ดีลทักษิณ-เนวินไม่เกิด แต่คิงเพาเวอร์ขาดทุนจริง
สะพัดตั้งแต่เช้าวันที่ 24 ก.พ. รายงานข่าวแจ้งว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย จะนัดเจอกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นลูกสาว เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเอาพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
แต่พอเอาเข้าจริงกลับพบภาพของนายเนวิน ไปที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) เพียงคนเดียว โดยที่สื่อบางสำนักระบุว่าดีลล่ม ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ซึ่งไปปฎิบัติภารกิจที่ช่อง 11 ถนนวิภาวดีรังสิต ปฎิเสธพร้อมกล่าวว่า ไม่ไป จะกลับบ้าน ไปหาน้องธาษิณ (ลูกชาย) และคิดว่านายทักษิณไม่น่าจะไป ส่วนนายอนุทิน ไปรับเสด็จที่วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อ.แม่จัน จ.เชียงราย ไม่รู้เรื่องข่าวนี้ และระบุว่าการที่นายเนวินไปโรงแรมพูลแมนฯ เป็นเรื่องปกติ
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุด้วยว่าในการพบกันระหว่าง "ทักษิณ-เนวิน" ซึ่งภายหลังก็ไม่ได้เจอกัน จะมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ทายาทนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าพ่อดิวตี้ฟรี เข้าร่วมพูดคุยด้วย โดยเป็นที่น่าจับตามองว่า อาจจะมีการเจรจาด้านธุรกิจ เนื่องจากรายงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) ระบุว่า คิง เพาเวอร์ ประสบกับปัญหาขาดทุนกว่า 651 ล้านบาท
แม้ดีลระหว่าง "ทักษิณ-เนวิน" จะไม่เกิดขึ้น แต่เรื่องที่ คิง เพาเวอร์ขาดทุนเป็นเรื่องจริง ก่อนหน้านี้ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ระบุว่า รายได้ของ AOT มีปัญหาเพราะผู้รับสัมปทานเช่าพื้นที่ ซึ่งหมายถึง คิง เพาเวอร์ ซึ่งรับสัมปทานร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) 4 สนามบิน มีปัญหาขาดสภาพคล่อง ขอยืดเวลาการชำระผลตอบแทนขั้นต่ำออกไปเป็นระยะเวลา 18 เดือน โดยยอมจ่ายค่าปรับ 18% ต่อปี ทำเอาราคาหุ้น AOT ร่วงลงมา
แต่ถึงกระนั้น นายอัยยวัฒน์เคยยืนยันกับสื่อค่ายยักษ์แห่งหนึ่งว่า การขอเลื่อนเวลาชำระค่าตอบแทน เป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา ผู้ประกอบการหลายรายยื่นขอเลื่อนการจ่ายค่าตอบแทน เพราะรายได้ที่ประเมินไว้ไม่เข้าเป้า ที่ผ่านมารายได้ที่หายไปในช่วงโควิด ถึงวันนี้ยังไม่กลับมา ยังมีกรณีของดาราจีน "ซิง ซิง" ที่ถูกหลอกลวงไปเมียนมา เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหยุดเดินทางมาไทย ในฐานะผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องขอความกรุณาและช่วยเหลือจากรัฐ
#Newskit ดีลทักษิณ-เนวินไม่เกิด แต่คิงเพาเวอร์ขาดทุนจริง
สะพัดตั้งแต่เช้าวันที่ 24 ก.พ. รายงานข่าวแจ้งว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย จะนัดเจอกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นลูกสาว เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเอาพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
แต่พอเอาเข้าจริงกลับพบภาพของนายเนวิน ไปที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) เพียงคนเดียว โดยที่สื่อบางสำนักระบุว่าดีลล่ม ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ซึ่งไปปฎิบัติภารกิจที่ช่อง 11 ถนนวิภาวดีรังสิต ปฎิเสธพร้อมกล่าวว่า ไม่ไป จะกลับบ้าน ไปหาน้องธาษิณ (ลูกชาย) และคิดว่านายทักษิณไม่น่าจะไป ส่วนนายอนุทิน ไปรับเสด็จที่วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อ.แม่จัน จ.เชียงราย ไม่รู้เรื่องข่าวนี้ และระบุว่าการที่นายเนวินไปโรงแรมพูลแมนฯ เป็นเรื่องปกติ
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุด้วยว่าในการพบกันระหว่าง "ทักษิณ-เนวิน" ซึ่งภายหลังก็ไม่ได้เจอกัน จะมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ทายาทนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าพ่อดิวตี้ฟรี เข้าร่วมพูดคุยด้วย โดยเป็นที่น่าจับตามองว่า อาจจะมีการเจรจาด้านธุรกิจ เนื่องจากรายงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) ระบุว่า คิง เพาเวอร์ ประสบกับปัญหาขาดทุนกว่า 651 ล้านบาท
แม้ดีลระหว่าง "ทักษิณ-เนวิน" จะไม่เกิดขึ้น แต่เรื่องที่ คิง เพาเวอร์ขาดทุนเป็นเรื่องจริง ก่อนหน้านี้ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ระบุว่า รายได้ของ AOT มีปัญหาเพราะผู้รับสัมปทานเช่าพื้นที่ ซึ่งหมายถึง คิง เพาเวอร์ ซึ่งรับสัมปทานร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) 4 สนามบิน มีปัญหาขาดสภาพคล่อง ขอยืดเวลาการชำระผลตอบแทนขั้นต่ำออกไปเป็นระยะเวลา 18 เดือน โดยยอมจ่ายค่าปรับ 18% ต่อปี ทำเอาราคาหุ้น AOT ร่วงลงมา
แต่ถึงกระนั้น นายอัยยวัฒน์เคยยืนยันกับสื่อค่ายยักษ์แห่งหนึ่งว่า การขอเลื่อนเวลาชำระค่าตอบแทน เป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา ผู้ประกอบการหลายรายยื่นขอเลื่อนการจ่ายค่าตอบแทน เพราะรายได้ที่ประเมินไว้ไม่เข้าเป้า ที่ผ่านมารายได้ที่หายไปในช่วงโควิด ถึงวันนี้ยังไม่กลับมา ยังมีกรณีของดาราจีน "ซิง ซิง" ที่ถูกหลอกลวงไปเมียนมา เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหยุดเดินทางมาไทย ในฐานะผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องขอความกรุณาและช่วยเหลือจากรัฐ
#Newskit