• ต้มข้ามศตวรรษ – หัวโจก 1 – 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 3 “หัวโจก”

    ตอน 1

    ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 อาณาจักรของธุรกิจการเงิน การอุตสาหกรรมและการค้าของอเม ริกา ถูกครอบงำโดยยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่มคือ Standard Oil- Rockefeller Enterprise กลุ่มหนึ่ง และ Morgan อีกกลุ่มหนึ่ง ยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่ม น่าจะตีกัน แต่แปลก นอกจากไม่ตีกันแล้ว ยังจับมือร่วมกัน เพื่อครอบงำอาณาจักรธุรกิจของอเมริกาอีกด้วย โดยใช้วิธีการถือหุ้น และเป็นกรรมการบริษัท ไขว้กันไปมา มันเป็นการครอบงำ ที่แนบเนียน ยากที่คนภายนอกจะดูออก

    กลุ่ม Rockefeller เน้น การผูกขาดด้านอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันStandard Oil ที่ใหญ่คับอเมริกา และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน รวมทั้ง ลงทุนในการสร้างทางรถไฟ พร้อมถือหุ้นส่วนใหญ่ใน กองทุนทองแดง กองทุนถลุงแร่ กองทุนยาสูบ แค่นั้นคงใหญ่ไม่พอ กลุ่มนี้จึงไปถือหุ้นส่วนใหญ่ใน National City Bank ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุด และรวมไปถึง บริษัทเงินทุนใหญ่ของอเมริกาคือ United State Trust Company และ Hanover Nation Bank และบริษัทประกันชีวิตระดับใหญ่ต่างๆ อีกด้วย

    ส่วนกลุ่ม Morgan เน้นการผูกขาดด้านอุตสาหกรรมเหล็ก การขนส่งทางเรือ การสร้างทางรถไฟ อุตสาหกรรมด้านเครื่องไฟฟ้า รวมถึง General Electric ยางพารา และสถาบันการเงิน เช่น National Bank of Commerce, the Chase National Bank, New York Life Insurance และ Guaranty Trust Company ที่มีบทบาทสำคัญ
    J.P. Morgan และ Guaranty Trust ถูกพาดพิง ว่าพัวพันเกือบตลอดระยะเวลา และเกือบทุกเรื่องราว เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียนี้ มารู้จักประวัติของกลุ่มนี้กันหน่อย

    ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กลุ่ม Guaranty Trust ยังเป็นของพวกตระกูล Harriman แต่เมื่อพี่ใหญ่ Edward Henry Harriman ตายในปี ค.ศ.1909 Morgan และพวก จึงเข้าไปกวาดซื้อหุ้นทั้งหมดของ Harriman และกลายเป็นเจ้าของ Guaranty Trust รวมทั้งบริษัทประกันในเครือแทน ต่อมาในปีเดียวกัน Morgan ก็ไล่ซื้อหุ้นของบริษัทอื่นๆ เพิ่มอีก และเอาเข้ามาอยู่ในชื่อของ Guaranty Trust หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 Guaranty Trust และ Bankers Trust จึงเป็นบริษัททรัสต์ ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง และอันดับสองของอเมริกา และทั้ง 2 กลุ่มบริษัท เป็นของกลุ่มทุน Morgan

    เห็นใยแมงมุมคร่าวๆ ของธุรกิจ ของยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ในช่วงแรกแล้วนะครับ

    ยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ต่างเข้าไปมีส่วน เกี่ยวพัน กับการสนับสนุนเงินทุนให้กับพวกปฏิวัติ Bolsheviks ตั้งแต่ก่อน ค.ศ.1917 แล้ว ไม่มากก็น้อย

    มีบันทึกแสดงว่า ค.ศ.1913 สำนักงานกฏหมาย Sullivan & Cromwell มีส่วนสนับสนุนการปฏิวัติของปานามา เรื่องนี้อยู่ในบันทึกการไต่สวนของรัฐสภาในปี 1913 ซึ่งชี้แจงโดยสมาชิกสภา Rainey

    “….การปฏิวัติที่เกี่ยวกับช่องแคบปานามา ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐบาล(อเมริกา) นี้เข้าไปมีส่วนแล้ว การปฏิวัติก็คงทำไม่สำเร็จแน่ มันเป็นการกระทำของรัฐบาลนี้ ที่ผิดตามสนธิสัญญา ค.ศ.1846 มันเป็นการปฏิวัติ ที่ทำโดยนักปฏิวัติชาวปานามา 10 ถึง 12 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท Panama Railroad & Steamship ซึ่งทำงานอยู่ในนิวยอร์ค และอยู่ในความดูแลของนาย William Nelson Cromwell และพวกเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศในวอชิงตัน บุคคลเหล่านี้ รู้เรื่องการปฏิวัติที่กำลังจะ เกิดขึ้น อย่างดี วัตถุประสงค์ของการปฏิวัติ ก็เพื่อเข้าไปยึดโคลัมเบีย เพื่อจะครอบครอง คลองปานามา ด้วยการใช้เงิน 40 ล้านเหรียญ ”

    “ผมจะเสนอข้อพิสูจน์ เป็นเอกสาร ที่ประกาศอิสรภาพ ซึ่งประกาศในปานามา วันที่ 3 พฤศจิกายน 1903 เป็นเอกสารซึ่งจัดเตรียมขึ้นในนครนิวยอร์ค โดย สำนักงานของ Nelson Cromwell….”
    เอกสารตัวอย่างอีกรายการ ที่แสดงให้เห็น ถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ ของพวก Wall Street ที่ ดำเนินการในนิวยอร์คคือ การปฏิวัติในจีน ปี ค.ศ.1912 ซึ่งนำโดยนายซุนยัดเซ็น (Sun Yat-sen) แม้ว่าสุดท้ายแล้ว การเข้าไปยุ่งกับการปฏิวัติของกลุ่มนักการเงินนี้ จะได้รับผลตอบแทนอย่างไร จะยังไม่เห็นชัด แต่เจตนาและบทบาทของนักการเงินนิวยอร์คเหล่านั้น ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด ถึงจำนวนเงิน ข้อมูลของสมาคมลับทางฝั่งจีนที่ให้ร่วมมือ รวมทั้งมีรายการส่งอาวุธ ที่ต้องการให้ซื้อและส่งให้ทางเรือด้วย

    กลุ่มนักการเงินนิวยอร์ค ที่ร่วมกันปฏิวัติกับซุนยัดเซ็น มีชื่อนาย Charles B. Hill ทนายจากสำนักงาน Hunt, Hill & Betts ซึ่งในปี ค.ศ.1912 สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 165 ถนนบรอดเวย์ นิวยอร์ค แต่ในปี 1917 ย้ายไปอยู่ที่ 120 บรอดเวย์

    นาย Charles B. Hill นี้ เป็นกรรมการของหลายบริษัทในเครือ Westinghouse, Bryant Electric, Perkins Electric Switch และ Westinghouse Lamp ทั้งหมดเป็นบริษัทในเครือของ Westinghouse Electric ที่มีสำนักงานในนิวยอร์คอยู่ที่ เลขที่ 120 Broadway และนาย Charles R. Crane ผู้ที่จัดตั้งบริษัทในเครือ Westinghouse ในรัสเซีย ก็เป็นที่รู้กันดีว่า เขามีบทบาทสำคัญ เกี่ยวกับการทำปฏิวัติของพวก Bolsheviks และเขาก็เดินทางไปรัสเซีย พร้อมกับกลุ่มของ Trotsky ในช่วงเดือนมีนาคม 1917

    การดำเนินงานของ Hill Syndicate ที่เมืองจีนในปี 1910 ถูกบันทึกไว้ในหลักฐาน เรียกว่า Laurence Boothe Papers ที่เก็บอยู่ใน Hoover Institute เอกสาร ชุดนี้มี 110 รายการ รวมทั้งจดหมาย ของซุนยัดเซ็น ที่ติดต่อกับชาวอเมริกันที่หนุนหลังเขา และเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกอเมริกันสนับสนุนทางการเงิน ซุนยัดเซ็น สัญญากับ Hill Syndicate ที่จะจัดการให้สัมปทานรถไฟ ธนาคาร และสัมปทานการค้าอีกหลายรายการ หลังจากการปฏิวัติที่จีนทำสำเร็จ
    อีกกรณีที่แสดงว่า เป็นการปฏิวัติ ที่มีการสนับสนุนโดยกลุ่มธุรกิจการ เงินในนิวยอร์ค คือ การปฏิวัติที่ Mexico ใน ปี 1915-1916 สายลับชาวเยอรมัน ซึ่งอาศัยอยู่ในอเมริกา ถูกกล่าวหาและถูกดำเนินคดีในนิวยอร์คเมื่อเดือนพฤษภาคม 1917 ว่าได้มีการพยายามโยงเอารัฐบาลอเมริกัน ไปเกี่ยวพันกับเม็กซิโก และญี่ปุ่น โดยพยายามขนย้ายอาวุธยุทธภันฑ์ ที่จัดส่งไปให้สัมพันธมิตรในยุโรป โดยมีการจ่ายเงิน ให้ส่งอาวุธนั้นไปให้นักปฏิวัติชาวเม็กซิกันคือ Pancho Villa แทน โดยการจ่ายเงินผ่าน Guaranty Trust เป็นจำนวนเงิน 380,000 เหรียญ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 1915

    การเกี่ยวพันของกลุ่มวอลสตรีท กับการปฏิวัติของเม็กซิกันนี้ ได้ปรากฏอยู่ในจดหมายของนาย Linclon Steffens คอมมิวนิสต์อเมริกัน ที่มีไปถึง Colonel House ที่ปรึกษาสุดใหญ่ของประธานาธิบดี Wilson และได้มีการรายงานอยู่ใน นสพ. New York Times เรื่อง “Texas Revolution (การซ้อมใหญ่ก่อนการแสดงจริง ของการปฏิวัติพวก Bolsheviks)” ว่าเป็นการร่วมมือกัน ระหว่างพวกเยอรมันกับพวก Bolsheviks

    และจากการให้การของ John A Walls อัยการเขตประจำเมือง Brownsville Texas ต่อคณะกรรมาธิการ 1919 Fall Committee ซึ่งส่งมอบเอกสาร ที่มีหลักฐานแสดงว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างผลประโยชน์ในอเมริกา, พวก Bolsheviks, กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวเยอรมัน และกองกำลังของ Carranza ในเม็กซิโก

    รัฐบาล Carranza นี้ ได้ชื่อว่า เป็นรัฐบาลแรกในโลก ที่มีการปกครองที่ใช้รัฐธรรมนูญแบบเดียวกับของโซเวียต (ซึ่งร่างตามแบบของ Trotsky) และได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มวอลสตรีทให้เป็นรัฐบาล

    การปฏิวัติ Carranza ไม่ มีทางสำเร็จได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุน ด้านอาวุธยุทธภัณฑ์จากอเมริกา และไม่สามารถจะอยู่ในอำนาจได้นาน ถ้าไม่มีการช่วยเหลือจากอเมริกา

    การปฏิวัติรัสเซียของกลุ่ม Bolsheviks ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่มี นายธนาคารชาวสวีเดน Olof Aschberg เป็นตัวกลางประสาน กลุ่มวอลสตรีท กับอีกหลายๆฝ่าย ก็คงไม่สำเร็จเหมือนกัน

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 3 “หัวโจก”

    ตอน 2

    ยุโรปเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ในเดือนสิงหาคม 1914 ส่วนอเมริกายังไม่เข้าร่วมทำสงครามโลก และประกาศตัวเป็นกลาง ภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศ ประเทศที่ประกาศตัวเป็นกลาง ไม่สามารถให้เงินกู้ กับประเทศที่กำลังทำสงครามได้ มันเป็นเรื่องของการขัดต่อกฏหมาย และขัดศีลธรรม แต่ดูเหมือนกลุ่มวอลสตรีท และอเมริกา จะไม่เห็นว่า 2 เรื่องนี้ เป็นปัญหาแต่อย่างใด

    และน้อยคนที่จะรู้ว่า เมื่ออังกฤษจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น อังกฤษเองก็กำลังถังแตก เงินคงคลังหมดเกลี้ยง รัฐบาลอังกฤษปิดปากแน่นสนิท ไม่ให้ประชาชนและสื่อรู้เรื่อง แต่อังกฤษก็ยังเดินหน้าตามแผนเข้าสู่สงครามโลก เนื่องจากมีเป้าหมายชัดเจนที่จะขจัดเยอรมัน ให้ออกไปจากเส้นทางตามแผนสู่การ เป็นมหาอำนาจใหญ่ หมายเลขหนึ่งของโลก ที่อังกฤษวางไว้ แค่เป็นจักรภพอังกฤษ มันใหญ๋ไม่พอ สำหรับชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ของเท้าซ้าย

    อังกฤษทำได้อย่างไร ทำสงครามทั้งๆที่ไม่มีเงิน อังกฤษทำได้เพราะมี กลุ่ม Morgan จัดการให้ Morgan ได้รับมอบหมายจากอังกฤษ ให้ทำหน้าที่ เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวของอังกฤษเพื่อระดมทุน โดยการออกพันธบัตรสงคราม ( War Bond) ในปี 1915 แถม และระดมทุนเผื่อฝรั่งเศสอีกด้วย อังกฤษ รวมทั้งฝรั่งเศส เข้าสู่สงครามโลกด้วยการกู้ยืมเงินจากอเมริกา ที่บอกว่าเป็นกลางและไม่ร่วมทำสงครามด้วย !

    J.P. Morgan ตะแบงว่าไม่ใช่เป็นเงินให้กู้เพื่อทำสงคราม แต่เป็นเพียงวิธีการจัดการ เพื่อให้เอาเงินไปใช้ ในด้านการค้าขายระหว่างประเทศเท่านั้น มีปัญหาไหม

    จะมีปัญหาได้อย่างไร เพราะผู้ที่ออกมาอธิบาย สนันสนุนการออกพันธบัตร War Bond ของ Morgan คือ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกา

    ประธานาธิบดี Wilson ทำหน้าที่ เหมือนเป็นผู้รับประกันการขายพันธบัตร ( underwriter) เขาบอกว่า มันเป็นพันธบัตรที่ออกขายในอเมริกา เพื่อนำเงินที่ได้จากการขาย ไปให้รัฐบาลต่างชาติ ใช้เป็นเงินคงคลัง หรือเงินเก็บน่ะ เขาไม่ได้เอาไปใช้ในการสงคราม ในทางปฏิบัติ อังกฤษและฝรั่งเศส นำเงินที่ได้รับ ลงบัญชีเป็นเงินฝากในประเทศของตัว และใช้เป็นหลักประกันในการสั่งซื้อสินค้า และยุทธภัณฑ์ต่างๆ จากอเมริกา เพื่อใช้ในการทำสงคราม มันผิดกฏหมายเกี่ยวกับความเป็นกลางตรงไหน
    นี่มันเรื่อง 100 ปีมาแล้ว นักการเงินของเขา ยังคิดตะแบงได้ขนาดนี้ แล้วเดี๋ยวนี้เขาจะพลิกแพลงขนาดไหน แต่สมันน้อยอย่าเพิ่งขวัญอ่อนตกใจ มันก็ใช้สูตรเดิมๆ นั่นแหละ แค่เปลี่ยนชื่อเรียก เติมลูกเล่น สลับขั้นตอนเข้าไปอีกหน่อย แค่นั้นเราก็มึน คิดตามมันกันไม่ทันไปค่อนโลก แต่ถ้าเราไม่ว่าง่ายเชื่อมันไปหมด ในสิ่งที่มันสร้างมาหลอกเรา เราก็รู้ทันมันได้ ฝรั่งมันไม่ได้ฉลาดเก่งกว่าเรานักหรอกครับ

    แค่ออกพันธบัตร War Bond ให้อังกฤษกับฝรั่งเศส สงครามโลกคงไม่ได้เกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้ ดังนั้น กลุ่มนักการเงินของอเมริกา จึงต้องสนับสนุนเงินกู้ให้รัสเซียด้วย ตั้งแต่สมัยซาร์นิโคลัส เพื่อให้มีเงินมาร่วมทำสงครามสู้กับฝ่ายเยอรมัน ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตร หรืออังกฤษต้องการ

    เจ้ามือให้เงินกู้ลูกค้ารอบวงแบบนี้ เจ้ามือคงปิดทางเจ๊งไว้เรียบร้อยแล้ว

    มีหลักฐานเป็นเอกสารของกระทรวง ต่างประเทศ ที่แสดงว่า National City Bank ซึ่งมีกลุ่ม Stillman และ Rockefeller เป็นเจ้าของ และ Guaranty Trust ซึ่งเป็นของกลุ่ม Morgan ได้ร่วมกันให้เงินกู้ก้อนใหญ่แก่รัสเซีย ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงคราม และเป็นการให้กู้หลังจากที่กระทรวงต่างประเทศ ได้แจ้งกับกลุ่มผู้ให้กู้ว่า เป็นการผิดกฏหมายระหว่างประเทศ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – หัวโจก 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 3 “หัวโจก” ตอน 1 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 อาณาจักรของธุรกิจการเงิน การอุตสาหกรรมและการค้าของอเม ริกา ถูกครอบงำโดยยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่มคือ Standard Oil- Rockefeller Enterprise กลุ่มหนึ่ง และ Morgan อีกกลุ่มหนึ่ง ยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่ม น่าจะตีกัน แต่แปลก นอกจากไม่ตีกันแล้ว ยังจับมือร่วมกัน เพื่อครอบงำอาณาจักรธุรกิจของอเมริกาอีกด้วย โดยใช้วิธีการถือหุ้น และเป็นกรรมการบริษัท ไขว้กันไปมา มันเป็นการครอบงำ ที่แนบเนียน ยากที่คนภายนอกจะดูออก กลุ่ม Rockefeller เน้น การผูกขาดด้านอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันStandard Oil ที่ใหญ่คับอเมริกา และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน รวมทั้ง ลงทุนในการสร้างทางรถไฟ พร้อมถือหุ้นส่วนใหญ่ใน กองทุนทองแดง กองทุนถลุงแร่ กองทุนยาสูบ แค่นั้นคงใหญ่ไม่พอ กลุ่มนี้จึงไปถือหุ้นส่วนใหญ่ใน National City Bank ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุด และรวมไปถึง บริษัทเงินทุนใหญ่ของอเมริกาคือ United State Trust Company และ Hanover Nation Bank และบริษัทประกันชีวิตระดับใหญ่ต่างๆ อีกด้วย ส่วนกลุ่ม Morgan เน้นการผูกขาดด้านอุตสาหกรรมเหล็ก การขนส่งทางเรือ การสร้างทางรถไฟ อุตสาหกรรมด้านเครื่องไฟฟ้า รวมถึง General Electric ยางพารา และสถาบันการเงิน เช่น National Bank of Commerce, the Chase National Bank, New York Life Insurance และ Guaranty Trust Company ที่มีบทบาทสำคัญ J.P. Morgan และ Guaranty Trust ถูกพาดพิง ว่าพัวพันเกือบตลอดระยะเวลา และเกือบทุกเรื่องราว เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียนี้ มารู้จักประวัติของกลุ่มนี้กันหน่อย ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กลุ่ม Guaranty Trust ยังเป็นของพวกตระกูล Harriman แต่เมื่อพี่ใหญ่ Edward Henry Harriman ตายในปี ค.ศ.1909 Morgan และพวก จึงเข้าไปกวาดซื้อหุ้นทั้งหมดของ Harriman และกลายเป็นเจ้าของ Guaranty Trust รวมทั้งบริษัทประกันในเครือแทน ต่อมาในปีเดียวกัน Morgan ก็ไล่ซื้อหุ้นของบริษัทอื่นๆ เพิ่มอีก และเอาเข้ามาอยู่ในชื่อของ Guaranty Trust หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 Guaranty Trust และ Bankers Trust จึงเป็นบริษัททรัสต์ ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง และอันดับสองของอเมริกา และทั้ง 2 กลุ่มบริษัท เป็นของกลุ่มทุน Morgan เห็นใยแมงมุมคร่าวๆ ของธุรกิจ ของยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ในช่วงแรกแล้วนะครับ ยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ต่างเข้าไปมีส่วน เกี่ยวพัน กับการสนับสนุนเงินทุนให้กับพวกปฏิวัติ Bolsheviks ตั้งแต่ก่อน ค.ศ.1917 แล้ว ไม่มากก็น้อย มีบันทึกแสดงว่า ค.ศ.1913 สำนักงานกฏหมาย Sullivan & Cromwell มีส่วนสนับสนุนการปฏิวัติของปานามา เรื่องนี้อยู่ในบันทึกการไต่สวนของรัฐสภาในปี 1913 ซึ่งชี้แจงโดยสมาชิกสภา Rainey “….การปฏิวัติที่เกี่ยวกับช่องแคบปานามา ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐบาล(อเมริกา) นี้เข้าไปมีส่วนแล้ว การปฏิวัติก็คงทำไม่สำเร็จแน่ มันเป็นการกระทำของรัฐบาลนี้ ที่ผิดตามสนธิสัญญา ค.ศ.1846 มันเป็นการปฏิวัติ ที่ทำโดยนักปฏิวัติชาวปานามา 10 ถึง 12 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท Panama Railroad & Steamship ซึ่งทำงานอยู่ในนิวยอร์ค และอยู่ในความดูแลของนาย William Nelson Cromwell และพวกเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศในวอชิงตัน บุคคลเหล่านี้ รู้เรื่องการปฏิวัติที่กำลังจะ เกิดขึ้น อย่างดี วัตถุประสงค์ของการปฏิวัติ ก็เพื่อเข้าไปยึดโคลัมเบีย เพื่อจะครอบครอง คลองปานามา ด้วยการใช้เงิน 40 ล้านเหรียญ ” “ผมจะเสนอข้อพิสูจน์ เป็นเอกสาร ที่ประกาศอิสรภาพ ซึ่งประกาศในปานามา วันที่ 3 พฤศจิกายน 1903 เป็นเอกสารซึ่งจัดเตรียมขึ้นในนครนิวยอร์ค โดย สำนักงานของ Nelson Cromwell….” เอกสารตัวอย่างอีกรายการ ที่แสดงให้เห็น ถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ ของพวก Wall Street ที่ ดำเนินการในนิวยอร์คคือ การปฏิวัติในจีน ปี ค.ศ.1912 ซึ่งนำโดยนายซุนยัดเซ็น (Sun Yat-sen) แม้ว่าสุดท้ายแล้ว การเข้าไปยุ่งกับการปฏิวัติของกลุ่มนักการเงินนี้ จะได้รับผลตอบแทนอย่างไร จะยังไม่เห็นชัด แต่เจตนาและบทบาทของนักการเงินนิวยอร์คเหล่านั้น ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด ถึงจำนวนเงิน ข้อมูลของสมาคมลับทางฝั่งจีนที่ให้ร่วมมือ รวมทั้งมีรายการส่งอาวุธ ที่ต้องการให้ซื้อและส่งให้ทางเรือด้วย กลุ่มนักการเงินนิวยอร์ค ที่ร่วมกันปฏิวัติกับซุนยัดเซ็น มีชื่อนาย Charles B. Hill ทนายจากสำนักงาน Hunt, Hill & Betts ซึ่งในปี ค.ศ.1912 สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 165 ถนนบรอดเวย์ นิวยอร์ค แต่ในปี 1917 ย้ายไปอยู่ที่ 120 บรอดเวย์ นาย Charles B. Hill นี้ เป็นกรรมการของหลายบริษัทในเครือ Westinghouse, Bryant Electric, Perkins Electric Switch และ Westinghouse Lamp ทั้งหมดเป็นบริษัทในเครือของ Westinghouse Electric ที่มีสำนักงานในนิวยอร์คอยู่ที่ เลขที่ 120 Broadway และนาย Charles R. Crane ผู้ที่จัดตั้งบริษัทในเครือ Westinghouse ในรัสเซีย ก็เป็นที่รู้กันดีว่า เขามีบทบาทสำคัญ เกี่ยวกับการทำปฏิวัติของพวก Bolsheviks และเขาก็เดินทางไปรัสเซีย พร้อมกับกลุ่มของ Trotsky ในช่วงเดือนมีนาคม 1917 การดำเนินงานของ Hill Syndicate ที่เมืองจีนในปี 1910 ถูกบันทึกไว้ในหลักฐาน เรียกว่า Laurence Boothe Papers ที่เก็บอยู่ใน Hoover Institute เอกสาร ชุดนี้มี 110 รายการ รวมทั้งจดหมาย ของซุนยัดเซ็น ที่ติดต่อกับชาวอเมริกันที่หนุนหลังเขา และเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกอเมริกันสนับสนุนทางการเงิน ซุนยัดเซ็น สัญญากับ Hill Syndicate ที่จะจัดการให้สัมปทานรถไฟ ธนาคาร และสัมปทานการค้าอีกหลายรายการ หลังจากการปฏิวัติที่จีนทำสำเร็จ อีกกรณีที่แสดงว่า เป็นการปฏิวัติ ที่มีการสนับสนุนโดยกลุ่มธุรกิจการ เงินในนิวยอร์ค คือ การปฏิวัติที่ Mexico ใน ปี 1915-1916 สายลับชาวเยอรมัน ซึ่งอาศัยอยู่ในอเมริกา ถูกกล่าวหาและถูกดำเนินคดีในนิวยอร์คเมื่อเดือนพฤษภาคม 1917 ว่าได้มีการพยายามโยงเอารัฐบาลอเมริกัน ไปเกี่ยวพันกับเม็กซิโก และญี่ปุ่น โดยพยายามขนย้ายอาวุธยุทธภันฑ์ ที่จัดส่งไปให้สัมพันธมิตรในยุโรป โดยมีการจ่ายเงิน ให้ส่งอาวุธนั้นไปให้นักปฏิวัติชาวเม็กซิกันคือ Pancho Villa แทน โดยการจ่ายเงินผ่าน Guaranty Trust เป็นจำนวนเงิน 380,000 เหรียญ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 1915 การเกี่ยวพันของกลุ่มวอลสตรีท กับการปฏิวัติของเม็กซิกันนี้ ได้ปรากฏอยู่ในจดหมายของนาย Linclon Steffens คอมมิวนิสต์อเมริกัน ที่มีไปถึง Colonel House ที่ปรึกษาสุดใหญ่ของประธานาธิบดี Wilson และได้มีการรายงานอยู่ใน นสพ. New York Times เรื่อง “Texas Revolution (การซ้อมใหญ่ก่อนการแสดงจริง ของการปฏิวัติพวก Bolsheviks)” ว่าเป็นการร่วมมือกัน ระหว่างพวกเยอรมันกับพวก Bolsheviks และจากการให้การของ John A Walls อัยการเขตประจำเมือง Brownsville Texas ต่อคณะกรรมาธิการ 1919 Fall Committee ซึ่งส่งมอบเอกสาร ที่มีหลักฐานแสดงว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างผลประโยชน์ในอเมริกา, พวก Bolsheviks, กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวเยอรมัน และกองกำลังของ Carranza ในเม็กซิโก รัฐบาล Carranza นี้ ได้ชื่อว่า เป็นรัฐบาลแรกในโลก ที่มีการปกครองที่ใช้รัฐธรรมนูญแบบเดียวกับของโซเวียต (ซึ่งร่างตามแบบของ Trotsky) และได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มวอลสตรีทให้เป็นรัฐบาล การปฏิวัติ Carranza ไม่ มีทางสำเร็จได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุน ด้านอาวุธยุทธภัณฑ์จากอเมริกา และไม่สามารถจะอยู่ในอำนาจได้นาน ถ้าไม่มีการช่วยเหลือจากอเมริกา การปฏิวัติรัสเซียของกลุ่ม Bolsheviks ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่มี นายธนาคารชาวสวีเดน Olof Aschberg เป็นตัวกลางประสาน กลุ่มวอลสตรีท กับอีกหลายๆฝ่าย ก็คงไม่สำเร็จเหมือนกัน นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 3 “หัวโจก” ตอน 2 ยุโรปเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ในเดือนสิงหาคม 1914 ส่วนอเมริกายังไม่เข้าร่วมทำสงครามโลก และประกาศตัวเป็นกลาง ภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศ ประเทศที่ประกาศตัวเป็นกลาง ไม่สามารถให้เงินกู้ กับประเทศที่กำลังทำสงครามได้ มันเป็นเรื่องของการขัดต่อกฏหมาย และขัดศีลธรรม แต่ดูเหมือนกลุ่มวอลสตรีท และอเมริกา จะไม่เห็นว่า 2 เรื่องนี้ เป็นปัญหาแต่อย่างใด และน้อยคนที่จะรู้ว่า เมื่ออังกฤษจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น อังกฤษเองก็กำลังถังแตก เงินคงคลังหมดเกลี้ยง รัฐบาลอังกฤษปิดปากแน่นสนิท ไม่ให้ประชาชนและสื่อรู้เรื่อง แต่อังกฤษก็ยังเดินหน้าตามแผนเข้าสู่สงครามโลก เนื่องจากมีเป้าหมายชัดเจนที่จะขจัดเยอรมัน ให้ออกไปจากเส้นทางตามแผนสู่การ เป็นมหาอำนาจใหญ่ หมายเลขหนึ่งของโลก ที่อังกฤษวางไว้ แค่เป็นจักรภพอังกฤษ มันใหญ๋ไม่พอ สำหรับชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ของเท้าซ้าย อังกฤษทำได้อย่างไร ทำสงครามทั้งๆที่ไม่มีเงิน อังกฤษทำได้เพราะมี กลุ่ม Morgan จัดการให้ Morgan ได้รับมอบหมายจากอังกฤษ ให้ทำหน้าที่ เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวของอังกฤษเพื่อระดมทุน โดยการออกพันธบัตรสงคราม ( War Bond) ในปี 1915 แถม และระดมทุนเผื่อฝรั่งเศสอีกด้วย อังกฤษ รวมทั้งฝรั่งเศส เข้าสู่สงครามโลกด้วยการกู้ยืมเงินจากอเมริกา ที่บอกว่าเป็นกลางและไม่ร่วมทำสงครามด้วย ! J.P. Morgan ตะแบงว่าไม่ใช่เป็นเงินให้กู้เพื่อทำสงคราม แต่เป็นเพียงวิธีการจัดการ เพื่อให้เอาเงินไปใช้ ในด้านการค้าขายระหว่างประเทศเท่านั้น มีปัญหาไหม จะมีปัญหาได้อย่างไร เพราะผู้ที่ออกมาอธิบาย สนันสนุนการออกพันธบัตร War Bond ของ Morgan คือ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกา ประธานาธิบดี Wilson ทำหน้าที่ เหมือนเป็นผู้รับประกันการขายพันธบัตร ( underwriter) เขาบอกว่า มันเป็นพันธบัตรที่ออกขายในอเมริกา เพื่อนำเงินที่ได้จากการขาย ไปให้รัฐบาลต่างชาติ ใช้เป็นเงินคงคลัง หรือเงินเก็บน่ะ เขาไม่ได้เอาไปใช้ในการสงคราม ในทางปฏิบัติ อังกฤษและฝรั่งเศส นำเงินที่ได้รับ ลงบัญชีเป็นเงินฝากในประเทศของตัว และใช้เป็นหลักประกันในการสั่งซื้อสินค้า และยุทธภัณฑ์ต่างๆ จากอเมริกา เพื่อใช้ในการทำสงคราม มันผิดกฏหมายเกี่ยวกับความเป็นกลางตรงไหน นี่มันเรื่อง 100 ปีมาแล้ว นักการเงินของเขา ยังคิดตะแบงได้ขนาดนี้ แล้วเดี๋ยวนี้เขาจะพลิกแพลงขนาดไหน แต่สมันน้อยอย่าเพิ่งขวัญอ่อนตกใจ มันก็ใช้สูตรเดิมๆ นั่นแหละ แค่เปลี่ยนชื่อเรียก เติมลูกเล่น สลับขั้นตอนเข้าไปอีกหน่อย แค่นั้นเราก็มึน คิดตามมันกันไม่ทันไปค่อนโลก แต่ถ้าเราไม่ว่าง่ายเชื่อมันไปหมด ในสิ่งที่มันสร้างมาหลอกเรา เราก็รู้ทันมันได้ ฝรั่งมันไม่ได้ฉลาดเก่งกว่าเรานักหรอกครับ แค่ออกพันธบัตร War Bond ให้อังกฤษกับฝรั่งเศส สงครามโลกคงไม่ได้เกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้ ดังนั้น กลุ่มนักการเงินของอเมริกา จึงต้องสนับสนุนเงินกู้ให้รัสเซียด้วย ตั้งแต่สมัยซาร์นิโคลัส เพื่อให้มีเงินมาร่วมทำสงครามสู้กับฝ่ายเยอรมัน ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตร หรืออังกฤษต้องการ เจ้ามือให้เงินกู้ลูกค้ารอบวงแบบนี้ เจ้ามือคงปิดทางเจ๊งไว้เรียบร้อยแล้ว มีหลักฐานเป็นเอกสารของกระทรวง ต่างประเทศ ที่แสดงว่า National City Bank ซึ่งมีกลุ่ม Stillman และ Rockefeller เป็นเจ้าของ และ Guaranty Trust ซึ่งเป็นของกลุ่ม Morgan ได้ร่วมกันให้เงินกู้ก้อนใหญ่แก่รัสเซีย ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงคราม และเป็นการให้กู้หลังจากที่กระทรวงต่างประเทศ ได้แจ้งกับกลุ่มผู้ให้กู้ว่า เป็นการผิดกฏหมายระหว่างประเทศ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 เม.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • ข้อหาอาชญากรสงครามกับไทย ,ถ้าเป็นยุคนี้คือมองว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้าเรา,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้,มันชัดเจนมากๆ,หากกระบวนการยุติธรรมเราไม่ลงโทษเด็ดขาดได้,ฝันไปเลยว่าจะยึดทรัพย์สินตระกูลฮุนในไทยได้,จริงอายัดทันทีตั้งแต่เปิดไทยก่อนแล้วโน้น,ใบการศึกษาผีบ้าอะไรที่มาเรียนในไทย นับรองในไทย เรียกคืนและยกเลิกทั้งหมดด้วย,กับอาชญากรสงครามกับไทยคงเป็นแค่วลีคำกระดาษไร้ค่า ไม่สามารถเล่นงานจริงจังอะไรกับฮุนเซยฮุนมาเนตได้หรือละครปาหี่แหกตาช่วยเหลือแรงงานให้มันแค่นั้นล่ะหรือลดกระแสสังหารฮุนเซนฮุนมาเนตลง.นอกจากได้นายกฯได้รัฐบาลชึดใหม่จริงๆแบบจากคณะรวมพลังแผ่นดินไทยนำโดยพันธมิตรเสื้อเหลืองแกนนำแบบอาสนธิหรือทีมงานคณะรวมแผ่นดินไทย ยกมือให้ใครมาขึ้นบริหารบ้านเมืองช่วยคร่าวฉุกเฉินให้ทันกาลก่อนก็ว่า เพราะความรักชาติและพร้อมทำสงครามกับกบฎคนทรยศประจำประเทศไทย คณะนี้ยืนหนึ่ง เพราะมาจากใจคนรักประเทศไทยทั้งหมดมิมีสีเสื้อใดๆแบบในอดีตมาเกี่ยวข้อง ใจสีแดงเพียงชาติตนเองเท่านั้นร่วมกันและพร้อมกำจัดภัยคุกคามอธิปไตยชาติไทยตนทั้งภายในคือไส้ศึกและภายนอกคือเขมรและฝรั่งต่างชาติที่เปิดเผยหน้าชกชัดเจนอยากได้บ่อน้ำมันในอ่าวไทยเรา ตลอดพื้นที่ดินแดนอีสานใต้ถึงอ่าวไทยที่มีแร่มีค่ามากมายที่พวกมันอยากได้ทองคำเพชรพลอยแร่เอิร์ดแร่พลังงานสะอาดต่างๆเป็นต้น.,ตลอดอเมริกาเองนำโดยทรัมป์ชัดเจนว่าอยากได้พังงายึดฮับการค้าไทยระดับโลกในอนาคตด้วย,เทียบช่องแคบมะละกากระจอกทันทีนั้นเองอาจคลองคอดกระขุดออกและแลนด์บริดจ์เติมเต็มข้อผิดพลาดอื่นๆ,blackrockอเมริกาต้องการยืนหนึ่งในเอเชียคือยึดไทยยึดทั้งเอเชียและทวีปแอฟริกาด้านการค้าการตลาดโคตรเม็ดเงินมหาศาลด้วย,ไทยและรอบๆไทยคือศูนย์กลางวัตถุดิบโลกด้วย,ไทยจึงคือจุดยุทธศาสตร์โลกที่แท้จริง,ที่อื่นๆกากหมด.,เช่นคลองปานามานั้น.
    ..เปลี่ยนรัฐบาลทั้งชุด พักงานระบบนักการเมืองสัก10-20ปี,ต่างชาติจะแทรกแซงอะไรๆลำบากมากในไทยเราทันที.

    https://youtube.com/shorts/WD8my-iKjOw?si=cRheukR9piNuQtEC
    ข้อหาอาชญากรสงครามกับไทย ,ถ้าเป็นยุคนี้คือมองว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้าเรา,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้,มันชัดเจนมากๆ,หากกระบวนการยุติธรรมเราไม่ลงโทษเด็ดขาดได้,ฝันไปเลยว่าจะยึดทรัพย์สินตระกูลฮุนในไทยได้,จริงอายัดทันทีตั้งแต่เปิดไทยก่อนแล้วโน้น,ใบการศึกษาผีบ้าอะไรที่มาเรียนในไทย นับรองในไทย เรียกคืนและยกเลิกทั้งหมดด้วย,กับอาชญากรสงครามกับไทยคงเป็นแค่วลีคำกระดาษไร้ค่า ไม่สามารถเล่นงานจริงจังอะไรกับฮุนเซยฮุนมาเนตได้หรือละครปาหี่แหกตาช่วยเหลือแรงงานให้มันแค่นั้นล่ะหรือลดกระแสสังหารฮุนเซนฮุนมาเนตลง.นอกจากได้นายกฯได้รัฐบาลชึดใหม่จริงๆแบบจากคณะรวมพลังแผ่นดินไทยนำโดยพันธมิตรเสื้อเหลืองแกนนำแบบอาสนธิหรือทีมงานคณะรวมแผ่นดินไทย ยกมือให้ใครมาขึ้นบริหารบ้านเมืองช่วยคร่าวฉุกเฉินให้ทันกาลก่อนก็ว่า เพราะความรักชาติและพร้อมทำสงครามกับกบฎคนทรยศประจำประเทศไทย คณะนี้ยืนหนึ่ง เพราะมาจากใจคนรักประเทศไทยทั้งหมดมิมีสีเสื้อใดๆแบบในอดีตมาเกี่ยวข้อง ใจสีแดงเพียงชาติตนเองเท่านั้นร่วมกันและพร้อมกำจัดภัยคุกคามอธิปไตยชาติไทยตนทั้งภายในคือไส้ศึกและภายนอกคือเขมรและฝรั่งต่างชาติที่เปิดเผยหน้าชกชัดเจนอยากได้บ่อน้ำมันในอ่าวไทยเรา ตลอดพื้นที่ดินแดนอีสานใต้ถึงอ่าวไทยที่มีแร่มีค่ามากมายที่พวกมันอยากได้ทองคำเพชรพลอยแร่เอิร์ดแร่พลังงานสะอาดต่างๆเป็นต้น.,ตลอดอเมริกาเองนำโดยทรัมป์ชัดเจนว่าอยากได้พังงายึดฮับการค้าไทยระดับโลกในอนาคตด้วย,เทียบช่องแคบมะละกากระจอกทันทีนั้นเองอาจคลองคอดกระขุดออกและแลนด์บริดจ์เติมเต็มข้อผิดพลาดอื่นๆ,blackrockอเมริกาต้องการยืนหนึ่งในเอเชียคือยึดไทยยึดทั้งเอเชียและทวีปแอฟริกาด้านการค้าการตลาดโคตรเม็ดเงินมหาศาลด้วย,ไทยและรอบๆไทยคือศูนย์กลางวัตถุดิบโลกด้วย,ไทยจึงคือจุดยุทธศาสตร์โลกที่แท้จริง,ที่อื่นๆกากหมด.,เช่นคลองปานามานั้น. ..เปลี่ยนรัฐบาลทั้งชุด พักงานระบบนักการเมืองสัก10-20ปี,ต่างชาติจะแทรกแซงอะไรๆลำบากมากในไทยเราทันที. https://youtube.com/shorts/WD8my-iKjOw?si=cRheukR9piNuQtEC
    0 Comments 0 Shares 530 Views 0 Reviews
  • ..เริ่มที่4:30น.
    ..อเมริกาทรัมป์เหี้ยจริงๆ,มาตั้งฐานทัพยึดภาคใต้ไทยแน่ๆ,ทรัมป์เป็นฝ่ายมืดเสียแล้วมั้ยนะ ปลอมตัวมานานก็ว่า,ลอร์ดรอธไชล์ ลอร์ดเร็กกี้เฟลเลอร์พวกนี้คงสั่งทรัมป์มายึดภาคใต้สินะมุกอ้างทำสงครามกับจีนบังหน้า,คลองคอดกระคลองแลนด์บริดจ์กะกินรวบยึดครองบริหารจัดการเองแบบคลองปานามาล่ะ,นี้กะตัดตอนตัดขาเส้นทางสายไหมของจีนลงสู่ภาคใต้ทะลุอินโดฯเลยนะนั้น, รัฐบาลทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้คงยอมรับเงื่อนไขอเมริกาแน่ๆ,แถมได้แก้ไข ม.112ด้วย. คือกะใช้ไทยรุกฆาตจีนกินเรือกินม้ากินขุนไทยได้หมดด้วย.,อเมริกาฝรั่งบัดสบชั่วๆเลวๆนี้เอง.
    ..ปฏิวัติรัฐประหารเลย ยึดอำนาจโลด ภาษีทรัมป์บ้าบอนี้จะไปสนใจทำไม,ประชาชนไทยจริงๆกระทบน้อยจะตาย ไม่เกิน10%หรอกที่ไทยใช้สินค้าของอเมริกากันจริงๆ,เจ้าสัวชั่วเลวสมควรล้มละลายเลย ร่ำรวยบนความทุกข์ยากประชาชนของคนไทยนานพอแล้ว อย่าเอาผลประโยชน์เจ้าสัวไปแลกม.112นะ บัดสบเลยล่ะ,ตลอดทัพอเมริกาไล่ออกจากประเทศไทยยากด้วย,นอกจากพระมหากษัตริย์เราตกลงลงนานชัดเจนเองแค่นั้น.ก็เป็นประวัติศาสตร์บันทึกไว้ตลอดกาลอีกครั้งแค่นั้นล่ะ.

    https://youtube.com/watch?v=fTd5-EmgWBk&si=KhYZhmrBZXJ8nny7
    ..เริ่มที่4:30น. ..อเมริกาทรัมป์เหี้ยจริงๆ,มาตั้งฐานทัพยึดภาคใต้ไทยแน่ๆ,ทรัมป์เป็นฝ่ายมืดเสียแล้วมั้ยนะ ปลอมตัวมานานก็ว่า,ลอร์ดรอธไชล์ ลอร์ดเร็กกี้เฟลเลอร์พวกนี้คงสั่งทรัมป์มายึดภาคใต้สินะมุกอ้างทำสงครามกับจีนบังหน้า,คลองคอดกระคลองแลนด์บริดจ์กะกินรวบยึดครองบริหารจัดการเองแบบคลองปานามาล่ะ,นี้กะตัดตอนตัดขาเส้นทางสายไหมของจีนลงสู่ภาคใต้ทะลุอินโดฯเลยนะนั้น, รัฐบาลทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้คงยอมรับเงื่อนไขอเมริกาแน่ๆ,แถมได้แก้ไข ม.112ด้วย. คือกะใช้ไทยรุกฆาตจีนกินเรือกินม้ากินขุนไทยได้หมดด้วย.,อเมริกาฝรั่งบัดสบชั่วๆเลวๆนี้เอง. ..ปฏิวัติรัฐประหารเลย ยึดอำนาจโลด ภาษีทรัมป์บ้าบอนี้จะไปสนใจทำไม,ประชาชนไทยจริงๆกระทบน้อยจะตาย ไม่เกิน10%หรอกที่ไทยใช้สินค้าของอเมริกากันจริงๆ,เจ้าสัวชั่วเลวสมควรล้มละลายเลย ร่ำรวยบนความทุกข์ยากประชาชนของคนไทยนานพอแล้ว อย่าเอาผลประโยชน์เจ้าสัวไปแลกม.112นะ บัดสบเลยล่ะ,ตลอดทัพอเมริกาไล่ออกจากประเทศไทยยากด้วย,นอกจากพระมหากษัตริย์เราตกลงลงนานชัดเจนเองแค่นั้น.ก็เป็นประวัติศาสตร์บันทึกไว้ตลอดกาลอีกครั้งแค่นั้นล่ะ. https://youtube.com/watch?v=fTd5-EmgWBk&si=KhYZhmrBZXJ8nny7
    0 Comments 0 Shares 462 Views 0 Reviews
  • ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน

    ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า

    การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน

    วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง

    ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย

    คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก

    การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น

    มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก

    ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน.


    “ลม เปลี่ยนทิศ”

    https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน. “ลม เปลี่ยนทิศ” https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน
    ผมเพิ่งเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 771 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อ้างว่าทั้งคลองปานามาและคลองสุเอซ จะไม่อยู่รอดหากปราศจากอเมริกา และเรียกร้องอนุญาตให้เรือสินค้าและเรือกองทัพสหรัฐฯ แล่นผ่านน่านน้ำสำคัญทั้ง 2 แห่งโดยไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทางใดๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000039553

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อ้างว่าทั้งคลองปานามาและคลองสุเอซ จะไม่อยู่รอดหากปราศจากอเมริกา และเรียกร้องอนุญาตให้เรือสินค้าและเรือกองทัพสหรัฐฯ แล่นผ่านน่านน้ำสำคัญทั้ง 2 แห่งโดยไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทางใดๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000039553 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    Wow
    6
    0 Comments 0 Shares 1121 Views 0 Reviews
  • พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แถลงยืนยันเมื่อวันพุธในระหว่างการเยือนปานามาว่า สหรัฐตั้งใจจะกลับมาครอบครองฐานทัพปานามาอีกครั้ง เพื่อเข้าควบคุมคลองปานามาซึ่งเป็นเส้นเลือดการคมนาคมโลก ชี้ชัด "ปักกิ่ง" เป็นภัยคุกคามต่อหลังบ้านสหรัฐฯ มีทหารจีนปรากฏตัวมากเกินไป

    "จีนไม่ได้สร้างคลองนี้ จีนไม่มีสิทธิที่คลองแห่งนี้ และจีนจะต้องไม่ใช้คลองนี้มาเป็นเครื่องมือต่อรอง สหรัฐจะเอาคลองกลับคืนมาจากอิทธิพลของจีน"
    พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แถลงยืนยันเมื่อวันพุธในระหว่างการเยือนปานามาว่า สหรัฐตั้งใจจะกลับมาครอบครองฐานทัพปานามาอีกครั้ง เพื่อเข้าควบคุมคลองปานามาซึ่งเป็นเส้นเลือดการคมนาคมโลก ชี้ชัด "ปักกิ่ง" เป็นภัยคุกคามต่อหลังบ้านสหรัฐฯ มีทหารจีนปรากฏตัวมากเกินไป "จีนไม่ได้สร้างคลองนี้ จีนไม่มีสิทธิที่คลองแห่งนี้ และจีนจะต้องไม่ใช้คลองนี้มาเป็นเครื่องมือต่อรอง สหรัฐจะเอาคลองกลับคืนมาจากอิทธิพลของจีน"
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 564 Views 15 0 Reviews
  • รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีท เฮกเซธ แถลงยืนยันวันพุธ(9 เม.ย.)ระหว่างเยือนปานามาว่า สหรัฐฯ มีแผนกลับมาครอบครองฐานทัพปานามาอีกครั้ง จำเป็นต้องเข้าคุมคลองปานามาเส้นเลือดการคมนาคมโลก ชี้ชัด "ปักกิ่ง" เป็นภัยคุกคามต่อหลังบ้านสหรัฐฯ มีทหารจีนปรากฏตัวมากเกินไป ระหว่างจับมือประธานาธิบดีปานามาลงนามข้อตกลง ด้าน CK Hutchison บริษัทฮ่องกงของเจ้าสัวลี กาชิง โดนปานามาสอบสัมปทานคุม 2 ท่าเรือคลองปานามา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034412

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีท เฮกเซธ แถลงยืนยันวันพุธ(9 เม.ย.)ระหว่างเยือนปานามาว่า สหรัฐฯ มีแผนกลับมาครอบครองฐานทัพปานามาอีกครั้ง จำเป็นต้องเข้าคุมคลองปานามาเส้นเลือดการคมนาคมโลก ชี้ชัด "ปักกิ่ง" เป็นภัยคุกคามต่อหลังบ้านสหรัฐฯ มีทหารจีนปรากฏตัวมากเกินไป ระหว่างจับมือประธานาธิบดีปานามาลงนามข้อตกลง ด้าน CK Hutchison บริษัทฮ่องกงของเจ้าสัวลี กาชิง โดนปานามาสอบสัมปทานคุม 2 ท่าเรือคลองปานามา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034412 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    7
    0 Comments 0 Shares 1104 Views 0 Reviews
  • ลัทธิอวดรวย ค่านิยมบิดเบี้ยว : Sondhitalk EP286 VDO
    ชีวิตเทา ๆ ของ “ดิว อริสรา” กับคนรอบตัว
    #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น #คลองปานามา
    ThaiTimes คือแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณ:
    - แพลตฟอร์มที่ไม่โดนปิดกั้น
    - แชร์รูปภาพและวิดีโอ
    - ติดตามข่าวสารล่าสุดจากคนที่คุณติดตาม
    แอป Thaitimes มีให้ Download ได้แล้วทั้งใน iOS และใน android
    iOS : https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132
    Google Play :https://play.google.com/store/apps/details...
    และ https://thaitimes.co
    ลัทธิอวดรวย ค่านิยมบิดเบี้ยว : Sondhitalk EP286 VDO ชีวิตเทา ๆ ของ “ดิว อริสรา” กับคนรอบตัว #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น #คลองปานามา ThaiTimes คือแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณ: - แพลตฟอร์มที่ไม่โดนปิดกั้น - แชร์รูปภาพและวิดีโอ - ติดตามข่าวสารล่าสุดจากคนที่คุณติดตาม แอป Thaitimes มีให้ Download ได้แล้วทั้งใน iOS และใน android iOS : https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132 Google Play :https://play.google.com/store/apps/details... และ https://thaitimes.co
    Like
    Love
    16
    0 Comments 1 Shares 3761 Views 63 2 Reviews
  • รัฐบาล #จีน มีคำสั่งไปยังรัฐวิสากิจทั้งหมดให้ระงับการทำข้อตกลงทางธุรกิจใหม่ๆ กับบริษัทที่เชื่อมโยงกับครอบครัวของ ลี กาชิง (Li Ka-shing) อภิมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง หลังจากที่เจ้าสัวคนดังรายนี้ยอมขายกิจการท่าเรือ 2 แห่งใน #คลองปานามา ให้กับกลุ่ม #BlackRock ของสหรัฐฯ ตามรายงานของสำนักข่าว Bloomberg.ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ CK Hutchison ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทของ ลี ที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายตั้งแต่โทรคมนาคมไปจนถึงค้าปลีกถูกรัฐบาลจีนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกรณีที่ไปยอมทำข้อตกลงขายท่าเรือให้กับบริษัทของสหรัฐฯ.CK Hutchison ซึ่งมีฐานอยู่ที่ฮ่องกงได้ตกลงขายกิจการท่าเรือเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงทรัพย์สินในจุดยุทธศาสตร์สำคัญอย่างคลองปานามา ในดีลซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถระดมเงินสดได้มากกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.รายงานของ Bloomberg วันนี้ (27 มี.ค.) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปักกิ่งได้มีคำสั่งไปยังรัฐวิสาหกิจจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้ระงับการทำข้อตกลงทางธุรกิจใหม่ๆ กับกลุ่มบริษัทของตระกูล ลี กาชิง ทว่าคำสั่งนี้ไม่กระทบต่อข้อตกลงที่มีอยู่เดิม.รายงานระบุด้วยว่า หน่วยงานกำกับของจีนกำลังตรวจสอบการลงทุนของครอบครัว ลี กาชิง ทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และต่างประเทศ เพื่อให้เข้าใจขอบเขตธุรกิจของพวกเขาดียิ่งขึ้น.ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Ta Kung Pao ซึ่งเป็นสื่อโปรจีนในฮ่องกงได้ตีพิมพ์บทบรรณาธิการหลายฉบับวิพากษ์วิจารณ์ดีลขายท่าเรือของ CK Hutchison ว่าเป็นการทำลายผลประโยชน์ของชาติ และเป็นการทรยศต่อจีน.สำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีนได้รีโพสต์บทบรรณาธิการบางฉบับลงบนเว็บไซต์ของหน่วยงานด้วย ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าปักกิ่งจะต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อสกัดขัดขวางข้อตกลงนี้.แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า หน่วยงานกำกับดูแลของจีนซึ่งได้รับคำสั่งมาจากคณะผู้นำส่วนกลางได้เริ่มตรวจสอบรายละเอียดของข้อตกลงขายท่าเรือคลองปานามาแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าปักกิ่งนั้นไม่พอใจที่ CK Hutchison ยอมถอนการลงทุนตามแรงกดดันของสหรัฐฯ.ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาแถลงชื่นชมข้อตกลงนี้ หลังจากที่เคยเรียกร้องให้ปลดปล่อยคลองปานามาจากอิทธิพลของจีน.ที่มา: รอยเตอร์
    รัฐบาล #จีน มีคำสั่งไปยังรัฐวิสากิจทั้งหมดให้ระงับการทำข้อตกลงทางธุรกิจใหม่ๆ กับบริษัทที่เชื่อมโยงกับครอบครัวของ ลี กาชิง (Li Ka-shing) อภิมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง หลังจากที่เจ้าสัวคนดังรายนี้ยอมขายกิจการท่าเรือ 2 แห่งใน #คลองปานามา ให้กับกลุ่ม #BlackRock ของสหรัฐฯ ตามรายงานของสำนักข่าว Bloomberg.ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ CK Hutchison ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทของ ลี ที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายตั้งแต่โทรคมนาคมไปจนถึงค้าปลีกถูกรัฐบาลจีนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกรณีที่ไปยอมทำข้อตกลงขายท่าเรือให้กับบริษัทของสหรัฐฯ.CK Hutchison ซึ่งมีฐานอยู่ที่ฮ่องกงได้ตกลงขายกิจการท่าเรือเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงทรัพย์สินในจุดยุทธศาสตร์สำคัญอย่างคลองปานามา ในดีลซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถระดมเงินสดได้มากกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.รายงานของ Bloomberg วันนี้ (27 มี.ค.) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปักกิ่งได้มีคำสั่งไปยังรัฐวิสาหกิจจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้ระงับการทำข้อตกลงทางธุรกิจใหม่ๆ กับกลุ่มบริษัทของตระกูล ลี กาชิง ทว่าคำสั่งนี้ไม่กระทบต่อข้อตกลงที่มีอยู่เดิม.รายงานระบุด้วยว่า หน่วยงานกำกับของจีนกำลังตรวจสอบการลงทุนของครอบครัว ลี กาชิง ทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และต่างประเทศ เพื่อให้เข้าใจขอบเขตธุรกิจของพวกเขาดียิ่งขึ้น.ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Ta Kung Pao ซึ่งเป็นสื่อโปรจีนในฮ่องกงได้ตีพิมพ์บทบรรณาธิการหลายฉบับวิพากษ์วิจารณ์ดีลขายท่าเรือของ CK Hutchison ว่าเป็นการทำลายผลประโยชน์ของชาติ และเป็นการทรยศต่อจีน.สำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีนได้รีโพสต์บทบรรณาธิการบางฉบับลงบนเว็บไซต์ของหน่วยงานด้วย ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าปักกิ่งจะต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อสกัดขัดขวางข้อตกลงนี้.แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า หน่วยงานกำกับดูแลของจีนซึ่งได้รับคำสั่งมาจากคณะผู้นำส่วนกลางได้เริ่มตรวจสอบรายละเอียดของข้อตกลงขายท่าเรือคลองปานามาแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าปักกิ่งนั้นไม่พอใจที่ CK Hutchison ยอมถอนการลงทุนตามแรงกดดันของสหรัฐฯ.ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาแถลงชื่นชมข้อตกลงนี้ หลังจากที่เคยเรียกร้องให้ปลดปล่อยคลองปานามาจากอิทธิพลของจีน.ที่มา: รอยเตอร์
    0 Comments 0 Shares 832 Views 0 Reviews
  • ศึกชิงคลองปานามา โลจิสติกส์โลกเดือด : Sondhitalk EP285 VDO
    เบื้องลึก โดนัลด์ ทรัมป์ สั่ง ยึดคลองปานามา คือ แผนสกัดโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีน
    #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น #คลองปานามา
    ศึกชิงคลองปานามา โลจิสติกส์โลกเดือด : Sondhitalk EP285 VDO เบื้องลึก โดนัลด์ ทรัมป์ สั่ง ยึดคลองปานามา คือ แผนสกัดโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีน #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น #คลองปานามา
    Like
    Love
    15
    0 Comments 0 Shares 3408 Views 84 0 Reviews
  • ยุแยกยึด คลองปานามา : Sondhitalk EP285 VDO
    เปิดประวัติคลองปานามา มีสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลัง
    #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น #คลองปานามา
    ยุแยกยึด คลองปานามา : Sondhitalk EP285 VDO เปิดประวัติคลองปานามา มีสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลัง #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น #คลองปานามา
    Like
    Love
    12
    0 Comments 0 Shares 3323 Views 71 0 Reviews
  • Sondhitalk EP 285 :โซเซียลติดหรู ชีวิตจริงติดหนี้ (Full)
    - “ดิว อริสรา” สังคมอวดร่ำอวดรวย
    - “พระราม 2” ถนนมรณะ
    - ไฟไหม้รถของกลาง แม่สอด
    - จีน “พร้อมรบ” สหรัฐฯ
    - แผนทรัมป์ ยึดคลองปานามา

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitimes #ความจริงมีหนึ่งเดียว #ดิวอริสรา #อวดร่ำอวดรวย #ถนนพระราม2 #ถนนมรณะ #กรมศุลกากร #แม่สอด #สงครามการค้า #ทรัมป์ #คลองปานามา #เส้นทางสายไหม #สงครามโลจิสติก
    Sondhitalk EP 285 :โซเซียลติดหรู ชีวิตจริงติดหนี้ (Full) - “ดิว อริสรา” สังคมอวดร่ำอวดรวย - “พระราม 2” ถนนมรณะ - ไฟไหม้รถของกลาง แม่สอด - จีน “พร้อมรบ” สหรัฐฯ - แผนทรัมป์ ยึดคลองปานามา #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitimes #ความจริงมีหนึ่งเดียว #ดิวอริสรา #อวดร่ำอวดรวย #ถนนพระราม2 #ถนนมรณะ #กรมศุลกากร #แม่สอด #สงครามการค้า #ทรัมป์ #คลองปานามา #เส้นทางสายไหม #สงครามโลจิสติก
    Like
    Love
    48
    6 Comments 0 Shares 4711 Views 223 1 Reviews
  • หมากรุกท่าเรือ รูป 1 บริษัทฮัทชินสัน ซึ่งนายลีกาชิง ฮ่องกง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้สัมปทานบริหาร 2 ท่าเรือ ที่ตั้งอยู่สองฝั่งคลองปานามา สองฝั่งมหาสมุทรเป็นเหตุให้ทรัมป์ขู่ จะยึดคืนคลองปานามา คลองนี้ก่อสร้างโดยสหรัฐ ต่อมาในปี 1999 สหรัฐยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของปานามา⛵️ รูป 2 บริษัทฮัทชินสันได้เจรจาทำสัญญาบริหารท่าเรือ กระจายมากถึง 24 ประเทศ จำนวน 53 ท่าเรือ อยู่นอกจีน/ฮ่องกง 23 ประเทศ จำนวน 43 ท่าเรือ โดยบริษัทฮัทชินสันถือหุ้นในการบริหาร 80%ที่น่าสนใจคือ ท่าเรือแหลมฉบัง ในเมียนมา และในเวียดนาม ก็รวมอยู่ใน 43 ท่าเรือนี้ด้วยรูป 3 เพื่อหลบการเผชิญหน้ากับทรัมป์ บริษัทฮัทชินสันได้เจรจาขายหุ้น 80% ดังกล่าว ครอบคลุม 43 ท่าเรือ ใน 23 ประเทศ ให้แก่ Blackrock Blackrock เป็นผู้บริหารกองทุนใหญ่สุดของโลก ตั้งอยู่ในสหรัฐ ตกลงราคาแค่ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ รูป 4 นี่เอง จีนถึงเสียอารมณ์ ที่บริษัทฮัทชินสันไปตกลงขายสิทธิการบริหารท่าเรือเหล่านี้ ให้แก่คนอเมริกันสถานะเดิม เอื้อให้จีน สามารถเชื่อมโยงการเดินเรือไปทั่วโลก อย่างสะดวก บัดนี้สะดุดนอกจากนี้ ธุรกิจต่อเรือในจีน ยังเป็นเป้าที่ถูกสหรัฐเล็งทางปืนไว้ด้วยอุตสาหกรรมต่อเรือโลก เริ่มต้นที่ยุโรป ต่อมาย้ายไปญี่ปุ่น ต่อมาเกาหลีใต้ บัดนี้ ทุกประเทศแพ้จีนหมดแล้ว รูป 5-6 แสดงจีนครองตลาดต่อเรือใหญ่เกินครึ่งของโลก เทียบกับสหรัฐต่อเรือ 1 ลำ จีนต่อเรือมากถึง 359 ลำประเด็นที่สหรัฐกังวลที่สุด คือจีนสามารถต่อเรือรบ ได้จำนวนมากกว่าสหรัฐ แบบสู้กันไม่ทันรูป 7-8 ด้วยเหตุนี้ จึงมีพวกล้อบบี้ เสนอให้รัฐบาลสหรัฐ กำหนดค่าธรรมเนียมเทียบเรือที่ต่อในจีน 1.5 ล้านดอลลาร์/ครั้งและจะให้ลามไปถึงบริษัทเดินเรือ ที่มีกองเรือต่อในจีนเกินกว่า 50% ด้วยซึ่งจะกระทบ แผนการสั่งต่อเรือในอนาคต ของหลายบริษัทเดินเรือใหญ่ของโลก รูป 9 นักวิเคราะห์พยากรณ์ได้ว่า ดีล ปานามา ที่จะลามไปทั่วโลก อาจจะเป็นหมากรุกฆาต ต่อการค้าของจีนจึงต้องติดตามว่า จีนจะบีบบริษัทฮัทชินสันได้แค่ไหน เพราะคงไม่ง่าย นายลีกาชิง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ใกล้ชิดกับชนชั้นสูงในอังกฤษแต่สำหรับรัฐบาลไทย ต้องถามว่า ได้เข้าไปดูสัญญากับบริษัทฮัทชินสันหรือยังมีเงื่อนไขใส่ไว้หรือไม่ ถ้าเกิดมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ประเทศอื่น เข้ามาเป็นผู้บริหารท่าเรือในไทย ... และถ้าเกิดน่ากลัวว่า จะเป็นชนวนเกิดความขัดแย้ง ในกระดานหมากรุกโลก เกิดขึ้นในอ่าวไทย ... รัฐบาลไทยมีสิทธิยกเลิกสัญญาได้หรือไม่?วันที่ 20 มีนาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    หมากรุกท่าเรือ🛶 รูป 1 บริษัทฮัทชินสัน ซึ่งนายลีกาชิง ฮ่องกง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้สัมปทานบริหาร 2 ท่าเรือ ที่ตั้งอยู่สองฝั่งคลองปานามา สองฝั่งมหาสมุทรเป็นเหตุให้ทรัมป์ขู่ จะยึดคืนคลองปานามา คลองนี้ก่อสร้างโดยสหรัฐ ต่อมาในปี 1999 สหรัฐยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของปานามา⛵️ รูป 2 บริษัทฮัทชินสันได้เจรจาทำสัญญาบริหารท่าเรือ กระจายมากถึง 24 ประเทศ จำนวน 53 ท่าเรือ อยู่นอกจีน/ฮ่องกง 23 ประเทศ จำนวน 43 ท่าเรือ โดยบริษัทฮัทชินสันถือหุ้นในการบริหาร 80%ที่น่าสนใจคือ ท่าเรือแหลมฉบัง ในเมียนมา และในเวียดนาม ก็รวมอยู่ใน 43 ท่าเรือนี้ด้วยรูป 3 เพื่อหลบการเผชิญหน้ากับทรัมป์ บริษัทฮัทชินสันได้เจรจาขายหุ้น 80% ดังกล่าว ครอบคลุม 43 ท่าเรือ ใน 23 ประเทศ ให้แก่ Blackrock Blackrock เป็นผู้บริหารกองทุนใหญ่สุดของโลก ตั้งอยู่ในสหรัฐ ตกลงราคาแค่ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์🚤 รูป 4 นี่เอง จีนถึงเสียอารมณ์ ที่บริษัทฮัทชินสันไปตกลงขายสิทธิการบริหารท่าเรือเหล่านี้ ให้แก่คนอเมริกันสถานะเดิม เอื้อให้จีน สามารถเชื่อมโยงการเดินเรือไปทั่วโลก อย่างสะดวก บัดนี้สะดุดนอกจากนี้ ธุรกิจต่อเรือในจีน ยังเป็นเป้าที่ถูกสหรัฐเล็งทางปืนไว้ด้วยอุตสาหกรรมต่อเรือโลก เริ่มต้นที่ยุโรป ต่อมาย้ายไปญี่ปุ่น ต่อมาเกาหลีใต้ บัดนี้ ทุกประเทศแพ้จีนหมดแล้ว🛥️ รูป 5-6 แสดงจีนครองตลาดต่อเรือใหญ่เกินครึ่งของโลก เทียบกับสหรัฐต่อเรือ 1 ลำ จีนต่อเรือมากถึง 359 ลำประเด็นที่สหรัฐกังวลที่สุด คือจีนสามารถต่อเรือรบ ได้จำนวนมากกว่าสหรัฐ แบบสู้กันไม่ทันรูป 7-8 ด้วยเหตุนี้ จึงมีพวกล้อบบี้ เสนอให้รัฐบาลสหรัฐ กำหนดค่าธรรมเนียมเทียบเรือที่ต่อในจีน 1.5 ล้านดอลลาร์/ครั้งและจะให้ลามไปถึงบริษัทเดินเรือ ที่มีกองเรือต่อในจีนเกินกว่า 50% ด้วยซึ่งจะกระทบ แผนการสั่งต่อเรือในอนาคต ของหลายบริษัทเดินเรือใหญ่ของโลก🛳️ รูป 9 นักวิเคราะห์พยากรณ์ได้ว่า ดีล ปานามา ที่จะลามไปทั่วโลก อาจจะเป็นหมากรุกฆาต ต่อการค้าของจีนจึงต้องติดตามว่า จีนจะบีบบริษัทฮัทชินสันได้แค่ไหน เพราะคงไม่ง่าย นายลีกาชิง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ใกล้ชิดกับชนชั้นสูงในอังกฤษแต่สำหรับรัฐบาลไทย ต้องถามว่า ได้เข้าไปดูสัญญากับบริษัทฮัทชินสันหรือยังมีเงื่อนไขใส่ไว้หรือไม่ ถ้าเกิดมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ประเทศอื่น เข้ามาเป็นผู้บริหารท่าเรือในไทย ... และถ้าเกิดน่ากลัวว่า จะเป็นชนวนเกิดความขัดแย้ง ในกระดานหมากรุกโลก เกิดขึ้นในอ่าวไทย ... รัฐบาลไทยมีสิทธิยกเลิกสัญญาได้หรือไม่?วันที่ 20 มีนาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    Like
    2
    0 Comments 1 Shares 1095 Views 0 Reviews
  • จีนไม่ยอมเสียท่าเรือคลองปานามา สั่งตรวจสอบดีลขาย CK Hutchison มูลค่า $22.8 พันล้าน ให้ BlackRock ดึงประเด็นความมั่นคง-กฎหมายต่อต้านการผูกขาด หลังสหรัฐฯ แสดงความยินดี ฮ่องกง-ปักกิ่งประณามเป็น "การกลั่นแกล้ง" ทางเศรษฐกิจ ด้าน CK Hutchison ยืนยันเป็นธุรกรรมเชิงพาณิชย์รัฐบาลจีนกำลังตรวจสอบข้อตกลงการขายท่าเรือบริเวณคลองปานามาของบริษัท CK Hutchison จากฮ่องกงให้กับกลุ่มนักลงทุนที่นำโดยบริษัท BlackRock ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นดีลมูลค่า 22.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองประเทศ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปักกิ่งได้สั่งการให้หน่วยงานหลายแห่งดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงและการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งเป็นคำสั่งจากผู้นำระดับสูงของจีน ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้แสดงความยินดีกับข้อตกลงนี้ก่อนหน้านี้ ทั้งที่ในอดีตเคยกล่าวหาว่าจีนพยายามควบคุมเส้นทางน้ำสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ และเรียกร้องให้ "ถอดคลองปานามาออกจากการควบคุมของจีน" อย่างไรก็ตาม หนึ่งสัปดาห์หลังการประกาศข้อตกลง สำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีนได้เผยแพร่บทวิจารณ์ที่เรียกการขายครั้งนี้ว่าเป็น "การทรยศต่อจีน" และละเลยผลประโยชน์ของชาติ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้กล่าวว่า "จีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการละเมิดหรือบ่อนทำลายสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศอื่นๆ ด้วยการบังคับขู่เข็ญทางเศรษฐกิจและการกลั่นแกล้ง" ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงของจอห์น ลี ผู้นำฮ่องกง ที่เรียกร้องให้รัฐบาลต่างประเทศจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่ยุติธรรมสำหรับองค์กรธุรกิจ ด้านบริษัท CK Hutchison ยืนยันว่าข้อตกลงนี้ "มีลักษณะเชิงพาณิชย์ล้วนๆ และไม่เกี่ยวข้องกับรายงานข่าวการเมืองล่าสุดเกี่ยวกับท่าเรือปานามา" และระบุว่าได้ตกลงเจรจากับกลุ่ม BlackRock แต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลา 145 วัน แม้ข้อตกลงยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจีนจะสามารถใช้กลไกใดในการยับยั้งการขายนี้ได้หรือไม่ เนื่องจากธุรกิจที่ Hutchison กำลังขายมีฐานอยู่นอกประเทศจีนและฮ่องกง อีกทั้งบริษัทเองก็จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน #imctnews รายงาน
    จีนไม่ยอมเสียท่าเรือคลองปานามา 📌สั่งตรวจสอบดีลขาย CK Hutchison มูลค่า $22.8 พันล้าน ให้ BlackRock ดึงประเด็นความมั่นคง-กฎหมายต่อต้านการผูกขาด 📌หลังสหรัฐฯ แสดงความยินดี ฮ่องกง-ปักกิ่งประณามเป็น "การกลั่นแกล้ง" ทางเศรษฐกิจ ด้าน CK Hutchison ยืนยันเป็นธุรกรรมเชิงพาณิชย์👉รัฐบาลจีนกำลังตรวจสอบข้อตกลงการขายท่าเรือบริเวณคลองปานามาของบริษัท CK Hutchison จากฮ่องกงให้กับกลุ่มนักลงทุนที่นำโดยบริษัท BlackRock ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นดีลมูลค่า 22.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองประเทศ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปักกิ่งได้สั่งการให้หน่วยงานหลายแห่งดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงและการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งเป็นคำสั่งจากผู้นำระดับสูงของจีน ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้แสดงความยินดีกับข้อตกลงนี้ก่อนหน้านี้ ทั้งที่ในอดีตเคยกล่าวหาว่าจีนพยายามควบคุมเส้นทางน้ำสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ และเรียกร้องให้ "ถอดคลองปานามาออกจากการควบคุมของจีน" อย่างไรก็ตาม หนึ่งสัปดาห์หลังการประกาศข้อตกลง สำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีนได้เผยแพร่บทวิจารณ์ที่เรียกการขายครั้งนี้ว่าเป็น "การทรยศต่อจีน" และละเลยผลประโยชน์ของชาติ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้กล่าวว่า "จีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการละเมิดหรือบ่อนทำลายสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศอื่นๆ ด้วยการบังคับขู่เข็ญทางเศรษฐกิจและการกลั่นแกล้ง" ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงของจอห์น ลี ผู้นำฮ่องกง ที่เรียกร้องให้รัฐบาลต่างประเทศจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่ยุติธรรมสำหรับองค์กรธุรกิจ ด้านบริษัท CK Hutchison ยืนยันว่าข้อตกลงนี้ "มีลักษณะเชิงพาณิชย์ล้วนๆ และไม่เกี่ยวข้องกับรายงานข่าวการเมืองล่าสุดเกี่ยวกับท่าเรือปานามา" และระบุว่าได้ตกลงเจรจากับกลุ่ม BlackRock แต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลา 145 วัน แม้ข้อตกลงยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจีนจะสามารถใช้กลไกใดในการยับยั้งการขายนี้ได้หรือไม่ เนื่องจากธุรกิจที่ Hutchison กำลังขายมีฐานอยู่นอกประเทศจีนและฮ่องกง อีกทั้งบริษัทเองก็จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน #imctnews รายงาน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 963 Views 0 Reviews
  • สื่ออเมริกันรายงานประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการสัปดาห์นี้ให้กองทัพสหรัฐฯวางแผนหาช่องทางการทหารเพื่อให้คลองปานามากลับเข้ามาอยู่ในการควบคุมอีกครั้ง หลังดีลซื้อบริษัทบริหารท่าเรือมูลค่า 22.8 พันล้านดอลลาร์ส่อยิดเยื้อและอาจไม่แน่นอน หลังรัฐบาลจีนบีบ “ลีกาชิง” ข้อหาไม่รักชาติ

    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000025273
    สื่ออเมริกันรายงานประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการสัปดาห์นี้ให้กองทัพสหรัฐฯวางแผนหาช่องทางการทหารเพื่อให้คลองปานามากลับเข้ามาอยู่ในการควบคุมอีกครั้ง หลังดีลซื้อบริษัทบริหารท่าเรือมูลค่า 22.8 พันล้านดอลลาร์ส่อยิดเยื้อและอาจไม่แน่นอน หลังรัฐบาลจีนบีบ “ลีกาชิง” ข้อหาไม่รักชาติ อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000025273
    Like
    Sad
    8
    0 Comments 0 Shares 1625 Views 0 Reviews
  • ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร (4 มี.ค.) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    เอเอฟพีรายงานวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆ เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้บริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯ รายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์
    .
    นอกจากนี้ กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อผลประโยชน์ของ 'ฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์' (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆ ในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆ ภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์
    .
    ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ตท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯ หรือไม่
    .
    เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า
    .
    “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)”
    .
    และเสริมว่า
    .
    “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย เช่น เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง”
    .
    เอเอฟพีรายงานต่อว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ปลายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน
    .
    แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฏิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯ กลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯ เป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้เจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021234
    ..............
    Sondhi X
    ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร (4 มี.ค.) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . เอเอฟพีรายงานวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆ เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้บริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ . ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯ รายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์ . นอกจากนี้ กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์ . CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อผลประโยชน์ของ 'ฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์' (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆ ในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆ ภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ . ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ตท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯ หรือไม่ . เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า . “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)” . และเสริมว่า . “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย เช่น เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง” . เอเอฟพีรายงานต่อว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ปลายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน . แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ . เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฏิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯ กลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯ เป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้เจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021234 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Sad
    Angry
    11
    0 Comments 0 Shares 2900 Views 0 Reviews
  • รายงานพิเศษจากเพจAround the World เมื่อ5 มีนาคมระบุว่าบีบสำเร็จ! “CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์” ของเจ้าสัว “ลีกาชิง” ยอมตัดใจขายทิ้งหุ้น 90% คุมคลองปานามาและในอีก 23 ประเทศทั่วโลกให้บ.อเมริกัน BlackRock มีสิทธิ์สะเทือน "แหลมฉบัง" ของไทย
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเอฟพี/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ – ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร(4 มี.ค) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    เอเอฟพีรายงานวันอังคาร(4 มี.ค)ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้กับบริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯรายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์
    .
    นอกจากนี้กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆต่อผลประโยชน์ของฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์ (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์
    .
    ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ทท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯหรือไม่
    .
    เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า
    .
    “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)”
    .
    และเสริมว่า
    .
    “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย อาทิ เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง”
    .
    เอเอฟพีรายงานต่อว่า CKฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ท้ายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกทของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน
    .
    แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฎิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯกลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯเป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้กับเจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์
    รายงานพิเศษจากเพจAround the World เมื่อ5 มีนาคมระบุว่าบีบสำเร็จ! “CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์” ของเจ้าสัว “ลีกาชิง” ยอมตัดใจขายทิ้งหุ้น 90% คุมคลองปานามาและในอีก 23 ประเทศทั่วโลกให้บ.อเมริกัน BlackRock มีสิทธิ์สะเทือน "แหลมฉบัง" ของไทย . . . . . เอเอฟพี/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ – ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร(4 มี.ค) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . เอเอฟพีรายงานวันอังคาร(4 มี.ค)ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้กับบริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ . ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯรายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์ . นอกจากนี้กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์ . CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆต่อผลประโยชน์ของฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์ (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ . ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ทท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯหรือไม่ . เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า . “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)” . และเสริมว่า . “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย อาทิ เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง” . เอเอฟพีรายงานต่อว่า CKฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ท้ายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกทของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน . แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ . เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฎิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯกลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯเป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้กับเจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์
    0 Comments 0 Shares 881 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์หวังสงครามในยูเครนใกล้จบลงเร็วๆ นี้ พร้อมคาดว่า เซเลนสกี้อาจเดินทางไปวอชิงตันในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเพื่อทำข้อตกลงเกี่ยวกับเหมืองแร่สำคัญในยูเครน ขณะที่มาครงตั้งข้อสังเกตระหว่างเยือนทำเนียบขาวว่า ข้อตกลงยุติสงครามไม่ควรหมายถึงการยอมแพ้สำหรับยูเครน
    .
    การพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา และประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันครบรอบ 3 ปีที่รัสเซียยกทัพบุกยูเครนนั้น เกิดขึ้นขณะที่ความสัมพันธ์สองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกไร้ความแน่นอนอย่างยิ่งจากการที่ทรัมป์เปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศของอเมริกาครั้งใหญ่ และตัดยุโรปออกจากการเจรจายุติสงครามในยูเครน
    .
    แม้การพบกันระหว่างทรัมป์กับมาครงที่ทำเนียบขาวเป็นไปด้วยดี แต่อเมริกากับฝรั่งเศสกลับขัดแย้งกันเกี่ยวกับญัตติในสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ระบุว่า รัสเซียเป็นผู้รุกรานในสงครามยูเครน
    .
    ระหว่างการหารือภาพรวมเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน ทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จะยอมให้ยุโรปมีส่วนร่วมในกองกำลังสันติภาพในยูเครน เขายังหวังว่า สงครามจะจบลงภายในไม่กี่สัปดาห์ และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน อาจเดินทางไปวอชิงตันในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเพื่อเซ็นข้อตกลงเปิดทางให้อเมริกาเข้าถึงแร่ธาตุสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ การแพทย์ และเทคโนโลยีของอเมริกา
    .
    ทรัมป์กำลังผลักดันข้อตกลงทางเศรษฐกิจเพื่อให้ยูเครนชดใช้เงินบางส่วนที่อเมริกาให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มต้นสงครามรวม 180,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เคียฟต้องการให้ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมการรับประกันความมั่นคงในอนาคต ทว่า ทรัมป์ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นจะรวมข้อเรียกร้องดังกล่าวหรือไม่
    .
    ทางด้านมาครงยอมรับระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับทรัมป์ว่า ประเทศยุโรปต้องยกระดับการปกป้องภูมิภาค แต่เตือนว่า ข้อตกลงสันติภาพต้องไม่ได้หมายถึงการยอมจำนน แต่ต้องเคารพอธิปไตย รวมทั้งต้องมีการรับประกันความมั่นคงของยูเครน
    .
    ผู้นำฝรั่งเศสตัดขาดการสื่อสารโดยตรงกับปูตินนับจากรัสเซียโจมตีเมืองบูชาอย่างโหดร้ายในช่วงต้นสงคราม กระนั้น เขายอมรับว่า ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากคณะบริหารชุดใหม่ของอเมริกา ซึ่งหมายถึงบริบทใหม่จึงมีเหตุผลอันควรที่ทรัมป์จะฟื้นการติดต่อกับปูติน
    .
    ทางฝ่ายปูตินนั้นกล่าวในวันจันทร์ว่า ยังไม่ได้หารือเรื่องการแก้ไขความขัดแย้งกับยูเครนอย่างละเอียดกับทรัมป์ รวมทั้งยังไม่มีการหารือในคณะเจรจารัสเซีย-อเมริกาที่ซาอุดีอาระเบียสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำรัสเซียยังเสริมว่า รัสเซียไม่ได้ตัดชาติยุโรปออกจากการเจรจาสันติภาพ
    .
    การหารือที่ทำเนียบขาวครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ยุโรปกำลังกังวลหนักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ของอเมริกาภายใต้การนำของทรัมป์
    .
    นับจากเข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง ทรัมป์ต้องการครอบครองกรีนแลนด์ แคนาดา กาซา และคลองปานามา นอกจากนั้นประธานาธิบดีที่ชูนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ผู้นี้ยังครอบงำจุดยืนของอเมริกาที่เคยเป็นมิตรท่ามกลางสถานการณ์โลกที่มีเสถียรภาพและต่อเนื่อง
    .
    เอียน เคลลี อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำจอร์เจียในคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และทรัมป์สมัยแรก ชี้ว่า นโยบายต่อต้านผู้รุกรานของอเมริกาที่ดำเนินมา 80 ปีถูกทำลายย่อยยับโดยปราศจากการหารือหรือไตร่ตรองใดๆ
    .
    นอกจากมาครงแล้ว ทรัมป์ยังมีกำหนดต้อนรับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษในวันพฤหัสบดี (27 ก.พ.) ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์ทำผู้นำยุโรปช็อกไปตามๆ กันด้วยการวิจารณ์เซเลนสกี้ว่า ล้มเหลวในการเจรจายุติสงคราม ซ้ำยังไม่ยอมเซ็นข้อตกลงให้อเมริกาเข้าถึงแร่ธาตุสำคัญของยูเครน
    .
    แรกทีเดียวนั้นเซเลนสกี้โวยว่า ข้อตกลงดังกล่าวไม่ครอบคลุมการรับประกันความมั่นคง แต่ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) เขาโพสต์บนเอ็กซ์ว่า มีความคืบหน้าอย่างมาก แต่ยูเครนยังต้องการข้อตกลงทางเศรษฐกิจที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบรับประกันความปลอดภัยสำหรับประเทศอย่างแท้จริง
    .
    ก่อนหน้านี้เซเลนสกี้ทำให้ทรัมป์หัวเสียมากจากการโจมตีผู้นำสหรัฐฯ ว่า ติดอยู่กับข้อมูลผิดๆ ของรัสเซีย และประมุขทำเนียบขาวตอกกลับโดยเรียกเซเลนสกี้ว่า “ผู้นำเผด็จการ” รวมทั้งกล่าวหาเคียฟเป็นผู้เริ่มสงคราม ทั้งที่ความจริงรัสเซียเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    นอกจากนั้นเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเมื่อวันจันทร์ว่า คิดว่าปูตินเป็นผู้นำเผด็จการด้วยหรือไม่นั้น ทรัมป์ตอบว่า ตนไม่ใช้คำนั้นพล่อยๆ
    .
    อเมริกายังงัดข้อกับพันธมิตรยุโรปในการประชุมยูเอ็น ด้วยการปฏิเสธที่จะกล่าวหาว่า รัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งอเมริกางดออกเสียงในการลงมติข้อเสนอของตนเอง หลังจากยุโรปที่นำโดยฝรั่งเศส สามารถผลักดันให้มีการระบุชัดเจนว่า รัสเซียเป็นผู้รุกราน
    .
    ก่อนพบกับทรัมป์ มาครงบอกว่า เขาตั้งใจแจ้งกับผู้นำสหรัฐฯ ว่า ไม่ควรยอมอ่อนข้อให้ปูติน ทั้งนี้ เพื่อผลประโยชน์ของคนอเมริกันและยุโรป
    .
    เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์ประกาศชัดเจนว่า ต้องการให้รัสเซียกลับเข้าร่วมจี7 หลังจากถูกระงับสมาชิกภาพในจี8 นับจากเข้าผนวกแคว้นไครเมียของยูเครนในปี 2014
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018788
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์หวังสงครามในยูเครนใกล้จบลงเร็วๆ นี้ พร้อมคาดว่า เซเลนสกี้อาจเดินทางไปวอชิงตันในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเพื่อทำข้อตกลงเกี่ยวกับเหมืองแร่สำคัญในยูเครน ขณะที่มาครงตั้งข้อสังเกตระหว่างเยือนทำเนียบขาวว่า ข้อตกลงยุติสงครามไม่ควรหมายถึงการยอมแพ้สำหรับยูเครน . การพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา และประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันครบรอบ 3 ปีที่รัสเซียยกทัพบุกยูเครนนั้น เกิดขึ้นขณะที่ความสัมพันธ์สองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกไร้ความแน่นอนอย่างยิ่งจากการที่ทรัมป์เปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศของอเมริกาครั้งใหญ่ และตัดยุโรปออกจากการเจรจายุติสงครามในยูเครน . แม้การพบกันระหว่างทรัมป์กับมาครงที่ทำเนียบขาวเป็นไปด้วยดี แต่อเมริกากับฝรั่งเศสกลับขัดแย้งกันเกี่ยวกับญัตติในสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ระบุว่า รัสเซียเป็นผู้รุกรานในสงครามยูเครน . ระหว่างการหารือภาพรวมเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน ทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จะยอมให้ยุโรปมีส่วนร่วมในกองกำลังสันติภาพในยูเครน เขายังหวังว่า สงครามจะจบลงภายในไม่กี่สัปดาห์ และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน อาจเดินทางไปวอชิงตันในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเพื่อเซ็นข้อตกลงเปิดทางให้อเมริกาเข้าถึงแร่ธาตุสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ การแพทย์ และเทคโนโลยีของอเมริกา . ทรัมป์กำลังผลักดันข้อตกลงทางเศรษฐกิจเพื่อให้ยูเครนชดใช้เงินบางส่วนที่อเมริกาให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มต้นสงครามรวม 180,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เคียฟต้องการให้ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมการรับประกันความมั่นคงในอนาคต ทว่า ทรัมป์ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นจะรวมข้อเรียกร้องดังกล่าวหรือไม่ . ทางด้านมาครงยอมรับระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับทรัมป์ว่า ประเทศยุโรปต้องยกระดับการปกป้องภูมิภาค แต่เตือนว่า ข้อตกลงสันติภาพต้องไม่ได้หมายถึงการยอมจำนน แต่ต้องเคารพอธิปไตย รวมทั้งต้องมีการรับประกันความมั่นคงของยูเครน . ผู้นำฝรั่งเศสตัดขาดการสื่อสารโดยตรงกับปูตินนับจากรัสเซียโจมตีเมืองบูชาอย่างโหดร้ายในช่วงต้นสงคราม กระนั้น เขายอมรับว่า ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากคณะบริหารชุดใหม่ของอเมริกา ซึ่งหมายถึงบริบทใหม่จึงมีเหตุผลอันควรที่ทรัมป์จะฟื้นการติดต่อกับปูติน . ทางฝ่ายปูตินนั้นกล่าวในวันจันทร์ว่า ยังไม่ได้หารือเรื่องการแก้ไขความขัดแย้งกับยูเครนอย่างละเอียดกับทรัมป์ รวมทั้งยังไม่มีการหารือในคณะเจรจารัสเซีย-อเมริกาที่ซาอุดีอาระเบียสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำรัสเซียยังเสริมว่า รัสเซียไม่ได้ตัดชาติยุโรปออกจากการเจรจาสันติภาพ . การหารือที่ทำเนียบขาวครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ยุโรปกำลังกังวลหนักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ของอเมริกาภายใต้การนำของทรัมป์ . นับจากเข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง ทรัมป์ต้องการครอบครองกรีนแลนด์ แคนาดา กาซา และคลองปานามา นอกจากนั้นประธานาธิบดีที่ชูนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ผู้นี้ยังครอบงำจุดยืนของอเมริกาที่เคยเป็นมิตรท่ามกลางสถานการณ์โลกที่มีเสถียรภาพและต่อเนื่อง . เอียน เคลลี อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำจอร์เจียในคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และทรัมป์สมัยแรก ชี้ว่า นโยบายต่อต้านผู้รุกรานของอเมริกาที่ดำเนินมา 80 ปีถูกทำลายย่อยยับโดยปราศจากการหารือหรือไตร่ตรองใดๆ . นอกจากมาครงแล้ว ทรัมป์ยังมีกำหนดต้อนรับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษในวันพฤหัสบดี (27 ก.พ.) ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์ทำผู้นำยุโรปช็อกไปตามๆ กันด้วยการวิจารณ์เซเลนสกี้ว่า ล้มเหลวในการเจรจายุติสงคราม ซ้ำยังไม่ยอมเซ็นข้อตกลงให้อเมริกาเข้าถึงแร่ธาตุสำคัญของยูเครน . แรกทีเดียวนั้นเซเลนสกี้โวยว่า ข้อตกลงดังกล่าวไม่ครอบคลุมการรับประกันความมั่นคง แต่ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) เขาโพสต์บนเอ็กซ์ว่า มีความคืบหน้าอย่างมาก แต่ยูเครนยังต้องการข้อตกลงทางเศรษฐกิจที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบรับประกันความปลอดภัยสำหรับประเทศอย่างแท้จริง . ก่อนหน้านี้เซเลนสกี้ทำให้ทรัมป์หัวเสียมากจากการโจมตีผู้นำสหรัฐฯ ว่า ติดอยู่กับข้อมูลผิดๆ ของรัสเซีย และประมุขทำเนียบขาวตอกกลับโดยเรียกเซเลนสกี้ว่า “ผู้นำเผด็จการ” รวมทั้งกล่าวหาเคียฟเป็นผู้เริ่มสงคราม ทั้งที่ความจริงรัสเซียเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . นอกจากนั้นเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเมื่อวันจันทร์ว่า คิดว่าปูตินเป็นผู้นำเผด็จการด้วยหรือไม่นั้น ทรัมป์ตอบว่า ตนไม่ใช้คำนั้นพล่อยๆ . อเมริกายังงัดข้อกับพันธมิตรยุโรปในการประชุมยูเอ็น ด้วยการปฏิเสธที่จะกล่าวหาว่า รัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งอเมริกางดออกเสียงในการลงมติข้อเสนอของตนเอง หลังจากยุโรปที่นำโดยฝรั่งเศส สามารถผลักดันให้มีการระบุชัดเจนว่า รัสเซียเป็นผู้รุกราน . ก่อนพบกับทรัมป์ มาครงบอกว่า เขาตั้งใจแจ้งกับผู้นำสหรัฐฯ ว่า ไม่ควรยอมอ่อนข้อให้ปูติน ทั้งนี้ เพื่อผลประโยชน์ของคนอเมริกันและยุโรป . เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์ประกาศชัดเจนว่า ต้องการให้รัสเซียกลับเข้าร่วมจี7 หลังจากถูกระงับสมาชิกภาพในจี8 นับจากเข้าผนวกแคว้นไครเมียของยูเครนในปี 2014 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018788 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    10
    1 Comments 0 Shares 2915 Views 0 Reviews
  • มาร์โค รูบิโอ จากอดีตเส้นทางวุฒิสมาชิกจากรัฐฟลอริด้าเป็นเวลานานถึง 14 ปี วันนี้ก้าวสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศยุคทรัมป์ 2.0 ตอบยืนยันหนักแน่นว่า คลองปานามาต้องเป็นไปตามสนธิสัญญาความมั่นคงระหว่างสหรัฐอเมริกากับปานามาที่ร่วมกันขุดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 ในยุคประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ เท่านั้น ไม่ใช่ต้องตกเป็นของจีนที่จะเข้ามาผูกขาดในวันนี้ สหรัฐจะไม่จ่ายค่าธรรมเนียมการผ่านคลองให้กับหน่วยงานอิสระที่เก็บค่าต๋ง ซึ่งมิได้อยู่ในอำนาจของประเทศปานามาแต่อย่างใด...ชัดเจนนะ...พูดถึงหน่วยงาน USAID ของรัฐบาลกลาง รูบิโอเห็นด้วยกับหน่วยงานของ DOGE ที่มีนายอีลอน มัสค์ เป็นหัวหน้า และถูกยุบไปไม่กี่วันนี้ เพราะถูกกล่าวหาว่าทำงานผิดประเภทไม่ตรงกับภาระกิจที่เป็นหน่วยงานภายใต้เงินภาษีของคนอเมริกัน และบอกว่าที่ผ่านมาทำตัวเหนือกฏหมายชอบเข้าไปวุ่นวายแทรกแซงกิจการภายในระหว่างประเทศ ซึ่งแท้จริงแล้วกิจการระหว่างประเทศต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่เขากำลังดำเนินการอยู่..แปลให้ชัดคือ USAID อย่าเข้ามายุ่ง อย่าทำตัวเป็น DEEP STATE...ส่วนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนั้นปล่อยให้คนรวยอเมริกันเขาทำกัน...(แบบที่เศรษฐียิวช่วย NGO ในไทยอยู่ทุกวันนี้)...จิงป๊ะ!
    มาร์โค รูบิโอ จากอดีตเส้นทางวุฒิสมาชิกจากรัฐฟลอริด้าเป็นเวลานานถึง 14 ปี วันนี้ก้าวสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศยุคทรัมป์ 2.0 ตอบยืนยันหนักแน่นว่า คลองปานามาต้องเป็นไปตามสนธิสัญญาความมั่นคงระหว่างสหรัฐอเมริกากับปานามาที่ร่วมกันขุดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 ในยุคประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ เท่านั้น ไม่ใช่ต้องตกเป็นของจีนที่จะเข้ามาผูกขาดในวันนี้ สหรัฐจะไม่จ่ายค่าธรรมเนียมการผ่านคลองให้กับหน่วยงานอิสระที่เก็บค่าต๋ง ซึ่งมิได้อยู่ในอำนาจของประเทศปานามาแต่อย่างใด...ชัดเจนนะ...พูดถึงหน่วยงาน USAID ของรัฐบาลกลาง รูบิโอเห็นด้วยกับหน่วยงานของ DOGE ที่มีนายอีลอน มัสค์ เป็นหัวหน้า และถูกยุบไปไม่กี่วันนี้ เพราะถูกกล่าวหาว่าทำงานผิดประเภทไม่ตรงกับภาระกิจที่เป็นหน่วยงานภายใต้เงินภาษีของคนอเมริกัน และบอกว่าที่ผ่านมาทำตัวเหนือกฏหมายชอบเข้าไปวุ่นวายแทรกแซงกิจการภายในระหว่างประเทศ ซึ่งแท้จริงแล้วกิจการระหว่างประเทศต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่เขากำลังดำเนินการอยู่..แปลให้ชัดคือ USAID อย่าเข้ามายุ่ง อย่าทำตัวเป็น DEEP STATE...ส่วนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนั้นปล่อยให้คนรวยอเมริกันเขาทำกัน...(แบบที่เศรษฐียิวช่วย NGO ในไทยอยู่ทุกวันนี้)...จิงป๊ะ!
    0 Comments 0 Shares 601 Views 0 Reviews
  • รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน
    .
    รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ
    .
    รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง
    .
    หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด
    .
    เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า
    .
    ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้
    .
    “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ”
    .
    พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น”
    .
    ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ
    .
    เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน
    .
    โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ
    .
    เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง
    .
    นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2)
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา
    .
    และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน . รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ . รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ . รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง . หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด . เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า . ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน . เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้ . “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ” . พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น” . ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ . เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน . โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ . เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง . นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2) . รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา . และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา . แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    7
    0 Comments 0 Shares 3179 Views 0 Reviews
  • มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยื่นคำขาด ประกาศอเมริกาจะดำเนินมาตรการที่จำเป็น ถ้าปานามาไม่ลงมือยุติอิทธิพลและการควบคุมของจีนเหนือคลองปานามาทันที ด้านประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มูลิโน ส่งสัญญาณภายหลังพบหารือกับรัฐมนตรีอเมริกันผู้นี้ในกรุงปานามาซิตีเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ว่า อาจทบทวนข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับจีนและธุรกิจของจีน ขณะที่ปักกิ่งยืนยันไม่เคยเข้าร่วมดำเนินการหรือแทรกแซงการดำเนินการคลองปานามาตามที่คณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพยายามกล่าวหา
    .
    แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า รูบิโอซึ่งเดินทางไปเยือนปานามา ได้นำข้อความจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาถ่ายทอดให้ผู้นำปานามาทราบ โดยมุ่งเตือนเรื่องที่จีนปรากฏตัวที่คลองปานามา ผ่านทางบริษัทฮ่องกงแห่งหนึ่งที่เข้าบริหารท่าเรือ 2 แห่ง ตรงทางเข้าออกคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ ทั้งนี้ ทรัมป์บอกว่าเรื่องนี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อเส้นทางเดินเรือนี้ อีกทั้งเป็นการละเมิดสนธิสัญญาระหว่างอเมริกากับปานามาว่าด้วยคลองแห่งนี้ด้วย และแสดงออกอย่างชัดเจนว่า อเมริกาไม่ยอมรับให้คงสถานะเดิมเช่นนี้ต่อไป และหากไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงทันที อเมริกาอาจต้องดำเนินการมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนภายใต้สนธิสัญญา
    .
    อย่างไรก็ตาม รูบิโอไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯต้องการให้ปานามาทำอย่างไร หรืออเมริกาจะตอบโต้อย่างไร
    .
    ทั้งนี้ หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯออกมาว่าเขาเป็นผู้ชนะได้กลับเข้าทำเนียบขาวเป็นสมัยที่ 2 ทรัมป์ได้พูดข่มขู่คุกคามหลายครั้งว่า จะเข้ายึดคืนคลองปานามาที่เป็นเส้นทางลัดทำให้สามารถเข้าออกระหว่างฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกกับฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกได้โดยไม่ต้องเดินเรืออ้อมทวีปอเมริกาใต้ อเมริกาคือผู้ขุดคลองนี้สำเร็จเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 และได้ส่งมอบอธิปไตยเหนือคลองแห่งนี้ให้ปานามาในปี 1999
    .
    ทรัมป์กล่าวอ้างลอยๆ ว่า เส้นทางเดินเรือทางยุทธศาสตร์นี้เวลานี้ถูกควบคุมโดยทหารจีน นอกจากนั้นเรือของอเมริกายังถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงกว่าเรือของชาติอื่น
    .
    นอกจากนั้น ทรัมป์ยังบอกว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารเข้ายึดคลองปานามากลับมาอยู่ในความควบคุมของสหรัฐฯอีกครั้ง ทำให้ถูกวิจารณ์รุนแรงจากทั้งมิตรและศัตรูในละตินอเมริกา ถึงแม้เมื่อวันอาทิตย์ (1) เขาบอกว่า คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง กระนั้นก็ยังยืนยันว่า ปานามาละเมิดสนธิสัญญาที่ทำไว้กับสหรัฐฯ และอเมริกาจะยึดคลองปานามาคืน
    .
    สำหรับตัวรูบิโอเอง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องมีแนวคิดเกี่ยวกับจีนแบบสายเหยี่ยวแข็งกร้าวมานาน ยังให้สัมภาษณ์ในรายการเมกิน เคลลี ของวิทยุดาวเทียมซีเรียส เอ็กซ์เอ็ม ในสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนอาจใช้ท่าเรือที่บริษัทฮ่องกงเป็นผู้ดำเนินการ ในการปิดคลองปานานากรณีที่เกิดข้อพิพาทระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีมูลิโน กล่าวถึงการพบหารือกับรูบิโอคราวนี้ว่า เป็นไปด้วยดี และเสริมว่า พร้อมทบทวนธุรกิจบางอย่างของจีนในปานามา ซึ่งรวมถึงการให้สัมปทานบริหารท่าเรือ 2 แห่งจากจำนวนทั้งหมดที่มีอยู่ 5 แห่ง ตรงทางเข้าออกคลองปานามาทั้งสองด้านเป็นเวลานาน 25 ปี โดยคู่สัญญาที่ได้รับสัมปทานคือ บริษัทซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง ทั้งนี้เพิ่งมีการต่ออายุสัมปทานเมื่อปี 2021 และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
    .
    พวกสมาชิกรัฐสภาและคณะบริหารสหรัฐฯ ซึ่งเวลานี้มีความโน้มเอียงต่อต้านจีนอย่างแข็งกร้าว กล่าวหาว่า สัญญาดังกล่าวคือตัวอย่างการขยายอิทธิพลของจีนในปานามา ซึ่งขัดต่อสนธิสัญญาความเป็นกลางที่ปานามาและอเมริกาลงนามร่วมกันในปี 1977
    .
    ทว่า รัฐบาลปานามาและผู้เชี่ยวชาญหลายคนคัดค้านการกล่าวอ้างของวอชิงตัน โดยชี้ว่าท่าเรือเหล่านี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารคลองปานามาที่ดำเนินการโดยสำนักงานบริหารจัดการคลองปานามา ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่กำกับดูแลโดยรัฐบาลปานามา
    .
    มูลิโนสำทับด้วยว่า เขาจะไม่ต่ออายุข้อตกลงเข้าร่วมในแผนการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) ของจีน ที่ลงนามโดยคณะบริการชุดก่อนหน้านี้ และเสริมว่า เขาไม่คิดว่า มีภัยคุกคามที่แท้จริงต่อความเป็นกลางและความถูกต้องของสนธิสัญญาที่ทำกับอเมริกา รวมทั้งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้สนธิสัญญาด้วยกำลังทหาร อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่า จำเป็นต้องมีการหารือแบบตัวต่อตัวกับทรัมป์
    .
    ทางด้านจีนนั้น เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงในวันจันทร์ (3) ยืนยันว่า ปักกิ่งไม่มีส่วนร่วมกับการดำเนินการ รวมทั้งไม่เคยเข้าแทรกแซงการดำเนินการคลองปานามา อีกทั้งยังยอมรับคลองปานามาในฐานะเป็นเส้นทางเดินเรือสากลที่เป็นกลางโดยถาวร
    .
    เห็นกันว่า รูบิโอที่อยู่ระหว่างการทัวร์อเมริกากลางและแคริบเบียน โดยถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับจากเข้ารับตำแหน่งนี้ กำลังพยายามปรับโฟกัสแนวทางการทูตของอเมริกาต่อซีกโลกตะวันตก (หมายถึงอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้) ส่วนหนึ่งก็เพื่อระดมให้ชาติละตินอเมริกาเข้าร่วมการสกัดกั้นพวกผู้อพยพที่พยายามลักลอบเข้าสหรัฐฯโดยผ่านชายแดนทางใต้ของอเมริกา
    .
    นอกจากนั้น การเยือนครั้งนี้ยังสะท้อนเป้าหมายของอเมริกาในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มุ่งมั่นต่อต้านการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองของจีนในละตินอเมริกา ซึ่งสหรัฐฯถือเป็นเขตหลังบ้านของตน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011133
    ..............
    Sondhi X
    มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยื่นคำขาด ประกาศอเมริกาจะดำเนินมาตรการที่จำเป็น ถ้าปานามาไม่ลงมือยุติอิทธิพลและการควบคุมของจีนเหนือคลองปานามาทันที ด้านประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มูลิโน ส่งสัญญาณภายหลังพบหารือกับรัฐมนตรีอเมริกันผู้นี้ในกรุงปานามาซิตีเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ว่า อาจทบทวนข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับจีนและธุรกิจของจีน ขณะที่ปักกิ่งยืนยันไม่เคยเข้าร่วมดำเนินการหรือแทรกแซงการดำเนินการคลองปานามาตามที่คณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพยายามกล่าวหา . แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า รูบิโอซึ่งเดินทางไปเยือนปานามา ได้นำข้อความจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาถ่ายทอดให้ผู้นำปานามาทราบ โดยมุ่งเตือนเรื่องที่จีนปรากฏตัวที่คลองปานามา ผ่านทางบริษัทฮ่องกงแห่งหนึ่งที่เข้าบริหารท่าเรือ 2 แห่ง ตรงทางเข้าออกคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ ทั้งนี้ ทรัมป์บอกว่าเรื่องนี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อเส้นทางเดินเรือนี้ อีกทั้งเป็นการละเมิดสนธิสัญญาระหว่างอเมริกากับปานามาว่าด้วยคลองแห่งนี้ด้วย และแสดงออกอย่างชัดเจนว่า อเมริกาไม่ยอมรับให้คงสถานะเดิมเช่นนี้ต่อไป และหากไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงทันที อเมริกาอาจต้องดำเนินการมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนภายใต้สนธิสัญญา . อย่างไรก็ตาม รูบิโอไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯต้องการให้ปานามาทำอย่างไร หรืออเมริกาจะตอบโต้อย่างไร . ทั้งนี้ หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯออกมาว่าเขาเป็นผู้ชนะได้กลับเข้าทำเนียบขาวเป็นสมัยที่ 2 ทรัมป์ได้พูดข่มขู่คุกคามหลายครั้งว่า จะเข้ายึดคืนคลองปานามาที่เป็นเส้นทางลัดทำให้สามารถเข้าออกระหว่างฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกกับฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกได้โดยไม่ต้องเดินเรืออ้อมทวีปอเมริกาใต้ อเมริกาคือผู้ขุดคลองนี้สำเร็จเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 และได้ส่งมอบอธิปไตยเหนือคลองแห่งนี้ให้ปานามาในปี 1999 . ทรัมป์กล่าวอ้างลอยๆ ว่า เส้นทางเดินเรือทางยุทธศาสตร์นี้เวลานี้ถูกควบคุมโดยทหารจีน นอกจากนั้นเรือของอเมริกายังถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงกว่าเรือของชาติอื่น . นอกจากนั้น ทรัมป์ยังบอกว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารเข้ายึดคลองปานามากลับมาอยู่ในความควบคุมของสหรัฐฯอีกครั้ง ทำให้ถูกวิจารณ์รุนแรงจากทั้งมิตรและศัตรูในละตินอเมริกา ถึงแม้เมื่อวันอาทิตย์ (1) เขาบอกว่า คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง กระนั้นก็ยังยืนยันว่า ปานามาละเมิดสนธิสัญญาที่ทำไว้กับสหรัฐฯ และอเมริกาจะยึดคลองปานามาคืน . สำหรับตัวรูบิโอเอง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องมีแนวคิดเกี่ยวกับจีนแบบสายเหยี่ยวแข็งกร้าวมานาน ยังให้สัมภาษณ์ในรายการเมกิน เคลลี ของวิทยุดาวเทียมซีเรียส เอ็กซ์เอ็ม ในสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนอาจใช้ท่าเรือที่บริษัทฮ่องกงเป็นผู้ดำเนินการ ในการปิดคลองปานานากรณีที่เกิดข้อพิพาทระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน . ในอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีมูลิโน กล่าวถึงการพบหารือกับรูบิโอคราวนี้ว่า เป็นไปด้วยดี และเสริมว่า พร้อมทบทวนธุรกิจบางอย่างของจีนในปานามา ซึ่งรวมถึงการให้สัมปทานบริหารท่าเรือ 2 แห่งจากจำนวนทั้งหมดที่มีอยู่ 5 แห่ง ตรงทางเข้าออกคลองปานามาทั้งสองด้านเป็นเวลานาน 25 ปี โดยคู่สัญญาที่ได้รับสัมปทานคือ บริษัทซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง ทั้งนี้เพิ่งมีการต่ออายุสัมปทานเมื่อปี 2021 และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ . พวกสมาชิกรัฐสภาและคณะบริหารสหรัฐฯ ซึ่งเวลานี้มีความโน้มเอียงต่อต้านจีนอย่างแข็งกร้าว กล่าวหาว่า สัญญาดังกล่าวคือตัวอย่างการขยายอิทธิพลของจีนในปานามา ซึ่งขัดต่อสนธิสัญญาความเป็นกลางที่ปานามาและอเมริกาลงนามร่วมกันในปี 1977 . ทว่า รัฐบาลปานามาและผู้เชี่ยวชาญหลายคนคัดค้านการกล่าวอ้างของวอชิงตัน โดยชี้ว่าท่าเรือเหล่านี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารคลองปานามาที่ดำเนินการโดยสำนักงานบริหารจัดการคลองปานามา ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่กำกับดูแลโดยรัฐบาลปานามา . มูลิโนสำทับด้วยว่า เขาจะไม่ต่ออายุข้อตกลงเข้าร่วมในแผนการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) ของจีน ที่ลงนามโดยคณะบริการชุดก่อนหน้านี้ และเสริมว่า เขาไม่คิดว่า มีภัยคุกคามที่แท้จริงต่อความเป็นกลางและความถูกต้องของสนธิสัญญาที่ทำกับอเมริกา รวมทั้งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้สนธิสัญญาด้วยกำลังทหาร อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่า จำเป็นต้องมีการหารือแบบตัวต่อตัวกับทรัมป์ . ทางด้านจีนนั้น เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงในวันจันทร์ (3) ยืนยันว่า ปักกิ่งไม่มีส่วนร่วมกับการดำเนินการ รวมทั้งไม่เคยเข้าแทรกแซงการดำเนินการคลองปานามา อีกทั้งยังยอมรับคลองปานามาในฐานะเป็นเส้นทางเดินเรือสากลที่เป็นกลางโดยถาวร . เห็นกันว่า รูบิโอที่อยู่ระหว่างการทัวร์อเมริกากลางและแคริบเบียน โดยถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับจากเข้ารับตำแหน่งนี้ กำลังพยายามปรับโฟกัสแนวทางการทูตของอเมริกาต่อซีกโลกตะวันตก (หมายถึงอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้) ส่วนหนึ่งก็เพื่อระดมให้ชาติละตินอเมริกาเข้าร่วมการสกัดกั้นพวกผู้อพยพที่พยายามลักลอบเข้าสหรัฐฯโดยผ่านชายแดนทางใต้ของอเมริกา . นอกจากนั้น การเยือนครั้งนี้ยังสะท้อนเป้าหมายของอเมริกาในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มุ่งมั่นต่อต้านการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองของจีนในละตินอเมริกา ซึ่งสหรัฐฯถือเป็นเขตหลังบ้านของตน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011133 .............. Sondhi X
    Angry
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 1871 Views 0 Reviews
  • ปานามาตกลงทำทุกอย่างตามที่สหรัฐต้องการ

    ปานามาตกลงที่จะอำนวยความสะดวกและเสนอให้เรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ผ่านคลองปานามาได้อย่างอิสระ หลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ เดินทางมากดดันถึงที่

    นอกจากนี้ยังยอมยุติข้อตกลงคลองปานามาของจีน โดยจะไม่ต่ออายุโครงการ " Belt and Road Initiative" ของจีน เมื่อข้อตกลงหมดอายุลง ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 (2017)
    ปานามาตกลงทำทุกอย่างตามที่สหรัฐต้องการ ปานามาตกลงที่จะอำนวยความสะดวกและเสนอให้เรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ผ่านคลองปานามาได้อย่างอิสระ หลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ เดินทางมากดดันถึงที่ นอกจากนี้ยังยอมยุติข้อตกลงคลองปานามาของจีน โดยจะไม่ต่ออายุโครงการ " Belt and Road Initiative" ของจีน เมื่อข้อตกลงหมดอายุลง ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 (2017)
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 387 Views 0 Reviews
  • "Trump ได้ประกาศแผนการในการเข้าครอบครองตำแหน่งที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อ 'อ่าวเม็กซิโก' (Gulf of Mexico) เป็น 'อ่าวอเมริกา' (Gulf of America), การประกาศจะเข้ายึดคืนคลองปานามา..., การประกาศจะเข้ายึดครองเกาะกรีนแลนด์ และการเรียกร้องให้ประเทศแคนาดาลดสถานะตนเองลงมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา หรือ แม้แต่การประกาศโครงการส่งนักบินอวกาศสหรัฐฯ ไปปักธงชาติสหรัฐฯ บนดาวอังคาร"
    .
    "ในมุมมองทางภูมิรัฐศาสตร์ สิ่งที่ Trump พยายามจะทำให้เกิดขึ้นอีกครั้งคือการสร้างจักรวรรดินิยมสหรัฐอเมริกาที่มีการเชื่อมโยงสองมหาสมุทรเป็นแกนกลางตามทฤษฎีสมุททานุภาพ (Sea Power) ซึ่งมีใจความสำคัญคือ 'ประเทศที่จะเป็นมหาอำนาจต้องสามารถควบคุมทะเลและมหาสมุทรได้ ดังนั้นการควบคุม Oceans Gateways ซึ่งเชื่อมสองมหาสมุทรเข้าด้วยกันจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และการจะทำสิ่งนั้นได้ความสำคัญอันดับแรกคือการขยายแสนยานุภาพให้กับกองทัพเรือ'”
    .
    "แนวคิดสมุททานุภาพได้รับการนำเสนอโดยอัลเฟรด ธาเยอร์ มาฮาน (Alfred Thayer Mahan) ผ่านการตีพิมพ์หนังสือ 'The Influence of Sea Power upon History 1660-1783' ในปี 1890 ซึ่งทำให้ Mahan ได้รับการขนานนามว่า 'นักยุทธศาสตร์อเมริกันที่มีความสำคัญมากที่สุดในศตวรรษที่ 19' เพราะในที่สุดทฤษฎีสมุททานุภาพก็กลายเป็นยุทธศาสตร์หลักของวิลเลียม แมกคินลีย์ (William McKinley) ประธานาธิบดีคนที่ 25 ของสหรัฐฯ ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 1897-1901"
    .
    "McKinley คือประธานาธิบดีที่นำพาสหรัฐฯ ขึ้นสู่ความเป็นจักรวรรดินิยมโดยการเข้ายึดครอง และ/หรือรับการส่งมอบดินแดนอาณานิคมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นฮาวาย, กวม, ปวยร์โตรีโก, ฟิลิปปินส์ หรือแม้แต่คิวบา ที่แม้จะได้รับเอกราชจากสเปนแต่ก็ต้องยอมรับสถานะการเป็นดินแดนในอารักขาของสหรัฐฯ"
    .
    "McKinley ถือเป็นบุคคลสำคัญที่วางแนวนโยบายการขยายแสนยานุภาพของกองทัพเรือสหรัฐฯ ขนานใหญ่ การวางตำแหน่งทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างฐานทัพเรือไม่ใช่แค่ตามพรมแดนชายฝั่งสหรัฐฯ เท่านั้น หากแต่เป็นการปักหมุดทั่วทั้งโลก ทั้งยังริเริ่มแนวคิดในการเชื่อมสองฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกสู่มหาสมุทรแอนแลนติกผ่านการขุดคลองปานามา โดยการวางแผนทางการเงินเพื่อจัดสรรเงินทุนมหาศาลสำหรับสหรัฐฯ ในการขยายแสนยานุภาพ และการจ่ายเพื่อสนับสนุนความริเริ่มเหล่านี้ก็ล้วนมาจากการที่ McKinley ใช้นโยบายการค้าแบบปกป้องคุ้มกัน สร้างกำแพงภาษี"
    .
    "นั่นทำให้ McKinley คนนี้กลายเป็นไอดอลหรือบุคคลต้นแบบที่ Trump ได้กล่าวถึงในหลายวาระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสุนทรพจน์หลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งที่เขาชื่นชม McKinley อย่างยิ่งว่าเป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่"
    .
    ปิติ ศรีแสงนาม เปิดมุมมองยุทธศาสตร์ภูมิรัฐศาสตร์โลกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ที่ได้แรงบันดาลใจจากอดีตประธานาธิบดี William McKinley
    .
    อ่านได้ที่ https://www.the101.world/amidst-the-two-oceans-1/
    .
    ภาพประกอบ: พิรุฬพร นามมูลน้อย
    "Trump ได้ประกาศแผนการในการเข้าครอบครองตำแหน่งที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อ 'อ่าวเม็กซิโก' (Gulf of Mexico) เป็น 'อ่าวอเมริกา' (Gulf of America), การประกาศจะเข้ายึดคืนคลองปานามา..., การประกาศจะเข้ายึดครองเกาะกรีนแลนด์ และการเรียกร้องให้ประเทศแคนาดาลดสถานะตนเองลงมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา หรือ แม้แต่การประกาศโครงการส่งนักบินอวกาศสหรัฐฯ ไปปักธงชาติสหรัฐฯ บนดาวอังคาร" . "ในมุมมองทางภูมิรัฐศาสตร์ สิ่งที่ Trump พยายามจะทำให้เกิดขึ้นอีกครั้งคือการสร้างจักรวรรดินิยมสหรัฐอเมริกาที่มีการเชื่อมโยงสองมหาสมุทรเป็นแกนกลางตามทฤษฎีสมุททานุภาพ (Sea Power) ซึ่งมีใจความสำคัญคือ 'ประเทศที่จะเป็นมหาอำนาจต้องสามารถควบคุมทะเลและมหาสมุทรได้ ดังนั้นการควบคุม Oceans Gateways ซึ่งเชื่อมสองมหาสมุทรเข้าด้วยกันจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และการจะทำสิ่งนั้นได้ความสำคัญอันดับแรกคือการขยายแสนยานุภาพให้กับกองทัพเรือ'” . "แนวคิดสมุททานุภาพได้รับการนำเสนอโดยอัลเฟรด ธาเยอร์ มาฮาน (Alfred Thayer Mahan) ผ่านการตีพิมพ์หนังสือ 'The Influence of Sea Power upon History 1660-1783' ในปี 1890 ซึ่งทำให้ Mahan ได้รับการขนานนามว่า 'นักยุทธศาสตร์อเมริกันที่มีความสำคัญมากที่สุดในศตวรรษที่ 19' เพราะในที่สุดทฤษฎีสมุททานุภาพก็กลายเป็นยุทธศาสตร์หลักของวิลเลียม แมกคินลีย์ (William McKinley) ประธานาธิบดีคนที่ 25 ของสหรัฐฯ ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 1897-1901" . "McKinley คือประธานาธิบดีที่นำพาสหรัฐฯ ขึ้นสู่ความเป็นจักรวรรดินิยมโดยการเข้ายึดครอง และ/หรือรับการส่งมอบดินแดนอาณานิคมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นฮาวาย, กวม, ปวยร์โตรีโก, ฟิลิปปินส์ หรือแม้แต่คิวบา ที่แม้จะได้รับเอกราชจากสเปนแต่ก็ต้องยอมรับสถานะการเป็นดินแดนในอารักขาของสหรัฐฯ" . "McKinley ถือเป็นบุคคลสำคัญที่วางแนวนโยบายการขยายแสนยานุภาพของกองทัพเรือสหรัฐฯ ขนานใหญ่ การวางตำแหน่งทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างฐานทัพเรือไม่ใช่แค่ตามพรมแดนชายฝั่งสหรัฐฯ เท่านั้น หากแต่เป็นการปักหมุดทั่วทั้งโลก ทั้งยังริเริ่มแนวคิดในการเชื่อมสองฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกสู่มหาสมุทรแอนแลนติกผ่านการขุดคลองปานามา โดยการวางแผนทางการเงินเพื่อจัดสรรเงินทุนมหาศาลสำหรับสหรัฐฯ ในการขยายแสนยานุภาพ และการจ่ายเพื่อสนับสนุนความริเริ่มเหล่านี้ก็ล้วนมาจากการที่ McKinley ใช้นโยบายการค้าแบบปกป้องคุ้มกัน สร้างกำแพงภาษี" . "นั่นทำให้ McKinley คนนี้กลายเป็นไอดอลหรือบุคคลต้นแบบที่ Trump ได้กล่าวถึงในหลายวาระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสุนทรพจน์หลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งที่เขาชื่นชม McKinley อย่างยิ่งว่าเป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่" . ปิติ ศรีแสงนาม เปิดมุมมองยุทธศาสตร์ภูมิรัฐศาสตร์โลกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ที่ได้แรงบันดาลใจจากอดีตประธานาธิบดี William McKinley . อ่านได้ที่ https://www.the101.world/amidst-the-two-oceans-1/ . ภาพประกอบ: พิรุฬพร นามมูลน้อย
    WWW.THE101.WORLD
    Amidst the Two Oceans ตอนที่ 1: ว่าด้วยบุคคลต้นแบบของ Donald Trump
    ปิติ ศรีแสงนาม เปิดมุมมองยุทธศาสตร์ภูมิรัฐศาสตร์โลกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ที่ได้แรงบันดาลใจจากอดีตประธานาธิบดีคนหนึ่ง
    0 Comments 1 Shares 1031 Views 0 Reviews
  • มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ขู่ดำเนินการกับปานามา หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อลดอิทธิพลของจีนเหนือคลองปานามา อย่างไรก็ตาม ผู้นำของประเทศแห่งนี้ยืนกรานว่าเขาไม่กลัวอเมริกาจะใช้กำลังเข้ายึด และเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าพูดคุยเจรจากัน
    .
    รูบิโอ ซึ่งเดินทางเยือนต่างแดนเป็นครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับปานามา ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สรุปแล้วว่าประเทศแห่งนี้ละเมิดเงื่อนไขในสนธิสัญญา เกี่ยวกับการส่งมอบน่านน้ำสำคัญนี้คืนแก่ปานามาในปี 1999
    .
    เขาชี้ถึงกรณีที่จีนมีอิทธิพลและควบคุมคลองปานามา ทางน้ำสำคัญที่เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเส้นทางการสัญจรผ่านของตู้สินค้าสหรัฐฯ ราว 40%
    .
    แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มาลิโน ทางรูบิโอ "พูดอย่างชัดเจนว่าสถานภาพปัจจุบันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด มันจะจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิของตนเองภายใต้สนธิสัญญา"
    .
    อย่างไรก็ตาม รูบิโอ ให้ภาพการประชุมเลวร้ายน้อยกว่าทางสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้เขาให้การตอบรับ รูบิโอ เขาสู่ทำเนียบประธานาธิบดี ด้วยทหารกองเกียรติยศ
    .
    "ณ เวลานี้ ผมไม่รู้ถึงภัยคุกคามที่เป็นจริงเป็นจังใดๆ ที่มีต่อสนธิสัญญา มันยังอยู่ดี และรู้สึกกังวลน้อยกว่ามากเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารเข้ายึดคลอง" มูลิโน บอกกับผู้สื่อข่าวหลังการพบปะหารือ อ้างถึงสนธิสัญญาส่งมอบคลองในช่วงปลายปี 1999 "อธิปไตยเหนือคลองแห่งนี้ ไม่อยู่ในข้อสงสัยใดๆ" เขากล่าว พร้อมเสนอเจรจาระดับเทคนิคกับสหรัฐฯ เพื่อปัดเป่าความกังวล
    .
    รูบิโอ ไม่ได้บอกว่าสหรัฐฯ จะใช้มาตรการใด แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ทรัมป์ เพิ่งกำหนดมาตรการรีดภาษีสูงลิ่วเล่นงาน 3 คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอเมริกา ได้แก่ แคนาดา จีน และเม็กซิโก
    .
    ทั้ง รูบิโอ และ ทรัมป์ ต่างกล่าวหา จีน มีอิทธิพลอย่างมากเหนือโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบคลอง ที่อาจดำเนินการปิดมันในกรณีที่เกิดความขัดแย้งใดๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบหายนะสำหรับสหรัฐฯ
    .
    มีการประท้วงกลุ่มเล็กๆ แต่เป็นไปอย่างดุเดือดในปานามา ก่อนหน้าการเดินทางเยือนของรูบิโอ กระตุ้นให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา
    .
    พวกผู้ประท้วงเผาหุ่นรูบิโอที่สวมสูทสีแดงขาวน้ำเงิน และชูภาพเขากับทรัมป์ต่อหน้าธงนาซี "รูบิโอ ออกไปจากปานามา" เหล่าผู้ชุมนุมต่างร้องตะโกนตอนที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พบปะกับมูลิโน "นี่คือการส่งสารถึงพวกจักรวรรดินิยม" ซาอูล เมนเดซ ผู้นำสหภาพแรงงานกล่าวถึงรูบิโอ "เราเน้นย้ำว่า ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทรัมป์ ปานามาเป็นประเทศเสรีและมีอำนาจอธิปไตย"
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (31 ม.ค.) ทรัมป์ ระบุว่าการอ้อนข้อเกี่ยวกับคลองยังไม่เพียงพอ และ "มันเป็นเรื่องเหมาะสมที่เราจะเอาคลองคืนมา"
    .
    คลองปานามาถูกสร้างขึ้นโดยสหรัฐฯ ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของแรงงานหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อสายแอฟริกา ที่มาจากบาร์บาดอส จาไมกา และที่อื่นๆ ในแถบแคริบเบียน
    .
    สหรัฐฯ คงไว้ซึ่งการควบคุมคลองปานามา ครั้งที่เปิดทำการในปี 1914 แต่เริ่มเจรจาต่อรอง ตามหลังเหตุจลาจลนองเลือดในปี 1964 โดยผู้ประท้วงชาวปานามา ที่โกรธเคืองกรณีที่ปล่อยให้ต่างชาติควบคุมคลองแห่งนี้
    .
    จิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ตกลงมอบคลองแห่งนี้แก่ปานามาในช่วงปลายปี 1999 โดยอดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับรายนี้มองว่าเป็นสิ่งจำเป็นทางศีลธรรมที่อเมริกาต้องเคารพต่อประเทศที่เล็กกว่าแต่มีอธิปไตยแห่งนี้
    .
    แต่สำหรับ ทรัมป์ เขามีมุมมองที่ต่างออกไป และหันมาใช้แนวทาง "Big Stick" (การใช้ความเข้มแข็งหรือการข่มขู่ในการจัดการกับสถานการณ์ทางการเมืองหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) แบบเดียวกับในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งสหรัฐฯ มักขู่ใช้กำลังในการเปิดทางดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะในละตินอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010779
    ..................
    Sondhi X
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ขู่ดำเนินการกับปานามา หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อลดอิทธิพลของจีนเหนือคลองปานามา อย่างไรก็ตาม ผู้นำของประเทศแห่งนี้ยืนกรานว่าเขาไม่กลัวอเมริกาจะใช้กำลังเข้ายึด และเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าพูดคุยเจรจากัน . รูบิโอ ซึ่งเดินทางเยือนต่างแดนเป็นครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับปานามา ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สรุปแล้วว่าประเทศแห่งนี้ละเมิดเงื่อนไขในสนธิสัญญา เกี่ยวกับการส่งมอบน่านน้ำสำคัญนี้คืนแก่ปานามาในปี 1999 . เขาชี้ถึงกรณีที่จีนมีอิทธิพลและควบคุมคลองปานามา ทางน้ำสำคัญที่เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเส้นทางการสัญจรผ่านของตู้สินค้าสหรัฐฯ ราว 40% . แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มาลิโน ทางรูบิโอ "พูดอย่างชัดเจนว่าสถานภาพปัจจุบันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด มันจะจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิของตนเองภายใต้สนธิสัญญา" . อย่างไรก็ตาม รูบิโอ ให้ภาพการประชุมเลวร้ายน้อยกว่าทางสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้เขาให้การตอบรับ รูบิโอ เขาสู่ทำเนียบประธานาธิบดี ด้วยทหารกองเกียรติยศ . "ณ เวลานี้ ผมไม่รู้ถึงภัยคุกคามที่เป็นจริงเป็นจังใดๆ ที่มีต่อสนธิสัญญา มันยังอยู่ดี และรู้สึกกังวลน้อยกว่ามากเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารเข้ายึดคลอง" มูลิโน บอกกับผู้สื่อข่าวหลังการพบปะหารือ อ้างถึงสนธิสัญญาส่งมอบคลองในช่วงปลายปี 1999 "อธิปไตยเหนือคลองแห่งนี้ ไม่อยู่ในข้อสงสัยใดๆ" เขากล่าว พร้อมเสนอเจรจาระดับเทคนิคกับสหรัฐฯ เพื่อปัดเป่าความกังวล . รูบิโอ ไม่ได้บอกว่าสหรัฐฯ จะใช้มาตรการใด แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ทรัมป์ เพิ่งกำหนดมาตรการรีดภาษีสูงลิ่วเล่นงาน 3 คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอเมริกา ได้แก่ แคนาดา จีน และเม็กซิโก . ทั้ง รูบิโอ และ ทรัมป์ ต่างกล่าวหา จีน มีอิทธิพลอย่างมากเหนือโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบคลอง ที่อาจดำเนินการปิดมันในกรณีที่เกิดความขัดแย้งใดๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบหายนะสำหรับสหรัฐฯ . มีการประท้วงกลุ่มเล็กๆ แต่เป็นไปอย่างดุเดือดในปานามา ก่อนหน้าการเดินทางเยือนของรูบิโอ กระตุ้นให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา . พวกผู้ประท้วงเผาหุ่นรูบิโอที่สวมสูทสีแดงขาวน้ำเงิน และชูภาพเขากับทรัมป์ต่อหน้าธงนาซี "รูบิโอ ออกไปจากปานามา" เหล่าผู้ชุมนุมต่างร้องตะโกนตอนที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พบปะกับมูลิโน "นี่คือการส่งสารถึงพวกจักรวรรดินิยม" ซาอูล เมนเดซ ผู้นำสหภาพแรงงานกล่าวถึงรูบิโอ "เราเน้นย้ำว่า ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทรัมป์ ปานามาเป็นประเทศเสรีและมีอำนาจอธิปไตย" . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (31 ม.ค.) ทรัมป์ ระบุว่าการอ้อนข้อเกี่ยวกับคลองยังไม่เพียงพอ และ "มันเป็นเรื่องเหมาะสมที่เราจะเอาคลองคืนมา" . คลองปานามาถูกสร้างขึ้นโดยสหรัฐฯ ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของแรงงานหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อสายแอฟริกา ที่มาจากบาร์บาดอส จาไมกา และที่อื่นๆ ในแถบแคริบเบียน . สหรัฐฯ คงไว้ซึ่งการควบคุมคลองปานามา ครั้งที่เปิดทำการในปี 1914 แต่เริ่มเจรจาต่อรอง ตามหลังเหตุจลาจลนองเลือดในปี 1964 โดยผู้ประท้วงชาวปานามา ที่โกรธเคืองกรณีที่ปล่อยให้ต่างชาติควบคุมคลองแห่งนี้ . จิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ตกลงมอบคลองแห่งนี้แก่ปานามาในช่วงปลายปี 1999 โดยอดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับรายนี้มองว่าเป็นสิ่งจำเป็นทางศีลธรรมที่อเมริกาต้องเคารพต่อประเทศที่เล็กกว่าแต่มีอธิปไตยแห่งนี้ . แต่สำหรับ ทรัมป์ เขามีมุมมองที่ต่างออกไป และหันมาใช้แนวทาง "Big Stick" (การใช้ความเข้มแข็งหรือการข่มขู่ในการจัดการกับสถานการณ์ทางการเมืองหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) แบบเดียวกับในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งสหรัฐฯ มักขู่ใช้กำลังในการเปิดทางดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะในละตินอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010779 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    9
    0 Comments 0 Shares 1693 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เน้นย้ำข้อเสนอของเขาที่เรียกร้องให้แคนาดา เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา รับปากว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะนำมาซึ่ง "การไม่รีดภาษี" และ ชาวแคนาดา ถูกเรียกเก็บภาษีน้อยลงอย่างมาก แม้แคนาดาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแนวคิดดังกล่าว เน้นย้ำถึงภาระหน้าที่ของประเทศที่มีต่ออำนาจอธิปไตยแห่งชาติ
    .
    ในข้อความที่โพสต์บนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเองเมื่อวันอาทิตย์(2ก.พ.) "เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนแคนาดา แล้วทำไม ถึงจะไม่มีเหตุผล" ทรัมป์ระบุ
    .
    นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ บอกต่อว่าหากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐฯแล้ว เพื่อนบ้านทางเหนือแห่งนี้ก็คงต้องกระเสือกกระสนอย่างหนักในการอยู่รอด และหยิบยกข้อเสนอความเป็นรัฐเป็นทางออก โดยสัญญาว่า "ภาษีจะลดลงอย่างมาก และชาวแคนาดาจะได้รับการปกป้องทางทหารที่ดีกว่าเดิมมาก และไม่มีการรีดภาษี"
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นตามหลังเขาตัดสินใจกำหนดเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก อ้างถึงการลักลอบเข้าเมืองผิดฎหมายและลักลอบขนยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยอมรับว่าประชาชนชาวอเมริกาอาจต้องประสบ "ความเจ็บปวดบ้าง" จากมาตรการเหล่านี้ แต่เน้นย้ำว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ในระยะยาว
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนบ้านทั้ง 2 ชาติของสหรัฐฯ แถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้เช่นกัน โดย จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เตือนว่า "มันจะส่งผลสนองกลับอย่างแท้จริงสำหรับคุณ ประชาชนชาวอเมริกา" บ่งชี้ว่าผลลัพธ์ของการตอบโต้ทางภาษี ก็คือราคาของชำและสินค้าอื่นๆพุ่งสูงขึ้น
    .
    ทรูโด เน้นย้ำคำปฏิเสธข้อเสนอให้แคนาดาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าไม่มีทางเป็นไปได้แม้แต่น้อยที่เรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้น
    .
    ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ หยิบยกเกี่ยวกับการขยายเขตแดนของสหรัฐฯขึ้นมา โดยหลังจากกลับสู่ทำเนียบขาว เขายังได้รื้อฟื้นความพยายามซื้อเกาะกรีนแลนด์และเข้าควบคุมคลองปานามา อ้างถึงความจำเป็นด้านความมั่นคงแห่งชาติ อย่างไรก็ตามข้อเสนอเหล่านี้ก็เจอกับเสียงปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวเช่นกัน จากรัฐบาลปานามาและเดนมาร์ก
    .
    ข้อเสนอที่เรียกร้องให้แคนาดากลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โหมกระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากพวกเจ้าหน้าที่แคนาดาในทั่วทุกขอบเขตทางการเมือง โดย ปิแอร์ พอยลิเยฟร์ หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ เน้นว่า "แคนาดาจะไม่มีวันเป็นรัฐที่ 51 เราเป็นประเทศเอกราชที่ยิ่งใหญ่" ส่วน แจ็กมีต ซิงห์ หัวหน้าพรรคนิวเดโมแครต ปฏิเสธข้อเสนอว่าไร้สาระ และบอกว่าไม่มีชาวแคนาดาคนไหนที่ปรารถนาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ
    .
    ผลสำรวจความคิดเห็นในแคนาดาเมื่อเร็วๆนี้ บ่งชี้ว่าชาวแคนาดาคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความคิดเข้าร่วมกับสหรัฐฯ โดยพบว่ามีชาวแคนาดาแค่ 13% ที่สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว และมีถึง 82% ที่คัดค้าน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010782
    ..................
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เน้นย้ำข้อเสนอของเขาที่เรียกร้องให้แคนาดา เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา รับปากว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะนำมาซึ่ง "การไม่รีดภาษี" และ ชาวแคนาดา ถูกเรียกเก็บภาษีน้อยลงอย่างมาก แม้แคนาดาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแนวคิดดังกล่าว เน้นย้ำถึงภาระหน้าที่ของประเทศที่มีต่ออำนาจอธิปไตยแห่งชาติ . ในข้อความที่โพสต์บนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเองเมื่อวันอาทิตย์(2ก.พ.) "เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนแคนาดา แล้วทำไม ถึงจะไม่มีเหตุผล" ทรัมป์ระบุ . นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ บอกต่อว่าหากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐฯแล้ว เพื่อนบ้านทางเหนือแห่งนี้ก็คงต้องกระเสือกกระสนอย่างหนักในการอยู่รอด และหยิบยกข้อเสนอความเป็นรัฐเป็นทางออก โดยสัญญาว่า "ภาษีจะลดลงอย่างมาก และชาวแคนาดาจะได้รับการปกป้องทางทหารที่ดีกว่าเดิมมาก และไม่มีการรีดภาษี" . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นตามหลังเขาตัดสินใจกำหนดเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก อ้างถึงการลักลอบเข้าเมืองผิดฎหมายและลักลอบขนยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยอมรับว่าประชาชนชาวอเมริกาอาจต้องประสบ "ความเจ็บปวดบ้าง" จากมาตรการเหล่านี้ แต่เน้นย้ำว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ในระยะยาว . ไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนบ้านทั้ง 2 ชาติของสหรัฐฯ แถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้เช่นกัน โดย จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เตือนว่า "มันจะส่งผลสนองกลับอย่างแท้จริงสำหรับคุณ ประชาชนชาวอเมริกา" บ่งชี้ว่าผลลัพธ์ของการตอบโต้ทางภาษี ก็คือราคาของชำและสินค้าอื่นๆพุ่งสูงขึ้น . ทรูโด เน้นย้ำคำปฏิเสธข้อเสนอให้แคนาดาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าไม่มีทางเป็นไปได้แม้แต่น้อยที่เรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้น . ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ หยิบยกเกี่ยวกับการขยายเขตแดนของสหรัฐฯขึ้นมา โดยหลังจากกลับสู่ทำเนียบขาว เขายังได้รื้อฟื้นความพยายามซื้อเกาะกรีนแลนด์และเข้าควบคุมคลองปานามา อ้างถึงความจำเป็นด้านความมั่นคงแห่งชาติ อย่างไรก็ตามข้อเสนอเหล่านี้ก็เจอกับเสียงปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวเช่นกัน จากรัฐบาลปานามาและเดนมาร์ก . ข้อเสนอที่เรียกร้องให้แคนาดากลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โหมกระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากพวกเจ้าหน้าที่แคนาดาในทั่วทุกขอบเขตทางการเมือง โดย ปิแอร์ พอยลิเยฟร์ หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ เน้นว่า "แคนาดาจะไม่มีวันเป็นรัฐที่ 51 เราเป็นประเทศเอกราชที่ยิ่งใหญ่" ส่วน แจ็กมีต ซิงห์ หัวหน้าพรรคนิวเดโมแครต ปฏิเสธข้อเสนอว่าไร้สาระ และบอกว่าไม่มีชาวแคนาดาคนไหนที่ปรารถนาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ . ผลสำรวจความคิดเห็นในแคนาดาเมื่อเร็วๆนี้ บ่งชี้ว่าชาวแคนาดาคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความคิดเข้าร่วมกับสหรัฐฯ โดยพบว่ามีชาวแคนาดาแค่ 13% ที่สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว และมีถึง 82% ที่คัดค้าน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010782 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 Comments 0 Shares 1644 Views 0 Reviews
More Results