• เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเปรูได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F รุ่นล่าสุดจาก Saab ผู้ผลิตสัญชาติสวีเดน ระหว่างการเยือนกรุงสตอกโฮล์มอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

    "พาล จอนสัน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน กล่าวว่า สต็อกโฮล์มมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับ “ความร่วมมือที่กว้างขวางยิ่งขึ้นในด้านต่างๆ เช่น การป้องกันประเทศและนวัตกรรม นอกจากนี้ เรายังยินดีที่กริพเพนเป็นหนึ่งในเครื่องบินที่ได้รับการพิจารณาเป็นทางเลือกใหม่ก่อนที่เปรูจะจัดซื้อเครื่องบินรบที่กำลังจะมาถึง”

    ขณะนี้ รัฐบาลเปรูกำลังเสริมเขี้ยวเล็บทางอากาศ ด้วยการพิจารณาเครื่องบินรบ 24 ลำ เข้าประจำการ และกำลังมองไปที่กริพเพน E/F, ราฟาล เอฟ4 ของฝรั่งเศส และเครื่องบิน F-16 บล็อก 70/72 รุ่นล่าสุดของอเมริกา

    กริพเพน อี/เอฟ เป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุดของซาบ ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 ซึ่งมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    เมื่อเร็วๆ นี้ ประเทศไทยได้ลงนามในสัญญามูลค่า 524 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อกริพเพน อี จำนวน 3 ลำ และกริพเพน เอฟ จำนวน 1 ลำ ซึ่งถือเป็นการซื้อเครื่องบินครั้งแรกจากแผนเดิมจำนวน 12 ลำ

    บราซิลเป็นอีกหนึ่งประเศที่ใช้บริการกริพเพน อี/เอฟ โดยมีคำสั่งซื้อมากถึง 72 ลำ (ในประเทศเรียกว่า F-39E) โดย 8 ลำ เข้าประจำการแล้ว และที่เหลือ บริษัทเอ็มบราเออร์ ผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติบราซิล กำลังประกอบกริพเพนภายในประเทศภายใต้ความร่วมมือกับ Saab

    นอกจากนี้ Saab ยังพิจารณาการขายที่เป็นไปได้ไปยังฟิลิปปินส์และออสเตรีย รวมถึงโอกาสในการขยายอายุการใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องบินกริพเพนแบบ C/D รุ่นเก่า ให้กับ สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี และแอฟริกาใต้ อีกด้วย


    ที่มา: flightglobal
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเปรูได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F รุ่นล่าสุดจาก Saab ผู้ผลิตสัญชาติสวีเดน ระหว่างการเยือนกรุงสตอกโฮล์มอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา "พาล จอนสัน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน กล่าวว่า สต็อกโฮล์มมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับ “ความร่วมมือที่กว้างขวางยิ่งขึ้นในด้านต่างๆ เช่น การป้องกันประเทศและนวัตกรรม นอกจากนี้ เรายังยินดีที่กริพเพนเป็นหนึ่งในเครื่องบินที่ได้รับการพิจารณาเป็นทางเลือกใหม่ก่อนที่เปรูจะจัดซื้อเครื่องบินรบที่กำลังจะมาถึง” ขณะนี้ รัฐบาลเปรูกำลังเสริมเขี้ยวเล็บทางอากาศ ด้วยการพิจารณาเครื่องบินรบ 24 ลำ เข้าประจำการ และกำลังมองไปที่กริพเพน E/F, ราฟาล เอฟ4 ของฝรั่งเศส และเครื่องบิน F-16 บล็อก 70/72 รุ่นล่าสุดของอเมริกา กริพเพน อี/เอฟ เป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุดของซาบ ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 ซึ่งมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆ นี้ ประเทศไทยได้ลงนามในสัญญามูลค่า 524 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อกริพเพน อี จำนวน 3 ลำ และกริพเพน เอฟ จำนวน 1 ลำ ซึ่งถือเป็นการซื้อเครื่องบินครั้งแรกจากแผนเดิมจำนวน 12 ลำ บราซิลเป็นอีกหนึ่งประเศที่ใช้บริการกริพเพน อี/เอฟ โดยมีคำสั่งซื้อมากถึง 72 ลำ (ในประเทศเรียกว่า F-39E) โดย 8 ลำ เข้าประจำการแล้ว และที่เหลือ บริษัทเอ็มบราเออร์ ผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติบราซิล กำลังประกอบกริพเพนภายในประเทศภายใต้ความร่วมมือกับ Saab นอกจากนี้ Saab ยังพิจารณาการขายที่เป็นไปได้ไปยังฟิลิปปินส์และออสเตรีย รวมถึงโอกาสในการขยายอายุการใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องบินกริพเพนแบบ C/D รุ่นเก่า ให้กับ สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี และแอฟริกาใต้ อีกด้วย ที่มา: flightglobal
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว

  • #อย่าตกเป็นเหยื่อ...สินค้าอเมริกาหรือต่างชาติที่ได้เข้ามาจำหน่ายในตลาดของไทย ภายในประเทศไทยจากภาษีทรัมป์คือตัวอย่างในอนาคตก็ตาม.

    ..เตือนภัยสัญลักษณ์ที่ใช้ในอเมริกาและทางการอเมริกาไม่บอกประชาชนเขาตรงๆ

    เลขนำหน้าเป็น 9 = ออร์แกนิก
    เลขนำหน้าเป็น 4 = ปลูกด้วยยาฆ่าแมลง
    เลขนำหน้าเป็น 8 = จีเอ็มโอ

    #อย่าตกเป็นเหยื่อ...

    ... "วิธีการลดประชากรโลก" มีหลายวิธี เช่นการใช้วัคซีนแบบวัคซีนโควิด ,สงครามตัวแทนต่างๆแบบไทยกับเขมร รัสเชียกับยูเคน อิสราเอลกับอิหร่านกับปาเลสไตน์ , สารเคมี หรือใส่ฟลูออไรด์ลงไปในน้ำ แบบฮิตเลอร์ทำ,หรือในยาสีฟันต่างๆทั่วโลก, การทำผ่านบริษัททาง เช่น อุตสาหกรรมทางอาหาร และเกษตรต่างๆแบบขนาดใหญ่บริษัทมอนซานโต, หรือผ่านอาหาร พืช ผัก ผลไม้ สัตว์อาหารต่างๆตัดแต่งพันธุกรรม GMO ร่างกายมนุษย์ก็จะเข้าสู่โหมดสาระพัดโรคภัยไข้เจ็บเป็นอันมาก , วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีคุณสมบัติเป็นผลิตภัณฑ์ GMOด้วย, ตลอดไวรัสในวัคซีนก็ด้วยGMOตรึมก็ว่าในวัคซีนนั้น(สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม)

    ระบบการแพทย์ที่ทุจริตจะต้องล้มละลายหากผู้คนรู้เรื่องนี้

    แพทย์ท่านหนึ่งที่สั่งอาหารปลอดจีเอ็มโอให้กับคนไข้ 5,000 คน กล่าวว่า “คนไข้ [ของเธอ] ทุกคน” มีอาการดีขึ้นหลังจากเปลี่ยนมารับประทานอาหาร

    ซึ่งรวมถึงอาการดีขึ้นจากโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคอ้วน ปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ และแม้แต่โรคมะเร็ง

    เจฟฟรีย์ สมิธ รู้สึกประหลาดใจกับรายงานนี้ จึงได้ทำการสำรวจผู้เข้าร่วม 3,256 คน เพื่อเปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนมารับประทานอาหารปลอดจีเอ็มโอ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่งมาก

    เปอร์เซ็นต์ที่ดีขึ้นจากการเปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่ไม่ใช่ GMO:

    • ปัญหาระบบย่อยอาหาร - 85.2%
    • ความเหนื่อยล้า - 60.4%
    • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน - 54.6%
    • ภาวะสมองล้า (Brain Fog) - 51.7%
    • ปัญหาอารมณ์ / ความวิตกกังวล / ภาวะซึมเศร้า - 51.1%
    • อาการแพ้อาหารหรือความไวต่ออาหาร - 50.2%
    • ความจำและสมาธิ - 46.9%
    • อาการปวดข้อ - 47.5%
    • อาการแพ้ตามฤดูกาล - 46.2%
    • ความไวต่อกลูเตน - 42.6%
    • นอนไม่หลับ - 41.2%
    • โรคผิวหนังอื่นๆ - 30.9%
    • ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน - 30.4%
    • อาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูก - 30.2%
    • โรคภูมิต้านตนเอง - 21.4%
    • โรคผิวหนังอักเสบ - 20.8%
    • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดและความดันโลหิตสูง - 19.8%
    • โรคหอบหืด - 14.8%
    • ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน - 13.4%
    • โรคเบาหวาน - 10.6%
    • โรคทางจิตเวชอื่นๆ - 7.9%
    • น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ - 6.5%
    • โรคมะเร็ง - 4.8%
    • โรคไต - 4.3%
    • ภาวะมีบุตรยาก - 2.8%
    • กลุ่มอาการออทิสติก - 2.4%
    • โรคอัลไซเมอร์ - 2.4%
    • โรคพาร์กินสัน - 1.4%

    - - - - - -

    พวกเขาโกหกคุณเรื่องสุขภาพและยามานานหลายทศวรรษ เพราะเมื่อคุณป่วย คุณก็จะมีเงินมากขึ้น



    #อย่าตกเป็นเหยื่อ...สินค้าอเมริกาหรือต่างชาติที่ได้เข้ามาจำหน่ายในตลาดของไทย ภายในประเทศไทยจากภาษีทรัมป์คือตัวอย่างในอนาคตก็ตาม. ..เตือนภัยสัญลักษณ์ที่ใช้ในอเมริกาและทางการอเมริกาไม่บอกประชาชนเขาตรงๆ เลขนำหน้าเป็น 9 = ออร์แกนิก เลขนำหน้าเป็น 4 = ปลูกด้วยยาฆ่าแมลง เลขนำหน้าเป็น 8 = จีเอ็มโอ #อย่าตกเป็นเหยื่อ... ... "วิธีการลดประชากรโลก" มีหลายวิธี เช่นการใช้วัคซีนแบบวัคซีนโควิด ,สงครามตัวแทนต่างๆแบบไทยกับเขมร รัสเชียกับยูเคน อิสราเอลกับอิหร่านกับปาเลสไตน์ , สารเคมี หรือใส่ฟลูออไรด์ลงไปในน้ำ แบบฮิตเลอร์ทำ,หรือในยาสีฟันต่างๆทั่วโลก, การทำผ่านบริษัททาง เช่น อุตสาหกรรมทางอาหาร และเกษตรต่างๆแบบขนาดใหญ่บริษัทมอนซานโต, หรือผ่านอาหาร พืช ผัก ผลไม้ สัตว์อาหารต่างๆตัดแต่งพันธุกรรม GMO ร่างกายมนุษย์ก็จะเข้าสู่โหมดสาระพัดโรคภัยไข้เจ็บเป็นอันมาก , วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีคุณสมบัติเป็นผลิตภัณฑ์ GMOด้วย, ตลอดไวรัสในวัคซีนก็ด้วยGMOตรึมก็ว่าในวัคซีนนั้น(สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม) ระบบการแพทย์ที่ทุจริตจะต้องล้มละลายหากผู้คนรู้เรื่องนี้ แพทย์ท่านหนึ่งที่สั่งอาหารปลอดจีเอ็มโอให้กับคนไข้ 5,000 คน กล่าวว่า “คนไข้ [ของเธอ] ทุกคน” มีอาการดีขึ้นหลังจากเปลี่ยนมารับประทานอาหาร ซึ่งรวมถึงอาการดีขึ้นจากโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคอ้วน ปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ และแม้แต่โรคมะเร็ง เจฟฟรีย์ สมิธ รู้สึกประหลาดใจกับรายงานนี้ จึงได้ทำการสำรวจผู้เข้าร่วม 3,256 คน เพื่อเปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนมารับประทานอาหารปลอดจีเอ็มโอ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่งมาก เปอร์เซ็นต์ที่ดีขึ้นจากการเปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่ไม่ใช่ GMO: • ปัญหาระบบย่อยอาหาร - 85.2% • ความเหนื่อยล้า - 60.4% • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน - 54.6% • ภาวะสมองล้า (Brain Fog) - 51.7% • ปัญหาอารมณ์ / ความวิตกกังวล / ภาวะซึมเศร้า - 51.1% • อาการแพ้อาหารหรือความไวต่ออาหาร - 50.2% • ความจำและสมาธิ - 46.9% • อาการปวดข้อ - 47.5% • อาการแพ้ตามฤดูกาล - 46.2% • ความไวต่อกลูเตน - 42.6% • นอนไม่หลับ - 41.2% • โรคผิวหนังอื่นๆ - 30.9% • ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน - 30.4% • อาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูก - 30.2% • โรคภูมิต้านตนเอง - 21.4% • โรคผิวหนังอักเสบ - 20.8% • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดและความดันโลหิตสูง - 19.8% • โรคหอบหืด - 14.8% • ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน - 13.4% • โรคเบาหวาน - 10.6% • โรคทางจิตเวชอื่นๆ - 7.9% • น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ - 6.5% • โรคมะเร็ง - 4.8% • โรคไต - 4.3% • ภาวะมีบุตรยาก - 2.8% • กลุ่มอาการออทิสติก - 2.4% • โรคอัลไซเมอร์ - 2.4% • โรคพาร์กินสัน - 1.4% - - - - - - พวกเขาโกหกคุณเรื่องสุขภาพและยามานานหลายทศวรรษ เพราะเมื่อคุณป่วย คุณก็จะมีเงินมากขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน

    ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน

    แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค

    เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น

    โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571

    #Newskit
    รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571 #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรพิเศษ ลดทันที 1,000.-
    เหลือเพียง 78,900.-
    หมดเขต 24 ส.ค. 68 นี้เท่านั้น

    อิตาลีสุดโรแมนติก 9 วัน 6 คืน
    เดินทาง ต.ค. 68 – ปีใหม่
    สายการบิน Emirates (EK)

    ไฮไลท์สุดฟิน
    🏛 มิลาน – มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน – แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล
    🏞 ทะเลสาบโคโม – ซิร์เมโอเน่ – เวโรนา – บ้านจูเลียต
    ⛴ เกาะเวนิส – โนเวนต้า เอ้าเลท – โบโลญญ่า – โมเดนา
    🏎 พิพิธภัณฑ์เฟอร์รารี่ – ปาร์มา – ลา สเปเซีย
    ชิงเกวแตร์เร่ – ริโอแมกจิโอเร่ – มานาโรล่า – มอนเตรอสโซ อัล มาเร
    ปิซ่า – หอเอนปิซา – ฟลอเรนซ์ – โรม
    🏟 โคลอสเซี่ยม – วาติกัน – โบสถ์ซิสทีน – น้ำพุเทรวี – บันไดสเปน

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ea1b6a

    ดูทัวร์โปรนาทีทองทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e7d802

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์โปรนาทีทอง #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ItalyTrip #ทัวร์อิตาลี #Milan #Venice #Florence #Rome #CinqueTerre #FerrariMuseum #เที่ยวอิตาลี #โปรทัวร์ยุโรป #ลดราคา
    ✨ โปรพิเศษ ลดทันที 1,000.- เหลือเพียง 78,900.- 💥 หมดเขต 24 ส.ค. 68 นี้เท่านั้น ⏰ 🌍 อิตาลีสุดโรแมนติก 9 วัน 6 คืน เดินทาง ต.ค. 68 – ปีใหม่ ✈️ สายการบิน Emirates (EK) 🌟 ไฮไลท์สุดฟิน 🏛 มิลาน – มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน – แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล 🏞 ทะเลสาบโคโม – ซิร์เมโอเน่ – เวโรนา – บ้านจูเลียต ⛴ เกาะเวนิส – โนเวนต้า เอ้าเลท – โบโลญญ่า – โมเดนา 🏎 พิพิธภัณฑ์เฟอร์รารี่ – ปาร์มา – ลา สเปเซีย 🚆 ชิงเกวแตร์เร่ – ริโอแมกจิโอเร่ – มานาโรล่า – มอนเตรอสโซ อัล มาเร 🗼 ปิซ่า – หอเอนปิซา – ฟลอเรนซ์ – โรม 🏟 โคลอสเซี่ยม – วาติกัน – โบสถ์ซิสทีน – น้ำพุเทรวี – บันไดสเปน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ea1b6a ดูทัวร์โปรนาทีทองทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e7d802 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์โปรนาทีทอง #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ItalyTrip #ทัวร์อิตาลี #Milan #Venice #Florence #Rome #CinqueTerre #FerrariMuseum #เที่ยวอิตาลี #โปรทัวร์ยุโรป #ลดราคา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นเอ็ม16 พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2534
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นเอ็ม16 พิมพ์ใหญ่ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2534 // พระดีพิธีใหญ่ ประสบการณ์ถูกยิงด้วย ปีน M16 แต่ไม่เข้า // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ กันภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นM16 พิธีปลุกเสกขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2534 รุ่นนี้ประสบการณ์เกี่ยวกับ ยิงปืน M16 ไม่ออก เป็นพระน่าใช้ เพราะพระของอาจาย์นองล้วนน่าเก็บ ต่อไปจะหาได้ยากแล้วครับพระหลวงปู่ทวด ที่พระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ทุกรุ่นทุกพิมพ์ทรง ท่านสร้างเสกด้วยความตั้งใจและปราณีตบรรจง การหาวัสดุมวลสารจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยท่านควบคุมเองทุกขั้นตอน ทำให้พระที่ออกมาแต่ละรุ่นน้อยมาก จึงเกิดเอกลักษณ์จำเพาะในแต่ละรุ่น . . .พระหลวงปู่ทวดรุ่น ( M.16 ) ปี พ.ศ. 2534 นี้จึงเป็นพระที่พุทธคุณดีที่น่าใช้มาก ๆ อีกรุ่นหนึ่งของพระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาวครับ >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นเอ็ม16 พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2534 เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นเอ็ม16 พิมพ์ใหญ่ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2534 // พระดีพิธีใหญ่ ประสบการณ์ถูกยิงด้วย ปีน M16 แต่ไม่เข้า // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ กันภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นM16 พิธีปลุกเสกขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2534 รุ่นนี้ประสบการณ์เกี่ยวกับ ยิงปืน M16 ไม่ออก เป็นพระน่าใช้ เพราะพระของอาจาย์นองล้วนน่าเก็บ ต่อไปจะหาได้ยากแล้วครับพระหลวงปู่ทวด ที่พระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ทุกรุ่นทุกพิมพ์ทรง ท่านสร้างเสกด้วยความตั้งใจและปราณีตบรรจง การหาวัสดุมวลสารจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยท่านควบคุมเองทุกขั้นตอน ทำให้พระที่ออกมาแต่ละรุ่นน้อยมาก จึงเกิดเอกลักษณ์จำเพาะในแต่ละรุ่น . . .พระหลวงปู่ทวดรุ่น ( M.16 ) ปี พ.ศ. 2534 นี้จึงเป็นพระที่พุทธคุณดีที่น่าใช้มาก ๆ อีกรุ่นหนึ่งของพระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาวครับ >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสื้อปุ๋ย เทรนด์ฮิตจากทุ่งนา

    เสื้อแขนยาวทั้งคอกลมและคอปก กลายเป็นเทรนด์ฮิตในหมู่คนที่ชื่นชอบวิถีชีวิตชนบทแบบเกษตรกร เมื่อวันก่อนเฟซบุ๊ก ปุ๋ยตราม้าบิน โพสต์ภาพระบุว่า "ใส่เสื้อหลักล้าน? เสื้อปุ๋ยธรรมดาที่ได้มากกว่าล้าน" กลายเป็นที่พูดถึงแก่ชาวเน็ต ถึงขนาด จ๋าย ไททศมิตร หรือ อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี ศิลปินเพลงป๊อปอินดี้เพื่อชีวิต คอมเมนต์ในเพจว่า "คิวว่าง พรีเซนเตอร์เข้าได้ครับ" และยังมีชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งเชียร์ให้จำหน่ายเสื้อ เพราะไม่ได้ซื้อปุ๋ยแต่อยากเท่กับเขาบ้าง แต่เนื่องจากเสื้อปุ๋ยม้าบินจะไม่มีจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แอดมินจึงแนะนำให้ติดตามข่าวสารและกิจกรรมจากเพจไปก่อน

    ขณะที่แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ เริ่มมีผู้ขายโพสต์ขายเสื้อปุ๋ยบ้างแล้ว แต่ไม่พบว่าเป็นเสื้อลิขสิทธิ์แท้หรือของลอกเลียนแบบ เพราะโดยปกติแล้วเสื้อขายปุ๋ย ผู้จัดจำหน่ายจะแจกจ่ายให้ร้านค้าทางการเกษตร เพื่อนำไปสมนาคุณแก่ลูกค้าที่ซื้อปุ๋ยตามเงื่อนไข ซึ่งแต่ละครั้งเกษตรกรจะซื้อเป็นกระสอบ ยิ่งมีจำนวนไร่มากยิ่งต้องใช้ปุ๋ยมาก ต้องจ่ายในราคาที่แพงมาก โดยก่อนหน้านี้ เสื้อปุ๋ยตราม้าบินสีน้ำเงิน ถูกนำไปใช้ในมิวสิกวีดีโอเพลง ให้บุญนำพา ของ ไหมไทย หัวใจศิลป์ ที่นักแสดงนำชายอย่าง ยูโร พัชรพล รับบทเป็นชาวนา เผยแพร่ผ่านยูทูบเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2567 ปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 115 ล้านวิว

    อย่างไรก็ตาม ยังมีเพลงที่เกี่ยวข้องกับเสื้อปุ๋ย เฉกเช่นมิวสิกวีดีโอเพลง ผู้บ่าวเสื้อปุ๋ย ของศิลปินเพลงป็อปลูกทุ่ง ดิด คิตตี้ หรือ บัณฑิต ไพรบึง โดยมีท่อนฮุคระบุว่า "อ้ายใส่เสื้อปุ๋ยแถมมาน้องหล่า บ่มีปัญญาไปซื้อของห้าง หรูสุดแค่ข้าวกระเพราข้างทาง ดีแหน่กะพาหย่างตลาดนัดวันเสาร์" เผยแพร่ผ่านยูทูปเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 ปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 56 ล้านวิว ไม่นับรวมถ่ายคลิปลงติ๊กต็อกหรือร้องเพลงคัฟเวอร์ แถมศิลปินยังใช้โอกาสนี้ขายเสื้อปุ๋ยคอปกสีแสดแบบเดียวกับในเอ็มวี สำหรับแฟนเพลงที่อยากได้ไว้ใส่ทำนา ทำสวน ทำไร่ หรือใส่ไปเที่ยว

    สำหรับเสื้อปุ๋ย นิยมทำเป็นเสื้อแขนยาวเพื่อใช้กันแดดที่แขน ผลิตจากใยสังเคราะห์หรือโพลีเอสเตอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าทีเคหรือผ้าทีซี (ผสมคอตตอน 20%) ซึ่งราคาถูกที่สุด หรืออย่างดีขึ้นมาหน่อยจะเป็นผ้าไอบีหรือผ้าไมโคร ยิ่งสั่งผลิตจำนวนมากยิ่งราคาถูกลง แต่อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าและการซัก ที่ผ่านมามีมุกตลกที่ระบุว่า "ใครใส่เสื้อที่มีโลโก้ปุ๋ยแปลว่าเป็นคนมีตังค์" แม้จะเป็นเสื้อแถม แต่ต้องมียอดซื้อจำนวนมากถึงจะได้เสื้อฟรี สะท้อนให้เห็นว่า สังคมเกษตรกรรม เป็นรากฐานของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยที่ขาดกันไม่ได้

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ใน Facebook และ IG วันจันทร์ที่ 18 ส.ค. 2568)
    เสื้อปุ๋ย เทรนด์ฮิตจากทุ่งนา เสื้อแขนยาวทั้งคอกลมและคอปก กลายเป็นเทรนด์ฮิตในหมู่คนที่ชื่นชอบวิถีชีวิตชนบทแบบเกษตรกร เมื่อวันก่อนเฟซบุ๊ก ปุ๋ยตราม้าบิน โพสต์ภาพระบุว่า "ใส่เสื้อหลักล้าน? เสื้อปุ๋ยธรรมดาที่ได้มากกว่าล้าน" กลายเป็นที่พูดถึงแก่ชาวเน็ต ถึงขนาด จ๋าย ไททศมิตร หรือ อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี ศิลปินเพลงป๊อปอินดี้เพื่อชีวิต คอมเมนต์ในเพจว่า "คิวว่าง พรีเซนเตอร์เข้าได้ครับ" และยังมีชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งเชียร์ให้จำหน่ายเสื้อ เพราะไม่ได้ซื้อปุ๋ยแต่อยากเท่กับเขาบ้าง แต่เนื่องจากเสื้อปุ๋ยม้าบินจะไม่มีจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แอดมินจึงแนะนำให้ติดตามข่าวสารและกิจกรรมจากเพจไปก่อน ขณะที่แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ เริ่มมีผู้ขายโพสต์ขายเสื้อปุ๋ยบ้างแล้ว แต่ไม่พบว่าเป็นเสื้อลิขสิทธิ์แท้หรือของลอกเลียนแบบ เพราะโดยปกติแล้วเสื้อขายปุ๋ย ผู้จัดจำหน่ายจะแจกจ่ายให้ร้านค้าทางการเกษตร เพื่อนำไปสมนาคุณแก่ลูกค้าที่ซื้อปุ๋ยตามเงื่อนไข ซึ่งแต่ละครั้งเกษตรกรจะซื้อเป็นกระสอบ ยิ่งมีจำนวนไร่มากยิ่งต้องใช้ปุ๋ยมาก ต้องจ่ายในราคาที่แพงมาก โดยก่อนหน้านี้ เสื้อปุ๋ยตราม้าบินสีน้ำเงิน ถูกนำไปใช้ในมิวสิกวีดีโอเพลง ให้บุญนำพา ของ ไหมไทย หัวใจศิลป์ ที่นักแสดงนำชายอย่าง ยูโร พัชรพล รับบทเป็นชาวนา เผยแพร่ผ่านยูทูบเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2567 ปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 115 ล้านวิว อย่างไรก็ตาม ยังมีเพลงที่เกี่ยวข้องกับเสื้อปุ๋ย เฉกเช่นมิวสิกวีดีโอเพลง ผู้บ่าวเสื้อปุ๋ย ของศิลปินเพลงป็อปลูกทุ่ง ดิด คิตตี้ หรือ บัณฑิต ไพรบึง โดยมีท่อนฮุคระบุว่า "อ้ายใส่เสื้อปุ๋ยแถมมาน้องหล่า บ่มีปัญญาไปซื้อของห้าง หรูสุดแค่ข้าวกระเพราข้างทาง ดีแหน่กะพาหย่างตลาดนัดวันเสาร์" เผยแพร่ผ่านยูทูปเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 ปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 56 ล้านวิว ไม่นับรวมถ่ายคลิปลงติ๊กต็อกหรือร้องเพลงคัฟเวอร์ แถมศิลปินยังใช้โอกาสนี้ขายเสื้อปุ๋ยคอปกสีแสดแบบเดียวกับในเอ็มวี สำหรับแฟนเพลงที่อยากได้ไว้ใส่ทำนา ทำสวน ทำไร่ หรือใส่ไปเที่ยว สำหรับเสื้อปุ๋ย นิยมทำเป็นเสื้อแขนยาวเพื่อใช้กันแดดที่แขน ผลิตจากใยสังเคราะห์หรือโพลีเอสเตอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าทีเคหรือผ้าทีซี (ผสมคอตตอน 20%) ซึ่งราคาถูกที่สุด หรืออย่างดีขึ้นมาหน่อยจะเป็นผ้าไอบีหรือผ้าไมโคร ยิ่งสั่งผลิตจำนวนมากยิ่งราคาถูกลง แต่อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าและการซัก ที่ผ่านมามีมุกตลกที่ระบุว่า "ใครใส่เสื้อที่มีโลโก้ปุ๋ยแปลว่าเป็นคนมีตังค์" แม้จะเป็นเสื้อแถม แต่ต้องมียอดซื้อจำนวนมากถึงจะได้เสื้อฟรี สะท้อนให้เห็นว่า สังคมเกษตรกรรม เป็นรากฐานของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยที่ขาดกันไม่ได้ #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ใน Facebook และ IG วันจันทร์ที่ 18 ส.ค. 2568)
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2025 - 2026 คู่แรก "ลิเวอร์พูล" พบ "บอร์นมัธ" ครึ่งอีกลิเวอร์พูลนำบอร์นมัธ 1 : 0 เอกิติเก้ หลุดเดี่ยว นาที 37 ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลมายิงเพิ่ม 3 ลูก และบอร์นมัธได้ 1 ลูก จบเกมลิเวอร์พูลชนะไป 4 : 2ลิเวอร์พูลได้จาก เอช. เอกิติเก 37'ซี. คักโป 49'เอฟ. คิเอซ่า 88'เอ็ม. ซาลาห์ 90+4'เอ. เซเมนโย ยิงให้บอร์นมัธ 64', 76'#EPL #พรีเมียร์ลีก #โปรแกรมพรีเมียร์ลีก
    พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2025 - 2026 คู่แรก "ลิเวอร์พูล" พบ "บอร์นมัธ" ครึ่งอีกลิเวอร์พูลนำบอร์นมัธ 1 : 0 เอกิติเก้ หลุดเดี่ยว นาที 37 ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลมายิงเพิ่ม 3 ลูก และบอร์นมัธได้ 1 ลูก จบเกมลิเวอร์พูลชนะไป 4 : 2ลิเวอร์พูลได้จาก เอช. เอกิติเก 37'ซี. คักโป 49'เอฟ. คิเอซ่า 88'เอ็ม. ซาลาห์ 90+4'เอ. เซเมนโย ยิงให้บอร์นมัธ 64', 76'#EPL #พรีเมียร์ลีก #โปรแกรมพรีเมียร์ลีก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank เคียงข้างเอสเอ็มอีไทย ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 0.25% ต่อปี เสริมแกร่งผู้ประกอบการยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์
    https://www.thai-tai.tv/news/20921/
    .
    #SMEDBank #ลดดอกเบี้ย #SME #สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ #เศรษฐกิจไทย #ไทยไท
    SME D Bank เคียงข้างเอสเอ็มอีไทย ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 0.25% ต่อปี เสริมแกร่งผู้ประกอบการยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์ https://www.thai-tai.tv/news/20921/ . #SMEDBank #ลดดอกเบี้ย #SME #สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ #เศรษฐกิจไทย #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนอีกแล้ว (ถึงเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก)
    เคดิตเพลงเลย

    จริงๆมันควรไม่มีใช้แล้ว ทุ่นระเบิดสังหารเอ็ม

    ถ้ามีอีก เราใช้ระเบิดเพลิงทิ้งเลย เนปาล์ม
    เรามีความชอบธรรมที่จะใช้ เพราะฝ่ายเขาำไม่สนกฎกติกาอ่ะ
    โดนอีกแล้ว (ถึงเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก) เคดิตเพลงเลย จริงๆมันควรไม่มีใช้แล้ว ทุ่นระเบิดสังหารเอ็ม ถ้ามีอีก เราใช้ระเบิดเพลิงทิ้งเลย เนปาล์ม เรามีความชอบธรรมที่จะใช้ เพราะฝ่ายเขาำไม่สนกฎกติกาอ่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • รักษาการนายกฯ ชี้ 13 ข้อ หลังจีบีซี เป็นนิมิตหมายดี หวัง จริงจังคุยต่อ อาร์บีซี ปัด ไม่เกี่ยวเอ็มโอยู 43 ชี้ คนละเรื่องคุยอีกระดับหนึ่ง บอกถ้าละเมิดข้อตกลงอาเซียนต้องเข้ามาเป็นพยาน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075072

