• ภท.โยนบาป
    ตรวจสอบสนามกอล์ฟอนุทิน ทำลายเศรษฐกิจโคราช
    ปลุกชาวบ้าน หอการค้า สมาคมให้ปกป้อง
    หน้าตัวเมียที่แท้จริง
    #7ดอกจิก
    ภท.โยนบาป ตรวจสอบสนามกอล์ฟอนุทิน ทำลายเศรษฐกิจโคราช ปลุกชาวบ้าน หอการค้า สมาคมให้ปกป้อง หน้าตัวเมียที่แท้จริง #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิศวกรใหญ่กรมทางหลวง ประชุมเตรียมความพร้อมเปิดมอเตอร์เวย์ M6 เพิ่มเติม ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง หลังสุริยะสั่งเร่งรัดงานก่อสร้าง ให้เปิดทันช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 แบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ

    เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายชวเลิศ เลิศชวนะกุล วิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง กรมทางหลวง เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดใช้งานเพิ่มเติม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยได้มีการติดตามความคืบหน้างานโยธาและเร่งรัดแผนการดำเนินงานการก่อสร้างให้เป็นไปตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ซึ่งได้มอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งรัดงานก่อสร้าง เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568

    ทั้งนี้ มอเตอร์เวย์ช่วงดังกล่าว จะเป็นทางเลือกการเดินทางที่ช่วยแบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนที่เดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในภูมิภาค ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกันนี้ กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้างานโยธา โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญเพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000012988

    #MGROnline #กรมทางหลวง #มอเตอร์เวย์ #M6 #มอเตอร์เวย์โคราช
    วิศวกรใหญ่กรมทางหลวง ประชุมเตรียมความพร้อมเปิดมอเตอร์เวย์ M6 เพิ่มเติม ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง หลังสุริยะสั่งเร่งรัดงานก่อสร้าง ให้เปิดทันช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 แบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ • เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายชวเลิศ เลิศชวนะกุล วิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง กรมทางหลวง เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดใช้งานเพิ่มเติม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยได้มีการติดตามความคืบหน้างานโยธาและเร่งรัดแผนการดำเนินงานการก่อสร้างให้เป็นไปตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ซึ่งได้มอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งรัดงานก่อสร้าง เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 • ทั้งนี้ มอเตอร์เวย์ช่วงดังกล่าว จะเป็นทางเลือกการเดินทางที่ช่วยแบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนที่เดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในภูมิภาค ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกันนี้ กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้างานโยธา โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญเพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย • คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000012988 • #MGROnline #กรมทางหลวง #มอเตอร์เวย์ #M6 #มอเตอร์เวย์โคราช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้ำตาทหาร

    ฉันให้ชีวิต ฉันให้ศรัทธา ปกป้องปวงประชา ด้วยเนื้อเลือดและหัวใจ แต่สิ่งที่ได้กลับมา มันคืออะไร? ถูกหลอก ถูกโกง ถูกทิ้งเดียวดาย

    หยาดเหงื่อแรงกาย จ่ายหมดทุกบาท หวังเพียงบ้านหลังน้อย คอยให้คนที่รักพักพิง แต่ก๊วนนายกลับหักหลัง ไม่ไยดีในทุกสิ่ง ปล่อยฉันสิ้นหวัง กับหนี้ที่ไม่มีวันคืน

    เสียงปืนสนั่น เทอร์มินอลโคราชร่ำไห้ เสียงหัวใจแตกสลาย ไม่มีใครฟัง ใครเล่าจะเข้าใจ คนที่ถูกกดดัน อนาคตพัง สุดท้ายนั้น ฉันไม่มีที่ยืนอีกแล้ว

    น้ำตาทหาร หลั่งรินเป็นสายเลือด ความคับแค้น เผาใจจนมอดไหม้ เมื่อศรัทธาถูกทำลายไป ไม่มีเยื่อใย เหลือเพียงเงาในกระจก ที่ไร้วิญญาณ

    อยากกรีดร้องให้ฟ้าสั่นสะเทือน แต่จะมีใคร ได้ยินเสียงของฉัน เมื่อคนดีถูกบดขยี้ลงดินนั้น ฉันเหลืออะไร… อีกแล้ว

    สุดท้ายฉันต้องปลิดปลง จบลงที่นี่ ไม่เหลือใคร ไม่มีแม้ศักดิ์ศรี น้ำตาทหารไหลเป็นสายเลือด แต่ไม่มีใคร… สนใจมันเลย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 082339 ก.พ. 2568

    #น้ำตาทหาร #เสียงที่ไม่มีใครฟัง #ความยุติธรรมอยู่ไหน #ชีวิตที่ถูกทำลาย #ความคับแค้นในใจ #ถูกโกงจนสิ้นหวัง #เมื่อความดีไม่มีความหมาย #เสียงปืนกลบเสียงหัวใจ #โศกนาฏกรรมที่ไม่มีคำตอบ #อยุติธรรมฆ่าฉัน
    น้ำตาทหาร ฉันให้ชีวิต ฉันให้ศรัทธา ปกป้องปวงประชา ด้วยเนื้อเลือดและหัวใจ แต่สิ่งที่ได้กลับมา มันคืออะไร? ถูกหลอก ถูกโกง ถูกทิ้งเดียวดาย หยาดเหงื่อแรงกาย จ่ายหมดทุกบาท หวังเพียงบ้านหลังน้อย คอยให้คนที่รักพักพิง แต่ก๊วนนายกลับหักหลัง ไม่ไยดีในทุกสิ่ง ปล่อยฉันสิ้นหวัง กับหนี้ที่ไม่มีวันคืน เสียงปืนสนั่น เทอร์มินอลโคราชร่ำไห้ เสียงหัวใจแตกสลาย ไม่มีใครฟัง ใครเล่าจะเข้าใจ คนที่ถูกกดดัน อนาคตพัง สุดท้ายนั้น ฉันไม่มีที่ยืนอีกแล้ว น้ำตาทหาร หลั่งรินเป็นสายเลือด ความคับแค้น เผาใจจนมอดไหม้ เมื่อศรัทธาถูกทำลายไป ไม่มีเยื่อใย เหลือเพียงเงาในกระจก ที่ไร้วิญญาณ อยากกรีดร้องให้ฟ้าสั่นสะเทือน แต่จะมีใคร ได้ยินเสียงของฉัน เมื่อคนดีถูกบดขยี้ลงดินนั้น ฉันเหลืออะไร… อีกแล้ว สุดท้ายฉันต้องปลิดปลง จบลงที่นี่ ไม่เหลือใคร ไม่มีแม้ศักดิ์ศรี น้ำตาทหารไหลเป็นสายเลือด แต่ไม่มีใคร… สนใจมันเลย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 082339 ก.พ. 2568 #น้ำตาทหาร #เสียงที่ไม่มีใครฟัง #ความยุติธรรมอยู่ไหน #ชีวิตที่ถูกทำลาย #ความคับแค้นในใจ #ถูกโกงจนสิ้นหวัง #เมื่อความดีไม่มีความหมาย #เสียงปืนกลบเสียงหัวใจ #โศกนาฏกรรมที่ไม่มีคำตอบ #อยุติธรรมฆ่าฉัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • 5 ปี โศกนาฏกรรมโคราช จ่าสรรพาวุธคลั่ง กราดยิงเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 58 คน

    📅 ย้อนรอยเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมกราดยิงโคราช ที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ได้ก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ในตัวเมืองนครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตรวม 31 ศพ รวมตัวผู้ก่อเหตุ และบาดเจ็บ 58 ราย

    เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงสร้างความสูญเสีย ให้กับครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่คำถาม เกี่ยวกับระบบสวัสดิการทหาร ความโปร่งใสของกองทัพ และการควบคุมอาวุธ ของเจ้าหน้าที่รัฐ 🔥

    📌 สาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม
    จากการสอบสวน พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ก่อเหตุในครั้งนี้ เกิดจากปัญหาการเงิน และความขัดแย้ง ในการซื้อบ้านสวัสดิการทหาร 🚪🏡

    🔹 ปมปัญหาซื้อบ้านสวัสดิการ
    จ.ส.อ. จักรพันธ์ ซื้อบ้านจากโครงการสวัสดิการทหาร ในราคา 1,500,000 บาท และมอบหมายให้ นางอนงค์ มิตรจันทร์ ภรรยาของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชาของเขา เป็นผู้จัดการเรื่องการตกแต่งบ้าน และเอกสารการซื้อขาย

    🔹 ความขัดแย้งเรื่องเงินส่วนต่าง
    เมื่อดำเนินเรื่องเสร็จสิ้น พบว่ามีเงินเหลือ 50,000 บาท ซึ่งถูกส่งไปให้นายหน้าที่ชื่อ นายพิทยา จ.ส.อ. จักรพันธ์ จึงเรียกร้องขอเงินคืน แต่กลับพบว่าเงินก้อนนี้หมดไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้เขาเข้าใจว่า ตนเองจะได้เงินคืนสูงถึง 400,000 บาท

    🔹 การพูดคุยที่ล้มเหลว
    เมื่อมีการนัดเจรจากัน นายพิทยา ขอเวลาเพื่อหาเงินคืน แต่จำนวนเงินที่ตกลงกัน ไม่ได้เป็นไปตามที่ จ.ส.อ. จักรพันธ์ คาดหวัง ทำให้เขารู้สึกว่า ตนเองถูกโกง และไม่ได้รับความเป็นธรรม

    นี่เป็นจุดเริ่มต้น ที่นำไปสู่การสังหารโหด... 🔫

    ⏳ จากปมปัญหา สู่โศกนาฏกรรม
    🔴 จุดเริ่มต้น ก่อเหตุที่บ้านพัก
    📍 เวลา 15.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปบ้านของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และใช้อาวุธปืนยิง พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ จนเสียชีวิต จากนั้นไล่ยิงนายพิทยา (นายหน้า) แต่เขาหลบหนีไปได้

    🔴 จุดที่สอง ค่ายทหารสุรธรรมพิทักษ์
    📍 เวลา 16.00 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และชิงอาวุธสงคราม จากคลังแสง ซึ่งรวมถึงปืน HK33, ปืนกล M60 และกระสุนจำนวนมาก โดยในระหว่างนี้ มีการยิงทหารเวร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย

    🔴 จุดที่สาม กราดยิงตามถนนโคราช
    📍 ระหว่างทางจากค่ายทหาร ไปยังห้างเทอร์มินอล 21
    จ.ส.อ. จักรพันธ์ ขับรถฮัมวี ออกจากค่ายทหาร กราดยิงผู้คนตามทาง เสียชีวิต 9 ศพ มีผู้ที่ถูกยิงขณะอยู่บนรถ และมีนักเรียนที่ขับจักรยานยนต์ถูกยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกยิงเสียชีวิต ขณะกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์

    🔴 จุดสุดท้าย ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช
    📍 เวลา 17.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เข้าไปภายในห้าง และเริ่มกราดยิงผู้คน
    📍 จับตัวประกันกว่า 16 คน และถ่ายทอดสดเหตุการณ์ ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง 😨
    📍 เกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้ภายในห้าง เนื่องจากเขายิงถังแก๊ส
    📍 เวลา 09.14 น. เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 หน่วยอรินทราช 26 วิสามัญฆาตกรรม จ.ส.อ. จักรพันธ์ ที่ ชั้นใต้ดินของห้าง

    ⚖️ บทเรียนจากเหตุการณ์กราดยิงโคราช
    เหตุการณ์นี้นำไปสู่คำถามสำคัญเกี่ยวกับ...
    🔹 การจัดการอาวุธของกองทัพ เหตุใดทหารชั้นผู้น้อย สามารถเข้าถึงอาวุธสงคราม ได้ง่ายขนาดนี้?
    🔹 สวัสดิการทหาร และความโปร่งใสของกองทัพ มีปัญหาเรื่อง "เงินทอน" จริงหรือไม่?
    🔹 บทบาทของสื่อมวลชน การรายงานข่าว ในลักษณะที่เปิดเผยข้อมูล การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ส่งผลกระทบต่อการควบคุมสถานการณ์
    🔹 ผลกระทบทางจิตวิทยาต่อสังคม เหตุการณ์นี้ สร้างความหวาดกลัว และกระตุ้นให้เกิดคำถาม เกี่ยวกับความปลอดภัย ในที่สาธารณะ

    📍 สรุปเหตุการณ์ และจำนวนผู้เสียชีวิต
    📌 ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 31 ศพ รวมผู้ก่อเหตุ
    📌 ผู้บาดเจ็บ 58 ราย

    🔸 พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
    ห้างเทอร์มินอล 21
    เส้นทางจากค่ายทหาร ไปยังตัวเมือง

    🔗 มาตรการ และการเปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์
    📌 กองทัพบกได้ประกาศมาตรการใหม่
    - ควบคุมการเข้าถึงอาวุธของทหาร
    - ทบทวนโครงการสวัสดิการทหาร
    - สอบสวนขบวนการ "เงินทอน" ที่เกี่ยวข้อง

    📌 รัฐบาลและสื่อมวลชน
    - กสทช. สั่งปรับสถานีโทรทัศน์ 3 ช่อง ฐานละเมิดข้อกำหนดการรายงานข่าว
    - เฟซบุ๊กลบวิดีโอถ่ายทอดสด และโพสต์ของผู้ก่อเหตุ

    📍 ครบ 5 ปี ของเหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงปัญหาหลายประเด็น ที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งในเรื่องความโปร่งใสของกองทัพ ระบบสวัสดิการของทหาร และบทบาทของสื่อมวลชน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 082315ก.พ. 2568

    📢 #กราดยิงโคราช #KoratShooting #โศกนาฏกรรมโคราช #ความปลอดภัยในที่สาธารณะ #บทเรียนจากอดีต
    5 ปี โศกนาฏกรรมโคราช จ่าสรรพาวุธคลั่ง กราดยิงเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 58 คน 📅 ย้อนรอยเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมกราดยิงโคราช ที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ได้ก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ในตัวเมืองนครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตรวม 31 ศพ รวมตัวผู้ก่อเหตุ และบาดเจ็บ 58 ราย เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงสร้างความสูญเสีย ให้กับครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่คำถาม เกี่ยวกับระบบสวัสดิการทหาร ความโปร่งใสของกองทัพ และการควบคุมอาวุธ ของเจ้าหน้าที่รัฐ 🔥 📌 สาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม จากการสอบสวน พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ก่อเหตุในครั้งนี้ เกิดจากปัญหาการเงิน และความขัดแย้ง ในการซื้อบ้านสวัสดิการทหาร 🚪🏡 🔹 ปมปัญหาซื้อบ้านสวัสดิการ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ซื้อบ้านจากโครงการสวัสดิการทหาร ในราคา 1,500,000 บาท และมอบหมายให้ นางอนงค์ มิตรจันทร์ ภรรยาของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชาของเขา เป็นผู้จัดการเรื่องการตกแต่งบ้าน และเอกสารการซื้อขาย 🔹 ความขัดแย้งเรื่องเงินส่วนต่าง เมื่อดำเนินเรื่องเสร็จสิ้น พบว่ามีเงินเหลือ 50,000 บาท ซึ่งถูกส่งไปให้นายหน้าที่ชื่อ นายพิทยา จ.ส.อ. จักรพันธ์ จึงเรียกร้องขอเงินคืน แต่กลับพบว่าเงินก้อนนี้หมดไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้เขาเข้าใจว่า ตนเองจะได้เงินคืนสูงถึง 400,000 บาท 🔹 การพูดคุยที่ล้มเหลว เมื่อมีการนัดเจรจากัน นายพิทยา ขอเวลาเพื่อหาเงินคืน แต่จำนวนเงินที่ตกลงกัน ไม่ได้เป็นไปตามที่ จ.ส.อ. จักรพันธ์ คาดหวัง ทำให้เขารู้สึกว่า ตนเองถูกโกง และไม่ได้รับความเป็นธรรม นี่เป็นจุดเริ่มต้น ที่นำไปสู่การสังหารโหด... 🔫 ⏳ จากปมปัญหา สู่โศกนาฏกรรม 🔴 จุดเริ่มต้น ก่อเหตุที่บ้านพัก 📍 เวลา 15.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปบ้านของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และใช้อาวุธปืนยิง พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ จนเสียชีวิต จากนั้นไล่ยิงนายพิทยา (นายหน้า) แต่เขาหลบหนีไปได้ 🔴 จุดที่สอง ค่ายทหารสุรธรรมพิทักษ์ 📍 เวลา 16.00 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และชิงอาวุธสงคราม จากคลังแสง ซึ่งรวมถึงปืน HK33, ปืนกล M60 และกระสุนจำนวนมาก โดยในระหว่างนี้ มีการยิงทหารเวร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย 🔴 จุดที่สาม กราดยิงตามถนนโคราช 📍 ระหว่างทางจากค่ายทหาร ไปยังห้างเทอร์มินอล 21 จ.ส.อ. จักรพันธ์ ขับรถฮัมวี ออกจากค่ายทหาร กราดยิงผู้คนตามทาง เสียชีวิต 9 ศพ มีผู้ที่ถูกยิงขณะอยู่บนรถ และมีนักเรียนที่ขับจักรยานยนต์ถูกยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกยิงเสียชีวิต ขณะกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ 🔴 จุดสุดท้าย ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช 📍 เวลา 17.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เข้าไปภายในห้าง และเริ่มกราดยิงผู้คน 📍 จับตัวประกันกว่า 16 คน และถ่ายทอดสดเหตุการณ์ ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง 😨 📍 เกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้ภายในห้าง เนื่องจากเขายิงถังแก๊ส 📍 เวลา 09.14 น. เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 หน่วยอรินทราช 26 วิสามัญฆาตกรรม จ.ส.อ. จักรพันธ์ ที่ ชั้นใต้ดินของห้าง ⚖️ บทเรียนจากเหตุการณ์กราดยิงโคราช เหตุการณ์นี้นำไปสู่คำถามสำคัญเกี่ยวกับ... 🔹 การจัดการอาวุธของกองทัพ เหตุใดทหารชั้นผู้น้อย สามารถเข้าถึงอาวุธสงคราม ได้ง่ายขนาดนี้? 🔹 สวัสดิการทหาร และความโปร่งใสของกองทัพ มีปัญหาเรื่อง "เงินทอน" จริงหรือไม่? 🔹 บทบาทของสื่อมวลชน การรายงานข่าว ในลักษณะที่เปิดเผยข้อมูล การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ส่งผลกระทบต่อการควบคุมสถานการณ์ 🔹 ผลกระทบทางจิตวิทยาต่อสังคม เหตุการณ์นี้ สร้างความหวาดกลัว และกระตุ้นให้เกิดคำถาม เกี่ยวกับความปลอดภัย ในที่สาธารณะ 📍 สรุปเหตุการณ์ และจำนวนผู้เสียชีวิต 📌 ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 31 ศพ รวมผู้ก่อเหตุ 📌 ผู้บาดเจ็บ 58 ราย 🔸 พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ห้างเทอร์มินอล 21 เส้นทางจากค่ายทหาร ไปยังตัวเมือง 🔗 มาตรการ และการเปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์ 📌 กองทัพบกได้ประกาศมาตรการใหม่ - ควบคุมการเข้าถึงอาวุธของทหาร - ทบทวนโครงการสวัสดิการทหาร - สอบสวนขบวนการ "เงินทอน" ที่เกี่ยวข้อง 📌 รัฐบาลและสื่อมวลชน - กสทช. สั่งปรับสถานีโทรทัศน์ 3 ช่อง ฐานละเมิดข้อกำหนดการรายงานข่าว - เฟซบุ๊กลบวิดีโอถ่ายทอดสด และโพสต์ของผู้ก่อเหตุ 📍 ครบ 5 ปี ของเหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงปัญหาหลายประเด็น ที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งในเรื่องความโปร่งใสของกองทัพ ระบบสวัสดิการของทหาร และบทบาทของสื่อมวลชน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 082315ก.พ. 2568 📢 #กราดยิงโคราช #KoratShooting #โศกนาฏกรรมโคราช #ความปลอดภัยในที่สาธารณะ #บทเรียนจากอดีต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มวัยรุ่น อ.ห้วยแถลง เปิดศึกตะลุมบอน กับตำรวจ สภ.พิมาย โคราช หน้าร้านอาหาร ตร.สู้ไม่ไหวชักปืนยิง มีผู้บาดเจ็บหลายราย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012862

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กลุ่มวัยรุ่น อ.ห้วยแถลง เปิดศึกตะลุมบอน กับตำรวจ สภ.พิมาย โคราช หน้าร้านอาหาร ตร.สู้ไม่ไหวชักปืนยิง มีผู้บาดเจ็บหลายราย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012862 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 911 มุมมอง 0 รีวิว
  • [Exclusive on Sondhi Talk]
    "บังแจ็ค" ไว้ใจ DSI ไขคดี
    แย้มมือถือแตงโมมี 4 หมื่นภาพ
    แถมข้อมูลนักการเมือง-นักธุรกิจดัง
    .
    บังแจ็คเปิดใจส่งมอบมือถือแตงโม นิดา ให้หมอธวัชชัยนำมาให้ดีเอสไอคลี่คลายคดี ระบุกู้ข้อมูลมีภาพกว่า 4 หมื่นภาพ แชตบางส่วนคุยกับนักการเมืองดัง และมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่มีอิทธิพลสูง นักธุรกิจระดับประเทศเกี่ยวข้องด้วย เผยมีคนขอซื้อมือถือจริงแต่ไม่ถึง 15 ล้าน ลั่นยังไงก็ไม่ขาย
    .
    วันนี้ (6 ก.พ.) นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือบังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" (คลิกชมย้อนหลัง >> https://www.youtube.com/watch?v=58nPhAE2uZo) ถึงโทรศัพท์มือถือของ แตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตจากเรือสปีดโบ้ท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งได้ส่งมอบให้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และเตรียมนำมาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำมาใช้เพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของแตงโม ระบุว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่รู้จักกับนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นางพนิดาได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโมจากตำรวจ แต่ไม่พบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง ตนจึงแนะนำให้นำไปที่ศูนย์บริการของแอปเปิลช่วยดูว่ายังมีข้อมูลในเครื่องหรือไม่ นางพนิดาไปที่ศูนย์แอปเปิลฯ แต่ไม่ไว้ใจ จึงให้โทรศัพท์มือถือแก่ตน ซึ่งเป็นความครอบครองโดยถูกต้อง
    .
    การตัดสินใจส่งมอบโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ว่าจะมอบให้เฉพาะบุคคล 3 ราย ได้แก่ นพ.ธวัชชัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เพราะทั้งสามคนไว้วางใจที่สุดแล้ว เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่อยากให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคนที่จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือบางอย่างเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว เช่น มีคนดังโทร.เข้ามาในเวลาผิดปกติ ซึ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เปิดเผยว่าได้โทร.หาจริง ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ได้ออกมาพูด รวมทั้ง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทร.มาหาเมื่อเวลา 20.40 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่บนเรือลำเดียวกัน และอีกหลายข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ การลบข้อความ และการลบบัญชีทั้งบัญชี
    .
    ตนจำได้ว่ามดดำได้โทร.หาแตงโม แต่ได้รับข่าวจากแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนของแตงโมว่า แตงโมตกน้ำ แอนนาพยายามทักไลน์ โทร.ทั้งไลน์และมือถือแต่ไม่ติด เมื่อ 3 ปีที่แล้วพอเข้าไปดูบัญชีแอนนาไม่มีเลย ลบทิ้ง บัญชีฮิปโป (ผู้จัดการส่วนตัวให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนที่แตงโมเสียชีวิต) ก็ลบทิ้ง บัญชีโม อมีนา พินิจ ก็ลบทิ้ง บัญชีพุดเดิล ยุพดี ก็ลบทิ้ง และอีกหลายคน ส่วนข้อความที่กระติกนำมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่าได้คุยกับแตงโม ตนก็เข้าไปดู ไม่พบข้อความที่กระติกนำมาแสดง มีถึงแค่วันที่ 17-18 ก.พ. 2565 เท่านั้น แสดงว่ามีข้อมูลที่ถูกลบและข้อมูลที่แต่งขึ้นมา
    .
    บังแจ็ค กล่าวว่า ตนกู้ข้อมูลเฉพาะรูปภาพกว่า 40,000 ภาพ ยังดูไม่หมด ดูเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดี เช่น บัญชีธนาคารไม่มีเงินสักบาทในบัญชี ทั้งที่อย่างน้อยเป็นดาราต้องมีเงินติดบัญชีสัก 4-5 พันบาท แต่ยอดเงินกลับเป็น 0 บาท บันทึกบางส่วนถูกลบออกไป แชตบางส่วนที่คุยกับนักการเมืองดัง ที่ขู่จะให้ส่งภาพลับที่ไม่เหมาะสมและเรียกให้มาหาก็มี ตนสงสารที่แตงโมต้องเจออะไรแบบนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายคดีเมื่ออยู่ในมือของดีเอสไอ
    .
    ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตนที่ทำให้พยานหลักฐานถูกด้อยค่านั้น ถามว่าใครทำร้ายเครดิตตน คนที่เสียประโยชน์ก็พยายามใช้สื่อที่เข้าข้างมาดิสเครดิตตน หนึ่งในนั้นคือทนายความที่ท้าให้ดื่มปัสสาวะ 70 แก้ว พาทั้งพิธีกรชื่อดังไปแจ้งความว่าตนขู่ฆ่าและใช้สื่อโจมตี ทั้งๆ ที่พิธีกรชื่อดังเข้าใจกันแล้ว และจะร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่โพสต์ภาพปืนเป็นเรื่องนานมาแล้ว ไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม และได้เคลียร์จบแล้ว ตนมีหลักฐานทั้งหมดส่งให้ นพ.ธวัชชัย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าได้คุยกัน จับมือขออภัยกันจริง
    .
    ส่วนคดีเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ส่วนตัวมาเมืองไทยถูกต้อง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซื้อรถจักรยานยนต์จากเบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี เวลานั้นตนอยู่โคราช ตนถูกหลอกเพราะไม่มีเอกสารและทะเบียน ตนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้กฎหมาย เจอด่านก็โดนยึด พอกลับไปหาเจ้าตัวก็ไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีหลักฐาน พอเกิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติด ตนออกมาวิจารณ์เบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เข้าข้างและไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมของเขา ตนซื้อรถด้วยน้ำพักน้ำแรงแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่ตนใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เวลานั้นไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพราะโดนโจมตี น้ำหนักน้อยลง พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเป็นคนต่างชาติ ถูกด้อยค่าตลอดเวลา จึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้
    .
    ส่วนที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ถึงปี 2569 เพราะเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยนั้น บังแจ็ค กล่าวว่า สมมติเป็นบุคคลอันตรายจริงก็ไม่น่าจะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ 6-7 ปี ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนรัฐบาล และออกเอกสารถูกต้อง มีใบอนุญาตทำงาน เมื่อ 2 ปีก่อนมีรายการโทรทัศน์ไปตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีดำในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้สามารถเข้าประเทศไทยได้ ส่วนคดีที่เจอระยะหลังๆ คือคดีแตงโม ถูกใส่ไข่เยอะเพราะอีกฝ่ายหรืออีกสื่อหนึ่งมีเอฟซี มีอิทธิพลเยอะ แถมเมื่อตนไปสัมภาษณ์รายการหนึ่ง 5 ครั้ง ภายหลังไลฟ์รายการลบทิ้ง หมายความว่าอย่างไร ตนถามตรงๆ ไปว่าลบทิ้งทำไม เขาไม่มีคำตอบ เปลี่ยนประเด็น
    .
    ตนมองว่าต้องมีคนสั่งให้ลบ เพราะมือถืออยู่ในมือตนเอง จึงต้องดิสเครดิตให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ พยายามด้อยค่าหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยออกมา 1-2 คลิปที่ อ.ปานเทพเปิดเผย ตนเคยลงในเพจมานานมากแล้ว แต่มีคนทักมาถามว่าสถานที่ตรงนี้ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งตนไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว พอไปดูก็มีการแต่งเพิ่มมา อ.ปานเทพถามตนว่าคลิปนี้ได้มาจากตนหรือเปล่า ตนตอบว่าไม่ใช่ คลิปที่ได้จากตนมีแค่นี้ เขาใช้วิธีเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน คือ เอามาแต่งเติม เอามาตัด และโจมตีว่าไม่ใช่ข้อมูลจริง หิวแสง ตนเพิ่งรู้จัก อ.ปานเทพ และ นพ.ธวัชชัยไม่ถึง 2 เดือน ข้อมูล GPS ที่เคยส่งให้ทีวีช่องหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนก็ถูกด้อยค่าว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรเลย ด้อยค่าแล้วก็ลบตัดทิ้งเลย
    .
    พอรับฟีดแบ็คกลับมาตนก็มีความรู้สึก แฟนของตนก็ไม่สบายใจ ให้หยุดไม่ต้องทำเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คดีนี้ต้องกลับมาแน่ เพราะข้อพิรุธหลายอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้ เบอร์แต่ละคนหาไม่ยาก อยู่บนเรือด้วยกันโทร.หากันทำไม แล้วบรรดาคนดังโทร.หาแตงโมเวลา 21.58 น. 22.04 น. หรือ 22.07 น.ของวันเกิดเหตุ ไม่ใช่แค่คืนนั้นคืนเดียว โทร.มาตอนเช้าด้วย โทร.ในระหว่างนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ตำรวจแถลงข่าวแตงโมตกน้ำ 22.37-22.38 น. แสดงว่าคนรู้แล้วว่าแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการกดรับสายเพราะปิดเครื่อง แต่มีระบบรับฝากข้อความและมีข้อความเข้ามา
    .
    เมื่อถามว่า ขบวนการดิสเครดิตบังแจ็คทำไปเพื่ออะไร เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโมอย่างไร บังแจ็ค กล่าวว่า มีคนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่พอคดีแตงโมเปิดขึ้นมาเขาได้รับความเสียหายมาก จึงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ ที่ไปคุยที่ปั๊มน้ำมันนั้น ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขาสอนให้พูดแบบนี้ แล้วมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แนะนำว่าต้องไปในทิศทางนี้ เท่าที่ตนทราบไม่นานมีโทรทัศน์ 3 ช่อง ช่องแรกไม่ดัง อีก 2 ช่องดัง ใช้ทนายความคนบนเรือคนเดียวกันออกโทรทัศน์ บางสื่อต้องกลัวตำรวจหรือเกรงใจตำรวจเพราะจะไม่มีข่าวเล่น ตนรู้พิรุธมานานแล้วว่าตอนสัมภาษณ์เขาก็ตัดออก อย่างทีวีช่องหนึ่งสัมภาษณ์นานมาก แต่ตัดบางส่วนออก เหลือเฉพาะตอนที่เปิดช่องให้ถูกโจมตี ภายหลังพบว่าใช้ทนายความคนเดียวกันออกทีวี
    .
    เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเสนอเงิน 15 ล้านบาทเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ไม่ถึง 15 ล้านบาท แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ นพ.ธวัชชัยจะมารับเครื่อง ก็พยายามที่จะถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือจริงหรือเปล่า แล้วเชื่อหรือเปล่าว่าจะนำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าคิดจะขายจะขายในราคาเท่าไหร่ ตนตอบว่าไม่ขาย ถามว่า 2 ล้านบาทขายไหม ตนตอบว่าไม่ขาย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาท เงินที่เสนอมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในเดือนหนึ่งก็หมดแล้ว เพราะตนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีบริษัท จ่ายค่ารถ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว ตนหาได้เองไม่ต้องเสนอ อีกฝ่ายก็เสนอเป็น 5 ล้านบาท แต่ไม่ต้องให้เครื่องแก่ นพ.ธวัชชัย ตนกล่าวว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย อยากจะยกให้เขา อีกฝ่ายกล่าวว่า ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ 1 ใน 5 คนบนเรือกล่าวว่า ได้เครื่องนี้ไปก็คือจบเลย เพราะมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูง เป็นนักธุรกิจระดับประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มือถือนี้ไปอยู่ที่เมืองไทย
    .
    เมื่อถามว่า ที่โดนดักตีหัวสงสัยว่าจัดฉากหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ตอนที่โดนตีหัว นพ.ธวัชชัยคุยกับตนอยู่ เวลาโดนตีหัวแฟนถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 3,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่พอจับดูเลือดไหล จึงให้ นพ.ธวัชชัยดูแผล ก็แนะนำว่าให้ไปเย็บแผลก่อน แต่เย็บไม่เยอะ 2 เข็ม และให้กลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่โดนตีหัวคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของคนผิวสี ตำรวจไม่ค่อยมี เป็นเหตุบังเอิญที่โจรขโมยของ นพ.ธวัชชัยอยู่ในสาย ก็เลยเป็นห่วงจึงเป็นข่าวขึ้นมา ส่วนขบวนการดิสเครดิตที่เกิดขึ้น นพ.ธวัชชัย อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ บังแจ็ค กล่าวว่า ทั้งสามคนต้องระวังอย่างสูง เพราะเท่าที่เจอข้อมูลในเครื่องมีแต่คนใหญ่คนโต ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จากที่แถลงข่าวยังมีเยอะกว่านี้
    .
    ถามถึงแนวทางคลี่คลายคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แตงโม บังแจ็คกล่าวว่า ลองไว้ใจทีมดีเอสไอ และดูว่าจะมีคนเข้ามาสกัดหรือข่มขู่หรือเปล่าก็ต้องคอยดู แต่ถ้าทั้งสามคนสบายใจและมั่นใจในทีมนี้ก็ตามนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือฟิงเกอร์ครอส (ยกนิ้วไขว้เพื่ออวยพรขอให้โชคดี) เมื่อถามว่า ตอนนี้บังแจ็คทำอะไรอยู่ ตนต้องขอบคุณเน็ตไอดอลที่สร้างภาพให้ตนเป็นแบบนั้นว่าเขาทำสำเร็จ ตนมีร้านอาหาร 2 แห่ง มีบริษัทที่มีรถยนต์กันกระสุน 5 คัน รับคุ้มกันดาราระดับโลก นักฟุตบอลชื่อดัง และนักการเมือง ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแตงโมจริง ให้ นพ.ธวัชชัชตรวจอีมี่ (IMEI) และตรวจเครื่องให้เรียบร้อย ถ้าสมมติถ้าตนหิวเงินหรือหิวแสงคงไม่เก็บไว้นานถึง 3 ปี ภาพหรือคลิปที่ตนเจอป่านนี้ได้เงินเป็นร้อยล้านแล้ว ตนนับถือศาสนาอิสลาม เป็นเงินบาป ทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ไปยุ่งและไม่เปิดเผย ไม่ทำให้แตงโมเสียหายเพราะน่าสงสารที่สุดแล้ว
    .
    คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://sondhitalk.com/detail/9680000012224
    ......
    Sondhi X
    [Exclusive on Sondhi Talk] "บังแจ็ค" ไว้ใจ DSI ไขคดี แย้มมือถือแตงโมมี 4 หมื่นภาพ แถมข้อมูลนักการเมือง-นักธุรกิจดัง . บังแจ็คเปิดใจส่งมอบมือถือแตงโม นิดา ให้หมอธวัชชัยนำมาให้ดีเอสไอคลี่คลายคดี ระบุกู้ข้อมูลมีภาพกว่า 4 หมื่นภาพ แชตบางส่วนคุยกับนักการเมืองดัง และมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่มีอิทธิพลสูง นักธุรกิจระดับประเทศเกี่ยวข้องด้วย เผยมีคนขอซื้อมือถือจริงแต่ไม่ถึง 15 ล้าน ลั่นยังไงก็ไม่ขาย . วันนี้ (6 ก.พ.) นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือบังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" (คลิกชมย้อนหลัง >> https://www.youtube.com/watch?v=58nPhAE2uZo) ถึงโทรศัพท์มือถือของ แตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตจากเรือสปีดโบ้ท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งได้ส่งมอบให้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และเตรียมนำมาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำมาใช้เพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของแตงโม ระบุว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่รู้จักกับนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นางพนิดาได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโมจากตำรวจ แต่ไม่พบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง ตนจึงแนะนำให้นำไปที่ศูนย์บริการของแอปเปิลช่วยดูว่ายังมีข้อมูลในเครื่องหรือไม่ นางพนิดาไปที่ศูนย์แอปเปิลฯ แต่ไม่ไว้ใจ จึงให้โทรศัพท์มือถือแก่ตน ซึ่งเป็นความครอบครองโดยถูกต้อง . การตัดสินใจส่งมอบโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ว่าจะมอบให้เฉพาะบุคคล 3 ราย ได้แก่ นพ.ธวัชชัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เพราะทั้งสามคนไว้วางใจที่สุดแล้ว เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่อยากให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคนที่จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือบางอย่างเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว เช่น มีคนดังโทร.เข้ามาในเวลาผิดปกติ ซึ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เปิดเผยว่าได้โทร.หาจริง ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ได้ออกมาพูด รวมทั้ง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทร.มาหาเมื่อเวลา 20.40 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่บนเรือลำเดียวกัน และอีกหลายข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ การลบข้อความ และการลบบัญชีทั้งบัญชี . ตนจำได้ว่ามดดำได้โทร.หาแตงโม แต่ได้รับข่าวจากแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนของแตงโมว่า แตงโมตกน้ำ แอนนาพยายามทักไลน์ โทร.ทั้งไลน์และมือถือแต่ไม่ติด เมื่อ 3 ปีที่แล้วพอเข้าไปดูบัญชีแอนนาไม่มีเลย ลบทิ้ง บัญชีฮิปโป (ผู้จัดการส่วนตัวให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนที่แตงโมเสียชีวิต) ก็ลบทิ้ง บัญชีโม อมีนา พินิจ ก็ลบทิ้ง บัญชีพุดเดิล ยุพดี ก็ลบทิ้ง และอีกหลายคน ส่วนข้อความที่กระติกนำมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่าได้คุยกับแตงโม ตนก็เข้าไปดู ไม่พบข้อความที่กระติกนำมาแสดง มีถึงแค่วันที่ 17-18 ก.พ. 2565 เท่านั้น แสดงว่ามีข้อมูลที่ถูกลบและข้อมูลที่แต่งขึ้นมา . บังแจ็ค กล่าวว่า ตนกู้ข้อมูลเฉพาะรูปภาพกว่า 40,000 ภาพ ยังดูไม่หมด ดูเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดี เช่น บัญชีธนาคารไม่มีเงินสักบาทในบัญชี ทั้งที่อย่างน้อยเป็นดาราต้องมีเงินติดบัญชีสัก 4-5 พันบาท แต่ยอดเงินกลับเป็น 0 บาท บันทึกบางส่วนถูกลบออกไป แชตบางส่วนที่คุยกับนักการเมืองดัง ที่ขู่จะให้ส่งภาพลับที่ไม่เหมาะสมและเรียกให้มาหาก็มี ตนสงสารที่แตงโมต้องเจออะไรแบบนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายคดีเมื่ออยู่ในมือของดีเอสไอ . ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตนที่ทำให้พยานหลักฐานถูกด้อยค่านั้น ถามว่าใครทำร้ายเครดิตตน คนที่เสียประโยชน์ก็พยายามใช้สื่อที่เข้าข้างมาดิสเครดิตตน หนึ่งในนั้นคือทนายความที่ท้าให้ดื่มปัสสาวะ 70 แก้ว พาทั้งพิธีกรชื่อดังไปแจ้งความว่าตนขู่ฆ่าและใช้สื่อโจมตี ทั้งๆ ที่พิธีกรชื่อดังเข้าใจกันแล้ว และจะร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่โพสต์ภาพปืนเป็นเรื่องนานมาแล้ว ไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม และได้เคลียร์จบแล้ว ตนมีหลักฐานทั้งหมดส่งให้ นพ.ธวัชชัย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าได้คุยกัน จับมือขออภัยกันจริง . ส่วนคดีเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ส่วนตัวมาเมืองไทยถูกต้อง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซื้อรถจักรยานยนต์จากเบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี เวลานั้นตนอยู่โคราช ตนถูกหลอกเพราะไม่มีเอกสารและทะเบียน ตนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้กฎหมาย เจอด่านก็โดนยึด พอกลับไปหาเจ้าตัวก็ไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีหลักฐาน พอเกิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติด ตนออกมาวิจารณ์เบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เข้าข้างและไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมของเขา ตนซื้อรถด้วยน้ำพักน้ำแรงแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่ตนใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เวลานั้นไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพราะโดนโจมตี น้ำหนักน้อยลง พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเป็นคนต่างชาติ ถูกด้อยค่าตลอดเวลา จึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้ . ส่วนที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ถึงปี 2569 เพราะเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยนั้น บังแจ็ค กล่าวว่า สมมติเป็นบุคคลอันตรายจริงก็ไม่น่าจะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ 6-7 ปี ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนรัฐบาล และออกเอกสารถูกต้อง มีใบอนุญาตทำงาน เมื่อ 2 ปีก่อนมีรายการโทรทัศน์ไปตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีดำในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้สามารถเข้าประเทศไทยได้ ส่วนคดีที่เจอระยะหลังๆ คือคดีแตงโม ถูกใส่ไข่เยอะเพราะอีกฝ่ายหรืออีกสื่อหนึ่งมีเอฟซี มีอิทธิพลเยอะ แถมเมื่อตนไปสัมภาษณ์รายการหนึ่ง 5 ครั้ง ภายหลังไลฟ์รายการลบทิ้ง หมายความว่าอย่างไร ตนถามตรงๆ ไปว่าลบทิ้งทำไม เขาไม่มีคำตอบ เปลี่ยนประเด็น . ตนมองว่าต้องมีคนสั่งให้ลบ เพราะมือถืออยู่ในมือตนเอง จึงต้องดิสเครดิตให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ พยายามด้อยค่าหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยออกมา 1-2 คลิปที่ อ.ปานเทพเปิดเผย ตนเคยลงในเพจมานานมากแล้ว แต่มีคนทักมาถามว่าสถานที่ตรงนี้ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งตนไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว พอไปดูก็มีการแต่งเพิ่มมา อ.ปานเทพถามตนว่าคลิปนี้ได้มาจากตนหรือเปล่า ตนตอบว่าไม่ใช่ คลิปที่ได้จากตนมีแค่นี้ เขาใช้วิธีเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน คือ เอามาแต่งเติม เอามาตัด และโจมตีว่าไม่ใช่ข้อมูลจริง หิวแสง ตนเพิ่งรู้จัก อ.ปานเทพ และ นพ.ธวัชชัยไม่ถึง 2 เดือน ข้อมูล GPS ที่เคยส่งให้ทีวีช่องหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนก็ถูกด้อยค่าว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรเลย ด้อยค่าแล้วก็ลบตัดทิ้งเลย . พอรับฟีดแบ็คกลับมาตนก็มีความรู้สึก แฟนของตนก็ไม่สบายใจ ให้หยุดไม่ต้องทำเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คดีนี้ต้องกลับมาแน่ เพราะข้อพิรุธหลายอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้ เบอร์แต่ละคนหาไม่ยาก อยู่บนเรือด้วยกันโทร.หากันทำไม แล้วบรรดาคนดังโทร.หาแตงโมเวลา 21.58 น. 22.04 น. หรือ 22.07 น.ของวันเกิดเหตุ ไม่ใช่แค่คืนนั้นคืนเดียว โทร.มาตอนเช้าด้วย โทร.ในระหว่างนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ตำรวจแถลงข่าวแตงโมตกน้ำ 22.37-22.38 น. แสดงว่าคนรู้แล้วว่าแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการกดรับสายเพราะปิดเครื่อง แต่มีระบบรับฝากข้อความและมีข้อความเข้ามา . เมื่อถามว่า ขบวนการดิสเครดิตบังแจ็คทำไปเพื่ออะไร เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโมอย่างไร บังแจ็ค กล่าวว่า มีคนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่พอคดีแตงโมเปิดขึ้นมาเขาได้รับความเสียหายมาก จึงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ ที่ไปคุยที่ปั๊มน้ำมันนั้น ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขาสอนให้พูดแบบนี้ แล้วมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แนะนำว่าต้องไปในทิศทางนี้ เท่าที่ตนทราบไม่นานมีโทรทัศน์ 3 ช่อง ช่องแรกไม่ดัง อีก 2 ช่องดัง ใช้ทนายความคนบนเรือคนเดียวกันออกโทรทัศน์ บางสื่อต้องกลัวตำรวจหรือเกรงใจตำรวจเพราะจะไม่มีข่าวเล่น ตนรู้พิรุธมานานแล้วว่าตอนสัมภาษณ์เขาก็ตัดออก อย่างทีวีช่องหนึ่งสัมภาษณ์นานมาก แต่ตัดบางส่วนออก เหลือเฉพาะตอนที่เปิดช่องให้ถูกโจมตี ภายหลังพบว่าใช้ทนายความคนเดียวกันออกทีวี . เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเสนอเงิน 15 ล้านบาทเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ไม่ถึง 15 ล้านบาท แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ นพ.ธวัชชัยจะมารับเครื่อง ก็พยายามที่จะถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือจริงหรือเปล่า แล้วเชื่อหรือเปล่าว่าจะนำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าคิดจะขายจะขายในราคาเท่าไหร่ ตนตอบว่าไม่ขาย ถามว่า 2 ล้านบาทขายไหม ตนตอบว่าไม่ขาย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาท เงินที่เสนอมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในเดือนหนึ่งก็หมดแล้ว เพราะตนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีบริษัท จ่ายค่ารถ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว ตนหาได้เองไม่ต้องเสนอ อีกฝ่ายก็เสนอเป็น 5 ล้านบาท แต่ไม่ต้องให้เครื่องแก่ นพ.ธวัชชัย ตนกล่าวว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย อยากจะยกให้เขา อีกฝ่ายกล่าวว่า ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ 1 ใน 5 คนบนเรือกล่าวว่า ได้เครื่องนี้ไปก็คือจบเลย เพราะมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูง เป็นนักธุรกิจระดับประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มือถือนี้ไปอยู่ที่เมืองไทย . เมื่อถามว่า ที่โดนดักตีหัวสงสัยว่าจัดฉากหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ตอนที่โดนตีหัว นพ.ธวัชชัยคุยกับตนอยู่ เวลาโดนตีหัวแฟนถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 3,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่พอจับดูเลือดไหล จึงให้ นพ.ธวัชชัยดูแผล ก็แนะนำว่าให้ไปเย็บแผลก่อน แต่เย็บไม่เยอะ 2 เข็ม และให้กลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่โดนตีหัวคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของคนผิวสี ตำรวจไม่ค่อยมี เป็นเหตุบังเอิญที่โจรขโมยของ นพ.ธวัชชัยอยู่ในสาย ก็เลยเป็นห่วงจึงเป็นข่าวขึ้นมา ส่วนขบวนการดิสเครดิตที่เกิดขึ้น นพ.ธวัชชัย อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ บังแจ็ค กล่าวว่า ทั้งสามคนต้องระวังอย่างสูง เพราะเท่าที่เจอข้อมูลในเครื่องมีแต่คนใหญ่คนโต ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จากที่แถลงข่าวยังมีเยอะกว่านี้ . ถามถึงแนวทางคลี่คลายคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แตงโม บังแจ็คกล่าวว่า ลองไว้ใจทีมดีเอสไอ และดูว่าจะมีคนเข้ามาสกัดหรือข่มขู่หรือเปล่าก็ต้องคอยดู แต่ถ้าทั้งสามคนสบายใจและมั่นใจในทีมนี้ก็ตามนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือฟิงเกอร์ครอส (ยกนิ้วไขว้เพื่ออวยพรขอให้โชคดี) เมื่อถามว่า ตอนนี้บังแจ็คทำอะไรอยู่ ตนต้องขอบคุณเน็ตไอดอลที่สร้างภาพให้ตนเป็นแบบนั้นว่าเขาทำสำเร็จ ตนมีร้านอาหาร 2 แห่ง มีบริษัทที่มีรถยนต์กันกระสุน 5 คัน รับคุ้มกันดาราระดับโลก นักฟุตบอลชื่อดัง และนักการเมือง ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแตงโมจริง ให้ นพ.ธวัชชัชตรวจอีมี่ (IMEI) และตรวจเครื่องให้เรียบร้อย ถ้าสมมติถ้าตนหิวเงินหรือหิวแสงคงไม่เก็บไว้นานถึง 3 ปี ภาพหรือคลิปที่ตนเจอป่านนี้ได้เงินเป็นร้อยล้านแล้ว ตนนับถือศาสนาอิสลาม เป็นเงินบาป ทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ไปยุ่งและไม่เปิดเผย ไม่ทำให้แตงโมเสียหายเพราะน่าสงสารที่สุดแล้ว . คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://sondhitalk.com/detail/9680000012224 ...... Sondhi X
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 584 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน
    .
    รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ
    .
    รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง
    .
    หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด
    .
    เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า
    .
    ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้
    .
    “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ”
    .
    พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น”
    .
    ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ
    .
    เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน
    .
    โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ
    .
    เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง
    .
    นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2)
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา
    .
    และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน . รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ . รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ . รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง . หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด . เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า . ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน . เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้ . “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ” . พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น” . ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ . เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน . โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ . เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง . นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2) . รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา . และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา . แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2138 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราชแชมป์บัตรโหวตโน ตรังเทียบผู้มาใช้สิทธิสูงสุด

    การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 47 จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 16,362,185 คน คิดเป็น 58.45% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 27,991,587 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด หรือโหวตโน 1,158,201 ใบ คิดเป็น 7.08% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ สาเหตุหลักคือ ไม่มีผู้สมัครรายใดโดนใจประชาชน

    จากการรวบรวมข้อมูลผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด พบว่ามี 4 จังหวัดที่ไม่เปิดเผยคะแนนโหวตโนต่อสาธารณะ ได้แก่ พิจิตร บึงกาฬ นครนายก และกระบี่ ส่วนจังหวัดหนองบัวลำภูมีเฉพาะข้อมูลดิบ ไม่มีการรวมจำนวนมาให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อยู่ในประกาศ กกต.จังหวัด เรื่อง ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง หรือแบบฟอร์ม ส.ถ./ผ.ถ. 5/8 ที่ประธานและกรรมการ กกต.จังหวัดลงนามก่อนส่งไปยัง กกต.กลางเพื่อพิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งมีหลายจังหวัดเผยแพร่เอกสารนี้

    ส่วน 43 จังหวัดที่เหลือ จากการจัดอันดับพบว่า นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 110,934 ใบ หรือคิดเป็น 9.58% ของจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดทั้งประเทศ รองลงมาคือ สงขลา 86,855 ใบ คิดเป็น 7.50% อันดับสาม ตรัง 63,333 ใบ คิดเป็น 5.47% อันดับสี่ เชียงใหม่ 57,625 ใบ คิดเป็น 4.98% อันดับห้า บุรีรัมย์ 51,525 ใบ คิดเป็น 4.45% อันดับหก นครปฐม 49,395 ใบ คิดเป็น 4.26% อันดับเจ็ด เชียงราย 43,406 ใบ คิดเป็น 3.75% อันดับแปด สมุทรปราการ 42,142 ใบ คิดเป็น 3.64% อันดับเก้า สระบุรี 39,017 ใบ คิดเป็น 3.37% และอันดับสิบ นนทบุรี 37,562 ใบ คิดเป็น 3.24%

    แต่หากเปรียบเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง พบว่า ตรัง เป็นจังหวัดที่มีร้อยละของบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 21.30% รองลงมาคือ ยะลา 13.05% (29,334 ใบ) อันดับสาม นครปฐม 12.90% อันดับสี่ สิงห์บุรี 12.76% (12,741 ใบ) อันดับห้า สงขลา 12.63% อันดับหก สระบุรี 12.31% อันดับเจ็ด ฉะเชิงเทรา 10.20% (34,612 ใบ) อันดับแปด นครราชสีมา 9.60% อันดับเก้า สตูล 9.56% (14,659 ใบ) และอันดับสิบ น่าน 9.12% (22,872 ใบ)

    สำหรับจังหวัดที่มีจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด (ไม่รวมจังหวัดที่ไม่เปิดเผยตัวเลข) ได้แก่ ตราด 3,003 ใบ คิดเป็น 2.86% ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ส่วนจังหวัดที่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม 4,526 ใบ คิดเป็น 2.41%

    #Newskit
    โคราชแชมป์บัตรโหวตโน ตรังเทียบผู้มาใช้สิทธิสูงสุด การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 47 จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 16,362,185 คน คิดเป็น 58.45% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 27,991,587 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด หรือโหวตโน 1,158,201 ใบ คิดเป็น 7.08% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ สาเหตุหลักคือ ไม่มีผู้สมัครรายใดโดนใจประชาชน จากการรวบรวมข้อมูลผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด พบว่ามี 4 จังหวัดที่ไม่เปิดเผยคะแนนโหวตโนต่อสาธารณะ ได้แก่ พิจิตร บึงกาฬ นครนายก และกระบี่ ส่วนจังหวัดหนองบัวลำภูมีเฉพาะข้อมูลดิบ ไม่มีการรวมจำนวนมาให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อยู่ในประกาศ กกต.จังหวัด เรื่อง ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง หรือแบบฟอร์ม ส.ถ./ผ.ถ. 5/8 ที่ประธานและกรรมการ กกต.จังหวัดลงนามก่อนส่งไปยัง กกต.กลางเพื่อพิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งมีหลายจังหวัดเผยแพร่เอกสารนี้ ส่วน 43 จังหวัดที่เหลือ จากการจัดอันดับพบว่า นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 110,934 ใบ หรือคิดเป็น 9.58% ของจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดทั้งประเทศ รองลงมาคือ สงขลา 86,855 ใบ คิดเป็น 7.50% อันดับสาม ตรัง 63,333 ใบ คิดเป็น 5.47% อันดับสี่ เชียงใหม่ 57,625 ใบ คิดเป็น 4.98% อันดับห้า บุรีรัมย์ 51,525 ใบ คิดเป็น 4.45% อันดับหก นครปฐม 49,395 ใบ คิดเป็น 4.26% อันดับเจ็ด เชียงราย 43,406 ใบ คิดเป็น 3.75% อันดับแปด สมุทรปราการ 42,142 ใบ คิดเป็น 3.64% อันดับเก้า สระบุรี 39,017 ใบ คิดเป็น 3.37% และอันดับสิบ นนทบุรี 37,562 ใบ คิดเป็น 3.24% แต่หากเปรียบเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง พบว่า ตรัง เป็นจังหวัดที่มีร้อยละของบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 21.30% รองลงมาคือ ยะลา 13.05% (29,334 ใบ) อันดับสาม นครปฐม 12.90% อันดับสี่ สิงห์บุรี 12.76% (12,741 ใบ) อันดับห้า สงขลา 12.63% อันดับหก สระบุรี 12.31% อันดับเจ็ด ฉะเชิงเทรา 10.20% (34,612 ใบ) อันดับแปด นครราชสีมา 9.60% อันดับเก้า สตูล 9.56% (14,659 ใบ) และอันดับสิบ น่าน 9.12% (22,872 ใบ) สำหรับจังหวัดที่มีจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด (ไม่รวมจังหวัดที่ไม่เปิดเผยตัวเลข) ได้แก่ ตราด 3,003 ใบ คิดเป็น 2.86% ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ส่วนจังหวัดที่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม 4,526 ใบ คิดเป็น 2.41% #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือกนายก อบจ.บัตรเสีย-บัตรไม่เลือกผู้ใด พุ่งสูง โคราช บัตรไม่ลงคะแนนสูงเหยียบแสน (9.60%) ส่วนเชียงใหม่-สงขลา บัตรไม่เลือกผู้ใดเกินครึ่งแสน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010627

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เลือกนายก อบจ.บัตรเสีย-บัตรไม่เลือกผู้ใด พุ่งสูง โคราช บัตรไม่ลงคะแนนสูงเหยียบแสน (9.60%) ส่วนเชียงใหม่-สงขลา บัตรไม่เลือกผู้ใดเกินครึ่งแสน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010627 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 815 มุมมอง 0 รีวิว

  • เขาขึ้นหรือเขานางบวชและวิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ
    ....
    ในท้องทุ่งแห่งลุ่มแม่น้ำน้อยมีตำนานเล่าเรื่องวีรชนแห่งบ้านระจันหรือบางระจัน ที่ต้านทัพพม่า ซึ่งเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยาที่อยู่ทางใต้ไม่ไกลนักได้ถึง ๗ ครั้ง ชาวบ้านบางระจันได้รวมตัวกันต่อสู้รบและเสียชีวิตทั้งหมู่บ้านในครั้งที่ ๘ แม้นักประวัติศาสตร์หลายท่านจะเห็นแย้งและกล่าวว่าทัพพม่าเข้ามาทางบ้านตากนั้นยังคงไม่ถึงกรุงศรีอยุธยา เอกสารที่บันทึกไว้อย่างละเอียดน่าจะเป็นพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวน่าจะขยายความและบรรยายอย่างละเอียด โดยมีนำมากล่าวถึงในหนังสือไทยรบพม่าของ สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ส่วนพระราชพงศาวดารฉบับอื่นคงบรรยายไว้เพียงไม่มาก ปรากฎชื่อสถานที่ว่า ‘บ้านระจัน’ พระอาจารย์วัดเขานางบวชซึ่งก็หมายถึงพระอาจารย์ธรรมโชติ นายจันเขียว พระยารัตนาธิเบศ
    .
    อย่างไรก็ตาม พระราชพงศาวดารและบันทึกคำให้การต่างๆ ล้วนมีการบันทึกเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญและมีส่วนที่เป็นข้อเท็จจริง ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างใดนั้น เรื่องเล่าติดที่คือตำนานต่างๆ ถูกสร้างและแต่งเสริมด้วยผู้คนที่เป็นชาวบ้านแห่งท้องทุ่งในลุ่มแม่น้ำน้อยนี้
    .
    น่าสนใจว่า ผู้นำทางจิตวิญญาณที่สำคัญ คือ ‘พระอาจารย์ธรรมโชติ’ แห่งวัดเขานางบวช สุพรรณบุรี นั้นกลายเป็น Culture hero แห่งเขตพื้นที่กลางอันเป็นพื้นที่นครรัฐเจนลีฟูแต่เดิม เมื่อย้อนกลับไปราวห้าร้อยกว่าปีก่อนหน้านั้น
    .
    พื้นที่สู้รบนั้นอยู่ตามลำแม่น้ำน้อย ตั้งแต่แขวงเมืองวิเศษไชยชาญจนลงเข้าสู่ผักไห่และตั้งค่ายสำคัญอยู่ที่สีกุก
    .
    ส่วนด้านทางเหนือก็เข้าควบคุมพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านไปรวมกันแถบรอบวัดโพธิ์เก้าต้น ต่อชาวบ้านไปอาราธนาพระอาจารย์ธรรมโชติจากวัดเขานางบวช ให้ไปช่วยคุ้มครองทำผ้าประเจียด ตะกรุด พิสมร (ตะกรุดรูปแบบหนึ่ง ใช้ร้อยสายไว้ป้องกันอันตราย) แจกจ่ายนักรบชาวบ้าน เล่าสืบต่อมาว่าพระอาจารย์ธรรมโชติ บวชครั้งแรกที่ ‘วัดยาง’ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง กับวัดโพธิ์เก้าต้นหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘วัดแดง’ เพราะมีดงไม้แดงขึ้นเยอะ ทั้งสองวัดนี้เป็นวัดเก่า เพราะมีวิหารแบบแอ่นท้องสำเภา พระพุทธรูปหินทราย และพระพุทธรูปปูนปั้นประดิษฐานไว้ ก่อนย้ายไปฝึกวิปัสสนากรรมฐานในถ้ำบนยอดเขานางบวช ต่อมาชาวบ้านบางระจันได้อาราธนามาอยู่ ณ วัดโพธิ์เก้าต้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการสู้รบ
    .
    บริเวณ ‘วัดโพธิ์เก้าต้น’ นี้เป็นย่านชุมชนเก่ามาตั้งแต่สมัยทวารวดีช่วงปลาย แต่อยู่อาศัยกันบางเบาเพราะเป็นเขตที่ต้องใช้ดารเดินทางติดต่อทางน้ำเป็นหลัก [Riverine] เพราะอยู่ไม่ไกลจาก ‘เมืองคูเมือง’ ในตำบลแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ที่อยู่ห่างไปราว ๓ กิโลเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเมืองรูปสี่เหลี่ยมของลุ่มน้ำระหว่างลำสีบัวทองและแม่น้ำน้อย มีการอยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยทวารวดีและยุคลพบุรีหรือราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๘ และคงอยู่สืบเนื่องกันต่อเรื่อยมาจนถึงสิ้นกรุงศรีอยุธยา
    .
    พอพม่าเข้าตีค่ายบางระจันที่วัดโพธิ์เก้าต้นได้ ใน ‘ไทยรบพม่า’ พระนิพนธ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ก็ว่าชาวบ้านที่เหลือตายหนีไปได้บ้าง พม่าจับเอาไปเป็นเชลยบ้าง แต่พระอาจารย์ธรรมโชตินั้นเลยหายสาบสูญไป จะถึงมรณภาพในเวลาเสียค่ายพม่าหรือหนีรอดไปได้ไม่มีหลักฐานปรากฎ
    .
    แต่ในบทความของอาจารย์มนัส โอภากุล เรื่อง พระอาจารย์ธรรมโชติ หายไปไหน? (มนัส โอภากุล. พระอาจารย์ธรรมโชติหายไปไหน? ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๒๗) ใช้ข้อมูลประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจากทายกวัดนางบวช อายุ ๗๕ ปี ใน พ.ศ. ๒๕๒๗ เล่าว่า พระอาจารย์ธรรมโชติกลับมาจำพรรษาที่วัดเขานางบวชตามเดิม โดยคำบอกเล่าของปู่ย่าตายายเล่าว่า เมื่อค่ายบางระจันแตก พระอาจารย์ธรรมโชติหลบหนีมาที่เขานางบวช ทหารก็ไล่ติดตามมาจนมาค้นที่วัดเขานางบวชหาตัวเท่าไหร่ก็ไม่พบ เพราะท่านลงไปหลบในอุโมงค์ภายในวิหารที่ยังปรากฎอยู่จนปัจจุบันที่เคยเป็นที่นั่งวิปัสสนากรรมฐาน เล่ากันว่าภายในมีพื้นที่ให้คนนั่งรวมกันได้ ๕ - ๖ คน ทุกวันนี้ก็ยังปรากฎอยู่....
    .
    ซึ่งเป็นความเชื่อในคุณวิเศษของพระอาจารย์ธรรมโชติ ที่ชาวบ้านทางแถบเดิมบางตลอดไปจนถึงเขาพระ หัวเขาและบ้านกำมะเชียร ในย่านลุ่มน้ำสุพรรณเชื่อถือกันสืบต่อมา
    .
    พระวิหารวิปัสสนาที่เขาขึ้นหรือวัดเขานางบวชนั้น เป็นอาคารยาวมุงกระเบื้องกาบกล้วยแบบเก่า ประดิษฐานรอยพระบาท ด้านหลังเป็นโพรงหรืออุโมงค์ลงไปในโพรงแคบๆ ของพระเจดีย์ที่อาจจะเป็นกรุมาแต่ดั้งเดิม (ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชวินิจฉัยเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เป็นโพรงถ้ำวิปัสสนามาแต่ก่อน
    .
    ‘เขาขึ้น’ หรือ ‘เขานางบวช’ นั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มโบราณสถานบนเขาและชุมชนยุคแรกๆ มราเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้ เนื่องจากใกล้ชิดกับชุมชนที่เดิมบางฯ ริมแม่น้ำสุพรรณซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อเส้นทางเดินทางสมัยโบราณได้หลายทิศทาง ไม่ว่าจะขึ้นเหนือไปทางลุ่มน้ำสะแกกรังผ่านไปทางลำน้ำปิง ทางลำน้ำมะเขามเฒ่าสู่กลุ่มเมืองทางอู่ตะเภาและพื้นที่ดอนที่ติดต่อกับที่ราบสูงโคราช ทางตะวันตกสู่ลุ่มน้ำสุพรรณ อู่ทองและแม่กลอง และทางใต้ติดต่อกับท้องทุ่งและลำน้ำใหญ่น้อยที่ลงสูากลุ่มละโว้ได้เช่นกัน และมีการอยู่อาศัยต่อเนื่อง จนกลายเป็นแลนด์มาร์กและวัดสำคัญของท้องถิ่น มำตำนานของผู้เข้ามาอยู่อาศัยใหม่ๆ สร้างให้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น และกลายมาเป็นการสร้างประเพณีสำคัญของท้องถิ่นสืบมาจนถึงปัจจุบัน
    .
    เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสขึ้นบนเขานางบวช เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๑ ในพระราชหัตถเลขาบันทึกไว้ว่า
    .
    ...ที่บนนั้นมีพระอุโบสถหลังหนึ่ง ห้าห้อง ไม่มีหน้าต่าง ก่อเว้นช่องอย่างวัดพุทไธสวรรย์ แต่ไม่มีหลังคามุงแฝกคลุมไว้ พระที่ตั้งอยู่บนฐานชุกชีเป็นพระพุทธรูปศิลาปั้นปูน ประกอบปิดทอง ผนังโบสถ์ด้านหนึ่งก่อเป็นแท่นเหมือนอาสนสงฆ์ ตั้งพระพุทธรูป เป็นพระยืนขนาดใหญ่ เห็นจะเป็นพระเก่าผีมือดี ๆ อย่างโบราณ สวมเทริด หน้าต่าง ๆ แต่ ชำรุดทั้งสิ้น ได้เชิญให้ลงมาปฏิสังขรณ์ ๔ องค์ ถ้าเสร็จแล้วจะส่งกลับไปไว้ที่เขานั้นบ้าง เสมาใช้ศิลาแผ่นใหญ่ ๆ อย่างเสมาวัดหลวงกรุงเก่า มีกำแพงแก้วรอบไป จนกระทั่งเจดีย์และวิหารด้วย แต่วิหารนั้นเป็นที่น่าสงสัยอยู่ว่า ทำเป็นสองคราว เพราะกระชั้นพระเจดีย์นัก ไม่ได้ไว้ช่อง อีกมีช่องหน้าต่างเล็กสูงเพียงศอกเดียว กว้างกับเศษ ๒ ช่องเท่านั้น ท้ายวิหารจดฐานพระเจดีย์ มีทางเข้าไปในองค์พระเจดีย์ที่กำแพงแก้ว มีพระเจดีย์ประจำมุมเห็นจะมีถึงด้านละ ๔ องค์ พระเจดีย์นั้นก็เป็นพานแว่นฟ้า ๓ ชั้น
    .
    เขานางบวชนี้เป็นที่ราษฎรนับถือมาก มีกำหนดขึ้นไหว้กันกลางเดือน ๔ ทุกปี มาแต่หัวเมืองอื่นก็มากใช้เดินทางบกทั้งนั้น...
    .
    ลักษณะของเจดีย์ที่สร้างแบบผสมกับหินก้อนใหญ่ๆ ซึ่งมักนิยมสร้างกันเช่นนี้ตามเขาที่มีฐานวิหารและพระเจดีย์บนเขา เช่น ที่บ้านหัวเขาในอำเภอเดิมบางฯ นี้ และแนวเขาพระที่ต่อเนื่องมาจากอู่ทองจนถึงเลาขวัญอีกหลายแห่ง ก็มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งเป็นยุคสมัยแบบลพบุรีหรือในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๘ อันเป็นช่วงร่วมสมัยกับกลุ่มนครรัฐเจนลีฟูที่ปรากฎขึ้นในบริเวณนี้ และเป็นรัฐที่นับถือพุทธศาสนาเป็นหลักตามระบุไว้ในจดหมายเหตุจีน
    .
    และยังพบฐานแท่นหินทรายขนาดย่อมๆ สำหรับประติมากรรมที่อาจเป็นพระพุทธรูปหรือเทวรูปก็ได้ และพระพุทธรูปยืนสวมเทริดทำจากหินที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกล่าวถึงที่อาจนำไปปฏิสังขรณ์แล้วและอาจไม่ได้ส่งกลับมาก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังพบพระพุทธรูปแบบหินทรายปางมารวิชัยแบบเก่าซึ่งพบในแถบพื้นที่ดอนของสามชุก หนองหญ้าไซ และดอนเจดีย์
    ...
    ภาพ วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติบนเขาขึ้นหรือเขานางบวช ต่อด้วยเจดีย์ทำจากก้อนหินผสมกับอิฐ ซึ่งมีโพรงด้านใน และพระอุโบสถมีพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัยที่พบในเขตนี้หลายองค์ ทั้งใบเสมาทำจากหินชนวนแบบวัดหลวงแต่ทำลวดลายที่พบได้ทั่วไปในเขตชัยนาท เมืองสิงห์เก่าและเมืองพรหมเก่า
    เขาขึ้นหรือเขานางบวชและวิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ .... ในท้องทุ่งแห่งลุ่มแม่น้ำน้อยมีตำนานเล่าเรื่องวีรชนแห่งบ้านระจันหรือบางระจัน ที่ต้านทัพพม่า ซึ่งเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยาที่อยู่ทางใต้ไม่ไกลนักได้ถึง ๗ ครั้ง ชาวบ้านบางระจันได้รวมตัวกันต่อสู้รบและเสียชีวิตทั้งหมู่บ้านในครั้งที่ ๘ แม้นักประวัติศาสตร์หลายท่านจะเห็นแย้งและกล่าวว่าทัพพม่าเข้ามาทางบ้านตากนั้นยังคงไม่ถึงกรุงศรีอยุธยา เอกสารที่บันทึกไว้อย่างละเอียดน่าจะเป็นพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวน่าจะขยายความและบรรยายอย่างละเอียด โดยมีนำมากล่าวถึงในหนังสือไทยรบพม่าของ สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ส่วนพระราชพงศาวดารฉบับอื่นคงบรรยายไว้เพียงไม่มาก ปรากฎชื่อสถานที่ว่า ‘บ้านระจัน’ พระอาจารย์วัดเขานางบวชซึ่งก็หมายถึงพระอาจารย์ธรรมโชติ นายจันเขียว พระยารัตนาธิเบศ . อย่างไรก็ตาม พระราชพงศาวดารและบันทึกคำให้การต่างๆ ล้วนมีการบันทึกเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญและมีส่วนที่เป็นข้อเท็จจริง ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างใดนั้น เรื่องเล่าติดที่คือตำนานต่างๆ ถูกสร้างและแต่งเสริมด้วยผู้คนที่เป็นชาวบ้านแห่งท้องทุ่งในลุ่มแม่น้ำน้อยนี้ . น่าสนใจว่า ผู้นำทางจิตวิญญาณที่สำคัญ คือ ‘พระอาจารย์ธรรมโชติ’ แห่งวัดเขานางบวช สุพรรณบุรี นั้นกลายเป็น Culture hero แห่งเขตพื้นที่กลางอันเป็นพื้นที่นครรัฐเจนลีฟูแต่เดิม เมื่อย้อนกลับไปราวห้าร้อยกว่าปีก่อนหน้านั้น . พื้นที่สู้รบนั้นอยู่ตามลำแม่น้ำน้อย ตั้งแต่แขวงเมืองวิเศษไชยชาญจนลงเข้าสู่ผักไห่และตั้งค่ายสำคัญอยู่ที่สีกุก . ส่วนด้านทางเหนือก็เข้าควบคุมพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านไปรวมกันแถบรอบวัดโพธิ์เก้าต้น ต่อชาวบ้านไปอาราธนาพระอาจารย์ธรรมโชติจากวัดเขานางบวช ให้ไปช่วยคุ้มครองทำผ้าประเจียด ตะกรุด พิสมร (ตะกรุดรูปแบบหนึ่ง ใช้ร้อยสายไว้ป้องกันอันตราย) แจกจ่ายนักรบชาวบ้าน เล่าสืบต่อมาว่าพระอาจารย์ธรรมโชติ บวชครั้งแรกที่ ‘วัดยาง’ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง กับวัดโพธิ์เก้าต้นหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘วัดแดง’ เพราะมีดงไม้แดงขึ้นเยอะ ทั้งสองวัดนี้เป็นวัดเก่า เพราะมีวิหารแบบแอ่นท้องสำเภา พระพุทธรูปหินทราย และพระพุทธรูปปูนปั้นประดิษฐานไว้ ก่อนย้ายไปฝึกวิปัสสนากรรมฐานในถ้ำบนยอดเขานางบวช ต่อมาชาวบ้านบางระจันได้อาราธนามาอยู่ ณ วัดโพธิ์เก้าต้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการสู้รบ . บริเวณ ‘วัดโพธิ์เก้าต้น’ นี้เป็นย่านชุมชนเก่ามาตั้งแต่สมัยทวารวดีช่วงปลาย แต่อยู่อาศัยกันบางเบาเพราะเป็นเขตที่ต้องใช้ดารเดินทางติดต่อทางน้ำเป็นหลัก [Riverine] เพราะอยู่ไม่ไกลจาก ‘เมืองคูเมือง’ ในตำบลแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ที่อยู่ห่างไปราว ๓ กิโลเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเมืองรูปสี่เหลี่ยมของลุ่มน้ำระหว่างลำสีบัวทองและแม่น้ำน้อย มีการอยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยทวารวดีและยุคลพบุรีหรือราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๘ และคงอยู่สืบเนื่องกันต่อเรื่อยมาจนถึงสิ้นกรุงศรีอยุธยา . พอพม่าเข้าตีค่ายบางระจันที่วัดโพธิ์เก้าต้นได้ ใน ‘ไทยรบพม่า’ พระนิพนธ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ก็ว่าชาวบ้านที่เหลือตายหนีไปได้บ้าง พม่าจับเอาไปเป็นเชลยบ้าง แต่พระอาจารย์ธรรมโชตินั้นเลยหายสาบสูญไป จะถึงมรณภาพในเวลาเสียค่ายพม่าหรือหนีรอดไปได้ไม่มีหลักฐานปรากฎ . แต่ในบทความของอาจารย์มนัส โอภากุล เรื่อง พระอาจารย์ธรรมโชติ หายไปไหน? (มนัส โอภากุล. พระอาจารย์ธรรมโชติหายไปไหน? ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๒๗) ใช้ข้อมูลประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจากทายกวัดนางบวช อายุ ๗๕ ปี ใน พ.ศ. ๒๕๒๗ เล่าว่า พระอาจารย์ธรรมโชติกลับมาจำพรรษาที่วัดเขานางบวชตามเดิม โดยคำบอกเล่าของปู่ย่าตายายเล่าว่า เมื่อค่ายบางระจันแตก พระอาจารย์ธรรมโชติหลบหนีมาที่เขานางบวช ทหารก็ไล่ติดตามมาจนมาค้นที่วัดเขานางบวชหาตัวเท่าไหร่ก็ไม่พบ เพราะท่านลงไปหลบในอุโมงค์ภายในวิหารที่ยังปรากฎอยู่จนปัจจุบันที่เคยเป็นที่นั่งวิปัสสนากรรมฐาน เล่ากันว่าภายในมีพื้นที่ให้คนนั่งรวมกันได้ ๕ - ๖ คน ทุกวันนี้ก็ยังปรากฎอยู่.... . ซึ่งเป็นความเชื่อในคุณวิเศษของพระอาจารย์ธรรมโชติ ที่ชาวบ้านทางแถบเดิมบางตลอดไปจนถึงเขาพระ หัวเขาและบ้านกำมะเชียร ในย่านลุ่มน้ำสุพรรณเชื่อถือกันสืบต่อมา . พระวิหารวิปัสสนาที่เขาขึ้นหรือวัดเขานางบวชนั้น เป็นอาคารยาวมุงกระเบื้องกาบกล้วยแบบเก่า ประดิษฐานรอยพระบาท ด้านหลังเป็นโพรงหรืออุโมงค์ลงไปในโพรงแคบๆ ของพระเจดีย์ที่อาจจะเป็นกรุมาแต่ดั้งเดิม (ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชวินิจฉัยเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เป็นโพรงถ้ำวิปัสสนามาแต่ก่อน . ‘เขาขึ้น’ หรือ ‘เขานางบวช’ นั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มโบราณสถานบนเขาและชุมชนยุคแรกๆ มราเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้ เนื่องจากใกล้ชิดกับชุมชนที่เดิมบางฯ ริมแม่น้ำสุพรรณซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อเส้นทางเดินทางสมัยโบราณได้หลายทิศทาง ไม่ว่าจะขึ้นเหนือไปทางลุ่มน้ำสะแกกรังผ่านไปทางลำน้ำปิง ทางลำน้ำมะเขามเฒ่าสู่กลุ่มเมืองทางอู่ตะเภาและพื้นที่ดอนที่ติดต่อกับที่ราบสูงโคราช ทางตะวันตกสู่ลุ่มน้ำสุพรรณ อู่ทองและแม่กลอง และทางใต้ติดต่อกับท้องทุ่งและลำน้ำใหญ่น้อยที่ลงสูากลุ่มละโว้ได้เช่นกัน และมีการอยู่อาศัยต่อเนื่อง จนกลายเป็นแลนด์มาร์กและวัดสำคัญของท้องถิ่น มำตำนานของผู้เข้ามาอยู่อาศัยใหม่ๆ สร้างให้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น และกลายมาเป็นการสร้างประเพณีสำคัญของท้องถิ่นสืบมาจนถึงปัจจุบัน . เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสขึ้นบนเขานางบวช เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๑ ในพระราชหัตถเลขาบันทึกไว้ว่า . ...ที่บนนั้นมีพระอุโบสถหลังหนึ่ง ห้าห้อง ไม่มีหน้าต่าง ก่อเว้นช่องอย่างวัดพุทไธสวรรย์ แต่ไม่มีหลังคามุงแฝกคลุมไว้ พระที่ตั้งอยู่บนฐานชุกชีเป็นพระพุทธรูปศิลาปั้นปูน ประกอบปิดทอง ผนังโบสถ์ด้านหนึ่งก่อเป็นแท่นเหมือนอาสนสงฆ์ ตั้งพระพุทธรูป เป็นพระยืนขนาดใหญ่ เห็นจะเป็นพระเก่าผีมือดี ๆ อย่างโบราณ สวมเทริด หน้าต่าง ๆ แต่ ชำรุดทั้งสิ้น ได้เชิญให้ลงมาปฏิสังขรณ์ ๔ องค์ ถ้าเสร็จแล้วจะส่งกลับไปไว้ที่เขานั้นบ้าง เสมาใช้ศิลาแผ่นใหญ่ ๆ อย่างเสมาวัดหลวงกรุงเก่า มีกำแพงแก้วรอบไป จนกระทั่งเจดีย์และวิหารด้วย แต่วิหารนั้นเป็นที่น่าสงสัยอยู่ว่า ทำเป็นสองคราว เพราะกระชั้นพระเจดีย์นัก ไม่ได้ไว้ช่อง อีกมีช่องหน้าต่างเล็กสูงเพียงศอกเดียว กว้างกับเศษ ๒ ช่องเท่านั้น ท้ายวิหารจดฐานพระเจดีย์ มีทางเข้าไปในองค์พระเจดีย์ที่กำแพงแก้ว มีพระเจดีย์ประจำมุมเห็นจะมีถึงด้านละ ๔ องค์ พระเจดีย์นั้นก็เป็นพานแว่นฟ้า ๓ ชั้น . เขานางบวชนี้เป็นที่ราษฎรนับถือมาก มีกำหนดขึ้นไหว้กันกลางเดือน ๔ ทุกปี มาแต่หัวเมืองอื่นก็มากใช้เดินทางบกทั้งนั้น... . ลักษณะของเจดีย์ที่สร้างแบบผสมกับหินก้อนใหญ่ๆ ซึ่งมักนิยมสร้างกันเช่นนี้ตามเขาที่มีฐานวิหารและพระเจดีย์บนเขา เช่น ที่บ้านหัวเขาในอำเภอเดิมบางฯ นี้ และแนวเขาพระที่ต่อเนื่องมาจากอู่ทองจนถึงเลาขวัญอีกหลายแห่ง ก็มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งเป็นยุคสมัยแบบลพบุรีหรือในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๘ อันเป็นช่วงร่วมสมัยกับกลุ่มนครรัฐเจนลีฟูที่ปรากฎขึ้นในบริเวณนี้ และเป็นรัฐที่นับถือพุทธศาสนาเป็นหลักตามระบุไว้ในจดหมายเหตุจีน . และยังพบฐานแท่นหินทรายขนาดย่อมๆ สำหรับประติมากรรมที่อาจเป็นพระพุทธรูปหรือเทวรูปก็ได้ และพระพุทธรูปยืนสวมเทริดทำจากหินที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกล่าวถึงที่อาจนำไปปฏิสังขรณ์แล้วและอาจไม่ได้ส่งกลับมาก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังพบพระพุทธรูปแบบหินทรายปางมารวิชัยแบบเก่าซึ่งพบในแถบพื้นที่ดอนของสามชุก หนองหญ้าไซ และดอนเจดีย์ ... ภาพ วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติบนเขาขึ้นหรือเขานางบวช ต่อด้วยเจดีย์ทำจากก้อนหินผสมกับอิฐ ซึ่งมีโพรงด้านใน และพระอุโบสถมีพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัยที่พบในเขตนี้หลายองค์ ทั้งใบเสมาทำจากหินชนวนแบบวัดหลวงแต่ทำลวดลายที่พบได้ทั่วไปในเขตชัยนาท เมืองสิงห์เก่าและเมืองพรหมเก่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนาวลมจริงๆ โคราช วันนี้
    หนาวลมจริงๆ โคราช วันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สุริยะ” เปิดโปรเจกต์ลงทุน ”คมนาคม” ทั้งรถไฟ -ทางด่วน-มอเตอร์เวย์ ดันชง ครม.ต้นปี 68 มูลค่ารวม 6 แสนล้านบาท พร้อมสุด "สายสีแดง มธ.รังสิต” ลุ้นสภาพัฒน์ฯ เร่งเคาะ ทางคู่เฟส 2 อีก 6 เส้นทาง และไฮสปีดไทย-จีน ”โคราช-หนองคาย”

    นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในปี 2568 กระทรวงคมนาคม เตรียมพร้อมโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในช่วงต้นปี ได้แก่ โครงการลงทุนระบบราง โดยที่มีความพร้อมที่สุดคือ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วง รังสิต - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงินลงทุน 6,473.98 ล้านบาท เสนอครม.เพื่อขอทบทวนมติครม.และปรับกรอบวงเงิน ซึ่งผ่านการพิจารณาความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบแล้ว และอยู่ระหว่างรอบรรจุวาระการประชุมครม. มาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567

    การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและขออนุมัติรวมโครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน -ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี (สถานีสะพานพระราม 6 สถานีบางกรวย -กฟผ. และสถานีบ้านฉิมพลี) และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน -ศิริราช เข้าด้วยกัน เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นสัญญาเดียว ระยะทางรวม 20.5 กม. วงเงินโครงการ15,176.21 ล้านบาท

    ขณะนี้ อยู่ระหว่าง การพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ (สศช.)

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9680000000022

    #MGROnline #สุริยะ #คมนาคม #รถไฟ #ทางด่วน #มอเตอร์เวย์
    "สุริยะ” เปิดโปรเจกต์ลงทุน ”คมนาคม” ทั้งรถไฟ -ทางด่วน-มอเตอร์เวย์ ดันชง ครม.ต้นปี 68 มูลค่ารวม 6 แสนล้านบาท พร้อมสุด "สายสีแดง มธ.รังสิต” ลุ้นสภาพัฒน์ฯ เร่งเคาะ ทางคู่เฟส 2 อีก 6 เส้นทาง และไฮสปีดไทย-จีน ”โคราช-หนองคาย” • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในปี 2568 กระทรวงคมนาคม เตรียมพร้อมโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในช่วงต้นปี ได้แก่ โครงการลงทุนระบบราง โดยที่มีความพร้อมที่สุดคือ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วง รังสิต - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงินลงทุน 6,473.98 ล้านบาท เสนอครม.เพื่อขอทบทวนมติครม.และปรับกรอบวงเงิน ซึ่งผ่านการพิจารณาความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบแล้ว และอยู่ระหว่างรอบรรจุวาระการประชุมครม. มาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567 • การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและขออนุมัติรวมโครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน -ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี (สถานีสะพานพระราม 6 สถานีบางกรวย -กฟผ. และสถานีบ้านฉิมพลี) และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน -ศิริราช เข้าด้วยกัน เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นสัญญาเดียว ระยะทางรวม 20.5 กม. วงเงินโครงการ15,176.21 ล้านบาท • ขณะนี้ อยู่ระหว่าง การพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ (สศช.) • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000000022 • #MGROnline #สุริยะ #คมนาคม #รถไฟ #ทางด่วน #มอเตอร์เวย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศร้า! เด็กนักเรียนชาย 5 ขวบ เหยื่อข้าราชการเกษียณ อดีตเกษตรจังหวัดโคราช เมาแล้วขับ ชนอาการโคม่า ล่าสุด ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจแล้ว ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา รวมเสียชีวิต 2 ศพ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000125166

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เศร้า! เด็กนักเรียนชาย 5 ขวบ เหยื่อข้าราชการเกษียณ อดีตเกษตรจังหวัดโคราช เมาแล้วขับ ชนอาการโคม่า ล่าสุด ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจแล้ว ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา รวมเสียชีวิต 2 ศพ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000125166 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    Like
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1503 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ประชาชนเดินทางกลับบ้านปีใหม่ต่อเนื่อง ภาพมุมสูงสภาพการจราจรถนน 304 จากภาคตะวันออกมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ผ่านโคราชปริมาณรถหนาแน่น ชะลอตัวเป็นช่วงๆ ขณะถนนมิตรภาพมีปริมาณรถเยอะต่อเนื่อง แต่รถยังเคลื่อนตัวได้ดี คาดช่วงเย็นและคืนนี้ติดหนัก

    วันนี้ ( 28 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรผ่านพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีประชาชนจำนวนมาก ทยอยเดินทางกลับไปฉลองช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2568 กันอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 304 เดินทางจากจังหวัดทางภาคตะวันออก ผ่าน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มา อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เพื่อมุ่งหน้าไปจังหวัดทางภาคอีสาน ซึ่งมีปริมาณรถค่อนข้างมาก แต่ยังเคลื่อนตัวได้ดี มีชะลอตัวเป็นช่วงๆ เพราะสภาพทางลาดชัน ขึ้น-ลงเขา โดยเฉพาะช่วงทางโค้งฉลาดปรุ รอยต่อเขต ต.วังน้ำเขียว กับ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ปริมาณรถหนาแน่น เคลื่อนตัวได้ช้า เนื่องจากเป็นช่วงทางโค้งที่มีความลาดชันสูง ทำให้ต้องชะลอความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่

    ส่วนบรรยากาศบริเวณถนนมิตรภาพ ช่วงผ่าน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าไป จ.ขอนแก่นและ จังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน พบว่า ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา ประชาชนที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครและ จังหวัดทางภาคตะวันออก แห่เดินทางกลับไปฉลองปีใหม่ในจังหวัดทางภาคอีสานกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณรถหนาแน่นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านส้ม อ.โนนสูง ต้องมาช่วยอำนวยการจราจรเร่งระบายรถไม่ให้ติดสะสม โดยเฉพาะในช่วงที่มีทางร่วม-ทางแยก และช่วงที่มีปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีประชาชนบางส่วนได้แวะพักรถ-พักคนภายในปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางตลอดทั้งคืน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000124692

    #MGROnline #ถนน304 #ตะวันออก #อีสาน
    ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ประชาชนเดินทางกลับบ้านปีใหม่ต่อเนื่อง ภาพมุมสูงสภาพการจราจรถนน 304 จากภาคตะวันออกมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ผ่านโคราชปริมาณรถหนาแน่น ชะลอตัวเป็นช่วงๆ ขณะถนนมิตรภาพมีปริมาณรถเยอะต่อเนื่อง แต่รถยังเคลื่อนตัวได้ดี คาดช่วงเย็นและคืนนี้ติดหนัก • วันนี้ ( 28 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรผ่านพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีประชาชนจำนวนมาก ทยอยเดินทางกลับไปฉลองช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2568 กันอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 304 เดินทางจากจังหวัดทางภาคตะวันออก ผ่าน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มา อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เพื่อมุ่งหน้าไปจังหวัดทางภาคอีสาน ซึ่งมีปริมาณรถค่อนข้างมาก แต่ยังเคลื่อนตัวได้ดี มีชะลอตัวเป็นช่วงๆ เพราะสภาพทางลาดชัน ขึ้น-ลงเขา โดยเฉพาะช่วงทางโค้งฉลาดปรุ รอยต่อเขต ต.วังน้ำเขียว กับ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ปริมาณรถหนาแน่น เคลื่อนตัวได้ช้า เนื่องจากเป็นช่วงทางโค้งที่มีความลาดชันสูง ทำให้ต้องชะลอความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ • ส่วนบรรยากาศบริเวณถนนมิตรภาพ ช่วงผ่าน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าไป จ.ขอนแก่นและ จังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน พบว่า ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา ประชาชนที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครและ จังหวัดทางภาคตะวันออก แห่เดินทางกลับไปฉลองปีใหม่ในจังหวัดทางภาคอีสานกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณรถหนาแน่นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านส้ม อ.โนนสูง ต้องมาช่วยอำนวยการจราจรเร่งระบายรถไม่ให้ติดสะสม โดยเฉพาะในช่วงที่มีทางร่วม-ทางแยก และช่วงที่มีปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีประชาชนบางส่วนได้แวะพักรถ-พักคนภายในปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางตลอดทั้งคืน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000124692 • #MGROnline #ถนน304 #ตะวันออก #อีสาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร.ช่วยเหลือเยียวยาตำรวจถูกชายเมาสุราซิ่งเก๋งชนเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่กลางเมืองโคราช กำชับวางมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ช่วงปีใหม่อย่างเข้มงวด ทั้งการตั้งจุดตรวจ ตั้งด่านเมา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000123480

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร.ช่วยเหลือเยียวยาตำรวจถูกชายเมาสุราซิ่งเก๋งชนเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่กลางเมืองโคราช กำชับวางมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ช่วงปีใหม่อย่างเข้มงวด ทั้งการตั้งจุดตรวจ ตั้งด่านเมา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000123480 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 878 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ปูนบำเหน็จ ตำรวจ รองสารวัตรจราจร โคราชเหยื่อลุงเมาซิ่ง ซีอาร์วี ชน เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่หน้าโรงเรียน เผยเพิ่มเงินเดือน 3 ขั้น และปูนบำเหน็จ 3 ชั้นยศ จาก “ร.ต.ท” เป็น “พ.ต.ท” ส่วนผู้ขับขี่ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก โทษจำคุก 3-10 ปี และ ค้านประกันตัว

    วันนี้ ( 24 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุ นายสมศักดิ์ อาศรัยจ้าว อายุ 75 ปี ข้าราชการเกษียณ ซึ่งรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ ทะเบียน ขง 2408 นครราชสีมา พุ่งชนตำรวจจราจร เด็กนักเรียน ผู้ปกครอง แม่ค้า ประชาชนและรถยนต์คันอื่นๆ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนโรงเรียนบ้านดอนขวาง ถนนเพชรมาตุคลา ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ ร.ต.ท.วิมุตต์ แทนสุโพธิ์ อายุ 57 ปี รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา และ มีผู้บาดเจ็บอีก 9 คน เป็นแม่ค้า 1 คน ผู้ปกครอง 4 คน และ เด็กนักเรียนอีก 4 คน ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ซึ่ง ผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นายสมศักดิ์คนขับรถพบว่าสูงถึง 197 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 23 ธ.ค.) นั้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000123395

    #MGROnline #นครราชสีมา #ปูนบำเหน็จ #ตำรวจ #รองสารวัตรจราจร #โคราช #เหยื่อลุงเมาซิ่ง
    ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ปูนบำเหน็จ ตำรวจ รองสารวัตรจราจร โคราชเหยื่อลุงเมาซิ่ง ซีอาร์วี ชน เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่หน้าโรงเรียน เผยเพิ่มเงินเดือน 3 ขั้น และปูนบำเหน็จ 3 ชั้นยศ จาก “ร.ต.ท” เป็น “พ.ต.ท” ส่วนผู้ขับขี่ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก โทษจำคุก 3-10 ปี และ ค้านประกันตัว • วันนี้ ( 24 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุ นายสมศักดิ์ อาศรัยจ้าว อายุ 75 ปี ข้าราชการเกษียณ ซึ่งรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ ทะเบียน ขง 2408 นครราชสีมา พุ่งชนตำรวจจราจร เด็กนักเรียน ผู้ปกครอง แม่ค้า ประชาชนและรถยนต์คันอื่นๆ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนโรงเรียนบ้านดอนขวาง ถนนเพชรมาตุคลา ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ ร.ต.ท.วิมุตต์ แทนสุโพธิ์ อายุ 57 ปี รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา และ มีผู้บาดเจ็บอีก 9 คน เป็นแม่ค้า 1 คน ผู้ปกครอง 4 คน และ เด็กนักเรียนอีก 4 คน ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ซึ่ง ผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นายสมศักดิ์คนขับรถพบว่าสูงถึง 197 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 23 ธ.ค.) นั้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000123395 • #MGROnline #นครราชสีมา #ปูนบำเหน็จ #ตำรวจ #รองสารวัตรจราจร #โคราช #เหยื่อลุงเมาซิ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22 ธันวาคม วันนี้ดอนเมืองโทลล์เวย์ปรับราคาค่าผ่านทางเรียบร้อยแล้วครับ สำหรับรถ 4 ล้อ ปรับเพิ่มขึ้น 5-10 บาท ด่านไหนจ่ายเท่าไหร่บ้าง ผมทำภาพมาให้ดูกันครับ 😀

    สำหรับการขึ้นราคารอบนี้เป็นไปตามสัญญาสัมปทานระหว่างกรมทางหลวง กับบริษัททางยกระดับดอนเมือง ซึ่งตามสัญญาจะมีการปรับทุก 5 ปี โดยรอบต่อไปที่จะปรับขึ้นอีกคือวันที่ 22 ธันวาคม 2572 ซึ่งจะเป็นการปรับราคาครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหมดสัมปทานลงในปี 2577 ครับ

    หลังจากปี 2577 เส้นทางทั้งหมดจะกลับไปอยู่ในการบริหารของกรมทางหลวง ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างก็ต้องดูกันต่อไปครับ

    แต่เบื้องต้นตอนนี้ทางกรมทางหลวงเตรียมจะต่อขยายจากรังสิตออกไปจนถึงแยกต่างระดับบางปะอิน ไปเชื่อมกับถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกและมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-โคราช ในชื่อ "มอเตอร์เวย์สาย M5" ซึ่งเป็นแผนงานที่กำลังต่อคิวรออนุมัติจาก ครม. กันอยู่ครับ
    22 ธันวาคม วันนี้ดอนเมืองโทลล์เวย์ปรับราคาค่าผ่านทางเรียบร้อยแล้วครับ สำหรับรถ 4 ล้อ ปรับเพิ่มขึ้น 5-10 บาท ด่านไหนจ่ายเท่าไหร่บ้าง ผมทำภาพมาให้ดูกันครับ 😀 สำหรับการขึ้นราคารอบนี้เป็นไปตามสัญญาสัมปทานระหว่างกรมทางหลวง กับบริษัททางยกระดับดอนเมือง ซึ่งตามสัญญาจะมีการปรับทุก 5 ปี โดยรอบต่อไปที่จะปรับขึ้นอีกคือวันที่ 22 ธันวาคม 2572 ซึ่งจะเป็นการปรับราคาครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหมดสัมปทานลงในปี 2577 ครับ หลังจากปี 2577 เส้นทางทั้งหมดจะกลับไปอยู่ในการบริหารของกรมทางหลวง ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างก็ต้องดูกันต่อไปครับ แต่เบื้องต้นตอนนี้ทางกรมทางหลวงเตรียมจะต่อขยายจากรังสิตออกไปจนถึงแยกต่างระดับบางปะอิน ไปเชื่อมกับถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกและมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-โคราช ในชื่อ "มอเตอร์เวย์สาย M5" ซึ่งเป็นแผนงานที่กำลังต่อคิวรออนุมัติจาก ครม. กันอยู่ครับ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" เปิดตัว "เมียกำนันป้อ" ส่งท้าชิง นายก อบจ.โคราช ในนามเพื่อไทย ขอโอกาสทำหน้าที่อีกครั้ง แกนนำพรรคร่วมเป็นสักขีพยานเพียบ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122277

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ทักษิณ" เปิดตัว "เมียกำนันป้อ" ส่งท้าชิง นายก อบจ.โคราช ในนามเพื่อไทย ขอโอกาสทำหน้าที่อีกครั้ง แกนนำพรรคร่วมเป็นสักขีพยานเพียบ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122277 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1173 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พิพัฒน์” เยียวยาลูกจ้างกว่า 15 ล้านบาท เหตุนายจ้างฟูไน โคราชปิดกิจการ
    https://www.facebook.com/share/18QUzrggq3/
    “พิพัฒน์” เยียวยาลูกจ้างกว่า 15 ล้านบาท เหตุนายจ้างฟูไน โคราชปิดกิจการ https://www.facebook.com/share/18QUzrggq3/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผ่านมาหลายร้อยปี โคราชยังเป็นโคราช
    ผ่านมาหลายร้อยปี โคราชยังเป็นโคราช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • พี่น้องขึ้นขอนแก่น ถ.มิตรภาพ ขาขึ้นเลยโคราชมา 50 โล ก่อนถึงแยก ตลาดแค แวะมาอุดหนุนกันนะครับ ^_^
    พี่น้องขึ้นขอนแก่น ถ.มิตรภาพ ขาขึ้นเลยโคราชมา 50 โล ก่อนถึงแยก ตลาดแค แวะมาอุดหนุนกันนะครับ ^_^
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฒ่าวัย 80 โคราชคลั่งกราดยิง น้องสาวดับ 1 ราย หลานสะใภ้สาหัส รับสารภาพสิ้นแค้นถูกผู้ตายฟ้องศาลสั่งขับไล่ออกจากที่ปลูกบ้านอยู่อาศัยมานานและไม่มีไป พร้อมยินดีรับโทษที่ทำลงไป หลานชาย เผยครอบครัวถูกมือปืนขู่ฆ่ามาตลอด ขณะชาวบ้านแห่รอดูทำแผน ผวาถูกรุมประชาทัณฑ์ ผู้ต้องหา แจ้ง ตร.ไม่ประสงค์ทำแผน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112989

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เฒ่าวัย 80 โคราชคลั่งกราดยิง น้องสาวดับ 1 ราย หลานสะใภ้สาหัส รับสารภาพสิ้นแค้นถูกผู้ตายฟ้องศาลสั่งขับไล่ออกจากที่ปลูกบ้านอยู่อาศัยมานานและไม่มีไป พร้อมยินดีรับโทษที่ทำลงไป หลานชาย เผยครอบครัวถูกมือปืนขู่ฆ่ามาตลอด ขณะชาวบ้านแห่รอดูทำแผน ผวาถูกรุมประชาทัณฑ์ ผู้ต้องหา แจ้ง ตร.ไม่ประสงค์ทำแผน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112989 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    14
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1685 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨พระสามเหลี่ยมท่านพ่อลี เนื้อผงพุทธคุณ ปี2500"ท่านพ่อลี"หรือ หลวงพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จัดสร้างในปี 2500 แล้วนำไปไว้ในผนังโบสถ์โบกปูนทับไว้ ก่อนจะนำมาแจกจ่ายญาติโยมในเวลาต่อมาพระรุ่นนี้ถือว่าหาได้ยากพุทธคุณสูงมาก ทั้งมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรือง เสริมดวงชะตาราศรี ป้องกันภัย เมตตามหานิยมท่านพ่อลีได้รวบรวมมวลสาร เนื้อผงเกษร 108 ผงธูปอธิษฐาน ผงพระธาตุ ผงว่าน ผงพุทธคุณต่างๆ ที่สำคัญ ผสมผงสมเด็จวัดระฆัง จำนวนมากที่ท่านพ่อลี เก็บรักษาไว้ ท่านได้นำมาผสมในพระสามเหลี่ยมนี้จนหมดสิ้นพิธีพุทธาภิเษกใหญ่เพื่อฉลอง 25 ศตวรรษของทางสายวัดป่าฯ จัดขึ้นที่วัดอโศกราม โดยมีพ่อแม่ครูอาจารย์พระป่าลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาร่วมปลุกเสกกัน 7 วัน 7 คืนอาทิ -พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาโม วัดป่าสาละวัน โคราช-ท่านพ่อลี วัดอโศการาม-พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม สกลนคร-หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม วัดอรัญญวิเวก นครพนม-หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ วังสพุง เลย-หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง หนองคาย-หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์-หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด-หลวงปู่หลุย วัดถ้ำผาบิ้ง-หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง-หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนา-ท่านพ่อเฟื่อง วัดธรรมสถิต-หลวงปู่เจี๊ยะ วัดภูริทัตฯ-หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล-หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม-หลวงปู่อ่อน ญานสิริ-พระอาจารย์จวนฯลฯ
    ✨พระสามเหลี่ยมท่านพ่อลี เนื้อผงพุทธคุณ ปี2500"ท่านพ่อลี"หรือ หลวงพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จัดสร้างในปี 2500 แล้วนำไปไว้ในผนังโบสถ์โบกปูนทับไว้ ก่อนจะนำมาแจกจ่ายญาติโยมในเวลาต่อมาพระรุ่นนี้ถือว่าหาได้ยากพุทธคุณสูงมาก ทั้งมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรือง เสริมดวงชะตาราศรี ป้องกันภัย เมตตามหานิยมท่านพ่อลีได้รวบรวมมวลสาร เนื้อผงเกษร 108 ผงธูปอธิษฐาน ผงพระธาตุ ผงว่าน ผงพุทธคุณต่างๆ ที่สำคัญ ผสมผงสมเด็จวัดระฆัง จำนวนมากที่ท่านพ่อลี เก็บรักษาไว้ ท่านได้นำมาผสมในพระสามเหลี่ยมนี้จนหมดสิ้นพิธีพุทธาภิเษกใหญ่เพื่อฉลอง 25 ศตวรรษของทางสายวัดป่าฯ จัดขึ้นที่วัดอโศกราม โดยมีพ่อแม่ครูอาจารย์พระป่าลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาร่วมปลุกเสกกัน 7 วัน 7 คืนอาทิ -พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาโม วัดป่าสาละวัน โคราช-ท่านพ่อลี วัดอโศการาม-พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม สกลนคร-หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม วัดอรัญญวิเวก นครพนม-หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ วังสพุง เลย-หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง หนองคาย-หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์-หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด-หลวงปู่หลุย วัดถ้ำผาบิ้ง-หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง-หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนา-ท่านพ่อเฟื่อง วัดธรรมสถิต-หลวงปู่เจี๊ยะ วัดภูริทัตฯ-หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล-หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม-หลวงปู่อ่อน ญานสิริ-พระอาจารย์จวนฯลฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 817 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสามเหลี่ยมท่านพ่อลี เนื้อผงพุทธคุณ ปี2500"ท่านพ่อลี"หรือ หลวงพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จัดสร้างในปี 2500 แล้วนำไปไว้ในผนังโบสถ์โบกปูนทับไว้ ก่อนจะนำมาแจกจ่ายญาติโยมในเวลาต่อมาพระรุ่นนี้ถือว่าหาได้ยากพุทธคุณสูงมาก ทั้งมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรือง เสริมดวงชะตาราศรี ป้องกันภัย เมตตามหานิยมท่านพ่อลีได้รวบรวมมวลสาร เนื้อผงเกษร 108 ผงธูปอธิษฐาน ผงพระธาตุ ผงว่าน ผงพุทธคุณต่างๆ ที่สำคัญ ผสมผงสมเด็จวัดระฆัง จำนวนมากที่ท่านพ่อลี เก็บรักษาไว้ ท่านได้นำมาผสมในพระสามเหลี่ยมนี้จนหมดสิ้นพิธีพุทธาภิเษกใหญ่เพื่อฉลอง 25 ศตวรรษของทางสายวัดป่าฯ จัดขึ้นที่วัดอโศกราม โดยมีพ่อแม่ครูอาจารย์พระป่าลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาร่วมปลุกเสกกัน 7 วัน 7 คืนอาทิ -พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาโม วัดป่าสาละวัน โคราช-ท่านพ่อลี วัดอโศการาม-พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม สกลนคร-หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม วัดอรัญญวิเวก นครพนม-หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ วังสพุง เลย-หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง หนองคาย-หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์-หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด-หลวงปู่หลุย วัดถ้ำผาบิ้ง-หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง-หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนา-ท่านพ่อเฟื่อง วัดธรรมสถิต-หลวงปู่เจี๊ยะ วัดภูริทัตฯ-หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล-หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม-หลวงปู่อ่อน ญานสิริ-พระอาจารย์จวนฯลฯ
    พระสามเหลี่ยมท่านพ่อลี เนื้อผงพุทธคุณ ปี2500"ท่านพ่อลี"หรือ หลวงพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จัดสร้างในปี 2500 แล้วนำไปไว้ในผนังโบสถ์โบกปูนทับไว้ ก่อนจะนำมาแจกจ่ายญาติโยมในเวลาต่อมาพระรุ่นนี้ถือว่าหาได้ยากพุทธคุณสูงมาก ทั้งมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรือง เสริมดวงชะตาราศรี ป้องกันภัย เมตตามหานิยมท่านพ่อลีได้รวบรวมมวลสาร เนื้อผงเกษร 108 ผงธูปอธิษฐาน ผงพระธาตุ ผงว่าน ผงพุทธคุณต่างๆ ที่สำคัญ ผสมผงสมเด็จวัดระฆัง จำนวนมากที่ท่านพ่อลี เก็บรักษาไว้ ท่านได้นำมาผสมในพระสามเหลี่ยมนี้จนหมดสิ้นพิธีพุทธาภิเษกใหญ่เพื่อฉลอง 25 ศตวรรษของทางสายวัดป่าฯ จัดขึ้นที่วัดอโศกราม โดยมีพ่อแม่ครูอาจารย์พระป่าลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาร่วมปลุกเสกกัน 7 วัน 7 คืนอาทิ -พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาโม วัดป่าสาละวัน โคราช-ท่านพ่อลี วัดอโศการาม-พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม สกลนคร-หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม วัดอรัญญวิเวก นครพนม-หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ วังสพุง เลย-หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง หนองคาย-หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์-หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด-หลวงปู่หลุย วัดถ้ำผาบิ้ง-หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง-หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนา-ท่านพ่อเฟื่อง วัดธรรมสถิต-หลวงปู่เจี๊ยะ วัดภูริทัตฯ-หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล-หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม-หลวงปู่อ่อน ญานสิริ-พระอาจารย์จวนฯลฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 787 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ คมนาคมยุคสุริยะ เน้นสร้างถนน มากกว่าปกป้องชีวิตคนสัญจร ล่าสุดรถบัส โคราช-ระยอง ไฟไหม้ห้องเครื่อง ดีดับทันไร้คนเจ็บ
    #7ดอกจิก
    #สุริยะ
    ♣️ คมนาคมยุคสุริยะ เน้นสร้างถนน มากกว่าปกป้องชีวิตคนสัญจร ล่าสุดรถบัส โคราช-ระยอง ไฟไหม้ห้องเครื่อง ดีดับทันไร้คนเจ็บ #7ดอกจิก #สุริยะ
    Like
    Haha
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 494 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts