• แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันสิ่งที่อิสราเอลกระทำบนดินแดนกาซาล้วนถูกต้องเหมาะสม!!

    “เราได้ดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าโศกนาฏกรรมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมจะไม่เกิดขึ้นอีก เพื่อทำเช่นนี้ จำเป็นต้องโจมตีกองกำลังฮามาสและผู้นำขบวนการที่รับผิดชอบต่อการโจมตีในเดือนตุลาคม เป้าหมายทั้งสองประการนี้บรรลุผลแล้ว” บลิงเคนกล่าว

    ทางด้าน "เวแดนต์ ปาเทล" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการที่อิสราเอลได้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสหรัฐแล้วหรือยังในการแก้ไขปัญหาด้านมนุษยธรรม ว่า "แม้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมโดยรวมในกาซายังไม่น่าพอใจ แต่ตามบริบทของเหตุการณ์ อเมริกามองว่า อิสราเอลดำเนินการมาถูกทางแล้ว จึงไม่ถือว่ามีการละเมิดกฎหมายฉบับดังกล่าวแต่อย่างใด"
    แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันสิ่งที่อิสราเอลกระทำบนดินแดนกาซาล้วนถูกต้องเหมาะสม!! “เราได้ดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าโศกนาฏกรรมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมจะไม่เกิดขึ้นอีก เพื่อทำเช่นนี้ จำเป็นต้องโจมตีกองกำลังฮามาสและผู้นำขบวนการที่รับผิดชอบต่อการโจมตีในเดือนตุลาคม เป้าหมายทั้งสองประการนี้บรรลุผลแล้ว” บลิงเคนกล่าว ทางด้าน "เวแดนต์ ปาเทล" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการที่อิสราเอลได้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสหรัฐแล้วหรือยังในการแก้ไขปัญหาด้านมนุษยธรรม ว่า "แม้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมโดยรวมในกาซายังไม่น่าพอใจ แต่ตามบริบทของเหตุการณ์ อเมริกามองว่า อิสราเอลดำเนินการมาถูกทางแล้ว จึงไม่ถือว่ามีการละเมิดกฎหมายฉบับดังกล่าวแต่อย่างใด"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นต้องตระหนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "จริงจังอย่างมาก" เกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งยูเครน จากความเห็นของ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีโปแลนด์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งทูตพิเศษสำหรับเป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน หลังจากเขาเคยประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟภายใน 24 ชั่วโมง ที่กลับเข้าสู่อำนาจ
    .
    ประธานาธิบดีโปแลนด์ ทำนายเหมือนกับหลายคน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(11พ.ย.) ทั้งนี้ สตับบ์ ชี้แนะว่าบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายของเคียฟ ควรอำนวยความสะดวกแก่การเจรจา ก่อน ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    "ผมคิดว่า เราในยุโรปและทั่วทั้งโลก จำเป็นต้องเข้าใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความจริงจังอย่างมากเกี่ยวกับการได้ข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ชักช้าเกินไป" เขากล่าวในวันอังคาร(12พ.ย.) รอบนอกการประชุมภาวะโลกร้อนในอาเซอร์ไบจาน "ตัวผมเองเคยบอกว่า มันมีประตูแห่งโอกาสของการเจรจานี้ ในระหว่างศึกเลือกตั้งและวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง"
    .
    ที่ผ่านมา สตับบ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ส่งเสียงสนับสนุนเหตุผลของยูเครนอย่างแข็งขัน และเมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่า ทรัมป์ จะได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน ทาง สตับบ์ เน้นย้ำว่าในความคิดเห็นของเขา ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครน คือยูเครนได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องนี้ รัสเซีย เรียกมันว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง
    .
    ทรัมป์ กล่าวอ้างระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเลือกเขากลับเข้าสู่อำนาจ ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการ แต่สื่อมวลชนบ่งชี้ว่าบางที ทรัมป์อาจถาโถมแรงกดดันใส่ทั้งมอสโกและเคียฟ เพื่อบีบให้ยอมประนีประนอม
    .
    ความเห็นของผู้นำโปแลนด์ มีขึ้นในขณะที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานในวันพุธ(13พ.ย.) ว่า ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งทูตพิเศษที่จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเผยว่าเขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอนาคตอันใกล้
    .
    "คุณกำลังได้เห็นทูตพิเศษระดับอาวุโสมากๆ บางคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ผู้ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้หนทางออกหนึ่งๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ปัญหาอย่างสันติ" แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "คุณกำลังจะได้เห็นสิ่งนี้ ในอนาคตอันใกล้"
    .
    ราว 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เปิดเผยรายชื่อบุคคลต่างๆเป็นชุดๆ ที่เขามีความตั้งใจเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขาเปิดเผยว่าจะแต่งตั้ง สตีเฟน วิตคอฟฟ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง โดยบอกว่า วิตคอฟฟ์ จะส่งเสียงเรียกร้องแบบไม่หยุดสำหรับร้องหาสันติภาพในภูมิภาค
    .
    ทรัมป์ พูดคุยกับ เซเลนสกี ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และบอกกับเอ็นบีซีนิวส์ ว่าเขาอยากพูดคุยกับปูตินในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(7พ.ย.) และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพร้อมหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
    .
    อย่างไรก็ตามวังเครมลินปฏิเสธซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดอวดอ้างว่า ทรัมป์ จะสามารถยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างง่ายดาย แม้ ปูติน ชี้ว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ในเรื่องนี้ "อย่างน้อยๆ ก็คู่ควรได้รับความสนใจ"
    .
    ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะผลักดันทางออกใดในความขัดแย้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ว่าที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารหนึ่งๆตามแนวหน้าในปัจจุบัน พร้อมกับไม่ไฟเขียวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต
    .
    รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดบางส่วนของแผนนี้ และสนับสนุนให้ว่าที่ประธานาธิบดีนำเสนอมันกับทั้งเซเลนสกีและปูติน
    .
    มอสโก ยืนกรานว่าทางออกใดๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการที่ยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับ "ความเป็นจริงด้านดินแดน" ที่ว่าพวกเขาไม่มีวันทวงคืนแคว้นต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียได้อีกแล้ว ในนั้นประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์, แคว้นลูฮันสก์, แคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย รวมไปถึงแคว้นไครเมีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109496
    ..............
    Sondhi X
    บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นต้องตระหนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "จริงจังอย่างมาก" เกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งยูเครน จากความเห็นของ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีโปแลนด์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก . ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งทูตพิเศษสำหรับเป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน หลังจากเขาเคยประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟภายใน 24 ชั่วโมง ที่กลับเข้าสู่อำนาจ . ประธานาธิบดีโปแลนด์ ทำนายเหมือนกับหลายคน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(11พ.ย.) ทั้งนี้ สตับบ์ ชี้แนะว่าบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายของเคียฟ ควรอำนวยความสะดวกแก่การเจรจา ก่อน ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . "ผมคิดว่า เราในยุโรปและทั่วทั้งโลก จำเป็นต้องเข้าใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความจริงจังอย่างมากเกี่ยวกับการได้ข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ชักช้าเกินไป" เขากล่าวในวันอังคาร(12พ.ย.) รอบนอกการประชุมภาวะโลกร้อนในอาเซอร์ไบจาน "ตัวผมเองเคยบอกว่า มันมีประตูแห่งโอกาสของการเจรจานี้ ในระหว่างศึกเลือกตั้งและวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง" . ที่ผ่านมา สตับบ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ส่งเสียงสนับสนุนเหตุผลของยูเครนอย่างแข็งขัน และเมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่า ทรัมป์ จะได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน ทาง สตับบ์ เน้นย้ำว่าในความคิดเห็นของเขา ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครน คือยูเครนได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องนี้ รัสเซีย เรียกมันว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง . ทรัมป์ กล่าวอ้างระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเลือกเขากลับเข้าสู่อำนาจ ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการ แต่สื่อมวลชนบ่งชี้ว่าบางที ทรัมป์อาจถาโถมแรงกดดันใส่ทั้งมอสโกและเคียฟ เพื่อบีบให้ยอมประนีประนอม . ความเห็นของผู้นำโปแลนด์ มีขึ้นในขณะที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานในวันพุธ(13พ.ย.) ว่า ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งทูตพิเศษที่จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเผยว่าเขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอนาคตอันใกล้ . "คุณกำลังได้เห็นทูตพิเศษระดับอาวุโสมากๆ บางคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ผู้ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้หนทางออกหนึ่งๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ปัญหาอย่างสันติ" แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "คุณกำลังจะได้เห็นสิ่งนี้ ในอนาคตอันใกล้" . ราว 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เปิดเผยรายชื่อบุคคลต่างๆเป็นชุดๆ ที่เขามีความตั้งใจเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขาเปิดเผยว่าจะแต่งตั้ง สตีเฟน วิตคอฟฟ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง โดยบอกว่า วิตคอฟฟ์ จะส่งเสียงเรียกร้องแบบไม่หยุดสำหรับร้องหาสันติภาพในภูมิภาค . ทรัมป์ พูดคุยกับ เซเลนสกี ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และบอกกับเอ็นบีซีนิวส์ ว่าเขาอยากพูดคุยกับปูตินในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(7พ.ย.) และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพร้อมหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ . อย่างไรก็ตามวังเครมลินปฏิเสธซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดอวดอ้างว่า ทรัมป์ จะสามารถยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างง่ายดาย แม้ ปูติน ชี้ว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ในเรื่องนี้ "อย่างน้อยๆ ก็คู่ควรได้รับความสนใจ" . ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะผลักดันทางออกใดในความขัดแย้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ว่าที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารหนึ่งๆตามแนวหน้าในปัจจุบัน พร้อมกับไม่ไฟเขียวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต . รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดบางส่วนของแผนนี้ และสนับสนุนให้ว่าที่ประธานาธิบดีนำเสนอมันกับทั้งเซเลนสกีและปูติน . มอสโก ยืนกรานว่าทางออกใดๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการที่ยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับ "ความเป็นจริงด้านดินแดน" ที่ว่าพวกเขาไม่มีวันทวงคืนแคว้นต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียได้อีกแล้ว ในนั้นประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์, แคว้นลูฮันสก์, แคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย รวมไปถึงแคว้นไครเมีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109496 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อทรัมป์มาถึง, ชาวอเมริกันและยุโรปจะเพิ่มการผลิตอาวุธ

    นี่จะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับอิหร่านและรัสเซีย, มากกว่าสำหรับจีน

    ปัญหาสำหรับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของอิหร่านและรัสเซียก็คือ พวกเขาไม่สามารถผลิตอาวุธระดับไฮเอนด์ในปริมาณมากได้เหมือนจีน

    ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองประเทศคือการผลิตเครื่องบินขับไล่, รถถัง, เฮลิคอปเตอร์ และระบบป้องกันขีปนาวุธร่วมกัน
    .
    With the arrival of Trump, Americans and Europeans will increase their arms production

    This will be a huge issue for Iran and Russia, more so than for China

    The problem for the Iranian and Russian defense industries is that they can't produce high-end weapons in large quantities like China

    The best solution for both countries is to jointly produce fighter jets, tanks, helicopters and missile defense systems
    .
    10:03 PM · Nov 12, 2024 · 237.5K Views
    https://x.com/IranObserver0/status/1856352146138038627
    เมื่อทรัมป์มาถึง, ชาวอเมริกันและยุโรปจะเพิ่มการผลิตอาวุธ นี่จะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับอิหร่านและรัสเซีย, มากกว่าสำหรับจีน ปัญหาสำหรับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของอิหร่านและรัสเซียก็คือ พวกเขาไม่สามารถผลิตอาวุธระดับไฮเอนด์ในปริมาณมากได้เหมือนจีน ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองประเทศคือการผลิตเครื่องบินขับไล่, รถถัง, เฮลิคอปเตอร์ และระบบป้องกันขีปนาวุธร่วมกัน . With the arrival of Trump, Americans and Europeans will increase their arms production This will be a huge issue for Iran and Russia, more so than for China The problem for the Iranian and Russian defense industries is that they can't produce high-end weapons in large quantities like China The best solution for both countries is to jointly produce fighter jets, tanks, helicopters and missile defense systems . 10:03 PM · Nov 12, 2024 · 237.5K Views https://x.com/IranObserver0/status/1856352146138038627
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • คมนาคมทุบโต๊ะ รถเมล์ร้อนหมดไป

    การหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการเดินรถโดยสารประจำทางสายที่ 2-38 (สาย 8 เดิม) ที่มีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 มีประเด็นที่น่าสนใจก็คือ นโยบายลดจำนวนรถธรรมดา หรือรถร้อน เปลี่ยนเป็นรถปรับอากาศ หรือรถแอร์ทั้งหมด ภายในปี 2568 คาดหวังว่ารถร้อนจะหายไปจากถนน นายสุรพงษ์กล่าวว่า ต้นทุนของรถร้อนและรถแอร์ไม่ต่างกัน แต่การจัดเก็บค่าโดยสารค่อนข้างสูงเกินไป จึงมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกไปศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมใหม่ โดยเบื้องต้นพบว่า ต้นทุนเฉลี่ยรถแอร์ของเอกชนอยู่ที่ประมาณ 18 บาทต่อคน

    นอกจากนี้ ยังต้องการให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้บริการรถเมล์ของเอกชนได้ เช่นเดียวกับรถเมล์ ขสมก. จึงได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง และเอกชนผู้เดินรถ เชื่อมต่อเข้ากับระบบเคลียร์ริ่งเฮ้าส์ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันว่าไม่มีใครอยากนั่งรถร้อนแต่อยู่ที่ราคา ประชาชนอยากนั่งรถที่ดีและราคาถูกเท่านั้นเอง ซึ่งรัฐต้องดูแลกลุ่มเปราะบางอย่างเต็มที่ โดยตัวแทนจากบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้ประกอบการเดินรถ 124 เส้นทาง รับปากว่าไม่เกินต้นปี 2568 จะปรับระบบสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่ในระบบประมาณ 6-7 แสนคน

    ด้านนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ได้รับงบผูกพัน 7 ปี (2568-2575) ในโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศ EV จำนวน 1,520 คัน ด้วยวิธีการเช่า ประมูลแบบ e-bidding วงเงิน 15,355 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณา ตามแผนงานหากเสนอ ครม.ได้ภายในปีนี้ กระบวนการประมูลแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถเริ่มรับมอบได้ภายในเดือน ก.ค. ถึง ส.ค. 2568 ส่วนระยะที่ 2 จำนวน 1,520 คัน จะเป็นรูปแบบการร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP) อยู่ระหว่างรอกระทรวงการคลังบรรจุลงใน Project Pipeline

    โดยหลักการเบื้องต้น ขสมก.จะให้เอกชนผู้จัดหารถโดยสาร ขสมก.ดำเนินการเรื่องคนขับและบริหารจัดการเอง พร้อมร่วมลงทุนโดยนำพื้นที่อู่จอดรถเมล์บางเขน มาพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อลดภาระงบประมาณของรัฐ ซึ่งหาก ขสมก. มีรถ EV ใหม่เข้ามาทั้งหมด 3,040 คัน จะช่วยลดภาระค่าเหมาซ่อมจากปีละ 1,700 ล้านบาทเหลือ 1,000 ล้านบาท ลดค่าพลังงานจากปีละ 2,000 ล้านบาทเหลือ 700 ล้านบาท รวมแล้วลดค่าใช้จ่ายได้ 2,500 ล้านบาทต่อปี

    อนึ่ง รายงานประจำปี 2566 ระบุว่า ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารรวม 2,885 คัน แยกเป็นรถธรรมดา 1,520 คัน และรถปรับอากาศ 1,365 คัน

    #Newskit #ขสมก #รถเมล์แอร์
    คมนาคมทุบโต๊ะ รถเมล์ร้อนหมดไป การหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการเดินรถโดยสารประจำทางสายที่ 2-38 (สาย 8 เดิม) ที่มีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 มีประเด็นที่น่าสนใจก็คือ นโยบายลดจำนวนรถธรรมดา หรือรถร้อน เปลี่ยนเป็นรถปรับอากาศ หรือรถแอร์ทั้งหมด ภายในปี 2568 คาดหวังว่ารถร้อนจะหายไปจากถนน นายสุรพงษ์กล่าวว่า ต้นทุนของรถร้อนและรถแอร์ไม่ต่างกัน แต่การจัดเก็บค่าโดยสารค่อนข้างสูงเกินไป จึงมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกไปศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมใหม่ โดยเบื้องต้นพบว่า ต้นทุนเฉลี่ยรถแอร์ของเอกชนอยู่ที่ประมาณ 18 บาทต่อคน นอกจากนี้ ยังต้องการให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้บริการรถเมล์ของเอกชนได้ เช่นเดียวกับรถเมล์ ขสมก. จึงได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง และเอกชนผู้เดินรถ เชื่อมต่อเข้ากับระบบเคลียร์ริ่งเฮ้าส์ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันว่าไม่มีใครอยากนั่งรถร้อนแต่อยู่ที่ราคา ประชาชนอยากนั่งรถที่ดีและราคาถูกเท่านั้นเอง ซึ่งรัฐต้องดูแลกลุ่มเปราะบางอย่างเต็มที่ โดยตัวแทนจากบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้ประกอบการเดินรถ 124 เส้นทาง รับปากว่าไม่เกินต้นปี 2568 จะปรับระบบสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่ในระบบประมาณ 6-7 แสนคน ด้านนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ได้รับงบผูกพัน 7 ปี (2568-2575) ในโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศ EV จำนวน 1,520 คัน ด้วยวิธีการเช่า ประมูลแบบ e-bidding วงเงิน 15,355 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณา ตามแผนงานหากเสนอ ครม.ได้ภายในปีนี้ กระบวนการประมูลแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถเริ่มรับมอบได้ภายในเดือน ก.ค. ถึง ส.ค. 2568 ส่วนระยะที่ 2 จำนวน 1,520 คัน จะเป็นรูปแบบการร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP) อยู่ระหว่างรอกระทรวงการคลังบรรจุลงใน Project Pipeline โดยหลักการเบื้องต้น ขสมก.จะให้เอกชนผู้จัดหารถโดยสาร ขสมก.ดำเนินการเรื่องคนขับและบริหารจัดการเอง พร้อมร่วมลงทุนโดยนำพื้นที่อู่จอดรถเมล์บางเขน มาพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อลดภาระงบประมาณของรัฐ ซึ่งหาก ขสมก. มีรถ EV ใหม่เข้ามาทั้งหมด 3,040 คัน จะช่วยลดภาระค่าเหมาซ่อมจากปีละ 1,700 ล้านบาทเหลือ 1,000 ล้านบาท ลดค่าพลังงานจากปีละ 2,000 ล้านบาทเหลือ 700 ล้านบาท รวมแล้วลดค่าใช้จ่ายได้ 2,500 ล้านบาทต่อปี อนึ่ง รายงานประจำปี 2566 ระบุว่า ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารรวม 2,885 คัน แยกเป็นรถธรรมดา 1,520 คัน และรถปรับอากาศ 1,365 คัน #Newskit #ขสมก #รถเมล์แอร์
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✳ ขอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทินรีบดำเนินการทบทวนการอนุญาตวัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา
    วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

    เอกสารแนบ
    ๑. สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ลงวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
    ๒. สำเนาหนังสือที่กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ส่งให้ส่วนราชการภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับปัญหาของวัคซีนโควิด

    ตามที่ท่านเป็นรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ โดยมาตรา ๘๖ ได้บัญญัติไว้ว่า “ยาใดที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้แล้ว หากภายหลัง ปรากฏว่ายานั้นไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ หรืออาจไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ .............ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยานั้นได้ การเพิกถอน ให้กระทำโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา คำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด” ปัจจุบันมีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า วัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา ไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ กล่าวคือ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อ ไม่สามารถลดการป่วยหนัก และไม่สามารถลดการเสียชีวิตลงได้ อีกทั้งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตต่อผู้บริโภค อาจไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ท่านในฐานะรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงมีอำนาจและหน้าที่ ในการสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาดังกล่าว ทั้งนี้หากท่านไม่รีบดำเนินการทันทีที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ อาจเข้าข่ายการกระทำผิดในฐาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งส่งผลให้ท่านต้องรับผิดทางอาญาและรับผิดทางละเมิดหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องกล่าวโทษท่านในอนาคต ในทางตรงกันข้ามหากท่านดำเนินการเพิกถอนทะเบียนตำรับยาวัคซีน mRNA ท่านจะกลายเป็นวีรบุรุษของประชาชน และยังเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อใช้ในการรักษาผลข้างเคียงจากวัคซีนดังกล่าวด้วย

    อนึ่งจากผลการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศนโยบายในการปฏิรูปสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของประเทศสหรัฐ พร้อมทั้งฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยาทั้งสองข้างต้นในข้อหาให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน อีกทั้งยังจะทำการสอบสวนสื่อมวลชนในการให้ข้อมูลเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวัคซีนโควิดด้วย นโยบายดังกล่าวย่อมสงผลให้ประชาคมโลกรวมทั้งประเทศไทยรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน mRNA อันจะส่งผลให้ ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยา และหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภคในที่สุด
    จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านดำเนินการเพิกถอนตำรับยา และแถลงข่าวในเรื่องนี้ให้สาธารณชนได้รับรู้โดยเร็วต่อไป

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    เอกสารแนบ
    🔸️๑. วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา https://drive.google.com/file/d/194Tdo5zsHVbln0QgcEHR4w0vqQKkKKT8/view?usp=drivesdk

    🔸️๒. วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน https://docs.google.com/document/d/1UiTSqJLYwCJjMDHVKdLxvsRYSJt-pTkY/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true

    วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนชนิด mRNA
    https://docs.google.com/document/d/1VE4buQ0_cFnq0skvZZBeMsrhKj4Y1WWO/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true

    วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย สัญญาทาส ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์
    https://drive.google.com/file/d/1yJ0G2ZYqtSiGLyqfNcYh815zAw4wPt21/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy) https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้เพิกถอนกสนอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด ชนิด mRNA
    https://drive.google.com/file/d/19mD3aUoAB3t-ciwUXNS9QY4EqtWS7LJ5/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนพฤติกรรมการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโคเมอร์เนตี้
    https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ https://drive.google.com/file/d/1GIDGcv1jafx3O9bwgDUOgfohvuxNat0q/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขยืนยันการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย
    https://drive.google.com/file/d/1lvGImexMXmKdpRPdvJSq9Oqm3wrVovKK/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ กระทรวงสาธารณสุขมีเจตนาที่จะบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://drive.google.com/file/d/1uuKi_PTKtO48LBRbcLV_JbsVHTo6zKzI/view?usp=drive_link

    วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทไฟเซอร์
    https://drive.google.com/file/d/1bGwVKoRQUyNt7dXpWbTJJ_AzRyRRsgMH/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที”
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ขอให้รมต.สธ. ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
    https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk

    รวมจดหมายเปิดผนึกและหนังสือต่างๆที่ทางกลุ่มฯได้ยื่นให้หน่วยงานภาครัฐ
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    ✳ ขอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทินรีบดำเนินการทบทวนการอนุญาตวัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เอกสารแนบ ๑. สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ลงวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ๒. สำเนาหนังสือที่กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ส่งให้ส่วนราชการภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับปัญหาของวัคซีนโควิด ตามที่ท่านเป็นรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ โดยมาตรา ๘๖ ได้บัญญัติไว้ว่า “ยาใดที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้แล้ว หากภายหลัง ปรากฏว่ายานั้นไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ หรืออาจไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ .............ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยานั้นได้ การเพิกถอน ให้กระทำโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา คำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด” ปัจจุบันมีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า วัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา ไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ กล่าวคือ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อ ไม่สามารถลดการป่วยหนัก และไม่สามารถลดการเสียชีวิตลงได้ อีกทั้งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตต่อผู้บริโภค อาจไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ท่านในฐานะรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงมีอำนาจและหน้าที่ ในการสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาดังกล่าว ทั้งนี้หากท่านไม่รีบดำเนินการทันทีที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ อาจเข้าข่ายการกระทำผิดในฐาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งส่งผลให้ท่านต้องรับผิดทางอาญาและรับผิดทางละเมิดหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องกล่าวโทษท่านในอนาคต ในทางตรงกันข้ามหากท่านดำเนินการเพิกถอนทะเบียนตำรับยาวัคซีน mRNA ท่านจะกลายเป็นวีรบุรุษของประชาชน และยังเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อใช้ในการรักษาผลข้างเคียงจากวัคซีนดังกล่าวด้วย อนึ่งจากผลการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศนโยบายในการปฏิรูปสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของประเทศสหรัฐ พร้อมทั้งฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยาทั้งสองข้างต้นในข้อหาให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน อีกทั้งยังจะทำการสอบสวนสื่อมวลชนในการให้ข้อมูลเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวัคซีนโควิดด้วย นโยบายดังกล่าวย่อมสงผลให้ประชาคมโลกรวมทั้งประเทศไทยรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน mRNA อันจะส่งผลให้ ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยา และหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภคในที่สุด จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านดำเนินการเพิกถอนตำรับยา และแถลงข่าวในเรื่องนี้ให้สาธารณชนได้รับรู้โดยเร็วต่อไป กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เอกสารแนบ 🔸️๑. วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา https://drive.google.com/file/d/194Tdo5zsHVbln0QgcEHR4w0vqQKkKKT8/view?usp=drivesdk 🔸️๒. วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน https://docs.google.com/document/d/1UiTSqJLYwCJjMDHVKdLxvsRYSJt-pTkY/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนชนิด mRNA https://docs.google.com/document/d/1VE4buQ0_cFnq0skvZZBeMsrhKj4Y1WWO/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย สัญญาทาส ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์ https://drive.google.com/file/d/1yJ0G2ZYqtSiGLyqfNcYh815zAw4wPt21/view?usp=drivesdk วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy) https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp=drivesdk วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้เพิกถอนกสนอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด ชนิด mRNA https://drive.google.com/file/d/19mD3aUoAB3t-ciwUXNS9QY4EqtWS7LJ5/view?usp=drivesdk วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนพฤติกรรมการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโคเมอร์เนตี้ https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ https://drive.google.com/file/d/1GIDGcv1jafx3O9bwgDUOgfohvuxNat0q/view?usp=drivesdk วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขยืนยันการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://drive.google.com/file/d/1lvGImexMXmKdpRPdvJSq9Oqm3wrVovKK/view?usp=drivesdk วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ กระทรวงสาธารณสุขมีเจตนาที่จะบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://drive.google.com/file/d/1uuKi_PTKtO48LBRbcLV_JbsVHTo6zKzI/view?usp=drive_link วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทไฟเซอร์ https://drive.google.com/file/d/1bGwVKoRQUyNt7dXpWbTJJ_AzRyRRsgMH/view?usp=drivesdk วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ขอให้รมต.สธ. ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk รวมจดหมายเปิดผนึกและหนังสือต่างๆที่ทางกลุ่มฯได้ยื่นให้หน่วยงานภาครัฐ https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปานเทพ" น็อก "ทนายปาเกียว"
    เปิดสัญญาเด็ด โยงปม 71ล.
    ย้ำ "เมียตั้ม" รู้เห็นเงินโกงหวยออนไลน์
    .
    "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" ออกรายการโหนกระแส ย้อนรอยที่มาคดีเงิน 71 ล้านบาท ย้ำไม่ใช่ให้โดยเสน่หา ไม่ใช่ทั้งกู้และยืมเงิน สัญญาชัดคุณอ้อยกับผู้ผลิตแพลตฟอร์ม ไม่มีทนายตั้มเกี่ยวข้อง ชี้ถ้ามีไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่เรือนจำ ไม่ได้ประกันตัว ถูกอายัดทรัพย์ ส่วนที่อ้างว่าภรรยาไม่รู้นั้นไม่จริง ยังไงก็รับทราบโดยตลอด
    .
    วันนี้ (13 พ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยผ่านรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ดำเนินรายการโดยนายกรรชัย กำเนิดพลอย ว่า น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย และคณะมาร้องเรียนกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ เนื่องจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีเครือข่ายมาก ถ้าจะมีใครสักคนสามารถเปิดความจริงและต่อสู้ผ่านสื่อน่าจะเป็นค่ายผู้จัดการ ระหว่างนั้นก็เก็บข้อมูล คลิปทั้งหมด แต่ไม่คิดจะเปิดในช่วงแรก เพราะรอให้คดีนี้เข้าสู่ตำรวจสอบสวนกลาง แล้วจะเปิดประเด็นก่อน
    .
    เมื่อนายษิทราและนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ไปออกรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2567 และนายกรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ ถามว่าทำไมนายษิทราจึงรวย มีของแบรนด์เนม นายษิทราหลุดมาว่าให้โดยเสน่หา ซึ่งในตอนเช้านายษิทราโทรศัพท์ไปหาทนายความของ น.ส.จตุพร เพราะรู้ว่ามีการแจ้งความและรู้ว่ามีเรื่องต่อกัน และเมื่อเห็นว่านายษิทราอาศัยรายการดังกล่าวสร้างภาพ และฟอกตัวว่าไม่มีปัญหาต่อกัน ทำให้เครือผู้จัดการตัดสินใจเปิดข้อมูลในช่วงบ่าย โดยนำข้อมูลในรายการไปลงปิดท้ายด้วย ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่ตัดสินใจเปิดประเด็น และจะเปิดสักวันหนึ่งเมื่อคดีคืบหน้าจากทั้งสองฝั่งแล้ว
    .
    เมื่อเปิดข้อมูล ปรากฎว่านายษิทราไปพาดพิงนายสนธิท้าว่าใครแพ้จะให้ดื่มน้ำปัสสาวะ 71 แก้ว ทำให้ต้องเปิดข้อมูลทั้งหมด แล้วนายษิทราก็เงียบหายไป ต่อมานายษิทราไปออกรายการของ อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ อ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา และครั้งที่ 3 ให้สัมภาษณ์ที่กองปราบปราม อ้างว่าให้โดยเสน่หาโดยไม่มีเงื่อนไข และจะมีการจ่ายภาษี 5% ของรายได้ที่เกิน 10 ล้านบาท คำถามก็คือที่กล่าวว่าให้โดยเสน่หามาตลอด เพิ่งมาเปลี่ยนในรายการวานนี้ (12 พ.ย.) ว่าเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน ตกลงเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน หรือเงินยืมเพื่อการลงทุนกันแน่
    .
    ส่วนกรณีที่นายษิทราเคยนำโทรศัพท์มือถือไปให้ อ.ยิ่งศักดิ์อ่าน และนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา นำเอกสารมาให้นายกรรชัย และนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความอ่าน อ้างว่าเป็นแชตสำคัญ ตนรู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นแชตนี้ ไม่ใช่แชตระหว่างนายษิทรากับคุณอ้อย และรู้ว่าไม่สามารถจะเป็นไม้เด็ดได้ หากเป็นไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่ในเรือนจำ ประกันตัวไม่ได้ และอายัดทรัพย์ หลักฐานนี้เป็นการสร้างวาทกรรมการพิมพ์ไลน์ของทนายตั้มเพื่อคุยกับคุณน้อย เลขาส่วนตัว เพื่อสมอ้างว่าได้คุยกับคุณอ้อยแล้ว และข้อความไม่ได้แปลว่าสำเร็จแล้วโดยนายษิทรา เป็นการขอให้คุณน้อยไปเจรจากับคุณอ้อยอีกครั้งหนึ่ง แปลว่ายังไม่ได้เห็นด้วย
    .
    ทั้งนี้ บทสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง วันที่ 28-30 ม.ค. 2566 หลังจากนั้นมีการตกลงกันที่ไม่ใช่ในแชต นายษิทราอ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา 3 ครั้ง โดยจ่ายภาษี 5% แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว เหลือแค่ 2 อย่าง คือการกู้เงินหรือยืมเงิน พลิกไปพลิกมา ทั้งที่การกู้เงินต้องมีสัญญา ส่วนการลงทุนต้องมีผลตอบแทนและสัดส่วนหุ้นชัดเจน หากเป็นการยืมเพื่อลงทุน ก็ถือว่าเป็นการกู้อยู่ดี นายษิทราเป็นนักกฎหมาย เป็นคู่สัญญาในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย ย่อมต้องรู้ว่าจะต้องร่างสัญญากู้เงิน แต่กลับไม่มี แสดงว่าไม่ใช่การกู้ยืมเงิน ส่วนการลงทุน มีการจดทะเบียนทรัพย์สินหรือไม่ ในแชตไลน์นำไปสู่การอ้างว่าจะทำแอปฯ หวยออนไลน์
    .
    แต่ที่ไม่เปิดนอกจากโต้ไม่ได้แล้ว ยังอวดอ้างว่ามีเส้นสายในการรับสัมปทานหวยออนไลน์ ทั้งที่ไม่มีอยู่จริง นอกจากจะพูดคนที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้ข้อกฎหมาย และหลงเชื่อว่ามีเส้นสาย มีคอนเนกชัน มีระบบสัมปทานที่จะทำได้ ก็เลยไม่กล้าเปิด อีกทั้งการลงทุนต้องมีหุ้นในสัดส่วนอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีทางไม่มีสัญญาเพราะนายษิทราเป็นนักกฎหมายและเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคุณอ้อย จะต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคุณอ้อยเดินทางจากประเทศฝรั่งเศสมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 เพื่อเซ็นสัญญากับบริษัทผลิตแอปพลิเคชัน ลงวันที่ 3 ก.พ. 2566 ลงนามจริงวันที่ 5 ก.พ. 2566 ทำขึ้นระหว่างคุณอ้อยกับบริษัทผู้รับจ้างผลิตแอปพลิเคชัน แสดงว่าทรัพย์สินไม่ใช่ของนายษิทรา ที่อ้างว่าเป็นการกู้ยืมเงินจึงเป็นความเท็จทั้งสิ้น
    .
    "คนเราจะตัดสินใจอย่างไร ขึ้นอยู่กับสัญญา ไม่ใช่แชตไลน์คุย เพราะการแชตไลน์คุย คุณอ้างหลักฐานพิมพ์เองว่าตกลงกันแล้วอะไรก็ได้ คุณคุยกับเลขาฯ ไม่ได้คุยกับพี่อ้อยด้วย แต่ผลลัพธ์คือเซ็นสัญญาที่ไม่มีชื่อทนายตั้มเกี่ยวข้องเลย จะมาอ้างว่าเงินกู้ยืมก็ไม่ได้ เงินลงทุนก็ไม่ได้ เพราะสัญญาไม่มีชื่อคุณแม้แต่คำเดียว และที่สำคัญ สัญญานี้ทำการปรับปรุงและแก้ไขจากสำนักงานทนายความษิทรา ลอว์เฟิร์ม ทั้งสิ้น" นายปานเทพ กล่าว
    .
    เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า ใครเป็นคนสั่งให้ทำสัญญานี้ และสัญญานี้คุณอ้อยให้ทำโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงหน่วยงานราชการฝรั่งเศส นำเงินมาให้นายษิทราจริงหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ดีเพราะมีการแอบอ้างว่าสัญญาทำขึ้นเพื่อเป็นนิติกรรมอำพราง เรื่องนี้มีสัญญาชัดเจน คุณอ้อยมาประเทศไทยวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 ภายใต้สัญญานี้ เมื่อกลับไปประเทศฝรั่งเศสก็ไปทำเรื่องถอนเงิน เตรียมขายหลักทรัพย์เพื่อโอนเงินมา เพราะเป็นทรัพย์สินของเขาเอง และการโอนเงินจากฝรั่งเศสมายังประเทศไทย ถ้าเป็นทรัพย์สินของตัวเองไม่ต้องเสียภาษี จ่ายแค่ธรรมเนียม รวมทั้งเงินทำบุญและใช้ส่วนตัวก็หลักการเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องสร้างนิติกรรมอำพราง
    .
    หลังจากนั้นจึงนำเงินไปให้นายษิทราเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 เพราะนายษิทราอ้างว่าเป็นผู้ดำเนินการ โดยที่นายษิทราเป็นคนติดต่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันเอง และติดต่อคุณอ้อยโดยไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเจอกัน โดยอ้างว่ารับเงินมาแล้วไปดำเนินการต่อ เพราะฉะนั้นเงิน 71 ล้านบาทจ่ายไปเพื่อวัตถุประสงค์ตามสัญญาฉบับดังกล่าว และสัญญาดังกล่าวระบุว่าจะต้องมีการจ่ายเงินภายในวันที่ 15 ก.พ. 2566 แต่โอนเงินเข้ามาไม่ทัน ต้องเป็นวันรุ่งขึ้น จึงสอดคล้องกับสัญญานี้ โดยที่คุณอ้อยหลงเชื่อว่าควรจะเป็นทรัพย์สินที่เดินหน้าทำสลากออนไลน์เพราะหลงเชื่อนายษิทรา
    .
    ทั้งนี้ นายษิทราอ้างในไลน์ตลอดว่าทำสลากออนไลน์ พอได้เงินมาเสร็จหลังจากนั้นถอนเงินไปซื้อบ้านด้วยเงินสด กรณีนี้จึงเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกคุณอ้อย เพราะเมื่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันไม่ได้เงินก็ถามว่า ไหนสัญญาบอกว่าจะได้รับเงิน นายษิทรากล่าวว่า คุณอ้อยยกเลิกสัญญาแล้ว ทั้งที่คุณอ้อยไม่ได้ยกเลิกและจ่ายเงินไปแล้ว แต่บริษัทไม่รู้ว่ามีการจ่ายเงิน และเมื่อไม่มีการโอนเงินก็ยุติสัญญา เดิมนายษิทราและภรรยาไปขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านในราคา 43 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 22 มี.ค. 2566 นำเงินก้อนนี้เปลี่ยนจากสินเชื่อกลายเป็นซื้อเงินสด เพราะได้เงินมาจากคุณอ้อย กรณีนี้ถ้าทำกันถึงขนาดนี้คิดว่าเข้าข่ายฉ้อโกง เพราะชี้ขาดว่าใครเป็นคู่สัญญาและเจ้าของทรัพย์สิน แต่นายษิทราเป็นตัวกลางกลับนำเงินตรงนี้ไปใช้ส่วนตัวซื้อบ้านซึ่งไม่เกี่ยว
    .
    เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า รู้เรื่องการโอนเงินไปยังล่ามที่ชื่อจุ๋ม ซึ่งถูกหัก 40% หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า กรณีนี้ทรัพย์สินไม่ใช่คนอื่น เป็นคุณอ้อยโดยตรง แล้วชื่อบัญชีเป็นคุณอ้อย ชื่อสัญญาเป็นคุณอ้อย จะเป็นสัญญาคนอื่นในการโอนตรงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จึงแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าตั้งใจโอนเงินเป็นทรัพย์สินของเขาเอง
    .
    นายปานเทพ กล่าวว่า จากนั้นใกล้ปลายปี 2566 ก็เริ่มคิดเรื่องภาษีว่านายษิทราจะนำเงินที่มา 71 ล้านบาทเป็นอย่างไร จึงมีการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า ขอผ่านเงินสัก 70 ล้านบาทได้ไหม เพื่อที่จะมีบันทึกโดยไม่บอกที่มาที่ไป ต่อมาไม่มีความคืบหน้า มาเจรจาอีกครั้ง 27 ก.พ. 2567 ใกล้ถึงรอบวงจ่ายภาษี นายษิทราเสนอว่าจะเอาเงินผ่านโดยไม่บอกว่าเป็นสัญญาเดิม ครั้งที่หนึ่ง 30 ล้านบาท ครั้งที่สอง 30 ล้านบาท และครั้งที่สาม 11 ล้านบาท แล้วจะให้ค่าตอบแทน 10 ล้านบาท บริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันจึงคิดว่ายอดใกล้ 71 ล้านบาท สงสัยจะฟอกเงินและบริษัทฯ จะเป็นแพะ จึงปฎิเสธ ซึ่งมีบทสนทนา
    .
    พอถึงช่วงที่จะส่งมอบแอปพลิเคชัน กลับไม่มีการส่งมอบ คุณอ้อยจึงดำเนินการทำโนติสถึงนายษิทรา และเมื่อนายษิทราไม่สามารถนำส่งได้ ทั้งที่ได้ดำเนินการและรับเงินไปแล้ว อีกทั้งนายษิทราบอกเองว่าเป็นผู้ประสานงานโครงการนี้ ทำไมถึงยังไม่ได้ ปรากฎว่านายษิทราแชตไลน์ไปพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า มีแพลตฟอร์มนาคี ชื่อเหมือนกันแต่โลโก้เป็นสีเขียว อ้างว่าไปจ้างเขาทำมาเอง เหมือนถูกเลียนแบบ นายษิทราให้ช่วยนำแอปพลิเคชันนี้ส่งให้คุณอ้อย แต่บริษัทปฎิเสธทำไม่ได้ เพราะไม่เคยทำ และไม่ใช่แอปฯ ของบริษัท จะไปหลอกคุณอ้อยแบบนั้นไม่ได้ ก็เลยไม่ทำ เรื่องแบบนี้เป็นการให้โดยเสน่หาได้อย่างไร ให้เพื่อการลงทุนได้อย่างไรเพราะไม่มีของสักอย่างแล้วอุปโลกน์เป็นอย่างอื่น จะเรียกว่าฉ้อโกงหรือไม่
    .
    นายปานเทพ กล่าวว่า ตอนนี้ฝ่ายนายษิทรามีความคิดที่จะประกันตัวนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือเดือน ภรรยา โดยอ้างว่าแค่รับเงินมาซื้อบ้าน ไม่รับรู้ที่ไปที่มา ตนอยากจะบอกว่าไม่จริง เพราะตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ป่านนี้รู้แล้วว่ามีข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และแชตไลน์ทั้งหมดไปหมดแล้ว ยังไงนางปทิตตาอยู่ในคณะทำงานเรื่องหวยออนไลน์และรับทราบโดยตลอด ไม่ใช่ไม่รับรู้ ลองไปยื่นประกันตัวดู ตนเชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานพอที่จะยืนยันได้ว่า นางปทิตตารับรู้โดยตลอดในธุรกรรมนี้ อย่างน้อยที่บอกว่าไม่รู้เรื่องนั้น ไม่จริง รู้แน่นอน หลักฐานตำรวจเขาน่าจะมีในตอนนี้
    .
    Live โหนกระแส อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ มาแล้ว เชื่อทนายปาเกียวกำลังพลิกคดี มั่นใจเมียตั้มมีรู้เห็นทั้งหมด

    https://www.youtube.com/watch?v=7X__nPHGDD0

    #Thaitimes
    "ปานเทพ" น็อก "ทนายปาเกียว" เปิดสัญญาเด็ด โยงปม 71ล. ย้ำ "เมียตั้ม" รู้เห็นเงินโกงหวยออนไลน์ . "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" ออกรายการโหนกระแส ย้อนรอยที่มาคดีเงิน 71 ล้านบาท ย้ำไม่ใช่ให้โดยเสน่หา ไม่ใช่ทั้งกู้และยืมเงิน สัญญาชัดคุณอ้อยกับผู้ผลิตแพลตฟอร์ม ไม่มีทนายตั้มเกี่ยวข้อง ชี้ถ้ามีไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่เรือนจำ ไม่ได้ประกันตัว ถูกอายัดทรัพย์ ส่วนที่อ้างว่าภรรยาไม่รู้นั้นไม่จริง ยังไงก็รับทราบโดยตลอด . วันนี้ (13 พ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยผ่านรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ดำเนินรายการโดยนายกรรชัย กำเนิดพลอย ว่า น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย และคณะมาร้องเรียนกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ เนื่องจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีเครือข่ายมาก ถ้าจะมีใครสักคนสามารถเปิดความจริงและต่อสู้ผ่านสื่อน่าจะเป็นค่ายผู้จัดการ ระหว่างนั้นก็เก็บข้อมูล คลิปทั้งหมด แต่ไม่คิดจะเปิดในช่วงแรก เพราะรอให้คดีนี้เข้าสู่ตำรวจสอบสวนกลาง แล้วจะเปิดประเด็นก่อน . เมื่อนายษิทราและนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ไปออกรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2567 และนายกรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ ถามว่าทำไมนายษิทราจึงรวย มีของแบรนด์เนม นายษิทราหลุดมาว่าให้โดยเสน่หา ซึ่งในตอนเช้านายษิทราโทรศัพท์ไปหาทนายความของ น.ส.จตุพร เพราะรู้ว่ามีการแจ้งความและรู้ว่ามีเรื่องต่อกัน และเมื่อเห็นว่านายษิทราอาศัยรายการดังกล่าวสร้างภาพ และฟอกตัวว่าไม่มีปัญหาต่อกัน ทำให้เครือผู้จัดการตัดสินใจเปิดข้อมูลในช่วงบ่าย โดยนำข้อมูลในรายการไปลงปิดท้ายด้วย ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่ตัดสินใจเปิดประเด็น และจะเปิดสักวันหนึ่งเมื่อคดีคืบหน้าจากทั้งสองฝั่งแล้ว . เมื่อเปิดข้อมูล ปรากฎว่านายษิทราไปพาดพิงนายสนธิท้าว่าใครแพ้จะให้ดื่มน้ำปัสสาวะ 71 แก้ว ทำให้ต้องเปิดข้อมูลทั้งหมด แล้วนายษิทราก็เงียบหายไป ต่อมานายษิทราไปออกรายการของ อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ อ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา และครั้งที่ 3 ให้สัมภาษณ์ที่กองปราบปราม อ้างว่าให้โดยเสน่หาโดยไม่มีเงื่อนไข และจะมีการจ่ายภาษี 5% ของรายได้ที่เกิน 10 ล้านบาท คำถามก็คือที่กล่าวว่าให้โดยเสน่หามาตลอด เพิ่งมาเปลี่ยนในรายการวานนี้ (12 พ.ย.) ว่าเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน ตกลงเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน หรือเงินยืมเพื่อการลงทุนกันแน่ . ส่วนกรณีที่นายษิทราเคยนำโทรศัพท์มือถือไปให้ อ.ยิ่งศักดิ์อ่าน และนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา นำเอกสารมาให้นายกรรชัย และนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความอ่าน อ้างว่าเป็นแชตสำคัญ ตนรู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นแชตนี้ ไม่ใช่แชตระหว่างนายษิทรากับคุณอ้อย และรู้ว่าไม่สามารถจะเป็นไม้เด็ดได้ หากเป็นไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่ในเรือนจำ ประกันตัวไม่ได้ และอายัดทรัพย์ หลักฐานนี้เป็นการสร้างวาทกรรมการพิมพ์ไลน์ของทนายตั้มเพื่อคุยกับคุณน้อย เลขาส่วนตัว เพื่อสมอ้างว่าได้คุยกับคุณอ้อยแล้ว และข้อความไม่ได้แปลว่าสำเร็จแล้วโดยนายษิทรา เป็นการขอให้คุณน้อยไปเจรจากับคุณอ้อยอีกครั้งหนึ่ง แปลว่ายังไม่ได้เห็นด้วย . ทั้งนี้ บทสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง วันที่ 28-30 ม.ค. 2566 หลังจากนั้นมีการตกลงกันที่ไม่ใช่ในแชต นายษิทราอ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา 3 ครั้ง โดยจ่ายภาษี 5% แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว เหลือแค่ 2 อย่าง คือการกู้เงินหรือยืมเงิน พลิกไปพลิกมา ทั้งที่การกู้เงินต้องมีสัญญา ส่วนการลงทุนต้องมีผลตอบแทนและสัดส่วนหุ้นชัดเจน หากเป็นการยืมเพื่อลงทุน ก็ถือว่าเป็นการกู้อยู่ดี นายษิทราเป็นนักกฎหมาย เป็นคู่สัญญาในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย ย่อมต้องรู้ว่าจะต้องร่างสัญญากู้เงิน แต่กลับไม่มี แสดงว่าไม่ใช่การกู้ยืมเงิน ส่วนการลงทุน มีการจดทะเบียนทรัพย์สินหรือไม่ ในแชตไลน์นำไปสู่การอ้างว่าจะทำแอปฯ หวยออนไลน์ . แต่ที่ไม่เปิดนอกจากโต้ไม่ได้แล้ว ยังอวดอ้างว่ามีเส้นสายในการรับสัมปทานหวยออนไลน์ ทั้งที่ไม่มีอยู่จริง นอกจากจะพูดคนที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้ข้อกฎหมาย และหลงเชื่อว่ามีเส้นสาย มีคอนเนกชัน มีระบบสัมปทานที่จะทำได้ ก็เลยไม่กล้าเปิด อีกทั้งการลงทุนต้องมีหุ้นในสัดส่วนอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีทางไม่มีสัญญาเพราะนายษิทราเป็นนักกฎหมายและเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคุณอ้อย จะต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคุณอ้อยเดินทางจากประเทศฝรั่งเศสมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 เพื่อเซ็นสัญญากับบริษัทผลิตแอปพลิเคชัน ลงวันที่ 3 ก.พ. 2566 ลงนามจริงวันที่ 5 ก.พ. 2566 ทำขึ้นระหว่างคุณอ้อยกับบริษัทผู้รับจ้างผลิตแอปพลิเคชัน แสดงว่าทรัพย์สินไม่ใช่ของนายษิทรา ที่อ้างว่าเป็นการกู้ยืมเงินจึงเป็นความเท็จทั้งสิ้น . "คนเราจะตัดสินใจอย่างไร ขึ้นอยู่กับสัญญา ไม่ใช่แชตไลน์คุย เพราะการแชตไลน์คุย คุณอ้างหลักฐานพิมพ์เองว่าตกลงกันแล้วอะไรก็ได้ คุณคุยกับเลขาฯ ไม่ได้คุยกับพี่อ้อยด้วย แต่ผลลัพธ์คือเซ็นสัญญาที่ไม่มีชื่อทนายตั้มเกี่ยวข้องเลย จะมาอ้างว่าเงินกู้ยืมก็ไม่ได้ เงินลงทุนก็ไม่ได้ เพราะสัญญาไม่มีชื่อคุณแม้แต่คำเดียว และที่สำคัญ สัญญานี้ทำการปรับปรุงและแก้ไขจากสำนักงานทนายความษิทรา ลอว์เฟิร์ม ทั้งสิ้น" นายปานเทพ กล่าว . เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า ใครเป็นคนสั่งให้ทำสัญญานี้ และสัญญานี้คุณอ้อยให้ทำโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงหน่วยงานราชการฝรั่งเศส นำเงินมาให้นายษิทราจริงหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ดีเพราะมีการแอบอ้างว่าสัญญาทำขึ้นเพื่อเป็นนิติกรรมอำพราง เรื่องนี้มีสัญญาชัดเจน คุณอ้อยมาประเทศไทยวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 ภายใต้สัญญานี้ เมื่อกลับไปประเทศฝรั่งเศสก็ไปทำเรื่องถอนเงิน เตรียมขายหลักทรัพย์เพื่อโอนเงินมา เพราะเป็นทรัพย์สินของเขาเอง และการโอนเงินจากฝรั่งเศสมายังประเทศไทย ถ้าเป็นทรัพย์สินของตัวเองไม่ต้องเสียภาษี จ่ายแค่ธรรมเนียม รวมทั้งเงินทำบุญและใช้ส่วนตัวก็หลักการเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องสร้างนิติกรรมอำพราง . หลังจากนั้นจึงนำเงินไปให้นายษิทราเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 เพราะนายษิทราอ้างว่าเป็นผู้ดำเนินการ โดยที่นายษิทราเป็นคนติดต่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันเอง และติดต่อคุณอ้อยโดยไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเจอกัน โดยอ้างว่ารับเงินมาแล้วไปดำเนินการต่อ เพราะฉะนั้นเงิน 71 ล้านบาทจ่ายไปเพื่อวัตถุประสงค์ตามสัญญาฉบับดังกล่าว และสัญญาดังกล่าวระบุว่าจะต้องมีการจ่ายเงินภายในวันที่ 15 ก.พ. 2566 แต่โอนเงินเข้ามาไม่ทัน ต้องเป็นวันรุ่งขึ้น จึงสอดคล้องกับสัญญานี้ โดยที่คุณอ้อยหลงเชื่อว่าควรจะเป็นทรัพย์สินที่เดินหน้าทำสลากออนไลน์เพราะหลงเชื่อนายษิทรา . ทั้งนี้ นายษิทราอ้างในไลน์ตลอดว่าทำสลากออนไลน์ พอได้เงินมาเสร็จหลังจากนั้นถอนเงินไปซื้อบ้านด้วยเงินสด กรณีนี้จึงเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกคุณอ้อย เพราะเมื่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันไม่ได้เงินก็ถามว่า ไหนสัญญาบอกว่าจะได้รับเงิน นายษิทรากล่าวว่า คุณอ้อยยกเลิกสัญญาแล้ว ทั้งที่คุณอ้อยไม่ได้ยกเลิกและจ่ายเงินไปแล้ว แต่บริษัทไม่รู้ว่ามีการจ่ายเงิน และเมื่อไม่มีการโอนเงินก็ยุติสัญญา เดิมนายษิทราและภรรยาไปขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านในราคา 43 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 22 มี.ค. 2566 นำเงินก้อนนี้เปลี่ยนจากสินเชื่อกลายเป็นซื้อเงินสด เพราะได้เงินมาจากคุณอ้อย กรณีนี้ถ้าทำกันถึงขนาดนี้คิดว่าเข้าข่ายฉ้อโกง เพราะชี้ขาดว่าใครเป็นคู่สัญญาและเจ้าของทรัพย์สิน แต่นายษิทราเป็นตัวกลางกลับนำเงินตรงนี้ไปใช้ส่วนตัวซื้อบ้านซึ่งไม่เกี่ยว . เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า รู้เรื่องการโอนเงินไปยังล่ามที่ชื่อจุ๋ม ซึ่งถูกหัก 40% หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า กรณีนี้ทรัพย์สินไม่ใช่คนอื่น เป็นคุณอ้อยโดยตรง แล้วชื่อบัญชีเป็นคุณอ้อย ชื่อสัญญาเป็นคุณอ้อย จะเป็นสัญญาคนอื่นในการโอนตรงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จึงแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าตั้งใจโอนเงินเป็นทรัพย์สินของเขาเอง . นายปานเทพ กล่าวว่า จากนั้นใกล้ปลายปี 2566 ก็เริ่มคิดเรื่องภาษีว่านายษิทราจะนำเงินที่มา 71 ล้านบาทเป็นอย่างไร จึงมีการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า ขอผ่านเงินสัก 70 ล้านบาทได้ไหม เพื่อที่จะมีบันทึกโดยไม่บอกที่มาที่ไป ต่อมาไม่มีความคืบหน้า มาเจรจาอีกครั้ง 27 ก.พ. 2567 ใกล้ถึงรอบวงจ่ายภาษี นายษิทราเสนอว่าจะเอาเงินผ่านโดยไม่บอกว่าเป็นสัญญาเดิม ครั้งที่หนึ่ง 30 ล้านบาท ครั้งที่สอง 30 ล้านบาท และครั้งที่สาม 11 ล้านบาท แล้วจะให้ค่าตอบแทน 10 ล้านบาท บริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันจึงคิดว่ายอดใกล้ 71 ล้านบาท สงสัยจะฟอกเงินและบริษัทฯ จะเป็นแพะ จึงปฎิเสธ ซึ่งมีบทสนทนา . พอถึงช่วงที่จะส่งมอบแอปพลิเคชัน กลับไม่มีการส่งมอบ คุณอ้อยจึงดำเนินการทำโนติสถึงนายษิทรา และเมื่อนายษิทราไม่สามารถนำส่งได้ ทั้งที่ได้ดำเนินการและรับเงินไปแล้ว อีกทั้งนายษิทราบอกเองว่าเป็นผู้ประสานงานโครงการนี้ ทำไมถึงยังไม่ได้ ปรากฎว่านายษิทราแชตไลน์ไปพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า มีแพลตฟอร์มนาคี ชื่อเหมือนกันแต่โลโก้เป็นสีเขียว อ้างว่าไปจ้างเขาทำมาเอง เหมือนถูกเลียนแบบ นายษิทราให้ช่วยนำแอปพลิเคชันนี้ส่งให้คุณอ้อย แต่บริษัทปฎิเสธทำไม่ได้ เพราะไม่เคยทำ และไม่ใช่แอปฯ ของบริษัท จะไปหลอกคุณอ้อยแบบนั้นไม่ได้ ก็เลยไม่ทำ เรื่องแบบนี้เป็นการให้โดยเสน่หาได้อย่างไร ให้เพื่อการลงทุนได้อย่างไรเพราะไม่มีของสักอย่างแล้วอุปโลกน์เป็นอย่างอื่น จะเรียกว่าฉ้อโกงหรือไม่ . นายปานเทพ กล่าวว่า ตอนนี้ฝ่ายนายษิทรามีความคิดที่จะประกันตัวนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือเดือน ภรรยา โดยอ้างว่าแค่รับเงินมาซื้อบ้าน ไม่รับรู้ที่ไปที่มา ตนอยากจะบอกว่าไม่จริง เพราะตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ป่านนี้รู้แล้วว่ามีข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และแชตไลน์ทั้งหมดไปหมดแล้ว ยังไงนางปทิตตาอยู่ในคณะทำงานเรื่องหวยออนไลน์และรับทราบโดยตลอด ไม่ใช่ไม่รับรู้ ลองไปยื่นประกันตัวดู ตนเชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานพอที่จะยืนยันได้ว่า นางปทิตตารับรู้โดยตลอดในธุรกรรมนี้ อย่างน้อยที่บอกว่าไม่รู้เรื่องนั้น ไม่จริง รู้แน่นอน หลักฐานตำรวจเขาน่าจะมีในตอนนี้ . Live โหนกระแส อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ มาแล้ว เชื่อทนายปาเกียวกำลังพลิกคดี มั่นใจเมียตั้มมีรู้เห็นทั้งหมด https://www.youtube.com/watch?v=7X__nPHGDD0 #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 1 รีวิว
  • ประชามติ 1 ชั้นครึ่ง ข้อเสนอใหม่บนความเสี่ยง เพิ่มปัญหา-ขัดรธน. : ข่าวลึกปมลับ 13/11/67
    ประชามติ 1 ชั้นครึ่ง ข้อเสนอใหม่บนความเสี่ยง เพิ่มปัญหา-ขัดรธน. : ข่าวลึกปมลับ 13/11/67
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 787 มุมมอง 46 0 รีวิว
  • รัสเซียโจมตีโรงงานผลิตธนบัตรและเหรียญของธนาคารชาติของยูเครน!

    มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียใช้โดรน Shahed รวมทั้งขีปนาวุธ Iskander โจมตีทั่วเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อช่วงเช้าของวันนี้

    หนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญที่โดนโจมตีคือ โรงผลิตธนบัตรและเหรียญของธนาคารแห่งชาติยูเครน! ซึ่งสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับโรงงานผลิตทั้งสองแห่ง

    มีการยืนยันแล้วว่าการโจมตีครั้งนี้ทำให้เครื่องมือที่ใช้พิมพ์ธนบัตรไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของการหมุนเวียนเงินท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจของยูเครนในปัจจุบัน

    ในระหว่างการโจมตี ประชาชนต้องหลบอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
    รัสเซียโจมตีโรงงานผลิตธนบัตรและเหรียญของธนาคารชาติของยูเครน! มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียใช้โดรน Shahed รวมทั้งขีปนาวุธ Iskander โจมตีทั่วเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ หนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญที่โดนโจมตีคือ โรงผลิตธนบัตรและเหรียญของธนาคารแห่งชาติยูเครน! ซึ่งสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับโรงงานผลิตทั้งสองแห่ง มีการยืนยันแล้วว่าการโจมตีครั้งนี้ทำให้เครื่องมือที่ใช้พิมพ์ธนบัตรไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของการหมุนเวียนเงินท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจของยูเครนในปัจจุบัน ในระหว่างการโจมตี ประชาชนต้องหลบอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ สส.พรรคประชาชน ประธานกมธ.ที่ดิน เล็งส่งปัญหาเขากระโดงแบบไม่นำการเมืองมาเกี่ยวข้อง สวนทางกระแสสังคมที่เชื่อว่า เป็นข้อแลกเปลี่ยนทางการเมืองของทักษิณกับเนวิน หรือพรรคพม่าจะหัดเคาะกะลาหาทรัพย์แลกยับยั้งลงดาบ
    #7ดอกจิก
    ♣️ สส.พรรคประชาชน ประธานกมธ.ที่ดิน เล็งส่งปัญหาเขากระโดงแบบไม่นำการเมืองมาเกี่ยวข้อง สวนทางกระแสสังคมที่เชื่อว่า เป็นข้อแลกเปลี่ยนทางการเมืองของทักษิณกับเนวิน หรือพรรคพม่าจะหัดเคาะกะลาหาทรัพย์แลกยับยั้งลงดาบ #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรคเลื่อนรถไฟทางคู่ เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู

    โครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project) หรือ Gemas-JB EDTP ประเทศมาเลเซีย ระยะทาง 192 กิโลเมตร แม้มีความคืบหน้าการก่อสร้าง แต่การขยายเส้นทางบริการรถไฟ ETS จากสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) รัฐปะลิส หรือสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง ถึงสถานีเซกามัส (Segamat) ซึ่งเป็นสถานีแรกของรัฐยะโฮร์ ต้องถูกเลื่อนออกไปเป็นครั้งที่สอง

    เดิมการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) มีแผนที่จะขยายบริการรถไฟ ETS ไปยังสถานีเซกามัสในวันที่ 1 ก.ค. 2567 แต่ต้องเลื่อนออกไป คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. 2567 แต่แล้วก็เลื่อนออกไปอีก ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวเดอะสเตรทไทมส์ของมาเลเซีย ระบุแหล่งข่าวจากรัฐบาลมาเลเซียว่า เกิดจากบริษัท YTL Construction ผู้รับจ้างก่อสร้าง ไม่สามารถดำเนินการด้านเทคนิคของสายจ่ายกระแสไฟฟ้าที่สถานีควบคุมการเดินรถเกนวง (Genuang Operating Station) ส่งผลทำให้ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับระบบสายส่งไฟฟ้าเหนือศีรษะได้

    แม้ว่าการวางรางรถไฟช่วงสถานีเกอมัส ถึงรัฐยะโฮร์จะคืบหน้ากว่า 95% แต่งานด้านอื่นที่ยังดำเนินการอยู่ ได้แก่ การทดสอบเดินรถไฟฟ้า โดยที่ผ่านมาโครงการนี้ประสบปัญหาล่าช้ากว่า 3 ปี จากสถานการณ์โควิด 19 และการเวนคืนที่ดิน นอกจากนี้ ยังมีความล่าช้าในการส่งมอบขบวนรถโดยสารรุ่น KTM Class 94 หรือ ETS3 ขนาด 312 ที่นั่ง จำนวน 10 คัน จากบริษัท CRRC Zhuzhou Locomotive ประเทศจีน ซึ่งนายแอนโทนี่ ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย คาดว่าขบวนรถจะส่งมอบทั้งหมดภายในวันที่ 12 ส.ค. 2568

    อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือน เม.ย. 2568 และเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2568 ขณะที่การก่อสร้างสถานี Genuang, Segamat, Labis, Bekok และ Paloh เปิดให้ประชาชนใช้บริการได้แล้ว

    โครงการ Gemas-JB EDTP เริ่มต้นจากสถานีเกอมัส รัฐเนกรีเซมบีลัน เชื่อมกับรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 2554 ถึงสถานีเจบีเซ็นทรัล (JB Sentral) รัฐยะโฮร์ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยลดเวลาการเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รู จาก 7 ชั่วโมงเหลือ 4 ชั่วโมง 30 นาที คาดว่าจะให้บริการผู้โดยสารได้ 3,000 คนต่อวัน รวมทั้งยังใกล้กับโครงการรถไฟ RTS Link ไปยังประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการภายในเดือน ม.ค. 2570

    ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 มีผู้ใช้บริการรถไฟดีเซลราง KTM Intercity เส้นทางระหว่างเกอมัสถึงยะโฮร์บาห์รู จำนวน 63,607 คน

    #Newskit #Gemas #KTMB
    โรคเลื่อนรถไฟทางคู่ เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู โครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project) หรือ Gemas-JB EDTP ประเทศมาเลเซีย ระยะทาง 192 กิโลเมตร แม้มีความคืบหน้าการก่อสร้าง แต่การขยายเส้นทางบริการรถไฟ ETS จากสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) รัฐปะลิส หรือสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง ถึงสถานีเซกามัส (Segamat) ซึ่งเป็นสถานีแรกของรัฐยะโฮร์ ต้องถูกเลื่อนออกไปเป็นครั้งที่สอง เดิมการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) มีแผนที่จะขยายบริการรถไฟ ETS ไปยังสถานีเซกามัสในวันที่ 1 ก.ค. 2567 แต่ต้องเลื่อนออกไป คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. 2567 แต่แล้วก็เลื่อนออกไปอีก ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวเดอะสเตรทไทมส์ของมาเลเซีย ระบุแหล่งข่าวจากรัฐบาลมาเลเซียว่า เกิดจากบริษัท YTL Construction ผู้รับจ้างก่อสร้าง ไม่สามารถดำเนินการด้านเทคนิคของสายจ่ายกระแสไฟฟ้าที่สถานีควบคุมการเดินรถเกนวง (Genuang Operating Station) ส่งผลทำให้ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับระบบสายส่งไฟฟ้าเหนือศีรษะได้ แม้ว่าการวางรางรถไฟช่วงสถานีเกอมัส ถึงรัฐยะโฮร์จะคืบหน้ากว่า 95% แต่งานด้านอื่นที่ยังดำเนินการอยู่ ได้แก่ การทดสอบเดินรถไฟฟ้า โดยที่ผ่านมาโครงการนี้ประสบปัญหาล่าช้ากว่า 3 ปี จากสถานการณ์โควิด 19 และการเวนคืนที่ดิน นอกจากนี้ ยังมีความล่าช้าในการส่งมอบขบวนรถโดยสารรุ่น KTM Class 94 หรือ ETS3 ขนาด 312 ที่นั่ง จำนวน 10 คัน จากบริษัท CRRC Zhuzhou Locomotive ประเทศจีน ซึ่งนายแอนโทนี่ ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย คาดว่าขบวนรถจะส่งมอบทั้งหมดภายในวันที่ 12 ส.ค. 2568 อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือน เม.ย. 2568 และเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2568 ขณะที่การก่อสร้างสถานี Genuang, Segamat, Labis, Bekok และ Paloh เปิดให้ประชาชนใช้บริการได้แล้ว โครงการ Gemas-JB EDTP เริ่มต้นจากสถานีเกอมัส รัฐเนกรีเซมบีลัน เชื่อมกับรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 2554 ถึงสถานีเจบีเซ็นทรัล (JB Sentral) รัฐยะโฮร์ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยลดเวลาการเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รู จาก 7 ชั่วโมงเหลือ 4 ชั่วโมง 30 นาที คาดว่าจะให้บริการผู้โดยสารได้ 3,000 คนต่อวัน รวมทั้งยังใกล้กับโครงการรถไฟ RTS Link ไปยังประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการภายในเดือน ม.ค. 2570 ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 มีผู้ใช้บริการรถไฟดีเซลราง KTM Intercity เส้นทางระหว่างเกอมัสถึงยะโฮร์บาห์รู จำนวน 63,607 คน #Newskit #Gemas #KTMB
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะนี้แอปพลิเคชัน Thaitimes มีการอัปเดตใหม่สำหรับผู้ใช้งานบนระบบ iOS ได้แล้ว โดยมีการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอป อย่างไรก็ตาม ทีมงานทราบดีว่ามีบางฟังก์ชันที่อาจยังไม่สมบูรณ์และกำลังอยู่ระหว่างการแก้ไข เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน

    ขั้นตอนการอัปเดตแอปพลิเคชัน:
    1. เปิดแอป App Store
    2. ค้นหา Thaitimes
    3. กดที่ปุ่ม อัปเดต ตามที่แสดงในภาพ

    หลังการอัปเดต ท่านจำเป็นต้องล็อกอินใหม่ด้วยชื่อผู้ใช้งานอีเมลและรหัสผ่านเดิมที่เคยสมัครไว้ หากพบปัญหาในการล็อกอิน ท่านสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @sondhitalk
    ขณะนี้แอปพลิเคชัน Thaitimes มีการอัปเดตใหม่สำหรับผู้ใช้งานบนระบบ iOS ได้แล้ว โดยมีการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอป อย่างไรก็ตาม ทีมงานทราบดีว่ามีบางฟังก์ชันที่อาจยังไม่สมบูรณ์และกำลังอยู่ระหว่างการแก้ไข เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน ขั้นตอนการอัปเดตแอปพลิเคชัน: 1. เปิดแอป App Store 2. ค้นหา Thaitimes 3. กดที่ปุ่ม อัปเดต ตามที่แสดงในภาพ หลังการอัปเดต ท่านจำเป็นต้องล็อกอินใหม่ด้วยชื่อผู้ใช้งานอีเมลและรหัสผ่านเดิมที่เคยสมัครไว้ หากพบปัญหาในการล็อกอิน ท่านสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @sondhitalk
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 536 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะนี้แอปพลิเคชัน Thaitimes มีการอัปเดตใหม่สำหรับผู้ใช้งานบนระบบ Android โดยมีการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอป อย่างไรก็ตาม ทีมงานทราบดีว่ามีบางฟังก์ชันที่อาจยังไม่สมบูรณ์และกำลังอยู่ระหว่างการแก้ไข เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน

    กรุณากดอัปเดตแอปพลิเคชันได้ที่ Google Play Store โดยทำตามขั้นตอนดังนี้:
    1. เปิดแอป Google Play Store
    2. ค้นหา Thaitimes
    3. กดที่ปุ่ม อัปเดต ตามภาพประกอบ

    หลังการอัปเดต ท่านจำเป็นต้องล็อกอินใหม่ด้วยชื่อผู้ใช้งานอีเมลและรหัสผ่านเดิมที่เคยสมัครไว้ หากพบปัญหาในการล็อกอิน ท่านสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @sondhitalk
    ขณะนี้แอปพลิเคชัน Thaitimes มีการอัปเดตใหม่สำหรับผู้ใช้งานบนระบบ Android โดยมีการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอป อย่างไรก็ตาม ทีมงานทราบดีว่ามีบางฟังก์ชันที่อาจยังไม่สมบูรณ์และกำลังอยู่ระหว่างการแก้ไข เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน กรุณากดอัปเดตแอปพลิเคชันได้ที่ Google Play Store โดยทำตามขั้นตอนดังนี้: 1. เปิดแอป Google Play Store 2. ค้นหา Thaitimes 3. กดที่ปุ่ม อัปเดต ตามภาพประกอบ หลังการอัปเดต ท่านจำเป็นต้องล็อกอินใหม่ด้วยชื่อผู้ใช้งานอีเมลและรหัสผ่านเดิมที่เคยสมัครไว้ หากพบปัญหาในการล็อกอิน ท่านสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @sondhitalk
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 549 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลิงก์นี้ลงในเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ

    WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที
    การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง
    ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต

    เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ

    เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด

    เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้

    ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้

    ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ
    เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง
    รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน

    องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต
    ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง

    ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน

    แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ

    น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ
    ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว

    ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้

    ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
    https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
    ลิงก์นี้ลงในเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้ ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้ ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้ ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 621 มุมมอง 48 0 รีวิว
  • เรียนผู้ใช้งานทุกท่าน,

    ในการอัปเดตแอป Thaitimes ครั้งถัดไป ท่านจำเป็นต้องล็อกอินใหม่ด้วยชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านเดิม โปรดจดจำหรือบันทึกข้อมูลไว้ล่วงหน้า หากพบปัญหาในการล็อกอิน ติดต่อ Line: @sondhitalk

    #thaitimes #Sondhitalk #AppUpdate #เตรียมพร้อมล็อกอินใหม่
    เรียนผู้ใช้งานทุกท่าน, ในการอัปเดตแอป Thaitimes ครั้งถัดไป ท่านจำเป็นต้องล็อกอินใหม่ด้วยชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านเดิม โปรดจดจำหรือบันทึกข้อมูลไว้ล่วงหน้า หากพบปัญหาในการล็อกอิน ติดต่อ Line: @sondhitalk #thaitimes #Sondhitalk #AppUpdate #เตรียมพร้อมล็อกอินใหม่
    Like
    Sad
    9
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 458 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์

    อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง

    ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน

    คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป

    แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา

    ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย

    ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ

    ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย

    แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร

    ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน

    แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย

    ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์"

    ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา

    Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น

    โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย

    พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง

    ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ

    ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม)

    ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน)

    กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น

    แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร

    ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา

    แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก

    ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย

    ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด

    สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย

    หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า

    "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน

    จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ"

    แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น

    หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better
    ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok

    ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA

    #Thaitimes
    เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์ อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์" ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม) ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน) กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ" แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA #Thaitimes
    WWW.THEBETTER.CO.TH
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลกระทบของการทำผิดศีลและการฝืนความจริงต่อตัวเอง โดยเปรียบเทียบการทำงานของสมองและจิตใจระหว่างการมีสติ มีสมาธิ กับการทำผิดศีล

    เมื่อเรามีสติและสมาธิ สมองจะทำงานง่ายดายเพราะมีเป้าหมายเดียว คิดเรื่องเดียว เหมือนกับการรักษาสมดุลบนจักรยาน ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย รู้สึกสบาย แต่เมื่อต้องทำสิ่งที่ขัดกับความจริง เช่น โกหก สมองต้องใช้ความพยายามสูงมากขึ้นเพราะต้องจัดการกับความจริงที่รับรู้และพยายามสร้างเรื่องเท็จที่ไม่หลุดลอย การโกหกหรือทำผิดศีลจึงเหมือนการเดินบนเส้นเชือกโดยที่ต้องควบคุมความกลัวไปด้วย ทำให้รู้สึกตึงเครียดและไม่เป็นธรรมชาติ

    ยิ่งถ้าความรู้สึกผิดตกค้างอยู่ในจิตใจ เมื่อนั่งสมาธิจะยิ่งรู้สึกถึงความเครียดแน่นค้าง หากเรามีความคาดหวังว่าสมาธิจะทำให้ผ่อนคลายทันที ก็อาจทำให้เกิดความเครียดซ้ำเติม เพราะปัญหาที่ยังแก้ไม่เสร็จจะทำให้สมองและจิตใจฝืนตัวเองอย่างหนัก สุดท้ายสำหรับคนที่มีปมขัดแย้งกับจิตเพียงเล็กน้อย การนั่งสมาธิอาจทำให้รู้สึกถึงความหม่นหมองหรือฟุ้งซ่านที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้ยากที่จะรักษาความสงบและสมาธิที่ผ่องใส

    ผลกระทบของการทำผิดศีลและการฝืนความจริงต่อตัวเอง โดยเปรียบเทียบการทำงานของสมองและจิตใจระหว่างการมีสติ มีสมาธิ กับการทำผิดศีล เมื่อเรามีสติและสมาธิ สมองจะทำงานง่ายดายเพราะมีเป้าหมายเดียว คิดเรื่องเดียว เหมือนกับการรักษาสมดุลบนจักรยาน ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย รู้สึกสบาย แต่เมื่อต้องทำสิ่งที่ขัดกับความจริง เช่น โกหก สมองต้องใช้ความพยายามสูงมากขึ้นเพราะต้องจัดการกับความจริงที่รับรู้และพยายามสร้างเรื่องเท็จที่ไม่หลุดลอย การโกหกหรือทำผิดศีลจึงเหมือนการเดินบนเส้นเชือกโดยที่ต้องควบคุมความกลัวไปด้วย ทำให้รู้สึกตึงเครียดและไม่เป็นธรรมชาติ ยิ่งถ้าความรู้สึกผิดตกค้างอยู่ในจิตใจ เมื่อนั่งสมาธิจะยิ่งรู้สึกถึงความเครียดแน่นค้าง หากเรามีความคาดหวังว่าสมาธิจะทำให้ผ่อนคลายทันที ก็อาจทำให้เกิดความเครียดซ้ำเติม เพราะปัญหาที่ยังแก้ไม่เสร็จจะทำให้สมองและจิตใจฝืนตัวเองอย่างหนัก สุดท้ายสำหรับคนที่มีปมขัดแย้งกับจิตเพียงเล็กน้อย การนั่งสมาธิอาจทำให้รู้สึกถึงความหม่นหมองหรือฟุ้งซ่านที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้ยากที่จะรักษาความสงบและสมาธิที่ผ่องใส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • ##ปลาใหญกินปลาเล็ก#
    #ซ่อมพระราคาแแพง#
    🍁 ขอรวม 2 เรื่องเข้าด้วยกันเลย...เป็นเป็นพระองค์เดียวกัน....
    ...10 กว่าปีก่อน ผู้เขียนซื้อ พิมพ์ในภาพ หัก 3 ชิ้น ..แปะกาวมาแบบน่าเกลียด..คือ เอาง่ายๆ แค่ติดกัน.....จ่ายค่าพระในราคา แปดหมื่นบาท...ค่านำพา 10000 บาท ....
    ...ส่งซ่อม ตกแต่ง ศัลยกรรม ในราคา 15000 บาท...ใช้เวลาซ่อมประมาณ 10 วัน (ต้องดูคิวและเวลาของช่าง) .....
    ....พรรคพวกกัน....ขอตัด... (เราแจ้งชัดเจนว่า ซ่อมมา) ในราคา 1 แสน 8 หมื่นบาท.....
    ......ก็ตกลง.....คนที่เอาจากเราไป...ตัดต่อ มือใหญ่ ...ในราคา 4 แสนบาท....
    ....ส่วนมือใหญ่จะขายเท่าไร ไม่ทราบแล้ว......
    #ราคาพระอยู่ที่ว่า พระใคร ใช่ว่า คุณเป็นตาสี ตาสา จะขายสมเด็จ 20 ล้าน...บอกได้ก็เลย ...ถึงแท้ ก็ไม่มีใครซื้อคุณ .เขา..อาจจะซื้อ 2_3 ล้าน...เป็นไปได้ ...นั่นคือ เรื่อง เครดิต...เช่น วันนึงพระมีปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องเก๊แท้ ยังมีเรื่อง รับของโจรอีก ....เวลากรอกลับ...มือใหญ่เขากระทำได้....แค่ถ้าตาสีตาสาใช้เงินหมดแล้ว...ทำไง . ก็ต้อง ทั้งใน และ กฏหมาย.....
    ...และอย่างที่เคยเขียน ถ้าเขาจ่ายเงินในราคาของแท้ + มีการเล่านิทานรับประกันชัดเจน.....แบบนี้น คุก นะครับ....
    ...ปกปิดข้อความอันควรทราบ เพื่อวัตถุประสงค์จะเอาทรัพย์ขอผู้อื่น...คือ ฉ้อโกง.....
    ##ปลาใหญกินปลาเล็ก# #ซ่อมพระราคาแแพง# 🍁 ขอรวม 2 เรื่องเข้าด้วยกันเลย...เป็นเป็นพระองค์เดียวกัน.... ...10 กว่าปีก่อน ผู้เขียนซื้อ พิมพ์ในภาพ หัก 3 ชิ้น ..แปะกาวมาแบบน่าเกลียด..คือ เอาง่ายๆ แค่ติดกัน.....จ่ายค่าพระในราคา แปดหมื่นบาท...ค่านำพา 10000 บาท .... ...ส่งซ่อม ตกแต่ง ศัลยกรรม ในราคา 15000 บาท...ใช้เวลาซ่อมประมาณ 10 วัน (ต้องดูคิวและเวลาของช่าง) ..... ....พรรคพวกกัน....ขอตัด... (เราแจ้งชัดเจนว่า ซ่อมมา) ในราคา 1 แสน 8 หมื่นบาท..... ......ก็ตกลง.....คนที่เอาจากเราไป...ตัดต่อ มือใหญ่ ...ในราคา 4 แสนบาท.... ....ส่วนมือใหญ่จะขายเท่าไร ไม่ทราบแล้ว...... #ราคาพระอยู่ที่ว่า พระใคร ใช่ว่า คุณเป็นตาสี ตาสา จะขายสมเด็จ 20 ล้าน...บอกได้ก็เลย ...ถึงแท้ ก็ไม่มีใครซื้อคุณ .เขา..อาจจะซื้อ 2_3 ล้าน...เป็นไปได้ ...นั่นคือ เรื่อง เครดิต...เช่น วันนึงพระมีปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องเก๊แท้ ยังมีเรื่อง รับของโจรอีก ....เวลากรอกลับ...มือใหญ่เขากระทำได้....แค่ถ้าตาสีตาสาใช้เงินหมดแล้ว...ทำไง . ก็ต้อง ทั้งใน และ กฏหมาย..... ...และอย่างที่เคยเขียน ถ้าเขาจ่ายเงินในราคาของแท้ + มีการเล่านิทานรับประกันชัดเจน.....แบบนี้น คุก นะครับ.... ...ปกปิดข้อความอันควรทราบ เพื่อวัตถุประสงค์จะเอาทรัพย์ขอผู้อื่น...คือ ฉ้อโกง.....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าปล่อยให้การทารุณสัตว์ในสื่อบันเทิงไทย....กลายเป็นเรื่องธรรมดา
    เมื่อไม่นานมานี้เกิดกรณีดราม่าที่มีละครซีรี่ย์เรื่อง “แม่หยัว” ของช่อง ONE 31 ได้ถ่ายทำฉากใน EP.5 ที่มี "แมวดำ" กินน้ำผสมยาพิษ หลังจากนั้นแมวตัวดังกล่าว มีอาการชักกระตุกหลายครั้ง ขย้อนอาหารออกจากปาก ตาเบิกโพลง มีลักษณะเกร็งตัวและนอนแน่นิ่งไป
    โดยการถ่ายทำฉากดังกล่าว เป็นการใช้แมวจริงที่ถูกวางยาสลบ โดยนาย สันต์ ศรีแก้วหล่อ ผู้กำกับการแสดง ได้ออกมาชี้แจงใน Facebook ของตนในภายหลังว่า เป็นการถ่ายทำที่มีผู้เชี่ยวชาญควบคุมดูแลอย่างดีในทุกขั้นตอน แต่ทว่าภาพที่สื่อออกมากลับสะท้อนถึงความทุกข์ทรมานของสัตว์ ซึ่งเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์อย่างชัดเจน กรณีนี้ก่อให้เกิดกระแสในสังคมออนไลน์เรียกร้องให้บุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง รวมไปถึงสถานีโทรทัศน์แสดงความรับผิดชอบ และเกิดการเคลื่อนไหวให้ "แบน" ละครดังกล่าวในวงกว้าง
    การนำสัตว์เข้าฉากเพื่อแสดงความเจ็บปวดหรือการวางยาสลบจริง ๆ ไม่เพียงแต่แสดงถึงการขาดความรับผิดชอบทางศีลธรรมและความเห็นใจต่อสัตว์ แต่ยังส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของสังคมในด้านการปฏิบัติต่อสัตว์ในวงการบันเทิง กรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สะท้อนถึงความละเลยและขาดมาตรฐานด้านจริยธรรมและการดูแลสัตว์ในกระบวนการผลิตของสื่อบันเทิงไทย โดยเฉพาะเมื่อละครดังกล่าวออกอากาศในวงกว้างและมีผู้ชมหลายกลุ่มอายุรวมไปถึงเยาวชน ย่อมส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อวงการบันเทิงไทยโดยรวม และอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบในหมู่เยาวชน
    ปัจจุบัน ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ซึ่งครอบคลุมถึงการกระทำที่ถือเป็นการทารุณสัตว์ทุกประเภท โดยเฉพาะกรณีการทำร้ายสัตว์จนเกิดความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งตามมาตรา 20 ของ พ.ร.บ. นี้ ระบุว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร" การทำให้สัตว์ทุกข์ทรมานหรือเจ็บปวดจนเสียชีวิตหรือได้รับความเสียหาย “อย่างไม่จำเป็น” ถือว่าเข้าข่ายการทารุณกรรม กรณีของการวางยาสลบสัตว์จริงโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ จึงถือเป็นความไม่จำเป็นและอาจเข้าข่ายเป็นการการละเมิดกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    เมื่อพิจารณาจากถ้อยคำของนายสันต์ ผู้กำกับการแสดง จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญที่ว่าคือใคร ใช่สัตว์แพทย์หรือไม่ และเจ้าของที่ว่าคือเจ้าของจริงที่แท้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ผู้ควบคุมและเลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้นไว้เพียงเพื่อประโยชน์ทางการค้า และแมวตัวที่นำมากล่าวอ้างว่าปัจจุบันสุขกายสบายดีนั้น แท้จริงแล้วใช่แมวตัวเดียวกันกับที่ถ่ายทำหรือไม่ จะพิสูจน์อย่างไร และกรณีแมวดำเป็นกรณีแรกหรือไม่ หรือว่ามีกรณีอื่นๆก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ไม่เคยถูกตรวจสอบ และจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าที่ผ่านมา มีการทารุณกรรมสัตว์ในการถ่ายทำ จนกลายเป็นปกติประเพณีไปแล้ว ประชาชนตั้งคำถามและประชาชน.......ต้องการคำตอบ
    แม้ตัวบทกฎหมายจะกล่าวเอาไว้ว่า “ผู้ใดกล่าวหา ผู้นั้นพิสูจน์” แต่ในกรณีนี้ คงไม่ใช่การเดินหมากที่ฉลาดนักของผู้บริหารช่องฯรวมไปถึงกลุ่มคนที่มีส่วนร่วม และควรต้องรีบชี้แจ้งข้อเท็จจริงโดยละเอียดให้เร็วที่สุด เพื่อแสดงความโปร่งใส และควรบอกแต่ความจริงเท่านั้น
    ดังนั้น การชี้แจ้งและกล่าวเพียงคำขอโทษผ่าน Instragram ของช่อง one31thailand เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา จึงไม่แสดงถึงความจริงใจ ไม่เพียงพอและไม่ได้สัดส่วนต่อสิ่งที่ได้กระทำขึ้น
    คำถามสำคัญที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันคบคิดต่อไปก็คือ แม้เราจะมีกฎหมาย แต่กฎหมายกลับไม่ได้กำหนดมาตรการการควบคุมที่เฉพาะเจาะจงในกรณีที่มีการใช้สัตว์ในงานบันเทิง เมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายและบทลงโทษในต่างประเทศ พบว่าในต่างประเทศมีกฎหมายที่คุ้มครองสัตว์เข้มงวดกว่าประเทศไทยมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบันเทิง เช่น ในสหรัฐอเมริกา มีกฎหมาย Animal Welfare Act (AWA) ที่มีการกำหนดมาตรฐานสูงในการใช้สัตว์ในงานบันเทิง โดยกำหนดให้ต้องมีการขอใบอนุญาตและผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดทุกขั้นตอน รวมถึงการมีองค์กรอย่าง American Humane Association (AHA) ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมการใช้สัตว์ในวงการภาพยนตร์โดยเฉพาะ หากพบว่ามีการละเมิด อาจถูกปรับเป็นเงินจำนวนมากและอาจถูกห้ามไม่ให้ใช้สัตว์ในสื่อบันเทิงอีกต่อไป
    หรืออย่างในประเทษอังกฤษ มี The Animal Welfare Act 2006 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ครอบคลุมการดูแลสัตว์ในวงการบันเทิง โดยห้ามการใช้วิธีการที่ทำให้สัตว์เจ็บปวดโดยไม่จำเป็น และหากพบการกระทำที่เป็นการทารุณกรรมสัตว์ จะมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี รวมถึงปรับเงินตามความร้ายแรงของกรณี ดังนั้น เมื่อเทียบกับบทลงโทษของไทย ยังถือว่าเบากว่าต่างประเทศหลายเท่านัก
    สำหรับประเทศไทย กรมปศุสัตว์มีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์และป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ดังนั้น ในการแก้ปัญหาการใช้สัตว์อย่างไม่เหมาะสม กรมปศุสัตว์ควรพิจารณามาตรการ เช่น การจัดทำมาตรฐานแนวทางการใช้สัตว์ในสื่อบันเทิง ควรจัดทำคู่มือและข้อกำหนดที่ชัดเจนสำหรับการใช้สัตว์ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร และสื่อบันเทิงต่าง ๆ รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสวัสดิภาพสัตว์ การตรวจสอบสุขภาพสัตว์ก่อนและหลัง และการปฏิบัติต่อสัตว์ที่ปลอดภัยตลอดกระบวนการถ่ายทำ โดยอาจนำตัวอย่างแนวทางจากต่างประเทศ เช่น American Humane Association ของสหรัฐอเมริกามาปรับใช้
    กรมปศุสัตว์ควรเสนอให้เพิ่มบทลงโทษสำหรับการทารุณกรรมสัตว์ โดยเพิ่มค่าปรับหรือโทษจำคุกที่หนักขึ้น เพื่อให้ผู้ผลิตสื่อเกิดความยับยั้งชั่งใจและมีความรับผิดชอบในการใช้สัตว์ อีกทั้งควรมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและติดตามผลหลังจากที่มีการลงโทษเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำ และควรร่วมมือกับองค์กรที่มีประสบการณ์ในการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ เช่น มูลนิธิต่างๆ และหน่วยงานอื่น ๆ ในการติดตามและตรวจสอบการใช้สัตว์ในวงการบันเทิง
    จากใจแม่ที่มีลูกเป็นหมาสองตัว อย่าปล่อยให้การทารุณสัตว์ในสื่อบันเทิงไทย....กลายเป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้น เรื่องนี้กรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง........ต้องไปให้สุดซอย ! ส่วนเราในฐานะภาคประชาชน ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบในแบบที่เราถนัดต่อไป คือ การค้นหาความจริง และ การจับโกหก
    เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น (อ.สนธิ และ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน กล่าวไว้)


    นักศึกษากฎหมายระบายทุกข์

    ที่มา :
    Thai PBS
    Instagram : one31thailand
    The Animal Welfare Act (AWA) 1966
    The Animal Welfare Act 2006
    The American Humane Association
    พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 20
    อย่าปล่อยให้การทารุณสัตว์ในสื่อบันเทิงไทย....กลายเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อไม่นานมานี้เกิดกรณีดราม่าที่มีละครซีรี่ย์เรื่อง “แม่หยัว” ของช่อง ONE 31 ได้ถ่ายทำฉากใน EP.5 ที่มี "แมวดำ" กินน้ำผสมยาพิษ หลังจากนั้นแมวตัวดังกล่าว มีอาการชักกระตุกหลายครั้ง ขย้อนอาหารออกจากปาก ตาเบิกโพลง มีลักษณะเกร็งตัวและนอนแน่นิ่งไป โดยการถ่ายทำฉากดังกล่าว เป็นการใช้แมวจริงที่ถูกวางยาสลบ โดยนาย สันต์ ศรีแก้วหล่อ ผู้กำกับการแสดง ได้ออกมาชี้แจงใน Facebook ของตนในภายหลังว่า เป็นการถ่ายทำที่มีผู้เชี่ยวชาญควบคุมดูแลอย่างดีในทุกขั้นตอน แต่ทว่าภาพที่สื่อออกมากลับสะท้อนถึงความทุกข์ทรมานของสัตว์ ซึ่งเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์อย่างชัดเจน กรณีนี้ก่อให้เกิดกระแสในสังคมออนไลน์เรียกร้องให้บุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง รวมไปถึงสถานีโทรทัศน์แสดงความรับผิดชอบ และเกิดการเคลื่อนไหวให้ "แบน" ละครดังกล่าวในวงกว้าง การนำสัตว์เข้าฉากเพื่อแสดงความเจ็บปวดหรือการวางยาสลบจริง ๆ ไม่เพียงแต่แสดงถึงการขาดความรับผิดชอบทางศีลธรรมและความเห็นใจต่อสัตว์ แต่ยังส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของสังคมในด้านการปฏิบัติต่อสัตว์ในวงการบันเทิง กรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สะท้อนถึงความละเลยและขาดมาตรฐานด้านจริยธรรมและการดูแลสัตว์ในกระบวนการผลิตของสื่อบันเทิงไทย โดยเฉพาะเมื่อละครดังกล่าวออกอากาศในวงกว้างและมีผู้ชมหลายกลุ่มอายุรวมไปถึงเยาวชน ย่อมส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อวงการบันเทิงไทยโดยรวม และอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบในหมู่เยาวชน ปัจจุบัน ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ซึ่งครอบคลุมถึงการกระทำที่ถือเป็นการทารุณสัตว์ทุกประเภท โดยเฉพาะกรณีการทำร้ายสัตว์จนเกิดความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งตามมาตรา 20 ของ พ.ร.บ. นี้ ระบุว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร" การทำให้สัตว์ทุกข์ทรมานหรือเจ็บปวดจนเสียชีวิตหรือได้รับความเสียหาย “อย่างไม่จำเป็น” ถือว่าเข้าข่ายการทารุณกรรม กรณีของการวางยาสลบสัตว์จริงโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ จึงถือเป็นความไม่จำเป็นและอาจเข้าข่ายเป็นการการละเมิดกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อพิจารณาจากถ้อยคำของนายสันต์ ผู้กำกับการแสดง จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญที่ว่าคือใคร ใช่สัตว์แพทย์หรือไม่ และเจ้าของที่ว่าคือเจ้าของจริงที่แท้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ผู้ควบคุมและเลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้นไว้เพียงเพื่อประโยชน์ทางการค้า และแมวตัวที่นำมากล่าวอ้างว่าปัจจุบันสุขกายสบายดีนั้น แท้จริงแล้วใช่แมวตัวเดียวกันกับที่ถ่ายทำหรือไม่ จะพิสูจน์อย่างไร และกรณีแมวดำเป็นกรณีแรกหรือไม่ หรือว่ามีกรณีอื่นๆก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ไม่เคยถูกตรวจสอบ และจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าที่ผ่านมา มีการทารุณกรรมสัตว์ในการถ่ายทำ จนกลายเป็นปกติประเพณีไปแล้ว ประชาชนตั้งคำถามและประชาชน.......ต้องการคำตอบ แม้ตัวบทกฎหมายจะกล่าวเอาไว้ว่า “ผู้ใดกล่าวหา ผู้นั้นพิสูจน์” แต่ในกรณีนี้ คงไม่ใช่การเดินหมากที่ฉลาดนักของผู้บริหารช่องฯรวมไปถึงกลุ่มคนที่มีส่วนร่วม และควรต้องรีบชี้แจ้งข้อเท็จจริงโดยละเอียดให้เร็วที่สุด เพื่อแสดงความโปร่งใส และควรบอกแต่ความจริงเท่านั้น ดังนั้น การชี้แจ้งและกล่าวเพียงคำขอโทษผ่าน Instragram ของช่อง one31thailand เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา จึงไม่แสดงถึงความจริงใจ ไม่เพียงพอและไม่ได้สัดส่วนต่อสิ่งที่ได้กระทำขึ้น คำถามสำคัญที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันคบคิดต่อไปก็คือ แม้เราจะมีกฎหมาย แต่กฎหมายกลับไม่ได้กำหนดมาตรการการควบคุมที่เฉพาะเจาะจงในกรณีที่มีการใช้สัตว์ในงานบันเทิง เมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายและบทลงโทษในต่างประเทศ พบว่าในต่างประเทศมีกฎหมายที่คุ้มครองสัตว์เข้มงวดกว่าประเทศไทยมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบันเทิง เช่น ในสหรัฐอเมริกา มีกฎหมาย Animal Welfare Act (AWA) ที่มีการกำหนดมาตรฐานสูงในการใช้สัตว์ในงานบันเทิง โดยกำหนดให้ต้องมีการขอใบอนุญาตและผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดทุกขั้นตอน รวมถึงการมีองค์กรอย่าง American Humane Association (AHA) ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมการใช้สัตว์ในวงการภาพยนตร์โดยเฉพาะ หากพบว่ามีการละเมิด อาจถูกปรับเป็นเงินจำนวนมากและอาจถูกห้ามไม่ให้ใช้สัตว์ในสื่อบันเทิงอีกต่อไป หรืออย่างในประเทษอังกฤษ มี The Animal Welfare Act 2006 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ครอบคลุมการดูแลสัตว์ในวงการบันเทิง โดยห้ามการใช้วิธีการที่ทำให้สัตว์เจ็บปวดโดยไม่จำเป็น และหากพบการกระทำที่เป็นการทารุณกรรมสัตว์ จะมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี รวมถึงปรับเงินตามความร้ายแรงของกรณี ดังนั้น เมื่อเทียบกับบทลงโทษของไทย ยังถือว่าเบากว่าต่างประเทศหลายเท่านัก สำหรับประเทศไทย กรมปศุสัตว์มีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์และป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ดังนั้น ในการแก้ปัญหาการใช้สัตว์อย่างไม่เหมาะสม กรมปศุสัตว์ควรพิจารณามาตรการ เช่น การจัดทำมาตรฐานแนวทางการใช้สัตว์ในสื่อบันเทิง ควรจัดทำคู่มือและข้อกำหนดที่ชัดเจนสำหรับการใช้สัตว์ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร และสื่อบันเทิงต่าง ๆ รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสวัสดิภาพสัตว์ การตรวจสอบสุขภาพสัตว์ก่อนและหลัง และการปฏิบัติต่อสัตว์ที่ปลอดภัยตลอดกระบวนการถ่ายทำ โดยอาจนำตัวอย่างแนวทางจากต่างประเทศ เช่น American Humane Association ของสหรัฐอเมริกามาปรับใช้ กรมปศุสัตว์ควรเสนอให้เพิ่มบทลงโทษสำหรับการทารุณกรรมสัตว์ โดยเพิ่มค่าปรับหรือโทษจำคุกที่หนักขึ้น เพื่อให้ผู้ผลิตสื่อเกิดความยับยั้งชั่งใจและมีความรับผิดชอบในการใช้สัตว์ อีกทั้งควรมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและติดตามผลหลังจากที่มีการลงโทษเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำ และควรร่วมมือกับองค์กรที่มีประสบการณ์ในการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ เช่น มูลนิธิต่างๆ และหน่วยงานอื่น ๆ ในการติดตามและตรวจสอบการใช้สัตว์ในวงการบันเทิง จากใจแม่ที่มีลูกเป็นหมาสองตัว อย่าปล่อยให้การทารุณสัตว์ในสื่อบันเทิงไทย....กลายเป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้น เรื่องนี้กรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง........ต้องไปให้สุดซอย ! ส่วนเราในฐานะภาคประชาชน ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบในแบบที่เราถนัดต่อไป คือ การค้นหาความจริง และ การจับโกหก เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น (อ.สนธิ และ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน กล่าวไว้) นักศึกษากฎหมายระบายทุกข์ ที่มา : Thai PBS Instagram : one31thailand The Animal Welfare Act (AWA) 1966 The Animal Welfare Act 2006 The American Humane Association พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 20
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • การพนันพลิกเศรษฐกิจ กาสิโนไทยแลนด์ สร้างเงิน-สร้างปัญหา : ถอนหมุดข่าว 11/11/67
    การพนันพลิกเศรษฐกิจ กาสิโนไทยแลนด์ สร้างเงิน-สร้างปัญหา : ถอนหมุดข่าว 11/11/67
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 57 0 รีวิว
  • จบทุกปัญหาของเกษตรกร จบทุกปัญหาเรื่องดิน ธรณีสยาม นารายณ์พลิกแผ่นดิน พลิกชีวิต พลิกวิกฤติ สร้างโอกาส ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต #สารปรับสภาพดิน #ดินเน่าดินเสีย #ธรณีสยาม #นารายณ์พลิกแผ่นดิน #เกษตร #รากเน่าโคนเน่า
    จบทุกปัญหาของเกษตรกร จบทุกปัญหาเรื่องดิน ธรณีสยาม นารายณ์พลิกแผ่นดิน พลิกชีวิต พลิกวิกฤติ สร้างโอกาส ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต #สารปรับสภาพดิน #ดินเน่าดินเสีย #ธรณีสยาม #นารายณ์พลิกแผ่นดิน #เกษตร #รากเน่าโคนเน่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 29 0 รีวิว
Pages Boosts