• “จากปฏิเสธสู่การยอมรับ – ทำไมธนาคารใหญ่หันมาใช้ Blockchain จริงจังในปี 2025?”

    เมื่อก่อนธนาคารมอง Blockchain ว่าเป็นเทคโนโลยีเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับคริปโตและความผันผวน แต่ในปี 2025 ทุกอย่างเปลี่ยนไป ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan, HSBC และ Citi ไม่ได้แค่ทดลองใช้ Blockchain อีกต่อไป พวกเขากำลัง “สร้างระบบใหม่” บนเทคโนโลยีนี้จริงจัง

    เหตุผลหลักคือ Blockchain ช่วยแก้ปัญหาเก่า ๆ ที่ธนาคารเจอมานาน เช่น การโอนเงินข้ามประเทศที่ใช้เวลาหลายวัน, ค่าธรรมเนียมสูง, และระบบหลังบ้านที่ซับซ้อนและเปลืองทรัพยากร

    ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ JPMorgan ใช้แพลตฟอร์ม Kinexys (ชื่อเดิม Onyx) ที่ประมวลผลธุรกรรมกว่า $1.5 ล้านล้านดอลลาร์ และมีการใช้งานเฉลี่ยวันละ $2 พันล้าน โดยใช้ JPM Coin เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจโอนเงินแบบ real-time

    นอกจากเรื่องความเร็ว ยังมีเรื่องต้นทุนและความร่วมมือระหว่างธนาคาร เช่น SWIFT กำลังทดลองระบบ settlement ด้วย Blockchain ร่วมกับกว่า 30 สถาบัน และเครือข่าย Canton Network ที่มี Deutsche Bank และ Goldman Sachs ก็เปิดให้ธนาคารแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ tokenized ได้โดยตรง

    ธนาคารยังหันมาใช้ Blockchain ในการจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น KYC และการตรวจสอบการฉ้อโกง เพราะระบบนี้มีความโปร่งใสสูง ทุกธุรกรรมมี timestamp และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย

    แม้จะยังไม่ใช่ทุกธนาคารที่ใช้ Blockchain เต็มรูปแบบ แต่แนวโน้มชัดเจนว่าเทคโนโลยีนี้กำลังกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานใหม่” ของโลกการเงิน

    เหตุผลที่ธนาคารหันมาใช้ Blockchain
    ลดเวลาในการโอนเงินข้ามประเทศ
    ลดค่าธรรมเนียมและความผิดพลาด
    เพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบธุรกรรม
    ใช้กับการจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น KYC และ fraud detection
    รองรับการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ tokenized แบบ real-time

    ตัวอย่างการใช้งานจริง
    JPMorgan ใช้ Kinexys และ JPM Coin โอนเงินแบบทันที
    SWIFT ทดลองระบบ settlement ด้วย Blockchain
    Deutsche Bank และ BNP Paribas ใช้ Partior และ Canton Network
    HSBC เปิดบริการ tokenized deposit ในฮ่องกง
    Citi ใช้ smart contract เพื่อเร่งการโอนเงินและ trade finance

    ปัจจัยที่ทำให้ Blockchain น่าใช้มากขึ้น
    ระบบ permissioned ที่ใช้พลังงานต่ำ
    กฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นใน EU และสิงคโปร์
    Stablecoin และ digital token ที่มีเงินสดหนุนหลัง
    ธนาคารกลางกว่า 90% กำลังทดลอง CBDC
    เครื่องมือตรวจสอบ smart contract เพื่อความปลอดภัย

    https://hackread.com/why-banks-embrace-blockchain-once-rejected/
    🏦 “จากปฏิเสธสู่การยอมรับ – ทำไมธนาคารใหญ่หันมาใช้ Blockchain จริงจังในปี 2025?” เมื่อก่อนธนาคารมอง Blockchain ว่าเป็นเทคโนโลยีเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับคริปโตและความผันผวน แต่ในปี 2025 ทุกอย่างเปลี่ยนไป ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan, HSBC และ Citi ไม่ได้แค่ทดลองใช้ Blockchain อีกต่อไป พวกเขากำลัง “สร้างระบบใหม่” บนเทคโนโลยีนี้จริงจัง เหตุผลหลักคือ Blockchain ช่วยแก้ปัญหาเก่า ๆ ที่ธนาคารเจอมานาน เช่น การโอนเงินข้ามประเทศที่ใช้เวลาหลายวัน, ค่าธรรมเนียมสูง, และระบบหลังบ้านที่ซับซ้อนและเปลืองทรัพยากร ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ JPMorgan ใช้แพลตฟอร์ม Kinexys (ชื่อเดิม Onyx) ที่ประมวลผลธุรกรรมกว่า $1.5 ล้านล้านดอลลาร์ และมีการใช้งานเฉลี่ยวันละ $2 พันล้าน โดยใช้ JPM Coin เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจโอนเงินแบบ real-time นอกจากเรื่องความเร็ว ยังมีเรื่องต้นทุนและความร่วมมือระหว่างธนาคาร เช่น SWIFT กำลังทดลองระบบ settlement ด้วย Blockchain ร่วมกับกว่า 30 สถาบัน และเครือข่าย Canton Network ที่มี Deutsche Bank และ Goldman Sachs ก็เปิดให้ธนาคารแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ tokenized ได้โดยตรง ธนาคารยังหันมาใช้ Blockchain ในการจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น KYC และการตรวจสอบการฉ้อโกง เพราะระบบนี้มีความโปร่งใสสูง ทุกธุรกรรมมี timestamp และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย แม้จะยังไม่ใช่ทุกธนาคารที่ใช้ Blockchain เต็มรูปแบบ แต่แนวโน้มชัดเจนว่าเทคโนโลยีนี้กำลังกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานใหม่” ของโลกการเงิน ✅ เหตุผลที่ธนาคารหันมาใช้ Blockchain ➡️ ลดเวลาในการโอนเงินข้ามประเทศ ➡️ ลดค่าธรรมเนียมและความผิดพลาด ➡️ เพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบธุรกรรม ➡️ ใช้กับการจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น KYC และ fraud detection ➡️ รองรับการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ tokenized แบบ real-time ✅ ตัวอย่างการใช้งานจริง ➡️ JPMorgan ใช้ Kinexys และ JPM Coin โอนเงินแบบทันที ➡️ SWIFT ทดลองระบบ settlement ด้วย Blockchain ➡️ Deutsche Bank และ BNP Paribas ใช้ Partior และ Canton Network ➡️ HSBC เปิดบริการ tokenized deposit ในฮ่องกง ➡️ Citi ใช้ smart contract เพื่อเร่งการโอนเงินและ trade finance ✅ ปัจจัยที่ทำให้ Blockchain น่าใช้มากขึ้น ➡️ ระบบ permissioned ที่ใช้พลังงานต่ำ ➡️ กฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นใน EU และสิงคโปร์ ➡️ Stablecoin และ digital token ที่มีเงินสดหนุนหลัง ➡️ ธนาคารกลางกว่า 90% กำลังทดลอง CBDC ➡️ เครื่องมือตรวจสอบ smart contract เพื่อความปลอดภัย https://hackread.com/why-banks-embrace-blockchain-once-rejected/
    HACKREAD.COM
    Why Banks Are Embracing Blockchain They Once Rejected
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Paxos พิมพ์เหรียญ Stablecoin เกิน 300 ล้านล้านดอลลาร์โดยไม่ตั้งใจ” — มากกว่าสองเท่าของ GDP โลก!

    ในเหตุการณ์ที่ทำให้วงการคริปโตต้องตะลึง Paxos ซึ่งเป็นผู้ออกเหรียญ PYUSD ให้กับ PayPal ได้พิมพ์เหรียญ stablecoin จำนวน 300 ล้านล้านดอลลาร์โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งมากกว่าสองเท่าของ GDP โลกที่ประมาณ 125 ล้านล้านดอลลาร์

    เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 15:12 น. ตามเวลาสหรัฐฯ โดย Paxos ระบุว่าเป็น “ข้อผิดพลาดทางเทคนิคภายใน” ระหว่างการโอนภายในระบบ แม้จะรีบแก้ไขโดยการ “burn” เหรียญที่พิมพ์เกินไปภายใน 20 นาที แต่ก็สร้างความกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับความโปร่งใสและความปลอดภัยของระบบ

    PYUSD เป็น stablecoin ที่อ้างว่า “ได้รับการสนับสนุนเต็มที่ด้วยเงินฝากดอลลาร์สหรัฐ, พันธบัตรรัฐบาล และสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสด” แต่จำนวนที่พิมพ์เกินไปนั้นไม่มีทางได้รับการสนับสนุนจริงได้เลย

    แม้ Paxos จะยืนยันว่าไม่มีการละเมิดความปลอดภัยและเงินของลูกค้าปลอดภัย แต่การสื่อสารของบริษัทกลับดูเบาและไม่ให้รายละเอียดมากนัก ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของระบบ stablecoin ที่ควรจะ “มั่นคง” ตามชื่อ

    ข้อมูลในข่าว
    Paxos พิมพ์เหรียญ PYUSD เกิน 300 ล้านล้านดอลลาร์โดยไม่ตั้งใจ
    เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 15:12 น. EST
    Paxos ระบุว่าเป็น “ข้อผิดพลาดทางเทคนิคภายใน” ระหว่างการโอน
    เหรียญถูก “burn” ภายใน 20 นาทีหลังพบข้อผิดพลาด
    PYUSD อ้างว่าได้รับการสนับสนุนเต็มที่ด้วยเงินฝากและพันธบัตร
    จำนวนที่พิมพ์เกินไม่มีทางได้รับการสนับสนุนจริงได้
    Paxos ยืนยันว่าไม่มีการละเมิดความปลอดภัย
    เงินของลูกค้าปลอดภัยตามคำแถลงของบริษัท
    การสื่อสารของ Paxos ดูเบาและไม่ให้รายละเอียดมากนัก
    เหตุการณ์สร้างความกังวลเรื่องความโปร่งใสและความมั่นคงของระบบ stablecoin

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/paypal-crypto-partner-accidentally-mints-stablecoins-worth-double-the-worlds-total-gdp-paxos-undersells-usd300-trillion-incident-as-an-internal-technical-error
    💥 “Paxos พิมพ์เหรียญ Stablecoin เกิน 300 ล้านล้านดอลลาร์โดยไม่ตั้งใจ” — มากกว่าสองเท่าของ GDP โลก! ในเหตุการณ์ที่ทำให้วงการคริปโตต้องตะลึง Paxos ซึ่งเป็นผู้ออกเหรียญ PYUSD ให้กับ PayPal ได้พิมพ์เหรียญ stablecoin จำนวน 300 ล้านล้านดอลลาร์โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งมากกว่าสองเท่าของ GDP โลกที่ประมาณ 125 ล้านล้านดอลลาร์ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 15:12 น. ตามเวลาสหรัฐฯ โดย Paxos ระบุว่าเป็น “ข้อผิดพลาดทางเทคนิคภายใน” ระหว่างการโอนภายในระบบ แม้จะรีบแก้ไขโดยการ “burn” เหรียญที่พิมพ์เกินไปภายใน 20 นาที แต่ก็สร้างความกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับความโปร่งใสและความปลอดภัยของระบบ PYUSD เป็น stablecoin ที่อ้างว่า “ได้รับการสนับสนุนเต็มที่ด้วยเงินฝากดอลลาร์สหรัฐ, พันธบัตรรัฐบาล และสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสด” แต่จำนวนที่พิมพ์เกินไปนั้นไม่มีทางได้รับการสนับสนุนจริงได้เลย แม้ Paxos จะยืนยันว่าไม่มีการละเมิดความปลอดภัยและเงินของลูกค้าปลอดภัย แต่การสื่อสารของบริษัทกลับดูเบาและไม่ให้รายละเอียดมากนัก ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของระบบ stablecoin ที่ควรจะ “มั่นคง” ตามชื่อ ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Paxos พิมพ์เหรียญ PYUSD เกิน 300 ล้านล้านดอลลาร์โดยไม่ตั้งใจ ➡️ เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 15:12 น. EST ➡️ Paxos ระบุว่าเป็น “ข้อผิดพลาดทางเทคนิคภายใน” ระหว่างการโอน ➡️ เหรียญถูก “burn” ภายใน 20 นาทีหลังพบข้อผิดพลาด ➡️ PYUSD อ้างว่าได้รับการสนับสนุนเต็มที่ด้วยเงินฝากและพันธบัตร ➡️ จำนวนที่พิมพ์เกินไม่มีทางได้รับการสนับสนุนจริงได้ ➡️ Paxos ยืนยันว่าไม่มีการละเมิดความปลอดภัย ➡️ เงินของลูกค้าปลอดภัยตามคำแถลงของบริษัท ➡️ การสื่อสารของ Paxos ดูเบาและไม่ให้รายละเอียดมากนัก ➡️ เหตุการณ์สร้างความกังวลเรื่องความโปร่งใสและความมั่นคงของระบบ stablecoin https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/paypal-crypto-partner-accidentally-mints-stablecoins-worth-double-the-worlds-total-gdp-paxos-undersells-usd300-trillion-incident-as-an-internal-technical-error
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ลอนดอนกลายเป็นศูนย์กลางการขโมยมือถือของโลก” — เมื่ออาชญากรรมขยายจากข้างถนนสู่เครือข่ายระดับโลก

    ในปี 2024 มีโทรศัพท์มือถือถูกขโมยในลอนดอนมากถึง 106,000 เครื่อง โดยในปีเดียวกันมีผู้ถูกตั้งข้อหาเพียง 495 คนเท่านั้น ทำให้ลอนดอนกลายเป็นเมืองหลวงแห่งการขโมยมือถือของยุโรปอย่างไม่เป็นทางการ

    ตำรวจนครบาลลอนดอนเริ่มปฏิบัติการครั้งใหญ่ในปี 2025 โดยบุกค้นร้านขายมือถือมือสองหลายแห่ง พบโทรศัพท์ที่ถูกขโมยกว่า 2,000 เครื่อง และเงินสดกว่า 200,000 ปอนด์ การสืบสวนพบว่าอาชญากรรมนี้ไม่ใช่แค่การขโมยข้างถนน แต่เป็นเครือข่ายอาชญากรรมระดับโลกที่ส่งมือถือไปยังประเทศอย่างจีนและแอลจีเรีย

    จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อหญิงคนหนึ่งใช้ “Find My iPhone” ติดตามมือถือของเธอไปยังโกดังใกล้สนามบินฮีทโธรว์ ซึ่งมีโทรศัพท์กว่า 1,000 เครื่องถูกบรรจุในกล่องที่ระบุว่าเป็นแบตเตอรี่และเตรียมส่งไปฮ่องกง

    ตำรวจพบว่าโทรศัพท์บางเครื่องถูกห่อด้วยฟอยล์อลูมิเนียมเพื่อป้องกันการติดตาม และผู้ต้องสงสัยเคยซื้อฟอยล์ยาวถึง 1.5 ไมล์จาก Costco เพื่อใช้ในการห่อเครื่องจำนวนมาก

    อาชญากรรมนี้แบ่งออกเป็น 3 ชั้น:
    ผู้ขโมย — ใช้ e-bike และสวมหมวกคลุมหน้าเพื่อขโมยมือถือจากมือเหยื่อ
    ผู้ค้ากลาง — ร้านมือถือมือสองที่รับซื้อเครื่องขโมย
    ผู้ส่งออก — กลุ่มที่จัดส่งเครื่องไปต่างประเทศเพื่อขายต่อ

    ในจีน โทรศัพท์ที่ถูกขโมยสามารถขายได้สูงถึง $5,000 เพราะผู้ให้บริการเครือข่ายบางรายไม่ใช้ระบบ blacklist ระหว่างประเทศ ทำให้เครื่องที่ถูกบล็อกในอังกฤษยังใช้งานได้ในจีน

    ตำรวจลอนดอนกำลังใช้ข้อมูลจากผู้เสียหายที่เคยถูกละเลยในอดีต มาสร้างแผนที่การเคลื่อนย้ายของเครื่องที่ถูกขโมย เพื่อสืบสวนย้อนกลับไปยังเครือข่ายต้นทาง

    ข้อมูลในข่าว
    ปี 2024 มีมือถือถูกขโมยในลอนดอนกว่า 106,000 เครื่อง
    มีผู้ถูกตั้งข้อหาเพียง 495 คนในปีเดียวกัน
    ตำรวจบุกค้นร้านมือถือมือสอง พบเครื่องขโมยกว่า 2,000 เครื่องและเงินสด 200,000 ปอนด์
    โทรศัพท์ถูกส่งออกไปจีนและแอลจีเรียผ่านเครือข่ายอาชญากรรม
    พบกล่องบรรจุเครื่องที่ระบุว่าเป็นแบตเตอรี่ เตรียมส่งไปฮ่องกง
    โทรศัพท์บางเครื่องถูกห่อด้วยฟอยล์อลูมิเนียมเพื่อป้องกันการติดตาม
    ผู้ต้องสงสัยเคยซื้อฟอยล์ยาวถึง 1.5 ไมล์จาก Costco
    อาชญากรรมแบ่งเป็น 3 ชั้น: ผู้ขโมย, ผู้ค้ากลาง, ผู้ส่งออก
    ในจีน โทรศัพท์ที่ถูกขโมยสามารถขายได้สูงถึง $5,000
    ผู้ให้บริการเครือข่ายในจีนบางรายไม่ใช้ระบบ blacklist ทำให้เครื่องที่ถูกบล็อกยังใช้งานได้
    ตำรวจใช้ข้อมูลจาก “Find My iPhone” และผู้เสียหายเพื่อสืบสวนย้อนกลับ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/16/london-became-a-global-hub-for-phone-theft-now-we-know-why
    📱 “ลอนดอนกลายเป็นศูนย์กลางการขโมยมือถือของโลก” — เมื่ออาชญากรรมขยายจากข้างถนนสู่เครือข่ายระดับโลก ในปี 2024 มีโทรศัพท์มือถือถูกขโมยในลอนดอนมากถึง 106,000 เครื่อง โดยในปีเดียวกันมีผู้ถูกตั้งข้อหาเพียง 495 คนเท่านั้น ทำให้ลอนดอนกลายเป็นเมืองหลวงแห่งการขโมยมือถือของยุโรปอย่างไม่เป็นทางการ ตำรวจนครบาลลอนดอนเริ่มปฏิบัติการครั้งใหญ่ในปี 2025 โดยบุกค้นร้านขายมือถือมือสองหลายแห่ง พบโทรศัพท์ที่ถูกขโมยกว่า 2,000 เครื่อง และเงินสดกว่า 200,000 ปอนด์ การสืบสวนพบว่าอาชญากรรมนี้ไม่ใช่แค่การขโมยข้างถนน แต่เป็นเครือข่ายอาชญากรรมระดับโลกที่ส่งมือถือไปยังประเทศอย่างจีนและแอลจีเรีย จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อหญิงคนหนึ่งใช้ “Find My iPhone” ติดตามมือถือของเธอไปยังโกดังใกล้สนามบินฮีทโธรว์ ซึ่งมีโทรศัพท์กว่า 1,000 เครื่องถูกบรรจุในกล่องที่ระบุว่าเป็นแบตเตอรี่และเตรียมส่งไปฮ่องกง ตำรวจพบว่าโทรศัพท์บางเครื่องถูกห่อด้วยฟอยล์อลูมิเนียมเพื่อป้องกันการติดตาม และผู้ต้องสงสัยเคยซื้อฟอยล์ยาวถึง 1.5 ไมล์จาก Costco เพื่อใช้ในการห่อเครื่องจำนวนมาก อาชญากรรมนี้แบ่งออกเป็น 3 ชั้น: 📵 ผู้ขโมย — ใช้ e-bike และสวมหมวกคลุมหน้าเพื่อขโมยมือถือจากมือเหยื่อ 📵 ผู้ค้ากลาง — ร้านมือถือมือสองที่รับซื้อเครื่องขโมย 📵 ผู้ส่งออก — กลุ่มที่จัดส่งเครื่องไปต่างประเทศเพื่อขายต่อ ในจีน โทรศัพท์ที่ถูกขโมยสามารถขายได้สูงถึง $5,000 เพราะผู้ให้บริการเครือข่ายบางรายไม่ใช้ระบบ blacklist ระหว่างประเทศ ทำให้เครื่องที่ถูกบล็อกในอังกฤษยังใช้งานได้ในจีน ตำรวจลอนดอนกำลังใช้ข้อมูลจากผู้เสียหายที่เคยถูกละเลยในอดีต มาสร้างแผนที่การเคลื่อนย้ายของเครื่องที่ถูกขโมย เพื่อสืบสวนย้อนกลับไปยังเครือข่ายต้นทาง ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ ปี 2024 มีมือถือถูกขโมยในลอนดอนกว่า 106,000 เครื่อง ➡️ มีผู้ถูกตั้งข้อหาเพียง 495 คนในปีเดียวกัน ➡️ ตำรวจบุกค้นร้านมือถือมือสอง พบเครื่องขโมยกว่า 2,000 เครื่องและเงินสด 200,000 ปอนด์ ➡️ โทรศัพท์ถูกส่งออกไปจีนและแอลจีเรียผ่านเครือข่ายอาชญากรรม ➡️ พบกล่องบรรจุเครื่องที่ระบุว่าเป็นแบตเตอรี่ เตรียมส่งไปฮ่องกง ➡️ โทรศัพท์บางเครื่องถูกห่อด้วยฟอยล์อลูมิเนียมเพื่อป้องกันการติดตาม ➡️ ผู้ต้องสงสัยเคยซื้อฟอยล์ยาวถึง 1.5 ไมล์จาก Costco ➡️ อาชญากรรมแบ่งเป็น 3 ชั้น: ผู้ขโมย, ผู้ค้ากลาง, ผู้ส่งออก ➡️ ในจีน โทรศัพท์ที่ถูกขโมยสามารถขายได้สูงถึง $5,000 ➡️ ผู้ให้บริการเครือข่ายในจีนบางรายไม่ใช้ระบบ blacklist ทำให้เครื่องที่ถูกบล็อกยังใช้งานได้ ➡️ ตำรวจใช้ข้อมูลจาก “Find My iPhone” และผู้เสียหายเพื่อสืบสวนย้อนกลับ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/16/london-became-a-global-hub-for-phone-theft-now-we-know-why
    WWW.THESTAR.COM.MY
    London became a global hub for phone theft. Now we know why
    About 80,000 phones were stolen in the British capital last year. The police are finally discovering where many of them went.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สวีเดนเตรียมเปิดใช้ระบบจ่ายเงินด้วยบัตรแบบออฟไลน์ภายในปี 2026 — รับมือวิกฤตดิจิทัลด้วยความพร้อมระดับชาติ”

    ในประเทศที่แทบจะไร้เงินสดอย่างสวีเดน การพึ่งพาระบบดิจิทัลในการชำระเงินกลายเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ระบบอินเทอร์เน็ตล่มหรือการโจมตีไซเบอร์ ความสามารถในการจ่ายเงินอาจกลายเป็นปัญหาระดับชาติ ล่าสุดธนาคารกลางสวีเดน (Riksbank) ได้ประกาศความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดการชำระเงิน เพื่อผลักดันให้ระบบ “จ่ายเงินด้วยบัตรแบบออฟไลน์” ใช้งานได้จริงภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2026

    ระบบนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถใช้บัตรเดบิตหรือเครดิตในการซื้อสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร ยา และน้ำมัน แม้ในกรณีที่ระบบสื่อสารข้อมูลล่ม โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมความมั่นคงของระบบการเงินและความพร้อมรับมือภัยพิบัติ

    การดำเนินงานนี้ครอบคลุมทั้งผู้ออกบัตร, เครือข่ายบัตร, ผู้รับชำระเงิน, ผู้ค้าปลีก และ Riksbank โดยจะมีการปรับปรุงกฎระเบียบและนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เช่น การตั้งค่าข้อมูลล่วงหน้าในบัตร, การใช้ PIN แบบออฟไลน์ และการตรวจสอบยอดเงินแบบ local cache

    ผู้ว่าการธนาคารกลาง Erik Thedéen กล่าวว่าการที่หลายฝ่ายร่วมมือกันแม้ไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับโดยตรง ถือเป็นสัญญาณบวกของความรับผิดชอบร่วมกันเพื่อความมั่นคงของประเทศ และหลังจากวันที่ 1 กรกฎาคม 2026 Riksbank จะขยายการรองรับไปยังช่องทางการชำระเงินอื่น ๆ เช่น e-wallet และ mobile payments

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Riksbank ประกาศให้ระบบจ่ายเงินด้วยบัตรแบบออฟไลน์ใช้งานได้ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2026
    ระบบนี้ช่วยให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าจำเป็นแม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    ครอบคลุมสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร ยา และน้ำมัน
    ผู้มีส่วนร่วม ได้แก่ ผู้ออกบัตร, เครือข่ายบัตร, ผู้รับชำระเงิน, ผู้ค้าปลีก และ Riksbank
    มีการปรับปรุงกฎระเบียบและนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เช่น PIN ออฟไลน์ และ local cache
    Riksbank จะขยายการรองรับไปยังช่องทางอื่นหลังปี 2026 เช่น e-wallet และ mobile payments
    ผู้ว่าการธนาคารกลางชื่นชมความร่วมมือของภาคเอกชนแม้ไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ระบบออฟไลน์สามารถใช้เทคโนโลยี EMV ที่ตั้งค่าข้อมูลล่วงหน้าในบัตร
    บัตรบางประเภทสามารถเก็บยอดเงินล่วงหน้าเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน
    ประเทศอื่น เช่น เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์ กำลังทดลองระบบจ่ายเงินออฟไลน์ในระดับเมือง
    การจ่ายเงินแบบออฟไลน์ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีไซเบอร์หรือการล่มของระบบคลาวด์
    การเตรียมความพร้อมด้านการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติในยุโรป

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ระบบออฟไลน์อาจมีข้อจำกัดด้านจำนวนธุรกรรมต่อวันหรือยอดเงินสูงสุด
    หากไม่มีการอัปเดตข้อมูลบัตรอย่างสม่ำเสมอ อาจเกิดปัญหาในการตรวจสอบยอดเงิน
    การใช้ระบบออฟไลน์ต้องมีการฝึกอบรมพนักงานร้านค้าและการปรับระบบ POS
    ความปลอดภัยของข้อมูลในระบบออฟไลน์อาจต่ำกว่าระบบออนไลน์ หากไม่มีการเข้ารหัสที่ดี
    การพึ่งพาบัตรมากเกินไปอาจทำให้กลุ่มที่ไม่มีบัตรหรือไม่ใช้ดิจิทัลถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

    https://www.riksbank.se/en-gb/press-and-published/notices-and-press-releases/press-releases/2025/offline-card-payments-should-be-possible-no-later-than-1-july-2026/
    💳 “สวีเดนเตรียมเปิดใช้ระบบจ่ายเงินด้วยบัตรแบบออฟไลน์ภายในปี 2026 — รับมือวิกฤตดิจิทัลด้วยความพร้อมระดับชาติ” ในประเทศที่แทบจะไร้เงินสดอย่างสวีเดน การพึ่งพาระบบดิจิทัลในการชำระเงินกลายเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ระบบอินเทอร์เน็ตล่มหรือการโจมตีไซเบอร์ ความสามารถในการจ่ายเงินอาจกลายเป็นปัญหาระดับชาติ ล่าสุดธนาคารกลางสวีเดน (Riksbank) ได้ประกาศความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดการชำระเงิน เพื่อผลักดันให้ระบบ “จ่ายเงินด้วยบัตรแบบออฟไลน์” ใช้งานได้จริงภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2026 ระบบนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถใช้บัตรเดบิตหรือเครดิตในการซื้อสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร ยา และน้ำมัน แม้ในกรณีที่ระบบสื่อสารข้อมูลล่ม โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมความมั่นคงของระบบการเงินและความพร้อมรับมือภัยพิบัติ การดำเนินงานนี้ครอบคลุมทั้งผู้ออกบัตร, เครือข่ายบัตร, ผู้รับชำระเงิน, ผู้ค้าปลีก และ Riksbank โดยจะมีการปรับปรุงกฎระเบียบและนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เช่น การตั้งค่าข้อมูลล่วงหน้าในบัตร, การใช้ PIN แบบออฟไลน์ และการตรวจสอบยอดเงินแบบ local cache ผู้ว่าการธนาคารกลาง Erik Thedéen กล่าวว่าการที่หลายฝ่ายร่วมมือกันแม้ไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับโดยตรง ถือเป็นสัญญาณบวกของความรับผิดชอบร่วมกันเพื่อความมั่นคงของประเทศ และหลังจากวันที่ 1 กรกฎาคม 2026 Riksbank จะขยายการรองรับไปยังช่องทางการชำระเงินอื่น ๆ เช่น e-wallet และ mobile payments ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Riksbank ประกาศให้ระบบจ่ายเงินด้วยบัตรแบบออฟไลน์ใช้งานได้ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2026 ➡️ ระบบนี้ช่วยให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าจำเป็นแม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ➡️ ครอบคลุมสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร ยา และน้ำมัน ➡️ ผู้มีส่วนร่วม ได้แก่ ผู้ออกบัตร, เครือข่ายบัตร, ผู้รับชำระเงิน, ผู้ค้าปลีก และ Riksbank ➡️ มีการปรับปรุงกฎระเบียบและนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เช่น PIN ออฟไลน์ และ local cache ➡️ Riksbank จะขยายการรองรับไปยังช่องทางอื่นหลังปี 2026 เช่น e-wallet และ mobile payments ➡️ ผู้ว่าการธนาคารกลางชื่นชมความร่วมมือของภาคเอกชนแม้ไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ระบบออฟไลน์สามารถใช้เทคโนโลยี EMV ที่ตั้งค่าข้อมูลล่วงหน้าในบัตร ➡️ บัตรบางประเภทสามารถเก็บยอดเงินล่วงหน้าเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน ➡️ ประเทศอื่น เช่น เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์ กำลังทดลองระบบจ่ายเงินออฟไลน์ในระดับเมือง ➡️ การจ่ายเงินแบบออฟไลน์ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีไซเบอร์หรือการล่มของระบบคลาวด์ ➡️ การเตรียมความพร้อมด้านการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติในยุโรป ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ ระบบออฟไลน์อาจมีข้อจำกัดด้านจำนวนธุรกรรมต่อวันหรือยอดเงินสูงสุด ⛔ หากไม่มีการอัปเดตข้อมูลบัตรอย่างสม่ำเสมอ อาจเกิดปัญหาในการตรวจสอบยอดเงิน ⛔ การใช้ระบบออฟไลน์ต้องมีการฝึกอบรมพนักงานร้านค้าและการปรับระบบ POS ⛔ ความปลอดภัยของข้อมูลในระบบออฟไลน์อาจต่ำกว่าระบบออนไลน์ หากไม่มีการเข้ารหัสที่ดี ⛔ การพึ่งพาบัตรมากเกินไปอาจทำให้กลุ่มที่ไม่มีบัตรหรือไม่ใช้ดิจิทัลถูกทิ้งไว้ข้างหลัง https://www.riksbank.se/en-gb/press-and-published/notices-and-press-releases/press-releases/2025/offline-card-payments-should-be-possible-no-later-than-1-july-2026/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • “OpenAI รายได้พุ่ง $4.3B ในครึ่งปีแรก 2025 — แต่ขาดทุนทะลุ $13.5B จากต้นทุนวิจัยและดีลกับ Microsoft”

    แม้จะเป็นผู้นำในวงการ AI ระดับโลก แต่รายงานทางการเงินล่าสุดของ OpenAI กลับเผยให้เห็นภาพที่ซับซ้อนกว่าที่หลายคนคาดไว้ โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 บริษัทสร้างรายได้กว่า $4.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2024 โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จาก ChatGPT และ API สำหรับองค์กร

    แต่ในขณะเดียวกัน OpenAI ก็รายงานผลขาดทุนสุทธิสูงถึง $13.5 พันล้านดอลลาร์ โดยมากกว่าครึ่งของตัวเลขนี้มาจากการปรับมูลค่าผลประโยชน์จากหุ้นแปลงสภาพ (convertible interest rights) ซึ่งเป็นรายการทางบัญชีที่ไม่ใช่เงินสดโดยตรง

    ค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) ยังคงเป็นภาระหลัก โดยสูงถึง $6.7 พันล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรก ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการขายและโฆษณาเพิ่มขึ้นเป็น $2 พันล้านดอลลาร์ และค่าตอบแทนแบบหุ้น (stock-based compensation) ก็พุ่งขึ้นเป็น $2.5 พันล้านดอลลาร์

    OpenAI ยังจ่ายเงินให้ Microsoft เป็นสัดส่วน 20% ของรายได้ทั้งหมด ตามข้อตกลงที่มีอยู่ ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าและความยั่งยืนของโมเดลธุรกิจนี้

    แม้จะเผาเงินไปกว่า $2.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก แต่บริษัทก็ยังถือเงินสดและหลักทรัพย์รวมกว่า $17.5 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับเงินทุนใหม่ $10 พันล้านดอลลาร์ และกำลังเจรจาเพื่อระดมทุนเพิ่มอีก $30 พันล้านดอลลาร์

    ขณะเดียวกัน มีการเสนอขายหุ้นให้พนักงาน (tender offer) ที่ประเมินมูลค่าบริษัทไว้สูงถึง $500 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในอนาคตของ OpenAI แม้จะยังไม่สามารถทำกำไรได้ในระยะสั้น

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    รายได้ครึ่งปีแรก 2025 ของ OpenAI อยู่ที่ $4.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2024
    ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ $13.5 พันล้านดอลลาร์ โดยมากกว่าครึ่งมาจากการปรับมูลค่าหุ้นแปลงสภาพ
    ค่าใช้จ่ายด้าน R&D สูงถึง $6.7 พันล้านดอลลาร์
    ค่าใช้จ่ายด้านการขายและโฆษณาอยู่ที่ $2 พันล้านดอลลาร์
    ค่าตอบแทนแบบหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น $2.5 พันล้านดอลลาร์
    จ่ายรายได้ 20% ให้ Microsoft ตามข้อตกลงที่มีอยู่
    เผาเงินสดไป $2.5 พันล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรก
    ถือเงินสดและหลักทรัพย์รวม $17.5 พันล้านดอลลาร์
    กำลังเจรจาระดมทุนเพิ่มอีก $30 พันล้านดอลลาร์
    Tender offer ประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ $500 พันล้านดอลลาร์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    รายได้หลักของ OpenAI มาจาก ChatGPT Plus และ API สำหรับองค์กร
    ค่าใช้จ่ายด้าน compute สำหรับฝึกโมเดล GPT อาจแตะ $14 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025
    การจ่ายรายได้ให้ Microsoft เป็นผลจากข้อตกลงที่ Microsoft ลงทุนใน OpenAI
    การประเมินมูลค่าบริษัทที่ $500 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ OpenAI กลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงที่สุด
    นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงความยั่งยืนของโมเดลธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนมหาศาลเพื่อขยายฐานผู้ใช้

    https://www.techinasia.com/news/openais-revenue-rises-16-to-4-3b-in-h1-2025
    💸 “OpenAI รายได้พุ่ง $4.3B ในครึ่งปีแรก 2025 — แต่ขาดทุนทะลุ $13.5B จากต้นทุนวิจัยและดีลกับ Microsoft” แม้จะเป็นผู้นำในวงการ AI ระดับโลก แต่รายงานทางการเงินล่าสุดของ OpenAI กลับเผยให้เห็นภาพที่ซับซ้อนกว่าที่หลายคนคาดไว้ โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 บริษัทสร้างรายได้กว่า $4.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2024 โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จาก ChatGPT และ API สำหรับองค์กร แต่ในขณะเดียวกัน OpenAI ก็รายงานผลขาดทุนสุทธิสูงถึง $13.5 พันล้านดอลลาร์ โดยมากกว่าครึ่งของตัวเลขนี้มาจากการปรับมูลค่าผลประโยชน์จากหุ้นแปลงสภาพ (convertible interest rights) ซึ่งเป็นรายการทางบัญชีที่ไม่ใช่เงินสดโดยตรง ค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) ยังคงเป็นภาระหลัก โดยสูงถึง $6.7 พันล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรก ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการขายและโฆษณาเพิ่มขึ้นเป็น $2 พันล้านดอลลาร์ และค่าตอบแทนแบบหุ้น (stock-based compensation) ก็พุ่งขึ้นเป็น $2.5 พันล้านดอลลาร์ OpenAI ยังจ่ายเงินให้ Microsoft เป็นสัดส่วน 20% ของรายได้ทั้งหมด ตามข้อตกลงที่มีอยู่ ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าและความยั่งยืนของโมเดลธุรกิจนี้ แม้จะเผาเงินไปกว่า $2.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก แต่บริษัทก็ยังถือเงินสดและหลักทรัพย์รวมกว่า $17.5 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับเงินทุนใหม่ $10 พันล้านดอลลาร์ และกำลังเจรจาเพื่อระดมทุนเพิ่มอีก $30 พันล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน มีการเสนอขายหุ้นให้พนักงาน (tender offer) ที่ประเมินมูลค่าบริษัทไว้สูงถึง $500 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในอนาคตของ OpenAI แม้จะยังไม่สามารถทำกำไรได้ในระยะสั้น ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ รายได้ครึ่งปีแรก 2025 ของ OpenAI อยู่ที่ $4.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2024 ➡️ ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ $13.5 พันล้านดอลลาร์ โดยมากกว่าครึ่งมาจากการปรับมูลค่าหุ้นแปลงสภาพ ➡️ ค่าใช้จ่ายด้าน R&D สูงถึง $6.7 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ค่าใช้จ่ายด้านการขายและโฆษณาอยู่ที่ $2 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ค่าตอบแทนแบบหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น $2.5 พันล้านดอลลาร์ ➡️ จ่ายรายได้ 20% ให้ Microsoft ตามข้อตกลงที่มีอยู่ ➡️ เผาเงินสดไป $2.5 พันล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรก ➡️ ถือเงินสดและหลักทรัพย์รวม $17.5 พันล้านดอลลาร์ ➡️ กำลังเจรจาระดมทุนเพิ่มอีก $30 พันล้านดอลลาร์ ➡️ Tender offer ประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ $500 พันล้านดอลลาร์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ รายได้หลักของ OpenAI มาจาก ChatGPT Plus และ API สำหรับองค์กร ➡️ ค่าใช้จ่ายด้าน compute สำหรับฝึกโมเดล GPT อาจแตะ $14 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 ➡️ การจ่ายรายได้ให้ Microsoft เป็นผลจากข้อตกลงที่ Microsoft ลงทุนใน OpenAI ➡️ การประเมินมูลค่าบริษัทที่ $500 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ OpenAI กลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงที่สุด ➡️ นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงความยั่งยืนของโมเดลธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนมหาศาลเพื่อขยายฐานผู้ใช้ https://www.techinasia.com/news/openais-revenue-rises-16-to-4-3b-in-h1-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขั่วโมงนี้ ขายพระ ทุ้งขายคืนหัก % หรือขายเลย...ถ้าไม่ได้เงินสดเลย..จงระวังมากๆ...พระหลุดมือไป...ตามเงินยากมากช่วงนี้ ..
    ขั่วโมงนี้ ขายพระ ทุ้งขายคืนหัก % หรือขายเลย...ถ้าไม่ได้เงินสดเลย..จงระวังมากๆ...พระหลุดมือไป...ตามเงินยากมากช่วงนี้ ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • “EA กลายเป็นอัญมณีแห่ง Vision 2030 — ซาอุฯ เท 55 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ พร้อมปั้นอุตสาหกรรมเกมระดับโลก”

    Electronic Arts (EA) ผู้สร้างเกมระดับตำนานอย่าง Battlefield, FIFA และ The Sims กำลังกลายเป็นหัวใจของแผนยุทธศาสตร์ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย หลังจาก Public Investment Fund (PIF) ของประเทศจับมือกับ Silver Lake และ Affinity Partners (กองทุนของ Jared Kushner) ประกาศซื้อกิจการ EA ด้วยมูลค่ามหาศาลถึง 55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ2

    ดีลนี้ถือเป็นการซื้อกิจการแบบ leveraged buyout ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย PIF จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ EA ขณะที่ Affinity Partners จะถือหุ้น 5% และ Silver Lake จะขยายพอร์ตด้านเกม กีฬา และบันเทิงอย่างมหาศาล

    เหตุผลเบื้องหลังดีลนี้ไม่ใช่แค่เรื่องกำไร — แต่คือการสร้าง “อำนาจทางวัฒนธรรม” ผ่านเกม โดย Crown Prince Mohammed bin Salman เคยกล่าวว่าเขาเล่นเกมกับเพื่อนและลูกเป็นประจำ และต้องการให้ซาอุฯ เป็น “ศูนย์กลางโลกด้านเกมและอีสปอร์ต” ภายในปี 2030

    PIF ซึ่งมีสินทรัพย์เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ลงทุนในบริษัทเกมหลายแห่ง เช่น Activision Blizzard, Nintendo และ Take-Two Interactive ผ่าน Savvy Games Group และยังมีโครงการ Qiddiya ที่จะสร้างเมืองแห่งเกมและความบันเทิงในริยาด พร้อมเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยว 10 ล้านคนต่อปี

    EA จะยังคงมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย และ CEO Andrew Wilson จะยังคงดำรงตำแหน่ง โดยผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินสด 210 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปิดก่อนข่าวดีลถึง 25% แม้บางนักวิเคราะห์จะมองว่าราคานี้ยังต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริงของ EA

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    EA ถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มทุน PIF, Silver Lake และ Affinity Partners ด้วยมูลค่า 55 พันล้านดอลลาร์
    PIF จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และ Affinity Partners ถือหุ้น 5%
    ดีลนี้ถือเป็น leveraged buyout ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    EA จะยังคงมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย และ CEO คนเดิม
    ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินสด 210 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าราคาปิดก่อนดีล 25%
    ซาอุฯ ต้องการใช้ EA เป็นเครื่องมือสร้างอำนาจทางวัฒนธรรมผ่านเกม
    Vision 2030 ตั้งเป้าให้ประเทศเป็นศูนย์กลางเกมและอีสปอร์ต
    PIF มีการลงทุนใน Activision Blizzard, Nintendo และ Take-Two ผ่าน Savvy Games Group
    โครงการ Qiddiya จะสร้างเมืองแห่งเกมในริยาด ดึงดูดนักท่องเที่ยว 10 ล้านคนต่อปี

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    EA มีแฟรนไชส์เกมระดับโลก เช่น FIFA, Battlefield, The Sims, Apex Legends
    Silver Lake เป็นบริษัททุนที่มีพอร์ตใน Dell, Learfield, Noom และ TikTok
    Jared Kushner ก่อตั้ง Affinity Partners ในปี 2021 โดยมีทุนจากซาอุฯ กาตาร์ และ UAE
    Vision 2030 เป็นแผนยุทธศาสตร์ของซาอุฯ ที่เน้นการลดการพึ่งพาน้ำมัน
    อุตสาหกรรมเกมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15–25% ต่อปีในกลุ่มอีสปอร์ต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/01/from-riyadh-to-silicon-valley-how-ea-became-the-jewel-of-saudi-arabia039s-gaming-vision
    🎮 “EA กลายเป็นอัญมณีแห่ง Vision 2030 — ซาอุฯ เท 55 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ พร้อมปั้นอุตสาหกรรมเกมระดับโลก” Electronic Arts (EA) ผู้สร้างเกมระดับตำนานอย่าง Battlefield, FIFA และ The Sims กำลังกลายเป็นหัวใจของแผนยุทธศาสตร์ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย หลังจาก Public Investment Fund (PIF) ของประเทศจับมือกับ Silver Lake และ Affinity Partners (กองทุนของ Jared Kushner) ประกาศซื้อกิจการ EA ด้วยมูลค่ามหาศาลถึง 55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ2 ดีลนี้ถือเป็นการซื้อกิจการแบบ leveraged buyout ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย PIF จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ EA ขณะที่ Affinity Partners จะถือหุ้น 5% และ Silver Lake จะขยายพอร์ตด้านเกม กีฬา และบันเทิงอย่างมหาศาล เหตุผลเบื้องหลังดีลนี้ไม่ใช่แค่เรื่องกำไร — แต่คือการสร้าง “อำนาจทางวัฒนธรรม” ผ่านเกม โดย Crown Prince Mohammed bin Salman เคยกล่าวว่าเขาเล่นเกมกับเพื่อนและลูกเป็นประจำ และต้องการให้ซาอุฯ เป็น “ศูนย์กลางโลกด้านเกมและอีสปอร์ต” ภายในปี 2030 PIF ซึ่งมีสินทรัพย์เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ลงทุนในบริษัทเกมหลายแห่ง เช่น Activision Blizzard, Nintendo และ Take-Two Interactive ผ่าน Savvy Games Group และยังมีโครงการ Qiddiya ที่จะสร้างเมืองแห่งเกมและความบันเทิงในริยาด พร้อมเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยว 10 ล้านคนต่อปี EA จะยังคงมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย และ CEO Andrew Wilson จะยังคงดำรงตำแหน่ง โดยผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินสด 210 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปิดก่อนข่าวดีลถึง 25% แม้บางนักวิเคราะห์จะมองว่าราคานี้ยังต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริงของ EA ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ EA ถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มทุน PIF, Silver Lake และ Affinity Partners ด้วยมูลค่า 55 พันล้านดอลลาร์ ➡️ PIF จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และ Affinity Partners ถือหุ้น 5% ➡️ ดีลนี้ถือเป็น leveraged buyout ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ➡️ EA จะยังคงมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย และ CEO คนเดิม ➡️ ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินสด 210 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าราคาปิดก่อนดีล 25% ➡️ ซาอุฯ ต้องการใช้ EA เป็นเครื่องมือสร้างอำนาจทางวัฒนธรรมผ่านเกม ➡️ Vision 2030 ตั้งเป้าให้ประเทศเป็นศูนย์กลางเกมและอีสปอร์ต ➡️ PIF มีการลงทุนใน Activision Blizzard, Nintendo และ Take-Two ผ่าน Savvy Games Group ➡️ โครงการ Qiddiya จะสร้างเมืองแห่งเกมในริยาด ดึงดูดนักท่องเที่ยว 10 ล้านคนต่อปี ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ EA มีแฟรนไชส์เกมระดับโลก เช่น FIFA, Battlefield, The Sims, Apex Legends ➡️ Silver Lake เป็นบริษัททุนที่มีพอร์ตใน Dell, Learfield, Noom และ TikTok ➡️ Jared Kushner ก่อตั้ง Affinity Partners ในปี 2021 โดยมีทุนจากซาอุฯ กาตาร์ และ UAE ➡️ Vision 2030 เป็นแผนยุทธศาสตร์ของซาอุฯ ที่เน้นการลดการพึ่งพาน้ำมัน ➡️ อุตสาหกรรมเกมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15–25% ต่อปีในกลุ่มอีสปอร์ต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/01/from-riyadh-to-silicon-valley-how-ea-became-the-jewel-of-saudi-arabia039s-gaming-vision
    WWW.THESTAR.COM.MY
    From Riyadh to Silicon Valley: How EA became the jewel of Saudi Arabia's gaming vision
    LONDON(Reuters) -For years, tech-focused buyout group Silver Lake coveted video game developer Electronic Arts, the power behind the popular "Battlefield" and "Madden NFL" series.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • “EA ถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มทุนจากซาอุฯ มูลค่า 55 พันล้านดอลลาร์ — ดีลประวัติศาสตร์ที่อาจเปลี่ยนอนาคตวงการเกม”

    Electronic Arts (EA) ผู้พัฒนาเกมรายใหญ่ของโลก เจ้าของแฟรนไชส์ระดับตำนานอย่าง FIFA (ปัจจุบันคือ FC), Battlefield, The Sims และ Madden NFL ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า บริษัทจะถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มนักลงทุนที่ประกอบด้วย Public Investment Fund (PIF) ของซาอุดีอาระเบีย, Silver Lake และ Affinity Partners ซึ่งก่อตั้งโดย Jared Kushner ด้วยมูลค่ารวมกว่า 55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    ดีลนี้ถือเป็นการซื้อกิจการแบบเงินสดที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทมหาชน โดยผู้ถือหุ้น EA จะได้รับเงินสด 210 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปิดก่อนดีลถึง 25% และสูงกว่าราคาสูงสุดตลอดกาลของหุ้น EA ที่ 179 ดอลลาร์อีกด้วย

    PIF ซึ่งเคยถือหุ้น EA อยู่แล้ว 9.9% จะ “roll over” สัดส่วนเดิมเข้าสู่ดีลนี้ และกลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ EA ที่จะกลายเป็นบริษัทเอกชนหลังการซื้อกิจการเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2027 (ประมาณเมษายน 2026)

    Andrew Wilson ซีอีโอของ EA จะยังคงดำรงตำแหน่งเดิม และบริษัทจะยังคงมีสำนักงานใหญ่ที่ Redwood City, California โดยเขายืนยันว่า EA จะใช้โอกาสนี้ในการเร่งนวัตกรรมและสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ผสมผสานระหว่างกีฬา ดิจิทัล และความบันเทิง

    กลุ่มทุนที่เข้าซื้อกิจการนี้มีเป้าหมายชัดเจนในการขยายอิทธิพลในอุตสาหกรรมเกมระดับโลก โดยเฉพาะ PIF ที่ลงทุนใน Nintendo, Take-Two, Capcom และจัดการแข่งขัน eSports World Cup ปี 2025 เพื่อผลักดันวิสัยทัศน์ Saudi Vision 2030

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    EA ถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มทุน PIF, Silver Lake และ Affinity Partners ด้วยมูลค่า 55 พันล้านดอลลาร์
    ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินสด 210 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปิดก่อนดีลถึง 25%
    ดีลนี้เป็นการซื้อกิจการแบบเงินสดที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัทมหาชน
    EA จะกลายเป็นบริษัทเอกชน และหุ้นจะถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์
    Andrew Wilson จะยังคงดำรงตำแหน่ง CEO และสำนักงานใหญ่ยังอยู่ที่ California
    PIF เคยถือหุ้น EA อยู่แล้ว 9.9% และจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นหลัก
    ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2027 (ประมาณเมษายน 2026)
    EA ยืนยันว่าจะใช้โอกาสนี้ในการเร่งนวัตกรรมและสร้างประสบการณ์ใหม่ในวงการเกม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    PIF เป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย มีสินทรัพย์รวมกว่า 925 พันล้านดอลลาร์
    Affinity Partners ก่อตั้งโดย Jared Kushner และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทุนซาอุฯ
    Silver Lake เป็นบริษัทลงทุนที่มีพอร์ตโฟลิโอใน Dell, Learfield และ Noom
    EA เป็นเจ้าของแฟรนไชส์เกมระดับโลก เช่น Battlefield, The Sims, Mass Effect และ FC
    การซื้อกิจการครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการเปิดตัว Battlefield 6 ซึ่งมีกระแสตอบรับดีจากช่วงเบต้า

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/ea-acquired-by-saudi-arabian-investment-fund-and-others-for-usd55-billion-largest-ever-buyout-of-a-public-company
    🎮 “EA ถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มทุนจากซาอุฯ มูลค่า 55 พันล้านดอลลาร์ — ดีลประวัติศาสตร์ที่อาจเปลี่ยนอนาคตวงการเกม” Electronic Arts (EA) ผู้พัฒนาเกมรายใหญ่ของโลก เจ้าของแฟรนไชส์ระดับตำนานอย่าง FIFA (ปัจจุบันคือ FC), Battlefield, The Sims และ Madden NFL ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า บริษัทจะถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มนักลงทุนที่ประกอบด้วย Public Investment Fund (PIF) ของซาอุดีอาระเบีย, Silver Lake และ Affinity Partners ซึ่งก่อตั้งโดย Jared Kushner ด้วยมูลค่ารวมกว่า 55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดีลนี้ถือเป็นการซื้อกิจการแบบเงินสดที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทมหาชน โดยผู้ถือหุ้น EA จะได้รับเงินสด 210 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปิดก่อนดีลถึง 25% และสูงกว่าราคาสูงสุดตลอดกาลของหุ้น EA ที่ 179 ดอลลาร์อีกด้วย PIF ซึ่งเคยถือหุ้น EA อยู่แล้ว 9.9% จะ “roll over” สัดส่วนเดิมเข้าสู่ดีลนี้ และกลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ EA ที่จะกลายเป็นบริษัทเอกชนหลังการซื้อกิจการเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2027 (ประมาณเมษายน 2026) Andrew Wilson ซีอีโอของ EA จะยังคงดำรงตำแหน่งเดิม และบริษัทจะยังคงมีสำนักงานใหญ่ที่ Redwood City, California โดยเขายืนยันว่า EA จะใช้โอกาสนี้ในการเร่งนวัตกรรมและสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ผสมผสานระหว่างกีฬา ดิจิทัล และความบันเทิง กลุ่มทุนที่เข้าซื้อกิจการนี้มีเป้าหมายชัดเจนในการขยายอิทธิพลในอุตสาหกรรมเกมระดับโลก โดยเฉพาะ PIF ที่ลงทุนใน Nintendo, Take-Two, Capcom และจัดการแข่งขัน eSports World Cup ปี 2025 เพื่อผลักดันวิสัยทัศน์ Saudi Vision 2030 ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ EA ถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มทุน PIF, Silver Lake และ Affinity Partners ด้วยมูลค่า 55 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินสด 210 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปิดก่อนดีลถึง 25% ➡️ ดีลนี้เป็นการซื้อกิจการแบบเงินสดที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัทมหาชน ➡️ EA จะกลายเป็นบริษัทเอกชน และหุ้นจะถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์ ➡️ Andrew Wilson จะยังคงดำรงตำแหน่ง CEO และสำนักงานใหญ่ยังอยู่ที่ California ➡️ PIF เคยถือหุ้น EA อยู่แล้ว 9.9% และจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นหลัก ➡️ ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2027 (ประมาณเมษายน 2026) ➡️ EA ยืนยันว่าจะใช้โอกาสนี้ในการเร่งนวัตกรรมและสร้างประสบการณ์ใหม่ในวงการเกม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ PIF เป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย มีสินทรัพย์รวมกว่า 925 พันล้านดอลลาร์ ➡️ Affinity Partners ก่อตั้งโดย Jared Kushner และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทุนซาอุฯ ➡️ Silver Lake เป็นบริษัทลงทุนที่มีพอร์ตโฟลิโอใน Dell, Learfield และ Noom ➡️ EA เป็นเจ้าของแฟรนไชส์เกมระดับโลก เช่น Battlefield, The Sims, Mass Effect และ FC ➡️ การซื้อกิจการครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการเปิดตัว Battlefield 6 ซึ่งมีกระแสตอบรับดีจากช่วงเบต้า https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/ea-acquired-by-saudi-arabian-investment-fund-and-others-for-usd55-billion-largest-ever-buyout-of-a-public-company
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    EA acquired by Saudi Arabian investment fund and others for $55 billion — largest ever buyout of a public company
    “Our creative and passionate teams at EA have delivered extraordinary experiences for hundreds of millions of fans, built some of the world’s most iconic IP, and created significant value for our business. This moment is a powerful recognition of their remarkable work."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Verizon เตรียมซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar — เสริมแกร่งเครือข่าย 5G พร้อมเปิดศึกกับ AT&T และ SpaceX”

    Verizon Communications บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังเจรจากับ EchoStar เพื่อซื้อคลื่นความถี่ไร้สายบางส่วน โดยเฉพาะใบอนุญาต AWS-3 ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการรองรับสัญญาณ 5G ที่มีความเร็วสูงและครอบคลุมพื้นที่กว้าง

    หากดีลนี้สำเร็จ Verizon จะกลายเป็นผู้ซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar ร่วมกับ AT&T และ SpaceX ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เข้าซื้อใบอนุญาตบางส่วนไปแล้ว โดย EchoStar คาดว่าจะมีเงินสดในมือถึง 24.1 พันล้านดอลลาร์หลังจากขายคลื่นความถี่และนำเงินไปชำระหนี้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้านดาวเทียมและเทคโนโลยีไร้สาย

    การขายคลื่นความถี่ของ EchoStar เกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการ FCC ของสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานคลื่นที่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะในส่วนของบริการดาวเทียมเคลื่อนที่ (Mobile-Satellite Service) ที่ยังไม่เป็นไปตามข้อกำหนดด้านการพัฒนาเครือข่าย

    ใบอนุญาต AWS-3 ที่ Verizon กำลังเจรจาซื้อมีมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 9.8 พันล้านดอลลาร์ และบางส่วนของคลื่นนี้จะถูกนำออกประมูลโดยรัฐบาลกลางในปีหน้า ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายอื่นเข้ามาแข่งขันเพิ่มเติม

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Verizon กำลังเจรจากับ EchoStar เพื่อซื้อใบอนุญาตคลื่นความถี่ AWS-3
    คลื่น AWS-3 มีความสำคัญในการรองรับสัญญาณ 5G ที่มีความเร็วสูง
    หากดีลสำเร็จ Verizon จะเข้าร่วมกับ AT&T และ SpaceX ในการซื้อคลื่นจาก EchoStar
    EchoStar คาดว่าจะถือเงินสด 24.1 พันล้านดอลลาร์หลังขายคลื่นและชำระหนี้
    FCC แสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานคลื่นของ EchoStar ที่ยังไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
    ใบอนุญาต AWS-3 มีมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 9.8 พันล้านดอลลาร์
    ส่วนหนึ่งของคลื่นจะถูกนำออกประมูลโดยรัฐบาลกลางในปี 2026
    การขายคลื่นช่วยเสริมงบดุลของ EchoStar และสนับสนุนการเติบโตในธุรกิจดาวเทียมและเทคโนโลยีไร้สาย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    คลื่น AWS-3 อยู่ในย่านความถี่ 1695–1710 MHz, 1755–1780 MHz และ 2155–2180 MHz ซึ่งเหมาะกับการใช้งาน 5G
    การถือครองคลื่นความถี่มากขึ้นช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถลดความแออัดของเครือข่าย
    SpaceX สนใจคลื่นความถี่เพื่อเสริมบริการ Starlink ที่ใช้ดาวเทียมในการให้บริการอินเทอร์เน็ต
    การประมูลคลื่นในสหรัฐฯ มักมีการแข่งขันสูง และเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาล
    การใช้คลื่นความถี่อย่างมีประสิทธิภาพเป็นหัวใจของการขยายบริการ 5G ไปยังพื้นที่ห่างไกล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/30/verizon-in-talks-to-buy-echostar-wireless-spectrum-bloomberg-news-reports
    📡 “Verizon เตรียมซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar — เสริมแกร่งเครือข่าย 5G พร้อมเปิดศึกกับ AT&T และ SpaceX” Verizon Communications บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังเจรจากับ EchoStar เพื่อซื้อคลื่นความถี่ไร้สายบางส่วน โดยเฉพาะใบอนุญาต AWS-3 ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการรองรับสัญญาณ 5G ที่มีความเร็วสูงและครอบคลุมพื้นที่กว้าง หากดีลนี้สำเร็จ Verizon จะกลายเป็นผู้ซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar ร่วมกับ AT&T และ SpaceX ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เข้าซื้อใบอนุญาตบางส่วนไปแล้ว โดย EchoStar คาดว่าจะมีเงินสดในมือถึง 24.1 พันล้านดอลลาร์หลังจากขายคลื่นความถี่และนำเงินไปชำระหนี้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้านดาวเทียมและเทคโนโลยีไร้สาย การขายคลื่นความถี่ของ EchoStar เกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการ FCC ของสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานคลื่นที่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะในส่วนของบริการดาวเทียมเคลื่อนที่ (Mobile-Satellite Service) ที่ยังไม่เป็นไปตามข้อกำหนดด้านการพัฒนาเครือข่าย ใบอนุญาต AWS-3 ที่ Verizon กำลังเจรจาซื้อมีมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 9.8 พันล้านดอลลาร์ และบางส่วนของคลื่นนี้จะถูกนำออกประมูลโดยรัฐบาลกลางในปีหน้า ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายอื่นเข้ามาแข่งขันเพิ่มเติม ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Verizon กำลังเจรจากับ EchoStar เพื่อซื้อใบอนุญาตคลื่นความถี่ AWS-3 ➡️ คลื่น AWS-3 มีความสำคัญในการรองรับสัญญาณ 5G ที่มีความเร็วสูง ➡️ หากดีลสำเร็จ Verizon จะเข้าร่วมกับ AT&T และ SpaceX ในการซื้อคลื่นจาก EchoStar ➡️ EchoStar คาดว่าจะถือเงินสด 24.1 พันล้านดอลลาร์หลังขายคลื่นและชำระหนี้ ➡️ FCC แสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานคลื่นของ EchoStar ที่ยังไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ➡️ ใบอนุญาต AWS-3 มีมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 9.8 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ส่วนหนึ่งของคลื่นจะถูกนำออกประมูลโดยรัฐบาลกลางในปี 2026 ➡️ การขายคลื่นช่วยเสริมงบดุลของ EchoStar และสนับสนุนการเติบโตในธุรกิจดาวเทียมและเทคโนโลยีไร้สาย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ คลื่น AWS-3 อยู่ในย่านความถี่ 1695–1710 MHz, 1755–1780 MHz และ 2155–2180 MHz ซึ่งเหมาะกับการใช้งาน 5G ➡️ การถือครองคลื่นความถี่มากขึ้นช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถลดความแออัดของเครือข่าย ➡️ SpaceX สนใจคลื่นความถี่เพื่อเสริมบริการ Starlink ที่ใช้ดาวเทียมในการให้บริการอินเทอร์เน็ต ➡️ การประมูลคลื่นในสหรัฐฯ มักมีการแข่งขันสูง และเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาล ➡️ การใช้คลื่นความถี่อย่างมีประสิทธิภาพเป็นหัวใจของการขยายบริการ 5G ไปยังพื้นที่ห่างไกล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/30/verizon-in-talks-to-buy-echostar-wireless-spectrum-bloomberg-news-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Verizon in talks to buy EchoStar wireless spectrum, Bloomberg News reports
    (Reuters) -U.S. telecom company Verizon Communications is in discussions with EchoStar about purchasing some of its wireless spectrum, Bloomberg News reported on Monday, citing people familiar with the matter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI ล่ามนุษย์: ธนาคาร Santander ใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยตำรวจอังกฤษทลายขบวนการค้ามนุษย์”

    ในโลกที่อาชญากรรมซับซ้อนขึ้นทุกวัน ธนาคารก็ไม่ใช่แค่สถานที่ฝากเงินอีกต่อไป ล่าสุด Santander UK ได้เปิดเผยว่าได้ใช้เครื่องมือ AI ที่พัฒนาโดยบริษัท ThetaRay เพื่อช่วยตรวจจับธุรกรรมต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้คนในสหราชอาณาจักร

    ระบบนี้ถูกใช้งานมาแล้วประมาณหนึ่งปี และสามารถสร้าง “การแจ้งเตือน” หลายร้อยรายการให้กับหน่วยงาน National Crime Agency (NCA) ของอังกฤษ ซึ่งนำไปสู่การทลายขบวนการค้ามนุษย์หลายกลุ่มได้สำเร็จ โดย AI จะวิเคราะห์รูปแบบธุรกรรม เช่น การถอนเงินสดจำนวนเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ, การจ่ายเงินให้กับเว็บไซต์บริการผู้ใหญ่, การจองเที่ยวบินและที่พักระหว่างประเทศ ซึ่งอาจดูไม่ผิดปกติเมื่อแยกกัน แต่เมื่อรวมกันแล้วกลับเป็นสัญญาณของการแสวงหาผลประโยชน์

    Jas Narang หัวหน้าฝ่าย AI และการเปลี่ยนแปลงของ Santander UK กล่าวว่า ระบบนี้ช่วยให้ธนาคารสามารถตรวจจับรูปแบบที่ซับซ้อนซึ่งระบบแบบเดิมไม่สามารถทำได้ และทุกการแจ้งเตือนจะถูกตรวจสอบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 1,000 คนก่อนส่งต่อให้ตำรวจ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการแจ้งเตือนผิดพลาด

    แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากกลุ่มรณรงค์ด้านความเป็นส่วนตัว แต่ Santander ยืนยันว่าเครื่องมือนี้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างแท้จริง และกำลังพิจารณาขยายการใช้งานไปยังประเทศอื่น ๆ รวมถึงใช้ตรวจจับอาชญากรรมรูปแบบอื่น เช่น การฟอกเงินหรือการแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงาน

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Santander UK ใช้ AI จาก ThetaRay เพื่อช่วยตรวจจับการค้ามนุษย์ผ่านธุรกรรมทางการเงิน
    ระบบสามารถสร้างการแจ้งเตือนหลายร้อยรายการให้กับ NCA ภายใน 1 ปี
    AI วิเคราะห์รูปแบบธุรกรรม เช่น การถอนเงินซ้ำ ๆ, การจ่ายเงินให้เว็บไซต์บริการผู้ใหญ่, การจองเที่ยวบินและที่พัก
    ทุกการแจ้งเตือนจะถูกตรวจสอบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 1,000 คนก่อนส่งต่อให้ตำรวจ
    ระบบนี้ช่วยให้ Santander ก้าวข้ามข้อจำกัดของระบบตรวจจับแบบเดิมที่ใช้กฎตายตัว
    การใช้งาน AI นี้ถือเป็นครั้งแรกของ Santander ในการยกระดับการควบคุมอาชญากรรมทางการเงิน
    ธนาคารกำลังพิจารณาขยายการใช้งานไปยังประเทศอื่นและอาชญากรรมรูปแบบอื่น
    การดำเนินการนี้ช่วยให้ NCA ทลายขบวนการค้ามนุษย์หลายกลุ่มในอังกฤษ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    องค์กรแรงงานระหว่างประเทศระบุว่ามีผู้คนกว่า 28 ล้านคนทั่วโลกติดอยู่ในแรงงานบังคับหรือการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ
    การค้ามนุษย์มักใช้ช่องทางการเงินในการเคลื่อนย้ายเงินจากอาชญากรรม เช่น การจ่ายค่าเดินทางหรือที่พัก
    ThetaRay เป็นบริษัทด้าน fintech และ big data ที่เชี่ยวชาญด้านการตรวจจับธุรกรรมผิดปกติ
    การใช้ AI ในการตรวจจับอาชญากรรมทางการเงินเริ่มเป็นมาตรฐานใหม่ในธนาคารระดับโลก
    การตรวจจับแบบ real-time ช่วยให้ตำรวจสามารถดำเนินการได้ทันก่อนที่ขบวนการจะเปลี่ยนรูปแบบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/29/santander-uses-ai-tool-to-help-bust-human-trafficking-gangs-in-uk
    🕵️‍♀️ “AI ล่ามนุษย์: ธนาคาร Santander ใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยตำรวจอังกฤษทลายขบวนการค้ามนุษย์” ในโลกที่อาชญากรรมซับซ้อนขึ้นทุกวัน ธนาคารก็ไม่ใช่แค่สถานที่ฝากเงินอีกต่อไป ล่าสุด Santander UK ได้เปิดเผยว่าได้ใช้เครื่องมือ AI ที่พัฒนาโดยบริษัท ThetaRay เพื่อช่วยตรวจจับธุรกรรมต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้คนในสหราชอาณาจักร ระบบนี้ถูกใช้งานมาแล้วประมาณหนึ่งปี และสามารถสร้าง “การแจ้งเตือน” หลายร้อยรายการให้กับหน่วยงาน National Crime Agency (NCA) ของอังกฤษ ซึ่งนำไปสู่การทลายขบวนการค้ามนุษย์หลายกลุ่มได้สำเร็จ โดย AI จะวิเคราะห์รูปแบบธุรกรรม เช่น การถอนเงินสดจำนวนเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ, การจ่ายเงินให้กับเว็บไซต์บริการผู้ใหญ่, การจองเที่ยวบินและที่พักระหว่างประเทศ ซึ่งอาจดูไม่ผิดปกติเมื่อแยกกัน แต่เมื่อรวมกันแล้วกลับเป็นสัญญาณของการแสวงหาผลประโยชน์ Jas Narang หัวหน้าฝ่าย AI และการเปลี่ยนแปลงของ Santander UK กล่าวว่า ระบบนี้ช่วยให้ธนาคารสามารถตรวจจับรูปแบบที่ซับซ้อนซึ่งระบบแบบเดิมไม่สามารถทำได้ และทุกการแจ้งเตือนจะถูกตรวจสอบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 1,000 คนก่อนส่งต่อให้ตำรวจ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการแจ้งเตือนผิดพลาด แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากกลุ่มรณรงค์ด้านความเป็นส่วนตัว แต่ Santander ยืนยันว่าเครื่องมือนี้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างแท้จริง และกำลังพิจารณาขยายการใช้งานไปยังประเทศอื่น ๆ รวมถึงใช้ตรวจจับอาชญากรรมรูปแบบอื่น เช่น การฟอกเงินหรือการแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงาน ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Santander UK ใช้ AI จาก ThetaRay เพื่อช่วยตรวจจับการค้ามนุษย์ผ่านธุรกรรมทางการเงิน ➡️ ระบบสามารถสร้างการแจ้งเตือนหลายร้อยรายการให้กับ NCA ภายใน 1 ปี ➡️ AI วิเคราะห์รูปแบบธุรกรรม เช่น การถอนเงินซ้ำ ๆ, การจ่ายเงินให้เว็บไซต์บริการผู้ใหญ่, การจองเที่ยวบินและที่พัก ➡️ ทุกการแจ้งเตือนจะถูกตรวจสอบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 1,000 คนก่อนส่งต่อให้ตำรวจ ➡️ ระบบนี้ช่วยให้ Santander ก้าวข้ามข้อจำกัดของระบบตรวจจับแบบเดิมที่ใช้กฎตายตัว ➡️ การใช้งาน AI นี้ถือเป็นครั้งแรกของ Santander ในการยกระดับการควบคุมอาชญากรรมทางการเงิน ➡️ ธนาคารกำลังพิจารณาขยายการใช้งานไปยังประเทศอื่นและอาชญากรรมรูปแบบอื่น ➡️ การดำเนินการนี้ช่วยให้ NCA ทลายขบวนการค้ามนุษย์หลายกลุ่มในอังกฤษ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ องค์กรแรงงานระหว่างประเทศระบุว่ามีผู้คนกว่า 28 ล้านคนทั่วโลกติดอยู่ในแรงงานบังคับหรือการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ ➡️ การค้ามนุษย์มักใช้ช่องทางการเงินในการเคลื่อนย้ายเงินจากอาชญากรรม เช่น การจ่ายค่าเดินทางหรือที่พัก ➡️ ThetaRay เป็นบริษัทด้าน fintech และ big data ที่เชี่ยวชาญด้านการตรวจจับธุรกรรมผิดปกติ ➡️ การใช้ AI ในการตรวจจับอาชญากรรมทางการเงินเริ่มเป็นมาตรฐานใหม่ในธนาคารระดับโลก ➡️ การตรวจจับแบบ real-time ช่วยให้ตำรวจสามารถดำเนินการได้ทันก่อนที่ขบวนการจะเปลี่ยนรูปแบบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/29/santander-uses-ai-tool-to-help-bust-human-trafficking-gangs-in-uk
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Santander uses AI tool to help bust human trafficking gangs in UK
    High street lender Santander UK has revealed an artificial intelligence (AI) tool used by the bank is helping combat human trafficking after generating hundreds of leads for police to crack gangs operating in Britain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • สินเชื่อแบบอิงหลักประกัน กับ สินเชื่ออิงกระแสเงินสด
    สินเชื่อแบบอิงหลักประกัน กับ สินเชื่ออิงกระแสเงินสด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สรุปหุ้น ประจำสัปดาห์
    Low PBV ลองหาดู หุ้นที่มีค่า PBV ต่ำมากๆ ในตลาด

    Low PE หาหุ้นที่มีค่า PE ไม่สูงมาก, จะเป็นกลุ่มที่ค่าต่ำสุดๆ
    หรือ กลุ่มตัวที่ เริ่มสูงขึ้น 10กว่าX ขึ้นไปใกล้ 20 แต่ยังไม่เกินกว่านั้น แล้วคาดหวังว่า จะมีบางตัวจะเล่นขึ้นไปโซนสูงอีกระดับที่ 20x, 30x, 40x หรือ สูงกวา

    Cash company กลุ่มหุ้นที่งบการเงินมี เงินสดหรือเทียบเท่าอยู่สูง ยิ่งมากกว่า หนี้สินทั้งหมด ก็พอจะวางใจได้บ้างว่า ไม่มีปัญหาด้านภาระการเงิน

    Dividend yield หุ้นไทยหลายตัว มีที่มีอัตราเงินปันผลสูงอยู่ ในภาพคือ มากกว่า 8% ต่อปี(ข้อมูลในอดีต) ในขณะที่เทียบกับหุ้นหลักๆในต่างประเทศ หาตัวที่จ่ายปันผลสูงๆไม่ค่อยมี
    สรุปหุ้น ประจำสัปดาห์ Low PBV ลองหาดู หุ้นที่มีค่า PBV ต่ำมากๆ ในตลาด Low PE หาหุ้นที่มีค่า PE ไม่สูงมาก, จะเป็นกลุ่มที่ค่าต่ำสุดๆ หรือ กลุ่มตัวที่ เริ่มสูงขึ้น 10กว่าX ขึ้นไปใกล้ 20 แต่ยังไม่เกินกว่านั้น แล้วคาดหวังว่า จะมีบางตัวจะเล่นขึ้นไปโซนสูงอีกระดับที่ 20x, 30x, 40x หรือ สูงกวา Cash company กลุ่มหุ้นที่งบการเงินมี เงินสดหรือเทียบเท่าอยู่สูง ยิ่งมากกว่า หนี้สินทั้งหมด ก็พอจะวางใจได้บ้างว่า ไม่มีปัญหาด้านภาระการเงิน Dividend yield หุ้นไทยหลายตัว มีที่มีอัตราเงินปันผลสูงอยู่ ในภาพคือ มากกว่า 8% ต่อปี(ข้อมูลในอดีต) ในขณะที่เทียบกับหุ้นหลักๆในต่างประเทศ หาตัวที่จ่ายปันผลสูงๆไม่ค่อยมี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนค้าขายฉิบหาย เพราะระบบ CFR ของ ITMX

    มาตรการอายัดบัญชีของธนาคารพาณิชย์ ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ กำลังทำให้บรรดาผู้ประกอบอาชีพค้าขายจำนวนมากเดือดร้อน เพราะจู่ๆ ถูกอายัดบัญชี ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ ธนาคารอ้างว่าบัญชีและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ถูกระงับการทำธุรกรรมตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (CFR) ทำให้มีผู้ค้าส่วนหนึ่งงดรับเงินโอนหรือสแกน QR Code รับเฉพาะเงินสดไปก่อน ขณะเดียวกัน ลูกค้าธนาคารส่วนหนึ่งต่างถอนเงินออกจากบัญชี เพราะไม่ไว้วางใจระบบธนาคาร

    สาเหตุหลักเป็นเพราะกลุ่มมิจฉาชีพเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงประชาชน จากเดิมล่อลวงให้โอนเงินเข้าบัญชีม้า เป็นการโอนเงินไปยังบัญชีร้านค้าเพื่อแลกสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นลักษณะของการฟอกเงินวิธีหนึ่ง หรือการหลอกให้โอนเงินครั้งแรกจำนวนน้อย เพื่อให้เหยื่อเชื่อใจว่ามีตัวตนจริง ก่อนให้โอนไปยังบัญชีม้า ซึ่งการอายัดบัญชีจะมีอยู่ 2 ลักษณะ ได้แก่ 1. ผู้เสียหายโทร.แจ้งสายด่วน 1441 หรือแจ้งความกับตำรวจ แล้วทำเรื่องแจ้งธนาคารอายัด ซึ่งจะมีเลขอ้างอิง 2. ธนาคารอายัดเองเมื่อสังเกตการทำธุรกรรมแล้วเชื่อว่าผิดปกติ กรณีนี้จะไม่มีเลขอ้างอิง โดยพิจารณาให้เป็นบัญชีม้าแต่ละสีตามความรุนแรงของพฤติกรรม

    เบื้องหลังที่ทำให้บรรดาผู้ค้าต่างพากันวุ่นวาย คือ ระบบ Central Fraud Registry (CFR) เป็นศูนย์กลางรวมรวมข้อมูลรายการธุรกรรมต้องสงสัย และนำข้อมูลไปใช้ในการสอบสวนขยายผลเพื่ออายัดเงินจากบัญชีม้าต่างๆ และเพื่อประโยชน์ในการติดตามเงินคืนแก่ผู้เสียหายเมื่อมีการร้องขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในกระบวนการยุติธรรม โดยให้ธนาคารส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัยนั้นเอง หากเส้นทางการเงินโยงไปยังบัญชีใดก็จะอายัดบัญชี และรายงานไปยังธนาคารสมาชิก เพื่ออายัดบัญชีภายใต้เลขประจำตัวประชาชนเดียวกัน ผลก็คือแม้ธนาคารต้นทางจะปลดอายัดแล้ว แต่ผู้ค้าที่มีบัญชีหลายธนาคาร ต้องไปไล่เบี้ยกับธนาคารอื่นๆ ที่ยังคงอายัดบัญชี

    นอกจากนี้ กรณีตำรวจไซเบอร์ใช้สายด่วน 1441 รับเรื่อง แล้วโยนไปให้ร้อยเวรตามโรงพักต่างๆ ต้องรับภาระทำคดี โดยที่ตำรวจไซเบอร์และธนาคารพาณิชย์ต่างโยนภาระพิสูจน์ความจริงกันไปมา แสดงให้เห็นว่า แม้กระบวนการล็อกบัญชีจะง่ายดายโดยอ้างว่าเพื่อยับยั้งความเสียหาย แต่การปลดล็อกบัญชีหากพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่บัญชีม้ายุ่งยากกว่า จึงเป็นมาตรการที่วุ่นวาย ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในระบบธนาคาร ทำลายเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    #Newskit
    คนค้าขายฉิบหาย เพราะระบบ CFR ของ ITMX มาตรการอายัดบัญชีของธนาคารพาณิชย์ ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ กำลังทำให้บรรดาผู้ประกอบอาชีพค้าขายจำนวนมากเดือดร้อน เพราะจู่ๆ ถูกอายัดบัญชี ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ ธนาคารอ้างว่าบัญชีและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ถูกระงับการทำธุรกรรมตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (CFR) ทำให้มีผู้ค้าส่วนหนึ่งงดรับเงินโอนหรือสแกน QR Code รับเฉพาะเงินสดไปก่อน ขณะเดียวกัน ลูกค้าธนาคารส่วนหนึ่งต่างถอนเงินออกจากบัญชี เพราะไม่ไว้วางใจระบบธนาคาร สาเหตุหลักเป็นเพราะกลุ่มมิจฉาชีพเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงประชาชน จากเดิมล่อลวงให้โอนเงินเข้าบัญชีม้า เป็นการโอนเงินไปยังบัญชีร้านค้าเพื่อแลกสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นลักษณะของการฟอกเงินวิธีหนึ่ง หรือการหลอกให้โอนเงินครั้งแรกจำนวนน้อย เพื่อให้เหยื่อเชื่อใจว่ามีตัวตนจริง ก่อนให้โอนไปยังบัญชีม้า ซึ่งการอายัดบัญชีจะมีอยู่ 2 ลักษณะ ได้แก่ 1. ผู้เสียหายโทร.แจ้งสายด่วน 1441 หรือแจ้งความกับตำรวจ แล้วทำเรื่องแจ้งธนาคารอายัด ซึ่งจะมีเลขอ้างอิง 2. ธนาคารอายัดเองเมื่อสังเกตการทำธุรกรรมแล้วเชื่อว่าผิดปกติ กรณีนี้จะไม่มีเลขอ้างอิง โดยพิจารณาให้เป็นบัญชีม้าแต่ละสีตามความรุนแรงของพฤติกรรม เบื้องหลังที่ทำให้บรรดาผู้ค้าต่างพากันวุ่นวาย คือ ระบบ Central Fraud Registry (CFR) เป็นศูนย์กลางรวมรวมข้อมูลรายการธุรกรรมต้องสงสัย และนำข้อมูลไปใช้ในการสอบสวนขยายผลเพื่ออายัดเงินจากบัญชีม้าต่างๆ และเพื่อประโยชน์ในการติดตามเงินคืนแก่ผู้เสียหายเมื่อมีการร้องขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในกระบวนการยุติธรรม โดยให้ธนาคารส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัยนั้นเอง หากเส้นทางการเงินโยงไปยังบัญชีใดก็จะอายัดบัญชี และรายงานไปยังธนาคารสมาชิก เพื่ออายัดบัญชีภายใต้เลขประจำตัวประชาชนเดียวกัน ผลก็คือแม้ธนาคารต้นทางจะปลดอายัดแล้ว แต่ผู้ค้าที่มีบัญชีหลายธนาคาร ต้องไปไล่เบี้ยกับธนาคารอื่นๆ ที่ยังคงอายัดบัญชี นอกจากนี้ กรณีตำรวจไซเบอร์ใช้สายด่วน 1441 รับเรื่อง แล้วโยนไปให้ร้อยเวรตามโรงพักต่างๆ ต้องรับภาระทำคดี โดยที่ตำรวจไซเบอร์และธนาคารพาณิชย์ต่างโยนภาระพิสูจน์ความจริงกันไปมา แสดงให้เห็นว่า แม้กระบวนการล็อกบัญชีจะง่ายดายโดยอ้างว่าเพื่อยับยั้งความเสียหาย แต่การปลดล็อกบัญชีหากพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่บัญชีม้ายุ่งยากกว่า จึงเป็นมาตรการที่วุ่นวาย ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในระบบธนาคาร ทำลายเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 498 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,มโนเล่น ไม่ใช่อะไรหรอก แบงค์เอกชนมันหามุกไม่ให้ประชาชนถอนตัง,เพราะตังในแบงค์มันมีไม่พอถอน,สาเหตุโอนตังให้deep state พ่อแม่มันไปต่างประเทศหมด,เงินสดบาทไทยจึงไม่มีเหลือน้อย,ขาดสภาพคล่อง รอเติม ระหว่างรอหาเรื่องสตอรี่อายัดตังประชาชนเลย555.,บาทไทยทั้งอาเชียนใช้กันตรึม ภายในประเทศจึงมีเหลือน้อย.ต้องรีบพิมพ์เพิ่มแต่ต้องรอเวลาสักหน่อย.,แบบอ้างขนทองคำออกนอกประเทศจริงๆก็อยู่ในประเทศไทยนี้ล่ะ ปั่นใบทองคำ โอนไปโอนมาแบบใบซื้อขายน้ำมันอ้างนำเข้านั่นล่ะ,ตัวน้ำมันจริงๆลอยลำแหลมฉบังนี้ล่ะ,แค่เอกสารมันปั่นไปมาแค่นั้น,แล้วตังเงินบาทก็ออกนอกประเทศสำเร็จนั่นเอง.
    ..บัญชีม้าก็อายัดแค่ตัวบัญชีม้าก็ได้ ของใครมันต้นทางก็พอ,ปลายทางแม้เกี่ยวก็น้อยราย,ต่างจากตังควอนตัม สามารถล็อกแบบบล็อคเช็นเบอร์เลขอ้างอิงสัญลักษณ์ตังดิจิดัลเฉพาะรายการที่ผิดปกติได้,ซึ่งแบงค์ชาติอายัดรายการนั้นๆลำบากแน่นอน แต่ก็สามารถทำได้ เช่นบัญชีม้าปั่นฟอกตังได้ตังกว่าล้านบาท แสนแรกไปซื้อรถมอไซค์โอนตังไป,แบงค์พานิชย์หรือแบงค์ชาติอายัดทั้งบัญชีม้าต้นทางก่อนแล้วตามอายัดเฉพาะตัง1แสนบาทนั้นทีหลังได้,เฉพาะรายการ1แสนบาทนั้นได้แค่นั้น ,แล้วตรวจสอบว่าสมควรเป็นธุรกรรมยกผลประโยชน์ให้ผู้ขายด้วยชอบธรรมมั้ยหรือไม่ ก็ดุลยพินิจแล้วประกอบพิจารณามิจฉาชีพร่วมกันด้วยมั้ยประกอบ ,พิจารณาแล้วมิใช่มิจฉาชีพร่วมขบวนการด้วยก็สามารถผ่อนคลายให้เป็นตังของคนค้าขายอย่างสุจริตทางอาชีะได้ก็อายัดแค่9แสนของบัญชีม้าเข้าส่วนกลางของรัฐต่อไปได้,คลายอายัดรายการนั้นๆ,มิใช่อายัดทั้งบัญชีตังของบุคคลนั้นๆเช่นค้าขายผักผลไม้เขียงหมูปลามีตังในบัญชีปกติที่5ล้านหมุนเวียนในธุรกิจเขาเสือกอายัดทั้งบัญชีก็ใช้ไม่ได้,อายัดแค่ตัง1แสนบาทนั้นก็พอ,5ล้านก็ใช้ได้ปกติ,แต่สามารถสืบสวนเชื่อมโยงที่ผิดปกติภายหลังได้ หากตรวจสอบแล้วมาแก๊งเดียวกันก็ค่อยอายัดทั้งหมดภายหลังและอายัดตังที่โอนต่อๆไปได้อีกด้วย ถึงใครก้อน1แสน2แสนโอนไปก็สิ้นสุดที่คนสุดท้ายนั้น,,เป้าหมายบัญชีม้าก็ปิดบัญชีเสร็จ.
    ..ระบบเราอาจตามรายการปลีกย่อยลักษณะนี้ลำบากไม่ได้ เพราะบิ๊กดาต้าเครือข่ายแบงค์ต้องมากต่อการประมวลผลเชื่อมบล็อคเชนแต่ละรายการได้เยี่ยม แอปAIนั้นต้องพร้อมรองรับ,มาตราฐานจึงอัพเลเวลอย่างเดี่ยว,ปัจจุบันแบงค์ชาติใช้ระบบควอนตัมแล้วจึงมีบาทคอยน์ได้,ISO20022หรือเปล่านะ,แบงค์พานิชย์ก็ทดลองระบบแล้วนีั,ปิดทำการๆกันๆที่เราๆได้ยินข่าวว่าปรับปรุงระบบนั้นล่ะ,สู่ควอนตัมiso20022ทางการเงินก็ว่า,ฮับการเงินโลกคือไทยนี้ก็ว่าอีก,แต่ละชาติย้ายฐานบิ๊กดาต้ามาไทยแล้ว,ศูนย์กลางการเงินโลกคือไทย มิใช่หยวนจีนแต่คือไทยเชื่อเถอะ,อเมริกาไม่ยอมรับหยวนหรอก บาทไทยอาจยอมรับกว่า,จีนก็ยอมรับบาทไทย ไม่เอาดอลล่าร์อเมริกาอีกต่อไป ส่วนbricsหากมองจริงๆคือกลุ่มฐานภาคีเครือข่ายการตลาดทวีปยุคใหม่ดีกว่า,ที่ไม่เอายุโรปและอเมริกา,เผลอๆbricsประชุมตกลงกันว่าให้บาทไทยเป็นสกุลเงินมาตราฐานโลก,แบบลาว พม่า เขมร เวียดนาม ใช้บาทไทยแทนใช้ตังตนเองแลกเปลี่ยนใช้จ่ายก็ว่า.,อาเชียนใช้บาทไทยยืนหนึ่งนั้นเอง,มีพลังมีอัตลักษณ์ระดับโลกได้,จักรวาลอื่นมาค้าขายแลกเปลี่ยนเวลาพูดถึงเงินบาทก็นึกถึงว่ามาจากโลกในนี้นั้นเอง,ตัวแทนหน้าตาของโลกก็ว่า.,

    https://youtube.com/watch?v=FxsSFyE4MNM&si=10BOAUDh8e8L4GF5
    555,มโนเล่น ไม่ใช่อะไรหรอก แบงค์เอกชนมันหามุกไม่ให้ประชาชนถอนตัง,เพราะตังในแบงค์มันมีไม่พอถอน,สาเหตุโอนตังให้deep state พ่อแม่มันไปต่างประเทศหมด,เงินสดบาทไทยจึงไม่มีเหลือน้อย,ขาดสภาพคล่อง รอเติม ระหว่างรอหาเรื่องสตอรี่อายัดตังประชาชนเลย555.,บาทไทยทั้งอาเชียนใช้กันตรึม ภายในประเทศจึงมีเหลือน้อย.ต้องรีบพิมพ์เพิ่มแต่ต้องรอเวลาสักหน่อย.,แบบอ้างขนทองคำออกนอกประเทศจริงๆก็อยู่ในประเทศไทยนี้ล่ะ ปั่นใบทองคำ โอนไปโอนมาแบบใบซื้อขายน้ำมันอ้างนำเข้านั่นล่ะ,ตัวน้ำมันจริงๆลอยลำแหลมฉบังนี้ล่ะ,แค่เอกสารมันปั่นไปมาแค่นั้น,แล้วตังเงินบาทก็ออกนอกประเทศสำเร็จนั่นเอง. ..บัญชีม้าก็อายัดแค่ตัวบัญชีม้าก็ได้ ของใครมันต้นทางก็พอ,ปลายทางแม้เกี่ยวก็น้อยราย,ต่างจากตังควอนตัม สามารถล็อกแบบบล็อคเช็นเบอร์เลขอ้างอิงสัญลักษณ์ตังดิจิดัลเฉพาะรายการที่ผิดปกติได้,ซึ่งแบงค์ชาติอายัดรายการนั้นๆลำบากแน่นอน แต่ก็สามารถทำได้ เช่นบัญชีม้าปั่นฟอกตังได้ตังกว่าล้านบาท แสนแรกไปซื้อรถมอไซค์โอนตังไป,แบงค์พานิชย์หรือแบงค์ชาติอายัดทั้งบัญชีม้าต้นทางก่อนแล้วตามอายัดเฉพาะตัง1แสนบาทนั้นทีหลังได้,เฉพาะรายการ1แสนบาทนั้นได้แค่นั้น ,แล้วตรวจสอบว่าสมควรเป็นธุรกรรมยกผลประโยชน์ให้ผู้ขายด้วยชอบธรรมมั้ยหรือไม่ ก็ดุลยพินิจแล้วประกอบพิจารณามิจฉาชีพร่วมกันด้วยมั้ยประกอบ ,พิจารณาแล้วมิใช่มิจฉาชีพร่วมขบวนการด้วยก็สามารถผ่อนคลายให้เป็นตังของคนค้าขายอย่างสุจริตทางอาชีะได้ก็อายัดแค่9แสนของบัญชีม้าเข้าส่วนกลางของรัฐต่อไปได้,คลายอายัดรายการนั้นๆ,มิใช่อายัดทั้งบัญชีตังของบุคคลนั้นๆเช่นค้าขายผักผลไม้เขียงหมูปลามีตังในบัญชีปกติที่5ล้านหมุนเวียนในธุรกิจเขาเสือกอายัดทั้งบัญชีก็ใช้ไม่ได้,อายัดแค่ตัง1แสนบาทนั้นก็พอ,5ล้านก็ใช้ได้ปกติ,แต่สามารถสืบสวนเชื่อมโยงที่ผิดปกติภายหลังได้ หากตรวจสอบแล้วมาแก๊งเดียวกันก็ค่อยอายัดทั้งหมดภายหลังและอายัดตังที่โอนต่อๆไปได้อีกด้วย ถึงใครก้อน1แสน2แสนโอนไปก็สิ้นสุดที่คนสุดท้ายนั้น,,เป้าหมายบัญชีม้าก็ปิดบัญชีเสร็จ. ..ระบบเราอาจตามรายการปลีกย่อยลักษณะนี้ลำบากไม่ได้ เพราะบิ๊กดาต้าเครือข่ายแบงค์ต้องมากต่อการประมวลผลเชื่อมบล็อคเชนแต่ละรายการได้เยี่ยม แอปAIนั้นต้องพร้อมรองรับ,มาตราฐานจึงอัพเลเวลอย่างเดี่ยว,ปัจจุบันแบงค์ชาติใช้ระบบควอนตัมแล้วจึงมีบาทคอยน์ได้,ISO20022หรือเปล่านะ,แบงค์พานิชย์ก็ทดลองระบบแล้วนีั,ปิดทำการๆกันๆที่เราๆได้ยินข่าวว่าปรับปรุงระบบนั้นล่ะ,สู่ควอนตัมiso20022ทางการเงินก็ว่า,ฮับการเงินโลกคือไทยนี้ก็ว่าอีก,แต่ละชาติย้ายฐานบิ๊กดาต้ามาไทยแล้ว,ศูนย์กลางการเงินโลกคือไทย มิใช่หยวนจีนแต่คือไทยเชื่อเถอะ,อเมริกาไม่ยอมรับหยวนหรอก บาทไทยอาจยอมรับกว่า,จีนก็ยอมรับบาทไทย ไม่เอาดอลล่าร์อเมริกาอีกต่อไป ส่วนbricsหากมองจริงๆคือกลุ่มฐานภาคีเครือข่ายการตลาดทวีปยุคใหม่ดีกว่า,ที่ไม่เอายุโรปและอเมริกา,เผลอๆbricsประชุมตกลงกันว่าให้บาทไทยเป็นสกุลเงินมาตราฐานโลก,แบบลาว พม่า เขมร เวียดนาม ใช้บาทไทยแทนใช้ตังตนเองแลกเปลี่ยนใช้จ่ายก็ว่า.,อาเชียนใช้บาทไทยยืนหนึ่งนั้นเอง,มีพลังมีอัตลักษณ์ระดับโลกได้,จักรวาลอื่นมาค้าขายแลกเปลี่ยนเวลาพูดถึงเงินบาทก็นึกถึงว่ามาจากโลกในนี้นั้นเอง,ตัวแทนหน้าตาของโลกก็ว่า., https://youtube.com/watch?v=FxsSFyE4MNM&si=10BOAUDh8e8L4GF5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เมื่อเงินขาดมือ คนรุ่นใหม่หันพึ่ง ChatGPT — จากหนี้บัตรเครดิตสู่บ้านหลังแรก ด้วยคำแนะนำจาก AI”

    ในยุคที่ปัญหาการเงินกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องรับมือกับหนี้สิน ค่าครองชีพ และความไม่มั่นคงทางอาชีพ หลายคนเริ่มหันไปพึ่ง ChatGPT และแชตบอต AI อื่น ๆ เพื่อขอคำแนะนำด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดงบประมาณ การลดหนี้ หรือแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น

    Myra Donohue คุณแม่ลูกสองจากแคลิฟอร์เนีย ใช้ ChatGPT เพื่อช่วยจัดการหนี้บัตรเครดิตกว่า $5,000 หลังจากรู้สึกท้อแท้กับการจัดการรายจ่ายด้วยตัวเอง เธอใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based ที่จัดสรรหน้าที่ให้กับทุกดอลลาร์ที่หาได้ และพบว่าคำแนะนำจาก AI แม้จะไม่แปลกใหม่ แต่ก็รวดเร็วและช่วยให้เธอเริ่มต้นได้ทันที

    Jennifer Allan ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากเดลาแวร์ ใช้ ChatGPT เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต $23,000 ผ่าน “ภารกิจ 30 วัน” ที่เธอขอให้แชตบอตเสนอวิธีหาเงินใหม่ทุกวัน ตั้งแต่ขายแตงโมที่สลักยอดหนี้ ไปจนถึงบริจาคพลาสมา เธอสามารถลดหนี้ได้เกือบครึ่ง และยังใช้ TikTok บันทึกการเดินทางของตัวเอง

    Kathryn Aguilo ครูอนุบาลจากนิวยอร์ก ใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนงานแต่งงานและซื้อบ้าน โดยแชตบอตแนะนำให้ลดค่าใช้จ่าย เช่น หยุดเปิดบาร์แท็บ ใช้เงินสดแทนบัตร และทำของตกแต่งเอง หลังแต่งงาน เธอใช้ AI สร้างระบบติดตามรายจ่ายและแผนชำระเงินกู้บ้าน

    Alexander Stuart นักบัญชีจากลอสแอนเจลิส ใช้ ChatGPT เป็น “มหาวิทยาลัยฟรี” เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้น โดยเริ่มจากเงิน $400 และสามารถเพิ่มเป็น $1,600 ผ่านการซื้อขายรายวัน แม้จะขาดทุนบางครั้ง แต่เขายังใช้ AI เพื่อเรียนรู้และเปรียบเทียบคำแนะนำจากแชตบอตอื่น ๆ เช่น Grok

    แม้หลายคนจะพบความสำเร็จจากการใช้ AI แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า คำแนะนำจากแชตบอตอาจไม่แม่นยำเสมอไป และควรตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชีหรือหมายเลขประกันสังคม ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย

    ตัวอย่างการใช้ ChatGPT เพื่อแก้ปัญหาการเงิน
    Myra Donohue ใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต
    Jennifer Allan ใช้ภารกิจ 30 วันจาก ChatGPT เพื่อลดหนี้ $23,000 ได้เกือบครึ่ง
    Kathryn Aguilo วางแผนงานแต่งและซื้อบ้านด้วยคำแนะนำจาก AI
    Alexander Stuart ใช้ ChatGPT เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้นและเพิ่มเงินจาก $400 เป็น $1,600

    ข้อมูลจากการสำรวจและแนวโน้ม
    2 ใน 3 ของผู้ใช้ AI เคยขอคำแนะนำด้านการเงินจากแชตบอต
    80% ของผู้ที่ทำตามคำแนะนำกล่าวว่าการเงินดีขึ้น
    คนรุ่นใหม่ เช่น Gen Z และ Millennials ใช้ AI ด้านการเงินมากที่สุด
    ChatGPT ถูกใช้เป็นผู้ช่วยด้านงบประมาณ การลงทุน และการวางแผนชีวิต

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    มี prompt เฉพาะสำหรับการเงิน เช่น “ช่วยสร้างงบประมาณตามกฎ 50/30/20” หรือ “วางแผนเกษียณใน 20 ปี”2
    AI ช่วยให้คนที่ไม่กล้าพูดเรื่องเงินกับคนจริงเปิดใจได้ง่ายขึ้น
    การใช้ AI เพื่อวางแผนการเงินช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ
    แชตบอตสามารถวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและเสนอแผนที่ปรับตามสถานการณ์

    คำเตือนและข้อจำกัด
    คำแนะนำจาก AI อาจไม่แม่นยำหรือทันสมัย — เช่น ข้อมูลหุ้นที่ล้าสมัย
    การอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชี อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย
    แชตบอตไม่สามารถตรวจสอบบริบทหรือความซับซ้อนของสถานการณ์ได้ดีเท่ามนุษย์
    ผู้ใช้บางรายได้รับคำแนะนำแปลก ๆ เช่น ขายภาพเท้า — ต้องใช้วิจารณญาณ
    การพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/16/they-had-money-problems-they-turned-to-chatgpt-for-solutions
    💬 “เมื่อเงินขาดมือ คนรุ่นใหม่หันพึ่ง ChatGPT — จากหนี้บัตรเครดิตสู่บ้านหลังแรก ด้วยคำแนะนำจาก AI” ในยุคที่ปัญหาการเงินกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องรับมือกับหนี้สิน ค่าครองชีพ และความไม่มั่นคงทางอาชีพ หลายคนเริ่มหันไปพึ่ง ChatGPT และแชตบอต AI อื่น ๆ เพื่อขอคำแนะนำด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดงบประมาณ การลดหนี้ หรือแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น Myra Donohue คุณแม่ลูกสองจากแคลิฟอร์เนีย ใช้ ChatGPT เพื่อช่วยจัดการหนี้บัตรเครดิตกว่า $5,000 หลังจากรู้สึกท้อแท้กับการจัดการรายจ่ายด้วยตัวเอง เธอใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based ที่จัดสรรหน้าที่ให้กับทุกดอลลาร์ที่หาได้ และพบว่าคำแนะนำจาก AI แม้จะไม่แปลกใหม่ แต่ก็รวดเร็วและช่วยให้เธอเริ่มต้นได้ทันที Jennifer Allan ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากเดลาแวร์ ใช้ ChatGPT เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต $23,000 ผ่าน “ภารกิจ 30 วัน” ที่เธอขอให้แชตบอตเสนอวิธีหาเงินใหม่ทุกวัน ตั้งแต่ขายแตงโมที่สลักยอดหนี้ ไปจนถึงบริจาคพลาสมา เธอสามารถลดหนี้ได้เกือบครึ่ง และยังใช้ TikTok บันทึกการเดินทางของตัวเอง Kathryn Aguilo ครูอนุบาลจากนิวยอร์ก ใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนงานแต่งงานและซื้อบ้าน โดยแชตบอตแนะนำให้ลดค่าใช้จ่าย เช่น หยุดเปิดบาร์แท็บ ใช้เงินสดแทนบัตร และทำของตกแต่งเอง หลังแต่งงาน เธอใช้ AI สร้างระบบติดตามรายจ่ายและแผนชำระเงินกู้บ้าน Alexander Stuart นักบัญชีจากลอสแอนเจลิส ใช้ ChatGPT เป็น “มหาวิทยาลัยฟรี” เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้น โดยเริ่มจากเงิน $400 และสามารถเพิ่มเป็น $1,600 ผ่านการซื้อขายรายวัน แม้จะขาดทุนบางครั้ง แต่เขายังใช้ AI เพื่อเรียนรู้และเปรียบเทียบคำแนะนำจากแชตบอตอื่น ๆ เช่น Grok แม้หลายคนจะพบความสำเร็จจากการใช้ AI แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า คำแนะนำจากแชตบอตอาจไม่แม่นยำเสมอไป และควรตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชีหรือหมายเลขประกันสังคม ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ✅ ตัวอย่างการใช้ ChatGPT เพื่อแก้ปัญหาการเงิน ➡️ Myra Donohue ใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต ➡️ Jennifer Allan ใช้ภารกิจ 30 วันจาก ChatGPT เพื่อลดหนี้ $23,000 ได้เกือบครึ่ง ➡️ Kathryn Aguilo วางแผนงานแต่งและซื้อบ้านด้วยคำแนะนำจาก AI ➡️ Alexander Stuart ใช้ ChatGPT เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้นและเพิ่มเงินจาก $400 เป็น $1,600 ✅ ข้อมูลจากการสำรวจและแนวโน้ม ➡️ 2 ใน 3 ของผู้ใช้ AI เคยขอคำแนะนำด้านการเงินจากแชตบอต ➡️ 80% ของผู้ที่ทำตามคำแนะนำกล่าวว่าการเงินดีขึ้น ➡️ คนรุ่นใหม่ เช่น Gen Z และ Millennials ใช้ AI ด้านการเงินมากที่สุด ➡️ ChatGPT ถูกใช้เป็นผู้ช่วยด้านงบประมาณ การลงทุน และการวางแผนชีวิต ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ มี prompt เฉพาะสำหรับการเงิน เช่น “ช่วยสร้างงบประมาณตามกฎ 50/30/20” หรือ “วางแผนเกษียณใน 20 ปี”2 ➡️ AI ช่วยให้คนที่ไม่กล้าพูดเรื่องเงินกับคนจริงเปิดใจได้ง่ายขึ้น ➡️ การใช้ AI เพื่อวางแผนการเงินช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ ➡️ แชตบอตสามารถวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและเสนอแผนที่ปรับตามสถานการณ์ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ คำแนะนำจาก AI อาจไม่แม่นยำหรือทันสมัย — เช่น ข้อมูลหุ้นที่ล้าสมัย ⛔ การอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชี อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⛔ แชตบอตไม่สามารถตรวจสอบบริบทหรือความซับซ้อนของสถานการณ์ได้ดีเท่ามนุษย์ ⛔ ผู้ใช้บางรายได้รับคำแนะนำแปลก ๆ เช่น ขายภาพเท้า — ต้องใช้วิจารณญาณ ⛔ การพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/16/they-had-money-problems-they-turned-to-chatgpt-for-solutions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    They had money problems. They turned to ChatGPT for solutions.
    More people are turning to generative A.I. chatbots for financial advice, whether it's for debt management, better saving strategies or stock picks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • สังคมเงินสดได้กลับมาแล้ว เพราะเหตุนี้... (16/9/68)

    #สังคมเงินสด
    #หมดศรัทธาเงินดิจิทัล
    #เศรษฐกิจไทย
    #กระเป๋าเงินสด
    #เงินเฟ้อ
    #ข่าววันนี้
    #News1short
    #ThaiTimes
    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #scambodia
    #news1
    #shorts
    สังคมเงินสดได้กลับมาแล้ว เพราะเหตุนี้... (16/9/68) #สังคมเงินสด #หมดศรัทธาเงินดิจิทัล #เศรษฐกิจไทย #กระเป๋าเงินสด #เงินเฟ้อ #ข่าววันนี้ #News1short #ThaiTimes #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #scambodia #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เปิดบัญชีกรุงไทยผ่านแอปฯ เป๋าตัง เลือก 3 ตัวหน้าได้เองไม่ต้องไปสาขา

    แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านราย ถ้าไม่เคยมีบัญชีธนาคารกรุงไทยมาก่อน หรือมีแล้วอยากเปิดเพิ่ม สามารถเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป๋ามีตัง (Pao Mee Tang e-Savings) ได้โดยไม่ต้องไปสาขา และไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี เพียงแค่กรอกเลข Laser ID ด้านหลังบัตรประชาชน และสแกนใบหน้า ไม่ถึง 5 นาทีเป็นอันเสร็จสิ้น

    นอกจากนี้ สามารถเลือกเลขที่บัญชี 3 ตัวหน้าได้เองจากรหัสสาขา โดยเลขหลักที่สี่เป็นเลข 0 หมายถึงบัญชีออมทรัพย์ ค้นหารหัสสาขา 3 หลักได้จากเว็บไซต์ krungthai.com เลือกเมนู "จุดให้บริการ" (Location) กรอกเลข 3 หลักในช่อง "ค้นหาจากรหัสสาขา" (Search by branch code) หากไม่พบแสดงว่าสาขานี้ปิดถาวร แต่ก็มีบางสาขาอาจปิดไปแล้ว

    คำเตือน บัญชีนี้ทำธุรกรรมได้เฉพาะแอปฯ เป๋าตังเท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มบัญชีลงในแอปฯ Krungthai Next ได้ แต่สามารถใช้บริการแจ้งเตือน Krungthai Connext ผ่าน LINE ได้

    การฝากเงินสดผ่านสาขาธนาคารและเครื่อง ADM หากเปิดบัญชีสาขาต่างจังหวัด มีค่าธรรมเนียมข้ามเขต แนะนำให้โอนเงินผ่านแอปฯ ธนาคาร ไปยังบัญชีเป๋ามีตัง ส่วนการโอนเงินออกทำรายการผ่านแอปฯ เป๋าตัง เลือกช่องทางโอนเงิน "บัญชีเป๋ามีตัง"

    กรณีเปิดบัญชีเป็นจำนวนเงินศูนย์บาท หากไม่ทำรายการเคลื่อนไหว (ฝาก-ถอน) ภายในระยะเวลา 45 วัน นับตั้งแต่วันที่เปิดบัญชีเงินฝาก ธนาคารขอสงวนสิทธิปิดบัญชี

    กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหว 1 ปี และมียอดเงินคงเหลือต่ากว่า 2,000 บาท มีค่ารักษาบัญชี 50 บาทต่อเดือน หากยอดเงินคงเหลือ 0 บาทติดต่อกัน 1 ปี จะปิดบัญชีโดยอัตโนมัติ

    รหัสสาขาเลขสวย (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

    เลขตอง
    000-0 สาขานานาเหนือ
    111-0 สาขาลพบุรี
    222-0 สาขาบางคล้า
    333-0 สาขาบุณฑริก
    444-0 สาขาอากาศอำนวย

    เลขหลักพัน
    500-0 สาขาแม่เมาะ
    600-0 สาขาโลตัส อุตรดิตถ์
    800-0 สาขาหัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์
    900-0 สาขาแก่งคอย

    เลขลงท้าย 88
    088-0 สาขาศาลาว่าการ กทม.
    188-0 สาขาพัฒนาการ 65
    288-0 สาขาคูเมือง
    388-0 สาขาโลตัส ถลาง
    488-0 สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์
    688-0 สาขาศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2

    เลขลงท้าย 99
    399-0 สาขาโลตัส บางใหญ่
    799-0 สาขาฟอร์จูนทาวน์

    เลขเรียง
    123-0 สาขาปากเกร็ด
    234-0 สาขามาบตาพุด
    567-0 สาขาตลาดวงศกร
    789-0 สาขาโลตัส ขอนแก่น*
    * เลขรวยด้วยกันไปนานๆ (เลขมังกร)

    เลขรวยทางเดียว (ฮกลกซิ่ว)
    618-0 สาขาศรีสำโรง
    816-0 สาขาตลาดหัวอิฐ

    เลขรวยง่ายไปนานๆ (เลขหงส์)
    829-0 สาขาเกาะสมุย

    เลขส่งเสริมด้านการค้า การเงิน (เลขกวนอู)
    369-0 สาขาสะเดา

    #Newskit
    เปิดบัญชีกรุงไทยผ่านแอปฯ เป๋าตัง เลือก 3 ตัวหน้าได้เองไม่ต้องไปสาขา แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านราย ถ้าไม่เคยมีบัญชีธนาคารกรุงไทยมาก่อน หรือมีแล้วอยากเปิดเพิ่ม สามารถเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป๋ามีตัง (Pao Mee Tang e-Savings) ได้โดยไม่ต้องไปสาขา และไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี เพียงแค่กรอกเลข Laser ID ด้านหลังบัตรประชาชน และสแกนใบหน้า ไม่ถึง 5 นาทีเป็นอันเสร็จสิ้น นอกจากนี้ สามารถเลือกเลขที่บัญชี 3 ตัวหน้าได้เองจากรหัสสาขา โดยเลขหลักที่สี่เป็นเลข 0 หมายถึงบัญชีออมทรัพย์ ค้นหารหัสสาขา 3 หลักได้จากเว็บไซต์ krungthai.com เลือกเมนู "จุดให้บริการ" (Location) กรอกเลข 3 หลักในช่อง "ค้นหาจากรหัสสาขา" (Search by branch code) หากไม่พบแสดงว่าสาขานี้ปิดถาวร แต่ก็มีบางสาขาอาจปิดไปแล้ว คำเตือน บัญชีนี้ทำธุรกรรมได้เฉพาะแอปฯ เป๋าตังเท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มบัญชีลงในแอปฯ Krungthai Next ได้ แต่สามารถใช้บริการแจ้งเตือน Krungthai Connext ผ่าน LINE ได้ การฝากเงินสดผ่านสาขาธนาคารและเครื่อง ADM หากเปิดบัญชีสาขาต่างจังหวัด มีค่าธรรมเนียมข้ามเขต แนะนำให้โอนเงินผ่านแอปฯ ธนาคาร ไปยังบัญชีเป๋ามีตัง ส่วนการโอนเงินออกทำรายการผ่านแอปฯ เป๋าตัง เลือกช่องทางโอนเงิน "บัญชีเป๋ามีตัง" กรณีเปิดบัญชีเป็นจำนวนเงินศูนย์บาท หากไม่ทำรายการเคลื่อนไหว (ฝาก-ถอน) ภายในระยะเวลา 45 วัน นับตั้งแต่วันที่เปิดบัญชีเงินฝาก ธนาคารขอสงวนสิทธิปิดบัญชี กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหว 1 ปี และมียอดเงินคงเหลือต่ากว่า 2,000 บาท มีค่ารักษาบัญชี 50 บาทต่อเดือน หากยอดเงินคงเหลือ 0 บาทติดต่อกัน 1 ปี จะปิดบัญชีโดยอัตโนมัติ รหัสสาขาเลขสวย (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) เลขตอง 000-0 สาขานานาเหนือ 111-0 สาขาลพบุรี 222-0 สาขาบางคล้า 333-0 สาขาบุณฑริก 444-0 สาขาอากาศอำนวย เลขหลักพัน 500-0 สาขาแม่เมาะ 600-0 สาขาโลตัส อุตรดิตถ์ 800-0 สาขาหัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์ 900-0 สาขาแก่งคอย เลขลงท้าย 88 088-0 สาขาศาลาว่าการ กทม. 188-0 สาขาพัฒนาการ 65 288-0 สาขาคูเมือง 388-0 สาขาโลตัส ถลาง 488-0 สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ 688-0 สาขาศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เลขลงท้าย 99 399-0 สาขาโลตัส บางใหญ่ 799-0 สาขาฟอร์จูนทาวน์ เลขเรียง 123-0 สาขาปากเกร็ด 234-0 สาขามาบตาพุด 567-0 สาขาตลาดวงศกร 789-0 สาขาโลตัส ขอนแก่น* * เลขรวยด้วยกันไปนานๆ (เลขมังกร) เลขรวยทางเดียว (ฮกลกซิ่ว) 618-0 สาขาศรีสำโรง 816-0 สาขาตลาดหัวอิฐ เลขรวยง่ายไปนานๆ (เลขหงส์) 829-0 สาขาเกาะสมุย เลขส่งเสริมด้านการค้า การเงิน (เลขกวนอู) 369-0 สาขาสะเดา #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • อายัดบัญชีมั่ว! แค่โทรแจ้งก็โดน อ้างปราบโกงออนไลน์ แต่ปลดล็อคยากเย็น ร้อยเวรแบกภาระเอกสาร ทั้งที่ สอท. เป็นคนสั่งอายัด ผู้บริสุทธิ์เดือดร้อน ธุรกิจรับเงินสดแทน ผบช.สอท. ยันมาตรการจำเป็น เร่งแก้ไขระบบแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088244

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    อายัดบัญชีมั่ว! แค่โทรแจ้งก็โดน อ้างปราบโกงออนไลน์ แต่ปลดล็อคยากเย็น ร้อยเวรแบกภาระเอกสาร ทั้งที่ สอท. เป็นคนสั่งอายัด ผู้บริสุทธิ์เดือดร้อน ธุรกิจรับเงินสดแทน ผบช.สอท. ยันมาตรการจำเป็น เร่งแก้ไขระบบแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088244 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Sad
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • อายัดบัญชีมั่ว! แค่โทรแจ้งก็โดน อ้างปราบโกงออนไลน์ แต่ปลดล็อคยากเย็น ร้อยเวรแบกภาระเอกสาร ทั้งที่ สอท. เป็นคนสั่งอายัด ผู้บริสุทธิ์เดือดร้อน ธุรกิจรับเงินสดแทน ผบช.สอท. ยันมาตรการจำเป็น เร่งแก้ไขระบบแล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000088207

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    อายัดบัญชีมั่ว! แค่โทรแจ้งก็โดน อ้างปราบโกงออนไลน์ แต่ปลดล็อคยากเย็น ร้อยเวรแบกภาระเอกสาร ทั้งที่ สอท. เป็นคนสั่งอายัด ผู้บริสุทธิ์เดือดร้อน ธุรกิจรับเงินสดแทน ผบช.สอท. ยันมาตรการจำเป็น เร่งแก้ไขระบบแล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000088207 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 774 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินสดของธุรกิจ มีเท่าไรถึงจะรอด ?
    เงินสดของธุรกิจ มีเท่าไรถึงจะรอด ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • น่าจะเอาไอ้เหี้ยสองตัวนี้ไปเดินรอบๆตาควายนะ,ไปสัมผัสกับระเบิดที่ทหารเขมรมันวางไว้,เหน็บแม่ทัพภาค.2ที่ทำคุณงามความดีต่อชาติบ้านเมืองแบบนี้ เสียดายมันสมองความรู้กระแดะภาษาฝรั่งอวยโชว์สกิล ,มิสมควรอย่างยิ่ง,เห็นต่างได้ แต่มันผิดและต่างจากค่าจริงเกิน,ไม่ต่างจากสันดานเขมรที่มืดบอดในจิตในใจ,ที่คนไทยเห็นๆสภาพความคิดอ่านมัน,ใครสนับสนุนช่องมัน อุดหนุนช่องมันหากไงมีสติคิดอ่านดี รู้ผิดชั่ว คนแบบใดสันดานแบบใดสมควรส่งเสริมก็พิจารณาเอานะ,พวกนี้อาจต้องตรวจสอบกระแสเงินสด ช่องทางรายได้ ธุรกิจเครือญาติมันทั้งหมด ร่ำรวยอะไรมา มาอยู่ไทย ใครส่งมาก่อกวน อเมริกาให้เงินสนับสนุนเปิดช่องแบบหลายๆช่องสื่อหลายๆองค์กรที่เป็นบ่อนทำลายไทย สร้างความแตกแยกในประเทศด้วยหรือไม่,ปากกล้าหาญแบบนี้มีใบสั่งให้ทำลายภาพลักษณ์แม่ทัพกุ้งแน่นอน,เชื่อมโยงกับเดอะแก๊งสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์มั้ย,กิจการในเครือญาติฟอกเงินจนร่ำรวยมั้ย,ฮุนเซนสั่งมาทำลายแม่ทัพกุ้งมั้ย,หาแสงแบบนี้ไม่ธรรมดา,ใครคนไทยคนไหนค้าขายซื้อขายใช้บริการตระกูลนี้ อย่าไปซื้อไปอุดหนุนมันอีกเลย,ปิดด่านปิดช่องหาแดกมัน จากนั้นเราอาจจะรู้ชัดเจนว่า มันรับตังจากใครมา เสือกไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจกิจการมีตังใช้จ่ายสบายด่าเหน็บใครเป็นว่าเล่นได้ตามใบสั่งมา,กระแสตัง,คนถ้าไม่มีตังมาเกี่ยวมันไม่กล้าหรอก.,สามารถตามเด็ดหัวคนที่อยู่เบื้องหลังได้อีก.
    ..สามารถเป็นไส้ศึกทำลายความแตกแยก ขัดขวางความสามัคคีของคนในชาติได้,คนจัญไรอัปรีย์ถือกำเนิดคู่คนดีเสนอ.
    https://youtube.com/watch?v=UOBbGa1SZ7Q&si=3o_HJ6EMMA4R4Hiw
    น่าจะเอาไอ้เหี้ยสองตัวนี้ไปเดินรอบๆตาควายนะ,ไปสัมผัสกับระเบิดที่ทหารเขมรมันวางไว้,เหน็บแม่ทัพภาค.2ที่ทำคุณงามความดีต่อชาติบ้านเมืองแบบนี้ เสียดายมันสมองความรู้กระแดะภาษาฝรั่งอวยโชว์สกิล ,มิสมควรอย่างยิ่ง,เห็นต่างได้ แต่มันผิดและต่างจากค่าจริงเกิน,ไม่ต่างจากสันดานเขมรที่มืดบอดในจิตในใจ,ที่คนไทยเห็นๆสภาพความคิดอ่านมัน,ใครสนับสนุนช่องมัน อุดหนุนช่องมันหากไงมีสติคิดอ่านดี รู้ผิดชั่ว คนแบบใดสันดานแบบใดสมควรส่งเสริมก็พิจารณาเอานะ,พวกนี้อาจต้องตรวจสอบกระแสเงินสด ช่องทางรายได้ ธุรกิจเครือญาติมันทั้งหมด ร่ำรวยอะไรมา มาอยู่ไทย ใครส่งมาก่อกวน อเมริกาให้เงินสนับสนุนเปิดช่องแบบหลายๆช่องสื่อหลายๆองค์กรที่เป็นบ่อนทำลายไทย สร้างความแตกแยกในประเทศด้วยหรือไม่,ปากกล้าหาญแบบนี้มีใบสั่งให้ทำลายภาพลักษณ์แม่ทัพกุ้งแน่นอน,เชื่อมโยงกับเดอะแก๊งสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์มั้ย,กิจการในเครือญาติฟอกเงินจนร่ำรวยมั้ย,ฮุนเซนสั่งมาทำลายแม่ทัพกุ้งมั้ย,หาแสงแบบนี้ไม่ธรรมดา,ใครคนไทยคนไหนค้าขายซื้อขายใช้บริการตระกูลนี้ อย่าไปซื้อไปอุดหนุนมันอีกเลย,ปิดด่านปิดช่องหาแดกมัน จากนั้นเราอาจจะรู้ชัดเจนว่า มันรับตังจากใครมา เสือกไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจกิจการมีตังใช้จ่ายสบายด่าเหน็บใครเป็นว่าเล่นได้ตามใบสั่งมา,กระแสตัง,คนถ้าไม่มีตังมาเกี่ยวมันไม่กล้าหรอก.,สามารถตามเด็ดหัวคนที่อยู่เบื้องหลังได้อีก. ..สามารถเป็นไส้ศึกทำลายความแตกแยก ขัดขวางความสามัคคีของคนในชาติได้,คนจัญไรอัปรีย์ถือกำเนิดคู่คนดีเสนอ. https://youtube.com/watch?v=UOBbGa1SZ7Q&si=3o_HJ6EMMA4R4Hiw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,ส่วนตัวถ้าได้เป็นนายกฯ4เดือนก็จะประกาศผีบ้าแบบนี้ล่ะ,ว่าไทยไม่ต้องการสงครามแต่จำเป็นต้องเป็นผู้เตรียมพร้อมทุกๆยุทธการทางสงครามเพื่อปกป้องและป้องกันประเทศ,ต่อมาจะยกเลิกmou43,44และtor46 ใช้สันปันน้ำกำหนดเส้นเขตแดนกับเขมรทั้งหมดที่มีเสาหมุดอายุกว่า100ปีปักตำตาชัดเจนกว่า73,74เสาเป็นหลักฐานชัดเจนเรื่องเขตแดนและตกลงจบไปนานแล้วกับฝรั่งเศส,เกิดก่อนโคตรพ่อโคตรแมร่งmou43,44นี้อีก,จึงสมควรว่าmou43,44เป็นอันมิชอบและตกไปพร้อมเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยตนเองอีกเรื่องดินแดนผ่นดินประเทศไทยตนเอง ต้องอำนาจพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวจะตัดสินเด็ดขาดได้,ทั้งหมดที่กอดmou43,44มีโทษประหารชีวิตชัดเจน ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนในเจตนาให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยตน ผิดม.119ชัดเจนตั้งแต่mou43,44tor46นี้ร่างเขียนขึ้น,ทุกๆคนที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด.
    ..ต่อมา555ในฐานะนายกฯ4เดือน,จะยกเลิกสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมทั่วประเทศทั้งหมด ปรับปรุงให้ทันสมัยจริงมิให้ไทยเสียเปรียบแบบปัจจุบัน,..ประกาศแจกมือถือควอนตัมฟรีแก่คนไทยทั่วประเทศ ให้คนไทยรับตังดิจิดัลทันทีคนละ100,000บาทคอยน์อินทนนท์ทั่วประเทศสู่ยุคใหม่,สังคมไทยจะไม่ใช้เงินสดอีก,กำหนดเงินใต้ดินฟอกเงินทั้งหมดที่อยู่นอกระบบทันที,1คนไทย1บัญชีเงินควอนตัมเท่านั้นและ1หมายเลขโทรศัพท์,ฟรีเน็ตทั่วไทยสำหรับคนไทยทั่วประเทศผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำของไทยเราเอง.
    ..ต่อมาจะประกาศสร้างรั้วลวดหนามไทยกับเขมร ไทยกับมาเลย์ ไทยกับพม่าทั่วประเทศทันที ลดอาชญากรรมทุกๆมิติต่อประชาชนคนไทยเรา,ควบคุมกำจีดอาชญากรที่ปะปนในไทยได้สะดวก,จากนั้นประกาศจัดตั้งบริษัทคลองขุดกระแห่งชาติไทย ให้หุ้นฟรีๆแก่คนไทยทุกๆคนๆละ10,000หุ้น,ตั้งแต่เกิดจนตาย,บวกหุ้นเพิ่มทุนอีก10,000หุ้นๆละ0.01บาทคอยน์ซื้อเพิ่มสูงสุดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของฮับกิจการสร้างเม็ดเงินมหาศาลแก่คนไทยเราจริงกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีรวมกับแลนด์บริดจ์ซึ่งคนไทยประเทศไทยเราขุดเองดำเนินการเองเป็นเจ้าของเองทั้งหมดจริงร่วมกัน,สร้างฮับสาระพัดฮับศูนย์การค้าตลาดระดับโลกผ่านคลองไทยเราค้าขายระหว่างทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลางกับโซนเอเชียแปซิฟิกมหาสมุทรฝั่งตะวันออกทั้งหมด,คลอง2เลน กว้าง2กม.เมตร เลนละ1กม.คู่ขนานแลนด์บริดจ์รอบข้างทางบก,ใครสะดวกทางใดเชิญเลย,ตลอดพื้นที่ทั่วไทยโดยเฉพาะภาคใต้เราจะสาระพัดฐานบริษัทแม่ต่างชาติทั่วโลกมาตั้งกิจการ นำรายได้เข้าประเทศผ่านบริษัทคลองไทยแห่งชาติเราเป็นอันมาก,ร่ำรวยไปพร้อมๆกัน,
    ..ฐานผลิตอาวุธและกองทัพอวกาศประจำประเทศไทยคือเราในอนาคต เพื่อพิทักษ์ป้องกันภัยรุกรานจากยานต่างดาวที่ไม่ดีในอนาคตได้,มิใช่กากๆแบบเขมรในปัจจุบัน.
    ..ยุคประเทศไทยใหม่ต้องถือกำเนิดขึ้นจริงๆหากทำไม่ได้,นายกฯหรือผู้ปกครองประเทศยังจุดยืนไม่ชัดเจน กากในการปกครองอยู่ก็สมควรสิ้นชาติไทยเถอะ,ยุคสมัยหน้าจะมาทำเล่นๆแบบนักการเมืองปัจจุบันไม่ได้แล้ว,ประชาชนคนไทยเราต้องอัพเลเวลแล้ว,คือเท่าทันโลกค่าจริง ยืนบนความเป็นจริง สายกลางเราจะเป็นไปตามธรรมชาติเอง.พลังงานล้ำๆเชิงดีงามของจักรวาลไม่ทอดทิ้งประเทศไทยเราหรอก,แต่ถ้ายังเหี้ยอยู่ พระสยามเทวาฯก็อาจละทิ้งประเทศนี้จริงๆนะ,ไทยแตกจะเกิดขึ้นจริง ประชาทุกข์ร้อนจะของจริง,เราจึงต้องกำจัดคนไม่ดีบนแผ่นดินไทยที่มีอำนาจปะปนในเราให้เด็ดขาดจริงจังได้แล้ว,ศัตรูแบบเขมรก็เด็ดขาดด้วย สันดานเชื้อชาตินี้เมื่อเป็นกันทั้งประเทศหมายทำลายไทยชัดเจน ทำลายประชาชนไทยแบบยิวใส่ประชาชนเราแบบไม่สนใจไม่แคร์ความรู้สึกคนไทยมันไม่สมควรเก็บไว้ โลกไม่จำเป็นต้องมีคนลักษณะนี้ประจำโลกก็ได้,ประเทศลักษณะนี้แบบเขมร แบบฝรั่งเศสหรือชาติยุโรปไม่จำเป็นต้องมีบนโลกก็ได้ เราสามารถสร้างสมดุลกันเองได้,เมื่อศัตรูหมายฆ่าคนไทย จะเก็บไว้ทำโคตรพ่อโคตรแมร่งมันเหรอ,ถ้าเราแพ้เขมร มันจะทำคนไทยแบบมันทำในเขมรนั้นล่ะจะกดขี่ข่มเหงคนไทยเราแน่นอน,เคสมทภ.1จึงน่าผิดหวังและเสียใจเป็นอันมาก,ท่านรักศัตรูเขมรที่รุกรานคนไทยมากกว่ารักคนไทยจริงๆ,ทหารเขมรและคนเขมรท่านไม่จัดการเด็ดขาดจริงจังด้วยเมื่อต้องเด็ดขาด,นายใหญ่ที่สั่งท่านนั้นคือคนเลว คนไทยไม่สมควรเก็บนายใหญ่นี้ไว้แม้เป็นเชื้อพระวงศ์ก็ตัดเด็ดหัวทิ้ง.,เขาทรยศต่อบรรพบุรษไทยตนและบุรพระมหากษัตริย์ตนเองด้วย,ไม่สมควรจงรักและภักดีโคตรพ่อโคตรแมร่งบรมโคตรมันด้วย.,เห็นแก่ได้แก่ตัวปกป้องผลประโยชน์ตนในแผ่นดินเขมรและพื้นที่ผลประโยชน์ตนในไทย คนเช่นนี้หนักแผ่นดินไทยต้องสัวหารทิ้งสถานเดียวเป็นภัยต่อประเทศชาติและประชาชนคนไทยทุกๆคนได้,นายกฯไทยต้องไม่กากและกระจอกอีกต่อไป.,เช่นนั้นประชาชนคนไทยเองจะร่วมกันทำลายชาตินี้ไม่ต้องรอผู้นำผู้ปกครองกากๆก็ได้.บ้านเมืองรุกเป็นไฟมันง่ายมากเมื่อประชาชนภายในประเทศไม่เอาแล้วเช่นกัน.
    ..ดาบมีสองด้านสองคมได้ ค่ำมืดยังมีสว่างแจ้งก็ด้วย,ประชาชนมืดบอดน่ากลัวมากๆ.

    https://youtube.com/watch?v=Y1eqppymLCI&si=8CSuTYkA6JUFttNR
    555,ส่วนตัวถ้าได้เป็นนายกฯ4เดือนก็จะประกาศผีบ้าแบบนี้ล่ะ,ว่าไทยไม่ต้องการสงครามแต่จำเป็นต้องเป็นผู้เตรียมพร้อมทุกๆยุทธการทางสงครามเพื่อปกป้องและป้องกันประเทศ,ต่อมาจะยกเลิกmou43,44และtor46 ใช้สันปันน้ำกำหนดเส้นเขตแดนกับเขมรทั้งหมดที่มีเสาหมุดอายุกว่า100ปีปักตำตาชัดเจนกว่า73,74เสาเป็นหลักฐานชัดเจนเรื่องเขตแดนและตกลงจบไปนานแล้วกับฝรั่งเศส,เกิดก่อนโคตรพ่อโคตรแมร่งmou43,44นี้อีก,จึงสมควรว่าmou43,44เป็นอันมิชอบและตกไปพร้อมเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยตนเองอีกเรื่องดินแดนผ่นดินประเทศไทยตนเอง ต้องอำนาจพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวจะตัดสินเด็ดขาดได้,ทั้งหมดที่กอดmou43,44มีโทษประหารชีวิตชัดเจน ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนในเจตนาให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยตน ผิดม.119ชัดเจนตั้งแต่mou43,44tor46นี้ร่างเขียนขึ้น,ทุกๆคนที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด. ..ต่อมา555ในฐานะนายกฯ4เดือน,จะยกเลิกสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมทั่วประเทศทั้งหมด ปรับปรุงให้ทันสมัยจริงมิให้ไทยเสียเปรียบแบบปัจจุบัน,..ประกาศแจกมือถือควอนตัมฟรีแก่คนไทยทั่วประเทศ ให้คนไทยรับตังดิจิดัลทันทีคนละ100,000บาทคอยน์อินทนนท์ทั่วประเทศสู่ยุคใหม่,สังคมไทยจะไม่ใช้เงินสดอีก,กำหนดเงินใต้ดินฟอกเงินทั้งหมดที่อยู่นอกระบบทันที,1คนไทย1บัญชีเงินควอนตัมเท่านั้นและ1หมายเลขโทรศัพท์,ฟรีเน็ตทั่วไทยสำหรับคนไทยทั่วประเทศผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำของไทยเราเอง. ..ต่อมาจะประกาศสร้างรั้วลวดหนามไทยกับเขมร ไทยกับมาเลย์ ไทยกับพม่าทั่วประเทศทันที ลดอาชญากรรมทุกๆมิติต่อประชาชนคนไทยเรา,ควบคุมกำจีดอาชญากรที่ปะปนในไทยได้สะดวก,จากนั้นประกาศจัดตั้งบริษัทคลองขุดกระแห่งชาติไทย ให้หุ้นฟรีๆแก่คนไทยทุกๆคนๆละ10,000หุ้น,ตั้งแต่เกิดจนตาย,บวกหุ้นเพิ่มทุนอีก10,000หุ้นๆละ0.01บาทคอยน์ซื้อเพิ่มสูงสุดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของฮับกิจการสร้างเม็ดเงินมหาศาลแก่คนไทยเราจริงกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีรวมกับแลนด์บริดจ์ซึ่งคนไทยประเทศไทยเราขุดเองดำเนินการเองเป็นเจ้าของเองทั้งหมดจริงร่วมกัน,สร้างฮับสาระพัดฮับศูนย์การค้าตลาดระดับโลกผ่านคลองไทยเราค้าขายระหว่างทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลางกับโซนเอเชียแปซิฟิกมหาสมุทรฝั่งตะวันออกทั้งหมด,คลอง2เลน กว้าง2กม.เมตร เลนละ1กม.คู่ขนานแลนด์บริดจ์รอบข้างทางบก,ใครสะดวกทางใดเชิญเลย,ตลอดพื้นที่ทั่วไทยโดยเฉพาะภาคใต้เราจะสาระพัดฐานบริษัทแม่ต่างชาติทั่วโลกมาตั้งกิจการ นำรายได้เข้าประเทศผ่านบริษัทคลองไทยแห่งชาติเราเป็นอันมาก,ร่ำรวยไปพร้อมๆกัน, ..ฐานผลิตอาวุธและกองทัพอวกาศประจำประเทศไทยคือเราในอนาคต เพื่อพิทักษ์ป้องกันภัยรุกรานจากยานต่างดาวที่ไม่ดีในอนาคตได้,มิใช่กากๆแบบเขมรในปัจจุบัน. ..ยุคประเทศไทยใหม่ต้องถือกำเนิดขึ้นจริงๆหากทำไม่ได้,นายกฯหรือผู้ปกครองประเทศยังจุดยืนไม่ชัดเจน กากในการปกครองอยู่ก็สมควรสิ้นชาติไทยเถอะ,ยุคสมัยหน้าจะมาทำเล่นๆแบบนักการเมืองปัจจุบันไม่ได้แล้ว,ประชาชนคนไทยเราต้องอัพเลเวลแล้ว,คือเท่าทันโลกค่าจริง ยืนบนความเป็นจริง สายกลางเราจะเป็นไปตามธรรมชาติเอง.พลังงานล้ำๆเชิงดีงามของจักรวาลไม่ทอดทิ้งประเทศไทยเราหรอก,แต่ถ้ายังเหี้ยอยู่ พระสยามเทวาฯก็อาจละทิ้งประเทศนี้จริงๆนะ,ไทยแตกจะเกิดขึ้นจริง ประชาทุกข์ร้อนจะของจริง,เราจึงต้องกำจัดคนไม่ดีบนแผ่นดินไทยที่มีอำนาจปะปนในเราให้เด็ดขาดจริงจังได้แล้ว,ศัตรูแบบเขมรก็เด็ดขาดด้วย สันดานเชื้อชาตินี้เมื่อเป็นกันทั้งประเทศหมายทำลายไทยชัดเจน ทำลายประชาชนไทยแบบยิวใส่ประชาชนเราแบบไม่สนใจไม่แคร์ความรู้สึกคนไทยมันไม่สมควรเก็บไว้ โลกไม่จำเป็นต้องมีคนลักษณะนี้ประจำโลกก็ได้,ประเทศลักษณะนี้แบบเขมร แบบฝรั่งเศสหรือชาติยุโรปไม่จำเป็นต้องมีบนโลกก็ได้ เราสามารถสร้างสมดุลกันเองได้,เมื่อศัตรูหมายฆ่าคนไทย จะเก็บไว้ทำโคตรพ่อโคตรแมร่งมันเหรอ,ถ้าเราแพ้เขมร มันจะทำคนไทยแบบมันทำในเขมรนั้นล่ะจะกดขี่ข่มเหงคนไทยเราแน่นอน,เคสมทภ.1จึงน่าผิดหวังและเสียใจเป็นอันมาก,ท่านรักศัตรูเขมรที่รุกรานคนไทยมากกว่ารักคนไทยจริงๆ,ทหารเขมรและคนเขมรท่านไม่จัดการเด็ดขาดจริงจังด้วยเมื่อต้องเด็ดขาด,นายใหญ่ที่สั่งท่านนั้นคือคนเลว คนไทยไม่สมควรเก็บนายใหญ่นี้ไว้แม้เป็นเชื้อพระวงศ์ก็ตัดเด็ดหัวทิ้ง.,เขาทรยศต่อบรรพบุรษไทยตนและบุรพระมหากษัตริย์ตนเองด้วย,ไม่สมควรจงรักและภักดีโคตรพ่อโคตรแมร่งบรมโคตรมันด้วย.,เห็นแก่ได้แก่ตัวปกป้องผลประโยชน์ตนในแผ่นดินเขมรและพื้นที่ผลประโยชน์ตนในไทย คนเช่นนี้หนักแผ่นดินไทยต้องสัวหารทิ้งสถานเดียวเป็นภัยต่อประเทศชาติและประชาชนคนไทยทุกๆคนได้,นายกฯไทยต้องไม่กากและกระจอกอีกต่อไป.,เช่นนั้นประชาชนคนไทยเองจะร่วมกันทำลายชาตินี้ไม่ต้องรอผู้นำผู้ปกครองกากๆก็ได้.บ้านเมืองรุกเป็นไฟมันง่ายมากเมื่อประชาชนภายในประเทศไม่เอาแล้วเช่นกัน. ..ดาบมีสองด้านสองคมได้ ค่ำมืดยังมีสว่างแจ้งก็ด้วย,ประชาชนมืดบอดน่ากลัวมากๆ. https://youtube.com/watch?v=Y1eqppymLCI&si=8CSuTYkA6JUFttNR
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 458 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเบราว์เซอร์ที่ไม่อยากเป็นแค่เบราว์เซอร์: เมื่อ Atlassian ซื้อ The Browser Company เพื่อสร้างเครื่องมือทำงานแห่งอนาคต

    Atlassian ผู้พัฒนา Jira และ Trello ได้ประกาศซื้อกิจการ The Browser Company ด้วยเงินสด 610 ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายชัดเจน: สร้าง “AI browser for work” ที่ไม่ใช่แค่หน้าต่างเปิดเว็บ แต่เป็นพื้นที่ทำงานที่เข้าใจบริบทของผู้ใช้

    The Browser Company เป็นผู้สร้าง Arc และ Dia—สองเบราว์เซอร์ที่เน้นการจัดการแท็บ, การทำงานร่วมกับ AI, และการออกแบบเพื่อ productivity โดยเฉพาะ Dia ซึ่งเปิดตัวในเวอร์ชันเบต้าเมื่อเดือนมิถุนายน 2025 มีฟีเจอร์เด่นคือการพูดคุยกับ AI assistant เกี่ยวกับหลายแท็บพร้อมกัน และการจัดการงานแบบ context-aware

    Josh Miller ซีอีโอของ The Browser Company ระบุว่า Arc มีผู้ใช้เฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การจัดกลุ่มแท็บและ whiteboard แต่ไม่สามารถขยายไปสู่ตลาดแมสได้ จึงหยุดพัฒนา Arc และหันมาโฟกัสที่ Dia ซึ่งมีความ “เบา เร็ว และฉลาด” มากกว่า

    Atlassian มองว่าเบราว์เซอร์ในปัจจุบันไม่ตอบโจทย์การทำงาน เพราะถูกออกแบบมาเพื่อ “browse” ไม่ใช่ “do” และ Dia คือโอกาสในการสร้างเบราว์เซอร์ที่เข้าใจว่าแต่ละแท็บคืองานที่ต้องทำ เช่น การเขียนอีเมล, การจัดประชุม, หรือการอัปเดต Jira

    ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจาก OpenAI และ Perplexity เคยเจรจาขอซื้อ The Browser Company แต่ไม่สำเร็จ โดย Atlassian ได้เปรียบในแง่ของความเข้าใจผู้ใช้ระดับองค์กร และการนำ AI ไปใช้ใน scale ใหญ่ ซึ่งจะช่วยผลักดัน Dia ให้กลายเป็นเบราว์เซอร์ที่มี AI memory, ความปลอดภัยระดับองค์กร และความสามารถในการเชื่อมโยงแอป SaaS ได้อย่างลึกซึ้ง

    การเข้าซื้อกิจการของ Atlassian
    ซื้อ The Browser Company ด้วยเงินสด 610 ล้านดอลลาร์
    ดีลจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2026 (สิ้นปี 2025)
    The Browser Company จะยังคงดำเนินงานอย่างอิสระ

    จุดเด่นของ Arc และ Dia
    Arc มีฟีเจอร์จัดการแท็บ, whiteboard, และการแชร์กลุ่มแท็บ
    Dia เน้นการพูดคุยกับ AI assistant และการจัดการงานแบบ context-aware
    Arc หยุดพัฒนาแล้ว ส่วน Dia จะเป็นผลิตภัณฑ์หลักในอนาคต

    วิสัยทัศน์ของ Atlassian
    ต้องการสร้าง “AI browser for work” ที่เข้าใจบริบทของผู้ใช้
    เน้นการเชื่อมโยงแอป SaaS เช่น Jira, Trello, email, design tools
    ใช้ AI memory เพื่อเชื่อมโยงแท็บ, งาน, และเครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ

    ความได้เปรียบของ Atlassian
    มีลูกค้าองค์กรกว่า 300,000 ราย รวมถึง 80% ของ Fortune 500
    มีผู้ใช้ AI บนแพลตฟอร์มกว่า 2.3 ล้านรายต่อเดือน
    มีความเชี่ยวชาญในการนำ AI ไปใช้ในระดับองค์กร

    https://www.cnbc.com/2025/09/04/atlassian-the-browser-company-deal.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากเบราว์เซอร์ที่ไม่อยากเป็นแค่เบราว์เซอร์: เมื่อ Atlassian ซื้อ The Browser Company เพื่อสร้างเครื่องมือทำงานแห่งอนาคต Atlassian ผู้พัฒนา Jira และ Trello ได้ประกาศซื้อกิจการ The Browser Company ด้วยเงินสด 610 ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายชัดเจน: สร้าง “AI browser for work” ที่ไม่ใช่แค่หน้าต่างเปิดเว็บ แต่เป็นพื้นที่ทำงานที่เข้าใจบริบทของผู้ใช้ The Browser Company เป็นผู้สร้าง Arc และ Dia—สองเบราว์เซอร์ที่เน้นการจัดการแท็บ, การทำงานร่วมกับ AI, และการออกแบบเพื่อ productivity โดยเฉพาะ Dia ซึ่งเปิดตัวในเวอร์ชันเบต้าเมื่อเดือนมิถุนายน 2025 มีฟีเจอร์เด่นคือการพูดคุยกับ AI assistant เกี่ยวกับหลายแท็บพร้อมกัน และการจัดการงานแบบ context-aware Josh Miller ซีอีโอของ The Browser Company ระบุว่า Arc มีผู้ใช้เฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การจัดกลุ่มแท็บและ whiteboard แต่ไม่สามารถขยายไปสู่ตลาดแมสได้ จึงหยุดพัฒนา Arc และหันมาโฟกัสที่ Dia ซึ่งมีความ “เบา เร็ว และฉลาด” มากกว่า Atlassian มองว่าเบราว์เซอร์ในปัจจุบันไม่ตอบโจทย์การทำงาน เพราะถูกออกแบบมาเพื่อ “browse” ไม่ใช่ “do” และ Dia คือโอกาสในการสร้างเบราว์เซอร์ที่เข้าใจว่าแต่ละแท็บคืองานที่ต้องทำ เช่น การเขียนอีเมล, การจัดประชุม, หรือการอัปเดต Jira ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจาก OpenAI และ Perplexity เคยเจรจาขอซื้อ The Browser Company แต่ไม่สำเร็จ โดย Atlassian ได้เปรียบในแง่ของความเข้าใจผู้ใช้ระดับองค์กร และการนำ AI ไปใช้ใน scale ใหญ่ ซึ่งจะช่วยผลักดัน Dia ให้กลายเป็นเบราว์เซอร์ที่มี AI memory, ความปลอดภัยระดับองค์กร และความสามารถในการเชื่อมโยงแอป SaaS ได้อย่างลึกซึ้ง ✅ การเข้าซื้อกิจการของ Atlassian ➡️ ซื้อ The Browser Company ด้วยเงินสด 610 ล้านดอลลาร์ ➡️ ดีลจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2026 (สิ้นปี 2025) ➡️ The Browser Company จะยังคงดำเนินงานอย่างอิสระ ✅ จุดเด่นของ Arc และ Dia ➡️ Arc มีฟีเจอร์จัดการแท็บ, whiteboard, และการแชร์กลุ่มแท็บ ➡️ Dia เน้นการพูดคุยกับ AI assistant และการจัดการงานแบบ context-aware ➡️ Arc หยุดพัฒนาแล้ว ส่วน Dia จะเป็นผลิตภัณฑ์หลักในอนาคต ✅ วิสัยทัศน์ของ Atlassian ➡️ ต้องการสร้าง “AI browser for work” ที่เข้าใจบริบทของผู้ใช้ ➡️ เน้นการเชื่อมโยงแอป SaaS เช่น Jira, Trello, email, design tools ➡️ ใช้ AI memory เพื่อเชื่อมโยงแท็บ, งาน, และเครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ความได้เปรียบของ Atlassian ➡️ มีลูกค้าองค์กรกว่า 300,000 ราย รวมถึง 80% ของ Fortune 500 ➡️ มีผู้ใช้ AI บนแพลตฟอร์มกว่า 2.3 ล้านรายต่อเดือน ➡️ มีความเชี่ยวชาญในการนำ AI ไปใช้ในระดับองค์กร https://www.cnbc.com/2025/09/04/atlassian-the-browser-company-deal.html
    WWW.CNBC.COM
    Atlassian agrees to acquire The Browser Co. for $610 million
    OpenAI and Perplexity both reportedly looked at acquiring the startup.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก USDT: เมื่อเงินเดือนไม่ต้องผ่านธนาคาร และไม่ต้องกลัวค่าเงินตก

    ในหลายประเทศที่เงินเฟ้อพุ่งสูง ธนาคารล่าช้า หรือระบบการโอนเงินข้ามประเทศเต็มไปด้วยค่าธรรมเนียม—คนทำงานเริ่มหันมาใช้ USDT (Tether) ซึ่งเป็น stablecoin ที่ผูกกับมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1 เพื่อรับเงินเดือนโดยตรงผ่าน blockchain

    USDT ไม่ใช่เหรียญเก็งกำไรแบบ Bitcoin แต่เป็น “เงินดิจิทัลที่นิ่ง” ซึ่งช่วยให้ผู้รับเงินไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเงินท้องถิ่นที่อ่อนตัว หรือการรอเงินโอนข้ามประเทศหลายวัน โดยเฉพาะในประเทศอย่างอาร์เจนตินา ตุรกี และไนจีเรีย ที่ผู้คนยอมจ่ายพรีเมียม 20–30% เพื่อถือ stablecoin แทนเงินสด

    สำหรับบริษัทที่มีทีมงานกระจายทั่วโลก USDT ช่วยลดภาระด้าน conversion, ค่าธรรมเนียม, และเวลาการโอนเงิน โดยสามารถส่งเงินผ่านเครือข่าย TRC-20 (Tron) ได้ในไม่กี่วินาที ด้วยค่าธรรมเนียมเพียงไม่กี่เซ็นต์

    แต่การใช้ USDT ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป—ต้องมี wallet ที่ปลอดภัย, เข้าใจภาษีในแต่ละประเทศ, และมีแผนการแปลงกลับเป็นเงินสดเมื่อจำเป็น เพราะในหลายประเทศยังไม่มีข้อกฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจ่ายเงินเดือนด้วย stablecoin

    ข้อดีของการรับเงินเดือนเป็น USDT
    มูลค่าเสถียร ผูกกับดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1
    โอนเงินข้ามประเทศได้เร็วและถูกกว่าธนาคาร
    ไม่ต้องพึ่งระบบธนาคารในประเทศที่ล่าช้า หรือมีข้อจำกัด

    การใช้งานจริงในประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจ
    อาร์เจนตินาและตุรกีใช้ USDT เพื่อหลีกเลี่ยงเงินเฟ้อ
    ไนจีเรียใช้ stablecoin สำหรับการโอนเงินและจ่ายเงินเดือน
    ผู้ใช้ยอมจ่ายพรีเมียมเพื่อถือ “ดอลลาร์ดิจิทัล” แทนเงินสด

    เครือข่ายที่นิยมใช้สำหรับการโอน USDT
    TRC-20 (Tron): เร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ
    ERC-20 (Ethereum): ปลอดภัยแต่ค่าธรรมเนียมสูง
    BEP-20 (BNB), Solana, Polygon: ทางเลือกที่สมดุลระหว่างความเร็วและต้นทุน

    การใช้งานในฝั่งบริษัท
    ลดต้นทุนการโอนเงินข้ามประเทศ
    จ่ายเงินให้ทีมงานระยะไกลได้ง่ายขึ้น
    ใช้ USDT เป็นโบนัสหรือส่วนเสริมจากเงินเดือนหลักเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย

    https://hackread.com/why-users-businesses-choosing-usdt-local-currency/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก USDT: เมื่อเงินเดือนไม่ต้องผ่านธนาคาร และไม่ต้องกลัวค่าเงินตก ในหลายประเทศที่เงินเฟ้อพุ่งสูง ธนาคารล่าช้า หรือระบบการโอนเงินข้ามประเทศเต็มไปด้วยค่าธรรมเนียม—คนทำงานเริ่มหันมาใช้ USDT (Tether) ซึ่งเป็น stablecoin ที่ผูกกับมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1 เพื่อรับเงินเดือนโดยตรงผ่าน blockchain USDT ไม่ใช่เหรียญเก็งกำไรแบบ Bitcoin แต่เป็น “เงินดิจิทัลที่นิ่ง” ซึ่งช่วยให้ผู้รับเงินไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเงินท้องถิ่นที่อ่อนตัว หรือการรอเงินโอนข้ามประเทศหลายวัน โดยเฉพาะในประเทศอย่างอาร์เจนตินา ตุรกี และไนจีเรีย ที่ผู้คนยอมจ่ายพรีเมียม 20–30% เพื่อถือ stablecoin แทนเงินสด สำหรับบริษัทที่มีทีมงานกระจายทั่วโลก USDT ช่วยลดภาระด้าน conversion, ค่าธรรมเนียม, และเวลาการโอนเงิน โดยสามารถส่งเงินผ่านเครือข่าย TRC-20 (Tron) ได้ในไม่กี่วินาที ด้วยค่าธรรมเนียมเพียงไม่กี่เซ็นต์ แต่การใช้ USDT ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป—ต้องมี wallet ที่ปลอดภัย, เข้าใจภาษีในแต่ละประเทศ, และมีแผนการแปลงกลับเป็นเงินสดเมื่อจำเป็น เพราะในหลายประเทศยังไม่มีข้อกฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจ่ายเงินเดือนด้วย stablecoin ✅ ข้อดีของการรับเงินเดือนเป็น USDT ➡️ มูลค่าเสถียร ผูกกับดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1 ➡️ โอนเงินข้ามประเทศได้เร็วและถูกกว่าธนาคาร ➡️ ไม่ต้องพึ่งระบบธนาคารในประเทศที่ล่าช้า หรือมีข้อจำกัด ✅ การใช้งานจริงในประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจ ➡️ อาร์เจนตินาและตุรกีใช้ USDT เพื่อหลีกเลี่ยงเงินเฟ้อ ➡️ ไนจีเรียใช้ stablecoin สำหรับการโอนเงินและจ่ายเงินเดือน ➡️ ผู้ใช้ยอมจ่ายพรีเมียมเพื่อถือ “ดอลลาร์ดิจิทัล” แทนเงินสด ✅ เครือข่ายที่นิยมใช้สำหรับการโอน USDT ➡️ TRC-20 (Tron): เร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ ➡️ ERC-20 (Ethereum): ปลอดภัยแต่ค่าธรรมเนียมสูง ➡️ BEP-20 (BNB), Solana, Polygon: ทางเลือกที่สมดุลระหว่างความเร็วและต้นทุน ✅ การใช้งานในฝั่งบริษัท ➡️ ลดต้นทุนการโอนเงินข้ามประเทศ ➡️ จ่ายเงินให้ทีมงานระยะไกลได้ง่ายขึ้น ➡️ ใช้ USDT เป็นโบนัสหรือส่วนเสริมจากเงินเดือนหลักเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย https://hackread.com/why-users-businesses-choosing-usdt-local-currency/
    HACKREAD.COM
    Why Users and Businesses Are Choosing to Get Paid in USDT Instead of Local Currency
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • อลงกตการละคร! ฝากขังอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุพร้อมหมอบี คดีเงินพันล้าน ตร.เร่งสอบเส้นทางการเงิน พบหลักฐานเงินสด ปืน ที่ดินเพียบ จ่อเรียกคนใกล้ชิด 30 คน สอบเส้นทางการเงิน ย้ำไม่ได้ทำลายศาสนา แต่ต้องการตรวจสอบความโปร่งใส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082082

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    อลงกตการละคร! ฝากขังอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุพร้อมหมอบี คดีเงินพันล้าน ตร.เร่งสอบเส้นทางการเงิน พบหลักฐานเงินสด ปืน ที่ดินเพียบ จ่อเรียกคนใกล้ชิด 30 คน สอบเส้นทางการเงิน ย้ำไม่ได้ทำลายศาสนา แต่ต้องการตรวจสอบความโปร่งใส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082082 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Wow
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 873 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts