• แฟลชไดรฟ์ราคาถูกที่มีความจุสูงอาจไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีอย่างที่คิด! บทความนี้เตือนถึงอันตรายของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลปลอมที่ขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา และอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือเสียหายได้

    ✅ แฟลชไดรฟ์ราคาถูกมักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา
    - ตัวอย่างเช่น แฟลชไดรฟ์ที่โฆษณาว่ามีความจุ 2TB แต่เมื่อทดสอบพบว่ามีเพียง 18.2GB
    - ผู้ขายมักใช้เฟิร์มแวร์ปลอมเพื่อให้ระบบรายงานความจุสูงกว่าความเป็นจริง

    ✅ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซพยายามจัดการกับสินค้าปลอม
    - Lazada และ Shopee ใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจจับและลบรายการสินค้าปลอม
    - อย่างไรก็ตาม ผู้ขายที่ไม่ซื่อสัตย์ยังคงหาวิธีหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบ

    ✅ อุปกรณ์ปลอมอาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - แฮกเกอร์สามารถใช้แฟลชไดรฟ์ปลอมเพื่อแพร่กระจายมัลแวร์
    - มีรายงานว่า USB ปลอมสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการขโมยข้อมูลหรือเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์

    ✅ วิธีหลีกเลี่ยงการซื้อแฟลชไดรฟ์ปลอม
    - ซื้อจากร้านค้าที่ได้รับการรับรองหรือแบรนด์ที่เชื่อถือได้
    - หลีกเลี่ยงสินค้าที่มีราคาถูกเกินไปเมื่อเทียบกับราคาตลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/danger-in-disguise-when-that-ultra-cheap-high-capacity-thumb-drive-seems-too-good-to-be-true
    แฟลชไดรฟ์ราคาถูกที่มีความจุสูงอาจไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีอย่างที่คิด! บทความนี้เตือนถึงอันตรายของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลปลอมที่ขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา และอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือเสียหายได้ ✅ แฟลชไดรฟ์ราคาถูกมักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา - ตัวอย่างเช่น แฟลชไดรฟ์ที่โฆษณาว่ามีความจุ 2TB แต่เมื่อทดสอบพบว่ามีเพียง 18.2GB - ผู้ขายมักใช้เฟิร์มแวร์ปลอมเพื่อให้ระบบรายงานความจุสูงกว่าความเป็นจริง ✅ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซพยายามจัดการกับสินค้าปลอม - Lazada และ Shopee ใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจจับและลบรายการสินค้าปลอม - อย่างไรก็ตาม ผู้ขายที่ไม่ซื่อสัตย์ยังคงหาวิธีหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบ ✅ อุปกรณ์ปลอมอาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - แฮกเกอร์สามารถใช้แฟลชไดรฟ์ปลอมเพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ - มีรายงานว่า USB ปลอมสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการขโมยข้อมูลหรือเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ ✅ วิธีหลีกเลี่ยงการซื้อแฟลชไดรฟ์ปลอม - ซื้อจากร้านค้าที่ได้รับการรับรองหรือแบรนด์ที่เชื่อถือได้ - หลีกเลี่ยงสินค้าที่มีราคาถูกเกินไปเมื่อเทียบกับราคาตลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/danger-in-disguise-when-that-ultra-cheap-high-capacity-thumb-drive-seems-too-good-to-be-true
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Danger in disguise: When that cheap 2TB thumb drive seems too good to be true
    Beware of counterfeit USB drives being sold cheaply online as they could pose a cybersecurity risk.
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • บทความนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธี หยุดการอัปเดต Patch Tuesday บน Windows 10 และ Windows 11 ซึ่งเป็นการอัปเดตที่ Microsoft ปล่อยออกมาเป็นประจำทุกเดือน แม้ว่าการอัปเดตจะช่วยปรับปรุงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ แต่บางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์ ดังนั้น ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะ หยุดชั่วคราว หรือ เลื่อนการอัปเดต เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

    ✅ หยุดการอัปเดตบน Windows 11 ผ่าน Settings
    - เปิด Settings โดยกด Win + I หรือคลิกขวาที่ปุ่ม Start แล้วเลือก Settings
    - ไปที่แท็บ Windows Update และเลือก Pause updates
    - สามารถหยุดการอัปเดตได้ตั้งแต่ 1 ถึง 5 สัปดาห์

    ✅ หยุดการอัปเดตบน Windows 10 ผ่าน Settings
    - ไปที่ Settings > Update & Security > Advanced Options
    - เลือก Pause updates for 7 days หรือกำหนดระยะเวลาหยุดอัปเดตสูงสุด 5 สัปดาห์

    ✅ เลื่อนการอัปเดตฟีเจอร์บน Windows 10 และ Windows 11
    - ผู้ใช้สามารถเลื่อนการอัปเดตฟีเจอร์ได้นานถึง 1 ปี โดยใช้ Local Group Policy Editor หรือ Windows Registry Editor
    - วิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหลีกเลี่ยงการอัปเดตใหญ่ที่อาจมีข้อผิดพลาด

    https://www.neowin.net/guides/how-to-pause-patch-tuesday-updates-in-windows-11-and-10/
    บทความนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธี หยุดการอัปเดต Patch Tuesday บน Windows 10 และ Windows 11 ซึ่งเป็นการอัปเดตที่ Microsoft ปล่อยออกมาเป็นประจำทุกเดือน แม้ว่าการอัปเดตจะช่วยปรับปรุงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ แต่บางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์ ดังนั้น ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะ หยุดชั่วคราว หรือ เลื่อนการอัปเดต เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ✅ หยุดการอัปเดตบน Windows 11 ผ่าน Settings - เปิด Settings โดยกด Win + I หรือคลิกขวาที่ปุ่ม Start แล้วเลือก Settings - ไปที่แท็บ Windows Update และเลือก Pause updates - สามารถหยุดการอัปเดตได้ตั้งแต่ 1 ถึง 5 สัปดาห์ ✅ หยุดการอัปเดตบน Windows 10 ผ่าน Settings - ไปที่ Settings > Update & Security > Advanced Options - เลือก Pause updates for 7 days หรือกำหนดระยะเวลาหยุดอัปเดตสูงสุด 5 สัปดาห์ ✅ เลื่อนการอัปเดตฟีเจอร์บน Windows 10 และ Windows 11 - ผู้ใช้สามารถเลื่อนการอัปเดตฟีเจอร์ได้นานถึง 1 ปี โดยใช้ Local Group Policy Editor หรือ Windows Registry Editor - วิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหลีกเลี่ยงการอัปเดตใหญ่ที่อาจมีข้อผิดพลาด https://www.neowin.net/guides/how-to-pause-patch-tuesday-updates-in-windows-11-and-10/
    WWW.NEOWIN.NET
    How to pause Patch Tuesday updates in Windows 11 and 10
    Turning off Windows Updates for good is never a good idea, but sometimes, pausing them for a brief period is necessary. Here is how to defer Windows Updates in Windows 10 and 11.
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • ตร.แจ้งข้อหาหนัก !!!? ‘ลูกพีช’
    ซิ่งบีเอ็มชนกระบะ
    .
    ตํารวจทางหลวง 3 ข้อหา
    • ขับรถโดยประมาท 
    • ใบขับขี่สิ้นอายุ 
    • นํารถที่ยังไม่ได้
     จดทะเบียนมาใช้
    .
    สภ.ลําลูกกา 4 ข้อหา
    • ทําร้ายร่างกายผู้อื่น
    ได้รับบาดเจ็บสาหัส
    • ทําร้ายร่างกายผู้อื่น
      แก่กายและจิตใจ
    • ขับรถโดยไม่คํานึงถึง ความปลอดภัย
    ทําให้เสียทรัพย์

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #พีชบีเอ็ม #รถกระบะลุงป้า #ซิ่งบีเอ็มชนกระบะ #ตำรวจแจ้งข้อหาพีช
    ตร.แจ้งข้อหาหนัก !!!? ‘ลูกพีช’ ซิ่งบีเอ็มชนกระบะ . ตํารวจทางหลวง 3 ข้อหา • ขับรถโดยประมาท  • ใบขับขี่สิ้นอายุ  • นํารถที่ยังไม่ได้  จดทะเบียนมาใช้ . สภ.ลําลูกกา 4 ข้อหา • ทําร้ายร่างกายผู้อื่น ได้รับบาดเจ็บสาหัส • ทําร้ายร่างกายผู้อื่น   แก่กายและจิตใจ • ขับรถโดยไม่คํานึงถึง ความปลอดภัย ทําให้เสียทรัพย์ #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #พีชบีเอ็ม #รถกระบะลุงป้า #ซิ่งบีเอ็มชนกระบะ #ตำรวจแจ้งข้อหาพีช
    Like
    Love
    Haha
    10
    0 Comments 1 Shares 420 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้อธิบายถึงประโยชน์ของ TPM 2.0 ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของระบบสำหรับ Windows 11 โดย TPM มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์ และการป้องกันการแก้ไขฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ Microsoft ยังเน้นถึงข้อดีอื่นๆ ของ Windows 11 เช่น ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นและความพร้อมสำหรับการอัปเดตในอนาคต

    ✅ TPM ช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้
    - TPM สามารถเข้ารหัสข้อมูล เช่น รายละเอียดส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน และไฟล์ที่เป็นความลับ

    ✅ TPM ช่วยตรวจสอบความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์
    - ฟีเจอร์ Secure Boot ของ TPM ช่วยป้องกันซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายไม่ให้เริ่มต้นระบบ

    ✅ TPM ช่วยป้องกันการแก้ไขฮาร์ดแวร์
    - TPM สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในฮาร์ดแวร์และป้องกันระบบไม่ให้เริ่มต้น

    ✅ Windows 11 มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่พึ่งพา TPM
    - ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ แม้ว่าอุปกรณ์จะสูญหายหรือถูกขโมย

    ✅ Windows 11 มีประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น
    - อินเทอร์เฟซที่ปรับปรุงใหม่และความเข้ากันได้ที่ดีขึ้นช่วยให้การใช้งานราบรื่น

    ✅ Windows 11 พร้อมสำหรับการอัปเดตในอนาคต
    - การอัปเกรดเป็น Windows 11 ช่วยให้ระบบพร้อมสำหรับฟีเจอร์และการอัปเดตด้านความปลอดภัยในอนาคต

    https://www.neowin.net/news/microsoft-explains-tpm-benefits-and-why-it-makes-windows-11-better-than-10/
    Microsoft ได้อธิบายถึงประโยชน์ของ TPM 2.0 ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของระบบสำหรับ Windows 11 โดย TPM มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์ และการป้องกันการแก้ไขฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ Microsoft ยังเน้นถึงข้อดีอื่นๆ ของ Windows 11 เช่น ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นและความพร้อมสำหรับการอัปเดตในอนาคต ✅ TPM ช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ - TPM สามารถเข้ารหัสข้อมูล เช่น รายละเอียดส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน และไฟล์ที่เป็นความลับ ✅ TPM ช่วยตรวจสอบความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์ - ฟีเจอร์ Secure Boot ของ TPM ช่วยป้องกันซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายไม่ให้เริ่มต้นระบบ ✅ TPM ช่วยป้องกันการแก้ไขฮาร์ดแวร์ - TPM สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในฮาร์ดแวร์และป้องกันระบบไม่ให้เริ่มต้น ✅ Windows 11 มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่พึ่งพา TPM - ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ แม้ว่าอุปกรณ์จะสูญหายหรือถูกขโมย ✅ Windows 11 มีประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น - อินเทอร์เฟซที่ปรับปรุงใหม่และความเข้ากันได้ที่ดีขึ้นช่วยให้การใช้งานราบรื่น ✅ Windows 11 พร้อมสำหรับการอัปเดตในอนาคต - การอัปเกรดเป็น Windows 11 ช่วยให้ระบบพร้อมสำหรับฟีเจอร์และการอัปเดตด้านความปลอดภัยในอนาคต https://www.neowin.net/news/microsoft-explains-tpm-benefits-and-why-it-makes-windows-11-better-than-10/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft explains TPM benefits and why it makes Windows 11 better than 10
    Microsoft has explained why TPM, which is a system requirement for Windows 11, is so beneficial for users and why it makes Windows 11 better.
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญใน Classic Teams โดยจะยุติฟีเจอร์การเปิดไฟล์ในแอป Classic Teams ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2025 และจะสิ้นสุดการใช้งานในวันที่ 30 เมษายน 2025 การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่พบใน Classic Teams และสนับสนุนให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้แอป Teams เวอร์ชันใหม่ที่มีความปลอดภัยมากกว่า

    ✅ ยุติฟีเจอร์การเปิดไฟล์ใน Classic Teams
    - ฟีเจอร์นี้จะถูกยุติในวันที่ 15-30 เมษายน 2025
    - Microsoft แนะนำให้เปิดไฟล์ในแอปที่เหมาะสม เช่น Word, Excel หรือ PowerPoint

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย
    - ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่พบใน Classic Teams เป็นเหตุผลหลักในการยุติฟีเจอร์นี้
    - Teams เวอร์ชันใหม่ไม่มีปัญหาช่องโหว่ดังกล่าว

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้จะถูกดำเนินการโดยอัตโนมัติ
    - ผู้ดูแลระบบไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ แต่ควรแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนี้

    ✅ Classic Teams จะสิ้นสุดการสนับสนุนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2025
    - Microsoft ได้หยุดการสนับสนุน Classic Teams ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024

    https://www.neowin.net/news/microsoft-removing-major-classic-teams-feature-before-the-app-is-gone-for-good/
    Microsoft ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญใน Classic Teams โดยจะยุติฟีเจอร์การเปิดไฟล์ในแอป Classic Teams ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2025 และจะสิ้นสุดการใช้งานในวันที่ 30 เมษายน 2025 การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่พบใน Classic Teams และสนับสนุนให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้แอป Teams เวอร์ชันใหม่ที่มีความปลอดภัยมากกว่า ✅ ยุติฟีเจอร์การเปิดไฟล์ใน Classic Teams - ฟีเจอร์นี้จะถูกยุติในวันที่ 15-30 เมษายน 2025 - Microsoft แนะนำให้เปิดไฟล์ในแอปที่เหมาะสม เช่น Word, Excel หรือ PowerPoint ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย - ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่พบใน Classic Teams เป็นเหตุผลหลักในการยุติฟีเจอร์นี้ - Teams เวอร์ชันใหม่ไม่มีปัญหาช่องโหว่ดังกล่าว ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้จะถูกดำเนินการโดยอัตโนมัติ - ผู้ดูแลระบบไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ แต่ควรแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ ✅ Classic Teams จะสิ้นสุดการสนับสนุนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2025 - Microsoft ได้หยุดการสนับสนุน Classic Teams ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 https://www.neowin.net/news/microsoft-removing-major-classic-teams-feature-before-the-app-is-gone-for-good/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft removing "major" Classic Teams feature before the app is gone for good
    Microsoft is removing a feature that it has labelled as a "major change" on Classic Teams. The app will soon be gone forever.
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • 🌿 20 เมษา “วันกัญชาโลก” เดอะวอลโดส โค้ดลับ โฟร์ทเวนตี ต่างชาติหลงใหลกัญชาไทย เสน่ห์ใหม่ หรือว่า… ปัญหางอก! จากรหัสลับ สู่สนามถกเถียงระดับโลก

    จากเรื่องเล่ากลุ่มวัยรุ่น The Waldos สู่กระแสร่วมสมัยในไทย การใช้กัญชาควรเป็นเสรีภาพเพื่อสุขภาพ หรือแค่แฟชั่นเสพติด?

    🔍 หากเคยเห็นคำว่า “420” หรือ “4/20” บนเสื้อผ้า โซเชียลมีเดีย หรือในบทสนทนาระหว่างกลุ่มวัยรุ่น และสงสัยว่า... หมายถึงอะไร? คำตอบคือ 420 คือรหัสลับของผู้ใช้กัญชาทั่วโลก ที่ถูกยกระดับให้กลายเป็น "วันกัญชาโลก" หรือ "World Cannabis Day" 🗓️

    ทุกวันที่ 20 เมษายน (20/4) ของทุกปี กลายเป็นวันเฉลิมฉลอง ของผู้สนับสนุนเสรีภาพในการใช้กัญชา ทั้งในด้านการแพทย์ การพักผ่อน และการรณรงค์ให้กฎหมายในแต่ละประเทศ เปิดใจยอมรับพืชชนิดนี้มากขึ้น 📢

    แต่... การเฉลิมฉลองนั้น ควรมีขอบเขตแค่ไหน? เสรีภาพจะพาไปสู่โอกาส หรือปัญหางอกไม่รู้จบ?

    🧠 จุดเริ่มต้นจากกลุ่ม The Waldos สู่วัฒนธรรมสมัยนิยม เรื่องราวของ “420” เริ่มต้นในปี 2514 จากกลุ่มวัยรุ่นชื่อ "The Waldos" ที่เมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขานัดเจอกันทุกวันเวลา 16.20 น. หรือ 4:20 PM เพื่อออกตามหาต้นกัญชาลึกลับ ในค่ายทหาร "abandoned" โดยใช้เวลา 4:20 เป็นรหัสลับระหว่างกัน 🕓

    แม้จะไม่เจอต้นกัญชานั้นจริงๆ แต่คำว่า “420” กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้กัญชา โดยถูกผลักดันจากวงดนตรี "Grateful Dead" และต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมย่อย ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก 🌍

    📅 วันที่ 20 เมษายน หรือ “4/20” ตามรูปแบบการเขียนเดือนและวัน ของสหรัฐฯ ถูกยกระดับให้เป็น วันแห่งการเฉลิมฉลองกัญชา โดยผู้ใช้กัญชาทั่วโลก จะออกมารวมตัวจัดกิจกรรม สังสรรค์ หรือแม้แต่ประท้วง เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการใช้กัญชา ✊

    🌿 ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แม้กัญชาจะเคยถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ด้วยการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด กัญชาถูกมองใหม่ในฐานะ “สมุนไพรทางเลือก” ที่มี CBD และ THC เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ซึ่งช่วยรักษาอาการ ได้หลายประเภท 🧪

    ✅ ประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 🤢 บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดประสาท ปวดข้อ 🤕 ช่วยให้ผู้ป่วยหลับสบายขึ้น 💤 ลดอาการวิตกกังวล เฉพาะบางกรณี 😟➡️🙂

    📌 ทั้งนี้.... การใช้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น

    ❌ ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันมีผลข้างเคียงหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ต่อเนื่องในปริมาณมาก 🔄 ส่งผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น 🧠 อาจก่อให้เกิดความจำสั้น สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน 😵 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตประสาท ในบางราย 🧨

    🇹🇭 "กัญชาไทย" จากปลดล็อกสู่การควบคุม ปี 2565 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศ “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจภายในครัวเรือน 👩‍⚕️🏠

    แต่เมื่อขาดกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ปัญหาจึงตามมา เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายเกินไป 👦👧 โฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์ 💻 และการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่ตระหนักถึงผลเสีย 🚬

    📈 ธุรกิจกัญชาไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าตลาดคาดการณ์สูงถึง 20,000 ล้านบาท หากสามารถจัดการได้ดี 💸

    🧩 เสรีภาพ กับความปลอดภัย สมดุลที่ต้องคิดให้รอบด้าน คำถามใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญในปี 2568 คือ...

    “กัญชาเป็นเสรีภาพใหม่ หรือปัญหางอก?”

    แม้หลายฝ่ายจะชูธงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่กลุ่มทางการแพทย์และผู้ปกครอง กลับกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีพระราชบัญญัติ ควบคุมที่ชัดเจน 😰

    🔒 ล่าสุด รัฐบาลมีแนวโน้มจะออก "พระราชบัญญัติกัญชา" เพื่อควบคุมให้ใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง

    👶 เยาวชนคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม การพัฒนาสมองถูกรบกวนโดยสาร THC 🧠 เพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท และอาการหลอน 😨 พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น การลองยาเสพติดอื่น 🔗

    แนวทางป้องกันคือ ให้ความรู้ในโรงเรียน 🏫 ควบคุมการโฆษณา และจำหน่ายอย่างเคร่งครัด 🔞 จำกัดอายุขั้นต่ำ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 🚫

    ✈️ ต่างชาติหลงใหล “กัญชาไทย” หรือแค่... โบนัสท่องเที่ยว? หลังปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ไทยกลายเป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว” 🌍💚

    โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดเข้มงวด เช่น 🇯🇵 ญี่ปุ่น 🇰🇷 เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวบางคนมองว่า กัญชาไทยเป็นเสน่ห์ใหม่ ของการท่องเที่ยว แต่บางส่วนกลับกังวลว่า อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ไทย ในสายตาชาวโลก

    📢 กฎหมายของไทย อาจไม่ตรงกับกฎหมายในประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา!

    💼 เศรษฐกิจกัญชา โอกาสทองหรือความเสี่ยงซ่อนเร้น? ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาแล้วประสบความสำเร็จ เช่น 🇨🇦 แคนาดา 🇺🇾 อุรุกวัย 🇲🇹 มอลตา ล้วนมีระบบควบคุมกัญชาเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ

    📉 หากไม่มีการควบคุมที่ดี เศรษฐกิจกัญชาจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ปัญหาสังคมลุกลาม และลดความน่าเชื่อถือของประเทศได้

    🧑‍⚕️ แพทย์เตือน กัญชาเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ของเล่น” วงการแพทย์ย้ำว่า...

    “กัญชาใช้รักษาโรคได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ควรใช้แบบสันทนาการทั่วไป”

    กลุ่มโรคที่อาจได้ประโยชน์จากกัญชาคือ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ปวดเรื้อรัง ผู้ที่นอนไม่หลับ และผู้ป่วยจิตเวชบางกลุ่ม

    อย่างไรก็ตาม การใช้ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ และข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม 🔍

    📚 ควรฉลองหรือทบทวน? วันกัญชาโลก (420) คือโอกาสให้เราหยุดคิด ทบทวน และสร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพ ในสังคมไทย ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง 🎉

    สิ่งที่สังคมควรย้ำคือ

    ✅ สนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อการแพทย์และสุขภาพ

    ❌ ต่อต้านการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่มีการควบคุม

    ⚖️ สร้างสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพ และความปลอดภัยของสาธารณชน

    "กัญชาอาจเป็นพืชมหัศจรรย์... ถ้าเราใช้ด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส" 🌱

