• เมื่อ AI พลาด ธนาคารต้องเรียกคนกลับมาทำงาน

    ในช่วงกลางปี 2025 ธนาคาร Commonwealth Bank (CBA) ของออสเตรเลียได้ตัดสินใจปลดพนักงานบริการลูกค้า 45 คน เพื่อแทนที่ด้วยระบบ AI voice-bot โดยหวังว่าจะลดปริมาณสายโทรเข้าและเพิ่มประสิทธิภาพการตอบคำถามทั่วไป

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม: ปริมาณสายโทรเข้าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พนักงานที่เหลือต้องทำงานล่วงเวลา และแม้แต่หัวหน้าทีมก็ต้องลงมารับสายเอง! สหภาพแรงงานด้านการเงิน (Finance Sector Union) จึงออกมาเรียกร้องให้ธนาคารทบทวนการตัดสินใจนี้

    สุดท้าย CBA ต้อง “กลับลำ” โดยยอมรับว่าเป็น “ความผิดพลาดในการประเมิน” และประกาศเรียกพนักงานกลับมาทำงาน พร้อมขอโทษอย่างเป็นทางการ และเสนอทางเลือกให้พนักงานว่าจะกลับมาทำงานเดิม ย้ายตำแหน่ง หรือรับเงินชดเชยแล้วลาออก

    แม้ธนาคารจะยังคงเดินหน้าพัฒนา AI ร่วมกับ OpenAI ในด้านการตรวจจับการหลอกลวงและการให้บริการแบบเฉพาะบุคคล แต่กรณีนี้ก็เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ทุกด้าน โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    ธนาคาร CBA ประกาศปลดพนักงานบริการลูกค้า 45 คน เพื่อแทนที่ด้วย AI voice-bot
    ระบบ AI ถูกนำมาใช้เพื่อลดจำนวนสายโทรเข้าและตอบคำถามทั่วไป
    หลังจากใช้งานจริง ปริมาณสายกลับเพิ่มขึ้น และพนักงานต้องทำงานล่วงเวลา
    สหภาพแรงงานออกมาเรียกร้องให้ธนาคารทบทวนการตัดสินใจ
    ธนาคารยอมรับว่าเป็น “ความผิดพลาดในการประเมิน” และเรียกพนักงานกลับ
    พนักงานได้รับคำขอโทษและมีทางเลือกในการกลับมาทำงาน ย้ายตำแหน่ง หรือลาออก
    ธนาคารยังคงร่วมมือกับ OpenAI เพื่อพัฒนา AI ด้านการตรวจจับการหลอกลวงและบริการเฉพาะบุคคล

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ในสหราชอาณาจักร กว่า 50% ของบริษัทที่ใช้ AI แทนคนงานเริ่มเสียใจในภายหลัง
    AI voice-bot ยังไม่สามารถเข้าใจ “น้ำเสียงทางอารมณ์” ของผู้ใช้ได้ดีเท่ามนุษย์
    การใช้ AI แทนพนักงานอาจสร้างความเครียดและความไม่มั่นคงในชีวิตให้กับแรงงาน
    หลายบริษัทเริ่มหันกลับมาใช้ “มนุษย์” ในงานบริการที่ต้องใช้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ

    https://www.techradar.com/pro/now-thats-an-embarassing-u-turn-bank-forced-to-rehire-human-workers-after-their-ai-replacement-fail-to-perform
    🎙️ เมื่อ AI พลาด ธนาคารต้องเรียกคนกลับมาทำงาน ในช่วงกลางปี 2025 ธนาคาร Commonwealth Bank (CBA) ของออสเตรเลียได้ตัดสินใจปลดพนักงานบริการลูกค้า 45 คน เพื่อแทนที่ด้วยระบบ AI voice-bot โดยหวังว่าจะลดปริมาณสายโทรเข้าและเพิ่มประสิทธิภาพการตอบคำถามทั่วไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม: ปริมาณสายโทรเข้าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พนักงานที่เหลือต้องทำงานล่วงเวลา และแม้แต่หัวหน้าทีมก็ต้องลงมารับสายเอง! สหภาพแรงงานด้านการเงิน (Finance Sector Union) จึงออกมาเรียกร้องให้ธนาคารทบทวนการตัดสินใจนี้ สุดท้าย CBA ต้อง “กลับลำ” โดยยอมรับว่าเป็น “ความผิดพลาดในการประเมิน” และประกาศเรียกพนักงานกลับมาทำงาน พร้อมขอโทษอย่างเป็นทางการ และเสนอทางเลือกให้พนักงานว่าจะกลับมาทำงานเดิม ย้ายตำแหน่ง หรือรับเงินชดเชยแล้วลาออก แม้ธนาคารจะยังคงเดินหน้าพัฒนา AI ร่วมกับ OpenAI ในด้านการตรวจจับการหลอกลวงและการให้บริการแบบเฉพาะบุคคล แต่กรณีนี้ก็เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ทุกด้าน โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ ธนาคาร CBA ประกาศปลดพนักงานบริการลูกค้า 45 คน เพื่อแทนที่ด้วย AI voice-bot ➡️ ระบบ AI ถูกนำมาใช้เพื่อลดจำนวนสายโทรเข้าและตอบคำถามทั่วไป ➡️ หลังจากใช้งานจริง ปริมาณสายกลับเพิ่มขึ้น และพนักงานต้องทำงานล่วงเวลา ➡️ สหภาพแรงงานออกมาเรียกร้องให้ธนาคารทบทวนการตัดสินใจ ➡️ ธนาคารยอมรับว่าเป็น “ความผิดพลาดในการประเมิน” และเรียกพนักงานกลับ ➡️ พนักงานได้รับคำขอโทษและมีทางเลือกในการกลับมาทำงาน ย้ายตำแหน่ง หรือลาออก ➡️ ธนาคารยังคงร่วมมือกับ OpenAI เพื่อพัฒนา AI ด้านการตรวจจับการหลอกลวงและบริการเฉพาะบุคคล ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ในสหราชอาณาจักร กว่า 50% ของบริษัทที่ใช้ AI แทนคนงานเริ่มเสียใจในภายหลัง ➡️ AI voice-bot ยังไม่สามารถเข้าใจ “น้ำเสียงทางอารมณ์” ของผู้ใช้ได้ดีเท่ามนุษย์ ➡️ การใช้ AI แทนพนักงานอาจสร้างความเครียดและความไม่มั่นคงในชีวิตให้กับแรงงาน ➡️ หลายบริษัทเริ่มหันกลับมาใช้ “มนุษย์” ในงานบริการที่ต้องใช้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ https://www.techradar.com/pro/now-thats-an-embarassing-u-turn-bank-forced-to-rehire-human-workers-after-their-ai-replacement-fail-to-perform
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • นี้คือความผิดปกติของสังคมเรา,และทั่วโลก,ตังคือชีวิต ค่าครองชีพทุกๆวันนี้สาหัสจริงๆ,วิถีปกครองเราเองคือปัญหา ผัดมัดตัง และเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายรายจ่ายในสังคมเกินไปจริงๆ,สินค้าแพง ของแพง แพงทั้งแผ่นดินเพราะเกิดจากยุทธศาสตร์ของประเทศที่ผิดปกติไป,สายสัมพันธ์คนชุมชนเมืองขาดแคลนสิ้น,และกำลังขยายเชื้อนี้สู่สังคมชนบทด้วยวิถีปากกัดตีนถีบดิ้นรนกันอย่างบ้าคลั่งเพราะตัง ตังที่ต้องเอาไปใช้จ่ายสาระพัดสินค้าราคาที่แพงขึ้น.,
    ..รัฐบาลข้อหนึ่งใส่ใจแรงงานต่างด้าวคนต่างด้าวเกินไป ค่าแรงเจ้าสัวชั่วเลวกำหนดให้คนต่างด้าวได้ค่าแรงเทียบเท่าคนไทย มอบสวัสดิการก็ให้เสมอคนไทย,ทอดทิ้งคนไทย เพื่อทำลายประเทศจากภายในสู่การแตกแยกมากๆนั้นเอง,ตลอดต่างชาติมากมายมาอยู่ประเทศไทยก็พากันสร้างราคาสินค้าอาหารบริการมาตราฐานคนต่างชาติด้วยเช่นฝรั่งอเมริกา1$:35฿ก็ขายคนไทยแบบราคาต่างชาตินั้นเอง,เจ้าสัวขึ้นราคาสินค้าต่อเนื่องโดยดันจากต้นน้ำที่เจ้าสัวควบคุมกำหนดสั่งการได้อีก,จนถึงปลายน้ำตน,ทยอยดันค่าครองชีพกันมาหลายปี ทยอยดันราคาสินค้ากันมาหลายปีจนถึงปัจจุบัน,ต่างชาติต่างด้าวกลืนกินวิถีชีวิตคนไทยไม่รู้ตัว ครอบงำด้วยหนี้สินเงินกู้บัตรเครดิตเป็นต้น,ทั้งหนี้ในระบบ หนี้นอกระบบกู้หมวกกันน็อคก็ว่า ร้อยละยี่ละสี่สิบตรึม,คือสาระพัดกลไกทำลายวิถีชุมชนสังคมไทยอย่างเสรี,ต่างชาติต่างด้าวปลูกบ้านครอบครองที่ดินบนแผ่นดินไทยเป็นว่าเล่น,นี้คือวิถีปกครองผ่านระบบราชการรัฐและการเมืองที่ล้มเหลวของแท้ ,ดูแค่ทหารไทยที่ผ่านๆมาปล่อยเขมรลุกล้ำยึดพื้นที่11จุดอีสานใต้ดูเถอะ นี้ไม่รวมแบบภาคตะวันออกบ้านหนองจานอีก,ตลอดวงการตำรวจโคตรเสื่อมลากไส้กันซื้อตำแหน่งแบบประชาชนทั่วไทยรับรู้ตรึมแต่ก็จัดการห่าอะไรจริงจังไม่มี ยาบ้าปราบไม่ได้ก็อนุญาตเสรีเสีย,คือภายในเรามันเน่าเต็มทนนั้นเอง สมควรเผาทันทีเช่นกันไม่สมควรเก็บซากพวกนี้ไว้ด้วย,เจอทุจริตเช้า ประหารเที่ยว เผาบ่าย ญาติพี่น้องเก็บกระดูกเย็น สวดหัวค่ำ อัดปูข้างกำแพงกลายหัวค่ำหน่อยจบพิธีเลย,ไม่ต้องขึ้นศาลอะไรเลยขนาดนั้น,ศาลก็มีข่าวถุงขนมอีก คนย่อมมีโลภกันหมดล่ะ ตราบใดที่ยังมีชีวิตมีครอบครัวมีห่วงลูกเมีย,จับลูกเมียเป็นตัวประกัน คดีก็พลิกได้แล้วเป็นต้น.,คือหาความแน่นอนยากจริงๆ
    ..
    ..ตราบใดยังสร้างสมดุลระบบไม่ได้ อันตรายใกล้นี้เอง.,ไทยปะทะเขมรแค่เปลือกนอก,เปลือกในคือสายสัมพันธ์สังคมไทยเราลักษณะนี้ด้วย,อย่าต่างคนต่างอยู่เลย ขนาดเผาผีกันทั้งชุมชนหมู่บ้านยังไม่มีดูจิตดูใจเหมือนแต่ก่อน,เรามุ่งแสวงหาเงินคือพระเจ้า เรา..ประเทศไทยรอการพังพินาศแบบอเมริกาแบบยุโรปเลย,แม้แต่จีนก็ไม่รอดจะอวดอ้างเทคโนโลยีล้ำกว่ายุโรปฝรั่งขนาดไหนแม้ต่างดาวมาถ่ายทอดล้ำให้ก็เถอะก็ไม่รอด,จะพังพินาศโดยง่ายเช่นกัน,เคลมเร็วจบเร็วนั้นล่ะ,
    ..วิถีดีงามที่เคยเป็นมาสมควรปลูกฝังกันกลับมาจริงๆ,ขจัดความยากจนทางวัตถุเบื้องต้น,เสริมความร่ำรวยทางวัตถุและทางจิตใจคู่ขนาน ใจที่เปิดออกจะประสานสังคมได้เพราะแต่ละบ้านมีกินมีใช้ไม่เดือดร้อนดิ้นรนอะไรมากนักหรือร่ำรวยแล้วในแต่ละบ้านใครมันครอบครัวใครมัน ชุมชนจะสร้างกิจกรรมเชื่อมใจกันโดยง่ายมิใช่ตังเป็นใหญ่อีกต่อไป.



    https://youtube.com/shorts/o5C0BoVFcPk?si=MB76bmPpdZI9i3sW
    นี้คือความผิดปกติของสังคมเรา,และทั่วโลก,ตังคือชีวิต ค่าครองชีพทุกๆวันนี้สาหัสจริงๆ,วิถีปกครองเราเองคือปัญหา ผัดมัดตัง และเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายรายจ่ายในสังคมเกินไปจริงๆ,สินค้าแพง ของแพง แพงทั้งแผ่นดินเพราะเกิดจากยุทธศาสตร์ของประเทศที่ผิดปกติไป,สายสัมพันธ์คนชุมชนเมืองขาดแคลนสิ้น,และกำลังขยายเชื้อนี้สู่สังคมชนบทด้วยวิถีปากกัดตีนถีบดิ้นรนกันอย่างบ้าคลั่งเพราะตัง ตังที่ต้องเอาไปใช้จ่ายสาระพัดสินค้าราคาที่แพงขึ้น., ..รัฐบาลข้อหนึ่งใส่ใจแรงงานต่างด้าวคนต่างด้าวเกินไป ค่าแรงเจ้าสัวชั่วเลวกำหนดให้คนต่างด้าวได้ค่าแรงเทียบเท่าคนไทย มอบสวัสดิการก็ให้เสมอคนไทย,ทอดทิ้งคนไทย เพื่อทำลายประเทศจากภายในสู่การแตกแยกมากๆนั้นเอง,ตลอดต่างชาติมากมายมาอยู่ประเทศไทยก็พากันสร้างราคาสินค้าอาหารบริการมาตราฐานคนต่างชาติด้วยเช่นฝรั่งอเมริกา1$:35฿ก็ขายคนไทยแบบราคาต่างชาตินั้นเอง,เจ้าสัวขึ้นราคาสินค้าต่อเนื่องโดยดันจากต้นน้ำที่เจ้าสัวควบคุมกำหนดสั่งการได้อีก,จนถึงปลายน้ำตน,ทยอยดันค่าครองชีพกันมาหลายปี ทยอยดันราคาสินค้ากันมาหลายปีจนถึงปัจจุบัน,ต่างชาติต่างด้าวกลืนกินวิถีชีวิตคนไทยไม่รู้ตัว ครอบงำด้วยหนี้สินเงินกู้บัตรเครดิตเป็นต้น,ทั้งหนี้ในระบบ หนี้นอกระบบกู้หมวกกันน็อคก็ว่า ร้อยละยี่ละสี่สิบตรึม,คือสาระพัดกลไกทำลายวิถีชุมชนสังคมไทยอย่างเสรี,ต่างชาติต่างด้าวปลูกบ้านครอบครองที่ดินบนแผ่นดินไทยเป็นว่าเล่น,นี้คือวิถีปกครองผ่านระบบราชการรัฐและการเมืองที่ล้มเหลวของแท้ ,ดูแค่ทหารไทยที่ผ่านๆมาปล่อยเขมรลุกล้ำยึดพื้นที่11จุดอีสานใต้ดูเถอะ นี้ไม่รวมแบบภาคตะวันออกบ้านหนองจานอีก,ตลอดวงการตำรวจโคตรเสื่อมลากไส้กันซื้อตำแหน่งแบบประชาชนทั่วไทยรับรู้ตรึมแต่ก็จัดการห่าอะไรจริงจังไม่มี ยาบ้าปราบไม่ได้ก็อนุญาตเสรีเสีย,คือภายในเรามันเน่าเต็มทนนั้นเอง สมควรเผาทันทีเช่นกันไม่สมควรเก็บซากพวกนี้ไว้ด้วย,เจอทุจริตเช้า ประหารเที่ยว เผาบ่าย ญาติพี่น้องเก็บกระดูกเย็น สวดหัวค่ำ อัดปูข้างกำแพงกลายหัวค่ำหน่อยจบพิธีเลย,ไม่ต้องขึ้นศาลอะไรเลยขนาดนั้น,ศาลก็มีข่าวถุงขนมอีก คนย่อมมีโลภกันหมดล่ะ ตราบใดที่ยังมีชีวิตมีครอบครัวมีห่วงลูกเมีย,จับลูกเมียเป็นตัวประกัน คดีก็พลิกได้แล้วเป็นต้น.,คือหาความแน่นอนยากจริงๆ .. ..ตราบใดยังสร้างสมดุลระบบไม่ได้ อันตรายใกล้นี้เอง.,ไทยปะทะเขมรแค่เปลือกนอก,เปลือกในคือสายสัมพันธ์สังคมไทยเราลักษณะนี้ด้วย,อย่าต่างคนต่างอยู่เลย ขนาดเผาผีกันทั้งชุมชนหมู่บ้านยังไม่มีดูจิตดูใจเหมือนแต่ก่อน,เรามุ่งแสวงหาเงินคือพระเจ้า เรา..ประเทศไทยรอการพังพินาศแบบอเมริกาแบบยุโรปเลย,แม้แต่จีนก็ไม่รอดจะอวดอ้างเทคโนโลยีล้ำกว่ายุโรปฝรั่งขนาดไหนแม้ต่างดาวมาถ่ายทอดล้ำให้ก็เถอะก็ไม่รอด,จะพังพินาศโดยง่ายเช่นกัน,เคลมเร็วจบเร็วนั้นล่ะ, ..วิถีดีงามที่เคยเป็นมาสมควรปลูกฝังกันกลับมาจริงๆ,ขจัดความยากจนทางวัตถุเบื้องต้น,เสริมความร่ำรวยทางวัตถุและทางจิตใจคู่ขนาน ใจที่เปิดออกจะประสานสังคมได้เพราะแต่ละบ้านมีกินมีใช้ไม่เดือดร้อนดิ้นรนอะไรมากนักหรือร่ำรวยแล้วในแต่ละบ้านใครมันครอบครัวใครมัน ชุมชนจะสร้างกิจกรรมเชื่อมใจกันโดยง่ายมิใช่ตังเป็นใหญ่อีกต่อไป. https://youtube.com/shorts/o5C0BoVFcPk?si=MB76bmPpdZI9i3sW
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เมล็ดพันธ์พิฆาต (3)

    นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 8 : เมล็ดพันธ์พิฆาต (3)
    ตัวอย่างเช่นที่กล่าวมาแล้ว มีอีกมากมาย ที่พูดถึงแต่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแท้ที่จริงผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เป็นการถาวร มันเป็นเฉพาะช่วงแรกๆ เท่านั้น แต่คนขายเมล็ดพันธ์ GMO ย่อมไม่บอกผู้ซื้อ
    นอกจากนี้ที่น่าเป็นห่วง คือผลกระทบต่อการเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจ กับ ชาวไร่ ชาวนา รายย่อย อย่างที่พวกเขาไม่รู้ตัว พวกเขาเคยทำไร่ทำนา จากเมล็ดพันธ์พืชที่ไม่มีต้นทุน ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ และไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง ต่อมาต้องซื้อทั้งเมล็ดพันธ์ ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมี พวกเขาขายผลผลิตได้ราคาสูงก็จริง แต่ต้นทุนก็สูงตามไปด้วย ท้ายที่สุดก็เป็นหนี้ และส่วนใหญ่ก็ไม่มีเงินใช้หนี้ ทำให้ต้องเสียที่ดินไร่นาไป แล้วก็มีบริษัทที่ทำธุรกิจเกษตร มาไล่ซื้อที่ดิน ไปทำต่อ หรือซื้อที่ไปทำอย่างอื่น แล้วชาวไร่ชาวนาเหล่านี้ ก็ไม่มีทางเลือก ต้องอพยพเข้าเมือง ขายแรงงานแทน เป็นปัญหาของบ้านเมืองอีกแบบหนึ่ง
    สิ่งเหล่านี้มักจะไม่อยู่ในรายงานของหน่วยงานที่ทำการวิจัย หรือคิดค้นพันธ์พืช เขามักจะพูดถึงแต่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะเป้าหมายที่แท้จริง ของการให้ใช้เมล็ดพืช GMO มันคือการปล้น เอาไร่ เอานา เขามาในราคาถูก
    นอกจากปัญหาเรื่องการเสียไร่นาแล้ว ปัญหาที่สำคัญอีกประการคือการใช้ยาฆ่าแมลง ซึ่งในหลายๆ กรณีเป็นอันตราย ต่อสุขภาพของชาวไร่ชาวนา อย่างถึงขนาดหลายๆ หมู่บ้านมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งกันทั้งหมู่บ้าน
    ความจนกับความไม่รู้ ทำให้พวกเขาไม่รู้จักหรือไม่สามารถแสวงหาหน้ากาก ป้องกันยาฉีดฆ่าแมลง
    ในปี ค.ศ.1989 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประมาณว่ามีคนได้รับสารพิษของยาฆ่าแมลงสูงถึง 1 ล้านคนต่อปี และประมาณ 20,000 คน เสียชีวิต ทั้งหมดนี้ส่วนมากเกิดขึ้นกับประชาชนในประเทศที่กำลังพัฒนา!
    ขบวนการนี้ เกิดขึ้นจากสิ่งที่เราเรียกว่าโลกาภิวัฒน์ ที่ชาวเราภาคภูมิใจอยากให้มี อยากให้เป็น เพราะเรามองแต่ ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างลวงตา
    โลกาภิวัฒน์ย่นระยะเวลา ในการสร้างกลไก สร้างระบบเกษตรอุตสาหกรรมระหว่างประเทศขึ้นมา ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย บวกกับการให้เงินสนับสนุนจากต่างชาติ เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Ford และหน่วยงานของ USAID โดยเราไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริง หรือผลลัพธ์ ปลายทางที่เกิดขึ้นกับเรา
    นี่แหละ ผลของการมองแต่ผลได้ อย่างผิวเผิน ไม่นึกถึงผลเสีย หรือผลข้างเคียง ทั้งระยะใกล้ ระยะไกล เขียนแล้วเศร้า ตลกไม่ออกเลย!


    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เมล็ดพันธ์พิฆาต (3) นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 8 : เมล็ดพันธ์พิฆาต (3) ตัวอย่างเช่นที่กล่าวมาแล้ว มีอีกมากมาย ที่พูดถึงแต่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแท้ที่จริงผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เป็นการถาวร มันเป็นเฉพาะช่วงแรกๆ เท่านั้น แต่คนขายเมล็ดพันธ์ GMO ย่อมไม่บอกผู้ซื้อ นอกจากนี้ที่น่าเป็นห่วง คือผลกระทบต่อการเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจ กับ ชาวไร่ ชาวนา รายย่อย อย่างที่พวกเขาไม่รู้ตัว พวกเขาเคยทำไร่ทำนา จากเมล็ดพันธ์พืชที่ไม่มีต้นทุน ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ และไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง ต่อมาต้องซื้อทั้งเมล็ดพันธ์ ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมี พวกเขาขายผลผลิตได้ราคาสูงก็จริง แต่ต้นทุนก็สูงตามไปด้วย ท้ายที่สุดก็เป็นหนี้ และส่วนใหญ่ก็ไม่มีเงินใช้หนี้ ทำให้ต้องเสียที่ดินไร่นาไป แล้วก็มีบริษัทที่ทำธุรกิจเกษตร มาไล่ซื้อที่ดิน ไปทำต่อ หรือซื้อที่ไปทำอย่างอื่น แล้วชาวไร่ชาวนาเหล่านี้ ก็ไม่มีทางเลือก ต้องอพยพเข้าเมือง ขายแรงงานแทน เป็นปัญหาของบ้านเมืองอีกแบบหนึ่ง สิ่งเหล่านี้มักจะไม่อยู่ในรายงานของหน่วยงานที่ทำการวิจัย หรือคิดค้นพันธ์พืช เขามักจะพูดถึงแต่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะเป้าหมายที่แท้จริง ของการให้ใช้เมล็ดพืช GMO มันคือการปล้น เอาไร่ เอานา เขามาในราคาถูก นอกจากปัญหาเรื่องการเสียไร่นาแล้ว ปัญหาที่สำคัญอีกประการคือการใช้ยาฆ่าแมลง ซึ่งในหลายๆ กรณีเป็นอันตราย ต่อสุขภาพของชาวไร่ชาวนา อย่างถึงขนาดหลายๆ หมู่บ้านมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งกันทั้งหมู่บ้าน ความจนกับความไม่รู้ ทำให้พวกเขาไม่รู้จักหรือไม่สามารถแสวงหาหน้ากาก ป้องกันยาฉีดฆ่าแมลง ในปี ค.ศ.1989 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประมาณว่ามีคนได้รับสารพิษของยาฆ่าแมลงสูงถึง 1 ล้านคนต่อปี และประมาณ 20,000 คน เสียชีวิต ทั้งหมดนี้ส่วนมากเกิดขึ้นกับประชาชนในประเทศที่กำลังพัฒนา! ขบวนการนี้ เกิดขึ้นจากสิ่งที่เราเรียกว่าโลกาภิวัฒน์ ที่ชาวเราภาคภูมิใจอยากให้มี อยากให้เป็น เพราะเรามองแต่ ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างลวงตา โลกาภิวัฒน์ย่นระยะเวลา ในการสร้างกลไก สร้างระบบเกษตรอุตสาหกรรมระหว่างประเทศขึ้นมา ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย บวกกับการให้เงินสนับสนุนจากต่างชาติ เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Ford และหน่วยงานของ USAID โดยเราไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริง หรือผลลัพธ์ ปลายทางที่เกิดขึ้นกับเรา นี่แหละ ผลของการมองแต่ผลได้ อย่างผิวเผิน ไม่นึกถึงผลเสีย หรือผลข้างเคียง ทั้งระยะใกล้ ระยะไกล เขียนแล้วเศร้า ตลกไม่ออกเลย! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • เมื่อ AI ไม่ได้คืนทุน – 95% ขององค์กรลงทุนไปเปล่า ๆ กับ Generative AI

    ในช่วงสามปีที่ผ่านมา องค์กรทั่วโลกลงทุนไปกว่า $30–40 พันล้านดอลลาร์ในโครงการ Generative AI โดยหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่รายงานล่าสุดจาก MIT กลับพบว่า 95% ของโครงการเหล่านี้ “ไม่มีผลตอบแทนที่วัดได้” เลย

    แม้จะมีการนำเครื่องมืออย่าง ChatGPT, Copilot และโมเดลภาษาอื่น ๆ มาใช้ในองค์กรกว่า 80% และมีถึง 40% ที่นำไปใช้งานจริง แต่ส่วนใหญ่กลับใช้แค่ในระดับ “เพิ่มประสิทธิภาพรายบุคคล” เช่น เขียนอีเมลหรือช่วยตอบแชต ไม่ได้ส่งผลต่อรายได้หรือกำไรของบริษัท

    สาเหตุหลักคือ AI เหล่านี้ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับกระบวนการทำงานจริงขององค์กรได้ เช่น ไม่สามารถเรียนรู้จากบริบท, ไม่เก็บ feedback, และไม่พัฒนาเหตุผลข้ามงานได้เหมือนมนุษย์ ทำให้การใช้งานระยะยาวมีต้นทุนสูงแต่ไม่คุ้มค่า

    ในทางกลับกัน โครงการที่ประสบความสำเร็จ (เพียง 5%) มักจะเลือกปัญหาเฉพาะจุด เช่น การจัดการเอกสารหรือการลดค่าใช้จ่ายภายนอก แล้วใช้ AI แบบเฉพาะทางร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ

    MIT ยังพบว่า AI มีประโยชน์สูงสุดในงานหลังบ้าน เช่น การลดการจ้างงานภายนอกหรือการจัดการข้อมูลซ้ำ ๆ แต่กว่า 50% ของงบประมาณกลับถูกใช้ในงานขายและการตลาด ซึ่งยังต้องพึ่งพามนุษย์เป็นหลัก

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    MIT พบว่า 95% ของโครงการ Generative AI ไม่มีผลตอบแทนที่วัดได้
    องค์กรลงทุนรวมกว่า $30–40 พันล้านในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
    80% ขององค์กรทดลองใช้ AI และ 40% นำไปใช้งานจริง
    ส่วนใหญ่ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรายบุคคล ไม่ใช่ระดับองค์กร
    AI ไม่สามารถปรับตัวกับ workflow จริงขององค์กรได้
    โครงการที่ประสบความสำเร็จมักเลือกปัญหาเฉพาะและใช้เครื่องมือเฉพาะทาง
    AI มีประโยชน์สูงสุดในงานหลังบ้าน เช่น ลดการจ้างงานภายนอก
    กว่า 50% ของงบประมาณ AI ถูกใช้ในงานขายและการตลาด
    2 ใน 3 ของโครงการที่ใช้ผู้ให้บริการ AI เฉพาะทางประสบความสำเร็จ
    องค์กรในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแลสูงมักพัฒนา AI เองเพื่อลดความเสี่ยง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NANDA ของ MIT ชื่อว่า “The GenAI Divide”
    Startups ที่เลือกปัญหาเฉพาะ เช่น การจัดการเอกสาร สามารถสร้างรายได้ $20M ภายในปีเดียว
    AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ในด้านการตัดสินใจหรือการเรียนรู้ข้ามบริบท
    การใช้ AI ในงานขายอาจไม่เหมาะ เพราะผู้ซื้อยังต้องการปฏิสัมพันธ์แบบมนุษย์
    ผลกระทบต่อแรงงานคือการไม่แทนที่ตำแหน่งว่าง มากกว่าการปลดพนักงาน

    https://thedailyadda.com/95-of-companies-see-zero-return-on-30-billion-generative-ai-spend-mit-report-finds/
    🎙️ เมื่อ AI ไม่ได้คืนทุน – 95% ขององค์กรลงทุนไปเปล่า ๆ กับ Generative AI ในช่วงสามปีที่ผ่านมา องค์กรทั่วโลกลงทุนไปกว่า $30–40 พันล้านดอลลาร์ในโครงการ Generative AI โดยหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่รายงานล่าสุดจาก MIT กลับพบว่า 95% ของโครงการเหล่านี้ “ไม่มีผลตอบแทนที่วัดได้” เลย แม้จะมีการนำเครื่องมืออย่าง ChatGPT, Copilot และโมเดลภาษาอื่น ๆ มาใช้ในองค์กรกว่า 80% และมีถึง 40% ที่นำไปใช้งานจริง แต่ส่วนใหญ่กลับใช้แค่ในระดับ “เพิ่มประสิทธิภาพรายบุคคล” เช่น เขียนอีเมลหรือช่วยตอบแชต ไม่ได้ส่งผลต่อรายได้หรือกำไรของบริษัท สาเหตุหลักคือ AI เหล่านี้ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับกระบวนการทำงานจริงขององค์กรได้ เช่น ไม่สามารถเรียนรู้จากบริบท, ไม่เก็บ feedback, และไม่พัฒนาเหตุผลข้ามงานได้เหมือนมนุษย์ ทำให้การใช้งานระยะยาวมีต้นทุนสูงแต่ไม่คุ้มค่า ในทางกลับกัน โครงการที่ประสบความสำเร็จ (เพียง 5%) มักจะเลือกปัญหาเฉพาะจุด เช่น การจัดการเอกสารหรือการลดค่าใช้จ่ายภายนอก แล้วใช้ AI แบบเฉพาะทางร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ MIT ยังพบว่า AI มีประโยชน์สูงสุดในงานหลังบ้าน เช่น การลดการจ้างงานภายนอกหรือการจัดการข้อมูลซ้ำ ๆ แต่กว่า 50% ของงบประมาณกลับถูกใช้ในงานขายและการตลาด ซึ่งยังต้องพึ่งพามนุษย์เป็นหลัก 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ MIT พบว่า 95% ของโครงการ Generative AI ไม่มีผลตอบแทนที่วัดได้ ➡️ องค์กรลงทุนรวมกว่า $30–40 พันล้านในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ➡️ 80% ขององค์กรทดลองใช้ AI และ 40% นำไปใช้งานจริง ➡️ ส่วนใหญ่ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรายบุคคล ไม่ใช่ระดับองค์กร ➡️ AI ไม่สามารถปรับตัวกับ workflow จริงขององค์กรได้ ➡️ โครงการที่ประสบความสำเร็จมักเลือกปัญหาเฉพาะและใช้เครื่องมือเฉพาะทาง ➡️ AI มีประโยชน์สูงสุดในงานหลังบ้าน เช่น ลดการจ้างงานภายนอก ➡️ กว่า 50% ของงบประมาณ AI ถูกใช้ในงานขายและการตลาด ➡️ 2 ใน 3 ของโครงการที่ใช้ผู้ให้บริการ AI เฉพาะทางประสบความสำเร็จ ➡️ องค์กรในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแลสูงมักพัฒนา AI เองเพื่อลดความเสี่ยง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NANDA ของ MIT ชื่อว่า “The GenAI Divide” ➡️ Startups ที่เลือกปัญหาเฉพาะ เช่น การจัดการเอกสาร สามารถสร้างรายได้ $20M ภายในปีเดียว ➡️ AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ในด้านการตัดสินใจหรือการเรียนรู้ข้ามบริบท ➡️ การใช้ AI ในงานขายอาจไม่เหมาะ เพราะผู้ซื้อยังต้องการปฏิสัมพันธ์แบบมนุษย์ ➡️ ผลกระทบต่อแรงงานคือการไม่แทนที่ตำแหน่งว่าง มากกว่าการปลดพนักงาน https://thedailyadda.com/95-of-companies-see-zero-return-on-30-billion-generative-ai-spend-mit-report-finds/
    THEDAILYADDA.COM
    95% of Companies See ‘Zero Return’ on $30 Billion Generative AI Spend, MIT Report Finds
    Over the last three years, companies worldwide have invested between 30 and 40 billion dollars into generative artificial intelligence projects. Yet most of these efforts have brought no real business…
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังทหาร ยิ่งเป็นกำลังทหารเขมร เคลื่อนย้ายชัดเจนมาไทย,ยิ่งหมดสิทธิและห้ามเคลื่อนย้ายเด็ดขาด,ยิงเด็กๆเราจนเสียชีวิตคา7/11เกือบทั้งครอบครัว ยิงโรงพยาบาลไทย เสือกยังมีหน้าอยากมารักษาในประเทศไทยอีก,เขมรสันดานเลวต้องไม่มีที่ยืนใดๆบนแผ่นดินไทย,จริงๆต้องผลักดันออกจากประเทศไทยทั้งหมด จะสถานะใดอาจไปประเทศโลกที่สามก็ได้,ในภาวะสงครามนี้,สงบจึงค่อยกลับเขมรมึง,นีัยังอ้างสาระพัดอีกตลอดถึงแรงงานก็ด้วย,ปะปนมาก่อการร้ายทั่วกรุงฯจะหาว่าไม่เดือด,ระเบิดสาระพัดบอมในหลายๆตึกจะเกิดอะไรขึ้น,ยิ่งรัฐบาลสภาพที่ประชาชนไม่ไว้วางใจใดๆได้อีกเลย,ถ้าเกิดเหตุขึ้นจริง สส.ทั้งสภา ต้องถูกจำคุกทั้งหมดเพราะเรา..ประชาชนเชื่อว่าคือพวกเดียวกันทั้งหมด,แกนนำพรรคหลักและพรรคร่วมต้องโทษประหารชีวิตด้วย เพราะแต่ละบริบทพวกนี้ไม่สนใจอธิปไตยดินแดนไทยภัยรุกรานจริงๆเลย หมาหยอกไก่,ปล่อยไก่ให้จังหวะเขมรเรื่อย ตลอดจังหวะไทยจะรบชนะเขมรเด็ดขาดอยู่แล้วเสือกขัดขวางเสีย,นี้คือกิริยาไส้ศึกขัดขวางชัดๆ รีบวิ่งแล่นไปอยากหยุดยิงกับเขมรเร็วๆโน้น เราประชาชนทั้งประเทศแม้เด็ก7-8ขวบก็ดูออก.
    ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังทหาร ยิ่งเป็นกำลังทหารเขมร เคลื่อนย้ายชัดเจนมาไทย,ยิ่งหมดสิทธิและห้ามเคลื่อนย้ายเด็ดขาด,ยิงเด็กๆเราจนเสียชีวิตคา7/11เกือบทั้งครอบครัว ยิงโรงพยาบาลไทย เสือกยังมีหน้าอยากมารักษาในประเทศไทยอีก,เขมรสันดานเลวต้องไม่มีที่ยืนใดๆบนแผ่นดินไทย,จริงๆต้องผลักดันออกจากประเทศไทยทั้งหมด จะสถานะใดอาจไปประเทศโลกที่สามก็ได้,ในภาวะสงครามนี้,สงบจึงค่อยกลับเขมรมึง,นีัยังอ้างสาระพัดอีกตลอดถึงแรงงานก็ด้วย,ปะปนมาก่อการร้ายทั่วกรุงฯจะหาว่าไม่เดือด,ระเบิดสาระพัดบอมในหลายๆตึกจะเกิดอะไรขึ้น,ยิ่งรัฐบาลสภาพที่ประชาชนไม่ไว้วางใจใดๆได้อีกเลย,ถ้าเกิดเหตุขึ้นจริง สส.ทั้งสภา ต้องถูกจำคุกทั้งหมดเพราะเรา..ประชาชนเชื่อว่าคือพวกเดียวกันทั้งหมด,แกนนำพรรคหลักและพรรคร่วมต้องโทษประหารชีวิตด้วย เพราะแต่ละบริบทพวกนี้ไม่สนใจอธิปไตยดินแดนไทยภัยรุกรานจริงๆเลย หมาหยอกไก่,ปล่อยไก่ให้จังหวะเขมรเรื่อย ตลอดจังหวะไทยจะรบชนะเขมรเด็ดขาดอยู่แล้วเสือกขัดขวางเสีย,นี้คือกิริยาไส้ศึกขัดขวางชัดๆ รีบวิ่งแล่นไปอยากหยุดยิงกับเขมรเร็วๆโน้น เราประชาชนทั้งประเทศแม้เด็ก7-8ขวบก็ดูออก.
    ชนชาติทรยศลอบกัด พอป่วยหนักขึ้นมา ชาวเน็ตเขมรร้องขอให้ไทยรับรักษา แถมมีบางส่วนอ้างว่าไทยเล่นของใส่ ป่วยอยู่ตรงไหนก็สายตรงนั้นแหละ มนุษยธรรมไม่มีให้ชนชาติมึง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • AI ไม่ได้ช่วยทุกคน – เมื่อองค์กรลงทุนใน Generative AI แล้วไม่เห็นผล

    แม้ว่า Generative AI จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจ แต่รายงานล่าสุดจาก MIT พบว่า 95% ของโครงการนำ AI ไปใช้ในองค์กรไม่สามารถสร้างผลกระทบที่วัดได้ต่อกำไรหรือรายได้เลย

    รายงานนี้อ้างอิงจากการสัมภาษณ์ผู้บริหาร 150 คน, สำรวจพนักงาน 350 คน และวิเคราะห์การใช้งาน AI จริงกว่า 300 กรณี พบว่าโครงการส่วนใหญ่ “ล้มเหลว” ไม่ใช่เพราะโมเดล AI ทำงานผิดพลาด แต่เพราะ AI ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับกระบวนการทำงานที่มีอยู่แล้วในองค์กรได้

    องค์กรส่วนใหญ่ใช้ AI แบบทั่วไป เช่น ChatGPT โดยไม่ปรับให้เข้ากับบริบทเฉพาะของตน ทำให้เกิดช่องว่างการเรียนรู้ระหว่างเครื่องมือกับผู้ใช้ และโครงการก็หยุดชะงักในที่สุด

    ในทางกลับกัน โครงการที่ประสบความสำเร็จ (เพียง 5%) มักจะเลือก “ปัญหาเดียว” ที่ชัดเจน เช่น การจัดการเอกสาร หรือการตอบอีเมล แล้วใช้ AI แบบเฉพาะทางร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ

    MIT ยังพบว่า AI มีประโยชน์สูงสุดในงานหลังบ้าน เช่น การจัดการข้อมูล, การลดการจ้างงานภายนอก และการทำงานซ้ำ ๆ แต่กว่า 50% ของงบประมาณ AI กลับถูกใช้ในงานขายและการตลาด ซึ่งยังต้องพึ่งพามนุษย์เป็นหลัก

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    MIT พบว่า 95% ของโครงการนำ Generative AI ไปใช้ในองค์กรไม่มีผลต่อกำไรหรือรายได้
    รายงานอ้างอิงจากการสัมภาษณ์ 150 คน, สำรวจ 350 คน และวิเคราะห์ 300 กรณี
    สาเหตุหลักคือ AI ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับกระบวนการทำงานขององค์กร
    โครงการที่ประสบความสำเร็จมักเลือกปัญหาเดียวและใช้เครื่องมือเฉพาะทาง
    AI มีประโยชน์สูงสุดในงานหลังบ้าน เช่น การจัดการข้อมูลและงานซ้ำ ๆ
    กว่า 50% ของงบประมาณ AI ถูกใช้ในงานขายและการตลาด ซึ่งไม่เหมาะกับ AI
    โครงการที่ใช้ผู้ให้บริการ AI เฉพาะทางมีอัตราความสำเร็จ 2 ใน 3
    โครงการที่พัฒนา AI ภายในองค์กรมีอัตราความสำเร็จเพียง 1 ใน 3
    องค์กรในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแลสูง เช่น การเงินและสุขภาพ มักเลือกพัฒนา AI เอง
    AI ส่งผลต่อแรงงานโดยทำให้ตำแหน่งงานที่ว่างไม่ถูกแทนที่ โดยเฉพาะงานระดับต้น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NANDA ของ MIT ชื่อว่า “The GenAI Divide”
    บริษัทที่ประสบความสำเร็จมักเป็นสตาร์ตอัปที่มีทีมเล็กและเป้าหมายชัดเจน
    การใช้ AI ในงานขายอาจไม่เหมาะ เพราะผู้ซื้อยังเป็นมนุษย์ที่ต้องการปฏิสัมพันธ์
    การใช้ AI ในงานหลังบ้านช่วยลดต้นทุนจากการจ้างงานภายนอกและเอเจนซี่
    การไม่แทนที่ตำแหน่งงานที่ว่างอาจเป็นสัญญาณของการลดแรงงานในระยะยาว
    CEO หลายคนเตือนว่า AI อาจแทนที่งานระดับต้นถึง 50% ภายใน 5 ปี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/95-percent-of-generative-ai-implementations-in-enterprise-have-no-measurable-impact-on-p-and-l-says-mit-flawed-integration-key-reason-why-ai-projects-underperform
    🧠 AI ไม่ได้ช่วยทุกคน – เมื่อองค์กรลงทุนใน Generative AI แล้วไม่เห็นผล แม้ว่า Generative AI จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจ แต่รายงานล่าสุดจาก MIT พบว่า 95% ของโครงการนำ AI ไปใช้ในองค์กรไม่สามารถสร้างผลกระทบที่วัดได้ต่อกำไรหรือรายได้เลย รายงานนี้อ้างอิงจากการสัมภาษณ์ผู้บริหาร 150 คน, สำรวจพนักงาน 350 คน และวิเคราะห์การใช้งาน AI จริงกว่า 300 กรณี พบว่าโครงการส่วนใหญ่ “ล้มเหลว” ไม่ใช่เพราะโมเดล AI ทำงานผิดพลาด แต่เพราะ AI ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับกระบวนการทำงานที่มีอยู่แล้วในองค์กรได้ องค์กรส่วนใหญ่ใช้ AI แบบทั่วไป เช่น ChatGPT โดยไม่ปรับให้เข้ากับบริบทเฉพาะของตน ทำให้เกิดช่องว่างการเรียนรู้ระหว่างเครื่องมือกับผู้ใช้ และโครงการก็หยุดชะงักในที่สุด ในทางกลับกัน โครงการที่ประสบความสำเร็จ (เพียง 5%) มักจะเลือก “ปัญหาเดียว” ที่ชัดเจน เช่น การจัดการเอกสาร หรือการตอบอีเมล แล้วใช้ AI แบบเฉพาะทางร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ MIT ยังพบว่า AI มีประโยชน์สูงสุดในงานหลังบ้าน เช่น การจัดการข้อมูล, การลดการจ้างงานภายนอก และการทำงานซ้ำ ๆ แต่กว่า 50% ของงบประมาณ AI กลับถูกใช้ในงานขายและการตลาด ซึ่งยังต้องพึ่งพามนุษย์เป็นหลัก 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ MIT พบว่า 95% ของโครงการนำ Generative AI ไปใช้ในองค์กรไม่มีผลต่อกำไรหรือรายได้ ➡️ รายงานอ้างอิงจากการสัมภาษณ์ 150 คน, สำรวจ 350 คน และวิเคราะห์ 300 กรณี ➡️ สาเหตุหลักคือ AI ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับกระบวนการทำงานขององค์กร ➡️ โครงการที่ประสบความสำเร็จมักเลือกปัญหาเดียวและใช้เครื่องมือเฉพาะทาง ➡️ AI มีประโยชน์สูงสุดในงานหลังบ้าน เช่น การจัดการข้อมูลและงานซ้ำ ๆ ➡️ กว่า 50% ของงบประมาณ AI ถูกใช้ในงานขายและการตลาด ซึ่งไม่เหมาะกับ AI ➡️ โครงการที่ใช้ผู้ให้บริการ AI เฉพาะทางมีอัตราความสำเร็จ 2 ใน 3 ➡️ โครงการที่พัฒนา AI ภายในองค์กรมีอัตราความสำเร็จเพียง 1 ใน 3 ➡️ องค์กรในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแลสูง เช่น การเงินและสุขภาพ มักเลือกพัฒนา AI เอง ➡️ AI ส่งผลต่อแรงงานโดยทำให้ตำแหน่งงานที่ว่างไม่ถูกแทนที่ โดยเฉพาะงานระดับต้น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NANDA ของ MIT ชื่อว่า “The GenAI Divide” ➡️ บริษัทที่ประสบความสำเร็จมักเป็นสตาร์ตอัปที่มีทีมเล็กและเป้าหมายชัดเจน ➡️ การใช้ AI ในงานขายอาจไม่เหมาะ เพราะผู้ซื้อยังเป็นมนุษย์ที่ต้องการปฏิสัมพันธ์ ➡️ การใช้ AI ในงานหลังบ้านช่วยลดต้นทุนจากการจ้างงานภายนอกและเอเจนซี่ ➡️ การไม่แทนที่ตำแหน่งงานที่ว่างอาจเป็นสัญญาณของการลดแรงงานในระยะยาว ➡️ CEO หลายคนเตือนว่า AI อาจแทนที่งานระดับต้นถึง 50% ภายใน 5 ปี https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/95-percent-of-generative-ai-implementations-in-enterprise-have-no-measurable-impact-on-p-and-l-says-mit-flawed-integration-key-reason-why-ai-projects-underperform
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    95% of generative AI implementations in enterprise 'have no measurable impact on P&L', says MIT — flawed integration cited as why AI projects underperform
    AI is a powerful tool, but only if used correctly. | The study shows that AI tools must adjust to the organization’s processes for it to work effectively.
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • แคมโบเดีย โคล่า น้ำอัดลมชาตินิยมเศรษฐีเขมร

    กระแสความไม่พอใจของชาวกัมพูชา หลังโคคา-โคล่า กัมพูชา ลบรูปแวนด้า (Vann Da) หรือ วัณณ์ฎา มาน (Vannda Mann) นักร้องเพลงแร็ปชาวเขมร ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องดื่มโคคา-โคล่าออกจากสื่อโฆษณา แม้นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จะออกมาปรามว่าโคคา-โคล่า เป็นแบรนด์จากสหรัฐฯ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ขายในกัมพูชา ผลิตโดยแรงงานชาวกัมพูชา สร้างรายได้และเงินภาษีให้กับรัฐบาล หากโคคา-โคล่าถอนตัวออกจากกัมพูชา ประเทศจะเสียหาย ถึงกระนั้น ยังมีภาคธุรกิจชาวกัมพูชาอย่างชิปมงกรุ๊ป (Chip Mong Group) สบโอกาสเปิดตัวน้ำอัดลมแบรนด์ใหม่ แคมโบเดีย โคล่า (Cambodia Cola)

    แคมโบเดีย โคล่า ผลิตโดยบริษัทขแมร์เบเวอเรจ (Khmer Beverages) ในเครือชิปมงกรุ๊ป ในสโลแกน "เติมความซ่ากับรสชาติแห่งความสุข" (Fizz Up the Flavor of Joy) ปัดฝุ่นเพจเฟซบุ๊ก Vikingz ของเครื่องดื่มชูกำลังที่หยุดจำหน่ายไปแล้ว และมีผู้ติดตามเพจราว 4 หมื่นรายมาปัดฝุ่นใหม่ พร้อมเผยแพร่วิดีโอคลิปโฆษณาเชิงซีเอสอาร์ ชูความเป็นผลิตภัณฑ์เขมร ผลิตในโรงงานเขมร ของผู้ประกอบการเขมร 100% เชิญชวนมาอุดหนุนสินค้าเขมรด้วยกัน และกิจกรรมเยี่ยมครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชา-ไทย พร้อมมอบเงินแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 20 ล้านเรียล และทหารที่บาดเจ็บ 2 ล้านเรียล

    อย่างไรก็ตาม แคมโบเดีย โคล่า ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการเครื่องดื่ม เพราะขแมร์เบเวอเรจ เป็นผู้ผลิตเบียร์แคมโบเดีย (Cambodia Beer) และน้ำดื่มตราแคมโบเดียวอเตอร์ (Cambodia Water) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 7 ล้านเฮกโตลิตรต่อปี โดยก่อนหน้านี้ได้ผลิตน้ำอัดลมทั้งน้ำดำและน้ำสียี่ห้อไอซ์ (IZE) เครื่องดื่มชูกำลังตราเวิร์คซ์ (WURKZ) วางจำหน่ายในปี 2560 แม้จะออกผลิตภัณฑ์ซ้ำซ้อนกันแต่เป็นไปได้ว่าเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างกัน เน้นไปที่กระแสชาตินิยมสู้ศึกต่างชาติอย่างโคคา-โคล่าและเป๊ปซี่

    สำหรับชิปมง กรุ๊ป เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทในประเทศกัมพูชารายใหญ่ที่สุด ก่อตั้งโดยมาดามเพี๊ยบ เฮียก (Pheap Heak) เมื่อปี 2525 เริ่มจากนำเข้าเหล็ก ก่อนจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ กระเบื้อง อสังหาริมทรัพย์ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์กระป๋อง อาหารสัตว์ ค้าปลีก ศูนย์การค้า โรงแรมหรูอย่างไฮแอท รีเจนซี่ พนมเปญ และแฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท พนมเปญ สนามกอล์ฟแกรนด์ รอยัล กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท ธนาคารชิปมง มีบริษัทร่วมทุนกับประเทศไทย เช่น ชิปมงอินทรี ผลิตปูนซีเมนต์ในจังหวัดกำปอด ร่วมกับ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง และชิปมงฤทธา ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ร่วมกับบริษัทฤทธา

    #Newskit
    แคมโบเดีย โคล่า น้ำอัดลมชาตินิยมเศรษฐีเขมร กระแสความไม่พอใจของชาวกัมพูชา หลังโคคา-โคล่า กัมพูชา ลบรูปแวนด้า (Vann Da) หรือ วัณณ์ฎา มาน (Vannda Mann) นักร้องเพลงแร็ปชาวเขมร ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องดื่มโคคา-โคล่าออกจากสื่อโฆษณา แม้นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จะออกมาปรามว่าโคคา-โคล่า เป็นแบรนด์จากสหรัฐฯ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ขายในกัมพูชา ผลิตโดยแรงงานชาวกัมพูชา สร้างรายได้และเงินภาษีให้กับรัฐบาล หากโคคา-โคล่าถอนตัวออกจากกัมพูชา ประเทศจะเสียหาย ถึงกระนั้น ยังมีภาคธุรกิจชาวกัมพูชาอย่างชิปมงกรุ๊ป (Chip Mong Group) สบโอกาสเปิดตัวน้ำอัดลมแบรนด์ใหม่ แคมโบเดีย โคล่า (Cambodia Cola) แคมโบเดีย โคล่า ผลิตโดยบริษัทขแมร์เบเวอเรจ (Khmer Beverages) ในเครือชิปมงกรุ๊ป ในสโลแกน "เติมความซ่ากับรสชาติแห่งความสุข" (Fizz Up the Flavor of Joy) ปัดฝุ่นเพจเฟซบุ๊ก Vikingz ของเครื่องดื่มชูกำลังที่หยุดจำหน่ายไปแล้ว และมีผู้ติดตามเพจราว 4 หมื่นรายมาปัดฝุ่นใหม่ พร้อมเผยแพร่วิดีโอคลิปโฆษณาเชิงซีเอสอาร์ ชูความเป็นผลิตภัณฑ์เขมร ผลิตในโรงงานเขมร ของผู้ประกอบการเขมร 100% เชิญชวนมาอุดหนุนสินค้าเขมรด้วยกัน และกิจกรรมเยี่ยมครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชา-ไทย พร้อมมอบเงินแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 20 ล้านเรียล และทหารที่บาดเจ็บ 2 ล้านเรียล อย่างไรก็ตาม แคมโบเดีย โคล่า ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการเครื่องดื่ม เพราะขแมร์เบเวอเรจ เป็นผู้ผลิตเบียร์แคมโบเดีย (Cambodia Beer) และน้ำดื่มตราแคมโบเดียวอเตอร์ (Cambodia Water) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 7 ล้านเฮกโตลิตรต่อปี โดยก่อนหน้านี้ได้ผลิตน้ำอัดลมทั้งน้ำดำและน้ำสียี่ห้อไอซ์ (IZE) เครื่องดื่มชูกำลังตราเวิร์คซ์ (WURKZ) วางจำหน่ายในปี 2560 แม้จะออกผลิตภัณฑ์ซ้ำซ้อนกันแต่เป็นไปได้ว่าเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างกัน เน้นไปที่กระแสชาตินิยมสู้ศึกต่างชาติอย่างโคคา-โคล่าและเป๊ปซี่ สำหรับชิปมง กรุ๊ป เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทในประเทศกัมพูชารายใหญ่ที่สุด ก่อตั้งโดยมาดามเพี๊ยบ เฮียก (Pheap Heak) เมื่อปี 2525 เริ่มจากนำเข้าเหล็ก ก่อนจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ กระเบื้อง อสังหาริมทรัพย์ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์กระป๋อง อาหารสัตว์ ค้าปลีก ศูนย์การค้า โรงแรมหรูอย่างไฮแอท รีเจนซี่ พนมเปญ และแฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท พนมเปญ สนามกอล์ฟแกรนด์ รอยัล กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท ธนาคารชิปมง มีบริษัทร่วมทุนกับประเทศไทย เช่น ชิปมงอินทรี ผลิตปูนซีเมนต์ในจังหวัดกำปอด ร่วมกับ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง และชิปมงฤทธา ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ร่วมกับบริษัทฤทธา #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • สกัดจับ 21 แรงงานต่างด้าว ซุกไร่อ้อยชายแดนสระแก้ว ลักลอบเข้า- ออกช่องทางธรรมชาติ
    https://www.thai-tai.tv/news/21028/
    .
    #แรงงานต่างด้าว #สกัดจับ #ลักลอบเข้าเมือง #สระแก้ว #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยไท

    สกัดจับ 21 แรงงานต่างด้าว ซุกไร่อ้อยชายแดนสระแก้ว ลักลอบเข้า- ออกช่องทางธรรมชาติ https://www.thai-tai.tv/news/21028/ . #แรงงานต่างด้าว #สกัดจับ #ลักลอบเข้าเมือง #สระแก้ว #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • เขมรเถื่อนยอดทะลุล้านคน หน่วยงานทำไรกัน!!! [19/8/68]
    (Cambodian illegals surpass one million — what are Thai authorities doing?)

    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #CambodiaEncroachingThailand
    #SAVEThailand
    #ThaiTimes
    #news1
    #shorts
    #เขมรเถื่อน
    #แรงงานต่างด้าว
    #ปัญหาชายแดน
    #กองทัพไทย
    #รัฐบาลไทย
    เขมรเถื่อนยอดทะลุล้านคน หน่วยงานทำไรกัน!!! [19/8/68] (Cambodian illegals surpass one million — what are Thai authorities doing?) #TruthFromThailand #scambodia #CambodiaEncroachingThailand #SAVEThailand #ThaiTimes #news1 #shorts #เขมรเถื่อน #แรงงานต่างด้าว #ปัญหาชายแดน #กองทัพไทย #รัฐบาลไทย
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 0 Reviews
  • สื่อมวลชนกัมพูชาเผยแพร่บทความ ระบุถึงผลกระทบในทางเศรษฐกิจที่คนเขมรเสี่ยงต้องเผชิญ ท่ามกลางศึกพิพาทตามแนวชายแดนกับไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการท่องเที่ยวและภาคแรงงาน รวมถึงเงินที่แรงงานข้ามชาติกัมพูชาที่เคยทำงานในไทย ส่งกลับไปหล่อเลี้ยงครอบครัวในแต่ละเดือน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000078749

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สื่อมวลชนกัมพูชาเผยแพร่บทความ ระบุถึงผลกระทบในทางเศรษฐกิจที่คนเขมรเสี่ยงต้องเผชิญ ท่ามกลางศึกพิพาทตามแนวชายแดนกับไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการท่องเที่ยวและภาคแรงงาน รวมถึงเงินที่แรงงานข้ามชาติกัมพูชาที่เคยทำงานในไทย ส่งกลับไปหล่อเลี้ยงครอบครัวในแต่ละเดือน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000078749 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 564 Views 0 Reviews
  • ลาก่อนแล็ปท็อป? เมื่อ DaaS กลายเป็นตัวเลือกหลักขององค์กรยุคใหม่

    ลองนึกภาพว่าแทนที่พนักงานจะต้องพกแล็ปท็อปไปทำงาน พวกเขาแค่ล็อกอินผ่านเบราว์เซอร์ แล้วเข้าถึงเดสก์ท็อปเสมือนที่อยู่บนคลาวด์—นี่คือแนวคิดของ Desktop as a Service หรือ DaaS ที่กำลังมาแรง

    จากรายงานของ Gartner พบว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2019 และการใช้งานจริงก็เพิ่มขึ้นเป็น 20% แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีพนักงานทำงานระยะไกลหรือจ้างงานภายนอก

    Microsoft ถูกจัดอันดับเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ที่ตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่

    นอกจากความคุ้มค่าแล้ว DaaS ยังช่วยลดภาระการดูแลอุปกรณ์ ลดต้นทุนล่วงหน้า และเพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลทั้งหมดอยู่บนคลาวด์ ไม่ใช่ในเครื่องของพนักงาน

    อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเรื่อง vendor lock-in และความซับซ้อนของการจัดการลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากในช่วงแรก

    แนวโน้มการใช้งาน DaaS
    Gartner คาดว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027
    การใช้งานจริงเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 10% ในปี 2019
    องค์กรเริ่มใช้ DaaS เพื่อรองรับงานระยะไกลและงานภายนอก

    ข้อดีของ DaaS
    ลดต้นทุนการดูแลอุปกรณ์และการอัปเดตซอฟต์แวร์
    เพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลอยู่บนคลาวด์
    รองรับการขยายทีมงานแบบยืดหยุ่น เช่น พนักงานชั่วคราวหรือฟรีแลนซ์
    ลดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ด้วยโมเดลจ่ายตามการใช้งาน

    ผู้เล่นหลักในตลาด
    Microsoft เป็นผู้นำด้วย Azure Virtual Desktop และ Windows 365
    60% ของลูกค้า DaaS ของ Microsoft เป็นองค์กรขนาดกลาง
    Gartner ระบุว่าองค์กรใหม่แทบไม่ใช้ VDI แบบ on-prem อีกแล้ว

    ข้อมูลเสริมจากผู้ให้บริการ
    DaaS ช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์เป็นแบบรวมศูนย์
    ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบ IT
    เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูง

    DaaS ยังเป็นตลาดใหม่ที่มีการกำกับดูแลน้อย
    อาจเกิด vendor lock-in หากเลือกผู้ให้บริการไม่รอบคอบ
    การจัดการลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจซับซ้อนในระบบคลาวด์
    ผู้ใช้งานต้องมีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรเพื่อเข้าถึงเดสก์ท็อป
    องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลอาจไม่สามารถใช้ DaaS ได้เต็มรูปแบบ

    https://www.techradar.com/pro/the-end-of-laptops-at-work-desktop-as-a-service-is-now-cheaper-and-easier-to-run-reports-claim
    🧠 ลาก่อนแล็ปท็อป? เมื่อ DaaS กลายเป็นตัวเลือกหลักขององค์กรยุคใหม่ ลองนึกภาพว่าแทนที่พนักงานจะต้องพกแล็ปท็อปไปทำงาน พวกเขาแค่ล็อกอินผ่านเบราว์เซอร์ แล้วเข้าถึงเดสก์ท็อปเสมือนที่อยู่บนคลาวด์—นี่คือแนวคิดของ Desktop as a Service หรือ DaaS ที่กำลังมาแรง จากรายงานของ Gartner พบว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2019 และการใช้งานจริงก็เพิ่มขึ้นเป็น 20% แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีพนักงานทำงานระยะไกลหรือจ้างงานภายนอก Microsoft ถูกจัดอันดับเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ที่ตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ นอกจากความคุ้มค่าแล้ว DaaS ยังช่วยลดภาระการดูแลอุปกรณ์ ลดต้นทุนล่วงหน้า และเพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลทั้งหมดอยู่บนคลาวด์ ไม่ใช่ในเครื่องของพนักงาน อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเรื่อง vendor lock-in และความซับซ้อนของการจัดการลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากในช่วงแรก ✅ แนวโน้มการใช้งาน DaaS ➡️ Gartner คาดว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 ➡️ การใช้งานจริงเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 10% ในปี 2019 ➡️ องค์กรเริ่มใช้ DaaS เพื่อรองรับงานระยะไกลและงานภายนอก ✅ ข้อดีของ DaaS ➡️ ลดต้นทุนการดูแลอุปกรณ์และการอัปเดตซอฟต์แวร์ ➡️ เพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลอยู่บนคลาวด์ ➡️ รองรับการขยายทีมงานแบบยืดหยุ่น เช่น พนักงานชั่วคราวหรือฟรีแลนซ์ ➡️ ลดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ด้วยโมเดลจ่ายตามการใช้งาน ✅ ผู้เล่นหลักในตลาด ➡️ Microsoft เป็นผู้นำด้วย Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ➡️ 60% ของลูกค้า DaaS ของ Microsoft เป็นองค์กรขนาดกลาง ➡️ Gartner ระบุว่าองค์กรใหม่แทบไม่ใช้ VDI แบบ on-prem อีกแล้ว ✅ ข้อมูลเสริมจากผู้ให้บริการ ➡️ DaaS ช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์เป็นแบบรวมศูนย์ ➡️ ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบ IT ➡️ เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูง ⛔ DaaS ยังเป็นตลาดใหม่ที่มีการกำกับดูแลน้อย ⛔ อาจเกิด vendor lock-in หากเลือกผู้ให้บริการไม่รอบคอบ ⛔ การจัดการลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจซับซ้อนในระบบคลาวด์ ⛔ ผู้ใช้งานต้องมีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรเพื่อเข้าถึงเดสก์ท็อป ⛔ องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลอาจไม่สามารถใช้ DaaS ได้เต็มรูปแบบ https://www.techradar.com/pro/the-end-of-laptops-at-work-desktop-as-a-service-is-now-cheaper-and-easier-to-run-reports-claim
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • AI ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป: เทคโนโลยีที่อาจเปลี่ยนโครงสร้างโลก

    ลองนึกภาพว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา การที่เครื่องจักรจะเข้าใจภาษาเรา เขียนโปรแกรม หรือหาข้อผิดพลาดในโค้ดที่มนุษย์มองข้าม ยังเป็นเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ แต่วันนี้ AI ทำสิ่งเหล่านั้นได้จริง แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ

    ผู้เขียนชี้ว่า แม้ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ยังประเมินผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในแง่การมองข้ามความก้าวหน้า หรือคาดหวังเกินจริง แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ AI กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และอาจไม่หยุดอยู่แค่ “เครื่องมือช่วยงาน” แต่กลายเป็น “ผู้เล่นหลัก” ที่เปลี่ยนระบบเศรษฐกิจทั้งหมด

    ตลาดหุ้นยังคงขึ้นอย่างไม่สนใจความไม่แน่นอนของ AI หรือสงครามในโลก แต่ผู้เขียนเตือนว่า หาก AI สามารถแทนที่แรงงานจำนวนมากได้จริง ระบบเศรษฐกิจแบบปัจจุบันอาจไม่สามารถรับมือได้ และอาจต้องเปลี่ยนไปสู่ระบบใหม่ที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

    ข้อมูลจาก MIT Sloan เสริมว่า แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่ในระยะ 10 ปีข้างหน้า อาจมีผลต่อ GDP เพียง 1–2% เท่านั้น เพราะมีเพียง 5% ของงานทั้งหมดที่สามารถใช้ AI ได้อย่างคุ้มค่า

    IMF ก็เตือนว่า AI จะกระทบต่อ 40% ของงานทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งอาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้มากขึ้น หากไม่มีนโยบายรองรับที่ดี

    ความก้าวหน้าของ AI
    AI สามารถเข้าใจภาษา เขียนโปรแกรม และหาข้อผิดพลาดในโค้ด
    ความสามารถเหล่านี้เคยเป็นเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์
    การพัฒนาเกิดขึ้นแม้ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินผิด

    ความไม่แน่นอนของอนาคต AI
    ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่า AI จะไปถึงไหน
    หาก AI ไม่หยุดพัฒนา อาจกลายเป็นผู้เล่นหลักในระบบเศรษฐกิจ
    การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่เหมือนการปฏิวัติเทคโนโลยีที่ผ่านมา

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
    ตลาดหุ้นยังคงขึ้น แม้มีความไม่แน่นอน
    หาก AI แทนแรงงานจำนวนมาก ระบบเศรษฐกิจอาจต้องเปลี่ยน
    บริษัทอาจไม่จ้างบริการภายนอก หาก AI ภายในทำงานได้เอง

    ข้อมูลเสริมจาก MIT Sloan
    AI อาจเพิ่ม GDP เพียง 1–2% ใน 10 ปีข้างหน้า
    มีเพียง 5% ของงานที่สามารถใช้ AI ได้อย่างคุ้มค่า
    ผลกระทบต่อผลิตภาพโดยรวมอาจต่ำกว่าที่คาด

    ข้อมูลเสริมจาก IMF
    AI กระทบต่อ 40% ของงานทั่วโลก
    ประเทศพัฒนาแล้วมีความเสี่ยงสูงกว่า
    อาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้และโอกาส

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การพัฒนา AI อาจทำให้แรงงานจำนวนมากตกงาน
    ระบบเศรษฐกิจปัจจุบันอาจไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
    หากไม่มีนโยบายรองรับ อาจเกิดความเหลื่อมล้ำอย่างรุนแรง
    ตลาดหุ้นอาจไม่สะท้อนความจริงของเศรษฐกิจในระยะยาว
    การพึ่งพา AI จากบริษัทใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง อาจสร้างความเสี่ยงต่ออำนาจรวมศูนย์

    https://www.antirez.com/news/155
    🧠 AI ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป: เทคโนโลยีที่อาจเปลี่ยนโครงสร้างโลก ลองนึกภาพว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา การที่เครื่องจักรจะเข้าใจภาษาเรา เขียนโปรแกรม หรือหาข้อผิดพลาดในโค้ดที่มนุษย์มองข้าม ยังเป็นเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ แต่วันนี้ AI ทำสิ่งเหล่านั้นได้จริง แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ ผู้เขียนชี้ว่า แม้ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ยังประเมินผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในแง่การมองข้ามความก้าวหน้า หรือคาดหวังเกินจริง แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ AI กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และอาจไม่หยุดอยู่แค่ “เครื่องมือช่วยงาน” แต่กลายเป็น “ผู้เล่นหลัก” ที่เปลี่ยนระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ตลาดหุ้นยังคงขึ้นอย่างไม่สนใจความไม่แน่นอนของ AI หรือสงครามในโลก แต่ผู้เขียนเตือนว่า หาก AI สามารถแทนที่แรงงานจำนวนมากได้จริง ระบบเศรษฐกิจแบบปัจจุบันอาจไม่สามารถรับมือได้ และอาจต้องเปลี่ยนไปสู่ระบบใหม่ที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ข้อมูลจาก MIT Sloan เสริมว่า แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่ในระยะ 10 ปีข้างหน้า อาจมีผลต่อ GDP เพียง 1–2% เท่านั้น เพราะมีเพียง 5% ของงานทั้งหมดที่สามารถใช้ AI ได้อย่างคุ้มค่า IMF ก็เตือนว่า AI จะกระทบต่อ 40% ของงานทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งอาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้มากขึ้น หากไม่มีนโยบายรองรับที่ดี ✅ ความก้าวหน้าของ AI ➡️ AI สามารถเข้าใจภาษา เขียนโปรแกรม และหาข้อผิดพลาดในโค้ด ➡️ ความสามารถเหล่านี้เคยเป็นเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ ➡️ การพัฒนาเกิดขึ้นแม้ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินผิด ✅ ความไม่แน่นอนของอนาคต AI ➡️ ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่า AI จะไปถึงไหน ➡️ หาก AI ไม่หยุดพัฒนา อาจกลายเป็นผู้เล่นหลักในระบบเศรษฐกิจ ➡️ การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่เหมือนการปฏิวัติเทคโนโลยีที่ผ่านมา ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ➡️ ตลาดหุ้นยังคงขึ้น แม้มีความไม่แน่นอน ➡️ หาก AI แทนแรงงานจำนวนมาก ระบบเศรษฐกิจอาจต้องเปลี่ยน ➡️ บริษัทอาจไม่จ้างบริการภายนอก หาก AI ภายในทำงานได้เอง ✅ ข้อมูลเสริมจาก MIT Sloan ➡️ AI อาจเพิ่ม GDP เพียง 1–2% ใน 10 ปีข้างหน้า ➡️ มีเพียง 5% ของงานที่สามารถใช้ AI ได้อย่างคุ้มค่า ➡️ ผลกระทบต่อผลิตภาพโดยรวมอาจต่ำกว่าที่คาด ✅ ข้อมูลเสริมจาก IMF ➡️ AI กระทบต่อ 40% ของงานทั่วโลก ➡️ ประเทศพัฒนาแล้วมีความเสี่ยงสูงกว่า ➡️ อาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้และโอกาส ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การพัฒนา AI อาจทำให้แรงงานจำนวนมากตกงาน ⛔ ระบบเศรษฐกิจปัจจุบันอาจไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ⛔ หากไม่มีนโยบายรองรับ อาจเกิดความเหลื่อมล้ำอย่างรุนแรง ⛔ ตลาดหุ้นอาจไม่สะท้อนความจริงของเศรษฐกิจในระยะยาว ⛔ การพึ่งพา AI จากบริษัทใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง อาจสร้างความเสี่ยงต่ออำนาจรวมศูนย์ https://www.antirez.com/news/155
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • ประชาชนเรายึดอำนาจเถอะ,จากนั้นลงมติ สร้างรั้วลวดหนามแบบเวียดนามหนาแน่นนั้นเลย มรึงก็ไปรักษาโรงพยาบาลเขมรมรึงเถอะ ประเทศใครประเทศมันปิดด่านถาวรจริงจังเลย อยู่ใครอยู่มันเงียบๆสัก10-20ปีไปก่อน,ห้ามคนไทยไปเขมรเด็ดขาดจะไม่รับรองความปลอดภัยใดๆ,แต่ถ้าเขมรลักพาตัว สถานที่ราชการเขมรจะถูกไทยระเบิดทิ้งหากไม่จับกุมคนลักพาตัวคนไทยมาลงโทษและไม่ส่งตัวคนไทยเรากลับมาคืนอย่างปลอดภัย,ตัดสายสัมพันธ์ค้าขายทั้งหมดกับเขมร ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตตัดสายเคเบิล ตัดถนนรถไฟเชื่อมไปหาเขมรทั้งหมดทันที,แรงงานเขมรส่งกลับเขมรทั้งหมดที่อยู่ประเทศไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆให้อยู่ต่อทุกๆกรณี,ไทยเราต้องเด็ดขาดจริงๆนะ อย่าเลอะเทอะแบบปัจจุบัน,อย่าอ้างเมตตาสงสารใดๆเลย เกิดชาติหน้ามาเกิดบนแผ่นดินไทยก็แล้วกัน ชาติปัจจุบันนี้เราปกป้องคนไทยดูแลคนไทยเราก่อนคืออันดับแรกในภัยคุกคามความขัดแย้งรุกรานอธิปไตยไทย เกลียดชังประเทศไทยว่าไทยคือโจรสยามก็ว่า เคลมสาระพัดต่างๆของไทย ว่ากล่าวด่าทอคนไทยสินค้าไทย เนรคุณคนไทย,เรา..ประเทศไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ,มันจะเป็นจะตายมิใช่สถานะคนไทยไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป,โรงงานใดเมตตาสงสารคนเขมรก็รับความเสี่ยงเองไปตั้งฐานผลิตที่เขมร,แต่ทุกๆสินค้าบริการของเขมรทั้งหมด ประเทศไทยห้ามนำเข้าและยกเลิกการค้าขายกับเขมรทั้งหมด ยกเลิกธุรกรรมกิจการใดๆกับเขมรทั้งหมด,ส่วนชาติใดค้าขายกับเขมร ช่วยเหลือเขมรที่เป็นภัยความมั่นคงกับเราโดยเฉพาะภูมิภาคนี้เราประเทศไทยจะกลับไปพิจารณาประเทศนั้นๆอย่างมีสติปัญญาและรอบคอบที่สุด,
    ..
    ..เรา..ประชาชนคนไทยต้องสั่งสอนเขมรจริงจังได้แล้ว,โรงงานกิจการใดๆที่ใช้คนเขมรต่างพิจารณาสถานะใหม่จริงๆด้วย.,คนเขมรเขามีวิถีคนเขมรเอง,มาใช้วิถีเขมรบนแผ่นดินวิถีไทยแบบเนรคุณหักหลังทรยศว่ากล่าวด่าดูถูกเรามาเก่งกล้าสามารถตีลูกตีหลานฆ่าเด็กๆเราฆ่าลูกฆ่าหลานคนไทยเราประชาชนผู้บริสุทธิ์เรา ,หมายยึดบ้านยึดเมืองเรามันสมควรมั้ย.
    ..
    https://youtube.com/shorts/jakwmzORgoc?si=l9z9DBpc1kjOSd6J
    ประชาชนเรายึดอำนาจเถอะ,จากนั้นลงมติ สร้างรั้วลวดหนามแบบเวียดนามหนาแน่นนั้นเลย มรึงก็ไปรักษาโรงพยาบาลเขมรมรึงเถอะ ประเทศใครประเทศมันปิดด่านถาวรจริงจังเลย อยู่ใครอยู่มันเงียบๆสัก10-20ปีไปก่อน,ห้ามคนไทยไปเขมรเด็ดขาดจะไม่รับรองความปลอดภัยใดๆ,แต่ถ้าเขมรลักพาตัว สถานที่ราชการเขมรจะถูกไทยระเบิดทิ้งหากไม่จับกุมคนลักพาตัวคนไทยมาลงโทษและไม่ส่งตัวคนไทยเรากลับมาคืนอย่างปลอดภัย,ตัดสายสัมพันธ์ค้าขายทั้งหมดกับเขมร ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตตัดสายเคเบิล ตัดถนนรถไฟเชื่อมไปหาเขมรทั้งหมดทันที,แรงงานเขมรส่งกลับเขมรทั้งหมดที่อยู่ประเทศไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆให้อยู่ต่อทุกๆกรณี,ไทยเราต้องเด็ดขาดจริงๆนะ อย่าเลอะเทอะแบบปัจจุบัน,อย่าอ้างเมตตาสงสารใดๆเลย เกิดชาติหน้ามาเกิดบนแผ่นดินไทยก็แล้วกัน ชาติปัจจุบันนี้เราปกป้องคนไทยดูแลคนไทยเราก่อนคืออันดับแรกในภัยคุกคามความขัดแย้งรุกรานอธิปไตยไทย เกลียดชังประเทศไทยว่าไทยคือโจรสยามก็ว่า เคลมสาระพัดต่างๆของไทย ว่ากล่าวด่าทอคนไทยสินค้าไทย เนรคุณคนไทย,เรา..ประเทศไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ,มันจะเป็นจะตายมิใช่สถานะคนไทยไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป,โรงงานใดเมตตาสงสารคนเขมรก็รับความเสี่ยงเองไปตั้งฐานผลิตที่เขมร,แต่ทุกๆสินค้าบริการของเขมรทั้งหมด ประเทศไทยห้ามนำเข้าและยกเลิกการค้าขายกับเขมรทั้งหมด ยกเลิกธุรกรรมกิจการใดๆกับเขมรทั้งหมด,ส่วนชาติใดค้าขายกับเขมร ช่วยเหลือเขมรที่เป็นภัยความมั่นคงกับเราโดยเฉพาะภูมิภาคนี้เราประเทศไทยจะกลับไปพิจารณาประเทศนั้นๆอย่างมีสติปัญญาและรอบคอบที่สุด, .. ..เรา..ประชาชนคนไทยต้องสั่งสอนเขมรจริงจังได้แล้ว,โรงงานกิจการใดๆที่ใช้คนเขมรต่างพิจารณาสถานะใหม่จริงๆด้วย.,คนเขมรเขามีวิถีคนเขมรเอง,มาใช้วิถีเขมรบนแผ่นดินวิถีไทยแบบเนรคุณหักหลังทรยศว่ากล่าวด่าดูถูกเรามาเก่งกล้าสามารถตีลูกตีหลานฆ่าเด็กๆเราฆ่าลูกฆ่าหลานคนไทยเราประชาชนผู้บริสุทธิ์เรา ,หมายยึดบ้านยึดเมืองเรามันสมควรมั้ย. .. https://youtube.com/shorts/jakwmzORgoc?si=l9z9DBpc1kjOSd6J
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • ใบรับรองที่ไม่ใช่แค่กระดาษ: เส้นทางสู่เงินเดือนสูงในสายงาน Cybersecurity ปี 2025

    ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นทุกวัน องค์กรต่าง ๆ ก็ต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะเฉพาะทางมากขึ้นเช่นกัน และหนึ่งในวิธีที่ชัดเจนที่สุดในการแสดงความสามารถคือ “ใบรับรอง” หรือ Certification ด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    จากรายงานของ CSO Online และข้อมูลเสริมจากหลายแหล่ง พบว่าใบรับรองบางใบสามารถเพิ่มเงินเดือนเฉลี่ยได้ถึง 10–22% และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในสายงานที่เกี่ยวข้องกับการเจาะระบบ (penetration testing), การวิเคราะห์การบุกรุก (intrusion analysis), และการจัดการความเสี่ยงระดับองค์กร

    ตัวอย่างเช่น OSCP (Offensive Security Certified Professional) และ OSEP (Experienced Penetration Tester) ที่เน้นการทดสอบเจาะระบบแบบลงมือจริง หรือ CCSK (Certificate of Cloud Security Knowledge) ที่เน้นความรู้ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์แบบ vendor-neutral

    นอกจากนี้ ยังมีใบรับรองระดับผู้บริหารอย่าง C|CISO ที่เหมาะกับผู้จัดการและผู้บริหารที่ต้องการเข้าใจภาพรวมของการบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแลด้านความปลอดภัย

    สิ่งที่น่าสนใจคือ ใบรับรองเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มเงินเดือน แต่ยังเปิดประตูสู่ตำแหน่งใหม่ ๆ เช่น Threat Hunter, Incident Responder, หรือแม้แต่ CISO ในองค์กรขนาดใหญ่

    ใบรับรองที่ให้ผลตอบแทนสูงในปี 2025
    OSCP: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2%
    OSEP: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2%
    CCSK: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2%
    C|CISO: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 10%
    GCIA: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1%
    CSFA: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1%
    OSDA และ OSEE: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1%
    OSCE: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 12%, เติบโต 9.1%

    ประเภทของใบรับรองที่น่าสนใจ
    Offensive Security (OSCP, OSEP, OSCE, OSDA, OSEE): เน้นการเจาะระบบและการป้องกัน Cloud Security (CCSK): เหมาะกับผู้ดูแลระบบคลาวด์และ compliance
    Forensics (CSFA): เน้นการวิเคราะห์หลักฐานดิจิทัล
    Governance & Leadership (C|CISO): เหมาะกับผู้บริหารด้านความปลอดภัย

    แนวโน้มตลาดแรงงานและเงินเดือน
    ผู้ถือใบรับรองมีรายได้สูงกว่าผู้ไม่มีใบรับรอง 20–25% โดยเฉลี่ย
    ตำแหน่งในสหรัฐฯ เช่น CISO มีรายได้เฉลี่ยเกิน $240,000
    ประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่า $100,000
    ตลาดยุโรปตะวันออกเติบโตเร็วจากการขยายบริการความปลอดภัยแบบ outsource

    https://www.csoonline.com/article/3846312/11-hottest-it-security-certs-for-higher-pay-today.html
    🧠 ใบรับรองที่ไม่ใช่แค่กระดาษ: เส้นทางสู่เงินเดือนสูงในสายงาน Cybersecurity ปี 2025 ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นทุกวัน องค์กรต่าง ๆ ก็ต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะเฉพาะทางมากขึ้นเช่นกัน และหนึ่งในวิธีที่ชัดเจนที่สุดในการแสดงความสามารถคือ “ใบรับรอง” หรือ Certification ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ จากรายงานของ CSO Online และข้อมูลเสริมจากหลายแหล่ง พบว่าใบรับรองบางใบสามารถเพิ่มเงินเดือนเฉลี่ยได้ถึง 10–22% และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในสายงานที่เกี่ยวข้องกับการเจาะระบบ (penetration testing), การวิเคราะห์การบุกรุก (intrusion analysis), และการจัดการความเสี่ยงระดับองค์กร ตัวอย่างเช่น OSCP (Offensive Security Certified Professional) และ OSEP (Experienced Penetration Tester) ที่เน้นการทดสอบเจาะระบบแบบลงมือจริง หรือ CCSK (Certificate of Cloud Security Knowledge) ที่เน้นความรู้ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์แบบ vendor-neutral นอกจากนี้ ยังมีใบรับรองระดับผู้บริหารอย่าง C|CISO ที่เหมาะกับผู้จัดการและผู้บริหารที่ต้องการเข้าใจภาพรวมของการบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแลด้านความปลอดภัย สิ่งที่น่าสนใจคือ ใบรับรองเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มเงินเดือน แต่ยังเปิดประตูสู่ตำแหน่งใหม่ ๆ เช่น Threat Hunter, Incident Responder, หรือแม้แต่ CISO ในองค์กรขนาดใหญ่ ✅ ใบรับรองที่ให้ผลตอบแทนสูงในปี 2025 ➡️ OSCP: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2% ➡️ OSEP: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2% ➡️ CCSK: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2% ➡️ C|CISO: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 10% ➡️ GCIA: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1% ➡️ CSFA: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1% ➡️ OSDA และ OSEE: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1% ➡️ OSCE: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 12%, เติบโต 9.1% ✅ ประเภทของใบรับรองที่น่าสนใจ ➡️ Offensive Security (OSCP, OSEP, OSCE, OSDA, OSEE): เน้นการเจาะระบบและการป้องกัน ➡️ Cloud Security (CCSK): เหมาะกับผู้ดูแลระบบคลาวด์และ compliance ➡️ Forensics (CSFA): เน้นการวิเคราะห์หลักฐานดิจิทัล ➡️ Governance & Leadership (C|CISO): เหมาะกับผู้บริหารด้านความปลอดภัย ✅ แนวโน้มตลาดแรงงานและเงินเดือน ➡️ ผู้ถือใบรับรองมีรายได้สูงกว่าผู้ไม่มีใบรับรอง 20–25% โดยเฉลี่ย ➡️ ตำแหน่งในสหรัฐฯ เช่น CISO มีรายได้เฉลี่ยเกิน $240,000 ➡️ ประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่า $100,000 ➡️ ตลาดยุโรปตะวันออกเติบโตเร็วจากการขยายบริการความปลอดภัยแบบ outsource https://www.csoonline.com/article/3846312/11-hottest-it-security-certs-for-higher-pay-today.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    9 hottest IT security certs for higher pay today
    Cybersecurity certifications can pave a path to lucrative career advancement. But timing the job market with the right credentials can be challenging. Here are the certs providing the largest pay boosts right now.
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • มีกลิ่นแปลกๆอีกแล้วในวงการทหารไทยเรา,จุดสังเกตุ ภาค1เหตุใดไม่ใช้กำลังทหารทั้งหมดของตนผลักดันคนเขมรออกไปจากพื้นที่1:50,000ทั้งหมดเหมือนภาค2ที่ใช้มาตราส่วน1:50,000นั้น สมยอมช่วยเขมรมั้ย,โอกาสก่อนวันที่28ก.ค.คือ27ก็ได้ ทำไมไม่ปะทะเดือดขับไล่ทหารเขมร คนเขมรออกจากพื้นที่ดินแดนทุกๆกรณีก่อนทันที,ทั้งทหารเขมรเองเป็นจำนวนมากก็เคลื่อนทหารเขมรมันเป็นอันมากไปปะทะอีสานใต้ชายแดนรบแถวนั้นเสียมากกว่า กำลังทหารเขมาตรงบริเวณจุดนี้ถือว่าน้อยลงทันที ทหารไทยซึ่งมีจำนวนพลมากกว่าประจำภาค1ตนต้องมีมากแน่นอนพอๆกับภาค2เล็กน้อย,อาจปะทะเดือดแบบภูมะเขือหรือตาควายตาทมก็ตามเพื่อยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์ของตนคืนมาอย่างชัดเจน,ผลงานภาค1ถือว่าตกประเมิน หนองจานจุดเป็นข่าวมีชื่อเสียงอยู่แล้วจากคุณวีระยิ่งต้องดำเนินการให้เด็ดขาดรัดกุมยึดคืนมาทั้งหมดตามสันปันน้ำตามเขตแดนที่ปักมุดจริงทันที่ด้วยหรือสิทธิ1:50,000มาตราฐานสากลลาวเวียดนามไทยเราใช้ร่วมกัน,ภาค1เรามีเหตุอันต้องสงสัยจริงๆต่อยุทธการยึดดินแดนพื้นที่ไทยตนคืนจริงๆ,ล้อมรั้วลวดหนามอีก การข่าวการเส้นแดน เส้นขีดพรมแดนว่าหลักเขตแดนไทยอยู่จุดไหน ตั้งต้นล้อมที่ต้นหลักมุดนั้นๆโดยตรงทำไม่ได้จริงเหรอ,เป็นภูเขาหน้าผาเหรอ,หรือทางลาบบ้านเรือนคนเขมรกีดกั้นเกินไป,ทหารไทยต้องทุบทำลายทันทีที่สร้างขัดขวางทางลวดหนาม,ถ้าไม่ถูกต้องรื้อทิ้ง ล้อมใหม่ให้ถูกต้อง และต้องประกาศบอกผ่านสื่อแก่ประชาชนชัดเจนว่าจะต้องทำให้ถูกต้องไม่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตาควายมันติดปราสาท หนองจานติดปัญหาตัวปราสาทด้วยเหรอ ทหารเขมรอยู่ในตัวปราสาทแบบนั้นเหรอ,จึงจัดการเด็ดขาดไม่ได้ในการยึดพื้นที่ดินแดนไทยที่เป็นของไทยถูกต้องกลับคือมา,เสามุดหาย พิกัดละติจูดลองติจูดxyมีบันทึกหมดล่ะ,หากเจตนาล้อมรั้วลวดหนามไม่ตรงจุดตรงเส้นในค่าจริงเป็นความจริง,นี้คือเจตนาปฏิบัติหน้าที่ให้ไทยตนเองสูญเสียดินแดนพื้นที่อธิปไตยไทยตนเลยนะ,โทษสำเร็จทันที,ฮุนเซนฮุนมาเนตเอาสื่อลงไปเอาพยานลงไปถ่ายรูปถ่ายคลิปเป็นหลักฐานปลอมหลักฐานผิดให้เป็นจริงและช่วยยืนยันพท้นที่ที่มิใช่ของมันให้เป็นของมันเลยนะ.
    ..ทหารไทยภาค1 ต้องประกาศชัด อะไรที่เป็นพื้นที่ดินแดนไทยถึงตรงไหนจุดไหน คนเขมรต้องออกจากพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมดทันที, ตอบโต้คือผลักดันแรงงานเขมรทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายกลับประเทศเขมรทั้งหมดทันที,เขมรหมดความไว้วางใจไร้ความซื่อสัตย์ใดๆโดยภาพรวมแล้ว ไม่สามารถให้คนเขมรอยู่บนแผ่นดินไทยได้อีกต่อไปทุกๆกรณี.
    ..สำคัญต้องพูดแบบแม่ทัพภาค2ส่งบอกผ่านเขมรไปว่า จะยึดคืนดินแดนทั้งหมดที่เป็นของไทยกลับคืนมา อะไร ตรงไหน จุดใดถึงจุดไหนที่เป็นแผ่นดินของคนไทยจะยึดคืนทั้งหมด.

    https://youtube.com/watch?v=yn62aLUUYIo&si=G8mBVfZbQM8EIB7r
    มีกลิ่นแปลกๆอีกแล้วในวงการทหารไทยเรา,จุดสังเกตุ ภาค1เหตุใดไม่ใช้กำลังทหารทั้งหมดของตนผลักดันคนเขมรออกไปจากพื้นที่1:50,000ทั้งหมดเหมือนภาค2ที่ใช้มาตราส่วน1:50,000นั้น สมยอมช่วยเขมรมั้ย,โอกาสก่อนวันที่28ก.ค.คือ27ก็ได้ ทำไมไม่ปะทะเดือดขับไล่ทหารเขมร คนเขมรออกจากพื้นที่ดินแดนทุกๆกรณีก่อนทันที,ทั้งทหารเขมรเองเป็นจำนวนมากก็เคลื่อนทหารเขมรมันเป็นอันมากไปปะทะอีสานใต้ชายแดนรบแถวนั้นเสียมากกว่า กำลังทหารเขมาตรงบริเวณจุดนี้ถือว่าน้อยลงทันที ทหารไทยซึ่งมีจำนวนพลมากกว่าประจำภาค1ตนต้องมีมากแน่นอนพอๆกับภาค2เล็กน้อย,อาจปะทะเดือดแบบภูมะเขือหรือตาควายตาทมก็ตามเพื่อยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์ของตนคืนมาอย่างชัดเจน,ผลงานภาค1ถือว่าตกประเมิน หนองจานจุดเป็นข่าวมีชื่อเสียงอยู่แล้วจากคุณวีระยิ่งต้องดำเนินการให้เด็ดขาดรัดกุมยึดคืนมาทั้งหมดตามสันปันน้ำตามเขตแดนที่ปักมุดจริงทันที่ด้วยหรือสิทธิ1:50,000มาตราฐานสากลลาวเวียดนามไทยเราใช้ร่วมกัน,ภาค1เรามีเหตุอันต้องสงสัยจริงๆต่อยุทธการยึดดินแดนพื้นที่ไทยตนคืนจริงๆ,ล้อมรั้วลวดหนามอีก การข่าวการเส้นแดน เส้นขีดพรมแดนว่าหลักเขตแดนไทยอยู่จุดไหน ตั้งต้นล้อมที่ต้นหลักมุดนั้นๆโดยตรงทำไม่ได้จริงเหรอ,เป็นภูเขาหน้าผาเหรอ,หรือทางลาบบ้านเรือนคนเขมรกีดกั้นเกินไป,ทหารไทยต้องทุบทำลายทันทีที่สร้างขัดขวางทางลวดหนาม,ถ้าไม่ถูกต้องรื้อทิ้ง ล้อมใหม่ให้ถูกต้อง และต้องประกาศบอกผ่านสื่อแก่ประชาชนชัดเจนว่าจะต้องทำให้ถูกต้องไม่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตาควายมันติดปราสาท หนองจานติดปัญหาตัวปราสาทด้วยเหรอ ทหารเขมรอยู่ในตัวปราสาทแบบนั้นเหรอ,จึงจัดการเด็ดขาดไม่ได้ในการยึดพื้นที่ดินแดนไทยที่เป็นของไทยถูกต้องกลับคือมา,เสามุดหาย พิกัดละติจูดลองติจูดxyมีบันทึกหมดล่ะ,หากเจตนาล้อมรั้วลวดหนามไม่ตรงจุดตรงเส้นในค่าจริงเป็นความจริง,นี้คือเจตนาปฏิบัติหน้าที่ให้ไทยตนเองสูญเสียดินแดนพื้นที่อธิปไตยไทยตนเลยนะ,โทษสำเร็จทันที,ฮุนเซนฮุนมาเนตเอาสื่อลงไปเอาพยานลงไปถ่ายรูปถ่ายคลิปเป็นหลักฐานปลอมหลักฐานผิดให้เป็นจริงและช่วยยืนยันพท้นที่ที่มิใช่ของมันให้เป็นของมันเลยนะ. ..ทหารไทยภาค1 ต้องประกาศชัด อะไรที่เป็นพื้นที่ดินแดนไทยถึงตรงไหนจุดไหน คนเขมรต้องออกจากพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมดทันที, ตอบโต้คือผลักดันแรงงานเขมรทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายกลับประเทศเขมรทั้งหมดทันที,เขมรหมดความไว้วางใจไร้ความซื่อสัตย์ใดๆโดยภาพรวมแล้ว ไม่สามารถให้คนเขมรอยู่บนแผ่นดินไทยได้อีกต่อไปทุกๆกรณี. ..สำคัญต้องพูดแบบแม่ทัพภาค2ส่งบอกผ่านเขมรไปว่า จะยึดคืนดินแดนทั้งหมดที่เป็นของไทยกลับคืนมา อะไร ตรงไหน จุดใดถึงจุดไหนที่เป็นแผ่นดินของคนไทยจะยึดคืนทั้งหมด. https://youtube.com/watch?v=yn62aLUUYIo&si=G8mBVfZbQM8EIB7r
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • ย้อนดูเขมรอีกรอบ,มันก็กล้าเคลมสำเนียงคนลาวนะ.,เกินจริงๆเขมร,อย่าสงสารมันเลย,ที่เห็นๆน้ำตาเหี้ยสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ไหล เจ้าแม่เมียฮุนเซนคือต้นแบบคนเขมรทุกๆตัวล่ะ,จากนั้นก็พร้อมหักหลังแดกเนื้อมนุษย์คนนั้นลงท้องจระเข้แบบมันล่ะ,คนเขมรมีสะสมมากเกินไปบนแผ่นดินไทยก็เพราะนักการเมืองและเจ้าของกิจการทั้งหลายที่สุมหัวตกลงกันหมดแล้วว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามเรา ประเทศไทยนำโดยสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามมัน,กระบวนการชูสามนิ้วจึงเกิด กระบวนการนำเข้าคนเขมรคนพม่าอย่างมากล้นจึงเกิดผิดปกติในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา ไม่รวมนักการเมือง เจ้าของกิจการ คนราชการรัฐหาแดกเถื่อนๆกับคนพวกนี้ให้เกียจชังประเทศไทยสะสมความโกรธแค้นที่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากตัวแทนที่ชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐ คนราชการ นักการเมือง เจ้าของกิจการต่างๆนั้นอีก คือมันสามารถสุมหัวกันทำลายภายในประเทศไทยให้สำเร็จให้ได้นั้นเอง,ต่างชาติต่างด้าวเถื่อนๆไร้จิตสำนึกไร้คุณภาพจึงวิ่งมาไทยตรึม,ปัญหามากมายทางสังคมจึงเก็บสะสมถึงปัจจุบันอย่างมีนัยยะโคตรอันตรายต่อชาติบ้านเมืองเราเพราะเดอะแก๊งทีมสุมหัวทั้งหมดเหล่านี้ทั้งได้เงินทุนมหาศาลผ่านองค์กรสากลหน้านักบุญแก่ใจอำมหิตพฤติกรรมชั่วเลวแต่วาติกันนั้นล่ะ,

    ..สรุปก่อนวิกฤติสงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดจริงต้องเคลียร์คนต่างด้าวต่างชาติออกจากประเทศทั้งหมดทันที,แค่คนไทยก็ดูแลกันลำบากแล้วในบ้านเรา,รับเลี้ยงคนต่างด้าวต่างชาติมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอีก,แบบบังเบียดทรัพยากรตัวยาและสาระพัดในโรงพยาบาลเรานั้นล่ะ นี้ไม่รวมด้านอื่นๆข้อความสงบสุข ไว้เนื้อเชื่อใจอีก ดูสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติทั่วไทยเลย น้ำตก ภูดอย พม่า เขมรมั่วsexในป่าในน้ำตกไทบ้านคนไทยเต็มไปหมด มั่วยาบ้าคนละเม็ดวันละเม็ดโดยคนขายจับขึ้นทะเบียนก็ไม่ได้ โรงงานแหล่งผลิตก็ไม่ผ่าน อย. เสือกรัฐบาลอนุมัติอีก,โรงงานต่างชาติอีกรับพม่าเขมรเต็มโรงงานมิใช่แค่โรงงานคนไทย,คือเหี้ยหมด ต้องผลักดันออกทั้งหมด,อย่าพึ่งรับใครเข้ามาทดแทนเด็ดขาด,มีข่าวเอาแขกศรีลังกามาอีก ตัวพ่อเผาบ้านเผาเมืองเผาประเทศตัวจริงล่ะใครคิดสมองคิด,การจัดระเบียบยังเหี้ยในปัจจุบันทั้งระบบ,คนไทยตนเองตกงานยังแก้ไม่ได้ สั่งควบคุมเอกชนไม่ได้ ยังมีหน้ารับไปทั่ว,ไปดูข่าวคนศรีลังกาดีๆนะสันดานคนพวกนี้ธรรมดาน้อยเช่นกันขนาดไหน,นัยยะอันตรายโคตรๆนะ,กองโจรมีอาชีพของคนเกาะศรีลังกาธรรมดาที่ไหน,สมองก่อการร้ายทำลายเป้าหมายก็ใช่เล่น,เผ่าชนชั้นคนเกาะนี้แทรกซึมมาได้หมด,รับงานใครก็ได้จัดการไทยภายในอีกมาในรูปแบบแรงงาน,เข้าล้ำนะคนพวกนี้ จนมีองค์กรติดตามเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวอย่างเปิดเผยที่มีรัฐบาลสนับสนุน,ไม่กากนะ แม้คนโง่ไม่น้อยแต่ประวัติคือเผ่าพันธุ์ยักษ์และวานรอยู่เต็มเกาะแต่ยักษ์ปกครองส่วนพื้นที่มาก.



    https://youtube.com/watch?v=FA9Pg_dvSPk&si=5ZwSjun6TWhMRMV5
    ย้อนดูเขมรอีกรอบ,มันก็กล้าเคลมสำเนียงคนลาวนะ.,เกินจริงๆเขมร,อย่าสงสารมันเลย,ที่เห็นๆน้ำตาเหี้ยสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ไหล เจ้าแม่เมียฮุนเซนคือต้นแบบคนเขมรทุกๆตัวล่ะ,จากนั้นก็พร้อมหักหลังแดกเนื้อมนุษย์คนนั้นลงท้องจระเข้แบบมันล่ะ,คนเขมรมีสะสมมากเกินไปบนแผ่นดินไทยก็เพราะนักการเมืองและเจ้าของกิจการทั้งหลายที่สุมหัวตกลงกันหมดแล้วว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามเรา ประเทศไทยนำโดยสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามมัน,กระบวนการชูสามนิ้วจึงเกิด กระบวนการนำเข้าคนเขมรคนพม่าอย่างมากล้นจึงเกิดผิดปกติในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา ไม่รวมนักการเมือง เจ้าของกิจการ คนราชการรัฐหาแดกเถื่อนๆกับคนพวกนี้ให้เกียจชังประเทศไทยสะสมความโกรธแค้นที่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากตัวแทนที่ชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐ คนราชการ นักการเมือง เจ้าของกิจการต่างๆนั้นอีก คือมันสามารถสุมหัวกันทำลายภายในประเทศไทยให้สำเร็จให้ได้นั้นเอง,ต่างชาติต่างด้าวเถื่อนๆไร้จิตสำนึกไร้คุณภาพจึงวิ่งมาไทยตรึม,ปัญหามากมายทางสังคมจึงเก็บสะสมถึงปัจจุบันอย่างมีนัยยะโคตรอันตรายต่อชาติบ้านเมืองเราเพราะเดอะแก๊งทีมสุมหัวทั้งหมดเหล่านี้ทั้งได้เงินทุนมหาศาลผ่านองค์กรสากลหน้านักบุญแก่ใจอำมหิตพฤติกรรมชั่วเลวแต่วาติกันนั้นล่ะ, ..สรุปก่อนวิกฤติสงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดจริงต้องเคลียร์คนต่างด้าวต่างชาติออกจากประเทศทั้งหมดทันที,แค่คนไทยก็ดูแลกันลำบากแล้วในบ้านเรา,รับเลี้ยงคนต่างด้าวต่างชาติมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอีก,แบบบังเบียดทรัพยากรตัวยาและสาระพัดในโรงพยาบาลเรานั้นล่ะ นี้ไม่รวมด้านอื่นๆข้อความสงบสุข ไว้เนื้อเชื่อใจอีก ดูสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติทั่วไทยเลย น้ำตก ภูดอย พม่า เขมรมั่วsexในป่าในน้ำตกไทบ้านคนไทยเต็มไปหมด มั่วยาบ้าคนละเม็ดวันละเม็ดโดยคนขายจับขึ้นทะเบียนก็ไม่ได้ โรงงานแหล่งผลิตก็ไม่ผ่าน อย. เสือกรัฐบาลอนุมัติอีก,โรงงานต่างชาติอีกรับพม่าเขมรเต็มโรงงานมิใช่แค่โรงงานคนไทย,คือเหี้ยหมด ต้องผลักดันออกทั้งหมด,อย่าพึ่งรับใครเข้ามาทดแทนเด็ดขาด,มีข่าวเอาแขกศรีลังกามาอีก ตัวพ่อเผาบ้านเผาเมืองเผาประเทศตัวจริงล่ะใครคิดสมองคิด,การจัดระเบียบยังเหี้ยในปัจจุบันทั้งระบบ,คนไทยตนเองตกงานยังแก้ไม่ได้ สั่งควบคุมเอกชนไม่ได้ ยังมีหน้ารับไปทั่ว,ไปดูข่าวคนศรีลังกาดีๆนะสันดานคนพวกนี้ธรรมดาน้อยเช่นกันขนาดไหน,นัยยะอันตรายโคตรๆนะ,กองโจรมีอาชีพของคนเกาะศรีลังกาธรรมดาที่ไหน,สมองก่อการร้ายทำลายเป้าหมายก็ใช่เล่น,เผ่าชนชั้นคนเกาะนี้แทรกซึมมาได้หมด,รับงานใครก็ได้จัดการไทยภายในอีกมาในรูปแบบแรงงาน,เข้าล้ำนะคนพวกนี้ จนมีองค์กรติดตามเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวอย่างเปิดเผยที่มีรัฐบาลสนับสนุน,ไม่กากนะ แม้คนโง่ไม่น้อยแต่ประวัติคือเผ่าพันธุ์ยักษ์และวานรอยู่เต็มเกาะแต่ยักษ์ปกครองส่วนพื้นที่มาก. https://youtube.com/watch?v=FA9Pg_dvSPk&si=5ZwSjun6TWhMRMV5
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกไอที: จากเงินเดือนแสนห้า สู่การสมัครงานที่ Chipotle

    ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน ถ้าคุณเรียนจบด้านคอมพิวเตอร์ วิทยาการข้อมูล หรือวิศวกรรมซอฟต์แวร์ คุณแทบจะเลือกได้เลยว่าจะทำงานที่ไหน เงินเดือนเริ่มต้นทะลุ $100,000 พร้อมโบนัสและหุ้นอีกหลายหมื่นดอลลาร์ หลายคนจึงมุ่งหน้าเข้าสู่สายนี้ด้วยความหวังว่าจะได้งานดี เงินดี และชีวิตมั่นคง

    แต่ในปี 2025 ภาพนั้นกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

    นักศึกษาจบใหม่อย่าง Manasi Mishra จากมหาวิทยาลัย Purdue เล่าว่าเธอเรียนเขียนโค้ดมาตั้งแต่เด็ก ทำเว็บไซต์ตั้งแต่ประถม และตั้งใจเรียนสายคอมเต็มที่ แต่หลังจากจบการศึกษา เธอกลับไม่ได้รับข้อเสนอจากบริษัทเทคโนโลยีเลย มีเพียง Chipotle ร้านอาหารที่เรียกเธอไปสัมภาษณ์

    เหตุผลหลักคือบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Amazon, Microsoft, Meta และ Intel ต่างลดจำนวนพนักงาน และหันไปใช้เครื่องมือ AI ที่สามารถเขียนโค้ดได้เอง เช่น GitHub Copilot, CodeRabbit หรือ Devin จาก Cognition AI ซึ่งสามารถเขียนและดีบักโค้ดได้จากคำสั่งภาษาธรรมชาติ

    ผลคือ ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นที่เคยเปิดรับนักศึกษาจบใหม่ ถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ และทำให้คนรุ่นใหม่ต้องหางานนอกสายที่เรียนมา บางคนสมัครงานที่ McDonald’s แต่ยังถูกปฏิเสธเพราะ “ไม่มีประสบการณ์”

    แม้จะมีความหวังว่า AI จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ แต่ในระยะสั้น นักศึกษาจบใหม่กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรง การคัดกรองด้วยระบบอัตโนมัติ และความรู้สึกว่าถูก “หลอก” ให้เรียนในสายที่ไม่มีงานรองรับ

    ความเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานสายเทคโนโลยี
    บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ลดจำนวนพนักงานและหันไปใช้ AI coding tools
    ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นถูกลดลงอย่างมาก ทำให้นักศึกษาจบใหม่หางานยาก

    ความคาดหวังในอดีตที่ไม่เป็นจริง
    นักศึกษาถูกกระตุ้นให้เรียนเขียนโค้ดด้วยสัญญาว่าจะได้งานเงินเดือนสูง
    จำนวนผู้เรียนสายคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

    การใช้ AI ในการเขียนโค้ดและคัดกรองผู้สมัคร
    เครื่องมืออย่าง GitHub Copilot, CodeRabbit, Devin สามารถเขียนโค้ดได้จากคำสั่งภาษา
    บริษัทใช้ AI คัดกรองใบสมัคร ทำให้ผู้สมัครถูกปฏิเสธโดยไม่มีโอกาสแสดงความสามารถ

    ความพยายามปรับตัวของนักศึกษาจบใหม่
    บางคนหันไปเน้นทักษะมนุษย์ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้โดดเด่น
    บางคนเปลี่ยนสายงาน เช่น Mishra ที่หันไปทำงานด้านการขายเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/14/goodbye-us165000-tech-jobs-student-coders-seek-work-at-chipotle
    🎙️เรื่องเล่าจากโลกไอที: จากเงินเดือนแสนห้า สู่การสมัครงานที่ Chipotle ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน ถ้าคุณเรียนจบด้านคอมพิวเตอร์ วิทยาการข้อมูล หรือวิศวกรรมซอฟต์แวร์ คุณแทบจะเลือกได้เลยว่าจะทำงานที่ไหน เงินเดือนเริ่มต้นทะลุ $100,000 พร้อมโบนัสและหุ้นอีกหลายหมื่นดอลลาร์ หลายคนจึงมุ่งหน้าเข้าสู่สายนี้ด้วยความหวังว่าจะได้งานดี เงินดี และชีวิตมั่นคง แต่ในปี 2025 ภาพนั้นกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นักศึกษาจบใหม่อย่าง Manasi Mishra จากมหาวิทยาลัย Purdue เล่าว่าเธอเรียนเขียนโค้ดมาตั้งแต่เด็ก ทำเว็บไซต์ตั้งแต่ประถม และตั้งใจเรียนสายคอมเต็มที่ แต่หลังจากจบการศึกษา เธอกลับไม่ได้รับข้อเสนอจากบริษัทเทคโนโลยีเลย มีเพียง Chipotle ร้านอาหารที่เรียกเธอไปสัมภาษณ์ เหตุผลหลักคือบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Amazon, Microsoft, Meta และ Intel ต่างลดจำนวนพนักงาน และหันไปใช้เครื่องมือ AI ที่สามารถเขียนโค้ดได้เอง เช่น GitHub Copilot, CodeRabbit หรือ Devin จาก Cognition AI ซึ่งสามารถเขียนและดีบักโค้ดได้จากคำสั่งภาษาธรรมชาติ ผลคือ ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นที่เคยเปิดรับนักศึกษาจบใหม่ ถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ และทำให้คนรุ่นใหม่ต้องหางานนอกสายที่เรียนมา บางคนสมัครงานที่ McDonald’s แต่ยังถูกปฏิเสธเพราะ “ไม่มีประสบการณ์” แม้จะมีความหวังว่า AI จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ แต่ในระยะสั้น นักศึกษาจบใหม่กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรง การคัดกรองด้วยระบบอัตโนมัติ และความรู้สึกว่าถูก “หลอก” ให้เรียนในสายที่ไม่มีงานรองรับ ✅ ความเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานสายเทคโนโลยี ➡️ บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ลดจำนวนพนักงานและหันไปใช้ AI coding tools ➡️ ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นถูกลดลงอย่างมาก ทำให้นักศึกษาจบใหม่หางานยาก ✅ ความคาดหวังในอดีตที่ไม่เป็นจริง ➡️ นักศึกษาถูกกระตุ้นให้เรียนเขียนโค้ดด้วยสัญญาว่าจะได้งานเงินเดือนสูง ➡️ จำนวนผู้เรียนสายคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ✅ การใช้ AI ในการเขียนโค้ดและคัดกรองผู้สมัคร ➡️ เครื่องมืออย่าง GitHub Copilot, CodeRabbit, Devin สามารถเขียนโค้ดได้จากคำสั่งภาษา ➡️ บริษัทใช้ AI คัดกรองใบสมัคร ทำให้ผู้สมัครถูกปฏิเสธโดยไม่มีโอกาสแสดงความสามารถ ✅ ความพยายามปรับตัวของนักศึกษาจบใหม่ ➡️ บางคนหันไปเน้นทักษะมนุษย์ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้โดดเด่น ➡️ บางคนเปลี่ยนสายงาน เช่น Mishra ที่หันไปทำงานด้านการขายเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/14/goodbye-us165000-tech-jobs-student-coders-seek-work-at-chipotle
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Goodbye, US$165,000 tech jobs. Student coders seek work at Chipotle.
    As companies like Amazon and Microsoft lay off workers and embrace A.I. coding tools, computer science graduates say they're struggling to land tech jobs.
    0 Comments 0 Shares 189 Views 0 Reviews
  • “กองทัพบก” เข้มชายแดน! รวบแรงงานเขมรเกือบ 200 คน...หนีวิกฤตเศรษฐกิจ...หลังถูกหลอกให้กลับประเทศ
    https://www.thai-tai.tv/news/20929/
    .
    #กองทัพบก #แรงงานต่างด้าว #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวความมั่นคง #สระแก้ว #ไทยไท

    “กองทัพบก” เข้มชายแดน! รวบแรงงานเขมรเกือบ 200 คน...หนีวิกฤตเศรษฐกิจ...หลังถูกหลอกให้กลับประเทศ https://www.thai-tai.tv/news/20929/ . #กองทัพบก #แรงงานต่างด้าว #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวความมั่นคง #สระแก้ว #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • ตัดต่อมาจากเกมส์หรือaiสร้างหรือเปล่า,BHQจริงๆตายเน่าเต็มพรมแดนอาจจะหมดแล้วด้วย,เหลือจริงๆแค่คุ้มครองบ้านฮุนเซนแค่นั่นล่ะ ขนมาภูมะเขือเป็นพันเป็นหมื่นแล้ว ทิ้งไข่ลงก็เฝ้าคงที่ในสนามรบแล้ว,แต่ถ้าทหารอื่นบวกใส่ชุดทหารเขมรสดๆร้อนแบบพวกแรงงานเขมรในไทยกลับเขมรก็อาจเข้าใจได้,ตลอดแนวชายแดนเขมรตอนนี้ ทหารเขมรน่าจะอยู่ติดแนวชายแดนอาจกว่า100,000นายแล้วจริงๆก็ด้วย,ฮุนเซนเผด็จการตัวพ่อ มันบังคับจับประชาชนใส่ชุดทหารมาชายแดนแนวรบพรมแดนเขมรกับไทยแน่นอน,ทั้งประชาชนที่ล้างสมองเกลียดไทยเต็มที่แล้วก็มาด้วย,พวกวางกับระเบิดบนทางเดินลาดตะเวนเรานั่นล่ะคือตัวอย่าง ทั้งแค้นและโกรธเกลียดแน่นอน.
    ..ทหารไทยเราแจกกฐินสามัคคีจริงๆเถอะ ลาว เขมรต้องจัดการเขมรด้วยเป็นอันมาก,อย่าสนวิธีการเลยชวนกันมารุมเหยียบเขมรเลย,ดูตอนมันยิงใส่บ้านเรือนประชาชนคนไทยสิ ไม่มีปี่มีขลุ่ยอะไร เปิดก่อนก่อสงครามชวนไทยรบเฉยเลย,ไทยก็สั่งหนังสือเชิญและชวนลาวชวนเวียดนามมาร่วมกำจัดประเทศอาชญากรรมของโลกด้วยกันก็ว่า,เขมรยังเชิญชวนอเมริกาแบบหน้ามึนหน้าด้านมาปกป้องเขมรมันเลย,ทั้งที่มันผิดก่อนเปิดก่อนชัดเจน ยึดดินแดนไทยจริงกว่า11จุดอีก รัฐบาลไทยยังไม่รู้สึกตัวพะนะ,อย่าผลักดันเขมร อย่าตอบโต้เขมร ทหารไทยขาขาดจะตอบโต้ทำไมมันว่า นี้ก่อนเกิดสงครามวันที่24ก.ค68นะ,


    https://youtube.com/watch?v=Q6deoin8bFQ&si=zy85jRG7W5PRz5iT
    ตัดต่อมาจากเกมส์หรือaiสร้างหรือเปล่า,BHQจริงๆตายเน่าเต็มพรมแดนอาจจะหมดแล้วด้วย,เหลือจริงๆแค่คุ้มครองบ้านฮุนเซนแค่นั่นล่ะ ขนมาภูมะเขือเป็นพันเป็นหมื่นแล้ว ทิ้งไข่ลงก็เฝ้าคงที่ในสนามรบแล้ว,แต่ถ้าทหารอื่นบวกใส่ชุดทหารเขมรสดๆร้อนแบบพวกแรงงานเขมรในไทยกลับเขมรก็อาจเข้าใจได้,ตลอดแนวชายแดนเขมรตอนนี้ ทหารเขมรน่าจะอยู่ติดแนวชายแดนอาจกว่า100,000นายแล้วจริงๆก็ด้วย,ฮุนเซนเผด็จการตัวพ่อ มันบังคับจับประชาชนใส่ชุดทหารมาชายแดนแนวรบพรมแดนเขมรกับไทยแน่นอน,ทั้งประชาชนที่ล้างสมองเกลียดไทยเต็มที่แล้วก็มาด้วย,พวกวางกับระเบิดบนทางเดินลาดตะเวนเรานั่นล่ะคือตัวอย่าง ทั้งแค้นและโกรธเกลียดแน่นอน. ..ทหารไทยเราแจกกฐินสามัคคีจริงๆเถอะ ลาว เขมรต้องจัดการเขมรด้วยเป็นอันมาก,อย่าสนวิธีการเลยชวนกันมารุมเหยียบเขมรเลย,ดูตอนมันยิงใส่บ้านเรือนประชาชนคนไทยสิ ไม่มีปี่มีขลุ่ยอะไร เปิดก่อนก่อสงครามชวนไทยรบเฉยเลย,ไทยก็สั่งหนังสือเชิญและชวนลาวชวนเวียดนามมาร่วมกำจัดประเทศอาชญากรรมของโลกด้วยกันก็ว่า,เขมรยังเชิญชวนอเมริกาแบบหน้ามึนหน้าด้านมาปกป้องเขมรมันเลย,ทั้งที่มันผิดก่อนเปิดก่อนชัดเจน ยึดดินแดนไทยจริงกว่า11จุดอีก รัฐบาลไทยยังไม่รู้สึกตัวพะนะ,อย่าผลักดันเขมร อย่าตอบโต้เขมร ทหารไทยขาขาดจะตอบโต้ทำไมมันว่า นี้ก่อนเกิดสงครามวันที่24ก.ค68นะ, https://youtube.com/watch?v=Q6deoin8bFQ&si=zy85jRG7W5PRz5iT
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงนามโดย “ภูมิธรรม” ยกเว้นข้อห้ามเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้แรงงานกัมพูชาที่ถือบัตรผ่านแดนและได้รับอนุญาตทำงานในจังหวัดชายแดน สามารถอยู่ต่อในไทยได้ 6 เดือน ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม แม้การอนุญาตเดิมสิ้นสุดลงตั้งแต่ 7 มิ.ย.68

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077016

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงนามโดย “ภูมิธรรม” ยกเว้นข้อห้ามเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้แรงงานกัมพูชาที่ถือบัตรผ่านแดนและได้รับอนุญาตทำงานในจังหวัดชายแดน สามารถอยู่ต่อในไทยได้ 6 เดือน ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม แม้การอนุญาตเดิมสิ้นสุดลงตั้งแต่ 7 มิ.ย.68 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077016 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 341 Views 0 Reviews
  • บอร์ดประกันสังคมเคาะงบ 5 พันล้าน! ข้องใจ 'บุญสงค์' ยังนั่งประธานแม้ย้ายไปสำนักนายกฯ ส.ส. จี้ถาม รมว.แรงงาน เล่นละคร? งบพันล้านไม่ผ่านสภา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000077078

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    บอร์ดประกันสังคมเคาะงบ 5 พันล้าน! ข้องใจ 'บุญสงค์' ยังนั่งประธานแม้ย้ายไปสำนักนายกฯ ส.ส. จี้ถาม รมว.แรงงาน เล่นละคร? งบพันล้านไม่ผ่านสภา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000077078 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 739 Views 0 Reviews
  • ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงนามโดย “ภูมิธรรม” ยกเว้นข้อห้ามเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้แรงงานกัมพูชาที่ถือบัตรผ่านแดนและได้รับอนุญาตทำงานในจังหวัดชายแดน สามารถอยู่ต่อในไทยได้ 6 เดือน ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม แม้การอนุญาตเดิมสิ้นสุดลงตั้งแต่ 7 มิ.ย.68
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000077050

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงนามโดย “ภูมิธรรม” ยกเว้นข้อห้ามเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้แรงงานกัมพูชาที่ถือบัตรผ่านแดนและได้รับอนุญาตทำงานในจังหวัดชายแดน สามารถอยู่ต่อในไทยได้ 6 เดือน ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม แม้การอนุญาตเดิมสิ้นสุดลงตั้งแต่ 7 มิ.ย.68 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000077050 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 702 Views 0 Reviews
  • “ภูมิธรรม” สั่งผ่อนผัน! อนุญาตแรงงานเขมรอยู่ในไทย 6 เดือน...อ้างเหตุผล “ด้านมนุษยธรรม”...หลังชายแดนเดือดจนกลับประเทศไม่ได้
    https://www.thai-tai.tv/news/20902/
    .
    #ภูมิธรรมเวชยชัย #แรงงานกัมพูชา #ราชกิจจานุเบกษา #กระทรวงมหาดไทย #ข่าวการเมือง #ไทยไท

    “ภูมิธรรม” สั่งผ่อนผัน! อนุญาตแรงงานเขมรอยู่ในไทย 6 เดือน...อ้างเหตุผล “ด้านมนุษยธรรม”...หลังชายแดนเดือดจนกลับประเทศไม่ได้ https://www.thai-tai.tv/news/20902/ . #ภูมิธรรมเวชยชัย #แรงงานกัมพูชา #ราชกิจจานุเบกษา #กระทรวงมหาดไทย #ข่าวการเมือง #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • เขมรไม่หยุดส่งสายลับ
    ปะปนในร่างแรงงาน
    ล่าสุดปลอมเป็นพระ
    มาขอจำวัดที่ฉะเชิงเทรา
    ตำรวจจับสึก ส่งกลับเขมรทันที
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เขมรไม่หยุดส่งสายลับ ปะปนในร่างแรงงาน ล่าสุดปลอมเป็นพระ มาขอจำวัดที่ฉะเชิงเทรา ตำรวจจับสึก ส่งกลับเขมรทันที #คิงส์โพธิ์แดง
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • สื่อต่างประเทศเผยแพร่รายงาน ระบุแรงงานกัมพูชากำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอน หลังแห่แหนเดินทางกลับประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างกัมพูชาและไทย บางส่วนถึงขั้นโอดครวญเกี่ยวกับการมีชีวิตรอด หลังต้องสูญเสียรายได้เลี้ยงดูครอบครัว จากการที่ต้องออกจากการทำงานในไทย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076629

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire


    สื่อต่างประเทศเผยแพร่รายงาน ระบุแรงงานกัมพูชากำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอน หลังแห่แหนเดินทางกลับประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างกัมพูชาและไทย บางส่วนถึงขั้นโอดครวญเกี่ยวกับการมีชีวิตรอด หลังต้องสูญเสียรายได้เลี้ยงดูครอบครัว จากการที่ต้องออกจากการทำงานในไทย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076629 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 693 Views 0 Reviews
More Results