• 5//68

    การตื่นตระหนกของทักษิณ กำลังทำให้นายพีระพันธุ์ กับนายเอกณัฐ โดดเด่นขึ้นมาในทันที ในเรื่องของพลังงานและโกยคะแนนนิยมพุ่งพรวด ของพรรครวมไทยสร้างชาติ

    เมื่อหากย้อนกลับไปเมื่อกว่า 33 ปีที่แล้ว ที่ซาอุดิอาระเบีย ได้ตัดขาดการฑูตกับประเทศไทยอย่างถาวร ต่อกรณีความไม่พอใจในคดีการอุ้มตัวของนักการฑูตและการหายสาบสูญไปของนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย แม้จะเริ่มต้นจากคดีการขโมยเพชรประจำตระกูลของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย ของนายเกรียงไกร เตชะโม่ง จนมาถึงการคืนเพชรปลอมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยในยุคนั้น และการหายสาบสูญไปของเพชรบลูไดมอน ที่ราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียไม่ได้คืนเลยตราบเท่าทุกวันนี้

    แต่อย่างไรก็ดี ความบาดหมางใจต่อประเทศไทยของราขวงศ์ซาอุดิอาระเบีย กลับไม่ได้อยู่ที่เพชรที่หายไป แต่กลับเป็นอารบั้มรูปภาพที่สำคัญที่หายากและเป็นภาพสำคัญของราชวงศ์ที่ทรงอยู่ในวัยพระเยาว์ ที่ได้ถ่ายภาพคู่กับพระราชวงศ์ร่วมกัน ที่นายเกรียงไกร ได้ขโมยติดมือมาด้วย

    สรุปอัลบั้มรูปภาพได้ถูกนายเกรียงไกรเผาทิ้งเสียหายจนหมด หรือจากฝีมือเจ้าหน้าที่คนไหนไม่อาจทราบได้ แต่ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่อดีตนายกรัฐมนตรีลุงตู่ ได้ใช้ความพยายามอย่างสูง ที่จะขอรื้อฟื้นเชื่อมความสัมพันธไมตรีกับซาอุดิอาระเบียมาตลอด .....จนประสบความสำเร็จ ที่กว่า 33ปี ที่คดีความต่างๆ มีการนำเสนอข้อเท็จจริง แบบตรงไปตรงมาต่อราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียในยุคของลุงตู่ จนทำให้มงกุฏราชกุมารทรงพอพระทัย และเริ่มกลับมาฟื้นความสัมพันธไมตรีกับประเทศไทยอีกครั้ง

    ความร่วมมือที่สำคัญที่สุดระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบียก็คือเรื่อง พลังงานกับอาหาร

    การเป็นแขกรับเชิญพิเศษของซาอุดิอาระเบีย ที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.กระทรวงพลังงาน ต้องบินด่วนไปที่ซาอุฯ เพื่อคุยกันถึงความร่วมมือเรื่องพลังงานที่สำคัญ และมีช่าวจากวงในว่า ซาอุดิอาระเบีย เลือกที่จะเจรจากับนายพีระพันธุ์ เท่านั้น เพราะเขาดูที่ความซื่อสัตย์และไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เมื่อสกรีนจากนักการเมืองในรัฐบาลตอนนี้

    และแน่นอนว่า มหาอำนาจแห่งน้ำมันและก๊าซ ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจทั้งโลก อย่างซาอุดิอาระเบีย กำลังมองหาพลังงานทางเลือกใหม่ กับการลงทุนด้านอาหารกับประเทศไทย แบบงบการลงทุนไม่มีขีดจำกัด

    เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา สหรัฐอาหรับเอมิเรต (UAE) ได้ติดตั้งโซล่าฟาร์มมากกว่า 4 ล้านแผ่น สามาถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า 900 เมกะวัตต์ (MW)
    สามารถส่งกระแสไฟฟ้าให้ผู้คนในประเทศได้ใช้ไฟฟรีถึงกว่า 2 แสนครอบครัว ที่สำคัญที่สุดก็คือ การติดตั้งโซล่าฟาร์มของ UAE ในครั้งนี้ สามารถลดก๊าซคาร์บอนในอากาศได้มากถึงกว่า 1.6 ล้านตัน

    UAE ตั้งเป้าจะผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซล่าฟาร์มให้ได้5,000เมกะวัตต์ในปี พ.ศ. 2573 และจะลดก๊าซคาร์บอนได้มากถึง 5.6ล้านตัน ในอีก7ปีข้างหน้า

    ***เข้าประเด็น เรื่องนี้เกี่ยวข้องอย่างไรกับตระกูลฮุนและตระกูลชิน ทำไมทักษิณถึงอย่างเขี่ยนายพีระพีนธุ์ออกจาก รมว.กระทรวงพลังงาน และต้องการเขี่ยพรรครวมไทยสร้างชาติออกจาก ครม.ของลูกสาวตนเอง***

    1.ทักษิณเริ่มสติฟั่นเฟือน หวาดระแวง ว่าตนกำลังสูญเสียอำนาจทางพลังงานไปจนหมด เพราะตระกูลชิน ใช้อำนาจทางพลังงาน รวมทั้งทุนมหาศาลในการสร้างพรรคการเมืองขึ้นมาให้มีอำนาจอยู่เหนือ 3 สถาบันหลักของรัฐธรรมนูญไทยมายาวนานมาก ถ้าหากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ทำให้อำนาจทางพลังงานของทักษิณล่มสลายลง ตระกูลชินจะหมดอำนาจลงทั้งหมดในทางการเมืองของประเทศไทย ไปในทันที

    2. โซล่าฟาร์มของ UAE ใช้คนงานติดตั้ง มาจาก2 ประเทศคือไทยกับไต้หวัน ทีถือว่าเก่งโคตรๆในตอนนี้ โดยเฉพาะการติดตั้งแบบ ออฟกริตและออนกริต

    3.แน่นอนว่า โครงการอภิมหาโปรเจคที่จะใหญ่กว่า UAE ถึงกว่า10เท่า จะเกิดขึ้นที่ซาอุดิอาระเบีย โดยใช้แรงงานไทย และอุปกรณ์สำคัญที่มีคุณภาพสูง จะมาจากไต้หวันทั้งหมด และซาอุดิอาระเบีย จะตั้งเป้าลดก๊าซคาร์บอนลงในปี 2573 ที่ 20ล้านตัน

    4. ซาอุดิอาระเบียและกลุ่มประเทศโอเปกที่สำคัญ จะเข้ามาลงทุนกับกระทรวงพลังงานของไทย ในการผลิตกระแสไฟฟ้าไร้สาย และพลังงานสะอาดแข่งขันกับสหรัฐอเมริกา จีน และยุโรป และจะค่อยๆลดการผลิตน้ำมันกับก๊าซธรรมชาติลง ***สาเหตุเกิดจากน้ำท่วมหนักในทะเลทราย และในเมือง ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนก๊าศคาร์บอนมหาศาลต่อภาคการเกษตรของประเทศมหาอำนาจที่ผลิตน้ำมัน***

    ประเด็นคือ กลุ่มประเทศเหล่านี้ต้องการการร่วมมือกับนายพีระพันธุ์และนายเอกณัฐเท่านั้น

    แน่นอนว่าไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั่วโลกได้เห็นภาพของฮุนเซน ผู้นำเขมรหอบสังขารไปเยือนกลุ่มประเทศเหล่านี้ เพราะอยากได้การลงทุนเรื่องพลังงานทางเลือกใหม่เหมือนกับไทย แต่สับขาหลอกว่า ต้องการหาทุน มาขุดคลองฟูนัน-เตโช ***ตระกูลไหนรีบคาบข่าวไปบอก ก็คงจะเดากันออกได้ไม่ยาก แต่สุดท้ายเขมรก็ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆกลับมา***

    #### เมื่อทั่งนครดูไบ และทั้งประเทศในซาอุดิอาระเบียและหลายประเทศของโอเปก ตัดสินใจร่วมลงทุนกับนายพีระพันธุ์ แน่นอนว่าคนที่เสียหน้าที่สุดก็คือตระกูลชิน จึงได้เกิดอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงในตอนนี้นั่นเอง###

    ***ทำนายได้ไม่ยากเลยว่า อีกไม่นานสีจิ้นผิง ผู้นำจีน จะต้องเบนเข็มมาให้ความสนใจต่อความร่วมมือกับรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของไทยเช่นเดียวกัน และก็ไม่ต้องแปลกใจไปว่า เหตุใด จีนจึงถอนตัวออกจากการลงทุนทุกอย่างกับเขมร และไม่สนับสนุนเขมรในการสำรวจขุดเอาพลังงานในเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับไทย เพราะจีนรู้ว่าทั้งหมด มันเป็นแค่ละครแหกตาของสองตระกูลเขมรกับไทยเท่านั้น***

    ทั้งหมดก็คือเหตุผลว่า ทำไมนายพีระพันธุ์ รมว.กระทรวงพลังงานกับ นายเอกณัฐ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม จากพรรค รวมไทยสร้างชาติ ถึงไม่ได้ให้ความเกรงกลัวต่อทักษิณอีกเลย และไม่ได้สนใจว่า จะปรับเอาพรรครวมไทยสร้างชาติออกจาก ครม.ของแพรทองธารเลยสักนิด***แถมเบื้องบนก็เปิดไฟเขียวกันหมด รวมถึงผู้ถือหุ้นที่สำคัญทางพลังงานทั้งหมด ก็ย้ายมามาสนับสนุนนายพีระพันธุ์กันหมดแล้ว

    ผมเคยเขียนเอาไว้ล่วงหน้าว่า อีกไม่นาน ตระกูลฮุนของเขมร จะถูกทั้งโลกโดดเดี่ยวเดียวดาย และอีกไม่นาน จะเป็นตระกูลชิน จะเป็นอีกตระกูลที่จะถูกทั้งโลกไม่ให้ค่าอะไรอีกต่อไป

    ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่และสำคัญมาก เรื่องของพลังงาน ที่จะทำให้ความยากจนของคนในชาติลดลงในทันที หากทุกคนทั้งประเทศ รวมใจกันเลือกนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ให้เป็นนายกรัฐมนตรีและดูแลกระทรวงพลังงาน รวมไปถึงการสนับสนุนนายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ ให้ดูแลกระทรวงอุตสาหกรรมและหากพรรคนี้ได้ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วยแล้ว ***สยามประเทศจะเป็นเสือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซี่ยน ก็ไม่เกินความเป็นจริง***

    เดชา นฤนารท .

    4/1/68 11.25 น.
    5//68 การตื่นตระหนกของทักษิณ กำลังทำให้นายพีระพันธุ์ กับนายเอกณัฐ โดดเด่นขึ้นมาในทันที ในเรื่องของพลังงานและโกยคะแนนนิยมพุ่งพรวด ของพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อหากย้อนกลับไปเมื่อกว่า 33 ปีที่แล้ว ที่ซาอุดิอาระเบีย ได้ตัดขาดการฑูตกับประเทศไทยอย่างถาวร ต่อกรณีความไม่พอใจในคดีการอุ้มตัวของนักการฑูตและการหายสาบสูญไปของนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย แม้จะเริ่มต้นจากคดีการขโมยเพชรประจำตระกูลของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย ของนายเกรียงไกร เตชะโม่ง จนมาถึงการคืนเพชรปลอมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยในยุคนั้น และการหายสาบสูญไปของเพชรบลูไดมอน ที่ราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียไม่ได้คืนเลยตราบเท่าทุกวันนี้ แต่อย่างไรก็ดี ความบาดหมางใจต่อประเทศไทยของราขวงศ์ซาอุดิอาระเบีย กลับไม่ได้อยู่ที่เพชรที่หายไป แต่กลับเป็นอารบั้มรูปภาพที่สำคัญที่หายากและเป็นภาพสำคัญของราชวงศ์ที่ทรงอยู่ในวัยพระเยาว์ ที่ได้ถ่ายภาพคู่กับพระราชวงศ์ร่วมกัน ที่นายเกรียงไกร ได้ขโมยติดมือมาด้วย สรุปอัลบั้มรูปภาพได้ถูกนายเกรียงไกรเผาทิ้งเสียหายจนหมด หรือจากฝีมือเจ้าหน้าที่คนไหนไม่อาจทราบได้ แต่ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่อดีตนายกรัฐมนตรีลุงตู่ ได้ใช้ความพยายามอย่างสูง ที่จะขอรื้อฟื้นเชื่อมความสัมพันธไมตรีกับซาอุดิอาระเบียมาตลอด .....จนประสบความสำเร็จ ที่กว่า 33ปี ที่คดีความต่างๆ มีการนำเสนอข้อเท็จจริง แบบตรงไปตรงมาต่อราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียในยุคของลุงตู่ จนทำให้มงกุฏราชกุมารทรงพอพระทัย และเริ่มกลับมาฟื้นความสัมพันธไมตรีกับประเทศไทยอีกครั้ง ความร่วมมือที่สำคัญที่สุดระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบียก็คือเรื่อง พลังงานกับอาหาร การเป็นแขกรับเชิญพิเศษของซาอุดิอาระเบีย ที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.กระทรวงพลังงาน ต้องบินด่วนไปที่ซาอุฯ เพื่อคุยกันถึงความร่วมมือเรื่องพลังงานที่สำคัญ และมีช่าวจากวงในว่า ซาอุดิอาระเบีย เลือกที่จะเจรจากับนายพีระพันธุ์ เท่านั้น เพราะเขาดูที่ความซื่อสัตย์และไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เมื่อสกรีนจากนักการเมืองในรัฐบาลตอนนี้ และแน่นอนว่า มหาอำนาจแห่งน้ำมันและก๊าซ ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจทั้งโลก อย่างซาอุดิอาระเบีย กำลังมองหาพลังงานทางเลือกใหม่ กับการลงทุนด้านอาหารกับประเทศไทย แบบงบการลงทุนไม่มีขีดจำกัด เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา สหรัฐอาหรับเอมิเรต (UAE) ได้ติดตั้งโซล่าฟาร์มมากกว่า 4 ล้านแผ่น สามาถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า 900 เมกะวัตต์ (MW) สามารถส่งกระแสไฟฟ้าให้ผู้คนในประเทศได้ใช้ไฟฟรีถึงกว่า 2 แสนครอบครัว ที่สำคัญที่สุดก็คือ การติดตั้งโซล่าฟาร์มของ UAE ในครั้งนี้ สามารถลดก๊าซคาร์บอนในอากาศได้มากถึงกว่า 1.6 ล้านตัน UAE ตั้งเป้าจะผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซล่าฟาร์มให้ได้5,000เมกะวัตต์ในปี พ.ศ. 2573 และจะลดก๊าซคาร์บอนได้มากถึง 5.6ล้านตัน ในอีก7ปีข้างหน้า ***เข้าประเด็น เรื่องนี้เกี่ยวข้องอย่างไรกับตระกูลฮุนและตระกูลชิน ทำไมทักษิณถึงอย่างเขี่ยนายพีระพีนธุ์ออกจาก รมว.กระทรวงพลังงาน และต้องการเขี่ยพรรครวมไทยสร้างชาติออกจาก ครม.ของลูกสาวตนเอง*** 1.ทักษิณเริ่มสติฟั่นเฟือน หวาดระแวง ว่าตนกำลังสูญเสียอำนาจทางพลังงานไปจนหมด เพราะตระกูลชิน ใช้อำนาจทางพลังงาน รวมทั้งทุนมหาศาลในการสร้างพรรคการเมืองขึ้นมาให้มีอำนาจอยู่เหนือ 3 สถาบันหลักของรัฐธรรมนูญไทยมายาวนานมาก ถ้าหากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ทำให้อำนาจทางพลังงานของทักษิณล่มสลายลง ตระกูลชินจะหมดอำนาจลงทั้งหมดในทางการเมืองของประเทศไทย ไปในทันที 2. โซล่าฟาร์มของ UAE ใช้คนงานติดตั้ง มาจาก2 ประเทศคือไทยกับไต้หวัน ทีถือว่าเก่งโคตรๆในตอนนี้ โดยเฉพาะการติดตั้งแบบ ออฟกริตและออนกริต 3.แน่นอนว่า โครงการอภิมหาโปรเจคที่จะใหญ่กว่า UAE ถึงกว่า10เท่า จะเกิดขึ้นที่ซาอุดิอาระเบีย โดยใช้แรงงานไทย และอุปกรณ์สำคัญที่มีคุณภาพสูง จะมาจากไต้หวันทั้งหมด และซาอุดิอาระเบีย จะตั้งเป้าลดก๊าซคาร์บอนลงในปี 2573 ที่ 20ล้านตัน 4. ซาอุดิอาระเบียและกลุ่มประเทศโอเปกที่สำคัญ จะเข้ามาลงทุนกับกระทรวงพลังงานของไทย ในการผลิตกระแสไฟฟ้าไร้สาย และพลังงานสะอาดแข่งขันกับสหรัฐอเมริกา จีน และยุโรป และจะค่อยๆลดการผลิตน้ำมันกับก๊าซธรรมชาติลง ***สาเหตุเกิดจากน้ำท่วมหนักในทะเลทราย และในเมือง ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนก๊าศคาร์บอนมหาศาลต่อภาคการเกษตรของประเทศมหาอำนาจที่ผลิตน้ำมัน*** ประเด็นคือ กลุ่มประเทศเหล่านี้ต้องการการร่วมมือกับนายพีระพันธุ์และนายเอกณัฐเท่านั้น แน่นอนว่าไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั่วโลกได้เห็นภาพของฮุนเซน ผู้นำเขมรหอบสังขารไปเยือนกลุ่มประเทศเหล่านี้ เพราะอยากได้การลงทุนเรื่องพลังงานทางเลือกใหม่เหมือนกับไทย แต่สับขาหลอกว่า ต้องการหาทุน มาขุดคลองฟูนัน-เตโช ***ตระกูลไหนรีบคาบข่าวไปบอก ก็คงจะเดากันออกได้ไม่ยาก แต่สุดท้ายเขมรก็ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆกลับมา*** #### เมื่อทั่งนครดูไบ และทั้งประเทศในซาอุดิอาระเบียและหลายประเทศของโอเปก ตัดสินใจร่วมลงทุนกับนายพีระพันธุ์ แน่นอนว่าคนที่เสียหน้าที่สุดก็คือตระกูลชิน จึงได้เกิดอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงในตอนนี้นั่นเอง### ***ทำนายได้ไม่ยากเลยว่า อีกไม่นานสีจิ้นผิง ผู้นำจีน จะต้องเบนเข็มมาให้ความสนใจต่อความร่วมมือกับรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของไทยเช่นเดียวกัน และก็ไม่ต้องแปลกใจไปว่า เหตุใด จีนจึงถอนตัวออกจากการลงทุนทุกอย่างกับเขมร และไม่สนับสนุนเขมรในการสำรวจขุดเอาพลังงานในเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับไทย เพราะจีนรู้ว่าทั้งหมด มันเป็นแค่ละครแหกตาของสองตระกูลเขมรกับไทยเท่านั้น*** ทั้งหมดก็คือเหตุผลว่า ทำไมนายพีระพันธุ์ รมว.กระทรวงพลังงานกับ นายเอกณัฐ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม จากพรรค รวมไทยสร้างชาติ ถึงไม่ได้ให้ความเกรงกลัวต่อทักษิณอีกเลย และไม่ได้สนใจว่า จะปรับเอาพรรครวมไทยสร้างชาติออกจาก ครม.ของแพรทองธารเลยสักนิด***แถมเบื้องบนก็เปิดไฟเขียวกันหมด รวมถึงผู้ถือหุ้นที่สำคัญทางพลังงานทั้งหมด ก็ย้ายมามาสนับสนุนนายพีระพันธุ์กันหมดแล้ว ผมเคยเขียนเอาไว้ล่วงหน้าว่า อีกไม่นาน ตระกูลฮุนของเขมร จะถูกทั้งโลกโดดเดี่ยวเดียวดาย และอีกไม่นาน จะเป็นตระกูลชิน จะเป็นอีกตระกูลที่จะถูกทั้งโลกไม่ให้ค่าอะไรอีกต่อไป ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่และสำคัญมาก เรื่องของพลังงาน ที่จะทำให้ความยากจนของคนในชาติลดลงในทันที หากทุกคนทั้งประเทศ รวมใจกันเลือกนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ให้เป็นนายกรัฐมนตรีและดูแลกระทรวงพลังงาน รวมไปถึงการสนับสนุนนายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ ให้ดูแลกระทรวงอุตสาหกรรมและหากพรรคนี้ได้ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วยแล้ว ***สยามประเทศจะเป็นเสือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซี่ยน ก็ไม่เกินความเป็นจริง*** เดชา นฤนารท . 4/1/68 11.25 น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 702 มุมมอง 0 รีวิว
  • 28/12/67

    นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ พิธีกรรายการทีวี กล่าวในรายการ “ตาสว่างกว่า” เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2567 ว่ามีเจ้าของบริษัทพลังงานรายหนึ่ง ที่มีหน้าฉากเป็นผู้ให้การสนับสนุนให้แก่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แต่หลังฉากนั้นก็ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย

    แต่ในวันนี้นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. ได้กลายเป็นศัตรูของเจ้าของบริษัทรายนี้ และพรรคเพื่อไทยไปโดยปริยายแล้ว

    เพราะว่านายพีระพันธุ์นั้น อาศัยอำนาจในฐานะ รมว. พลังงาน ในการระงับโครงการการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567 (Feed—in Tariff เฟส 2) ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)

    นายศิโรตม์กล่าวชื่นชมนายพีระพันธุ์ว่ามีความกล้าที่จะคัดค้านโครงการนี้ ที่มีความไม่ถูกต้อง ไม่โปร่งใส เนื่องจากไม่มีการประมูล

    “เรามีรัฐมนตรี พีระพันธุ์ จะชอบรวมไทยสร้างชาติหรือไม่ จะชอบรวมไทยสร้างชาติหรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่กรณีนี้ พีระพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีพลังงานที่เห็นว่าการซื้อพลังงานหมุนเวียน ไฟฟ้าหมุนเวียนของรัฐบาล ที่ไม่มีการประมูลแข่งขันนั้นผิด นี่คือสิ่งที่ต้องชื่นชมพีระพันธุ์นะครับ” นายศิโรตม์กล่าว

    และกล่าวว่านายพีระพันธุ์เห็นว่าโครงการนี้ที่ไม่มีการประมูลนั้น เป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้แก่นายทุนบางคน และเป็นสาเหตุให้ค่าไฟนั้นแพงเกินกว่าเหตุ จึงสั่งเบรกโครงการนี้เอาไว้ก่อน แต่ว่า กกพ. ไม่ตอบรับ เนื่องจาก กกพ. นั้นไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน และนายศิโรตม์ระบุว่า กกพ. นั้นคือตัวปัญหา

    อีกทั้งยังระบุว่าเรื่องนี้นั้นมีความเกี่ยวข้องกับ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เข้าไปประชุมกับคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในฐานะ กพช. ก่อนหน้าที่ กกพ. จะประการรายชื่อผู้ที่ได้เข้าร่วมในโครงการดังกล่าวของ กกพ. และตั้งคำถามว่านายกรัฐมนตรีนั้นเป็นมูลเหตุของการรับซื้อไฟฟ้าในโครงการนี้หรือไม่

    “คุณพีระพันธุ์ถูกเพื่อไทยเขม่น ถูกเพื่อไทยหมั่นไส้ ไม่พอใจ คุณทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) เองก็เคยพูดเอาไว้ว่ารัฐมนตรีบางคนทำตัวหล่อ ไม่ยอมมาเข้าประชุม ครม. (คณะรัฐมนตรี) ข่มขู่ตรง ๆ นานา ซึ่งก็อาจจะมาจากแรงแค้นต่อคุณพีระพันธุ์และพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย” นายศิโรตม์กล่าว

    นายศิโรตม์กล่าวว่า น.ส. แพทองธารและพรรคเพื่อไทยไม่สนใจในเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่พรรคเพื่อไทยนั้นเป็นต้นเหตุของปัญหาค่าไฟแพง ทั้ง ๆ ที่พรรคประชาชนนั้นได้ทักท้วงไปแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยยังออกมากล่าวด้วยว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ไม่สั่งระงับโครงการนี้

    “เพราะฉะนั้นคุณพีระพันธุ์นะครับ เขาชน ซึ่งพรรคประชาชนก็เข้ามาร่วมชนด้วย ส่วนพรรคเพื่อไทยวันนี้ไม่ตอบอะไรเลย การไม่ตอบอะไรยิ่งเลอะเทะ” นายศิโรตม์กล่าว

    และวิจารณ์ว่าคำอธิบายของพรรคเพื่อไทยในกรณีนี้นั้น “ไม่ได้เรื่อง” จนทำให้พรรคประชาชนออกมาวิจารณ์พรรคเพื่อไทย “แบบเละเทะ ถล่มทลาย” อีกทั้งยังชื่นชมว่า ไอซ์-รักชนก ศรีนอก สส. กรุงเทพ พรรคประชาชน ทำงานได้โดดเด่นมาก

    นายศิโรตม์ยังกล่าวด้วยว่าถึงแม้ว่านายพีระพันธุ์นั้นจะมีที่มาจาก รทสช. ที่เป็นการเมืองที่สืบทอดอำนาจเผด็จการของทหาร แต่ในวันนี้ รทสช. นั้นกล้าที่จะทักท้วงการรับซื้อพลังงานจากคนที่อาจจะเป็นเครือข่ายของแกนนำรัฐบาล

    ซึ่งตนเองนั้นเชื่อว่านายพีระพันธุ์นั้นอาจจะประเมินได้ว่าการเมืองนั้นได้เกิดความเปลี่ยนแปลง และตนเองเชื่อว่าในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะเกิดความเปลี่ยนแปลง นายพีระพันธุ์จึงเริ่มจับจังหว่ะในการ Re-Brand (ปรับภาพลักษณ์) ตัวเอง ให้ออกจากภาพลักษณ์ของการเมืองแบบเผด็จการ

    “วันนี้ภาพพีระพันธุ์นะครับ เรื่องของการสู้กับแพทองธาร เรื่องของการสู้กับเพื่อไทย เพื่อไม่ให้คนไทยต้องจ่ายค่าไฟแพงมันชัดแล้ว แม้กระทั่งพรรคประชาชนยังเอาคำพูดของพีระพันธุ์มายืนยันว่าพีระพันธุ์คัดค้านในเรื่องนี้ พีระพันธุ์ต้องการให้ยกเลิกการซื้อค่าไฟราคาแพง แต่แพรทองธารไม่ทำ

    วันนี้ภาพพีระพันธุ์ชัดแล้ว แล้วมันจะเป็นหน้าตักทางการเมืองให้กับพีระพันธุ์ ที่พูดไม่ได้เชียร์พีระพันธุ์ ไม่ได้บอกว่าพีระพันธุ์ดี แต่บอกว่านี่คือสิ่งที่พีระพันธุ์กำลังทำ เขากำลังเพิ่มหน้าตักทางการเมืองของเขา” นายศิโรตม์กล่าว

    #TheStructure
    #TheStructureNews
    #เพื่อไทย #รทสช #พลังงาน
    28/12/67 นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ พิธีกรรายการทีวี กล่าวในรายการ “ตาสว่างกว่า” เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2567 ว่ามีเจ้าของบริษัทพลังงานรายหนึ่ง ที่มีหน้าฉากเป็นผู้ให้การสนับสนุนให้แก่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แต่หลังฉากนั้นก็ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย แต่ในวันนี้นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. ได้กลายเป็นศัตรูของเจ้าของบริษัทรายนี้ และพรรคเพื่อไทยไปโดยปริยายแล้ว เพราะว่านายพีระพันธุ์นั้น อาศัยอำนาจในฐานะ รมว. พลังงาน ในการระงับโครงการการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567 (Feed—in Tariff เฟส 2) ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นายศิโรตม์กล่าวชื่นชมนายพีระพันธุ์ว่ามีความกล้าที่จะคัดค้านโครงการนี้ ที่มีความไม่ถูกต้อง ไม่โปร่งใส เนื่องจากไม่มีการประมูล “เรามีรัฐมนตรี พีระพันธุ์ จะชอบรวมไทยสร้างชาติหรือไม่ จะชอบรวมไทยสร้างชาติหรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่กรณีนี้ พีระพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีพลังงานที่เห็นว่าการซื้อพลังงานหมุนเวียน ไฟฟ้าหมุนเวียนของรัฐบาล ที่ไม่มีการประมูลแข่งขันนั้นผิด นี่คือสิ่งที่ต้องชื่นชมพีระพันธุ์นะครับ” นายศิโรตม์กล่าว และกล่าวว่านายพีระพันธุ์เห็นว่าโครงการนี้ที่ไม่มีการประมูลนั้น เป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้แก่นายทุนบางคน และเป็นสาเหตุให้ค่าไฟนั้นแพงเกินกว่าเหตุ จึงสั่งเบรกโครงการนี้เอาไว้ก่อน แต่ว่า กกพ. ไม่ตอบรับ เนื่องจาก กกพ. นั้นไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน และนายศิโรตม์ระบุว่า กกพ. นั้นคือตัวปัญหา อีกทั้งยังระบุว่าเรื่องนี้นั้นมีความเกี่ยวข้องกับ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เข้าไปประชุมกับคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในฐานะ กพช. ก่อนหน้าที่ กกพ. จะประการรายชื่อผู้ที่ได้เข้าร่วมในโครงการดังกล่าวของ กกพ. และตั้งคำถามว่านายกรัฐมนตรีนั้นเป็นมูลเหตุของการรับซื้อไฟฟ้าในโครงการนี้หรือไม่ “คุณพีระพันธุ์ถูกเพื่อไทยเขม่น ถูกเพื่อไทยหมั่นไส้ ไม่พอใจ คุณทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) เองก็เคยพูดเอาไว้ว่ารัฐมนตรีบางคนทำตัวหล่อ ไม่ยอมมาเข้าประชุม ครม. (คณะรัฐมนตรี) ข่มขู่ตรง ๆ นานา ซึ่งก็อาจจะมาจากแรงแค้นต่อคุณพีระพันธุ์และพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย” นายศิโรตม์กล่าว นายศิโรตม์กล่าวว่า น.ส. แพทองธารและพรรคเพื่อไทยไม่สนใจในเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่พรรคเพื่อไทยนั้นเป็นต้นเหตุของปัญหาค่าไฟแพง ทั้ง ๆ ที่พรรคประชาชนนั้นได้ทักท้วงไปแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยยังออกมากล่าวด้วยว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ไม่สั่งระงับโครงการนี้ “เพราะฉะนั้นคุณพีระพันธุ์นะครับ เขาชน ซึ่งพรรคประชาชนก็เข้ามาร่วมชนด้วย ส่วนพรรคเพื่อไทยวันนี้ไม่ตอบอะไรเลย การไม่ตอบอะไรยิ่งเลอะเทะ” นายศิโรตม์กล่าว และวิจารณ์ว่าคำอธิบายของพรรคเพื่อไทยในกรณีนี้นั้น “ไม่ได้เรื่อง” จนทำให้พรรคประชาชนออกมาวิจารณ์พรรคเพื่อไทย “แบบเละเทะ ถล่มทลาย” อีกทั้งยังชื่นชมว่า ไอซ์-รักชนก ศรีนอก สส. กรุงเทพ พรรคประชาชน ทำงานได้โดดเด่นมาก นายศิโรตม์ยังกล่าวด้วยว่าถึงแม้ว่านายพีระพันธุ์นั้นจะมีที่มาจาก รทสช. ที่เป็นการเมืองที่สืบทอดอำนาจเผด็จการของทหาร แต่ในวันนี้ รทสช. นั้นกล้าที่จะทักท้วงการรับซื้อพลังงานจากคนที่อาจจะเป็นเครือข่ายของแกนนำรัฐบาล ซึ่งตนเองนั้นเชื่อว่านายพีระพันธุ์นั้นอาจจะประเมินได้ว่าการเมืองนั้นได้เกิดความเปลี่ยนแปลง และตนเองเชื่อว่าในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะเกิดความเปลี่ยนแปลง นายพีระพันธุ์จึงเริ่มจับจังหว่ะในการ Re-Brand (ปรับภาพลักษณ์) ตัวเอง ให้ออกจากภาพลักษณ์ของการเมืองแบบเผด็จการ “วันนี้ภาพพีระพันธุ์นะครับ เรื่องของการสู้กับแพทองธาร เรื่องของการสู้กับเพื่อไทย เพื่อไม่ให้คนไทยต้องจ่ายค่าไฟแพงมันชัดแล้ว แม้กระทั่งพรรคประชาชนยังเอาคำพูดของพีระพันธุ์มายืนยันว่าพีระพันธุ์คัดค้านในเรื่องนี้ พีระพันธุ์ต้องการให้ยกเลิกการซื้อค่าไฟราคาแพง แต่แพรทองธารไม่ทำ วันนี้ภาพพีระพันธุ์ชัดแล้ว แล้วมันจะเป็นหน้าตักทางการเมืองให้กับพีระพันธุ์ ที่พูดไม่ได้เชียร์พีระพันธุ์ ไม่ได้บอกว่าพีระพันธุ์ดี แต่บอกว่านี่คือสิ่งที่พีระพันธุ์กำลังทำ เขากำลังเพิ่มหน้าตักทางการเมืองของเขา” นายศิโรตม์กล่าว #TheStructure #TheStructureNews #เพื่อไทย #รทสช #พลังงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกอุ๊งอิ๊ง แพรทองธารได้เห็นหนังสือข้อเรียกร้องของนายสนธิ ลิ้มทองกุล และคณะ
    เกี่ยวกับ mou 44เป็นที่เรียบร้อยแล้วถึงแม้นายกอุ๊งอิ๊งจะไม่ได้บอกตรง ๆ ว่า
    จะทําตามหรือปฏิเสธข้อเรียกร้องโดยบอกเพียงแค่ว่าจะให้หน่วยงานด้วยกันหรือไม่
    แต่ฟังจากน้ําเสียงก็พอรู้แล้วว่าไม่ทําแน่นอนการตั้งคณะกรรมการเทคนิคเตรียมเจรจากับเขมรก็ยังจะเดินหน้า
    เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยส่วนข้อเรียกร้องให้เปิดเวทีสาธารณะเอาแต่ละฝ่ายมาดีเบตกันก็คงไม่เปิดอ้างว่าที่ให้ สมคิด เชื้อคง มารับหนังสือจากสนธิเมื่อวันที่เก้าธันวาคมก็คงเป็นการเปิดรับความคิดเห็นต่างคงไม่เปิดเวทีอะไรอีกถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าอุ๋งอิ๋ง
    เล่นบทคุณหนูดื้อเงียบไม่ปฏิเสธข้อเรียกร้องแต่ก็คงไม่ทําตามสักข้อจริงจริงแล้วเรื่องสุ่มเสี่ยงทําให้ประเทศชาติเสียอธิปไตย
    เป็นเรื่องที่คอขาดบาดตุยที่คนไทยทั้งชาติจะยอมไม่ได้คนอายุพึ่งสามสิบแปดอย่างอุ๊งอิ๊ง
    ไม่น่าจะเปรี้ยวแซ่บอะไรขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นแรงหนุนจากพ่อนายทักษิณผู้เป็นต้นเรื่องของmou44
    ย้อนไปเมื่อตอนครม.สัญจรเชียงใหม่วันที่ยี่สิบเจ็ดพฤศจิกายนกายนที่ผ่านมา
    อุ๊งอิ๋งเคยให้สัมภาษณ์เรื่องmou44ว่าจะเดินต่อหรือไม่ต่อให้ผ่านคณะกรรมการที่มีการพูดคุยกันทั้งสองประเทศ
    ส่วนพระบรมราชโองการของในหลวงรัชกาลที่เก้าเรื่องการประกาศเขตไหล่ทวีปก็ได้ดูเนื้อหาโดยละเอียดแล้ว
    อะไรที่เป็นปัญหาก็จะไม่ชนกับปัญหาอย่างแน่นอนต้องค่อยค่อยร่วมกันแก้ไข
    แต่มาวันนี้ อุ๊งอิ๊งจากที่บอกว่าจะไม่ชนกับปัญหาก็กําลังเดินหน้าชนกับปัญหาเข้าอย่างจัง
    ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพิ่งผ่านการติวเข้มจากพ่อมาหรือเปล่าเพราะคนยโสโอหังอย่างทักษิณไม่เคยฟังใครอยู่แล้ว
    อยากได้อะไรก็ต้องได้ไม่ได้สนว่าตัวเองจะพบจุดจบอย่างไรคงลืมไปว่าความยโสโอหังเคยทําให้ทักษิณพังมาแล้วตอนขายหุ้นชินคอร์ปเมื่อปีสี่เก้าได้เงินมาเจ็ดจุดสามหมื่นล้านบาทไม่ยอมเสียภาษีสักบาทอ้างว่ากฎหมายบอกไม่ให้เสีย
    แต่แท้ที่จริงแล้วใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีต่างหากนั่นก็ทําให้กระแสต้านทักษิณจุดติดขึ้นมาทั่วประเทศทันที
    จากเดิมมีแค่เมืองไทยรายสัปดาห์ของสนธิลิ้มทองกุลกลายมาเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
    ต่อต้านระบบทักษิณกระหึ่มหึ่มทั้งแผ่นดินหลังจากนั้นชะตาของทักษิณเป็นยังไงก็รู้รู้กันอยู่
    มารอบนี้ประวัติศาสตร์จะต้องซ้ําประวัติศาสตร์จะไม่เปลี่ยนถ้าทักษิณ ชินวัตรยังยโสโอหัง สั่งลูกสาวเดินหน้า Mou 44ต่อ
    ก็คอยดูเลยว่าความจริงจะสู้กับกิเลสได้หรือไม่ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธ์ดำ
    นายกอุ๊งอิ๊ง แพรทองธารได้เห็นหนังสือข้อเรียกร้องของนายสนธิ ลิ้มทองกุล และคณะ เกี่ยวกับ mou 44เป็นที่เรียบร้อยแล้วถึงแม้นายกอุ๊งอิ๊งจะไม่ได้บอกตรง ๆ ว่า จะทําตามหรือปฏิเสธข้อเรียกร้องโดยบอกเพียงแค่ว่าจะให้หน่วยงานด้วยกันหรือไม่ แต่ฟังจากน้ําเสียงก็พอรู้แล้วว่าไม่ทําแน่นอนการตั้งคณะกรรมการเทคนิคเตรียมเจรจากับเขมรก็ยังจะเดินหน้า เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยส่วนข้อเรียกร้องให้เปิดเวทีสาธารณะเอาแต่ละฝ่ายมาดีเบตกันก็คงไม่เปิดอ้างว่าที่ให้ สมคิด เชื้อคง มารับหนังสือจากสนธิเมื่อวันที่เก้าธันวาคมก็คงเป็นการเปิดรับความคิดเห็นต่างคงไม่เปิดเวทีอะไรอีกถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าอุ๋งอิ๋ง เล่นบทคุณหนูดื้อเงียบไม่ปฏิเสธข้อเรียกร้องแต่ก็คงไม่ทําตามสักข้อจริงจริงแล้วเรื่องสุ่มเสี่ยงทําให้ประเทศชาติเสียอธิปไตย เป็นเรื่องที่คอขาดบาดตุยที่คนไทยทั้งชาติจะยอมไม่ได้คนอายุพึ่งสามสิบแปดอย่างอุ๊งอิ๊ง ไม่น่าจะเปรี้ยวแซ่บอะไรขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นแรงหนุนจากพ่อนายทักษิณผู้เป็นต้นเรื่องของmou44 ย้อนไปเมื่อตอนครม.สัญจรเชียงใหม่วันที่ยี่สิบเจ็ดพฤศจิกายนกายนที่ผ่านมา อุ๊งอิ๋งเคยให้สัมภาษณ์เรื่องmou44ว่าจะเดินต่อหรือไม่ต่อให้ผ่านคณะกรรมการที่มีการพูดคุยกันทั้งสองประเทศ ส่วนพระบรมราชโองการของในหลวงรัชกาลที่เก้าเรื่องการประกาศเขตไหล่ทวีปก็ได้ดูเนื้อหาโดยละเอียดแล้ว อะไรที่เป็นปัญหาก็จะไม่ชนกับปัญหาอย่างแน่นอนต้องค่อยค่อยร่วมกันแก้ไข แต่มาวันนี้ อุ๊งอิ๊งจากที่บอกว่าจะไม่ชนกับปัญหาก็กําลังเดินหน้าชนกับปัญหาเข้าอย่างจัง ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพิ่งผ่านการติวเข้มจากพ่อมาหรือเปล่าเพราะคนยโสโอหังอย่างทักษิณไม่เคยฟังใครอยู่แล้ว อยากได้อะไรก็ต้องได้ไม่ได้สนว่าตัวเองจะพบจุดจบอย่างไรคงลืมไปว่าความยโสโอหังเคยทําให้ทักษิณพังมาแล้วตอนขายหุ้นชินคอร์ปเมื่อปีสี่เก้าได้เงินมาเจ็ดจุดสามหมื่นล้านบาทไม่ยอมเสียภาษีสักบาทอ้างว่ากฎหมายบอกไม่ให้เสีย แต่แท้ที่จริงแล้วใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีต่างหากนั่นก็ทําให้กระแสต้านทักษิณจุดติดขึ้นมาทั่วประเทศทันที จากเดิมมีแค่เมืองไทยรายสัปดาห์ของสนธิลิ้มทองกุลกลายมาเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่อต้านระบบทักษิณกระหึ่มหึ่มทั้งแผ่นดินหลังจากนั้นชะตาของทักษิณเป็นยังไงก็รู้รู้กันอยู่ มารอบนี้ประวัติศาสตร์จะต้องซ้ําประวัติศาสตร์จะไม่เปลี่ยนถ้าทักษิณ ชินวัตรยังยโสโอหัง สั่งลูกสาวเดินหน้า Mou 44ต่อ ก็คอยดูเลยว่าความจริงจะสู้กับกิเลสได้หรือไม่ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธ์ดำ
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 593 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥 นายก รัฐมนตรี แพรทองธาร ชินวัตร
    มีแผนจะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศไทยดังนี้
    (โดยส่วนตัวแอดมินชอบข้อ 10)
    1. ส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
    2. ส่งเสริมและยกระดับ Soft Power ในประเทศ
    3. ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy)
    4. ต่อยอดพัฒนา เศรษฐกิจดิจิทัล
    เช่น Data Center (ศูนย์ข้อมูลด้าน IT) ,โรงงานผลิตชิป
    โรงานผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ , AI (ปัญญาประดิษฐ์)
    5. มุ่งเน้นเศรษฐกิจสุขภาพ (Care and wellness)
    Health tech , Biotechnologyุ6. เป้าหมาย เป็นศูนย์กลาง การเงินโลก (Financial Hub)
    7. ยกระดับความสามารถในงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม
    8. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ในประเทศ (Mega Project)
    9. พัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในประเทศ
    เช่น โซลาร์เซล์ ระบบไฟฟ้า การประปา ให้ครอบคลุม
    10. รัฐบาลจะดึงแรงงานที่อยู่นอกระบบภาษี (รวมถึงร้านค้า)
    ที่ปัจจุบัน มีอยู่มากกว่าร้อยละ 50 เข้ามาสู่ระบบภาษี

    ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ
    🔥🔥 นายก รัฐมนตรี แพรทองธาร ชินวัตร มีแผนจะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศไทยดังนี้ (โดยส่วนตัวแอดมินชอบข้อ 10) 1. ส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) 2. ส่งเสริมและยกระดับ Soft Power ในประเทศ 3. ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) 4. ต่อยอดพัฒนา เศรษฐกิจดิจิทัล เช่น Data Center (ศูนย์ข้อมูลด้าน IT) ,โรงงานผลิตชิป โรงานผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ , AI (ปัญญาประดิษฐ์) 5. มุ่งเน้นเศรษฐกิจสุขภาพ (Care and wellness) Health tech , Biotechnologyุ6. เป้าหมาย เป็นศูนย์กลาง การเงินโลก (Financial Hub) 7. ยกระดับความสามารถในงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม 8. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ในประเทศ (Mega Project) 9. พัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในประเทศ เช่น โซลาร์เซล์ ระบบไฟฟ้า การประปา ให้ครอบคลุม 10. รัฐบาลจะดึงแรงงานที่อยู่นอกระบบภาษี (รวมถึงร้านค้า) ที่ปัจจุบัน มีอยู่มากกว่าร้อยละ 50 เข้ามาสู่ระบบภาษี ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET
    ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355
    เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5%
    ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย

    🚩1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1
    ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย

    🚩2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
    น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้
    (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ
    ผู้พิการ)

    🚩3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท

    🚩4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน
    เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้

    🚩5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน
    ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

    🚩6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า
    ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
    จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
    สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน
    ที่มีแนวโน้มลดลง

    🚩7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ
    เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น
    เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น

    🚩8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่
    8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท
    8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท
    8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท
    8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท

    🔥🔥 *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ
    การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน
    และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่
    เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย
    ทำกำไรออกไป

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    🔥🔥สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355 เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย 🚩1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1 ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย 🚩2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้ (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ ผู้พิการ) 🚩3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท 🚩4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้ 🚩5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ 🚩6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน ที่มีแนวโน้มลดลง 🚩7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น 🚩8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่ 8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท 8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท 8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท 8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท 🔥🔥 *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย ทำกำไรออกไป #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1271 มุมมอง 349 0 รีวิว
  • 🔥🔥สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET
    ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355
    เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5%
    ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย

    🚩1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1
    ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย

    🚩2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
    น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้
    (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ
    ผู้พิการ)

    🚩3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท

    🚩4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน
    เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้

    🚩5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน
    ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

    🚩6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า
    ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
    จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
    สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน
    ที่มีแนวโน้มลดลง

    🚩7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ
    เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น
    เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น

    🚩8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่
    8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท
    8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท
    8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท
    8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท

    🔥🔥 *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ
    การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน
    และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่
    เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย
    ทำกำไรออกไป

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    🔥🔥สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355 เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย 🚩1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1 ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย 🚩2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้ (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ ผู้พิการ) 🚩3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท 🚩4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้ 🚩5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ 🚩6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน ที่มีแนวโน้มลดลง 🚩7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น 🚩8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่ 8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท 8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท 8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท 8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท 🔥🔥 *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย ทำกำไรออกไป #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1252 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥 ดูกันระยะยาว การเมืองไทย หลังฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่
    ภายใต้การนำของ นายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร
    ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวสูงขึ้น 28.71 จุด ในภาคเช้า
    โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย หรือ SET อยู่ที่ 1394.20 จุด
    เพิ่มขึ้น 2.10%

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    #thaitimes
    🔥🔥 ดูกันระยะยาว การเมืองไทย หลังฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของ นายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวสูงขึ้น 28.71 จุด ในภาคเช้า โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย หรือ SET อยู่ที่ 1394.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.10% #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 944 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ 3 องค์กรเอกชนสุดมึน หลังต้องคุยกับนายกฯ ถึง 3 คนในรอบ 1 ปีเศษ แต่ปัญหายังคาราคาซัง โดยคนที่ทำเสียเวลาที่สุดคือ พิธา นายกฯ โซเชียล☺️
    #เจ็ดดอกจิก
    #นายกรัฐมนตรี
    #พิธา
    #เศรษฐา
    #แพรทองธาร
    ♣️ 3 องค์กรเอกชนสุดมึน หลังต้องคุยกับนายกฯ ถึง 3 คนในรอบ 1 ปีเศษ แต่ปัญหายังคาราคาซัง โดยคนที่ทำเสียเวลาที่สุดคือ พิธา นายกฯ โซเชียล☺️ #เจ็ดดอกจิก #นายกรัฐมนตรี #พิธา #เศรษฐา #แพรทองธาร
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว