณะแบบนั้น จะทำให้พระพุทธศาสนาของเราโดนจำกัดแนวทางในการปฏิบัติไป ทั้ง ๆ ที่การกำหนดอสุภกรรมฐาน เป็นกรรมฐานสำคัญที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้พวกเราพิจารณาเพื่อตัดร่างกายของตนเอง และร่างกายของคนอื่น พูดง่าย ๆ ว่าเมื่อเห็นความจริงว่าร่างกายเมื่อตายลงแล้วมีสภาพน่าเกลียดน่าชังแบบนี้ ก็จะได้สติ ถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของตนเองออกมา แล้วเมื่อถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของตนเองออกไปได้ ก็สามารถถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของคนอื่นได้ส่วนบรรดาผู้เข้าอบรมพัฒนาศักยภาพของพระวิปัสสนาจารย์ ส่วนหนึ่งนอกจากจะต่อต้านการปฏิบัติ ไม่น้อมใจตามไปแล้ว ยังทำตนเหมือนกับคนมีเวลาว่างมาก แทนที่ทุกเวลาจะอยู่กับการปฏิบัติธรรม เพราะว่ามีเวลาแค่ ๑๕ วันเท่านั้น แต่กลับทำตัวตามสบาย หลายท่านกระผม/อาตมภาพบรรยายจบแล้ว ยังมาไม่ถึงห้องกรรมฐานเลย แล้วท่านทั้งหลายคิดว่าบุคคลแบบนี้ ถ้าไปเป็นพระวิปัสสนาจารย์สอนผู้อื่นต่อ จะเอาดีได้หรือไม่ ?พูดง่าย ๆ ว่าผู้บังคับบัญชา ตลอดจนกระทั่งพระสังฆาธิการ ทุ่มเทงบประมาณจำนวนมากมายลงไป โดยเฉพาะการกิน การอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟของคนเป็นร้อย ๆ แต่ละวันมากมายมหาศาล แต่ผลที่หวังดูท่าจะไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ นอกจากจะรู้สึกต่อต้านเพราะว่าเป็นกรรมฐานที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ตนเองศึกษาเรียนรู้มาแล้ว หลายท่านยังยอมสารภาพตรง ๆ ว่า "โดนผู้บังคับบัญชาบังคับให้มา" เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านละโอกาสซึ่งหาได้ยากที่สุดในโลกเนื่องเพราะว่าในส่วนของบุญกุศลที่ทุกคนก็พึงหวัง สามารถที่จะมีได้ใน ๑๐ อย่างด้วยกัน แต่เน้นหนักที่ ทาน ศีล ภาวนา บุญจากการภาวนาถือว่าสูงที่สุด ถ้าใครตั้งหน้าตั้งตาทำ สามารถเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี หรือเรียกว่า "พลิกชีวิต" ได้เลย แต่กลับไม่คิดที่จะทำกันให้เต็มที่ภายในเวลาที่จำกัด ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่ญาติโยมทั้งหลายจะได้ศึกษาหาความรู้ จะได้แบบอย่างที่ดีงามไปเพื่อปฏิบัติตาม ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าแม่ปูเดินคดเสียแล้ว จะให้ลูกปูเดินตรงทางก็ย่อมเป็นไปได้ยากเราท่านทั้งหลายต้องตระหนักว่าจุดมุ่งหมายในการอุปสมบท องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำหนดเอาไว้แล้ว พระอุปัชฌาย์อาจารย์ท่านให้เราปฏิญาณว่า "นิพพานัสสะ สัจฉิกะระณัตถายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา - ข้าพเจ้าขอรับเอาผ้ากาสาวพัสตร์นี้มา เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน" แม้ว่างานคันถธุระ จะเรื่องของการศึกษาเล่าเรียน บูรณปฏิสังขรณ์ หรือว่าสาธารณสงเคราะห์อะไรจะสำคัญก็ตาม ท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมเป้าหมายตรงนี้เป็นอันขาดสมัยเป็นพระใหม่อยู่วัดท่าซุง กระผม/อาตมภาพทำงานทุกอย่าง งานตรงหน้าหมดก็เร่หางานอื่นต่อไป ปรากฏว่าไปช่วยงานรุ่นพี่ท่านหนึ่ง พอได้เวลา ๕ โมงเย็นก็ได้เรียนท่านว่า "ขอตัวก่อนนะครับ ผมต้องไปทำวัตรเย็น" ท่านชี้งานที่อยู่ตรงหน้า บอกว่า "นี่ก็ทำวัตรเหมือนกัน" กระผม/อาตมภาพก็เลยบอกว่า "นี่มันวัตรของหลวงพี่ ไม่ใช่วัตรของผม วัตรของผมอยู่ที่ตึกธัมมวิโมกข์โน่น" แล้วก็ไปสรงน้ำ แต่งตัว เดินไปเจริญพระกรรมฐาน แล้วทำวัตรที่ตึกธัมมวิโมกข์ ซึ่งมาภายหลังเมื่อมีวิหาร ๑๐๐ เมตร ก็ไปทำวัตรเจริญพระกรรมฐานกันที่พระวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตรแทนท่านลองคิดดูว่า ขนาดอยู่กับครูบาอาจารย์ที่เคร่งครัดขนาดหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ก็ยังมีประเภท "หลุดคิวซี" อย่างนี้อยู่เป็นประจำ ท่านทั้งหลายจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า พระภิกษุสมัยนั้นอยู่กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ๔๐ - ๕๐ รูปทุกปี พระอาคันตุกะอีก ๓๐๐ - ๔๐๐ รูป แล้วทำไมถึงมีบุคคลที่ออกไปเป็นหลักให้กับลูกศิษย์สายหลวงพ่อได้แค่ไม่กี่รูปโบราณเขาบอกว่า "อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน" บุคคลถ้าหากว่าปัญญาน้อย ความเพียรต้องมาก เพื่อเอาไปชดเชยกับปัญญาของเรา พูดง่าย ๆ ว่าลองผิดลองถูกไปเรื่อย จะต้องถูกเข้าสักครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ปัญญามากความเพียรน้อย จะได้มีโอกาสรอดไปได้ แล้วถ้าหากว่าปัญญาน้อย ความเพียรน้อย โอกาสที่จะได้ดีย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้น..เมื่อเห็นพระวิปัสสนาจารย์ในโครงการซึ่งมาถึงครึ่งทางแล้ว ยังปฏิบัติอยู่ในลักษณะถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง แถมยังรู้สึกว่าตัวเองทำดีแล้ว อุตส่าห์เสียสละมาตั้ง ๑๕ วัน กระผม/อาตมภาพรู้สึกเสียดายเวลาแทนเพราะว่าการปฏิบัติธรรมนั้นไม่ใช่ปฏิบัติ ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมงแล้วพัก แต่ต้องปฏิบัติอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก เพราะว่ากิเลสกินเราไม่มีเวลาพัก แล้วเราไปพักรอให้กิเลสมากินเรา ก็เหมือนกับบุคคลรอให้ไฟไหม้มาถึงตัวแล้วค่อยขยับหนี เผลอเมื่อไรขยับไม่ทันก็โดนไหม้ทั้งตัว..!จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องตระหนักว่า โครงการนี้จะมีอยู่ทุกปี ถ้าใครได้ไปเข้าโครงการ ขอให้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ไม่ใช่สักแต่ว่ารอให้ครบ ๑๕ วัน พูดง่าย ๆ ว่า เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้จริง ศึกษาแล้วต้องนำมาบอกต่อสอนต่อได้ จึงถือว่าประสบความสำเร็จตามโครงการอย่างแท้จริงพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนวันเสาร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศเปิด Pre-Order หนังสือ "Integrated Business Excellence""หมดแล้ว หมดเลย" ผลิตเพียง 200 เล่มเท่านั้น!📘 รายละเอียดหนังสือเนื้อหาครอบคลุม 3 หัวข้อสำคัญ:1️⃣ Leadership - สร้างผู้นำที่ทรงพลังและสร้างองค์กรที่ยั่งยืน2️⃣ Performance Excellence - วางแผนกลยุทธ์และบริหารผลงานอย่างมืออาชีพ3️⃣ Operational Excellence - เทคนิค Lean, Six Sigma และการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล💡 หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับ:✅ นักธุรกิจและผู้บริหารทุกระดับ✅ ผู้ที่สนใจพัฒนาทักษะด้านการบริหารและการดำเนินธุรกิจ✅ นักเรียน/นักศึกษาที่ต้องการสร้างพื้นฐานความรู้เพื่ออนาคต🎯 พิเศษ! รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะถูกนำไปบริจาคเพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษา พร้อมเพิ่มศักยภาพให้ตัวคุณเอง🛒 Pre-Order ได้แล้ววันนี้!ราคาพิเศษ: 590 บาท/เล่มหมดเขตการสั่งจอง: 31 มกราคมเริ่มจัดส่ง: 1 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป📲 วิธีการสั่งจอง:แจ้งความประสงค์ผ่าน [ช่องทางสั่งจอง]:Line ID: tommy5213800128Facebook เพจ: TPT Consultantโอนเงินผ่าน พร้อมเพย์ 081-723-0317 พร้อมแจ้งหลักฐานการโอนเงินทาง Lineแจ้งชื่อที่อยู่ของท่านผ่านทาง Line เพื่อรอรับหนังสือที่บ้าน🔥 #หมดแล้วหมดเลย #หนังสือที่ทุกคนต้องมี📚 สั่งจองก่อนใครได้ที่ Line หรือ Facebook🌟 ให้ความรู้ เพิ่มคุณค่า และสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่
    ประกาศเปิด Pre-Order หนังสือ "Integrated Business Excellence""หมดแล้ว หมดเลย" ผลิตเพียง 200 เล่มเท่านั้น!📘 รายละเอียดหนังสือเนื้อหาครอบคลุม 3 หัวข้อสำคัญ:1️⃣ Leadership - สร้างผู้นำที่ทรงพลังและสร้างองค์กรที่ยั่งยืน2️⃣ Performance Excellence - วางแผนกลยุทธ์และบริหารผลงานอย่างมืออาชีพ3️⃣ Operational Excellence - เทคนิค Lean, Six Sigma และการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล💡 หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับ:✅ นักธุรกิจและผู้บริหารทุกระดับ✅ ผู้ที่สนใจพัฒนาทักษะด้านการบริหารและการดำเนินธุรกิจ✅ นักเรียน/นักศึกษาที่ต้องการสร้างพื้นฐานความรู้เพื่ออนาคต🎯 พิเศษ! รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะถูกนำไปบริจาคเพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษา พร้อมเพิ่มศักยภาพให้ตัวคุณเอง🛒 Pre-Order ได้แล้ววันนี้!ราคาพิเศษ: 590 บาท/เล่มหมดเขตการสั่งจอง: 31 มกราคมเริ่มจัดส่ง: 1 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป📲 วิธีการสั่งจอง:แจ้งความประสงค์ผ่าน [ช่องทางสั่งจอง]:Line ID: tommy5213800128Facebook เพจ: TPT Consultantโอนเงินผ่าน พร้อมเพย์ 081-723-0317 พร้อมแจ้งหลักฐานการโอนเงินทาง Lineแจ้งชื่อที่อยู่ของท่านผ่านทาง Line เพื่อรอรับหนังสือที่บ้าน🔥 #หมดแล้วหมดเลย #หนังสือที่ทุกคนต้องมี📚 สั่งจองก่อนใครได้ที่ Line หรือ Facebook🌟 ให้ความรู้ เพิ่มคุณค่า และสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าไปตระหนี่ถี่เหนียว..ทานในบุญบ้าง บริจาคบ้าง ช่วยสังคมบ้าง ดีหมด
    อย่าไปตระหนี่ถี่เหนียว..ทานในบุญบ้าง บริจาคบ้าง ช่วยสังคมบ้าง ดีหมด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • แคนาดามีแผนจะส่งอาวุธปืนที่ยึดได้จากพลเมืองไปยังยูเครน

    Dominic LeBlanc รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะ กล่าวว่ารัฐบาลมีการประกาศสั่งห้ามประชาชนครอบครองอาวุธปืนเพิ่มอีก 324 ประเภท โดยเฉพาะอาวุธปืนประเภทปืนจู่โจมและโจมตีรุนแรงซึ่งประชาชนไม่ควรมีไว้ในครอบครอง

    ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2020 รัฐบาลแคนาดามีการสั่งห้ามอาวุธปืนมากกว่า 1,500 ยี่ห้อและรุ่น ซึ่งรวมถึง AR-15 และ Ruger Mini-14 แต่ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอีกมากมาย ทำให้ต้องมีการประกาศเพิ่มเติม

    LeBlanc ยังกล่าวอีกว่า กำลังประสานงานกับ บิล แบลร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแคนาดา เพื่อดูว่าจะสามารถบริจาคปืนที่ยึดได้เหล่านี้เพื่อสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซียได้อย่างไร
    แคนาดามีแผนจะส่งอาวุธปืนที่ยึดได้จากพลเมืองไปยังยูเครน Dominic LeBlanc รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะ กล่าวว่ารัฐบาลมีการประกาศสั่งห้ามประชาชนครอบครองอาวุธปืนเพิ่มอีก 324 ประเภท โดยเฉพาะอาวุธปืนประเภทปืนจู่โจมและโจมตีรุนแรงซึ่งประชาชนไม่ควรมีไว้ในครอบครอง ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2020 รัฐบาลแคนาดามีการสั่งห้ามอาวุธปืนมากกว่า 1,500 ยี่ห้อและรุ่น ซึ่งรวมถึง AR-15 และ Ruger Mini-14 แต่ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอีกมากมาย ทำให้ต้องมีการประกาศเพิ่มเติม LeBlanc ยังกล่าวอีกว่า กำลังประสานงานกับ บิล แบลร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแคนาดา เพื่อดูว่าจะสามารถบริจาคปืนที่ยึดได้เหล่านี้เพื่อสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซียได้อย่างไร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • บทความน่าสนใจของ TNN World คอลัมน์Editor’s Pick: ประวัติศาสตร์ “อภัยโทษ” ของประธานาธิบดีสหรัฐฯการอภัยโทษไม่ใช่เรื่องผิด เป็นอำนาจที่ประธานาธิบดีสามารถทำได้ ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ แต่นี่คือการอภัยโทษ “ลูกชาย” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา .. แล้วที่ผ่านมา ผู้นำคนก่อน ๆ ของสหรัฐฯ เคยใช้อำนาจในการอภัยโทษให้ใครแล้วบ้าง? และมีใครที่กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวแบบนี้อีกหรือไม่? มาค่อย ๆ ย้อนกลับไปทีละคน ◾️◾️◾️🔴โดนัลด์ ทรัมป์เริ่มตั้งแต่ โดนัลด์​ ทรัมป์​ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ​ ที่ออกมาวิจารณ์ประธานาธิบดีโจ ไบเดนอย่างหนัก ว่าการอภัยโทษให้ลูกชาย “ฮันเตอร์ ไบเดน”​ นั้น บิดเบือนความยุติธรรมแต่ทรัมป์ก็อภัยโทษให้ใครหลาย ๆ คนมาแล้ว ตั้งแต่อดีตผู้ช่วยส่วนตัว มาจนถึงล่าสุด ที่ประกาศอภัยโทษให้กับ “ชาลส์ คุชเนอร์” บิดาของจาเร็ด คุชเนอร์​ สามีของอิวางกา ทรัมป์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ดองของเขานั่นเอง จากคดีทุจริต เลี่ยงภาษี 16 กระทง และอื่น ๆ อีก - อีกทั้งล่าสุด ยังแต่ตั้ง ชาลส์ คุชเนอร์คนนี้ เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ​ ประจำฝรั่งเศสอีกด้วยมีดองเป็นประธานาธิบดี..​ก็ดีเช่นนี้เอง◾️◾️◾️🔴 บารัค โอบามาบารัค โอบามา ผู้นำผิวสีรายนี้ ไม่ได้มีการอภัยโทษที่อื้อฉาวมากนัก โดยหนึ่งในคนที่เป็นประเด็นที่สุด คือ “เชลซี แมนนิ่ง” อดีตทหารเมริกัน ที่แฉข้อมูลและเอกสารลับให้กับเว็ปไซต์จอมแฉ WikiLeaks ◾️◾️◾️🔴 บิล คลินตันถัดมา บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดี ผู้เป็นทั้งที่รัก และที่ชัง ของชาวอเมริกัน ที่ใช้อำนาจอภัยโทษให้กับสามีของเศรษฐีนีผู้บริจาครายใหญ่ให้กับพรรค อย่าง “มาร์ก ริช” นักการเงินดัง ที่ถูกตั้งข้อหาเลี่ยงภาษี - เรื่องนี้ถูกแฉ จากการที่สำนักสอบสวนกลาง หรือ FBI ตรวจค้นอีเมล์ของฮิลลารี คลินตัน สมัยที่เธอชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเพียงแค่ไม่กี่วัน - จึงเป็นเรื่องอื้อฉาวว่า .. อภัยโทษให้มาร์ก ริช เพราะหวังเงินบริจาคนับล้านเข้าพรรคระหว่างหาเสียงหรือไม่?อีกทั้ง บิล คลินตัน ยังอภัยโทษให้กับพี่ชายร่วมสายเลือดอย่าง “โรเจอร์ คลินตัน จูเนียร์” จากความผิดฐานสมคมคิดจำหน่ายโคเคน ในวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งในปี 2001 ด้วย ประโยชน์ แลกประโยชน์ ก็เช่นนี้เอง◾️◾️◾️🔴 แอนดรูว์ จอห์นสันหรือหากย้อนกลับไปไกลหน่อย ในยุคสงครามกลางเมือง กรณีประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ที่พยายามจะรวมประเทศหลังสงครามอันยาวนาน จึงออกคำสั่งนิรโทษกรรมครั้งใหญ่ ให้กับเจ้าหน้าที่ และทหารฝ่ายสมาพันธรัฐ ราว 12,600 นาย ที่กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างหนัก ◾️◾️◾️🔴 ริชาร์ด นิกสัน - เจอรัลด์ ฟอร์ดส่วนกรณีสุดอื้อฉาวทางการเมืองของสหรัฐฯ อย่างคดีวอเตอร์เกตส์ ที่เป็นการลักลอบโจรกรรมสำนักงานใหญ่ของพรรคเดโมแครต ที่อาคารวอเตอร์เกตคอมเพลกซ์ ในกรุงวอชิงตันดีซี .. และผลการตรวจสอบพบว่า “ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน” มีส่วนรับรู้เหตุการณ์ดังกล่าวด้วย นำมาสู่การยอมลาออกของเขาในที่สุด และเป็นการลาออกครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐฯก่อนที่ประธานาธิบดีคนต่อมา อย่าง “เจอรัลด์ ฟอร์ด” จะใช้อำนาจในการอภัยโทษให้กับ “ริชาร์ด นิกสัน” ทั้งหมด เมื่อปี 1974 - ซึ่งแม้ประชาชนจะกังวลต่อการอภัยโทษครั้งนี้ แต่ฟอร์ดยืนยันว่า นี่คือผลประโยชน์ที่ดีที่สุดแล้วสำหรับประเทศ - และคาดว่า ผลของการอภัยโทษครั้งนั้นเอง ที่ทำให้ฟอร์ดพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้กับ “จิมมี่ คาร์เตอร์” ในอีก 2 ปีถัดมา (1976)◾️◾️◾️🔴 จิมมี่ คาร์เตอร์จิมมี่ คาร์เตอร์​ เองก็ถูกวิจารณ์อยู่ไม่น้อย จากการอภัยโทษให้กับผู้หลบหนีการเกณฑ์ทหารไปร่วมในสงครามเวียดนามหลายแสนคน ตั้งแต่วันที่ 2 ของการรับตำแหน่ง ซึ่งเป็นนโยบายที่เขาหาเสียงเอาไว้อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นอำนาจที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ​ แต่ก็มีกระแสเรียกร้องว่า ประธานาธิบดีไม่ควรจะมีอำนาจชนิดนี้ เพราะมันจะเป็นผลทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม—————ภาพ: Reutersอ้างอิง: https://www.independent.co.uk/news/world/americas/us-politics/controversial-presidential-pardons-biden-trump-b2657552.htmlhttps://news.sky.com/story/what-is-the-us-presidential-pardon-and-when-has-it-been-used-13265442#TNNWorldNews #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ #นิรโทษกรรม #สหรัฐ #การเมือง #ประวัติศาสตร์ #ไบเดน————📲ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จาก TNNได้ที่ช่อง YouTube: TNN Originalsที่นี่เลยค่ะ >> https://bit.ly/TNNOriginals
    บทความน่าสนใจของ TNN World คอลัมน์Editor’s Pick: ประวัติศาสตร์ “อภัยโทษ” ของประธานาธิบดีสหรัฐฯการอภัยโทษไม่ใช่เรื่องผิด เป็นอำนาจที่ประธานาธิบดีสามารถทำได้ ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ แต่นี่คือการอภัยโทษ “ลูกชาย” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา .. แล้วที่ผ่านมา ผู้นำคนก่อน ๆ ของสหรัฐฯ เคยใช้อำนาจในการอภัยโทษให้ใครแล้วบ้าง? และมีใครที่กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวแบบนี้อีกหรือไม่? มาค่อย ๆ ย้อนกลับไปทีละคน ◾️◾️◾️🔴โดนัลด์ ทรัมป์เริ่มตั้งแต่ โดนัลด์​ ทรัมป์​ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ​ ที่ออกมาวิจารณ์ประธานาธิบดีโจ ไบเดนอย่างหนัก ว่าการอภัยโทษให้ลูกชาย “ฮันเตอร์ ไบเดน”​ นั้น บิดเบือนความยุติธรรมแต่ทรัมป์ก็อภัยโทษให้ใครหลาย ๆ คนมาแล้ว ตั้งแต่อดีตผู้ช่วยส่วนตัว มาจนถึงล่าสุด ที่ประกาศอภัยโทษให้กับ “ชาลส์ คุชเนอร์” บิดาของจาเร็ด คุชเนอร์​ สามีของอิวางกา ทรัมป์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ดองของเขานั่นเอง จากคดีทุจริต เลี่ยงภาษี 16 กระทง และอื่น ๆ อีก - อีกทั้งล่าสุด ยังแต่ตั้ง ชาลส์ คุชเนอร์คนนี้ เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ​ ประจำฝรั่งเศสอีกด้วยมีดองเป็นประธานาธิบดี..​ก็ดีเช่นนี้เอง◾️◾️◾️🔴 บารัค โอบามาบารัค โอบามา ผู้นำผิวสีรายนี้ ไม่ได้มีการอภัยโทษที่อื้อฉาวมากนัก โดยหนึ่งในคนที่เป็นประเด็นที่สุด คือ “เชลซี แมนนิ่ง” อดีตทหารเมริกัน ที่แฉข้อมูลและเอกสารลับให้กับเว็ปไซต์จอมแฉ WikiLeaks ◾️◾️◾️🔴 บิล คลินตันถัดมา บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดี ผู้เป็นทั้งที่รัก และที่ชัง ของชาวอเมริกัน ที่ใช้อำนาจอภัยโทษให้กับสามีของเศรษฐีนีผู้บริจาครายใหญ่ให้กับพรรค อย่าง “มาร์ก ริช” นักการเงินดัง ที่ถูกตั้งข้อหาเลี่ยงภาษี - เรื่องนี้ถูกแฉ จากการที่สำนักสอบสวนกลาง หรือ FBI ตรวจค้นอีเมล์ของฮิลลารี คลินตัน สมัยที่เธอชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเพียงแค่ไม่กี่วัน - จึงเป็นเรื่องอื้อฉาวว่า .. อภัยโทษให้มาร์ก ริช เพราะหวังเงินบริจาคนับล้านเข้าพรรคระหว่างหาเสียงหรือไม่?อีกทั้ง บิล คลินตัน ยังอภัยโทษให้กับพี่ชายร่วมสายเลือดอย่าง “โรเจอร์ คลินตัน จูเนียร์” จากความผิดฐานสมคมคิดจำหน่ายโคเคน ในวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งในปี 2001 ด้วย ประโยชน์ แลกประโยชน์ ก็เช่นนี้เอง◾️◾️◾️🔴 แอนดรูว์ จอห์นสันหรือหากย้อนกลับไปไกลหน่อย ในยุคสงครามกลางเมือง กรณีประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ที่พยายามจะรวมประเทศหลังสงครามอันยาวนาน จึงออกคำสั่งนิรโทษกรรมครั้งใหญ่ ให้กับเจ้าหน้าที่ และทหารฝ่ายสมาพันธรัฐ ราว 12,600 นาย ที่กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างหนัก ◾️◾️◾️🔴 ริชาร์ด นิกสัน - เจอรัลด์ ฟอร์ดส่วนกรณีสุดอื้อฉาวทางการเมืองของสหรัฐฯ อย่างคดีวอเตอร์เกตส์ ที่เป็นการลักลอบโจรกรรมสำนักงานใหญ่ของพรรคเดโมแครต ที่อาคารวอเตอร์เกตคอมเพลกซ์ ในกรุงวอชิงตันดีซี .. และผลการตรวจสอบพบว่า “ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน” มีส่วนรับรู้เหตุการณ์ดังกล่าวด้วย นำมาสู่การยอมลาออกของเขาในที่สุด และเป็นการลาออกครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐฯก่อนที่ประธานาธิบดีคนต่อมา อย่าง “เจอรัลด์ ฟอร์ด” จะใช้อำนาจในการอภัยโทษให้กับ “ริชาร์ด นิกสัน” ทั้งหมด เมื่อปี 1974 - ซึ่งแม้ประชาชนจะกังวลต่อการอภัยโทษครั้งนี้ แต่ฟอร์ดยืนยันว่า นี่คือผลประโยชน์ที่ดีที่สุดแล้วสำหรับประเทศ - และคาดว่า ผลของการอภัยโทษครั้งนั้นเอง ที่ทำให้ฟอร์ดพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้กับ “จิมมี่ คาร์เตอร์” ในอีก 2 ปีถัดมา (1976)◾️◾️◾️🔴 จิมมี่ คาร์เตอร์จิมมี่ คาร์เตอร์​ เองก็ถูกวิจารณ์อยู่ไม่น้อย จากการอภัยโทษให้กับผู้หลบหนีการเกณฑ์ทหารไปร่วมในสงครามเวียดนามหลายแสนคน ตั้งแต่วันที่ 2 ของการรับตำแหน่ง ซึ่งเป็นนโยบายที่เขาหาเสียงเอาไว้อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นอำนาจที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ​ แต่ก็มีกระแสเรียกร้องว่า ประธานาธิบดีไม่ควรจะมีอำนาจชนิดนี้ เพราะมันจะเป็นผลทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม—————ภาพ: Reutersอ้างอิง: https://www.independent.co.uk/news/world/americas/us-politics/controversial-presidential-pardons-biden-trump-b2657552.htmlhttps://news.sky.com/story/what-is-the-us-presidential-pardon-and-when-has-it-been-used-13265442#TNNWorldNews #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ #นิรโทษกรรม #สหรัฐ #การเมือง #ประวัติศาสตร์ #ไบเดน————📲ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จาก TNNได้ที่ช่อง YouTube: TNN Originalsที่นี่เลยค่ะ >> https://bit.ly/TNNOriginals
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรียนเชิญร่วมด้วยช่วยแบ่งปันครับเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เคารพรัก
    📍📍ขอเชิญศิษย์เก่าและผู้มีจิตศรัทธาที่เคารพทุกท่าน
    ในนามของผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสาวแหวิทยา
    ขอประชาสัมพันธ์เรียนเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา "ศิษย์เก่า คืนสู่เหย้าชาวสาวแหวิทยา" เพื่อปรับปรุงห้องเรียนคุณภาพ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศโดยใช้ระบบโซล่าเซลล์ สร้างฐานพระพุทธรูป ปรับปรุงเสาธง จัดทำซุ้มประตูหน้าโรงเรียน และจัดหาที่ดินให้โรงเรียน
    📍📍ในวันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2567
    จึงใคร่ขอกราบเรียนเชิญศิษย์เก่า และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญเพื่อเป็นพลังบุญ เพิ่มบารมีให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญ ร่ำรวยด้วยลาภ ยศ สรรเสริญตลอดไป
    ร่วมทำบุญสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ได้ที่
    📍บัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
    [บัญชีเงินฝากออมทรัพย์] สาขา หนองฮี
    ชื่อบัญชี รายได้สถานศึกษาอื่นๆโรงเรียนสาวแหวิทยา
    ⭐️เลขที่บัญชี 020241221538⭐️
    (บริจาคผ่านระบบ E-Donation สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า)
    📌ติดต่อสอบถาม/บริจาคได้ที่
    ผอ.กำพล นามเพ็ง 062-452-2465
    คุณครูยุพา มีผล 086-049-8662
    คุณครูนิภาพร ขอนโพธิ์ 084-463-3688
    #ผ้าป่าโรงเรียนสาวแหวิทยา #ผ้าป่าเพื่อการศึกษา #ศิษย์เก่าสาวแหวิทยา#บริจาค #ทำบุญ #ร่วมบุญ #ผ้าป่าโรงเรียน #ผู้มีจิตศรัทธา #ยิ้มดัง #ดงเพลง #dongplengonair #shawsherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ชอว์พิชิต #หนองฮี #พนมไพร #ร้อยเอ็ด
    เรียนเชิญร่วมด้วยช่วยแบ่งปันครับเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เคารพรัก 📍📍ขอเชิญศิษย์เก่าและผู้มีจิตศรัทธาที่เคารพทุกท่าน ในนามของผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสาวแหวิทยา ขอประชาสัมพันธ์เรียนเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา "ศิษย์เก่า คืนสู่เหย้าชาวสาวแหวิทยา" เพื่อปรับปรุงห้องเรียนคุณภาพ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศโดยใช้ระบบโซล่าเซลล์ สร้างฐานพระพุทธรูป ปรับปรุงเสาธง จัดทำซุ้มประตูหน้าโรงเรียน และจัดหาที่ดินให้โรงเรียน 📍📍ในวันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2567 จึงใคร่ขอกราบเรียนเชิญศิษย์เก่า และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญเพื่อเป็นพลังบุญ เพิ่มบารมีให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญ ร่ำรวยด้วยลาภ ยศ สรรเสริญตลอดไป ร่วมทำบุญสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ได้ที่ 📍บัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร [บัญชีเงินฝากออมทรัพย์] สาขา หนองฮี ชื่อบัญชี รายได้สถานศึกษาอื่นๆโรงเรียนสาวแหวิทยา ⭐️เลขที่บัญชี 020241221538⭐️ (บริจาคผ่านระบบ E-Donation สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า) 📌ติดต่อสอบถาม/บริจาคได้ที่ ผอ.กำพล นามเพ็ง 062-452-2465 คุณครูยุพา มีผล 086-049-8662 คุณครูนิภาพร ขอนโพธิ์ 084-463-3688 #ผ้าป่าโรงเรียนสาวแหวิทยา #ผ้าป่าเพื่อการศึกษา #ศิษย์เก่าสาวแหวิทยา​ #บริจาค #ทำบุญ #ร่วมบุญ #ผ้าป่าโรงเรียน #ผู้มีจิตศรัทธา #ยิ้มดัง #ดงเพลง #dongplengonair #shawsherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ชอว์พิชิต #หนองฮี #พนมไพร #ร้อยเอ็ด
    Love
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 773 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • 29 พ.ย. 2567
    ชาวสยามโสภา ร่วมมอบของที่ระลึกให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิต
    ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
    เพื่อเป็นกำลังใจ ❤️ และแทนคำขอบคุณ 🙏
    #บริจาคโลหิต #สภากาชาดไทย #สยามโสภา #ของที่ระลึก
    29 พ.ย. 2567 ชาวสยามโสภา ร่วมมอบของที่ระลึกให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิต ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อเป็นกำลังใจ ❤️ และแทนคำขอบคุณ 🙏 #บริจาคโลหิต #สภากาชาดไทย #สยามโสภา #ของที่ระลึก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ตู้รถไฟกงเปียญ (Compiègne Wagon)วันนี้ (11 พฤศจิกายน) เมื่อ 106ปีที่แล้วคือ ค.ศ.1918 ผู้แทนฝ่ายเยอรมนีและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ร่วมลงนามเจรจาสงบศึกบนตู้รถไฟ ณ ป่ากงเปียญ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ความเป็นมาของตู้รถไฟ:ตู้รถไฟขบวนนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1914 ที่แซงต์-เดอนี เพื่อใช้เป็นรถตู้ทานอาหารหมายเลข. 2491D ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มันได้ถูกใช้เพื่อเป็นหนึ่งในขบวนรถไฟนอนหรูของบริษัท Compagnie Internationale des Wagons-Lits หรือที่รู้จักกันในนาม “The Orient Express” การสงบศึกวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1918:ในเดือนตุลาคม, ค.ศ.1918 ตู้รถไฟได้ถูกใช้เพื่อเป็นพาหนะของผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพสัมพันธมิตร จอมพลแฟร์ดินานด์ ฟ็องคซ์และผู้แทนฝ่ายสัมพันธมิตรในการเจรจาสงบศึกกับฝ่ายเยอรมนี ณ ป่ากงเปียญ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ตู้รถไฟยังคงถูกใช้อยู่โดย The Orient Express ก่อนจะถูกบริจาคเพื่อนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Musée de l’Armée ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1919 ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1927 ตู้รถไฟได้ถูกนำไปจัดแสดงอยู่ในอาคาร ณ Clairière de l’Armistice สถานที่ที่มันเคยถูกใช้ลงนามสงบศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1การสงบศึกวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1940:หลังการรุกรานฝรั่งเศสของกองทัพเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของจอมพลฟิลิป เปแตงได้ขอเจรจาสงบศึกกับฝ่ายนาซีซึ่งนำโดยอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ณ ป่ากงเปียญ สถานที่เดิมซึ่งสร้างความอัปยศให้กับอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 ทุกนาย โดยเฉพาะกับอดีตสิบโทอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ฮิตเลอร์ได้จงใจเลือกใช้สถานที่แห่งนี้ในการเจรจาสงบศึกกับฝรั่งเศสเพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับบาดแผลในอดีตของเยอรมนี ภายหลังจากการเจรจาสงบศึก ฮิตเลอร์ได้สั่งให้นำตู้รถไฟขบวนนี้ไปจัดแสดงโชว์ที่กรุงเบอร์ลิน ถูกทำลาย:ในปี ค.ศ.1944 ได้มีการย้ายตู้รถไฟไปยังเธอริงเงิน, ตอนกลางของเยอรมนี ในเมืองคราวินเคล (Crawinkel) ใกล้กับระบบเครือข่ายอุโมงค์ขนาดใหญ่ มันได้ถูกทำลายลงในเดือนมีนาคม ค.ศ.1945 โดยฝีมือพวกเอสเอส แต่ทหารเอสเอสผ่านศึกได้ยืนยันว่าตู้รถไฟได้ถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิดทางอากาศตั้งแต่ปี ค.ศ.1944 ในเธอริงเงินแล้วแบบจำลองใหม่:ในปี ค.ศ.1950 ได้มีการหาตู้รถไฟที่มีลักษณะใกล้เคียงจากบริษัท The Orient Express ที่ถูกผลิตในช่วงปี ค.ศ.1913-1914 เพื่อนำมาจัดแสดงใหม่ที่อนุสรณ์ Clairière de l’Armistice ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1950 ปัจจุบันยังคงจัดแสดงอยู่ ณ อนุสรณ์แห่งการลงนามสงบศึกแห่งนี้อยู่
    ตู้รถไฟกงเปียญ (Compiègne Wagon)วันนี้ (11 พฤศจิกายน) เมื่อ 106ปีที่แล้วคือ ค.ศ.1918 ผู้แทนฝ่ายเยอรมนีและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ร่วมลงนามเจรจาสงบศึกบนตู้รถไฟ ณ ป่ากงเปียญ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ความเป็นมาของตู้รถไฟ:ตู้รถไฟขบวนนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1914 ที่แซงต์-เดอนี เพื่อใช้เป็นรถตู้ทานอาหารหมายเลข. 2491D ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มันได้ถูกใช้เพื่อเป็นหนึ่งในขบวนรถไฟนอนหรูของบริษัท Compagnie Internationale des Wagons-Lits หรือที่รู้จักกันในนาม “The Orient Express” การสงบศึกวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1918:ในเดือนตุลาคม, ค.ศ.1918 ตู้รถไฟได้ถูกใช้เพื่อเป็นพาหนะของผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพสัมพันธมิตร จอมพลแฟร์ดินานด์ ฟ็องคซ์และผู้แทนฝ่ายสัมพันธมิตรในการเจรจาสงบศึกกับฝ่ายเยอรมนี ณ ป่ากงเปียญ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ตู้รถไฟยังคงถูกใช้อยู่โดย The Orient Express ก่อนจะถูกบริจาคเพื่อนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Musée de l’Armée ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1919 ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1927 ตู้รถไฟได้ถูกนำไปจัดแสดงอยู่ในอาคาร ณ Clairière de l’Armistice สถานที่ที่มันเคยถูกใช้ลงนามสงบศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1การสงบศึกวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1940:หลังการรุกรานฝรั่งเศสของกองทัพเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของจอมพลฟิลิป เปแตงได้ขอเจรจาสงบศึกกับฝ่ายนาซีซึ่งนำโดยอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ณ ป่ากงเปียญ สถานที่เดิมซึ่งสร้างความอัปยศให้กับอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 ทุกนาย โดยเฉพาะกับอดีตสิบโทอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ฮิตเลอร์ได้จงใจเลือกใช้สถานที่แห่งนี้ในการเจรจาสงบศึกกับฝรั่งเศสเพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับบาดแผลในอดีตของเยอรมนี ภายหลังจากการเจรจาสงบศึก ฮิตเลอร์ได้สั่งให้นำตู้รถไฟขบวนนี้ไปจัดแสดงโชว์ที่กรุงเบอร์ลิน ถูกทำลาย:ในปี ค.ศ.1944 ได้มีการย้ายตู้รถไฟไปยังเธอริงเงิน, ตอนกลางของเยอรมนี ในเมืองคราวินเคล (Crawinkel) ใกล้กับระบบเครือข่ายอุโมงค์ขนาดใหญ่ มันได้ถูกทำลายลงในเดือนมีนาคม ค.ศ.1945 โดยฝีมือพวกเอสเอส แต่ทหารเอสเอสผ่านศึกได้ยืนยันว่าตู้รถไฟได้ถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิดทางอากาศตั้งแต่ปี ค.ศ.1944 ในเธอริงเงินแล้วแบบจำลองใหม่:ในปี ค.ศ.1950 ได้มีการหาตู้รถไฟที่มีลักษณะใกล้เคียงจากบริษัท The Orient Express ที่ถูกผลิตในช่วงปี ค.ศ.1913-1914 เพื่อนำมาจัดแสดงใหม่ที่อนุสรณ์ Clairière de l’Armistice ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1950 ปัจจุบันยังคงจัดแสดงอยู่ ณ อนุสรณ์แห่งการลงนามสงบศึกแห่งนี้อยู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • Credit : Chong Suphawit ผมขออนุญาต​ใช้พื้นที่ในคอมเมนท์​แจ้งประชาสัมพันธ์​หน่อยนะครับสวัสดี​ครับ​ผมนายศุภ​วิช​ย์​ จง​เลิศ​วชิร​ปัญญา​ ขออนุญาต​แจ้งขอสนับสนุนสิ่งของต่างๆเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ครับ#คนละแชร์ 📌📌#ชมรมเมฆขาวเกื้อกูลศรัทธาจังหวัดตรังขอเปิดรับบริจาค เพื่อไปช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม จังหวัดภาคใต้ 🌊⛈️📌➡️ สิ่งที่รับบริจาค: น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหาร แห้ง ยาสามัญประจำบ้าน(ยกเว้นเครื่องนุ่งห่ม)🏘️ : จุดรับบริจาคที่ทำการชมรมฯเลขที่16​/71​หมู่​ที่​1​ ตำบล​ทุ่ง​ยาว​ อำเภอ​ปะเหลียน​ จังหวัด​ตรัง​92180 ในเวลาทำการปกติชมรม 09:00-18:00 น.📌💌➡️ กำหนดการรับบริจาคตั้งแต่วันนี้ - 4 ธันวาคม 2567🧱#ท่านใดมีความประสงค์ ⬇️📲- สมทบเงินเพื่อจัดสรร เป็นค่าใช้จ่าย ในการจัดซื้อ ของที่จำเป็น : รบกวนแจ้งรายละเอียดสลิปการโอนเงินในช่องคอมเม้นท์ค่ะเลขบัญชี : 020221376202 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)ชื่อบัญชี : นางสาววิมลทิพย์ ปากอ่อน เลขานุการชมรมเมฆขาวเกื้อกูลศรัทธาจังหวัดตรัง 📌💌ชมรมเมฆขาวเกื้อกูลศรัทธา"ไป่อวิ๋นถาง" งานกิจกรรมดนตรีและการกุศล ชมรมเมฆขาวเกื้อกูลศรัทธา จังหวัดตรัง
    Credit : Chong Suphawit ผมขออนุญาต​ใช้พื้นที่ในคอมเมนท์​แจ้งประชาสัมพันธ์​หน่อยนะครับสวัสดี​ครับ​ผมนายศุภ​วิช​ย์​ จง​เลิศ​วชิร​ปัญญา​ ขออนุญาต​แจ้งขอสนับสนุนสิ่งของต่างๆเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ครับ#คนละแชร์ 📌📌#ชมรมเมฆขาวเกื้อกูลศรัทธาจังหวัดตรังขอเปิดรับบริจาค เพื่อไปช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม จังหวัดภาคใต้ 🌊⛈️📌➡️ สิ่งที่รับบริจาค: น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหาร แห้ง ยาสามัญประจำบ้าน(ยกเว้นเครื่องนุ่งห่ม)🏘️ : จุดรับบริจาคที่ทำการชมรมฯเลขที่16​/71​หมู่​ที่​1​ ตำบล​ทุ่ง​ยาว​ อำเภอ​ปะเหลียน​ จังหวัด​ตรัง​92180 ในเวลาทำการปกติชมรม 09:00-18:00 น.📌💌➡️ กำหนดการรับบริจาคตั้งแต่วันนี้ - 4 ธันวาคม 2567🧱#ท่านใดมีความประสงค์ ⬇️📲- สมทบเงินเพื่อจัดสรร เป็นค่าใช้จ่าย ในการจัดซื้อ ของที่จำเป็น : รบกวนแจ้งรายละเอียดสลิปการโอนเงินในช่องคอมเม้นท์ค่ะเลขบัญชี : 020221376202 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)ชื่อบัญชี : นางสาววิมลทิพย์ ปากอ่อน เลขานุการชมรมเมฆขาวเกื้อกูลศรัทธาจังหวัดตรัง 📌💌ชมรมเมฆขาวเกื้อกูลศรัทธา"ไป่อวิ๋นถาง" งานกิจกรรมดนตรีและการกุศล ชมรมเมฆขาวเกื้อกูลศรัทธา จังหวัดตรัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเคลื่อนไหวใดๆโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง ในการช่วยเหลือยูเครนครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ จะเป็นเรื่องที่ "บ้ามากๆ" และจะเทียบเท่ากับเป็นการก่อกบฏ คำเตือนจาก มาร์โจรี เทย์เลอร์ กรีน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรรีพับลิกัน เมื่อช่วงต้นสัปดาห์
    .
    สมาชิกสภาผู้แทนหญิงจากจอร์เจียรายนี้ แสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ๆหนึ่งของ มาริโอ นอว์ฟาล ผู้ประกอบการคนดัง ซึ่งแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวชิ้นหนึ่งของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ที่อ้างว่าพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและอียู "กำลังหารือเกี่ยวกับมาตรการป้อมปรามต่างๆ ในฐานะเครื่องรับประกันด้านความมั่นคงสำหรับยูเครน" ในนั้นรวมถึงมอบอาวุธนิวเคลียร์แก่เคียฟ
    .
    นอว์ฟาล ให้คำจำกัดความการพูดคุยในประเด็นดังกล่าว ตามคำกล่าวอ้างของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ว่าเป็น "ความเคลื่อนไหวที่สิ้นหวัง ในความหวังพลิกโอกาสได้เสียเหนือรัสเซีย" ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
    .
    มาร์โจรี เทย์เลอร์ กรีน เขียนแสดงความคิดเห็น ตอบกลับข้อความที่โพสต์โดย นอว์ฟาล ตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลไบเดนกำลังพยายามเริ่มสงครามนิวเคลียร์ใช่หรือไม่ และใช้มันเป็นเหตุผลสำหรับหยุดการถ่ายโอนอำนาจไปยังทรัมป์ "นี่มันบ้ามาก และไม่ชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญโดยสิ้นเชิง และเป็นไปได้ที่จะเป็นพฤติกรรมกบฏ" เธอเขียนบนแฟลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    ปัจจุบันดูเหมือนทำเนียบขาวกำลังเลือกหนทางใช้มาตรการเชิงรุกมากกว่าเดิมในการช่วยเหลือเคียฟ ก่อนหน้า ทรัมป์ กลับสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่ตัวแทนจากรีพับลิกันรายนี้เคยประกาศซ้ำๆว่าจะยุติความขัดแย้งยูเครนอย่างทันทีทันใด และถูกคาดหมายว่าจะผลักดันมอสโกและเคียฟเข้าสู่การเจรจาสันติภาพ
    .
    แม้เหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งเพียงแค่ 2 เดือน แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานว่า ไบเดน ทำตามหนึ่งในสิ่งที่ทางยูเครนเรียกร้องมาช้านาน ให้ไฟเขียวเคียฟใช้ขีปนาวุธ ATACMS ที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีเป้าหมายต่างๆที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดรัสเซีย ที่ผ่านมา ขีปนาวุธนี้ถูกใช้ในการโจมตีใส่แคว้นไครเมีย, แคว้นโดเนตส์กและแคว้นลูฮันสก์ ไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากวอชิงตันมองว่ามันเป็นดินแดนของยูเครน
    .
    ในสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯบางส่วน บ่งชี้ว่า ไบเดน อาจมอบอาวุธนิวเคลียร์แก่เคียฟ ในฐานะเครื่องป้องปรามรัสเซีย "มันจะเป็นมาตรการป้องปรามที่ร้ายกาจและทันทีทันใด แต่มาตรการหนึ่งใดเช่นนี้ จะยุ่งยากซับซ้อนและก่อผลกระทบร้ายแรง" นิวยอร์กไทม์สระบุ
    .
    เมื่อเร็วๆนี้ รัสเซีย ได้ปรับปรุงแก้ไขหลักการนิวเคลียร์ของประเทศ อนุมัติให้ตอบโต้ทางนิวเคลียร์ต่อการโจมตีทั่วไปโดยรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่ดำเนินการภายใต้การสนับสนุนของมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ ยกตัวอย่างเช่นการยิงขีปนาวุธโจมตีดินแดนรัสเซีย นอกจากนี้แล้ว มอสโก ยังได้ใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางใหม่เล่นงานยูเครน ตอบโต้กรณีที่เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลที่ผลิตโดยตะวันตก โจมตีลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บอกว่าการโจมตีดังกล่าวได้ผลักให้ความขัดแย้งยูเครนลุกลามสู่ระดับโลกแล้ว พร้อมกับเน้นย้ำคำเตือนว่ามอสโกจะมองว่าการโจมตีใดๆโดยใช้อาวุธพิสัยไกลของตะวันตกเล่นงานผืนแผ่นดินรัสเซีย เทียบเท่ากับบรรดาประเทศผู้บริจาคอาวุธเหล่านั้นมีส่วนร่วมกับความขัดแย้งโดยตรง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113918
    ..............
    Sondhi X
    ความเคลื่อนไหวใดๆโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง ในการช่วยเหลือยูเครนครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ จะเป็นเรื่องที่ "บ้ามากๆ" และจะเทียบเท่ากับเป็นการก่อกบฏ คำเตือนจาก มาร์โจรี เทย์เลอร์ กรีน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรรีพับลิกัน เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ . สมาชิกสภาผู้แทนหญิงจากจอร์เจียรายนี้ แสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ๆหนึ่งของ มาริโอ นอว์ฟาล ผู้ประกอบการคนดัง ซึ่งแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวชิ้นหนึ่งของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ที่อ้างว่าพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและอียู "กำลังหารือเกี่ยวกับมาตรการป้อมปรามต่างๆ ในฐานะเครื่องรับประกันด้านความมั่นคงสำหรับยูเครน" ในนั้นรวมถึงมอบอาวุธนิวเคลียร์แก่เคียฟ . นอว์ฟาล ให้คำจำกัดความการพูดคุยในประเด็นดังกล่าว ตามคำกล่าวอ้างของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ว่าเป็น "ความเคลื่อนไหวที่สิ้นหวัง ในความหวังพลิกโอกาสได้เสียเหนือรัสเซีย" ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน . มาร์โจรี เทย์เลอร์ กรีน เขียนแสดงความคิดเห็น ตอบกลับข้อความที่โพสต์โดย นอว์ฟาล ตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลไบเดนกำลังพยายามเริ่มสงครามนิวเคลียร์ใช่หรือไม่ และใช้มันเป็นเหตุผลสำหรับหยุดการถ่ายโอนอำนาจไปยังทรัมป์ "นี่มันบ้ามาก และไม่ชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญโดยสิ้นเชิง และเป็นไปได้ที่จะเป็นพฤติกรรมกบฏ" เธอเขียนบนแฟลตฟอร์มเอ็กซ์ . ปัจจุบันดูเหมือนทำเนียบขาวกำลังเลือกหนทางใช้มาตรการเชิงรุกมากกว่าเดิมในการช่วยเหลือเคียฟ ก่อนหน้า ทรัมป์ กลับสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่ตัวแทนจากรีพับลิกันรายนี้เคยประกาศซ้ำๆว่าจะยุติความขัดแย้งยูเครนอย่างทันทีทันใด และถูกคาดหมายว่าจะผลักดันมอสโกและเคียฟเข้าสู่การเจรจาสันติภาพ . แม้เหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งเพียงแค่ 2 เดือน แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานว่า ไบเดน ทำตามหนึ่งในสิ่งที่ทางยูเครนเรียกร้องมาช้านาน ให้ไฟเขียวเคียฟใช้ขีปนาวุธ ATACMS ที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีเป้าหมายต่างๆที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดรัสเซีย ที่ผ่านมา ขีปนาวุธนี้ถูกใช้ในการโจมตีใส่แคว้นไครเมีย, แคว้นโดเนตส์กและแคว้นลูฮันสก์ ไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากวอชิงตันมองว่ามันเป็นดินแดนของยูเครน . ในสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯบางส่วน บ่งชี้ว่า ไบเดน อาจมอบอาวุธนิวเคลียร์แก่เคียฟ ในฐานะเครื่องป้องปรามรัสเซีย "มันจะเป็นมาตรการป้องปรามที่ร้ายกาจและทันทีทันใด แต่มาตรการหนึ่งใดเช่นนี้ จะยุ่งยากซับซ้อนและก่อผลกระทบร้ายแรง" นิวยอร์กไทม์สระบุ . เมื่อเร็วๆนี้ รัสเซีย ได้ปรับปรุงแก้ไขหลักการนิวเคลียร์ของประเทศ อนุมัติให้ตอบโต้ทางนิวเคลียร์ต่อการโจมตีทั่วไปโดยรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่ดำเนินการภายใต้การสนับสนุนของมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ ยกตัวอย่างเช่นการยิงขีปนาวุธโจมตีดินแดนรัสเซีย นอกจากนี้แล้ว มอสโก ยังได้ใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางใหม่เล่นงานยูเครน ตอบโต้กรณีที่เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลที่ผลิตโดยตะวันตก โจมตีลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บอกว่าการโจมตีดังกล่าวได้ผลักให้ความขัดแย้งยูเครนลุกลามสู่ระดับโลกแล้ว พร้อมกับเน้นย้ำคำเตือนว่ามอสโกจะมองว่าการโจมตีใดๆโดยใช้อาวุธพิสัยไกลของตะวันตกเล่นงานผืนแผ่นดินรัสเซีย เทียบเท่ากับบรรดาประเทศผู้บริจาคอาวุธเหล่านั้นมีส่วนร่วมกับความขัดแย้งโดยตรง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113918 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 812 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS ที่แคนาดาบริจาคให้อยู่ในยูเครนแล้ว

    บิล แบลร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของแคนาดา ยืนยันถึงการมาถึงของระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศขั้นสูง NASAMS ที่แคนาดาบริจาคให้อยู่ในยูเครนแล้ว

    วิดีโอประกอบของระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS
    ระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS ที่แคนาดาบริจาคให้อยู่ในยูเครนแล้ว บิล แบลร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของแคนาดา ยืนยันถึงการมาถึงของระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศขั้นสูง NASAMS ที่แคนาดาบริจาคให้อยู่ในยูเครนแล้ว วิดีโอประกอบของระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤣บริจาคขยะ: ATACMS จำนวนมากของสหรัฐฯ ที่รับปากจะส่งมอบให้ยูเครนหมดอายุในปี ๒๐๑๕🤣

    ATACMS บางส่วนที่หมดอายุในคลังแสงของกองทัพสหรัฐฯ, ซึ่งรับปากว่าจะส่งมอบให้ยูเครน, หมดอายุเร็วสุดในปี ๒๐๑๕ เพื่อยืดอายุการใช้งาน, สหรัฐฯได้ลงทุนมากกว่า ๑ พันล้านดอลลาร์, ตามการคำนวณของสปุตนิก โดยอิงจากเอกสารทางการเงินของกระทรวงกลาโหม

    ในปีงบประมาณ (FY) ๒๐๑๖, ซึ่งเริ่มต้นในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๐๑๕, กองทัพบกสหรัฐฯ ต้องใช้เงิน ๓๐.๑ ล้านดอลลาร์ ในการปรับเปลี่ยน "๑๐ รายการสินทรัพย์ [ATACMS] ที่หมดอายุ และรีเซ็ตอายุการใช้งานตามสัญญา," ตามรายงานงบประมาณปีงบประมาณ ๒๐๑๖

    เนื่องจาก ATACMS มีอายุการใช้งาน ๑๐ ปี, ขีปนาวุธ ๑๐ ลูกที่ดัดแปลงในปี ๒๐๑๕ คาดว่าจะหมดอายุใช้งานอีกครั้งในปี ๒๐๒๕

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา, กองทัพบกสหรัฐฯ ได้พยายามเปลี่ยน ATACMS ด้วยขีปนาวุธ Precision Strike Missile (PrSM) รุ่นใหม่กว่าและก้าวหน้ากว่า แม้ว่าขีปนาวุธแต่ละลูกของ ATACMS จะมีราคาประมาณ ๑ ล้านดอลลาร์, แต่ราคาของ PrSM รุ่นล่าสุดนั้นสูงกว่า ๒ ล้านดอลลาร์ต่อขีปนาวุธหนึ่งลูก

    นี่อาจอธิบายได้ว่าทำไมยูเครนจึงได้รับอาวุธมูลค่า ๓๓,๓๐๐ ล้านดอลลาร์ ผ่านหน่วยงาน Presidential Drawdown Authority (PDA), ในขณะที่สหรัฐฯ ต้องใช้เงิน ๔๕,๗๐๐ ล้านดอลลาร์ ในการซื้ออาวุธใหม่เพื่อเติมเต็มคลังอาวุธ, ตามตัวเลขจาก Ukraine Oversight

    🤣วอชิงตันใช้โอกาสนี้เพียงเพื่อกำจัดอาวุธที่หมดอายุในคลังอาวุธของตน, เช่น ATACMS และอัปเกรดระบบอาวุธด้วยเงินทุนที่เรียกว่า "ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน"🤣
    .
    DONATING JUNK: NUMEROUS US ATACMS PLEDGED TO UKRAINE EXPIRED IN 2015

    Some of the aging ATACMS in American military inventory, which were promised for delivery to Ukraine, expired as early as 2015. To extend their service life, the US invested over $1 billion, according to calculations by Sputnik based on Pentagon financial documents.

    During fiscal year (FY) 2016, which began on October 1, 2015, the US Army had to spend $30.1 million to modify “10 expired [ATACMS] assets and reset their contractual service life,” according to the FY 2016 budget report.

    Since the ATACMS has a 10-year service life, the 10 missiles modified in 2015 are expected to expire again in 2025.

    In recent years, the US Army has been working to replace the ATACMS with the newer and more advanced Precision Strike Missile (PrSM). While each missile of the ATACMS costs approximately $1 million, the price for the latest PrSM exceeds $2 million per missile.

    This may explain why Ukraine received $33.3 billion worth of weapons through the Presidential Drawdown Authority (PDA), while the US had to spend $45.7 billion to buy new weapons to replenish its stockpile, according to figures from Ukraine Oversight.

    Washington simply took the opportunity to get rid of expiring weapons in its inventory, such as the ATACMS, and upgraded its weapons systems with funds labeled as “military assistance to Ukraine.”
    .
    2:18 PM · Nov 21, 2024 · 3,242 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1859496668044964345
    🤣บริจาคขยะ: ATACMS จำนวนมากของสหรัฐฯ ที่รับปากจะส่งมอบให้ยูเครนหมดอายุในปี ๒๐๑๕🤣 ATACMS บางส่วนที่หมดอายุในคลังแสงของกองทัพสหรัฐฯ, ซึ่งรับปากว่าจะส่งมอบให้ยูเครน, หมดอายุเร็วสุดในปี ๒๐๑๕ เพื่อยืดอายุการใช้งาน, สหรัฐฯได้ลงทุนมากกว่า ๑ พันล้านดอลลาร์, ตามการคำนวณของสปุตนิก โดยอิงจากเอกสารทางการเงินของกระทรวงกลาโหม ในปีงบประมาณ (FY) ๒๐๑๖, ซึ่งเริ่มต้นในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๐๑๕, กองทัพบกสหรัฐฯ ต้องใช้เงิน ๓๐.๑ ล้านดอลลาร์ ในการปรับเปลี่ยน "๑๐ รายการสินทรัพย์ [ATACMS] ที่หมดอายุ และรีเซ็ตอายุการใช้งานตามสัญญา," ตามรายงานงบประมาณปีงบประมาณ ๒๐๑๖ เนื่องจาก ATACMS มีอายุการใช้งาน ๑๐ ปี, ขีปนาวุธ ๑๐ ลูกที่ดัดแปลงในปี ๒๐๑๕ คาดว่าจะหมดอายุใช้งานอีกครั้งในปี ๒๐๒๕ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา, กองทัพบกสหรัฐฯ ได้พยายามเปลี่ยน ATACMS ด้วยขีปนาวุธ Precision Strike Missile (PrSM) รุ่นใหม่กว่าและก้าวหน้ากว่า แม้ว่าขีปนาวุธแต่ละลูกของ ATACMS จะมีราคาประมาณ ๑ ล้านดอลลาร์, แต่ราคาของ PrSM รุ่นล่าสุดนั้นสูงกว่า ๒ ล้านดอลลาร์ต่อขีปนาวุธหนึ่งลูก นี่อาจอธิบายได้ว่าทำไมยูเครนจึงได้รับอาวุธมูลค่า ๓๓,๓๐๐ ล้านดอลลาร์ ผ่านหน่วยงาน Presidential Drawdown Authority (PDA), ในขณะที่สหรัฐฯ ต้องใช้เงิน ๔๕,๗๐๐ ล้านดอลลาร์ ในการซื้ออาวุธใหม่เพื่อเติมเต็มคลังอาวุธ, ตามตัวเลขจาก Ukraine Oversight 🤣วอชิงตันใช้โอกาสนี้เพียงเพื่อกำจัดอาวุธที่หมดอายุในคลังอาวุธของตน, เช่น ATACMS และอัปเกรดระบบอาวุธด้วยเงินทุนที่เรียกว่า "ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน"🤣 . DONATING JUNK: NUMEROUS US ATACMS PLEDGED TO UKRAINE EXPIRED IN 2015 Some of the aging ATACMS in American military inventory, which were promised for delivery to Ukraine, expired as early as 2015. To extend their service life, the US invested over $1 billion, according to calculations by Sputnik based on Pentagon financial documents. During fiscal year (FY) 2016, which began on October 1, 2015, the US Army had to spend $30.1 million to modify “10 expired [ATACMS] assets and reset their contractual service life,” according to the FY 2016 budget report. Since the ATACMS has a 10-year service life, the 10 missiles modified in 2015 are expected to expire again in 2025. In recent years, the US Army has been working to replace the ATACMS with the newer and more advanced Precision Strike Missile (PrSM). While each missile of the ATACMS costs approximately $1 million, the price for the latest PrSM exceeds $2 million per missile. This may explain why Ukraine received $33.3 billion worth of weapons through the Presidential Drawdown Authority (PDA), while the US had to spend $45.7 billion to buy new weapons to replenish its stockpile, according to figures from Ukraine Oversight. Washington simply took the opportunity to get rid of expiring weapons in its inventory, such as the ATACMS, and upgraded its weapons systems with funds labeled as “military assistance to Ukraine.” . 2:18 PM · Nov 21, 2024 · 3,242 Views https://x.com/SputnikInt/status/1859496668044964345
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ (19พ.ย.) ฝ่ายข่าวช่องวัน ได้ออกแถลงการณ์ ขออภัยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ความว่า“ต่อความคลาดเคลื่อนในการนําเสนอข่าว อันเกิดจากความเข้าใจผิดและเสียใจกับการกระทําของทีมข่าว กรณีเผยแพร่บทสัมภาษณ์-ข้อความจาก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ทีมีการพาดพิงคุณสนธิเกี่ยวกับการฉ้อโกงธนาคาร และกรณีอื่นๆ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567ทีมข่าวได้ดําเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยคุณสนธิอยู่ระหว่างการดําเนินคดีหมิ่นประมาท กับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อยู่นอกจากนี้ทีมข่าวช่องวัน ยังยินดีบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเพื่อสาธารณกุศล จํานวน 100,000 บาท ตามความประสงค์ของคุณสนธิด้วยจากนี้ไปทีมข่าวจะกําชับทีมงาน พร้อมระมัดระวัง ในการนําเสนอเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นอีกในอนาคต”
    วันนี้ (19พ.ย.) ฝ่ายข่าวช่องวัน ได้ออกแถลงการณ์ ขออภัยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ความว่า“ต่อความคลาดเคลื่อนในการนําเสนอข่าว อันเกิดจากความเข้าใจผิดและเสียใจกับการกระทําของทีมข่าว กรณีเผยแพร่บทสัมภาษณ์-ข้อความจาก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ทีมีการพาดพิงคุณสนธิเกี่ยวกับการฉ้อโกงธนาคาร และกรณีอื่นๆ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567ทีมข่าวได้ดําเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยคุณสนธิอยู่ระหว่างการดําเนินคดีหมิ่นประมาท กับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อยู่นอกจากนี้ทีมข่าวช่องวัน ยังยินดีบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเพื่อสาธารณกุศล จํานวน 100,000 บาท ตามความประสงค์ของคุณสนธิด้วยจากนี้ไปทีมข่าวจะกําชับทีมงาน พร้อมระมัดระวัง ในการนําเสนอเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นอีกในอนาคต”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ข่าวช่องวัน” ออกแถลงการณ์ขออภัย “สนธิ” เสนอข่าวตามคำสัมภาษณ์-ข้อความจากทนายเดชา พาดพิงโกงธนาคารคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
    .
    วันนี้ (19พ.ย.) ฝ่ายข่าวช่องวัน ได้ออกแถลงการณ์ ขออภัยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ความว่า
    .
    “ต่อความคลาดเคลื่อนในการนําเสนอข่าว อันเกิดจากความเข้าใจผิดและเสียใจกับการกระทําของทีมข่าว กรณีเผยแพร่บทสัมภาษณ์-ข้อความจาก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ทีมีการพาดพิงคุณสนธิเกี่ยวกับการฉ้อโกงธนาคาร และกรณีอื่นๆ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567
    .
    ทีมข่าวได้ดําเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยคุณสนธิอยู่ระหว่างการดําเนินคดีหมิ่นประมาท กับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อยู่
    .
    นอกจากนี้ทีมข่าวช่องวัน ยังยินดีบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเพื่อสาธารณกุศล จํานวน 100,000 บาท ตามความประสงค์ของคุณสนธิด้วย
    .
    จากนี้ไปทีมข่าวจะกําชับทีมงาน พร้อมระมัดระวัง ในการนําเสนอเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นอีกในอนาคต”
    ..............
    Sondhi X
    “ข่าวช่องวัน” ออกแถลงการณ์ขออภัย “สนธิ” เสนอข่าวตามคำสัมภาษณ์-ข้อความจากทนายเดชา พาดพิงโกงธนาคารคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง . วันนี้ (19พ.ย.) ฝ่ายข่าวช่องวัน ได้ออกแถลงการณ์ ขออภัยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ความว่า . “ต่อความคลาดเคลื่อนในการนําเสนอข่าว อันเกิดจากความเข้าใจผิดและเสียใจกับการกระทําของทีมข่าว กรณีเผยแพร่บทสัมภาษณ์-ข้อความจาก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ทีมีการพาดพิงคุณสนธิเกี่ยวกับการฉ้อโกงธนาคาร และกรณีอื่นๆ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 . ทีมข่าวได้ดําเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยคุณสนธิอยู่ระหว่างการดําเนินคดีหมิ่นประมาท กับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อยู่ . นอกจากนี้ทีมข่าวช่องวัน ยังยินดีบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเพื่อสาธารณกุศล จํานวน 100,000 บาท ตามความประสงค์ของคุณสนธิด้วย . จากนี้ไปทีมข่าวจะกําชับทีมงาน พร้อมระมัดระวัง ในการนําเสนอเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นอีกในอนาคต” .............. Sondhi X
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 977 มุมมอง 1 รีวิว
  • ♣ พรรคพม่าเปิดตัว 14 ผู้สมัครนายกฯ อบจ. แต่แฝง QR code ขอรับบริจาค
    #7ดอกจิก
    ♣ พรรคพม่าเปิดตัว 14 ผู้สมัครนายกฯ อบจ. แต่แฝง QR code ขอรับบริจาค #7ดอกจิก
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทาน เป็นเครื่องกำจัดกิเลสอย่างหยาบ คือ ความโลภ เพราะการให้ทานเป็นการลดความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ถี่เหนียว และความคับแคบในจิตใจให้น้อยลง ทำให้เราไม่ยึดติดในวัตถุสิ่งของ อีกทั้งสิ่งที่เราบริจาคหรือให้ทานแก่ผู้อื่น ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นประโยชน์ต่อผู้รับและสังคมโดยส่วนรวม ผู้ที่ได้บุญจากทานมัยย่อมเป็นคน .
    ทาน เป็นเครื่องกำจัดกิเลสอย่างหยาบ คือ ความโลภ เพราะการให้ทานเป็นการลดความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ถี่เหนียว และความคับแคบในจิตใจให้น้อยลง ทำให้เราไม่ยึดติดในวัตถุสิ่งของ อีกทั้งสิ่งที่เราบริจาคหรือให้ทานแก่ผู้อื่น ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นประโยชน์ต่อผู้รับและสังคมโดยส่วนรวม ผู้ที่ได้บุญจากทานมัยย่อมเป็นคน .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TOP NEWS” ออกแถลงการณ์ขออภัย “สนธิ” เสนอข่าวตามคำสัมภาษณ์-ข้อความจากทนายเดชา พาดพิงโกงธนาคารคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง.วันนี้(15 พ.ย.) แถลงการณ์ขออภัย กองบรรณาธิการข่าว TOP News ได้ออกแถลงการณ์ ขออภัยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ความว่า.“ต่อความคลาดเคลื่อนในการนําเสนอข่าว อันเกิดจากความเข้าใจผิดและเสียใจกับการกระทําของทีมข่าว กรณีเผยแพร่บทสัมภาษณ์-ข้อความจาก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ทีมีการพาดพิงคุณสนธิเกี่ยวกับการฉ้อโกงธนาคาร และกรณีอื่นๆ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567.“กองบรรณาธิการ ได้ดําเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยคุณสนธิอยู่ระหว่างการดําเนินคดีหมิ่นประมาท กับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อยู่.“นอกจากนี้ทีมข่าว TOP News ยังยินดีร่วมทําบุญโดยการบริจาคเงินช่วยเหลือ ให้แก่ “มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์” จ.กาญจนบุรี ที่ดําเนินการโดย พล.ต.จําลอง ศรีเมือง เพื่อสงเคราะห์สุนัข และแมว จํานวน 100,000 บาท ตามความประสงค์ของคุณสนธิด้วย.“จากนี้ไปทีมข่าวจะกําชับทีมงาน พร้อมระมัดระวัง ในการนําเสนอเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นอีกในอนาคต”
    “TOP NEWS” ออกแถลงการณ์ขออภัย “สนธิ” เสนอข่าวตามคำสัมภาษณ์-ข้อความจากทนายเดชา พาดพิงโกงธนาคารคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง.วันนี้(15 พ.ย.) แถลงการณ์ขออภัย กองบรรณาธิการข่าว TOP News ได้ออกแถลงการณ์ ขออภัยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ความว่า.“ต่อความคลาดเคลื่อนในการนําเสนอข่าว อันเกิดจากความเข้าใจผิดและเสียใจกับการกระทําของทีมข่าว กรณีเผยแพร่บทสัมภาษณ์-ข้อความจาก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ทีมีการพาดพิงคุณสนธิเกี่ยวกับการฉ้อโกงธนาคาร และกรณีอื่นๆ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567.“กองบรรณาธิการ ได้ดําเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยคุณสนธิอยู่ระหว่างการดําเนินคดีหมิ่นประมาท กับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อยู่.“นอกจากนี้ทีมข่าว TOP News ยังยินดีร่วมทําบุญโดยการบริจาคเงินช่วยเหลือ ให้แก่ “มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์” จ.กาญจนบุรี ที่ดําเนินการโดย พล.ต.จําลอง ศรีเมือง เพื่อสงเคราะห์สุนัข และแมว จํานวน 100,000 บาท ตามความประสงค์ของคุณสนธิด้วย.“จากนี้ไปทีมข่าวจะกําชับทีมงาน พร้อมระมัดระวัง ในการนําเสนอเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นอีกในอนาคต”
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 514 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts