• กลุ่มแฮกเกอร์ FamousSparrow กลับมาสร้างความเสียหายอีกครั้งด้วยการโจมตีหน่วยงานรัฐบาล องค์กรการเงิน และสถาบันวิจัยทั่วโลกผ่านการใช้ช่องโหว่ของซอฟต์แวร์เวอร์ชันเก่า มัลแวร์ SparrowDoor รุ่นใหม่ที่พัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคนิคในการโจมตี ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญย้ำเตือนถึงความสำคัญของการอัปเดตระบบเพื่อป้องกันการคุกคามในอนาคต

    วิธีการโจมตี:
    - FamousSparrow ใช้ช่องโหว่จากซอฟต์แวร์เวอร์ชันเก่าบน Windows Server และ Microsoft Exchange เพื่อเข้าถึงระบบของเป้าหมายผ่านการติดตั้งเว็บเชลล์ (Webshell) บนเซิร์ฟเวอร์ IIS.

    เครื่องมือที่ใช้โจมตี:
    - นอกจาก SparrowDoor ยังพบการใช้ ShadowPad และเครื่องมืออื่น ๆ ในการรันคำสั่ง เก็บบันทึกการพิมพ์ข้อมูล เอ็กซ์ฟิลข้อมูล ถ่ายภาพหน้าจอ และเพิ่ม Payload เพิ่มเติม.

    ความสำคัญของการอัปเดตระบบ:
    - การโจมตีส่วนใหญ่เกิดจากระบบที่ไม่ได้รับการอัปเดต ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการป้องกันช่องโหว่โดยการใช้งานซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุด.

    เป้าหมายที่หลากหลาย:
    - FamousSparrow ได้โจมตีทั้งหน่วยงานรัฐบาลในฮอนดูรัส และสถาบันวิจัยในเม็กซิโก ก่อนจะโจมตีองค์กรการเงินในสหรัฐฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 โดยใช้มัลแวร์รุ่นใหม่ที่มีการพัฒนาทางเทคนิคเพิ่มขึ้นอย่างมาก.

    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-famoussparrow-allegedly-target-us-financial-firms
    กลุ่มแฮกเกอร์ FamousSparrow กลับมาสร้างความเสียหายอีกครั้งด้วยการโจมตีหน่วยงานรัฐบาล องค์กรการเงิน และสถาบันวิจัยทั่วโลกผ่านการใช้ช่องโหว่ของซอฟต์แวร์เวอร์ชันเก่า มัลแวร์ SparrowDoor รุ่นใหม่ที่พัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคนิคในการโจมตี ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญย้ำเตือนถึงความสำคัญของการอัปเดตระบบเพื่อป้องกันการคุกคามในอนาคต วิธีการโจมตี: - FamousSparrow ใช้ช่องโหว่จากซอฟต์แวร์เวอร์ชันเก่าบน Windows Server และ Microsoft Exchange เพื่อเข้าถึงระบบของเป้าหมายผ่านการติดตั้งเว็บเชลล์ (Webshell) บนเซิร์ฟเวอร์ IIS. เครื่องมือที่ใช้โจมตี: - นอกจาก SparrowDoor ยังพบการใช้ ShadowPad และเครื่องมืออื่น ๆ ในการรันคำสั่ง เก็บบันทึกการพิมพ์ข้อมูล เอ็กซ์ฟิลข้อมูล ถ่ายภาพหน้าจอ และเพิ่ม Payload เพิ่มเติม. ความสำคัญของการอัปเดตระบบ: - การโจมตีส่วนใหญ่เกิดจากระบบที่ไม่ได้รับการอัปเดต ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการป้องกันช่องโหว่โดยการใช้งานซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุด. เป้าหมายที่หลากหลาย: - FamousSparrow ได้โจมตีทั้งหน่วยงานรัฐบาลในฮอนดูรัส และสถาบันวิจัยในเม็กซิโก ก่อนจะโจมตีองค์กรการเงินในสหรัฐฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 โดยใช้มัลแวร์รุ่นใหม่ที่มีการพัฒนาทางเทคนิคเพิ่มขึ้นอย่างมาก. https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-famoussparrow-allegedly-target-us-financial-firms
    WWW.TECHRADAR.COM
    Notorious Chinese hackers FamousSparrow allegedly target US financial firms
    FamousSparrow was though to have retired, but appears to be back with a venegeance
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • คลอเดีย เชนบาวม์ ประธานาธิบดีเม็กซิโกที่มีเชื้อสายยิว ให้การยอมรับปาเลสไตน์เป็นรัฐเอกราชอย่างเป็นทางการ และต้อนรับเอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำเม็กซิโก
    คลอเดีย เชนบาวม์ ประธานาธิบดีเม็กซิโกที่มีเชื้อสายยิว ให้การยอมรับปาเลสไตน์เป็นรัฐเอกราชอย่างเป็นทางการ และต้อนรับเอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำเม็กซิโก
    Like
    Wow
    6
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • แถลงข่าวล่าสุดจากสำนักงานนายอำเภอ แพทย์พิศูจน์หลักฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาด ของแขวงซานตา เฟ่ รัฐนิว เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ถึงผลการเสียชีวิตของดาราดังฮอลลีวูด ยีน แฮคแมน และภรรยา เบสซี่ อราคะวะ แฮคแมน อดีตนักเปียโนดนตรีคลาสสิค ที่คฤหาสถ์ส่วนตัวในเมืองซานตา เฟ่ พร้อมกับสุนัขหนึ่งตัวชื่อซินน่า
    แถลงข่าวล่าสุดจากสำนักงานนายอำเภอ แพทย์พิศูจน์หลักฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาด ของแขวงซานตา เฟ่ รัฐนิว เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ถึงผลการเสียชีวิตของดาราดังฮอลลีวูด ยีน แฮคแมน และภรรยา เบสซี่ อราคะวะ แฮคแมน อดีตนักเปียโนดนตรีคลาสสิค ที่คฤหาสถ์ส่วนตัวในเมืองซานตา เฟ่ พร้อมกับสุนัขหนึ่งตัวชื่อซินน่า
    0 Comments 0 Shares 264 Views 0 0 Reviews
  • Lenovo ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของจีน ได้ประกาศในงาน Tech World India 2025 ว่าจะย้ายสายการผลิตทั้งหมดไปยังประเทศอินเดียภายในสามปีข้างหน้า รวมถึงการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI GPU ที่เมือง Pondicherry การย้ายการผลิตนี้เป็นการตอบโต้กับภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีนที่ถูกเรียกเก็บโดยรัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ที่สูงถึง 20% และจากเม็กซิโกถึง 25%

    การย้ายสายการผลิตนี้มีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าสูงที่ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่ง Lenovo ถือครองส่วนแบ่งตลาดแล็ปท็อปในสหรัฐฯ ถึง 12% การย้ายการผลิตไปยังอินเดียจะช่วยลดต้นทุนและปรับปรุงกลยุทธ์การตั้งราคาของบริษัทให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้

    Lenovo ไม่ใช่บริษัทเดียวที่ตัดสินใจย้ายการผลิตออกจากจีนเพื่อลดภาระภาษีนี้ บริษัทรายใหญ่อื่น ๆ เช่น ASRock, HP, และ Dell ก็มีแผนย้ายการผลิตไปยังประเทศที่ไม่มีภาระภาษีสูง เช่น เวียดนาม ไต้หวัน และอินโดนีเซีย

    นอกจากภาษีแล้ว การควบคุมการส่งออกชิป AI ล่าสุดจากทำเนียบขาวยังเป็นแรงกดดันให้ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต้องย้ายฐานการผลิต PC และชิปไปยังประเทศอื่น เช่น PC Partner, ผู้ผลิตแบรนด์ Zotac, Inno3D, และ Manli กำลังย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังสิงคโปร์ และวางแผนย้ายการผลิตไปยังอินโดนีเซีย ในขณะที่บริษัทอย่าง Amkor Technology, Hana Micron, และ Intel กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเวียดนาม

    แม้ว่าบางบริษัทจะย้ายการผลิตไปยังประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี การย้ายการผลิตกลับเข้าสู่สหรัฐฯ ยังคงเป็นทางเลือกที่ยากลำบากสำหรับบริษัทขนาดเล็ก ส่วนบริษัทขนาดใหญ่เช่น TSMC ได้ประกาศการลงทุนเพิ่มอีก 100 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานใหม่สามแห่งและศูนย์วิจัยและพัฒนาในแอริโซนา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/lenovo-joins-growing-china-exodus-as-manufacturers-flee-us-tariffs-oem-moving-production-lines-to-india
    Lenovo ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของจีน ได้ประกาศในงาน Tech World India 2025 ว่าจะย้ายสายการผลิตทั้งหมดไปยังประเทศอินเดียภายในสามปีข้างหน้า รวมถึงการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI GPU ที่เมือง Pondicherry การย้ายการผลิตนี้เป็นการตอบโต้กับภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีนที่ถูกเรียกเก็บโดยรัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ที่สูงถึง 20% และจากเม็กซิโกถึง 25% การย้ายสายการผลิตนี้มีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าสูงที่ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่ง Lenovo ถือครองส่วนแบ่งตลาดแล็ปท็อปในสหรัฐฯ ถึง 12% การย้ายการผลิตไปยังอินเดียจะช่วยลดต้นทุนและปรับปรุงกลยุทธ์การตั้งราคาของบริษัทให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ Lenovo ไม่ใช่บริษัทเดียวที่ตัดสินใจย้ายการผลิตออกจากจีนเพื่อลดภาระภาษีนี้ บริษัทรายใหญ่อื่น ๆ เช่น ASRock, HP, และ Dell ก็มีแผนย้ายการผลิตไปยังประเทศที่ไม่มีภาระภาษีสูง เช่น เวียดนาม ไต้หวัน และอินโดนีเซีย นอกจากภาษีแล้ว การควบคุมการส่งออกชิป AI ล่าสุดจากทำเนียบขาวยังเป็นแรงกดดันให้ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต้องย้ายฐานการผลิต PC และชิปไปยังประเทศอื่น เช่น PC Partner, ผู้ผลิตแบรนด์ Zotac, Inno3D, และ Manli กำลังย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังสิงคโปร์ และวางแผนย้ายการผลิตไปยังอินโดนีเซีย ในขณะที่บริษัทอย่าง Amkor Technology, Hana Micron, และ Intel กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเวียดนาม แม้ว่าบางบริษัทจะย้ายการผลิตไปยังประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี การย้ายการผลิตกลับเข้าสู่สหรัฐฯ ยังคงเป็นทางเลือกที่ยากลำบากสำหรับบริษัทขนาดเล็ก ส่วนบริษัทขนาดใหญ่เช่น TSMC ได้ประกาศการลงทุนเพิ่มอีก 100 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานใหม่สามแห่งและศูนย์วิจัยและพัฒนาในแอริโซนา https://www.tomshardware.com/tech-industry/lenovo-joins-growing-china-exodus-as-manufacturers-flee-us-tariffs-oem-moving-production-lines-to-india
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Lenovo joins growing China exodus as manufacturers flee US tariffs — OEM moving production lines to India
    This is just one of the growing companies setting up shop elsewhere to escape the US-China trade war.
    0 Comments 0 Shares 322 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลไทย ยังเฉย!? สงครามการค้า จ่อถล่มไทย : [Biz Talk]

    หอการค้าไทย แถลงการณ์ วอนรัฐบาล เร่งตั้ง ‘ทีมพิเศษ’ รัฐ+เอกชน วางแผนรับมือเชิงรุก กับการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของนโยบายเศรษฐกิจการค้าของสหรัฐฯ กับทั่วโลก ถอดบทเรียนจากเม็กซิโก,แคนาดา ที่ถูกสหรัฐฯขึ้นภาษีแล้ว ทั้ง 2 ประเทศ ก็ใช้ทีมพิเศษตอบโต้และต่อรองได้คล่องตัว ย้ำอีกครั้ง ‘รัฐบาลเฉย เอกชนเหนื่อย!’
    รัฐบาลไทย ยังเฉย!? สงครามการค้า จ่อถล่มไทย : [Biz Talk] หอการค้าไทย แถลงการณ์ วอนรัฐบาล เร่งตั้ง ‘ทีมพิเศษ’ รัฐ+เอกชน วางแผนรับมือเชิงรุก กับการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของนโยบายเศรษฐกิจการค้าของสหรัฐฯ กับทั่วโลก ถอดบทเรียนจากเม็กซิโก,แคนาดา ที่ถูกสหรัฐฯขึ้นภาษีแล้ว ทั้ง 2 ประเทศ ก็ใช้ทีมพิเศษตอบโต้และต่อรองได้คล่องตัว ย้ำอีกครั้ง ‘รัฐบาลเฉย เอกชนเหนื่อย!’
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 960 Views 42 0 Reviews
  • แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Trump จะประกาศเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกออกไปหนึ่งเดือน การเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกในอนาคตอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการผลิตเกมวิดีโอแบบแผ่น ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาหรือการย้ายไปสู่การขายเกมแบบดิจิทัลเท่านั้น

    ปัจจุบัน เม็กซิโกมีบทบาทสำคัญในการผลิตเกมแบบแผ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผ่นเกมสำหรับเครื่องเล่น PlayStation ของ Sony ซึ่งเคยผลิตในโรงงานที่อินเดียนา แต่ตอนนี้ได้ย้ายไปที่เม็กซิโกแล้ว การเก็บภาษีใหม่นี้อาจทำให้บริษัทผู้ผลิตเกมและผู้ค้าปลีกต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น และอาจผลักดันค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปยังผู้บริโภค

    ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการเก็บภาษีใหม่นี้อาจเร่งให้เกิดการย้ายไปสู่การขายเกมแบบดิจิทัลมากขึ้น ถึงแม้ว่ายอดขายเกมแบบแผ่นจะลดลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่ปี 2021 แต่ผู้เล่นยังคงชอบการซื้อเกมแบบแผ่นเนื่องจากสามารถนำไปขายต่อหรือให้ยืมได้ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นไปได้มากขึ้นในอนาคตใกล้ ๆ โดยมีตัวอย่างเช่นเกม Alan Wake 2 ที่เปิดตัวโดยไม่มีเวอร์ชันแผ่นในปี 2023 และลดราคาเกมดิจิทัลลง

    การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกระทบหลายอย่าง:
    1) ราคาสูงขึ้น: หากมีการเก็บภาษี 25% ราคาของเกมแบบแผ่นจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
    2) เกมดิจิทัลมากขึ้น: บริษัทผู้ผลิตเกมอาจเพิ่มการขายเกมแบบดิจิทัลเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนการผลิตแผ่น
    3) การย้ายการผลิตกลับสหรัฐฯ: แม้จะเป็นทางเลือก แต่ก็ใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

    แม้ว่าการกลับไปผลิตแผ่นเกมในสหรัฐฯ จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่มีความเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตจะตัดสินใจย้ายไปยังโมเดลการขายแบบดิจิทัลเท่านั้นเร็วขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เริ่มเห็นได้ชัดในตลาดเกมคอนโซล

    https://www.techspot.com/news/107053-import-tariffs-may-accelerate-death-physical-video-games.html
    แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Trump จะประกาศเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกออกไปหนึ่งเดือน การเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกในอนาคตอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการผลิตเกมวิดีโอแบบแผ่น ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาหรือการย้ายไปสู่การขายเกมแบบดิจิทัลเท่านั้น ปัจจุบัน เม็กซิโกมีบทบาทสำคัญในการผลิตเกมแบบแผ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผ่นเกมสำหรับเครื่องเล่น PlayStation ของ Sony ซึ่งเคยผลิตในโรงงานที่อินเดียนา แต่ตอนนี้ได้ย้ายไปที่เม็กซิโกแล้ว การเก็บภาษีใหม่นี้อาจทำให้บริษัทผู้ผลิตเกมและผู้ค้าปลีกต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น และอาจผลักดันค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปยังผู้บริโภค ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการเก็บภาษีใหม่นี้อาจเร่งให้เกิดการย้ายไปสู่การขายเกมแบบดิจิทัลมากขึ้น ถึงแม้ว่ายอดขายเกมแบบแผ่นจะลดลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่ปี 2021 แต่ผู้เล่นยังคงชอบการซื้อเกมแบบแผ่นเนื่องจากสามารถนำไปขายต่อหรือให้ยืมได้ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นไปได้มากขึ้นในอนาคตใกล้ ๆ โดยมีตัวอย่างเช่นเกม Alan Wake 2 ที่เปิดตัวโดยไม่มีเวอร์ชันแผ่นในปี 2023 และลดราคาเกมดิจิทัลลง การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกระทบหลายอย่าง: 1) ราคาสูงขึ้น: หากมีการเก็บภาษี 25% ราคาของเกมแบบแผ่นจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน 2) เกมดิจิทัลมากขึ้น: บริษัทผู้ผลิตเกมอาจเพิ่มการขายเกมแบบดิจิทัลเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนการผลิตแผ่น 3) การย้ายการผลิตกลับสหรัฐฯ: แม้จะเป็นทางเลือก แต่ก็ใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน แม้ว่าการกลับไปผลิตแผ่นเกมในสหรัฐฯ จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่มีความเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตจะตัดสินใจย้ายไปยังโมเดลการขายแบบดิจิทัลเท่านั้นเร็วขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เริ่มเห็นได้ชัดในตลาดเกมคอนโซล https://www.techspot.com/news/107053-import-tariffs-may-accelerate-death-physical-video-games.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Import tariffs may accelerate the death of physical video games
    Analysts predict that a 25 percent tariff on goods imported from Mexico would substantially affect the U.S. retail console game market. Since Mexico plays a crucial role...
    0 Comments 0 Shares 286 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะยกเว้นบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จากมาตรการรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว
    .
    นกอจากนี้ ทำเนียบขาวยังเผยด้วยว่าประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดกว้างสำหรับพิจารณามอบข้อยกเว้นจากการรีดภาษีสำหรับสินค้าอื่นๆ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) ที่ผ่านมา
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ แสดงจุดยืนว่าเขายังไม่ล้มเลิกสงครามการค้ากับแคนาดาและเม็กซิโก ในขณะที่เขาพยายามกดดันทั้ง 2 ประเทศ ที่ปราบปรามการลักลอบขนยาเฟนทานิล ทั้งนี้หลังจากพุดคุยทางโทรศัพท์กับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ทรัมป์บอกว่าเขาไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้วหรือไม่
    .
    "เขาบอกว่ามันดีขึ้นแล้ว แต่ผมบอกกลับไปว่า มันยังไม่เพียงพอ" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ส่วนทำเนียบนายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุว่า "การพูดคุยทางโทรศัพท์จบลงด้วยรูปแบบความเป็นมิตร!" พร้อมบอกว่าจะมีการเดินหน้าเจรจากันต่อไป
    .
    ข้อยกเว้นจากการถูกรีดภาษี กระตุ้นให้บรรดาหุ้นยานยนต์ฟื้นตัวถ้วนหน้า หลังจากความตึงเครียดทางการค้าที่ก่อความไม่แน่นอนแก่เหล่าผู้ประกอบการสหรัฐฯ และกัดเซาะความเชื่อมั่นผู้บริโภค ได้นำมาซึ่งแรงขายในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    ความเคลื่อนไหวยกเว้นภาษีเป็นเวลา 1 เดือน สำหรับรถยนต์และรถกระบะที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ในเนื้อหาของข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา ตามกรอบของทรัมป์ จะเป็นประโยชน์กับฟอร์ดและจีเอ็ม 2 ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกา ตามความเห็นของนักวิเคราะห์
    .
    ขณะเดียวกัน ทรัมป์ อาจละเว้นรีดภาษี 10% พลังงานนำเข้าจากแคนาดา อย่างเช่นน้ำมันดิบและเบนซิน ที่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีที่มีชื่อว่า USMCA
    .
    คำขู่รีดภาษีของทรัมป์ ก่อความเสียหายร้ายแรงในความสัมพันธ์ระหว่าง 3 ชาติคู่หูทางการค้า แคนาดาตอบโต้ด้วยว่าการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ อย่างเจาะจง ส่วน เม็กซิโก ก็ประกาศแก้แค้นเช่นกัน
    .
    การรีดภาษีเสี่ยงบั่นทอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของแคนาดา และยิ่งไปกว่านั้นอาจโหมกระพือภาวะถดถอย เนื่องจากประเทศแห่งนี้พึ่งพิงตลาดสหรัฐฯ ในการส่งออก คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% และนำเข้าสินค้าจากอเมริกา คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของสินค้านำเข้าทั้งหมด
    .
    ความตึงเครียดทางการค้าอาจก่อความเจ็บปวดแก่สหรัฐฯ เช่นกัน จากข้อมูลใหม่ที่เผยแพร่ในวันพุธ (5 มี.ค.) พบว่าการเติบโตของการจ้างงานกำลังชะลอตัว เช่นเดียวกับค่าจ้างสำหรับแรงงานที่เปลี่ยนงานใหม่ก็ลดลง ขณะที่รายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พบความไม่แน่ใจอย่างกว้างขวางในหมู่ภาคธุรกิจทั่วอเมริกาต่อนโยบายต่างๆ ของทรัมป์ และบางธุรกิจถึงขั้นตัดสินใจปรับขึ้นราคาไปแล้ว โดยไม่รอให้มาตรการรีดภาษีมีผลบังคับใช้
    .
    นอกจากแคนาดาและเม็กซิโกแล้ว ทรัมป์ยังกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 10% กระตุ้นให้ปักกิ่งตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมเช่นกัน
    .
    ถ้อยแถลงเกี่ยวกับการยกเว้นภาษี มีขึ้น 1 วันหลังจากทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์กับซีอีโอของฟอร์ด จีเอ็ม และสเตลแลนทิส
    .
    รถยนต์ที่ผลิตโดยทั้ง 3 บริษัท จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ USMCA ที่กำหนดให้ต้องมีชิ้นส่วนที่ผลิตในอเมริกาเหนือ 75% เพื่อที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ตลาดอเมริกา โดยไม่จำเป็นต้องเสียภาษีใดๆ
    .
    นอกจากนี้ กฎเกณฑ์ดังกล่าวยังบังคับให้ส่วนประกอบ 40% ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลต้องผลิตในสหรัฐฯ หรือแคนาดา และต้องเป็นชิ้นส่วนหลักๆ ในนั้นรวมถึงเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ตัวถังและโครงช่วงล่าง ในขณะที่รถกระบะนั้น กำหนดไว้ที่ 45%
    .
    แหล่งข่าวในภาคอุตสาหกรรมเผยว่าบรรดาผู้ผลิตรถยนต์สนับสนุนการส่งเสริมการลงทุนของสหรัฐฯ แต่ต้องการความแน่นอนเกี่ยวกับนโยบายรีดภาษี เช่นเดียวกับกฎเกณฑ์ด้านมลพิษ ก่อนดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆ
    .
    มาตรการยกเว้นนี้ ยังก่อประโยชน์กับรถยนต์แบรนด์ต่างชาติบางส่วน ที่มีฐานการผลิตขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงฮอนด้าและโตโยต้า แต่คู่แข่งบางแห่งที่ไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกรีดภาษี 25% เต็มจำนวน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021625
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะยกเว้นบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จากมาตรการรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว . นกอจากนี้ ทำเนียบขาวยังเผยด้วยว่าประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดกว้างสำหรับพิจารณามอบข้อยกเว้นจากการรีดภาษีสำหรับสินค้าอื่นๆ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) ที่ผ่านมา . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ แสดงจุดยืนว่าเขายังไม่ล้มเลิกสงครามการค้ากับแคนาดาและเม็กซิโก ในขณะที่เขาพยายามกดดันทั้ง 2 ประเทศ ที่ปราบปรามการลักลอบขนยาเฟนทานิล ทั้งนี้หลังจากพุดคุยทางโทรศัพท์กับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ทรัมป์บอกว่าเขาไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้วหรือไม่ . "เขาบอกว่ามันดีขึ้นแล้ว แต่ผมบอกกลับไปว่า มันยังไม่เพียงพอ" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ส่วนทำเนียบนายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุว่า "การพูดคุยทางโทรศัพท์จบลงด้วยรูปแบบความเป็นมิตร!" พร้อมบอกว่าจะมีการเดินหน้าเจรจากันต่อไป . ข้อยกเว้นจากการถูกรีดภาษี กระตุ้นให้บรรดาหุ้นยานยนต์ฟื้นตัวถ้วนหน้า หลังจากความตึงเครียดทางการค้าที่ก่อความไม่แน่นอนแก่เหล่าผู้ประกอบการสหรัฐฯ และกัดเซาะความเชื่อมั่นผู้บริโภค ได้นำมาซึ่งแรงขายในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา . ความเคลื่อนไหวยกเว้นภาษีเป็นเวลา 1 เดือน สำหรับรถยนต์และรถกระบะที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ในเนื้อหาของข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา ตามกรอบของทรัมป์ จะเป็นประโยชน์กับฟอร์ดและจีเอ็ม 2 ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกา ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ . ขณะเดียวกัน ทรัมป์ อาจละเว้นรีดภาษี 10% พลังงานนำเข้าจากแคนาดา อย่างเช่นน้ำมันดิบและเบนซิน ที่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีที่มีชื่อว่า USMCA . คำขู่รีดภาษีของทรัมป์ ก่อความเสียหายร้ายแรงในความสัมพันธ์ระหว่าง 3 ชาติคู่หูทางการค้า แคนาดาตอบโต้ด้วยว่าการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ อย่างเจาะจง ส่วน เม็กซิโก ก็ประกาศแก้แค้นเช่นกัน . การรีดภาษีเสี่ยงบั่นทอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของแคนาดา และยิ่งไปกว่านั้นอาจโหมกระพือภาวะถดถอย เนื่องจากประเทศแห่งนี้พึ่งพิงตลาดสหรัฐฯ ในการส่งออก คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% และนำเข้าสินค้าจากอเมริกา คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของสินค้านำเข้าทั้งหมด . ความตึงเครียดทางการค้าอาจก่อความเจ็บปวดแก่สหรัฐฯ เช่นกัน จากข้อมูลใหม่ที่เผยแพร่ในวันพุธ (5 มี.ค.) พบว่าการเติบโตของการจ้างงานกำลังชะลอตัว เช่นเดียวกับค่าจ้างสำหรับแรงงานที่เปลี่ยนงานใหม่ก็ลดลง ขณะที่รายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พบความไม่แน่ใจอย่างกว้างขวางในหมู่ภาคธุรกิจทั่วอเมริกาต่อนโยบายต่างๆ ของทรัมป์ และบางธุรกิจถึงขั้นตัดสินใจปรับขึ้นราคาไปแล้ว โดยไม่รอให้มาตรการรีดภาษีมีผลบังคับใช้ . นอกจากแคนาดาและเม็กซิโกแล้ว ทรัมป์ยังกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 10% กระตุ้นให้ปักกิ่งตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมเช่นกัน . ถ้อยแถลงเกี่ยวกับการยกเว้นภาษี มีขึ้น 1 วันหลังจากทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์กับซีอีโอของฟอร์ด จีเอ็ม และสเตลแลนทิส . รถยนต์ที่ผลิตโดยทั้ง 3 บริษัท จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ USMCA ที่กำหนดให้ต้องมีชิ้นส่วนที่ผลิตในอเมริกาเหนือ 75% เพื่อที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ตลาดอเมริกา โดยไม่จำเป็นต้องเสียภาษีใดๆ . นอกจากนี้ กฎเกณฑ์ดังกล่าวยังบังคับให้ส่วนประกอบ 40% ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลต้องผลิตในสหรัฐฯ หรือแคนาดา และต้องเป็นชิ้นส่วนหลักๆ ในนั้นรวมถึงเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ตัวถังและโครงช่วงล่าง ในขณะที่รถกระบะนั้น กำหนดไว้ที่ 45% . แหล่งข่าวในภาคอุตสาหกรรมเผยว่าบรรดาผู้ผลิตรถยนต์สนับสนุนการส่งเสริมการลงทุนของสหรัฐฯ แต่ต้องการความแน่นอนเกี่ยวกับนโยบายรีดภาษี เช่นเดียวกับกฎเกณฑ์ด้านมลพิษ ก่อนดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆ . มาตรการยกเว้นนี้ ยังก่อประโยชน์กับรถยนต์แบรนด์ต่างชาติบางส่วน ที่มีฐานการผลิตขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงฮอนด้าและโตโยต้า แต่คู่แข่งบางแห่งที่ไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกรีดภาษี 25% เต็มจำนวน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021625 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    17
    0 Comments 0 Shares 2396 Views 0 Reviews
  • มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ที่ชื่อว่า Eleven11bot ซึ่งติดตั้งไปยังอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) กว่า 86,000 เครื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกล้องวงจรปิดและ Network Video Recorders (NVRs) เพื่อทำการโจมตี DDoS (Distributed Denial of Service)

    ผู้เชี่ยวชาญจาก Nokia ได้ตรวจพบ Eleven11bot และแชร์ข้อมูลนี้กับแพลตฟอร์มการติดตามภัยคุกคาม GreyNoise Jérôme Meyer นักวิจัยความปลอดภัยของ Nokia กล่าวว่า Eleven11bot เป็นหนึ่งในบ็อตเน็ตที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยเห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมาจากอุปกรณ์ IoT ที่ถูกเจาะระบบ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกล้องวงจรปิดและ NVRs

    บ็อตเน็ต Eleven11bot นี้ถูกใช้เพื่อโจมตีให้บริการโทรคมนาคมและเซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์หลายแห่ง โดยในวันนี้ แพลตฟอร์มการติดตามภัยคุกคาม The Shadowserver Foundation รายงานว่าพบอุปกรณ์ที่ติดเชื้อจาก Eleven11bot กว่า 86,400 เครื่องในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เม็กซิโก แคนาดา และออสเตรเลีย

    การโจมตีจาก Eleven11bot นั้นมีปริมาณข้อมูลหลายร้อยล้านแพ็คเก็ตต่อวินาที และมักจะดำเนินไปหลายวัน โดย GreyNoise ได้บันทึก IP 1,400 แห่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของบ็อตเน็ตนี้ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์จริงไม่ใช่ IP ปลอม

    มัลแวร์นี้แพร่กระจายโดยการใช้ช่องโหว่ของรหัสผ่านที่อ่อนแอหรือรหัสผ่านที่เป็นค่าเริ่มต้นของอุปกรณ์ IoT ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านี้ได้ นอกจากนี้ยังมีการสแกนพอร์ต Telnet และ SSH ที่เปิดอยู่ในเครือข่ายเพื่อหาช่องทางในการเจาะระบบ

    GreyNoise ได้เผยแพร่รายชื่อ IP ที่เกี่ยวข้องกับ Eleven11bot และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบเพิ่มรายการนี้ในบล็อกลิสต์ของพวกเขา และเฝ้าระวังการพยายามเข้าสู่ระบบที่น่าสงสัย

