• “ศึกชิป AI ระดับโลก! NVIDIA Blackwell Ultra GB300 ปะทะ AMD Instinct MI355X ใน MLPerf v5.1 — เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และร้อนแรงกว่าเดิม”

    ในโลกของ AI ที่แข่งขันกันด้วยความเร็วและประสิทธิภาพ ชิปประมวลผลคือหัวใจของทุกระบบ และในรอบล่าสุดของการทดสอบ MLPerf v5.1 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกสำหรับการวัดประสิทธิภาพการประมวลผล AI — NVIDIA และ AMD ต่างก็ส่งชิปเรือธงของตนเข้าประลองกันแบบไม่มีใครยอมใคร

    NVIDIA เปิดตัว Blackwell Ultra GB300 ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดจาก GB200 โดยสามารถทำความเร็วได้สูงขึ้นถึง 45% ในงาน DeepSeek R1 (Offline) เมื่อใช้ 72 GPU และ 44% เมื่อใช้ 8 GPU ส่วนในโหมด Server ก็ยังเร็วขึ้นถึง 25% และ 21% ตามลำดับ1 ถือเป็นการทำตามสัญญาที่เคยประกาศไว้ว่า Blackwell Ultra จะเร็วขึ้นประมาณ 50%

    ฝั่ง AMD ก็ไม่น้อยหน้า ส่ง Instinct MI355X เข้าร่วมการทดสอบ โดยในงาน Llama 3.1 405B (Offline) พบว่าทำความเร็วได้สูงกว่า GB200 ถึง 27% และในงาน Llama 2 70B (Offline) MI355X สามารถสร้าง token ได้ถึง 648,248 ต่อวินาทีในระบบ 64 ชิป และ 93,045 ในระบบ 8 ชิป — เร็วกว่า GB200 ถึง 2 เท่า

    NVIDIA ยังโชว์พลังของ GB300 ด้วยการทำลายสถิติในหลายหมวด เช่น Stable Diffusion XL, Whisper, Mixtral และ DLRMv2 โดยใช้เทคนิคใหม่อย่าง NVFP4 ซึ่งเป็นฟอร์แมต 4-bit floating point ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับงาน AI reasoning พร้อมระบบเสิร์ฟแบบแยก context และ generation เพื่อเพิ่ม throughput สูงสุด

    การทดสอบครั้งนี้ยังมี Intel Arc Pro B60 เข้าร่วมด้วย แม้จะไม่เร็วเท่าชิประดับ datacenter แต่ก็มีจุดเด่นด้านความคุ้มค่าและการใช้งานในระบบขนาดเล็ก — สะท้อนว่าการแข่งขันไม่ได้มีแค่เรื่องความเร็ว แต่ยังรวมถึงการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง

    ผลการทดสอบ MLPerf v5.1
    GB300 เร็วกว่า GB200 ถึง 45% ใน DeepSeek R1 (Offline) และ 25% ใน Server
    MI355X เร็วกว่า GB200 ถึง 27% ใน Llama 3.1 405B และ 2.09x ใน Llama 2 70B
    GB300 ทำลายสถิติในหลายหมวด เช่น Whisper, Mixtral, DLRMv2 และ Stable Diffusion XL
    ใช้เทคนิค NVFP4 และระบบเสิร์ฟแบบแยก context/generation เพื่อเพิ่ม throughput

    จุดเด่นของ Blackwell Ultra GB300
    มี 1.5x NVFP4 compute และ 2x attention-layer acceleration เมื่อเทียบกับ Blackwell รุ่นก่อน
    ใช้ HBM3e สูงสุด 288GB ต่อ GPU
    ทำความเร็ว reasoning ได้สูงกว่า Hopper ถึง 4.7x ใน Offline และ 5.2x ใน Server1
    ถือครองสถิติ per-GPU ในทุกหมวดของ MLPerf datacenter benchmark

    จุดเด่นของ AMD Instinct MI355X
    ทำ token generation ได้สูงสุด 648,248 ต่อวินาทีในระบบ 64 ชิป
    เร็วกว่า GB200 ถึง 2 เท่าในระบบ 8 ชิป
    เหมาะกับงาน LLM ขนาดใหญ่ เช่น Llama 2 และ Llama 3.1
    มีการปรับปรุงด้าน memory bandwidth และการจัดการพลังงาน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    MLPerf v5.1 มีผู้เข้าร่วมมากถึง 27 ราย และเพิ่ม benchmark ใหม่ 3 รายการ ได้แก่ DeepSeek-R1, Llama 3.1 8B และ Whisper Large V3
    NVIDIA ใช้ TensorRT-LLM และ Model Optimizer เพื่อปรับแต่งโมเดลให้ทำงานกับ NVFP4 ได้อย่างแม่นยำ2 การเสิร์ฟแบบแยก context/generation ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงาน LLM แบบ interactive
    Intel Arc Pro B60 แม้จะช้ากว่า แต่มีจุดเด่นด้านความคุ้มค่าและการใช้งานในระบบขนาดเล็ก

    https://wccftech.com/mlperf-v5-1-ai-inference-benchmark-showdown-nvidia-blackwell-ultra-gb300-amd-instinct-mi355x/
    ⚙️ “ศึกชิป AI ระดับโลก! NVIDIA Blackwell Ultra GB300 ปะทะ AMD Instinct MI355X ใน MLPerf v5.1 — เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และร้อนแรงกว่าเดิม” ในโลกของ AI ที่แข่งขันกันด้วยความเร็วและประสิทธิภาพ ชิปประมวลผลคือหัวใจของทุกระบบ และในรอบล่าสุดของการทดสอบ MLPerf v5.1 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกสำหรับการวัดประสิทธิภาพการประมวลผล AI — NVIDIA และ AMD ต่างก็ส่งชิปเรือธงของตนเข้าประลองกันแบบไม่มีใครยอมใคร NVIDIA เปิดตัว Blackwell Ultra GB300 ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดจาก GB200 โดยสามารถทำความเร็วได้สูงขึ้นถึง 45% ในงาน DeepSeek R1 (Offline) เมื่อใช้ 72 GPU และ 44% เมื่อใช้ 8 GPU ส่วนในโหมด Server ก็ยังเร็วขึ้นถึง 25% และ 21% ตามลำดับ1 ถือเป็นการทำตามสัญญาที่เคยประกาศไว้ว่า Blackwell Ultra จะเร็วขึ้นประมาณ 50% ฝั่ง AMD ก็ไม่น้อยหน้า ส่ง Instinct MI355X เข้าร่วมการทดสอบ โดยในงาน Llama 3.1 405B (Offline) พบว่าทำความเร็วได้สูงกว่า GB200 ถึง 27% และในงาน Llama 2 70B (Offline) MI355X สามารถสร้าง token ได้ถึง 648,248 ต่อวินาทีในระบบ 64 ชิป และ 93,045 ในระบบ 8 ชิป — เร็วกว่า GB200 ถึง 2 เท่า NVIDIA ยังโชว์พลังของ GB300 ด้วยการทำลายสถิติในหลายหมวด เช่น Stable Diffusion XL, Whisper, Mixtral และ DLRMv2 โดยใช้เทคนิคใหม่อย่าง NVFP4 ซึ่งเป็นฟอร์แมต 4-bit floating point ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับงาน AI reasoning พร้อมระบบเสิร์ฟแบบแยก context และ generation เพื่อเพิ่ม throughput สูงสุด การทดสอบครั้งนี้ยังมี Intel Arc Pro B60 เข้าร่วมด้วย แม้จะไม่เร็วเท่าชิประดับ datacenter แต่ก็มีจุดเด่นด้านความคุ้มค่าและการใช้งานในระบบขนาดเล็ก — สะท้อนว่าการแข่งขันไม่ได้มีแค่เรื่องความเร็ว แต่ยังรวมถึงการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ✅ ผลการทดสอบ MLPerf v5.1 ➡️ GB300 เร็วกว่า GB200 ถึง 45% ใน DeepSeek R1 (Offline) และ 25% ใน Server ➡️ MI355X เร็วกว่า GB200 ถึง 27% ใน Llama 3.1 405B และ 2.09x ใน Llama 2 70B ➡️ GB300 ทำลายสถิติในหลายหมวด เช่น Whisper, Mixtral, DLRMv2 และ Stable Diffusion XL ➡️ ใช้เทคนิค NVFP4 และระบบเสิร์ฟแบบแยก context/generation เพื่อเพิ่ม throughput ✅ จุดเด่นของ Blackwell Ultra GB300 ➡️ มี 1.5x NVFP4 compute และ 2x attention-layer acceleration เมื่อเทียบกับ Blackwell รุ่นก่อน ➡️ ใช้ HBM3e สูงสุด 288GB ต่อ GPU ➡️ ทำความเร็ว reasoning ได้สูงกว่า Hopper ถึง 4.7x ใน Offline และ 5.2x ใน Server1 ➡️ ถือครองสถิติ per-GPU ในทุกหมวดของ MLPerf datacenter benchmark ✅ จุดเด่นของ AMD Instinct MI355X ➡️ ทำ token generation ได้สูงสุด 648,248 ต่อวินาทีในระบบ 64 ชิป ➡️ เร็วกว่า GB200 ถึง 2 เท่าในระบบ 8 ชิป ➡️ เหมาะกับงาน LLM ขนาดใหญ่ เช่น Llama 2 และ Llama 3.1 ➡️ มีการปรับปรุงด้าน memory bandwidth และการจัดการพลังงาน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ MLPerf v5.1 มีผู้เข้าร่วมมากถึง 27 ราย และเพิ่ม benchmark ใหม่ 3 รายการ ได้แก่ DeepSeek-R1, Llama 3.1 8B และ Whisper Large V3 ➡️ NVIDIA ใช้ TensorRT-LLM และ Model Optimizer เพื่อปรับแต่งโมเดลให้ทำงานกับ NVFP4 ได้อย่างแม่นยำ2 ➡️ การเสิร์ฟแบบแยก context/generation ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงาน LLM แบบ interactive ➡️ Intel Arc Pro B60 แม้จะช้ากว่า แต่มีจุดเด่นด้านความคุ้มค่าและการใช้งานในระบบขนาดเล็ก https://wccftech.com/mlperf-v5-1-ai-inference-benchmark-showdown-nvidia-blackwell-ultra-gb300-amd-instinct-mi355x/
    WCCFTECH.COM
    MLPerf v5.1 AI Inference Benchmark Showdown: NVIDIA Blackwell Ultra GB300 & AMD Instinct MI355X In The Spotlight
    NVIDIA's Blackwell Ultra GB300 & AMD's Instinct MI355X have finally appeared in the latest MLPerf v3.1 AI inference benchmarks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • “iPhone Air เปิดตัวแล้ว! บางเฉียบ 5.6 มม. พร้อมชิป A19 Pro และกล้อง 48MP ที่ถ่ายได้ 4 ระยะ — เบาเหมือนฝัน แรงเหมือน MacBook”

    ถ้าคุณเคยคิดว่า iPhone จะบางได้แค่ไหน — Apple เพิ่งตอบคำถามนั้นด้วยการเปิดตัว “iPhone Air” รุ่นใหม่ล่าสุดที่บางเพียง 5.6 มิลลิเมตร แต่ยังคงความแรงระดับโปรด้วยชิป A19 Pro และกล้องที่ถ่ายได้ถึง 4 ระยะในตัวเดียว

    iPhone Air มาพร้อมดีไซน์ไทเทเนียมเกรด 5 แบบเงาสะท้อน พร้อม Ceramic Shield 2 ที่แข็งแรงกว่ากระจกสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 3 เท่า ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึง “plateau” กล้องที่ถูกเจาะแบบละเอียดเพื่อเพิ่มพื้นที่แบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ตลอดวัน

    หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับ ProMotion 120Hz และ Always-On Display พร้อมความสว่างสูงสุด 3,000 nits — ใช้งานกลางแดดได้สบาย และยังมี Action Button กับ Camera Control ที่ช่วยให้เรียกใช้งานฟีเจอร์ได้รวดเร็ว

    กล้องหลัง 48MP Fusion สามารถถ่ายภาพได้ 4 ระยะ: 26mm, 28mm, 35mm และ 52mm ด้วยการครอปในเซนเซอร์แบบ AI พร้อมระบบกันสั่น sensor-shift และ Photonic Engine รุ่นใหม่ ส่วนกล้องหน้า Center Stage 18MP ใช้เซนเซอร์แบบสี่เหลี่ยมครั้งแรกใน iPhone ถ่ายวิดีโอ 4K HDR ได้แบบนิ่งสุดๆ และยังสามารถถ่ายพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลังด้วย Dual Capture

    ภายในใช้ชิป A19 Pro ที่มี CPU 6-core และ GPU 5-core พร้อม Neural Accelerator ในทุกคอร์ GPU เพื่อรองรับโมเดล AI แบบ on-device ได้อย่างลื่นไหล รวมถึงชิป N1 สำหรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread และโมเด็ม C1X ที่เร็วกว่าเดิม 2 เท่าแต่ใช้พลังงานน้อยลง 30%

    iPhone Air ใช้ eSIM เท่านั้น เพื่อประหยัดพื้นที่ภายใน และมาพร้อม iOS 26 ที่มี Apple Intelligence สำหรับแปลภาษาแบบเรียลไทม์, ค้นหาข้อมูลจากภาพหน้าจอ และจัดการข้อความแบบอัจฉริยะ

    ดีไซน์และวัสดุ
    บางเพียง 5.6 มม. น้ำหนัก 165 กรัม
    ใช้ไทเทเนียมเกรด 5 พร้อม Ceramic Shield 2 ทั้งหน้าและหลัง
    Plateau กล้องแบบใหม่ช่วยเพิ่มพื้นที่แบตเตอรี่
    มี Action Button และ Camera Control สำหรับเรียกใช้งานเร็ว

    หน้าจอและการแสดงผล
    Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2736x1260
    รองรับ ProMotion 120Hz และ Always-On Display
    ความสว่างสูงสุด 3,000 nits และ contrast 2,000,000:1
    รองรับ HDR, True Tone, และ anti-reflective coating

    กล้องและการถ่ายภาพ
    กล้องหลัง 48MP Fusion รองรับ 4 ระยะ: 26mm, 28mm, 35mm, 52mm
    กล้องหน้า Center Stage 18MP ใช้เซนเซอร์สี่เหลี่ยม
    รองรับ Dual Capture, Focus Control, และ Photographic Styles ใหม่
    ถ่ายวิดีโอ 4K60 Dolby Vision พร้อม Spatial Audio และ Action Mode

    ชิปและประสิทธิภาพ
    A19 Pro: CPU 6-core + GPU 5-core พร้อม Neural Accelerator
    N1: รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6, Thread และปรับปรุง AirDrop/Hotspot
    C1X: โมเด็มเร็วกว่าเดิม 2 เท่า ใช้พลังงานน้อยลง 30%
    รองรับการรันโมเดล AI บนอุปกรณ์แบบไม่ต้องต่อเน็ต

    แบตเตอรี่และการใช้งาน
    ใช้ Adaptive Power Mode ใน iOS 26 เพื่อจัดการพลังงานอัจฉริยะ
    รองรับ MagSafe Battery แบบบางที่เพิ่มเวลาเล่นวิดีโอถึง 40 ชั่วโมง
    รองรับชาร์จเร็ว 30W และชาร์จไร้สาย 20W

    ระบบปฏิบัติการและฟีเจอร์ใหม่
    iOS 26 มาพร้อม Apple Intelligence สำหรับแปลภาษา, ค้นหาจากภาพ, และจัดการข้อความ
    รองรับ Live Translation, Visual Intelligence และ Apple Games
    ใช้ eSIM เท่านั้น รองรับกว่า 500 ผู้ให้บริการทั่วโลก

    ราคาและการวางจำหน่าย
    เริ่มต้นที่ $999 สำหรับรุ่น 256GB
    มีรุ่น 512GB และ 1TB ให้เลือก
    เปิดพรีออเดอร์วันที่ 12 กันยายน และวางขายวันที่ 19 กันยายน

    https://www.apple.com/newsroom/2025/09/introducing-iphone-air-a-powerful-new-iphone-with-a-breakthrough-design/
    📱 “iPhone Air เปิดตัวแล้ว! บางเฉียบ 5.6 มม. พร้อมชิป A19 Pro และกล้อง 48MP ที่ถ่ายได้ 4 ระยะ — เบาเหมือนฝัน แรงเหมือน MacBook” ถ้าคุณเคยคิดว่า iPhone จะบางได้แค่ไหน — Apple เพิ่งตอบคำถามนั้นด้วยการเปิดตัว “iPhone Air” รุ่นใหม่ล่าสุดที่บางเพียง 5.6 มิลลิเมตร แต่ยังคงความแรงระดับโปรด้วยชิป A19 Pro และกล้องที่ถ่ายได้ถึง 4 ระยะในตัวเดียว iPhone Air มาพร้อมดีไซน์ไทเทเนียมเกรด 5 แบบเงาสะท้อน พร้อม Ceramic Shield 2 ที่แข็งแรงกว่ากระจกสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 3 เท่า ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึง “plateau” กล้องที่ถูกเจาะแบบละเอียดเพื่อเพิ่มพื้นที่แบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ตลอดวัน หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับ ProMotion 120Hz และ Always-On Display พร้อมความสว่างสูงสุด 3,000 nits — ใช้งานกลางแดดได้สบาย และยังมี Action Button กับ Camera Control ที่ช่วยให้เรียกใช้งานฟีเจอร์ได้รวดเร็ว กล้องหลัง 48MP Fusion สามารถถ่ายภาพได้ 4 ระยะ: 26mm, 28mm, 35mm และ 52mm ด้วยการครอปในเซนเซอร์แบบ AI พร้อมระบบกันสั่น sensor-shift และ Photonic Engine รุ่นใหม่ ส่วนกล้องหน้า Center Stage 18MP ใช้เซนเซอร์แบบสี่เหลี่ยมครั้งแรกใน iPhone ถ่ายวิดีโอ 4K HDR ได้แบบนิ่งสุดๆ และยังสามารถถ่ายพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลังด้วย Dual Capture ภายในใช้ชิป A19 Pro ที่มี CPU 6-core และ GPU 5-core พร้อม Neural Accelerator ในทุกคอร์ GPU เพื่อรองรับโมเดล AI แบบ on-device ได้อย่างลื่นไหล รวมถึงชิป N1 สำหรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread และโมเด็ม C1X ที่เร็วกว่าเดิม 2 เท่าแต่ใช้พลังงานน้อยลง 30% iPhone Air ใช้ eSIM เท่านั้น เพื่อประหยัดพื้นที่ภายใน และมาพร้อม iOS 26 ที่มี Apple Intelligence สำหรับแปลภาษาแบบเรียลไทม์, ค้นหาข้อมูลจากภาพหน้าจอ และจัดการข้อความแบบอัจฉริยะ ✅ ดีไซน์และวัสดุ ➡️ บางเพียง 5.6 มม. น้ำหนัก 165 กรัม ➡️ ใช้ไทเทเนียมเกรด 5 พร้อม Ceramic Shield 2 ทั้งหน้าและหลัง ➡️ Plateau กล้องแบบใหม่ช่วยเพิ่มพื้นที่แบตเตอรี่ ➡️ มี Action Button และ Camera Control สำหรับเรียกใช้งานเร็ว ✅ หน้าจอและการแสดงผล ➡️ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2736x1260 ➡️ รองรับ ProMotion 120Hz และ Always-On Display ➡️ ความสว่างสูงสุด 3,000 nits และ contrast 2,000,000:1 ➡️ รองรับ HDR, True Tone, และ anti-reflective coating ✅ กล้องและการถ่ายภาพ ➡️ กล้องหลัง 48MP Fusion รองรับ 4 ระยะ: 26mm, 28mm, 35mm, 52mm ➡️ กล้องหน้า Center Stage 18MP ใช้เซนเซอร์สี่เหลี่ยม ➡️ รองรับ Dual Capture, Focus Control, และ Photographic Styles ใหม่ ➡️ ถ่ายวิดีโอ 4K60 Dolby Vision พร้อม Spatial Audio และ Action Mode ✅ ชิปและประสิทธิภาพ ➡️ A19 Pro: CPU 6-core + GPU 5-core พร้อม Neural Accelerator ➡️ N1: รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6, Thread และปรับปรุง AirDrop/Hotspot ➡️ C1X: โมเด็มเร็วกว่าเดิม 2 เท่า ใช้พลังงานน้อยลง 30% ➡️ รองรับการรันโมเดล AI บนอุปกรณ์แบบไม่ต้องต่อเน็ต ✅ แบตเตอรี่และการใช้งาน ➡️ ใช้ Adaptive Power Mode ใน iOS 26 เพื่อจัดการพลังงานอัจฉริยะ ➡️ รองรับ MagSafe Battery แบบบางที่เพิ่มเวลาเล่นวิดีโอถึง 40 ชั่วโมง ➡️ รองรับชาร์จเร็ว 30W และชาร์จไร้สาย 20W ✅ ระบบปฏิบัติการและฟีเจอร์ใหม่ ➡️ iOS 26 มาพร้อม Apple Intelligence สำหรับแปลภาษา, ค้นหาจากภาพ, และจัดการข้อความ ➡️ รองรับ Live Translation, Visual Intelligence และ Apple Games ➡️ ใช้ eSIM เท่านั้น รองรับกว่า 500 ผู้ให้บริการทั่วโลก ✅ ราคาและการวางจำหน่าย ➡️ เริ่มต้นที่ $999 สำหรับรุ่น 256GB ➡️ มีรุ่น 512GB และ 1TB ให้เลือก ➡️ เปิดพรีออเดอร์วันที่ 12 กันยายน และวางขายวันที่ 19 กันยายน https://www.apple.com/newsroom/2025/09/introducing-iphone-air-a-powerful-new-iphone-with-a-breakthrough-design/
    WWW.APPLE.COM
    Introducing iPhone Air, a powerful new iPhone with a breakthrough design
    Apple today debuted the all-new iPhone Air, the thinnest iPhone ever made, with pro performance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำหรับเหล่านักเดินทางที่มีวีซ่าอเมริกาแล้ว ล่องเรือ Norwegian Jade สัมผัสวิวธรรมชาติแบบอลังการ พร้อมบริการระดับโลก เที่ยวครบทั้ง Alaska – Seattle – San Francisco

    แพ็คเกจล่องเรือสำราญ 16 วัน 14 คืน

    เส้นทาง : แวนคูเวอร์ - ซิตก้า - สเกกเวย์ - เคทชิเก้น - ซีแอตเทิล - อาสโทเรีย - ซานฟานซิโก - ซานตาบาร์บารา - ซานดิเอโก

    วันที่ 5 - 20 ต.ค. 68

    ราคาเริ่มต้น : ฿288,900

    ห้องพักบนเรือ 12 คืน
    ที่พักในแวนคูเวอร์ 1 คืน
    ที่พักในซานดิเอโก 1 คืน
    รวมตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ
    พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดทริป

    รหัสแพคเกจทัวร์ : NCLP-JL-16D14N-YVR-SAN-2510051
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e45ebc

    ดูเรือ Norwegian Cruise ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/70dc70

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือNorwegianCruise #เรือNorwegianJade #Norwegiancruiseline #NorwegianJade #Goldengatebridge #Sanfrancisco #Alaska #Ketchikan #Sitka #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain
    สำหรับเหล่านักเดินทางที่มีวีซ่าอเมริกาแล้ว ล่องเรือ Norwegian Jade สัมผัสวิวธรรมชาติแบบอลังการ พร้อมบริการระดับโลก เที่ยวครบทั้ง Alaska – Seattle – San Francisco 🍷🛳️ ❄️ แพ็คเกจล่องเรือสำราญ 16 วัน 14 คืน 📍 เส้นทาง : แวนคูเวอร์ - ซิตก้า - สเกกเวย์ - เคทชิเก้น - ซีแอตเทิล - อาสโทเรีย - ซานฟานซิโก - ซานตาบาร์บารา - ซานดิเอโก 💬 วันที่ 5 - 20 ต.ค. 68 💸 ราคาเริ่มต้น : ฿288,900 ✅ ห้องพักบนเรือ 12 คืน ✅ ที่พักในแวนคูเวอร์ 1 คืน ✅ ที่พักในซานดิเอโก 1 คืน ✅ รวมตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ✅ พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดทริป รหัสแพคเกจทัวร์ : NCLP-JL-16D14N-YVR-SAN-2510051 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e45ebc ดูเรือ Norwegian Cruise ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/70dc70 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือNorwegianCruise #เรือNorwegianJade #Norwegiancruiseline #NorwegianJade #Goldengatebridge #Sanfrancisco #Alaska #Ketchikan #Sitka #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • อินฟลูฯ เขมร หลอกเอาเงินบริจาคได้มากกว่า 280,000 บาท มาผลิตเสื้อเกราะ DIY ไว้แจกทหารเขมร ใช้แผ่นยาง EVA และแผ่นตะกั่ว 13 มิล แต่ผลทดสอบการยิง ทะลุทั้ง 2 นัด จึงจะเพิ่มขนาดตะกั่วเป็น 15 มิล และขอบริจาคเพิ่ม หลอกกันเองแท้ๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    อินฟลูฯ เขมร หลอกเอาเงินบริจาคได้มากกว่า 280,000 บาท มาผลิตเสื้อเกราะ DIY ไว้แจกทหารเขมร ใช้แผ่นยาง EVA และแผ่นตะกั่ว 13 มิล แต่ผลทดสอบการยิง ทะลุทั้ง 2 นัด จึงจะเพิ่มขนาดตะกั่วเป็น 15 มิล และขอบริจาคเพิ่ม หลอกกันเองแท้ๆ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition: พีซีจิ๋วไร้พัดลมที่แรงระดับเวิร์กสเตชัน พร้อม Intel Core Ultra และ RAM 128GB!”

    ลองนึกภาพว่าคุณต้องการคอมพิวเตอร์สำหรับงานธุรกิจหรือวิศวกรรมที่ต้องการความแรงระดับเวิร์กสเตชัน แต่ไม่อยากได้เสียงพัดลมดังรบกวน หรือเครื่องใหญ่เทอะทะ — Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition คือคำตอบที่น่าสนใจมากในปี 2025 นี้

    Cirrus7 เปิดตัวมินิพีซีรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling เต็มรูปแบบ ไม่มีพัดลมเลยแม้แต่ตัวเดียว ตัวเคสถูกออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ที่ช่วยระบายความร้อนจากซีพียูระดับแล็ปท็อปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว

    ภายในใช้เมนบอร์ด Intel NUC 15 Pro พร้อมรองรับซีพียูตั้งแต่ Core 3 100U ไปจนถึงตัวท็อปอย่าง Core Ultra 7 265H ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 5.1GHz และมี iGPU Intel Arc 140T ในตัว รองรับ RAM DDR5-5600 สูงสุดถึง 128GB และ SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุสูงสุด 4TB

    พอร์ตเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Thunderbolt 4 สองช่อง, USB-A 3.2 Gen 2 สามช่อง, HDMI 2.0b สองช่อง, LAN 2.5GbE, Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201 รวมถึงมีตัวเลือกติดตั้ง Linux ฟรี หรือ Windows แบบมีลิขสิทธิ์ พร้อมการรับประกัน 3 ปีที่ขยายได้ถึง 5 ปี

    แม้จะมีรุ่นเริ่มต้นที่ราคา €728 แต่ถ้าคุณเลือกสเปกสูงสุด ราคาจะพุ่งไปถึง €2,796.20 ซึ่งถือว่าแพงไม่น้อยสำหรับมินิพีซี แต่ก็แลกกับความเงียบ ความแรง และดีไซน์ที่ดูเรียบหรูแบบมืออาชีพ

    สเปกของ Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition
    ใช้ Intel NUC 15 Pro motherboard รองรับ CPU ตั้งแต่ Core 3 100U ถึง Core Ultra 7 265H
    RAM รองรับสูงสุด 128GB DDR5-5600
    SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุ 1TB–4TB
    มี iGPU Intel Arc 140T ในตัว

    ระบบระบายความร้อนแบบไร้พัดลม
    เคสออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่
    ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว — ลดเสียงรบกวนและเพิ่มความทนทาน
    มีตัวเลือกเพิ่มจำนวนฟินระบายความร้อน หากใช้สเปกสูง

    พอร์ตและการเชื่อมต่อ
    2x Thunderbolt 4, 3x USB-A 3.2 Gen 2, 1x USB 2.0
    2x HDMI 2.0b, 1x 2.5GbE LAN, IR receiver, Wi-Fi antenna slots
    รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201

    ระบบปฏิบัติการและการรับประกัน
    รองรับ Linux ฟรี เช่น Ubuntu 24/25 LTS และ Mint 22
    รองรับ Windows 11 Home/Pro แบบมีลิขสิทธิ์
    รับประกัน 3 ปี ขยายได้ถึง 5 ปี

    ราคาและตัวเลือก
    รุ่นเริ่มต้น €728 (Core 3 100U + 8GB RAM + 250GB SSD)
    รุ่นสูงสุด €2,796.20 (Core Ultra 7 265H + 128GB RAM + 4TB SSD)
    มีตัวเลือกติดตั้ง VESA mount และซีลกันฝุ่น

    https://www.techradar.com/pro/looking-for-a-silent-mini-pc-the-cirrus7-pairs-an-intel-core-ultra-7-265h-with-a-casing-that-looks-like-a-giant-heatsink-but-it-aint-cheap
    🖥️ “Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition: พีซีจิ๋วไร้พัดลมที่แรงระดับเวิร์กสเตชัน พร้อม Intel Core Ultra และ RAM 128GB!” ลองนึกภาพว่าคุณต้องการคอมพิวเตอร์สำหรับงานธุรกิจหรือวิศวกรรมที่ต้องการความแรงระดับเวิร์กสเตชัน แต่ไม่อยากได้เสียงพัดลมดังรบกวน หรือเครื่องใหญ่เทอะทะ — Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition คือคำตอบที่น่าสนใจมากในปี 2025 นี้ Cirrus7 เปิดตัวมินิพีซีรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling เต็มรูปแบบ ไม่มีพัดลมเลยแม้แต่ตัวเดียว ตัวเคสถูกออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ที่ช่วยระบายความร้อนจากซีพียูระดับแล็ปท็อปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ภายในใช้เมนบอร์ด Intel NUC 15 Pro พร้อมรองรับซีพียูตั้งแต่ Core 3 100U ไปจนถึงตัวท็อปอย่าง Core Ultra 7 265H ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 5.1GHz และมี iGPU Intel Arc 140T ในตัว รองรับ RAM DDR5-5600 สูงสุดถึง 128GB และ SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุสูงสุด 4TB พอร์ตเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Thunderbolt 4 สองช่อง, USB-A 3.2 Gen 2 สามช่อง, HDMI 2.0b สองช่อง, LAN 2.5GbE, Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201 รวมถึงมีตัวเลือกติดตั้ง Linux ฟรี หรือ Windows แบบมีลิขสิทธิ์ พร้อมการรับประกัน 3 ปีที่ขยายได้ถึง 5 ปี แม้จะมีรุ่นเริ่มต้นที่ราคา €728 แต่ถ้าคุณเลือกสเปกสูงสุด ราคาจะพุ่งไปถึง €2,796.20 ซึ่งถือว่าแพงไม่น้อยสำหรับมินิพีซี แต่ก็แลกกับความเงียบ ความแรง และดีไซน์ที่ดูเรียบหรูแบบมืออาชีพ ✅ สเปกของ Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition ➡️ ใช้ Intel NUC 15 Pro motherboard รองรับ CPU ตั้งแต่ Core 3 100U ถึง Core Ultra 7 265H ➡️ RAM รองรับสูงสุด 128GB DDR5-5600 ➡️ SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุ 1TB–4TB ➡️ มี iGPU Intel Arc 140T ในตัว ✅ ระบบระบายความร้อนแบบไร้พัดลม ➡️ เคสออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ ➡️ ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว — ลดเสียงรบกวนและเพิ่มความทนทาน ➡️ มีตัวเลือกเพิ่มจำนวนฟินระบายความร้อน หากใช้สเปกสูง ✅ พอร์ตและการเชื่อมต่อ ➡️ 2x Thunderbolt 4, 3x USB-A 3.2 Gen 2, 1x USB 2.0 ➡️ 2x HDMI 2.0b, 1x 2.5GbE LAN, IR receiver, Wi-Fi antenna slots ➡️ รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201 ✅ ระบบปฏิบัติการและการรับประกัน ➡️ รองรับ Linux ฟรี เช่น Ubuntu 24/25 LTS และ Mint 22 ➡️ รองรับ Windows 11 Home/Pro แบบมีลิขสิทธิ์ ➡️ รับประกัน 3 ปี ขยายได้ถึง 5 ปี ✅ ราคาและตัวเลือก ➡️ รุ่นเริ่มต้น €728 (Core 3 100U + 8GB RAM + 250GB SSD) ➡️ รุ่นสูงสุด €2,796.20 (Core Ultra 7 265H + 128GB RAM + 4TB SSD) ➡️ มีตัวเลือกติดตั้ง VESA mount และซีลกันฝุ่น https://www.techradar.com/pro/looking-for-a-silent-mini-pc-the-cirrus7-pairs-an-intel-core-ultra-7-265h-with-a-casing-that-looks-like-a-giant-heatsink-but-it-aint-cheap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • “SiFive เปิดตัว RISC-V Gen 2 IP — ชิปใหม่ที่รวมพลัง Scalar, Vector และ Matrix เพื่อเร่ง AI ตั้งแต่ IoT จนถึง Data Center!”

    ลองนึกภาพว่าคุณกำลังพัฒนาอุปกรณ์ IoT ที่ต้องการประมวลผล AI แบบเรียลไทม์ หรือคุณเป็นผู้ดูแลระบบในศูนย์ข้อมูลที่ต้องรันโมเดล LLM ขนาดมหึมา — ตอนนี้ SiFive ได้เปิดตัวชุด IP ใหม่ที่อาจเปลี่ยนเกมทั้งหมด ด้วยการรวมพลังการประมวลผลแบบ scalar, vector และ matrix เข้าไว้ในสถาปัตยกรรม RISC-V รุ่นล่าสุด

    SiFive เปิดตัว “2nd Generation Intelligence IP” ซึ่งประกอบด้วย 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ X160 Gen 2, X180 Gen 2, X280 Gen 2, X390 Gen 2 และ XM Gen 2 โดย X160 และ X180 เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมด ส่วนอีกสามรุ่นเป็นการอัปเกรดจากเวอร์ชันก่อนหน้า จุดเด่นคือการรองรับการประมวลผลแบบเวกเตอร์และเมทริกซ์ที่เหมาะกับงาน AI ทุกระดับ ตั้งแต่ edge computing ไปจนถึง data center

    X160 และ X180 ถูกออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์ฝังตัวที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานและพื้นที่ เช่น รถยนต์อัตโนมัติ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และระบบ IoT อัจฉริยะ ส่วน XM Gen 2 มาพร้อม matrix engine ที่ปรับขนาดได้ เหมาะกับงาน inference โมเดลขนาดใหญ่ เช่น LLM และ AI ด้านภาพ

    ทุก IP ในซีรีส์นี้สามารถทำหน้าที่เป็น Accelerator Control Unit (ACU) เพื่อควบคุม accelerator ภายนอกผ่านอินเทอร์เฟซ SSCI และ VCIX ซึ่งช่วยลดภาระของซอฟต์แวร์และเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลแบบขนาน

    SiFive ยังชี้ว่า vector engine มีข้อได้เปรียบเหนือ CPU แบบ scalar โดยสามารถประมวลผลข้อมูลหลายชุดพร้อมกัน ลด overhead และใช้พลังงานน้อยลง — เหมาะกับงาน AI ที่ต้องการความเร็วและประสิทธิภาพในพื้นที่จำกัด

    การเปิดตัว IP ใหม่ของ SiFive
    เปิดตัว 5 ผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Gen 2: X160, X180, X280, X390 และ XM
    X160 และ X180 เป็นรุ่นใหม่สำหรับ edge และ IoT
    X280, X390 และ XM เป็นรุ่นอัปเกรดจากเวอร์ชันก่อน
    รองรับ scalar, vector และ matrix compute ในสถาปัตยกรรมเดียว

    จุดเด่นด้านเทคโนโลยี
    XM Gen 2 มี matrix engine ที่ปรับขนาดได้ รองรับงาน AI ขนาดใหญ่
    Vector engine ลด overhead และใช้พลังงานน้อยกว่าการประมวลผลแบบ scalar
    รองรับ datatype ใหม่ เช่น BF16 และ vector crypto extensions
    มี memory subsystem ที่ลด latency และเพิ่ม throughput

    การใช้งานในโลกจริง
    X160 และ X180 เหมาะกับรถยนต์อัตโนมัติ, หุ่นยนต์, IoT อัจฉริยะ
    X390 Gen 2 รองรับ 4-core cache-coherent complex และ bandwidth สูงถึง 1 TB/s
    ทุก IP สามารถทำหน้าที่เป็น ACU เพื่อควบคุม accelerator ภายนอก
    ใช้ SSCI และ VCIX interface เพื่อเชื่อมต่อกับ co-processor

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Deloitte คาดการณ์ว่า edge AI จะเติบโตถึง 78% ในปีนี้
    SiFive ได้รับการยอมรับจากบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ Tier 1 ในสหรัฐฯ
    IP ทั้งหมดพร้อมให้ license แล้ว และจะมี silicon ตัวแรกใน Q2 2026
    SiFive จะโชว์ผลิตภัณฑ์ในงาน AI Infra Summit ที่ Santa Clara

    คำเตือนสำหรับผู้พัฒนาและองค์กร
    IP เหล่านี้ยังอยู่ในช่วง pre-silicon — ประสิทธิภาพจริงต้องรอการพิสูจน์
    การใช้งาน matrix engine ต้องมีการออกแบบซอฟต์แวร์ที่รองรับโดยเฉพาะ
    การเชื่อมต่อกับ accelerator ภายนอกต้องใช้ interface เฉพาะ SSCI/VCIX
    หากใช้ในระบบที่ไม่รองรับ vector หรือ matrix compute อาจไม่เห็นประโยชน์เต็มที่
    การนำไปใช้ใน edge device ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดด้านพลังงานและความร้อน

    https://www.techpowerup.com/340788/sifives-new-risc-v-ip-combines-scalar-vector-and-matrix-compute-to-accelerate-ai-from-the-far-edge-iot-to-the-data-center
    🧠 “SiFive เปิดตัว RISC-V Gen 2 IP — ชิปใหม่ที่รวมพลัง Scalar, Vector และ Matrix เพื่อเร่ง AI ตั้งแต่ IoT จนถึง Data Center!” ลองนึกภาพว่าคุณกำลังพัฒนาอุปกรณ์ IoT ที่ต้องการประมวลผล AI แบบเรียลไทม์ หรือคุณเป็นผู้ดูแลระบบในศูนย์ข้อมูลที่ต้องรันโมเดล LLM ขนาดมหึมา — ตอนนี้ SiFive ได้เปิดตัวชุด IP ใหม่ที่อาจเปลี่ยนเกมทั้งหมด ด้วยการรวมพลังการประมวลผลแบบ scalar, vector และ matrix เข้าไว้ในสถาปัตยกรรม RISC-V รุ่นล่าสุด SiFive เปิดตัว “2nd Generation Intelligence IP” ซึ่งประกอบด้วย 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ X160 Gen 2, X180 Gen 2, X280 Gen 2, X390 Gen 2 และ XM Gen 2 โดย X160 และ X180 เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมด ส่วนอีกสามรุ่นเป็นการอัปเกรดจากเวอร์ชันก่อนหน้า จุดเด่นคือการรองรับการประมวลผลแบบเวกเตอร์และเมทริกซ์ที่เหมาะกับงาน AI ทุกระดับ ตั้งแต่ edge computing ไปจนถึง data center X160 และ X180 ถูกออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์ฝังตัวที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานและพื้นที่ เช่น รถยนต์อัตโนมัติ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และระบบ IoT อัจฉริยะ ส่วน XM Gen 2 มาพร้อม matrix engine ที่ปรับขนาดได้ เหมาะกับงาน inference โมเดลขนาดใหญ่ เช่น LLM และ AI ด้านภาพ ทุก IP ในซีรีส์นี้สามารถทำหน้าที่เป็น Accelerator Control Unit (ACU) เพื่อควบคุม accelerator ภายนอกผ่านอินเทอร์เฟซ SSCI และ VCIX ซึ่งช่วยลดภาระของซอฟต์แวร์และเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลแบบขนาน SiFive ยังชี้ว่า vector engine มีข้อได้เปรียบเหนือ CPU แบบ scalar โดยสามารถประมวลผลข้อมูลหลายชุดพร้อมกัน ลด overhead และใช้พลังงานน้อยลง — เหมาะกับงาน AI ที่ต้องการความเร็วและประสิทธิภาพในพื้นที่จำกัด ✅ การเปิดตัว IP ใหม่ของ SiFive ➡️ เปิดตัว 5 ผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Gen 2: X160, X180, X280, X390 และ XM ➡️ X160 และ X180 เป็นรุ่นใหม่สำหรับ edge และ IoT ➡️ X280, X390 และ XM เป็นรุ่นอัปเกรดจากเวอร์ชันก่อน ➡️ รองรับ scalar, vector และ matrix compute ในสถาปัตยกรรมเดียว ✅ จุดเด่นด้านเทคโนโลยี ➡️ XM Gen 2 มี matrix engine ที่ปรับขนาดได้ รองรับงาน AI ขนาดใหญ่ ➡️ Vector engine ลด overhead และใช้พลังงานน้อยกว่าการประมวลผลแบบ scalar ➡️ รองรับ datatype ใหม่ เช่น BF16 และ vector crypto extensions ➡️ มี memory subsystem ที่ลด latency และเพิ่ม throughput ✅ การใช้งานในโลกจริง ➡️ X160 และ X180 เหมาะกับรถยนต์อัตโนมัติ, หุ่นยนต์, IoT อัจฉริยะ ➡️ X390 Gen 2 รองรับ 4-core cache-coherent complex และ bandwidth สูงถึง 1 TB/s ➡️ ทุก IP สามารถทำหน้าที่เป็น ACU เพื่อควบคุม accelerator ภายนอก ➡️ ใช้ SSCI และ VCIX interface เพื่อเชื่อมต่อกับ co-processor ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Deloitte คาดการณ์ว่า edge AI จะเติบโตถึง 78% ในปีนี้ ➡️ SiFive ได้รับการยอมรับจากบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ Tier 1 ในสหรัฐฯ ➡️ IP ทั้งหมดพร้อมให้ license แล้ว และจะมี silicon ตัวแรกใน Q2 2026 ➡️ SiFive จะโชว์ผลิตภัณฑ์ในงาน AI Infra Summit ที่ Santa Clara ‼️ คำเตือนสำหรับผู้พัฒนาและองค์กร ⛔ IP เหล่านี้ยังอยู่ในช่วง pre-silicon — ประสิทธิภาพจริงต้องรอการพิสูจน์ ⛔ การใช้งาน matrix engine ต้องมีการออกแบบซอฟต์แวร์ที่รองรับโดยเฉพาะ ⛔ การเชื่อมต่อกับ accelerator ภายนอกต้องใช้ interface เฉพาะ SSCI/VCIX ⛔ หากใช้ในระบบที่ไม่รองรับ vector หรือ matrix compute อาจไม่เห็นประโยชน์เต็มที่ ⛔ การนำไปใช้ใน edge device ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดด้านพลังงานและความร้อน https://www.techpowerup.com/340788/sifives-new-risc-v-ip-combines-scalar-vector-and-matrix-compute-to-accelerate-ai-from-the-far-edge-iot-to-the-data-center
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    SiFive's New RISC-V IP Combines Scalar, Vector and Matrix Compute to Accelerate AI from the Far Edge IoT to the Data Center
    Further expanding SiFive's lead in RISC-V AI IP, the company today launched its 2nd Generation Intelligence family, featuring five new RISC-V-based products designed to accelerate AI workloads across thousands of potential applications. The lineup includes two entirely new products—the X160 Gen 2 an...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • “RTX 5090 โมดิฟาย 128GB VRAM ราคา $13,000! GPU สุดลิมิเต็ดที่เกิดจากตลาดมืด AI ในจีน”

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังสร้างโมเดล AI ขนาดใหญ่ หรือฝึก LLM บนเครื่องส่วนตัว แล้วพบว่าแม้ RTX 4090 ที่มี VRAM 24GB ก็ยังไม่พอ…ตอนนี้มี GPU ที่อาจตอบโจทย์คุณ — RTX 5090 ที่ถูกโมดิฟายให้มี VRAM ถึง 128GB! แต่ราคาก็แรงตามไปด้วยที่ $13,200 ต่อใบ และยังเป็น “โปรโตไทป์สุดลับ” ที่ผลิตจากโรงงานใต้ดินในจีน

    โดยปกติ RTX 5090 มาพร้อม VRAM 32GB GDDR7 ซึ่งถือว่าเยอะมากแล้วสำหรับงานเกม แต่สำหรับงาน AI ที่ต้องใช้หน่วยความจำมหาศาล เช่นการรันโมเดล GPT หรือ Stable Diffusion แบบ local — ก็ยังไม่พออยู่ดี

    โรงงานในจีนจึงเริ่มนำ GPU รุ่นท็อปมาดัดแปลงใหม่ โดยถอดชิปออกจากการ์ดเกม แล้วติดตั้งลงบน PCB แบบ custom ที่รองรับการใส่แรมสองด้าน (dual-sided) พร้อมใช้ GDDR7X ที่ยังไม่วางจำหน่ายทั่วไป และต้องเขียน BIOS กับ firmware ใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ระบบรู้จัก VRAM ขนาดมหึมา

    ก่อนหน้านี้เคยมี RTX 4090 ที่ถูกโมดิฟายให้มี VRAM 96GB ซึ่งถือว่าแปลกมากแล้ว แต่ครั้งนี้คือการก้าวข้ามขีดจำกัดไปอีกขั้น โดยใช้เทคนิคที่อาจต้องใช้ชิป GDDR7 ขนาด 32Gb ซึ่งยังไม่มีผู้ผลิตรายใดประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ

    แม้จะยังไม่มีภาพ PCB ชัดเจน แต่มีการโพสต์ภาพจาก Nvidia-SMI ที่แสดงให้เห็นว่า VRAM 128GB ถูกระบบตรวจจับจริง — แปลว่ามันใช้งานได้ ไม่ใช่แค่แนวคิด และมีราคาขายจริงในตลาดมืด AI ที่กำลังเฟื่องฟูในจีน

    การ์ดจอ RTX 5090 โมดิฟาย
    เพิ่ม VRAM จาก 32GB เป็น 128GB ด้วยการใช้ PCB แบบสองด้าน
    ใช้ GDDR7X ที่ยังไม่วางจำหน่ายทั่วไป
    ต้องเขียน BIOS และ firmware ใหม่เพื่อให้ระบบรู้จักหน่วยความจำ
    มีภาพจาก Nvidia-SMI แสดงว่า VRAM ถูกตรวจจับครบ 128GB
    ราคาขายประมาณ $13,200 ต่อใบ สูงกว่ารุ่นปกติถึง 4 เท่า

    บริบทของตลาด GPU ในจีน
    จีนถูกจำกัดการนำเข้า GPU ระดับสูงจากสหรัฐฯ
    เกิดตลาดมืดที่นำการ์ดเกมมาดัดแปลงเป็น GPU สำหรับงาน AI
    เคยมี RTX 4090 โมดิฟายเป็น 96GB และ 48GB เพื่อใช้ในเซิร์ฟเวอร์
    การ์ดเหล่านี้มักถูกขายต่อในตลาดมือสองโดยไม่มีข้อมูลชัดเจน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    GDDR7 ที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้มีความจุสูงสุด 24Gb (3GB ต่อโมดูล)
    การจะได้ 128GB ต้องใช้โมดูล 32Gb หรือ PCB ที่ใส่แรมจำนวนมากผิดปกติ
    RTX Pro 6000 ที่เป็นรุ่น workstation ยังมีแค่ 96GB VRAM
    การ์ดที่มี VRAM สูงเหมาะกับงาน AI มากกว่างานเกม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/upgraded-nvidia-rtx-5090-gets-128gb-vram-and-usd13-000-price-tag-super-limited-gpu-is-described-as-a-prototype
    💸 “RTX 5090 โมดิฟาย 128GB VRAM ราคา $13,000! GPU สุดลิมิเต็ดที่เกิดจากตลาดมืด AI ในจีน” ลองจินตนาการว่าคุณกำลังสร้างโมเดล AI ขนาดใหญ่ หรือฝึก LLM บนเครื่องส่วนตัว แล้วพบว่าแม้ RTX 4090 ที่มี VRAM 24GB ก็ยังไม่พอ…ตอนนี้มี GPU ที่อาจตอบโจทย์คุณ — RTX 5090 ที่ถูกโมดิฟายให้มี VRAM ถึง 128GB! แต่ราคาก็แรงตามไปด้วยที่ $13,200 ต่อใบ และยังเป็น “โปรโตไทป์สุดลับ” ที่ผลิตจากโรงงานใต้ดินในจีน โดยปกติ RTX 5090 มาพร้อม VRAM 32GB GDDR7 ซึ่งถือว่าเยอะมากแล้วสำหรับงานเกม แต่สำหรับงาน AI ที่ต้องใช้หน่วยความจำมหาศาล เช่นการรันโมเดล GPT หรือ Stable Diffusion แบบ local — ก็ยังไม่พออยู่ดี โรงงานในจีนจึงเริ่มนำ GPU รุ่นท็อปมาดัดแปลงใหม่ โดยถอดชิปออกจากการ์ดเกม แล้วติดตั้งลงบน PCB แบบ custom ที่รองรับการใส่แรมสองด้าน (dual-sided) พร้อมใช้ GDDR7X ที่ยังไม่วางจำหน่ายทั่วไป และต้องเขียน BIOS กับ firmware ใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ระบบรู้จัก VRAM ขนาดมหึมา ก่อนหน้านี้เคยมี RTX 4090 ที่ถูกโมดิฟายให้มี VRAM 96GB ซึ่งถือว่าแปลกมากแล้ว แต่ครั้งนี้คือการก้าวข้ามขีดจำกัดไปอีกขั้น โดยใช้เทคนิคที่อาจต้องใช้ชิป GDDR7 ขนาด 32Gb ซึ่งยังไม่มีผู้ผลิตรายใดประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แม้จะยังไม่มีภาพ PCB ชัดเจน แต่มีการโพสต์ภาพจาก Nvidia-SMI ที่แสดงให้เห็นว่า VRAM 128GB ถูกระบบตรวจจับจริง — แปลว่ามันใช้งานได้ ไม่ใช่แค่แนวคิด และมีราคาขายจริงในตลาดมืด AI ที่กำลังเฟื่องฟูในจีน ✅ การ์ดจอ RTX 5090 โมดิฟาย ➡️ เพิ่ม VRAM จาก 32GB เป็น 128GB ด้วยการใช้ PCB แบบสองด้าน ➡️ ใช้ GDDR7X ที่ยังไม่วางจำหน่ายทั่วไป ➡️ ต้องเขียน BIOS และ firmware ใหม่เพื่อให้ระบบรู้จักหน่วยความจำ ➡️ มีภาพจาก Nvidia-SMI แสดงว่า VRAM ถูกตรวจจับครบ 128GB ➡️ ราคาขายประมาณ $13,200 ต่อใบ สูงกว่ารุ่นปกติถึง 4 เท่า ✅ บริบทของตลาด GPU ในจีน ➡️ จีนถูกจำกัดการนำเข้า GPU ระดับสูงจากสหรัฐฯ ➡️ เกิดตลาดมืดที่นำการ์ดเกมมาดัดแปลงเป็น GPU สำหรับงาน AI ➡️ เคยมี RTX 4090 โมดิฟายเป็น 96GB และ 48GB เพื่อใช้ในเซิร์ฟเวอร์ ➡️ การ์ดเหล่านี้มักถูกขายต่อในตลาดมือสองโดยไม่มีข้อมูลชัดเจน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ GDDR7 ที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้มีความจุสูงสุด 24Gb (3GB ต่อโมดูล) ➡️ การจะได้ 128GB ต้องใช้โมดูล 32Gb หรือ PCB ที่ใส่แรมจำนวนมากผิดปกติ ➡️ RTX Pro 6000 ที่เป็นรุ่น workstation ยังมีแค่ 96GB VRAM ➡️ การ์ดที่มี VRAM สูงเหมาะกับงาน AI มากกว่างานเกม https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/upgraded-nvidia-rtx-5090-gets-128gb-vram-and-usd13-000-price-tag-super-limited-gpu-is-described-as-a-prototype
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความรู้ที่ถึงขั้นทำลายตัณหาแห่งกามคุณในอดีต
    สัทธรรมลำดับที่ : 372
    ชื่อบทธรรม :- ความรู้ที่ถึงขั้นทำลายตัณหาแห่งกามคุณในอดีต
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=372
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความรู้ที่ถึงขั้นทำลายตัณหาแห่งกามคุณในอดีต
    --มาคัณฑิยะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร :
    คนบางคนในโลกนี้ เคยได้รับการบำรุงบำเรอด้วยรูปทางตา
    อันเป็นรูปที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก
    เป็นที่เข้าไปอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มาแล้ว ;
    ครั้นสมัยอื่นอีก #เขามารู้แจ้งตามที่เป็นจริงซึ่งความเกิดความดับ
    รสอร่อย โทษต่ำทรามและอุบายเครื่องออก
    http://etipitaka.com/read/pali/13/273/?keywords=อสฺสาทญฺจ+อาทีนวญฺจ+นิสฺสรณญฺจ
    แห่งรูปทั้งหลาย นั่นเทียว
    แล้วละเสียซึ่งตัณหาในรูป
    บรรเทาเสียซึ่งความเร่าร้อนในรูป
    ปราศจากความกระหาย เป็นผู้มีจิตสงบแล้วในภายใน อยู่.
    --มาคัณฑิยะ ! ท่านมีอะไรที่จะกล่าวปรารภบุคคลคนนี้บ้างไหม ?
    “ไม่มีเลย พระเจ้าข้า !”

    (ต่อไปนี้ ได้มีการถาม-ตอบ ในกรณีแห่ง
    เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
    โดยทำนอง เดียวกัน).-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม. ม. 13/211/280.
    http://etipitaka.com/read/thai/13/211/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม. ม. ๑๓/๒๗๓/๒๘๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/273/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=372
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=372
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความรู้ที่ถึงขั้นทำลายตัณหาแห่งกามคุณในอดีต สัทธรรมลำดับที่ : 372 ชื่อบทธรรม :- ความรู้ที่ถึงขั้นทำลายตัณหาแห่งกามคุณในอดีต https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=372 เนื้อความทั้งหมด :- --ความรู้ที่ถึงขั้นทำลายตัณหาแห่งกามคุณในอดีต --มาคัณฑิยะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : คนบางคนในโลกนี้ เคยได้รับการบำรุงบำเรอด้วยรูปทางตา อันเป็นรูปที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มาแล้ว ; ครั้นสมัยอื่นอีก #เขามารู้แจ้งตามที่เป็นจริงซึ่งความเกิดความดับ รสอร่อย โทษต่ำทรามและอุบายเครื่องออก http://etipitaka.com/read/pali/13/273/?keywords=อสฺสาทญฺจ+อาทีนวญฺจ+นิสฺสรณญฺจ แห่งรูปทั้งหลาย นั่นเทียว แล้วละเสียซึ่งตัณหาในรูป บรรเทาเสียซึ่งความเร่าร้อนในรูป ปราศจากความกระหาย เป็นผู้มีจิตสงบแล้วในภายใน อยู่. --มาคัณฑิยะ ! ท่านมีอะไรที่จะกล่าวปรารภบุคคลคนนี้บ้างไหม ? “ไม่มีเลย พระเจ้าข้า !” (ต่อไปนี้ ได้มีการถาม-ตอบ ในกรณีแห่ง เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ โดยทำนอง เดียวกัน).- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม. ม. 13/211/280. http://etipitaka.com/read/thai/13/211/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม. ม. ๑๓/๒๗๓/๒๘๐. http://etipitaka.com/read/pali/13/273/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=372 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=372 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความรู้ที่ถึงขั้นทำลายตัณหาแห่งกามคุณในอดีต
    -ความรู้ที่ถึงขั้นทำลายตัณหาแห่งกามคุณในอดีต มาคัณฑิยะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : คนบางคนในโลกนี้ เคยได้รับการบำรุงบำเรอด้วยรูปทางตา อันเป็นรูปที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มาแล้ว ; ครั้นสมัยอื่นอีก เขามารู้แจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่งความเกิด ความดับ รสอร่อย โทษต่ำทราม และอุบายเครื่องออก แห่งรูปทั้งหลาย นั่นเทียว แล้วละเสียซึ่งตัณหาในรูป บรรเทาเสียซึ่งความเร่าร้อนในรูป ปราศจากความกระหาย เป็นผู้มีจิตสงบแล้วในภายใน อยู่. มาคัณฑิยะ ! ท่านมีอะไรที่จะกล่าวปรารภบุคคลคนนี้บ้างไหม ? “ไม่มีเลย พระเจ้าข้า !” (ต่อไปนี้ ได้มีการถาม-ตอบ ในกรณีแห่งเสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ โดยทำนอง เดียวกัน).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญรุ่น1 พระครูนิวิฐสารคุณ หลวงพ่อยิ่ง วัดราษฎร์ศรัทธา จ.ชลบุรี ปี2528
    เหรียญรุ่น1 พระครูนิวิฐสารคุณ (หลวงพ่อยิ่ง) วัดราษฎร์ศรัทธา อ.เมือง จ.ชลบุรี ปี2528 // //พระดีพิธีขลัง!! //พระสถาพสวยมาก สวยแชมป ์โลก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด >>

    ** วัดราษฎร์ศรัทธา หรือ วัดท้ายดอน จังหวัดชลบุรี วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่อายุไม่ต่ำกว่า​ 130 ปี​ มีอุโบสถ​เก่าภายในมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ที่พระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งใต้โบสถ์ ผู้มาสักการะสามารถลอดผ่านใต้โบสถ์ที่พระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ เพื่อความเป็นสิริมงคล​ ยังมีพระอรหันตธาตุของพระอริยสงฆ์หลายพระองค์ให้กราบสักการะ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญรุ่น1 พระครูนิวิฐสารคุณ หลวงพ่อยิ่ง วัดราษฎร์ศรัทธา จ.ชลบุรี ปี2528 เหรียญรุ่น1 พระครูนิวิฐสารคุณ (หลวงพ่อยิ่ง) วัดราษฎร์ศรัทธา อ.เมือง จ.ชลบุรี ปี2528 // //พระดีพิธีขลัง!! //พระสถาพสวยมาก สวยแชมป ์โลก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด >> ** วัดราษฎร์ศรัทธา หรือ วัดท้ายดอน จังหวัดชลบุรี วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่อายุไม่ต่ำกว่า​ 130 ปี​ มีอุโบสถ​เก่าภายในมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ที่พระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งใต้โบสถ์ ผู้มาสักการะสามารถลอดผ่านใต้โบสถ์ที่พระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ เพื่อความเป็นสิริมงคล​ ยังมีพระอรหันตธาตุของพระอริยสงฆ์หลายพระองค์ให้กราบสักการะ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโน้ตบุ๊กธรรมดาถึง MAX16: เมื่อผู้ผลิตจีนกล้าทำสิ่งที่แบรนด์ใหญ่ยังไม่กล้าขาย

    ผู้ผลิตจากจีนเปิดตัวแล็ปท็อปสามจอรุ่นใหม่ที่มีชื่อเรียกไม่แน่นอน—บางแห่งเรียกว่า MAX16 บางแห่งไม่มีชื่อเลย—โดยวางขายผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Aliexpress และ Alibaba ด้วยราคาที่เริ่มต้นเพียง $700 สำหรับรุ่น Core i7-1260P และสูงสุดประมาณ $1,200 สำหรับรุ่น Core i7-1270P

    ตัวเครื่องประกอบด้วยหน้าจอหลักขนาด 16 นิ้ว และจอเสริมสองข้างขนาด 10.5 นิ้ว ซึ่งพับเก็บได้ผ่านบานพับแบบฝัง ทำให้เมื่อกางออกจะได้พื้นที่ใช้งานเทียบเท่าจอขนาด 29.5 นิ้ว เหมาะกับงานที่ต้องเปิดหลายหน้าต่างพร้อมกัน เช่น coding, data analysis หรือการเทรดหุ้น

    แม้จะดูใหญ่ แต่ขนาดเมื่อพับเก็บอยู่ที่ 374 × 261 × 28 มม. และน้ำหนัก 2.6 กก.—หนักกว่าคอมทั่วไป แต่เบากว่าการพกโน้ตบุ๊กพร้อมจอเสริมสองตัว

    สเปกภายในถือว่า “กลาง ๆ” โดยใช้ Intel Core i7 Gen 12 (P-series), RAM DDR4 สูงสุด 64GB, SSD PCIe 4.0 และแบตเตอรี่ 77Wh พร้อมพอร์ตครบครัน เช่น USB-A, USB-C, HDMI, LAN และช่องหูฟัง 3.5 มม.

    จุดที่น่าสนใจคือมีการระบุว่า “รองรับ eGPU” แต่ไม่มีพอร์ต Thunderbolt, USB4 หรือ OCuLink ทำให้การใช้งานจริงอาจต้องใช้ dock ผ่าน M.2 slot ซึ่งไม่สะดวกและอาจไม่เสถียรนัก

    นอกจากนี้ยังมีความคลุมเครือในข้อมูล เช่น บางหน้าระบุว่าใช้ Wi-Fi 6 แต่บางแห่งไม่ระบุเลย และชื่อรุ่นก็ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ซื้ออาจต้องเสี่ยงกับความไม่แน่นอนของสินค้า

    สเปกและการออกแบบของแล็ปท็อปสามจอ
    หน้าจอหลัก 16 นิ้ว + จอเสริม 10.5 นิ้ว × 2 = พื้นที่ใช้งาน 29.5 นิ้ว
    ขนาดเมื่อพับ 374 × 261 × 28 มม. น้ำหนัก 2.6 กก.
    ใช้ Intel Core i7-1260P หรือ i7-1270P, RAM DDR4 สูงสุด 64GB

    ฟีเจอร์และการใช้งาน
    รองรับ PCIe 4.0 SSD ผ่าน M.2 2280 slot
    แบตเตอรี่ 77Wh ใช้งานได้ประมาณ 8 ชั่วโมง
    มีพอร์ต USB-A × 3, USB-C × 1, HDMI, LAN, ช่องหูฟัง และ fingerprint scanner

    ความน่าสนใจด้านราคา
    เริ่มต้นที่ $700 สำหรับรุ่น i7-1260P
    รุ่นสูงสุด i7-1270P อยู่ที่ประมาณ $1,200
    ถือว่าราคาถูกมากเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กที่มีจอเสริมในตัว

    https://www.techradar.com/pro/crazy-laptop-manufacturer-designed-the-best-3-screen-notebook-ever-and-it-is-far-cheaper-than-youd-expect-i-want-one
    🎙️ เรื่องเล่าจากโน้ตบุ๊กธรรมดาถึง MAX16: เมื่อผู้ผลิตจีนกล้าทำสิ่งที่แบรนด์ใหญ่ยังไม่กล้าขาย ผู้ผลิตจากจีนเปิดตัวแล็ปท็อปสามจอรุ่นใหม่ที่มีชื่อเรียกไม่แน่นอน—บางแห่งเรียกว่า MAX16 บางแห่งไม่มีชื่อเลย—โดยวางขายผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Aliexpress และ Alibaba ด้วยราคาที่เริ่มต้นเพียง $700 สำหรับรุ่น Core i7-1260P และสูงสุดประมาณ $1,200 สำหรับรุ่น Core i7-1270P ตัวเครื่องประกอบด้วยหน้าจอหลักขนาด 16 นิ้ว และจอเสริมสองข้างขนาด 10.5 นิ้ว ซึ่งพับเก็บได้ผ่านบานพับแบบฝัง ทำให้เมื่อกางออกจะได้พื้นที่ใช้งานเทียบเท่าจอขนาด 29.5 นิ้ว เหมาะกับงานที่ต้องเปิดหลายหน้าต่างพร้อมกัน เช่น coding, data analysis หรือการเทรดหุ้น แม้จะดูใหญ่ แต่ขนาดเมื่อพับเก็บอยู่ที่ 374 × 261 × 28 มม. และน้ำหนัก 2.6 กก.—หนักกว่าคอมทั่วไป แต่เบากว่าการพกโน้ตบุ๊กพร้อมจอเสริมสองตัว สเปกภายในถือว่า “กลาง ๆ” โดยใช้ Intel Core i7 Gen 12 (P-series), RAM DDR4 สูงสุด 64GB, SSD PCIe 4.0 และแบตเตอรี่ 77Wh พร้อมพอร์ตครบครัน เช่น USB-A, USB-C, HDMI, LAN และช่องหูฟัง 3.5 มม. จุดที่น่าสนใจคือมีการระบุว่า “รองรับ eGPU” แต่ไม่มีพอร์ต Thunderbolt, USB4 หรือ OCuLink ทำให้การใช้งานจริงอาจต้องใช้ dock ผ่าน M.2 slot ซึ่งไม่สะดวกและอาจไม่เสถียรนัก นอกจากนี้ยังมีความคลุมเครือในข้อมูล เช่น บางหน้าระบุว่าใช้ Wi-Fi 6 แต่บางแห่งไม่ระบุเลย และชื่อรุ่นก็ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ซื้ออาจต้องเสี่ยงกับความไม่แน่นอนของสินค้า ✅ สเปกและการออกแบบของแล็ปท็อปสามจอ ➡️ หน้าจอหลัก 16 นิ้ว + จอเสริม 10.5 นิ้ว × 2 = พื้นที่ใช้งาน 29.5 นิ้ว ➡️ ขนาดเมื่อพับ 374 × 261 × 28 มม. น้ำหนัก 2.6 กก. ➡️ ใช้ Intel Core i7-1260P หรือ i7-1270P, RAM DDR4 สูงสุด 64GB ✅ ฟีเจอร์และการใช้งาน ➡️ รองรับ PCIe 4.0 SSD ผ่าน M.2 2280 slot ➡️ แบตเตอรี่ 77Wh ใช้งานได้ประมาณ 8 ชั่วโมง ➡️ มีพอร์ต USB-A × 3, USB-C × 1, HDMI, LAN, ช่องหูฟัง และ fingerprint scanner ✅ ความน่าสนใจด้านราคา ➡️ เริ่มต้นที่ $700 สำหรับรุ่น i7-1260P ➡️ รุ่นสูงสุด i7-1270P อยู่ที่ประมาณ $1,200 ➡️ ถือว่าราคาถูกมากเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กที่มีจอเสริมในตัว https://www.techradar.com/pro/crazy-laptop-manufacturer-designed-the-best-3-screen-notebook-ever-and-it-is-far-cheaper-than-youd-expect-i-want-one
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก H100 ถึง GAIN AI Act: เมื่อชิปกลายเป็นทรัพยากรยุทธศาสตร์ที่ต้องจัดลำดับความสำคัญ

    ในปี 2025 สหรัฐฯ ได้เสนอร่างกฎหมายใหม่ชื่อว่า GAIN AI Act (Guaranteeing Access and Innovation for National Artificial Intelligence) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจด้านความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการส่งออกชิป AI ระดับสูง เช่น Nvidia H100, H200, B300 และ AMD Instinct MI308 โดยเฉพาะไปยังประเทศที่ถูกจัดว่าเป็น “D:5” หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคง เช่นจีน

    ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้ผลิตชิป เช่น Nvidia และ AMD ต้องให้ “สิทธิ์ซื้อก่อน” กับลูกค้าในสหรัฐฯ ก่อนส่งออกไปยังต่างประเทศ แม้แต่ประเทศพันธมิตรอย่างยุโรปหรือสหราชอาณาจักร โดยต้องพิสูจน์ว่าไม่มีคำสั่งซื้อค้างในประเทศ, ไม่มีการเสนอราคาที่ดีกว่าให้กับลูกค้าต่างชาติ และไม่มีผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทอเมริกัน

    Nvidia ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า “เราไม่เคยละเลยลูกค้าในสหรัฐฯ เพื่อไปบริการลูกค้าต่างประเทศ” และมองว่าร่างกฎหมายนี้พยายามแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง พร้อมเตือนว่าการจำกัดการส่งออกจะกระทบต่อการแข่งขันระดับโลกในอุตสาหกรรมที่ใช้ชิปทั่วไป ไม่ใช่แค่ AI

    ข้อมูลจาก Nvidia ระบุว่าในปีงบประมาณ 2024 ยอดขายในสหรัฐฯ คิดเป็น 49.9% ของทั้งหมด ขณะที่จีนอยู่ที่ 28% และสิงคโปร์ 18% ซึ่งสะท้อนว่าสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดหลักของบริษัท

    ร่างกฎหมายยังระบุเกณฑ์ทางเทคนิคที่ชัดเจน เช่น GPU ที่มี TPP (Total Processing Performance) เกิน 2,400 หรือ bandwidth เกิน 1.4 TB/s จะถูกควบคุมการส่งออก และหาก TPP เกิน 4,800 จะถูกห้ามส่งออกโดยเด็ดขาด ซึ่งครอบคลุมถึง H100 (TPP 16,000), B300 (TPP 60,000) และ MI308

    รายละเอียดของ GAIN AI Act
    เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติปี 2026
    กำหนดให้ผู้ผลิตชิปต้องให้สิทธิ์ซื้อก่อนกับลูกค้าในสหรัฐฯ
    ครอบคลุมทั้งประเทศคู่แข่งและพันธมิตร เช่นจีนและยุโรป

    ข้อกำหนดสำหรับการส่งออก
    ต้องไม่มีคำสั่งซื้อค้างในประเทศ
    ห้ามเสนอราคาดีกว่าให้ลูกค้าต่างชาติ
    ห้ามส่งออกหากกระทบต่อการแข่งขันของบริษัทในสหรัฐฯ

    ชิปที่อยู่ภายใต้การควบคุม
    Nvidia H100, H200, B300 และ HGX H20
    AMD Instinct MI308
    ชิปที่มี TPP เกิน 4,800 จะถูกห้ามส่งออกโดยเด็ดขาด

    จุดยืนของ Nvidia
    ยืนยันว่าสหรัฐฯ เป็นตลาดหลักของบริษัท
    มองว่าร่างกฎหมายนี้แก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง
    เตือนว่าการควบคุมจะกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-says-we-never-deprive-american-customers-in-order-to-serve-the-rest-of-the-world-company-says-gain-ai-act-addresses-a-problem-that-doesnt-exist
    🎙️ เรื่องเล่าจาก H100 ถึง GAIN AI Act: เมื่อชิปกลายเป็นทรัพยากรยุทธศาสตร์ที่ต้องจัดลำดับความสำคัญ ในปี 2025 สหรัฐฯ ได้เสนอร่างกฎหมายใหม่ชื่อว่า GAIN AI Act (Guaranteeing Access and Innovation for National Artificial Intelligence) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจด้านความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการส่งออกชิป AI ระดับสูง เช่น Nvidia H100, H200, B300 และ AMD Instinct MI308 โดยเฉพาะไปยังประเทศที่ถูกจัดว่าเป็น “D:5” หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคง เช่นจีน ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้ผลิตชิป เช่น Nvidia และ AMD ต้องให้ “สิทธิ์ซื้อก่อน” กับลูกค้าในสหรัฐฯ ก่อนส่งออกไปยังต่างประเทศ แม้แต่ประเทศพันธมิตรอย่างยุโรปหรือสหราชอาณาจักร โดยต้องพิสูจน์ว่าไม่มีคำสั่งซื้อค้างในประเทศ, ไม่มีการเสนอราคาที่ดีกว่าให้กับลูกค้าต่างชาติ และไม่มีผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทอเมริกัน Nvidia ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า “เราไม่เคยละเลยลูกค้าในสหรัฐฯ เพื่อไปบริการลูกค้าต่างประเทศ” และมองว่าร่างกฎหมายนี้พยายามแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง พร้อมเตือนว่าการจำกัดการส่งออกจะกระทบต่อการแข่งขันระดับโลกในอุตสาหกรรมที่ใช้ชิปทั่วไป ไม่ใช่แค่ AI ข้อมูลจาก Nvidia ระบุว่าในปีงบประมาณ 2024 ยอดขายในสหรัฐฯ คิดเป็น 49.9% ของทั้งหมด ขณะที่จีนอยู่ที่ 28% และสิงคโปร์ 18% ซึ่งสะท้อนว่าสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดหลักของบริษัท ร่างกฎหมายยังระบุเกณฑ์ทางเทคนิคที่ชัดเจน เช่น GPU ที่มี TPP (Total Processing Performance) เกิน 2,400 หรือ bandwidth เกิน 1.4 TB/s จะถูกควบคุมการส่งออก และหาก TPP เกิน 4,800 จะถูกห้ามส่งออกโดยเด็ดขาด ซึ่งครอบคลุมถึง H100 (TPP 16,000), B300 (TPP 60,000) และ MI308 ✅ รายละเอียดของ GAIN AI Act ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติปี 2026 ➡️ กำหนดให้ผู้ผลิตชิปต้องให้สิทธิ์ซื้อก่อนกับลูกค้าในสหรัฐฯ ➡️ ครอบคลุมทั้งประเทศคู่แข่งและพันธมิตร เช่นจีนและยุโรป ✅ ข้อกำหนดสำหรับการส่งออก ➡️ ต้องไม่มีคำสั่งซื้อค้างในประเทศ ➡️ ห้ามเสนอราคาดีกว่าให้ลูกค้าต่างชาติ ➡️ ห้ามส่งออกหากกระทบต่อการแข่งขันของบริษัทในสหรัฐฯ ✅ ชิปที่อยู่ภายใต้การควบคุม ➡️ Nvidia H100, H200, B300 และ HGX H20 ➡️ AMD Instinct MI308 ➡️ ชิปที่มี TPP เกิน 4,800 จะถูกห้ามส่งออกโดยเด็ดขาด ✅ จุดยืนของ Nvidia ➡️ ยืนยันว่าสหรัฐฯ เป็นตลาดหลักของบริษัท ➡️ มองว่าร่างกฎหมายนี้แก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง ➡️ เตือนว่าการควบคุมจะกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-says-we-never-deprive-american-customers-in-order-to-serve-the-rest-of-the-world-company-says-gain-ai-act-addresses-a-problem-that-doesnt-exist
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 8-9-68
    .
    สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่ วันนี้บ้านพระอาทิตย์มีเมนูอาหารเช้าเป็นโกยซีหมี่ไก่เส้นกรอบ โดยหลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานแล้ว ก็ได้ถกเถียงกันในหลายประเด็น หนึ่งคือ กรณีที่คุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีกำหนดจะต้องนัดฟังคำสั่งศาลกรณีชั้น 14 ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) ซึ่งหลายคนสงสัยว่าคุณทักษิณจะกลับมาประเทศไทยไหม? ถ้ากลับจะเป็นอย่างไร และถ้าไม่กลับจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง? นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องของนายกฯ คนใหม่ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล กับรัฐบาลใหม่ และคณะรัฐมนตรีใหม่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาเรื่องชายแดน และการยกเลิก MOU43-44
    .
    คุณสนธิคิดและมองอย่างไรกับการเมืองไทย ณ เวลานี้ ต้องติดตาม !
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=9tFRd3ycq28
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ทักษิณ #ชั้น14 #ทักษิณ #รัฐบาล #นายกหนู #อนุทินชาญวีรกูล #คณะรัฐมนตรี #รัฐบาลอนุทิน
    สนธิเล่าเรื่อง 8-9-68 . สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่ วันนี้บ้านพระอาทิตย์มีเมนูอาหารเช้าเป็นโกยซีหมี่ไก่เส้นกรอบ โดยหลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานแล้ว ก็ได้ถกเถียงกันในหลายประเด็น หนึ่งคือ กรณีที่คุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีกำหนดจะต้องนัดฟังคำสั่งศาลกรณีชั้น 14 ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) ซึ่งหลายคนสงสัยว่าคุณทักษิณจะกลับมาประเทศไทยไหม? ถ้ากลับจะเป็นอย่างไร และถ้าไม่กลับจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง? นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องของนายกฯ คนใหม่ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล กับรัฐบาลใหม่ และคณะรัฐมนตรีใหม่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาเรื่องชายแดน และการยกเลิก MOU43-44 . คุณสนธิคิดและมองอย่างไรกับการเมืองไทย ณ เวลานี้ ต้องติดตาม ! . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=9tFRd3ycq28 . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ทักษิณ #ชั้น14 #ทักษิณ #รัฐบาล #นายกหนู #อนุทินชาญวีรกูล #คณะรัฐมนตรี #รัฐบาลอนุทิน
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 8-9-68

    คลิก https://m.youtube.com/watch?v=9tFRd3ycq28
    สนธิเล่าเรื่อง 8-9-68 • คลิก https://m.youtube.com/watch?v=9tFRd3ycq28
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากฝุ่นถึงฟันเฟืองสมอง: เมื่ออากาศสกปรกกลายเป็นตัวเร่งโรคที่เราไม่เคยคาดคิด

    งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 56.5 ล้านคนในสหรัฐฯ และพบว่าการสัมผัสฝุ่น PM2.5 ในระยะยาวมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดภาวะสมองเสื่อมแบบ Lewy body และพาร์กินสันที่มีภาวะสมองเสื่อมร่วมด้วย โดยเฉพาะในผู้ที่มีพันธุกรรมที่โน้มเอียงต่อโรคเหล่านี้

    PM2.5 คือฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดได้ง่าย และในงานวิจัยนี้ นักวิทยาศาสตร์พบว่าในหนูทดลองที่ได้รับ PM2.5 ผ่านทางจมูกเป็นเวลา 10 เดือน มีการสะสมของโปรตีน α-synuclein (αSyn) ในสมอง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของโรค Lewy body dementia

    ที่น่าตกใจคือ หนูที่ได้รับ PM2.5 มีพฤติกรรมคล้ายภาวะสมองเสื่อม เช่น ความจำเสื่อมในการทดสอบเขาวงกต และการจำวัตถุใหม่ไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบว่าเนื้อสมองบริเวณ medial temporal lobe ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างและเรียกคืนความทรงจำ มีการหดตัวอย่างชัดเจน

    ทีมวิจัยยังพบว่า αSyn ไม่ได้สะสมแค่ในสมอง แต่ยังพบในลำไส้และปอดของหนูที่ได้รับ PM2.5 ซึ่งชี้ว่าอาจมีการแพร่กระจายของโปรตีนผ่าน “gut–brain axis” หรือเส้นทางลำไส้สู่สมอง ซึ่งเป็นกลไกที่เชื่อมโยงกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์และ Lewy body dementia

    เมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้ไม่มีโปรตีน αSyn พบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสมองเลย ซึ่งยืนยันว่าโปรตีนนี้เป็นตัวกลางสำคัญในการเกิดโรคจากฝุ่น PM2.5

    ความเชื่อมโยงระหว่าง PM2.5 กับภาวะสมองเสื่อม
    การสัมผัส PM2.5 ระยะยาวเพิ่มความเสี่ยงต่อ Lewy body dementia และพาร์กินสันที่มีภาวะสมองเสื่อม
    ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 12% สำหรับผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
    ผู้ที่มีพันธุกรรมโน้มเอียงจะได้รับผลกระทบชัดเจนมากกว่า

    กลไกของโรคที่พบในหนูทดลอง
    พบการสะสมของโปรตีน αSyn ในสมอง ลำไส้ และปอด
    หนูมีพฤติกรรมคล้ายภาวะสมองเสื่อม เช่น ความจำเสื่อม
    สมองบริเวณ medial temporal lobe หดตัวอย่างมีนัยสำคัญ

    การเปรียบเทียบกับหนูที่ไม่มีโปรตีน αSyn
    ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสมองหรือพฤติกรรม
    ยืนยันว่า αSyn เป็นตัวกลางสำคัญในการเกิดโรคจาก PM2.5

    การเปลี่ยนแปลงระดับยีนในสมอง
    พบการเปลี่ยนแปลงของการแสดงออกของยีนใน anterior cingulate cortex
    การเปลี่ยนแปลงนี้คล้ายกับที่พบในผู้ป่วย Lewy body dementia
    ไม่พบความคล้ายกันในผู้ป่วยพาร์กินสันที่ไม่มีภาวะสมองเสื่อม

    https://www.nature.com/articles/d41586-025-02844-9
    🎙️ เรื่องเล่าจากฝุ่นถึงฟันเฟืองสมอง: เมื่ออากาศสกปรกกลายเป็นตัวเร่งโรคที่เราไม่เคยคาดคิด งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 56.5 ล้านคนในสหรัฐฯ และพบว่าการสัมผัสฝุ่น PM2.5 ในระยะยาวมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดภาวะสมองเสื่อมแบบ Lewy body และพาร์กินสันที่มีภาวะสมองเสื่อมร่วมด้วย โดยเฉพาะในผู้ที่มีพันธุกรรมที่โน้มเอียงต่อโรคเหล่านี้ PM2.5 คือฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดได้ง่าย และในงานวิจัยนี้ นักวิทยาศาสตร์พบว่าในหนูทดลองที่ได้รับ PM2.5 ผ่านทางจมูกเป็นเวลา 10 เดือน มีการสะสมของโปรตีน α-synuclein (αSyn) ในสมอง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของโรค Lewy body dementia ที่น่าตกใจคือ หนูที่ได้รับ PM2.5 มีพฤติกรรมคล้ายภาวะสมองเสื่อม เช่น ความจำเสื่อมในการทดสอบเขาวงกต และการจำวัตถุใหม่ไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบว่าเนื้อสมองบริเวณ medial temporal lobe ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างและเรียกคืนความทรงจำ มีการหดตัวอย่างชัดเจน ทีมวิจัยยังพบว่า αSyn ไม่ได้สะสมแค่ในสมอง แต่ยังพบในลำไส้และปอดของหนูที่ได้รับ PM2.5 ซึ่งชี้ว่าอาจมีการแพร่กระจายของโปรตีนผ่าน “gut–brain axis” หรือเส้นทางลำไส้สู่สมอง ซึ่งเป็นกลไกที่เชื่อมโยงกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์และ Lewy body dementia เมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้ไม่มีโปรตีน αSyn พบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสมองเลย ซึ่งยืนยันว่าโปรตีนนี้เป็นตัวกลางสำคัญในการเกิดโรคจากฝุ่น PM2.5 ✅ ความเชื่อมโยงระหว่าง PM2.5 กับภาวะสมองเสื่อม ➡️ การสัมผัส PM2.5 ระยะยาวเพิ่มความเสี่ยงต่อ Lewy body dementia และพาร์กินสันที่มีภาวะสมองเสื่อม ➡️ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 12% สำหรับผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ➡️ ผู้ที่มีพันธุกรรมโน้มเอียงจะได้รับผลกระทบชัดเจนมากกว่า ✅ กลไกของโรคที่พบในหนูทดลอง ➡️ พบการสะสมของโปรตีน αSyn ในสมอง ลำไส้ และปอด ➡️ หนูมีพฤติกรรมคล้ายภาวะสมองเสื่อม เช่น ความจำเสื่อม ➡️ สมองบริเวณ medial temporal lobe หดตัวอย่างมีนัยสำคัญ ✅ การเปรียบเทียบกับหนูที่ไม่มีโปรตีน αSyn ➡️ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสมองหรือพฤติกรรม ➡️ ยืนยันว่า αSyn เป็นตัวกลางสำคัญในการเกิดโรคจาก PM2.5 ✅ การเปลี่ยนแปลงระดับยีนในสมอง ➡️ พบการเปลี่ยนแปลงของการแสดงออกของยีนใน anterior cingulate cortex ➡️ การเปลี่ยนแปลงนี้คล้ายกับที่พบในผู้ป่วย Lewy body dementia ➡️ ไม่พบความคล้ายกันในผู้ป่วยพาร์กินสันที่ไม่มีภาวะสมองเสื่อม https://www.nature.com/articles/d41586-025-02844-9
    WWW.NATURE.COM
    Air pollution directly linked to increased dementia risk
    Long-term exposure accelerates the development of Lewy body dementia and Parkinson’s disease with dementia in people who are predisposed to the conditions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก ChatGPT ถึง EisnerAmper: เมื่อ AI กลายเป็นผู้ช่วยเงาในออฟฟิศที่ไม่มีใครควบคุม

    ผลสำรวจล่าสุดจาก EisnerAmper พบว่าในสหรัฐฯ มีเพียง 22% ของพนักงานออฟฟิศที่ใช้ AI ระบุว่าบริษัทของตนมีการตรวจสอบการใช้งาน AI อย่างจริงจัง นั่นหมายความว่าอีก 78% ใช้ AI โดยไม่มี oversight ใด ๆ แม้บริษัทจะมีนโยบายหรือแนวทางด้านความปลอดภัยก็ตาม

    ที่น่าตกใจคือ 36% ของบริษัทเท่านั้นที่มีนโยบายการใช้ AI อย่างเป็นทางการ และ 28% ของพนักงานยอมรับว่าจะใช้ AI แม้บริษัทจะห้ามไว้ก็ตาม ซึ่งสะท้อนถึงช่องว่างระหว่างการบริหารจัดการกับพฤติกรรมจริงของพนักงาน

    แม้จะไม่มีการควบคุม แต่ 80% ของพนักงานกลับรายงานว่า AI ช่วยให้พวกเขาทำงานได้ดีขึ้น และ 64% ใช้เวลาที่ประหยัดได้จาก AI ไปทำงานอื่นต่อ ขณะที่บางคนใช้เวลาไปพักผ่อน เช่น เดินเล่น (19%) หรือไปทานข้าว (16%)

    อย่างไรก็ตาม 68% ของผู้ใช้ AI พบข้อผิดพลาดจากระบบเป็นประจำ แม้ 82% จะยังมั่นใจว่า AI ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นที่อาจเกินจริง และอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านกฎหมายหรือชื่อเสียงหากใช้ข้อมูลผิดพลาด

    ผู้เชี่ยวชาญจาก EisnerAmper เตือนว่า หากไม่มีการวางกลยุทธ์ด้าน AI ที่ชัดเจนและการสื่อสารภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทอาจสูญเสียโอกาสในการสร้างนวัตกรรม และอาจเผชิญกับปัญหาด้านความรับผิดชอบเมื่อเกิดข้อผิดพลาดจากการใช้ AI

    สถานการณ์การใช้ AI ในที่ทำงาน
    22% ของพนักงานระบุว่าบริษัทมีการตรวจสอบการใช้ AI
    36% ของบริษัทมีนโยบายการใช้ AI อย่างเป็นทางการ
    28% ของพนักงานยอมรับว่าจะใช้ AI แม้บริษัทห้าม

    พฤติกรรมและความเชื่อมั่นของพนักงาน
    80% รายงานว่า AI ช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น
    64% ใช้เวลาที่ประหยัดได้ไปทำงานอื่น
    19% ใช้เวลาไปเดินเล่น และ 16% ไปทานข้าว
    82% มั่นใจในผลลัพธ์ของ AI แม้ 68% พบข้อผิดพลาดเป็นประจำ

    ความเสี่ยงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    ช่องว่างระหว่างนโยบายกับพฤติกรรมจริงของพนักงาน
    ความเสี่ยงด้านกฎหมายและชื่อเสียงจากการใช้ AI โดยไม่มี oversight
    ความจำเป็นในการวางกลยุทธ์ด้าน AI และการสื่อสารภายในองค์กร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/06/only-one-in-five-workers-say-their-ai-use-is-checked-at-work-that-needs-to-change
    🎙️ เรื่องเล่าจาก ChatGPT ถึง EisnerAmper: เมื่อ AI กลายเป็นผู้ช่วยเงาในออฟฟิศที่ไม่มีใครควบคุม ผลสำรวจล่าสุดจาก EisnerAmper พบว่าในสหรัฐฯ มีเพียง 22% ของพนักงานออฟฟิศที่ใช้ AI ระบุว่าบริษัทของตนมีการตรวจสอบการใช้งาน AI อย่างจริงจัง นั่นหมายความว่าอีก 78% ใช้ AI โดยไม่มี oversight ใด ๆ แม้บริษัทจะมีนโยบายหรือแนวทางด้านความปลอดภัยก็ตาม ที่น่าตกใจคือ 36% ของบริษัทเท่านั้นที่มีนโยบายการใช้ AI อย่างเป็นทางการ และ 28% ของพนักงานยอมรับว่าจะใช้ AI แม้บริษัทจะห้ามไว้ก็ตาม ซึ่งสะท้อนถึงช่องว่างระหว่างการบริหารจัดการกับพฤติกรรมจริงของพนักงาน แม้จะไม่มีการควบคุม แต่ 80% ของพนักงานกลับรายงานว่า AI ช่วยให้พวกเขาทำงานได้ดีขึ้น และ 64% ใช้เวลาที่ประหยัดได้จาก AI ไปทำงานอื่นต่อ ขณะที่บางคนใช้เวลาไปพักผ่อน เช่น เดินเล่น (19%) หรือไปทานข้าว (16%) อย่างไรก็ตาม 68% ของผู้ใช้ AI พบข้อผิดพลาดจากระบบเป็นประจำ แม้ 82% จะยังมั่นใจว่า AI ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นที่อาจเกินจริง และอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านกฎหมายหรือชื่อเสียงหากใช้ข้อมูลผิดพลาด ผู้เชี่ยวชาญจาก EisnerAmper เตือนว่า หากไม่มีการวางกลยุทธ์ด้าน AI ที่ชัดเจนและการสื่อสารภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทอาจสูญเสียโอกาสในการสร้างนวัตกรรม และอาจเผชิญกับปัญหาด้านความรับผิดชอบเมื่อเกิดข้อผิดพลาดจากการใช้ AI ✅ สถานการณ์การใช้ AI ในที่ทำงาน ➡️ 22% ของพนักงานระบุว่าบริษัทมีการตรวจสอบการใช้ AI ➡️ 36% ของบริษัทมีนโยบายการใช้ AI อย่างเป็นทางการ ➡️ 28% ของพนักงานยอมรับว่าจะใช้ AI แม้บริษัทห้าม ✅ พฤติกรรมและความเชื่อมั่นของพนักงาน ➡️ 80% รายงานว่า AI ช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น ➡️ 64% ใช้เวลาที่ประหยัดได้ไปทำงานอื่น ➡️ 19% ใช้เวลาไปเดินเล่น และ 16% ไปทานข้าว ➡️ 82% มั่นใจในผลลัพธ์ของ AI แม้ 68% พบข้อผิดพลาดเป็นประจำ ✅ ความเสี่ยงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ ช่องว่างระหว่างนโยบายกับพฤติกรรมจริงของพนักงาน ➡️ ความเสี่ยงด้านกฎหมายและชื่อเสียงจากการใช้ AI โดยไม่มี oversight ➡️ ความจำเป็นในการวางกลยุทธ์ด้าน AI และการสื่อสารภายในองค์กร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/06/only-one-in-five-workers-say-their-ai-use-is-checked-at-work-that-needs-to-change
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Only one in five workers say their AI use is checked at work. That needs to change
    In the push to adopt the new technology to boost productivity, companies may open themselves to serious problems if they don't set rules for AI at work.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Egg Minder ถึงกล้องที่ไม่มี 2FA: เมื่อเทคโนโลยีในบ้านกลายเป็นดาบสองคม

    ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ การเพิ่มสมาร์ทดีไวซ์เข้าไปในบ้านดูเหมือนจะเป็นทางลัดสู่ความสะดวกสบาย แต่บทความจาก SlashGear ได้เตือนว่า มีอุปกรณ์บางประเภทที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันอาจสร้างปัญหามากกว่าประโยชน์

    ตัวอย่างแรกคืออุปกรณ์ที่ต้องสมัครสมาชิกเพื่อใช้งาน เช่นชุด SmartHome ของ Telus ที่รวมกล้อง, ไฟ, และเทอร์โมสแตตไว้ในแพ็กเกจรายเดือน แม้จะดูคุ้มในตอนแรก แต่ฟีเจอร์หลักหลายอย่างถูกล็อกไว้หลัง paywall และหากเลิกจ่าย อุปกรณ์อาจกลายเป็นของไร้ประโยชน์ทันที

    อีกกลุ่มคืออุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เช่นกล้องจาก Wyze หรือ Google Nest ที่สูญเสียฟีเจอร์สำคัญเมื่อเน็ตหลุด ซึ่งอาจทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านไร้ประโยชน์ในช่วงเวลาสำคัญ

    ที่น่าขำแต่จริงคือ Egg Minder—ถาดใส่ไข่ที่เชื่อมต่อแอปเพื่อบอกว่าไข่ไหนเก่า แต่กลับมีปัญหาเรื่องการซิงก์ข้อมูล, การแสดงวันหมดอายุผิด และต้องให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเอง ทำให้มันกลายเป็นภาระมากกว่าผู้ช่วย

    ด้านความปลอดภัย กล้องหรืออุปกรณ์ล็อกที่ไม่มีระบบ two-factor authentication (2FA) ก็เป็นอีกจุดอ่อนสำคัญ เช่นกล้อง Echo ที่ไม่บังคับใช้ 2FA ทำให้ผู้ไม่หวังดีอาจเข้าถึงระบบได้ง่ายขึ้น

    สุดท้ายคือสถานีตรวจอากาศ AcuRite ที่แม้จะมีแผงโซลาร์ แต่ใช้แค่กับพัดลมภายใน ขณะที่หน้าจอยังต้องใช้แบตเตอรี่ และหากต้องการดูข้อมูลผ่านมือถือ ต้องเสียบสาย USB กับคอมพิวเตอร์ก่อน ซึ่งไม่สะดวกเลยเมื่อเทียบกับรุ่นที่เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ได้โดยตรง

    สมาร์ทดีไวซ์ที่ควรหลีกเลี่ยง
    อุปกรณ์ที่ต้องสมัครสมาชิก เช่น Telus SmartHome bundle
    อุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เช่น Wyze, Google Nest
    Egg Minder ที่ต้องกรอกข้อมูลเองและซิงก์ผิดพลาดบ่อย
    กล้องหรืออุปกรณ์ล็อกที่ไม่มี 2FA เช่น Echo Camera
    สถานีอากาศ AcuRite ที่ไม่สามารถดูข้อมูลผ่านมือถือโดยตรง

    ปัญหาที่พบจากการใช้งานจริง
    ฟีเจอร์หลักถูกล็อกหลังระบบสมาชิก
    อุปกรณ์หยุดทำงานเมื่อเน็ตหลุด
    แอปซิงก์ข้อมูลผิดพลาดและต้องกรอกเอง
    ไม่มีระบบยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน
    ต้องเสียบสาย USB เพื่อดูข้อมูลจากสถานีอากาศ

    ทางเลือกที่ควรพิจารณา
    เลือกอุปกรณ์ที่ไม่มีระบบสมาชิก
    ใช้อุปกรณ์ที่ทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต
    เลือกกล้องหรืออุปกรณ์ล็อกที่มี 2FA
    ใช้สถานีอากาศที่เชื่อมต่อกับมือถือผ่าน Wi-Fi

    https://www.slashgear.com/1956282/smart-devices-to-avoid-at-home/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Egg Minder ถึงกล้องที่ไม่มี 2FA: เมื่อเทคโนโลยีในบ้านกลายเป็นดาบสองคม ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ การเพิ่มสมาร์ทดีไวซ์เข้าไปในบ้านดูเหมือนจะเป็นทางลัดสู่ความสะดวกสบาย แต่บทความจาก SlashGear ได้เตือนว่า มีอุปกรณ์บางประเภทที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันอาจสร้างปัญหามากกว่าประโยชน์ ตัวอย่างแรกคืออุปกรณ์ที่ต้องสมัครสมาชิกเพื่อใช้งาน เช่นชุด SmartHome ของ Telus ที่รวมกล้อง, ไฟ, และเทอร์โมสแตตไว้ในแพ็กเกจรายเดือน แม้จะดูคุ้มในตอนแรก แต่ฟีเจอร์หลักหลายอย่างถูกล็อกไว้หลัง paywall และหากเลิกจ่าย อุปกรณ์อาจกลายเป็นของไร้ประโยชน์ทันที อีกกลุ่มคืออุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เช่นกล้องจาก Wyze หรือ Google Nest ที่สูญเสียฟีเจอร์สำคัญเมื่อเน็ตหลุด ซึ่งอาจทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านไร้ประโยชน์ในช่วงเวลาสำคัญ ที่น่าขำแต่จริงคือ Egg Minder—ถาดใส่ไข่ที่เชื่อมต่อแอปเพื่อบอกว่าไข่ไหนเก่า แต่กลับมีปัญหาเรื่องการซิงก์ข้อมูล, การแสดงวันหมดอายุผิด และต้องให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเอง ทำให้มันกลายเป็นภาระมากกว่าผู้ช่วย ด้านความปลอดภัย กล้องหรืออุปกรณ์ล็อกที่ไม่มีระบบ two-factor authentication (2FA) ก็เป็นอีกจุดอ่อนสำคัญ เช่นกล้อง Echo ที่ไม่บังคับใช้ 2FA ทำให้ผู้ไม่หวังดีอาจเข้าถึงระบบได้ง่ายขึ้น สุดท้ายคือสถานีตรวจอากาศ AcuRite ที่แม้จะมีแผงโซลาร์ แต่ใช้แค่กับพัดลมภายใน ขณะที่หน้าจอยังต้องใช้แบตเตอรี่ และหากต้องการดูข้อมูลผ่านมือถือ ต้องเสียบสาย USB กับคอมพิวเตอร์ก่อน ซึ่งไม่สะดวกเลยเมื่อเทียบกับรุ่นที่เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ได้โดยตรง ✅ สมาร์ทดีไวซ์ที่ควรหลีกเลี่ยง ➡️ อุปกรณ์ที่ต้องสมัครสมาชิก เช่น Telus SmartHome bundle ➡️ อุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เช่น Wyze, Google Nest ➡️ Egg Minder ที่ต้องกรอกข้อมูลเองและซิงก์ผิดพลาดบ่อย ➡️ กล้องหรืออุปกรณ์ล็อกที่ไม่มี 2FA เช่น Echo Camera ➡️ สถานีอากาศ AcuRite ที่ไม่สามารถดูข้อมูลผ่านมือถือโดยตรง ✅ ปัญหาที่พบจากการใช้งานจริง ➡️ ฟีเจอร์หลักถูกล็อกหลังระบบสมาชิก ➡️ อุปกรณ์หยุดทำงานเมื่อเน็ตหลุด ➡️ แอปซิงก์ข้อมูลผิดพลาดและต้องกรอกเอง ➡️ ไม่มีระบบยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน ➡️ ต้องเสียบสาย USB เพื่อดูข้อมูลจากสถานีอากาศ ✅ ทางเลือกที่ควรพิจารณา ➡️ เลือกอุปกรณ์ที่ไม่มีระบบสมาชิก ➡️ ใช้อุปกรณ์ที่ทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต ➡️ เลือกกล้องหรืออุปกรณ์ล็อกที่มี 2FA ➡️ ใช้สถานีอากาศที่เชื่อมต่อกับมือถือผ่าน Wi-Fi https://www.slashgear.com/1956282/smart-devices-to-avoid-at-home/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Smart Devices You Should Avoid Having In Your Home - SlashGear
    Some smart devices create more hassle than help, from subscription-locked gadgets to weak security features and impractical trackers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ
    สัทธรรมลำดับที่ : 370
    ชื่อบทธรรม :- ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=370
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ภิกษุ ท. ! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ และความตั้งอยู่ไม่ได้
    แห่งรูป แห่งเสียง แห่งกลิ่น แห่งรส แห่งโผฏฐัพพะ แห่งธรรมารมณ์ ใด ๆ ;
    อันนั้นแหละ #เป็นความดับแห่งทุกข์,
    http://etipitaka.com/read/pali/17/284/?keywords=ทุกฺขสฺเสโส+นิโรโธ
    อันนั้นแหละ เป็นความเข้าไปสงบรำงับแห่งสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทงทั้งหลาย,
    อันนั้นแหละ เป็นความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ
    แล.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/253/482.
    http://etipitaka.com/read/thai/17/253/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๔/๔๘๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/17/284/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=370
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=370
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ สัทธรรมลำดับที่ : 370 ชื่อบทธรรม :- ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=370 เนื้อความทั้งหมด :- --ภิกษุ ท. ! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ และความตั้งอยู่ไม่ได้ แห่งรูป แห่งเสียง แห่งกลิ่น แห่งรส แห่งโผฏฐัพพะ แห่งธรรมารมณ์ ใด ๆ ; อันนั้นแหละ #เป็นความดับแห่งทุกข์, http://etipitaka.com/read/pali/17/284/?keywords=ทุกฺขสฺเสโส+นิโรโธ อันนั้นแหละ เป็นความเข้าไปสงบรำงับแห่งสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทงทั้งหลาย, อันนั้นแหละ เป็นความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ แล.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/253/482. http://etipitaka.com/read/thai/17/253/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๔/๔๘๒. http://etipitaka.com/read/pali/17/284/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=370 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=370 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ¸„วามดับ ความเข้าไปสงบรำงับ
    -ภิกษุ ท. ! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ และความตั้งอยู่ไม่ได้ แห่งรูป แห่งเสียง แห่งกลิ่น แห่งรส แห่งโผฏฐัพพะ แห่งธรรมารมณ์ ใด ๆ ; อันนั้นแหละ เป็นความดับแห่งทุกข์, อันนั้นแหละ เป็นความเข้าไปสงบรำงับแห่งสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทงทั้งหลาย, อันนั้นแหละ เป็นความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมากนี้ใครๆก็ดูออก,ตู่เป็นบ๋อยโทนี่,หนูบ๋อยตู่สั่งไปคุ้มสาธาตอนฉีดตายโควิดให้คนไทย ไม่ใช่เด็กตนเองจะสั่งไปทำงานสำคัญไม่ได้แบบฉีดวัคซีนลดประชากรไทย,ตู่สั่งส้มหนุนหนู สั่งแดงไปใช้ปากอยู่ฝ่ายค้าน ,โทนี่พอใจตู่มากเลยไปพักผ่อนที่ดูไบสบายๆก่อน,
    ..สรุป เหี้ยทั้งนั้น.เดอะแก๊งเดียวกันหมด ฝันเลยจะยกเลิกmou43,44,tor46,อาจเป็นมุกหาเสียงทางการเมืองในอนาคต อาจอ้างสั่งหยุดยิงก่อนเวลาไม่พอ ถ้าต่ออายุต่อเวลาออกไปอีก อาจยกเลิกmou43,44,tor46และอื่นๆทั้งหมดกับเขมรได้ทัน,แล้วประชาชนก็จะถามว่า ระหว่างก่อนถึง4เดือนทำห่าอะไรอยู่ แบบบ้านหนองจาน24-28ก.ค.68ก่อนหยุดยิงทำห่าอะไรอยู่ทำไมไม่ถีบเขมร รื้อบ้านเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดให้หมด.
    ..โหรแปลกๆนะ อวยว่าตนทายถูกเพื่อ?
    ..4เดือนนี้ มาดูว่าจะปาหี่ แสดงอะไร เรื่องอะไรได้บ้าง.
    ..ไม่แน่นะ บ่อนคาสิโนทำไม่สำเร็จในยุคอุ๊งอิ๊งอาจสำเร็จภายใน4เดือนนี้ก็ได้,ส้มหนุนอยู่แล้วนี้ แหล่งสร้างตังมันว่า,ดูเหี้ยทางไหนมีแต่ชาติพังพินาศ เจ้ามือร่ำรวยมหาศาลทั้งพนันออนไลน์และออฟไลน์อีก,ใบอนุญาตประกอบการในเมืองไทยได้มาแล้ว ,ดูมือถือเลย,เจ้าของค่ายเหี้ยร่ำรวย แดกตังคนไทยเป็นว่าเล่น,เน็ตจริงๆสมควรฟรีทั่วไทยได้แล้ว,ใช้เน็ตฟรีได้ต้องเป็นมือถือควอนตัมเฉพาะคนไทยเข้ารหัสเครื่องใครมันด้วยระบบยืนยันDNAก็ว่า,เรากากจริงๆ ทุจริตโกงกินเต็มประเทศมิอาจอัพเลเวลได้เลยจากนักการเมืองและข้าราชการชั่วเลวมากมายเหล่านี้เต็มบ้านเต็มเมืองเกินไป,เคสกรณีศึกษาที่ดีคือบ้านหนองจานนี้เอง,ศาลทหารมิอาจเข้าลงโทษอดีตนายพลชั่วเลวฝ่ายทหารตนเองได้เลย,หน่วยข่าวกรองทหารสายทหารสืบสวนรับรู้ค่าจริงในเป็นอย่างไรหมดล่ะ,แต่ไม่จัดการต้นเหตุปัญหาจากภายในตนเองจริงใดๆเลย,กรณีบ้านหนองจานคือจุดด่างเลวชั่วของวิถีทหารชั่วเลวภายในกองทัพไทยเราได้ดี,สะท้อนชั่วเลวทหารไทยและข้าราชการไทยที่เลวชั่วได้ดี.



    https://youtube.com/watch?v=sKysrmof-Jo&si=N_OLQh6FENNiWqQhhttps://youtube.com/watch?v=sKysrmof-Jo&si=N_OLQh6FENNiWqQh
    หมากนี้ใครๆก็ดูออก,ตู่เป็นบ๋อยโทนี่,หนูบ๋อยตู่สั่งไปคุ้มสาธาตอนฉีดตายโควิดให้คนไทย ไม่ใช่เด็กตนเองจะสั่งไปทำงานสำคัญไม่ได้แบบฉีดวัคซีนลดประชากรไทย,ตู่สั่งส้มหนุนหนู สั่งแดงไปใช้ปากอยู่ฝ่ายค้าน ,โทนี่พอใจตู่มากเลยไปพักผ่อนที่ดูไบสบายๆก่อน, ..สรุป เหี้ยทั้งนั้น.เดอะแก๊งเดียวกันหมด ฝันเลยจะยกเลิกmou43,44,tor46,อาจเป็นมุกหาเสียงทางการเมืองในอนาคต อาจอ้างสั่งหยุดยิงก่อนเวลาไม่พอ ถ้าต่ออายุต่อเวลาออกไปอีก อาจยกเลิกmou43,44,tor46และอื่นๆทั้งหมดกับเขมรได้ทัน,แล้วประชาชนก็จะถามว่า ระหว่างก่อนถึง4เดือนทำห่าอะไรอยู่ แบบบ้านหนองจาน24-28ก.ค.68ก่อนหยุดยิงทำห่าอะไรอยู่ทำไมไม่ถีบเขมร รื้อบ้านเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดให้หมด. ..โหรแปลกๆนะ อวยว่าตนทายถูกเพื่อ? ..4เดือนนี้ มาดูว่าจะปาหี่ แสดงอะไร เรื่องอะไรได้บ้าง. ..ไม่แน่นะ บ่อนคาสิโนทำไม่สำเร็จในยุคอุ๊งอิ๊งอาจสำเร็จภายใน4เดือนนี้ก็ได้,ส้มหนุนอยู่แล้วนี้ แหล่งสร้างตังมันว่า,ดูเหี้ยทางไหนมีแต่ชาติพังพินาศ เจ้ามือร่ำรวยมหาศาลทั้งพนันออนไลน์และออฟไลน์อีก,ใบอนุญาตประกอบการในเมืองไทยได้มาแล้ว ,ดูมือถือเลย,เจ้าของค่ายเหี้ยร่ำรวย แดกตังคนไทยเป็นว่าเล่น,เน็ตจริงๆสมควรฟรีทั่วไทยได้แล้ว,ใช้เน็ตฟรีได้ต้องเป็นมือถือควอนตัมเฉพาะคนไทยเข้ารหัสเครื่องใครมันด้วยระบบยืนยันDNAก็ว่า,เรากากจริงๆ ทุจริตโกงกินเต็มประเทศมิอาจอัพเลเวลได้เลยจากนักการเมืองและข้าราชการชั่วเลวมากมายเหล่านี้เต็มบ้านเต็มเมืองเกินไป,เคสกรณีศึกษาที่ดีคือบ้านหนองจานนี้เอง,ศาลทหารมิอาจเข้าลงโทษอดีตนายพลชั่วเลวฝ่ายทหารตนเองได้เลย,หน่วยข่าวกรองทหารสายทหารสืบสวนรับรู้ค่าจริงในเป็นอย่างไรหมดล่ะ,แต่ไม่จัดการต้นเหตุปัญหาจากภายในตนเองจริงใดๆเลย,กรณีบ้านหนองจานคือจุดด่างเลวชั่วของวิถีทหารชั่วเลวภายในกองทัพไทยเราได้ดี,สะท้อนชั่วเลวทหารไทยและข้าราชการไทยที่เลวชั่วได้ดี. https://youtube.com/watch?v=sKysrmof-Jo&si=N_OLQh6FENNiWqQhhttps://youtube.com/watch?v=sKysrmof-Jo&si=N_OLQh6FENNiWqQh
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก shared สู่ private: เมื่อธุรกิจเริ่มหันหลังให้ cloud และกลับมาหาเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมได้จริง

    จากผลสำรวจของ Liquid Web ที่สอบถามผู้ใช้งานและผู้ตัดสินใจด้านเทคนิคกว่า 950 ราย พบว่า Virtual Private Server (VPS) กำลังกลายเป็นตัวเลือกหลักของธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะผู้ที่เคยใช้ shared hosting และ cloud มาก่อน

    กว่า 27% ของผู้ใช้ที่ยังไม่ใช้ VPS ระบุว่ามีแผนจะย้ายมาใช้ภายใน 12 เดือน โดยผู้ใช้ shared hosting เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มสูงสุดในการเปลี่ยนมาใช้ VPS เพราะรู้สึกอึดอัดกับข้อจำกัดด้านการปรับแต่งระบบ

    ผู้ใช้ cloud hosting ส่วนใหญ่ระบุว่า “ต้นทุน” เป็นเหตุผลหลักในการเปลี่ยนมาใช้ VPS ขณะที่ผู้ใช้ dedicated hosting ไม่พอใจกับประสิทธิภาพที่ไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา

    สิ่งที่ทำให้ VPS ได้รับความนิยมคือ root-access ที่เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมระบบได้เต็มที่ และ uptime guarantee ที่ช่วยให้ธุรกิจมั่นใจในความเสถียรของบริการ

    นอกจากนี้ยังพบว่า VPS ถูกใช้ในงานที่หลากหลายมากขึ้น เช่น hosting เว็บไซต์และแอป (48%), การ deploy หรือปรับแต่งโมเดล AI (15%), การรัน automation script, การโฮสต์เกม (เช่น Minecraft), และการจัดการร้านค้าออนไลน์

    แม้ VPS จะเคยเป็นเครื่องมือของนักพัฒนาและ DevOps เป็นหลัก แต่ตอนนี้มีผู้ใช้กลุ่ม hobbyist เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดย 19% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าใช้ VPS เพื่อโฮสต์เกม, เว็บไซต์ส่วนตัว, หรือแม้แต่ Discord bot

    ที่น่าสนใจคือ 65% ของผู้ใช้ VPS เรียนรู้จากการลองผิดลองถูกและดู tutorial ออนไลน์ โดยมีเพียง 31% เท่านั้นที่เคยได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ

    อย่างไรก็ตาม เกือบครึ่งของผู้ใช้ VPS เคยเปลี่ยนผู้ให้บริการเพราะ “ไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ” ซึ่งสะท้อนว่าการบริการหลังบ้านยังเป็นจุดอ่อนของหลายแบรนด์

    แนวโน้มการเปลี่ยนมาใช้ VPS
    27% ของผู้ใช้ที่ยังไม่ใช้ VPS มีแผนจะย้ายภายใน 12 เดือน
    ผู้ใช้ shared hosting เปลี่ยนเพราะข้อจำกัดด้านการปรับแต่ง
    ผู้ใช้ cloud hosting เปลี่ยนเพราะต้นทุน
    ผู้ใช้ dedicated hosting เปลี่ยนเพราะประสิทธิภาพไม่คุ้มค่า

    เหตุผลที่ VPS ได้รับความนิยม
    root-access ช่วยให้ควบคุมระบบได้เต็มที่
    uptime guarantee เพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน
    รองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น AI, ecommerce, automation

    กลุ่มผู้ใช้งานและพฤติกรรม
    50% ของ IT pros ใช้ VPS สำหรับ DevOps และ automation
    19% เป็น hobbyist ที่ใช้ VPS เพื่อเกมและโปรเจกต์ส่วนตัว
    65% เรียนรู้จาก tutorial และ trial-and-error
    มีเพียง 31% ที่เคยได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ

    ระบบปฏิบัติการที่นิยม
    Windows เป็นที่นิยมที่สุด (36%)
    Ubuntu ตามมาเป็นอันดับสอง (28%)
    CentOS ยังมีผู้ใช้อยู่บ้าง (9%)

    https://www.techradar.com/pro/sharing-might-be-caring-but-businesses-are-moving-towards-private-servers
    🎙️ เรื่องเล่าจาก shared สู่ private: เมื่อธุรกิจเริ่มหันหลังให้ cloud และกลับมาหาเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมได้จริง จากผลสำรวจของ Liquid Web ที่สอบถามผู้ใช้งานและผู้ตัดสินใจด้านเทคนิคกว่า 950 ราย พบว่า Virtual Private Server (VPS) กำลังกลายเป็นตัวเลือกหลักของธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะผู้ที่เคยใช้ shared hosting และ cloud มาก่อน กว่า 27% ของผู้ใช้ที่ยังไม่ใช้ VPS ระบุว่ามีแผนจะย้ายมาใช้ภายใน 12 เดือน โดยผู้ใช้ shared hosting เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มสูงสุดในการเปลี่ยนมาใช้ VPS เพราะรู้สึกอึดอัดกับข้อจำกัดด้านการปรับแต่งระบบ ผู้ใช้ cloud hosting ส่วนใหญ่ระบุว่า “ต้นทุน” เป็นเหตุผลหลักในการเปลี่ยนมาใช้ VPS ขณะที่ผู้ใช้ dedicated hosting ไม่พอใจกับประสิทธิภาพที่ไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา สิ่งที่ทำให้ VPS ได้รับความนิยมคือ root-access ที่เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมระบบได้เต็มที่ และ uptime guarantee ที่ช่วยให้ธุรกิจมั่นใจในความเสถียรของบริการ นอกจากนี้ยังพบว่า VPS ถูกใช้ในงานที่หลากหลายมากขึ้น เช่น hosting เว็บไซต์และแอป (48%), การ deploy หรือปรับแต่งโมเดล AI (15%), การรัน automation script, การโฮสต์เกม (เช่น Minecraft), และการจัดการร้านค้าออนไลน์ แม้ VPS จะเคยเป็นเครื่องมือของนักพัฒนาและ DevOps เป็นหลัก แต่ตอนนี้มีผู้ใช้กลุ่ม hobbyist เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดย 19% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าใช้ VPS เพื่อโฮสต์เกม, เว็บไซต์ส่วนตัว, หรือแม้แต่ Discord bot ที่น่าสนใจคือ 65% ของผู้ใช้ VPS เรียนรู้จากการลองผิดลองถูกและดู tutorial ออนไลน์ โดยมีเพียง 31% เท่านั้นที่เคยได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เกือบครึ่งของผู้ใช้ VPS เคยเปลี่ยนผู้ให้บริการเพราะ “ไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ” ซึ่งสะท้อนว่าการบริการหลังบ้านยังเป็นจุดอ่อนของหลายแบรนด์ ✅ แนวโน้มการเปลี่ยนมาใช้ VPS ➡️ 27% ของผู้ใช้ที่ยังไม่ใช้ VPS มีแผนจะย้ายภายใน 12 เดือน ➡️ ผู้ใช้ shared hosting เปลี่ยนเพราะข้อจำกัดด้านการปรับแต่ง ➡️ ผู้ใช้ cloud hosting เปลี่ยนเพราะต้นทุน ➡️ ผู้ใช้ dedicated hosting เปลี่ยนเพราะประสิทธิภาพไม่คุ้มค่า ✅ เหตุผลที่ VPS ได้รับความนิยม ➡️ root-access ช่วยให้ควบคุมระบบได้เต็มที่ ➡️ uptime guarantee เพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน ➡️ รองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น AI, ecommerce, automation ✅ กลุ่มผู้ใช้งานและพฤติกรรม ➡️ 50% ของ IT pros ใช้ VPS สำหรับ DevOps และ automation ➡️ 19% เป็น hobbyist ที่ใช้ VPS เพื่อเกมและโปรเจกต์ส่วนตัว ➡️ 65% เรียนรู้จาก tutorial และ trial-and-error ➡️ มีเพียง 31% ที่เคยได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ ✅ ระบบปฏิบัติการที่นิยม ➡️ Windows เป็นที่นิยมที่สุด (36%) ➡️ Ubuntu ตามมาเป็นอันดับสอง (28%) ➡️ CentOS ยังมีผู้ใช้อยู่บ้าง (9%) https://www.techradar.com/pro/sharing-might-be-caring-but-businesses-are-moving-towards-private-servers
    WWW.TECHRADAR.COM
    Sharing might be caring, but businesses are moving towards private servers
    VPS servers are becoming the server type of choice for IT pros and hobbyists alike
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก CXL ถึง DDR5: เมื่อการ์ดเสริมกลายเป็นหน่วยความจำหลักของระบบ AI

    Gigabyte เปิดตัวการ์ดเสริมรุ่นใหม่ชื่อ AI Top CXL R5X4 ซึ่งเป็น add-in card (AIC) ที่ใช้เทคโนโลยี CXL 2.0/1.1 เพื่อเพิ่มหน่วยความจำ DDR5 ได้สูงสุดถึง 512GB ผ่านสล็อต PCIe 5.0 x16 โดยไม่ต้องพึ่ง DIMM บนเมนบอร์ดโดยตรง

    การ์ดนี้มีขนาด 120 × 254 มม. ใช้แผงวงจร 16-layer HDI PCB และควบคุมด้วยชิป Microchip PM8712 พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ “CXL Thermal Armor” ที่เป็นโลหะเต็มตัว และพัดลม AIO สำหรับระบายความร้อนจากตัวควบคุมและสล็อตแรม

    จุดเด่นคือการรองรับ DDR5 RDIMM แบบ ECC ได้ถึง 4 ช่อง โดยแต่ละช่องรองรับโมดูลสูงสุด 128GB รวมเป็น 512GB ซึ่งต่างจากโมดูล CXL แบบสำเร็จรูปของ Samsung ที่มีขนาดตายตัว—การ์ดนี้ให้ผู้ใช้เลือกขนาดแรมเองได้

    แม้จะออกแบบมาสำหรับเมนบอร์ด Gigabyte รุ่น TRX50 AI Top และ W790 AI Top แต่หากเมนบอร์ดอื่นรองรับ PCIe 5.0 และ CXL ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม Gigabyte เตือนว่าบางสล็อตบน TRX50 เช่น PCIEX16_4 ไม่รองรับ CXL

    การ์ดใช้พลังงานประมาณ 70W ที่โหลดเต็ม และต้องต่อสายไฟ 8-pin EXT12V พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อพลังงาน ราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วง $2,000–$3,000 ตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ CXL ระดับสูง

    สเปกของ AI Top CXL R5X4
    ใช้ PCIe 5.0 x16 และรองรับ CXL 2.0/1.1
    มี 4 ช่อง DDR5 RDIMM รองรับ ECC สูงสุด 512GB
    ใช้ Microchip PM8712 controller และระบบระบายความร้อนแบบโลหะเต็มตัว

    การใช้งานและความเข้ากันได้
    ออกแบบสำหรับ TRX50 AI Top และ W790 AI Top
    สามารถใช้กับเมนบอร์ดอื่นที่รองรับ PCIe 5.0 และ CXL
    ต้องตรวจสอบว่าแต่ละสล็อตรองรับ CXL จริง เช่น PCIEX16_4 บน TRX50 ไม่รองรับ

    จุดเด่นด้านการปรับแต่งและการขยาย
    ผู้ใช้สามารถเลือกขนาดแรมเองได้ ต่างจากโมดูล CXL แบบสำเร็จรูป
    รองรับการอัปเกรดในอนาคตโดยไม่ต้องเปลี่ยนการ์ด
    เหมาะสำหรับงาน AI training ที่ต้องการแรมระดับหลายร้อย GB

    ระบบพลังงานและการระบายความร้อน
    ใช้พลังงานประมาณ 70W ที่โหลดเต็ม
    ต้องต่อสายไฟ 8-pin EXT12V พร้อมไฟ LED แสดงสถานะ
    มีพัดลม AIO สำหรับระบายความร้อนจากตัวควบคุมและสล็อตแรม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/expansion-card-lets-you-insert-512gb-of-extra-ddr5-memory-into-your-pcie-slot-cxl-2-0-aic-designed-for-trx50-and-w790-workstation-motherboards
    🎙️ เรื่องเล่าจาก CXL ถึง DDR5: เมื่อการ์ดเสริมกลายเป็นหน่วยความจำหลักของระบบ AI Gigabyte เปิดตัวการ์ดเสริมรุ่นใหม่ชื่อ AI Top CXL R5X4 ซึ่งเป็น add-in card (AIC) ที่ใช้เทคโนโลยี CXL 2.0/1.1 เพื่อเพิ่มหน่วยความจำ DDR5 ได้สูงสุดถึง 512GB ผ่านสล็อต PCIe 5.0 x16 โดยไม่ต้องพึ่ง DIMM บนเมนบอร์ดโดยตรง การ์ดนี้มีขนาด 120 × 254 มม. ใช้แผงวงจร 16-layer HDI PCB และควบคุมด้วยชิป Microchip PM8712 พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ “CXL Thermal Armor” ที่เป็นโลหะเต็มตัว และพัดลม AIO สำหรับระบายความร้อนจากตัวควบคุมและสล็อตแรม จุดเด่นคือการรองรับ DDR5 RDIMM แบบ ECC ได้ถึง 4 ช่อง โดยแต่ละช่องรองรับโมดูลสูงสุด 128GB รวมเป็น 512GB ซึ่งต่างจากโมดูล CXL แบบสำเร็จรูปของ Samsung ที่มีขนาดตายตัว—การ์ดนี้ให้ผู้ใช้เลือกขนาดแรมเองได้ แม้จะออกแบบมาสำหรับเมนบอร์ด Gigabyte รุ่น TRX50 AI Top และ W790 AI Top แต่หากเมนบอร์ดอื่นรองรับ PCIe 5.0 และ CXL ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม Gigabyte เตือนว่าบางสล็อตบน TRX50 เช่น PCIEX16_4 ไม่รองรับ CXL การ์ดใช้พลังงานประมาณ 70W ที่โหลดเต็ม และต้องต่อสายไฟ 8-pin EXT12V พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อพลังงาน ราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วง $2,000–$3,000 ตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ CXL ระดับสูง ✅ สเปกของ AI Top CXL R5X4 ➡️ ใช้ PCIe 5.0 x16 และรองรับ CXL 2.0/1.1 ➡️ มี 4 ช่อง DDR5 RDIMM รองรับ ECC สูงสุด 512GB ➡️ ใช้ Microchip PM8712 controller และระบบระบายความร้อนแบบโลหะเต็มตัว ✅ การใช้งานและความเข้ากันได้ ➡️ ออกแบบสำหรับ TRX50 AI Top และ W790 AI Top ➡️ สามารถใช้กับเมนบอร์ดอื่นที่รองรับ PCIe 5.0 และ CXL ➡️ ต้องตรวจสอบว่าแต่ละสล็อตรองรับ CXL จริง เช่น PCIEX16_4 บน TRX50 ไม่รองรับ ✅ จุดเด่นด้านการปรับแต่งและการขยาย ➡️ ผู้ใช้สามารถเลือกขนาดแรมเองได้ ต่างจากโมดูล CXL แบบสำเร็จรูป ➡️ รองรับการอัปเกรดในอนาคตโดยไม่ต้องเปลี่ยนการ์ด ➡️ เหมาะสำหรับงาน AI training ที่ต้องการแรมระดับหลายร้อย GB ✅ ระบบพลังงานและการระบายความร้อน ➡️ ใช้พลังงานประมาณ 70W ที่โหลดเต็ม ➡️ ต้องต่อสายไฟ 8-pin EXT12V พร้อมไฟ LED แสดงสถานะ ➡️ มีพัดลม AIO สำหรับระบายความร้อนจากตัวควบคุมและสล็อตแรม https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/expansion-card-lets-you-insert-512gb-of-extra-ddr5-memory-into-your-pcie-slot-cxl-2-0-aic-designed-for-trx50-and-w790-workstation-motherboards
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Outlook ถึง OneDrive: เมื่อ APT28 ใช้ช่องโหว่ของระบบที่เราไว้ใจมากที่สุด

    กลุ่มแฮกเกอร์ APT28 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Fancy Bear, STRONTIUM, Sednit และอีกหลายชื่อ เป็นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย และมีประวัติการโจมตีองค์กรในประเทศ NATO มายาวนาน ล่าสุดพวกเขาถูกจับได้ว่าใช้มัลแวร์ชื่อ “NotDoor” ซึ่งเป็น VBA macro ที่ฝังอยู่ใน Microsoft Outlook เพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องของเหยื่อจากระยะไกล

    NotDoor ทำงานโดยรออีเมลที่มีคำสั่งลับ เช่น “Daily Report” เมื่อพบคำนี้ มันจะเริ่มทำงานทันที—ขโมยไฟล์, ส่งข้อมูลออก, ติดตั้ง payload ใหม่ และรันคำสั่ง—all ผ่านอีเมลที่ดูเหมือนปกติ โดยใช้ชื่อไฟล์ทั่วไป เช่น “report.pdf” หรือ “invoice.jpg” เพื่อไม่ให้ถูกสงสัย

    ที่น่ากลัวคือวิธีที่มันเข้าสู่ระบบ: APT28 ใช้ไฟล์ OneDrive.exe ที่เซ็นรับรองโดย Microsoft เพื่อ sideload DLL ชื่อ SSPICLI.dll ซึ่งจะปิดการป้องกัน macro และติดตั้ง NotDoor โดยใช้ PowerShell ที่ถูกเข้ารหัสแบบ Base644 จากนั้นมันจะฝังตัวในโฟลเดอร์ macro ของ Outlook, สร้าง persistence ผ่าน registry, และปิดข้อความแจ้งเตือนทั้งหมดเพื่อไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว

    มัลแวร์นี้ยังใช้ DNS และ HTTP callback ไปยัง webhook.site เพื่อยืนยันการติดตั้ง และสามารถส่งข้อมูลออกไปยังอีเมล ProtonMail ที่ควบคุมโดยผู้โจมตีได้โดยตรง

    ลักษณะของ NotDoor และการทำงาน
    เป็น VBA macro ที่ฝังใน Outlook และทำงานเมื่อมีอีเมล trigger เช่น “Daily Report”
    สามารถขโมยไฟล์, ส่งข้อมูล, ติดตั้ง payload และรันคำสั่งผ่านอีเมล
    ใช้ชื่อไฟล์ทั่วไปและหัวข้ออีเมลที่ดูปกติเพื่อหลบการตรวจจับ

    วิธีการติดตั้งและการหลบหลีก
    ใช้ OneDrive.exe ที่เซ็นรับรองเพื่อ sideload DLL ชื่อ SSPICLI.dll
    ใช้ PowerShell ที่เข้ารหัสเพื่อฝัง macro ใน Outlook
    สร้าง persistence ผ่าน registry และปิดข้อความแจ้งเตือนของ Outlook

    การสื่อสารและการยืนยันการติดตั้ง
    ใช้ DNS และ HTTP callback ไปยัง webhook.site เพื่อยืนยันการทำงาน
    ส่งข้อมูลออกไปยังอีเมล ProtonMail ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี
    ลบอีเมล trigger และไฟล์ที่ขโมยหลังส่งออกเพื่อไม่ให้เหลือร่องรอย

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    ปิดใช้งาน Outlook VBA และ macro ผ่าน Group Policy
    ใช้ Microsoft Defender ASR rules เพื่อป้องกัน Office จากการรัน child process
    ใช้ WDAC หรือ AppLocker เพื่อควบคุมการโหลด DLL

    https://hackread.com/russian-apt28-notdoor-backdoor-microsoft-outlook/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Outlook ถึง OneDrive: เมื่อ APT28 ใช้ช่องโหว่ของระบบที่เราไว้ใจมากที่สุด กลุ่มแฮกเกอร์ APT28 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Fancy Bear, STRONTIUM, Sednit และอีกหลายชื่อ เป็นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย และมีประวัติการโจมตีองค์กรในประเทศ NATO มายาวนาน ล่าสุดพวกเขาถูกจับได้ว่าใช้มัลแวร์ชื่อ “NotDoor” ซึ่งเป็น VBA macro ที่ฝังอยู่ใน Microsoft Outlook เพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องของเหยื่อจากระยะไกล NotDoor ทำงานโดยรออีเมลที่มีคำสั่งลับ เช่น “Daily Report” เมื่อพบคำนี้ มันจะเริ่มทำงานทันที—ขโมยไฟล์, ส่งข้อมูลออก, ติดตั้ง payload ใหม่ และรันคำสั่ง—all ผ่านอีเมลที่ดูเหมือนปกติ โดยใช้ชื่อไฟล์ทั่วไป เช่น “report.pdf” หรือ “invoice.jpg” เพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ที่น่ากลัวคือวิธีที่มันเข้าสู่ระบบ: APT28 ใช้ไฟล์ OneDrive.exe ที่เซ็นรับรองโดย Microsoft เพื่อ sideload DLL ชื่อ SSPICLI.dll ซึ่งจะปิดการป้องกัน macro และติดตั้ง NotDoor โดยใช้ PowerShell ที่ถูกเข้ารหัสแบบ Base644 จากนั้นมันจะฝังตัวในโฟลเดอร์ macro ของ Outlook, สร้าง persistence ผ่าน registry, และปิดข้อความแจ้งเตือนทั้งหมดเพื่อไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว มัลแวร์นี้ยังใช้ DNS และ HTTP callback ไปยัง webhook.site เพื่อยืนยันการติดตั้ง และสามารถส่งข้อมูลออกไปยังอีเมล ProtonMail ที่ควบคุมโดยผู้โจมตีได้โดยตรง ✅ ลักษณะของ NotDoor และการทำงาน ➡️ เป็น VBA macro ที่ฝังใน Outlook และทำงานเมื่อมีอีเมล trigger เช่น “Daily Report” ➡️ สามารถขโมยไฟล์, ส่งข้อมูล, ติดตั้ง payload และรันคำสั่งผ่านอีเมล ➡️ ใช้ชื่อไฟล์ทั่วไปและหัวข้ออีเมลที่ดูปกติเพื่อหลบการตรวจจับ ✅ วิธีการติดตั้งและการหลบหลีก ➡️ ใช้ OneDrive.exe ที่เซ็นรับรองเพื่อ sideload DLL ชื่อ SSPICLI.dll ➡️ ใช้ PowerShell ที่เข้ารหัสเพื่อฝัง macro ใน Outlook ➡️ สร้าง persistence ผ่าน registry และปิดข้อความแจ้งเตือนของ Outlook ✅ การสื่อสารและการยืนยันการติดตั้ง ➡️ ใช้ DNS และ HTTP callback ไปยัง webhook.site เพื่อยืนยันการทำงาน ➡️ ส่งข้อมูลออกไปยังอีเมล ProtonMail ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี ➡️ ลบอีเมล trigger และไฟล์ที่ขโมยหลังส่งออกเพื่อไม่ให้เหลือร่องรอย ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ ปิดใช้งาน Outlook VBA และ macro ผ่าน Group Policy ➡️ ใช้ Microsoft Defender ASR rules เพื่อป้องกัน Office จากการรัน child process ➡️ ใช้ WDAC หรือ AppLocker เพื่อควบคุมการโหลด DLL https://hackread.com/russian-apt28-notdoor-backdoor-microsoft-outlook/
    HACKREAD.COM
    Russian APT28 Deploys “NotDoor” Backdoor Through Microsoft Outlook
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากซิมการ์ดถึง eSIM: เมื่อการปลดล็อกมือถือกลายเป็นเรื่องจำเป็นมากกว่าทางเลือก

    หลายคนอาจเคยซื้อสมาร์ทโฟน Android ผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย เช่น Verizon, AT&T หรือ T-Mobile โดยจ่ายราคาถูกลงผ่านสัญญาผ่อนรายเดือน ซึ่งสะดวกและน่าดึงดูด แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ โทรศัพท์เหล่านี้มักจะ “ล็อกเครือข่าย” ทำให้ไม่สามารถใช้ซิมจากเครือข่ายอื่นได้ทันที

    ในทางกลับกัน โทรศัพท์ที่ “ปลดล็อก” แล้วจะสามารถใช้กับซิมใดก็ได้ทั่วโลก ซึ่งเหมาะมากสำหรับนักเดินทางหรือผู้ที่ไม่ต้องการผูกมัดกับสัญญาระยะยาว โดย FCC (คณะกรรมการการสื่อสารแห่งสหรัฐฯ) ยังออกข้อบังคับให้ผู้ให้บริการต้องช่วยปลดล็อกเครื่องเมื่อสัญญาสิ้นสุด

    วิธีเช็กว่าเครื่องของคุณปลดล็อกหรือยังนั้นง่ายมาก—ถ้ายังใช้ซิมการ์ดแบบดั้งเดิม คุณสามารถยืมซิมจากเพื่อนหรือครอบครัวแล้วใส่เข้าไปในเครื่อง หากสามารถโทรออกได้โดยไม่มี error แสดงว่าเครื่องปลดล็อกแล้ว

    อีกวิธีคือเข้าไปที่ Settings > Network > SIMs แล้วลองปิด “Automatically select network” หากเครื่องแสดงเครือข่ายมากกว่าหนึ่ง แสดงว่าเครื่องน่าจะปลดล็อกแล้ว

    ในยุคที่ eSIM กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ การปลดล็อกเครื่องยิ่งสำคัญ เพราะ eSIM สามารถเปิดใช้งานผ่านแอปหรือ QR code ได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ดจริง และในปี 2025 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Apple, Samsung, Google และ Huawei ต่างรองรับ eSIM อย่างแพร่หลาย

    ความหมายของการปลดล็อกเครื่อง
    โทรศัพท์ที่ปลดล็อกสามารถใช้กับซิมจากทุกเครือข่าย
    เหมาะสำหรับนักเดินทางหรือผู้ที่ไม่ต้องการผูกสัญญาระยะยาว
    FCC บังคับให้ผู้ให้บริการต้องช่วยปลดล็อกเมื่อสัญญาหมด

    วิธีเช็กสถานะการปลดล็อก
    ใส่ซิมจากเครือข่ายอื่นแล้วลองโทรออก หากใช้งานได้แสดงว่าเครื่องปลดล็อก
    เข้า Settings > Network > SIMs แล้วปิด “Automatically select network”
    หากเห็นหลายเครือข่าย แสดงว่าเครื่องน่าจะปลดล็อก

    บริบทของ eSIM ในปี 2025
    eSIM คือซิมแบบฝังในเครื่องที่เปิดใช้งานผ่านแอปหรือ QR code
    สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Apple, Samsung, Google, Huawei รองรับ eSIM อย่างแพร่หลาย
    eSIM ช่วยให้เปลี่ยนเครือข่ายได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ดจริง

    เครื่องมือเสริมในการตรวจสอบ
    เว็บไซต์เช่น IMEI.info สามารถตรวจสอบสถานะการปลดล็อกได้
    ผู้ใช้สามารถติดต่อผู้ให้บริการโดยตรงพร้อม IMEI เพื่อขอข้อมูล
    IMEI สามารถดูได้จาก Settings > About Phone > IMEI

    https://www.slashgear.com/1956283/how-tell-android-phone-carrier-unlocked/
    🎙️ เรื่องเล่าจากซิมการ์ดถึง eSIM: เมื่อการปลดล็อกมือถือกลายเป็นเรื่องจำเป็นมากกว่าทางเลือก หลายคนอาจเคยซื้อสมาร์ทโฟน Android ผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย เช่น Verizon, AT&T หรือ T-Mobile โดยจ่ายราคาถูกลงผ่านสัญญาผ่อนรายเดือน ซึ่งสะดวกและน่าดึงดูด แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ โทรศัพท์เหล่านี้มักจะ “ล็อกเครือข่าย” ทำให้ไม่สามารถใช้ซิมจากเครือข่ายอื่นได้ทันที ในทางกลับกัน โทรศัพท์ที่ “ปลดล็อก” แล้วจะสามารถใช้กับซิมใดก็ได้ทั่วโลก ซึ่งเหมาะมากสำหรับนักเดินทางหรือผู้ที่ไม่ต้องการผูกมัดกับสัญญาระยะยาว โดย FCC (คณะกรรมการการสื่อสารแห่งสหรัฐฯ) ยังออกข้อบังคับให้ผู้ให้บริการต้องช่วยปลดล็อกเครื่องเมื่อสัญญาสิ้นสุด วิธีเช็กว่าเครื่องของคุณปลดล็อกหรือยังนั้นง่ายมาก—ถ้ายังใช้ซิมการ์ดแบบดั้งเดิม คุณสามารถยืมซิมจากเพื่อนหรือครอบครัวแล้วใส่เข้าไปในเครื่อง หากสามารถโทรออกได้โดยไม่มี error แสดงว่าเครื่องปลดล็อกแล้ว อีกวิธีคือเข้าไปที่ Settings > Network > SIMs แล้วลองปิด “Automatically select network” หากเครื่องแสดงเครือข่ายมากกว่าหนึ่ง แสดงว่าเครื่องน่าจะปลดล็อกแล้ว ในยุคที่ eSIM กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ การปลดล็อกเครื่องยิ่งสำคัญ เพราะ eSIM สามารถเปิดใช้งานผ่านแอปหรือ QR code ได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ดจริง และในปี 2025 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Apple, Samsung, Google และ Huawei ต่างรองรับ eSIM อย่างแพร่หลาย ✅ ความหมายของการปลดล็อกเครื่อง ➡️ โทรศัพท์ที่ปลดล็อกสามารถใช้กับซิมจากทุกเครือข่าย ➡️ เหมาะสำหรับนักเดินทางหรือผู้ที่ไม่ต้องการผูกสัญญาระยะยาว ➡️ FCC บังคับให้ผู้ให้บริการต้องช่วยปลดล็อกเมื่อสัญญาหมด ✅ วิธีเช็กสถานะการปลดล็อก ➡️ ใส่ซิมจากเครือข่ายอื่นแล้วลองโทรออก หากใช้งานได้แสดงว่าเครื่องปลดล็อก ➡️ เข้า Settings > Network > SIMs แล้วปิด “Automatically select network” ➡️ หากเห็นหลายเครือข่าย แสดงว่าเครื่องน่าจะปลดล็อก ✅ บริบทของ eSIM ในปี 2025 ➡️ eSIM คือซิมแบบฝังในเครื่องที่เปิดใช้งานผ่านแอปหรือ QR code ➡️ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Apple, Samsung, Google, Huawei รองรับ eSIM อย่างแพร่หลาย ➡️ eSIM ช่วยให้เปลี่ยนเครือข่ายได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ดจริง ✅ เครื่องมือเสริมในการตรวจสอบ ➡️ เว็บไซต์เช่น IMEI.info สามารถตรวจสอบสถานะการปลดล็อกได้ ➡️ ผู้ใช้สามารถติดต่อผู้ให้บริการโดยตรงพร้อม IMEI เพื่อขอข้อมูล ➡️ IMEI สามารถดูได้จาก Settings > About Phone > IMEI https://www.slashgear.com/1956283/how-tell-android-phone-carrier-unlocked/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Is Your Android Phone Carrier Unlocked? Here's How To Tell - SlashGear
    To check if your Android phone is unlocked, try swapping in another SIM card or test your network settings. If calls work, your device is unlocked.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทักษิณ” แจงยิบเปลี่ยนแผนไปดูไบ ไม่ใช่สิงคโปร์ เหตุ ตม. ถ่วงเวลาจนเครื่องลงไม่ทัน ยันกลับไทย 8 ก.ย.
    https://www.thai-tai.tv/news/21328/
    .
    #ไทยไท #ทักษิณชินวัตร #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #ตม
    “ทักษิณ” แจงยิบเปลี่ยนแผนไปดูไบ ไม่ใช่สิงคโปร์ เหตุ ตม. ถ่วงเวลาจนเครื่องลงไม่ทัน ยันกลับไทย 8 ก.ย. https://www.thai-tai.tv/news/21328/ . #ไทยไท #ทักษิณชินวัตร #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #ตม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4/2568
    จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568
    ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์
    บัตรราคา 300 บาท
    สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@sondhitalk หรือคลิก https://lin.ee/Skns1k1
    ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4/2568 จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์ บัตรราคา 300 บาท สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@sondhitalk หรือคลิก https://lin.ee/Skns1k1
    ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4/2568
    จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568
    ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์
    บัตรราคา 300 บาท
    สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@sondhitalk หรือคลิก https://lin.ee/Skns1k1
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 822 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4/2568
    จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568
    ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์
    บัตรราคา 300 บาท
    สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@sondhitalk หรือคลิก https://lin.ee/Skns1k1
    ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4/2568 จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์ บัตรราคา 300 บาท สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@sondhitalk หรือคลิก https://lin.ee/Skns1k1
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 862 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts