• Love
    1
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 0 Reviews
  • wimol
    wimol
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • Love
    1
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • บรรดาผู้นำยุโรป รวมทั้งแคนาดา เดินทางมาถึงสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำในลอนดอนแล้ว

    คาดว่าการประชุมในวันนี้จะเน้นที่การช่วยเหลือยูเครน การป้องกันประเทศสมาชิกยุโรปจากการโจมตีจากทรัมป์ และการคิดหาวิธีที่จะให้สหรัฐกลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อยูเครนอีกครั้ง
    บรรดาผู้นำยุโรป รวมทั้งแคนาดา เดินทางมาถึงสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำในลอนดอนแล้ว คาดว่าการประชุมในวันนี้จะเน้นที่การช่วยเหลือยูเครน การป้องกันประเทศสมาชิกยุโรปจากการโจมตีจากทรัมป์ และการคิดหาวิธีที่จะให้สหรัฐกลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อยูเครนอีกครั้ง
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • "พลางตัวในหลุมก็ไม่รอด"

    ทิศทางซาโปโรซี (Zaporozhye)
    ปืนใหญ่ลากจูง M119 ขนาด 105 มม. ของยูเครน ที่พลางตัวอยู่ในหลุมถูกโจมตีด้วยโดรน FPV ของรัสเซีย
    "พลางตัวในหลุมก็ไม่รอด" ทิศทางซาโปโรซี (Zaporozhye) ปืนใหญ่ลากจูง M119 ขนาด 105 มม. ของยูเครน ที่พลางตัวอยู่ในหลุมถูกโจมตีด้วยโดรน FPV ของรัสเซีย
    0 Comments 0 Shares 205 Views 13 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • ประเทศไทยยังมีแต้มบุญ เกือบชิบหายเหมือนยูเครนแล้วมั้ยล่ะ
    ประเทศไทยยังมีแต้มบุญ เกือบชิบหายเหมือนยูเครนแล้วมั้ยล่ะ
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • อเล็กซานดาร์ วูลิน รองนายกรัฐมนตรีเซอร์เบีย กล่าวยืนยัน เซอร์เบียจะไม่ร่วมส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปยูเครน ตามความต่องการของยุโรป
    อเล็กซานดาร์ วูลิน รองนายกรัฐมนตรีเซอร์เบีย กล่าวยืนยัน เซอร์เบียจะไม่ร่วมส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปยูเครน ตามความต่องการของยุโรป
    0 Comments 0 Shares 209 Views 8 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • เคาะวันเปิด LRT3 มาเลเซีย 30 กันยายน 2025

    ในที่สุดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาสายชาห์อลัม (Shah Alam Line) หรือ LRT3 รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เชื่อมระหว่างสถานีบันดาร์ อูตามา (Bandar Utama) กับสถานีโยฮัน เซเตีย (Johan Setia) มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 30 ก.ย. 2568 หลังส่งมอบโครงการให้กับบริษัท ปราซารานา (Prasarana) ในวันที่ 31 ก.ค. 2568 ตามที่กระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 ก.พ.) ระบุว่าความคืบหน้าของโครงการอยู่ที่ 98.16%

    สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายที่ 3 (LRT3) ถือเป็นระบบขนส่งมวลชนลำดับที่ 11 ในหุบเขาแคลง มีระยะทาง 37 กิโลเมตร รวมทั้งอุโมงค์ความยาว 2 กิโลเมตร พาดผ่านเขตเปตาลิง จายา (Petaling Jaya) ชาห์อลัม (Shah Alam) และแคลง (Klang) รองรับประชากรมากกว่า 2 ล้านคน มีสถานีรถไฟฟ้า 20 สถานี และอีก 5 สถานีที่ก่อสร้างเพิ่มเติม พร้อมที่จอดรถ 6 สถานี รองรับรถยนต์รวม 2,000 คัน

    ส่วนขบวนรถมี 3 ตู้ รวม 22 ขบวน ผลิตโดยบริษัท CRRC Corporation รองรับผู้โดยสารสูงสุด 18,630 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการความถี่ทุก 6 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 67,000 เที่ยวคนต่อวัน

    จุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีบันดาร์ อูตามา ใกล้กับศูนย์การค้าวันอูตามา (1 Utama) ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ผ่านสถานที่สำคัญอย่างสนามกีฬาชาห์อลัม (Stadium Shah Alam) มัสยิดสุลต่านซาลาฮุดดินอับดุลอาซิซ (Masjid Sultan Salahuddin Abdul Aziz Shah) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยียูไอทีเอ็ม (UiTM) โครงการไอ-ซิตี้ (i-City) สวนสนุกไอ-ซิตี้ ธีมพาร์ค (i-City Theme Park) มัสยิดบันดาร์ดิราจาแคลงอูตารา (Masjid Bandar Diraja Klang Utara)

    มีสถานีเชื่อมต่อ ได้แก่ 1. สถานีบันดาร์ อูตามา เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายกาจัง (MRT Kajang Line) เส้นทางระหว่างสถานีควาซาดามานซารา (Kwasa Damansara) กับสถานีกาจัง (Kajang) ผ่านสถานีบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) และสถานีตุนราซัคเอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange)

    2. สถานีเกลนมารี 2 (Glenmarie 2) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า LRT สายเกลานา จายา (Kelana Jaya Line) เส้นทางระหว่างสถานีปูตราไฮต์ (Putra Heights) กับสถานีกอมบัค (Gombak) ผ่านสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) และสถานีเคแอลซีซี (KLCC) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์

    อนึ่ง ที่สถานีเซคชันตูจู (Seksyen 7) บริเวณเขต 7 ของรัฐสลังงอร์ มีศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ (Central i-City) ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาจากประเทศไทย ลงทุนร่วมกับไอ-เบอร์ฮัด (I-Berhad) เปิดให้บริการเมื่อปี 2562

    #Newskit
    เคาะวันเปิด LRT3 มาเลเซีย 30 กันยายน 2025 ในที่สุดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาสายชาห์อลัม (Shah Alam Line) หรือ LRT3 รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เชื่อมระหว่างสถานีบันดาร์ อูตามา (Bandar Utama) กับสถานีโยฮัน เซเตีย (Johan Setia) มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 30 ก.ย. 2568 หลังส่งมอบโครงการให้กับบริษัท ปราซารานา (Prasarana) ในวันที่ 31 ก.ค. 2568 ตามที่กระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 ก.พ.) ระบุว่าความคืบหน้าของโครงการอยู่ที่ 98.16% สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายที่ 3 (LRT3) ถือเป็นระบบขนส่งมวลชนลำดับที่ 11 ในหุบเขาแคลง มีระยะทาง 37 กิโลเมตร รวมทั้งอุโมงค์ความยาว 2 กิโลเมตร พาดผ่านเขตเปตาลิง จายา (Petaling Jaya) ชาห์อลัม (Shah Alam) และแคลง (Klang) รองรับประชากรมากกว่า 2 ล้านคน มีสถานีรถไฟฟ้า 20 สถานี และอีก 5 สถานีที่ก่อสร้างเพิ่มเติม พร้อมที่จอดรถ 6 สถานี รองรับรถยนต์รวม 2,000 คัน ส่วนขบวนรถมี 3 ตู้ รวม 22 ขบวน ผลิตโดยบริษัท CRRC Corporation รองรับผู้โดยสารสูงสุด 18,630 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการความถี่ทุก 6 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 67,000 เที่ยวคนต่อวัน จุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีบันดาร์ อูตามา ใกล้กับศูนย์การค้าวันอูตามา (1 Utama) ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ผ่านสถานที่สำคัญอย่างสนามกีฬาชาห์อลัม (Stadium Shah Alam) มัสยิดสุลต่านซาลาฮุดดินอับดุลอาซิซ (Masjid Sultan Salahuddin Abdul Aziz Shah) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยียูไอทีเอ็ม (UiTM) โครงการไอ-ซิตี้ (i-City) สวนสนุกไอ-ซิตี้ ธีมพาร์ค (i-City Theme Park) มัสยิดบันดาร์ดิราจาแคลงอูตารา (Masjid Bandar Diraja Klang Utara) มีสถานีเชื่อมต่อ ได้แก่ 1. สถานีบันดาร์ อูตามา เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายกาจัง (MRT Kajang Line) เส้นทางระหว่างสถานีควาซาดามานซารา (Kwasa Damansara) กับสถานีกาจัง (Kajang) ผ่านสถานีบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) และสถานีตุนราซัคเอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) 2. สถานีเกลนมารี 2 (Glenmarie 2) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า LRT สายเกลานา จายา (Kelana Jaya Line) เส้นทางระหว่างสถานีปูตราไฮต์ (Putra Heights) กับสถานีกอมบัค (Gombak) ผ่านสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) และสถานีเคแอลซีซี (KLCC) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ อนึ่ง ที่สถานีเซคชันตูจู (Seksyen 7) บริเวณเขต 7 ของรัฐสลังงอร์ มีศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ (Central i-City) ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาจากประเทศไทย ลงทุนร่วมกับไอ-เบอร์ฮัด (I-Berhad) เปิดให้บริการเมื่อปี 2562 #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews
  • นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ โดนัลด์ ทัสก์ กล่าวก่อนขึ้นเครื่องบินไปลอนดอนเพื่อร่วมการประชุมสุดยอดยุโรป-ยูเครน ว่า

    "ชาวยุโรป 500 ล้านคนกำลังขอให้ชาวอเมริกัน 300 ล้านคนปกป้องพวกเขาจากชาวรัสเซีย 140 ล้านคน"

    สิ่งที่ทัสก์พูด บ่งบอกได้ว่ายุโรปอ่อนแอขนาดไหน
    นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ โดนัลด์ ทัสก์ กล่าวก่อนขึ้นเครื่องบินไปลอนดอนเพื่อร่วมการประชุมสุดยอดยุโรป-ยูเครน ว่า "ชาวยุโรป 500 ล้านคนกำลังขอให้ชาวอเมริกัน 300 ล้านคนปกป้องพวกเขาจากชาวรัสเซีย 140 ล้านคน" สิ่งที่ทัสก์พูด บ่งบอกได้ว่ายุโรปอ่อนแอขนาดไหน
    0 Comments 0 Shares 213 Views 11 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • JJK ❤️❤️❤️❤️
    JJK ❤️❤️❤️❤️
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • ซ้อมวงออร์เคสตร้า คริสตจักรไมตรีจิตต์
    ซ้อมวงออร์เคสตร้า คริสตจักรไมตรีจิตต์
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • รายละเอียด/ราคา

    FB : Lek's Kitchenware
    IG : Lek's Choices
    รายละเอียด/ราคา FB : Lek's Kitchenware IG : Lek's Choices
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • My Art My Work My Craft....❤️❤️❤️
    My Art My Work My Craft....❤️❤️❤️
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • รายละเอียด/ราคา

    FB : Lek's Kitchenware
    IG : Lek's Choices
    รายละเอียด/ราคา FB : Lek's Kitchenware IG : Lek's Choices
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • แพทองธารกล่าว "อย่าท้อใจ" GDP ไทยรั้งท้ายอาเซียน

    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการโอกาสไทยกับนายกแพทองธาร ทางช่อง NBT เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ในตอนหนึ่งกล่าวถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งมีหลายฝ่ายกังวลว่าเศรษฐกิจไทยไม่โตและรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน เจ้าตัวชี้แจงว่าไตรมาส 4/2567 ตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้น 3.2% รวมทั้งปีอยู่ที่ 2.5% เกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

    น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ หากไม่ทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า จะตามคนอื่นไม่ทัน ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องดันจีดีพีขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตอนที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน เป็นนายกฯ เกือบ 6 เดือน ดูเรื่องงบประมาณค่อนข้างจำกัด งบส่วนใหญ่ที่รัฐได้มาจะถูกนำไปใช้จ่ายเรื่องงบประจำ พยายามรัดเข็มขัดให้ดี ไม่อยากให้มีการจ่ายเพิ่มงบประจำ ขออย่าเสียกำลังใจในเรื่องจีดีพี

    "จีดีพีเราโต 2.5% แปลว่าเราโตขึ้นจากปีที่แล้ว 2% ขยับขึ้นและคิดว่าภายใต้การนำของรัฐบาลร่วมกับเอกชนร่วมมือกัน จีดีพีมีโอกาสโตขึ้นสูงมากๆ อย่าเพิ่งท้อใจ นี่เพิ่งต้นปี เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย"

    น.ส.แพทองธารยืนยันว่า ตนต้องอยู่ครบเทอมเพื่อผลักดันการลงทุน ยืนยันว่าทุกจังหวัดรัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว เพิ่งเริ่มต้นรัฐบาลผลักดันต่อแน่นอน เพื่อให้จีดีพีของประเทศเพิ่มมากขึ้น แปลว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้น ให้ประเทศอื่นได้ดูด้วยว่าประเทศไทยมีคุณภาพ มีศักยภาพขึ้นแล้ว จีดีพีช่วงนี้ที่ไม่ได้ขึ้นมานานก็ขึ้น กำลังค่อยๆ ไปต่อ ตนอยากทำให้ขึ้นแบบก้าวกระโดด คิดว่าเป็นไปได้ รัฐบาลอยากให้พี่น้องทุกคนร่ำรวย จะได้จับจ่ายใช้สอยให้เกิดประโยชน์กับประเทศ

    “ก็ขอกำลังใจเยอะๆ บางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ ประเทศยังต้องการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน”

    ก่อนหน้านี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าปี 2568 จีดีพีโต 2.8% รวมมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทแล้ว แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่ยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม (6.4%) ฟิลิปปินส์ (6%) และกัมพูชา (6%) แต่ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าโลก หากรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจโตถึง 3-3.5% ต้องกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนและเร่งกระจายเงินลงทุนภาครัฐเพิ่มเติม

    #Newskit
    แพทองธารกล่าว "อย่าท้อใจ" GDP ไทยรั้งท้ายอาเซียน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการโอกาสไทยกับนายกแพทองธาร ทางช่อง NBT เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ในตอนหนึ่งกล่าวถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งมีหลายฝ่ายกังวลว่าเศรษฐกิจไทยไม่โตและรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน เจ้าตัวชี้แจงว่าไตรมาส 4/2567 ตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้น 3.2% รวมทั้งปีอยู่ที่ 2.5% เกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ หากไม่ทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า จะตามคนอื่นไม่ทัน ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องดันจีดีพีขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตอนที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน เป็นนายกฯ เกือบ 6 เดือน ดูเรื่องงบประมาณค่อนข้างจำกัด งบส่วนใหญ่ที่รัฐได้มาจะถูกนำไปใช้จ่ายเรื่องงบประจำ พยายามรัดเข็มขัดให้ดี ไม่อยากให้มีการจ่ายเพิ่มงบประจำ ขออย่าเสียกำลังใจในเรื่องจีดีพี "จีดีพีเราโต 2.5% แปลว่าเราโตขึ้นจากปีที่แล้ว 2% ขยับขึ้นและคิดว่าภายใต้การนำของรัฐบาลร่วมกับเอกชนร่วมมือกัน จีดีพีมีโอกาสโตขึ้นสูงมากๆ อย่าเพิ่งท้อใจ นี่เพิ่งต้นปี เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย" น.ส.แพทองธารยืนยันว่า ตนต้องอยู่ครบเทอมเพื่อผลักดันการลงทุน ยืนยันว่าทุกจังหวัดรัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว เพิ่งเริ่มต้นรัฐบาลผลักดันต่อแน่นอน เพื่อให้จีดีพีของประเทศเพิ่มมากขึ้น แปลว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้น ให้ประเทศอื่นได้ดูด้วยว่าประเทศไทยมีคุณภาพ มีศักยภาพขึ้นแล้ว จีดีพีช่วงนี้ที่ไม่ได้ขึ้นมานานก็ขึ้น กำลังค่อยๆ ไปต่อ ตนอยากทำให้ขึ้นแบบก้าวกระโดด คิดว่าเป็นไปได้ รัฐบาลอยากให้พี่น้องทุกคนร่ำรวย จะได้จับจ่ายใช้สอยให้เกิดประโยชน์กับประเทศ “ก็ขอกำลังใจเยอะๆ บางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ ประเทศยังต้องการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน” ก่อนหน้านี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าปี 2568 จีดีพีโต 2.8% รวมมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทแล้ว แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่ยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม (6.4%) ฟิลิปปินส์ (6%) และกัมพูชา (6%) แต่ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าโลก หากรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจโตถึง 3-3.5% ต้องกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนและเร่งกระจายเงินลงทุนภาครัฐเพิ่มเติม #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • ในที่สุดออสเตรียก็ได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว หลังจากผ่านการเลือกตั้งมานานถึงห้าเดือน พรรคที่ได้อันดับหนึ่ง กลายเป็นฝ่ายค้าน เพราะไม่มีใครอยากร่วมด้วย พรรครัฐบาลเกิดจากพรรคอันดับรองลงไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยผสมกันระหว่างฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา

    พรรคเสรีภาพ ( Freedom Party - FPÖ) ต้องเป็นฝ่ายค้าน แม้ว่าพรรคจะได้รับชัยชนะมีที่นั่งสูงสุดมาเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งเมื่อห้าเดือนที่แล้ว แต่ไม่พอจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และ "ไม่มีพรรคใดอยากเข้าร่วมด้วย"

    ขณะที่พรรคอันดับรองลงไป ซึ่งก็คือพรรคประชาชนอนุรักษ์นิยม (The conservative People's Party - ÖVP) พรรคสังคมประชาธิปไตย (Social Democrats - SPÖ) และพรรคเสรีนิยมนีโอ (Austria’s liberal Neos) จับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ซึ่งกินเวลานานถึง 151 วัน หรือประมาณห้าเดือน นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งถือเป็นสถิติที่ใช้ระยะเวลาจัดตั้งรัฐบาลนานที่สุดในการเมืองออสเตรีย นอกจากนี้ยังเป็นพรรคผสมระหว่างฝ่ายซ้าย (เสรีนิยม) และฝ่ายขวา (อนุรักษ์นิยม) อีกด้วย

    คริสเตียน สต็อคเกอร์ หัวหน้าพรรคประชาชนออสเตรีย (ÖVP) ซึ่งเป็น "พรรคอนุรักษ์นิยมสายกลาง" จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

    ในที่สุดออสเตรียก็ได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว หลังจากผ่านการเลือกตั้งมานานถึงห้าเดือน พรรคที่ได้อันดับหนึ่ง กลายเป็นฝ่ายค้าน เพราะไม่มีใครอยากร่วมด้วย พรรครัฐบาลเกิดจากพรรคอันดับรองลงไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยผสมกันระหว่างฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา พรรคเสรีภาพ ( Freedom Party - FPÖ) ต้องเป็นฝ่ายค้าน แม้ว่าพรรคจะได้รับชัยชนะมีที่นั่งสูงสุดมาเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งเมื่อห้าเดือนที่แล้ว แต่ไม่พอจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และ "ไม่มีพรรคใดอยากเข้าร่วมด้วย" ขณะที่พรรคอันดับรองลงไป ซึ่งก็คือพรรคประชาชนอนุรักษ์นิยม (The conservative People's Party - ÖVP) พรรคสังคมประชาธิปไตย (Social Democrats - SPÖ) และพรรคเสรีนิยมนีโอ (Austria’s liberal Neos) จับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ซึ่งกินเวลานานถึง 151 วัน หรือประมาณห้าเดือน นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งถือเป็นสถิติที่ใช้ระยะเวลาจัดตั้งรัฐบาลนานที่สุดในการเมืองออสเตรีย นอกจากนี้ยังเป็นพรรคผสมระหว่างฝ่ายซ้าย (เสรีนิยม) และฝ่ายขวา (อนุรักษ์นิยม) อีกด้วย คริสเตียน สต็อคเกอร์ หัวหน้าพรรคประชาชนออสเตรีย (ÖVP) ซึ่งเป็น "พรรคอนุรักษ์นิยมสายกลาง" จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews