• 🔥🔥เมื่อวันอังคารที่ 03 กันยายน 2567ที่ผ่านมา
    มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดของหุ้น NVDA
    ของบริษัท อินวิเดีย NVIDIA Corporation
    (ผู้ผลิตชิปประมวลผล ทางคอมพิวเตอร์กราฟฟิค)
    ที่อยู่ในตลาดหุ้น NASDAQ สหรัฐอเมริกา
    มูลค่าหุ้นตามราคาตลาด ได้หายไป
    มากกว่า 2.80 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ
    9.54 ล้านล้านบาทใน 1 วัน หลังจากที่ราคาร่วงลง -10%

    🚩นับเป็นการสูญเสีย มูลค่าตามราคาตลาดในหุ้น 1 ตัว
    เพียงวันเดียว ที่มากที่สุด ในประวัติศาสตร์
    ของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่ก่อตั้งมา
    ส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับชิป
    และเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลก ร่วงลงเช่นกัน

    ที่มา : cnbc

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #NVDA #NVIDIA #thaitimes
    🔥🔥เมื่อวันอังคารที่ 03 กันยายน 2567ที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดของหุ้น NVDA ของบริษัท อินวิเดีย NVIDIA Corporation (ผู้ผลิตชิปประมวลผล ทางคอมพิวเตอร์กราฟฟิค) ที่อยู่ในตลาดหุ้น NASDAQ สหรัฐอเมริกา มูลค่าหุ้นตามราคาตลาด ได้หายไป มากกว่า 2.80 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.54 ล้านล้านบาทใน 1 วัน หลังจากที่ราคาร่วงลง -10% 🚩นับเป็นการสูญเสีย มูลค่าตามราคาตลาดในหุ้น 1 ตัว เพียงวันเดียว ที่มากที่สุด ในประวัติศาสตร์ ของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่ก่อตั้งมา ส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับชิป และเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลก ร่วงลงเช่นกัน ที่มา : cnbc #หุ้นติดดอย #การลงทุน #NVDA #NVIDIA #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 882 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำกลับมาอีกครั้ง
    วันนี้ 04/09/2567 ดัชนีหลักของวอลล์สตรีทร่วงลง
    ในวันอังคาร โดย S&P 500 ลดลงมากกว่า 2% และ
    Nasdaq Composite ลดลงมากกว่า 3%
    เนื่องจากนักลงทุนลดความเชื่อมั่นที่มีต่อ AI ลง
    ท่ามกลางการเทขายหุ้นในตลาดทั่วไปที่เร่งตัวขึ้น
    หลังจากที่มีข้อมูลเศรษฐกิจ และข้อมูลการผลิต(PMI)
    ที่ไม่สู้ดีนัก

    🚩โดยดัชนี S&P 500, Nasdaq และ Dow ร่วงลงมากที่สุด
    นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม

    🚩ส่วนหุ้นของชิป ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดย Nvidia
    ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน AI ร่วงลงเกือบ -10% และ
    ดัชนีชิปของวอลล์สตรีท ดัชนีชิป PHLX ลดลงร้อยละ 8

    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นสหรัฐ #ภาวะเศรษฐกิจ
    #thaitimes
    🔥🔥คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำกลับมาอีกครั้ง วันนี้ 04/09/2567 ดัชนีหลักของวอลล์สตรีทร่วงลง ในวันอังคาร โดย S&P 500 ลดลงมากกว่า 2% และ Nasdaq Composite ลดลงมากกว่า 3% เนื่องจากนักลงทุนลดความเชื่อมั่นที่มีต่อ AI ลง ท่ามกลางการเทขายหุ้นในตลาดทั่วไปที่เร่งตัวขึ้น หลังจากที่มีข้อมูลเศรษฐกิจ และข้อมูลการผลิต(PMI) ที่ไม่สู้ดีนัก 🚩โดยดัชนี S&P 500, Nasdaq และ Dow ร่วงลงมากที่สุด นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 🚩ส่วนหุ้นของชิป ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดย Nvidia ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน AI ร่วงลงเกือบ -10% และ ดัชนีชิปของวอลล์สตรีท ดัชนีชิป PHLX ลดลงร้อยละ 8 ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นสหรัฐ #ภาวะเศรษฐกิจ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 876 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥มีบางท่าน อยากให้แอดมิน ช่วยโพสต์กราฟจุดขาย
    ที่ปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ขายหุ้น Bank Of America Corporation
    หรือ BAC แอดมินเลยขอนำทั้งจุดเข้าซื้อและจุดขาย
    มานำเสนอ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับหลายๆท่าน
    เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ดังนี้

    💥จุดเข้าซื้อ และมูลเหตุที่ปู่เข้าซื้อหุ้น BCA
    ปู่บัฟเฟตต์เริ่มลงทุนในธนาคาร BCA ในปี 2011
    เมื่อ Berkshire ซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    หรือประมาณ 1.7 แสนล้านบาท ในราคาราวๆ 5-10 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น
    โดยการซื้อครั้งนั้นแสดงถึงความมั่นใจของเขาในความสามารถของ
    Brian Moynihan ซีอีโอในการฟื้นฟูธนาคารให้กลับมาแข็งแรง
    หลังจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008

    💥จุดขาย และมูลเหตุที่ทำให้ขาย
    หลังจากถือครองหุ้นดังกล่าวมาประมาณ 13 ปี
    หุ้น Bank of America Corporation หรือ BCA ก็ได้ปรับตัว
    สูงขึ้นมาเรื่อยๆ และปรับตัวเพิ่มขึ้น 21% ในปี 2024 นี้
    เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 22.6% ของดัชนี S&P 500 Banks
    (.SPXBK) คาดว่า ปู่น่าจะเริ่มทะยอยขายหุ้นที่มีมูลค่า
    มากกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ
    2 แสนล้านบาท ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2024
    ซึ่งราคาหุ้นอยู่ราวๆ 40-44 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น

    🚩ทำให้คาดการณ์ว่าปู่น่าจะได้กำไรจากการขายหุ้นในครั้งนี้
    มากกว่า 75%

    🚩สาเหตุแห่งการทะยอยขายหุ้นในพอร์ตออก
    ซึ่งปู่คิดว่า น่าจะเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ที่จะทะยอย
    ขายหุ้นทำกำไร และเก็บเป็นเงินสดไว้ เพื่อรอจังหวะ
    และโอกาส ในการถือครองหุ้นตัวอื่นๆ หลังจากใช้
    แนวทางนี้กับหุ้นอีกหลายตัว เช่น APPLE เป็นต้น

    🚩จากการที่ปู่มองว่า เฟดจะเริ่มทะยอย ลดอัตราดอกเบี้ย
    เชิงนโยบาย ในเร็วๆนี้ และจะทำให้เม็ดเงินลงทุน ย้ายออก
    ไปจากตลาดหุ้นสหรัฐ และไปยังสินทรัพย์ หรือ
    ตลาดทุน หรือ ตลาดหุ้นอื่นๆ จึงเลือกที่จะลดการถือครองหุ้น
    และถือเป็นเงินสดไว้นั่นเอง

    🚩นี่ก็เป็นแนวทางหรือ วิธีการลงทุน ของปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์
    ผู้บริหาร และเจ้าของ บริษัท เบิร์กไชน์ แฮธาเวย์
    ปรมาจารย์ด้านการลงทุนท่านหนึ่ง ในวัย 94 ปู่ ที่ยังมีชีวิตอยู่
    ที่นักลงทุนทั่วโลกต่างให้การยอมรับ ในปัจจุบัน

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #วอร์เรนบัฟเฟตต์ #BAC #thaitimes
    💥💥มีบางท่าน อยากให้แอดมิน ช่วยโพสต์กราฟจุดขาย ที่ปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ขายหุ้น Bank Of America Corporation หรือ BAC แอดมินเลยขอนำทั้งจุดเข้าซื้อและจุดขาย มานำเสนอ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับหลายๆท่าน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ดังนี้ 💥จุดเข้าซื้อ และมูลเหตุที่ปู่เข้าซื้อหุ้น BCA ปู่บัฟเฟตต์เริ่มลงทุนในธนาคาร BCA ในปี 2011 เมื่อ Berkshire ซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.7 แสนล้านบาท ในราคาราวๆ 5-10 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น โดยการซื้อครั้งนั้นแสดงถึงความมั่นใจของเขาในความสามารถของ Brian Moynihan ซีอีโอในการฟื้นฟูธนาคารให้กลับมาแข็งแรง หลังจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 💥จุดขาย และมูลเหตุที่ทำให้ขาย หลังจากถือครองหุ้นดังกล่าวมาประมาณ 13 ปี หุ้น Bank of America Corporation หรือ BCA ก็ได้ปรับตัว สูงขึ้นมาเรื่อยๆ และปรับตัวเพิ่มขึ้น 21% ในปี 2024 นี้ เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 22.6% ของดัชนี S&P 500 Banks (.SPXBK) คาดว่า ปู่น่าจะเริ่มทะยอยขายหุ้นที่มีมูลค่า มากกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2024 ซึ่งราคาหุ้นอยู่ราวๆ 40-44 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น 🚩ทำให้คาดการณ์ว่าปู่น่าจะได้กำไรจากการขายหุ้นในครั้งนี้ มากกว่า 75% 🚩สาเหตุแห่งการทะยอยขายหุ้นในพอร์ตออก ซึ่งปู่คิดว่า น่าจะเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ที่จะทะยอย ขายหุ้นทำกำไร และเก็บเป็นเงินสดไว้ เพื่อรอจังหวะ และโอกาส ในการถือครองหุ้นตัวอื่นๆ หลังจากใช้ แนวทางนี้กับหุ้นอีกหลายตัว เช่น APPLE เป็นต้น 🚩จากการที่ปู่มองว่า เฟดจะเริ่มทะยอย ลดอัตราดอกเบี้ย เชิงนโยบาย ในเร็วๆนี้ และจะทำให้เม็ดเงินลงทุน ย้ายออก ไปจากตลาดหุ้นสหรัฐ และไปยังสินทรัพย์ หรือ ตลาดทุน หรือ ตลาดหุ้นอื่นๆ จึงเลือกที่จะลดการถือครองหุ้น และถือเป็นเงินสดไว้นั่นเอง 🚩นี่ก็เป็นแนวทางหรือ วิธีการลงทุน ของปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้บริหาร และเจ้าของ บริษัท เบิร์กไชน์ แฮธาเวย์ ปรมาจารย์ด้านการลงทุนท่านหนึ่ง ในวัย 94 ปู่ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่นักลงทุนทั่วโลกต่างให้การยอมรับ ในปัจจุบัน #หุ้นติดดอย #การลงทุน #วอร์เรนบัฟเฟตต์ #BAC #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 881 มุมมอง 0 รีวิว
  • Black Monday 5 สิงหา 2024 วันเดียวตลาดหุ้นสหรัฐฯ มูลค่าหายไปกว่า 1.93 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจาก Nasdaq ร่วงลงกว่า 1,000 จุด เจ้าหน้าที่กล่าวว่า Nasdaq ไม่เคยต่ำขนาดนี้มาก่อน

    5 สิงหาคม 2567 -ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ 5สิงหาคม เนื่องมาจากแรงเทขายในตลาดโลกที่มุ่งเป้าไปที่ความกลัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ถดถอย ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นร่วงลง 12% ซึ่งถือเป็นวันตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ Black Monday เมื่อปี 1987 สำหรับตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 1,031 จุด หรือ 2.6% ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 4.1% และดัชนี S&P 500 ลดลง 3.2%

    ความหวาดกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ เป็นสาเหตุหลักของการล่มสลายของตลาดทุนตลาดการเงินโลก หลังจากรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ นักลงทุนยังกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ เลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    #Thaitimes
    Black Monday 5 สิงหา 2024 วันเดียวตลาดหุ้นสหรัฐฯ มูลค่าหายไปกว่า 1.93 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจาก Nasdaq ร่วงลงกว่า 1,000 จุด เจ้าหน้าที่กล่าวว่า Nasdaq ไม่เคยต่ำขนาดนี้มาก่อน 5 สิงหาคม 2567 -ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ 5สิงหาคม เนื่องมาจากแรงเทขายในตลาดโลกที่มุ่งเป้าไปที่ความกลัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ถดถอย ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นร่วงลง 12% ซึ่งถือเป็นวันตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ Black Monday เมื่อปี 1987 สำหรับตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 1,031 จุด หรือ 2.6% ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 4.1% และดัชนี S&P 500 ลดลง 3.2% ความหวาดกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ เป็นสาเหตุหลักของการล่มสลายของตลาดทุนตลาดการเงินโลก หลังจากรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ นักลงทุนยังกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ เลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 516 มุมมอง 0 รีวิว