• EA กำลังจะปิดตัวแอป Origin ในวันที่ 17 เมษายน 2025 หลังจากที่ให้บริการมานานถึง 14 ปี! EA ขอให้ผู้ใช้ทุกคนย้ายไปใช้แอป EA แทน เนื่องจาก Microsoft หยุดสนับสนุนซอฟต์แวร์ 32 บิตแล้ว และผู้ใช้ต้องดาวน์โหลด Windows 10 เวอร์ชัน 64 บิตหรือใช้ Windows 11 เพื่อใช้แอป EA

    สำหรับใครที่ยังใช้ Windows 10 เวอร์ชัน 32 บิตอยู่ อาจจะเจอปัญหาในการใช้งานแอป EA เพราะ Windows 11 ไม่รองรับอุปกรณ์ที่ไม่มี TPM 2.0 ซึ่งเป็นฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สำคัญ แต่ถ้าเครื่องของคุณรองรับ Windows 11 ก็สามารถอัปเกรดได้ฟรีหรือในราคาต่ำกว่า $15

    นอกจากนี้ EA ยังบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องการย้ายไฟล์เกมและข้อมูลการเล่น เพราะแอป EA จะทำการย้ายข้อมูลให้อัตโนมัติ แต่ถ้าเกมของคุณไม่รองรับการบันทึกข้อมูลบนคลาวด์ คุณจะต้องย้ายไฟล์ด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้สูญเสียความก้าวหน้าในการเล่น

    บางคนอาจจะคิดว่าเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการ Linux แบบ 32 บิตแทน แต่เนื่องจาก EA ยุติการสนับสนุนแอป Origin แล้ว คุณจะไม่สามารถใช้งานแอปนี้ได้แม้จะเปลี่ยนไปใช้ Linux

    การเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะทำให้ผู้ใช้หลายคนที่ไม่สามารถอัปเกรดฮาร์ดแวร์ได้ต้องเจอกับปัญหา แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าบริษัทไม่สามารถสนับสนุนซอฟต์แวร์เก่า ๆ ที่ไม่ทำเงินได้ตลอดไป

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/ea-will-shut-down-the-origin-app-on-april-2025-company-asks-users-to-migrate-to-the-new-ea-app
    EA กำลังจะปิดตัวแอป Origin ในวันที่ 17 เมษายน 2025 หลังจากที่ให้บริการมานานถึง 14 ปี! EA ขอให้ผู้ใช้ทุกคนย้ายไปใช้แอป EA แทน เนื่องจาก Microsoft หยุดสนับสนุนซอฟต์แวร์ 32 บิตแล้ว และผู้ใช้ต้องดาวน์โหลด Windows 10 เวอร์ชัน 64 บิตหรือใช้ Windows 11 เพื่อใช้แอป EA สำหรับใครที่ยังใช้ Windows 10 เวอร์ชัน 32 บิตอยู่ อาจจะเจอปัญหาในการใช้งานแอป EA เพราะ Windows 11 ไม่รองรับอุปกรณ์ที่ไม่มี TPM 2.0 ซึ่งเป็นฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สำคัญ แต่ถ้าเครื่องของคุณรองรับ Windows 11 ก็สามารถอัปเกรดได้ฟรีหรือในราคาต่ำกว่า $15 นอกจากนี้ EA ยังบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องการย้ายไฟล์เกมและข้อมูลการเล่น เพราะแอป EA จะทำการย้ายข้อมูลให้อัตโนมัติ แต่ถ้าเกมของคุณไม่รองรับการบันทึกข้อมูลบนคลาวด์ คุณจะต้องย้ายไฟล์ด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้สูญเสียความก้าวหน้าในการเล่น บางคนอาจจะคิดว่าเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการ Linux แบบ 32 บิตแทน แต่เนื่องจาก EA ยุติการสนับสนุนแอป Origin แล้ว คุณจะไม่สามารถใช้งานแอปนี้ได้แม้จะเปลี่ยนไปใช้ Linux การเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะทำให้ผู้ใช้หลายคนที่ไม่สามารถอัปเกรดฮาร์ดแวร์ได้ต้องเจอกับปัญหา แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าบริษัทไม่สามารถสนับสนุนซอฟต์แวร์เก่า ๆ ที่ไม่ทำเงินได้ตลอดไป https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/ea-will-shut-down-the-origin-app-on-april-2025-company-asks-users-to-migrate-to-the-new-ea-app
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 0 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ บอกกับ NBC News ว่าเขา "น่าจะ" ขยายเวลาให้ TikTok ออกไป 90 วันเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแบน

    ทรัมป์ยังบอกอีกว่า หากเขาตัดสินใจทำแบบนั้น อาจจะประกาศเรื่องนี้ในวันจันทร์
    โดนัลด์ ทรัมป์ บอกกับ NBC News ว่าเขา "น่าจะ" ขยายเวลาให้ TikTok ออกไป 90 วันเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแบน ทรัมป์ยังบอกอีกว่า หากเขาตัดสินใจทำแบบนั้น อาจจะประกาศเรื่องนี้ในวันจันทร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10 ปี สิ้นวีรบุรุษสะพานมัฆวาน “บิ๊กซัน” พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก มือปราบกบฏยังเติร์ก

    ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ประเทศไทยได้สูญเสียบุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์การเมือง และการทหารของชาติไป นั่นคือ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก หรือที่สื่อมวลชนขนานนามว่า “บิ๊กซัน” วีรบุรุษสะพานมัฆวาน ผู้ซึ่งเป็นกำลังสำคัญ ในการปกป้องระบอบประชาธิปไตย และปราบกบฏยังเติร์ก อย่างกล้าหาญ

    พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 ณ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของ ร้อยตรีพิณ กำลังเอก และนางสาคร กำลังเอก ชีวิตในวัยเด็ก เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และพยายามในการศึกษา

    การศึกษาของพลเอกอาทิตย์ เริ่มต้นที่โรงเรียนพรหมวิทยามูล ก่อนจะเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร (ปัจจุบันคือโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร) และสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร

    ด้วยความฝันที่จะเป็นทหาร จึงได้เข้าศึกษาใน โรงเรียนเตรียมทหารบก รุ่นที่ 5 (ตทบ. 5) ระหว่างปี พ.ศ. 2487–2491 โดยรุ่นเดียวกันนี้ยังมีเพื่อนร่วมรุ่นสำคัญ อาทิ พลเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ และพลเอกบรรจบ บุนนาค

    วีรบุรุษสะพานมัฆวาน ช่วงเวลาแห่งการสร้างตำนาน
    หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้ชื่อของพลเอกอาทิตย์โดดเด่นคือ การประท้วงใหญ่ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประชาชนรวมตัวกัน เดินขบวนประท้วงการเลือกตั้ง ที่ถูกมองว่าไม่โปร่งใส

    ในขณะนั้น พลเอกอาทิตย์มียศเพียงร้อยเอก และเป็นหนึ่งในทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ตามคำสั่งของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งได้สั่งห้ามทหาร ทำร้ายประชาชน โดยเด็ดขาด

    การเปิดสะพานมัฆวานรังสรรค์ ให้ขบวนประท้วง เดินผ่านไปยังทำเนียบรัฐบาล ได้โดยสงบ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่แสดงถึงความเป็นผู้นำ และการใช้เหตุผลเหนือกำลังอาวุธ

    กบฏยังเติร์ก บทบาทผู้นำในช่วงวิกฤต
    อีกเหตุการณ์ ที่ทำให้ชื่อของพลเอกอาทิตย์ ได้รับการยกย่องคือ การเข้าร่วมปราบ กบฏยังเติร์ก หรือ กบฏเมษาฮาวาย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1–3 เมษายน พ.ศ. 2524

    กลุ่มกบฏซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนายทหารรุ่น “จปร. 7” มีเป้าหมายที่จะยึดอำนาจ จากรัฐบาลนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โดยการเคลื่อนกำลังทหารถึง 42 กองพัน ถือว่าเป็นความพยายามรัฐประหาร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย

    ในขณะนั้น พลเอกอาทิตย์ ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 2 และเป็นกำลังสำคัญ ในการปฏิบัติการตอบโต้กลุ่มกบฏ โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และความไว้วางใจจากพลเอกเปรม

    ผลลัพธ์ของกบฏ
    การก่อกบฏสิ้นสุดลง โดยไม่มีการต่อสู้อย่างรุนแรง ฝ่ายรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกเปรมสามารถจัดการสถานการณ์ ได้อย่างรวดเร็ว และกลุ่มกบฏ ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ

    บทบาทของพลเอกอาทิตย์ในครั้งนี้ ส่งผลให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และในเวลาต่อมาได้เป็น ผู้บัญชาการทหารบก

    ความสัมพันธ์กับพลเอกเปรม จากมิตรสู่ความขัดแย้ง
    ในช่วงที่พลเอกเปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอกอาทิตย์ ได้รับการสนับสนุนอย่างมาก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง กลับตึงเครียดในช่วงปี พ.ศ. 2527 เมื่อพลเอกอาทิตย์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล

    ความขัดแย้งดังกล่าว นำไปสู่การที่พลเอกอาทิตย์ ถูกปลดจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก ในปี พ.ศ. 2529 ท่ามกลางกระแสการเมือง ที่ร้อนแรง

    หลังเกษียณ ชีวิตในวงการการเมือง
    หลังจากเกษียณราชการ พลเอกอาทิตย์ได้เข้าสู่การเมือง โดยการก่อตั้ง พรรคปวงชนชาวไทย และได้รับการแต่งตั้งเป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ

    อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายชีวิตทางการเมือง กลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ (พ.ศ. 2535)

    การจากไปของ “บิ๊กซัน”
    พลเอกอาทิตย์ป่วยเรื้อรัง จากอาการติดเชื้อในปอด และเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเป็นเวลานาน จนกระทั่งถึงแก่อนิจกรรม เมื่อเวลา 06.20 น. ของวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ด้วยวัย 89 ปี

    พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ ต่อประวัติศาสตร์ไทย ในหลายด้าน ทั้งในฐานะนักปกป้องประชาธิปไตย วีรบุรุษสะพานมัฆวาน และผู้นำในช่วงวิกฤตการณ์การเมือง

    แม้จะมีช่วงเวลา ที่ขัดแย้งกับผู้มีอำนาจทางการเมือง แต่ความมุ่งมั่นในหน้าที่ และความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยังคงทำให้ชื่อของบิ๊กซัน เป็นที่จดจำ

    🎖️ ความทรงจำที่ไม่มีวันลบเลือน! 🎖️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 190919 ม.ค. 2568

    #บิ๊กซัน #อาทิตย์กำลังเอก #วีรบุรุษสะพานมัฆวาน #กบฏยังเติร์ก #ประวัติศาสตร์ไทย #ผู้นำแห่งชาติ #ไทยในอดีต #การเมืองไทย #กองทัพไทย #10ปีแห่งการจากไป
    10 ปี สิ้นวีรบุรุษสะพานมัฆวาน “บิ๊กซัน” พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก มือปราบกบฏยังเติร์ก ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ประเทศไทยได้สูญเสียบุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์การเมือง และการทหารของชาติไป นั่นคือ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก หรือที่สื่อมวลชนขนานนามว่า “บิ๊กซัน” วีรบุรุษสะพานมัฆวาน ผู้ซึ่งเป็นกำลังสำคัญ ในการปกป้องระบอบประชาธิปไตย และปราบกบฏยังเติร์ก อย่างกล้าหาญ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 ณ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของ ร้อยตรีพิณ กำลังเอก และนางสาคร กำลังเอก ชีวิตในวัยเด็ก เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และพยายามในการศึกษา การศึกษาของพลเอกอาทิตย์ เริ่มต้นที่โรงเรียนพรหมวิทยามูล ก่อนจะเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร (ปัจจุบันคือโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร) และสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร ด้วยความฝันที่จะเป็นทหาร จึงได้เข้าศึกษาใน โรงเรียนเตรียมทหารบก รุ่นที่ 5 (ตทบ. 5) ระหว่างปี พ.ศ. 2487–2491 โดยรุ่นเดียวกันนี้ยังมีเพื่อนร่วมรุ่นสำคัญ อาทิ พลเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ และพลเอกบรรจบ บุนนาค วีรบุรุษสะพานมัฆวาน ช่วงเวลาแห่งการสร้างตำนาน หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้ชื่อของพลเอกอาทิตย์โดดเด่นคือ การประท้วงใหญ่ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประชาชนรวมตัวกัน เดินขบวนประท้วงการเลือกตั้ง ที่ถูกมองว่าไม่โปร่งใส ในขณะนั้น พลเอกอาทิตย์มียศเพียงร้อยเอก และเป็นหนึ่งในทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ตามคำสั่งของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งได้สั่งห้ามทหาร ทำร้ายประชาชน โดยเด็ดขาด การเปิดสะพานมัฆวานรังสรรค์ ให้ขบวนประท้วง เดินผ่านไปยังทำเนียบรัฐบาล ได้โดยสงบ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่แสดงถึงความเป็นผู้นำ และการใช้เหตุผลเหนือกำลังอาวุธ กบฏยังเติร์ก บทบาทผู้นำในช่วงวิกฤต อีกเหตุการณ์ ที่ทำให้ชื่อของพลเอกอาทิตย์ ได้รับการยกย่องคือ การเข้าร่วมปราบ กบฏยังเติร์ก หรือ กบฏเมษาฮาวาย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1–3 เมษายน พ.ศ. 2524 กลุ่มกบฏซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนายทหารรุ่น “จปร. 7” มีเป้าหมายที่จะยึดอำนาจ จากรัฐบาลนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โดยการเคลื่อนกำลังทหารถึง 42 กองพัน ถือว่าเป็นความพยายามรัฐประหาร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย ในขณะนั้น พลเอกอาทิตย์ ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 2 และเป็นกำลังสำคัญ ในการปฏิบัติการตอบโต้กลุ่มกบฏ โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และความไว้วางใจจากพลเอกเปรม ผลลัพธ์ของกบฏ การก่อกบฏสิ้นสุดลง โดยไม่มีการต่อสู้อย่างรุนแรง ฝ่ายรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกเปรมสามารถจัดการสถานการณ์ ได้อย่างรวดเร็ว และกลุ่มกบฏ ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ บทบาทของพลเอกอาทิตย์ในครั้งนี้ ส่งผลให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และในเวลาต่อมาได้เป็น ผู้บัญชาการทหารบก ความสัมพันธ์กับพลเอกเปรม จากมิตรสู่ความขัดแย้ง ในช่วงที่พลเอกเปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอกอาทิตย์ ได้รับการสนับสนุนอย่างมาก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง กลับตึงเครียดในช่วงปี พ.ศ. 2527 เมื่อพลเอกอาทิตย์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ความขัดแย้งดังกล่าว นำไปสู่การที่พลเอกอาทิตย์ ถูกปลดจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก ในปี พ.ศ. 2529 ท่ามกลางกระแสการเมือง ที่ร้อนแรง หลังเกษียณ ชีวิตในวงการการเมือง หลังจากเกษียณราชการ พลเอกอาทิตย์ได้เข้าสู่การเมือง โดยการก่อตั้ง พรรคปวงชนชาวไทย และได้รับการแต่งตั้งเป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายชีวิตทางการเมือง กลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ (พ.ศ. 2535) การจากไปของ “บิ๊กซัน” พลเอกอาทิตย์ป่วยเรื้อรัง จากอาการติดเชื้อในปอด และเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเป็นเวลานาน จนกระทั่งถึงแก่อนิจกรรม เมื่อเวลา 06.20 น. ของวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ด้วยวัย 89 ปี พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ ต่อประวัติศาสตร์ไทย ในหลายด้าน ทั้งในฐานะนักปกป้องประชาธิปไตย วีรบุรุษสะพานมัฆวาน และผู้นำในช่วงวิกฤตการณ์การเมือง แม้จะมีช่วงเวลา ที่ขัดแย้งกับผู้มีอำนาจทางการเมือง แต่ความมุ่งมั่นในหน้าที่ และความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยังคงทำให้ชื่อของบิ๊กซัน เป็นที่จดจำ 🎖️ ความทรงจำที่ไม่มีวันลบเลือน! 🎖️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 190919 ม.ค. 2568 #บิ๊กซัน #อาทิตย์กำลังเอก #วีรบุรุษสะพานมัฆวาน #กบฏยังเติร์ก #ประวัติศาสตร์ไทย #ผู้นำแห่งชาติ #ไทยในอดีต #การเมืองไทย #กองทัพไทย #10ปีแห่งการจากไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสร้างสายใยแห่งความผูกพัน: กุศลและอกุศลในความสัมพันธ์

    สิ่งที่มนุษย์ทำร่วมกันสร้างสายใยแห่งความผูกพัน ไม่ว่าจะเป็นการกินเหล้า ร้องเพลง หรือสวดมนต์ ล้วนแต่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่สะท้อนมิติทางจิตใจ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของกิจกรรมนั้น


    ---

    1. กินเหล้า: สายใยอารมณ์ดิบ

    ลักษณะ: การดื่มเหล้าสร้างความผูกพันในทางที่ขาดสติ เกิดจากอารมณ์มึนเมา เคลิบเคลิ้ม และมักพ่วงด้วยความบิดเบี้ยวทางเหตุผล

    ผลลัพธ์:

    รักง่าย โกรธง่าย เพราะอารมณ์เป็นตัวนำ มากกว่าเหตุผล

    น้ำใจที่เกิดขึ้นมักผันผวน ไม่แน่นอน

    พื้นฐานความสัมพันธ์ขาดความมั่นคง พร้อมจะเปลี่ยนไปตามแรงกระตุ้นทางอารมณ์




    ---

    2. ร้องเพลง: สายใยแห่งความรื่นเริง

    ลักษณะ: การร้องเพลงร่วมกันสร้างพลังชีวิตอันสดใส เกิดความสามัคคีและอารมณ์สุขสันต์ร่วมกัน

    ผลลัพธ์:

    เกิดความยินดีที่พร้อมจะปรองดองและช่วยเหลือกัน

    แต่หากขาดสมดุลหรือไม่ได้มีความสุขร่วมกันต่อเนื่อง อาจนำมาซึ่งความน้อยใจหรือเหินห่างได้

    ความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับบรรยากาศและอารมณ์ชั่วขณะ




    ---

    3. สวดมนต์: สายใยแห่งความสว่าง

    ลักษณะ: การสวดมนต์สร้างบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยถักทอกระแสจิตให้ผาสุก สงบ และสติแจ่มใส

    ผลลัพธ์:

    เกิดความผูกพันในอารมณ์เย็นรื่นและพร้อมเกื้อกูลกันในทางเจริญ

    ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์จะถูกแก้ไขได้เร็ว เพราะมีสติและปัญญาเป็นพื้นฐาน

    สายใยที่สร้างขึ้นมีแนวโน้มจะนำพาสู่ความรุ่งเรืองและความสุขที่ยั่งยืน




    ---

    4. ปัจจัยสำคัญของสายใย: สว่างและมืด

    สายใยสว่าง (กุศล):

    พื้นฐาน: น้ำใจ, ศีล, และสติ

    ผลลัพธ์: ความสัมพันธ์จะนำไปสู่ความรุ่งเรือง ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงานร่วมกัน


    สายใยมืด (อกุศล):

    พื้นฐาน: ความตระหนี่, ทุศีล, และการขาดสติ

    ผลลัพธ์: ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ และมีแนวโน้มล้มเหลวในชีวิตหรือธุรกิจ




    ---

    บทสรุป: การถักทอสายใยที่มีคุณภาพ

    การอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราทำร่วมกัน และที่สำคัญกว่านั้นคือ พื้นฐานจิตใจที่เกื้อกูลกัน

    หากเน้น เกื้อกูลกันในทางสว่าง ความสัมพันธ์นั้นจะเป็นแสงสว่างที่สร้างความสุขและความสำเร็จ

    หากเน้น เบียดเบียนกันในทางมืด ความสัมพันธ์นั้นจะกลายเป็นเงาที่ทำให้ชีวิตถดถอย


    เลือกกิจกรรม เลือกวิถีใจ และเลือกการสร้างสายใยให้ถูกที่ถูกทาง เพื่อความสุขและความเจริญในระยะยาว.

    การสร้างสายใยแห่งความผูกพัน: กุศลและอกุศลในความสัมพันธ์ สิ่งที่มนุษย์ทำร่วมกันสร้างสายใยแห่งความผูกพัน ไม่ว่าจะเป็นการกินเหล้า ร้องเพลง หรือสวดมนต์ ล้วนแต่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่สะท้อนมิติทางจิตใจ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของกิจกรรมนั้น --- 1. กินเหล้า: สายใยอารมณ์ดิบ ลักษณะ: การดื่มเหล้าสร้างความผูกพันในทางที่ขาดสติ เกิดจากอารมณ์มึนเมา เคลิบเคลิ้ม และมักพ่วงด้วยความบิดเบี้ยวทางเหตุผล ผลลัพธ์: รักง่าย โกรธง่าย เพราะอารมณ์เป็นตัวนำ มากกว่าเหตุผล น้ำใจที่เกิดขึ้นมักผันผวน ไม่แน่นอน พื้นฐานความสัมพันธ์ขาดความมั่นคง พร้อมจะเปลี่ยนไปตามแรงกระตุ้นทางอารมณ์ --- 2. ร้องเพลง: สายใยแห่งความรื่นเริง ลักษณะ: การร้องเพลงร่วมกันสร้างพลังชีวิตอันสดใส เกิดความสามัคคีและอารมณ์สุขสันต์ร่วมกัน ผลลัพธ์: เกิดความยินดีที่พร้อมจะปรองดองและช่วยเหลือกัน แต่หากขาดสมดุลหรือไม่ได้มีความสุขร่วมกันต่อเนื่อง อาจนำมาซึ่งความน้อยใจหรือเหินห่างได้ ความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับบรรยากาศและอารมณ์ชั่วขณะ --- 3. สวดมนต์: สายใยแห่งความสว่าง ลักษณะ: การสวดมนต์สร้างบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยถักทอกระแสจิตให้ผาสุก สงบ และสติแจ่มใส ผลลัพธ์: เกิดความผูกพันในอารมณ์เย็นรื่นและพร้อมเกื้อกูลกันในทางเจริญ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์จะถูกแก้ไขได้เร็ว เพราะมีสติและปัญญาเป็นพื้นฐาน สายใยที่สร้างขึ้นมีแนวโน้มจะนำพาสู่ความรุ่งเรืองและความสุขที่ยั่งยืน --- 4. ปัจจัยสำคัญของสายใย: สว่างและมืด สายใยสว่าง (กุศล): พื้นฐาน: น้ำใจ, ศีล, และสติ ผลลัพธ์: ความสัมพันธ์จะนำไปสู่ความรุ่งเรือง ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงานร่วมกัน สายใยมืด (อกุศล): พื้นฐาน: ความตระหนี่, ทุศีล, และการขาดสติ ผลลัพธ์: ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ และมีแนวโน้มล้มเหลวในชีวิตหรือธุรกิจ --- บทสรุป: การถักทอสายใยที่มีคุณภาพ การอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราทำร่วมกัน และที่สำคัญกว่านั้นคือ พื้นฐานจิตใจที่เกื้อกูลกัน หากเน้น เกื้อกูลกันในทางสว่าง ความสัมพันธ์นั้นจะเป็นแสงสว่างที่สร้างความสุขและความสำเร็จ หากเน้น เบียดเบียนกันในทางมืด ความสัมพันธ์นั้นจะกลายเป็นเงาที่ทำให้ชีวิตถดถอย เลือกกิจกรรม เลือกวิถีใจ และเลือกการสร้างสายใยให้ถูกที่ถูกทาง เพื่อความสุขและความเจริญในระยะยาว.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • HIMAWARI丨ชุดนอน ชุดนอนนาโน ชุดนอนผ้านาโน แขนยาวขายาว เกรดผ้าดี นุ่ม สวมใส่สบาย ลายการ์ตูนน่าร๊ากกก
    พิกัด: https://s.shopee.co.th/3ArsoIQ5vI
    HIMAWARI丨ชุดนอน ชุดนอนนาโน ชุดนอนผ้านาโน แขนยาวขายาว เกรดผ้าดี นุ่ม สวมใส่สบาย ลายการ์ตูนน่าร๊ากกก พิกัด: https://s.shopee.co.th/3ArsoIQ5vI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 คำมหัศจรรย์ เปลี่ยนชีวิตการทำงานให้ดีขึ้น
    3 คำมหัศจรรย์ เปลี่ยนชีวิตการทำงานให้ดีขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สติหนุนพา
    สมาธิได้
    หนุนปัญญาใช้
    ไว้ดับทุกข์ภัย

    ปัญญาธิคุณ
    หนุนธรรมจริงได้
    รู้เหตุปัจจัย
    ให้พร้อมดำรง

    การงานนอกใน
    กายใจหนุนส่ง
    ธรรมนี้ถูกตรง
    ทรงคุณได้ทำ

    ความดีมีสุข
    ผุดผ่องดื่มด่ำ
    อาศัยพระธรรม
    นำทุกข์ห่างไกล

    จิตภาวนา
    พาปัญญาได้
    ท่านแนะนำไว้
    ให้เพียรขวนขวาย
    สติหนุนพา สมาธิได้ หนุนปัญญาใช้ ไว้ดับทุกข์ภัย ปัญญาธิคุณ หนุนธรรมจริงได้ รู้เหตุปัจจัย ให้พร้อมดำรง การงานนอกใน กายใจหนุนส่ง ธรรมนี้ถูกตรง ทรงคุณได้ทำ ความดีมีสุข ผุดผ่องดื่มด่ำ อาศัยพระธรรม นำทุกข์ห่างไกล จิตภาวนา พาปัญญาได้ ท่านแนะนำไว้ ให้เพียรขวนขวาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • 19/1/68

    บ่อนคาสิโน : ขอคารวะดร.เอ้ที่กล้าชี้แนะ

    ในวันที่ลำบากที่สุด ทำไม ลีกวนยู รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ เลือกพัฒนา "คุณภาพคน" และ "คุณภาพราชการ" ก่อนเปิดกาสิโน เราเรียนรู้อะไร?

    การอ้างเศรษฐกิจจะดี จะสร้างรายได้จาก "กาสิโนเสรี" ในชื่อแอบแฝง "Entertainmant Complex" ชวนน่าสงสัย อันตรายยิ่ง

    และการนำเรื่องกาสิโน ไปเปรียบกับสิงคโปร์ แต่ไม่ไปเปรียบกับเมียนมาร์ และกัมพูชา ยิ่งสะท้อน ความวิบัติในตรรกะ เช่นกัน

    เพราะการมีกาสิโนในประเทศข้างบ้าน สะท้อนความจริงว่า "ชาวบ้านไม่ได้อะไร" ยังคงยากจน ข้นแค้น แต่คนได้ คือ "นายทุน" กับ "ผู้นำการเมือง" ผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มั่งคั่ง บนความเหลื่อมล้ำของสังคม

    หรือท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมวันที่สิงค์โปร์แยกตัวจากมาเลเซีย ไม่มีทรัพยากรใด ลำบากยากจน หมดหวัง แม้แต่ "ลีกวนยู" นายกรัฐมนตรี ถึงกับร้องไห้

    จนทำให้ หลายคนรอบตัวลีกวนยู บอก "นายครับ เราเปิดกาสิโน แบบมาเก๊า เอาเงินเข้าประเทศกันเถอะครับ" จะเป็นทางรอดของสิงคโปร์

    แต่ ลีกวนยู ปฏิเสธ...

    ไม่มีประเทศไหน ไม่อยากได้เงินบริหารประเทศ ลีกวนยู ผู้ที่พ่อเคยติดการพนัน รู้ซึ้งถึง "อันตรายจากการพนัน" ในวันที่สังคมสิงคโปร์ ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย การจัดระเบียบราชการ และที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาสร้างภูมิคุ้มกันของคนสิงคโปร์ ที่ยัง "ไม่พร้อม"

    ลีกวนยู นายกรัฐมนตรี จึงประกาศ "มุ่งสร้างคนคุณภาพ ด้วยการศึกษาที่ดีที่สุด" และ "มุ่งสร้างระบบราชการ ที่ปราศจากการคอรัปชั่น" เป็นอันดับแรก จนสิงค์โปร์ได้ชื่อว่า มีการพัฒนาคน และพัฒนาระบบราชการโปร่งใส อันดับท็อปของโลก

    รายได้ประชาชาติ หรือจีดีพีต่อคนของสิงค์โปร์ จึงเติบโตจาก 400 ดอลลาร์ต่อคน ในปี 1960 จนมากว่า 80,000 ดอลลาร์ต่อคน ในปัจจุบัน หรือโตกว่า 200 เท่า ตั้งแต่ลีกวนยูเริ่มบริหารประเทศ

    พิสูจน์วิสัยทัศน์ของ ลีกวนยู "การสร้างคน เพื่อไปสร้างชาติ ไปสร้างเศรษฐกิจ" คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดีกว่าทุกสิ่งอย่าง

    แต่ทั้งนี้ "การศึกษาอย่างละเอียด เรื่องบ่อนกาสิโน" จากที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยังคงเริ่มมาตั้งแต่สมัยของลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง 32 ปี และต่อเนื่องมาจนสมัยของ โก๊ะ จ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนที่สอง 14 ปี รอจนสิงค์โปร์ประสบความสำเร็จในการสร้าง "รากฐานของประเทศ" และสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ

    มาถึง ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีคนที่สาม ภายใต้ "ข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยว" ของเกาะสิงคโปร์ ที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีชายหาดที่สวยงาม ไม่มีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม ไม่มี "สีสัน" ดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย ที่มีทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อาหาร และธรรมชาติ ที่เหนือกว่าสิงคโปร์ทุกด้าน

    ลีเซียนลุง จึงประกาศให้มีกาสิโน ด้วยการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบังคับใช้กฏหมาย ด้านภูมิคุ้มกันประชาชน และด้านการเยียวยาผลกระทบ จากการศึกษามายาวนาน

    แต่ที่น่าสนใจ เราแทบไม่เคยได้ยินว่า ลีเซียนลุง แสดงความภาคภูมิใจกับผลงานนี้ของรัฐบาลเขาเลย และยังมีหลายคนพูดว่า หากสิงคโปร์ย้อนเวลากลับไปได้ อาจไม่ทำเรื่องกาสิโน ก็เป็นได้

    ผมจึงเพียงสงสัย อย่างไร้อคติว่า ผู้นำไทยเรียนรู้อะไรบ้าง จากผู้นำสิงคโปร์

    ทำไมผู้นำไทย จึงเร่งร้อน เลือกทางกาสิโนเสรี ก่อนเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาคน และด้านการบังคับใช้กฏหมาย ผมจึงประหลาดใจยิ่ง

    ผมขอให้ ผู้นำไทย มีความเป็น Stateman หรือรัฐบุรุษ คิดถึงอนาคตชาติ อนาคตเด็กไทย สักนิดก็ยังดี ก่อนบุ่มบ่าม เปิดบ่อนกาสิโน ภายใต้ความ "ไม่พร้อม"

    เพราะหากผลกระทบที่ตามมา ไม่ใช่อย่างพูด คนไทยนอกจากไม่ได้มีรายได้เพิ่มอย่างเท่าเทียม ลูกหลานติดการพนัน เสียคน บ่อนนอกพื้นที่อนุญาต เกิดขึ้นใหม่อย่างไร้การควบคุม รากฐานสังคมถูกทำลาย

    ถึงวันนั้น ขอโทษ เสียใจ คงไม่พอ
    .
    ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้)
    19/1/68 บ่อนคาสิโน : ขอคารวะดร.เอ้ที่กล้าชี้แนะ ในวันที่ลำบากที่สุด ทำไม ลีกวนยู รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ เลือกพัฒนา "คุณภาพคน" และ "คุณภาพราชการ" ก่อนเปิดกาสิโน เราเรียนรู้อะไร? การอ้างเศรษฐกิจจะดี จะสร้างรายได้จาก "กาสิโนเสรี" ในชื่อแอบแฝง "Entertainmant Complex" ชวนน่าสงสัย อันตรายยิ่ง และการนำเรื่องกาสิโน ไปเปรียบกับสิงคโปร์ แต่ไม่ไปเปรียบกับเมียนมาร์ และกัมพูชา ยิ่งสะท้อน ความวิบัติในตรรกะ เช่นกัน เพราะการมีกาสิโนในประเทศข้างบ้าน สะท้อนความจริงว่า "ชาวบ้านไม่ได้อะไร" ยังคงยากจน ข้นแค้น แต่คนได้ คือ "นายทุน" กับ "ผู้นำการเมือง" ผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มั่งคั่ง บนความเหลื่อมล้ำของสังคม หรือท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมวันที่สิงค์โปร์แยกตัวจากมาเลเซีย ไม่มีทรัพยากรใด ลำบากยากจน หมดหวัง แม้แต่ "ลีกวนยู" นายกรัฐมนตรี ถึงกับร้องไห้ จนทำให้ หลายคนรอบตัวลีกวนยู บอก "นายครับ เราเปิดกาสิโน แบบมาเก๊า เอาเงินเข้าประเทศกันเถอะครับ" จะเป็นทางรอดของสิงคโปร์ แต่ ลีกวนยู ปฏิเสธ... ไม่มีประเทศไหน ไม่อยากได้เงินบริหารประเทศ ลีกวนยู ผู้ที่พ่อเคยติดการพนัน รู้ซึ้งถึง "อันตรายจากการพนัน" ในวันที่สังคมสิงคโปร์ ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย การจัดระเบียบราชการ และที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาสร้างภูมิคุ้มกันของคนสิงคโปร์ ที่ยัง "ไม่พร้อม" ลีกวนยู นายกรัฐมนตรี จึงประกาศ "มุ่งสร้างคนคุณภาพ ด้วยการศึกษาที่ดีที่สุด" และ "มุ่งสร้างระบบราชการ ที่ปราศจากการคอรัปชั่น" เป็นอันดับแรก จนสิงค์โปร์ได้ชื่อว่า มีการพัฒนาคน และพัฒนาระบบราชการโปร่งใส อันดับท็อปของโลก รายได้ประชาชาติ หรือจีดีพีต่อคนของสิงค์โปร์ จึงเติบโตจาก 400 ดอลลาร์ต่อคน ในปี 1960 จนมากว่า 80,000 ดอลลาร์ต่อคน ในปัจจุบัน หรือโตกว่า 200 เท่า ตั้งแต่ลีกวนยูเริ่มบริหารประเทศ พิสูจน์วิสัยทัศน์ของ ลีกวนยู "การสร้างคน เพื่อไปสร้างชาติ ไปสร้างเศรษฐกิจ" คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดีกว่าทุกสิ่งอย่าง แต่ทั้งนี้ "การศึกษาอย่างละเอียด เรื่องบ่อนกาสิโน" จากที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยังคงเริ่มมาตั้งแต่สมัยของลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง 32 ปี และต่อเนื่องมาจนสมัยของ โก๊ะ จ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนที่สอง 14 ปี รอจนสิงค์โปร์ประสบความสำเร็จในการสร้าง "รากฐานของประเทศ" และสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ มาถึง ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีคนที่สาม ภายใต้ "ข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยว" ของเกาะสิงคโปร์ ที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีชายหาดที่สวยงาม ไม่มีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม ไม่มี "สีสัน" ดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย ที่มีทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อาหาร และธรรมชาติ ที่เหนือกว่าสิงคโปร์ทุกด้าน ลีเซียนลุง จึงประกาศให้มีกาสิโน ด้วยการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบังคับใช้กฏหมาย ด้านภูมิคุ้มกันประชาชน และด้านการเยียวยาผลกระทบ จากการศึกษามายาวนาน แต่ที่น่าสนใจ เราแทบไม่เคยได้ยินว่า ลีเซียนลุง แสดงความภาคภูมิใจกับผลงานนี้ของรัฐบาลเขาเลย และยังมีหลายคนพูดว่า หากสิงคโปร์ย้อนเวลากลับไปได้ อาจไม่ทำเรื่องกาสิโน ก็เป็นได้ ผมจึงเพียงสงสัย อย่างไร้อคติว่า ผู้นำไทยเรียนรู้อะไรบ้าง จากผู้นำสิงคโปร์ ทำไมผู้นำไทย จึงเร่งร้อน เลือกทางกาสิโนเสรี ก่อนเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาคน และด้านการบังคับใช้กฏหมาย ผมจึงประหลาดใจยิ่ง ผมขอให้ ผู้นำไทย มีความเป็น Stateman หรือรัฐบุรุษ คิดถึงอนาคตชาติ อนาคตเด็กไทย สักนิดก็ยังดี ก่อนบุ่มบ่าม เปิดบ่อนกาสิโน ภายใต้ความ "ไม่พร้อม" เพราะหากผลกระทบที่ตามมา ไม่ใช่อย่างพูด คนไทยนอกจากไม่ได้มีรายได้เพิ่มอย่างเท่าเทียม ลูกหลานติดการพนัน เสียคน บ่อนนอกพื้นที่อนุญาต เกิดขึ้นใหม่อย่างไร้การควบคุม รากฐานสังคมถูกทำลาย ถึงวันนั้น ขอโทษ เสียใจ คงไม่พอ . ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • 19/1/68

    ภัยร้ายจากของฟรี
    ที่อาจถึงตาย

    เศษวัสดุทางการเกษตร
    นำเข้าจากจีน

    มีนักธุรกิจบางคน
    นำเข้าเห็ดหอมจากจีน
    ขณะเดียวกัน ก็ยังนำเข้าเศษเห็ดหอมที่เป็นวัสดุเหลือทิ้งจากการผลิตเข้ามาด้วย

    เศษเห็ดหอมนำเข้านี้
    จะไม่ขาย
    หากแต่จะให้ฟรีสำหรับเกษตรกร เพื่อนำไปใช้ทำปุ๋ยหมักในทางเกษตร

    ในโลกนี้ไม่มีของฟรี

    ผมสงสัยเหลือเกินว่าทำไมพ่อค้าจึงใจดี

    “ยอมเสียค่าขนส่ง
    ส่งวัสดุเหลือใช้ชั้นดี
    ให้ทำปุ๋ยที่เมืองไทย”

    ด้วยความสนับสนุนจากอาจารย์ที่เคารพรัก
    ก็ได้นำเศษวัสดุเห็ดหอม
    ส่งเข้าห้องแลป

    พบว่า
    มีโลหะหนัก***จำนวนมาก***

    จึงได้ถึงบางอ้อ

    ที่แท้พวกเขาเอาเศษเห็ดหอมไปซับน้ำกากของเสียอุตสาหกรรม
    ซึ่งมีโลหะหนักจำนวนมาก จากนั้นทำการอบแห้ง
    แล้วส่งออก
    เข้าประเทศไทย
    โดยให้เหตุผลแสนดีว่า

    “สนับสนุนเกษตรกรไทย”

    เท่าที่ทราบ
    ขยะอุตสาหกรรมที่นำเข้ามาจะไม่มีเฉพาะรูปแบบของเศษเห็ดหอมอย่างเดียว
    ยังมีอีกหลากหลายรูปแบบที่เราไม่รู้

    โลหะหนักเหล่านี้
    กินเพียงเล็กน้อยก็เป็นมะเร็งได้

    ลองคิดดู
    มีเกษตรกรจำนวนมากที่ไม่รู้ทันกลโกง และ
    นำเศษวัสดุทางการเกษตรเหล่านี้มาทำปุ๋ย

    โลหะหนักเหล่านี้จึงแฝงเข้าไปอยู่ในเรือกสวนไร่นา
    ไหลไปตามลำธาร
    ซึมเข้าไปในตัวของสัตว์น้ำ สุดท้าย
    อาหารเหล่านี้ก็เข้าสู่วงจรตลาด และถูกปรุง
    จนมาอยู่บนจานข้าวของเรา

    อะไรจะเกิดขึ้น
    เมื่อเรากินอาหารเหล่านั้น
    และ
    อะไรจะเกิดขึ้น
    หากกากอุตสาหกรรมเหล่านั้น
    ยังคงไหลบ่า
    ถาโถมเข้าแผ่นดินไทย

    ไม่รู้ว่าเสียงของผมจะดังได้แค่ไหน
    ขอให้ทุกคนช่วยกันแชร์เรื่องอันเลวร้ายนี้ออกไปให้มากที่สุดด้วยครับ

    # กากอุตสาหกรรม #
    #โลหะหนัก#
    19/1/68 ภัยร้ายจากของฟรี ที่อาจถึงตาย เศษวัสดุทางการเกษตร นำเข้าจากจีน มีนักธุรกิจบางคน นำเข้าเห็ดหอมจากจีน ขณะเดียวกัน ก็ยังนำเข้าเศษเห็ดหอมที่เป็นวัสดุเหลือทิ้งจากการผลิตเข้ามาด้วย เศษเห็ดหอมนำเข้านี้ จะไม่ขาย หากแต่จะให้ฟรีสำหรับเกษตรกร เพื่อนำไปใช้ทำปุ๋ยหมักในทางเกษตร ในโลกนี้ไม่มีของฟรี ผมสงสัยเหลือเกินว่าทำไมพ่อค้าจึงใจดี “ยอมเสียค่าขนส่ง ส่งวัสดุเหลือใช้ชั้นดี ให้ทำปุ๋ยที่เมืองไทย” ด้วยความสนับสนุนจากอาจารย์ที่เคารพรัก ก็ได้นำเศษวัสดุเห็ดหอม ส่งเข้าห้องแลป พบว่า มีโลหะหนัก***จำนวนมาก*** จึงได้ถึงบางอ้อ ที่แท้พวกเขาเอาเศษเห็ดหอมไปซับน้ำกากของเสียอุตสาหกรรม ซึ่งมีโลหะหนักจำนวนมาก จากนั้นทำการอบแห้ง แล้วส่งออก เข้าประเทศไทย โดยให้เหตุผลแสนดีว่า “สนับสนุนเกษตรกรไทย” เท่าที่ทราบ ขยะอุตสาหกรรมที่นำเข้ามาจะไม่มีเฉพาะรูปแบบของเศษเห็ดหอมอย่างเดียว ยังมีอีกหลากหลายรูปแบบที่เราไม่รู้ โลหะหนักเหล่านี้ กินเพียงเล็กน้อยก็เป็นมะเร็งได้ ลองคิดดู มีเกษตรกรจำนวนมากที่ไม่รู้ทันกลโกง และ นำเศษวัสดุทางการเกษตรเหล่านี้มาทำปุ๋ย โลหะหนักเหล่านี้จึงแฝงเข้าไปอยู่ในเรือกสวนไร่นา ไหลไปตามลำธาร ซึมเข้าไปในตัวของสัตว์น้ำ สุดท้าย อาหารเหล่านี้ก็เข้าสู่วงจรตลาด และถูกปรุง จนมาอยู่บนจานข้าวของเรา อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อเรากินอาหารเหล่านั้น และ อะไรจะเกิดขึ้น หากกากอุตสาหกรรมเหล่านั้น ยังคงไหลบ่า ถาโถมเข้าแผ่นดินไทย ไม่รู้ว่าเสียงของผมจะดังได้แค่ไหน ขอให้ทุกคนช่วยกันแชร์เรื่องอันเลวร้ายนี้ออกไปให้มากที่สุดด้วยครับ # กากอุตสาหกรรม # #โลหะหนัก#
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • 19/1/68

    ข่าวร้ายร้อนๆรับปีใหม่เรื่องต่อสัมปทานทางด่วนให้เอกชนมาแล้วจ้า

    เมื่อวานนี้ (14 มกราคม) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษ(กทพ.)ชุดใหม่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเมื่อพฤศจิกายน 2567 พากันมา สวัสดีปีใหม่ดิฉัน และถือโอกาสพาคณะกรรมการชุดใหม่มาแนะนำตัว

    ดิฉันติดตามกรณีการล้วงใส้รัฐวิสาหกิจหลายแห่งให้เอกชนรวย เรียกว่าปัจจุบันเป็นยุคสมัยแห่งการเซาะกร่อนบ่อนทำลายโครงสร้างเศรษกิจพื้นฐานของชาติและประชาชนโดยแท้

    การทางพิเศษ (กทพ.)ก็ไม่ต่างจากรัฐวิสาหกิจอื่นๆที่จะถูกจ้องล้วงไส้กอบโกยกำไรผ่องถ่ายไปให้เอกชนอย่างต่อเนื่อง กรณีของ กทพ.คือการหาเหตุต่อสัมปทานให้เอกชนอย่างไม่สิ้นสุด แทนที่หมดสัมปทานแล้วควรหยุดต่อสัมปทานให้เอกชนซึ่งได้กำไรร่ำรวยกันเกินสมควรแล้ว ให้โอกาสประชาชนได้ลดค่าทางด่วนลงไปบ้าง แต่ฝ่ายการเมืองร่วมมือกับฝ่ายบริหารจ้องต่อสัมปทานให้เอกชนหากินบนทางด่วนขูดเลือดประชาชนแบบชั่วกัลปวสาน โดยใช้อุบายแปะหน้าซองว่าต่อสัมปทานให้เอกชน แลกกับการได้ทางด่วนเพิ่มโดยไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องมีหนี้สาธารณะ พร้อมลดค่าผ่านทางให้อีก มีใครเชื่อบ้างว่าเป็นเรื่องจริง โดยไม่มีข้อมูลเบื้องหลัง !?!

    มีข่าวว่า ผู้บริหารกทพ.เร่งร้อนจะต่อสัมปทานให้เอกชนก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 บนทางพิเศษศรีรัช เรียกว่า double deck และจะลดค่าผ่านทางจาก 90 บาทให้เหลือแค่ 50 บาท นี่คือหน้าซองที่แปะป้ายไว้ให้ประชาชนเคลิบเคลิ้ม

    แต่เรื่องจริงที่อยู่เบื้องหลังที่ผู้บริโภคไม่ทราบ คือ การสร้างทางด่วนซ้อนขึ้นไปชั้นที่2 โดยบอกหน้าฉากว่าจะลดราคาให้ผู้บริโภคจาก 90 บาทเหลือ50 บาท แต่หลังฉากคือกทพ.ต้องแลกกับการแบ่งรายได้เพิ่มให้เอกชนอีก 10% ขยายเวลาต่อสัมปทานออกไปอีก 22 ปี ถึงพ.ศ.2601 ทั้งที่สัมปทานทางด่วนสายนี้จะหมดอายุในปี 2578 (อีก 10ปี ก็จะหมดสัมปทาน)

    ค่าก่อสร้างทางด่วนดับเบิ้ลเด็ค ลงทุนแค่ 30,000 กว่าล้าน

    แต่ถ้าก่อสร้างทางด่วนชั้นที่2 ก็ต้องต่อสัมปทานให้เอกชนเพิ่มอีก 22ปี และ ให้ส่วนแบ่งรายได้เพิ่มให้เอกชนอีก10% คิดเป็นเงินที่ต้องแบ่งให้เอกชน เลขกลมๆก็ประมาณปีละ 7,000 ล้านบาท

    ถ้า คูณ22 ปีก็ 150,000ล้านบาท !!!!

    ค่าก่อสร้างทางด่วนชั้นที่2 มูลค่าแค่ 3 หมื่นล้านบาท แลกกับการเพิ่มค่าส่วนแบ่งรายได้ให้เอกชนอีก 1 แสนห้าหมื่นล้าน ตลอด 22ปี เป็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน หรือต่อกลุ่มทุนเจ้าของสัมปทานเดิมร่วมกับกลุ่มการเมืองที่หากินอันเดอร์เทเบิ้ลกันแน่ ?!

    ก็ต้องถามผู้บริหารกทพ. และรัฐมนตรีคมนาคมของพรรครัฐบาล ว่าจะรีบร้อนอ้างการสร้างทางด่วนชั้นที่2 ก่อนสัมปทานหมดในอีก10ปี ทำเพื่อประโยชน์ของใครกันแน่ ?!?

    รสนา โตสิตระกูล
    15 มกราคม 2568

    https://www.facebook.com/share/p/19hszQVEM7/?mibextid=wwXIfr
    19/1/68 ข่าวร้ายร้อนๆรับปีใหม่เรื่องต่อสัมปทานทางด่วนให้เอกชนมาแล้วจ้า เมื่อวานนี้ (14 มกราคม) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษ(กทพ.)ชุดใหม่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเมื่อพฤศจิกายน 2567 พากันมา สวัสดีปีใหม่ดิฉัน และถือโอกาสพาคณะกรรมการชุดใหม่มาแนะนำตัว ดิฉันติดตามกรณีการล้วงใส้รัฐวิสาหกิจหลายแห่งให้เอกชนรวย เรียกว่าปัจจุบันเป็นยุคสมัยแห่งการเซาะกร่อนบ่อนทำลายโครงสร้างเศรษกิจพื้นฐานของชาติและประชาชนโดยแท้ การทางพิเศษ (กทพ.)ก็ไม่ต่างจากรัฐวิสาหกิจอื่นๆที่จะถูกจ้องล้วงไส้กอบโกยกำไรผ่องถ่ายไปให้เอกชนอย่างต่อเนื่อง กรณีของ กทพ.คือการหาเหตุต่อสัมปทานให้เอกชนอย่างไม่สิ้นสุด แทนที่หมดสัมปทานแล้วควรหยุดต่อสัมปทานให้เอกชนซึ่งได้กำไรร่ำรวยกันเกินสมควรแล้ว ให้โอกาสประชาชนได้ลดค่าทางด่วนลงไปบ้าง แต่ฝ่ายการเมืองร่วมมือกับฝ่ายบริหารจ้องต่อสัมปทานให้เอกชนหากินบนทางด่วนขูดเลือดประชาชนแบบชั่วกัลปวสาน โดยใช้อุบายแปะหน้าซองว่าต่อสัมปทานให้เอกชน แลกกับการได้ทางด่วนเพิ่มโดยไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องมีหนี้สาธารณะ พร้อมลดค่าผ่านทางให้อีก มีใครเชื่อบ้างว่าเป็นเรื่องจริง โดยไม่มีข้อมูลเบื้องหลัง !?! มีข่าวว่า ผู้บริหารกทพ.เร่งร้อนจะต่อสัมปทานให้เอกชนก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 บนทางพิเศษศรีรัช เรียกว่า double deck และจะลดค่าผ่านทางจาก 90 บาทให้เหลือแค่ 50 บาท นี่คือหน้าซองที่แปะป้ายไว้ให้ประชาชนเคลิบเคลิ้ม แต่เรื่องจริงที่อยู่เบื้องหลังที่ผู้บริโภคไม่ทราบ คือ การสร้างทางด่วนซ้อนขึ้นไปชั้นที่2 โดยบอกหน้าฉากว่าจะลดราคาให้ผู้บริโภคจาก 90 บาทเหลือ50 บาท แต่หลังฉากคือกทพ.ต้องแลกกับการแบ่งรายได้เพิ่มให้เอกชนอีก 10% ขยายเวลาต่อสัมปทานออกไปอีก 22 ปี ถึงพ.ศ.2601 ทั้งที่สัมปทานทางด่วนสายนี้จะหมดอายุในปี 2578 (อีก 10ปี ก็จะหมดสัมปทาน) ค่าก่อสร้างทางด่วนดับเบิ้ลเด็ค ลงทุนแค่ 30,000 กว่าล้าน แต่ถ้าก่อสร้างทางด่วนชั้นที่2 ก็ต้องต่อสัมปทานให้เอกชนเพิ่มอีก 22ปี และ ให้ส่วนแบ่งรายได้เพิ่มให้เอกชนอีก10% คิดเป็นเงินที่ต้องแบ่งให้เอกชน เลขกลมๆก็ประมาณปีละ 7,000 ล้านบาท ถ้า คูณ22 ปีก็ 150,000ล้านบาท !!!! ค่าก่อสร้างทางด่วนชั้นที่2 มูลค่าแค่ 3 หมื่นล้านบาท แลกกับการเพิ่มค่าส่วนแบ่งรายได้ให้เอกชนอีก 1 แสนห้าหมื่นล้าน ตลอด 22ปี เป็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน หรือต่อกลุ่มทุนเจ้าของสัมปทานเดิมร่วมกับกลุ่มการเมืองที่หากินอันเดอร์เทเบิ้ลกันแน่ ?! ก็ต้องถามผู้บริหารกทพ. และรัฐมนตรีคมนาคมของพรรครัฐบาล ว่าจะรีบร้อนอ้างการสร้างทางด่วนชั้นที่2 ก่อนสัมปทานหมดในอีก10ปี ทำเพื่อประโยชน์ของใครกันแน่ ?!? รสนา โตสิตระกูล 15 มกราคม 2568 https://www.facebook.com/share/p/19hszQVEM7/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🏷 อัพเดตรายการสินค้า🔹
    🏷 อัพเดตรายการสินค้า🔹
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • “การเล่นกับสุนัขและแมว”
    จะส่งผลให้ร่างกายหลั่งสารความสุข
    ออกมามากขึ้น ทำให้เจ้าของรู้สึกมีความสุข
    ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิต ชีวิตจะไม่เหงา
    #ชีวิตไม่เคยเหงาเพราะเรามีเธอ😻😻
    “การเล่นกับสุนัขและแมว” จะส่งผลให้ร่างกายหลั่งสารความสุข ออกมามากขึ้น ทำให้เจ้าของรู้สึกมีความสุข ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิต ชีวิตจะไม่เหงา #ชีวิตไม่เคยเหงาเพราะเรามีเธอ😻😻
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพวิดีโอเพิ่มเติมเหตุการณ์การโจมตีครั้งใหญ่ในกรุงเคียฟวันนี้ทะยอยถูกเผยแพร่อออกมา

    รายงานระบุว่าหนึ่งในเป้าหมายของการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียที่กรุงเคียฟเมื่อเช้ามืดคือบริเวณโรงงาน Artem ในบริเวณสถานีรถไฟใต้ดิน Lukyanovskaya อยู่ตรงข้ามกับร้าน McDonald's โรงงานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของคอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมการทหารของยูเครนในการพัฒนาและผลิตขีปนาวุธขั้นสูง

    โพสต์ก่อนหน้านี้
    https://thaitimes.co/posts/158658
    ภาพวิดีโอเพิ่มเติมเหตุการณ์การโจมตีครั้งใหญ่ในกรุงเคียฟวันนี้ทะยอยถูกเผยแพร่อออกมา รายงานระบุว่าหนึ่งในเป้าหมายของการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียที่กรุงเคียฟเมื่อเช้ามืดคือบริเวณโรงงาน Artem ในบริเวณสถานีรถไฟใต้ดิน Lukyanovskaya อยู่ตรงข้ามกับร้าน McDonald's โรงงานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของคอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมการทหารของยูเครนในการพัฒนาและผลิตขีปนาวุธขั้นสูง โพสต์ก่อนหน้านี้ https://thaitimes.co/posts/158658
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • มีรายงานว่า หนึ่งในนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่อิสราเอลจะตัวคือชาวปาเลสไตน์หัวรุนแรง "โมฮัมเหม็ด อาบู วาร์ดา" (Mohammed Abu Warda ) เขาอยู่เบื้องหลังการสังหารชาวอิสราเอล 45 รายในการโจมตีบนถนนหมายเลข 18 ในเยรูซาเล็มและที่ทางแยกอัชเคลอนในปี 1996 และได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตถึง 48 ครั้งในเรือนจำอิสราเอล

    การปล่อยตัว อาบู วาร์ดา ของอิสราเอล เพื่อต้องการกระตุ้นให้เขาก่อเหตุรุนแรงขึ้นอีกครั้ง และอิสราเอลจะได้มีข้ออ้างในการยุติข้อตกลงหยุดยิงและกลับมาทำลายกาซาอีกครั้ง

    มีรายงานว่า หนึ่งในนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่อิสราเอลจะตัวคือชาวปาเลสไตน์หัวรุนแรง "โมฮัมเหม็ด อาบู วาร์ดา" (Mohammed Abu Warda ) เขาอยู่เบื้องหลังการสังหารชาวอิสราเอล 45 รายในการโจมตีบนถนนหมายเลข 18 ในเยรูซาเล็มและที่ทางแยกอัชเคลอนในปี 1996 และได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตถึง 48 ครั้งในเรือนจำอิสราเอล การปล่อยตัว อาบู วาร์ดา ของอิสราเอล เพื่อต้องการกระตุ้นให้เขาก่อเหตุรุนแรงขึ้นอีกครั้ง และอิสราเอลจะได้มีข้ออ้างในการยุติข้อตกลงหยุดยิงและกลับมาทำลายกาซาอีกครั้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราจะบิดหัวพวกนักการเมืองทุกคนที่กำลังคิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และนี่คือข้อเท็จจริง - เซเลนสกี

    We need to twist the heads of all politicians who decided to think about elections, and this is a fact
    เราจะบิดหัวพวกนักการเมืองทุกคนที่กำลังคิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และนี่คือข้อเท็จจริง - เซเลนสกี We need to twist the heads of all politicians who decided to think about elections, and this is a fact
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • ภาพขีปนาวุธ Iskander-M ของรัสเซีย โจมตีที่โรงงาน "Motor Sich" ในตัวเมืองของภูมิภาคซาโปโรซี (Zaporozhye) เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 มกราคม 2568

    โรงงานแห่งนี้มีส่วนร่วมในการพัฒนา การผลิต การซ่อมแซมและการบำรุงรักษาเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงการผลิตเครื่องยนต์สำหรับโดรน Palyanitsa ซึ่งเป็นเครื่องบินไร้คนขับที่ยูเครนใช้โจมตีดินแดนรัสเซียมาตลอด

    ก่อนหน้านี้ โรงงานแห่งนี้ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดการทำงานของโรงงานแห่งนี้ได้ ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต จึงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
    ภาพขีปนาวุธ Iskander-M ของรัสเซีย โจมตีที่โรงงาน "Motor Sich" ในตัวเมืองของภูมิภาคซาโปโรซี (Zaporozhye) เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 มกราคม 2568 โรงงานแห่งนี้มีส่วนร่วมในการพัฒนา การผลิต การซ่อมแซมและการบำรุงรักษาเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงการผลิตเครื่องยนต์สำหรับโดรน Palyanitsa ซึ่งเป็นเครื่องบินไร้คนขับที่ยูเครนใช้โจมตีดินแดนรัสเซียมาตลอด ก่อนหน้านี้ โรงงานแห่งนี้ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดการทำงานของโรงงานแห่งนี้ได้ ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต จึงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • อีกหนึ่งเวอร์ชั่นของวิดีโอที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์

    ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาเตือนเนทันยาฮูว่าอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา

    สิ่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    อีกหนึ่งเวอร์ชั่นของวิดีโอที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาเตือนเนทันยาฮูว่าอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา สิ่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 27 0 รีวิว
  • ถ้าเกิดความผิดพลาด..แก้ไขให้เร็ว..พยายาม...เท่าที่ทำได้ (อย่างเต็มกำลัง" สุดท้าย..ถ้ามันยังแก้ไขไม่ได้...ลองเปลี่ยน จากแก้ทั้งหมด ทุกอย่าง..เปลี่ยนเป็นทีละเล็กละน้อย...แต่ถ้ายังไม่ได้อีก..ก็ ทำใจยอมรับกับคำว่า #ช่างมัน...เพราะขีวิตไม่ได้สิ้นสุดตอนนี้เดี๋ยวนี้..ก็ต้องดำเนินต่อไป..จะในบทบาทที่ถูกตราหน้าว่า คนชั่ว คนเลว คนโกง..ก็ว่ากันไป....ถ้าคุณทำได้กับคำว่า ช่างมัน ...แต่ต้องผ่านกระบวนการข้างต้นอย่างเต็มที่ก่อนนะ...แสดงว่า คุณ ก้าวข้ามไปอีก 1 level แล้วและจงจำไว้ว่า ถ้าคุณกลับมาได้ในอนาคต ภาพจำในอดีต สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย อาจไม่มีคนพูดถึง หรือถึงขั้น ลืมไปเลย..
    ถ้าเกิดความผิดพลาด..แก้ไขให้เร็ว..พยายาม...เท่าที่ทำได้ (อย่างเต็มกำลัง" สุดท้าย..ถ้ามันยังแก้ไขไม่ได้...ลองเปลี่ยน จากแก้ทั้งหมด ทุกอย่าง..เปลี่ยนเป็นทีละเล็กละน้อย...แต่ถ้ายังไม่ได้อีก..ก็ ทำใจยอมรับกับคำว่า #ช่างมัน...เพราะขีวิตไม่ได้สิ้นสุดตอนนี้เดี๋ยวนี้..ก็ต้องดำเนินต่อไป..จะในบทบาทที่ถูกตราหน้าว่า คนชั่ว คนเลว คนโกง..ก็ว่ากันไป....ถ้าคุณทำได้กับคำว่า ช่างมัน ...แต่ต้องผ่านกระบวนการข้างต้นอย่างเต็มที่ก่อนนะ...แสดงว่า คุณ ก้าวข้ามไปอีก 1 level แล้วและจงจำไว้ว่า ถ้าคุณกลับมาได้ในอนาคต ภาพจำในอดีต สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย อาจไม่มีคนพูดถึง หรือถึงขั้น ลืมไปเลย..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปู้เหลียงเหรินแห่งสมัยถัง

    ในซีรีส์เรื่อง <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> มีกล่าวไว้ แคว้นอู๋มีลิ่วเต้าเหมิน แคว้นอันมีองครักษ์เสื้อแดง และแคว้นฉู่มีปู้เหลียงเหริน โดยที่เหรินหรูอี้ถูกเข้าใจว่าเป็นปู้เหลียงเหรินจากแคว้นฉู่

    ซีรีส์เรื่องนี้เป็นอาณาจักรและยุคสมัยสมมุติ ลิ่วเต้าเหมินและองครักษ์เสื้อแดงไม่มีจริงในประวัติศาสตร์ แต่ในสมัยราชวงศ์หมิงมีมือปราบลิ่วซ่านเหมินและมีองค์รักษ์เสื้อแพร (Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ลองค้นอ่านย้อนหลังจากสารบัญบนเพจนะคะ) ส่วนปู้เหลียงเหรินนั้น มีอยู่จริงในสมัยถัง เพื่อนเพจบางท่านอาจพอจำได้ว่าในเรื่อง <ตำนานลั่วหยาง> และ <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> มีปู้เหลียงเหรินปรากฏด้วย (แต่จำไม่ได้แล้วว่าซับไทยแปลไว้แตกต่างกันไหม)

    ในบันทึกเกร็ดประวัติของสมัยชิงมีเขียนถึงโดยคร่าวว่า ผู้มีหน้าที่การสืบตามและจับกุมคนร้ายนั้น ในสมัยถังเรียกว่าปู้เหลียงเหริน มีหัวหน้าเรียกว่าปู้เหลียงซ่วย สถานะเปรียบได้เป็นต้าสุยเหอของราชวงศ์ฮั่น (แต่... ต้าสุยหรือต้าสุยเหอนี้ ในสมัยฮั่นคือราชองครักษ์รักษาพระราชวังที่ประจำการอยู่หน้าประตูวัง) และตามพจนานุกรมฉบับสุยถังและห้าราชวงศ์ที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 1997 นั้น อธิบายถึงปู้เหลียงเหรินไว้ว่าเป็นคนที่ปฏิบัติภารกิจของทางการในสมัยถัง มีหน้าที่ตามสืบและจับกุมผู้กระทำความผิด

    คำว่า ‘ปู้เหลียงเหริน’ แปลตรงตัวว่าคนไม่ดี แล้วทำไมจึงใช้ชื่อนี้? คำตอบยังเป็นที่ถกกันจวบจนปัจจุบันเพราะไม่มีเอกสารยืนยันชัดเจน บ้างก็ว่าเป็นเพราะวิธีการสืบหาและจับคนร้ายของพวกเขานั้นโหดร้ายและสกปรก บ้างก็ว่าจริงแล้วพวกเขาเป็นอดีตอาชญากรที่ทางการให้ปฏิบัติภารกิจเพื่อสร้างผลงานไถ่โทษ และบ้างก็ว่าเป็นการเรียกย่อที่หมายถึงมือปราบที่มีหน้าที่จับกุมคนไม่ดี

    จากการพยายามไปหาข้อมูลมา Storyฯ รู้สึกว่า ปู้เหลียงเหรินเป็นกลุ่มคนที่เป็นปริศนาทางประวัติศาสตร์มิใช่น้อย เนื่องเพราะข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาแทบไม่ปรากฏ ทราบแต่ว่ามีอยู่ในสมัยถัง มีหน้าที่สืบหาและจับกุมคนร้าย แต่ตัวตนและสถานะของพวกเขาแท้จริงแล้วเป็นอย่างไรไม่มีการระบุชัด และในพงศาวดารถังลิ่วเตี่ยน ไม่ปรากฏตำแหน่งหัวหน้าปู้เหลียงซ่วยและไม่มีการกล่าวถึงปู้เหลียงเหริน

    และเนื่องด้วยมีเอกสารในสมัยชิงที่นิยามปู้เหลียงเหรินโดยเปรียบเทียบถึงราชองรักษ์ต้าสุยของสมัยฮั่นตามที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้มีคนสันนิษฐานว่าปู้เหลียงเหรินเป็นหน่วยงานลับที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้เท่านั้น

    แต่... ถ้าเป็นองค์กรลับก็ไม่ควรมีการกล่าวถึงอย่างเปิดเผย ทว่าในบันทึกในเกร็ดประวัติและรวมเรื่องสั้น ‘ฉาวเหยี่ยเชียนจ้าย’ ของสมัยถังนั้น มีการกล่าวถึงปู้เหลียงเหรินในคดีดังที่เกี่ยวข้องกับคดีคนหายจากตระกูลขุนนางระดับสูงในรัชสมัยขององค์ถังไท่จงหลี่ซื่อหมินแห่งราชวงศ์ถัง

    ในเมื่อองค์กรนี้มีตัวตนจริง แต่ไม่ปรากฏชื่อในหน่วยงานราชการอย่างเป็นทางการ แต่ก็อาจไม่เป็นความลับ จึงเป็นที่สันนิษฐานไปอีกว่า ปู้เหลียงเหรินจัดเป็นเจ้าหน้าที่หลวงที่ระดับต่ำมากหรือเสมียน เรียกว่า ‘ลี่’ (吏) (หมายเหตุ ถ้ามีตำแหน่งเป็นขุนนางจะเรียกว่า ‘กวน’/官) หรือเป็นเพียงคนที่ช่วยงานราชการโดยไม่มียศตำแหน่งอย่างแท้จริง และที่บอกว่าพวกเขามีสถานะที่ต่ำมากนั้น เป็นเพราะว่า พวกเขาเป็นอาชญกรมาก่อนและเข้ามาทำงานให้ทางการเพื่อไถ่โทษ ซึ่งสอดคล้องกับหนึ่งในที่มาของชื่อที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั่นเอง

    นอกจากตัวตนที่เป็นปริศนาแล้ว ที่เป็นปริศนายิ่งกว่าก็คือการหายตัวไปของปู้เหลียงเหริน เพราะไม่มีบันทึกว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่ข้อสันนิษฐานว่าเมื่อสิ้นราชวงศ์ถังกลุ่มปู้เหลียงเหรินก็หอบสมบัติหนีหายกันไป บ้างก็ว่าสลายตัวไป บ้างก็ว่าไปปักหลักที่ที่มั่นอื่นรอวันกลับมาทำงานอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่มีการยืนยัน แต่ข้อเท็จจริงคือหลังจากราชวงศ์ถังล่มสลายก็ไม่มีการเรียกมือปราบว่าปู้เหลียงเหรินอีกเลย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.ejdz.cn/download/news/n143411.html
    https://item.btime.com/f12taep1nci9228p25pl8r5dejl
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_13674760
    https://item.btime.com/f12taep1nci9228p25pl8r5dejl?page=1
    http://www.qulishi.com/article/201906/344565.html
    https://www.163.com/dy/article/GQNDI8640552B97M.html

    #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #ปู้เหลียงเหริน #มือปราบสมัยถัง
    ปู้เหลียงเหรินแห่งสมัยถัง ในซีรีส์เรื่อง <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> มีกล่าวไว้ แคว้นอู๋มีลิ่วเต้าเหมิน แคว้นอันมีองครักษ์เสื้อแดง และแคว้นฉู่มีปู้เหลียงเหริน โดยที่เหรินหรูอี้ถูกเข้าใจว่าเป็นปู้เหลียงเหรินจากแคว้นฉู่ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นอาณาจักรและยุคสมัยสมมุติ ลิ่วเต้าเหมินและองครักษ์เสื้อแดงไม่มีจริงในประวัติศาสตร์ แต่ในสมัยราชวงศ์หมิงมีมือปราบลิ่วซ่านเหมินและมีองค์รักษ์เสื้อแพร (Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ลองค้นอ่านย้อนหลังจากสารบัญบนเพจนะคะ) ส่วนปู้เหลียงเหรินนั้น มีอยู่จริงในสมัยถัง เพื่อนเพจบางท่านอาจพอจำได้ว่าในเรื่อง <ตำนานลั่วหยาง> และ <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> มีปู้เหลียงเหรินปรากฏด้วย (แต่จำไม่ได้แล้วว่าซับไทยแปลไว้แตกต่างกันไหม) ในบันทึกเกร็ดประวัติของสมัยชิงมีเขียนถึงโดยคร่าวว่า ผู้มีหน้าที่การสืบตามและจับกุมคนร้ายนั้น ในสมัยถังเรียกว่าปู้เหลียงเหริน มีหัวหน้าเรียกว่าปู้เหลียงซ่วย สถานะเปรียบได้เป็นต้าสุยเหอของราชวงศ์ฮั่น (แต่... ต้าสุยหรือต้าสุยเหอนี้ ในสมัยฮั่นคือราชองครักษ์รักษาพระราชวังที่ประจำการอยู่หน้าประตูวัง) และตามพจนานุกรมฉบับสุยถังและห้าราชวงศ์ที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 1997 นั้น อธิบายถึงปู้เหลียงเหรินไว้ว่าเป็นคนที่ปฏิบัติภารกิจของทางการในสมัยถัง มีหน้าที่ตามสืบและจับกุมผู้กระทำความผิด คำว่า ‘ปู้เหลียงเหริน’ แปลตรงตัวว่าคนไม่ดี แล้วทำไมจึงใช้ชื่อนี้? คำตอบยังเป็นที่ถกกันจวบจนปัจจุบันเพราะไม่มีเอกสารยืนยันชัดเจน บ้างก็ว่าเป็นเพราะวิธีการสืบหาและจับคนร้ายของพวกเขานั้นโหดร้ายและสกปรก บ้างก็ว่าจริงแล้วพวกเขาเป็นอดีตอาชญากรที่ทางการให้ปฏิบัติภารกิจเพื่อสร้างผลงานไถ่โทษ และบ้างก็ว่าเป็นการเรียกย่อที่หมายถึงมือปราบที่มีหน้าที่จับกุมคนไม่ดี จากการพยายามไปหาข้อมูลมา Storyฯ รู้สึกว่า ปู้เหลียงเหรินเป็นกลุ่มคนที่เป็นปริศนาทางประวัติศาสตร์มิใช่น้อย เนื่องเพราะข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาแทบไม่ปรากฏ ทราบแต่ว่ามีอยู่ในสมัยถัง มีหน้าที่สืบหาและจับกุมคนร้าย แต่ตัวตนและสถานะของพวกเขาแท้จริงแล้วเป็นอย่างไรไม่มีการระบุชัด และในพงศาวดารถังลิ่วเตี่ยน ไม่ปรากฏตำแหน่งหัวหน้าปู้เหลียงซ่วยและไม่มีการกล่าวถึงปู้เหลียงเหริน และเนื่องด้วยมีเอกสารในสมัยชิงที่นิยามปู้เหลียงเหรินโดยเปรียบเทียบถึงราชองรักษ์ต้าสุยของสมัยฮั่นตามที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้มีคนสันนิษฐานว่าปู้เหลียงเหรินเป็นหน่วยงานลับที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้เท่านั้น แต่... ถ้าเป็นองค์กรลับก็ไม่ควรมีการกล่าวถึงอย่างเปิดเผย ทว่าในบันทึกในเกร็ดประวัติและรวมเรื่องสั้น ‘ฉาวเหยี่ยเชียนจ้าย’ ของสมัยถังนั้น มีการกล่าวถึงปู้เหลียงเหรินในคดีดังที่เกี่ยวข้องกับคดีคนหายจากตระกูลขุนนางระดับสูงในรัชสมัยขององค์ถังไท่จงหลี่ซื่อหมินแห่งราชวงศ์ถัง ในเมื่อองค์กรนี้มีตัวตนจริง แต่ไม่ปรากฏชื่อในหน่วยงานราชการอย่างเป็นทางการ แต่ก็อาจไม่เป็นความลับ จึงเป็นที่สันนิษฐานไปอีกว่า ปู้เหลียงเหรินจัดเป็นเจ้าหน้าที่หลวงที่ระดับต่ำมากหรือเสมียน เรียกว่า ‘ลี่’ (吏) (หมายเหตุ ถ้ามีตำแหน่งเป็นขุนนางจะเรียกว่า ‘กวน’/官) หรือเป็นเพียงคนที่ช่วยงานราชการโดยไม่มียศตำแหน่งอย่างแท้จริง และที่บอกว่าพวกเขามีสถานะที่ต่ำมากนั้น เป็นเพราะว่า พวกเขาเป็นอาชญกรมาก่อนและเข้ามาทำงานให้ทางการเพื่อไถ่โทษ ซึ่งสอดคล้องกับหนึ่งในที่มาของชื่อที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั่นเอง นอกจากตัวตนที่เป็นปริศนาแล้ว ที่เป็นปริศนายิ่งกว่าก็คือการหายตัวไปของปู้เหลียงเหริน เพราะไม่มีบันทึกว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่ข้อสันนิษฐานว่าเมื่อสิ้นราชวงศ์ถังกลุ่มปู้เหลียงเหรินก็หอบสมบัติหนีหายกันไป บ้างก็ว่าสลายตัวไป บ้างก็ว่าไปปักหลักที่ที่มั่นอื่นรอวันกลับมาทำงานอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่มีการยืนยัน แต่ข้อเท็จจริงคือหลังจากราชวงศ์ถังล่มสลายก็ไม่มีการเรียกมือปราบว่าปู้เหลียงเหรินอีกเลย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.ejdz.cn/download/news/n143411.html https://item.btime.com/f12taep1nci9228p25pl8r5dejl Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_13674760 https://item.btime.com/f12taep1nci9228p25pl8r5dejl?page=1 http://www.qulishi.com/article/201906/344565.html https://www.163.com/dy/article/GQNDI8640552B97M.html #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #ปู้เหลียงเหริน #มือปราบสมัยถัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความอยากรู้อยากเห็น บ่อเกิดการพัฒนาตนเอง
    ความอยากรู้อยากเห็น บ่อเกิดการพัฒนาตนเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สื่อเยอรมันเผยแพร่ภาพของชอลซ์ รักษาการนายกรัฐมนตรีเยอรมัน ขณะกำลังพยายามเอื้อมมือไปคว้าแขนของแบร์บอค รักษาการรัฐมนตรีต่างประเทศ หลังจากเธอหุนหันออกจากห้องประชุม จากการที่ชอลซ์ปฏิเสธข้อเสนอให้ความช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติม

    แบร์บอคและบอริส พิสตอริอุส รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมเยอรมัน พยายามกดดันให้ชอลซ์อนุมัติการช่วยเหลือทางการทหารชุดใหม่แก่เคียฟ มูลค่า 3 พันล้านยูโร แต่ชอลซ์บ่ายเบี่ยงมาตลอด
    สื่อเยอรมันเผยแพร่ภาพของชอลซ์ รักษาการนายกรัฐมนตรีเยอรมัน ขณะกำลังพยายามเอื้อมมือไปคว้าแขนของแบร์บอค รักษาการรัฐมนตรีต่างประเทศ หลังจากเธอหุนหันออกจากห้องประชุม จากการที่ชอลซ์ปฏิเสธข้อเสนอให้ความช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติม แบร์บอคและบอริส พิสตอริอุส รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมเยอรมัน พยายามกดดันให้ชอลซ์อนุมัติการช่วยเหลือทางการทหารชุดใหม่แก่เคียฟ มูลค่า 3 พันล้านยูโร แต่ชอลซ์บ่ายเบี่ยงมาตลอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์ใน Velyka Novosilka ถูกรัสเซียบุกสองทิศทางพร้อมๆกัน

    มีรายงานว่าหน่วยจู่โจมของรัสเซียสามารถสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโมครียาลี (Mokri Yaly) เพื่อข้ามไปทางฝั่งตะวันออกในใจกลางเมืองเวลีกาโนโวซิลกา (Velyka Novosilka) ได้แล้ว

    ขณะเดียวกัน อีกหน่วยจู่โจมของรัสเซียซึ่งมาจากทางตะวันออก ได้เริ่มเปิดฉากโจมตีเมืองด้วยเช่นกัน โดยมีความคืบหน้าไปทีละน้อย
    สถานการณ์ใน Velyka Novosilka ถูกรัสเซียบุกสองทิศทางพร้อมๆกัน มีรายงานว่าหน่วยจู่โจมของรัสเซียสามารถสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโมครียาลี (Mokri Yaly) เพื่อข้ามไปทางฝั่งตะวันออกในใจกลางเมืองเวลีกาโนโวซิลกา (Velyka Novosilka) ได้แล้ว ขณะเดียวกัน อีกหน่วยจู่โจมของรัสเซียซึ่งมาจากทางตะวันออก ได้เริ่มเปิดฉากโจมตีเมืองด้วยเช่นกัน โดยมีความคืบหน้าไปทีละน้อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประวัติศาสตร์จีน มีมายาวนานกว่า 3000 ปี ...มีประเพณี และความเชื่อมากมาย...หลักคิดส่วนตัว..เชื่อว่า...มันต้องมี พิธีกรรม หรือประเพณีบางอย่าง...ที่กระทำแล้ว..ให้ผล ได้จริง....เพียงแค่เราไม่รู้ว่า...แบบใดบ้าง..? ...ไม่งั้น การดำรงความเป็น ชาติเดียว สืบต่อเนื่องกันมากว่า 3000 ปี และเป็น ชาติเดียวในโลก...ที่เป็นแบบนี้..คงต้องถูกเปลี่ยนแปลงไป ดังในหลายประเทศที่เคย เป็น อณาจักรมาก่อน เช่น กรีก โรมัน ไอยคุปต์ เปอร์เซีย ..และอื่นๆ ...ย้ำ..ไม่ได้บอกว่า พิธีกรรมใด ได้ผล หรือไม่ ประการใด..เพียงแค่ เป็น #หลักคิด
    ..ถ้าต้องเลือกเชื่อ.(แม้พิสูจน์ไม่ได้ทั้งคู่).ขอเชื่อ เครดิต กว่า 3000 ปี ..ที่แม้เป็นเรื่องเล่า...กับ เครดิต ที่เกิดขึ้น "เมื่อวาน" ขอเลือกอย่างแรก.
    ..เช่นในภาพ ศาลเจ้าพ่อเสือ นักธุรกิจไทย เชื้อสายจีน เริ่มต้นปีใหม่ ด้วยการสักการะที่นี่...ตัวผู้เขียนเองก็เช่นกัน..นั่นแปลว่าอะไร แปลว่า เขาทำแล้วมีผลใช่ไหม? ถึงสืบต่อกันมา รุ่นสู่รุ่น...
    ...ผู้เขียนต่อต้านสิธีคิดขิงคนไทยจำนวนไม่น้อย...ที่ละทิ้ง ความรู้ ความคิด ความเขื่อบางอย่าง....เพราะมีใครจากไหนก็ไม่รู้...มาบอกว่า .มันต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้...แล้วเขื่อเขาในทันที...จงคิด..ความรู้มีอยู่ทั่วไปในอากาศ...ทุกคนสืบค้นได้.
    ประวัติศาสตร์จีน มีมายาวนานกว่า 3000 ปี ...มีประเพณี และความเชื่อมากมาย...หลักคิดส่วนตัว..เชื่อว่า...มันต้องมี พิธีกรรม หรือประเพณีบางอย่าง...ที่กระทำแล้ว..ให้ผล ได้จริง....เพียงแค่เราไม่รู้ว่า...แบบใดบ้าง..? ...ไม่งั้น การดำรงความเป็น ชาติเดียว สืบต่อเนื่องกันมากว่า 3000 ปี และเป็น ชาติเดียวในโลก...ที่เป็นแบบนี้..คงต้องถูกเปลี่ยนแปลงไป ดังในหลายประเทศที่เคย เป็น อณาจักรมาก่อน เช่น กรีก โรมัน ไอยคุปต์ เปอร์เซีย ..และอื่นๆ ...ย้ำ..ไม่ได้บอกว่า พิธีกรรมใด ได้ผล หรือไม่ ประการใด..เพียงแค่ เป็น #หลักคิด ..ถ้าต้องเลือกเชื่อ.(แม้พิสูจน์ไม่ได้ทั้งคู่).ขอเชื่อ เครดิต กว่า 3000 ปี ..ที่แม้เป็นเรื่องเล่า...กับ เครดิต ที่เกิดขึ้น "เมื่อวาน" ขอเลือกอย่างแรก. ..เช่นในภาพ ศาลเจ้าพ่อเสือ นักธุรกิจไทย เชื้อสายจีน เริ่มต้นปีใหม่ ด้วยการสักการะที่นี่...ตัวผู้เขียนเองก็เช่นกัน..นั่นแปลว่าอะไร แปลว่า เขาทำแล้วมีผลใช่ไหม? ถึงสืบต่อกันมา รุ่นสู่รุ่น... ...ผู้เขียนต่อต้านสิธีคิดขิงคนไทยจำนวนไม่น้อย...ที่ละทิ้ง ความรู้ ความคิด ความเขื่อบางอย่าง....เพราะมีใครจากไหนก็ไม่รู้...มาบอกว่า .มันต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้...แล้วเขื่อเขาในทันที...จงคิด..ความรู้มีอยู่ทั่วไปในอากาศ...ทุกคนสืบค้นได้.
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิหร่านและรัสเซีย

    👉ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และความมั่นคง:
    - รัสเซียและอิหร่านจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ในทุกพื้นที่ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งความมั่นคงและการป้องกันประเทศ
    - ทั้งสองประเทศจะประสานงานการดำเนินการทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกภายใต้ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระยะยาว
    - ทั้งสองประเทศจะเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติด้วยการต่อสู้กับภัยคุกคามร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ระหว่างหน่วย SVR ของรัสเซียและหน่วย VAJA ของอิหร่าน
    - ทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะจัดการซ้อมรบร่วมกันในทั้งสองประเทศและในระดับนานาชาติ
    - รัสเซียและอิหร่านจะร่วมมือกันจัดการกับภัยคุกคามทางทหารและความมั่นคงร่วมกันทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค เช่นเดียวกับข้อตกลงรัสเซีย-จีน
    - สร้างความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการประชุมประจำปีเพื่อทบทวนและผลักดันข้อตกลงทวิภาคี
    - ความร่วมมือจะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันการแทรกแซงของบุคคลที่สามในทะเลแคสเปียน เอเชียกลาง คอเคซัส และตะวันออกกลาง

    👉ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพลังงาน:
    - เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้ขยายออกไป โดยเน้นที่การลงทุนร่วมกันในดานโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือด้านธนาคาร และการสร้างเส้นทางการค้าผ่านอิหร่าน
    - ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันในภาคส่วนน้ำมันและก๊าซ โดยแบ่งปันเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านการผลิต การแปรรูป และการขนส่ง โดยมุ่งหวังที่จะมีอิทธิพลต่อตลาดน้ำมันและก๊าซโลก
    - ทั้งสองประเทศจะดำเนินโครงการร่วมกันที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ รวมถึงการสร้างโรงงานนิวเคลียร์

    👉ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี:
    - จัดทำแผนความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวาง
    - ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีอวกาศจะได้รับการเสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
    รายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิหร่านและรัสเซีย 👉ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และความมั่นคง: - รัสเซียและอิหร่านจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ในทุกพื้นที่ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งความมั่นคงและการป้องกันประเทศ - ทั้งสองประเทศจะประสานงานการดำเนินการทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกภายใต้ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระยะยาว - ทั้งสองประเทศจะเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติด้วยการต่อสู้กับภัยคุกคามร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ระหว่างหน่วย SVR ของรัสเซียและหน่วย VAJA ของอิหร่าน - ทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะจัดการซ้อมรบร่วมกันในทั้งสองประเทศและในระดับนานาชาติ - รัสเซียและอิหร่านจะร่วมมือกันจัดการกับภัยคุกคามทางทหารและความมั่นคงร่วมกันทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค เช่นเดียวกับข้อตกลงรัสเซีย-จีน - สร้างความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการประชุมประจำปีเพื่อทบทวนและผลักดันข้อตกลงทวิภาคี - ความร่วมมือจะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันการแทรกแซงของบุคคลที่สามในทะเลแคสเปียน เอเชียกลาง คอเคซัส และตะวันออกกลาง 👉ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพลังงาน: - เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้ขยายออกไป โดยเน้นที่การลงทุนร่วมกันในดานโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือด้านธนาคาร และการสร้างเส้นทางการค้าผ่านอิหร่าน - ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันในภาคส่วนน้ำมันและก๊าซ โดยแบ่งปันเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านการผลิต การแปรรูป และการขนส่ง โดยมุ่งหวังที่จะมีอิทธิพลต่อตลาดน้ำมันและก๊าซโลก - ทั้งสองประเทศจะดำเนินโครงการร่วมกันที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ รวมถึงการสร้างโรงงานนิวเคลียร์ 👉ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี: - จัดทำแผนความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวาง - ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีอวกาศจะได้รับการเสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛡️"ปกป้องอนาคตคุณวันนี้" #เช็คเบี้ยประกันได้ทันที

    อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน‼️
    ⛑️ เลือกประกันที่คุ้มครองทุกความเสี่ยง
    ด้วยเบี้ยประกันเริ่มต้นที่คุ้มค่า คุ้มครองครบทุกด้าน

    **ใส่ใจทุกความต้องการ ด้วยบริการที่ดีที่สุด**
    ✅ ปรึกษาออนไลน์ได้ทันที เพื่อความมั่นใจในทุกจังหวะของชีวิต อยู่ที่ไหนก็ซื้อประกันได้ง่ายๆทั่วประเทศ

    💬 สนใจทักแชทได้เลย ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
    📩 Line ID : @fiamony
    📩 คลิ๊กเลย https://lin.ee/o3lzLTu
    🌐 FB Page: Fiamony
    ☎️ 081-323-8168

    *ให้ความคุ้มครองโดย บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต

    #ประกันชีวิต | #ประกันสุขภาพ | #ประกันมรดก
    #ประกันเงินออม | #ประกันบำนาญ | #fiamony
    #ประกันสุขภาพเด็ก | #ประกันสุขภาพผู้ใหญ่
    #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย | #ประกันKeyman
    🛡️"ปกป้องอนาคตคุณวันนี้" #เช็คเบี้ยประกันได้ทันที อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน‼️ ⛑️ เลือกประกันที่คุ้มครองทุกความเสี่ยง ด้วยเบี้ยประกันเริ่มต้นที่คุ้มค่า คุ้มครองครบทุกด้าน **ใส่ใจทุกความต้องการ ด้วยบริการที่ดีที่สุด** ✅ ปรึกษาออนไลน์ได้ทันที เพื่อความมั่นใจในทุกจังหวะของชีวิต อยู่ที่ไหนก็ซื้อประกันได้ง่ายๆทั่วประเทศ 💬 สนใจทักแชทได้เลย ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ 📩 Line ID : @fiamony 📩 คลิ๊กเลย https://lin.ee/o3lzLTu 🌐 FB Page: Fiamony ☎️ 081-323-8168 *ให้ความคุ้มครองโดย บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต #ประกันชีวิต | #ประกันสุขภาพ | #ประกันมรดก #ประกันเงินออม | #ประกันบำนาญ | #fiamony #ประกันสุขภาพเด็ก | #ประกันสุขภาพผู้ใหญ่ #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย | #ประกันKeyman
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts