0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
66 มุมมอง
0 รีวิว
รายการ
ค้นพบผู้คนใหม่ๆ สร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ และรู้จักเพื่อนใหม่
- กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อกดถูกใจ แชร์ และแสดงความคิดเห็น!
- หมอเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ โวย “แอ๊ด คาราบาว” เบี้ยวสร้างโรงพยาบาลทางเลือก โทรไปไม่รับตัดสายทิ้ง ส่งจดหมายไปก็ไม่ตอบ แถมเงินในบัญชีรับบริจาคก็ไม่เคลียร์
อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121992
#News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimesหมอเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ โวย “แอ๊ด คาราบาว” เบี้ยวสร้างโรงพยาบาลทางเลือก โทรไปไม่รับตัดสายทิ้ง ส่งจดหมายไปก็ไม่ตอบ แถมเงินในบัญชีรับบริจาคก็ไม่เคลียร์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121992 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1668 มุมมอง 0 รีวิว
27
- วิธีออมเงินให้ถึงเป้าหมายวิธีออมเงินให้ถึงเป้าหมาย0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 2 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
- เวลาประหารยามอู่สามเค่อสวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับอีกเกร็ดเล็กๆ จาก เรื่อง <ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์>ในฉากที่เริ่มการสอบชิงเข้าเป็นศิษย์ของหลี่ฉางเซิงนั้น มีการโยนป้ายคำสั่งให้เริ่มแข่ง ทำให้เยี่ยติ่งจือถึงกับหลุดปากออกมาว่าได้อารมณ์เหมือนตอนลงทัณฑ์นักโทษยามอู่สามเค่อ เลยเป็นที่มาของความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ ว่า ในหลายซีรีส์เรามักเห็นเขานั่งรอเวลาประหารนักโทษกัน มันมีความนัยอย่างไรหรือไม่? Storyฯ ไปทำการบ้านมาพบว่าในสมัยจีนโบราณมีหลักเกณฑ์การเลือกเวลาประหารนักโทษค่ะยามอู่สามเค่อคือกี่โมง? ยามอู่คือช่วงเวลาระหว่าง 11.00 – 12.59น. และหนึ่งเค่อคือระยะเวลาประมาณ 15 นาที ส่วนยามอู่ที่ถูกกล่าวถึงใน ‘ยามอู่สามเค่อ’นั้น เป็นที่ถกเถียงกันไม่น้อยว่าหมายถึง ‘เข้ายามอู่’ (คือ 11.00น.) หรือ ‘ยามอู่หลัก’ (12.00น.) แต่ด้วยความนัยของเวลาประหารนักโทษ หลายข้อมูลที่หาพบจึงกล่าวว่า ‘ยามอู่สามเค่อ’ ก็คือเวลา 11.45น. นั่นเอง ถามว่าทำไมต้องเลือกเวลานี้เพื่อทำการประหารนักโทษ? เรื่องนี้เกี่ยวพันกับความเชื่อเรื่องพลังแห่งหยางและดวงวิญญาณในวัฒนธรรมจีนโบราณมีความเชื่อเรื่องตายแล้วเกิดใหม่ และก่อนจะได้ไปเกิดใหม่วิญญาณอาจวนเวียนอยู่ใกล้สถานที่ตายหรือผู้ที่สังหารตนได้ และในส่วนนักโทษที่มีโทษหนักนั้น ก็จะมีความเชื่อว่าวิญญาณเหล่านั้นจะมีแรงอาฆาตสูง ดังนั้น การเลือกเวลาประหารควรเลือกเวลาที่มีพลังหยางสูงสุดเพื่อลดทอนพลังหยินและแรงอาฆาตของวิญญาณเหล่านี้ และเวลา 11.45น. นี้เป็นเวลาที่คนโบราณเชื่อว่าแสงแดดแรงสุด พลังหยางสูงสุด คนที่ถูกฆ่าในเวลานี้ดวงวิญญาณจะถูกทำลายสิ้นไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้และแน่นอนว่าไม่สามารถมาวนเวียนก่อกวนความสงบสุขของใครได้ นับว่าเป็นการลงทัณฑ์ที่ร้ายแรงที่สุดแล้วแต่เวลาประหารนักโทษนี้ เดิมไม่ได้เลือกเวลา 11.45น. เสมอไป ในสมัยถังและซ่งนั้น เวลาประหารนักโทษคือเวลาตะวันคล้อยก่อนเลิกงานซึ่งก็คือช่วงยามเซิน (15.00-16.59น.) เป็นนัยว่าเพื่อส่งให้เขาเหล่านั้นไปยังปรโลกได้โดยเร็ว เว้นแต่นักโทษประหารที่ก่อคดีร้ายแรงมาก จึงจะเลือกเวลา 11.45น. เพื่อไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิด แต่ต่อมาในช่วงปลายหมิงและชิงได้เปลี่ยนแนวปฏิบัติมาใช้เวลา 11.45น. สำหรับโทษประหารทุกคน บางคนวิเคราะห์เหตุผลว่า นอกจากความเชื่อเรื่องแรงอาฆาตของดวงวิญญาณแล้ว เวลาใกล้เที่ยงนี้ยังเป็นเวลาที่เรียกคนมาชมการประหารได้มาก ยิ่งส่งเสริมการ ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’ เพื่อให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวต่อการถูกประหารจนไม่กล้าทำความผิดทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกวันที่จะทำการประหารนักโทษได้ ในแต่ละยุคสมัยยังมีการระบุว่าวันใดที่ห้ามทำการประหารนักโทษ อย่างเช่นในสมัยถัง ห้ามประหารนักโทษในวันขึ้น 1, 8, 14, 15 ค่ำของทุกเดือน ฯลฯ (ซึ่ง Storyฯ ก็ไม่ทราบความนัย) อีกทั้งไม่ให้ทำการประหารในยามฝนตกอีกด้วย ดังนั้น เอาจริงๆ แล้วในหนึ่งปีก็มีไม่กี่วันหรอกค่ะ ที่สามารถทำการประหารนักโทษได้ในไทยโบราณมีเลือกเวลาอย่างนี้ไหมคะ มีใครทราบบ้าง? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20240724A06SDS00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://www.sohu.com/a/565335367_121249220 https://www.163.com/dy/article/J5AAPH670543LPNW.html https://www.sohu.com/a/820535074_121629584 https://www.zxls.com/Item/5992.aspx #ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์ #ยามอู่สามเค่อ #เวลาประหารนักโทษ #สาระจีนเวลาประหารยามอู่สามเค่อสวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับอีกเกร็ดเล็กๆ จาก เรื่อง <ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์>ในฉากที่เริ่มการสอบชิงเข้าเป็นศิษย์ของหลี่ฉางเซิงนั้น มีการโยนป้ายคำสั่งให้เริ่มแข่ง ทำให้เยี่ยติ่งจือถึงกับหลุดปากออกมาว่าได้อารมณ์เหมือนตอนลงทัณฑ์นักโทษยามอู่สามเค่อ เลยเป็นที่มาของความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ ว่า ในหลายซีรีส์เรามักเห็นเขานั่งรอเวลาประหารนักโทษกัน มันมีความนัยอย่างไรหรือไม่? Storyฯ ไปทำการบ้านมาพบว่าในสมัยจีนโบราณมีหลักเกณฑ์การเลือกเวลาประหารนักโทษค่ะยามอู่สามเค่อคือกี่โมง? ยามอู่คือช่วงเวลาระหว่าง 11.00 – 12.59น. และหนึ่งเค่อคือระยะเวลาประมาณ 15 นาที ส่วนยามอู่ที่ถูกกล่าวถึงใน ‘ยามอู่สามเค่อ’นั้น เป็นที่ถกเถียงกันไม่น้อยว่าหมายถึง ‘เข้ายามอู่’ (คือ 11.00น.) หรือ ‘ยามอู่หลัก’ (12.00น.) แต่ด้วยความนัยของเวลาประหารนักโทษ หลายข้อมูลที่หาพบจึงกล่าวว่า ‘ยามอู่สามเค่อ’ ก็คือเวลา 11.45น. นั่นเอง ถามว่าทำไมต้องเลือกเวลานี้เพื่อทำการประหารนักโทษ? เรื่องนี้เกี่ยวพันกับความเชื่อเรื่องพลังแห่งหยางและดวงวิญญาณในวัฒนธรรมจีนโบราณมีความเชื่อเรื่องตายแล้วเกิดใหม่ และก่อนจะได้ไปเกิดใหม่วิญญาณอาจวนเวียนอยู่ใกล้สถานที่ตายหรือผู้ที่สังหารตนได้ และในส่วนนักโทษที่มีโทษหนักนั้น ก็จะมีความเชื่อว่าวิญญาณเหล่านั้นจะมีแรงอาฆาตสูง ดังนั้น การเลือกเวลาประหารควรเลือกเวลาที่มีพลังหยางสูงสุดเพื่อลดทอนพลังหยินและแรงอาฆาตของวิญญาณเหล่านี้ และเวลา 11.45น. นี้เป็นเวลาที่คนโบราณเชื่อว่าแสงแดดแรงสุด พลังหยางสูงสุด คนที่ถูกฆ่าในเวลานี้ดวงวิญญาณจะถูกทำลายสิ้นไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้และแน่นอนว่าไม่สามารถมาวนเวียนก่อกวนความสงบสุขของใครได้ นับว่าเป็นการลงทัณฑ์ที่ร้ายแรงที่สุดแล้วแต่เวลาประหารนักโทษนี้ เดิมไม่ได้เลือกเวลา 11.45น. เสมอไป ในสมัยถังและซ่งนั้น เวลาประหารนักโทษคือเวลาตะวันคล้อยก่อนเลิกงานซึ่งก็คือช่วงยามเซิน (15.00-16.59น.) เป็นนัยว่าเพื่อส่งให้เขาเหล่านั้นไปยังปรโลกได้โดยเร็ว เว้นแต่นักโทษประหารที่ก่อคดีร้ายแรงมาก จึงจะเลือกเวลา 11.45น. เพื่อไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิด แต่ต่อมาในช่วงปลายหมิงและชิงได้เปลี่ยนแนวปฏิบัติมาใช้เวลา 11.45น. สำหรับโทษประหารทุกคน บางคนวิเคราะห์เหตุผลว่า นอกจากความเชื่อเรื่องแรงอาฆาตของดวงวิญญาณแล้ว เวลาใกล้เที่ยงนี้ยังเป็นเวลาที่เรียกคนมาชมการประหารได้มาก ยิ่งส่งเสริมการ ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’ เพื่อให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวต่อการถูกประหารจนไม่กล้าทำความผิดทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกวันที่จะทำการประหารนักโทษได้ ในแต่ละยุคสมัยยังมีการระบุว่าวันใดที่ห้ามทำการประหารนักโทษ อย่างเช่นในสมัยถัง ห้ามประหารนักโทษในวันขึ้น 1, 8, 14, 15 ค่ำของทุกเดือน ฯลฯ (ซึ่ง Storyฯ ก็ไม่ทราบความนัย) อีกทั้งไม่ให้ทำการประหารในยามฝนตกอีกด้วย ดังนั้น เอาจริงๆ แล้วในหนึ่งปีก็มีไม่กี่วันหรอกค่ะ ที่สามารถทำการประหารนักโทษได้ในไทยโบราณมีเลือกเวลาอย่างนี้ไหมคะ มีใครทราบบ้าง? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20240724A06SDS00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://www.sohu.com/a/565335367_121249220 https://www.163.com/dy/article/J5AAPH670543LPNW.html https://www.sohu.com/a/820535074_121629584 https://www.zxls.com/Item/5992.aspx #ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์ #ยามอู่สามเค่อ #เวลาประหารนักโทษ #สาระจีน0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 807 มุมมอง 0 รีวิว
- MooDeng หมูเด้ง ( English Special Version ) Ver. Pop Dance | Ter Chahcanok | เต๋อพาเที่ยว | TerOfficial
Lyrics : Ton TerOfficial
#moodeng #Hippo #หมูเด้ง #TerChatchanok #popdanceMooDeng หมูเด้ง ( English Special Version ) Ver. Pop Dance | Ter Chahcanok | เต๋อพาเที่ยว | TerOfficial Lyrics : Ton TerOfficial #moodeng #Hippo #หมูเด้ง #TerChatchanok #popdance0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1917 มุมมอง 24 0 รีวิว2
- นรก สวรรค์ ไม่มีใครพาไป ใครอยากไปทำเอง ชอบทางนรกก็ทำไป ชอบทางสวรรค์ก็ทำไป ทำเอาเองนรก สวรรค์ ไม่มีใครพาไป ใครอยากไปทำเอง ชอบทางนรกก็ทำไป ชอบทางสวรรค์ก็ทำไป ทำเอาเอง0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
- เดอะ สเตรท์สไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นางรอสมาห์ มันซอร์ ภรรยา วัย 72 ปีของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกำลังรับโทษในคดีทุจริตอยู่นั้น ถูกศาลสูงของมาเลเซียตัดสินให้พ้นผิดจากข้อหารวม 12 กระทงในคดีฟอกเงิน มูลค่า 7 ล้านริงกิต (ราว 53.8 ล้านบาท) และอีก 5 กระทงฐานไม่แจ้งรายได้ของตนเองต่อสรรพากรเดอะ สเตรท์สไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นางรอสมาห์ มันซอร์ ภรรยา วัย 72 ปีของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกำลังรับโทษในคดีทุจริตอยู่นั้น ถูกศาลสูงของมาเลเซียตัดสินให้พ้นผิดจากข้อหารวม 12 กระทงในคดีฟอกเงิน มูลค่า 7 ล้านริงกิต (ราว 53.8 ล้านบาท) และอีก 5 กระทงฐานไม่แจ้งรายได้ของตนเองต่อสรรพากร0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว2
-
-
-
- ปูตินพูดถึงสถานการณ์ในซีเรียเป็นครั้งแรกวันนี้
"รัสเซียไม่ได้แพ้ในซีเรีย"
"เรามาที่นี่เพื่อทำลายกลุ่มก่อการร้าย และป้องกันไม่ให้พวกเขามีที่ยืนขึ้นมาที่นั่น ซึ่งโดยรวมแล้วพวกเราก็บรรลุเป้าหมายแล้ว
นอกจากนี้ พวกเรายังช่วยอพยพนักรบอิหร่านกว่า 4,000 คนจากซีเรียไปยังเตหะราน
ฐานทัพคไมมิมและฐานทัพในทาร์ทัสสามารถนำมาใช้เพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังซีเรียได้
พวกกบฏใช้นักรบเพียง 350 คนเข้ายึดเมืองอาเลปโป ในขณะที่ทหารของรัฐบาลซีเรียมีมากถึง 30,000 นาย และยังมีหน่วยที่สนับสนุนจากอิหร่านอีก แต่พวกเขาถอนทัพโดยไม่มีการสู้รบเลย
ส่วนตัวผมยังไม่ได้พบกับอัสซาดเลยตั้งแต่เขามาถึงมอสโก แต่ก็วางแผนไว้ว่าจะไปพบเขา"ปูตินพูดถึงสถานการณ์ในซีเรียเป็นครั้งแรกวันนี้ "รัสเซียไม่ได้แพ้ในซีเรีย" "เรามาที่นี่เพื่อทำลายกลุ่มก่อการร้าย และป้องกันไม่ให้พวกเขามีที่ยืนขึ้นมาที่นั่น ซึ่งโดยรวมแล้วพวกเราก็บรรลุเป้าหมายแล้ว นอกจากนี้ พวกเรายังช่วยอพยพนักรบอิหร่านกว่า 4,000 คนจากซีเรียไปยังเตหะราน ฐานทัพคไมมิมและฐานทัพในทาร์ทัสสามารถนำมาใช้เพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังซีเรียได้ พวกกบฏใช้นักรบเพียง 350 คนเข้ายึดเมืองอาเลปโป ในขณะที่ทหารของรัฐบาลซีเรียมีมากถึง 30,000 นาย และยังมีหน่วยที่สนับสนุนจากอิหร่านอีก แต่พวกเขาถอนทัพโดยไม่มีการสู้รบเลย ส่วนตัวผมยังไม่ได้พบกับอัสซาดเลยตั้งแต่เขามาถึงมอสโก แต่ก็วางแผนไว้ว่าจะไปพบเขา"0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว - 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
- 24 ธค. ครั้งสุดท้าย ของปีนี้
หลังจากให้เวลารัฐบาล 15วัน
ก็ถึงคราวที่จะต้องไปทวงแค้น ไม่ใช่สิ ไปทวงถาม24 ธค. ครั้งสุดท้าย ของปีนี้ หลังจากให้เวลารัฐบาล 15วัน ก็ถึงคราวที่จะต้องไปทวงแค้น ไม่ใช่สิ ไปทวงถาม0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 19 1 รีวิว
7
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
- เครือข่ายภาคประชาชนกับการตรวจสอบระบอบทักษิณ : คนเคาะข่าว 19-12-67
: พิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)
: กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ
#คนเคาะข่าวเครือข่ายภาคประชาชนกับการตรวจสอบระบอบทักษิณ : คนเคาะข่าว 19-12-67 : พิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) : กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ #คนเคาะข่าว0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 893 มุมมอง 6 0 รีวิว
2
- World Military and Political (การทหารและการเมืองโลก) เพิ่มวิดีโอแล้ว ข่าวและการเมืองปูตินพูดถึงปัญหาตะวันออกกลาง:
รัสเซียยืนหยัดเพื่อปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระ อิสราเอลคือ “ผู้รับประโยชน์หลัก” จากวิกฤตในซีเรีย และควรถูกประณามจากสิ่งที่ทำในกาซา ส่วนตุรกีกำลังทำทุกอย่างเพื่อส่งชาวซีเรียที่ลี้ภัยกลับบ้าน
“การแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์สามารถทำได้ด้วยความช่วยเหลือจากการกำจัดสาเหตุหลักเท่านั้น”
“คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เลือกแนวทางแก้ปัญหาแบบสองรัฐ คือ อิสราเอลและปาเลสไตน์ อิสราเอลก่อตั้งขึ้นแล้ว แต่ปาเลสไตน์ยังไม่ก่อตั้งขึ้น นี่คือปัญหา และอิสราเอลยังคงดำเนินกิจกรรมการตั้งถิ่นฐานที่ผิดกฎหมายมาจนถึงปัจจุบัน ผมไม่แน่ใจว่าอิสราเอลกำลังมุ่งเป้าหมายอะไรในฉนวนกาซา แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรสิ่งนี้สมควรได้รับการประณามเท่านั้น”
สำหรับวิกฤตที่ซีเรีย ปูตินกล่าวว่า:
“ตุรกีแค่พยายามปกป้องความปลอดภัยบนชายแดนทางใต้ซึ่งเป็นดินแดนของพวกเขา โดยพยายามทำสถานการณ์ให้สามารถส่งผู้ลี้ภัยกลับบ้านจากดินแดนของพวกเขาสู่ดินแดนซีเรีย”
“ตุรกีมีปัญหากับชาวเคิร์ดมานานหลายทศวรรษ ผมหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายไปมากกว่านี้เกิดขึ้น แต่คุณรู้ไหม ผู้นำยุโรปบางคนบอกผมว่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 พวกเขาสัญญากับชาวเคิร์ดว่าจะสร้างรัฐให้เป็นของชาวเคิร์ดเอง แต่พวกนั้นโกหก ตอนนี้มีชาวเคิร์ดอาศัยอยู่ในเขตติดต่ออิหร่าน อิรัก ตุรกี และซีเรีย ประมาณ 30 ถึง 35 ล้านคน และชาวเคิร์ดเป็นนักสู้ที่น่าเกรงขามทั้งนั้น”
สำหรับวิกฤตการณ์ของซีเรียโดยภาพรวม อิสราเอลได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็น “ผู้ได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆเพียงฝ่ายเดียว” จากการที่อิสราเอลเข้ายึดครองดินแดนซีเรียบนที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นที่จะนำไปสู่การล่มสลายของซีเรียในฐานะประเทศ
ปูตินพูดถึงปัญหาตะวันออกกลาง: รัสเซียยืนหยัดเพื่อปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระ อิสราเอลคือ “ผู้รับประโยชน์หลัก” จากวิกฤตในซีเรีย และควรถูกประณามจากสิ่งที่ทำในกาซา ส่วนตุรกีกำลังทำทุกอย่างเพื่อส่งชาวซีเรียที่ลี้ภัยกลับบ้าน “การแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์สามารถทำได้ด้วยความช่วยเหลือจากการกำจัดสาเหตุหลักเท่านั้น” “คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เลือกแนวทางแก้ปัญหาแบบสองรัฐ คือ อิสราเอลและปาเลสไตน์ อิสราเอลก่อตั้งขึ้นแล้ว แต่ปาเลสไตน์ยังไม่ก่อตั้งขึ้น นี่คือปัญหา และอิสราเอลยังคงดำเนินกิจกรรมการตั้งถิ่นฐานที่ผิดกฎหมายมาจนถึงปัจจุบัน ผมไม่แน่ใจว่าอิสราเอลกำลังมุ่งเป้าหมายอะไรในฉนวนกาซา แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรสิ่งนี้สมควรได้รับการประณามเท่านั้น” สำหรับวิกฤตที่ซีเรีย ปูตินกล่าวว่า: “ตุรกีแค่พยายามปกป้องความปลอดภัยบนชายแดนทางใต้ซึ่งเป็นดินแดนของพวกเขา โดยพยายามทำสถานการณ์ให้สามารถส่งผู้ลี้ภัยกลับบ้านจากดินแดนของพวกเขาสู่ดินแดนซีเรีย” “ตุรกีมีปัญหากับชาวเคิร์ดมานานหลายทศวรรษ ผมหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายไปมากกว่านี้เกิดขึ้น แต่คุณรู้ไหม ผู้นำยุโรปบางคนบอกผมว่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 พวกเขาสัญญากับชาวเคิร์ดว่าจะสร้างรัฐให้เป็นของชาวเคิร์ดเอง แต่พวกนั้นโกหก ตอนนี้มีชาวเคิร์ดอาศัยอยู่ในเขตติดต่ออิหร่าน อิรัก ตุรกี และซีเรีย ประมาณ 30 ถึง 35 ล้านคน และชาวเคิร์ดเป็นนักสู้ที่น่าเกรงขามทั้งนั้น” สำหรับวิกฤตการณ์ของซีเรียโดยภาพรวม อิสราเอลได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็น “ผู้ได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆเพียงฝ่ายเดียว” จากการที่อิสราเอลเข้ายึดครองดินแดนซีเรียบนที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นที่จะนำไปสู่การล่มสลายของซีเรียในฐานะประเทศ0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 675 มุมมอง 3 0 รีวิว - 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
- World Military and Political (การทหารและการเมืองโลก) เพิ่มวิดีโอแล้ว ข่าวและการเมืองภาพการชุมนุมประท้วงในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียขณะนี้ ประชาชนเรียกร้องให้จัดตั้งรัฐบาลพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา และให้ผู้หญิงสามารถใช้ชีวิตในที่สาธารณะได้โดยอิสระ โดยต้องการแยกศาสนาออกจากการปกครองของรัฐ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและความเท่าเทียมกันระหว่างทุกคน หลังจากที่มีข่าวว่า โจลานีผู้นำซีเรียคนใหม่กำลังพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานเพื่อร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะอ้างอิงจากกฎหมายชารีอะห์
หมายเหตุ: ในยุคของระบอบการปกครองอัสซาด พลเมืองทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิตตามปกติภาพการชุมนุมประท้วงในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียขณะนี้ ประชาชนเรียกร้องให้จัดตั้งรัฐบาลพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา และให้ผู้หญิงสามารถใช้ชีวิตในที่สาธารณะได้โดยอิสระ โดยต้องการแยกศาสนาออกจากการปกครองของรัฐ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและความเท่าเทียมกันระหว่างทุกคน หลังจากที่มีข่าวว่า โจลานีผู้นำซีเรียคนใหม่กำลังพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานเพื่อร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะอ้างอิงจากกฎหมายชารีอะห์ หมายเหตุ: ในยุคของระบอบการปกครองอัสซาด พลเมืองทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิตตามปกติ0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 608 มุมมอง 5 0 รีวิว - World Military and Political (การทหารและการเมืองโลก) เพิ่มวิดีโอแล้ว ข่าวและการเมือง1/
อิสราเอลเพิ่งโจมตีอาคารที่พักอาศัยในย่านอัลชาฟ ทางตะวันออกของกาซา ส่งผลให้พลเมืองผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตทันทีราว 40 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบร้อยราย1/ อิสราเอลเพิ่งโจมตีอาคารที่พักอาศัยในย่านอัลชาฟ ทางตะวันออกของกาซา ส่งผลให้พลเมืองผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตทันทีราว 40 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบร้อยราย0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 15 0 รีวิว - World Military and Political (การทหารและการเมืองโลก) เพิ่มวิดีโอแล้ว ข่าวและการเมือง2/
อิสราเอลเพิ่งโจมตีอาคารที่พักอาศัยในย่านอัลชาฟ ทางตะวันออกของกาซา ส่งผลให้พลเมืองผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตทันทีราว 40 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบร้อยราย2/ อิสราเอลเพิ่งโจมตีอาคารที่พักอาศัยในย่านอัลชาฟ ทางตะวันออกของกาซา ส่งผลให้พลเมืองผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตทันทีราว 40 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบร้อยราย0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 7 0 รีวิว - https://youtu.be/FW3go1kipPA?si=rz6o7qb1bIfE1ipB0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
- มาเลย์ฯ เชือดจริง ข้ามแดนผิดกฎหมาย
ศาลอำเภอปาเซมัส รัฐกลันตัน พิพากษาปรับชาวมาเลเซีย 3 คน ได้แก่คนขับเรือวัย 33 ปี และผู้โดยสาร 2 คน อายุ 21 และ 26 ปี ซึ่งถูกดำเนินคดีข้อหาเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย คนละ 2,500 ริงกิต หรือประมาณ 19,200 บาท เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. หลังทั้งสามรับสารภาพว่าเข้าประเทศผิดกฎหมายโดยใช้เรือข้ามแม่น้ำโกลกไปยังเมืองรันเตาปันยัง ก่อนถูกจับกุมเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค. เป็นหนึ่งในตัวอย่างผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและศาลตัดสิน หลังทางการมาเลเซียออกมาตรการจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2567 เป็นต้นมา
แต่เดิมชาวมาเลเซียในพื้นที่รัฐกลันตันจำนวนมาก ข้ามแดนเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย โดยจอดรถที่ด่านรันเตาปันยัง นั่งเรือข้ามแม่น้ำโกลก แทนการเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ICQS) รันเตาปันยัง เพื่อไปมาหาสู่กันและแสวงหาความบันเทิง ที่ผ่านมาตำรวจรัฐกลันตันทำได้แค่ระงับยับยั้งแต่ดำเนินคดีไม่ได้ เพราะโดยหน้าที่จำกัดแค่จับกุมชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองเท่านั้น แต่เหตุการณ์ที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จับกุม 6 ผู้ต้องหาชาวมาเลเซียพร้อมยาบ้า 6,000 เม็ด เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทางการมาเลเซียต้องใช้มาตรการดังกล่าว
ทั้งนี้ บุคคลใดก็ตามที่เข้าออกจากชายแดนมาเลเซียและไทยผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาเลเซีย 1959/1963 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส เตือนคนไทยที่จะเดินทางเข้า-ออกระหว่างไทยและมาเลเซีย ให้ใช้หนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดนอย่างถูกต้องกฎหมาย เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่มาเลเซียจับกุม โดยได้รับรายงานการจับกุมแล้วจำนวนหนึ่ง เช่นเดียวกับนายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก ขอความร่วมมือเดินทางผ่านด่านพรมแดนหลักทั้ง 3 แห่งของนราธิวาส ได้แก่ ด่านสุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง ด่านตากใบ-กาลังกูโบร์ และด่านบูเก๊ะตา-บูเก๊ะบูงอ
มาตรการจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างจริงจังของมาเลเซีย ส่งผลทำให้ท่าเรือข้ามฟากของชาวบ้านตลอดสองฝั่งแม่น้ำโกลกเงียบเหงา ส่วนวินจักรยานยนต์รับจ้างแทบไม่มีผู้มาใช้บริการ มีเพียงเฉพาะคนในชุมชน รายได้ลดลงจากเดิมวันละ 1,000 บาท เหลือน้อยมาก ส่วนข่าวลือที่ว่าทางการมาเลเซียจะเลื่อนบังคับใช้กฎหมายนั้นไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากน้ำท่วมคลี่คลาย เจ้าหน้าที่กองกำลังปฏิบัติการทั่วไป (GOF) หรือ ตชด.มาเลเซีย เข้ามาปฏิบัติงานตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกตามปกติ
#Newskitมาเลย์ฯ เชือดจริง ข้ามแดนผิดกฎหมาย ศาลอำเภอปาเซมัส รัฐกลันตัน พิพากษาปรับชาวมาเลเซีย 3 คน ได้แก่คนขับเรือวัย 33 ปี และผู้โดยสาร 2 คน อายุ 21 และ 26 ปี ซึ่งถูกดำเนินคดีข้อหาเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย คนละ 2,500 ริงกิต หรือประมาณ 19,200 บาท เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. หลังทั้งสามรับสารภาพว่าเข้าประเทศผิดกฎหมายโดยใช้เรือข้ามแม่น้ำโกลกไปยังเมืองรันเตาปันยัง ก่อนถูกจับกุมเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค. เป็นหนึ่งในตัวอย่างผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและศาลตัดสิน หลังทางการมาเลเซียออกมาตรการจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2567 เป็นต้นมา แต่เดิมชาวมาเลเซียในพื้นที่รัฐกลันตันจำนวนมาก ข้ามแดนเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย โดยจอดรถที่ด่านรันเตาปันยัง นั่งเรือข้ามแม่น้ำโกลก แทนการเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ICQS) รันเตาปันยัง เพื่อไปมาหาสู่กันและแสวงหาความบันเทิง ที่ผ่านมาตำรวจรัฐกลันตันทำได้แค่ระงับยับยั้งแต่ดำเนินคดีไม่ได้ เพราะโดยหน้าที่จำกัดแค่จับกุมชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองเท่านั้น แต่เหตุการณ์ที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จับกุม 6 ผู้ต้องหาชาวมาเลเซียพร้อมยาบ้า 6,000 เม็ด เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทางการมาเลเซียต้องใช้มาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ บุคคลใดก็ตามที่เข้าออกจากชายแดนมาเลเซียและไทยผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาเลเซีย 1959/1963 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส เตือนคนไทยที่จะเดินทางเข้า-ออกระหว่างไทยและมาเลเซีย ให้ใช้หนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดนอย่างถูกต้องกฎหมาย เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่มาเลเซียจับกุม โดยได้รับรายงานการจับกุมแล้วจำนวนหนึ่ง เช่นเดียวกับนายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก ขอความร่วมมือเดินทางผ่านด่านพรมแดนหลักทั้ง 3 แห่งของนราธิวาส ได้แก่ ด่านสุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง ด่านตากใบ-กาลังกูโบร์ และด่านบูเก๊ะตา-บูเก๊ะบูงอ มาตรการจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างจริงจังของมาเลเซีย ส่งผลทำให้ท่าเรือข้ามฟากของชาวบ้านตลอดสองฝั่งแม่น้ำโกลกเงียบเหงา ส่วนวินจักรยานยนต์รับจ้างแทบไม่มีผู้มาใช้บริการ มีเพียงเฉพาะคนในชุมชน รายได้ลดลงจากเดิมวันละ 1,000 บาท เหลือน้อยมาก ส่วนข่าวลือที่ว่าทางการมาเลเซียจะเลื่อนบังคับใช้กฎหมายนั้นไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากน้ำท่วมคลี่คลาย เจ้าหน้าที่กองกำลังปฏิบัติการทั่วไป (GOF) หรือ ตชด.มาเลเซีย เข้ามาปฏิบัติงานตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกตามปกติ #Newskit0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 883 มุมมอง 0 รีวิว4