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200924 เม.ย. 2568

    📌 #วันกัญชาโลก #420ไทย #โฟร์ทเวนตี้ #กัญชาเพื่อการแพทย์
    #กัญชาไทย #เสรีภาพไม่ใช่สันทนาการ #TheWaldos #กัญชากับเยาวชน
    #สังคมกับกัญชา #กัญชาอย่างปลอดภัย
    🌿 20 เมษา “วันกัญชาโลก” เดอะวอลโดส โค้ดลับ โฟร์ทเวนตี ต่างชาติหลงใหลกัญชาไทย เสน่ห์ใหม่ หรือว่า… ปัญหางอก! จากรหัสลับ สู่สนามถกเถียงระดับโลก จากเรื่องเล่ากลุ่มวัยรุ่น The Waldos สู่กระแสร่วมสมัยในไทย การใช้กัญชาควรเป็นเสรีภาพเพื่อสุขภาพ หรือแค่แฟชั่นเสพติด? 🔍 หากเคยเห็นคำว่า “420” หรือ “4/20” บนเสื้อผ้า โซเชียลมีเดีย หรือในบทสนทนาระหว่างกลุ่มวัยรุ่น และสงสัยว่า... หมายถึงอะไร? คำตอบคือ 420 คือรหัสลับของผู้ใช้กัญชาทั่วโลก ที่ถูกยกระดับให้กลายเป็น "วันกัญชาโลก" หรือ "World Cannabis Day" 🗓️ ทุกวันที่ 20 เมษายน (20/4) ของทุกปี กลายเป็นวันเฉลิมฉลอง ของผู้สนับสนุนเสรีภาพในการใช้กัญชา ทั้งในด้านการแพทย์ การพักผ่อน และการรณรงค์ให้กฎหมายในแต่ละประเทศ เปิดใจยอมรับพืชชนิดนี้มากขึ้น 📢 แต่... การเฉลิมฉลองนั้น ควรมีขอบเขตแค่ไหน? เสรีภาพจะพาไปสู่โอกาส หรือปัญหางอกไม่รู้จบ? 🧠 จุดเริ่มต้นจากกลุ่ม The Waldos สู่วัฒนธรรมสมัยนิยม เรื่องราวของ “420” เริ่มต้นในปี 2514 จากกลุ่มวัยรุ่นชื่อ "The Waldos" ที่เมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขานัดเจอกันทุกวันเวลา 16.20 น. หรือ 4:20 PM เพื่อออกตามหาต้นกัญชาลึกลับ ในค่ายทหาร "abandoned" โดยใช้เวลา 4:20 เป็นรหัสลับระหว่างกัน 🕓 แม้จะไม่เจอต้นกัญชานั้นจริงๆ แต่คำว่า “420” กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้กัญชา โดยถูกผลักดันจากวงดนตรี "Grateful Dead" และต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมย่อย ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก 🌍 📅 วันที่ 20 เมษายน หรือ “4/20” ตามรูปแบบการเขียนเดือนและวัน ของสหรัฐฯ ถูกยกระดับให้เป็น วันแห่งการเฉลิมฉลองกัญชา โดยผู้ใช้กัญชาทั่วโลก จะออกมารวมตัวจัดกิจกรรม สังสรรค์ หรือแม้แต่ประท้วง เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการใช้กัญชา ✊ 🌿 ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แม้กัญชาจะเคยถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ด้วยการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด กัญชาถูกมองใหม่ในฐานะ “สมุนไพรทางเลือก” ที่มี CBD และ THC เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ซึ่งช่วยรักษาอาการ ได้หลายประเภท 🧪 ✅ ประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 🤢 บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดประสาท ปวดข้อ 🤕 ช่วยให้ผู้ป่วยหลับสบายขึ้น 💤 ลดอาการวิตกกังวล เฉพาะบางกรณี 😟➡️🙂 📌 ทั้งนี้.... การใช้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ❌ ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันมีผลข้างเคียงหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ต่อเนื่องในปริมาณมาก 🔄 ส่งผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น 🧠 อาจก่อให้เกิดความจำสั้น สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน 😵 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตประสาท ในบางราย 🧨 🇹🇭 "กัญชาไทย" จากปลดล็อกสู่การควบคุม ปี 2565 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศ “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจภายในครัวเรือน 👩‍⚕️🏠 แต่เมื่อขาดกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ปัญหาจึงตามมา เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายเกินไป 👦👧 โฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์ 💻 และการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่ตระหนักถึงผลเสีย 🚬 📈 ธุรกิจกัญชาไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าตลาดคาดการณ์สูงถึง 20,000 ล้านบาท หากสามารถจัดการได้ดี 💸 🧩 เสรีภาพ กับความปลอดภัย สมดุลที่ต้องคิดให้รอบด้าน คำถามใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญในปี 2568 คือ... “กัญชาเป็นเสรีภาพใหม่ หรือปัญหางอก?” แม้หลายฝ่ายจะชูธงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่กลุ่มทางการแพทย์และผู้ปกครอง กลับกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีพระราชบัญญัติ ควบคุมที่ชัดเจน 😰 🔒 ล่าสุด รัฐบาลมีแนวโน้มจะออก "พระราชบัญญัติกัญชา" เพื่อควบคุมให้ใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง 👶 เยาวชนคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม การพัฒนาสมองถูกรบกวนโดยสาร THC 🧠 เพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท และอาการหลอน 😨 พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น การลองยาเสพติดอื่น 🔗 แนวทางป้องกันคือ ให้ความรู้ในโรงเรียน 🏫 ควบคุมการโฆษณา และจำหน่ายอย่างเคร่งครัด 🔞 จำกัดอายุขั้นต่ำ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 🚫 ✈️ ต่างชาติหลงใหล “กัญชาไทย” หรือแค่... โบนัสท่องเที่ยว? หลังปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ไทยกลายเป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว” 🌍💚 โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดเข้มงวด เช่น 🇯🇵 ญี่ปุ่น 🇰🇷 เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวบางคนมองว่า กัญชาไทยเป็นเสน่ห์ใหม่ ของการท่องเที่ยว แต่บางส่วนกลับกังวลว่า อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ไทย ในสายตาชาวโลก 📢 กฎหมายของไทย อาจไม่ตรงกับกฎหมายในประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา! 💼 เศรษฐกิจกัญชา โอกาสทองหรือความเสี่ยงซ่อนเร้น? ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาแล้วประสบความสำเร็จ เช่น 🇨🇦 แคนาดา 🇺🇾 อุรุกวัย 🇲🇹 มอลตา ล้วนมีระบบควบคุมกัญชาเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ 📉 หากไม่มีการควบคุมที่ดี เศรษฐกิจกัญชาจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ปัญหาสังคมลุกลาม และลดความน่าเชื่อถือของประเทศได้ 🧑‍⚕️ แพทย์เตือน กัญชาเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ของเล่น” วงการแพทย์ย้ำว่า... “กัญชาใช้รักษาโรคได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ควรใช้แบบสันทนาการทั่วไป” กลุ่มโรคที่อาจได้ประโยชน์จากกัญชาคือ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ปวดเรื้อรัง ผู้ที่นอนไม่หลับ และผู้ป่วยจิตเวชบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม การใช้ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ และข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม 🔍 📚 ควรฉลองหรือทบทวน? วันกัญชาโลก (420) คือโอกาสให้เราหยุดคิด ทบทวน และสร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพ ในสังคมไทย ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง 🎉 สิ่งที่สังคมควรย้ำคือ ✅ สนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อการแพทย์และสุขภาพ ❌ ต่อต้านการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่มีการควบคุม ⚖️ สร้างสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพ และความปลอดภัยของสาธารณชน "กัญชาอาจเป็นพืชมหัศจรรย์... ถ้าเราใช้ด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส" 🌱 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200924 เม.ย. 2568 📌 #วันกัญชาโลก #420ไทย #โฟร์ทเวนตี้ #กัญชาเพื่อการแพทย์ #กัญชาไทย #เสรีภาพไม่ใช่สันทนาการ #TheWaldos #กัญชากับเยาวชน #สังคมกับกัญชา #กัญชาอย่างปลอดภัย
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Erlang/OTP SSH ซึ่งเป็นชุดไลบรารีสำหรับการเขียนโปรแกรมภาษา Erlang โดยช่องโหว่นี้มีความรุนแรงระดับ 10/10 และสามารถถูกโจมตีเพื่อ Remote Code Execution (RCE) ได้อย่างง่ายดาย นักวิจัยแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตี เนื่องจากช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทุกเวอร์ชันของ Erlang/OTP SSH

    ✅ ช่องโหว่มีความรุนแรงระดับ 10/10 และสามารถถูกโจมตีได้ง่าย
    - ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการข้อความโปรโตคอล SSH ก่อนการยืนยันตัวตนที่ไม่เหมาะสม
    - นักวิจัยจาก Ruhr University Bochum พบว่าแฮกเกอร์สามารถส่งข้อความโปรโตคอลเพื่อโจมตีระบบได้

    ✅ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทุกเวอร์ชันของ Erlang/OTP SSH
    - ผู้ใช้ควรอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 25.3.2.10 หรือ 26.2.4 เพื่อป้องกันการโจมตี

    ✅ นักวิจัยจาก Horizon3 Attack Team พบว่าการโจมตีช่องโหว่นี้ทำได้ง่ายมาก
    - ทีมงานได้สร้าง Proof of Concept (PoC) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความง่ายในการโจมตี

    ✅ Erlang/OTP SSH เป็นโมดูลที่ใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง
    - ใช้ในระบบโทรคมนาคม ฐานข้อมูล และระบบที่ต้องการความเสถียรและการขยายตัว

    https://www.techradar.com/pro/security/a-critical-erlang-otp-security-flaw-is-surprisingly-easy-to-exploit-so-patch-now
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Erlang/OTP SSH ซึ่งเป็นชุดไลบรารีสำหรับการเขียนโปรแกรมภาษา Erlang โดยช่องโหว่นี้มีความรุนแรงระดับ 10/10 และสามารถถูกโจมตีเพื่อ Remote Code Execution (RCE) ได้อย่างง่ายดาย นักวิจัยแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตี เนื่องจากช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทุกเวอร์ชันของ Erlang/OTP SSH ✅ ช่องโหว่มีความรุนแรงระดับ 10/10 และสามารถถูกโจมตีได้ง่าย - ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการข้อความโปรโตคอล SSH ก่อนการยืนยันตัวตนที่ไม่เหมาะสม - นักวิจัยจาก Ruhr University Bochum พบว่าแฮกเกอร์สามารถส่งข้อความโปรโตคอลเพื่อโจมตีระบบได้ ✅ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทุกเวอร์ชันของ Erlang/OTP SSH - ผู้ใช้ควรอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 25.3.2.10 หรือ 26.2.4 เพื่อป้องกันการโจมตี ✅ นักวิจัยจาก Horizon3 Attack Team พบว่าการโจมตีช่องโหว่นี้ทำได้ง่ายมาก - ทีมงานได้สร้าง Proof of Concept (PoC) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความง่ายในการโจมตี ✅ Erlang/OTP SSH เป็นโมดูลที่ใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง - ใช้ในระบบโทรคมนาคม ฐานข้อมูล และระบบที่ต้องการความเสถียรและการขยายตัว https://www.techradar.com/pro/security/a-critical-erlang-otp-security-flaw-is-surprisingly-easy-to-exploit-so-patch-now
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการนำ AI มาใช้ในธุรกิจในสหราชอาณาจักร ซึ่งกำลังเปลี่ยนจากการทดลองไปสู่การใช้งานจริง โดย 93% ของธุรกิจในสหราชอาณาจักร รายงานว่ามีการเพิ่มประสิทธิภาพจากการใช้ Generative AI และ 98% กำลังปรับแต่งหรือฝึกอบรมโมเดล AI เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจยังคงเผชิญกับความท้าทาย เช่น ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง และ ความกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

    ✅ ธุรกิจในสหราชอาณาจักรมีการใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย
    - 93% รายงานว่ามีการเพิ่มประสิทธิภาพจาก Generative AI
    - 62% ใช้ AI ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ และ 69% ใช้ในการตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดของโค้ด

    ✅ AI ช่วยลดภาระงานและต้นทุนในหลายด้าน
    - ในการสนับสนุนลูกค้า AI ช่วยลดเวลาตอบกลับครั้งแรกลง 59% และลดภาระงานที่ต้องทำด้วยมือ 64%
    - ในด้านความปลอดภัยไซเบอร์ AI ช่วยลดต้นทุนลง 56%

    ✅ ธุรกิจในสหราชอาณาจักรกำลังปรับแต่งโมเดล AI เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
    - 98% กำลังฝึกอบรมหรือปรับแต่งโมเดล AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    ✅ ความท้าทายที่ธุรกิจต้องเผชิญ
    - ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างเป็นอุปสรรคสำคัญในการนำ AI มาใช้
    - ความกังวลด้านความปลอดภัย เช่น การละเมิดข้อมูลและความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ AI

    https://www.techradar.com/pro/british-businesses-are-getting-used-to-ai-at-work-but-there-are-still-plenty-of-hurdles-to-overcome
    บทความนี้กล่าวถึงการนำ AI มาใช้ในธุรกิจในสหราชอาณาจักร ซึ่งกำลังเปลี่ยนจากการทดลองไปสู่การใช้งานจริง โดย 93% ของธุรกิจในสหราชอาณาจักร รายงานว่ามีการเพิ่มประสิทธิภาพจากการใช้ Generative AI และ 98% กำลังปรับแต่งหรือฝึกอบรมโมเดล AI เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจยังคงเผชิญกับความท้าทาย เช่น ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง และ ความกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ✅ ธุรกิจในสหราชอาณาจักรมีการใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย - 93% รายงานว่ามีการเพิ่มประสิทธิภาพจาก Generative AI - 62% ใช้ AI ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ และ 69% ใช้ในการตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดของโค้ด ✅ AI ช่วยลดภาระงานและต้นทุนในหลายด้าน - ในการสนับสนุนลูกค้า AI ช่วยลดเวลาตอบกลับครั้งแรกลง 59% และลดภาระงานที่ต้องทำด้วยมือ 64% - ในด้านความปลอดภัยไซเบอร์ AI ช่วยลดต้นทุนลง 56% ✅ ธุรกิจในสหราชอาณาจักรกำลังปรับแต่งโมเดล AI เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น - 98% กำลังฝึกอบรมหรือปรับแต่งโมเดล AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ ความท้าทายที่ธุรกิจต้องเผชิญ - ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างเป็นอุปสรรคสำคัญในการนำ AI มาใช้ - ความกังวลด้านความปลอดภัย เช่น การละเมิดข้อมูลและความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ AI https://www.techradar.com/pro/british-businesses-are-getting-used-to-ai-at-work-but-there-are-still-plenty-of-hurdles-to-overcome
    WWW.TECHRADAR.COM
    British businesses are getting used to AI at work - but there are still plenty of hurdles to overcome
    AI has evolved from experimentation, but the same challenges remain, experts warn
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุนฟีเจอร์ Virtualization-Based Security (VBS) Enclaves ใน Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และก่อนหน้า รวมถึง Windows Server 2022 และก่อนหน้า แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะได้รับการโปรโมตว่าเป็นความก้าวหน้าด้านความปลอดภัยเมื่อเปิดตัวในปี 2024 แต่การพัฒนา Windows 11 ที่รวดเร็วและการอัปเดตที่บ่อยครั้งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ Microsoft ตัดสินใจยุติฟีเจอร์นี้

    ✅ VBS Enclaves เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยใน Windows
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถสร้าง Trusted Execution Environments (TEEs) ภายในแอปพลิเคชัน
    - ใช้ Hyper-V เพื่อสร้างพื้นที่หน่วยความจำที่ปลอดภัยและมีสิทธิ์สูงกว่า OS

    ✅ Microsoft ยุติการสนับสนุนใน Windows 11 23H2 และก่อนหน้า
    - ฟีเจอร์นี้ยังคงรองรับใน Windows Server 2025 และเวอร์ชันใหม่กว่า
    - การยุติฟีเจอร์นี้อาจเกี่ยวข้องกับ ปัญหาความเข้ากันได้และความน่าเชื่อถือ

    ✅ VBS Enclaves เคยถูกโปรโมตว่าเป็นความก้าวหน้าด้านความปลอดภัย
    - เปิดตัวในปี 2024 และได้รับการยกย่องว่าเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับ Windows

    ✅ การพัฒนา Windows 11 ที่รวดเร็วอาจเป็นเหตุผลในการยุติฟีเจอร์นี้
    - Windows 11 มีการอัปเดตใหญ่ทุกปีและอัปเดตรายเดือนที่อาจส่งผลกระทบต่อฟีเจอร์เก่า

    https://www.techspot.com/news/107609-microsoft-deprecating-revolutionary-virtualization-based-security-feature-older.html
    Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุนฟีเจอร์ Virtualization-Based Security (VBS) Enclaves ใน Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และก่อนหน้า รวมถึง Windows Server 2022 และก่อนหน้า แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะได้รับการโปรโมตว่าเป็นความก้าวหน้าด้านความปลอดภัยเมื่อเปิดตัวในปี 2024 แต่การพัฒนา Windows 11 ที่รวดเร็วและการอัปเดตที่บ่อยครั้งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ Microsoft ตัดสินใจยุติฟีเจอร์นี้ ✅ VBS Enclaves เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยใน Windows - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถสร้าง Trusted Execution Environments (TEEs) ภายในแอปพลิเคชัน - ใช้ Hyper-V เพื่อสร้างพื้นที่หน่วยความจำที่ปลอดภัยและมีสิทธิ์สูงกว่า OS ✅ Microsoft ยุติการสนับสนุนใน Windows 11 23H2 และก่อนหน้า - ฟีเจอร์นี้ยังคงรองรับใน Windows Server 2025 และเวอร์ชันใหม่กว่า - การยุติฟีเจอร์นี้อาจเกี่ยวข้องกับ ปัญหาความเข้ากันได้และความน่าเชื่อถือ ✅ VBS Enclaves เคยถูกโปรโมตว่าเป็นความก้าวหน้าด้านความปลอดภัย - เปิดตัวในปี 2024 และได้รับการยกย่องว่าเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับ Windows ✅ การพัฒนา Windows 11 ที่รวดเร็วอาจเป็นเหตุผลในการยุติฟีเจอร์นี้ - Windows 11 มีการอัปเดตใหญ่ทุกปีและอัปเดตรายเดือนที่อาจส่งผลกระทบต่อฟีเจอร์เก่า https://www.techspot.com/news/107609-microsoft-deprecating-revolutionary-virtualization-based-security-feature-older.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft is deprecating a 'revolutionary' virtualization-based security feature for older versions of Windows 11
    Microsoft has quietly added another entry to its ever-growing list of deprecated Windows features. The company is phasing out Virtualization-based Security (VBS) enclaves in Windows 11 23H2...
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • บทความนี้จาก CSO Online เตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก AI ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ (Autopoietic AI) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถ เขียนโปรแกรมตัวเองใหม่ และปรับเปลี่ยนการทำงานโดยไม่มีการควบคุมจากมนุษย์ โดยนักวิจัยระบุว่า องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะ อาจเผชิญความเสี่ยงสูง เนื่องจากขาดทรัพยากรในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI

    ✅ AI ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้สามารถสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - ระบบ AI อาจ ลดความเข้มงวดของการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    - ตัวอย่างเช่น ระบบกรองอีเมลอาจ ลดการบล็อกอีเมลฟิชชิง เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนจากผู้ใช้

    ✅ การเปลี่ยนแปลงของ AI อาจไม่สามารถตรวจสอบได้
    - AI อาจ ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความปลอดภัยโดยไม่มีการบันทึก ทำให้ยากต่อการวิเคราะห์
    - องค์กรอาจไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ความปลอดภัย

    ✅ องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะมีความเสี่ยงสูง
    - ขาดทรัพยากรในการ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI
    - ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจจับการฉ้อโกงอาจ ลดการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงัก

    ✅ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    - ใช้ ระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของ AI
    - พัฒนา AI ที่มีความโปร่งใส เพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจการตัดสินใจของระบบ

    https://www.csoonline.com/article/3852782/when-ai-moves-beyond-human-oversight-the-cybersecurity-risks-of-self-sustaining-systems.html
    บทความนี้จาก CSO Online เตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก AI ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ (Autopoietic AI) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถ เขียนโปรแกรมตัวเองใหม่ และปรับเปลี่ยนการทำงานโดยไม่มีการควบคุมจากมนุษย์ โดยนักวิจัยระบุว่า องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะ อาจเผชิญความเสี่ยงสูง เนื่องจากขาดทรัพยากรในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI ✅ AI ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้สามารถสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ระบบ AI อาจ ลดความเข้มงวดของการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน - ตัวอย่างเช่น ระบบกรองอีเมลอาจ ลดการบล็อกอีเมลฟิชชิง เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนจากผู้ใช้ ✅ การเปลี่ยนแปลงของ AI อาจไม่สามารถตรวจสอบได้ - AI อาจ ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความปลอดภัยโดยไม่มีการบันทึก ทำให้ยากต่อการวิเคราะห์ - องค์กรอาจไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ความปลอดภัย ✅ องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะมีความเสี่ยงสูง - ขาดทรัพยากรในการ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI - ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจจับการฉ้อโกงอาจ ลดการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงัก ✅ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มความปลอดภัย - ใช้ ระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของ AI - พัฒนา AI ที่มีความโปร่งใส เพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจการตัดสินใจของระบบ https://www.csoonline.com/article/3852782/when-ai-moves-beyond-human-oversight-the-cybersecurity-risks-of-self-sustaining-systems.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    When AI moves beyond human oversight: The cybersecurity risks of self-sustaining systems
    What happens when AI cybersecurity systems start to rewrite themselves as they adapt over time? Keeping an eye on what they’re doing will be mission-critical.
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ออก อัปเดตใหม่สำหรับ Edge เวอร์ชัน 135.0.3179.85 เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการตั้งค่าและความปลอดภัย โดยมีการแก้ไขข้อบกพร่องที่เกี่ยวข้องกับ หน้าแรกของการตั้งค่า (First-Run Experience - FRE) และ ไอคอน Copilot ที่หายไป รวมถึงการเพิ่ม แพตช์ความปลอดภัย เพื่อป้องกันการโจมตีผ่าน HTML ที่ถูกดัดแปลง

    ✅ แก้ไขปัญหาด้านการตั้งค่าและการแสดงผล
    - แก้ไขปัญหาที่ทำให้ หน้า FRE (edge://welcome-new-device) เปิดขึ้นพร้อมข้อความแสดงข้อผิดพลาด
    - แก้ไขปัญหาที่ทำให้ ไอคอน Copilot หายไป เมื่อเปิดใช้งานนโยบาย HubsSidebarEnabled

    ✅ เพิ่มแพตช์ความปลอดภัยเพื่อป้องกันการโจมตี
    - CVE-2025-3619: ป้องกันการโจมตีแบบ Heap Buffer Overflow ใน Codecs ของ Google Chrome
    - CVE-2025-3620: ป้องกันการโจมตีแบบ Use After Free ใน USB ของ Google Chrome

    ✅ Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Copilot Vision ใน Edge
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ Copilot สามารถ ดูเนื้อหาในแท็บและให้คำแนะนำเพิ่มเติม
    - Microsoft ยังประกาศ การเปลี่ยน PDF reader ใน Edge เป็น Adobe PDF reader

    ✅ วิธีการอัปเดต Microsoft Edge
    - ผู้ใช้สามารถอัปเดตได้โดยไปที่ edge://settings/help
    - เบราว์เซอร์จะแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับการอัปเดตที่รอดำเนินการ

    https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-gets-fixes-for-the-setup-experience-and-security-issues/
    Microsoft ได้ออก อัปเดตใหม่สำหรับ Edge เวอร์ชัน 135.0.3179.85 เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการตั้งค่าและความปลอดภัย โดยมีการแก้ไขข้อบกพร่องที่เกี่ยวข้องกับ หน้าแรกของการตั้งค่า (First-Run Experience - FRE) และ ไอคอน Copilot ที่หายไป รวมถึงการเพิ่ม แพตช์ความปลอดภัย เพื่อป้องกันการโจมตีผ่าน HTML ที่ถูกดัดแปลง ✅ แก้ไขปัญหาด้านการตั้งค่าและการแสดงผล - แก้ไขปัญหาที่ทำให้ หน้า FRE (edge://welcome-new-device) เปิดขึ้นพร้อมข้อความแสดงข้อผิดพลาด - แก้ไขปัญหาที่ทำให้ ไอคอน Copilot หายไป เมื่อเปิดใช้งานนโยบาย HubsSidebarEnabled ✅ เพิ่มแพตช์ความปลอดภัยเพื่อป้องกันการโจมตี - CVE-2025-3619: ป้องกันการโจมตีแบบ Heap Buffer Overflow ใน Codecs ของ Google Chrome - CVE-2025-3620: ป้องกันการโจมตีแบบ Use After Free ใน USB ของ Google Chrome ✅ Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Copilot Vision ใน Edge - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ Copilot สามารถ ดูเนื้อหาในแท็บและให้คำแนะนำเพิ่มเติม - Microsoft ยังประกาศ การเปลี่ยน PDF reader ใน Edge เป็น Adobe PDF reader ✅ วิธีการอัปเดต Microsoft Edge - ผู้ใช้สามารถอัปเดตได้โดยไปที่ edge://settings/help - เบราว์เซอร์จะแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับการอัปเดตที่รอดำเนินการ https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-gets-fixes-for-the-setup-experience-and-security-issues/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft Edge gets fixes for the setup experience and security issues
    Microsoft has released a small update for Edge 135 in the Stable Channel to address problems with the initial setup and security issues.
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews
  • งานวิจัยที่เผยแพร่ใน IEEE Access เตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของ เทคโนโลยีการจัดลำดับ DNA รุ่นใหม่ (Next-Generation Sequencing - NGS) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญใน การแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) และการวิจัยโรคมะเร็ง โดยนักวิจัยระบุว่า หากไม่มีการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัย เทคโนโลยีนี้อาจตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ นำไปสู่ การโจรกรรมข้อมูลและภัยคุกคามทางชีวภาพ

    ✅ NGS เป็นเครื่องมือสำคัญในหลายสาขา
    - ใช้ใน การพัฒนายา, วิทยาศาสตร์นิติวิทยา และการเกษตร
    - ช่วยให้การจัดลำดับ DNA และ RNA เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ

    ✅ กระบวนการจัดลำดับ DNA มีหลายขั้นตอนที่ซับซ้อน
    - รวมถึง การเตรียมตัวอย่าง, การจัดลำดับ และการวิเคราะห์ข้อมูล
    - แต่ละขั้นตอนพึ่งพา เครื่องมือซอฟต์แวร์และระบบที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตี NGS
    - การโจมตีแบบ Targeted Re-identification เพื่อระบุตัวบุคคลจากข้อมูลพันธุกรรม
    - การใช้ มัลแวร์ใน DNA สังเคราะห์ เพื่อโจมตีระบบ
    - การปรับเปลี่ยนข้อมูลพันธุกรรมด้วย AI ซึ่งอาจนำไปสู่ การวิจัยที่ผิดจรรยาบรรณ

    ✅ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    - ใช้ วิธีการจัดลำดับที่ปลอดภัยและการเข้ารหัสข้อมูล
    - พัฒนา AI เพื่อตรวจจับกิจกรรมที่ผิดปกติ
    - ส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง วิทยาการคอมพิวเตอร์, เทคโนโลยีชีวภาพ และความปลอดภัย

    https://www.neowin.net/news/research-warns-that-your-dna-data-can-be-hacked-and-used-against-you/
    งานวิจัยที่เผยแพร่ใน IEEE Access เตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของ เทคโนโลยีการจัดลำดับ DNA รุ่นใหม่ (Next-Generation Sequencing - NGS) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญใน การแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) และการวิจัยโรคมะเร็ง โดยนักวิจัยระบุว่า หากไม่มีการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัย เทคโนโลยีนี้อาจตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ นำไปสู่ การโจรกรรมข้อมูลและภัยคุกคามทางชีวภาพ ✅ NGS เป็นเครื่องมือสำคัญในหลายสาขา - ใช้ใน การพัฒนายา, วิทยาศาสตร์นิติวิทยา และการเกษตร - ช่วยให้การจัดลำดับ DNA และ RNA เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ ✅ กระบวนการจัดลำดับ DNA มีหลายขั้นตอนที่ซับซ้อน - รวมถึง การเตรียมตัวอย่าง, การจัดลำดับ และการวิเคราะห์ข้อมูล - แต่ละขั้นตอนพึ่งพา เครื่องมือซอฟต์แวร์และระบบที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตี NGS - การโจมตีแบบ Targeted Re-identification เพื่อระบุตัวบุคคลจากข้อมูลพันธุกรรม - การใช้ มัลแวร์ใน DNA สังเคราะห์ เพื่อโจมตีระบบ - การปรับเปลี่ยนข้อมูลพันธุกรรมด้วย AI ซึ่งอาจนำไปสู่ การวิจัยที่ผิดจรรยาบรรณ ✅ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มความปลอดภัย - ใช้ วิธีการจัดลำดับที่ปลอดภัยและการเข้ารหัสข้อมูล - พัฒนา AI เพื่อตรวจจับกิจกรรมที่ผิดปกติ - ส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง วิทยาการคอมพิวเตอร์, เทคโนโลยีชีวภาพ และความปลอดภัย https://www.neowin.net/news/research-warns-that-your-dna-data-can-be-hacked-and-used-against-you/
    WWW.NEOWIN.NET
    Research warns that your DNA data can be hacked and used against you
    Research has warned that your DNA data can be hacked into and used against you by exploiting certain vulnerabilities in modern techniques.
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • ยูเลีย สวีรีเดนโก (Yulia Svyrydenko) รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง และรมต.กระทรวงเศรษฐกิจและการค้ายูเครน ประกาศการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum) เกี่ยวกับข้อตกลงด้านแร่ธาตุกับสหรัฐแล้ว (บันทึกความเข้าใจยังไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย)

    สวีรีเดนโก กล่าวอีกว่า ทั้งสองประเทศจะเร่งสรุปกรอบของข้อตกลงด้านแร่ธาตุและลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการต่อไป


    ทางด้านเซเลนสกีได้ยืนยันถึงการลงนามตามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ (Memorandum) และยังกล่าวอีกว่า "นี่ยังไม่ใช่ข้อตกลงขั้นตอนสุดท้ายที่แท้จริง"

    ขณะเดียวกันทรัมป์ได้กล่าวในวันนี้ว่า ข้อตกลงขั้นสุดท้ายกับยูเครนในเรื่องทรัพยากรแร่ธาตุจะมีการ "ลงนามข้อตกลง" ในวันพฤหัสบดีหน้านี้


    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว The New York Times เปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯและยูเครน โดยระบุว่า:

    ยูเครนจะต้องคืนเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐส่งความช่วยเหลือทางการทหารตลอดระยะเวลา 3 ปีของการต่อสู้กับรัสเซียให้แก่สหรัฐฯ

    ยูเครนจะต้องแบ่งรายได้ครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดจากการทำธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เช่น ท่าเรือ ท่อส่งน้ำมันและก๊าซ เข้ากองทุนที่สหรัฐกำลังจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนต่อในด้านโครงการทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน แต่ยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าสหรัฐจะร่วมลงทุนในสัดส่วนเท่าไหร่

    ข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนกว่ายูเครนจะคืนเงินค่าใช้จ่ายความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ พร้อมดอกเบี้ย 4% ต่อปี

    นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงการรับประกันความปลอดภัยสำหรับยูเครน แม้ว่าฝ่ายยูเครนจะเคยยืนยันหนักแน่นว่าจะต้องรวมข้อกำหนดนี้ไว้ในข้อตกลงแร่ธาตุด้วยก็ตาม

    ยูเลีย สวีรีเดนโก (Yulia Svyrydenko) รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง และรมต.กระทรวงเศรษฐกิจและการค้ายูเครน ประกาศการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum) เกี่ยวกับข้อตกลงด้านแร่ธาตุกับสหรัฐแล้ว (บันทึกความเข้าใจยังไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย) สวีรีเดนโก กล่าวอีกว่า ทั้งสองประเทศจะเร่งสรุปกรอบของข้อตกลงด้านแร่ธาตุและลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการต่อไป ทางด้านเซเลนสกีได้ยืนยันถึงการลงนามตามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ (Memorandum) และยังกล่าวอีกว่า "นี่ยังไม่ใช่ข้อตกลงขั้นตอนสุดท้ายที่แท้จริง" ขณะเดียวกันทรัมป์ได้กล่าวในวันนี้ว่า ข้อตกลงขั้นสุดท้ายกับยูเครนในเรื่องทรัพยากรแร่ธาตุจะมีการ "ลงนามข้อตกลง" ในวันพฤหัสบดีหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว The New York Times เปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯและยูเครน โดยระบุว่า: ยูเครนจะต้องคืนเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐส่งความช่วยเหลือทางการทหารตลอดระยะเวลา 3 ปีของการต่อสู้กับรัสเซียให้แก่สหรัฐฯ ยูเครนจะต้องแบ่งรายได้ครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดจากการทำธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เช่น ท่าเรือ ท่อส่งน้ำมันและก๊าซ เข้ากองทุนที่สหรัฐกำลังจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนต่อในด้านโครงการทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน แต่ยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าสหรัฐจะร่วมลงทุนในสัดส่วนเท่าไหร่ ข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนกว่ายูเครนจะคืนเงินค่าใช้จ่ายความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ พร้อมดอกเบี้ย 4% ต่อปี นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงการรับประกันความปลอดภัยสำหรับยูเครน แม้ว่าฝ่ายยูเครนจะเคยยืนยันหนักแน่นว่าจะต้องรวมข้อกำหนดนี้ไว้ในข้อตกลงแร่ธาตุด้วยก็ตาม
    0 Comments 0 Shares 270 Views 0 Reviews
  • สนง.ปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวง อว. สร้างความปลอดภัยให้ประชาชน ด้วยระบบเฝ้าระวังภัยทางนิวเคลียร์ เชื่อมโยงเครือข่ายโลก
    https://www.thai-tai.tv/news/18214/
    สนง.ปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวง อว. สร้างความปลอดภัยให้ประชาชน ด้วยระบบเฝ้าระวังภัยทางนิวเคลียร์ เชื่อมโยงเครือข่ายโลก https://www.thai-tai.tv/news/18214/
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • แฮกเกอร์กำลังใช้โปรแกรม AI Gamma เพื่อสร้างหน้าเข้าสู่ระบบ Microsoft SharePoint ปลอม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญฟิชชิงที่มีความสมจริงสูง โดยเป้าหมายคือ ขโมยข้อมูลล็อกอินของผู้ใช้ ผ่านอีเมลที่ดูเหมือนถูกส่งจากองค์กรจริง

    ✅ แฮกเกอร์ใช้ Gamma AI เพื่อสร้างหน้าเข้าสู่ระบบปลอมของ Microsoft SharePoint
    - Gamma เป็น เครื่องมือสร้างงานนำเสนอออนไลน์ ที่ถูกนำมาใช้ในแคมเปญฟิชชิง
    - หน้าเข้าสู่ระบบปลอมมี โลโก้ขององค์กรจริงและข้อความเชิญชวนให้ตรวจสอบเอกสาร

    ✅ อีเมลฟิชชิงถูกส่งจากบัญชีที่ถูกแฮกเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    - ใช้บัญชีที่ถูกแฮกเพื่อ ข้ามการตรวจสอบ SPF, DKIM และ DMARC
    - อีเมลมี ไฟล์ PDF แนบมา ซึ่งเป็นลิงก์ไปยังงานนำเสนอที่สร้างบน Gamma

    ✅ แฮกเกอร์ใช้ Cloudflare Turnstile เพื่อให้แน่ใจว่ามีแต่คนจริงที่เข้าถึงหน้าเว็บ
    - ระบบนี้ช่วยให้ บอทและเครื่องมือรักษาความปลอดภัยไม่สามารถตรวจจับเว็บไซต์ปลอมได้
    - เมื่อเหยื่อคลิกที่ลิงก์ พวกเขาจะถูกนำไปยัง หน้าเข้าสู่ระบบ SharePoint ปลอม

    ✅ ระบบตรวจสอบข้อมูลล็อกอินแบบเรียลไทม์
    - หากเหยื่อพิมพ์รหัสผ่านผิด ระบบจะ แจ้งข้อผิดพลาดเพื่อให้พวกเขาลองใหม่
    - นักวิจัยเชื่อว่าแฮกเกอร์ใช้ Adversary-in-the-Middle (AiTM) เพื่อยืนยันข้อมูลล็อกอิน

    https://www.techradar.com/pro/security/popular-ai-program-spoofed-in-phishing-campaign-spawning-fake-microsoft-sharepoint-logins
    แฮกเกอร์กำลังใช้โปรแกรม AI Gamma เพื่อสร้างหน้าเข้าสู่ระบบ Microsoft SharePoint ปลอม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญฟิชชิงที่มีความสมจริงสูง โดยเป้าหมายคือ ขโมยข้อมูลล็อกอินของผู้ใช้ ผ่านอีเมลที่ดูเหมือนถูกส่งจากองค์กรจริง ✅ แฮกเกอร์ใช้ Gamma AI เพื่อสร้างหน้าเข้าสู่ระบบปลอมของ Microsoft SharePoint - Gamma เป็น เครื่องมือสร้างงานนำเสนอออนไลน์ ที่ถูกนำมาใช้ในแคมเปญฟิชชิง - หน้าเข้าสู่ระบบปลอมมี โลโก้ขององค์กรจริงและข้อความเชิญชวนให้ตรวจสอบเอกสาร ✅ อีเมลฟิชชิงถูกส่งจากบัญชีที่ถูกแฮกเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ - ใช้บัญชีที่ถูกแฮกเพื่อ ข้ามการตรวจสอบ SPF, DKIM และ DMARC - อีเมลมี ไฟล์ PDF แนบมา ซึ่งเป็นลิงก์ไปยังงานนำเสนอที่สร้างบน Gamma ✅ แฮกเกอร์ใช้ Cloudflare Turnstile เพื่อให้แน่ใจว่ามีแต่คนจริงที่เข้าถึงหน้าเว็บ - ระบบนี้ช่วยให้ บอทและเครื่องมือรักษาความปลอดภัยไม่สามารถตรวจจับเว็บไซต์ปลอมได้ - เมื่อเหยื่อคลิกที่ลิงก์ พวกเขาจะถูกนำไปยัง หน้าเข้าสู่ระบบ SharePoint ปลอม ✅ ระบบตรวจสอบข้อมูลล็อกอินแบบเรียลไทม์ - หากเหยื่อพิมพ์รหัสผ่านผิด ระบบจะ แจ้งข้อผิดพลาดเพื่อให้พวกเขาลองใหม่ - นักวิจัยเชื่อว่าแฮกเกอร์ใช้ Adversary-in-the-Middle (AiTM) เพื่อยืนยันข้อมูลล็อกอิน https://www.techradar.com/pro/security/popular-ai-program-spoofed-in-phishing-campaign-spawning-fake-microsoft-sharepoint-logins
    WWW.TECHRADAR.COM
    Popular AI program spoofed in phishing campaign spawning fake Microsoft Sharepoint logins
    Newly-discovered phishing campaign is hyper-realistic, researchers say
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า การเมืองกำลังส่งผลกระทบต่อกระบวนการอนุมัติใบรับรองความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือในระดับสากล

    ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเชื่อมโยงใบรับรองความปลอดภัยกับจุดยืนทางการเมือง
    - คำสั่งของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเซ็นเซอร์ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งปี 2020 และ COVID-19 จะถูกเพิกถอนใบรับรองความปลอดภัย
    - Chris Krebs อดีตหัวหน้า CISA ถูกเพิกถอนใบรับรอง และบริษัท SentinelOne ที่เขาเกี่ยวข้องก็ได้รับผลกระทบ

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกังวลว่าการเมืองจะทำให้ข้อมูลภัยคุกคามขาดความน่าเชื่อถือ
    - CISOs อาจต้องพิจารณาว่าข้อมูลจากบริษัทอเมริกัน ได้รับอิทธิพลจากรัฐบาลหรือไม่
    - มีความกังวลว่าบริษัทอาจถูกกดดันให้ ละเว้นข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากบางประเทศ

    ✅ บริษัทด้านความปลอดภัยจากประเทศอื่นอาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้
    - บริษัทจาก แคนาดา, ออสเตรเลีย, อิสราเอล, อินเดีย, เยอรมนี และญี่ปุ่น อาจได้รับความไว้วางใจมากขึ้น
    - CISOs อาจต้องพิจารณา เปลี่ยนไปใช้บริการจากบริษัทที่ไม่ได้รับอิทธิพลทางการเมือง

    ✅ การเพิกถอนใบรับรองของ SentinelOne อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
    - หากรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการนี้กับบริษัทอื่น อาจทำให้ อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือ

    https://www.csoonline.com/article/3965056/will-politicization-of-security-clearances-make-us-cybersecurity-firms-radioactive.html
    รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า การเมืองกำลังส่งผลกระทบต่อกระบวนการอนุมัติใบรับรองความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือในระดับสากล ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเชื่อมโยงใบรับรองความปลอดภัยกับจุดยืนทางการเมือง - คำสั่งของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเซ็นเซอร์ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งปี 2020 และ COVID-19 จะถูกเพิกถอนใบรับรองความปลอดภัย - Chris Krebs อดีตหัวหน้า CISA ถูกเพิกถอนใบรับรอง และบริษัท SentinelOne ที่เขาเกี่ยวข้องก็ได้รับผลกระทบ ✅ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกังวลว่าการเมืองจะทำให้ข้อมูลภัยคุกคามขาดความน่าเชื่อถือ - CISOs อาจต้องพิจารณาว่าข้อมูลจากบริษัทอเมริกัน ได้รับอิทธิพลจากรัฐบาลหรือไม่ - มีความกังวลว่าบริษัทอาจถูกกดดันให้ ละเว้นข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากบางประเทศ ✅ บริษัทด้านความปลอดภัยจากประเทศอื่นอาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้ - บริษัทจาก แคนาดา, ออสเตรเลีย, อิสราเอล, อินเดีย, เยอรมนี และญี่ปุ่น อาจได้รับความไว้วางใจมากขึ้น - CISOs อาจต้องพิจารณา เปลี่ยนไปใช้บริการจากบริษัทที่ไม่ได้รับอิทธิพลทางการเมือง ✅ การเพิกถอนใบรับรองของ SentinelOne อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น - หากรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการนี้กับบริษัทอื่น อาจทำให้ อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือ https://www.csoonline.com/article/3965056/will-politicization-of-security-clearances-make-us-cybersecurity-firms-radioactive.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Will politicization of security clearances make US cybersecurity firms radioactive?
    Following Trump's executive order to strip SentinelOne of its security clearances, many wonder if CISOs will soon put American security firms in the same bad light as Russia’s Kaspersky and China’s Nuctech.
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 Reviews
  • รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า Shadow AI หรือการใช้ AI โดยไม่ได้รับอนุญาตในองค์กร กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลอย่างมาก โดยมีการเปิดเผยว่า ปริมาณข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอปพลิเคชัน AI เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลที่สำคัญ เช่น ซอร์สโค้ด, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลลูกค้า

    ✅ Shadow AI กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลในองค์กร
    - พนักงานใช้ บัญชี AI ส่วนตัว เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
    - ข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอป AI เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude เพิ่มขึ้นจาก 250MB เป็น 7.7GB ต่อเดือน

    ✅ 8.5% ของคำสั่งที่ส่งไปยัง AI มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
    - ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึง ข้อมูลลูกค้า, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลด้านความปลอดภัย
    - ข้อมูลลูกค้าคิดเป็น เกือบครึ่งหนึ่งของข้อมูลที่รั่วไหล

    ✅ องค์กรส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายควบคุมการใช้ AI อย่างชัดเจน
    - 90% ขององค์กรมี แอปพลิเคชัน AI ที่ได้รับอนุญาต แต่ยังคงมีการใช้ AI ที่ไม่ได้รับการควบคุม
    - 72% ของการใช้ AI ในองค์กรเป็น Shadow IT ซึ่งไม่ได้รับการตรวจสอบจากฝ่ายความปลอดภัย

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้ AI โดยไม่มีการควบคุมอาจนำไปสู่การละเมิดกฎระเบียบ
    - ข้อมูลที่รั่วไหลอาจถูกนำไปใช้ในการฝึกโมเดล AI หรือถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์
    - การใช้ AI โดยไม่มีการตรวจสอบอาจทำให้เกิด ข้อผิดพลาดด้านข้อมูลและลดความน่าเชื่อถือขององค์กร

    https://www.csoonline.com/article/3964282/cisos-no-closer-to-containing-shadow-ais-skyrocketing-data-risks.html
    รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า Shadow AI หรือการใช้ AI โดยไม่ได้รับอนุญาตในองค์กร กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลอย่างมาก โดยมีการเปิดเผยว่า ปริมาณข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอปพลิเคชัน AI เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลที่สำคัญ เช่น ซอร์สโค้ด, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลลูกค้า ✅ Shadow AI กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลในองค์กร - พนักงานใช้ บัญชี AI ส่วนตัว เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ละเอียดอ่อน - ข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอป AI เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude เพิ่มขึ้นจาก 250MB เป็น 7.7GB ต่อเดือน ✅ 8.5% ของคำสั่งที่ส่งไปยัง AI มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน - ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึง ข้อมูลลูกค้า, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลด้านความปลอดภัย - ข้อมูลลูกค้าคิดเป็น เกือบครึ่งหนึ่งของข้อมูลที่รั่วไหล ✅ องค์กรส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายควบคุมการใช้ AI อย่างชัดเจน - 90% ขององค์กรมี แอปพลิเคชัน AI ที่ได้รับอนุญาต แต่ยังคงมีการใช้ AI ที่ไม่ได้รับการควบคุม - 72% ของการใช้ AI ในองค์กรเป็น Shadow IT ซึ่งไม่ได้รับการตรวจสอบจากฝ่ายความปลอดภัย ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้ AI โดยไม่มีการควบคุมอาจนำไปสู่การละเมิดกฎระเบียบ - ข้อมูลที่รั่วไหลอาจถูกนำไปใช้ในการฝึกโมเดล AI หรือถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ - การใช้ AI โดยไม่มีการตรวจสอบอาจทำให้เกิด ข้อผิดพลาดด้านข้อมูลและลดความน่าเชื่อถือขององค์กร https://www.csoonline.com/article/3964282/cisos-no-closer-to-containing-shadow-ais-skyrocketing-data-risks.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CISOs no closer to containing shadow AI’s skyrocketing data risks
    A 30-fold increase in company data being exposed to shadow AI shows that offering users official AI tools doesn’t reduce the data leak and compliance risks of unsanctioned AI use.
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยบราวน์ (Brown University) ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่ใช้ อนุภาคทองคำระดับนาโน (plasmonic gold nanorods - AuNRs) เพื่อช่วยฟื้นฟูการมองเห็นสำหรับผู้ที่มีภาวะจอประสาทตาเสื่อม (macular degeneration) และโรคเรตินิติส พิกเมนโตซา (retinitis pigmentosa)

    ✅ นักวิทยาศาสตร์ใช้อนุภาคทองคำระดับนาโนเพื่อช่วยฟื้นฟูการมองเห็น
    - อนุภาคทองคำเหล่านี้มีขนาดเล็กมาก บางกว่าผมมนุษย์หลายพันเท่า
    - สามารถกระตุ้นเซลล์ประสาทตา โดยใช้แสงเลเซอร์อินฟราเรด

    ✅ เทคนิคนี้ช่วยให้เซลล์ประสาทตาทำงานแทนเซลล์รับแสงที่เสียหาย
    - เซลล์ที่ถูกกระตุ้น ได้แก่ เซลล์ไบโพลาร์และเซลล์แกงเกลียน ซึ่งส่งสัญญาณไปยังสมอง
    - ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรับรู้ภาพได้ แม้เซลล์รับแสงจะถูกทำลาย

    ✅ ข้อดีของเทคนิคนี้เมื่อเทียบกับการรักษาแบบเดิม
    - ไม่ต้องผ่าตัดซับซ้อน เหมือนการฝังอิเล็กโทรดในจอประสาทตา
    - ไม่ต้องใช้การดัดแปลงพันธุกรรม เพื่อให้เซลล์ตอบสนองต่อแสง

    ✅ การทดลองในหนูแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี
    - หนูที่ได้รับการรักษามี กิจกรรมของสมองเพิ่มขึ้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น
    - ไม่มีผลข้างเคียงหรือความเป็นพิษ แม้จะผ่านไปหลายเดือนหลังการฉีด

    ✅ นักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับมนุษย์ในอนาคต
    - อาจมีการพัฒนา อุปกรณ์สวมใส่ เช่น แว่นตาหรือแว่นตา VR ที่มีเลเซอร์ในตัว
    - ต้องมีการศึกษาต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่า เทคนิคนี้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในมนุษย์

    ℹ️ ผลกระทบต่อการรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อม
    - หากเทคนิคนี้ได้รับการพัฒนา อาจช่วยให้ ผู้ป่วยสามารถมองเห็นได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

    ℹ️ ความท้าทายในการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับมนุษย์
    - ต้องมีการทดลองทางคลินิกเพื่อ ตรวจสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพในระยะยาว

    ℹ️ แนวโน้มของการใช้อนุภาคนาโนในการรักษาโรคตา
    - หากเทคโนโลยีนี้ประสบความสำเร็จ อาจมีการนำไปใช้กับ โรคตาอื่นๆ เช่น เบาหวานขึ้นตา

    https://www.neowin.net/news/study-finds-gold-can-hold-the-key-to-let-people-see-way-better/
    นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยบราวน์ (Brown University) ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่ใช้ อนุภาคทองคำระดับนาโน (plasmonic gold nanorods - AuNRs) เพื่อช่วยฟื้นฟูการมองเห็นสำหรับผู้ที่มีภาวะจอประสาทตาเสื่อม (macular degeneration) และโรคเรตินิติส พิกเมนโตซา (retinitis pigmentosa) ✅ นักวิทยาศาสตร์ใช้อนุภาคทองคำระดับนาโนเพื่อช่วยฟื้นฟูการมองเห็น - อนุภาคทองคำเหล่านี้มีขนาดเล็กมาก บางกว่าผมมนุษย์หลายพันเท่า - สามารถกระตุ้นเซลล์ประสาทตา โดยใช้แสงเลเซอร์อินฟราเรด ✅ เทคนิคนี้ช่วยให้เซลล์ประสาทตาทำงานแทนเซลล์รับแสงที่เสียหาย - เซลล์ที่ถูกกระตุ้น ได้แก่ เซลล์ไบโพลาร์และเซลล์แกงเกลียน ซึ่งส่งสัญญาณไปยังสมอง - ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรับรู้ภาพได้ แม้เซลล์รับแสงจะถูกทำลาย ✅ ข้อดีของเทคนิคนี้เมื่อเทียบกับการรักษาแบบเดิม - ไม่ต้องผ่าตัดซับซ้อน เหมือนการฝังอิเล็กโทรดในจอประสาทตา - ไม่ต้องใช้การดัดแปลงพันธุกรรม เพื่อให้เซลล์ตอบสนองต่อแสง ✅ การทดลองในหนูแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี - หนูที่ได้รับการรักษามี กิจกรรมของสมองเพิ่มขึ้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น - ไม่มีผลข้างเคียงหรือความเป็นพิษ แม้จะผ่านไปหลายเดือนหลังการฉีด ✅ นักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับมนุษย์ในอนาคต - อาจมีการพัฒนา อุปกรณ์สวมใส่ เช่น แว่นตาหรือแว่นตา VR ที่มีเลเซอร์ในตัว - ต้องมีการศึกษาต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่า เทคนิคนี้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในมนุษย์ ℹ️ ผลกระทบต่อการรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อม - หากเทคนิคนี้ได้รับการพัฒนา อาจช่วยให้ ผู้ป่วยสามารถมองเห็นได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ℹ️ ความท้าทายในการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับมนุษย์ - ต้องมีการทดลองทางคลินิกเพื่อ ตรวจสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพในระยะยาว ℹ️ แนวโน้มของการใช้อนุภาคนาโนในการรักษาโรคตา - หากเทคโนโลยีนี้ประสบความสำเร็จ อาจมีการนำไปใช้กับ โรคตาอื่นๆ เช่น เบาหวานขึ้นตา https://www.neowin.net/news/study-finds-gold-can-hold-the-key-to-let-people-see-way-better/
    WWW.NEOWIN.NET
    Study finds gold can hold the key to let people see way better
    Researchers have discovered that a particular form of gold can actually help people see way better by improving the eye's vision.
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • คณะผู้แทนระดับสูงของยูเครนเดินทางถึงปารีสเพื่อพบกับตัวแทนของสหรัฐฯ

    ฝ่ายยูเครนประกอบด้วย:
    เยอร์มัค (คนนั่งกลาง) หัวหน้าสำนักงานเซเลนสกี
    ซิบิกา (คนซ้ายมือสุดของภาพ) รัฐมนตรีต่างประเทศ
    อูเมรอฟ (คนขวามือของภาพ) รัฐมนตรีกลาโหม

    โดยจะมีการหารือกับมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ และสตีฟ วิตคอฟ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    นอกจากนี้ เยอร์มัค ยังโพสต์ข้อความว่า จะมีการจัดการประชุมกับตัวแทนของ "กลุ่มพันธมิตรผู้เต็มใจ" ซึ่งเป็นประเทศที่พร้อมให้การรับประกันความปลอดภัยแก่ยูเครน ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ อีกด้วย
    คณะผู้แทนระดับสูงของยูเครนเดินทางถึงปารีสเพื่อพบกับตัวแทนของสหรัฐฯ ฝ่ายยูเครนประกอบด้วย: เยอร์มัค (คนนั่งกลาง) หัวหน้าสำนักงานเซเลนสกี ซิบิกา (คนซ้ายมือสุดของภาพ) รัฐมนตรีต่างประเทศ อูเมรอฟ (คนขวามือของภาพ) รัฐมนตรีกลาโหม โดยจะมีการหารือกับมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ และสตีฟ วิตคอฟ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ เยอร์มัค ยังโพสต์ข้อความว่า จะมีการจัดการประชุมกับตัวแทนของ "กลุ่มพันธมิตรผู้เต็มใจ" ซึ่งเป็นประเทศที่พร้อมให้การรับประกันความปลอดภัยแก่ยูเครน ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ อีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • ทีมเทคโนโลยีป้องกันประเทศของ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (Pentagon) กำลังลาออกทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยมีรายงานว่าการลาออกนี้เกิดจากแรงกดดันจาก Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเป็นโครงการที่นำโดย Elon Musk

    ✅ ทีม Defense Digital Service (DSS) กำลังลาออกทั้งหมด
    - DSS เป็นหน่วยงานที่ช่วยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในกระทรวงกลาโหม
    - มีบทบาทสำคัญในการ พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการถอนกำลังจากอัฟกานิสถานและการช่วยเหลือยูเครน

    ✅ DOGE เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทีม DSS ลาออก
    - DOGE เป็นโครงการที่มุ่งเน้น การปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ
    - เจ้าหน้าที่ DSS ระบุว่า พวกเขาถูกกดดันจนต้องลาออก

    ✅ DSS จะหยุดดำเนินงานภายในเดือนพฤษภาคม 2025
    - หน่วยงานนี้มีพนักงาน 14 คน โดย 11 คนจะลาออกภายในเดือนเมษายน
    - ผู้อำนวยการ DSS Jennifer Hay จะลาออกภายในวันที่ 1 พฤษภาคม

    ✅ หน้าที่ของ DSS จะถูกโอนไปยัง Chief Digital and Artificial Intelligence Office
    - ยังไม่มีความชัดเจนว่า การเปลี่ยนผ่านจะใช้เวลานานแค่ไหน
    - อาจทำให้ Pentagon มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

    ✅ DOGE เคยปิดโครงการด้านเทคโนโลยีอื่นๆ มาก่อน
    - โครงการ US Digital Service และ 18F ก็ถูกยกเลิกภายใต้ DOGE เช่นกัน

    https://www.techradar.com/pro/security/the-entire-pentagon-defense-technology-is-resigning-putting-us-at-huge-risk-of-cyberattacks
    ทีมเทคโนโลยีป้องกันประเทศของ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (Pentagon) กำลังลาออกทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยมีรายงานว่าการลาออกนี้เกิดจากแรงกดดันจาก Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเป็นโครงการที่นำโดย Elon Musk ✅ ทีม Defense Digital Service (DSS) กำลังลาออกทั้งหมด - DSS เป็นหน่วยงานที่ช่วยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในกระทรวงกลาโหม - มีบทบาทสำคัญในการ พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการถอนกำลังจากอัฟกานิสถานและการช่วยเหลือยูเครน ✅ DOGE เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทีม DSS ลาออก - DOGE เป็นโครงการที่มุ่งเน้น การปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ - เจ้าหน้าที่ DSS ระบุว่า พวกเขาถูกกดดันจนต้องลาออก ✅ DSS จะหยุดดำเนินงานภายในเดือนพฤษภาคม 2025 - หน่วยงานนี้มีพนักงาน 14 คน โดย 11 คนจะลาออกภายในเดือนเมษายน - ผู้อำนวยการ DSS Jennifer Hay จะลาออกภายในวันที่ 1 พฤษภาคม ✅ หน้าที่ของ DSS จะถูกโอนไปยัง Chief Digital and Artificial Intelligence Office - ยังไม่มีความชัดเจนว่า การเปลี่ยนผ่านจะใช้เวลานานแค่ไหน - อาจทำให้ Pentagon มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ✅ DOGE เคยปิดโครงการด้านเทคโนโลยีอื่นๆ มาก่อน - โครงการ US Digital Service และ 18F ก็ถูกยกเลิกภายใต้ DOGE เช่นกัน https://www.techradar.com/pro/security/the-entire-pentagon-defense-technology-is-resigning-putting-us-at-huge-risk-of-cyberattacks
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • Google DeepMind ได้พัฒนา CaMeL (Capabilities for Machine Learning) ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการป้องกัน Prompt Injection โดยใช้หลักการแบ่งแยกโมเดล AI ออกเป็นส่วนต่างๆ เพื่อจำกัดความสามารถในการดำเนินการที่ไม่ปลอดภัย

    ✅ CaMeL ใช้หลักการแบ่งแยกโมเดล AI เพื่อป้องกัน Prompt Injection
    - แทนที่จะให้ AI ตรวจสอบตัวเอง CaMeL จำกัดความสามารถของโมเดล โดยใช้หลักการด้านความปลอดภัยของซอฟต์แวร์
    - แบ่งโมเดลออกเป็น P-LLM (Privileged LLM) สำหรับการดำเนินการ และ Q-LLM (Quarantined LLM) สำหรับการอ่านข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ

    ✅ P-LLM และ Q-LLM ทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันการโจมตี
    - P-LLM สามารถวางแผนการดำเนินการ เช่น การส่งอีเมล แต่ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลดิบ
    - Q-LLM สามารถอ่านข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือหรือหน่วยความจำ

    ✅ CaMeL ใช้ Secure Interpreter เพื่อติดตามแหล่งที่มาของข้อมูล
    - ใช้ Python เวอร์ชันพิเศษ ที่สามารถติดตามว่าข้อมูลมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่
    - หากพบว่าการดำเนินการเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่อาจเป็นอันตราย ระบบสามารถ บล็อกหรือขอให้ผู้ใช้ยืนยันก่อนดำเนินการ

    ✅ นักวิจัยด้านความปลอดภัยยกย่อง CaMeL ว่าเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพ
    - Simon Willison ผู้ตั้งชื่อ Prompt Injection ในปี 2022 ระบุว่า CaMeL เป็น "แนวทางแรกที่น่าเชื่อถือ"
    - แนวทางนี้ช่วยแก้ปัญหาที่โมเดล AI มัก รวมคำสั่งของผู้ใช้และข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือไว้ในหน่วยความจำเดียวกัน

    https://www.techspot.com/news/107575-new-approach-deepmind-partitions-llms-mitigate-prompt-injection.html
    Google DeepMind ได้พัฒนา CaMeL (Capabilities for Machine Learning) ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการป้องกัน Prompt Injection โดยใช้หลักการแบ่งแยกโมเดล AI ออกเป็นส่วนต่างๆ เพื่อจำกัดความสามารถในการดำเนินการที่ไม่ปลอดภัย ✅ CaMeL ใช้หลักการแบ่งแยกโมเดล AI เพื่อป้องกัน Prompt Injection - แทนที่จะให้ AI ตรวจสอบตัวเอง CaMeL จำกัดความสามารถของโมเดล โดยใช้หลักการด้านความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ - แบ่งโมเดลออกเป็น P-LLM (Privileged LLM) สำหรับการดำเนินการ และ Q-LLM (Quarantined LLM) สำหรับการอ่านข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ ✅ P-LLM และ Q-LLM ทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันการโจมตี - P-LLM สามารถวางแผนการดำเนินการ เช่น การส่งอีเมล แต่ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลดิบ - Q-LLM สามารถอ่านข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือหรือหน่วยความจำ ✅ CaMeL ใช้ Secure Interpreter เพื่อติดตามแหล่งที่มาของข้อมูล - ใช้ Python เวอร์ชันพิเศษ ที่สามารถติดตามว่าข้อมูลมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่ - หากพบว่าการดำเนินการเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่อาจเป็นอันตราย ระบบสามารถ บล็อกหรือขอให้ผู้ใช้ยืนยันก่อนดำเนินการ ✅ นักวิจัยด้านความปลอดภัยยกย่อง CaMeL ว่าเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพ - Simon Willison ผู้ตั้งชื่อ Prompt Injection ในปี 2022 ระบุว่า CaMeL เป็น "แนวทางแรกที่น่าเชื่อถือ" - แนวทางนี้ช่วยแก้ปัญหาที่โมเดล AI มัก รวมคำสั่งของผู้ใช้และข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือไว้ในหน่วยความจำเดียวกัน https://www.techspot.com/news/107575-new-approach-deepmind-partitions-llms-mitigate-prompt-injection.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New approach from DeepMind partitions LLMs to mitigate prompt injection
    Since chatbots went mainstream in 2022, a security flaw known as prompt injection has plagued artificial intelligence developers. The problem is simple: language models like ChatGPT can't...
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • สหภาพยุโรป (EU) ได้เริ่มใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปสหรัฐฯ ใช้ โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้ง (burner phones) และแล็ปท็อปพื้นฐาน เพื่อป้องกันการสอดแนมทางอิเล็กทรอนิกส์

    ✅ EU ให้เจ้าหน้าที่ใช้โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้งและแล็ปท็อปพื้นฐานเมื่อเดินทางไปสหรัฐฯ
    - มาตรการนี้เคยใช้กับ การเดินทางไปยังรัสเซียและจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสอดแนม
    - เจ้าหน้าที่ได้รับคำแนะนำให้ ปิดโทรศัพท์ที่ชายแดนและเก็บไว้ในปลอกป้องกันการสอดแนม

    ✅ มาตรการนี้มีผลกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุม IMF และ World Bank Group
    - เจ้าหน้าที่ EU ที่เดินทางไปวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์หน้า จะเป็นกลุ่มแรกที่ใช้มาตรการใหม่นี้
    - คำแนะนำด้านความปลอดภัยของ EU ได้รับการอัปเดต แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด

    ✅ ความสัมพันธ์ระหว่าง EU และสหรัฐฯ ตึงเครียดมากขึ้น
    - Luuk van Middelaar จาก Brussels Institute for Geopolitics ระบุว่า "วอชิงตันไม่ใช่ปักกิ่งหรือมอสโก แต่ก็เป็นคู่แข่งที่ใช้วิธีการนอกกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง"
    - มีรายงานว่า สหรัฐฯ เคยสอดแนมโทรศัพท์ของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี Angela Merkel ในปี 2013

    ✅ สิทธิ์ของเจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ ในการตรวจสอบอุปกรณ์ของผู้เดินทาง
    - ตามรายงานของ India Today เจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ มีสิทธิ์ตรวจสอบและยึดอุปกรณ์มือถือของผู้เดินทาง
    - มีกรณีที่ผู้เดินทางถูกปฏิเสธการเข้าประเทศหลังจากเจ้าหน้าที่พบโพสต์วิจารณ์รัฐบาลทรัมป์บนโซเชียลมีเดีย

    https://www.techspot.com/news/107576-eu-provides-burner-phones-us-bound-staff-amid.html
    สหภาพยุโรป (EU) ได้เริ่มใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปสหรัฐฯ ใช้ โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้ง (burner phones) และแล็ปท็อปพื้นฐาน เพื่อป้องกันการสอดแนมทางอิเล็กทรอนิกส์ ✅ EU ให้เจ้าหน้าที่ใช้โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้งและแล็ปท็อปพื้นฐานเมื่อเดินทางไปสหรัฐฯ - มาตรการนี้เคยใช้กับ การเดินทางไปยังรัสเซียและจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสอดแนม - เจ้าหน้าที่ได้รับคำแนะนำให้ ปิดโทรศัพท์ที่ชายแดนและเก็บไว้ในปลอกป้องกันการสอดแนม ✅ มาตรการนี้มีผลกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุม IMF และ World Bank Group - เจ้าหน้าที่ EU ที่เดินทางไปวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์หน้า จะเป็นกลุ่มแรกที่ใช้มาตรการใหม่นี้ - คำแนะนำด้านความปลอดภัยของ EU ได้รับการอัปเดต แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด ✅ ความสัมพันธ์ระหว่าง EU และสหรัฐฯ ตึงเครียดมากขึ้น - Luuk van Middelaar จาก Brussels Institute for Geopolitics ระบุว่า "วอชิงตันไม่ใช่ปักกิ่งหรือมอสโก แต่ก็เป็นคู่แข่งที่ใช้วิธีการนอกกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง" - มีรายงานว่า สหรัฐฯ เคยสอดแนมโทรศัพท์ของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี Angela Merkel ในปี 2013 ✅ สิทธิ์ของเจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ ในการตรวจสอบอุปกรณ์ของผู้เดินทาง - ตามรายงานของ India Today เจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ มีสิทธิ์ตรวจสอบและยึดอุปกรณ์มือถือของผู้เดินทาง - มีกรณีที่ผู้เดินทางถูกปฏิเสธการเข้าประเทศหลังจากเจ้าหน้าที่พบโพสต์วิจารณ์รัฐบาลทรัมป์บนโซเชียลมีเดีย https://www.techspot.com/news/107576-eu-provides-burner-phones-us-bound-staff-amid.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    EU provides burner phones to officials traveling to US amid espionage concerns
    An EU official told the Financial Times, The transatlantic alliance is over.
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • MITRE ได้รับการขยายสัญญาจาก CISA เพื่อดำเนินโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) ต่อไปอีก 11 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าโครงการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากการตัดงบประมาณ

    ✅ CISA ขยายสัญญา MITRE เพื่อดำเนินโครงการ CVE ต่อไปอีก 11 เดือน
    - โครงการ CVE เป็นมาตรฐานสำคัญในการ ระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    - การขยายสัญญาช่วยให้มี การเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบ และลดผลกระทบต่อชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ CVE
    - นักวิชาการด้านความปลอดภัยบางคนกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ใช่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการสนับสนุนโครงการนี้
    - มีการเสนอให้ตั้ง CVE Foundation เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายจากผู้สนับสนุนทั่วโลก

    ✅ MITRE อาจต้องหาทางออกอื่นหากไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม
    - มีการตั้งคำถามว่า MITRE จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ด้วยเงินทุนของตัวเองหรือไม่
    - อาจมีความเป็นไปได้ที่ สหภาพยุโรปจะเข้ามาสนับสนุนโครงการแทน

    ✅ ความสำคัญของโครงการ CVE ต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์
    - CVE เป็น ฐานข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการช่องโหว่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย เช่น Cyber Threat Intelligence และ Endpoint Detection

    https://www.zdnet.com/article/why-the-cve-database-for-tracking-security-flaws-nearly-went-dark-and-what-happens-next/
    MITRE ได้รับการขยายสัญญาจาก CISA เพื่อดำเนินโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) ต่อไปอีก 11 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าโครงการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากการตัดงบประมาณ ✅ CISA ขยายสัญญา MITRE เพื่อดำเนินโครงการ CVE ต่อไปอีก 11 เดือน - โครงการ CVE เป็นมาตรฐานสำคัญในการ ระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัย - การขยายสัญญาช่วยให้มี การเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบ และลดผลกระทบต่อชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ CVE - นักวิชาการด้านความปลอดภัยบางคนกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ใช่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการสนับสนุนโครงการนี้ - มีการเสนอให้ตั้ง CVE Foundation เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายจากผู้สนับสนุนทั่วโลก ✅ MITRE อาจต้องหาทางออกอื่นหากไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม - มีการตั้งคำถามว่า MITRE จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ด้วยเงินทุนของตัวเองหรือไม่ - อาจมีความเป็นไปได้ที่ สหภาพยุโรปจะเข้ามาสนับสนุนโครงการแทน ✅ ความสำคัญของโครงการ CVE ต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ - CVE เป็น ฐานข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการช่องโหว่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย เช่น Cyber Threat Intelligence และ Endpoint Detection https://www.zdnet.com/article/why-the-cve-database-for-tracking-security-flaws-nearly-went-dark-and-what-happens-next/
    WWW.ZDNET.COM
    Why the CVE database for tracking security flaws nearly went dark - and what happens next
    Expired US government funding nearly disrupted this global security system. How can we prevent this from happening again in 11 months?
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • MITRE ได้รับการขยายสัญญาจาก CISA เพื่อดำเนินโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) ต่อไปอีก 11 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าโครงการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากการตัดงบประมาณ

    ✅ CISA ขยายสัญญา MITRE เพื่อดำเนินโครงการ CVE ต่อไปอีก 11 เดือน
    - โครงการ CVE เป็นมาตรฐานสำคัญในการ ระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    - การขยายสัญญาช่วยให้มี การเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบ และลดผลกระทบต่อชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ CVE
    - นักวิชาการด้านความปลอดภัยบางคนกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ใช่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการสนับสนุนโครงการนี้
    - มีการเสนอให้ตั้ง CVE Foundation เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายจากผู้สนับสนุนทั่วโลก

    ✅ MITRE อาจต้องหาทางออกอื่นหากไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม
    - มีการตั้งคำถามว่า MITRE จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ด้วยเงินทุนของตัวเองหรือไม่
    - อาจมีความเป็นไปได้ที่ สหภาพยุโรปจะเข้ามาสนับสนุนโครงการแทน

    ✅ ความสำคัญของโครงการ CVE ต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์
    - CVE เป็น ฐานข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการช่องโหว่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย เช่น Cyber Threat Intelligence และ Endpoint Detection

    https://www.csoonline.com/article/3964168/mitre-funding-still-in-up-in-the-air-say-experts.html
    MITRE ได้รับการขยายสัญญาจาก CISA เพื่อดำเนินโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) ต่อไปอีก 11 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าโครงการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากการตัดงบประมาณ ✅ CISA ขยายสัญญา MITRE เพื่อดำเนินโครงการ CVE ต่อไปอีก 11 เดือน - โครงการ CVE เป็นมาตรฐานสำคัญในการ ระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัย - การขยายสัญญาช่วยให้มี การเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบ และลดผลกระทบต่อชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ CVE - นักวิชาการด้านความปลอดภัยบางคนกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ใช่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการสนับสนุนโครงการนี้ - มีการเสนอให้ตั้ง CVE Foundation เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายจากผู้สนับสนุนทั่วโลก ✅ MITRE อาจต้องหาทางออกอื่นหากไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม - มีการตั้งคำถามว่า MITRE จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ด้วยเงินทุนของตัวเองหรือไม่ - อาจมีความเป็นไปได้ที่ สหภาพยุโรปจะเข้ามาสนับสนุนโครงการแทน ✅ ความสำคัญของโครงการ CVE ต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ - CVE เป็น ฐานข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการช่องโหว่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย เช่น Cyber Threat Intelligence และ Endpoint Detection https://www.csoonline.com/article/3964168/mitre-funding-still-in-up-in-the-air-say-experts.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    MITRE funding still in up in the air, say experts
    The US is “not a reliable partner” in supporting the CVE database, says one analyst; CVE board members establish the CVE Foundation in response.
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
  • Microsoft พบ ข้อผิดพลาดเพิ่มเติมในอัปเดตล่าสุดของ Windows 11 โดยมีรายงานว่า Windows Hello และ PIN อาจใช้งานไม่ได้ และล่าสุดมีการยืนยันว่า เกิด Blue Screen of Death (BSOD) หลังจากรีสตาร์ทเครื่อง

    ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 มีปัญหาหลังติดตั้งอัปเดตเดือนเมษายน 2025
    - ผู้ใช้บางรายพบว่า Windows Hello biometric authentication และ PIN ไม่สามารถใช้งานได้
    - Microsoft ยืนยันว่าปัญหานี้เกิดขึ้นในบางสถานการณ์

    ✅ เกิด Blue Screen of Death (BSOD) หลังจากรีสตาร์ทเครื่อง
    - Windows 11 แสดง error code 0x18B "SECURE_KERNEL_ERROR" หลังจากติดตั้งอัปเดต
    - Microsoft ได้ใช้ Known Issue Rollback (KIR) เพื่อแก้ไขปัญหาชั่วคราว

    ✅ แนวทางแก้ไขสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร
    - ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ รีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้แพตช์แก้ไขทำงานเร็วขึ้น
    - สำหรับองค์กร IT Admins ต้องติดตั้ง Known Issue Rollback patches ด้วยนโยบายเฉพาะ

    ✅ ปัญหาอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
    - Roblox ไม่สามารถเปิดบนอุปกรณ์ ARM เมื่อดาวน์โหลดจาก Microsoft Store
    - การติดตั้งอัปเดตด้านความปลอดภัยมีปัญหา เมื่อใช้ร่วมกับบางเวอร์ชันของ Citrix software

    https://www.neowin.net/news/more-issues-in-recent-windows-11-updates-found-bsods-now-confirmed/
    Microsoft พบ ข้อผิดพลาดเพิ่มเติมในอัปเดตล่าสุดของ Windows 11 โดยมีรายงานว่า Windows Hello และ PIN อาจใช้งานไม่ได้ และล่าสุดมีการยืนยันว่า เกิด Blue Screen of Death (BSOD) หลังจากรีสตาร์ทเครื่อง ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 มีปัญหาหลังติดตั้งอัปเดตเดือนเมษายน 2025 - ผู้ใช้บางรายพบว่า Windows Hello biometric authentication และ PIN ไม่สามารถใช้งานได้ - Microsoft ยืนยันว่าปัญหานี้เกิดขึ้นในบางสถานการณ์ ✅ เกิด Blue Screen of Death (BSOD) หลังจากรีสตาร์ทเครื่อง - Windows 11 แสดง error code 0x18B "SECURE_KERNEL_ERROR" หลังจากติดตั้งอัปเดต - Microsoft ได้ใช้ Known Issue Rollback (KIR) เพื่อแก้ไขปัญหาชั่วคราว ✅ แนวทางแก้ไขสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร - ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ รีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้แพตช์แก้ไขทำงานเร็วขึ้น - สำหรับองค์กร IT Admins ต้องติดตั้ง Known Issue Rollback patches ด้วยนโยบายเฉพาะ ✅ ปัญหาอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข - Roblox ไม่สามารถเปิดบนอุปกรณ์ ARM เมื่อดาวน์โหลดจาก Microsoft Store - การติดตั้งอัปเดตด้านความปลอดภัยมีปัญหา เมื่อใช้ร่วมกับบางเวอร์ชันของ Citrix software https://www.neowin.net/news/more-issues-in-recent-windows-11-updates-found-bsods-now-confirmed/
    WWW.NEOWIN.NET
    More issues in recent Windows 11 updates found, BSODs now confirmed
    Microsoft acknowledged yet another issue in the recently released Windows 11 updates. This time, they cause blue screens of death.
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
More Results