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    รักษาการนายกฯ ชี้ 13 ข้อ หลังจีบีซี เป็นนิมิตหมายดี หวัง จริงจังคุยต่อ อาร์บีซี ปัด ไม่เกี่ยวเอ็มโอยู 43 ชี้ คนละเรื่องคุยอีกระดับหนึ่ง บอกถ้าละเมิดข้อตกลงอาเซียนต้องเข้ามาเป็นพยาน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075072 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Yay
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 552 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น

    เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)

    ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง

    ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น

    #Newskit
    จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 460 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศรษฐกิจไทย ได้ไปต่อ!? : [Biz Talk]

    ขานรับอัตราภาษีสหรัฐ 19% หนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รักษาขีดแข่งขันไทย/กระทรวงการคลัง เพิ่มเป้าส่งออกไทยทั้งปี 68 จาก 2.3% เป็น 5.5% ,เพิ่มเป้าจีดีพีปี 68 จาก 2.1 % เป็น 2.2% สอดคล้องคาดการณ์ของไอเอ็มเอฟ ที่เพิ่มเป้าจีดีพีไทยปี 68 จาก 1.8% เป็น 2.0 %
    เศรษฐกิจไทย ได้ไปต่อ!? : [Biz Talk] ขานรับอัตราภาษีสหรัฐ 19% หนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รักษาขีดแข่งขันไทย/กระทรวงการคลัง เพิ่มเป้าส่งออกไทยทั้งปี 68 จาก 2.3% เป็น 5.5% ,เพิ่มเป้าจีดีพีปี 68 จาก 2.1 % เป็น 2.2% สอดคล้องคาดการณ์ของไอเอ็มเอฟ ที่เพิ่มเป้าจีดีพีไทยปี 68 จาก 1.8% เป็น 2.0 %
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • SME D Bank ขานรับนโยบายรัฐบาล-ธปท.ออกมาตรการช่วยเพิ่มเติม พักชำระหนี้สูงสุด 12 เดือน คู่เติมทุนฉุกเฉิน ลดผลกระทบเอสเอ็มอีจากเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/20686/
    SME D Bank ขานรับนโยบายรัฐบาล-ธปท.ออกมาตรการช่วยเพิ่มเติม พักชำระหนี้สูงสุด 12 เดือน คู่เติมทุนฉุกเฉิน ลดผลกระทบเอสเอ็มอีจากเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/20686/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • จะเป็นอย่างไรเมื่อ " นางนาก "ถูกสร้างโดยผู้กำกับ
    ชื่อดังทั่วโลก (ครบรอบ 26 ปีนางนาก)

    1. เซอร์ คริสโตเฟอร์ โนแลน
    - พี่มากกลับมาจากรบ และรู้ว่าแม่นากรอเขาจนตาย พี่มากเสียใจสุดๆ จึงพยายามทำทุกทางเพื่ออยากเจออีนากอีกครั้ง วันเวลาผ่านไปเป็นสิบปี จนเขาได้เจอกับคนที่อ้างว่ามาจากอนาคต และสามารถทำให้พี่มากย้อนเวลาไปหาอีนากได้ เขาจึงเข้าเครื่องย้อนเวลา และทำให้กลับไปเจออีนากอีกครั้ง อีนากตกใจกับผัวที่แก่ขึ้น และทั้งคู่ก็ทะเลาะกัน จนพี่มากพลั้งมือฆ่าอีนากตาย..

    2. เควนติน มารันติโน่
    - อีนากปากหมา ไล่ด่าทุกคน ก่อนเควนตินจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์หนัง อีนากไม่ตาย แต่เป็นไอ้มากตายและกลายเป็นผีมาหลอกแทน

    3. หว่อง-กาไว
    - อีนากนั่งรอพี่มากที่ท่าน้ำกับบรรยากาศสุดเหงายามเย็นที่มีแสงไฟจากตะเกียง พร้อมอีนากหยิบยาสูบขึ้นมาสูบ ทุกอย่างมันสโลไปหมด ยกเว้นอีนากคนเดียว

    4. ปู่มาร์ตี้
    - พี่มากเป็นหัวหน้าแก๊งค์รีดไถ่เงินในพระโขนง มีเพื่อนสนิทอยู่ 4 คน และมีเมียเป็นอีนาก ก่อนที่อีนากจะเล่นชู้กับเพื่อนพี่มากพร้อมกับเป่าหูให้ทุกคนหักหลังกัน และทั้งเรื่องจะเป็นการหักเหลี่ยมกันของแก๊งค์ ที่มีฉากไล่ข้าวโพดเป็นตอนจบ

    5. ไมเคิล เบย์
    - อีนากไม่ได้ท้องและออกไปรอบกับไอ้มากด้วย พร้อมกับระเบิดภูเขาเผ่ากระท่อมเหมือนเดิม

    5.1. ไมเคิล เบย์
    -อีนากหนีมาจากดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอนแต่ระบบเสียงเสียพูดไม่ได้ จากนั้นอีนากจะส่งแสงขึ้นฟ้าเป็นรูปสัญลักษณ์ ไอ้มากเห็นจึงเดินทางมายังดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่า โลกกกกก !?

    6. จอห์น วู
    - อีนากนั่งรอที่ท่าน้ำจะมีนกพิราบบินแบบสโลโมชั่น ฉากระเบิดที่สงครามไอ้มากไปรบต้องใหญ่ๆไฟและควันพุ่งขึ้นสูงๆ

    7. โรเบิร์ต รอดริเกซ
    - อีนากตาย และกลายเป็นแวมไพร์ ไล่ฆ่าคน

    8. พี่เจ้ย
    - อีนากปลงชีวิต เดินเข้าไปใช้ชีวิตในป่า เดินไปเจอกับธรรมชาติมากมาย ก่อนนางจะเข้าใจชีวิตมากขึ้น

    9. เอ็มไนต์ ชายามาลาน
    - อีนากตายเป็นผี ไอ้มากไม่รู้และไม่มีใครบอก เขาก็เลยอยู่กินกับผี จนพี่มากสังเกตและรู้เองว่าอีนากตายไปนานแล้ว ก่อนอีนากจะบอกว่า มึงก็ตายไปนานแล้วเหมือนกัน..

    10. เวส แอนเดอร์สัน
    - พระโขนงจะกลายเป็นสีพาสเทล

    11. พี่พจน์ อานนท์
    - พี่มากเป็นเกย์ และตบกะอีนาก

    12. คิมคิ ด็อก
    - ทั้งเรื่องจะเงียบ และไม่มีบทพูด อีนากจะเงียบและรอคอยพี่มาก แต่ตัวละครรอบข้างจะพูดปกติ

    13. เดวิด ฟินเชอร์
    - อีนากถูกฆาตกรรม จนไอ้มากต้องออกมาช่วยกันสืบคดี จนสุดท้ายไอ้มากเปิดลังกระดาษแล้วพบกับ!!

    14. หม่อมน้อย
    - ดีเทลทุกอย่างของคลองพระโขนงจะต้องเนี้ยบ เสื้อผ้าต้องเย็บใหม่ให้เหมือนในอดีต

    15. ลาร์ส ฟอร์นเทียร์
    - นางเอกจะติดเซ็กส์ และต้องการค้นหาตัวเอง

    16. เป็นเอก รัตนเรือง
    - ไม่เน้นผี เน้นตีความ

    17. พี่เต๋อ
    - ตัวละครทุกตัวจะพูดแบบเท่ๆ

    18. ทิม เบอร์ตัน
    - ทุกตัวละครจะขอบตาดำกันหมดแต่งกายด้วยชุดอังกฤษยุคเลเนซองค์

    19. เดอนี วีลเนิฟว์
    - ฉากหลังอีนากเป็นยุคไซเบอร์พังค์

    20. จอร์ด มิลเลอร์
    - เรื่องราวไม่ได้เกิดในพระโขนง แต่เกิดในทะเลทราย

    21. คูบริก
    นักแสดงนางนากจะถูกกังขังหน่วงเหนี่ยวไว้ จนกว่าจะยืดแขนเองได้

    22. เดวิด ลินซ์
    - มึงดูไม่เข้าใจกันหรอก

    23. จิบลิ
    - อีนากตายหลงเข้าไปในมิติวิญญาณ และไปทำงานในซ่องของโลกหลังความตาย

    24.ชิออน โซโนะ
    - อีนากเบื่อการเป็นแม่บ้าน จึงออกไปหาความสำราญจนโดนหลอก.. แต่ติดใจ

    25. ชินไค มาโคโตะ
    - แม่นากจะตามหาพี่มากตลอดไป จะost. ชื่อ 9.8 meter per sec ซึ่งมาจากความเร็วของมะนาวที่แม่นากทำหล่นจากชานบ้าน /เอ้าซู๊ดดดดดด

    26. อังลี่
    - อีนากคลอดลูกและรอดตาย ไอ้มากกลับมาปลอดภัย จนไอ้มากต้องไปทำงานเลี้ยงแกะบนเขา จนไปพบรักกับชายหนุ่มและทั้งคู่แอบเป็นชู้กัน

    27. พอล ดับบิวเอสแอนเดอสัน
    - แม่นากแสดงโดยเมียตัวเอง ให้แม่นากเก่งที่สุดในโลก มีพลังจิตมองตาพิฆาตสังหาร มีซอมบี้ เอาลูกซองที่ลูกกระสุนเป็นเหรียญลากหัวซอมบี้คมๆ

    28. เจมส์ เคเมรอน
    - สร้างพระโขนงขึ้นมาใหม่ เอาให้เหมือนจริงสุดๆ จนนักแสดงแก่หมดแล้ว หนังก็ยังสร้างไม่เสร็จ..

    29. ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ
    - แม่นากไอ้มาก ลักเด็กที่ถูกทำร้ายจากครอบครัวอีปริกมาเลี้ยงและหลายๆคนในครอบครัวไม่ใช่สายเลือดเดียวกันเพราะอีนากมีลูกไม่ได้

    30. กีเยโมร์ เดลโทโร่
    -นางมากและไอ้มากอยู่ในหน่วยพิทักษ์โลเพราะในการขับหุ่นยนต์ยักเยเกอร์ต้องใช้พลขับ 2 คนโดยทั้ง 2 ขับหุ่นยนต์ที่ชื่อ ยิปซี แดนเจอร์ ขับไปไปขับมาเลยได้เสียกันอีนากท้อง จากนั้นจึงตั้งชื่อลูกว่าไอ้แดง

    31.โรเบิร์ต เซเมคิส
    - นางนากต้องเป็นคนที่ไอ้มากปักใจรักมากที่สุดในชีวิต ก่อนนางจะใช้ชีวิตแบบขนนกที่ล่องลอยไปแบบที่นางอยากเป็น ผิดกับไอ้มากที่หลังจากไปรบในสงครามก็ใช้ชีวิตแบบขนนกที่ปลิวไปตามสายลมลมจะหอบไปทางไหนแต่เขาก็ตั้งใจทำมันทุกๆอย่างจนประสบความสำเร็จ สุดท้ายอีนากก็มีลูกชายกับไอ้มากแล้วนางก็ตาย ทำให้ไอ้มากต้องดูแลลูกชายหรือไอ้แดงเพียงคนเดียว ไอ้มากจึงสอนลูกชายเสมอว่า " ความตายเป็นส่วนนึงของชีวิต และ ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อคโกแลตเราไม่มีทางรู้ว่ามีรสชาติใดอยู่ข้างในบ้าง.."

    ที่เหลือก็หาผกก.ที่ชอบคอมเม้นท์มาเองนะ
    จะเป็นอย่างไรเมื่อ " นางนาก "ถูกสร้างโดยผู้กำกับ ชื่อดังทั่วโลก (ครบรอบ 26 ปีนางนาก) 1. เซอร์ คริสโตเฟอร์ โนแลน - พี่มากกลับมาจากรบ และรู้ว่าแม่นากรอเขาจนตาย พี่มากเสียใจสุดๆ จึงพยายามทำทุกทางเพื่ออยากเจออีนากอีกครั้ง วันเวลาผ่านไปเป็นสิบปี จนเขาได้เจอกับคนที่อ้างว่ามาจากอนาคต และสามารถทำให้พี่มากย้อนเวลาไปหาอีนากได้ เขาจึงเข้าเครื่องย้อนเวลา และทำให้กลับไปเจออีนากอีกครั้ง อีนากตกใจกับผัวที่แก่ขึ้น และทั้งคู่ก็ทะเลาะกัน จนพี่มากพลั้งมือฆ่าอีนากตาย.. 2. เควนติน มารันติโน่ - อีนากปากหมา ไล่ด่าทุกคน ก่อนเควนตินจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์หนัง อีนากไม่ตาย แต่เป็นไอ้มากตายและกลายเป็นผีมาหลอกแทน 3. หว่อง-กาไว - อีนากนั่งรอพี่มากที่ท่าน้ำกับบรรยากาศสุดเหงายามเย็นที่มีแสงไฟจากตะเกียง พร้อมอีนากหยิบยาสูบขึ้นมาสูบ ทุกอย่างมันสโลไปหมด ยกเว้นอีนากคนเดียว 4. ปู่มาร์ตี้ - พี่มากเป็นหัวหน้าแก๊งค์รีดไถ่เงินในพระโขนง มีเพื่อนสนิทอยู่ 4 คน และมีเมียเป็นอีนาก ก่อนที่อีนากจะเล่นชู้กับเพื่อนพี่มากพร้อมกับเป่าหูให้ทุกคนหักหลังกัน และทั้งเรื่องจะเป็นการหักเหลี่ยมกันของแก๊งค์ ที่มีฉากไล่ข้าวโพดเป็นตอนจบ 5. ไมเคิล เบย์ - อีนากไม่ได้ท้องและออกไปรอบกับไอ้มากด้วย พร้อมกับระเบิดภูเขาเผ่ากระท่อมเหมือนเดิม 5.1. ไมเคิล เบย์ -อีนากหนีมาจากดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอนแต่ระบบเสียงเสียพูดไม่ได้ จากนั้นอีนากจะส่งแสงขึ้นฟ้าเป็นรูปสัญลักษณ์ ไอ้มากเห็นจึงเดินทางมายังดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่า โลกกกกก !? 6. จอห์น วู - อีนากนั่งรอที่ท่าน้ำจะมีนกพิราบบินแบบสโลโมชั่น ฉากระเบิดที่สงครามไอ้มากไปรบต้องใหญ่ๆไฟและควันพุ่งขึ้นสูงๆ 7. โรเบิร์ต รอดริเกซ - อีนากตาย และกลายเป็นแวมไพร์ ไล่ฆ่าคน 8. พี่เจ้ย - อีนากปลงชีวิต เดินเข้าไปใช้ชีวิตในป่า เดินไปเจอกับธรรมชาติมากมาย ก่อนนางจะเข้าใจชีวิตมากขึ้น 9. เอ็มไนต์ ชายามาลาน - อีนากตายเป็นผี ไอ้มากไม่รู้และไม่มีใครบอก เขาก็เลยอยู่กินกับผี จนพี่มากสังเกตและรู้เองว่าอีนากตายไปนานแล้ว ก่อนอีนากจะบอกว่า มึงก็ตายไปนานแล้วเหมือนกัน.. 10. เวส แอนเดอร์สัน - พระโขนงจะกลายเป็นสีพาสเทล 11. พี่พจน์ อานนท์ - พี่มากเป็นเกย์ และตบกะอีนาก 12. คิมคิ ด็อก - ทั้งเรื่องจะเงียบ และไม่มีบทพูด อีนากจะเงียบและรอคอยพี่มาก แต่ตัวละครรอบข้างจะพูดปกติ 13. เดวิด ฟินเชอร์ - อีนากถูกฆาตกรรม จนไอ้มากต้องออกมาช่วยกันสืบคดี จนสุดท้ายไอ้มากเปิดลังกระดาษแล้วพบกับ!! 14. หม่อมน้อย - ดีเทลทุกอย่างของคลองพระโขนงจะต้องเนี้ยบ เสื้อผ้าต้องเย็บใหม่ให้เหมือนในอดีต 15. ลาร์ส ฟอร์นเทียร์ - นางเอกจะติดเซ็กส์ และต้องการค้นหาตัวเอง 16. เป็นเอก รัตนเรือง - ไม่เน้นผี เน้นตีความ 17. พี่เต๋อ - ตัวละครทุกตัวจะพูดแบบเท่ๆ 18. ทิม เบอร์ตัน - ทุกตัวละครจะขอบตาดำกันหมดแต่งกายด้วยชุดอังกฤษยุคเลเนซองค์ 19. เดอนี วีลเนิฟว์ - ฉากหลังอีนากเป็นยุคไซเบอร์พังค์ 20. จอร์ด มิลเลอร์ - เรื่องราวไม่ได้เกิดในพระโขนง แต่เกิดในทะเลทราย 21. คูบริก นักแสดงนางนากจะถูกกังขังหน่วงเหนี่ยวไว้ จนกว่าจะยืดแขนเองได้ 22. เดวิด ลินซ์ - มึงดูไม่เข้าใจกันหรอก 23. จิบลิ - อีนากตายหลงเข้าไปในมิติวิญญาณ และไปทำงานในซ่องของโลกหลังความตาย 24.ชิออน โซโนะ - อีนากเบื่อการเป็นแม่บ้าน จึงออกไปหาความสำราญจนโดนหลอก.. แต่ติดใจ 25. ชินไค มาโคโตะ - แม่นากจะตามหาพี่มากตลอดไป จะost. ชื่อ 9.8 meter per sec ซึ่งมาจากความเร็วของมะนาวที่แม่นากทำหล่นจากชานบ้าน /เอ้าซู๊ดดดดดด 26. อังลี่ - อีนากคลอดลูกและรอดตาย ไอ้มากกลับมาปลอดภัย จนไอ้มากต้องไปทำงานเลี้ยงแกะบนเขา จนไปพบรักกับชายหนุ่มและทั้งคู่แอบเป็นชู้กัน 27. พอล ดับบิวเอสแอนเดอสัน - แม่นากแสดงโดยเมียตัวเอง ให้แม่นากเก่งที่สุดในโลก มีพลังจิตมองตาพิฆาตสังหาร มีซอมบี้ เอาลูกซองที่ลูกกระสุนเป็นเหรียญลากหัวซอมบี้คมๆ 28. เจมส์ เคเมรอน - สร้างพระโขนงขึ้นมาใหม่ เอาให้เหมือนจริงสุดๆ จนนักแสดงแก่หมดแล้ว หนังก็ยังสร้างไม่เสร็จ.. 29. ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ - แม่นากไอ้มาก ลักเด็กที่ถูกทำร้ายจากครอบครัวอีปริกมาเลี้ยงและหลายๆคนในครอบครัวไม่ใช่สายเลือดเดียวกันเพราะอีนากมีลูกไม่ได้ 30. กีเยโมร์ เดลโทโร่ -นางมากและไอ้มากอยู่ในหน่วยพิทักษ์โลเพราะในการขับหุ่นยนต์ยักเยเกอร์ต้องใช้พลขับ 2 คนโดยทั้ง 2 ขับหุ่นยนต์ที่ชื่อ ยิปซี แดนเจอร์ ขับไปไปขับมาเลยได้เสียกันอีนากท้อง จากนั้นจึงตั้งชื่อลูกว่าไอ้แดง 31.โรเบิร์ต เซเมคิส - นางนากต้องเป็นคนที่ไอ้มากปักใจรักมากที่สุดในชีวิต ก่อนนางจะใช้ชีวิตแบบขนนกที่ล่องลอยไปแบบที่นางอยากเป็น ผิดกับไอ้มากที่หลังจากไปรบในสงครามก็ใช้ชีวิตแบบขนนกที่ปลิวไปตามสายลมลมจะหอบไปทางไหนแต่เขาก็ตั้งใจทำมันทุกๆอย่างจนประสบความสำเร็จ สุดท้ายอีนากก็มีลูกชายกับไอ้มากแล้วนางก็ตาย ทำให้ไอ้มากต้องดูแลลูกชายหรือไอ้แดงเพียงคนเดียว ไอ้มากจึงสอนลูกชายเสมอว่า " ความตายเป็นส่วนนึงของชีวิต และ ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อคโกแลตเราไม่มีทางรู้ว่ามีรสชาติใดอยู่ข้างในบ้าง.." ที่เหลือก็หาผกก.ที่ชอบคอมเม้นท์มาเองนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถไฟเวียงจันทน์-คุนหมิง เพิ่มเป็น 2 ขบวนต่อวัน

    ความนิยมในการเดินทางด้วยรถไฟอีเอ็มยู (EMU) ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว กับนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีนเริ่มมีมากขึ้น นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2566 เป็นต้นมา ล่าสุด บริษัท รถไฟลาว-จีน จำกัด หรือ LCR เปิดให้บริการเพิ่มอีก 1 ขบวน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา รวมเป็น 2 ขบวนต่อวัน ได้แก่

    เที่ยวไป

    • ขบวน D88 ออกจากเวียงจันทน์ 08.00 น. (เวลาลาว) ถึงคุนหมิงใต้ 18.34 น. (เวลาจีน)

    • ขบวน D84 (ใหม่) ออกจากเวียงจันทน์ 11.25 น. (เวลาลาว) ถึงคุนหมิงใต้ 21.44 น. ถึงคุนหมิง 22.08 น. (เวลาจีน)

    เที่ยวกลับ

    • ขบวน D87 ออกจากคุนหมินใต้ 08.08 น. (เวลาจีน) ถึงเวียงจันทน์ 16.44 น. (เวลาลาว)

    • ขบวน D83 (ใหม่) ออกจากคุนหมิง 10.55 น. ออกจากคุนหมิงใต้ 11.20 น. (เวลาจีน) ถึงเวียงจันทน์ 19.59 น. (เวลาลาว)

    รถไฟขบวนดังกล่าวใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ต้องเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งลาวที่สถานีบ่อเต็น และฝั่งจีนที่สถานีโม่ฮาน เวลาจริงอาจล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศ รอสับหลีกขบวนรถ หรือเหตุสุดวิสัยต่างๆ แนะนำให้ตรวจสอบประกาศก่อนเดินทางได้ที่ที่เฟซบุ๊ก Laos - China Railway Company Limited

    สำรองที่นั่งล่วงหน้า 15 วัน ได้ที่แอปพลิเคชัน LCR Ticket (คนไทยใช้เบอร์มือถือไทยสมัครได้ และชำระเงินผ่านบัตรเครดิต VISA ที่ออกในประเทศไทยได้) หรือสำรองที่นั่งด้วยตัวเองที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ศูนย์การค้าเวียงจันทน์เซ็นเตอร์ สถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) และสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์

    คำแนะนำในการเดินทาง ตลอดเส้นทางไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ มีสัญญาณเฉพาะช่วงที่ผ่านสถานีรถไฟ การซื้ออาหารและเครื่องดื่มบนขบวนรถ ช่วงที่อยู่ในประเทศลาวรับเป็นเงินกีบ ส่วนช่วงที่อยู่ในประเทศจีนรับเป็นเงินหยวน กระบอกน้ำร้อนสามารถเติมน้ำร้อนได้ฟรีบนขบวนรถ ส่วนสถานีบ่อเต็นมีร้านค้าปลอดภาษีและมินิมาร์ทให้บริการ คิดเป็นสกุลเงินหยวน รับชำระผ่าน WexinPay

    นับตั้งแต่เปิดให้บริการ 2 ปี รถไฟข้ามแดนมีผู้โดยสารกว่า 530,000 คน (ณ เดือน มิ.ย.2568) จาก 112 ประเทศและภูมิภาค นักท่องเที่ยวบริเวณชายแดนลาว–จีนมีมากกว่า 37,500 คน (ณ เดือน เม.ย.2568) การเดินทางจากเวียงจันทน์ไปคุนหมิงจากเดิมหลายวัน เหลือเพียง 9 ชั่วโมง 26 นาที ผ่านเมืองสำคัญ ได้แก่ นครหลวงเวียงจันทน์ หลวงพระบาง สิบสองปันนา และนครคุนหมิง

    ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศลาว นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2564 มีผู้โดยสารสะสม 9,650,000 คน ล่าสุดมีขบวนรถไฟ EMU ให้บริการแล้ว 5 คัน

    #Newskit
    รถไฟเวียงจันทน์-คุนหมิง เพิ่มเป็น 2 ขบวนต่อวัน ความนิยมในการเดินทางด้วยรถไฟอีเอ็มยู (EMU) ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว กับนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีนเริ่มมีมากขึ้น นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2566 เป็นต้นมา ล่าสุด บริษัท รถไฟลาว-จีน จำกัด หรือ LCR เปิดให้บริการเพิ่มอีก 1 ขบวน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา รวมเป็น 2 ขบวนต่อวัน ได้แก่ เที่ยวไป • ขบวน D88 ออกจากเวียงจันทน์ 08.00 น. (เวลาลาว) ถึงคุนหมิงใต้ 18.34 น. (เวลาจีน) • ขบวน D84 (ใหม่) ออกจากเวียงจันทน์ 11.25 น. (เวลาลาว) ถึงคุนหมิงใต้ 21.44 น. ถึงคุนหมิง 22.08 น. (เวลาจีน) เที่ยวกลับ • ขบวน D87 ออกจากคุนหมินใต้ 08.08 น. (เวลาจีน) ถึงเวียงจันทน์ 16.44 น. (เวลาลาว) • ขบวน D83 (ใหม่) ออกจากคุนหมิง 10.55 น. ออกจากคุนหมิงใต้ 11.20 น. (เวลาจีน) ถึงเวียงจันทน์ 19.59 น. (เวลาลาว) รถไฟขบวนดังกล่าวใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ต้องเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งลาวที่สถานีบ่อเต็น และฝั่งจีนที่สถานีโม่ฮาน เวลาจริงอาจล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศ รอสับหลีกขบวนรถ หรือเหตุสุดวิสัยต่างๆ แนะนำให้ตรวจสอบประกาศก่อนเดินทางได้ที่ที่เฟซบุ๊ก Laos - China Railway Company Limited สำรองที่นั่งล่วงหน้า 15 วัน ได้ที่แอปพลิเคชัน LCR Ticket (คนไทยใช้เบอร์มือถือไทยสมัครได้ และชำระเงินผ่านบัตรเครดิต VISA ที่ออกในประเทศไทยได้) หรือสำรองที่นั่งด้วยตัวเองที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ศูนย์การค้าเวียงจันทน์เซ็นเตอร์ สถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) และสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ คำแนะนำในการเดินทาง ตลอดเส้นทางไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ มีสัญญาณเฉพาะช่วงที่ผ่านสถานีรถไฟ การซื้ออาหารและเครื่องดื่มบนขบวนรถ ช่วงที่อยู่ในประเทศลาวรับเป็นเงินกีบ ส่วนช่วงที่อยู่ในประเทศจีนรับเป็นเงินหยวน กระบอกน้ำร้อนสามารถเติมน้ำร้อนได้ฟรีบนขบวนรถ ส่วนสถานีบ่อเต็นมีร้านค้าปลอดภาษีและมินิมาร์ทให้บริการ คิดเป็นสกุลเงินหยวน รับชำระผ่าน WexinPay นับตั้งแต่เปิดให้บริการ 2 ปี รถไฟข้ามแดนมีผู้โดยสารกว่า 530,000 คน (ณ เดือน มิ.ย.2568) จาก 112 ประเทศและภูมิภาค นักท่องเที่ยวบริเวณชายแดนลาว–จีนมีมากกว่า 37,500 คน (ณ เดือน เม.ย.2568) การเดินทางจากเวียงจันทน์ไปคุนหมิงจากเดิมหลายวัน เหลือเพียง 9 ชั่วโมง 26 นาที ผ่านเมืองสำคัญ ได้แก่ นครหลวงเวียงจันทน์ หลวงพระบาง สิบสองปันนา และนครคุนหมิง ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศลาว นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2564 มีผู้โดยสารสะสม 9,650,000 คน ล่าสุดมีขบวนรถไฟ EMU ให้บริการแล้ว 5 คัน #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจห์ โลว์ นักธุรกิจผู้อื้อฉาว ซุกเชี่ยงไฮ้-ใช้ชื่อปลอม

    โจห์ โลว์ (Jho Low) หรือ โลว์ เต็ก โจห์ (Low Taek Jho) นักธุรกิจชาวปีนัง ประเทศมาเลเซียวัย 43 ปี ในฐานะผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบี (1MDB) กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวของมาเลเซีย 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ตำรวจสากล (Interpol) ต้องการตัวมาตั้งแต่ปี 2561 ล่าสุดสองนักข่าวสายสืบสวนอย่าง แบรดลีย์ โฮป (Bradley Hope) และ ทอม ไรต์ (Tom Wright) เปิดเผยผ่านพอดแคสต์ Finding Jho Low เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ว่ายังคงใช้ชีวิตอย่างหรูหราในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และใช้หนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย

    ทั้งสองอ้างว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค แนะนำให้โลว์หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แม้จะเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในย่านกรีนฮิลล์ (Green Hills) ซึ่งเป็นย่านเศรษฐี มีบ้านสไตล์อเมริกันและเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ รวมทั้งขับรถยนต์หรู และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวจีน 2 คนคอยดูแล นอกจากนี้ ยังเปิดเผยเอกสารที่ได้รับมาใหม่ เป็นหนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ใช้ชื่อภาษากรีกว่า คอนสเตนติโนส อคิลลีส (Constantinos Achilles) อีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของสำนักข่าวเบอร์นามา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ไม่ทราบอย่างเป็นทางการว่า โจห์ โลว์ หนีไปประเทศจีน ต้องตรวจสอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน ส่วนสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (DFAT) และตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียเพื่อสอบถามเพิ่มเติม กลับไม่ยืนยันว่าทราบเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาออสเตรเลียเคยขับไล่ทูตอิสราเอลออกไปเมื่อปี 2553 เพราะหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล (Mossad) ใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลียปลอมลอบ สังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

    สำหรับโจห์ โลว์ ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจเพลย์บอยคนหนึ่งในมาเลเซีย ยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบีไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหราในสหรัฐฯ รวมถึงงานศิลปะ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และเรือยอทช์สุดหรูที่ชื่อว่า อีควลนิมิตี (Equanimity) ซึ่งถูกทางการอินโดนีเซียกักบริเวณนอกชายฝั่งเกาะบาหลี ก่อนขายทอดตลาดและนำเงินคืนรัฐบาลมาเลเซีย รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street (คนจะรวย ช่วยไม่ได้) ในปี 2556 นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ซึ่งต่อมากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อ้างว่าได้รับเงินทุนจากเงินมาเลเซียที่ยักยอกมา ปัจจุบันยังคงถูกทางการมาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐฯ ออกหมายจับ

    #Newskit
    โจห์ โลว์ นักธุรกิจผู้อื้อฉาว ซุกเชี่ยงไฮ้-ใช้ชื่อปลอม โจห์ โลว์ (Jho Low) หรือ โลว์ เต็ก โจห์ (Low Taek Jho) นักธุรกิจชาวปีนัง ประเทศมาเลเซียวัย 43 ปี ในฐานะผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบี (1MDB) กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวของมาเลเซีย 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ตำรวจสากล (Interpol) ต้องการตัวมาตั้งแต่ปี 2561 ล่าสุดสองนักข่าวสายสืบสวนอย่าง แบรดลีย์ โฮป (Bradley Hope) และ ทอม ไรต์ (Tom Wright) เปิดเผยผ่านพอดแคสต์ Finding Jho Low เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ว่ายังคงใช้ชีวิตอย่างหรูหราในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และใช้หนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ทั้งสองอ้างว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค แนะนำให้โลว์หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แม้จะเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในย่านกรีนฮิลล์ (Green Hills) ซึ่งเป็นย่านเศรษฐี มีบ้านสไตล์อเมริกันและเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ รวมทั้งขับรถยนต์หรู และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวจีน 2 คนคอยดูแล นอกจากนี้ ยังเปิดเผยเอกสารที่ได้รับมาใหม่ เป็นหนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ใช้ชื่อภาษากรีกว่า คอนสเตนติโนส อคิลลีส (Constantinos Achilles) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของสำนักข่าวเบอร์นามา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ไม่ทราบอย่างเป็นทางการว่า โจห์ โลว์ หนีไปประเทศจีน ต้องตรวจสอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน ส่วนสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (DFAT) และตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียเพื่อสอบถามเพิ่มเติม กลับไม่ยืนยันว่าทราบเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาออสเตรเลียเคยขับไล่ทูตอิสราเอลออกไปเมื่อปี 2553 เพราะหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล (Mossad) ใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลียปลอมลอบ สังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำหรับโจห์ โลว์ ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจเพลย์บอยคนหนึ่งในมาเลเซีย ยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบีไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหราในสหรัฐฯ รวมถึงงานศิลปะ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และเรือยอทช์สุดหรูที่ชื่อว่า อีควลนิมิตี (Equanimity) ซึ่งถูกทางการอินโดนีเซียกักบริเวณนอกชายฝั่งเกาะบาหลี ก่อนขายทอดตลาดและนำเงินคืนรัฐบาลมาเลเซีย รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street (คนจะรวย ช่วยไม่ได้) ในปี 2556 นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ซึ่งต่อมากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อ้างว่าได้รับเงินทุนจากเงินมาเลเซียที่ยักยอกมา ปัจจุบันยังคงถูกทางการมาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐฯ ออกหมายจับ #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มนับหนึ่ง MRT3 Circle Line รถไฟฟ้าวงแหวนรอบนอก KL

    หลังจากประเทศมาเลเซียพัฒนารถไฟฟ้าไปทั่วกรุงกัวลาลัมเปอร์และหุบเขาแคลงมาแล้ว 12 เส้นทาง ล่าสุดโครงการรถไฟฟ้า MRT3 Circle Line ของบริษัท มาเลเซีย แรพิด ทรานซิท คอร์ปอเรชัน (MRT Corp) นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ได้อนุมัติลงนามโครงการในขั้นตอนสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว หลังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน 45,000 ราย พบว่ามีผู้สนับสนุนโครงการ 93.3% นับจากนี้จะเริ่มกระบวนการจัดซื้อที่ดินตามแนวเส้นทาง 690 แปลงภายในปี 2569 ก่อนประกวดราคาและก่อสร้างต่อไป

    สำหรับโครงการรถไฟฟ้า MRT3 Circle Line มีระยะทาง 51 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางวนรอบ 73 นาที แบ่งเป็นทางรถไฟยกระดับ 39 กิโลเมตร และทางรถไฟใต้ดิน 12 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีบูกิต เคียรา เซลาตัน (Bukit Kiara Selatan) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT Kajang Line วนตามเข็มนาฬิกาจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก มีสถานีทั้งหมด 32 สถานี แบ่งเป็นสถานียกระดับ 22 สถานี สถานีใต้ดิน 7 สถานี รองรับผู้โดยสาร 25,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการผู้โดยสารรอบนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ และเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นแบบบูรณาการ สามารถเดินทางระหว่างกันได้อย่างราบรื่น

    เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่างๆ ได้แก่ สถานีคอมเพล็กซ์ ดูตา (Kompleks Duta) เชื่อมต่อรถไฟ KTM Tanjung Malim-Port Klang Line, สถานีตีตี้วังซา (Titiwangsa) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 4 สาย ได้แก่ LRT Ampang Line, LRT Sri Petaling Line, KL Monorail Line and MRT Putrajaya Line, สถานีเซเตียวังซา (Setiawangsa) เชื่อมต่อรถไฟ LRT Kelana Jaya Line, สถานีพันดัน อินดาห์ (Pandan Indah) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Ampang Line,

    สถานีตามันมิดาห์ (Taman Midah) เชื่อมต่อรถไฟ MRT Kajang Line, สถานีซาลัคเซลาตัน (Salak Selatan) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Sri Petaling Line, สถานีกูชาย (Kuchai) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT Putrajaya Line, สถานีพันทายดาลัม (Pantai Dalam) เชื่อมต่อรถไฟ KTM Tanjung Malim-Port Klang Line, สถานียูนิเวอร์ซิตี้ (Universiti) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Kelana Jaya Line

    ผ่านสถานที่สำคัญ ได้แก่ ศูนย์นิทรรศการและการค้าระหว่างประเทศมาเลเซีย (MITEC) สถานีดูตามาส (Dutamas), โรงพยาบาลเฉพาะทาง Pusat Perubatan Universiti Kebangsaan Malaysia (PPUKM) and UKM Child Specialist Hospital สถานีจาลันยาโคบลาทิฟ (Jalan Yaacob Latif), ศูนย์การค้าเคแอลเกตเวย์มอลล์ สถานียูนิเวอร์ซิตี้ และศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยมาลายา (University of Malaya Medical Centre) สถานียูเอ็ม (UM) เป็นต้น

    #Newskit
    เริ่มนับหนึ่ง MRT3 Circle Line รถไฟฟ้าวงแหวนรอบนอก KL หลังจากประเทศมาเลเซียพัฒนารถไฟฟ้าไปทั่วกรุงกัวลาลัมเปอร์และหุบเขาแคลงมาแล้ว 12 เส้นทาง ล่าสุดโครงการรถไฟฟ้า MRT3 Circle Line ของบริษัท มาเลเซีย แรพิด ทรานซิท คอร์ปอเรชัน (MRT Corp) นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ได้อนุมัติลงนามโครงการในขั้นตอนสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว หลังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน 45,000 ราย พบว่ามีผู้สนับสนุนโครงการ 93.3% นับจากนี้จะเริ่มกระบวนการจัดซื้อที่ดินตามแนวเส้นทาง 690 แปลงภายในปี 2569 ก่อนประกวดราคาและก่อสร้างต่อไป สำหรับโครงการรถไฟฟ้า MRT3 Circle Line มีระยะทาง 51 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางวนรอบ 73 นาที แบ่งเป็นทางรถไฟยกระดับ 39 กิโลเมตร และทางรถไฟใต้ดิน 12 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีบูกิต เคียรา เซลาตัน (Bukit Kiara Selatan) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT Kajang Line วนตามเข็มนาฬิกาจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก มีสถานีทั้งหมด 32 สถานี แบ่งเป็นสถานียกระดับ 22 สถานี สถานีใต้ดิน 7 สถานี รองรับผู้โดยสาร 25,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการผู้โดยสารรอบนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ และเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นแบบบูรณาการ สามารถเดินทางระหว่างกันได้อย่างราบรื่น เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่างๆ ได้แก่ สถานีคอมเพล็กซ์ ดูตา (Kompleks Duta) เชื่อมต่อรถไฟ KTM Tanjung Malim-Port Klang Line, สถานีตีตี้วังซา (Titiwangsa) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 4 สาย ได้แก่ LRT Ampang Line, LRT Sri Petaling Line, KL Monorail Line and MRT Putrajaya Line, สถานีเซเตียวังซา (Setiawangsa) เชื่อมต่อรถไฟ LRT Kelana Jaya Line, สถานีพันดัน อินดาห์ (Pandan Indah) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Ampang Line, สถานีตามันมิดาห์ (Taman Midah) เชื่อมต่อรถไฟ MRT Kajang Line, สถานีซาลัคเซลาตัน (Salak Selatan) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Sri Petaling Line, สถานีกูชาย (Kuchai) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT Putrajaya Line, สถานีพันทายดาลัม (Pantai Dalam) เชื่อมต่อรถไฟ KTM Tanjung Malim-Port Klang Line, สถานียูนิเวอร์ซิตี้ (Universiti) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Kelana Jaya Line ผ่านสถานที่สำคัญ ได้แก่ ศูนย์นิทรรศการและการค้าระหว่างประเทศมาเลเซีย (MITEC) สถานีดูตามาส (Dutamas), โรงพยาบาลเฉพาะทาง Pusat Perubatan Universiti Kebangsaan Malaysia (PPUKM) and UKM Child Specialist Hospital สถานีจาลันยาโคบลาทิฟ (Jalan Yaacob Latif), ศูนย์การค้าเคแอลเกตเวย์มอลล์ สถานียูนิเวอร์ซิตี้ และศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยมาลายา (University of Malaya Medical Centre) สถานียูเอ็ม (UM) เป็นต้น #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 562 มุมมอง 0 รีวิว
  • KITS Style การรถไฟมาเลย์ทำซูเปอร์แอปฯ

    หลังจากที่การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) หรือ KTMB ประเทศมาเลเซีย พยายามผลักดันการซื้อตั๋วรถไฟแบบไร้เงินสดเต็มรูปแบบ มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นมา ล่าสุดได้เปลี่ยนแพลตฟอร์มจำหน่ายตั๋วโดยสารออนไลน์แบบบูรณาการ KITS (KTMB Integrated Ticketing System) มาเป็นซูเปอร์แอปพลิเคชันที่ชื่อว่า คิทส์ สไตล์ (KITS Style) โดยได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยร่วมมือกันระหว่าง KTMB กับเอ็มเปย์ (MPay) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลในมาเลเซีย

    โดยคุณสมบัติหลักของแอปฯ KITS Style คือ การซื้อตั๋วรถไฟของ KTMB ทั้งรถไฟ ETS/Intercity รถไฟชานเมือง KTM Komuter รถไฟข้ามแดน Shuttle Tebrau พ่วงไปกับการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ตั๋วรถไฟต่างประเทศ รถเช่า รถรับ-ส่งสนามบิน เรือสำราญ กิจกรรมการท่องเที่ยวโดย Trip.com บริการเรียกรถรับจ้างสาธารณะ (E-Hailing) นอกจากนี้ยังสามารถโอนเงินต่างประเทศ ประกัน ตากาฟูล จ่ายบิลและเติมเงินโทรศัพท์มือถือในมาเลเซียอีกด้วย

    พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวบัตร KITS Style Mastercard Prepaid Card ซึ่งประกาศว่าเป็นบัตรเติมเงินขนส่งสาธารณะแบบเปิดใบแรกในมาเลเซียและอาเซียน ที่ออกโดยผู้ให้บริการรถไฟ ปัจจุบันให้บริการในรูปแบบบัตรเสมือน (Virtual Card) โดยมีค่าธรรมเนียมออกบัตรเสมือน 10 ริงกิต ส่วนบัตรพลาสติกแบบชิปการ์ดจะเปิดตัวในเดือน ก.ย. 2568 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานแอปฯ KTMB Mobile เดิม ระบบจะแจ้งเตือนการย้ายระบบไปยัง KITS Style แบบใหม่ โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้สมัครบริการ ให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนยืนยันการเปลี่ยนแปลง

    Newskit ทดลองสมัครบริการแอปฯ KITS Style เริ่มแรกด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน App Store หรือ Google Play จากนั้นลงทะเบียนโดยใช้โทรศัพท์มือถือแล้วรอรับ SMS OTP ซึ่งพบว่าเบอร์ต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยสามารถสมัครได้ (ยกเว้นเอไอเอสที่พบปัญหาบล็อก SMS จากต่างประเทศ) จากนั้นกรอกรายละเอียดส่วนตัว กรณีชาวต่างชาติใช้ข้อมูลหนังสือเดินทาง แล้วตั้งรหัส PIN 6 หลักเป็นอันเสร็จสิ้น

    อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานต้องยืนยันการสร้างบัญชีผ่านการทำ e-KYC ด้วยการถ่ายภาพหนังสือเดินทาง เซลฟี่ใบหน้า ระบบจะอนุมัติภายใน 2 วันทำการ โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนเมื่อการยืนยันตัวตนสำเร็จ ส่วนการเติมเงินขั้นต่ำ 10 ริงกิต สูงสุดไม่เกิน 1,000 ริงกิต สามารถเติมเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต VISA และ Mastercard ได้ทั้งบัตรในประเทศและต่างประเทศ ส่วนชาวมาเลเซียสามารถเติมเงินผ่านทางออนไลน์แบงกิ้งระบบ FPX และ DuitNow แต่ยังไม่รองรับ e-Wallet

    #Newskit
    KITS Style การรถไฟมาเลย์ทำซูเปอร์แอปฯ หลังจากที่การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) หรือ KTMB ประเทศมาเลเซีย พยายามผลักดันการซื้อตั๋วรถไฟแบบไร้เงินสดเต็มรูปแบบ มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นมา ล่าสุดได้เปลี่ยนแพลตฟอร์มจำหน่ายตั๋วโดยสารออนไลน์แบบบูรณาการ KITS (KTMB Integrated Ticketing System) มาเป็นซูเปอร์แอปพลิเคชันที่ชื่อว่า คิทส์ สไตล์ (KITS Style) โดยได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยร่วมมือกันระหว่าง KTMB กับเอ็มเปย์ (MPay) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลในมาเลเซีย โดยคุณสมบัติหลักของแอปฯ KITS Style คือ การซื้อตั๋วรถไฟของ KTMB ทั้งรถไฟ ETS/Intercity รถไฟชานเมือง KTM Komuter รถไฟข้ามแดน Shuttle Tebrau พ่วงไปกับการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ตั๋วรถไฟต่างประเทศ รถเช่า รถรับ-ส่งสนามบิน เรือสำราญ กิจกรรมการท่องเที่ยวโดย Trip.com บริการเรียกรถรับจ้างสาธารณะ (E-Hailing) นอกจากนี้ยังสามารถโอนเงินต่างประเทศ ประกัน ตากาฟูล จ่ายบิลและเติมเงินโทรศัพท์มือถือในมาเลเซียอีกด้วย พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวบัตร KITS Style Mastercard Prepaid Card ซึ่งประกาศว่าเป็นบัตรเติมเงินขนส่งสาธารณะแบบเปิดใบแรกในมาเลเซียและอาเซียน ที่ออกโดยผู้ให้บริการรถไฟ ปัจจุบันให้บริการในรูปแบบบัตรเสมือน (Virtual Card) โดยมีค่าธรรมเนียมออกบัตรเสมือน 10 ริงกิต ส่วนบัตรพลาสติกแบบชิปการ์ดจะเปิดตัวในเดือน ก.ย. 2568 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานแอปฯ KTMB Mobile เดิม ระบบจะแจ้งเตือนการย้ายระบบไปยัง KITS Style แบบใหม่ โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้สมัครบริการ ให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนยืนยันการเปลี่ยนแปลง Newskit ทดลองสมัครบริการแอปฯ KITS Style เริ่มแรกด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน App Store หรือ Google Play จากนั้นลงทะเบียนโดยใช้โทรศัพท์มือถือแล้วรอรับ SMS OTP ซึ่งพบว่าเบอร์ต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยสามารถสมัครได้ (ยกเว้นเอไอเอสที่พบปัญหาบล็อก SMS จากต่างประเทศ) จากนั้นกรอกรายละเอียดส่วนตัว กรณีชาวต่างชาติใช้ข้อมูลหนังสือเดินทาง แล้วตั้งรหัส PIN 6 หลักเป็นอันเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานต้องยืนยันการสร้างบัญชีผ่านการทำ e-KYC ด้วยการถ่ายภาพหนังสือเดินทาง เซลฟี่ใบหน้า ระบบจะอนุมัติภายใน 2 วันทำการ โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนเมื่อการยืนยันตัวตนสำเร็จ ส่วนการเติมเงินขั้นต่ำ 10 ริงกิต สูงสุดไม่เกิน 1,000 ริงกิต สามารถเติมเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต VISA และ Mastercard ได้ทั้งบัตรในประเทศและต่างประเทศ ส่วนชาวมาเลเซียสามารถเติมเงินผ่านทางออนไลน์แบงกิ้งระบบ FPX และ DuitNow แต่ยังไม่รองรับ e-Wallet #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 577 มุมมอง 0 รีวิว
  • MK ร่วมแจม ศึกสุกี้ตลาดแมส

    ในที่สุด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ M เจ้าของภัตตาคารอาหารเอ็มเค และอีกสารพัดแบรนด์ ตัดสินใจโดดร่วมสมรภูมิสุกี้ตลาดแมส ด้วยการเปิดร้านสุกี้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า "โบนัสสุกี้" ประเดิมสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สระบุรี จ.สระบุรี ในวันที่ 16 ก.ค. ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 05.00 น. พร้อมเปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยโปรโมชันฉลองเปิดสาขา 1 ฟรี 1 เป็นเวลา 5 วัน วันละ 100 สิทธิ์

    นับเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของเอ็มเค หลังคู่แข่งอย่างร้านสุกี้ตี๋น้อย ของ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ประสบความสำเร็จด้วยจำนวนสาขา 82 สาขา มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 รวม 271 ล้านบาท แซงหน้าเอ็มเคที่มีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท รวมทั้งคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง ร้านลัคกี้สุกี้ ของบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ที่มี 19 สาขาอีกด้วย ทำให้เอ็มเคตัดสินใจตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า บริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา

    สำหรับจังหวัดสระบุรี นอกจากมีรายได้ต่อหัวสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ เป็นแหล่งผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ รวมทั้งมีค่ายอดิศร เป็นที่ตั้งของศูนย์การทหารม้า มณฑลทหารบกที่ 18 รวมทั้งโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ที่ อ.มวกเหล็ก แล้ว ยังเป็นทางผ่านสู่ภาคอีสานด้วยถนนมิตรภาพ และมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา ที่ผ่านมามีสุกี้ตี๋น้อย เปิดสาขาสระบุรีที่ปั๊มบางจาก B5 อเวนิว ใกล้ห้างบิ๊กซีเพลสสระบุรี และลัคกี้สุกี้ สาขาโลตัสสระบุรี

    ก่อนหน้านี้เอ็มเคได้ทดลองจัดโปรโมชัน “MK บุฟเฟต์ คุ้มคุ้มอิ่มไม่อั้น 90 นาที” ราคา 299 บาทต่อคน หากลูกค้ามา 4 คน สามารถสั่งกุ้งแม่น้ำได้ไม่อั้น เฉพาะร้านเอ็มเค เรสโตรองต์ สาขาในห้างค้าปลีก เช่น โลตัส และบิ๊กซี รวม 250 สาขา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายโปรโมชันถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 พร้อมเพิ่มสาขาร่วมรายการอีก 49 สาขา รวม 299 สาขา นอกจากนี้ ยังทดลองขยายเวลาให้บริการถึงเวลา 24.00 น. จำนวน 9 สาขา และเวลา 23.00 น. จำนวน 8 สาขา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารในช่วงกลางคืนหรือหลังเลิกงาน

    การเปิดแบรนด์สุกี้ใหม่ของเอ็มเค นอกจากจะสร้างสีสันการแข่งขันสุกี้ตลาดแมสให้คึกคัก ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ปัจจุบันมีพื้นที่ว่างจำนวนมาก แม้จะต้องปรับตัวเรื่องการรักษาความปลอดภัยหลังศูนย์การค้าปิดให้บริการก็ตาม

    #Newskit
    MK ร่วมแจม ศึกสุกี้ตลาดแมส ในที่สุด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ M เจ้าของภัตตาคารอาหารเอ็มเค และอีกสารพัดแบรนด์ ตัดสินใจโดดร่วมสมรภูมิสุกี้ตลาดแมส ด้วยการเปิดร้านสุกี้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า "โบนัสสุกี้" ประเดิมสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สระบุรี จ.สระบุรี ในวันที่ 16 ก.ค. ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 05.00 น. พร้อมเปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยโปรโมชันฉลองเปิดสาขา 1 ฟรี 1 เป็นเวลา 5 วัน วันละ 100 สิทธิ์ นับเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของเอ็มเค หลังคู่แข่งอย่างร้านสุกี้ตี๋น้อย ของ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ประสบความสำเร็จด้วยจำนวนสาขา 82 สาขา มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 รวม 271 ล้านบาท แซงหน้าเอ็มเคที่มีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท รวมทั้งคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง ร้านลัคกี้สุกี้ ของบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ที่มี 19 สาขาอีกด้วย ทำให้เอ็มเคตัดสินใจตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า บริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา สำหรับจังหวัดสระบุรี นอกจากมีรายได้ต่อหัวสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ เป็นแหล่งผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ รวมทั้งมีค่ายอดิศร เป็นที่ตั้งของศูนย์การทหารม้า มณฑลทหารบกที่ 18 รวมทั้งโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ที่ อ.มวกเหล็ก แล้ว ยังเป็นทางผ่านสู่ภาคอีสานด้วยถนนมิตรภาพ และมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา ที่ผ่านมามีสุกี้ตี๋น้อย เปิดสาขาสระบุรีที่ปั๊มบางจาก B5 อเวนิว ใกล้ห้างบิ๊กซีเพลสสระบุรี และลัคกี้สุกี้ สาขาโลตัสสระบุรี ก่อนหน้านี้เอ็มเคได้ทดลองจัดโปรโมชัน “MK บุฟเฟต์ คุ้มคุ้มอิ่มไม่อั้น 90 นาที” ราคา 299 บาทต่อคน หากลูกค้ามา 4 คน สามารถสั่งกุ้งแม่น้ำได้ไม่อั้น เฉพาะร้านเอ็มเค เรสโตรองต์ สาขาในห้างค้าปลีก เช่น โลตัส และบิ๊กซี รวม 250 สาขา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายโปรโมชันถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 พร้อมเพิ่มสาขาร่วมรายการอีก 49 สาขา รวม 299 สาขา นอกจากนี้ ยังทดลองขยายเวลาให้บริการถึงเวลา 24.00 น. จำนวน 9 สาขา และเวลา 23.00 น. จำนวน 8 สาขา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารในช่วงกลางคืนหรือหลังเลิกงาน การเปิดแบรนด์สุกี้ใหม่ของเอ็มเค นอกจากจะสร้างสีสันการแข่งขันสุกี้ตลาดแมสให้คึกคัก ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ปัจจุบันมีพื้นที่ว่างจำนวนมาก แม้จะต้องปรับตัวเรื่องการรักษาความปลอดภัยหลังศูนย์การค้าปิดให้บริการก็ตาม #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 583 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานีมีหอยเกือบตาย เมื่อคิดจะไปมาเลเซีย

    เมื่อวันก่อน สถานีมีหอย ร้านซีฟูดชื่อดังภายใต้การนำของสองหนุ่ม ดี-วีระศักดิ์ มะสะอาว นายแบบ เอ็มซีงานอีเวนต์ และ ว่าว-ศราวุธ ศิริเพชร นักวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยบูรพา นายแบบ ให้บริการวันแรกเมื่อ 2 เม.ย. 2559 ใช้เมนูหอยเป็นจุดขาย และใช้ความถนัดทางด้านสร้างสีสัน สร้างความบันเทิง ทำให้คนมีความสุข โดยมีจุดเด่นตรงที่มีพ่อค้าเซ็กซี่ คอยเอนเตอร์เทนลูกค้าอย่างสนุกสนาน เป็นที่นิยมทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน กำลังจะปิดตำนานที่ตลาดหัวมุม ย่านเกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ เพราะเดือน ก.ค.2568 จะให้บริการเป็นเดือนสุดท้าย และจะปิดตัวลงในเดือน ส.ค.2568 เนื่องจากตลาดหัวมุมสิ้นสุดสัญญาเช่า จึงต้องย้ายสถานที่ใหม่ หลังเปิดให้บริการมานานกว่า 9 ปี 4 เดือน

    แม้ไวรัลดังกล่าวคนไทยจะให้ความสนใจน้อย แต่กลายเป็นที่ฮือฮาของสื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะตระกูล Foodie สื่อด้านอาหารของมาเลเซีย ในฐานะประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยเป็นอันดับสองรองจากจีน และชาวมาเลเซียบางคนก็เคยสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่มาแล้วเช่นกัน ที่ตื่นเต้นไปอีกก็คือ สองหนุ่มดีกับว่าว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "9 ปีในตลาดกลางคืนหัวมุมนั้นเหลือเชื่อมาก ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนทั้งหมดที่ทุกคนมอบให้ เรามีแผนที่ยิ่งใหญ่กว่าในใจ ตอนนี้สถานที่ในกรุงเทพฯ จะถูกเบรกไว้ก่อนจนกว่าจะได้สถานที่ใหม่ นอกจากนี้ ข่าวดีก็คือเราจะมองหาสถานที่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เรากำลังขยายไปยังกัวลาลัมเปอร์สถานที่แรก คุณพร้อมหรือยัง"

    หลังสื่อมาเลเซียเสนอข่าว กลายเป็นที่วิจารณ์ของชาวมาเลเซียทั้งตื่นเต้นและต่อต้าน ในฐานะประเทศที่มีชาวมุสลิมมากถึง 60% ไม่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ และมีกฎหมายลงโทษรุนแรงสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน

    สุดท้ายดีและว่าวต้องชี้แจงว่า จากที่พิจารณาจะเปิดร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ พวกเราชอบมาเลเซียมาก แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดร้านอาหารแนวเต้นรำ แนวคิดเต้นรำนำความสุขมาสู่ลูกค้าของเราเมื่อพวกเขามาเยือนกรุงเทพฯ ประเทศไทย แต่รับรองว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นที่มาเลเซีย ในประเทศไทย ร้านสถานีมีหอยจะยังคงดำเนินการต่อไป เมื่อได้สถานที่ที่เหมาะสม และในมาเลเซีย แนวคิดของเราคือการนำอาหารไทยแท้ที่มีชื่อเสียงมาเสิร์ฟในมาเลเซีย เนื่องจากดี (วีระศักดิ์) ชอบทำอาหารมาก จึงมีความฝันที่จะเปิดร้านอาหารในต่างประเทศเพื่อแบ่งปันอาหารไทยไปทั่วโลก และจุดหมายแรกคือกัวลาลัมเปอร์ เราเคารพวัฒนธรรมมาเลเซียในปัจจุบัน และจะรักมาเลเซียตลอดไป ดังนั้นโปรดมั่นใจว่า เราจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อเราหรือมาเลเซีย

    #Newskit
    สถานีมีหอยเกือบตาย เมื่อคิดจะไปมาเลเซีย เมื่อวันก่อน สถานีมีหอย ร้านซีฟูดชื่อดังภายใต้การนำของสองหนุ่ม ดี-วีระศักดิ์ มะสะอาว นายแบบ เอ็มซีงานอีเวนต์ และ ว่าว-ศราวุธ ศิริเพชร นักวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยบูรพา นายแบบ ให้บริการวันแรกเมื่อ 2 เม.ย. 2559 ใช้เมนูหอยเป็นจุดขาย และใช้ความถนัดทางด้านสร้างสีสัน สร้างความบันเทิง ทำให้คนมีความสุข โดยมีจุดเด่นตรงที่มีพ่อค้าเซ็กซี่ คอยเอนเตอร์เทนลูกค้าอย่างสนุกสนาน เป็นที่นิยมทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน กำลังจะปิดตำนานที่ตลาดหัวมุม ย่านเกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ เพราะเดือน ก.ค.2568 จะให้บริการเป็นเดือนสุดท้าย และจะปิดตัวลงในเดือน ส.ค.2568 เนื่องจากตลาดหัวมุมสิ้นสุดสัญญาเช่า จึงต้องย้ายสถานที่ใหม่ หลังเปิดให้บริการมานานกว่า 9 ปี 4 เดือน แม้ไวรัลดังกล่าวคนไทยจะให้ความสนใจน้อย แต่กลายเป็นที่ฮือฮาของสื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะตระกูล Foodie สื่อด้านอาหารของมาเลเซีย ในฐานะประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยเป็นอันดับสองรองจากจีน และชาวมาเลเซียบางคนก็เคยสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่มาแล้วเช่นกัน ที่ตื่นเต้นไปอีกก็คือ สองหนุ่มดีกับว่าว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "9 ปีในตลาดกลางคืนหัวมุมนั้นเหลือเชื่อมาก ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนทั้งหมดที่ทุกคนมอบให้ เรามีแผนที่ยิ่งใหญ่กว่าในใจ ตอนนี้สถานที่ในกรุงเทพฯ จะถูกเบรกไว้ก่อนจนกว่าจะได้สถานที่ใหม่ นอกจากนี้ ข่าวดีก็คือเราจะมองหาสถานที่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เรากำลังขยายไปยังกัวลาลัมเปอร์สถานที่แรก คุณพร้อมหรือยัง" หลังสื่อมาเลเซียเสนอข่าว กลายเป็นที่วิจารณ์ของชาวมาเลเซียทั้งตื่นเต้นและต่อต้าน ในฐานะประเทศที่มีชาวมุสลิมมากถึง 60% ไม่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ และมีกฎหมายลงโทษรุนแรงสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน สุดท้ายดีและว่าวต้องชี้แจงว่า จากที่พิจารณาจะเปิดร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ พวกเราชอบมาเลเซียมาก แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดร้านอาหารแนวเต้นรำ แนวคิดเต้นรำนำความสุขมาสู่ลูกค้าของเราเมื่อพวกเขามาเยือนกรุงเทพฯ ประเทศไทย แต่รับรองว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นที่มาเลเซีย ในประเทศไทย ร้านสถานีมีหอยจะยังคงดำเนินการต่อไป เมื่อได้สถานที่ที่เหมาะสม และในมาเลเซีย แนวคิดของเราคือการนำอาหารไทยแท้ที่มีชื่อเสียงมาเสิร์ฟในมาเลเซีย เนื่องจากดี (วีระศักดิ์) ชอบทำอาหารมาก จึงมีความฝันที่จะเปิดร้านอาหารในต่างประเทศเพื่อแบ่งปันอาหารไทยไปทั่วโลก และจุดหมายแรกคือกัวลาลัมเปอร์ เราเคารพวัฒนธรรมมาเลเซียในปัจจุบัน และจะรักมาเลเซียตลอดไป ดังนั้นโปรดมั่นใจว่า เราจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อเราหรือมาเลเซีย #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 573 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอ็มมานูเอล มาครง สนทนาทางโทรศัพท์กับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยในวันนี้โดยในระหว่างการพูดคุย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยได้แสดงความหวังว่าฝรั่งเศสจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการกลับมาเจรจาทวิภาคีในประเด็นชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาอีกครั้ง ตามรายงานของThai Enquirer
    มีรายงานว่า เอ็มมานูเอล มาครง ตกลงที่จะหารือประเด็นดังกล่าวกับกัมพูชา ตามที่จิรายุ หวางทรัพย์ โฆษกรัฐบาลไทย กล่าว
    รายงานระบุว่านายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต์ของกัมพูชาได้กล่าวถึงประเด็นปัญหาที่ยุ่งยากนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณชายแดนกับประเทศไทยกับเอ็มมานูเอล มาครงในระหว่างการเยือนเมืองนีซเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมาครงตอบว่าฝรั่งเศสสามารถมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ได้
    การกำหนดเขตแดนทางบกระหว่างกัมพูชากับไทยได้กำหนดขึ้นโดยอนุสัญญาฝรั่งเศส-สยาม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2447 และสนธิสัญญาระหว่างฝรั่งเศสและสยาม เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2450 โดยได้มีการเผยแพร่แผนที่ในมาตราส่วน 1:200,000 ในปี พ.ศ. 2450 และ พ.ศ. 2451มีรายงานว่ามีการติดตั้งเครื่องหมายแสดงเขตแดนจำนวน 73-74 อันตามแนวชายแดนนี้ ซึ่งบางอันยังหาไม่พบ
    นับแต่มีสนธิสัญญานี้ ปัญหาการกำหนดขอบเขตและปักปันเขตแดนอย่างมีประสิทธิผลระหว่างสองประเทศนี้ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
    ในบริบทนี้ บทบาทของฝรั่งเศสมีความสำคัญอย่างยิ่งในการนำทั้งสองฝ่ายมาเจรจากันตามสนธิสัญญานี้และแผนที่ที่เผยแพร่แล้ว ขณะเดียวกันอาจให้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเพิ่มเติมอีกด้วย
    มันเป็นความรับผิดชอบทางศีลธรรมของฝรั่งเศสต่ออดีตร่วมกัน
    เอ็มมานูเอล มาครง สนทนาทางโทรศัพท์กับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยในวันนี้โดยในระหว่างการพูดคุย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยได้แสดงความหวังว่าฝรั่งเศสจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการกลับมาเจรจาทวิภาคีในประเด็นชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาอีกครั้ง ตามรายงานของThai Enquirer มีรายงานว่า เอ็มมานูเอล มาครง ตกลงที่จะหารือประเด็นดังกล่าวกับกัมพูชา ตามที่จิรายุ หวางทรัพย์ โฆษกรัฐบาลไทย กล่าว รายงานระบุว่านายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต์ของกัมพูชาได้กล่าวถึงประเด็นปัญหาที่ยุ่งยากนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณชายแดนกับประเทศไทยกับเอ็มมานูเอล มาครงในระหว่างการเยือนเมืองนีซเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมาครงตอบว่าฝรั่งเศสสามารถมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ได้ การกำหนดเขตแดนทางบกระหว่างกัมพูชากับไทยได้กำหนดขึ้นโดยอนุสัญญาฝรั่งเศส-สยาม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2447 และสนธิสัญญาระหว่างฝรั่งเศสและสยาม เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2450 โดยได้มีการเผยแพร่แผนที่ในมาตราส่วน 1:200,000 ในปี พ.ศ. 2450 และ พ.ศ. 2451มีรายงานว่ามีการติดตั้งเครื่องหมายแสดงเขตแดนจำนวน 73-74 อันตามแนวชายแดนนี้ ซึ่งบางอันยังหาไม่พบ นับแต่มีสนธิสัญญานี้ ปัญหาการกำหนดขอบเขตและปักปันเขตแดนอย่างมีประสิทธิผลระหว่างสองประเทศนี้ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ในบริบทนี้ บทบาทของฝรั่งเศสมีความสำคัญอย่างยิ่งในการนำทั้งสองฝ่ายมาเจรจากันตามสนธิสัญญานี้และแผนที่ที่เผยแพร่แล้ว ขณะเดียวกันอาจให้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเพิ่มเติมอีกด้วย มันเป็นความรับผิดชอบทางศีลธรรมของฝรั่งเศสต่ออดีตร่วมกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • KLIA Aerotrain รถไฟฟ้าสนามบินเคแอลกลับมาแล้ว

    ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเปิดให้บริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติที่ชื่อว่า KLIA Aerotrain อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 เชื่อมระหว่างอาคาร 1 (Terminal 1) กับอาคารผู้โดยสารรอง (Sattlelite) ซึ่งมีเที่ยวบินเส้นทางระยะไกลจำนวนมาก หลังบริษัท มาเลเซีย แอร์พอร์ต โฮลดิ้ง เบอร์ฮัด (MAHB) ผู้บริหารสนามบินตัดสินใจปิดปรับปรุงยาวนานกว่า 28 เดือน ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างสองอาคาร ต้องไปขึ้นรถบัสที่ทางสนามบินจัดเตรียมไว้ให้ และเสียเวลาเดินทางมากกว่าปกติ

    KLIA Aerotrain เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2541 พร้อมกับการย้ายสนามบิน จากท่าอากาศยานสุลต่านอับดุลอาซิซชาห์ (SZB) โดยใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับแอดทรานซ์ (Adtranz) รุ่น CX-100 จำนวน 3 คัน แนวเส้นทางจะลอดทางขับเครื่องบิน (แท็กซี่เวย์) ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาขัดข้องบ่อยครั้ง หนักที่สุดคือวันที่ 1 มี.ค. 2566 ขบวนรถขัดข้อง มีผู้โดยสาร 114 คนติดค้าง ทำให้ MAHB ตัดสินใจหยุดให้บริการชั่วคราวเป็นต้นมา

    MAHB ปรับปรุง KLIA Aerotrain ใหม่ ด้วยงบลงทุน 456 ล้านริงกิต เปลี่ยนมาใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับ อัลสตอม (Alstom) รุ่นอินโนเวีย เอพีเอ็ม 300 อาร์ (Innovia APM 300R) มีทั้งหมด 3 คัน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 270 คนต่อเที่ยว เดินรถด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางระหว่างสองอาคารเหลือเพียง 3 นาที ผ่านการทดสอบและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดหวังว่าจะทำให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคชั้นนำในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 100,000 คนต่อวัน และต้อนรับปีการท่องเที่ยวมาเลเซีย หรือ Visit Malaysia 2026

    ข้อมูลจาก CAPA Centre for Aviation พบว่าในปี 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 57.1 ล้านคน ข้อมูลจาก Flightradar 24 พบว่ามีเที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยังสิงคโปร์ (SIN) มากที่สุดถึง 270 เที่ยวบิน ตามมาด้วยจาการ์ตา (CGK) 184 เที่ยวบิน โกตากินาบาลู (BKI) 172 เที่ยวบิน กูชิง (KCH) 152 เที่ยวบิน ปีนัง (PEN) 143 เที่ยวบิน ลังกาวี (LGK) 132 เที่ยวบิน บาหลี (DPS) 105 เที่ยวบิน ยะโฮร์บาห์รู (JHB) 87 เที่ยวบิน กว่างโจว (CAN) 83 เที่ยวบินและโกตาบาห์รู (KBR) 80 เที่ยวบิน

    อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมี 4 ประเทศที่มีระบบขนส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา อินโดนีเซีย และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

    #Newskit
    KLIA Aerotrain รถไฟฟ้าสนามบินเคแอลกลับมาแล้ว ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเปิดให้บริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติที่ชื่อว่า KLIA Aerotrain อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 เชื่อมระหว่างอาคาร 1 (Terminal 1) กับอาคารผู้โดยสารรอง (Sattlelite) ซึ่งมีเที่ยวบินเส้นทางระยะไกลจำนวนมาก หลังบริษัท มาเลเซีย แอร์พอร์ต โฮลดิ้ง เบอร์ฮัด (MAHB) ผู้บริหารสนามบินตัดสินใจปิดปรับปรุงยาวนานกว่า 28 เดือน ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างสองอาคาร ต้องไปขึ้นรถบัสที่ทางสนามบินจัดเตรียมไว้ให้ และเสียเวลาเดินทางมากกว่าปกติ KLIA Aerotrain เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2541 พร้อมกับการย้ายสนามบิน จากท่าอากาศยานสุลต่านอับดุลอาซิซชาห์ (SZB) โดยใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับแอดทรานซ์ (Adtranz) รุ่น CX-100 จำนวน 3 คัน แนวเส้นทางจะลอดทางขับเครื่องบิน (แท็กซี่เวย์) ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาขัดข้องบ่อยครั้ง หนักที่สุดคือวันที่ 1 มี.ค. 2566 ขบวนรถขัดข้อง มีผู้โดยสาร 114 คนติดค้าง ทำให้ MAHB ตัดสินใจหยุดให้บริการชั่วคราวเป็นต้นมา MAHB ปรับปรุง KLIA Aerotrain ใหม่ ด้วยงบลงทุน 456 ล้านริงกิต เปลี่ยนมาใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับ อัลสตอม (Alstom) รุ่นอินโนเวีย เอพีเอ็ม 300 อาร์ (Innovia APM 300R) มีทั้งหมด 3 คัน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 270 คนต่อเที่ยว เดินรถด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางระหว่างสองอาคารเหลือเพียง 3 นาที ผ่านการทดสอบและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดหวังว่าจะทำให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคชั้นนำในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 100,000 คนต่อวัน และต้อนรับปีการท่องเที่ยวมาเลเซีย หรือ Visit Malaysia 2026 ข้อมูลจาก CAPA Centre for Aviation พบว่าในปี 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 57.1 ล้านคน ข้อมูลจาก Flightradar 24 พบว่ามีเที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยังสิงคโปร์ (SIN) มากที่สุดถึง 270 เที่ยวบิน ตามมาด้วยจาการ์ตา (CGK) 184 เที่ยวบิน โกตากินาบาลู (BKI) 172 เที่ยวบิน กูชิง (KCH) 152 เที่ยวบิน ปีนัง (PEN) 143 เที่ยวบิน ลังกาวี (LGK) 132 เที่ยวบิน บาหลี (DPS) 105 เที่ยวบิน ยะโฮร์บาห์รู (JHB) 87 เที่ยวบิน กว่างโจว (CAN) 83 เที่ยวบินและโกตาบาห์รู (KBR) 80 เที่ยวบิน อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมี 4 ประเทศที่มีระบบขนส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา อินโดนีเซีย และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 576 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อ่านเพลินๆ

    มะเร็งไม่ใช่โรค แต่เป็นโครงการของรัฐบาลลึก

    อ่านทุกคำ นี่ไม่ใช่ทฤษฎี นี่คือการประกาศสงครามกับชีววิทยาของคุณ ชนชั้นสูงสร้างมะเร็งขึ้นมา และคุณก็จมอยู่กับพิษของพวกเขามาตลอดชีวิต

    เซราไมด์ เป็นคำที่พวกเขาไม่เคยอยากให้คุณได้ยิน ไม่ใช่แค่โมเลกุล แต่เป็นระเบิดเวลาทางชีวเคมี คุณไม่ได้เกิดมาพัง คุณถูกสร้างมาให้ล้มเหลว เซราไมด์ถูกบรรจุอยู่ในน้ำมันเมล็ดพืช จีเอ็มโอ อาหารแปรรูป น้ำประปา ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แม้แต่นมผงสำหรับเด็ก สารทำลายไขมันเหล่านี้จะทำลายตับของคุณ รัดคอตับอ่อนของคุณ ทำลายการเผาผลาญของคุณ และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณพังทลาย ร่างกายของคุณกลายเป็นดินแดนรกร้างที่เป็นพิษ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับเนื้องอก

    นี่ไม่ใช่ผลข้างเคียง แต่เป็นการทำลายล้างโดยเจตนา
    การฉ้อโกงมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ของฟาวซีไม่ได้เกี่ยวกับการรักษาอะไร แต่เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมให้ร่างกายของคุณให้ป่วย สถาบันสุขภาพแห่งชาติไม่ได้พยายามหาทางรักษา พวกเขาให้ทุนสนับสนุนระบบนิเวศสงครามชีวภาพที่บริษัทยาขนาดใหญ่ฉีดโรค ขายเคมีบำบัด แสวงหากำไรจากความเจ็บปวด และทำซ้ำ เซราไมด์คือสวิตช์หยุดการทำงาน พวกมันกักเก็บความตายไว้ในเซลล์ไขมันของคุณ ส่งผลให้เลือดของคุณสูบฉีดพิษจากการเผาผลาญ

    มะเร็งไม่ใช่ "โชคร้าย" แต่คือแผน

    กลุ่มคนชั้นสูงเลี้ยงดูมัน ระดมทุน และกินมัน เคมีบำบัดไม่รักษาให้หาย มันทำให้ทรมานนานขึ้นในขณะที่เรียกเก็บเงินคุณเพื่อให้ตายช้าลง การฉายรังสี? มันคือการทำลายร่างกายของคุณอย่างมีการควบคุม แพทย์ทุกคนที่บอกคุณว่า "กินน้อยลง เคลื่อนไหวมากขึ้น" ล้วนเป็นคนโกหกหรือเป็นเบี้ย

    แต่ตอนนี้ม่านกำลังจะเปิดขึ้น

    พวกเขากลัวการดีท็อกซ์ พวกเขากลัวทุกสิ่งที่ขับเซราไมด์ออกจากระบบของคุณ เพราะนั่นคือรากฐานของคุกมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ของพวกเขา และตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้น

    Ikaria Lean Belly Juice ไม่ใช่ "สุขภาพ" แต่เป็นสงครามเคมีแบบย้อนกลับ ทุกช้อนคือการโจมตีกลุ่มการแพทย์ของ Deep State

    Fucoxanthin ทำลายคลัสเตอร์เซราไมด์

    โสมสร้างภูมิคุ้มกันใหม่เพื่อค้นหาและทำลายเซลล์ที่ก่อกวน

    Bioperine ขยายการโจมตี

    Resveratrol ทำให้เนื้องอกอดอาหาร

    EGCG ซ่อมแซม DNA

    Milk Thistle สร้างตับของคุณขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ในการล้างพิษของร่างกาย

    นี่คือรหัสทำลายล้างที่จะทำลายระบบของพวกเขาจากภายใน
    ขับพิษ เผาอาณาจักรของพวกเขา

    คุณไม่ได้เกิดมาเพื่อป่วย
    คุณถูกทำให้ป่วย

    ตอนนี้ ทำให้พวกเขาต้องชดใช้

    สงครามทั้งหมดเริ่มขึ้นภายในเซลล์ของคุณ นี่ไม่ใช่คำแนะนำด้านสุขภาพ
    นี่คือการกระทำแห่งการกบฏ

    1_Ikaria Lean Belly Juice คือ อาหารเสริมประเภทผงที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการลดน้ำหนัก โดยอ้างว่าช่วยเผาผลาญไขมัน ลดความอยากอาหาร และเพิ่มพลังงาน โดยอ้างอิงจากส่วนผสมจากธรรมชาติ

    2_ฟูโคแซนธิน (Fucoxanthin) คือ สารสีส้มในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ที่พบได้ในสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล ทำหน้าที่เป็นสารเก็บเกี่ยวแสงและป้องกันแสงในสาหร่าย นอกจากนี้ ฟูโคแซนธินยังมีคุณสมบัติทางชีวภาพมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง และต้านโรคอ้วน

    3_ไบโอเพอรีน (BioPerine) คือ สารสกัดจากพริกไทยดำที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งมีสารสำคัญคือ ไพเพอรีน (Piperine) ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย โดยทั่วไปมีปริมาณไพเพอรีนอย่างน้อย 95%. ไบโอเพอรีนถูกใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารและส่วนผสมอื่นๆ ในร่างกาย
    สรุป: ไบโอเพอรีนคือสารสกัดจากพริกไทยดำที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารและส่วนผสมอื่นๆ ในร่างกาย

    4_เรสเวอราทรอล (Resveratrol) คือ สารประกอบโพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่พบได้ในพืชหลายชนิด โดยเฉพาะในองุ่นแดง, เบอร์รี่, ถั่วลิสง, และไวน์แดง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ, ชะลอความเสื่อมของเซลล์, และอาจมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคมะเร็ง

    5_Epigallocatechin-3-gallate (EGCG) เป็นโพลีฟีนอลที่พบมากที่สุดในชาเขียว EGCG มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านพังผืด ต้านการปรับโครงสร้าง และปกป้องเนื้อเยื่อหลากหลายชนิด โดยอาจมีประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็ง ระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ และการเผาผลาญอาหาร

    6_Silybum marianum เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีหนาม มีชื่อเรียกทั่วไปหลายชนิด ได้แก่ milk thistle, Blessed milkthistle, Marian thistle, Mary thistle, Saint Mary's thistle, Mediterranean milk thistle, variegated thistle และ Scotch thistle พืชชนิดนี้เป็นพืชประจำปีหรือล้มลุกในวงศ์ Asteraceae (คล้ายดอกบานไม่รู้โรยกับไมยราพ ต้องศึกษาสรรพคุณ)
    ..อ่านเพลินๆ มะเร็งไม่ใช่โรค แต่เป็นโครงการของรัฐบาลลึก อ่านทุกคำ นี่ไม่ใช่ทฤษฎี นี่คือการประกาศสงครามกับชีววิทยาของคุณ ชนชั้นสูงสร้างมะเร็งขึ้นมา และคุณก็จมอยู่กับพิษของพวกเขามาตลอดชีวิต เซราไมด์ เป็นคำที่พวกเขาไม่เคยอยากให้คุณได้ยิน ไม่ใช่แค่โมเลกุล แต่เป็นระเบิดเวลาทางชีวเคมี คุณไม่ได้เกิดมาพัง คุณถูกสร้างมาให้ล้มเหลว เซราไมด์ถูกบรรจุอยู่ในน้ำมันเมล็ดพืช จีเอ็มโอ อาหารแปรรูป น้ำประปา ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แม้แต่นมผงสำหรับเด็ก สารทำลายไขมันเหล่านี้จะทำลายตับของคุณ รัดคอตับอ่อนของคุณ ทำลายการเผาผลาญของคุณ และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณพังทลาย ร่างกายของคุณกลายเป็นดินแดนรกร้างที่เป็นพิษ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับเนื้องอก นี่ไม่ใช่ผลข้างเคียง แต่เป็นการทำลายล้างโดยเจตนา การฉ้อโกงมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ของฟาวซีไม่ได้เกี่ยวกับการรักษาอะไร แต่เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมให้ร่างกายของคุณให้ป่วย สถาบันสุขภาพแห่งชาติไม่ได้พยายามหาทางรักษา พวกเขาให้ทุนสนับสนุนระบบนิเวศสงครามชีวภาพที่บริษัทยาขนาดใหญ่ฉีดโรค ขายเคมีบำบัด แสวงหากำไรจากความเจ็บปวด และทำซ้ำ เซราไมด์คือสวิตช์หยุดการทำงาน พวกมันกักเก็บความตายไว้ในเซลล์ไขมันของคุณ ส่งผลให้เลือดของคุณสูบฉีดพิษจากการเผาผลาญ มะเร็งไม่ใช่ "โชคร้าย" แต่คือแผน กลุ่มคนชั้นสูงเลี้ยงดูมัน ระดมทุน และกินมัน เคมีบำบัดไม่รักษาให้หาย มันทำให้ทรมานนานขึ้นในขณะที่เรียกเก็บเงินคุณเพื่อให้ตายช้าลง การฉายรังสี? มันคือการทำลายร่างกายของคุณอย่างมีการควบคุม แพทย์ทุกคนที่บอกคุณว่า "กินน้อยลง เคลื่อนไหวมากขึ้น" ล้วนเป็นคนโกหกหรือเป็นเบี้ย แต่ตอนนี้ม่านกำลังจะเปิดขึ้น พวกเขากลัวการดีท็อกซ์ พวกเขากลัวทุกสิ่งที่ขับเซราไมด์ออกจากระบบของคุณ เพราะนั่นคือรากฐานของคุกมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ของพวกเขา และตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้น Ikaria Lean Belly Juice ไม่ใช่ "สุขภาพ" แต่เป็นสงครามเคมีแบบย้อนกลับ ทุกช้อนคือการโจมตีกลุ่มการแพทย์ของ Deep State Fucoxanthin ทำลายคลัสเตอร์เซราไมด์ โสมสร้างภูมิคุ้มกันใหม่เพื่อค้นหาและทำลายเซลล์ที่ก่อกวน Bioperine ขยายการโจมตี Resveratrol ทำให้เนื้องอกอดอาหาร EGCG ซ่อมแซม DNA Milk Thistle สร้างตับของคุณขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ในการล้างพิษของร่างกาย นี่คือรหัสทำลายล้างที่จะทำลายระบบของพวกเขาจากภายใน ขับพิษ เผาอาณาจักรของพวกเขา คุณไม่ได้เกิดมาเพื่อป่วย คุณถูกทำให้ป่วย ตอนนี้ ทำให้พวกเขาต้องชดใช้ สงครามทั้งหมดเริ่มขึ้นภายในเซลล์ของคุณ นี่ไม่ใช่คำแนะนำด้านสุขภาพ นี่คือการกระทำแห่งการกบฏ 1_Ikaria Lean Belly Juice คือ อาหารเสริมประเภทผงที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการลดน้ำหนัก โดยอ้างว่าช่วยเผาผลาญไขมัน ลดความอยากอาหาร และเพิ่มพลังงาน โดยอ้างอิงจากส่วนผสมจากธรรมชาติ 2_ฟูโคแซนธิน (Fucoxanthin) คือ สารสีส้มในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ที่พบได้ในสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล ทำหน้าที่เป็นสารเก็บเกี่ยวแสงและป้องกันแสงในสาหร่าย นอกจากนี้ ฟูโคแซนธินยังมีคุณสมบัติทางชีวภาพมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง และต้านโรคอ้วน 3_ไบโอเพอรีน (BioPerine) คือ สารสกัดจากพริกไทยดำที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งมีสารสำคัญคือ ไพเพอรีน (Piperine) ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย โดยทั่วไปมีปริมาณไพเพอรีนอย่างน้อย 95%. ไบโอเพอรีนถูกใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารและส่วนผสมอื่นๆ ในร่างกาย สรุป: ไบโอเพอรีนคือสารสกัดจากพริกไทยดำที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารและส่วนผสมอื่นๆ ในร่างกาย 4_เรสเวอราทรอล (Resveratrol) คือ สารประกอบโพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่พบได้ในพืชหลายชนิด โดยเฉพาะในองุ่นแดง, เบอร์รี่, ถั่วลิสง, และไวน์แดง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ, ชะลอความเสื่อมของเซลล์, และอาจมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคมะเร็ง 5_Epigallocatechin-3-gallate (EGCG) เป็นโพลีฟีนอลที่พบมากที่สุดในชาเขียว EGCG มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านพังผืด ต้านการปรับโครงสร้าง และปกป้องเนื้อเยื่อหลากหลายชนิด โดยอาจมีประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็ง ระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ และการเผาผลาญอาหาร 6_Silybum marianum เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีหนาม มีชื่อเรียกทั่วไปหลายชนิด ได้แก่ milk thistle, Blessed milkthistle, Marian thistle, Mary thistle, Saint Mary's thistle, Mediterranean milk thistle, variegated thistle และ Scotch thistle พืชชนิดนี้เป็นพืชประจำปีหรือล้มลุกในวงศ์ Asteraceae (คล้ายดอกบานไม่รู้โรยกับไมยราพ ต้องศึกษาสรรพคุณ)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 658 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผยโฉมรถไฟ RTS Link ยะโฮร์บาห์รู-สิงคโปร์

    โครงการเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนด่วนพิเศษ RTS Link (Rapid Transit System) ระหว่างย่านบูกิตชาการ์ (Bukit Chagar) เมืองยะโฮร์บาห์รู รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย กับย่านวู้ดแลนด์นอร์ท (Woodlands North) ประเทศสิงคโปร์ มีความคืบหน้าแล้ว 56% ซึ่งตามแผนกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 1 ม.ค.2570 ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวรถไฟขบวนแรก จากทั้งหมด 8 ขบวน ซึ่งผลิตโดย บริษัท ซีอาร์อาร์ซี จูโจว โลโคโมทีฟ (CRRC Zhuzhou Locomotive) ที่ศูนย์ทดสอบรถไฟสิงคโปร์ (SRTC) หลังขนส่งจากจีนมาถึงสิงคโปร์เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนขบวนที่ 2-5 กำลังประกอบที่โรงงานในเมืองบาตูกาจาห์ รัฐเประ มาเลเซีย ขบวนที่ 6-8 จะดำเนินการในภายหลัง

    โดยขบวนรถไฟฟ้าดังกล่าวเป็นแบบไร้คนขับ มีทั้งหมด 8 ขบวน ขบวนละ 4 คัน ความยาวต่อขบวน 76 เมตร ลำตัวรถมีสีขาว แดง น้ำเงิน ซึ่งมาจากสีของธงชาติสิงคโปร์ ธงชาติมาเลเซีย และธงรัฐยะโฮร์ เดินรถด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที ภายในห้องโดยสารมีเก้าอี้ปกติ 126 ที่นั่ง และเก้าอี้แบบพับได้ 16 ที่นั่ง เพื่อรองรับรถเข็นวีลแชร์ รถเข็นเด็ก หรือกระเป๋าเดินทาง และรองรับกรณีมีผู้โดยสารหนาแน่น แต่ละขบวนรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดกว่า 600 คนต่อขบวน พร้อมระบบ Hearing Loop สำหรับผู้พิการทางการได้ยิน ระบบสื่อสารไปยังศูนย์ปฎิบัติการและควบคุมการเดินรถ (OCC)

    โครงการ RTS Link เป็นการร่วมทุนกันระหว่าง กลุ่มพราซารานา (Prasarana) ของมาเลเซีย และกลุ่มเอสเอ็มอาร์ที (SMRT) ของสิงคโปร์ ก่อสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์ แบ่งเบาการจราจรระหว่างยะโฮร์บาห์รู กับด่านวู้ดแลนด์ ให้บริการสูงสุด 10,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง เปิดบริการตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. โดยมีความถี่ให้บริการเร็วที่สุดในชั่วโมงเร่งด่วน 3.6 นาที รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 180,000 คนต่อวัน พร้อมกันนี้ ยังมีศูนย์ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง และกักกันโรค (CIQ) ที่สถานีวู้ดแลนด์นอร์ท ส่วนค่าโดยสารอยู่ในระหว่างศึกษาขั้นสุดท้าย ก่อนกำหนดราคาอย่างเป็นทางการต่อไป

    อีกด้านหนึ่ง บริการรถไฟ Shuttle Tebrau ระหว่างสถานี JB Sentral ถึงสถานี Woodlands ของการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) กำลังจะปิดตำนาน เพราะมีแผนจะยุติให้บริการภายใน 6 เดือน หลังรถไฟ RTS Link เปิดให้บริการ รถไฟดังกล่าวขนส่งผู้โดยสารระหว่างมาเลเซีย-สิงคโปร์ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2558 เป็นต้นมา ค่าโดยสาร 5 ริงกิตต่อเที่ยวสำหรับชาวมาเลเซีย ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที มีขบวนรถไป-กลับตามเวลาที่กำหนดวันละ 31 ขบวน

    #Newskit
    เผยโฉมรถไฟ RTS Link ยะโฮร์บาห์รู-สิงคโปร์ โครงการเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนด่วนพิเศษ RTS Link (Rapid Transit System) ระหว่างย่านบูกิตชาการ์ (Bukit Chagar) เมืองยะโฮร์บาห์รู รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย กับย่านวู้ดแลนด์นอร์ท (Woodlands North) ประเทศสิงคโปร์ มีความคืบหน้าแล้ว 56% ซึ่งตามแผนกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 1 ม.ค.2570 ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวรถไฟขบวนแรก จากทั้งหมด 8 ขบวน ซึ่งผลิตโดย บริษัท ซีอาร์อาร์ซี จูโจว โลโคโมทีฟ (CRRC Zhuzhou Locomotive) ที่ศูนย์ทดสอบรถไฟสิงคโปร์ (SRTC) หลังขนส่งจากจีนมาถึงสิงคโปร์เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนขบวนที่ 2-5 กำลังประกอบที่โรงงานในเมืองบาตูกาจาห์ รัฐเประ มาเลเซีย ขบวนที่ 6-8 จะดำเนินการในภายหลัง โดยขบวนรถไฟฟ้าดังกล่าวเป็นแบบไร้คนขับ มีทั้งหมด 8 ขบวน ขบวนละ 4 คัน ความยาวต่อขบวน 76 เมตร ลำตัวรถมีสีขาว แดง น้ำเงิน ซึ่งมาจากสีของธงชาติสิงคโปร์ ธงชาติมาเลเซีย และธงรัฐยะโฮร์ เดินรถด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที ภายในห้องโดยสารมีเก้าอี้ปกติ 126 ที่นั่ง และเก้าอี้แบบพับได้ 16 ที่นั่ง เพื่อรองรับรถเข็นวีลแชร์ รถเข็นเด็ก หรือกระเป๋าเดินทาง และรองรับกรณีมีผู้โดยสารหนาแน่น แต่ละขบวนรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดกว่า 600 คนต่อขบวน พร้อมระบบ Hearing Loop สำหรับผู้พิการทางการได้ยิน ระบบสื่อสารไปยังศูนย์ปฎิบัติการและควบคุมการเดินรถ (OCC) โครงการ RTS Link เป็นการร่วมทุนกันระหว่าง กลุ่มพราซารานา (Prasarana) ของมาเลเซีย และกลุ่มเอสเอ็มอาร์ที (SMRT) ของสิงคโปร์ ก่อสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์ แบ่งเบาการจราจรระหว่างยะโฮร์บาห์รู กับด่านวู้ดแลนด์ ให้บริการสูงสุด 10,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง เปิดบริการตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. โดยมีความถี่ให้บริการเร็วที่สุดในชั่วโมงเร่งด่วน 3.6 นาที รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 180,000 คนต่อวัน พร้อมกันนี้ ยังมีศูนย์ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง และกักกันโรค (CIQ) ที่สถานีวู้ดแลนด์นอร์ท ส่วนค่าโดยสารอยู่ในระหว่างศึกษาขั้นสุดท้าย ก่อนกำหนดราคาอย่างเป็นทางการต่อไป อีกด้านหนึ่ง บริการรถไฟ Shuttle Tebrau ระหว่างสถานี JB Sentral ถึงสถานี Woodlands ของการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) กำลังจะปิดตำนาน เพราะมีแผนจะยุติให้บริการภายใน 6 เดือน หลังรถไฟ RTS Link เปิดให้บริการ รถไฟดังกล่าวขนส่งผู้โดยสารระหว่างมาเลเซีย-สิงคโปร์ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2558 เป็นต้นมา ค่าโดยสาร 5 ริงกิตต่อเที่ยวสำหรับชาวมาเลเซีย ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที มีขบวนรถไป-กลับตามเวลาที่กำหนดวันละ 31 ขบวน #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงหลังคาสำเร็จรูป พร้อมงานมุง RMC Trussโครงการบ้าน จ.ชลบุรี
    .
    บริการครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ ผลิตและติดตั้ง โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
    ออกแบบ ผลิตชิ้นงาน อลูซิงค์ AZ150 ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
    เจ้าของบ้าน มั่นใจคุณภาพโครงหลังคาสำเร็จรูป RMC Truss แข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย มีการรับประกัน
    มีบริการเหมามุง ติดตั้งโดยช่างชำนาญงานเฉพาะทาง มีการรับประกันงานติดตั้ง
    -------------------------------------------
    สนใจติดต่อเลย !!
    บริษัท อาร์ เอ็ม ซี บิลดิ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด
    Tel : 034 813 972 , 063 919 1505
    Line OA : @rmctruss หรือ https://lin.ee/1wnGOh6
    Website : https://www.rmcbuildingsolutions.co.th/
    กดไลก์เพจ RMC Truss เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ
    -------------------------------------------
    #rmctruss #โครงหลังคาสำเร็จรูป #rmctrussโครงหลังคาสำเร็จรูป
    #thaitimes #rmcbuildingsolutions #betterrooftrussinnovation
    โครงหลังคาสำเร็จรูป พร้อมงานมุง RMC Truss🏡โครงการบ้าน จ.ชลบุรี✨ . ✅บริการครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ ผลิตและติดตั้ง โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ✅ออกแบบ ผลิตชิ้นงาน อลูซิงค์ AZ150 ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ✅เจ้าของบ้าน มั่นใจคุณภาพโครงหลังคาสำเร็จรูป RMC Truss แข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย มีการรับประกัน ✅มีบริการเหมามุง ติดตั้งโดยช่างชำนาญงานเฉพาะทาง มีการรับประกันงานติดตั้ง ------------------------------------------- สนใจติดต่อเลย !! บริษัท อาร์ เอ็ม ซี บิลดิ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด ☎️Tel : 034 813 972 , 063 919 1505 📱Line OA : @rmctruss หรือ https://lin.ee/1wnGOh6 🌐 Website : https://www.rmcbuildingsolutions.co.th/ 👍กดไลก์เพจ RMC Truss เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ ------------------------------------------- #rmctruss #โครงหลังคาสำเร็จรูป #rmctrussโครงหลังคาสำเร็จรูป #thaitimes #rmcbuildingsolutions #betterrooftrussinnovation
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts