• ผบก.น.2 เผยคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายประกบยิงหนุ่มขับเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังพบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีพยายามฆ่าติดตัวตั้งแต่ปี 2567
    .
    จากเหตุคนร้ายขับรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว ประกบยิงรถเก๋งโตโยต้า อัลติส บนทางพิเศษศรีรัช ย่านประชาชื่น เมื่อเช้ามืดวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เบื้องต้นเชื่อเกิดจากเหตุทะเลาะกันขณะขับรถ ก่อนมีการลดกระจกเผชิญหน้ากันที่ด่านเก็บเงิน
    .
    ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนนครบาลร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ตรวจพบรถเวลไฟร์คันก่อเหตุถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม และได้เข้าอายัดเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยคาดว่าคนร้ายทิ้งรถแล้วหลบหนีด้วยรถแท็กซี่ มุ่งหน้าเส้นพระประโทน–บ้านแพ้ว
    .
    ตำรวจย้ำกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ และขอศาลออกหมายจับโดยเร็ว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย มีประวัติใช้อาวุธปืน และอาจก่อเหตุซ้ำได้
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123803
    .
    #News1live #News1 #ยิงบนทางด่วน #คดีอุกฉกรรจ์ #เวลไฟร์ #นครบาล
    ผบก.น.2 เผยคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายประกบยิงหนุ่มขับเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังพบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีพยายามฆ่าติดตัวตั้งแต่ปี 2567 . จากเหตุคนร้ายขับรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว ประกบยิงรถเก๋งโตโยต้า อัลติส บนทางพิเศษศรีรัช ย่านประชาชื่น เมื่อเช้ามืดวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เบื้องต้นเชื่อเกิดจากเหตุทะเลาะกันขณะขับรถ ก่อนมีการลดกระจกเผชิญหน้ากันที่ด่านเก็บเงิน . ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนนครบาลร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ตรวจพบรถเวลไฟร์คันก่อเหตุถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม และได้เข้าอายัดเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยคาดว่าคนร้ายทิ้งรถแล้วหลบหนีด้วยรถแท็กซี่ มุ่งหน้าเส้นพระประโทน–บ้านแพ้ว . ตำรวจย้ำกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ และขอศาลออกหมายจับโดยเร็ว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย มีประวัติใช้อาวุธปืน และอาจก่อเหตุซ้ำได้ . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123803 . #News1live #News1 #ยิงบนทางด่วน #คดีอุกฉกรรจ์ #เวลไฟร์ #นครบาล
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • ปาดังเบซาร์-JB Sentral นั่งรถไฟยาวๆ จากไทยไปยะโฮร์

    เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. การรถไฟมาเลเซีย (KTM Berhad) ประกาศว่าจะเปิดเดินรถไฟ ETS เพิ่มเติมตามตารางเดินรถใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 ได้แก่ เส้นทาง KL Sentral - JB Sentral ระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ กับเมืองยะโฮร์บาห์รู รัฐยะโฮร์ จากเดิมให้บริการวันละ 2 ขบวน เพิ่มเป็นวันละ 4 ขบวน ไป-กลับรวมวันละ 8 ขบวน รวมทั้งเส้นทางปาดังเบซาร์ (Padang Besar) ใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย จากเดิมสิ้นสุดที่สถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ ได้ขยายการเดินรถไปถึงสถานี JB Sentral ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง 30 นาที

    โดยรถไฟจากปาดังเบซาร์ ไป JB Sentral ได้แก่ ขบวนที่ EG9449 ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ 12.05 น. (หรือ 11.05 น. ตามเวลาประเทศไทย) ผ่านสถานี KL Sentral เวลา 17.50 น. ถึงปลายทาง JB Sentral เวลา 22.30 น.

    สำหรับผู้ที่มาจากประเทศไทย เพื่อไปยังขบวนดังกล่าว มีขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45 กรุงเทพอภิวัฒน์-ปาดังเบซาร์ ออกจากกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ เวลา 16.10 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ 07.59 น. (08.59 น. เวลามาเลเซีย) นอกจากนี้ ยังมีขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 947 ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ออกจากต้นทางเวลา 08.55 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ 09.40 น. (10.40 น. เวลามาเลเซีย) แต่ถ้าเร็วกว่านั้นใช้บริการรถตู้จากสถานีขนส่งผู้โดยสารหาดใหญ่ ถึงหน้าด่านปาดังเบซาร์ ประทับตราหนังสือเดินทางแล้วขึ้นสะพานลอยมายังตัวสถานีได้ทันที

    ส่วนผู้ที่จะไปประเทศสิงคโปร์ด้วยรถไฟชัตเติลเตบราว (Shuttle Tebrau) เนื่องจากเที่ยวสุดท้าย 22.45 น. จึงคาดว่าไม่ทันเพราะต้องเผื่อเวลาอย่างน้อย 30 นาทีก่อนรถออก อาจต้องค้างคืนที่ยะโฮร์บาห์รู หรือเรียกแท็กซี่ข้ามแดนซึ่งเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก

    ส่วนเที่ยวกลับ ขบวนที่ EG9442 ออกจากสถานี JB Sentral เวลา 07.35 น. ผ่านสถานี KL Sentral เวลา 12.16 น. ถึงปลายทางปาดังเบซาร์ 17.53 น. (หรือ 16.53 น. ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งไม่ทันขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 950 ปาดังเบซาร์-ชุมทางหาดใหญ่ รถออกเวลา 15.40 น. และรถตู้ประจำทางไปหาดใหญ่ ออกจากปาดังเบซาร์ 17.30 น. จำเป็นต้องนั่งรถตู้ป้ายดำ ค่าโดยสาร 30 ริงกิต

    สำหรับขบวนรถไฟ ETS ระหว่างสถานี KL Sentral ถึง JB Sentral แบ่งเป็นดังนี้

    จาก KL Sentral ถึง JB Sentral

    EP9523 ออก 07.55 ถึง 12.15 น.
    EP9531 ออก 15.15 ถึง 19.35 น.
    EP9533 ออก 17.35 ถึง 21.55 น.
    EP9537 ออก 21.10 ถึง 01.30 น.

    จาก JB Sentral ถึง KL Sentral

    EP9524 ออก 08.40 ถึง 13.00 น.
    EP9528 ออก 12.45 ถึง 17.05 น.
    EP9532 ออก 16.20 ถึง 20.40 น.
    EP9536 ออก 20.30 ถึง 00.50 น.

    #Newskit
    ปาดังเบซาร์-JB Sentral นั่งรถไฟยาวๆ จากไทยไปยะโฮร์ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. การรถไฟมาเลเซีย (KTM Berhad) ประกาศว่าจะเปิดเดินรถไฟ ETS เพิ่มเติมตามตารางเดินรถใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 ได้แก่ เส้นทาง KL Sentral - JB Sentral ระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ กับเมืองยะโฮร์บาห์รู รัฐยะโฮร์ จากเดิมให้บริการวันละ 2 ขบวน เพิ่มเป็นวันละ 4 ขบวน ไป-กลับรวมวันละ 8 ขบวน รวมทั้งเส้นทางปาดังเบซาร์ (Padang Besar) ใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย จากเดิมสิ้นสุดที่สถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ ได้ขยายการเดินรถไปถึงสถานี JB Sentral ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง 30 นาที โดยรถไฟจากปาดังเบซาร์ ไป JB Sentral ได้แก่ ขบวนที่ EG9449 ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ 12.05 น. (หรือ 11.05 น. ตามเวลาประเทศไทย) ผ่านสถานี KL Sentral เวลา 17.50 น. ถึงปลายทาง JB Sentral เวลา 22.30 น. สำหรับผู้ที่มาจากประเทศไทย เพื่อไปยังขบวนดังกล่าว มีขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45 กรุงเทพอภิวัฒน์-ปาดังเบซาร์ ออกจากกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ เวลา 16.10 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ 07.59 น. (08.59 น. เวลามาเลเซีย) นอกจากนี้ ยังมีขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 947 ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ออกจากต้นทางเวลา 08.55 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ 09.40 น. (10.40 น. เวลามาเลเซีย) แต่ถ้าเร็วกว่านั้นใช้บริการรถตู้จากสถานีขนส่งผู้โดยสารหาดใหญ่ ถึงหน้าด่านปาดังเบซาร์ ประทับตราหนังสือเดินทางแล้วขึ้นสะพานลอยมายังตัวสถานีได้ทันที ส่วนผู้ที่จะไปประเทศสิงคโปร์ด้วยรถไฟชัตเติลเตบราว (Shuttle Tebrau) เนื่องจากเที่ยวสุดท้าย 22.45 น. จึงคาดว่าไม่ทันเพราะต้องเผื่อเวลาอย่างน้อย 30 นาทีก่อนรถออก อาจต้องค้างคืนที่ยะโฮร์บาห์รู หรือเรียกแท็กซี่ข้ามแดนซึ่งเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก ส่วนเที่ยวกลับ ขบวนที่ EG9442 ออกจากสถานี JB Sentral เวลา 07.35 น. ผ่านสถานี KL Sentral เวลา 12.16 น. ถึงปลายทางปาดังเบซาร์ 17.53 น. (หรือ 16.53 น. ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งไม่ทันขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 950 ปาดังเบซาร์-ชุมทางหาดใหญ่ รถออกเวลา 15.40 น. และรถตู้ประจำทางไปหาดใหญ่ ออกจากปาดังเบซาร์ 17.30 น. จำเป็นต้องนั่งรถตู้ป้ายดำ ค่าโดยสาร 30 ริงกิต สำหรับขบวนรถไฟ ETS ระหว่างสถานี KL Sentral ถึง JB Sentral แบ่งเป็นดังนี้ จาก KL Sentral ถึง JB Sentral EP9523 ออก 07.55 ถึง 12.15 น. EP9531 ออก 15.15 ถึง 19.35 น. EP9533 ออก 17.35 ถึง 21.55 น. EP9537 ออก 21.10 ถึง 01.30 น. จาก JB Sentral ถึง KL Sentral EP9524 ออก 08.40 ถึง 13.00 น. EP9528 ออก 12.45 ถึง 17.05 น. EP9532 ออก 16.20 ถึง 20.40 น. EP9536 ออก 20.30 ถึง 00.50 น. #Newskit
    1 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • มือไม้สั่น หมัดซิกแซก! 09/12/68 #เตือนภัย #แท็กซี่ #คนขับแท็กซี่ #อุบัติเหตุ
    มือไม้สั่น หมัดซิกแซก! 09/12/68 #เตือนภัย #แท็กซี่ #คนขับแท็กซี่ #อุบัติเหตุ
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 0 Reviews
  • ข่าว: ClayRat Android Spyware รุ่นใหม่ – ยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ

    นักวิจัยจาก Zimperium พบว่า ClayRat Android spyware ได้พัฒนาความสามารถใหม่จนสามารถยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ โดยใช้การหลอกให้ผู้ใช้เปิด Accessibility Services เพื่อขโมย PIN, บันทึกหน้าจอ และปิดระบบความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect

    ClayRat รุ่นล่าสุดสามารถ บันทึกหน้าจอทั้งหมด, ขโมยรหัส PIN/Password/Pattern, และ ปิดการทำงานของ Google Play Protect ผ่านการสร้างหน้าจอปลอม เช่น “System Update” เพื่อหลอกผู้ใช้ให้กดอนุญาต ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่องได้เหมือนเจ้าของจริง

    วิธีการแพร่กระจาย
    มัลแวร์นี้ยังคงใช้วิธีปลอมตัวเป็นแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp, Google Photos, TikTok, YouTube รวมถึงบริการท้องถิ่นอย่างแอปแท็กซี่และที่จอดรถในรัสเซีย นอกจากนี้ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางกระจายไฟล์ และมีโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่งที่เลียนแบบแอปต่าง ๆ

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจ
    เนื่องจากพนักงานจำนวนมากใช้มือถือส่วนตัวทำงาน หากเครื่องติด ClayRat ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง อีเมลบริษัท, แอปแชท, และข้อมูลธุรกิจ ได้ทันที Zimperium พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ที่ถูกปล่อยออกมา แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการโจมตี

    วิธีป้องกัน
    ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น และตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง โดยเฉพาะ Accessibility Services ก่อนอนุญาต หากพบพฤติกรรมผิดปกติ เช่น แอปที่ขอสิทธิ์มากเกินไป ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ของ ClayRat
    บันทึกหน้าจอและขโมย PIN/Password
    ปิด Google Play Protect ด้วยหน้าจอปลอม

    วิธีแพร่กระจาย
    ปลอมเป็นแอปยอดนิยมและบริการท้องถิ่น
    ใช้ Dropbox และโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่ง

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจ
    เข้าถึงอีเมลและข้อมูลบริษัทผ่านมือถือพนักงาน
    พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat

    วิธีป้องกัน
    ติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น
    ตรวจสอบสิทธิ์ Accessibility Services อย่างรอบคอบ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การอนุญาต Accessibility Services โดยไม่ตรวจสอบเสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่อง
    แอปที่ปลอมตัวอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจรั่วไหล

    https://hackread.com/clayrat-android-spyware-variant-device-control/
    📰 ข่าว: ClayRat Android Spyware รุ่นใหม่ – ยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยจาก Zimperium พบว่า ClayRat Android spyware ได้พัฒนาความสามารถใหม่จนสามารถยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ โดยใช้การหลอกให้ผู้ใช้เปิด Accessibility Services เพื่อขโมย PIN, บันทึกหน้าจอ และปิดระบบความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect ClayRat รุ่นล่าสุดสามารถ บันทึกหน้าจอทั้งหมด, ขโมยรหัส PIN/Password/Pattern, และ ปิดการทำงานของ Google Play Protect ผ่านการสร้างหน้าจอปลอม เช่น “System Update” เพื่อหลอกผู้ใช้ให้กดอนุญาต ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่องได้เหมือนเจ้าของจริง 🎭 วิธีการแพร่กระจาย มัลแวร์นี้ยังคงใช้วิธีปลอมตัวเป็นแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp, Google Photos, TikTok, YouTube รวมถึงบริการท้องถิ่นอย่างแอปแท็กซี่และที่จอดรถในรัสเซีย นอกจากนี้ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางกระจายไฟล์ และมีโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่งที่เลียนแบบแอปต่าง ๆ 🏢 ความเสี่ยงต่อธุรกิจ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากใช้มือถือส่วนตัวทำงาน หากเครื่องติด ClayRat ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง อีเมลบริษัท, แอปแชท, และข้อมูลธุรกิจ ได้ทันที Zimperium พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ที่ถูกปล่อยออกมา แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการโจมตี 🔒 วิธีป้องกัน ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น และตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง โดยเฉพาะ Accessibility Services ก่อนอนุญาต หากพบพฤติกรรมผิดปกติ เช่น แอปที่ขอสิทธิ์มากเกินไป ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ของ ClayRat ➡️ บันทึกหน้าจอและขโมย PIN/Password ➡️ ปิด Google Play Protect ด้วยหน้าจอปลอม ✅ วิธีแพร่กระจาย ➡️ ปลอมเป็นแอปยอดนิยมและบริการท้องถิ่น ➡️ ใช้ Dropbox และโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่ง ✅ ความเสี่ยงต่อธุรกิจ ➡️ เข้าถึงอีเมลและข้อมูลบริษัทผ่านมือถือพนักงาน ➡️ พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ✅ วิธีป้องกัน ➡️ ติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น ➡️ ตรวจสอบสิทธิ์ Accessibility Services อย่างรอบคอบ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การอนุญาต Accessibility Services โดยไม่ตรวจสอบเสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่อง ⛔ แอปที่ปลอมตัวอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจรั่วไหล https://hackread.com/clayrat-android-spyware-variant-device-control/
    HACKREAD.COM
    New Variant of ClayRat Android Spyware Seize Full Device Control
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 238 Views 0 Reviews
  • “KitKat” แมวผู้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความโกรธต่อเทคโนโลยีในซานฟรานซิสโก

    แมวตัวหนึ่งชื่อ “KitKat” ไม่เพียงแต่เป็นขวัญใจชาวย่าน Mission District ในซานฟรานซิสโก แต่ยังกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวต่อต้านรถยนต์ไร้คนขับ หลังจากเขาถูก Waymo ชนเสียชีวิต เหตุการณ์นี้จุดประกายความโกรธของชุมชนต่อเทคโนโลยีที่พวกเขาไม่ได้ร้องขอ

    KitKat เป็นแมวอายุ 9 ปีที่อาศัยอยู่หน้าร้าน Randa’s Market ใกล้โรงภาพยนตร์ Roxie Theater เขาเป็นที่รักของชาวบ้านจนได้รับฉายาว่า “นายกเทศมนตรีแห่งถนน 16” แต่เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เขาถูกรถ Waymo ชนเสียชีวิตขณะวิ่งออกจากหน้าร้าน

    เหตุการณ์นี้นำไปสู่การจัดชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมให้ KitKat โดยกลุ่ม Small Business Forward และสมาชิกสภา Jackie Fielder ซึ่งเสนอร่างมติให้ประชาชนมีสิทธิ์แบนรถยนต์ไร้คนขับในเขตของตนเอง

    ผู้ประท้วงวิจารณ์ว่า Waymo เป็น “องค์กรไร้หน้า” ที่บ่อนทำลายความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของชุมชน โดยติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ไว้ทั่วรถยนต์ ขณะที่คนขับรถแท็กซี่และผู้ใช้ขนส่งสาธารณะก็ร่วมแสดงความไม่พอใจ เพราะมองว่ารถไร้คนขับกำลังแย่งงานและสร้างความแออัดบนท้องถนน

    แม้จะมีเสียงโต้แย้งจากผู้สนับสนุนเทคโนโลยีที่มองว่ารถไร้คนขับปลอดภัยกว่าคนขับ แต่การเสียชีวิตของ KitKat กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนทางอารมณ์ที่ทำให้ชุมชนลุกขึ้นต่อต้านอย่างจริงจัง

    เหตุการณ์การเสียชีวิตของ KitKat
    ถูก Waymo ชนเสียชีวิตหน้าร้าน Randa’s Market
    เป็นแมวขวัญใจชุมชน มีฉายาว่า “นายกเทศมนตรีแห่งถนน 16”
    จุดกระแสความโกรธต่อเทคโนโลยีที่ไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชน

    การเคลื่อนไหวของชุมชน
    จัดชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมให้ KitKat
    เสนอร่างมติให้ประชาชนมีสิทธิ์แบนรถไร้คนขับในพื้นที่
    คนขับรถแท็กซี่และผู้ใช้ขนส่งสาธารณะร่วมประท้วง
    ชี้ว่ารถไร้คนขับสร้างความแออัดและแย่งงานมนุษย์

    ปฏิกิริยาจาก Waymo
    แสดงความเสียใจและบริจาคเงินให้ศูนย์พักพิงสัตว์
    ยืนยันความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยและความไว้วางใจ

    คำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยี
    รถไร้คนขับอาจสร้างความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ชุมชน
    การติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ทั่วรถอาจละเมิดความเป็นส่วนตัว
    การพัฒนาเทคโนโลยีโดยไม่ฟังเสียงชุมชนอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง
    การไม่ควบคุมการใช้งาน AV อาจส่งผลต่อระบบขนส่งสาธารณะและแรงงานมนุษย์

    เรื่องของ KitKat ไม่ใช่แค่การสูญเสียสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของการตั้งคำถามต่อเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/08/how-a-cat-named-kitkat-became-san-francisco039s-latest-symbol-of-anti-tech-rage
    🐾 “KitKat” แมวผู้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความโกรธต่อเทคโนโลยีในซานฟรานซิสโก แมวตัวหนึ่งชื่อ “KitKat” ไม่เพียงแต่เป็นขวัญใจชาวย่าน Mission District ในซานฟรานซิสโก แต่ยังกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวต่อต้านรถยนต์ไร้คนขับ หลังจากเขาถูก Waymo ชนเสียชีวิต เหตุการณ์นี้จุดประกายความโกรธของชุมชนต่อเทคโนโลยีที่พวกเขาไม่ได้ร้องขอ KitKat เป็นแมวอายุ 9 ปีที่อาศัยอยู่หน้าร้าน Randa’s Market ใกล้โรงภาพยนตร์ Roxie Theater เขาเป็นที่รักของชาวบ้านจนได้รับฉายาว่า “นายกเทศมนตรีแห่งถนน 16” แต่เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เขาถูกรถ Waymo ชนเสียชีวิตขณะวิ่งออกจากหน้าร้าน เหตุการณ์นี้นำไปสู่การจัดชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมให้ KitKat โดยกลุ่ม Small Business Forward และสมาชิกสภา Jackie Fielder ซึ่งเสนอร่างมติให้ประชาชนมีสิทธิ์แบนรถยนต์ไร้คนขับในเขตของตนเอง ผู้ประท้วงวิจารณ์ว่า Waymo เป็น “องค์กรไร้หน้า” ที่บ่อนทำลายความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของชุมชน โดยติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ไว้ทั่วรถยนต์ ขณะที่คนขับรถแท็กซี่และผู้ใช้ขนส่งสาธารณะก็ร่วมแสดงความไม่พอใจ เพราะมองว่ารถไร้คนขับกำลังแย่งงานและสร้างความแออัดบนท้องถนน แม้จะมีเสียงโต้แย้งจากผู้สนับสนุนเทคโนโลยีที่มองว่ารถไร้คนขับปลอดภัยกว่าคนขับ แต่การเสียชีวิตของ KitKat กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนทางอารมณ์ที่ทำให้ชุมชนลุกขึ้นต่อต้านอย่างจริงจัง ✅ เหตุการณ์การเสียชีวิตของ KitKat ➡️ ถูก Waymo ชนเสียชีวิตหน้าร้าน Randa’s Market ➡️ เป็นแมวขวัญใจชุมชน มีฉายาว่า “นายกเทศมนตรีแห่งถนน 16” ➡️ จุดกระแสความโกรธต่อเทคโนโลยีที่ไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชน ✅ การเคลื่อนไหวของชุมชน ➡️ จัดชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมให้ KitKat ➡️ เสนอร่างมติให้ประชาชนมีสิทธิ์แบนรถไร้คนขับในพื้นที่ ➡️ คนขับรถแท็กซี่และผู้ใช้ขนส่งสาธารณะร่วมประท้วง ➡️ ชี้ว่ารถไร้คนขับสร้างความแออัดและแย่งงานมนุษย์ ✅ ปฏิกิริยาจาก Waymo ➡️ แสดงความเสียใจและบริจาคเงินให้ศูนย์พักพิงสัตว์ ➡️ ยืนยันความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยและความไว้วางใจ ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยี ⛔ รถไร้คนขับอาจสร้างความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ชุมชน ⛔ การติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ทั่วรถอาจละเมิดความเป็นส่วนตัว ⛔ การพัฒนาเทคโนโลยีโดยไม่ฟังเสียงชุมชนอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง ⛔ การไม่ควบคุมการใช้งาน AV อาจส่งผลต่อระบบขนส่งสาธารณะและแรงงานมนุษย์ เรื่องของ KitKat ไม่ใช่แค่การสูญเสียสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของการตั้งคำถามต่อเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/08/how-a-cat-named-kitkat-became-san-francisco039s-latest-symbol-of-anti-tech-rage
    0 Comments 0 Shares 517 Views 0 Reviews
  • https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/29/stellantis-ties-up-with-nvidia-uber-to-advance-robotaxi-development

    “สามยักษ์ใหญ่ผนึกกำลัง! Stellantis x Nvidia x Uber ลุยตลาดรถไร้คนขับ”
    ลองนึกภาพรถแท็กซี่ที่ไม่มีคนขับ แต่สามารถพาคุณไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ… นั่นคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง! Stellantis ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากยุโรป ประกาศจับมือกับ Nvidia และ Uber เพื่อพัฒนา “Robotaxi” หรือรถแท็กซี่ไร้คนขับระดับอัตโนมัติขั้นสูง (Level 4) ที่สามารถวิ่งได้โดยไม่ต้องมีคนคอยควบคุมเลย

    การร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การรวมเทคโนโลยี แต่เป็นการรวม “จุดแข็ง” ของแต่ละบริษัท:
    Stellantis มีโรงงานผลิตและความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์
    Nvidia มีระบบ AI และซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
    Uber มีเครือข่ายการให้บริการขนส่งที่ครอบคลุมทั่วโลก

    นอกจากนี้ยังมี Foxconn เข้ามาเสริมทัพด้านอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้รถเหล่านี้มีระบบภายในที่ทันสมัยและเชื่อถือได้

    สาระเพิ่มเติม: รถระดับ Level 4 หมายถึงรถที่สามารถขับเคลื่อนเองได้โดยไม่ต้องมีคนควบคุมในพื้นที่ที่กำหนด เช่น เมืองหรือเส้นทางเฉพาะ ซึ่งต่างจาก Level 3 ที่ยังต้องมีคนคอยดูแลในบางสถานการณ์

    ความร่วมมือระดับโลกเพื่อพัฒนา Robotaxi
    Stellantis จับมือ Nvidia, Uber และ Foxconn
    เป้าหมายคือการสร้างรถไร้คนขับระดับ Level 4

    จุดแข็งของแต่ละบริษัทที่นำมารวมกัน
    Nvidia: ระบบ AI และซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
    Uber: เครือข่ายบริการขนส่งทั่วโลก
    Foxconn: เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง
    Stellantis: ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถยนต์

    เทคโนโลยีที่ใช้ใน Robotaxi
    ระบบ AI ประมวลผลแบบเรียลไทม์
    เซนเซอร์ตรวจจับสิ่งรอบข้าง
    ระบบนำทางอัจฉริยะ

    ความหมายของ Level 4 Autonomy
    รถสามารถขับเคลื่อนเองได้โดยไม่ต้องมีคนควบคุม
    ใช้งานได้ในพื้นที่ที่กำหนด เช่น เมืองหรือเส้นทางเฉพาะ

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    ความปลอดภัยของผู้โดยสารในกรณีฉุกเฉิน
    การรับมือกับสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน เช่น ฝนตกหนักหรือถนนลื่น
    ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้โดยสารที่อาจถูกเก็บผ่านระบบ AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/29/stellantis-ties-up-with-nvidia-uber-to-advance-robotaxi-development
    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/29/stellantis-ties-up-with-nvidia-uber-to-advance-robotaxi-development 🤖🚕 “สามยักษ์ใหญ่ผนึกกำลัง! Stellantis x Nvidia x Uber ลุยตลาดรถไร้คนขับ” ลองนึกภาพรถแท็กซี่ที่ไม่มีคนขับ แต่สามารถพาคุณไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ… นั่นคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง! Stellantis ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากยุโรป ประกาศจับมือกับ Nvidia และ Uber เพื่อพัฒนา “Robotaxi” หรือรถแท็กซี่ไร้คนขับระดับอัตโนมัติขั้นสูง (Level 4) ที่สามารถวิ่งได้โดยไม่ต้องมีคนคอยควบคุมเลย การร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การรวมเทคโนโลยี แต่เป็นการรวม “จุดแข็ง” ของแต่ละบริษัท: 💠 Stellantis มีโรงงานผลิตและความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์ 💠 Nvidia มีระบบ AI และซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ 💠 Uber มีเครือข่ายการให้บริการขนส่งที่ครอบคลุมทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี Foxconn เข้ามาเสริมทัพด้านอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้รถเหล่านี้มีระบบภายในที่ทันสมัยและเชื่อถือได้ 💡 สาระเพิ่มเติม: รถระดับ Level 4 หมายถึงรถที่สามารถขับเคลื่อนเองได้โดยไม่ต้องมีคนควบคุมในพื้นที่ที่กำหนด เช่น เมืองหรือเส้นทางเฉพาะ ซึ่งต่างจาก Level 3 ที่ยังต้องมีคนคอยดูแลในบางสถานการณ์ ✅ ความร่วมมือระดับโลกเพื่อพัฒนา Robotaxi ➡️ Stellantis จับมือ Nvidia, Uber และ Foxconn ➡️ เป้าหมายคือการสร้างรถไร้คนขับระดับ Level 4 ✅ จุดแข็งของแต่ละบริษัทที่นำมารวมกัน ➡️ Nvidia: ระบบ AI และซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ➡️ Uber: เครือข่ายบริการขนส่งทั่วโลก ➡️ Foxconn: เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ➡️ Stellantis: ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถยนต์ ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ใน Robotaxi ➡️ ระบบ AI ประมวลผลแบบเรียลไทม์ ➡️ เซนเซอร์ตรวจจับสิ่งรอบข้าง ➡️ ระบบนำทางอัจฉริยะ ✅ ความหมายของ Level 4 Autonomy ➡️ รถสามารถขับเคลื่อนเองได้โดยไม่ต้องมีคนควบคุม ➡️ ใช้งานได้ในพื้นที่ที่กำหนด เช่น เมืองหรือเส้นทางเฉพาะ ‼️ ความท้าทายและข้อควรระวัง ⛔ ความปลอดภัยของผู้โดยสารในกรณีฉุกเฉิน ⛔ การรับมือกับสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน เช่น ฝนตกหนักหรือถนนลื่น ⛔ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้โดยสารที่อาจถูกเก็บผ่านระบบ AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/29/stellantis-ties-up-with-nvidia-uber-to-advance-robotaxi-development
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Stellantis ties up with Nvidia, Uber to advance robotaxi development
    (Reuters) -Stellantis said on Tuesday it has partnered with Nvidia, Uber and Foxconn to explore the joint development of autonomous vehicles, aiming to tap into the booming demand for self-driving cars.
    0 Comments 0 Shares 271 Views 0 Reviews
  • "เขมรอยู่ยาก" ในเกาหลีใต้ เรียกแท็กซี่แต่ขับไปส่ง สน. เฉย! (22/10/68)

    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #เกาหลีใต้ #กัมพูชา #สแกมเมอร์ #แรงงานต่างด้าว #ข่าวต่างประเทศ #ข่าววันนี้ #ข่าวร้อน #newsupdate #ข่าวtiktok
    "เขมรอยู่ยาก" ในเกาหลีใต้ เรียกแท็กซี่แต่ขับไปส่ง สน. เฉย! (22/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #เกาหลีใต้ #กัมพูชา #สแกมเมอร์ #แรงงานต่างด้าว #ข่าวต่างประเทศ #ข่าววันนี้ #ข่าวร้อน #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 0 Reviews
  • บทเรียนจาก แท็กซี่พลเมืองดี ‘เรื่องผัวเมีย’ คนนอกยุ่งได้ กม.ให้สิทธิ์ถ้าใช้ความรุนแรง : ถอนหมุดข่าว 14-10-68
    บทเรียนจาก แท็กซี่พลเมืองดี ‘เรื่องผัวเมีย’ คนนอกยุ่งได้ กม.ให้สิทธิ์ถ้าใช้ความรุนแรง : ถอนหมุดข่าว 14-10-68
    0 Comments 0 Shares 250 Views 0 0 Reviews
  • ผู้โดยสารขึ้นรถแท็กซี่สุดงง! แค่ไม่กี่นาทีมิเตอร์แท็กซี่พุ่งเร็วเกินจริง?
    ผู้โดยสารขึ้นรถแท็กซี่สุดงง! แค่ไม่กี่นาทีมิเตอร์แท็กซี่พุ่งเร็วเกินจริง?
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 245 Views 0 0 Reviews
  • “Samsung หั่นราคาชิป 2nm ลง 33% — เปิดเกมรุก TSMC หวังพลิกสถานการณ์โรงงานว่าง”

    Samsung Foundry กำลังเดินเกมรุกครั้งใหญ่ในตลาดการผลิตชิประดับสูง ด้วยการลดราคาชิป 2nm ลงเหลือเพียง 20,000 ดอลลาร์ต่อแผ่นเวเฟอร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาของ TSMC ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 30,000 ดอลลาร์ถึง 33% การลดราคาครั้งนี้ไม่ใช่แค่กลยุทธ์การตลาด แต่เป็นความพยายามของ Samsung ในการเติมเต็มกำลังการผลิตที่ยังว่างอยู่ในโรงงานที่ลงทุนไปหลายพันล้านดอลลาร์ทั้งในเกาหลีใต้และสหรัฐฯ

    แม้ TSMC จะยังครองตลาดด้วยลูกค้ารายใหญ่ เช่น NVIDIA และ AMD ที่เลือกใช้เทคโนโลยี 2nm ของ TSMC สำหรับชิปยุคถัดไป แต่ Samsung ก็เริ่มเห็นผลจากกลยุทธ์ลดราคา โดยสามารถคว้าดีลมูลค่า 16.5 พันล้านดอลลาร์กับ Tesla สำหรับการผลิตชิป AI รุ่นใหม่ที่ใช้ในระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติและรถแท็กซี่ไร้คนขับของ Tesla2

    นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า Samsung อาจได้รับงานผลิตชิปสำหรับโครงการ xAI ของ Elon Musk ด้วย ซึ่งจะเป็นการขยายบทบาทของ Samsung ในตลาด AI hardware ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    แม้จะมีความคืบหน้า แต่ Samsung ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านคุณภาพและ yield rate โดยรายงานล่าสุดระบุว่าอัตราการผลิตสำเร็จของชิป 2nm อยู่ที่ประมาณ 40% และตั้งเป้าไว้ที่ 60% ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งยังต่ำกว่ามาตรฐานของ TSMC ที่มี yield สูงกว่า 80% ในหลายรุ่น

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Samsung ลดราคาชิป 2nm เหลือ 20,000 ดอลลาร์ต่อเวเฟอร์ ต่ำกว่า TSMC ถึง 33%
    เป็นกลยุทธ์เพื่อดึงลูกค้าเข้าสู่กำลังการผลิตที่ยังว่างในโรงงานที่ลงทุนไปหลายพันล้านดอลลาร์
    TSMC ยังคงครองตลาดด้วยลูกค้ารายใหญ่ เช่น NVIDIA และ AMD
    Samsung ได้ดีลมูลค่า 16.5 พันล้านดอลลาร์กับ Tesla สำหรับชิป AI รุ่นใหม่
    มีแนวโน้มว่า Samsung อาจผลิตชิปให้กับโครงการ xAI ของ Elon Musk
    Yield rate ของชิป 2nm ของ Samsung อยู่ที่ประมาณ 40% และตั้งเป้าไว้ที่ 60% ภายในสิ้นปี
    Samsung ใช้เทคโนโลยี Gate-All-Around (GAA) ในการพัฒนา node 2nm
    โรงงานในเท็กซัสของ Samsung เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการผลิตชิปในสหรัฐฯ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การผลิตชิประดับ 2nm ต้องใช้เทคโนโลยี lithography ขั้นสูง เช่น EUV (Extreme Ultraviolet)
    Yield rate ต่ำหมายถึงต้นทุนต่อชิปสูงขึ้น แม้ราคาต่อเวเฟอร์จะถูกลง
    TSMC มีส่วนแบ่งตลาดการผลิตชิประดับสูงมากกว่า 67% ขณะที่ Samsung อยู่ที่ประมาณ 7.7%
    การแข่งขันด้านราคาสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ แต่ต้องแลกกับ margin ที่ลดลง
    Tesla และ xAI เป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด AI ที่ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงและผลิตในสหรัฐฯ

    https://www.techpowerup.com/341465/samsung-cuts-2-nm-node-pricing-by-33-in-tsmc-competition-push
    💥 “Samsung หั่นราคาชิป 2nm ลง 33% — เปิดเกมรุก TSMC หวังพลิกสถานการณ์โรงงานว่าง” Samsung Foundry กำลังเดินเกมรุกครั้งใหญ่ในตลาดการผลิตชิประดับสูง ด้วยการลดราคาชิป 2nm ลงเหลือเพียง 20,000 ดอลลาร์ต่อแผ่นเวเฟอร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาของ TSMC ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 30,000 ดอลลาร์ถึง 33% การลดราคาครั้งนี้ไม่ใช่แค่กลยุทธ์การตลาด แต่เป็นความพยายามของ Samsung ในการเติมเต็มกำลังการผลิตที่ยังว่างอยู่ในโรงงานที่ลงทุนไปหลายพันล้านดอลลาร์ทั้งในเกาหลีใต้และสหรัฐฯ แม้ TSMC จะยังครองตลาดด้วยลูกค้ารายใหญ่ เช่น NVIDIA และ AMD ที่เลือกใช้เทคโนโลยี 2nm ของ TSMC สำหรับชิปยุคถัดไป แต่ Samsung ก็เริ่มเห็นผลจากกลยุทธ์ลดราคา โดยสามารถคว้าดีลมูลค่า 16.5 พันล้านดอลลาร์กับ Tesla สำหรับการผลิตชิป AI รุ่นใหม่ที่ใช้ในระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติและรถแท็กซี่ไร้คนขับของ Tesla2 นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า Samsung อาจได้รับงานผลิตชิปสำหรับโครงการ xAI ของ Elon Musk ด้วย ซึ่งจะเป็นการขยายบทบาทของ Samsung ในตลาด AI hardware ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้จะมีความคืบหน้า แต่ Samsung ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านคุณภาพและ yield rate โดยรายงานล่าสุดระบุว่าอัตราการผลิตสำเร็จของชิป 2nm อยู่ที่ประมาณ 40% และตั้งเป้าไว้ที่ 60% ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งยังต่ำกว่ามาตรฐานของ TSMC ที่มี yield สูงกว่า 80% ในหลายรุ่น ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Samsung ลดราคาชิป 2nm เหลือ 20,000 ดอลลาร์ต่อเวเฟอร์ ต่ำกว่า TSMC ถึง 33% ➡️ เป็นกลยุทธ์เพื่อดึงลูกค้าเข้าสู่กำลังการผลิตที่ยังว่างในโรงงานที่ลงทุนไปหลายพันล้านดอลลาร์ ➡️ TSMC ยังคงครองตลาดด้วยลูกค้ารายใหญ่ เช่น NVIDIA และ AMD ➡️ Samsung ได้ดีลมูลค่า 16.5 พันล้านดอลลาร์กับ Tesla สำหรับชิป AI รุ่นใหม่ ➡️ มีแนวโน้มว่า Samsung อาจผลิตชิปให้กับโครงการ xAI ของ Elon Musk ➡️ Yield rate ของชิป 2nm ของ Samsung อยู่ที่ประมาณ 40% และตั้งเป้าไว้ที่ 60% ภายในสิ้นปี ➡️ Samsung ใช้เทคโนโลยี Gate-All-Around (GAA) ในการพัฒนา node 2nm ➡️ โรงงานในเท็กซัสของ Samsung เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการผลิตชิปในสหรัฐฯ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การผลิตชิประดับ 2nm ต้องใช้เทคโนโลยี lithography ขั้นสูง เช่น EUV (Extreme Ultraviolet) ➡️ Yield rate ต่ำหมายถึงต้นทุนต่อชิปสูงขึ้น แม้ราคาต่อเวเฟอร์จะถูกลง ➡️ TSMC มีส่วนแบ่งตลาดการผลิตชิประดับสูงมากกว่า 67% ขณะที่ Samsung อยู่ที่ประมาณ 7.7% ➡️ การแข่งขันด้านราคาสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ แต่ต้องแลกกับ margin ที่ลดลง ➡️ Tesla และ xAI เป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด AI ที่ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงและผลิตในสหรัฐฯ https://www.techpowerup.com/341465/samsung-cuts-2-nm-node-pricing-by-33-in-tsmc-competition-push
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Samsung Cuts 2 nm Node Pricing by 33% in TSMC Competition Push
    Samsung has cut its 2 nm wafer prices to $20,000 offering a 33% discount compared to TSMC's expected $30,000 per wafer cost, industry reports say. The company aims to draw customers to its underused advanced manufacturing capacity. The Korean chipmaker faces big pressure to get returns on billions i...
    0 Comments 0 Shares 371 Views 0 Reviews
  • นักเดินทางสะดุ้งแน่! “สนามบินดอนเมือง” ปรับขึ้น **ค่าจอดรถกว่าเท่าตัว** เริ่ม 1 ธ.ค. 2568 นี้
    สรุปอัตราใหม่
    * 1 ชม. → 25 บาท (เดิม 20)
    * 2 ชม. → 50 บาท (เดิม 20)
    * 3 ชม. → 80 บาท (เดิม 20)
    * 4 ชม. → 110 บาท (เดิม 40)
    * 5 ชม. → 145 บาท (เดิม 60)
    * 6 ชม. → 180 บาท (เดิม 80)
    * 7–24 ชม. → 250 บาท (เดิม 110)
    นอกจากนี้ยัง ปัดเศษนาทีเป็นชั่วโมงเต็ม เพิ่มความเข้มข้นอีกด้วย
    ผู้โดยสารควรเผื่อแผนการเดินทางและค่าใช้จ่ายล่วงหน้า หรือหันไปใช้ ขนส่งสาธารณะ/แท็กซี่/รถตู้สนามบิน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
    #สนามบินดอนเมือง #ค่าจอดรถ #เดินทางต้องรู้ #เที่ยวบินดอนเมือง
    😲 นักเดินทางสะดุ้งแน่! “สนามบินดอนเมือง” ปรับขึ้น **ค่าจอดรถกว่าเท่าตัว** เริ่ม 1 ธ.ค. 2568 นี้ 🚗💸 📌 สรุปอัตราใหม่ * 1 ชม. → 25 บาท (เดิม 20) * 2 ชม. → 50 บาท (เดิม 20) * 3 ชม. → 80 บาท (เดิม 20) * 4 ชม. → 110 บาท (เดิม 40) * 5 ชม. → 145 บาท (เดิม 60) * 6 ชม. → 180 บาท (เดิม 80) * 7–24 ชม. → 250 บาท (เดิม 110) ⏱️ นอกจากนี้ยัง ปัดเศษนาทีเป็นชั่วโมงเต็ม เพิ่มความเข้มข้นอีกด้วย ✈️ ผู้โดยสารควรเผื่อแผนการเดินทางและค่าใช้จ่ายล่วงหน้า หรือหันไปใช้ 🚆🚖 ขนส่งสาธารณะ/แท็กซี่/รถตู้สนามบิน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย #สนามบินดอนเมือง #ค่าจอดรถ #เดินทางต้องรู้ #เที่ยวบินดอนเมือง
    0 Comments 0 Shares 591 Views 0 Reviews
  • จุดไฟเผาชาวมาเลย์ฯ สะเทือนท่องเที่ยวไทย

    นักท่องเที่ยวชาย-หญิง ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ถูกนายวรากร พับไธสง อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว ใช้ทินเนอร์บรรจุขวดพลาสติก 1.5 ลิตรสาดใส่ ก่อนจุดไฟเผาแล้ววิ่งหนี เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายวรากรวิ่งหลบหนีแต่พลเมืองดีตามจับตัวเอาไว้ได้ เหตุเกิดที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวอ้างว่าที่ก่อเหตุเพราะความเครียด ตกงาน ไม่มีรายได้ ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักมวย ไปสมัครงานเป็น รปภ. แต่เพิ่งถูกให้ออกจากงาน ออกมาหางานทำแต่ไม่มีใครรับเข้าทำงาน อีกทั้งยังไม่ได้กินข้าว ทำให้เครียดหนัก

    ทางการไทยยังคงมาตรการวัวหายแล้วล้อมคอกอีกตามเคย เกิดเหตุสะเทือนขวัญทีออกมาขยับที นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งๆ ที่ย่านราชประสงค์เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ควรที่จะรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่สภาพที่แท้จริงเต็มไปด้วยความไร้ระเบียบ แท็กซี่และรถสามล้อครองถนนเบียดบังรถประจำทาง โก่งราคาเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ยิ่งในยามค่ำคืนหลัง 4 ทุ่มมีสภาพวังเวง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความปลอดภัยที่หย่อนยาน และไม่มีใครแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน

    ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาเลเซีย เดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นอันดับสอง ด้วยตัวเลขในปี 2567 จำนวน 4.95 ล้านคน รองจากนักท่องเที่ยวจีน 6.73 ล้านคน และปัจจุบัน 8 เดือนแรกของปี 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 2.70 ล้านคน ใกล้เคียงกับนักท่องเที่ยวจีน 2.73 ล้านคน ข่าวที่เกิดขึ้นถูกตีพิมพ์ในสื่อยักษ์ใหญ่ของมาเลเซีย ทั้ง The Star, New Straits Times และอีกหลายสำนัก คอมเมนต์ชาวมาเลเซียบอกเล่าประสบการณ์ว่าประเทศไทยเต็มไปด้วยอันตราย เช่น มีมิจฉาชีพล้อมหน้าล้อมหลัง มีรถตุ๊กตุ๊กขอเงินเพิ่มแล้วพอตกลงกันไม่ได้ก็ทิ้งไว้กลางทาง มีแท็กซี่ขับออกนอกเส้นทาง และอีกสารพัดพฤติกรรม

    ในสภาวะที่บ้านเมืองอยู่ในสภาวะสูญญากาศ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่มีสถานะไม่มั่นคง กำลังจะถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาในเร็ววันนี้ ขณะที่ความมั่นคงของประเทศสั่นสะเทือนจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ส่งผลไปถึงความหย่อนยานในหลายภาคส่วนทั้งเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงการท่องเที่ยว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือแต่ละภาคส่วนต้องดูแลกันเอง พึ่งพารัฐบาลให้น้อยที่สุด เพราะประชาชนส่วนหนึ่งไม่เชื่อฟังรัฐบาลแล้ว จนกว่าการเมืองจะกลับมามีเสถียรภาพ หรือมีรัฐบาลชุดใหม่ที่ชัดเจนกว่านี้

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 2568)
    จุดไฟเผาชาวมาเลย์ฯ สะเทือนท่องเที่ยวไทย นักท่องเที่ยวชาย-หญิง ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ถูกนายวรากร พับไธสง อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว ใช้ทินเนอร์บรรจุขวดพลาสติก 1.5 ลิตรสาดใส่ ก่อนจุดไฟเผาแล้ววิ่งหนี เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายวรากรวิ่งหลบหนีแต่พลเมืองดีตามจับตัวเอาไว้ได้ เหตุเกิดที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวอ้างว่าที่ก่อเหตุเพราะความเครียด ตกงาน ไม่มีรายได้ ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักมวย ไปสมัครงานเป็น รปภ. แต่เพิ่งถูกให้ออกจากงาน ออกมาหางานทำแต่ไม่มีใครรับเข้าทำงาน อีกทั้งยังไม่ได้กินข้าว ทำให้เครียดหนัก ทางการไทยยังคงมาตรการวัวหายแล้วล้อมคอกอีกตามเคย เกิดเหตุสะเทือนขวัญทีออกมาขยับที นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งๆ ที่ย่านราชประสงค์เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ควรที่จะรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่สภาพที่แท้จริงเต็มไปด้วยความไร้ระเบียบ แท็กซี่และรถสามล้อครองถนนเบียดบังรถประจำทาง โก่งราคาเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ยิ่งในยามค่ำคืนหลัง 4 ทุ่มมีสภาพวังเวง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความปลอดภัยที่หย่อนยาน และไม่มีใครแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาเลเซีย เดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นอันดับสอง ด้วยตัวเลขในปี 2567 จำนวน 4.95 ล้านคน รองจากนักท่องเที่ยวจีน 6.73 ล้านคน และปัจจุบัน 8 เดือนแรกของปี 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 2.70 ล้านคน ใกล้เคียงกับนักท่องเที่ยวจีน 2.73 ล้านคน ข่าวที่เกิดขึ้นถูกตีพิมพ์ในสื่อยักษ์ใหญ่ของมาเลเซีย ทั้ง The Star, New Straits Times และอีกหลายสำนัก คอมเมนต์ชาวมาเลเซียบอกเล่าประสบการณ์ว่าประเทศไทยเต็มไปด้วยอันตราย เช่น มีมิจฉาชีพล้อมหน้าล้อมหลัง มีรถตุ๊กตุ๊กขอเงินเพิ่มแล้วพอตกลงกันไม่ได้ก็ทิ้งไว้กลางทาง มีแท็กซี่ขับออกนอกเส้นทาง และอีกสารพัดพฤติกรรม ในสภาวะที่บ้านเมืองอยู่ในสภาวะสูญญากาศ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่มีสถานะไม่มั่นคง กำลังจะถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาในเร็ววันนี้ ขณะที่ความมั่นคงของประเทศสั่นสะเทือนจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ส่งผลไปถึงความหย่อนยานในหลายภาคส่วนทั้งเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงการท่องเที่ยว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือแต่ละภาคส่วนต้องดูแลกันเอง พึ่งพารัฐบาลให้น้อยที่สุด เพราะประชาชนส่วนหนึ่งไม่เชื่อฟังรัฐบาลแล้ว จนกว่าการเมืองจะกลับมามีเสถียรภาพ หรือมีรัฐบาลชุดใหม่ที่ชัดเจนกว่านี้ #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 2568)
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1035 Views 0 Reviews
  • แค้นสะสม! ตำรวจสรุปเหตุยิงกลาง อตก. ดับ 6 ศพ เจ็บ 2 ปมขัดแย้งส่วนตัวกับ รปภ. ไม่เกี่ยวกับเหตุชายแดน ผบช.น.ยันไม่ใช่วินาศกรรม มือปืนจี้แท็กซี่มาก่อเหตุ ก่อนยิงตัวตายตาม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071468

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    แค้นสะสม! ตำรวจสรุปเหตุยิงกลาง อตก. ดับ 6 ศพ เจ็บ 2 ปมขัดแย้งส่วนตัวกับ รปภ. ไม่เกี่ยวกับเหตุชายแดน ผบช.น.ยันไม่ใช่วินาศกรรม มือปืนจี้แท็กซี่มาก่อเหตุ ก่อนยิงตัวตายตาม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071468 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 574 Views 0 Reviews
  • KLIA Aerotrain รถไฟฟ้าสนามบินเคแอลกลับมาแล้ว

    ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเปิดให้บริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติที่ชื่อว่า KLIA Aerotrain อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 เชื่อมระหว่างอาคาร 1 (Terminal 1) กับอาคารผู้โดยสารรอง (Sattlelite) ซึ่งมีเที่ยวบินเส้นทางระยะไกลจำนวนมาก หลังบริษัท มาเลเซีย แอร์พอร์ต โฮลดิ้ง เบอร์ฮัด (MAHB) ผู้บริหารสนามบินตัดสินใจปิดปรับปรุงยาวนานกว่า 28 เดือน ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างสองอาคาร ต้องไปขึ้นรถบัสที่ทางสนามบินจัดเตรียมไว้ให้ และเสียเวลาเดินทางมากกว่าปกติ

    KLIA Aerotrain เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2541 พร้อมกับการย้ายสนามบิน จากท่าอากาศยานสุลต่านอับดุลอาซิซชาห์ (SZB) โดยใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับแอดทรานซ์ (Adtranz) รุ่น CX-100 จำนวน 3 คัน แนวเส้นทางจะลอดทางขับเครื่องบิน (แท็กซี่เวย์) ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาขัดข้องบ่อยครั้ง หนักที่สุดคือวันที่ 1 มี.ค. 2566 ขบวนรถขัดข้อง มีผู้โดยสาร 114 คนติดค้าง ทำให้ MAHB ตัดสินใจหยุดให้บริการชั่วคราวเป็นต้นมา

    MAHB ปรับปรุง KLIA Aerotrain ใหม่ ด้วยงบลงทุน 456 ล้านริงกิต เปลี่ยนมาใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับ อัลสตอม (Alstom) รุ่นอินโนเวีย เอพีเอ็ม 300 อาร์ (Innovia APM 300R) มีทั้งหมด 3 คัน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 270 คนต่อเที่ยว เดินรถด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางระหว่างสองอาคารเหลือเพียง 3 นาที ผ่านการทดสอบและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดหวังว่าจะทำให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคชั้นนำในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 100,000 คนต่อวัน และต้อนรับปีการท่องเที่ยวมาเลเซีย หรือ Visit Malaysia 2026

    ข้อมูลจาก CAPA Centre for Aviation พบว่าในปี 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 57.1 ล้านคน ข้อมูลจาก Flightradar 24 พบว่ามีเที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยังสิงคโปร์ (SIN) มากที่สุดถึง 270 เที่ยวบิน ตามมาด้วยจาการ์ตา (CGK) 184 เที่ยวบิน โกตากินาบาลู (BKI) 172 เที่ยวบิน กูชิง (KCH) 152 เที่ยวบิน ปีนัง (PEN) 143 เที่ยวบิน ลังกาวี (LGK) 132 เที่ยวบิน บาหลี (DPS) 105 เที่ยวบิน ยะโฮร์บาห์รู (JHB) 87 เที่ยวบิน กว่างโจว (CAN) 83 เที่ยวบินและโกตาบาห์รู (KBR) 80 เที่ยวบิน

    อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมี 4 ประเทศที่มีระบบขนส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา อินโดนีเซีย และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

    #Newskit
    KLIA Aerotrain รถไฟฟ้าสนามบินเคแอลกลับมาแล้ว ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเปิดให้บริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติที่ชื่อว่า KLIA Aerotrain อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 เชื่อมระหว่างอาคาร 1 (Terminal 1) กับอาคารผู้โดยสารรอง (Sattlelite) ซึ่งมีเที่ยวบินเส้นทางระยะไกลจำนวนมาก หลังบริษัท มาเลเซีย แอร์พอร์ต โฮลดิ้ง เบอร์ฮัด (MAHB) ผู้บริหารสนามบินตัดสินใจปิดปรับปรุงยาวนานกว่า 28 เดือน ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างสองอาคาร ต้องไปขึ้นรถบัสที่ทางสนามบินจัดเตรียมไว้ให้ และเสียเวลาเดินทางมากกว่าปกติ KLIA Aerotrain เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2541 พร้อมกับการย้ายสนามบิน จากท่าอากาศยานสุลต่านอับดุลอาซิซชาห์ (SZB) โดยใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับแอดทรานซ์ (Adtranz) รุ่น CX-100 จำนวน 3 คัน แนวเส้นทางจะลอดทางขับเครื่องบิน (แท็กซี่เวย์) ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาขัดข้องบ่อยครั้ง หนักที่สุดคือวันที่ 1 มี.ค. 2566 ขบวนรถขัดข้อง มีผู้โดยสาร 114 คนติดค้าง ทำให้ MAHB ตัดสินใจหยุดให้บริการชั่วคราวเป็นต้นมา MAHB ปรับปรุง KLIA Aerotrain ใหม่ ด้วยงบลงทุน 456 ล้านริงกิต เปลี่ยนมาใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับ อัลสตอม (Alstom) รุ่นอินโนเวีย เอพีเอ็ม 300 อาร์ (Innovia APM 300R) มีทั้งหมด 3 คัน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 270 คนต่อเที่ยว เดินรถด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางระหว่างสองอาคารเหลือเพียง 3 นาที ผ่านการทดสอบและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดหวังว่าจะทำให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคชั้นนำในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 100,000 คนต่อวัน และต้อนรับปีการท่องเที่ยวมาเลเซีย หรือ Visit Malaysia 2026 ข้อมูลจาก CAPA Centre for Aviation พบว่าในปี 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 57.1 ล้านคน ข้อมูลจาก Flightradar 24 พบว่ามีเที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยังสิงคโปร์ (SIN) มากที่สุดถึง 270 เที่ยวบิน ตามมาด้วยจาการ์ตา (CGK) 184 เที่ยวบิน โกตากินาบาลู (BKI) 172 เที่ยวบิน กูชิง (KCH) 152 เที่ยวบิน ปีนัง (PEN) 143 เที่ยวบิน ลังกาวี (LGK) 132 เที่ยวบิน บาหลี (DPS) 105 เที่ยวบิน ยะโฮร์บาห์รู (JHB) 87 เที่ยวบิน กว่างโจว (CAN) 83 เที่ยวบินและโกตาบาห์รู (KBR) 80 เที่ยวบิน อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมี 4 ประเทศที่มีระบบขนส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา อินโดนีเซีย และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย #Newskit
    0 Comments 0 Shares 914 Views 0 Reviews
  • ถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน ทางเข้าใหม่สนามบินดอนเมือง

    08.00 น. วันอาทิตย์ที่ 29 มิ.ย. กรุงเทพมหานคร จะเปิดใช้โครงการทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีกับถนนพหลโยธิน เชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิต ไปยังถนนพหลโยธินและถนนเทพรักษ์ ระยะทาง 2.768 กิโลเมตร งบประมาณ 1,551.65 ล้านบาท หลังเริ่มต้นก่อสร้างตั้งแต่ต้นปี 2564 โดยผู้รับเหมาสองบริษัท ได้แก่ บริษัท สระหลวงก่อสร้าง จำกัด และบริษัท พรรณีวรกิจก่อสร้างและขนส่ง จำกัด แต่ล่าช้าจากบ้านเรือนรุกล้ำคลองถนน ท่ามกลางการเติบโตของเมือง หลังเปิดใช้ถนนเทพรักษ์เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2558 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เมื่อปี 2563

    จุดเริ่มต้นถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน อยู่ที่ด้านทิศใต้ของท่าอากาศยานดอนเมือง เลยร้านเจ้เล้งมาเล็กน้อย มีทางเชื่อมไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก ไปยังอาคารคลังสินค้าท่าอากาศยานดอนเมือง ต่อเนื่องไปยังอาคารผู้โดยสาร จากนั้นจะมีทางแยกต่างระดับ แยกซ้ายไปถนนพหลโยธิน แยกขวาไปถนนเทพรักษ์ ข้ามคลองถนน รถที่มาจากถนนวิภาวดีรังสิตขาออก สามารถใช้จุดกลับรถอาคารคลังสินค้าเพื่อใช้ถนนตัดใหม่ได้ รถที่มาจากถนนพหลโยธินและถนนเทพรักษ์ สามารถใช้ถนนตัดใหม่ เพื่อไปออกถนนวิภาวดีรังสิต รวมทั้งไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก เพื่อไปท่าอากาศยานดอนเมืองได้

    เดิมคนที่จะไปสนามบินดอนเมือง ส่วนใหญ่ใช้ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นหลัก ส่วนคนที่อยู่โซนสะพานใหม่ สายไหม ลำลูกกา วัชรพล ต้องอ้อมไปใช้ถนนแจ้งวัฒนะ หรืออนุสรณ์สถานแห่งชาติ ซึ่งหากเป็นรถแท็กซี่จะเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเพราะต้องอ้อมและไกล ส่วนถนนธูปะเตมีย์ เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธิน บริเวณแยก คปอ. กับถนนวิภาวดีรังสิต เนื่องจากเป็นพื้นที่กองทัพอากาศ จึงอนุญาตให้เฉพาะรถยนต์ที่มีสติกเกอร์บัตรผ่านยานพาหนะเข้า-ออก เขตพื้นที่กองทัพอากาศเท่านั้น นอกนั้นเปิดเฉพาะช่วงเช้า 06.00-09.00 น. และช่วงเย็น 15.00-18.00 น. แต่ไม่อนุญาตให้รถโดยสารและรถรับจ้างสาธารณะใช้งาน

    ถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน ออกแบบบริเวณแยกห้างบิ๊กซีสะพานใหม่ ให้เป็นทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟ เพื่อให้การจราจรลื่นไหลได้สะดวก โดยรถที่มาจากถนนเทพรักษ์สามารถขึ้นสะพานข้ามแยกได้เลย รวมทั้งการก่อสร้างสะพานข้ามไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก เพื่อเข้าสู่ท่าอากาศยานดอนเมือง ช่วยแบ่งเบาการจราจรบริเวณถนนพหลโยธิน และถนนเทพรักษ์ ให้สามารถออกไปยังถนนวิภาวดีรังสิต และท่าอากาศยานดอนเมืองได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส จะไปท่าอากาศยานดอนเมือง สามารถลงที่สถานีสายหยุดแล้วต่อรถแท็กซี่เข้าไปยังถนนสายใหม่ ช่วยประหยัดเวลามากขึ้น

    #Newskit
    ถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน ทางเข้าใหม่สนามบินดอนเมือง 08.00 น. วันอาทิตย์ที่ 29 มิ.ย. กรุงเทพมหานคร จะเปิดใช้โครงการทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีกับถนนพหลโยธิน เชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิต ไปยังถนนพหลโยธินและถนนเทพรักษ์ ระยะทาง 2.768 กิโลเมตร งบประมาณ 1,551.65 ล้านบาท หลังเริ่มต้นก่อสร้างตั้งแต่ต้นปี 2564 โดยผู้รับเหมาสองบริษัท ได้แก่ บริษัท สระหลวงก่อสร้าง จำกัด และบริษัท พรรณีวรกิจก่อสร้างและขนส่ง จำกัด แต่ล่าช้าจากบ้านเรือนรุกล้ำคลองถนน ท่ามกลางการเติบโตของเมือง หลังเปิดใช้ถนนเทพรักษ์เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2558 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เมื่อปี 2563 จุดเริ่มต้นถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน อยู่ที่ด้านทิศใต้ของท่าอากาศยานดอนเมือง เลยร้านเจ้เล้งมาเล็กน้อย มีทางเชื่อมไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก ไปยังอาคารคลังสินค้าท่าอากาศยานดอนเมือง ต่อเนื่องไปยังอาคารผู้โดยสาร จากนั้นจะมีทางแยกต่างระดับ แยกซ้ายไปถนนพหลโยธิน แยกขวาไปถนนเทพรักษ์ ข้ามคลองถนน รถที่มาจากถนนวิภาวดีรังสิตขาออก สามารถใช้จุดกลับรถอาคารคลังสินค้าเพื่อใช้ถนนตัดใหม่ได้ รถที่มาจากถนนพหลโยธินและถนนเทพรักษ์ สามารถใช้ถนนตัดใหม่ เพื่อไปออกถนนวิภาวดีรังสิต รวมทั้งไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก เพื่อไปท่าอากาศยานดอนเมืองได้ เดิมคนที่จะไปสนามบินดอนเมือง ส่วนใหญ่ใช้ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นหลัก ส่วนคนที่อยู่โซนสะพานใหม่ สายไหม ลำลูกกา วัชรพล ต้องอ้อมไปใช้ถนนแจ้งวัฒนะ หรืออนุสรณ์สถานแห่งชาติ ซึ่งหากเป็นรถแท็กซี่จะเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเพราะต้องอ้อมและไกล ส่วนถนนธูปะเตมีย์ เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธิน บริเวณแยก คปอ. กับถนนวิภาวดีรังสิต เนื่องจากเป็นพื้นที่กองทัพอากาศ จึงอนุญาตให้เฉพาะรถยนต์ที่มีสติกเกอร์บัตรผ่านยานพาหนะเข้า-ออก เขตพื้นที่กองทัพอากาศเท่านั้น นอกนั้นเปิดเฉพาะช่วงเช้า 06.00-09.00 น. และช่วงเย็น 15.00-18.00 น. แต่ไม่อนุญาตให้รถโดยสารและรถรับจ้างสาธารณะใช้งาน ถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน ออกแบบบริเวณแยกห้างบิ๊กซีสะพานใหม่ ให้เป็นทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟ เพื่อให้การจราจรลื่นไหลได้สะดวก โดยรถที่มาจากถนนเทพรักษ์สามารถขึ้นสะพานข้ามแยกได้เลย รวมทั้งการก่อสร้างสะพานข้ามไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก เพื่อเข้าสู่ท่าอากาศยานดอนเมือง ช่วยแบ่งเบาการจราจรบริเวณถนนพหลโยธิน และถนนเทพรักษ์ ให้สามารถออกไปยังถนนวิภาวดีรังสิต และท่าอากาศยานดอนเมืองได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส จะไปท่าอากาศยานดอนเมือง สามารถลงที่สถานีสายหยุดแล้วต่อรถแท็กซี่เข้าไปยังถนนสายใหม่ ช่วยประหยัดเวลามากขึ้น #Newskit
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 912 Views 0 Reviews
  • Tesla เตรียมเปิดตัวบริการ Robotaxi ใน Austin เดือนนี้
    Elon Musk ได้ประกาศว่า Tesla พร้อมเปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ใน Austin, Texas โดยกำหนดวันเปิดตัว เบื้องต้นเป็นวันที่ 22 มิถุนายน แต่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจาก Tesla ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

    Tesla ได้เผยแพร่ วิดีโอของรถ Model Y ที่ขับเคลื่อนเองบนถนนใน Austin โดยรถเหล่านี้มี คำว่า "Robotaxi" ติดอยู่ด้านข้าง และไม่มีคนขับอยู่หลังพวงมาลัย

    ข้อมูลจากข่าว
    - Tesla เตรียมเปิดตัวบริการ Robotaxi ใน Austin วันที่ 22 มิถุนายน
    - Elon Musk ระบุว่าการเปิดตัวอาจเลื่อนออกไปเพื่อความปลอดภัย
    - Tesla วางแผนให้รถ Model Y ขับเคลื่อนเองจากโรงงานไปยังบ้านลูกค้าเป็นครั้งแรกในวันที่ 28 มิถุนายน
    - การเปิดตัวครั้งแรกจะจำกัดจำนวนรถเพียง 10-20 คัน ก่อนขยายไปยังเมืองอื่น ๆ เช่น Los Angeles และ San Francisco
    - Tesla ใช้เทคโนโลยี geofencing เพื่อให้ Robotaxi วิ่งเฉพาะในพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด

    การแข่งขันในตลาด Robotaxi
    Austin กลายเป็น ศูนย์กลางการทดสอบรถแท็กซี่ไร้คนขับ โดยมีบริษัทอื่น ๆ เช่น Waymo และ Zoox ที่กำลังดำเนินการทดสอบในเมืองนี้

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Tesla ยังต้องพิสูจน์ว่า Robotaxi สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยในสภาพแวดล้อมจริง
    - Waymo และ Zoox มีข้อได้เปรียบในการให้บริการเชิงพาณิชย์มาก่อน Tesla
    - Tesla ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบและการยอมรับจากสาธารณะ
    - ต้องติดตามว่าการเปิดตัว Robotaxi จะส่งผลต่อยอดขายรถยนต์ Tesla อย่างไร

    https://www.techspot.com/news/108273-tesla-robotaxi-service-launch-june-22-austin.html
    🚖 Tesla เตรียมเปิดตัวบริการ Robotaxi ใน Austin เดือนนี้ Elon Musk ได้ประกาศว่า Tesla พร้อมเปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ใน Austin, Texas โดยกำหนดวันเปิดตัว เบื้องต้นเป็นวันที่ 22 มิถุนายน แต่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจาก Tesla ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก Tesla ได้เผยแพร่ วิดีโอของรถ Model Y ที่ขับเคลื่อนเองบนถนนใน Austin โดยรถเหล่านี้มี คำว่า "Robotaxi" ติดอยู่ด้านข้าง และไม่มีคนขับอยู่หลังพวงมาลัย ✅ ข้อมูลจากข่าว - Tesla เตรียมเปิดตัวบริการ Robotaxi ใน Austin วันที่ 22 มิถุนายน - Elon Musk ระบุว่าการเปิดตัวอาจเลื่อนออกไปเพื่อความปลอดภัย - Tesla วางแผนให้รถ Model Y ขับเคลื่อนเองจากโรงงานไปยังบ้านลูกค้าเป็นครั้งแรกในวันที่ 28 มิถุนายน - การเปิดตัวครั้งแรกจะจำกัดจำนวนรถเพียง 10-20 คัน ก่อนขยายไปยังเมืองอื่น ๆ เช่น Los Angeles และ San Francisco - Tesla ใช้เทคโนโลยี geofencing เพื่อให้ Robotaxi วิ่งเฉพาะในพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด 🔥 การแข่งขันในตลาด Robotaxi Austin กลายเป็น ศูนย์กลางการทดสอบรถแท็กซี่ไร้คนขับ โดยมีบริษัทอื่น ๆ เช่น Waymo และ Zoox ที่กำลังดำเนินการทดสอบในเมืองนี้ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Tesla ยังต้องพิสูจน์ว่า Robotaxi สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยในสภาพแวดล้อมจริง - Waymo และ Zoox มีข้อได้เปรียบในการให้บริการเชิงพาณิชย์มาก่อน Tesla - Tesla ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบและการยอมรับจากสาธารณะ - ต้องติดตามว่าการเปิดตัว Robotaxi จะส่งผลต่อยอดขายรถยนต์ Tesla อย่างไร https://www.techspot.com/news/108273-tesla-robotaxi-service-launch-june-22-austin.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Tesla's long-awaited robotaxi service is coming to Austin this month
    Replying to an X user asking about when public rides would begin, Musk said the launch date is "tentatively" set for June 22, but the actual timing...
    0 Comments 0 Shares 358 Views 0 Reviews
  • อินฟลูฯ สาวทดลองเป็นต่างชาติ เรียกแท็กซี่ไปสยาม ระยะทาง 10 กิโลเมตร
    เจอเหมา-ไม่กดมิเตอร์ ราคาพุ่งสุดโหด 700 บาท
    อินฟลูฯ สาวทดลองเป็นต่างชาติ เรียกแท็กซี่ไปสยาม ระยะทาง 10 กิโลเมตร เจอเหมา-ไม่กดมิเตอร์ ราคาพุ่งสุดโหด 700 บาท
    Like
    Sad
    5
    0 Comments 1 Shares 670 Views 25 0 Reviews
  • ♣ ตั้งแต่เด็กยันโต โดนแท็กซี่ปฏิเสธนับร้อยครั้ง เห็นม็อบแท็กซี่เรียกร้องมาตลอด แต่ไม่เคยปรับปรุงถ้าไม่มีกฎหมายบังคับ ถึงวันนี้ก็ยังใช้กฎหมู่กดดันต่อรองอีก
    #7ดอกจิก
    #แกร็บ
    #แท็กซี่ประท้วง
    #เลือกแกร็บตลอดมาและตลอดไป
    ♣ ตั้งแต่เด็กยันโต โดนแท็กซี่ปฏิเสธนับร้อยครั้ง เห็นม็อบแท็กซี่เรียกร้องมาตลอด แต่ไม่เคยปรับปรุงถ้าไม่มีกฎหมายบังคับ ถึงวันนี้ก็ยังใช้กฎหมู่กดดันต่อรองอีก #7ดอกจิก #แกร็บ #แท็กซี่ประท้วง #เลือกแกร็บตลอดมาและตลอดไป
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 269 Views 0 Reviews
  • แท็กซี่สนามบินเดือด ประณาม Grab ขายชาติ

    เมื่อวันที่ 20 พ.ค. มีการชุมนุมของกลุ่มสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ เครือข่ายแท็กซี่ประเทศไทย นำโดย นายวรพล แกมขุนทด ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ปี 2560 และกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปี 2564 หลังอนุญาตให้แกร็บ (Grab) จัดตั้งจุดรับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมีผู้ใช้บริการมากกว่า ทำให้รถแท็กซี่เสียเปรียบ

    โดยกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ถามรัฐบาล ต้องชัดเจนว่าจะเลือกแกร็บหรือแท็กซี่ ถ้าเลือกแกร็บถือว่าขายชาติ เพราะไม่ใช่บริษัทคนไทย ยืนยันว่าไม่ได้โยงเรื่องการเมือง แต่เพื่อความเป็นอยู่ของทุกคน หากรัฐบาลยังดื้อดึงไม่มีข้อสรุป จะยกระดับการชุมนุม อาจรวมตัวปิดทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พิจารณาแนวทางการให้บริการรถสาธารณะ แก้ไขกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับเพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อน โดยยึดประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ

    อีกด้านหนึ่ง กระแสสังคมต่างวิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ เพราะแต่ละคนต่างมีประสบการณ์ที่แย่เกี่ยวกับรถแท็กซี่สนามบิน เช่น กลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ส่วนหนึ่งไม่รับ หรือไม่เต็มใจรับลูกค้าคนไทย รับแต่ชาวต่างชาติ และร้องขอไม่กดมิเตอร์กลางทาง โดยคิดราคาเหมาในอัตราที่สูง นอกจากนี้ รายงานจากสถาบันเศรษฐศาสตร์มาสเตอร์การ์ดระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเสี่ยงถูกฉ้อโกงอย่างยิ่ง โดยพบว่ามีปัญหาฉ้อโกงจากแท็กซี่และบริการรถเช่า 48%

    ด้านบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ยืนยันว่าได้รับอนุญาตจาก ทอท.ให้ดำเนินการตั้งจุดให้บริการผู้โดยสารแกร็บอย่างถูกต้อง อีกทั้งเป็นคนละพื้นที่และแยกกันกับจุดให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะในสนามบินอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเปิดรับคนขับที่สนใจเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ กับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่สาธารณะทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม แต่ยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้โดยสารให้เลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติ

    อนึ่ง แกร็บและ ทอท.ร่วมกันตั้งจุดรับ-ส่งผู้โดยสารแกร็บที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 ประตู 4 และสนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 1 ประตู 12 อีกทั้งเมื่อปี 2566 แกร็บเปิดให้บริการจุดรับผู้โดยสารในสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่

    #Newskit
    แท็กซี่สนามบินเดือด ประณาม Grab ขายชาติ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. มีการชุมนุมของกลุ่มสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ เครือข่ายแท็กซี่ประเทศไทย นำโดย นายวรพล แกมขุนทด ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ปี 2560 และกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปี 2564 หลังอนุญาตให้แกร็บ (Grab) จัดตั้งจุดรับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมีผู้ใช้บริการมากกว่า ทำให้รถแท็กซี่เสียเปรียบ โดยกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ถามรัฐบาล ต้องชัดเจนว่าจะเลือกแกร็บหรือแท็กซี่ ถ้าเลือกแกร็บถือว่าขายชาติ เพราะไม่ใช่บริษัทคนไทย ยืนยันว่าไม่ได้โยงเรื่องการเมือง แต่เพื่อความเป็นอยู่ของทุกคน หากรัฐบาลยังดื้อดึงไม่มีข้อสรุป จะยกระดับการชุมนุม อาจรวมตัวปิดทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พิจารณาแนวทางการให้บริการรถสาธารณะ แก้ไขกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับเพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อน โดยยึดประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ อีกด้านหนึ่ง กระแสสังคมต่างวิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ เพราะแต่ละคนต่างมีประสบการณ์ที่แย่เกี่ยวกับรถแท็กซี่สนามบิน เช่น กลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ส่วนหนึ่งไม่รับ หรือไม่เต็มใจรับลูกค้าคนไทย รับแต่ชาวต่างชาติ และร้องขอไม่กดมิเตอร์กลางทาง โดยคิดราคาเหมาในอัตราที่สูง นอกจากนี้ รายงานจากสถาบันเศรษฐศาสตร์มาสเตอร์การ์ดระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเสี่ยงถูกฉ้อโกงอย่างยิ่ง โดยพบว่ามีปัญหาฉ้อโกงจากแท็กซี่และบริการรถเช่า 48% ด้านบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ยืนยันว่าได้รับอนุญาตจาก ทอท.ให้ดำเนินการตั้งจุดให้บริการผู้โดยสารแกร็บอย่างถูกต้อง อีกทั้งเป็นคนละพื้นที่และแยกกันกับจุดให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะในสนามบินอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเปิดรับคนขับที่สนใจเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ กับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่สาธารณะทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม แต่ยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้โดยสารให้เลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติ อนึ่ง แกร็บและ ทอท.ร่วมกันตั้งจุดรับ-ส่งผู้โดยสารแกร็บที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 ประตู 4 และสนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 1 ประตู 12 อีกทั้งเมื่อปี 2566 แกร็บเปิดให้บริการจุดรับผู้โดยสารในสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่ #Newskit
    Like
    Love
    3
    1 Comments 0 Shares 951 Views 0 Reviews
  • งามหน้า! กรุงเทพฯติดอันดับเมืองนักท่องเที่ยวเสี่ยงถูกโกงมากสุด ตัวการใหญ่'แท็กซี่และรถเช่า'
    https://www.thai-tai.tv/news/18837/
    งามหน้า! กรุงเทพฯติดอันดับเมืองนักท่องเที่ยวเสี่ยงถูกโกงมากสุด ตัวการใหญ่'แท็กซี่และรถเช่า' https://www.thai-tai.tv/news/18837/
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • กรรมการถกมติแพทยสภา ปัดหาช่องอุ้มหมอ : [NEWS UPDATE]
    นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผยผลการประชุมคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 พิจารณามติแพทยสภาที่ให้ลงโทษ แพทย์ 3 คน ที่ส่งต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งมีเอกสารหลายพันหน้า แต่ยังมีคำถามอยู่ จึงขอให้นายสมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ทำหนังสือขอเอกสารเพิ่ม เพื่อเข้าที่ประชุมในครั้งต่อไป ทั้งนี้ ในการพิจารณาจะทำความเห็นเป็นรายบุคคลเพื่อเสนอต่อสภานายกพิเศษ ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร จะวีโต้หรือไม่วีโต้หรือจะวีโต้ในประเด็นใด อยู่ที่สภานายกพิเศษว่าจะตัดสินใจอย่างไร ยืนยันไม่มีธง  


    ตั้งกมธ.สอบมติแพทยสภา

    โรบินฮู้ดรับไม้ต่อฟู้ดแพนด้า

    กทม.ติดอันดับแท็กซี่โกง

    ปรับงบ'69 รับวิกฤติสหรัฐ
    กรรมการถกมติแพทยสภา ปัดหาช่องอุ้มหมอ : [NEWS UPDATE] นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผยผลการประชุมคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 พิจารณามติแพทยสภาที่ให้ลงโทษ แพทย์ 3 คน ที่ส่งต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งมีเอกสารหลายพันหน้า แต่ยังมีคำถามอยู่ จึงขอให้นายสมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ทำหนังสือขอเอกสารเพิ่ม เพื่อเข้าที่ประชุมในครั้งต่อไป ทั้งนี้ ในการพิจารณาจะทำความเห็นเป็นรายบุคคลเพื่อเสนอต่อสภานายกพิเศษ ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร จะวีโต้หรือไม่วีโต้หรือจะวีโต้ในประเด็นใด อยู่ที่สภานายกพิเศษว่าจะตัดสินใจอย่างไร ยืนยันไม่มีธง   ตั้งกมธ.สอบมติแพทยสภา โรบินฮู้ดรับไม้ต่อฟู้ดแพนด้า กทม.ติดอันดับแท็กซี่โกง ปรับงบ'69 รับวิกฤติสหรัฐ
    Like
    Angry
    3
    0 Comments 0 Shares 858 Views 36 0 Reviews
  • Waymo ได้รับอนุญาตให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในพื้นที่ Bay Area

    Waymo ได้รับการอนุมัติจากรัฐแคลิฟอร์เนียให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับไปยังพื้นที่ใหม่ใน San Francisco Peninsula และ San Jose อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่าจะดำเนินการขยายบริการอย่างค่อยเป็นค่อยไป

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการขยายบริการของ Waymo
    Waymo ได้รับอนุญาตจาก California Public Utilities Commission (CPUC) ให้ขยายบริการ
    - การอนุมัติครั้งนี้ ไม่มีการคัดค้านจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

    Waymo มีรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 1,500 คันในหลายเมืองของสหรัฐฯ
    - ให้บริการใน San Francisco, Los Angeles, Phoenix และ Austin

    บริษัทให้บริการมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์
    - เป็น บริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับสำหรับผู้โดยสารที่ชำระเงิน

    Waymo กำลังเรียกคืนรถแท็กซี่ไร้คนขับกว่า 1,200 คันเพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์
    - เพื่อ แก้ไขปัญหาการชนกับสิ่งกีดขวาง เช่น โซ่และประตูทางเข้า

    Tesla กำลังเตรียมเปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับแบบชำระเงินใน Austin เดือนหน้า
    - CEO Elon Musk วางแผนขยายบริการไปยังแคลิฟอร์เนียภายในปีนี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/alphabet039s-waymo-gets-california-nod-for-expansion-in-san-francisco-bay-area
    Waymo ได้รับอนุญาตให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในพื้นที่ Bay Area Waymo ได้รับการอนุมัติจากรัฐแคลิฟอร์เนียให้ขยายบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับไปยังพื้นที่ใหม่ใน San Francisco Peninsula และ San Jose อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่าจะดำเนินการขยายบริการอย่างค่อยเป็นค่อยไป 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการขยายบริการของ Waymo ✅ Waymo ได้รับอนุญาตจาก California Public Utilities Commission (CPUC) ให้ขยายบริการ - การอนุมัติครั้งนี้ ไม่มีการคัดค้านจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ✅ Waymo มีรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 1,500 คันในหลายเมืองของสหรัฐฯ - ให้บริการใน San Francisco, Los Angeles, Phoenix และ Austin ✅ บริษัทให้บริการมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ - เป็น บริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับสำหรับผู้โดยสารที่ชำระเงิน ✅ Waymo กำลังเรียกคืนรถแท็กซี่ไร้คนขับกว่า 1,200 คันเพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์ - เพื่อ แก้ไขปัญหาการชนกับสิ่งกีดขวาง เช่น โซ่และประตูทางเข้า ✅ Tesla กำลังเตรียมเปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับแบบชำระเงินใน Austin เดือนหน้า - CEO Elon Musk วางแผนขยายบริการไปยังแคลิฟอร์เนียภายในปีนี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/20/alphabet039s-waymo-gets-california-nod-for-expansion-in-san-francisco-bay-area
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alphabet's Waymo gets California nod for robotaxi expansion in San Francisco Bay Area
    SAN FRANCISCO (Reuters) -Alphabet's self-driving unit Waymo said on Monday it received approval from California to expand its robotaxi operations in more areas of the San Francisco Peninsula and further south, including San Jose.
    0 Comments 0 Shares 247 Views 0 Reviews
  • Baidu เปิดตัวบริการเช่ารถยนต์ไร้คนขับร่วมกับ Car Inc Baidu บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน ได้ประกาศความร่วมมือกับ Car Inc เพื่อเปิดตัว บริการเช่ารถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งถือเป็น บริการแรกในประเภทนี้ โดยมีเป้าหมาย ส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติในเมืองต่าง ๆ

    ภายใต้ข้อตกลงที่ลงนามในกรุงปักกิ่ง Baidu และ Car Inc จะ ร่วมกันผลักดันการใช้งานเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยใช้ แพลตฟอร์ม Apollo ของ Baidu ซึ่งเป็น ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    Baidu ร่วมมือกับ Car Inc เพื่อเปิดตัวบริการเช่ารถยนต์ไร้คนขับ
    - ถือเป็น บริการแรกในประเภทนี้
    - มีเป้าหมาย ส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติในเมืองต่าง ๆ

    ใช้แพลตฟอร์ม Apollo ของ Baidu ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    - Apollo เป็น แพลตฟอร์มที่ใช้ AI และเซ็นเซอร์ขั้นสูงเพื่อให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนเองได้

    ข้อตกลงลงนามในกรุงปักกิ่ง และจะเริ่มให้บริการในเมืองนำร่องก่อนขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ
    - คาดว่า จะมีการเปิดตัวในเมืองใหญ่ก่อนขยายไปยังเมืองอื่น ๆ

    Baidu เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนหนักในเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ
    - มีการพัฒนา รถแท็กซี่ไร้คนขับและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/baidu039s-apollo-teams-with-car-inc-to-launch-autonomous-driving-rental-service
    Baidu เปิดตัวบริการเช่ารถยนต์ไร้คนขับร่วมกับ Car Inc Baidu บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน ได้ประกาศความร่วมมือกับ Car Inc เพื่อเปิดตัว บริการเช่ารถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งถือเป็น บริการแรกในประเภทนี้ โดยมีเป้าหมาย ส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติในเมืองต่าง ๆ ภายใต้ข้อตกลงที่ลงนามในกรุงปักกิ่ง Baidu และ Car Inc จะ ร่วมกันผลักดันการใช้งานเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยใช้ แพลตฟอร์ม Apollo ของ Baidu ซึ่งเป็น ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ✅ Baidu ร่วมมือกับ Car Inc เพื่อเปิดตัวบริการเช่ารถยนต์ไร้คนขับ - ถือเป็น บริการแรกในประเภทนี้ - มีเป้าหมาย ส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติในเมืองต่าง ๆ ✅ ใช้แพลตฟอร์ม Apollo ของ Baidu ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง - Apollo เป็น แพลตฟอร์มที่ใช้ AI และเซ็นเซอร์ขั้นสูงเพื่อให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนเองได้ ✅ ข้อตกลงลงนามในกรุงปักกิ่ง และจะเริ่มให้บริการในเมืองนำร่องก่อนขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ - คาดว่า จะมีการเปิดตัวในเมืองใหญ่ก่อนขยายไปยังเมืองอื่น ๆ ✅ Baidu เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนหนักในเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ - มีการพัฒนา รถแท็กซี่ไร้คนขับและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/baidu039s-apollo-teams-with-car-inc-to-launch-autonomous-driving-rental-service
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Baidu's Apollo teams with Car Inc to launch autonomous driving rental service
    BEIJING (Reuters) -Chinese tech giant Baidu's smart driving unit Apollo said on Thursday that it would team up with local auto rental firm Car Inc to launch a "first-of-its-kind" autonomous driving rental service.
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • Amazon's Zoox ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนารถแท็กซี่ไร้คนขับของบริษัท ได้ประกาศ เรียกคืนรถยนต์อัตโนมัติ 270 คัน หลังจากเกิดอุบัติเหตุในลาสเวกัสเมื่อวันที่ 8 เมษายน

    Zoox ระบุว่า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่พบว่า ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอาจคาดการณ์ผิดพลาด เมื่อมีรถยนต์คันอื่นเคลื่อนที่เข้ามาในแนวตั้งฉากและหยุด ทำให้ รถ Zoox ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนได้

    Zoox เรียกคืนรถยนต์อัตโนมัติ 270 คัน
    - เกิดจาก ข้อผิดพลาดในการคาดการณ์การเคลื่อนที่ของรถคันอื่น
    - ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

    ปัญหาของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
    - Zoox ระบุว่า ระบบอาจคาดการณ์ผิดพลาดเมื่อมีรถเคลื่อนที่เข้ามาในแนวตั้งฉากและหยุด
    - อาจทำให้ รถ Zoox ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนได้

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับ
    - อาจทำให้ บริษัทอื่นต้องตรวจสอบระบบ AI ของตนอย่างละเอียดมากขึ้น
    - อาจส่งผลต่อ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ

    แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - Zoox อาจต้อง ปรับปรุงระบบคาดการณ์การเคลื่อนที่ของรถคันอื่น
    - อาจมีการ ทดสอบเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/amazon039s-robotaxi-unit-zoox-recalls-vehicles-after-self-driving-las-vegas-crash
    Amazon's Zoox ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนารถแท็กซี่ไร้คนขับของบริษัท ได้ประกาศ เรียกคืนรถยนต์อัตโนมัติ 270 คัน หลังจากเกิดอุบัติเหตุในลาสเวกัสเมื่อวันที่ 8 เมษายน Zoox ระบุว่า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่พบว่า ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอาจคาดการณ์ผิดพลาด เมื่อมีรถยนต์คันอื่นเคลื่อนที่เข้ามาในแนวตั้งฉากและหยุด ทำให้ รถ Zoox ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนได้ ✅ Zoox เรียกคืนรถยนต์อัตโนมัติ 270 คัน - เกิดจาก ข้อผิดพลาดในการคาดการณ์การเคลื่อนที่ของรถคันอื่น - ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ✅ ปัญหาของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ - Zoox ระบุว่า ระบบอาจคาดการณ์ผิดพลาดเมื่อมีรถเคลื่อนที่เข้ามาในแนวตั้งฉากและหยุด - อาจทำให้ รถ Zoox ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนได้ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับ - อาจทำให้ บริษัทอื่นต้องตรวจสอบระบบ AI ของตนอย่างละเอียดมากขึ้น - อาจส่งผลต่อ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - Zoox อาจต้อง ปรับปรุงระบบคาดการณ์การเคลื่อนที่ของรถคันอื่น - อาจมีการ ทดสอบเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/amazon039s-robotaxi-unit-zoox-recalls-vehicles-after-self-driving-las-vegas-crash
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Amazon's robotaxi unit Zoox agrees to software recall after self-driving Las Vegas crash
    WASHINGTON (Reuters) -Amazon.com's self-driving unit Zoox agreed to recall 270 driverless vehicles after an unoccupied robotaxi was involved in an April 8 crash with a passenger car in Las Vegas.
    0 Comments 0 Shares 313 Views 0 Reviews
  • Waymo ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Google กำลังขยายธุรกิจ รถแท็กซี่ไร้คนขับ อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันให้บริการ มากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า

    Waymo ได้เปิดตัวบริการบน แพลตฟอร์ม Uber ในเมือง Austin และขยายการดำเนินงานจาก ซานฟรานซิสโกไปยัง Silicon Valley นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะนำรถไร้คนขับไปให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า

    Sundar Pichai CEO ของ Google เปิดเผยว่า Waymo อาจพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว ในอนาคต โดยเน้นไปที่การสร้าง "คนขับที่ดีที่สุดในโลก"

    Waymo ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์
    - เพิ่มขึ้นจาก 200,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ในเดือนกุมภาพันธ์
    - ขยายบริการไปยัง Austin และ Silicon Valley

    แผนการขยายตัวในอนาคต
    - เตรียมเปิดให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า
    - อาจพัฒนา เทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว

    การแข่งขันกับ Tesla และ Volkswagen
    - Volkswagen วางแผนเปิดตัวรถไร้คนขับผ่าน Uber ในปี 2026
    - Elon Musk ประกาศว่า Tesla จะเปิดบริการ robotaxi ใน Austin ภายในเดือนมิถุนายน

    เทคโนโลยีที่ใช้ในรถไร้คนขับ
    - Waymo ใช้ LIDAR ซึ่งให้ข้อมูลที่แม่นยำกว่ากล้องของ Tesla
    - Tesla พึ่งพา กล้องและ AI แต่ยังต้องการให้คนขับพร้อมควบคุมรถ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/waymo039s-robotaxis-now-beyond-250000-driverless-rides-every-week
    Waymo ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Google กำลังขยายธุรกิจ รถแท็กซี่ไร้คนขับ อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันให้บริการ มากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า Waymo ได้เปิดตัวบริการบน แพลตฟอร์ม Uber ในเมือง Austin และขยายการดำเนินงานจาก ซานฟรานซิสโกไปยัง Silicon Valley นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะนำรถไร้คนขับไปให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า Sundar Pichai CEO ของ Google เปิดเผยว่า Waymo อาจพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว ในอนาคต โดยเน้นไปที่การสร้าง "คนขับที่ดีที่สุดในโลก" ✅ Waymo ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ - เพิ่มขึ้นจาก 200,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ในเดือนกุมภาพันธ์ - ขยายบริการไปยัง Austin และ Silicon Valley ✅ แผนการขยายตัวในอนาคต - เตรียมเปิดให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า - อาจพัฒนา เทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว ✅ การแข่งขันกับ Tesla และ Volkswagen - Volkswagen วางแผนเปิดตัวรถไร้คนขับผ่าน Uber ในปี 2026 - Elon Musk ประกาศว่า Tesla จะเปิดบริการ robotaxi ใน Austin ภายในเดือนมิถุนายน ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ในรถไร้คนขับ - Waymo ใช้ LIDAR ซึ่งให้ข้อมูลที่แม่นยำกว่ากล้องของ Tesla - Tesla พึ่งพา กล้องและ AI แต่ยังต้องการให้คนขับพร้อมควบคุมรถ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/waymo039s-robotaxis-now-beyond-250000-driverless-rides-every-week
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Waymo's robotaxis now beyond 250,000 driverless rides every week
    Google's sister company Waymo is rapidly expanding its robotaxi business ahead of potential arrival of new competitors, notably Elon Musk's Tesla.
    0 Comments 0 Shares 429 Views 0 Reviews
More Results