• กลัวชิหาย สงครามกลางเมือง กลัวว่าพวกเมิงไม่ออกมาจริง ถ้ายุบจริงกูจะทวงถามทุกวันเลย อย่าหดหัวนะมรึง ไอ้หรินทร์ ยุวรัตนาพร อดีตสส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตหมด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    กลัวชิหาย สงครามกลางเมือง กลัวว่าพวกเมิงไม่ออกมาจริง ถ้ายุบจริงกูจะทวงถามทุกวันเลย อย่าหดหัวนะมรึง ไอ้หรินทร์ ยุวรัตนาพร อดีตสส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตหมด #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • “โมเดอร์สุดครีเอทีฟติดตั้งรถไฟจำลองวิ่งบนการ์ดจอ – ยินดีต้อนรับสู่ ‘PCI Express to Gamesville’!”

    เรื่องเล่าที่ทั้งน่าทึ่งและน่ารักจากโลกของนักแต่งคอมพิวเตอร์! ผู้ใช้นามว่า “Beautiful-Turnip-353” ได้สร้างสรรค์ผลงานสุดแหวกแนวโดยนำรถไฟจำลองขนาดจิ๋วแบบ T-gauge มาวิ่งวนอยู่บนการ์ดจอภายในเคสคอมพิวเตอร์ของตนเอง กลายเป็นการผสมผสานระหว่างงานอดิเรกโมเดลรถไฟกับโลกของพีซีเกมมิ่งได้อย่างลงตัว

    รถไฟจำลองนี้มีขนาดเล็กมาก—รางกว้างเพียง 3 มม. และมีสเกลประมาณ 1:450 ถึง 1:500 ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับพื้นที่จำกัดบนการ์ดจอ โดยใช้ Arduino ที่เชื่อมต่อผ่าน USB เพื่อจ่ายไฟ 5V แบบ PWM ให้กับรางรถไฟ แม้ตอนนี้ยังควบคุมความเร็วได้ไม่หลากหลาย แต่ก็มีแผนจะพัฒนาให้สามารถควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ เช่น FanControl หรือแม้กระทั่งให้รถไฟวิ่งเร็วขึ้นตามอุณหภูมิของ GPU!

    เจ้าของผลงานยังเผยว่าอยากสร้างเคสธีมรถไฟที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมด้วยฉากจำลอง สัญญาณไฟ และแม้กระทั่งรถไฟไอน้ำที่มีเสียง “ชัฟฟ์ฟฟ” วิ่งรอบเคส—เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับงานโมดิฟายพีซีไปอีกขั้น

    โมเดอร์สร้างรถไฟจำลองวิ่งบนการ์ดจอ
    ใช้รถไฟ T-gauge ขนาดเล็กที่สุดในวงการโมเดล
    รางกว้างเพียง 3 มม. สเกลประมาณ 1:450–1:500
    วางรางวนรอบการ์ดจอภายในเคสพีซี

    ระบบควบคุมรถไฟด้วย Arduino
    ใช้สัญญาณ PWM 5V ผ่านพอร์ต USB
    ควบคุมความเร็วได้จำกัดในเวอร์ชันต้นแบบ
    มีแผนพัฒนาให้ควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ FanControl

    แนวคิดสร้างสรรค์ที่ผสานงานอดิเรกกับเทคโนโลยี
    รถไฟจำลองเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเคส
    มีแผนเพิ่มฉากจำลอง แสงไฟ และระบบสัญญาณ
    อาจพัฒนาให้รถไฟตอบสนองต่ออุณหภูมิของพีซี

    ความท้าทายด้านพื้นที่และการติดตั้ง
    การ์ดจอมีพื้นที่จำกัด ต้องใช้รางที่โค้งแคบ
    ต้องออกแบบให้ไม่รบกวนการระบายความร้อน
    ต้องใช้ความแม่นยำในการติดตั้งรางและระบบไฟ

    https://www.tomshardware.com/desktops/pc-building/pc-modder-installs-a-working-train-set-on-top-of-their-gpu-all-aboard-the-pci-express-to-gamesville
    🚂 “โมเดอร์สุดครีเอทีฟติดตั้งรถไฟจำลองวิ่งบนการ์ดจอ – ยินดีต้อนรับสู่ ‘PCI Express to Gamesville’!” เรื่องเล่าที่ทั้งน่าทึ่งและน่ารักจากโลกของนักแต่งคอมพิวเตอร์! ผู้ใช้นามว่า “Beautiful-Turnip-353” ได้สร้างสรรค์ผลงานสุดแหวกแนวโดยนำรถไฟจำลองขนาดจิ๋วแบบ T-gauge มาวิ่งวนอยู่บนการ์ดจอภายในเคสคอมพิวเตอร์ของตนเอง กลายเป็นการผสมผสานระหว่างงานอดิเรกโมเดลรถไฟกับโลกของพีซีเกมมิ่งได้อย่างลงตัว รถไฟจำลองนี้มีขนาดเล็กมาก—รางกว้างเพียง 3 มม. และมีสเกลประมาณ 1:450 ถึง 1:500 ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับพื้นที่จำกัดบนการ์ดจอ โดยใช้ Arduino ที่เชื่อมต่อผ่าน USB เพื่อจ่ายไฟ 5V แบบ PWM ให้กับรางรถไฟ แม้ตอนนี้ยังควบคุมความเร็วได้ไม่หลากหลาย แต่ก็มีแผนจะพัฒนาให้สามารถควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ เช่น FanControl หรือแม้กระทั่งให้รถไฟวิ่งเร็วขึ้นตามอุณหภูมิของ GPU! เจ้าของผลงานยังเผยว่าอยากสร้างเคสธีมรถไฟที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมด้วยฉากจำลอง สัญญาณไฟ และแม้กระทั่งรถไฟไอน้ำที่มีเสียง “ชัฟฟ์ฟฟ” วิ่งรอบเคส—เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับงานโมดิฟายพีซีไปอีกขั้น ✅ โมเดอร์สร้างรถไฟจำลองวิ่งบนการ์ดจอ ➡️ ใช้รถไฟ T-gauge ขนาดเล็กที่สุดในวงการโมเดล ➡️ รางกว้างเพียง 3 มม. สเกลประมาณ 1:450–1:500 ➡️ วางรางวนรอบการ์ดจอภายในเคสพีซี ✅ ระบบควบคุมรถไฟด้วย Arduino ➡️ ใช้สัญญาณ PWM 5V ผ่านพอร์ต USB ➡️ ควบคุมความเร็วได้จำกัดในเวอร์ชันต้นแบบ ➡️ มีแผนพัฒนาให้ควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ FanControl ✅ แนวคิดสร้างสรรค์ที่ผสานงานอดิเรกกับเทคโนโลยี ➡️ รถไฟจำลองเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเคส ➡️ มีแผนเพิ่มฉากจำลอง แสงไฟ และระบบสัญญาณ ➡️ อาจพัฒนาให้รถไฟตอบสนองต่ออุณหภูมิของพีซี ‼️ ความท้าทายด้านพื้นที่และการติดตั้ง ⛔ การ์ดจอมีพื้นที่จำกัด ต้องใช้รางที่โค้งแคบ ⛔ ต้องออกแบบให้ไม่รบกวนการระบายความร้อน ⛔ ต้องใช้ความแม่นยำในการติดตั้งรางและระบบไฟ https://www.tomshardware.com/desktops/pc-building/pc-modder-installs-a-working-train-set-on-top-of-their-gpu-all-aboard-the-pci-express-to-gamesville
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    PC modder installs a working train set on top of their GPU — All aboard the 'PCI Express' to Gamesville
    The prototype is set to be adjusted to run off a 5V PWM header for software speed control.
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • “Microsoft Store เปิดฟีเจอร์ติดตั้งหลายแอปพร้อมกัน – เตรียมเครื่องใหม่ง่ายขึ้นกว่าเดิม!”
    ลองนึกภาพตอนคุณซื้อคอมใหม่หรือรีเซ็ตเครื่อง…ต้องเข้า Microsoft Store แล้วกดติดตั้งทีละแอปใช่ไหม? ตอนนี้ Microsoft แก้ปัญหานั้นแล้ว! พวกเขาเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Microsoft Store ที่ให้คุณเลือกหลายแอปจากรายการแนะนำ แล้วติดตั้งทั้งหมดได้ในคลิกเดียว

    ฟีเจอร์นี้มาในรูปแบบหน้าเว็บพิเศษที่รวมแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp และอื่น ๆ ให้คุณเลือก แล้วระบบจะรวมเป็นแพ็กเกจดาวน์โหลดเดียว ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวติดตั้งแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคลิกทีละแอปอีกต่อไป

    แม้จะยังไม่สามารถเลือกแอปเองได้ตามใจ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อเครื่องใหม่หรือกำลังติดตั้งระบบใหม่ ฟีเจอร์นี้ยังมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น รายการแอปจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค และยังไม่เปิดให้ใช้งานแบบเต็มรูปแบบในทุกประเทศ

    Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ติดตั้งหลายแอปพร้อมกันใน Store
    ผู้ใช้สามารถเลือกแอปจากรายการแนะนำ
    ระบบรวมเป็นแพ็กเกจดาวน์โหลดเดียวที่ติดตั้งอัตโนมัติ
    ไม่ต้องคลิกติดตั้งทีละแอปอีกต่อไป

    ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับการตั้งค่าเครื่องใหม่
    ช่วยประหยัดเวลาในการติดตั้งแอปพื้นฐาน
    ลดความยุ่งยากในการค้นหาแอปที่จำเป็น

    รายการแอปจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค
    Microsoft คัดเลือกแอปที่เหมาะกับผู้ใช้แต่ละพื้นที่
    ยังไม่สามารถปรับแต่งรายการแอปได้เอง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ฟีเจอร์คล้ายกับ “Ninite” ที่ใช้ในองค์กรเพื่อการติดตั้งหลายโปรแกรมพร้อมกัน
    การรวมแอปเป็นแพ็กเกจช่วยลดภาระของผู้ดูแลระบบ IT
    แนวคิดนี้อาจขยายไปสู่การติดตั้งอัปเดตหรือฟีเจอร์อื่นในอนาคต

    https://securityonline.info/one-click-setup-microsoft-store-adds-multi-app-batch-installation-for-new-pcs/
    🛠️ “Microsoft Store เปิดฟีเจอร์ติดตั้งหลายแอปพร้อมกัน – เตรียมเครื่องใหม่ง่ายขึ้นกว่าเดิม!” ลองนึกภาพตอนคุณซื้อคอมใหม่หรือรีเซ็ตเครื่อง…ต้องเข้า Microsoft Store แล้วกดติดตั้งทีละแอปใช่ไหม? ตอนนี้ Microsoft แก้ปัญหานั้นแล้ว! พวกเขาเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Microsoft Store ที่ให้คุณเลือกหลายแอปจากรายการแนะนำ แล้วติดตั้งทั้งหมดได้ในคลิกเดียว ฟีเจอร์นี้มาในรูปแบบหน้าเว็บพิเศษที่รวมแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp และอื่น ๆ ให้คุณเลือก แล้วระบบจะรวมเป็นแพ็กเกจดาวน์โหลดเดียว ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวติดตั้งแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคลิกทีละแอปอีกต่อไป แม้จะยังไม่สามารถเลือกแอปเองได้ตามใจ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อเครื่องใหม่หรือกำลังติดตั้งระบบใหม่ ฟีเจอร์นี้ยังมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น รายการแอปจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค และยังไม่เปิดให้ใช้งานแบบเต็มรูปแบบในทุกประเทศ ✅ Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ติดตั้งหลายแอปพร้อมกันใน Store ➡️ ผู้ใช้สามารถเลือกแอปจากรายการแนะนำ ➡️ ระบบรวมเป็นแพ็กเกจดาวน์โหลดเดียวที่ติดตั้งอัตโนมัติ ➡️ ไม่ต้องคลิกติดตั้งทีละแอปอีกต่อไป ✅ ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับการตั้งค่าเครื่องใหม่ ➡️ ช่วยประหยัดเวลาในการติดตั้งแอปพื้นฐาน ➡️ ลดความยุ่งยากในการค้นหาแอปที่จำเป็น ✅ รายการแอปจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ➡️ Microsoft คัดเลือกแอปที่เหมาะกับผู้ใช้แต่ละพื้นที่ ➡️ ยังไม่สามารถปรับแต่งรายการแอปได้เอง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ฟีเจอร์คล้ายกับ “Ninite” ที่ใช้ในองค์กรเพื่อการติดตั้งหลายโปรแกรมพร้อมกัน ➡️ การรวมแอปเป็นแพ็กเกจช่วยลดภาระของผู้ดูแลระบบ IT ➡️ แนวคิดนี้อาจขยายไปสู่การติดตั้งอัปเดตหรือฟีเจอร์อื่นในอนาคต https://securityonline.info/one-click-setup-microsoft-store-adds-multi-app-batch-installation-for-new-pcs/
    SECURITYONLINE.INFO
    One-Click Setup: Microsoft Store Adds Multi-App Batch Installation for New PCs
    Microsoft Store now supports multi-app batch installation, allowing users to select and install multiple recommended apps from a curated list in a single click.
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • “Windows 11 ทดสอบอัปเดตแบบไม่ต้องรีสตาร์ต – ก้าวใหม่ของการใช้งานที่ลื่นไหล”

    ลองจินตนาการว่า…คุณอัปเดต Windows เสร็จแล้วใช้งานต่อได้ทันที ไม่ต้องรอรีสตาร์ตเครื่องอีกต่อไป! Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่อาจเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ทั่วโลก

    ในเวอร์ชันทดลองล่าสุดสำหรับผู้ใช้ในโปรแกรม Windows Insider — ทั้ง Dev Build และ Beta Build หมายเลข 26220.7052 — Microsoft ได้เปิดตัวการอัปเดตที่สามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องรีสตาร์ตเครื่องเลย ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากระบบเดิมที่ต้องรีบูตทุกครั้งหลังอัปเดต

    แม้ว่าเวอร์ชันนี้จะไม่มีฟีเจอร์ใหม่ที่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า Microsoft กำลังเตรียมระบบให้พร้อมสำหรับการอัปเดตที่ลื่นไหลในอนาคต โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ไม่ใช่แค่ในองค์กรเท่านั้น

    นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า Dev Channel จะกลายเป็นพื้นที่ทดสอบเฉพาะสำหรับ Windows 11 รุ่น 26H1 ที่ออกแบบมาเพื่อ AI PC ที่ใช้ชิป Snapdragon X2 โดยเฉพาะ ส่วนผู้ใช้ PC แบบ x86 ทั่วไปจะได้รับรุ่น 26H2 ในช่วงปลายปีหน้า

    Microsoft ทดสอบการอัปเดต Windows 11 แบบไม่ต้องรีสตาร์ต
    ใช้ได้ใน Dev Build และ Beta Build หมายเลข 26220.7052
    ติดตั้งและใช้งานต่อได้ทันทีหลังอัปเดต
    ไม่มีฟีเจอร์ใหม่ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในเวอร์ชันนี้

    แนวคิดการอัปเดตแบบ “Hotpatch” เคยใช้ในองค์กร
    ลดจำนวนการรีสตาร์ตเหลือเพียง 4 ครั้งต่อปี
    ช่วยให้ระบบปลอดภัยโดยไม่รบกวนการทำงาน

    Dev Channel อาจกลายเป็นพื้นที่ทดสอบเฉพาะสำหรับ AI PC
    Windows 11 รุ่น 26H1 จะรองรับเฉพาะ Snapdragon X2
    รุ่น 26H2 สำหรับ x86 จะตามมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ระบบอัปเดตแบบไม่ต้องรีสตาร์ตมีใช้ใน Linux มานาน เช่น “Livepatch” ของ Ubuntu
    การลดการรีสตาร์ตช่วยเพิ่ม uptime ของระบบ โดยเฉพาะในเซิร์ฟเวอร์และองค์กรขนาดใหญ่
    Microsoft อาจนำแนวคิดนี้มาใช้กับผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต เพื่อประสบการณ์ที่ลื่นไหลมากขึ้น

    https://securityonline.info/the-restartless-update-microsoft-tests-unusual-windows-11-build-that-installs-without-a-reboot/
    🖥️ “Windows 11 ทดสอบอัปเดตแบบไม่ต้องรีสตาร์ต – ก้าวใหม่ของการใช้งานที่ลื่นไหล” ลองจินตนาการว่า…คุณอัปเดต Windows เสร็จแล้วใช้งานต่อได้ทันที ไม่ต้องรอรีสตาร์ตเครื่องอีกต่อไป! Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่อาจเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ทั่วโลก ในเวอร์ชันทดลองล่าสุดสำหรับผู้ใช้ในโปรแกรม Windows Insider — ทั้ง Dev Build และ Beta Build หมายเลข 26220.7052 — Microsoft ได้เปิดตัวการอัปเดตที่สามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องรีสตาร์ตเครื่องเลย ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากระบบเดิมที่ต้องรีบูตทุกครั้งหลังอัปเดต แม้ว่าเวอร์ชันนี้จะไม่มีฟีเจอร์ใหม่ที่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า Microsoft กำลังเตรียมระบบให้พร้อมสำหรับการอัปเดตที่ลื่นไหลในอนาคต โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ไม่ใช่แค่ในองค์กรเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า Dev Channel จะกลายเป็นพื้นที่ทดสอบเฉพาะสำหรับ Windows 11 รุ่น 26H1 ที่ออกแบบมาเพื่อ AI PC ที่ใช้ชิป Snapdragon X2 โดยเฉพาะ ส่วนผู้ใช้ PC แบบ x86 ทั่วไปจะได้รับรุ่น 26H2 ในช่วงปลายปีหน้า ✅ Microsoft ทดสอบการอัปเดต Windows 11 แบบไม่ต้องรีสตาร์ต ➡️ ใช้ได้ใน Dev Build และ Beta Build หมายเลข 26220.7052 ➡️ ติดตั้งและใช้งานต่อได้ทันทีหลังอัปเดต ➡️ ไม่มีฟีเจอร์ใหม่ที่ประกาศอย่างเป็นทางการในเวอร์ชันนี้ ✅ แนวคิดการอัปเดตแบบ “Hotpatch” เคยใช้ในองค์กร ➡️ ลดจำนวนการรีสตาร์ตเหลือเพียง 4 ครั้งต่อปี ➡️ ช่วยให้ระบบปลอดภัยโดยไม่รบกวนการทำงาน ✅ Dev Channel อาจกลายเป็นพื้นที่ทดสอบเฉพาะสำหรับ AI PC ➡️ Windows 11 รุ่น 26H1 จะรองรับเฉพาะ Snapdragon X2 ➡️ รุ่น 26H2 สำหรับ x86 จะตามมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ระบบอัปเดตแบบไม่ต้องรีสตาร์ตมีใช้ใน Linux มานาน เช่น “Livepatch” ของ Ubuntu ➡️ การลดการรีสตาร์ตช่วยเพิ่ม uptime ของระบบ โดยเฉพาะในเซิร์ฟเวอร์และองค์กรขนาดใหญ่ ➡️ Microsoft อาจนำแนวคิดนี้มาใช้กับผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต เพื่อประสบการณ์ที่ลื่นไหลมากขึ้น https://securityonline.info/the-restartless-update-microsoft-tests-unusual-windows-11-build-that-installs-without-a-reboot/
    SECURITYONLINE.INFO
    The Restartless Update: Microsoft Tests Unusual Windows 11 Build That Installs Without a Reboot
    Microsoft released an unusual Windows 11 Insider test build (26220.7052) that installs without requiring a system restart, hinting at future update process improvements.
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • แผนสอยมังกร ตอนที่ 1 – 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนสอยมังกร”

    ตอน 1

    วันนี้ เดิมผมตั้งใจจะเอาตอนแถมของนิทาน เรื่อง”ต้มข้ามศตวรรษ ” (หรือหม้อตุ๋นแตก ที่คุณจตุพร เพชรเรียง ตั้งชื่อให้ ซึ่งผมชอบมาก) มาลงให้อ่าน แต่ก่อนหน้านี้ ผมได้ไปเจอเอกสารชิ้นหนึ่งน่าสนใจมาก ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนเล่าให้ฟังกัน หลังจากลงของแถม แต่บังเอิญเช้านี้ ได้กลิ่นทะแม่งๆค่อนข้างแรง เลยขอพาท่านผู้อ่าน เดินทางกลับจากอดีต 100 ปี เข้าสู่ปัจจุบันกันก่อนเดี๋ยวจะตกข่าวสำคัญ แล้วกลายเป็นว่า ลุงนิทานดีแต่เขียนเรื่องอดีต ปัจจุบันเขาไปถึงไหนกันแล้วไม่บอกกันมั่ง หมู่นี้ลุงนิทานโดนค่อนขอดนินทาแยะแล้ว ไม่อยากโดนเพิ่ม แต่ไม่เป็นไรครับ นินทาลุงแล้วนอนหลับสบายก็เชิญ ถือว่าลุงนิทานได้ทำกุศล 555

    เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะความคิด (think tank) ที่มีอิทธิพลสูงลิ่ว และมีเสียงดังฟังชัด ซึ่งในหลายๆครั้ง (จริงๆก็เกือบทุกครั้ง) ดูเหมือนจะดังนำ จนเสียงของประธานาธิบดี ต้องว่าตามเสียงอ่อยๆเสียด้วยซ้ำ ได้ออกรายงาน Council Special Report No. 72 ชื่อ “Revising U.S. Grand Strategy Toward China” ซึ่งกว่าผมจะได้อ่าน ก็นู่น จะหมดเดือนเมษาเข้าไปแล้ว อากาศบ้านเรากำลังร้อนจัด แค่เห็นหัวข้อ ผมก็แทบสะอึก พออ่านจบ ผมต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ และลดความร้อนในใจอยู่หลายวัน กว่าจะตัดสินใจว่า จะเอามาเขียนเล่าสู่กันฟัง

    รายงานนี้มีความหมายมากครับ เหมือนเป็นเข็มทิศและเครื่องวัดอุณหภูมิของโลก และที่สำคัญ มีความเกี่ยวพันกับแดนสมันน้อยของเรา ในช่วงเวลานับจากนี้เป็นต้นไป

    Edward Mead บรรณาธิการรุ่นเก๋าชื่อดัง ได้เขียนอธิบายความหมายของคำว่า Grand Strategy ไว้ว่า เป็นศิลปะของการควบคุม และการใช้ทรัพยากรทั้งหมดของประเทศอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์สุงสุดของประเทศและเพื่อปกป้องตนเองจากผู้ที่เป็นศัตรู หรือมีโอกาสที่จะกลายเป็นศัตรู หรือเพียงแต่คาดว่า อาจจะเป็นศัตรู… และเป็นยุทธศาสตร์ที่มิได้ใช้เฉพาะในภาวะสงครามเท่านั้น แต่ใช้ในทุกสภาวะของรัฐนั้น
    เทียบกับสมัยโบราณของบ้านเรา Grand Stategy คงจะเป็นทำนองหลักพิชัยสงครามขั้นสูงสุด นะครับ

    ” จีน นับเป็นขู่แข่งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และในอีกหลายๆทศวรรษต่อไป”
    China represents and will remain the most significant competitor to the United States for decades to come”

    คนเขียนรายงานการวิเคราะห์ เขาเกริ่นเริ่มต้นเช่นนั้น อ่านเผินๆ เหมือนน้ำไหลเอี่อยๆ
    ไม่เห็นต้องสดุ้ง สะอึก อะไรเลย แต่ประโยคต่อไปของเขา ความเอื่อยค่อยๆเปลี่ยน..

    …จีน กำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ของตน ซึ่งมีเป้าหมาย ที่จะควบคุมประชาสังคมทั้งในและนอกประเทศจีน ที่อยู่ใกล้กับอาณาบริเวณของจีน ให้สงบราบคาบ และสร้างสถานะของจีนให้แข็งแกร่งในประชาคมนานาชาติ เพื่อเข้าไปแทนที่อเมริกา ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย..

    …ความพยายามของอเมริกา ที่จะนำจีนเข้ามาอยู่ในระบบที่ใช้กันอยู่ในสากล กลายเป็นการสร้างความคุกคามให้แก่อเมริกาเอง ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในเอเซีย และในที่สุดจีนอาจเป็นผู้ท้าทาย ความเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในโลก ของอเมริกาด้วย..

    .. อเมริกาจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาด ในนโยบายปัจจุบันของอเมริกา เพื่อเป็นการจำกัดอันตราย ที่อาจมีต่อผลประโยชน์ของอเมริกาในภูมิภาคเอเซีย และในระดับโลก ที่เกิดจากการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และการทหารของจีน

    การเปลี่ยนแปลงยโยบายของอเมริกาดังกล่าว จะต้องเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นความจำเป็น ที่จะต้องรักษาความเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของอเมริกาในระบบปัจจุบันของโลกเอา ไว้…

    ….การเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของจีน ในช่วงสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้จีนสามารถสร้างอำนาจ ที่ยากแก่การเอาชนะ กลายเป็นประเทศที่สามารถจะครอบงำภูมิภาคเอเซีย และเป็นอันตรายต่อวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และผลประโยชน์ ของอเมริกาในภูมิภาค
    ด้วยเศรษฐกิจที่โตแบบพุ่งพรวดของจีน แม้รายได้ต่อหัวของคนจีน จะยังตามหลังคนอเมริกันก็ตาม แต่ก็ยังทำให้ปักกิ่ง สามารถท้าทายความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเซียและอิทธิพลของอเมริกาในเอเซีย ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่ออเมริกาอย่างน่าอันตราย และแม้การเติบโตของจีดีพีของจีน อาจจะช้าลงอย่างเห็นชัดในอนาคต แต่เมื่อเทียบกับของอเมริกาในอนาคตแล้ว ก็ยังจะสูงกว่าอเมริกาอยู่ดี จึงทำให้การถ่วงดุลอำนาจจีน จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง

    การทำให้รากฐานของจีนล่มสลายเท่า นั้น (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกาพ้นจาก “ภาระ” การถ่วงดุลกับจีน เพราะว่า แม้จะทำให้จีน “สะดุด” หัวทิ่มบ้าง ก็ยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะขจัดอันตราย ที่จีนมีต่ออเมริกาในเอเซีย และที่ไกลโพ้นไปกว่านั้น

    ในบรรดาชาติทั้งหมด และไม่ว่าในสถานการณ์ใดเท่าที่จะคาดการณ์ได้ มีแต่จีนเท่านั้น ที่จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา และจะเป็นอยู่เช่นนั้นไปอีกหลายทศวรรษ การผงาดขึ้นมาของจีน จนถึงขณะนี้ ได้สร้างความท้าทายอำนาจของอเมริกา (และอำนาจของอเมริกาที่มีต่อ)มิตร ของอเมริกา ไม่ว่าทางด้านภูมิศาสตร์ การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และที่สำคัญ ต่อการจัดระเบียบโลก “ภายใต้ข้อกำหนด” ของอเมริกา และถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้อีกต่อไป ยิ่งนานไป ก็ยิ่งเป็นการทำลายผลประโยชน์ของอเมริการุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ

    นโยบายที่อเมริกาใช้อยู่กับจีนขณะนี้ เป็นนโยบายที่รับรองคุณค่าของจีนทางเศรษฐกิจและปล่อยให้เกิดเสรีทางการเมืองในนานาชาติ ด้วยค่าใช้จ่าย หรือการเสียประโยชน์ของอเมริกาในการเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก มันห่างไกลกับการใช้ยุทธศาสตร์แบบ “grand” แถมไม่มีทางจะได้ผลอะไรขึ้นมา จำเป็นอย่างยิ่งแล้ว ที่อเมริกาจะต้องตอบโต้การเติบโตของอำนาจจีนอย่างเร่งด่วน ซึ่งแม้จะทำตอนนี้ ยังเกือบจะสายไป..
    อือ หือ…. ผมอ่านวิธีการเขียนของ คุณสุดกร่าง ถังขยะความคิด CFR แล้วต้องยอม ว่าเขาใหญ่จริง เขาตบอาเฮียของผม แบบไม่เลี้ยงเลยนะ เอาซะกกหูบวม หัวโน คางโย้ เพราะอาเฮียอีดันโตเร็ว โตไป ใหญ่ไป มันคงไปกระตุ้นต่อมอิจฉา ต่อมหมั่นไส้ ของไอ้พวกนักล่าใบตองแห้ง อย่างทนไม่ไหว เอาซะใบตองปลิวกระจาย ข้อหาความผิดของอาเฮีย คือใหญ่ขนาดมาทาบรัศมี นี่ ไอ้นักล่ารับไม่ได้จริงๆ คงเหมือนเด็กถูกเหยียบเงาหัว ที่สำคัญคือ อาเฮียไม่ยอมคุกเข่า สะบัดแขนคำนับอเมริกา แถมยังเดินหน้าตามวิธีการ นอกรูปแบบ ที่อเมริกากำกับ หรือสั่งให้สิ่งมีชีวิตทั้งโลกทำตาม ขนาดสั่งให้แผ่นดินไหว ให้เกิดพายุยังทำได้เลย จวนจะเป็นพระเจ้าอยู่แล้วรู้ไหม เอะ หรือเป็นแล้ว… แล้วจีนเป็นใครมาจากไหน ถึงสั่งซ้ายหัน ขวาหันไม่ได้ เรื่องมันสำคัญตรงนี้ เพราะฉะนั้น สำหรับนักล่าเมื่อสั่งกันไม่ได้ ก็ต้องสอยให้ร่วง (fundamental collapse) มีแค่นั้นเอง เข้าใจไหมครับอาเฮีย

    “แผนสอยมังกร”

    ตอน 2

    จีนสร้างความเจริญเติบโตอย่างไร สุดกร่าง CFR บอกว่า จีนขึ้นต้นด้วยการสร้างหัวขบวนก่อนอื่น สร้างหัวหน้าที่มีอำนาจเต็มไม้เต็มมือ เหนือกว่าสถาบันใดในประเทศ หลังจากนั้นจึงเดินหน้าสู่ภาระกิจ 4 ประการ

    – จัดระเบียบภายในประเทศ จัดแถวหน่วยงานต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ แต่สุดกร่าง ติติง ว่า การเป็นผู้นำประเทศของจีนมักมีปัญหาในเรื่องของการปกครองที่ไม่ชอบธรรม และขาดธรรมาภิบาล ( ผมว่า ไอ้สุดกร่างนี่มันเขียนลอกจากคู่มือ ที่ไอ้นักล่าใบตองแห้ง แจกไปทั่วโลก เรื่องธรรมาภิบาลในการบริหาร Good Governance ทำให้นึกถึงน้านันของผมเลย มีอยู่ช่วงหนึ่ง ขึ้นเวทีไหนไม่พูดเรื่องนี้ เหมือนเป็นตัวปลอมเลย 55)
    – จีนเริ่มปฏิรูปประเทศอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งในสมัยเติ้งเสี่ยวผิง เพราะเชื่อว่าถ้าเศรษฐกิจของประเทศดี ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ความวุ่นวายทางสังคมจะน้อยลง และการปกครองประชาชนจะง่ายขึ้น ดังนั้นนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ จึงเป็นนโยบายที่จำเป็นอย่างยิ่งของจีน นอกจากนั้น การเน้นนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ ยังเป็นเครื่องมือให้พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) สามารถจัดระเบียบสังคมจีน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันนัก (การปฏิรูปด้านเศรษฐกิจของจีน ไม่ได้เกี่ยวกับการแข่งขันทางการเมือง เพราะทางการเมือง พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคเดียวที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในการบริหารประเทศ) ดังนั้นการปฏิรูปประเทศ ด้านเศรษฐกิจ จึงไม่ใช่เป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่เป็นนโยบายสำคัญด้านการเมืองภายในของจีนด้วย หมายความว่า จีนไม่มีทางเลิกนโยบายนี้ และเป็นเรื่องที่สุดกร่าง CFR บอกว่า ยิ่งจีนเดินหน้าตามเส้นทางนี้ โอกาสกระแทกนักล่า หล่นจากการเป็นผู้กุมชะตาโลกแต่ผู้เดียว ก็เป็นเรื่องน่าหวั่นใจมาก…. แหม ก็แค่ทำแท่นให้มันใหญ่ขึ้น ยืนด้วยกันหลายๆคน ใหญ่ๆ ด้วยกัน เก่งๆ กันทั้งนั้น ช่วยๆกันทำให้โลกนี้มันดีขึ้นนี่ พวกเอ็งขัดใจมากนักหรือไง ขอโทษครับ ผมไม่สุภาพไปหน่อย

    – เมื่อเศรษฐกิจจีนดีขึ้น ต้ังแต่ช่วงปี ค.ศ. 1980 กว่า ถึง 1990 กว่า จีนก็รวยเอาๆ จนเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐี เป็นเศรษฐีแล้วจะนั่งอุดอู้อยู่แต่ในบ้านทำไม สุดกร่างบอก จีนเลยเริ่มเดินเผ่นผ่านออกไปนอกบ้าน ไปตบหัวลูบหลังเด็กๆที่อยู่แถวนอกบ้าน จึงเป็นที่มาของนโยบายของจีน ที่จะแผ่อิทธิพลในแถบอินโดแปซิฟิก

    แต่โลกมันก็เปลี่ยนด้วย รอบตัวจีนไม่ได้มีแต่พวกเด็กน้อยที่รอจีนมาตบหัวลูบหลัง แต่มีพวกกล้ามใหญ่ที่เป็นคู่แข็งจีนด้วยซ้ำ ยืนกอดอกดูจีนอยู่เหมือนกัน เช่น รัสเซีย ญี่ปุ่น และอินเดีย และนอกจากนั้น พวกที่อาจเคยเกรงใจจีนมาในสมัยก่อน เช่น เกาหลีใต้ และเวียตนาม แต่บัดนี้ ก็กลายเป็นประเทศที่ดูแลตนเองได้ แม้จะยังมีความอ่อนแออยู่บ้าง ก็ไม่แสดงความสนใจว่าจะไปซุกอยู่ใต้อุ้งเล็บมังกร และเมื่อจีนคิดขยายวง ประเล้าประโลมออกไปเรื่อยๆ ก็ดันไปเจอเอาฐานทัพและกองกำลังอันแข็งแกร่งของอเมริกา ที่กระจายอยู่เต็มบ้านของพันธมิตรของอเมริกา ซึ่งยากที่จีนจะทะลวงเข้าไปได้ ….แม่จ้าวโว้ย อ่านที่ไอ้สุดกร่างบรรยายถึงตอนนี้ เล่นเอาผมเคลิ้มจนเอกสารปึกใหญ่หล่น
    เมื่อทางเข้าเส้นนี้มีอุปสรรค หนทางเดินหน้าตามแผนของจีน ในความเห็นของสุดกร่าง ก็คือ จีนยิ่งใช้อำนาจทางเศรษฐกิจ สานไมตรีกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคหนักเข้าไปกว่าเดิมและเพื่อไม่ให้ถูกนินทาว่า จีนกำลังจะฮุบเอเซีย จีนก็เริ่มหันไปจับมือกับรัสเซีย ทำทีเป็นเห็นใจรัสเซีย ที่ถูกตะวันตกคว่ำบาตรใส่ จนหน้าบุบไปหมดแล้ว แต่ที่แสบที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องอิทธิพลอเมริกาที่มีอยู่ทั่วเอเซียอย่างชอบธรรมนั้น จีนพยายามหาเหตุอ้างว่าไม่เหมาะสม และกำลังเดินนโยบายที่จีนบอกว่า จะเป็นการถ่วงดุลอำนาจอเมริกาในเอเซียเสียใหม่ … อาเฮียครับ พระเจ้านักล่าบอกว่า อิทธิพลของเขาที่มีอยู่ทั่วเอเซีย “ชอบธรรม” แล้ว อาเฮียจะเถียง จะท้าทายเขาแน่จริงไหมครับ พวกผมจะได้เตรียมตัว..หลบ

    – ประการสุดท้าย ที่จีนแสดงอาการให้เห็นเป็นการท้าทายอเมริกา ในความเห็นของสุดกร่าง คือ จีนเริ่มก้าวเข้าไปเบ่งกล้ามใน ระบบสากล เพื่อแสดงให้เห็นว่า จีนก็เป็นดาราอินเตอร์ได้ อันที่จริง บทดาราอินเตอร์ จีนก็ได้เล่นอยู่แล้ว ต้ังแต่ก่อน การปฏิวัติคอมมิวนิสต์ ค.ศ.1949 ซึ่งจีนได้รับสิทธิในการออกเสียงคัดค้าน (veto) ในฐานะสมาชิกถาวร ในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ (UNSC) เพียงแต่ตอนนั้น จีนเลือกที่จะเป็นคอมจนๆ เสียงในสากลก็เลยไม่ดัง ตอนนี้ จีนเปลี่ยนมาเล่นบทเป็นเศรษฐี บวกกับยังมีตำแหน่งดาราอินเตอร์ของเดิมค้างอยู่ คราวนี้ เสียงจีนในสหประชาชาติ ก็เลยยิ่งดังโดยไม่ต้องใช้ไมค์… แบบนี้ เขาจะไม่หมั่นไส้อาเฮีย จนคันไปทั้งแผงหลังได้ยังไง….

    และจีนก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อเห็นว่าตัวเองมีเศรษฐกิจดี จีนเริ่มออกความเห็น และพยายามเข้ามามีอิทธิพลใน IMF และ World Bank เพื่อใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของตน จีนทำตัวเป็นดาราอินเตอร์เต็มตัว เหมือนกับพวกที่เริ่มมีอำนาจทางการเมืองโลกใหม่เขาทำๆกัน นี่.. ด่ากระทบซะเลย
    แต่พวกเศรษฐีใหม่ก็เป็นอย่างนี้แหละ พยายามเสนอตัวเอง เข้าไปในสังคมโลก เฉพาะในทางที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง แต่ถ้าจะต้องเสียสละทำให้สวนรวม ก็ยังไม่เห็นจีนแสดงบทบาทอะไรที่เหมาะสมกับความเป็นเศรษฐีของตน และแม้ว่าจะเป็นถึงหมายเลขสองของโลกในด้าน เศรษฐกิจและการงบประมาณด้านทหาร จีนก็พยายามวางนโยบาย ที่จะเอาภาระที่จะต้องเสียสละให้แก่สังคม ไปให้อเมริกาและประเทศอื่น ที่ยังมีสถานะเป็นเพียงประเทศที่กำลังพัฒนาด้วยซ้ำ ..อันนี้ด่าอาเฮียเจ็บนะครับ หาว่า เขารวย แต่ เค็ม เห็นแก่ตัว ทำนองนั้น….

    แต่เวลาจะสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง จีนกลับตัดอเมริกาออก เช่น เมื่อจีนพยายามรวมกลุ่มประเทศที่มีความก้าวหน้า ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยการรวมกลุ่มกับบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และอาฟริกาใต้ (BRICS) นอกจากนั้น จีนยังพยายามสร้างความร่วมมือ กับประเทศในภูมิภาคอื่น เช่น China-Africa Cooperation, China-Arab Cooperation Forum เพื่อแข่งขันกับองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจรุ่นเก่าๆ สมดังคำเปรียบเปรยของ นาย เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ ที่กล่าวว่า จีนยังวุ่นอยู่กับการนำตัวเองเข้าไปจัดการองค์กรที่ได้จัดสร้างขึ้น โดยจีนไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนาวัตถุประสงค์ขององค์กรเหล่านั้น … ไอ้สุดกร่าง นี่มันสรรหามาแดกดันได้ทุกเรื่องจริงๆ

    สุดกร่างสรุปในที่สุดว่า จีนไม่ได้มีนโยบายที่จะเป็นประเทศที่มุ่งจะทำการค้าขาย “trading state” แต่อย่างใด แม้ว่าในผลลัพธ์จะประสบความสำเร็จอย่างมากก็ตาม แต่โดยแท้จริงแล้ว จีนมุ่งหมายที่จะเป็นมหาอำนาจอย่างเต็มรูปแบบ conventional great power เต็มยศชุดใหญ่ ในด้านการเมือง และการทหาร การท้าชิงความเป็นใหญ่ในเอเซียกับอเมริกา เป็นแค่หนังตัวอย่างเท่านั้น สำหรับการก้าวไปสู่การเป็นมหาอำนาจในโลกของจีน

    นี่คือ ” จีน ” ตามข้อกล่าวหา และในสายตาของถังความคิด CFR ที่ประธานาธิบดีของอเมริกาเกือบทุกคน ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ” ต้อง” ให้ความสนใจ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    13 พ.ค. 2558
    แผนสอยมังกร ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนสอยมังกร” ตอน 1 วันนี้ เดิมผมตั้งใจจะเอาตอนแถมของนิทาน เรื่อง”ต้มข้ามศตวรรษ ” (หรือหม้อตุ๋นแตก ที่คุณจตุพร เพชรเรียง ตั้งชื่อให้ ซึ่งผมชอบมาก) มาลงให้อ่าน แต่ก่อนหน้านี้ ผมได้ไปเจอเอกสารชิ้นหนึ่งน่าสนใจมาก ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนเล่าให้ฟังกัน หลังจากลงของแถม แต่บังเอิญเช้านี้ ได้กลิ่นทะแม่งๆค่อนข้างแรง เลยขอพาท่านผู้อ่าน เดินทางกลับจากอดีต 100 ปี เข้าสู่ปัจจุบันกันก่อนเดี๋ยวจะตกข่าวสำคัญ แล้วกลายเป็นว่า ลุงนิทานดีแต่เขียนเรื่องอดีต ปัจจุบันเขาไปถึงไหนกันแล้วไม่บอกกันมั่ง หมู่นี้ลุงนิทานโดนค่อนขอดนินทาแยะแล้ว ไม่อยากโดนเพิ่ม แต่ไม่เป็นไรครับ นินทาลุงแล้วนอนหลับสบายก็เชิญ ถือว่าลุงนิทานได้ทำกุศล 555 เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะความคิด (think tank) ที่มีอิทธิพลสูงลิ่ว และมีเสียงดังฟังชัด ซึ่งในหลายๆครั้ง (จริงๆก็เกือบทุกครั้ง) ดูเหมือนจะดังนำ จนเสียงของประธานาธิบดี ต้องว่าตามเสียงอ่อยๆเสียด้วยซ้ำ ได้ออกรายงาน Council Special Report No. 72 ชื่อ “Revising U.S. Grand Strategy Toward China” ซึ่งกว่าผมจะได้อ่าน ก็นู่น จะหมดเดือนเมษาเข้าไปแล้ว อากาศบ้านเรากำลังร้อนจัด แค่เห็นหัวข้อ ผมก็แทบสะอึก พออ่านจบ ผมต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ และลดความร้อนในใจอยู่หลายวัน กว่าจะตัดสินใจว่า จะเอามาเขียนเล่าสู่กันฟัง รายงานนี้มีความหมายมากครับ เหมือนเป็นเข็มทิศและเครื่องวัดอุณหภูมิของโลก และที่สำคัญ มีความเกี่ยวพันกับแดนสมันน้อยของเรา ในช่วงเวลานับจากนี้เป็นต้นไป Edward Mead บรรณาธิการรุ่นเก๋าชื่อดัง ได้เขียนอธิบายความหมายของคำว่า Grand Strategy ไว้ว่า เป็นศิลปะของการควบคุม และการใช้ทรัพยากรทั้งหมดของประเทศอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์สุงสุดของประเทศและเพื่อปกป้องตนเองจากผู้ที่เป็นศัตรู หรือมีโอกาสที่จะกลายเป็นศัตรู หรือเพียงแต่คาดว่า อาจจะเป็นศัตรู… และเป็นยุทธศาสตร์ที่มิได้ใช้เฉพาะในภาวะสงครามเท่านั้น แต่ใช้ในทุกสภาวะของรัฐนั้น เทียบกับสมัยโบราณของบ้านเรา Grand Stategy คงจะเป็นทำนองหลักพิชัยสงครามขั้นสูงสุด นะครับ ” จีน นับเป็นขู่แข่งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และในอีกหลายๆทศวรรษต่อไป” China represents and will remain the most significant competitor to the United States for decades to come” คนเขียนรายงานการวิเคราะห์ เขาเกริ่นเริ่มต้นเช่นนั้น อ่านเผินๆ เหมือนน้ำไหลเอี่อยๆ ไม่เห็นต้องสดุ้ง สะอึก อะไรเลย แต่ประโยคต่อไปของเขา ความเอื่อยค่อยๆเปลี่ยน.. …จีน กำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ของตน ซึ่งมีเป้าหมาย ที่จะควบคุมประชาสังคมทั้งในและนอกประเทศจีน ที่อยู่ใกล้กับอาณาบริเวณของจีน ให้สงบราบคาบ และสร้างสถานะของจีนให้แข็งแกร่งในประชาคมนานาชาติ เพื่อเข้าไปแทนที่อเมริกา ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย.. …ความพยายามของอเมริกา ที่จะนำจีนเข้ามาอยู่ในระบบที่ใช้กันอยู่ในสากล กลายเป็นการสร้างความคุกคามให้แก่อเมริกาเอง ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในเอเซีย และในที่สุดจีนอาจเป็นผู้ท้าทาย ความเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในโลก ของอเมริกาด้วย.. .. อเมริกาจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาด ในนโยบายปัจจุบันของอเมริกา เพื่อเป็นการจำกัดอันตราย ที่อาจมีต่อผลประโยชน์ของอเมริกาในภูมิภาคเอเซีย และในระดับโลก ที่เกิดจากการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และการทหารของจีน การเปลี่ยนแปลงยโยบายของอเมริกาดังกล่าว จะต้องเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นความจำเป็น ที่จะต้องรักษาความเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของอเมริกาในระบบปัจจุบันของโลกเอา ไว้… ….การเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของจีน ในช่วงสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้จีนสามารถสร้างอำนาจ ที่ยากแก่การเอาชนะ กลายเป็นประเทศที่สามารถจะครอบงำภูมิภาคเอเซีย และเป็นอันตรายต่อวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และผลประโยชน์ ของอเมริกาในภูมิภาค ด้วยเศรษฐกิจที่โตแบบพุ่งพรวดของจีน แม้รายได้ต่อหัวของคนจีน จะยังตามหลังคนอเมริกันก็ตาม แต่ก็ยังทำให้ปักกิ่ง สามารถท้าทายความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเซียและอิทธิพลของอเมริกาในเอเซีย ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่ออเมริกาอย่างน่าอันตราย และแม้การเติบโตของจีดีพีของจีน อาจจะช้าลงอย่างเห็นชัดในอนาคต แต่เมื่อเทียบกับของอเมริกาในอนาคตแล้ว ก็ยังจะสูงกว่าอเมริกาอยู่ดี จึงทำให้การถ่วงดุลอำนาจจีน จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง การทำให้รากฐานของจีนล่มสลายเท่า นั้น (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกาพ้นจาก “ภาระ” การถ่วงดุลกับจีน เพราะว่า แม้จะทำให้จีน “สะดุด” หัวทิ่มบ้าง ก็ยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะขจัดอันตราย ที่จีนมีต่ออเมริกาในเอเซีย และที่ไกลโพ้นไปกว่านั้น ในบรรดาชาติทั้งหมด และไม่ว่าในสถานการณ์ใดเท่าที่จะคาดการณ์ได้ มีแต่จีนเท่านั้น ที่จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา และจะเป็นอยู่เช่นนั้นไปอีกหลายทศวรรษ การผงาดขึ้นมาของจีน จนถึงขณะนี้ ได้สร้างความท้าทายอำนาจของอเมริกา (และอำนาจของอเมริกาที่มีต่อ)มิตร ของอเมริกา ไม่ว่าทางด้านภูมิศาสตร์ การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และที่สำคัญ ต่อการจัดระเบียบโลก “ภายใต้ข้อกำหนด” ของอเมริกา และถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้อีกต่อไป ยิ่งนานไป ก็ยิ่งเป็นการทำลายผลประโยชน์ของอเมริการุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ นโยบายที่อเมริกาใช้อยู่กับจีนขณะนี้ เป็นนโยบายที่รับรองคุณค่าของจีนทางเศรษฐกิจและปล่อยให้เกิดเสรีทางการเมืองในนานาชาติ ด้วยค่าใช้จ่าย หรือการเสียประโยชน์ของอเมริกาในการเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก มันห่างไกลกับการใช้ยุทธศาสตร์แบบ “grand” แถมไม่มีทางจะได้ผลอะไรขึ้นมา จำเป็นอย่างยิ่งแล้ว ที่อเมริกาจะต้องตอบโต้การเติบโตของอำนาจจีนอย่างเร่งด่วน ซึ่งแม้จะทำตอนนี้ ยังเกือบจะสายไป.. อือ หือ…. ผมอ่านวิธีการเขียนของ คุณสุดกร่าง ถังขยะความคิด CFR แล้วต้องยอม ว่าเขาใหญ่จริง เขาตบอาเฮียของผม แบบไม่เลี้ยงเลยนะ เอาซะกกหูบวม หัวโน คางโย้ เพราะอาเฮียอีดันโตเร็ว โตไป ใหญ่ไป มันคงไปกระตุ้นต่อมอิจฉา ต่อมหมั่นไส้ ของไอ้พวกนักล่าใบตองแห้ง อย่างทนไม่ไหว เอาซะใบตองปลิวกระจาย ข้อหาความผิดของอาเฮีย คือใหญ่ขนาดมาทาบรัศมี นี่ ไอ้นักล่ารับไม่ได้จริงๆ คงเหมือนเด็กถูกเหยียบเงาหัว ที่สำคัญคือ อาเฮียไม่ยอมคุกเข่า สะบัดแขนคำนับอเมริกา แถมยังเดินหน้าตามวิธีการ นอกรูปแบบ ที่อเมริกากำกับ หรือสั่งให้สิ่งมีชีวิตทั้งโลกทำตาม ขนาดสั่งให้แผ่นดินไหว ให้เกิดพายุยังทำได้เลย จวนจะเป็นพระเจ้าอยู่แล้วรู้ไหม เอะ หรือเป็นแล้ว… แล้วจีนเป็นใครมาจากไหน ถึงสั่งซ้ายหัน ขวาหันไม่ได้ เรื่องมันสำคัญตรงนี้ เพราะฉะนั้น สำหรับนักล่าเมื่อสั่งกันไม่ได้ ก็ต้องสอยให้ร่วง (fundamental collapse) มีแค่นั้นเอง เข้าใจไหมครับอาเฮีย “แผนสอยมังกร” ตอน 2 จีนสร้างความเจริญเติบโตอย่างไร สุดกร่าง CFR บอกว่า จีนขึ้นต้นด้วยการสร้างหัวขบวนก่อนอื่น สร้างหัวหน้าที่มีอำนาจเต็มไม้เต็มมือ เหนือกว่าสถาบันใดในประเทศ หลังจากนั้นจึงเดินหน้าสู่ภาระกิจ 4 ประการ – จัดระเบียบภายในประเทศ จัดแถวหน่วยงานต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ แต่สุดกร่าง ติติง ว่า การเป็นผู้นำประเทศของจีนมักมีปัญหาในเรื่องของการปกครองที่ไม่ชอบธรรม และขาดธรรมาภิบาล ( ผมว่า ไอ้สุดกร่างนี่มันเขียนลอกจากคู่มือ ที่ไอ้นักล่าใบตองแห้ง แจกไปทั่วโลก เรื่องธรรมาภิบาลในการบริหาร Good Governance ทำให้นึกถึงน้านันของผมเลย มีอยู่ช่วงหนึ่ง ขึ้นเวทีไหนไม่พูดเรื่องนี้ เหมือนเป็นตัวปลอมเลย 55) – จีนเริ่มปฏิรูปประเทศอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งในสมัยเติ้งเสี่ยวผิง เพราะเชื่อว่าถ้าเศรษฐกิจของประเทศดี ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ความวุ่นวายทางสังคมจะน้อยลง และการปกครองประชาชนจะง่ายขึ้น ดังนั้นนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ จึงเป็นนโยบายที่จำเป็นอย่างยิ่งของจีน นอกจากนั้น การเน้นนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ ยังเป็นเครื่องมือให้พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) สามารถจัดระเบียบสังคมจีน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันนัก (การปฏิรูปด้านเศรษฐกิจของจีน ไม่ได้เกี่ยวกับการแข่งขันทางการเมือง เพราะทางการเมือง พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคเดียวที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในการบริหารประเทศ) ดังนั้นการปฏิรูปประเทศ ด้านเศรษฐกิจ จึงไม่ใช่เป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่เป็นนโยบายสำคัญด้านการเมืองภายในของจีนด้วย หมายความว่า จีนไม่มีทางเลิกนโยบายนี้ และเป็นเรื่องที่สุดกร่าง CFR บอกว่า ยิ่งจีนเดินหน้าตามเส้นทางนี้ โอกาสกระแทกนักล่า หล่นจากการเป็นผู้กุมชะตาโลกแต่ผู้เดียว ก็เป็นเรื่องน่าหวั่นใจมาก…. แหม ก็แค่ทำแท่นให้มันใหญ่ขึ้น ยืนด้วยกันหลายๆคน ใหญ่ๆ ด้วยกัน เก่งๆ กันทั้งนั้น ช่วยๆกันทำให้โลกนี้มันดีขึ้นนี่ พวกเอ็งขัดใจมากนักหรือไง ขอโทษครับ ผมไม่สุภาพไปหน่อย – เมื่อเศรษฐกิจจีนดีขึ้น ต้ังแต่ช่วงปี ค.ศ. 1980 กว่า ถึง 1990 กว่า จีนก็รวยเอาๆ จนเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐี เป็นเศรษฐีแล้วจะนั่งอุดอู้อยู่แต่ในบ้านทำไม สุดกร่างบอก จีนเลยเริ่มเดินเผ่นผ่านออกไปนอกบ้าน ไปตบหัวลูบหลังเด็กๆที่อยู่แถวนอกบ้าน จึงเป็นที่มาของนโยบายของจีน ที่จะแผ่อิทธิพลในแถบอินโดแปซิฟิก แต่โลกมันก็เปลี่ยนด้วย รอบตัวจีนไม่ได้มีแต่พวกเด็กน้อยที่รอจีนมาตบหัวลูบหลัง แต่มีพวกกล้ามใหญ่ที่เป็นคู่แข็งจีนด้วยซ้ำ ยืนกอดอกดูจีนอยู่เหมือนกัน เช่น รัสเซีย ญี่ปุ่น และอินเดีย และนอกจากนั้น พวกที่อาจเคยเกรงใจจีนมาในสมัยก่อน เช่น เกาหลีใต้ และเวียตนาม แต่บัดนี้ ก็กลายเป็นประเทศที่ดูแลตนเองได้ แม้จะยังมีความอ่อนแออยู่บ้าง ก็ไม่แสดงความสนใจว่าจะไปซุกอยู่ใต้อุ้งเล็บมังกร และเมื่อจีนคิดขยายวง ประเล้าประโลมออกไปเรื่อยๆ ก็ดันไปเจอเอาฐานทัพและกองกำลังอันแข็งแกร่งของอเมริกา ที่กระจายอยู่เต็มบ้านของพันธมิตรของอเมริกา ซึ่งยากที่จีนจะทะลวงเข้าไปได้ ….แม่จ้าวโว้ย อ่านที่ไอ้สุดกร่างบรรยายถึงตอนนี้ เล่นเอาผมเคลิ้มจนเอกสารปึกใหญ่หล่น เมื่อทางเข้าเส้นนี้มีอุปสรรค หนทางเดินหน้าตามแผนของจีน ในความเห็นของสุดกร่าง ก็คือ จีนยิ่งใช้อำนาจทางเศรษฐกิจ สานไมตรีกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคหนักเข้าไปกว่าเดิมและเพื่อไม่ให้ถูกนินทาว่า จีนกำลังจะฮุบเอเซีย จีนก็เริ่มหันไปจับมือกับรัสเซีย ทำทีเป็นเห็นใจรัสเซีย ที่ถูกตะวันตกคว่ำบาตรใส่ จนหน้าบุบไปหมดแล้ว แต่ที่แสบที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องอิทธิพลอเมริกาที่มีอยู่ทั่วเอเซียอย่างชอบธรรมนั้น จีนพยายามหาเหตุอ้างว่าไม่เหมาะสม และกำลังเดินนโยบายที่จีนบอกว่า จะเป็นการถ่วงดุลอำนาจอเมริกาในเอเซียเสียใหม่ … อาเฮียครับ พระเจ้านักล่าบอกว่า อิทธิพลของเขาที่มีอยู่ทั่วเอเซีย “ชอบธรรม” แล้ว อาเฮียจะเถียง จะท้าทายเขาแน่จริงไหมครับ พวกผมจะได้เตรียมตัว..หลบ – ประการสุดท้าย ที่จีนแสดงอาการให้เห็นเป็นการท้าทายอเมริกา ในความเห็นของสุดกร่าง คือ จีนเริ่มก้าวเข้าไปเบ่งกล้ามใน ระบบสากล เพื่อแสดงให้เห็นว่า จีนก็เป็นดาราอินเตอร์ได้ อันที่จริง บทดาราอินเตอร์ จีนก็ได้เล่นอยู่แล้ว ต้ังแต่ก่อน การปฏิวัติคอมมิวนิสต์ ค.ศ.1949 ซึ่งจีนได้รับสิทธิในการออกเสียงคัดค้าน (veto) ในฐานะสมาชิกถาวร ในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ (UNSC) เพียงแต่ตอนนั้น จีนเลือกที่จะเป็นคอมจนๆ เสียงในสากลก็เลยไม่ดัง ตอนนี้ จีนเปลี่ยนมาเล่นบทเป็นเศรษฐี บวกกับยังมีตำแหน่งดาราอินเตอร์ของเดิมค้างอยู่ คราวนี้ เสียงจีนในสหประชาชาติ ก็เลยยิ่งดังโดยไม่ต้องใช้ไมค์… แบบนี้ เขาจะไม่หมั่นไส้อาเฮีย จนคันไปทั้งแผงหลังได้ยังไง…. และจีนก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อเห็นว่าตัวเองมีเศรษฐกิจดี จีนเริ่มออกความเห็น และพยายามเข้ามามีอิทธิพลใน IMF และ World Bank เพื่อใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของตน จีนทำตัวเป็นดาราอินเตอร์เต็มตัว เหมือนกับพวกที่เริ่มมีอำนาจทางการเมืองโลกใหม่เขาทำๆกัน นี่.. ด่ากระทบซะเลย แต่พวกเศรษฐีใหม่ก็เป็นอย่างนี้แหละ พยายามเสนอตัวเอง เข้าไปในสังคมโลก เฉพาะในทางที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง แต่ถ้าจะต้องเสียสละทำให้สวนรวม ก็ยังไม่เห็นจีนแสดงบทบาทอะไรที่เหมาะสมกับความเป็นเศรษฐีของตน และแม้ว่าจะเป็นถึงหมายเลขสองของโลกในด้าน เศรษฐกิจและการงบประมาณด้านทหาร จีนก็พยายามวางนโยบาย ที่จะเอาภาระที่จะต้องเสียสละให้แก่สังคม ไปให้อเมริกาและประเทศอื่น ที่ยังมีสถานะเป็นเพียงประเทศที่กำลังพัฒนาด้วยซ้ำ ..อันนี้ด่าอาเฮียเจ็บนะครับ หาว่า เขารวย แต่ เค็ม เห็นแก่ตัว ทำนองนั้น…. แต่เวลาจะสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง จีนกลับตัดอเมริกาออก เช่น เมื่อจีนพยายามรวมกลุ่มประเทศที่มีความก้าวหน้า ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยการรวมกลุ่มกับบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และอาฟริกาใต้ (BRICS) นอกจากนั้น จีนยังพยายามสร้างความร่วมมือ กับประเทศในภูมิภาคอื่น เช่น China-Africa Cooperation, China-Arab Cooperation Forum เพื่อแข่งขันกับองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจรุ่นเก่าๆ สมดังคำเปรียบเปรยของ นาย เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ ที่กล่าวว่า จีนยังวุ่นอยู่กับการนำตัวเองเข้าไปจัดการองค์กรที่ได้จัดสร้างขึ้น โดยจีนไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนาวัตถุประสงค์ขององค์กรเหล่านั้น … ไอ้สุดกร่าง นี่มันสรรหามาแดกดันได้ทุกเรื่องจริงๆ สุดกร่างสรุปในที่สุดว่า จีนไม่ได้มีนโยบายที่จะเป็นประเทศที่มุ่งจะทำการค้าขาย “trading state” แต่อย่างใด แม้ว่าในผลลัพธ์จะประสบความสำเร็จอย่างมากก็ตาม แต่โดยแท้จริงแล้ว จีนมุ่งหมายที่จะเป็นมหาอำนาจอย่างเต็มรูปแบบ conventional great power เต็มยศชุดใหญ่ ในด้านการเมือง และการทหาร การท้าชิงความเป็นใหญ่ในเอเซียกับอเมริกา เป็นแค่หนังตัวอย่างเท่านั้น สำหรับการก้าวไปสู่การเป็นมหาอำนาจในโลกของจีน นี่คือ ” จีน ” ตามข้อกล่าวหา และในสายตาของถังความคิด CFR ที่ประธานาธิบดีของอเมริกาเกือบทุกคน ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ” ต้อง” ให้ความสนใจ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 13 พ.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • ..ทหารไทยต้องยึดอำนาจ จึงกำหนดทางรอดคนประชาชนคนไทยได้จริง,ถ้านักการเมืองยังปกครองผ่านการเลือกตั้งของระบบอีลิทที่เป็นเจ้าของกลไกการปกครองระบอบที่มันสร้างขึ้นมาควบคุมมนุษย์ ไทยเราเองจะไม่รอดสู่ยุคอนาคตแน่นอน,สถานะทาสAIจะชัดเจนขึ้นแบบทวีคูณ คุณค่าความเป็นมนุษย์จะถูกปกครองให้ด้อยค่าลงจากฝีมือเผด็จการอีลิทเหล่านี้,เรา..คนไทยจะถูกกำจัดทิ้งลงเรื่อยๆแน่นอน พร้อมถูกควบคุมอย่างเป็นระบบภายใต้การปกครองของมันที่ส่งออกมาให้เราใช้แบบปัจจุบัน,ง่าบๆเข้าใจง่ายชัดเจนคือเราถูกปล้นบ่อน้ำมันและทรัพยากรมีค่ามากมายจากแผ่นดินไทยอย่างหน้าด้านๆเหมือนแร่เอิร์ธนั้นล่ะ,ทหารไทย กองทัพไทยต้องปลดแอกชาติไทยเราอย่างจริงจัง.,การปฏิวัติการปกครอง ปฏิวัติยึดอำนาจคืนมาสู่ประเทศไทยจึงสำคัญ.


    การวิเคราะห์: นี่เป็นแนวโน้มสำคัญอย่างยิ่งที่คุณจำเป็นต้องตระหนักถึง:
    - ต้นทุนการรับรู้ของ AI (โทเค็น) กำลังลดลงอย่างมาก
    - ในขณะที่คุณภาพของโทเค็น AI กำลังเพิ่มขึ้น
    - ในขณะเดียวกัน ต้นทุนการรับรู้ของมนุษย์กำลังเพิ่มขึ้น
    - ในขณะที่ผลผลิตจากการรับรู้ของมนุษย์กำลังลดลงอย่างมาก

    นั่นเป็นเพราะ:
    - วัคซีนทำลายสมองมนุษย์และทำให้เกิดการผ่าตัดสมอง (lobotomy) อย่างกว้างขวางในประชากรมนุษย์ (โดยตั้งใจ)
    - อาหารขยะแปรรูปและยาจำนวนมากทำลายประสิทธิภาพการรับรู้ เนื่องจากสมองได้รับพลังงานจากเลือด และเลือดถูกสร้างขึ้นจากสิ่งที่คุณกินและดื่ม
    - ด้วยปัจจัยเหล่านี้ มนุษย์จำนวนมากกำลังประสบกับภาวะเสื่อมถอยของความสามารถในการรับรู้เพื่อทักษะการทำงาน บางคนลืมทักษะการทำงาน
    - ค่าครองชีพ (สำหรับมนุษย์) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นในสิ่งต่างๆ เช่น อาหารและประกันสุขภาพ
    - เนื่องจากสารเคมีในเทรล โลหะหนัก การปนเปื้อนของยาฆ่าแมลง มลพิษทางอุตสาหกรรม การหลั่งโปรตีนหนาม ฯลฯ สุขภาพของมนุษย์จึงลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดต้นทุนใหม่ ๆ ที่สูงในการรักษามนุษย์ให้อยู่ในระบบเงินเดือน

    ผลที่ตามมา:
    - AI กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ดีกว่าระบบการรับรู้ของมนุษย์ในหลายๆ งานเท่านั้น แต่ยังมีราคาถูกลงมากอีกด้วย โดยจะมีราคาถูกลง 10 เท่า (ประมาณการ) ทุกๆ 9 เดือน
    - AI ไม่จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพเทียบเท่ามนุษย์อย่างสมบูรณ์เพื่อที่จะมาแทนที่มนุษย์ได้ หากมันราคาถูกกว่า 10 เท่า (ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น) ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี AI จะมีราคาถูกกว่าระบบการรับรู้ของมนุษย์ถึง 100 เท่า (ประมาณการ)
    - การแทนที่มนุษย์ด้วย AI ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ลดความเสี่ยงจากการฟ้องร้อง อุบัติเหตุ ความเสี่ยงจากการจารกรรมขององค์กร และอื่น ๆ ในขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงการลาพักร้อน วันหยุด วันลาป่วย ฯลฯ ของมนุษย์
    - สำหรับบริษัทต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ สมการนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าควรแทนที่มนุษย์ด้วยเอเจนต์ AI ให้ได้มากที่สุด โดยเร็วที่สุด โดยไม่ลังเล

    หลายภาคส่วนงานจะถูก AI เข้ามาแทนที่ 60% - 80% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งน่าจะรวมถึง:
    - ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
    - ฝ่ายสนับสนุนก่อนการขาย
    - นักเขียน นักตรวจทาน และบรรณาธิการ
    - นักแปลและล่าม
    - ฝ่ายบริหารธุรกิจ (ระดับผู้จัดการระดับกลาง เช่น การประกาศปลดพนักงาน 30,000 คนโดย Amazon)
    - นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักฟิสิกส์ นักเคมี
    - ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะสร้างสรรค์ รวมถึงศิลปะกราฟิก ภาพยนตร์ ดนตรี วิศวกรรมเสียง และอื่นๆ

    ผมจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมในพอดแคสต์ใหม่ของผม:
    ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงราคาตกต่ำ ขณะที่ต้นทุนของมนุษย์ยังคงสูงขึ้น
    https://www.brighteon.com/e8b099f0-f018-4640-8764-af08692f6897

    ..ทหารไทยต้องยึดอำนาจ จึงกำหนดทางรอดคนประชาชนคนไทยได้จริง,ถ้านักการเมืองยังปกครองผ่านการเลือกตั้งของระบบอีลิทที่เป็นเจ้าของกลไกการปกครองระบอบที่มันสร้างขึ้นมาควบคุมมนุษย์ ไทยเราเองจะไม่รอดสู่ยุคอนาคตแน่นอน,สถานะทาสAIจะชัดเจนขึ้นแบบทวีคูณ คุณค่าความเป็นมนุษย์จะถูกปกครองให้ด้อยค่าลงจากฝีมือเผด็จการอีลิทเหล่านี้,เรา..คนไทยจะถูกกำจัดทิ้งลงเรื่อยๆแน่นอน พร้อมถูกควบคุมอย่างเป็นระบบภายใต้การปกครองของมันที่ส่งออกมาให้เราใช้แบบปัจจุบัน,ง่าบๆเข้าใจง่ายชัดเจนคือเราถูกปล้นบ่อน้ำมันและทรัพยากรมีค่ามากมายจากแผ่นดินไทยอย่างหน้าด้านๆเหมือนแร่เอิร์ธนั้นล่ะ,ทหารไทย กองทัพไทยต้องปลดแอกชาติไทยเราอย่างจริงจัง.,การปฏิวัติการปกครอง ปฏิวัติยึดอำนาจคืนมาสู่ประเทศไทยจึงสำคัญ. การวิเคราะห์: นี่เป็นแนวโน้มสำคัญอย่างยิ่งที่คุณจำเป็นต้องตระหนักถึง: - ต้นทุนการรับรู้ของ AI (โทเค็น) กำลังลดลงอย่างมาก - ในขณะที่คุณภาพของโทเค็น AI กำลังเพิ่มขึ้น - ในขณะเดียวกัน ต้นทุนการรับรู้ของมนุษย์กำลังเพิ่มขึ้น - ในขณะที่ผลผลิตจากการรับรู้ของมนุษย์กำลังลดลงอย่างมาก นั่นเป็นเพราะ: - วัคซีนทำลายสมองมนุษย์และทำให้เกิดการผ่าตัดสมอง (lobotomy) อย่างกว้างขวางในประชากรมนุษย์ (โดยตั้งใจ) - อาหารขยะแปรรูปและยาจำนวนมากทำลายประสิทธิภาพการรับรู้ เนื่องจากสมองได้รับพลังงานจากเลือด และเลือดถูกสร้างขึ้นจากสิ่งที่คุณกินและดื่ม - ด้วยปัจจัยเหล่านี้ มนุษย์จำนวนมากกำลังประสบกับภาวะเสื่อมถอยของความสามารถในการรับรู้เพื่อทักษะการทำงาน บางคนลืมทักษะการทำงาน - ค่าครองชีพ (สำหรับมนุษย์) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นในสิ่งต่างๆ เช่น อาหารและประกันสุขภาพ - เนื่องจากสารเคมีในเทรล โลหะหนัก การปนเปื้อนของยาฆ่าแมลง มลพิษทางอุตสาหกรรม การหลั่งโปรตีนหนาม ฯลฯ สุขภาพของมนุษย์จึงลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดต้นทุนใหม่ ๆ ที่สูงในการรักษามนุษย์ให้อยู่ในระบบเงินเดือน ผลที่ตามมา: - AI กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ดีกว่าระบบการรับรู้ของมนุษย์ในหลายๆ งานเท่านั้น แต่ยังมีราคาถูกลงมากอีกด้วย โดยจะมีราคาถูกลง 10 เท่า (ประมาณการ) ทุกๆ 9 เดือน - AI ไม่จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพเทียบเท่ามนุษย์อย่างสมบูรณ์เพื่อที่จะมาแทนที่มนุษย์ได้ หากมันราคาถูกกว่า 10 เท่า (ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น) ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี AI จะมีราคาถูกกว่าระบบการรับรู้ของมนุษย์ถึง 100 เท่า (ประมาณการ) - การแทนที่มนุษย์ด้วย AI ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ลดความเสี่ยงจากการฟ้องร้อง อุบัติเหตุ ความเสี่ยงจากการจารกรรมขององค์กร และอื่น ๆ ในขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงการลาพักร้อน วันหยุด วันลาป่วย ฯลฯ ของมนุษย์ - สำหรับบริษัทต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ สมการนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าควรแทนที่มนุษย์ด้วยเอเจนต์ AI ให้ได้มากที่สุด โดยเร็วที่สุด โดยไม่ลังเล หลายภาคส่วนงานจะถูก AI เข้ามาแทนที่ 60% - 80% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งน่าจะรวมถึง: - ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า - ฝ่ายสนับสนุนก่อนการขาย - นักเขียน นักตรวจทาน และบรรณาธิการ - นักแปลและล่าม - ฝ่ายบริหารธุรกิจ (ระดับผู้จัดการระดับกลาง เช่น การประกาศปลดพนักงาน 30,000 คนโดย Amazon) - นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักฟิสิกส์ นักเคมี - ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะสร้างสรรค์ รวมถึงศิลปะกราฟิก ภาพยนตร์ ดนตรี วิศวกรรมเสียง และอื่นๆ ผมจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมในพอดแคสต์ใหม่ของผม: ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงราคาตกต่ำ ขณะที่ต้นทุนของมนุษย์ยังคงสูงขึ้น https://www.brighteon.com/e8b099f0-f018-4640-8764-af08692f6897
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • อนาคตการติดตามคุณ ดูกิจกรรมคุณพฤติกรรมต่างๆของคุณจะเข้มข้นขึ้นกับชาวโลกทุกๆคน เพื่อคงสถานะทาสและควบคุมทาสอย่างชาวโลก.

    ขณะนี้ YouTube กำลังเซ็นเซอร์วิดีโอที่แสดงวิธีหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ระบบ Windows 11 ด้วยการตั้งค่าระบบใหม่ เนื่องจาก Microsoft ต้องการบังคับให้ทุกคนเข้าสู่ระบบ ซึ่งทำให้ Microsoft สามารถ:

    - อ่านเอกสารทั้งหมดของคุณ
    - สแกนรูปภาพทั้งหมดของคุณ
    - รายงานคุณต่อเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายหากพบเอกสารหรือรูปภาพที่ไม่ชอบ

    Windows 11 ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ แต่มันคือสปายแวร์

    ยิ่งไปกว่านั้น Windows 11 ยังห่วยด้วยเหตุผลอื่นๆ อีก:

    - มันอัปเดตและรีสตาร์ทอัตโนมัติโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่เรื่อยๆ และไม่มีทางปิดมันได้
    - มันคอยกวนใจให้คุณสำรองไฟล์ทั้งหมดไว้ในเซิร์ฟเวอร์ Windows ซึ่ง Microsoft สามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า
    - มันใหญ่และช้า แถมยังกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ของคุณอีกด้วย

    ผมใช้ Linux บนเวิร์กสเตชันที่ประมวลผลข้อมูลเนื้อหา และ Linux ก็มีความน่าเชื่อถือและเป็นส่วนตัวมากกว่ามาก ยิ่งไปกว่านั้น Linux ส่วนใหญ่ยังเป็นฟรีและเป็นโอเพนซอร์ส

    คุณควรย้ายจาก Windows มาใช้ Linux Linux ที่ง่ายที่สุดในการเลือก หน้าตาแทบจะเหมือน Windows เป๊ะๆ และทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติและราบรื่นเกือบสมบูรณ์แบบ คือ "Linux Mint" ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ LinuxMint.com (หรือ "cinnamon" ของ Linux Mint ที่นิยมใช้กันมากที่สุด)

    ดาวน์โหลด แฟลชไดร์ฟ USB บูตเข้า USB ติดตั้ง Linux Mint แบบ dual boot แล้วคุณจะบูตกลับไปใช้ Windows เดิม หรือบูตเข้า Linux Mint ใหม่ก็ได้ (แล้วแต่คุณ) เมื่อติดตั้ง Linux Mint เรียบร้อยแล้ว Microsoft จะไม่สามารถสอดแนมคุณ รูปภาพ เอกสาร กิจกรรม บันทึกการใช้งานเบราว์เซอร์ ฯลฯ ของคุณได้อีกต่อไป

    เปลี่ยนมาใช้ Linux เถอะ เลิกใช้ Bill Gates แล้วใช้ Linux แทน Windows


    พอดแคสต์ของผมอธิบายเรื่องนี้:
    เลิกใช้ Windows แล้วหันมาใช้ Linux Mint แทน
    https://www.brighteon.com/9a1d81d9-44b5-4d7d-bbf1-f44c9d95635f
    อนาคตการติดตามคุณ ดูกิจกรรมคุณพฤติกรรมต่างๆของคุณจะเข้มข้นขึ้นกับชาวโลกทุกๆคน เพื่อคงสถานะทาสและควบคุมทาสอย่างชาวโลก. ขณะนี้ YouTube กำลังเซ็นเซอร์วิดีโอที่แสดงวิธีหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ระบบ Windows 11 ด้วยการตั้งค่าระบบใหม่ เนื่องจาก Microsoft ต้องการบังคับให้ทุกคนเข้าสู่ระบบ ซึ่งทำให้ Microsoft สามารถ: - อ่านเอกสารทั้งหมดของคุณ - สแกนรูปภาพทั้งหมดของคุณ - รายงานคุณต่อเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายหากพบเอกสารหรือรูปภาพที่ไม่ชอบ Windows 11 ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ แต่มันคือสปายแวร์ ยิ่งไปกว่านั้น Windows 11 ยังห่วยด้วยเหตุผลอื่นๆ อีก: - มันอัปเดตและรีสตาร์ทอัตโนมัติโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่เรื่อยๆ และไม่มีทางปิดมันได้ - มันคอยกวนใจให้คุณสำรองไฟล์ทั้งหมดไว้ในเซิร์ฟเวอร์ Windows ซึ่ง Microsoft สามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า - มันใหญ่และช้า แถมยังกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ของคุณอีกด้วย ผมใช้ Linux บนเวิร์กสเตชันที่ประมวลผลข้อมูลเนื้อหา และ Linux ก็มีความน่าเชื่อถือและเป็นส่วนตัวมากกว่ามาก ยิ่งไปกว่านั้น Linux ส่วนใหญ่ยังเป็นฟรีและเป็นโอเพนซอร์ส คุณควรย้ายจาก Windows มาใช้ Linux Linux ที่ง่ายที่สุดในการเลือก หน้าตาแทบจะเหมือน Windows เป๊ะๆ และทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติและราบรื่นเกือบสมบูรณ์แบบ คือ "Linux Mint" ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ LinuxMint.com (หรือ "cinnamon" ของ Linux Mint ที่นิยมใช้กันมากที่สุด) ดาวน์โหลด แฟลชไดร์ฟ USB บูตเข้า USB ติดตั้ง Linux Mint แบบ dual boot แล้วคุณจะบูตกลับไปใช้ Windows เดิม หรือบูตเข้า Linux Mint ใหม่ก็ได้ (แล้วแต่คุณ) เมื่อติดตั้ง Linux Mint เรียบร้อยแล้ว Microsoft จะไม่สามารถสอดแนมคุณ รูปภาพ เอกสาร กิจกรรม บันทึกการใช้งานเบราว์เซอร์ ฯลฯ ของคุณได้อีกต่อไป เปลี่ยนมาใช้ Linux เถอะ เลิกใช้ Bill Gates แล้วใช้ Linux แทน Windows พอดแคสต์ของผมอธิบายเรื่องนี้: เลิกใช้ Windows แล้วหันมาใช้ Linux Mint แทน https://www.brighteon.com/9a1d81d9-44b5-4d7d-bbf1-f44c9d95635f
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • “Chat Control ยังไม่ตาย” — เดนมาร์กเปลี่ยนแนวทาง แต่ความกังวลยังอยู่

    หลังจากข้อเสนอเดิมของเดนมาร์กที่บังคับให้ทุกแพลตฟอร์มแชตต้องสแกนข้อความ รูปภาพ และวิดีโอเพื่อหาสื่อการล่วงละเมิดเด็ก (CSAM) ถูกถอนออกเพราะขาดเสียงสนับสนุน ล่าสุดเดนมาร์กกลับมาพร้อมข้อเสนอใหม่ที่เปลี่ยนจาก “บังคับ” เป็น “สมัครใจ” — แต่ยังคงเปิดช่องให้กลับไปใช้การสแกนบังคับในอนาคต

    ข้อเสนอใหม่นี้ถูกนำเสนอในวันที่ 30 ตุลาคม โดยลบข้อกำหนดการตรวจจับแบบบังคับออกทั้งหมด (มาตรา 7–11) และเพิ่มการสแกนแบบสมัครใจไว้ในมาตรา 4 เป็น “มาตรการลดความเสี่ยง” ที่สามารถใช้ได้ถ้าผู้ให้บริการต้องการ

    ช่องโหว่ที่อาจนำไปสู่การสแกนบังคับอีกครั้ง
    แม้จะดูเหมือนเป็นชัยชนะของสิทธิความเป็นส่วนตัว แต่ข้อเสนอใหม่ยังมี “เงื่อนไขการทบทวน” ที่เปิดทางให้คณะกรรมาธิการยุโรปสามารถเสนอร่างกฎหมายใหม่เพื่อกลับมาใช้การสแกนบังคับได้ หากมีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถทำได้โดยไม่ละเมิดการเข้ารหัส

    นักวิจารณ์เช่น Patrick Breyer จากพรรค Pirate Party เตือนว่า นี่อาจเป็น “การเปิดประตูหลัง” ให้กลับมาใช้ Chat Control แบบเดิมอีกครั้ง

    เดนมาร์กถอนข้อเสนอการสแกนบังคับ
    ยกเลิกมาตรา 7–11 ที่บังคับให้สแกนทุกข้อความ
    เปลี่ยนเป็นการสแกนแบบสมัครใจในมาตรา 4

    เพิ่มเงื่อนไขการทบทวนในอนาคต
    คณะกรรมาธิการยุโรปสามารถเสนอร่างใหม่ได้
    หากมีเทคโนโลยีที่ไม่ละเมิดการเข้ารหัส

    ผลกระทบต่อบริการเข้ารหัส
    Signal และ WhatsApp เคยถูกคาดหมายว่าจะต้องสแกนก่อนเข้ารหัส
    ขัดกับหลักการของการเข้ารหัสแบบ end-to-end

    เสียงวิจารณ์จากนักสิทธิ
    Patrick Breyer เตือนว่าอาจเป็นการกลับมาใช้ Chat Control ผ่านช่องทางลับ
    Voluntary scanning ยังมีความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว

    ความเสี่ยงจากการสแกนสมัครใจ
    Meta, Microsoft, Google อาจยังคงสแกนข้อความแบบไม่เฉพาะเจาะจง
    เป็นการเฝ้าระวังแบบครอบคลุมแม้ไม่มีเหตุสงสัย

    ความไม่แน่นอนของข้อเสนอใหม่
    ยังไม่มีรายละเอียดของเทคโนโลยีที่ใช้
    อาจไม่สามารถปกป้องสิทธิผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-isnt-dead-denmark-has-a-new-proposal-heres-all-we-know
    🛡️📨 “Chat Control ยังไม่ตาย” — เดนมาร์กเปลี่ยนแนวทาง แต่ความกังวลยังอยู่ หลังจากข้อเสนอเดิมของเดนมาร์กที่บังคับให้ทุกแพลตฟอร์มแชตต้องสแกนข้อความ รูปภาพ และวิดีโอเพื่อหาสื่อการล่วงละเมิดเด็ก (CSAM) ถูกถอนออกเพราะขาดเสียงสนับสนุน ล่าสุดเดนมาร์กกลับมาพร้อมข้อเสนอใหม่ที่เปลี่ยนจาก “บังคับ” เป็น “สมัครใจ” — แต่ยังคงเปิดช่องให้กลับไปใช้การสแกนบังคับในอนาคต ข้อเสนอใหม่นี้ถูกนำเสนอในวันที่ 30 ตุลาคม โดยลบข้อกำหนดการตรวจจับแบบบังคับออกทั้งหมด (มาตรา 7–11) และเพิ่มการสแกนแบบสมัครใจไว้ในมาตรา 4 เป็น “มาตรการลดความเสี่ยง” ที่สามารถใช้ได้ถ้าผู้ให้บริการต้องการ 🧩 ช่องโหว่ที่อาจนำไปสู่การสแกนบังคับอีกครั้ง แม้จะดูเหมือนเป็นชัยชนะของสิทธิความเป็นส่วนตัว แต่ข้อเสนอใหม่ยังมี “เงื่อนไขการทบทวน” ที่เปิดทางให้คณะกรรมาธิการยุโรปสามารถเสนอร่างกฎหมายใหม่เพื่อกลับมาใช้การสแกนบังคับได้ หากมีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถทำได้โดยไม่ละเมิดการเข้ารหัส นักวิจารณ์เช่น Patrick Breyer จากพรรค Pirate Party เตือนว่า นี่อาจเป็น “การเปิดประตูหลัง” ให้กลับมาใช้ Chat Control แบบเดิมอีกครั้ง ✅ เดนมาร์กถอนข้อเสนอการสแกนบังคับ ➡️ ยกเลิกมาตรา 7–11 ที่บังคับให้สแกนทุกข้อความ ➡️ เปลี่ยนเป็นการสแกนแบบสมัครใจในมาตรา 4 ✅ เพิ่มเงื่อนไขการทบทวนในอนาคต ➡️ คณะกรรมาธิการยุโรปสามารถเสนอร่างใหม่ได้ ➡️ หากมีเทคโนโลยีที่ไม่ละเมิดการเข้ารหัส ✅ ผลกระทบต่อบริการเข้ารหัส ➡️ Signal และ WhatsApp เคยถูกคาดหมายว่าจะต้องสแกนก่อนเข้ารหัส ➡️ ขัดกับหลักการของการเข้ารหัสแบบ end-to-end ✅ เสียงวิจารณ์จากนักสิทธิ ➡️ Patrick Breyer เตือนว่าอาจเป็นการกลับมาใช้ Chat Control ผ่านช่องทางลับ ➡️ Voluntary scanning ยังมีความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว ‼️ ความเสี่ยงจากการสแกนสมัครใจ ⛔ Meta, Microsoft, Google อาจยังคงสแกนข้อความแบบไม่เฉพาะเจาะจง ⛔ เป็นการเฝ้าระวังแบบครอบคลุมแม้ไม่มีเหตุสงสัย ‼️ ความไม่แน่นอนของข้อเสนอใหม่ ⛔ ยังไม่มีรายละเอียดของเทคโนโลยีที่ใช้ ⛔ อาจไม่สามารถปกป้องสิทธิผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-isnt-dead-denmark-has-a-new-proposal-heres-all-we-know
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • “Xe3P” ไม่ใช่แค่ iGPU — อาจขยายไปสู่การ์ดจอแยกสำหรับเกมและงานมืออาชีพ
    จากข้อมูลล่าสุดที่หลุดออกมา Intel อาจนำสถาปัตยกรรมกราฟิก Xe3P ไปใช้กับ GPU แบบแยก (Discrete GPU) ด้วย ไม่ใช่แค่ใน iGPU ของซีพียู Nova Lake เท่านั้น โดยมีการพบไฟล์ล็อกที่ระบุว่า Xe3P จะมีสองเวอร์ชันคือ:
    LPM (Low Power Media) สำหรับงานทั่วไป
    HPM (High Power Media) ที่อาจใช้ในการ์ดจอแยก เช่น Arc Gaming หรือ Arc Pro

    แม้ Xe3P จะไม่ใช่สถาปัตยกรรมเต็มรูปแบบแบบ LPG/HPG ที่ใช้ใน Arc B ซีรีส์ แต่การมีเวอร์ชัน HPM ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่า Intel จะนำไปใช้ใน GPU แบบแยกในอนาคต

    ใช้ใน Nova Lake และอาจขยายไปสู่ Arc C (Celestial)
    Xe3P ถูกระบุว่าจะใช้เป็น iGPU หลักในซีพียู Nova Lake สำหรับงานกราฟิกพื้นฐาน
    ส่วนงานแสดงผลและสื่อจะใช้ Xe4 (Druid) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่
    หาก Xe3P ถูกใช้ใน GPU แบบแยกจริง อาจถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Arc C (Celestial) ซึ่งเป็นรุ่นถัดไปจาก Arc B

    Xe3P อาจใช้ใน GPU แบบแยก
    พบไฟล์ล็อกระบุเวอร์ชัน LPM และ HPM
    HPM มีแนวโน้มใช้ใน Arc Gaming หรือ Arc Pro

    การใช้งานใน Nova Lake
    Xe3P เป็น iGPU หลัก
    Xe4 (Druid) ใช้สำหรับงานแสดงผลและสื่อ

    ความเป็นไปได้ในการจัดกลุ่ม
    Xe3P อาจถูกจัดอยู่ใน Arc C (Celestial)
    ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ Arc B (Battlemage)

    ข้อจำกัดของข้อมูลที่หลุด
    Intel ยังไม่ยืนยันการใช้ Xe3P ใน GPU แบบแยก
    ข้อมูลจากไฟล์ล็อกอาจเปลี่ยนแปลงได้ก่อนเปิดตัวจริง

    ความคลุมเครือของเวอร์ชัน LPM/HPM
    ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นสถาปัตยกรรมเต็มรูปแบบหรือแค่ media engine
    อาจไม่รองรับฟีเจอร์ระดับสูงเท่ากับ HPG

    https://wccftech.com/intel-xe3p-reportedly-will-power-discrete-gpus-as-well-log-shows-lpm-and-hpm-variants/
    🧠⚙️ “Xe3P” ไม่ใช่แค่ iGPU — อาจขยายไปสู่การ์ดจอแยกสำหรับเกมและงานมืออาชีพ จากข้อมูลล่าสุดที่หลุดออกมา Intel อาจนำสถาปัตยกรรมกราฟิก Xe3P ไปใช้กับ GPU แบบแยก (Discrete GPU) ด้วย ไม่ใช่แค่ใน iGPU ของซีพียู Nova Lake เท่านั้น โดยมีการพบไฟล์ล็อกที่ระบุว่า Xe3P จะมีสองเวอร์ชันคือ: 🎗️ LPM (Low Power Media) สำหรับงานทั่วไป 🎗️ HPM (High Power Media) ที่อาจใช้ในการ์ดจอแยก เช่น Arc Gaming หรือ Arc Pro แม้ Xe3P จะไม่ใช่สถาปัตยกรรมเต็มรูปแบบแบบ LPG/HPG ที่ใช้ใน Arc B ซีรีส์ แต่การมีเวอร์ชัน HPM ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่า Intel จะนำไปใช้ใน GPU แบบแยกในอนาคต 🧩 ใช้ใน Nova Lake และอาจขยายไปสู่ Arc C (Celestial) 🎗️ Xe3P ถูกระบุว่าจะใช้เป็น iGPU หลักในซีพียู Nova Lake สำหรับงานกราฟิกพื้นฐาน 🎗️ ส่วนงานแสดงผลและสื่อจะใช้ Xe4 (Druid) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่ 🎗️ หาก Xe3P ถูกใช้ใน GPU แบบแยกจริง อาจถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Arc C (Celestial) ซึ่งเป็นรุ่นถัดไปจาก Arc B ✅ Xe3P อาจใช้ใน GPU แบบแยก ➡️ พบไฟล์ล็อกระบุเวอร์ชัน LPM และ HPM ➡️ HPM มีแนวโน้มใช้ใน Arc Gaming หรือ Arc Pro ✅ การใช้งานใน Nova Lake ➡️ Xe3P เป็น iGPU หลัก ➡️ Xe4 (Druid) ใช้สำหรับงานแสดงผลและสื่อ ✅ ความเป็นไปได้ในการจัดกลุ่ม ➡️ Xe3P อาจถูกจัดอยู่ใน Arc C (Celestial) ➡️ ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ Arc B (Battlemage) ‼️ ข้อจำกัดของข้อมูลที่หลุด ⛔ Intel ยังไม่ยืนยันการใช้ Xe3P ใน GPU แบบแยก ⛔ ข้อมูลจากไฟล์ล็อกอาจเปลี่ยนแปลงได้ก่อนเปิดตัวจริง ‼️ ความคลุมเครือของเวอร์ชัน LPM/HPM ⛔ ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นสถาปัตยกรรมเต็มรูปแบบหรือแค่ media engine ⛔ อาจไม่รองรับฟีเจอร์ระดับสูงเท่ากับ HPG https://wccftech.com/intel-xe3p-reportedly-will-power-discrete-gpus-as-well-log-shows-lpm-and-hpm-variants/
    WCCFTECH.COM
    Intel Xe3P May Power "Discrete" GPUs As Well; Log Shows LPM And HPM Variants
    According to a leaked log, the Intel Xe3P HMP will power discrete GPUs and it also has a LMP variant, probably for Nova Lake.
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • “เย็นแต่แพง” — ระบบระบายความร้อนของ Nvidia NVL72 และ NVL144

    ในยุคที่ AI ต้องการพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ Nvidia ได้พัฒนาเซิร์ฟเวอร์ระดับ rack-scale ที่ชื่อว่า NVL72 และรุ่นถัดไป NVL144 ซึ่งใช้ GPU และ CPU ที่มี TDP สูงถึงหลายพันวัตต์ ส่งผลให้ระบบระบายความร้อนต้องล้ำหน้าและมีราคาสูงลิ่ว

    ตามรายงานจาก Morgan Stanley:
    NVL72 (GB300) ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling มูลค่า $49,860
    NVL144 (Vera Rubin) จะใช้ระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีมูลค่า $55,710 เพิ่มขึ้น 17%

    รายละเอียดค่าใช้จ่ายของระบบระบายความร้อน
    Compute Tray (18 ชิ้น):
    NVL72: $2,260 ต่อ tray → รวม $40,680
    NVL144: เพิ่มเป็น $2,660 ต่อ tray → รวม $47,880

    Switch Tray (9 ชิ้น):
    NVL72: $1,020 ต่อ tray → รวม $9,180
    NVL144: ลดเหลือ $870 ต่อ tray → รวม $7,830

    Cold Plate คือหัวใจของระบบ
    Cold plate สำหรับ GPU และ CPU มีราคาสูงถึง $300–$400 ต่อชิ้น
    สำหรับ NVSwitch ASICs อยู่ที่ $200 ต่อชิ้น
    รุ่นถัดไปอาจต้องใช้ cold plate ที่รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ต่อ GPU package

    เตรียมพบ NVL576 — แรงกว่าเดิม 2 เท่า
    Nvidia กำลังพัฒนา NVL576 “Kyber” ที่จะใช้ GPU 144 ชุด และมีประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า แต่ก็ต้องแลกกับความร้อนที่มากขึ้น และระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อนและแพงกว่าเดิม

    ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนของ NVL72 และ NVL144
    NVL72: $49,860 ต่อ rack
    NVL144: $55,710 ต่อ rack (เพิ่มขึ้น 17%)

    รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อ tray
    Compute tray: เพิ่มจาก $2,260 → $2,660
    Switch tray: ลดจาก $1,020 → $870

    Cold plate ประสิทธิภาพสูง
    GPU/CPU: $300–$400 ต่อชิ้น
    NVSwitch: $200 ต่อชิ้น
    รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ในอนาคต

    การพัฒนา NVL576
    ใช้ GPU 144 ชุด
    ประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า
    ต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่ล้ำหน้ากว่าเดิม

    ความท้าทายด้านความร้อนในยุค AI
    GPU และ CPU มี TDP สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ระบบระบายความร้อนต้องลงทุนสูงและซับซ้อน

    ความเสี่ยงด้านต้นทุนและพลังงาน
    ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายระบบ
    การใช้พลังงานสูงอาจกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/cooling-system-for-a-single-nvidia-blackwell-ultra-nvl72-rack-costs-a-staggering-usd50-000-set-to-increase-to-usd56-000-with-next-generation-nvl144-racks
    ❄️💸 “เย็นแต่แพง” — ระบบระบายความร้อนของ Nvidia NVL72 และ NVL144 ในยุคที่ AI ต้องการพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ Nvidia ได้พัฒนาเซิร์ฟเวอร์ระดับ rack-scale ที่ชื่อว่า NVL72 และรุ่นถัดไป NVL144 ซึ่งใช้ GPU และ CPU ที่มี TDP สูงถึงหลายพันวัตต์ ส่งผลให้ระบบระบายความร้อนต้องล้ำหน้าและมีราคาสูงลิ่ว ตามรายงานจาก Morgan Stanley: 💹 NVL72 (GB300) ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling มูลค่า $49,860 💹 NVL144 (Vera Rubin) จะใช้ระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีมูลค่า $55,710 เพิ่มขึ้น 17% 🧊 รายละเอียดค่าใช้จ่ายของระบบระบายความร้อน 📍 Compute Tray (18 ชิ้น): 💹 NVL72: $2,260 ต่อ tray → รวม $40,680 💹 NVL144: เพิ่มเป็น $2,660 ต่อ tray → รวม $47,880 📍 Switch Tray (9 ชิ้น): 💹 NVL72: $1,020 ต่อ tray → รวม $9,180 💹 NVL144: ลดเหลือ $870 ต่อ tray → รวม $7,830 🔩 Cold Plate คือหัวใจของระบบ 📍 Cold plate สำหรับ GPU และ CPU มีราคาสูงถึง $300–$400 ต่อชิ้น 📍 สำหรับ NVSwitch ASICs อยู่ที่ $200 ต่อชิ้น 📍 รุ่นถัดไปอาจต้องใช้ cold plate ที่รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ต่อ GPU package 🚀 เตรียมพบ NVL576 — แรงกว่าเดิม 2 เท่า Nvidia กำลังพัฒนา NVL576 “Kyber” ที่จะใช้ GPU 144 ชุด และมีประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า แต่ก็ต้องแลกกับความร้อนที่มากขึ้น และระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อนและแพงกว่าเดิม ✅ ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนของ NVL72 และ NVL144 ➡️ NVL72: $49,860 ต่อ rack ➡️ NVL144: $55,710 ต่อ rack (เพิ่มขึ้น 17%) ✅ รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อ tray ➡️ Compute tray: เพิ่มจาก $2,260 → $2,660 ➡️ Switch tray: ลดจาก $1,020 → $870 ✅ Cold plate ประสิทธิภาพสูง ➡️ GPU/CPU: $300–$400 ต่อชิ้น ➡️ NVSwitch: $200 ต่อชิ้น ➡️ รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ในอนาคต ✅ การพัฒนา NVL576 ➡️ ใช้ GPU 144 ชุด ➡️ ประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า ➡️ ต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่ล้ำหน้ากว่าเดิม ‼️ ความท้าทายด้านความร้อนในยุค AI ⛔ GPU และ CPU มี TDP สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ⛔ ระบบระบายความร้อนต้องลงทุนสูงและซับซ้อน ‼️ ความเสี่ยงด้านต้นทุนและพลังงาน ⛔ ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายระบบ ⛔ การใช้พลังงานสูงอาจกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐาน https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/cooling-system-for-a-single-nvidia-blackwell-ultra-nvl72-rack-costs-a-staggering-usd50-000-set-to-increase-to-usd56-000-with-next-generation-nvl144-racks
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • “DRAM ยุคใหม่” จาก SK hynix พร้อมรองรับ AI และ HPC จนถึงปี 2031
    SK hynix เปิดเผยแผนพัฒนา DRAM ในงาน SK AI Summit 2025 โดยเน้นการรองรับความต้องการของเซิร์ฟเวอร์ AI และระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการวางแผนเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2026–2031

    DDR6, LPDDR6, GDDR8 และ 3D DRAM กำลังมา
    DDR6: คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2029–2030 โดยก่อนหน้านั้น DDR5 จะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น MRDIMM Gen2 (2026–2027) และ CXL Gen2 (2027–2028)

    LPDDR6: จะมาพร้อมฟีเจอร์สำหรับศูนย์ข้อมูล เช่น SOCAMM2 modules และ LPDDR6-PIM (Processing-in-Memory) ในปี 2028

    GDDR8: SK hynix เรียกชื่อว่า “GDDR7-Next” ซึ่งน่าจะเป็น GDDR8 สำหรับงาน inference accelerator ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำ

    3D DRAM: คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2030 โดยยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน

    HBM5 และ HBM5E — แรงสุดในสาย DRAM
    SK hynix เตรียมเปิดตัว HBM4, HBM4E, HBM5 และ HBM5E ในช่วงปี 2025–2031 โดย HBM5 ที่คาดว่าจะใช้ใน GPU รุ่น Feynman ของ Nvidia จะเปิดตัวในปี 2029–2030

    นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนา High-Bandwidth Flash (HBF) ที่รวมข้อดีของ HBM และ NAND แต่ต้องรอการพัฒนาสื่อใหม่และการตกลงร่วมกับผู้ผลิต NAND รายอื่น เช่น SanDisk

    แผนพัฒนา DRAM ของ SK hynix ถึงปี 2031
    เน้นรองรับ AI servers และ HPC
    เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2026–2031

    DDR6 และการพัฒนา DDR5 ต่อเนื่อง
    DDR6 เปิดตัวปี 2029–2030
    DDR5 จะพัฒนาเป็น MRDIMM Gen2 และ CXL Gen2

    LPDDR6 สำหรับศูนย์ข้อมูล
    SOCAMM2 modules เปิดตัวปลายทศวรรษ
    LPDDR6-PIM สำหรับงานเฉพาะทางในปี 2028

    GDDR8 และการใช้งานเฉพาะทาง
    ใช้ใน inference accelerator เช่น Nvidia Rubin CPX
    ประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำกว่ากลุ่ม HBM

    HBM4 ถึง HBM5E — DRAM ระดับสูงสุด
    เปิดตัวเป็นช่วงๆ ทุก 1.5–2 ปี
    HBM5 คาดว่าจะใช้ใน Nvidia Feynman ปี 2029–2030

    3D DRAM และ HBF — เทคโนโลยีแห่งอนาคต
    3D DRAM เปิดตัวปี 2030
    HBF ต้องรอการพัฒนาสื่อใหม่และความร่วมมือกับผู้ผลิต NAND

    ข้อจำกัดของเทคโนโลยีปัจจุบัน
    DDR5 ยังไม่สามารถตอบโจทย์ AI ที่ต้องการแบนด์วิดธ์สูง
    GDDR7 ยังขาดความจุที่เพียงพอสำหรับงาน inference ขนาดใหญ่

    ความท้าทายในการพัฒนา HBF
    ต้องสร้างสื่อใหม่ทั้งหมด
    ต้องตกลงร่วมกับผู้ผลิต NAND รายอื่น เช่น SanDisk

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/sk-hynix-reveals-dram-development-roadmap-through-2031-ddr6-gddr8-lpddr6-and-3d-dram-incoming
    🧠💾 “DRAM ยุคใหม่” จาก SK hynix พร้อมรองรับ AI และ HPC จนถึงปี 2031 SK hynix เปิดเผยแผนพัฒนา DRAM ในงาน SK AI Summit 2025 โดยเน้นการรองรับความต้องการของเซิร์ฟเวอร์ AI และระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการวางแผนเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2026–2031 🚀 DDR6, LPDDR6, GDDR8 และ 3D DRAM กำลังมา 🎗️ DDR6: คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2029–2030 โดยก่อนหน้านั้น DDR5 จะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น MRDIMM Gen2 (2026–2027) และ CXL Gen2 (2027–2028) 🎗️ LPDDR6: จะมาพร้อมฟีเจอร์สำหรับศูนย์ข้อมูล เช่น SOCAMM2 modules และ LPDDR6-PIM (Processing-in-Memory) ในปี 2028 🎗️ GDDR8: SK hynix เรียกชื่อว่า “GDDR7-Next” ซึ่งน่าจะเป็น GDDR8 สำหรับงาน inference accelerator ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำ 🎗️ 3D DRAM: คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2030 โดยยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน 🧊 HBM5 และ HBM5E — แรงสุดในสาย DRAM SK hynix เตรียมเปิดตัว HBM4, HBM4E, HBM5 และ HBM5E ในช่วงปี 2025–2031 โดย HBM5 ที่คาดว่าจะใช้ใน GPU รุ่น Feynman ของ Nvidia จะเปิดตัวในปี 2029–2030 นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนา High-Bandwidth Flash (HBF) ที่รวมข้อดีของ HBM และ NAND แต่ต้องรอการพัฒนาสื่อใหม่และการตกลงร่วมกับผู้ผลิต NAND รายอื่น เช่น SanDisk ✅ แผนพัฒนา DRAM ของ SK hynix ถึงปี 2031 ➡️ เน้นรองรับ AI servers และ HPC ➡️ เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2026–2031 ✅ DDR6 และการพัฒนา DDR5 ต่อเนื่อง ➡️ DDR6 เปิดตัวปี 2029–2030 ➡️ DDR5 จะพัฒนาเป็น MRDIMM Gen2 และ CXL Gen2 ✅ LPDDR6 สำหรับศูนย์ข้อมูล ➡️ SOCAMM2 modules เปิดตัวปลายทศวรรษ ➡️ LPDDR6-PIM สำหรับงานเฉพาะทางในปี 2028 ✅ GDDR8 และการใช้งานเฉพาะทาง ➡️ ใช้ใน inference accelerator เช่น Nvidia Rubin CPX ➡️ ประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำกว่ากลุ่ม HBM ✅ HBM4 ถึง HBM5E — DRAM ระดับสูงสุด ➡️ เปิดตัวเป็นช่วงๆ ทุก 1.5–2 ปี ➡️ HBM5 คาดว่าจะใช้ใน Nvidia Feynman ปี 2029–2030 ✅ 3D DRAM และ HBF — เทคโนโลยีแห่งอนาคต ➡️ 3D DRAM เปิดตัวปี 2030 ➡️ HBF ต้องรอการพัฒนาสื่อใหม่และความร่วมมือกับผู้ผลิต NAND ‼️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยีปัจจุบัน ⛔ DDR5 ยังไม่สามารถตอบโจทย์ AI ที่ต้องการแบนด์วิดธ์สูง ⛔ GDDR7 ยังขาดความจุที่เพียงพอสำหรับงาน inference ขนาดใหญ่ ‼️ ความท้าทายในการพัฒนา HBF ⛔ ต้องสร้างสื่อใหม่ทั้งหมด ⛔ ต้องตกลงร่วมกับผู้ผลิต NAND รายอื่น เช่น SanDisk https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/sk-hynix-reveals-dram-development-roadmap-through-2031-ddr6-gddr8-lpddr6-and-3d-dram-incoming
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำสุดแกร่งจาก Amazon เชื่อมอเมริกาสู่อินเตอร์เน็ตความเร็วแสง

    ลองจินตนาการถึงการสตรีมภาพยนตร์ความละเอียดสูง (HD) พร้อมกันถึง 12.5 ล้านเรื่องในเวลาเดียวกัน — นั่นคือพลังของ “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำใหม่ล่าสุดจาก Amazon ที่กำลังจะเชื่อมต่อสหรัฐอเมริกากับไอร์แลนด์ผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 320 เทราบิตต่อวินาที (Tbps)!

    Amazon ไม่ได้แค่ขายของออนไลน์หรือให้บริการคลาวด์เท่านั้น แต่ยังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกเพื่อรองรับการเติบโตของบริการ AWS และความต้องการข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ

    เคเบิลใต้น้ำที่ “หุ้มเกราะ” ป้องกันการโจมตี
    Fastnet ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ยัง “แกร่ง” ด้วยการหุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง เพื่อป้องกันการถูกตัดหรือทำลาย ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจริงในหลายพื้นที่ เช่น เหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลแดงถูกตัดเมื่อไม่นานมานี้

    Amazon ยังออกแบบให้สายเคเบิลนี้มีจุดขึ้นฝั่งที่ “หลีกเลี่ยงเส้นทางเดิมๆ” อย่างสหราชอาณาจักรหรือฝรั่งเศส เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเส้นทางข้อมูล ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์

    ขยายอาณาจักร AWS พร้อมแผนพัฒนาอนาคต
    นอกจาก Fastnet แล้ว Amazon ยังมีแผนเพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง และเปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการใช้งานคลาวด์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจและ AI

    เกร็ดน่ารู้: ทำไมสายเคเบิลใต้น้ำถึงสำคัญ?
    แม้เราจะใช้ Wi-Fi หรือ 5G กันทุกวัน แต่ความจริงแล้วกว่า 95% ของข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศยังคงเดินทางผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ! สายเคเบิลเหล่านี้จึงเป็น “เส้นเลือดใหญ่” ของโลกดิจิทัล และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนี้คือการวางรากฐานให้กับอนาคต

    Fastnet: สายเคเบิลใต้น้ำใหม่จาก Amazon
    เชื่อมต่อ Maryland, สหรัฐฯ กับ County Cork, ไอร์แลนด์
    ความเร็วสูงสุด 320 Tbps – เทียบเท่าการสตรีมหนัง HD 12.5 ล้านเรื่องพร้อมกัน
    พร้อมใช้งานในปี 2028

    โครงสร้างที่แข็งแกร่งและปลอดภัย
    หุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง
    ออกแบบให้หลีกเลี่ยงเส้นทางสายเคเบิลเดิม เพื่อความหลากหลายและปลอดภัย

    รองรับการเติบโตของ AWS
    เพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง
    เปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก

    การมีส่วนร่วมกับชุมชน
    จัดตั้ง Community Benefit Funds ใน Maryland และ County Cork
    สนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา และความเป็นอยู่ของชุมชน

    ความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางภูมิรัฐศาสตร์
    สายเคเบิลใต้น้ำเคยถูกตัดในทะเลแดง ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    ความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจส่งผลต่อเส้นทางการวางสายเคเบิล

    ความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
    แม้จะมีการป้องกัน แต่สายเคเบิลใต้น้ำยังคงเป็นเป้าหมายที่อ่อนไหว
    การโจมตีหรือความเสียหายอาจส่งผลกระทบต่อบริการทั่วโลก

    https://www.tomshardware.com/networking/amazons-new-armored-undersea-cable-is-fast-enough-to-stream-12-5-million-hd-films-simultaneously-between-the-us-and-ireland-fastnet-to-deliver-320-terabits-per-second-across-the-atlantic
    🌊🔌 “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำสุดแกร่งจาก Amazon เชื่อมอเมริกาสู่อินเตอร์เน็ตความเร็วแสง ลองจินตนาการถึงการสตรีมภาพยนตร์ความละเอียดสูง (HD) พร้อมกันถึง 12.5 ล้านเรื่องในเวลาเดียวกัน — นั่นคือพลังของ “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำใหม่ล่าสุดจาก Amazon ที่กำลังจะเชื่อมต่อสหรัฐอเมริกากับไอร์แลนด์ผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 320 เทราบิตต่อวินาที (Tbps)! Amazon ไม่ได้แค่ขายของออนไลน์หรือให้บริการคลาวด์เท่านั้น แต่ยังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกเพื่อรองรับการเติบโตของบริการ AWS และความต้องการข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ 🛡️ เคเบิลใต้น้ำที่ “หุ้มเกราะ” ป้องกันการโจมตี Fastnet ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ยัง “แกร่ง” ด้วยการหุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง เพื่อป้องกันการถูกตัดหรือทำลาย ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจริงในหลายพื้นที่ เช่น เหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลแดงถูกตัดเมื่อไม่นานมานี้ Amazon ยังออกแบบให้สายเคเบิลนี้มีจุดขึ้นฝั่งที่ “หลีกเลี่ยงเส้นทางเดิมๆ” อย่างสหราชอาณาจักรหรือฝรั่งเศส เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเส้นทางข้อมูล ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ 🌍 ขยายอาณาจักร AWS พร้อมแผนพัฒนาอนาคต นอกจาก Fastnet แล้ว Amazon ยังมีแผนเพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง และเปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการใช้งานคลาวด์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจและ AI 💡 เกร็ดน่ารู้: ทำไมสายเคเบิลใต้น้ำถึงสำคัญ? แม้เราจะใช้ Wi-Fi หรือ 5G กันทุกวัน แต่ความจริงแล้วกว่า 95% ของข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศยังคงเดินทางผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ! สายเคเบิลเหล่านี้จึงเป็น “เส้นเลือดใหญ่” ของโลกดิจิทัล และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนี้คือการวางรากฐานให้กับอนาคต ✅ Fastnet: สายเคเบิลใต้น้ำใหม่จาก Amazon ➡️ เชื่อมต่อ Maryland, สหรัฐฯ กับ County Cork, ไอร์แลนด์ ➡️ ความเร็วสูงสุด 320 Tbps – เทียบเท่าการสตรีมหนัง HD 12.5 ล้านเรื่องพร้อมกัน ➡️ พร้อมใช้งานในปี 2028 ✅ โครงสร้างที่แข็งแกร่งและปลอดภัย ➡️ หุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง ➡️ ออกแบบให้หลีกเลี่ยงเส้นทางสายเคเบิลเดิม เพื่อความหลากหลายและปลอดภัย ✅ รองรับการเติบโตของ AWS ➡️ เพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง ➡️ เปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก ✅ การมีส่วนร่วมกับชุมชน ➡️ จัดตั้ง Community Benefit Funds ใน Maryland และ County Cork ➡️ สนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา และความเป็นอยู่ของชุมชน ‼️ ความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ สายเคเบิลใต้น้ำเคยถูกตัดในทะเลแดง ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ⛔ ความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจส่งผลต่อเส้นทางการวางสายเคเบิล ‼️ ความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ⛔ แม้จะมีการป้องกัน แต่สายเคเบิลใต้น้ำยังคงเป็นเป้าหมายที่อ่อนไหว ⛔ การโจมตีหรือความเสียหายอาจส่งผลกระทบต่อบริการทั่วโลก https://www.tomshardware.com/networking/amazons-new-armored-undersea-cable-is-fast-enough-to-stream-12-5-million-hd-films-simultaneously-between-the-us-and-ireland-fastnet-to-deliver-320-terabits-per-second-across-the-atlantic
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • “Solarpunk แอฟริกา – เมื่ออนาคตไม่รอใคร”

    ลองจินตนาการว่าไฟฟ้าไม่เคยมาเยือนบ้านคุณเลยตลอดชีวิต แล้ววันหนึ่งคุณได้แสงสว่างจากแผงโซลาร์ที่ผ่อนได้ผ่านมือถือ… นี่คือเรื่องจริงของผู้คนกว่า 600 ล้านคนในแอฟริกา ที่ไม่ได้รอให้รัฐบาลหรือธนาคารโลกมาสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ แต่ลุกขึ้นมาสร้างมันเองผ่านโมเดล Solarpunk ที่กำลังเปลี่ยนโลก

    ในขณะที่โลกพัฒนาแล้วกำลังถกเถียงเรื่องพลังงานสะอาด แอฟริกากำลังลงมือทำจริง ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีราคาถูก การเงินดิจิทัล และโมเดลธุรกิจแบบจ่ายรายวัน (PAYG) ที่ทำให้พลังงานแสงอาทิตย์เข้าถึงได้แม้กับคนที่มีรายได้เพียง $2 ต่อวัน

    ในอดีต การขยายสายไฟฟ้าไปยังพื้นที่ชนบทต้องใช้เงินมหาศาลและเวลานานหลายสิบปี แต่วันนี้ บริษัทสตาร์ทอัพในแอฟริกาอย่าง Sun King และ SunCulture กลับสามารถติดตั้งระบบโซลาร์ให้เกษตรกรได้ภายในไม่กี่วัน ด้วยเงินดาวน์เพียง $100 และจ่ายรายวันผ่านมือถือ

    ระบบเหล่านี้มาพร้อม IoT ที่สามารถตัดไฟหากไม่จ่าย และเปิดไฟเมื่อชำระเงิน ทำให้เกิดวินัยทางการเงิน และอัตราการชำระหนี้สูงถึง 90% ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศที่มีระบบธนาคารเต็มรูปแบบเสียอีก

    ที่น่าทึ่งคือ โมเดลนี้ไม่เพียงให้แสงสว่าง แต่ยังเปลี่ยนชีวิต:
    เกษตรกรสามารถใช้ปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มผลผลิต 3-5 เท่า
    เด็กๆ อ่านหนังสือตอนกลางคืนได้
    ผู้หญิงไม่ต้องสูดควันจากเตาเผาดีเซลหรือถ่านอีกต่อไป

    และทั้งหมดนี้ยังสามารถขายคาร์บอนเครดิตได้อีกด้วย ทำให้ต้นทุนลดลง และขยายตลาดได้มากขึ้น

    สรุปเนื้อหาสำคัญ
    แอฟริกากำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานพลังงานใหม่ด้วยตัวเอง
    ใช้โมเดล Pay-As-You-Go (PAYG) ผ่านมือถือ
    ระบบโซลาร์ติดตั้งง่าย จ่ายรายวันผ่าน M-PESA
    มี IoT ควบคุมการเปิด-ปิดไฟตามการชำระเงิน
    อัตราการชำระหนี้สูงกว่า 90%
    บริษัท Sun King และ SunCulture มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 50%
    ปั๊มน้ำโซลาร์ช่วยเพิ่มรายได้เกษตรกรจาก $600 เป็น $14,000 ต่อเอเคอร์
    คาร์บอนเครดิตช่วยลดต้นทุนลง 25-40%
    มีการลงทุนล่วงหน้าโดยองค์กรต่างประเทศ เช่น British International Investment

    การขยายโมเดลนี้ยังมีความเสี่ยง
    ความผันผวนของค่าเงินในประเทศต่างๆ
    ความเสี่ยงด้านนโยบายจากรัฐบาล
    ความผันผวนของราคาคาร์บอนเครดิต
    ความซับซ้อนในการบำรุงรักษาอุปกรณ์
    ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติหรือความไม่มั่นคงทางการเมือง

    ถ้าโมเดลนี้ขยายไปยังเอเชียใต้ ลาตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกที่ไม่ต้องรอ “สายไฟ” อีกต่อไป แต่ใช้แสงแดดเป็นตัวนำทางสู่อนาคต

    https://climatedrift.substack.com/p/why-solarpunk-is-already-happening
    ☀️ “Solarpunk แอฟริกา – เมื่ออนาคตไม่รอใคร” ลองจินตนาการว่าไฟฟ้าไม่เคยมาเยือนบ้านคุณเลยตลอดชีวิต แล้ววันหนึ่งคุณได้แสงสว่างจากแผงโซลาร์ที่ผ่อนได้ผ่านมือถือ… นี่คือเรื่องจริงของผู้คนกว่า 600 ล้านคนในแอฟริกา ที่ไม่ได้รอให้รัฐบาลหรือธนาคารโลกมาสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ แต่ลุกขึ้นมาสร้างมันเองผ่านโมเดล Solarpunk ที่กำลังเปลี่ยนโลก ในขณะที่โลกพัฒนาแล้วกำลังถกเถียงเรื่องพลังงานสะอาด แอฟริกากำลังลงมือทำจริง ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีราคาถูก การเงินดิจิทัล และโมเดลธุรกิจแบบจ่ายรายวัน (PAYG) ที่ทำให้พลังงานแสงอาทิตย์เข้าถึงได้แม้กับคนที่มีรายได้เพียง $2 ต่อวัน ในอดีต การขยายสายไฟฟ้าไปยังพื้นที่ชนบทต้องใช้เงินมหาศาลและเวลานานหลายสิบปี แต่วันนี้ บริษัทสตาร์ทอัพในแอฟริกาอย่าง Sun King และ SunCulture กลับสามารถติดตั้งระบบโซลาร์ให้เกษตรกรได้ภายในไม่กี่วัน ด้วยเงินดาวน์เพียง $100 และจ่ายรายวันผ่านมือถือ ระบบเหล่านี้มาพร้อม IoT ที่สามารถตัดไฟหากไม่จ่าย และเปิดไฟเมื่อชำระเงิน ทำให้เกิดวินัยทางการเงิน และอัตราการชำระหนี้สูงถึง 90% ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศที่มีระบบธนาคารเต็มรูปแบบเสียอีก ที่น่าทึ่งคือ โมเดลนี้ไม่เพียงให้แสงสว่าง แต่ยังเปลี่ยนชีวิต: 📍 เกษตรกรสามารถใช้ปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มผลผลิต 3-5 เท่า 📍 เด็กๆ อ่านหนังสือตอนกลางคืนได้ 📍 ผู้หญิงไม่ต้องสูดควันจากเตาเผาดีเซลหรือถ่านอีกต่อไป และทั้งหมดนี้ยังสามารถขายคาร์บอนเครดิตได้อีกด้วย ทำให้ต้นทุนลดลง และขยายตลาดได้มากขึ้น 📌 สรุปเนื้อหาสำคัญ ✅ แอฟริกากำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานพลังงานใหม่ด้วยตัวเอง ➡️ ใช้โมเดล Pay-As-You-Go (PAYG) ผ่านมือถือ ➡️ ระบบโซลาร์ติดตั้งง่าย จ่ายรายวันผ่าน M-PESA ➡️ มี IoT ควบคุมการเปิด-ปิดไฟตามการชำระเงิน ➡️ อัตราการชำระหนี้สูงกว่า 90% ➡️ บริษัท Sun King และ SunCulture มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% ➡️ ปั๊มน้ำโซลาร์ช่วยเพิ่มรายได้เกษตรกรจาก $600 เป็น $14,000 ต่อเอเคอร์ ➡️ คาร์บอนเครดิตช่วยลดต้นทุนลง 25-40% ➡️ มีการลงทุนล่วงหน้าโดยองค์กรต่างประเทศ เช่น British International Investment ‼️ การขยายโมเดลนี้ยังมีความเสี่ยง ⛔ ความผันผวนของค่าเงินในประเทศต่างๆ ⛔ ความเสี่ยงด้านนโยบายจากรัฐบาล ⛔ ความผันผวนของราคาคาร์บอนเครดิต ⛔ ความซับซ้อนในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ ⛔ ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติหรือความไม่มั่นคงทางการเมือง ถ้าโมเดลนี้ขยายไปยังเอเชียใต้ ลาตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกที่ไม่ต้องรอ “สายไฟ” อีกต่อไป แต่ใช้แสงแดดเป็นตัวนำทางสู่อนาคต https://climatedrift.substack.com/p/why-solarpunk-is-already-happening
    CLIMATEDRIFT.SUBSTACK.COM
    Why Solarpunk is already happening in Africa
    Or: How Africa is building the future by skipping the past
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • Fwupd 2.0.17 มาแล้ว! เพิ่มการรองรับ SSD และอุปกรณ์ใหม่ พร้อมฟีเจอร์อัปเดตสุดล้ำ

    Fwupd 2.0.17 เวอร์ชันล่าสุดของเครื่องมืออัปเดตเฟิร์มแวร์บน Linux ได้เปิดตัวแล้ว โดยมาพร้อมการรองรับอุปกรณ์ใหม่หลากหลายชนิด รวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยให้การอัปเดตปลอดภัยและแม่นยำยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการควบคุมการอัปเดตฮาร์ดแวร์อย่างมืออาชีพ.

    Fwupd เป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้ผู้ใช้ Linux สามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย โดยเวอร์ชัน 2.0.17 นี้ถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่เพิ่มการรองรับอุปกรณ์ใหม่ เช่น SSD จาก Lexar และ Maxio, เมาส์ Primax Ryder 2, กล้อง Huddly C1, คีย์บอร์ด Framework Copilot และชิป Genesys GL352530/GL352360

    นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ เช่น การรองรับการอัปเดตแบบ phased deployment ฝั่ง client, การใช้ลายเซ็น post-quantum เพื่อความปลอดภัยในอนาคต, และการ dump ข้อมูล eventlog แบบ raw เพื่อการวิเคราะห์เชิงลึก

    เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
    Post-quantum cryptography คือการเข้ารหัสที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการถอดรหัสโดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต
    Phased deployment ช่วยลดความเสี่ยงจากการอัปเดตผิดพลาด โดยทยอยปล่อยอัปเดตให้กลุ่มผู้ใช้ทีละส่วน
    การ dump eventlog แบบ raw ช่วยให้สามารถตรวจสอบปัญหาเฟิร์มแวร์ได้อย่างละเอียด

    รองรับอุปกรณ์ใหม่หลากหลาย
    Lexar และ Maxio NVMe SSDs, ASUS CX9406, Framework Copilot keyboard, Primax Ryder 2 mouse, Huddly C1, Genesys GL352530/GL352360

    เพิ่มฟีเจอร์ client-side phased update deployment
    ช่วยให้การอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นไปอย่างปลอดภัยและควบคุมได้

    รองรับ post-quantum signatures
    เตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามจาก quantum computing

    เพิ่มคำสั่ง fwupdtpmevlog สำหรับ dump eventlog
    เหมาะสำหรับนักวิเคราะห์ระบบและผู้ดูแลเครือข่าย

    รองรับ UDisks รุ่นเก่าและปรับปรุง manpage
    เพิ่มความเข้ากันได้และความเข้าใจในการใช้งาน

    รองรับการ parsing VSS/FTW จาก EFI volumes
    ช่วยให้การจัดการ BIOS และ EFI มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ปรับปรุงการจัดการ composite devices และ BIOS region
    ลดข้อผิดพลาดในการติดตั้งและอัปเดต

    ปรับปรุงการอัปเดต Logitech peripherals และ Dell dock firmware
    เพิ่มความเสถียรและลดข้อผิดพลาดในการใช้งานจริง

    ผู้ใช้ควรอัปเดตผ่าน repository ที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดจากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ

    การใช้งานฟีเจอร์ใหม่อาจต้องศึกษาคำสั่งเพิ่มเติม เช่น fwupdtpmevlog หรือการจัดการ GUID จาก serial number

    https://9to5linux.com/fwupd-2-0-17-released-with-support-for-lexar-and-maxio-nvme-ssds
    🛠️ Fwupd 2.0.17 มาแล้ว! เพิ่มการรองรับ SSD และอุปกรณ์ใหม่ พร้อมฟีเจอร์อัปเดตสุดล้ำ Fwupd 2.0.17 เวอร์ชันล่าสุดของเครื่องมืออัปเดตเฟิร์มแวร์บน Linux ได้เปิดตัวแล้ว โดยมาพร้อมการรองรับอุปกรณ์ใหม่หลากหลายชนิด รวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยให้การอัปเดตปลอดภัยและแม่นยำยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการควบคุมการอัปเดตฮาร์ดแวร์อย่างมืออาชีพ. Fwupd เป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้ผู้ใช้ Linux สามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย โดยเวอร์ชัน 2.0.17 นี้ถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่เพิ่มการรองรับอุปกรณ์ใหม่ เช่น SSD จาก Lexar และ Maxio, เมาส์ Primax Ryder 2, กล้อง Huddly C1, คีย์บอร์ด Framework Copilot และชิป Genesys GL352530/GL352360 นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ เช่น การรองรับการอัปเดตแบบ phased deployment ฝั่ง client, การใช้ลายเซ็น post-quantum เพื่อความปลอดภัยในอนาคต, และการ dump ข้อมูล eventlog แบบ raw เพื่อการวิเคราะห์เชิงลึก 📚 เกร็ดความรู้เพิ่มเติม 💠 Post-quantum cryptography คือการเข้ารหัสที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการถอดรหัสโดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต 💠 Phased deployment ช่วยลดความเสี่ยงจากการอัปเดตผิดพลาด โดยทยอยปล่อยอัปเดตให้กลุ่มผู้ใช้ทีละส่วน 💠 การ dump eventlog แบบ raw ช่วยให้สามารถตรวจสอบปัญหาเฟิร์มแวร์ได้อย่างละเอียด ✅ รองรับอุปกรณ์ใหม่หลากหลาย ➡️ Lexar และ Maxio NVMe SSDs, ASUS CX9406, Framework Copilot keyboard, Primax Ryder 2 mouse, Huddly C1, Genesys GL352530/GL352360 ✅ เพิ่มฟีเจอร์ client-side phased update deployment ➡️ ช่วยให้การอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นไปอย่างปลอดภัยและควบคุมได้ ✅ รองรับ post-quantum signatures ➡️ เตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามจาก quantum computing ✅ เพิ่มคำสั่ง fwupdtpmevlog สำหรับ dump eventlog ➡️ เหมาะสำหรับนักวิเคราะห์ระบบและผู้ดูแลเครือข่าย ✅ รองรับ UDisks รุ่นเก่าและปรับปรุง manpage ➡️ เพิ่มความเข้ากันได้และความเข้าใจในการใช้งาน ✅ รองรับการ parsing VSS/FTW จาก EFI volumes ➡️ ช่วยให้การจัดการ BIOS และ EFI มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ ปรับปรุงการจัดการ composite devices และ BIOS region ➡️ ลดข้อผิดพลาดในการติดตั้งและอัปเดต ✅ ปรับปรุงการอัปเดต Logitech peripherals และ Dell dock firmware ➡️ เพิ่มความเสถียรและลดข้อผิดพลาดในการใช้งานจริง ‼️ ผู้ใช้ควรอัปเดตผ่าน repository ที่ปลอดภัย ⛔ หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดจากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ ‼️ การใช้งานฟีเจอร์ใหม่อาจต้องศึกษาคำสั่งเพิ่มเติม ⛔ เช่น fwupdtpmevlog หรือการจัดการ GUID จาก serial number https://9to5linux.com/fwupd-2-0-17-released-with-support-for-lexar-and-maxio-nvme-ssds
    9TO5LINUX.COM
    Fwupd 2.0.17 Released with Support for Lexar and Maxio NVMe SSDs - 9to5Linux
    Fwupd 2.0.17 Linux firmware updater is now available for download with support for ASUS CX9406 touch controller, Framework Copilot keyboard.
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • Google เปิดตัว Project Suncatcher: ส่งศูนย์ข้อมูล AI ขึ้นสู่อวกาศ!

    Google ประกาศโครงการสุดล้ำ “Project Suncatcher” ที่จะนำศูนย์ข้อมูล AI ขึ้นสู่วงโคจรโลก โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์และเทคโนโลยี TPU เพื่อประมวลผลแบบไร้ขีดจำกัดในอวกาศ พร้อมจับมือ Planet Labs เตรียมปล่อยดาวเทียมต้นแบบภายในปี 2027.

    Google กำลังพลิกโฉมการประมวลผล AI ด้วยแนวคิดใหม่: แทนที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลบนโลกที่ใช้พลังงานมหาศาลและต้องการระบบระบายความร้อนซับซ้อน พวกเขาจะส่งศูนย์ข้อมูลขึ้นสู่อวกาศ!

    โดยใช้ดาวเทียมที่ติดตั้ง TPU (Tensor Processing Units) ซึ่งเป็นชิปประมวลผล AI ของ Google พร้อมแผงโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูงที่สามารถผลิตพลังงานได้มากกว่าแผงบนโลกถึง 8 เท่า

    ข้อดีคือ:
    ได้พลังงานสะอาดตลอด 24 ชั่วโมง
    ไม่ต้องใช้ระบบระบายความร้อนแบบเดิม
    ลดต้นทุนระยะยาวในการดำเนินงาน

    แต่ก็มีความท้าทาย:
    ต้องสร้างระบบสื่อสารที่ส่งข้อมูลได้หลายเทราไบต์ต่อวินาที
    ต้องป้องกัน TPU จากรังสีในอวกาศ ซึ่ง Google ได้ทดสอบแล้วว่า Trillium TPU ทนได้ถึง 5 ปีโดยไม่เสียหาย
    ต้องจัดการความเสี่ยงจากการชนกันของดาวเทียมในวงโคจร

    Google คาดว่าในปี 2035 ต้นทุนการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลในอวกาศจะใกล้เคียงกับบนโลก และจะเป็นทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนสำหรับการพัฒนา AI ในอนาคต

    แนวคิดของ Project Suncatcher
    ส่ง TPU ขึ้นสู่วงโคจรเพื่อประมวลผล AI
    ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูง
    ลดต้นทุนและปัญหาระบบระบายความร้อน

    ความร่วมมือและแผนการดำเนินงาน
    ร่วมมือกับ Planet Labs
    เตรียมปล่อยดาวเทียมต้นแบบภายในปี 2027
    คาดว่าความคุ้มทุนจะเกิดในช่วงปี 2035

    ความท้าทายทางเทคนิค
    ต้องสร้างระบบสื่อสารความเร็วสูงระหว่างดาวเทียม
    ต้องป้องกัน TPU จากรังสีอวกาศ
    ต้องจัดการความเสี่ยงจากการชนกันของดาวเทียม

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    การสื่อสารข้อมูลจากอวกาศยังมีข้อจำกัดด้านความเร็วและความเสถียร
    การจัดการดาวเทียมจำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในวงโคจร
    ต้องมีการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจในระยะยาว

    Project Suncatcher ไม่ใช่แค่การส่งชิปขึ้นฟ้า แต่มันคือการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการประมวลผล AI ที่ไร้ขีดจำกัด… และอาจเปลี่ยนวิธีที่โลกใช้พลังงานและเทคโนโลยีไปตลอดกาล

    https://securityonline.info/orbital-ai-google-unveils-project-suncatcher-to-launch-tpu-data-centers-into-space/
    🚀 Google เปิดตัว Project Suncatcher: ส่งศูนย์ข้อมูล AI ขึ้นสู่อวกาศ! Google ประกาศโครงการสุดล้ำ “Project Suncatcher” ที่จะนำศูนย์ข้อมูล AI ขึ้นสู่วงโคจรโลก โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์และเทคโนโลยี TPU เพื่อประมวลผลแบบไร้ขีดจำกัดในอวกาศ พร้อมจับมือ Planet Labs เตรียมปล่อยดาวเทียมต้นแบบภายในปี 2027. Google กำลังพลิกโฉมการประมวลผล AI ด้วยแนวคิดใหม่: แทนที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลบนโลกที่ใช้พลังงานมหาศาลและต้องการระบบระบายความร้อนซับซ้อน พวกเขาจะส่งศูนย์ข้อมูลขึ้นสู่อวกาศ! โดยใช้ดาวเทียมที่ติดตั้ง TPU (Tensor Processing Units) ซึ่งเป็นชิปประมวลผล AI ของ Google พร้อมแผงโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูงที่สามารถผลิตพลังงานได้มากกว่าแผงบนโลกถึง 8 เท่า ข้อดีคือ: 💠 ได้พลังงานสะอาดตลอด 24 ชั่วโมง 💠 ไม่ต้องใช้ระบบระบายความร้อนแบบเดิม 💠 ลดต้นทุนระยะยาวในการดำเนินงาน แต่ก็มีความท้าทาย: 🎗️ ต้องสร้างระบบสื่อสารที่ส่งข้อมูลได้หลายเทราไบต์ต่อวินาที 🎗️ ต้องป้องกัน TPU จากรังสีในอวกาศ ซึ่ง Google ได้ทดสอบแล้วว่า Trillium TPU ทนได้ถึง 5 ปีโดยไม่เสียหาย 🎗️ ต้องจัดการความเสี่ยงจากการชนกันของดาวเทียมในวงโคจร Google คาดว่าในปี 2035 ต้นทุนการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลในอวกาศจะใกล้เคียงกับบนโลก และจะเป็นทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนสำหรับการพัฒนา AI ในอนาคต ✅ แนวคิดของ Project Suncatcher ➡️ ส่ง TPU ขึ้นสู่วงโคจรเพื่อประมวลผล AI ➡️ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูง ➡️ ลดต้นทุนและปัญหาระบบระบายความร้อน ✅ ความร่วมมือและแผนการดำเนินงาน ➡️ ร่วมมือกับ Planet Labs ➡️ เตรียมปล่อยดาวเทียมต้นแบบภายในปี 2027 ➡️ คาดว่าความคุ้มทุนจะเกิดในช่วงปี 2035 ✅ ความท้าทายทางเทคนิค ➡️ ต้องสร้างระบบสื่อสารความเร็วสูงระหว่างดาวเทียม ➡️ ต้องป้องกัน TPU จากรังสีอวกาศ ➡️ ต้องจัดการความเสี่ยงจากการชนกันของดาวเทียม ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ การสื่อสารข้อมูลจากอวกาศยังมีข้อจำกัดด้านความเร็วและความเสถียร ⛔ การจัดการดาวเทียมจำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในวงโคจร ⛔ ต้องมีการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจในระยะยาว Project Suncatcher ไม่ใช่แค่การส่งชิปขึ้นฟ้า แต่มันคือการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการประมวลผล AI ที่ไร้ขีดจำกัด… และอาจเปลี่ยนวิธีที่โลกใช้พลังงานและเทคโนโลยีไปตลอดกาล https://securityonline.info/orbital-ai-google-unveils-project-suncatcher-to-launch-tpu-data-centers-into-space/
    SECURITYONLINE.INFO
    Orbital AI: Google Unveils Project Suncatcher to Launch TPU Data Centers into Space
    Google announced Project Suncatcher: an ambitious plan to launch TPU-equipped satellites to perform AI computing in space, harnessing limitless solar power and low temperatures.
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • หุ้น MRDIYT ประกันสังคมอาจเจ็บตัว

    ทำเอานักลงทุนใจหายใจคว่ำ เมื่อหุ้น MRDIYT ของบริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร้านค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และสินค้าไลฟ์สไตล์ สัญชาติมาเลเซีย เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 พ.ย. เป็นวันแรก ปรากฎว่าเปิดการซื้อขายที่ 7.05 บาท ต่ำกว่าราคาจองซื้อแบบ IPO ซึ่งกำหนดไว้ที่ 8.60 บาท หรือประมาณ 18% ก่อนที่ราคาจะขยับในระดับ 8 บาท สูงที่สุด 8.70 บาท ก่อนปิดการซื้อขายที่ราคา 8.60 บาท เท่ากับราคาจองซื้อ มูลค่าการซื้อขาย 4,698.30 ล้านบาท

    MRDIYT ประกอบธุรกิจร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ในไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2559 ปัจจุบันมีสาขา 1,027 แห่ง ใน 77 จังหวัด ระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นครั้งแรก 5,600 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระหนี้สินและเงินกู้ยืมที่มีอยู่ของบริษัทฯ รวมถึงเงินกู้ยืมจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย 2,058.40 ล้านบาท ใช้ในการขยายสาขา ลงทุนบริษัทย่อย ซื้อที่ดินสำหรับคลังสินค้าเพิ่มเติม 500 ล้านบาท และใช้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน 721.30 ถึง 845.40 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่ระดมทุนสูงที่สุดในรอบ 3 ปี

    บทความของ สุนันท์ ศรีจันทรา ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 ตั้งข้อสังเกตว่า หุ้น MRDIYT ได้รับความสนใจสูง เพราะเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ขนาดใหญ่ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท แต่การนำหุ้นจำนวน 655 ล้านหุ้น เสนอขายในราคา 8.60 บาท โดยมีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ประมาณ 23 เท่า "ถือว่าเป็นราคาขายที่ไม่ถูกนัก"

    อีกด้านหนึ่ง ยังมีประเด็นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่บางรายนำหุ้น 553 ล้านหุ้น จาก 1,230 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 21% ของทุนจดทะเบียน ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับข้อตกลงทางการเงินส่วนบุคคล หรือ "นำหุ้นไปจำนำ" และเตรียมขายหุ้นในวันแรกที่หุ้นเข้าซื้อขายอีก 4.07% ในราคาเดียวกับราคาที่เสนอขายนักลงทุน นอกจากนั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่ยังเป็นต่างชาติ ซึ่งนักลงทุนหุ้นมูลค่าเพิ่มรายใหญ่บางคนจะหลีกเลี่ยง เพราะกลัวความเสี่ยงจากต่างชาติขายหุ้นทิ้ง หรือถ่ายเทเงินกลับบ้าน ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในหุ้นหลายตัว

    สิ่งที่น่าเป็นห่วงนอกเหนือจากหุ้น MRDIYT ต่ำกว่าราคาจองแล้ว พบว่าหนึ่งในผู้ถิอหุ้น คือ สำนักงานประกันสังคม จองซื้อผ่านทาง บลจ.ทาลิส 8,678,100 หุ้น และ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) อีก 1,225,400 หุ้น รวมแล้ว 9,903,500 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 85,170,100 บาท คนที่เจ็บตัวมากที่สุดคือผู้ประกันตนกว่า 24.8 ล้านราย เพราะกลายเป็นการนำเงินของผู้ประกันตนไปซื้อหุ้นที่ไม่รู้อนาคตว่าจะรุ่งหรือร่วง

    #Newskit
    หุ้น MRDIYT ประกันสังคมอาจเจ็บตัว ทำเอานักลงทุนใจหายใจคว่ำ เมื่อหุ้น MRDIYT ของบริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร้านค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และสินค้าไลฟ์สไตล์ สัญชาติมาเลเซีย เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 พ.ย. เป็นวันแรก ปรากฎว่าเปิดการซื้อขายที่ 7.05 บาท ต่ำกว่าราคาจองซื้อแบบ IPO ซึ่งกำหนดไว้ที่ 8.60 บาท หรือประมาณ 18% ก่อนที่ราคาจะขยับในระดับ 8 บาท สูงที่สุด 8.70 บาท ก่อนปิดการซื้อขายที่ราคา 8.60 บาท เท่ากับราคาจองซื้อ มูลค่าการซื้อขาย 4,698.30 ล้านบาท MRDIYT ประกอบธุรกิจร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ในไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2559 ปัจจุบันมีสาขา 1,027 แห่ง ใน 77 จังหวัด ระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นครั้งแรก 5,600 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระหนี้สินและเงินกู้ยืมที่มีอยู่ของบริษัทฯ รวมถึงเงินกู้ยืมจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย 2,058.40 ล้านบาท ใช้ในการขยายสาขา ลงทุนบริษัทย่อย ซื้อที่ดินสำหรับคลังสินค้าเพิ่มเติม 500 ล้านบาท และใช้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน 721.30 ถึง 845.40 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่ระดมทุนสูงที่สุดในรอบ 3 ปี บทความของ สุนันท์ ศรีจันทรา ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 ตั้งข้อสังเกตว่า หุ้น MRDIYT ได้รับความสนใจสูง เพราะเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ขนาดใหญ่ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท แต่การนำหุ้นจำนวน 655 ล้านหุ้น เสนอขายในราคา 8.60 บาท โดยมีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ประมาณ 23 เท่า "ถือว่าเป็นราคาขายที่ไม่ถูกนัก" อีกด้านหนึ่ง ยังมีประเด็นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่บางรายนำหุ้น 553 ล้านหุ้น จาก 1,230 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 21% ของทุนจดทะเบียน ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับข้อตกลงทางการเงินส่วนบุคคล หรือ "นำหุ้นไปจำนำ" และเตรียมขายหุ้นในวันแรกที่หุ้นเข้าซื้อขายอีก 4.07% ในราคาเดียวกับราคาที่เสนอขายนักลงทุน นอกจากนั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่ยังเป็นต่างชาติ ซึ่งนักลงทุนหุ้นมูลค่าเพิ่มรายใหญ่บางคนจะหลีกเลี่ยง เพราะกลัวความเสี่ยงจากต่างชาติขายหุ้นทิ้ง หรือถ่ายเทเงินกลับบ้าน ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในหุ้นหลายตัว สิ่งที่น่าเป็นห่วงนอกเหนือจากหุ้น MRDIYT ต่ำกว่าราคาจองแล้ว พบว่าหนึ่งในผู้ถิอหุ้น คือ สำนักงานประกันสังคม จองซื้อผ่านทาง บลจ.ทาลิส 8,678,100 หุ้น และ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) อีก 1,225,400 หุ้น รวมแล้ว 9,903,500 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 85,170,100 บาท คนที่เจ็บตัวมากที่สุดคือผู้ประกันตนกว่า 24.8 ล้านราย เพราะกลายเป็นการนำเงินของผู้ประกันตนไปซื้อหุ้นที่ไม่รู้อนาคตว่าจะรุ่งหรือร่วง #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • รอดหมดตัวการใหญ่ๆ เงียบกริบแน่นอน กกต.ฟันนักการเมืองทางปฏิบัติกี่คนกี่โมง,ไม่ใครสิ้นสภาพสส.จากมือกกต.บ้าง,สถิติเวลานี้จบจริงกี่คน, นักการเมืองเกิดจาก กกต.จัดการเลือกตััง กฎกติกาเงื่อนไข กกต.ถือเต็มมือ,ด่านแรกที่นักการเมืองต้องสิ้นสภาพคือกกต.ลงดาบก่อน,ส่วนฝ่ายคนระบบราชการก็ให้ฝ่ายพลเรือนเขาจัดการ.,จริงๆมันจบตัังแต่หน่วยงานราชการนั้นๆลงดาบกันเองแล้ว,หากละเว้นก็ต้องเอาผิดคนทั้งหน่วยงานนั้นให้เป็นเยี่ยงอย่างด้วย,คนในหน่วยงานตนเองแท้ ต่างร่วมกันทำผิดทั้งหน่วยงาน ต้องยุบทิ้งทันที ล้างหน่วยงานบ้างฐานอิทธิพลเก่าทั้งหมดที่มันวางไว้ด้วย,หน่วยงานใหม่ตัดตอนของเก่านั้นเอง,มันจะอ้างหน่วยงานเก่าหาแดกไม่ได้อีก,ตำรวจก็ยุบเสีย,ไปตั้งหน่วยงานชื่อใหม่ว่า หน่วยนายจับองค์กรนายจับแทนชื่อตำรวจก็ได้.
    ..หน่วยงานราชการไหนเสื่อมโทรม ประชาชนหมดศรัทธาก็ยุบทิ้งเถอะ,สำนักงานตำรวจสมควรยุบทิ้ง เปลี่ยนใหม่ว่า สำนักงานนายจับแทน,จากนั้นแยกคนจับ คนสอบสวนสืบสวน คนพิสูจน์ คนพยานออกจากกัน โดยมาหน่วยพิเศษอีกฟน่วยมายืนยันภาพรวมอีกครั้ง.คือหน่วยผูกโยงเชื่อมจบ.,เชื่อมไม่จบ ก็ห้ามปิดคดี,ประชาชนคนไทยจะมีงานทำมาขึ้น จ้างงานสร้างงานมากขึ้นได้,หมอพยาบาล หน่วยงานประสานงานเรื่องราวคดีประจำโรงพยาบาลก็มีมากขึ้นจ้างงานมากขึ้น,ชุดต่างๆอาสาทำคดีปิดคดีรับผลงานแข่งขันกับนายจับหาคนผิดก็มีมากขึ้นได้,ประชาชนจะปลอดภัยไร้เอไอมายุ่งเกี่ยวได้อีก มนุษย์สร้างงานพึ่งพากัน ไร้อาชญากรรมก็สงบสุข.กำจัดคนภายในชั่วเลวพร้อมกับภายนอกเลวชั่วพร้อมๆกันได้คราวเดียวได้อีก,ตาหูประชาชนสำคัญมาก.นายจับคือประชาชนคนไทยในอนาคต,ทหาร,ยาม ,นายจับรวมคือเรา..ประชาชนร่วมกันนี้ล่ะ ปกป้องภัยในบ้านในเมืองตนมิให้เกิดสิ่งไม่ดีขึ้นในชุมชนตนในสังคมตนใกล้บ้านใครมันหมู่บ้านใครมันตำบลใครมัน อำเภอใครมัน จังหวัดใครมันได้โดยง่าย,เราจึงสมควรผลักดันต่างชาติต่างด้าวออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดก่อนดีที่สุดด้วย,ที่ยุ่งวุ่นวายนี้จริงๆส่วนใหญ่คนพวกนี้ก่อเหตุทั้งสิ้นโดยมาก,รองลงมาคือคนภายในชาติไทยเราเอง,ซึ่งควบคุมดูแลจะง่ายกว่าต่างชาติ.,แก๊งชั่วเลวเหล่านี้ก็คนต่างชาติ เงินจากภายนอกทั้งสิ้นเอามาสร้างความไม่สงบสุขในบ้านในเมืองไทยเรา.

    https://youtube.com/watch?v=i9q4vxSWGUQ&si=VclVKoNTcODJ8Kh_

    รอดหมดตัวการใหญ่ๆ เงียบกริบแน่นอน กกต.ฟันนักการเมืองทางปฏิบัติกี่คนกี่โมง,ไม่ใครสิ้นสภาพสส.จากมือกกต.บ้าง,สถิติเวลานี้จบจริงกี่คน, นักการเมืองเกิดจาก กกต.จัดการเลือกตััง กฎกติกาเงื่อนไข กกต.ถือเต็มมือ,ด่านแรกที่นักการเมืองต้องสิ้นสภาพคือกกต.ลงดาบก่อน,ส่วนฝ่ายคนระบบราชการก็ให้ฝ่ายพลเรือนเขาจัดการ.,จริงๆมันจบตัังแต่หน่วยงานราชการนั้นๆลงดาบกันเองแล้ว,หากละเว้นก็ต้องเอาผิดคนทั้งหน่วยงานนั้นให้เป็นเยี่ยงอย่างด้วย,คนในหน่วยงานตนเองแท้ ต่างร่วมกันทำผิดทั้งหน่วยงาน ต้องยุบทิ้งทันที ล้างหน่วยงานบ้างฐานอิทธิพลเก่าทั้งหมดที่มันวางไว้ด้วย,หน่วยงานใหม่ตัดตอนของเก่านั้นเอง,มันจะอ้างหน่วยงานเก่าหาแดกไม่ได้อีก,ตำรวจก็ยุบเสีย,ไปตั้งหน่วยงานชื่อใหม่ว่า หน่วยนายจับองค์กรนายจับแทนชื่อตำรวจก็ได้. ..หน่วยงานราชการไหนเสื่อมโทรม ประชาชนหมดศรัทธาก็ยุบทิ้งเถอะ,สำนักงานตำรวจสมควรยุบทิ้ง เปลี่ยนใหม่ว่า สำนักงานนายจับแทน,จากนั้นแยกคนจับ คนสอบสวนสืบสวน คนพิสูจน์ คนพยานออกจากกัน โดยมาหน่วยพิเศษอีกฟน่วยมายืนยันภาพรวมอีกครั้ง.คือหน่วยผูกโยงเชื่อมจบ.,เชื่อมไม่จบ ก็ห้ามปิดคดี,ประชาชนคนไทยจะมีงานทำมาขึ้น จ้างงานสร้างงานมากขึ้นได้,หมอพยาบาล หน่วยงานประสานงานเรื่องราวคดีประจำโรงพยาบาลก็มีมากขึ้นจ้างงานมากขึ้น,ชุดต่างๆอาสาทำคดีปิดคดีรับผลงานแข่งขันกับนายจับหาคนผิดก็มีมากขึ้นได้,ประชาชนจะปลอดภัยไร้เอไอมายุ่งเกี่ยวได้อีก มนุษย์สร้างงานพึ่งพากัน ไร้อาชญากรรมก็สงบสุข.กำจัดคนภายในชั่วเลวพร้อมกับภายนอกเลวชั่วพร้อมๆกันได้คราวเดียวได้อีก,ตาหูประชาชนสำคัญมาก.นายจับคือประชาชนคนไทยในอนาคต,ทหาร,ยาม ,นายจับรวมคือเรา..ประชาชนร่วมกันนี้ล่ะ ปกป้องภัยในบ้านในเมืองตนมิให้เกิดสิ่งไม่ดีขึ้นในชุมชนตนในสังคมตนใกล้บ้านใครมันหมู่บ้านใครมันตำบลใครมัน อำเภอใครมัน จังหวัดใครมันได้โดยง่าย,เราจึงสมควรผลักดันต่างชาติต่างด้าวออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดก่อนดีที่สุดด้วย,ที่ยุ่งวุ่นวายนี้จริงๆส่วนใหญ่คนพวกนี้ก่อเหตุทั้งสิ้นโดยมาก,รองลงมาคือคนภายในชาติไทยเราเอง,ซึ่งควบคุมดูแลจะง่ายกว่าต่างชาติ.,แก๊งชั่วเลวเหล่านี้ก็คนต่างชาติ เงินจากภายนอกทั้งสิ้นเอามาสร้างความไม่สงบสุขในบ้านในเมืองไทยเรา. https://youtube.com/watch?v=i9q4vxSWGUQ&si=VclVKoNTcODJ8Kh_
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • 555,ย่อมาดู เหมือนๆประเทศไทยกูเลยเวลานีั สาระพัดเหี้ยเต็มแผ่นดินไปหมด, "..อนาคตฉันไม่มีจริงๆ.." ประเทศไทยเรากำลังผ่าน18ฝนแน่ๆ กำลังหาตัวตนให้เจอประมาณนั้น.

    ..เรียบง่าย สมถะคือสไตล์ไทๆเรา.,อัดศีลอัดธรรมให้เข้มข้น ปลดปล่อยความร่ำรวยมั่งคั่งลงมา ไม่ปากกัดตีนถีบจากโปรแกรมแผนการชั่วเลวที่มันสร้างให้คนไทยเป็นเช่นนั้นแบบในปัจจุบัน รวยหนี้สิน อัดความยากจน เหยียบย่ำตราหน้าด้วยบัตรคนจนค้ำประกันความยากจนอีกโคตรๆเลยล่ะ,เพราะมันปกครองให้เรายากจน,ดูดแดกบ่อน้ำมันบ่อทองคำสร้างร่ำรวยให้มัน ปล้นชิงไปจากคนไทยทั้งประเทศ แร่เอิร์ธคือตย.ชัดเจนในบริบทปัจจุบัน ส่วนในอดีตก็บ่อน้ำมันเต็มบ้านเต็มเมืองไทย บ่อทองคำเป็นต้นที่ชัดเจนเห็นเป็นข่าวกัน.

    ..18ฝน,ฟังให้เพราะๆ..สำหรับคนยุค90.

    https://youtu.be/p_XfcRvcoqw?si=mWvMaADpqTDlOwvE


    555,ย่อมาดู เหมือนๆประเทศไทยกูเลยเวลานีั สาระพัดเหี้ยเต็มแผ่นดินไปหมด, "..อนาคตฉันไม่มีจริงๆ.." ประเทศไทยเรากำลังผ่าน18ฝนแน่ๆ กำลังหาตัวตนให้เจอประมาณนั้น. ..เรียบง่าย สมถะคือสไตล์ไทๆเรา.,อัดศีลอัดธรรมให้เข้มข้น ปลดปล่อยความร่ำรวยมั่งคั่งลงมา ไม่ปากกัดตีนถีบจากโปรแกรมแผนการชั่วเลวที่มันสร้างให้คนไทยเป็นเช่นนั้นแบบในปัจจุบัน รวยหนี้สิน อัดความยากจน เหยียบย่ำตราหน้าด้วยบัตรคนจนค้ำประกันความยากจนอีกโคตรๆเลยล่ะ,เพราะมันปกครองให้เรายากจน,ดูดแดกบ่อน้ำมันบ่อทองคำสร้างร่ำรวยให้มัน ปล้นชิงไปจากคนไทยทั้งประเทศ แร่เอิร์ธคือตย.ชัดเจนในบริบทปัจจุบัน ส่วนในอดีตก็บ่อน้ำมันเต็มบ้านเต็มเมืองไทย บ่อทองคำเป็นต้นที่ชัดเจนเห็นเป็นข่าวกัน. ..18ฝน,ฟังให้เพราะๆ..สำหรับคนยุค90. https://youtu.be/p_XfcRvcoqw?si=mWvMaADpqTDlOwvE
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • ใครเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งฟอกทองคำฟอกเงินค้ามนุษย์ของเถื่อนค้ายาค้าอาวุธตลอดจนอาชญากรรมใดๆ,ดูกระแสเงินสด การไหลเวียนของเงินเชื่อมโยงใครบ้างก็รู้หมดจากแบงค์ชาตินั้นล่ะ,เพราะเบื้องต้นมันทำเพื่อเงินเพื่อตังทั้งหมด,กระแสเงินไหลเข้าไหลออกบัญชีใครผิดปกติ แบงค์ชาติไทยเห็นหมดล่ะ ไหลออกประเทศเข้าประเทศก็เห็นหมด, ต่างชาติทำธุรกรรมผิดปกติใดๆในไทยก็รับระบบตรวจสอบได้หมด,จบที่แบงค์ชาติหมด,แต่แบงค์ชาติเป็นของอีลิทdeep stateตระกูลชั่วสากลโลก ทั่วโลกธนาคารในแต่ละประเทศทุกๆประเทศที่มีธนาคารกลางล้วนมันคือเจ้าของ รัฐประเทศไหนๆนั้นๆจึงถูกพวกมันกั้นออกไป ไม่สามารถเข้าไปปกครองหรือสั่งงานสั่งการ ออกคำสั่งใดๆเด็ดขาดให้ทำตามรัฐบาลประเทศนั้นๆได้ ควบคุมเด็ดขาดไม่ได้ มุกสวยหรูคือ ให้ธนาคารชาตินั้นๆขึ้นเป็นอิสระจากคำสั่งปกครองของรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ย่อมาไทยคือแบงค์ชาติเป็นอิสระจากการบริหารจากการปกครองจากคำสั่งให้บังคับใช้ได้ทันทีแก่แบงค์ชาติไทยไม่ได้ มุกอีลิทซาตาน ยึดธนาคารกลางแบงค์ชาติประเทศใดได้บนทั่วโลกเสมือนยึดปกครองเศรษฐกิจภายในการปกครองทางเมืองประเทศนั้นๆทั้งทางตรงและทางอ้อมได้เด็ดขาดเกือบ100%ได้แล้ว,จึงไม่แปลกใจทำไม กลุ่มธนาคารในตลาดsetจึงมีผลประการเป็นเขียวเป็นบวกในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นทั้งตลาดในยามวิกฤติโลกแดงเต็มไปหมดในตลาดsetไทย,แต่กลุ่มแบงค์กลับมีกำไรเป็นว่าเล่นเพราะอีลิทมารซาตานโลกสั่งนั้นเองในไทยเรา.
    ..เงินดิจิดัลมันก็สั่งปูพรมในไทยปูทางให้เกิดให้ได้จึงเร่งรีบให้ถือกำเนิดตัวละครเงินดิจิดัลขึ้น,การอ้างเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เงินฟอกเงินปั่นเงินเทามาซื้อเสียงเลือกตังก็ให้คนไทยหันเหว่าการใช้ตังกระดาษไม่ดีมันใช้ซื้อเสียงได้ง่าย มาเปลี่ยนใช้เงินดิจิดัลเถอะ ทำให้เห็นว่าคนขายเสียงซื้อเสียงได้จับกุม ตรวจสอบใดๆย้อนหลังหรือเรียลไทม์ได้หมด,มันต้อนผู้คนชาวไทยไปอีกคอกหนึ่งคอกควายคอกวัวคอกแพะคอกแกะสู่การควบคุมตรวจสอบได้เด็ดขาดขึ้นในอนาคต,ทั้งหมดมากมายมันบีบให้เข้าไปในกรอบในกระดานในแผนในวาระแผนการมันทั้งหมด,กฎหมายคาร์บอนเครดิตการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็เขียนเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว ,ใช้pm2.5คือข้ออ้างควบคุมมนุษย์คนไทย.
    ..เงินๆๆๆและเงิน มันจะทำลายระบบเงินเก่า ทาสเงินกระดาษเก่า เปลี่ยนไปสู่ยุคทาสเงินที่จับต้องไม่ได้ ทาสเงินอากาศอิเล็กทรอนิกส์เงินลมๆเงินแล้งๆจริง คือเงินดิจิดัลที่กำหนดเงื่อนไขการดำเนินชีวิตของทุกๆคนบนโลกนี้ได้,คอกควบคุมอิสระภาพ คอกควบคุมเจตนำนงเสรีคุณทั้งโลก.
    ..สงครามไทยเขมร สงครามดินแดนคือหมากล่อปลอม,แหกตาคนไทย ของจริงคือลดประชากรไทย1 ควบคุมคนไทย1ให้เด็ดขาดให้ได้,ยึดประเทศไทยได้ยิ่งดี1อย่างเปิดเผยและออกหน้าออกตากว่าในอดีตที่เคยผ่านมานั้น,อดีตที่เคยผ่านมาจากผลงานการยึดบ่อน้ำมันทั่วไทยและบ่อทองคำทั่วแผ่นดินเป็นของต่างชาติของพวกมันทางลับผ่านทางรัฐบาลขี้ข้าส้นตีนมันสั่งซ้ายสั่งขวาได้หมดในอดีตถึงปัจจุบันนี้ล่ะ ล่าสุดแร่เอิร์ธเต็มๆ.,ตลอดแร่มีค่ามหาศาลมากมายอื่นอีกเพรียบ,มันปกครอง มันยึดควบคุมหลังฉากเบื้องหลังเราคนไทยตลอด,ทหารไทยมากมายจึงทำชั่วเลวสนองฝ่ายมันอยู่ฝ่ายมันเป็นอันมากยึดอำนาจมาได้ มันจึงเขียนกฎหมายมากมายเต็มประเทศไทยมาบังคับกดขี่ข่มเหงคนไทยมากมายมาโดยตลอด กฎหมายไม่สมควรออก ปัญญาอ่อนมันก็เขียนออกมาตลอดอย่างง่ายดาย mouห่าเหวใดๆก็ตกลงกันตามอำเภอใจในอดีต กฎหมายอะไรคนดีเราเขียนกั้นไว้มันก็ฉีกทิ้งเขียนใหม่เพื่อปกป้องเดอะแก๊งเดอะก๊กเดอะคนของฝ่ายมัน อำนวยคนฝ่ายมันมานั่งปกครองในตำแหน่งใหญ่โตเต็มบ้านเต็มเมืองกระจายตัวทั่วประเทศไปหมด,ยุคศิวิไลซ์ฝ่ายชั่วเลวประจำโลกในประเทศไทยก็ได้.
    ..จริงๆคนไทยไม่สมควรอยู่ในสถานะยากจนเลย แต่เพราะมันยึดหัวปกครองหัวเราได้ ทั้งตัวจึงเสียหาย ผีบ้าไม่เต็มส่วนไปหมด,ส่วนดีหน่อยคุ้มดีก็หยิบนั้นนี้ใส่ปากพออยู่ได้ เส้นเสียเป็นหงิกเป็นหงอย ส่วนไม่ดีทั่วร่างกายเว้นไว้ส่วนดีเช่นคนดีในบ้านในเมืองเรายังมีอยู่ก็พอกินยาแก้หงิกหงอยทันกาลบ้างจังหวะได้,อดีตตัังแต่เราเสียดินแดนให้นักล่าอาณานิคมนั้นล่ะ จนเหลือแค่แผ่นดินไทยในปัจจุบันนี้ได้มันเริ่มกระบวนการเอาประเทศไทยมาแล้วจนถึงปัจจุบันมันก็จะเอาให้ได้นั่นเอง,ปรับวิธีการกลยุทธมาโดยตลอด,จนสุดท้ายสำเร็จบังคับคนไทยฉีดตายได้ในยุคลุงกว่าร้อยๆโดส คนละ1-2เข็ม กว่า60ล้านคนถูกฉีดตาย,ยุคลุงจึงเป็นการยึดอำนาจอย่างมีการวางแผนการไว้ดีแล้วเพื่อเตรียมฉีดตายนี้ล่ะของจริง,รวมทั้งผีบ้าแบบเขมรที่เปิดยิงระเบิดใส่ไทยก่อน มันก็สร้างเหตุสร้างแผนการปัจจัยวางหมากรอแล้ว เช่นนั้นเขมรผีบ้าไม่กล้าหรอก.,ให้ร้อยความกล้าก็ไม่ทำ,จนรีบให้มาเลย์อเมริกามาช่วยหยุดไทยฆ่าฝ่ายมันก่อนถึงพนมเปญ.เสียแผนด้วย จีนคอมมิวนิสต์ก็ด้วย เสียแผนจีนเช่นกัน,โลกนี้จริงๆทุกๆประเทศยืนหนึ่งไม่สู้ไทย อีลิทฝ่ายมืดทั่วโลกกลัวประเทศไทยที่สุด ตลอดต่างดาวใต้ทะเลมหาสมุทรก็ด้วย,ทั้งเกรงใจ ทั้งกลัวคนไทยสายพุทธ เพราะพวกนี้บรรลุธรรมได้ของจริง มีพลังสนามแม่เหล็กขั้นหลุดพ้นเหนือพลังมันได้หมดด้วย,ถ้าปล่อยคนไทยเจริญทางจิตวิญญาณ สุขกายสุขใจ มันจะเจริญสุขทางใจได้สะดวก บรรลุธรรมได้ไวได้ดีได้ง่าย ซวยคือฝ่ายมืดมารมันจะลำบากเพราะคนไทยจะเห็นแจ้งต่อหมดไปหมดไร้ที่ซ่อนใดๆนั้นเอง ยิ่งสามัคคีกันทั่วไทยอีก บรรลัยทั้งอาณาจักรฝ่ายมืดมันนี้,ประเทศนี้จึงห้ามสงบสุขทุกๆกรณี วุ่นวาย โกลาหลให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาให้ได้ ทำลายสถาบันกษัตริย์มันคือสิ่งแรกทันที จึงเกิดพวกชูสามนิ้วเปิดหน้าชกอย่างชัดเจนกว่าในอดีตที่ผ่านๆมา.,เพราะยุคสุดท้ายเวลานี้ คือยกจบ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจบ รู้ผลแพ้ชนะ,มืดปกครองโลกก็เวลานี้เลย,แสงขาวฝ่ายดีปกครองโลกก็ช่วงจังหวะเวลานี้เลย,ไทม์ไลน์เวลาเราคือช่วงนี้ก็ช่วงนี้ มิติอื่นก็มิติอื่น ปัจจุบันคือช่วงเวลาเราบนสมมุติโลกในขณะนี้,
    ..ไทยจะเป็นไทยหรือเมืองหลวงของอีลิทซาตานโลกก็เวลานี้ล่ะ.

    ..สถานะใดๆเราคนไทยสามัคคีกันจะร่วมกันเป็นได้ในยุคเราในรุ่นเรา,นรกหรือสวรรค์คนไทย เรา..คนไทยช่วยกันเลือกได้,เพราะเราคือสังคมใหญ่ระดับชาติประเทศมิอาจอยู่คนเดียวหรือข้าคือตำนานหนึ่งเดียวไม่ได้,ไปไหน..เราคนไทยอยู่ร่วมกันไปด้วยกันหมด,เพราะเราอยู่บ้านเดียวกัน นี้คือบ้านเรา คือแผ่นดินเรา ที่เราอาศัยเกิด อาศัยแก่ อาศัยตาย.,ไม่มีชาติใดๆจะรักคนไทยได้ดีกว่าคนไทยรักกันเองหรอก.,คนอเมริกาทั้งประเทศมารักคนไทยดีกว่าคนไทยมั้ย,คนฝรั่งยุโรปจะมีรักคนไทยรักแผ่นดินไทยดีกว่าคนไทยจริงเหรอ อดีตเห็นแต่มาปล้นมาชิงสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายขนกลับไปเสวยสุขในชาติประเทศมัน,เรา..คนไทยต้องสามัคคี มารักกัน ไม่ก้าวล่วงทำร้ายทำลายกันภายในกันเอง จะนับถือศาสนาความเชื่อใดๆ เราต้องรักและสามัคคีกันปกป้องแผ่นดินไทยเรา,เรา..คนไทยไปอาศัยแผ่นดินคนอื่นอยู่ บ้านคนอื่นตายคนอื่นนอนมีความสุขจริงๆเหรอ.,แผ่นดินไทยเท่านั้นที่เติมเต็มสมบูรณ์ทุกๆคำตอบในจิตในใจเราอย่างลงใจ.

    ..ทหารไทยต้องยึดอำนาจเท่านั้นคือหนทางออกเดียว.,จะแก้ทั้งกระดานหมากพวกชั่วเลวนี้ทั้งผูกทั้งวางได้หมด,ทำลายเพื่อสร้างใหม่ให้ดีๆก็ได้.มันเน่ามันพังไปหมดแล้ว.

    https://youtu.be/0uY1iVWLMec?si=SipLS_hw1f3kgQA2
    ใครเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งฟอกทองคำฟอกเงินค้ามนุษย์ของเถื่อนค้ายาค้าอาวุธตลอดจนอาชญากรรมใดๆ,ดูกระแสเงินสด การไหลเวียนของเงินเชื่อมโยงใครบ้างก็รู้หมดจากแบงค์ชาตินั้นล่ะ,เพราะเบื้องต้นมันทำเพื่อเงินเพื่อตังทั้งหมด,กระแสเงินไหลเข้าไหลออกบัญชีใครผิดปกติ แบงค์ชาติไทยเห็นหมดล่ะ ไหลออกประเทศเข้าประเทศก็เห็นหมด, ต่างชาติทำธุรกรรมผิดปกติใดๆในไทยก็รับระบบตรวจสอบได้หมด,จบที่แบงค์ชาติหมด,แต่แบงค์ชาติเป็นของอีลิทdeep stateตระกูลชั่วสากลโลก ทั่วโลกธนาคารในแต่ละประเทศทุกๆประเทศที่มีธนาคารกลางล้วนมันคือเจ้าของ รัฐประเทศไหนๆนั้นๆจึงถูกพวกมันกั้นออกไป ไม่สามารถเข้าไปปกครองหรือสั่งงานสั่งการ ออกคำสั่งใดๆเด็ดขาดให้ทำตามรัฐบาลประเทศนั้นๆได้ ควบคุมเด็ดขาดไม่ได้ มุกสวยหรูคือ ให้ธนาคารชาตินั้นๆขึ้นเป็นอิสระจากคำสั่งปกครองของรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ย่อมาไทยคือแบงค์ชาติเป็นอิสระจากการบริหารจากการปกครองจากคำสั่งให้บังคับใช้ได้ทันทีแก่แบงค์ชาติไทยไม่ได้ มุกอีลิทซาตาน ยึดธนาคารกลางแบงค์ชาติประเทศใดได้บนทั่วโลกเสมือนยึดปกครองเศรษฐกิจภายในการปกครองทางเมืองประเทศนั้นๆทั้งทางตรงและทางอ้อมได้เด็ดขาดเกือบ100%ได้แล้ว,จึงไม่แปลกใจทำไม กลุ่มธนาคารในตลาดsetจึงมีผลประการเป็นเขียวเป็นบวกในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นทั้งตลาดในยามวิกฤติโลกแดงเต็มไปหมดในตลาดsetไทย,แต่กลุ่มแบงค์กลับมีกำไรเป็นว่าเล่นเพราะอีลิทมารซาตานโลกสั่งนั้นเองในไทยเรา. ..เงินดิจิดัลมันก็สั่งปูพรมในไทยปูทางให้เกิดให้ได้จึงเร่งรีบให้ถือกำเนิดตัวละครเงินดิจิดัลขึ้น,การอ้างเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เงินฟอกเงินปั่นเงินเทามาซื้อเสียงเลือกตังก็ให้คนไทยหันเหว่าการใช้ตังกระดาษไม่ดีมันใช้ซื้อเสียงได้ง่าย มาเปลี่ยนใช้เงินดิจิดัลเถอะ ทำให้เห็นว่าคนขายเสียงซื้อเสียงได้จับกุม ตรวจสอบใดๆย้อนหลังหรือเรียลไทม์ได้หมด,มันต้อนผู้คนชาวไทยไปอีกคอกหนึ่งคอกควายคอกวัวคอกแพะคอกแกะสู่การควบคุมตรวจสอบได้เด็ดขาดขึ้นในอนาคต,ทั้งหมดมากมายมันบีบให้เข้าไปในกรอบในกระดานในแผนในวาระแผนการมันทั้งหมด,กฎหมายคาร์บอนเครดิตการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็เขียนเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว ,ใช้pm2.5คือข้ออ้างควบคุมมนุษย์คนไทย. ..เงินๆๆๆและเงิน มันจะทำลายระบบเงินเก่า ทาสเงินกระดาษเก่า เปลี่ยนไปสู่ยุคทาสเงินที่จับต้องไม่ได้ ทาสเงินอากาศอิเล็กทรอนิกส์เงินลมๆเงินแล้งๆจริง คือเงินดิจิดัลที่กำหนดเงื่อนไขการดำเนินชีวิตของทุกๆคนบนโลกนี้ได้,คอกควบคุมอิสระภาพ คอกควบคุมเจตนำนงเสรีคุณทั้งโลก. ..สงครามไทยเขมร สงครามดินแดนคือหมากล่อปลอม,แหกตาคนไทย ของจริงคือลดประชากรไทย1 ควบคุมคนไทย1ให้เด็ดขาดให้ได้,ยึดประเทศไทยได้ยิ่งดี1อย่างเปิดเผยและออกหน้าออกตากว่าในอดีตที่เคยผ่านมานั้น,อดีตที่เคยผ่านมาจากผลงานการยึดบ่อน้ำมันทั่วไทยและบ่อทองคำทั่วแผ่นดินเป็นของต่างชาติของพวกมันทางลับผ่านทางรัฐบาลขี้ข้าส้นตีนมันสั่งซ้ายสั่งขวาได้หมดในอดีตถึงปัจจุบันนี้ล่ะ ล่าสุดแร่เอิร์ธเต็มๆ.,ตลอดแร่มีค่ามหาศาลมากมายอื่นอีกเพรียบ,มันปกครอง มันยึดควบคุมหลังฉากเบื้องหลังเราคนไทยตลอด,ทหารไทยมากมายจึงทำชั่วเลวสนองฝ่ายมันอยู่ฝ่ายมันเป็นอันมากยึดอำนาจมาได้ มันจึงเขียนกฎหมายมากมายเต็มประเทศไทยมาบังคับกดขี่ข่มเหงคนไทยมากมายมาโดยตลอด กฎหมายไม่สมควรออก ปัญญาอ่อนมันก็เขียนออกมาตลอดอย่างง่ายดาย mouห่าเหวใดๆก็ตกลงกันตามอำเภอใจในอดีต กฎหมายอะไรคนดีเราเขียนกั้นไว้มันก็ฉีกทิ้งเขียนใหม่เพื่อปกป้องเดอะแก๊งเดอะก๊กเดอะคนของฝ่ายมัน อำนวยคนฝ่ายมันมานั่งปกครองในตำแหน่งใหญ่โตเต็มบ้านเต็มเมืองกระจายตัวทั่วประเทศไปหมด,ยุคศิวิไลซ์ฝ่ายชั่วเลวประจำโลกในประเทศไทยก็ได้. ..จริงๆคนไทยไม่สมควรอยู่ในสถานะยากจนเลย แต่เพราะมันยึดหัวปกครองหัวเราได้ ทั้งตัวจึงเสียหาย ผีบ้าไม่เต็มส่วนไปหมด,ส่วนดีหน่อยคุ้มดีก็หยิบนั้นนี้ใส่ปากพออยู่ได้ เส้นเสียเป็นหงิกเป็นหงอย ส่วนไม่ดีทั่วร่างกายเว้นไว้ส่วนดีเช่นคนดีในบ้านในเมืองเรายังมีอยู่ก็พอกินยาแก้หงิกหงอยทันกาลบ้างจังหวะได้,อดีตตัังแต่เราเสียดินแดนให้นักล่าอาณานิคมนั้นล่ะ จนเหลือแค่แผ่นดินไทยในปัจจุบันนี้ได้มันเริ่มกระบวนการเอาประเทศไทยมาแล้วจนถึงปัจจุบันมันก็จะเอาให้ได้นั่นเอง,ปรับวิธีการกลยุทธมาโดยตลอด,จนสุดท้ายสำเร็จบังคับคนไทยฉีดตายได้ในยุคลุงกว่าร้อยๆโดส คนละ1-2เข็ม กว่า60ล้านคนถูกฉีดตาย,ยุคลุงจึงเป็นการยึดอำนาจอย่างมีการวางแผนการไว้ดีแล้วเพื่อเตรียมฉีดตายนี้ล่ะของจริง,รวมทั้งผีบ้าแบบเขมรที่เปิดยิงระเบิดใส่ไทยก่อน มันก็สร้างเหตุสร้างแผนการปัจจัยวางหมากรอแล้ว เช่นนั้นเขมรผีบ้าไม่กล้าหรอก.,ให้ร้อยความกล้าก็ไม่ทำ,จนรีบให้มาเลย์อเมริกามาช่วยหยุดไทยฆ่าฝ่ายมันก่อนถึงพนมเปญ.เสียแผนด้วย จีนคอมมิวนิสต์ก็ด้วย เสียแผนจีนเช่นกัน,โลกนี้จริงๆทุกๆประเทศยืนหนึ่งไม่สู้ไทย อีลิทฝ่ายมืดทั่วโลกกลัวประเทศไทยที่สุด ตลอดต่างดาวใต้ทะเลมหาสมุทรก็ด้วย,ทั้งเกรงใจ ทั้งกลัวคนไทยสายพุทธ เพราะพวกนี้บรรลุธรรมได้ของจริง มีพลังสนามแม่เหล็กขั้นหลุดพ้นเหนือพลังมันได้หมดด้วย,ถ้าปล่อยคนไทยเจริญทางจิตวิญญาณ สุขกายสุขใจ มันจะเจริญสุขทางใจได้สะดวก บรรลุธรรมได้ไวได้ดีได้ง่าย ซวยคือฝ่ายมืดมารมันจะลำบากเพราะคนไทยจะเห็นแจ้งต่อหมดไปหมดไร้ที่ซ่อนใดๆนั้นเอง ยิ่งสามัคคีกันทั่วไทยอีก บรรลัยทั้งอาณาจักรฝ่ายมืดมันนี้,ประเทศนี้จึงห้ามสงบสุขทุกๆกรณี วุ่นวาย โกลาหลให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาให้ได้ ทำลายสถาบันกษัตริย์มันคือสิ่งแรกทันที จึงเกิดพวกชูสามนิ้วเปิดหน้าชกอย่างชัดเจนกว่าในอดีตที่ผ่านๆมา.,เพราะยุคสุดท้ายเวลานี้ คือยกจบ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจบ รู้ผลแพ้ชนะ,มืดปกครองโลกก็เวลานี้เลย,แสงขาวฝ่ายดีปกครองโลกก็ช่วงจังหวะเวลานี้เลย,ไทม์ไลน์เวลาเราคือช่วงนี้ก็ช่วงนี้ มิติอื่นก็มิติอื่น ปัจจุบันคือช่วงเวลาเราบนสมมุติโลกในขณะนี้, ..ไทยจะเป็นไทยหรือเมืองหลวงของอีลิทซาตานโลกก็เวลานี้ล่ะ. ..สถานะใดๆเราคนไทยสามัคคีกันจะร่วมกันเป็นได้ในยุคเราในรุ่นเรา,นรกหรือสวรรค์คนไทย เรา..คนไทยช่วยกันเลือกได้,เพราะเราคือสังคมใหญ่ระดับชาติประเทศมิอาจอยู่คนเดียวหรือข้าคือตำนานหนึ่งเดียวไม่ได้,ไปไหน..เราคนไทยอยู่ร่วมกันไปด้วยกันหมด,เพราะเราอยู่บ้านเดียวกัน นี้คือบ้านเรา คือแผ่นดินเรา ที่เราอาศัยเกิด อาศัยแก่ อาศัยตาย.,ไม่มีชาติใดๆจะรักคนไทยได้ดีกว่าคนไทยรักกันเองหรอก.,คนอเมริกาทั้งประเทศมารักคนไทยดีกว่าคนไทยมั้ย,คนฝรั่งยุโรปจะมีรักคนไทยรักแผ่นดินไทยดีกว่าคนไทยจริงเหรอ อดีตเห็นแต่มาปล้นมาชิงสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายขนกลับไปเสวยสุขในชาติประเทศมัน,เรา..คนไทยต้องสามัคคี มารักกัน ไม่ก้าวล่วงทำร้ายทำลายกันภายในกันเอง จะนับถือศาสนาความเชื่อใดๆ เราต้องรักและสามัคคีกันปกป้องแผ่นดินไทยเรา,เรา..คนไทยไปอาศัยแผ่นดินคนอื่นอยู่ บ้านคนอื่นตายคนอื่นนอนมีความสุขจริงๆเหรอ.,แผ่นดินไทยเท่านั้นที่เติมเต็มสมบูรณ์ทุกๆคำตอบในจิตในใจเราอย่างลงใจ. ..ทหารไทยต้องยึดอำนาจเท่านั้นคือหนทางออกเดียว.,จะแก้ทั้งกระดานหมากพวกชั่วเลวนี้ทั้งผูกทั้งวางได้หมด,ทำลายเพื่อสร้างใหม่ให้ดีๆก็ได้.มันเน่ามันพังไปหมดแล้ว. https://youtu.be/0uY1iVWLMec?si=SipLS_hw1f3kgQA2
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews



  • ..มามุกเดือดร้อนใหม่อีกแล้วคงไม่ต่างจากคริปโตฯตังดิจิดัล500,000ล้านหรอก,เตรียมคริปโต เตรียมบริษัทไว้รอพร้อมหมดแล้ว,สูบบุหรี่นอนรอนานแล้วนั้นเอง,ค่านั้นค่านี้สาระพัดตกลงกันลงตัวไว้แล้ว.
    ..เงินหลวงแม้โกงหรือทุจริตไป 1 บาท ก็คือคตโกง คือทุจริต คือไม่ซื่อสัตย์ โทษต้องสมควรหนักกว่าโจรปล้นร้านทองคำ นี้คือนักการเมืองด้วย 1บาทก็ต้องโทษหนัก เมื่ออาสามารับใช้ชาติรับใช้ประเทศ รับใช้คนไทย ,จริงๆแค่แฉเรื่องทุจริตต่างๆจะสแกมเมอร์จะฟอกเงินจะตำรวจยุ่งเกี่ยวจะรมต.คนนักการเมืองฝ่ายรัฐยุ่งเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์เขมรค้ามนุษย์ฟอกทองคำฟอกเงินฟอกตลาดหุ้น ไม่ซื่อสัตย์แค่1บาทก็สมควรลาออกให้เป็นแบบอย่างที่ดีเถอะ ทั้งรัฐบาลนั้นล่ะ ยุบสภาหนีไปเถอะ,ข่าวการแฉขนาดนี้,
    ..เรื่องหนี้นี้ จริงๆสมควรล้างหนี้นักศึกษาก่อน จากนั้นเกษตรกรทั่วประเทศที่เป็นชาวนาธกส.ก่อนเลย,จากนั้นล้างหนี้ทุกๆคนเป็นถือบัตรคนจนก่อนว่าเขามีหนี้กับรัฐอะไรบ้าง กลุ่มเปราะบางของแท้ จากนั้นให้ทุนเงินสัมมาอาชีพเขาสักก้อน บวกทุนเพิ่มเติมแหล่งเงินทุนรัฐจริงๆมิใช่ให้เขาแสวงหาหนี้นอกระบบอีกหรือแบงค์เอกชนที่เข้าไม่ถึงได้เลยในประชาชนธรรมดา,พร้อมสร้างกลุ่มภาคประชาชนที่เข้มแข็งรองรับยุคสมัยสัมมาอาชีพอนาคต เตรียมพร้อมการเปลี่ยนแปลงของโลก.,รัฐไร้ฝีมือไร้น้ำยา คงไม่นำพาหรอกเพราะผู้ปกครองเรากาก กระจอก ทอดทิ้งประชาชน การฉีดตายกว่า60ล้านเข็มที่อำมหิตจึงถือกำเนิดขึ้นใส่ตัวประชาชนครไทยกันถ้วนหน้า.

    ..ล้างหนี้คือล้างหนี้ ยังจะมาหากำไรจากประชาชนตนคนไทยอีก,ถ้าการสมมุตินี้จริง ที่ว่า ประชาชนมี100 เอกชนมาซื้อหนี้ไป5บาท มาทวงคืนจากประชาชน10บาท,กำไร 5บาทถวายพานให้เอกชนเลย,ทำไมไม่แสดงเจตนาดีแจ้งชัดเจนก่อนให้เอกชนฟันกำไรส่วนต่าง5บาทนั้น,โดยให้ประชาชนมาซื้อหนี้เน่าตนเองเลย,หามาซื้อปิดหนี้เน่าตนทางตรงที่5บาทหรือ5%นี้ล่ะ,มีระยะเวลากำหนดว่าภายใน5ปีก็ว่าไป,ต้องนำมาปิดก่อนในส่วน5บาทหรือ5%นี้,เมื่อพ้นกำหนดนี้จึงจะขายหนี้ให้เอกชนแล้วทำตามเงื่อนไขขั้นต้นที่ว่านั้นก็ไม่เห็นว่าทางรัฐจะเสียหายใดๆแค่แบกก้อนหนี้นี้ของคนไทยปกติเพิ่ม5ปีเท่านั้น ไหนๆจะช่วยคนไทยจริง อย่างบริสุทธิ์ใจช่วยประชาชนคนไทย จากจะทิ้งหนี้เน่าไปเสียจึงไปตกลงเอกชนมารับซื้อหนี้นี้ไป,ทั้งในนามรัฐบาล ถามประชาชนแล้วหรือยังในนามครม.รัฐที่เป็นนโยบายระดับชาติบังคับใช้ระดับประเทศทั่วไทยขนาดนี้ว่าเขายินยอมให้ขายหนี้ของธนาคารรัฐไปให้เอกชนมั้ย ธนาคารรัฐละเมิดสิทธิ์ประชาชนถือว่าเป็นโมฆะได้,กฎหมายก็เขียนจากคนนี้ล่ะ,ใครมีอำนาจก็เขียนได้หมด,อีกทั้งรัฐบาลจากกรณีแร่เอิร์ธไม่อาจมีความไว้วางใจในการบริหารชาติได้อีกต่อไป และประเด็นปัญหากับเขมรสาระพัดเรื่องด้วย โดยเรื่องอาชญากรรมระดับชาติของเขมรที่โยงมาถึงคนในรัฐบาลชุดนี้อีกมากมาย,ไร้ความซื่อสัตย์สุจิตด้วย นโยบายมากมายจึงจะไว้ใจได้อย่างไรว่าไปเตะกำไรเงินทองผลประโยชน์ให้เอกชนเต็มๆหรือโอนสถานะทาสหนี้ ขายทาสกันว่าเล่นในสมมุตินี้ได้สบายนั้นเอง,รัฐไม่มีสิทธิย้ายสถานะหนี้ทาสแก้คนนอกเอกชนใดๆ,ลูกหนี้จะไร้ความปลอดภัยในการคุ้มครองจากอำนาจทางการทันทีนั้นเองเมื่อย้ายออกไป,นายหนี้ใหม่ยอมมีสิทธิขาดในการทำลายลูกหนี้ได้หมด กดขี่ข่มเหงได้หมด,อำนาจรัฐสามารถเขียนกฎหมายใหม่ให้ดีได้หมดแต่ไม่เคยทำ,ต่างพร้อมช่วยเจ้าสัวเจ้าของบริษัททำธุรกิจเงินทองเอาเปรียบประชาชนมาตลอดในอดีตทุกๆรัฐบาลที่ผ่านๆไร้ความจริงใจนั้นเอง.,
    ..เป็นต้นว่า เขียนกฎหมายใหม่ทันทีว่า ลูกหนีัเป็นหนี้บ้านหนี้ที่ดิน สร้างบ้าน ซื้อคอนโด เมื่อถูกยึดบ้านยึดคอนโดยึดบ้านยึดที่ดินยึดรถ สถานะหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินหนี้จำนองทองคำหนี้จำนองโฉนดเป็นอันสิ้นสุดทันที,ต้องห้ามเจ้าหนี้เด็ดขาดในไทยธนาคารใดๆในไทยไปตามยึดทรัพย์สินอื่นๆใดๆอีกเพื่อมาบังคับใช้หนี้ให้เต็มส่วนตนในมูลค่าหนี้ที่ตนคิดเองในเงื่อนไขความเสี่ยงตนที่ตกลงว่าลูกหนี้ต้องจ่ายจนครบนั้นเป็นอันสิ้นสุด ยุติหนี้จบเสร็จสิ้นไป ห้ามทุกๆกรณี เจ้าหนี้ยึดบ้านจากหนี้บ้านก็จบ เจ้าหนี้ยึดที่ดินจากหนี้เงินกู้ใช้ที่ดินจำนองก็จบ,ยึดรถที่ลูกหนี้ซื้อก็จบ ให้สิ้นพันธะกันทันทีห้ามบีบบังคับใดๆอีก,หนี้ใดๆที่ลูกหนี้ผูกไว้ ประเมินไว้ ธนาคารรับความเสี่ยงแล้วจึงปล่อยกู้,ลูกหนี้ใช้ที่ดินโรงงานและกิจการตนโรงงานตนกู้เงิน ธนาคารยึดทรัพย์สินที่ดินและกิจการนั้นๆคือจบสถานะหนี้นั้นทันที,ไม่มีสิทธิไปยึดที่ดินแปลงอื่นอีกหรือโรงงานอื่นๆที่เขาทำกิจการต่างๆนั้น.,นี้กฎหมายไทยต้องเขียนชัดเจนลักษณะนีัเป็นพื้นฐานมาตรฐานก่อนเพื่อปกป้องประชาชนคนไทย ดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมใดๆก็ไม่สมควรเอาเปรียบมากมายสาระพัดในอดีตที่ผ่านๆมาถึงปัจจุบัน.จึงถือว่าแบงค์ชาติไทยล้มเหลวทั้งหมดที่ผ่านๆมา,ไม่ก่อประโยชน์สูงสุดเป็นอรรถประโยชน์ที่แท้จริงแก่คนไทย,คนไทยเป็นอันมากต่างถูกเอารัดเอาเปรียบจากธนาคารเอกชนหรือกิจการปล่อยเงินกู้ทั้งหมดทั่วไทยชัดเจนมาก,ยามวิกฤติแบงค์ชาติไม่สมควรอำนวยธนาคารเอกชนแสวงหากำไรจากดอกเบี้ยจนแจ้งผลประกอบการผ่านตลาดทุนกำไรเป็นแสนล้านบาทอย่างบ้าคลั่งขนาดนั้น ทั้งที่ตลาดทั้งตลาดเกือบขาดทุนหมดบนวิกฤติเศรษฐกิจทั้งประเทศขนาดนั้น แต่แบงค์ชาติกลับไม่สนใจควบคุมธนาคารเอกชนในการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ จึงฟันกำไรจนบ้าคลั่งเอาเปรียบประชาชนคนไทยชัดเจน.นี้คือตย.ที่เป็นข่าวจริง,เรามีการปกครองที่ล้มเหลวจริงๆ,การอ้างประชาชนในการแสวงหาประโยชน์ใดๆบนแผ่นดินไทยนี้มันง่ายจริงๆ,มีอำนาจอ้างใดๆได้หมดอีกด้วย,ตอนไม่มีอำนาจก็อ้างความทุกข์ยากประชาชนสาระพัดอีก สาระพัดการอ้างเอาประชาชนบังหน้าในการแสวงหาประโยชน์ใดๆจึงง่ายแก่คนชั่วเลวมากจริงๆบนประเทศไทยนี้และไม่เคยมีพวกมันใดๆถูกจับมาลงโทษทั้งหมดให้สิ้นซากกันจริงๆจังๆอีกด้วย,และการหากินบนมวลชนแบบผูกขาดเช่นให้บริการการใช้ไฟฟ้า การใช้น้ำมัน ขายไฟฟ้า ขายน้ำมัน ขายเช่าสัญญาณคลื่นมือถือคลื่นเน็ต มวลรวมคนใช้ทั้งประเทศ การโกงกินลักษณะนี้มันอร่อยคำโตและหอมหวานเป็นอันมาก,อำนาจจึงพากันอยากได้อยากมานั่งมาอยู่มาแสวงหามันนักตลอดตำแหน่งใดๆในราชการก็ด้วย เงินทองและอำนาจรวมเข้าในคนชั่วเลวมันชื่นชอบมาก,การกำจัดคนพวกนี้ ความตายจึงสมควรหยิบยื่นให้พวกมันทุกๆตัวบนแผ่นดินไทยในยุคสมัยนี้เวลานี้จริงๆ,การยึดอำนาจของทหารหาญผู้กอบกู้ชาติไทยเราจึงสำคัญมากและคือหนทางเดียวเท่านั้นบนกฎพิเศษ บนกติกาพิเศษ บนเงื่อนไขที่เงื่อนไขปกติมิอาจใช้ได้เหมาะสมกับปีศาจอสูรมารซาตานพวกนี้ได้.,นี้คือแผ่นดินไทย ถึงเวลาไล่ล่า กำจัดและกวาดล้างกันจริงๆจังๆได้แล้ว.

    https://youtube.com/watch?v=DZmbgMLkupo&si=0C_DGti4qhnEtDwE
    ..มามุกเดือดร้อนใหม่อีกแล้วคงไม่ต่างจากคริปโตฯตังดิจิดัล500,000ล้านหรอก,เตรียมคริปโต เตรียมบริษัทไว้รอพร้อมหมดแล้ว,สูบบุหรี่นอนรอนานแล้วนั้นเอง,ค่านั้นค่านี้สาระพัดตกลงกันลงตัวไว้แล้ว. ..เงินหลวงแม้โกงหรือทุจริตไป 1 บาท ก็คือคตโกง คือทุจริต คือไม่ซื่อสัตย์ โทษต้องสมควรหนักกว่าโจรปล้นร้านทองคำ นี้คือนักการเมืองด้วย 1บาทก็ต้องโทษหนัก เมื่ออาสามารับใช้ชาติรับใช้ประเทศ รับใช้คนไทย ,จริงๆแค่แฉเรื่องทุจริตต่างๆจะสแกมเมอร์จะฟอกเงินจะตำรวจยุ่งเกี่ยวจะรมต.คนนักการเมืองฝ่ายรัฐยุ่งเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์เขมรค้ามนุษย์ฟอกทองคำฟอกเงินฟอกตลาดหุ้น ไม่ซื่อสัตย์แค่1บาทก็สมควรลาออกให้เป็นแบบอย่างที่ดีเถอะ ทั้งรัฐบาลนั้นล่ะ ยุบสภาหนีไปเถอะ,ข่าวการแฉขนาดนี้, ..เรื่องหนี้นี้ จริงๆสมควรล้างหนี้นักศึกษาก่อน จากนั้นเกษตรกรทั่วประเทศที่เป็นชาวนาธกส.ก่อนเลย,จากนั้นล้างหนี้ทุกๆคนเป็นถือบัตรคนจนก่อนว่าเขามีหนี้กับรัฐอะไรบ้าง กลุ่มเปราะบางของแท้ จากนั้นให้ทุนเงินสัมมาอาชีพเขาสักก้อน บวกทุนเพิ่มเติมแหล่งเงินทุนรัฐจริงๆมิใช่ให้เขาแสวงหาหนี้นอกระบบอีกหรือแบงค์เอกชนที่เข้าไม่ถึงได้เลยในประชาชนธรรมดา,พร้อมสร้างกลุ่มภาคประชาชนที่เข้มแข็งรองรับยุคสมัยสัมมาอาชีพอนาคต เตรียมพร้อมการเปลี่ยนแปลงของโลก.,รัฐไร้ฝีมือไร้น้ำยา คงไม่นำพาหรอกเพราะผู้ปกครองเรากาก กระจอก ทอดทิ้งประชาชน การฉีดตายกว่า60ล้านเข็มที่อำมหิตจึงถือกำเนิดขึ้นใส่ตัวประชาชนครไทยกันถ้วนหน้า. ..ล้างหนี้คือล้างหนี้ ยังจะมาหากำไรจากประชาชนตนคนไทยอีก,ถ้าการสมมุตินี้จริง ที่ว่า ประชาชนมี100 เอกชนมาซื้อหนี้ไป5บาท มาทวงคืนจากประชาชน10บาท,กำไร 5บาทถวายพานให้เอกชนเลย,ทำไมไม่แสดงเจตนาดีแจ้งชัดเจนก่อนให้เอกชนฟันกำไรส่วนต่าง5บาทนั้น,โดยให้ประชาชนมาซื้อหนี้เน่าตนเองเลย,หามาซื้อปิดหนี้เน่าตนทางตรงที่5บาทหรือ5%นี้ล่ะ,มีระยะเวลากำหนดว่าภายใน5ปีก็ว่าไป,ต้องนำมาปิดก่อนในส่วน5บาทหรือ5%นี้,เมื่อพ้นกำหนดนี้จึงจะขายหนี้ให้เอกชนแล้วทำตามเงื่อนไขขั้นต้นที่ว่านั้นก็ไม่เห็นว่าทางรัฐจะเสียหายใดๆแค่แบกก้อนหนี้นี้ของคนไทยปกติเพิ่ม5ปีเท่านั้น ไหนๆจะช่วยคนไทยจริง อย่างบริสุทธิ์ใจช่วยประชาชนคนไทย จากจะทิ้งหนี้เน่าไปเสียจึงไปตกลงเอกชนมารับซื้อหนี้นี้ไป,ทั้งในนามรัฐบาล ถามประชาชนแล้วหรือยังในนามครม.รัฐที่เป็นนโยบายระดับชาติบังคับใช้ระดับประเทศทั่วไทยขนาดนี้ว่าเขายินยอมให้ขายหนี้ของธนาคารรัฐไปให้เอกชนมั้ย ธนาคารรัฐละเมิดสิทธิ์ประชาชนถือว่าเป็นโมฆะได้,กฎหมายก็เขียนจากคนนี้ล่ะ,ใครมีอำนาจก็เขียนได้หมด,อีกทั้งรัฐบาลจากกรณีแร่เอิร์ธไม่อาจมีความไว้วางใจในการบริหารชาติได้อีกต่อไป และประเด็นปัญหากับเขมรสาระพัดเรื่องด้วย โดยเรื่องอาชญากรรมระดับชาติของเขมรที่โยงมาถึงคนในรัฐบาลชุดนี้อีกมากมาย,ไร้ความซื่อสัตย์สุจิตด้วย นโยบายมากมายจึงจะไว้ใจได้อย่างไรว่าไปเตะกำไรเงินทองผลประโยชน์ให้เอกชนเต็มๆหรือโอนสถานะทาสหนี้ ขายทาสกันว่าเล่นในสมมุตินี้ได้สบายนั้นเอง,รัฐไม่มีสิทธิย้ายสถานะหนี้ทาสแก้คนนอกเอกชนใดๆ,ลูกหนี้จะไร้ความปลอดภัยในการคุ้มครองจากอำนาจทางการทันทีนั้นเองเมื่อย้ายออกไป,นายหนี้ใหม่ยอมมีสิทธิขาดในการทำลายลูกหนี้ได้หมด กดขี่ข่มเหงได้หมด,อำนาจรัฐสามารถเขียนกฎหมายใหม่ให้ดีได้หมดแต่ไม่เคยทำ,ต่างพร้อมช่วยเจ้าสัวเจ้าของบริษัททำธุรกิจเงินทองเอาเปรียบประชาชนมาตลอดในอดีตทุกๆรัฐบาลที่ผ่านๆไร้ความจริงใจนั้นเอง., ..เป็นต้นว่า เขียนกฎหมายใหม่ทันทีว่า ลูกหนีัเป็นหนี้บ้านหนี้ที่ดิน สร้างบ้าน ซื้อคอนโด เมื่อถูกยึดบ้านยึดคอนโดยึดบ้านยึดที่ดินยึดรถ สถานะหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินหนี้จำนองทองคำหนี้จำนองโฉนดเป็นอันสิ้นสุดทันที,ต้องห้ามเจ้าหนี้เด็ดขาดในไทยธนาคารใดๆในไทยไปตามยึดทรัพย์สินอื่นๆใดๆอีกเพื่อมาบังคับใช้หนี้ให้เต็มส่วนตนในมูลค่าหนี้ที่ตนคิดเองในเงื่อนไขความเสี่ยงตนที่ตกลงว่าลูกหนี้ต้องจ่ายจนครบนั้นเป็นอันสิ้นสุด ยุติหนี้จบเสร็จสิ้นไป ห้ามทุกๆกรณี เจ้าหนี้ยึดบ้านจากหนี้บ้านก็จบ เจ้าหนี้ยึดที่ดินจากหนี้เงินกู้ใช้ที่ดินจำนองก็จบ,ยึดรถที่ลูกหนี้ซื้อก็จบ ให้สิ้นพันธะกันทันทีห้ามบีบบังคับใดๆอีก,หนี้ใดๆที่ลูกหนี้ผูกไว้ ประเมินไว้ ธนาคารรับความเสี่ยงแล้วจึงปล่อยกู้,ลูกหนี้ใช้ที่ดินโรงงานและกิจการตนโรงงานตนกู้เงิน ธนาคารยึดทรัพย์สินที่ดินและกิจการนั้นๆคือจบสถานะหนี้นั้นทันที,ไม่มีสิทธิไปยึดที่ดินแปลงอื่นอีกหรือโรงงานอื่นๆที่เขาทำกิจการต่างๆนั้น.,นี้กฎหมายไทยต้องเขียนชัดเจนลักษณะนีัเป็นพื้นฐานมาตรฐานก่อนเพื่อปกป้องประชาชนคนไทย ดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมใดๆก็ไม่สมควรเอาเปรียบมากมายสาระพัดในอดีตที่ผ่านๆมาถึงปัจจุบัน.จึงถือว่าแบงค์ชาติไทยล้มเหลวทั้งหมดที่ผ่านๆมา,ไม่ก่อประโยชน์สูงสุดเป็นอรรถประโยชน์ที่แท้จริงแก่คนไทย,คนไทยเป็นอันมากต่างถูกเอารัดเอาเปรียบจากธนาคารเอกชนหรือกิจการปล่อยเงินกู้ทั้งหมดทั่วไทยชัดเจนมาก,ยามวิกฤติแบงค์ชาติไม่สมควรอำนวยธนาคารเอกชนแสวงหากำไรจากดอกเบี้ยจนแจ้งผลประกอบการผ่านตลาดทุนกำไรเป็นแสนล้านบาทอย่างบ้าคลั่งขนาดนั้น ทั้งที่ตลาดทั้งตลาดเกือบขาดทุนหมดบนวิกฤติเศรษฐกิจทั้งประเทศขนาดนั้น แต่แบงค์ชาติกลับไม่สนใจควบคุมธนาคารเอกชนในการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ จึงฟันกำไรจนบ้าคลั่งเอาเปรียบประชาชนคนไทยชัดเจน.นี้คือตย.ที่เป็นข่าวจริง,เรามีการปกครองที่ล้มเหลวจริงๆ,การอ้างประชาชนในการแสวงหาประโยชน์ใดๆบนแผ่นดินไทยนี้มันง่ายจริงๆ,มีอำนาจอ้างใดๆได้หมดอีกด้วย,ตอนไม่มีอำนาจก็อ้างความทุกข์ยากประชาชนสาระพัดอีก สาระพัดการอ้างเอาประชาชนบังหน้าในการแสวงหาประโยชน์ใดๆจึงง่ายแก่คนชั่วเลวมากจริงๆบนประเทศไทยนี้และไม่เคยมีพวกมันใดๆถูกจับมาลงโทษทั้งหมดให้สิ้นซากกันจริงๆจังๆอีกด้วย,และการหากินบนมวลชนแบบผูกขาดเช่นให้บริการการใช้ไฟฟ้า การใช้น้ำมัน ขายไฟฟ้า ขายน้ำมัน ขายเช่าสัญญาณคลื่นมือถือคลื่นเน็ต มวลรวมคนใช้ทั้งประเทศ การโกงกินลักษณะนี้มันอร่อยคำโตและหอมหวานเป็นอันมาก,อำนาจจึงพากันอยากได้อยากมานั่งมาอยู่มาแสวงหามันนักตลอดตำแหน่งใดๆในราชการก็ด้วย เงินทองและอำนาจรวมเข้าในคนชั่วเลวมันชื่นชอบมาก,การกำจัดคนพวกนี้ ความตายจึงสมควรหยิบยื่นให้พวกมันทุกๆตัวบนแผ่นดินไทยในยุคสมัยนี้เวลานี้จริงๆ,การยึดอำนาจของทหารหาญผู้กอบกู้ชาติไทยเราจึงสำคัญมากและคือหนทางเดียวเท่านั้นบนกฎพิเศษ บนกติกาพิเศษ บนเงื่อนไขที่เงื่อนไขปกติมิอาจใช้ได้เหมาะสมกับปีศาจอสูรมารซาตานพวกนี้ได้.,นี้คือแผ่นดินไทย ถึงเวลาไล่ล่า กำจัดและกวาดล้างกันจริงๆจังๆได้แล้ว. https://youtube.com/watch?v=DZmbgMLkupo&si=0C_DGti4qhnEtDwE
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • “Blackwell สำหรับอเมริกาเท่านั้น! รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ย้ำชัด จีนต้องรอจนชิปตกยุค”

    ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของการแข่งขันระดับโลก สหรัฐฯ ยังคงเดินเกมควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง โดยล่าสุด Scott Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงจุดยืนที่สอดคล้องกับประธานาธิบดี Donald Trump ว่า “ชิป AI ระดับสูงสุดจาก Nvidia จะถูกสงวนไว้ให้ใช้ภายในประเทศเท่านั้น”

    Bessent กล่าวผ่าน CNBC ว่า Blackwell — ชิป AI รุ่นล่าสุดจาก Nvidia — เป็น “อัญมณีแห่งเทคโนโลยี” และจะไม่ถูกส่งออกไปยังจีนจนกว่าจะตกยุค โดยอาจใช้เวลาราว 12–24 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเปิดตัว Vera Rubin รุ่นถัดไปในปีหน้า

    แม้จะไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว แต่คำพูดของ Bessent สะท้อนแนวโน้มเชิงนโยบายที่ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเขาเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจและการค้า

    ขณะเดียวกัน Nvidia ก็เตรียมเปิดตัวรุ่น “ลดสเปก” สำหรับจีนในชื่อ B30A ซึ่งจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นมาตรฐาน และต้องแบ่งรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ หากมีการขายในจีน

    สหรัฐฯ ยืนยันไม่ส่งออกชิป Blackwell ไปจีนในช่วงแรก
    Scott Bessent ระบุว่า Blackwell จะถูกสงวนไว้ให้ใช้ในประเทศ
    อาจใช้เวลาราว 12–24 เดือนก่อนจะอนุญาตให้ส่งออก

    ความเห็นสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดี Trump
    Trump เคยกล่าวว่า “จีนจะไม่ได้รับชิปที่ดีที่สุดจาก Nvidia”
    เป็นการควบคุมเทคโนโลยีเพื่อรักษาความได้เปรียบด้าน AI

    Nvidia เตรียมเปิดตัวรุ่นลดสเปกสำหรับจีน
    รุ่น B30A มีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นมาตรฐาน
    หากขายในจีน ต้องแบ่งรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ

    การพัฒนาในอนาคต
    Blackwell จะถูกแทนที่ด้วย Vera Rubin ในปีหน้า
    เมื่อ Blackwell ตกรุ่น อาจถูกอนุญาตให้ส่งออกไปยังจีน

    คำเตือนด้านการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    การจำกัดการส่งออกอาจกระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยี
    จีนอาจเร่งพัฒนาเทคโนโลยีภายในเพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ

    คำเตือนด้านการละเมิดข้อจำกัด
    มีรายงานว่าชิป Blackwell ยังหลุดเข้าไปในจีนผ่านช่องทางสีเทา
    การนำเข้าแบบผิดกฎหมายอาจสร้างความตึงเครียดทางการค้า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/echoing-trumps-sentiments-americas-finance-chief-bessent-says-the-most-advanced-ai-gpus-are-restricted-to-home-soil-china-can-have-blackwell-chips-once-theyre-outdated
    🇺🇸🚫 “Blackwell สำหรับอเมริกาเท่านั้น! รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ย้ำชัด จีนต้องรอจนชิปตกยุค” ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของการแข่งขันระดับโลก สหรัฐฯ ยังคงเดินเกมควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง โดยล่าสุด Scott Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงจุดยืนที่สอดคล้องกับประธานาธิบดี Donald Trump ว่า “ชิป AI ระดับสูงสุดจาก Nvidia จะถูกสงวนไว้ให้ใช้ภายในประเทศเท่านั้น” Bessent กล่าวผ่าน CNBC ว่า Blackwell — ชิป AI รุ่นล่าสุดจาก Nvidia — เป็น “อัญมณีแห่งเทคโนโลยี” และจะไม่ถูกส่งออกไปยังจีนจนกว่าจะตกยุค โดยอาจใช้เวลาราว 12–24 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเปิดตัว Vera Rubin รุ่นถัดไปในปีหน้า แม้จะไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว แต่คำพูดของ Bessent สะท้อนแนวโน้มเชิงนโยบายที่ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเขาเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจและการค้า ขณะเดียวกัน Nvidia ก็เตรียมเปิดตัวรุ่น “ลดสเปก” สำหรับจีนในชื่อ B30A ซึ่งจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นมาตรฐาน และต้องแบ่งรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ หากมีการขายในจีน ✅ สหรัฐฯ ยืนยันไม่ส่งออกชิป Blackwell ไปจีนในช่วงแรก ➡️ Scott Bessent ระบุว่า Blackwell จะถูกสงวนไว้ให้ใช้ในประเทศ ➡️ อาจใช้เวลาราว 12–24 เดือนก่อนจะอนุญาตให้ส่งออก ✅ ความเห็นสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดี Trump ➡️ Trump เคยกล่าวว่า “จีนจะไม่ได้รับชิปที่ดีที่สุดจาก Nvidia” ➡️ เป็นการควบคุมเทคโนโลยีเพื่อรักษาความได้เปรียบด้าน AI ✅ Nvidia เตรียมเปิดตัวรุ่นลดสเปกสำหรับจีน ➡️ รุ่น B30A มีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นมาตรฐาน ➡️ หากขายในจีน ต้องแบ่งรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ ✅ การพัฒนาในอนาคต ➡️ Blackwell จะถูกแทนที่ด้วย Vera Rubin ในปีหน้า ➡️ เมื่อ Blackwell ตกรุ่น อาจถูกอนุญาตให้ส่งออกไปยังจีน ‼️ คำเตือนด้านการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ⛔ การจำกัดการส่งออกอาจกระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยี ⛔ จีนอาจเร่งพัฒนาเทคโนโลยีภายในเพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ‼️ คำเตือนด้านการละเมิดข้อจำกัด ⛔ มีรายงานว่าชิป Blackwell ยังหลุดเข้าไปในจีนผ่านช่องทางสีเทา ⛔ การนำเข้าแบบผิดกฎหมายอาจสร้างความตึงเครียดทางการค้า https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/echoing-trumps-sentiments-americas-finance-chief-bessent-says-the-most-advanced-ai-gpus-are-restricted-to-home-soil-china-can-have-blackwell-chips-once-theyre-outdated
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • “SpaceX ผนึก Besxar สร้างโรงงานผลิตชิปกลางอวกาศ — ภารกิจสุดล้ำที่อาจเปลี่ยนโลกเทคโนโลยี!”

    ลองจินตนาการว่าอนาคตของการผลิตชิปไม่ได้อยู่ในห้องคลีนรูมบนโลกอีกต่อไป… แต่ลอยอยู่ในอวกาศ! นั่นคือแนวคิดสุดล้ำของ Besxar สตาร์ทอัพจากวอชิงตัน ดี.ซี. ที่จับมือกับ SpaceX เพื่อทดลองผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสุญญากาศของอวกาศ โดยใช้ “Fabships” — แคปซูลขนาดไมโครเวฟที่ติดไปกับจรวด Falcon 9

    ภารกิจนี้จะมีทั้งหมด 12 ครั้ง เริ่มปลายปีนี้ โดย Fabships จะถูกส่งขึ้นไปพร้อมจรวด ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีในการสัมผัสสุญญากาศระดับสูง ก่อนกลับลงมาพร้อมข้อมูลสำคัญเพื่อพัฒนาโรงงานผลิตชิปในวงโคจร

    CEO ของ Besxar, Ashley Pilipiszyn อธิบายว่า “โรงงานผลิตชิปบนโลกไม่สามารถสร้างสุญญากาศที่บริสุทธิ์ได้เท่ากับอวกาศ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและผลผลิตของชิปยุคใหม่” แนวคิดนี้จึงเปรียบเสมือนการใช้ธรรมชาติของอวกาศเป็นห้องคลีนรูมขนาดยักษ์

    แม้จะยังห่างไกลจากการผลิตเชิงพาณิชย์ แต่ Besxar ได้รับการสนับสนุนจาก NVIDIA และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พร้อมเป้าหมายในการสร้างชิปที่ทนรังสีและเหมาะกับการใช้งานในอวกาศและกองทัพ

    Besxar จับมือ SpaceX ทดลองผลิตชิปในอวกาศ
    ใช้แคปซูล “Fabships” ติดไปกับจรวด Falcon 9
    สัมผัสสุญญากาศระดับสูงก่อนกลับสู่โลกภายใน 10 นาที

    เป้าหมายคือสร้างโรงงานผลิตชิปในวงโคจร
    ใช้สุญญากาศของอวกาศแทนห้องคลีนรูม
    หวังเพิ่มคุณภาพและผลผลิตของเซมิคอนดักเตอร์

    ภารกิจเริ่มปลายปีนี้ รวม 12 ครั้ง
    เป็นโครงการทดลองเพื่อเก็บข้อมูล
    ยังไม่ใช่การผลิตเชิงพาณิชย์

    ได้รับการสนับสนุนจาก NVIDIA และกระทรวงกลาโหม
    มีเป้าหมายในการผลิตชิปที่ทนรังสีสำหรับการใช้งานด้านกลาโหม
    อาจเปลี่ยนโฉมหน้าการผลิตชิปในอนาคต

    คำเตือนด้านความเป็นไปได้
    ยังอยู่ในขั้นทดลอง ไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ก่อนปี 2030
    ต้องพิสูจน์ว่าชิปสามารถทนต่อแรงกระแทกจากการปล่อยและกลับสู่โลกได้

    คำเตือนด้านต้นทุนและความเสี่ยง
    การสร้างระบบผลิตในอวกาศมีต้นทุนสูงมาก
    หากไม่สำเร็จ อาจเป็นเพียง “โน้ตเชิงทดลองราคาแพง” ในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/elon-musks-spacex-to-launch-reusable-fabships-for-orbital-chip-manufacturing-experiments-besxars-orbital-chipmaking-experiments-to-occur-over-12-launches
    🚀🔬 “SpaceX ผนึก Besxar สร้างโรงงานผลิตชิปกลางอวกาศ — ภารกิจสุดล้ำที่อาจเปลี่ยนโลกเทคโนโลยี!” ลองจินตนาการว่าอนาคตของการผลิตชิปไม่ได้อยู่ในห้องคลีนรูมบนโลกอีกต่อไป… แต่ลอยอยู่ในอวกาศ! นั่นคือแนวคิดสุดล้ำของ Besxar สตาร์ทอัพจากวอชิงตัน ดี.ซี. ที่จับมือกับ SpaceX เพื่อทดลองผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสุญญากาศของอวกาศ โดยใช้ “Fabships” — แคปซูลขนาดไมโครเวฟที่ติดไปกับจรวด Falcon 9 ภารกิจนี้จะมีทั้งหมด 12 ครั้ง เริ่มปลายปีนี้ โดย Fabships จะถูกส่งขึ้นไปพร้อมจรวด ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีในการสัมผัสสุญญากาศระดับสูง ก่อนกลับลงมาพร้อมข้อมูลสำคัญเพื่อพัฒนาโรงงานผลิตชิปในวงโคจร CEO ของ Besxar, Ashley Pilipiszyn อธิบายว่า “โรงงานผลิตชิปบนโลกไม่สามารถสร้างสุญญากาศที่บริสุทธิ์ได้เท่ากับอวกาศ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและผลผลิตของชิปยุคใหม่” แนวคิดนี้จึงเปรียบเสมือนการใช้ธรรมชาติของอวกาศเป็นห้องคลีนรูมขนาดยักษ์ แม้จะยังห่างไกลจากการผลิตเชิงพาณิชย์ แต่ Besxar ได้รับการสนับสนุนจาก NVIDIA และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พร้อมเป้าหมายในการสร้างชิปที่ทนรังสีและเหมาะกับการใช้งานในอวกาศและกองทัพ ✅ Besxar จับมือ SpaceX ทดลองผลิตชิปในอวกาศ ➡️ ใช้แคปซูล “Fabships” ติดไปกับจรวด Falcon 9 ➡️ สัมผัสสุญญากาศระดับสูงก่อนกลับสู่โลกภายใน 10 นาที ✅ เป้าหมายคือสร้างโรงงานผลิตชิปในวงโคจร ➡️ ใช้สุญญากาศของอวกาศแทนห้องคลีนรูม ➡️ หวังเพิ่มคุณภาพและผลผลิตของเซมิคอนดักเตอร์ ✅ ภารกิจเริ่มปลายปีนี้ รวม 12 ครั้ง ➡️ เป็นโครงการทดลองเพื่อเก็บข้อมูล ➡️ ยังไม่ใช่การผลิตเชิงพาณิชย์ ✅ ได้รับการสนับสนุนจาก NVIDIA และกระทรวงกลาโหม ➡️ มีเป้าหมายในการผลิตชิปที่ทนรังสีสำหรับการใช้งานด้านกลาโหม ➡️ อาจเปลี่ยนโฉมหน้าการผลิตชิปในอนาคต ‼️ คำเตือนด้านความเป็นไปได้ ⛔ ยังอยู่ในขั้นทดลอง ไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ก่อนปี 2030 ⛔ ต้องพิสูจน์ว่าชิปสามารถทนต่อแรงกระแทกจากการปล่อยและกลับสู่โลกได้ ‼️ คำเตือนด้านต้นทุนและความเสี่ยง ⛔ การสร้างระบบผลิตในอวกาศมีต้นทุนสูงมาก ⛔ หากไม่สำเร็จ อาจเป็นเพียง “โน้ตเชิงทดลองราคาแพง” ในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/elon-musks-spacex-to-launch-reusable-fabships-for-orbital-chip-manufacturing-experiments-besxars-orbital-chipmaking-experiments-to-occur-over-12-launches
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.17

    คำพิพากษาเป็นมากกว่าเพียงการตัดสินของศาล แต่คือจุดสิ้นสุดของกระบวนการยุติธรรมที่ยาวนาน เป็นคำวินิจฉัยสุดท้ายที่ศาลใช้ดุลยพินิจจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างคู่ความทั้งหมด โดยมีอำนาจผูกพันคู่ความเหล่านั้นให้ต้องปฏิบัติตามสิ่งที่ศาลได้ตัดสินไป คำตัดสินนี้จึงเป็นหลักประกันความสงบเรียบร้อยในสังคม และเป็นเครื่องมือในการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดผลในทางปฏิบัติ เพื่อให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในคดีนั้นๆ การเข้าใจถึงความหมายและอำนาจของคำพิพากษาจึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการตระหนักถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด

    แก่นแท้ของคำพิพากษานั้นอยู่ที่การสร้างความแน่นอนทางกฎหมาย และการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น คำตัดสินของศาลไม่ใช่แค่การประกาศว่าใครถูกใครผิด แต่คือการกำหนดสิทธิและหน้าที่ใหม่ของคู่ความภายหลังจากการต่อสู้คดีเสร็จสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้ชดใช้ค่าเสียหาย การยกฟ้อง หรือการกำหนดโทษทางอาญา ทุกถ้อยคำในคำพิพากษามีความหมายทางกฎหมายอย่างลึกซึ้ง และถูกเขียนขึ้นด้วยความรอบคอบภายใต้หลักการที่ว่า "ทุกคนเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย" ซึ่งหมายความว่าแม้การตัดสินจะยุติข้อพิพาทในคดีนั้นๆ แต่ก็เป็นการวางบรรทัดฐานสำหรับคดีที่คล้ายคลึงกันในอนาคตด้วย จึงถือได้ว่าเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมสามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยมีขื่อมีแปและมีการเคารพสิทธิซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง

    ดังนั้น คำพิพากษาจึงเป็นเสมือนหัวใจของระบบกฎหมาย เป็นการแสดงออกถึงอำนาจตุลาการในการตีความและประยุกต์ใช้กฎหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรม คำตัดสินที่มีผลผูกพันคู่ความนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และเป็นสิ่งสุดท้ายที่นำความสงบกลับคืนมาสู่ผู้ที่มีข้อพิพาทกัน การเคารพและปฏิบัติตามคำพิพากษาจึงไม่ใช่แค่การทำตามคำสั่งศาล แต่คือการธำรงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐและนิติธรรมของประเทศชาติ เพื่อให้สังคมดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขและเป็นระเบียบเรียบร้อยตลอดไป
    บทความกฎหมาย EP.17 คำพิพากษาเป็นมากกว่าเพียงการตัดสินของศาล แต่คือจุดสิ้นสุดของกระบวนการยุติธรรมที่ยาวนาน เป็นคำวินิจฉัยสุดท้ายที่ศาลใช้ดุลยพินิจจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างคู่ความทั้งหมด โดยมีอำนาจผูกพันคู่ความเหล่านั้นให้ต้องปฏิบัติตามสิ่งที่ศาลได้ตัดสินไป คำตัดสินนี้จึงเป็นหลักประกันความสงบเรียบร้อยในสังคม และเป็นเครื่องมือในการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดผลในทางปฏิบัติ เพื่อให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในคดีนั้นๆ การเข้าใจถึงความหมายและอำนาจของคำพิพากษาจึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการตระหนักถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด แก่นแท้ของคำพิพากษานั้นอยู่ที่การสร้างความแน่นอนทางกฎหมาย และการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น คำตัดสินของศาลไม่ใช่แค่การประกาศว่าใครถูกใครผิด แต่คือการกำหนดสิทธิและหน้าที่ใหม่ของคู่ความภายหลังจากการต่อสู้คดีเสร็จสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้ชดใช้ค่าเสียหาย การยกฟ้อง หรือการกำหนดโทษทางอาญา ทุกถ้อยคำในคำพิพากษามีความหมายทางกฎหมายอย่างลึกซึ้ง และถูกเขียนขึ้นด้วยความรอบคอบภายใต้หลักการที่ว่า "ทุกคนเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย" ซึ่งหมายความว่าแม้การตัดสินจะยุติข้อพิพาทในคดีนั้นๆ แต่ก็เป็นการวางบรรทัดฐานสำหรับคดีที่คล้ายคลึงกันในอนาคตด้วย จึงถือได้ว่าเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมสามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยมีขื่อมีแปและมีการเคารพสิทธิซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง ดังนั้น คำพิพากษาจึงเป็นเสมือนหัวใจของระบบกฎหมาย เป็นการแสดงออกถึงอำนาจตุลาการในการตีความและประยุกต์ใช้กฎหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรม คำตัดสินที่มีผลผูกพันคู่ความนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และเป็นสิ่งสุดท้ายที่นำความสงบกลับคืนมาสู่ผู้ที่มีข้อพิพาทกัน การเคารพและปฏิบัติตามคำพิพากษาจึงไม่ใช่แค่การทำตามคำสั่งศาล แต่คือการธำรงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐและนิติธรรมของประเทศชาติ เพื่อให้สังคมดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขและเป็นระเบียบเรียบร้อยตลอดไป
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • “Chrome Autofill ขยายสู่พาสปอร์ตและใบขับขี่ – สะดวกหรือเสี่ยง?”

    Google ประกาศเพิ่มความสามารถใหม่ให้กับฟีเจอร์ Autofill บน Chrome โดยสามารถบันทึกและกรอกข้อมูลสำคัญอย่าง หมายเลขพาสปอร์ต, ใบขับขี่, และ หมายเลขรถยนต์ ได้อัตโนมัติ เพื่อช่วยให้การกรอกฟอร์มออนไลน์เร็วขึ้นกว่าเดิม

    แม้ Google ยืนยันว่า ข้อมูลจะถูกเข้ารหัส, เก็บไว้ด้วยความยินยอมของผู้ใช้, และ ต้องมีการยืนยันก่อนใช้งาน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกลับมองว่า การรวมข้อมูลสำคัญไว้ในที่เดียวกันอาจเป็นช่องทางใหม่ให้แฮกเกอร์โจมตี

    Nivedita Murthy จาก Black Duck เตือนว่า หากบัญชี Google ถูกเจาะ ไม่ใช่แค่ข้อมูลอีเมลที่รั่ว แต่รวมถึงข้อมูลระบุตัวตนที่สำคัญทั้งหมด เช่น พาสปอร์ตและใบขับขี่ที่ถูกเก็บไว้ในระบบเดียวกัน

    นอกจากนี้ ยังมีมัลแวร์อย่าง Shuyal Stealer ที่สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 17 ตัว รวมถึง Chrome ซึ่งทำให้การเก็บข้อมูลสำคัญในเบราว์เซอร์กลายเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

    ฟีเจอร์ใหม่ของ Chrome Autofill
    รองรับข้อมูลพาสปอร์ต, ใบขับขี่, หมายเลขรถยนต์
    ใช้การเข้ารหัสและต้องมีการยืนยันก่อนใช้งาน
    ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ด้วยความยินยอมของผู้ใช้

    ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
    การรวมข้อมูลไว้ในบัญชีเดียวเพิ่มความเสี่ยง
    หากบัญชี Google ถูกเจาะ ข้อมูลสำคัญทั้งหมดอาจรั่วไหล
    ผู้ใช้ควรพิจารณาความสะดวกเทียบกับความเสี่ยง

    ภัยคุกคามจากมัลแวร์
    Shuyal Stealer เจาะข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 17 ตัว
    Autofill กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของมัลแวร์

    การเปิดตัวแบบจำกัด
    ฟีเจอร์นี้ยังจำกัดเฉพาะผู้ใช้ Chrome บนเดสก์ท็อป
    Google มีแผนขยายการรองรับข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคต

    ความเสี่ยงจากการเก็บข้อมูลในเบราว์เซอร์
    ข้อมูลสำคัญอาจถูกขโมยหากเบราว์เซอร์ถูกเจาะ
    การเก็บข้อมูลหลายประเภทไว้ในบัญชีเดียวเพิ่มโอกาสถูกโจมตี

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัย
    การเข้ารหัสไม่ใช่การป้องกันแบบสมบูรณ์
    ผู้ใช้ยังต้องระวังการใช้บัญชี Google ในหลายบริการที่เชื่อมโยงกัน

    การละเลยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    ชุมชนไซเบอร์เตือนมานานว่าไม่ควรเก็บรหัสผ่านหรือข้อมูลสำคัญในเบราว์เซอร์
    ความสะดวกไม่ควรแลกกับความปลอดภัยส่วนบุคคล

    ฟีเจอร์ใหม่นี้อาจช่วยให้ชีวิตออนไลน์สะดวกขึ้น แต่ในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยภัยคุกคาม—การตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่ใช้ ควรเริ่มจากคำถามว่า “ข้อมูลนี้ควรอยู่ในเบราว์เซอร์จริงหรือ?”

    https://hackread.com/google-chrome-autofill-passports-licenses-safe/
    📰 “Chrome Autofill ขยายสู่พาสปอร์ตและใบขับขี่ – สะดวกหรือเสี่ยง?” Google ประกาศเพิ่มความสามารถใหม่ให้กับฟีเจอร์ Autofill บน Chrome โดยสามารถบันทึกและกรอกข้อมูลสำคัญอย่าง หมายเลขพาสปอร์ต, ใบขับขี่, และ หมายเลขรถยนต์ ได้อัตโนมัติ เพื่อช่วยให้การกรอกฟอร์มออนไลน์เร็วขึ้นกว่าเดิม แม้ Google ยืนยันว่า ข้อมูลจะถูกเข้ารหัส, เก็บไว้ด้วยความยินยอมของผู้ใช้, และ ต้องมีการยืนยันก่อนใช้งาน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกลับมองว่า การรวมข้อมูลสำคัญไว้ในที่เดียวกันอาจเป็นช่องทางใหม่ให้แฮกเกอร์โจมตี Nivedita Murthy จาก Black Duck เตือนว่า หากบัญชี Google ถูกเจาะ ไม่ใช่แค่ข้อมูลอีเมลที่รั่ว แต่รวมถึงข้อมูลระบุตัวตนที่สำคัญทั้งหมด เช่น พาสปอร์ตและใบขับขี่ที่ถูกเก็บไว้ในระบบเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีมัลแวร์อย่าง Shuyal Stealer ที่สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 17 ตัว รวมถึง Chrome ซึ่งทำให้การเก็บข้อมูลสำคัญในเบราว์เซอร์กลายเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ✅ ฟีเจอร์ใหม่ของ Chrome Autofill ➡️ รองรับข้อมูลพาสปอร์ต, ใบขับขี่, หมายเลขรถยนต์ ➡️ ใช้การเข้ารหัสและต้องมีการยืนยันก่อนใช้งาน ➡️ ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ด้วยความยินยอมของผู้ใช้ ✅ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ การรวมข้อมูลไว้ในบัญชีเดียวเพิ่มความเสี่ยง ➡️ หากบัญชี Google ถูกเจาะ ข้อมูลสำคัญทั้งหมดอาจรั่วไหล ➡️ ผู้ใช้ควรพิจารณาความสะดวกเทียบกับความเสี่ยง ✅ ภัยคุกคามจากมัลแวร์ ➡️ Shuyal Stealer เจาะข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 17 ตัว ➡️ Autofill กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของมัลแวร์ ✅ การเปิดตัวแบบจำกัด ➡️ ฟีเจอร์นี้ยังจำกัดเฉพาะผู้ใช้ Chrome บนเดสก์ท็อป ➡️ Google มีแผนขยายการรองรับข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคต ‼️ ความเสี่ยงจากการเก็บข้อมูลในเบราว์เซอร์ ⛔ ข้อมูลสำคัญอาจถูกขโมยหากเบราว์เซอร์ถูกเจาะ ⛔ การเก็บข้อมูลหลายประเภทไว้ในบัญชีเดียวเพิ่มโอกาสถูกโจมตี ‼️ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัย ⛔ การเข้ารหัสไม่ใช่การป้องกันแบบสมบูรณ์ ⛔ ผู้ใช้ยังต้องระวังการใช้บัญชี Google ในหลายบริการที่เชื่อมโยงกัน ‼️ การละเลยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ ชุมชนไซเบอร์เตือนมานานว่าไม่ควรเก็บรหัสผ่านหรือข้อมูลสำคัญในเบราว์เซอร์ ⛔ ความสะดวกไม่ควรแลกกับความปลอดภัยส่วนบุคคล ฟีเจอร์ใหม่นี้อาจช่วยให้ชีวิตออนไลน์สะดวกขึ้น แต่ในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยภัยคุกคาม—การตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่ใช้ ควรเริ่มจากคำถามว่า “ข้อมูลนี้ควรอยู่ในเบราว์เซอร์จริงหรือ?” https://hackread.com/google-chrome-autofill-passports-licenses-safe/
    HACKREAD.COM
    Google Expands Chrome Autofill to Passports and Licenses, But Is It Safe?
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • เราเตอร์สุดล้ำจากยุโรป! Turris Omnia NG อัปเกรด Wi-Fi ได้ เปลี่ยนโมดูลแทนเปลี่ยนเครื่อง

    Turris Omnia NG คือเราเตอร์รุ่นใหม่จาก CZ.NIC ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานระยะยาวและความปลอดภัยระดับสูง โดยมีจุดเด่นคือสามารถเปลี่ยนโมดูล Wi-Fi ได้ในอนาคต ไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ พร้อมรองรับ Wi-Fi 7 และระบบปฏิบัติการแบบโอเพ่นซอร์สที่ให้คุณควบคุมทุกอย่างได้เต็มที่.

    จุดเด่นที่น่าสนใจ
    ใช้ ชิป ARMv8 64-bit แบบ 4 คอร์ ความเร็ว 2.2 GHz พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ passive ทำให้เงียบแม้ใช้งานหนัก
    รองรับ Wi-Fi 7 ทุกย่านความถี่ และสามารถเปลี่ยนโมดูล Wi-Fi ผ่านช่อง M.2 ได้เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่
    มี พอร์ต WAN และ LAN ความเร็วสูง ทั้งแบบ SFP+ 10 Gbps และ RJ45 2.5 Gbps
    รองรับ โมเด็ม 4G/5G ผ่านช่อง M.2 เพิ่มเติม
    มี หน้าจอสี 240×240 พิกเซล แสดงสถานะเครือข่ายและควบคุมผ่าน D-pad ด้านหน้า

    ระบบปฏิบัติการและการใช้งาน
    ใช้ Turris OS ที่พัฒนาจาก OpenWrt ซึ่งเป็นโอเพ่นซอร์สเต็มรูปแบบ
    สามารถติดตั้งแพ็กเกจเสริมได้อิสระ และเข้าถึงระบบ Linux ได้เต็มที่
    มี RAM 2 GB รองรับการใช้งานเป็น เซิร์ฟเวอร์เสมือน (VM) หรือ LXC container
    ใช้งานได้ทั้งในบ้านและองค์กร เช่น NAS, VPN, Nextcloud หรือ media server
    รองรับการติดตั้งใน ห้องเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก ด้วยดีไซน์แบบ rack-mount และระบบระบายความร้อนเงียบ

    สเปกฮาร์ดแวร์ที่โดดเด่น
    ARMv8 64-bit 4 คอร์ 2.2 GHz
    Passive cooling ไม่มีเสียงรบกวน
    Wi-Fi 7 รองรับทุกย่านความถี่

    การออกแบบเพื่ออนาคต
    โมดูล Wi-Fi แบบ M.2 เปลี่ยนได้
    รองรับโมเด็ม 4G/5G ผ่านช่อง M.2
    หน้าจอสีพร้อม D-pad ควบคุม

    ระบบปฏิบัติการแบบโอเพ่นซอร์ส
    ใช้ Turris OS พัฒนาจาก OpenWrt
    ติดตั้ง VM หรือ container ได้
    ใช้งานเป็น NAS, VPN, Cloud ได้

    เหมาะกับทั้งบ้านและองค์กร
    ราคาประมาณ €520
    รองรับการติดตั้งในห้องเซิร์ฟเวอร์
    ความปลอดภัยระดับองค์กรโดยไม่ต้องจ่ายแพง

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    ต้องมีความรู้พื้นฐานด้าน Linux เพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
    การติดตั้ง VM หรือ container อาจต้องปรับแต่งระบบเพิ่มเติม
    ราคายังสูงเมื่อเทียบกับเราเตอร์ทั่วไป

    https://news.itsfoss.com/turris-omnia-ng/
    📡 เราเตอร์สุดล้ำจากยุโรป! Turris Omnia NG อัปเกรด Wi-Fi ได้ เปลี่ยนโมดูลแทนเปลี่ยนเครื่อง Turris Omnia NG คือเราเตอร์รุ่นใหม่จาก CZ.NIC ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานระยะยาวและความปลอดภัยระดับสูง โดยมีจุดเด่นคือสามารถเปลี่ยนโมดูล Wi-Fi ได้ในอนาคต ไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ พร้อมรองรับ Wi-Fi 7 และระบบปฏิบัติการแบบโอเพ่นซอร์สที่ให้คุณควบคุมทุกอย่างได้เต็มที่. 🧠 จุดเด่นที่น่าสนใจ 👍 ใช้ ชิป ARMv8 64-bit แบบ 4 คอร์ ความเร็ว 2.2 GHz พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ passive ทำให้เงียบแม้ใช้งานหนัก 👍 รองรับ Wi-Fi 7 ทุกย่านความถี่ และสามารถเปลี่ยนโมดูล Wi-Fi ผ่านช่อง M.2 ได้เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ 👍 มี พอร์ต WAN และ LAN ความเร็วสูง ทั้งแบบ SFP+ 10 Gbps และ RJ45 2.5 Gbps 👍 รองรับ โมเด็ม 4G/5G ผ่านช่อง M.2 เพิ่มเติม 👍 มี หน้าจอสี 240×240 พิกเซล แสดงสถานะเครือข่ายและควบคุมผ่าน D-pad ด้านหน้า 🧰 ระบบปฏิบัติการและการใช้งาน 🎗️ ใช้ Turris OS ที่พัฒนาจาก OpenWrt ซึ่งเป็นโอเพ่นซอร์สเต็มรูปแบบ 🎗️ สามารถติดตั้งแพ็กเกจเสริมได้อิสระ และเข้าถึงระบบ Linux ได้เต็มที่ 🎗️ มี RAM 2 GB รองรับการใช้งานเป็น เซิร์ฟเวอร์เสมือน (VM) หรือ LXC container 🎗️ ใช้งานได้ทั้งในบ้านและองค์กร เช่น NAS, VPN, Nextcloud หรือ media server 🎗️ รองรับการติดตั้งใน ห้องเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก ด้วยดีไซน์แบบ rack-mount และระบบระบายความร้อนเงียบ ✅ สเปกฮาร์ดแวร์ที่โดดเด่น ➡️ ARMv8 64-bit 4 คอร์ 2.2 GHz ➡️ Passive cooling ไม่มีเสียงรบกวน ➡️ Wi-Fi 7 รองรับทุกย่านความถี่ ✅ การออกแบบเพื่ออนาคต ➡️ โมดูล Wi-Fi แบบ M.2 เปลี่ยนได้ ➡️ รองรับโมเด็ม 4G/5G ผ่านช่อง M.2 ➡️ หน้าจอสีพร้อม D-pad ควบคุม ✅ ระบบปฏิบัติการแบบโอเพ่นซอร์ส ➡️ ใช้ Turris OS พัฒนาจาก OpenWrt ➡️ ติดตั้ง VM หรือ container ได้ ➡️ ใช้งานเป็น NAS, VPN, Cloud ได้ ✅ เหมาะกับทั้งบ้านและองค์กร ➡️ ราคาประมาณ €520 ➡️ รองรับการติดตั้งในห้องเซิร์ฟเวอร์ ➡️ ความปลอดภัยระดับองค์กรโดยไม่ต้องจ่ายแพง ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ ต้องมีความรู้พื้นฐานด้าน Linux เพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ⛔ การติดตั้ง VM หรือ container อาจต้องปรับแต่งระบบเพิ่มเติม ⛔ ราคายังสูงเมื่อเทียบกับเราเตอร์ทั่วไป https://news.itsfoss.com/turris-omnia-ng/
    NEWS.ITSFOSS.COM
    This OpenWrt-Based Router Has Swappable Wi-Fi Modules for Future Upgrades
    The Turris Omnia NG promises lifetime updates and a modular design for a real long-term use.
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
More Results