• ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว ตอนที่ 6 – จมูกคนอื่น
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว”
    ตอนที่ 6 “จมูกคนอื่น”
    เมื่อตุรกีออกประกาศเชิญชวนให้บรรดา พวกนักสร้างระบบเครื่องมือรบ ให้มายื่นประมูลเครื่องมือป้องกันตนเอง ที่เรียกว่า Long Range Air and Missle Defense System ใครจะยิงจรวดแบบไหน มาจากทางไหน เครื่องมือนี้จับได้ทำลายหมด ตุรกีบอกฉันควรมีของใช้ส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่ยืมจมูกคนอื่นเขาหายใจ ตะบี้ตะบันไปตลอดชาติ ถ้ามันจมูกบี้ไป แล้วตูจะหายใจยังไงวะ เออ ! อันนี้มีเหตุผล ฟังขึ้น แม้ดูจะออกลูกกะล่อนนิด ๆ แต่ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่
    โครงการนี้ยาวนาน ตุรกีคิดมานานแล้ว และทำอย่างเปิดเผย ตอนแรกอเมริกา NATO และ EU ต่างก็หน้างอ ทำไมตุรกีไม่ปรึกษา ทำไมตุรกีไม่ขออนุญาต ตุรกีบอกขอโทษ ตุรกีคิดว่ายังมีอธิปไตยเหนือบ้านเมืองตนเองอยู่นะ แม้กระผมจะยอมนายท่านไปหลายเรื่องก็เถอะ แต่เรื่องหายใจด้วยจมูกของผม นี่มันเรื่องส่วนตัวจริง ๆ
    หลังจากสุมหัวคิดกันดูแล้ว อเมริกาและ EU ก็บอกว่าเอาแบบนี้แล้วกัน พวกเราก็ยื่นประมูลสร้างไอ้เครื่องป้องกันบ้าบอนี้เข้าไปด้วย แล้วเราก็ไปบีบคอมันให้มันเลือกเรา มันจะยากเย็นอะไร
    ตุรกีออกประกาศเชิญชวนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 เกือบ 4 ปีแล้ว พิจารณาอะไร มันถึงใช้เวลานานขนาดนั้น มันควรจะประกาศได้แล้วว่าใครชนะประมูล- แต่ตุรกีก็ไม่ประกาศ อะไรมันปิดปากค้ำคออยู่ หรือตุรกีรอดูอะไร หรือตุรกีกำลังเล่นบท “ตุรกี” ให้ดูอยู่
    ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังยุ่งอยู่กับ เรื่องกระทืบซีเรีย เรื่องเส้นทางเดินท่อแก๊ส เรื่องการเลือกตั้ง เรื่องคอรับชั่นในประเทศ เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 ตุรกีกลับใช้ช่วงเวลานั้นประกาศเสียงเรียบ ๆ ว่า ขณะนี้เราได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว เราได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า เบื้องต้นผู้ที่เราน่าจะเลือกให้มาทำเครื่องหายใจของเราเอง น่าจะเป็นบริษัทของประเทศจีน !
    เขาว่าวันนั้น ขนาดเสียงจิ้งจกไต่ผ่านเพดานห้องทำงานรูปไข่ของนาย Obama (หมายถึง Oval Room ครับ ลุงนิทานไม่ได้ทะลึ่ง) ทหารรักษาการณ์ข้างนอกประตูหน้า White House ยังได้ยินเลย ทุกอย่างเงียบสงบ ลมไม่กล้าพัด เจ้าหน้าที่ต้องกลั้นหายใจ เกรงว่าแม้ลมหายใจ ก็จะทำให้เกิดแรงสะเทือนได้ อาการเช่นนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะที่ White House หรอก เขาว่าห้องทำงานของท่านนายพลใหญ่ หัวหน้าใหญ่ของ NATO ก็เป็นเหมือนกัน
    ในคำแถลงของตุรกีบอกว่า จีนโดยบริษัท CPMIEC ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีน ยินดีที่จะรับเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องมือ ที่เรียกว่า Long Range Air and Missile Defense System (T-LORAMIDS) ตามคำเชิญชวนของตุรกี เมื่อ ค.ศ. 2009 ที่ให้บุคคลภายนอกเสนอการทำงานแบบ off-the-shelf vesion ของ (T-LORAMIDS) ในระบบที่สามารถเข้ากับอุปกรณ์การทำงานทั้งปวงของตุรกีได้ ในราคาประมาณ 3.4 พันล้านเหรียญ (เท่านั้นเอง) เป็นการสร้างจมูกส่วนตัวของตุรกี ที่ว่าไปแล้วในราคาไม่แพงเลย ฮา
    นาย Murad Bayer เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ การจัดซื้อจัดจ้างของตุรกี แถลงเพิ่มเติมว่าข้อเสนอของ CPMIEC ดีกว่าผู้เข้าแข่งประมูลทั้งหมด รวมทั้ง Raytheon/Lockheed-Martin ของอเมริกา กลุ่ม Italian/French และของรัสเซีย นาย Bayer บอกว่า เขาจะเจรจารายละเอียดขั้นสุดท้ายและสรุปผลกับ CPMIEC ให้เสร็จสิ้นก่อนครั้งแรกของปี ค.ศ. 2014
    จิ้งจกแมงสาบเริ่มออกเดินต่อ หลังจากตัวชากันไปพักใหญ่ วุฒิสมาชิกอเมริกัน ส่งหนังสือลงวันที่ 11 ตุลาคม 2013 ขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศ John Kerry และรัฐมนตรีกลาโหม Chuck Hagel ดำเนินการทุกวิถีทาง ทางการฑูต เพื่อกดดันไม่ให้ตุรกีตกลงกับ CPMIEC ทำจมูกให้ตุรกี และแจ้ง NATO ถึงจุดยืนของอเมริกาว่า ต้องยืนยันว่าระบบที่ CPMIEC ทำนั้น ไม่มีวันจะใช้ร่วมกับระบบใด ๆ ทั้งสิ้นของ NATO ได้ และดูว่าจมูกที่จีนเสนอมันเป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมพวกเราถึงสร้างจมูกอย่างเขาไม่ได้ ทำไม่ตุรกีไม่ชอบจมูกฝรั่ง แต่ไปชอบจมูกจีน ! ไปหาคำตอบกันมาให้ได้
    4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 จดหมายอีกฉบับถูกส่งไปยังทูตอเมริกา ประจำตุรกี ว่าในกรณีที่ตุรกียังยืนยันจะใช้จมูกจีน แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ของจีนจะต้องมาเดินขวักไขว่ เข้านอกออกในอยู่ในทุกสถานที่และองค์กรต่าง ๆ ของตุรกี ในด้านความมั่นคงจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
    นอกจากการเข้ากันไม่ได้ของระบบที่จีนจะทำ กับระบบของอเมริกาและ NATO แล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือการที่จีนจะเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ในระบบของตุรกี ซึ่งเป็นระบบที่เชื่อมโยงกับอเมริกาและ NATO ได้อีกด้วย จีนบอก อั๊วทำจมูกให้ตุรกี แต่อั๊วได้กลิ่นอเมริกา กับยุโรปหมดเลย ฮ่า ฮ่า เอิ้ก
    คำถามสำคัญที่ทุกคนคิดในใจดัง ๆ คือ ตุรกีกำลังคิดอะไร อเมริกาลงทุนกับตุรกีไปขนาดไหน ตุรกีย่อมรู้อยู่แก่ใจ และตุรกีก็คงตอบอยู่ในใจเช่นกันว่า อเมริกาก็คงรู้ดีอยู่แก่ใจเช่นเดียวกัน ว่าตุรกีทำอะไร เพื่ออเมริกาบ้าง
    นับเป็นโจทก์ที่น่าคิดอย่างยิ่ง ตุรกีทำได้อย่างไร โดยเฉพาะในประเด็นว่าตุรกีนั้น เป็นสมาชิกของ NATOแต่จะใช้จีน ซึ่งอยู่นอก NATO มาสร้างระบบที่เชื่อมถึง NATO ได้ และที่สำคัญ CPMIEC เป็นบริษัทที่อยู่ในข่ายการคว่ำ บาตรของอเมริกา ตามกฎหมาย Iran, North Korea and Syria Nonproliferation Act (P.L 106-178 as amended) ตุรกีสมกับเป็นลูกครึ่ง ลูกกลม ลูกกลิ้ง จริง ๆ เอ๊ะ ! หรือนี่คือบทของ นกสองหัว !
    อย่างไรก็ตามประธานาธิบดี Gul ได้ออกมาแถลงว่า เรื่องทำจมูกโดยจีนนี้ ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปนะ เราเพียงแค่คัดรายชื่อผู้เสนอทำงานให้เหลือน้อยลง เรารู้ดีเรื่องความเป็นห่วงของ NATO เรารู้ดีเรื่องการเป็นคู่แข่งกันระหว่างตะวันตกกับจีน เราก็เป็น 1 ใน NATO นะ เพราะฉะนั้นใจเย็น ๆ ก่อน
    ในรายงานของ CRS ฉบับวันที่ 27 มี.ค ค.ศ. 2014 ได้มีพูดถึงเรื่องการทำจมูกตุรกี โดยจีนนี้ อย่างยืดยาว ตอนหนึ่งในรายงานระบุว่า แม้แต่ทางกองทัพของตุรกีเอง ก็ไม่พอใจกับการตัดสินใจเช่นนี้ของรัฐบาล ด้วยเกรงว่าจะได้จมูกเก่าที่ใช้แล้ว และไม่เหมาะที่จะนำไปสู่รบกับอะไร ได้ “second – hand, not battle-tested and cheap Chinese missiles” อืม เจ็บมากนะ เด็ก ๆ ของอาเฮียอ่านแล้ว แจ้งให้เจ้านายทราบด้วย
    แล้วประมาณกลางเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 รัฐมนตรีหลายคน รวมทั้งครอบครัว และนักธุรกิจที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี Erdogan รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูง ก็ถูกตั้งข้อกล่าวหา ถูกจับข้อหารับสินบน จากนั้นการเมืองภายในประเทศของตุรกีก็เริ่มร้อนขึ้น แม้ตัวนายกรัฐมนตรี Erdogan เอง ก็ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการโกง สื่อตีข่าวทุกวัน ขนาดมีการปล่อยเสียงการคุยกันระหว่าง นาย Erdogan กับลูกชาย ชื่อ Bilal ถึงการโอนเงินจำนวนใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับตามอง
    นาย Erdogan ให้ข่าวว่า ข้อกล่าวหาตัวเขาและลูกชาย เกี่ยวกับเรื่องการโกงนี้ เป็นการกำกับและจัดฉากของนาย Fethullah Gulen ซึ่งสมคบและเลี้ยงดูโดยอเมริกา สนุกจริง ๆ ตอนนี้ไม่ได้เป็นนิยายรักแล้ว แต่เป็นนิยายชีวิต เข้ม ข้น โหด มัน ฮา (ยังไม่รู้ใครจะได้ฮา)
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
20 กค. 2557
    ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว ตอนที่ 6 – จมูกคนอื่น นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว” ตอนที่ 6 “จมูกคนอื่น” เมื่อตุรกีออกประกาศเชิญชวนให้บรรดา พวกนักสร้างระบบเครื่องมือรบ ให้มายื่นประมูลเครื่องมือป้องกันตนเอง ที่เรียกว่า Long Range Air and Missle Defense System ใครจะยิงจรวดแบบไหน มาจากทางไหน เครื่องมือนี้จับได้ทำลายหมด ตุรกีบอกฉันควรมีของใช้ส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่ยืมจมูกคนอื่นเขาหายใจ ตะบี้ตะบันไปตลอดชาติ ถ้ามันจมูกบี้ไป แล้วตูจะหายใจยังไงวะ เออ ! อันนี้มีเหตุผล ฟังขึ้น แม้ดูจะออกลูกกะล่อนนิด ๆ แต่ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ โครงการนี้ยาวนาน ตุรกีคิดมานานแล้ว และทำอย่างเปิดเผย ตอนแรกอเมริกา NATO และ EU ต่างก็หน้างอ ทำไมตุรกีไม่ปรึกษา ทำไมตุรกีไม่ขออนุญาต ตุรกีบอกขอโทษ ตุรกีคิดว่ายังมีอธิปไตยเหนือบ้านเมืองตนเองอยู่นะ แม้กระผมจะยอมนายท่านไปหลายเรื่องก็เถอะ แต่เรื่องหายใจด้วยจมูกของผม นี่มันเรื่องส่วนตัวจริง ๆ หลังจากสุมหัวคิดกันดูแล้ว อเมริกาและ EU ก็บอกว่าเอาแบบนี้แล้วกัน พวกเราก็ยื่นประมูลสร้างไอ้เครื่องป้องกันบ้าบอนี้เข้าไปด้วย แล้วเราก็ไปบีบคอมันให้มันเลือกเรา มันจะยากเย็นอะไร ตุรกีออกประกาศเชิญชวนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 เกือบ 4 ปีแล้ว พิจารณาอะไร มันถึงใช้เวลานานขนาดนั้น มันควรจะประกาศได้แล้วว่าใครชนะประมูล- แต่ตุรกีก็ไม่ประกาศ อะไรมันปิดปากค้ำคออยู่ หรือตุรกีรอดูอะไร หรือตุรกีกำลังเล่นบท “ตุรกี” ให้ดูอยู่ ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังยุ่งอยู่กับ เรื่องกระทืบซีเรีย เรื่องเส้นทางเดินท่อแก๊ส เรื่องการเลือกตั้ง เรื่องคอรับชั่นในประเทศ เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 ตุรกีกลับใช้ช่วงเวลานั้นประกาศเสียงเรียบ ๆ ว่า ขณะนี้เราได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว เราได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า เบื้องต้นผู้ที่เราน่าจะเลือกให้มาทำเครื่องหายใจของเราเอง น่าจะเป็นบริษัทของประเทศจีน ! เขาว่าวันนั้น ขนาดเสียงจิ้งจกไต่ผ่านเพดานห้องทำงานรูปไข่ของนาย Obama (หมายถึง Oval Room ครับ ลุงนิทานไม่ได้ทะลึ่ง) ทหารรักษาการณ์ข้างนอกประตูหน้า White House ยังได้ยินเลย ทุกอย่างเงียบสงบ ลมไม่กล้าพัด เจ้าหน้าที่ต้องกลั้นหายใจ เกรงว่าแม้ลมหายใจ ก็จะทำให้เกิดแรงสะเทือนได้ อาการเช่นนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะที่ White House หรอก เขาว่าห้องทำงานของท่านนายพลใหญ่ หัวหน้าใหญ่ของ NATO ก็เป็นเหมือนกัน ในคำแถลงของตุรกีบอกว่า จีนโดยบริษัท CPMIEC ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีน ยินดีที่จะรับเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องมือ ที่เรียกว่า Long Range Air and Missile Defense System (T-LORAMIDS) ตามคำเชิญชวนของตุรกี เมื่อ ค.ศ. 2009 ที่ให้บุคคลภายนอกเสนอการทำงานแบบ off-the-shelf vesion ของ (T-LORAMIDS) ในระบบที่สามารถเข้ากับอุปกรณ์การทำงานทั้งปวงของตุรกีได้ ในราคาประมาณ 3.4 พันล้านเหรียญ (เท่านั้นเอง) เป็นการสร้างจมูกส่วนตัวของตุรกี ที่ว่าไปแล้วในราคาไม่แพงเลย ฮา นาย Murad Bayer เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ การจัดซื้อจัดจ้างของตุรกี แถลงเพิ่มเติมว่าข้อเสนอของ CPMIEC ดีกว่าผู้เข้าแข่งประมูลทั้งหมด รวมทั้ง Raytheon/Lockheed-Martin ของอเมริกา กลุ่ม Italian/French และของรัสเซีย นาย Bayer บอกว่า เขาจะเจรจารายละเอียดขั้นสุดท้ายและสรุปผลกับ CPMIEC ให้เสร็จสิ้นก่อนครั้งแรกของปี ค.ศ. 2014 จิ้งจกแมงสาบเริ่มออกเดินต่อ หลังจากตัวชากันไปพักใหญ่ วุฒิสมาชิกอเมริกัน ส่งหนังสือลงวันที่ 11 ตุลาคม 2013 ขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศ John Kerry และรัฐมนตรีกลาโหม Chuck Hagel ดำเนินการทุกวิถีทาง ทางการฑูต เพื่อกดดันไม่ให้ตุรกีตกลงกับ CPMIEC ทำจมูกให้ตุรกี และแจ้ง NATO ถึงจุดยืนของอเมริกาว่า ต้องยืนยันว่าระบบที่ CPMIEC ทำนั้น ไม่มีวันจะใช้ร่วมกับระบบใด ๆ ทั้งสิ้นของ NATO ได้ และดูว่าจมูกที่จีนเสนอมันเป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมพวกเราถึงสร้างจมูกอย่างเขาไม่ได้ ทำไม่ตุรกีไม่ชอบจมูกฝรั่ง แต่ไปชอบจมูกจีน ! ไปหาคำตอบกันมาให้ได้ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 จดหมายอีกฉบับถูกส่งไปยังทูตอเมริกา ประจำตุรกี ว่าในกรณีที่ตุรกียังยืนยันจะใช้จมูกจีน แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ของจีนจะต้องมาเดินขวักไขว่ เข้านอกออกในอยู่ในทุกสถานที่และองค์กรต่าง ๆ ของตุรกี ในด้านความมั่นคงจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร นอกจากการเข้ากันไม่ได้ของระบบที่จีนจะทำ กับระบบของอเมริกาและ NATO แล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือการที่จีนจะเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ในระบบของตุรกี ซึ่งเป็นระบบที่เชื่อมโยงกับอเมริกาและ NATO ได้อีกด้วย จีนบอก อั๊วทำจมูกให้ตุรกี แต่อั๊วได้กลิ่นอเมริกา กับยุโรปหมดเลย ฮ่า ฮ่า เอิ้ก คำถามสำคัญที่ทุกคนคิดในใจดัง ๆ คือ ตุรกีกำลังคิดอะไร อเมริกาลงทุนกับตุรกีไปขนาดไหน ตุรกีย่อมรู้อยู่แก่ใจ และตุรกีก็คงตอบอยู่ในใจเช่นกันว่า อเมริกาก็คงรู้ดีอยู่แก่ใจเช่นเดียวกัน ว่าตุรกีทำอะไร เพื่ออเมริกาบ้าง นับเป็นโจทก์ที่น่าคิดอย่างยิ่ง ตุรกีทำได้อย่างไร โดยเฉพาะในประเด็นว่าตุรกีนั้น เป็นสมาชิกของ NATOแต่จะใช้จีน ซึ่งอยู่นอก NATO มาสร้างระบบที่เชื่อมถึง NATO ได้ และที่สำคัญ CPMIEC เป็นบริษัทที่อยู่ในข่ายการคว่ำ บาตรของอเมริกา ตามกฎหมาย Iran, North Korea and Syria Nonproliferation Act (P.L 106-178 as amended) ตุรกีสมกับเป็นลูกครึ่ง ลูกกลม ลูกกลิ้ง จริง ๆ เอ๊ะ ! หรือนี่คือบทของ นกสองหัว ! อย่างไรก็ตามประธานาธิบดี Gul ได้ออกมาแถลงว่า เรื่องทำจมูกโดยจีนนี้ ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปนะ เราเพียงแค่คัดรายชื่อผู้เสนอทำงานให้เหลือน้อยลง เรารู้ดีเรื่องความเป็นห่วงของ NATO เรารู้ดีเรื่องการเป็นคู่แข่งกันระหว่างตะวันตกกับจีน เราก็เป็น 1 ใน NATO นะ เพราะฉะนั้นใจเย็น ๆ ก่อน ในรายงานของ CRS ฉบับวันที่ 27 มี.ค ค.ศ. 2014 ได้มีพูดถึงเรื่องการทำจมูกตุรกี โดยจีนนี้ อย่างยืดยาว ตอนหนึ่งในรายงานระบุว่า แม้แต่ทางกองทัพของตุรกีเอง ก็ไม่พอใจกับการตัดสินใจเช่นนี้ของรัฐบาล ด้วยเกรงว่าจะได้จมูกเก่าที่ใช้แล้ว และไม่เหมาะที่จะนำไปสู่รบกับอะไร ได้ “second – hand, not battle-tested and cheap Chinese missiles” อืม เจ็บมากนะ เด็ก ๆ ของอาเฮียอ่านแล้ว แจ้งให้เจ้านายทราบด้วย แล้วประมาณกลางเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 รัฐมนตรีหลายคน รวมทั้งครอบครัว และนักธุรกิจที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี Erdogan รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูง ก็ถูกตั้งข้อกล่าวหา ถูกจับข้อหารับสินบน จากนั้นการเมืองภายในประเทศของตุรกีก็เริ่มร้อนขึ้น แม้ตัวนายกรัฐมนตรี Erdogan เอง ก็ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการโกง สื่อตีข่าวทุกวัน ขนาดมีการปล่อยเสียงการคุยกันระหว่าง นาย Erdogan กับลูกชาย ชื่อ Bilal ถึงการโอนเงินจำนวนใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับตามอง นาย Erdogan ให้ข่าวว่า ข้อกล่าวหาตัวเขาและลูกชาย เกี่ยวกับเรื่องการโกงนี้ เป็นการกำกับและจัดฉากของนาย Fethullah Gulen ซึ่งสมคบและเลี้ยงดูโดยอเมริกา สนุกจริง ๆ ตอนนี้ไม่ได้เป็นนิยายรักแล้ว แต่เป็นนิยายชีวิต เข้ม ข้น โหด มัน ฮา (ยังไม่รู้ใครจะได้ฮา) สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
20 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • #การเมืองกระทบวิถีชีวิตคนไทยทุกๆคน
    #การเมืองคนไทยต้องใส่ใจ
    #การปกครองจากนักการเมืองทุกๆคนไทยต้องเกี่ยวข้อง

    ..นักการเมืองตอนนี้นับว่าอันตรายและเป็นภัยต่อความมั่นคงทางด้านอธิปไตยชาติชัดเจน ทั่งไม่ซื่อสัตย์สุจริตแล้วด้วย.
    ..กองทัพไทยเท่านั้นตอนนี้ที่สมควรเข้ามาควบคุมการปกครองในบ้านเมืองทั้งหมด เพื่อตัดตอนการแทรกแซงวิถีปกครองไทยเราจริงในเวลานี้ได้ และต้องทีมแบบ แม่ทัพภาค2หรือคณะบิ๊กปู เท่านั้นที่ประชาชนพอไว้วางใจได้,ผบ.เหล่าทัพทั้งหมดเราเห็นชัดเจนในน้ำหนึ่งใจเดียวกับภาคประชาชนแบบเราแล้ว,แต่วิถีการเมืองจากภาคนักการเมืองถือว่าล้มเหลวและไม่มีความน่าไว้วางใจต่อการจะมีหน้ามาทำหน้าที่ทางการเมืองเพื่อปกป้องอธิปไตยไทยได้ต่อไปอีกแล้ว.,หากยังปล่อยให้ทำหน้าที่จะเป็นภัยร้ายแรงต่อแผ่นดินไทยทันทีแบบไม่ต้องสงสัย,ทั้งข้าราชการไทยก็เลวชั่วไม่น้อยในการไปใฝ่ชั่วเลวกับพวกนักการเมือง,จึงสรุปความว่าทหารพระราชาเราต้องประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศอย่างเป็นทางการได้แล้ว,ยึดอำนาจฝ่ายนักการเมืองทั้งหมดทันที ตรวจสอบทรัพย์สินและแหล่งที่มาของเงินทุนผิดปกติทั้งหมด จะข้าราชการเอง จะนักการเมืองญาติพี่น้องลูกน้องคนงานทั้งหมดด้วย จะเจ้าสัวเอกชนทั้งหมดด้วย จะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับต่างชาติทั้งหมดเช่นกัน,เงินทุนเงินเทา นายทุนต่างชาติเทา คนไทยเทาทัังหมดต้องตรวจสอบทั้งหมด,และเจ้าหน้าที่ดีเรามีตรึมแน่นอน,คนไม่พอจ้างนักศึกษาที่จบมาแล้วตกงาน เข้าไปอบรมก่อนเริ่มงานเพื่อชาติไทยเราได้,เงินเทากว่า100ล้านล้านบาทใต้ดิน ยึดทั้งหมดได้แน่นอน,ทหารท่านทั้งหลานท่านเลิกเกรงใจระบบประชาธิปไตยฝรั่งส่งออกผีบ้านี้เถอะ,ชาติไทย คนไทย แผ่นดินไทยเราต้องปกป้องดูแลก่อนอย่างจริงจังได้แล้ว,วิถีสภาแบบนักการเมืองสไตล์ปกครองของฝรั่งนี้ล้มเหลวแล้ว ต่างชาติต่างๆเข้าแทรกแซงวุ่นวายง่ายเกินไป.

    ..มีหลายๆอย่างที่สถานะแบบปัจจุบันมิอาจกำจัดคนชั่วเลวบนแผ่นดินไทยเราได้,ต้องสถานะพิเศษคนพิเศษเท่านั้นจึงจะทำให้เป็นปกติได้.,แล้วจึงมาร่วมกับประชาชนคนไทยเราสร้างชาติไทยเราขึ้นมาใหม่อีกครั้ง.

    ..ทหารกองทัพไทยท่านต้องตัดสินใจได้แล้ว,ให้บิ๊กกุ้งเป็นนายกฯแทนก็ได้โดยมีบิ๊กปูยึดอำนาจผลักดันบิ๊กกุ้งหน้าฉาก,โลกไม่สนใจหรอก,บ้านใครชาติใครก็ต่างแก้ปัญหาบ้านใครเมืองมันทั้งสิ้น,เราจะตัดตอนพวกไซออนิสต์ได้ระดับหนึ่ง เช่นCIAในภูมิภาคไทยเรานี้ จะสร้างบทละครกำกับเองลำบากขึ้น.,ฑูตไหนต้องสงสัยเชิญออกจากประเทศไทยก่อนได้,สำนักไหนฝ่ายทหารเรารู้แน่ชัดว่ามันคือพวกไส้ศึกก็จัดการได้,บ้านเมืองเราจะปล่อยต่อไปแบบนี้อีกไม่ได้.,เพราะโลกไม่เหมือนเดิมแล้ว,คนไทยเราต้องรอดและไปด้วยกัน.


    https://youtube.com/watch?v=Gbq-MB0wMwQ&si=IvZHQkoQVxWN-Ugy
    #การเมืองกระทบวิถีชีวิตคนไทยทุกๆคน #การเมืองคนไทยต้องใส่ใจ #การปกครองจากนักการเมืองทุกๆคนไทยต้องเกี่ยวข้อง ..นักการเมืองตอนนี้นับว่าอันตรายและเป็นภัยต่อความมั่นคงทางด้านอธิปไตยชาติชัดเจน ทั่งไม่ซื่อสัตย์สุจริตแล้วด้วย. ..กองทัพไทยเท่านั้นตอนนี้ที่สมควรเข้ามาควบคุมการปกครองในบ้านเมืองทั้งหมด เพื่อตัดตอนการแทรกแซงวิถีปกครองไทยเราจริงในเวลานี้ได้ และต้องทีมแบบ แม่ทัพภาค2หรือคณะบิ๊กปู เท่านั้นที่ประชาชนพอไว้วางใจได้,ผบ.เหล่าทัพทั้งหมดเราเห็นชัดเจนในน้ำหนึ่งใจเดียวกับภาคประชาชนแบบเราแล้ว,แต่วิถีการเมืองจากภาคนักการเมืองถือว่าล้มเหลวและไม่มีความน่าไว้วางใจต่อการจะมีหน้ามาทำหน้าที่ทางการเมืองเพื่อปกป้องอธิปไตยไทยได้ต่อไปอีกแล้ว.,หากยังปล่อยให้ทำหน้าที่จะเป็นภัยร้ายแรงต่อแผ่นดินไทยทันทีแบบไม่ต้องสงสัย,ทั้งข้าราชการไทยก็เลวชั่วไม่น้อยในการไปใฝ่ชั่วเลวกับพวกนักการเมือง,จึงสรุปความว่าทหารพระราชาเราต้องประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศอย่างเป็นทางการได้แล้ว,ยึดอำนาจฝ่ายนักการเมืองทั้งหมดทันที ตรวจสอบทรัพย์สินและแหล่งที่มาของเงินทุนผิดปกติทั้งหมด จะข้าราชการเอง จะนักการเมืองญาติพี่น้องลูกน้องคนงานทั้งหมดด้วย จะเจ้าสัวเอกชนทั้งหมดด้วย จะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับต่างชาติทั้งหมดเช่นกัน,เงินทุนเงินเทา นายทุนต่างชาติเทา คนไทยเทาทัังหมดต้องตรวจสอบทั้งหมด,และเจ้าหน้าที่ดีเรามีตรึมแน่นอน,คนไม่พอจ้างนักศึกษาที่จบมาแล้วตกงาน เข้าไปอบรมก่อนเริ่มงานเพื่อชาติไทยเราได้,เงินเทากว่า100ล้านล้านบาทใต้ดิน ยึดทั้งหมดได้แน่นอน,ทหารท่านทั้งหลานท่านเลิกเกรงใจระบบประชาธิปไตยฝรั่งส่งออกผีบ้านี้เถอะ,ชาติไทย คนไทย แผ่นดินไทยเราต้องปกป้องดูแลก่อนอย่างจริงจังได้แล้ว,วิถีสภาแบบนักการเมืองสไตล์ปกครองของฝรั่งนี้ล้มเหลวแล้ว ต่างชาติต่างๆเข้าแทรกแซงวุ่นวายง่ายเกินไป. ..มีหลายๆอย่างที่สถานะแบบปัจจุบันมิอาจกำจัดคนชั่วเลวบนแผ่นดินไทยเราได้,ต้องสถานะพิเศษคนพิเศษเท่านั้นจึงจะทำให้เป็นปกติได้.,แล้วจึงมาร่วมกับประชาชนคนไทยเราสร้างชาติไทยเราขึ้นมาใหม่อีกครั้ง. ..ทหารกองทัพไทยท่านต้องตัดสินใจได้แล้ว,ให้บิ๊กกุ้งเป็นนายกฯแทนก็ได้โดยมีบิ๊กปูยึดอำนาจผลักดันบิ๊กกุ้งหน้าฉาก,โลกไม่สนใจหรอก,บ้านใครชาติใครก็ต่างแก้ปัญหาบ้านใครเมืองมันทั้งสิ้น,เราจะตัดตอนพวกไซออนิสต์ได้ระดับหนึ่ง เช่นCIAในภูมิภาคไทยเรานี้ จะสร้างบทละครกำกับเองลำบากขึ้น.,ฑูตไหนต้องสงสัยเชิญออกจากประเทศไทยก่อนได้,สำนักไหนฝ่ายทหารเรารู้แน่ชัดว่ามันคือพวกไส้ศึกก็จัดการได้,บ้านเมืองเราจะปล่อยต่อไปแบบนี้อีกไม่ได้.,เพราะโลกไม่เหมือนเดิมแล้ว,คนไทยเราต้องรอดและไปด้วยกัน. https://youtube.com/watch?v=Gbq-MB0wMwQ&si=IvZHQkoQVxWN-Ugy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 1 สวรรค์บนดิน
    ระหว่างที่ลูกตาเกือบทุกคู่ของคนในโลกสวยงามใบนี้ กำลังจ้องเขม็งไปที่สนามกีฬารังนก ดีไซน์สุดยอด ของนาย Li Xinggang เพื่อดูพิธีเปิด การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคอลังการ ที่แดนมังกรของอาเฮีย เมื่อเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 2008 วันนั้นบรรดาคนใหญ่คนโตคนของโลก นั่งอยู่แถวนั้นกันเกือบทั้งนั้น ตั้งแต่ใหญ่หมายเลข 1 ของโลกฝั่งหนึ่ง เช่น ประธานาธิบดี GeorgeW. Bush ตัวแสบ และคุณพี่ปูติน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของรัสเซีย หมายเลข 1 ของโลกของฝั่งหนึ่ง ก็นั่งทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ไม่ไกลกัน แล้วถ้ายังไม่ลืมกัน ไอ้หมาไนโจรร้าย ซึ่งนึกว่าตัวเองใหญ่เกินฟ้า ก็กระเสือกกระสนให้เชิญตนเอง เพื่อหนีปัญหาการเมืองในบ้าน ไปนั่งเสนอหน้าอยู่แถวนั้นกับเขาด้วยเหมือนกัน

    วันเดียวกันนั่นเอง ก็มีข่าวเล็ก ๆ แทรกข่าวโอลิมปิคอันยิ่งใหญ่ ออกมาว่า กองทัพของ Georgia ได้บุกเข้าไปยึดเมือง South Ossetia เรียบร้อยแล้ว
    เป็นข่าวเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่มีใครสนใจ น้อยคนจะรู้จักว่า South Ossetia อยู่ที่ไหน บางคนไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ แน่นอนในแดนสมันน้อย มีน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะรู้จัก หรือแม้แต่จะได้ยินชื่อ South Ossetia เมืองอะไรน่ะ อยู่ที่ไหนนะ รู้จักแต่ เมืองโอริสสาในนิยายเรื่องอะไรสักอย่าง เมืองเดียวกันหรือเปล่านะ ก็ใครไม่รู้ดันถอดหลักสูตร ทั้งภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์สากลออกจากวิชาบังคับของนักเรียนมัธยม
    กว่าจะพอรู้เรื่องว่า มันเกี่ยวกับอะไร ก็ต้องรอให้ผู้สื่อข่าวทำหน้าฉลาด มาวิเคราะห์ให้ฟังก่อนว่า ชาวโลกทั้งหลายเอ๋ย การที่ Republic of Georgia เมืองที่พวกท่าน 90% ในโลกนี้ไม่รู้จัก แต่ดันยกทัพบุกเข้าไปใน South Ossetia ที่พวกท่าน 99.99% ยิ่งไม่รู้จักน่ะนะ มันเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับการเมืองของโลก เทียบเท่ากับ สมัยวิกฤติเกี่ยวกับฐานยิ่งจรวดที่คิวบา เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1962 เชียวนะ ความขัดแย้งระหว่างมวยคู่เก่าในยุคสงครามเย็น ที่อเมริกากับสหภาพโซเวียต 2 พี่เบิ้ม ยืนเท้าสะเอว ถลึงตาใส่กันไง จำได้ไหม แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่เกิดไม่ทัน คงไม่รู้ว่าตอนนั้น โลกเครียดกันขนาดไหน จวนเจียนจะต้องจัดกระเป๋าอพยพ (ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน) หนีสงครามกันแล้ว

    พวกที่ยังจำเหตุการณ์คิวบาได้ ก็เริ่มติดตามข่าว บ่นกันพึมพำ เอาอีกแล้วหรือ จะแลกหมัดแลกจรวดกันอีกแล้วหรือ ฝ่ายวิเคราะห์ข่าวบางคนก็ไปโน่นเลย จำกันได้ไหมครับ เหมือนเมื่อคราวที่ท่านอาร์คด ยุกเฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของราชวงศ์ Austria Hungarian ถูกพวก Serb ลอบฆ่าที่เมือง Serajevo เหตุการณ์เล็ก ๆ นั้น เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 (อันนี้ผู้ที่จำเหตุการณ์ได้คงไม่มีเหลือแล้ว เหลือแต่รุ่นคนเล่านิทาน ที่เคยรู้จากการเรียนประวัติศาสตร์สากล ตอน ม. 3) บางคนก็ออกมาพูดว่า หรือสงครามเย็นจะกลับมาใหม่ ไหนว่าจบไปแล้วไง

    วิกฤติคิวบา ปี ค.ศ. 1962 สำหรับท่านที่จำได้ เกิดขึ้นเพราะหน่วยลาดตระเวนของอเมริกา (ไม่รู้ตระเวนอยู่ในอเมริกาหรือคิวบา ชักสงสัย) ไปแอบถ่ายรูป ได้ภาพการก่อสร้างฐานยิงจรวดของโซเวียตที่คิวบา ห่างจาก Florida ไปเพียง 90 ไมล์ ระยะแค่นั้นจรวดใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ลงกลางบ้าน กลางห้องนอนคนอเมริกัน. แบบไม่ให้คนอเมริกันมีเวลาตั้งตัว ชนิดกำลังนอนเล่นอยู่ นุ่ง กุงเกง ใส่หมวกไม่ทันแล้วกัน โลกตะลึงกับการกระทำของโซเวียต สื่ออเมริกาช่วยกันถล่ม ประธานาธิบดี Kennedy ต้องยกเลิกนัดสาว ๆ แล้วมานั่งกุมขมับกับฝ่ายมั่นคงเป็นการด่วน
    แต่คงมีน้อยคน นอกเหนือจาก Pentagon และเจ้าหน้าที่ระดับสูง (มาก) ของอเมริกาและ NATO ที่จะรู้ความจริงว่าโซเวียตไม่ได้ไปกินยาม้าที่ไหนมาหรอก ถึงได้คึกคัก กล้าหาญชาญชัยที่จะตั้งฐานยิงจรวดที่คิวบา ท้าทายอเมริกาขนาดนั้น ความจริงแล้ว มันเป็นการตอบโต้ของสหภาพโซเวียต จากการที่อเมริกา (แอบ) ไปตั้งฐานยิ่งจรวดของตัว ชื่อ Thor กับ Jupitor ไว้ที่ตุรกี หนึ่งในสมาชิกของ NATO บนบริเวณที่ใกล้ชนิดจ่อคอหอยสหภาพโซเวียต โลกไม่รู้เพราะสื่อยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมดของโลก อยู่ในกระเป๋าของฝ่ายตะวันตก The West คืออเมริกา อังกฤษ และยุโรปตะวันตก เรียบร้อยแล้ว

    เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่คิวบา เมื่อปี ค.ศ. 1962 เหตุการณ์ของ Georgia ปี ค.ศ. 2008 ก็เป็นผลมาจากการตั้งใจสร้างแรงกระตุ้นต่อมอารมณ์ของรัสเซีย ของฝ่ายการเมืองและกองทัพของอเมริกา

    สงครามเย็น จบลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1989 โดย Mikhail Gorbachev กัดฟันประกาศต่อโลกว่าสหภาพโซเวียต ตัดสินใจที่จะไม่ส่งรถถังเข้าไปในเยอรมันตะวันออก เพื่อระงับการประท้วงรัฐบาล และยอมให้มีการทุบกำแพงเบอร์ลิน สัญญลักษณ์ของ ม่านเหล็ก “Iron Curtain” ซึ่งแบ่งยุโรปออกเป็นตะวันออกและตะวันตกทิ้งเสีย จริง ๆ แล้ว สหภาพโซเวียตกำลังอยู่ในอาการสาหัส ล้มละลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการเมือง

    สงครามเย็นจบลง ฝ่ายตะวันตก the West และแน่นอน โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าตัวจริงเป็นฝ่ายชนะ แค่หลอกขายสินค้ายี่ห้อ เสรีภาพ อิสรภาพ ประชาธิปไตย และความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจให้ชาวโลก โดยเฉพาะชาวยุโรปตะวันออก ประเทศที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ก็พากันหลงเชื่อหวังน้ำบ่อหน้ากันเป็นแถว
    เมื่อสงครามเย็นจบลง วอชิงตันตีฆ้องป่าวประกาศว่า ต่อไปนี้เราจะขยายกิจการ ส่งสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตยของเรา ไปทุกส่วนของโลก ที่เคยถูกขังอยู่ในกรงของระบอบสังคมนิยมของโซเวียตตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 และสำหรับบางประเทศหวังว่าคงรู้ตัว ว่าอยู่ในกรงเขา มาตั้งแต่สมัยปฎิวัติรัสเซียปี 1917 โน่นแน่ะ

    ประชาธิปไตยของวอชิงตันเป็นสินค้า ที่ทำกล่องใส่อย่างสวยหรู หลอกให้ซื้อง่าย ขายดีสำหรับพวกประเทศที่เกิดขึ้นใหม่ จากการที่โซเวียตล่มล้มละลายอยู่ที่ยุโรป แต่ประชาธิปไตยแท้จริงสำหรับอเมริกา คือการควบคุมเทคนิค และย้อมความคิดของมวลชน เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เรื่องนี้ง่ายมากสำหรับวอชิงตัน ซึ่งจัดเตรียมเครื่องมือเอาไว้พร้อม คือการควบคุมสื่อระดับโลก และการจัดการเปลี่ยนแนวทางเศรษฐกิจ โดยการกำกับควบคุมดูแลที่เล่นกันเป็นวง ร้องเพลงเดียวกัน ของ IMF และ World Bank

    วอชิงตันบอกว่าจะช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย หลังจากการล่มละลายของโซเวียต แต่ขอโทษเป็นประชาธิปไตยแบบพิเศษ จัดให้โดยเฉพาะเลย คือ ประชาธิปไตยแบบเบ็ดเสร็จ
    ที่มีแนวทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม แบบอเมริกาและควบคุมโดย NATO ฮา

    โลกชื่นชมยินดี ต่างตบมือให้อเมริกาผู้มาพร้อม กับประชาธิปไตย ที่ Berlin ชาวเยอรมันคนซื่อ ทั้งตะวันตก ตะวันออก ต่างร้องเพลง เต้นรำไปบนกำแพง ที่ใน Poland, Czechoslovakia และ Hungary ก็เช่นเดียวกัน พวกที่เคยอยู่หลังม่านเหล็ก ดีใจที่จะหลุดออกมาจากม่านและได้มีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่เสรี และร่ำรวยแบบคนอเมริกัน พวกเขาเชื่อสนิทใจจากการโฆษณาชวนเชื่อของจักรวรรดิอเมริกา ที่กรอกใส่เข้าไปในหูและหัวของเขาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยสื่อของฝั่งตะวันตก เรากำลังจะมาปลดปล่อยชาวยุโรปตะวันออกผู้ทุกข์ทรมานอยู่หลังม่านเหล็ก สวรรค์บนดินกำลังจะมาถึงแล้ว พวกเขาคงคิดแบบนั้น

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 1 สวรรค์บนดิน ระหว่างที่ลูกตาเกือบทุกคู่ของคนในโลกสวยงามใบนี้ กำลังจ้องเขม็งไปที่สนามกีฬารังนก ดีไซน์สุดยอด ของนาย Li Xinggang เพื่อดูพิธีเปิด การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคอลังการ ที่แดนมังกรของอาเฮีย เมื่อเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 2008 วันนั้นบรรดาคนใหญ่คนโตคนของโลก นั่งอยู่แถวนั้นกันเกือบทั้งนั้น ตั้งแต่ใหญ่หมายเลข 1 ของโลกฝั่งหนึ่ง เช่น ประธานาธิบดี GeorgeW. Bush ตัวแสบ และคุณพี่ปูติน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของรัสเซีย หมายเลข 1 ของโลกของฝั่งหนึ่ง ก็นั่งทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ไม่ไกลกัน แล้วถ้ายังไม่ลืมกัน ไอ้หมาไนโจรร้าย ซึ่งนึกว่าตัวเองใหญ่เกินฟ้า ก็กระเสือกกระสนให้เชิญตนเอง เพื่อหนีปัญหาการเมืองในบ้าน ไปนั่งเสนอหน้าอยู่แถวนั้นกับเขาด้วยเหมือนกัน วันเดียวกันนั่นเอง ก็มีข่าวเล็ก ๆ แทรกข่าวโอลิมปิคอันยิ่งใหญ่ ออกมาว่า กองทัพของ Georgia ได้บุกเข้าไปยึดเมือง South Ossetia เรียบร้อยแล้ว เป็นข่าวเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่มีใครสนใจ น้อยคนจะรู้จักว่า South Ossetia อยู่ที่ไหน บางคนไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ แน่นอนในแดนสมันน้อย มีน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะรู้จัก หรือแม้แต่จะได้ยินชื่อ South Ossetia เมืองอะไรน่ะ อยู่ที่ไหนนะ รู้จักแต่ เมืองโอริสสาในนิยายเรื่องอะไรสักอย่าง เมืองเดียวกันหรือเปล่านะ ก็ใครไม่รู้ดันถอดหลักสูตร ทั้งภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์สากลออกจากวิชาบังคับของนักเรียนมัธยม กว่าจะพอรู้เรื่องว่า มันเกี่ยวกับอะไร ก็ต้องรอให้ผู้สื่อข่าวทำหน้าฉลาด มาวิเคราะห์ให้ฟังก่อนว่า ชาวโลกทั้งหลายเอ๋ย การที่ Republic of Georgia เมืองที่พวกท่าน 90% ในโลกนี้ไม่รู้จัก แต่ดันยกทัพบุกเข้าไปใน South Ossetia ที่พวกท่าน 99.99% ยิ่งไม่รู้จักน่ะนะ มันเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับการเมืองของโลก เทียบเท่ากับ สมัยวิกฤติเกี่ยวกับฐานยิ่งจรวดที่คิวบา เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1962 เชียวนะ ความขัดแย้งระหว่างมวยคู่เก่าในยุคสงครามเย็น ที่อเมริกากับสหภาพโซเวียต 2 พี่เบิ้ม ยืนเท้าสะเอว ถลึงตาใส่กันไง จำได้ไหม แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่เกิดไม่ทัน คงไม่รู้ว่าตอนนั้น โลกเครียดกันขนาดไหน จวนเจียนจะต้องจัดกระเป๋าอพยพ (ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน) หนีสงครามกันแล้ว พวกที่ยังจำเหตุการณ์คิวบาได้ ก็เริ่มติดตามข่าว บ่นกันพึมพำ เอาอีกแล้วหรือ จะแลกหมัดแลกจรวดกันอีกแล้วหรือ ฝ่ายวิเคราะห์ข่าวบางคนก็ไปโน่นเลย จำกันได้ไหมครับ เหมือนเมื่อคราวที่ท่านอาร์คด ยุกเฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของราชวงศ์ Austria Hungarian ถูกพวก Serb ลอบฆ่าที่เมือง Serajevo เหตุการณ์เล็ก ๆ นั้น เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 (อันนี้ผู้ที่จำเหตุการณ์ได้คงไม่มีเหลือแล้ว เหลือแต่รุ่นคนเล่านิทาน ที่เคยรู้จากการเรียนประวัติศาสตร์สากล ตอน ม. 3) บางคนก็ออกมาพูดว่า หรือสงครามเย็นจะกลับมาใหม่ ไหนว่าจบไปแล้วไง วิกฤติคิวบา ปี ค.ศ. 1962 สำหรับท่านที่จำได้ เกิดขึ้นเพราะหน่วยลาดตระเวนของอเมริกา (ไม่รู้ตระเวนอยู่ในอเมริกาหรือคิวบา ชักสงสัย) ไปแอบถ่ายรูป ได้ภาพการก่อสร้างฐานยิงจรวดของโซเวียตที่คิวบา ห่างจาก Florida ไปเพียง 90 ไมล์ ระยะแค่นั้นจรวดใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ลงกลางบ้าน กลางห้องนอนคนอเมริกัน. แบบไม่ให้คนอเมริกันมีเวลาตั้งตัว ชนิดกำลังนอนเล่นอยู่ นุ่ง กุงเกง ใส่หมวกไม่ทันแล้วกัน โลกตะลึงกับการกระทำของโซเวียต สื่ออเมริกาช่วยกันถล่ม ประธานาธิบดี Kennedy ต้องยกเลิกนัดสาว ๆ แล้วมานั่งกุมขมับกับฝ่ายมั่นคงเป็นการด่วน แต่คงมีน้อยคน นอกเหนือจาก Pentagon และเจ้าหน้าที่ระดับสูง (มาก) ของอเมริกาและ NATO ที่จะรู้ความจริงว่าโซเวียตไม่ได้ไปกินยาม้าที่ไหนมาหรอก ถึงได้คึกคัก กล้าหาญชาญชัยที่จะตั้งฐานยิงจรวดที่คิวบา ท้าทายอเมริกาขนาดนั้น ความจริงแล้ว มันเป็นการตอบโต้ของสหภาพโซเวียต จากการที่อเมริกา (แอบ) ไปตั้งฐานยิ่งจรวดของตัว ชื่อ Thor กับ Jupitor ไว้ที่ตุรกี หนึ่งในสมาชิกของ NATO บนบริเวณที่ใกล้ชนิดจ่อคอหอยสหภาพโซเวียต โลกไม่รู้เพราะสื่อยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมดของโลก อยู่ในกระเป๋าของฝ่ายตะวันตก The West คืออเมริกา อังกฤษ และยุโรปตะวันตก เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่คิวบา เมื่อปี ค.ศ. 1962 เหตุการณ์ของ Georgia ปี ค.ศ. 2008 ก็เป็นผลมาจากการตั้งใจสร้างแรงกระตุ้นต่อมอารมณ์ของรัสเซีย ของฝ่ายการเมืองและกองทัพของอเมริกา สงครามเย็น จบลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1989 โดย Mikhail Gorbachev กัดฟันประกาศต่อโลกว่าสหภาพโซเวียต ตัดสินใจที่จะไม่ส่งรถถังเข้าไปในเยอรมันตะวันออก เพื่อระงับการประท้วงรัฐบาล และยอมให้มีการทุบกำแพงเบอร์ลิน สัญญลักษณ์ของ ม่านเหล็ก “Iron Curtain” ซึ่งแบ่งยุโรปออกเป็นตะวันออกและตะวันตกทิ้งเสีย จริง ๆ แล้ว สหภาพโซเวียตกำลังอยู่ในอาการสาหัส ล้มละลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการเมือง สงครามเย็นจบลง ฝ่ายตะวันตก the West และแน่นอน โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าตัวจริงเป็นฝ่ายชนะ แค่หลอกขายสินค้ายี่ห้อ เสรีภาพ อิสรภาพ ประชาธิปไตย และความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจให้ชาวโลก โดยเฉพาะชาวยุโรปตะวันออก ประเทศที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ก็พากันหลงเชื่อหวังน้ำบ่อหน้ากันเป็นแถว เมื่อสงครามเย็นจบลง วอชิงตันตีฆ้องป่าวประกาศว่า ต่อไปนี้เราจะขยายกิจการ ส่งสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตยของเรา ไปทุกส่วนของโลก ที่เคยถูกขังอยู่ในกรงของระบอบสังคมนิยมของโซเวียตตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 และสำหรับบางประเทศหวังว่าคงรู้ตัว ว่าอยู่ในกรงเขา มาตั้งแต่สมัยปฎิวัติรัสเซียปี 1917 โน่นแน่ะ ประชาธิปไตยของวอชิงตันเป็นสินค้า ที่ทำกล่องใส่อย่างสวยหรู หลอกให้ซื้อง่าย ขายดีสำหรับพวกประเทศที่เกิดขึ้นใหม่ จากการที่โซเวียตล่มล้มละลายอยู่ที่ยุโรป แต่ประชาธิปไตยแท้จริงสำหรับอเมริกา คือการควบคุมเทคนิค และย้อมความคิดของมวลชน เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เรื่องนี้ง่ายมากสำหรับวอชิงตัน ซึ่งจัดเตรียมเครื่องมือเอาไว้พร้อม คือการควบคุมสื่อระดับโลก และการจัดการเปลี่ยนแนวทางเศรษฐกิจ โดยการกำกับควบคุมดูแลที่เล่นกันเป็นวง ร้องเพลงเดียวกัน ของ IMF และ World Bank วอชิงตันบอกว่าจะช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย หลังจากการล่มละลายของโซเวียต แต่ขอโทษเป็นประชาธิปไตยแบบพิเศษ จัดให้โดยเฉพาะเลย คือ ประชาธิปไตยแบบเบ็ดเสร็จ ที่มีแนวทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม แบบอเมริกาและควบคุมโดย NATO ฮา โลกชื่นชมยินดี ต่างตบมือให้อเมริกาผู้มาพร้อม กับประชาธิปไตย ที่ Berlin ชาวเยอรมันคนซื่อ ทั้งตะวันตก ตะวันออก ต่างร้องเพลง เต้นรำไปบนกำแพง ที่ใน Poland, Czechoslovakia และ Hungary ก็เช่นเดียวกัน พวกที่เคยอยู่หลังม่านเหล็ก ดีใจที่จะหลุดออกมาจากม่านและได้มีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่เสรี และร่ำรวยแบบคนอเมริกัน พวกเขาเชื่อสนิทใจจากการโฆษณาชวนเชื่อของจักรวรรดิอเมริกา ที่กรอกใส่เข้าไปในหูและหัวของเขาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยสื่อของฝั่งตะวันตก เรากำลังจะมาปลดปล่อยชาวยุโรปตะวันออกผู้ทุกข์ทรมานอยู่หลังม่านเหล็ก สวรรค์บนดินกำลังจะมาถึงแล้ว พวกเขาคงคิดแบบนั้น สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นายกฯหนูถึงปัจจุบันนี้ยังไม่ออกมาประกาศยกเลิกmou43,44,tor46อย่างเป็นทางการเลยนะ,น่าผิดหวังมาก แม้ให้บอกว่าให้อำนาจแม่ทัพจัดการเรื่องเขมรเต็มที่ก็ตาม แต่สิ่งสำคัญสิ่งแรกกลับไม่ยอมประกาศเพื่อสนับสนุนทหารให้ชอบธรรมต่อหน้าชาวโลกว่า ไทยยอมรับอัตรา1:50,000สากลเท่านั้น,ตนในนามรัฐบาลปัจจุบันจึงทำการยกเลิกmou43,44,tor46ที่มิชอบธรรมตั้งแต่แรกนี้ทันที จากการกระทำโดยมิชอบของรัฐบาลชุดอดีตซึ่งขัดแย้งเรื่องอธิปไตยชาติไทยโดยตรง,นี้นายกฯหนูต้องประกาศให้ชัดเจนและเป็นทางการแบบนี้,ไม่เล่นเป็นเด็กขายของ เลอะเทอะไปวันๆ,อยากเป็นนายกฯต่อและคือตำนานที่ดีต้องกล้าตัดสินใจแบบนี้,ร้อยความผิดมีมามากมาย,แต่เมื่อในปัจจุบันตนมีโอกาสเต็มมือเต็มที่ในการทำเพื่อชาติแบบยกเลิกmou43,44,tor46ต้องทำเลย.,ลากยาวอัดโฆษณากัญชาเสรีเพื่อสมุนไพรพึ่งพาตนเองแห่งชาติ สร้างรายได้และรักษาตรเองพื้นบ้านยาครอบจักรวาลตนต้องต่อยอดคู่ขนานในอำนาจ4เดือนนี้ด้วย,อย่าสนใจการโจมตีขุดเชิงลบมาทำลายผลประโยชน์มากมายมหาศาลของประชาชนคนไทยเมื่อใช้ถูกทางถูกวิธีได้,สุราเหล้าเบียร์ยาบ้ามันโหดร้ายชั่วเลวมากกว่ามาก,ตั้งกระทรวงกัญชากัญชงแห่งชาติเลย,ใช้ใยกัญชากัญชงผสมเทคโนโลยีอื่นผลิตเครื่องบินรบ ยานบินอวกาศได้สบายโน้น,ชุดเกราะกันกระสุนน้ำหนักเบาก็ได้,อัดกราฟีนตรงกลางอีก,แข็งกว่าเพชรอีก, พืชกัญชากัญชงสามารถผสมผสานประยุกต์เป็นรายการสินค้าได้กว่า50,00-100,000รายการสินค้าได้อย่างสบาย,โรคซึมเศร้า เสียเส้น รักษาได้ดี ยาครอบจักรวาลด้วย, พืชฝิ่นก็เสรีปลูกเลย อเมริกายังให้อัฟกานิสถานปลูกเลยบังหน้า,สกัดยาแก้ปวดใช้เองภายในประเทศไทยเรา,ควบคุมดีๆจะเป็นเหี้ยอะไร,และมิใช่ปิดกั้นประชาชนแบบยุคกัญชาเสรีแหกตาแบบในอดีตที่ผ่านมากะทำแดกเองทรยศประชาชน,สร้างเงื่อนไขต้นทุนสูงสาระพัดห้ามประชาชนทางตรงและทางอ้อม,ปลูกหัวไร่ปลายนาก็โคตรงามปกติได้,ปลูกกัญชากัญชงสามารถล้างพิษโลหะหนักต่างๆในดินได้,ปรับสภาพดินเป็นปุ๋ยอย่างดีก็ได้,ที่ผ่านมาเลอะเทอะอย่างยิ่ง,บ่อเงินบ่อทองคำเขียวบนดินเพื่อประชาชนคนเกษตรชัดเจน แต่รัฐบาลเลวเกินไปจึงกระทำล้มเหลว,
    ..จริงๆจะตังดิจิดัล มีส่วนดีมากมาย ลดต้นทุนอะไรเยอะ,แค่คนควบคุมระบบมันโปร่งใส่แค่ไหน,แบงค์ชาติปัจจุบันจริงสมควรถูกยุบทิ้งเพราะรัฐบาลไม่สามารถสั่งการควบคุมได้ บริหารจัดการเด็ดขาดไม่ได้ ในกรณีรัฐบาลมาจากคนดีมีคุณธรรมโปร่งใส่จิตใจงามของผู้นำนายกฯนั้นของคนไทย,นายกฯต้องสามารถควบคุมทั้งหมดของทุกๆกลไกภายในประเทศ,แต่แบงค์ชาติไม่ใช่บวกก่อกำเนิดมาจากเป้าหมายdeep stateเพื่อปกครองครอบงำควบคุมประเทศนั้นๆโดยผ่านธนาคารกลางในชาตินั้นๆหรือแบงค์ชาติไทยนั้นเอง,ถูกควบคุมโดยผ่านกลไกระบบเงินโลกโดยอัตโนมัติ,ทิศทางต่างๆจึงพยายามควบคุมให้สอดคล้องกับนโยบายโลกเป็นสำคัญโดยลืมตัวตนไปว่าตนคือคนไทยต้องช่วยคนไทยก่อน ปกป้องคนไทยก่อนจากกฎหมาย เงื่อนไขกติกาธนาคารเอกชนที่เอาเปรียบประชาชนคนไทยตน ต้องเด็ดขาดออกกฎกติกาต่างๆควบคุมธนาคารพานิชย์ค้ากำไรดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมต่างๆหรือค่าบริการใดๆของบริการทางธุรกรรมต่างๆของธนาคารได้ แต่แบงค์ชาติไทยหาเป็นเช่นนั้น ดูจากการสวนกระแสทำกำไรรายได้มหาศาลของธนาคารเอกชนในไทยที่ผ่านมาซึ่งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วไทยประชาชนขาดทุนกิจการปิดตัวลงเป็นว่าเล่น หนี้สินประชาชนเต็มเพดาน แต่ธนาคารเหล่านีักลับประกาศผลกำไรประกอบการอันงดงามกว่าหมื่นล้านแสนล้านที่โชว์ในตลาดset,แบงค์ชาติจึงสมควรถูกยุบทิ้งเหมือนกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเด่นชัดในเรื่องอธิปไตยไทยดินแดนตนที่รับรู้ตื้นลึกหนาบางหมดแต่ละเว้นต่อหน้าที่ตนพึ่งกระทำจนนำไปสู่การสูญเสียดินแดนถึง1:150,000 จากกรณีmou43ใช้1:200,000นั้นไม่ใช้1:50,000ที่สากลทั่วโลกยอมรับปกติแบบกรณีเวียดนามกับเขมร,กรณีลาวใช้กับเขมรที่อัตรา1:50,000ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศรับรู้ดีทุกๆอย่าง,แต่ละเว้นในหน้าที่ปกป้องอธิปไตยดินแดนไทยตนชัดเจน สมควรถูกประหารชีวิตทั้งกระทรวงให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง,เมื่อชาติตกเป็นทาสเป็นเชลยศึกศัตรูสงครามแพ้ต่ออธิปไตยตนที่ปกป้องไม่ได้ ทุกข์แสนสาหัสต่อคนประชาชนทั้งแผ่นดินไทยตนต้องบังเกิดขึ้นแน่นอนชัดเจน.,คนกระทรวงการต่างประเทศทั้งหมดต้องถูกลงโทษไม่มีข้อยกเว้น ยิ่งปัจจุบันไร้สำนึก สันดานในจิตในใจตนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ยังแถลงไขช่วยเหลือเขมร,เรา..ประชาชนคนไทยรับสันดานพฤติกรรมจริตจัญไรชั่วเลวนี้ไม่ได้จริงๆ.,นายกฯใหม่ที่เป็นภาวะผู้นำดีมีคุณธรรมโปร่งใส่อ่านขาดทุกๆปัญหาย่อมยุบทิ้งทันทีกระทรวงการต่างประเทศนี้และแบงค์ชาติในไทย,ก่อตั้งใหม่ได้ทันที,เป็นหน่วยงานที่ยืนเคียงข้างประเทศและประชาชนคนไทยชัดเจนในการดำรงความผาสุกจริงแก่สัมมาชีวิตคนไทยเรา,กระบวนการดูดเงินที่ผิดปกติ กระบวนการอายัดบัญชีประชาชนที่มั่วไร้ประสิทธิภาพมีวาระซ่อนเร่นด้วยถูกว่าเป็นภัยคุกคามประเทศไทยตนเองสร้างโกลาหลวุ่นวายในบ้านในเมืองตนชัดเจนด้วย,เงินเทาเงินมืดเงินดำมากมายไหลผ่านเข้าออกในประเทศไทยตนเองแบงค์ชาตินี้รับรู้หมดล่ะแต่ไม่จัดการห่าอะไรตลอดเรื่อยมาที่ผ่านๆมา,เงินไหลเข้าจากต่างชาติมากมายมาปั่นป่วนไทยให้หน่วยองค์กรสากลผีบ้าต่างๆแบงค์ชาติก็เห็นหมดล่ะ สามารถอายัดเงินชั่วเลวนั้นทันทีได้ด้วย ห้ามไหลออกก็ได้ มาปั่นค่าเงินบาทแบยโซรอสมันทำก็ห้ามเงินไหลออกก็ได้ ออกไปก็ประสานงานปลายทางให้โอนคืนด้วย,ถ้ามันไม่ช่วยก็ห้ามปลายทางนั้นมาเชื่อมระบบการเงินกับไทยทันที,บล็อคแบงค์ต่างชาตินั้นทันทีที่สนับสนุนอาชญากรรมทางการเงินเพื่อโจมตีค่าเวินบาทและเศรษฐกิจไทยให้พังพินาศ,นี้คือนายกฯต้องเห็นทุกๆบัญชีใครทั้งหมดในประเทศได้ มรึงจะร่ำรวยหลัก 100ล้านล้านบาทนายกฯต้องเข้าไปตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินได้,นี้ห่าอะไรปกปิดหมด บล็อคการเข้าถึงของอำนาจรัฐบาลตนเอง,สั่งลดดอกเบี้ยห่าอะไรก็ไม่ได้,เช่นนายกฯสั่งแบงค์เอกชนในไทยทั้งหมด,ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยทั้งหมดจะMLR Mห่าอะไร มาใช้อัตราเดียวคือดอกเบี้ยเงินกู้ทุกๆกรณีที่0.25%ต่อปีทั้งหมด,ดอกเบี้ยเงินฝากที่0.01%ต่อปี จะกระตุ้นการใช้จ่ายทันที,แบงค์ไหนไม่พอใจในประเทศไทยก็ปิดตัวลงไป,ธนาคารรัฐ ใช้อัตราเงินกู้แค่0.15%ต่อปี,นี้บวกอะไรแอบแฝงเพื่อแดกสาระพัดไม่รวมค่าธรรมเนียมค่าดำเนินการค่านั้นค่านี้อีก,กำไรตรึมไม่รวมขายประกันในแบงค์ขายผ่านบัตรATMอีกเอาเปรียบประชาชนสาระพัดแต่แบงค์ชาติเลวเหล่านี้กลับนิ่งเฉย,deep stateจะควบคุมปกครองประเทศใดๆสำเร็จมันควบคุมธนาคารในชาตินั้นๆก่อน,จีนมันควบคุมไม่ได้ ก็ไปควบคุมวิธีอื่นแทน,แต่จีนสามารถจัดการได้ เรา..ไทยต้องจัดการได้เช่นกัน,แต่นายกฯต้องเป็นคนดีจริงๆนะมิใช่เหี้ยแบบอดีตๆที่ผ่านมาแบบไอ้หน้าหล่อเสือกเอาmouไปเข้าunเป็นสนธิสัญญาอีกถือว่าเข้า ม.119อาญาประหารชีวิตชัดเจน,แม้เรายกเลิกสนธิสัญญาได้ ปฏิเสธธุรกรรมลงนามบันทึกใดๆได้หมดล่ะที่ทำเหี้ยกับใครไว้ หากมิชอบไม่เป็นการดีต่ออธิปไตยไทย เราฉีกทิ้งได้หมดล่ะ ,
    ..นายกฯปัจจุบันจึงต้องแสดงตัวตนและบทบาทตนเองออกมาให้ชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ในการจะกอดหรือยกเลิกmou43,44นี้,ตอนนี้ก็ผ่านมา20วันแล้ว,เจตนารมณ์อันชัดเจนของตนเองยังไม่มี,อ้างนั้นอ้างนี้ถือว่าไม่มีความจริงใจต่ออธิปไตยดิรแดนชาติที่ตั้นตอปัญหาทั้งหมดมาจากmouนี้ทั้งสิ้น,ตนต้องมั่นใจในตนเองในบทบาทนายกฯตนเองที่มีอำนาจเต็มแล้ว จนสามารถสั่งยุบสภาได้โน้น,พะสาประกาศยกเลิกmou43,44ด้วยตนเอง มันสามารถทำได้,ประชาชนทั้งประเทศเชียร์อยู่แล้วเสือกยังไม่มีความกล้าหาญ ยังขี้ขลาดอีกอยู่ ใช้ไม่ได้,ไม่จะบ้าบอว่ารอบคอบหรือไม่รอบคอบห่าอะไรเลย,ประชาชนทั้งประเทศสนับสนุนต้องยกเลิกmouผีบ้านี้อยู่แล้ว,สมัยหน้านายกฯคนที่33เป็นอีกโน้น,คดีเขากระโดง ฮั่วสว.เรื่องขี้หมาเลย, นายกฯคนต่อไปได้เป็นแน่นอน.,ทำสิ่งที่ถูกต้องจบเลย,เขากระโดงก็คืนเสียแม้กรมที่ดินไม่ว่าไรพอเป็นพิธีให้เกียรติ จะมีอำนาจอยู่ก็ตาม เหยียบไม่เอาผิดก็ตาม, นายกฯคนต่อไปรื้อมาเล่นงานใหม่ได้หมดล่ะถ้าจะจัดการ,เมื่อตนสิ้นอำนาจอันตรายมากหากไม่สำนึกทำสิ่งที่ไม่ดีอยู่ต่ออีก,หากสำนึกกลับตัวกลับใจ สามารถนำพาพรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนเป็นพรรคภูมิใจธรรมได้ ย่อมอาจเป็นราชสีห์แทนงูเห่าที่เขาเหยียดหยามทั้งประเทศได้.,โทนี่ก็เป็นนายกฯยังติดคุกได้นะ.,ความดีจะคุ้มครองคนกระทำดี.
    ..อาสนธิท้าทายวัดใจ,แต่วัดใจเพื่อสนับสนุนให้กระทำสิ่งดีๆความดี มันดีต่อตนเองและประเทศชาติด้วย ถ้าไม่ทำ เสียของ เสียหายแก่ตนเองทันที ตราบาปตลอดชีวิต อับอายแก่วงศ์ตระกูลอีกเมื่อมีโอกาสทำสิ่งดีๆความดีเสือกไม่ทำ,ใฝ่ต่อขั่วเลวด้วยเกรงกลัวมันที่จะแแสิ่งไม่ดีตนออกมา,มันไม่คุ้มหรอก,สู้ทำสิ่งดีๆไปเลย แฉออกมาก็ชั่งหัวมัน,ผิดคือผิด ,แต่กูตอนนี้ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อตัวกูเองและประเทศชาติแผ่นดินไทยกูตอนนี้ กูยอมแลก,นี้ต้องประมาณนี้น่ะจึง อัพเลเวลได้แน่นอน.,จะเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ที่ดีๆทันที ลูกหลานววศ์ตระกูลตนแม้เคยผ่านอดีตเหลวร้ายใดๆมา ผิดพลาดไป เขามาเห็นมาดูประวัติศาสตร์วงศ์ตระกูลตนก็จะภาคภูมิใจ แม้กูเป็นโจรโกงกินเหี้ยสาระพัดภายในประเทศแต่กลับแดนอธิปไตยไทยกูปกป้องเพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ,อนาคตเขาเหล่านั้นจะดำรงตั้งในกิจกรรมทำความดีสิ่งดีๆแน่นอน,ไม่ละอายใจต่อแผ่นดินแทนบรรพบุรุษตนเอง,ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทย เงยหน้าท้าฟ้าได้ เหินฟ้า!!!ประมาณนั้น,แต่ถ้าตัดสินใจผิด ก้มหน้าก้มตากอดmiuผีบ้านี้อยู่แถแถลงเลอะเทอะไม่เรื่อย,ดับอนาถแน่นอน,ทรัพย์สินอาจถูกยึดหมดทั้งตระกูลหรือพร้อมถูกประหารชีวิตด้วย.,ทหารไทยใจรักชาติรักแผ่นดินไทยดีๆเขามีข้อมูลว่าใครดีใครชั่วเลว ใครกลับตัวกลับใจหมดล่ะ,โอกาสมี2เส้นทาง ทางสวรรค์เห็นชัดเจน และทางลงนรกก็ไม่ธรรมดาด้วย,ทานยาสีเม็ดอะไรแค่นั้น.

    https://youtube.com/shorts/4if56ZNYpSQ?si=yH7PxuCOucsjv6Zq
    ..นายกฯหนูถึงปัจจุบันนี้ยังไม่ออกมาประกาศยกเลิกmou43,44,tor46อย่างเป็นทางการเลยนะ,น่าผิดหวังมาก แม้ให้บอกว่าให้อำนาจแม่ทัพจัดการเรื่องเขมรเต็มที่ก็ตาม แต่สิ่งสำคัญสิ่งแรกกลับไม่ยอมประกาศเพื่อสนับสนุนทหารให้ชอบธรรมต่อหน้าชาวโลกว่า ไทยยอมรับอัตรา1:50,000สากลเท่านั้น,ตนในนามรัฐบาลปัจจุบันจึงทำการยกเลิกmou43,44,tor46ที่มิชอบธรรมตั้งแต่แรกนี้ทันที จากการกระทำโดยมิชอบของรัฐบาลชุดอดีตซึ่งขัดแย้งเรื่องอธิปไตยชาติไทยโดยตรง,นี้นายกฯหนูต้องประกาศให้ชัดเจนและเป็นทางการแบบนี้,ไม่เล่นเป็นเด็กขายของ เลอะเทอะไปวันๆ,อยากเป็นนายกฯต่อและคือตำนานที่ดีต้องกล้าตัดสินใจแบบนี้,ร้อยความผิดมีมามากมาย,แต่เมื่อในปัจจุบันตนมีโอกาสเต็มมือเต็มที่ในการทำเพื่อชาติแบบยกเลิกmou43,44,tor46ต้องทำเลย.,ลากยาวอัดโฆษณากัญชาเสรีเพื่อสมุนไพรพึ่งพาตนเองแห่งชาติ สร้างรายได้และรักษาตรเองพื้นบ้านยาครอบจักรวาลตนต้องต่อยอดคู่ขนานในอำนาจ4เดือนนี้ด้วย,อย่าสนใจการโจมตีขุดเชิงลบมาทำลายผลประโยชน์มากมายมหาศาลของประชาชนคนไทยเมื่อใช้ถูกทางถูกวิธีได้,สุราเหล้าเบียร์ยาบ้ามันโหดร้ายชั่วเลวมากกว่ามาก,ตั้งกระทรวงกัญชากัญชงแห่งชาติเลย,ใช้ใยกัญชากัญชงผสมเทคโนโลยีอื่นผลิตเครื่องบินรบ ยานบินอวกาศได้สบายโน้น,ชุดเกราะกันกระสุนน้ำหนักเบาก็ได้,อัดกราฟีนตรงกลางอีก,แข็งกว่าเพชรอีก, พืชกัญชากัญชงสามารถผสมผสานประยุกต์เป็นรายการสินค้าได้กว่า50,00-100,000รายการสินค้าได้อย่างสบาย,โรคซึมเศร้า เสียเส้น รักษาได้ดี ยาครอบจักรวาลด้วย, พืชฝิ่นก็เสรีปลูกเลย อเมริกายังให้อัฟกานิสถานปลูกเลยบังหน้า,สกัดยาแก้ปวดใช้เองภายในประเทศไทยเรา,ควบคุมดีๆจะเป็นเหี้ยอะไร,และมิใช่ปิดกั้นประชาชนแบบยุคกัญชาเสรีแหกตาแบบในอดีตที่ผ่านมากะทำแดกเองทรยศประชาชน,สร้างเงื่อนไขต้นทุนสูงสาระพัดห้ามประชาชนทางตรงและทางอ้อม,ปลูกหัวไร่ปลายนาก็โคตรงามปกติได้,ปลูกกัญชากัญชงสามารถล้างพิษโลหะหนักต่างๆในดินได้,ปรับสภาพดินเป็นปุ๋ยอย่างดีก็ได้,ที่ผ่านมาเลอะเทอะอย่างยิ่ง,บ่อเงินบ่อทองคำเขียวบนดินเพื่อประชาชนคนเกษตรชัดเจน แต่รัฐบาลเลวเกินไปจึงกระทำล้มเหลว, ..จริงๆจะตังดิจิดัล มีส่วนดีมากมาย ลดต้นทุนอะไรเยอะ,แค่คนควบคุมระบบมันโปร่งใส่แค่ไหน,แบงค์ชาติปัจจุบันจริงสมควรถูกยุบทิ้งเพราะรัฐบาลไม่สามารถสั่งการควบคุมได้ บริหารจัดการเด็ดขาดไม่ได้ ในกรณีรัฐบาลมาจากคนดีมีคุณธรรมโปร่งใส่จิตใจงามของผู้นำนายกฯนั้นของคนไทย,นายกฯต้องสามารถควบคุมทั้งหมดของทุกๆกลไกภายในประเทศ,แต่แบงค์ชาติไม่ใช่บวกก่อกำเนิดมาจากเป้าหมายdeep stateเพื่อปกครองครอบงำควบคุมประเทศนั้นๆโดยผ่านธนาคารกลางในชาตินั้นๆหรือแบงค์ชาติไทยนั้นเอง,ถูกควบคุมโดยผ่านกลไกระบบเงินโลกโดยอัตโนมัติ,ทิศทางต่างๆจึงพยายามควบคุมให้สอดคล้องกับนโยบายโลกเป็นสำคัญโดยลืมตัวตนไปว่าตนคือคนไทยต้องช่วยคนไทยก่อน ปกป้องคนไทยก่อนจากกฎหมาย เงื่อนไขกติกาธนาคารเอกชนที่เอาเปรียบประชาชนคนไทยตน ต้องเด็ดขาดออกกฎกติกาต่างๆควบคุมธนาคารพานิชย์ค้ากำไรดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมต่างๆหรือค่าบริการใดๆของบริการทางธุรกรรมต่างๆของธนาคารได้ แต่แบงค์ชาติไทยหาเป็นเช่นนั้น ดูจากการสวนกระแสทำกำไรรายได้มหาศาลของธนาคารเอกชนในไทยที่ผ่านมาซึ่งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วไทยประชาชนขาดทุนกิจการปิดตัวลงเป็นว่าเล่น หนี้สินประชาชนเต็มเพดาน แต่ธนาคารเหล่านีักลับประกาศผลกำไรประกอบการอันงดงามกว่าหมื่นล้านแสนล้านที่โชว์ในตลาดset,แบงค์ชาติจึงสมควรถูกยุบทิ้งเหมือนกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเด่นชัดในเรื่องอธิปไตยไทยดินแดนตนที่รับรู้ตื้นลึกหนาบางหมดแต่ละเว้นต่อหน้าที่ตนพึ่งกระทำจนนำไปสู่การสูญเสียดินแดนถึง1:150,000 จากกรณีmou43ใช้1:200,000นั้นไม่ใช้1:50,000ที่สากลทั่วโลกยอมรับปกติแบบกรณีเวียดนามกับเขมร,กรณีลาวใช้กับเขมรที่อัตรา1:50,000ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศรับรู้ดีทุกๆอย่าง,แต่ละเว้นในหน้าที่ปกป้องอธิปไตยดินแดนไทยตนชัดเจน สมควรถูกประหารชีวิตทั้งกระทรวงให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง,เมื่อชาติตกเป็นทาสเป็นเชลยศึกศัตรูสงครามแพ้ต่ออธิปไตยตนที่ปกป้องไม่ได้ ทุกข์แสนสาหัสต่อคนประชาชนทั้งแผ่นดินไทยตนต้องบังเกิดขึ้นแน่นอนชัดเจน.,คนกระทรวงการต่างประเทศทั้งหมดต้องถูกลงโทษไม่มีข้อยกเว้น ยิ่งปัจจุบันไร้สำนึก สันดานในจิตในใจตนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ยังแถลงไขช่วยเหลือเขมร,เรา..ประชาชนคนไทยรับสันดานพฤติกรรมจริตจัญไรชั่วเลวนี้ไม่ได้จริงๆ.,นายกฯใหม่ที่เป็นภาวะผู้นำดีมีคุณธรรมโปร่งใส่อ่านขาดทุกๆปัญหาย่อมยุบทิ้งทันทีกระทรวงการต่างประเทศนี้และแบงค์ชาติในไทย,ก่อตั้งใหม่ได้ทันที,เป็นหน่วยงานที่ยืนเคียงข้างประเทศและประชาชนคนไทยชัดเจนในการดำรงความผาสุกจริงแก่สัมมาชีวิตคนไทยเรา,กระบวนการดูดเงินที่ผิดปกติ กระบวนการอายัดบัญชีประชาชนที่มั่วไร้ประสิทธิภาพมีวาระซ่อนเร่นด้วยถูกว่าเป็นภัยคุกคามประเทศไทยตนเองสร้างโกลาหลวุ่นวายในบ้านในเมืองตนชัดเจนด้วย,เงินเทาเงินมืดเงินดำมากมายไหลผ่านเข้าออกในประเทศไทยตนเองแบงค์ชาตินี้รับรู้หมดล่ะแต่ไม่จัดการห่าอะไรตลอดเรื่อยมาที่ผ่านๆมา,เงินไหลเข้าจากต่างชาติมากมายมาปั่นป่วนไทยให้หน่วยองค์กรสากลผีบ้าต่างๆแบงค์ชาติก็เห็นหมดล่ะ สามารถอายัดเงินชั่วเลวนั้นทันทีได้ด้วย ห้ามไหลออกก็ได้ มาปั่นค่าเงินบาทแบยโซรอสมันทำก็ห้ามเงินไหลออกก็ได้ ออกไปก็ประสานงานปลายทางให้โอนคืนด้วย,ถ้ามันไม่ช่วยก็ห้ามปลายทางนั้นมาเชื่อมระบบการเงินกับไทยทันที,บล็อคแบงค์ต่างชาตินั้นทันทีที่สนับสนุนอาชญากรรมทางการเงินเพื่อโจมตีค่าเวินบาทและเศรษฐกิจไทยให้พังพินาศ,นี้คือนายกฯต้องเห็นทุกๆบัญชีใครทั้งหมดในประเทศได้ มรึงจะร่ำรวยหลัก 100ล้านล้านบาทนายกฯต้องเข้าไปตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินได้,นี้ห่าอะไรปกปิดหมด บล็อคการเข้าถึงของอำนาจรัฐบาลตนเอง,สั่งลดดอกเบี้ยห่าอะไรก็ไม่ได้,เช่นนายกฯสั่งแบงค์เอกชนในไทยทั้งหมด,ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยทั้งหมดจะMLR Mห่าอะไร มาใช้อัตราเดียวคือดอกเบี้ยเงินกู้ทุกๆกรณีที่0.25%ต่อปีทั้งหมด,ดอกเบี้ยเงินฝากที่0.01%ต่อปี จะกระตุ้นการใช้จ่ายทันที,แบงค์ไหนไม่พอใจในประเทศไทยก็ปิดตัวลงไป,ธนาคารรัฐ ใช้อัตราเงินกู้แค่0.15%ต่อปี,นี้บวกอะไรแอบแฝงเพื่อแดกสาระพัดไม่รวมค่าธรรมเนียมค่าดำเนินการค่านั้นค่านี้อีก,กำไรตรึมไม่รวมขายประกันในแบงค์ขายผ่านบัตรATMอีกเอาเปรียบประชาชนสาระพัดแต่แบงค์ชาติเลวเหล่านี้กลับนิ่งเฉย,deep stateจะควบคุมปกครองประเทศใดๆสำเร็จมันควบคุมธนาคารในชาตินั้นๆก่อน,จีนมันควบคุมไม่ได้ ก็ไปควบคุมวิธีอื่นแทน,แต่จีนสามารถจัดการได้ เรา..ไทยต้องจัดการได้เช่นกัน,แต่นายกฯต้องเป็นคนดีจริงๆนะมิใช่เหี้ยแบบอดีตๆที่ผ่านมาแบบไอ้หน้าหล่อเสือกเอาmouไปเข้าunเป็นสนธิสัญญาอีกถือว่าเข้า ม.119อาญาประหารชีวิตชัดเจน,แม้เรายกเลิกสนธิสัญญาได้ ปฏิเสธธุรกรรมลงนามบันทึกใดๆได้หมดล่ะที่ทำเหี้ยกับใครไว้ หากมิชอบไม่เป็นการดีต่ออธิปไตยไทย เราฉีกทิ้งได้หมดล่ะ , ..นายกฯปัจจุบันจึงต้องแสดงตัวตนและบทบาทตนเองออกมาให้ชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ในการจะกอดหรือยกเลิกmou43,44นี้,ตอนนี้ก็ผ่านมา20วันแล้ว,เจตนารมณ์อันชัดเจนของตนเองยังไม่มี,อ้างนั้นอ้างนี้ถือว่าไม่มีความจริงใจต่ออธิปไตยดิรแดนชาติที่ตั้นตอปัญหาทั้งหมดมาจากmouนี้ทั้งสิ้น,ตนต้องมั่นใจในตนเองในบทบาทนายกฯตนเองที่มีอำนาจเต็มแล้ว จนสามารถสั่งยุบสภาได้โน้น,พะสาประกาศยกเลิกmou43,44ด้วยตนเอง มันสามารถทำได้,ประชาชนทั้งประเทศเชียร์อยู่แล้วเสือกยังไม่มีความกล้าหาญ ยังขี้ขลาดอีกอยู่ ใช้ไม่ได้,ไม่จะบ้าบอว่ารอบคอบหรือไม่รอบคอบห่าอะไรเลย,ประชาชนทั้งประเทศสนับสนุนต้องยกเลิกmouผีบ้านี้อยู่แล้ว,สมัยหน้านายกฯคนที่33เป็นอีกโน้น,คดีเขากระโดง ฮั่วสว.เรื่องขี้หมาเลย, นายกฯคนต่อไปได้เป็นแน่นอน.,ทำสิ่งที่ถูกต้องจบเลย,เขากระโดงก็คืนเสียแม้กรมที่ดินไม่ว่าไรพอเป็นพิธีให้เกียรติ จะมีอำนาจอยู่ก็ตาม เหยียบไม่เอาผิดก็ตาม, นายกฯคนต่อไปรื้อมาเล่นงานใหม่ได้หมดล่ะถ้าจะจัดการ,เมื่อตนสิ้นอำนาจอันตรายมากหากไม่สำนึกทำสิ่งที่ไม่ดีอยู่ต่ออีก,หากสำนึกกลับตัวกลับใจ สามารถนำพาพรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนเป็นพรรคภูมิใจธรรมได้ ย่อมอาจเป็นราชสีห์แทนงูเห่าที่เขาเหยียดหยามทั้งประเทศได้.,โทนี่ก็เป็นนายกฯยังติดคุกได้นะ.,ความดีจะคุ้มครองคนกระทำดี. ..อาสนธิท้าทายวัดใจ,แต่วัดใจเพื่อสนับสนุนให้กระทำสิ่งดีๆความดี มันดีต่อตนเองและประเทศชาติด้วย ถ้าไม่ทำ เสียของ เสียหายแก่ตนเองทันที ตราบาปตลอดชีวิต อับอายแก่วงศ์ตระกูลอีกเมื่อมีโอกาสทำสิ่งดีๆความดีเสือกไม่ทำ,ใฝ่ต่อขั่วเลวด้วยเกรงกลัวมันที่จะแแสิ่งไม่ดีตนออกมา,มันไม่คุ้มหรอก,สู้ทำสิ่งดีๆไปเลย แฉออกมาก็ชั่งหัวมัน,ผิดคือผิด ,แต่กูตอนนี้ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อตัวกูเองและประเทศชาติแผ่นดินไทยกูตอนนี้ กูยอมแลก,นี้ต้องประมาณนี้น่ะจึง อัพเลเวลได้แน่นอน.,จะเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ที่ดีๆทันที ลูกหลานววศ์ตระกูลตนแม้เคยผ่านอดีตเหลวร้ายใดๆมา ผิดพลาดไป เขามาเห็นมาดูประวัติศาสตร์วงศ์ตระกูลตนก็จะภาคภูมิใจ แม้กูเป็นโจรโกงกินเหี้ยสาระพัดภายในประเทศแต่กลับแดนอธิปไตยไทยกูปกป้องเพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ,อนาคตเขาเหล่านั้นจะดำรงตั้งในกิจกรรมทำความดีสิ่งดีๆแน่นอน,ไม่ละอายใจต่อแผ่นดินแทนบรรพบุรุษตนเอง,ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทย เงยหน้าท้าฟ้าได้ เหินฟ้า!!!ประมาณนั้น,แต่ถ้าตัดสินใจผิด ก้มหน้าก้มตากอดmiuผีบ้านี้อยู่แถแถลงเลอะเทอะไม่เรื่อย,ดับอนาถแน่นอน,ทรัพย์สินอาจถูกยึดหมดทั้งตระกูลหรือพร้อมถูกประหารชีวิตด้วย.,ทหารไทยใจรักชาติรักแผ่นดินไทยดีๆเขามีข้อมูลว่าใครดีใครชั่วเลว ใครกลับตัวกลับใจหมดล่ะ,โอกาสมี2เส้นทาง ทางสวรรค์เห็นชัดเจน และทางลงนรกก็ไม่ธรรมดาด้วย,ทานยาสีเม็ดอะไรแค่นั้น. https://youtube.com/shorts/4if56ZNYpSQ?si=yH7PxuCOucsjv6Zq
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • ~เปิดลับ การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัติร์ย์ ตั้งแต่ปี2550เป็นต้นมา
    ==================

    ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์
    อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    =================================

    นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา การบ่อนทำลายสถาบันสูงสุด…เกิดขึ้นมากผิดปกติ …มีการเปิดเผย… ไม่เกรงกลัว…โดย กลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์…ไม่เพียงเคลื่อนไหวในประเทศเท่านั้น

    …แต่ยังไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ …โดยเฉพาะในสหรัฐ

    ~ ด้วยการป้อนชุดข้อมูล…ที่ดูเหมือนจริง…แต่เป็นความเท็จ …ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของนักล็อบบี้…จากสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียง…และบริษัทประชาสัมพันธ์ …ที่ถูกใครบางคนจ้างไว้ 3 บริษัท บริษัทละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 30.3 ล้านบาท)

    ~ เพื่อไปล็อบบี้…สมาชิกรัฐสภา…และรัฐบาลอเมริกัน…เพื่อผลทางการเมืองของตน… อย่างไรก็ดี …ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น… คือ เกิดกระแสต่อต้านสถาบันกษัตริย์ในหมู่นักการเมืองอเมริกันมากขึ้น…อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

    ~ ฝ่ายที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทยในสหรัฐ…ทวีความเข้มแข็งมากขึ้น… มีการสร้างเว็บไซต์ในรูปแบบหลากหลาย …เขียนบทความภาษาต่างๆ… ซึ่งส่วนใหญ่มาจากข้อเขียนของคนอเมริกัน 2 คน คนหนึ่ง…คือ

    - เจ.เค. แห่งคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ (Council on Foreign Relations) อันทรงอิทธิพลในสหรัฐ ที่ เจ.เค. ได้เขียนบทความ…โจมตีสถาบันกษัตริย์ และยกย่องเชิดชูฝ่ายตรงข้ามสถาบันกษัตริย์ว่า เป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" สลับกันมาหลายปีแล้ว

    - อีกคนหนึ่ง คือ เอ.เอ็ม.เอ็ม. ที่ยอมรับว่า… ได้รับการว่าจ้าง…ให้มาทำงานด้านนี้ และ…เป็นคนที่นำเอาคดีของ โจ กอร์ดอน และ อำพล ตั้งนพกุล หรือ “อากง” มาเขียนโจมตี ม.112 …เพื่อให้พาดพิงไปถึงพระมหากษัตริย์ไทย ในรัชกาลที่ 9

    ~ในความเป็นจริง… คนพวกนี้…ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย… แต่ได้รับข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ชาวไทย…สายสาธารณรัฐ…ที่คนไทยรู้จักดี

    ~ ในกลางปี 2556 …นักล็อบบี้พวกนี้…วางแผนผลักดันให้มีการอภิปรายเชิงวิชาการ…ในที่ประชุมประจำปี…ของสมาคมเอเชียศึกษา (Association of Asian Studies)… ซึ่งมีคนไทย…ที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์…มีอิทธิพลอยู่

    ~ การอภิปรายดังกล่าว…มีเป้าหมาย…มุ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์ไทย…ในรัชกาลที่ 9 เป็นการเฉพาะ …รวมทั้ง…มีแผนตีพิมพ์หนังสืออีกเล่มหนึ่ง…โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐ ……ที่ผู้เขียนอ้างหลักฐาน…จากห้องสมุดมหาวิทยาลัย
    ……รัฐสภาของสหรัฐ ……ที่ดูเผินๆ แล้วน่าเชื่อถือ …หรือเลือกเฉพาะส่วนที่สนับสนุนความคิดของตน…… เพื่อหาทางทำลายความเชื่อถือพระมหากษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 9

    ~ ก่อนหน้านี้…เมื่อปี 2554 …ในวาระครบ 7 รอบ 84 พรรษา…ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 …นักล็อบบี้อเมริกัน…ได้ส่งชุดข้อมูล…ที่ปั้นแต่งขึ้น…จนทำให้สมาชิกสภาสหรัฐหลงเชื่อ

    ~ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ…พยายามหลีกเลี่ยง…ไม่ส่งหนังสือถวายพระพร…ตามที่เคยปฏิบัติมา …จนสภาสูง…ต้องส่งหนังสือถวายพระพรแทน ……สะท้อนให้เห็นว่า…… นักล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน……ทำงานให้กับนายจ้างคนไทยที่ไม่ชอบสถาบันกษัตริย์อย่างได้ผล ……ทำให้รัฐสภาชุดก่อนเข้าใจผิด …และต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทย… ตกทอดมาถึงสภาใหม่ชุดที่ 113 ในปัจจุบัน

    ~ ไม่เพียงแต่เท่านั้น …สถาบันบางแห่งของสหรัฐ …เช่น กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National Endowment for Democracy) ยังจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐ……คิดเป็นเงินไทยกว่า 1,500 ล้านบาท และ…อีกโครงการเป็นเงิน 200-300 ล้านบาท ……ให้กับกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ …ตามที่กลุ่มพวกนี้ร้องขอมา

    ~ โดยอ้างว่า…เพื่อนำไปใช้ในการให้ความรู้ประชาชนในการพัฒนาประชาธิไตย แต่…กลับนำไปสร้างสื่อและเว็บไซต์ ปลุกระดม โฆษณาชวนเชื่อให้คนไทยบางกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะ เป็นสถาบันที่มีสิทธิเหนือประชาชน

    ~ นักล็อบบี้เหล่านี้…ได้สร้างข้อมูลขึ้นมาชุดหนึ่ง…หรือหลายชุด ……และไปเคลื่อนไหวชักจูง… ชี้นำ… โน้มน้าว…ให้สมาชิกรัฐสภา และสถาบันอื่นของสหรัฐ เชื่อในวาทะกรรมที่ว่า

    ~ สถาบันสูงสุดของไทย หรือ สถาบันกษัตริย์นั้น…เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ……สถาบันกษัตริย์ไทย…ทำลายสิทธิมนุษยชน …อ้างว่า…ปัญหาของเมืองไทย……ไม่ใช่เรื่องการเมือง…… แต่เป็นปัญหาการสืบราชสมบัติ ……ที่กษัตริย์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาน……เพื่อจะเสนอให้ใครบางคนเป็น “ทางออก” ของชาติ (จากการเลือกตั้ง เพื่อเป็นประมุขของรัฐ หรือ เป็นประธานาธิบดี นั่นเอง)

    ~ พวกนี้…พยายามป้อนข้อมูล…ให้รัฐสภาอเมริกันเชื่อว่า “สถาบันไม่สู้แล้ว” เพราะ…ถ้าสถาบันไม่สู้ …สหรัฐก็ไม่มีทางเป็นอื่น…นอกจากจะยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตย…ที่อยู่ตรงข้ามกับสถาบันกษัตริย์… และเป็นการส่งสัญญานไปยังประเทศ…ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน…ที่สนับสนุนสถาบันสูงสุด ตลอดมา …หากสหรัฐ…และประเทศเหล่านี้…สรุปว่า ฝ่ายสถาบันกษัตริย์แพ้แน่ …สหรัฐและประเทศเหล่านี้…ซึ่งคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศเขาเป็นสำคัญ…ก็ต้องเข้าข้างฝ่ายชนะ ที่ถือเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย"

    ~ อย่างไรก็ดี …ฝ่ายสถาบันกษัตริย์…ส่งสัญญาน…มาหลายครั้งแล้วว่า “ยังสู้” และ “ไม่ยอมแพ้” โดยเฉพาะ…ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555 ที่ประชาชนชาวไทย…ได้ไปชุมนุมที่ลานพระบรมรูปฯ อย่างมืดฟ้ามัวดิน…เพื่อเข้าเฝ้าถวายพระพร …สะท้อนให้เห็นว่า …ประชาชนพร้อมที่จะสู้เคียงข้าง แม้จะปรากฏ “แรงเฉื่อย” ในสถาบันทหาร และ รัฐบาลในยุคนั้นก็ตาม จึงมีแต่ประชาชนเท่านั้น…ที่จะเป็นกำแพงป้องกันสถาบันสูงสุดของประเทศ……ให้พ้นจากการคุกคามจากฝ่ายบ่อนทำลายในและนอกประเทศได้

    ~ รัฐบาลชุดก่อน…เคยให้ทุนมหาวิทยาลัยดังในอเมริกา …อาทิ คอร์แนล วิสคอนซิน เพนซิลเวเนีย ยูซีแอลเอ. จอห์น ฮอพกินส์ วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสร้าง “ศูนย์ไทยศึกษา” และ “เพื่อนประเทศไทย” เพื่อให้เข้าใจสถาบันกษัตริย์ของไทย แต่…ปรากฏว่า ……ศูนย์เหล่านี้……กลายเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่การต่อต้านสถาบันสูงสุดไปหมด ……และอาจขยายเครือข่ายกว้างขวางมากขึ้น…… ไปยังออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปอีกด้วย

    ~ ไทยถูกคุกคาม…ด้วยสงครามยุคใหม่ …ทั้งสงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare) เช่น การก่อความรุนแรงช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 และ…สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงครามทุน และ สงครามไซเบอร์ …สงครามทั้งสามนี้…มีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐ …แต่มีสนามรบอยู่ทั่วโลก

    ~ ในไทย สหรัฐต้องการใช้สนามบินอู่ตะเภา…เป็น Global Transpark ตอบสนองยุทธศาสตร์ของสหรัฐ ในภูมิภาคนี้ …มีข่าวว่า สหรัฐได้ส่งทหารรับจ้าง ที่เป็นทหารผ่านศึกแบบแรมโบ้ …ที่เรียกว่า “แบล็ควอเตอร์” ประมาณ 5-6 ชุดมาประจำอยู่ในไทย …โดยแต่ละคนได้รับค่าจ้างปีละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ …เบี้ยเลี้ยงต่างหาก …เพื่อใช้ในการปฏิบัติการลับ (Covert Action) ตามนโยบายของสหรัฐ …ซึ่งอเมริกาถนัดในเรื่องพวกนี้มาก …และประสบความสำเร็จในละตินอเมริกามาแล้ว

    ~ อันตรายที่เกิดขึ้น…ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น……เป็นเรื่องจริง…และหนักหนา ……ชาติและสถาบัน……กำลังเสี่ยงอันตรายอย่างคาดไม่ถึง ……สิ่งที่เห็นทั้งในไทยและในต่างประเทศ…เป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ที่โผล่เหนือน้ำเพียง 1 ส่วน แต่อีก 9 ส่วนอยู่ใต้น้ำ

    ~ บทความนี้……ไม่ต้องการให้คนไทย…ไปต่อต้านสหรัฐ …เพียงแต่ขอให้เพื่อนคนไทย…อย่าปล่อยให้คนมาทำร้ายประเทศชาติ…และราชบัลลังก์เท่านั้น …ปัญหาของประเทศไทย…ต้องแก้ด้วยคนไทยเป็นหลัก …เราต้องช่วยกันเป็นปราการด่านสุดท้าย……ในการปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ……ให้ต่างชาติได้ตระหนักว่า ……สถาบันสูงสุดยังสู้ ……และคนไทยพร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสถาบันสำคัญยิ่งของชาติ
    ขอบคุณเจ้าของภาพบทความและคนโพสครับ

    ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์
    อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    ~เปิดลับ การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัติร์ย์ ตั้งแต่ปี2550เป็นต้นมา ================== ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ================================= นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา การบ่อนทำลายสถาบันสูงสุด…เกิดขึ้นมากผิดปกติ …มีการเปิดเผย… ไม่เกรงกลัว…โดย กลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์…ไม่เพียงเคลื่อนไหวในประเทศเท่านั้น …แต่ยังไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ …โดยเฉพาะในสหรัฐ ~ ด้วยการป้อนชุดข้อมูล…ที่ดูเหมือนจริง…แต่เป็นความเท็จ …ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของนักล็อบบี้…จากสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียง…และบริษัทประชาสัมพันธ์ …ที่ถูกใครบางคนจ้างไว้ 3 บริษัท บริษัทละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 30.3 ล้านบาท) ~ เพื่อไปล็อบบี้…สมาชิกรัฐสภา…และรัฐบาลอเมริกัน…เพื่อผลทางการเมืองของตน… อย่างไรก็ดี …ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น… คือ เกิดกระแสต่อต้านสถาบันกษัตริย์ในหมู่นักการเมืองอเมริกันมากขึ้น…อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ~ ฝ่ายที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทยในสหรัฐ…ทวีความเข้มแข็งมากขึ้น… มีการสร้างเว็บไซต์ในรูปแบบหลากหลาย …เขียนบทความภาษาต่างๆ… ซึ่งส่วนใหญ่มาจากข้อเขียนของคนอเมริกัน 2 คน คนหนึ่ง…คือ - เจ.เค. แห่งคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ (Council on Foreign Relations) อันทรงอิทธิพลในสหรัฐ ที่ เจ.เค. ได้เขียนบทความ…โจมตีสถาบันกษัตริย์ และยกย่องเชิดชูฝ่ายตรงข้ามสถาบันกษัตริย์ว่า เป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" สลับกันมาหลายปีแล้ว - อีกคนหนึ่ง คือ เอ.เอ็ม.เอ็ม. ที่ยอมรับว่า… ได้รับการว่าจ้าง…ให้มาทำงานด้านนี้ และ…เป็นคนที่นำเอาคดีของ โจ กอร์ดอน และ อำพล ตั้งนพกุล หรือ “อากง” มาเขียนโจมตี ม.112 …เพื่อให้พาดพิงไปถึงพระมหากษัตริย์ไทย ในรัชกาลที่ 9 ~ในความเป็นจริง… คนพวกนี้…ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย… แต่ได้รับข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ชาวไทย…สายสาธารณรัฐ…ที่คนไทยรู้จักดี ~ ในกลางปี 2556 …นักล็อบบี้พวกนี้…วางแผนผลักดันให้มีการอภิปรายเชิงวิชาการ…ในที่ประชุมประจำปี…ของสมาคมเอเชียศึกษา (Association of Asian Studies)… ซึ่งมีคนไทย…ที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์…มีอิทธิพลอยู่ ~ การอภิปรายดังกล่าว…มีเป้าหมาย…มุ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์ไทย…ในรัชกาลที่ 9 เป็นการเฉพาะ …รวมทั้ง…มีแผนตีพิมพ์หนังสืออีกเล่มหนึ่ง…โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐ ……ที่ผู้เขียนอ้างหลักฐาน…จากห้องสมุดมหาวิทยาลัย ……รัฐสภาของสหรัฐ ……ที่ดูเผินๆ แล้วน่าเชื่อถือ …หรือเลือกเฉพาะส่วนที่สนับสนุนความคิดของตน…… เพื่อหาทางทำลายความเชื่อถือพระมหากษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 9 ~ ก่อนหน้านี้…เมื่อปี 2554 …ในวาระครบ 7 รอบ 84 พรรษา…ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 …นักล็อบบี้อเมริกัน…ได้ส่งชุดข้อมูล…ที่ปั้นแต่งขึ้น…จนทำให้สมาชิกสภาสหรัฐหลงเชื่อ ~ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ…พยายามหลีกเลี่ยง…ไม่ส่งหนังสือถวายพระพร…ตามที่เคยปฏิบัติมา …จนสภาสูง…ต้องส่งหนังสือถวายพระพรแทน ……สะท้อนให้เห็นว่า…… นักล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน……ทำงานให้กับนายจ้างคนไทยที่ไม่ชอบสถาบันกษัตริย์อย่างได้ผล ……ทำให้รัฐสภาชุดก่อนเข้าใจผิด …และต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทย… ตกทอดมาถึงสภาใหม่ชุดที่ 113 ในปัจจุบัน ~ ไม่เพียงแต่เท่านั้น …สถาบันบางแห่งของสหรัฐ …เช่น กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National Endowment for Democracy) ยังจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐ……คิดเป็นเงินไทยกว่า 1,500 ล้านบาท และ…อีกโครงการเป็นเงิน 200-300 ล้านบาท ……ให้กับกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ …ตามที่กลุ่มพวกนี้ร้องขอมา ~ โดยอ้างว่า…เพื่อนำไปใช้ในการให้ความรู้ประชาชนในการพัฒนาประชาธิไตย แต่…กลับนำไปสร้างสื่อและเว็บไซต์ ปลุกระดม โฆษณาชวนเชื่อให้คนไทยบางกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะ เป็นสถาบันที่มีสิทธิเหนือประชาชน ~ นักล็อบบี้เหล่านี้…ได้สร้างข้อมูลขึ้นมาชุดหนึ่ง…หรือหลายชุด ……และไปเคลื่อนไหวชักจูง… ชี้นำ… โน้มน้าว…ให้สมาชิกรัฐสภา และสถาบันอื่นของสหรัฐ เชื่อในวาทะกรรมที่ว่า ~ สถาบันสูงสุดของไทย หรือ สถาบันกษัตริย์นั้น…เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ……สถาบันกษัตริย์ไทย…ทำลายสิทธิมนุษยชน …อ้างว่า…ปัญหาของเมืองไทย……ไม่ใช่เรื่องการเมือง…… แต่เป็นปัญหาการสืบราชสมบัติ ……ที่กษัตริย์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาน……เพื่อจะเสนอให้ใครบางคนเป็น “ทางออก” ของชาติ (จากการเลือกตั้ง เพื่อเป็นประมุขของรัฐ หรือ เป็นประธานาธิบดี นั่นเอง) ~ พวกนี้…พยายามป้อนข้อมูล…ให้รัฐสภาอเมริกันเชื่อว่า “สถาบันไม่สู้แล้ว” เพราะ…ถ้าสถาบันไม่สู้ …สหรัฐก็ไม่มีทางเป็นอื่น…นอกจากจะยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตย…ที่อยู่ตรงข้ามกับสถาบันกษัตริย์… และเป็นการส่งสัญญานไปยังประเทศ…ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน…ที่สนับสนุนสถาบันสูงสุด ตลอดมา …หากสหรัฐ…และประเทศเหล่านี้…สรุปว่า ฝ่ายสถาบันกษัตริย์แพ้แน่ …สหรัฐและประเทศเหล่านี้…ซึ่งคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศเขาเป็นสำคัญ…ก็ต้องเข้าข้างฝ่ายชนะ ที่ถือเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" ~ อย่างไรก็ดี …ฝ่ายสถาบันกษัตริย์…ส่งสัญญาน…มาหลายครั้งแล้วว่า “ยังสู้” และ “ไม่ยอมแพ้” โดยเฉพาะ…ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555 ที่ประชาชนชาวไทย…ได้ไปชุมนุมที่ลานพระบรมรูปฯ อย่างมืดฟ้ามัวดิน…เพื่อเข้าเฝ้าถวายพระพร …สะท้อนให้เห็นว่า …ประชาชนพร้อมที่จะสู้เคียงข้าง แม้จะปรากฏ “แรงเฉื่อย” ในสถาบันทหาร และ รัฐบาลในยุคนั้นก็ตาม จึงมีแต่ประชาชนเท่านั้น…ที่จะเป็นกำแพงป้องกันสถาบันสูงสุดของประเทศ……ให้พ้นจากการคุกคามจากฝ่ายบ่อนทำลายในและนอกประเทศได้ ~ รัฐบาลชุดก่อน…เคยให้ทุนมหาวิทยาลัยดังในอเมริกา …อาทิ คอร์แนล วิสคอนซิน เพนซิลเวเนีย ยูซีแอลเอ. จอห์น ฮอพกินส์ วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสร้าง “ศูนย์ไทยศึกษา” และ “เพื่อนประเทศไทย” เพื่อให้เข้าใจสถาบันกษัตริย์ของไทย แต่…ปรากฏว่า ……ศูนย์เหล่านี้……กลายเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่การต่อต้านสถาบันสูงสุดไปหมด ……และอาจขยายเครือข่ายกว้างขวางมากขึ้น…… ไปยังออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปอีกด้วย ~ ไทยถูกคุกคาม…ด้วยสงครามยุคใหม่ …ทั้งสงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare) เช่น การก่อความรุนแรงช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 และ…สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงครามทุน และ สงครามไซเบอร์ …สงครามทั้งสามนี้…มีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐ …แต่มีสนามรบอยู่ทั่วโลก ~ ในไทย สหรัฐต้องการใช้สนามบินอู่ตะเภา…เป็น Global Transpark ตอบสนองยุทธศาสตร์ของสหรัฐ ในภูมิภาคนี้ …มีข่าวว่า สหรัฐได้ส่งทหารรับจ้าง ที่เป็นทหารผ่านศึกแบบแรมโบ้ …ที่เรียกว่า “แบล็ควอเตอร์” ประมาณ 5-6 ชุดมาประจำอยู่ในไทย …โดยแต่ละคนได้รับค่าจ้างปีละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ …เบี้ยเลี้ยงต่างหาก …เพื่อใช้ในการปฏิบัติการลับ (Covert Action) ตามนโยบายของสหรัฐ …ซึ่งอเมริกาถนัดในเรื่องพวกนี้มาก …และประสบความสำเร็จในละตินอเมริกามาแล้ว ~ อันตรายที่เกิดขึ้น…ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น……เป็นเรื่องจริง…และหนักหนา ……ชาติและสถาบัน……กำลังเสี่ยงอันตรายอย่างคาดไม่ถึง ……สิ่งที่เห็นทั้งในไทยและในต่างประเทศ…เป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ที่โผล่เหนือน้ำเพียง 1 ส่วน แต่อีก 9 ส่วนอยู่ใต้น้ำ ~ บทความนี้……ไม่ต้องการให้คนไทย…ไปต่อต้านสหรัฐ …เพียงแต่ขอให้เพื่อนคนไทย…อย่าปล่อยให้คนมาทำร้ายประเทศชาติ…และราชบัลลังก์เท่านั้น …ปัญหาของประเทศไทย…ต้องแก้ด้วยคนไทยเป็นหลัก …เราต้องช่วยกันเป็นปราการด่านสุดท้าย……ในการปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ……ให้ต่างชาติได้ตระหนักว่า ……สถาบันสูงสุดยังสู้ ……และคนไทยพร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสถาบันสำคัญยิ่งของชาติ ขอบคุณเจ้าของภาพบทความและคนโพสครับ ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาชิกรัฐสภา (สส.) และ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ(สว.) แถลงการณ์ถึงแคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร โดยข่มขู่ว่าจะมี “มาตรการลงโทษ” หากประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์

    แถลงการณ์นี้ออกมาเมื่อวันที่ 20 กันยายน

    วันนี้วันที่ 21 กันยายน ทั้งออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา ประกาศรับรอง "ปาเลสไตน์" เป็นรัฐอิสระเรียบร้อยไปแล้ว บ่งบอกว่าทั้งสามประเทศนี้ไม่ได้เกรงกลัวคำขู่ของสหรัฐแต่อย่างใด

    ขณะที่ฝรั่งเศส มีรายงานว่าจะประกาศรับรองปาเลสไตน์ ในวันพรุ่งนี้ คือวันจันทร์ที่ 22 กันยายน

    คำประกาศรับรองของ ออสเตรเลีย แคนาดา และอังกฤษ เกิดขึ้นหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางเยือนอังกฤษเพียงหนึ่งวันเท่านั้น!
    สมาชิกรัฐสภา (สส.) และ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ(สว.) แถลงการณ์ถึงแคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร โดยข่มขู่ว่าจะมี “มาตรการลงโทษ” หากประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์ 👉แถลงการณ์นี้ออกมาเมื่อวันที่ 20 กันยายน 👉วันนี้วันที่ 21 กันยายน ทั้งออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา ประกาศรับรอง "ปาเลสไตน์" เป็นรัฐอิสระเรียบร้อยไปแล้ว บ่งบอกว่าทั้งสามประเทศนี้ไม่ได้เกรงกลัวคำขู่ของสหรัฐแต่อย่างใด 👉ขณะที่ฝรั่งเศส มีรายงานว่าจะประกาศรับรองปาเลสไตน์ ในวันพรุ่งนี้ คือวันจันทร์ที่ 22 กันยายน 👉คำประกาศรับรองของ ออสเตรเลีย แคนาดา และอังกฤษ เกิดขึ้นหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางเยือนอังกฤษเพียงหนึ่งวันเท่านั้น!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 13 นางเหยี่ยว F

    ปฎิบัติการสีส้มแน่นอน หยุดไม่ได้แล้ว แต่จะเดินต่ออย่างไร เดือนกันยายน ค.ศ. 2013 มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย Viktor Pinchuk ลุกขึ้นจัดการประชุมใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของ Ukraine สื่อยักษ์ Economist บอกเป็นการจัดการสัมมนาของการฑูตระดับสูงและเข้มข้น

    ในจำนวนแขกที่มาเข้าร่วมสัมมนาคือ ระดับครีมของนักการเมืองหัวแถวของแทบทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ นายและนาง Clinton, อดีตหัวหน้า CIA นายพล Petraeus, อดีต รมว.คลัง Lawrence Summers, อดีตผู้ว่าการธนาคารโลก Rober Zoellick, รัฐมนตรี ตปท. สวีเดน Carl Bildt, Shimon Peres, Tony Blair, Gerhard Schroder, Dominique, Strauss-Kahn, Mario Monti, ประธานาธิบดี Lithuanian รวมทั้งประธานาธิบดี Viktor Yanukovych (ซึ่งหลังจากนั้น 5 เดือนก็ถูกขับไล่กระเด็นออกจากตำแหน่ง) และนาย Petro Poroshenko (ผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นประธานาธิบดีแทน !) ก็มา ขาดแต่ไอ้ปึ้งหัวเหม่งของเรา (ตอนนั้น) นึกว่าเป็นพวกครีม ฮา

    หัวข้อของการหารือคือ “Deep and Comprehensive Free Trade Agreement” (DCFTA) ระหว่าง Ukraine กับสหภาพยุโรป และการที่ Ukraine สนใจจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายตะวันตก สุ้มเสียง แนวทางการคุย เป็นการโยนหินถามทางในการที่ Ukraine จะตัดเชือกคล้องข้อมือกับรัสเซีย เพื่อไปซบโลกตะวันตก
    เป็นการจัดงานประชุมลับหลังรัส เซียหรือ คนจัดบอก ไม่ใช่ ไม่ใช่ เราไม่ใช่ พวก Bilderberg เราทำอะไรเปิดเผย เราเชิญรัสเซียมาด้วย และรัสเซียก็มา นู่น นั่งอยู่นู่น ไม่เห็นเหรอ

    คุณพี่ปูตินส่งมือขวาคือนาย Sergei Glazyev ที่ปรึกษาใหญ่ด้านการเมืองมานั่งฟังด้วย นาย Glazyev บอกว่า ความเห็นของตะวันตกกับของรัสเซียต่างกันสิ้นเชิง เราไม่ได้มองว่า Ukraine จะต้องอยู่หรือไม่อยู่กับตะวันตกหรือกับรัสเซีย แต่เรามองที่ความเป็นจริงของฐานะทางเศรษฐกิจของ Ukraine มากกว่า

    ซึ่งขณะนี้ Ukraine ขาดดุลย์การค้าต่างประเทศอยู่แยะ มีการกู้ยืมต่างประเทศสูง Ukraine คงไม่แคล้วตกเป็นผู้ผิดนัด กับเจ้าหนี้ต่างประเทศนั้น เว้นแต่จะมีใครมาช่วยซื้อหนี้ขนาดใหญ่นี้ออกไป (Sizable Bailout !)

    Forbes รายงานว่าสิ่งที่รัสเซียพูดใกล้ความเป็นจริง มากกว่าภาษานักการฑูตระดับสูงที่พูดกันอยู่ในที่ประชุมที่ Brussels และ Kiev

    สำหรับด้านการเมือง นสพ. Times ของ London รายงานว่า นาย Glazyev บอกว่าเป็นไปได้ว่า ชนส่วนน้อยใน Ukraine ตะวันออก ที่ยังพูดภาษารัสเซีย อาจจะมีการเคลื่อนไหว เพื่อแยกประเทศ เป็นการประท้วง ถ้ามีการตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย และรัสเซียก็มีสิทธิตามกฎหมาย ที่จะสนับสนุนคนพวกนี้ อืม ! พูดสั้น ๆ แต่ความหมายแรง

    ตกลง Ukraine กำลังเล่นอะไร บรรดานักวิเคราะห์มองว่า Ukraine กำลังเหยียบเรือ 2 แคมบ้าง บ้างก็ว่า Yanukovych อ่อนแอ ตัดสินใจไม่ได้

    รัสเซียบอกไม่สนใจว่า Ukraine จะอยู่กับใคร รัสเซียต้องการให้ Ukraine เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตะวันตกกับรัสเซียมากกว่า แล้วอเมริกาละ ยังอยากจะละเลงสีส้มต่อไปไหม?
    แน่นอนการจัดประชุมใหญ่ เมื่อเดือนกันยายนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นลำพัง โดยเศรษฐีคนไหนฟิตจัดขึ้นมาหรอกน่า มันต้องมีลูกหนุน ลูกเชียร์ จากลูกพี่ด้วย คุณนาย Victoria Nuland มาแล้ว หล่อนคือผู้คุมเกมการละเลงสีส้ม ตัวจริง ! Nuland เป็นนางเหยี่ยว อดีตที่ปรึกษาของ **** Cheney เคยเป็นผช.ฑูตประจำ NATO และเป็นโฆษกของคุณนาย Clinton และเป็นคุณเมียของนาย Robert Kagan เหยี่ยวอีกตัวหนึ่ง และโดยคุณสมบัติเฉพาะตัว Nuland เป็นผู้ชำนาญการรุ่นเก๋ากึกด้านรัสเซีย ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนในอเมริกา

    การที่ Nuland มากำกับการละเลงสีส้ม ชัดเจนว่านโยบายของ Bush คนลูกที่จะสร้างสงครามเย็นยุคใหม่ ปิดล้อมรัสเซียต่อไป ได้ส่งไม้ต่อให้กับ Obama ผู้ทำตัวเหมือนคนขายของรับ order ลูกค้ามากกว่าเป็นประธานาธิบดี (อันนี้ ยืนยันว่า คนเขียนนิทานไม่ได้พูดเอง แต่สื่อปากจัดของค่ายตะวันตกด่ากันเอง)

    Nuland พูดที่วอชิงตันว่า ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย อเมริกาใช้เงินไปกว่า 5 พันล้านเหรียญ เพื่อให้มีอิทธิพลทางการเมืองใน Ukraine เราไม่ได้ลงทุนใน “น้ำมัน” โปรดเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ (เรารวยนะ) แต่มันเป็นเรื่องภูมิศาสตร์การเมือง เรามองว่า Ukraine เป็นจุดอ่อนของรัสเซีย (Russia’s Achilles’ heel) เราสามารถใช้ Ukraine สร้างปัญหาให้กับรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว้าว ! อย่าได้ประมาทหน้านางเหยี่ยวเชียว จิกได้ เจ็บจริง ๆ

    โลกหันขวับ มามองนางเหยี่ยวตัวใหม่ ไมค์ทุกตัวจ่อปากคุณนาย เมื่อ Nuland หลุดปากบอกว่า เราต้องเปลี่ยนเอาไอ้นาย Yanukovych ออกไปจากตำแหน่งด่วน แล้วใครมาแทนล่ะ มีคนตะโกนถาม เห็นว่า Angela Merkel และสหภาพยุโรป อยากจะเอาอดีตนักมวย ชื่อ Vitaly Klitschenko มาสวมแทนไม่ใช่หรือ
    คุณนายบอก “F… the Eu” พูดแบบนี้ไม่ดังแซงหน้าคุณนาย Clinton ได้ยังไง

    ไม่ใช่นักมวยเข้าใจใหม่ ฉันไม่เอานักมวย ไม่ใช่ “Klits” แต่เป็น “Yats” คุณนายเหยี่ยวหมายถึง Arseniy Yatsenyuk เด็กสร้างอีกคนของอเมริกาที่ถนัดเรื่องใช้ยาแรง ตามใบสั่งของ IMF
    แล้วนาย Yats ก็ได้งาน เขาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแล Ukraine ให้เป็นไปตามที่อเมริกาต้องการ ที่สำคัญคือต้องจัดการเลือกตั้งในวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปีนี้ให้ได้ แม้ว่าชาว Ukraine ฝั่งตะวันออกจะไม่ได้มาเลือกตั้ง เพราะถูกคุณพี่ปูตินฉก Crimea กลับเข้ามาอยู่ในกล้ามใหญ่ของตน

    แต่แผนการนางเหยี่ยวลึกซึ้ง ไม่เสียทีอยู่ร่วมกรงเหยี่ยวกับพวกไอ้เสือเอาวา แผนการนี้มันเป็น win-win สำหรับอเมริกาของจริง

    ถ้ารัสเซียไม่ย้ายกองเรือ ก็มีหวังถูกเขมือบ เรื่องถูกเขมือบกองเรือนี่ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย รัสเซียอาจถึงหายนะได้ ทางเลือกเกือบไม่มี ดังนั้นจึงยึด Crimea มาไว้ก่อน ยึดมาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นไปตามแผนของอเมริกา ที่อยากให้รัสเซียทำ เป็นหมากการเมืองที่อเมริกากำลังอยากให้รัสเซียเล่นอย่างยิ่ง หาบทผู้ร้ายให้รัสเซีย หาโอกาสที่จะประกาศบอกโลกว่า เห็นมั้ย รัสเซียก็เหมือนเดิม กำลังขยายอำนาจ แบบนี้จะปล่อยไว้หรือ

    อเมริกากำลังต้องการหาผู้ร้ายใจ จะขาด เพื่อให้พวกขวัญอ่อนง้อ ให้ NATO คงอยู่ต่อไป และอเมริการจะได้ชักใยให้ NATO ทำภาระกิจ ของจริง ที่อเมริกา ไม่ได้บอกให้สมาชิก NATO รู้

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    1 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 13 นางเหยี่ยว F ปฎิบัติการสีส้มแน่นอน หยุดไม่ได้แล้ว แต่จะเดินต่ออย่างไร เดือนกันยายน ค.ศ. 2013 มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย Viktor Pinchuk ลุกขึ้นจัดการประชุมใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของ Ukraine สื่อยักษ์ Economist บอกเป็นการจัดการสัมมนาของการฑูตระดับสูงและเข้มข้น ในจำนวนแขกที่มาเข้าร่วมสัมมนาคือ ระดับครีมของนักการเมืองหัวแถวของแทบทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ นายและนาง Clinton, อดีตหัวหน้า CIA นายพล Petraeus, อดีต รมว.คลัง Lawrence Summers, อดีตผู้ว่าการธนาคารโลก Rober Zoellick, รัฐมนตรี ตปท. สวีเดน Carl Bildt, Shimon Peres, Tony Blair, Gerhard Schroder, Dominique, Strauss-Kahn, Mario Monti, ประธานาธิบดี Lithuanian รวมทั้งประธานาธิบดี Viktor Yanukovych (ซึ่งหลังจากนั้น 5 เดือนก็ถูกขับไล่กระเด็นออกจากตำแหน่ง) และนาย Petro Poroshenko (ผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นประธานาธิบดีแทน !) ก็มา ขาดแต่ไอ้ปึ้งหัวเหม่งของเรา (ตอนนั้น) นึกว่าเป็นพวกครีม ฮา หัวข้อของการหารือคือ “Deep and Comprehensive Free Trade Agreement” (DCFTA) ระหว่าง Ukraine กับสหภาพยุโรป และการที่ Ukraine สนใจจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายตะวันตก สุ้มเสียง แนวทางการคุย เป็นการโยนหินถามทางในการที่ Ukraine จะตัดเชือกคล้องข้อมือกับรัสเซีย เพื่อไปซบโลกตะวันตก เป็นการจัดงานประชุมลับหลังรัส เซียหรือ คนจัดบอก ไม่ใช่ ไม่ใช่ เราไม่ใช่ พวก Bilderberg เราทำอะไรเปิดเผย เราเชิญรัสเซียมาด้วย และรัสเซียก็มา นู่น นั่งอยู่นู่น ไม่เห็นเหรอ คุณพี่ปูตินส่งมือขวาคือนาย Sergei Glazyev ที่ปรึกษาใหญ่ด้านการเมืองมานั่งฟังด้วย นาย Glazyev บอกว่า ความเห็นของตะวันตกกับของรัสเซียต่างกันสิ้นเชิง เราไม่ได้มองว่า Ukraine จะต้องอยู่หรือไม่อยู่กับตะวันตกหรือกับรัสเซีย แต่เรามองที่ความเป็นจริงของฐานะทางเศรษฐกิจของ Ukraine มากกว่า ซึ่งขณะนี้ Ukraine ขาดดุลย์การค้าต่างประเทศอยู่แยะ มีการกู้ยืมต่างประเทศสูง Ukraine คงไม่แคล้วตกเป็นผู้ผิดนัด กับเจ้าหนี้ต่างประเทศนั้น เว้นแต่จะมีใครมาช่วยซื้อหนี้ขนาดใหญ่นี้ออกไป (Sizable Bailout !) Forbes รายงานว่าสิ่งที่รัสเซียพูดใกล้ความเป็นจริง มากกว่าภาษานักการฑูตระดับสูงที่พูดกันอยู่ในที่ประชุมที่ Brussels และ Kiev สำหรับด้านการเมือง นสพ. Times ของ London รายงานว่า นาย Glazyev บอกว่าเป็นไปได้ว่า ชนส่วนน้อยใน Ukraine ตะวันออก ที่ยังพูดภาษารัสเซีย อาจจะมีการเคลื่อนไหว เพื่อแยกประเทศ เป็นการประท้วง ถ้ามีการตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย และรัสเซียก็มีสิทธิตามกฎหมาย ที่จะสนับสนุนคนพวกนี้ อืม ! พูดสั้น ๆ แต่ความหมายแรง ตกลง Ukraine กำลังเล่นอะไร บรรดานักวิเคราะห์มองว่า Ukraine กำลังเหยียบเรือ 2 แคมบ้าง บ้างก็ว่า Yanukovych อ่อนแอ ตัดสินใจไม่ได้ รัสเซียบอกไม่สนใจว่า Ukraine จะอยู่กับใคร รัสเซียต้องการให้ Ukraine เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตะวันตกกับรัสเซียมากกว่า แล้วอเมริกาละ ยังอยากจะละเลงสีส้มต่อไปไหม? แน่นอนการจัดประชุมใหญ่ เมื่อเดือนกันยายนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นลำพัง โดยเศรษฐีคนไหนฟิตจัดขึ้นมาหรอกน่า มันต้องมีลูกหนุน ลูกเชียร์ จากลูกพี่ด้วย คุณนาย Victoria Nuland มาแล้ว หล่อนคือผู้คุมเกมการละเลงสีส้ม ตัวจริง ! Nuland เป็นนางเหยี่ยว อดีตที่ปรึกษาของ Dick Cheney เคยเป็นผช.ฑูตประจำ NATO และเป็นโฆษกของคุณนาย Clinton และเป็นคุณเมียของนาย Robert Kagan เหยี่ยวอีกตัวหนึ่ง และโดยคุณสมบัติเฉพาะตัว Nuland เป็นผู้ชำนาญการรุ่นเก๋ากึกด้านรัสเซีย ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนในอเมริกา การที่ Nuland มากำกับการละเลงสีส้ม ชัดเจนว่านโยบายของ Bush คนลูกที่จะสร้างสงครามเย็นยุคใหม่ ปิดล้อมรัสเซียต่อไป ได้ส่งไม้ต่อให้กับ Obama ผู้ทำตัวเหมือนคนขายของรับ order ลูกค้ามากกว่าเป็นประธานาธิบดี (อันนี้ ยืนยันว่า คนเขียนนิทานไม่ได้พูดเอง แต่สื่อปากจัดของค่ายตะวันตกด่ากันเอง) Nuland พูดที่วอชิงตันว่า ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย อเมริกาใช้เงินไปกว่า 5 พันล้านเหรียญ เพื่อให้มีอิทธิพลทางการเมืองใน Ukraine เราไม่ได้ลงทุนใน “น้ำมัน” โปรดเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ (เรารวยนะ) แต่มันเป็นเรื่องภูมิศาสตร์การเมือง เรามองว่า Ukraine เป็นจุดอ่อนของรัสเซีย (Russia’s Achilles’ heel) เราสามารถใช้ Ukraine สร้างปัญหาให้กับรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว้าว ! อย่าได้ประมาทหน้านางเหยี่ยวเชียว จิกได้ เจ็บจริง ๆ โลกหันขวับ มามองนางเหยี่ยวตัวใหม่ ไมค์ทุกตัวจ่อปากคุณนาย เมื่อ Nuland หลุดปากบอกว่า เราต้องเปลี่ยนเอาไอ้นาย Yanukovych ออกไปจากตำแหน่งด่วน แล้วใครมาแทนล่ะ มีคนตะโกนถาม เห็นว่า Angela Merkel และสหภาพยุโรป อยากจะเอาอดีตนักมวย ชื่อ Vitaly Klitschenko มาสวมแทนไม่ใช่หรือ คุณนายบอก “F… the Eu” พูดแบบนี้ไม่ดังแซงหน้าคุณนาย Clinton ได้ยังไง ไม่ใช่นักมวยเข้าใจใหม่ ฉันไม่เอานักมวย ไม่ใช่ “Klits” แต่เป็น “Yats” คุณนายเหยี่ยวหมายถึง Arseniy Yatsenyuk เด็กสร้างอีกคนของอเมริกาที่ถนัดเรื่องใช้ยาแรง ตามใบสั่งของ IMF แล้วนาย Yats ก็ได้งาน เขาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแล Ukraine ให้เป็นไปตามที่อเมริกาต้องการ ที่สำคัญคือต้องจัดการเลือกตั้งในวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปีนี้ให้ได้ แม้ว่าชาว Ukraine ฝั่งตะวันออกจะไม่ได้มาเลือกตั้ง เพราะถูกคุณพี่ปูตินฉก Crimea กลับเข้ามาอยู่ในกล้ามใหญ่ของตน แต่แผนการนางเหยี่ยวลึกซึ้ง ไม่เสียทีอยู่ร่วมกรงเหยี่ยวกับพวกไอ้เสือเอาวา แผนการนี้มันเป็น win-win สำหรับอเมริกาของจริง ถ้ารัสเซียไม่ย้ายกองเรือ ก็มีหวังถูกเขมือบ เรื่องถูกเขมือบกองเรือนี่ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย รัสเซียอาจถึงหายนะได้ ทางเลือกเกือบไม่มี ดังนั้นจึงยึด Crimea มาไว้ก่อน ยึดมาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นไปตามแผนของอเมริกา ที่อยากให้รัสเซียทำ เป็นหมากการเมืองที่อเมริกากำลังอยากให้รัสเซียเล่นอย่างยิ่ง หาบทผู้ร้ายให้รัสเซีย หาโอกาสที่จะประกาศบอกโลกว่า เห็นมั้ย รัสเซียก็เหมือนเดิม กำลังขยายอำนาจ แบบนี้จะปล่อยไว้หรือ อเมริกากำลังต้องการหาผู้ร้ายใจ จะขาด เพื่อให้พวกขวัญอ่อนง้อ ให้ NATO คงอยู่ต่อไป และอเมริการจะได้ชักใยให้ NATO ทำภาระกิจ ของจริง ที่อเมริกา ไม่ได้บอกให้สมาชิก NATO รู้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 1 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิจารณ์สนั่นโลโก้ Maybank บนตึก Merdeka 118

    แม้ว่าโลโก้เมย์แบงก์ (Maybank) ธนาคารอันดับหนึ่งของมาเลเซีย กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ในเมืองโคตากินาบาลู รัฐซาบาห์ เพราะสาขาที่ปิดถาวรบนถนนจาลันพันตาย (Jalan Pantai) กลายเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยว แต่สำหรับอาคาร์เมอร์เดก้า 118 (Merdeka 118) ความสูง 118 ชั้น 678.9 เมตร ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่สูงเป็นอันดับสองของโลก รองจากตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa) ในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดูจะไม่สบอารมณ์กับชาวมาเลเซียเท่าไหร่นัก

    บนสื่อโซเชียลฯ ในมาเลเซียวิจารณ์กรณีที่กลุ่มเมย์แบงก์ ซึ่งเป็นผู้เช่าหลักติดโลโก้ Maybank เป็นตัวอักษรสีเหลืองบนยอดตึกของอาคารดังกล่าว โดยมองว่าอาจทำให้เสียภาพลักษณ์และไม่สะท้อนความหมายของอาคารดังกล่าว ทั้งที่อาคารดังกล่าวออกแบบเป็นสัญลักษณ์ที่นายตุนกู อับดุล ระฮ์มัน (Tunku Abdul Rahman) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนแรก กำลังยื่นมือออกไปขณะอ่านคำประกาศอิสรภาพ ว่า "เมอร์เดก้า" แปลว่าอิสรภาพ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2500 ที่สนามกีฬาเมอร์เดก้า

    ชาวเน็ตมาเลเซียเกรงว่าในไม่ช้าผู้คนจะจดจำอาคาร Merdeka 118 ในชื่อ Maybank Tower แทน ถ้าเปรียบเทียบกับอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ หรือตึกแฝด ย่าน KLCC (Kuala Lumpur City Centre) ทางบริษัทพลังงานแห่งชาติของมาเลเซีย ก็ไม่ได้ใส่โลโก้ของตน ทั้งที่เป็นเจ้าของอาคารที่แท้จริง โดยเห็นว่าหากไม่มีโลโก้ Maybank อาคารดังกล่าวจะดูปกติเรียบร้อยกว่านี้

    ก่อนหน้านี้ กลุ่มเมย์แบงก์ตัดสินใจเช่าอาคารเมอร์เดก้า 118 กับบริษัท เปอร์โมดาลัน เนชันแนล เบอร์ฮัด (Permodalan Nasional Berhad หรือ PNB) เจ้าของอาคารดังกล่าว จำนวน 33 ชั้น 650,000 ตารางฟุต รวมระยะเวลา 21 ปี พร้อมย้ายสำนักงานใหญ่ จากเดิมอาคารเมย์แบงก์บนถนนตุน ราซัค (Tun Razak) และธุรกิจในเครือ เช่น เมย์แบงก์ อิสลาม, เมย์แบงก์ อินเวสเมนท์ แบงก์ และเมย์แบงก์ แอสเซท แมเนจเมนท์ มารวมกันที่นี่ คาดว่าจะรองรับพนักงานประมาณ 5,900 คน อีกทั้งได้รับสิทธิ์ในการตั้งชื่อและติดป้ายบนอาคาร ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์บนอาคารสูงระดับโลก คาดว่าจะทยอยย้ายไปยังสำนักงานแห่งใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2569

    อนึ่ง กลุ่มเมย์แบงก์ประกอบธุรกิจการเงินใน 18 ประเทศ ประกอบด้วยธนาคาร 8 ประเทศ (ธนาคารตามหลักศาสนาอิสลาม 4 ประเทศ) การลงทุน 16 ประเทศ ประกันภัยและตะกาฟุล 5 ประเทศ ในประเทศไทยประกอบธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ โดยซื้อกิจการจากกิมเอ็ง โฮลดิ้งส์ ประเทศสิงค์โปร์ เมื่อปี 2554 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาคารดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์

    #Newskit
    วิจารณ์สนั่นโลโก้ Maybank บนตึก Merdeka 118 แม้ว่าโลโก้เมย์แบงก์ (Maybank) ธนาคารอันดับหนึ่งของมาเลเซีย กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ในเมืองโคตากินาบาลู รัฐซาบาห์ เพราะสาขาที่ปิดถาวรบนถนนจาลันพันตาย (Jalan Pantai) กลายเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยว แต่สำหรับอาคาร์เมอร์เดก้า 118 (Merdeka 118) ความสูง 118 ชั้น 678.9 เมตร ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่สูงเป็นอันดับสองของโลก รองจากตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa) ในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดูจะไม่สบอารมณ์กับชาวมาเลเซียเท่าไหร่นัก บนสื่อโซเชียลฯ ในมาเลเซียวิจารณ์กรณีที่กลุ่มเมย์แบงก์ ซึ่งเป็นผู้เช่าหลักติดโลโก้ Maybank เป็นตัวอักษรสีเหลืองบนยอดตึกของอาคารดังกล่าว โดยมองว่าอาจทำให้เสียภาพลักษณ์และไม่สะท้อนความหมายของอาคารดังกล่าว ทั้งที่อาคารดังกล่าวออกแบบเป็นสัญลักษณ์ที่นายตุนกู อับดุล ระฮ์มัน (Tunku Abdul Rahman) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนแรก กำลังยื่นมือออกไปขณะอ่านคำประกาศอิสรภาพ ว่า "เมอร์เดก้า" แปลว่าอิสรภาพ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2500 ที่สนามกีฬาเมอร์เดก้า ชาวเน็ตมาเลเซียเกรงว่าในไม่ช้าผู้คนจะจดจำอาคาร Merdeka 118 ในชื่อ Maybank Tower แทน ถ้าเปรียบเทียบกับอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ หรือตึกแฝด ย่าน KLCC (Kuala Lumpur City Centre) ทางบริษัทพลังงานแห่งชาติของมาเลเซีย ก็ไม่ได้ใส่โลโก้ของตน ทั้งที่เป็นเจ้าของอาคารที่แท้จริง โดยเห็นว่าหากไม่มีโลโก้ Maybank อาคารดังกล่าวจะดูปกติเรียบร้อยกว่านี้ ก่อนหน้านี้ กลุ่มเมย์แบงก์ตัดสินใจเช่าอาคารเมอร์เดก้า 118 กับบริษัท เปอร์โมดาลัน เนชันแนล เบอร์ฮัด (Permodalan Nasional Berhad หรือ PNB) เจ้าของอาคารดังกล่าว จำนวน 33 ชั้น 650,000 ตารางฟุต รวมระยะเวลา 21 ปี พร้อมย้ายสำนักงานใหญ่ จากเดิมอาคารเมย์แบงก์บนถนนตุน ราซัค (Tun Razak) และธุรกิจในเครือ เช่น เมย์แบงก์ อิสลาม, เมย์แบงก์ อินเวสเมนท์ แบงก์ และเมย์แบงก์ แอสเซท แมเนจเมนท์ มารวมกันที่นี่ คาดว่าจะรองรับพนักงานประมาณ 5,900 คน อีกทั้งได้รับสิทธิ์ในการตั้งชื่อและติดป้ายบนอาคาร ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์บนอาคารสูงระดับโลก คาดว่าจะทยอยย้ายไปยังสำนักงานแห่งใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2569 อนึ่ง กลุ่มเมย์แบงก์ประกอบธุรกิจการเงินใน 18 ประเทศ ประกอบด้วยธนาคาร 8 ประเทศ (ธนาคารตามหลักศาสนาอิสลาม 4 ประเทศ) การลงทุน 16 ประเทศ ประกันภัยและตะกาฟุล 5 ประเทศ ในประเทศไทยประกอบธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ โดยซื้อกิจการจากกิมเอ็ง โฮลดิ้งส์ ประเทศสิงค์โปร์ เมื่อปี 2554 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาคารดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 12 ส้มเน่า

    แล้วการเลือกตั้งในปี ค.ศ. 2010 ของ Ukraine ก็มาถึง คราวนี้ อัศวินสีส้ม Yushchenko ถูกน๊อค นอนนับ 10 เขาได้คะแนนเสียงประมาณ 5%

    5 ปี ของราคาขนมปังที่ขึ้นอย่างบ้าเลือดนี้ ชาวUkraine จำได้ คิดเป็น จากเมืองที่เคยอยู่กันอย่างอุดมสมบูรณ์ ดินดำ น้ำใส ฉันเคยส่งออกธัญพืชเป็นอันดับ 3 ของโลกนะ ทำไมตอนนี้ฉันต้องซื้อขนมปังที่ทำจากแป้งของฉันเอง แพงกว่าเดิม 300 เท่า ตอบมาซิ !

    ชาว Ukraine ต้องการความมั่นคง เขาไม่ต้องการให้ใครมาผลัก มาดันเขา ไปทางโน้นที ทางนี้ที พวกเขาเลือกที่จะไม่อยู่กับ NATO สื่อตะวันตกออกข่าวทันที นาย Yanukovych ที่น๊อค นาย Yushchenko เป็นเด็กสร้างของรัสเซีย รู้ไหมรัสเซียส่งมายึด Ukraine กลับไปอยู่ในกรง แต่ปรากฎว่าบรรดา นักอุตสาหกรรมที่เป็นผู้หนุนหลัง นาย Yanukovych ต่างบอกว่าเราต้องการเศรษฐกิจ ที่มีสัมพันธ์สอดคล้องกันกับสหภาพยุโรปและกับรัสเซีย แปลว่าไม่เลือกข้างน่ะ

    นาย Yanukovych บอกว่าเขาจะไม่พยายามนำ Ukraine ไปเข้า NATO ตามลูกยุของวอชิงตัน และไม่เข้าไปอยู่ในสหภาพยุโรปด้วย เขาจะพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจของ Ukraine และปัญหาการทุจริตในประเทศ

    ส่วนเรื่องท่อส่งแก๊ซกับรัสเซีย เหมือนเดิมครับพี่ปูติน ! และที่สำคัญเรื่องเช่าฐานทัพเรือที่ท่าเรือ Sevastapol ที่จะหมดในปี ค.ศ. 2017 ก็ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมต่อให้ก่อนหมดอายุเลย

    แล้วแบบนี้นาย Yanukovych จะอยู่ได้นานหรือ ? ! ปฎิบัติการสีส้ม เตรียมตัวด่วน งานรออยู่แล้วพรรคพวก
    ชัยชนะของนาย Yanukovych สร้างความขม ความขุ่น ความแค้น ให้กับหลายคนเหลือเกิน คนแรกนอกจาก นาย Yushchenko ที่นอนให้นับคะแนนแล้ว อีกคนคือ นาง Yulia Tymoshenko อดีตนายกฯหญิงเก่า คนที่มีแฟชั่นทรงผมน่าประทับใจที่สุดในโลก คุณนายเอาหางเปียพันรอบหัวไว้แทนหมวก !(อ่านตอนแรกเห็นตัว Y ขึ้นต้น ต๊กกะใจนึกว่า ไปอาละวาดอยู่แถวโน้นตั้งกะเมื่อไหร่ ฮา)

    แต่คนนี้ก็ไม่เบา นิสัยคล้ายกันจัง ก่อนการปฏิวัติสีส้ม คุณนายเป็นประธาน United Energy System บริษัทเอกชนนำเข้าแก๊ซ จากรัสเซีย รัสเซียกล่าวหาว่าคุณนายซิกแซ๊ก ขะโมยแก๊ซไปวนขายหลายรอบ แถมหนีภาษี จนมีสมญาว่า “Gaz Princess” นอกจากนี้ยังโดนกล่าวหาว่า แอบจ่ายเงินค่าปิดปากให้นักการเมืองอีกหลายคน แหม เกือบนึกว่าเขียนเรื่อง อดีตนายกฯหญิงคนเดียวกัน

    ลืมบอกไป คุณนายผมเปียนี้ เป็นซี้กับคุณนาย Angela Merkel (นายกรัฐมนตรีเยอรมัน สายไอ้กัน) และ พวกสหภาพยุโรป

    คุณนายผมเปียก็ลงสมัครรับเลือกครั้งปี ค.ศ 2010 นี่เหมือนกัน และก็แพ้คะแนน นายYanukovych ไปประมาณ ล้านคะแนน

    แต่ผู้ที่กระอักที่สุด กับการได้เป็นประธานาธิบดีของนาย Yanukovych น่าจะเป็นผู้อำนวยการสร้างปฏิบัติการส้มสลาย! แผนของวอชิงตัน ที่จะตอกตะปูปิดล้อมทางออกของรัสเซีย ที่มาทาง Ukraine ล้มเหลว สะดุด หยุดลง ชั่วคราว หรือ ถาวร ดูกันต่อไป

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    30 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 12 ส้มเน่า แล้วการเลือกตั้งในปี ค.ศ. 2010 ของ Ukraine ก็มาถึง คราวนี้ อัศวินสีส้ม Yushchenko ถูกน๊อค นอนนับ 10 เขาได้คะแนนเสียงประมาณ 5% 5 ปี ของราคาขนมปังที่ขึ้นอย่างบ้าเลือดนี้ ชาวUkraine จำได้ คิดเป็น จากเมืองที่เคยอยู่กันอย่างอุดมสมบูรณ์ ดินดำ น้ำใส ฉันเคยส่งออกธัญพืชเป็นอันดับ 3 ของโลกนะ ทำไมตอนนี้ฉันต้องซื้อขนมปังที่ทำจากแป้งของฉันเอง แพงกว่าเดิม 300 เท่า ตอบมาซิ ! ชาว Ukraine ต้องการความมั่นคง เขาไม่ต้องการให้ใครมาผลัก มาดันเขา ไปทางโน้นที ทางนี้ที พวกเขาเลือกที่จะไม่อยู่กับ NATO สื่อตะวันตกออกข่าวทันที นาย Yanukovych ที่น๊อค นาย Yushchenko เป็นเด็กสร้างของรัสเซีย รู้ไหมรัสเซียส่งมายึด Ukraine กลับไปอยู่ในกรง แต่ปรากฎว่าบรรดา นักอุตสาหกรรมที่เป็นผู้หนุนหลัง นาย Yanukovych ต่างบอกว่าเราต้องการเศรษฐกิจ ที่มีสัมพันธ์สอดคล้องกันกับสหภาพยุโรปและกับรัสเซีย แปลว่าไม่เลือกข้างน่ะ นาย Yanukovych บอกว่าเขาจะไม่พยายามนำ Ukraine ไปเข้า NATO ตามลูกยุของวอชิงตัน และไม่เข้าไปอยู่ในสหภาพยุโรปด้วย เขาจะพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจของ Ukraine และปัญหาการทุจริตในประเทศ ส่วนเรื่องท่อส่งแก๊ซกับรัสเซีย เหมือนเดิมครับพี่ปูติน ! และที่สำคัญเรื่องเช่าฐานทัพเรือที่ท่าเรือ Sevastapol ที่จะหมดในปี ค.ศ. 2017 ก็ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมต่อให้ก่อนหมดอายุเลย แล้วแบบนี้นาย Yanukovych จะอยู่ได้นานหรือ ? ! ปฎิบัติการสีส้ม เตรียมตัวด่วน งานรออยู่แล้วพรรคพวก ชัยชนะของนาย Yanukovych สร้างความขม ความขุ่น ความแค้น ให้กับหลายคนเหลือเกิน คนแรกนอกจาก นาย Yushchenko ที่นอนให้นับคะแนนแล้ว อีกคนคือ นาง Yulia Tymoshenko อดีตนายกฯหญิงเก่า คนที่มีแฟชั่นทรงผมน่าประทับใจที่สุดในโลก คุณนายเอาหางเปียพันรอบหัวไว้แทนหมวก !(อ่านตอนแรกเห็นตัว Y ขึ้นต้น ต๊กกะใจนึกว่า ไปอาละวาดอยู่แถวโน้นตั้งกะเมื่อไหร่ ฮา) แต่คนนี้ก็ไม่เบา นิสัยคล้ายกันจัง ก่อนการปฏิวัติสีส้ม คุณนายเป็นประธาน United Energy System บริษัทเอกชนนำเข้าแก๊ซ จากรัสเซีย รัสเซียกล่าวหาว่าคุณนายซิกแซ๊ก ขะโมยแก๊ซไปวนขายหลายรอบ แถมหนีภาษี จนมีสมญาว่า “Gaz Princess” นอกจากนี้ยังโดนกล่าวหาว่า แอบจ่ายเงินค่าปิดปากให้นักการเมืองอีกหลายคน แหม เกือบนึกว่าเขียนเรื่อง อดีตนายกฯหญิงคนเดียวกัน ลืมบอกไป คุณนายผมเปียนี้ เป็นซี้กับคุณนาย Angela Merkel (นายกรัฐมนตรีเยอรมัน สายไอ้กัน) และ พวกสหภาพยุโรป คุณนายผมเปียก็ลงสมัครรับเลือกครั้งปี ค.ศ 2010 นี่เหมือนกัน และก็แพ้คะแนน นายYanukovych ไปประมาณ ล้านคะแนน แต่ผู้ที่กระอักที่สุด กับการได้เป็นประธานาธิบดีของนาย Yanukovych น่าจะเป็นผู้อำนวยการสร้างปฏิบัติการส้มสลาย! แผนของวอชิงตัน ที่จะตอกตะปูปิดล้อมทางออกของรัสเซีย ที่มาทาง Ukraine ล้มเหลว สะดุด หยุดลง ชั่วคราว หรือ ถาวร ดูกันต่อไป สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 30 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • CERN เปิดศูนย์พักพิง “เมาส์คอมพิวเตอร์” — แคมเปญสุดขำเพื่อเตือนภัยไซเบอร์ที่จริงจังกว่าที่คิด

    ในโลกที่ภัยไซเบอร์สามารถเกิดขึ้นได้จาก “คลิกเดียว” CERN ได้สร้างแคมเปญสุดแหวกแนวที่ชื่อว่า “CERN Animal Shelter for Computer Mice” หรือ “ศูนย์พักพิงสัตว์สำหรับเมาส์คอมพิวเตอร์” ซึ่งตั้งอยู่จริงบนสนามหญ้าหน้าศูนย์คอมพิวเตอร์ของ CERN โดยมีกรงฟาง อาหาร น้ำ และเมาส์คอมพิวเตอร์หลากรุ่นวางเรียงกันราวกับเป็นสัตว์เลี้ยง

    แนวคิดนี้เริ่มต้นจากการเล่นคำระหว่าง “mouse” ที่หมายถึงทั้งสัตว์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเตือนผู้ใช้งานว่า “การคลิก” โดยไม่คิดให้ดีอาจนำไปสู่การติดมัลแวร์ การถูกขโมยบัญชี หรือแม้แต่การทำให้ระบบขององค์กรล่มได้ในพริบตา

    CERN จึงรณรงค์ให้ผู้ใช้ “หยุด — คิด — คลิก” และเสนอให้ “นำเมาส์ออกจากเครื่อง” แล้วนำไปพักพิงที่ศูนย์แห่งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการคลิกโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นมุก April Fool แต่ก็สะท้อนความจริงที่ว่า การคลิกลิงก์สุ่มหรือไฟล์แนบที่ไม่รู้ที่มา คือช่องโหว่ที่อันตรายที่สุดในโลกไซเบอร์

    นอกจากนี้ยังมีการแยกแยะว่า “trackpad” ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็น “พืช” เพราะไม่เคลื่อนไหว จึงไม่อยู่ในขอบเขตของศูนย์พักพิงนี้ — เป็นการเล่นมุกที่ผสมความรู้ด้านชีววิทยาเข้ากับความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างมีชั้นเชิง

    https://computer-animal-shelter.web.cern.ch/index.shtml
    📰 CERN เปิดศูนย์พักพิง “เมาส์คอมพิวเตอร์” — แคมเปญสุดขำเพื่อเตือนภัยไซเบอร์ที่จริงจังกว่าที่คิด ในโลกที่ภัยไซเบอร์สามารถเกิดขึ้นได้จาก “คลิกเดียว” CERN ได้สร้างแคมเปญสุดแหวกแนวที่ชื่อว่า “CERN Animal Shelter for Computer Mice” หรือ “ศูนย์พักพิงสัตว์สำหรับเมาส์คอมพิวเตอร์” ซึ่งตั้งอยู่จริงบนสนามหญ้าหน้าศูนย์คอมพิวเตอร์ของ CERN โดยมีกรงฟาง อาหาร น้ำ และเมาส์คอมพิวเตอร์หลากรุ่นวางเรียงกันราวกับเป็นสัตว์เลี้ยง แนวคิดนี้เริ่มต้นจากการเล่นคำระหว่าง “mouse” ที่หมายถึงทั้งสัตว์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเตือนผู้ใช้งานว่า “การคลิก” โดยไม่คิดให้ดีอาจนำไปสู่การติดมัลแวร์ การถูกขโมยบัญชี หรือแม้แต่การทำให้ระบบขององค์กรล่มได้ในพริบตา CERN จึงรณรงค์ให้ผู้ใช้ “หยุด — คิด — คลิก” และเสนอให้ “นำเมาส์ออกจากเครื่อง” แล้วนำไปพักพิงที่ศูนย์แห่งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการคลิกโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นมุก April Fool แต่ก็สะท้อนความจริงที่ว่า การคลิกลิงก์สุ่มหรือไฟล์แนบที่ไม่รู้ที่มา คือช่องโหว่ที่อันตรายที่สุดในโลกไซเบอร์ นอกจากนี้ยังมีการแยกแยะว่า “trackpad” ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็น “พืช” เพราะไม่เคลื่อนไหว จึงไม่อยู่ในขอบเขตของศูนย์พักพิงนี้ — เป็นการเล่นมุกที่ผสมความรู้ด้านชีววิทยาเข้ากับความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างมีชั้นเชิง https://computer-animal-shelter.web.cern.ch/index.shtml
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.1

    ณ ร้านอาแปะ "แดร๊กด่วน" วงประชุม "สภาโกปี๊" ชุดเก่า เวลาเดิม เกิดเรื่องใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคการเมือง แห่กันเข้ามาในหมู่บ้านหมีดุ เหตุเพราะสถิติแรงเกิน หมู่บ้านเดียว ที่ตลอด 20 ปี ยอด NO VOTE สูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ คือไม่เลือกใครเลย เป็นแรงดึงดูด ให้บรรดาเสือหิวทั้งหลาย อยากได้คะแนนจากที่นี่ให้ได้ เค้าเรียก "ด่านโหดหิน" ใครได้คะแนนจากที่นี่ได้ คือสุดยอดนักการเมืองเหี้ยที่ไร้พ่าย ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปี ก่อน จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มี 3500 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 3499 ขาด 1 เสียงเพราะนอนพะงาบที่รพ. ICU ใช้สิทธิ์โหวต NO ถึง 3499 เสียงครบตามจำนวนผู้มีสิทธิ์ หมู่บ้านหมีดุ ขึ้นชื่อเรื่อง "ไม่เอาเหี้ยไป จัญไรมา" เพราะไม่ว่าจะกาใคร แม่งก็เหี้ยเหมียงเดิม แล้วกูจะเอาเสียงบริสุทธิ์ในมือไปให้เหี้ยมันทำไมกันล่ะ นโยบายโคตรพ่อง ประชานิยมโคตรแม่ง ดีแต่เผาผลาญงบหาแดร๊ก

    อาแปะ : ไอ้สัส! วันนี้ "เหี้ยบุก" พวกเราเตรียมรับมือกันให้ดีดี งวดนี้ ได้ข่าว มันจัดเต็ม มากันยกแก๊งค์เหี้ย C ท่อน้ำเลี้ยงมันทั้งนั้น 3 พรรคหลอกแดร๊ก 1 พรรคตีเนียน มันเล่นยกสื่อเหี้ยยิวเข้ามา คงถาม หมู่บ้านเรา ไม่นิยมประชาธิปไตยโคตรพ่องยิวบ้างเหรอ?

    อาโก : พอจะมียุบสภาพกันอีก 4 เดือน เดินสายกันเชียวน่ะมรึง 4 ปี แลก 4 วิ หมายังอาย กาเสร็จ กวักมือเรียกให้ตาย แม่งก็ไม่โผล่ สันดาน ใครกันแน่ที่โง่ฟ่ะ?

    อาซิ่ม อินเตอร์ : อีหมู่บ้านชั้น มันเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ตามสูตร หัวละ 2000 เริ่มต้น ยิ่งใกล้คืนหมาหอน เอาไปเลย 3500 พร้อมรองเท้าแตะ 1 ข้าง กาเสร็จ ค่อยไปรับอีกข้าง ดูมันทำ? คราวก่อน อีส้มดวย ชนะยกพรรค ทั้งบุคคล และพรรค เพิ่งเคยเห็น แจกบัตรคอนเสิร์ตไอดอลคลั่งฟรี หัวละ 2 ใบ วัยรุ่นแถวบ้านกรี๊ดกร๊าดกันหย่าย ดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเป๊ะเด๊ะ

    อาฉี : โน้น..ไม่ทันไร มันโผล่มาล่ะ เอาไงดี ใครจะเปิดก่อนดีล่ะ?

    อาคิม : ใจร่มๆ ตามสูตร มันต้องแกล้งเข้ามานั่งแดรีกโกปี๊ แล้วถามสารทุกข์ สุขดิบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และไว้เนื้อเชื้อใจ วิธีการเดียวกับนักล่า จูบก่อนแล้วค่อยขย้ำ มาผิดที่แล้วไอ้นู๋ นี่มันดง "เพชรฆาตนักการเมืองหัวกล้วยนะมรึง" โดนแน่

    อาซิ่ม อินเตอร์ : ไม่รู้ มันจะจำชั้นได้มั้ย เพราะมันเพิ่งจะเข้าไปในหมู่บ้านชั้นเมื่ออาทิตย์ก่อน เงิน 2000 หมดเกลี้ยงแล้ว โดนหวยแดร๊กจ๊ะ แหม..เงินอัปมงคลเสียจริง เงินบาป แทงเหี้ยอะไรก็ไม่ถูก! ให้มากูรับ แต่จะเลือกจริงหรือไม่ เรื่องของกู

    อาแปะ : READY! มันมากันแล้ว สื่อตรึม จัดฉากกันใหญ่เชียวมรึง? เดี๋ยวรู้

    ทันทีที่กองทัพสื่อรับจ้างเหี้ย ดาหน้ากันเข้ามา วางกล้องพร้อม ตัวละครพร้อม ACTION นำหน้าด้วยหัวหน้าพรรคมันม่วง สโลแกน "อยู่ให้สบาย อิ่มหมีพีมันส์" กราบไหว้มาแต่ไกล "สวัสดีครับเพ่น้อง ผมชื่อ "สะเบอเร่อเฮ้ย" ครับเพ่น้อง วันนี้ ขอฝากเนื้อ ฝากตัวไว้ในอ้อมอก อ้อมใจ เพ่น้องชาวหมู่บ้านหมีดุ ด้วยน่ะคร๊าบบบ

    ไม่ทันไร! อาแปะ หน้านิ่ง หน้าตาย ก็นำร่องก่อนเพื่อน ชี้นิ้วไปที่ชื่อป้ายหน้าร้าน ตามสโลแกน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" มันเห็นแล้วสะอึก! กูเพิ่งมาถึง แม่งจะไล่กันแล้วรึเนี่ย? โหดจริง อะไรจริง นี่มันหมู่บ้าน หรือ กรงหมาพันธุ์ดุกันฟ่ะเนี่ย?

    แฮะ..แค่แวะมาทักทาย เพ่น้องทุกท่านคร๊าบ มีอะไรให้รับใช้ บอกมาได้เลย เดี๋ยวจัดการให้ น้ำ ไฟ ถนน สาธารณูปโภค เข้าถึง เข้าถึง อย่าได้ห่วง โปรดเลือก พรรคมันม่วง เบอร์ 88 รับรอง ชีวิตจะสบายไปตลอดกาลขอรับ เพราะเรารับใช้ประชาชนเต็มความสามารถอยู่แล้ว

    อาแปะ : ลื้อจะสั่งอะไร? หากไม่กิน ก็ไสหัวออกไป ที่นี่ เค้าสงบสุขดีอยู่แล้ว

    สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..สั่ง ครับสั่ง โกปี๊ 8 ปาท่องโก๋ 10 ไข่ลวก 10 นมเย็น 4 ขอรับ

    อาแปะ : แล้วบรรดานักข่าวที่ลื้อยกกันมาเป็นขบวนขันหมากเนี่ย ไม่ให้มันได้แดร๊กหน่อยเหรอ? ไหนว่าทำเพื่อประชาชนไง เห็นอยู่ก็ไม่น้อยน่ะ ประมาณ 40 คน จะเลี้ยงมั้ย? (ถามต่อหน้า "สะเบอเร่อเฮ้ย" ขณะ LIVE สดอยู่)

    สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..เลี้ยงสิคร๊าบ เท่าไหร่ ก็เลี้ยงขอรับ(ไอ้สัส..จัดหนักกูทันที)

    อาโก : อ้าว..เลี้ยงแต่นักข่าว ไม่เลี้ยงพวกเรา ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำรึจ๊ะ? คุณหัวหน้าพรรค ดูท่าทาง ไม่ใช่คนขี้เหนียวนิจ๊ะ มาทั้งที มันต้องสร้างความประทับใจหน่อยสิ อยากเห็นผู้แทนประชาชนตัวเป็นๆ ของจริง อ่ะน่ะ (คนในร้านเฮ ทันที)

    สะเบอเร่อเฮ้ย : จัดไปขอรับ เป็นเกียรติที่ได้ดูแลประชาชนครับ มันเป็นหน้าที่

    อาฉี : อ้าว..พวกเรา ไปป่าวประกาศเร็ว ท่านหัวหน้าพรรค จะเลี้ยงยกหมู่บ้าน ใครมีลูกเด็ก เล็กแดง ยกกันมากินฟรีเร็ว! ให้ว่อง ให้ไว ชาวบ้านเฮตามน้ำทันที (กล้องจับภาพบรรยากาศคึกคัก แต่หัวหน้าพรรคหน้าเจื่อน)

    หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง หลังแดร๊กกันดุเด็ด เผ็ดมันส์ ร้านอาแปะ ทำยอดขายได้มากกว่าขายทั้งเดือนซะอีก ลาภปาก แดร๊กกันดีนัก กูขอเอาคืนมรึงบ้างเหอะ ก็ถึงเวลา "หาเสียง" ยังไงเสียแล้ว เมื่อชาวบ้านมารุมกินฟรีที่ร้านอาแปะ ก็เอาเป็นที่ถ่ายโลเกชั่นหมู่บ้านไปเลย นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน อีกำนัน ดาหน้ากันเสนอผลงานกันใหญ่ออกสื่อ ออกมาต้อนรับท่านหัวหน้าพรรคมันม่วง ชาวบ้านเห็นชัด ถึงอาการชะเลียส้นตรีนของข้าราชการ กับฝ่ายการเมือง ยิ่งทำให้แค้นจัด เดี๋ยวมีช็อตเด็ดแน่!

    LIVE สด ณ หมู่บ้านหมีดุ ตำบลหมีงาบ อำเภอหมีตะปบ ถ่ายทำที่ร้าน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" โดยมี อาแปะเป็นเจ้าของร้าน และเป็นศูนย์กลางชาวบ้าน ตั้งสภาโกปี๊มาหลายสิบปี เห็นการเมืองมาเยอะ ถูกเชิญไปให้สัมภาษณ์ โดยมีการจัดฉาก ยืนเรียงกันพร้อม ทั้งฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายการเมือง

    สะเบอเร่อเฮ้ย : เรา..ในฐานะพรรคมันม่วง ที่ต้องการจะยกระดับความเจริญให้เพ่น้องประชาชน เราต้องการสิ่งที่ดีกว่า ทันสมัยกว่า และเห็นทันตาเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น นโยบายหลักของเราคือ "กินอิ่ม หลับสบาย" ทุกครัวเรือน จะต้องปลอดภัย และมีกิน มีใช้ ไม่ศักดิ์ศรี ไม่ต้องขอใครกิน อีกต่อไป (ชาวบ้านนั่งฟัง..เงียบกริบ)

    อาแปะ : ลื้อมาเพื่อช่วยพวกเราชิมิ? งั้นลื้อพร้อมจะฟังปัญหา ปากท้องชาวบ้าน และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการจริงๆ รึยัง? ที่ไม่ใช่จากปากคนอื่น อ่ะน่ะ กล้าฟังมั้ย?

    (อาแปะพูดคั่นกลาง LIVE สดเลย อี สะเบอเร่อเฮ้ย ถึงกับชงักไป 5 วิ แต่เห็นออกสื่ออยู่ จึงตามน้ำ ผิดแผน กูกะจะใส่นโยบายหลอกแดร๊ก ปั่นหัวควายซะหน่อย แต่เสือกถูกคั่นรายการ เอาเหอะ เดี๋ยวค่อยตบท้ายสวยๆ ปล่อยชาวบ้านได้ปลดปล่อยก่อน)

    อาแปะ : กวักมือเรียก "อาโก" ทันที ตาลื้อล่ะ อั๊วชงให้แล้ว ในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้ดีเท่าลื้อดอก ข้อมูลตรึม ปัญญาเป็นเริ่ด ช่วยบอกท่านหัวหน้าพรรคหน่อยว่า เราต้องการอะไร? จัดไป อย่าให้เสียของ

    อาโก : ก็ไม่มีอะไรมากดอกน่ะ เราอยากให้ท่านรับปากสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการในยามนี้ และในอนาคต หากทำได้ เราทั้งหมู่บ้านจะเลือกพรรคท่านแน่นอน เพราะคนลงมือทำจริง ย่อมดีกว่าเอาแต่พูด พวกเราชอบคนจริง และให้ใจเต็มที่

    สะเบอเร่อเฮ้ย : ยิงลี ก๊าบ..เฮ๊ย ยินดี ขอรับ ผมพร้อมรับฟังปัญหาชาวบ้านอยู่แล้ว ยากแค่ไหน ก็จะทำให้ได้ เพื่อให้ชีวิตที่ดีกลับคืนสู่ทุกหมู่บ้านอีกครั้ง

    อาโก : ใส่ทันที ขอเรียงเป็นข้อๆ ดังนี้

    1.ยกเลิก MOU43/44 ทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ปิดด่านให้หมด จนกว่าขะแมร์แพ้
    2.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ใครแตะต้องสถาบันสูงสุด ประหาร 9 ชั่วโคตร ไม่มียกเว้น
    3.โทษของการคอรัปชั่นคือประหารชีวิตเท่านั้น ไม่มีหมดอายุความ ทำทันที
    4.ตัดทุกอย่างเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ และอภิสิทธิ์ของสส. สว. เปลืองงบใช่เหตุ
    5.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ไม่ใช่เลือกกันเอง ภาคประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่าง
    6.องค์กรอิสระ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองยุ่งเด็ดขาด ให้ประชาชนส่งตัวแทนเข้าไป
    7.ผลัดใบกรมปทุมวัน ผลัดใบอัยกวย ผลัดใบกรุมคุก ผลัดใบข้าราชการทั้งระบบ
    8.กฎหมายควบคุมพรรค ท่อน้ำเลี้ยงต่างชาติ ยุบทันที ถอนสิทธิ์ตลอดชีพ
    9.กระจายอำนาจ ไม่ให้ทุกอย่างเข้าสู่ศูนย์กลาง เพาะเชื้อชั่ว 77 จ. บริหารเอง
    10.ยกเลิกระบบนายทุนผูกขาด ใช้ระบบสวัสดิการรัฐนำ งบประมาณกระจายทั่ว
    11.รากฐานสำคัญ ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม บรรจุในระเบียบแห่งชาติต้องมี ทุกรร.
    12.คืนพระราชอำนาจ โปรดเกล้านายกฯ พระราชทาน ฝ่ายการเมือง 30 วัง 70
    13.เรียกคืนอธิปไตยไทย ดินแดนเดิมที่เคยมี และถูกแย่งชิงไปคืนมาให้หมด
    14.ทุนเรียนฟรีต้องมี คนไทยต้องได้รับการศึกษาฟรีไปจนถึงชั้นปริญญา วิชาชีพ
    15.จัดการทุนต่างชาติ ควบคุมผู้อพยพลี้ภัย คนต่างด้าว แรงงานเถื่อน กฎต้องแรง

    หายใจทันมั้ย? เอาแค่นี้ก่อนน่ะ ท่านผู้นำพรรค เดี๋ยวจะฉี่แตกซะก่อน

    สะเบอเร่อเฮ้ย : มึน..โดนหมัดรัว นี่มันเข้ากูทุกดอกนี่หว่า? ตั้งสติได้แป๊บ หันมาหากล้อง ยิ้มหวานๆ เป็นข้อเสนอที่ดี แต่ทำได้ยากน่ะ เพราะหลายข่อมันขัดกับประชาธิปไตย ที่สากลยอมรับน่ะ

    อาโก : สวนกลับทันควัน.. เอาเหรอ? อั๊วคิดว่าที่นี่คือประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุก เป็นเอกราชมานับ 1000 ปี มีอะไรที่สากลไม่ยอมรับเราบ้างล่ะ อั๊วก็เห็น ทั่วโลกแห่กันเข้ามาเต็มบ้าน เต็มเมือง ไม่เห็นใครบอกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยซะหน่อย

    สะเบอเร่อเฮ้ย : (ของเริ่มขึ้น) ไม่คิดหน่อยรึว่า มันอาจจะกลายเป็นคอมมิวนิสต์น่ะ หากเราไม่ยึดประชาธิปไตยอันทรงคุณค่าเอาไว้ ทั่วโลกเจริญก็เพราะประชาธิปไตยเนี่ยแหละ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เราจะเดินถอยหลังเอาน่ะ

    อาฉี : แล้วทำไม จีน รัสเซีย ถึงได้เจริญกันล่ะ เพราะมีผู้นำดี ทั้งปูติน สีจิ้นผิง แปลว่าอะไร ระบบอะไรก็ช่าง มันดีหมด หากได้ผู้นำที่ดี เก่ง และฉลาด ที่สำคัญคือ ทำเพื่อส่วนรวมอย่างจริงจัง ประชาธิปไตย 93 ปี ไม่ได้ช่วยให้เราอิ่มได้จริง เลือกตั้งกันมากี่ครั้งแล้วล่ะ แล้วจบยังไง?

    ชาวบ้านเริ่มเฮกันหย่าย สื่อได้ช็อต ปิงปอง เล่นข่าว จับตาดูท่านหัวหน้าพรรค จะเอาตัวรอดยังไงดี? ไม่ทันไร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ดาหน้าเสนอ องครักษ์พิทักษ์นายทันที เสนอหน้าออกสื่อ "ชมผู้นำพรรคที่มีใจเป็นกลาง" และชื่นชมความเอาใจใส่ แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมเยียน บอกสื่อไปหน้าตาเฉยว่า ทุกวันนี้ หมู่บ้านนี้ ร่มเย็นเป็นสุขดี เพราะมีผู้ใหญี่หลายท่านให้ความสนใจ(ก็แหงสิ 10 กว่าปี ไม่ได้แดร๊กแม้เพียงเสียงเดียว คะแนนเดียว มรึงถึงอยากจะแย่งกันอย่างกะหมา เพื่อปลดล็อค สร้างวีรกรรมชนะใจคนในหมู่บ้านนี้ให้ได้ วงพนันขันต่อ วางไว้ 100:1 ใครที่ได้เสียงมา คือแชมป์จ๊ะ)

    ยังไม่ทัน ที่อี สะเบอเร่อเฮ้ย จะแถต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มา สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า "ปุกลุก" ท่านผู้นำขา นู๋มีเรื่องจะขอร้องคร๊า สื่อให้ความสำคัญทันที ด้วยความใสซื่อของเด็ก ก็พูดออกมาโพลงๆ เลยว่า "ทำไมต้องแย่งนมนู๋กินด้วยคร๊า ผู้ใหญ่น่าไม่อาย" เพราะแกเพิ่งจะไปล้างท้องมาหมาดๆ กับเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง ท้องเสียเพราะนมบูด งานเข้านายอำเภอทันที จะแถต่อยังไงดีเนี่ย?

    นายอำเภอหันหน้ามาบอกผู้นำพรรคว่า "เป็นเรื่องผิดพลาดทางเทคนิค" การขนส่งล่าช้า และขบวนการขนส่งไม่ได้มาตรฐาน ท่านผู้นำพรรค ก็รีบออกสื่อแจ้งทันที ว่า จะแก้ไขโดยด่วน ต่อไปเด็กๆ จะต้องได้กินนมสดจากฟาร์มทุกวัน สดใหม่เสมอ ยังไม่ทันจะคุยต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มาอีก ถามว่า "อยากได้ ลุงกุ้ง เป็นนายกฯ อ่ะคร๊าบบ" ฮาแตก ทั้งร้าน เด็กมันยังรู้ ว่าใครคือ "วีรบุรุษชาติ"

    บรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจ กระแสรักชาติดาษดื่น ดูท่า การหาเสียงครั้งนี้ มันจะไร้ผล ไม่เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ ผู้นำพรรค ถึงได้แถลงการณ์ต่อหน้าสื่อ เพื่อปิดท้ายทันที อ้างว่า "ที่เดินทางมาหมู่บ้านนี้ ก็เพื่อจะดำรงประชาธิปไตย" ให้ระบบแข็งแรง และสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รงณรงค์ให้ทุกครัวเรือน มีส่วนในการกำหนดชะตากรรมประเทศ เพราะแลเห็นว่า ผ่านมา 20 ปี หมู่บ้านหมีดุ แห่งนี้ ไม่มีคะแนนเสียงของพรรคการเมืองใดเลยที่เจาะได้ แปลว่า ยังไม่ถูกใจผู้แทนคนไหนเลย ถึงได้มาเพื่อแสดงตัวให้เป็นที่พิจารณา แล้วจึงชิ่งหนีกลับทันที

    ยังไม่ทันจะพ้นปากทางหมู่บ้าน คณะพรรคใหม่ก็โผล่มาทันที งวดนี้ จัดหนัก จัดเต็ม ขนอุปกรณ์เวที มาตั้ง กะให้บรรลือไปทั้งโลก พ่วงดารา ไอดอล มาเต็มตรีน อย่างกะขยวนขันหมาก ไอ้สัส! อี สะเบอเร่อเฮ้ย หน้าเหว่อทันที https://www.minds.com/newsfeed/1814952706748571648
    17-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.1 ณ ร้านอาแปะ "แดร๊กด่วน" วงประชุม "สภาโกปี๊" ชุดเก่า เวลาเดิม เกิดเรื่องใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคการเมือง แห่กันเข้ามาในหมู่บ้านหมีดุ เหตุเพราะสถิติแรงเกิน หมู่บ้านเดียว ที่ตลอด 20 ปี ยอด NO VOTE สูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ คือไม่เลือกใครเลย เป็นแรงดึงดูด ให้บรรดาเสือหิวทั้งหลาย อยากได้คะแนนจากที่นี่ให้ได้ เค้าเรียก "ด่านโหดหิน" ใครได้คะแนนจากที่นี่ได้ คือสุดยอดนักการเมืองเหี้ยที่ไร้พ่าย ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปี ก่อน จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มี 3500 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 3499 ขาด 1 เสียงเพราะนอนพะงาบที่รพ. ICU ใช้สิทธิ์โหวต NO ถึง 3499 เสียงครบตามจำนวนผู้มีสิทธิ์ หมู่บ้านหมีดุ ขึ้นชื่อเรื่อง "ไม่เอาเหี้ยไป จัญไรมา" เพราะไม่ว่าจะกาใคร แม่งก็เหี้ยเหมียงเดิม แล้วกูจะเอาเสียงบริสุทธิ์ในมือไปให้เหี้ยมันทำไมกันล่ะ นโยบายโคตรพ่อง ประชานิยมโคตรแม่ง ดีแต่เผาผลาญงบหาแดร๊ก อาแปะ : ไอ้สัส! วันนี้ "เหี้ยบุก" พวกเราเตรียมรับมือกันให้ดีดี งวดนี้ ได้ข่าว มันจัดเต็ม มากันยกแก๊งค์เหี้ย C ท่อน้ำเลี้ยงมันทั้งนั้น 3 พรรคหลอกแดร๊ก 1 พรรคตีเนียน มันเล่นยกสื่อเหี้ยยิวเข้ามา คงถาม หมู่บ้านเรา ไม่นิยมประชาธิปไตยโคตรพ่องยิวบ้างเหรอ? อาโก : พอจะมียุบสภาพกันอีก 4 เดือน เดินสายกันเชียวน่ะมรึง 4 ปี แลก 4 วิ หมายังอาย กาเสร็จ กวักมือเรียกให้ตาย แม่งก็ไม่โผล่ สันดาน ใครกันแน่ที่โง่ฟ่ะ? อาซิ่ม อินเตอร์ : อีหมู่บ้านชั้น มันเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ตามสูตร หัวละ 2000 เริ่มต้น ยิ่งใกล้คืนหมาหอน เอาไปเลย 3500 พร้อมรองเท้าแตะ 1 ข้าง กาเสร็จ ค่อยไปรับอีกข้าง ดูมันทำ? คราวก่อน อีส้มดวย ชนะยกพรรค ทั้งบุคคล และพรรค เพิ่งเคยเห็น แจกบัตรคอนเสิร์ตไอดอลคลั่งฟรี หัวละ 2 ใบ วัยรุ่นแถวบ้านกรี๊ดกร๊าดกันหย่าย ดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเป๊ะเด๊ะ อาฉี : โน้น..ไม่ทันไร มันโผล่มาล่ะ เอาไงดี ใครจะเปิดก่อนดีล่ะ? อาคิม : ใจร่มๆ ตามสูตร มันต้องแกล้งเข้ามานั่งแดรีกโกปี๊ แล้วถามสารทุกข์ สุขดิบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และไว้เนื้อเชื้อใจ วิธีการเดียวกับนักล่า จูบก่อนแล้วค่อยขย้ำ มาผิดที่แล้วไอ้นู๋ นี่มันดง "เพชรฆาตนักการเมืองหัวกล้วยนะมรึง" โดนแน่ อาซิ่ม อินเตอร์ : ไม่รู้ มันจะจำชั้นได้มั้ย เพราะมันเพิ่งจะเข้าไปในหมู่บ้านชั้นเมื่ออาทิตย์ก่อน เงิน 2000 หมดเกลี้ยงแล้ว โดนหวยแดร๊กจ๊ะ แหม..เงินอัปมงคลเสียจริง เงินบาป แทงเหี้ยอะไรก็ไม่ถูก! ให้มากูรับ แต่จะเลือกจริงหรือไม่ เรื่องของกู อาแปะ : READY! มันมากันแล้ว สื่อตรึม จัดฉากกันใหญ่เชียวมรึง? เดี๋ยวรู้ ทันทีที่กองทัพสื่อรับจ้างเหี้ย ดาหน้ากันเข้ามา วางกล้องพร้อม ตัวละครพร้อม ACTION นำหน้าด้วยหัวหน้าพรรคมันม่วง สโลแกน "อยู่ให้สบาย อิ่มหมีพีมันส์" กราบไหว้มาแต่ไกล "สวัสดีครับเพ่น้อง ผมชื่อ "สะเบอเร่อเฮ้ย" ครับเพ่น้อง วันนี้ ขอฝากเนื้อ ฝากตัวไว้ในอ้อมอก อ้อมใจ เพ่น้องชาวหมู่บ้านหมีดุ ด้วยน่ะคร๊าบบบ ไม่ทันไร! อาแปะ หน้านิ่ง หน้าตาย ก็นำร่องก่อนเพื่อน ชี้นิ้วไปที่ชื่อป้ายหน้าร้าน ตามสโลแกน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" มันเห็นแล้วสะอึก! กูเพิ่งมาถึง แม่งจะไล่กันแล้วรึเนี่ย? โหดจริง อะไรจริง นี่มันหมู่บ้าน หรือ กรงหมาพันธุ์ดุกันฟ่ะเนี่ย? แฮะ..แค่แวะมาทักทาย เพ่น้องทุกท่านคร๊าบ มีอะไรให้รับใช้ บอกมาได้เลย เดี๋ยวจัดการให้ น้ำ ไฟ ถนน สาธารณูปโภค เข้าถึง เข้าถึง อย่าได้ห่วง โปรดเลือก พรรคมันม่วง เบอร์ 88 รับรอง ชีวิตจะสบายไปตลอดกาลขอรับ เพราะเรารับใช้ประชาชนเต็มความสามารถอยู่แล้ว อาแปะ : ลื้อจะสั่งอะไร? หากไม่กิน ก็ไสหัวออกไป ที่นี่ เค้าสงบสุขดีอยู่แล้ว สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..สั่ง ครับสั่ง โกปี๊ 8 ปาท่องโก๋ 10 ไข่ลวก 10 นมเย็น 4 ขอรับ อาแปะ : แล้วบรรดานักข่าวที่ลื้อยกกันมาเป็นขบวนขันหมากเนี่ย ไม่ให้มันได้แดร๊กหน่อยเหรอ? ไหนว่าทำเพื่อประชาชนไง เห็นอยู่ก็ไม่น้อยน่ะ ประมาณ 40 คน จะเลี้ยงมั้ย? (ถามต่อหน้า "สะเบอเร่อเฮ้ย" ขณะ LIVE สดอยู่) สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..เลี้ยงสิคร๊าบ เท่าไหร่ ก็เลี้ยงขอรับ(ไอ้สัส..จัดหนักกูทันที) อาโก : อ้าว..เลี้ยงแต่นักข่าว ไม่เลี้ยงพวกเรา ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำรึจ๊ะ? คุณหัวหน้าพรรค ดูท่าทาง ไม่ใช่คนขี้เหนียวนิจ๊ะ มาทั้งที มันต้องสร้างความประทับใจหน่อยสิ อยากเห็นผู้แทนประชาชนตัวเป็นๆ ของจริง อ่ะน่ะ (คนในร้านเฮ ทันที) สะเบอเร่อเฮ้ย : จัดไปขอรับ เป็นเกียรติที่ได้ดูแลประชาชนครับ มันเป็นหน้าที่ อาฉี : อ้าว..พวกเรา ไปป่าวประกาศเร็ว ท่านหัวหน้าพรรค จะเลี้ยงยกหมู่บ้าน ใครมีลูกเด็ก เล็กแดง ยกกันมากินฟรีเร็ว! ให้ว่อง ให้ไว ชาวบ้านเฮตามน้ำทันที (กล้องจับภาพบรรยากาศคึกคัก แต่หัวหน้าพรรคหน้าเจื่อน) หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง หลังแดร๊กกันดุเด็ด เผ็ดมันส์ ร้านอาแปะ ทำยอดขายได้มากกว่าขายทั้งเดือนซะอีก ลาภปาก แดร๊กกันดีนัก กูขอเอาคืนมรึงบ้างเหอะ ก็ถึงเวลา "หาเสียง" ยังไงเสียแล้ว เมื่อชาวบ้านมารุมกินฟรีที่ร้านอาแปะ ก็เอาเป็นที่ถ่ายโลเกชั่นหมู่บ้านไปเลย นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน อีกำนัน ดาหน้ากันเสนอผลงานกันใหญ่ออกสื่อ ออกมาต้อนรับท่านหัวหน้าพรรคมันม่วง ชาวบ้านเห็นชัด ถึงอาการชะเลียส้นตรีนของข้าราชการ กับฝ่ายการเมือง ยิ่งทำให้แค้นจัด เดี๋ยวมีช็อตเด็ดแน่! LIVE สด ณ หมู่บ้านหมีดุ ตำบลหมีงาบ อำเภอหมีตะปบ ถ่ายทำที่ร้าน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" โดยมี อาแปะเป็นเจ้าของร้าน และเป็นศูนย์กลางชาวบ้าน ตั้งสภาโกปี๊มาหลายสิบปี เห็นการเมืองมาเยอะ ถูกเชิญไปให้สัมภาษณ์ โดยมีการจัดฉาก ยืนเรียงกันพร้อม ทั้งฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายการเมือง สะเบอเร่อเฮ้ย : เรา..ในฐานะพรรคมันม่วง ที่ต้องการจะยกระดับความเจริญให้เพ่น้องประชาชน เราต้องการสิ่งที่ดีกว่า ทันสมัยกว่า และเห็นทันตาเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น นโยบายหลักของเราคือ "กินอิ่ม หลับสบาย" ทุกครัวเรือน จะต้องปลอดภัย และมีกิน มีใช้ ไม่ศักดิ์ศรี ไม่ต้องขอใครกิน อีกต่อไป (ชาวบ้านนั่งฟัง..เงียบกริบ) อาแปะ : ลื้อมาเพื่อช่วยพวกเราชิมิ? งั้นลื้อพร้อมจะฟังปัญหา ปากท้องชาวบ้าน และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการจริงๆ รึยัง? ที่ไม่ใช่จากปากคนอื่น อ่ะน่ะ กล้าฟังมั้ย? (อาแปะพูดคั่นกลาง LIVE สดเลย อี สะเบอเร่อเฮ้ย ถึงกับชงักไป 5 วิ แต่เห็นออกสื่ออยู่ จึงตามน้ำ ผิดแผน กูกะจะใส่นโยบายหลอกแดร๊ก ปั่นหัวควายซะหน่อย แต่เสือกถูกคั่นรายการ เอาเหอะ เดี๋ยวค่อยตบท้ายสวยๆ ปล่อยชาวบ้านได้ปลดปล่อยก่อน) อาแปะ : กวักมือเรียก "อาโก" ทันที ตาลื้อล่ะ อั๊วชงให้แล้ว ในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้ดีเท่าลื้อดอก ข้อมูลตรึม ปัญญาเป็นเริ่ด ช่วยบอกท่านหัวหน้าพรรคหน่อยว่า เราต้องการอะไร? จัดไป อย่าให้เสียของ อาโก : ก็ไม่มีอะไรมากดอกน่ะ เราอยากให้ท่านรับปากสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการในยามนี้ และในอนาคต หากทำได้ เราทั้งหมู่บ้านจะเลือกพรรคท่านแน่นอน เพราะคนลงมือทำจริง ย่อมดีกว่าเอาแต่พูด พวกเราชอบคนจริง และให้ใจเต็มที่ สะเบอเร่อเฮ้ย : ยิงลี ก๊าบ..เฮ๊ย ยินดี ขอรับ ผมพร้อมรับฟังปัญหาชาวบ้านอยู่แล้ว ยากแค่ไหน ก็จะทำให้ได้ เพื่อให้ชีวิตที่ดีกลับคืนสู่ทุกหมู่บ้านอีกครั้ง อาโก : ใส่ทันที ขอเรียงเป็นข้อๆ ดังนี้ 1.ยกเลิก MOU43/44 ทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ปิดด่านให้หมด จนกว่าขะแมร์แพ้ 2.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ใครแตะต้องสถาบันสูงสุด ประหาร 9 ชั่วโคตร ไม่มียกเว้น 3.โทษของการคอรัปชั่นคือประหารชีวิตเท่านั้น ไม่มีหมดอายุความ ทำทันที 4.ตัดทุกอย่างเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ และอภิสิทธิ์ของสส. สว. เปลืองงบใช่เหตุ 5.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ไม่ใช่เลือกกันเอง ภาคประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่าง 6.องค์กรอิสระ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองยุ่งเด็ดขาด ให้ประชาชนส่งตัวแทนเข้าไป 7.ผลัดใบกรมปทุมวัน ผลัดใบอัยกวย ผลัดใบกรุมคุก ผลัดใบข้าราชการทั้งระบบ 8.กฎหมายควบคุมพรรค ท่อน้ำเลี้ยงต่างชาติ ยุบทันที ถอนสิทธิ์ตลอดชีพ 9.กระจายอำนาจ ไม่ให้ทุกอย่างเข้าสู่ศูนย์กลาง เพาะเชื้อชั่ว 77 จ. บริหารเอง 10.ยกเลิกระบบนายทุนผูกขาด ใช้ระบบสวัสดิการรัฐนำ งบประมาณกระจายทั่ว 11.รากฐานสำคัญ ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม บรรจุในระเบียบแห่งชาติต้องมี ทุกรร. 12.คืนพระราชอำนาจ โปรดเกล้านายกฯ พระราชทาน ฝ่ายการเมือง 30 วัง 70 13.เรียกคืนอธิปไตยไทย ดินแดนเดิมที่เคยมี และถูกแย่งชิงไปคืนมาให้หมด 14.ทุนเรียนฟรีต้องมี คนไทยต้องได้รับการศึกษาฟรีไปจนถึงชั้นปริญญา วิชาชีพ 15.จัดการทุนต่างชาติ ควบคุมผู้อพยพลี้ภัย คนต่างด้าว แรงงานเถื่อน กฎต้องแรง หายใจทันมั้ย? เอาแค่นี้ก่อนน่ะ ท่านผู้นำพรรค เดี๋ยวจะฉี่แตกซะก่อน สะเบอเร่อเฮ้ย : มึน..โดนหมัดรัว นี่มันเข้ากูทุกดอกนี่หว่า? ตั้งสติได้แป๊บ หันมาหากล้อง ยิ้มหวานๆ เป็นข้อเสนอที่ดี แต่ทำได้ยากน่ะ เพราะหลายข่อมันขัดกับประชาธิปไตย ที่สากลยอมรับน่ะ อาโก : สวนกลับทันควัน.. เอาเหรอ? อั๊วคิดว่าที่นี่คือประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุก เป็นเอกราชมานับ 1000 ปี มีอะไรที่สากลไม่ยอมรับเราบ้างล่ะ อั๊วก็เห็น ทั่วโลกแห่กันเข้ามาเต็มบ้าน เต็มเมือง ไม่เห็นใครบอกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยซะหน่อย สะเบอเร่อเฮ้ย : (ของเริ่มขึ้น) ไม่คิดหน่อยรึว่า มันอาจจะกลายเป็นคอมมิวนิสต์น่ะ หากเราไม่ยึดประชาธิปไตยอันทรงคุณค่าเอาไว้ ทั่วโลกเจริญก็เพราะประชาธิปไตยเนี่ยแหละ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เราจะเดินถอยหลังเอาน่ะ อาฉี : แล้วทำไม จีน รัสเซีย ถึงได้เจริญกันล่ะ เพราะมีผู้นำดี ทั้งปูติน สีจิ้นผิง แปลว่าอะไร ระบบอะไรก็ช่าง มันดีหมด หากได้ผู้นำที่ดี เก่ง และฉลาด ที่สำคัญคือ ทำเพื่อส่วนรวมอย่างจริงจัง ประชาธิปไตย 93 ปี ไม่ได้ช่วยให้เราอิ่มได้จริง เลือกตั้งกันมากี่ครั้งแล้วล่ะ แล้วจบยังไง? ชาวบ้านเริ่มเฮกันหย่าย สื่อได้ช็อต ปิงปอง เล่นข่าว จับตาดูท่านหัวหน้าพรรค จะเอาตัวรอดยังไงดี? ไม่ทันไร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ดาหน้าเสนอ องครักษ์พิทักษ์นายทันที เสนอหน้าออกสื่อ "ชมผู้นำพรรคที่มีใจเป็นกลาง" และชื่นชมความเอาใจใส่ แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมเยียน บอกสื่อไปหน้าตาเฉยว่า ทุกวันนี้ หมู่บ้านนี้ ร่มเย็นเป็นสุขดี เพราะมีผู้ใหญี่หลายท่านให้ความสนใจ(ก็แหงสิ 10 กว่าปี ไม่ได้แดร๊กแม้เพียงเสียงเดียว คะแนนเดียว มรึงถึงอยากจะแย่งกันอย่างกะหมา เพื่อปลดล็อค สร้างวีรกรรมชนะใจคนในหมู่บ้านนี้ให้ได้ วงพนันขันต่อ วางไว้ 100:1 ใครที่ได้เสียงมา คือแชมป์จ๊ะ) ยังไม่ทัน ที่อี สะเบอเร่อเฮ้ย จะแถต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มา สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า "ปุกลุก" ท่านผู้นำขา นู๋มีเรื่องจะขอร้องคร๊า สื่อให้ความสำคัญทันที ด้วยความใสซื่อของเด็ก ก็พูดออกมาโพลงๆ เลยว่า "ทำไมต้องแย่งนมนู๋กินด้วยคร๊า ผู้ใหญ่น่าไม่อาย" เพราะแกเพิ่งจะไปล้างท้องมาหมาดๆ กับเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง ท้องเสียเพราะนมบูด งานเข้านายอำเภอทันที จะแถต่อยังไงดีเนี่ย? นายอำเภอหันหน้ามาบอกผู้นำพรรคว่า "เป็นเรื่องผิดพลาดทางเทคนิค" การขนส่งล่าช้า และขบวนการขนส่งไม่ได้มาตรฐาน ท่านผู้นำพรรค ก็รีบออกสื่อแจ้งทันที ว่า จะแก้ไขโดยด่วน ต่อไปเด็กๆ จะต้องได้กินนมสดจากฟาร์มทุกวัน สดใหม่เสมอ ยังไม่ทันจะคุยต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มาอีก ถามว่า "อยากได้ ลุงกุ้ง เป็นนายกฯ อ่ะคร๊าบบ" ฮาแตก ทั้งร้าน เด็กมันยังรู้ ว่าใครคือ "วีรบุรุษชาติ" บรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจ กระแสรักชาติดาษดื่น ดูท่า การหาเสียงครั้งนี้ มันจะไร้ผล ไม่เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ ผู้นำพรรค ถึงได้แถลงการณ์ต่อหน้าสื่อ เพื่อปิดท้ายทันที อ้างว่า "ที่เดินทางมาหมู่บ้านนี้ ก็เพื่อจะดำรงประชาธิปไตย" ให้ระบบแข็งแรง และสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รงณรงค์ให้ทุกครัวเรือน มีส่วนในการกำหนดชะตากรรมประเทศ เพราะแลเห็นว่า ผ่านมา 20 ปี หมู่บ้านหมีดุ แห่งนี้ ไม่มีคะแนนเสียงของพรรคการเมืองใดเลยที่เจาะได้ แปลว่า ยังไม่ถูกใจผู้แทนคนไหนเลย ถึงได้มาเพื่อแสดงตัวให้เป็นที่พิจารณา แล้วจึงชิ่งหนีกลับทันที ยังไม่ทันจะพ้นปากทางหมู่บ้าน คณะพรรคใหม่ก็โผล่มาทันที งวดนี้ จัดหนัก จัดเต็ม ขนอุปกรณ์เวที มาตั้ง กะให้บรรลือไปทั้งโลก พ่วงดารา ไอดอล มาเต็มตรีน อย่างกะขยวนขันหมาก ไอ้สัส! อี สะเบอเร่อเฮ้ย หน้าเหว่อทันที https://www.minds.com/newsfeed/1814952706748571648
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 1 สวรรค์บนดิน
    ระหว่างที่ลูกตาเกือบทุกคู่ของคนในโลกสวยงามใบนี้ กำลังจ้องเขม็งไปที่สนามกีฬารังนก ดีไซน์สุดยอด ของนาย Li Xinggang เพื่อดูพิธีเปิด การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคอลังการ ที่แดนมังกรของอาเฮีย เมื่อเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 2008 วันนั้นบรรดาคนใหญ่คนโตคนของโลก นั่งอยู่แถวนั้นกันเกือบทั้งนั้น ตั้งแต่ใหญ่หมายเลข 1 ของโลกฝั่งหนึ่ง เช่น ประธานาธิบดี GeorgeW. Bush ตัวแสบ และคุณพี่ปูติน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของรัสเซีย หมายเลข 1 ของโลกของฝั่งหนึ่ง ก็นั่งทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ไม่ไกลกัน แล้วถ้ายังไม่ลืมกัน ไอ้หมาไนโจรร้าย ซึ่งนึกว่าตัวเองใหญ่เกินฟ้า ก็กระเสือกกระสนให้เชิญตนเอง เพื่อหนีปัญหาการเมืองในบ้าน ไปนั่งเสนอหน้าอยู่แถวนั้นกับเขาด้วยเหมือนกัน

    วันเดียวกันนั่นเอง ก็มีข่าวเล็ก ๆ แทรกข่าวโอลิมปิคอันยิ่งใหญ่ ออกมาว่า กองทัพของ Georgia ได้บุกเข้าไปยึดเมือง South Ossetia เรียบร้อยแล้ว
    เป็นข่าวเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่มีใครสนใจ น้อยคนจะรู้จักว่า South Ossetia อยู่ที่ไหน บางคนไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ แน่นอนในแดนสมันน้อย มีน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะรู้จัก หรือแม้แต่จะได้ยินชื่อ South Ossetia เมืองอะไรน่ะ อยู่ที่ไหนนะ รู้จักแต่ เมืองโอริสสาในนิยายเรื่องอะไรสักอย่าง เมืองเดียวกันหรือเปล่านะ ก็ใครไม่รู้ดันถอดหลักสูตร ทั้งภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์สากลออกจากวิชาบังคับของนักเรียนมัธยม
    กว่าจะพอรู้เรื่องว่า มันเกี่ยวกับอะไร ก็ต้องรอให้ผู้สื่อข่าวทำหน้าฉลาด มาวิเคราะห์ให้ฟังก่อนว่า ชาวโลกทั้งหลายเอ๋ย การที่ Republic of Georgia เมืองที่พวกท่าน 90% ในโลกนี้ไม่รู้จัก แต่ดันยกทัพบุกเข้าไปใน South Ossetia ที่พวกท่าน 99.99% ยิ่งไม่รู้จักน่ะนะ มันเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับการเมืองของโลก เทียบเท่ากับ สมัยวิกฤติเกี่ยวกับฐานยิ่งจรวดที่คิวบา เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1962 เชียวนะ ความขัดแย้งระหว่างมวยคู่เก่าในยุคสงครามเย็น ที่อเมริกากับสหภาพโซเวียต 2 พี่เบิ้ม ยืนเท้าสะเอว ถลึงตาใส่กันไง จำได้ไหม แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่เกิดไม่ทัน คงไม่รู้ว่าตอนนั้น โลกเครียดกันขนาดไหน จวนเจียนจะต้องจัดกระเป๋าอพยพ (ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน) หนีสงครามกันแล้ว

    พวกที่ยังจำเหตุการณ์คิวบาได้ ก็เริ่มติดตามข่าว บ่นกันพึมพำ เอาอีกแล้วหรือ จะแลกหมัดแลกจรวดกันอีกแล้วหรือ ฝ่ายวิเคราะห์ข่าวบางคนก็ไปโน่นเลย จำกันได้ไหมครับ เหมือนเมื่อคราวที่ท่านอาร์คด ยุกเฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของราชวงศ์ Austria Hungarian ถูกพวก Serb ลอบฆ่าที่เมือง Serajevo เหตุการณ์เล็ก ๆ นั้น เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 (อันนี้ผู้ที่จำเหตุการณ์ได้คงไม่มีเหลือแล้ว เหลือแต่รุ่นคนเล่านิทาน ที่เคยรู้จากการเรียนประวัติศาสตร์สากล ตอน ม. 3) บางคนก็ออกมาพูดว่า หรือสงครามเย็นจะกลับมาใหม่ ไหนว่าจบไปแล้วไง

    วิกฤติคิวบา ปี ค.ศ. 1962 สำหรับท่านที่จำได้ เกิดขึ้นเพราะหน่วยลาดตระเวนของอเมริกา (ไม่รู้ตระเวนอยู่ในอเมริกาหรือคิวบา ชักสงสัย) ไปแอบถ่ายรูป ได้ภาพการก่อสร้างฐานยิงจรวดของโซเวียตที่คิวบา ห่างจาก Florida ไปเพียง 90 ไมล์ ระยะแค่นั้นจรวดใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ลงกลางบ้าน กลางห้องนอนคนอเมริกัน. แบบไม่ให้คนอเมริกันมีเวลาตั้งตัว ชนิดกำลังนอนเล่นอยู่ นุ่ง กุงเกง ใส่หมวกไม่ทันแล้วกัน โลกตะลึงกับการกระทำของโซเวียต สื่ออเมริกาช่วยกันถล่ม ประธานาธิบดี Kennedy ต้องยกเลิกนัดสาว ๆ แล้วมานั่งกุมขมับกับฝ่ายมั่นคงเป็นการด่วน
    แต่คงมีน้อยคน นอกเหนือจาก Pentagon และเจ้าหน้าที่ระดับสูง (มาก) ของอเมริกาและ NATO ที่จะรู้ความจริงว่าโซเวียตไม่ได้ไปกินยาม้าที่ไหนมาหรอก ถึงได้คึกคัก กล้าหาญชาญชัยที่จะตั้งฐานยิงจรวดที่คิวบา ท้าทายอเมริกาขนาดนั้น ความจริงแล้ว มันเป็นการตอบโต้ของสหภาพโซเวียต จากการที่อเมริกา (แอบ) ไปตั้งฐานยิ่งจรวดของตัว ชื่อ Thor กับ Jupitor ไว้ที่ตุรกี หนึ่งในสมาชิกของ NATO บนบริเวณที่ใกล้ชนิดจ่อคอหอยสหภาพโซเวียต โลกไม่รู้เพราะสื่อยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมดของโลก อยู่ในกระเป๋าของฝ่ายตะวันตก The West คืออเมริกา อังกฤษ และยุโรปตะวันตก เรียบร้อยแล้ว

    เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่คิวบา เมื่อปี ค.ศ. 1962 เหตุการณ์ของ Georgia ปี ค.ศ. 2008 ก็เป็นผลมาจากการตั้งใจสร้างแรงกระตุ้นต่อมอารมณ์ของรัสเซีย ของฝ่ายการเมืองและกองทัพของอเมริกา

    สงครามเย็น จบลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1989 โดย Mikhail Gorbachev กัดฟันประกาศต่อโลกว่าสหภาพโซเวียต ตัดสินใจที่จะไม่ส่งรถถังเข้าไปในเยอรมันตะวันออก เพื่อระงับการประท้วงรัฐบาล และยอมให้มีการทุบกำแพงเบอร์ลิน สัญญลักษณ์ของ ม่านเหล็ก “Iron Curtain” ซึ่งแบ่งยุโรปออกเป็นตะวันออกและตะวันตกทิ้งเสีย จริง ๆ แล้ว สหภาพโซเวียตกำลังอยู่ในอาการสาหัส ล้มละลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการเมือง

    สงครามเย็นจบลง ฝ่ายตะวันตก the West และแน่นอน โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าตัวจริงเป็นฝ่ายชนะ แค่หลอกขายสินค้ายี่ห้อ เสรีภาพ อิสรภาพ ประชาธิปไตย และความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจให้ชาวโลก โดยเฉพาะชาวยุโรปตะวันออก ประเทศที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ก็พากันหลงเชื่อหวังน้ำบ่อหน้ากันเป็นแถว
    เมื่อสงครามเย็นจบลง วอชิงตันตีฆ้องป่าวประกาศว่า ต่อไปนี้เราจะขยายกิจการ ส่งสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตยของเรา ไปทุกส่วนของโลก ที่เคยถูกขังอยู่ในกรงของระบอบสังคมนิยมของโซเวียตตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 และสำหรับบางประเทศหวังว่าคงรู้ตัว ว่าอยู่ในกรงเขา มาตั้งแต่สมัยปฎิวัติรัสเซียปี 1917 โน่นแน่ะ

    ประชาธิปไตยของวอชิงตันเป็นสินค้า ที่ทำกล่องใส่อย่างสวยหรู หลอกให้ซื้อง่าย ขายดีสำหรับพวกประเทศที่เกิดขึ้นใหม่ จากการที่โซเวียตล่มล้มละลายอยู่ที่ยุโรป แต่ประชาธิปไตยแท้จริงสำหรับอเมริกา คือการควบคุมเทคนิค และย้อมความคิดของมวลชน เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เรื่องนี้ง่ายมากสำหรับวอชิงตัน ซึ่งจัดเตรียมเครื่องมือเอาไว้พร้อม คือการควบคุมสื่อระดับโลก และการจัดการเปลี่ยนแนวทางเศรษฐกิจ โดยการกำกับควบคุมดูแลที่เล่นกันเป็นวง ร้องเพลงเดียวกัน ของ IMF และ World Bank

    วอชิงตันบอกว่าจะช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย หลังจากการล่มละลายของโซเวียต แต่ขอโทษเป็นประชาธิปไตยแบบพิเศษ จัดให้โดยเฉพาะเลย คือ ประชาธิปไตยแบบเบ็ดเสร็จ
    ที่มีแนวทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม แบบอเมริกาและควบคุมโดย NATO ฮา

    โลกชื่นชมยินดี ต่างตบมือให้อเมริกาผู้มาพร้อม กับประชาธิปไตย ที่ Berlin ชาวเยอรมันคนซื่อ ทั้งตะวันตก ตะวันออก ต่างร้องเพลง เต้นรำไปบนกำแพง ที่ใน Poland, Czechoslovakia และ Hungary ก็เช่นเดียวกัน พวกที่เคยอยู่หลังม่านเหล็ก ดีใจที่จะหลุดออกมาจากม่านและได้มีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่เสรี และร่ำรวยแบบคนอเมริกัน พวกเขาเชื่อสนิทใจจากการโฆษณาชวนเชื่อของจักรวรรดิอเมริกา ที่กรอกใส่เข้าไปในหูและหัวของเขาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยสื่อของฝั่งตะวันตก เรากำลังจะมาปลดปล่อยชาวยุโรปตะวันออกผู้ทุกข์ทรมานอยู่หลังม่านเหล็ก สวรรค์บนดินกำลังจะมาถึงแล้ว พวกเขาคงคิดแบบนั้น

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 1 สวรรค์บนดิน ระหว่างที่ลูกตาเกือบทุกคู่ของคนในโลกสวยงามใบนี้ กำลังจ้องเขม็งไปที่สนามกีฬารังนก ดีไซน์สุดยอด ของนาย Li Xinggang เพื่อดูพิธีเปิด การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคอลังการ ที่แดนมังกรของอาเฮีย เมื่อเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 2008 วันนั้นบรรดาคนใหญ่คนโตคนของโลก นั่งอยู่แถวนั้นกันเกือบทั้งนั้น ตั้งแต่ใหญ่หมายเลข 1 ของโลกฝั่งหนึ่ง เช่น ประธานาธิบดี GeorgeW. Bush ตัวแสบ และคุณพี่ปูติน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของรัสเซีย หมายเลข 1 ของโลกของฝั่งหนึ่ง ก็นั่งทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ไม่ไกลกัน แล้วถ้ายังไม่ลืมกัน ไอ้หมาไนโจรร้าย ซึ่งนึกว่าตัวเองใหญ่เกินฟ้า ก็กระเสือกกระสนให้เชิญตนเอง เพื่อหนีปัญหาการเมืองในบ้าน ไปนั่งเสนอหน้าอยู่แถวนั้นกับเขาด้วยเหมือนกัน วันเดียวกันนั่นเอง ก็มีข่าวเล็ก ๆ แทรกข่าวโอลิมปิคอันยิ่งใหญ่ ออกมาว่า กองทัพของ Georgia ได้บุกเข้าไปยึดเมือง South Ossetia เรียบร้อยแล้ว เป็นข่าวเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่มีใครสนใจ น้อยคนจะรู้จักว่า South Ossetia อยู่ที่ไหน บางคนไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ แน่นอนในแดนสมันน้อย มีน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะรู้จัก หรือแม้แต่จะได้ยินชื่อ South Ossetia เมืองอะไรน่ะ อยู่ที่ไหนนะ รู้จักแต่ เมืองโอริสสาในนิยายเรื่องอะไรสักอย่าง เมืองเดียวกันหรือเปล่านะ ก็ใครไม่รู้ดันถอดหลักสูตร ทั้งภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์สากลออกจากวิชาบังคับของนักเรียนมัธยม กว่าจะพอรู้เรื่องว่า มันเกี่ยวกับอะไร ก็ต้องรอให้ผู้สื่อข่าวทำหน้าฉลาด มาวิเคราะห์ให้ฟังก่อนว่า ชาวโลกทั้งหลายเอ๋ย การที่ Republic of Georgia เมืองที่พวกท่าน 90% ในโลกนี้ไม่รู้จัก แต่ดันยกทัพบุกเข้าไปใน South Ossetia ที่พวกท่าน 99.99% ยิ่งไม่รู้จักน่ะนะ มันเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับการเมืองของโลก เทียบเท่ากับ สมัยวิกฤติเกี่ยวกับฐานยิ่งจรวดที่คิวบา เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1962 เชียวนะ ความขัดแย้งระหว่างมวยคู่เก่าในยุคสงครามเย็น ที่อเมริกากับสหภาพโซเวียต 2 พี่เบิ้ม ยืนเท้าสะเอว ถลึงตาใส่กันไง จำได้ไหม แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่เกิดไม่ทัน คงไม่รู้ว่าตอนนั้น โลกเครียดกันขนาดไหน จวนเจียนจะต้องจัดกระเป๋าอพยพ (ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน) หนีสงครามกันแล้ว พวกที่ยังจำเหตุการณ์คิวบาได้ ก็เริ่มติดตามข่าว บ่นกันพึมพำ เอาอีกแล้วหรือ จะแลกหมัดแลกจรวดกันอีกแล้วหรือ ฝ่ายวิเคราะห์ข่าวบางคนก็ไปโน่นเลย จำกันได้ไหมครับ เหมือนเมื่อคราวที่ท่านอาร์คด ยุกเฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของราชวงศ์ Austria Hungarian ถูกพวก Serb ลอบฆ่าที่เมือง Serajevo เหตุการณ์เล็ก ๆ นั้น เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 (อันนี้ผู้ที่จำเหตุการณ์ได้คงไม่มีเหลือแล้ว เหลือแต่รุ่นคนเล่านิทาน ที่เคยรู้จากการเรียนประวัติศาสตร์สากล ตอน ม. 3) บางคนก็ออกมาพูดว่า หรือสงครามเย็นจะกลับมาใหม่ ไหนว่าจบไปแล้วไง วิกฤติคิวบา ปี ค.ศ. 1962 สำหรับท่านที่จำได้ เกิดขึ้นเพราะหน่วยลาดตระเวนของอเมริกา (ไม่รู้ตระเวนอยู่ในอเมริกาหรือคิวบา ชักสงสัย) ไปแอบถ่ายรูป ได้ภาพการก่อสร้างฐานยิงจรวดของโซเวียตที่คิวบา ห่างจาก Florida ไปเพียง 90 ไมล์ ระยะแค่นั้นจรวดใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ลงกลางบ้าน กลางห้องนอนคนอเมริกัน. แบบไม่ให้คนอเมริกันมีเวลาตั้งตัว ชนิดกำลังนอนเล่นอยู่ นุ่ง กุงเกง ใส่หมวกไม่ทันแล้วกัน โลกตะลึงกับการกระทำของโซเวียต สื่ออเมริกาช่วยกันถล่ม ประธานาธิบดี Kennedy ต้องยกเลิกนัดสาว ๆ แล้วมานั่งกุมขมับกับฝ่ายมั่นคงเป็นการด่วน แต่คงมีน้อยคน นอกเหนือจาก Pentagon และเจ้าหน้าที่ระดับสูง (มาก) ของอเมริกาและ NATO ที่จะรู้ความจริงว่าโซเวียตไม่ได้ไปกินยาม้าที่ไหนมาหรอก ถึงได้คึกคัก กล้าหาญชาญชัยที่จะตั้งฐานยิงจรวดที่คิวบา ท้าทายอเมริกาขนาดนั้น ความจริงแล้ว มันเป็นการตอบโต้ของสหภาพโซเวียต จากการที่อเมริกา (แอบ) ไปตั้งฐานยิ่งจรวดของตัว ชื่อ Thor กับ Jupitor ไว้ที่ตุรกี หนึ่งในสมาชิกของ NATO บนบริเวณที่ใกล้ชนิดจ่อคอหอยสหภาพโซเวียต โลกไม่รู้เพราะสื่อยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมดของโลก อยู่ในกระเป๋าของฝ่ายตะวันตก The West คืออเมริกา อังกฤษ และยุโรปตะวันตก เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่คิวบา เมื่อปี ค.ศ. 1962 เหตุการณ์ของ Georgia ปี ค.ศ. 2008 ก็เป็นผลมาจากการตั้งใจสร้างแรงกระตุ้นต่อมอารมณ์ของรัสเซีย ของฝ่ายการเมืองและกองทัพของอเมริกา สงครามเย็น จบลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1989 โดย Mikhail Gorbachev กัดฟันประกาศต่อโลกว่าสหภาพโซเวียต ตัดสินใจที่จะไม่ส่งรถถังเข้าไปในเยอรมันตะวันออก เพื่อระงับการประท้วงรัฐบาล และยอมให้มีการทุบกำแพงเบอร์ลิน สัญญลักษณ์ของ ม่านเหล็ก “Iron Curtain” ซึ่งแบ่งยุโรปออกเป็นตะวันออกและตะวันตกทิ้งเสีย จริง ๆ แล้ว สหภาพโซเวียตกำลังอยู่ในอาการสาหัส ล้มละลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการเมือง สงครามเย็นจบลง ฝ่ายตะวันตก the West และแน่นอน โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าตัวจริงเป็นฝ่ายชนะ แค่หลอกขายสินค้ายี่ห้อ เสรีภาพ อิสรภาพ ประชาธิปไตย และความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจให้ชาวโลก โดยเฉพาะชาวยุโรปตะวันออก ประเทศที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ก็พากันหลงเชื่อหวังน้ำบ่อหน้ากันเป็นแถว เมื่อสงครามเย็นจบลง วอชิงตันตีฆ้องป่าวประกาศว่า ต่อไปนี้เราจะขยายกิจการ ส่งสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตยของเรา ไปทุกส่วนของโลก ที่เคยถูกขังอยู่ในกรงของระบอบสังคมนิยมของโซเวียตตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 และสำหรับบางประเทศหวังว่าคงรู้ตัว ว่าอยู่ในกรงเขา มาตั้งแต่สมัยปฎิวัติรัสเซียปี 1917 โน่นแน่ะ ประชาธิปไตยของวอชิงตันเป็นสินค้า ที่ทำกล่องใส่อย่างสวยหรู หลอกให้ซื้อง่าย ขายดีสำหรับพวกประเทศที่เกิดขึ้นใหม่ จากการที่โซเวียตล่มล้มละลายอยู่ที่ยุโรป แต่ประชาธิปไตยแท้จริงสำหรับอเมริกา คือการควบคุมเทคนิค และย้อมความคิดของมวลชน เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เรื่องนี้ง่ายมากสำหรับวอชิงตัน ซึ่งจัดเตรียมเครื่องมือเอาไว้พร้อม คือการควบคุมสื่อระดับโลก และการจัดการเปลี่ยนแนวทางเศรษฐกิจ โดยการกำกับควบคุมดูแลที่เล่นกันเป็นวง ร้องเพลงเดียวกัน ของ IMF และ World Bank วอชิงตันบอกว่าจะช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย หลังจากการล่มละลายของโซเวียต แต่ขอโทษเป็นประชาธิปไตยแบบพิเศษ จัดให้โดยเฉพาะเลย คือ ประชาธิปไตยแบบเบ็ดเสร็จ ที่มีแนวทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม แบบอเมริกาและควบคุมโดย NATO ฮา โลกชื่นชมยินดี ต่างตบมือให้อเมริกาผู้มาพร้อม กับประชาธิปไตย ที่ Berlin ชาวเยอรมันคนซื่อ ทั้งตะวันตก ตะวันออก ต่างร้องเพลง เต้นรำไปบนกำแพง ที่ใน Poland, Czechoslovakia และ Hungary ก็เช่นเดียวกัน พวกที่เคยอยู่หลังม่านเหล็ก ดีใจที่จะหลุดออกมาจากม่านและได้มีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่เสรี และร่ำรวยแบบคนอเมริกัน พวกเขาเชื่อสนิทใจจากการโฆษณาชวนเชื่อของจักรวรรดิอเมริกา ที่กรอกใส่เข้าไปในหูและหัวของเขาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยสื่อของฝั่งตะวันตก เรากำลังจะมาปลดปล่อยชาวยุโรปตะวันออกผู้ทุกข์ทรมานอยู่หลังม่านเหล็ก สวรรค์บนดินกำลังจะมาถึงแล้ว พวกเขาคงคิดแบบนั้น สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • Château Christophe ตอนที่ 5
    นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 5
    เมื่อความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุ มสถานกงสุลที่ Benghazi ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2012 Sean Smith ผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าว ยังนั่งเล่นเกมส์ Eve Online อยู่หน้าจอ เขาอายุ 34 ปี มาจากกองทัพอากาศและอยู่กระทรวงการต่างประเทศมากว่า 10 ปีแล้ว เมียและลูก 2 คน อยู่ที่ประเทศ Netherlands เขาเป็นคนที่เล่นเกมส์ Eve นี้อย่างติดพันโดยใช้ชื่อว่า vile_rat เขาพิมพ์ถึงคู่เล่นเขา6 นาที ก่อน 2 ทุ่ม ว่า “สมมุติว่าเรารอดตายจากคืนนี้” มันดูเป็นตลกโหด แต่ Smith ผ่านสถานการณ์หนักกว่า Benghazi มาเยอะแล้ว เขาพิมพ์ข้อความเพิ่ม “เราเห็นตำรวจคนหนึ่งที่ดูแลบริเวณ กำลังถ่ายรูป”
เขาคงจะหมายความถึง ชาวลิเบียพวกที่เดินตรวจการณ์อยู่รอบบริเวณกงสุล แต่ยังมีการ์ดอีก 9 คน อยู่ในบริเวณกงสุล 5 คนเป็นคนอเมริกันติดอาวุธพร้อม และอีก 4 คน เป็นทหารชาวลิเบียจากหน่วย 17th of February Martyrs Brigade เป็นทหารพวกเดียวกับที่ดูแล Stevens เมื่อเขามาอยู่ที่ Benghazi ในตอนแรก
    สองชั่วโมงต่อมา เวลา 9.40 น. vile_rat พิมพ์ว่า “ฉิบหายแล้ว เสียงปืนยิง” แล้วเขาก็เลิกติดต่อไป
    จากรายงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเห็นจากจอที่ monitor ประตูหน้ากงสุลว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากติดอาวุธกำลังบุกเข้ามา เป็นคนกลุ่มใหญ่มากจนนับไม่ไหว เขากดปุ่มเตือนภัย คว้าไมค์แล้วตะโกนว่า “ถูกโจมตี ! ถูกโจมตี !”
    เจ้าหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัยอีก 4 คนอยู่ในเรือนใหญ่กับ Stevens และ Smith คนหนึ่งรีบพา Stevens และ Smith เข้าไปที่ส่วนหลังของตึกและปลดแผงเหล็กปิดตึกในส่วนที่เป็นห้องนิรภัย เจ้าหน้าที่อีก 3 คน กระโดดไปคว้าปืนออโตเมติกและเสื้อเกราะ เจ้าหน้าที่ที่อยู่กับ Stevens และ Smith พูดวิทยุบอกว่าพวกเขาปลอดภัยดีและอยู่ในห้องนิรภัย
    ซุ้มทหารด้านหน้าใกล้ประตูทางเข้าเริ่มถูกไฟเผา และผู้โจมตีได้กระจายตัวไปรอบ ๆ บริเวณ พวกเขาพังประตูหน้าเข้ามาได้ และพยายามทำลายล็อคแผ่นเหล็กเพื่อเข้ามายังส่วนใน แต่ทำลายไม่สำเร็จ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลซุ่มเงียบอยู่ใต้เงามืด เตรียมพร้อมที่จะยิงถ้ามีใครบุกรุกเข้ามาในห้องนิรภัย แต่ไม่มีใครบุกรุกเข้ามา พวกจู่โจมกลับเอาน้ำมันดีเซลจากซุ้มทหารมาเทราดพื้นและเครื่องเรือน แล้วจุดไฟ หลังจากนั้นทั้งเรือนก็มีแต่ไฟลุกโชน
    ควันไฟผสมน้ำมันผสมเครื่องเรือนที่เริ่มละลาย เริ่มฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณกงสุล ทำให้พวกที่ซ่อนตัวเองอยู่ข้างในเริ่มสำลักควัน Stevens, Smith และผู้คุ้มกันย้ายไปที่ห้องน้ำ พยายามไปที่หน้าต่างที่มีลูกกรงติดอยู่ ควันเริ่มเป็นหมอกสีดำ พวกเขานอนลงกับพื้นพยายามสูดอากาศที่ยังมีหลงเหลืออยู่ในตึก ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะออกมานอกห้องนิรภัย จึงคลานมาที่ห้องนอนซึ่งมีหน้าต่างที่สามารถเปิดจากในห้องได้
    เจ้าหน้าที่คุ้มกันเริ่มหายใจไม่ออก และมองเห็นไม่ชัดเจนจากควันไฟ เขาพยายามกระโดดออกไปที่ระเบียง โดยเอากระสอบทรายคลุมตัว ยังไม่ทันไรเขาก็เจอไฟไหม้ทั้งตัว และพวกจู่โจมก็โหมยิงใส่เขานับไม่ถ้วน พวกจู่โจมมีเป็นสิบๆคน ทั้ง Stevens และ Smith ไม่ได้ตามเจ้าหน้าที่คุ้มกันไปที่หน้าต่าง เจ้าหน้าที่จึงปืนย้อนกลับมาหาทั้งสองคนใหม่ เขาหาทั้งสองคนไม่เจอ เขากลับออกไปใหม่เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ เขาปีนเข้าปีนออกอยู่หลายรอบ ก็ยังหาทั้งสองคนไม่เจอ คอและปอดเขาแสบไปหมด เขาพยายามปีนบันไดขึ้นไปบนหลังคา และก็หมดสติไปหลังจากที่วิทยุเรียกเจ้าหน้าที่คนอื่นให้มาช่วย
    เจ้าหน้าที่อเมริกันอีก 4 คน ฟังเสียงพูดทางวิทยุเกือบไม่รู้เรื่อง ขณะเดียวกันพวกจู่โจมก็บุกเข้ามาในตึก B ตึกเล็กที่อยู่ในบริเวณ แต่ไม่สามารถฝ่าแท่งกั้นเข้ามายังด้านในของห้องได้ และก็ไม่สามารถผ่านเข้ามาในศูนย์ปฏิบัติการกลางได้
    ที่ตึก B และศูนย์ปฏิบัติการกลางดูเหมือนจะไม่มีโทรศัพท์สายตรง แต่พวกเขามองเห็นควันดำลอยขึ้นมา พวกเขาคิดว่าจะต้องไปที่ห้องนิรภัยของตึกกลางให้ได้ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพยายามเปิดประตูตึกกลาง โดยการโยนระเบิดใส่พวกจู่โจมเพื่อเปิดทาง เขากลับเข้ามาที่ตึก B ใหม่ รวมตัวกับอีก 2 คน แล้วทั้ง 3 ก็ไปที่รถ SUV หุ้มเกราะค่อยๆขับมาที่ตึกกลาง 2 คนพยายามยิงตรึงพวกจู่โจม ขณะที่อีก 1 คนพยายามเข้าไปที่ตึกกลาง เขาควานหา Stevens และ Smith และเมื่อควันหนาขึ้นเขาก็คลานออกมา เขาทำอยู่อย่างนี้จนหมดสภาพ เจ้าหน้าที่อีกคนเข้าไปแทน และก็อีกคน คนหนึ่งเจอ Smith และลากออกมา ปรากฏว่า Smith เสียชีวิตแล้วจากควันไฟ แต่พวกเขาก็ยังหา Stevens ยังไม่เจอ
    หน่วยกำลังเสริมมาถึง (ในรายงานไม่ได้ระบุว่ามาถึงเวลาใด) เจ้าหน้าที่อเมริกัน 6 คน จากหน่วยประจำการที่อยู่ห่างไปประมาณ 1 ไมล์ มาพร้อมด้วยทหารอีก 16 คนจากหน่วยที่ 17th February Martyrs Brigade พวกเขาเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ที่เหลืออยู่ 1 คน ในศูนย์ปฏิบัติการกลาง ซึ่งพยายามโทรศัพท์เรียกหน่วยเสริมจากทุกแห่งรวมทั้งจาก Tripoli หลังจากนั้นพวกเขารวมตัวกันที่ประตูหน้าและจัดการหาตัว Stevens ใหม่อีกรอบ แต่ก็ยังไม่พบ พวกอเมริกันและทหารลิเบียที่เป็นฝ่ายเดียวกันพยายามจะรักษากงสุลไว้ แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดพวกเขาจำเป็นต้องทิ้งกงสุลและอพยพออกไป เจ้าหน้าที่อัดตัวรวมกันอยู่ในรถ SUV พร้อมด้วยร่างของ Smith
    พวกอเมริกันที่หลบหนีออกมาโดนทั้งไฟเผาและถูกยิง พวกเขาพยายามฝ่าดงกระสุนออกมาจากบริเวณกงสุล รถวิ่งไปตามถนนเพื่อไปยังหน่วยเสริมกำลังของอเมริกัน ระหว่างทางพวกเขายังโดนไล่ยิงและปาระเบิดใส่ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหน่วยเสริมกำลังจนได้ พวกเขาเข้าประจำที่และยิงต่อสู้กับพวกจู่โจมต่อ เช้ามืดกองกำลังอเมริกันจาก Tripoli บินมาสมทบ การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป พวกอเมริกันเจ็บและตายเพิ่มขึ้น (ในจำนวนผู้ตาย มีเจ้าหน้าที่ CIA อีก 2 คน ชื่อ Tyrone S. Woods และ Glen Doherty เจ้าหน้าที่ Woods คือ คนที่อยู่กับฑูต Stevens ในห้องนิรภัยตอนแรก) ในที่สุดพวกเขาตัดสินใจหนีออกไปจากเมือง พวกเขาได้จัดขบวนรถ SUV วิ่งไปทางสนามบินโดยความช่วยเหลือของทหารลิเบียที่เป็นพวก ในที่สุดก็ขึ้นเครื่องบิน 2 ลำ ออกมาได้หมดตอนเช้ามืดของวันนั้น
    ในที่สุดไฟที่สถานกงสุลก็เริ่มมอด พวกจู่โจมหายไปหมด ชาวลิเบียซึ่งอาจจะเป็นพวกที่ตั้งใจเข้าไปขโมยของ หรือเป็นพวกอยากรู้อยากเห็น พาตัวเข้าไปที่ห้องนิรภัยจนได้ และพวกเขาก็พบ Stevens พวกเขาลากร่าง Stevens ออกมา แบกไปขึ้นรถและนำไปส่งโรงพยาบาล
    แพทย์ฉุกเฉินพยายามช่วยกู้ชีวิต Stevens อยู่ประมาณ 45 นาที แต่ไม่สำเร็จ และไม่สามารถบอกได้ว่าชายคนนี้เป็นใคร เขาเจอมือถือที่กระเป๋าของ Stevens จึงเรียกหมายเลขต่างๆ ซึ่งกลายเป็นการพูดโทรศัพท์ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก
    คนเล่านิทาน
7 มิย. 57
    Château Christophe ตอนที่ 5 นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 5 เมื่อความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุ มสถานกงสุลที่ Benghazi ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2012 Sean Smith ผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าว ยังนั่งเล่นเกมส์ Eve Online อยู่หน้าจอ เขาอายุ 34 ปี มาจากกองทัพอากาศและอยู่กระทรวงการต่างประเทศมากว่า 10 ปีแล้ว เมียและลูก 2 คน อยู่ที่ประเทศ Netherlands เขาเป็นคนที่เล่นเกมส์ Eve นี้อย่างติดพันโดยใช้ชื่อว่า vile_rat เขาพิมพ์ถึงคู่เล่นเขา6 นาที ก่อน 2 ทุ่ม ว่า “สมมุติว่าเรารอดตายจากคืนนี้” มันดูเป็นตลกโหด แต่ Smith ผ่านสถานการณ์หนักกว่า Benghazi มาเยอะแล้ว เขาพิมพ์ข้อความเพิ่ม “เราเห็นตำรวจคนหนึ่งที่ดูแลบริเวณ กำลังถ่ายรูป”
เขาคงจะหมายความถึง ชาวลิเบียพวกที่เดินตรวจการณ์อยู่รอบบริเวณกงสุล แต่ยังมีการ์ดอีก 9 คน อยู่ในบริเวณกงสุล 5 คนเป็นคนอเมริกันติดอาวุธพร้อม และอีก 4 คน เป็นทหารชาวลิเบียจากหน่วย 17th of February Martyrs Brigade เป็นทหารพวกเดียวกับที่ดูแล Stevens เมื่อเขามาอยู่ที่ Benghazi ในตอนแรก สองชั่วโมงต่อมา เวลา 9.40 น. vile_rat พิมพ์ว่า “ฉิบหายแล้ว เสียงปืนยิง” แล้วเขาก็เลิกติดต่อไป จากรายงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเห็นจากจอที่ monitor ประตูหน้ากงสุลว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากติดอาวุธกำลังบุกเข้ามา เป็นคนกลุ่มใหญ่มากจนนับไม่ไหว เขากดปุ่มเตือนภัย คว้าไมค์แล้วตะโกนว่า “ถูกโจมตี ! ถูกโจมตี !” เจ้าหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัยอีก 4 คนอยู่ในเรือนใหญ่กับ Stevens และ Smith คนหนึ่งรีบพา Stevens และ Smith เข้าไปที่ส่วนหลังของตึกและปลดแผงเหล็กปิดตึกในส่วนที่เป็นห้องนิรภัย เจ้าหน้าที่อีก 3 คน กระโดดไปคว้าปืนออโตเมติกและเสื้อเกราะ เจ้าหน้าที่ที่อยู่กับ Stevens และ Smith พูดวิทยุบอกว่าพวกเขาปลอดภัยดีและอยู่ในห้องนิรภัย ซุ้มทหารด้านหน้าใกล้ประตูทางเข้าเริ่มถูกไฟเผา และผู้โจมตีได้กระจายตัวไปรอบ ๆ บริเวณ พวกเขาพังประตูหน้าเข้ามาได้ และพยายามทำลายล็อคแผ่นเหล็กเพื่อเข้ามายังส่วนใน แต่ทำลายไม่สำเร็จ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลซุ่มเงียบอยู่ใต้เงามืด เตรียมพร้อมที่จะยิงถ้ามีใครบุกรุกเข้ามาในห้องนิรภัย แต่ไม่มีใครบุกรุกเข้ามา พวกจู่โจมกลับเอาน้ำมันดีเซลจากซุ้มทหารมาเทราดพื้นและเครื่องเรือน แล้วจุดไฟ หลังจากนั้นทั้งเรือนก็มีแต่ไฟลุกโชน ควันไฟผสมน้ำมันผสมเครื่องเรือนที่เริ่มละลาย เริ่มฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณกงสุล ทำให้พวกที่ซ่อนตัวเองอยู่ข้างในเริ่มสำลักควัน Stevens, Smith และผู้คุ้มกันย้ายไปที่ห้องน้ำ พยายามไปที่หน้าต่างที่มีลูกกรงติดอยู่ ควันเริ่มเป็นหมอกสีดำ พวกเขานอนลงกับพื้นพยายามสูดอากาศที่ยังมีหลงเหลืออยู่ในตึก ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะออกมานอกห้องนิรภัย จึงคลานมาที่ห้องนอนซึ่งมีหน้าต่างที่สามารถเปิดจากในห้องได้ เจ้าหน้าที่คุ้มกันเริ่มหายใจไม่ออก และมองเห็นไม่ชัดเจนจากควันไฟ เขาพยายามกระโดดออกไปที่ระเบียง โดยเอากระสอบทรายคลุมตัว ยังไม่ทันไรเขาก็เจอไฟไหม้ทั้งตัว และพวกจู่โจมก็โหมยิงใส่เขานับไม่ถ้วน พวกจู่โจมมีเป็นสิบๆคน ทั้ง Stevens และ Smith ไม่ได้ตามเจ้าหน้าที่คุ้มกันไปที่หน้าต่าง เจ้าหน้าที่จึงปืนย้อนกลับมาหาทั้งสองคนใหม่ เขาหาทั้งสองคนไม่เจอ เขากลับออกไปใหม่เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ เขาปีนเข้าปีนออกอยู่หลายรอบ ก็ยังหาทั้งสองคนไม่เจอ คอและปอดเขาแสบไปหมด เขาพยายามปีนบันไดขึ้นไปบนหลังคา และก็หมดสติไปหลังจากที่วิทยุเรียกเจ้าหน้าที่คนอื่นให้มาช่วย เจ้าหน้าที่อเมริกันอีก 4 คน ฟังเสียงพูดทางวิทยุเกือบไม่รู้เรื่อง ขณะเดียวกันพวกจู่โจมก็บุกเข้ามาในตึก B ตึกเล็กที่อยู่ในบริเวณ แต่ไม่สามารถฝ่าแท่งกั้นเข้ามายังด้านในของห้องได้ และก็ไม่สามารถผ่านเข้ามาในศูนย์ปฏิบัติการกลางได้ ที่ตึก B และศูนย์ปฏิบัติการกลางดูเหมือนจะไม่มีโทรศัพท์สายตรง แต่พวกเขามองเห็นควันดำลอยขึ้นมา พวกเขาคิดว่าจะต้องไปที่ห้องนิรภัยของตึกกลางให้ได้ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพยายามเปิดประตูตึกกลาง โดยการโยนระเบิดใส่พวกจู่โจมเพื่อเปิดทาง เขากลับเข้ามาที่ตึก B ใหม่ รวมตัวกับอีก 2 คน แล้วทั้ง 3 ก็ไปที่รถ SUV หุ้มเกราะค่อยๆขับมาที่ตึกกลาง 2 คนพยายามยิงตรึงพวกจู่โจม ขณะที่อีก 1 คนพยายามเข้าไปที่ตึกกลาง เขาควานหา Stevens และ Smith และเมื่อควันหนาขึ้นเขาก็คลานออกมา เขาทำอยู่อย่างนี้จนหมดสภาพ เจ้าหน้าที่อีกคนเข้าไปแทน และก็อีกคน คนหนึ่งเจอ Smith และลากออกมา ปรากฏว่า Smith เสียชีวิตแล้วจากควันไฟ แต่พวกเขาก็ยังหา Stevens ยังไม่เจอ หน่วยกำลังเสริมมาถึง (ในรายงานไม่ได้ระบุว่ามาถึงเวลาใด) เจ้าหน้าที่อเมริกัน 6 คน จากหน่วยประจำการที่อยู่ห่างไปประมาณ 1 ไมล์ มาพร้อมด้วยทหารอีก 16 คนจากหน่วยที่ 17th February Martyrs Brigade พวกเขาเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ที่เหลืออยู่ 1 คน ในศูนย์ปฏิบัติการกลาง ซึ่งพยายามโทรศัพท์เรียกหน่วยเสริมจากทุกแห่งรวมทั้งจาก Tripoli หลังจากนั้นพวกเขารวมตัวกันที่ประตูหน้าและจัดการหาตัว Stevens ใหม่อีกรอบ แต่ก็ยังไม่พบ พวกอเมริกันและทหารลิเบียที่เป็นฝ่ายเดียวกันพยายามจะรักษากงสุลไว้ แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดพวกเขาจำเป็นต้องทิ้งกงสุลและอพยพออกไป เจ้าหน้าที่อัดตัวรวมกันอยู่ในรถ SUV พร้อมด้วยร่างของ Smith พวกอเมริกันที่หลบหนีออกมาโดนทั้งไฟเผาและถูกยิง พวกเขาพยายามฝ่าดงกระสุนออกมาจากบริเวณกงสุล รถวิ่งไปตามถนนเพื่อไปยังหน่วยเสริมกำลังของอเมริกัน ระหว่างทางพวกเขายังโดนไล่ยิงและปาระเบิดใส่ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหน่วยเสริมกำลังจนได้ พวกเขาเข้าประจำที่และยิงต่อสู้กับพวกจู่โจมต่อ เช้ามืดกองกำลังอเมริกันจาก Tripoli บินมาสมทบ การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป พวกอเมริกันเจ็บและตายเพิ่มขึ้น (ในจำนวนผู้ตาย มีเจ้าหน้าที่ CIA อีก 2 คน ชื่อ Tyrone S. Woods และ Glen Doherty เจ้าหน้าที่ Woods คือ คนที่อยู่กับฑูต Stevens ในห้องนิรภัยตอนแรก) ในที่สุดพวกเขาตัดสินใจหนีออกไปจากเมือง พวกเขาได้จัดขบวนรถ SUV วิ่งไปทางสนามบินโดยความช่วยเหลือของทหารลิเบียที่เป็นพวก ในที่สุดก็ขึ้นเครื่องบิน 2 ลำ ออกมาได้หมดตอนเช้ามืดของวันนั้น ในที่สุดไฟที่สถานกงสุลก็เริ่มมอด พวกจู่โจมหายไปหมด ชาวลิเบียซึ่งอาจจะเป็นพวกที่ตั้งใจเข้าไปขโมยของ หรือเป็นพวกอยากรู้อยากเห็น พาตัวเข้าไปที่ห้องนิรภัยจนได้ และพวกเขาก็พบ Stevens พวกเขาลากร่าง Stevens ออกมา แบกไปขึ้นรถและนำไปส่งโรงพยาบาล แพทย์ฉุกเฉินพยายามช่วยกู้ชีวิต Stevens อยู่ประมาณ 45 นาที แต่ไม่สำเร็จ และไม่สามารถบอกได้ว่าชายคนนี้เป็นใคร เขาเจอมือถือที่กระเป๋าของ Stevens จึงเรียกหมายเลขต่างๆ ซึ่งกลายเป็นการพูดโทรศัพท์ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก คนเล่านิทาน
7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไอ้เหี้ยนี้ดูแบบไหนก็อันตรายโคตรๆ แล้วก็จริงที่สุด, มีสองสัญชาติอีกด้วย,แล้วจะจัดการมันได้มั้ย มันมีเชื้อผู้ดีนะธรรมดาที่ไหน,ชนชั้นผู้ดีค้ำมันจึงลอยหน้าลอยตามาถึงขนาดนี้ได้,คนทรยศแผ่นดินไทยเต็มๆอีกตัว,ถ้าแผ่นดินไทยไม่สามารถลงโทษคนแบบนี้ เอาผิดได้ถือว่าเหี้ยโคตรๆกับระบบเรา,เสื่อมและเสื่อมจนสามารถพังพินาศไปเลยเถอะ,ตำตาขนาดนี้แล้ว ต้องฟ้องดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด เป็นใหญ่เป็นโตเสือกทำผิดต่อชาติบ้านเมืองเสียเอง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต สมควรลบชื่อออกจากทะเบียนนายกฯด้วย.,ระดับนีัไม่รู้เป็นไปไม่ได้,จนบ้านเมืองเสียดินแดนแผ่นดินไปถึง1:150,000 มันใช่ทีเหรอ,ทุจริตในตำแหน่งชัดเจน ผลประโยชน์บ่อน้ำมันอ่าวไทยแน่นอนแล้ว.,ไม่เป็นอย่างอีก คือเป้าหมายสูงสุดในหมากกระดานนี้ที่มันพากันเล่น.
    ..ญี่ปุ่นก็เหี้ยตะบัตย์สัตย์เมื่อถูกจับไป บิดเบือนว่าถูกใส่ร้าย ไปกดดันเขมรโน้นให้เปิดด่าน,ตอแหลโคตรๆสันดานญี่ปุ่นคนชาตินี้อีกลักษณะหนึ่ง,มรึงจะมาในนามนอมินีมรึงก็ตามก็คือสมยอมด้วยกันแน่นอนเพราะคนเชื้อชาติญี่ปุ่นเดียวกัน,จังหวะนี้ตัวช่วยจะเป็นมาเลย์เป็นอเมริกามาช่วยเขมรคงกระโดดมาช่วยแบบมุกเดิมไม่ได้แล้ว ญี่ปุ่นจึงคือตัวเลือกที่ดีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาคนไทยมันว่า บวกอ้างมีกิจการธุรกิจญี่ปุ่นในเขมรด้วยดูทรงความเป็นกลางดูดีที่สุด เข้ามาแสดงบทบาทท่าทีได้,แทรกแซงได้เนียนๆนิ่มๆไม่น่าเกียจ คนไทยเกรงกลัวเกรงใจคนชาติญี่ปุ่นแน่นอนเพราะมีบุญคุณมากแก่คนไทย ในสายตาคนญี่ปุ่นไทยกากกระจอกอยู่แล้วทาสชาติญี่ปุ่น สั่งซ้ายหันขวาหันได้ ญี่ปุ่นจึงเหมาะสมในหมากกระดานนี้เป็นตัวเดินเวลานี้,รุกฆาตกดดันบีบบังคับไทยให้ต้องเปิดด่านให้ได้ช่วยฮุนเซนฝั่งเขมรคนของฝรั่งแบบกูได้ หรือเมื่อเปิดด่านเจ้าสัวในไทย เจ้าสัวต่างชาติทุกๆคนรอดได้แดกแน่นอนมันว่า จึงลงขันสนับสนุนญี่ปุ่นบีบไทยเต็มที่ โดยเผื่อกันทางหนีไว้ด้วยคือเอกชนญี่ปุ่นต้องเปิดหน้าเล่นแทน มรึงพลาดกูในนามรัฐบาลญี่ปุ่นฑูตญี่ปุ่นแบบกูจะได้หาทางแก้ตัวได้,และก็ออกมาสไตล์แก้ทางปัจจุบัน,ญี่ปุ่นตอนนี้คือศัตรูของอธิปไตยไทยชัดเจน อย่างปกป้องมันอีกเลย เหี้ยนี้เปิดหน้าชัดเจนแล้ว ขี้ข้าอเมริกาตัวพ่อมือขวาของเอเชียหน้าไหว้หลังหลอกสันดานเดียวกับเขมรคือญี่ปุ่นนี้ล่ะ,ช่องไหนปกป้องญี่ปุ่น แสดงว่าคนแบบนั่นถูกตังญี่ปุ่นซื้อตัวปิดปากไปแล้ว,ญี่ปุ่นมันหักหลังไทยปล้นชิงลับหลังตลอด ดูง่ายที่สุดคือสิทธิบัตรทางยาสมุนไพรไทยเรา อัตลักษณ์ของไทยมันอ้างว่าเป็นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่นมันโน้น นักวิจัยมันเต็มประเทศไทย รวบรวมสมุนไพรไทยทั่วประเทศ แล้วแอบจดลิขสิทธิ์แดกอ้างเป็นของมันเกือบหมดแผ่นดินไทย นี้คือมิตรชั่วสารเลวมั้ย ,มาแกล้งทำเป็นมิตร,หลอกลวงคนไทยทั้งประเทศให้นิยมชมชอบคนญี่ปุ่นแบบมัน เช่นค่านิยมโคตรพ่อโคตรแมร่งมันมีระเบียบนั้นล่ะมันภูมิใจมาก,นักการเมืองอ้างตรึมเวลาบังคับใช้ทางกฎหมาย,ทีทำผิดต้องลาออกจากตำแหน่งทันที นักการเมืองไทยที่อยากให้ประชาชนมีสำนึกระเบียบวินัยแบบญี่ปุ่น มันกล้าลาออกจากตำแหน่งกี่คน นายกฯลาออกเองมีมั้ยแมร่งไล่ออกเห็นๆ,ข้าราชการลาออกจริงกี่คนเวลาตนรู้อยู่แก่ใจว่าผิดแต่เหี้ยไม่ลาออกหาอะไรจนศาลตัดสินว่าผิดโน้น,คือเลวจริงๆ.
    ..ญี่ปุ่นเห็นแก่ประโยชน์ตนเองมานานแล้ว คอยแต่เอาเปรียบประเทศไทย เอาเปรียบประชาชนคนไทยมาตลอดเมื่อมีจังหวะพร้อมแสดงธาตุแท้การเอาชนะออกมาทุกๆรูปแบบจะคตโกงแบบไหนก็ตาม มึน ด้าน หนา แบบไหนก็ชั่ง เราคนเอเชียด้วยกันเห็นสันดานธาตุแท้ญี่ปุ่นด้วยกันทุกๆคนไทย เห็นชัดแบบตัวอย่างง่ายๆในอดีตคือนักมวยไทยเราชกกับญี่ปุ่นมัน ห้ามศอก ห้ามเข่าโน่น มวยสากลก็โกงเราสาระพัดตัวกรรมการบนเวทีมันและรอบเวทียิ่งชัดเจน,เราเสียพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณก็เหี้ยญี่ปุ่นนี้ล่ะ.





    https://youtube.com/watch?v=ExqaZLO73F0&si=31Pf2fNqeXezQDjN
    ไอ้เหี้ยนี้ดูแบบไหนก็อันตรายโคตรๆ แล้วก็จริงที่สุด, มีสองสัญชาติอีกด้วย,แล้วจะจัดการมันได้มั้ย มันมีเชื้อผู้ดีนะธรรมดาที่ไหน,ชนชั้นผู้ดีค้ำมันจึงลอยหน้าลอยตามาถึงขนาดนี้ได้,คนทรยศแผ่นดินไทยเต็มๆอีกตัว,ถ้าแผ่นดินไทยไม่สามารถลงโทษคนแบบนี้ เอาผิดได้ถือว่าเหี้ยโคตรๆกับระบบเรา,เสื่อมและเสื่อมจนสามารถพังพินาศไปเลยเถอะ,ตำตาขนาดนี้แล้ว ต้องฟ้องดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด เป็นใหญ่เป็นโตเสือกทำผิดต่อชาติบ้านเมืองเสียเอง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต สมควรลบชื่อออกจากทะเบียนนายกฯด้วย.,ระดับนีัไม่รู้เป็นไปไม่ได้,จนบ้านเมืองเสียดินแดนแผ่นดินไปถึง1:150,000 มันใช่ทีเหรอ,ทุจริตในตำแหน่งชัดเจน ผลประโยชน์บ่อน้ำมันอ่าวไทยแน่นอนแล้ว.,ไม่เป็นอย่างอีก คือเป้าหมายสูงสุดในหมากกระดานนี้ที่มันพากันเล่น. ..ญี่ปุ่นก็เหี้ยตะบัตย์สัตย์เมื่อถูกจับไป บิดเบือนว่าถูกใส่ร้าย ไปกดดันเขมรโน้นให้เปิดด่าน,ตอแหลโคตรๆสันดานญี่ปุ่นคนชาตินี้อีกลักษณะหนึ่ง,มรึงจะมาในนามนอมินีมรึงก็ตามก็คือสมยอมด้วยกันแน่นอนเพราะคนเชื้อชาติญี่ปุ่นเดียวกัน,จังหวะนี้ตัวช่วยจะเป็นมาเลย์เป็นอเมริกามาช่วยเขมรคงกระโดดมาช่วยแบบมุกเดิมไม่ได้แล้ว ญี่ปุ่นจึงคือตัวเลือกที่ดีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาคนไทยมันว่า บวกอ้างมีกิจการธุรกิจญี่ปุ่นในเขมรด้วยดูทรงความเป็นกลางดูดีที่สุด เข้ามาแสดงบทบาทท่าทีได้,แทรกแซงได้เนียนๆนิ่มๆไม่น่าเกียจ คนไทยเกรงกลัวเกรงใจคนชาติญี่ปุ่นแน่นอนเพราะมีบุญคุณมากแก่คนไทย ในสายตาคนญี่ปุ่นไทยกากกระจอกอยู่แล้วทาสชาติญี่ปุ่น สั่งซ้ายหันขวาหันได้ ญี่ปุ่นจึงเหมาะสมในหมากกระดานนี้เป็นตัวเดินเวลานี้,รุกฆาตกดดันบีบบังคับไทยให้ต้องเปิดด่านให้ได้ช่วยฮุนเซนฝั่งเขมรคนของฝรั่งแบบกูได้ หรือเมื่อเปิดด่านเจ้าสัวในไทย เจ้าสัวต่างชาติทุกๆคนรอดได้แดกแน่นอนมันว่า จึงลงขันสนับสนุนญี่ปุ่นบีบไทยเต็มที่ โดยเผื่อกันทางหนีไว้ด้วยคือเอกชนญี่ปุ่นต้องเปิดหน้าเล่นแทน มรึงพลาดกูในนามรัฐบาลญี่ปุ่นฑูตญี่ปุ่นแบบกูจะได้หาทางแก้ตัวได้,และก็ออกมาสไตล์แก้ทางปัจจุบัน,ญี่ปุ่นตอนนี้คือศัตรูของอธิปไตยไทยชัดเจน อย่างปกป้องมันอีกเลย เหี้ยนี้เปิดหน้าชัดเจนแล้ว ขี้ข้าอเมริกาตัวพ่อมือขวาของเอเชียหน้าไหว้หลังหลอกสันดานเดียวกับเขมรคือญี่ปุ่นนี้ล่ะ,ช่องไหนปกป้องญี่ปุ่น แสดงว่าคนแบบนั่นถูกตังญี่ปุ่นซื้อตัวปิดปากไปแล้ว,ญี่ปุ่นมันหักหลังไทยปล้นชิงลับหลังตลอด ดูง่ายที่สุดคือสิทธิบัตรทางยาสมุนไพรไทยเรา อัตลักษณ์ของไทยมันอ้างว่าเป็นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่นมันโน้น นักวิจัยมันเต็มประเทศไทย รวบรวมสมุนไพรไทยทั่วประเทศ แล้วแอบจดลิขสิทธิ์แดกอ้างเป็นของมันเกือบหมดแผ่นดินไทย นี้คือมิตรชั่วสารเลวมั้ย ,มาแกล้งทำเป็นมิตร,หลอกลวงคนไทยทั้งประเทศให้นิยมชมชอบคนญี่ปุ่นแบบมัน เช่นค่านิยมโคตรพ่อโคตรแมร่งมันมีระเบียบนั้นล่ะมันภูมิใจมาก,นักการเมืองอ้างตรึมเวลาบังคับใช้ทางกฎหมาย,ทีทำผิดต้องลาออกจากตำแหน่งทันที นักการเมืองไทยที่อยากให้ประชาชนมีสำนึกระเบียบวินัยแบบญี่ปุ่น มันกล้าลาออกจากตำแหน่งกี่คน นายกฯลาออกเองมีมั้ยแมร่งไล่ออกเห็นๆ,ข้าราชการลาออกจริงกี่คนเวลาตนรู้อยู่แก่ใจว่าผิดแต่เหี้ยไม่ลาออกหาอะไรจนศาลตัดสินว่าผิดโน้น,คือเลวจริงๆ. ..ญี่ปุ่นเห็นแก่ประโยชน์ตนเองมานานแล้ว คอยแต่เอาเปรียบประเทศไทย เอาเปรียบประชาชนคนไทยมาตลอดเมื่อมีจังหวะพร้อมแสดงธาตุแท้การเอาชนะออกมาทุกๆรูปแบบจะคตโกงแบบไหนก็ตาม มึน ด้าน หนา แบบไหนก็ชั่ง เราคนเอเชียด้วยกันเห็นสันดานธาตุแท้ญี่ปุ่นด้วยกันทุกๆคนไทย เห็นชัดแบบตัวอย่างง่ายๆในอดีตคือนักมวยไทยเราชกกับญี่ปุ่นมัน ห้ามศอก ห้ามเข่าโน่น มวยสากลก็โกงเราสาระพัดตัวกรรมการบนเวทีมันและรอบเวทียิ่งชัดเจน,เราเสียพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณก็เหี้ยญี่ปุ่นนี้ล่ะ. https://youtube.com/watch?v=ExqaZLO73F0&si=31Pf2fNqeXezQDjN
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลิปนี้ชัดเจนมาก, อ.ปานเทพฯและรายการพ่อเลี้ยงก็ชัดเจนด้วย.

    อนุทินนายกฯเซ็นต์ยกเลิก คัดคนของตนยกมือยกเลิกmou43นี้ก็จบที่ มติคณะครม.ชุดแรกตนเองเลย,ได้ใจคนไทยทั้งประเทศด้วย,ทางการเมืองเลือกตั้งสมัยหน้าส่วนตัวสนับสนุนเป็นนายกฯคนต่อไปที่33แน่นอน,มีจิตใจสำนึกรักษาชาติในยามวิกฤติรู้ถูกรู้ผิด ถือว่าเป็นคนใช้ได้,เมื่อตัดสินใจเรื่องสำคัญจริงระดับชาติ,จะเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ด้วย นำพาพรรคภูมิใจไทยอย่างมีศักดิ์ศรี ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทย เงยหน้าไม่ฟ้าอายเทวดาแผ่นดินไทย,เรื่องอื่นๆขี้หมาเลย,อีกทั้งสามารถดำเนินคดีความเอาผิดย้อนหลังแทนประชาชนกับพวกขายชาติขายแดนดินอธิปไตยไทยด้วย แบบอดีตนายกฯยุคขายชาติmou43,44ต่างๆนี้ ดำเนินคดีกับอดีตรมต.กระทรวงต่างประเทศและคนกระทรวงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องด้วย,ตัวพ่อก่อการสร้างเรื่องขายชาติมาโดยตลอด ไม่เกรงกลัวอะไรต่อการกระทำผิดตนเองในหน้าที่.
    ..นายกฯหนูจะเป็นฮีโรทันที ประชาชนจะร่วมปกป้องแน่นอน ทหารเราด้วย,เพื่อเป็นตัวแทนประชาชนทำสงครามศึกชดเชยความผิดที่ตนผิดพลาดไปได้,จากคำดูถูกงูเห่า จะเป็นราชสีห์ทันที.
    ..นี้คือการตัดสินใจครั้งสำคัญ โอกาสดีๆมีมากไม่มาก,ตัดสินใจผืดพลาดนรกแน่นอน ประชาชนก็ไม่เอาคนทรยศแผ่นดินไทยตนเองไว้อีกด้วยเช่นกันและจะตามเก็บพวกขายชาตินี้เองทั้งหมดได้เหมือนเดิม,อาจมีทนายมือทองยื่นฟ้องพวกนี้แล้วด้วย

    ..https://youtube.com/watch?v=vjuqIIbBZoo&si=BSaRFbHlHl9TNZSr
    คลิปนี้ชัดเจนมาก, อ.ปานเทพฯและรายการพ่อเลี้ยงก็ชัดเจนด้วย. อนุทินนายกฯเซ็นต์ยกเลิก คัดคนของตนยกมือยกเลิกmou43นี้ก็จบที่ มติคณะครม.ชุดแรกตนเองเลย,ได้ใจคนไทยทั้งประเทศด้วย,ทางการเมืองเลือกตั้งสมัยหน้าส่วนตัวสนับสนุนเป็นนายกฯคนต่อไปที่33แน่นอน,มีจิตใจสำนึกรักษาชาติในยามวิกฤติรู้ถูกรู้ผิด ถือว่าเป็นคนใช้ได้,เมื่อตัดสินใจเรื่องสำคัญจริงระดับชาติ,จะเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ด้วย นำพาพรรคภูมิใจไทยอย่างมีศักดิ์ศรี ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทย เงยหน้าไม่ฟ้าอายเทวดาแผ่นดินไทย,เรื่องอื่นๆขี้หมาเลย,อีกทั้งสามารถดำเนินคดีความเอาผิดย้อนหลังแทนประชาชนกับพวกขายชาติขายแดนดินอธิปไตยไทยด้วย แบบอดีตนายกฯยุคขายชาติmou43,44ต่างๆนี้ ดำเนินคดีกับอดีตรมต.กระทรวงต่างประเทศและคนกระทรวงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องด้วย,ตัวพ่อก่อการสร้างเรื่องขายชาติมาโดยตลอด ไม่เกรงกลัวอะไรต่อการกระทำผิดตนเองในหน้าที่. ..นายกฯหนูจะเป็นฮีโรทันที ประชาชนจะร่วมปกป้องแน่นอน ทหารเราด้วย,เพื่อเป็นตัวแทนประชาชนทำสงครามศึกชดเชยความผิดที่ตนผิดพลาดไปได้,จากคำดูถูกงูเห่า จะเป็นราชสีห์ทันที. ..นี้คือการตัดสินใจครั้งสำคัญ โอกาสดีๆมีมากไม่มาก,ตัดสินใจผืดพลาดนรกแน่นอน ประชาชนก็ไม่เอาคนทรยศแผ่นดินไทยตนเองไว้อีกด้วยเช่นกันและจะตามเก็บพวกขายชาตินี้เองทั้งหมดได้เหมือนเดิม,อาจมีทนายมือทองยื่นฟ้องพวกนี้แล้วด้วย ..https://youtube.com/watch?v=vjuqIIbBZoo&si=BSaRFbHlHl9TNZSr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหกคอก ตอนที่ 8 – นักวิ่ง
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 8 : นักวิ่ง
    มีกลุ่มนักคิด แล้วจะให้ดีก็ต้องมีกลุ่มคนพูด คนดำเนินการ คนวิ่งเต้นเหมือนเป็น lobbyist แต่เป็น lobbyist ระดับ cream หน้าขนมเค้ก แต่คราวนี้ไม่ใช่เค้กธรรมดาเป็นขนมเค้กประดับมงกุฎเสียด้วย ปี ค.ศ.1954 พวกคนในสังคมระดับสูง ถึงสูงมากๆ ในยุโรป อังกฤษ และอเมริกา จึงรวมตัวกันจัดตั้ง the Bilderberg Group ขึ้นที่ประเทศ Netherlands หลังจากน้ันทุกปี กลุ่มนี้จะจัดประชุมลับ มีคนเข้าร่วมประมาณ 100 กว่าคน จากบุคคลชั้นสูงในวงการเมือง ธุรกิจการเงินการธนาคาร การทหาร บรรษัทข้ามชาติใหญ่ นักวิชาการ สื่อจากอเมริกา (เหนือ) และยุโรปตะวันตก เป็นเครือข่ายของผู้ทรงอิทธิพลรวมถึงพระราชวงศ์ในยุโรปซึ่งสามารถจะคุยกันได้อย่างเปิดอก และไม่ต้องเกรงว่าจะมีการรั่วไหลของการคุย ขาประจำจะเป็นพวกหัวหน้าผู้บริหาร หรือประธานของบรรดาบรรษัทข้ามชาติ ใหญ่ๆ ในโลก บริษัทน้ำมันเช่น Royal Dutch, British Petroleum, Total SA รวมทั้งพระราชวงศ์ในยุโรป นายธนาคารระดับนานาชาติ เช่น (แน่นอน) นาย David Rockefeller ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และพวกธนาคารกลางของโลก Bilderberg เป็นถังความคิด แบบเปิดฝาแต่ปิดตัว ตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเป็นห่วงคล้อง (ชักใย) รัฐบาลกับเศรษฐกิจของยุโรปกับอเมริกา ในระหว่างสงครามเย็นให้ไปในทิศทางเดียวกัน
    ปี ค.ศ.1970 David Rockefeller เป็นประธานของ CFR และเป็นประธานกรรมการและประธานผู้บริหารของ Chase Manhattan Bank ไปเชิญนักวิชาการเข้ามาร่วมอยู่ ใน CFR (ใช่แล้วครับ เจ้าเก่า) นาย Zbigniew Brzezinski ซึ่งเขียนหนังสือ Between Two ages : Americans Role in the Tecnetronic Era บอกว่าปัจจุบันนี้ ความสนิทสนมกลมเกลียว ความร่วมมือระหว่างรัฐประเทศมันน้อยลง แทนที่จะหันหน้าเข้ามาหากัน ดันตะแคงข้างหรือหันหลังใส่กัน ขณะเดียวกันความร่วมมือระหว่างบรรษัทข้ามชาติด้วยกันมีมากขึ้น เงินมันมีแรงดึงดูดสูงกว่า ดังนั้นจึงควรมีการรวมตัวกันระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว คือ ประเทศในยุโรปตะวันตก อเมริกา และญี่ปุ่น เพราะต่อจากนี้ไป ธนาคารและบรรษัทข้ามชาติทุนใหญ่ เช่น ธนาคาร บริษัท หรือ องค์กรระหว่างประเทศ จะเป็นผู้มีบทบาทใหญ่ขึ้น ในการกำหนดทิศทางการเมืองของโลกนี้
    แล้วในปี ค.ศ.1972 David Rockefeller และนาย Brzezinski ก็เสนอความคิดนี้ในที่ประชุมประจำปีของ Bilderberg หลังจากนั้นผู้ทรงอิทธิพลรุ่นใหญ่เกือบ 20 คน ก็พากันยกโขยงมาพบนาย David ที่บ้าน แล้วก็บอกว่า พร้อมแล้วครับท่าน พวกเราเห็นพ้องกันตามที่ท่านกล่อม (สั่ง !) ค.ศ.1973 Trilateral Commission ซึ่งถือเสมือนเป็นน้องน้อยของ Bilderberg ก็คลอด เป็นการเชื่อมผู้ครองโลกใน 3 ทวีป เข้าด้วยกัน ยุโรปตะวันตก อเมริกา และญี่ปุ่น
    ขอแจ้งข้อมูลปัจจุบันหน่อยครับ ผมเคยเขียนเกี่ยวกับ Trilateral Commission นี้ เมื่อตอนเขียนนิทานเรื่องมายากลยุทธและผมได้แพลมออกไปว่า มีสมาชิกของ Trilateral Commission เป็นคนไทยด้วย ผมนำชื่อมาลงทั้งหมด ปรากฎว่าหลังจากลงไปได้ไม่เท่าไหร่ เพจผม (บังเอิญ ? !)ออกอาการเหมือนถูกกวนจนเละ หน้าจอเดี๋ยวดับบ้าง เปิดไม่ได้บ้าง ข้อความที่ลงก็หายเป็น ตอนๆ โดยเฉพาะตอนที่มีรายชื่อสมาชิกคนไทยที่โด่งดัง หายแล้วหายอีก ต้องลงซ้ำลงซาก คราวนี้ต้องเขียนถึงกลุ่มนี้อีก เพื่อให้ต่อเนื่องกัน ก็เลยแวะไปเช็คข้อมูล ซึ่งก็มีท่านผู้อ่านรายหนึ่ง inbox มาบอกล่วงหน้าแล้ว (ขอบคุณนะครับ) ผลการเช็คข้อมูลล่าสุดนี้ ปรากฎว่ากรรมการชุดเก่าเปลี่ยนตัวไปกันเกือบหมด ! เขาตั้งคนอื่นมาแทน เลยขอลงรายชื่อ ทั้งเก่าทั้งใหม่ให้ชื่นชมกัน ว่าคนไทยเราก็ติดอันดับโลก แบบนี้เหมือนกัน (แหม ! ไม่กล้าอ้างความดีความชอบว่า เป็นผู้แฉจนต้องมีการเปลี่ยนตัว เดี๋ยวมีคนเชื่อ ฮา !)
    – รายชื่อเมื่อปี ค.ศ.2011
นายอานันท์ ปันยารชุน
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี
มรว. เกษมสโมสร เกษมศรี
นายสารสิน วีรผล
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ
    – รายชื่อใน ค.ศ.2013 (น่าจะออกมาปลายปี ค.ศ.2013 หลังจากที่เขียนนิทานมายากลยุทธ หน่อยหนึ่งครับ)
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ (อดีตเลขาธิการอาเซียน ปริญญาโท ปริญญาเอก มหาวิทยาลัย Harvard)
นางธาริษา วัฒนเกศ (อดีตผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศ ปริญญาตรี, โท ทางเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย เคโอะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น)
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ (ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ปริญญาโทและเอก วิทยาการคอมพิวเตอร์ จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว )
นายกานต์ ตระกุลฮุน (กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ ไทย ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ (จุฬา) ปริญญาโท บริหารธุรกิจ The Georgia Institute of Technology (อเมริกา) )
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 8 – นักวิ่ง นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 8 : นักวิ่ง มีกลุ่มนักคิด แล้วจะให้ดีก็ต้องมีกลุ่มคนพูด คนดำเนินการ คนวิ่งเต้นเหมือนเป็น lobbyist แต่เป็น lobbyist ระดับ cream หน้าขนมเค้ก แต่คราวนี้ไม่ใช่เค้กธรรมดาเป็นขนมเค้กประดับมงกุฎเสียด้วย ปี ค.ศ.1954 พวกคนในสังคมระดับสูง ถึงสูงมากๆ ในยุโรป อังกฤษ และอเมริกา จึงรวมตัวกันจัดตั้ง the Bilderberg Group ขึ้นที่ประเทศ Netherlands หลังจากน้ันทุกปี กลุ่มนี้จะจัดประชุมลับ มีคนเข้าร่วมประมาณ 100 กว่าคน จากบุคคลชั้นสูงในวงการเมือง ธุรกิจการเงินการธนาคาร การทหาร บรรษัทข้ามชาติใหญ่ นักวิชาการ สื่อจากอเมริกา (เหนือ) และยุโรปตะวันตก เป็นเครือข่ายของผู้ทรงอิทธิพลรวมถึงพระราชวงศ์ในยุโรปซึ่งสามารถจะคุยกันได้อย่างเปิดอก และไม่ต้องเกรงว่าจะมีการรั่วไหลของการคุย ขาประจำจะเป็นพวกหัวหน้าผู้บริหาร หรือประธานของบรรดาบรรษัทข้ามชาติ ใหญ่ๆ ในโลก บริษัทน้ำมันเช่น Royal Dutch, British Petroleum, Total SA รวมทั้งพระราชวงศ์ในยุโรป นายธนาคารระดับนานาชาติ เช่น (แน่นอน) นาย David Rockefeller ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และพวกธนาคารกลางของโลก Bilderberg เป็นถังความคิด แบบเปิดฝาแต่ปิดตัว ตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเป็นห่วงคล้อง (ชักใย) รัฐบาลกับเศรษฐกิจของยุโรปกับอเมริกา ในระหว่างสงครามเย็นให้ไปในทิศทางเดียวกัน ปี ค.ศ.1970 David Rockefeller เป็นประธานของ CFR และเป็นประธานกรรมการและประธานผู้บริหารของ Chase Manhattan Bank ไปเชิญนักวิชาการเข้ามาร่วมอยู่ ใน CFR (ใช่แล้วครับ เจ้าเก่า) นาย Zbigniew Brzezinski ซึ่งเขียนหนังสือ Between Two ages : Americans Role in the Tecnetronic Era บอกว่าปัจจุบันนี้ ความสนิทสนมกลมเกลียว ความร่วมมือระหว่างรัฐประเทศมันน้อยลง แทนที่จะหันหน้าเข้ามาหากัน ดันตะแคงข้างหรือหันหลังใส่กัน ขณะเดียวกันความร่วมมือระหว่างบรรษัทข้ามชาติด้วยกันมีมากขึ้น เงินมันมีแรงดึงดูดสูงกว่า ดังนั้นจึงควรมีการรวมตัวกันระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว คือ ประเทศในยุโรปตะวันตก อเมริกา และญี่ปุ่น เพราะต่อจากนี้ไป ธนาคารและบรรษัทข้ามชาติทุนใหญ่ เช่น ธนาคาร บริษัท หรือ องค์กรระหว่างประเทศ จะเป็นผู้มีบทบาทใหญ่ขึ้น ในการกำหนดทิศทางการเมืองของโลกนี้ แล้วในปี ค.ศ.1972 David Rockefeller และนาย Brzezinski ก็เสนอความคิดนี้ในที่ประชุมประจำปีของ Bilderberg หลังจากนั้นผู้ทรงอิทธิพลรุ่นใหญ่เกือบ 20 คน ก็พากันยกโขยงมาพบนาย David ที่บ้าน แล้วก็บอกว่า พร้อมแล้วครับท่าน พวกเราเห็นพ้องกันตามที่ท่านกล่อม (สั่ง !) ค.ศ.1973 Trilateral Commission ซึ่งถือเสมือนเป็นน้องน้อยของ Bilderberg ก็คลอด เป็นการเชื่อมผู้ครองโลกใน 3 ทวีป เข้าด้วยกัน ยุโรปตะวันตก อเมริกา และญี่ปุ่น ขอแจ้งข้อมูลปัจจุบันหน่อยครับ ผมเคยเขียนเกี่ยวกับ Trilateral Commission นี้ เมื่อตอนเขียนนิทานเรื่องมายากลยุทธและผมได้แพลมออกไปว่า มีสมาชิกของ Trilateral Commission เป็นคนไทยด้วย ผมนำชื่อมาลงทั้งหมด ปรากฎว่าหลังจากลงไปได้ไม่เท่าไหร่ เพจผม (บังเอิญ ? !)ออกอาการเหมือนถูกกวนจนเละ หน้าจอเดี๋ยวดับบ้าง เปิดไม่ได้บ้าง ข้อความที่ลงก็หายเป็น ตอนๆ โดยเฉพาะตอนที่มีรายชื่อสมาชิกคนไทยที่โด่งดัง หายแล้วหายอีก ต้องลงซ้ำลงซาก คราวนี้ต้องเขียนถึงกลุ่มนี้อีก เพื่อให้ต่อเนื่องกัน ก็เลยแวะไปเช็คข้อมูล ซึ่งก็มีท่านผู้อ่านรายหนึ่ง inbox มาบอกล่วงหน้าแล้ว (ขอบคุณนะครับ) ผลการเช็คข้อมูลล่าสุดนี้ ปรากฎว่ากรรมการชุดเก่าเปลี่ยนตัวไปกันเกือบหมด ! เขาตั้งคนอื่นมาแทน เลยขอลงรายชื่อ ทั้งเก่าทั้งใหม่ให้ชื่นชมกัน ว่าคนไทยเราก็ติดอันดับโลก แบบนี้เหมือนกัน (แหม ! ไม่กล้าอ้างความดีความชอบว่า เป็นผู้แฉจนต้องมีการเปลี่ยนตัว เดี๋ยวมีคนเชื่อ ฮา !) – รายชื่อเมื่อปี ค.ศ.2011
นายอานันท์ ปันยารชุน
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี
มรว. เกษมสโมสร เกษมศรี
นายสารสิน วีรผล
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ – รายชื่อใน ค.ศ.2013 (น่าจะออกมาปลายปี ค.ศ.2013 หลังจากที่เขียนนิทานมายากลยุทธ หน่อยหนึ่งครับ)
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ (อดีตเลขาธิการอาเซียน ปริญญาโท ปริญญาเอก มหาวิทยาลัย Harvard)
นางธาริษา วัฒนเกศ (อดีตผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศ ปริญญาตรี, โท ทางเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย เคโอะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น)
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ (ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ปริญญาโทและเอก วิทยาการคอมพิวเตอร์ จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว )
นายกานต์ ตระกุลฮุน (กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ ไทย ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ (จุฬา) ปริญญาโท บริหารธุรกิจ The Georgia Institute of Technology (อเมริกา) ) คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหกคอก ตอนที่ 4 – ทองห่อผ้าขี้ริ้ว
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 4 : ทองห่อผ้าขี้ริ้ว
    อำนาจคือทุน ทุนคืออำนาจ คาถาง่ายๆ สั้นๆ ท่องให้ฟังอยู่ในนิทานเกือบทุกเรื่อง โลกใบนี้ไม่ได้ซับซ้อนเกินเข้าใจ ความซับซ้อนถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อสับสนมึนงง แล้วจะได้ถูกล่าง่ายขึ้นต่างหาก
    การจะสร้างนักล่าหมายเลขหนึ่งขึ้นมาครองโลก แบบไม่มีใครกล้ามาท้าทาย ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ มันออกจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเพ้อฝันเสียด้วยซ้ำ แต่มันมีคนคิดจริง ขบวนการสร้างนักล่า ใช้เวลาทั้งหมดกว่า 100 ปี เริ่มตั้งแต่ประมาณ ปี ค.ศ.1890 คนคิดสร้างไม่ได้คิดเล่นๆ เขาคิดจริง ทำจริง อดทน วางแผน เป็นขั้นเป็นตอน และที่สำคัญคนคิดนอกจากมีทุนหนามหึมาแล้ว มันต้องมีความบ้าเต็มขั้น มีความอยากทะเยอทะยานเต็มร้อย บวกกับความเหี้ยมโหด อีกไม่รู้กี่พันเท่า มันถึงจะทำได้
    มันเป็นความคิดของพวกนายทุนที่เป็นเจ้าของ และมีอำนาจเหนือธนาคารกลาง และตลาดหุ้น ตลาดทุนที่ Wall Street และ London ไม่กี่ตระกูล ที่หวังจะจัดระเบียบโลกใหม่อย่างที่เขาต้องการ เป็นโลกที่ควบคุมด้วยเงิน ด้วยระบบการเงินที่พวกเขาวางแผนคิดสร้างมานั้น จะทำให้พวกเขาเป็นผู้ควบคุมชักใย รัฐบาล กองทัพ และประชาชนอีกต่อหนึ่งไม่ว่าเป็นชนชาติใด โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการครองโลก และจัดระเบียบโลกใหม่
    มันไม่ง่ายนักหรอก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา พวกเขาคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างระบบที่ให้เราเป็นผู้ สร้าง เงินได้ การควบคุมปริมาณและกระแสเงินของโลกนี้ ก็อยู่ในมือพวกเรา ระบบนี้จะทำงานไม่ต่างกับการควบคุมด้วยอาวุธ แต่มันเป็นอาวุธทางการเงิน
    New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ Globalization โลกาภิวัฒน์เป็นหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ประมาณ 500 ปี มาแล้ว (นานแล้วครับ แต่ใช้เวลานานมาก กว่าสมันน้อยจะรู้เรื่อง) เรื่องราวมันย้อนไปตั้งแต่สมัยอเมริกายังถูกนับเป็นอาณานิคม อยู่ในอำนาจของอังกฤษ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1600 กว่าประมาณนั้น อิทธิพลของอังกฤษครอบงำอเมริกาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้อเมริกาจะทำสงครามกลางเมืองเหนือใต้เมื่อ ค.ศ.1861 – 1865 โดยฝ่ายเหนือมีอังกฤษสนับสนุน ฝ่ายใต้มีฝรั่งเศสสนับสนุน และอ้างว่าอังกฤษไม่สามารถจะกระทืบอเมริกาซ้ำได้ ต้องถอยกองทัพกลับไปก็ตาม แต่คราบของอังกฤษก็ยังคงครอบอเมริกาอยู่อย่างที่อเมริกาไม่รู้ตัวหรือแกล้งไม่รู้ตัว
    อิทธิพลของอังกฤษ ระบบของอังกฤษในด้านการค้าครอบงำอเมริกามาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1700 แล้ว ก็พวกที่อพยพมาอยู่อเมริกาส่วนหนึ่ง (ไม่น้อย) ก็มาจากอังกฤษนั่นแหละ นอกจากพูดภาษาเดียวกันแล้ว อิทธิพลและวัฒนธรรม ผู้อพยพก็เก็บใส่กระเป๋าเอาติดมาด้วย
    ประมาณปี ค.ศ.1890 หลังอเมริกาปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นมาหลายตระกูล ในอเมริกา เช่น Rockefeller, J.P Morgan, Astors, Vanderbits, Carnegies ฯลฯ
    อเมริกาจะเป็นคนรวยแบบไหนล่ะ แบบอินเดียนแดงเจ้าของถิ่นที่อเมริกาไล่ล่าเขา แล้วยึดเอาดินแดนเขามาหรือ ถ้างั้นก็ต้องเดินห้อยลูกปัด เอาขนนกติดหัว แน่นอนอเมริกาไม่เอาหรอกอเมริกาต้องเลือกเป็นคนรวยแบบที่ผู้ดีอังกฤษเขาเป็นกัน แบบที่อเมริกาแอบนับถือปนเกรงกลัวและอิจฉา เพราะรู้สึกด้อยกว่าเขา จึงต้องอพยพมาก่อร่างสร้างตัวในดินแดนใหม่นั่นแหละ ระบบอังกฤษจึงยังครอบงำอเมริกาในหลายๆ รูปแบบ ไม่มากก็น้อย จนถึงทุกวันนี้
    เมื่อคนอเมริกันเริ่มรวย รวยพอที่จะเดินเชิดหน้าในสังคมโลก ก็เริ่มทำการค้าแบบคนอังกฤษ ในระบบอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการเงิน และการอุตสาหกรรม ประมาณปี ค.ศ.1890 การร่วมมือ รวมลงทุนระหว่างคนรวยฝั่งอเมริกากับฝั่งอังกฤษก็เริ่มเพิ่มขึ้น Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น แนวคิดที่จะครองโลกร่วมกัน จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
    อังกฤษรู้อยู่แก่ใจว่า วันหนึ่งดวงอาทิตย์ต้องตกดินในดินแดนที่ เคย เป็นอาณานิคมของตัว จะอุ้มจะแบกอาณานิคมไปตลอดกาล เป็นไปไม่ได้ อังกฤษเองไม่มีทรัพยากรของตัวเอง เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ที่แผ่ไพศาลมาได้ขนาดนี้ ก็ต้องชื่นชมในความตะกรามทยานอยากได้อย่างสุดขีด แล้วจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ หลุดมือไปหมดกระนั้นหรือ อังกฤษเป็นนักล่ารุ่นเก๋า ย่อมมองเห็น ใครจะขึ้นมาเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ดูท่วงทีลีลาของนักล่ารุ่นใหม่แล้ว แยกกันเดินคงเหนื่อย ร่วมกันเดินหลอกชาวบ้านน่าจะรุ่งกว่า ว่าแล้วคนรวย 2 ฝากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกก็จับมือกัน แท้จริงแล้วใครนำใคร ใครหลอกใคร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูไปอีกนาน น่าสนใจอย่างยิ่งจนถึงทุกวันนี้ ย้ำ จนถึงทุกวันนี้ !
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 4 – ทองห่อผ้าขี้ริ้ว นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 4 : ทองห่อผ้าขี้ริ้ว อำนาจคือทุน ทุนคืออำนาจ คาถาง่ายๆ สั้นๆ ท่องให้ฟังอยู่ในนิทานเกือบทุกเรื่อง โลกใบนี้ไม่ได้ซับซ้อนเกินเข้าใจ ความซับซ้อนถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อสับสนมึนงง แล้วจะได้ถูกล่าง่ายขึ้นต่างหาก การจะสร้างนักล่าหมายเลขหนึ่งขึ้นมาครองโลก แบบไม่มีใครกล้ามาท้าทาย ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ มันออกจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเพ้อฝันเสียด้วยซ้ำ แต่มันมีคนคิดจริง ขบวนการสร้างนักล่า ใช้เวลาทั้งหมดกว่า 100 ปี เริ่มตั้งแต่ประมาณ ปี ค.ศ.1890 คนคิดสร้างไม่ได้คิดเล่นๆ เขาคิดจริง ทำจริง อดทน วางแผน เป็นขั้นเป็นตอน และที่สำคัญคนคิดนอกจากมีทุนหนามหึมาแล้ว มันต้องมีความบ้าเต็มขั้น มีความอยากทะเยอทะยานเต็มร้อย บวกกับความเหี้ยมโหด อีกไม่รู้กี่พันเท่า มันถึงจะทำได้ มันเป็นความคิดของพวกนายทุนที่เป็นเจ้าของ และมีอำนาจเหนือธนาคารกลาง และตลาดหุ้น ตลาดทุนที่ Wall Street และ London ไม่กี่ตระกูล ที่หวังจะจัดระเบียบโลกใหม่อย่างที่เขาต้องการ เป็นโลกที่ควบคุมด้วยเงิน ด้วยระบบการเงินที่พวกเขาวางแผนคิดสร้างมานั้น จะทำให้พวกเขาเป็นผู้ควบคุมชักใย รัฐบาล กองทัพ และประชาชนอีกต่อหนึ่งไม่ว่าเป็นชนชาติใด โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการครองโลก และจัดระเบียบโลกใหม่ มันไม่ง่ายนักหรอก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา พวกเขาคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างระบบที่ให้เราเป็นผู้ สร้าง เงินได้ การควบคุมปริมาณและกระแสเงินของโลกนี้ ก็อยู่ในมือพวกเรา ระบบนี้จะทำงานไม่ต่างกับการควบคุมด้วยอาวุธ แต่มันเป็นอาวุธทางการเงิน New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ Globalization โลกาภิวัฒน์เป็นหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ประมาณ 500 ปี มาแล้ว (นานแล้วครับ แต่ใช้เวลานานมาก กว่าสมันน้อยจะรู้เรื่อง) เรื่องราวมันย้อนไปตั้งแต่สมัยอเมริกายังถูกนับเป็นอาณานิคม อยู่ในอำนาจของอังกฤษ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1600 กว่าประมาณนั้น อิทธิพลของอังกฤษครอบงำอเมริกาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้อเมริกาจะทำสงครามกลางเมืองเหนือใต้เมื่อ ค.ศ.1861 – 1865 โดยฝ่ายเหนือมีอังกฤษสนับสนุน ฝ่ายใต้มีฝรั่งเศสสนับสนุน และอ้างว่าอังกฤษไม่สามารถจะกระทืบอเมริกาซ้ำได้ ต้องถอยกองทัพกลับไปก็ตาม แต่คราบของอังกฤษก็ยังคงครอบอเมริกาอยู่อย่างที่อเมริกาไม่รู้ตัวหรือแกล้งไม่รู้ตัว อิทธิพลของอังกฤษ ระบบของอังกฤษในด้านการค้าครอบงำอเมริกามาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1700 แล้ว ก็พวกที่อพยพมาอยู่อเมริกาส่วนหนึ่ง (ไม่น้อย) ก็มาจากอังกฤษนั่นแหละ นอกจากพูดภาษาเดียวกันแล้ว อิทธิพลและวัฒนธรรม ผู้อพยพก็เก็บใส่กระเป๋าเอาติดมาด้วย ประมาณปี ค.ศ.1890 หลังอเมริกาปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นมาหลายตระกูล ในอเมริกา เช่น Rockefeller, J.P Morgan, Astors, Vanderbits, Carnegies ฯลฯ อเมริกาจะเป็นคนรวยแบบไหนล่ะ แบบอินเดียนแดงเจ้าของถิ่นที่อเมริกาไล่ล่าเขา แล้วยึดเอาดินแดนเขามาหรือ ถ้างั้นก็ต้องเดินห้อยลูกปัด เอาขนนกติดหัว แน่นอนอเมริกาไม่เอาหรอกอเมริกาต้องเลือกเป็นคนรวยแบบที่ผู้ดีอังกฤษเขาเป็นกัน แบบที่อเมริกาแอบนับถือปนเกรงกลัวและอิจฉา เพราะรู้สึกด้อยกว่าเขา จึงต้องอพยพมาก่อร่างสร้างตัวในดินแดนใหม่นั่นแหละ ระบบอังกฤษจึงยังครอบงำอเมริกาในหลายๆ รูปแบบ ไม่มากก็น้อย จนถึงทุกวันนี้ เมื่อคนอเมริกันเริ่มรวย รวยพอที่จะเดินเชิดหน้าในสังคมโลก ก็เริ่มทำการค้าแบบคนอังกฤษ ในระบบอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการเงิน และการอุตสาหกรรม ประมาณปี ค.ศ.1890 การร่วมมือ รวมลงทุนระหว่างคนรวยฝั่งอเมริกากับฝั่งอังกฤษก็เริ่มเพิ่มขึ้น Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น แนวคิดที่จะครองโลกร่วมกัน จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น อังกฤษรู้อยู่แก่ใจว่า วันหนึ่งดวงอาทิตย์ต้องตกดินในดินแดนที่ เคย เป็นอาณานิคมของตัว จะอุ้มจะแบกอาณานิคมไปตลอดกาล เป็นไปไม่ได้ อังกฤษเองไม่มีทรัพยากรของตัวเอง เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ที่แผ่ไพศาลมาได้ขนาดนี้ ก็ต้องชื่นชมในความตะกรามทยานอยากได้อย่างสุดขีด แล้วจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ หลุดมือไปหมดกระนั้นหรือ อังกฤษเป็นนักล่ารุ่นเก๋า ย่อมมองเห็น ใครจะขึ้นมาเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ดูท่วงทีลีลาของนักล่ารุ่นใหม่แล้ว แยกกันเดินคงเหนื่อย ร่วมกันเดินหลอกชาวบ้านน่าจะรุ่งกว่า ว่าแล้วคนรวย 2 ฝากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกก็จับมือกัน แท้จริงแล้วใครนำใคร ใครหลอกใคร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูไปอีกนาน น่าสนใจอย่างยิ่งจนถึงทุกวันนี้ ย้ำ จนถึงทุกวันนี้ ! คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Windows 11 25H2 มาแล้ว — อัปเดตแบบ ‘เปิดสวิตช์’ พร้อม ISO สำหรับนักทดสอบ แต่ยังไม่มีอะไรใหม่ให้ตื่นเต้น”

    Microsoft ปล่อยไฟล์ ISO สำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 แล้วในวันที่ 10 กันยายน 2025 หลังจากมีความล่าช้าเล็กน้อย โดยเปิดให้ดาวน์โหลดผ่านหน้า Windows Insider สำหรับผู้ที่ต้องการติดตั้งแบบ clean install หรืออัปเกรดด้วยตนเองก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Windows 11 25H2 ไม่ใช่การอัปเดตแบบเปลี่ยนระบบทั้งหมด แต่เป็น “enablement package” หรือการเปิดใช้งานฟีเจอร์ที่ถูกฝังไว้แล้วในเวอร์ชัน 24H2 โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด ทำให้การอัปเดตเร็วขึ้น ใช้พื้นที่น้อยลง และไม่กระทบกับระบบหลัก

    แม้จะไม่มีฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น แต่มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เช่น การลบเครื่องมือเก่าอย่าง PowerShell 2.0 และ WMIC ออกจากระบบ รวมถึงการเปิดให้ผู้ดูแลระบบในองค์กรสามารถถอนการติดตั้งแอปจาก Microsoft Store ได้มากขึ้น เพื่อให้การจัดการเครื่องในองค์กรง่ายขึ้น

    สำหรับผู้ใช้ทั่วไป การอัปเดตนี้อาจไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะไม่มีการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพจากเวอร์ชัน 24H2 และยังไม่มีฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา ยกเว้นในเครื่องที่รองรับ Copilot+ ซึ่งต้องใช้ NPU ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 40 TOPS

    รายละเอียดของ Windows 11 25H2
    ปล่อย ISO สำหรับนักทดสอบเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025
    ใช้รูปแบบ “enablement package” — เปิดฟีเจอร์ที่ฝังไว้ใน 24H2
    อัปเดตเร็วขึ้น ไม่ต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด และใช้พื้นที่น้อย
    Build 26200.5074 อยู่ใน Release Preview Channel

    การเปลี่ยนแปลงในระบบ
    ลบเครื่องมือเก่า เช่น PowerShell 2.0 และ WMIC
    ผู้ดูแลระบบสามารถถอนการติดตั้งแอปจาก Microsoft Store ได้มากขึ้น
    ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านประสิทธิภาพจากเวอร์ชัน 24H2
    รองรับการอัปเดตแบบ in-place หรือ clean install ผ่าน ISO

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ฟีเจอร์ใหม่ถูกฝังไว้ใน 24H2 แล้ว — 25H2 แค่เปิดใช้งาน
    การอัปเดตแบบนี้เคยใช้ใน Windows 10 ระหว่าง 1903 กับ 1909
    เครื่องที่ใช้ Copilot+ จะได้ฟีเจอร์ AI เพิ่มเติม แต่ต้องมี NPU 40+ TOPS
    การอัปเดตนี้จะรีเซ็ตรอบการสนับสนุนใหม่ — 24 เดือนสำหรับทั่วไป, 36 เดือนสำหรับองค์กร

    https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-11-25h2-isos-released
    🖥️ “Windows 11 25H2 มาแล้ว — อัปเดตแบบ ‘เปิดสวิตช์’ พร้อม ISO สำหรับนักทดสอบ แต่ยังไม่มีอะไรใหม่ให้ตื่นเต้น” Microsoft ปล่อยไฟล์ ISO สำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 แล้วในวันที่ 10 กันยายน 2025 หลังจากมีความล่าช้าเล็กน้อย โดยเปิดให้ดาวน์โหลดผ่านหน้า Windows Insider สำหรับผู้ที่ต้องการติดตั้งแบบ clean install หรืออัปเกรดด้วยตนเองก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ Windows 11 25H2 ไม่ใช่การอัปเดตแบบเปลี่ยนระบบทั้งหมด แต่เป็น “enablement package” หรือการเปิดใช้งานฟีเจอร์ที่ถูกฝังไว้แล้วในเวอร์ชัน 24H2 โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด ทำให้การอัปเดตเร็วขึ้น ใช้พื้นที่น้อยลง และไม่กระทบกับระบบหลัก แม้จะไม่มีฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น แต่มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เช่น การลบเครื่องมือเก่าอย่าง PowerShell 2.0 และ WMIC ออกจากระบบ รวมถึงการเปิดให้ผู้ดูแลระบบในองค์กรสามารถถอนการติดตั้งแอปจาก Microsoft Store ได้มากขึ้น เพื่อให้การจัดการเครื่องในองค์กรง่ายขึ้น สำหรับผู้ใช้ทั่วไป การอัปเดตนี้อาจไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะไม่มีการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพจากเวอร์ชัน 24H2 และยังไม่มีฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา ยกเว้นในเครื่องที่รองรับ Copilot+ ซึ่งต้องใช้ NPU ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 40 TOPS ✅ รายละเอียดของ Windows 11 25H2 ➡️ ปล่อย ISO สำหรับนักทดสอบเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 ➡️ ใช้รูปแบบ “enablement package” — เปิดฟีเจอร์ที่ฝังไว้ใน 24H2 ➡️ อัปเดตเร็วขึ้น ไม่ต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด และใช้พื้นที่น้อย ➡️ Build 26200.5074 อยู่ใน Release Preview Channel ✅ การเปลี่ยนแปลงในระบบ ➡️ ลบเครื่องมือเก่า เช่น PowerShell 2.0 และ WMIC ➡️ ผู้ดูแลระบบสามารถถอนการติดตั้งแอปจาก Microsoft Store ได้มากขึ้น ➡️ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านประสิทธิภาพจากเวอร์ชัน 24H2 ➡️ รองรับการอัปเดตแบบ in-place หรือ clean install ผ่าน ISO ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ฟีเจอร์ใหม่ถูกฝังไว้ใน 24H2 แล้ว — 25H2 แค่เปิดใช้งาน ➡️ การอัปเดตแบบนี้เคยใช้ใน Windows 10 ระหว่าง 1903 กับ 1909 ➡️ เครื่องที่ใช้ Copilot+ จะได้ฟีเจอร์ AI เพิ่มเติม แต่ต้องมี NPU 40+ TOPS ➡️ การอัปเดตนี้จะรีเซ็ตรอบการสนับสนุนใหม่ — 24 เดือนสำหรับทั่วไป, 36 เดือนสำหรับองค์กร https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-11-25h2-isos-released
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Windows 11 25H2 ISOs released after delays — upgrade switches on some features, now available for insiders
    Microsoft's fall update is now just a download away, but support won’t be available until general availability later this year.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,fc fc เกรงใจแม่บ้านท่านด้วย.

    https://youtube.com/shorts/fby94wNwmlw?si=MM4lFpg75tsujSR-
    555,fc fc เกรงใจแม่บ้านท่านด้วย. https://youtube.com/shorts/fby94wNwmlw?si=MM4lFpg75tsujSR-
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • การต่อสู้ที่น่ารักมาก,สถานศึกษาเรามีปัญหาด้านการส่งต่อองค์รอบรู้แก่รุ่นลูกรุ่นหลานเรามาก,ตลอดทั้งฝรั่งแทรกแซงการศึกษาเราก็ด้วยหรือต่างชาติที่ไม่หวังดีต่างๆนั้นล่ะ,แทรกแซงสถานการเรียนการสอนของเราให้เยาวชนไทยเราด้อยคุณค่าการเล่าเรียน,ต้นทุนการเล่าเรียนปั่นให้สูงขึ้น,ราคาต้องจ่ายมากขึันต่อความอยากเล่าเรียน,สร้างโปรแกรมผีบ้ามากมายหลอกค่าเรียนค่าเทอมผู้ปกครอง,อยากเรียนต้องเป็นหนี้แบบกยศ. แต่ให้เรียนฟรีแก่เด็กเขมร เด็กพม่า เด็กอิสลาม เด็กยิวหรือเด็กต่างชาติสาระพัดวิธี,ซึ่งภาระที่แท้จริงคือรัฐบาลต้องส่งเสริมเยาวชนไทยตนเองเรียนรู้สาระพัดวิชาให้ทันโลกทันชาติอื่นเพื่อกลับมาเป็นพลังสำคัญขับเคลื่อนประเทศไทยตนปกป้องร่วมสร้างชาติไทยตนให้เข้มแข็งมั่นคงต่ออริชาติชั่วเลวต่างๆที่หมายมาไม่ดีต่อชาติไทยเรา,เช่นเขมร อเมริกา ฝรั่งเศสซึ่งพวกมันพยายามอย่างมากมิให้คนไทยเล่าเรียนประวัติศาสตร์ตนเองแบบฝรั่งเศสมาปล้นชิงดินแดนไทยกี่ครั้งที่ไหนอย่างไรบ้าง,อเมริกาปล้นประเทศปล้นบ่อน้ำมันไทยทั้งประเทศแบบใดจนคนทัังชาติต้องยากจนมั่นคงดักดานขนาดนี้,วิชาตังวิชาเศรษฐกิจทำตัง วิชารู้เล่ห์เหลี่ยมทางอาชีพทำตังต่างๆจะกิจการ บริษัทแบบใดๆต่างๆสร้างอาชีพจริงๆสถานศึกษาแบบระดับมัธยมต้องเริ่มสอนนักเรียนเยาวชนเราจริงจังแล้ว,หรือวิชาทำเงินทำทองจริงๆในสังคมประเทศตนเมื่อจบการศึกษาไปต้องเจอทุกๆคนแน่นอน เยาวชนต้องมีภูมิรู้ภูมิเข้าใจพื้นฐานเบื้องต้นทั้งระดับภายในประเทศและระดับตลาดค้าขายเศรษฐกิจระดับต่างประเทศ,
    ..โครงสร้างการศึกษาเราต้องเปลี่ยนทั้งหมดจริงๆสู่ยุคสมัยใหม่AIที่มาแน่นอน,แต่เรา..ประเทศไทยยังแบ่งชนชั้นกันอยู่ด้านการศึกษาชัดเจน,มาตราฐานเดียวกันต้องมีจริงๆ,รัฐต้องเข้ามากำกับดูแลทั่วประเทศ โปรแกรมค่าเทอมเป็น10,000เป็น100,000ต้องยกเลิกทั่วประเทศทันที สร้างภาระผู้ปกครองตลอดม.ต้น ม.ปลาย.หรือประถมกันเลย,นักเรียนไม่มีตังเป็นหมื่นๆก็เข้าเรียนห้องพิเศษนั้นไม่ได้,ม.ต้นก็จ่ายค่าเทอม ม.ปลายก็จ่ายค่าเทอม,ม.มหาลัย วิลัย ก็จ่ายค่าเทอม,โครงสร้างการศึกษาเราไม่เคยเปลี่ยนแปลงจริงๆไม่นอมลงทุนด้านการศึกษาจริงต่อเยาวชนไทย นัยยะแฝงมุ่งให้เยาวชนตนเป็นทาสแรงงานกิจการเอกชนบริษัทหรือรัฐฐะ,องค์ความรู้จึงพยายามไม่ผลักดันเต็มที่ใครอยากเรียนสูงต้องเป็นนี้ คือนัยยะการสร้างกำแพงดีๆนี้เอง,แบบกีดกันทางภาษีนั้นล่ะ,ชัดเจนหน่อยก็กีดกันตำแหน่งการงานแบบกำแพงสอบ กพ.นั้นล่ะ,เสมือนกลุ่มโซนชนชั้นใครมัน เด็กจบมอใครมันแบบเดียวกัน,รุ่นมรึงรุ่นกูแบบเดียวกัน,สีกูสีมรึงแบบเดียวกัน,จึงอันตรายมาก.
    ..โครงสร้างการศึกษาเปลี่ยนแปลงสู่ยุคAIไม่พอ,เด็กๆเยาวชนเราต้องมีสัมมาอาชีพมั่นคงดูแลตัวเองและครอบครัวได้ด้วย มีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ยืนด้วยขาตนเองได้จริงในทุกๆเยาวชนไทยที่จบการเล่าเรียนออกไป มิใช่ทิ้งขวางเขาเธอเหล่านั้นในสังคมที่ดิ้นรนหาแดกใช้จ่ายจริงด้วยตังจากรายรับที่เข้ามาจริง จ่ายออกไปจริงในแต่ละวัน สถานศึกษาพยายามบิดงอบิดเบือนหักเหค่าจริงตรงจุดๆนี้ทั่วไทย,เพื่อสะท้อนว่าเด็กๆมิอาจมีภาระสำนึกคิดด้านนี้เมื่อเล่าเรียน ให้มุ่งแสวงหาความรู้ ,แต่ค่าจริงมิเป็นเช่นนั้น ค่าจริงคือมหาลัยผลิตคนตกงานเป็นจำนวนมากนั้นเอง,มหาลัย โรงเรียนตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม ต่างมีห้องพิเศษเป็นว่าเล่น หรือนัยยะแบบมหาลัยคือมุ่งทำตังทำรายได้แล้วนั้นเอง นักศึกษาคือลูกค้าของมหาลัยวิลัยของโรงเรียน,ได้ทั้งจากรัฐช่วยเหลือค่าหัวเด็กๆและเก็บสาระพัดมุกเอาแต่มีเรี่ยไรสไตล์ใดโปรแกรมพิเศษไหนเกิดขึ้นเพื่อแสวงหารายรับรายได้เข้าสถาบัน ส่วนมรึงๆจบไปแล้วจะได้งานจะตกงานเป็นเรื่องของมรึงก็ว่า,เอกชนไทยนำเข้าเครื่องจักรเอย แรงงานต่างด้าวเอยจำนวนมากเข้ามาตลอดถึงปัจจุบัน,ด้อยค่าคนเยาวชนในชาติตนแต่เสือกมาตั้งโรงงาน เปิดบริษัท ย้ายฐานผลิตมาสร้างบนแผ่นดินไทยแต่รับต่างด้าวเข้าทำงานแทนคนไทยเป็นอันมาก สารพัดข้ออ้างกดคนไทยตน อ้างด้อยค่าคุณภาพคนไทยตน,บางกิจการนำเข้าคนของตนแบบจีนมาทำงานที่โรงงานไทยของทุนจีนกันเต็มโรงงานเลย, สถานศึกษาต้องประมาณการกำลังคนแรงงานกับกรมแรงงานให้ได้ ออกหลักสูตรอาชีพที่สามารถใกล้เคียงการเติบโตของเนื้องาน,บริหารคนงาน เด็กจบใหม่คนไทยตนก่อนเอาต่างด้าวมาทำ กระตุ้นองค์รู้ทั่วไทยทำไมเราต้องส่งเสริมเยาวชนไทยเราก่อนกับกิจการในบนแผ่นดินไทย,ทั้งของคนไทยเราเองและต่างชาติมาลงทุน,กำลังคนกรมแรงงานต้องประสานชัดเจนออนไลน์ได้,รวมๆต้องพลิกบทบาทบริหารจัดการครั้งใหญ่จริงๆจะมาเหี้ยแบบเดิมๆไม่ได้อีกแล้ว,แล้วเราคนไทยจะรอดจากสงครามตังสงครามจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันเรื่องปากท้องได้,ไม่ดักดานยากจนอีกแน่นอน,โครงสร้างการปกครองจึงต้องร่วมเปลี่ยนแปลงด้วย,ผู้นำต้องไม่กากๆนั้นเอง.หรือยิ่งเป็นผู้เหนือมนุษย์มากบารมียิ่งดี ยอมให้ขึ้นปกครองประเทศไทยร้อยปีพันปีก็ได้,หยั่งรู้อีกยิ่งเยี่ยม อ่านจิตอ่านใจคนออกยิ่งโหด,มรึงหนาวแน่ ใครคตใครโกงภายในสำนักนายกฯท่านๆเรียกไปคุยด้วยมีหนาว อาจประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตก็ได้ ยึดทรัพย์กันอนาถ,เชื่อมจิตได้ด้วย มรึงคุยกับใครทำชั่วที่ไหนดิวอะไรไว้,เชื่อมโยงถึงตัวพ่อหมด,คำสั่งลงไป สั่งเด็ดหัวทั้งหมด,ประเทศไทยคือผู้นำจิตวิญญาณแน่นอนไม่ต้องสงสัย,มิใช่สื่อบางช่องผีบ้ากากๆผู้นำจิตวิญญาณโทนี่ไปดูไบพะนะหรือแบบเสื้อแดงพะนะ ทางความคิดแบบส้มชูสามนิ้วก็โน้น,นี้ใช้นิยมผู้นำแห่งจิตวิญญาณที่ผิด,ที่ถูกคือสไตล์ทางโลกแบบนั้น สร้างมิตรไมตรีจึงไม่ใช่เรื่องยาก ตลอดผู้นำทางสงครามก็ไม่ยาก แว๊บเดียวหายตัวยืนอยู่หน้าศัตรูเด็ดหัวเลยก็ได้,ศัตรูไม่เกรงกลัวย่อมไม่ได้,ตานแน่นอนนั้นเองหากยังไม่พยายามเป็นคนดี,เพราะผู้นำทางจิตวิญญาณถอดจิตท่องจักรวาลทั่วทุกๆดวงดาวได้จริง,เชื่อมมิติที่สูงกว่าได้ แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีล้ำๆจึงมิใช่เรื่องยากอะไร,เรา..ประเทศไทยคนเหนือมนุษย์มีมากไม่น้อย,แต่ไม่ออกมา,จริงๆถึงเวลาอันสมควรแล้วจะที่ไทยหรือทั่วโลก ยอดมนุษย์เหล่านี้ควรแก่เวลาต้องเปิดเผยตัวตนจริงๆได้แล้วเพื่ออัพเลเวลโลกนี้ขึ้นอีกระดับจริงๆร่วมกันทั่วโลก,อย่าทำตัวผีบ้าหลบซ่อนตัวตนอีกเลย.



    https://youtube.com/shorts/mw78-XhjAQw?si=C9z2vO_AOjZJECMx
    การต่อสู้ที่น่ารักมาก,สถานศึกษาเรามีปัญหาด้านการส่งต่อองค์รอบรู้แก่รุ่นลูกรุ่นหลานเรามาก,ตลอดทั้งฝรั่งแทรกแซงการศึกษาเราก็ด้วยหรือต่างชาติที่ไม่หวังดีต่างๆนั้นล่ะ,แทรกแซงสถานการเรียนการสอนของเราให้เยาวชนไทยเราด้อยคุณค่าการเล่าเรียน,ต้นทุนการเล่าเรียนปั่นให้สูงขึ้น,ราคาต้องจ่ายมากขึันต่อความอยากเล่าเรียน,สร้างโปรแกรมผีบ้ามากมายหลอกค่าเรียนค่าเทอมผู้ปกครอง,อยากเรียนต้องเป็นหนี้แบบกยศ. แต่ให้เรียนฟรีแก่เด็กเขมร เด็กพม่า เด็กอิสลาม เด็กยิวหรือเด็กต่างชาติสาระพัดวิธี,ซึ่งภาระที่แท้จริงคือรัฐบาลต้องส่งเสริมเยาวชนไทยตนเองเรียนรู้สาระพัดวิชาให้ทันโลกทันชาติอื่นเพื่อกลับมาเป็นพลังสำคัญขับเคลื่อนประเทศไทยตนปกป้องร่วมสร้างชาติไทยตนให้เข้มแข็งมั่นคงต่ออริชาติชั่วเลวต่างๆที่หมายมาไม่ดีต่อชาติไทยเรา,เช่นเขมร อเมริกา ฝรั่งเศสซึ่งพวกมันพยายามอย่างมากมิให้คนไทยเล่าเรียนประวัติศาสตร์ตนเองแบบฝรั่งเศสมาปล้นชิงดินแดนไทยกี่ครั้งที่ไหนอย่างไรบ้าง,อเมริกาปล้นประเทศปล้นบ่อน้ำมันไทยทั้งประเทศแบบใดจนคนทัังชาติต้องยากจนมั่นคงดักดานขนาดนี้,วิชาตังวิชาเศรษฐกิจทำตัง วิชารู้เล่ห์เหลี่ยมทางอาชีพทำตังต่างๆจะกิจการ บริษัทแบบใดๆต่างๆสร้างอาชีพจริงๆสถานศึกษาแบบระดับมัธยมต้องเริ่มสอนนักเรียนเยาวชนเราจริงจังแล้ว,หรือวิชาทำเงินทำทองจริงๆในสังคมประเทศตนเมื่อจบการศึกษาไปต้องเจอทุกๆคนแน่นอน เยาวชนต้องมีภูมิรู้ภูมิเข้าใจพื้นฐานเบื้องต้นทั้งระดับภายในประเทศและระดับตลาดค้าขายเศรษฐกิจระดับต่างประเทศ, ..โครงสร้างการศึกษาเราต้องเปลี่ยนทั้งหมดจริงๆสู่ยุคสมัยใหม่AIที่มาแน่นอน,แต่เรา..ประเทศไทยยังแบ่งชนชั้นกันอยู่ด้านการศึกษาชัดเจน,มาตราฐานเดียวกันต้องมีจริงๆ,รัฐต้องเข้ามากำกับดูแลทั่วประเทศ โปรแกรมค่าเทอมเป็น10,000เป็น100,000ต้องยกเลิกทั่วประเทศทันที สร้างภาระผู้ปกครองตลอดม.ต้น ม.ปลาย.หรือประถมกันเลย,นักเรียนไม่มีตังเป็นหมื่นๆก็เข้าเรียนห้องพิเศษนั้นไม่ได้,ม.ต้นก็จ่ายค่าเทอม ม.ปลายก็จ่ายค่าเทอม,ม.มหาลัย วิลัย ก็จ่ายค่าเทอม,โครงสร้างการศึกษาเราไม่เคยเปลี่ยนแปลงจริงๆไม่นอมลงทุนด้านการศึกษาจริงต่อเยาวชนไทย นัยยะแฝงมุ่งให้เยาวชนตนเป็นทาสแรงงานกิจการเอกชนบริษัทหรือรัฐฐะ,องค์ความรู้จึงพยายามไม่ผลักดันเต็มที่ใครอยากเรียนสูงต้องเป็นนี้ คือนัยยะการสร้างกำแพงดีๆนี้เอง,แบบกีดกันทางภาษีนั้นล่ะ,ชัดเจนหน่อยก็กีดกันตำแหน่งการงานแบบกำแพงสอบ กพ.นั้นล่ะ,เสมือนกลุ่มโซนชนชั้นใครมัน เด็กจบมอใครมันแบบเดียวกัน,รุ่นมรึงรุ่นกูแบบเดียวกัน,สีกูสีมรึงแบบเดียวกัน,จึงอันตรายมาก. ..โครงสร้างการศึกษาเปลี่ยนแปลงสู่ยุคAIไม่พอ,เด็กๆเยาวชนเราต้องมีสัมมาอาชีพมั่นคงดูแลตัวเองและครอบครัวได้ด้วย มีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ยืนด้วยขาตนเองได้จริงในทุกๆเยาวชนไทยที่จบการเล่าเรียนออกไป มิใช่ทิ้งขวางเขาเธอเหล่านั้นในสังคมที่ดิ้นรนหาแดกใช้จ่ายจริงด้วยตังจากรายรับที่เข้ามาจริง จ่ายออกไปจริงในแต่ละวัน สถานศึกษาพยายามบิดงอบิดเบือนหักเหค่าจริงตรงจุดๆนี้ทั่วไทย,เพื่อสะท้อนว่าเด็กๆมิอาจมีภาระสำนึกคิดด้านนี้เมื่อเล่าเรียน ให้มุ่งแสวงหาความรู้ ,แต่ค่าจริงมิเป็นเช่นนั้น ค่าจริงคือมหาลัยผลิตคนตกงานเป็นจำนวนมากนั้นเอง,มหาลัย โรงเรียนตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม ต่างมีห้องพิเศษเป็นว่าเล่น หรือนัยยะแบบมหาลัยคือมุ่งทำตังทำรายได้แล้วนั้นเอง นักศึกษาคือลูกค้าของมหาลัยวิลัยของโรงเรียน,ได้ทั้งจากรัฐช่วยเหลือค่าหัวเด็กๆและเก็บสาระพัดมุกเอาแต่มีเรี่ยไรสไตล์ใดโปรแกรมพิเศษไหนเกิดขึ้นเพื่อแสวงหารายรับรายได้เข้าสถาบัน ส่วนมรึงๆจบไปแล้วจะได้งานจะตกงานเป็นเรื่องของมรึงก็ว่า,เอกชนไทยนำเข้าเครื่องจักรเอย แรงงานต่างด้าวเอยจำนวนมากเข้ามาตลอดถึงปัจจุบัน,ด้อยค่าคนเยาวชนในชาติตนแต่เสือกมาตั้งโรงงาน เปิดบริษัท ย้ายฐานผลิตมาสร้างบนแผ่นดินไทยแต่รับต่างด้าวเข้าทำงานแทนคนไทยเป็นอันมาก สารพัดข้ออ้างกดคนไทยตน อ้างด้อยค่าคุณภาพคนไทยตน,บางกิจการนำเข้าคนของตนแบบจีนมาทำงานที่โรงงานไทยของทุนจีนกันเต็มโรงงานเลย, สถานศึกษาต้องประมาณการกำลังคนแรงงานกับกรมแรงงานให้ได้ ออกหลักสูตรอาชีพที่สามารถใกล้เคียงการเติบโตของเนื้องาน,บริหารคนงาน เด็กจบใหม่คนไทยตนก่อนเอาต่างด้าวมาทำ กระตุ้นองค์รู้ทั่วไทยทำไมเราต้องส่งเสริมเยาวชนไทยเราก่อนกับกิจการในบนแผ่นดินไทย,ทั้งของคนไทยเราเองและต่างชาติมาลงทุน,กำลังคนกรมแรงงานต้องประสานชัดเจนออนไลน์ได้,รวมๆต้องพลิกบทบาทบริหารจัดการครั้งใหญ่จริงๆจะมาเหี้ยแบบเดิมๆไม่ได้อีกแล้ว,แล้วเราคนไทยจะรอดจากสงครามตังสงครามจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันเรื่องปากท้องได้,ไม่ดักดานยากจนอีกแน่นอน,โครงสร้างการปกครองจึงต้องร่วมเปลี่ยนแปลงด้วย,ผู้นำต้องไม่กากๆนั้นเอง.หรือยิ่งเป็นผู้เหนือมนุษย์มากบารมียิ่งดี ยอมให้ขึ้นปกครองประเทศไทยร้อยปีพันปีก็ได้,หยั่งรู้อีกยิ่งเยี่ยม อ่านจิตอ่านใจคนออกยิ่งโหด,มรึงหนาวแน่ ใครคตใครโกงภายในสำนักนายกฯท่านๆเรียกไปคุยด้วยมีหนาว อาจประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตก็ได้ ยึดทรัพย์กันอนาถ,เชื่อมจิตได้ด้วย มรึงคุยกับใครทำชั่วที่ไหนดิวอะไรไว้,เชื่อมโยงถึงตัวพ่อหมด,คำสั่งลงไป สั่งเด็ดหัวทั้งหมด,ประเทศไทยคือผู้นำจิตวิญญาณแน่นอนไม่ต้องสงสัย,มิใช่สื่อบางช่องผีบ้ากากๆผู้นำจิตวิญญาณโทนี่ไปดูไบพะนะหรือแบบเสื้อแดงพะนะ ทางความคิดแบบส้มชูสามนิ้วก็โน้น,นี้ใช้นิยมผู้นำแห่งจิตวิญญาณที่ผิด,ที่ถูกคือสไตล์ทางโลกแบบนั้น สร้างมิตรไมตรีจึงไม่ใช่เรื่องยาก ตลอดผู้นำทางสงครามก็ไม่ยาก แว๊บเดียวหายตัวยืนอยู่หน้าศัตรูเด็ดหัวเลยก็ได้,ศัตรูไม่เกรงกลัวย่อมไม่ได้,ตานแน่นอนนั้นเองหากยังไม่พยายามเป็นคนดี,เพราะผู้นำทางจิตวิญญาณถอดจิตท่องจักรวาลทั่วทุกๆดวงดาวได้จริง,เชื่อมมิติที่สูงกว่าได้ แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีล้ำๆจึงมิใช่เรื่องยากอะไร,เรา..ประเทศไทยคนเหนือมนุษย์มีมากไม่น้อย,แต่ไม่ออกมา,จริงๆถึงเวลาอันสมควรแล้วจะที่ไทยหรือทั่วโลก ยอดมนุษย์เหล่านี้ควรแก่เวลาต้องเปิดเผยตัวตนจริงๆได้แล้วเพื่ออัพเลเวลโลกนี้ขึ้นอีกระดับจริงๆร่วมกันทั่วโลก,อย่าทำตัวผีบ้าหลบซ่อนตัวตนอีกเลย. https://youtube.com/shorts/mw78-XhjAQw?si=C9z2vO_AOjZJECMx
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญเล็กจิ๋ว วัดหนองงูเหลือม
    เหรียญเล็กจิ๋ว หลังยันต์ห้า วัดหนองงูเหลือม // เหรียญมีขนาดเล็กจิ๋ว พระเก่า พศ.ลึก น่าใช้มาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก จิ๋ว !! นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ เหมาะสำหรับคนพิเศษ พระเล็กๆ น่ารักครับ >>

    ** พุทธคุณทางมหาอำนาจ แคล้วคลาด คงกระพัน เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ผู้ที่ต้องทำงานเสี่ยงอันตราย หรือแวดล้อมด้วยศัตรู คนที่คิดไม่ดี หรือต้องการบูชาเพื่อเสริมอำนาจวาสนาบารมี มีเสน่ห์ในด้านเมตตามหานิยม ดูน่าเกรงขาม ได้อีกด้วย >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเล็กจิ๋ว วัดหนองงูเหลือม เหรียญเล็กจิ๋ว หลังยันต์ห้า วัดหนองงูเหลือม // เหรียญมีขนาดเล็กจิ๋ว พระเก่า พศ.ลึก น่าใช้มาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก จิ๋ว !! นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ เหมาะสำหรับคนพิเศษ พระเล็กๆ น่ารักครับ >> ** พุทธคุณทางมหาอำนาจ แคล้วคลาด คงกระพัน เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ผู้ที่ต้องทำงานเสี่ยงอันตราย หรือแวดล้อมด้วยศัตรู คนที่คิดไม่ดี หรือต้องการบูชาเพื่อเสริมอำนาจวาสนาบารมี มีเสน่ห์ในด้านเมตตามหานิยม ดูน่าเกรงขาม ได้อีกด้วย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 3
    จะแสดงอภิมหาแสนยานุภาพทั้งที ต้องดูตาถี่ตาห่าง ทบทวนกันหน่อยว่าตอนนี้
    ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู ใครเป็นพวกใคร น้ำหนักเท่าไหร่ ความไวเป็นอย่างไร จุดเป็น จุดตาย จุดอ่อนจุดแข็ง อยู่ตรงไหน โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว เห็นตัวอย่างจากการโตเร็วของอาเฮียแดนมังกรแล้ว ไม่ทำการบ้านให้ดี ถลาเข้ามาเดินเชิดหน้าพองขน ดันโดนรุมสกรัม พุ่งถลาหน้าแหก คงไม่สง่างามสมกับเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลก
    เอ้า วัดสัดส่วนเทียบทุกจุดแล้ว โผออกมาดังนี้
    1. กลุ่มที่จะกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกาและพวก คือ
    – จีน และ เกาหลีเหนือ สำหรับ กลุ่มพวกเอเซีย
    – อิหร่านและซีเรีย (และกลุ่มหัวรุนแรง ที่ไม่ประกาศสัญชาติ) สำหรับ กลุ่ม
    ตะวันออกกลาง
    – รัสเซีย สำหรับ กลุ่มเอเซีย และยุโรป
    2. คู่แข่งในการแสดงอำนาจและบารมีของอเมริกาในภูมิภาคต่าง ๆ
    – จีน ในเอเซียตะวันออก เอเซียกลาง และอาฟริกา (โปรดสังเกต ไม่มีเอเซีย
    ตะวันออกเฉียงใต้ แสดงว่าประเทศแถวนี้ มันหมูในอวย หรือลูกหาบตลอดการของนักล่า หือไม่ขึ้นแล้ว อาเฮียลื้ออย่ามาเกี้ยวให้เสียเวลาเลย ฮา !)
    – อิหร่าน ในตะวันออกกลาง
    – รัสเซีย ในเอเซียกลาง และบริเวณใกล้เคียง
    3. คู่แข่งในเรื่องกองทัพและอาวุธ
    – จีน และเกาหลีเหนือ
    – อิหร่าน
    (เอะ ! ทำไมตัวละครมันซ้ำ ๆ กันแบบนี้ คนทำการบ้านวิเคราะห์ถูกหรือเปล่านะ คนเล่า
    นิทานชักเบื่อ ไม่เห็นมีอะไรใหม่เลย)
    รู้มิตร รู้ศัตรู รู้หน้าตาคู่แข่ง พวกก้างขวางคอ แล้วอเมริกาจะจัดการอย่างไรกับฐานทัพและกองทัพ ที่กระจายกันอยู่ทั่วโลก เพื่อรุกไปขย่มขวัญอาเฮียใน Asia Pacific และรับมือกับบรรดาก้างขวางคอ
    ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อบอกไม่มีปัญหา เรามีแผนจัดเป็นโปรแกรม โปรดเลือกเอาตาม
    สะดวก ชอบโปรแกรมไหน กดไป ใช้ได้เลย เสียดายไม่ยักกะมีเพลงประจำ แต่ละโปรแกรมมาด้วย
    – โปรแกรมขย่มขวัญ
    จัดให้เพื่อแสดงบทขย่มขวัญจีนและเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ และให้พรรคพวกอุ่นใจ
    ว่านักล่ายังฟันคมกริบ กรงเล็บแข็ง ตะปบแม่น ถ้าอเมริกาต้องการแสดงแสนยานุภาพ
    ไปทางเอเซียอย่างเต็มที่ ! มันต้องยังงั้น ! ไปท้าทายเขาถึงหน้าบ้านเลย ดูซิว่าจีนกับเกาหลีเหนือ จะยืนเกาหัวมึนไป หรือนักล่าจะถูกดักตีหัวแบะเอง ให้มันรู้กันไป เป็นจิกโก๋ต้องใจสู้ เข้าไปท้าชิงในถิ่นเขาเลย !
    การจะใช้โปรแกรมขย่มขวัญ อเมริกาต้องขยายฐานทัพ และสร้างภาพให้โลก โดยเฉพาะ
    ผู้ที่อเมริกาอยากขย่มขวัญ เห็นว่าอเมริกามาแล้ว มาอยู่ตรงนี้จริง ๆ (permanent presence) ดังนั้นควรมีการขยายฐานทัพ/สร้างฐานทัพ ของพวกลูกหาบ เช่น ในฟิลิปปินส์ ไทยแลนด์ (ของสมันน้อยไงจ๊ะ ! ) สิงคโปร์และออสเตรเลียเพิ่มขึ้น
    และหาทางเจรจาสร้างฐานทัพกับมาเลเซียเวียตนาม และอินโดนีเซีย (พวกผักชีโรยหน้า) เพื่อเป็นการรองรับปัญหาที่อาจจะมาจากกรณีทะเลจีนใต้ (ที่ตนเองไปเสี้ยมไว้) ขณะเดียวกัน ก็ต้องเพิ่มการฝึกซ้อมรบร่วมกันทั้งทางอากาศและทางทะเล กับพวกลูกหาบให้บ่อยมากขึ้น
    ส่วนฐานทัพที่อยู่ในอเมริกาไม่ต้องทำอะไร แค่ดูให้มั่นใจว่ารับศึกที่จะมาคุกคาม พรรคพวกแถวยุโรปกับอาหรับได้เป็นพอ
    (เรียกว่าเป็นโปรแกรมใหญ่ ค่าตั๋วน่าจะแพง กินงบประมาณแผ่นดินกันถ้วนหน้า ถ้าชิงรางวัลใหญ่ไม่ได้ อาจกลายเป็นเสียเมืองแทน
    พวกลูกหาบระวังตัวให้ดีแล้วกัน)
    – โปรแกรมรับมือ
    เป็นการเตรียมรับมือในกรณี เกิดความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง เพราะทะเลาะกันเอง
    หรือการเมือง เศรษฐกิจของหลายประเทศไม่มั่นคง (ก็เกิดจากการเสี้ยมของอเมริกานั่นแหละ ไม่ต้องวิเคราะห์มากให้ปวดหัว)
    รายการนี้ต้องใช้ฐานทัพและกองกำลังของอเมริกาเป็นตัวหลัก
    ยุทธศาสตร์นี้จะใช้ต่อเมื่อจีนไม่มีปฎิกริยาโต้ตอบกับอเมริกา เหมือนเป็นกองกำลังกงเต๊ก ส่วนในยุโรปก็ไม่มีผู้ท้าชิง ในทางตรงกันข้าม อิหร่านเกิดบ้าเลือดมาแรง เผลอ ๆ จะได้เห็นนิวเคลียร์ยี่ห้ออิหร่านลงแอลเอ ! ดังนั้น กองกำลังที่อยู่ในยุโรปและในอเมริกาเองจะต้องปรับ เพื่อให้คล่องตัวในการเล่นศึกกับอิหร่าน สำหรับเอเซีย การปรับเปลี่ยนกองกำลังและฐานทัพ จะเป็นเช่นเดียวกับโปรแกรมขย่มขวัญ
    (โปรแกรมนี้ดูมันไม่ค่อยมีเหตุผลนะ แต่ก็อยากเห็น ระเบิดลงหัวนักล่า
    เหมือนกันแหละ !)
    – โปรแกรมนักล่าตัวจริง
    กรณีนี้ใช้สำหรับนักล่าตัวจริง หมายเลข 1 ของโลก ที่จะล่ามันไปทั่วทั้งบริเวณ
    East Asia, ยุโรป และตะวันออกกลาง และขยายฐานที่มีอยู่ใน Southeast Asia ไปจนถึงตะวันออกกลาง ทั้งในด้านการเมืองและการเงิน
    ถ้าเลือกโปรแกรมนี้ นักล่าต้องฟิตหนัก เพราะต้องเตรียมตัวรับ กับ การขยายตัวทางการทหารจากจีน และเกาหลีเหนือ (ก็ยื่นหน้าไปเบ่งกล้ามใส่เขา คิดว่าเขา
    จะอยู่เฉยหรือไง !) และยังต้องมีกองกำลังในตะวันออกกลาง เพื่อเตรียมรับมือกับอิหร่านอีกด้วย
    และต้องพร้อมที่จะชนะการปะทะแถวยุโรป เพื่อแสดงให้เด็ก ๆ แถว Nato เห็นว่าลูกพี่ยังแน่อยู่
    กองทัพแถวยุโรป จึงต้องยังมีและพร้อมอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม นักล่าต้องทำให้น่าเชื่อว่าตัวเอง ดูแลอย่างใกล้ชิดประเทศในแถบ GCC (Gulf Cooperation Council) สร้างภาพให้เป็นที่เชื่อถือ มีภาพตัวเองติดอยู่ในแถบ GCC (ติดรูปไว้ทุกเสาไฟฟ้าเลยนะ)
    และควรมีการทำข้อตกลงกับ Saudi Arabia และ India ที่จะใช้ฐานทัพในแถบนั้นได้ ในกรณีวิกฤติ (อันนี้ไม่ใช่ผักชีโรย แต่เป็นอาหารจานหลักนี่หว่า หลอกแขกชัด ๆ) ส่วนกองกำลังปะทะ (combat) และกองกำลังเคลื่อนที่ จะต้องมีอยู่ในฐานทัพต่าง ๆ ของอเมริกา
    (นี่มันโปรแกรมฝันกลางวัน เอ ! หรือนักล่าเอาจริง ! )
    แล้วตกลงอเมริกาจะเลือกใช้โปรแกรมไหน น่าสังเกตว่าทุกโปรแกรม ยุโรปเหมือนเป็นตัว
    ประกอบราคาถูก หรือไม่กล้าใช้นายเหนืออีกทีกันแน่
    แต่ที่น่าสนใจฝ่ายวางแผนล่าเหยื่อบอกว่า อเมริกาต้องตัดสินใจ ว่าจะจัดการกับกองกำลังและฐานทัพที่เกลื่อนอยู่ทั่วโลกอย่างไร มันใช้เงินโขอยู่ ตอนนี้ก็ไม่ได้รวยอย่างที่โม้ไว้ เพราะฉะนั้นเลือกเลยว่า จะแค่ขย่มขวัญ รับมือ หรือเป็นนักล่าตัวจริง ใหญ่ค้ำโลก
    การเลือกของอเมริกาในเรื่องนี้ มันจะแสดงให้เห็นอนาคตของโลกนี้ว่า
    กระบวนยุทธครั้งนี้ของอเมริกา เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ไหม ขณะนี้อเมริกายังไม่พูดให้ชัดว่าจะเล่นแค่ Asia Pacific เป็นฉากหน้า แต่ของจริงล่าทั้งโลก ส่วนไอ้เรื่องโปรแกรมรับมือน่ะ ไม่มีทาง เขียนมาให้โวยเล่น นักล่าหรือจะคิดแค่รับมือ!

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 3 จะแสดงอภิมหาแสนยานุภาพทั้งที ต้องดูตาถี่ตาห่าง ทบทวนกันหน่อยว่าตอนนี้ ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู ใครเป็นพวกใคร น้ำหนักเท่าไหร่ ความไวเป็นอย่างไร จุดเป็น จุดตาย จุดอ่อนจุดแข็ง อยู่ตรงไหน โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว เห็นตัวอย่างจากการโตเร็วของอาเฮียแดนมังกรแล้ว ไม่ทำการบ้านให้ดี ถลาเข้ามาเดินเชิดหน้าพองขน ดันโดนรุมสกรัม พุ่งถลาหน้าแหก คงไม่สง่างามสมกับเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลก เอ้า วัดสัดส่วนเทียบทุกจุดแล้ว โผออกมาดังนี้ 1. กลุ่มที่จะกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกาและพวก คือ – จีน และ เกาหลีเหนือ สำหรับ กลุ่มพวกเอเซีย – อิหร่านและซีเรีย (และกลุ่มหัวรุนแรง ที่ไม่ประกาศสัญชาติ) สำหรับ กลุ่ม ตะวันออกกลาง – รัสเซีย สำหรับ กลุ่มเอเซีย และยุโรป 2. คู่แข่งในการแสดงอำนาจและบารมีของอเมริกาในภูมิภาคต่าง ๆ – จีน ในเอเซียตะวันออก เอเซียกลาง และอาฟริกา (โปรดสังเกต ไม่มีเอเซีย ตะวันออกเฉียงใต้ แสดงว่าประเทศแถวนี้ มันหมูในอวย หรือลูกหาบตลอดการของนักล่า หือไม่ขึ้นแล้ว อาเฮียลื้ออย่ามาเกี้ยวให้เสียเวลาเลย ฮา !) – อิหร่าน ในตะวันออกกลาง – รัสเซีย ในเอเซียกลาง และบริเวณใกล้เคียง 3. คู่แข่งในเรื่องกองทัพและอาวุธ – จีน และเกาหลีเหนือ – อิหร่าน (เอะ ! ทำไมตัวละครมันซ้ำ ๆ กันแบบนี้ คนทำการบ้านวิเคราะห์ถูกหรือเปล่านะ คนเล่า นิทานชักเบื่อ ไม่เห็นมีอะไรใหม่เลย) รู้มิตร รู้ศัตรู รู้หน้าตาคู่แข่ง พวกก้างขวางคอ แล้วอเมริกาจะจัดการอย่างไรกับฐานทัพและกองทัพ ที่กระจายกันอยู่ทั่วโลก เพื่อรุกไปขย่มขวัญอาเฮียใน Asia Pacific และรับมือกับบรรดาก้างขวางคอ ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อบอกไม่มีปัญหา เรามีแผนจัดเป็นโปรแกรม โปรดเลือกเอาตาม สะดวก ชอบโปรแกรมไหน กดไป ใช้ได้เลย เสียดายไม่ยักกะมีเพลงประจำ แต่ละโปรแกรมมาด้วย – โปรแกรมขย่มขวัญ จัดให้เพื่อแสดงบทขย่มขวัญจีนและเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ และให้พรรคพวกอุ่นใจ ว่านักล่ายังฟันคมกริบ กรงเล็บแข็ง ตะปบแม่น ถ้าอเมริกาต้องการแสดงแสนยานุภาพ ไปทางเอเซียอย่างเต็มที่ ! มันต้องยังงั้น ! ไปท้าทายเขาถึงหน้าบ้านเลย ดูซิว่าจีนกับเกาหลีเหนือ จะยืนเกาหัวมึนไป หรือนักล่าจะถูกดักตีหัวแบะเอง ให้มันรู้กันไป เป็นจิกโก๋ต้องใจสู้ เข้าไปท้าชิงในถิ่นเขาเลย ! การจะใช้โปรแกรมขย่มขวัญ อเมริกาต้องขยายฐานทัพ และสร้างภาพให้โลก โดยเฉพาะ ผู้ที่อเมริกาอยากขย่มขวัญ เห็นว่าอเมริกามาแล้ว มาอยู่ตรงนี้จริง ๆ (permanent presence) ดังนั้นควรมีการขยายฐานทัพ/สร้างฐานทัพ ของพวกลูกหาบ เช่น ในฟิลิปปินส์ ไทยแลนด์ (ของสมันน้อยไงจ๊ะ ! ) สิงคโปร์และออสเตรเลียเพิ่มขึ้น และหาทางเจรจาสร้างฐานทัพกับมาเลเซียเวียตนาม และอินโดนีเซีย (พวกผักชีโรยหน้า) เพื่อเป็นการรองรับปัญหาที่อาจจะมาจากกรณีทะเลจีนใต้ (ที่ตนเองไปเสี้ยมไว้) ขณะเดียวกัน ก็ต้องเพิ่มการฝึกซ้อมรบร่วมกันทั้งทางอากาศและทางทะเล กับพวกลูกหาบให้บ่อยมากขึ้น ส่วนฐานทัพที่อยู่ในอเมริกาไม่ต้องทำอะไร แค่ดูให้มั่นใจว่ารับศึกที่จะมาคุกคาม พรรคพวกแถวยุโรปกับอาหรับได้เป็นพอ (เรียกว่าเป็นโปรแกรมใหญ่ ค่าตั๋วน่าจะแพง กินงบประมาณแผ่นดินกันถ้วนหน้า ถ้าชิงรางวัลใหญ่ไม่ได้ อาจกลายเป็นเสียเมืองแทน พวกลูกหาบระวังตัวให้ดีแล้วกัน) – โปรแกรมรับมือ เป็นการเตรียมรับมือในกรณี เกิดความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง เพราะทะเลาะกันเอง หรือการเมือง เศรษฐกิจของหลายประเทศไม่มั่นคง (ก็เกิดจากการเสี้ยมของอเมริกานั่นแหละ ไม่ต้องวิเคราะห์มากให้ปวดหัว) รายการนี้ต้องใช้ฐานทัพและกองกำลังของอเมริกาเป็นตัวหลัก ยุทธศาสตร์นี้จะใช้ต่อเมื่อจีนไม่มีปฎิกริยาโต้ตอบกับอเมริกา เหมือนเป็นกองกำลังกงเต๊ก ส่วนในยุโรปก็ไม่มีผู้ท้าชิง ในทางตรงกันข้าม อิหร่านเกิดบ้าเลือดมาแรง เผลอ ๆ จะได้เห็นนิวเคลียร์ยี่ห้ออิหร่านลงแอลเอ ! ดังนั้น กองกำลังที่อยู่ในยุโรปและในอเมริกาเองจะต้องปรับ เพื่อให้คล่องตัวในการเล่นศึกกับอิหร่าน สำหรับเอเซีย การปรับเปลี่ยนกองกำลังและฐานทัพ จะเป็นเช่นเดียวกับโปรแกรมขย่มขวัญ (โปรแกรมนี้ดูมันไม่ค่อยมีเหตุผลนะ แต่ก็อยากเห็น ระเบิดลงหัวนักล่า เหมือนกันแหละ !) – โปรแกรมนักล่าตัวจริง กรณีนี้ใช้สำหรับนักล่าตัวจริง หมายเลข 1 ของโลก ที่จะล่ามันไปทั่วทั้งบริเวณ East Asia, ยุโรป และตะวันออกกลาง และขยายฐานที่มีอยู่ใน Southeast Asia ไปจนถึงตะวันออกกลาง ทั้งในด้านการเมืองและการเงิน ถ้าเลือกโปรแกรมนี้ นักล่าต้องฟิตหนัก เพราะต้องเตรียมตัวรับ กับ การขยายตัวทางการทหารจากจีน และเกาหลีเหนือ (ก็ยื่นหน้าไปเบ่งกล้ามใส่เขา คิดว่าเขา จะอยู่เฉยหรือไง !) และยังต้องมีกองกำลังในตะวันออกกลาง เพื่อเตรียมรับมือกับอิหร่านอีกด้วย และต้องพร้อมที่จะชนะการปะทะแถวยุโรป เพื่อแสดงให้เด็ก ๆ แถว Nato เห็นว่าลูกพี่ยังแน่อยู่ กองทัพแถวยุโรป จึงต้องยังมีและพร้อมอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม นักล่าต้องทำให้น่าเชื่อว่าตัวเอง ดูแลอย่างใกล้ชิดประเทศในแถบ GCC (Gulf Cooperation Council) สร้างภาพให้เป็นที่เชื่อถือ มีภาพตัวเองติดอยู่ในแถบ GCC (ติดรูปไว้ทุกเสาไฟฟ้าเลยนะ) และควรมีการทำข้อตกลงกับ Saudi Arabia และ India ที่จะใช้ฐานทัพในแถบนั้นได้ ในกรณีวิกฤติ (อันนี้ไม่ใช่ผักชีโรย แต่เป็นอาหารจานหลักนี่หว่า หลอกแขกชัด ๆ) ส่วนกองกำลังปะทะ (combat) และกองกำลังเคลื่อนที่ จะต้องมีอยู่ในฐานทัพต่าง ๆ ของอเมริกา (นี่มันโปรแกรมฝันกลางวัน เอ ! หรือนักล่าเอาจริง ! ) แล้วตกลงอเมริกาจะเลือกใช้โปรแกรมไหน น่าสังเกตว่าทุกโปรแกรม ยุโรปเหมือนเป็นตัว ประกอบราคาถูก หรือไม่กล้าใช้นายเหนืออีกทีกันแน่ แต่ที่น่าสนใจฝ่ายวางแผนล่าเหยื่อบอกว่า อเมริกาต้องตัดสินใจ ว่าจะจัดการกับกองกำลังและฐานทัพที่เกลื่อนอยู่ทั่วโลกอย่างไร มันใช้เงินโขอยู่ ตอนนี้ก็ไม่ได้รวยอย่างที่โม้ไว้ เพราะฉะนั้นเลือกเลยว่า จะแค่ขย่มขวัญ รับมือ หรือเป็นนักล่าตัวจริง ใหญ่ค้ำโลก การเลือกของอเมริกาในเรื่องนี้ มันจะแสดงให้เห็นอนาคตของโลกนี้ว่า กระบวนยุทธครั้งนี้ของอเมริกา เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ไหม ขณะนี้อเมริกายังไม่พูดให้ชัดว่าจะเล่นแค่ Asia Pacific เป็นฉากหน้า แต่ของจริงล่าทั้งโลก ส่วนไอ้เรื่องโปรแกรมรับมือน่ะ ไม่มีทาง เขียนมาให้โวยเล่น นักล่าหรือจะคิดแค่รับมือ! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ”
    ตอนที่ 1
    International Crisis Group (ICG) ของนาย George Soros และพวก เช่น นาย Kenneth Adelman นัก lobby ใหญ่ ของไอ้โจรร้ายที่เขียนไปเมื่อวันที่ 15 ม.ค พ.ศ. 2557 นั้น เป็นองค์กรที่น่าสนใจไม่ใช่ระดับธรรมดา แต่เป็นองค์กรที่ตอนนี้ถ้าเป็นเพลง ก็เรียกว่าขึ้นอยู่ในระดับ top chart เพราะเป็นองค์กร ที่ดูเหมือนจะมีส่วนในการกำหนดชะตากรรมของหลายประเทศ ในหลายภูมิภาค พูดภาษาจิกโก๋เรียกว่า เป็นผู้จัดการฝ่าย Research and Development R& D วิเคราะห์และวางแผนการล่าเหยื่อ ให้แก่กลุ่มทุนอิทธิพลนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) และไทยแลนด์แดนสมันน้อย ก็น่าสงสัยว่าจะอยู่ในรายการ shopping list เหยื่ออันโอชะ (อีกแล้ว !)
    ตั้งแต่ไอ้โจรร้าย ร่อนเร่ไปอยู่นอกประเทศ เพราะคุณทหารเอารถถังออกมาวิ่งรับดอกไม้จากชาวกรุงเทพ! เมื่อปี พ.ศ. 2549 นั้น บางทีมันก็ทำให้ชะตาบางคนพลิกผัน เหมือนกับการปล่อยหมูเข้าเล้า หรือปล่อยหมาไนไว้ในทุ่งหญ้า อะไรทำนองนั้น หมาไนเคยแต่แทะกระดูกตลอด กว่าจะได้กินเนื้อก็เหนื่อยจนเบ้าตา เป็นเบ้าขนมครก (ฮา !) พอเจอนักล่าเอาเหยื่อมีเนื้อติดกระดูกมาล่อ ด้วยความตะกระ อันเป็นสันดาน ก็รีบเดินเข้าไปสู่กรงเล็บนักล่าอย่างเต็มใจ ว่าแล้วก็ดันจ้างนักล่ามาเป็นที่ปรึกษา ให้ล่าประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองอย่างสุดเลว ชั่วจริง ๆ !
    เพื่อจะเข้าใจปัจจุบัน ขอทบทวนอดีตสักหน่อย ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อ ปี ค.ศ. 1989 อเมริกามีทางเลือกในฐานะผู้มีอำนาจใหญ่ล้นโลก ที่จะทำให้โลกนี้ สู่สภาพการสิ้นสุดของสงครามเย็นอย่างจริงจัง และเปลี่ยนวิถีของโลกเสียใหม่ ไปสู่สันติภาพและความรุ่งเรือง
    อย่างแท้จริง หมดสงครามเย็น ยุติการเกลียดชัง การแก่งแย่งชิงดี การเหยียดทางเชื้อชาติและสู้รบระหว่างเผ่าพันธ์ การปิดกั้นเรื่องศาสนา ฯลฯ เปลี่ยนจากการทำลายล้าง ต่อสู้ เป็นการสร้างความเจริญแก่โลก และแก้ไขปัญหาความลำบากยากจนของพลเมืองโลกอย่างแท้จริง สมกับการเป็น
    พี่เบิ้ม
    เปล่าหรอก นั้นมันเป็นความน่าจะเป็น หรือความอยากให้เป็นของชาวโลก ที่จะได้เห็นอเมริกา เดินสู่เส้นทางนั้น ในทางตรงกันข้าม นอกจากอเมริกาจะไม่ทำอย่างนั้นแล้ว ภายใต้ประกาสิตของลัทธิ New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ ที่นาย Bush ตัวพ่อ ออกมาประกาศ
    เมื่อ ปี ค.ศ. 1990 ภายใต้การกำกับของกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล CFR อเมริกากลับเลือกที่จะทำทุกอย่าง ไม่ว่าการเป็นการสร้าง ทำลาย หลอก ลวง ต้มตุ๋น เพื่อที่จะควบคุมและครอบครองโลก
    ปี ค.ศ. 1997 นาย Zbigniew Brzezinski ปรมาจารย์ทางด้าน Geopolitics ที่มีอิทธิพลในทางความคิดกับกลุ่ม CFR อย่างยิ่ง ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Grand Chess Board ว่าอเมริกาจะครองโลกได้ ต้องควบคุมดินแดนที่เรียกว่า Eurasia ให้ได้เสียก่อน ดินแดนยูเรเซียคืออะไร คร่าว ๆ คือ ทวีปยุโรปกับทวีปเอเซียรวมกัน เป็นดินแดนที่มีเนื้อที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่โลก มีประชากรประมาณเกือบห้าพันล้านคน หรือประมาณกว่า 70% ของพลเมืองโลก และมีก๊าซและน้ำมัน ประมาณ 3 ใน 4 ของโลก คิดดูแล้วกัน มันเป็นเหยื่อกลุ่มใหญ่ รสโอชา น่ารับประทานขนาดไหนของกลุ่มนักล่า
    เมื่อคิดจะล่ากันเป็นล่ำเป็นสันอีกรอบ ในฐานะพี่เบิ้มใหญ่ คุมซอยเดียวไม่พอ มันต้องคุมทั้งเมือง ว่าแล้ว สงครามรูปแบบใหม่ จึงกลับฟื้นคืนชีพมาใหม่ แต่เปลี่ยนเครื่องทรง แต่งหน้าใหม่ ตามยุทธศาสตร์ ที่กำหนดโดย Project of the New American Century หรือ PNAC ที่
    ออกมาในปี ค.ศ. 1997 นั่นเอง ผู้อำนวยการสร้าง PNAC ไม่ใช่ใครอื่น CFR จัดส่งมาให้ทั้งแก๊ง แสดงนำโดย นาย Paul Wolfowitz, นาย R James Woolsey, นาย Donald Rumsfeld และนาย Robert Zoellick เป็นต้น เป้าหมายของ PNAC คือ เพื่อให้อเมริกาครองโลก (promote American global leadership) จะครองโลกได้ ก็ต้องมีกองทัพที่แข็งแกร่ง อเมริกาเริ่มจัดรูปแบบกองทัพ ฐานทัพ และสร้างอาวุธใหม่ ๆ ขึ้น แค่นั้นยังดูไม่เอาจริงพอ ในปี ค.ศ. 2000 PNAC ออกรายงานมาอีกชื่อ Rebuilding Americas Defenses : Strategies, Forces and Resources for a New Century
    เห็นหัวข้อรายงานก็พอจะเดาทิศทาง การเดินหมากของอเมริกาในศตวรรษใหม่ได้
    ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่กำหนดโดย PNAC ดังกล่าว เหยื่อที่ถูกเลือกให้ทดลองทฤษฎีใหม่ คือ Saddam Hussein สงครามอีรัคเกิดขึ้น ตั้งแต่ ค.ศ. 2003 ถึง 2011 ความเสียหายมีมาก เมื่อเทียบกับผลที่ได้มา ก้อนอิฐปาใส่มากกว่าดอกไม้ ยุทธศาสตร์ ตาม PNAC เน้นทางการทหาร
    มากกว่าการฑูต เหยี่ยวขยับปีกมากไปหน่อย จึงมีความคิดที่จะเอานกพิราบมาใช้แทน แต่ขอโทษ เป็นนกพิราบที่ติดกรงเล็บเหยี่ยว แถมไม่ใช่เล็บธรรมดา ในเล็บยังใส่ยาพิษไว้อีก
    ทฤษฎีนกพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวไม่ใช่เรื่องใหม่ ถ้าเราจะจำกันได้ เรื่องอิหร่าน ตั้งแต่อังกฤษจับมือกับอเมริกา ปลดนาย Mossadegh ในปี ค.ศ. 1953 โทษฐานที่รู้ทันไม่ยอมถูกฝรั่งต้มต่อ และในค.ศ. 1997 นกพิราบสายพันธ์เดิมก็ถูกนำมาใช้ในการปลดกลางอากาศ Shah โทษฐาน
    เล่นผิดบท และเอา Ayatollah Khomeini มาปกครองอิหร่าน ท่านผู้อ่านนิทานมายากลยุทธ มาแล้ว โปรดอย่าลืม อิหร่าน Model ทั้ง 2 รายการ เป็น Model ที่น่าสนใจ และมีนัยลึกซึ้ง โปรดอ่านทบทวน และน่าจะศึกษาเพิ่มเติมด้วย เผื่อจะเข้าใจหัวคิดและจิตใจอันแสนร้าย ของนักล่ามากขึ้น วันไหนเขานึกจะเล่น Model อิหร่านกับสมันน้อย จะได้รู้ตัว และต่อต้าน หรือต่อสู้ถูกทาง
    นกพิราบติดกรงเหยี่ยว ถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการ ที่ CIA มักเรียก วิธีการอื่น ส่วนมากเป็นการปฏิบัติการ สำหรับการล้มล้าง ระบอบหรือรัฐบาล ผู้นำประเทศ ผู้บริหารประเทศ ที่อเมริกาเห็นว่าไม่เป็นมิตร หรือไม่เป็นประโยชน์ ไม่สมประโยชน์ หรือขัดใจ ขวางทางทำมาหากินหรือตรงข้ามกับแนวคิดของอเมริกา ปฏิบัติการนี้ก็จะถูกนำมาใช้ เพื่อเอาหมากตัวใหม่หรือไพ่ใบใหม่ มาเล่นแทน โดยไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพของอเมริกาให้เปลืองแรง เปลืองเงิน ก็แค่นั้น
    แต่พอเป็นศตวรรษใหม่ New Century แล้ว จะใช้ CIA เล่นโดด ๆ มันก็เหมือนไม่มีงบมาเติมเงินนั้นแหละ (ฮา !) ก็ต้องสร้างงานกันหน่อย เมื่อเห็นว่าการยกทัพจับศึกอย่างที่ทำในอิรัค มันไม่เข้าท่า ถูกด่ามากกว่าถูกสรรเสริฐ เขาก็เปลี่ยนวิชามารใหม่ อย่างว่า การตั้งสถาบันต่าง ๆ จึงผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด (แหม ! กว่าจะโยงถึง ICG ต้องไปวิ่งอ้อมถึงสนามหลวง) สถาบันพวกนี้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพ แต่ปูทางไว้ เพื่อให้กองทัพเข้ามาได้ง่ายขึ้น

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ” ตอนที่ 1 International Crisis Group (ICG) ของนาย George Soros และพวก เช่น นาย Kenneth Adelman นัก lobby ใหญ่ ของไอ้โจรร้ายที่เขียนไปเมื่อวันที่ 15 ม.ค พ.ศ. 2557 นั้น เป็นองค์กรที่น่าสนใจไม่ใช่ระดับธรรมดา แต่เป็นองค์กรที่ตอนนี้ถ้าเป็นเพลง ก็เรียกว่าขึ้นอยู่ในระดับ top chart เพราะเป็นองค์กร ที่ดูเหมือนจะมีส่วนในการกำหนดชะตากรรมของหลายประเทศ ในหลายภูมิภาค พูดภาษาจิกโก๋เรียกว่า เป็นผู้จัดการฝ่าย Research and Development R& D วิเคราะห์และวางแผนการล่าเหยื่อ ให้แก่กลุ่มทุนอิทธิพลนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) และไทยแลนด์แดนสมันน้อย ก็น่าสงสัยว่าจะอยู่ในรายการ shopping list เหยื่ออันโอชะ (อีกแล้ว !) ตั้งแต่ไอ้โจรร้าย ร่อนเร่ไปอยู่นอกประเทศ เพราะคุณทหารเอารถถังออกมาวิ่งรับดอกไม้จากชาวกรุงเทพ! เมื่อปี พ.ศ. 2549 นั้น บางทีมันก็ทำให้ชะตาบางคนพลิกผัน เหมือนกับการปล่อยหมูเข้าเล้า หรือปล่อยหมาไนไว้ในทุ่งหญ้า อะไรทำนองนั้น หมาไนเคยแต่แทะกระดูกตลอด กว่าจะได้กินเนื้อก็เหนื่อยจนเบ้าตา เป็นเบ้าขนมครก (ฮา !) พอเจอนักล่าเอาเหยื่อมีเนื้อติดกระดูกมาล่อ ด้วยความตะกระ อันเป็นสันดาน ก็รีบเดินเข้าไปสู่กรงเล็บนักล่าอย่างเต็มใจ ว่าแล้วก็ดันจ้างนักล่ามาเป็นที่ปรึกษา ให้ล่าประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองอย่างสุดเลว ชั่วจริง ๆ ! เพื่อจะเข้าใจปัจจุบัน ขอทบทวนอดีตสักหน่อย ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อ ปี ค.ศ. 1989 อเมริกามีทางเลือกในฐานะผู้มีอำนาจใหญ่ล้นโลก ที่จะทำให้โลกนี้ สู่สภาพการสิ้นสุดของสงครามเย็นอย่างจริงจัง และเปลี่ยนวิถีของโลกเสียใหม่ ไปสู่สันติภาพและความรุ่งเรือง อย่างแท้จริง หมดสงครามเย็น ยุติการเกลียดชัง การแก่งแย่งชิงดี การเหยียดทางเชื้อชาติและสู้รบระหว่างเผ่าพันธ์ การปิดกั้นเรื่องศาสนา ฯลฯ เปลี่ยนจากการทำลายล้าง ต่อสู้ เป็นการสร้างความเจริญแก่โลก และแก้ไขปัญหาความลำบากยากจนของพลเมืองโลกอย่างแท้จริง สมกับการเป็น พี่เบิ้ม เปล่าหรอก นั้นมันเป็นความน่าจะเป็น หรือความอยากให้เป็นของชาวโลก ที่จะได้เห็นอเมริกา เดินสู่เส้นทางนั้น ในทางตรงกันข้าม นอกจากอเมริกาจะไม่ทำอย่างนั้นแล้ว ภายใต้ประกาสิตของลัทธิ New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ ที่นาย Bush ตัวพ่อ ออกมาประกาศ เมื่อ ปี ค.ศ. 1990 ภายใต้การกำกับของกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล CFR อเมริกากลับเลือกที่จะทำทุกอย่าง ไม่ว่าการเป็นการสร้าง ทำลาย หลอก ลวง ต้มตุ๋น เพื่อที่จะควบคุมและครอบครองโลก ปี ค.ศ. 1997 นาย Zbigniew Brzezinski ปรมาจารย์ทางด้าน Geopolitics ที่มีอิทธิพลในทางความคิดกับกลุ่ม CFR อย่างยิ่ง ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Grand Chess Board ว่าอเมริกาจะครองโลกได้ ต้องควบคุมดินแดนที่เรียกว่า Eurasia ให้ได้เสียก่อน ดินแดนยูเรเซียคืออะไร คร่าว ๆ คือ ทวีปยุโรปกับทวีปเอเซียรวมกัน เป็นดินแดนที่มีเนื้อที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่โลก มีประชากรประมาณเกือบห้าพันล้านคน หรือประมาณกว่า 70% ของพลเมืองโลก และมีก๊าซและน้ำมัน ประมาณ 3 ใน 4 ของโลก คิดดูแล้วกัน มันเป็นเหยื่อกลุ่มใหญ่ รสโอชา น่ารับประทานขนาดไหนของกลุ่มนักล่า เมื่อคิดจะล่ากันเป็นล่ำเป็นสันอีกรอบ ในฐานะพี่เบิ้มใหญ่ คุมซอยเดียวไม่พอ มันต้องคุมทั้งเมือง ว่าแล้ว สงครามรูปแบบใหม่ จึงกลับฟื้นคืนชีพมาใหม่ แต่เปลี่ยนเครื่องทรง แต่งหน้าใหม่ ตามยุทธศาสตร์ ที่กำหนดโดย Project of the New American Century หรือ PNAC ที่ ออกมาในปี ค.ศ. 1997 นั่นเอง ผู้อำนวยการสร้าง PNAC ไม่ใช่ใครอื่น CFR จัดส่งมาให้ทั้งแก๊ง แสดงนำโดย นาย Paul Wolfowitz, นาย R James Woolsey, นาย Donald Rumsfeld และนาย Robert Zoellick เป็นต้น เป้าหมายของ PNAC คือ เพื่อให้อเมริกาครองโลก (promote American global leadership) จะครองโลกได้ ก็ต้องมีกองทัพที่แข็งแกร่ง อเมริกาเริ่มจัดรูปแบบกองทัพ ฐานทัพ และสร้างอาวุธใหม่ ๆ ขึ้น แค่นั้นยังดูไม่เอาจริงพอ ในปี ค.ศ. 2000 PNAC ออกรายงานมาอีกชื่อ Rebuilding Americas Defenses : Strategies, Forces and Resources for a New Century เห็นหัวข้อรายงานก็พอจะเดาทิศทาง การเดินหมากของอเมริกาในศตวรรษใหม่ได้ ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่กำหนดโดย PNAC ดังกล่าว เหยื่อที่ถูกเลือกให้ทดลองทฤษฎีใหม่ คือ Saddam Hussein สงครามอีรัคเกิดขึ้น ตั้งแต่ ค.ศ. 2003 ถึง 2011 ความเสียหายมีมาก เมื่อเทียบกับผลที่ได้มา ก้อนอิฐปาใส่มากกว่าดอกไม้ ยุทธศาสตร์ ตาม PNAC เน้นทางการทหาร มากกว่าการฑูต เหยี่ยวขยับปีกมากไปหน่อย จึงมีความคิดที่จะเอานกพิราบมาใช้แทน แต่ขอโทษ เป็นนกพิราบที่ติดกรงเล็บเหยี่ยว แถมไม่ใช่เล็บธรรมดา ในเล็บยังใส่ยาพิษไว้อีก ทฤษฎีนกพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวไม่ใช่เรื่องใหม่ ถ้าเราจะจำกันได้ เรื่องอิหร่าน ตั้งแต่อังกฤษจับมือกับอเมริกา ปลดนาย Mossadegh ในปี ค.ศ. 1953 โทษฐานที่รู้ทันไม่ยอมถูกฝรั่งต้มต่อ และในค.ศ. 1997 นกพิราบสายพันธ์เดิมก็ถูกนำมาใช้ในการปลดกลางอากาศ Shah โทษฐาน เล่นผิดบท และเอา Ayatollah Khomeini มาปกครองอิหร่าน ท่านผู้อ่านนิทานมายากลยุทธ มาแล้ว โปรดอย่าลืม อิหร่าน Model ทั้ง 2 รายการ เป็น Model ที่น่าสนใจ และมีนัยลึกซึ้ง โปรดอ่านทบทวน และน่าจะศึกษาเพิ่มเติมด้วย เผื่อจะเข้าใจหัวคิดและจิตใจอันแสนร้าย ของนักล่ามากขึ้น วันไหนเขานึกจะเล่น Model อิหร่านกับสมันน้อย จะได้รู้ตัว และต่อต้าน หรือต่อสู้ถูกทาง นกพิราบติดกรงเหยี่ยว ถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการ ที่ CIA มักเรียก วิธีการอื่น ส่วนมากเป็นการปฏิบัติการ สำหรับการล้มล้าง ระบอบหรือรัฐบาล ผู้นำประเทศ ผู้บริหารประเทศ ที่อเมริกาเห็นว่าไม่เป็นมิตร หรือไม่เป็นประโยชน์ ไม่สมประโยชน์ หรือขัดใจ ขวางทางทำมาหากินหรือตรงข้ามกับแนวคิดของอเมริกา ปฏิบัติการนี้ก็จะถูกนำมาใช้ เพื่อเอาหมากตัวใหม่หรือไพ่ใบใหม่ มาเล่นแทน โดยไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพของอเมริกาให้เปลืองแรง เปลืองเงิน ก็แค่นั้น แต่พอเป็นศตวรรษใหม่ New Century แล้ว จะใช้ CIA เล่นโดด ๆ มันก็เหมือนไม่มีงบมาเติมเงินนั้นแหละ (ฮา !) ก็ต้องสร้างงานกันหน่อย เมื่อเห็นว่าการยกทัพจับศึกอย่างที่ทำในอิรัค มันไม่เข้าท่า ถูกด่ามากกว่าถูกสรรเสริฐ เขาก็เปลี่ยนวิชามารใหม่ อย่างว่า การตั้งสถาบันต่าง ๆ จึงผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด (แหม ! กว่าจะโยงถึง ICG ต้องไปวิ่งอ้อมถึงสนามหลวง) สถาบันพวกนี้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพ แต่ปูทางไว้ เพื่อให้กองทัพเข้ามาได้ง่ายขึ้น คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตราบใดที่เรายังมีระบบการเมืองแบบนักการเมืองปัจจุบัน ต่างชาติจะแทรกแซงการปกครองและครอบงำการปกครองผ่านนักการเมืองปัจจุบันเราอย่างง่ายดาย,ต่างจากพระมหากษัตริย์ปกครองผ่านระบบสภาโดยตรง,เมื่อกษัตริย์เราจับได้ ย่อมจัดการนักการเมืองได้ทันทีกว่าระบบปัจจุบัน นักการเมืองผ่านระบบกษัตริย์จะเกรงกลัวในอำนาจพระมหากษัตริย์ที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนคนไทยของพระองค์หรือทำหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ฝักใฝ่ต่างชาติต่างประเทศ พระมหากษัตริย์จะจัดการทางตรงตัดตอนกำจัดภัยของแผ่นดินได้เด็ดขาดกว่าปัจจุบันนั้นเอง ตลอดสามารถไล่ล่าต่างชาติที่มาแทรกแซงสร้างความไม่สงบสุขภายในประเทศไทยเราได้จริงด้วย,หรือมุ่งเข้าปล้นชิงทรัพยากรชาติไทยเราจนประชาชนเรายากจนแบบปัจจุบัน แน่นอนกษัตริย์เราจะตัดตอนพฤติกรรมการปล้นชิงนั้นทันทีได้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนไทยเราและประเทศไทยเรา.

    ..ทหารอาจยึดอำนาจแล้วร่วมกับประชาชนคนไทยเราถวายคืนพระราชอำนาจเสียกอบกู้แผ่นดินไทยเรากลับคืนมาจริง,จากนั้นค่อยสร้างระบบสภาภาคประชาชนใหม่โดยพระมหากษัตริย์จัดตัวแทนมาเป็นประธานสภาของจริงเพื่อลงมติต่างๆแก้ไขปัญหาของประเทศชาติเราร่วมกัน สร้างชาติร่วมกันเหมือนที่เคยเป็นมาที่พระมหากษัตริย์ไทยเราเคียงคู่ประชาชนสร้างไทยขึ้นมานี้เอง,
    ..ทหารพระราชาจากชาวประชารับใช้ชาติร่วมเป็นทหาร ประชาชนคือยามทั้งแผ่นดินไทยปกป้องสำรวจกันภัยทั่วไทยสาระพัดทิศอีก,ยากที่ข้าศึกศัตรูจะหมายใดๆบนอธิปไตยไทยเราในแบบปัจจุบันนี้ซึ่งล้มเหลวทางวิถีการปกครองสิ้นเชิง,ประชาชนยากจนกระจายหนักข้อทั่วทั้งประเทศ ตัวบทกฎหมายเป็นอันมากกดขี่บีบบังคับอิสระเสรีภาพประชาชนควบคุมประชาชนผ่านกฎหมายอย่างบ้าคลั่งลงลึกในรายละเอียดเพื่อเด็ดขาดการปกครองประชาชน บังคับใช้กฎหมายแก่ประชาชนหนักข้อขึ้นหนักข้อขึ้นนั้นเองในปัจจุบัน,ทั้งนักการเมืองปัจจุบันย้อยสู่อดีต เจตนาทำให้สูญเสียอธิปไตยแผ่นดินไทยเพื่อหวังแก่ผลประโยชน์ตนเองและคนต่างชาติมากประเทศทั้งนั้น,จนก่อสงครามในปัจจุบัน,ทั้งด้วยการยึดคืนพื้นที่อธิปไตยไทยได้จริงกว่า11จุดพื้นที่ยิ่งยืนยันว่าวิถีปกครองปล่อยปละละเลยล้มเหลวจริงด้านการปกครองประเทศ สมคบคิดกบฎทรยศเนรคุณต่อประชาชนและประเทศชาติตนเองอีก,จากพฤติกรรมต่อเนื่องสืบข้อมูลปะติดปะต่อร่วมกัน,ที่เดินแผนการในอดีตจนถึงปัจจุบันของนักการเมืองไส้ศึกต่อปนะเทศชาติตนเองแบบนี้,ทหารและประชาชนไม่สมควรต้องมาสูญเสียมากมายขนาดนี้จริงๆเลย แต่เพราะการไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อประชาชนต่อประเทศต่ออำนาจหน้าที่ตำแหน่งที่ตนมีจึงนำพาคนไทยทั้งประเทศพบหายนะวิบัติบนแผ่นดินคือสงครามไทยกับเขมรในปัจจุบัน.
    ..ทหารพระราชาต้องกำจัดนักการเมืองจริงๆนะ.

    https://youtube.com/shorts/u4kHMKSXjI8?si=HnAofECLucEmpfmM
    ตราบใดที่เรายังมีระบบการเมืองแบบนักการเมืองปัจจุบัน ต่างชาติจะแทรกแซงการปกครองและครอบงำการปกครองผ่านนักการเมืองปัจจุบันเราอย่างง่ายดาย,ต่างจากพระมหากษัตริย์ปกครองผ่านระบบสภาโดยตรง,เมื่อกษัตริย์เราจับได้ ย่อมจัดการนักการเมืองได้ทันทีกว่าระบบปัจจุบัน นักการเมืองผ่านระบบกษัตริย์จะเกรงกลัวในอำนาจพระมหากษัตริย์ที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนคนไทยของพระองค์หรือทำหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ฝักใฝ่ต่างชาติต่างประเทศ พระมหากษัตริย์จะจัดการทางตรงตัดตอนกำจัดภัยของแผ่นดินได้เด็ดขาดกว่าปัจจุบันนั้นเอง ตลอดสามารถไล่ล่าต่างชาติที่มาแทรกแซงสร้างความไม่สงบสุขภายในประเทศไทยเราได้จริงด้วย,หรือมุ่งเข้าปล้นชิงทรัพยากรชาติไทยเราจนประชาชนเรายากจนแบบปัจจุบัน แน่นอนกษัตริย์เราจะตัดตอนพฤติกรรมการปล้นชิงนั้นทันทีได้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนไทยเราและประเทศไทยเรา. ..ทหารอาจยึดอำนาจแล้วร่วมกับประชาชนคนไทยเราถวายคืนพระราชอำนาจเสียกอบกู้แผ่นดินไทยเรากลับคืนมาจริง,จากนั้นค่อยสร้างระบบสภาภาคประชาชนใหม่โดยพระมหากษัตริย์จัดตัวแทนมาเป็นประธานสภาของจริงเพื่อลงมติต่างๆแก้ไขปัญหาของประเทศชาติเราร่วมกัน สร้างชาติร่วมกันเหมือนที่เคยเป็นมาที่พระมหากษัตริย์ไทยเราเคียงคู่ประชาชนสร้างไทยขึ้นมานี้เอง, ..ทหารพระราชาจากชาวประชารับใช้ชาติร่วมเป็นทหาร ประชาชนคือยามทั้งแผ่นดินไทยปกป้องสำรวจกันภัยทั่วไทยสาระพัดทิศอีก,ยากที่ข้าศึกศัตรูจะหมายใดๆบนอธิปไตยไทยเราในแบบปัจจุบันนี้ซึ่งล้มเหลวทางวิถีการปกครองสิ้นเชิง,ประชาชนยากจนกระจายหนักข้อทั่วทั้งประเทศ ตัวบทกฎหมายเป็นอันมากกดขี่บีบบังคับอิสระเสรีภาพประชาชนควบคุมประชาชนผ่านกฎหมายอย่างบ้าคลั่งลงลึกในรายละเอียดเพื่อเด็ดขาดการปกครองประชาชน บังคับใช้กฎหมายแก่ประชาชนหนักข้อขึ้นหนักข้อขึ้นนั้นเองในปัจจุบัน,ทั้งนักการเมืองปัจจุบันย้อยสู่อดีต เจตนาทำให้สูญเสียอธิปไตยแผ่นดินไทยเพื่อหวังแก่ผลประโยชน์ตนเองและคนต่างชาติมากประเทศทั้งนั้น,จนก่อสงครามในปัจจุบัน,ทั้งด้วยการยึดคืนพื้นที่อธิปไตยไทยได้จริงกว่า11จุดพื้นที่ยิ่งยืนยันว่าวิถีปกครองปล่อยปละละเลยล้มเหลวจริงด้านการปกครองประเทศ สมคบคิดกบฎทรยศเนรคุณต่อประชาชนและประเทศชาติตนเองอีก,จากพฤติกรรมต่อเนื่องสืบข้อมูลปะติดปะต่อร่วมกัน,ที่เดินแผนการในอดีตจนถึงปัจจุบันของนักการเมืองไส้ศึกต่อปนะเทศชาติตนเองแบบนี้,ทหารและประชาชนไม่สมควรต้องมาสูญเสียมากมายขนาดนี้จริงๆเลย แต่เพราะการไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อประชาชนต่อประเทศต่ออำนาจหน้าที่ตำแหน่งที่ตนมีจึงนำพาคนไทยทั้งประเทศพบหายนะวิบัติบนแผ่นดินคือสงครามไทยกับเขมรในปัจจุบัน. ..ทหารพระราชาต้องกำจัดนักการเมืองจริงๆนะ. https://youtube.com/shorts/u4kHMKSXjI8?si=HnAofECLucEmpfmM
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 25 : เหยื่อ (3)
    ปี ค.ศ. 1990 ญี่ปุ่นเสนอความช่วยเหลือทางการเงินให้แก่ (อดีต) สหภาพโซเวียต ซึ่งหลังจากแตกเป็นเสี่ยง ๆ (เพราะฝีมือใคร ! ?) ทำให้อเมริกาเป็นห่วงว่า ถ้าญี่ปุ่นไปจับมือกับรัสเซียจริง นานไปญี่ปุ่นอาจจะเอาใจออกห่างอเมริกา แล้วถ้าไปรวมกันเสือเศรษฐกิจแห่งเอเซียล่ะ ที่กำลังทะยานขึ้นมา มันย่อมไม่ใช่แนวทางของโลก ที่อเมริกาอยากให้เป็นนะ
    วิธีกดดันแบบเดิม ๆ จึงเกิดขึ้น มือหนึ่งกันจับบ่าญี่ปุ่นถามกันตรง ๆ ว่า คุณยุ่น คุณจะเลิกแผนช่วยเหลือรัสเซีย หรือคุณจะเริ่มสร้างกองทัพของคุณเอง อย่าลืมว่าทุกวันนี้ คุณยุ่นมีกองทัพเรือของอเมริกาค้ำ (คอ) ให้อยู่นะ ชอบหรือไม่ก็ตาม ระหว่างนั้นตลาดหุ้น Nikkei ก็ร่วง ยังกับใบไม้โดนพายุหมุน เมื่อจับเอาญี่ปุ่นกลับเข้ามาอยู่ในอุ้งมือเหมือนเดิมแล้ว ต่อไปก็พวกที่คิดว่าตัวเองเป็นเสือเอเซียน่ะ มันจะเป็นเสือหรือเป็นแมวเดี๋ยวได้รู้กัน
    ช่วงนั้นหลายประเทศในเอเซีย นอกจากญี่ปุ่นแล้ว อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ ต่างก็เริ่มขยับฐานะ อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจแต่ละประเทศพวกนี้สูงกว่า ขีดในปรอทที่อเมริกาให้ IMF คอยวัดไว้ ที่อเมริกาหน้าแดงก่ำ คือมันโตกว่าอเมริกาเกือบเท่าตัว ประเทศพวกนี้ไม่มีหนี้ ไม่อยู่ในเงื่อนอะไรของ IMF เสียด้วยซ้ำ พวกเขานำความเจริญมาสู่ประเทศด้านการศึกษา การผลิตและการสร้างงานในประเทศ ที่สำคัญประเทศพวกนี้ ยังไม่เปิดประตูกว้างรับการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติและแถมมีข้อจำกัดเกี่ยว กับการนำสินค้าเข้า อเมริกาจึงเตรียมรางวัลให้กับประเทศที่กำลังเจริญเติบโตเกินอัตราที่ปรอทขีด ไว้ อย่ามาทำเป็นมีไข้(เติบโต)สูง ไอ ไม่ชอบนะ
    เหมือนกับเวลาที่สิงห์โตล่าเหยื่อ มันจะดูสัตว์ตัวที่อ่อนแอกว่าเพื่อนในฝูง ก่อนไล่ตะบบกิน ค.ศ. 1993 อเมริกาก็ได้เหยื่อที่อยากจะเป็นเสือตัวที่ 5 แห่งเอเซีย ความอยากรวยเร็วของเสือตัวที่ 5 ไม่ทันดูฉลากที่แปะมากับอาหารที่อเมริกาส่งมาให้ที่ชื่อ George Soros ผลที่ตามมาคงจะพอจำกันได้ ไทยแลนด์แดนสมันน้อย (ไม่ได้เป็นเสืออย่างที่เข้าใจ ทีนี้รู้แล้วนะ ทำไมถึงเรียกว่า “สมันน้อย”) ก็เจอฟองสบู่ลอยเต็มเมือง ตามมาด้วยการลดค่าเงินบาท ที่ทำให้ไอ้พวกโจรร้ายมันรวยล้นแผ่นดินอยู่นี่ไงล่ะ แล้วก็มีคนเดินย่องเข้าไปหานายใหญ่ที่กรุงวอชิงตัน ช่วยอ้ายน้อยด้วย ! แล้วสมันน้อยก็กลับไปซบอกนายใหญ่ ถูกใส่ปลอกคอยี่ห้อ IMF เดินเชื่องไม่ต่างกันเมื่อเขาเอาคอมมิวนิสต์มาขู่ ยอมเดินลงเปลให้เขากล่อม ทำอะไรก็ได้ในไทยแลนด์ตอนนั้น คราวนี้เราก็เสียอธิปไตยอีกหน แต่เป็นเสียอธิปไตยทางการเงิน ! ต้มยำกุ้งดังไปทั่วโลก หลังจากนั้น เสือฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ก็ระเนระนาดล้มตามกันไป จบตำนานเสือแห่งเอเซีย เดินร้องเหมียว ๆ เข้ากรง IMF กันเป็นแถว

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 25 : เหยื่อ (3) ปี ค.ศ. 1990 ญี่ปุ่นเสนอความช่วยเหลือทางการเงินให้แก่ (อดีต) สหภาพโซเวียต ซึ่งหลังจากแตกเป็นเสี่ยง ๆ (เพราะฝีมือใคร ! ?) ทำให้อเมริกาเป็นห่วงว่า ถ้าญี่ปุ่นไปจับมือกับรัสเซียจริง นานไปญี่ปุ่นอาจจะเอาใจออกห่างอเมริกา แล้วถ้าไปรวมกันเสือเศรษฐกิจแห่งเอเซียล่ะ ที่กำลังทะยานขึ้นมา มันย่อมไม่ใช่แนวทางของโลก ที่อเมริกาอยากให้เป็นนะ วิธีกดดันแบบเดิม ๆ จึงเกิดขึ้น มือหนึ่งกันจับบ่าญี่ปุ่นถามกันตรง ๆ ว่า คุณยุ่น คุณจะเลิกแผนช่วยเหลือรัสเซีย หรือคุณจะเริ่มสร้างกองทัพของคุณเอง อย่าลืมว่าทุกวันนี้ คุณยุ่นมีกองทัพเรือของอเมริกาค้ำ (คอ) ให้อยู่นะ ชอบหรือไม่ก็ตาม ระหว่างนั้นตลาดหุ้น Nikkei ก็ร่วง ยังกับใบไม้โดนพายุหมุน เมื่อจับเอาญี่ปุ่นกลับเข้ามาอยู่ในอุ้งมือเหมือนเดิมแล้ว ต่อไปก็พวกที่คิดว่าตัวเองเป็นเสือเอเซียน่ะ มันจะเป็นเสือหรือเป็นแมวเดี๋ยวได้รู้กัน ช่วงนั้นหลายประเทศในเอเซีย นอกจากญี่ปุ่นแล้ว อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ ต่างก็เริ่มขยับฐานะ อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจแต่ละประเทศพวกนี้สูงกว่า ขีดในปรอทที่อเมริกาให้ IMF คอยวัดไว้ ที่อเมริกาหน้าแดงก่ำ คือมันโตกว่าอเมริกาเกือบเท่าตัว ประเทศพวกนี้ไม่มีหนี้ ไม่อยู่ในเงื่อนอะไรของ IMF เสียด้วยซ้ำ พวกเขานำความเจริญมาสู่ประเทศด้านการศึกษา การผลิตและการสร้างงานในประเทศ ที่สำคัญประเทศพวกนี้ ยังไม่เปิดประตูกว้างรับการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติและแถมมีข้อจำกัดเกี่ยว กับการนำสินค้าเข้า อเมริกาจึงเตรียมรางวัลให้กับประเทศที่กำลังเจริญเติบโตเกินอัตราที่ปรอทขีด ไว้ อย่ามาทำเป็นมีไข้(เติบโต)สูง ไอ ไม่ชอบนะ เหมือนกับเวลาที่สิงห์โตล่าเหยื่อ มันจะดูสัตว์ตัวที่อ่อนแอกว่าเพื่อนในฝูง ก่อนไล่ตะบบกิน ค.ศ. 1993 อเมริกาก็ได้เหยื่อที่อยากจะเป็นเสือตัวที่ 5 แห่งเอเซีย ความอยากรวยเร็วของเสือตัวที่ 5 ไม่ทันดูฉลากที่แปะมากับอาหารที่อเมริกาส่งมาให้ที่ชื่อ George Soros ผลที่ตามมาคงจะพอจำกันได้ ไทยแลนด์แดนสมันน้อย (ไม่ได้เป็นเสืออย่างที่เข้าใจ ทีนี้รู้แล้วนะ ทำไมถึงเรียกว่า “สมันน้อย”) ก็เจอฟองสบู่ลอยเต็มเมือง ตามมาด้วยการลดค่าเงินบาท ที่ทำให้ไอ้พวกโจรร้ายมันรวยล้นแผ่นดินอยู่นี่ไงล่ะ แล้วก็มีคนเดินย่องเข้าไปหานายใหญ่ที่กรุงวอชิงตัน ช่วยอ้ายน้อยด้วย ! แล้วสมันน้อยก็กลับไปซบอกนายใหญ่ ถูกใส่ปลอกคอยี่ห้อ IMF เดินเชื่องไม่ต่างกันเมื่อเขาเอาคอมมิวนิสต์มาขู่ ยอมเดินลงเปลให้เขากล่อม ทำอะไรก็ได้ในไทยแลนด์ตอนนั้น คราวนี้เราก็เสียอธิปไตยอีกหน แต่เป็นเสียอธิปไตยทางการเงิน ! ต้มยำกุ้งดังไปทั่วโลก หลังจากนั้น เสือฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ก็ระเนระนาดล้มตามกันไป จบตำนานเสือแห่งเอเซีย เดินร้องเหมียว ๆ เข้ากรง IMF กันเป็นแถว คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts