• Huawei เปลี่ยนกลยุทธ์ชิป AI – หวังแซง NVIDIA ด้วยแนวทางใหม่

    แม้สหรัฐฯ จะออกมาตรการแบนไม่ให้ NVIDIA ขายชิป AI รุ่นใหม่ในจีน แต่ความต้องการในตลาดยังสูงมาก จนรัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาแบนประเทศอื่นอย่างมาเลเซียและไทยที่อาจเป็นช่องทางลัดให้จีนเข้าถึงชิปเหล่านี้

    Huawei จึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ โดยจะเลิกเน้นการผลิตชิปแบบ ASIC ที่ออกแบบมาเฉพาะงาน และหันไปพัฒนาชิปแบบ general-purpose ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายเหมือนกับ GPU ของ NVIDIA และ AMD

    จุดเปลี่ยนสำคัญคือการพัฒนา “ซอฟต์แวร์ตัวกลาง” ที่สามารถแปลงคำสั่งจากภาษา Cuda (ที่ใช้กับ NVIDIA) ให้ทำงานกับชิปของ Huawei ได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถย้ายงานจาก NVIDIA มาสู่ Huawei ได้ง่ายขึ้น

    อย่างไรก็ตาม Huawei ยังต้องพึ่งโรงงานผลิตชิปของจีนอย่าง SMIC ซึ่งถูกแบนจากการเข้าถึงเครื่องจักรขั้นสูง ทำให้ยังผลิตได้แค่ระดับ 7 นาโนเมตร ขณะที่ NVIDIA ใช้เทคโนโลยีระดับ 4 นาโนเมตรหรือดีกว่า

    แม้จะมีข้อจำกัดด้านการผลิต แต่บริษัทเทคโนโลยีจีนอย่าง Alibaba และ Tencent อาจไม่มีทางเลือกในอนาคต หาก Huawei สามารถพัฒนาชิปให้ใกล้เคียงกับ NVIDIA ได้จริง

    ข้อมูลจากข่าว
    - Huawei เตรียมเปลี่ยนแนวทางการออกแบบชิป AI จาก ASIC ไปสู่ general-purpose GPU
    - พัฒนาซอฟต์แวร์ตัวกลางเพื่อให้รองรับภาษา Cuda ของ NVIDIA
    - หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนที่ยังต้องการชิป AI อย่างมาก
    - SMIC เป็นโรงงานผลิตหลัก แต่ยังจำกัดที่เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร
    - Alibaba และ Tencent อาจต้องหันมาใช้ชิปของ Huawei หากไม่มีทางเลือกอื่น
    - การเปลี่ยนแนวทางนี้อาจช่วยให้ Huawei แข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ได้ดีขึ้นในระยะยาว

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - SMIC ยังไม่สามารถผลิตชิประดับสูงได้เทียบเท่ากับ TSMC หรือ Samsung ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญ
    - การพึ่งพาซอฟต์แวร์ตัวกลางอาจทำให้ประสิทธิภาพไม่เทียบเท่าการใช้ Cuda โดยตรง
    - การเปลี่ยนจาก ASIC ไปสู่ general-purpose ต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก
    - หากซอฟต์แวร์ของ Huawei ไม่ได้รับการยอมรับจากนักพัฒนา อาจทำให้ชิปไม่ถูกใช้งานจริง
    - การแข่งขันกับ NVIDIA ต้องอาศัยทั้ง ecosystem, tooling และการสนับสนุนจากนักพัฒนา ซึ่ง Huawei ยังขาดอยู่

    https://wccftech.com/huawei-looks-to-shake-up-ai-chip-design-to-compete-with-nvidia-says-report/
    Huawei เปลี่ยนกลยุทธ์ชิป AI – หวังแซง NVIDIA ด้วยแนวทางใหม่ แม้สหรัฐฯ จะออกมาตรการแบนไม่ให้ NVIDIA ขายชิป AI รุ่นใหม่ในจีน แต่ความต้องการในตลาดยังสูงมาก จนรัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาแบนประเทศอื่นอย่างมาเลเซียและไทยที่อาจเป็นช่องทางลัดให้จีนเข้าถึงชิปเหล่านี้ Huawei จึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ โดยจะเลิกเน้นการผลิตชิปแบบ ASIC ที่ออกแบบมาเฉพาะงาน และหันไปพัฒนาชิปแบบ general-purpose ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายเหมือนกับ GPU ของ NVIDIA และ AMD จุดเปลี่ยนสำคัญคือการพัฒนา “ซอฟต์แวร์ตัวกลาง” ที่สามารถแปลงคำสั่งจากภาษา Cuda (ที่ใช้กับ NVIDIA) ให้ทำงานกับชิปของ Huawei ได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถย้ายงานจาก NVIDIA มาสู่ Huawei ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม Huawei ยังต้องพึ่งโรงงานผลิตชิปของจีนอย่าง SMIC ซึ่งถูกแบนจากการเข้าถึงเครื่องจักรขั้นสูง ทำให้ยังผลิตได้แค่ระดับ 7 นาโนเมตร ขณะที่ NVIDIA ใช้เทคโนโลยีระดับ 4 นาโนเมตรหรือดีกว่า แม้จะมีข้อจำกัดด้านการผลิต แต่บริษัทเทคโนโลยีจีนอย่าง Alibaba และ Tencent อาจไม่มีทางเลือกในอนาคต หาก Huawei สามารถพัฒนาชิปให้ใกล้เคียงกับ NVIDIA ได้จริง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Huawei เตรียมเปลี่ยนแนวทางการออกแบบชิป AI จาก ASIC ไปสู่ general-purpose GPU - พัฒนาซอฟต์แวร์ตัวกลางเพื่อให้รองรับภาษา Cuda ของ NVIDIA - หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนที่ยังต้องการชิป AI อย่างมาก - SMIC เป็นโรงงานผลิตหลัก แต่ยังจำกัดที่เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร - Alibaba และ Tencent อาจต้องหันมาใช้ชิปของ Huawei หากไม่มีทางเลือกอื่น - การเปลี่ยนแนวทางนี้อาจช่วยให้ Huawei แข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ได้ดีขึ้นในระยะยาว ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - SMIC ยังไม่สามารถผลิตชิประดับสูงได้เทียบเท่ากับ TSMC หรือ Samsung ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญ - การพึ่งพาซอฟต์แวร์ตัวกลางอาจทำให้ประสิทธิภาพไม่เทียบเท่าการใช้ Cuda โดยตรง - การเปลี่ยนจาก ASIC ไปสู่ general-purpose ต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก - หากซอฟต์แวร์ของ Huawei ไม่ได้รับการยอมรับจากนักพัฒนา อาจทำให้ชิปไม่ถูกใช้งานจริง - การแข่งขันกับ NVIDIA ต้องอาศัยทั้ง ecosystem, tooling และการสนับสนุนจากนักพัฒนา ซึ่ง Huawei ยังขาดอยู่ https://wccftech.com/huawei-looks-to-shake-up-ai-chip-design-to-compete-with-nvidia-says-report/
    WCCFTECH.COM
    Huawei Looks To Shake Up AI Chip Design To Compete With NVIDIA, Says Report
    Huawei aims to shift chip design strategy to compete with NVIDIA, focusing on general-purpose computing and new chip software.
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • DeepSeek ถูกแบนในเช็ก – เพราะอาจส่งข้อมูลผู้ใช้ให้รัฐบาลจีน

    DeepSeek เป็นบริษัท AI จากจีนที่เปิดตัวในปี 2023 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วหลังเปิดตัวแอปบน iOS และ Android ในเดือนมกราคม 2025 โดยสามารถแซง ChatGPT ขึ้นอันดับหนึ่งใน App Store ได้ในหลายประเทศ

    แต่ความนิยมนี้กลับมาพร้อมกับความกังวลด้านความมั่นคง เมื่อหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของเช็ก (NÚKIB) ออกรายงานเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 ระบุว่า DeepSeek และบริษัทแม่ High-Flyer มี “ความเชื่อมโยงลึก” กับรัฐบาลจีน และอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการจารกรรมข้อมูล

    รายงานอ้างถึงกฎหมายจีนหลายฉบับ เช่น:
    - กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ
    - กฎหมายข่าวกรองแห่งชาติ
    - กฎหมายต่อต้านการจารกรรม

    ซึ่งทั้งหมดบังคับให้บริษัทจีนต้องให้ข้อมูลผู้ใช้แก่รัฐบาล ไม่ว่าผู้ใช้นั้นจะอยู่ประเทศใดก็ตาม

    ผลคือ Czechia ประกาศแบนการใช้งาน DeepSeek ในเกือบทุกกรณี ยกเว้นสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการใช้งานโมเดลโอเพนซอร์สที่ไม่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท

    ประเทศอื่น ๆ ที่ออกมาตรการคล้ายกัน ได้แก่ สหรัฐฯ (รวมถึงกองทัพเรือและ NASA), แคนาดา, ออสเตรเลีย, อินเดีย, อิตาลี, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, เกาหลีใต้ และไต้หวัน

    NÚKIB ระบุว่า “ความกังวลต่อ DeepSeek ไม่ได้เกิดจากวัฒนธรรมร่วมกันหรือภูมิศาสตร์ แต่เป็นผลจากการประเมินความเสี่ยงอย่างเป็นกลาง” และคาดว่าประเทศอื่น ๆ จะออกมาตรการเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ข้อมูลจากข่าว
    - รัฐบาลเช็กประกาศแบนการใช้งาน DeepSeek เนื่องจากความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์
    - DeepSeek เป็นบริษัท AI จากจีนที่เปิดตัวในปี 2023 และได้รับความนิยมในปี 2025
    - หน่วยงาน NÚKIB ระบุว่า DeepSeek มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน
    - อ้างถึงกฎหมายจีนที่บังคับให้บริษัทต้องให้ข้อมูลผู้ใช้แก่รัฐบาล
    - การแบนครอบคลุมทุกกรณี ยกเว้นนักวิจัยและการใช้งานแบบ self-host ที่ไม่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท
    - ประเทศอื่นที่ออกมาตรการคล้ายกัน ได้แก่ สหรัฐฯ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, อินเดีย, อิตาลี, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, เกาหลีใต้ และไต้หวัน

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ผู้ใช้ DeepSeek อาจเสี่ยงต่อการถูกเก็บข้อมูลและส่งต่อให้รัฐบาลจีนโดยไม่รู้ตัว
    - กฎหมายจีนมีอำนาจเหนือบริษัทจีนแม้จะให้บริการในต่างประเทศ
    - การใช้งานโมเดล AI ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์จีนอาจเปิดช่องให้เกิดการจารกรรมข้อมูล
    - องค์กรควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการจากบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลต่างชาติในงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญ
    - การใช้งานโมเดลโอเพนซอร์สควรทำแบบ self-host เพื่อป้องกันการส่งข้อมูลออกนอกองค์กร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/czechia-warns-that-deepseek-can-share-all-user-information-with-the-chinese-government
    DeepSeek ถูกแบนในเช็ก – เพราะอาจส่งข้อมูลผู้ใช้ให้รัฐบาลจีน DeepSeek เป็นบริษัท AI จากจีนที่เปิดตัวในปี 2023 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วหลังเปิดตัวแอปบน iOS และ Android ในเดือนมกราคม 2025 โดยสามารถแซง ChatGPT ขึ้นอันดับหนึ่งใน App Store ได้ในหลายประเทศ แต่ความนิยมนี้กลับมาพร้อมกับความกังวลด้านความมั่นคง เมื่อหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของเช็ก (NÚKIB) ออกรายงานเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 ระบุว่า DeepSeek และบริษัทแม่ High-Flyer มี “ความเชื่อมโยงลึก” กับรัฐบาลจีน และอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการจารกรรมข้อมูล รายงานอ้างถึงกฎหมายจีนหลายฉบับ เช่น: - กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ - กฎหมายข่าวกรองแห่งชาติ - กฎหมายต่อต้านการจารกรรม ซึ่งทั้งหมดบังคับให้บริษัทจีนต้องให้ข้อมูลผู้ใช้แก่รัฐบาล ไม่ว่าผู้ใช้นั้นจะอยู่ประเทศใดก็ตาม ผลคือ Czechia ประกาศแบนการใช้งาน DeepSeek ในเกือบทุกกรณี ยกเว้นสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการใช้งานโมเดลโอเพนซอร์สที่ไม่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ประเทศอื่น ๆ ที่ออกมาตรการคล้ายกัน ได้แก่ สหรัฐฯ (รวมถึงกองทัพเรือและ NASA), แคนาดา, ออสเตรเลีย, อินเดีย, อิตาลี, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, เกาหลีใต้ และไต้หวัน NÚKIB ระบุว่า “ความกังวลต่อ DeepSeek ไม่ได้เกิดจากวัฒนธรรมร่วมกันหรือภูมิศาสตร์ แต่เป็นผลจากการประเมินความเสี่ยงอย่างเป็นกลาง” และคาดว่าประเทศอื่น ๆ จะออกมาตรการเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ ข้อมูลจากข่าว - รัฐบาลเช็กประกาศแบนการใช้งาน DeepSeek เนื่องจากความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์ - DeepSeek เป็นบริษัท AI จากจีนที่เปิดตัวในปี 2023 และได้รับความนิยมในปี 2025 - หน่วยงาน NÚKIB ระบุว่า DeepSeek มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน - อ้างถึงกฎหมายจีนที่บังคับให้บริษัทต้องให้ข้อมูลผู้ใช้แก่รัฐบาล - การแบนครอบคลุมทุกกรณี ยกเว้นนักวิจัยและการใช้งานแบบ self-host ที่ไม่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท - ประเทศอื่นที่ออกมาตรการคล้ายกัน ได้แก่ สหรัฐฯ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, อินเดีย, อิตาลี, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, เกาหลีใต้ และไต้หวัน ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ผู้ใช้ DeepSeek อาจเสี่ยงต่อการถูกเก็บข้อมูลและส่งต่อให้รัฐบาลจีนโดยไม่รู้ตัว - กฎหมายจีนมีอำนาจเหนือบริษัทจีนแม้จะให้บริการในต่างประเทศ - การใช้งานโมเดล AI ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์จีนอาจเปิดช่องให้เกิดการจารกรรมข้อมูล - องค์กรควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการจากบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลต่างชาติในงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญ - การใช้งานโมเดลโอเพนซอร์สควรทำแบบ self-host เพื่อป้องกันการส่งข้อมูลออกนอกองค์กร https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/czechia-warns-that-deepseek-can-share-all-user-information-with-the-chinese-government
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Czechia warns that DeepSeek can share all user information with the Chinese government
    U.S. lawmakers issued similar warnings after the China-based AI company released its eponymous chatbot.
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • ส่วนขยายเบราว์เซอร์แอบใช้เครื่องคุณขุดข้อมูล – เกือบล้านคนตกเป็นเหยื่อ

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Security Annex พบว่า มีส่วนขยายเบราว์เซอร์กว่า 245 รายการที่ถูกติดตั้งในอุปกรณ์เกือบ 1 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งนอกจากทำหน้าที่ตามที่โฆษณาไว้ เช่น จัดการ bookmarks หรือเพิ่มเสียงลำโพงแล้ว ยังแอบฝัง JavaScript library ชื่อว่า MellowTel-js

    MellowTel-js เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ AWS ภายนอกเพื่อเก็บข้อมูลผู้ใช้ เช่น ตำแหน่ง, แบนด์วิดท์, และสถานะเบราว์เซอร์ จากนั้นจะฝัง iframe ลับในหน้าเว็บที่ผู้ใช้เปิด และโหลดเว็บไซต์อื่นตามคำสั่งจากระบบของ MellowTel

    เป้าหมายคือการใช้เครื่องของผู้ใช้เป็น “บ็อตขุดข้อมูล” (web scraping bot) ให้กับบริษัท Olostep ซึ่งให้บริการ scraping API แบบความเร็วสูง โดยสามารถส่งคำขอได้ถึง 100,000 ครั้งพร้อมกัน โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลย

    แม้ผู้ก่อตั้ง MellowTel จะอ้างว่าไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัว และไม่ได้ฝังโฆษณาหรือลิงก์พันธมิตร แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่าโครงสร้างนี้ “เสี่ยงต่อการถูกใช้ในทางที่ผิด” โดยเฉพาะในองค์กรที่ใช้ VPN หรือเครือข่ายภายใน

    บางส่วนขยายถูกลบออกหรืออัปเดตให้ปลอดภัยแล้ว แต่หลายรายการยังคงใช้งานอยู่ และผู้ใช้ควรตรวจสอบรายชื่อส่วนขยายที่ได้รับผลกระทบทันที

    ข้อมูลจากข่าว
    - พบส่วนขยายเบราว์เซอร์ 245 รายการที่ฝัง MellowTel-js และติดตั้งในอุปกรณ์เกือบ 1 ล้านเครื่อง
    - ส่วนขยายเหล่านี้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ AWS เพื่อเก็บข้อมูลผู้ใช้และฝัง iframe ลับ
    - ใช้เครื่องของผู้ใช้เป็นบ็อตสำหรับ web scraping โดยบริษัท Olostep
    - Olostep ให้บริการ scraping API ที่สามารถส่งคำขอได้ถึง 100,000 ครั้งพร้อมกัน
    - ผู้พัฒนา extension ได้รับส่วนแบ่งรายได้ 55% จากการใช้งาน scraping
    - บางส่วนขยายถูกลบหรืออัปเดตแล้ว แต่หลายรายการยังคงใช้งานอยู่

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ส่วนขยายที่ดูปลอดภัยอาจแอบใช้เครื่องของคุณเป็นบ็อตโดยไม่รู้ตัว
    - การฝัง iframe และลบ security headers อาจทำให้เบราว์เซอร์เสี่ยงต่อการโจมตี
    - หากใช้งานในองค์กร อาจเปิดช่องให้เข้าถึงทรัพยากรภายในหรือปลอมแปลงทราฟฟิก
    - การแชร์แบนด์วิดท์โดยไม่รู้ตัวอาจกระทบต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตและความปลอดภัย
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบรายชื่อส่วนขยายที่ได้รับผลกระทบ และลบออกทันทีหากพบ
    - องค์กรควรมีนโยบายควบคุมการติดตั้งส่วนขยายในเบราว์เซอร์ของพนักงาน

    https://www.techradar.com/pro/security/nearly-a-million-browsers-affected-by-more-malicious-browser-extensions
    ส่วนขยายเบราว์เซอร์แอบใช้เครื่องคุณขุดข้อมูล – เกือบล้านคนตกเป็นเหยื่อ นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Security Annex พบว่า มีส่วนขยายเบราว์เซอร์กว่า 245 รายการที่ถูกติดตั้งในอุปกรณ์เกือบ 1 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งนอกจากทำหน้าที่ตามที่โฆษณาไว้ เช่น จัดการ bookmarks หรือเพิ่มเสียงลำโพงแล้ว ยังแอบฝัง JavaScript library ชื่อว่า MellowTel-js MellowTel-js เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ AWS ภายนอกเพื่อเก็บข้อมูลผู้ใช้ เช่น ตำแหน่ง, แบนด์วิดท์, และสถานะเบราว์เซอร์ จากนั้นจะฝัง iframe ลับในหน้าเว็บที่ผู้ใช้เปิด และโหลดเว็บไซต์อื่นตามคำสั่งจากระบบของ MellowTel เป้าหมายคือการใช้เครื่องของผู้ใช้เป็น “บ็อตขุดข้อมูล” (web scraping bot) ให้กับบริษัท Olostep ซึ่งให้บริการ scraping API แบบความเร็วสูง โดยสามารถส่งคำขอได้ถึง 100,000 ครั้งพร้อมกัน โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลย แม้ผู้ก่อตั้ง MellowTel จะอ้างว่าไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัว และไม่ได้ฝังโฆษณาหรือลิงก์พันธมิตร แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่าโครงสร้างนี้ “เสี่ยงต่อการถูกใช้ในทางที่ผิด” โดยเฉพาะในองค์กรที่ใช้ VPN หรือเครือข่ายภายใน บางส่วนขยายถูกลบออกหรืออัปเดตให้ปลอดภัยแล้ว แต่หลายรายการยังคงใช้งานอยู่ และผู้ใช้ควรตรวจสอบรายชื่อส่วนขยายที่ได้รับผลกระทบทันที ✅ ข้อมูลจากข่าว - พบส่วนขยายเบราว์เซอร์ 245 รายการที่ฝัง MellowTel-js และติดตั้งในอุปกรณ์เกือบ 1 ล้านเครื่อง - ส่วนขยายเหล่านี้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ AWS เพื่อเก็บข้อมูลผู้ใช้และฝัง iframe ลับ - ใช้เครื่องของผู้ใช้เป็นบ็อตสำหรับ web scraping โดยบริษัท Olostep - Olostep ให้บริการ scraping API ที่สามารถส่งคำขอได้ถึง 100,000 ครั้งพร้อมกัน - ผู้พัฒนา extension ได้รับส่วนแบ่งรายได้ 55% จากการใช้งาน scraping - บางส่วนขยายถูกลบหรืออัปเดตแล้ว แต่หลายรายการยังคงใช้งานอยู่ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ส่วนขยายที่ดูปลอดภัยอาจแอบใช้เครื่องของคุณเป็นบ็อตโดยไม่รู้ตัว - การฝัง iframe และลบ security headers อาจทำให้เบราว์เซอร์เสี่ยงต่อการโจมตี - หากใช้งานในองค์กร อาจเปิดช่องให้เข้าถึงทรัพยากรภายในหรือปลอมแปลงทราฟฟิก - การแชร์แบนด์วิดท์โดยไม่รู้ตัวอาจกระทบต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตและความปลอดภัย - ผู้ใช้ควรตรวจสอบรายชื่อส่วนขยายที่ได้รับผลกระทบ และลบออกทันทีหากพบ - องค์กรควรมีนโยบายควบคุมการติดตั้งส่วนขยายในเบราว์เซอร์ของพนักงาน https://www.techradar.com/pro/security/nearly-a-million-browsers-affected-by-more-malicious-browser-extensions
    WWW.TECHRADAR.COM
    Nearly a million browsers affected by more malicious browser extensions - here's what we know
    Hundreds of extensions were found, putting almost a million people at risk
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • Zombie Fabs – ความฝันชิปจีนที่กลายเป็นฝันร้าย

    จีนพยายามผลักดันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะภายใต้แผน “Made in China 2025” ที่ตั้งเป้าให้ประเทศเป็นผู้นำด้านการผลิตชิประดับโลก แต่เบื้องหลังความคืบหน้ากลับมีโครงการล้มเหลวมากมายที่เผาเงินไปหลายหมื่นล้านดอลลาร์

    หลายโครงการสร้างโรงงานผลิตชิป (fabs) ขนาดใหญ่ แต่ไม่เคยติดตั้งเครื่องจักรหรือเริ่มผลิตจริง กลายเป็น “zombie fabs” ที่ถูกทิ้งร้าง เช่น:
    - HSMC ลงทุน $19B เพื่อสร้างโรงงาน 14nm/7nm แต่ถูกยึดโดยรัฐบาลท้องถิ่นหลังเงินหมด
    - QXIC พยายามสร้างโรงงาน 14nm โดยไม่มีเครื่องจักรหรืออาคารจริง
    - Tsinghua Unigroup ล้มเหลวทั้งโครงการ DRAM และ 3D NAND หลังขาดทุนและผู้บริหารลาออก
    - JHICC ถูกสหรัฐฯ แบนหลังขโมยเทคโนโลยีจาก Micron ทำให้ไม่สามารถพัฒนา DRAM ต่อได้
    - GlobalFoundries ลงทุน $10B ใน Chengdu แต่ต้องยกเลิกกลางทาง ก่อนถูก HLMC เข้าซื้อในปี 2023

    สาเหตุหลักของความล้มเหลวเหล่านี้ ได้แก่:
    - ขาดความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและ R&D
    - พึ่งพาเงินทุนจากรัฐบาลท้องถิ่นโดยไม่มี oversight
    - การบริหารผิดพลาดและการฉ้อโกง
    - ถูกจำกัดการเข้าถึงเครื่องมือผลิตชิประดับสูงจากมาตรการแบนของสหรัฐฯ
    - ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้ supply chain ไม่มั่นคง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/zombie-fabs-plague-chinas-chipmaking-ambitions-failures-burning-tens-of-billions-of-dollars
    Zombie Fabs – ความฝันชิปจีนที่กลายเป็นฝันร้าย จีนพยายามผลักดันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะภายใต้แผน “Made in China 2025” ที่ตั้งเป้าให้ประเทศเป็นผู้นำด้านการผลิตชิประดับโลก แต่เบื้องหลังความคืบหน้ากลับมีโครงการล้มเหลวมากมายที่เผาเงินไปหลายหมื่นล้านดอลลาร์ หลายโครงการสร้างโรงงานผลิตชิป (fabs) ขนาดใหญ่ แต่ไม่เคยติดตั้งเครื่องจักรหรือเริ่มผลิตจริง กลายเป็น “zombie fabs” ที่ถูกทิ้งร้าง เช่น: - HSMC ลงทุน $19B เพื่อสร้างโรงงาน 14nm/7nm แต่ถูกยึดโดยรัฐบาลท้องถิ่นหลังเงินหมด - QXIC พยายามสร้างโรงงาน 14nm โดยไม่มีเครื่องจักรหรืออาคารจริง - Tsinghua Unigroup ล้มเหลวทั้งโครงการ DRAM และ 3D NAND หลังขาดทุนและผู้บริหารลาออก - JHICC ถูกสหรัฐฯ แบนหลังขโมยเทคโนโลยีจาก Micron ทำให้ไม่สามารถพัฒนา DRAM ต่อได้ - GlobalFoundries ลงทุน $10B ใน Chengdu แต่ต้องยกเลิกกลางทาง ก่อนถูก HLMC เข้าซื้อในปี 2023 สาเหตุหลักของความล้มเหลวเหล่านี้ ได้แก่: - ขาดความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและ R&D - พึ่งพาเงินทุนจากรัฐบาลท้องถิ่นโดยไม่มี oversight - การบริหารผิดพลาดและการฉ้อโกง - ถูกจำกัดการเข้าถึงเครื่องมือผลิตชิประดับสูงจากมาตรการแบนของสหรัฐฯ - ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้ supply chain ไม่มั่นคง https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/zombie-fabs-plague-chinas-chipmaking-ambitions-failures-burning-tens-of-billions-of-dollars
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • หลายคนอาจคิดว่า Nvidia ยังเป็นเจ้าตลาด GPU แบบเบ็ดเสร็จทุกแพลตฟอร์ม → แต่ถ้าเรามองไปที่ตลาด eGPU (GPU ภายนอกสำหรับโน้ตบุ๊ก), เกมกลับพลิก!

    ล่าสุดบริษัท Onexplayer เปิดตัว OnexGPU Lite ซึ่งใช้ Radeon RX 7600M XT แบบโมบายจาก AMD เป็นตัวประมวลผล → นี่คือ eGPU ตัวที่ 11 แล้วที่ใช้ชิป AMD จากซีรีส์ RX 7000 → ที่น่าสนใจคือยังไม่มี eGPU ที่ใช้ชิป RDNA4 ใหม่เลย — ทุกตัวใช้รุ่นเดิม แต่เปลี่ยนพอร์ตให้รองรับ Thunderbolt 5

    แม้ RX 7600M XT จะไม่ใช่ GPU ที่แรงที่สุด แต่กลับกลายเป็น "มาตรฐานของ eGPU รุ่นใหม่" ที่เน้นความบาง, น้ำหนักเบา, และการประหยัดพลังงาน → ขณะที่ Nvidia แทบไม่มีบทบาทในกลุ่มนี้ → Vendor หลายรายเลือก AMD เพราะจัดการเรื่อง driver ได้ง่ายกว่า, ประหยัดไฟกว่า และราคาอาจคุ้มค่ากว่าในแพลตฟอร์ม eGPU

    จุดขายล่าสุดคือพอร์ต Thunderbolt 5 ที่ทำงานได้ทั้งส่งภาพ, ส่งข้อมูล, และจ่ายไฟผ่านสายเดียว → แม้แบนด์วิดธ์ PCIe ยังเท่ากับ OCuLink (64Gbps) แต่ Thunderbolt 5 ใช้งานง่ายกว่า เพราะรองรับ display + power + data → เหมาะมากสำหรับ creator สายวีดีโอ หรือคนที่ใช้ Photoshop บนโน้ตบุ๊กบาง ๆ

    OnexGPU Lite ใช้ Radeon RX 7600M XT พร้อมพอร์ต Thunderbolt 5  
    • เป็น eGPU ตัวที่ 11 แล้วจาก AMD RX 7000 Series  
    • พัฒนาจาก OnexGPU 2 ที่ใช้ RX 7800M  
    • เน้น balance ระหว่างประสิทธิภาพ & portability

    Thunderbolt 5 รองรับทั้ง PCIe, display output และการจ่ายไฟผ่านสายเดียว  
    • PCIe bandwidth เทียบเท่า OCuLink (64Gbps)  
    • แต่มอบประสบการณ์ใช้งานที่ง่ายกว่าและเหมาะสำหรับ creator

    AMD ครองตลาด eGPU แบบเงียบ ๆ ขณะที่ Nvidia ยังไม่โดดเข้ามาเต็มตัว

    Vendor หลายรายอาจเลือก AMD เพราะเหตุผลด้าน power efficiency, driver compatibility, และราคาต่อโมบาย GPU

    แม้จะใช้ RX 7600M XT ซ้ำในหลายรุ่น แต่การเปลี่ยน chassis และพอร์ตเป็น Thunderbolt 5 คือทางเลือกที่คุ้มค่าในตลาด eGPU

    https://www.techradar.com/pro/amd-is-surpassing-nvidia-in-one-particular-market-and-i-dont-understand-why-11th-egpu-based-on-amd-radeon-rx-7000-series-debuts-and-even-has-thunderbolt-5
    หลายคนอาจคิดว่า Nvidia ยังเป็นเจ้าตลาด GPU แบบเบ็ดเสร็จทุกแพลตฟอร์ม → แต่ถ้าเรามองไปที่ตลาด eGPU (GPU ภายนอกสำหรับโน้ตบุ๊ก), เกมกลับพลิก! ล่าสุดบริษัท Onexplayer เปิดตัว OnexGPU Lite ซึ่งใช้ Radeon RX 7600M XT แบบโมบายจาก AMD เป็นตัวประมวลผล → นี่คือ eGPU ตัวที่ 11 แล้วที่ใช้ชิป AMD จากซีรีส์ RX 7000 → ที่น่าสนใจคือยังไม่มี eGPU ที่ใช้ชิป RDNA4 ใหม่เลย — ทุกตัวใช้รุ่นเดิม แต่เปลี่ยนพอร์ตให้รองรับ Thunderbolt 5 แม้ RX 7600M XT จะไม่ใช่ GPU ที่แรงที่สุด แต่กลับกลายเป็น "มาตรฐานของ eGPU รุ่นใหม่" ที่เน้นความบาง, น้ำหนักเบา, และการประหยัดพลังงาน → ขณะที่ Nvidia แทบไม่มีบทบาทในกลุ่มนี้ → Vendor หลายรายเลือก AMD เพราะจัดการเรื่อง driver ได้ง่ายกว่า, ประหยัดไฟกว่า และราคาอาจคุ้มค่ากว่าในแพลตฟอร์ม eGPU จุดขายล่าสุดคือพอร์ต Thunderbolt 5 ที่ทำงานได้ทั้งส่งภาพ, ส่งข้อมูล, และจ่ายไฟผ่านสายเดียว → แม้แบนด์วิดธ์ PCIe ยังเท่ากับ OCuLink (64Gbps) แต่ Thunderbolt 5 ใช้งานง่ายกว่า เพราะรองรับ display + power + data → เหมาะมากสำหรับ creator สายวีดีโอ หรือคนที่ใช้ Photoshop บนโน้ตบุ๊กบาง ๆ ✅ OnexGPU Lite ใช้ Radeon RX 7600M XT พร้อมพอร์ต Thunderbolt 5   • เป็น eGPU ตัวที่ 11 แล้วจาก AMD RX 7000 Series   • พัฒนาจาก OnexGPU 2 ที่ใช้ RX 7800M   • เน้น balance ระหว่างประสิทธิภาพ & portability ✅ Thunderbolt 5 รองรับทั้ง PCIe, display output และการจ่ายไฟผ่านสายเดียว   • PCIe bandwidth เทียบเท่า OCuLink (64Gbps)   • แต่มอบประสบการณ์ใช้งานที่ง่ายกว่าและเหมาะสำหรับ creator ✅ AMD ครองตลาด eGPU แบบเงียบ ๆ ขณะที่ Nvidia ยังไม่โดดเข้ามาเต็มตัว ✅ Vendor หลายรายอาจเลือก AMD เพราะเหตุผลด้าน power efficiency, driver compatibility, และราคาต่อโมบาย GPU ✅ แม้จะใช้ RX 7600M XT ซ้ำในหลายรุ่น แต่การเปลี่ยน chassis และพอร์ตเป็น Thunderbolt 5 คือทางเลือกที่คุ้มค่าในตลาด eGPU https://www.techradar.com/pro/amd-is-surpassing-nvidia-in-one-particular-market-and-i-dont-understand-why-11th-egpu-based-on-amd-radeon-rx-7000-series-debuts-and-even-has-thunderbolt-5
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • ในขณะที่หลายประเทศเดินหน้าพัฒนาโดรนที่ “ฉลาดขึ้น” เพื่อลดการสูญเสียจากการใช้งานคนจริงในสนามรบ รัสเซียก็ไม่แพ้ใคร ล่าสุดทดสอบภาคสนามกับโดรน AI รุ่น MS001 ที่ → สามารถ “มอง, วิเคราะห์, ตัดสินใจ และโจมตี” ได้เอง → ไม่ต้องพึ่งคำสั่งจากศูนย์ควบคุม → พร้อมระบบ telemetry–ความร้อน–GPS ต่อต้านการสวมรอย

    สมองกลในโดรนตัวนี้คือ Nvidia Jetson Orin — คอมพิวเตอร์ AI ขนาดเล็กเพียงฝ่ามือ ราคาประมาณ $249 แต่แรงระดับ 67 TOPS (เทียบเท่าหลายล้านล้านคำสั่งต่อวินาที) → ใช้ GPU จากสถาปัตยกรรม Ampere + ซีพียู ARM 6 คอร์ → เทียบได้กับการเอาพลังของ AI ระดับรถยนต์อัจฉริยะมาย่อส่วน

    แต่อย่าลืมว่า Nvidia ถูกห้ามส่งชิประดับนี้ให้รัสเซียตั้งแต่ปี 2022 แล้วนะครับ → สุดท้ายพบว่ามีการลักลอบผ่านเส้นทางค้าสีเทา เช่น “ปลอมเป็นอุปกรณ์ใช้ส่วนตัว–ส่งผ่านบริษัทบังหน้าในจีน–สิงคโปร์–ตุรกี” → สืบพบว่าในปี 2023 มีชิป Nvidia หลุดรอดเข้าสู่รัสเซียราว $17 ล้านเลยทีเดียว

    สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามว่า “เราจะควบคุมเทคโนโลยี AI อย่างไร เมื่อแม้แต่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็หดตัวมาอยู่ในฝ่ามือ และหาทางเข้าสู่สนามรบได้แม้ถูกแบน?”

    รัสเซียทดสอบโดรน AI รุ่น MS001 ที่ควบคุมตัวเองได้เต็มรูปแบบ  
    • เห็นวัตถุ–วิเคราะห์–เล็ง–ตัดสินใจ–ยิง โดยไม่ต้องมีคำสั่งจากศูนย์  
    • ใช้งานร่วมกับ swarm (ฝูงโดรน) และทนต่อสภาพแวดล้อมที่ลำบาก

    สมองกลหลักคือ Nvidia Jetson Orin (เปิดตัวปลายปี 2024)  
    • 67 TOPS, หน่วยความจำ 102GB/s  
    • ใช้ GPU Ampere + ARM 6 คอร์  
    • ขนาดเล็กพกพาได้

    พบ MS001 ที่ถูกยิงตกมีเทคโนโลยีครบชุด:  
    • กล้องความร้อนสำหรับปฏิบัติการกลางคืน  
    • ระบบ GPS ป้องกันการ spoof (CRPA antenna)  
    • ชิป FPGA สำหรับ logic แบบปรับแต่งเอง  
    • โมเด็มวิทยุสำหรับส่งข้อมูลและประสานการโจมตีแบบฝูง

    มีการใช้งาน Jetson Orin ในโดรนรุ่น V2U เช่นกัน (โจมตีแบบพลีชีพ)  
    • ใช้บอร์ด Leetop A603 จากจีนในการติดตั้ง Jetson

    คาดว่า Nvidia hardware หลุดเข้ารัสเซียผ่านตลาดสีเทามูลค่ากว่า $17 ล้านในปี 2023  
    • ลักลอบผ่านบริษัทบังหน้าในฮ่องกง–จีน–ตุรกี–สิงคโปร์  
    • มีการปลอมเอกสารว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป เช่น กล้อง, router ฯลฯ

    https://www.techspot.com/news/108579-russia-field-testing-new-ai-drone-powered-nvidia.html
    ในขณะที่หลายประเทศเดินหน้าพัฒนาโดรนที่ “ฉลาดขึ้น” เพื่อลดการสูญเสียจากการใช้งานคนจริงในสนามรบ รัสเซียก็ไม่แพ้ใคร ล่าสุดทดสอบภาคสนามกับโดรน AI รุ่น MS001 ที่ → สามารถ “มอง, วิเคราะห์, ตัดสินใจ และโจมตี” ได้เอง → ไม่ต้องพึ่งคำสั่งจากศูนย์ควบคุม → พร้อมระบบ telemetry–ความร้อน–GPS ต่อต้านการสวมรอย สมองกลในโดรนตัวนี้คือ Nvidia Jetson Orin — คอมพิวเตอร์ AI ขนาดเล็กเพียงฝ่ามือ ราคาประมาณ $249 แต่แรงระดับ 67 TOPS (เทียบเท่าหลายล้านล้านคำสั่งต่อวินาที) → ใช้ GPU จากสถาปัตยกรรม Ampere + ซีพียู ARM 6 คอร์ → เทียบได้กับการเอาพลังของ AI ระดับรถยนต์อัจฉริยะมาย่อส่วน แต่อย่าลืมว่า Nvidia ถูกห้ามส่งชิประดับนี้ให้รัสเซียตั้งแต่ปี 2022 แล้วนะครับ → สุดท้ายพบว่ามีการลักลอบผ่านเส้นทางค้าสีเทา เช่น “ปลอมเป็นอุปกรณ์ใช้ส่วนตัว–ส่งผ่านบริษัทบังหน้าในจีน–สิงคโปร์–ตุรกี” → สืบพบว่าในปี 2023 มีชิป Nvidia หลุดรอดเข้าสู่รัสเซียราว $17 ล้านเลยทีเดียว สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามว่า “เราจะควบคุมเทคโนโลยี AI อย่างไร เมื่อแม้แต่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็หดตัวมาอยู่ในฝ่ามือ และหาทางเข้าสู่สนามรบได้แม้ถูกแบน?” ✅ รัสเซียทดสอบโดรน AI รุ่น MS001 ที่ควบคุมตัวเองได้เต็มรูปแบบ   • เห็นวัตถุ–วิเคราะห์–เล็ง–ตัดสินใจ–ยิง โดยไม่ต้องมีคำสั่งจากศูนย์   • ใช้งานร่วมกับ swarm (ฝูงโดรน) และทนต่อสภาพแวดล้อมที่ลำบาก ✅ สมองกลหลักคือ Nvidia Jetson Orin (เปิดตัวปลายปี 2024)   • 67 TOPS, หน่วยความจำ 102GB/s   • ใช้ GPU Ampere + ARM 6 คอร์   • ขนาดเล็กพกพาได้ ✅ พบ MS001 ที่ถูกยิงตกมีเทคโนโลยีครบชุด:   • กล้องความร้อนสำหรับปฏิบัติการกลางคืน   • ระบบ GPS ป้องกันการ spoof (CRPA antenna)   • ชิป FPGA สำหรับ logic แบบปรับแต่งเอง   • โมเด็มวิทยุสำหรับส่งข้อมูลและประสานการโจมตีแบบฝูง ✅ มีการใช้งาน Jetson Orin ในโดรนรุ่น V2U เช่นกัน (โจมตีแบบพลีชีพ)   • ใช้บอร์ด Leetop A603 จากจีนในการติดตั้ง Jetson ✅ คาดว่า Nvidia hardware หลุดเข้ารัสเซียผ่านตลาดสีเทามูลค่ากว่า $17 ล้านในปี 2023   • ลักลอบผ่านบริษัทบังหน้าในฮ่องกง–จีน–ตุรกี–สิงคโปร์   • มีการปลอมเอกสารว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป เช่น กล้อง, router ฯลฯ https://www.techspot.com/news/108579-russia-field-testing-new-ai-drone-powered-nvidia.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Russia field-testing new AI drone powered by Nvidia's Jetson Orin supercomputer
    Russia is using the self-piloting abilities of AI in its new MS001 drone that is currently being field-tested. Ukrainian Major General Vladyslav Klochkov wrote in a LinkedIn...
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • ชาวเขมรแฉเอง“ฮุน เซน”ปากประกาศแบนสินค้าไทย แต่ลับหลังให้พ่อค้านายทุนซื้อสินค้าไทย นำเข้าผ่านชายแดนด้าน สปป.ลาวแทน ทำให้ชาวกัมพูชาไม่ขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยแต่ต้องทนซื้อราคาแพงขึ้นจากเดิม ขณะแรงงานเขมรเข้าเมืองผิดกฎหมาย ยังข้ามแดนด่านช่องจอม สุรินทร์ กลับประเทศต่อเนื่อง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063564

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ชาวเขมรแฉเอง“ฮุน เซน”ปากประกาศแบนสินค้าไทย แต่ลับหลังให้พ่อค้านายทุนซื้อสินค้าไทย นำเข้าผ่านชายแดนด้าน สปป.ลาวแทน ทำให้ชาวกัมพูชาไม่ขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยแต่ต้องทนซื้อราคาแพงขึ้นจากเดิม ขณะแรงงานเขมรเข้าเมืองผิดกฎหมาย ยังข้ามแดนด่านช่องจอม สุรินทร์ กลับประเทศต่อเนื่อง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063564 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    7
    0 Comments 0 Shares 398 Views 0 Reviews
  • ชาวกัมพูชาแฉ “ฮุน เซน” ประกาศแบนสินค้าไทย แต่ปล่อยให้นายทุนซื้อสินค้าไทยผ่านชายแดนลาวแทน แต่ชาวกัมพูชาก็ยอมซื้อ
    https://www.thai-tai.tv/news/20066/
    .
    #ฮุนเซน #แบนสินค้าไทย #กัมพูชา #สินค้าไทย #ชายแดนลาว #เศรษฐกิจกัมพูชา #ค่าครองชีพ #แรงงานกัมพูชา #ช่องจอม #ข่าวชายแดน
    ชาวกัมพูชาแฉ “ฮุน เซน” ประกาศแบนสินค้าไทย แต่ปล่อยให้นายทุนซื้อสินค้าไทยผ่านชายแดนลาวแทน แต่ชาวกัมพูชาก็ยอมซื้อ https://www.thai-tai.tv/news/20066/ . #ฮุนเซน #แบนสินค้าไทย #กัมพูชา #สินค้าไทย #ชายแดนลาว #เศรษฐกิจกัมพูชา #ค่าครองชีพ #แรงงานกัมพูชา #ช่องจอม #ข่าวชายแดน
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • จำเทปแม่เหล็กที่เคยใช้แบ็กอัปข้อมูลไหมครับ? Cerabyte กำลังจะ “อัปเกรด” แนวคิดนั้นขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการเก็บข้อมูลบนแผ่น กระจกบาง 100 ไมครอน เคลือบด้วยฟิล์มเซรามิกหนาแค่ 10 นาโนเมตร แล้วจารึกข้อมูลด้วยเลเซอร์พลังสูงระดับเฟมโตวินาที (fs laser) ที่ยิงรูจิ๋ว ๆ เรียงเป็นแพตเทิร์น — จากนั้นใช้กล้องความละเอียดสูงเป็นตัวอ่าน

    - แผ่นขนาด 9x9 ซม. หลายแผ่นถูกใส่ในตลับ (cartridge) คล้ายเทป
    - มี “หุ่นยนต์จัดเก็บ” เปลี่ยนตลับให้เองเหมือนห้องสมุดอัตโนมัติ
    - ตอนนี้เทคโนโลยีระดับ prototype ยังทำได้แค่ 1GB ต่อแร็ก
    - แต่ภายในปี 2030 → จะกลายเป็น 100 PB ต่อแร็ก + โหลดเร็วเกิน 2 GB/s และใช้เวลาเริ่มอ่านแค่ 10 วินาที

    ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ...ต้นทุนจะลดจาก $7,000–8,000 ต่อ PB-เดือน (ตอนนี้) เหลือเพียงแค่ $6–8 ต่อ PB-เดือน!

    Cerabyte เตรียมเปิดตัวระบบ Ceramic Nano Memory ความจุ 100 PB ต่อแร็กภายในปี 2030  
    • ความเร็วอ่านข้อมูลทะลุ 2 GB/s  
    • เวลาเข้าถึง (time to first byte) น้อยกว่า 10 วินาที  
    • เทียบกับระบบตอนนี้: แค่ 1 GB/แร็ก, 100 MB/s, ใช้เวลา 90 วินาที

    ใช้แผ่นกระจกบางพิเศษเคลือบฟิล์มเซรามิก จารึกข้อมูลด้วยเลเซอร์  
    • ทนต่อสภาพแวดล้อมสูง อายุการใช้งาน >100 ปี  
    • อ่านข้อมูลด้วยกล้องความละเอียดสูงแทนการสัมผัส

    เป้าหมายการพัฒนา (ตามปี):  
    • 2026: ยืนยันรุ่น 1PB/rack  
    • 2027–2028: เพิ่มความหนาแน่นระดับสิบ PB/rack  
    • 2029–2030: แตะ 100 PB/rack

    ต้นทุนรวมทั้งระบบ (Total Cost of Ownership):  
    • ปัจจุบัน: $7,000–8,000 ต่อ PB-เดือน  
    • ปี 2030: ลดเหลือ $6–8 ต่อ PB-เดือน

    สนับสนุนโดย: Pure Storage, Western Digital, In-Q-Tel, EU Innovation Council  
    • ได้ทุน Seed ~$10M และทุนวิจัยเพิ่มอีก ~$4M

    ระบบนี้มีข้อได้เปรียบเทียบกับเทปแม่เหล็กแบบดั้งเดิม:  
    • แบนด์วิดธ์มากกว่า 2 เท่า  
    • อายุการใช้งาน >100 ปี (เทปเดิมแค่ 7–15 ปี)  
    • ต้นทุนต่อ TB ต่ำกว่าครึ่ง

    อนาคตหลังปี 2045 — อาจพัฒนาเทคโนโลยี “Helium-ion beam” เพื่อจารึกที่ขนาดบิตเล็กลงเหลือ 3 nm  
    • ความจุต่อแร็กอาจทะยานถึงระดับ Exabyte

    https://www.techpowerup.com/338629/cerabyte-plans-100-pb-ceramic-nano-memory-storage-by-2030
    จำเทปแม่เหล็กที่เคยใช้แบ็กอัปข้อมูลไหมครับ? Cerabyte กำลังจะ “อัปเกรด” แนวคิดนั้นขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการเก็บข้อมูลบนแผ่น กระจกบาง 100 ไมครอน เคลือบด้วยฟิล์มเซรามิกหนาแค่ 10 นาโนเมตร แล้วจารึกข้อมูลด้วยเลเซอร์พลังสูงระดับเฟมโตวินาที (fs laser) ที่ยิงรูจิ๋ว ๆ เรียงเป็นแพตเทิร์น — จากนั้นใช้กล้องความละเอียดสูงเป็นตัวอ่าน - แผ่นขนาด 9x9 ซม. หลายแผ่นถูกใส่ในตลับ (cartridge) คล้ายเทป - มี “หุ่นยนต์จัดเก็บ” เปลี่ยนตลับให้เองเหมือนห้องสมุดอัตโนมัติ - ตอนนี้เทคโนโลยีระดับ prototype ยังทำได้แค่ 1GB ต่อแร็ก - แต่ภายในปี 2030 → จะกลายเป็น 100 PB ต่อแร็ก + โหลดเร็วเกิน 2 GB/s และใช้เวลาเริ่มอ่านแค่ 10 วินาที ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ...ต้นทุนจะลดจาก $7,000–8,000 ต่อ PB-เดือน (ตอนนี้) เหลือเพียงแค่ $6–8 ต่อ PB-เดือน! ✅ Cerabyte เตรียมเปิดตัวระบบ Ceramic Nano Memory ความจุ 100 PB ต่อแร็กภายในปี 2030   • ความเร็วอ่านข้อมูลทะลุ 2 GB/s   • เวลาเข้าถึง (time to first byte) น้อยกว่า 10 วินาที   • เทียบกับระบบตอนนี้: แค่ 1 GB/แร็ก, 100 MB/s, ใช้เวลา 90 วินาที ✅ ใช้แผ่นกระจกบางพิเศษเคลือบฟิล์มเซรามิก จารึกข้อมูลด้วยเลเซอร์   • ทนต่อสภาพแวดล้อมสูง อายุการใช้งาน >100 ปี   • อ่านข้อมูลด้วยกล้องความละเอียดสูงแทนการสัมผัส ✅ เป้าหมายการพัฒนา (ตามปี):   • 2026: ยืนยันรุ่น 1PB/rack   • 2027–2028: เพิ่มความหนาแน่นระดับสิบ PB/rack   • 2029–2030: แตะ 100 PB/rack ✅ ต้นทุนรวมทั้งระบบ (Total Cost of Ownership):   • ปัจจุบัน: $7,000–8,000 ต่อ PB-เดือน   • ปี 2030: ลดเหลือ $6–8 ต่อ PB-เดือน ✅ สนับสนุนโดย: Pure Storage, Western Digital, In-Q-Tel, EU Innovation Council   • ได้ทุน Seed ~$10M และทุนวิจัยเพิ่มอีก ~$4M ✅ ระบบนี้มีข้อได้เปรียบเทียบกับเทปแม่เหล็กแบบดั้งเดิม:   • แบนด์วิดธ์มากกว่า 2 เท่า   • อายุการใช้งาน >100 ปี (เทปเดิมแค่ 7–15 ปี)   • ต้นทุนต่อ TB ต่ำกว่าครึ่ง ✅ อนาคตหลังปี 2045 — อาจพัฒนาเทคโนโลยี “Helium-ion beam” เพื่อจารึกที่ขนาดบิตเล็กลงเหลือ 3 nm   • ความจุต่อแร็กอาจทะยานถึงระดับ Exabyte https://www.techpowerup.com/338629/cerabyte-plans-100-pb-ceramic-nano-memory-storage-by-2030
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Cerabyte Plans 100 PB Ceramic Nano Memory Storage by 2030
    Cerabyte has unveiled a detailed roadmap for its Ceramic Nano Memory archival storage system, promising a cloud-based platform capable of storing over 100 PB per rack by 2030. The company expects data transfer speeds to climb above 2 GB/s and the time to first byte to fall below 10 seconds, a dramat...
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • ก่อนหน้านี้ใครที่ใช้โน้ตบุ๊กแล้วอยากเพิ่มพลังการ์ดจอ ต้องพึ่ง eGPU ที่ใช้ Thunderbolt 3 หรือ 4 ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องแบนด์วิดธ์ — พอมาเจอ Thunderbolt 5 ที่วิ่งได้ถึง 80 Gbps (จากเดิม 40–64 Gbps) การส่งข้อมูลกราฟิกจะเร็วกว่าเดิมชัดเจน → ทำให้ภาพลื่นขึ้น การตอบสนองเร็วขึ้น โดยเฉพาะในเกม AAA หรือการเรนเดอร์ภาพ/โมเดล AI

    ONE-NETBOOK เคยเปิดตัว ONEXGPU รุ่นแรกที่ใช้ OCulink (64 Gbps) มาก่อน
    → ตอนนี้รุ่นใหม่จะเปลี่ยนมาใช้ Thunderbolt 5, เพิ่มแบนด์วิดธ์อีก 16 Gbps
    → ดีไซน์ใหม่, ระบบระบายความร้อนดีขึ้น, มีไฟ LED ด้านหน้าเพื่อความสวยงาม
    → แม้ยังไม่เปิดสเปกทั้งหมด แต่คาดว่าจะมี ช่อง M.2 SSD แบบ PCIe 4.0 หรือ 5.0, USB-A/USB-C, และพอร์ตชาร์จ (PD) เหมือนรุ่นก่อน

    eGPU รุ่นใหม่นี้ถือเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจของ ROG XG Mobile และ Minisforum MGA 1 ที่ใช้ RX 7600M XT เช่นกัน
    → จุดเด่นของ ONE-NETBOOK คือ “ขนาดเล็กแบบพกพาใส่กระเป๋าได้” แถมราคาน่าจะไม่แรงเท่าคู่แข่งจากแบรนด์ใหญ่

    https://wccftech.com/one-netbook-prepares-worlds-first-thunderbolt-5-based-rx-7600m-xt-egpu/
    ก่อนหน้านี้ใครที่ใช้โน้ตบุ๊กแล้วอยากเพิ่มพลังการ์ดจอ ต้องพึ่ง eGPU ที่ใช้ Thunderbolt 3 หรือ 4 ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องแบนด์วิดธ์ — พอมาเจอ Thunderbolt 5 ที่วิ่งได้ถึง 80 Gbps (จากเดิม 40–64 Gbps) การส่งข้อมูลกราฟิกจะเร็วกว่าเดิมชัดเจน → ทำให้ภาพลื่นขึ้น การตอบสนองเร็วขึ้น โดยเฉพาะในเกม AAA หรือการเรนเดอร์ภาพ/โมเดล AI ONE-NETBOOK เคยเปิดตัว ONEXGPU รุ่นแรกที่ใช้ OCulink (64 Gbps) มาก่อน → ตอนนี้รุ่นใหม่จะเปลี่ยนมาใช้ Thunderbolt 5, เพิ่มแบนด์วิดธ์อีก 16 Gbps → ดีไซน์ใหม่, ระบบระบายความร้อนดีขึ้น, มีไฟ LED ด้านหน้าเพื่อความสวยงาม → แม้ยังไม่เปิดสเปกทั้งหมด แต่คาดว่าจะมี ช่อง M.2 SSD แบบ PCIe 4.0 หรือ 5.0, USB-A/USB-C, และพอร์ตชาร์จ (PD) เหมือนรุ่นก่อน eGPU รุ่นใหม่นี้ถือเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจของ ROG XG Mobile และ Minisforum MGA 1 ที่ใช้ RX 7600M XT เช่นกัน → จุดเด่นของ ONE-NETBOOK คือ “ขนาดเล็กแบบพกพาใส่กระเป๋าได้” แถมราคาน่าจะไม่แรงเท่าคู่แข่งจากแบรนด์ใหญ่ https://wccftech.com/one-netbook-prepares-worlds-first-thunderbolt-5-based-rx-7600m-xt-egpu/
    WCCFTECH.COM
    ONE-NETBOOK Prepares World's First ThunderBolt 5-Based RX 7600M XT eGPU
    OneXPlayer has introduced the first-ever RX 7600M XT eGPU with Thunderbolt 5 interface, delivering greater bandwidth than before.
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • ..
    ..ตำรวจอาเชียนสากลและตำรวจเอเชียสากลตั้งถือกำหนดในไทยจริงๆนะ,คือทหารอาเชียน ทหารเอเชียนี้ล่ะ เพื่อปฏิบัติตรวจค้นจับกุมสิ่งไม่ดีลักษณะนี้นี้เอง,จะมาแค่แบนแค่ขับออกไม่ได้หรอก,เหยื่อมากมายรอการช่วยเหลือจากทหารเอเชียอาเชียนสากลอยู่เพื่อปฏิบัติพิเศษฉุกเฉินนั้นเอง,ตึกมากมายในเขมรปิดตายแน่นหนา แน่นอนอาชญากรรมโลกต้องอยู่ตรงนั้น สามารถวางแผนจัดการได้ทันทีในทหารชุดพิเศษสากลนี้,เชิงรุกต้องมีชัดเจน มิใช่ในโต๊ะห้องแอร์,การค้ามนุษย์ระดับชาติในเขมรโดยมีรัฐบาลเขมรอำนวยการพิทักษ์ปกป้องแล้วเช่นนั้นจะมีเดอะแก๊งพวกนี้ได้อย่างไรเต็มประเทศ,เอเชียอาเชียนต้องมีมาตราการสากลลงมติจับกุมรัฐบาลฮุนเซนทันทีฐานเป็นภัยอาชญากรรมมนุษย์ทั่วโลกมิใช่ภาคเนื้องานจริงไม่มีแอ็คชั่นช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์อะไร,เน็คสายเคเบิลบริเวณอาเชียนทั่วทะเลสมุทรเราต้องระงับสัญญาณเน็ตในเขมรทันที,บวกstarlinkเน็ตดาวเทียมของทุกๆค่ายทั่วโลกด้วย,หากกิจการไหนที่ให้บริการสัญญาณเน็ตผ่านดาวเทียมแก่เขมร,ขุดมาแฉเลย แสดงว่าสมคบคิดเป็นต้นเหตุก่ออาชญากรรมต่อโลกด้วยเพราะให้บริการเน็ตดาวเทียมแก่เขมรซึ่งแน่นอนมันใช้แน่นอน พม่ามันยังใช้บริการของstarlinkเลย,แฉให้ชาวโลกรับรู้ด้วยว่ากิจการให้บริการสายดาวเทียมเน็ตดาวเทียมนี้ก็ร่วมกิจกรรมก่ออาชญากรรมสนับสนุนให้การค้่มนุษย์ของเดอะแก๊งในเขมรทำการได้สำเร็จด้วย,ทหารไทยเรามีเครื่องมือตรวสอบเน็ตดาวเทียมแน่นอนตลอดประเทศอาเชียนและเอเชียเราด้วย,แม้เราไทยตัดเน็ตมัน เน็ตดาวเทียมคือทางเลือกหนึ่งแน่นอน,มาเลย์ยังสามารถใช้ดาวเทียมมาเลย์ตรวจสอบสารพิษในชั้นบรรยากาศไทยได้เลยว่า หลังนาซ่ามาเยือนและขึ้นบินมันโปร่งสารพิษสารโลหะก่อมะเร็งอะไรบ้างหรือกัมมันตรังสีนิวเคลียร์โน้นว่ามีเท่านั้นเท่านี้กี่%,ประเทศอาเชียนเราต้องไม่นิ่งดูดายกำจัดเขมร,เพราะเหยื่อค้ามนุษย์นั้นๆก็มาจากคนเอเชียอาเชียนเราเป็นส่วนใหญ่ตลอดถึงทั่วโลก,ตึกทุกๆตึกในเขมรที่สร้างก็ไม่ต่างจากพม่า มีเหยื่อค้ามนุษย์เต็มตรึมทุกๆตึกทั่วเขมรแน่นอน,รัฐบาลเขมรต้องถูกจับกุมลงโทษทางสากลเร่งด่วนด้วยเช่นกันเพราะเหยื่อจากทั่วโลกในเขมรมิอาจรอได้.
    ..https://youtu.be/C3BHrTaloa8?si=d2rdlYMe0P2fo0fU
    .. ..ตำรวจอาเชียนสากลและตำรวจเอเชียสากลตั้งถือกำหนดในไทยจริงๆนะ,คือทหารอาเชียน ทหารเอเชียนี้ล่ะ เพื่อปฏิบัติตรวจค้นจับกุมสิ่งไม่ดีลักษณะนี้นี้เอง,จะมาแค่แบนแค่ขับออกไม่ได้หรอก,เหยื่อมากมายรอการช่วยเหลือจากทหารเอเชียอาเชียนสากลอยู่เพื่อปฏิบัติพิเศษฉุกเฉินนั้นเอง,ตึกมากมายในเขมรปิดตายแน่นหนา แน่นอนอาชญากรรมโลกต้องอยู่ตรงนั้น สามารถวางแผนจัดการได้ทันทีในทหารชุดพิเศษสากลนี้,เชิงรุกต้องมีชัดเจน มิใช่ในโต๊ะห้องแอร์,การค้ามนุษย์ระดับชาติในเขมรโดยมีรัฐบาลเขมรอำนวยการพิทักษ์ปกป้องแล้วเช่นนั้นจะมีเดอะแก๊งพวกนี้ได้อย่างไรเต็มประเทศ,เอเชียอาเชียนต้องมีมาตราการสากลลงมติจับกุมรัฐบาลฮุนเซนทันทีฐานเป็นภัยอาชญากรรมมนุษย์ทั่วโลกมิใช่ภาคเนื้องานจริงไม่มีแอ็คชั่นช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์อะไร,เน็คสายเคเบิลบริเวณอาเชียนทั่วทะเลสมุทรเราต้องระงับสัญญาณเน็ตในเขมรทันที,บวกstarlinkเน็ตดาวเทียมของทุกๆค่ายทั่วโลกด้วย,หากกิจการไหนที่ให้บริการสัญญาณเน็ตผ่านดาวเทียมแก่เขมร,ขุดมาแฉเลย แสดงว่าสมคบคิดเป็นต้นเหตุก่ออาชญากรรมต่อโลกด้วยเพราะให้บริการเน็ตดาวเทียมแก่เขมรซึ่งแน่นอนมันใช้แน่นอน พม่ามันยังใช้บริการของstarlinkเลย,แฉให้ชาวโลกรับรู้ด้วยว่ากิจการให้บริการสายดาวเทียมเน็ตดาวเทียมนี้ก็ร่วมกิจกรรมก่ออาชญากรรมสนับสนุนให้การค้่มนุษย์ของเดอะแก๊งในเขมรทำการได้สำเร็จด้วย,ทหารไทยเรามีเครื่องมือตรวสอบเน็ตดาวเทียมแน่นอนตลอดประเทศอาเชียนและเอเชียเราด้วย,แม้เราไทยตัดเน็ตมัน เน็ตดาวเทียมคือทางเลือกหนึ่งแน่นอน,มาเลย์ยังสามารถใช้ดาวเทียมมาเลย์ตรวจสอบสารพิษในชั้นบรรยากาศไทยได้เลยว่า หลังนาซ่ามาเยือนและขึ้นบินมันโปร่งสารพิษสารโลหะก่อมะเร็งอะไรบ้างหรือกัมมันตรังสีนิวเคลียร์โน้นว่ามีเท่านั้นเท่านี้กี่%,ประเทศอาเชียนเราต้องไม่นิ่งดูดายกำจัดเขมร,เพราะเหยื่อค้ามนุษย์นั้นๆก็มาจากคนเอเชียอาเชียนเราเป็นส่วนใหญ่ตลอดถึงทั่วโลก,ตึกทุกๆตึกในเขมรที่สร้างก็ไม่ต่างจากพม่า มีเหยื่อค้ามนุษย์เต็มตรึมทุกๆตึกทั่วเขมรแน่นอน,รัฐบาลเขมรต้องถูกจับกุมลงโทษทางสากลเร่งด่วนด้วยเช่นกันเพราะเหยื่อจากทั่วโลกในเขมรมิอาจรอได้. ..https://youtu.be/C3BHrTaloa8?si=d2rdlYMe0P2fo0fU
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
  • กล้องวงจรปิด (CCTV) เคยเป็นแค่เรื่องรักษาความปลอดภัย แต่วันนี้มันกลายเป็นเรื่องของ "ความมั่นคงระดับชาติ"

    แคนาดาเพิ่งสั่งให้ Hikvision — บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนที่เป็น ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดอันดับ 1 ของโลก — หยุดดำเนินงานในประเทศ โดยระบุว่า “เป็นภัยต่อความมั่นคงของแคนาดา” (แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเพราะอะไร)

    หลายฝ่ายเชื่อว่าสาเหตุอาจมาจากความสัมพันธ์ของ Hikvision กับรัฐจีน ซึ่งมีข่าวว่า กล้องแบรนด์นี้ถูกใช้ในระบบตรวจจับ–ติดตามชาวอุยกูร์ในซินเจียง มาก่อน — และประเทศอย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ก็เคยแบนมาแล้วเช่นกัน

    ที่น่าสนใจคือ Canada ไม่ใช่แค่ห้ามซื้อใหม่ แต่ จะทยอยเลิกใช้กล้อง Hikvision ที่ติดตั้งอยู่แล้วในสถานที่ราชการ — และขอให้ประชาชน "ใช้วิจารณญาณ" ถ้าจะซื้ออุปกรณ์จากแบรนด์นี้ด้วย

    Hikvision เองก็ออกมาโต้ว่า "ไม่เป็นธรรม ขาดความโปร่งใส และดูเหมือนโดนเล่นงานเพราะเป็นบริษัทจากจีน" — ซึ่งก็สะท้อนว่าเทคโนโลยีบางอย่างกำลังถูกแปะป้าย “น่าเชื่อถือ/ไม่น่าเชื่อถือ” ด้วยเหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์มากกว่าเทคนิคจริง ๆ แล้วครับ

    แคนาดาสั่งให้ Hikvision หยุดดำเนินกิจการในประเทศทันที  
    • อ้างเหตุผลด้าน “ภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ”
    • อิงตามกฎหมาย Investment Canada Act

    Hikvision คือผู้ผลิต CCTV รายใหญ่ที่สุดของโลก  
    • เข้ามาทำตลาดในแคนาดาตั้งแต่ปี 2014  
    • ถูกมองว่ามีความเชื่อมโยงกับโครงการรัฐจีน

    แคนาดาจะทยอยเลิกใช้ Hikvision ในอาคารราชการและภาครัฐ
    • พร้อมขอให้ประชาชน “พิจารณาอย่างรอบคอบ” หากจะใช้อุปกรณ์จากแบรนด์นี้

    ประเทศอื่น ๆ เคยแบน Hikvision มาแล้ว เช่น:  
    • สหรัฐฯ, อังกฤษ, ออสเตรเลีย  
    • โดยเฉพาะจากข้อกล่าวหาว่าอุปกรณ์ถูกใช้สอดแนมชาวอุยกูร์ในจีน (ซึ่งจีนปฏิเสธ)

    Hikvision แถลงการณ์ว่า “การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เป็นธรรม และขาดหลักฐานชัดเจน”

    https://www.techradar.com/pro/is-the-worlds-largest-cctv-surveillance-camera-vendor-going-to-be-the-next-huawei-canada-gov-bans-hikvision-amidst-security-fears
    กล้องวงจรปิด (CCTV) เคยเป็นแค่เรื่องรักษาความปลอดภัย แต่วันนี้มันกลายเป็นเรื่องของ "ความมั่นคงระดับชาติ" แคนาดาเพิ่งสั่งให้ Hikvision — บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนที่เป็น ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดอันดับ 1 ของโลก — หยุดดำเนินงานในประเทศ โดยระบุว่า “เป็นภัยต่อความมั่นคงของแคนาดา” (แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเพราะอะไร) หลายฝ่ายเชื่อว่าสาเหตุอาจมาจากความสัมพันธ์ของ Hikvision กับรัฐจีน ซึ่งมีข่าวว่า กล้องแบรนด์นี้ถูกใช้ในระบบตรวจจับ–ติดตามชาวอุยกูร์ในซินเจียง มาก่อน — และประเทศอย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ก็เคยแบนมาแล้วเช่นกัน ที่น่าสนใจคือ Canada ไม่ใช่แค่ห้ามซื้อใหม่ แต่ จะทยอยเลิกใช้กล้อง Hikvision ที่ติดตั้งอยู่แล้วในสถานที่ราชการ — และขอให้ประชาชน "ใช้วิจารณญาณ" ถ้าจะซื้ออุปกรณ์จากแบรนด์นี้ด้วย Hikvision เองก็ออกมาโต้ว่า "ไม่เป็นธรรม ขาดความโปร่งใส และดูเหมือนโดนเล่นงานเพราะเป็นบริษัทจากจีน" — ซึ่งก็สะท้อนว่าเทคโนโลยีบางอย่างกำลังถูกแปะป้าย “น่าเชื่อถือ/ไม่น่าเชื่อถือ” ด้วยเหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์มากกว่าเทคนิคจริง ๆ แล้วครับ ✅ แคนาดาสั่งให้ Hikvision หยุดดำเนินกิจการในประเทศทันที   • อ้างเหตุผลด้าน “ภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ” • อิงตามกฎหมาย Investment Canada Act ✅ Hikvision คือผู้ผลิต CCTV รายใหญ่ที่สุดของโลก   • เข้ามาทำตลาดในแคนาดาตั้งแต่ปี 2014   • ถูกมองว่ามีความเชื่อมโยงกับโครงการรัฐจีน ✅ แคนาดาจะทยอยเลิกใช้ Hikvision ในอาคารราชการและภาครัฐ • พร้อมขอให้ประชาชน “พิจารณาอย่างรอบคอบ” หากจะใช้อุปกรณ์จากแบรนด์นี้ ✅ ประเทศอื่น ๆ เคยแบน Hikvision มาแล้ว เช่น:   • สหรัฐฯ, อังกฤษ, ออสเตรเลีย   • โดยเฉพาะจากข้อกล่าวหาว่าอุปกรณ์ถูกใช้สอดแนมชาวอุยกูร์ในจีน (ซึ่งจีนปฏิเสธ) ✅ Hikvision แถลงการณ์ว่า “การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เป็นธรรม และขาดหลักฐานชัดเจน” https://www.techradar.com/pro/is-the-worlds-largest-cctv-surveillance-camera-vendor-going-to-be-the-next-huawei-canada-gov-bans-hikvision-amidst-security-fears
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • ในงาน Intel AI Summit ที่เกาหลีใต้ Intel เผยของใหม่สองกลุ่มใหญ่:

    1️⃣ Jaguar Shores: คือชื่อรหัสของ AI Accelerator รุ่นต่อไปภายใต้แบรนด์ “Gaudi” ที่จะมาแทน Falcon Shores ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว  → ความพิเศษอยู่ที่มันจะใช้ HBM4 รุ่นล่าสุดจาก SK hynix  → HBM4 มีแบนด์วิดท์มหาศาล เหมาะสำหรับ AI รุ่นใหญ่ เช่น LLM / LRM  → เป็นครั้งแรกที่ Intel ยืนยันว่าจะใช้ HBM4 จริงในผลิตภัณฑ์

    2️⃣ Diamond Rapids: คือ Xeon Gen ถัดไป (สำหรับ data center) ที่จะใช้ MRDIMM รุ่นที่ 2 — เป็นหน่วยความจำ DDR5 ที่เร็วและฉลาด  → เชื่อมต่อแบบ “multiplexed” ทำให้มี latency ต่ำและเร็วกว่า RDIMM  → ความเร็วคาดว่าจะไปถึง 12,800 MT/s (จากเดิม 8,800 MT/s)

    แม้ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องจำนวน stack ของ HBM4 หรือสเปกเต็มของ Jaguar Shores แต่ก็ถือเป็นสัญญาณชัดว่า Intel ไม่ยอมให้นวัตกรรม AI–Server ตกขบวนอีกแล้วครับ

    Jaguar Shores เป็น Gaudi Accelerator รุ่นใหม่ของ Intel ที่จะเปิดตัวในปี 2026  
    • ใช้ HBM4 จาก SK hynix  
    • มาแทน Falcon Shores ที่ถูกยกเลิก  
    • ออกแบบสำหรับ AI workloads ขนาดใหญ่

    HBM4 คือหน่วยความจำความเร็วสูงแบบใหม่ที่ JEDEC เพิ่งรับรองมาตรฐานในปี 2024  
    • มีแบนด์วิดท์สูงกว่า HBM3E  
    • Micron, SK hynix และ Samsung เริ่มผลิตทดสอบแล้ว  
    • ใช้ในระบบ AI, HPC และเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่

    Diamond Rapids จะใช้ MRDIMM เจเนอเรชันที่ 2  
    • มีขนาด 64GB (ใช้ชิป 16GB) และ 128GB (ใช้ชิป 32GB)  
    • Multiplexed Rank DIMM → มี MRCD chip และ MDB chip ในตัว  
    • ลด latency ลงกว่า DDR5-6400 RDIMM ได้มากถึง 40%  
    • รองรับความเร็ว bus สูงสุด 12,800 MT/s

    แนวคิด MRDIMM คือให้ internal DRAM ทำงานที่ความเร็วครึ่งนึงของภายนอก เพื่อลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ

    Intel ยังไม่เปิดเผยจำนวน stack ของ HBM4 บน Jaguar Shores → อาจกระทบกับ performance vs NVIDIA / AMD หากใช้ stack น้อยเกินไป

    การแข่งขันด้านหน่วยความจำ AI ร้อนแรงมาก — หาก Intel ปรับช้ากว่า Micron/SK hynix/Samsung อาจเสียส่วนแบ่งในตลาด hyperscaler

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-jumps-to-hbm4-with-jaguar-shores-2nd-gen-mrdimms-with-diamond-rapids-sk-hynix
    ในงาน Intel AI Summit ที่เกาหลีใต้ Intel เผยของใหม่สองกลุ่มใหญ่: 1️⃣ Jaguar Shores: คือชื่อรหัสของ AI Accelerator รุ่นต่อไปภายใต้แบรนด์ “Gaudi” ที่จะมาแทน Falcon Shores ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว  → ความพิเศษอยู่ที่มันจะใช้ HBM4 รุ่นล่าสุดจาก SK hynix  → HBM4 มีแบนด์วิดท์มหาศาล เหมาะสำหรับ AI รุ่นใหญ่ เช่น LLM / LRM  → เป็นครั้งแรกที่ Intel ยืนยันว่าจะใช้ HBM4 จริงในผลิตภัณฑ์ 2️⃣ Diamond Rapids: คือ Xeon Gen ถัดไป (สำหรับ data center) ที่จะใช้ MRDIMM รุ่นที่ 2 — เป็นหน่วยความจำ DDR5 ที่เร็วและฉลาด  → เชื่อมต่อแบบ “multiplexed” ทำให้มี latency ต่ำและเร็วกว่า RDIMM  → ความเร็วคาดว่าจะไปถึง 12,800 MT/s (จากเดิม 8,800 MT/s) แม้ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องจำนวน stack ของ HBM4 หรือสเปกเต็มของ Jaguar Shores แต่ก็ถือเป็นสัญญาณชัดว่า Intel ไม่ยอมให้นวัตกรรม AI–Server ตกขบวนอีกแล้วครับ ✅ Jaguar Shores เป็น Gaudi Accelerator รุ่นใหม่ของ Intel ที่จะเปิดตัวในปี 2026   • ใช้ HBM4 จาก SK hynix   • มาแทน Falcon Shores ที่ถูกยกเลิก   • ออกแบบสำหรับ AI workloads ขนาดใหญ่ ✅ HBM4 คือหน่วยความจำความเร็วสูงแบบใหม่ที่ JEDEC เพิ่งรับรองมาตรฐานในปี 2024   • มีแบนด์วิดท์สูงกว่า HBM3E   • Micron, SK hynix และ Samsung เริ่มผลิตทดสอบแล้ว   • ใช้ในระบบ AI, HPC และเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ✅ Diamond Rapids จะใช้ MRDIMM เจเนอเรชันที่ 2   • มีขนาด 64GB (ใช้ชิป 16GB) และ 128GB (ใช้ชิป 32GB)   • Multiplexed Rank DIMM → มี MRCD chip และ MDB chip ในตัว   • ลด latency ลงกว่า DDR5-6400 RDIMM ได้มากถึง 40%   • รองรับความเร็ว bus สูงสุด 12,800 MT/s ✅ แนวคิด MRDIMM คือให้ internal DRAM ทำงานที่ความเร็วครึ่งนึงของภายนอก เพื่อลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ ‼️ Intel ยังไม่เปิดเผยจำนวน stack ของ HBM4 บน Jaguar Shores → อาจกระทบกับ performance vs NVIDIA / AMD หากใช้ stack น้อยเกินไป ‼️ การแข่งขันด้านหน่วยความจำ AI ร้อนแรงมาก — หาก Intel ปรับช้ากว่า Micron/SK hynix/Samsung อาจเสียส่วนแบ่งในตลาด hyperscaler https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-jumps-to-hbm4-with-jaguar-shores-2nd-gen-mrdimms-with-diamond-rapids-sk-hynix
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • ตอนแรกไม่มีใครเอะใจว่าทำไม ยอดขายของ NVIDIA ในสิงคโปร์ปี 2024 พุ่งถึง 28% ทั้งที่จัดส่งจริงในประเทศมีแค่ 1% — จนกระทั่ง DeepSeek เปิดตัวโมเดล LLM ระดับเทพในจีน… แล้วคำถามเริ่มตามมาว่า “GPU ที่ใช้เทรนได้มายังไง?”

    คำตอบอาจอยู่ที่คน 3 คนที่โดนจับในสิงคโปร์:
    - Woon Guo Jie (สิงคโปร์, 41 ปี)
    - Alan Wei Zhaolun (สิงคโปร์, 49 ปี)
    - Li Ming (จีน, 51 ปี)

    พวกเขาถูกกล่าวหาว่า แสดงข้อมูลปลอมเกี่ยวกับปลายทางของเซิร์ฟเวอร์ที่ซื้อจากสหรัฐฯ แล้วส่งต่อเข้าแดนจีน — ข้ามข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ ที่ห้ามส่งอุปกรณ์ AI ขั้นสูงเข้าจีนโดยตรง

    การสืบสวนถูกเร่งด่วนขึ้นหลัง DeepSeek เปิดตัว และพบว่า บริษัทใช้ GPU ระดับสูงที่ถูกควบคุมการส่งออก แต่ด้าน NVIDIA ปฏิเสธว่า “ไม่เคยขายให้ผู้ต้องห้าม” และ CEO Jensen Huang ก็ออกมาบอกชัดว่า “ไม่มีหลักฐานชิปหลุดไปถึงมือผิด”

    ปัญหาคือ ช่องทางผ่าน “บริษัทบิลจากสิงคโปร์” แต่จัดส่งสินค้ากลับไปยังจีนหรือมาเลเซีย เป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในอุตสาหกรรมการค้า → ทำให้สหรัฐฯ เตรียมร่างกฎหมายใหม่ที่บังคับให้ GPU ชั้นสูงต้องมี “ระบบติดตาม GPS” ตลอดการขนส่ง

    สามผู้ต้องหาในสิงคโปร์ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงในปี 2023–2024  
    • แสดงข้อมูลเท็จเกี่ยวกับปลายทางจริงของเซิร์ฟเวอร์ที่ซื้อ  
    • เชื่อมโยงกับการส่งมอบชิปให้บริษัทจีน DeepSeek ซึ่งอยู่ระหว่างจับตามอง

    DeepSeek เป็นบริษัท AI สัญชาติจีนที่เปิดตัวโมเดลขนาดใหญ่ปลายปี 2024  
    • เทียบระดับ GPT-4 และ Claude  
    • สหรัฐสงสัยว่า GPU ที่ใช้มาจากแหล่งผิดกฎหมายผ่านชาติที่ 3

    NVIDIA รายงานว่าสิงคโปร์คิดเป็น 28% ของรายได้ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่จัดส่งจริงแค่ 1%  
    • จุดชนวนให้เริ่มสืบสวนช่องทางการส่งต่อ

    NVIDIA ปฏิเสธว่าไม่ได้ขายให้รายชื่อที่ถูกแบน และไม่รู้เห็นการลักลอบ  
    • CEO ยืนยัน “ไม่มีหลักฐาน GPU หลุดไปถึง DeepSeek”

    สหรัฐฯ เตรียมออกกฎหมายให้ติดระบบติดตาม (tracking tech) กับ GPU ขั้นสูงที่ส่งออก  
    • เพื่อป้องกันการถูก “เบี่ยงปลายทาง” (diversion) ไปยังประเทศต้องห้าม

    สิงคโปร์ถือเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค → การใช้ billing address จากที่นี่แต่จัดส่งที่อื่นเป็นเรื่องปกติ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/singapore-ai-chip-court-case-adjourned-until-august-trio-accused-of-illegally-smuggling-nvidia-chips-to-china-for-use-by-ai-firm-deepseek
    ตอนแรกไม่มีใครเอะใจว่าทำไม ยอดขายของ NVIDIA ในสิงคโปร์ปี 2024 พุ่งถึง 28% ทั้งที่จัดส่งจริงในประเทศมีแค่ 1% — จนกระทั่ง DeepSeek เปิดตัวโมเดล LLM ระดับเทพในจีน… แล้วคำถามเริ่มตามมาว่า “GPU ที่ใช้เทรนได้มายังไง?” คำตอบอาจอยู่ที่คน 3 คนที่โดนจับในสิงคโปร์: - Woon Guo Jie (สิงคโปร์, 41 ปี) - Alan Wei Zhaolun (สิงคโปร์, 49 ปี) - Li Ming (จีน, 51 ปี) พวกเขาถูกกล่าวหาว่า แสดงข้อมูลปลอมเกี่ยวกับปลายทางของเซิร์ฟเวอร์ที่ซื้อจากสหรัฐฯ แล้วส่งต่อเข้าแดนจีน — ข้ามข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ ที่ห้ามส่งอุปกรณ์ AI ขั้นสูงเข้าจีนโดยตรง การสืบสวนถูกเร่งด่วนขึ้นหลัง DeepSeek เปิดตัว และพบว่า บริษัทใช้ GPU ระดับสูงที่ถูกควบคุมการส่งออก แต่ด้าน NVIDIA ปฏิเสธว่า “ไม่เคยขายให้ผู้ต้องห้าม” และ CEO Jensen Huang ก็ออกมาบอกชัดว่า “ไม่มีหลักฐานชิปหลุดไปถึงมือผิด” ปัญหาคือ ช่องทางผ่าน “บริษัทบิลจากสิงคโปร์” แต่จัดส่งสินค้ากลับไปยังจีนหรือมาเลเซีย เป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในอุตสาหกรรมการค้า → ทำให้สหรัฐฯ เตรียมร่างกฎหมายใหม่ที่บังคับให้ GPU ชั้นสูงต้องมี “ระบบติดตาม GPS” ตลอดการขนส่ง ✅ สามผู้ต้องหาในสิงคโปร์ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงในปี 2023–2024   • แสดงข้อมูลเท็จเกี่ยวกับปลายทางจริงของเซิร์ฟเวอร์ที่ซื้อ   • เชื่อมโยงกับการส่งมอบชิปให้บริษัทจีน DeepSeek ซึ่งอยู่ระหว่างจับตามอง ✅ DeepSeek เป็นบริษัท AI สัญชาติจีนที่เปิดตัวโมเดลขนาดใหญ่ปลายปี 2024   • เทียบระดับ GPT-4 และ Claude   • สหรัฐสงสัยว่า GPU ที่ใช้มาจากแหล่งผิดกฎหมายผ่านชาติที่ 3 ✅ NVIDIA รายงานว่าสิงคโปร์คิดเป็น 28% ของรายได้ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่จัดส่งจริงแค่ 1%   • จุดชนวนให้เริ่มสืบสวนช่องทางการส่งต่อ ✅ NVIDIA ปฏิเสธว่าไม่ได้ขายให้รายชื่อที่ถูกแบน และไม่รู้เห็นการลักลอบ   • CEO ยืนยัน “ไม่มีหลักฐาน GPU หลุดไปถึง DeepSeek” ✅ สหรัฐฯ เตรียมออกกฎหมายให้ติดระบบติดตาม (tracking tech) กับ GPU ขั้นสูงที่ส่งออก   • เพื่อป้องกันการถูก “เบี่ยงปลายทาง” (diversion) ไปยังประเทศต้องห้าม ✅ สิงคโปร์ถือเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค → การใช้ billing address จากที่นี่แต่จัดส่งที่อื่นเป็นเรื่องปกติ https://www.tomshardware.com/tech-industry/singapore-ai-chip-court-case-adjourned-until-august-trio-accused-of-illegally-smuggling-nvidia-chips-to-china-for-use-by-ai-firm-deepseek
    0 Comments 0 Shares 203 Views 0 Reviews
  • Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ

    WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม

    นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา

    บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ:
    - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple
    - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี
    - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง

    ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat

    Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:  
    • Facebook phone → ล้มเหลว  
    • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย  
    • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล  
    • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน

    AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)  
    • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม  
    • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร

    ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:  
    • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม  
    • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)  
    • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม

    โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:  
    • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%  
    • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร

    เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:  
    • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple  
    • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้  
    • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป

    Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ: - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat ✅ Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:   • Facebook phone → ล้มเหลว   • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย   • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล   • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน ✅ AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)   • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม   • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร ✅ ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:   • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม   • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)   • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม ✅ โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:   • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%   • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร ✅ เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:   • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple   • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้   • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป ✅ Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why Mark Zuckerberg and Meta can't build the future
    Here's how absolute power trapped Facebook's parent company — and how Steve Jobs broke free.
    0 Comments 0 Shares 275 Views 0 Reviews
  • ..นี้คือความเหี้ยของคนขึ้นไปปกครอง,คนเขียนกฎหมายการเลือกตั้ง,พรรคแพ้การเลือกตั้งสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้,จริงๆต้องเลือกตั้งใหม่,ห้ามสส.คนสมัครเดิมลงเลือกตั้ง.ให้อนุญาตคนหน้าใหม่มาลงสมัครแทน.,กฎหมายการเลือกตั้งเราเองล่ะคือตัวปัญหาอีกกรณีในมุมมองนี้,จนประชาชนต้องลงสนามรบกันเลย,และเสือกไปลาออกด้วย พรรคร่วมก็หน้ามึน, นายกฯพระราชทานแก้หมากdeep stateต่างชาติได้,และสามารถอยู่เฉพาะกิจสัก10-20ปีก็ได้ เงื่อนไขคือยึดคืนบ่อน้ำมันทั้งหมดบนแผ่นดินไทยบนอ่าวไทยบนอันดามันบนราชอาณาจักรเราคืนมาอย่างจริงจังเสียที,สงครามสมัยนี้แม้อิสราเอลกับอิหร่าน ลึกๆจริงๆเรื่องวัตถุดิบทรัพยากรมีค่าของแต่ละชาติแบบน้ำมันที่อิหร่านมีนั่นล่ะ ส่วนจะขายให้ใครอีกเรื่อง,อิหร่านขายน้ำมันให้คนในประเทศอิหร่านตนแค่ลิตรละ1-2บาท,ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันมากกว่าอิหร่าน มีโรงกลั่นน้ำมันมากกว่าอิหร่านเสือกขายน้ำมันลดต้นทุนให้ชาวนาชาวเกษตรทุกๆอุตสากรรมสัญชาติไทยลิตระละ1-2บาทแบบอิหร่านไม่ได้เลย,เรา..มีวิถีการปกครองที่ล้มเหลวตกประเมินผลงาน สอบตกในการปกครองประเทศไทย.,ทหารชนะโดยไม่ต้องลงสนามหรือรบก็ได้,การลงสนามรบในยุคนี้เป็นบริบทหรือวิถีสุดท้ายซึ่งคนโง่ผู้นำโง่ๆมักสำคัญผิดว่าคือสิ่งแรกที่ต้องมี,โลกเรามิใช่ยุคจับดาบจับหอกมาสู้กันแล้ว,ระดับปัญญาภูมิจิตภูมิใจพัฒนาไปมากแล้ว,เพราะสงครามเต็มไปด้วยการพรากจากการสูญเสียซึ่งผู้บริสุทธิ์ของทั้งสองฝั่งฝ่ายไม่จำเป็นต้องมาเป็นเหยื่อในกลไกการปกครองที่อุบาทก์ของผู้ปกครองชาตินั้นๆ.,ชาวโลกที่บริสุทธิ์ไม่สมควรตกเป็นเหยื่อแห่งภัยนี้เหมือนในอดีต,คนขายคนค้าอาวุธค้ากระสุนค้าเครื่องยิงมันได้ประโยชน์ทัังนั้นนั่งดูเจ้านายโง่ๆทำสงครามฆ่าฟันกัน.คนตายใช่เจ้านายสมองโง่พวกนั่นไม่,เสือกพลทหารประชาชนธรรมดานี้เองที่อยู่ในวิถีสงครามซวยต่างหาก.,สนองอารมณ์เจ้านายนักปกครองเลวไม่คุ้มอะไร,เราก็สูญเสีย เขาก็สูญเสียสะเหร่อยิงกันแทบตายเดี๋ยวก็มาจับมือแบบอิสราเอลหรืออิหร่านอีก,ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เลยยิ่งโหดอีก,ระเบิดทั้งประเทศขีปนาวุธยิงถล่มราบเรียบอีกก็ดับอนาถอีกคนบริสุทธิ์,หมากนี้แก้ง่ายจะตาย เอากำลังทหารมายึดอำนาจรัฐบาลที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทหารสิ,ยึดอำนาจเด็ดเสร็จขาด,ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยเรียกฑูตไทยเรากลับมาจริงทั้งหมดถีบฑูตเขมรคนเขมรออกจากประเทศทั้งหมดหรือส่งไปประเทศอื่นห้ามคนเขมรอยู่บนแผ่นดินไทยทุกๆตัว,ปิดพรมแดนจริงจังตลอดแนว ตัดทั้งหมดที่ไปเขมร,ระเบิดรางรถไฟทิ้ง ระเบิดถนนหนทางทิ้ง ปิดน่านฟ้าน่านน้ำไปเขมรทั้งหมด,คนไทยห้ามเข้าเขมรทุกๆกรณี นักพนันโทษประหารทันทีอยากเล่นนักไปเล่นในนรกเลย,แบนสกุลเงินเขมร,ลบสกุลเงินเขมรออกจากประเทศไทยห้ามรับห้ามแลกเปลี่ยนทั้งหมด,คว่ำบาตรเขมร,พันธมิตรไทยทั้งหมดห้ามค้าขายกับเขมร,น้ำมันไทยทุกๆบ่อที่สัมปทานไปมีคำสั่งให้ปิดทุกๆหลุมขุดเจาะบนอ่าวไทยยิ่งใกล้ๆเขมรปิดถาวรทันที,เปิดเจาะแค่ใช้ในประเทศไทยเท่านั้นและด้วยกฎอัยการศึกความมั่นคงของชาติโมฆะสัมปทานบ่อน้ำมันทั้งหมดยึดคืนเพื่อความมั่นคงทางยุทธปัจจัยของประเทศไทยทั้งหมด,สมาชิกพันธมิตรใดไม่ทำตามที่ไทยร้องขอหากไทยส่งออกน้ำมันให้ชาตินั้นสามารถระงับการส่งออกทันที,กระแสเงินโอนไปเขมรจะอายัดทุกๆกรณีตลอดโอนมาไทยจากเขมรก็เดียวเช่นกันจะถูกอายัดหมดยึดทรัพย์หมด,นี้คือมาตราการเล็กน้อยในการไม่ต้องรบทางสนามจริง,ประชาชนไม่ถูกระเบิดอาวุธใดๆด้วย,ประชาชนเขมรต้องจัดการผู้นำตนเองที่ชั่วเลวเองภายในชาติเขมรเอง,เราจัดการคนทรยศผ่านในแล้วที่ทำให้อาเชียนไม่สงบสุข.


    https://youtube.com/shorts/H4gKf2Cv8m0?si=4REnp_d5oaWqkeh6
    ..นี้คือความเหี้ยของคนขึ้นไปปกครอง,คนเขียนกฎหมายการเลือกตั้ง,พรรคแพ้การเลือกตั้งสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้,จริงๆต้องเลือกตั้งใหม่,ห้ามสส.คนสมัครเดิมลงเลือกตั้ง.ให้อนุญาตคนหน้าใหม่มาลงสมัครแทน.,กฎหมายการเลือกตั้งเราเองล่ะคือตัวปัญหาอีกกรณีในมุมมองนี้,จนประชาชนต้องลงสนามรบกันเลย,และเสือกไปลาออกด้วย พรรคร่วมก็หน้ามึน, นายกฯพระราชทานแก้หมากdeep stateต่างชาติได้,และสามารถอยู่เฉพาะกิจสัก10-20ปีก็ได้ เงื่อนไขคือยึดคืนบ่อน้ำมันทั้งหมดบนแผ่นดินไทยบนอ่าวไทยบนอันดามันบนราชอาณาจักรเราคืนมาอย่างจริงจังเสียที,สงครามสมัยนี้แม้อิสราเอลกับอิหร่าน ลึกๆจริงๆเรื่องวัตถุดิบทรัพยากรมีค่าของแต่ละชาติแบบน้ำมันที่อิหร่านมีนั่นล่ะ ส่วนจะขายให้ใครอีกเรื่อง,อิหร่านขายน้ำมันให้คนในประเทศอิหร่านตนแค่ลิตรละ1-2บาท,ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันมากกว่าอิหร่าน มีโรงกลั่นน้ำมันมากกว่าอิหร่านเสือกขายน้ำมันลดต้นทุนให้ชาวนาชาวเกษตรทุกๆอุตสากรรมสัญชาติไทยลิตระละ1-2บาทแบบอิหร่านไม่ได้เลย,เรา..มีวิถีการปกครองที่ล้มเหลวตกประเมินผลงาน สอบตกในการปกครองประเทศไทย.,ทหารชนะโดยไม่ต้องลงสนามหรือรบก็ได้,การลงสนามรบในยุคนี้เป็นบริบทหรือวิถีสุดท้ายซึ่งคนโง่ผู้นำโง่ๆมักสำคัญผิดว่าคือสิ่งแรกที่ต้องมี,โลกเรามิใช่ยุคจับดาบจับหอกมาสู้กันแล้ว,ระดับปัญญาภูมิจิตภูมิใจพัฒนาไปมากแล้ว,เพราะสงครามเต็มไปด้วยการพรากจากการสูญเสียซึ่งผู้บริสุทธิ์ของทั้งสองฝั่งฝ่ายไม่จำเป็นต้องมาเป็นเหยื่อในกลไกการปกครองที่อุบาทก์ของผู้ปกครองชาตินั้นๆ.,ชาวโลกที่บริสุทธิ์ไม่สมควรตกเป็นเหยื่อแห่งภัยนี้เหมือนในอดีต,คนขายคนค้าอาวุธค้ากระสุนค้าเครื่องยิงมันได้ประโยชน์ทัังนั้นนั่งดูเจ้านายโง่ๆทำสงครามฆ่าฟันกัน.คนตายใช่เจ้านายสมองโง่พวกนั่นไม่,เสือกพลทหารประชาชนธรรมดานี้เองที่อยู่ในวิถีสงครามซวยต่างหาก.,สนองอารมณ์เจ้านายนักปกครองเลวไม่คุ้มอะไร,เราก็สูญเสีย เขาก็สูญเสียสะเหร่อยิงกันแทบตายเดี๋ยวก็มาจับมือแบบอิสราเอลหรืออิหร่านอีก,ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เลยยิ่งโหดอีก,ระเบิดทั้งประเทศขีปนาวุธยิงถล่มราบเรียบอีกก็ดับอนาถอีกคนบริสุทธิ์,หมากนี้แก้ง่ายจะตาย เอากำลังทหารมายึดอำนาจรัฐบาลที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทหารสิ,ยึดอำนาจเด็ดเสร็จขาด,ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยเรียกฑูตไทยเรากลับมาจริงทั้งหมดถีบฑูตเขมรคนเขมรออกจากประเทศทั้งหมดหรือส่งไปประเทศอื่นห้ามคนเขมรอยู่บนแผ่นดินไทยทุกๆตัว,ปิดพรมแดนจริงจังตลอดแนว ตัดทั้งหมดที่ไปเขมร,ระเบิดรางรถไฟทิ้ง ระเบิดถนนหนทางทิ้ง ปิดน่านฟ้าน่านน้ำไปเขมรทั้งหมด,คนไทยห้ามเข้าเขมรทุกๆกรณี นักพนันโทษประหารทันทีอยากเล่นนักไปเล่นในนรกเลย,แบนสกุลเงินเขมร,ลบสกุลเงินเขมรออกจากประเทศไทยห้ามรับห้ามแลกเปลี่ยนทั้งหมด,คว่ำบาตรเขมร,พันธมิตรไทยทั้งหมดห้ามค้าขายกับเขมร,น้ำมันไทยทุกๆบ่อที่สัมปทานไปมีคำสั่งให้ปิดทุกๆหลุมขุดเจาะบนอ่าวไทยยิ่งใกล้ๆเขมรปิดถาวรทันที,เปิดเจาะแค่ใช้ในประเทศไทยเท่านั้นและด้วยกฎอัยการศึกความมั่นคงของชาติโมฆะสัมปทานบ่อน้ำมันทั้งหมดยึดคืนเพื่อความมั่นคงทางยุทธปัจจัยของประเทศไทยทั้งหมด,สมาชิกพันธมิตรใดไม่ทำตามที่ไทยร้องขอหากไทยส่งออกน้ำมันให้ชาตินั้นสามารถระงับการส่งออกทันที,กระแสเงินโอนไปเขมรจะอายัดทุกๆกรณีตลอดโอนมาไทยจากเขมรก็เดียวเช่นกันจะถูกอายัดหมดยึดทรัพย์หมด,นี้คือมาตราการเล็กน้อยในการไม่ต้องรบทางสนามจริง,ประชาชนไม่ถูกระเบิดอาวุธใดๆด้วย,ประชาชนเขมรต้องจัดการผู้นำตนเองที่ชั่วเลวเองภายในชาติเขมรเอง,เราจัดการคนทรยศผ่านในแล้วที่ทำให้อาเชียนไม่สงบสุข. https://youtube.com/shorts/H4gKf2Cv8m0?si=4REnp_d5oaWqkeh6
    0 Comments 0 Shares 311 Views 0 Reviews
  • ..แกนนำรวมพลังแผ่นดิน,ไปสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์เรียลไทม์เลย,แบบเฉพาะกิจ มีกดปุ่มลงมติไล่ออกรัฐบาลนี้กับปุ่มให้อยู่บริหารต่อเลย,มาดูว่าอะไรมากกว่ากัน,มติประชาชนกว่า32ล้านคนบอกว่ารัฐบาลต้องออกไปคือจบ,ในนัันอาจผูกมุกว่า,แบนสส.ตัดสิทธิสส.ทั้งสภาให้หมดเช่นกัน,จะสส.ฝ่ายค้านเองหรือสส.ฝ่ายรัฐบาลก็ตามตลอดสว.ด้วยที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้,ทั้งหมดต้องถูกล้างกระดานหมด,พักสถานะไปสัก10ปีจึงสามารถมาลงสมัครเลือกตั้งได้อีก,เห็นอธิปไตยชาติเป็นของล่อเล่นไม่จริงใจ,สส.ฝ่ายค้านกล้าลาออกจากสถานะสส.ฝ่ายค้านในสภา องค์ประชุมก็จบสิ้น,สส.ฝ่ายรัฐบาลลาออกจากสถานะสส.เพื่อแสดงจุดยืนในอธิปไตยชาติไทยตนเองต้องมาก่อนก็ไม่ครบองค์สส.จำนวนสส.ในการเป็นรัฐบาลจัดตั้งก็สิ้นสถานะจบล้างทันที,แต่นี้อะไรปัจจุบัน ทั้งหมดของตัวคนสส.ต่างเห็นแก่ตัวเอาประโยชน์ตนเป็นที่ตั้งมากกว่าอธิปไตยชาติ ไร้สำนึกพื้นฐานละอายแก่ใจใดๆเบื้องต้น,เมื่อประชาชนเราลงมติในแพลตฟอร์มเราที่คณะรวมพลังแผ่นดินสร้างแอปสร้างเครื่องมือแพลตฟอร์มนี้รุ่นเฉพาะกิจฉุกเฉินลงโทษคนทรยศเนรคุณในอธิปไตยไทยของตนเอง การสิ้นสถานะรัฐบาลก็สิ้นสุดลงทันทีเพื่อเสียข้างมากจากอำนาจตรงของประชาชนลงมติให้สิ้นสถานะบริหารชาติแล้ว,
    ..กระบวนการเลือกตั้งสส.เราผิดผีทั้งหมดจริงๆ
    ..จริงๆต้องมีเพียงสส.ที่เลือกตรงจากภาคประชาชนเท่านั้นที่ชนะการเลือกตั้งแล้วได้สิทธิชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาล,สว.ไม่จำเป็นต้องมีที่ชื่อว่าสภาสูงห่าเหวอะไร,ประชาธิปไตยคือมาจากประชาชน สว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเดียว,นายกฯต้องเลือกตั้งกาตรงจากประชาชนไม่ใช่ผีบ้าแบบปัจจุบันนี้,จัดตั้งรัฐบาลได้ต้องชนะการเลือกตั้งและยืนที่1มาเท่านั้น,สส.อำเภอละ1คนพอก็แค่878คนเอง
    จบ.นี้คือตัวแทนประชาชนจริงระดับใกล้ชิดปัญหา,รัฐมนตรพิเศษมี77คนใกล้ชิดจังหวัด.สายภาคการเมืองประสานงานสายธุรการระดับระบบราชการไทยชัดเจนด้วย,คณะรัฐมนตรีปกครองกระทรวงก็ปกติ,ซึ่งประสานงานกับรัฐมนตรีพิเศษนั้นๆ,รัฐมนตรีพิเศษและปกติต้องมาจากสส.878คนในนััน,สส.ไม่ต้องสังกัดพรรค,แต่พรรคสามารถสร้างสส.ประจำพรรคได้.รัฐบาลจะเกิดขึ้นได้ต้องมีสส.รวมกันเกินครึ่งหนึ่งของ878คน,จากนั้นสามารถสร้างทีมงานตนขึ้นบริหารจัดการได้,แม้สถานะสส.ไม่ถึงครึ่งหนึ่งในตอนแรกที่จัดตั้งรัฐบาล เพื่อการปกครองมีสภาพคล่อง,เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ,จนครบวาระ,ประชาชนสามารถลงชื่อออนไลน์เกิน60%ของผู้มีสิทธเลือกตั้งสามารถเป็นมติให้รัฐบาลชุดนั้นพ้นตำแหน่งแล้วเลือกตั้งใหม่ทันทีได้.,อบต.อบจ.ยุบทั้งหมดทั่วประเทศไม่มีความจำเป็น ทับซ้อนหน้าที่กันเสียเปล่าไม่ต้องมีคานอำนาจแบบในอดีต,ขยายธุรกรรมงานอำเภอจังหวัดให้ครอบคลุมพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนเพิ่มมากขึ้นประสานแก้ไขปัญหาร่วมกับสส.ในพื้นที่ ซึ่งสส.มีอำนาจเด็ดขาดเหนือกว่านายอำเภอทั้งหมด.สั่งการตรงแก่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ในพื้นที่ของตนเอง.เสมือนนายอำเภอสั่งการเอง.สส.เป็นนาย,นายอำเภอเป็นรองนาย.,รองจากผู้ว่าจังหวัดรองจากรัฐมนตรีพิเศษประจำจังหวัดนั้นๆ,ซึ่งประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงใกล้ชิดผู้มาแก้ไขปัญหาช่วยเหลือตนได้,และประชาชนในพื้นที่สามารถลงมติไล่ออกสส.ในพื้นที่ตนเองได้เช่นกันทางแพลตฟอร์มออนไลน์เกิน60%ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่นั่นๆ,รัฐมนตรีพิเศษเกิน60%ของทั้งจังหวัดนั้นๆ,แต่สถานะเดิมให้สิทธิพิเศษละเว้นอัตโนมัติไม่นำมาใช้พิจารณา เป็นต้น,นี้คือมุมมองหนึ่งในการปกครองที่ประชาชนมีส่วนร่วมจริงสร้างสรรค์วิถีปกครองร่วมกันได้ควบคุมอำนาจตรงได้,ผ่านอำนาจตัวแทนที่อาจใช้ไปทางที่ผิดเช่นปัจจุบัน ไม่มีในนโยบายพรรคหลักเลยแต่จะสร้างบ่อนคาสิโนในประเทศไทยซึ่งมองข้ามประชาชนอย่างมากและจิตสำนึกชั่วดีว่าอะไรเสื่อมกิจการงานใดไม่ดีต่อสังคมชุมชนในชาติ ประชาชนสามารถลงโทษผู้ปกครองได้ทันทีเช่นกันนั้นเองโดยสร้างทางเลือกให้ซึ่งปัจจุบันไม่มีจริงอย่างชัดเจน,เป็นแต่พิธีวลีความให้ดูดีแค่นั้น,ยุ่งยากด้วย,เข้าถึงลำบาก ต่างจากลงมติเรียลไทม์รู้ผลเลยทันทีทั่วประเทศ.
    ..คณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถใช้ตังบริจาคนี้แบ่งบางส่วนว่าจ้างผู้รู้ผู้เก่งกล้าสามารถสนับสนุนปัจจัยแรงกายที่สร้างแพลตฟอร์มนั้นเพื่อแผ่นดินไทยของภาคประชาชนเราขึ้นมาคานอำนาจปกครองของรัฐบาลที่บริหารไปทางกากๆเสี่ยงภัยต่ออธิปไตยไทยตนเองหรือสาระพัดกิจกรรมเหี้ยๆนั้นได้,เช่นบ่อน้ำมันต้องโมฆะสัมปทานทั้งหมดเพราะเป็นไปดำเนินไปไม่ถูกหลักพื้นฐานสากลทางประชาธิปไตยที่เราปกครองในระบบประชาธิปไตยจากประชาชนคนส่วนมาก ไม่ผ่านอภิปรายและลงมติจากเสียงของประชาชนไทยเลยในสภาผู้แทนราษฎรเรา,สภา.สส.เรา,สามารถโมฆะอย่างชอบธรรมกว่าMOU43,44โน้น,บ่อน้ำมันแค่เราทำเองขายเองถูกๆภายในประเทศไทยเราเองแบบอิหร่านจะเบนซินหรือดีเชลไม่เกินลิตรละ1-2บาท,ทั่วประเทศไทยเราจะฟื้นฟูทางเศรษฐกิจขนาดไหนอาจเพียงแค่1-2ปีประเทศไทยเราจะรุ่งโรจน์ภายในประเทศทันทีมีกินมีใช้อยู่อย่างสุขสบายไม่ลำบากยากจนอีก,สามารถส่งขายน้ำมันปิโตรเลียมในราคาตลาดโลกได้อีก,สินค้าไทยเราจะแข่งขันได้อย่างสบายๆด้วย,นี้คือวิถีปกครองที่เหมาะสมแห่งธรรม ที่ปกติต้องดำเนินไปเช่นนั้น,แต่เพราะผิดผีผิดแบบมาอย่างยาวนานและไม่เคยปรับปรุงห่าอะไร,มองประชาชนเฉยๆไร้ค่าอีก มีค่าแค่ต้องการอำนาจเอาไปหาแดกโกงกินชาตินั้นล่ะ,เรา..ประชาชนจึงต้องจบมันจริงๆ.
    ..นี้ก็เหี้ย ชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายไม่ดี ไม่สำนึกดีชั่วอะไรเลย สีข้างอยากเชียร์คนชั่วตนเข้าไส้แต่แผลเยอะไปเลยได้แค่นั่น,คนไทยเราชั่วเลวก็มีไม่น้อยปะปนในสังคมไทยเราใช่จิตใจดีทุกๆคน หยาบหนาบางมีต่างกัน,ดูกันยาวๆด้วย,แล้วก็เผยธาตุแท้ตนออกมา,สัญชาติไทยใจส้นตีนเป็นต่างชาติมันมีเยอะแยะจริงๆบ้านเมืองเรามีคนพวกนี้บนแผ่นดินไทยมากเกินไปจนมึนมาขึ้นปกครองประเทศได้เลยเสียหายหายนะพังพินาศไม่ยากอะไรเลยถ้าคนไทยดีๆเราไม่ออกมาจัดการบ้าง.,อนาคตต้องสร้างเครื่องมือของภาคประชาชนที่ง่ายในการจัดการพวกนี้สะดวกส่งไปพบพระเจ้าของมันง่ายๆก็ว่า,เรา..ประชาชนไม่ใช่หน้าที่ต้องอภัยโทษคนชั่วเลว หน้าที่เราส่งมันไปพบพระเจ้าของมันให้อภัยกันเอาเอง.
    ..https://youtu.be/-vDvSDywY4M?si=01E9wZFU9eJ5K2Un
    ..แกนนำรวมพลังแผ่นดิน,ไปสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์เรียลไทม์เลย,แบบเฉพาะกิจ มีกดปุ่มลงมติไล่ออกรัฐบาลนี้กับปุ่มให้อยู่บริหารต่อเลย,มาดูว่าอะไรมากกว่ากัน,มติประชาชนกว่า32ล้านคนบอกว่ารัฐบาลต้องออกไปคือจบ,ในนัันอาจผูกมุกว่า,แบนสส.ตัดสิทธิสส.ทั้งสภาให้หมดเช่นกัน,จะสส.ฝ่ายค้านเองหรือสส.ฝ่ายรัฐบาลก็ตามตลอดสว.ด้วยที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้,ทั้งหมดต้องถูกล้างกระดานหมด,พักสถานะไปสัก10ปีจึงสามารถมาลงสมัครเลือกตั้งได้อีก,เห็นอธิปไตยชาติเป็นของล่อเล่นไม่จริงใจ,สส.ฝ่ายค้านกล้าลาออกจากสถานะสส.ฝ่ายค้านในสภา องค์ประชุมก็จบสิ้น,สส.ฝ่ายรัฐบาลลาออกจากสถานะสส.เพื่อแสดงจุดยืนในอธิปไตยชาติไทยตนเองต้องมาก่อนก็ไม่ครบองค์สส.จำนวนสส.ในการเป็นรัฐบาลจัดตั้งก็สิ้นสถานะจบล้างทันที,แต่นี้อะไรปัจจุบัน ทั้งหมดของตัวคนสส.ต่างเห็นแก่ตัวเอาประโยชน์ตนเป็นที่ตั้งมากกว่าอธิปไตยชาติ ไร้สำนึกพื้นฐานละอายแก่ใจใดๆเบื้องต้น,เมื่อประชาชนเราลงมติในแพลตฟอร์มเราที่คณะรวมพลังแผ่นดินสร้างแอปสร้างเครื่องมือแพลตฟอร์มนี้รุ่นเฉพาะกิจฉุกเฉินลงโทษคนทรยศเนรคุณในอธิปไตยไทยของตนเอง การสิ้นสถานะรัฐบาลก็สิ้นสุดลงทันทีเพื่อเสียข้างมากจากอำนาจตรงของประชาชนลงมติให้สิ้นสถานะบริหารชาติแล้ว, ..กระบวนการเลือกตั้งสส.เราผิดผีทั้งหมดจริงๆ ..จริงๆต้องมีเพียงสส.ที่เลือกตรงจากภาคประชาชนเท่านั้นที่ชนะการเลือกตั้งแล้วได้สิทธิชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาล,สว.ไม่จำเป็นต้องมีที่ชื่อว่าสภาสูงห่าเหวอะไร,ประชาธิปไตยคือมาจากประชาชน สว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเดียว,นายกฯต้องเลือกตั้งกาตรงจากประชาชนไม่ใช่ผีบ้าแบบปัจจุบันนี้,จัดตั้งรัฐบาลได้ต้องชนะการเลือกตั้งและยืนที่1มาเท่านั้น,สส.อำเภอละ1คนพอก็แค่878คนเอง จบ.นี้คือตัวแทนประชาชนจริงระดับใกล้ชิดปัญหา,รัฐมนตรพิเศษมี77คนใกล้ชิดจังหวัด.สายภาคการเมืองประสานงานสายธุรการระดับระบบราชการไทยชัดเจนด้วย,คณะรัฐมนตรีปกครองกระทรวงก็ปกติ,ซึ่งประสานงานกับรัฐมนตรีพิเศษนั้นๆ,รัฐมนตรีพิเศษและปกติต้องมาจากสส.878คนในนััน,สส.ไม่ต้องสังกัดพรรค,แต่พรรคสามารถสร้างสส.ประจำพรรคได้.รัฐบาลจะเกิดขึ้นได้ต้องมีสส.รวมกันเกินครึ่งหนึ่งของ878คน,จากนั้นสามารถสร้างทีมงานตนขึ้นบริหารจัดการได้,แม้สถานะสส.ไม่ถึงครึ่งหนึ่งในตอนแรกที่จัดตั้งรัฐบาล เพื่อการปกครองมีสภาพคล่อง,เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ,จนครบวาระ,ประชาชนสามารถลงชื่อออนไลน์เกิน60%ของผู้มีสิทธเลือกตั้งสามารถเป็นมติให้รัฐบาลชุดนั้นพ้นตำแหน่งแล้วเลือกตั้งใหม่ทันทีได้.,อบต.อบจ.ยุบทั้งหมดทั่วประเทศไม่มีความจำเป็น ทับซ้อนหน้าที่กันเสียเปล่าไม่ต้องมีคานอำนาจแบบในอดีต,ขยายธุรกรรมงานอำเภอจังหวัดให้ครอบคลุมพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนเพิ่มมากขึ้นประสานแก้ไขปัญหาร่วมกับสส.ในพื้นที่ ซึ่งสส.มีอำนาจเด็ดขาดเหนือกว่านายอำเภอทั้งหมด.สั่งการตรงแก่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ในพื้นที่ของตนเอง.เสมือนนายอำเภอสั่งการเอง.สส.เป็นนาย,นายอำเภอเป็นรองนาย.,รองจากผู้ว่าจังหวัดรองจากรัฐมนตรีพิเศษประจำจังหวัดนั้นๆ,ซึ่งประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงใกล้ชิดผู้มาแก้ไขปัญหาช่วยเหลือตนได้,และประชาชนในพื้นที่สามารถลงมติไล่ออกสส.ในพื้นที่ตนเองได้เช่นกันทางแพลตฟอร์มออนไลน์เกิน60%ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่นั่นๆ,รัฐมนตรีพิเศษเกิน60%ของทั้งจังหวัดนั้นๆ,แต่สถานะเดิมให้สิทธิพิเศษละเว้นอัตโนมัติไม่นำมาใช้พิจารณา เป็นต้น,นี้คือมุมมองหนึ่งในการปกครองที่ประชาชนมีส่วนร่วมจริงสร้างสรรค์วิถีปกครองร่วมกันได้ควบคุมอำนาจตรงได้,ผ่านอำนาจตัวแทนที่อาจใช้ไปทางที่ผิดเช่นปัจจุบัน ไม่มีในนโยบายพรรคหลักเลยแต่จะสร้างบ่อนคาสิโนในประเทศไทยซึ่งมองข้ามประชาชนอย่างมากและจิตสำนึกชั่วดีว่าอะไรเสื่อมกิจการงานใดไม่ดีต่อสังคมชุมชนในชาติ ประชาชนสามารถลงโทษผู้ปกครองได้ทันทีเช่นกันนั้นเองโดยสร้างทางเลือกให้ซึ่งปัจจุบันไม่มีจริงอย่างชัดเจน,เป็นแต่พิธีวลีความให้ดูดีแค่นั้น,ยุ่งยากด้วย,เข้าถึงลำบาก ต่างจากลงมติเรียลไทม์รู้ผลเลยทันทีทั่วประเทศ. ..คณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถใช้ตังบริจาคนี้แบ่งบางส่วนว่าจ้างผู้รู้ผู้เก่งกล้าสามารถสนับสนุนปัจจัยแรงกายที่สร้างแพลตฟอร์มนั้นเพื่อแผ่นดินไทยของภาคประชาชนเราขึ้นมาคานอำนาจปกครองของรัฐบาลที่บริหารไปทางกากๆเสี่ยงภัยต่ออธิปไตยไทยตนเองหรือสาระพัดกิจกรรมเหี้ยๆนั้นได้,เช่นบ่อน้ำมันต้องโมฆะสัมปทานทั้งหมดเพราะเป็นไปดำเนินไปไม่ถูกหลักพื้นฐานสากลทางประชาธิปไตยที่เราปกครองในระบบประชาธิปไตยจากประชาชนคนส่วนมาก ไม่ผ่านอภิปรายและลงมติจากเสียงของประชาชนไทยเลยในสภาผู้แทนราษฎรเรา,สภา.สส.เรา,สามารถโมฆะอย่างชอบธรรมกว่าMOU43,44โน้น,บ่อน้ำมันแค่เราทำเองขายเองถูกๆภายในประเทศไทยเราเองแบบอิหร่านจะเบนซินหรือดีเชลไม่เกินลิตรละ1-2บาท,ทั่วประเทศไทยเราจะฟื้นฟูทางเศรษฐกิจขนาดไหนอาจเพียงแค่1-2ปีประเทศไทยเราจะรุ่งโรจน์ภายในประเทศทันทีมีกินมีใช้อยู่อย่างสุขสบายไม่ลำบากยากจนอีก,สามารถส่งขายน้ำมันปิโตรเลียมในราคาตลาดโลกได้อีก,สินค้าไทยเราจะแข่งขันได้อย่างสบายๆด้วย,นี้คือวิถีปกครองที่เหมาะสมแห่งธรรม ที่ปกติต้องดำเนินไปเช่นนั้น,แต่เพราะผิดผีผิดแบบมาอย่างยาวนานและไม่เคยปรับปรุงห่าอะไร,มองประชาชนเฉยๆไร้ค่าอีก มีค่าแค่ต้องการอำนาจเอาไปหาแดกโกงกินชาตินั้นล่ะ,เรา..ประชาชนจึงต้องจบมันจริงๆ. ..นี้ก็เหี้ย ชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายไม่ดี ไม่สำนึกดีชั่วอะไรเลย สีข้างอยากเชียร์คนชั่วตนเข้าไส้แต่แผลเยอะไปเลยได้แค่นั่น,คนไทยเราชั่วเลวก็มีไม่น้อยปะปนในสังคมไทยเราใช่จิตใจดีทุกๆคน หยาบหนาบางมีต่างกัน,ดูกันยาวๆด้วย,แล้วก็เผยธาตุแท้ตนออกมา,สัญชาติไทยใจส้นตีนเป็นต่างชาติมันมีเยอะแยะจริงๆบ้านเมืองเรามีคนพวกนี้บนแผ่นดินไทยมากเกินไปจนมึนมาขึ้นปกครองประเทศได้เลยเสียหายหายนะพังพินาศไม่ยากอะไรเลยถ้าคนไทยดีๆเราไม่ออกมาจัดการบ้าง.,อนาคตต้องสร้างเครื่องมือของภาคประชาชนที่ง่ายในการจัดการพวกนี้สะดวกส่งไปพบพระเจ้าของมันง่ายๆก็ว่า,เรา..ประชาชนไม่ใช่หน้าที่ต้องอภัยโทษคนชั่วเลว หน้าที่เราส่งมันไปพบพระเจ้าของมันให้อภัยกันเอาเอง. ..https://youtu.be/-vDvSDywY4M?si=01E9wZFU9eJ5K2Un
    0 Comments 0 Shares 404 Views 0 Reviews
  • หลังจากรัฐสภาอิหร่านออกกฎหมายแบน IAEA รวมทั้งสั่งห้ามราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เข้าประเทศ

    กรอสซี ได้ออกมากล่าวโจมตีอิหร่านทันทีว่า อิหร่านสามารถสร้างเครื่องหมุนเหวี่ยงและผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะได้ภายในเวลาไม่ถึงเดือน
    หลังจากรัฐสภาอิหร่านออกกฎหมายแบน IAEA รวมทั้งสั่งห้ามราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เข้าประเทศ กรอสซี ได้ออกมากล่าวโจมตีอิหร่านทันทีว่า อิหร่านสามารถสร้างเครื่องหมุนเหวี่ยงและผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะได้ภายในเวลาไม่ถึงเดือน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • เหมนแบนกาแฟไทย เพราะอิจฉาทหารไทยที่ได้กินฟรี ส่วนพวกมัน รายได้ทหารเหมน ถ้าแดกวันละแก้วก็หมดตูดไม่เหลือใช้อย่างอื่น
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เหมนแบนกาแฟไทย เพราะอิจฉาทหารไทยที่ได้กินฟรี ส่วนพวกมัน รายได้ทหารเหมน ถ้าแดกวันละแก้วก็หมดตูดไม่เหลือใช้อย่างอื่น #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • ถ้าคุณเพิ่งประกอบพีซีใหม่แล้วใส่ SSD PCIe 4.0 หรือ 5.0 ไป ก็ยังนอนหลับได้สบายอยู่ เพราะ PCIe 6.0 กำลังจะมา...แต่ยัง “ไม่ใช่ของคุณในเร็ว ๆ นี้แน่นอน”

    แม้ AMD จะประกาศว่าพร้อมเปิดใช้งาน PCIe 6.0 ตั้งแต่ปี 2026 — และชิปเซ็ตใหม่หลายรุ่นในองค์กรเตรียมรับมือไว้แล้ว — แต่ฝั่งผู้บริโภคกลับ “ไม่มีแรงผลักดัน” ให้รีบอัปเกรด เพราะ:
    - ราคายังแพงเกินไป (เมนบอร์ด, รีไทเมอร์, วัสดุพิเศษ ฯลฯ)
    - การใช้งานปัจจุบันยังใช้ PCIe 4.0 ได้แบบเหลือเฟือ
    - PCIe 6.0 ทำงานยากขึ้น เพราะยิ่งเร็ว = เส้นทางสัญญาณยิ่งสั้นลงเหลือไม่ถึง 9 ซม.

    นั่นหมายความว่า PCIe 6.0 จะยัง “จำกัดเฉพาะ” ตลาดองค์กรและ AI เท่านั้นในช่วงหลายปีข้างหน้า ส่วนพีซีทั่วไปจะได้เห็นจริง “อาจหลังปี 2030” เลยก็ได้

    AMD เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มรองรับ PCIe 6.0 ในปี 2026  
    • แต่เฉพาะกลุ่มองค์กร, เซิร์ฟเวอร์ และ AI infrastructure  
    • SSD PCIe 6.0 สำหรับผู้บริโภคอาจต้องรอถึงปี 2030

    PCIe 6.0 ให้แบนด์วิธสูงถึง 32 GB/s ที่ x4 (เทียบกับ PCIe 4.0 ที่ 8 GB/s)  
    • ดีสำหรับงาน AI และการส่งข้อมูลปริมาณสูงแบบเรียลไทม์

    PC OEM ส่วนใหญ่ไม่อยากคุยเรื่อง PCIe 6.0 ด้วยซ้ำ  
    • Intel และ AMD ยังคงเลี่ยงให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการนำมาใช้ในโน้ตบุ๊ก/เดสก์ท็อป

    PCIe 4.0 และ 5.0 ยังเพียงพอสำหรับงานทั่วไป เช่น เกม, ทำงาน, ตัดต่อวิดีโอ  
    • bottleneck ปัจจุบันในระบบผู้ใช้ทั่วไปไม่ได้มาจากแบนด์วิธ

    รีไทเมอร์ที่จำเป็นในระบบ PCIe 6.0 แพงเกินกว่าจะใส่ในเครื่องผู้ใช้ทั่วไปได้  
    • ใช้เฉพาะในเซิร์ฟเวอร์ที่มีงบประมาณสูง

    สายสัญญาณ copper ที่ใช้กับ PCIe 6.0 วิ่งได้แค่ราว 3.4 นิ้วก่อนจะ signal loss  
    • ต้องใช้เมนบอร์ดที่มีเลเยอร์หนาและวัสดุคุณภาพสูงขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/amd-will-launch-pcie-6-0-devices-next-year-but-consumers-will-have-to-wait-almost-half-a-decade-to-get-it-heres-why
    ถ้าคุณเพิ่งประกอบพีซีใหม่แล้วใส่ SSD PCIe 4.0 หรือ 5.0 ไป ก็ยังนอนหลับได้สบายอยู่ เพราะ PCIe 6.0 กำลังจะมา...แต่ยัง “ไม่ใช่ของคุณในเร็ว ๆ นี้แน่นอน” แม้ AMD จะประกาศว่าพร้อมเปิดใช้งาน PCIe 6.0 ตั้งแต่ปี 2026 — และชิปเซ็ตใหม่หลายรุ่นในองค์กรเตรียมรับมือไว้แล้ว — แต่ฝั่งผู้บริโภคกลับ “ไม่มีแรงผลักดัน” ให้รีบอัปเกรด เพราะ: - ราคายังแพงเกินไป (เมนบอร์ด, รีไทเมอร์, วัสดุพิเศษ ฯลฯ) - การใช้งานปัจจุบันยังใช้ PCIe 4.0 ได้แบบเหลือเฟือ - PCIe 6.0 ทำงานยากขึ้น เพราะยิ่งเร็ว = เส้นทางสัญญาณยิ่งสั้นลงเหลือไม่ถึง 9 ซม. นั่นหมายความว่า PCIe 6.0 จะยัง “จำกัดเฉพาะ” ตลาดองค์กรและ AI เท่านั้นในช่วงหลายปีข้างหน้า ส่วนพีซีทั่วไปจะได้เห็นจริง “อาจหลังปี 2030” เลยก็ได้ ✅ AMD เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มรองรับ PCIe 6.0 ในปี 2026   • แต่เฉพาะกลุ่มองค์กร, เซิร์ฟเวอร์ และ AI infrastructure   • SSD PCIe 6.0 สำหรับผู้บริโภคอาจต้องรอถึงปี 2030 ✅ PCIe 6.0 ให้แบนด์วิธสูงถึง 32 GB/s ที่ x4 (เทียบกับ PCIe 4.0 ที่ 8 GB/s)   • ดีสำหรับงาน AI และการส่งข้อมูลปริมาณสูงแบบเรียลไทม์ ✅ PC OEM ส่วนใหญ่ไม่อยากคุยเรื่อง PCIe 6.0 ด้วยซ้ำ   • Intel และ AMD ยังคงเลี่ยงให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการนำมาใช้ในโน้ตบุ๊ก/เดสก์ท็อป ✅ PCIe 4.0 และ 5.0 ยังเพียงพอสำหรับงานทั่วไป เช่น เกม, ทำงาน, ตัดต่อวิดีโอ   • bottleneck ปัจจุบันในระบบผู้ใช้ทั่วไปไม่ได้มาจากแบนด์วิธ ✅ รีไทเมอร์ที่จำเป็นในระบบ PCIe 6.0 แพงเกินกว่าจะใส่ในเครื่องผู้ใช้ทั่วไปได้   • ใช้เฉพาะในเซิร์ฟเวอร์ที่มีงบประมาณสูง ✅ สายสัญญาณ copper ที่ใช้กับ PCIe 6.0 วิ่งได้แค่ราว 3.4 นิ้วก่อนจะ signal loss   • ต้องใช้เมนบอร์ดที่มีเลเยอร์หนาและวัสดุคุณภาพสูงขึ้น https://www.techradar.com/pro/amd-will-launch-pcie-6-0-devices-next-year-but-consumers-will-have-to-wait-almost-half-a-decade-to-get-it-heres-why
    WWW.TECHRADAR.COM
    No rush to adopt PCIe 6.0 in consumer PCs, say industry leaders
    Next-gen tech is reportedly too expensive and complex for home PCs
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • เดิมทีสหรัฐออกกฎห้ามส่งออกชิป AI ระดับสูง เช่น H100 และ A100 ไปยังจีนมาตั้งแต่ปี 2022 เพราะกลัวว่าจะถูกนำไปใช้ในงานด้านทหารหรือข่าวกรอง โดยเฉพาะในช่วงที่จีนเร่งพัฒนา AI และ supercomputer สำหรับงานยุทธศาสตร์

    แต่ล่าสุดมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่บอกว่า “DeepSeek สนับสนุนงานด้านทหาร-ข่าวกรองของจีนอย่างเต็มตัว และอาจ หาทางหลบเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออกโดยใช้บริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นฉากบังหน้า เพื่อเข้าถึงชิป Nvidia อย่างผิดกฎ”

    สิ่งที่น่าตกใจคือมี “ความเป็นไปได้ว่า DeepSeek ได้ชิป H100 หลังจากสหรัฐแบนไปแล้ว” — แม้ Nvidia จะออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่า DeepSeek ใช้เฉพาะ H800 ซึ่งเป็นเวอร์ชัน “ลดความสามารถ” สำหรับจีนโดยเฉพาะ (ลดแบนด์วิธ NVLink, ไม่มี FP64)

    ที่ผ่านมาเคยมีรายงานว่า “บริษัทจีนขนฮาร์ดดิสก์ในกระเป๋าเดินทางไปเช่ารันเซิร์ฟเวอร์ที่มาเลเซีย” เพื่อฝึกโมเดล AI แบบเลี่ยงแบน และตอนนี้ DeepSeek เองก็อาจกำลังใช้วิธีคล้าย ๆ กัน โดยเจาะเข้า ศูนย์ข้อมูลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเข้าถึงชิปในระยะไกล โดยไม่ต้องนำเข้าทางตรง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-ai-firm-deepseek-reportedly-using-shell-companies-to-try-and-evade-u-s-chip-restrictions-allegedly-procured-unknown-number-of-h100-ai-gpus-after-ban-but-nvidia-denies-the-claim
    เดิมทีสหรัฐออกกฎห้ามส่งออกชิป AI ระดับสูง เช่น H100 และ A100 ไปยังจีนมาตั้งแต่ปี 2022 เพราะกลัวว่าจะถูกนำไปใช้ในงานด้านทหารหรือข่าวกรอง โดยเฉพาะในช่วงที่จีนเร่งพัฒนา AI และ supercomputer สำหรับงานยุทธศาสตร์ แต่ล่าสุดมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่บอกว่า “DeepSeek สนับสนุนงานด้านทหาร-ข่าวกรองของจีนอย่างเต็มตัว และอาจ หาทางหลบเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออกโดยใช้บริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นฉากบังหน้า เพื่อเข้าถึงชิป Nvidia อย่างผิดกฎ” สิ่งที่น่าตกใจคือมี “ความเป็นไปได้ว่า DeepSeek ได้ชิป H100 หลังจากสหรัฐแบนไปแล้ว” — แม้ Nvidia จะออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่า DeepSeek ใช้เฉพาะ H800 ซึ่งเป็นเวอร์ชัน “ลดความสามารถ” สำหรับจีนโดยเฉพาะ (ลดแบนด์วิธ NVLink, ไม่มี FP64) ที่ผ่านมาเคยมีรายงานว่า “บริษัทจีนขนฮาร์ดดิสก์ในกระเป๋าเดินทางไปเช่ารันเซิร์ฟเวอร์ที่มาเลเซีย” เพื่อฝึกโมเดล AI แบบเลี่ยงแบน และตอนนี้ DeepSeek เองก็อาจกำลังใช้วิธีคล้าย ๆ กัน โดยเจาะเข้า ศูนย์ข้อมูลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเข้าถึงชิปในระยะไกล โดยไม่ต้องนำเข้าทางตรง https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-ai-firm-deepseek-reportedly-using-shell-companies-to-try-and-evade-u-s-chip-restrictions-allegedly-procured-unknown-number-of-h100-ai-gpus-after-ban-but-nvidia-denies-the-claim
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • นักปล่อยข่าวชื่อดัง KeplerL2 บอกว่าทั้ง Microsoft และ Sony เตรียมปล่อยเครื่องเล่นรุ่นใหม่ในปี 2027 โดยจะใช้ ชิปกราฟิก UDNA ของ AMD ที่เป็นรุ่นถัดไปจาก RDNA 4 (ซึ่งเพิ่งเปิดตัวบนการ์ด RX 9070 และ 9060)

    จุดเด่นของ UDNA คือ:
    - ประสิทธิภาพดีกว่า RDNA 2 (ที่ใช้ใน PS5 และ Xbox Series) แบบชัดเจน
    - เร็วขึ้น 20% ต่อ compute unit ในการเรนเดอร์ภาพปกติ
    - เร็วขึ้น 2 เท่าในงาน ray tracing และ AI — ซึ่งสำคัญมากกับการประมวลผลกราฟิกยุคใหม่

    อีกทั้งยังรองรับแบนด์วิดท์ของ HDMI สูงถึง 80 Gbps (เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก) อาจรองรับภาพ 4K ที่ 240Hz หรือแม้แต่ 8K ที่รีเฟรชเรตสูงในอนาคต!

    นอกจากนั้น ทั้งสองค่ายยังเตรียม เปิดตัวเครื่องเกมพกพา ที่ใช้เทคโนโลยี UDNA เหมือนกัน โดยจำกัดพลังงานไม่เกิน 15 วัตต์ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ซึ่งหมายความว่า...เรากำลังจะได้เห็นเกมพกพาที่ “แรงเท่าคอนโซล” แต่แบตไม่หมดใน 1 ชั่วโมงอีกต่อไป

    https://www.techspot.com/news/108417-next-gen-xbox-playstation-6-expected-2027-powered.html
    นักปล่อยข่าวชื่อดัง KeplerL2 บอกว่าทั้ง Microsoft และ Sony เตรียมปล่อยเครื่องเล่นรุ่นใหม่ในปี 2027 โดยจะใช้ ชิปกราฟิก UDNA ของ AMD ที่เป็นรุ่นถัดไปจาก RDNA 4 (ซึ่งเพิ่งเปิดตัวบนการ์ด RX 9070 และ 9060) จุดเด่นของ UDNA คือ: - ประสิทธิภาพดีกว่า RDNA 2 (ที่ใช้ใน PS5 และ Xbox Series) แบบชัดเจน - เร็วขึ้น 20% ต่อ compute unit ในการเรนเดอร์ภาพปกติ - เร็วขึ้น 2 เท่าในงาน ray tracing และ AI — ซึ่งสำคัญมากกับการประมวลผลกราฟิกยุคใหม่ อีกทั้งยังรองรับแบนด์วิดท์ของ HDMI สูงถึง 80 Gbps (เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก) อาจรองรับภาพ 4K ที่ 240Hz หรือแม้แต่ 8K ที่รีเฟรชเรตสูงในอนาคต! นอกจากนั้น ทั้งสองค่ายยังเตรียม เปิดตัวเครื่องเกมพกพา ที่ใช้เทคโนโลยี UDNA เหมือนกัน โดยจำกัดพลังงานไม่เกิน 15 วัตต์ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ซึ่งหมายความว่า...เรากำลังจะได้เห็นเกมพกพาที่ “แรงเท่าคอนโซล” แต่แบตไม่หมดใน 1 ชั่วโมงอีกต่อไป https://www.techspot.com/news/108417-next-gen-xbox-playstation-6-expected-2027-powered.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Next-gen Xbox and PlayStation 6 expected in 2027, powered by AMD's UDNA graphics
    Trusted leaker KeplerL2 recently dropped several new details about Sony and Microsoft's plans for their next-generation consoles. If the information proves accurate, both companies will once again...
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • ..การสงครามคือหนทางสุดท้ายหากเขารุกล้ำดินแดนเข้ามา,สงครามสู้รบ ย่อมสูญเสียทั้งสองฝ่าย ทหารทุกๆคนมีชีวิตเลือดเนื้อและจิตใจ,มีครอบครัวพ่อแม่พี่น้อง มีลูกหลานของตนเองทุกๆคน,ไม่สนุกหรอกที่จะมาทำศึกสงครามฆ่าแทงยิงกันระเบิดกันในยุคนี้,
    ..ปัญหาเรารู้ชัดแล้วว่าเขมรคือภัยอันตรายร้ายแรงต่ออธิปไตยเรา,ไม่จำเป็นต้องทำสงครามสู้รบอะไรกับมันเลย,ปิดพรมแดนทั้งหลดตลอดชายแดน,ห้ามคนเขมรข้ามฝั่งไทยทุกๆกรณี,ห้ามคนไทยข้ามฝั่งเขมร,ตัดถนนตัดทางรถไฟ ตัดการโดยสารเครื่องบินพานิชย์ทั้งหมดไปเขมรจากไทย,ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ตัดเน็ตมือถือเน็ตเคเบิลสายส่งตัดเน็ตดาวเทียมทั้งหมด,ตัดสัญญาณวิทยุทั้งหมดตลอดพรมแดนด้วยเครื่องทหาร,อายัดทุกๆกิจกรรมธุรกรรมการเงินที่โอนตังไปเขมรและเข้ามาไทยทั้งหมด,ห้ามไทยรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินของเขมร,แบนสกุลเงินของเขมรในไทย,ประชาชนคนไทยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราของสกุลเงินเขมรได้ตลอดชาวต่างชาติทั้งหมดที่อยู่บนแผ่นดินไทย ประเทศไทยไม่รับแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศเขมร,ประสานงานชาติอาเชียนเช่นลาว เวียดนาม ห้ามขายน้ำมัน ขายไฟฟ้าให้เขมร เช่นนั้นไทยจะไม่ขายน้ำมันให้ลาว ไม่รับซื้อไฟฟ้าจากลาว,ไม่ขายน้ำมันให้เวียดนาม ลดน้ำเข้าสินค้ามาไทยหรือลดการลงทุนในเวียดนามลง ย้ายฐานการผลิตไปลงทุนชาติอื่นจากนักลงทุนไทย,บรูไน สิงคโปรมาเลย์พม่าก็ด้วย.,เพื่อร่วมกันกำจัดประเทศอาชญากรรมสากลโลก แหล่งรวมคนชั่วจากทั่วโลกฮับสาระพัดชั่วเลวแหล่งฟอกเงินค้ามนุษย์ระดับโลกนี้คือหน้าตาเราอาเชียนด้วยเอเชียก็ด้วย,จีนสมควรเป็นเจ้าภาพลงดาบจัดการจีนเทาในเขมรของจริงของแท้ด้วย,และซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขมรอยู่แล้ว.
    ..เขมรคือภัยคุกคามของโลกไปแล้วด้วยอาชญากรรมสาระพัดเลวชั่วที่ก่อการไปทั่วโลก,ฐานปฏิบัติการชั่วโดยมีประเทศเป็นฮับทางชั่วเสียเองระดับโลก.,ไม่สมฐานะที่ชาวโลกสงสารเมื่อยุคเขมรแดงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เลย,กลับมาก่อชั่วทดแทนบุญคุณที่ชาวโลกเมตตาสงสารอนาถใจแก่ชาติเขมรอย่างตนเอง ให้การช่วยเหลือหลากหลายประเทศทั่วโลก,แต่เขมรกลับเนรคุณตั้งเดอะแก๊งองค์กรชั่วฮับระดับโลกเพื่อหลอกลวงเกือบทุกๆประเทศไปทั่วโลก แล้วฟอกตังที่หลอกลวงมาระดับโลกให้ตนเองมั่งคั่งร่ำรวยเหลือจึงใช้หนี้,สาระพัดทำเลวชั่วแก่คนในทุกๆประเทศที่หลอกลวงได้,ได้ทั้งตังได้ทั้งแรงกายมาทำงานฟรีๆให้ตน,ทารุนทรมานเขาสาระพัดวิธีให้ได้เป้า,สิ้นสภาพก็ฆ่าค้าอวัยวะต่อไปทำตังทำกำไรจนวินาทีสุดท้าย,นี้คืออาชญากรของโลกโดยแท้อาชญากรรมข้ามชาติระดับโลกอีก.
    ..เขมรไปไกลกว่าที่เราคิด เขมรคือภัยคือศัตรูของนานาชาติประเทศทั่วโลกไปแล้ว.

    https://youtube.com/shorts/t5PC_V8A8uU?si=RltbWZuKDvcg00w2
    https://youtube.com/shorts/t5PC_V8A8uU?si=RltbWZuKDvcg00w2
    ..การสงครามคือหนทางสุดท้ายหากเขารุกล้ำดินแดนเข้ามา,สงครามสู้รบ ย่อมสูญเสียทั้งสองฝ่าย ทหารทุกๆคนมีชีวิตเลือดเนื้อและจิตใจ,มีครอบครัวพ่อแม่พี่น้อง มีลูกหลานของตนเองทุกๆคน,ไม่สนุกหรอกที่จะมาทำศึกสงครามฆ่าแทงยิงกันระเบิดกันในยุคนี้, ..ปัญหาเรารู้ชัดแล้วว่าเขมรคือภัยอันตรายร้ายแรงต่ออธิปไตยเรา,ไม่จำเป็นต้องทำสงครามสู้รบอะไรกับมันเลย,ปิดพรมแดนทั้งหลดตลอดชายแดน,ห้ามคนเขมรข้ามฝั่งไทยทุกๆกรณี,ห้ามคนไทยข้ามฝั่งเขมร,ตัดถนนตัดทางรถไฟ ตัดการโดยสารเครื่องบินพานิชย์ทั้งหมดไปเขมรจากไทย,ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ตัดเน็ตมือถือเน็ตเคเบิลสายส่งตัดเน็ตดาวเทียมทั้งหมด,ตัดสัญญาณวิทยุทั้งหมดตลอดพรมแดนด้วยเครื่องทหาร,อายัดทุกๆกิจกรรมธุรกรรมการเงินที่โอนตังไปเขมรและเข้ามาไทยทั้งหมด,ห้ามไทยรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินของเขมร,แบนสกุลเงินของเขมรในไทย,ประชาชนคนไทยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราของสกุลเงินเขมรได้ตลอดชาวต่างชาติทั้งหมดที่อยู่บนแผ่นดินไทย ประเทศไทยไม่รับแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศเขมร,ประสานงานชาติอาเชียนเช่นลาว เวียดนาม ห้ามขายน้ำมัน ขายไฟฟ้าให้เขมร เช่นนั้นไทยจะไม่ขายน้ำมันให้ลาว ไม่รับซื้อไฟฟ้าจากลาว,ไม่ขายน้ำมันให้เวียดนาม ลดน้ำเข้าสินค้ามาไทยหรือลดการลงทุนในเวียดนามลง ย้ายฐานการผลิตไปลงทุนชาติอื่นจากนักลงทุนไทย,บรูไน สิงคโปรมาเลย์พม่าก็ด้วย.,เพื่อร่วมกันกำจัดประเทศอาชญากรรมสากลโลก แหล่งรวมคนชั่วจากทั่วโลกฮับสาระพัดชั่วเลวแหล่งฟอกเงินค้ามนุษย์ระดับโลกนี้คือหน้าตาเราอาเชียนด้วยเอเชียก็ด้วย,จีนสมควรเป็นเจ้าภาพลงดาบจัดการจีนเทาในเขมรของจริงของแท้ด้วย,และซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขมรอยู่แล้ว. ..เขมรคือภัยคุกคามของโลกไปแล้วด้วยอาชญากรรมสาระพัดเลวชั่วที่ก่อการไปทั่วโลก,ฐานปฏิบัติการชั่วโดยมีประเทศเป็นฮับทางชั่วเสียเองระดับโลก.,ไม่สมฐานะที่ชาวโลกสงสารเมื่อยุคเขมรแดงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เลย,กลับมาก่อชั่วทดแทนบุญคุณที่ชาวโลกเมตตาสงสารอนาถใจแก่ชาติเขมรอย่างตนเอง ให้การช่วยเหลือหลากหลายประเทศทั่วโลก,แต่เขมรกลับเนรคุณตั้งเดอะแก๊งองค์กรชั่วฮับระดับโลกเพื่อหลอกลวงเกือบทุกๆประเทศไปทั่วโลก แล้วฟอกตังที่หลอกลวงมาระดับโลกให้ตนเองมั่งคั่งร่ำรวยเหลือจึงใช้หนี้,สาระพัดทำเลวชั่วแก่คนในทุกๆประเทศที่หลอกลวงได้,ได้ทั้งตังได้ทั้งแรงกายมาทำงานฟรีๆให้ตน,ทารุนทรมานเขาสาระพัดวิธีให้ได้เป้า,สิ้นสภาพก็ฆ่าค้าอวัยวะต่อไปทำตังทำกำไรจนวินาทีสุดท้าย,นี้คืออาชญากรของโลกโดยแท้อาชญากรรมข้ามชาติระดับโลกอีก. ..เขมรไปไกลกว่าที่เราคิด เขมรคือภัยคือศัตรูของนานาชาติประเทศทั่วโลกไปแล้ว. https://youtube.com/shorts/t5PC_V8A8uU?si=RltbWZuKDvcg00w2 https://youtube.com/shorts/t5PC_V8A8uU?si=RltbWZuKDvcg00w2
    0 Comments 0 Shares 249 Views 0 Reviews
  • สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกามีคำสั่งห้ามการใช้งาน WhatsApp บนอุปกรณ์ทางการทั้งหมดอย่างเป็นทางการ

    เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่รัฐสภาในวันนี้ว่าแอปส่งข้อความ WhatsApp ถูกแบนบนอุปกรณ์ของรัฐบาลทั้งหมด

    คำสั่งนี้อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งได้ถือว่า WhatsApp มีความเสี่ยงสูงต่อผู้ใช้ เนื่องจากขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน

    นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่าแอปดังกล่าวขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลที่ละเอียดอ่อน การแฮ็กในอดีต เช่น เหตุการณ์สปายแวร์ Pegasus ในปี 2019 เน้นย้ำถึงช่องโหว่ต่างๆ

    “เจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร จะต้องลบแอปพลิเคชันดังกล่าวทั้งในเวอร์ชันมือถือ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเว็บเบราว์เซอร์

    สำหรับแอปพลิเคชันที่ยังได้รับอนุญาตให้ใช้ได้คือ Microsoft Teams, Wickr, Signal, iMessage และ FaceTime



    สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกามีคำสั่งห้ามการใช้งาน WhatsApp บนอุปกรณ์ทางการทั้งหมดอย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่รัฐสภาในวันนี้ว่าแอปส่งข้อความ WhatsApp ถูกแบนบนอุปกรณ์ของรัฐบาลทั้งหมด คำสั่งนี้อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งได้ถือว่า WhatsApp มีความเสี่ยงสูงต่อผู้ใช้ เนื่องจากขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่าแอปดังกล่าวขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลที่ละเอียดอ่อน การแฮ็กในอดีต เช่น เหตุการณ์สปายแวร์ Pegasus ในปี 2019 เน้นย้ำถึงช่องโหว่ต่างๆ “เจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร จะต้องลบแอปพลิเคชันดังกล่าวทั้งในเวอร์ชันมือถือ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเว็บเบราว์เซอร์ สำหรับแอปพลิเคชันที่ยังได้รับอนุญาตให้ใช้ได้คือ Microsoft Teams, Wickr, Signal, iMessage และ FaceTime
    0 Comments 0 Shares 281 Views 0 Reviews
  • กว่าจะพ้นโทษแบนอีกตั้ง 9 ปี มีเวลาให้มันเพ้อเจ้ออีกเยอะ พิสูจน์ตัวเองด้วยภารกิจเล็กๆ ให้รอดก่อน ไม่มีใครอยากเอาอนาคตไปฝากกับคนล้มเหลว ล้มทั้งกิจการ ชีวิตครอบครัว ชีวิตการเมือง แม้แต่การเป็นพ่อที่ดียังทำไม่ได้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    กว่าจะพ้นโทษแบนอีกตั้ง 9 ปี มีเวลาให้มันเพ้อเจ้ออีกเยอะ พิสูจน์ตัวเองด้วยภารกิจเล็กๆ ให้รอดก่อน ไม่มีใครอยากเอาอนาคตไปฝากกับคนล้มเหลว ล้มทั้งกิจการ ชีวิตครอบครัว ชีวิตการเมือง แม้แต่การเป็นพ่อที่ดียังทำไม่ได้ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
More Results