#ดื้อด้าน #ขายชาติ ไหม? #ไทย #กัมพูชา #เขมร #เชฟรอน #น้ำมัน #อเมริกา #เกาะกูด
ค้นหา
ค้นพบผู้คนใหม่ๆ สร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ และรู้จักเพื่อนใหม่
- กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อกดถูกใจ แชร์ และแสดงความคิดเห็น!
- ขายชาติมั้ย? สะพัด!ไทยดอดเจรจากัมพูชา ประเคนบ่อน้ำมันให้เชฟรอน(19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #เชฟรอน #เจรจาบ่อน้ำมันกัมพูชา #MOU44 #ยกเลิกMOU44#เจรจาแบ่งผลประโยชน์ขายชาติมั้ย? สะพัด!ไทยดอดเจรจากัมพูชา ประเคนบ่อน้ำมันให้เชฟรอน(19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #เชฟรอน #เจรจาบ่อน้ำมันกัมพูชา #MOU44 #ยกเลิกMOU44#เจรจาแบ่งผลประโยชน์
- คนไทยรู้ว่าเกาะกูดเป็นของไทย "อิ้ง" ไม่ต้องบอก ดันพูดแทนเขมรว่า "เขมรก็รู้" แล้วไอ้เส้นที่ลากผ่านเกาะกูดละ เขมรก็รู้ใช่ไม่ แต่อิ้งไม่รู้สา
ไปเจรจาทำไม เมื่อเกาะเป็นของไทย เขตสิทธิ์และอธิปไตยในทะเลก็เป็นของไทยแน่นอน
ปมเจรจา..บอกเขมรซิ ให้ลากเส้นให้ถูกตามหลักสากลเหมือนของไทย ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
บอกเลิกสัมปทานกับเชฟรอนก่อน มิใช่ทำแบบลับลวงพราง เอาประโยชน์เข้าตัวและไม่ต้องกังวลกับอเมริกัน..อันตพาลโลกคนไทยรู้ว่าเกาะกูดเป็นของไทย "อิ้ง" ไม่ต้องบอก ดันพูดแทนเขมรว่า "เขมรก็รู้" แล้วไอ้เส้นที่ลากผ่านเกาะกูดละ เขมรก็รู้ใช่ไม่ แต่อิ้งไม่รู้สา ไปเจรจาทำไม เมื่อเกาะเป็นของไทย เขตสิทธิ์และอธิปไตยในทะเลก็เป็นของไทยแน่นอน ปมเจรจา..บอกเขมรซิ ให้ลากเส้นให้ถูกตามหลักสากลเหมือนของไทย ก่อนแล้วค่อยว่ากัน บอกเลิกสัมปทานกับเชฟรอนก่อน มิใช่ทำแบบลับลวงพราง เอาประโยชน์เข้าตัวและไม่ต้องกังวลกับอเมริกัน..อันตพาลโลก0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว - เรื่องเกาะกูด: ต้องเจรจาให้เขมรขีดเส้นทางทะเลตามหลักสากล มิใช่ทำตามใจชอบ
ยกเลิกสัมปทานขุดเจาะพลังงานในอ่าวไทย เพื่อทำตามกฎกติกาใหม่ ที่ไทยไม่เสียเปรียบ
มิใช่ขุดมาแบ่งกับเขมร ตามที่เมกาวางแผนเอาเรือรบมาปิดอ่าวไทย เพื่อรักษาบ่อสัมปทานของเชฟรอน...เรื่องเกาะกูด: ต้องเจรจาให้เขมรขีดเส้นทางทะเลตามหลักสากล มิใช่ทำตามใจชอบ ยกเลิกสัมปทานขุดเจาะพลังงานในอ่าวไทย เพื่อทำตามกฎกติกาใหม่ ที่ไทยไม่เสียเปรียบ มิใช่ขุดมาแบ่งกับเขมร ตามที่เมกาวางแผนเอาเรือรบมาปิดอ่าวไทย เพื่อรักษาบ่อสัมปทานของเชฟรอน...0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว - จากแหล่งช่าวในกัมพูชา คือ กัมพูชาเดลี่ และขแมร์ไทมส์ และข่าวจาก เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ ลงข่าวตรงกันว่ารัฐบาลไทยเป็นฝ่ายเร่งรีบเจรจาพื้นที่ทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาในอ่าวไทย การกระทำเช่นนี้ย่อมเสี่ยงเป็นการยกพื้นที่ทางทะเลของไทย ให้กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนของไทย-กัมพูชา ผลคือเราแทบไม่ได้อะไร พลังงานที่จะตกอยู่กับผู้รับสัมปทานเดิม คือยกให้เชฟรอนของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับสัญญาสัปทานที่ไทยเสียเปรียบเมื่อ 50 ปีก่อน โดยที่ฝ่ายไทยไม่ได้เงื่อนไขการยกเลิกสัญญาจนถึงวันนี้ โดยในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐกำลังเสื่อมถอย และในขณะที่ BRICS กำลังสถาปนาสกุลเงินของโลกใหม่ ย่อมเท่ากับไทยประกาศให้แหล่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่ของโลกตรึงอยู่กับเงินดอลลาร์สหรัฐ(ปิโตรดอลลาร์)ไปโดยปริยาย ดังนั้นประเทศไทยจะไม่ได้อะไรอย่างที่กล่าวอ้าง ประชาชนไม่ได้อะไรเรื่องค่าไฟฟ้า เพราะปัจจุบันปัญหาที่แท้จริงคือโรงไฟฟ้าเราก็ผลิตล้นเกินจนค่าไฟแพงมหาศาล แหล่งปิโตรเลียมราคาขายให้ประชาชนก็อิงราคาตลาดโลก ก๊าซธรรมชาติผ่านโรงแยกก๊าซก็จะมอบให้อุตสาหกรรมปิโตรเลียมก่อนประชาชน มีแต่สหรัฐอเมริกาจะอาศัยสิทธิ์ให้มีกองกำลังเข้ามาคุ้มครองแหล่งปิโตรเลียมในอ่าวไทย เหมือนกับที่จีนเข้ามาคุ้มครองท่อก๊าซธรรมชาติในเมียนมา การใช้นโยบายต่างประเทศเช่นนี้จึงป็นการชักศึกเข้าบ้านในสถานการเประาบางอ่อนไหวในทางภูมิรัฐศาสตร์ จะมาอ้างไม่ได้ว่าเป็นการเจรจาร่วมเรื่องพลังงานอย่างเดียวไม่เกี่ยวกับเขตแดน คำถามคือ แล้วแหล่งพลังงานที่เคยเป็นของไทยแท้ๆ ผู้รับสัมปทานหรือแบ่งปันผลผลิตจะเป็นการเซ็นสัญญากับชาติใด? ถ้าเป็นของไทยก็ต้องเซ็นกับรัฐบาลไทยเท่านั้น ถ้ายอมรับว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ก็ต้องเซ็นลงนาม 2 ประเทศ การกระทำเช่นนี้จึงย่อมเท่ากับยกทรัพยากรของไทยในประเทศไทย ให้กลายเป็นของทั้ง 2 ประเทศ เป็นการสละทะเลอาณาเขตของไทย ทั้งๆที่กัมพูชาขีดเส้นทางทะเลอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายสากลคร่อมเกาะกูดประเทศไทย กองทัพเรือและประชาชนชาวไทยจะยอมได้อย่างไร
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
22 ตุลาคม 2567
https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1078558973637802/?จากแหล่งช่าวในกัมพูชา คือ กัมพูชาเดลี่ และขแมร์ไทมส์ และข่าวจาก เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ ลงข่าวตรงกันว่ารัฐบาลไทยเป็นฝ่ายเร่งรีบเจรจาพื้นที่ทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาในอ่าวไทย การกระทำเช่นนี้ย่อมเสี่ยงเป็นการยกพื้นที่ทางทะเลของไทย ให้กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนของไทย-กัมพูชา ผลคือเราแทบไม่ได้อะไร พลังงานที่จะตกอยู่กับผู้รับสัมปทานเดิม คือยกให้เชฟรอนของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับสัญญาสัปทานที่ไทยเสียเปรียบเมื่อ 50 ปีก่อน โดยที่ฝ่ายไทยไม่ได้เงื่อนไขการยกเลิกสัญญาจนถึงวันนี้ โดยในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐกำลังเสื่อมถอย และในขณะที่ BRICS กำลังสถาปนาสกุลเงินของโลกใหม่ ย่อมเท่ากับไทยประกาศให้แหล่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่ของโลกตรึงอยู่กับเงินดอลลาร์สหรัฐ(ปิโตรดอลลาร์)ไปโดยปริยาย ดังนั้นประเทศไทยจะไม่ได้อะไรอย่างที่กล่าวอ้าง ประชาชนไม่ได้อะไรเรื่องค่าไฟฟ้า เพราะปัจจุบันปัญหาที่แท้จริงคือโรงไฟฟ้าเราก็ผลิตล้นเกินจนค่าไฟแพงมหาศาล แหล่งปิโตรเลียมราคาขายให้ประชาชนก็อิงราคาตลาดโลก ก๊าซธรรมชาติผ่านโรงแยกก๊าซก็จะมอบให้อุตสาหกรรมปิโตรเลียมก่อนประชาชน มีแต่สหรัฐอเมริกาจะอาศัยสิทธิ์ให้มีกองกำลังเข้ามาคุ้มครองแหล่งปิโตรเลียมในอ่าวไทย เหมือนกับที่จีนเข้ามาคุ้มครองท่อก๊าซธรรมชาติในเมียนมา การใช้นโยบายต่างประเทศเช่นนี้จึงป็นการชักศึกเข้าบ้านในสถานการเประาบางอ่อนไหวในทางภูมิรัฐศาสตร์ จะมาอ้างไม่ได้ว่าเป็นการเจรจาร่วมเรื่องพลังงานอย่างเดียวไม่เกี่ยวกับเขตแดน คำถามคือ แล้วแหล่งพลังงานที่เคยเป็นของไทยแท้ๆ ผู้รับสัมปทานหรือแบ่งปันผลผลิตจะเป็นการเซ็นสัญญากับชาติใด? ถ้าเป็นของไทยก็ต้องเซ็นกับรัฐบาลไทยเท่านั้น ถ้ายอมรับว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ก็ต้องเซ็นลงนาม 2 ประเทศ การกระทำเช่นนี้จึงย่อมเท่ากับยกทรัพยากรของไทยในประเทศไทย ให้กลายเป็นของทั้ง 2 ประเทศ เป็นการสละทะเลอาณาเขตของไทย ทั้งๆที่กัมพูชาขีดเส้นทางทะเลอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายสากลคร่อมเกาะกูดประเทศไทย กองทัพเรือและประชาชนชาวไทยจะยอมได้อย่างไร ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ 22 ตุลาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1078558973637802/?