    เพื่อป้องกันการโจมตีนี้ ขอแนะนำให้ผู้ใช้งานตรวจสอบให้อุปกรณ์ IoT ของพวกเขาใช้เฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุดและปิดฟีเจอร์การเข้าถึงระยะไกลหากไม่จำเป็น ควรเปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชีผู้ดูแลระบบให้แข็งแรงและไม่ซ้ำกับค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่ใช้งานยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตหรือไม่ และหากอุปกรณ์ถึงจุดสิ้นสุดของการสนับสนุน (EOL) ก็ควรเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/new-eleven11bot-botnet-infects-86-000-devices-for-ddos-attacks/
    มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ที่ชื่อว่า Eleven11bot ซึ่งติดตั้งไปยังอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) กว่า 86,000 เครื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกล้องวงจรปิดและ Network Video Recorders (NVRs) เพื่อทำการโจมตี DDoS (Distributed Denial of Service) ผู้เชี่ยวชาญจาก Nokia ได้ตรวจพบ Eleven11bot และแชร์ข้อมูลนี้กับแพลตฟอร์มการติดตามภัยคุกคาม GreyNoise Jérôme Meyer นักวิจัยความปลอดภัยของ Nokia กล่าวว่า Eleven11bot เป็นหนึ่งในบ็อตเน็ตที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยเห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมาจากอุปกรณ์ IoT ที่ถูกเจาะระบบ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกล้องวงจรปิดและ NVRs บ็อตเน็ต Eleven11bot นี้ถูกใช้เพื่อโจมตีให้บริการโทรคมนาคมและเซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์หลายแห่ง โดยในวันนี้ แพลตฟอร์มการติดตามภัยคุกคาม The Shadowserver Foundation รายงานว่าพบอุปกรณ์ที่ติดเชื้อจาก Eleven11bot กว่า 86,400 เครื่องในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เม็กซิโก แคนาดา และออสเตรเลีย การโจมตีจาก Eleven11bot นั้นมีปริมาณข้อมูลหลายร้อยล้านแพ็คเก็ตต่อวินาที และมักจะดำเนินไปหลายวัน โดย GreyNoise ได้บันทึก IP 1,400 แห่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของบ็อตเน็ตนี้ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์จริงไม่ใช่ IP ปลอม มัลแวร์นี้แพร่กระจายโดยการใช้ช่องโหว่ของรหัสผ่านที่อ่อนแอหรือรหัสผ่านที่เป็นค่าเริ่มต้นของอุปกรณ์ IoT ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านี้ได้ นอกจากนี้ยังมีการสแกนพอร์ต Telnet และ SSH ที่เปิดอยู่ในเครือข่ายเพื่อหาช่องทางในการเจาะระบบ GreyNoise ได้เผยแพร่รายชื่อ IP ที่เกี่ยวข้องกับ Eleven11bot และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบเพิ่มรายการนี้ในบล็อกลิสต์ของพวกเขา และเฝ้าระวังการพยายามเข้าสู่ระบบที่น่าสงสัย เพื่อป้องกันการโจมตีนี้ ขอแนะนำให้ผู้ใช้งานตรวจสอบให้อุปกรณ์ IoT ของพวกเขาใช้เฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุดและปิดฟีเจอร์การเข้าถึงระยะไกลหากไม่จำเป็น ควรเปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชีผู้ดูแลระบบให้แข็งแรงและไม่ซ้ำกับค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่ใช้งานยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตหรือไม่ และหากอุปกรณ์ถึงจุดสิ้นสุดของการสนับสนุน (EOL) ก็ควรเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น https://www.bleepingcomputer.com/news/security/new-eleven11bot-botnet-infects-86-000-devices-for-ddos-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    New Eleven11bot botnet infects 86,000 devices for DDoS attacks
    A new botnet malware named 'Eleven11bot' has infected over 86,000 IoT devices, primarily security cameras and network video recorders (NVRs), to conduct DDoS attacks.
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับหุ้นส่วนเศรษฐกิจและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 3 ชาติยิ่งบานปลายขยายตัว หลังจากทรัมป์ยืนยันว่ามาตรการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรที่เงื้อง่าอยู่ เริ่มมีผลบังคับใช้กับแคนาดา เม็กซิโก และจีนแน่นอนส่งผลให้ปักกิ่งและออตตาวาประกาศตอบโต้แบบทันควัน ขณะที่เม็กซิโกก็ระบุเอาคืนแน่นอน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด
    .
    หลังเวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ (3 มี.ค.) ตามเวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ (ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 12 ชั่วโมง) สินค้าแคนาดาและเม็กซิโกที่นำเข้าไปยังอเมริกา ซึ่งมีมูลค่ารวมกันสูงกว่า 918,000 ล้านดอลลาร์จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงขึ้น 25% รวด เวลาเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากจีนสูงขึ้นอีก 10% จากที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว 10% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
    .
    ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แถลงว่า แคนาดาจะตอบโต้โดยเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 25% จากสินค้าอเมริกันมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 21 วัน ขณะที่ประธานาธิบดี เกลาเดีย เชย์นเบาม์ ระบุว่าความเคลื่อนไหวช่นนี้ของสหรัฐฯไม่มีความชอบธรรม และประกาศจะตอบโต้กลับด้วยมาตรการภาษีของตัวเอง
    .
    ผู้นำหญิงของเม็กซิโกบอกว่า เธอจะประกาศรายการสินค้านำเข้าจากอเมริกาที่จะตกเป็นเป้าถูกขึ้นภาษีตอบโต้ในวันอาทิตย์ (9) นี้ ณ งานพิธีซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่จัตุรัสใจกลางเมืองหลวงเม็กซิโกซิตี ท่าทีเช่นนี้ทำให้มองกันว่าการเลื่อนช้าออกไปเช่นนี้บ่งชี้ว่าเม็กซิโกยังคงมีความหวังที่จะเจรจาต่อรองกันก่อนเพื่อไม่ให้สงครามการค้าบานปลาย
    .
    แรกทีเดียวนั้น มาตรการภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทว่า ทรัมป์ตกลงขยายเวลาออกไป 30 วันเพื่อเจรจาเพิ่มเติมกับสองประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอเมริกา สำหรับเหตุผลในการขึ้นภาษีคือ เพื่อให้สองประเทศเพื่อนบ้านนี้จัดการปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด โดยเฉพาะ เฟนทานิล และปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผ่านดินแดนของประเทศทั้งสองเข้ามายังสหรัฐฯ
    .
    ขณะที่ทั้งสองชาติต่างยืนยันว่า มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหา ทว่า ทรัมป์กลับบอกเพิ่มเติมว่า จะลดภาษีศุลกากรต่อเมื่อการขาดดุลการค้าของอเมริกาต่อเม็กซิโกและแคนาดาสิ้นสุดลง ถึงแม้เรื่องหลังนี้ย่อมเป็นกระบวนการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามกรอบเวลาทางการเมือง
    .
    มีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่า มาตรการที่สหรัฐฯขึ้นภาษีศุลกากรกับแคนาดาและเม็กซิโก น่าจะส่งผลสะท้อนกลับกระทบถึงเศรษฐกิจอเมริกันอย่างแรงๆ และดังนั้นจึงอาจบังคับใช้ได้เพียงช่วงสั้นๆ และสิ่งที่ทรัมป์อาจเลือกกระทำต่อไป อาจเป็นการหันไปรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป และอินเดีย รวมทั้งพวก ชิปคอมพิวเตอร์ ยานยนต์ และยาเวชภัณฑ์นำเข้าเพิ่มมากขึ้น
    .
    ในส่วนของจีนนั้น ปักกิ่งประณามการบังคับใช้มาตรการ “ตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” เช่นนี้ของอเมริกา และประกาศตอบโต้ทันทีด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 15% จากสินค้าเกษตรและอาหารของอเมริกามูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ มีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า รวมทั้งเพิ่มบริษัทอเมริกันอีก 25 แห่งในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกจำกัดการส่งออกและการลงทุนภายใต้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่รองรับสินค้าเกษตรของอเมริกา โดยปีที่แล้ว แม้จีนนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ลดลงเป็นปีที่สอง แต่ก็ยังคงมีมูลค่าถึง 29,250 ล้านดอลลาร์ เท่าที่ผ่านมาภาคเศรษฐกิจนี้มักถูกใช้เป็นกระสอบทรายในยามที่สถานการณ์การค้าระหว่าง 2 ประเทศตึงเครียด โดยเฉพาะในเมื่อพวกรัฐที่เศรษฐกิจพึ่งพาการเกษตรอย่างมาก ยังเป็นพวกรัฐฐานเสียงของทรัมป์และรีพับลิกันอีกด้วย
    .
    ในวันอังคาร (3) กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแถลงว่า จีนจะไม่ยอมจำนนต่อการรังแกหรือข่มขู่ และสำทับว่า การพยายามกดดันจีนเป็นการคำนวณผิดพลาด
    .
    อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ปักกิ่งยังหวังว่าจะสามารถเปิดการเจรจาสงบศึกกับคณะบริหารของทรัมป์ จึงกำหนดภาษีตอบโต้ในอัตราต่ำกว่า 20% เพื่อให้คณะผู้เจรจาของตนสามารถต่อรองและบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ ทว่าเมื่อการตอบโต้กันไปมาชักบานปลายออกไป มันก็อาจลดโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันได้
    .
    เวลาเดียวกัน สำนักข่าวเอพีเสนอรายงานข่าวที่ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังทำให้เศรษฐกิจของทั่วโลกผันผวนและไร้ความแน่นอน เนื่องจากไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ทรัมป์จะทำอะไรต่อไป
    .
    การเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกแบบเหวี่ยงแหยังมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง และเสี่ยงทำให้ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มขึ้น
    .
    นักเศรษฐศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการภาษีของทรัมป์อาจทำให้ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯพุ่งขึ้น และเพิ่มความกดดันต่อการเติบโตและการจ้างงานในอเมริกา
    .
    มูลนิธิแท็กซ์ ฟาวน์เดชัน ของสหรัฐฯประเมินว่า มาตรการภาษีต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีนจะทำให้อัตราเติบโตของอเมริกาหายไป 0.1% ทั้งนี้ ยังไม่คำนวณผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ของทั้งสามชาติ
    .
    ไดแอน สวองค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเคพีเอ็มจี เตือนว่า ถ้าทรัมป์ยังเดินตามแผนรีดภาษีต่อไป อัตราภาษีศุลกากรของอเมริกาอาจเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับจากปี 1936 ภายในต้นปีหน้า โดยที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตของสหรัฐฯจะต้องเป็นผู้รับภาระหนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีศุลกากร ซึ่งอาจส่งผลตามมาทำให้ดีมานด์ลดลง และภาคธุรกิจต้องปลดพนักงานเพื่อควบคุมต้นทุน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021232
    ..............
    Sondhi X
    สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับหุ้นส่วนเศรษฐกิจและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 3 ชาติยิ่งบานปลายขยายตัว หลังจากทรัมป์ยืนยันว่ามาตรการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรที่เงื้อง่าอยู่ เริ่มมีผลบังคับใช้กับแคนาดา เม็กซิโก และจีนแน่นอนส่งผลให้ปักกิ่งและออตตาวาประกาศตอบโต้แบบทันควัน ขณะที่เม็กซิโกก็ระบุเอาคืนแน่นอน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด . หลังเวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ (3 มี.ค.) ตามเวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ (ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 12 ชั่วโมง) สินค้าแคนาดาและเม็กซิโกที่นำเข้าไปยังอเมริกา ซึ่งมีมูลค่ารวมกันสูงกว่า 918,000 ล้านดอลลาร์จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงขึ้น 25% รวด เวลาเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากจีนสูงขึ้นอีก 10% จากที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว 10% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ . ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แถลงว่า แคนาดาจะตอบโต้โดยเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 25% จากสินค้าอเมริกันมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 21 วัน ขณะที่ประธานาธิบดี เกลาเดีย เชย์นเบาม์ ระบุว่าความเคลื่อนไหวช่นนี้ของสหรัฐฯไม่มีความชอบธรรม และประกาศจะตอบโต้กลับด้วยมาตรการภาษีของตัวเอง . ผู้นำหญิงของเม็กซิโกบอกว่า เธอจะประกาศรายการสินค้านำเข้าจากอเมริกาที่จะตกเป็นเป้าถูกขึ้นภาษีตอบโต้ในวันอาทิตย์ (9) นี้ ณ งานพิธีซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่จัตุรัสใจกลางเมืองหลวงเม็กซิโกซิตี ท่าทีเช่นนี้ทำให้มองกันว่าการเลื่อนช้าออกไปเช่นนี้บ่งชี้ว่าเม็กซิโกยังคงมีความหวังที่จะเจรจาต่อรองกันก่อนเพื่อไม่ให้สงครามการค้าบานปลาย . แรกทีเดียวนั้น มาตรการภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทว่า ทรัมป์ตกลงขยายเวลาออกไป 30 วันเพื่อเจรจาเพิ่มเติมกับสองประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอเมริกา สำหรับเหตุผลในการขึ้นภาษีคือ เพื่อให้สองประเทศเพื่อนบ้านนี้จัดการปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด โดยเฉพาะ เฟนทานิล และปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผ่านดินแดนของประเทศทั้งสองเข้ามายังสหรัฐฯ . ขณะที่ทั้งสองชาติต่างยืนยันว่า มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหา ทว่า ทรัมป์กลับบอกเพิ่มเติมว่า จะลดภาษีศุลกากรต่อเมื่อการขาดดุลการค้าของอเมริกาต่อเม็กซิโกและแคนาดาสิ้นสุดลง ถึงแม้เรื่องหลังนี้ย่อมเป็นกระบวนการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามกรอบเวลาทางการเมือง . มีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่า มาตรการที่สหรัฐฯขึ้นภาษีศุลกากรกับแคนาดาและเม็กซิโก น่าจะส่งผลสะท้อนกลับกระทบถึงเศรษฐกิจอเมริกันอย่างแรงๆ และดังนั้นจึงอาจบังคับใช้ได้เพียงช่วงสั้นๆ และสิ่งที่ทรัมป์อาจเลือกกระทำต่อไป อาจเป็นการหันไปรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป และอินเดีย รวมทั้งพวก ชิปคอมพิวเตอร์ ยานยนต์ และยาเวชภัณฑ์นำเข้าเพิ่มมากขึ้น . ในส่วนของจีนนั้น ปักกิ่งประณามการบังคับใช้มาตรการ “ตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” เช่นนี้ของอเมริกา และประกาศตอบโต้ทันทีด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 15% จากสินค้าเกษตรและอาหารของอเมริกามูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ มีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า รวมทั้งเพิ่มบริษัทอเมริกันอีก 25 แห่งในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกจำกัดการส่งออกและการลงทุนภายใต้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ . ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่รองรับสินค้าเกษตรของอเมริกา โดยปีที่แล้ว แม้จีนนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ลดลงเป็นปีที่สอง แต่ก็ยังคงมีมูลค่าถึง 29,250 ล้านดอลลาร์ เท่าที่ผ่านมาภาคเศรษฐกิจนี้มักถูกใช้เป็นกระสอบทรายในยามที่สถานการณ์การค้าระหว่าง 2 ประเทศตึงเครียด โดยเฉพาะในเมื่อพวกรัฐที่เศรษฐกิจพึ่งพาการเกษตรอย่างมาก ยังเป็นพวกรัฐฐานเสียงของทรัมป์และรีพับลิกันอีกด้วย . ในวันอังคาร (3) กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแถลงว่า จีนจะไม่ยอมจำนนต่อการรังแกหรือข่มขู่ และสำทับว่า การพยายามกดดันจีนเป็นการคำนวณผิดพลาด . อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ปักกิ่งยังหวังว่าจะสามารถเปิดการเจรจาสงบศึกกับคณะบริหารของทรัมป์ จึงกำหนดภาษีตอบโต้ในอัตราต่ำกว่า 20% เพื่อให้คณะผู้เจรจาของตนสามารถต่อรองและบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ ทว่าเมื่อการตอบโต้กันไปมาชักบานปลายออกไป มันก็อาจลดโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันได้ . เวลาเดียวกัน สำนักข่าวเอพีเสนอรายงานข่าวที่ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังทำให้เศรษฐกิจของทั่วโลกผันผวนและไร้ความแน่นอน เนื่องจากไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ทรัมป์จะทำอะไรต่อไป . การเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกแบบเหวี่ยงแหยังมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง และเสี่ยงทำให้ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มขึ้น . นักเศรษฐศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการภาษีของทรัมป์อาจทำให้ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯพุ่งขึ้น และเพิ่มความกดดันต่อการเติบโตและการจ้างงานในอเมริกา . มูลนิธิแท็กซ์ ฟาวน์เดชัน ของสหรัฐฯประเมินว่า มาตรการภาษีต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีนจะทำให้อัตราเติบโตของอเมริกาหายไป 0.1% ทั้งนี้ ยังไม่คำนวณผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ของทั้งสามชาติ . ไดแอน สวองค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเคพีเอ็มจี เตือนว่า ถ้าทรัมป์ยังเดินตามแผนรีดภาษีต่อไป อัตราภาษีศุลกากรของอเมริกาอาจเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับจากปี 1936 ภายในต้นปีหน้า โดยที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตของสหรัฐฯจะต้องเป็นผู้รับภาระหนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีศุลกากร ซึ่งอาจส่งผลตามมาทำให้ดีมานด์ลดลง และภาคธุรกิจต้องปลดพนักงานเพื่อควบคุมต้นทุน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021232 .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 Comments 0 Shares 2353 Views 0 Reviews
  • ราคาน้ำมันดิบลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ไม่เคยเห็นนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 นี่คือข้อมูลสำคัญ:ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดาและเม็กซิโกกำลังสั่นคลอนสถานการณ์- ความหวาดกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้ผู้ลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ส่งผลให้ความต้องการน้ำมันลดลงการเปลี่ยนไปใช้สินทรัพย์ที่ลดความเสี่ยงกำลังเพิ่มแรงกดดันให้ลดลงโดยสรุป เมื่อความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันก็ตกต่ำลง สะท้อนถึงความวิตกกังวลของตลาดโดยรวม
    ราคาน้ำมันดิบลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ไม่เคยเห็นนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 นี่คือข้อมูลสำคัญ:ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดาและเม็กซิโกกำลังสั่นคลอนสถานการณ์- ความหวาดกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้ผู้ลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ส่งผลให้ความต้องการน้ำมันลดลงการเปลี่ยนไปใช้สินทรัพย์ที่ลดความเสี่ยงกำลังเพิ่มแรงกดดันให้ลดลงโดยสรุป เมื่อความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันก็ตกต่ำลง สะท้อนถึงความวิตกกังวลของตลาดโดยรวม
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
  • อัลเบิร์ต บัวร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไฟเซอร์ (Pfizer) ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์ชั้นนำของโลก ระบุในวันจันทร์ (3 มี.ค.) ว่าบริษัทอาจตัดสินใจย้ายฐานการผลิตในต่างประเทศกลับเข้ามายังสหรัฐฯ หากมีความจำเป็น หลังจากรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ใช้มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากหลายประเทศ

    บัวร์ลา กล่าวในเวทีเสวนาด้านสุขภาพประจำปี TD Cowen ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ว่า "เรามีศักยภาพด้านการผลิตทุกอย่างที่นี่ และโรงงานผลิตต่างๆ ก็มีกำลังผลิตที่มากพอ หากมีอะไรเกิดขึ้น เราจะพยายามบรรเทาผลกระทบด้วยการย้ายฐานผลิตจากภายนอกเข้ามายังโรงงานที่นี่"

    เดือนที่แล้ว ทรัมป์ ได้มอบหมายให้ทีมงานด้านเศรษฐกิจไปจัดทำแผนรีดภาษีตอบโต้ประเทศต่างๆ ที่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอเมริกา โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้สั่งรีดภาษีสินค้าจากจีนทุกชนิดในอัตรา 10% ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. และเตรียมที่จะบังคับใช้มาตรการรีดภาษีสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% สัปดาห์นี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000020858

    #MGROnline #ไฟเซอร์ #Pfizer
    อัลเบิร์ต บัวร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไฟเซอร์ (Pfizer) ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์ชั้นนำของโลก ระบุในวันจันทร์ (3 มี.ค.) ว่าบริษัทอาจตัดสินใจย้ายฐานการผลิตในต่างประเทศกลับเข้ามายังสหรัฐฯ หากมีความจำเป็น หลังจากรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ใช้มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากหลายประเทศ • บัวร์ลา กล่าวในเวทีเสวนาด้านสุขภาพประจำปี TD Cowen ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ว่า "เรามีศักยภาพด้านการผลิตทุกอย่างที่นี่ และโรงงานผลิตต่างๆ ก็มีกำลังผลิตที่มากพอ หากมีอะไรเกิดขึ้น เราจะพยายามบรรเทาผลกระทบด้วยการย้ายฐานผลิตจากภายนอกเข้ามายังโรงงานที่นี่" • เดือนที่แล้ว ทรัมป์ ได้มอบหมายให้ทีมงานด้านเศรษฐกิจไปจัดทำแผนรีดภาษีตอบโต้ประเทศต่างๆ ที่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอเมริกา โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้สั่งรีดภาษีสินค้าจากจีนทุกชนิดในอัตรา 10% ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. และเตรียมที่จะบังคับใช้มาตรการรีดภาษีสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% สัปดาห์นี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000020858 • #MGROnline #ไฟเซอร์ #Pfizer
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดับความหวังข้อตกลงจวนเจียนก่อนหมดเวลากับแคนาดาและเม็กซิโก ที่จะช่วยหลีกเลี่ยงรีดภาษี ขณะเดียวกันก็ลงนามในคำสั่งบริหารขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ความเคลื่อนไหวที่ก่อความกังวลว่ามันอาจโหมกระพือสงครามการค้า
    .
    ทรัมป์ เคยเปิดตัวมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจาก 2 คู่ค้าหลักอย่างแคนาดาและเม็กซิโกในเดือนกุมภาพันธ์ โดยกล่าวหาทั้ง 2 ชาติ ล้มเหลวในการสกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมายและขบวนการลักลอบขนยาเสพติด ก่อนระงับบังคับใช้เป็นการชั่วคราว
    .
    การระงับดังกล่าวมีกำหนดหมดอายุลงในวันอังคาร(4มี.ค.) และตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งลงอย่างหนัก หลังจาก ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่า "ไม่มีช่องว่าง" สำหรับทั้ง 2 ประเทศ ที่จะหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีรอบใหม่
    .
    ขณะเดียวกันทำเนียบขาวเปิดเผยด้วยว่า ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหาาร เพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จากเดิม 10% เป็น 20%
    .
    อย่างไรก็ตามมาตรการรีดภาษีอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะกับแคนาดากับเม็กซิโก ส่อก่อผลกระทบกับห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญๆ อย่างเช่นยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง เสี่ยงทำให้ราคาผู้บริโภคดีดตัวสูงขึ้น ซึ่งมันจะก่อความยุ่งยากซับซ้อนต่อความพยายามของทรัมป์ ในการทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียง ที่รับปากจะหาทางช่วยภาคครัวเรือนลดค่าใช้จ่าย
    .
    ในวันจันทร์(3มี.ค.) ทรัมป์บอกว่าพร้อมแล้วสำหรับการขึ้นภาษีสูงสุด 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก "พูดตรงๆเลย สิ่งที่พวกเขาจะจำเป็นต้องทำคือสร้างโรงงานรถยนต์ของเขาและสิ่งอื่นๆในสหรัฐฯ ซึ่งกรณีนี้พวกเขาจะไม่ถูกรีดภาษี" เขากล่าว
    .
    มาเลนี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา บอกว่าเค้าลางการรีดภาษีของทรัมป์ เป็นตัวแทน "ภัยคุกคามการอยู่รอดของประเทศ" เนื่องจากตำแหน่งงานหลายหมื่นอัตราตกอยู่ในความเสี่ยง เธอบอกต่อว่าถ้าทรัมป์เดินหน้า "เราก็พร้อมที่จะรีดภาษีตอบโต้"
    .
    นอกเหนือจากเค้าลางการรีดภาษีในสัปดาห์นี้ ทรัมป์ยังโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่าการรีดภาษีสินค้าการเกษตรจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า มาตรการเหล่านี้มีขึ้นภายใต้แผนปัจจุบันของทรัมป์ สำหรับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่ปรับให้เหมาะสมกับคู่หูทางการค้าแต่ละชาติ
    .
    "ไม่สงสัยเลยว่ารัฐบาลพยายามคลี่คลายปัญหายาเฟนตานิลและผู้อพยพที่มีมาอย่างยาวนาน และมาตรการรีดภาษีเหล่านี้ มอบอำนาจงัดข้อแก่รัฐบาล" ไรอัน มาเจรัส อดีตเจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐฯให้ความเห็น พร้อมระบุว่าในอีกด้านหนึ่ง วอชิงตันก็กำลังพยายามรักษาสมดุลความสัมพันธ์ทางการค้า
    .
    คลอเดีย ไชน์บาว์ม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ระบุในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่าประเทศของเธอมีแผนฉุกเฉินไว้แล้ว ไม่ว่า ทรัมป์ จะตัดสินใจอย่างไรก็ตาม
    .
    ส่วน จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา อ้างว่าในบรรดายาเฟนตานิลและคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ไหลบ่าเข้าสู่สหรัฐฯนั้น มีไม่ถึง 1% ที่ลักลอบผ่านชายแดนแคนาดา แต่เขาบอกด้วยว่าแคนาดนา "จะตอบโต้อย่างหนักหน่วง ชัดเจนและอย่างทัดเทียม" ถ้ามาตรการรีดภาษีของอเมริกามีผลบังคับใช้
    .
    ที่ผ่านมา รัฐบาลของทรูโด ได้ดำเนินมาตรการต่างๆในความพยายามจัดการกับความกังวลของทรัมป์ ในนั้นรวมถึงแผนยกระดับความมั่นคงตามแนวชายแดน ที่ใช้งบประมาณกว่า 901 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วพวกเขายังแต่งตั้งซาร์ด้านเฟนตานิล เพื่อประสานความพยายามต่อต้านยาเสพติดชนิดนี้
    .
    ขณะเดียวกัน เม็กซิโก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ส่งตัวเจ้าพ่อยาเสพติดชื่อเสียงโด่งดังที่สุดบางส่วน ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ ในความพยายามหลีกเลี่ยงถูกรีดภาษี ในนั้นรวมถึงหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมแก๊งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของอเมริกามานานหลายทศวรรษ ในข้อหาฆาตกรรมสายลับสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020862
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดับความหวังข้อตกลงจวนเจียนก่อนหมดเวลากับแคนาดาและเม็กซิโก ที่จะช่วยหลีกเลี่ยงรีดภาษี ขณะเดียวกันก็ลงนามในคำสั่งบริหารขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ความเคลื่อนไหวที่ก่อความกังวลว่ามันอาจโหมกระพือสงครามการค้า . ทรัมป์ เคยเปิดตัวมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจาก 2 คู่ค้าหลักอย่างแคนาดาและเม็กซิโกในเดือนกุมภาพันธ์ โดยกล่าวหาทั้ง 2 ชาติ ล้มเหลวในการสกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมายและขบวนการลักลอบขนยาเสพติด ก่อนระงับบังคับใช้เป็นการชั่วคราว . การระงับดังกล่าวมีกำหนดหมดอายุลงในวันอังคาร(4มี.ค.) และตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งลงอย่างหนัก หลังจาก ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่า "ไม่มีช่องว่าง" สำหรับทั้ง 2 ประเทศ ที่จะหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีรอบใหม่ . ขณะเดียวกันทำเนียบขาวเปิดเผยด้วยว่า ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหาาร เพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จากเดิม 10% เป็น 20% . อย่างไรก็ตามมาตรการรีดภาษีอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะกับแคนาดากับเม็กซิโก ส่อก่อผลกระทบกับห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญๆ อย่างเช่นยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง เสี่ยงทำให้ราคาผู้บริโภคดีดตัวสูงขึ้น ซึ่งมันจะก่อความยุ่งยากซับซ้อนต่อความพยายามของทรัมป์ ในการทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียง ที่รับปากจะหาทางช่วยภาคครัวเรือนลดค่าใช้จ่าย . ในวันจันทร์(3มี.ค.) ทรัมป์บอกว่าพร้อมแล้วสำหรับการขึ้นภาษีสูงสุด 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก "พูดตรงๆเลย สิ่งที่พวกเขาจะจำเป็นต้องทำคือสร้างโรงงานรถยนต์ของเขาและสิ่งอื่นๆในสหรัฐฯ ซึ่งกรณีนี้พวกเขาจะไม่ถูกรีดภาษี" เขากล่าว . มาเลนี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา บอกว่าเค้าลางการรีดภาษีของทรัมป์ เป็นตัวแทน "ภัยคุกคามการอยู่รอดของประเทศ" เนื่องจากตำแหน่งงานหลายหมื่นอัตราตกอยู่ในความเสี่ยง เธอบอกต่อว่าถ้าทรัมป์เดินหน้า "เราก็พร้อมที่จะรีดภาษีตอบโต้" . นอกเหนือจากเค้าลางการรีดภาษีในสัปดาห์นี้ ทรัมป์ยังโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่าการรีดภาษีสินค้าการเกษตรจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า มาตรการเหล่านี้มีขึ้นภายใต้แผนปัจจุบันของทรัมป์ สำหรับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่ปรับให้เหมาะสมกับคู่หูทางการค้าแต่ละชาติ . "ไม่สงสัยเลยว่ารัฐบาลพยายามคลี่คลายปัญหายาเฟนตานิลและผู้อพยพที่มีมาอย่างยาวนาน และมาตรการรีดภาษีเหล่านี้ มอบอำนาจงัดข้อแก่รัฐบาล" ไรอัน มาเจรัส อดีตเจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐฯให้ความเห็น พร้อมระบุว่าในอีกด้านหนึ่ง วอชิงตันก็กำลังพยายามรักษาสมดุลความสัมพันธ์ทางการค้า . คลอเดีย ไชน์บาว์ม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ระบุในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่าประเทศของเธอมีแผนฉุกเฉินไว้แล้ว ไม่ว่า ทรัมป์ จะตัดสินใจอย่างไรก็ตาม . ส่วน จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา อ้างว่าในบรรดายาเฟนตานิลและคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ไหลบ่าเข้าสู่สหรัฐฯนั้น มีไม่ถึง 1% ที่ลักลอบผ่านชายแดนแคนาดา แต่เขาบอกด้วยว่าแคนาดนา "จะตอบโต้อย่างหนักหน่วง ชัดเจนและอย่างทัดเทียม" ถ้ามาตรการรีดภาษีของอเมริกามีผลบังคับใช้ . ที่ผ่านมา รัฐบาลของทรูโด ได้ดำเนินมาตรการต่างๆในความพยายามจัดการกับความกังวลของทรัมป์ ในนั้นรวมถึงแผนยกระดับความมั่นคงตามแนวชายแดน ที่ใช้งบประมาณกว่า 901 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วพวกเขายังแต่งตั้งซาร์ด้านเฟนตานิล เพื่อประสานความพยายามต่อต้านยาเสพติดชนิดนี้ . ขณะเดียวกัน เม็กซิโก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ส่งตัวเจ้าพ่อยาเสพติดชื่อเสียงโด่งดังที่สุดบางส่วน ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ ในความพยายามหลีกเลี่ยงถูกรีดภาษี ในนั้นรวมถึงหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมแก๊งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของอเมริกามานานหลายทศวรรษ ในข้อหาฆาตกรรมสายลับสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020862 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    6
    0 Comments 0 Shares 1485 Views 0 Reviews
  • Intel ได้ปรับเปลี่ยนแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตชิปที่มีมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เมือง New Albany รัฐโอไฮโอ โดยเดิมมีแผนที่จะเปิดตัวในปี 2025 แต่เนื่องจากมีการลงทุนขนาดใหญ่อย่างไม่แน่นอนและความต้องการที่ไม่แน่นอน ทำให้ Intel ต้องเลื่อนแผนการก่อสร้างเฟสแรกไปถึงปี 2030 และเริ่มการผลิตระหว่างปี 2030 ถึง 2031

    การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ทำให้บริษัทประหยัดงบประมาณในการลงทุนอุปกรณ์การผลิตซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก โดย Intel คาดว่าจะต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาหลังจากปี 2026-2027 และใช้เครื่องมือขั้นสูงเช่น ASML's Twinscan EXE:5200 ซึ่งมีราคาสูงถึง 350 ล้านดอลลาร์ต่อเครื่อง

    อีกประเด็นที่น่าสนใจคือแม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนแผนการก่อสร้าง แต่การว่าจ้างพนักงานได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยพนักงานในโอไฮโอจะได้รับการฝึกอบรมที่รัฐแอริโซนา นิวเม็กซิโก และออริกอนก่อนที่จะมาเริ่มทำงานในโรงงานท้องถิ่นในภายหลัง การฝึกอบรมนี้ช่วยให้พนักงานมีความรู้และความพร้อมในการติดตั้งอุปกรณ์การผลิต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-delays-usd100-billion-ohio-site-to-next-decade-first-fab-now-coming-online-in-2030
    Intel ได้ปรับเปลี่ยนแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตชิปที่มีมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เมือง New Albany รัฐโอไฮโอ โดยเดิมมีแผนที่จะเปิดตัวในปี 2025 แต่เนื่องจากมีการลงทุนขนาดใหญ่อย่างไม่แน่นอนและความต้องการที่ไม่แน่นอน ทำให้ Intel ต้องเลื่อนแผนการก่อสร้างเฟสแรกไปถึงปี 2030 และเริ่มการผลิตระหว่างปี 2030 ถึง 2031 การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ทำให้บริษัทประหยัดงบประมาณในการลงทุนอุปกรณ์การผลิตซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก โดย Intel คาดว่าจะต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาหลังจากปี 2026-2027 และใช้เครื่องมือขั้นสูงเช่น ASML's Twinscan EXE:5200 ซึ่งมีราคาสูงถึง 350 ล้านดอลลาร์ต่อเครื่อง อีกประเด็นที่น่าสนใจคือแม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนแผนการก่อสร้าง แต่การว่าจ้างพนักงานได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยพนักงานในโอไฮโอจะได้รับการฝึกอบรมที่รัฐแอริโซนา นิวเม็กซิโก และออริกอนก่อนที่จะมาเริ่มทำงานในโรงงานท้องถิ่นในภายหลัง การฝึกอบรมนี้ช่วยให้พนักงานมีความรู้และความพร้อมในการติดตั้งอุปกรณ์การผลิต https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-delays-usd100-billion-ohio-site-to-next-decade-first-fab-now-coming-online-in-2030
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดาได้เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับ X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นเจ้าของโดย Elon Musk เพื่อดูว่า X ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาในการฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างถูกต้องตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของแคนาดาหรือไม่ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการร้องเรียนถึงการใช้ข้อมูลของผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมที่เหมาะสม

    สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดากล่าวว่าจะมุ่งเน้นการสอบสวนในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐบาลกลาง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้งาน และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาเพื่อฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โดยยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของการร้องเรียนนี้

    Brian Masse สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค New Democratic Party (NDP) กล่าวว่ายินดีที่เห็นสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของ X และเน้นว่าความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลาที่อัลกอริทึมอาจถูกบิดเบือนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จ

    การสอบสวนนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ในเรื่องการค้า การรักษาความปลอดภัยชายแดน และภาษีบริการดิจิทัลที่มีผลต่อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน Elon Musk ที่ได้รับมอบหมายให้ลดขนาดรัฐบาลของสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี Donald Trump ได้สัญญาว่าจะดำเนินการตามภาษี 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก เนื่องจากปัญหายาเสพติดที่ยังคงเข้ามาในสหรัฐฯ จากประเทศเหล่านี้

    X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเดิมชื่อ Twitter มีโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Grok ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ใช้งานเพื่อทำงานต่าง ๆ เช่น ตอบคำถาม แก้ปัญหา และระดมความคิด Grok-3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของโมเดลนี้ เพิ่งเปิดตัวให้กับสมาชิกระดับ Premium+ บน X

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/28/canada039s-privacy-watchdog-opens-investigation-into-x-following-complaint
    สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดาได้เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับ X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นเจ้าของโดย Elon Musk เพื่อดูว่า X ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาในการฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างถูกต้องตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของแคนาดาหรือไม่ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการร้องเรียนถึงการใช้ข้อมูลของผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมที่เหมาะสม สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดากล่าวว่าจะมุ่งเน้นการสอบสวนในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐบาลกลาง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้งาน และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาเพื่อฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โดยยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของการร้องเรียนนี้ Brian Masse สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค New Democratic Party (NDP) กล่าวว่ายินดีที่เห็นสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของ X และเน้นว่าความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลาที่อัลกอริทึมอาจถูกบิดเบือนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ในเรื่องการค้า การรักษาความปลอดภัยชายแดน และภาษีบริการดิจิทัลที่มีผลต่อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน Elon Musk ที่ได้รับมอบหมายให้ลดขนาดรัฐบาลของสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี Donald Trump ได้สัญญาว่าจะดำเนินการตามภาษี 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก เนื่องจากปัญหายาเสพติดที่ยังคงเข้ามาในสหรัฐฯ จากประเทศเหล่านี้ X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเดิมชื่อ Twitter มีโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Grok ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ใช้งานเพื่อทำงานต่าง ๆ เช่น ตอบคำถาม แก้ปัญหา และระดมความคิด Grok-3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของโมเดลนี้ เพิ่งเปิดตัวให้กับสมาชิกระดับ Premium+ บน X https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/28/canada039s-privacy-watchdog-opens-investigation-into-x-following-complaint
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Canada watchdog probing X's use of personal data in AI models' training
    TORONTO (Reuters) - Canada's privacy watchdog has opened an investigation into X, the social media platform owned by billionaire tech mogul Elon Musk, on whether its use of Canadians' personal data to train artificial intelligence (AI) models broke privacy rules.
    0 Comments 0 Shares 276 Views 0 Reviews
  • ‘จีน แฮกแมน’ นักแสดงฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ เสียชีวิตในวัย 95 พร้อมภรรยา

    จีน แฮกแมน (Gene Hackman) นักแสดงรุ่นใหญ่ชาวสหรัฐแห่งวงการฮอลลีวูดวัย 95 ปี ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตพร้อมกับนางเบตซี อาราคาวา (Betsy Arakawa) ภรรยาของเขาวัย 63 ปี และสุนัขของทั้งคู่ ที่บ้านพักในเมืองซานตาเฟ รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในสหรัฐ


    อดัน เมนโดซา นายอำเภอซานตาเฟ เคาวน์ตี ยืนยันกับสื่อท้องถิ่นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ว่าทั้งคู่ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตพร้อมกับสุนัขที่บ้าน การตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยของความผิดปกติ และไม่ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตรวมถึงไม่ทราบแน่ชัดว่าแฮกแมนและอาราคาวาเสียชีวิตเมื่อใด โดยบอกว่าตำรวจกำลังอยู่ระหว่างสอบสวนการเสียชีวิตเบื้องต้น

    จีน แฮกแมนโลดแล่นอยู่ในวงการฮอลลีวูดมานานกว่า 60 ปี เคยคว้ารางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง The French Connection ในปี 1971 และคว้ารางวัลออสการ์อีกสมัยในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Unforgiven ปี 1992 ที่เล่นร่วมกับคลินต์ อีสต์วูด นักแสดงรุ่นใหญ่อีกคนแห่งวงการฮอลลีวูด


    จีน แฮกแมน ปรากฎตัวในภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายคือ Welcome to Mooseport ปี 2004 ก่อนที่จะอำลาการแสดงไปในเวลาต่อมา
    ‘จีน แฮกแมน’ นักแสดงฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ เสียชีวิตในวัย 95 พร้อมภรรยา จีน แฮกแมน (Gene Hackman) นักแสดงรุ่นใหญ่ชาวสหรัฐแห่งวงการฮอลลีวูดวัย 95 ปี ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตพร้อมกับนางเบตซี อาราคาวา (Betsy Arakawa) ภรรยาของเขาวัย 63 ปี และสุนัขของทั้งคู่ ที่บ้านพักในเมืองซานตาเฟ รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในสหรัฐ อดัน เมนโดซา นายอำเภอซานตาเฟ เคาวน์ตี ยืนยันกับสื่อท้องถิ่นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ว่าทั้งคู่ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตพร้อมกับสุนัขที่บ้าน การตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยของความผิดปกติ และไม่ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตรวมถึงไม่ทราบแน่ชัดว่าแฮกแมนและอาราคาวาเสียชีวิตเมื่อใด โดยบอกว่าตำรวจกำลังอยู่ระหว่างสอบสวนการเสียชีวิตเบื้องต้น จีน แฮกแมนโลดแล่นอยู่ในวงการฮอลลีวูดมานานกว่า 60 ปี เคยคว้ารางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง The French Connection ในปี 1971 และคว้ารางวัลออสการ์อีกสมัยในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Unforgiven ปี 1992 ที่เล่นร่วมกับคลินต์ อีสต์วูด นักแสดงรุ่นใหญ่อีกคนแห่งวงการฮอลลีวูด จีน แฮกแมน ปรากฎตัวในภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายคือ Welcome to Mooseport ปี 2004 ก่อนที่จะอำลาการแสดงไปในเวลาต่อมา
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เพิ่มความหวังสำหรับการระงับรีดภาษีรอบใหม่สินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีก 1 เดือน บอกว่ามันอาจมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน และหยิบยกความเป็นไปได้ของการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) 25% กับรถยนต์และสินค้าอื่นๆ จากยุโรป
    .
    อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ระบุว่าเส้นตายก่อนหน้านี้ของทรัมป์ ในวันที่ 4 มีนาคม สำหรับรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ณ ปัจจุบัน "ยังคงมีผลบังคับใช้" ขึ้นอยู่กับการทบทวนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อความเคลื่อนไหวต่างๆ ของเม็กซิโกและแคนาดา ในการคุ้มกันชายแดนและชะลอกระแสไหลบ่าของผู้อพยพและยาเฟนตานิลเข้าสู่อเมริกา
    .
    ความเห็นที่ก่อความสับสนของทรัมป์ เกิดขึ้นระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกในวันพุธ (26 ก.พ.) ครั้งที่เขาถูกถามเกี่ยวกับกรอบเวลาของการเริ่มรีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเขาตอบกลับมาว่าจะเป็นวันที่ 2 เมษายน
    .
    "ผมจะบอกกับคุณว่า เป็นวันที่ 2 เมษายน ตอนแรกผมจะทำมันในวันที่ 1 เมษายน แต่ผมเชื่อโชคลางเล็กน้อย ผมจะทำมันในวันที่ 2 เมษายน เดินหน้ารีดภาษี แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่เป็นจำนวนมาก" ทรัมป์กล่าว ทั้งนี้ความเห็นของประธานาธิบดีสหรัฐฯ กระตุ้นให้ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาและเปโซของเม็กซิโกดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
    .
    ฟรองซัวส์-ฟิลิปป์ แชมเปญ รัฐมนตรีกระทรวงนวัตกรรมของแคนาดา บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า แคนาดาจะรอให้ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งพิเศษก่อน แล้วค่อยแสดงปฏิกิริยาใดๆ "ภารกิจของเรา ยังคงเป็นการหลีกเลี่ยงภาษี ขยายเวลาของการระงับ ถ้าเราจำเป็นต้องทำ" เขากล่าว "เราเตรียมพร้อมแล้ว มันเป็นการการตอบโต้อย่างเล็งเป้า อย่างเป็นยุทธศาสตร์และหนักแน่น ถ้าทรัมป์กำหนดรีดภาษี"
    .
    กระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโก ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดของทรัมป์ แต่ทาง มาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีกำหนดพบปะกับเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้า และโฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (28 ก.พ.)
    .
    ลุตนิค บอกกับคณะรัฐมนตรีว่าความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาเฟนตานิล ถูกระงับเป็นเวลา 30 วัน แต่พาดพิงถึงมาตรการรีดภาษีโดยรวมในวันที่ 2 เมษายน และไม่ได้เจาะจงว่าเส้นตายรีดภาษีเดิมในวันที่ 4 มีนาคม ยังมีผลบังคับใช้หรือไม่
    .
    ทรัมป์ เล็งไว้ในช่วงต้นเดือนเมษายนสำหรับกำหนดมาตรการรีดภาษีตอบโต้ขึ้นภาษีให้เท่ากับอัตราภาษีที่ประเทศอื่นๆ เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ รวมถึงชดเชยข้อจำกัดอื่นๆ ของประเทศคู่ค้าเหล่านั้น ทั้งนี้คณะที่ปรึกษาด้านการค้าของทรัมป์ มองว่าภาษีมูลค่าเพิ่มของบรรดาชาติยุโรปไม่ต่างจากการรีดภาษี
    .
    เมื่อถูกถามว่าเขาตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราภาษีที่้จะเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปแล้วหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "เราได้ตัดสินใจแล้ว และเราจะแถลงเร็วๆ นี้ และมันจะเป็น 25% มันจะเป็นรถยนต์และสิ่งต่างๆ ทั้งหมด"
    .
    เขาบอกว่าสำหรับอียูนั้น เป็นกรณีที่ต่างออกไปจากแคนาดาและเอาเปรียบสหรัฐฯ ในรูปแบบที่ต่างออกไป "พวกเขาไม่ยอมรับรถยนต์ของเรา พวกเขาไม่อ้าแขนรับผลิตภัณฑ์ฟาร์มของเรา" ทรัมป์กล่าว พร้อมระบุว่าอียูก่อตั้งมาเพื่อคาดคั้นสหรัฐฯ
    .
    โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป บอกว่า "อียูจะตอบสนองอย่างหนักแน่นและโดยทันที ต่อขวากนามที่ไม่ยุติธรรมใดๆ ต่อความเสรีและความยุติธรรมทางการค้า ในนั้นรวมถึงการรีดภาษี ที่ท้าทายกฎหมายและนโยบายไม่เลือกปฏิบัติ" พร้อมบอกต่อว่า "สหภาพยุโรปคือตลาดเสรีใหญ่ที่สุดในโลก เราเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับสหรัฐฯ"
    .
    โรเบอร์ตา เมตโซลา ประธานรัฐสภายุโรป มีแผนพบปะกับบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ในวันพุธ (26 ก.พ.) แต่ไม่มีกำหนดเข้าพูดคุยหารือใดๆ กับพวกเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000019218
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เพิ่มความหวังสำหรับการระงับรีดภาษีรอบใหม่สินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีก 1 เดือน บอกว่ามันอาจมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน และหยิบยกความเป็นไปได้ของการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) 25% กับรถยนต์และสินค้าอื่นๆ จากยุโรป . อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ระบุว่าเส้นตายก่อนหน้านี้ของทรัมป์ ในวันที่ 4 มีนาคม สำหรับรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ณ ปัจจุบัน "ยังคงมีผลบังคับใช้" ขึ้นอยู่กับการทบทวนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อความเคลื่อนไหวต่างๆ ของเม็กซิโกและแคนาดา ในการคุ้มกันชายแดนและชะลอกระแสไหลบ่าของผู้อพยพและยาเฟนตานิลเข้าสู่อเมริกา . ความเห็นที่ก่อความสับสนของทรัมป์ เกิดขึ้นระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกในวันพุธ (26 ก.พ.) ครั้งที่เขาถูกถามเกี่ยวกับกรอบเวลาของการเริ่มรีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเขาตอบกลับมาว่าจะเป็นวันที่ 2 เมษายน . "ผมจะบอกกับคุณว่า เป็นวันที่ 2 เมษายน ตอนแรกผมจะทำมันในวันที่ 1 เมษายน แต่ผมเชื่อโชคลางเล็กน้อย ผมจะทำมันในวันที่ 2 เมษายน เดินหน้ารีดภาษี แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่เป็นจำนวนมาก" ทรัมป์กล่าว ทั้งนี้ความเห็นของประธานาธิบดีสหรัฐฯ กระตุ้นให้ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาและเปโซของเม็กซิโกดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ . ฟรองซัวส์-ฟิลิปป์ แชมเปญ รัฐมนตรีกระทรวงนวัตกรรมของแคนาดา บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า แคนาดาจะรอให้ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งพิเศษก่อน แล้วค่อยแสดงปฏิกิริยาใดๆ "ภารกิจของเรา ยังคงเป็นการหลีกเลี่ยงภาษี ขยายเวลาของการระงับ ถ้าเราจำเป็นต้องทำ" เขากล่าว "เราเตรียมพร้อมแล้ว มันเป็นการการตอบโต้อย่างเล็งเป้า อย่างเป็นยุทธศาสตร์และหนักแน่น ถ้าทรัมป์กำหนดรีดภาษี" . กระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโก ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดของทรัมป์ แต่ทาง มาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีกำหนดพบปะกับเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้า และโฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (28 ก.พ.) . ลุตนิค บอกกับคณะรัฐมนตรีว่าความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาเฟนตานิล ถูกระงับเป็นเวลา 30 วัน แต่พาดพิงถึงมาตรการรีดภาษีโดยรวมในวันที่ 2 เมษายน และไม่ได้เจาะจงว่าเส้นตายรีดภาษีเดิมในวันที่ 4 มีนาคม ยังมีผลบังคับใช้หรือไม่ . ทรัมป์ เล็งไว้ในช่วงต้นเดือนเมษายนสำหรับกำหนดมาตรการรีดภาษีตอบโต้ขึ้นภาษีให้เท่ากับอัตราภาษีที่ประเทศอื่นๆ เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ รวมถึงชดเชยข้อจำกัดอื่นๆ ของประเทศคู่ค้าเหล่านั้น ทั้งนี้คณะที่ปรึกษาด้านการค้าของทรัมป์ มองว่าภาษีมูลค่าเพิ่มของบรรดาชาติยุโรปไม่ต่างจากการรีดภาษี . เมื่อถูกถามว่าเขาตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราภาษีที่้จะเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปแล้วหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "เราได้ตัดสินใจแล้ว และเราจะแถลงเร็วๆ นี้ และมันจะเป็น 25% มันจะเป็นรถยนต์และสิ่งต่างๆ ทั้งหมด" . เขาบอกว่าสำหรับอียูนั้น เป็นกรณีที่ต่างออกไปจากแคนาดาและเอาเปรียบสหรัฐฯ ในรูปแบบที่ต่างออกไป "พวกเขาไม่ยอมรับรถยนต์ของเรา พวกเขาไม่อ้าแขนรับผลิตภัณฑ์ฟาร์มของเรา" ทรัมป์กล่าว พร้อมระบุว่าอียูก่อตั้งมาเพื่อคาดคั้นสหรัฐฯ . โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป บอกว่า "อียูจะตอบสนองอย่างหนักแน่นและโดยทันที ต่อขวากนามที่ไม่ยุติธรรมใดๆ ต่อความเสรีและความยุติธรรมทางการค้า ในนั้นรวมถึงการรีดภาษี ที่ท้าทายกฎหมายและนโยบายไม่เลือกปฏิบัติ" พร้อมบอกต่อว่า "สหภาพยุโรปคือตลาดเสรีใหญ่ที่สุดในโลก เราเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับสหรัฐฯ" . โรเบอร์ตา เมตโซลา ประธานรัฐสภายุโรป มีแผนพบปะกับบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ในวันพุธ (26 ก.พ.) แต่ไม่มีกำหนดเข้าพูดคุยหารือใดๆ กับพวกเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000019218 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    13
    0 Comments 0 Shares 2353 Views 0 Reviews
  • ศาลเห็นชอบ! ทรัมป์ “แบน” “เอพี จากทำเนียบ-แอร์ฟอร์ซวันแอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ศาลรัฐบาลกลาง ปฏิเสธคำร้องของ เอพี ขอคืนสิทธิ์ให้นักข่าวเข้าร่วมทำข่าวกิจกรรมต่างๆ ของทรัมป์ ทั้งในห้องทำงานรูปไข่ และบนเครื่องบิน แอร์ฟอร์ซ-วันเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2025 ผู้พิพากษา เทรเวอร์ แม็กเฟดเด้น แห่งศาลแขวงสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธคำร้องของสำนักข่าวเอพี ที่ขออำนาจศาลสั่งยกเลิกคำสั่งชั่วคราวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ห้ามนักข่าวของเอพี ร่วมทำข่าวของเขาในกิจกรรมต่างๆ ทั้งที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวและบนเครื่องบินประจำตำแหน่ง (แอร์ฟอร์ซ วัน) ด้วยคำสั่งแบนนักข่าวเอพี ของทรัมป์ดังกล่าว มีขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังจากสำนักข่าวเอพี ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนการเรียกชื่อ 'อ่าวเม็กซิโก' ที่ใช้มานานกว่า 400 ปี เป็น 'อ่าวอเมริกา' ตามคำสั่งของทรัมป์ โดยบอกว่าในฐานะองค์กรข่าวระดับโลก จะรายงานเรื่องนี้ตามหลักบรรณาธิการ แม้จะรับทราบชื่อที่ทรัมป์เลือกก็ตาม“ถ้ายังไม่เปลี่ยนชื่อ ก็อย่าหวังว่าจะได้ทำข่าว” ทรัมป์กล่าวและว่าคำสั่งแบนจะมีผลไปจนกว่าเอพี จะยอมรับว่า 'อ่าวอเมริกา' ควรเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของน่านน้ำดังกล่าวอย่างไรก็ดี ข่าวบอกว่าความพ่ายแพ้ของสำนักข่าวหลักของอเมริกาครั้งนี้ เป็นเพียงรอบแรก ที่เอพีขอให้ยกเลิกคำสั่งแบนชั่วคราว (temporary restraining order) เท่านั้น โดยศาลนัดพิจารณาคำร้องขอให้ยกเลิกคำสั่งแบนถาวร (preliminary injunction) ในวันที่ 20 มีนาคม ที่จะถึงนี้ผู้พิพากษาเทรเวอร์ แม็กเฟดเด้น ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อปี 2017 ให้เหตุผลที่ไม่รับฟังคำร้องของเอพี หลายข้อ เช่น เขาไม่เห็นคล้อยตามที่เอพีบอกในคำฟ้องว่า กำลังเผชิญความเสียหายที่แก้ไขไม่ได้ (irreparable harm) จากคำสั่งแบนของทรัมป์ผู้พิพากษาแม็กเฟดเด้น อ้างว่า แม้จะถูกแบนไม่ให้เข้าร่วมงานโดยตรง แต่เอพี ยังคงเข้าถึงข้อมูลเดียวกันจากข่าวแจก (pool notes) ที่ฝ่ายข่าวของทำเนียบข่าวแจกจ่ายให้นักข่าวสายทำเนียบ ทุกคน รวมถึงบอกว่า การที่เอพี ไม่ยื่นฟ้องศาลทันทีหลังถูกแบน แต่ใช้เวลานานกว่าสัปดาห์ คือหลักฐานที่บ่งชัดว่าเอพีไม่ได้รับ “บาดเจ็บ” ร้ายแรง ตามที่ระบุในคำฟ้องต่อมา โฆษกทำเนียบขาว คาโรไลน์ เลวิทท์ โพสต์ข้อความผ่านเอ็กซ์ ว่าฝ่ายบริหารสนับสนุนคำสั่งแบนเอพี ของทรัมป์ เต็มที่“เหมือนที่เราได้บอกตั้งแต่แรก ว่าการได้ตั้งคำถามกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในห้องทำงานรูปไข่ หรือบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซ วัน ถือเป็นสิทธิพิเศษ (privilege) ที่มอบให้กับนักข่าว ไม่ใช่สิทธิตามกฎหมาย” โฆษกทำเนียบขาว ระบุ.
    ศาลเห็นชอบ! ทรัมป์ “แบน” “เอพี จากทำเนียบ-แอร์ฟอร์ซวันแอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ศาลรัฐบาลกลาง ปฏิเสธคำร้องของ เอพี ขอคืนสิทธิ์ให้นักข่าวเข้าร่วมทำข่าวกิจกรรมต่างๆ ของทรัมป์ ทั้งในห้องทำงานรูปไข่ และบนเครื่องบิน แอร์ฟอร์ซ-วันเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2025 ผู้พิพากษา เทรเวอร์ แม็กเฟดเด้น แห่งศาลแขวงสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธคำร้องของสำนักข่าวเอพี ที่ขออำนาจศาลสั่งยกเลิกคำสั่งชั่วคราวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ห้ามนักข่าวของเอพี ร่วมทำข่าวของเขาในกิจกรรมต่างๆ ทั้งที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวและบนเครื่องบินประจำตำแหน่ง (แอร์ฟอร์ซ วัน) ด้วยคำสั่งแบนนักข่าวเอพี ของทรัมป์ดังกล่าว มีขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังจากสำนักข่าวเอพี ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนการเรียกชื่อ 'อ่าวเม็กซิโก' ที่ใช้มานานกว่า 400 ปี เป็น 'อ่าวอเมริกา' ตามคำสั่งของทรัมป์ โดยบอกว่าในฐานะองค์กรข่าวระดับโลก จะรายงานเรื่องนี้ตามหลักบรรณาธิการ แม้จะรับทราบชื่อที่ทรัมป์เลือกก็ตาม“ถ้ายังไม่เปลี่ยนชื่อ ก็อย่าหวังว่าจะได้ทำข่าว” ทรัมป์กล่าวและว่าคำสั่งแบนจะมีผลไปจนกว่าเอพี จะยอมรับว่า 'อ่าวอเมริกา' ควรเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของน่านน้ำดังกล่าวอย่างไรก็ดี ข่าวบอกว่าความพ่ายแพ้ของสำนักข่าวหลักของอเมริกาครั้งนี้ เป็นเพียงรอบแรก ที่เอพีขอให้ยกเลิกคำสั่งแบนชั่วคราว (temporary restraining order) เท่านั้น โดยศาลนัดพิจารณาคำร้องขอให้ยกเลิกคำสั่งแบนถาวร (preliminary injunction) ในวันที่ 20 มีนาคม ที่จะถึงนี้ผู้พิพากษาเทรเวอร์ แม็กเฟดเด้น ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อปี 2017 ให้เหตุผลที่ไม่รับฟังคำร้องของเอพี หลายข้อ เช่น เขาไม่เห็นคล้อยตามที่เอพีบอกในคำฟ้องว่า กำลังเผชิญความเสียหายที่แก้ไขไม่ได้ (irreparable harm) จากคำสั่งแบนของทรัมป์ผู้พิพากษาแม็กเฟดเด้น อ้างว่า แม้จะถูกแบนไม่ให้เข้าร่วมงานโดยตรง แต่เอพี ยังคงเข้าถึงข้อมูลเดียวกันจากข่าวแจก (pool notes) ที่ฝ่ายข่าวของทำเนียบข่าวแจกจ่ายให้นักข่าวสายทำเนียบ ทุกคน รวมถึงบอกว่า การที่เอพี ไม่ยื่นฟ้องศาลทันทีหลังถูกแบน แต่ใช้เวลานานกว่าสัปดาห์ คือหลักฐานที่บ่งชัดว่าเอพีไม่ได้รับ “บาดเจ็บ” ร้ายแรง ตามที่ระบุในคำฟ้องต่อมา โฆษกทำเนียบขาว คาโรไลน์ เลวิทท์ โพสต์ข้อความผ่านเอ็กซ์ ว่าฝ่ายบริหารสนับสนุนคำสั่งแบนเอพี ของทรัมป์ เต็มที่“เหมือนที่เราได้บอกตั้งแต่แรก ว่าการได้ตั้งคำถามกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในห้องทำงานรูปไข่ หรือบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซ วัน ถือเป็นสิทธิพิเศษ (privilege) ที่มอบให้กับนักข่าว ไม่ใช่สิทธิตามกฎหมาย” โฆษกทำเนียบขาว ระบุ.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 223 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์(24ก.พ.) ระบุจะเดินหน้ามาตรการรีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก ตามแผนที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ คำประกาศต่อหน้าพวกผู้สื่อข่าว ตามหลังพบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ที่เรียกร้องให้ "แข่งขันอย่างยุติธรรม" ในด้านการค้า

    การพูดคุยระหว่างผู้นำทั้ง 2 ซึ่งมุ่งเน้นเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ ขู่เล่นงานทั้งมิตรและศัตรูไม่ต่างกัน ด้วยมาตรการรีดภาษีสูงลิ่ว กระตุ้นให้เกิดการเจรจาต่อรองกันวุ่นวายไปหมด

    ไม่นานหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์แถลงรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก สูงสุด 25% อ้างถึงประเด็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายและการไหลบ่าเข้ามาของยาเฟนทานิลที่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตามเขาประกาศชะลอรีดภาษีในนาทีสุดท้ายเป็นเวลา 1 เดือน เปิดทางให้มีการเดินหน้าเจรจา

    การชะลอขึ้นภาษีมีกำหนดหมดอายุลงในวันอังคารหน้า(4มี.ค.) และทุกสายตาพากันจับจ้องว่า 2 ชาติเพื่อนบ้านในอเมริกาเหนือจะสามารถบรรลุข้อตกลงหลีกเลี่ยงบับคับใช้มาตรการรีดภาษีได้หรือไม่ ในขณะที่มันอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในภาคสำคัญๆ อย่างเช่นการผลิตรถยนต์

    "มาตรการรีดภาษีกำลังเดินหน้าไปตามกรอบเวลา เป็นไปตามกำหนด" ทรัมป์ แถลงกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(24ก.พ.) นอกจากนั้นแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯเน้นย้ำด้วยว่าวอชิงตันกำลังหาทางเรียกเก็บภาษีตอบโต้กับประเทศอื่นๆด้วย "ถ้าใครชาร์จภาษีเรา เราก็จะชาร์จพวกเขา"

    คำประกาศนี้มีขึ้นในขณะที่ มาครง เรียกร้อง ทรัมป์ สำหรับ "การแข่งขันทางการค้าที่ยุติธรรม" และการลงทุนตอบแทนซึ่งกันและกันเพิ่มเติม โดยเน้นย้ำว่าเศรษฐกิจของอเมริกาและยุโรปผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018394
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์(24ก.พ.) ระบุจะเดินหน้ามาตรการรีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก ตามแผนที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ คำประกาศต่อหน้าพวกผู้สื่อข่าว ตามหลังพบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ที่เรียกร้องให้ "แข่งขันอย่างยุติธรรม" ในด้านการค้า การพูดคุยระหว่างผู้นำทั้ง 2 ซึ่งมุ่งเน้นเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ ขู่เล่นงานทั้งมิตรและศัตรูไม่ต่างกัน ด้วยมาตรการรีดภาษีสูงลิ่ว กระตุ้นให้เกิดการเจรจาต่อรองกันวุ่นวายไปหมด ไม่นานหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์แถลงรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก สูงสุด 25% อ้างถึงประเด็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายและการไหลบ่าเข้ามาของยาเฟนทานิลที่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตามเขาประกาศชะลอรีดภาษีในนาทีสุดท้ายเป็นเวลา 1 เดือน เปิดทางให้มีการเดินหน้าเจรจา การชะลอขึ้นภาษีมีกำหนดหมดอายุลงในวันอังคารหน้า(4มี.ค.) และทุกสายตาพากันจับจ้องว่า 2 ชาติเพื่อนบ้านในอเมริกาเหนือจะสามารถบรรลุข้อตกลงหลีกเลี่ยงบับคับใช้มาตรการรีดภาษีได้หรือไม่ ในขณะที่มันอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในภาคสำคัญๆ อย่างเช่นการผลิตรถยนต์ "มาตรการรีดภาษีกำลังเดินหน้าไปตามกรอบเวลา เป็นไปตามกำหนด" ทรัมป์ แถลงกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(24ก.พ.) นอกจากนั้นแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯเน้นย้ำด้วยว่าวอชิงตันกำลังหาทางเรียกเก็บภาษีตอบโต้กับประเทศอื่นๆด้วย "ถ้าใครชาร์จภาษีเรา เราก็จะชาร์จพวกเขา" คำประกาศนี้มีขึ้นในขณะที่ มาครง เรียกร้อง ทรัมป์ สำหรับ "การแข่งขันทางการค้าที่ยุติธรรม" และการลงทุนตอบแทนซึ่งกันและกันเพิ่มเติม โดยเน้นย้ำว่าเศรษฐกิจของอเมริกาและยุโรปผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018394 .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 Comments 0 Shares 2172 Views 0 Reviews
  • "โอปอล" ยินดีกับ "ณวัฒน์" ในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ MUT คนใหม่ เผยเป็นการเปลี่ยนมือที่ยิ่งใหญ่มากๆ ยก MGI โปรดักชั่นเลิศ ได้เห็นอะไรสนุกๆ แน่นอน พร้อมร่วมงานณวัฒน์หากได้รับโอกาส รอลุ้นจะได้ขึ้นเวทีอำลาตำแหน่งหรือไม่ ลั่นเคารพการตัดสินใจของผู้ใหญ่ แต่ถ้าไม่ได้อำลาตนก็ถือว่าได้ปิดจ็อบตำแหน่งอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่กลับจากประกวดมิสยูนิเวิร์สแล้ว

    หลังจากมีการเปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จาก "ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก" มาเป็น "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" แฟนนางงามก็รอลุ้นว่าจะได้เห็น "โอปอล สุชาตา ช่วงศรี" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 ขึ้นเวทีอำลาตำแหน่งหรือไม่ ด้วยเหตุผลและข้อจำกัดหลายๆ อย่างของการเปลี่ยนแปลงที่อาจทำให้ไม่สามารถมีโมเมนต์นั้นได้

    ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นนี้โอปอลบอกว่า สำหรับตนไม่มีปัญหาเลย ถ้าได้อำลาก็เป็นเรื่องดีในการดำรงตำแหน่งของตน และเป็นกำไร แต่ถ้าไม่ได้ขึ้นก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าได้ปิดจ็อบอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่กลับจากไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ที่ประเทศเม็กซิโกแล้ว พร้อมเผยความรู้สึกที่ MUT เปลี่ยนมือ

    "ก็โอเคนะคะ เป็นยุคใหม่ ความจริงแล้วตอนที่เป็นในยุคแม่ปุ้ยจะบอกว่าก็มีหลายการเปลี่ยนแปลงที่เรารู้สึกว่าเป็นยุคใหม่เหมือนกัน เพราะว่าแต่ละปี MUT เขาก็จะมีธีมของเขาที่ไม่เหมือนกัน ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนผ่านที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่มากๆ ก็ขอแสดงความยินดีให้กับทางพี่ณวัฒน์ ทาง MGI ด้วยที่ได้ถือลิขสิทธิ์ไปนะคะ

    หนูก็ติดตามค่ะ ตามอยู่แล้ว และยิ่งเปลี่ยนผ่านเป็นยุคใหม่ก็ยิ่งติดตาม เชื่อว่าทุกคนก็คงให้ความสนใจ และความจริง MGI ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอยู่แล้ว โปรดักชั่นอะไรเขาก็เลิศ ทีนี้เราก็รอดูความสนุกสนานของปีนี้ต่อไปค่ะ"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000017821

    #MGROnline #ณวัฒน์ #MUT
    "โอปอล" ยินดีกับ "ณวัฒน์" ในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ MUT คนใหม่ เผยเป็นการเปลี่ยนมือที่ยิ่งใหญ่มากๆ ยก MGI โปรดักชั่นเลิศ ได้เห็นอะไรสนุกๆ แน่นอน พร้อมร่วมงานณวัฒน์หากได้รับโอกาส รอลุ้นจะได้ขึ้นเวทีอำลาตำแหน่งหรือไม่ ลั่นเคารพการตัดสินใจของผู้ใหญ่ แต่ถ้าไม่ได้อำลาตนก็ถือว่าได้ปิดจ็อบตำแหน่งอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่กลับจากประกวดมิสยูนิเวิร์สแล้ว • หลังจากมีการเปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จาก "ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก" มาเป็น "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" แฟนนางงามก็รอลุ้นว่าจะได้เห็น "โอปอล สุชาตา ช่วงศรี" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 ขึ้นเวทีอำลาตำแหน่งหรือไม่ ด้วยเหตุผลและข้อจำกัดหลายๆ อย่างของการเปลี่ยนแปลงที่อาจทำให้ไม่สามารถมีโมเมนต์นั้นได้ • ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นนี้โอปอลบอกว่า สำหรับตนไม่มีปัญหาเลย ถ้าได้อำลาก็เป็นเรื่องดีในการดำรงตำแหน่งของตน และเป็นกำไร แต่ถ้าไม่ได้ขึ้นก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าได้ปิดจ็อบอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่กลับจากไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ที่ประเทศเม็กซิโกแล้ว พร้อมเผยความรู้สึกที่ MUT เปลี่ยนมือ • "ก็โอเคนะคะ เป็นยุคใหม่ ความจริงแล้วตอนที่เป็นในยุคแม่ปุ้ยจะบอกว่าก็มีหลายการเปลี่ยนแปลงที่เรารู้สึกว่าเป็นยุคใหม่เหมือนกัน เพราะว่าแต่ละปี MUT เขาก็จะมีธีมของเขาที่ไม่เหมือนกัน ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนผ่านที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่มากๆ ก็ขอแสดงความยินดีให้กับทางพี่ณวัฒน์ ทาง MGI ด้วยที่ได้ถือลิขสิทธิ์ไปนะคะ • หนูก็ติดตามค่ะ ตามอยู่แล้ว และยิ่งเปลี่ยนผ่านเป็นยุคใหม่ก็ยิ่งติดตาม เชื่อว่าทุกคนก็คงให้ความสนใจ และความจริง MGI ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอยู่แล้ว โปรดักชั่นอะไรเขาก็เลิศ ทีนี้เราก็รอดูความสนุกสนานของปีนี้ต่อไปค่ะ" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000017821 • #MGROnline #ณวัฒน์ #MUT
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 329 Views 0 Reviews
  • หลังจากมีข่าวว่าสหรัฐกดดันยูเครนด้วยการยื่นเงื่อนไขจะยุติการเข้าถึงระบบ Starlink ของกองทัพยูเครน หากไม่ยอมลงนามข้อตกลงแร่หายากกับสหรัฐ

    ล่าสุด อีลอน มัสก์ รีโพสต์ข่าวจากสำนักข่าว Kyiv Independent ซึ่งนำเสนอข่าวนี้ ว่าเป็น "ข่าวปลอม"

    มัสก์ ยังโจมตีไปถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งเป็นสำนักข่าวต้นทางที่รายงานนี้ โดยกล่าวหาว่ารอยเตอร์เป็นสื่อโฆษณาชวนเชื่อที่โกหกหลอกลวงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 เป็นรองแค่สื่อ AP ซึ่งถูกมัสก์แซะว่า ย่อมาจาก "Associated Propaganda" (จริงๆแล้วย่อมาจาก Associated Press)

    ก่อนหน้านี้สำนักข่าว AP เพิ่งโดนคำสั่งของทรัมป์ไม่ให้ไปทำข่าวในทำเนียบขาวจากกรณีไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของทรัมป์ในการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโก เป็นอ่าวอเมริกา
    หลังจากมีข่าวว่าสหรัฐกดดันยูเครนด้วยการยื่นเงื่อนไขจะยุติการเข้าถึงระบบ Starlink ของกองทัพยูเครน หากไม่ยอมลงนามข้อตกลงแร่หายากกับสหรัฐ ล่าสุด อีลอน มัสก์ รีโพสต์ข่าวจากสำนักข่าว Kyiv Independent ซึ่งนำเสนอข่าวนี้ ว่าเป็น "ข่าวปลอม" มัสก์ ยังโจมตีไปถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งเป็นสำนักข่าวต้นทางที่รายงานนี้ โดยกล่าวหาว่ารอยเตอร์เป็นสื่อโฆษณาชวนเชื่อที่โกหกหลอกลวงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 เป็นรองแค่สื่อ AP ซึ่งถูกมัสก์แซะว่า ย่อมาจาก "Associated Propaganda" (จริงๆแล้วย่อมาจาก Associated Press) ก่อนหน้านี้สำนักข่าว AP เพิ่งโดนคำสั่งของทรัมป์ไม่ให้ไปทำข่าวในทำเนียบขาวจากกรณีไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของทรัมป์ในการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโก เป็นอ่าวอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 292 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์ทิ้งบอมบ์รอบใหม่ ขู่รีดภาษีศุลกากรรถนำเข้า 25% และจัดเก็บในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ยาและเซมิคอนดักเตอร์ ด้านจีนประณามมาตรการภาษีและการข่มขู่ของทรัมป์ระหว่างการประชุมองค์การการค้าโลกว่า เป็นการคุกคามระบบการค้าและทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย
    .
    นับจากเข้ารับตำแหน่งปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้สั่งเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของพวกประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดบางแห่งโดยอ้างว่า เพื่อตอบโต้กับแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่เอาเปรียบและไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ นอกจากนั้น ในหลายกรณีก็ระบุเหตุผลว่าเพื่อผลักดันนโยบายสำคัญของอเมริกา อย่างเช่นการปราบปรามการอพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรีดภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าทุกรายการจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% และปักกิ่งได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกันในขนาดขอบเขตที่แคบกว่า จากนั้นทรัมป์ยังสั่งขึ้นภาษีที่เก็บจากเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมนำเข้าจากทุกประเทศในอัตรา 25%
    .
    ล่าสุดในวันอังคาร (18 ก.พ.) ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะขึ้นภาษีศุลกากรที่จะเรียกเก็บจากอุตสาหกรรมรถยนต์ในอัตราประมาณ 25% โดยจะบังคับใช้ในราววันที่ 2 เมษายน
    .
    สำหรับสินค้าพวกยาและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทรัมป์เคยบอกไว้ว่าจะพิจารณาเพิ่มภาษีในช่วงเวลาเดียวกับรถยนต์นั้น ทรัมป์ขยายความในคราวนี้ว่า จะเก็บสูงขึ้นในอัตรา 25% หรือสูงกว่านั้น แล้วจากนั้นจะเพิ่มขึ้นสูงมากภายใน 1 ปี แต่เขายังไม่ระบุว่าจะเริ่มเมื่อใด
    .
    เขายังบอกว่า ต้องการให้เวลาพวกบริษัทที่ได้รับผลกระทบ เพื่อจะได้กลับลำมาทำธุรกิจในอเมริกา และเสริมด้วยว่า ประเทศคู่ค้าของวอชิงตันก็สามารถหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีเพิ่มได้ด้วยการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญย้ำคำเตือนที่ได้ให้ไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ที่ว่ามาตรการเพิ่มภาษีศุลกาการจากสินค้านำเข้านั้น คนอเมริกันเองมีแนวโน้มต้องแบกรับมากกว่าพวกผู้ส่งออกต่างชาติ เนื่องจากคนที่ต้องควักเงินจ่ายภาษีจริงๆ ก็คือผู้นำเข้าในอเมริกา และพวกเขาก็มักแบ่งเบาภาระนี้ด้วยการขึ้นราคาสินค้าที่จำหน่ายในสหรัฐฯ
    .
    เฉพาะรถยนต์นั้น ปัจจุบันรถยนต์ราว 50% ที่ขายในอเมริกาเป็นรถที่ผลิตภายในประเทศ ขณะที่รถนำเข้าประมาณครึ่งหนึ่งเป็นรถจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกแบรนด์ระดับอินเตอร์ไปตั้งโรงงานประกอบกันที่นั่น นอกจากนั้นยังมีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนีที่เป็นซัปพลายเออร์รายสำคัญ
    .
    เอเชียจับตามาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์อย่างระมัดระวังมาก เนื่องจากมีซัปพลายเออร์หลักบางแห่งของอุตสาหกรรมรถยนต์ของอเมริกาตั้งอยู่
    .
    โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธว่า ญี่ปุ่นได้หยิบยกประเด็นภาษีศุลกากรรถยนต์หารือกับอเมริกาแล้ว และรัฐบาลจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมควบคู่กับการตรวจสอบรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงของมาตรการภาษีดังกล่าว
    .
    ทางด้านไต้หวันที่เป็นฮับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลกและถูกทรัมป์กล่าวหาว่า ปล้นอุตสาหกรรมชิปไปจากอเมริกานั้น ก็แสดงท่าทีตื่นตัวเฝ้าระวัง ถึงแม้กระทรวงเศรษฐกิจแถลงว่า ขอบเขตผลิตภัณฑ์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษียังไม่มีความชัดเจน และรัฐบาลจะติดตามทิศทางนโยบายของอเมริกาต่อไป รวมทั้งจะให้ความช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรมท้องถิ่นที่ได้รับความเดือดร้อน
    .
    ก่อนหน้านี้ไทเปประกาศแล้วว่า จะเพิ่มการลงทุนในอเมริกาเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีของทรัมป์
    .
    ผู้นำอเมริกายังแสดงความยินดีที่สหภาพยุโรป ลดภาษีศุลกากรรถยนต์จาก 10% เหลือ 2.5% เท่ากับอเมริกา และบอกว่า ถ้าทุกประเทศทำแบบนี้ การค้าทั่วโลกจะแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง หลี่ เฉิงกัง เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ได้ประณามมาตรการภาษีศุลกากรและการข่มขู่ของทรัมป์ ในระหว่างการประชุมคณะมนตรีใหญ่ดับเบิลยูทีโอในวันอังคารโดยระบุว่า การขึ้นภาษีอย่างแรงและการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์เช่นนี้ ส่งผลกระทบหนักหน่วงต่อระบบการค้าโลก ทำให้เศรษฐกิจไร้ความแน่นอนมากขึ้น การค้าโลกสะดุด เสี่ยงเกิดภาวะเฟ้อในอเมริกา บิดเบือนตลาด หรือแม้กระทั่งทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
    .
    ทว่า เดวิด บิสบี นักการทูตของอเมริกาตอบโต้ว่า เศรษฐกิจจีนเป็นระบบเศรษฐกิจนักล่าที่ไม่ได้อิงกับตลาด และเสริมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่เข้าเป็นสมาชิก จีนละเมิด เพิกเฉย และหลบเลี่ยงกฎของดับเบิลยูทีโอมาหลายครั้ง
    .
    ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในดับเบิลยูทีโอเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยปักกิ่งกล่าวหาวอชิงตันละเมิดกฎ ขณะที่วอชิงตันระบุว่า ปักกิ่งไม่สมควรได้รับสถานะประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งได้รับการปฏิบัติพิเศษภายใต้กฎของดับเบิลยูทีโอ
    .
    นอกจากนั้น การที่คณะบริหารของทรัมป์ประกาศแผนถอนตัวจากองค์กรระดับโลกหลายแห่ง ยังเท่ากับว่า ดับเบิลยูทีโอไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำเนียบขาวคำนึงถึงมากนัก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016777
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ทิ้งบอมบ์รอบใหม่ ขู่รีดภาษีศุลกากรรถนำเข้า 25% และจัดเก็บในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ยาและเซมิคอนดักเตอร์ ด้านจีนประณามมาตรการภาษีและการข่มขู่ของทรัมป์ระหว่างการประชุมองค์การการค้าโลกว่า เป็นการคุกคามระบบการค้าและทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย . นับจากเข้ารับตำแหน่งปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้สั่งเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของพวกประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดบางแห่งโดยอ้างว่า เพื่อตอบโต้กับแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่เอาเปรียบและไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ นอกจากนั้น ในหลายกรณีก็ระบุเหตุผลว่าเพื่อผลักดันนโยบายสำคัญของอเมริกา อย่างเช่นการปราบปรามการอพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย . ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรีดภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าทุกรายการจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% และปักกิ่งได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกันในขนาดขอบเขตที่แคบกว่า จากนั้นทรัมป์ยังสั่งขึ้นภาษีที่เก็บจากเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมนำเข้าจากทุกประเทศในอัตรา 25% . ล่าสุดในวันอังคาร (18 ก.พ.) ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะขึ้นภาษีศุลกากรที่จะเรียกเก็บจากอุตสาหกรรมรถยนต์ในอัตราประมาณ 25% โดยจะบังคับใช้ในราววันที่ 2 เมษายน . สำหรับสินค้าพวกยาและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทรัมป์เคยบอกไว้ว่าจะพิจารณาเพิ่มภาษีในช่วงเวลาเดียวกับรถยนต์นั้น ทรัมป์ขยายความในคราวนี้ว่า จะเก็บสูงขึ้นในอัตรา 25% หรือสูงกว่านั้น แล้วจากนั้นจะเพิ่มขึ้นสูงมากภายใน 1 ปี แต่เขายังไม่ระบุว่าจะเริ่มเมื่อใด . เขายังบอกว่า ต้องการให้เวลาพวกบริษัทที่ได้รับผลกระทบ เพื่อจะได้กลับลำมาทำธุรกิจในอเมริกา และเสริมด้วยว่า ประเทศคู่ค้าของวอชิงตันก็สามารถหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีเพิ่มได้ด้วยการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในอเมริกา . อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญย้ำคำเตือนที่ได้ให้ไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ที่ว่ามาตรการเพิ่มภาษีศุลกาการจากสินค้านำเข้านั้น คนอเมริกันเองมีแนวโน้มต้องแบกรับมากกว่าพวกผู้ส่งออกต่างชาติ เนื่องจากคนที่ต้องควักเงินจ่ายภาษีจริงๆ ก็คือผู้นำเข้าในอเมริกา และพวกเขาก็มักแบ่งเบาภาระนี้ด้วยการขึ้นราคาสินค้าที่จำหน่ายในสหรัฐฯ . เฉพาะรถยนต์นั้น ปัจจุบันรถยนต์ราว 50% ที่ขายในอเมริกาเป็นรถที่ผลิตภายในประเทศ ขณะที่รถนำเข้าประมาณครึ่งหนึ่งเป็นรถจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกแบรนด์ระดับอินเตอร์ไปตั้งโรงงานประกอบกันที่นั่น นอกจากนั้นยังมีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนีที่เป็นซัปพลายเออร์รายสำคัญ . เอเชียจับตามาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์อย่างระมัดระวังมาก เนื่องจากมีซัปพลายเออร์หลักบางแห่งของอุตสาหกรรมรถยนต์ของอเมริกาตั้งอยู่ . โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธว่า ญี่ปุ่นได้หยิบยกประเด็นภาษีศุลกากรรถยนต์หารือกับอเมริกาแล้ว และรัฐบาลจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมควบคู่กับการตรวจสอบรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงของมาตรการภาษีดังกล่าว . ทางด้านไต้หวันที่เป็นฮับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลกและถูกทรัมป์กล่าวหาว่า ปล้นอุตสาหกรรมชิปไปจากอเมริกานั้น ก็แสดงท่าทีตื่นตัวเฝ้าระวัง ถึงแม้กระทรวงเศรษฐกิจแถลงว่า ขอบเขตผลิตภัณฑ์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษียังไม่มีความชัดเจน และรัฐบาลจะติดตามทิศทางนโยบายของอเมริกาต่อไป รวมทั้งจะให้ความช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรมท้องถิ่นที่ได้รับความเดือดร้อน . ก่อนหน้านี้ไทเปประกาศแล้วว่า จะเพิ่มการลงทุนในอเมริกาเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีของทรัมป์ . ผู้นำอเมริกายังแสดงความยินดีที่สหภาพยุโรป ลดภาษีศุลกากรรถยนต์จาก 10% เหลือ 2.5% เท่ากับอเมริกา และบอกว่า ถ้าทุกประเทศทำแบบนี้ การค้าทั่วโลกจะแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม . ในอีกด้านหนึ่ง หลี่ เฉิงกัง เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ได้ประณามมาตรการภาษีศุลกากรและการข่มขู่ของทรัมป์ ในระหว่างการประชุมคณะมนตรีใหญ่ดับเบิลยูทีโอในวันอังคารโดยระบุว่า การขึ้นภาษีอย่างแรงและการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์เช่นนี้ ส่งผลกระทบหนักหน่วงต่อระบบการค้าโลก ทำให้เศรษฐกิจไร้ความแน่นอนมากขึ้น การค้าโลกสะดุด เสี่ยงเกิดภาวะเฟ้อในอเมริกา บิดเบือนตลาด หรือแม้กระทั่งทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย . ทว่า เดวิด บิสบี นักการทูตของอเมริกาตอบโต้ว่า เศรษฐกิจจีนเป็นระบบเศรษฐกิจนักล่าที่ไม่ได้อิงกับตลาด และเสริมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่เข้าเป็นสมาชิก จีนละเมิด เพิกเฉย และหลบเลี่ยงกฎของดับเบิลยูทีโอมาหลายครั้ง . ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในดับเบิลยูทีโอเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยปักกิ่งกล่าวหาวอชิงตันละเมิดกฎ ขณะที่วอชิงตันระบุว่า ปักกิ่งไม่สมควรได้รับสถานะประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งได้รับการปฏิบัติพิเศษภายใต้กฎของดับเบิลยูทีโอ . นอกจากนั้น การที่คณะบริหารของทรัมป์ประกาศแผนถอนตัวจากองค์กรระดับโลกหลายแห่ง ยังเท่ากับว่า ดับเบิลยูทีโอไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำเนียบขาวคำนึงถึงมากนัก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016777 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    12
    0 Comments 0 Shares 2578 Views 0 Reviews
  • พบปลาพันธุ์ใหม่ในอ่าวเม็กซิโก
    พบปลาพันธุ์ใหม่ในอ่าวเม็กซิโก
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 319 Views 0 Reviews
  • มีรายงานว่า สหรัฐฯ ยืนยันเตรียมโจมตีกลุ่มก่อการร้ายค้ายาในเม็กซิโก

    หลังจากที่เมื่อเดือนที่แล้ว มีรายงานว่าสหรัฐใช้โดรนสอดแนมลุกล้ำน่านฟ้าเม็กซิโก เพื่อระบุตำแหน่งของก่อการร้ายเหล่านี้
    มีรายงานว่า สหรัฐฯ ยืนยันเตรียมโจมตีกลุ่มก่อการร้ายค้ายาในเม็กซิโก หลังจากที่เมื่อเดือนที่แล้ว มีรายงานว่าสหรัฐใช้โดรนสอดแนมลุกล้ำน่านฟ้าเม็กซิโก เพื่อระบุตำแหน่งของก่อการร้ายเหล่านี้
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บกับรถยนต์นำเข้าจะอยู่ที่ราว 25% ความเคลื่อนไหวที่เป็นการมอบข้อมูลใหม่ในด้านภาษี ที่คาดหมายว่าเขาจะมีการเปิดตัวราววันที่ 2 เมษายน
    .
    "มันจะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับ 25%" ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่รีสอร์ตมาร์อาลาโก พร้อมกับเน้นว่ามาตรการรีดภาษีอย่างเจาะจงนี้จะมีการเปิดตัวในเดือนเมษายน
    .
    เมื่อถูกถามว่าเขามีความคิดรีดภาษีภาคอื่นอย่างเช่นยา ด้วยหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "มันจะอยู่ที่ 25% หรือสูงกว่านั้น และมันจะอยู่ในระดับสูงมากๆ ตลอดทั้งปี" อย่างไรก็ตามทรัมป์บอกว่าเขาต้องการให้เวลาบริษัทต่างๆ ในการหวนคืนสู่ตลาดสหรัฐฯ
    .
    ในวันอังคาร (18 ก.พ.) ทรัมป์เผยว่าเขาได้รับการติดต่อจากบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ที่ต้องการกลับเข้าสู่สหรัฐฯ สืบเนื่องจากท่าทีของวอชิงตันในด้านการรีดภาษีและมาตรการจูงใจทางภาษี
    .
    ทรัมป์ แถลงมาตรการทางภาษีต่างๆ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ขู่เล่นงานทั้งมิตรและศัตรูไม่ต่างกัน
    .
    เขาไม่ได้ให้รายละเอียดมากมายนักเกี่ยวกับแผนรีดภาษียานยนต์ หรือภาคอื่นๆ ที่อาจถูกเล่นงานด้วย อย่างเช่นเซมิคอนดักเตอร์และยา
    .
    พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าบ่อยครั้งที่กลายเป็นชาวอเมริกันเองที่ต้องเป็นคนชดใช้มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นผู้ส่งออกต่างชาติ
    .
    ทั้งนี้ ราว 50% ของรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ เป็นรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ นอกเหนือจากนั้นเป็นการนำเข้า โดยราวครึ่งหนึ่งของรถยนต์นำเข้ามาจากเม็กซิโกและแคนาดา ส่วนที่เหลือมาจากชาติผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เจ้าอื่นๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016368
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บกับรถยนต์นำเข้าจะอยู่ที่ราว 25% ความเคลื่อนไหวที่เป็นการมอบข้อมูลใหม่ในด้านภาษี ที่คาดหมายว่าเขาจะมีการเปิดตัวราววันที่ 2 เมษายน . "มันจะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับ 25%" ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่รีสอร์ตมาร์อาลาโก พร้อมกับเน้นว่ามาตรการรีดภาษีอย่างเจาะจงนี้จะมีการเปิดตัวในเดือนเมษายน . เมื่อถูกถามว่าเขามีความคิดรีดภาษีภาคอื่นอย่างเช่นยา ด้วยหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "มันจะอยู่ที่ 25% หรือสูงกว่านั้น และมันจะอยู่ในระดับสูงมากๆ ตลอดทั้งปี" อย่างไรก็ตามทรัมป์บอกว่าเขาต้องการให้เวลาบริษัทต่างๆ ในการหวนคืนสู่ตลาดสหรัฐฯ . ในวันอังคาร (18 ก.พ.) ทรัมป์เผยว่าเขาได้รับการติดต่อจากบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ที่ต้องการกลับเข้าสู่สหรัฐฯ สืบเนื่องจากท่าทีของวอชิงตันในด้านการรีดภาษีและมาตรการจูงใจทางภาษี . ทรัมป์ แถลงมาตรการทางภาษีต่างๆ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ขู่เล่นงานทั้งมิตรและศัตรูไม่ต่างกัน . เขาไม่ได้ให้รายละเอียดมากมายนักเกี่ยวกับแผนรีดภาษียานยนต์ หรือภาคอื่นๆ ที่อาจถูกเล่นงานด้วย อย่างเช่นเซมิคอนดักเตอร์และยา . พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าบ่อยครั้งที่กลายเป็นชาวอเมริกันเองที่ต้องเป็นคนชดใช้มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นผู้ส่งออกต่างชาติ . ทั้งนี้ ราว 50% ของรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ เป็นรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ นอกเหนือจากนั้นเป็นการนำเข้า โดยราวครึ่งหนึ่งของรถยนต์นำเข้ามาจากเม็กซิโกและแคนาดา ส่วนที่เหลือมาจากชาติผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เจ้าอื่นๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016368 .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    Love
    8
    1 Comments 0 Shares 2155 Views 0 Reviews
  • เม็กซิโกอาจดำเนินการทางกฎหมายกับ Google เนื่องจากการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกให้เป็น "อ่าวอเมริกา" สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา โดยการเปลี่ยนแปลงชื่อดังกล่าวเป็นผลมาจากคำสั่งของรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก คลอเดีย ไชน์เบาม์ แสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้ Google พิจารณาการตัดสินใจนี้ใหม่ โดยเน้นว่า "อ่าวเม็กซิโก" เป็นชื่อที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมานาน

    เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้แผนที่ Google ในเม็กซิโก ชื่ออ่าวนี้ยังคงเป็น "อ่าวเม็กซิโก" แต่ในประเทศอื่น ๆ ผู้ใช้จะเห็นทั้งสองชื่อตามพื้นที่ ประธานาธิบดีไชน์เบาม์กล่าวว่า หาก Google ยังคงยึดมั่นในชื่อใหม่ เม็กซิโกอาจดำเนินการทางกฎหมายโดยยื่นฟ้องพลเรือน

    สิ่งที่น่าสนใจในข่าวนี้คือการที่ชื่ออ่าวถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "อ่าวอเมริกา" เพื่อสะท้อนคำสั่งจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และเกิดความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเม็กซิโก ทำให้เป็นเรื่องที่น่าติดตามว่าจะมีการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนอย่างไรต่อไป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/13/mexico-could-file-suit-against-google-for-039gulf-of-mexico039-name-change-president-says
    เม็กซิโกอาจดำเนินการทางกฎหมายกับ Google เนื่องจากการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกให้เป็น "อ่าวอเมริกา" สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา โดยการเปลี่ยนแปลงชื่อดังกล่าวเป็นผลมาจากคำสั่งของรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก คลอเดีย ไชน์เบาม์ แสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้ Google พิจารณาการตัดสินใจนี้ใหม่ โดยเน้นว่า "อ่าวเม็กซิโก" เป็นชื่อที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมานาน เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้แผนที่ Google ในเม็กซิโก ชื่ออ่าวนี้ยังคงเป็น "อ่าวเม็กซิโก" แต่ในประเทศอื่น ๆ ผู้ใช้จะเห็นทั้งสองชื่อตามพื้นที่ ประธานาธิบดีไชน์เบาม์กล่าวว่า หาก Google ยังคงยึดมั่นในชื่อใหม่ เม็กซิโกอาจดำเนินการทางกฎหมายโดยยื่นฟ้องพลเรือน สิ่งที่น่าสนใจในข่าวนี้คือการที่ชื่ออ่าวถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "อ่าวอเมริกา" เพื่อสะท้อนคำสั่งจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และเกิดความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเม็กซิโก ทำให้เป็นเรื่องที่น่าติดตามว่าจะมีการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนอย่างไรต่อไป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/13/mexico-could-file-suit-against-google-for-039gulf-of-mexico039-name-change-president-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Mexico could file suit against Google for 'Gulf of Mexico' name change
    MEXICO CITY (Reuters) -Mexican President Claudia Sheinbaum on Thursday urged Google to reconsider its decision to rename the Gulf of Mexico the "Gulf of America" for U.S. users, adding the country could file a civil suit against the firm if necessary.
    0 Comments 0 Shares 212 Views 0 Reviews
More Results