• เรื่องเล่าจากข่าว: นักวิจัย AI กับค่าตัวระดับ NBA—เมื่อสมองกลายเป็นสินทรัพย์ที่แพงที่สุดในโลก

    Matt Deitke นักวิจัย AI วัย 24 ปี ได้รับข้อเสนอจาก Mark Zuckerberg ให้เข้าร่วมทีมวิจัย “superintelligence” ของ Meta ด้วยค่าตอบแทนสูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ใน 4 ปี—มากกว่าสัญญาของ Steph Curry กับทีม Golden State Warriors เสียอีก

    นี่ไม่ใช่กรณีเดียว เพราะบริษัทใหญ่อย่าง Meta, Google, Microsoft และ OpenAI กำลังแข่งขันกันดึงตัวนักวิจัย AI ด้วยข้อเสนอระดับ “ไม่มีเพดานเงินเดือน” พร้อมโบนัส, หุ้น, และสิทธิพิเศษที่ฟังดูเหมือนการจีบซูเปอร์สตาร์กีฬา

    การแย่งชิงนี้เกิดจากความขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ด้าน deep learning และการสร้างระบบ AI ขั้นสูง ซึ่งต้องใช้ทั้งประสบการณ์และทรัพยากรคอมพิวเตอร์มหาศาลที่มีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้น

    Matt Deitke ได้รับข้อเสนอจาก Meta มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ใน 4 ปี เพื่อร่วมทีมวิจัย AI
    มีเงินสดถึง 100 ล้านดอลลาร์จ่ายในปีแรก
    ข้อเสนอถูกเปรียบเทียบว่าแพงกว่าสัญญานักบาส NBA

    บริษัทเทคโนโลยีใหญ่กำลังแข่งขันกันดึงตัวนักวิจัย AI ด้วยข้อเสนอระดับร้อยล้านดอลลาร์
    ไม่มีเพดานเงินเดือนเหมือนทีมกีฬา
    ใช้กลยุทธ์แบบ “เจ้าของทีม” เพื่อจีบผู้มีพรสวรรค์

    การแย่งชิงบุคลากร AI กลายเป็นปรากฏการณ์บนโซเชียลมีเดีย คล้ายช่วงซื้อขายนักกีฬา
    มีการโพสต์กราฟิกแนว ESPN เพื่อประกาศการ “ย้ายทีม”
    ผู้คนติดตามการย้ายงานของนักวิจัยเหมือนติดตามกีฬา

    นักวิจัย AI รุ่นใหม่ใช้ “เอเจนต์” และทีมที่ปรึกษาในการต่อรองค่าตอบแทน
    คล้ายกับนักกีฬาอาชีพที่มีทีมดูแลสัญญา
    มีการวางแผนกลยุทธ์เพื่อให้ได้ข้อเสนอสูงสุด

    ความขาดแคลนบุคลากรที่เชี่ยวชาญ AI ขั้นสูงเป็นแรงผลักดันให้ค่าตอบแทนพุ่งสูง
    ระบบ AI ต้องใช้ข้อมูลมหาศาลและทรัพยากรคอมพิวเตอร์ระดับสูง
    มีเพียงไม่กี่คนที่มีประสบการณ์กับระบบระดับนี้

    นักวิจัย AI ระดับสูงใน OpenAI และ Google ได้รับค่าตอบแทนเฉลี่ย 10–20 ล้านดอลลาร์ต่อปี
    รวมโบนัส, หุ้น, และสิทธิพิเศษ
    บางรายได้รับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเพื่อเจรจาสัญญา

    การเปิดตัว ChatGPT ในปี 2022 เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตลาดแรงงาน AI พุ่งทะยาน
    บริษัทต่าง ๆ เร่งลงทุนเพื่อเป็นผู้นำด้าน AI
    ทำให้ความต้องการบุคลากรเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด

    บางนักวิจัยเลือกปฏิเสธข้อเสนอใหญ่เพื่อสร้างสตาร์ทอัพของตัวเอง
    ต้องการอิสระในการวิจัยและพัฒนา
    มองว่าการสร้างนวัตกรรมต้องเริ่มจากความเชื่อ ไม่ใช่เงิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/02/ai-researchers-are-negotiating-us250mil-pay-packages-just-like-nba-stars
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: นักวิจัย AI กับค่าตัวระดับ NBA—เมื่อสมองกลายเป็นสินทรัพย์ที่แพงที่สุดในโลก Matt Deitke นักวิจัย AI วัย 24 ปี ได้รับข้อเสนอจาก Mark Zuckerberg ให้เข้าร่วมทีมวิจัย “superintelligence” ของ Meta ด้วยค่าตอบแทนสูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ใน 4 ปี—มากกว่าสัญญาของ Steph Curry กับทีม Golden State Warriors เสียอีก นี่ไม่ใช่กรณีเดียว เพราะบริษัทใหญ่อย่าง Meta, Google, Microsoft และ OpenAI กำลังแข่งขันกันดึงตัวนักวิจัย AI ด้วยข้อเสนอระดับ “ไม่มีเพดานเงินเดือน” พร้อมโบนัส, หุ้น, และสิทธิพิเศษที่ฟังดูเหมือนการจีบซูเปอร์สตาร์กีฬา การแย่งชิงนี้เกิดจากความขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ด้าน deep learning และการสร้างระบบ AI ขั้นสูง ซึ่งต้องใช้ทั้งประสบการณ์และทรัพยากรคอมพิวเตอร์มหาศาลที่มีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้น ✅ Matt Deitke ได้รับข้อเสนอจาก Meta มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ใน 4 ปี เพื่อร่วมทีมวิจัย AI ➡️ มีเงินสดถึง 100 ล้านดอลลาร์จ่ายในปีแรก ➡️ ข้อเสนอถูกเปรียบเทียบว่าแพงกว่าสัญญานักบาส NBA ✅ บริษัทเทคโนโลยีใหญ่กำลังแข่งขันกันดึงตัวนักวิจัย AI ด้วยข้อเสนอระดับร้อยล้านดอลลาร์ ➡️ ไม่มีเพดานเงินเดือนเหมือนทีมกีฬา ➡️ ใช้กลยุทธ์แบบ “เจ้าของทีม” เพื่อจีบผู้มีพรสวรรค์ ✅ การแย่งชิงบุคลากร AI กลายเป็นปรากฏการณ์บนโซเชียลมีเดีย คล้ายช่วงซื้อขายนักกีฬา ➡️ มีการโพสต์กราฟิกแนว ESPN เพื่อประกาศการ “ย้ายทีม” ➡️ ผู้คนติดตามการย้ายงานของนักวิจัยเหมือนติดตามกีฬา ✅ นักวิจัย AI รุ่นใหม่ใช้ “เอเจนต์” และทีมที่ปรึกษาในการต่อรองค่าตอบแทน ➡️ คล้ายกับนักกีฬาอาชีพที่มีทีมดูแลสัญญา ➡️ มีการวางแผนกลยุทธ์เพื่อให้ได้ข้อเสนอสูงสุด ✅ ความขาดแคลนบุคลากรที่เชี่ยวชาญ AI ขั้นสูงเป็นแรงผลักดันให้ค่าตอบแทนพุ่งสูง ➡️ ระบบ AI ต้องใช้ข้อมูลมหาศาลและทรัพยากรคอมพิวเตอร์ระดับสูง ➡️ มีเพียงไม่กี่คนที่มีประสบการณ์กับระบบระดับนี้ ✅ นักวิจัย AI ระดับสูงใน OpenAI และ Google ได้รับค่าตอบแทนเฉลี่ย 10–20 ล้านดอลลาร์ต่อปี ➡️ รวมโบนัส, หุ้น, และสิทธิพิเศษ ➡️ บางรายได้รับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเพื่อเจรจาสัญญา ✅ การเปิดตัว ChatGPT ในปี 2022 เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตลาดแรงงาน AI พุ่งทะยาน ➡️ บริษัทต่าง ๆ เร่งลงทุนเพื่อเป็นผู้นำด้าน AI ➡️ ทำให้ความต้องการบุคลากรเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ✅ บางนักวิจัยเลือกปฏิเสธข้อเสนอใหญ่เพื่อสร้างสตาร์ทอัพของตัวเอง ➡️ ต้องการอิสระในการวิจัยและพัฒนา ➡️ มองว่าการสร้างนวัตกรรมต้องเริ่มจากความเชื่อ ไม่ใช่เงิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/02/ai-researchers-are-negotiating-us250mil-pay-packages-just-like-nba-stars
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI researchers are negotiating US$250mil pay packages. Just like NBA stars
    They have been aided by scarcity: Only a small pool of people have the technical know-how and experience to work on advanced artificial intelligence systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ส่งต่อความห่วงใย มอบข้าวโอ๊ตผ่านกระทรวงแรงงาน กระจายสู่พื้นที่ประสบอุทกภัย 11 จังหวัด
    https://www.thai-tai.tv/news/20696/
    .
    #ไทยไท #มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ #กระทรวงแรงงาน #น้ำท่วม #อุทกภัย #พายุวิภา #ช่วยเหลือผู้ประสบภัย #น้ำใจคนไทย #ข้าวโอ๊ต
    มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ส่งต่อความห่วงใย มอบข้าวโอ๊ตผ่านกระทรวงแรงงาน กระจายสู่พื้นที่ประสบอุทกภัย 11 จังหวัด https://www.thai-tai.tv/news/20696/ . #ไทยไท #มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ #กระทรวงแรงงาน #น้ำท่วม #อุทกภัย #พายุวิภา #ช่วยเหลือผู้ประสบภัย #น้ำใจคนไทย #ข้าวโอ๊ต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่านบ้านแหลมวุ่น! หญิงกัมพูชาเจ็บท้องใกล้คลอดกลางฝูงแรงงานนับพันรอข้ามแดนกลับประเทศ โชคดีเจ้าหน้าที่เร่งประสานส่งตัวข้ามแดนได้ทันเวลา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072811

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ด่านบ้านแหลมวุ่น! หญิงกัมพูชาเจ็บท้องใกล้คลอดกลางฝูงแรงงานนับพันรอข้ามแดนกลับประเทศ โชคดีเจ้าหน้าที่เร่งประสานส่งตัวข้ามแดนได้ทันเวลา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072811 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลืมการปอกหอมแดงแบบเดิมๆ ไปได้เลย!
    ปัญหาโลกแตกของพ่อค้าแม่ค้าอาหารและโรงงานแปรรูป คือการต้องมานั่งปอกและหั่นหอมแดงทีละลูกให้แสบตา เสียเวลา เสียแรงงาน

    แต่ถ้ามีวิธีที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นล่ะ?

    ขอแนะนำ "เครื่องหั่นมันฝรั่งและสไลด์หอมแดงอเนกประสงค์" จาก ย.ย่งฮะเฮง

    เครื่องนี้จะเปลี่ยนงานที่น่าเบื่อให้กลายเป็นเรื่องง่าย! เพราะคุณสามารถสไลด์หอมแดงได้เลย ไม่ต้องปอกเปลือก!

    เพียงแค่ใส่หอมแดงทั้งหัวเข้าเครื่อง ก็ได้ชิ้นสไลด์บางสวย พร้อมนำไปใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นหอมเจียว หรือวัตถุดิบทำน้ำพริก ประหยัดเวลาได้มหาศาล! เพิ่มกำลังการผลิตให้ธุรกิจโตแบบก้าวกระโดด!

    ทำไมเครื่องนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ?
    ประหยัดเวลาและแรงงาน: หั่นได้ 100-300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง
    สารพัดประโยชน์: หั่นได้ทั้งมันฝรั่ง แครอท กระชาย ขิง และหอมแดง
    คุณภาพสม่ำเสมอ: ได้ชิ้นงานสวยเท่ากันทุกชิ้น
    ปรับความหนาได้: ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเมนูอาหาร

    รายละเอียดทางเทคนิคของรุ่น
    - กำลังมอเตอร์: 1 HP
    - แรงดันไฟฟ้า: 220 V.
    - ขนาด: 78 x 74 x 99 ซม.
    - น้ำหนัก: 45 กก.

    เปลี่ยนงานหนักให้เป็นงานง่ายได้แล้ววันนี้!

    สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติม:
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098
    Facebook Messenger: m.me/yonghahheng
    LINE Official Account: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com

    เวลาทำการ:
    จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    เสาร์: 8.00 - 16.00 น.

    แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/4ppsHfy3NYb1uPPu6

    #เครื่องหั่น #เครื่องสไลด์ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นหอมแดง #เครื่องครัว #เครื่องครัวมืออาชีพ #อุปกรณ์ทำอาหาร #ธุรกิจอาหาร #ร้านอาหาร #โรงงานแปรรูป #หอมเจียว #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #สแตนเลส #ยงฮะเฮง #yoryonghahheng #foodprocessor #foodcutter
    🔥🔥 ลืมการปอกหอมแดงแบบเดิมๆ ไปได้เลย! 🔥🔥 ปัญหาโลกแตกของพ่อค้าแม่ค้าอาหารและโรงงานแปรรูป คือการต้องมานั่งปอกและหั่นหอมแดงทีละลูกให้แสบตา เสียเวลา เสียแรงงาน แต่ถ้ามีวิธีที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นล่ะ? ขอแนะนำ "เครื่องหั่นมันฝรั่งและสไลด์หอมแดงอเนกประสงค์" จาก ย.ย่งฮะเฮง เครื่องนี้จะเปลี่ยนงานที่น่าเบื่อให้กลายเป็นเรื่องง่าย! เพราะคุณสามารถสไลด์หอมแดงได้เลย ไม่ต้องปอกเปลือก! เพียงแค่ใส่หอมแดงทั้งหัวเข้าเครื่อง ก็ได้ชิ้นสไลด์บางสวย พร้อมนำไปใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นหอมเจียว หรือวัตถุดิบทำน้ำพริก ⏱️ ประหยัดเวลาได้มหาศาล! เพิ่มกำลังการผลิตให้ธุรกิจโตแบบก้าวกระโดด! ทำไมเครื่องนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ? ✅ ประหยัดเวลาและแรงงาน: หั่นได้ 100-300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ✅ สารพัดประโยชน์: หั่นได้ทั้งมันฝรั่ง แครอท กระชาย ขิง และหอมแดง ✅ คุณภาพสม่ำเสมอ: ได้ชิ้นงานสวยเท่ากันทุกชิ้น ✅ ปรับความหนาได้: ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเมนูอาหาร รายละเอียดทางเทคนิคของรุ่น - กำลังมอเตอร์: 1 HP - แรงดันไฟฟ้า: 220 V. - ขนาด: 78 x 74 x 99 ซม. - น้ำหนัก: 45 กก. เปลี่ยนงานหนักให้เป็นงานง่ายได้แล้ววันนี้! สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติม: โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098 Facebook Messenger: m.me/yonghahheng LINE Official Account: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com อีเมล: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. เสาร์: 8.00 - 16.00 น. แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/4ppsHfy3NYb1uPPu6 #เครื่องหั่น #เครื่องสไลด์ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นหอมแดง #เครื่องครัว #เครื่องครัวมืออาชีพ #อุปกรณ์ทำอาหาร #ธุรกิจอาหาร #ร้านอาหาร #โรงงานแปรรูป #หอมเจียว #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #สแตนเลส #ยงฮะเฮง #yoryonghahheng #foodprocessor #foodcutter
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสนามโค้ด: เมื่อ vibe coding คือการรูดบัตรเครดิตโดยไม่รู้ยอดหนี้

    “Vibe coding” เป็นคำที่ Andrej Karpathy นิยามไว้ในต้นปี 2025 หมายถึงการเขียนโค้ดด้วย AI โดยไม่ต้องเข้าใจโค้ดทั้งหมด—แค่บอกสิ่งที่ต้องการ แล้วปล่อยให้ LLM (เช่น GPT-4 หรือ Claude) สร้างโค้ดให้เอง

    มันเหมาะกับการสร้างโปรเจกต์เล็ก ๆ หรือแอปต้นแบบที่ไม่ต้องดูแลระยะยาว เช่น แอปคำนวณ, เกมเล็ก ๆ, หรือเครื่องมือส่วนตัว เพราะเร็วและไม่ต้องลงแรงมาก

    แต่เมื่อ vibe coding ถูกใช้กับโปรเจกต์ใหญ่หรือระบบที่ต้องดูแลต่อเนื่อง มันกลายเป็น “legacy code” ที่ไม่มีใครเข้าใจ และนำไปสู่ “หนี้เทคโนโลยี” ที่ต้องจ่ายคืนด้วยเวลาและแรงงานมหาศาลในอนาคต

    Vibe coding คือการเขียนโค้ดด้วย AI โดยไม่ต้องเข้าใจโค้ดทั้งหมด
    ใช้ LLM สร้างโค้ดจากคำสั่งธรรมดา เช่น “สร้างเว็บแสดงข้อมูลประชากรตามเมือง”
    ผู้ใช้ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ ไม่ใช่ผู้เขียนโค้ดโดยตรง

    เหมาะกับโปรเจกต์ต้นแบบหรือแอปที่ไม่ต้องดูแลระยะยาว
    เช่น แอปคำนวณ, เกมเล็ก ๆ, หรือเครื่องมือส่วนตัว
    ไม่ต้องเข้าใจโค้ดลึก เพราะไม่ต้องแก้ไขหรือขยายในอนาคต

    Vibe coding ทำให้คนทั่วไปสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้โดยไม่ต้องเรียนเขียนโค้ด
    เป็นการ democratize การพัฒนาโปรแกรม
    ลดเวลาและต้นทุนในการสร้าง MVP หรือไอเดียใหม่

    แต่เมื่อใช้กับโปรเจกต์จริง จะเกิด “หนี้เทคโนโลยี” (technical debt)
    โค้ดที่ไม่มีโครงสร้างชัดเจน, ไม่มีเอกสาร, และไม่มีการทดสอบ
    ยากต่อการแก้ไข, ขยาย, หรือ debug ในอนาคต

    นักพัฒนาบางคนใช้ vibe coding แบบมีสติ—ให้ AI ช่วยเฉพาะจุด และตรวจสอบทุกบรรทัด
    ใช้ AI เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่ผู้แทน
    เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำและความปลอดภัย

    เครื่องมืออย่าง Townie, Cursor, และ Bugbot ถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุมคุณภาพของ vibe coding
    ตรวจสอบโค้ดอัตโนมัติ, แนะนำการแก้ไข, และลดข้อผิดพลาด
    ช่วยให้ vibe coding ปลอดภัยขึ้นในระดับองค์กร

    การใช้ vibe coding โดยไม่เข้าใจโค้ด อาจนำไปสู่ระบบที่ไม่มีใครดูแลได้
    เมื่อเกิดปัญหา จะไม่มีใครรู้ว่าจะแก้ตรงไหน
    ต้องพึ่ง AI ในการแก้ไข ซึ่งอาจทำให้ปัญหาซับซ้อนขึ้น

    หนี้เทคโนโลยีจาก vibe coding อาจสะสมจนทำให้โครงการล่ม
    โค้ดที่ดูดีภายนอกอาจมีปัญหาเชิงโครงสร้างภายใน
    การ refactor หรือ rewrite อาจใช้เวลามากกว่าการเขียนใหม่ตั้งแต่ต้น

    ผู้ใช้ที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ดอาจเข้าใจผิดว่า AI สร้างโค้ดที่ “ดีพอ” แล้ว
    ขาดการตรวจสอบความปลอดภัย, ประสิทธิภาพ, และความสามารถในการขยาย
    อาจเกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหรือข้อมูลรั่วไหล

    การใช้ vibe coding ในระบบที่ต้องดูแลต่อเนื่องควรมีแนวทางควบคุมที่ชัดเจน
    ต้องมีการตรวจสอบโค้ด, เขียนเอกสาร, และทดสอบอย่างสม่ำเสมอ
    ไม่ควรใช้ AI แทนมนุษย์ในทุกขั้นตอนของการพัฒนา

    ถ้าอยากให้ผมช่วยวางแนวทางการใช้ vibe coding อย่างปลอดภัยในองค์กร หรือเปรียบเทียบเครื่องมือช่วยตรวจสอบโค้ด AI เช่น Bugbot, Cursor, หรือ GitHub Copilot ผมพร้อมเจาะลึกให้คุณได้เลยครับ

    https://blog.val.town/vibe-code
    🧠 เรื่องเล่าจากสนามโค้ด: เมื่อ vibe coding คือการรูดบัตรเครดิตโดยไม่รู้ยอดหนี้ “Vibe coding” เป็นคำที่ Andrej Karpathy นิยามไว้ในต้นปี 2025 หมายถึงการเขียนโค้ดด้วย AI โดยไม่ต้องเข้าใจโค้ดทั้งหมด—แค่บอกสิ่งที่ต้องการ แล้วปล่อยให้ LLM (เช่น GPT-4 หรือ Claude) สร้างโค้ดให้เอง มันเหมาะกับการสร้างโปรเจกต์เล็ก ๆ หรือแอปต้นแบบที่ไม่ต้องดูแลระยะยาว เช่น แอปคำนวณ, เกมเล็ก ๆ, หรือเครื่องมือส่วนตัว เพราะเร็วและไม่ต้องลงแรงมาก แต่เมื่อ vibe coding ถูกใช้กับโปรเจกต์ใหญ่หรือระบบที่ต้องดูแลต่อเนื่อง มันกลายเป็น “legacy code” ที่ไม่มีใครเข้าใจ และนำไปสู่ “หนี้เทคโนโลยี” ที่ต้องจ่ายคืนด้วยเวลาและแรงงานมหาศาลในอนาคต ✅ Vibe coding คือการเขียนโค้ดด้วย AI โดยไม่ต้องเข้าใจโค้ดทั้งหมด ➡️ ใช้ LLM สร้างโค้ดจากคำสั่งธรรมดา เช่น “สร้างเว็บแสดงข้อมูลประชากรตามเมือง” ➡️ ผู้ใช้ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ ไม่ใช่ผู้เขียนโค้ดโดยตรง ✅ เหมาะกับโปรเจกต์ต้นแบบหรือแอปที่ไม่ต้องดูแลระยะยาว ➡️ เช่น แอปคำนวณ, เกมเล็ก ๆ, หรือเครื่องมือส่วนตัว ➡️ ไม่ต้องเข้าใจโค้ดลึก เพราะไม่ต้องแก้ไขหรือขยายในอนาคต ✅ Vibe coding ทำให้คนทั่วไปสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้โดยไม่ต้องเรียนเขียนโค้ด ➡️ เป็นการ democratize การพัฒนาโปรแกรม ➡️ ลดเวลาและต้นทุนในการสร้าง MVP หรือไอเดียใหม่ ✅ แต่เมื่อใช้กับโปรเจกต์จริง จะเกิด “หนี้เทคโนโลยี” (technical debt) ➡️ โค้ดที่ไม่มีโครงสร้างชัดเจน, ไม่มีเอกสาร, และไม่มีการทดสอบ ➡️ ยากต่อการแก้ไข, ขยาย, หรือ debug ในอนาคต ✅ นักพัฒนาบางคนใช้ vibe coding แบบมีสติ—ให้ AI ช่วยเฉพาะจุด และตรวจสอบทุกบรรทัด ➡️ ใช้ AI เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่ผู้แทน ➡️ เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำและความปลอดภัย ✅ เครื่องมืออย่าง Townie, Cursor, และ Bugbot ถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุมคุณภาพของ vibe coding ➡️ ตรวจสอบโค้ดอัตโนมัติ, แนะนำการแก้ไข, และลดข้อผิดพลาด ➡️ ช่วยให้ vibe coding ปลอดภัยขึ้นในระดับองค์กร ‼️ การใช้ vibe coding โดยไม่เข้าใจโค้ด อาจนำไปสู่ระบบที่ไม่มีใครดูแลได้ ⛔ เมื่อเกิดปัญหา จะไม่มีใครรู้ว่าจะแก้ตรงไหน ⛔ ต้องพึ่ง AI ในการแก้ไข ซึ่งอาจทำให้ปัญหาซับซ้อนขึ้น ‼️ หนี้เทคโนโลยีจาก vibe coding อาจสะสมจนทำให้โครงการล่ม ⛔ โค้ดที่ดูดีภายนอกอาจมีปัญหาเชิงโครงสร้างภายใน ⛔ การ refactor หรือ rewrite อาจใช้เวลามากกว่าการเขียนใหม่ตั้งแต่ต้น ‼️ ผู้ใช้ที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ดอาจเข้าใจผิดว่า AI สร้างโค้ดที่ “ดีพอ” แล้ว ⛔ ขาดการตรวจสอบความปลอดภัย, ประสิทธิภาพ, และความสามารถในการขยาย ⛔ อาจเกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหรือข้อมูลรั่วไหล ‼️ การใช้ vibe coding ในระบบที่ต้องดูแลต่อเนื่องควรมีแนวทางควบคุมที่ชัดเจน ⛔ ต้องมีการตรวจสอบโค้ด, เขียนเอกสาร, และทดสอบอย่างสม่ำเสมอ ⛔ ไม่ควรใช้ AI แทนมนุษย์ในทุกขั้นตอนของการพัฒนา ถ้าอยากให้ผมช่วยวางแนวทางการใช้ vibe coding อย่างปลอดภัยในองค์กร หรือเปรียบเทียบเครื่องมือช่วยตรวจสอบโค้ด AI เช่น Bugbot, Cursor, หรือ GitHub Copilot ผมพร้อมเจาะลึกให้คุณได้เลยครับ 🤖🧠💻 https://blog.val.town/vibe-code
    BLOG.VAL.TOWN
    Vibe code is legacy code
    Updates and articles from the Val Town team
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบรกสัมพันธ์สื่อกัมพูชา ส่อรับใช้ 'ฮุน มาเน็ต'

    3 องค์กรวิชาชืพสื่อ ได้แก่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (TJA) สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย (NUJT) ออกแถลงการณ์เรียกร้องสมาคมนักข่าวกัมพูชา (Club of Cambodian Journalists หรือ CCJ) ตรวจสอบการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในประเทศอย่างจริงจัง เพื่อจัดการปัญหาข่าวปลอมและข่าวบิดเบือน โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่

    1. หยุดแทรกแซงกิจการภายในของสื่อมวลชนไทย ให้ตรวจสอบจริยธรรมสื่อกัมพูชาอย่างเข้มแข็ง ปราศจากการครอบงำ

    2. ให้ CCJ มุ่งมั่นจัดการปัญหาข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือน ที่มีต้นทางแพร่กระจายในโลกออนไลน์จากกัมพูชาอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากตรวจพบข้อมูลบิดเบือนจำนวนมาก

    3. ยืนยันว่าสื่อมวลชนไทยมีระบบกำกับดูแลกันเองด้านจริยธรรม ยึดมั่นและเคารพในสิทธิเสรีภาพ ยืนยันเจตนารมณ์รายงานข่าวตามหลักจริยธรรม เป็นกลาง ครบถ้วนรอบด้าน ไม่ยุยงให้เกลียดชัง ต้องการให้เกิดสันติภาพแท้จริงและยั่งยืน

    ในตอนท้ายระบุว่า เนื่องจากการออกแถลงการณ์ของ CCJ หมิ่นเหม่ต่อการเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลกัมพูชา (นายฮุน มาเน็ต) มากกว่าการทำหน้าที่สื่อ ดังนั้นสมาคมนักข่าวฯ ซึ่งมีบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกัน จึงจำเป็นต้องระงับความสัมพันธ์กับ CCJ ชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ

    ก่อนหน้านี้ CCJ ออกแถลงการณ์ทำทีเรียกร้องให้สื่อมวลชนไทย ปฎิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบแหล่งข้อมูลรอบคอบและรายงานอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งขอให้มีบทบาทลดความตึงเครียด ด้วยการนำเสนอข่าวที่ไม่ยุยงปลุกปั่นชาตินิยมหรือเชื้อชาติ หันมาเน้นส่งเสริมบทสนทนาและความร่วมมือในทางที่สร้างสรรค์ระหว่างสองประเทศ โดยกล่าวหาว่าสื่อมวลชนไทย 2 สำนักเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ระบุชื่อข่าวสด สื่อในเครือมติชน และ The Nation Thailand สื่อออนไลน์ภาษาอังกฤษของเนชั่นกรุ๊ป

    แถลงการณ์นี้มีนัยยะโจมตีและดิสเครดิตสื่อมวลชนที่มีผู้ติดตามเป็นอันดับต้นของประเทศ โดยเฉพาะสื่อภาคภาษาอังกฤษที่เปรียบเสมือนหน้าต่างของโลก ขณะที่ผ่านมาสื่อออนไลน์ไทยโดยเฉพาะเว็บไซต์ The Nation Thailand และ Bangkok Post ถูกโจมตีทางไซเบอร์มากกว่า 250 ล้านครั้ง

    อีกด้านหนึ่ง แถลงการณ์โต้กลับของ 3 สมาคมสื่อไทยระบุว่าที่ผ่านมาสื่อกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนจำนวนมาก อาทิ อ้างว่าเครื่องบิน F-16 ของไทยทิ้งสารเคมีลงในกัมพูชา, กล่าวหาว่าไทยใช้เครื่องบิน F-16 ทิ้งระเบิด MK ซึ่งมีอำนาจทำลายล้างสูงใส่บ้านเรือนประชาชนชาวกัมพูชา, ปล่อยข่าวว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เสียชีวิต เป็นต้น

    #Newskit
    เบรกสัมพันธ์สื่อกัมพูชา ส่อรับใช้ 'ฮุน มาเน็ต' 3 องค์กรวิชาชืพสื่อ ได้แก่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (TJA) สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย (NUJT) ออกแถลงการณ์เรียกร้องสมาคมนักข่าวกัมพูชา (Club of Cambodian Journalists หรือ CCJ) ตรวจสอบการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในประเทศอย่างจริงจัง เพื่อจัดการปัญหาข่าวปลอมและข่าวบิดเบือน โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ 1. หยุดแทรกแซงกิจการภายในของสื่อมวลชนไทย ให้ตรวจสอบจริยธรรมสื่อกัมพูชาอย่างเข้มแข็ง ปราศจากการครอบงำ 2. ให้ CCJ มุ่งมั่นจัดการปัญหาข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือน ที่มีต้นทางแพร่กระจายในโลกออนไลน์จากกัมพูชาอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากตรวจพบข้อมูลบิดเบือนจำนวนมาก 3. ยืนยันว่าสื่อมวลชนไทยมีระบบกำกับดูแลกันเองด้านจริยธรรม ยึดมั่นและเคารพในสิทธิเสรีภาพ ยืนยันเจตนารมณ์รายงานข่าวตามหลักจริยธรรม เป็นกลาง ครบถ้วนรอบด้าน ไม่ยุยงให้เกลียดชัง ต้องการให้เกิดสันติภาพแท้จริงและยั่งยืน ในตอนท้ายระบุว่า เนื่องจากการออกแถลงการณ์ของ CCJ หมิ่นเหม่ต่อการเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลกัมพูชา (นายฮุน มาเน็ต) มากกว่าการทำหน้าที่สื่อ ดังนั้นสมาคมนักข่าวฯ ซึ่งมีบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกัน จึงจำเป็นต้องระงับความสัมพันธ์กับ CCJ ชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ ก่อนหน้านี้ CCJ ออกแถลงการณ์ทำทีเรียกร้องให้สื่อมวลชนไทย ปฎิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบแหล่งข้อมูลรอบคอบและรายงานอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งขอให้มีบทบาทลดความตึงเครียด ด้วยการนำเสนอข่าวที่ไม่ยุยงปลุกปั่นชาตินิยมหรือเชื้อชาติ หันมาเน้นส่งเสริมบทสนทนาและความร่วมมือในทางที่สร้างสรรค์ระหว่างสองประเทศ โดยกล่าวหาว่าสื่อมวลชนไทย 2 สำนักเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ระบุชื่อข่าวสด สื่อในเครือมติชน และ The Nation Thailand สื่อออนไลน์ภาษาอังกฤษของเนชั่นกรุ๊ป แถลงการณ์นี้มีนัยยะโจมตีและดิสเครดิตสื่อมวลชนที่มีผู้ติดตามเป็นอันดับต้นของประเทศ โดยเฉพาะสื่อภาคภาษาอังกฤษที่เปรียบเสมือนหน้าต่างของโลก ขณะที่ผ่านมาสื่อออนไลน์ไทยโดยเฉพาะเว็บไซต์ The Nation Thailand และ Bangkok Post ถูกโจมตีทางไซเบอร์มากกว่า 250 ล้านครั้ง อีกด้านหนึ่ง แถลงการณ์โต้กลับของ 3 สมาคมสื่อไทยระบุว่าที่ผ่านมาสื่อกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนจำนวนมาก อาทิ อ้างว่าเครื่องบิน F-16 ของไทยทิ้งสารเคมีลงในกัมพูชา, กล่าวหาว่าไทยใช้เครื่องบิน F-16 ทิ้งระเบิด MK ซึ่งมีอำนาจทำลายล้างสูงใส่บ้านเรือนประชาชนชาวกัมพูชา, ปล่อยข่าวว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เสียชีวิต เป็นต้น #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาคมนักข่าวฯ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย รวมพลังแถลงการณ์ร่วม ตอบโต้สมาคมนักข่าวกัมพูชาอย่างดุเดือด หลังถูกกล่าวหาว่าสื่อไทยขาดจริยธรรมในการรายงานข่าวชายแดน ชี้เป็นการดูหมิ่นที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมเรียกร้องให้ CCJ ตรวจสอบข่าวปลอม-ข้อมูลบิดเบือนภายในประเทศตนเองอย่างจริงจัง ก่อนประกาศระงับความร่วมมือในฐานะพันธมิตรสื่อ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072588

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สมาคมนักข่าวฯ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย รวมพลังแถลงการณ์ร่วม ตอบโต้สมาคมนักข่าวกัมพูชาอย่างดุเดือด หลังถูกกล่าวหาว่าสื่อไทยขาดจริยธรรมในการรายงานข่าวชายแดน ชี้เป็นการดูหมิ่นที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมเรียกร้องให้ CCJ ตรวจสอบข่าวปลอม-ข้อมูลบิดเบือนภายในประเทศตนเองอย่างจริงจัง ก่อนประกาศระงับความร่วมมือในฐานะพันธมิตรสื่อ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072588 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกการทำงาน: เมื่อ AI ไม่ได้มาแทนทุกคน แต่บางคนต้องปรับตัวก่อนใคร

    รายงานนี้ใช้ข้อมูลจากการใช้งานจริงของผู้คนกับ AI ตลอด 9 เดือนในปี 2024 โดยนำไปจับคู่กับฐานข้อมูล O*NET ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อดูว่า AI สามารถช่วยงานอะไรได้บ้าง และช่วยได้ดีแค่ไหน

    ผลลัพธ์คือ “รายชื่ออาชีพ” ที่ AI สามารถช่วยงานได้มากที่สุด เช่น งานที่เกี่ยวกับการสื่อสาร การเขียน และการตอบคำถาม เช่น นักแปล นักเขียน พนักงานบริการลูกค้า และผู้ประกาศข่าว ซึ่ง AI สามารถช่วยเขียน ตอบคำถาม และจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ในทางกลับกัน งานที่ยังปลอดภัยคือ งานที่ต้องใช้แรงกาย ทักษะเฉพาะ หรือการดูแลแบบใกล้ชิด เช่น พนักงานดูแลผู้ป่วย ช่างเทคนิค งานก่อสร้าง และงานที่ต้องใช้ความรู้สึกหรือการตัดสินใจเฉพาะหน้า ซึ่ง AI ยังไม่สามารถเลียนแบบได้

    Microsoft วิเคราะห์ข้อมูลจริงจาก Bing Copilot เพื่อวัดผลกระทบของ AI ต่ออาชีพต่าง ๆ
    ใช้ข้อมูลกว่า 200,000 บทสนทนาในช่วง 9 เดือน
    จับคู่กับฐานข้อมูล O*NET เพื่อวิเคราะห์งานแต่ละประเภท

    อาชีพที่ AI สามารถช่วยงานได้มากที่สุดคือกลุ่มงานสื่อสารและข้อมูล
    นักแปล, นักเขียน, นักข่าว, พนักงานบริการลูกค้า, ผู้ประกาศข่าว
    งานที่เกี่ยวกับการตอบคำถาม เขียนเนื้อหา และจัดการข้อมูล

    อาชีพที่ยังปลอดภัยจาก AI คือกลุ่มงานที่ใช้แรงกายหรือดูแลใกล้ชิด
    ผู้ช่วยพยาบาล, ช่างเทคนิค, คนงานก่อสร้าง, พนักงานล้างจาน
    งานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะและการตัดสินใจเฉพาะหน้า

    AI ยังไม่สามารถแทนที่คนได้ทั้งหมด แต่สามารถช่วยงานบางส่วนได้ดีมาก
    งานที่มี “AI applicability score” สูง หมายถึง AI ช่วยได้หลายส่วน
    แต่ไม่ได้หมายความว่าอาชีพนั้นจะหายไปทันที

    เทคโนโลยีอาจเปลี่ยนแปลงงานในรูปแบบที่ไม่คาดคิด
    เหมือนกรณี ATM ที่ทำให้จำนวนพนักงานธนาคารเพิ่มขึ้น
    AI อาจสร้างงานใหม่ในอนาคตที่ยังไม่มีในปัจจุบัน

    อาชีพที่มีความเสี่ยงสูงอาจถูกลดบทบาทหรือแทนที่บางส่วนในระยะสั้น
    เช่น นักเขียน, นักแปล, พนักงานบริการลูกค้า, นักข่าว
    บริษัทอาจใช้ AI เพื่อลดต้นทุนและจำนวนพนักงาน

    อาชีพที่ดูปลอดภัยในวันนี้ อาจถูกเปลี่ยนแปลงในอนาคตเมื่อ AI พัฒนา
    เช่น งานก่อสร้างหรืองานดูแลผู้ป่วย อาจถูกแทนที่บางส่วนด้วยหุ่นยนต์
    ความก้าวหน้าของ AI และหุ่นยนต์อาจทำให้ขอบเขตเปลี่ยนไป

    การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจลดคุณภาพของงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือความเข้าใจมนุษย์
    งานเขียนหรือการสื่อสารที่ซับซ้อนอาจขาดความลึกซึ้ง
    ผู้ใช้ต้องมีวิจารณญาณในการใช้ AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ตัวแทน

    การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างคนที่มีทักษะ AI กับคนทั่วไป
    คนที่ไม่ปรับตัวอาจถูกลดบทบาทในตลาดแรงงาน
    การเรียนรู้ทักษะใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้

    https://www.techspot.com/news/108869-jobs-most-likely-automated-ai.html
    🧠 เรื่องเล่าจากโลกการทำงาน: เมื่อ AI ไม่ได้มาแทนทุกคน แต่บางคนต้องปรับตัวก่อนใคร รายงานนี้ใช้ข้อมูลจากการใช้งานจริงของผู้คนกับ AI ตลอด 9 เดือนในปี 2024 โดยนำไปจับคู่กับฐานข้อมูล O*NET ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อดูว่า AI สามารถช่วยงานอะไรได้บ้าง และช่วยได้ดีแค่ไหน ผลลัพธ์คือ “รายชื่ออาชีพ” ที่ AI สามารถช่วยงานได้มากที่สุด เช่น งานที่เกี่ยวกับการสื่อสาร การเขียน และการตอบคำถาม เช่น นักแปล นักเขียน พนักงานบริการลูกค้า และผู้ประกาศข่าว ซึ่ง AI สามารถช่วยเขียน ตอบคำถาม และจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทางกลับกัน งานที่ยังปลอดภัยคือ งานที่ต้องใช้แรงกาย ทักษะเฉพาะ หรือการดูแลแบบใกล้ชิด เช่น พนักงานดูแลผู้ป่วย ช่างเทคนิค งานก่อสร้าง และงานที่ต้องใช้ความรู้สึกหรือการตัดสินใจเฉพาะหน้า ซึ่ง AI ยังไม่สามารถเลียนแบบได้ ✅ Microsoft วิเคราะห์ข้อมูลจริงจาก Bing Copilot เพื่อวัดผลกระทบของ AI ต่ออาชีพต่าง ๆ ➡️ ใช้ข้อมูลกว่า 200,000 บทสนทนาในช่วง 9 เดือน ➡️ จับคู่กับฐานข้อมูล O*NET เพื่อวิเคราะห์งานแต่ละประเภท ✅ อาชีพที่ AI สามารถช่วยงานได้มากที่สุดคือกลุ่มงานสื่อสารและข้อมูล ➡️ นักแปล, นักเขียน, นักข่าว, พนักงานบริการลูกค้า, ผู้ประกาศข่าว ➡️ งานที่เกี่ยวกับการตอบคำถาม เขียนเนื้อหา และจัดการข้อมูล ✅ อาชีพที่ยังปลอดภัยจาก AI คือกลุ่มงานที่ใช้แรงกายหรือดูแลใกล้ชิด ➡️ ผู้ช่วยพยาบาล, ช่างเทคนิค, คนงานก่อสร้าง, พนักงานล้างจาน ➡️ งานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะและการตัดสินใจเฉพาะหน้า ✅ AI ยังไม่สามารถแทนที่คนได้ทั้งหมด แต่สามารถช่วยงานบางส่วนได้ดีมาก ➡️ งานที่มี “AI applicability score” สูง หมายถึง AI ช่วยได้หลายส่วน ➡️ แต่ไม่ได้หมายความว่าอาชีพนั้นจะหายไปทันที ✅ เทคโนโลยีอาจเปลี่ยนแปลงงานในรูปแบบที่ไม่คาดคิด ➡️ เหมือนกรณี ATM ที่ทำให้จำนวนพนักงานธนาคารเพิ่มขึ้น ➡️ AI อาจสร้างงานใหม่ในอนาคตที่ยังไม่มีในปัจจุบัน ‼️ อาชีพที่มีความเสี่ยงสูงอาจถูกลดบทบาทหรือแทนที่บางส่วนในระยะสั้น ⛔ เช่น นักเขียน, นักแปล, พนักงานบริการลูกค้า, นักข่าว ⛔ บริษัทอาจใช้ AI เพื่อลดต้นทุนและจำนวนพนักงาน ‼️ อาชีพที่ดูปลอดภัยในวันนี้ อาจถูกเปลี่ยนแปลงในอนาคตเมื่อ AI พัฒนา ⛔ เช่น งานก่อสร้างหรืองานดูแลผู้ป่วย อาจถูกแทนที่บางส่วนด้วยหุ่นยนต์ ⛔ ความก้าวหน้าของ AI และหุ่นยนต์อาจทำให้ขอบเขตเปลี่ยนไป ‼️ การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจลดคุณภาพของงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือความเข้าใจมนุษย์ ⛔ งานเขียนหรือการสื่อสารที่ซับซ้อนอาจขาดความลึกซึ้ง ⛔ ผู้ใช้ต้องมีวิจารณญาณในการใช้ AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ตัวแทน ‼️ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างคนที่มีทักษะ AI กับคนทั่วไป ⛔ คนที่ไม่ปรับตัวอาจถูกลดบทบาทในตลาดแรงงาน ⛔ การเรียนรู้ทักษะใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้ https://www.techspot.com/news/108869-jobs-most-likely-automated-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    These are the jobs that are most likely to be automated by AI
    The study stands out for its approach. Instead of speculating about AI's future impact, it examined actual recorded interactions between everyday users and a leading generative AI...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากศูนย์หลอกลวง: เมื่อคนถูกล่อลวงให้กลายเป็นอาชญากรโดยไม่รู้ตัว

    ในวันต่อต้านการค้ามนุษย์โลก (30 ก.ค.) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ของ UN ได้ออกมาเตือนว่า ขณะนี้มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังอยู่ในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนของเมียนมา กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

    เหยื่อส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพ คนหนุ่มสาว เด็ก และผู้พิการ ที่ถูกล่อลวงด้วยคำสัญญาเรื่องงานดีรายได้สูง แต่กลับถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และบังคับให้ทำอาชญากรรมออนไลน์ เช่น หลอกลงทุน หลอกรัก หรือหลอกให้โอนเงินผ่านคริปโต

    ที่น่าตกใจคือ เหยื่อเหล่านี้มักถูกจับกุมและลงโทษแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ ทั้งที่พวกเขาเป็นผู้ถูกบังคับ ไม่ใช่อาชญากร

    UN เตือนว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์กลางการค้ามนุษย์เพื่ออาชญากรรมออนไลน์
    มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังในศูนย์หลอกลวง
    สร้างรายได้กว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้กับองค์กรอาชญากรรม

    เหยื่อถูกล่อลวงด้วยงานดี แต่กลับถูกบังคับให้ทำอาชญากรรม
    หลอกให้ทำ scam ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น romance scam, crypto fraud
    ถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และใช้ความรุนแรง

    เหยื่อมักถูกจับกุมแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ
    หลายคนถูกดำเนินคดีในข้อหาที่ถูกบังคับให้ทำ
    UN เรียกร้องให้เปลี่ยนกฎหมายเพื่อปกป้องเหยื่อ

    IOM ช่วยเหลือเหยื่อกว่า 3,000 คนตั้งแต่ปี 2022
    ส่งกลับประเทศจากฟิลิปปินส์และเวียดนาม
    สนับสนุนเหยื่อในไทย เมียนมา และประเทศอื่น ๆ

    UN เรียกร้องให้รัฐบาลและภาคประชาสังคมร่วมกันแก้ปัญหา
    ต้องเปลี่ยนกฎหมายให้เหยื่อได้รับการคุ้มครอง
    ต้องไล่ล่าผู้ค้ามนุษย์ ไม่ใช่ลงโทษเหยื่อ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/un-sounds-alarm-on-se-asia-scam-centre-surge
    🧠 เรื่องเล่าจากศูนย์หลอกลวง: เมื่อคนถูกล่อลวงให้กลายเป็นอาชญากรโดยไม่รู้ตัว ในวันต่อต้านการค้ามนุษย์โลก (30 ก.ค.) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ของ UN ได้ออกมาเตือนว่า ขณะนี้มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังอยู่ในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนของเมียนมา กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เหยื่อส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพ คนหนุ่มสาว เด็ก และผู้พิการ ที่ถูกล่อลวงด้วยคำสัญญาเรื่องงานดีรายได้สูง แต่กลับถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และบังคับให้ทำอาชญากรรมออนไลน์ เช่น หลอกลงทุน หลอกรัก หรือหลอกให้โอนเงินผ่านคริปโต ที่น่าตกใจคือ เหยื่อเหล่านี้มักถูกจับกุมและลงโทษแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ ทั้งที่พวกเขาเป็นผู้ถูกบังคับ ไม่ใช่อาชญากร ✅ UN เตือนว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์กลางการค้ามนุษย์เพื่ออาชญากรรมออนไลน์ ➡️ มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังในศูนย์หลอกลวง ➡️ สร้างรายได้กว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้กับองค์กรอาชญากรรม ✅ เหยื่อถูกล่อลวงด้วยงานดี แต่กลับถูกบังคับให้ทำอาชญากรรม ➡️ หลอกให้ทำ scam ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น romance scam, crypto fraud ➡️ ถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และใช้ความรุนแรง ✅ เหยื่อมักถูกจับกุมแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ ➡️ หลายคนถูกดำเนินคดีในข้อหาที่ถูกบังคับให้ทำ ➡️ UN เรียกร้องให้เปลี่ยนกฎหมายเพื่อปกป้องเหยื่อ ✅ IOM ช่วยเหลือเหยื่อกว่า 3,000 คนตั้งแต่ปี 2022 ➡️ ส่งกลับประเทศจากฟิลิปปินส์และเวียดนาม ➡️ สนับสนุนเหยื่อในไทย เมียนมา และประเทศอื่น ๆ ✅ UN เรียกร้องให้รัฐบาลและภาคประชาสังคมร่วมกันแก้ปัญหา ➡️ ต้องเปลี่ยนกฎหมายให้เหยื่อได้รับการคุ้มครอง ➡️ ต้องไล่ล่าผู้ค้ามนุษย์ ไม่ใช่ลงโทษเหยื่อ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/un-sounds-alarm-on-se-asia-scam-centre-surge
    WWW.THESTAR.COM.MY
    UN sounds alarm on SE Asia scam centre surge
    Too often, instead of getting help, victims are arrested for crimes they were forced to commit, the head of the UN's migration agency said on World Day Against Trafficking in Persons.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในค่ายผู้อพยพชั่วคราวแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรมีชัย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา คุณพ่อลูกหนึ่งและครอบครัวใหญ่ของเขา เวลานี้เริ่มรู้สึกถึงผลกระทบจากความขัดแย้งตามแนวชายแดน 5 วันกับไทย ที่จบลงด้วยข้อตกลงหยุดยิงในวันจันทร์(29ก.ค.) ขณะที่เขาเป็นหนึ่งในแรงงานหลายคน ที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000072284

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ในค่ายผู้อพยพชั่วคราวแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรมีชัย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา คุณพ่อลูกหนึ่งและครอบครัวใหญ่ของเขา เวลานี้เริ่มรู้สึกถึงผลกระทบจากความขัดแย้งตามแนวชายแดน 5 วันกับไทย ที่จบลงด้วยข้อตกลงหยุดยิงในวันจันทร์(29ก.ค.) ขณะที่เขาเป็นหนึ่งในแรงงานหลายคน ที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000072284 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 612 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 2

    จิ๊กโก๋ปากซอย สร้างวินมอ’ไซค์



    อเมริกาเป็นนักวางแผนตัวพ่อ อเมริกามีแผนสำหรับทุกประเทศเป้าหมาย ทุกขั้นตอน เขียนแผนอย่างละเอียด มีรายงานทุกเรื่องที่เห็นว่าสำคัญ ….เก็บเรื่องระบบทุนนิยมไว้ก่อน เด็กมันยังละอ่อนนัก เดี๋ยวมันตกใจ วิ่งหนีรอดตาข่าย จะกินอาหารอร่อยต้องใจเย็นๆ

    แผนหมายเลข 1 สำหรับการเคี้ยวไทยของอเมริกา ตาม Pax Americana เน้นเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคงนำหน้า ดังนั้น ต้องเปลี่ยนประเทศไทยจากที่เป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรมให้ได้ก่อน เรื่องความมั่นคงอย่าเพิ่งถาม เดี๋ยวจะเห็นว่ามาอย่างไร

    อเมริกา เป็นนักวางแผนที่มีจิตวิทยาสูง คนเราน่ะนะ จะให้ทำอะไร มันต้องให้สบายกระเป๋าก่อน มีเงินแล้วมันถึงจะพูดกันรู้เรื่อง แหม! มันเดินตามกันเปี๊ยบเลย ใครนะ ที่ใช้เงินเข้าล่อ แบบคุณพ่ออเมริกา

    ปี พ.ศ.2501 อเมริกาจึงส่งผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลก เป็นของขวัญให้รัฐบาลสฤษดิ์ มาเป็นทีมใหญ่ ไทยแลนด์ดีใจเหมือนได้แก้ว

    กลุ่มผู้เชี่ยวชาญขนกันมาทำการสำรวจประเทศไทยอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดูทั้งบนดินใต้ดินใต้น้ำในทะเล ทุกซอก ทุกหลุม ประมาณว่าแทบจะถลกผ้านุ่งคุณยายดูยังงั้นเชียว สำรวจอยู่ 1 ปีจึงเสร็จ เสร็จแล้วก็ทำรายงานสำรวจชุดใหญ่ ส่งให้คุณพ่ออเมริกา ชุดเล็กก็เสนอให้คุณป๋าผ้าขะม้าไทย

    (แสดงว่ามันดูกันละเอียดจริง ไม่เหมือนข้าราชการบ้านเราไปดูงานบ้านเขาเลยนะ ไป 15 วัน ช้อปปิ้งเสีย 10 วัน เข้าบ่อนอีก 5 วัน อ้าว แล้วดูงานตอนไหน ก็ตอนขึ้นเครื่องกลับ หลับฝันเอาไง บ้านเรามันถึงเจริญ)

    ผลสำรวจสรุปว่า เพื่อทดแทนการนำเข้า ที่ทำให้ไทยแลนด์ขาดดุลการค้า ฝรั่งบอกว่า ไทยควรเปลี่ยนจากประเทศกสิกรรม ทำการเกษตร มาเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทำการผลิตสินค้าส่งออก เขียนตามโผที่ล็อกไว้เลย กองสลากเรายังล็อกโผไม่ได้เท่านี้

    รายงานสำรวจดังกล่าว เป็นไปตามใบสั่งคุณพ่ออเมริกา ที่ต้องการให้ประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย (ตอนนั้นเราก็เป็นประเทศด้อยนะ ไม่ต้องค้อน ตอนนี้ก็ยังด้อยอยู่อีกหลายเรื่อง) เปิดทางให้ทุนอเมริกัน เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าอุตสาหกรรม นอกจากอเมริกา จะได้ประโยชน์ในการขยายการลงทุนแล้ว อเมริกาจะได้ขายเครื่อง จักร และสารพัดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในขบวนการผลิต เช่น พลังงานไฟฟ้า น้ำมัน เขื่อน อุปกรณ์เทคนิค อุปกรณ์การขนส่ง ฯลฯ ให้ไทยอีกด้วย

    สิ่งที่ไทยได้ขายคือ วัตถุดิบบางอย่างที่มีในประเทศและแรงงาน แค่นั้นเอง ….อืมมม คุ้มแสนคุ้ม…

    คุณป๋าไทยเมื่อได้รับรายงานสำรวจฯ ก็เนื้อเต้นไปหมด เห็นโอกาสทองทำเงินอยู่ข้างหน้า… งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข …คุณป๋าไทยรีบออกคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติทันที ในปี พ.ศ.2504 และนั่นคือกำเนิดสภาพัฒน์ฯ ที่เรารู้จัก

    สภาพัฒน์ฯ ทำหน้าที่วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึงปัจจุบัน ตามแนวทางที่ฝรั่ง (หลอก) ให้ไทยเดิน

    ควรรู้ด้วยว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ฉบับที่ 1 ใช้รายงานธนาคารโลก ฉบับใบสั่งทั้งฉบับนั่นแหละ แปลเป็นไทย ทำเป็นแผนแม่บท ง่ายดีจัง

    ไม่ต้องเสียเวลา ไทยมีส่วนร่วมเพียงในฐานะผู้รับบัญชา ขอรับกระผม

    นอกจากนี้แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ตั้งแต่ฉบับที่ 1 ถึง 6 เดินตามแนวทางรายงานธนาคารโลกทั้งสิ้น ปัจจุบันเป็นฉบับที่ 12 ซึ่งก็ไม่มีแนวทางพัฒนาประเทศ ที่ชัดเจนเหมาะสมกับสภาพ และสภาวะของประเทศ แถม เละเทะเหมือนกินจับฉ่าย

    ควรรู้อีกด้วยว่าในรายงานของธนาคารโลก ไม่เน้นถึงการพัฒนาการปลูกข้าว ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย ตรงกันข้ามดันมีข้อเสนอให้เก็บพรีเมี่ยมข้าว!

    พอจะเห็นกันบ้างหรือยังว่า สิ่งที่เรียกว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯของขวัญจากคุณพ่ออเมริกา แท้จริงแล้ว เป็นบัวหิมะพันปีเพิ่มพลัง หรือ ยาละลายกระดูกสลายพลัง

    นักล่าอาณานิคมรุ่นใหม่นี่เยี่ยมจริงๆ

    หลังจากนั้น การพัฒนาประเทศไทยก็เดินตามแนวที่คุณพ่ออเมริกากำหนด หรือกำกับ ผ่านหน่วยงานธนาคารโลก (World Bank), IMF, IFC, ADB ฯลฯ ที่เราขยันกู้เขามาตลอด เริ่มเข้าใจหรือยังครับ ทำไมเขาถึงต้องตั้งธนาคารโลก, IMF ฯลฯ

    สัญญาเงินกู้ทุกฉบับของ World Bank, IMF , IFC จะมีข้อกำหนดบังคับผู้กู้ ตามที่คุณพ่ออเมริกาต้อง การ ให้โลกเดินไปในทิศทางที่คุณพ่อและพวกต้องการคือ ทุนนิยมเสรี นั่นเอง

    อเมริกาสามารถควบคุมธนาคารโลก, IMF, IFC ได้ในกำมือ เพราะอเมริกาจ่ายเงินสนับสนุนสูงที่สุดมากกว่าประเทศอื่นๆ

    พูดให้ชัดธนาคารโลก, IMF, IFC ก็เด็กในกระเป๋าอเมริกานั่นแหละ!

    แต่การพัฒนาประเทศ จะเดินตามใบสั่งของคุณพ่ออเมริกาไม่ได้ ถ้าไม่มีข้าราชการที่จูงง่าย พร้อมเป็นขี้ข้า ไม่ว่าจะเป็นขี้ข้าฝรั่ง หรือนักการเมืองไทย เห็นๆ กันอยู่ตั้งกะสมัย 50 ปีก่อน จนถึงเดี๋ยวนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง

    ข้าราชการที่มีความสามารถ แต่พร้อมที่จะถูกฝรั่งหลอกใช้ (เอ๊ะ หรือเต็มใจ!)ที่เรียกกันว่า technocrat (technocrat ต้นแบบก็อย่างนายเกษม จาติกวนิช นายอานันท์ ปันยารชุน นายอำนวย วีรวรรณ นั่นแหละ) ก็เป็นผู้รับแผนคุณพ่อฝรั่งมาดำเนินการ

    Technocrat เหล่านี้มาจากไหนล่ะ? อ้า! เดี๋ยวต้องหาที่มาแบบ CSI (Crime Scene Investigation สำหรับผู้ไม่ได้ดูหนัง ดูแต่ละคร ก็นึกถึงคุณหมอพรทิพย์หัวฟูคนเก่งของเราแล้วกัน ประเภทสืบจากศพอะไรทำนองนั้นแหละครับ)

    Technocrat เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้จบการศึกษาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากอังกฤษและอเมริกา มีความคุ้นเคยกับระบบการศึกษา ตำรับตำรา วิชาการ ความคิด ที่ฝรั่งแป๊ะติดใส่หัวเอาไว้ตั้งแต่สมัยไปเรียนหนังสือ ท่านเหล่านั้นก็มีวิชาความรู้เพิ่มพูน ฝรั่งสอนอะไรก็จด ฝรั่งพูดอะไรก็จำ ทำตัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร (ฮา) กลับมาก็ฟิตเปรี๊ยะ เครื่องถ่ายอัดสำเนาไว้เต็ม

    คิดว่าบ้านเมืองเราจะเจริญได้ ต้องดูจากที่ฝรั่งเขาพัฒนาบ้านเมืองเขา ไม่เคยใช้สมองของตัวคิดบ้างว่า บ้านเขากับบ้านเราน่ะ มันต่างกันขนาดไหน

    ดูภูมิประเทศ อากาศ ทรัพยากร ความถนัด ประเพณี ฯลฯ โอ้ยสารพัด มันเหมือนกันตรงไหน ข้างหนึ่งหัวดำตัวเหลือง อีกข้างหนึ่งหัวทองตัวขาวเผือด ข้างหนึ่งหนาวหิมะตก ข้างหนึ่งเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกน้ำท่วม ยังคิดก็อบปี้ตะบี้ตะบันท่าเดียว เพราะถูกทำให้เชื่อว่า ฝรั่งนั้นฉลาดกว่าเรา สิ่งที่เขาคิด ดีกว่าที่เราคิด มันฝังหัว ตั้งกะไปเรียน prep school หรือ public school กับฝรั่งมาแล้ว

    ดังนั้น เมื่อฝรั่งบอกเดินหน้าเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทุกท่านก็ลุย! เฮ้อ! เศร้าใจ

    การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย เมื่อกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด มันก็ผิดไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่แก้ไข คนอะไรเดินใส่เสื้อติดกระดุมเขย่งมาเกือบ 60 ปี ยังไม่รู้ตัว

    นิคมอุตสาหกรรม จึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แล้วดอกเห็ดพวกนี้ไม่รู้เป็นอะไร ก็ชอบขึ้นอยู่ตามที่ลุ่ม ซึ่งเป็นทางเดินของน้ำ ดูนิคมบางชัน นิคมแถวอยุธยา บางปะอิน เป็นตัวอย่างแล้วกัน ยิ่งนานวันดอกเห็ดก็แผ่ขยายบานกินเมืองเข้าไปลึกขวางทางไหลหลากของน้ำ ซึ่งมาประจำปี

    ดังนั้น ปัญหาน้ำท่วมก็ยังจะมีอยู่ต่อไป ต้องใช้เรือดำน้ำกี่ลำ หญ้าแพรกเท่าไหร่ก็เอาไม่อยู่ ถ้ายังดันทุรังเดินใส่เสื้อกระดุมเขย่งกันอยู่อย่างนี้

    นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องท่าเรือแหลมฉบัง ผาแดง แทนทาลัม นิคมอุตสาหกรรมระยอง โรงไฟฟ้าบ้านกรูด การวางท่อแก๊ส ฯลฯ ที่ไม่เข้ากับสภาพภูมิประเทศ และความเป็นอยู่ของท้องถิ่นนะ แค่นี้ก็น่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว

    แหล่งอุตสาหกรรมใหญ่ทั้งหลาย สร้างรายได้ให้กับผู้ถือหุ้นอย่างมหาศาล คนท้องถิ่นได้แต่ค่าแรงวันละไม่กี่บาท แล้วใครเป็นผู้ถือหุ้น… ก็คนต่างชาติส่วนใหญ่ บวกกับคนไทยขายชาติที่ถือหุ้นแทนฝรั่งไง

    คนท้องถิ่นไม่เคยได้เป็นผู้ถือหุ้น!

    ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่ทำกิน และที่สำคัญ สุขอนามัยของชาวบ้าน ไม่เคยเป็นปัจจัยที่ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุนต่างชาติ ให้ความสนใจหรือห่วงใย

    ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุน ให้ความสนใจแต่ ผลผลิต และผลกำไรของพวกเขาเท่านั้น

    ส่วนนักการเมืองไทย ก็นึกแต่ค่าหัวคิว ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ที่จะได้รับ รับแล้วเอาไปซุกไว้ที่ไหนดีหนอ หลังบ้าน ใต้เตียง ในตู้เสื้อผ้า หรือซุกไว้กับคนรถ คนใช้ ฯลฯ แล้วประเทศได้อะไร ประชาชนได้อะไร …เคยมีนักการเมืองหน้าไหนดูแลเราจริงๆ จังๆ บ้าง


    คนเล่านิทาน
    ตอน 2 จิ๊กโก๋ปากซอย สร้างวินมอ’ไซค์ อเมริกาเป็นนักวางแผนตัวพ่อ อเมริกามีแผนสำหรับทุกประเทศเป้าหมาย ทุกขั้นตอน เขียนแผนอย่างละเอียด มีรายงานทุกเรื่องที่เห็นว่าสำคัญ ….เก็บเรื่องระบบทุนนิยมไว้ก่อน เด็กมันยังละอ่อนนัก เดี๋ยวมันตกใจ วิ่งหนีรอดตาข่าย จะกินอาหารอร่อยต้องใจเย็นๆ แผนหมายเลข 1 สำหรับการเคี้ยวไทยของอเมริกา ตาม Pax Americana เน้นเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคงนำหน้า ดังนั้น ต้องเปลี่ยนประเทศไทยจากที่เป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรมให้ได้ก่อน เรื่องความมั่นคงอย่าเพิ่งถาม เดี๋ยวจะเห็นว่ามาอย่างไร อเมริกา เป็นนักวางแผนที่มีจิตวิทยาสูง คนเราน่ะนะ จะให้ทำอะไร มันต้องให้สบายกระเป๋าก่อน มีเงินแล้วมันถึงจะพูดกันรู้เรื่อง แหม! มันเดินตามกันเปี๊ยบเลย ใครนะ ที่ใช้เงินเข้าล่อ แบบคุณพ่ออเมริกา ปี พ.ศ.2501 อเมริกาจึงส่งผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลก เป็นของขวัญให้รัฐบาลสฤษดิ์ มาเป็นทีมใหญ่ ไทยแลนด์ดีใจเหมือนได้แก้ว กลุ่มผู้เชี่ยวชาญขนกันมาทำการสำรวจประเทศไทยอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดูทั้งบนดินใต้ดินใต้น้ำในทะเล ทุกซอก ทุกหลุม ประมาณว่าแทบจะถลกผ้านุ่งคุณยายดูยังงั้นเชียว สำรวจอยู่ 1 ปีจึงเสร็จ เสร็จแล้วก็ทำรายงานสำรวจชุดใหญ่ ส่งให้คุณพ่ออเมริกา ชุดเล็กก็เสนอให้คุณป๋าผ้าขะม้าไทย (แสดงว่ามันดูกันละเอียดจริง ไม่เหมือนข้าราชการบ้านเราไปดูงานบ้านเขาเลยนะ ไป 15 วัน ช้อปปิ้งเสีย 10 วัน เข้าบ่อนอีก 5 วัน อ้าว แล้วดูงานตอนไหน ก็ตอนขึ้นเครื่องกลับ หลับฝันเอาไง บ้านเรามันถึงเจริญ) ผลสำรวจสรุปว่า เพื่อทดแทนการนำเข้า ที่ทำให้ไทยแลนด์ขาดดุลการค้า ฝรั่งบอกว่า ไทยควรเปลี่ยนจากประเทศกสิกรรม ทำการเกษตร มาเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทำการผลิตสินค้าส่งออก เขียนตามโผที่ล็อกไว้เลย กองสลากเรายังล็อกโผไม่ได้เท่านี้ รายงานสำรวจดังกล่าว เป็นไปตามใบสั่งคุณพ่ออเมริกา ที่ต้องการให้ประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย (ตอนนั้นเราก็เป็นประเทศด้อยนะ ไม่ต้องค้อน ตอนนี้ก็ยังด้อยอยู่อีกหลายเรื่อง) เปิดทางให้ทุนอเมริกัน เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าอุตสาหกรรม นอกจากอเมริกา จะได้ประโยชน์ในการขยายการลงทุนแล้ว อเมริกาจะได้ขายเครื่อง จักร และสารพัดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในขบวนการผลิต เช่น พลังงานไฟฟ้า น้ำมัน เขื่อน อุปกรณ์เทคนิค อุปกรณ์การขนส่ง ฯลฯ ให้ไทยอีกด้วย สิ่งที่ไทยได้ขายคือ วัตถุดิบบางอย่างที่มีในประเทศและแรงงาน แค่นั้นเอง ….อืมมม คุ้มแสนคุ้ม… คุณป๋าไทยเมื่อได้รับรายงานสำรวจฯ ก็เนื้อเต้นไปหมด เห็นโอกาสทองทำเงินอยู่ข้างหน้า… งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข …คุณป๋าไทยรีบออกคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติทันที ในปี พ.ศ.2504 และนั่นคือกำเนิดสภาพัฒน์ฯ ที่เรารู้จัก สภาพัฒน์ฯ ทำหน้าที่วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึงปัจจุบัน ตามแนวทางที่ฝรั่ง (หลอก) ให้ไทยเดิน ควรรู้ด้วยว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ฉบับที่ 1 ใช้รายงานธนาคารโลก ฉบับใบสั่งทั้งฉบับนั่นแหละ แปลเป็นไทย ทำเป็นแผนแม่บท ง่ายดีจัง ไม่ต้องเสียเวลา ไทยมีส่วนร่วมเพียงในฐานะผู้รับบัญชา ขอรับกระผม นอกจากนี้แผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ตั้งแต่ฉบับที่ 1 ถึง 6 เดินตามแนวทางรายงานธนาคารโลกทั้งสิ้น ปัจจุบันเป็นฉบับที่ 12 ซึ่งก็ไม่มีแนวทางพัฒนาประเทศ ที่ชัดเจนเหมาะสมกับสภาพ และสภาวะของประเทศ แถม เละเทะเหมือนกินจับฉ่าย ควรรู้อีกด้วยว่าในรายงานของธนาคารโลก ไม่เน้นถึงการพัฒนาการปลูกข้าว ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย ตรงกันข้ามดันมีข้อเสนอให้เก็บพรีเมี่ยมข้าว! พอจะเห็นกันบ้างหรือยังว่า สิ่งที่เรียกว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯของขวัญจากคุณพ่ออเมริกา แท้จริงแล้ว เป็นบัวหิมะพันปีเพิ่มพลัง หรือ ยาละลายกระดูกสลายพลัง นักล่าอาณานิคมรุ่นใหม่นี่เยี่ยมจริงๆ หลังจากนั้น การพัฒนาประเทศไทยก็เดินตามแนวที่คุณพ่ออเมริกากำหนด หรือกำกับ ผ่านหน่วยงานธนาคารโลก (World Bank), IMF, IFC, ADB ฯลฯ ที่เราขยันกู้เขามาตลอด เริ่มเข้าใจหรือยังครับ ทำไมเขาถึงต้องตั้งธนาคารโลก, IMF ฯลฯ สัญญาเงินกู้ทุกฉบับของ World Bank, IMF , IFC จะมีข้อกำหนดบังคับผู้กู้ ตามที่คุณพ่ออเมริกาต้อง การ ให้โลกเดินไปในทิศทางที่คุณพ่อและพวกต้องการคือ ทุนนิยมเสรี นั่นเอง อเมริกาสามารถควบคุมธนาคารโลก, IMF, IFC ได้ในกำมือ เพราะอเมริกาจ่ายเงินสนับสนุนสูงที่สุดมากกว่าประเทศอื่นๆ พูดให้ชัดธนาคารโลก, IMF, IFC ก็เด็กในกระเป๋าอเมริกานั่นแหละ! แต่การพัฒนาประเทศ จะเดินตามใบสั่งของคุณพ่ออเมริกาไม่ได้ ถ้าไม่มีข้าราชการที่จูงง่าย พร้อมเป็นขี้ข้า ไม่ว่าจะเป็นขี้ข้าฝรั่ง หรือนักการเมืองไทย เห็นๆ กันอยู่ตั้งกะสมัย 50 ปีก่อน จนถึงเดี๋ยวนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ข้าราชการที่มีความสามารถ แต่พร้อมที่จะถูกฝรั่งหลอกใช้ (เอ๊ะ หรือเต็มใจ!)ที่เรียกกันว่า technocrat (technocrat ต้นแบบก็อย่างนายเกษม จาติกวนิช นายอานันท์ ปันยารชุน นายอำนวย วีรวรรณ นั่นแหละ) ก็เป็นผู้รับแผนคุณพ่อฝรั่งมาดำเนินการ Technocrat เหล่านี้มาจากไหนล่ะ? อ้า! เดี๋ยวต้องหาที่มาแบบ CSI (Crime Scene Investigation สำหรับผู้ไม่ได้ดูหนัง ดูแต่ละคร ก็นึกถึงคุณหมอพรทิพย์หัวฟูคนเก่งของเราแล้วกัน ประเภทสืบจากศพอะไรทำนองนั้นแหละครับ) Technocrat เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้จบการศึกษาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากอังกฤษและอเมริกา มีความคุ้นเคยกับระบบการศึกษา ตำรับตำรา วิชาการ ความคิด ที่ฝรั่งแป๊ะติดใส่หัวเอาไว้ตั้งแต่สมัยไปเรียนหนังสือ ท่านเหล่านั้นก็มีวิชาความรู้เพิ่มพูน ฝรั่งสอนอะไรก็จด ฝรั่งพูดอะไรก็จำ ทำตัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร (ฮา) กลับมาก็ฟิตเปรี๊ยะ เครื่องถ่ายอัดสำเนาไว้เต็ม คิดว่าบ้านเมืองเราจะเจริญได้ ต้องดูจากที่ฝรั่งเขาพัฒนาบ้านเมืองเขา ไม่เคยใช้สมองของตัวคิดบ้างว่า บ้านเขากับบ้านเราน่ะ มันต่างกันขนาดไหน ดูภูมิประเทศ อากาศ ทรัพยากร ความถนัด ประเพณี ฯลฯ โอ้ยสารพัด มันเหมือนกันตรงไหน ข้างหนึ่งหัวดำตัวเหลือง อีกข้างหนึ่งหัวทองตัวขาวเผือด ข้างหนึ่งหนาวหิมะตก ข้างหนึ่งเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกน้ำท่วม ยังคิดก็อบปี้ตะบี้ตะบันท่าเดียว เพราะถูกทำให้เชื่อว่า ฝรั่งนั้นฉลาดกว่าเรา สิ่งที่เขาคิด ดีกว่าที่เราคิด มันฝังหัว ตั้งกะไปเรียน prep school หรือ public school กับฝรั่งมาแล้ว ดังนั้น เมื่อฝรั่งบอกเดินหน้าเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทุกท่านก็ลุย! เฮ้อ! เศร้าใจ การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย เมื่อกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด มันก็ผิดไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่แก้ไข คนอะไรเดินใส่เสื้อติดกระดุมเขย่งมาเกือบ 60 ปี ยังไม่รู้ตัว นิคมอุตสาหกรรม จึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แล้วดอกเห็ดพวกนี้ไม่รู้เป็นอะไร ก็ชอบขึ้นอยู่ตามที่ลุ่ม ซึ่งเป็นทางเดินของน้ำ ดูนิคมบางชัน นิคมแถวอยุธยา บางปะอิน เป็นตัวอย่างแล้วกัน ยิ่งนานวันดอกเห็ดก็แผ่ขยายบานกินเมืองเข้าไปลึกขวางทางไหลหลากของน้ำ ซึ่งมาประจำปี ดังนั้น ปัญหาน้ำท่วมก็ยังจะมีอยู่ต่อไป ต้องใช้เรือดำน้ำกี่ลำ หญ้าแพรกเท่าไหร่ก็เอาไม่อยู่ ถ้ายังดันทุรังเดินใส่เสื้อกระดุมเขย่งกันอยู่อย่างนี้ นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องท่าเรือแหลมฉบัง ผาแดง แทนทาลัม นิคมอุตสาหกรรมระยอง โรงไฟฟ้าบ้านกรูด การวางท่อแก๊ส ฯลฯ ที่ไม่เข้ากับสภาพภูมิประเทศ และความเป็นอยู่ของท้องถิ่นนะ แค่นี้ก็น่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว แหล่งอุตสาหกรรมใหญ่ทั้งหลาย สร้างรายได้ให้กับผู้ถือหุ้นอย่างมหาศาล คนท้องถิ่นได้แต่ค่าแรงวันละไม่กี่บาท แล้วใครเป็นผู้ถือหุ้น… ก็คนต่างชาติส่วนใหญ่ บวกกับคนไทยขายชาติที่ถือหุ้นแทนฝรั่งไง คนท้องถิ่นไม่เคยได้เป็นผู้ถือหุ้น! ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่ทำกิน และที่สำคัญ สุขอนามัยของชาวบ้าน ไม่เคยเป็นปัจจัยที่ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุนต่างชาติ ให้ความสนใจหรือห่วงใย ผู้ให้กู้ หรือนักลงทุน ให้ความสนใจแต่ ผลผลิต และผลกำไรของพวกเขาเท่านั้น ส่วนนักการเมืองไทย ก็นึกแต่ค่าหัวคิว ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ที่จะได้รับ รับแล้วเอาไปซุกไว้ที่ไหนดีหนอ หลังบ้าน ใต้เตียง ในตู้เสื้อผ้า หรือซุกไว้กับคนรถ คนใช้ ฯลฯ แล้วประเทศได้อะไร ประชาชนได้อะไร …เคยมีนักการเมืองหน้าไหนดูแลเราจริงๆ จังๆ บ้าง คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายจ้างไทยสงสารเขมร ถูกหลอกกลับไปรบ
    (Thai employers pity the Khmers — deceived into returning to war.) [30/7/68]

    #นายจ้างไทยสงสารเขมร #ถูกหลอกกลับไปรบ #แรงงานเขมรถูกใช้เป็นเหยื่อ #กลับจากไทยไปรบแนวหน้า #สงครามไม่ใช่ทางออก #ThaiEmployersSpeakOut #KhmerWorkersDeceived #ข่าวสังคมแรงงาน #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง
    #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #CambodiaNoCeasefire #TruthFromThailand #Hunsenfiredfirst #thaitimes #news1 #shorts
    นายจ้างไทยสงสารเขมร ถูกหลอกกลับไปรบ (Thai employers pity the Khmers — deceived into returning to war.) [30/7/68] #นายจ้างไทยสงสารเขมร #ถูกหลอกกลับไปรบ #แรงงานเขมรถูกใช้เป็นเหยื่อ #กลับจากไทยไปรบแนวหน้า #สงครามไม่ใช่ทางออก #ThaiEmployersSpeakOut #KhmerWorkersDeceived #ข่าวสังคมแรงงาน #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #CambodiaNoCeasefire #TruthFromThailand #Hunsenfiredfirst #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพของกัมพูชาเผยแพร่จดหมายเปิดผนึก เรียกร้องบรรดาผู้ซื้อและผู้บริโภคนานาชาติ ในสินค้าและบริการของไทย ให้ใช้มาตรการเร่งด่วน ตามหลังมีเหตุความรุนแรงและตามราวีแรงงานต่างด้าวกัมพูชาในไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071808

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพของกัมพูชาเผยแพร่จดหมายเปิดผนึก เรียกร้องบรรดาผู้ซื้อและผู้บริโภคนานาชาติ ในสินค้าและบริการของไทย ให้ใช้มาตรการเร่งด่วน ตามหลังมีเหตุความรุนแรงและตามราวีแรงงานต่างด้าวกัมพูชาในไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071808 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพของกัมพูชาเผยแพร่จดหมายเปิดผนึก เรียกร้องบรรดาผู้ซื้อและผู้บริโภคนานาชาติ ในสินค้าและบริการของไทย ให้ใช้มาตรการเร่งด่วน ตามหลังมีเหตุความรุนแรงและตามราวีแรงงานต่างด้าวกัมพูชาในไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000071827

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes

    กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพของกัมพูชาเผยแพร่จดหมายเปิดผนึก เรียกร้องบรรดาผู้ซื้อและผู้บริโภคนานาชาติ ในสินค้าและบริการของไทย ให้ใช้มาตรการเร่งด่วน ตามหลังมีเหตุความรุนแรงและตามราวีแรงงานต่างด้าวกัมพูชาในไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000071827 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 720 มุมมอง 0 รีวิว
  • การพัฒนาอินเทอร์เน็ต: จากสายทองแดงสู่ใยแก้ว และไปไกลถึงอวกาศ

    ในยุคปัจจุบันที่โลกเชื่อมต่อกันอย่างแนบแน่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การทำงาน การเรียนรู้ หรือการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร อินเทอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์ในทุกมิติ แต่การเดินทางของเทคโนโลยีนี้ไม่ได้เริ่มต้นจากความล้ำสมัย หากแต่เริ่มจากโครงสร้างพื้นฐานพื้นฐานอย่างสายทองแดง ก่อนจะพัฒนาไปสู่ใยแก้วนำแสง และก้าวข้ามพรมแดนทางภูมิศาสตร์ด้วยอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม

    จุดเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ตย้อนกลับไปในปี 1969 เมื่อกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาโครงการ ARPANET ซึ่งเป็นเครือข่ายแรกที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์จากหลายสถาบันเข้าด้วยกัน โดยใช้สายโทรศัพท์ทองแดงเป็นโครงข่ายหลัก ความก้าวหน้านี้ได้ปูทางสู่การพัฒนาระบบการสื่อสารผ่านแนวคิดการสลับแพ็กเก็ต ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้ข้อมูลสามารถเดินทางผ่านเครือข่ายได้อย่างยืดหยุ่นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สายทองแดงเองก็มีข้อจำกัดมากมาย ทั้งในเรื่องของระยะทาง ความเร็ว และความไวต่อสัญญาณรบกวน

    ในช่วงทศวรรษที่ 1990 การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ Dial-up ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยอาศัยสายโทรศัพท์ทองแดงร่วมกับโมเด็ม ซึ่งทำหน้าที่แปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาล็อก และในทางกลับกัน แม้ว่าจะเป็นการเปิดประตูให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสกับโลกออนไลน์ แต่ Dial-up ก็เต็มไปด้วยข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นความเร็วที่ต่ำ การผูกขาดสายโทรศัพท์ระหว่างการใช้งาน หรือการหลุดสัญญาณอย่างสม่ำเสมอ ต่อมาจึงเกิดการพัฒนาเทคโนโลยี DSL (Digital Subscriber Line) ซึ่งสามารถใช้งานโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตได้พร้อมกันบนสายทองแดงเส้นเดียวกัน และให้ความเร็วสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังอยู่บนโครงข่ายเดิม DSL ก็ช่วยยืดอายุของโครงสร้างพื้นฐานสายทองแดงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง

    อย่างไรก็ดี พลังของสายทองแดงมีขีดจำกัดทั้งในเชิงฟิสิกส์และเศรษฐศาสตร์ ปริมาณข้อมูลที่สามารถรับส่งได้ต่อวินาทีนั้นมีข้อจำกัดจากระยะทาง ความต้านทาน และความถี่ของสัญญาณ การพยายามเพิ่มความเร็วผ่านสายทองแดงจึงต้องเผชิญกับปัญหาการลดทอนของสัญญาณ และความเสี่ยงต่อการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารอบข้างมากขึ้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณของโลกในยุคดิจิทัล

    การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างจึงเกิดขึ้น ด้วยการหันมาใช้ใยแก้วนำแสงเป็นสื่อกลางในการส่งข้อมูล ใยแก้วนำแสงใช้พลังงานแสงแทนกระแสไฟฟ้า จึงสามารถส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงมาก มีแบนด์วิดท์กว้าง และไม่ไวต่อคลื่นรบกวนภายนอก หลักการทำงานของใยแก้วนำแสงอาศัยปรากฏการณ์สะท้อนกลับหมด (Total Internal Reflection) ที่ทำให้แสงสามารถวิ่งผ่านเส้นใยแก้วได้ในระยะไกลโดยไม่สูญเสียพลังงานมากนัก ใยแก้วนำแสงไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ แต่ยังเพิ่มความปลอดภัย และลดต้นทุนในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ

    ประโยชน์ของใยแก้วนำแสงเห็นได้ชัดในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมวิดีโอความละเอียดสูง การประชุมทางไกล การเรียนรู้ออนไลน์ หรือแม้แต่การเล่นเกมผ่านคลาวด์ ความเร็วที่สูงและความเสถียรของเครือข่ายช่วยให้บริการเหล่านี้ทำงานได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโต และเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนานวัตกรรมและบริการที่อาศัยการรับส่งข้อมูลจำนวนมากแบบเรียลไทม์

    แม้ว่าใยแก้วนำแสงจะเป็นโซลูชันที่ดูจะ “พร้อมสำหรับอนาคต” แต่ในทางปฏิบัติ การติดตั้งโครงข่ายนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะปัญหาในช่วง Last Mile หรือการเชื่อมโยงใยแก้วนำแสงจากสายหลักเข้าสู่บ้านและธุรกิจแต่ละหลัง ซึ่งมักมีต้นทุนสูง ใช้แรงงานผู้เชี่ยวชาญ และต้องอาศัยการวางแผนโครงข่ายอย่างรอบคอบ ความซับซ้อนนี้ทำให้ชุมชนชนบทหรือพื้นที่ห่างไกลถูกมองข้าม จนนำไปสู่ “ช่องว่างทางดิจิทัล” ที่ยังคงปรากฏอยู่ในหลายภูมิภาค

    เพื่อเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมได้ถูกพัฒนาขึ้น โดยเฉพาะดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) อย่าง Starlink ที่ให้เวลาแฝงต่ำและความเร็วสูงกว่าเทคโนโลยีดาวเทียมรุ่นก่อน แม้จะมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและความไวต่อสภาพอากาศ แต่การเข้าถึงที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ของดาวเทียมได้สร้างความหวังใหม่สำหรับประชากรที่เคยอยู่นอกขอบเขตของโครงสร้างพื้นฐานแบบมีสาย

    อนาคตของการเชื่อมต่อไม่ได้หยุดอยู่แค่ใยแก้วนำแสงหรือดาวเทียม ปัจจุบันมีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีล้ำหน้า เช่น Wavelength Division Multiplexing (WDM) ที่ช่วยให้สามารถส่งข้อมูลหลายชุดพร้อมกันในเส้นใยเส้นเดียว หรือ Hollow Core Fiber ที่นำแสงวิ่งผ่านอากาศแทนแกนแก้ว เพิ่มความเร็วและลดเวลาแฝง นอกจากนี้ยังมีแนวคิดอินเทอร์เน็ตควอนตัม (Quantum Internet) ที่ใช้หลักกลศาสตร์ควอนตัมในการสร้างระบบเครือข่ายที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

    สรุปได้ว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตไม่ใช่เพียงเรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก อินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นและเชื่อถือได้มากขึ้น หมายถึงโอกาสที่เปิดกว้างมากขึ้นเช่นกัน การลงทุนในเทคโนโลยีที่ยั่งยืนจึงไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นสำหรับอนาคตที่เชื่อมโยงกันมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    🌐 การพัฒนาอินเทอร์เน็ต: จากสายทองแดงสู่ใยแก้ว และไปไกลถึงอวกาศ 🌏 ในยุคปัจจุบันที่โลกเชื่อมต่อกันอย่างแนบแน่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การทำงาน การเรียนรู้ หรือการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร อินเทอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์ในทุกมิติ แต่การเดินทางของเทคโนโลยีนี้ไม่ได้เริ่มต้นจากความล้ำสมัย หากแต่เริ่มจากโครงสร้างพื้นฐานพื้นฐานอย่างสายทองแดง ก่อนจะพัฒนาไปสู่ใยแก้วนำแสง และก้าวข้ามพรมแดนทางภูมิศาสตร์ด้วยอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม 📞 จุดเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ตย้อนกลับไปในปี 1969 เมื่อกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาโครงการ ARPANET ซึ่งเป็นเครือข่ายแรกที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์จากหลายสถาบันเข้าด้วยกัน โดยใช้สายโทรศัพท์ทองแดงเป็นโครงข่ายหลัก ความก้าวหน้านี้ได้ปูทางสู่การพัฒนาระบบการสื่อสารผ่านแนวคิดการสลับแพ็กเก็ต ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้ข้อมูลสามารถเดินทางผ่านเครือข่ายได้อย่างยืดหยุ่นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สายทองแดงเองก็มีข้อจำกัดมากมาย ทั้งในเรื่องของระยะทาง ความเร็ว และความไวต่อสัญญาณรบกวน 🧭 ในช่วงทศวรรษที่ 1990 การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ Dial-up ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยอาศัยสายโทรศัพท์ทองแดงร่วมกับโมเด็ม ซึ่งทำหน้าที่แปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาล็อก และในทางกลับกัน แม้ว่าจะเป็นการเปิดประตูให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสกับโลกออนไลน์ แต่ Dial-up ก็เต็มไปด้วยข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นความเร็วที่ต่ำ การผูกขาดสายโทรศัพท์ระหว่างการใช้งาน หรือการหลุดสัญญาณอย่างสม่ำเสมอ ต่อมาจึงเกิดการพัฒนาเทคโนโลยี DSL (Digital Subscriber Line) ซึ่งสามารถใช้งานโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตได้พร้อมกันบนสายทองแดงเส้นเดียวกัน และให้ความเร็วสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังอยู่บนโครงข่ายเดิม DSL ก็ช่วยยืดอายุของโครงสร้างพื้นฐานสายทองแดงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ⚠️ อย่างไรก็ดี พลังของสายทองแดงมีขีดจำกัดทั้งในเชิงฟิสิกส์และเศรษฐศาสตร์ ปริมาณข้อมูลที่สามารถรับส่งได้ต่อวินาทีนั้นมีข้อจำกัดจากระยะทาง ความต้านทาน และความถี่ของสัญญาณ การพยายามเพิ่มความเร็วผ่านสายทองแดงจึงต้องเผชิญกับปัญหาการลดทอนของสัญญาณ และความเสี่ยงต่อการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารอบข้างมากขึ้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณของโลกในยุคดิจิทัล 💡 การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างจึงเกิดขึ้น ด้วยการหันมาใช้ใยแก้วนำแสงเป็นสื่อกลางในการส่งข้อมูล ใยแก้วนำแสงใช้พลังงานแสงแทนกระแสไฟฟ้า จึงสามารถส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงมาก มีแบนด์วิดท์กว้าง และไม่ไวต่อคลื่นรบกวนภายนอก หลักการทำงานของใยแก้วนำแสงอาศัยปรากฏการณ์สะท้อนกลับหมด (Total Internal Reflection) ที่ทำให้แสงสามารถวิ่งผ่านเส้นใยแก้วได้ในระยะไกลโดยไม่สูญเสียพลังงานมากนัก ใยแก้วนำแสงไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ แต่ยังเพิ่มความปลอดภัย และลดต้นทุนในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ 📺 ประโยชน์ของใยแก้วนำแสงเห็นได้ชัดในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมวิดีโอความละเอียดสูง การประชุมทางไกล การเรียนรู้ออนไลน์ หรือแม้แต่การเล่นเกมผ่านคลาวด์ ความเร็วที่สูงและความเสถียรของเครือข่ายช่วยให้บริการเหล่านี้ทำงานได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโต และเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนานวัตกรรมและบริการที่อาศัยการรับส่งข้อมูลจำนวนมากแบบเรียลไทม์ 🚧 แม้ว่าใยแก้วนำแสงจะเป็นโซลูชันที่ดูจะ “พร้อมสำหรับอนาคต” แต่ในทางปฏิบัติ การติดตั้งโครงข่ายนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะปัญหาในช่วง Last Mile หรือการเชื่อมโยงใยแก้วนำแสงจากสายหลักเข้าสู่บ้านและธุรกิจแต่ละหลัง ซึ่งมักมีต้นทุนสูง ใช้แรงงานผู้เชี่ยวชาญ และต้องอาศัยการวางแผนโครงข่ายอย่างรอบคอบ ความซับซ้อนนี้ทำให้ชุมชนชนบทหรือพื้นที่ห่างไกลถูกมองข้าม จนนำไปสู่ “ช่องว่างทางดิจิทัล” ที่ยังคงปรากฏอยู่ในหลายภูมิภาค 🛰️ เพื่อเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมได้ถูกพัฒนาขึ้น โดยเฉพาะดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) อย่าง Starlink ที่ให้เวลาแฝงต่ำและความเร็วสูงกว่าเทคโนโลยีดาวเทียมรุ่นก่อน แม้จะมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและความไวต่อสภาพอากาศ แต่การเข้าถึงที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ของดาวเทียมได้สร้างความหวังใหม่สำหรับประชากรที่เคยอยู่นอกขอบเขตของโครงสร้างพื้นฐานแบบมีสาย 🔭 อนาคตของการเชื่อมต่อไม่ได้หยุดอยู่แค่ใยแก้วนำแสงหรือดาวเทียม ปัจจุบันมีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีล้ำหน้า เช่น Wavelength Division Multiplexing (WDM) ที่ช่วยให้สามารถส่งข้อมูลหลายชุดพร้อมกันในเส้นใยเส้นเดียว หรือ Hollow Core Fiber ที่นำแสงวิ่งผ่านอากาศแทนแกนแก้ว เพิ่มความเร็วและลดเวลาแฝง นอกจากนี้ยังมีแนวคิดอินเทอร์เน็ตควอนตัม (Quantum Internet) ที่ใช้หลักกลศาสตร์ควอนตัมในการสร้างระบบเครือข่ายที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด 📌 สรุปได้ว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตไม่ใช่เพียงเรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก อินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นและเชื่อถือได้มากขึ้น หมายถึงโอกาสที่เปิดกว้างมากขึ้นเช่นกัน การลงทุนในเทคโนโลยีที่ยั่งยืนจึงไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นสำหรับอนาคตที่เชื่อมโยงกันมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ #ลุงเขียนหลานอ่าน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประสบการณ์อดีตแบบนี้อันตรายมาก,คนชาติของศัตรูข้าศึกเมื่อยังอยู่ในแผ่นดินไทยตีความทันทีทั้งหมดก่อนว่าสามารถเป็นไส้ศึกส่งข่าวจากภายในเราให้ประเทศศัตรูแบบเขมรในภาวะสงครามนี้ได้ทุกๆเมื่อ,แรงงานต่างด้าวทั้งหมดจึงต้องส่งไปรวมกันในที่ใดที่หนึ่งก่อนทันที,ปกป้องการเห็นกิจกรรมการเคลื่อนไหวใดๆทางกายภาพของฝ่ายทหารเรา,คนเขมรคนไหนอยากจะกลับเขมรก็ส่งกลับทันที ใครจะอยู่ก็อยู่ไปเพื่อมนุษยธรรมและอาจเป็นคนสันดานจริตดีไม่เป็นผิดเป็นภัยต่อไทยจริง,เด็กๆครอบครัวเขาหวาดกลัวการกลับไปนั้นเอง ใจไม่เอาเขมรก็ว่า,หรือฝ่ายศัตรูฮุนเซนก็ด้วย,หลายคนก้มกราบขออยู่ประเทศไทยมีครอบครัวในไทยแล้ว รักประเทศไทย,มีลูกเรียนในโรงเรียนไทยแล้ว,จึงค.ว.ย.เพื่อมนุษยธรรมที่พอเข้าใจได้,จึงมิให้เขมรคนใดๆอยู่ทั้งหมดในบริเวณสงคราม,อาจอพยพส่งไปติดชายแดนพม่าก่อนแทน,ไม่สามารถเห็นกำลังพลใดๆเราได้หากไม่ผลักดันขับไล่คนเขมรทุกๆคนทั้งหมดออกไปเพราะสามารถกระทำการแบบนี้ได้แน่นอน,เพราะคนเขมรปลูกฝังใส่สมองแล้วว่าไทยคือศัตรูมีโอกาสก็ทำเราเลยนั้นเอง,มาค้าแรงงานทำงานย่อมมีใจฝักใฝ่ลักษณะนี้โดยมากลึกๆ,กูมาหาเงิน หลอกคนไทยนายจ้างว่าซื่อสัตย์เป็นคนดีรักประเทศไทยก่อนให้ตายใจก็ว่าได้เช่นกัน หลอกมาเอาตังก่อนนั้นล่ะ.

    https://youtube.com/shorts/zJM1RbY2xVU?si=Yg9On1RFUH7o7DDW
    ..ประสบการณ์อดีตแบบนี้อันตรายมาก,คนชาติของศัตรูข้าศึกเมื่อยังอยู่ในแผ่นดินไทยตีความทันทีทั้งหมดก่อนว่าสามารถเป็นไส้ศึกส่งข่าวจากภายในเราให้ประเทศศัตรูแบบเขมรในภาวะสงครามนี้ได้ทุกๆเมื่อ,แรงงานต่างด้าวทั้งหมดจึงต้องส่งไปรวมกันในที่ใดที่หนึ่งก่อนทันที,ปกป้องการเห็นกิจกรรมการเคลื่อนไหวใดๆทางกายภาพของฝ่ายทหารเรา,คนเขมรคนไหนอยากจะกลับเขมรก็ส่งกลับทันที ใครจะอยู่ก็อยู่ไปเพื่อมนุษยธรรมและอาจเป็นคนสันดานจริตดีไม่เป็นผิดเป็นภัยต่อไทยจริง,เด็กๆครอบครัวเขาหวาดกลัวการกลับไปนั้นเอง ใจไม่เอาเขมรก็ว่า,หรือฝ่ายศัตรูฮุนเซนก็ด้วย,หลายคนก้มกราบขออยู่ประเทศไทยมีครอบครัวในไทยแล้ว รักประเทศไทย,มีลูกเรียนในโรงเรียนไทยแล้ว,จึงค.ว.ย.เพื่อมนุษยธรรมที่พอเข้าใจได้,จึงมิให้เขมรคนใดๆอยู่ทั้งหมดในบริเวณสงคราม,อาจอพยพส่งไปติดชายแดนพม่าก่อนแทน,ไม่สามารถเห็นกำลังพลใดๆเราได้หากไม่ผลักดันขับไล่คนเขมรทุกๆคนทั้งหมดออกไปเพราะสามารถกระทำการแบบนี้ได้แน่นอน,เพราะคนเขมรปลูกฝังใส่สมองแล้วว่าไทยคือศัตรูมีโอกาสก็ทำเราเลยนั้นเอง,มาค้าแรงงานทำงานย่อมมีใจฝักใฝ่ลักษณะนี้โดยมากลึกๆ,กูมาหาเงิน หลอกคนไทยนายจ้างว่าซื่อสัตย์เป็นคนดีรักประเทศไทยก่อนให้ตายใจก็ว่าได้เช่นกัน หลอกมาเอาตังก่อนนั้นล่ะ. https://youtube.com/shorts/zJM1RbY2xVU?si=Yg9On1RFUH7o7DDW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มธุรกิจใหม่ ไม่ต้องลงทุนแรง! เครื่องปอกเปลือกช่วยคุณประหยัดทั้งเงินและเวลา!
    สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ที่กำลังมองหาเครื่องมือช่วยทุ่นแรง แต่ยังกังวลเรื่องงบประมาณอยู่ใช่ไหมคะ? เครื่องปอกเปลือกแบบใช้น้ำขนาด 10 ลิตร ของเราคือคำตอบ! เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า คืนทุนเร็วแน่นอน!

    ทำไมเครื่องนี้ถึงเหมาะกับธุรกิจเริ่มต้น?
    ราคาไม่แรง! เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการลงทุนก้อนแรก

    เพิ่มกำลังผลิตได้ทันที! ไม่ต้องจ้างคนเพิ่ม ไม่ต้องเสียเวลามาปอกมือเองอีกต่อไป เครื่องนี้ช่วยให้คุณผลิตวัตถุดิบได้เร็วขึ้นมาก!

    ประหยัดเวลาและแรงงาน! ปอกหอมแดง หอมแขก หอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง หรือกระเทียม ได้มากถึง 5-7 กก. ต่อครั้ง! ทำให้คุณมีเวลาไปโฟกัสกับส่วนอื่น ๆ ของธุรกิจได้เต็มที่

    คุณภาพดี ทนทาน! แม้ราคาจะเข้าถึงง่าย แต่คุณภาพไม่เป็นรองใคร! ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสทั้งเครื่อง แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน

    ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก! ไม่ต้องมีทักษะเฉพาะทาง แค่เสียบปลั๊ก ใส่ของ กดปุ่ม ก็พร้อมใช้งานได้เลย

    รับประกัน 1 ปี! มั่นใจได้ในบริการหลังการขาย เราพร้อมดูแลธุรกิจของคุณให้ก้าวไปข้างหน้า

    รายละเอียดเครื่อง:
    ขนาด: 50 x 74.5 x 85 ซม.
    มอเตอร์: 1 แรงม้า
    ใช้ไฟบ้าน: 220V
    น้ำหนัก: 58 กก.

    อย่าปล่อยให้การเตรียมวัตถุดิบเป็นอุปสรรคในการเริ่มต้นธุรกิจของคุณ! ลงทุนกับเครื่องปอกเปลือกวันนี้ เพื่ออนาคตที่เติบโต!

    สนใจสินค้า? แวะมาดูเครื่องจริงได้เลย!
    เรายินดีให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้ประกอบการมือใหม่ทุกท่านค่ะ

    เวลาทำการ:
    จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    เสาร์: 8.00 - 16.00 น.

    แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/4ppsHfy3NYb1uPPu6

    ช่องทางติดต่อสอบถาม:
    Facebook Messenger: m.me/yonghahheng
    LINE Official Account: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp

    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องปอกเปลือก #เริ่มต้นธุรกิจ #ลงทุนน้อย #คืนทุนเร็ว #ผู้ประกอบการ #SME #ร้านอาหารเล็กๆ #ธุรกิจอาหาร #ประหยัดต้นทุน #เครื่องจักรอาหาร #อุปกรณ์ครัว #ทำอาหารขาย #หอมใหญ่ #กระเทียม #มันฝรั่ง #เครื่องทุ่นแรง #yonghahheng #คุ้มค่า #ธุรกิจร้านอาหาร
    🚀 เริ่มธุรกิจใหม่ ไม่ต้องลงทุนแรง! ✨ เครื่องปอกเปลือกช่วยคุณประหยัดทั้งเงินและเวลา! 🧅🥔🧄 สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ที่กำลังมองหาเครื่องมือช่วยทุ่นแรง แต่ยังกังวลเรื่องงบประมาณอยู่ใช่ไหมคะ? 🎉 เครื่องปอกเปลือกแบบใช้น้ำขนาด 10 ลิตร ของเราคือคำตอบ! เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า คืนทุนเร็วแน่นอน! 🔥 ทำไมเครื่องนี้ถึงเหมาะกับธุรกิจเริ่มต้น? 🔥 💰 ราคาไม่แรง! เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการลงทุนก้อนแรก 📈 เพิ่มกำลังผลิตได้ทันที! ไม่ต้องจ้างคนเพิ่ม ไม่ต้องเสียเวลามาปอกมือเองอีกต่อไป เครื่องนี้ช่วยให้คุณผลิตวัตถุดิบได้เร็วขึ้นมาก! ⏰ ประหยัดเวลาและแรงงาน! ปอกหอมแดง หอมแขก หอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง หรือกระเทียม ได้มากถึง 5-7 กก. ต่อครั้ง! ทำให้คุณมีเวลาไปโฟกัสกับส่วนอื่น ๆ ของธุรกิจได้เต็มที่ 💯 คุณภาพดี ทนทาน! แม้ราคาจะเข้าถึงง่าย แต่คุณภาพไม่เป็นรองใคร! ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสทั้งเครื่อง แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน 🛠️ ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก! ไม่ต้องมีทักษะเฉพาะทาง แค่เสียบปลั๊ก ใส่ของ กดปุ่ม ก็พร้อมใช้งานได้เลย 🛡️ รับประกัน 1 ปี! มั่นใจได้ในบริการหลังการขาย เราพร้อมดูแลธุรกิจของคุณให้ก้าวไปข้างหน้า รายละเอียดเครื่อง: ขนาด: 50 x 74.5 x 85 ซม. มอเตอร์: 1 แรงม้า ใช้ไฟบ้าน: 220V น้ำหนัก: 58 กก. ✨ อย่าปล่อยให้การเตรียมวัตถุดิบเป็นอุปสรรคในการเริ่มต้นธุรกิจของคุณ! ลงทุนกับเครื่องปอกเปลือกวันนี้ เพื่ออนาคตที่เติบโต! ✨ 📍 สนใจสินค้า? แวะมาดูเครื่องจริงได้เลย! เรายินดีให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้ประกอบการมือใหม่ทุกท่านค่ะ 🗓️ เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. เสาร์: 8.00 - 16.00 น. 🗺️ แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/4ppsHfy3NYb1uPPu6 💬 ช่องทางติดต่อสอบถาม: Facebook Messenger: m.me/yonghahheng LINE Official Account: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp 📞 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 🌐 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 📧 อีเมล: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com #เครื่องปอกเปลือก #เริ่มต้นธุรกิจ #ลงทุนน้อย #คืนทุนเร็ว #ผู้ประกอบการ #SME #ร้านอาหารเล็กๆ #ธุรกิจอาหาร #ประหยัดต้นทุน #เครื่องจักรอาหาร #อุปกรณ์ครัว #ทำอาหารขาย #หอมใหญ่ #กระเทียม #มันฝรั่ง #เครื่องทุ่นแรง #yonghahheng #คุ้มค่า #ธุรกิจร้านอาหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ร่างรอไว้เลย ชื่่อที่จะเสนอเป็นนายกฯพระราชทาน มาปกป้องอธิปไตยไทยผ่านสไตล์การปกครองแบบฝรั่งมันเชื่อ, ผบ.ปู เรานี้ล่ะเหมาะสม ให้คณะรวมพลังแผ่นดินไทยจัดบิ๊กกุ้งปฏิวัติเงียบหลังฉากก็ได้ ทหารไทย ตำรวจไทยเราเอาด้วยแล้ว,คณะรวมพลังแผ่นดินไทยต้องตั้งชกก่อนตบกิน,จะให้ทหารเปิดหน้ายึดอำนาจแล้วเชิญ ผบ.ปู มานั่งจะเกินกำลังทหารเรา แรงเสียดทานต่อต้านฝ่ายไม่ดีจะหาช่องได้,
    ..ทางโล่งๆในตอนนี้คือรัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรมในการบริหารปกครองอธิปไตยชาติไทยไม่สามารถไว้วางใจได้อีกต่อไป คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยจึงขออนุญาตเสนอชื่อนายกฯพระราชทานเป็น "ผบ.ปู พนา" ก็ว่าไป จะให้ ผบ.ปูทำปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจทางตรงรวบอำนาจเบ็ดเสร็จแบบนั้นจะหักดิบเกินไปแต่เราประชาชนชอบใจแน่นอน,ที่จะฟันต่อฟัน หักดิบกับทหารแตกแถวมานานทหารชั่วขายชาติค้าไส้ศึกกับอธิปไตยชาติมานานกดขี่พลทหารชั้นผู้น้อยมานานด้วยเช่นกัน ตลอดหักดิบกับนักการเมืองเลวชั่วที่ฝังรากเหง้าวางรากฐานอิทธิพลจนชาติไทยจะสิ้นอธิปไตยแล้วในตอนนี้ด้วย,หักดิบกับเจ้าสัวเลวนักธุรกิจชั่วที่เต็มประเทศร่วมมือกับนักการเมืองมาอย่างยาวนานในการขนกบฎศัตรูข้าศึกไทยเข้าประเทศในรูปแบบต่างๆเช่นค้าแรงงานจ้างแรงงานขนคนมารอบุกจู่โจมเราภายในประเทศนั้นเองกว่าแสนๆคนกว่าล้านๆคนหรือเกิน10ล้านคนแล้วในปัจจุบัน ทำลายนัยยะมากมายต่อประชาชนคนไทยที่มันสุ่มหัวกันทำลายประเทศนอกจากฝ่ายทางการเมืองการอำนาจทางการปกครอง.,คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยจึงต้องชกตั้งชกแบบนี้จึงสามารถได้คนดีมาปกครองประเทศโดยมีทีมงานแบบคณะรวมพลังแผ่นดินไทยสร้างกองทัพภาคประชาชนคู่ขนานจริงจังด้วย ผบ.ปู ดูแลประเทศฝ่ายทหาร และภาพรวมทั้งหมด คณะรวมพลังฯช่วยผบ.ปู ดูแลกระทรวงต่างๆภายทางเชื่อมประชาคมโลกบุกสร้างเศรษฐกิจทางการตังการเงินให้เข้มแข็ง ค้าขายนำเงินเข้าประเทศคล่องเชื่อมโลกได้เยี่ยม ประชาชนค้าขายตรงต่อโลก มีเท่าไรขายได้หมด,ผลผลิตประชาชนต้นทุนใดๆคณะรวมพลังฯจัดกองทัพสาระพัดทางขจัดปัญหาประชาชนสาระพัดทิศนั้นเอง,ทีมกองทัพทุกๆกลศึกเรามีหมดนั้นเอง,
    ..ผบ.ปู นายกฯพนา ก็ออกคำสั่งเด็ดขาดยกเลิกmou43และmou44ทันที,จะจบพวกวางแผนแดกประเทศไทยทันทีอีกด้าน,จากนั้นนายกฯพนาก็ร่วมกับภาคประชาชนเริ่มกวาดล้างคนเนรคุณคนทรยศกบฎขายชาติไทยเราอย่างจริงจังทันที,เริ่มอายัดทรัพย์สินพวกมันทั้งหมดทั้งในประเทศและต่างประเทศประสานฑูตต่างประเทศทั้งหมดตรวจสอบทรัพย์สินคนไทยทุกๆคนที่มีอยู่ในประเทศนั้นๆอายัดทั้งหมดและให้เจ้าของเท่านั้นจะพิสูจน์ทราบทั้งหมดว่า ท่านได้แต่ใดมา?,ชี้แจ้งที่ไปที่มาของทุกๆทรัพย์สินทั้งหมด หากไม่ตรงกันจะพิจารณาขั้นเด็ดขาดตามลำดับเด็ดขาดนั้นๆทันที,เราต้องกวาดล้างจริงๆ
    ..นายกฯคนต่อไป จึงเป็น อักษร พ. จริงๆนั้นล่ะตรงตามคำทำนาย.,บิ๊กกุ้งก็ทำหน้าที่ปฏิวัติวัติรัฐประหารยึดอำนาจเงียบไป,ทางสายคณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยก็เดินสายทำภาพให้ดูดีแก่ชาวโลก ชูนายกฯพนาไปร่วมนั่งสมาคมใดๆกับประชาคมโลกได้อย่างภาคภูมิใจด้วยเพราะภาคมหาประชาชนเราเสนอเอง,คือภาคประชาชนยึดอำนาจทางหน้าจอแทนนั้นเอง,ใครจะประฌามประชาชนยึดอำนาจรัฐประหารเอง.
    ..คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยต้องรุกฆาตด้วยเช่นกัน.

    https://youtube.com/watch?v=OqzeNAc5eaE&si=VKjbuKNJR4OffQMX
    ..คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ร่างรอไว้เลย ชื่่อที่จะเสนอเป็นนายกฯพระราชทาน มาปกป้องอธิปไตยไทยผ่านสไตล์การปกครองแบบฝรั่งมันเชื่อ, ผบ.ปู เรานี้ล่ะเหมาะสม ให้คณะรวมพลังแผ่นดินไทยจัดบิ๊กกุ้งปฏิวัติเงียบหลังฉากก็ได้ ทหารไทย ตำรวจไทยเราเอาด้วยแล้ว,คณะรวมพลังแผ่นดินไทยต้องตั้งชกก่อนตบกิน,จะให้ทหารเปิดหน้ายึดอำนาจแล้วเชิญ ผบ.ปู มานั่งจะเกินกำลังทหารเรา แรงเสียดทานต่อต้านฝ่ายไม่ดีจะหาช่องได้, ..ทางโล่งๆในตอนนี้คือรัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรมในการบริหารปกครองอธิปไตยชาติไทยไม่สามารถไว้วางใจได้อีกต่อไป คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยจึงขออนุญาตเสนอชื่อนายกฯพระราชทานเป็น "ผบ.ปู พนา" ก็ว่าไป จะให้ ผบ.ปูทำปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจทางตรงรวบอำนาจเบ็ดเสร็จแบบนั้นจะหักดิบเกินไปแต่เราประชาชนชอบใจแน่นอน,ที่จะฟันต่อฟัน หักดิบกับทหารแตกแถวมานานทหารชั่วขายชาติค้าไส้ศึกกับอธิปไตยชาติมานานกดขี่พลทหารชั้นผู้น้อยมานานด้วยเช่นกัน ตลอดหักดิบกับนักการเมืองเลวชั่วที่ฝังรากเหง้าวางรากฐานอิทธิพลจนชาติไทยจะสิ้นอธิปไตยแล้วในตอนนี้ด้วย,หักดิบกับเจ้าสัวเลวนักธุรกิจชั่วที่เต็มประเทศร่วมมือกับนักการเมืองมาอย่างยาวนานในการขนกบฎศัตรูข้าศึกไทยเข้าประเทศในรูปแบบต่างๆเช่นค้าแรงงานจ้างแรงงานขนคนมารอบุกจู่โจมเราภายในประเทศนั้นเองกว่าแสนๆคนกว่าล้านๆคนหรือเกิน10ล้านคนแล้วในปัจจุบัน ทำลายนัยยะมากมายต่อประชาชนคนไทยที่มันสุ่มหัวกันทำลายประเทศนอกจากฝ่ายทางการเมืองการอำนาจทางการปกครอง.,คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยจึงต้องชกตั้งชกแบบนี้จึงสามารถได้คนดีมาปกครองประเทศโดยมีทีมงานแบบคณะรวมพลังแผ่นดินไทยสร้างกองทัพภาคประชาชนคู่ขนานจริงจังด้วย ผบ.ปู ดูแลประเทศฝ่ายทหาร และภาพรวมทั้งหมด คณะรวมพลังฯช่วยผบ.ปู ดูแลกระทรวงต่างๆภายทางเชื่อมประชาคมโลกบุกสร้างเศรษฐกิจทางการตังการเงินให้เข้มแข็ง ค้าขายนำเงินเข้าประเทศคล่องเชื่อมโลกได้เยี่ยม ประชาชนค้าขายตรงต่อโลก มีเท่าไรขายได้หมด,ผลผลิตประชาชนต้นทุนใดๆคณะรวมพลังฯจัดกองทัพสาระพัดทางขจัดปัญหาประชาชนสาระพัดทิศนั้นเอง,ทีมกองทัพทุกๆกลศึกเรามีหมดนั้นเอง, ..ผบ.ปู นายกฯพนา ก็ออกคำสั่งเด็ดขาดยกเลิกmou43และmou44ทันที,จะจบพวกวางแผนแดกประเทศไทยทันทีอีกด้าน,จากนั้นนายกฯพนาก็ร่วมกับภาคประชาชนเริ่มกวาดล้างคนเนรคุณคนทรยศกบฎขายชาติไทยเราอย่างจริงจังทันที,เริ่มอายัดทรัพย์สินพวกมันทั้งหมดทั้งในประเทศและต่างประเทศประสานฑูตต่างประเทศทั้งหมดตรวจสอบทรัพย์สินคนไทยทุกๆคนที่มีอยู่ในประเทศนั้นๆอายัดทั้งหมดและให้เจ้าของเท่านั้นจะพิสูจน์ทราบทั้งหมดว่า ท่านได้แต่ใดมา?,ชี้แจ้งที่ไปที่มาของทุกๆทรัพย์สินทั้งหมด หากไม่ตรงกันจะพิจารณาขั้นเด็ดขาดตามลำดับเด็ดขาดนั้นๆทันที,เราต้องกวาดล้างจริงๆ ..นายกฯคนต่อไป จึงเป็น อักษร พ. จริงๆนั้นล่ะตรงตามคำทำนาย.,บิ๊กกุ้งก็ทำหน้าที่ปฏิวัติวัติรัฐประหารยึดอำนาจเงียบไป,ทางสายคณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยก็เดินสายทำภาพให้ดูดีแก่ชาวโลก ชูนายกฯพนาไปร่วมนั่งสมาคมใดๆกับประชาคมโลกได้อย่างภาคภูมิใจด้วยเพราะภาคมหาประชาชนเราเสนอเอง,คือภาคประชาชนยึดอำนาจทางหน้าจอแทนนั้นเอง,ใครจะประฌามประชาชนยึดอำนาจรัฐประหารเอง. ..คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยต้องรุกฆาตด้วยเช่นกัน. https://youtube.com/watch?v=OqzeNAc5eaE&si=VKjbuKNJR4OffQMX
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกเพชร: เมื่อ “เพชรในห้องแล็บ” เขย่าอุตสาหกรรมที่เคยมั่นคง

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเลือกแหวนหมั้น แล้วพบว่าเพชรที่สวยงามขนาด 2 กะรัต ราคาเพียง 3,500 ดอลลาร์—แทนที่จะเป็น 35,000 ดอลลาร์แบบเดิม นี่คือผลพวงจากการเติบโตของ “เพชรที่ผลิตในห้องแล็บ” ที่กำลังเปลี่ยนวิธีคิดของผู้บริโภคทั่วโลก

    จากเดิมที่เพชรธรรมชาติเป็นสัญลักษณ์ของความรักและสถานะ วันนี้ผู้บริโภคหันมาเลือกเพชรแล็บเพราะราคาถูกกว่า ผลิตได้อย่างมีจริยธรรม และไม่มีประวัติ “เพชรเลือด” ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานเด็กหรือการสนับสนุนสงคราม

    ผลกระทบเริ่มชัดเจนในแคนาดา—ประเทศผู้ผลิตเพชรอันดับ 3 ของโลก—เมื่อบริษัท Burgundy Diamond Mines ต้องปิดเหมือง Point Lake และปลดพนักงานหลายร้อยคน เพราะราคาตลาดตกต่ำและต้นทุนสูงเกินไป

    Lab-Grown Diamonds กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเพชรธรรมชาติ
    เพชรแล็บมีราคาถูกกว่า 85% และผลิตได้รวดเร็วในห้องแล็บ
    ผู้บริโภคสามารถซื้อเพชรขนาดใหญ่ขึ้นในราคาที่เข้าถึงได้

    ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม
    หลีกเลี่ยง “เพชรเลือด” ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานเด็กและสงคราม
    เพชรแล็บไม่มีการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการขุดเหมือง

    อุตสาหกรรมเหมืองเพชรในแคนาดาได้รับผลกระทบหนัก
    บริษัท Burgundy Diamond Mines ปิดเหมือง Point Lake และปลดพนักงาน
    ราคาขายปลีกของเพชรธรรมชาติลดลง 26% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

    เทคโนโลยีการผลิตเพชรแล็บพัฒนาอย่างรวดเร็ว
    สามารถปรับแต่งรูปทรง สี และคุณสมบัติได้ตามต้องการ
    ทำให้เพชรแล็บมีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น

    ผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น Millennials และ Gen Z นิยมเพชรแล็บมากขึ้น
    ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและความโปร่งใส
    ไม่ยึดติดกับแนวคิดว่า “เพชรธรรมชาติเท่านั้นที่แท้จริง”

    การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมเหมืองเพชร
    การปิดเหมืองทำให้เกิดการว่างงานจำนวนมากในพื้นที่ห่างไกล
    ชุมชนที่พึ่งพาอุตสาหกรรมเพชรอาจเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ

    เพชรแล็บยังมีข้อถกเถียงเรื่องการใช้พลังงานสูงในการผลิต
    แม้จะไม่ขุดเหมือง แต่การผลิตต้องใช้พลังงานจำนวนมาก
    หากใช้พลังงานจากฟอสซิล อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

    ความแตกต่างด้าน “ความรู้สึก” และ “คุณค่า” ยังมีอยู่
    ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าเพชรธรรมชาติมี “ความซับซ้อน” ที่เพชรแล็บไม่มี
    เพชรธรรมชาติเป็น “เศษส่วนของโลกใต้พิภพ” ที่มีความเป็นเอกลักษณ์

    การลดราคาของเพชรธรรมชาติอาจทำให้สูญเสียความเป็นสินทรัพย์ลงทุน
    ราคาตกต่อเนื่องทำให้เพชรธรรมชาติไม่เป็นที่นิยมในฐานะการลงทุน
    อาจส่งผลต่อแบรนด์หรูที่เคยใช้เพชรธรรมชาติเป็นจุดขาย

    https://www.cbc.ca/news/business/lab-grown-diamonds-1.7592336
    💎 เรื่องเล่าจากโลกเพชร: เมื่อ “เพชรในห้องแล็บ” เขย่าอุตสาหกรรมที่เคยมั่นคง ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเลือกแหวนหมั้น แล้วพบว่าเพชรที่สวยงามขนาด 2 กะรัต ราคาเพียง 3,500 ดอลลาร์—แทนที่จะเป็น 35,000 ดอลลาร์แบบเดิม นี่คือผลพวงจากการเติบโตของ “เพชรที่ผลิตในห้องแล็บ” ที่กำลังเปลี่ยนวิธีคิดของผู้บริโภคทั่วโลก จากเดิมที่เพชรธรรมชาติเป็นสัญลักษณ์ของความรักและสถานะ วันนี้ผู้บริโภคหันมาเลือกเพชรแล็บเพราะราคาถูกกว่า ผลิตได้อย่างมีจริยธรรม และไม่มีประวัติ “เพชรเลือด” ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานเด็กหรือการสนับสนุนสงคราม ผลกระทบเริ่มชัดเจนในแคนาดา—ประเทศผู้ผลิตเพชรอันดับ 3 ของโลก—เมื่อบริษัท Burgundy Diamond Mines ต้องปิดเหมือง Point Lake และปลดพนักงานหลายร้อยคน เพราะราคาตลาดตกต่ำและต้นทุนสูงเกินไป ✅ Lab-Grown Diamonds กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเพชรธรรมชาติ ➡️ เพชรแล็บมีราคาถูกกว่า 85% และผลิตได้รวดเร็วในห้องแล็บ ➡️ ผู้บริโภคสามารถซื้อเพชรขนาดใหญ่ขึ้นในราคาที่เข้าถึงได้ ✅ ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม ➡️ หลีกเลี่ยง “เพชรเลือด” ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานเด็กและสงคราม ➡️ เพชรแล็บไม่มีการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการขุดเหมือง ✅ อุตสาหกรรมเหมืองเพชรในแคนาดาได้รับผลกระทบหนัก ➡️ บริษัท Burgundy Diamond Mines ปิดเหมือง Point Lake และปลดพนักงาน ➡️ ราคาขายปลีกของเพชรธรรมชาติลดลง 26% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ✅ เทคโนโลยีการผลิตเพชรแล็บพัฒนาอย่างรวดเร็ว ➡️ สามารถปรับแต่งรูปทรง สี และคุณสมบัติได้ตามต้องการ ➡️ ทำให้เพชรแล็บมีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น ✅ ผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น Millennials และ Gen Z นิยมเพชรแล็บมากขึ้น ➡️ ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและความโปร่งใส ➡️ ไม่ยึดติดกับแนวคิดว่า “เพชรธรรมชาติเท่านั้นที่แท้จริง” ‼️ การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมเหมืองเพชร ⛔ การปิดเหมืองทำให้เกิดการว่างงานจำนวนมากในพื้นที่ห่างไกล ⛔ ชุมชนที่พึ่งพาอุตสาหกรรมเพชรอาจเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ‼️ เพชรแล็บยังมีข้อถกเถียงเรื่องการใช้พลังงานสูงในการผลิต ⛔ แม้จะไม่ขุดเหมือง แต่การผลิตต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ⛔ หากใช้พลังงานจากฟอสซิล อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ‼️ ความแตกต่างด้าน “ความรู้สึก” และ “คุณค่า” ยังมีอยู่ ⛔ ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าเพชรธรรมชาติมี “ความซับซ้อน” ที่เพชรแล็บไม่มี ⛔ เพชรธรรมชาติเป็น “เศษส่วนของโลกใต้พิภพ” ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ‼️ การลดราคาของเพชรธรรมชาติอาจทำให้สูญเสียความเป็นสินทรัพย์ลงทุน ⛔ ราคาตกต่อเนื่องทำให้เพชรธรรมชาติไม่เป็นที่นิยมในฐานะการลงทุน ⛔ อาจส่งผลต่อแบรนด์หรูที่เคยใช้เพชรธรรมชาติเป็นจุดขาย https://www.cbc.ca/news/business/lab-grown-diamonds-1.7592336
    WWW.CBC.CA
    The natural diamond industry is getting rocked. You can thank the lab-grown variety for that | CBC News
    As consumers have grown less worried about whether their diamonds are mined or made, many have turned to cost-friendly lab grown diamonds. And that’s having a big impact on the diamond mining industry — including for Canada.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เราประชาชนคนไทยต้องร่วมสามัคคีกันเป็นยามทั่วไทยและลักษณะแนวสงครามนี้ด้วยยิ่งสำคัญมากเพราะจะตัดตอนการสูญเสียที่คาดไม่ถึงอีกได้,เขมรจึงต้องส่งกลับทั้งหมด,ไว้ใจไม่ได้ ไม่นับพวกนักการเมืองทรยศขายชาติไทยปัจจุบันด้วย.,ไส้ศึกทั้งคนเขมรภายในประเทศไทยเราเอง,และไส้ศึกจากนักการเมืองสมุนนักการเมืองที่ขายชาติไทยก็ด้วยจึงอันตรายมาก,เราประชาชนจึงร่วมกันปกป้องอธิปไตยไทยเราร่วมกับทหารไทยเราจนถึงที่สุดจริงๆ,ปัจจุบันนักการเมืองไทยเราหมดสถานะความน่าเชื่อถือใดๆอีกต่อไป,แค่ตามน้ำแบบเสียไม่ได้เท่านั้นซึ่งทหารไทยเราลงมือไปแล้วเท่านั้น,มันมองว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามมันขัดขวางผลประโยชน์มันชัดเจนตามคลิปนั้นแล้ว ทหารชายแดนเราถูกกระทำอย่างสาระพัดเลวผ่านกลไกนักการเมืองที่ได้เป็นรัฐบาลมากพอแล้วจนพวกเขมรมันได้ใจทั้งในประเทศเขมรเองและแรงงานเขมรภายในประเทศไทยเราเองก็ไม่น้อยเช่นกัน,และส่วนใหญ่สันดานพวกนี้เป็นลักษณะนั้นพร้อมทรยศหักหลังเนรคุณทุกเมื่อ,เช่นเคลมเรานั้นล่ะ
    ..เรา..ประชาชนเสนอให้ผลักดันเขมรทั้งหมดออกจากประเทศมาโดยตลอดแต่เจ้าสัว นายทุน นักการเมืองที่มีกิจการเป็นของตนเองมากมายในโรงงานบริษัทต่างๆไม่ยอมเสียโอกาสในแรงงานถูกๆนี้ ตลอดสามารถสั่งการสร้างจราจลบริเวณที่ชุมนุมประชาชนคนไทยเป็นมือที่สามก็ได้ด้วย,จะเสื้อแดงเอง พันธมิตรเสื้อเหลืองเอง ยิ่งพวกชูสามนิ้วล้วนมีคนเขมรปะปนในกลุ่มผู้ชุมนุมไม่น้อยแน่นอน,ไม่รวมคนพม่าด้วยที่พวกชูสามนิ้วหล่อเลี้ยงไว้ใช้งานในลักษณะต่างๆหรือลักษณะนี้ชุมนุมนั้นก็ด้วย,พื้นที่ที่อุตสาหกรรมนิคมไทยโรงงานไทยเป็นอันมากกิจการบริษัทในไทยเป็นอันมากกระจายไปด้วยกำลังคนต่างด้าวเป็นอันมาก เขมรเกิน500,000คนทั่วประเทศแน่นอน พม่าเกิน1ล้านคนไปแล้ว แขกอาหรับหรือยิว ทั้งหมดรวมๆกันในไทยไม่ต่ำกว่า10-20ล้านคนแน่นอนทั้งต่างชาติใดๆและต่างด้าวใดทั้งหมดรวมกัน,
    ..กรณีปัจจุบันนี้เขมรคือภัยร้ายแรงที่สุดในปัจจุบัน ศัตรูที่เปิดเผยชัดเจนหมายยึดประเทศไทยทำลายประเทศไทยทุกๆมิติชัดเจน ดูง่ายๆพยายามทำลายชื่อเสียงประเทศไทยเคลมแย่งชิงชื่อเสียงมากมายงานวัฒนธรรมประเทศไทยเรา,
    ..คนเขมรต้องขับออกจากแผ่นดินไทยทุกๆตัวในเวลานี้ สามารถเป็นไส้ศึกเบอร์หนึ่งตลอดเวลานั้นเอง,ไส้ศึกสามารถชี้เป้าทำลายเมืองหลวงเราได้นะ คือประชาชนเป็นจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงของประเทศไทยเรา,ความเสี่ยงนี้ไม่สามารถรับได้กับการไม่ไล่ขับไล่คนเขมรข้าศึกศัตรูออกไปในยามภาวะสงครามนี้,มันคือชีวิตเราประชาชนคนไทยภายในประเทศเราเองของทุกๆคน,มันยิงเด็กๆเรา ยิงโรงพยาบาลเรา ยิงบ้านเรือนประชาชนมันยังกล้าทำนะและเราสูญเสียจริงด้วย,เราประชาชนจึงไม่อาจรับความเสี่ยงนี้ได้เลยแม้เล็กน้อย,ไฟแม้เล็กน้อยก็อย่าประมาทมัน,คนเขมรคนเดียวก็ประมาทไม่ได้.,สงบศึกเราสามารถว่ากันใหม่ได้.
    ..https://youtube.com/shorts/HulYptukHMQ?si=bbp1ddKyBTupoH-R
    ..เราประชาชนคนไทยต้องร่วมสามัคคีกันเป็นยามทั่วไทยและลักษณะแนวสงครามนี้ด้วยยิ่งสำคัญมากเพราะจะตัดตอนการสูญเสียที่คาดไม่ถึงอีกได้,เขมรจึงต้องส่งกลับทั้งหมด,ไว้ใจไม่ได้ ไม่นับพวกนักการเมืองทรยศขายชาติไทยปัจจุบันด้วย.,ไส้ศึกทั้งคนเขมรภายในประเทศไทยเราเอง,และไส้ศึกจากนักการเมืองสมุนนักการเมืองที่ขายชาติไทยก็ด้วยจึงอันตรายมาก,เราประชาชนจึงร่วมกันปกป้องอธิปไตยไทยเราร่วมกับทหารไทยเราจนถึงที่สุดจริงๆ,ปัจจุบันนักการเมืองไทยเราหมดสถานะความน่าเชื่อถือใดๆอีกต่อไป,แค่ตามน้ำแบบเสียไม่ได้เท่านั้นซึ่งทหารไทยเราลงมือไปแล้วเท่านั้น,มันมองว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามมันขัดขวางผลประโยชน์มันชัดเจนตามคลิปนั้นแล้ว ทหารชายแดนเราถูกกระทำอย่างสาระพัดเลวผ่านกลไกนักการเมืองที่ได้เป็นรัฐบาลมากพอแล้วจนพวกเขมรมันได้ใจทั้งในประเทศเขมรเองและแรงงานเขมรภายในประเทศไทยเราเองก็ไม่น้อยเช่นกัน,และส่วนใหญ่สันดานพวกนี้เป็นลักษณะนั้นพร้อมทรยศหักหลังเนรคุณทุกเมื่อ,เช่นเคลมเรานั้นล่ะ ..เรา..ประชาชนเสนอให้ผลักดันเขมรทั้งหมดออกจากประเทศมาโดยตลอดแต่เจ้าสัว นายทุน นักการเมืองที่มีกิจการเป็นของตนเองมากมายในโรงงานบริษัทต่างๆไม่ยอมเสียโอกาสในแรงงานถูกๆนี้ ตลอดสามารถสั่งการสร้างจราจลบริเวณที่ชุมนุมประชาชนคนไทยเป็นมือที่สามก็ได้ด้วย,จะเสื้อแดงเอง พันธมิตรเสื้อเหลืองเอง ยิ่งพวกชูสามนิ้วล้วนมีคนเขมรปะปนในกลุ่มผู้ชุมนุมไม่น้อยแน่นอน,ไม่รวมคนพม่าด้วยที่พวกชูสามนิ้วหล่อเลี้ยงไว้ใช้งานในลักษณะต่างๆหรือลักษณะนี้ชุมนุมนั้นก็ด้วย,พื้นที่ที่อุตสาหกรรมนิคมไทยโรงงานไทยเป็นอันมากกิจการบริษัทในไทยเป็นอันมากกระจายไปด้วยกำลังคนต่างด้าวเป็นอันมาก เขมรเกิน500,000คนทั่วประเทศแน่นอน พม่าเกิน1ล้านคนไปแล้ว แขกอาหรับหรือยิว ทั้งหมดรวมๆกันในไทยไม่ต่ำกว่า10-20ล้านคนแน่นอนทั้งต่างชาติใดๆและต่างด้าวใดทั้งหมดรวมกัน, ..กรณีปัจจุบันนี้เขมรคือภัยร้ายแรงที่สุดในปัจจุบัน ศัตรูที่เปิดเผยชัดเจนหมายยึดประเทศไทยทำลายประเทศไทยทุกๆมิติชัดเจน ดูง่ายๆพยายามทำลายชื่อเสียงประเทศไทยเคลมแย่งชิงชื่อเสียงมากมายงานวัฒนธรรมประเทศไทยเรา, ..คนเขมรต้องขับออกจากแผ่นดินไทยทุกๆตัวในเวลานี้ สามารถเป็นไส้ศึกเบอร์หนึ่งตลอดเวลานั้นเอง,ไส้ศึกสามารถชี้เป้าทำลายเมืองหลวงเราได้นะ คือประชาชนเป็นจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงของประเทศไทยเรา,ความเสี่ยงนี้ไม่สามารถรับได้กับการไม่ไล่ขับไล่คนเขมรข้าศึกศัตรูออกไปในยามภาวะสงครามนี้,มันคือชีวิตเราประชาชนคนไทยภายในประเทศเราเองของทุกๆคน,มันยิงเด็กๆเรา ยิงโรงพยาบาลเรา ยิงบ้านเรือนประชาชนมันยังกล้าทำนะและเราสูญเสียจริงด้วย,เราประชาชนจึงไม่อาจรับความเสี่ยงนี้ได้เลยแม้เล็กน้อย,ไฟแม้เล็กน้อยก็อย่าประมาทมัน,คนเขมรคนเดียวก็ประมาทไม่ได้.,สงบศึกเราสามารถว่ากันใหม่ได้. ..https://youtube.com/shorts/HulYptukHMQ?si=bbp1ddKyBTupoH-R
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้คือภาวะสงครามคุณต้องกลับประเทศคุณสถานเดียว,เอกชนไทยทั้งหมดต้องร่วมผลักดันคนเขมรกลับประเทศเขมรด้วยหรือกักกันตัวพิเศษโดยนายจ้างเขมรทั้งหมดต้องแบกรับค่าใช้จ่ายนั้นทั้งหมดด้วย.,ส่งเสริมสนับสนุนต้องการแรงงานคนเขมรมาทำงานตลอดเรื่อยมาอย่างยาวนานแล้ว,ถึงเวลาต้องพอแก่การค้ากำไรได้แล้ว,อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อน.
    ..มันจะยิงจรวดตกใส่กรุงเทพฯและปริมลฑลแล้วพวกมรึงมั่วแต่ปกป้องผลประโยชน์ตนเองใช่มั้ย.



    https://youtube.com/shorts/2A0sFtUwCtA?si=wuTjQGrkt5rjRiBR
    ..นี้คือภาวะสงครามคุณต้องกลับประเทศคุณสถานเดียว,เอกชนไทยทั้งหมดต้องร่วมผลักดันคนเขมรกลับประเทศเขมรด้วยหรือกักกันตัวพิเศษโดยนายจ้างเขมรทั้งหมดต้องแบกรับค่าใช้จ่ายนั้นทั้งหมดด้วย.,ส่งเสริมสนับสนุนต้องการแรงงานคนเขมรมาทำงานตลอดเรื่อยมาอย่างยาวนานแล้ว,ถึงเวลาต้องพอแก่การค้ากำไรได้แล้ว,อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อน. ..มันจะยิงจรวดตกใส่กรุงเทพฯและปริมลฑลแล้วพวกมรึงมั่วแต่ปกป้องผลประโยชน์ตนเองใช่มั้ย. https://youtube.com/shorts/2A0sFtUwCtA?si=wuTjQGrkt5rjRiBR
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อความปลอดภัย! เจ้าหน้าที่ยึดมือถือแรงงานเขมรตัดการสื่อสาร หลังอพยพร่วมคนไทยที่ศูนย์พักพิงตราด

    จากเหตุปะทะบริเวณ ต.ชำราก อ.เมืองตราด ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลหนองเสม็ด ซึ่งรับผู้อพยพจากตำบลแหลมกลัด พบว่ามีทั้งประชาชนชาวไทยและแรงงานกัมพูชาเข้าพักอาศัยร่วมกัน เจ้าหน้าที่ได้ ยึดโทรศัพท์มือถือของแรงงานกัมพูชาทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย โดยไม่มีการสื่อสารไปยังภายนอก และได้แยกโซนการพักอย่างชัดเจน
    เพื่อความปลอดภัย! เจ้าหน้าที่ยึดมือถือแรงงานเขมรตัดการสื่อสาร หลังอพยพร่วมคนไทยที่ศูนย์พักพิงตราด จากเหตุปะทะบริเวณ ต.ชำราก อ.เมืองตราด ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลหนองเสม็ด ซึ่งรับผู้อพยพจากตำบลแหลมกลัด พบว่ามีทั้งประชาชนชาวไทยและแรงงานกัมพูชาเข้าพักอาศัยร่วมกัน เจ้าหน้าที่ได้ ยึดโทรศัพท์มือถือของแรงงานกัมพูชาทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย โดยไม่มีการสื่อสารไปยังภายนอก และได้แยกโซนการพักอย่างชัดเจน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • โลกของ “สาธารณสุขระหว่างประเทศ”: ระหว่างชีวิตและอำนาจ

    อดิเทพ จาวลาห์
    https://linktr.ee/chawlaadithep
    ต้นฉบับ: https://www.rookon.com/?p=1330

    เช่นเดียวกับด้านอื่นของการแพทย์ สาธารณสุขก็เป็นเรื่องของ “ชีวิตและความตาย” สิ่งที่แตกต่างคือมันถูกจัดการในระดับกลุ่มและสเกลงานระดับนานาชาติ เมื่อมีเงินก้อนใหญ่—เป็นล้านดอลลาร์ —ถูกจัดสรรไปยังโครงการใดโครงการหนึ่ง ผลลัพธ์อาจเป็นชีวิตที่รอดมากมาย หรือในทางตรงกันข้าม อาจมีชีวิตสูญเสีย และความโศกเศร้าเข้ามาแทนที่ หากเงินนั้นไม่ได้ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือถูกเบี่ยงเบนไปยังสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตราย

    การจัดการกับเรื่องเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อ “อีโก้” ของผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากมนุษย์มักให้คุณค่ากับตัวเอง เมื่รู้สึกว่า ตนมีอำนาจที่สามารถส่งผลต่อชีวิตผู้อื่น เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับนานาชาติได้รับการยกย่องและชมเชยจากสื่อและผู้คน—ที่มักได้เห็นเพียงภาพเด็กผิวสีจำนวนมาก 🧒🏾👧🏾ยืนเข้าคิวเพื่อรอรับการช่วยเหลือจากคนในเสื้อกั๊กสีขาวที่มีตราโลโก้เจ๋งๆ —ภาพนี้สร้างความรู้สึก “ยิ่งใหญ่” ขึ้นในใจของพวกเขา ขณะที่ด้านที่เป็นความจริง เช่น เงินเดือนสูงที่มักได้รับการยกเว้นภาษี การเดินทางระหว่างประเทศ พักในโรงแรมห้าดาว บางครั้งถูกปิดบังไม่ให้เป็นเรื่องหลักในสายตาประชาชน ซึ่งผมไม่ได้เกียงสิ่งเหล่านั้น แต่หากคุณศึกษาข้อมูลการใช้เงินของหน่วยงานเหล่านี้ คุณจะตกใจว่า เงินส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการเดินทางและความสะดวกสบายของเจ้าหน้าที่ เป็นหลัก

    ผลคือ “แรงจูงใจทางอีโก้” ถูกเสริมทัพ ทำให้เจ้าหน้าด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ รวมทั้งในประเทศมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มองว่าค่านิยมของตนดีเลิศจนพร้อมบังคับใช้สิ่งเหล่านั้นกับ “เป้าหมาย” ของงาน ไม่ว่าจะเป็นชุมชนใด เมื่อการงานของพวกเขาดูเหมือนมีคุณค่ามากกว่าการเลี้ยงลูก หรือการทำงานปกติในหมู่บ้าน หรือแม้กระทั่งพนักงานต้อนรับที่สนามบิน — พวกเขาจึงรู้สึกว่าการตัดสินใจแทนผู้อื่นนั้นช่าง “ชอบธรรม” เสียยิ่งนัก

    ตัวอย่างชัดๆ จากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยอมรับค่านิยมตะวันตกอย่างสุดโต่ง

    เมื่อทุนใหญ่เข้ามาคุมเกม

    ความซับซ้อนยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อแหล่งเงินทุนหลักมีวาระผลประโยชน์ทางธุรกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น WHO มีงบประมาณมากกว่า 75% ที่ถูกกำหนดโดยผู้ให้ทุน ซึ่งมักเป็นฝ่ายที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายเหล่านั้น เช่นบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่อาจได้กำไรจากการผลักดันวัคซีนใหม่ๆ

    องค์กรขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือโควิด เช่น GAVI และ CEPI ถูกตั้งขึ้นโดยกลุ่มทุนเอกชนและภาคธุรกิจ หลังจากวิกฤติ พวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของตารางบอร์ด และมี “สิทธิในการ” กำหนดทิศทางโครงการระดับโลก

    เมื่อการบรรจุทุนเชิงพาณิชย์และการเมืองเข้าไปอยู่ใต้ร่มของ “สาธารณสุข” เนื้อหาของงานก็เปลี่ยนจากการช่วยชีวิต มาเป็นการผลักดันวาระที่อาจไม่เกี่ยวกับสาธารณสุข แต่คือการหาผลประโยชน์มากกว่า และกำไรนานาประเภท

    แรงงานที่ “ถูกจับแต่เต็มใจ”

    ในธุรกิจ เราโฆษณาสินค้าและหวังว่าลูกค้าจะสนใจ เพราะนั่นคือความเสี่ยงและต้นทุน แต่หากสินค้านั้นถูก “บังคับให้ซื้อ” โดยกลไกของรัฐหรือองค์กร ไม่มีทางเลือก ไม่มีความรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา แถมถ้าความเสียหายเกิด—คุณก็ไม่รับผิดชอบ

    สิ่งนี้คือ “การพิมพ์เงิน” แบบไร้ความเสี่ยง และเพื่อให้ระบบนี้เดินไปได้ ต้องมี “แรงงาน” ที่พร้อมเป็นเครื่องมือ ผลิตภัณฑ์ และต้องมีพร่ำบรรยายหน้าแผงข่าวอย่างไม่ผิดพลาด

    ประวัติศาสตร์ที่น่ากลัวของสาธารณสุข

    ประวัติศาสตร์สาธารณสุขในสหรัฐฯ ยังเคยถูกใช้สนับสนุนนโยบายเชิงเหยียดเชื้อชาติและยูจีนิกส์ (Eugenics) ที่บังคับให้กลุ่มคนบางกลุ่ม เช่น คนเชื้อสายคนพื้นเมือง หรือผู้ที่มีความบกพร่องบางอย่าง ถูกคุมขัง ทำหมัน และปล่อยให้ตายต่ำกว่ามาตรฐานสุขภาพ แนวคิดนี้ยังถูกปลูกฝังในรั้วมหาวิทยาลัย เช่น ห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins

    ถึงแม้ในยุโรป เช่นอิตาลีและเยอรมนี ยุคฟาสซิสต์ก็ใช้สาธารณสุขในการฆาตกรรมกลุ่มชาติพันธุ์ที่ “ด้อยกว่า” —จากการคัดกรองทางพันธุกรรม จนถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จริงๆ และเรื่องนี้ยังดำเนินต่อเนื่องไปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง—อย่างเคส Tuskegee ที่ใช้ฐานข้อมูลทางการแพทย์ล่วงละเมิดความเป็นมนุษย์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ถูกศึกษา 👨🏿‍⚕️

    อีโก้ ความเชื่อ และการบังคับใช้

    แพทย์และพยาบาลในช่วงเวลานั้นเชื่อมั่นว่าตนเองทำ “สิ่งที่ถูกต้อง” จะช่วยกวาดล้าง “ความต่ำช้า” ออกจากสังคม แต่สุดท้ายพวกเขากลายเป็นเครื่องมือของโครงสร้างอำนาจ ที่มองไม่เห็นว่าตนกำลังทำร้ายมนุษย์อย่างไร้ความปราณี

    ในระบบที่มีลำดับขั้น ผู้ปฏิบัติงานจะยิ่งมีจิตวิทยาที่ทำให้ “เชื่อฟัง” และ “ยึดมั่นในระบบ” เมื่อพวกเขาได้รับการฝึกให้เชื่อใน “ความดีขั้นสูง” ของระบบ และเชื่อว่าการบังคับใช้มาตรการแข็ง หรือการจำกัดทางเลือกของประชาชน ล้วนเพื่อ “ประโยชน์สุขของส่วนรวม”

    ทางออกอยู่ที่การให้สิทธิ์และอำนาจ

    ในขณะที่ระบบนี้ขยายอำนาจการควบคุม แนวทางที่แท้จริงของ “สุขภาพ” กลับเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ทางจิต ใจ และสังคม ที่ต้องการ “สิทธิ์ในการเลือก”

    เมื่อคนมีอำนาจของตนเองได้กำหนดการรักษา ได้เลือกแนวทางที่เหมาะสมกับพื้นฐานชีวิตของตน และไม่ถูกบังคับจากส่วนกลาง สิ่งนี้เองคือรากฐานของสุขภาพที่แท้จริง

    แต่เมื่อระบบลุกลามไปยังการบังคับและการจำกัดเสรีภาพ—ไม่ว่าจะทางกฎหมายหรือทางวัฒนธรรม—มันคือต

    ตัวบ่อนทำลายระบบสุขภาพ และทำให้มนุษย์กลายเป็นเพียงเครื่องมือของอำนาจ

    สรุปและแนวทางปลุกพลัง

    * สำรวจระบบสาธารณสุขในมิติใหม่ ทั้งในแง่ของอำนาจทุน และโครงสร้างอำนาจ
    * เข้าใจว่าหลายสิ่งถูกออกแบบมาเพื่อชิงผลประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อความเป็นอยู่ของแท้
    * เห็นบทเรียนจากประวัติศาสตร์ว่าการใช้อำนาจโดยไม่ตรวจสอบนำไปสู่หายนะได้จริง
    * ตระหนักถึงอีโก้ของผู้ปฏิบัติงานและอันตรายจากระบบลำดับขั้น
    * ร่วมเรียกร้องให้ทุกคนมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่เกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง
    * ปลูกจิตสำนึกให้สังคมไม่ถูกควบคุม แต่มีศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์ 🧑🏽‍🤝‍🧑🏼

    สุดท้าย… การจะสร้างระบบสุขภาพที่ดีต้องเริ่มจาก “ประชาชนทุกคน” ที่ลุกขึ้นมามีเสียง มีสิทธิ์ มีอำนาจแสดงความคิดเห็น และร่วมกันสร้างระบบที่เคารพสิทธิและความต้องการของทุกคนอย่างแท้จริง

    ดังนั้นการเงียบเฉยคือการปล่อยให้ผู้มีอำนาจกระทำผิดต่ออย่างไม่รู้จบ
    https://www.facebook.com/share/p/1Bmr3SPLx7/
    🌍 โลกของ “สาธารณสุขระหว่างประเทศ”: ระหว่างชีวิตและอำนาจ 🧠💉 ✍️ อดิเทพ จาวลาห์ 🔗 https://linktr.ee/chawlaadithep 📖 ต้นฉบับ: https://www.rookon.com/?p=1330 เช่นเดียวกับด้านอื่นของการแพทย์ 🏥 สาธารณสุขก็เป็นเรื่องของ “ชีวิตและความตาย” สิ่งที่แตกต่างคือมันถูกจัดการในระดับกลุ่มและสเกลงานระดับนานาชาติ 🌐 เมื่อมีเงินก้อนใหญ่—เป็นล้านดอลลาร์ 💵—ถูกจัดสรรไปยังโครงการใดโครงการหนึ่ง ผลลัพธ์อาจเป็นชีวิตที่รอดมากมาย 🙌 หรือในทางตรงกันข้าม อาจมีชีวิตสูญเสีย และความโศกเศร้าเข้ามาแทนที่ 😢 หากเงินนั้นไม่ได้ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือถูกเบี่ยงเบนไปยังสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตราย ⚠️ การจัดการกับเรื่องเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อ “อีโก้” ของผู้เกี่ยวข้อง 🧠 เนื่องจากมนุษย์มักให้คุณค่ากับตัวเอง เมื่รู้สึกว่า ตนมีอำนาจที่สามารถส่งผลต่อชีวิตผู้อื่น 🧍‍♀️🧍‍♂️ เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับนานาชาติได้รับการยกย่องและชมเชยจากสื่อและผู้คน—ที่มักได้เห็นเพียงภาพเด็กผิวสีจำนวนมาก 🧒🏾👧🏾ยืนเข้าคิวเพื่อรอรับการช่วยเหลือจากคนในเสื้อกั๊กสีขาวที่มีตราโลโก้เจ๋งๆ 👕—ภาพนี้สร้างความรู้สึก “ยิ่งใหญ่” ขึ้นในใจของพวกเขา ✨ ขณะที่ด้านที่เป็นความจริง เช่น เงินเดือนสูงที่มักได้รับการยกเว้นภาษี 💰 การเดินทางระหว่างประเทศ ✈️ พักในโรงแรมห้าดาว 🏨 บางครั้งถูกปิดบังไม่ให้เป็นเรื่องหลักในสายตาประชาชน ซึ่งผมไม่ได้เกียงสิ่งเหล่านั้น แต่หากคุณศึกษาข้อมูลการใช้เงินของหน่วยงานเหล่านี้ 📊 คุณจะตกใจว่า เงินส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการเดินทางและความสะดวกสบายของเจ้าหน้าที่ เป็นหลัก 🚗🍽️ ผลคือ “แรงจูงใจทางอีโก้” ถูกเสริมทัพ 💪 ทำให้เจ้าหน้าด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ รวมทั้งในประเทศมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ⬆️ มองว่าค่านิยมของตนดีเลิศจนพร้อมบังคับใช้สิ่งเหล่านั้นกับ “เป้าหมาย” ของงาน 🎯 ไม่ว่าจะเป็นชุมชนใด เมื่อการงานของพวกเขาดูเหมือนมีคุณค่ามากกว่าการเลี้ยงลูก 👶 หรือการทำงานปกติในหมู่บ้าน หรือแม้กระทั่งพนักงานต้อนรับที่สนามบิน 🛫 — พวกเขาจึงรู้สึกว่าการตัดสินใจแทนผู้อื่นนั้นช่าง “ชอบธรรม” เสียยิ่งนัก 😇 ตัวอย่างชัดๆ จากองค์การอนามัยโลก (WHO) 🌏 ที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยอมรับค่านิยมตะวันตกอย่างสุดโต่ง ❗ 💸 เมื่อทุนใหญ่เข้ามาคุมเกม ความซับซ้อนยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อแหล่งเงินทุนหลักมีวาระผลประโยชน์ทางธุรกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ชัดเจน 🧩 ยกตัวอย่างเช่น WHO มีงบประมาณมากกว่า 75% ที่ถูกกำหนดโดยผู้ให้ทุน 💼 ซึ่งมักเป็นฝ่ายที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายเหล่านั้น เช่นบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่อาจได้กำไรจากการผลักดันวัคซีนใหม่ๆ 💉💰 องค์กรขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือโควิด เช่น GAVI และ CEPI ถูกตั้งขึ้นโดยกลุ่มทุนเอกชนและภาคธุรกิจ 🏢 หลังจากวิกฤติ พวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของตารางบอร์ด และมี “สิทธิในการ” กำหนดทิศทางโครงการระดับโลก 🌐 เมื่อการบรรจุทุนเชิงพาณิชย์และการเมืองเข้าไปอยู่ใต้ร่มของ “สาธารณสุข” ⛱️ เนื้อหาของงานก็เปลี่ยนจากการช่วยชีวิต มาเป็นการผลักดันวาระที่อาจไม่เกี่ยวกับสาธารณสุข แต่คือการหาผลประโยชน์มากกว่า และกำไรนานาประเภท 💹 👷‍♂️ แรงงานที่ “ถูกจับแต่เต็มใจ” ในธุรกิจ เราโฆษณาสินค้าและหวังว่าลูกค้าจะสนใจ 📢 เพราะนั่นคือความเสี่ยงและต้นทุน แต่หากสินค้านั้นถูก “บังคับให้ซื้อ” โดยกลไกของรัฐหรือองค์กร 🏛️ ไม่มีทางเลือก ❌ ไม่มีความรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา 😶 แถมถ้าความเสียหายเกิด—คุณก็ไม่รับผิดชอบ ❌ สิ่งนี้คือ “การพิมพ์เงิน” แบบไร้ความเสี่ยง 🖨️💵 และเพื่อให้ระบบนี้เดินไปได้ ต้องมี “แรงงาน” ที่พร้อมเป็นเครื่องมือ ⚙️ ผลิตภัณฑ์ และต้องมีพร่ำบรรยายหน้าแผงข่าวอย่างไม่ผิดพลาด 🗞️ 📜 ประวัติศาสตร์ที่น่ากลัวของสาธารณสุข ประวัติศาสตร์สาธารณสุขในสหรัฐฯ 🇺🇸 ยังเคยถูกใช้สนับสนุนนโยบายเชิงเหยียดเชื้อชาติและยูจีนิกส์ (Eugenics) 🧬 ที่บังคับให้กลุ่มคนบางกลุ่ม เช่น คนเชื้อสายคนพื้นเมือง หรือผู้ที่มีความบกพร่องบางอย่าง 🧑‍🦽 ถูกคุมขัง ทำหมัน และปล่อยให้ตายต่ำกว่ามาตรฐานสุขภาพ 🏚️ แนวคิดนี้ยังถูกปลูกฝังในรั้วมหาวิทยาลัย เช่น ห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins 🏫 ถึงแม้ในยุโรป เช่นอิตาลีและเยอรมนี ยุคฟาสซิสต์ก็ใช้สาธารณสุขในการฆาตกรรมกลุ่มชาติพันธุ์ที่ “ด้อยกว่า” ☠️—จากการคัดกรองทางพันธุกรรม จนถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จริงๆ 🩸 และเรื่องนี้ยังดำเนินต่อเนื่องไปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง—อย่างเคส Tuskegee ที่ใช้ฐานข้อมูลทางการแพทย์ล่วงละเมิดความเป็นมนุษย์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ถูกศึกษา 👨🏿‍⚕️ 🧠 อีโก้ ความเชื่อ และการบังคับใช้ แพทย์และพยาบาลในช่วงเวลานั้นเชื่อมั่นว่าตนเองทำ “สิ่งที่ถูกต้อง” ✅ จะช่วยกวาดล้าง “ความต่ำช้า” ออกจากสังคม แต่สุดท้ายพวกเขากลายเป็นเครื่องมือของโครงสร้างอำนาจ ที่มองไม่เห็นว่าตนกำลังทำร้ายมนุษย์อย่างไร้ความปราณี 🔥 ในระบบที่มีลำดับขั้น 🧱 ผู้ปฏิบัติงานจะยิ่งมีจิตวิทยาที่ทำให้ “เชื่อฟัง” และ “ยึดมั่นในระบบ” เมื่อพวกเขาได้รับการฝึกให้เชื่อใน “ความดีขั้นสูง” ของระบบ และเชื่อว่าการบังคับใช้มาตรการแข็ง หรือการจำกัดทางเลือกของประชาชน ล้วนเพื่อ “ประโยชน์สุขของส่วนรวม” 🫂 🌿 ทางออกอยู่ที่การให้สิทธิ์และอำนาจ ในขณะที่ระบบนี้ขยายอำนาจการควบคุม 🧬 แนวทางที่แท้จริงของ “สุขภาพ” กลับเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ทางจิต ใจ และสังคม ที่ต้องการ “สิทธิ์ในการเลือก” 🗳️ เมื่อคนมีอำนาจของตนเองได้กำหนดการรักษา 🧘 ได้เลือกแนวทางที่เหมาะสมกับพื้นฐานชีวิตของตน และไม่ถูกบังคับจากส่วนกลาง สิ่งนี้เองคือรากฐานของสุขภาพที่แท้จริง 🧡 แต่เมื่อระบบลุกลามไปยังการบังคับและการจำกัดเสรีภาพ—ไม่ว่าจะทางกฎหมายหรือทางวัฒนธรรม—มันคือต ตัวบ่อนทำลายระบบสุขภาพ และทำให้มนุษย์กลายเป็นเพียงเครื่องมือของอำนาจ 🤖 📢 สรุปและแนวทางปลุกพลัง * สำรวจระบบสาธารณสุขในมิติใหม่ ทั้งในแง่ของอำนาจทุน และโครงสร้างอำนาจ 🕵️‍♀️ * เข้าใจว่าหลายสิ่งถูกออกแบบมาเพื่อชิงผลประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อความเป็นอยู่ของแท้ 💔 * เห็นบทเรียนจากประวัติศาสตร์ว่าการใช้อำนาจโดยไม่ตรวจสอบนำไปสู่หายนะได้จริง 🧨 * ตระหนักถึงอีโก้ของผู้ปฏิบัติงานและอันตรายจากระบบลำดับขั้น 🧱 * ร่วมเรียกร้องให้ทุกคนมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่เกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง 🗣️ * ปลูกจิตสำนึกให้สังคมไม่ถูกควบคุม แต่มีศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์ 🧑🏽‍🤝‍🧑🏼 สุดท้าย… การจะสร้างระบบสุขภาพที่ดีต้องเริ่มจาก “ประชาชนทุกคน” ที่ลุกขึ้นมามีเสียง 📢 มีสิทธิ์ 🧾 มีอำนาจแสดงความคิดเห็น และร่วมกันสร้างระบบที่เคารพสิทธิและความต้องการของทุกคนอย่างแท้จริง 🙌 ดังนั้นการเงียบเฉยคือการปล่อยให้ผู้มีอำนาจกระทำผิดต่ออย่างไม่รู้จบ ❌ https://www.facebook.com/share/p/1Bmr3SPLx7/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ทหารต้องยึดอำนาจสถานเดียว ตอนนี้ไส้ศึกมีทั้งในฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เชื่อมั่นใครไม่ได้ มันโพสต์และช่องข่าวฝ่ายทรยศทำลายไทยแต่ปากบอกว่าปกป้องอธิปไตยไทยเสือกโพสต์เสือกนำเสนอเสือกค้างภาพออกสื่อช่องตนอย่างเปิดเผยในที่ตั้งหลุมหลยภัย โรงเรียน โรงพยาบาล เหี้ยเขมรมันเล็งระเบิดหาประชาชนชัดเจนเจตนาฆ่าสังหารคนบริสุทธิ์ในประเทศไทยชัดเจน ,ภาวะสงครามเราเชื่อใจคนเนรคุณคนทรยศคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ตระกูลตนเองก่อนมากน้อยแค่นั้น.

    ..ทหารไทยยึดอำนาจคือหนทางเดียว.จะสามารถควบคุมงานข่าวได้ระดับดี,และต้องล็อกเป้าโจมตีที่ศูนย์กลางสั่งการทางทหารเขมรด้วย นายพลเขมรทุกๆตัวต้องเก็บให้หมด,ตลอดฮุนเซนและฮุนมาเนตด้วยเก็บเร็วถล่มเร็วยิ่งสงครามจบเร็ว.,นี้คือภาวะส
    คราม คือการปกป้องอธิปไตยชาติ มิใช่การปะทะ มันยิงระเบิดหมายฆ่าสังหารประชาชนคนไทยเรานะ.,มันคืออาชญากรสงครามทันทีแล้ว,โจรฆ่าคนไทย เด็กๆไทย คุณจะถวายพานบูชามันขึ้นหิ้งเหรอ.,มันคืออาชญากร
    รมสงครามไปแล้ว,ไม่นับรวมอาชญากรและอาชญากรรมสากลโลกด้วยอีก ค้ามนุษย์ ฟอกเงิน ค้าอวัยวะ ค้ายาเสพติด ค้าเถื่อนๆสาระพัดทั้งหมด บ่อนคาสิโนออนไลน์ข้ามโลกด้วย. ฮับสาระพัดแหร่งรวบรวมความชั่วเลวทางทั่วโลก หลอกลวงคนดีๆจากทั่วโลกมาทารุนมาทรมานค้าแรงงานค้ามนุษย์จนหมดสภาพแล้วฆ่าทิ้งค้าอวัยวะขายตับไตหัวใจและอื่นๆไปทั่วโลกตลอดแดกเนื้อมนุษย์สไตล์สัตว์เลื้อยคลานทำก็ด้วย,ลัทธิมืดส่งคำสั่งซื้อแบยพวกคนฮอลลีวูดนั้นล่ะ.
    ..เขมรจึงสมควรถูกปลดออกจากความเป็นประเทศ,ขาดคุณสมบัติรับรองการเป็นประเทศ,พ้นสถานะความเป็นประเทศที่ดีงาม มิใช่รุกรานคุกคามใครเปิดบ่อนสาระพัดบ่อนชั่วเลวติดพรมแดนประเทศไทยแบบนี้.
    ..เขมรต้องดับอนาถอย่างเดียว.พวกลิ้นสองแฉกสัตว์เลื้อนคลานเผ่าพันธุ์ทรยศเนรคุณคนดี.

    https://youtube.com/shorts/mIDx4L-Mjlg?si=nwx9OISCgZ-upWd7
    ..ทหารต้องยึดอำนาจสถานเดียว ตอนนี้ไส้ศึกมีทั้งในฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เชื่อมั่นใครไม่ได้ มันโพสต์และช่องข่าวฝ่ายทรยศทำลายไทยแต่ปากบอกว่าปกป้องอธิปไตยไทยเสือกโพสต์เสือกนำเสนอเสือกค้างภาพออกสื่อช่องตนอย่างเปิดเผยในที่ตั้งหลุมหลยภัย โรงเรียน โรงพยาบาล เหี้ยเขมรมันเล็งระเบิดหาประชาชนชัดเจนเจตนาฆ่าสังหารคนบริสุทธิ์ในประเทศไทยชัดเจน ,ภาวะสงครามเราเชื่อใจคนเนรคุณคนทรยศคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ตระกูลตนเองก่อนมากน้อยแค่นั้น. ..ทหารไทยยึดอำนาจคือหนทางเดียว.จะสามารถควบคุมงานข่าวได้ระดับดี,และต้องล็อกเป้าโจมตีที่ศูนย์กลางสั่งการทางทหารเขมรด้วย นายพลเขมรทุกๆตัวต้องเก็บให้หมด,ตลอดฮุนเซนและฮุนมาเนตด้วยเก็บเร็วถล่มเร็วยิ่งสงครามจบเร็ว.,นี้คือภาวะส คราม คือการปกป้องอธิปไตยชาติ มิใช่การปะทะ มันยิงระเบิดหมายฆ่าสังหารประชาชนคนไทยเรานะ.,มันคืออาชญากรสงครามทันทีแล้ว,โจรฆ่าคนไทย เด็กๆไทย คุณจะถวายพานบูชามันขึ้นหิ้งเหรอ.,มันคืออาชญากร รมสงครามไปแล้ว,ไม่นับรวมอาชญากรและอาชญากรรมสากลโลกด้วยอีก ค้ามนุษย์ ฟอกเงิน ค้าอวัยวะ ค้ายาเสพติด ค้าเถื่อนๆสาระพัดทั้งหมด บ่อนคาสิโนออนไลน์ข้ามโลกด้วย. ฮับสาระพัดแหร่งรวบรวมความชั่วเลวทางทั่วโลก หลอกลวงคนดีๆจากทั่วโลกมาทารุนมาทรมานค้าแรงงานค้ามนุษย์จนหมดสภาพแล้วฆ่าทิ้งค้าอวัยวะขายตับไตหัวใจและอื่นๆไปทั่วโลกตลอดแดกเนื้อมนุษย์สไตล์สัตว์เลื้อยคลานทำก็ด้วย,ลัทธิมืดส่งคำสั่งซื้อแบยพวกคนฮอลลีวูดนั้นล่ะ. ..เขมรจึงสมควรถูกปลดออกจากความเป็นประเทศ,ขาดคุณสมบัติรับรองการเป็นประเทศ,พ้นสถานะความเป็นประเทศที่ดีงาม มิใช่รุกรานคุกคามใครเปิดบ่อนสาระพัดบ่อนชั่วเลวติดพรมแดนประเทศไทยแบบนี้. ..เขมรต้องดับอนาถอย่างเดียว.พวกลิ้นสองแฉกสัตว์เลื้อนคลานเผ่าพันธุ์ทรยศเนรคุณคนดี. https://youtube.com/shorts/mIDx4L-Mjlg?si=nwx9OISCgZ-upWd7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นักข่าวนี้ดูแปลกๆนะ เหมือนๆเห็นใจเขมรแบบบอกไม่ถูก ถ้าไปเป็นนักข่าวอ่านข่าวในเขมรน่าจะเข้าตาได้ใจคนเขมรแน่ๆ,เห็นๆหลายๆข่าว หลายๆประเด็นแล้ว.
    ..มรึงไปเหี้ยทำซากอะไรในเขมร มันต้องเป็นแบบนี้แน่นอน คนไทยก็เตือนแล้วอย่าอยู่อย่าไปทำอะไรๆทั้งสิ้น เขาพยายายเตือนมาตลอด,นอกจากพวกนี้ถูกพวกค้ามนุษย์จับตัวขังเอาไว้ ออกมาไม่ได้ รู้เป็นคนไทยจึงให้มาเดินถนน แล้วทำทีชี้หน้าบอกวัยรุ่นคนเขมรว่านี้คือคนไทย มันอาจจะเป็นแบบนี้มากกว่า เพราะคนไทยถูกหลอกลวงไปค้าแรงงานค้ามนุษย์เถื่อนแบบเดอะแก๊งคอลเซนเตอร์ไม่น้อยนะ.
    ..เขมรเป็นประเทศที่ชั่วเลวนะ ระเบิดทิ้งเถอะ.

    https://youtube.com/watch?v=L0_H267gOxY&si=kqTRHsC0LGf_q87d
    ..นักข่าวนี้ดูแปลกๆนะ เหมือนๆเห็นใจเขมรแบบบอกไม่ถูก ถ้าไปเป็นนักข่าวอ่านข่าวในเขมรน่าจะเข้าตาได้ใจคนเขมรแน่ๆ,เห็นๆหลายๆข่าว หลายๆประเด็นแล้ว. ..มรึงไปเหี้ยทำซากอะไรในเขมร มันต้องเป็นแบบนี้แน่นอน คนไทยก็เตือนแล้วอย่าอยู่อย่าไปทำอะไรๆทั้งสิ้น เขาพยายายเตือนมาตลอด,นอกจากพวกนี้ถูกพวกค้ามนุษย์จับตัวขังเอาไว้ ออกมาไม่ได้ รู้เป็นคนไทยจึงให้มาเดินถนน แล้วทำทีชี้หน้าบอกวัยรุ่นคนเขมรว่านี้คือคนไทย มันอาจจะเป็นแบบนี้มากกว่า เพราะคนไทยถูกหลอกลวงไปค้าแรงงานค้ามนุษย์เถื่อนแบบเดอะแก๊งคอลเซนเตอร์ไม่น้อยนะ. ..เขมรเป็นประเทศที่ชั่วเลวนะ ระเบิดทิ้งเถอะ. https://youtube.com/watch?v=L0_H267gOxY&si=kqTRHsC0LGf_q87d
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts