• ขยายบริการ DRT เกาะปีนัง ไปยังเกอร์นีย์และบัตเตอร์เวิร์ธ

    บริการขนส่งสาธารณะเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทาง หรือ DRT (Demand Responsive Transport) ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งใช้รถตู้เป็นยานพาหนะ เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าหลักไปยังชุมชนในรัศมีประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน เลือกจุดขึ้นรถ จุดลงรถ และชำระค่าโดยสารผ่านบัตรโดยสาร ไม่ได้จำกัดเพียงแค่พื้นที่หุบเขาแคลง (Klang Valley) ในเมืองหลวงเท่านั้น แต่มหานครอันดับสองอย่างรัฐปีนัง เริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา

    บริษัทแรพิดบัส (Rapid Bus) ผู้ให้บริการรถโดยสาร แรพิด ปีนัง (Rapid Penang) ประกาศว่าจะขยายบริการ แรพิด ปีนัง ออน ดีมานด์ (Rapid Penang On-Demand) จากเดิมมีสาย T210B ฟาร์ลิม-ไอร์อิตัม (Farlim-Air Itam) เพิ่มอีก 3 เส้นทาง ตั้งแต่ 15 มี.ค.2568 เป็นต้นไป ได้แก่

    สาย T110B เกอร์นีย์-ตันจงบุงกะห์ (Gurney-Tanjung Bungah) ใช้รถตู้ 6 คัน

    สาย T710B ซันเวย์-บัตเตอร์เวิร์ธ (Sunway-Butterworth) ใช้รถตู้ 6 คัน

    และสาย T211B ปายา เตอรูบง (Paya Terubong) ใช้รถตู้ 1 คัน

    นอกจากนี้ สาย T210B จะเพิ่มรถตู้จาก 2 คัน เป็น 4 คัน เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น และลดเวลารอคอยของผู้โดยสารจาก 17 นาทีเหลือ 10 นาที ที่ผ่านมามีผู้โดยสารเฉลี่ย 137 คนต่อวัน ซึ่งเกินเป้าหมายเริ่มต้นที่ 100 คนต่อวัน รวมแล้วจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดเกิน 26,000 คนในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา

    แถลงการณ์ของบริษัทฯ ระบุว่า เส้นทางใหม่เหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการขนส่งสาธารณะ ในพื้นที่ซึ่งมีประชากรหนาแน่นและย่านที่อยู่อาศัยที่เพิ่งพัฒนา แต่ยังขาดการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ โดยจะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายรถเมล์ Rapid Penang เพิ่มการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะในรัฐ โดยวางแผนทยอยนำรถตู้ 50 คันมาให้บริการตลอดทั้งปี ซึ่งการเปิดบริการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเปลี่ยนไปใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Rapid Penang On-Demand เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. สามารถจองรถได้ทางแอปพลิเคชัน กัมมูเต (Kummute) คิดค่าโดยสารราคาพิเศษ 1 ริงกิต (ประมาณ 7.70 บาท) ต่อเที่ยวการเดินทาง และจะใช้วิธีการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด ได้แก่ บัตร My50 และบัตร OKU Smile สำหรับคนในพื้นที่ บัตรเดบิต บัตรเครดิต DuitNow QR และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะเริ่มจากเส้นทาง T210B ฟาร์ลิม-ไอร์อิตัม ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.2568 ก่อนจะนำมาใช้ทั้ง 3 เส้นทางที่เปิดให้บริการขึ้นมาใหม่

    #Newskit
    ขยายบริการ DRT เกาะปีนัง ไปยังเกอร์นีย์และบัตเตอร์เวิร์ธ บริการขนส่งสาธารณะเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทาง หรือ DRT (Demand Responsive Transport) ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งใช้รถตู้เป็นยานพาหนะ เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าหลักไปยังชุมชนในรัศมีประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน เลือกจุดขึ้นรถ จุดลงรถ และชำระค่าโดยสารผ่านบัตรโดยสาร ไม่ได้จำกัดเพียงแค่พื้นที่หุบเขาแคลง (Klang Valley) ในเมืองหลวงเท่านั้น แต่มหานครอันดับสองอย่างรัฐปีนัง เริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา บริษัทแรพิดบัส (Rapid Bus) ผู้ให้บริการรถโดยสาร แรพิด ปีนัง (Rapid Penang) ประกาศว่าจะขยายบริการ แรพิด ปีนัง ออน ดีมานด์ (Rapid Penang On-Demand) จากเดิมมีสาย T210B ฟาร์ลิม-ไอร์อิตัม (Farlim-Air Itam) เพิ่มอีก 3 เส้นทาง ตั้งแต่ 15 มี.ค.2568 เป็นต้นไป ได้แก่ สาย T110B เกอร์นีย์-ตันจงบุงกะห์ (Gurney-Tanjung Bungah) ใช้รถตู้ 6 คัน สาย T710B ซันเวย์-บัตเตอร์เวิร์ธ (Sunway-Butterworth) ใช้รถตู้ 6 คัน และสาย T211B ปายา เตอรูบง (Paya Terubong) ใช้รถตู้ 1 คัน นอกจากนี้ สาย T210B จะเพิ่มรถตู้จาก 2 คัน เป็น 4 คัน เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น และลดเวลารอคอยของผู้โดยสารจาก 17 นาทีเหลือ 10 นาที ที่ผ่านมามีผู้โดยสารเฉลี่ย 137 คนต่อวัน ซึ่งเกินเป้าหมายเริ่มต้นที่ 100 คนต่อวัน รวมแล้วจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดเกิน 26,000 คนในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา แถลงการณ์ของบริษัทฯ ระบุว่า เส้นทางใหม่เหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการขนส่งสาธารณะ ในพื้นที่ซึ่งมีประชากรหนาแน่นและย่านที่อยู่อาศัยที่เพิ่งพัฒนา แต่ยังขาดการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ โดยจะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายรถเมล์ Rapid Penang เพิ่มการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะในรัฐ โดยวางแผนทยอยนำรถตู้ 50 คันมาให้บริการตลอดทั้งปี ซึ่งการเปิดบริการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเปลี่ยนไปใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น Rapid Penang On-Demand เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. สามารถจองรถได้ทางแอปพลิเคชัน กัมมูเต (Kummute) คิดค่าโดยสารราคาพิเศษ 1 ริงกิต (ประมาณ 7.70 บาท) ต่อเที่ยวการเดินทาง และจะใช้วิธีการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด ได้แก่ บัตร My50 และบัตร OKU Smile สำหรับคนในพื้นที่ บัตรเดบิต บัตรเครดิต DuitNow QR และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะเริ่มจากเส้นทาง T210B ฟาร์ลิม-ไอร์อิตัม ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.2568 ก่อนจะนำมาใช้ทั้ง 3 เส้นทางที่เปิดให้บริการขึ้นมาใหม่ #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดตำนาน เริงสวาทสีกา คาดาดฟ้า เรือเดินสมุทร “ยันตระ” เสียชีวิตที่อเมริกา หลังปลอมพาสปอร์ต หนีคดีจนหมดอายุความ 🚢⚖️

    🔵 อวสานตำนานพระชื่อดัง กับชีวิตที่กลับกลายเป็นประวัติศาสตร์สังคมไทย เมื่อเอ่ยถึงชื่อ "ยันตระ อมโร" หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ เชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยต้องรู้จัก ไม่ใช่เพียงเพราะเคยเป็น พระภิกษุชื่อดัง ผู้มีผู้ศรัทธามากมาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ หากแต่เพราะชีวิตของยันตระ เต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่า ฉาวโฉ่ และคดีความที่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์ไทย ในยุคหนึ่ง โดยเฉพาะกรณี อาบัติปาราชิก จากข้อกล่าวหาล่วงละเมิดสีกา รวมถึงภาพลักษณ์ ที่แวดล้อมไปด้วยความศรัทธา และความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งยังคงตามหลอกหลอน จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตในต่างแดน ✨

    🔵 จากลูกชาวบ้าน สู่พระนักปฏิบัติชื่อดัง นายวินัย ละอองสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในครอบครัวชาวบ้านธรรมดา ก่อนอุปสมบท ได้ใช้ชีวิตเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปี ได้รับการยกย่องว่าเป็น นักปฏิบัติธรรมผู้ทรงภูมิ ทำให้มีผู้คนเลื่อมใสมากมาย

    ต่อมาในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในธรรมยุติกนิกาย ที่วัดรัตนาราม จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมตั้งนามให้ตัวเองว่า "ยันตระ อมโรภิกขุ" แปลว่า ผู้ไกลจากกิเลส ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มานาน ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นนักพรตฤาษี 🧘‍♂️

    "วัดสุญญตาราม" อาณาจักรแห่งความว่าง หลังจากนั้น พระยันตระได้รับการนิมนต์ ไปเผยแผ่ธรรมในหลายประเทศ มีการจัดตั้ง "สำนักวัดสุญญตาราม" ทั้งในไทยและต่างแดนหลายแห่ง เช่น
    ✅ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี
    ✅ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน ออสเตรเลีย
    ✅ วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    บทสวดและคำสอน แนวกรรมฐานของพระยันตระ ถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ไปในวงกว้าง หลายคนมองว่ายันตระเป็นพระที่มีความรู้ในพระไตรปิฎก และการปฏิบัติที่เข้มขลัง ✨

    🔵 คดีอื้อฉาว ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของพระยันตระ ด้วยข้อกล่าวหาเรื่องเพศสัมพันธ์ และพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในปี พ.ศ. 2537 วงการสงฆ์สะเทือน เมื่อสีกากลุ่มหนึ่ง ยื่นคำร้องต่อสมเด็จพระสังฆราช และอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวหาพระยันตระว่า มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ กับสีกาหลายคน โดยมีพยานหลักฐานสนับสนุนมากมาย 📂

    ข้อกล่าวหาที่โด่งดัง
    🚢 เหตุการณ์บนเรือเดินสมุทร กล่าวหาว่า ยันตระมีเพศสัมพันธ์กับสีกา บนดาดฟ้าเรือ ระหว่างเดินทางจากสวีเดนไปฟินแลนด์

    🏡 กุฏิริมน้ำในออสเตรเลีย กล่าวหาว่า ยันตระมีพฤติกรรมจับต้องกายสตรี ด้วยความกำหนัด

    🚐 เหตุการณ์ในรถตู้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีหลักฐานว่า ยันตระเข้าไปหาสีกาในรถตู้ และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

    📞 บทสนทนาทางโทรศัพท์ พร่ำพูดถึงความรัก และมีหลักฐานเทปเสียง

    👧 ข้อกล่าวหาการมีบุตรสาว นางจันทิมา มายะรังษี นำเด็กหญิงที่อ้างว่า เป็นบุตรสาวของยันตระ มาแสดงตัว พร้อมภาพถ่ายที่แสดงถึงความสัมพันธ์ ฉันท์สามีภรรยา

    💳 หลักฐานบัตรเครดิต รายการใช้จ่ายในสถานบริการทางเพศ ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

    🔵 มติของมหาเถรสมาคม หลังการสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบพยานหลักฐาน มหาเถรสมาคมมีมติให้ "พระยันตระ อมโรภิกขุ" ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ โดยปริยาย ❌

    แต่แทนที่จะยอมรับคำตัดสิน ยันตระกลับประกาศไม่ยอมรับมติ และอ้างว่ายังเป็นพระภิกษุอยู่ โดยเปลี่ยนจีวรเป็นสีเขียว จนได้รับฉายาใหม่จากสื่อว่า

    🦎 "จิ้งเขียว"
    🦹‍♂️ "สมียันดะ"
    🧘‍♂️ "ยันดะ"

    🔵 ปลอมพาสปอร์ต หนีคดีข้ามโลก เมื่อพ้นจากสมณเพศ ยันตระได้ทำพาสปอร์ตปลอม หลบหนีออกจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง

    📜 ตลอด 20 ปี ยันตระใช้ชีวิตที่วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย

    ⏳ ระยะเวลาผ่านไป คดีต่าง ๆ หมดอายุความ ทำให้ยันตระาสามารถกลับประเทศไทยได้อีกครั้ง

    🔵 กลับมาเยือนเมืองไทย
    🗓️ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ยันตระเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีลูกศิษย์รอต้อนรับจำนวนมาก

    🏠 ยันตระได้พบปะกับลูกศิษย์ตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว ที่ท้องสนามหลวง

    📍 จากนั้นได้กลับไปยังบ้านเกิดที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกราบอดีตพระอุปัชฌาย์

    บั้นปลายที่แคลิฟอร์เนีย สุดท้ายแล้ว ยันตระกลับไปยังวัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย และเสียชีวิตในวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2568 สิริรวมอายุ 73 ปี 51 พรรษา 🕊️

    🔵 เสียงสะท้อนจากสังคม และศรัทธาที่ไม่เสื่อมคลาย แม้จะมีข้อกล่าวหาฉาวโฉ่ แต่ก็ยังมีศิษยานุศิษย์ที่ศรัทธาในคำสอน และการปฏิบัติธรรม องพระยันตระ

    🧎‍♂️ หลายคนยังคงกราบไหว้และนับถือ 👉 แต่ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหมาะสมหรือไม่ที่พระรูปอื่นๆ ยังคงกราบไหว้บุคคลที่ถูกถอดจากสมณเพศ 💬

    🔵 สรุปเรื่องราวชีวิต "ยันตระ อมโร"
    1️⃣ จากนักพรตสู่พระภิกษุผู้ยิ่งใหญ่
    2️⃣ คำสอนและแนวปฏิบัติที่มีผู้ศรัทธาทั่วโลก
    3️⃣ คดีอื้อฉาวที่ทำลายชื่อเสียงและนำไปสู่การถอดถอน
    4️⃣ การหลบหนีและใช้ชีวิตในฐานะผู้ลี้ภัย
    5️⃣ การกลับบ้านเกิดหลังคดีหมดอายุความ
    6️⃣ จบบั้นปลายชีวิตในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    🔵 ชีวิตของ "ยันตระ อมโร" เปรียบเหมือนนิยาย ที่มีทั้งช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำ ด้วยพฤติกรรมและการกระทำ ที่นำไปสู่ข้อกล่าวหาหนัก แต่ก็ยังคงมีคนศรัทธาไม่เสื่อมคลาย 💔✨

    👉 เรื่องราวของยันตระ จึงเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทย ในเรื่องศรัทธา ปัญญา และความรับผิดชอบต่อการกระทำ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 101152 มี.ค. 2568

    🔵 #ยันตระอมโร #ข่าวดราม่า #ประวัติพระดัง #วัดสุญญตาราม #สีกาคาดาดฟ้า #ข่าวไทยวันนี้ #เรื่องเล่าพระดัง #ข่าวพระดัง #ยันตระเสียชีวิต #ข่าวด่วนไทย
    ปิดตำนาน เริงสวาทสีกา คาดาดฟ้า เรือเดินสมุทร “ยันตระ” เสียชีวิตที่อเมริกา หลังปลอมพาสปอร์ต หนีคดีจนหมดอายุความ 🚢⚖️ 🔵 อวสานตำนานพระชื่อดัง กับชีวิตที่กลับกลายเป็นประวัติศาสตร์สังคมไทย เมื่อเอ่ยถึงชื่อ "ยันตระ อมโร" หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ เชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยต้องรู้จัก ไม่ใช่เพียงเพราะเคยเป็น พระภิกษุชื่อดัง ผู้มีผู้ศรัทธามากมาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ หากแต่เพราะชีวิตของยันตระ เต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่า ฉาวโฉ่ และคดีความที่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์ไทย ในยุคหนึ่ง โดยเฉพาะกรณี อาบัติปาราชิก จากข้อกล่าวหาล่วงละเมิดสีกา รวมถึงภาพลักษณ์ ที่แวดล้อมไปด้วยความศรัทธา และความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งยังคงตามหลอกหลอน จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตในต่างแดน ✨ 🔵 จากลูกชาวบ้าน สู่พระนักปฏิบัติชื่อดัง นายวินัย ละอองสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในครอบครัวชาวบ้านธรรมดา ก่อนอุปสมบท ได้ใช้ชีวิตเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปี ได้รับการยกย่องว่าเป็น นักปฏิบัติธรรมผู้ทรงภูมิ ทำให้มีผู้คนเลื่อมใสมากมาย ต่อมาในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในธรรมยุติกนิกาย ที่วัดรัตนาราม จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมตั้งนามให้ตัวเองว่า "ยันตระ อมโรภิกขุ" แปลว่า ผู้ไกลจากกิเลส ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มานาน ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นนักพรตฤาษี 🧘‍♂️ "วัดสุญญตาราม" อาณาจักรแห่งความว่าง หลังจากนั้น พระยันตระได้รับการนิมนต์ ไปเผยแผ่ธรรมในหลายประเทศ มีการจัดตั้ง "สำนักวัดสุญญตาราม" ทั้งในไทยและต่างแดนหลายแห่ง เช่น ✅ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี ✅ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน ออสเตรเลีย ✅ วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา บทสวดและคำสอน แนวกรรมฐานของพระยันตระ ถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ไปในวงกว้าง หลายคนมองว่ายันตระเป็นพระที่มีความรู้ในพระไตรปิฎก และการปฏิบัติที่เข้มขลัง ✨ 🔵 คดีอื้อฉาว ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของพระยันตระ ด้วยข้อกล่าวหาเรื่องเพศสัมพันธ์ และพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในปี พ.ศ. 2537 วงการสงฆ์สะเทือน เมื่อสีกากลุ่มหนึ่ง ยื่นคำร้องต่อสมเด็จพระสังฆราช และอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวหาพระยันตระว่า มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ กับสีกาหลายคน โดยมีพยานหลักฐานสนับสนุนมากมาย 📂 ข้อกล่าวหาที่โด่งดัง 🚢 เหตุการณ์บนเรือเดินสมุทร กล่าวหาว่า ยันตระมีเพศสัมพันธ์กับสีกา บนดาดฟ้าเรือ ระหว่างเดินทางจากสวีเดนไปฟินแลนด์ 🏡 กุฏิริมน้ำในออสเตรเลีย กล่าวหาว่า ยันตระมีพฤติกรรมจับต้องกายสตรี ด้วยความกำหนัด 🚐 เหตุการณ์ในรถตู้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีหลักฐานว่า ยันตระเข้าไปหาสีกาในรถตู้ และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม 📞 บทสนทนาทางโทรศัพท์ พร่ำพูดถึงความรัก และมีหลักฐานเทปเสียง 👧 ข้อกล่าวหาการมีบุตรสาว นางจันทิมา มายะรังษี นำเด็กหญิงที่อ้างว่า เป็นบุตรสาวของยันตระ มาแสดงตัว พร้อมภาพถ่ายที่แสดงถึงความสัมพันธ์ ฉันท์สามีภรรยา 💳 หลักฐานบัตรเครดิต รายการใช้จ่ายในสถานบริการทางเพศ ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 🔵 มติของมหาเถรสมาคม หลังการสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบพยานหลักฐาน มหาเถรสมาคมมีมติให้ "พระยันตระ อมโรภิกขุ" ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ โดยปริยาย ❌ แต่แทนที่จะยอมรับคำตัดสิน ยันตระกลับประกาศไม่ยอมรับมติ และอ้างว่ายังเป็นพระภิกษุอยู่ โดยเปลี่ยนจีวรเป็นสีเขียว จนได้รับฉายาใหม่จากสื่อว่า 🦎 "จิ้งเขียว" 🦹‍♂️ "สมียันดะ" 🧘‍♂️ "ยันดะ" 🔵 ปลอมพาสปอร์ต หนีคดีข้ามโลก เมื่อพ้นจากสมณเพศ ยันตระได้ทำพาสปอร์ตปลอม หลบหนีออกจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง 📜 ตลอด 20 ปี ยันตระใช้ชีวิตที่วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย ⏳ ระยะเวลาผ่านไป คดีต่าง ๆ หมดอายุความ ทำให้ยันตระาสามารถกลับประเทศไทยได้อีกครั้ง 🔵 กลับมาเยือนเมืองไทย 🗓️ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ยันตระเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีลูกศิษย์รอต้อนรับจำนวนมาก 🏠 ยันตระได้พบปะกับลูกศิษย์ตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว ที่ท้องสนามหลวง 📍 จากนั้นได้กลับไปยังบ้านเกิดที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกราบอดีตพระอุปัชฌาย์ บั้นปลายที่แคลิฟอร์เนีย สุดท้ายแล้ว ยันตระกลับไปยังวัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย และเสียชีวิตในวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2568 สิริรวมอายุ 73 ปี 51 พรรษา 🕊️ 🔵 เสียงสะท้อนจากสังคม และศรัทธาที่ไม่เสื่อมคลาย แม้จะมีข้อกล่าวหาฉาวโฉ่ แต่ก็ยังมีศิษยานุศิษย์ที่ศรัทธาในคำสอน และการปฏิบัติธรรม องพระยันตระ 🧎‍♂️ หลายคนยังคงกราบไหว้และนับถือ 👉 แต่ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหมาะสมหรือไม่ที่พระรูปอื่นๆ ยังคงกราบไหว้บุคคลที่ถูกถอดจากสมณเพศ 💬 🔵 สรุปเรื่องราวชีวิต "ยันตระ อมโร" 1️⃣ จากนักพรตสู่พระภิกษุผู้ยิ่งใหญ่ 2️⃣ คำสอนและแนวปฏิบัติที่มีผู้ศรัทธาทั่วโลก 3️⃣ คดีอื้อฉาวที่ทำลายชื่อเสียงและนำไปสู่การถอดถอน 4️⃣ การหลบหนีและใช้ชีวิตในฐานะผู้ลี้ภัย 5️⃣ การกลับบ้านเกิดหลังคดีหมดอายุความ 6️⃣ จบบั้นปลายชีวิตในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา 🔵 ชีวิตของ "ยันตระ อมโร" เปรียบเหมือนนิยาย ที่มีทั้งช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำ ด้วยพฤติกรรมและการกระทำ ที่นำไปสู่ข้อกล่าวหาหนัก แต่ก็ยังคงมีคนศรัทธาไม่เสื่อมคลาย 💔✨ 👉 เรื่องราวของยันตระ จึงเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทย ในเรื่องศรัทธา ปัญญา และความรับผิดชอบต่อการกระทำ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 101152 มี.ค. 2568 🔵 #ยันตระอมโร #ข่าวดราม่า #ประวัติพระดัง #วัดสุญญตาราม #สีกาคาดาดฟ้า #ข่าวไทยวันนี้ #เรื่องเล่าพระดัง #ข่าวพระดัง #ยันตระเสียชีวิต #ข่าวด่วนไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน

    การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน
    - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ
    - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้
    - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype

    ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย
    - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft

    Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19

    การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้ - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The last days of Skype: Time to switch to Teams – or say goodbye
    As the sun slowly sets Skype, some two decades after it started a revolution in online communication, owner Microsoft is pointing the way to its remaining loyal users: Teams.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้สภาคองเกรสยกเลิกกฎหมายอุดหนุนอุตสาหกรรมการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์วงเงิน 52,700 ล้านดอลลาร์ปี 2022 ที่ออกโดยรัฐบาล โจ ไบเดน พร้อมเสนอให้เอาดอกผลมาชำระหนี้ของรัฐบาลแทน
    .
    ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่ TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวัน เพิ่งจะประกาศทุ่มเงินลงทุนอีก 100,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานอีก 5 แห่งในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (3 มี.ค.)
    .
    "กฎหมาย CHIPS Act ของพวกคุณมันแย่มาก เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์แต่ไม่มีความหมายอะไรเลย พวกเขาเอาเงินเราไปแต่ไม่ใช้" ทรัมป์ กล่าวระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรสหนแรกหลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (4)
    .
    "พวกคุณควรยกเลิกกฎหมาย CHIPS Act และอะไรก็ตามที่เหลืออยู่ ท่านประธาน... ท่านควรเอาเงินส่วนนี้มาลดหนี้"
    .
    กฎหมาย CHIPS and Science Act ถูกลงนามประกาศใช้โดยประธานาธิบดี ไบเดน ในเดือน ส.ค. ปี 2022 ซึ่งรวมถึงวงเงิน 39,000 ล้านดอลลาร์สำหรับอุดหนุนภาคการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องในสหรัฐฯ และยังมีวงเงินกู้จากรัฐบาลอีก 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    .
    คำพูดของ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ (4) ถือเป็นการโจมตีกฎหมาย CHIPS Act หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา
    .
    ทรัมป์ ยังบอกด้วยว่า"เราไม่จำเป็นต้องให้เงินพวกเขา" และเพียงแค่มาตรการรีดภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาตั้งฐานการผลิตชิปในอเมริกา
    .
    โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยกล่าวชื่นชมโครงการนี้ แต่ก็บอกว่าอยากจะทบทวนเงินอุดหนุนต่างๆ ที่ออกโดยรัฐบาล ไบเดน
    .
    ทั้งนี้ จีนา ไรมอนโด อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ในยุคไบเดน เคยไปโน้มน้าวผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ 5 รายของโลกให้มาตั้งโรงงานผลิตชิปในอเมริกาโดยใช้เงินอุดหนุนเป็นสิ่งล่อใจ เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในด้านความมั่นคงจากการพึ่งพาชิปนำเข้า
    .
    ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ก่อน ไบเดน หมดวาระ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้อนุมัติเงินอุดหนุนมากกว่า 33,000 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นเงินอุดหนุนซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ 4,745 ล้านดอลลาร์ อินเทลสูงสุด 7,860 ล้านดอลลาร์ TSMC 6,600 ล้านดอลลาร์ และ ไมครอน 6,100 ล้านดอลลาร์
    .
    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนเคยแสดงความวิตกกังวลว่า ทรัมป์ อาจจะเข้ามาฉีกข้อตกลงเงินอุดหนุนที่ ไบเดน เคยทำเอาไว้ โดย เคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เตือนว่ากฎหมาย CHIPS Act คือเหตุผลที่ไมครอนทุ่มเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์สร้างงาน 50,000 ตำแหน่งที่ตอนกลางของรัฐแห่งนี้ "แต่อยู่ๆ ทรัมป์ กลับพูดว่าจะยกเลิกมัน"
    .
    ลุตนิค อ้างถึงเงินอุดหนุน 6,600 ล้านดอลลาร์สำหรับ TSMC ในอีเวนต์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (3) และย้ำว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังไม่มีแผนที่จะใหัเงินอุดหนุนเพิ่มเติมแก่บริษัทชิปไต้หวันรายนี้ แต่ TSMC ยังมีสิทธิได้รับประโยชน์จากเครดิตภาษีการลงทุนในภาคการผลิต 25%
    .
    TSMC แถลงเมื่อเดือน ก.พ. ว่าได้รับเงินอุดหนุนจากสหรัฐฯ มาแล้ว 1,500 ล้านดอลลาร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021619
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้สภาคองเกรสยกเลิกกฎหมายอุดหนุนอุตสาหกรรมการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์วงเงิน 52,700 ล้านดอลลาร์ปี 2022 ที่ออกโดยรัฐบาล โจ ไบเดน พร้อมเสนอให้เอาดอกผลมาชำระหนี้ของรัฐบาลแทน . ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่ TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวัน เพิ่งจะประกาศทุ่มเงินลงทุนอีก 100,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานอีก 5 แห่งในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (3 มี.ค.) . "กฎหมาย CHIPS Act ของพวกคุณมันแย่มาก เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์แต่ไม่มีความหมายอะไรเลย พวกเขาเอาเงินเราไปแต่ไม่ใช้" ทรัมป์ กล่าวระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรสหนแรกหลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (4) . "พวกคุณควรยกเลิกกฎหมาย CHIPS Act และอะไรก็ตามที่เหลืออยู่ ท่านประธาน... ท่านควรเอาเงินส่วนนี้มาลดหนี้" . กฎหมาย CHIPS and Science Act ถูกลงนามประกาศใช้โดยประธานาธิบดี ไบเดน ในเดือน ส.ค. ปี 2022 ซึ่งรวมถึงวงเงิน 39,000 ล้านดอลลาร์สำหรับอุดหนุนภาคการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องในสหรัฐฯ และยังมีวงเงินกู้จากรัฐบาลอีก 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ . คำพูดของ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ (4) ถือเป็นการโจมตีกฎหมาย CHIPS Act หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา . ทรัมป์ ยังบอกด้วยว่า"เราไม่จำเป็นต้องให้เงินพวกเขา" และเพียงแค่มาตรการรีดภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาตั้งฐานการผลิตชิปในอเมริกา . โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยกล่าวชื่นชมโครงการนี้ แต่ก็บอกว่าอยากจะทบทวนเงินอุดหนุนต่างๆ ที่ออกโดยรัฐบาล ไบเดน . ทั้งนี้ จีนา ไรมอนโด อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ในยุคไบเดน เคยไปโน้มน้าวผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ 5 รายของโลกให้มาตั้งโรงงานผลิตชิปในอเมริกาโดยใช้เงินอุดหนุนเป็นสิ่งล่อใจ เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในด้านความมั่นคงจากการพึ่งพาชิปนำเข้า . ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ก่อน ไบเดน หมดวาระ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้อนุมัติเงินอุดหนุนมากกว่า 33,000 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นเงินอุดหนุนซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ 4,745 ล้านดอลลาร์ อินเทลสูงสุด 7,860 ล้านดอลลาร์ TSMC 6,600 ล้านดอลลาร์ และ ไมครอน 6,100 ล้านดอลลาร์ . เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนเคยแสดงความวิตกกังวลว่า ทรัมป์ อาจจะเข้ามาฉีกข้อตกลงเงินอุดหนุนที่ ไบเดน เคยทำเอาไว้ โดย เคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เตือนว่ากฎหมาย CHIPS Act คือเหตุผลที่ไมครอนทุ่มเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์สร้างงาน 50,000 ตำแหน่งที่ตอนกลางของรัฐแห่งนี้ "แต่อยู่ๆ ทรัมป์ กลับพูดว่าจะยกเลิกมัน" . ลุตนิค อ้างถึงเงินอุดหนุน 6,600 ล้านดอลลาร์สำหรับ TSMC ในอีเวนต์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (3) และย้ำว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังไม่มีแผนที่จะใหัเงินอุดหนุนเพิ่มเติมแก่บริษัทชิปไต้หวันรายนี้ แต่ TSMC ยังมีสิทธิได้รับประโยชน์จากเครดิตภาษีการลงทุนในภาคการผลิต 25% . TSMC แถลงเมื่อเดือน ก.พ. ว่าได้รับเงินอุดหนุนจากสหรัฐฯ มาแล้ว 1,500 ล้านดอลลาร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021619 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1856 มุมมอง 0 รีวิว
  • Thomas Caulfield ผู้บริหารของ GlobalFoundries ได้พูดในงานประชุมกับนักลงทุนของ Morgan Stanley เกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ นำมาใช้กับชิปที่ผลิตในต่างประเทศ เขาแสดงความคิดเห็นว่าภาษีเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ โดยช่วยเพิ่มความต้องการชิปที่ผลิตในประเทศ ทำให้ลูกค้าหันมาซื้อชิปที่ผลิตในโรงงานในสหรัฐฯ มากขึ้น

    Thomas ยังกล่าวอีกว่า กฎหมาย CHIPS and Science Act ซึ่งมีมูลค่า 52.7 พันล้านดอลลาร์ และเครดิตภาษีสำหรับการลงทุนในอุปกรณ์การผลิตชิป ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตชิปในสหรัฐฯ อย่างมาก แต่เขาคิดว่าการใช้แค่กฎหมายนี้หรือเครดิตภาษีเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ยังจำเป็นต้องมีการใช้ภาษีศุลกากรควบคู่ไปด้วย เพื่อให้สร้างกลไกที่ทำให้ความต้องการชิปในประเทศสูงขึ้น

    ในระหว่างนี้ ประธานาธิบดี Donald Trump ได้จัดแถลงข่าวร่วมกับ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co (TSMC) ซึ่งได้ประกาศแผนการลงทุน 100 พันล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานในสหรัฐฯ สิ่งนี้ทำให้เห็นถึงการที่ TSMC ต้องการเข้ามาในตลาดสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่พวกเขาจะต้องเผชิญหากไม่ผลิตชิปในสหรัฐฯ

    Howard Lutnick รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า TSMC ตัดสินใจลงทุนในสหรัฐฯ เนื่องจากต้องการเข้าสู่ตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและหลีกเลี่ยงภาษีที่อาจต้องเจอหากไม่ผลิตชิปในสหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/05/globalfoundries-chief-says-tariffs-could-benefit-us-chipmakers
    Thomas Caulfield ผู้บริหารของ GlobalFoundries ได้พูดในงานประชุมกับนักลงทุนของ Morgan Stanley เกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ นำมาใช้กับชิปที่ผลิตในต่างประเทศ เขาแสดงความคิดเห็นว่าภาษีเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ โดยช่วยเพิ่มความต้องการชิปที่ผลิตในประเทศ ทำให้ลูกค้าหันมาซื้อชิปที่ผลิตในโรงงานในสหรัฐฯ มากขึ้น Thomas ยังกล่าวอีกว่า กฎหมาย CHIPS and Science Act ซึ่งมีมูลค่า 52.7 พันล้านดอลลาร์ และเครดิตภาษีสำหรับการลงทุนในอุปกรณ์การผลิตชิป ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตชิปในสหรัฐฯ อย่างมาก แต่เขาคิดว่าการใช้แค่กฎหมายนี้หรือเครดิตภาษีเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ยังจำเป็นต้องมีการใช้ภาษีศุลกากรควบคู่ไปด้วย เพื่อให้สร้างกลไกที่ทำให้ความต้องการชิปในประเทศสูงขึ้น ในระหว่างนี้ ประธานาธิบดี Donald Trump ได้จัดแถลงข่าวร่วมกับ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co (TSMC) ซึ่งได้ประกาศแผนการลงทุน 100 พันล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานในสหรัฐฯ สิ่งนี้ทำให้เห็นถึงการที่ TSMC ต้องการเข้ามาในตลาดสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่พวกเขาจะต้องเผชิญหากไม่ผลิตชิปในสหรัฐฯ Howard Lutnick รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า TSMC ตัดสินใจลงทุนในสหรัฐฯ เนื่องจากต้องการเข้าสู่ตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและหลีกเลี่ยงภาษีที่อาจต้องเจอหากไม่ผลิตชิปในสหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/05/globalfoundries-chief-says-tariffs-could-benefit-us-chipmakers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    GlobalFoundries chief says tariffs could benefit US chipmakers
    (Reuters) - GlobalFoundries Chief Executive Officer Thomas Caulfield said on Tuesday that U.S. tariffs on foreign-made chips could help U.S. chip manufacturers by boosting demand for domestically made chips.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣Shokku​ Sports​ โช๊คอัพระบบถุงลม สำหรับรถปิ๊คอัพ​ 4x4​ PPV​ และรถตู้​ ระบบเอกสิทธิ์เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

    คือโช๊คอัพที่ถูกพัฒนาระบบขึ้นเพื่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ระบบโช๊คอัพที่ถูกออกแบบด้วยแนวคิดที่นำเอาตัวระบบถุงลมเข้ามาช่วยเพิ่มการซับแรงกระแทก การรักษาสมดุลของห้องโดยสารที่ดีมากขึ้น เปลี่ยนความรู้สึกในการใช้งาน รถประเภทปิ๊คอัพ PPV หรือรถตู้ ให้แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง เปิดประสบการณ์ที่จะตอบทุกโจทย์การใช้งานของคุณและครอบครัว

    📌ผลงานกว่าพันคันที่การันตีในคุณภาพและความพอใจ📌
    https://www.facebook.com/media/set/?set=a.906736622837487&type=3

    📌คอมเม้นท์บางส่วนจากลูกค้าที่ใช้งาน Shokku Sports​📌
    https://www.facebook.com/media/set/?set=a.908789915965491&type=3

    ➡️รายชื่อตัวแทน​ Shokku​ Sports​ คลิ๊ก👉🏻https://www.facebook.com/media/set/?set=a.961710604006755&type=3

    📣สั่งผ่าน LAZADA ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือนกับบัตรเครดิตธนาคารชั้นนำเพียบ
    ✅สั่งผ่านทาง👉 LAZADA คลิ๊ก https://s.lazada.co.th/s.7IAPw

    📣สั่งผ่าน SHOPEE ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือนกับบัตรเครดิตธนาคารชั้นนำเพียบ
    และผ่อนชำระสูงสุด 48 เดือนกับบัตรอิออน Big-C Exclusive
    ✅สั่งผ่านทาง👉 SHOPEE คลิ๊ก https://shope.ee/fngHxXuq

    ✅สั่งผ่านทาง👉 Line Shop คลิ๊ก https://shop.line.me/@shokkusports

    🔸www.shokkusports.com
    🔸Facebook : shokkkusports
    🔸Youtube : ShokkuSports
    🔸Line ID : @shokkusports
    🔸Twitter : @shokkusports
    🔸Instagram : shokkusports
    🔸Blockdit : shokkusports
    🔸WhatsApp : https://wa.me/c/66901542245
    🔸TikTok : shokkusports
    🔸Threads : @shokkusports

    👉สนใจสินค้าและตัวแทนจำหน่าย👈
    📲โทร. 090-154-2245 คุณเฟิสท์

    #shokku #โช้คอัพระบบถุงลม #fortuner #toyota #ถุงลม #lazada #vigo #revo #shopee #pajero #dmax #triton #commuter #ranger #โช๊คอัพแต่ง #isuzu #ford #mitsubishi #bt50 #shokkusports #ช็อกกุ #โช๊คอัพ #airbag #โช้คอัพ #ช็อกกุสปอร์ท #ช่วงล่าง #ช็อกอัพ #suspension #ระบบถุงลม #แต่งรถ
    📣Shokku​ Sports​ โช๊คอัพระบบถุงลม สำหรับรถปิ๊คอัพ​ 4x4​ PPV​ และรถตู้​ ระบบเอกสิทธิ์เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือโช๊คอัพที่ถูกพัฒนาระบบขึ้นเพื่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ระบบโช๊คอัพที่ถูกออกแบบด้วยแนวคิดที่นำเอาตัวระบบถุงลมเข้ามาช่วยเพิ่มการซับแรงกระแทก การรักษาสมดุลของห้องโดยสารที่ดีมากขึ้น เปลี่ยนความรู้สึกในการใช้งาน รถประเภทปิ๊คอัพ PPV หรือรถตู้ ให้แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง เปิดประสบการณ์ที่จะตอบทุกโจทย์การใช้งานของคุณและครอบครัว 📌ผลงานกว่าพันคันที่การันตีในคุณภาพและความพอใจ📌 https://www.facebook.com/media/set/?set=a.906736622837487&type=3 📌คอมเม้นท์บางส่วนจากลูกค้าที่ใช้งาน Shokku Sports​📌 https://www.facebook.com/media/set/?set=a.908789915965491&type=3 ➡️รายชื่อตัวแทน​ Shokku​ Sports​ คลิ๊ก👉🏻https://www.facebook.com/media/set/?set=a.961710604006755&type=3 📣สั่งผ่าน LAZADA ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือนกับบัตรเครดิตธนาคารชั้นนำเพียบ ✅สั่งผ่านทาง👉 LAZADA คลิ๊ก https://s.lazada.co.th/s.7IAPw 📣สั่งผ่าน SHOPEE ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือนกับบัตรเครดิตธนาคารชั้นนำเพียบ และผ่อนชำระสูงสุด 48 เดือนกับบัตรอิออน Big-C Exclusive ✅สั่งผ่านทาง👉 SHOPEE คลิ๊ก https://shope.ee/fngHxXuq ✅สั่งผ่านทาง👉 Line Shop คลิ๊ก https://shop.line.me/@shokkusports 🔸www.shokkusports.com 🔸Facebook : shokkkusports 🔸Youtube : ShokkuSports 🔸Line ID : @shokkusports 🔸Twitter : @shokkusports 🔸Instagram : shokkusports 🔸Blockdit : shokkusports 🔸WhatsApp : https://wa.me/c/66901542245 🔸TikTok : shokkusports 🔸Threads : @shokkusports 👉สนใจสินค้าและตัวแทนจำหน่าย👈 📲โทร. 090-154-2245 คุณเฟิสท์ #shokku #โช้คอัพระบบถุงลม #fortuner #toyota #ถุงลม #lazada #vigo #revo #shopee #pajero #dmax #triton #commuter #ranger #โช๊คอัพแต่ง #isuzu #ford #mitsubishi #bt50 #shokkusports #ช็อกกุ #โช๊คอัพ #airbag #โช้คอัพ #ช็อกกุสปอร์ท #ช่วงล่าง #ช็อกอัพ #suspension #ระบบถุงลม #แต่งรถ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 459 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพบัตรประชาชนในมือถือท่าน โปรดระวังนะครับ! 📲
    มุกใหม่มิจฉาชีพ สวมบัตรประชาชน เปิดซิมการ์ดใหม่เบอร์เดิม ขอรหัส otp ล้วงเงินบัตรเครดิต
    .
    ขณะนี้มีมิจฉาชีพปลอมแปลงบัตรประชาชนของผู้เสียหาย โดยตัดต่อใบหน้าของมิจฉาชีพไปใส่แทนภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้เสียหาย แล้วนำไปขอออกซิมการ์ดใหม่แต่ใช้เบอร์เดิม
    .
    เมื่อมิจฉาชีพเข้าใช้งานหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหายได้แล้ว มิจฉาชีพก็จะเข้าสู่ระบบของบัตรเครดิตผู้เสียหาย เพื่อขอรหัส OTP ในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ก่อนจะนำไปบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปใช้จ่าย สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก
    .
    ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงขอเตือนภัย ให้ระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชนผ่านทางโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ให้กับหน่วยงานหรือบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ และควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของหน่วยงานที่ขอข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพครับ
    .
    ที่มา ตำรวจสอบสวนกลาง CIB
    ภาพบัตรประชาชนในมือถือท่าน โปรดระวังนะครับ! 📲 มุกใหม่มิจฉาชีพ สวมบัตรประชาชน เปิดซิมการ์ดใหม่เบอร์เดิม ขอรหัส otp ล้วงเงินบัตรเครดิต . ขณะนี้มีมิจฉาชีพปลอมแปลงบัตรประชาชนของผู้เสียหาย โดยตัดต่อใบหน้าของมิจฉาชีพไปใส่แทนภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้เสียหาย แล้วนำไปขอออกซิมการ์ดใหม่แต่ใช้เบอร์เดิม . เมื่อมิจฉาชีพเข้าใช้งานหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหายได้แล้ว มิจฉาชีพก็จะเข้าสู่ระบบของบัตรเครดิตผู้เสียหาย เพื่อขอรหัส OTP ในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ก่อนจะนำไปบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปใช้จ่าย สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก . ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงขอเตือนภัย ให้ระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชนผ่านทางโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ให้กับหน่วยงานหรือบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ และควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของหน่วยงานที่ขอข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพครับ . ที่มา ตำรวจสอบสวนกลาง CIB
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทลายเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ ยึดทรัพย์กว่า 300 ล้านบาท ปมเชื่อมโยงทุนจีนสีเทา 🚔💰

    📅 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 มีคดีใหญ่สะเทือนวงการพนันออนไลน์! คณะกรรมาธิการตำรวจร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปราบปรามเว็บพนันเครือข่ายใหญ่ ที่มีเส้นทางการเงิน โยงใยกับกลุ่มทุนจีนสีเทา ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท และเดินหน้าสืบสวนขยายผล ไปยังพื้นที่อื่น ๆ 🚨

    📌 จุดเริ่มต้นของปฏิบัติการ ตรวจร้านชาบู-หมาล่า เปิดโปงเว็บพนันเครือข่ายใหญ่ เหตุการณ์นี้เริ่มจากการที่ คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ตำรวจ) ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหาร ชาบู หมาล่า และร้านค้าในย่านรัชดาภิเษก, สุทธิสาร, ห้วยขวาง และ RCA ซึ่งเป็นโซนที่มีธุรกิจของชาวจีนจำนวนมาก

    🔎 พบความผิดปกติ มีธุรกิจบางแห่ง ที่มีเส้นทางการเงินที่ซับซ้อน เจ้าของเป็นชาวจีน และมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นทุนจีนสีเทา และมีความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ เช่น

    - “ชาบู999”
    - “มาม่า555”
    - “ซูชิ555”

    เว็บเหล่านี้ มีเงินหมุนเวียนสูงถึง 300 ล้านบาทต่อเดือน! 😱

    🔎 สืบสวนขยายผล พบผู้ต้องหา 12 ราย ยึดทรัพย์สินเพียบ! หลังการตรวจสอบ กมธ.ตำรวจ ได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบก.สส.สตม.) ในขณะนั้น และส่งข้อมูลต่อให้กับ พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม. เพื่อขยายผล

    📌 ผลการสืบสวน พบผู้ต้องหาเบื้องต้น 12 ราย จึงขอหมายค้น 8 จุดสำคัญ ใน นนทบุรี, ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพฯ โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้หลายราย พร้อมหลักฐานจำนวนมาก

    🏠 ทรัพย์สินที่ถูกยึด
    ✅ บ้านหรูในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา มูลค่า 100 ล้านบาท
    ✅ รถตู้ไฟฟ้าซีเกอร์ 1 คัน
    ✅ บ้านในซอยโยธิน มูลค่า 100 ล้านบาท
    ✅ รถยนต์หรูอีกหลายคัน มูลค่ารวม 9 ล้านบาท
    ✅ ร้านทำเล็บ และอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ 🏡💎

    💰 รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดกว่า 300 ล้านบาท!

    📢 การสืบสวนิและทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์แต่ละแห่งิใช้เวลานานถึง 4 เดือน เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน อย่างละเอียด

    🚨 กมธ.ตำรวจยังเตรียมลงพื้นที่ย่าน "ถนนบรรทัดทอง" เพื่อตรวจสอบธุรกิจที่เข้าข่าย มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และทุนจีนสีเทาต่อไป 🔍

    ⚠ ผลกระทบจากเว็บพนันออนไลน์
    ✅ กระทบเศรษฐกิจไทย เงินไหลออกนอกประเทศ ไปยังกลุ่มทุนต่างชาติ
    ✅ ฟอกเงินและสนับสนุนอาชญากรรม ใช้เป็นช่องทางฟอกเงินของกลุ่มมิจฉาชีพ
    ✅ หลอกลวงประชาชน ใช้กลยุทธ์โฆษณาหลอกให้คนเข้าไปเล่น จนสูญเสียเงินจำนวนมาก
    ✅ กระทบเยาวชน เว็บพนันออนไลน์เข้าถึงง่าย ทำให้เยาวชนติดการพนัน

    🚔 ภาครัฐและตำรวจจึงต้องเร่งปราบปราม!

    🚨 สัญญาณเตือน วิธีสังเกตเว็บพนันออนไลน์ หากพบเว็บไซต์ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ อาจเป็นเว็บพนันออนไลนืผิดกฎหมาย ⛔

    ❌ โฆษณาชวนเชื่อเกินจริง เช่น "เล่นแล้วรวยทันที!"
    ❌ ใช้ระบบฝาก-ถอนอัตโนมัติ ผ่านแอปพลิเคชันแปลก ๆ
    ❌ ไม่มีข้อมูลติดต่อที่ชัดเจน หรือไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    ❌ ใช้โปรโมชั่นล่อใจเกินจริง เช่น เครดิตฟรี 100% หรือฝาก 100 ได้ 1,000

    ⚠ หากพบเห็น สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินคดีได้ทันที!

    🚨 แม้ว่าการจับกุมเครือข่ายใหญ่ครั้งนี้ จะเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังต้องทำงานต่อเนื่อง เพื่อลดจำนวนเว็บพนันผิดกฎหมาย ให้หมดไปจากสังคมไทย 🔮

    📌 มาตรการในอนาคต
    ✅ ตรวจสอบ และปิดกั้นเว็บไซต์พนันที่ผิดกฎหมาย
    ✅ ควบคุมแอปพลิเคชัน ที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินเพื่อเล่นพนัน
    ✅ ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด กับกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง

    📢 ทางออกที่ดีคือ การปราบปรามอย่างจริงจัง และสร้างความตระหนักให้กับประชาชน เกี่ยวกับอันตรายของเว็บพนัน!

    📣 สรุปประเด็นสำคัญ
    📌 ปฏิบัติการจับกุมเว็บพนันออนไลน์ครั้งใหญ่
    📌 ยึดทรัพย์สินกว่า 300 ล้านบาท จากกลุ่มทุนจีนสีเทา
    📌 เว็บพนันที่ถูกจับ ได้แก่ "ชาบู999", "มาม่า555", "ซูชิ555"
    📌 สืบสวนขยายผลไปยังถนนบรรทัดทอง
    📌 ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้ เพื่อช่วยลดปัญหาเว็บพนัน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 262135ก.พ. 2568

    📢 #ตำรวจไทย #เว็บพนันออนไลน์ #ทุนจีนสีเทา #ปราบเว็บพนัน #จับกุมเว็บพนัน #เศรษฐกิจไทย #ยึดทรัพย์300ล้าน #ข่าวด่วน #กมธตำรวจ #อาชญากรรมออนไลน์
    ทลายเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ ยึดทรัพย์กว่า 300 ล้านบาท ปมเชื่อมโยงทุนจีนสีเทา 🚔💰 📅 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 มีคดีใหญ่สะเทือนวงการพนันออนไลน์! คณะกรรมาธิการตำรวจร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปราบปรามเว็บพนันเครือข่ายใหญ่ ที่มีเส้นทางการเงิน โยงใยกับกลุ่มทุนจีนสีเทา ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท และเดินหน้าสืบสวนขยายผล ไปยังพื้นที่อื่น ๆ 🚨 📌 จุดเริ่มต้นของปฏิบัติการ ตรวจร้านชาบู-หมาล่า เปิดโปงเว็บพนันเครือข่ายใหญ่ เหตุการณ์นี้เริ่มจากการที่ คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ตำรวจ) ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหาร ชาบู หมาล่า และร้านค้าในย่านรัชดาภิเษก, สุทธิสาร, ห้วยขวาง และ RCA ซึ่งเป็นโซนที่มีธุรกิจของชาวจีนจำนวนมาก 🔎 พบความผิดปกติ มีธุรกิจบางแห่ง ที่มีเส้นทางการเงินที่ซับซ้อน เจ้าของเป็นชาวจีน และมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นทุนจีนสีเทา และมีความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ เช่น - “ชาบู999” - “มาม่า555” - “ซูชิ555” เว็บเหล่านี้ มีเงินหมุนเวียนสูงถึง 300 ล้านบาทต่อเดือน! 😱 🔎 สืบสวนขยายผล พบผู้ต้องหา 12 ราย ยึดทรัพย์สินเพียบ! หลังการตรวจสอบ กมธ.ตำรวจ ได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบก.สส.สตม.) ในขณะนั้น และส่งข้อมูลต่อให้กับ พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม. เพื่อขยายผล 📌 ผลการสืบสวน พบผู้ต้องหาเบื้องต้น 12 ราย จึงขอหมายค้น 8 จุดสำคัญ ใน นนทบุรี, ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพฯ โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้หลายราย พร้อมหลักฐานจำนวนมาก 🏠 ทรัพย์สินที่ถูกยึด ✅ บ้านหรูในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา มูลค่า 100 ล้านบาท ✅ รถตู้ไฟฟ้าซีเกอร์ 1 คัน ✅ บ้านในซอยโยธิน มูลค่า 100 ล้านบาท ✅ รถยนต์หรูอีกหลายคัน มูลค่ารวม 9 ล้านบาท ✅ ร้านทำเล็บ และอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ 🏡💎 💰 รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดกว่า 300 ล้านบาท! 📢 การสืบสวนิและทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์แต่ละแห่งิใช้เวลานานถึง 4 เดือน เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน อย่างละเอียด 🚨 กมธ.ตำรวจยังเตรียมลงพื้นที่ย่าน "ถนนบรรทัดทอง" เพื่อตรวจสอบธุรกิจที่เข้าข่าย มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และทุนจีนสีเทาต่อไป 🔍 ⚠ ผลกระทบจากเว็บพนันออนไลน์ ✅ กระทบเศรษฐกิจไทย เงินไหลออกนอกประเทศ ไปยังกลุ่มทุนต่างชาติ ✅ ฟอกเงินและสนับสนุนอาชญากรรม ใช้เป็นช่องทางฟอกเงินของกลุ่มมิจฉาชีพ ✅ หลอกลวงประชาชน ใช้กลยุทธ์โฆษณาหลอกให้คนเข้าไปเล่น จนสูญเสียเงินจำนวนมาก ✅ กระทบเยาวชน เว็บพนันออนไลน์เข้าถึงง่าย ทำให้เยาวชนติดการพนัน 🚔 ภาครัฐและตำรวจจึงต้องเร่งปราบปราม! 🚨 สัญญาณเตือน วิธีสังเกตเว็บพนันออนไลน์ หากพบเว็บไซต์ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ อาจเป็นเว็บพนันออนไลนืผิดกฎหมาย ⛔ ❌ โฆษณาชวนเชื่อเกินจริง เช่น "เล่นแล้วรวยทันที!" ❌ ใช้ระบบฝาก-ถอนอัตโนมัติ ผ่านแอปพลิเคชันแปลก ๆ ❌ ไม่มีข้อมูลติดต่อที่ชัดเจน หรือไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ❌ ใช้โปรโมชั่นล่อใจเกินจริง เช่น เครดิตฟรี 100% หรือฝาก 100 ได้ 1,000 ⚠ หากพบเห็น สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินคดีได้ทันที! 🚨 แม้ว่าการจับกุมเครือข่ายใหญ่ครั้งนี้ จะเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังต้องทำงานต่อเนื่อง เพื่อลดจำนวนเว็บพนันผิดกฎหมาย ให้หมดไปจากสังคมไทย 🔮 📌 มาตรการในอนาคต ✅ ตรวจสอบ และปิดกั้นเว็บไซต์พนันที่ผิดกฎหมาย ✅ ควบคุมแอปพลิเคชัน ที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินเพื่อเล่นพนัน ✅ ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด กับกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง 📢 ทางออกที่ดีคือ การปราบปรามอย่างจริงจัง และสร้างความตระหนักให้กับประชาชน เกี่ยวกับอันตรายของเว็บพนัน! 📣 สรุปประเด็นสำคัญ 📌 ปฏิบัติการจับกุมเว็บพนันออนไลน์ครั้งใหญ่ 📌 ยึดทรัพย์สินกว่า 300 ล้านบาท จากกลุ่มทุนจีนสีเทา 📌 เว็บพนันที่ถูกจับ ได้แก่ "ชาบู999", "มาม่า555", "ซูชิ555" 📌 สืบสวนขยายผลไปยังถนนบรรทัดทอง 📌 ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้ เพื่อช่วยลดปัญหาเว็บพนัน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 262135ก.พ. 2568 📢 #ตำรวจไทย #เว็บพนันออนไลน์ #ทุนจีนสีเทา #ปราบเว็บพนัน #จับกุมเว็บพนัน #เศรษฐกิจไทย #ยึดทรัพย์300ล้าน #ข่าวด่วน #กมธตำรวจ #อาชญากรรมออนไลน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปล่อยเช่าเครื่อง EDC ขโมยรูดปรื๊ดบัตรเครดิต

    ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมนางวิยะดา พลเวียง อายุ 41 ปี เจ้าของเครื่องรูดบัตร (EDC) ที่ปล่อยให้คนร้ายเช่าที่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ถือเป็นการต่อจิ๊กซอว์ขบวนการลักขโมยวงเงินบัตรเครดิต ที่ปรากฎเป็นข่าวไปเมื่อต้นปี 2568 ซึ่งพบว่ามีกลุ่มคนไทยร่วมมือกับชาวจีนร่วมกระทำความผิด แม้นางวิยะดาอ้างว่าให้แฟนสาวของแก๊งชาวจีนเช่าเครื่องรูดบัตร ได้ค่าตอบแทน 15% รวมกว่า 130,000 บาท แต่ไม่รู้เห็นกับการกระทำความผิดก็ตาม

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จับกุม น.ส.ธัญชนก ชุ่มชื่นจิตร อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุที่คอนโดมิเนียมย่านเอกมัย กทม. เป็นคนทำทีไปใช้บริการออนเซน แล้วแอบเก็บเอาสายรัดข้อมือ (ริสแบนด์) ที่ใช้สแกนเข้าออกและเปิดตู้ล็อกเกอร์ไปทำแถบแม่เหล็กเพิ่ม โดยให้กลุ่มเพื่อนชาวจีนอีก 4 คน ช่วยทำอันใหม่ขึ้นมา ก่อนตระเวนเปิดล็อกเกอร์ของผู้เสียหายรายต่างๆ ระหว่างแช่ออนเซน แล้วหยิบบัตรเครดิตไปรูดโดยใช้เครื่อง EDC แบบพกพา

    สำหรับเครื่องรูดบัตรที่กลุ่มคนร้ายนำมาใช้เป็นแบบพกพายี่ห้อ BLUEPAD-50 v2 ของบริษัท DATECS ที่ธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งให้บริการร้านค้ารับบัตร เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ โดยใช้แอปพลิเคชันธนาคารทำรายการ รองรับการชำระเงินด้วยการแตะบัตร (Contactless) จำกัดไม่เกิน 1,500 บาทต่อรายการ และการเสียบบัตรชิปการ์ด (Dip Chip) ลงในเครื่อง ซึ่งไม่จำกัดวงเงินต่อรายการ

    โดยเปิดแอปฯ ผ่านสมาร์ทโฟน ใส่จำนวนเงินลงไป เสียบบัตรเครดิตที่เครื่องรูดบัตร กระทั่งรายการอนุมัติเพียงไม่กี่นาที ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายถูกคนร้ายรูดบัตรเครดิตด้วยมูลค่าตั้งแต่ 85,900 บาท ถึง 343,000 บาท บางธนาคารยอมระงับรายการที่คนร้ายรูดและช่วยเหลือตำรวจสืบสวน แต่บางธนาคารให้ลูกค้าไปตามเรื่องเอาเอง ไม่ยอมระงับรายการ และไม่เปิดเผยข้อมูลร้านค้าที่กระทำความผิด โดยพบว่ามีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร จ.นนทบุรี ธุรกิจรถฉุกเฉิน จ.ปทุมธานี และเต็นท์รถมือสองที่ จ.มหาสารคาม

    ปัจจุบันการขอใช้เครื่องรูดบัตร (EDC) ของแต่ละธนาคารเป็นไปอย่างง่ายดาย ร้านค้าบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ขอได้ กลายเป็นช่องว่างที่ทำให้มีขบวนการปล่อยเช่าเครื่องรูดบัตรเพื่อกระทำความผิด จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบว่าร้านค้าแต่ละแห่งมีการใช้เครื่องรูดบัตรที่ร้านค้าโดยตรงหรือไม่ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของร้านค้าหรือไม่ เพื่อไม่ให้กลายเป็นการนำเครื่องรูดบัตรไปใช้ในทางที่ผิด เช่นการปล่อยเช่าแก่กลุ่มมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายแก่ผู้คนในสังคม

    #Newskit
    ปล่อยเช่าเครื่อง EDC ขโมยรูดปรื๊ดบัตรเครดิต ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมนางวิยะดา พลเวียง อายุ 41 ปี เจ้าของเครื่องรูดบัตร (EDC) ที่ปล่อยให้คนร้ายเช่าที่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ถือเป็นการต่อจิ๊กซอว์ขบวนการลักขโมยวงเงินบัตรเครดิต ที่ปรากฎเป็นข่าวไปเมื่อต้นปี 2568 ซึ่งพบว่ามีกลุ่มคนไทยร่วมมือกับชาวจีนร่วมกระทำความผิด แม้นางวิยะดาอ้างว่าให้แฟนสาวของแก๊งชาวจีนเช่าเครื่องรูดบัตร ได้ค่าตอบแทน 15% รวมกว่า 130,000 บาท แต่ไม่รู้เห็นกับการกระทำความผิดก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จับกุม น.ส.ธัญชนก ชุ่มชื่นจิตร อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุที่คอนโดมิเนียมย่านเอกมัย กทม. เป็นคนทำทีไปใช้บริการออนเซน แล้วแอบเก็บเอาสายรัดข้อมือ (ริสแบนด์) ที่ใช้สแกนเข้าออกและเปิดตู้ล็อกเกอร์ไปทำแถบแม่เหล็กเพิ่ม โดยให้กลุ่มเพื่อนชาวจีนอีก 4 คน ช่วยทำอันใหม่ขึ้นมา ก่อนตระเวนเปิดล็อกเกอร์ของผู้เสียหายรายต่างๆ ระหว่างแช่ออนเซน แล้วหยิบบัตรเครดิตไปรูดโดยใช้เครื่อง EDC แบบพกพา สำหรับเครื่องรูดบัตรที่กลุ่มคนร้ายนำมาใช้เป็นแบบพกพายี่ห้อ BLUEPAD-50 v2 ของบริษัท DATECS ที่ธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งให้บริการร้านค้ารับบัตร เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ โดยใช้แอปพลิเคชันธนาคารทำรายการ รองรับการชำระเงินด้วยการแตะบัตร (Contactless) จำกัดไม่เกิน 1,500 บาทต่อรายการ และการเสียบบัตรชิปการ์ด (Dip Chip) ลงในเครื่อง ซึ่งไม่จำกัดวงเงินต่อรายการ โดยเปิดแอปฯ ผ่านสมาร์ทโฟน ใส่จำนวนเงินลงไป เสียบบัตรเครดิตที่เครื่องรูดบัตร กระทั่งรายการอนุมัติเพียงไม่กี่นาที ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายถูกคนร้ายรูดบัตรเครดิตด้วยมูลค่าตั้งแต่ 85,900 บาท ถึง 343,000 บาท บางธนาคารยอมระงับรายการที่คนร้ายรูดและช่วยเหลือตำรวจสืบสวน แต่บางธนาคารให้ลูกค้าไปตามเรื่องเอาเอง ไม่ยอมระงับรายการ และไม่เปิดเผยข้อมูลร้านค้าที่กระทำความผิด โดยพบว่ามีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร จ.นนทบุรี ธุรกิจรถฉุกเฉิน จ.ปทุมธานี และเต็นท์รถมือสองที่ จ.มหาสารคาม ปัจจุบันการขอใช้เครื่องรูดบัตร (EDC) ของแต่ละธนาคารเป็นไปอย่างง่ายดาย ร้านค้าบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ขอได้ กลายเป็นช่องว่างที่ทำให้มีขบวนการปล่อยเช่าเครื่องรูดบัตรเพื่อกระทำความผิด จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบว่าร้านค้าแต่ละแห่งมีการใช้เครื่องรูดบัตรที่ร้านค้าโดยตรงหรือไม่ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของร้านค้าหรือไม่ เพื่อไม่ให้กลายเป็นการนำเครื่องรูดบัตรไปใช้ในทางที่ผิด เช่นการปล่อยเช่าแก่กลุ่มมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายแก่ผู้คนในสังคม #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตก

    เดือนนี้ โชคดีสำหรับการคิดริเริ่มธุรกิจการค้าขายใหม่ๆจะมีการติดต่อเพิ่มยอดขายจำหน่ายมากขึ้น การตกลงเจรจาต้องใช้ความอดทนอดกลั้นระวังคำพูดคำจาเพราะเอกสารสัญญาจะผิดพลาด จนถูกทักท้วงให้เกิดขัดแย้ง ควรมีสัจจะยึดมั่นในคำพูดยึดมั่นในสัญญาเพื่อรักษาเครดิตไว้ต่อยอดในภายภาคหน้าจะมีประโยชน์มากกว่า งานการศึกษา วิชาการ งานสวยงาม งานคิดสร้างสรรค์ จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับ จนได้รับปรับเลื่อนตำแหน่งขั้น เรื่องของหัวใจหากปากมากขาดการจัดการบริหารเสน่ห์ที่ลงตัวจะเกิดเรื่องชู้สาวให้ปวดหัว จะเดินทางๆอากาศต้องระวังพายุฟ้าฝนควรตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาก่อนการเดินทาง

    เสริมความมงคล : ตั้งอ่างเลี้ยงปลา
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตก เดือนนี้ โชคดีสำหรับการคิดริเริ่มธุรกิจการค้าขายใหม่ๆจะมีการติดต่อเพิ่มยอดขายจำหน่ายมากขึ้น การตกลงเจรจาต้องใช้ความอดทนอดกลั้นระวังคำพูดคำจาเพราะเอกสารสัญญาจะผิดพลาด จนถูกทักท้วงให้เกิดขัดแย้ง ควรมีสัจจะยึดมั่นในคำพูดยึดมั่นในสัญญาเพื่อรักษาเครดิตไว้ต่อยอดในภายภาคหน้าจะมีประโยชน์มากกว่า งานการศึกษา วิชาการ งานสวยงาม งานคิดสร้างสรรค์ จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับ จนได้รับปรับเลื่อนตำแหน่งขั้น เรื่องของหัวใจหากปากมากขาดการจัดการบริหารเสน่ห์ที่ลงตัวจะเกิดเรื่องชู้สาวให้ปวดหัว จะเดินทางๆอากาศต้องระวังพายุฟ้าฝนควรตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาก่อนการเดินทาง เสริมความมงคล : ตั้งอ่างเลี้ยงปลา ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮกเกอร์ใช้เล่ห์กล CAPTCHA ในไฟล์ PDF บน Webflow CDN เพื่อหลีกเลี่ยงระบบความปลอดภัย โดยมีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ใช้งาน

    นักวิจัยจาก Netskope ได้ค้นพบว่าแฮกเกอร์ใช้ไฟล์ PDF ปลอมที่ถูกโฮสต์บน Webflow CDN เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานให้เข้าไปยังหน้าเว็บฟิชชิ่ง (phishing page) เมื่อผู้ใช้งานเปิดไฟล์ PDF ดังกล่าว จะพบภาพที่ดูเหมือนเป็น CAPTCHA แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงลิงก์ที่จะพาผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บฟิชชิ่ง

    จากนั้น หน้าเว็บฟิชชิ่งนี้จะมี CAPTCHA ของจริงจาก Cloudflare ที่มีเป้าหมายเพื่อทำให้การโจมตีดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นและหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากระบบความปลอดภัยต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้งานกรอก CAPTCHA เสร็จสิ้น จะถูกนำไปยังหน้าที่มีปุ่ม "ดาวน์โหลด" เมื่อกดปุ่มนี้ จะมีป๊อปอัพปรากฏขึ้นเพื่อขอข้อมูลส่วนบุคคล (PII) และข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ใช้ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังแฮกเกอร์

    ผู้ที่กรอกข้อมูลบัตรเครดิตจะได้รับข้อความผิดพลาดที่บอกว่าการชำระเงินไม่สำเร็จ หากพยายามหลายครั้งจะถูกนำไปยังหน้า HTTP 500 error page แฮกเกอร์ใช้ข้อมูลบัตรเครดิตที่ขโมยมาเพื่อทำการฉ้อโกงทางการเงิน เช่น การซื้อโฆษณาสำหรับแคมเปญมาลเวอร์ไทซิง (malvertising) หรือการซื้อบัตรของขวัญออนไลน์ที่ยากต่อการติดตาม

    Netskope ระบุว่าแคมเปญนี้เริ่มต้นในช่วงกลางปี 2024 และมีผลกระทบต่อ "ลูกค้าของ Netskope หลายร้อยคน" และ "ผู้ใช้หลายพันคน" นักวิจัยไม่ได้ระบุว่าแฮกเกอร์ใช้ข้อมูลที่ขโมยไปทำอะไรบ้างนอกเหนือจากการฉ้อโกงทางการเงิน

    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-use-captcha-scam-in-pdf-files-on-webflow-cdn-to-get-past-security-systems
    แฮกเกอร์ใช้เล่ห์กล CAPTCHA ในไฟล์ PDF บน Webflow CDN เพื่อหลีกเลี่ยงระบบความปลอดภัย โดยมีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ใช้งาน นักวิจัยจาก Netskope ได้ค้นพบว่าแฮกเกอร์ใช้ไฟล์ PDF ปลอมที่ถูกโฮสต์บน Webflow CDN เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานให้เข้าไปยังหน้าเว็บฟิชชิ่ง (phishing page) เมื่อผู้ใช้งานเปิดไฟล์ PDF ดังกล่าว จะพบภาพที่ดูเหมือนเป็น CAPTCHA แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงลิงก์ที่จะพาผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บฟิชชิ่ง จากนั้น หน้าเว็บฟิชชิ่งนี้จะมี CAPTCHA ของจริงจาก Cloudflare ที่มีเป้าหมายเพื่อทำให้การโจมตีดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นและหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากระบบความปลอดภัยต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้งานกรอก CAPTCHA เสร็จสิ้น จะถูกนำไปยังหน้าที่มีปุ่ม "ดาวน์โหลด" เมื่อกดปุ่มนี้ จะมีป๊อปอัพปรากฏขึ้นเพื่อขอข้อมูลส่วนบุคคล (PII) และข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ใช้ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังแฮกเกอร์ ผู้ที่กรอกข้อมูลบัตรเครดิตจะได้รับข้อความผิดพลาดที่บอกว่าการชำระเงินไม่สำเร็จ หากพยายามหลายครั้งจะถูกนำไปยังหน้า HTTP 500 error page แฮกเกอร์ใช้ข้อมูลบัตรเครดิตที่ขโมยมาเพื่อทำการฉ้อโกงทางการเงิน เช่น การซื้อโฆษณาสำหรับแคมเปญมาลเวอร์ไทซิง (malvertising) หรือการซื้อบัตรของขวัญออนไลน์ที่ยากต่อการติดตาม Netskope ระบุว่าแคมเปญนี้เริ่มต้นในช่วงกลางปี 2024 และมีผลกระทบต่อ "ลูกค้าของ Netskope หลายร้อยคน" และ "ผู้ใช้หลายพันคน" นักวิจัยไม่ได้ระบุว่าแฮกเกอร์ใช้ข้อมูลที่ขโมยไปทำอะไรบ้างนอกเหนือจากการฉ้อโกงทางการเงิน https://www.techradar.com/pro/security/hackers-use-captcha-scam-in-pdf-files-on-webflow-cdn-to-get-past-security-systems
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคาร กสิกรไทยรองรับ 2 รูปแบบ

    ในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน 2568 ที่ผ่านมา แต่ละธนาคารได้สำรองเงินสดเพื่อรองรับการใช้จ่าย ซึ่งพบว่าแต่ละธนาคารเปิดเผยตัวเลขจำนวนเครื่องเอทีเอ็มในปัจจุบัน โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ยังคงมีเครื่องเอทีเอ็มมากที่สุดในประเทศ รวม 9,937 เครื่องแม้จะลดลงไม่ถึงหลักหมื่น จากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 รวม 10,398 เครื่อง ลดลง 461 เครื่องก็ตาม

    ส่วนธนาคารอื่นๆ อาทิ ธนาคารกสิกรไทย 8,200 เครื่อง ธนาคารกรุงเทพ 8,000 เครื่อง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 5,425 เครื่อง ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) 2,406 เครื่อง ธ.ก.ส. 2,300 เครื่อง ขณะที่ธนาคารกรุงไทยไม่ได้เปิดเผย ข้อมูลล่าสุดไตรมาส 3/2567 มี 8,151 เครื่อง นอกนั้นเป็นธนาคารขนาดเล็ก เช่น ธนาคารยูโอบี 344 เครื่อง และบางธนาคารอย่างซีไอเอ็มบี ไทย ยกเลิกบริการเครื่องเอทีเอ็มไปเมื่อปี 2563 ทดแทนด้วยบริการบัตรเดบิตถอนเงินฟรีทุกตู้ทั่วไทย

    แม้ว่าบริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารเกิดขึ้นเมื่อปี 2564 แต่ก็เป็นไปในลักษณะให้บริการกับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้บริการกับธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ก่อนจะมี ธ.ก.ส. ธนาคารไทยเครดิต และทีทีบี ตามมา แต่เมื่อสองธนาคารยักษ์อย่างธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย ให้บริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารร่วมกัน ยิ่งทำให้บริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น รวมทั้งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ลูกค้ายอมเสียค่าธรรมเนียมเพื่อประหยัดเวลา ไม่ต้องการค้นหาตู้เอทีเอ็มธนาคารตัวเอง

    ตัวกลางในการให้บริการมาจากบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ (ITMX) ที่ต่อยอดบริการถอนเงินไม่ใช้บัตร ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมข้ามธนาคารได้ผ่านระบบ ITMX’s Single Payment และ ATM Switching ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานเดิมสำหรับบริการถอนเงินสดข้ามธนาคาร ปัจจุบันรองรับทั้งการทำรายการแบบ One-Time-Password (OTP) และแบบ QR Code

    ล่าสุดตู้ K ATM ธนาคารกสิกรไทย รองรับการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารได้ทั้งสองรูปแบบ เช่น แอปฯ Bangkok Bank ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แอปฯ SCB Easy ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) แอปฯ KKP Mobile ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) แอปฯ LHB You ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และล่าสุดแอปฯ MyMo ธนาคารออมสิน ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับธนาคารเจ้าของโมบายแอปพลิเคชัน อยู่ที่ประมาณ 10-15 บาทต่อรายการ จึงน่าสนใจว่าอาจมีธนาคารอื่นให้บริการรองรับทั้งสองรูปแบบตามมา สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม ทดแทนค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตที่มีแนวโน้มลดลง

    #Newskit
    ถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคาร กสิกรไทยรองรับ 2 รูปแบบ ในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน 2568 ที่ผ่านมา แต่ละธนาคารได้สำรองเงินสดเพื่อรองรับการใช้จ่าย ซึ่งพบว่าแต่ละธนาคารเปิดเผยตัวเลขจำนวนเครื่องเอทีเอ็มในปัจจุบัน โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ยังคงมีเครื่องเอทีเอ็มมากที่สุดในประเทศ รวม 9,937 เครื่องแม้จะลดลงไม่ถึงหลักหมื่น จากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 รวม 10,398 เครื่อง ลดลง 461 เครื่องก็ตาม ส่วนธนาคารอื่นๆ อาทิ ธนาคารกสิกรไทย 8,200 เครื่อง ธนาคารกรุงเทพ 8,000 เครื่อง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 5,425 เครื่อง ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) 2,406 เครื่อง ธ.ก.ส. 2,300 เครื่อง ขณะที่ธนาคารกรุงไทยไม่ได้เปิดเผย ข้อมูลล่าสุดไตรมาส 3/2567 มี 8,151 เครื่อง นอกนั้นเป็นธนาคารขนาดเล็ก เช่น ธนาคารยูโอบี 344 เครื่อง และบางธนาคารอย่างซีไอเอ็มบี ไทย ยกเลิกบริการเครื่องเอทีเอ็มไปเมื่อปี 2563 ทดแทนด้วยบริการบัตรเดบิตถอนเงินฟรีทุกตู้ทั่วไทย แม้ว่าบริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารเกิดขึ้นเมื่อปี 2564 แต่ก็เป็นไปในลักษณะให้บริการกับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้บริการกับธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ก่อนจะมี ธ.ก.ส. ธนาคารไทยเครดิต และทีทีบี ตามมา แต่เมื่อสองธนาคารยักษ์อย่างธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย ให้บริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารร่วมกัน ยิ่งทำให้บริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น รวมทั้งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ลูกค้ายอมเสียค่าธรรมเนียมเพื่อประหยัดเวลา ไม่ต้องการค้นหาตู้เอทีเอ็มธนาคารตัวเอง ตัวกลางในการให้บริการมาจากบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ (ITMX) ที่ต่อยอดบริการถอนเงินไม่ใช้บัตร ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมข้ามธนาคารได้ผ่านระบบ ITMX’s Single Payment และ ATM Switching ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานเดิมสำหรับบริการถอนเงินสดข้ามธนาคาร ปัจจุบันรองรับทั้งการทำรายการแบบ One-Time-Password (OTP) และแบบ QR Code ล่าสุดตู้ K ATM ธนาคารกสิกรไทย รองรับการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารได้ทั้งสองรูปแบบ เช่น แอปฯ Bangkok Bank ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แอปฯ SCB Easy ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) แอปฯ KKP Mobile ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) แอปฯ LHB You ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และล่าสุดแอปฯ MyMo ธนาคารออมสิน ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับธนาคารเจ้าของโมบายแอปพลิเคชัน อยู่ที่ประมาณ 10-15 บาทต่อรายการ จึงน่าสนใจว่าอาจมีธนาคารอื่นให้บริการรองรับทั้งสองรูปแบบตามมา สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม ทดแทนค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตที่มีแนวโน้มลดลง #Newskit
    Like
    Love
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 545 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองประธานาธิบดี JD Vance ของสหรัฐฯ ได้ขึ้นกล่าวในงาน Paris AI Action Summit โดยมีการประกาศย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลทรัมป์ในการพัฒนาและสนับสนุนเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะการเน้นย้ำว่าชิพที่ใช้ในการพัฒนาระบบ AI ที่ทรงพลังที่สุดจะถูกสร้างขึ้นในอเมริกาและจะต้องออกแบบและผลิตในประเทศสหรัฐฯ

    รองประธานาธิบดี Vance กล่าวว่า "สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำในด้าน AI และรัฐบาลของเราวางแผนที่จะรักษาสถานะนี้ไว้" โดยมีการเน้นว่าความสามารถในการออกแบบชิปและการพัฒนาเทคโนโลยี AI ทุกด้านอยู่ในมือของสหรัฐอเมริกา เพื่อปกป้องความได้เปรียบในการพัฒนา AI รัฐบาลทรัมป์จะสนับสนุนให้ชิปที่ใช้ในการพัฒนา AI ถูกสร้างขึ้นในประเทศ

    การประกาศนี้เป็นข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากทรัมป์เคยแสดงความเห็นคัดค้าน CHIPS and Science Act ในระหว่างการรณรงค์ แต่การประกาศนี้กลับมาสนับสนุนให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์พัฒนาและนวัตกรรมภายในประเทศ โดยการให้เครดิตภาษีแก่ผู้ผลิตชิป

    นอกจากนั้น Vance ยังวิพากษ์วิจารณ์กฎระเบียบของสหภาพยุโรป เช่น Digital Services Act และ GDPR ว่ามีข้อบังคับที่เข้มงวดเกินไปและสร้างค่าใช้จ่ายทางกฎหมายที่สูงสำหรับบริษัทขนาดเล็ก ทั้งนี้ยังเตือนเกี่ยวกับการร่วมมือกับระบอบเผด็จการที่ไม่เป็นมิตร เพราะอาจทำให้ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศถูกเข้าถึงและยึดครองได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/trump-administration-declares-most-powerful-ai-chips-will-be-built-in-america
    รองประธานาธิบดี JD Vance ของสหรัฐฯ ได้ขึ้นกล่าวในงาน Paris AI Action Summit โดยมีการประกาศย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลทรัมป์ในการพัฒนาและสนับสนุนเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะการเน้นย้ำว่าชิพที่ใช้ในการพัฒนาระบบ AI ที่ทรงพลังที่สุดจะถูกสร้างขึ้นในอเมริกาและจะต้องออกแบบและผลิตในประเทศสหรัฐฯ รองประธานาธิบดี Vance กล่าวว่า "สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำในด้าน AI และรัฐบาลของเราวางแผนที่จะรักษาสถานะนี้ไว้" โดยมีการเน้นว่าความสามารถในการออกแบบชิปและการพัฒนาเทคโนโลยี AI ทุกด้านอยู่ในมือของสหรัฐอเมริกา เพื่อปกป้องความได้เปรียบในการพัฒนา AI รัฐบาลทรัมป์จะสนับสนุนให้ชิปที่ใช้ในการพัฒนา AI ถูกสร้างขึ้นในประเทศ การประกาศนี้เป็นข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากทรัมป์เคยแสดงความเห็นคัดค้าน CHIPS and Science Act ในระหว่างการรณรงค์ แต่การประกาศนี้กลับมาสนับสนุนให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์พัฒนาและนวัตกรรมภายในประเทศ โดยการให้เครดิตภาษีแก่ผู้ผลิตชิป นอกจากนั้น Vance ยังวิพากษ์วิจารณ์กฎระเบียบของสหภาพยุโรป เช่น Digital Services Act และ GDPR ว่ามีข้อบังคับที่เข้มงวดเกินไปและสร้างค่าใช้จ่ายทางกฎหมายที่สูงสำหรับบริษัทขนาดเล็ก ทั้งนี้ยังเตือนเกี่ยวกับการร่วมมือกับระบอบเผด็จการที่ไม่เป็นมิตร เพราะอาจทำให้ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศถูกเข้าถึงและยึดครองได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/trump-administration-declares-most-powerful-ai-chips-will-be-built-in-america
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Trump administration declares 'most powerful' AI chips will be built in America
    "The most powerful AI systems are built in the US with American-designed and manufactured chips.”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้าพเจ้าสนับสนุนการเผาฟางแบบสุดตัว

    ข้าพเจ้าเผามาตลอด อย่าว่าแต่ฟางเลย หญ้า ใบไม้ก็เผา ใครห้ามก็ไม่ฟัง ก็จะเผา จะทำไม

    ขั้นตอนหนึ่ง ในการทำนาของข้าพเจ้า คือ หลังจากเกี่ยวข้าวและจัดการข้าวเปลือกเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าจะเผาฟางทั้งหมด ด้วยวิธีทางชีวภาพ นั้นคือการทำปุ๋ยหมัก ตามวิธีการทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกอง วิศวกรรมแม่โจ้ 1 แต่ข้าพเจ้าจะพูดว่า เผาฟางโดยไม่ใช้ไฟ

    ถ้าทำแบบขี้เกียจ จะใช้เวลาหมัก 2 เดือน คนหมักมีหน้าที่แค่รักษาความชื้น และคอยเจาะกองปุ๋ย เติมน้ำ ทุก 10 วัน เพื่อรักษาความชื้นภายใน ไม่ให้แห้ง จุลินทรีย์จะได้ทำหน้าที่ย่อยสลายได้อย่างต่อเนื่อง ควันที่เห็นเกิดจากความร้อนในกระบวนการย่อยสลาย ปะทะเข้ากับอากาศเย็น ถ้าทำหน้าร้อนจะเห็นเป็นเปลวความร้อน

    เนื่องจากเป็นการหมักแบบใช้ออกซิเจน ก๊าซที่ได้จึงเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซนี้จะถูกใช้โดยต้นไม้ ตามวัฏจักรคาร์บอน สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องทำเพิ่มเติม คือ ต้องปลูกต้นไม้ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพื่อกักเก็บคาร์บอนตามธรรมชาติ ได้คาร์บอนเครดิต ไปเต็มๆ แต่อันนี้ไม่ขาย เอาไว้โม้ แฮ่ๆ

    เมื่อครบ 2 เดือน ล้มกอง ตากให้แห้งพอหมาดๆ จะได้ปุ๋ยหมักชั้นเยี่ยม อ.ธีระพงษ์ สว่างปัญญางกูร(ลูกศิษย์เรียกจารย์ลุง) ผู้ทำวิจัย เคลมว่า ถ้าทำตามวิธีของจารย์ลุง ปุ๋ยหมักจะผ่านตามมาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ประเทศไทย ข้าพเจ้าไม่เชื่อ เลยส่งไปตรวจ 2 ครั้งเขาตรวจ 20 กว่ารายการ ทั้งธาตุอาหารหลัก อาหารรอง อินทรีย์วัตถุ โลหะหนัก ฯ ปรากฎว่าผ่านเกณฑ์จริง น่าจะเชื่อตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องเสียเงิน เพราะงานวิจัยของจารย์ลุง ได้รางวัลงานวิจัยดีเด่นแห่งชาติ

    แม้แต่หญ้าที่ตัดแล้ว ใบไม้ที่ร่วงหล่น ข้าพเจ้าจะรวบรวมไว้ และก็เผาแบบเดียวกัน เผาโดยไม่ใช้ไฟ ไร้ PM10 PM2.5 ได้ปุ๋ยหมักอินทรีย์ ไว้ใส่พืช ผัก ผลไม้ มันช่างดีจริงจริง

    เมื่อถึงฤดูทำนา เวลาเตรียมดิน ข้าพเจ้าจะขนฟางที่เผาแล้วทั้งหมดลงใส่นา จบเรื่องปุ๋ย ตลอดฤดูการปลูก เกี่ยวข้าวเสร็จ เผาฟางต่อ เผาโดยไม่ใช้ไฟ ทำวนไป ได้ดินดี ได้ข้าวอินทรีย์ธรรมดาแสนดี ไว้กินตลอดปี
    ข้าพเจ้าสนับสนุนการเผาฟางแบบสุดตัว ข้าพเจ้าเผามาตลอด อย่าว่าแต่ฟางเลย หญ้า ใบไม้ก็เผา ใครห้ามก็ไม่ฟัง ก็จะเผา จะทำไม ขั้นตอนหนึ่ง ในการทำนาของข้าพเจ้า คือ หลังจากเกี่ยวข้าวและจัดการข้าวเปลือกเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าจะเผาฟางทั้งหมด ด้วยวิธีทางชีวภาพ นั้นคือการทำปุ๋ยหมัก ตามวิธีการทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกอง วิศวกรรมแม่โจ้ 1 แต่ข้าพเจ้าจะพูดว่า เผาฟางโดยไม่ใช้ไฟ ถ้าทำแบบขี้เกียจ จะใช้เวลาหมัก 2 เดือน คนหมักมีหน้าที่แค่รักษาความชื้น และคอยเจาะกองปุ๋ย เติมน้ำ ทุก 10 วัน เพื่อรักษาความชื้นภายใน ไม่ให้แห้ง จุลินทรีย์จะได้ทำหน้าที่ย่อยสลายได้อย่างต่อเนื่อง ควันที่เห็นเกิดจากความร้อนในกระบวนการย่อยสลาย ปะทะเข้ากับอากาศเย็น ถ้าทำหน้าร้อนจะเห็นเป็นเปลวความร้อน เนื่องจากเป็นการหมักแบบใช้ออกซิเจน ก๊าซที่ได้จึงเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซนี้จะถูกใช้โดยต้นไม้ ตามวัฏจักรคาร์บอน สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องทำเพิ่มเติม คือ ต้องปลูกต้นไม้ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพื่อกักเก็บคาร์บอนตามธรรมชาติ ได้คาร์บอนเครดิต ไปเต็มๆ แต่อันนี้ไม่ขาย เอาไว้โม้ แฮ่ๆ เมื่อครบ 2 เดือน ล้มกอง ตากให้แห้งพอหมาดๆ จะได้ปุ๋ยหมักชั้นเยี่ยม อ.ธีระพงษ์ สว่างปัญญางกูร(ลูกศิษย์เรียกจารย์ลุง) ผู้ทำวิจัย เคลมว่า ถ้าทำตามวิธีของจารย์ลุง ปุ๋ยหมักจะผ่านตามมาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ประเทศไทย ข้าพเจ้าไม่เชื่อ เลยส่งไปตรวจ 2 ครั้งเขาตรวจ 20 กว่ารายการ ทั้งธาตุอาหารหลัก อาหารรอง อินทรีย์วัตถุ โลหะหนัก ฯ ปรากฎว่าผ่านเกณฑ์จริง น่าจะเชื่อตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องเสียเงิน เพราะงานวิจัยของจารย์ลุง ได้รางวัลงานวิจัยดีเด่นแห่งชาติ แม้แต่หญ้าที่ตัดแล้ว ใบไม้ที่ร่วงหล่น ข้าพเจ้าจะรวบรวมไว้ และก็เผาแบบเดียวกัน เผาโดยไม่ใช้ไฟ ไร้ PM10 PM2.5 ได้ปุ๋ยหมักอินทรีย์ ไว้ใส่พืช ผัก ผลไม้ มันช่างดีจริงจริง เมื่อถึงฤดูทำนา เวลาเตรียมดิน ข้าพเจ้าจะขนฟางที่เผาแล้วทั้งหมดลงใส่นา จบเรื่องปุ๋ย ตลอดฤดูการปลูก เกี่ยวข้าวเสร็จ เผาฟางต่อ เผาโดยไม่ใช้ไฟ ทำวนไป ได้ดินดี ได้ข้าวอินทรีย์ธรรมดาแสนดี ไว้กินตลอดปี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • Thaipublica’s Pick: Mastercard มีแผนยกเลิกใช้หมายเลขบัตรเครดิตภายในปี 2573
    .
    Mastercard ได้ประกาศแผนการที่จะเลิกใช้หมายเลข 16 หลักบนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตภายในปี 2573 เพื่อขจัดการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล และการฉ้อโกงจากการใช้บัตร
    .
    หมายเลขที่ใช้ระบุการ์ดในปัจจุบันจะถูกแทนที่รูปแบบดิจิทัล (Tokenisation) และการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลทางชีวภาพ (biometric authentication)
    .
    ในปี 2565 มาสเตอร์การ์ดได้เพิ่มทางไบโอเมตริกซ์ เพื่อให้สามารถชำระเงินด้วยรอยยิ้มหรือโบกมือได้
    .
    รูปแบบใหม่จะมีการแปลงหมายเลขบัตร 16 หลักให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขหรือโทเค็น แล้วจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ดังนั้นจึงไม่มีการแชร์ข้อมูลบัตรเมื่อแตะบัตรหรือโทรศัพท์ หรือชำระเงินออนไลน์
    .
    การยกเลิกหมายเลขบัตรเครดิตถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการลดการฉ้อโกง การเลิกใช้หมายเลขจะหยุดผู้ฉ้อโกงในการประมวลผลธุรกรรมที่ไม่แสดงบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต
    .
    นอกจากนี้ ยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายทางการเงินของเหยื่อที่ถูกละเมิดข้อมูล หากองค์กรไม่สามารถจัดเก็บรายละเอียดการชำระเงินเหล่านี้ได้อีกต่อไป
    .
    การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นปัญหาที่มีการโต้แย้ง ตัวอย่างเช่น การรุกล้ำข้อมูล Optus ในปี 2565 ที่ส่งผลให้ข้อมูลลูกค้าที่เคยมีบัญชีกับบริษัทไว้ในปี 2561 ถูกเปิดเผย
    .
    การยกเลิกความสามารถขององค์กรในการจัดเก็บรายละเอียดการชำระเงินตั้งแต่แรก ช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลนี้จะถูกเปิดเผยในการโจมตีในอนาคต
    .
    แม้ว่าจะพยายามลดการฉ้อโกง แต่แนวทางใหม่นี้ก็ทำให้เกิดประเด็นใหม่ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณา
    .
    Mastercard กล่าวว่า ลูกค้าจะใช้โทเค็นที่สร้างโดยแอปธนาคารของลูกค้าหรือไบโอเมตริกซ์แทนหมายเลขบัตร ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนผ่านที่สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการธนาคารบนมือถือ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล ผู้บริโภคสูงวัยและผู้พิการจำนวนมากไม่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล ก็จะถูกแบ่งแยกออกจากการคุ้มครองรูปแบบใหม่
    .
    การเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัตรเครดิต การยกเลิกหมายเลขออกจะย้ายช่องโหว่ไปยังโทรศัพท์มือถือและผู้ให้บริการโทรคมนาคม
    .
    มิจฉาชีพเข้าถึงโทรศัพท์ของเหยื่ออยู่แล้วผ่านการย้ายค่ายมือถือและใช้เบอร์เดิม กับการหลอกลวงด้วยการแอบอ้างหรือปลอมแปลง การโจมตีเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเมื่อพบวิธีใหม่ๆ ในการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น
    .
    นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับไบโอเมตริกซ์อีกด้วย ซึ่งต่างจากรายละเอียดบัตรเครดิตที่สามารถเปลี่ยนได้เมื่อถูกเปิดเผยในการละเมิดข้อมูล แต่ไบโอเมตริกซ์นั้นตายตัว การมุ่งไปที่ไบโอเมตริกซ์จะเพิ่มความน่าดึงดูดใจของข้อมูลนี้ และอาจทำให้เหยื่อได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่องและแก้ไขไม่ได้
    .
    แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่การรุกล้ำข้อมูลไบโอเมตริกซ์ก็เกิดขึ้นได้
    .
    ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มความปลอดภัยบนเว็บ BioStar 2 ในสหราชอาณาจักรได้เปิดเผยลายนิ้วมือและรายละเอียดการจดจำใบหน้าของผู้คนมากกว่าล้านคน ในออสเตรเลียผู้ให้บริการด้านไอทีให้กับบริษัทบันเทิง Outabox ถูกกล่าวหาว่าได้เปิดเผยข้อมูลการจดจำใบหน้าของชาวออสเตรเลียมากกว่าล้านคน
    .
    เรายังต้องใช้บัตรกันอีกหรือไม่ในอนาคต?
    .
    แม้ว่าการยกเลิกใช้หมายเลขอาจลดการฉ้อโกงบัตรเครดิต แต่เทคโนโลยีค้าปลีกอัจฉริยะที่เกิดขึ้นใหม่อาจทำให้ความจำเป็นในการใช้บัตรโดยรวมหมดไป
    .
    การชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรจริงอีกต่อไป GlobalData เผยการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินมือถือ(mobile wallet )ในออสเตรเลียในปี 2566 เติบโต 58% เป็น 146.9 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม 2567 การชำระเงิน 44% เป็นธุรกรรม ด้วยอุปกรณ์
    .
    เทคโนโลยี "Just-Walk-Out" ที่เป็นนวัตกรรมของ Amazon ได้ขจัดความจำเป็นที่ผู้บริโภคจะต้องพกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตให้หมดไป
    .
    เทคโนโลยีนี้ได้ใช้แล้วในร้านค้าที่ Amazon เป็นเจ้าของมากกว่า 70 แห่ง และสถานประกอบการของบุคคลที่สามมากกว่า 85 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงสนามกีฬา สนามบิน ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ และภายในสถานศึกษา
    .
    เทคโนโลยีนี้ใช้กล้อง เซ็นเซอร์น้ำหนัก และการผสมผสานของเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเพื่อให้ผู้ซื้อในร้านค้าสามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องรูดหรือแตะบัตรที่จุดชำระเงิน
    .
    ปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวมีการนำเสนอโดยผู้จำหน่ายรายอื่นๆ มากมาย รวมถึง Trigo, Cognizant และ Grabango นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการทดลองกับผู้ค้าปลีกระหว่างประเทศอื่นๆ รวมถึงเครือซูเปอร์มาร์เก็ต Tesco และ ALDI
    .
    แม้ว่า Just-Walk-Out จะลดความจำเป็นในการพกพาบัตร แต่ในบางจุดผู้บริโภคยังคงจำเป็นต้องกรอกรายละเอียดบัตรของตนลงในแอป ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บัตรและตัวเลขโดยสิ้นเชิง ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการค้าปลีกอัจฉริยะจึงหันมาใช้ทางเลือกไบโอเมตริกซ์ เช่น การชำระเงินด้วยการจดจำใบหน้า
    .
    เมื่อประเมินถึงความเร็วที่เทคโนโลยีการค้าปลีกและการชำระเงินอัจฉริยะเข้าสู่ตลาด ก็มีแนวโน้มว่าบัตรเครดิตที่เป็นบัตร หรือไม่ว่าจะมีหมายเลขหรือไม่มีเลย จะกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นในไม่ช้านี้ และจะถูกแทนที่ด้วยตัวเลือกการชำระเงินแบบไบโอเมตริก
    .
    เรื่อง: https://www.abc.net.au/news/2025-02-04/mastercard-credit-card-numbers-biometric/104895038
    .
    ภาพ: https://www.biometricupdate.com/202502/biometrics-tokenization-to-replace-credit-card-numbers-by-2030

    ที่มา Thaipublica
    https://www.facebook.com/share/p/12KbPkwhRqg/?mibextid=wwXIfr
    Thaipublica’s Pick: Mastercard มีแผนยกเลิกใช้หมายเลขบัตรเครดิตภายในปี 2573 . Mastercard ได้ประกาศแผนการที่จะเลิกใช้หมายเลข 16 หลักบนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตภายในปี 2573 เพื่อขจัดการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล และการฉ้อโกงจากการใช้บัตร . หมายเลขที่ใช้ระบุการ์ดในปัจจุบันจะถูกแทนที่รูปแบบดิจิทัล (Tokenisation) และการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลทางชีวภาพ (biometric authentication) . ในปี 2565 มาสเตอร์การ์ดได้เพิ่มทางไบโอเมตริกซ์ เพื่อให้สามารถชำระเงินด้วยรอยยิ้มหรือโบกมือได้ . รูปแบบใหม่จะมีการแปลงหมายเลขบัตร 16 หลักให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขหรือโทเค็น แล้วจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ดังนั้นจึงไม่มีการแชร์ข้อมูลบัตรเมื่อแตะบัตรหรือโทรศัพท์ หรือชำระเงินออนไลน์ . การยกเลิกหมายเลขบัตรเครดิตถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการลดการฉ้อโกง การเลิกใช้หมายเลขจะหยุดผู้ฉ้อโกงในการประมวลผลธุรกรรมที่ไม่แสดงบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต . นอกจากนี้ ยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายทางการเงินของเหยื่อที่ถูกละเมิดข้อมูล หากองค์กรไม่สามารถจัดเก็บรายละเอียดการชำระเงินเหล่านี้ได้อีกต่อไป . การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นปัญหาที่มีการโต้แย้ง ตัวอย่างเช่น การรุกล้ำข้อมูล Optus ในปี 2565 ที่ส่งผลให้ข้อมูลลูกค้าที่เคยมีบัญชีกับบริษัทไว้ในปี 2561 ถูกเปิดเผย . การยกเลิกความสามารถขององค์กรในการจัดเก็บรายละเอียดการชำระเงินตั้งแต่แรก ช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลนี้จะถูกเปิดเผยในการโจมตีในอนาคต . แม้ว่าจะพยายามลดการฉ้อโกง แต่แนวทางใหม่นี้ก็ทำให้เกิดประเด็นใหม่ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณา . Mastercard กล่าวว่า ลูกค้าจะใช้โทเค็นที่สร้างโดยแอปธนาคารของลูกค้าหรือไบโอเมตริกซ์แทนหมายเลขบัตร ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนผ่านที่สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการธนาคารบนมือถือ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล ผู้บริโภคสูงวัยและผู้พิการจำนวนมากไม่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล ก็จะถูกแบ่งแยกออกจากการคุ้มครองรูปแบบใหม่ . การเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัตรเครดิต การยกเลิกหมายเลขออกจะย้ายช่องโหว่ไปยังโทรศัพท์มือถือและผู้ให้บริการโทรคมนาคม . มิจฉาชีพเข้าถึงโทรศัพท์ของเหยื่ออยู่แล้วผ่านการย้ายค่ายมือถือและใช้เบอร์เดิม กับการหลอกลวงด้วยการแอบอ้างหรือปลอมแปลง การโจมตีเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเมื่อพบวิธีใหม่ๆ ในการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น . นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับไบโอเมตริกซ์อีกด้วย ซึ่งต่างจากรายละเอียดบัตรเครดิตที่สามารถเปลี่ยนได้เมื่อถูกเปิดเผยในการละเมิดข้อมูล แต่ไบโอเมตริกซ์นั้นตายตัว การมุ่งไปที่ไบโอเมตริกซ์จะเพิ่มความน่าดึงดูดใจของข้อมูลนี้ และอาจทำให้เหยื่อได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่องและแก้ไขไม่ได้ . แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่การรุกล้ำข้อมูลไบโอเมตริกซ์ก็เกิดขึ้นได้ . ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มความปลอดภัยบนเว็บ BioStar 2 ในสหราชอาณาจักรได้เปิดเผยลายนิ้วมือและรายละเอียดการจดจำใบหน้าของผู้คนมากกว่าล้านคน ในออสเตรเลียผู้ให้บริการด้านไอทีให้กับบริษัทบันเทิง Outabox ถูกกล่าวหาว่าได้เปิดเผยข้อมูลการจดจำใบหน้าของชาวออสเตรเลียมากกว่าล้านคน . เรายังต้องใช้บัตรกันอีกหรือไม่ในอนาคต? . แม้ว่าการยกเลิกใช้หมายเลขอาจลดการฉ้อโกงบัตรเครดิต แต่เทคโนโลยีค้าปลีกอัจฉริยะที่เกิดขึ้นใหม่อาจทำให้ความจำเป็นในการใช้บัตรโดยรวมหมดไป . การชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรจริงอีกต่อไป GlobalData เผยการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินมือถือ(mobile wallet )ในออสเตรเลียในปี 2566 เติบโต 58% เป็น 146.9 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม 2567 การชำระเงิน 44% เป็นธุรกรรม ด้วยอุปกรณ์ . เทคโนโลยี "Just-Walk-Out" ที่เป็นนวัตกรรมของ Amazon ได้ขจัดความจำเป็นที่ผู้บริโภคจะต้องพกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตให้หมดไป . เทคโนโลยีนี้ได้ใช้แล้วในร้านค้าที่ Amazon เป็นเจ้าของมากกว่า 70 แห่ง และสถานประกอบการของบุคคลที่สามมากกว่า 85 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงสนามกีฬา สนามบิน ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ และภายในสถานศึกษา . เทคโนโลยีนี้ใช้กล้อง เซ็นเซอร์น้ำหนัก และการผสมผสานของเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเพื่อให้ผู้ซื้อในร้านค้าสามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องรูดหรือแตะบัตรที่จุดชำระเงิน . ปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวมีการนำเสนอโดยผู้จำหน่ายรายอื่นๆ มากมาย รวมถึง Trigo, Cognizant และ Grabango นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการทดลองกับผู้ค้าปลีกระหว่างประเทศอื่นๆ รวมถึงเครือซูเปอร์มาร์เก็ต Tesco และ ALDI . แม้ว่า Just-Walk-Out จะลดความจำเป็นในการพกพาบัตร แต่ในบางจุดผู้บริโภคยังคงจำเป็นต้องกรอกรายละเอียดบัตรของตนลงในแอป ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บัตรและตัวเลขโดยสิ้นเชิง ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการค้าปลีกอัจฉริยะจึงหันมาใช้ทางเลือกไบโอเมตริกซ์ เช่น การชำระเงินด้วยการจดจำใบหน้า . เมื่อประเมินถึงความเร็วที่เทคโนโลยีการค้าปลีกและการชำระเงินอัจฉริยะเข้าสู่ตลาด ก็มีแนวโน้มว่าบัตรเครดิตที่เป็นบัตร หรือไม่ว่าจะมีหมายเลขหรือไม่มีเลย จะกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นในไม่ช้านี้ และจะถูกแทนที่ด้วยตัวเลือกการชำระเงินแบบไบโอเมตริก . เรื่อง: https://www.abc.net.au/news/2025-02-04/mastercard-credit-card-numbers-biometric/104895038 . ภาพ: https://www.biometricupdate.com/202502/biometrics-tokenization-to-replace-credit-card-numbers-by-2030 ที่มา Thaipublica https://www.facebook.com/share/p/12KbPkwhRqg/?mibextid=wwXIfr
    WWW.ABC.NET.AU
    Mastercard is scrapping credit card numbers by 2030 as cards become obsolete
    Physical credit cards, numberless or not, will soon become redundant, as biometric payment options become more popular.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณ Gabriel Galipolo ซึ่งเป็นหัวหน้านโยบายการเงินของธนาคารกลางบราซิล ได้รายงานว่า การใช้งานคริปโตในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา โดยประมาณ 90% ของการใช้งานคริปโตนี้เกี่ยวข้องกับ Stablecoins ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่โดยอิงกับสินทรัพย์ในโลกจริง เช่น ดอลลาร์สหรัฐ

    นาย Galipolo กล่าวในงานประชุมของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศที่เม็กซิโก ซิตี้ ว่า การใช้คริปโตเป็นหลักในการชำระเงินกลายเป็นความท้าทายในการควบคุมและการกำกับดูแล เขายังเน้นว่าการใช้งานเหล่านี้มักจะมีปัญหาด้านการเสียภาษีหรือการฟอกเงินด้วย

    สิ่งที่น่าสนใจคือโครงการ Drex ที่ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเน้นในการปรับปรุงเครดิตด้วยสินทรัพย์ที่มีหลักประกัน Drex ใช้เทคโนโลยีการบันทึกบัญชีแบบกระจายศูนย์เพื่อการชำระเงินระหว่างธนาคารในระดับสถาบัน ขณะที่การเข้าถึงของผู้ใช้งานทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของการฝากเงินที่ถูกแปลงเป็นโทเค็น

    นอกจากนี้ ระบบการชำระเงินทันทีของบราซิลที่เรียกว่า Pix ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ก็มีศักยภาพในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายการชำระเงินทันทีระหว่างประเทศ ทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/brazil039s-galipolo-sees-surge-in-crypto-use-says-90-of-flow-tied-to-stablecoins
    คุณ Gabriel Galipolo ซึ่งเป็นหัวหน้านโยบายการเงินของธนาคารกลางบราซิล ได้รายงานว่า การใช้งานคริปโตในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา โดยประมาณ 90% ของการใช้งานคริปโตนี้เกี่ยวข้องกับ Stablecoins ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่โดยอิงกับสินทรัพย์ในโลกจริง เช่น ดอลลาร์สหรัฐ นาย Galipolo กล่าวในงานประชุมของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศที่เม็กซิโก ซิตี้ ว่า การใช้คริปโตเป็นหลักในการชำระเงินกลายเป็นความท้าทายในการควบคุมและการกำกับดูแล เขายังเน้นว่าการใช้งานเหล่านี้มักจะมีปัญหาด้านการเสียภาษีหรือการฟอกเงินด้วย สิ่งที่น่าสนใจคือโครงการ Drex ที่ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเน้นในการปรับปรุงเครดิตด้วยสินทรัพย์ที่มีหลักประกัน Drex ใช้เทคโนโลยีการบันทึกบัญชีแบบกระจายศูนย์เพื่อการชำระเงินระหว่างธนาคารในระดับสถาบัน ขณะที่การเข้าถึงของผู้ใช้งานทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของการฝากเงินที่ถูกแปลงเป็นโทเค็น นอกจากนี้ ระบบการชำระเงินทันทีของบราซิลที่เรียกว่า Pix ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ก็มีศักยภาพในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายการชำระเงินทันทีระหว่างประเทศ ทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/brazil039s-galipolo-sees-surge-in-crypto-use-says-90-of-flow-tied-to-stablecoins
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Brazil's Galipolo sees surge in crypto use, says 90% of flow tied to stablecoins
    (Reuters) - Brazil's central bank chief Gabriel Galipolo said on Thursday that crypto asset usage in the country has surged over the past two to three years, with around 90% of the flow linked to stablecoins.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • [Exclusive on Sondhi Talk]
    "บังแจ็ค" ไว้ใจ DSI ไขคดี
    แย้มมือถือแตงโมมี 4 หมื่นภาพ
    แถมข้อมูลนักการเมือง-นักธุรกิจดัง
    .
    บังแจ็คเปิดใจส่งมอบมือถือแตงโม นิดา ให้หมอธวัชชัยนำมาให้ดีเอสไอคลี่คลายคดี ระบุกู้ข้อมูลมีภาพกว่า 4 หมื่นภาพ แชตบางส่วนคุยกับนักการเมืองดัง และมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่มีอิทธิพลสูง นักธุรกิจระดับประเทศเกี่ยวข้องด้วย เผยมีคนขอซื้อมือถือจริงแต่ไม่ถึง 15 ล้าน ลั่นยังไงก็ไม่ขาย
    .
    วันนี้ (6 ก.พ.) นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือบังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" (คลิกชมย้อนหลัง >> https://www.youtube.com/watch?v=58nPhAE2uZo) ถึงโทรศัพท์มือถือของ แตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตจากเรือสปีดโบ้ท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งได้ส่งมอบให้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และเตรียมนำมาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำมาใช้เพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของแตงโม ระบุว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่รู้จักกับนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นางพนิดาได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโมจากตำรวจ แต่ไม่พบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง ตนจึงแนะนำให้นำไปที่ศูนย์บริการของแอปเปิลช่วยดูว่ายังมีข้อมูลในเครื่องหรือไม่ นางพนิดาไปที่ศูนย์แอปเปิลฯ แต่ไม่ไว้ใจ จึงให้โทรศัพท์มือถือแก่ตน ซึ่งเป็นความครอบครองโดยถูกต้อง
    .
    การตัดสินใจส่งมอบโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ว่าจะมอบให้เฉพาะบุคคล 3 ราย ได้แก่ นพ.ธวัชชัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เพราะทั้งสามคนไว้วางใจที่สุดแล้ว เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่อยากให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคนที่จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือบางอย่างเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว เช่น มีคนดังโทร.เข้ามาในเวลาผิดปกติ ซึ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เปิดเผยว่าได้โทร.หาจริง ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ได้ออกมาพูด รวมทั้ง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทร.มาหาเมื่อเวลา 20.40 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่บนเรือลำเดียวกัน และอีกหลายข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ การลบข้อความ และการลบบัญชีทั้งบัญชี
    .
    ตนจำได้ว่ามดดำได้โทร.หาแตงโม แต่ได้รับข่าวจากแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนของแตงโมว่า แตงโมตกน้ำ แอนนาพยายามทักไลน์ โทร.ทั้งไลน์และมือถือแต่ไม่ติด เมื่อ 3 ปีที่แล้วพอเข้าไปดูบัญชีแอนนาไม่มีเลย ลบทิ้ง บัญชีฮิปโป (ผู้จัดการส่วนตัวให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนที่แตงโมเสียชีวิต) ก็ลบทิ้ง บัญชีโม อมีนา พินิจ ก็ลบทิ้ง บัญชีพุดเดิล ยุพดี ก็ลบทิ้ง และอีกหลายคน ส่วนข้อความที่กระติกนำมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่าได้คุยกับแตงโม ตนก็เข้าไปดู ไม่พบข้อความที่กระติกนำมาแสดง มีถึงแค่วันที่ 17-18 ก.พ. 2565 เท่านั้น แสดงว่ามีข้อมูลที่ถูกลบและข้อมูลที่แต่งขึ้นมา
    .
    บังแจ็ค กล่าวว่า ตนกู้ข้อมูลเฉพาะรูปภาพกว่า 40,000 ภาพ ยังดูไม่หมด ดูเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดี เช่น บัญชีธนาคารไม่มีเงินสักบาทในบัญชี ทั้งที่อย่างน้อยเป็นดาราต้องมีเงินติดบัญชีสัก 4-5 พันบาท แต่ยอดเงินกลับเป็น 0 บาท บันทึกบางส่วนถูกลบออกไป แชตบางส่วนที่คุยกับนักการเมืองดัง ที่ขู่จะให้ส่งภาพลับที่ไม่เหมาะสมและเรียกให้มาหาก็มี ตนสงสารที่แตงโมต้องเจออะไรแบบนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายคดีเมื่ออยู่ในมือของดีเอสไอ
    .
    ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตนที่ทำให้พยานหลักฐานถูกด้อยค่านั้น ถามว่าใครทำร้ายเครดิตตน คนที่เสียประโยชน์ก็พยายามใช้สื่อที่เข้าข้างมาดิสเครดิตตน หนึ่งในนั้นคือทนายความที่ท้าให้ดื่มปัสสาวะ 70 แก้ว พาทั้งพิธีกรชื่อดังไปแจ้งความว่าตนขู่ฆ่าและใช้สื่อโจมตี ทั้งๆ ที่พิธีกรชื่อดังเข้าใจกันแล้ว และจะร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่โพสต์ภาพปืนเป็นเรื่องนานมาแล้ว ไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม และได้เคลียร์จบแล้ว ตนมีหลักฐานทั้งหมดส่งให้ นพ.ธวัชชัย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าได้คุยกัน จับมือขออภัยกันจริง
    .
    ส่วนคดีเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ส่วนตัวมาเมืองไทยถูกต้อง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซื้อรถจักรยานยนต์จากเบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี เวลานั้นตนอยู่โคราช ตนถูกหลอกเพราะไม่มีเอกสารและทะเบียน ตนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้กฎหมาย เจอด่านก็โดนยึด พอกลับไปหาเจ้าตัวก็ไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีหลักฐาน พอเกิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติด ตนออกมาวิจารณ์เบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เข้าข้างและไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมของเขา ตนซื้อรถด้วยน้ำพักน้ำแรงแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่ตนใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เวลานั้นไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพราะโดนโจมตี น้ำหนักน้อยลง พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเป็นคนต่างชาติ ถูกด้อยค่าตลอดเวลา จึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้
    .
    ส่วนที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ถึงปี 2569 เพราะเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยนั้น บังแจ็ค กล่าวว่า สมมติเป็นบุคคลอันตรายจริงก็ไม่น่าจะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ 6-7 ปี ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนรัฐบาล และออกเอกสารถูกต้อง มีใบอนุญาตทำงาน เมื่อ 2 ปีก่อนมีรายการโทรทัศน์ไปตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีดำในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้สามารถเข้าประเทศไทยได้ ส่วนคดีที่เจอระยะหลังๆ คือคดีแตงโม ถูกใส่ไข่เยอะเพราะอีกฝ่ายหรืออีกสื่อหนึ่งมีเอฟซี มีอิทธิพลเยอะ แถมเมื่อตนไปสัมภาษณ์รายการหนึ่ง 5 ครั้ง ภายหลังไลฟ์รายการลบทิ้ง หมายความว่าอย่างไร ตนถามตรงๆ ไปว่าลบทิ้งทำไม เขาไม่มีคำตอบ เปลี่ยนประเด็น
    .
    ตนมองว่าต้องมีคนสั่งให้ลบ เพราะมือถืออยู่ในมือตนเอง จึงต้องดิสเครดิตให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ พยายามด้อยค่าหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยออกมา 1-2 คลิปที่ อ.ปานเทพเปิดเผย ตนเคยลงในเพจมานานมากแล้ว แต่มีคนทักมาถามว่าสถานที่ตรงนี้ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งตนไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว พอไปดูก็มีการแต่งเพิ่มมา อ.ปานเทพถามตนว่าคลิปนี้ได้มาจากตนหรือเปล่า ตนตอบว่าไม่ใช่ คลิปที่ได้จากตนมีแค่นี้ เขาใช้วิธีเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน คือ เอามาแต่งเติม เอามาตัด และโจมตีว่าไม่ใช่ข้อมูลจริง หิวแสง ตนเพิ่งรู้จัก อ.ปานเทพ และ นพ.ธวัชชัยไม่ถึง 2 เดือน ข้อมูล GPS ที่เคยส่งให้ทีวีช่องหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนก็ถูกด้อยค่าว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรเลย ด้อยค่าแล้วก็ลบตัดทิ้งเลย
    .
    พอรับฟีดแบ็คกลับมาตนก็มีความรู้สึก แฟนของตนก็ไม่สบายใจ ให้หยุดไม่ต้องทำเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คดีนี้ต้องกลับมาแน่ เพราะข้อพิรุธหลายอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้ เบอร์แต่ละคนหาไม่ยาก อยู่บนเรือด้วยกันโทร.หากันทำไม แล้วบรรดาคนดังโทร.หาแตงโมเวลา 21.58 น. 22.04 น. หรือ 22.07 น.ของวันเกิดเหตุ ไม่ใช่แค่คืนนั้นคืนเดียว โทร.มาตอนเช้าด้วย โทร.ในระหว่างนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ตำรวจแถลงข่าวแตงโมตกน้ำ 22.37-22.38 น. แสดงว่าคนรู้แล้วว่าแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการกดรับสายเพราะปิดเครื่อง แต่มีระบบรับฝากข้อความและมีข้อความเข้ามา
    .
    เมื่อถามว่า ขบวนการดิสเครดิตบังแจ็คทำไปเพื่ออะไร เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโมอย่างไร บังแจ็ค กล่าวว่า มีคนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่พอคดีแตงโมเปิดขึ้นมาเขาได้รับความเสียหายมาก จึงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ ที่ไปคุยที่ปั๊มน้ำมันนั้น ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขาสอนให้พูดแบบนี้ แล้วมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แนะนำว่าต้องไปในทิศทางนี้ เท่าที่ตนทราบไม่นานมีโทรทัศน์ 3 ช่อง ช่องแรกไม่ดัง อีก 2 ช่องดัง ใช้ทนายความคนบนเรือคนเดียวกันออกโทรทัศน์ บางสื่อต้องกลัวตำรวจหรือเกรงใจตำรวจเพราะจะไม่มีข่าวเล่น ตนรู้พิรุธมานานแล้วว่าตอนสัมภาษณ์เขาก็ตัดออก อย่างทีวีช่องหนึ่งสัมภาษณ์นานมาก แต่ตัดบางส่วนออก เหลือเฉพาะตอนที่เปิดช่องให้ถูกโจมตี ภายหลังพบว่าใช้ทนายความคนเดียวกันออกทีวี
    .
    เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเสนอเงิน 15 ล้านบาทเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ไม่ถึง 15 ล้านบาท แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ นพ.ธวัชชัยจะมารับเครื่อง ก็พยายามที่จะถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือจริงหรือเปล่า แล้วเชื่อหรือเปล่าว่าจะนำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าคิดจะขายจะขายในราคาเท่าไหร่ ตนตอบว่าไม่ขาย ถามว่า 2 ล้านบาทขายไหม ตนตอบว่าไม่ขาย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาท เงินที่เสนอมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในเดือนหนึ่งก็หมดแล้ว เพราะตนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีบริษัท จ่ายค่ารถ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว ตนหาได้เองไม่ต้องเสนอ อีกฝ่ายก็เสนอเป็น 5 ล้านบาท แต่ไม่ต้องให้เครื่องแก่ นพ.ธวัชชัย ตนกล่าวว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย อยากจะยกให้เขา อีกฝ่ายกล่าวว่า ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ 1 ใน 5 คนบนเรือกล่าวว่า ได้เครื่องนี้ไปก็คือจบเลย เพราะมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูง เป็นนักธุรกิจระดับประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มือถือนี้ไปอยู่ที่เมืองไทย
    .
    เมื่อถามว่า ที่โดนดักตีหัวสงสัยว่าจัดฉากหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ตอนที่โดนตีหัว นพ.ธวัชชัยคุยกับตนอยู่ เวลาโดนตีหัวแฟนถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 3,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่พอจับดูเลือดไหล จึงให้ นพ.ธวัชชัยดูแผล ก็แนะนำว่าให้ไปเย็บแผลก่อน แต่เย็บไม่เยอะ 2 เข็ม และให้กลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่โดนตีหัวคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของคนผิวสี ตำรวจไม่ค่อยมี เป็นเหตุบังเอิญที่โจรขโมยของ นพ.ธวัชชัยอยู่ในสาย ก็เลยเป็นห่วงจึงเป็นข่าวขึ้นมา ส่วนขบวนการดิสเครดิตที่เกิดขึ้น นพ.ธวัชชัย อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ บังแจ็ค กล่าวว่า ทั้งสามคนต้องระวังอย่างสูง เพราะเท่าที่เจอข้อมูลในเครื่องมีแต่คนใหญ่คนโต ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จากที่แถลงข่าวยังมีเยอะกว่านี้
    .
    ถามถึงแนวทางคลี่คลายคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แตงโม บังแจ็คกล่าวว่า ลองไว้ใจทีมดีเอสไอ และดูว่าจะมีคนเข้ามาสกัดหรือข่มขู่หรือเปล่าก็ต้องคอยดู แต่ถ้าทั้งสามคนสบายใจและมั่นใจในทีมนี้ก็ตามนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือฟิงเกอร์ครอส (ยกนิ้วไขว้เพื่ออวยพรขอให้โชคดี) เมื่อถามว่า ตอนนี้บังแจ็คทำอะไรอยู่ ตนต้องขอบคุณเน็ตไอดอลที่สร้างภาพให้ตนเป็นแบบนั้นว่าเขาทำสำเร็จ ตนมีร้านอาหาร 2 แห่ง มีบริษัทที่มีรถยนต์กันกระสุน 5 คัน รับคุ้มกันดาราระดับโลก นักฟุตบอลชื่อดัง และนักการเมือง ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแตงโมจริง ให้ นพ.ธวัชชัชตรวจอีมี่ (IMEI) และตรวจเครื่องให้เรียบร้อย ถ้าสมมติถ้าตนหิวเงินหรือหิวแสงคงไม่เก็บไว้นานถึง 3 ปี ภาพหรือคลิปที่ตนเจอป่านนี้ได้เงินเป็นร้อยล้านแล้ว ตนนับถือศาสนาอิสลาม เป็นเงินบาป ทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ไปยุ่งและไม่เปิดเผย ไม่ทำให้แตงโมเสียหายเพราะน่าสงสารที่สุดแล้ว
    .
    คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://sondhitalk.com/detail/9680000012224
    ......
    Sondhi X
    [Exclusive on Sondhi Talk] "บังแจ็ค" ไว้ใจ DSI ไขคดี แย้มมือถือแตงโมมี 4 หมื่นภาพ แถมข้อมูลนักการเมือง-นักธุรกิจดัง . บังแจ็คเปิดใจส่งมอบมือถือแตงโม นิดา ให้หมอธวัชชัยนำมาให้ดีเอสไอคลี่คลายคดี ระบุกู้ข้อมูลมีภาพกว่า 4 หมื่นภาพ แชตบางส่วนคุยกับนักการเมืองดัง และมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่มีอิทธิพลสูง นักธุรกิจระดับประเทศเกี่ยวข้องด้วย เผยมีคนขอซื้อมือถือจริงแต่ไม่ถึง 15 ล้าน ลั่นยังไงก็ไม่ขาย . วันนี้ (6 ก.พ.) นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือบังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" (คลิกชมย้อนหลัง >> https://www.youtube.com/watch?v=58nPhAE2uZo) ถึงโทรศัพท์มือถือของ แตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตจากเรือสปีดโบ้ท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งได้ส่งมอบให้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และเตรียมนำมาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำมาใช้เพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของแตงโม ระบุว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่รู้จักกับนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นางพนิดาได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโมจากตำรวจ แต่ไม่พบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง ตนจึงแนะนำให้นำไปที่ศูนย์บริการของแอปเปิลช่วยดูว่ายังมีข้อมูลในเครื่องหรือไม่ นางพนิดาไปที่ศูนย์แอปเปิลฯ แต่ไม่ไว้ใจ จึงให้โทรศัพท์มือถือแก่ตน ซึ่งเป็นความครอบครองโดยถูกต้อง . การตัดสินใจส่งมอบโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ว่าจะมอบให้เฉพาะบุคคล 3 ราย ได้แก่ นพ.ธวัชชัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เพราะทั้งสามคนไว้วางใจที่สุดแล้ว เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่อยากให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคนที่จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือบางอย่างเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว เช่น มีคนดังโทร.เข้ามาในเวลาผิดปกติ ซึ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เปิดเผยว่าได้โทร.หาจริง ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ได้ออกมาพูด รวมทั้ง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทร.มาหาเมื่อเวลา 20.40 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่บนเรือลำเดียวกัน และอีกหลายข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ การลบข้อความ และการลบบัญชีทั้งบัญชี . ตนจำได้ว่ามดดำได้โทร.หาแตงโม แต่ได้รับข่าวจากแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนของแตงโมว่า แตงโมตกน้ำ แอนนาพยายามทักไลน์ โทร.ทั้งไลน์และมือถือแต่ไม่ติด เมื่อ 3 ปีที่แล้วพอเข้าไปดูบัญชีแอนนาไม่มีเลย ลบทิ้ง บัญชีฮิปโป (ผู้จัดการส่วนตัวให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนที่แตงโมเสียชีวิต) ก็ลบทิ้ง บัญชีโม อมีนา พินิจ ก็ลบทิ้ง บัญชีพุดเดิล ยุพดี ก็ลบทิ้ง และอีกหลายคน ส่วนข้อความที่กระติกนำมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่าได้คุยกับแตงโม ตนก็เข้าไปดู ไม่พบข้อความที่กระติกนำมาแสดง มีถึงแค่วันที่ 17-18 ก.พ. 2565 เท่านั้น แสดงว่ามีข้อมูลที่ถูกลบและข้อมูลที่แต่งขึ้นมา . บังแจ็ค กล่าวว่า ตนกู้ข้อมูลเฉพาะรูปภาพกว่า 40,000 ภาพ ยังดูไม่หมด ดูเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดี เช่น บัญชีธนาคารไม่มีเงินสักบาทในบัญชี ทั้งที่อย่างน้อยเป็นดาราต้องมีเงินติดบัญชีสัก 4-5 พันบาท แต่ยอดเงินกลับเป็น 0 บาท บันทึกบางส่วนถูกลบออกไป แชตบางส่วนที่คุยกับนักการเมืองดัง ที่ขู่จะให้ส่งภาพลับที่ไม่เหมาะสมและเรียกให้มาหาก็มี ตนสงสารที่แตงโมต้องเจออะไรแบบนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายคดีเมื่ออยู่ในมือของดีเอสไอ . ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตนที่ทำให้พยานหลักฐานถูกด้อยค่านั้น ถามว่าใครทำร้ายเครดิตตน คนที่เสียประโยชน์ก็พยายามใช้สื่อที่เข้าข้างมาดิสเครดิตตน หนึ่งในนั้นคือทนายความที่ท้าให้ดื่มปัสสาวะ 70 แก้ว พาทั้งพิธีกรชื่อดังไปแจ้งความว่าตนขู่ฆ่าและใช้สื่อโจมตี ทั้งๆ ที่พิธีกรชื่อดังเข้าใจกันแล้ว และจะร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่โพสต์ภาพปืนเป็นเรื่องนานมาแล้ว ไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม และได้เคลียร์จบแล้ว ตนมีหลักฐานทั้งหมดส่งให้ นพ.ธวัชชัย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าได้คุยกัน จับมือขออภัยกันจริง . ส่วนคดีเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ส่วนตัวมาเมืองไทยถูกต้อง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซื้อรถจักรยานยนต์จากเบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี เวลานั้นตนอยู่โคราช ตนถูกหลอกเพราะไม่มีเอกสารและทะเบียน ตนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้กฎหมาย เจอด่านก็โดนยึด พอกลับไปหาเจ้าตัวก็ไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีหลักฐาน พอเกิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติด ตนออกมาวิจารณ์เบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เข้าข้างและไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมของเขา ตนซื้อรถด้วยน้ำพักน้ำแรงแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่ตนใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เวลานั้นไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพราะโดนโจมตี น้ำหนักน้อยลง พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเป็นคนต่างชาติ ถูกด้อยค่าตลอดเวลา จึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้ . ส่วนที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ถึงปี 2569 เพราะเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยนั้น บังแจ็ค กล่าวว่า สมมติเป็นบุคคลอันตรายจริงก็ไม่น่าจะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ 6-7 ปี ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนรัฐบาล และออกเอกสารถูกต้อง มีใบอนุญาตทำงาน เมื่อ 2 ปีก่อนมีรายการโทรทัศน์ไปตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีดำในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้สามารถเข้าประเทศไทยได้ ส่วนคดีที่เจอระยะหลังๆ คือคดีแตงโม ถูกใส่ไข่เยอะเพราะอีกฝ่ายหรืออีกสื่อหนึ่งมีเอฟซี มีอิทธิพลเยอะ แถมเมื่อตนไปสัมภาษณ์รายการหนึ่ง 5 ครั้ง ภายหลังไลฟ์รายการลบทิ้ง หมายความว่าอย่างไร ตนถามตรงๆ ไปว่าลบทิ้งทำไม เขาไม่มีคำตอบ เปลี่ยนประเด็น . ตนมองว่าต้องมีคนสั่งให้ลบ เพราะมือถืออยู่ในมือตนเอง จึงต้องดิสเครดิตให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ พยายามด้อยค่าหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยออกมา 1-2 คลิปที่ อ.ปานเทพเปิดเผย ตนเคยลงในเพจมานานมากแล้ว แต่มีคนทักมาถามว่าสถานที่ตรงนี้ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งตนไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว พอไปดูก็มีการแต่งเพิ่มมา อ.ปานเทพถามตนว่าคลิปนี้ได้มาจากตนหรือเปล่า ตนตอบว่าไม่ใช่ คลิปที่ได้จากตนมีแค่นี้ เขาใช้วิธีเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน คือ เอามาแต่งเติม เอามาตัด และโจมตีว่าไม่ใช่ข้อมูลจริง หิวแสง ตนเพิ่งรู้จัก อ.ปานเทพ และ นพ.ธวัชชัยไม่ถึง 2 เดือน ข้อมูล GPS ที่เคยส่งให้ทีวีช่องหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนก็ถูกด้อยค่าว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรเลย ด้อยค่าแล้วก็ลบตัดทิ้งเลย . พอรับฟีดแบ็คกลับมาตนก็มีความรู้สึก แฟนของตนก็ไม่สบายใจ ให้หยุดไม่ต้องทำเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คดีนี้ต้องกลับมาแน่ เพราะข้อพิรุธหลายอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้ เบอร์แต่ละคนหาไม่ยาก อยู่บนเรือด้วยกันโทร.หากันทำไม แล้วบรรดาคนดังโทร.หาแตงโมเวลา 21.58 น. 22.04 น. หรือ 22.07 น.ของวันเกิดเหตุ ไม่ใช่แค่คืนนั้นคืนเดียว โทร.มาตอนเช้าด้วย โทร.ในระหว่างนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ตำรวจแถลงข่าวแตงโมตกน้ำ 22.37-22.38 น. แสดงว่าคนรู้แล้วว่าแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการกดรับสายเพราะปิดเครื่อง แต่มีระบบรับฝากข้อความและมีข้อความเข้ามา . เมื่อถามว่า ขบวนการดิสเครดิตบังแจ็คทำไปเพื่ออะไร เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโมอย่างไร บังแจ็ค กล่าวว่า มีคนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่พอคดีแตงโมเปิดขึ้นมาเขาได้รับความเสียหายมาก จึงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ ที่ไปคุยที่ปั๊มน้ำมันนั้น ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขาสอนให้พูดแบบนี้ แล้วมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แนะนำว่าต้องไปในทิศทางนี้ เท่าที่ตนทราบไม่นานมีโทรทัศน์ 3 ช่อง ช่องแรกไม่ดัง อีก 2 ช่องดัง ใช้ทนายความคนบนเรือคนเดียวกันออกโทรทัศน์ บางสื่อต้องกลัวตำรวจหรือเกรงใจตำรวจเพราะจะไม่มีข่าวเล่น ตนรู้พิรุธมานานแล้วว่าตอนสัมภาษณ์เขาก็ตัดออก อย่างทีวีช่องหนึ่งสัมภาษณ์นานมาก แต่ตัดบางส่วนออก เหลือเฉพาะตอนที่เปิดช่องให้ถูกโจมตี ภายหลังพบว่าใช้ทนายความคนเดียวกันออกทีวี . เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเสนอเงิน 15 ล้านบาทเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ไม่ถึง 15 ล้านบาท แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ นพ.ธวัชชัยจะมารับเครื่อง ก็พยายามที่จะถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือจริงหรือเปล่า แล้วเชื่อหรือเปล่าว่าจะนำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าคิดจะขายจะขายในราคาเท่าไหร่ ตนตอบว่าไม่ขาย ถามว่า 2 ล้านบาทขายไหม ตนตอบว่าไม่ขาย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาท เงินที่เสนอมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในเดือนหนึ่งก็หมดแล้ว เพราะตนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีบริษัท จ่ายค่ารถ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว ตนหาได้เองไม่ต้องเสนอ อีกฝ่ายก็เสนอเป็น 5 ล้านบาท แต่ไม่ต้องให้เครื่องแก่ นพ.ธวัชชัย ตนกล่าวว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย อยากจะยกให้เขา อีกฝ่ายกล่าวว่า ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ 1 ใน 5 คนบนเรือกล่าวว่า ได้เครื่องนี้ไปก็คือจบเลย เพราะมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูง เป็นนักธุรกิจระดับประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มือถือนี้ไปอยู่ที่เมืองไทย . เมื่อถามว่า ที่โดนดักตีหัวสงสัยว่าจัดฉากหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ตอนที่โดนตีหัว นพ.ธวัชชัยคุยกับตนอยู่ เวลาโดนตีหัวแฟนถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 3,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่พอจับดูเลือดไหล จึงให้ นพ.ธวัชชัยดูแผล ก็แนะนำว่าให้ไปเย็บแผลก่อน แต่เย็บไม่เยอะ 2 เข็ม และให้กลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่โดนตีหัวคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของคนผิวสี ตำรวจไม่ค่อยมี เป็นเหตุบังเอิญที่โจรขโมยของ นพ.ธวัชชัยอยู่ในสาย ก็เลยเป็นห่วงจึงเป็นข่าวขึ้นมา ส่วนขบวนการดิสเครดิตที่เกิดขึ้น นพ.ธวัชชัย อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ บังแจ็ค กล่าวว่า ทั้งสามคนต้องระวังอย่างสูง เพราะเท่าที่เจอข้อมูลในเครื่องมีแต่คนใหญ่คนโต ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จากที่แถลงข่าวยังมีเยอะกว่านี้ . ถามถึงแนวทางคลี่คลายคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แตงโม บังแจ็คกล่าวว่า ลองไว้ใจทีมดีเอสไอ และดูว่าจะมีคนเข้ามาสกัดหรือข่มขู่หรือเปล่าก็ต้องคอยดู แต่ถ้าทั้งสามคนสบายใจและมั่นใจในทีมนี้ก็ตามนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือฟิงเกอร์ครอส (ยกนิ้วไขว้เพื่ออวยพรขอให้โชคดี) เมื่อถามว่า ตอนนี้บังแจ็คทำอะไรอยู่ ตนต้องขอบคุณเน็ตไอดอลที่สร้างภาพให้ตนเป็นแบบนั้นว่าเขาทำสำเร็จ ตนมีร้านอาหาร 2 แห่ง มีบริษัทที่มีรถยนต์กันกระสุน 5 คัน รับคุ้มกันดาราระดับโลก นักฟุตบอลชื่อดัง และนักการเมือง ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแตงโมจริง ให้ นพ.ธวัชชัชตรวจอีมี่ (IMEI) และตรวจเครื่องให้เรียบร้อย ถ้าสมมติถ้าตนหิวเงินหรือหิวแสงคงไม่เก็บไว้นานถึง 3 ปี ภาพหรือคลิปที่ตนเจอป่านนี้ได้เงินเป็นร้อยล้านแล้ว ตนนับถือศาสนาอิสลาม เป็นเงินบาป ทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ไปยุ่งและไม่เปิดเผย ไม่ทำให้แตงโมเสียหายเพราะน่าสงสารที่สุดแล้ว . คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://sondhitalk.com/detail/9680000012224 ...... Sondhi X
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 829 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปานเทพ"แฉ!มีขบวนการดิสเครดิตข้อมูลมือถือบังแจ็ค 06/02/68 #ปานเทพ #บังแจ็ค #คดีแตงโม #มือถือแตงโม
    "ปานเทพ"แฉ!มีขบวนการดิสเครดิตข้อมูลมือถือบังแจ็ค 06/02/68 #ปานเทพ #บังแจ็ค #คดีแตงโม #มือถือแตงโม
    Like
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1001 มุมมอง 94 0 รีวิว
  • "ปานเทพ-อัจฉริยะ" แถลงโทรศัพท์มือถือ "แตงโม" ถึงไทยคืนนี้ เตรียมส่งมอบให้ดีเอสไอ แฉขบวนการดิสเครดิต "บังแจ๊ค" เพื่อไม่ให้เชื่อหลักฐานที่เจ้าตัวมี พร้อมประกาศไม่ร่วมทีม "เต้ มงคลกิตติ์" ย้ำชัดเป้าหมายและแนวทางการทำงานต่างกัน ปูดนักการเมืองใหญ่โทรศัพท์หาคนบนเรือหลายครั้ง ขณะที่ดีเอสไอ เตรียมจำลองเหตุการณ์ 17 ก.พ.นี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012126

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ปานเทพ-อัจฉริยะ" แถลงโทรศัพท์มือถือ "แตงโม" ถึงไทยคืนนี้ เตรียมส่งมอบให้ดีเอสไอ แฉขบวนการดิสเครดิต "บังแจ๊ค" เพื่อไม่ให้เชื่อหลักฐานที่เจ้าตัวมี พร้อมประกาศไม่ร่วมทีม "เต้ มงคลกิตติ์" ย้ำชัดเป้าหมายและแนวทางการทำงานต่างกัน ปูดนักการเมืองใหญ่โทรศัพท์หาคนบนเรือหลายครั้ง ขณะที่ดีเอสไอ เตรียมจำลองเหตุการณ์ 17 ก.พ.นี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012126 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 943 มุมมอง 0 รีวิว
  • #พระสมเด็จวัดระฆัง# ..ผู้เขียนเคยคุยกับ บิ๊กเนมท่านนึง รุ่นใหญ่มาก...ในวงการ..ผู้เขียนถามท่านนั้นว่า...สมเด็จ..ที่เขาขายกัน 20 ล้าน 30 ล้าน..ถ้าพี่ซื้อผมแบบ พี่รู้ว่าผม ..เป็นมวย...ไม่ใช่ตาสีตาสาชาวบ้าน...เพื่อกดราคาซื้อ..พี่จะซื้อได้เท่าไร? ...(ในสภาพเดียวกัน) ..เขาตอบว่า สมมุตินะ ...ไม่เกิน 2 ล้าน...เราก็..ห๊ะ..ห่างขนาดนั้นเลยหรือ? ...(คือทราบอยู่แล้ว..แต่แสดงเพื่อให้เขาอธิบายต่อ) ...เขาพูดดังนี้...ขั้นแรก เครดิตพี่...คนที่เขาซื้อต่อ เขามั่นใจว่า พี่ของจริง...คือ รู้เป็นจริง และถ้ามีปัญหา .พี่..มีปัญญา กรอกลับได้...ซึ่งเอาแค่ 2 อย่างนี้...ส่วนใหญ่ "น้ำลาย" พูดส่งเดช..ก็มาก...แต่ตัวจริง เขามี...
    ..ฉะนั้น พวกที่ตามหาและ "เพ้อ" ว่าจะมีสมเด็จองค์ละ หลายสิบล้านมาขาย...ขอบอกว่า เลิกเถอะ...เพราะ 1. หาตามแบบที่เขาซื้อขายไม่ง่าย..และ 2. ถึงใช่...ก็ไม่มีใครซื้อคุณ...ในราคาแบบนั้น .(ดังที่เขียน)
    #พระสมเด็จวัดระฆัง# ..ผู้เขียนเคยคุยกับ บิ๊กเนมท่านนึง รุ่นใหญ่มาก...ในวงการ..ผู้เขียนถามท่านนั้นว่า...สมเด็จ..ที่เขาขายกัน 20 ล้าน 30 ล้าน..ถ้าพี่ซื้อผมแบบ พี่รู้ว่าผม ..เป็นมวย...ไม่ใช่ตาสีตาสาชาวบ้าน...เพื่อกดราคาซื้อ..พี่จะซื้อได้เท่าไร? ...(ในสภาพเดียวกัน) ..เขาตอบว่า สมมุตินะ ...ไม่เกิน 2 ล้าน...เราก็..ห๊ะ..ห่างขนาดนั้นเลยหรือ? ...(คือทราบอยู่แล้ว..แต่แสดงเพื่อให้เขาอธิบายต่อ) ...เขาพูดดังนี้...ขั้นแรก เครดิตพี่...คนที่เขาซื้อต่อ เขามั่นใจว่า พี่ของจริง...คือ รู้เป็นจริง และถ้ามีปัญหา .พี่..มีปัญญา กรอกลับได้...ซึ่งเอาแค่ 2 อย่างนี้...ส่วนใหญ่ "น้ำลาย" พูดส่งเดช..ก็มาก...แต่ตัวจริง เขามี... ..ฉะนั้น พวกที่ตามหาและ "เพ้อ" ว่าจะมีสมเด็จองค์ละ หลายสิบล้านมาขาย...ขอบอกว่า เลิกเถอะ...เพราะ 1. หาตามแบบที่เขาซื้อขายไม่ง่าย..และ 2. ถึงใช่...ก็ไม่มีใครซื้อคุณ...ในราคาแบบนั้น .(ดังที่เขียน)
    Like
    Love
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดให้บริการแล้ววันนี้ 🎉
    ชาร์จอย่างเต็ม Power⚡️ ที่ EV TPI Polene Power Charger ได้แล้วที่ Station EV Charger 4 แห่ง

    1. สาขามวกเหล็ก 1 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 - 21.30 น.
    - มีตู้ EV 1 ตู้ 2 หัวจ่าย
    📍 https://maps.app.goo.gl/2t6RRgLp6ed2839u5

    2. สาขามวกเหล็ก 2 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 - 21.30 น.
    - มีตู้ EV 2 ตู้ 4 หัวจ่าย
    📍 https://maps.app.goo.gl/WenkHRUMGMfH1xpu6

    3. สาขาสระบุรี 2 (GAS) เปิดให้บริการทุกวัน 24 ชั่วโมง
    - มีตู้ EV 1 ตู้ 2 หัวจ่าย
    📍 https://maps.app.goo.gl/wjFry7mfucFZArvQ6

    4. สาขาปากข้าวสาร เปิดให้บริการทุกวัน 24 ชั่วโมง
    - มีตู้ EV 2 ตู้ 4 หัวจ่าย
    📍 https://maps.app.goo.gl/7cdNcB2FLVut5Ryc7

    ✅ ตู้ชาร์จประจุไฟฟ้า Quick Charge DC CCS2 120 kw. "ไฟแรงเต็มประสิทธิภาพ"
    ✅ ไม่ต้องโหลด App. ให้ยุ่งยาก เรามีพนักงานพร้อมบริการ สะดวก สบาย ไม่ต้องลงจากรถ
    ✅ ยินดีรับชำระด้วยเงินสด และบัตรเครดิต Scan QR CODE
    ✅ ชาร์จได้ทั้งรถบรรทุกและรถเก๋ง

    สถานีชาร์จรถ EV TPI Polene Power Charger เปิดใหม่ สะดวก ปลอดภัย มีพนักงานพร้อมบริการ แค่แวะมาก็เติมพลังพร้อมเดินทางต่อ รองรับอนาคตแห่งการขับขี่ด้วยพลังงานสะอาด 🚘🌏🌱

    #EVTPIPowerCharger #TPIPolenePowerCharger #สถานีชาร์จEV #ชาร์จง่ายไม่ต้องทำเอง #สถานีชาร์จ #สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า
    #จอดปุ๊บชาร์จปั๊บ #พลังงานสะอาดเพื่อคุณ
    เปิดให้บริการแล้ววันนี้ 🎉 ชาร์จอย่างเต็ม Power⚡️ ที่ EV TPI Polene Power Charger ได้แล้วที่ Station EV Charger 4 แห่ง 1. สาขามวกเหล็ก 1 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 - 21.30 น. - มีตู้ EV 1 ตู้ 2 หัวจ่าย 📍 https://maps.app.goo.gl/2t6RRgLp6ed2839u5 2. สาขามวกเหล็ก 2 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 - 21.30 น. - มีตู้ EV 2 ตู้ 4 หัวจ่าย 📍 https://maps.app.goo.gl/WenkHRUMGMfH1xpu6 3. สาขาสระบุรี 2 (GAS) เปิดให้บริการทุกวัน 24 ชั่วโมง - มีตู้ EV 1 ตู้ 2 หัวจ่าย 📍 https://maps.app.goo.gl/wjFry7mfucFZArvQ6 4. สาขาปากข้าวสาร เปิดให้บริการทุกวัน 24 ชั่วโมง - มีตู้ EV 2 ตู้ 4 หัวจ่าย 📍 https://maps.app.goo.gl/7cdNcB2FLVut5Ryc7 ✅ ตู้ชาร์จประจุไฟฟ้า Quick Charge DC CCS2 120 kw. "ไฟแรงเต็มประสิทธิภาพ" ✅ ไม่ต้องโหลด App. ให้ยุ่งยาก เรามีพนักงานพร้อมบริการ สะดวก สบาย ไม่ต้องลงจากรถ ✅ ยินดีรับชำระด้วยเงินสด และบัตรเครดิต Scan QR CODE ✅ ชาร์จได้ทั้งรถบรรทุกและรถเก๋ง สถานีชาร์จรถ EV TPI Polene Power Charger เปิดใหม่ สะดวก ปลอดภัย มีพนักงานพร้อมบริการ แค่แวะมาก็เติมพลังพร้อมเดินทางต่อ รองรับอนาคตแห่งการขับขี่ด้วยพลังงานสะอาด 🚘🌏🌱 #EVTPIPowerCharger #TPIPolenePowerCharger #สถานีชาร์จEV #ชาร์จง่ายไม่ต้องทำเอง #สถานีชาร์จ #สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า #จอดปุ๊บชาร์จปั๊บ #พลังงานสะอาดเพื่อคุณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 616 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ทรัมป์ออก executive order จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่ง ( sovereign wealth fund --U.S. government-owned investment fund) ระบุ กองทุนนี้จะเข้าลงทุนใน TikTok และสินทรัพย์อื่นที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยเงินกองทุนจะมาจากการเก็บภาษีนำเข้า คาร์บอนเครดิต รายได้รัฐบาล
    *ทรัมป์ต้องการที่จะให้สหรัฐถือหุ้นใน tiktok 50% (เบื้องต้นยังไม่ระบุว่าจะให้ใครเข้าไปซื้ออย่างชัดเจน)
    **แต่อย่างไรก็ตามยังต้องผ่านสภาก่อน สหรัฐไม่เคยมีกองทุนความมั่งคั่งมาก่อน

    sovereign wealth fund เป็นกองทุนการลงทุนที่รัฐบาลเป็นเจ้าของทำหน้าที่บริหารเงินของประเทศ ส่วนใหญ่จะเกิดจากเงินรายได้ของประเทศที่มีในระดับสูง อยู่ในภาวะเกินดุล กองทุนฯ จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้น พันธบัตร อสังหาฯ บริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนและสนับสุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจ หรืออาจจะเพื่อหาเงินทุนให้กับโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล ประเทศที่มี SWF เช่น สวีเดน นอร์เวย์
    ..........................
    พลังงาน
    นโยบายทรัมป์ที่จะหนุนการขุดเจาะน้ำมันในประเทศ
    บริษัทขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐและทางซาอุฯ ปฏิเสธที่จะเพิ่มกำลังการผลิต
    บริษัทขุดเจาะสหรัฐ มุ่งความสนใจไปที่การลดต้นทุนและสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนมากกว่าจะลงทุนเพิ่ม
    ทรัมป์ระบุว่า ราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง (จากซัพพลายที่เพิ่ม) จะช่วยแก้ปัญหาให้กับหลาย ๆ ประเทศ
    ทรัมป์ออก executive order จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่ง ( sovereign wealth fund --U.S. government-owned investment fund) ระบุ กองทุนนี้จะเข้าลงทุนใน TikTok และสินทรัพย์อื่นที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยเงินกองทุนจะมาจากการเก็บภาษีนำเข้า คาร์บอนเครดิต รายได้รัฐบาล *ทรัมป์ต้องการที่จะให้สหรัฐถือหุ้นใน tiktok 50% (เบื้องต้นยังไม่ระบุว่าจะให้ใครเข้าไปซื้ออย่างชัดเจน) **แต่อย่างไรก็ตามยังต้องผ่านสภาก่อน สหรัฐไม่เคยมีกองทุนความมั่งคั่งมาก่อน sovereign wealth fund เป็นกองทุนการลงทุนที่รัฐบาลเป็นเจ้าของทำหน้าที่บริหารเงินของประเทศ ส่วนใหญ่จะเกิดจากเงินรายได้ของประเทศที่มีในระดับสูง อยู่ในภาวะเกินดุล กองทุนฯ จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้น พันธบัตร อสังหาฯ บริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนและสนับสุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจ หรืออาจจะเพื่อหาเงินทุนให้กับโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล ประเทศที่มี SWF เช่น สวีเดน นอร์เวย์ .......................... พลังงาน นโยบายทรัมป์ที่จะหนุนการขุดเจาะน้ำมันในประเทศ บริษัทขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐและทางซาอุฯ ปฏิเสธที่จะเพิ่มกำลังการผลิต บริษัทขุดเจาะสหรัฐ มุ่งความสนใจไปที่การลดต้นทุนและสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนมากกว่าจะลงทุนเพิ่ม ทรัมป์ระบุว่า ราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง (จากซัพพลายที่เพิ่ม) จะช่วยแก้ปัญหาให้กับหลาย ๆ ประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมธนาคารกล้าให้วงเงินบัตรเครดิตสูงกว่าเงินเดือน ?
    ทำไมธนาคารกล้าให้วงเงินบัตรเครดิตสูงกว่าเงินเดือน ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล จะเริ่มต้นเจรจาขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างเดินทางเยือนวอชิงตันในวันจันทร์ (3 ก.พ.) จากการเปิดเผยของทำเนียบนายกรัฐมนตรียิว
    .
    ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลของเนทันยาฮู เผยแพร่ถ้อยแถลงในวันเสาร์ (1 ก.พ.) ระบุว่านายกรัฐมนตรี "ได้พูดคุยกับ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษตะวันด้านตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทั้ง 2 เห็นพ้องกันว่าการเจรจาขั้นที่ 2 ของข้อตกลงตัวประกันจะเริ่มขึ้นตอนที่พวกเขาพบปะกันในวอชิงตัน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้"
    .
    "จากนั้นในช่วงกลางสัปดาห์ วิตคอฟฟ์จะพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกาตาร์ และตัวแทนระดับสูงของอียิปต์ หลังจากนั้น เขาะหารือกับนายกรัฐมนตีรี เกี่ยวกับก้าวย่างเพื่อสานต่อความคืบหน้าของการเจรจา ในนั้นรวมถึงกำหนดวันเวลาที่พวกคณะผู้แทนเจรจาจะออกเดินทางเพื่อไปเจรจา" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    ข้อตกลงหยุดยิงในกาซามีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา พักการทำศึกสงครามในดินแดนของปาเลสไตน์ที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน หลังจากที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ พวกคนกลางอย่างอียิปต์ กาตาร์ และสหรัฐฯ ใช้ความพยายามเจรจามานานกว่า 1 ปี แต่ไร้ผล
    .
    ภายใต้ข้อตกลงขั้นแรกที่มีอายุ 6 สัปดาห์ จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่พวกฮามาสจับกุมตัวไประหว่างปฏิบัติการโจมตีเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ออกจากกาซา จำนวน 33 คน แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ราว 1,900 คน
    .
    จนถึงตอนนี้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษไปแล้ว 4 รอบ ซึ่งพบเห็นตัวประกันอิสราเอล 13 คน ได้รับการปล่อยตัวแลกกับผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคน จำนวนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก นอกจากนี้ ตัวประกันชาวไทย 5 คนก็ได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน
    .
    ส่วนขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง คาดหมายว่าจะครอบคลุมการปล่อยพวกผู้ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆ ที่เหลือ และอาจรวมถึงการพูดคุยหารือเกี่ยวกับการหยุดยิงที่ยั่งยืนกว่าเดิม
    .
    ทำเนียบของเนทันยาฮู เผยว่าในวันจันทร์ (3 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีจะหารือเกี่ยวกับ "จุดยืนต่างๆ ของอิสราเอล" กับ วิตคอฟฟ์ เสียก่อน จากนั้นคาดหมายว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ผู้อ้างเครดิตสำหรับข้อตกลงหยุดยิง จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับ เนทันยาฮู ในวันอังคาร (4 ก.พ.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010547
    ..................
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล จะเริ่มต้นเจรจาขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างเดินทางเยือนวอชิงตันในวันจันทร์ (3 ก.พ.) จากการเปิดเผยของทำเนียบนายกรัฐมนตรียิว . ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลของเนทันยาฮู เผยแพร่ถ้อยแถลงในวันเสาร์ (1 ก.พ.) ระบุว่านายกรัฐมนตรี "ได้พูดคุยกับ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษตะวันด้านตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทั้ง 2 เห็นพ้องกันว่าการเจรจาขั้นที่ 2 ของข้อตกลงตัวประกันจะเริ่มขึ้นตอนที่พวกเขาพบปะกันในวอชิงตัน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้" . "จากนั้นในช่วงกลางสัปดาห์ วิตคอฟฟ์จะพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกาตาร์ และตัวแทนระดับสูงของอียิปต์ หลังจากนั้น เขาะหารือกับนายกรัฐมนตีรี เกี่ยวกับก้าวย่างเพื่อสานต่อความคืบหน้าของการเจรจา ในนั้นรวมถึงกำหนดวันเวลาที่พวกคณะผู้แทนเจรจาจะออกเดินทางเพื่อไปเจรจา" ถ้อยแถลงระบุ . ข้อตกลงหยุดยิงในกาซามีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา พักการทำศึกสงครามในดินแดนของปาเลสไตน์ที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน หลังจากที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ พวกคนกลางอย่างอียิปต์ กาตาร์ และสหรัฐฯ ใช้ความพยายามเจรจามานานกว่า 1 ปี แต่ไร้ผล . ภายใต้ข้อตกลงขั้นแรกที่มีอายุ 6 สัปดาห์ จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่พวกฮามาสจับกุมตัวไประหว่างปฏิบัติการโจมตีเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ออกจากกาซา จำนวน 33 คน แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ราว 1,900 คน . จนถึงตอนนี้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษไปแล้ว 4 รอบ ซึ่งพบเห็นตัวประกันอิสราเอล 13 คน ได้รับการปล่อยตัวแลกกับผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคน จำนวนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก นอกจากนี้ ตัวประกันชาวไทย 5 คนก็ได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน . ส่วนขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง คาดหมายว่าจะครอบคลุมการปล่อยพวกผู้ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆ ที่เหลือ และอาจรวมถึงการพูดคุยหารือเกี่ยวกับการหยุดยิงที่ยั่งยืนกว่าเดิม . ทำเนียบของเนทันยาฮู เผยว่าในวันจันทร์ (3 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีจะหารือเกี่ยวกับ "จุดยืนต่างๆ ของอิสราเอล" กับ วิตคอฟฟ์ เสียก่อน จากนั้นคาดหมายว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ผู้อ้างเครดิตสำหรับข้อตกลงหยุดยิง จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับ เนทันยาฮู ในวันอังคาร (4 ก.พ.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010547 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1516 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แบ่งปัน# สำหรับท่านที่ลองมาหลายศาสตร์ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน.
    .อยากให้.ลองพลังงานของตัวเลข
    🧧 081 9159968.
    _ 081 เบอร์ผู้ดีเก่ายุค 40 ปีก่อน..มุมมองเรื่องเครดิต.
    _ คู่ 91 คู่ 15 คู่ 99 คู่ 68 ชุด 968 ดีทั้งหมด..ไม่มีเลขต่อสู้ เลขเหนื่อย..เช่น 3 หรือ 7
    _ ผลรวมยอดเยี่ยม..อ่านด้านล่าง..จากเวปที่เชื่อถือได้ยุคแรก...
    _ เบอร์ใหม่ ยังไม่ลงทะเบียน .สามารถนำไปจดทะเบียนได้เลย.
    ❤️ แบ่งปัน 2999 รวมส่ง..ถ้าอยู่ในมือคนขายเลขศาสตร์ ว่ากันแพง..
    (ติดต่อ 081_5368658)
    #แบ่งปัน# สำหรับท่านที่ลองมาหลายศาสตร์ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน. .อยากให้.ลองพลังงานของตัวเลข 🧧 081 9159968. _ 081 เบอร์ผู้ดีเก่ายุค 40 ปีก่อน..มุมมองเรื่องเครดิต. _ คู่ 91 คู่ 15 คู่ 99 คู่ 68 ชุด 968 ดีทั้งหมด..ไม่มีเลขต่อสู้ เลขเหนื่อย..เช่น 3 หรือ 7 _ ผลรวมยอดเยี่ยม..อ่านด้านล่าง..จากเวปที่เชื่อถือได้ยุคแรก... _ เบอร์ใหม่ ยังไม่ลงทะเบียน .สามารถนำไปจดทะเบียนได้เลย. ❤️ แบ่งปัน 2999 รวมส่ง..ถ้าอยู่ในมือคนขายเลขศาสตร์ ว่ากันแพง.. (ติดต่อ 081_5368658)
    4 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts