• ด่วน!! สหรัฐฯ สั่งยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.9 แสนล้านบาท) ของนายเฉิน จื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา ซึ่งมีฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา บังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกาย ทรมานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล หนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงของฮุนเซน ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เป็น "การริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ"
    .
    มีรานงานล่าสุดว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) สั่งยึด Bitcoin ของนายเฉินจื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา มูลค่าหลายพันล้านจากกลโกงคริปโต ครั้งใหญ่ในกัมพูชา
    .
    นายเฉิน จื้อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าดำเนินค่ายแรงงานบังคับในกัมพูชา โดยบังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกายและทรมาน ที่ถูกค้ามนุษย์ดำเนินการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล และสามารถกวาดเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์
    .
    สหรัฐ กล่าวว่า เฉิน จื้อ แห่ง Prince Holding Group และพวกพ้องของเขาถูกกล่าวหาว่าสร้างรายได้มากถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวันจากการหลอกลวงครั้งหนึ่ง และฉินเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และบิดาของเขา อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และได้รับเกียรติด้วยบรรดาศักดิ์ “ออกญา” ซึ่งเทียบเท่ากับขุนนางอังกฤษ และไทยในอดีต
    .
    เฉิน จื้อ ชายวัย 37 ปี ซึ่งรู้จักกันในชื่อวินเซนต์ เป็นผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ทางการระบุว่าทำหน้าที่เป็นฉากหน้าของ "หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย" ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
    .
    กระทรวงยุติธรรมยังได้ยื่นฟ้องริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยยึด Bitcoin ได้ประมาณ 127,271 บิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่าราว 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.9 แสนล้านบาท ในราคาปัจจุบัน
    .
    “การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางการเงินผ่านไซเบอร์ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงระดับโลก” อัยการสูงสุด แพม บอนดี กล่าว
    .
    มีรายงานว่าเฉินได้สั่งการให้มีการบังคับใช้แรงงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกัมพูชา โดยมีการกักขังแรงงานค้ามนุษย์หลายร้อยคนไว้ในสถานที่คล้ายเรือนจำที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม
    .
    ปีที่แล้ว ชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ และเรียก Prince Holding Group ว่าเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในอุตสาหกรรมนี้ ทางการจีนได้ดำเนินการสืบสวนบริษัทนี้ในข้อหาหลอกลวงทางไซเบอร์และการฟอกเงินมาตั้งแต่ต้นปี 2020 ตามบันทึกของศาลที่ตรวจสอบโดยสถาบันสันติภาพสหรัฐฯ
    .
    ภายใต้การคุกคามของความรุนแรง พวกเขาถูกบังคับให้ดำเนินการตามกลลวงที่เรียกว่า "การฆ่าหมู" ซึ่งเป็นแผนการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างความไว้วางใจกับเหยื่อในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะขโมยเงินของพวกเขาไป แผนการดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่เหยื่อทั่วโลก ทำให้เกิดการสูญเสียนับพันล้าน
    .
    ศูนย์หลอกลวงทั่วทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ และภูมิภาคอื่นๆ ใช้โฆษณาหางานปลอมเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ซึ่งหลายคนเป็นชาวจีน ให้มาทำงานในสถานที่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ โดยคนเหล่านี้ถูกบังคับให้ฉ้อโกงทางออนไลน์ภายใต้ภัยคุกคามของการทรมาน
    .
    เฉินเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ติดตามผลกำไรและแผนการต่างๆ และยังมีภาพการทุบตีและการทรมานเหยื่ออีกด้วย เขาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับการลงโทษผู้ที่ “ก่อปัญหา” แต่เน้นย้ำว่าคนงาน “ไม่ควรถูกตีจนตาย” ผู้หลอกลวงมักติดต่อเหยื่อผ่านแอปส่งข้อความหรือโซเชียลมีเดีย โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุน ตามที่ฟ้องระบุ
    .
    นับตั้งแต่ประมาณปี 2015 Prince Group ได้ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศภายใต้ข้ออ้างของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และผู้บริโภคที่ถูกกฎหมาย อัยการกล่าว
    .
    เฉินและผู้บริหารระดับสูงถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลทางการเมืองและติดสินบนเจ้าหน้าที่ในหลายประเทศเพื่อปกป้องการดำเนินงาน รายได้ส่วนหนึ่งถูกฟอกเงินผ่านการพนันและการขุดสกุลเงินดิจิทัลของ Prince Group เอง
    .
    เจ้าหน้าที่เผยว่าเงินที่ถูกขโมยไปนั้นจะถูกนำไปใช้ในการซื้อของหรูหราต่างๆ รวมถึงนาฬิกา เรือยอทช์ เครื่องบินส่วนตัว บ้านพักตากอากาศ และภาพวาดของปิกัสโซที่ซื้อจากบ้านประมูลแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก
    .
    เฉินอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงทางสายโทรศัพท์และสมคบคิดฟอกเงิน
    .
    ในการดำเนินการประสานงานกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อังกฤษได้อายัดทรัพย์สิน 19 แห่งในลอนดอน มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายของเฉิน รวมถึงคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์ในลอนดอนตอนเหนือ
    .
    มาตรการคว่ำบาตรยังมุ่งเป้าไปที่ Qiu Wei Ren ผู้ร่วมงานของ Chen ซึ่งเป็นคนสัญชาติจีนที่มีสัญชาติกัมพูชา ไซปรัส และฮ่องกงอีกด้วย
    .
    การสืบสวนของ AFP เมื่อวันอังคารพบว่าศูนย์หลอกลวงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่เดือนหลังจากการปราบปรามในประเทศดังกล่าว
    .
    จีน ไทย และเมียนมาร์ บังคับให้กองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมาร์ซึ่งปกป้องศูนย์เหล่านี้สัญญาว่าจะปิดศูนย์เหล่านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยปล่อยตัวผู้คนไปประมาณ 7,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจีน
    .
    แต่ระบบคอลเซ็นเตอร์แบบโหดกำลังกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในเมียนมาร์ โดยขณะนี้ใช้ระบบดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    ด่วน!! สหรัฐฯ สั่งยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.9 แสนล้านบาท) ของนายเฉิน จื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา ซึ่งมีฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา บังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกาย ทรมานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล หนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงของฮุนเซน ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เป็น "การริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ" . มีรานงานล่าสุดว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) สั่งยึด Bitcoin ของนายเฉินจื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา มูลค่าหลายพันล้านจากกลโกงคริปโต ครั้งใหญ่ในกัมพูชา . นายเฉิน จื้อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าดำเนินค่ายแรงงานบังคับในกัมพูชา โดยบังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกายและทรมาน ที่ถูกค้ามนุษย์ดำเนินการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล และสามารถกวาดเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์ . สหรัฐ กล่าวว่า เฉิน จื้อ แห่ง Prince Holding Group และพวกพ้องของเขาถูกกล่าวหาว่าสร้างรายได้มากถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวันจากการหลอกลวงครั้งหนึ่ง และฉินเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และบิดาของเขา อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และได้รับเกียรติด้วยบรรดาศักดิ์ “ออกญา” ซึ่งเทียบเท่ากับขุนนางอังกฤษ และไทยในอดีต . เฉิน จื้อ ชายวัย 37 ปี ซึ่งรู้จักกันในชื่อวินเซนต์ เป็นผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ทางการระบุว่าทำหน้าที่เป็นฉากหน้าของ "หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย" ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ . กระทรวงยุติธรรมยังได้ยื่นฟ้องริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยยึด Bitcoin ได้ประมาณ 127,271 บิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่าราว 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.9 แสนล้านบาท ในราคาปัจจุบัน . “การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางการเงินผ่านไซเบอร์ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงระดับโลก” อัยการสูงสุด แพม บอนดี กล่าว . มีรายงานว่าเฉินได้สั่งการให้มีการบังคับใช้แรงงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกัมพูชา โดยมีการกักขังแรงงานค้ามนุษย์หลายร้อยคนไว้ในสถานที่คล้ายเรือนจำที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม . ปีที่แล้ว ชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ และเรียก Prince Holding Group ว่าเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในอุตสาหกรรมนี้ ทางการจีนได้ดำเนินการสืบสวนบริษัทนี้ในข้อหาหลอกลวงทางไซเบอร์และการฟอกเงินมาตั้งแต่ต้นปี 2020 ตามบันทึกของศาลที่ตรวจสอบโดยสถาบันสันติภาพสหรัฐฯ . ภายใต้การคุกคามของความรุนแรง พวกเขาถูกบังคับให้ดำเนินการตามกลลวงที่เรียกว่า "การฆ่าหมู" ซึ่งเป็นแผนการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างความไว้วางใจกับเหยื่อในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะขโมยเงินของพวกเขาไป แผนการดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่เหยื่อทั่วโลก ทำให้เกิดการสูญเสียนับพันล้าน . ศูนย์หลอกลวงทั่วทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ และภูมิภาคอื่นๆ ใช้โฆษณาหางานปลอมเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ซึ่งหลายคนเป็นชาวจีน ให้มาทำงานในสถานที่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ โดยคนเหล่านี้ถูกบังคับให้ฉ้อโกงทางออนไลน์ภายใต้ภัยคุกคามของการทรมาน . เฉินเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ติดตามผลกำไรและแผนการต่างๆ และยังมีภาพการทุบตีและการทรมานเหยื่ออีกด้วย เขาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับการลงโทษผู้ที่ “ก่อปัญหา” แต่เน้นย้ำว่าคนงาน “ไม่ควรถูกตีจนตาย” ผู้หลอกลวงมักติดต่อเหยื่อผ่านแอปส่งข้อความหรือโซเชียลมีเดีย โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุน ตามที่ฟ้องระบุ . นับตั้งแต่ประมาณปี 2015 Prince Group ได้ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศภายใต้ข้ออ้างของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และผู้บริโภคที่ถูกกฎหมาย อัยการกล่าว . เฉินและผู้บริหารระดับสูงถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลทางการเมืองและติดสินบนเจ้าหน้าที่ในหลายประเทศเพื่อปกป้องการดำเนินงาน รายได้ส่วนหนึ่งถูกฟอกเงินผ่านการพนันและการขุดสกุลเงินดิจิทัลของ Prince Group เอง . เจ้าหน้าที่เผยว่าเงินที่ถูกขโมยไปนั้นจะถูกนำไปใช้ในการซื้อของหรูหราต่างๆ รวมถึงนาฬิกา เรือยอทช์ เครื่องบินส่วนตัว บ้านพักตากอากาศ และภาพวาดของปิกัสโซที่ซื้อจากบ้านประมูลแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก . เฉินอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงทางสายโทรศัพท์และสมคบคิดฟอกเงิน . ในการดำเนินการประสานงานกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อังกฤษได้อายัดทรัพย์สิน 19 แห่งในลอนดอน มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายของเฉิน รวมถึงคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์ในลอนดอนตอนเหนือ . มาตรการคว่ำบาตรยังมุ่งเป้าไปที่ Qiu Wei Ren ผู้ร่วมงานของ Chen ซึ่งเป็นคนสัญชาติจีนที่มีสัญชาติกัมพูชา ไซปรัส และฮ่องกงอีกด้วย . การสืบสวนของ AFP เมื่อวันอังคารพบว่าศูนย์หลอกลวงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่เดือนหลังจากการปราบปรามในประเทศดังกล่าว . จีน ไทย และเมียนมาร์ บังคับให้กองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมาร์ซึ่งปกป้องศูนย์เหล่านี้สัญญาว่าจะปิดศูนย์เหล่านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยปล่อยตัวผู้คนไปประมาณ 7,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจีน . แต่ระบบคอลเซ็นเตอร์แบบโหดกำลังกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในเมียนมาร์ โดยขณะนี้ใช้ระบบดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 3 – จอร์แดน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว3”
    จอร์แดน
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 Transjordan หรือที่ปัจจุบันเรียกกันว่า Jordan ยังไม่เป็นรัฐ เป็นเพียงกลุ่มหมู่บ้าน เรียงรายอยู่บริเวณใกล้เคียง ขึ้นกับอาณาจักรออตโตมาน อังกฤษเริ่มสนใจจอร์แดนด้านการเมืองเมื่อ ค.ศ.1930 เพราะฝรั่งเศสให้ความสนใจ ! มันเป็นสันดานของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ จะต้องคอยเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของฝรั่งเศส แล้วหยิบไม้เตรียมใช้เสี้ยม หรือขวาง ฯลฯ อะไรทำนองนั้น
    ฝรั่งเศสอ้างว่าเป็นหน้าที่ของฝรั่งเศส ที่จะต้องเข้าไปดูแลพวกชาวคริสต์ที่อยู่ในออตโตมาน บริเวณที่เป็นจอร์แดนปัจจุบัน โดยมีผู้ปกครองอิยิปต์ขณะนั้นคือ Mohammed Ali รู้เห็นเป็นใจด้วย ทำให้อังกฤษและรัสเซียไม่พอใจ มันกำลังตบตาหลอกลวงอะไรเราหรือเปล่า แล้วอังกฤษกับรัสเซียก็จับมือกันมาออกโรงไล่ Mohammed Ali กลับอิยิปต์ไป อย่ายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ แล้วผู้ใหญ่ 3 คนก็ตกลงกันเอง
    ฝรั่งเศสตกลงดูแลแคทอลิก และรัสเซียตกลงดูแลพวกออโทดอกซ์ (Orthodox) ส่วนอังกฤษบอกเราไม่ยุ่งเรื่องศาสนา ขอเรามีสิทธิภาพนอกอาณาเขต เหนือกฏหมายในแถบนั้นก็แล้วกัน (Extraterritotrial Status) แน่จริงๆลูกพี่ นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว อังกฤษบอก เราไม่สนใจอะไรในจอร์แดน
    เมื่อเริ่มต้นศตวรรษที่ 19 และออตโตมานคนป่วยของยุโรป เกิดเนื้อหอม มีคนอยากมาดูแลหลายราย แต่คนดูแลชื่อเยอรมันนี ทำให้อังกฤษต้องเตรียมการหาเหยื่อ และออกโรงแสดงความชำนาญในวิทยา ยุทธแม่ไม้ จัดเต็มชุด เริ่มแรกก็หลอกเหยื่อ Sharif Hussein ให้ไปช่วยยึดเมืองดามัสกัส เพื่อแยกออกมาจากออตโตมาน ส่วนอังกฤษมุ่งหน้าไปยึดปาเลสไตน์และเยรูซาเร็มใน ค.ศ.1917
    ในวันที่ฝ่ายตะวันตก ผู้ชนะในสงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังตัดแบ่งอาณาจักรออตโตมานกันอยู่ที่ปารีส Faisal ลูกชายของ Sharif Hussein ลงทุนไม่ขี่อูฐ แต่ขึ้นรถไฟมาประชุมด้วย เขาตั้งใจจะมาบอกว่าพวกอาหรับไม่เห็นด้วยกับเรื่องการแบ่งดินแดนตะวันออกกลาง ให้ยิวมาอยู่ที่ปาเลสไตน์ แต่มารถไฟช้ากว่าขี่อูฐ เมื่อมาถึง อังกฤษตัดสินใจเดินหน้าประกาศเรื่องให้ยิวมาอยู่ปาเลสไตน์ตามข้อตกลง Balfour Declaration ไปเรียบร้อยแล้ว
    ขณะเดียวกันนั้น พวกอาหรับเองก็จัดชุมนุมกันที่ ดามัสกัส ประกาศให้ซีเรียเป็นเอกราช และแต่งตั้ง Faisal ขึ้นเป็นกษัตริย์ ส่วน Abdullah น้องชายของ Faisal ประกาศตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์ของอิรัก
    สันนิบาตชาติ (Leagul of Nation) รู้เรื่องเข้าก็โวย บอกเฮ้ย พวกเจ้าประกาศแต่งตั้งกันเองไม่ได้ ต้องให้พวกเราเป็นคนเห็นชอบ ถึงจะเป็นเรื่องของตะวันออกกลาง แต่พวกเราชาวตะวันตกต่างหาก เป็นผู้ตัดสินเกี่ยวกับเขตแดน และชะตาชีวิตของพวกเจ้า และในการประชุมที่ San Remo ก็ยืนยันความเห็นของสันนิบาตชาติ หลังจากนั้นฝรั่งเศสก็อัญเชิญท่านกษัตริย์ Faisal ให้ขึ้นอูฐขนย้ายครอบครัวออกจากซีเรียเป็นการด่วน
    Faisal อาจจะว่าง่าย แต่ Abdullah บอกว่าอย่าไปยอมมันพี่เรา ว่าแล้วเขาก็อพยพชาวเผ่าร่อนเร่หลายพันคนมายังดามัสกัสประกาศบุกซีเรีย ท้าทายฝรั่งเศส ทวงถามสิทธิในบัลลังก์ของพี่ชาย คราวนี้อังกฤษนั่งไม่ติด ออกมาห้ามทัพ อังกฤษบอกกันเอง แต่ไม่ได้บอกพวกอาหรับว่า ถึงสัมพันธ์อังกฤษฝรั่งเศสจะลุ่มๆดอนๆ ก็ยังมีค่ากว่าพวกเร่ร่อนเป็นร้อยเท่า
    ก่อนตัดสินใจดำเนินการต่อ อังกฤษจัดประชุมหัวหน้าเผ่าอาหรับระดับพี่ใหญ่ทั้งหลาย ถามความเห็นเกี่ยวกับเรื่องยิวมาอยู่ในตะวันออกกลาง พวกอาหรับบอก ตะวันตกอยากจะทำอะไรก็เชิญ แต่พวกเรากำลังจะตั้งกลุ่มศาสนานิกายวาฮาบี ภายใต้การนำของหัวหน้าเผ่าใหญ่ Ibn Saud ซึ่งเริ่มมีอำนาจและอิทธิพลขึ้นเรื่อยๆ อังกฤษคงยังแปลคำตอบแบบตะวันออกกลางไม่ออก หรือแกล้งไม่เข้าใจ หรือเข้าใจดีอย่างชัดเจน
    อังกฤษเดินหน้าจับเข่า หักมือ Abdullah บอกว่าใจเย็นๆ เราจะปล่อยให้ท่านทะเลาะกับฝรั่งเศสไม่ได้ แต่เราก็ไม่ทำให้ท่านผิดหวังหรอก เราจะจัดการให้ท่านไปเป็นหัวหน้ารัฐ Transjordan ส่วนพี่ชายของท่าน Faisal เราจะจัดการให้เขาได้เป็นกษัตริย์ที่อิรักก็แล้วกันนะ เจอทองเรียกว่าพี่เข้า Abdullah ก็ใจอ่อน ถอยทัพออกไปจากซีเรีย เพียงแต่ต้องเพิ่มอูฐอีกหลายตัวหน่อย เพื่อขนทองของกำนัลปิดปากจากนักล่าชาวเกาะฯ
    ในการประชุม Cairo Conference เกี่ยวกับกิจการตะวันออกกลางของอังกฤษเมื่อ ค.ศ.1921 ซึ่งอำนวยการโดยท่านหลอด Winston Churchill อังกฤษจัดการตัดแบ่งปาเลสไตน์ยาวตามเส้นทางของแม่น้ำจอร์ แดนไปถึงอ่าวอกาบา (Gulf of Aqaba) โดยเรียกด้านตะวันตกว่า Transjordan ให้พวกอาหรับของ Abdullah ไปอยู่ ภายใต้การดูแลของกงสุลอังกฤษที่ประจำอยู่ปาเลสไตน์ สันนิบาตชาติประทับตราเห็นชอบ (ตามเคย!) แล้วอังกฤษก็มีอิทธิพลใน Transjordan เต็มที่ตั้งแต่นั้นมา
    ชาวจอร์แดนส่วนใหญ่ทำกสิกรรม จอร์แดนเป็นบริเวณเดียวในตะวันออกกลางที่ไม่มีแหล่งน้ำมัน แต่อังกฤษก็ยังสนใจ อุ้มชู ดูแล เหมือนจะตอบแทนบุญคุณของ Sharif Hussein !
    ตลอดเวลานับตั้งแต่อังกฤษตั้ง Transjordan พวกฮาวาบี ซึ่งก่อตั้งใหม่เอี่ยม ก็บุกเข้ามาตีรวนในจอร์แดนตลอดเวลาเหมือนกัน อย่างน้อยปีละครั้ง ตั้งแต่ ค.ศ.1921 เป็นต้นมา ไม่ให้พวก Abdullah นั่งหงอยเหงา อังกฤษก็ทำหน้าที่เป็นผู้ขับไล่ออกไปทุกครั้ง อังกฤษดูแลด้านความมั่นคง การเงิน และการต่างประเทศของจอร์แดนรวมทั้งจ่ายค่าเลี้ยงดูชาวจอร์แดนอีกด้วย นักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯใจดีผิดสันดาน
    จอร์แดนเป็นบริเวณกันชนระหว่างปาเลสไตน์กับอิรัก และเป็นเส้นทางบินระหว่างอังกฤษกับอินเดียสมัยนั้น แต่นั่นคงไม่น่ามีค่าพอทำให้อังกฤษลงทุนควักกระเป๋าเลี้ยงดูจอร์แดน
    ด้วยเขตแดนของจอร์แดนที่ติดกับซาอุดิอารเบีย ทำให้พวกวาฮาบีข้ามเขตมารุกรานจอร์แดนเหมือนเป็นกิจกรรมหลัก ในที่สุดอังกฤษก็ขอเจรจากับซา อุดิอารเบีย อังกฤษยึดเมืองอกาบาไป และยอมยก Wadi Sirhan ให้ซาอุดิอารเบียและ ค.ศ.1925 Hadda Agreement ก็ลงนาม Wadi Sirhan ตกลงเป็นส่วนหนึ่งของ Nejd ของซาอุดิและอกาบาเป็นส่วนหนึ่งของTransjordan
    ซาอุดิอารเบียกลืนเบ็ดโดยไม่รู้ตัว Aqaba Gulf เป็นจุดสำคัญในการคุมทางเข้าปาเลสไตน์และอิยิปต์จากพวกวาฮาบี
    Abdullah ยังมีความฝันตามพ่อ ที่จะเห็นรัฐอาหรับ สำหรับ Abdullah เขาอยากจะครองอาณาจักรที่ประกอบไปด้วย Transjordan ซีเรีย เลบานอน รวมไปถึงปาเลสไตน์ เพราะฝันแบบนี้ Abdullah ซึ่งเป็นหัวหน้าอาหรับคนเดียวที่เห็นด้วยกับมติของสหประชาชาติ ที่ยอมรับการจัดสรรดินแดนปาเลสไตน์ในปี ค.ศ.1947
    เกือบทุกรัฐอาหรับไม่ไว้ใจ Abdullah และเห็นว่าเขาหักหลังพรรคพวก และเชื่อว่าเขาสนับสนุนให้มีการตั้งรัฐให้ยิวเสียด้วยซ้ำ
    เมื่อถูกกล่าวหาเช่นนั้น Abdullah ก็มีพวกน้อยลง และไว้ใจพวกน้อยลง การตัดแบ่ง Transjordan และการให้ Abdullah มาครอง จึงน่าจะเป็นยุทธศาสตร์แม่ไม้ของขาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่เหี้ยมโหดสิ้นดี อังกฤษรู้ดีว่าชาวอาหรับส่วนใหญ่คิดอย่างไรเรื่องการให้ยิวมาอยู่ปาเลสไตน์ ตั้งแต่เมื่อเรียกประชุมพวกอาหรับ แต่เขาเดินหน้าหลอกเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยเฉพาะเหยื่อที่เป็นพวกครอบครัวของ Sharif Hussein !
    วันที่ 20 กรกฏาคม ค.ศ.1951 Abdullah ก็ถูกยิงตายอยู่บนบันไดทางขึ้นของ Al-Aqsa Mosque ในนครเยรูซาเร็ม คนยิงเขาเป็นชาวปาเลสไตน์ ซึ่งต่อต้านจอร์แดนที่ทำตัวเป็นมิตรกับอิสราเอล
    ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน Raid Bay al-Solh อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอนถูกฆาตกรรมที่อัมมาน (Amman) หลังจากมีข่าวลือออกไปทั่วว่า เลบานอนและจอร์แดนกำลังเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล
    Abdullah ไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อร่วมพิธีสวดให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน และก็ถูกยิงตรงทางขึ้นโบสถ์ที่ กำลังมีพิธีสวด เขาถูกยิง 3 นัด ที่หัวและหน้าอก หลานชายของเขา Hussien bin Talal (กษัตริย์จอร์แดนตั้งแต่ ค.ศ.1953-1999) ยืนอยู่ข้างปู่ของเขาขณะที่ปู่ของเขาถูกยิง
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
12 ก.ย. 57
    เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 3 – จอร์แดน นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว3” จอร์แดน
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 Transjordan หรือที่ปัจจุบันเรียกกันว่า Jordan ยังไม่เป็นรัฐ เป็นเพียงกลุ่มหมู่บ้าน เรียงรายอยู่บริเวณใกล้เคียง ขึ้นกับอาณาจักรออตโตมาน อังกฤษเริ่มสนใจจอร์แดนด้านการเมืองเมื่อ ค.ศ.1930 เพราะฝรั่งเศสให้ความสนใจ ! มันเป็นสันดานของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ จะต้องคอยเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของฝรั่งเศส แล้วหยิบไม้เตรียมใช้เสี้ยม หรือขวาง ฯลฯ อะไรทำนองนั้น ฝรั่งเศสอ้างว่าเป็นหน้าที่ของฝรั่งเศส ที่จะต้องเข้าไปดูแลพวกชาวคริสต์ที่อยู่ในออตโตมาน บริเวณที่เป็นจอร์แดนปัจจุบัน โดยมีผู้ปกครองอิยิปต์ขณะนั้นคือ Mohammed Ali รู้เห็นเป็นใจด้วย ทำให้อังกฤษและรัสเซียไม่พอใจ มันกำลังตบตาหลอกลวงอะไรเราหรือเปล่า แล้วอังกฤษกับรัสเซียก็จับมือกันมาออกโรงไล่ Mohammed Ali กลับอิยิปต์ไป อย่ายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ แล้วผู้ใหญ่ 3 คนก็ตกลงกันเอง ฝรั่งเศสตกลงดูแลแคทอลิก และรัสเซียตกลงดูแลพวกออโทดอกซ์ (Orthodox) ส่วนอังกฤษบอกเราไม่ยุ่งเรื่องศาสนา ขอเรามีสิทธิภาพนอกอาณาเขต เหนือกฏหมายในแถบนั้นก็แล้วกัน (Extraterritotrial Status) แน่จริงๆลูกพี่ นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว อังกฤษบอก เราไม่สนใจอะไรในจอร์แดน เมื่อเริ่มต้นศตวรรษที่ 19 และออตโตมานคนป่วยของยุโรป เกิดเนื้อหอม มีคนอยากมาดูแลหลายราย แต่คนดูแลชื่อเยอรมันนี ทำให้อังกฤษต้องเตรียมการหาเหยื่อ และออกโรงแสดงความชำนาญในวิทยา ยุทธแม่ไม้ จัดเต็มชุด เริ่มแรกก็หลอกเหยื่อ Sharif Hussein ให้ไปช่วยยึดเมืองดามัสกัส เพื่อแยกออกมาจากออตโตมาน ส่วนอังกฤษมุ่งหน้าไปยึดปาเลสไตน์และเยรูซาเร็มใน ค.ศ.1917 ในวันที่ฝ่ายตะวันตก ผู้ชนะในสงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังตัดแบ่งอาณาจักรออตโตมานกันอยู่ที่ปารีส Faisal ลูกชายของ Sharif Hussein ลงทุนไม่ขี่อูฐ แต่ขึ้นรถไฟมาประชุมด้วย เขาตั้งใจจะมาบอกว่าพวกอาหรับไม่เห็นด้วยกับเรื่องการแบ่งดินแดนตะวันออกกลาง ให้ยิวมาอยู่ที่ปาเลสไตน์ แต่มารถไฟช้ากว่าขี่อูฐ เมื่อมาถึง อังกฤษตัดสินใจเดินหน้าประกาศเรื่องให้ยิวมาอยู่ปาเลสไตน์ตามข้อตกลง Balfour Declaration ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันนั้น พวกอาหรับเองก็จัดชุมนุมกันที่ ดามัสกัส ประกาศให้ซีเรียเป็นเอกราช และแต่งตั้ง Faisal ขึ้นเป็นกษัตริย์ ส่วน Abdullah น้องชายของ Faisal ประกาศตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์ของอิรัก สันนิบาตชาติ (Leagul of Nation) รู้เรื่องเข้าก็โวย บอกเฮ้ย พวกเจ้าประกาศแต่งตั้งกันเองไม่ได้ ต้องให้พวกเราเป็นคนเห็นชอบ ถึงจะเป็นเรื่องของตะวันออกกลาง แต่พวกเราชาวตะวันตกต่างหาก เป็นผู้ตัดสินเกี่ยวกับเขตแดน และชะตาชีวิตของพวกเจ้า และในการประชุมที่ San Remo ก็ยืนยันความเห็นของสันนิบาตชาติ หลังจากนั้นฝรั่งเศสก็อัญเชิญท่านกษัตริย์ Faisal ให้ขึ้นอูฐขนย้ายครอบครัวออกจากซีเรียเป็นการด่วน Faisal อาจจะว่าง่าย แต่ Abdullah บอกว่าอย่าไปยอมมันพี่เรา ว่าแล้วเขาก็อพยพชาวเผ่าร่อนเร่หลายพันคนมายังดามัสกัสประกาศบุกซีเรีย ท้าทายฝรั่งเศส ทวงถามสิทธิในบัลลังก์ของพี่ชาย คราวนี้อังกฤษนั่งไม่ติด ออกมาห้ามทัพ อังกฤษบอกกันเอง แต่ไม่ได้บอกพวกอาหรับว่า ถึงสัมพันธ์อังกฤษฝรั่งเศสจะลุ่มๆดอนๆ ก็ยังมีค่ากว่าพวกเร่ร่อนเป็นร้อยเท่า ก่อนตัดสินใจดำเนินการต่อ อังกฤษจัดประชุมหัวหน้าเผ่าอาหรับระดับพี่ใหญ่ทั้งหลาย ถามความเห็นเกี่ยวกับเรื่องยิวมาอยู่ในตะวันออกกลาง พวกอาหรับบอก ตะวันตกอยากจะทำอะไรก็เชิญ แต่พวกเรากำลังจะตั้งกลุ่มศาสนานิกายวาฮาบี ภายใต้การนำของหัวหน้าเผ่าใหญ่ Ibn Saud ซึ่งเริ่มมีอำนาจและอิทธิพลขึ้นเรื่อยๆ อังกฤษคงยังแปลคำตอบแบบตะวันออกกลางไม่ออก หรือแกล้งไม่เข้าใจ หรือเข้าใจดีอย่างชัดเจน อังกฤษเดินหน้าจับเข่า หักมือ Abdullah บอกว่าใจเย็นๆ เราจะปล่อยให้ท่านทะเลาะกับฝรั่งเศสไม่ได้ แต่เราก็ไม่ทำให้ท่านผิดหวังหรอก เราจะจัดการให้ท่านไปเป็นหัวหน้ารัฐ Transjordan ส่วนพี่ชายของท่าน Faisal เราจะจัดการให้เขาได้เป็นกษัตริย์ที่อิรักก็แล้วกันนะ เจอทองเรียกว่าพี่เข้า Abdullah ก็ใจอ่อน ถอยทัพออกไปจากซีเรีย เพียงแต่ต้องเพิ่มอูฐอีกหลายตัวหน่อย เพื่อขนทองของกำนัลปิดปากจากนักล่าชาวเกาะฯ ในการประชุม Cairo Conference เกี่ยวกับกิจการตะวันออกกลางของอังกฤษเมื่อ ค.ศ.1921 ซึ่งอำนวยการโดยท่านหลอด Winston Churchill อังกฤษจัดการตัดแบ่งปาเลสไตน์ยาวตามเส้นทางของแม่น้ำจอร์ แดนไปถึงอ่าวอกาบา (Gulf of Aqaba) โดยเรียกด้านตะวันตกว่า Transjordan ให้พวกอาหรับของ Abdullah ไปอยู่ ภายใต้การดูแลของกงสุลอังกฤษที่ประจำอยู่ปาเลสไตน์ สันนิบาตชาติประทับตราเห็นชอบ (ตามเคย!) แล้วอังกฤษก็มีอิทธิพลใน Transjordan เต็มที่ตั้งแต่นั้นมา ชาวจอร์แดนส่วนใหญ่ทำกสิกรรม จอร์แดนเป็นบริเวณเดียวในตะวันออกกลางที่ไม่มีแหล่งน้ำมัน แต่อังกฤษก็ยังสนใจ อุ้มชู ดูแล เหมือนจะตอบแทนบุญคุณของ Sharif Hussein ! ตลอดเวลานับตั้งแต่อังกฤษตั้ง Transjordan พวกฮาวาบี ซึ่งก่อตั้งใหม่เอี่ยม ก็บุกเข้ามาตีรวนในจอร์แดนตลอดเวลาเหมือนกัน อย่างน้อยปีละครั้ง ตั้งแต่ ค.ศ.1921 เป็นต้นมา ไม่ให้พวก Abdullah นั่งหงอยเหงา อังกฤษก็ทำหน้าที่เป็นผู้ขับไล่ออกไปทุกครั้ง อังกฤษดูแลด้านความมั่นคง การเงิน และการต่างประเทศของจอร์แดนรวมทั้งจ่ายค่าเลี้ยงดูชาวจอร์แดนอีกด้วย นักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯใจดีผิดสันดาน จอร์แดนเป็นบริเวณกันชนระหว่างปาเลสไตน์กับอิรัก และเป็นเส้นทางบินระหว่างอังกฤษกับอินเดียสมัยนั้น แต่นั่นคงไม่น่ามีค่าพอทำให้อังกฤษลงทุนควักกระเป๋าเลี้ยงดูจอร์แดน ด้วยเขตแดนของจอร์แดนที่ติดกับซาอุดิอารเบีย ทำให้พวกวาฮาบีข้ามเขตมารุกรานจอร์แดนเหมือนเป็นกิจกรรมหลัก ในที่สุดอังกฤษก็ขอเจรจากับซา อุดิอารเบีย อังกฤษยึดเมืองอกาบาไป และยอมยก Wadi Sirhan ให้ซาอุดิอารเบียและ ค.ศ.1925 Hadda Agreement ก็ลงนาม Wadi Sirhan ตกลงเป็นส่วนหนึ่งของ Nejd ของซาอุดิและอกาบาเป็นส่วนหนึ่งของTransjordan ซาอุดิอารเบียกลืนเบ็ดโดยไม่รู้ตัว Aqaba Gulf เป็นจุดสำคัญในการคุมทางเข้าปาเลสไตน์และอิยิปต์จากพวกวาฮาบี Abdullah ยังมีความฝันตามพ่อ ที่จะเห็นรัฐอาหรับ สำหรับ Abdullah เขาอยากจะครองอาณาจักรที่ประกอบไปด้วย Transjordan ซีเรีย เลบานอน รวมไปถึงปาเลสไตน์ เพราะฝันแบบนี้ Abdullah ซึ่งเป็นหัวหน้าอาหรับคนเดียวที่เห็นด้วยกับมติของสหประชาชาติ ที่ยอมรับการจัดสรรดินแดนปาเลสไตน์ในปี ค.ศ.1947 เกือบทุกรัฐอาหรับไม่ไว้ใจ Abdullah และเห็นว่าเขาหักหลังพรรคพวก และเชื่อว่าเขาสนับสนุนให้มีการตั้งรัฐให้ยิวเสียด้วยซ้ำ เมื่อถูกกล่าวหาเช่นนั้น Abdullah ก็มีพวกน้อยลง และไว้ใจพวกน้อยลง การตัดแบ่ง Transjordan และการให้ Abdullah มาครอง จึงน่าจะเป็นยุทธศาสตร์แม่ไม้ของขาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่เหี้ยมโหดสิ้นดี อังกฤษรู้ดีว่าชาวอาหรับส่วนใหญ่คิดอย่างไรเรื่องการให้ยิวมาอยู่ปาเลสไตน์ ตั้งแต่เมื่อเรียกประชุมพวกอาหรับ แต่เขาเดินหน้าหลอกเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยเฉพาะเหยื่อที่เป็นพวกครอบครัวของ Sharif Hussein ! วันที่ 20 กรกฏาคม ค.ศ.1951 Abdullah ก็ถูกยิงตายอยู่บนบันไดทางขึ้นของ Al-Aqsa Mosque ในนครเยรูซาเร็ม คนยิงเขาเป็นชาวปาเลสไตน์ ซึ่งต่อต้านจอร์แดนที่ทำตัวเป็นมิตรกับอิสราเอล ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน Raid Bay al-Solh อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอนถูกฆาตกรรมที่อัมมาน (Amman) หลังจากมีข่าวลือออกไปทั่วว่า เลบานอนและจอร์แดนกำลังเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล Abdullah ไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อร่วมพิธีสวดให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน และก็ถูกยิงตรงทางขึ้นโบสถ์ที่ กำลังมีพิธีสวด เขาถูกยิง 3 นัด ที่หัวและหน้าอก หลานชายของเขา Hussien bin Talal (กษัตริย์จอร์แดนตั้งแต่ ค.ศ.1953-1999) ยืนอยู่ข้างปู่ของเขาขณะที่ปู่ของเขาถูกยิง สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
12 ก.ย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญท่านพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ปี2504
    เหรียญท่านพ่อลี เนื้อทองแดง วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ปี2504 // พระดีพิธีขลัง !! ทันหลวงพ่อปลุกเสก หลวงพ่อลี พระวิปัสสนาจารย์สายพระป่า ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต และอดีตเจ้าอาวาสวัดอโศการาม //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรือง เสริมดวงชะตาราศรี ป้องกันภัย เมตตามหานิยม ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสนียดจัญไร เสริมโชคลาภ ช่วยให้มีความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย และเป็นสิริมงคล >>

    ** “หลวงพ่อลี ธัมมธโร” หรือ “ท่านพ่อลี” แห่งวัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นศิษย์สายวิปัสสนากัมมัฏฐานอันดับต้นของ “พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต” บูรพาจารย์สายพระป่า
    ริเริ่มและสร้างวัดอโศการาม จนเจริญรุ่งเรืองและมีชื่อเสียงมาจวบถึงปัจจุบัน เป็นที่เคารพศรัทธาของลูกศิษย์ลูกหาและสาธุชนทั่วไป แม้แต่จอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรี ยังมาฝากตัวเป็นศิษย์

    ** หลวงตามหาบัว เล่าให้ฟังว่า ท่านพ่อลี เป็นพระรูปเดียวที่หลวงปู่มั่น ไม่เคยตำหนิอะไรเลย หากแต่หลวงปู่มั่น ยังยกย่องในคุณธรรมว่าท่านพ่อลี เป็นพระที่บริสุทธิ์จริงๆ ... >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131

    เหรียญท่านพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ปี2504 เหรียญท่านพ่อลี เนื้อทองแดง วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ปี2504 // พระดีพิธีขลัง !! ทันหลวงพ่อปลุกเสก หลวงพ่อลี พระวิปัสสนาจารย์สายพระป่า ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต และอดีตเจ้าอาวาสวัดอโศการาม //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรือง เสริมดวงชะตาราศรี ป้องกันภัย เมตตามหานิยม ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสนียดจัญไร เสริมโชคลาภ ช่วยให้มีความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย และเป็นสิริมงคล >> ** “หลวงพ่อลี ธัมมธโร” หรือ “ท่านพ่อลี” แห่งวัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นศิษย์สายวิปัสสนากัมมัฏฐานอันดับต้นของ “พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต” บูรพาจารย์สายพระป่า ริเริ่มและสร้างวัดอโศการาม จนเจริญรุ่งเรืองและมีชื่อเสียงมาจวบถึงปัจจุบัน เป็นที่เคารพศรัทธาของลูกศิษย์ลูกหาและสาธุชนทั่วไป แม้แต่จอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรี ยังมาฝากตัวเป็นศิษย์ ** หลวงตามหาบัว เล่าให้ฟังว่า ท่านพ่อลี เป็นพระรูปเดียวที่หลวงปู่มั่น ไม่เคยตำหนิอะไรเลย หากแต่หลวงปู่มั่น ยังยกย่องในคุณธรรมว่าท่านพ่อลี เป็นพระที่บริสุทธิ์จริงๆ ... >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และ คุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ มารดา เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยน.ส.แพทองธาร เผย เป็นการเยี่ยมผ่านกระจก คุณพ่อตัดผมสั้นแล้ว คุณพ่อจิตใจเข้มแข็งกว่าเราอีก คุณพ่อให้กำลังใจเรา ส่วนสิ่งที่คุณพ่ออยากฝากบอกคนข้างนอกที่คอยให้กำลังใจ คือ สุขภาพแข็งแรงดี มีเรื่องของความดันบ้าง มีความเครียดเพราะต้องเข้าไปอยู่ เป็นเรื่องปกติ ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจให้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เจอกันมา 17 ปี รอบนี้เจอผ่านกระจก ชีวิตครอบครัวเรามีหลายรสชาติ ได้เจอกันประมาณ 30 นาที ส่วนการอาจได้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานเรือนจำนั้น ก็คงมีประสบการณ์ที่สามารถแชร์ได้ ไม่ใช่เรื่องของภาษาอย่างเดียว แต่รวมถึงมุมมองต่างๆ คุณพ่ออาจชอบเป็นอาจารย์ ชอบอ่านหนังสือ
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และ คุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ มารดา เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยน.ส.แพทองธาร เผย เป็นการเยี่ยมผ่านกระจก คุณพ่อตัดผมสั้นแล้ว คุณพ่อจิตใจเข้มแข็งกว่าเราอีก คุณพ่อให้กำลังใจเรา ส่วนสิ่งที่คุณพ่ออยากฝากบอกคนข้างนอกที่คอยให้กำลังใจ คือ สุขภาพแข็งแรงดี มีเรื่องของความดันบ้าง มีความเครียดเพราะต้องเข้าไปอยู่ เป็นเรื่องปกติ ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจให้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เจอกันมา 17 ปี รอบนี้เจอผ่านกระจก ชีวิตครอบครัวเรามีหลายรสชาติ ได้เจอกันประมาณ 30 นาที ส่วนการอาจได้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานเรือนจำนั้น ก็คงมีประสบการณ์ที่สามารถแชร์ได้ ไม่ใช่เรื่องของภาษาอย่างเดียว แต่รวมถึงมุมมองต่างๆ คุณพ่ออาจชอบเป็นอาจารย์ ชอบอ่านหนังสือ
    Haha
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 490 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เมื่อเวลา 10.40 น. ที่เรือนจำคลองเปรม คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ , แพทองธาร ชินวัตร , พินทองทา คุณากรวงษ์ ออกจากห้องเยี่ยม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งคุณหญิงพจมาน ได้เดินทางกลับก่อน ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ มีเพียง แพทองธาร ให้สัมภาษณ์

    แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่าได้เจอคุณพ่อ โดยเยี่ยมผ่านกระจก ไม่ได้สัมผัส ได้พูดคุยและให้กำลังใจคุณพ่อ ซึ่งผู้คุมก็เล่าให้ฟังว่ามีประชาชนมาให้กำลังใจ และคุณพ่อฝากขอบคุณทุกกำลังใจ ด้านสุขภาพมีเรื่องความดันขึ้นๆ ลงๆ แต่จิตใจเข้มแข็งกว่าเราอีก สุขภาพด้านอื่นๆ แข็งแรงดี

    เครดิต สนข. #prachachart
    เมื่อเวลา 10.40 น. ที่เรือนจำคลองเปรม คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ , แพทองธาร ชินวัตร , พินทองทา คุณากรวงษ์ ออกจากห้องเยี่ยม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งคุณหญิงพจมาน ได้เดินทางกลับก่อน ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ มีเพียง แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่าได้เจอคุณพ่อ โดยเยี่ยมผ่านกระจก ไม่ได้สัมผัส ได้พูดคุยและให้กำลังใจคุณพ่อ ซึ่งผู้คุมก็เล่าให้ฟังว่ามีประชาชนมาให้กำลังใจ และคุณพ่อฝากขอบคุณทุกกำลังใจ ด้านสุขภาพมีเรื่องความดันขึ้นๆ ลงๆ แต่จิตใจเข้มแข็งกว่าเราอีก สุขภาพด้านอื่นๆ แข็งแรงดี เครดิต สนข. #prachachart
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • กู้ศรัทธาประชาธิปัตย์ เหล้าเก่าในขวดเก่า

    เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว สู่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย จึงไม่แปลกที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) แม้อ้างว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ที่ผ่านมา ปชป. ยุคนายเฉลิมชัยถูกวิจารณ์ว่า จุดยืนทางการเมืองเปลี่ยนไป นับตั้งแต่นายเฉลิมชัยนำ สส. 21 คนเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งที่สองพรรคนี้ไม่ถูกกันยาวนานกว่า 20 ปี โดยมีข่าวว่านายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ไปดีลกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงเอาไว้ นับจากนั้นเป็นต้นมาเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนัก บรรดาสมาชิกพรรคเก่าแก่หลายคนลาออก

    เมื่อนายเฉลิมชัยลาออกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ปชป. ชุดใหม่ รายงานข่าวแจ้งว่ามีความพยายามในการดึงแกนนำพรรค ที่เว้นวรรคทางการเมือง หรือลาออกจากพรรคไปแล้ว มาร่วมกลับบ้านเก่า ฟื้นฟูพรรคกันใหม่ เพื่อกู้วิกฤตศรัทธา และเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึง เพราะที่ผ่านมาฐานเสียง ปชป. ในภาคใต้ ถูกเจาะยางจากพรรคคู่แข่งในหลายพื้นที่ เช่น นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค และ สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ภาพคู่กับนายกรณ์ จาติกวณิช ที่โรงแรมอนันตรา พร้อมระบุว่า "คิดถึงเลยเจอกันครับ #ฟ้าวันใหม่สดใสเสมอ"

    หรือจะเป็นการจุดกระแสชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมานำพรรคอีกครั้ง หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจเว้นวรรคทางการเมือง มาตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปี 2562 เพราะได้ สส.ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง อีกทั้งมติพรรค ปชป.ขณะนั้นสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ผันตัวไปเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์เคยกล่าวบนเวทีผ่าทางตันประเทศไทย จัดโดยสื่อเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า “คุณไม่ต้องมาชวนผมกลับไปพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคุณเอาอุดมการณ์กลับมาได้ ผมกลับไปแน่นอน”

    เมื่อวันก่อน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล จัดรายการหัวข้อ "คืน ปชป. ให้นายกฯ อภิสิทธิ์เถอะ" คนดูส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ปชป. ควรให้นายอภิสิทธิ์กลับมาบริหารพรรค อดีตสมาชิกพรรคบางคน เริ่มคิดอยากฟื้นฟูอุดมการณ์ประชาธิปัตย์กลับคืนมา บางคนตั้งคำถามว่า ที่พรรคอยู่ในจุดตกต่ำเป็นเพราะคน ผู้นำพรรค หรือเป็นเพราะโครงสร้างและอุดมการณ์ของพรรคกันแน่ ถึงกระนั้น ก็มีอีกส่วนหนึ่งก็เห็นว่า หากพรรคยังคงชูแกนนำพรรคชุดเก่าซึ่งมีชนักติดหลัง พรรคก็คงไม่ไปถึงไหน จึงเสนอให้คนรุ่นใหม่ออกมานำพรรค แล้วให้นายอภิสิทธิ์ และแกนนำคนอื่น เป็นที่ปรึกษาก็พอ

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.2568)
    กู้ศรัทธาประชาธิปัตย์ เหล้าเก่าในขวดเก่า เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว สู่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย จึงไม่แปลกที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) แม้อ้างว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ที่ผ่านมา ปชป. ยุคนายเฉลิมชัยถูกวิจารณ์ว่า จุดยืนทางการเมืองเปลี่ยนไป นับตั้งแต่นายเฉลิมชัยนำ สส. 21 คนเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งที่สองพรรคนี้ไม่ถูกกันยาวนานกว่า 20 ปี โดยมีข่าวว่านายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ไปดีลกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงเอาไว้ นับจากนั้นเป็นต้นมาเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนัก บรรดาสมาชิกพรรคเก่าแก่หลายคนลาออก เมื่อนายเฉลิมชัยลาออกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ปชป. ชุดใหม่ รายงานข่าวแจ้งว่ามีความพยายามในการดึงแกนนำพรรค ที่เว้นวรรคทางการเมือง หรือลาออกจากพรรคไปแล้ว มาร่วมกลับบ้านเก่า ฟื้นฟูพรรคกันใหม่ เพื่อกู้วิกฤตศรัทธา และเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึง เพราะที่ผ่านมาฐานเสียง ปชป. ในภาคใต้ ถูกเจาะยางจากพรรคคู่แข่งในหลายพื้นที่ เช่น นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค และ สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ภาพคู่กับนายกรณ์ จาติกวณิช ที่โรงแรมอนันตรา พร้อมระบุว่า "คิดถึงเลยเจอกันครับ #ฟ้าวันใหม่สดใสเสมอ" หรือจะเป็นการจุดกระแสชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมานำพรรคอีกครั้ง หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจเว้นวรรคทางการเมือง มาตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปี 2562 เพราะได้ สส.ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง อีกทั้งมติพรรค ปชป.ขณะนั้นสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ผันตัวไปเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์เคยกล่าวบนเวทีผ่าทางตันประเทศไทย จัดโดยสื่อเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า “คุณไม่ต้องมาชวนผมกลับไปพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคุณเอาอุดมการณ์กลับมาได้ ผมกลับไปแน่นอน” เมื่อวันก่อน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล จัดรายการหัวข้อ "คืน ปชป. ให้นายกฯ อภิสิทธิ์เถอะ" คนดูส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ปชป. ควรให้นายอภิสิทธิ์กลับมาบริหารพรรค อดีตสมาชิกพรรคบางคน เริ่มคิดอยากฟื้นฟูอุดมการณ์ประชาธิปัตย์กลับคืนมา บางคนตั้งคำถามว่า ที่พรรคอยู่ในจุดตกต่ำเป็นเพราะคน ผู้นำพรรค หรือเป็นเพราะโครงสร้างและอุดมการณ์ของพรรคกันแน่ ถึงกระนั้น ก็มีอีกส่วนหนึ่งก็เห็นว่า หากพรรคยังคงชูแกนนำพรรคชุดเก่าซึ่งมีชนักติดหลัง พรรคก็คงไม่ไปถึงไหน จึงเสนอให้คนรุ่นใหม่ออกมานำพรรค แล้วให้นายอภิสิทธิ์ และแกนนำคนอื่น เป็นที่ปรึกษาก็พอ #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.2568)
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อไทยไม่ถอย ปรับกลยุทธ์รับเลือกตั้ง : [THE MESSAGE]

    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีไทยและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เผยกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับโทษจำคุกจะส่งผลกระทบอะไรกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น สมาชิกพรรคเพื่อไทยกำลังใจดี เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ท้อถอย ในพรรคไม่มีปัญหา สมาชิกยังมีความห่วงใยพรรคและเดินหน้าทำกิจกรรมของพรรคตามนโยบาย เตรียมเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยมีกลยุทธ์หลายอย่างในการขับเคลื่อนงาน เคยเป็นพรรคใหญ่อันดับหนึ่ง มีกลยุทธ์ต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ขอให้รอดูว่าเวลาที่เหลืออยู่จะมีการเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ไม่วิจารณ์รัฐบาลขณะนี้ ในส่วนดีอีงานที่ทำอยู่มีความสำคัญ เรื่องการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การคืนเงินให้ประชาชน ส่งเสริมระบบการใช้ e-Office ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะปรับเปลี่ยนสู่รัฐบาลดิจิทัลในอนาคต เรามีฝ่ายข้าราชการประจำที่เข้มแข็ง ทำงานร่วมกับฝ่ายการเมือง เขาน่าจะทำให้เป็นประโยชน์ได้
    เพื่อไทยไม่ถอย ปรับกลยุทธ์รับเลือกตั้ง : [THE MESSAGE] นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีไทยและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เผยกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับโทษจำคุกจะส่งผลกระทบอะไรกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น สมาชิกพรรคเพื่อไทยกำลังใจดี เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ท้อถอย ในพรรคไม่มีปัญหา สมาชิกยังมีความห่วงใยพรรคและเดินหน้าทำกิจกรรมของพรรคตามนโยบาย เตรียมเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยมีกลยุทธ์หลายอย่างในการขับเคลื่อนงาน เคยเป็นพรรคใหญ่อันดับหนึ่ง มีกลยุทธ์ต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ขอให้รอดูว่าเวลาที่เหลืออยู่จะมีการเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ไม่วิจารณ์รัฐบาลขณะนี้ ในส่วนดีอีงานที่ทำอยู่มีความสำคัญ เรื่องการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การคืนเงินให้ประชาชน ส่งเสริมระบบการใช้ e-Office ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะปรับเปลี่ยนสู่รัฐบาลดิจิทัลในอนาคต เรามีฝ่ายข้าราชการประจำที่เข้มแข็ง ทำงานร่วมกับฝ่ายการเมือง เขาน่าจะทำให้เป็นประโยชน์ได้
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ทักษิณยอมแพ้หนึ่งตา เพื่อตีฝ่าทั้งกระดาน

    ในที่สุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ให้จำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีทุจริต 3 คดี เป็นเวลา 1 ปีตามพระบรมราชโองการ หลังพบว่าการบังคับโทษเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ย้ายนายทักษิณออกจากเรือนจำไปยังห้องพักพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งที่ไม่ได้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน มีเพียงโรคประจำตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์สามารถรักษาได้ อีกทั้งนายทักษิณปฎิเสธการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจ และโรคกระดูกคอกดทับไขสันหลังและเส้นประสาท แต่เลือกผ่าตัดนิ้วล็อกและเอ็นหัวไหล่ขวา ซึ่งไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ทำให้กระบวนการบังคับโทษรวมทั้งการพักโทษไม่มีผลตามกฎหมาย และไม่สามารถนำระยะเวลาพักรักษาตัว 180 วันมาหักเป็นวันคุมขังได้

    ด้านทีมงานนายทักษิณ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ตอนหนึ่งระบุว่า แม้ทุกคดีจะเกิดขึ้นหลังรัฐประหาร แต่วันนี้ขอมองไปข้างหน้า ให้ทุกอย่างที่ผ่านมามีข้อยุติ ทั้งการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และความขัดแย้งใดๆ อันเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับตนเอง ตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ เพื่อส่งกำลังใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า วิเคราะห์ว่านายทักษิณไม่มีทางหนีกระแสสังคม เพราะกระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณนอนห้องพิเศษถูกตีแผ่ สั่นสะเทือนทุกวงการ และแพทยสภาตัดสินให้แพทย์ 3 คนมีความผิด ภาวะผู้นำลูกผู้ชายไม่อาจใช้กับนายทักษิณได้ เพราะถ้าสำนึกผิดจริง 2 ปีที่แล้วต้องยอมติดคุก ใช้ชีวิตเหมือนนักโทษทั่วไป จึงจะได้ใจจากสังคมกลับมา

    อย่างไรก็ตาม นายทักษิณและบริวารยังคงไม่วางมือทางการเมือง ก่อนหน้านี้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ก่อนกลับประเทศไทยเมื่อบ่ายวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งพบว่ามีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณกลับมาด้วย ว่ากันว่าอาจจะผลักดัน นายยศนันท์ วงศ์สวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายนายสมชายและนางเยาวภา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่นายทักษิณฝากดูแล สั่งจัดทัพผู้สมัคร สส. 400 เขต ภายในกลางเดือน ต.ค. พร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ส่วน สส. งูเห่า 9 เสียงจะให้คณะกรรมการจริยธรรมพิจารณาลงโทษ

    นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอบคุณนายทักษิณ ที่แสดงความรับผิดชอบเดินทางกลับมาฟังคำพิพากษา ยอมรับว่านายทักษิณคิดถูกที่กลับมารับโทษ แต่ประเทศไทยไม่คุ้ม ติดคุกปีเดียว เป็นเรื่องที่กฎหมายทำได้แค่นั้น แต่ความเสียหายเป็นหมื่นล้านถึงแสนล้านบาท

    #Newskit
    ทักษิณยอมแพ้หนึ่งตา เพื่อตีฝ่าทั้งกระดาน ในที่สุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ให้จำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีทุจริต 3 คดี เป็นเวลา 1 ปีตามพระบรมราชโองการ หลังพบว่าการบังคับโทษเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ย้ายนายทักษิณออกจากเรือนจำไปยังห้องพักพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งที่ไม่ได้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน มีเพียงโรคประจำตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์สามารถรักษาได้ อีกทั้งนายทักษิณปฎิเสธการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจ และโรคกระดูกคอกดทับไขสันหลังและเส้นประสาท แต่เลือกผ่าตัดนิ้วล็อกและเอ็นหัวไหล่ขวา ซึ่งไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ทำให้กระบวนการบังคับโทษรวมทั้งการพักโทษไม่มีผลตามกฎหมาย และไม่สามารถนำระยะเวลาพักรักษาตัว 180 วันมาหักเป็นวันคุมขังได้ ด้านทีมงานนายทักษิณ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ตอนหนึ่งระบุว่า แม้ทุกคดีจะเกิดขึ้นหลังรัฐประหาร แต่วันนี้ขอมองไปข้างหน้า ให้ทุกอย่างที่ผ่านมามีข้อยุติ ทั้งการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และความขัดแย้งใดๆ อันเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับตนเอง ตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ เพื่อส่งกำลังใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า วิเคราะห์ว่านายทักษิณไม่มีทางหนีกระแสสังคม เพราะกระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณนอนห้องพิเศษถูกตีแผ่ สั่นสะเทือนทุกวงการ และแพทยสภาตัดสินให้แพทย์ 3 คนมีความผิด ภาวะผู้นำลูกผู้ชายไม่อาจใช้กับนายทักษิณได้ เพราะถ้าสำนึกผิดจริง 2 ปีที่แล้วต้องยอมติดคุก ใช้ชีวิตเหมือนนักโทษทั่วไป จึงจะได้ใจจากสังคมกลับมา อย่างไรก็ตาม นายทักษิณและบริวารยังคงไม่วางมือทางการเมือง ก่อนหน้านี้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ก่อนกลับประเทศไทยเมื่อบ่ายวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งพบว่ามีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณกลับมาด้วย ว่ากันว่าอาจจะผลักดัน นายยศนันท์ วงศ์สวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายนายสมชายและนางเยาวภา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่นายทักษิณฝากดูแล สั่งจัดทัพผู้สมัคร สส. 400 เขต ภายในกลางเดือน ต.ค. พร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ส่วน สส. งูเห่า 9 เสียงจะให้คณะกรรมการจริยธรรมพิจารณาลงโทษ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอบคุณนายทักษิณ ที่แสดงความรับผิดชอบเดินทางกลับมาฟังคำพิพากษา ยอมรับว่านายทักษิณคิดถูกที่กลับมารับโทษ แต่ประเทศไทยไม่คุ้ม ติดคุกปีเดียว เป็นเรื่องที่กฎหมายทำได้แค่นั้น แต่ความเสียหายเป็นหมื่นล้านถึงแสนล้านบาท #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ใน คดีชั้น 14 ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่เรือนจำฯประกาศหยุดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากมีการปรับปรุงพื้นที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000086329

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ใน คดีชั้น 14 ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่เรือนจำฯประกาศหยุดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากมีการปรับปรุงพื้นที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000086329 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 1 รีวิว
  • ไม่อาจหยั่งรู้ไม่พูดปม "ทักษิณ" ไปดูไบ : [THE MESSAGE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เผยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏข้อมูลการเดินทางไปดูไบ ขัดแย้งกับที่ระบุว่าจะไปตรวจสุขภาพที่สิงคโปร์ นายทักษิณได้ชี้แจงผ่านเพจนายทักษิณแล้ว ไม่สามารถไปรู้ข้อมูลและนำมาพูดได้ ส่วนจะเดินทางกลับประเทศไทยวันที่เท่าไหร่ ในเพจนายทักษิณพูดชัดเจนแล้วเป็นเรื่องของนายทักษิณ ตนไม่อาจไปรู้กว้างอย่างนั้นได้ ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่าในวันที่ 9 ก.ย. 2568 นายทักษิณจะเดินทางมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง ให้ไปอ่านเพจของนายทักษิณ
    ไม่อาจหยั่งรู้ไม่พูดปม "ทักษิณ" ไปดูไบ : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เผยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏข้อมูลการเดินทางไปดูไบ ขัดแย้งกับที่ระบุว่าจะไปตรวจสุขภาพที่สิงคโปร์ นายทักษิณได้ชี้แจงผ่านเพจนายทักษิณแล้ว ไม่สามารถไปรู้ข้อมูลและนำมาพูดได้ ส่วนจะเดินทางกลับประเทศไทยวันที่เท่าไหร่ ในเพจนายทักษิณพูดชัดเจนแล้วเป็นเรื่องของนายทักษิณ ตนไม่อาจไปรู้กว้างอย่างนั้นได้ ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่าในวันที่ 9 ก.ย. 2568 นายทักษิณจะเดินทางมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง ให้ไปอ่านเพจของนายทักษิณ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 576 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สะพัด! ‘ทักษิณ’ เตรียมบินไปสิงคโปร์ หลังเอกสารห้ามเดินทางออกนอกประเทศ คดี ม.112 สิ้นสุด
    .
    วันที่ 4 กันยายน 2568 มีรายงานจากท่าอากาศยานดอนเมือง ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางออกจากประเทศไทยด้วยเครื่องบินส่วนตัว (Private Jet) จาก M JET ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีข่าวลือในช่วงแรกว่าปลายทางคือ หัวหิน ประจวบฯ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีข้อมูลยืนยันว่านายทักษิณมีแผนจะเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์
    .
    รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และการท่าอากาศยาน ได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารของนายทักษิณอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีความ โดยเฉพาะคดีตามมาตรา 112 ซึ่งขณะนี้สิ้นสุดลงแล้ว รวมถึงพาสปอร์ตที่เคยถูกอายัดก็ได้รับการปลดล็อก ทำให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ อย่างไรก็ดี ยังคงมีคดีบังคับโทษกรณีชั้น 14 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเพิ่มเติม
    .
    ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ ตม. และการท่าอากาศยาน ยังคงเจรจากับทีมกฎหมายของนายทักษิณ เพื่อให้มั่นใจว่าการเดินทางเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสถานการณ์ยังคงอยู่ในความสนใจของสาธารณชนและสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด
    .
    ทั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางและความคืบหน้าทางคดีจะมีการรายงานต่อไป
    สะพัด! ‘ทักษิณ’ เตรียมบินไปสิงคโปร์ หลังเอกสารห้ามเดินทางออกนอกประเทศ คดี ม.112 สิ้นสุด . วันที่ 4 กันยายน 2568 มีรายงานจากท่าอากาศยานดอนเมือง ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางออกจากประเทศไทยด้วยเครื่องบินส่วนตัว (Private Jet) จาก M JET ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีข่าวลือในช่วงแรกว่าปลายทางคือ หัวหิน ประจวบฯ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีข้อมูลยืนยันว่านายทักษิณมีแผนจะเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ . รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และการท่าอากาศยาน ได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารของนายทักษิณอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีความ โดยเฉพาะคดีตามมาตรา 112 ซึ่งขณะนี้สิ้นสุดลงแล้ว รวมถึงพาสปอร์ตที่เคยถูกอายัดก็ได้รับการปลดล็อก ทำให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ อย่างไรก็ดี ยังคงมีคดีบังคับโทษกรณีชั้น 14 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเพิ่มเติม . ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ ตม. และการท่าอากาศยาน ยังคงเจรจากับทีมกฎหมายของนายทักษิณ เพื่อให้มั่นใจว่าการเดินทางเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสถานการณ์ยังคงอยู่ในความสนใจของสาธารณชนและสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด . ทั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางและความคืบหน้าทางคดีจะมีการรายงานต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เปิดใจ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ้นจากตำแหน่ง กรณีคลิปเสียงฮุน เซน ปัดไม่ได้ขอเพื่อประโยชน์ตัวเอง แต่ตั้งใจรักษาชีวิตทหารและพลเรือน แต่เกิดเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเฉียบพลัน ยืนยันรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สุดหัวใจ ฝากทุกฝ่ายทำให้การเมืองมีเสถียรภาพให้ได้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082710

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    อดีตนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เปิดใจ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ้นจากตำแหน่ง กรณีคลิปเสียงฮุน เซน ปัดไม่ได้ขอเพื่อประโยชน์ตัวเอง แต่ตั้งใจรักษาชีวิตทหารและพลเรือน แต่เกิดเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเฉียบพลัน ยืนยันรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สุดหัวใจ ฝากทุกฝ่ายทำให้การเมืองมีเสถียรภาพให้ได้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082710 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 831 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีมาตรา 12 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลนเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 โดยนายทักษิณเดินออกมาจากศาล พูดสั้น ๆ เพียงว่า “ยกฟ้อง”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000080008

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีมาตรา 12 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลนเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 โดยนายทักษิณเดินออกมาจากศาล พูดสั้น ๆ เพียงว่า “ยกฟ้อง” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000080008 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000080014

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000080014 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 782 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรณีพิพาทอัมบาลัต อันวาร์เอาตัวเองให้รอดก่อน

    อาเซียนการละครของ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เพื่อนรักของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ผู้อื้อฉาวจากคดีทุจริต แสดงบทบาทไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชาได้อย่างสมบทบาท แต่อีกด้านหนึ่ง กลับมีท่าทีแข็งกร้าวต่อกรณีพิพาทแหล่งพลังงานอัมบาลัต (Ambalat) ในเขตน่านน้ำสุลาเวสี ระหว่างรัฐซาบาห์ กับจังหวัดกาลิมันตันอุตาราของอินโดนีเซีย ว่า "จะปกป้องทุกตารางนิ้วของซาบาห์"

    อันวาร์กล่าวปราศรัยภายในงานเปิดตัววันเกษตรกรแห่งชาติ ที่เมืองโคตาคินาบาลู เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่า สิทธิของรัฐซาบาห์จะได้รับการคุ้มครองในการเจรจา พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเพิกเฉยต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐเหนือภูมิภาค ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันในทะเลสุลาเวสี และกล่าวว่า ข้อตกลงใดๆ จะต้องเกี่ยวข้องกับทั้งรัฐบาลของรัฐซาบาห์และสภานิติบัญญัติของรัฐ ยืนยันว่าอินโดนีเซียเป็นพันธมิตร ซึ่งจะเจรจากันอย่างเหมาะสมโดยไม่ยอมแพ้ เกิดขึ้นในการประชุม ไม่ใช่แค่การพูดคุยลับๆ

    แหล่งพลังงานอัมบาลัต ตั้งอยู่ในทะเลสุลาเวสี ห่างจากเมืองตารากันไปทางตะวันออก 80 กิโลเมตร มีความลึกของน้ำทะเล 2,000 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4,735 ตารางกิโลเมตร ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์มานาน เนื่องจากมีน้ำมันและก๊าซ ความขัดแย้งเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2543 ทั้งสองประเทศออกสัมปทานสำรวจพลังงานทับซ้อนกัน คือ อินโดนีเซียให้สัมปทานกับบริษัทอีเอ็นไอ (ENI) และยูโนแคล (Unocal) ส่วนประเทศมาเลเซีย มีปิโตรนาส (Petronas) ออกสัมปทานให้กับเชลล์ (Shell)

    ก่อนหน้านี้ นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รมว.พลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียยังคงสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอัมบาลัตร่วมกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเพราะอยู่ระหว่างการพิจารณา ประเด็นหนึ่งที่หารือกันคือ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันบริหารจัดการพื้นที่เขตอัมบาลัตตะวันออกเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร หากบรรลุข้อตกลงก็จะมีความร่วมมือผ่านบริษัทน้ำมัน อย่างเปอร์ตามีนาและปิโตรนาส

    ล่าสุด นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า มาเลเซียและอินโดนีเซียยังคงศึกษาความเป็นไปได้ของข้อตกลงการพัฒนาร่วม (JDA) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลในทะเลสุลาเวสี แต้ยังอยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้น ซึ่งรัฐบาลกลางยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาบาห์ในการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนทางทะเลระหว่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย

    #Newskit
    กรณีพิพาทอัมบาลัต อันวาร์เอาตัวเองให้รอดก่อน อาเซียนการละครของ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เพื่อนรักของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ผู้อื้อฉาวจากคดีทุจริต แสดงบทบาทไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชาได้อย่างสมบทบาท แต่อีกด้านหนึ่ง กลับมีท่าทีแข็งกร้าวต่อกรณีพิพาทแหล่งพลังงานอัมบาลัต (Ambalat) ในเขตน่านน้ำสุลาเวสี ระหว่างรัฐซาบาห์ กับจังหวัดกาลิมันตันอุตาราของอินโดนีเซีย ว่า "จะปกป้องทุกตารางนิ้วของซาบาห์" อันวาร์กล่าวปราศรัยภายในงานเปิดตัววันเกษตรกรแห่งชาติ ที่เมืองโคตาคินาบาลู เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่า สิทธิของรัฐซาบาห์จะได้รับการคุ้มครองในการเจรจา พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเพิกเฉยต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐเหนือภูมิภาค ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันในทะเลสุลาเวสี และกล่าวว่า ข้อตกลงใดๆ จะต้องเกี่ยวข้องกับทั้งรัฐบาลของรัฐซาบาห์และสภานิติบัญญัติของรัฐ ยืนยันว่าอินโดนีเซียเป็นพันธมิตร ซึ่งจะเจรจากันอย่างเหมาะสมโดยไม่ยอมแพ้ เกิดขึ้นในการประชุม ไม่ใช่แค่การพูดคุยลับๆ แหล่งพลังงานอัมบาลัต ตั้งอยู่ในทะเลสุลาเวสี ห่างจากเมืองตารากันไปทางตะวันออก 80 กิโลเมตร มีความลึกของน้ำทะเล 2,000 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4,735 ตารางกิโลเมตร ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์มานาน เนื่องจากมีน้ำมันและก๊าซ ความขัดแย้งเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2543 ทั้งสองประเทศออกสัมปทานสำรวจพลังงานทับซ้อนกัน คือ อินโดนีเซียให้สัมปทานกับบริษัทอีเอ็นไอ (ENI) และยูโนแคล (Unocal) ส่วนประเทศมาเลเซีย มีปิโตรนาส (Petronas) ออกสัมปทานให้กับเชลล์ (Shell) ก่อนหน้านี้ นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รมว.พลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียยังคงสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอัมบาลัตร่วมกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเพราะอยู่ระหว่างการพิจารณา ประเด็นหนึ่งที่หารือกันคือ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันบริหารจัดการพื้นที่เขตอัมบาลัตตะวันออกเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร หากบรรลุข้อตกลงก็จะมีความร่วมมือผ่านบริษัทน้ำมัน อย่างเปอร์ตามีนาและปิโตรนาส ล่าสุด นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า มาเลเซียและอินโดนีเซียยังคงศึกษาความเป็นไปได้ของข้อตกลงการพัฒนาร่วม (JDA) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลในทะเลสุลาเวสี แต้ยังอยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้น ซึ่งรัฐบาลกลางยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาบาห์ในการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนทางทะเลระหว่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย #Newskit
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 577 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่ากองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชาก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073512

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กองทัพบกออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่ากองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชาก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073512 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 693 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาเซียนการละคร หยุดยิงหลังเที่ยงคืน

    เคยมีคำกล่าวว่า ปลายทางของสงครามมักจะจบลงที่การเจรจา เฉกเช่นการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ระหว่างนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี กับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนเป็นคนกลาง เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ได้ข้อสรุปว่าไทยและกัมพูชาจะหยุดยิงหลังเที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ค.

    จากนั้นจะหารือระหว่างกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 ของไทย กับภูมิภาคทหารที่ 4 และภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา ในวันที่ 29 ก.ค. เวลา 07.00 น. ต่อด้วยประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ในวันที่ 4 ส.ค.โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ อีกทั้งจะมีการเชิญผู้ช่วยทูตทหารของอาเซียนมารับฟังการหารือของทั้งสองฝ่ายด้วย ท่ามกลางสักขีพยานทั้งจากตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลจีน

    อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงไม่น่าไว้วางใจ เพราะยังตรวจพบทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในพื้นที่แนวหน้า มีการเพิ่มเติมกำลังเข้ามาหลายหน่วย มีการคุกคามทางไซเบอร์ และมีแนวโน้มใช้อาวุธทางลึกอย่างขีปนาวุธ PHL03 ขณะที่สังคมไทยยังคาใจกับการกระทำของกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ความสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์และทหารจะถูกลืมหรือไม่ นอกจากต้องเจ็บปวดกับการเจรจาแทบจะไม่คิดถึงหัวใจคนไทยแล้ว ไทยจะเสียดินแดนโดยพฤตินัยให้กับกัมพูชาเพราะถูกยึดพื้นที่บางส่วนหรือไม่

    หรือท้ายที่สุดอาจเป็นเพียงละครฉากหนึ่งของการเมืองโลก ที่ต่างฝ่ายสมประโยชน์ซึ่งกันและกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ยื่นคำขาดว่าถ้าสองฝ่ายไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะใช้เป็นผลงานชูเรื่องสันติภาพ เช่นเดียวกับนายกฯ อันวาร์ของมาเลเซีย จะสร้างผลงานเป็นพระเอกในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษา ส่วนนายกฯ ฮุน มาเนต ของกัมพูชาก็ได้คะแนนนิยมจากการปลุกกระแสชาตินิยม ทิ้งบาดแผลความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยกับกัมพูชาไม่มีวันเหมือนเดิม

    ทหารกัมพูชาใช้อาวุธหนักอย่าง BM-21 โจมตีพลเรือนในไทยอย่างไม่เลือกหน้า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ก่อนปะทะกันของทหารทั้งสองฝ่าย ตลอดแนวชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.ค. ประชาชนเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 38 ราย (สาหัส 11 ราย) โรงพยาบาลเสียหาย 19 แห่ง ชาวบ้านต้องอพยพกว่า 150,000 คน บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ส่วนทหารเสียชีวิตนับสิบราย

    #Newskit
    อาเซียนการละคร หยุดยิงหลังเที่ยงคืน เคยมีคำกล่าวว่า ปลายทางของสงครามมักจะจบลงที่การเจรจา เฉกเช่นการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ระหว่างนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี กับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนเป็นคนกลาง เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ได้ข้อสรุปว่าไทยและกัมพูชาจะหยุดยิงหลังเที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ค. จากนั้นจะหารือระหว่างกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 ของไทย กับภูมิภาคทหารที่ 4 และภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา ในวันที่ 29 ก.ค. เวลา 07.00 น. ต่อด้วยประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ในวันที่ 4 ส.ค.โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ อีกทั้งจะมีการเชิญผู้ช่วยทูตทหารของอาเซียนมารับฟังการหารือของทั้งสองฝ่ายด้วย ท่ามกลางสักขีพยานทั้งจากตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงไม่น่าไว้วางใจ เพราะยังตรวจพบทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในพื้นที่แนวหน้า มีการเพิ่มเติมกำลังเข้ามาหลายหน่วย มีการคุกคามทางไซเบอร์ และมีแนวโน้มใช้อาวุธทางลึกอย่างขีปนาวุธ PHL03 ขณะที่สังคมไทยยังคาใจกับการกระทำของกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ความสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์และทหารจะถูกลืมหรือไม่ นอกจากต้องเจ็บปวดกับการเจรจาแทบจะไม่คิดถึงหัวใจคนไทยแล้ว ไทยจะเสียดินแดนโดยพฤตินัยให้กับกัมพูชาเพราะถูกยึดพื้นที่บางส่วนหรือไม่ หรือท้ายที่สุดอาจเป็นเพียงละครฉากหนึ่งของการเมืองโลก ที่ต่างฝ่ายสมประโยชน์ซึ่งกันและกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ยื่นคำขาดว่าถ้าสองฝ่ายไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะใช้เป็นผลงานชูเรื่องสันติภาพ เช่นเดียวกับนายกฯ อันวาร์ของมาเลเซีย จะสร้างผลงานเป็นพระเอกในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษา ส่วนนายกฯ ฮุน มาเนต ของกัมพูชาก็ได้คะแนนนิยมจากการปลุกกระแสชาตินิยม ทิ้งบาดแผลความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยกับกัมพูชาไม่มีวันเหมือนเดิม ทหารกัมพูชาใช้อาวุธหนักอย่าง BM-21 โจมตีพลเรือนในไทยอย่างไม่เลือกหน้า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ก่อนปะทะกันของทหารทั้งสองฝ่าย ตลอดแนวชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.ค. ประชาชนเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 38 ราย (สาหัส 11 ราย) โรงพยาบาลเสียหาย 19 แห่ง ชาวบ้านต้องอพยพกว่า 150,000 คน บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ส่วนทหารเสียชีวิตนับสิบราย #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 691 มุมมอง 0 รีวิว
  • หญิงสาวเผยนาทีระทึก พาแม่อาการหนักเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล แต่ถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดรถ “รออดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางผ่านก่อน” ชี้ 1 วินาทีมีค่ากับผู้ป่วย แต่กลับต้องชะงักเพราะการเยี่ยมพื้นที่ ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น ย้ำความสำคัญของระบบฉุกเฉินต้องมาก่อนภาพลักษณ์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071013

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    หญิงสาวเผยนาทีระทึก พาแม่อาการหนักเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล แต่ถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดรถ “รออดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางผ่านก่อน” ชี้ 1 วินาทีมีค่ากับผู้ป่วย แต่กลับต้องชะงักเพราะการเยี่ยมพื้นที่ ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น ย้ำความสำคัญของระบบฉุกเฉินต้องมาก่อนภาพลักษณ์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071013 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    Like
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทักษิณ” เผย รัฐมนตรีทยอยลงพื้นที่แล้ว คาดไม่กี่วันประชาชนคงได้กลับบ้าน บอกนายกฯ ห่วงใยแต่ไม่อยากละเมิดอำนาจศาล ฝากพ่อดูแลประชาชนด้วย

    ช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ค. ที่วัดชัยอุดม อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์อพยพที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอเดชอุดม พร้อมมอบสิ่งของให้ชาวบ้าน พร้อมด้วย น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย นส.ขัตติยา สวัสดิผล. สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

    นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ ได้เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านมีมาตรการเร่งด่วนในการช่วยเหลืออย่างไร ว่า ตอนนี้ได้ตั้งศูนย์พักพิงให้พวกเขาปลอดภัยไว้ก่อน ต้องมั่นใจว่าเขากินอิ่ม นอนหลับ หลังจากนี้ไม่กี่วันคาดว่าได้กลับบ้านถ้าความปลอดภัย เข้าสู่สภาวะปกติ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000070587

    #Thaitimes #MGROnline #ทักษิณ #วัดชัยอุดม #จังหวัดอุบลราชธานี
    “ทักษิณ” เผย รัฐมนตรีทยอยลงพื้นที่แล้ว คาดไม่กี่วันประชาชนคงได้กลับบ้าน บอกนายกฯ ห่วงใยแต่ไม่อยากละเมิดอำนาจศาล ฝากพ่อดูแลประชาชนด้วย • ช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ค. ที่วัดชัยอุดม อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์อพยพที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอเดชอุดม พร้อมมอบสิ่งของให้ชาวบ้าน พร้อมด้วย น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย นส.ขัตติยา สวัสดิผล. สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย • นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ ได้เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านมีมาตรการเร่งด่วนในการช่วยเหลืออย่างไร ว่า ตอนนี้ได้ตั้งศูนย์พักพิงให้พวกเขาปลอดภัยไว้ก่อน ต้องมั่นใจว่าเขากินอิ่ม นอนหลับ หลังจากนี้ไม่กี่วันคาดว่าได้กลับบ้านถ้าความปลอดภัย เข้าสู่สภาวะปกติ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000070587 • #Thaitimes #MGROnline #ทักษิณ #วัดชัยอุดม #จังหวัดอุบลราชธานี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 562 มุมมอง 0 รีวิว
  • อันวาร์แจกเงิน 100 ริงกิต ประชานิยมสกัดม็อบ

    นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ประกาศมาตรการช่วยเหลือชาวมาเลเซียเพื่อแก้ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น เมื่อวันที่ 23 ก.ค. โดยชาวมาเลเซียที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินช่วยเหลือแบบครั้งเดียว 100 ริงกิต (ประมาณ 760 บาท) ผ่านบัตรประชาชน (MyKAD) เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านค้าและห้างค้าปลีกกว่า 4,100 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. ถึง 31 ธ.ค. คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ์ 22 ล้านคน ใช้งบประมาณ 2,000 ล้านริงกิต

    พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศปรับลดราคาน้ำมัน RON95 สำหรับภาคการขนส่งในมาเลเซียอีก 0.06 ริงกิต ตามแผนอุดหนุนราคาน้ำมัน จากเดิม 2.05 ริงกิต เหลือ 1.99 ริงกิตต่อลิตร การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า การระงับขึ้นค่าผ่านทางบนทางด่วน 10 เส้นทาง ที่มีกำหนดปรับขึ้นในปีนี้ การเพิ่มวันจันทร์ที่ 15 ก.ย. เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติม เพื่อให้หยุดยาว 4 วันในวันมาเลเซียปีนี้ 13-16 ก.ย. เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ

    การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการชุมนุมใหญ่ภายใต้ชื่อ Himpunan Turun Anwar ซึ่งจัดโดยกลุ่มเยาวชนพรรคพาส (PAS) ในวันเสาร์นี้ (26 ก.ค.) ที่จตุรัสเมอร์เดกา กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเรียกร้องให้นายอันวาร์ลาออก ด้วยข้อกล่าวหาบริหารประเทศล้มเหลว ทั้งการปฎิรูปการเมืองและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ตำรวจกรุงกัวลาลัมเปอร์คาดว่าจะมีผู้ชุมนุมราว 10,000-15,000 คน โดยจัดกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัยและควบคุมฝูงชนราว 2,000 นาย

    นายฟัดห์ลี ชาอารี (Fadhli Shaari) สส.เขตปาร์เซมัส หัวหน้าฝ่ายสารสนเทศของพรรคพาส กล่าวว่า การประกาศแจกเงิน 100 ริงกิตน่าสนใจที่สุด ส่วนมาตรการอื่นเป็นเพียงนโยบายทั่วไปที่ประกาศได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะการปรับลดราคาน้ำมัน RON95 ลง 6 เซน ไม่สมกับที่นายกฯ ต้องประกาศเอง ถึงกระนั้นการแจกเงินไม่มีความหมาย เมื่อเทียบกับรายได้ที่รัฐบาลได้รับจากการลดเงินอุดหนุนน้ำมันดีเซลสูงถึง 7,500 ล้านริงกิต โดยไม่มีมาตรการใดที่ส่งผลในระยะยาวอย่างแท้จริง เป็นเพียงการลดกระแสความไม่พอใจของประชาชนที่จะออกมาชุมนุมเท่านั้น

    ก่อนหน้านี้อดีตนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวปราศรัยที่เมืองอลอร์สตาร์ รัฐเคดะห์ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. เรียกร้องให้นายอันวาร์ลาออก เพราะขาดความสามารถในการบริหารประเทศ และแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งการบริหารจัดการความมั่งคั่งของชาติที่ผิดพลาด ยกเลิกการอุดหนุนต่างๆ ทำให้ประชาชนยากลำบาก ชาวมาเลเซียจำนวนมากเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหาร บางคนเจอแรงกดดันจนเสียสติและจบชีวิตตัวเองหรือใช้ความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเกิดขึ้นจากความยากจน

    #Newskit
    อันวาร์แจกเงิน 100 ริงกิต ประชานิยมสกัดม็อบ นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ประกาศมาตรการช่วยเหลือชาวมาเลเซียเพื่อแก้ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น เมื่อวันที่ 23 ก.ค. โดยชาวมาเลเซียที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินช่วยเหลือแบบครั้งเดียว 100 ริงกิต (ประมาณ 760 บาท) ผ่านบัตรประชาชน (MyKAD) เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านค้าและห้างค้าปลีกกว่า 4,100 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. ถึง 31 ธ.ค. คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ์ 22 ล้านคน ใช้งบประมาณ 2,000 ล้านริงกิต พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศปรับลดราคาน้ำมัน RON95 สำหรับภาคการขนส่งในมาเลเซียอีก 0.06 ริงกิต ตามแผนอุดหนุนราคาน้ำมัน จากเดิม 2.05 ริงกิต เหลือ 1.99 ริงกิตต่อลิตร การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า การระงับขึ้นค่าผ่านทางบนทางด่วน 10 เส้นทาง ที่มีกำหนดปรับขึ้นในปีนี้ การเพิ่มวันจันทร์ที่ 15 ก.ย. เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติม เพื่อให้หยุดยาว 4 วันในวันมาเลเซียปีนี้ 13-16 ก.ย. เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการชุมนุมใหญ่ภายใต้ชื่อ Himpunan Turun Anwar ซึ่งจัดโดยกลุ่มเยาวชนพรรคพาส (PAS) ในวันเสาร์นี้ (26 ก.ค.) ที่จตุรัสเมอร์เดกา กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเรียกร้องให้นายอันวาร์ลาออก ด้วยข้อกล่าวหาบริหารประเทศล้มเหลว ทั้งการปฎิรูปการเมืองและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ตำรวจกรุงกัวลาลัมเปอร์คาดว่าจะมีผู้ชุมนุมราว 10,000-15,000 คน โดยจัดกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัยและควบคุมฝูงชนราว 2,000 นาย นายฟัดห์ลี ชาอารี (Fadhli Shaari) สส.เขตปาร์เซมัส หัวหน้าฝ่ายสารสนเทศของพรรคพาส กล่าวว่า การประกาศแจกเงิน 100 ริงกิตน่าสนใจที่สุด ส่วนมาตรการอื่นเป็นเพียงนโยบายทั่วไปที่ประกาศได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะการปรับลดราคาน้ำมัน RON95 ลง 6 เซน ไม่สมกับที่นายกฯ ต้องประกาศเอง ถึงกระนั้นการแจกเงินไม่มีความหมาย เมื่อเทียบกับรายได้ที่รัฐบาลได้รับจากการลดเงินอุดหนุนน้ำมันดีเซลสูงถึง 7,500 ล้านริงกิต โดยไม่มีมาตรการใดที่ส่งผลในระยะยาวอย่างแท้จริง เป็นเพียงการลดกระแสความไม่พอใจของประชาชนที่จะออกมาชุมนุมเท่านั้น ก่อนหน้านี้อดีตนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวปราศรัยที่เมืองอลอร์สตาร์ รัฐเคดะห์ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. เรียกร้องให้นายอันวาร์ลาออก เพราะขาดความสามารถในการบริหารประเทศ และแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งการบริหารจัดการความมั่งคั่งของชาติที่ผิดพลาด ยกเลิกการอุดหนุนต่างๆ ทำให้ประชาชนยากลำบาก ชาวมาเลเซียจำนวนมากเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหาร บางคนเจอแรงกดดันจนเสียสติและจบชีวิตตัวเองหรือใช้ความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเกิดขึ้นจากความยากจน #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 663 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจห์ โลว์ นักธุรกิจผู้อื้อฉาว ซุกเชี่ยงไฮ้-ใช้ชื่อปลอม

    โจห์ โลว์ (Jho Low) หรือ โลว์ เต็ก โจห์ (Low Taek Jho) นักธุรกิจชาวปีนัง ประเทศมาเลเซียวัย 43 ปี ในฐานะผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบี (1MDB) กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวของมาเลเซีย 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ตำรวจสากล (Interpol) ต้องการตัวมาตั้งแต่ปี 2561 ล่าสุดสองนักข่าวสายสืบสวนอย่าง แบรดลีย์ โฮป (Bradley Hope) และ ทอม ไรต์ (Tom Wright) เปิดเผยผ่านพอดแคสต์ Finding Jho Low เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ว่ายังคงใช้ชีวิตอย่างหรูหราในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และใช้หนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย

    ทั้งสองอ้างว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค แนะนำให้โลว์หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แม้จะเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในย่านกรีนฮิลล์ (Green Hills) ซึ่งเป็นย่านเศรษฐี มีบ้านสไตล์อเมริกันและเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ รวมทั้งขับรถยนต์หรู และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวจีน 2 คนคอยดูแล นอกจากนี้ ยังเปิดเผยเอกสารที่ได้รับมาใหม่ เป็นหนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ใช้ชื่อภาษากรีกว่า คอนสเตนติโนส อคิลลีส (Constantinos Achilles) อีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของสำนักข่าวเบอร์นามา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ไม่ทราบอย่างเป็นทางการว่า โจห์ โลว์ หนีไปประเทศจีน ต้องตรวจสอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน ส่วนสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (DFAT) และตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียเพื่อสอบถามเพิ่มเติม กลับไม่ยืนยันว่าทราบเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาออสเตรเลียเคยขับไล่ทูตอิสราเอลออกไปเมื่อปี 2553 เพราะหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล (Mossad) ใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลียปลอมลอบ สังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

    สำหรับโจห์ โลว์ ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจเพลย์บอยคนหนึ่งในมาเลเซีย ยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบีไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหราในสหรัฐฯ รวมถึงงานศิลปะ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และเรือยอทช์สุดหรูที่ชื่อว่า อีควลนิมิตี (Equanimity) ซึ่งถูกทางการอินโดนีเซียกักบริเวณนอกชายฝั่งเกาะบาหลี ก่อนขายทอดตลาดและนำเงินคืนรัฐบาลมาเลเซีย รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street (คนจะรวย ช่วยไม่ได้) ในปี 2556 นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ซึ่งต่อมากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อ้างว่าได้รับเงินทุนจากเงินมาเลเซียที่ยักยอกมา ปัจจุบันยังคงถูกทางการมาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐฯ ออกหมายจับ

    #Newskit
    โจห์ โลว์ นักธุรกิจผู้อื้อฉาว ซุกเชี่ยงไฮ้-ใช้ชื่อปลอม โจห์ โลว์ (Jho Low) หรือ โลว์ เต็ก โจห์ (Low Taek Jho) นักธุรกิจชาวปีนัง ประเทศมาเลเซียวัย 43 ปี ในฐานะผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบี (1MDB) กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวของมาเลเซีย 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ตำรวจสากล (Interpol) ต้องการตัวมาตั้งแต่ปี 2561 ล่าสุดสองนักข่าวสายสืบสวนอย่าง แบรดลีย์ โฮป (Bradley Hope) และ ทอม ไรต์ (Tom Wright) เปิดเผยผ่านพอดแคสต์ Finding Jho Low เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ว่ายังคงใช้ชีวิตอย่างหรูหราในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และใช้หนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ทั้งสองอ้างว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค แนะนำให้โลว์หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แม้จะเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในย่านกรีนฮิลล์ (Green Hills) ซึ่งเป็นย่านเศรษฐี มีบ้านสไตล์อเมริกันและเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ รวมทั้งขับรถยนต์หรู และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวจีน 2 คนคอยดูแล นอกจากนี้ ยังเปิดเผยเอกสารที่ได้รับมาใหม่ เป็นหนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ใช้ชื่อภาษากรีกว่า คอนสเตนติโนส อคิลลีส (Constantinos Achilles) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของสำนักข่าวเบอร์นามา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ไม่ทราบอย่างเป็นทางการว่า โจห์ โลว์ หนีไปประเทศจีน ต้องตรวจสอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน ส่วนสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (DFAT) และตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียเพื่อสอบถามเพิ่มเติม กลับไม่ยืนยันว่าทราบเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาออสเตรเลียเคยขับไล่ทูตอิสราเอลออกไปเมื่อปี 2553 เพราะหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล (Mossad) ใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลียปลอมลอบ สังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำหรับโจห์ โลว์ ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจเพลย์บอยคนหนึ่งในมาเลเซีย ยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบีไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหราในสหรัฐฯ รวมถึงงานศิลปะ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และเรือยอทช์สุดหรูที่ชื่อว่า อีควลนิมิตี (Equanimity) ซึ่งถูกทางการอินโดนีเซียกักบริเวณนอกชายฝั่งเกาะบาหลี ก่อนขายทอดตลาดและนำเงินคืนรัฐบาลมาเลเซีย รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street (คนจะรวย ช่วยไม่ได้) ในปี 2556 นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ซึ่งต่อมากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อ้างว่าได้รับเงินทุนจากเงินมาเลเซียที่ยักยอกมา ปัจจุบันยังคงถูกทางการมาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐฯ ออกหมายจับ #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 655 มุมมอง 0 รีวิว
  • กู่ไม่กลับ! 'ธนาธร' ชี้ทหารไม่ควรให้ความเห็นเรื่องชายแดน ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน

    ///////////

    "ธนาธร" เชื่อยังไม่สายเกินไป แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ขอทั้งสองฝ่ายร่วมกันส่งเสียงดังๆ ต้องการความร่วมมือ-สันติภาพ แนะรัฐบาลต้องอดทน แม้ถูกยั่วยุ ย้ำโต๊ะเจรจา JBC ยังจำเป็น เพื่อทำให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รับประชาชนเรียกร้องนายกฯที่เป็นทหาร เหตุรัฐบาลพลเรือนคุมสถานการณ์ไม่ได้

    18 กรกฎาคม 2568 - ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านรายการ Exclusive Talk : ผ่าทางตัน ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น ถึงปัญหาชายแดนไทย กัมพูชาในขณะนี้ คิดว่าจะบานปลายหรือไม่ หรือควรแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ว่า ตนไม่กลัวเบื้องหลัง กลัวเบื้องหน้ามากกว่า ขอเกมของกัมพูชา คือต้องการสร้างความได้เปรียบในเวทีโลก ผ่านศาลโลก
    หรือกระบวนการของ UNGA UNHC ซึ่งเขาต้องการดันไปสู่จุดนั้น โดยใช้การสร้างความชอบธรรม

    ดังนั้น สิ่งที่เขาต้องการคือการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว ท่าทีของรัฐบาลไทย หรือกองทัพไทย จึงต้องอดทนอดกลั้น เป็นผู้ใหญ่ และไม่ไปตกหลุมเขา เราต้องไม่เริ่มก่อน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความขัดแย้งก่อตัวขึ้น มีการปะทะ จนนำมาสู่การบาดเจ็บล้นตาย เกิดการใช้ความรุนแรง ซึ่งก็จะเข้าทางเขา
    นายธนาธร มองว่า ความสำคัญของเรื่องนี้ ในวันนี้คือเบื้องหน้า ไม่ใช่เบื้องหลัง คือเราจะทำอย่างไร ให้สถานการณ์อ่อนลง ทำให้สถานการณ์กลับไปเป็นปกติได้เร็วที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้รัฐบาลพลเรือน ผ่านกลไก JBC ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาพูดคุยกัน เพื่อทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ
    นายธนาธร ระบุว่า การที่สถานการณ์ตึงเครียด เป็นเพราะรัฐบาลพลาดในกรณีคลิปเสียง ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง ซึ่งเป็นโจทย์ของตัวเอง จึงต้องทำท่าทีขึงขัง และนี่ก็เป็นสิ่งที่ตนกลัว เพราะถ้าทีขึงขังนี้ เกิดจากการที่ต้องการแก้ปัญหาทางการเมืองของตัวเอง แต่สิ่งที่เราต้องการคือต้องการลดความตึงเครียด ลดความรุนแรง ผ่านโต๊ะเจรจา เพราะหากเกิดอะไรขึ้น จะกลายเป็นข้ออ้าง ที่เขาสามารถใช้ในเวทีโลก และทำให้เราเสียเปรียบ ส่วนแปลกใจหรือไม่ ที่ผลโพลล่าสุด ออกมาว่านายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการ คือพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นทหาร นายธนาธร ระบุว่า ตนติดใจเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกัน มากกว่าเรื่องนี้ คือเรื่องการกลับเข้ามาไว้วางใจทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกังวล เนื่องจากประเทศไทยมีความหลากหลายเยอะมาก หลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรมเต็มไปหมด สิ่งที่เราต้องการคือสันติภาพ การอยู่ร่วมกัน การเคารพในตัวตน และศรัทธาของกันและกัน เราไม่ได้ต้องการสงคราม
    ดังนั้น สิ่งที่ตนเป็นกังวลก็คือ การใช้ความรู้สึก หรือสถานการณ์มาสร้างอารมณ์ความรู้สึก ชาตินิยมที่ล้นเกิน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังในสังคม เมื่อเมล็ดพันธุ์ของความเกลียดชังเบ่งบาน ก็จะเอาไม่ลง เพราะหากเมล็ดพันธุ์การแบ่งแยกผู้คน ที่ทำให้ผู้คนเกลียดกลัวกัน ระแวงกัน ด้วยการใช้ศาสนา ชาติพันธุ์ หรืออะไรก็ตาม มันนำมาสู่ ความเกลียดชังกันเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคนที่เดือดร้อน คือคนตัวเล็กตัวน้อยหน้างานของทั้งสองฝั่ง แต่คนที่ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
    จากการเบ่งบานของเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง ที่นั่งอยู่ที่กรุงพนมเปญ ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เสียอะไร

    เมื่อถามว่า ไม่ได้คิดบ้างหรือว่าเนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ประชาชนพึ่งพาไม่ได้เช่นนี้ จึงทำให้คนโหยหาทหาร นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอนที่สุดเราไม่ปฏิเสธว่า การที่รัฐบาลตอบโต้กัมพูชาในช่วงหลายเดือนก่อน น้อยเกินไป ช้าเกินไป แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง
    หากจะให้พูดกันตรงๆ คือทหารไม่สามารถออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ และไม่ควรจะให้ความเห็น ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ สะท้อนปัญหาการเมืองไทย ว่ารัฐบาลพลเรือนไม่สามารถแก้ปัญหาสถานการณ์กองทัพได้ แม้ว่าขณะนี้ รัฐบาลพลเรือนจะแก้ข้อผิดพลาดด้วยการมอบอำนาจให้กับทหาร
    เรื่องนี้ยังไม่สายเกินไป ว่าเราต้องการสันติภาพ นี่คือพี่น้องกัน เดินข้ามถนน เดินข้ามพรมแดน ก็พี่น้องกันแล้ว ความร่วมมือจะนำมาซึ่งการสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางวัฒนธรรมที่ดีกว่า เราอยากเห็นความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนบ้านเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ที่เผชิญหน้ากัน ดังนั้น เราต้องส่งเสียงทั้งสองฝ่าย ว่าสิ่งที่เราแสวงหารร่วมกัน คือ ความร่วมมือ และสันติภาพ ไม่ใช่ความเกลียดชัง และ
    สงคราม ส่งเสียงให้ดังๆ" นายธนาธร กล่าว
    กู่ไม่กลับ! 'ธนาธร' ชี้ทหารไม่ควรให้ความเห็นเรื่องชายแดน ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน /////////// "ธนาธร" เชื่อยังไม่สายเกินไป แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ขอทั้งสองฝ่ายร่วมกันส่งเสียงดังๆ ต้องการความร่วมมือ-สันติภาพ แนะรัฐบาลต้องอดทน แม้ถูกยั่วยุ ย้ำโต๊ะเจรจา JBC ยังจำเป็น เพื่อทำให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รับประชาชนเรียกร้องนายกฯที่เป็นทหาร เหตุรัฐบาลพลเรือนคุมสถานการณ์ไม่ได้ 18 กรกฎาคม 2568 - ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านรายการ Exclusive Talk : ผ่าทางตัน ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น ถึงปัญหาชายแดนไทย กัมพูชาในขณะนี้ คิดว่าจะบานปลายหรือไม่ หรือควรแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ว่า ตนไม่กลัวเบื้องหลัง กลัวเบื้องหน้ามากกว่า ขอเกมของกัมพูชา คือต้องการสร้างความได้เปรียบในเวทีโลก ผ่านศาลโลก หรือกระบวนการของ UNGA UNHC ซึ่งเขาต้องการดันไปสู่จุดนั้น โดยใช้การสร้างความชอบธรรม ดังนั้น สิ่งที่เขาต้องการคือการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว ท่าทีของรัฐบาลไทย หรือกองทัพไทย จึงต้องอดทนอดกลั้น เป็นผู้ใหญ่ และไม่ไปตกหลุมเขา เราต้องไม่เริ่มก่อน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความขัดแย้งก่อตัวขึ้น มีการปะทะ จนนำมาสู่การบาดเจ็บล้นตาย เกิดการใช้ความรุนแรง ซึ่งก็จะเข้าทางเขา นายธนาธร มองว่า ความสำคัญของเรื่องนี้ ในวันนี้คือเบื้องหน้า ไม่ใช่เบื้องหลัง คือเราจะทำอย่างไร ให้สถานการณ์อ่อนลง ทำให้สถานการณ์กลับไปเป็นปกติได้เร็วที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้รัฐบาลพลเรือน ผ่านกลไก JBC ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาพูดคุยกัน เพื่อทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ นายธนาธร ระบุว่า การที่สถานการณ์ตึงเครียด เป็นเพราะรัฐบาลพลาดในกรณีคลิปเสียง ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง ซึ่งเป็นโจทย์ของตัวเอง จึงต้องทำท่าทีขึงขัง และนี่ก็เป็นสิ่งที่ตนกลัว เพราะถ้าทีขึงขังนี้ เกิดจากการที่ต้องการแก้ปัญหาทางการเมืองของตัวเอง แต่สิ่งที่เราต้องการคือต้องการลดความตึงเครียด ลดความรุนแรง ผ่านโต๊ะเจรจา เพราะหากเกิดอะไรขึ้น จะกลายเป็นข้ออ้าง ที่เขาสามารถใช้ในเวทีโลก และทำให้เราเสียเปรียบ ส่วนแปลกใจหรือไม่ ที่ผลโพลล่าสุด ออกมาว่านายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการ คือพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นทหาร นายธนาธร ระบุว่า ตนติดใจเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกัน มากกว่าเรื่องนี้ คือเรื่องการกลับเข้ามาไว้วางใจทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกังวล เนื่องจากประเทศไทยมีความหลากหลายเยอะมาก หลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรมเต็มไปหมด สิ่งที่เราต้องการคือสันติภาพ การอยู่ร่วมกัน การเคารพในตัวตน และศรัทธาของกันและกัน เราไม่ได้ต้องการสงคราม ดังนั้น สิ่งที่ตนเป็นกังวลก็คือ การใช้ความรู้สึก หรือสถานการณ์มาสร้างอารมณ์ความรู้สึก ชาตินิยมที่ล้นเกิน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังในสังคม เมื่อเมล็ดพันธุ์ของความเกลียดชังเบ่งบาน ก็จะเอาไม่ลง เพราะหากเมล็ดพันธุ์การแบ่งแยกผู้คน ที่ทำให้ผู้คนเกลียดกลัวกัน ระแวงกัน ด้วยการใช้ศาสนา ชาติพันธุ์ หรืออะไรก็ตาม มันนำมาสู่ ความเกลียดชังกันเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคนที่เดือดร้อน คือคนตัวเล็กตัวน้อยหน้างานของทั้งสองฝั่ง แต่คนที่ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ จากการเบ่งบานของเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง ที่นั่งอยู่ที่กรุงพนมเปญ ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เสียอะไร เมื่อถามว่า ไม่ได้คิดบ้างหรือว่าเนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ประชาชนพึ่งพาไม่ได้เช่นนี้ จึงทำให้คนโหยหาทหาร นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอนที่สุดเราไม่ปฏิเสธว่า การที่รัฐบาลตอบโต้กัมพูชาในช่วงหลายเดือนก่อน น้อยเกินไป ช้าเกินไป แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง หากจะให้พูดกันตรงๆ คือทหารไม่สามารถออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ และไม่ควรจะให้ความเห็น ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ สะท้อนปัญหาการเมืองไทย ว่ารัฐบาลพลเรือนไม่สามารถแก้ปัญหาสถานการณ์กองทัพได้ แม้ว่าขณะนี้ รัฐบาลพลเรือนจะแก้ข้อผิดพลาดด้วยการมอบอำนาจให้กับทหาร เรื่องนี้ยังไม่สายเกินไป ว่าเราต้องการสันติภาพ นี่คือพี่น้องกัน เดินข้ามถนน เดินข้ามพรมแดน ก็พี่น้องกันแล้ว ความร่วมมือจะนำมาซึ่งการสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางวัฒนธรรมที่ดีกว่า เราอยากเห็นความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนบ้านเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ที่เผชิญหน้ากัน ดังนั้น เราต้องส่งเสียงทั้งสองฝ่าย ว่าสิ่งที่เราแสวงหารร่วมกัน คือ ความร่วมมือ และสันติภาพ ไม่ใช่ความเกลียดชัง และ สงคราม ส่งเสียงให้ดังๆ" นายธนาธร กล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 698 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากนายอภิสิทธิ์เชื่อว่า MOU43 MOU44 เป็นอันตราย
    ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่ยกเลิกมันเมื่อมีอำนาจเต็ม?

    หากนายอภิสิทธิ์เคยอภิปรายต้าน Annex I map
    ทำไมเมื่อเป็นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์จึงร่วมลงนามการประชุม JTSC ให้คณะกรรมการปักปันเขตแดนดำเนินการตามกรอบ TOR2003 ระบุให้ยึดแผนที่ 1 ต่อ 200,000 และ 1 ต่อ 250,000?

    หากนายอภิสิทธิ์ยึดหลักธรรมาภิบาล
    เหตุใดนายอภิสิทธิ์ไม่เปิด TOR2003 ให้สาธารณชนเข้าถึง?

    หากนายอภิสิทธิ์ต่อต้าน MOU ด้วยเหตุผลอธิปไตย
    ทำไมจึงไม่กล่าวถึง TOR2003 ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกว่า?

    คำถามใหม่ เมื่ออดีตผู้นำอย่างอภิสิทธิพยายามปรากฎตัวออกมาชี้แนะแนวทาง ในช่วงเวลาที่ประชาชนเริ่มตั้งคำถามเรื่องอธิปไตยที่กำลังถูกเขมรลุกล้ำเขตแดน การปรากฏภาพของอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาให้คำแนะนำแก่รัฐบาลปัจจุบันเรื่องแนวทางจัดการปัญหาดินแดน

    คำถามที่คนไทยควรถามคือ นายอภิสิทธิ์มีคุณธรรมพอหรือไม่ที่จะเสนอแนะแนวทาง
    ทั้งที่ในอดีตตนเองเคยนิ่งเฉยต่อภัยที่กำลังจะเกิด?

    ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่ออกมายอมรับว่า การที่ไทยเข้าสู่กระบวนการ TI มีรากฐานจาก TOR ที่รัฐบาลของเขาเองเดินหน้าขับเคลื่อน?

    แนวทางที่เสนอวันนี้ เป็นไปเพื่อชาติหรือเพื่อฟื้นภาพลักษณ์ตนเองในยามที่ประชาชนเริ่มรู้ความจริง?

    หากหวังดีต่อชาติจริง ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่เป็นผู้นำในการรณรงค์ให้ถอนตัวจาก TOR 2003 เสียเอง?
    หากนายอภิสิทธิ์เชื่อว่า MOU43 MOU44 เป็นอันตราย ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่ยกเลิกมันเมื่อมีอำนาจเต็ม? หากนายอภิสิทธิ์เคยอภิปรายต้าน Annex I map ทำไมเมื่อเป็นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์จึงร่วมลงนามการประชุม JTSC ให้คณะกรรมการปักปันเขตแดนดำเนินการตามกรอบ TOR2003 ระบุให้ยึดแผนที่ 1 ต่อ 200,000 และ 1 ต่อ 250,000? หากนายอภิสิทธิ์ยึดหลักธรรมาภิบาล เหตุใดนายอภิสิทธิ์ไม่เปิด TOR2003 ให้สาธารณชนเข้าถึง? หากนายอภิสิทธิ์ต่อต้าน MOU ด้วยเหตุผลอธิปไตย ทำไมจึงไม่กล่าวถึง TOR2003 ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกว่า? คำถามใหม่ เมื่ออดีตผู้นำอย่างอภิสิทธิพยายามปรากฎตัวออกมาชี้แนะแนวทาง ในช่วงเวลาที่ประชาชนเริ่มตั้งคำถามเรื่องอธิปไตยที่กำลังถูกเขมรลุกล้ำเขตแดน การปรากฏภาพของอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาให้คำแนะนำแก่รัฐบาลปัจจุบันเรื่องแนวทางจัดการปัญหาดินแดน คำถามที่คนไทยควรถามคือ นายอภิสิทธิ์มีคุณธรรมพอหรือไม่ที่จะเสนอแนะแนวทาง ทั้งที่ในอดีตตนเองเคยนิ่งเฉยต่อภัยที่กำลังจะเกิด? ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่ออกมายอมรับว่า การที่ไทยเข้าสู่กระบวนการ TI มีรากฐานจาก TOR ที่รัฐบาลของเขาเองเดินหน้าขับเคลื่อน? แนวทางที่เสนอวันนี้ เป็นไปเพื่อชาติหรือเพื่อฟื้นภาพลักษณ์ตนเองในยามที่ประชาชนเริ่มรู้ความจริง? หากหวังดีต่อชาติจริง ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่เป็นผู้นำในการรณรงค์ให้ถอนตัวจาก TOR 2003 เสียเอง?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 528 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่ฝ่ายค้านระดับสูงของกัมพูชารายหนึ่ง เตือนว่าพวกเจ้าหน้าที่ของฝ่ายไทยอาจขอให้อินเตอร์โพล ออกหมายแดงสำหรับจับกุม ฮุนเซน ผู้นำพรรคประชาชนกัมพูชา ถ้าหากว่าอัยการไทยเดินหน้าคดีอาญากับอดีตนายกรัฐมนตรีและประธานวุฒิสภาเขมรรายนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000066726

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เจ้าหน้าที่ฝ่ายค้านระดับสูงของกัมพูชารายหนึ่ง เตือนว่าพวกเจ้าหน้าที่ของฝ่ายไทยอาจขอให้อินเตอร์โพล ออกหมายแดงสำหรับจับกุม ฮุนเซน ผู้นำพรรคประชาชนกัมพูชา ถ้าหากว่าอัยการไทยเดินหน้าคดีอาญากับอดีตนายกรัฐมนตรีและประธานวุฒิสภาเขมรรายนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000066726 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1167 มุมมอง 1 รีวิว
  • “วิสุทธิ์” ยัน “ทักษิณ” ไม่ได้ครอบงำพรรคเพื่อไทย ชี้เป็นเพียงผู้มีประสบการณ์ร่วมให้คำแนะนำ ไม่ใช่สั่งการ ซัดกลับอย่าเอาอคติมาบดบังประโยชน์ประเทศ ลั่นไม่สน “ฮุน เซน” เรียกแค่ “พ่อมดเขมร” ไม่ให้ราคา

    วันนี้ (14ก.ค.) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสวิจารณ์บทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองบ่อยครั้งในระยะหลัง จนมีผู้ไปยื่นร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ ว่าเข้าข่ายครอบงำพรรคว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะแม้แต่นายทักษิณ “หายใจก็มีคนร้องแล้ว” ทั้งที่นายทักษิณเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และเคยมีบทบาทในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยในอดีต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000066083

    #Thaitimes #MGROnline #วิสุทธิ์ #ทักษิณ
    “วิสุทธิ์” ยัน “ทักษิณ” ไม่ได้ครอบงำพรรคเพื่อไทย ชี้เป็นเพียงผู้มีประสบการณ์ร่วมให้คำแนะนำ ไม่ใช่สั่งการ ซัดกลับอย่าเอาอคติมาบดบังประโยชน์ประเทศ ลั่นไม่สน “ฮุน เซน” เรียกแค่ “พ่อมดเขมร” ไม่ให้ราคา • วันนี้ (14ก.ค.) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสวิจารณ์บทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองบ่อยครั้งในระยะหลัง จนมีผู้ไปยื่นร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ ว่าเข้าข่ายครอบงำพรรคว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะแม้แต่นายทักษิณ “หายใจก็มีคนร้องแล้ว” ทั้งที่นายทักษิณเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และเคยมีบทบาทในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยในอดีต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000066083 • #Thaitimes #MGROnline #วิสุทธิ์ #ทักษิณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts