• ไทยแชมป์เที่ยวลาว-กัมพูชา เวียดนามมาไทย 3 เท่า

    กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเยือน 35.54 ล้านคน สร้างรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนมากที่สุด 6,733,162 คน รองลงมาคือมาเลเซีย 4,952,078 คน อินเดีย 2,129,149 คน เกาหลีใต้ 1,868,945 คน และรัสเซีย 1,745,327 คน ส่วนประเทศอื่นๆ ได้แก่ ลาว ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์

    เมื่อสำรวจประเทศใกล้เคียง เริ่มจากประเทศลาว เมื่อวันที่ 29 ม.ค. กรมพัฒนาการท่องเที่ยว เปิดเผยสถิตินักท่องเที่ยวต่างประเทศปี 2024 พบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 4,120,832 คน เพิ่มขึ้น 20.58% จากปี 2023 จำนวน 3,417,629 คน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยมากที่สุด 1,215,553 คน รองลงมาคือจีน 1,054,204 คน เวียดนาม 1,048,034 คน เกาหลีใต้ 232,895 คน และสหรัฐอเมริกา 68,221 คน

    ประเทศกัมพูชา นายฮุน ดาวี ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัว เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ระบุว่า ในปี 2024 กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22.9% เมื่อเทียบกับปี 2023 โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย เวียดนาม จีน ลาว และสหรัฐอเมริกา

    ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 7 ม.ค. สำนักงานสถิตแห่งชาติรายงานว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2024 มีจำนวน 17.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 39.5% จากปี 2023 และคิดเป็น 97.6% ของปี 2019 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ประมาณ 18 ล้านคน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้มากที่สุด 4.57 ล้านคน รองลงมาคือจีน 3.74 ล้านคน ไต้หวัน 1.29 ล้านคน สหรัฐอเมริกา 7.8 แสนคน ญี่ปุ่น 7.11 แสนคน อินเดีย 5.01 แสนคน มาเลเซีย 4.95 แสนคน ออสเตรเลีย 4.9 แสนคน และกัมพูชา 4.74 แสนคน ส่วนชาวไทยมีจำนวน 418,054 คน แต่ชาวเวียดนามมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นสามเท่า รวม 1.03 ล้านคน

    ประเทศมาเลเซีย นายเตียง คิง ซิง รมว.ท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม (MOTAC) กล่าวกับสำนักข่าวคอสโม (Kosmo) เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2024 สูงถึง 38 ล้านคน แต่ตัวเลขอย่างเป็นทางการเฉพาะ 11 เดือนของปี 2024 พบว่ามีนักท่องเที่ยวรวม 22,464,611 คน ส่วนคนที่เดินทางระยะสั้น (Excursionist) พบว่ามีจำนวน 11,691,568 คน

    รัฐบาลไทยกำลังริเริ่มนโยบาย 6 ประเทศ 1 เป้าหมายในอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา บรูไน ลาว มาเลเซีย เวียดนาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการอำนวยความสะดวกและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างๆ และการท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อ โดยเริ่มจากกัมพูชาเป็นประเทศแรก

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    ไทยแชมป์เที่ยวลาว-กัมพูชา เวียดนามมาไทย 3 เท่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเยือน 35.54 ล้านคน สร้างรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนมากที่สุด 6,733,162 คน รองลงมาคือมาเลเซีย 4,952,078 คน อินเดีย 2,129,149 คน เกาหลีใต้ 1,868,945 คน และรัสเซีย 1,745,327 คน ส่วนประเทศอื่นๆ ได้แก่ ลาว ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ เมื่อสำรวจประเทศใกล้เคียง เริ่มจากประเทศลาว เมื่อวันที่ 29 ม.ค. กรมพัฒนาการท่องเที่ยว เปิดเผยสถิตินักท่องเที่ยวต่างประเทศปี 2024 พบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 4,120,832 คน เพิ่มขึ้น 20.58% จากปี 2023 จำนวน 3,417,629 คน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยมากที่สุด 1,215,553 คน รองลงมาคือจีน 1,054,204 คน เวียดนาม 1,048,034 คน เกาหลีใต้ 232,895 คน และสหรัฐอเมริกา 68,221 คน ประเทศกัมพูชา นายฮุน ดาวี ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัว เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ระบุว่า ในปี 2024 กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22.9% เมื่อเทียบกับปี 2023 โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย เวียดนาม จีน ลาว และสหรัฐอเมริกา ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 7 ม.ค. สำนักงานสถิตแห่งชาติรายงานว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2024 มีจำนวน 17.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 39.5% จากปี 2023 และคิดเป็น 97.6% ของปี 2019 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ประมาณ 18 ล้านคน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้มากที่สุด 4.57 ล้านคน รองลงมาคือจีน 3.74 ล้านคน ไต้หวัน 1.29 ล้านคน สหรัฐอเมริกา 7.8 แสนคน ญี่ปุ่น 7.11 แสนคน อินเดีย 5.01 แสนคน มาเลเซีย 4.95 แสนคน ออสเตรเลีย 4.9 แสนคน และกัมพูชา 4.74 แสนคน ส่วนชาวไทยมีจำนวน 418,054 คน แต่ชาวเวียดนามมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นสามเท่า รวม 1.03 ล้านคน ประเทศมาเลเซีย นายเตียง คิง ซิง รมว.ท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม (MOTAC) กล่าวกับสำนักข่าวคอสโม (Kosmo) เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2024 สูงถึง 38 ล้านคน แต่ตัวเลขอย่างเป็นทางการเฉพาะ 11 เดือนของปี 2024 พบว่ามีนักท่องเที่ยวรวม 22,464,611 คน ส่วนคนที่เดินทางระยะสั้น (Excursionist) พบว่ามีจำนวน 11,691,568 คน รัฐบาลไทยกำลังริเริ่มนโยบาย 6 ประเทศ 1 เป้าหมายในอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา บรูไน ลาว มาเลเซีย เวียดนาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการอำนวยความสะดวกและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างๆ และการท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อ โดยเริ่มจากกัมพูชาเป็นประเทศแรก #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะกำหนดภาษีศุลกากรสูงขึ้นสำหรับชิปเซมิคอนดักเตอร์และสินค้าเทคโนโลยีที่นำเข้าจากต่างประเทศ แม้ว่าจะมีคำเตือนเกี่ยวกับราคาที่สูงขึ้นของพีซีและสมาร์ทโฟนก็ตาม

    ทรัมป์กล่าวว่าการกำหนดภาษีศุลกากรสูงจะเป็นแรงจูงใจให้ผู้ผลิตนำการผลิตกลับมาที่สหรัฐฯ โดยเขาได้กล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกันว่า "วิธีเดียวที่คุณจะหลุดพ้นจากเรื่องนี้ได้คือการสร้างโรงงานของคุณ...ที่นี่ในอเมริกา" ทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าเขาตั้งใจที่จะกำหนดอัตราภาษีที่สูงกว่าปัจจุบันที่ 2.5% โดยอาจสูงถึง 25%, 50% หรือแม้กระทั่ง 100%

    ทรัมป์ยังวิจารณ์บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ เช่น Apple, AMD, Broadcom, Nvidia และ Qualcomm ที่พึ่งพาการนำเข้าชิปจาก TSMC ของไต้หวัน โดยเขาเชื่อว่าการกำหนดภาษีศุลกากรสูงจะบังคับให้บริษัทเหล่านี้ลงทุนในการผลิตชิปในประเทศ

    นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวถึงความก้าวหน้าของจีนในด้าน AI โดยเฉพาะ DeepSeek ว่าเป็น "พัฒนาการที่ดี" และเป็น "ทรัพย์สิน" สำหรับภาคเทคโนโลยีทั่วโลก เขาเชื่อว่าความก้าวหน้าของจีนในด้าน AI ควรเป็น "สัญญาณเตือน" สำหรับบริษัทเทคโนโลยีของอเมริกา

    การกำหนดภาษีศุลกากรสูงอาจทำให้ราคาของพีซี สมาร์ทโฟน และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ สูงขึ้นอย่างมาก ผู้สนับสนุนการกำหนดภาษีศุลกากรเชื่อว่าจะลดการพึ่งพาการผลิตจากต่างประเทศ ส่งเสริมการผลิตในประเทศ และสร้างงานหลายพันตำแหน่งสำหรับแรงงานที่มีทักษะและไม่มีทักษะ

    https://www.techspot.com/news/106535-trump-threatens-tariffs-imported-chips-despite-warnings-about.html
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะกำหนดภาษีศุลกากรสูงขึ้นสำหรับชิปเซมิคอนดักเตอร์และสินค้าเทคโนโลยีที่นำเข้าจากต่างประเทศ แม้ว่าจะมีคำเตือนเกี่ยวกับราคาที่สูงขึ้นของพีซีและสมาร์ทโฟนก็ตาม ทรัมป์กล่าวว่าการกำหนดภาษีศุลกากรสูงจะเป็นแรงจูงใจให้ผู้ผลิตนำการผลิตกลับมาที่สหรัฐฯ โดยเขาได้กล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกันว่า "วิธีเดียวที่คุณจะหลุดพ้นจากเรื่องนี้ได้คือการสร้างโรงงานของคุณ...ที่นี่ในอเมริกา" ทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าเขาตั้งใจที่จะกำหนดอัตราภาษีที่สูงกว่าปัจจุบันที่ 2.5% โดยอาจสูงถึง 25%, 50% หรือแม้กระทั่ง 100% ทรัมป์ยังวิจารณ์บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ เช่น Apple, AMD, Broadcom, Nvidia และ Qualcomm ที่พึ่งพาการนำเข้าชิปจาก TSMC ของไต้หวัน โดยเขาเชื่อว่าการกำหนดภาษีศุลกากรสูงจะบังคับให้บริษัทเหล่านี้ลงทุนในการผลิตชิปในประเทศ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวถึงความก้าวหน้าของจีนในด้าน AI โดยเฉพาะ DeepSeek ว่าเป็น "พัฒนาการที่ดี" และเป็น "ทรัพย์สิน" สำหรับภาคเทคโนโลยีทั่วโลก เขาเชื่อว่าความก้าวหน้าของจีนในด้าน AI ควรเป็น "สัญญาณเตือน" สำหรับบริษัทเทคโนโลยีของอเมริกา การกำหนดภาษีศุลกากรสูงอาจทำให้ราคาของพีซี สมาร์ทโฟน และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ สูงขึ้นอย่างมาก ผู้สนับสนุนการกำหนดภาษีศุลกากรเชื่อว่าจะลดการพึ่งพาการผลิตจากต่างประเทศ ส่งเสริมการผลิตในประเทศ และสร้างงานหลายพันตำแหน่งสำหรับแรงงานที่มีทักษะและไม่มีทักษะ https://www.techspot.com/news/106535-trump-threatens-tariffs-imported-chips-despite-warnings-about.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump threatens tariffs on imported chips and tech goods despite warnings about higher PC, smartphone prices
    Trump's speech did not provide additional details about his proposed tariffs. However, speaking to reporters afterward, he stated his intention to implement a "much bigger" tariff rate...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศเตรียมขึ้นภาษีชิปที่ผลิตในไต้หวัน โดยมุ่งเป้าไปที่ TSMC เพื่อกดดันให้ย้ายฐานการผลิตชิป ออกจากไต้หวันไปอยู่ที่สหรัฐแทน

    ทรัมป์เตือนว่าภาษีชิปคอมพิวเตอร์ที่ผลิตในไต้หวันอาจสูงถึง 100%

    “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะขึ้นภาษีชิปคอมพิวเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ และยาจากต่างประเทศ เพื่อให้การผลิตสิ่งจำเป็นเหล่านี้กลับคืนสู่สหรัฐ” ทรัมป์กล่าวในการปราศรัยต่อพรรครีพับลิกันเมื่อวันจันทร์


    แม้ว่าบริษัทเทคโนโลซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำอย่าง TSMC ได้ก่อตั้งโรงงานในแอริโซนา แต่การผลิตชิปส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในไต้หวัน ซึ่งให้บริการลูกค้าอย่าง Apple, Nvidia, Qualcomm และ AMD

    “เราต้องการให้พวกเขากลับมา” ทรัมป์แสดงจุดมุ่งหมายอย่างเปิดเผย
    ทรัมป์ประกาศเตรียมขึ้นภาษีชิปที่ผลิตในไต้หวัน โดยมุ่งเป้าไปที่ TSMC เพื่อกดดันให้ย้ายฐานการผลิตชิป ออกจากไต้หวันไปอยู่ที่สหรัฐแทน ทรัมป์เตือนว่าภาษีชิปคอมพิวเตอร์ที่ผลิตในไต้หวันอาจสูงถึง 100% “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะขึ้นภาษีชิปคอมพิวเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ และยาจากต่างประเทศ เพื่อให้การผลิตสิ่งจำเป็นเหล่านี้กลับคืนสู่สหรัฐ” ทรัมป์กล่าวในการปราศรัยต่อพรรครีพับลิกันเมื่อวันจันทร์ แม้ว่าบริษัทเทคโนโลซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำอย่าง TSMC ได้ก่อตั้งโรงงานในแอริโซนา แต่การผลิตชิปส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในไต้หวัน ซึ่งให้บริการลูกค้าอย่าง Apple, Nvidia, Qualcomm และ AMD “เราต้องการให้พวกเขากลับมา” ทรัมป์แสดงจุดมุ่งหมายอย่างเปิดเผย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สั่งระงับอย่างครอบคลุมเงินช่วยเหลือที่มอบแก่ต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอกย้ำนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน"
    .
    "ผมระงับการจ้างงานรัฐบาลกลาง ระงับกฎเกณฑ์รัฐบาลกลาง และระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศ" ทรัมป์บอกกับฝูงชนผู้สนับสนุนลาสเวกัสเมื่อวันเสาร์(25ม.ค.) "และผมจัดตั้งกระทรวงฯใหม่ กระทรวงกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล และเรากำลังจะมีคนดีๆมากมาย"
    .
    ไม่นานหลังจากสาบานตนรับตำแหน่งในวันจันทร์ที่ 20 มกราคม ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารระงับโครงการช่วยเหลือพัฒนาต่างประเทศทั้งหมดเป็นเวลา 90 วัน โดยระหว่างนี้จะดำเนินการทบทวนเพื่อสรุปว่าโครงการช่วยเหลือเหล่านั้นสอดคล้องกับเป้าหมายต่างๆในนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" หรือไม่
    .
    ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ประกาศว่าจะปรับลดการใช้จ่ายที่ไม่ก่อประโยชน์ และปรับโฟกัสของรัฐบาลให้กันมาใส่ใจกับประเด็นภายในประเทศ อย่างเช่นตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ และต่อสู้จัดการกับพวกผู้อพยพผิดกฎหมาย
    .
    ในวันเสาร์(25ม.ค.) มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกบันทึกฉบับหนึ่ง ระงับการเบิกจ่ายเงินผ่านกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ(USAID) แต่มีข้อยกเว้นให้บางส่วน ในนั้นรวมถึงความช่วยเหลือด้านการทหารที่ป้อนแก่อิสราเอลและอียิปต์
    .
    ก่อนหน้านี้ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(22ม.ค.) รูบิโอ กล่าวว่า "ทุกๆดอลลาร์ที่เราใช้จ่าย ทุกๆโครงการที่เราให้เงินสนับสนุน และทุกๆนโยบายที่เราเสาะหา จำเป็นต้องมีความชอบธรรม ด้วยคำตอบใน 3 คำถามง่ายๆ นั่นคือ มันทำให้อเมริกาปลอดภัยขึ้นหรือไม่ มันทำให้อเมริกาเข้มแข็งขึ้นหรือเปล่า และมันทำให้อเมริกาเจริญรุ่งเรืองหรือไม่"
    .
    แม้รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อ้างว่าการระงับเงินช่วยเหลือจะไม่ส่งผลกระทบต่อาวุธที่ส่งมอบแก่ยูเครน แต่สื่อมวลชนหลายแห่งรายงานว่าบันทึกของรูบิโอ ไม่ได้พาดพิงถึงข้อยกเว้นใดๆสำหรับเงินช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนและพันธมิตรหลักอื่นๆ อย่างเช่นไต้หวันและบรรดาชาติสมาชิกนาโต
    .
    ที่ผ่านมา ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน บ่อยครั้ง สำหรับการส่งมอบความช่วยเหลือหลายหมื่้นล้านดอลลาร์แก่ยูเครน พร้อมสัญญาว่าจะผลักดันให้หาทางออกทางการทูตแทน ในวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
    .
    อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ เปิดเผยโดยไม่ขอระบุนามว่า คำสั่งของ ทรัมป์จะทำให้หลายองค์กรต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสุขภาพที่อาจช่วยชีวิตคน การรักษาเอชไอวี โภชนาการ สุขภาพแม่และเด็ก งานด้านการเกษตร การสนับสนุนองค์กรประชาสังคม และด้านการศึกษา
    .
    ตัวเลขจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า อเมริกาคือผู้บริจาคเงินช่วยเหลือต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยพวกเขาบริจาคเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.28 ล้านล้านบาท) ในปี 2023 โดยอิสราเอลได้รับเงินช่วยเหลือทางทหารปีละ 3.3 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่อียิปต์ได้รับ 1.3 พันล้านดอลลาร์
    .
    บรรดาประเทศและดินแดนที่จะได้รับเงินสนับสนุนในลักษณะเดียวกันในปี 2025 ได้แก่ ยูเครน จอร์เจีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม จิบูติ โคลอมเบียมปานามา เอกวาดอร์ อิสราเอล อียิปต์ และจอร์แดน ตามคำขอของรัฐบาลไบเดนที่ยื่นต่อสภาคองเกรส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008314
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สั่งระงับอย่างครอบคลุมเงินช่วยเหลือที่มอบแก่ต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอกย้ำนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" . "ผมระงับการจ้างงานรัฐบาลกลาง ระงับกฎเกณฑ์รัฐบาลกลาง และระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศ" ทรัมป์บอกกับฝูงชนผู้สนับสนุนลาสเวกัสเมื่อวันเสาร์(25ม.ค.) "และผมจัดตั้งกระทรวงฯใหม่ กระทรวงกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล และเรากำลังจะมีคนดีๆมากมาย" . ไม่นานหลังจากสาบานตนรับตำแหน่งในวันจันทร์ที่ 20 มกราคม ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารระงับโครงการช่วยเหลือพัฒนาต่างประเทศทั้งหมดเป็นเวลา 90 วัน โดยระหว่างนี้จะดำเนินการทบทวนเพื่อสรุปว่าโครงการช่วยเหลือเหล่านั้นสอดคล้องกับเป้าหมายต่างๆในนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" หรือไม่ . ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ประกาศว่าจะปรับลดการใช้จ่ายที่ไม่ก่อประโยชน์ และปรับโฟกัสของรัฐบาลให้กันมาใส่ใจกับประเด็นภายในประเทศ อย่างเช่นตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ และต่อสู้จัดการกับพวกผู้อพยพผิดกฎหมาย . ในวันเสาร์(25ม.ค.) มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกบันทึกฉบับหนึ่ง ระงับการเบิกจ่ายเงินผ่านกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ(USAID) แต่มีข้อยกเว้นให้บางส่วน ในนั้นรวมถึงความช่วยเหลือด้านการทหารที่ป้อนแก่อิสราเอลและอียิปต์ . ก่อนหน้านี้ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(22ม.ค.) รูบิโอ กล่าวว่า "ทุกๆดอลลาร์ที่เราใช้จ่าย ทุกๆโครงการที่เราให้เงินสนับสนุน และทุกๆนโยบายที่เราเสาะหา จำเป็นต้องมีความชอบธรรม ด้วยคำตอบใน 3 คำถามง่ายๆ นั่นคือ มันทำให้อเมริกาปลอดภัยขึ้นหรือไม่ มันทำให้อเมริกาเข้มแข็งขึ้นหรือเปล่า และมันทำให้อเมริกาเจริญรุ่งเรืองหรือไม่" . แม้รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อ้างว่าการระงับเงินช่วยเหลือจะไม่ส่งผลกระทบต่อาวุธที่ส่งมอบแก่ยูเครน แต่สื่อมวลชนหลายแห่งรายงานว่าบันทึกของรูบิโอ ไม่ได้พาดพิงถึงข้อยกเว้นใดๆสำหรับเงินช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนและพันธมิตรหลักอื่นๆ อย่างเช่นไต้หวันและบรรดาชาติสมาชิกนาโต . ที่ผ่านมา ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน บ่อยครั้ง สำหรับการส่งมอบความช่วยเหลือหลายหมื่้นล้านดอลลาร์แก่ยูเครน พร้อมสัญญาว่าจะผลักดันให้หาทางออกทางการทูตแทน ในวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน . อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ เปิดเผยโดยไม่ขอระบุนามว่า คำสั่งของ ทรัมป์จะทำให้หลายองค์กรต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสุขภาพที่อาจช่วยชีวิตคน การรักษาเอชไอวี โภชนาการ สุขภาพแม่และเด็ก งานด้านการเกษตร การสนับสนุนองค์กรประชาสังคม และด้านการศึกษา . ตัวเลขจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า อเมริกาคือผู้บริจาคเงินช่วยเหลือต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยพวกเขาบริจาคเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.28 ล้านล้านบาท) ในปี 2023 โดยอิสราเอลได้รับเงินช่วยเหลือทางทหารปีละ 3.3 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่อียิปต์ได้รับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ . บรรดาประเทศและดินแดนที่จะได้รับเงินสนับสนุนในลักษณะเดียวกันในปี 2025 ได้แก่ ยูเครน จอร์เจีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม จิบูติ โคลอมเบียมปานามา เอกวาดอร์ อิสราเอล อียิปต์ และจอร์แดน ตามคำขอของรัฐบาลไบเดนที่ยื่นต่อสภาคองเกรส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008314 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 918 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีคำสั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศแก่ประเทศต่างๆทั้งหมด ยกเว้นอิสราเอลและอียิปต์

    “จะไม่มีข้อผูกมัดเงินทุนใหม่ใดๆเกิดขึ้น หรือแม้แต่การขยายขอบเขตระยะเวลาการสนับสนุนเงินทุนต่างๆ จนกว่าจะมีการพิจารณาใหม่อีกครั้ง” ข้อความจากรายงานบางส่วนตามบันทึกภายในถึงเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

    แต่บันทึกดังกล่าวได้ระบุข้อยกเว้นสำหรับความช่วยเหลือด้านการทหารแก่อิสราเอล ซึ่งแพ็คเกจอาวุธหลักที่สหรัฐฯ มอบให้มาอย่างยาวนานได้ขยายเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่สงครามกาซา และอียิปต์ ซึ่งได้รับเงินทุนด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ จำนวนมากตั้งแต่ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอลในปี 2522

    อิสราเอลได้รับเงินทุนทางทหารจากต่างประเทศประมาณ 3.3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่อียิปต์ได้รับประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์

    แต่ขอบเขตของคำสั่งดังกล่าวยังไม่ชัดเจนว่าเงินทุนใดที่จะถูกตัดออก เนื่องจากรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นผู้กำหนดงบประมาณของรัฐบาลกลาง

    สำหรับประเทศอื่นๆ ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนดังกล่าวในปี 2025 จากการอนมุัติของรัฐบาลไบเดนได้แก่ ยูเครน ไทย จอร์เจีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม จิบูตี โคลอมเบีย ปานามา เอกวาดอร์ อิสราเอล อียิปต์ และจอร์แดน

    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAid) กล่าวว่านี่ “เป็นความโกลาหลครั้งใหญ่ องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ดังนั้นบริการด้านสุขภาพที่ช่วยชีวิตได้ทั้งหมด เอชไอวี/เอดส์ โภชนาการ สุขภาพแม่และเด็ก งานเกษตรทั้งหมด การสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหมด การศึกษา”

    เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ไม่ยอมเอ่ยถึงเงินทุนของสหรัฐที่ผ่าน USAid ในรูปแบบโครงการเพื่อพัฒนาประชาธิบไตยของแต่ละประเทศ ก็ถูกระงับด้วยเช่นกัน เป็นที่ทราบกันดีว่า เงินสนับสนุนในส่วนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความขัดแย้งในแต่ละประเทศโดยผ่านชื่อโครงการอันสวยหรู
    มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีคำสั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศแก่ประเทศต่างๆทั้งหมด ยกเว้นอิสราเอลและอียิปต์ “จะไม่มีข้อผูกมัดเงินทุนใหม่ใดๆเกิดขึ้น หรือแม้แต่การขยายขอบเขตระยะเวลาการสนับสนุนเงินทุนต่างๆ จนกว่าจะมีการพิจารณาใหม่อีกครั้ง” ข้อความจากรายงานบางส่วนตามบันทึกภายในถึงเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แต่บันทึกดังกล่าวได้ระบุข้อยกเว้นสำหรับความช่วยเหลือด้านการทหารแก่อิสราเอล ซึ่งแพ็คเกจอาวุธหลักที่สหรัฐฯ มอบให้มาอย่างยาวนานได้ขยายเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่สงครามกาซา และอียิปต์ ซึ่งได้รับเงินทุนด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ จำนวนมากตั้งแต่ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอลในปี 2522 อิสราเอลได้รับเงินทุนทางทหารจากต่างประเทศประมาณ 3.3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่อียิปต์ได้รับประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์ แต่ขอบเขตของคำสั่งดังกล่าวยังไม่ชัดเจนว่าเงินทุนใดที่จะถูกตัดออก เนื่องจากรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นผู้กำหนดงบประมาณของรัฐบาลกลาง สำหรับประเทศอื่นๆ ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนดังกล่าวในปี 2025 จากการอนมุัติของรัฐบาลไบเดนได้แก่ ยูเครน ไทย จอร์เจีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม จิบูตี โคลอมเบีย ปานามา เอกวาดอร์ อิสราเอล อียิปต์ และจอร์แดน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAid) กล่าวว่านี่ “เป็นความโกลาหลครั้งใหญ่ องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ดังนั้นบริการด้านสุขภาพที่ช่วยชีวิตได้ทั้งหมด เอชไอวี/เอดส์ โภชนาการ สุขภาพแม่และเด็ก งานเกษตรทั้งหมด การสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหมด การศึกษา” เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ไม่ยอมเอ่ยถึงเงินทุนของสหรัฐที่ผ่าน USAid ในรูปแบบโครงการเพื่อพัฒนาประชาธิบไตยของแต่ละประเทศ ก็ถูกระงับด้วยเช่นกัน เป็นที่ทราบกันดีว่า เงินสนับสนุนในส่วนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความขัดแย้งในแต่ละประเทศโดยผ่านชื่อโครงการอันสวยหรู
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าเราจะสมมติภูมิภาคเอเชีย เป็นเหมือนบ้านหลังหนึ่ง ที่มีสมาชิกครอบครัวอยู่กัน 16 คน ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ
    กลุ่มแรกคือกลุ่มอาเซียน ที่ทุกคนกำลังถังแตก
    กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายของตัวเองและมีปัญหาของตัวเองไม่เหมือนกัน เช่น ญี่ปุ่น กำลังปวดหัวกับเศรษฐกิจของตัวเอง แต่ยังมีเงินอยู่เยอะ จีน ยังไม่ลำบากแต่ก็ระมัดระวังตัวมาก เกาหลีใต้ ก็กำลังถังแตกเช่นกัน ส่วนไต้หวันนั้น มีเงินและอยู่ด้วยตัวเอง แทบจะไม่สนใจใคร

    https://youtu.be/WZZntNrf610
    ถ้าเราจะสมมติภูมิภาคเอเชีย เป็นเหมือนบ้านหลังหนึ่ง ที่มีสมาชิกครอบครัวอยู่กัน 16 คน ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มแรกคือกลุ่มอาเซียน ที่ทุกคนกำลังถังแตก กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายของตัวเองและมีปัญหาของตัวเองไม่เหมือนกัน เช่น ญี่ปุ่น กำลังปวดหัวกับเศรษฐกิจของตัวเอง แต่ยังมีเงินอยู่เยอะ จีน ยังไม่ลำบากแต่ก็ระมัดระวังตัวมาก เกาหลีใต้ ก็กำลังถังแตกเช่นกัน ส่วนไต้หวันนั้น มีเงินและอยู่ด้วยตัวเอง แทบจะไม่สนใจใคร https://youtu.be/WZZntNrf610
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⭐️ทัวร์ไต้หวัน - เจี้ยอี้ - เกาสง - ไถตง - นั่งรถไฟชมอุทยานแห่งชาติ อาลีซาน 5 วัน 4 คืน⭐️
    : สถานีรถไฟใต้ดินฟอโมซ่า โบริวาล - วัดฝอกวงซาน - ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ชูลู่ - สะพานซานเซียนไถ - หมู่บ้านศิลปะสถานีรถไฟเก่าเถี่ยฮั่ว

    📍 ช่วงวันเดินทาง : 12-16 เม.ย.68
    ⭕️ราคาเริ่มต้น : 22,555
    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน
    📢 รหัสทัวร์ : Z11908
    🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️
    ✈️ สายการบิน : SL-ไทยไลอ้อนแอร์

    ✔️Travel License: 11/11450

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e487d4

    ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/b999ee

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ไต้หวัน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ⭐️ทัวร์ไต้หวัน - เจี้ยอี้ - เกาสง - ไถตง - นั่งรถไฟชมอุทยานแห่งชาติ อาลีซาน 5 วัน 4 คืน⭐️ : สถานีรถไฟใต้ดินฟอโมซ่า โบริวาล - วัดฝอกวงซาน - ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ชูลู่ - สะพานซานเซียนไถ - หมู่บ้านศิลปะสถานีรถไฟเก่าเถี่ยฮั่ว 📍 ช่วงวันเดินทาง : 12-16 เม.ย.68 ⭕️ราคาเริ่มต้น : 22,555 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน 📢 รหัสทัวร์ : Z11908 🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️ ✈️ สายการบิน : SL-ไทยไลอ้อนแอร์ ✔️Travel License: 11/11450 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e487d4 ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/b999ee LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ไต้หวัน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.4 ที่เกิดขึ้นในไต้หวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตเวเฟอร์ของ TSMC ถึง 20,000 แผ่น. แม้ว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อโรงงานของ TSMC แต่บริษัทต้องหยุดการผลิตและอาจต้องปรับเทียบเครื่องมือใหม่

    แผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่เมือง Dapu Township, Chiayi, และมีความลึก 9.4 กิโลเมตร. TSMC ได้อพยพพนักงานออกจากโรงงานในภาคกลางและภาคใต้ของไต้หวัน และหยุดการผลิตชั่วคราว โรงงานที่ได้รับผลกระทบหลักคือ Fab 18 ใน Southern Taiwan Science Park ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตชิป 3nm, Fab 8 ที่ผลิตชิปขนาด 200mm, และ Fab 14 ที่ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีการผลิต 4nm และ 5nm

    แม้ว่าการหยุดการผลิตจะส่งผลกระทบต่อเวเฟอร์ที่กำลังอยู่ในกระบวนการผลิต แต่ TSMC คาดว่าจะกลับมาผลิตได้เต็มที่ในเร็ว ๆ นี้ การตรวจสอบพบว่าไม่มีปัญหาโครงสร้างหรือการหยุดชะงักของระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้าและน้ำ. อย่างไรก็ตาม เครื่องมือการผลิตชิปที่มีความแม่นยำสูงอาจต้องปรับเทียบใหม่ ซึ่งจะใช้เวลา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/earthquake-may-have-affected-20-000-tsmc-wafers-the-majority-will-likely-have-to-be-scrapped
    เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.4 ที่เกิดขึ้นในไต้หวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตเวเฟอร์ของ TSMC ถึง 20,000 แผ่น. แม้ว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อโรงงานของ TSMC แต่บริษัทต้องหยุดการผลิตและอาจต้องปรับเทียบเครื่องมือใหม่ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่เมือง Dapu Township, Chiayi, และมีความลึก 9.4 กิโลเมตร. TSMC ได้อพยพพนักงานออกจากโรงงานในภาคกลางและภาคใต้ของไต้หวัน และหยุดการผลิตชั่วคราว โรงงานที่ได้รับผลกระทบหลักคือ Fab 18 ใน Southern Taiwan Science Park ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตชิป 3nm, Fab 8 ที่ผลิตชิปขนาด 200mm, และ Fab 14 ที่ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีการผลิต 4nm และ 5nm แม้ว่าการหยุดการผลิตจะส่งผลกระทบต่อเวเฟอร์ที่กำลังอยู่ในกระบวนการผลิต แต่ TSMC คาดว่าจะกลับมาผลิตได้เต็มที่ในเร็ว ๆ นี้ การตรวจสอบพบว่าไม่มีปัญหาโครงสร้างหรือการหยุดชะงักของระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้าและน้ำ. อย่างไรก็ตาม เครื่องมือการผลิตชิปที่มีความแม่นยำสูงอาจต้องปรับเทียบใหม่ ซึ่งจะใช้เวลา https://www.tomshardware.com/tech-industry/earthquake-may-have-affected-20-000-tsmc-wafers-the-majority-will-likely-have-to-be-scrapped
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อน ๆ รู้ไหมว่า Silicon Motion กำลังพัฒนาคอนโทรลเลอร์ SSD รุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี PCIe 6.0! คอนโทรลเลอร์ใหม่นี้ชื่อว่า SM8466 และเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล MonTitan ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์และองค์กรขนาดใหญ่

    Silicon Motion เป็นผู้นำระดับโลกในการพัฒนา NAND flash controllers สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบ solid-state (SSD) ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ใน Zhubei, ไต้หวัน และ California, สหรัฐอเมริกา

    Wallace C. Kou, CEO ของ Silicon Motion ได้ประกาศเรื่องนี้ในคอลัมน์ของเขาที่ ChinaFlashMarket.com. แม้ว่าเขาจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่เราสามารถคาดเดาได้ว่าชิปนี้จะมีอินเทอร์เฟซ PCIe 6.0 x4 และมีแบนด์วิดท์สูงสุดถึง 30.25 GB/s ในแต่ละทิศทาง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับอินเทอร์เฟซ PCIe 5.0 x41

    นอกจากนี้ คอนโทรลเลอร์ SM8466 ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยระดับองค์กรที่ครบครัน สิ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีการผลิตที่ Silicon Motion จะใช้ในการผลิตคอนโทรลเลอร์นี้ ซึ่งยังไม่ได้เปิดเผย แต่คาดว่าจะใช้โหนดการผลิตใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/silicon-motion-is-developing-a-next-gen-pcie-6-0-ssd-controller
    เพื่อน ๆ รู้ไหมว่า Silicon Motion กำลังพัฒนาคอนโทรลเลอร์ SSD รุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี PCIe 6.0! คอนโทรลเลอร์ใหม่นี้ชื่อว่า SM8466 และเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล MonTitan ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์และองค์กรขนาดใหญ่ Silicon Motion เป็นผู้นำระดับโลกในการพัฒนา NAND flash controllers สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบ solid-state (SSD) ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ใน Zhubei, ไต้หวัน และ California, สหรัฐอเมริกา Wallace C. Kou, CEO ของ Silicon Motion ได้ประกาศเรื่องนี้ในคอลัมน์ของเขาที่ ChinaFlashMarket.com. แม้ว่าเขาจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่เราสามารถคาดเดาได้ว่าชิปนี้จะมีอินเทอร์เฟซ PCIe 6.0 x4 และมีแบนด์วิดท์สูงสุดถึง 30.25 GB/s ในแต่ละทิศทาง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับอินเทอร์เฟซ PCIe 5.0 x41 นอกจากนี้ คอนโทรลเลอร์ SM8466 ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยระดับองค์กรที่ครบครัน สิ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีการผลิตที่ Silicon Motion จะใช้ในการผลิตคอนโทรลเลอร์นี้ ซึ่งยังไม่ได้เปิดเผย แต่คาดว่าจะใช้โหนดการผลิตใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/silicon-motion-is-developing-a-next-gen-pcie-6-0-ssd-controller
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • NATO ได้เริ่มปฏิบัติการที่เรียกว่า "Operation Baltic Sentry" เพื่อปกป้องสายเคเบิลใต้น้ำที่ใช้ในการส่งพลังงานและการสื่อสารในทะเลบอลติกจากการก่อวินาศกรรม โดยพวกเขาได้ใช้เรือผิวน้ำไร้คนขับ (USVs) หรือที่เรียกว่า "เรือโดรน" เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ในสถานการณ์ในพื้นที่นี้

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากมีเหตุการณ์หลายครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา ที่มีเรือที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลใต้น้ำที่สำคัญ โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 เมื่อเรือที่มีธงชาติจีนถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลสื่อสารสองสายที่เชื่อมต่อฟินแลนด์และสวีเดนกับยุโรปกลาง และเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม เมื่อเรืออีกลำหนึ่งตัดสายเคเบิลพลังงานและสายเคเบิลสื่อสารบางส่วนระหว่างฟินแลนด์และเอสโตเนีย

    นอกจากนี้ ไต้หวันก็เพิ่มการเฝ้าระวังเครือข่ายสายเคเบิลใต้น้ำของตนเอง หลังจากที่มีเรือบรรทุกสินค้าที่เป็นของจีนถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตใต้น้ำที่เชื่อมต่อประเทศกับชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา

    การใช้เรือโดรนนี้จะช่วยให้ NATO สามารถตรวจจับและป้องกันการก่อวินาศกรรมได้ดียิ่งขึ้น โดยเรือโดรนเหล่านี้จะมีเซ็นเซอร์หลายชนิด รวมถึงเซ็นเซอร์ภาพและเซ็นเซอร์แม่เหล็กไฟฟ้า และข้อมูลที่ได้จะถูกแบ่งปันให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

    https://www.tomshardware.com/networking/nato-deploys-sea-drones-to-safeguard-undersea-cable-infrastructure
    NATO ได้เริ่มปฏิบัติการที่เรียกว่า "Operation Baltic Sentry" เพื่อปกป้องสายเคเบิลใต้น้ำที่ใช้ในการส่งพลังงานและการสื่อสารในทะเลบอลติกจากการก่อวินาศกรรม โดยพวกเขาได้ใช้เรือผิวน้ำไร้คนขับ (USVs) หรือที่เรียกว่า "เรือโดรน" เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ในสถานการณ์ในพื้นที่นี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากมีเหตุการณ์หลายครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา ที่มีเรือที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลใต้น้ำที่สำคัญ โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 เมื่อเรือที่มีธงชาติจีนถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลสื่อสารสองสายที่เชื่อมต่อฟินแลนด์และสวีเดนกับยุโรปกลาง และเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม เมื่อเรืออีกลำหนึ่งตัดสายเคเบิลพลังงานและสายเคเบิลสื่อสารบางส่วนระหว่างฟินแลนด์และเอสโตเนีย นอกจากนี้ ไต้หวันก็เพิ่มการเฝ้าระวังเครือข่ายสายเคเบิลใต้น้ำของตนเอง หลังจากที่มีเรือบรรทุกสินค้าที่เป็นของจีนถูกสงสัยว่าทำลายสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตใต้น้ำที่เชื่อมต่อประเทศกับชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา การใช้เรือโดรนนี้จะช่วยให้ NATO สามารถตรวจจับและป้องกันการก่อวินาศกรรมได้ดียิ่งขึ้น โดยเรือโดรนเหล่านี้จะมีเซ็นเซอร์หลายชนิด รวมถึงเซ็นเซอร์ภาพและเซ็นเซอร์แม่เหล็กไฟฟ้า และข้อมูลที่ได้จะถูกแบ่งปันให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง https://www.tomshardware.com/networking/nato-deploys-sea-drones-to-safeguard-undersea-cable-infrastructure
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    NATO deploys 'sea drones' to safeguard undersea cable infrastructure
    These drones would hopefully serve as a deterrent to undersea cable sabotage done by private vessels.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดกำเนิดตำนานชาไข่มุกไต้หวัน
    จุดกำเนิดตำนานชาไข่มุกไต้หวัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ได้จัดงานเลี้ยงสุดหรูที่ไต้หวัน! งานนี้มีชื่อว่า "trillion dollar banquet" และมีผู้บริหารจากบริษัทชิป AI ชั้นนำของ Nvidia มาร่วมงานถึง 35 คนเลยทีเดียว ในงานนี้มีผู้บริหารจาก Quanta, Asus, Acer, Inventec, Gigabyte, ASRock, และ MSI มาร่วมงานด้วย

    นอกจากนี้ Jensen Huang ยังได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ร่วมกับ CC Wei ประธานของ TSMC ซึ่งทั้งสองคนได้กล่าวชื่นชมกันและกันอย่างมาก Huang กล่าวว่า "ถ้าไม่มี TSMC, Nvidia ก็คงไม่มีทางเป็นไปได้" และ Wei ก็เสริมว่า "Jensen Huang นำมันมาที่ไต้หวัน จำไว้นะ"

    นอกจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจแล้ว ดูเหมือนว่า Jensen Huang และ CC Wei ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นในวงการนี้

    Jensen Huang ยังมีความเป็นกันเองกับผู้คนมากๆ เขาเคยถูกพบเห็นกินอาหารข้างทางในเวียดนามและเข้าร่วมงาน LAN party ที่ฮานอย ในการเยือนไต้หวันครั้งนี้ เขายังได้แจกไส้กรอกและขนมปังงาให้กับผู้คนที่รอเขาอยู่หน้าร้านอาหาร และยังเซ็นลายเซ็นและถ่ายรูปกับแฟนๆ อีกด้วย

    นอกจากนี้ เขายังแจก "hongbao" หรือซองแดงที่มีเงิน NT$1,000 หรือประมาณ US$30 ให้กับเด็กๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสุข และโชคดีในช่วงเทศกาลตรุษจีน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidias-huang-enjoys-trillion-dollar-banquet-with-35-taiwanese-semiconductor-industry-chiefs
    Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ได้จัดงานเลี้ยงสุดหรูที่ไต้หวัน! งานนี้มีชื่อว่า "trillion dollar banquet" และมีผู้บริหารจากบริษัทชิป AI ชั้นนำของ Nvidia มาร่วมงานถึง 35 คนเลยทีเดียว ในงานนี้มีผู้บริหารจาก Quanta, Asus, Acer, Inventec, Gigabyte, ASRock, และ MSI มาร่วมงานด้วย นอกจากนี้ Jensen Huang ยังได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ร่วมกับ CC Wei ประธานของ TSMC ซึ่งทั้งสองคนได้กล่าวชื่นชมกันและกันอย่างมาก Huang กล่าวว่า "ถ้าไม่มี TSMC, Nvidia ก็คงไม่มีทางเป็นไปได้" และ Wei ก็เสริมว่า "Jensen Huang นำมันมาที่ไต้หวัน จำไว้นะ" นอกจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจแล้ว ดูเหมือนว่า Jensen Huang และ CC Wei ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นในวงการนี้ Jensen Huang ยังมีความเป็นกันเองกับผู้คนมากๆ เขาเคยถูกพบเห็นกินอาหารข้างทางในเวียดนามและเข้าร่วมงาน LAN party ที่ฮานอย ในการเยือนไต้หวันครั้งนี้ เขายังได้แจกไส้กรอกและขนมปังงาให้กับผู้คนที่รอเขาอยู่หน้าร้านอาหาร และยังเซ็นลายเซ็นและถ่ายรูปกับแฟนๆ อีกด้วย นอกจากนี้ เขายังแจก "hongbao" หรือซองแดงที่มีเงิน NT$1,000 หรือประมาณ US$30 ให้กับเด็กๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสุข และโชคดีในช่วงเทศกาลตรุษจีน https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidias-huang-enjoys-trillion-dollar-banquet-with-35-taiwanese-semiconductor-industry-chiefs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงความท้าทายที่ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) เผชิญในการขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกา แม้ว่ากฎหมายของไต้หวันจะอนุญาตให้ TSMC ส่งออกเทคโนโลยีการผลิตล่าสุดไปยังโรงงานในต่างประเทศได้ แต่การดำเนินการนี้ยังคงมีความซับซ้อนเนื่องจากระยะทางและระบบราชการในสหรัฐอเมริกา

    C.C. Wei ประธานและซีอีโอของ TSMC อธิบายว่า การเพิ่มกำลังการผลิตเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำในสหรัฐอเมริกานั้นซับซ้อน เนื่องจากโรงงานในรัฐแอริโซนาอยู่ห่างไกลจากทีมวิจัยและพัฒนาในไต้หวัน ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่กำหนด นอกจากนี้ ระบบราชการในสหรัฐอเมริกายังทำให้การก่อสร้างโรงงานใช้เวลานานกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับไต้หวัน และมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติตามกฎระเบียบสูงถึง 35 ล้านดอลลาร์

    นอกจากนี้ การขาดแคลนซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นในสหรัฐอเมริกายังทำให้ TSMC ต้องขนส่งสารเคมีจากไต้หวันไปยังลอสแอนเจลิสและจากนั้นไปยังแอริโซนา ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายในการผลิต

    การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เช่น การออกแบบโรงงานใหม่เพื่อรองรับเครื่องมือ EUV ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและการใช้สารเคมีใหม่ที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีการผลิตใหม่

    การขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกายังคงเป็นความท้าทายที่ TSMC ต้องเผชิญ เนื่องจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีและระบบราชการที่เข้มงวดในสหรัฐอเมริกา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/bureaucracy-and-distance-mean-tsmcs-u-s-fabs-may-always-be-behind-taiwan
    บทความนี้กล่าวถึงความท้าทายที่ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) เผชิญในการขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกา แม้ว่ากฎหมายของไต้หวันจะอนุญาตให้ TSMC ส่งออกเทคโนโลยีการผลิตล่าสุดไปยังโรงงานในต่างประเทศได้ แต่การดำเนินการนี้ยังคงมีความซับซ้อนเนื่องจากระยะทางและระบบราชการในสหรัฐอเมริกา C.C. Wei ประธานและซีอีโอของ TSMC อธิบายว่า การเพิ่มกำลังการผลิตเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำในสหรัฐอเมริกานั้นซับซ้อน เนื่องจากโรงงานในรัฐแอริโซนาอยู่ห่างไกลจากทีมวิจัยและพัฒนาในไต้หวัน ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่กำหนด นอกจากนี้ ระบบราชการในสหรัฐอเมริกายังทำให้การก่อสร้างโรงงานใช้เวลานานกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับไต้หวัน และมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติตามกฎระเบียบสูงถึง 35 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ การขาดแคลนซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นในสหรัฐอเมริกายังทำให้ TSMC ต้องขนส่งสารเคมีจากไต้หวันไปยังลอสแอนเจลิสและจากนั้นไปยังแอริโซนา ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายในการผลิต การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เช่น การออกแบบโรงงานใหม่เพื่อรองรับเครื่องมือ EUV ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและการใช้สารเคมีใหม่ที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีการผลิตใหม่ การขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกายังคงเป็นความท้าทายที่ TSMC ต้องเผชิญ เนื่องจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีและระบบราชการที่เข้มงวดในสหรัฐอเมริกา https://www.tomshardware.com/tech-industry/bureaucracy-and-distance-mean-tsmcs-u-s-fabs-may-always-be-behind-taiwan
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Bureaucracy and distance mean TSMC's U.S. fabs may always be behind Taiwan
    TSMC says it is close to impossible to ramp up a leading-edge node in the U.S.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศก.จีนปี 2024 โตที่ 5% ท่ามกลางปัญหาอสังหาฯ เงินฝืด ระดับการว่างงานพุ่งสูงในคนหนุ่มสาว
    รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นศก.กชุดใหญ่ในช่วงปลายปีเพื่อดูแลสภาพเศรษฐกิจ สร้างเสถียรภาพ แม้ภายในจะเจอปัญหา แต่ภาคการส่งออกยังคงแข็งแกร่งมีการเติบโตที่ดี
    ทั้งปี 2024 GDP โตแตะ 134,908.4 พันล้านหยวน โต5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
    รายไตรมาส >> Q1/24 โต 5.3%, Q2/24 โต 4.7%, Q3/24 โต 4.6%, Q4/24 โต 5.4%

    เกินดุลการค้า 7.06 ล้านล้านหยวน (~$990 bn.) แต่เมื่อทรัมป์กำลังจะก้าวขึ้นมาบริหารประเทศ จีนจะเจอกับความท้าทายจากนโยบายกำแพงภาษี

    อุตฯกลุ่มไฮเทคฯ ของจีนสามารถทำกำไรได้ถึง 6.6 พันล้านหยวนในระยะ 11 เดือนแรกของปี 2024 (ลดลง 4.7% เมื่อเทียบรายปี)

    ภาคบริการโต 5% เทียบรายปี บริการด้าน IT โต 10.9%

    ตลาดค้าปลีกฟื้นตัวต่อเนื่อง ยอดขายแตะ 48,789.5 พันล้านหยวน เพิ่ม 3.5% ยอดขายส่วนใหญ่กระจุกตัวในเมืองมากกว่าชนบท ยอดขายปลีกสินค้าออนไลน์โตแกร่งที่ 7.2% นับเป็น 26.8% ของยอดค้าปลีกรวม สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

    จำนวนประชากร 1,408.28 ล้านคน ลดลง 1.39 ล้านคน จำนวนประชากรวัยทำงาน (อายุ 16-59 ปี) เป็นประชากรที่มีสัดส่วนสูงสุด แต่ประเด็นสังสคมสูงวัยยังคงเป็นประเด็นที่จีนให้ความสำคัญ นอกจากนี้ 67% ของประชากรอาศัยในเขตเมือง เพิ่มขึ้น 0.84% จากปีก่อนหน้า


    เงินเฟ้อและการจ้างงาน
    ดัชนีที่ใช้วัดเงินเฟ้อ --consumer price index (CPI)-- เพิ่ม 0.2% ในปี 2024 << บอกว่า จีนเอาอยู่ ^^
    core CPI, excluding food and energy prices, เพิ่ม 0.5% << ธนาคารกลางทั่วไปมักใช้ core cpi ในการกำหนดนโยบายการเงิน

    การจ้างงาน ภาพรวมทรงตัว อัตราว่างงานอยู่ที่ 5.1% ดีขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า จำนวนแรงงานที่อพยพจากชนบทเข้าเมืองเพิ่ม 0.7% หรือ 299.73 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อนหน้า 2.2 ล้านคน
    .......................................
    เพิ่มเติม
    1. คนจีนมีค่านิยมสร้างความมั่งคั่งจาก อสังหาฯ (บ้าน ที่ดิน) ทองคำ ตลาดหุ้น ดังนั้นเมื่อตลาดไหนมีปัญหา เงินจะย้ายไปหาตลาดที่เหลือ เช่น ปีที่ผ่านมา อสังหาฯ มีปัญหา เงินลงทุนย้ายเข้าตลาดทองคำ ส่วนตลาดหุ้นเป็นการรอมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาลกลาง
    2. ผู้พัฒนาอสังหาฯของจีน ในช่วงขาขึ้นของตลาดอสังหาฯ บริษัทเมื่อได้รับเงินจอง เงินดาวน์จากผู้ซื้อ จะยังไม่เข้าก่อสร้างโครงการ (ต่างจากประเทศไทย) แต่จะนำเงินจอง เงินดาวน์ไปไล่ซื้อที่ดินแปลงอื่นต่อ (ที่ดินจะมีราคาดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง)
    3. จีนได้มีการย้ายฐานการผลิตไปยัง เวียดนาม เม็กซิโก (ซึ่งเม็กซิโก ก็ติดอันดับประเทศเกินดุลการค้ากับสหรัฐอันดับต้น ๆ และทรัมป์ก็มีนโยบายที่จะจัดการประเด็นนี้เช่นกัน) ส่วนเวียดนามที่มีฐานการผลิตสินค้ากลุ่มอิเล็คฯ อาจจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า
    4. จีนเป็นประเทศมีการนำเข้าน้ำมันดิบมากเป็นอันดับ 1 ของโลก และ มีการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย (ในราคา discount) นำมากลั่น ใช้ ขายต่อ
    5. สี จิ้นผิง ระบุ ยังมุ่งหมายที่จะควบรวมไต้หวันเข้ามาเป็นประเทศเดียวกัน
    6. PBoC (ธนาคารกลางจีน) อาจจะปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยที่ปัจจุบันมีหลายตัวให้เหลือตัวเดียวคือ ดอกเบี้ยนโยบาย แต่ยังไม่ระบุเวลาที่ชัดเจน
    #เศรษฐกิจ


    ศก.จีนปี 2024 โตที่ 5% ท่ามกลางปัญหาอสังหาฯ เงินฝืด ระดับการว่างงานพุ่งสูงในคนหนุ่มสาว รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นศก.กชุดใหญ่ในช่วงปลายปีเพื่อดูแลสภาพเศรษฐกิจ สร้างเสถียรภาพ แม้ภายในจะเจอปัญหา แต่ภาคการส่งออกยังคงแข็งแกร่งมีการเติบโตที่ดี ทั้งปี 2024 GDP โตแตะ 134,908.4 พันล้านหยวน โต5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รายไตรมาส >> Q1/24 โต 5.3%, Q2/24 โต 4.7%, Q3/24 โต 4.6%, Q4/24 โต 5.4% เกินดุลการค้า 7.06 ล้านล้านหยวน (~$990 bn.) แต่เมื่อทรัมป์กำลังจะก้าวขึ้นมาบริหารประเทศ จีนจะเจอกับความท้าทายจากนโยบายกำแพงภาษี อุตฯกลุ่มไฮเทคฯ ของจีนสามารถทำกำไรได้ถึง 6.6 พันล้านหยวนในระยะ 11 เดือนแรกของปี 2024 (ลดลง 4.7% เมื่อเทียบรายปี) ภาคบริการโต 5% เทียบรายปี บริการด้าน IT โต 10.9% ตลาดค้าปลีกฟื้นตัวต่อเนื่อง ยอดขายแตะ 48,789.5 พันล้านหยวน เพิ่ม 3.5% ยอดขายส่วนใหญ่กระจุกตัวในเมืองมากกว่าชนบท ยอดขายปลีกสินค้าออนไลน์โตแกร่งที่ 7.2% นับเป็น 26.8% ของยอดค้าปลีกรวม สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง จำนวนประชากร 1,408.28 ล้านคน ลดลง 1.39 ล้านคน จำนวนประชากรวัยทำงาน (อายุ 16-59 ปี) เป็นประชากรที่มีสัดส่วนสูงสุด แต่ประเด็นสังสคมสูงวัยยังคงเป็นประเด็นที่จีนให้ความสำคัญ นอกจากนี้ 67% ของประชากรอาศัยในเขตเมือง เพิ่มขึ้น 0.84% จากปีก่อนหน้า เงินเฟ้อและการจ้างงาน ดัชนีที่ใช้วัดเงินเฟ้อ --consumer price index (CPI)-- เพิ่ม 0.2% ในปี 2024 << บอกว่า จีนเอาอยู่ ^^ core CPI, excluding food and energy prices, เพิ่ม 0.5% << ธนาคารกลางทั่วไปมักใช้ core cpi ในการกำหนดนโยบายการเงิน การจ้างงาน ภาพรวมทรงตัว อัตราว่างงานอยู่ที่ 5.1% ดีขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า จำนวนแรงงานที่อพยพจากชนบทเข้าเมืองเพิ่ม 0.7% หรือ 299.73 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อนหน้า 2.2 ล้านคน ....................................... เพิ่มเติม 1. คนจีนมีค่านิยมสร้างความมั่งคั่งจาก อสังหาฯ (บ้าน ที่ดิน) ทองคำ ตลาดหุ้น ดังนั้นเมื่อตลาดไหนมีปัญหา เงินจะย้ายไปหาตลาดที่เหลือ เช่น ปีที่ผ่านมา อสังหาฯ มีปัญหา เงินลงทุนย้ายเข้าตลาดทองคำ ส่วนตลาดหุ้นเป็นการรอมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาลกลาง 2. ผู้พัฒนาอสังหาฯของจีน ในช่วงขาขึ้นของตลาดอสังหาฯ บริษัทเมื่อได้รับเงินจอง เงินดาวน์จากผู้ซื้อ จะยังไม่เข้าก่อสร้างโครงการ (ต่างจากประเทศไทย) แต่จะนำเงินจอง เงินดาวน์ไปไล่ซื้อที่ดินแปลงอื่นต่อ (ที่ดินจะมีราคาดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง) 3. จีนได้มีการย้ายฐานการผลิตไปยัง เวียดนาม เม็กซิโก (ซึ่งเม็กซิโก ก็ติดอันดับประเทศเกินดุลการค้ากับสหรัฐอันดับต้น ๆ และทรัมป์ก็มีนโยบายที่จะจัดการประเด็นนี้เช่นกัน) ส่วนเวียดนามที่มีฐานการผลิตสินค้ากลุ่มอิเล็คฯ อาจจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า 4. จีนเป็นประเทศมีการนำเข้าน้ำมันดิบมากเป็นอันดับ 1 ของโลก และ มีการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย (ในราคา discount) นำมากลั่น ใช้ ขายต่อ 5. สี จิ้นผิง ระบุ ยังมุ่งหมายที่จะควบรวมไต้หวันเข้ามาเป็นประเทศเดียวกัน 6. PBoC (ธนาคารกลางจีน) อาจจะปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยที่ปัจจุบันมีหลายตัวให้เหลือตัวเดียวคือ ดอกเบี้ยนโยบาย แต่ยังไม่ระบุเวลาที่ชัดเจน #เศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ในไต้หวันได้ปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาความร้อนสูงเกินไปของเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่น GB200 ของ NVIDIA และยืนยันว่าการผลิตยังคงเป็นไปตามกำหนดการ ข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาการออกแบบของเซิร์ฟเวอร์ GB200 เริ่มแพร่กระจายตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 โดย NVIDIA ได้กล่าวว่าปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ในรายงานล่าสุดพบว่าปัญหายังคงเกิดขึ้น ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ลดคำสั่งซื้อ

    รายงานจาก Taiwan Economic Daily อ้างถึงผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ในไต้หวันที่กล่าวว่าข่าวลือเหล่านี้เป็นเพียงการคาดเดา และการผลิตยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ พวกเขายังกล่าวว่า "ข่าวลือเดิมจะเกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง?

    ในเดือนพฤศจิกายน 2024 มีการเปิดเผยว่าเซิร์ฟเวอร์ Blackwell ของ NVIDIA มีปัญหาการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อชิปของ TSMC Microsoft เคยวางแผนที่จะติดตั้งตู้เซิร์ฟเวอร์ AI GB200 กว่า 50,000 ตู้ แต่ตัวเลขนี้ลดลงอย่างมาก. นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังหันไปใช้โซลูชันรุ่นเก่าของ NVIDIA อย่าง Hopper แทน ลูกค้ารายใหญ่เช่น Microsoft, Amazon และ OpenAI ได้ลดคำสั่งซื้อ GB200 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าห่วงโซ่อุปทานกำลังเผชิญกับปัญหา

    แม้ว่าปัญหาของเซิร์ฟเวอร์ GB200 อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของ NVIDIA แต่การเติบโตของเซิร์ฟเวอร์ AI ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าห่วงโซ่อุปทานจะต้องเผชิญกับปัญหา อย่างไรก็ตาม ด้วยทรัพยากรทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่ NVIDIA มีอยู่ในขณะนี้ คาดว่าปัญหาของเซิร์ฟเวอร์ GB200 จะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว

    https://wccf.tech/1ftir
    ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ในไต้หวันได้ปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาความร้อนสูงเกินไปของเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่น GB200 ของ NVIDIA และยืนยันว่าการผลิตยังคงเป็นไปตามกำหนดการ ข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาการออกแบบของเซิร์ฟเวอร์ GB200 เริ่มแพร่กระจายตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 โดย NVIDIA ได้กล่าวว่าปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ในรายงานล่าสุดพบว่าปัญหายังคงเกิดขึ้น ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ลดคำสั่งซื้อ รายงานจาก Taiwan Economic Daily อ้างถึงผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ในไต้หวันที่กล่าวว่าข่าวลือเหล่านี้เป็นเพียงการคาดเดา และการผลิตยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ พวกเขายังกล่าวว่า "ข่าวลือเดิมจะเกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง? ในเดือนพฤศจิกายน 2024 มีการเปิดเผยว่าเซิร์ฟเวอร์ Blackwell ของ NVIDIA มีปัญหาการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อชิปของ TSMC Microsoft เคยวางแผนที่จะติดตั้งตู้เซิร์ฟเวอร์ AI GB200 กว่า 50,000 ตู้ แต่ตัวเลขนี้ลดลงอย่างมาก. นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังหันไปใช้โซลูชันรุ่นเก่าของ NVIDIA อย่าง Hopper แทน ลูกค้ารายใหญ่เช่น Microsoft, Amazon และ OpenAI ได้ลดคำสั่งซื้อ GB200 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าห่วงโซ่อุปทานกำลังเผชิญกับปัญหา แม้ว่าปัญหาของเซิร์ฟเวอร์ GB200 อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของ NVIDIA แต่การเติบโตของเซิร์ฟเวอร์ AI ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าห่วงโซ่อุปทานจะต้องเผชิญกับปัญหา อย่างไรก็ตาม ด้วยทรัพยากรทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่ NVIDIA มีอยู่ในขณะนี้ คาดว่าปัญหาของเซิร์ฟเวอร์ GB200 จะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว https://wccf.tech/1ftir
    WCCF.TECH
    Taiwanese Server Manufacturers Deny Overheating Issues with NVIDIA's GB200 AI Servers, Claim Production Is On Schedule
    Taiwanese manufacturers have claimed that NVIDIA's GB200 AI servers have no "overheating" issues and that production is right track.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนยกระดับการส่งมอบยุทโธปกรณ์ทางทหารของอเมริกาที่ป้อนแก่ไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดกับจีน ซึ่งกล่าวอ้างว่าเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จากคำยืนยันของ ไมค์ วอลต์ซ ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    ระหว่างกล่าว ณ สถาบันสันติภาพในวอชิงตัน เมื่อวันอังคาร(14ม.ค.) วอลต์ซ สมาชิกสภาคองเกรสจากฟลอริดา เน้นย้ำว่า "เรามีสินค้าคงค้างกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ที่พวกเขาจ่ายเงินมา และเราจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้พวกเขาได้รับในสิ่งที่พวกเขายอมควักเงินเพื่อสิ่งนี้ ที่เรียกว่ามาตรการป้องปราม"
    .
    วอลต์ซ ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะเดินหน้าแสวงหานโยบายครอบคลุมในเรื่องเกี่ยวกับไต้หวัน ยุทธศาสตร์นี้รวมไปถึงการติดตั้งแสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองแก่เกาะแห่งนี้ อาทิระบบขีปนาวุธเคลื่อนที่ โดรนและเทคโนโลยีสอดแนมล้ำสมัย ที่จะทำให้จีนแผ่นดินใหญ่อาจต้องทุ่มทุนมากกว่าเดิม หากคิดใช้กำลังเข้าควบคุมไต้หวัน
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมของไต้หวัน แถลงว่ามีแผนประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปี โดยเผยว่าพวกเขาจะติดตั้งระบบอาวุธ NASAMS ที่ผลิตโดยนอร์เวย์ ในตำแหน่งต่างๆที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ทางเหนือของเกาะ
    .
    ปักกิ่งมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ภายใต้หลักการ "จีนเดียว" และยืนยันว่าท้ายที่สุดจะมีการรวมชาติ ในนั้นรวมถึงผ่านการใช้กำลังถ้าจำเป็น นอกจากนี้แล้ว จีน ยังส่งเสียงคัดค้านซ้ำๆต่อการแทรกแซงใดๆของต่างชาติในประเด็นนี้ ในนั้นรวมถึงการที่สหรัฐฯขายอาวุธแก่ไต้หวัน โดยปักกิ่งมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของพวกเขาและคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาค
    .
    ไต้หวัน ปกครองตนเองมาตั้งแต่ปี 1949 ครั้งกองกำลังชาตินิยมล่าถอยไปยังเกาะแห่งนี้ หลังจากพ่ายแพ้ในสงคามกลางเมืองของจีน ปัจจุบันเหลือไม่กี่ประเทศที่ให้การยอมรับอธิปไตยของเกาะ และเกือบทั่วโลก ยึดถือจุดยืนของจีน ที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน
    .
    อย่างไรก็ตามในส่วนของสหรัฐฯ แม้อย่างเป็นทางการแล้ว ยืดถือนโยบายจีนเดียว แต่ยังคงป้อนอาวุธให้แก่เกาะแห่งนี้ และประสานความร่วมมือทางทหารกับรัฐบาลในไทเป
    .
    จีน ประณามซ้ำๆต่อกรณีสหรัฐฯขายอาวุธให้ไต้หวัน ว่าบั่นทอนเสถียรภาพและยั่วยุ และทำการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศถี่ๆรอบๆเกาะ เป็นการตอบโต้
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน จีนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรบริษัทกลาโหม 7 แห่งของสหรัฐฯ และสั่งแบนส่งออกสินค้าที่สามารถใช้ในทั้งทางพาณิยช์และด้านการทหาร ไปยังบรรดาบริษัทอเมริกา ในนั้นรวมถึงโบอิ้ง, เจเนรัล ไดนามิกส์, ล็อคฮีด มาร์ติน และ เรย์เธียน ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง อนุมัติจัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมแก่ไต้หวัน อีก 571 ล้านดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004692
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนยกระดับการส่งมอบยุทโธปกรณ์ทางทหารของอเมริกาที่ป้อนแก่ไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดกับจีน ซึ่งกล่าวอ้างว่าเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จากคำยืนยันของ ไมค์ วอลต์ซ ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ . ระหว่างกล่าว ณ สถาบันสันติภาพในวอชิงตัน เมื่อวันอังคาร(14ม.ค.) วอลต์ซ สมาชิกสภาคองเกรสจากฟลอริดา เน้นย้ำว่า "เรามีสินค้าคงค้างกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ที่พวกเขาจ่ายเงินมา และเราจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้พวกเขาได้รับในสิ่งที่พวกเขายอมควักเงินเพื่อสิ่งนี้ ที่เรียกว่ามาตรการป้องปราม" . วอลต์ซ ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะเดินหน้าแสวงหานโยบายครอบคลุมในเรื่องเกี่ยวกับไต้หวัน ยุทธศาสตร์นี้รวมไปถึงการติดตั้งแสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองแก่เกาะแห่งนี้ อาทิระบบขีปนาวุธเคลื่อนที่ โดรนและเทคโนโลยีสอดแนมล้ำสมัย ที่จะทำให้จีนแผ่นดินใหญ่อาจต้องทุ่มทุนมากกว่าเดิม หากคิดใช้กำลังเข้าควบคุมไต้หวัน . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมของไต้หวัน แถลงว่ามีแผนประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปี โดยเผยว่าพวกเขาจะติดตั้งระบบอาวุธ NASAMS ที่ผลิตโดยนอร์เวย์ ในตำแหน่งต่างๆที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ทางเหนือของเกาะ . ปักกิ่งมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ภายใต้หลักการ "จีนเดียว" และยืนยันว่าท้ายที่สุดจะมีการรวมชาติ ในนั้นรวมถึงผ่านการใช้กำลังถ้าจำเป็น นอกจากนี้แล้ว จีน ยังส่งเสียงคัดค้านซ้ำๆต่อการแทรกแซงใดๆของต่างชาติในประเด็นนี้ ในนั้นรวมถึงการที่สหรัฐฯขายอาวุธแก่ไต้หวัน โดยปักกิ่งมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของพวกเขาและคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาค . ไต้หวัน ปกครองตนเองมาตั้งแต่ปี 1949 ครั้งกองกำลังชาตินิยมล่าถอยไปยังเกาะแห่งนี้ หลังจากพ่ายแพ้ในสงคามกลางเมืองของจีน ปัจจุบันเหลือไม่กี่ประเทศที่ให้การยอมรับอธิปไตยของเกาะ และเกือบทั่วโลก ยึดถือจุดยืนของจีน ที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน . อย่างไรก็ตามในส่วนของสหรัฐฯ แม้อย่างเป็นทางการแล้ว ยืดถือนโยบายจีนเดียว แต่ยังคงป้อนอาวุธให้แก่เกาะแห่งนี้ และประสานความร่วมมือทางทหารกับรัฐบาลในไทเป . จีน ประณามซ้ำๆต่อกรณีสหรัฐฯขายอาวุธให้ไต้หวัน ว่าบั่นทอนเสถียรภาพและยั่วยุ และทำการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศถี่ๆรอบๆเกาะ เป็นการตอบโต้ . ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน จีนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรบริษัทกลาโหม 7 แห่งของสหรัฐฯ และสั่งแบนส่งออกสินค้าที่สามารถใช้ในทั้งทางพาณิยช์และด้านการทหาร ไปยังบรรดาบริษัทอเมริกา ในนั้นรวมถึงโบอิ้ง, เจเนรัล ไดนามิกส์, ล็อคฮีด มาร์ติน และ เรย์เธียน ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง อนุมัติจัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมแก่ไต้หวัน อีก 571 ล้านดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004692 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Haha
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1505 มุมมอง 0 รีวิว
  • Axiom Space บริษัทอเมริกันที่เชี่ยวชาญด้านภารกิจอวกาศและเป็นหน่วยงานเชิงพาณิชย์เพียงแห่งเดียวที่มีโมดูลเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ได้เสนอแนวคิดที่น่าสนใจในการผลิตวัสดุเซมิคอนดักเตอร์บางชนิดในอวกาศ โดยเชื่อว่าสภาพแวดล้อมในวงโคจรต่ำของโลก (LEO) สามารถผลิตวัสดุที่บริสุทธิ์มากขึ้นได้

    ดร. Koichi Wakata, CTO ของ Axiom Space ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และอดีตผู้บัญชาการ ISS จากญี่ปุ่น ได้เน้นถึงศักยภาพของสภาพแวดล้อมที่มีแรงโน้มถ่วงต่ำและสุญญากาศในการปรับปรุงการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ สภาพแวดล้อมเหล่านี้ช่วยให้การเจริญเติบโตของผลึกที่ปราศจากข้อบกพร่อง ซึ่งยากที่จะผลิตบนโลกเนื่องจากแรงโน้มถ่วงและสิ่งสกปรกในบรรยากาศ

    Divya Panchanathan หัวหน้าฝ่ายการค้าเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกของ Axiom อธิบายว่าแรงโน้มถ่วงของโลกทำให้เกิดข้อบกพร่องในโครงสร้างผลึก ในขณะที่แรงโน้มถ่วงต่ำใน LEO ช่วยให้การเจริญเติบโตของผลึกมีความสม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนี้ สุญญากาศในอวกาศยังช่วยให้กระบวนการผลิตที่ปราศจากภาชนะ ลดการปนเปื้อน และช่วยให้ผลิตผลึกที่มีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นสำหรับเซมิคอนดักเตอร์

    Axiom ได้เสนอความร่วมมือกับบริษัทไต้หวันเพื่อทำการทดลองเบื้องต้นบน ISS และวางแผนที่จะย้ายการผลิตไปยังสถานีอวกาศเชิงพาณิชย์ของ Axiom หลังปี 2030 บริษัทมองเห็นกระบวนการที่สามารถขยายได้ ซึ่งการทดลองที่ประสบความสำเร็จจะนำไปสู่การผลิตเต็มรูปแบบในโมดูลอวกาศที่ทุ่มเท

    แม้ว่าการผลิตในอวกาศจะมีข้อพิจารณาทางปฏิบัติ เช่น ค่าใช้จ่ายในการส่งวัสดุไปยังอวกาศและการบำรุงรักษาสถานีโคจร แต่ Axiom เชื่อว่าการผลิตวัสดุที่มีคุณภาพสูงขึ้นในอวกาศอาจคุ้มค่าในอนาคต โดยเฉพาะเมื่ออุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์ย้ายไปสู่เทคโนโลยีกระบวนการย่อยแองสตรอม

    นอกจากนี้ Axiom ยังระบุถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่อาจได้รับประโยชน์จากการผลิตในอวกาศ เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ ยา และการพิมพ์ 3 มิติของอวัยวะเทียม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/axiom-space-pitches-idea-to-produce-chipmaking-materials-in-space-plans-trials-aboard-iss
    Axiom Space บริษัทอเมริกันที่เชี่ยวชาญด้านภารกิจอวกาศและเป็นหน่วยงานเชิงพาณิชย์เพียงแห่งเดียวที่มีโมดูลเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ได้เสนอแนวคิดที่น่าสนใจในการผลิตวัสดุเซมิคอนดักเตอร์บางชนิดในอวกาศ โดยเชื่อว่าสภาพแวดล้อมในวงโคจรต่ำของโลก (LEO) สามารถผลิตวัสดุที่บริสุทธิ์มากขึ้นได้ ดร. Koichi Wakata, CTO ของ Axiom Space ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และอดีตผู้บัญชาการ ISS จากญี่ปุ่น ได้เน้นถึงศักยภาพของสภาพแวดล้อมที่มีแรงโน้มถ่วงต่ำและสุญญากาศในการปรับปรุงการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ สภาพแวดล้อมเหล่านี้ช่วยให้การเจริญเติบโตของผลึกที่ปราศจากข้อบกพร่อง ซึ่งยากที่จะผลิตบนโลกเนื่องจากแรงโน้มถ่วงและสิ่งสกปรกในบรรยากาศ Divya Panchanathan หัวหน้าฝ่ายการค้าเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกของ Axiom อธิบายว่าแรงโน้มถ่วงของโลกทำให้เกิดข้อบกพร่องในโครงสร้างผลึก ในขณะที่แรงโน้มถ่วงต่ำใน LEO ช่วยให้การเจริญเติบโตของผลึกมีความสม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนี้ สุญญากาศในอวกาศยังช่วยให้กระบวนการผลิตที่ปราศจากภาชนะ ลดการปนเปื้อน และช่วยให้ผลิตผลึกที่มีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ Axiom ได้เสนอความร่วมมือกับบริษัทไต้หวันเพื่อทำการทดลองเบื้องต้นบน ISS และวางแผนที่จะย้ายการผลิตไปยังสถานีอวกาศเชิงพาณิชย์ของ Axiom หลังปี 2030 บริษัทมองเห็นกระบวนการที่สามารถขยายได้ ซึ่งการทดลองที่ประสบความสำเร็จจะนำไปสู่การผลิตเต็มรูปแบบในโมดูลอวกาศที่ทุ่มเท แม้ว่าการผลิตในอวกาศจะมีข้อพิจารณาทางปฏิบัติ เช่น ค่าใช้จ่ายในการส่งวัสดุไปยังอวกาศและการบำรุงรักษาสถานีโคจร แต่ Axiom เชื่อว่าการผลิตวัสดุที่มีคุณภาพสูงขึ้นในอวกาศอาจคุ้มค่าในอนาคต โดยเฉพาะเมื่ออุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์ย้ายไปสู่เทคโนโลยีกระบวนการย่อยแองสตรอม นอกจากนี้ Axiom ยังระบุถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่อาจได้รับประโยชน์จากการผลิตในอวกาศ เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ ยา และการพิมพ์ 3 มิติของอวัยวะเทียม https://www.tomshardware.com/tech-industry/axiom-space-pitches-idea-to-produce-chipmaking-materials-in-space-plans-trials-aboard-iss
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะบริหารไบเดนเสนอกรอบโครงใหม่จำกัดการส่งออกชิปเอไอ หวังสกัดจีน คู่แข่งตัวกลั่นในสงครามไฮเทค แต่กลับกลายเป็นการสร้างความกังวลในหมู่ผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ ตลอดจนถึงอียู
    .
    ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุชัดเจนว่า กฎใหม่หล่านี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน ดังนั้นจึงทำให้คณะบริหารของทรัมป์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะสานต่อหรือยกเลิกกรอบโครงเหล่านี้ที่จะส่งผลกระทบต่อ 120 ประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเตือนว่า การระงับการใช้กฎนี้อาจเท่ากับเปิดโอกาสให้จีนมีเวลาสะสมมากขึ้นในการสะสมฮาร์ดแวร์ที่มาจากอเมริกา
    .
    เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวอ้างเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ว่า เดิมพันจะสูงมาก หากจีนกลายเป็นผู้กำหนดอนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
    .
    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ขานรับว่า สิ่งสำคัญคือการรักษาความเป็นผู้นำของอเมริกาในด้านเอไอและการพัฒนาชิปเกี่ยวกับเอไอ และเสริมว่า กรอบโครงนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องเทคโนโลยีเอไอขั้นสูงสุด และให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีนี้จะไม่ตกอยู่ในมือศัตรูต่างชาติ แต่ขณะเดียวกันจะสามารถเผยแพร่และแบ่งปันประโยชน์กับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนของอเมริกา
    .
    แม้คณะบริหารชุดนี้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกกับศัตรู เช่น จีนและรัสเซียไปแล้ว แต่พวกเขาอ้างว่าบางมาตรการยังมีช่องโหว่ และกฎล่าสุดมุ่งจะตั้งข้อจำกัดกับประเทศต่างๆ ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น
    .
    ด้าน เอ็ด มิลส์ นักวิเคราะห์ของ เรย์มอนด์ เจมส์ ชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศูนย์ข้อมูลในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากบริษัทจีนใช้ศูนย์เหล่านั้นในการสร้างโมเดลเอไอด้วยเทคโนโลยีที่ตนเองไม่สามารถนำเข้าสู่จีนได้โดยตรง
    .
    อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่แล้ว สภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของอเมริกาเตือนไรมอนโดว่า การเร่งรีบใช้กฎใหม่ของคณะบริหารเดโมแครต อาจกลายเป็นการบ่อนทำลายห่วงโซ่อุปทานโลก และทำให้บริษัทอเมริกันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
    .
    ต่อมาในวันจันทร์ สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา (เอสไอเอ) แสดงความเห็นว่า ผิดหวังที่มีการเร่งรัดผลักดันนโยบายก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผ่านคณะบริหาร
    .
    จอห์น นิวเฟอร์ ประธานและซีอีโอเอสไอเอ เตือนว่า กฎใหม่เสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายยาวนานโดยไม่ตั้งใจกับเศรษฐกิจและขีดความสามารถแข่งขันระดับโลกของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และเอไอของอเมริกา เนื่องจากการทำเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นการยกตลาดสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่พวกคู่แข่ง
    .
    เอ็นวิเดีย บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ โพสต์บนบล็อก สำทับว่า แม้มีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านจีน แต่มาตรการนี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมความมั่นคงของอเมริกาแต่อย่างใด
    .
    กฎใหม่นี้เนื้อหาสำคัญคือยกระดับการควบคุมการส่งออกชิป ด้วยการกำหนดให้ต้องมีการขออนุญาตสำหรับการส่งออก รวมทั้งการส่งออกต่อ และการถ่ายโอนภายในประเทศ ขณะที่ศูนย์ข้อมูลเอไอต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมมากขึ้นหากต้องการนำเข้าชิป รวมทั้งมีการเพิ่มความเข้มงวดในการแชร์โมเดลเอไอล้ำสมัย
    .
    กฎใหม่เหล่านี้มีข้อยกเว้นหลายอย่างสำหรับพันธมิตรและหุ้นส่วนสำคัญราว 20 ชาติ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอังกฤษ
    .
    อย่างไรก็ดี การตั้งข้อจำกัดกับบางประเทศในสหภาพยุโรป ทำให้เจ้าหน้าที่บรัสเซลส์ออกมาคัดค้านโดยระบุว่า การขายชิปเอไอขั้นสูงให้สมาชิกอียูถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับอเมริกา ไม่ใช่ความเสี่ยงด้านความมั่นคง
    .
    ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีนโยบายใหม่ของไบเดนว่า ละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ พร้อมประกาศปกป้องผลประโยชน์ของชาติเต็มที่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004280
    ..............
    Sondhi X
    คณะบริหารไบเดนเสนอกรอบโครงใหม่จำกัดการส่งออกชิปเอไอ หวังสกัดจีน คู่แข่งตัวกลั่นในสงครามไฮเทค แต่กลับกลายเป็นการสร้างความกังวลในหมู่ผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ ตลอดจนถึงอียู . ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุชัดเจนว่า กฎใหม่หล่านี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน ดังนั้นจึงทำให้คณะบริหารของทรัมป์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะสานต่อหรือยกเลิกกรอบโครงเหล่านี้ที่จะส่งผลกระทบต่อ 120 ประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเตือนว่า การระงับการใช้กฎนี้อาจเท่ากับเปิดโอกาสให้จีนมีเวลาสะสมมากขึ้นในการสะสมฮาร์ดแวร์ที่มาจากอเมริกา . เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวอ้างเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ว่า เดิมพันจะสูงมาก หากจีนกลายเป็นผู้กำหนดอนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) . จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ขานรับว่า สิ่งสำคัญคือการรักษาความเป็นผู้นำของอเมริกาในด้านเอไอและการพัฒนาชิปเกี่ยวกับเอไอ และเสริมว่า กรอบโครงนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องเทคโนโลยีเอไอขั้นสูงสุด และให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีนี้จะไม่ตกอยู่ในมือศัตรูต่างชาติ แต่ขณะเดียวกันจะสามารถเผยแพร่และแบ่งปันประโยชน์กับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนของอเมริกา . แม้คณะบริหารชุดนี้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกกับศัตรู เช่น จีนและรัสเซียไปแล้ว แต่พวกเขาอ้างว่าบางมาตรการยังมีช่องโหว่ และกฎล่าสุดมุ่งจะตั้งข้อจำกัดกับประเทศต่างๆ ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น . ด้าน เอ็ด มิลส์ นักวิเคราะห์ของ เรย์มอนด์ เจมส์ ชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศูนย์ข้อมูลในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากบริษัทจีนใช้ศูนย์เหล่านั้นในการสร้างโมเดลเอไอด้วยเทคโนโลยีที่ตนเองไม่สามารถนำเข้าสู่จีนได้โดยตรง . อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่แล้ว สภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของอเมริกาเตือนไรมอนโดว่า การเร่งรีบใช้กฎใหม่ของคณะบริหารเดโมแครต อาจกลายเป็นการบ่อนทำลายห่วงโซ่อุปทานโลก และทำให้บริษัทอเมริกันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ . ต่อมาในวันจันทร์ สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา (เอสไอเอ) แสดงความเห็นว่า ผิดหวังที่มีการเร่งรัดผลักดันนโยบายก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผ่านคณะบริหาร . จอห์น นิวเฟอร์ ประธานและซีอีโอเอสไอเอ เตือนว่า กฎใหม่เสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายยาวนานโดยไม่ตั้งใจกับเศรษฐกิจและขีดความสามารถแข่งขันระดับโลกของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และเอไอของอเมริกา เนื่องจากการทำเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นการยกตลาดสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่พวกคู่แข่ง . เอ็นวิเดีย บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ โพสต์บนบล็อก สำทับว่า แม้มีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านจีน แต่มาตรการนี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมความมั่นคงของอเมริกาแต่อย่างใด . กฎใหม่นี้เนื้อหาสำคัญคือยกระดับการควบคุมการส่งออกชิป ด้วยการกำหนดให้ต้องมีการขออนุญาตสำหรับการส่งออก รวมทั้งการส่งออกต่อ และการถ่ายโอนภายในประเทศ ขณะที่ศูนย์ข้อมูลเอไอต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมมากขึ้นหากต้องการนำเข้าชิป รวมทั้งมีการเพิ่มความเข้มงวดในการแชร์โมเดลเอไอล้ำสมัย . กฎใหม่เหล่านี้มีข้อยกเว้นหลายอย่างสำหรับพันธมิตรและหุ้นส่วนสำคัญราว 20 ชาติ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอังกฤษ . อย่างไรก็ดี การตั้งข้อจำกัดกับบางประเทศในสหภาพยุโรป ทำให้เจ้าหน้าที่บรัสเซลส์ออกมาคัดค้านโดยระบุว่า การขายชิปเอไอขั้นสูงให้สมาชิกอียูถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับอเมริกา ไม่ใช่ความเสี่ยงด้านความมั่นคง . ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีนโยบายใหม่ของไบเดนว่า ละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ พร้อมประกาศปกป้องผลประโยชน์ของชาติเต็มที่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004280 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1468 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA ได้เปิดตัวชิป AI PC SoC รุ่นใหม่ในแล็ปท็อป Lenovo Yoga 2-in-1 16 2025 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 ที่ไต้หวัน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 ถึง 23 พฤษภาคม 2025 ชิปนี้มีชื่อรหัสว่า "N1" และใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ร่วมกับ ARM โดยมีพลังการคำนวณ AI สูงถึง 180-200 TOPS ซึ่งมากกว่าชิปชั้นนำในตลาดปัจจุบันถึงสี่เท่า

    ชิป N1 จะมีสองรุ่นคือ N1x สำหรับตลาดระดับสูง และ N1 สำหรับตลาดระดับกลาง โดยชิปนี้จะรองรับ Windows on ARM และผลิตโดยความร่วมมือกับ MediaTek โดยใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรของ TSMC

    การเปิดตัวชิป N1 นี้คาดว่าจะมีการผลิตจำนวนมากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 โดยมีการจัดส่งประมาณสามล้านหน่วย และในปีถัดไปจะมีการจัดส่งทั้งหมดสิบสามล้านหน่วย.

    การเปิดตัวชิป AI PC SoC รุ่นใหม่นี้เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ NVIDIA ในการเข้าสู่ตลาดชิปคัสตอม และคาดว่าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับสูงเพิ่มเติมในอนาคต

    https://wccf.tech/1ft3n
    NVIDIA ได้เปิดตัวชิป AI PC SoC รุ่นใหม่ในแล็ปท็อป Lenovo Yoga 2-in-1 16 2025 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 ที่ไต้หวัน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 ถึง 23 พฤษภาคม 2025 ชิปนี้มีชื่อรหัสว่า "N1" และใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ร่วมกับ ARM โดยมีพลังการคำนวณ AI สูงถึง 180-200 TOPS ซึ่งมากกว่าชิปชั้นนำในตลาดปัจจุบันถึงสี่เท่า ชิป N1 จะมีสองรุ่นคือ N1x สำหรับตลาดระดับสูง และ N1 สำหรับตลาดระดับกลาง โดยชิปนี้จะรองรับ Windows on ARM และผลิตโดยความร่วมมือกับ MediaTek โดยใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรของ TSMC การเปิดตัวชิป N1 นี้คาดว่าจะมีการผลิตจำนวนมากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 โดยมีการจัดส่งประมาณสามล้านหน่วย และในปีถัดไปจะมีการจัดส่งทั้งหมดสิบสามล้านหน่วย. การเปิดตัวชิป AI PC SoC รุ่นใหม่นี้เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ NVIDIA ในการเข้าสู่ตลาดชิปคัสตอม และคาดว่าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับสูงเพิ่มเติมในอนาคต https://wccf.tech/1ft3n
    WCCF.TECH
    NVIDIA's "Cutting-Edge" AI PC SoC Debuts In Lenovo's Next-Gen Laptop; Featuring N1 Naming Scheme, Blackwell x ARM Architecture & Debut By Computex 2025
    NVIDIA's very first AI PC SoC surfaces online, as the chip debuts in a Lenovo laptop rumored to feature Blackwell architecture.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลไต้หวันได้อนุมัติให้บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญจากเดิมที่ห้ามการผลิตชิปขั้นสูงนอกไต้หวัน เพื่อรักษา "เกราะซิลิคอน" ของประเทศ

    ก่อนหน้านี้ TSMC ถูกจำกัดไม่ให้ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดนอกไต้หวัน เพื่อรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ แต่ในปัจจุบันรัฐบาลไต้หวันได้ปรับเปลี่ยนนโยบายให้บริษัทสามารถตัดสินใจตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและโอกาสทางการตลาด

    การอนุมัติครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยการควบคุมการแพร่กระจายของเทคโนโลยี AI ที่สำคัญและเสริมสร้างความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ และพันธมิตรในระดับโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/taiwanese-govt-clears-tsmc-to-make-2nm-chips-abroad-country-lowers-its-silicon-shield
    รัฐบาลไต้หวันได้อนุมัติให้บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญจากเดิมที่ห้ามการผลิตชิปขั้นสูงนอกไต้หวัน เพื่อรักษา "เกราะซิลิคอน" ของประเทศ ก่อนหน้านี้ TSMC ถูกจำกัดไม่ให้ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดนอกไต้หวัน เพื่อรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ แต่ในปัจจุบันรัฐบาลไต้หวันได้ปรับเปลี่ยนนโยบายให้บริษัทสามารถตัดสินใจตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและโอกาสทางการตลาด การอนุมัติครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยการควบคุมการแพร่กระจายของเทคโนโลยี AI ที่สำคัญและเสริมสร้างความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ และพันธมิตรในระดับโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/taiwanese-govt-clears-tsmc-to-make-2nm-chips-abroad-country-lowers-its-silicon-shield
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังสร้างเรือบรรทุกสินค้าแบบพิเศษสำหรับปฏิบัติการยกพลขึ้นบก ซึ่งอาจหมายถึงการเตรียมการบุกไต้หวัน!!

    นักวิเคราะห์ทางการทหารต่างประเทศได้สังเกตเห็นเรือประเภทหนึ่งที่ต่อขึ้นในอู่ต่อเรือกวางโจวทางตอนใต้ของจีน ซึ่งดูภายนอกอาจเป็นเรือบรรทุกสินค้า แต่หากพิจารณาแบบจริงจังจะพบว่ามันมีความพิเศษมากกว่าปกติ โดยเบื้องต้นตรวจพบมากถึง 5 ลำ

    เรือบรรทุกสินค้าเหล่านี้มีสะพานเรือที่ยาวมากกว่าปกติ (มากกว่า 120 เมตร) ซึ่งเป็นลักษณะที่ทำให้เรือเหล่านี้มีความสำคัญเป็นพิเศษที่อาจจะใช้สำหรับการยกพลขึ้นบกของทหารจีนที่อาจเกิดขึ้นบนชายหาดที่มีทุ่นระเบิด

    ซึ่งสอดคล้องกับทางไต้หวันที่มีชายหาดเพียงไม่กี่แห่งที่เหมาะสำหรับการส่งทหารขึ้นบก และชายหาดเหล่านี้ล้วนได้รับการวางทุ่นระเบิดเพื่อปกป้องเกาะไต้หวันอย่างเต็มที่

    แม้ว่าทางการจีนจะอ้างว่า การต่อเรือชนิดพิเศษเหล่านี้ใช้เพื่อการพาณิชย์ แต่การสร้างพร้อมกันหลายลำและมีขนาดใหญ่ผิดปกติก็สร้างความกังวลให้กับไต้หวันไม่น้อย
    จีนกำลังสร้างเรือบรรทุกสินค้าแบบพิเศษสำหรับปฏิบัติการยกพลขึ้นบก ซึ่งอาจหมายถึงการเตรียมการบุกไต้หวัน!! นักวิเคราะห์ทางการทหารต่างประเทศได้สังเกตเห็นเรือประเภทหนึ่งที่ต่อขึ้นในอู่ต่อเรือกวางโจวทางตอนใต้ของจีน ซึ่งดูภายนอกอาจเป็นเรือบรรทุกสินค้า แต่หากพิจารณาแบบจริงจังจะพบว่ามันมีความพิเศษมากกว่าปกติ โดยเบื้องต้นตรวจพบมากถึง 5 ลำ เรือบรรทุกสินค้าเหล่านี้มีสะพานเรือที่ยาวมากกว่าปกติ (มากกว่า 120 เมตร) ซึ่งเป็นลักษณะที่ทำให้เรือเหล่านี้มีความสำคัญเป็นพิเศษที่อาจจะใช้สำหรับการยกพลขึ้นบกของทหารจีนที่อาจเกิดขึ้นบนชายหาดที่มีทุ่นระเบิด ซึ่งสอดคล้องกับทางไต้หวันที่มีชายหาดเพียงไม่กี่แห่งที่เหมาะสำหรับการส่งทหารขึ้นบก และชายหาดเหล่านี้ล้วนได้รับการวางทุ่นระเบิดเพื่อปกป้องเกาะไต้หวันอย่างเต็มที่ แม้ว่าทางการจีนจะอ้างว่า การต่อเรือชนิดพิเศษเหล่านี้ใช้เพื่อการพาณิชย์ แต่การสร้างพร้อมกันหลายลำและมีขนาดใหญ่ผิดปกติก็สร้างความกังวลให้กับไต้หวันไม่น้อย
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครน 2.0
    ในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโจ ไบเดน เขาอนุมัติอาวุธมากมายให้กับไต้หวัน เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับยูเครน ซึ่งบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐออกมายอมรับเองว่า มีการส่งเสริมด้านอาวุธให้กับยูเครน เพื่อเตรียมพร้อมต่อต้านรัสเซีย และนั่นทำให้หลายฝ่ายคลายข้อสงสัยในตัวเซเลนสกีว่าเขาคิดอะไรถึงกล้าต่อกรกับรัสเซีย มหาอำนาจทางสงครามมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

    ล่าสุดไต้หวันเพิ่งได้รับรถถัง Abrams จากสหรัฐอเมริกา ล็อตแรก 38 คัน สำหรับรถหุ้มเกราะอีกจำนวน 70 คัน กำลังจะส่งมอบให้ไต้หวันก่อนสิ้นปี 2026

    มาดูกันว่าอุปกรณ์ทางทหารอื่นๆ ที่วอชิงตันขายให้ไทเปในช่วงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2021 ถึง 2024 มีอะไรบ้าง และอาวุธของสหรัฐฯ อะไรที่ไต้หวันวางแผนจะซื้อ ข้อมูลดังกล่าวอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลสาธารณะและรายงานของสื่อ

    ที่ซื้อแล้ว (ข้อตกลงที่ได้รับการอนุมัติมีมูลค่าประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์):
    ระบบขีปนาวุธ
    🔸ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศขั้นสูง NASAMS จำนวน 3 ระบบ
    🔸ระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง HIMARS M142 จำนวน 29 ระบบ
    🔸ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี ATACMS MGM-140 ไม่เปิดเผยจำนวน

    ขีปนาวุธ:
    🔺ขีปนาวุธ AGM-88B HARM 100 ลูก และขีปนาวุธฝึกซ้อม HARM จำนวน 23 ลูก
    🔺ขีปนาวุธต่อต้านเรือ AGM-84L-1 Harpoon Block II
    🔺ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-9X Block II Sidewinder
    🔺ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 และเรดาร์

    ระบบสื่อสาร:
    ⚪️ ระบบเรดาร์ AN/TPS-77 และ AN/TPS-78

    อาวุธอื่นๆเพิ่มเติม:
    🔹อาวุธโจมตี(โดรน) Switchblade 720 ลำ
    🔹ระบบทุ่นระเบิดแบบกระจายที่ยิงจากรถ M136
    🔹ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 และเรดาร์

    ที่กำลังเตรียมซื้อ (แพ็กเกจมีมูลค่ามากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์):
    ▪️เครื่องบินขับไล่ F-35 รุ่นที่ 5 จำนวน 60 ลำ
    ▪️เครื่องบินเตือนภัยทางอากาศเชิงยุทธวิธี E-2D Hawkeye จำนวน 4 ลำ
    ▪️เรือรบที่ไม่ได้ระบุจำนวน 10 ลำ
    ▪️ขีปนาวุธสกัดกั้น 400 ลูก สำหรับระบบขีปนาวุธ Patriot
    ▪️เรือพิฆาต Aegis

    ปักกิ่ง กล่าวหาสหรัฐมาตลอด ว่ากำลังทำการยั่วยุโดยการขายอาวุธให้ไต้หวันซึ่งระบุว่าจะทำเป็นอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน
    ยูเครน 2.0 ในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโจ ไบเดน เขาอนุมัติอาวุธมากมายให้กับไต้หวัน เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับยูเครน ซึ่งบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐออกมายอมรับเองว่า มีการส่งเสริมด้านอาวุธให้กับยูเครน เพื่อเตรียมพร้อมต่อต้านรัสเซีย และนั่นทำให้หลายฝ่ายคลายข้อสงสัยในตัวเซเลนสกีว่าเขาคิดอะไรถึงกล้าต่อกรกับรัสเซีย มหาอำนาจทางสงครามมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดไต้หวันเพิ่งได้รับรถถัง Abrams จากสหรัฐอเมริกา ล็อตแรก 38 คัน สำหรับรถหุ้มเกราะอีกจำนวน 70 คัน กำลังจะส่งมอบให้ไต้หวันก่อนสิ้นปี 2026 มาดูกันว่าอุปกรณ์ทางทหารอื่นๆ ที่วอชิงตันขายให้ไทเปในช่วงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2021 ถึง 2024 มีอะไรบ้าง และอาวุธของสหรัฐฯ อะไรที่ไต้หวันวางแผนจะซื้อ ข้อมูลดังกล่าวอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลสาธารณะและรายงานของสื่อ ที่ซื้อแล้ว (ข้อตกลงที่ได้รับการอนุมัติมีมูลค่าประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์): ระบบขีปนาวุธ 🔸ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศขั้นสูง NASAMS จำนวน 3 ระบบ 🔸ระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง HIMARS M142 จำนวน 29 ระบบ 🔸ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี ATACMS MGM-140 ไม่เปิดเผยจำนวน ขีปนาวุธ: 🔺ขีปนาวุธ AGM-88B HARM 100 ลูก และขีปนาวุธฝึกซ้อม HARM จำนวน 23 ลูก 🔺ขีปนาวุธต่อต้านเรือ AGM-84L-1 Harpoon Block II 🔺ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-9X Block II Sidewinder 🔺ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 และเรดาร์ ระบบสื่อสาร: ⚪️ ระบบเรดาร์ AN/TPS-77 และ AN/TPS-78 อาวุธอื่นๆเพิ่มเติม: 🔹อาวุธโจมตี(โดรน) Switchblade 720 ลำ 🔹ระบบทุ่นระเบิดแบบกระจายที่ยิงจากรถ M136 🔹ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 และเรดาร์ ที่กำลังเตรียมซื้อ (แพ็กเกจมีมูลค่ามากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์): ▪️เครื่องบินขับไล่ F-35 รุ่นที่ 5 จำนวน 60 ลำ ▪️เครื่องบินเตือนภัยทางอากาศเชิงยุทธวิธี E-2D Hawkeye จำนวน 4 ลำ ▪️เรือรบที่ไม่ได้ระบุจำนวน 10 ลำ ▪️ขีปนาวุธสกัดกั้น 400 ลูก สำหรับระบบขีปนาวุธ Patriot ▪️เรือพิฆาต Aegis ปักกิ่ง กล่าวหาสหรัฐมาตลอด ว่ากำลังทำการยั่วยุโดยการขายอาวุธให้ไต้หวันซึ่งระบุว่าจะทำเป็นอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 460 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในงาน CES 2025 ที่เพิ่งจบลงไป Intel ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือคอมพิวเตอร์พกพาแบบโมดูลาร์และแล็ปท็อป "Lunar Lake" ที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เช่น หน้าจอที่สามารถเปลี่ยนได้และบานพับที่มีมอเตอร์ช่วยเปิด-ปิด

    Intel ได้เริ่มสำรวจการพัฒนาอุปกรณ์โมดูลาร์ที่สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ง่ายๆ โดยผู้ใช้ทั่วไป ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าสนใจเนื่องจากความสะดวกในการอัปเกรดชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ที่นำมาแสดงในงานนี้มีการออกแบบที่ล้ำสมัยและมีหน้าจอขนาด 7 นิ้วแบบ FHD ที่สามารถเปลี่ยนได้

    นอกจากนี้ Intel ยังได้แสดงแล็ปท็อป "Lunar Lake" ที่มีบานพับมอเตอร์ช่วยเปิด-ปิด และมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น การติดตามสายตา ระบบเมาส์แบบวงแหวน และแผ่นชาร์จไร้สาย Qi ที่ติดตั้งบนที่พักมือ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกพัฒนาโดย Quanta ซึ่งเป็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ชื่อดังจากไต้หวัน

    แม้ว่า Intel ยังไม่ได้เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะวางจำหน่ายในตลาดหรือไม่ แต่แนวคิดเบื้องหลังผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็น่าสนใจและแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุด

    https://wccf.tech/1fsu8
    ในงาน CES 2025 ที่เพิ่งจบลงไป Intel ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือคอมพิวเตอร์พกพาแบบโมดูลาร์และแล็ปท็อป "Lunar Lake" ที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เช่น หน้าจอที่สามารถเปลี่ยนได้และบานพับที่มีมอเตอร์ช่วยเปิด-ปิด Intel ได้เริ่มสำรวจการพัฒนาอุปกรณ์โมดูลาร์ที่สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ง่ายๆ โดยผู้ใช้ทั่วไป ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าสนใจเนื่องจากความสะดวกในการอัปเกรดชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ที่นำมาแสดงในงานนี้มีการออกแบบที่ล้ำสมัยและมีหน้าจอขนาด 7 นิ้วแบบ FHD ที่สามารถเปลี่ยนได้ นอกจากนี้ Intel ยังได้แสดงแล็ปท็อป "Lunar Lake" ที่มีบานพับมอเตอร์ช่วยเปิด-ปิด และมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น การติดตามสายตา ระบบเมาส์แบบวงแหวน และแผ่นชาร์จไร้สาย Qi ที่ติดตั้งบนที่พักมือ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกพัฒนาโดย Quanta ซึ่งเป็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ชื่อดังจากไต้หวัน แม้ว่า Intel ยังไม่ได้เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะวางจำหน่ายในตลาดหรือไม่ แต่แนวคิดเบื้องหลังผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็น่าสนใจและแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุด https://wccf.tech/1fsu8
    WCCF.TECH
    Intel Showcases Next-Gen Modular Handheld & "Lunar Lake" Laptops At CES 2025; Swappable Screens, Motorized Hinges & Much More
    Intel presented its concepts of "modular computing" products at CES 2025, featuring next-gen laptops and a unique handheld design.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันมีแผนประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ล้ำสมัยจากสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้ จากคำแถลงของกระทรวงกลาโหม ตามรายงานข่าวของไทเปนิวส์ พร้อมระบุว่า ระบบขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศล้ำสมัย NASAMS จะถูกติดตั้งในตำแหน่งต่างๆ ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางเหนือของเกาะ ในนั้นรวมถึงเขตซงซานของไทเป และเขตตั้นสุ่ย ในนิวไทเป
    .
    NASAMS ระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยกลางที่ผลิตโดยบริษัทสัญชาตินอร์เวย์ สามารถใช้จัดการกับเครื่องบิน อากาศยานไร้คนขับและขีปนาวุธร่อน มันเป็นระบบที่บูรณาการเทคโนโลยีเรดาร์ล้ำสมัยเข้ากับระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีทางทหาร สำหรับตอบโต้ภัยคุกคามทางอากาศต่างๆ
    .
    สำนักงานความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (DSCA) อนุมัติขายระบบ NASAMS จำนวน 3 ชุด แก่ไต้หวัน ส่วนหนึ่งในแพกเกจอาวุธ 2,000 ล้านดอลลาร์ ที่แถลงออกมาเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ซึ่งถือเป็นการอนุมัติขายอาวุธแก่ไต้หวันเป็นครั้งที่ 17 ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
    .
    กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า การประจำการอาวุธดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามเสริมความเข้มแข็งแก่ศักยภาพด้านการป้องกันตนเอง ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน ในบริเวณช่องแคบไต้หวัน ทั้งนี้ NASAMS จะช่วยเสริมระบบป้องกันภัยทางอากาศต่างๆ ที่ไต้หวันมีอยู่ในปัจจุบัน ในนั้นรวมถึง Sky Sword II และ Sky Bow รวมไปถึงระบบขีปนาวุธล้ำสมัยแพทริออต PAC-3
    .
    นอกจากนี้ ไต้หวันยังลงนามสำหรับจัดหาระบบเรดาร์ electronic array แบบทั้ง L-band และไม่ใช่ L-band ซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับปรุงอัตราการตรวจจับและต่อต้านการส่งสัญญาณรบกวน ระบบเรดาร์นี้จะถูกกระจายไปทั่วเกาะ มอบการป้องกันอย่างครอบคลุม ในขณะที่มีรายงานว่าทางกระทรวงจัดสรรงบประมาณสำหรับสัญญาณซื้อ NASAMS และเรดาร์ ไว้ที่ 737 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    .
    คำแถลงนี้มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดขั้่นสูงระหว่างปักกิ่งและไทเป เกี่ยวกับสถานะทางการเมืองของไต้หวัน โดยจีนมองเกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยแห่งนี้เป็นมณฑลหนึ่งของพวกเขาที่แยกตัวออกไป และประกาศจะทำการร่วมชาติกับไต้หวัน ในนั้นรวมถึงการใช้กำลังถ้าจำเป็น อย่างไรก็ตาม ไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างของปักกิ่ง และยืนยันเกี่ยวกับอธิปไตยของตนเอง
    .
    รัฐบาลในไทเปประณามเกี่ยวกับการซ้อมรบทางทหารของปักกิ่งใกล้เกาะแห่งนี้ ที่ชักถี่ขึ้นในช่วงหลัง ว่าเป็นการยั่วยุและบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค
    .
    แม้สหรัฐฯ ยึดถืออย่างเป็นทางการต่อนโยบายจีนเดียว รับรองคำกล่าวอ้างของปักกิ่งที่มีเหนือไต้หวัน แต่พวกเขายังคงเดินหน้าขายอาวุธแก่เกาะแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม อเมริกาเพิ่งอนุมัติร่างกฎหมายกลาโหมฉบับหนึ่งมูลค่า 895,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในนั้นรวมถึงมาตรการต่างๆ ที่มีเจตนายกระดับสนับสนุนไทเป
    .
    ปักกิ่งคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ เล่นงานบริษัทกลาโหมอเมริกา 7 แห่งในเดือนธันวาคม และเมื่อช่วงต้นเดือน ได้แบนห้ามขายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ทั้งทางพลเรือนและทางทหารจำนวน 28 รายการ แก่เหล่าซัปพลายเออร์ของกองทัพอเมริกา อ้างว่ามีการละเมิดหลักการจีนเดียว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003316
    ..............
    Sondhi X
    ไต้หวันมีแผนประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ล้ำสมัยจากสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้ จากคำแถลงของกระทรวงกลาโหม ตามรายงานข่าวของไทเปนิวส์ พร้อมระบุว่า ระบบขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศล้ำสมัย NASAMS จะถูกติดตั้งในตำแหน่งต่างๆ ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางเหนือของเกาะ ในนั้นรวมถึงเขตซงซานของไทเป และเขตตั้นสุ่ย ในนิวไทเป . NASAMS ระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยกลางที่ผลิตโดยบริษัทสัญชาตินอร์เวย์ สามารถใช้จัดการกับเครื่องบิน อากาศยานไร้คนขับและขีปนาวุธร่อน มันเป็นระบบที่บูรณาการเทคโนโลยีเรดาร์ล้ำสมัยเข้ากับระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีทางทหาร สำหรับตอบโต้ภัยคุกคามทางอากาศต่างๆ . สำนักงานความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (DSCA) อนุมัติขายระบบ NASAMS จำนวน 3 ชุด แก่ไต้หวัน ส่วนหนึ่งในแพกเกจอาวุธ 2,000 ล้านดอลลาร์ ที่แถลงออกมาเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ซึ่งถือเป็นการอนุมัติขายอาวุธแก่ไต้หวันเป็นครั้งที่ 17 ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน . กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า การประจำการอาวุธดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามเสริมความเข้มแข็งแก่ศักยภาพด้านการป้องกันตนเอง ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน ในบริเวณช่องแคบไต้หวัน ทั้งนี้ NASAMS จะช่วยเสริมระบบป้องกันภัยทางอากาศต่างๆ ที่ไต้หวันมีอยู่ในปัจจุบัน ในนั้นรวมถึง Sky Sword II และ Sky Bow รวมไปถึงระบบขีปนาวุธล้ำสมัยแพทริออต PAC-3 . นอกจากนี้ ไต้หวันยังลงนามสำหรับจัดหาระบบเรดาร์ electronic array แบบทั้ง L-band และไม่ใช่ L-band ซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับปรุงอัตราการตรวจจับและต่อต้านการส่งสัญญาณรบกวน ระบบเรดาร์นี้จะถูกกระจายไปทั่วเกาะ มอบการป้องกันอย่างครอบคลุม ในขณะที่มีรายงานว่าทางกระทรวงจัดสรรงบประมาณสำหรับสัญญาณซื้อ NASAMS และเรดาร์ ไว้ที่ 737 ล้านดอลลาร์สหรัฐ . คำแถลงนี้มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดขั้่นสูงระหว่างปักกิ่งและไทเป เกี่ยวกับสถานะทางการเมืองของไต้หวัน โดยจีนมองเกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยแห่งนี้เป็นมณฑลหนึ่งของพวกเขาที่แยกตัวออกไป และประกาศจะทำการร่วมชาติกับไต้หวัน ในนั้นรวมถึงการใช้กำลังถ้าจำเป็น อย่างไรก็ตาม ไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างของปักกิ่ง และยืนยันเกี่ยวกับอธิปไตยของตนเอง . รัฐบาลในไทเปประณามเกี่ยวกับการซ้อมรบทางทหารของปักกิ่งใกล้เกาะแห่งนี้ ที่ชักถี่ขึ้นในช่วงหลัง ว่าเป็นการยั่วยุและบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค . แม้สหรัฐฯ ยึดถืออย่างเป็นทางการต่อนโยบายจีนเดียว รับรองคำกล่าวอ้างของปักกิ่งที่มีเหนือไต้หวัน แต่พวกเขายังคงเดินหน้าขายอาวุธแก่เกาะแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม อเมริกาเพิ่งอนุมัติร่างกฎหมายกลาโหมฉบับหนึ่งมูลค่า 895,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในนั้นรวมถึงมาตรการต่างๆ ที่มีเจตนายกระดับสนับสนุนไทเป . ปักกิ่งคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ เล่นงานบริษัทกลาโหมอเมริกา 7 แห่งในเดือนธันวาคม และเมื่อช่วงต้นเดือน ได้แบนห้ามขายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ทั้งทางพลเรือนและทางทหารจำนวน 28 รายการ แก่เหล่าซัปพลายเออร์ของกองทัพอเมริกา อ้างว่ามีการละเมิดหลักการจีนเดียว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003316 .............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1033 มุมมอง 0 รีวิว
  • Phison Electronics ได้ประกาศเปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD Gen5 รุ่นใหม่ E28 ที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงถึง 14.5 GB/s ในงาน Consumer Electronics Show (CES) 2025 คอนโทรลเลอร์นี้ถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิต 6 นาโนเมตรของ TSMC ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในตลาดที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงสุดในระดับนี้

    นอกจากนี้ Phison ยังได้เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD Gen5 รุ่น E31T ที่ไม่มี DRAM ซึ่งมีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงถึง 10 GB/s โดยคอนโทรลเลอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้บริโภคที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า

    ในงาน CES 2025 Phison ยังได้แสดงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น PS2251-21 U21 USB4 SoC ที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงถึง 4 GB/s และ D205V Enterprise SSD ที่มีความจุสูงถึง 122.88TB และความเร็วในการอ่านสูงถึง 14,600 MB/s

    การเปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD Gen5 รุ่นใหม่ของ Phison นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนานวัตกรรมการจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงและตอบสนองความต้องการของตลาดที่หลากหลาย ตั้งแต่ผู้บริโภคทั่วไปจนถึงการใช้งานในองค์กร

    Phison Electronics Corporation เป็นบริษัทสัญชาติไต้หวันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 โดยมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ ผลิต และจำหน่ายคอนโทรลเลอร์สำหรับหน่วยความจำแฟลช (NAND flash memory) และโซลูชันการจัดเก็บข้อมูล (storage solutions) เช่น USB flash drives, memory cards, และ solid-state drives (SSDs)

    https://wccf.tech/1frqt
    Phison Electronics ได้ประกาศเปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD Gen5 รุ่นใหม่ E28 ที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงถึง 14.5 GB/s ในงาน Consumer Electronics Show (CES) 2025 คอนโทรลเลอร์นี้ถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิต 6 นาโนเมตรของ TSMC ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในตลาดที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงสุดในระดับนี้ นอกจากนี้ Phison ยังได้เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD Gen5 รุ่น E31T ที่ไม่มี DRAM ซึ่งมีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงถึง 10 GB/s โดยคอนโทรลเลอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้บริโภคที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า ในงาน CES 2025 Phison ยังได้แสดงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น PS2251-21 U21 USB4 SoC ที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงถึง 4 GB/s และ D205V Enterprise SSD ที่มีความจุสูงถึง 122.88TB และความเร็วในการอ่านสูงถึง 14,600 MB/s การเปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD Gen5 รุ่นใหม่ของ Phison นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนานวัตกรรมการจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงและตอบสนองความต้องการของตลาดที่หลากหลาย ตั้งแต่ผู้บริโภคทั่วไปจนถึงการใช้งานในองค์กร Phison Electronics Corporation เป็นบริษัทสัญชาติไต้หวันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 โดยมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ ผลิต และจำหน่ายคอนโทรลเลอร์สำหรับหน่วยความจำแฟลช (NAND flash memory) และโซลูชันการจัดเก็บข้อมูล (storage solutions) เช่น USB flash drives, memory cards, และ solid-state drives (SSDs) https://wccf.tech/1frqt
    WCCF.TECH
    Phison Unleashes E28 Gen5 SSD Controller With 14.5 GB/s Read & Write Speeds, Crucial P510 With E31T Gen5 Controller Up To 11 GB/s
    Phison has announced its next-gen flagship Gen5 controller, the E28, with up to 14.5 GB/s speeds & the E31T-based Crucial P510 SSD solution.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts