• เรื่อง เสื้อหนังกับเข็มขัดเหล็ก
    ” เสื้อหนัง กับ เข็มขัดเหล็ก”

    (1)

    รายการท้าชิงของมวยรุ่นเล็ก แต่ท่าทางจะเป็นพวกหมูตายไม่กลัวน้ำร้อน ดูเหมือนจะมีพวกแฟนๆรุ่นเก๋า เกาะเชือกเชียร์ไม่น้อย รวมทั้งผม

    พรรค Syriza ซ้ายจัดของกรีซ เพิ่งชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2015 แม้ไม่ได้คะแนนเสียงข้างมาก ต้องมีพรรคร่วม แต่ก็ได้เป็นรัฐบาลใหม่เอี่ยมของกรีก ที่นำโดยพรรค Syriza ก็ทำท่าจะ ซ่าสมชื่อโดยเฉพาะ ท่านรัฐมนตรีคลังหน้าใหม่มาดเซอร์ คุณน้อง Yanis Varoufakis ของผม

    พรรค Syriza หาเสียงกับชาวกรีกว่า เลือกพวกผมนะพี่น้อง แล้วพี่น้องจะไม่ต้องถูกกดขี่จากนโยบายของสหภาพยุโรปอีกต่อไป มันโหดกับเราขนาดไหน มันหั่นงบของกินของใช้เราขนาดไหน มากไปแล้ว… คงจะทำนองนี้นะครับ ผมไม่ได้แปลคำต่อคำ

    แล้วชาวกรีกก็ได้ Syriza มาเป็นรัฐบาล งานแรกที่ Syriza ต้องทำคือ วิ่งรอกหาพวกสนับสนุน เนื่องจากเงินกู้จำนวนประมาณ 350 พันล้านยูโร ของกรีซจะถึงกำหนดชำระสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ถ้าไม่มีการต่ออายุ และแน่นอน เศรษฐกิจของกรีซคงล้มระเนระนาด ล้มคราวนี้อาจจะหนักกว่า เมื่อปี 2011-2012 แต่ Syriza ก็ยังใจกล้า เข้ามาเป็นรัฐบาล มีของดีแอบอยู่หรือไง

    นายกรัฐมนตรี Alexis Tsipras กับรัฐมนตรีคลัง Yanis Varoufakis แยกกันเดินสาย ไปจับมือกับพวกพี่เบิ้มอียู ท่านนายกรัฐมนตรีมุ่งหน้าไปเยอรมัน ส่วนรัฐมนตรีคลังขอไปอังกฤษ มันกว่า

    ที่เยอรมัน นายกรัฐมนตรี Tsipras แวะไปคารวะอนุสาวรีย์สงครามโลกครั้งที่ 2 สื่อเยอรมันตีข่าวว่า กรีกกำลังมาทวงความจำว่า เยอรมันยังจำได้ไหม คนกรีกเคยช่วยพวกคนเยอรมันจากพวกกางเขนเหล็กของฮิตเลอร์ ตีข่าวกันแบบนี้ คุณป้าแมร์เคิลก็คงไม่ชอบใจ หาว่าฉันเป็นพวกนาซีหรือไงยะ ฉันไม่ใช่กางเขนเหล็กนะ ฉันแค่เข็มขัดเหล็ก

    ข่าวบอกว่า คุณป้าพยายามเลี่ยงการเจรจาแบบสองต่อสอง กับนายTsipras เป็นการทำโทษให้รู้ว่า ฉันไม่พอใจ อืม ป้าแมร์เคิลไม่เบานะ

    คุณเจ๊ Barbara Wesel ผู้สื่อข่าวเยอรมันของ Deutsche Welle ประจำกรุงบรัสเซลบอกว่า ไม่ฉลาดเลยนะ ที่คุณแสดงการดูถูกคนที่คุณจะต้องเจรจาง้องอนด้วย Angela Merkel ไม่สมควรจะได้รับการเปรียบเทียบกับฮิตเลอร์ ….เมื่อคุณเลือกที่จะปฎิบัติกับแมร์เคิลอย่างฝ่ายตรงข้าม คุณจะรู้เองว่า เธอจะเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ร้ายขนาด ไหน…. จำไม่ได้เหรอว่า นายเดวิด แคมารอน ก็เคยโดนมาแล้ว เมื่อตอนงัดข้อกับคุณป้า เรื่องจะไม่เอานาย Jean-Claude Juncker เป็นประธานอียู ตามที่คุณป้าเสนอ แล้วเป็นยังไง ต้องลี้กาย หายหน้าไปจากอียูพักใหญ่ ดีว่าไม่ต้องไปแบบถาวร
    โอ้โห พวกเจ๊กางเขนเหล็ก เข็มขัดเหล็ก นี่ดุจัง

    แล้วจำเรื่องบุลกาเรียได้มั้ย ซ่าดีนัก นายกรัฐมนตรีตอนนั้น นาย Plamen Oresshaski เสนอหน้ามาเชียร์เส้นทางท่อแก๊ส South Stream ของรัสเซีย รู้อยู่แล้วว่าป้าเขาไม่เอาด้วย เพราะมันขัดกับกฏของอียู (กฏอะไรจ๊ะเจ๊ เรื่องแซงชั่นน่ะ พูดมันชัดๆไปเลย) แล้วเป็นไง เงินกู้ก้อนใหญ่ถูกตัด ฉับ ฉับเลย ยังไม่พอ ถึงตอนเลือกตั้ง นายปลาเมน หงายท้องผลึ่งไปเลย ฝ่ายค้าน ชื่อ Boyko Borisov ขึ้นมาเป็นแทน และนายปูติน ก็ต้องยกเลิกโครงการไง เห็นฤทธิ์ป้าเข็มขัดเหล็กแล้วซีนะ

    คราวนี้พวกกรีก ที่คิดจะมาต่อรองอียู จะเหลืออะไร ถึงกรีซจะเป็นสมาชิกเก่า ไม่ใช่เด็กใหม่อย่างบุลกาเรีย แถมคนเชียร์ก็ประเภทน้ำหนักเกินกระสอบข้าวทั้งนั้น เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี แต่ก็ยังมีหลายอีกประเทศสมาชิก ที่จนกว่ากรีซ ฉนั้น ไม่เหลือบ่ากว่าแรงป้าหรอกน่า ถ้าป้าอยากจะแผลงฤทธิ์ให้ดู

    เซียนมวย อย่าพลาดรายการนี้เชียว เดี๋ยวจะว่ามีดีไม่บอก น้ำหนักมันต่างกันหลายเท่าตัว แต่ทะลึ่งไปท้าเขา ไอ้ตัวเล็ก ฝ่ายท้าชิง มันบ้า หรือ มันไปได้ยาดีมากันแน่…

    (2)

    ฝ่ายผู้ท้าชิง รัฐมนตรีคลังมาดเซอร์ คุณน้อง Yanis Varoufakis ของผม นี่ไม่ธรรมดานะ จบเศรษฐศาสตร์จาก มหาวิทยาล้ย Exter ของอังกฤษ แกมีนัดกับรัฐมนตรีคลังผู้ดีอังกฤษ George Osborne ไอ้หมอนี่ดีกว่าลูกพี่หน่อย เวลาพูดไม่จีบปาก คุณน้องYanis ไปพบรัฐมนตรีผู้ดี ที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ก็ทำเนียบนายกนั่นแหละ คุณน้องใส่เสื้อหนัง เท่ สุดขีดไปเลย ข้างในเป็นเสื้อเชิร์ตสีฟ้า และไม่ผูกเนคไท!

    นี่ มันต้องอย่างนี้ ลุงนิทานเชียร์หมดกระเป๋าเลย

    คุณน้องเสื้อหนังบอกว่า เราไม่ได้จะเบี้ยวหนี้นะ เฮียหวัด แห่งไทยแลนด์แดนสมันน้อย เขาฝากมาสอนผม ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ก็แค่นั้น ผมกำลังเตรียมจะออกพันธบัตรใหม่ ไปแลกกับพันธบัตรชุดเดิม ที่พวก IMF กับ ECB จอมโหดมันบังคับให้ประเทศผมออกไว้ แต่ผมจะขอยืดเวลา เขาอยากได้หนี้คืนหรือเปล่าล่ะ หรือเขาอยากกำจัดเรา ประโยคท้ายนี่ ลุงนิทานแถมให้ครับ

    นาย Osbourne บอกว่า เรื่องหนี้กรีซ ที่รัฐบาลแถวยูโรโซน คุยกับเจ้าหนี้ไม่รู้เรื่องนี่ จะเป็นเรื่องที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ยิ่งกว่าเรื่องตะวันออกกลาง หรือเรื่องเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับพวกตะวันตกอีกนะ ไอ้หมอนี่ ถ้าจะตอแหลเก่ง ไม่น้อยกว่าลูกพี่จอมจีบปาก

    นอกจากนี้ นาย Mark Carney ผู้ว่าการของธนาคารชาติอังกฤษ ยังออกมาวิจารณ์ว่า นโยบายเข้มงวด เรื่องหนี้ของยูโรโซน จะยิ่งบีบให้จำนวนหนี้เพิ่ม แล้วก็ลากยาวกันไปอีก แปลกนะทำไมอังกฤษ สุ้มเสียงเหมือนกันเห็นใจกรีซ ผิดสันดานนักล่า

    อังกฤษกลัวใจคุณน้องเสื้อหนัง ว่าแกจะใช้นโยบายเบี้ยวหนี้ แล้วเดินออกจากอียูง่ายๆอย่างนั้น หรือไม่ก็ ถูกถีบออกจากอียู โดยไม่มีการต่ออายุ ไม่มีการผ่อนปรน เพราะไปลองดีกับพวกเข็มขัดเหล็ก เข้า หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้ามันเกิดขึ้น อังกฤษบอกว่า มันไม่ใช่กระทบแค่กรีซ มันกระแทกทั้งยุโรป และอังกฤษ ซึ่งอาศัยยุโรปเป็นตลาดส่งออกประมาณ 50 % ก็อ่วมตามด้วย
    ถ้ากรีซเจ๊ง มีข้อดีกับรัฐบาลอังกฤษอย่างเดียว อังกฤษกำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมที่จะถึง ถ้าแพ้เลือกตั้ง จะได้อ้างว่ามาจากเรื่องกรีซ ฮา

    ดูแล้ว เรื่องการห่วงกรีซของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นของปลอมไงไม่รู้ คงต้องตามไปคุ้ยต่อ

    แต่ก็มีเรื่องน่าคิด หนี้กรีซจำนวนมหึมา กำลังจะถึงกำหนด รู้หมู่รู้จ่าสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ พรรคของคุณน้องเสื้อหนังใจกล้า แอ่นอกเข้าเป็นรัฐบาล ส่วนสิ้นเดือนมีนาคม ก็ถึงกำหนดที่อียูต้องพิจารณาว่า จะต่ออายุการแซงชั่นรัสเซียหรือไม่ คุณป้าเข็มขัดเหล็กบอกว่าไว้แล้วว่า ยังไง เราก็ไม่มีวันผ่อนปรนให้นายปูติน ยกเว้น รัสเซียต้องถอยออกไปจากยูเครนให้หมดจด

    การลงมติ ที่จะต่ออายุการแซงชั่นรัสเซีย จะต้องได้คะแนนเสียงเอกฉันท์ ตอนนี้คุณป้าเข็มขัดเหล็กเลยออกเดินสาย ทำหน้าเข้มใส่ทุกคนเหมือนกัน ล่าสุดนี่ เห็นไปยืนบีบ นายVictor Orban นายกรัฐมนตรีฮังการี เสียหน้าเขียว ก็นาย Orban ดันบอกว่า เขาชอบรูปแบบการปกครองของนายปูติน แบบนี้เดี๋ยวได้โดนเข็มขัดแน่

    มติเอกฉันท์นี่ ไม่ได้กันง่ายๆนะครับ ใครไม่เอาด้วยรายเดียวก็จบ ผมเป็นคุณพี่ปูติน ก็เลิกเครียด ส่วนกรีซก็ไม่น่าเครียดเช่นเดียว กัน ทางออกมีให้เดินหลายทาง แต่ทางคุณป้าเข็มขัดเหล็ก และพวก คุณพี่ชาวเกาะนะซิ น่าจะเครียด ถ้ากรีซเลือกเดินทางนั้น อ้อ มิน่า ถึงได้ตาเหลือกกัน แหมคิดช้าจังลุง

    หมู่เกาะของกรีซ ใกล้กับตุรกีนิดเดียว ตุรกีก็ ไม่ไกลจากรัสเซีย รู้สึกคุณพี่ปูตินของผมนี่ แกชอบสะสม ชอบกินขนมชั้นนะ เอามาเรียงๆกันไว้ โดยเฉพาะกรีซนี่ อยู่กลางเมดิเตอร์เรเนียนเลย ช่างเหมาะจริงๆ แบบนี้กองทัพเรือของใคร ที่เพิ่งจัดงบปรับปรุงก้อนใหญ่ ก็คงเหนื่อยหน่อย จะเข้าไปได้ถึงไหน อย่างนี้ใส่เสื้อหนังไปคุยก็คงได้ คงเบ่งไม่ค่อยไหวแล้ว เอะ แล้วลูกพี่ใหญ่นักล่าใบตองแห้งว่าไงคร้าบ จะเสียหมากให้เขาอีกแล้วเหรอคร้าบ ฮา

    หมายเหตุ: อย่าลืมดูเวทียูเครนบ้างนะครับ ที่ตะวันออกกลางก็เหมือนกัน ตอนนี้เร่งเครื่องกันจัง เดี๋ยวจะว่าลุงไม่เตือน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    4 กพ. 2558
    เรื่อง เสื้อหนังกับเข็มขัดเหล็ก ” เสื้อหนัง กับ เข็มขัดเหล็ก” (1) รายการท้าชิงของมวยรุ่นเล็ก แต่ท่าทางจะเป็นพวกหมูตายไม่กลัวน้ำร้อน ดูเหมือนจะมีพวกแฟนๆรุ่นเก๋า เกาะเชือกเชียร์ไม่น้อย รวมทั้งผม พรรค Syriza ซ้ายจัดของกรีซ เพิ่งชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2015 แม้ไม่ได้คะแนนเสียงข้างมาก ต้องมีพรรคร่วม แต่ก็ได้เป็นรัฐบาลใหม่เอี่ยมของกรีก ที่นำโดยพรรค Syriza ก็ทำท่าจะ ซ่าสมชื่อโดยเฉพาะ ท่านรัฐมนตรีคลังหน้าใหม่มาดเซอร์ คุณน้อง Yanis Varoufakis ของผม พรรค Syriza หาเสียงกับชาวกรีกว่า เลือกพวกผมนะพี่น้อง แล้วพี่น้องจะไม่ต้องถูกกดขี่จากนโยบายของสหภาพยุโรปอีกต่อไป มันโหดกับเราขนาดไหน มันหั่นงบของกินของใช้เราขนาดไหน มากไปแล้ว… คงจะทำนองนี้นะครับ ผมไม่ได้แปลคำต่อคำ แล้วชาวกรีกก็ได้ Syriza มาเป็นรัฐบาล งานแรกที่ Syriza ต้องทำคือ วิ่งรอกหาพวกสนับสนุน เนื่องจากเงินกู้จำนวนประมาณ 350 พันล้านยูโร ของกรีซจะถึงกำหนดชำระสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ถ้าไม่มีการต่ออายุ และแน่นอน เศรษฐกิจของกรีซคงล้มระเนระนาด ล้มคราวนี้อาจจะหนักกว่า เมื่อปี 2011-2012 แต่ Syriza ก็ยังใจกล้า เข้ามาเป็นรัฐบาล มีของดีแอบอยู่หรือไง นายกรัฐมนตรี Alexis Tsipras กับรัฐมนตรีคลัง Yanis Varoufakis แยกกันเดินสาย ไปจับมือกับพวกพี่เบิ้มอียู ท่านนายกรัฐมนตรีมุ่งหน้าไปเยอรมัน ส่วนรัฐมนตรีคลังขอไปอังกฤษ มันกว่า ที่เยอรมัน นายกรัฐมนตรี Tsipras แวะไปคารวะอนุสาวรีย์สงครามโลกครั้งที่ 2 สื่อเยอรมันตีข่าวว่า กรีกกำลังมาทวงความจำว่า เยอรมันยังจำได้ไหม คนกรีกเคยช่วยพวกคนเยอรมันจากพวกกางเขนเหล็กของฮิตเลอร์ ตีข่าวกันแบบนี้ คุณป้าแมร์เคิลก็คงไม่ชอบใจ หาว่าฉันเป็นพวกนาซีหรือไงยะ ฉันไม่ใช่กางเขนเหล็กนะ ฉันแค่เข็มขัดเหล็ก ข่าวบอกว่า คุณป้าพยายามเลี่ยงการเจรจาแบบสองต่อสอง กับนายTsipras เป็นการทำโทษให้รู้ว่า ฉันไม่พอใจ อืม ป้าแมร์เคิลไม่เบานะ คุณเจ๊ Barbara Wesel ผู้สื่อข่าวเยอรมันของ Deutsche Welle ประจำกรุงบรัสเซลบอกว่า ไม่ฉลาดเลยนะ ที่คุณแสดงการดูถูกคนที่คุณจะต้องเจรจาง้องอนด้วย Angela Merkel ไม่สมควรจะได้รับการเปรียบเทียบกับฮิตเลอร์ ….เมื่อคุณเลือกที่จะปฎิบัติกับแมร์เคิลอย่างฝ่ายตรงข้าม คุณจะรู้เองว่า เธอจะเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ร้ายขนาด ไหน…. จำไม่ได้เหรอว่า นายเดวิด แคมารอน ก็เคยโดนมาแล้ว เมื่อตอนงัดข้อกับคุณป้า เรื่องจะไม่เอานาย Jean-Claude Juncker เป็นประธานอียู ตามที่คุณป้าเสนอ แล้วเป็นยังไง ต้องลี้กาย หายหน้าไปจากอียูพักใหญ่ ดีว่าไม่ต้องไปแบบถาวร โอ้โห พวกเจ๊กางเขนเหล็ก เข็มขัดเหล็ก นี่ดุจัง แล้วจำเรื่องบุลกาเรียได้มั้ย ซ่าดีนัก นายกรัฐมนตรีตอนนั้น นาย Plamen Oresshaski เสนอหน้ามาเชียร์เส้นทางท่อแก๊ส South Stream ของรัสเซีย รู้อยู่แล้วว่าป้าเขาไม่เอาด้วย เพราะมันขัดกับกฏของอียู (กฏอะไรจ๊ะเจ๊ เรื่องแซงชั่นน่ะ พูดมันชัดๆไปเลย) แล้วเป็นไง เงินกู้ก้อนใหญ่ถูกตัด ฉับ ฉับเลย ยังไม่พอ ถึงตอนเลือกตั้ง นายปลาเมน หงายท้องผลึ่งไปเลย ฝ่ายค้าน ชื่อ Boyko Borisov ขึ้นมาเป็นแทน และนายปูติน ก็ต้องยกเลิกโครงการไง เห็นฤทธิ์ป้าเข็มขัดเหล็กแล้วซีนะ คราวนี้พวกกรีก ที่คิดจะมาต่อรองอียู จะเหลืออะไร ถึงกรีซจะเป็นสมาชิกเก่า ไม่ใช่เด็กใหม่อย่างบุลกาเรีย แถมคนเชียร์ก็ประเภทน้ำหนักเกินกระสอบข้าวทั้งนั้น เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี แต่ก็ยังมีหลายอีกประเทศสมาชิก ที่จนกว่ากรีซ ฉนั้น ไม่เหลือบ่ากว่าแรงป้าหรอกน่า ถ้าป้าอยากจะแผลงฤทธิ์ให้ดู เซียนมวย อย่าพลาดรายการนี้เชียว เดี๋ยวจะว่ามีดีไม่บอก น้ำหนักมันต่างกันหลายเท่าตัว แต่ทะลึ่งไปท้าเขา ไอ้ตัวเล็ก ฝ่ายท้าชิง มันบ้า หรือ มันไปได้ยาดีมากันแน่… (2) ฝ่ายผู้ท้าชิง รัฐมนตรีคลังมาดเซอร์ คุณน้อง Yanis Varoufakis ของผม นี่ไม่ธรรมดานะ จบเศรษฐศาสตร์จาก มหาวิทยาล้ย Exter ของอังกฤษ แกมีนัดกับรัฐมนตรีคลังผู้ดีอังกฤษ George Osborne ไอ้หมอนี่ดีกว่าลูกพี่หน่อย เวลาพูดไม่จีบปาก คุณน้องYanis ไปพบรัฐมนตรีผู้ดี ที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ก็ทำเนียบนายกนั่นแหละ คุณน้องใส่เสื้อหนัง เท่ สุดขีดไปเลย ข้างในเป็นเสื้อเชิร์ตสีฟ้า และไม่ผูกเนคไท! นี่ มันต้องอย่างนี้ ลุงนิทานเชียร์หมดกระเป๋าเลย คุณน้องเสื้อหนังบอกว่า เราไม่ได้จะเบี้ยวหนี้นะ เฮียหวัด แห่งไทยแลนด์แดนสมันน้อย เขาฝากมาสอนผม ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ก็แค่นั้น ผมกำลังเตรียมจะออกพันธบัตรใหม่ ไปแลกกับพันธบัตรชุดเดิม ที่พวก IMF กับ ECB จอมโหดมันบังคับให้ประเทศผมออกไว้ แต่ผมจะขอยืดเวลา เขาอยากได้หนี้คืนหรือเปล่าล่ะ หรือเขาอยากกำจัดเรา ประโยคท้ายนี่ ลุงนิทานแถมให้ครับ นาย Osbourne บอกว่า เรื่องหนี้กรีซ ที่รัฐบาลแถวยูโรโซน คุยกับเจ้าหนี้ไม่รู้เรื่องนี่ จะเป็นเรื่องที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ยิ่งกว่าเรื่องตะวันออกกลาง หรือเรื่องเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับพวกตะวันตกอีกนะ ไอ้หมอนี่ ถ้าจะตอแหลเก่ง ไม่น้อยกว่าลูกพี่จอมจีบปาก นอกจากนี้ นาย Mark Carney ผู้ว่าการของธนาคารชาติอังกฤษ ยังออกมาวิจารณ์ว่า นโยบายเข้มงวด เรื่องหนี้ของยูโรโซน จะยิ่งบีบให้จำนวนหนี้เพิ่ม แล้วก็ลากยาวกันไปอีก แปลกนะทำไมอังกฤษ สุ้มเสียงเหมือนกันเห็นใจกรีซ ผิดสันดานนักล่า อังกฤษกลัวใจคุณน้องเสื้อหนัง ว่าแกจะใช้นโยบายเบี้ยวหนี้ แล้วเดินออกจากอียูง่ายๆอย่างนั้น หรือไม่ก็ ถูกถีบออกจากอียู โดยไม่มีการต่ออายุ ไม่มีการผ่อนปรน เพราะไปลองดีกับพวกเข็มขัดเหล็ก เข้า หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้ามันเกิดขึ้น อังกฤษบอกว่า มันไม่ใช่กระทบแค่กรีซ มันกระแทกทั้งยุโรป และอังกฤษ ซึ่งอาศัยยุโรปเป็นตลาดส่งออกประมาณ 50 % ก็อ่วมตามด้วย ถ้ากรีซเจ๊ง มีข้อดีกับรัฐบาลอังกฤษอย่างเดียว อังกฤษกำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมที่จะถึง ถ้าแพ้เลือกตั้ง จะได้อ้างว่ามาจากเรื่องกรีซ ฮา ดูแล้ว เรื่องการห่วงกรีซของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นของปลอมไงไม่รู้ คงต้องตามไปคุ้ยต่อ แต่ก็มีเรื่องน่าคิด หนี้กรีซจำนวนมหึมา กำลังจะถึงกำหนด รู้หมู่รู้จ่าสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ พรรคของคุณน้องเสื้อหนังใจกล้า แอ่นอกเข้าเป็นรัฐบาล ส่วนสิ้นเดือนมีนาคม ก็ถึงกำหนดที่อียูต้องพิจารณาว่า จะต่ออายุการแซงชั่นรัสเซียหรือไม่ คุณป้าเข็มขัดเหล็กบอกว่าไว้แล้วว่า ยังไง เราก็ไม่มีวันผ่อนปรนให้นายปูติน ยกเว้น รัสเซียต้องถอยออกไปจากยูเครนให้หมดจด การลงมติ ที่จะต่ออายุการแซงชั่นรัสเซีย จะต้องได้คะแนนเสียงเอกฉันท์ ตอนนี้คุณป้าเข็มขัดเหล็กเลยออกเดินสาย ทำหน้าเข้มใส่ทุกคนเหมือนกัน ล่าสุดนี่ เห็นไปยืนบีบ นายVictor Orban นายกรัฐมนตรีฮังการี เสียหน้าเขียว ก็นาย Orban ดันบอกว่า เขาชอบรูปแบบการปกครองของนายปูติน แบบนี้เดี๋ยวได้โดนเข็มขัดแน่ มติเอกฉันท์นี่ ไม่ได้กันง่ายๆนะครับ ใครไม่เอาด้วยรายเดียวก็จบ ผมเป็นคุณพี่ปูติน ก็เลิกเครียด ส่วนกรีซก็ไม่น่าเครียดเช่นเดียว กัน ทางออกมีให้เดินหลายทาง แต่ทางคุณป้าเข็มขัดเหล็ก และพวก คุณพี่ชาวเกาะนะซิ น่าจะเครียด ถ้ากรีซเลือกเดินทางนั้น อ้อ มิน่า ถึงได้ตาเหลือกกัน แหมคิดช้าจังลุง หมู่เกาะของกรีซ ใกล้กับตุรกีนิดเดียว ตุรกีก็ ไม่ไกลจากรัสเซีย รู้สึกคุณพี่ปูตินของผมนี่ แกชอบสะสม ชอบกินขนมชั้นนะ เอามาเรียงๆกันไว้ โดยเฉพาะกรีซนี่ อยู่กลางเมดิเตอร์เรเนียนเลย ช่างเหมาะจริงๆ แบบนี้กองทัพเรือของใคร ที่เพิ่งจัดงบปรับปรุงก้อนใหญ่ ก็คงเหนื่อยหน่อย จะเข้าไปได้ถึงไหน อย่างนี้ใส่เสื้อหนังไปคุยก็คงได้ คงเบ่งไม่ค่อยไหวแล้ว เอะ แล้วลูกพี่ใหญ่นักล่าใบตองแห้งว่าไงคร้าบ จะเสียหมากให้เขาอีกแล้วเหรอคร้าบ ฮา หมายเหตุ: อย่าลืมดูเวทียูเครนบ้างนะครับ ที่ตะวันออกกลางก็เหมือนกัน ตอนนี้เร่งเครื่องกันจัง เดี๋ยวจะว่าลุงไม่เตือน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 4 กพ. 2558
    0 Comments 0 Shares 229 Views 0 Reviews
  • ทำหน้าที่ ขุดคุ้ย สอดส่อง ฉวยโฉบเอกสาร แต่ถ้าใครคิดว่าแบนี้อิหร่านคงโป๊ไม่เหลือ เรียกว่ายังไม่รู้จักอิหร่านจริง!

    แล้วก็เป็นไปตามคาด การเจรจาไม่เป็นผล ตกลงกันไม่ได้ วันสิ้นสุดการเจรจา ต้องมีการต่ออายุไปถึงกลางปี 2015 แสดงว่า อิสราเอลยังทำภาระกิจไม่สำเร็จ ระหว่างนี้หากมีการเปลี่ยนค่าย เปลี่ยนพฤติกรรม พวกซุ่มเงียบเปลี่ยนใจเปิดตัว อิสราเอลจะเอาอยู่ไหม น้ำมันในตะวันออกกลาง ยังเป็นของรัก ของหวง ของนักล่าใบตองแห้งและพวก โดยเฉพาะลูกพี่ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่กบไต๋เงียบกริบ และใช้นักล่า ออกหน้าแทน… อย่างเคย

    จะเห็นว่าอิสราเอล กำลังเล่นบทหนัก ในการหนุน หรือ ผลักดัน การขยับหมากของนักล่าใบตองแห้ง นอกจากนี้ อิสราเอลยังมีเป้าหมาย ลับลึกซ่อนอยู่อีกหลายเรื่อง

    ถ้าสังเกตกัน จะเห็นว่า อิสราเอล พยายามเน้นให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฝรั่งเศส เป็นเรื่องการรังแกยิว โดยนาย Liberman รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอล ซึ่งไปเดินแถวคล้องแขนที่ปารีสด้วย บอกว่า เขาดู CNN แล้ว ปรากฏว่า ไม่มีการเสนอข่าวในมุมของชาวยิวเลยนะ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต Kosher ที่ยิงกัน ก็เป็นของชาวยิว หรือ พวกตัวประกัน ก็เป็นพวกชาวยิว พร้อมพูดว่า
    ” เราควรต้องพูดกันอย่างซื่อสัตย์ ไม่ต้องอาย และ เอาทุกอย่างวางบนโต๊ะ เพราะที่มาของการฆาตกรรมหมู่ชาวยิว มาจากมุสลิมเคร่งจัดด้านหนึ่ง และการด่าชาวยิวอย่างรุนแรงและไม่มีเหตุผลอีกด้านหนึ่ง”

    นี่ก็เป็นการให้ข่าวแบบกาฝาก คราวนี้ฝากไปให้ใคร

    ฝรั่งเศส มีชาวยิวอาศัยอยู่จำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 6 แสนคน นับเป็นอันดับ 3 ในโลก รองจากอิสราเอล และอเมริกา และฝรั่งเศส อีกเช่นเดียวกัน ที่มีคนนับถืออิสลามอาศัยอยู่มากที่สุดในยุโรป มีจำนวนไม่น้อยกว่า 4.7 ล้านคน ถึง 7.7 ล้านคน แล้วแต่แหล่งที่มาของข้อมูล

    ยูเครน ที่กำลังเล่นกันจนเละ จะกลายเป็นโรงละครสัตว์อยู่แล้วนั้น อิสราเอลก็แอบสนับสนุนฝ่ายที่ต่อสู้กับคุณพี่ปูตินอย่างเงียบ เชียบ แต่แข็งขัน อย่าลืมว่า คุณนาย Nuland นางเหยี่ยวของอเมริกา เจ้าของวลีเด็ด **** EU เป็นคนเลือกนาย Yatsenyuk ยิวหนุ่ม ไปเป็นนายกรัฐมนตรียูเครน ยูเครนจึง ไม่ได้เป็นเพียงสนามชิงท่อส่งแก๊ส มีหลายฝ่าย แอบหวังที่จะเอายูเครน เป็นบ้านยิวสาขา 2

    ฝรั่งเศสจึงน่าสนใจ ที่จะใช้เป็นสนามทดลอง หรือห้องทดลอง ทฤษฏีต่างๆ ก่อนมีการปฏิบัติการณ์ของจริง เพื่อดูปฏิกริยา การโต้ตอบ และกำลังสนับสนุนของแต่ละฝ่าย

    ในการทำศึกสงคราม แต่ละฝ่าย ต่างมียุทธศาสตร์ และต่างมีวาระซ่อนเร้น ซึ่งเราอาจจะยังเห็นไม่หมด มองไม่ชัดในตอนนี้ เพราะพวกเขาคงจะยังไม่เปิดฉากแสดงกันที่สถานที่จริง หรือถ้าเปิด มันก็ดูเป็นฉาก ที่ไม่ต่อเนื่องกัน

    เช่นเรื่องยูเครนกับตะวันออกกลาง อาจเกี่ยวโยงกันอย่างที่เรานึกไม่ถึง และเช่นเดียวกับการลงมติ คว่ำบาตรรัสเซีย ที่กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป กำลังทดสอบความแข็งของข้อกัน และคงจะรู้กันเร็วๆนี้ ว่า ใครกันแน่ ที่ข้อแข็งในสหภาพยุโรป

    ส่วนเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งสมาชิกรัฐสภาอเมริกันกลุ่มหนึ่ง กำลังกระเหี้ยน กระหือรือ ที่จะยื่นเรื่องให้รัฐสภา ลงมติเพิ่มการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่ม ทั้งที่การเจรจาเรื่องพัฒนานิวเคลียร์ ที่เพิ่งเริ่ม หลังจากมีการต่ออายุใหม่ และมีข่าวว่า นายโอบามาบอกว่า พยายามจะใช้สิทธิวีโต้ เพราะการเจรจากับอิหร่านยังไปได้อยู่

    คงจะไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ถ้าการพยายามคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มนั้น ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มยิว ทั้งใน และนอกอเมริกา ถ้าอิหร่านล้มคว่ำตามบาตรในตะวันออกกลาง ที่จะลุกขึ้นตีปีกคืออิสราเอล เพราะถ้าเจอทั้งอิหร่าน และตุรกี พร้อมกัน ในตะวันออกกลาง มันเหนื่อยโว้ย สะกัดไปทีละประเทศ น่าจะดีกว่า ส่วนความฝันเรื่องยูเครน ถ้ารัสเซียหมดแรง ถอบฉากเลิกขวาง อิสราเอลก็หวานคอ เอะ นี่ตกลงเป็นเรื่องของยิวล้วนๆหรือไง แล้วพวกลูกพี่ ทั้งนักล่าใบตองแห้ง และชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่คอยกำกับ ทุกรายการ ยังต้องการให้จัดการเรื่องอะไรอีกครับ ?!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    18 มค. 2558
    ทำหน้าที่ ขุดคุ้ย สอดส่อง ฉวยโฉบเอกสาร แต่ถ้าใครคิดว่าแบนี้อิหร่านคงโป๊ไม่เหลือ เรียกว่ายังไม่รู้จักอิหร่านจริง! แล้วก็เป็นไปตามคาด การเจรจาไม่เป็นผล ตกลงกันไม่ได้ วันสิ้นสุดการเจรจา ต้องมีการต่ออายุไปถึงกลางปี 2015 แสดงว่า อิสราเอลยังทำภาระกิจไม่สำเร็จ ระหว่างนี้หากมีการเปลี่ยนค่าย เปลี่ยนพฤติกรรม พวกซุ่มเงียบเปลี่ยนใจเปิดตัว อิสราเอลจะเอาอยู่ไหม น้ำมันในตะวันออกกลาง ยังเป็นของรัก ของหวง ของนักล่าใบตองแห้งและพวก โดยเฉพาะลูกพี่ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่กบไต๋เงียบกริบ และใช้นักล่า ออกหน้าแทน… อย่างเคย จะเห็นว่าอิสราเอล กำลังเล่นบทหนัก ในการหนุน หรือ ผลักดัน การขยับหมากของนักล่าใบตองแห้ง นอกจากนี้ อิสราเอลยังมีเป้าหมาย ลับลึกซ่อนอยู่อีกหลายเรื่อง ถ้าสังเกตกัน จะเห็นว่า อิสราเอล พยายามเน้นให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฝรั่งเศส เป็นเรื่องการรังแกยิว โดยนาย Liberman รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอล ซึ่งไปเดินแถวคล้องแขนที่ปารีสด้วย บอกว่า เขาดู CNN แล้ว ปรากฏว่า ไม่มีการเสนอข่าวในมุมของชาวยิวเลยนะ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต Kosher ที่ยิงกัน ก็เป็นของชาวยิว หรือ พวกตัวประกัน ก็เป็นพวกชาวยิว พร้อมพูดว่า ” เราควรต้องพูดกันอย่างซื่อสัตย์ ไม่ต้องอาย และ เอาทุกอย่างวางบนโต๊ะ เพราะที่มาของการฆาตกรรมหมู่ชาวยิว มาจากมุสลิมเคร่งจัดด้านหนึ่ง และการด่าชาวยิวอย่างรุนแรงและไม่มีเหตุผลอีกด้านหนึ่ง” นี่ก็เป็นการให้ข่าวแบบกาฝาก คราวนี้ฝากไปให้ใคร ฝรั่งเศส มีชาวยิวอาศัยอยู่จำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 6 แสนคน นับเป็นอันดับ 3 ในโลก รองจากอิสราเอล และอเมริกา และฝรั่งเศส อีกเช่นเดียวกัน ที่มีคนนับถืออิสลามอาศัยอยู่มากที่สุดในยุโรป มีจำนวนไม่น้อยกว่า 4.7 ล้านคน ถึง 7.7 ล้านคน แล้วแต่แหล่งที่มาของข้อมูล ยูเครน ที่กำลังเล่นกันจนเละ จะกลายเป็นโรงละครสัตว์อยู่แล้วนั้น อิสราเอลก็แอบสนับสนุนฝ่ายที่ต่อสู้กับคุณพี่ปูตินอย่างเงียบ เชียบ แต่แข็งขัน อย่าลืมว่า คุณนาย Nuland นางเหยี่ยวของอเมริกา เจ้าของวลีเด็ด Fuck EU เป็นคนเลือกนาย Yatsenyuk ยิวหนุ่ม ไปเป็นนายกรัฐมนตรียูเครน ยูเครนจึง ไม่ได้เป็นเพียงสนามชิงท่อส่งแก๊ส มีหลายฝ่าย แอบหวังที่จะเอายูเครน เป็นบ้านยิวสาขา 2 ฝรั่งเศสจึงน่าสนใจ ที่จะใช้เป็นสนามทดลอง หรือห้องทดลอง ทฤษฏีต่างๆ ก่อนมีการปฏิบัติการณ์ของจริง เพื่อดูปฏิกริยา การโต้ตอบ และกำลังสนับสนุนของแต่ละฝ่าย ในการทำศึกสงคราม แต่ละฝ่าย ต่างมียุทธศาสตร์ และต่างมีวาระซ่อนเร้น ซึ่งเราอาจจะยังเห็นไม่หมด มองไม่ชัดในตอนนี้ เพราะพวกเขาคงจะยังไม่เปิดฉากแสดงกันที่สถานที่จริง หรือถ้าเปิด มันก็ดูเป็นฉาก ที่ไม่ต่อเนื่องกัน เช่นเรื่องยูเครนกับตะวันออกกลาง อาจเกี่ยวโยงกันอย่างที่เรานึกไม่ถึง และเช่นเดียวกับการลงมติ คว่ำบาตรรัสเซีย ที่กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป กำลังทดสอบความแข็งของข้อกัน และคงจะรู้กันเร็วๆนี้ ว่า ใครกันแน่ ที่ข้อแข็งในสหภาพยุโรป ส่วนเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งสมาชิกรัฐสภาอเมริกันกลุ่มหนึ่ง กำลังกระเหี้ยน กระหือรือ ที่จะยื่นเรื่องให้รัฐสภา ลงมติเพิ่มการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่ม ทั้งที่การเจรจาเรื่องพัฒนานิวเคลียร์ ที่เพิ่งเริ่ม หลังจากมีการต่ออายุใหม่ และมีข่าวว่า นายโอบามาบอกว่า พยายามจะใช้สิทธิวีโต้ เพราะการเจรจากับอิหร่านยังไปได้อยู่ คงจะไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ถ้าการพยายามคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มนั้น ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มยิว ทั้งใน และนอกอเมริกา ถ้าอิหร่านล้มคว่ำตามบาตรในตะวันออกกลาง ที่จะลุกขึ้นตีปีกคืออิสราเอล เพราะถ้าเจอทั้งอิหร่าน และตุรกี พร้อมกัน ในตะวันออกกลาง มันเหนื่อยโว้ย สะกัดไปทีละประเทศ น่าจะดีกว่า ส่วนความฝันเรื่องยูเครน ถ้ารัสเซียหมดแรง ถอบฉากเลิกขวาง อิสราเอลก็หวานคอ เอะ นี่ตกลงเป็นเรื่องของยิวล้วนๆหรือไง แล้วพวกลูกพี่ ทั้งนักล่าใบตองแห้ง และชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่คอยกำกับ ทุกรายการ ยังต้องการให้จัดการเรื่องอะไรอีกครับ ?! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 18 มค. 2558
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • เรื่อง ห้องทดลอง
    “ห้องทดลอง”

    (1)

    ผ่านไปไม่กี่วัน จากไปเดินเรียงแถวคล้องแขน แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์น่า สลดที่ปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2015 ตุรกี ที่ส่งนายกรัฐมนตรี นาย Amed Davutoglu ไปร่วมเดินห่างไม่กี่แถว กับคู่แค้น Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ก็เกิดอาการเบรคแตก

    Independent สื่อค่ายชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ฉบับวันที่ 14 มกราคม 2015 รายงานว่า ประธานาธิบดี RecepTayip Erdogan ของตุรกี ให้ข่าวทันที ว่า

    ” พวกตะวันตก the west กำลังเล่นเกมส์ เล่นกันกลางกรุงปารีส ด้วยโดยการโยนให้มุสลิมเป็นเหยื่อ …คนฝรั่งเศส เป็นคนจัดการให้มีการฆ่า แล้วโยนบาปมาให้คนมุสลิม ฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศส ไม่รู้จักตามรอยคนออกมาจากคุกหรือไง? หลังจากเกิดเหตุ ก็มีการโจมตีสุเหร่าของอิสลาม …เห็นชัดถึงการตอแหล จอมปลอมของพวกตะวันตก เราไม่เคยมีส่วนร่วมในการก่อการร้ายใดเลย …เบื้องหลังเรื่องนี้ มันเกี่ยวกับการแบ่งแยกเรื่องเชื้อชาติ สร้างคำพูดใส่ร้าย และสร้างความเกลียดชังให้กับพวกมุสลิม”

    “กำลังมีการเล่นเกมส์กับโลกมุสลิม เราต้องรับรู้เรื่องนี้กันไว้ ” นาย Erdogan กล่าวเพิ่ม

    สหภาพมุสลิมในฝรั่งเศสรายงานว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ มีเหตุการณ์ที่แสดงถึงการต่อต้านมุสลิมประมาณ 50 รายการ ซึ่งรวมถึงการไล่ยิง และการพยายามเผาสุเหร่า

    นาย Erdogan ยังไม่จบง่ายๆ ด่าฝากแถมไปถึงการไปเดินเรียงแถวของ นาย Netanyahoo ว่า
    เขาทำไปได้ยังไง ทำไมคนที่สั่งฆ่าคน 2,500 คน ที่กาซ่า ยังมีหน้ามาเดินโบกมืออยู่ในปารีส เหมือนมีคนมาคอยต้อนรับด้วยความตื่นเต้น กล้าดีไปเดินอยู่ที่นั่นได้ยังไง ไม่นึกถึง เด็กและผู้หญิง ที่ตัวเองฆ่าบ้างเลยหรือ”

    คงยังไม่หนำใจ นายกเทศมนตรี เมืองหลวง Ankara ของตุรกี ช่วยออกมาเสริมอีก
    ” นี่ต้องเป็นผลงานของ Mossad ( หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล ที่ฝีมือชั่วไม่แพ้ CIA หรืออาจจะมากกว่า! ) อยู่เบื้องหลังแน่นอน เป็นการเพิ่มความรังเกียจต่อคนอิสลาม”

    โห รายการนี้ด่ากันแรงนะครับ ถ้าตุรกีไม่ได้ไปถูกเสี้ยนตำตีน หรือเหยียบไปบนขี้หมากองโต ที่กลางกรุงปารีส ระหว่างเดินเรียงแถวกันละก้อ สงสัยต้องมีเรื่องใหญ่คิดการณ์เอาไว้แล้ว ถึงได้ตอกใส่กันแรงขนาดนี้

    ฝ่ายอิสราเอล ก็ไม่ใช่เล่น ถูกด่าปั้บ ออกมาตอกกลับทันที ยังกะสั่งหนังสือพิมพ์ ให้ออกข่าวรอล่วงหน้า เหมือนกับรู้ว่า อีกฝ่ายจะพูดอะไร

    วันที่ 14 มกราคม วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์ the Jerusalem Post ลงข่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahoo และรัฐมนตรีต่างประเทศ นาย Avigdor Liberman บอกว่า นาย Erdogan ของตุรกี เป็นพวกเกลียดยิว anti-Semitic เป็นเพื่อนบ้านจอมป่วน และกล่าวอ้อมๆว่า ตุรกีให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้าย

    ” การปราบปรามผู้ก่อการร้าย ไม่มีวันทำสำเร็จหรอก ถ้าเรายังใช้วิธีเสแสร้ง หน้าไหว้หลังหลอกกันอยู่อย่างนี้ เราไม่ได้ยินผู้นำระดับโลกคนใดเลย ออกมามาประนามคำพูดของนาย Erdogan ไม่มีสักคนจริงๆ ” นาย Netanyahoo สำทับ

    คำสำทับนี้ดูเหมือนไม่ได้ส่งกลับ ไปที่ นาย Erdogan แต่น่าจะส่งไปไกลกว่านั้น

    เป็นที่รู้กันอยู่ว่า ตอนนี้นายโอบามา ไม่หวานชื่นกับ Nethanyahoo ไม่เหมือน ประธานาธิบดีอเมริกันคนอื่นๆ ที่คอยเอาใจพวกยิว โดยเฉพาะ ก่อนการเลือกตั้ง

    ขณะที่อิสราเอลเหน็บอเมริกา ตุรกี ซึ่งอเมริกามองว่าเป็นลูกกระเป๋งมาตลอด แต่กลับเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่ให้การสนับสนุนอย่างเปิดเผยต่อ องค์กรฮามาส Hamas ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ และเป็นองค์กรที่อเมริกา และสหภาพยุโรป ต่างขึ้นบัญชีดำ ให้เป็นผู้ก่อการร้ายระดับสำคัญ แต่ดูเหมือนตุรกีจะไม่สนใจ
    แถมล่าสุดเมื่อปลายเดือนธันวา คม ปี 2014 ตุรกีได้เชิญ นาย Khaled Meshaal หัวหน้ากลุ่มฮามาส ไปเยียนตุรกี และเอานาย Meshaal ไปเข้าร่วมประชุมพรรค AKP ของประธานาธิบดี Erdogan ด้วย แน่จริงๆ เรียกว่าท้าทายกันแบบไม่เกรงใจใครเลย
    เอะ แล้วตุรกีต้องเกรงใจใครหรือ?!

    ข่าวหัวหน้าฮามาส ไปเดินฉุยฉายลอยชายอยู่ตุรกี แน่นอนยอมมีคนหงุดหงิด นักล่าใบตองแห้งหงุดหงิดง่ายอ ยู่แล้ว แค่ลมพัดใบตองแห้ง แกว่งแรงไปหน่อย ยังออกเสียงฮึมแฮ่เลย นี่หัวหน้าฮามาส ที่นักล่า อยากขยี้มาหลายรอบ แต่ไม่สำเร็จ ตอนนี้ลงทุนเปลี่ยนแผน ขยี้ไม่ตาย แต่ถ้าซื้อขายอาจจะโอเคมั่งนะ แต่ขอโทษ ฮามาส นอกจากไม่ยอมขายตัวแล้ว ยังไปนั่งสบายใจ เฮฮา กับสุดยอดนักไต่ลวด นายErdogan แชมป์เล่นเกมเสียว เหมือนโชว์ให้ใครดูเสียอีก แบบนี้นักล่าหรือจะปล่อยไปเฉยๆ

    วันที่ 8 มกราคม คศ 2015 คุณหนูเจน Psaki โฆษก กระทรวงการต่างประเทศของนักล่า เลยต้องออกมาทำหน้าเครียดแถลงข่าวว่า

    ” ท่าทีของเราต่อขบวนการฮามาสยังไม่เปลี่ยนนะ ฮามาสคือองค์กรต่างประเทศที่เกี่ยวพันกับการก่อการร้ายมาอย่างต่อเนื่อง และฮามาส ได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาอย่างชัดเจนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา (ช่วงสิงหาคม ปีที่แล้ว) ในความขัดแย้งกับอิสราเอล”

    “เรามีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับฮามาส และเมื่อรู้ว่า Meshaal ไปเยี่ยมตุรกี เราได้ขอให้รัฐบาลตุรกีกดดันฮามาส เพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันความรุนแรง” แหม คุณหนู ช่างไม่มีศิลปะในการพูดเสียเลย มิน่าแถลงข่าวที่ไร ถูกนักข่าวหนุ่มๆ ต้อนจนติดอ่าง ฮา

    ขณะเดียวกันมีข่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีบอกว่า ตุรกียินดีต้อนรับ Khaled Meshaal หัวหน้าฮามาส หลังจากมีข่าวว่า Meshaal ซึ่งลี้ภัยไปอยู่ที่กาต้าร์ ได้ถูกทางการของกาต้าร์ ขับออกนอกประเทศแล้ว และเขาอาจจะไปตุรกี

    เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีบอกว่า ไม่ว่าใคร จะเป็นคนของประเทศใด ก็สามารถเข้าออกตุรกีได้อยู่แล้ว ตราบใดที่ไม่มีปัญหาด้านกฏหมาย นี่มันต้องตอบแบบกลิ้งได้หลายตลบอย่างนี้ สมกับเป็นพวกนักไต่ลวดจริงๆ นักล่าใบตองแห้งน่าจะส่งคุณหนู Psaki มาฝึกงานแถวตุรกีซะหน่อยนะ ฮาอีกครั้ง

    อเมริกา อิสราเอล และตุรกี กำลังมีอะไรคาใจ หรือเล่นบทอะไรกันอยู่หรือ ถึงใช้วิธีเหมือนกาฝาก บินโฉบทิ้งของที่ระลึก แล้วแฉลบข้ามไปต่อ

    #######
    (2)

    ฝ่ายทางกลุ่มฮามาสเองก็ฉุนขาด เมื่อได้ฟังคำวิจารณ์ของอเมริกา เกี่ยวกับการไปนั่งชมวิวตุรกีของนายMehsaal ที่ถ่ายทอดโดยฝีปากของคุณหนู Psaki บอกว่าอเมริกาสามหาว และเหยียดเผ่าพันธ์มากไปแล้ว รัฐบาลอเมริกากำลังไต่อันดับ ทำตัวเข้าข่ายเป็นศัตรูที่แท้จริงของพวกเขาทีเดียว ทั้งนี้ตามคำแถลงของ Al-Qassam Brigades ฝ่ายกองทัพของกลุ่มฮามาส

    ส่วนเรื่องกาต้าร์ขับไล่ นายMeshaal ออกจากประเทศ กาต้าร์ไม่ยืนยัน แต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว กาต้าร์ขับไล่ระดับหัวหน้าของ Muslim Brotherhood 7 คน ที่กาต้าร์เลี้ยงดูไว้นานแล้วออกจากประเทศ เพื่อเป็นการเอาใจพวกราชวงศ์เสี่ยน้ำมันตะวันออกกลาง และรัฐบาลอียิปต์ อืม มาแปลก

    กาต้าร์ไม่ใช่นายทุนรายเดียวที่สนับสนันเลี้ยงดู Muslim Brotherhood ตุรกีก็สนับสนุนเช่นเดียวกัน

    Muslim Brotherhood เป็นกลุ่มอิสลามฝักใฝ่การเมือง ที่รวมตัวกันขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะโค่นล้มรัฐบาลอิสลาม ที่อยู่ใต้อิทธิพลของอเมริกา ตุรกีย่อมให้การสนับสนุนไว้ก่อน เพราะยังไม่แน่ใจอนาคตของตนเอง ส่วนกาต้าร์ละ เข้าไปเกี่ยวอะไรด้วย

    เมื่ออียิปต์เกิดอาหรับสปริง ที่ไม่แน่ว่า สาเหตุจะมาจากการที่ นายมูบารัค ของอียิปต์มีนโยบายเกี่ยวกับปาเลสไตน์ สวนทางกับอิสราเอลหรือเปล่า และอเมริกาภายใต้การกดดันของอิสราเอล จึงส่งอาหรับสปริง เป็นของขวัญให้นายมูบารัค

    ลูกไปเข้าทางของ Muslim Brotherhood อิยิปต์จึงได้ นาย Mohamed Morsi ของ Muslim Brotherhood มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องถูกใจตุรกีอย่างยิ่ง เพราะถ้าอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขต ด้านหนึ่ง ติดกับด้านใต้ของอิสราเอล มีผู้มีอำนาจปกครองเป็นพวกเดียวกับตุรกี เมื่อไหร่ที่อิสราเอลทำซ่า อาละวาดใส่ปาเลสไตน์ที่ตุรกีสนับสนุนมาตลอด ตุรกีกับอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขตประกบหัวท้ายอิสราเอลอยู่ คิดเล่นแซนด์วิช ผลัดกันโยนหัวปลีข้ามใส่อิสราเอล ก็น่าจะลดความกร่างของอิสราเอลไปได้บ้าง
    และก็เพราะการเดินสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบนี้ ในช่วงหลังๆของตุรกี โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับอิสราเอล สัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับตุรกี จึงไม่หวานอย่างเดิม และมีส่วนให้ นาย Morsi ของ Muslim Brotherhood น่าจะถูกใบสั่ง ให้ทหารอียิปต์ทำการปฏิวัติซ้อน ทำเอา นาย Morsi หล่นจากแท่นอำนาจไปอย่างรวดเร็ว หลังจากขึ้นมามีอำนาจได้เพียงปีเดียว ดูกันไว้เป็นตัวอย่างนะครับ ว่าเขาเล่นเกมกันอย่างไร

    นอกจากมีเรื่องกับอิสราเอลแล้ว เรื่องซีเรียก็เป็นปัญหาใหญ่ อเมริกาบอกชักจะเบื่อการเล่นเกมของตุรกี ที่พักหลังมีแต่ all pain, no gain แล้วนะ เราชักอยากให้ตุรกีเลือกข้างมาให้ชัดๆเลย เราไม่สนใจ และไม่เดือดร้อนเลย ถ้าไม่ได้ใช้ฐานทัพของเรา ที่อยู่ในตุรกีเพื่อทำการฝึกให้กับฝ่ายต่อต้านไอซิส หรือต่อต้านซีเรีย เราไม่ได้ต้องการให้กองทัพตุรกี ไปสู้ศึกที่ซีเรีย ที่เราต้องต้องการให้ตุรกีทำคือ ให้ตุรกีไปสืบดูให้ได้ และขจัดเส้นทางเข้าออกของผู้ก่อการร้าย เครือข่ายการธุรกิจ และการเงิน ที่ทำผ่านตุรกี ไปให้ซีเรีย ที่ทำให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายนี้โตขึ้นอย่างมากใน 3 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ตุรกีทำไม่ได้ หรือไม่ทำให้อเมริกา

    จะให้เข้าใจเรื่องนี้ดีขึ้น ผมขอแนะนำให้ท่านผู้อ่าน ไปเอาแผนที่มากางดู อียิปต์อยู่ด้านล่าง ถัดขึ้นมาข้างบนเอียงขวาหน่อย เป็นอิสราเอล เหนืออิสราเอลเป็นเลบานอน ระหว่างอิสราเอลกับเลบานอนมีเนื้อที่แถบเล็กๆ คือปาเลสไตน์ เหนือเลบานอนเป็นซีเรียและอิรัค เหนือชีเรียเป็นตุรกี เหนือตรุกีเป็นจอร์เจีย ใกล้กับเขตแดนรัสเซีย เหนืออิรัคเป็นอิหร่าน ซึ่งมีเขตแดนติดกับรัสเซียยาวเหยียด

    เล่าแผนที่มายาว เพื่อให้เห็นความสำคัญของปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย ตุรกี อิรัค และอิหร่าน ซึ่งเหมือนขนมชั้น ขวางทางเข้าสู่รัสเซีย มันเป็นขนมชั้นที่มีความสำคัญ ทั้งในมิติของสงครามภูมิภาค และมิติสงครามโลก !

    และหมากที่จะเดินให้เป็นสงครามภูมิภาค หรือสงครามโลกตัวสำคัญตัวหนึ่งของฝ่ายอเมริกาคือ อิสราเอล ซึ่งมีอิทธิพล และเล่ห์เหลี่ยมสูงมาก ถึงขนาด อาจจะเป็นตัวบีบ ให้อเมริกาเดินหมากตัวอื่นตามที่ตนเองต้องการ เผลอๆอาจจะเหลี่ยมสูง ถึงขนาดบีบให้ตัวอเมริกาเอง เดินตามที่อิสราเอลหลอกให้เดินก็มีทางเป็นไปได้

    ในขณะที่ตุรกีเป็นหมากตัวใหม่ ที่เหมือนแสดงตัวเปิดเผยว่า เราไม่ใช่อยู่ฝ่ายอเมริกาแล้วนะ ตุรกีและ อิหร่าน น่าจะเป็นหมากที่เดินตามจังหวะที่น่าสนใจ ให้กับฝ่ายรัสเซียในตะวันออกกลาง

    การขยับของอิสราเอล ตุรกี และอิหร่าน ย่อมมีความหมาย ไม่น้อยกว่าการขยับของฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมัน ในยุโรป มันดูเหมือนเป็นคนละเรื่อง แต่มันอาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน หรือต่อเนื่องกัน จึงโปรดอย่าลืมจับตา คอยดูการขยับของหมากทั้ง 6 ตัวนี้

    #####
    (3)

    อิหร่าน เป็นหมากอีกตัวที่สำคัญของฝ่ายรัสเซีย เพราะมีข่าวว่า กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่าง ซุ่มเงียบ อเมริกานักล่าใบตองแห้ง แน่นอน ย่อมหงุดหงิดออกอาการ น้ำลายฟูมปาก แต่ก็คิดหนัก เพราะอิหร่านนั้น เหมือนผีดิบคืนชีพ โดนอเมริกาบดขยี้มาหลายรอบ ไม่ตายคาที่เสียที แค่ช้ำใน กลัดหนองอยู่นาน ปล่อยให้อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์ไปเรื่อยๆ นอกจากเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้ ทั้งอิหร่านเอง และช่วยฝ่ายรัสเซียแล้ว ยังทำให้อิสราเอลไข้ขึ้น รู้สึกหนาวสั่นกลางแดดได้ ในตะวันออกกลาง แต่สูตรยาขจัดอิหร่านแบบยกเดียวจบ อเมริกายังคิดไม่สำเร็จ

    อิสราเอลตัวแสบ ต้องรู้อะไรลึกและมีแผนซับซ้อน จึงหนุน แนะ หรือสั่งให้อเมริกาใช้วิธีเจรจากับอิหร่านไปพลางๆก่อน และอเมริกาก็หันมาสั่งสหภาพยุโรปอีกต่อ เจรจากับอิหร่านต่อไปนะพวก เอะ ตกลงใครใหญ่กันแน่

    การเจรจากับอิหร่านในปี 2014 ดูเหมือนราบรื่นดี ผู้ที่รับบทหนักในการเดินสาย เดินสารปั่นหัว เหล่าคณะกรรมการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ กับอิหร่าน คือ รัฐมนตรีด้านงานข่าวกรอง Minister of Intelligence ของอิสราเอล นาย Yuval Steinitz ซึ่งเดินทางจนนักข่าวแซวว่า ได้ไมล์เลจเป็นบัตรแพลตินั่มหลายใบแล้ว นาย Steinitz เป็นคนไปเอาเอกสารลับมาป้อนให้ คณะกรรมการเจรจา เอาไว้ยันหน้ากับอิหร่าน นอกจากนั้น ทีมงานข่าวกรองของอิสราเอล หน่วยงาน Mossad ก็ทำงานหนัก เพราะเป็นตัวจริง
    เรื่อง ห้องทดลอง “ห้องทดลอง” (1) ผ่านไปไม่กี่วัน จากไปเดินเรียงแถวคล้องแขน แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์น่า สลดที่ปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2015 ตุรกี ที่ส่งนายกรัฐมนตรี นาย Amed Davutoglu ไปร่วมเดินห่างไม่กี่แถว กับคู่แค้น Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ก็เกิดอาการเบรคแตก Independent สื่อค่ายชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ฉบับวันที่ 14 มกราคม 2015 รายงานว่า ประธานาธิบดี RecepTayip Erdogan ของตุรกี ให้ข่าวทันที ว่า ” พวกตะวันตก the west กำลังเล่นเกมส์ เล่นกันกลางกรุงปารีส ด้วยโดยการโยนให้มุสลิมเป็นเหยื่อ …คนฝรั่งเศส เป็นคนจัดการให้มีการฆ่า แล้วโยนบาปมาให้คนมุสลิม ฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศส ไม่รู้จักตามรอยคนออกมาจากคุกหรือไง? หลังจากเกิดเหตุ ก็มีการโจมตีสุเหร่าของอิสลาม …เห็นชัดถึงการตอแหล จอมปลอมของพวกตะวันตก เราไม่เคยมีส่วนร่วมในการก่อการร้ายใดเลย …เบื้องหลังเรื่องนี้ มันเกี่ยวกับการแบ่งแยกเรื่องเชื้อชาติ สร้างคำพูดใส่ร้าย และสร้างความเกลียดชังให้กับพวกมุสลิม” “กำลังมีการเล่นเกมส์กับโลกมุสลิม เราต้องรับรู้เรื่องนี้กันไว้ ” นาย Erdogan กล่าวเพิ่ม สหภาพมุสลิมในฝรั่งเศสรายงานว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ มีเหตุการณ์ที่แสดงถึงการต่อต้านมุสลิมประมาณ 50 รายการ ซึ่งรวมถึงการไล่ยิง และการพยายามเผาสุเหร่า นาย Erdogan ยังไม่จบง่ายๆ ด่าฝากแถมไปถึงการไปเดินเรียงแถวของ นาย Netanyahoo ว่า เขาทำไปได้ยังไง ทำไมคนที่สั่งฆ่าคน 2,500 คน ที่กาซ่า ยังมีหน้ามาเดินโบกมืออยู่ในปารีส เหมือนมีคนมาคอยต้อนรับด้วยความตื่นเต้น กล้าดีไปเดินอยู่ที่นั่นได้ยังไง ไม่นึกถึง เด็กและผู้หญิง ที่ตัวเองฆ่าบ้างเลยหรือ” คงยังไม่หนำใจ นายกเทศมนตรี เมืองหลวง Ankara ของตุรกี ช่วยออกมาเสริมอีก ” นี่ต้องเป็นผลงานของ Mossad ( หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล ที่ฝีมือชั่วไม่แพ้ CIA หรืออาจจะมากกว่า! ) อยู่เบื้องหลังแน่นอน เป็นการเพิ่มความรังเกียจต่อคนอิสลาม” โห รายการนี้ด่ากันแรงนะครับ ถ้าตุรกีไม่ได้ไปถูกเสี้ยนตำตีน หรือเหยียบไปบนขี้หมากองโต ที่กลางกรุงปารีส ระหว่างเดินเรียงแถวกันละก้อ สงสัยต้องมีเรื่องใหญ่คิดการณ์เอาไว้แล้ว ถึงได้ตอกใส่กันแรงขนาดนี้ ฝ่ายอิสราเอล ก็ไม่ใช่เล่น ถูกด่าปั้บ ออกมาตอกกลับทันที ยังกะสั่งหนังสือพิมพ์ ให้ออกข่าวรอล่วงหน้า เหมือนกับรู้ว่า อีกฝ่ายจะพูดอะไร วันที่ 14 มกราคม วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์ the Jerusalem Post ลงข่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahoo และรัฐมนตรีต่างประเทศ นาย Avigdor Liberman บอกว่า นาย Erdogan ของตุรกี เป็นพวกเกลียดยิว anti-Semitic เป็นเพื่อนบ้านจอมป่วน และกล่าวอ้อมๆว่า ตุรกีให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้าย ” การปราบปรามผู้ก่อการร้าย ไม่มีวันทำสำเร็จหรอก ถ้าเรายังใช้วิธีเสแสร้ง หน้าไหว้หลังหลอกกันอยู่อย่างนี้ เราไม่ได้ยินผู้นำระดับโลกคนใดเลย ออกมามาประนามคำพูดของนาย Erdogan ไม่มีสักคนจริงๆ ” นาย Netanyahoo สำทับ คำสำทับนี้ดูเหมือนไม่ได้ส่งกลับ ไปที่ นาย Erdogan แต่น่าจะส่งไปไกลกว่านั้น เป็นที่รู้กันอยู่ว่า ตอนนี้นายโอบามา ไม่หวานชื่นกับ Nethanyahoo ไม่เหมือน ประธานาธิบดีอเมริกันคนอื่นๆ ที่คอยเอาใจพวกยิว โดยเฉพาะ ก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่อิสราเอลเหน็บอเมริกา ตุรกี ซึ่งอเมริกามองว่าเป็นลูกกระเป๋งมาตลอด แต่กลับเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่ให้การสนับสนุนอย่างเปิดเผยต่อ องค์กรฮามาส Hamas ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ และเป็นองค์กรที่อเมริกา และสหภาพยุโรป ต่างขึ้นบัญชีดำ ให้เป็นผู้ก่อการร้ายระดับสำคัญ แต่ดูเหมือนตุรกีจะไม่สนใจ แถมล่าสุดเมื่อปลายเดือนธันวา คม ปี 2014 ตุรกีได้เชิญ นาย Khaled Meshaal หัวหน้ากลุ่มฮามาส ไปเยียนตุรกี และเอานาย Meshaal ไปเข้าร่วมประชุมพรรค AKP ของประธานาธิบดี Erdogan ด้วย แน่จริงๆ เรียกว่าท้าทายกันแบบไม่เกรงใจใครเลย เอะ แล้วตุรกีต้องเกรงใจใครหรือ?! ข่าวหัวหน้าฮามาส ไปเดินฉุยฉายลอยชายอยู่ตุรกี แน่นอนยอมมีคนหงุดหงิด นักล่าใบตองแห้งหงุดหงิดง่ายอ ยู่แล้ว แค่ลมพัดใบตองแห้ง แกว่งแรงไปหน่อย ยังออกเสียงฮึมแฮ่เลย นี่หัวหน้าฮามาส ที่นักล่า อยากขยี้มาหลายรอบ แต่ไม่สำเร็จ ตอนนี้ลงทุนเปลี่ยนแผน ขยี้ไม่ตาย แต่ถ้าซื้อขายอาจจะโอเคมั่งนะ แต่ขอโทษ ฮามาส นอกจากไม่ยอมขายตัวแล้ว ยังไปนั่งสบายใจ เฮฮา กับสุดยอดนักไต่ลวด นายErdogan แชมป์เล่นเกมเสียว เหมือนโชว์ให้ใครดูเสียอีก แบบนี้นักล่าหรือจะปล่อยไปเฉยๆ วันที่ 8 มกราคม คศ 2015 คุณหนูเจน Psaki โฆษก กระทรวงการต่างประเทศของนักล่า เลยต้องออกมาทำหน้าเครียดแถลงข่าวว่า ” ท่าทีของเราต่อขบวนการฮามาสยังไม่เปลี่ยนนะ ฮามาสคือองค์กรต่างประเทศที่เกี่ยวพันกับการก่อการร้ายมาอย่างต่อเนื่อง และฮามาส ได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาอย่างชัดเจนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา (ช่วงสิงหาคม ปีที่แล้ว) ในความขัดแย้งกับอิสราเอล” “เรามีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับฮามาส และเมื่อรู้ว่า Meshaal ไปเยี่ยมตุรกี เราได้ขอให้รัฐบาลตุรกีกดดันฮามาส เพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันความรุนแรง” แหม คุณหนู ช่างไม่มีศิลปะในการพูดเสียเลย มิน่าแถลงข่าวที่ไร ถูกนักข่าวหนุ่มๆ ต้อนจนติดอ่าง ฮา ขณะเดียวกันมีข่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีบอกว่า ตุรกียินดีต้อนรับ Khaled Meshaal หัวหน้าฮามาส หลังจากมีข่าวว่า Meshaal ซึ่งลี้ภัยไปอยู่ที่กาต้าร์ ได้ถูกทางการของกาต้าร์ ขับออกนอกประเทศแล้ว และเขาอาจจะไปตุรกี เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีบอกว่า ไม่ว่าใคร จะเป็นคนของประเทศใด ก็สามารถเข้าออกตุรกีได้อยู่แล้ว ตราบใดที่ไม่มีปัญหาด้านกฏหมาย นี่มันต้องตอบแบบกลิ้งได้หลายตลบอย่างนี้ สมกับเป็นพวกนักไต่ลวดจริงๆ นักล่าใบตองแห้งน่าจะส่งคุณหนู Psaki มาฝึกงานแถวตุรกีซะหน่อยนะ ฮาอีกครั้ง อเมริกา อิสราเอล และตุรกี กำลังมีอะไรคาใจ หรือเล่นบทอะไรกันอยู่หรือ ถึงใช้วิธีเหมือนกาฝาก บินโฉบทิ้งของที่ระลึก แล้วแฉลบข้ามไปต่อ ####### (2) ฝ่ายทางกลุ่มฮามาสเองก็ฉุนขาด เมื่อได้ฟังคำวิจารณ์ของอเมริกา เกี่ยวกับการไปนั่งชมวิวตุรกีของนายMehsaal ที่ถ่ายทอดโดยฝีปากของคุณหนู Psaki บอกว่าอเมริกาสามหาว และเหยียดเผ่าพันธ์มากไปแล้ว รัฐบาลอเมริกากำลังไต่อันดับ ทำตัวเข้าข่ายเป็นศัตรูที่แท้จริงของพวกเขาทีเดียว ทั้งนี้ตามคำแถลงของ Al-Qassam Brigades ฝ่ายกองทัพของกลุ่มฮามาส ส่วนเรื่องกาต้าร์ขับไล่ นายMeshaal ออกจากประเทศ กาต้าร์ไม่ยืนยัน แต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว กาต้าร์ขับไล่ระดับหัวหน้าของ Muslim Brotherhood 7 คน ที่กาต้าร์เลี้ยงดูไว้นานแล้วออกจากประเทศ เพื่อเป็นการเอาใจพวกราชวงศ์เสี่ยน้ำมันตะวันออกกลาง และรัฐบาลอียิปต์ อืม มาแปลก กาต้าร์ไม่ใช่นายทุนรายเดียวที่สนับสนันเลี้ยงดู Muslim Brotherhood ตุรกีก็สนับสนุนเช่นเดียวกัน Muslim Brotherhood เป็นกลุ่มอิสลามฝักใฝ่การเมือง ที่รวมตัวกันขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะโค่นล้มรัฐบาลอิสลาม ที่อยู่ใต้อิทธิพลของอเมริกา ตุรกีย่อมให้การสนับสนุนไว้ก่อน เพราะยังไม่แน่ใจอนาคตของตนเอง ส่วนกาต้าร์ละ เข้าไปเกี่ยวอะไรด้วย เมื่ออียิปต์เกิดอาหรับสปริง ที่ไม่แน่ว่า สาเหตุจะมาจากการที่ นายมูบารัค ของอียิปต์มีนโยบายเกี่ยวกับปาเลสไตน์ สวนทางกับอิสราเอลหรือเปล่า และอเมริกาภายใต้การกดดันของอิสราเอล จึงส่งอาหรับสปริง เป็นของขวัญให้นายมูบารัค ลูกไปเข้าทางของ Muslim Brotherhood อิยิปต์จึงได้ นาย Mohamed Morsi ของ Muslim Brotherhood มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องถูกใจตุรกีอย่างยิ่ง เพราะถ้าอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขต ด้านหนึ่ง ติดกับด้านใต้ของอิสราเอล มีผู้มีอำนาจปกครองเป็นพวกเดียวกับตุรกี เมื่อไหร่ที่อิสราเอลทำซ่า อาละวาดใส่ปาเลสไตน์ที่ตุรกีสนับสนุนมาตลอด ตุรกีกับอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขตประกบหัวท้ายอิสราเอลอยู่ คิดเล่นแซนด์วิช ผลัดกันโยนหัวปลีข้ามใส่อิสราเอล ก็น่าจะลดความกร่างของอิสราเอลไปได้บ้าง และก็เพราะการเดินสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบนี้ ในช่วงหลังๆของตุรกี โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับอิสราเอล สัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับตุรกี จึงไม่หวานอย่างเดิม และมีส่วนให้ นาย Morsi ของ Muslim Brotherhood น่าจะถูกใบสั่ง ให้ทหารอียิปต์ทำการปฏิวัติซ้อน ทำเอา นาย Morsi หล่นจากแท่นอำนาจไปอย่างรวดเร็ว หลังจากขึ้นมามีอำนาจได้เพียงปีเดียว ดูกันไว้เป็นตัวอย่างนะครับ ว่าเขาเล่นเกมกันอย่างไร นอกจากมีเรื่องกับอิสราเอลแล้ว เรื่องซีเรียก็เป็นปัญหาใหญ่ อเมริกาบอกชักจะเบื่อการเล่นเกมของตุรกี ที่พักหลังมีแต่ all pain, no gain แล้วนะ เราชักอยากให้ตุรกีเลือกข้างมาให้ชัดๆเลย เราไม่สนใจ และไม่เดือดร้อนเลย ถ้าไม่ได้ใช้ฐานทัพของเรา ที่อยู่ในตุรกีเพื่อทำการฝึกให้กับฝ่ายต่อต้านไอซิส หรือต่อต้านซีเรีย เราไม่ได้ต้องการให้กองทัพตุรกี ไปสู้ศึกที่ซีเรีย ที่เราต้องต้องการให้ตุรกีทำคือ ให้ตุรกีไปสืบดูให้ได้ และขจัดเส้นทางเข้าออกของผู้ก่อการร้าย เครือข่ายการธุรกิจ และการเงิน ที่ทำผ่านตุรกี ไปให้ซีเรีย ที่ทำให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายนี้โตขึ้นอย่างมากใน 3 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ตุรกีทำไม่ได้ หรือไม่ทำให้อเมริกา จะให้เข้าใจเรื่องนี้ดีขึ้น ผมขอแนะนำให้ท่านผู้อ่าน ไปเอาแผนที่มากางดู อียิปต์อยู่ด้านล่าง ถัดขึ้นมาข้างบนเอียงขวาหน่อย เป็นอิสราเอล เหนืออิสราเอลเป็นเลบานอน ระหว่างอิสราเอลกับเลบานอนมีเนื้อที่แถบเล็กๆ คือปาเลสไตน์ เหนือเลบานอนเป็นซีเรียและอิรัค เหนือชีเรียเป็นตุรกี เหนือตรุกีเป็นจอร์เจีย ใกล้กับเขตแดนรัสเซีย เหนืออิรัคเป็นอิหร่าน ซึ่งมีเขตแดนติดกับรัสเซียยาวเหยียด เล่าแผนที่มายาว เพื่อให้เห็นความสำคัญของปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย ตุรกี อิรัค และอิหร่าน ซึ่งเหมือนขนมชั้น ขวางทางเข้าสู่รัสเซีย มันเป็นขนมชั้นที่มีความสำคัญ ทั้งในมิติของสงครามภูมิภาค และมิติสงครามโลก ! และหมากที่จะเดินให้เป็นสงครามภูมิภาค หรือสงครามโลกตัวสำคัญตัวหนึ่งของฝ่ายอเมริกาคือ อิสราเอล ซึ่งมีอิทธิพล และเล่ห์เหลี่ยมสูงมาก ถึงขนาด อาจจะเป็นตัวบีบ ให้อเมริกาเดินหมากตัวอื่นตามที่ตนเองต้องการ เผลอๆอาจจะเหลี่ยมสูง ถึงขนาดบีบให้ตัวอเมริกาเอง เดินตามที่อิสราเอลหลอกให้เดินก็มีทางเป็นไปได้ ในขณะที่ตุรกีเป็นหมากตัวใหม่ ที่เหมือนแสดงตัวเปิดเผยว่า เราไม่ใช่อยู่ฝ่ายอเมริกาแล้วนะ ตุรกีและ อิหร่าน น่าจะเป็นหมากที่เดินตามจังหวะที่น่าสนใจ ให้กับฝ่ายรัสเซียในตะวันออกกลาง การขยับของอิสราเอล ตุรกี และอิหร่าน ย่อมมีความหมาย ไม่น้อยกว่าการขยับของฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมัน ในยุโรป มันดูเหมือนเป็นคนละเรื่อง แต่มันอาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน หรือต่อเนื่องกัน จึงโปรดอย่าลืมจับตา คอยดูการขยับของหมากทั้ง 6 ตัวนี้ ##### (3) อิหร่าน เป็นหมากอีกตัวที่สำคัญของฝ่ายรัสเซีย เพราะมีข่าวว่า กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่าง ซุ่มเงียบ อเมริกานักล่าใบตองแห้ง แน่นอน ย่อมหงุดหงิดออกอาการ น้ำลายฟูมปาก แต่ก็คิดหนัก เพราะอิหร่านนั้น เหมือนผีดิบคืนชีพ โดนอเมริกาบดขยี้มาหลายรอบ ไม่ตายคาที่เสียที แค่ช้ำใน กลัดหนองอยู่นาน ปล่อยให้อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์ไปเรื่อยๆ นอกจากเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้ ทั้งอิหร่านเอง และช่วยฝ่ายรัสเซียแล้ว ยังทำให้อิสราเอลไข้ขึ้น รู้สึกหนาวสั่นกลางแดดได้ ในตะวันออกกลาง แต่สูตรยาขจัดอิหร่านแบบยกเดียวจบ อเมริกายังคิดไม่สำเร็จ อิสราเอลตัวแสบ ต้องรู้อะไรลึกและมีแผนซับซ้อน จึงหนุน แนะ หรือสั่งให้อเมริกาใช้วิธีเจรจากับอิหร่านไปพลางๆก่อน และอเมริกาก็หันมาสั่งสหภาพยุโรปอีกต่อ เจรจากับอิหร่านต่อไปนะพวก เอะ ตกลงใครใหญ่กันแน่ การเจรจากับอิหร่านในปี 2014 ดูเหมือนราบรื่นดี ผู้ที่รับบทหนักในการเดินสาย เดินสารปั่นหัว เหล่าคณะกรรมการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ กับอิหร่าน คือ รัฐมนตรีด้านงานข่าวกรอง Minister of Intelligence ของอิสราเอล นาย Yuval Steinitz ซึ่งเดินทางจนนักข่าวแซวว่า ได้ไมล์เลจเป็นบัตรแพลตินั่มหลายใบแล้ว นาย Steinitz เป็นคนไปเอาเอกสารลับมาป้อนให้ คณะกรรมการเจรจา เอาไว้ยันหน้ากับอิหร่าน นอกจากนั้น ทีมงานข่าวกรองของอิสราเอล หน่วยงาน Mossad ก็ทำงานหนัก เพราะเป็นตัวจริง
    1 Comments 0 Shares 345 Views 0 Reviews
  • “EU บังคับใช้ USB-C สำหรับอะแดปเตอร์ทุกชนิดภายในปี 2028 — พร้อมติดฉลากกำลังไฟบนสายและหัวชาร์จ”

    สหภาพยุโรปออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ “External Power Supplies” (EPS) หรืออะแดปเตอร์ไฟฟ้าทุกชนิดต้องใช้พอร์ต USB-C พร้อมสายถอดได้ภายในปี 2028 โดยครอบคลุมอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น คอนโซลเกม, จอมอนิเตอร์, เราเตอร์, กล่องรับสัญญาณ, เครื่องชาร์จไร้สาย และแม้แต่ PoE injectors

    เป้าหมายหลักคือการสร้างความ “interoperability” หรือความเข้ากันได้ระหว่างอุปกรณ์ และส่งเสริมความยั่งยืน โดยผู้ใช้สามารถใช้สายและหัวชาร์จเดียวกันกับหลายอุปกรณ์ได้

    กฎหมายยังบังคับให้ผู้ผลิตแสดง “กำลังไฟ” (power rating) บนตัวอะแดปเตอร์, พอร์ตชาร์จ และสายไฟ เพื่อป้องกันการโฆษณาเกินจริง และช่วยให้ผู้ใช้เลือกใช้อุปกรณ์ได้อย่างปลอดภัย

    นอกจากนี้ EPS ที่จ่ายไฟเกิน 10W ต้องผ่านเกณฑ์ประสิทธิภาพขั้นต่ำทั้งในสภาวะโหลดต่ำ, เฉลี่ย และไม่มีโหลด ส่วนแท่นชาร์จไร้สายต้องลดการใช้พลังงานขณะ idle และมีวงจรจ่ายไฟแยกต่างหากเพื่อให้สามารถเปลี่ยนหรือใช้ซ้ำได้

    อุปกรณ์บางประเภทได้รับการยกเว้น เช่น UPS, อุปกรณ์ทางการแพทย์, ของเล่นบางชนิด, สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า, ระบบไฟฉุกเฉิน และอุปกรณ์ที่ใช้ในสภาพแวดล้อมเปียก

    EU คาดว่ากฎหมายนี้จะช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 1,070 TWh ต่อปีภายในปี 2030 โดยอิงจากข้อมูลว่ามี EPS ขายมากถึง 400 ล้านชิ้นต่อปี

    EU ออกกฎหมายบังคับให้ EPS ทุกชนิดใช้ USB-C พร้อมสายถอดได้ภายในปี 2028
    ครอบคลุมอุปกรณ์หลากหลาย เช่น คอนโซล, เราเตอร์, กล่องรับสัญญาณ ฯลฯ

    ต้องแสดงกำลังไฟบนตัวอะแดปเตอร์, พอร์ต และสาย
    เพื่อความปลอดภัยและความโปร่งใสในการใช้งาน

    EPS ที่จ่ายไฟเกิน 10W ต้องผ่านเกณฑ์ประสิทธิภาพขั้นต่ำ
    ทั้งในโหลดต่ำ, เฉลี่ย และไม่มีโหลด

    แท่นชาร์จไร้สายต้องลด idle power และมีวงจรจ่ายไฟแยก
    เพื่อให้สามารถเปลี่ยนหรือใช้ซ้ำได้

    มีการออกโลโก้ “Common Charger” เพื่อระบุอุปกรณ์ที่ผ่านเกณฑ์
    ช่วยให้ผู้ใช้เลือกใช้งานได้ง่ายขึ้น

    คาดว่าจะลดการใช้พลังงานได้ 1,070 TWh ต่อปีภายในปี 2030
    จากการลดจำนวน EPS ที่ผลิตและใช้งานซ้ำ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/power-bricks-and-wall-warts-must-be-usb-c-by-2028-new-eu-legislation-also-adds-power-rating-labels-for-power-units-and-cables
    🔌 “EU บังคับใช้ USB-C สำหรับอะแดปเตอร์ทุกชนิดภายในปี 2028 — พร้อมติดฉลากกำลังไฟบนสายและหัวชาร์จ” สหภาพยุโรปออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ “External Power Supplies” (EPS) หรืออะแดปเตอร์ไฟฟ้าทุกชนิดต้องใช้พอร์ต USB-C พร้อมสายถอดได้ภายในปี 2028 โดยครอบคลุมอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น คอนโซลเกม, จอมอนิเตอร์, เราเตอร์, กล่องรับสัญญาณ, เครื่องชาร์จไร้สาย และแม้แต่ PoE injectors เป้าหมายหลักคือการสร้างความ “interoperability” หรือความเข้ากันได้ระหว่างอุปกรณ์ และส่งเสริมความยั่งยืน โดยผู้ใช้สามารถใช้สายและหัวชาร์จเดียวกันกับหลายอุปกรณ์ได้ กฎหมายยังบังคับให้ผู้ผลิตแสดง “กำลังไฟ” (power rating) บนตัวอะแดปเตอร์, พอร์ตชาร์จ และสายไฟ เพื่อป้องกันการโฆษณาเกินจริง และช่วยให้ผู้ใช้เลือกใช้อุปกรณ์ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ EPS ที่จ่ายไฟเกิน 10W ต้องผ่านเกณฑ์ประสิทธิภาพขั้นต่ำทั้งในสภาวะโหลดต่ำ, เฉลี่ย และไม่มีโหลด ส่วนแท่นชาร์จไร้สายต้องลดการใช้พลังงานขณะ idle และมีวงจรจ่ายไฟแยกต่างหากเพื่อให้สามารถเปลี่ยนหรือใช้ซ้ำได้ อุปกรณ์บางประเภทได้รับการยกเว้น เช่น UPS, อุปกรณ์ทางการแพทย์, ของเล่นบางชนิด, สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า, ระบบไฟฉุกเฉิน และอุปกรณ์ที่ใช้ในสภาพแวดล้อมเปียก EU คาดว่ากฎหมายนี้จะช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 1,070 TWh ต่อปีภายในปี 2030 โดยอิงจากข้อมูลว่ามี EPS ขายมากถึง 400 ล้านชิ้นต่อปี ✅ EU ออกกฎหมายบังคับให้ EPS ทุกชนิดใช้ USB-C พร้อมสายถอดได้ภายในปี 2028 ➡️ ครอบคลุมอุปกรณ์หลากหลาย เช่น คอนโซล, เราเตอร์, กล่องรับสัญญาณ ฯลฯ ✅ ต้องแสดงกำลังไฟบนตัวอะแดปเตอร์, พอร์ต และสาย ➡️ เพื่อความปลอดภัยและความโปร่งใสในการใช้งาน ✅ EPS ที่จ่ายไฟเกิน 10W ต้องผ่านเกณฑ์ประสิทธิภาพขั้นต่ำ ➡️ ทั้งในโหลดต่ำ, เฉลี่ย และไม่มีโหลด ✅ แท่นชาร์จไร้สายต้องลด idle power และมีวงจรจ่ายไฟแยก ➡️ เพื่อให้สามารถเปลี่ยนหรือใช้ซ้ำได้ ✅ มีการออกโลโก้ “Common Charger” เพื่อระบุอุปกรณ์ที่ผ่านเกณฑ์ ➡️ ช่วยให้ผู้ใช้เลือกใช้งานได้ง่ายขึ้น ✅ คาดว่าจะลดการใช้พลังงานได้ 1,070 TWh ต่อปีภายในปี 2030 ➡️ จากการลดจำนวน EPS ที่ผลิตและใช้งานซ้ำ https://www.tomshardware.com/tech-industry/power-bricks-and-wall-warts-must-be-usb-c-by-2028-new-eu-legislation-also-adds-power-rating-labels-for-power-units-and-cables
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • รองนายกฯ อนุมัติปรับปรุง "มาตรฐานคุณภาพอากาศ" ไทย เทียบเท่าสหภาพยุโรป เพิ่มวิธีการตรวจวัดสารมลพิษ
    https://www.thai-tai.tv/news/21920/
    .
    #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ #ฝุ่นPM25 #แม่น้ำบางปะกง #EIA #นโยบายสิ่งแวดล้อม
    รองนายกฯ อนุมัติปรับปรุง "มาตรฐานคุณภาพอากาศ" ไทย เทียบเท่าสหภาพยุโรป เพิ่มวิธีการตรวจวัดสารมลพิษ https://www.thai-tai.tv/news/21920/ . #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ #ฝุ่นPM25 #แม่น้ำบางปะกง #EIA #นโยบายสิ่งแวดล้อม
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 7
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    ตอนที่ 7

    ผ่านไป 5 ปี ถึง ค.ศ.2013 ทั้ง Ukraine และ Georgia ก็ยังไม่ได้เข้าเป็นสมาชิกของ NATO ใครนะ มันกักกันได้เด็ดขาดขนาดนั้น อเมริกาหงุดหงิด ก็ท่อส่งไงคุณพี่ มันเป็นเครื่องมือที่ได้ผลชะงัด เรื่อง Georgia ยังพอทน แต่เรื่อง Ukraine นี่ เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย มันเป็นการวัดกำลัง ระหว่างอเมริกากับรัสเซียอย่างเห็นชัด เรียกว่าเป็นรายการชกโชว์ ก่อนรายการชกชิงแชมป์แล้วกัน แล้วอเมริกาจะอยู่เฉยๆได้หรือ

    เมื่ออเมริกาเอากองทัพของ NATO เข้าไปอยู่ใน Ukraine ตรงๆไม่ได้ อเมริกาก็ต้องใช้แผนเข้าทางหลังบ้าน แผนสกปรกเดิมๆที่อเมริกาถนัดใช้ ปฏิวัติสีส้ม Orange Revolution รอบ 2 จึงถูกนำไปใช้อีกรอบ คราวนี้อเมริกาส่งนางเหยี่ยว Victoria Nuland อดีตที่ปรึกษา **** Cheney และเป็นผู้ชำนาญด้านรัสเซียมาคุมเกม Ukraine เอง เพื่อให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ของ Ukraine เป็นคนของอเมริกาให้ได้

    แต่คราวนี้ไม่ง่ายเหมือนคราวก่อนๆ เพราะสหภาพยุโรปเริ่มยื่นหน้าเข้ามาใน Ukraine ด้วย ปัญหาของ Ukraine อันที่จริงมีผลกระทบกับชาวยุโรปโดยตรง หาก Ukraine ถูก แทรกแซงจนทำให้รัสเซียระงับการส่งแก๊ส ชาวยุโรปเป็นฝ่ายเดือดร้อน ไม่ใช่อเมริกา ครั้งนี้สหภาพยุโรปกับอเมริกา จึงไม่ได้ร้องเพลงเดียวกันที่ Ukraine

    เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2014 ชาว Ukraine ออก มาทำการประท้วงใหญ่ เป็นการประท้วงที่รุนแรง แต่สับสน ไม่รู้ว่าผู้ประท้วงต้องการอะไรกันแน่ ผู้กำกับเพียงบอกว่า ออกมากันให้เยอะๆและให้มีความรุนแรง ขนาด NATO หน่วย Gladio ซึ่งเป็นกองกำลังนอกระบบของตนมารวมด้วย ความรุนแรงจึงยกระดับ การเผาตึกรามบ้านช่องขยายวง มันต่างกันกับปฏิวัติสีส้ม เมื่อปี ค.ศ.2004 อย่างมาก มันเป็นการเดินหมากที่มุ่งจะเขี่ยรัสเซียให้ออกไปจาก Ukraine ให้จงได้ อเมริกาคิดว่ารัสเซียกล้ามยังไม่ขึ้น ไม่แน่ว่าอเมริกาเดินหมากตานี้ถูก !

    แม้จะมีข่าวว่า จะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2014 ซึ่งรัสเซียก็มีสิทธิลุ้น ส่งคนของตัวเองเข้าประกวดเหมือ นกัน แต่ปูตินไม่เสี่ยงรอ รัสเซียไม่มีทางเลือกมาก หากเสีย Ukraine หมายถึงเสีย Crimea ด้วย การแก้เกม โดยปูตินให้ชาว Crimea ทำประชามติว่า ต้องการจะแยกตัวจาก Ukraine หรือไม่ จึงเกิดขึ้น และเมื่อชาว Crimea ต้องการกลับมาสู่อ้อมอกรัสเซีย รัสเซียจึงยกกองทัพเข้าไปปกป้อง Crimea และยึด Crimea กลับมาสู่รัสเซีย เมื่อ 21 มีนาคม 2014

    Crimea นอก จากเป็นฐานทัพเรือใหญ่ของรัสเซียแล้ว ซึ่งที่รัสเซียพยายามปิดปากเงียบคือ รัสเซียยังมีคลังอาวุธใหญ่ ที่ลือกันว่าเป็นคลังอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย และมีคลังน้ำมันใหญ่อยู่ที่ Crimea ด้วย เสีย Crimea คงเหมือนเสียแขนขวา รัสเซียจึงไม่ยอมเสี่ยง การตัดสินใจของปูตินในการยึด Crimea เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ.2014 จึงไม่ต่างกับการจับตัวนาย Kho เมื่อปี 2003 เมื่อนาย Kho กำลัง จะเอาพลังงานของรัสเซียไปยกให้อเมริกา ปูตินและรัสเซียยอมถูกชาวโลกด่าประนาม และยอมถูกคว่ำบาตร ดีกว่าที่จะต้องเสียมากกว่า ถึงขนาดเสียประเทศ
    การยึด Crimea ของ รัสเซีย จึงเป็นการส่งสัญญาณยืนยันกับอเมริกาครั้งที่ 2 ว่า รัสเซียแม้หลังชนฝา แต่พร้อมที่จะสู้กับการรุมกินโต๊ะของอเมริกาและพวก ทุกรูปแบบ และคำตอบของอเมริกาคืออะไร?

    คำตอบเบื้องต้น ตามฟอร์มของอเมริกาและพวกคือ จัดการบีบให้สหประชาชาติคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม บาตรวางเรียงตั้งแต่ Crimea ไปถึงรัสเซีย รวมทั้งการประนามด่ารัสเซีย โดยสาระพัดสื่อของค่ายตะวันตก ไม่เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของรัสเซีย

    หลังจากนั้น เรื่อง Crimea ก็ดูจะจืด ทำท่าจะดังสู้เรื่อง Ukraine กับท่อแก๊สของรัสเซียไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่มีปฎิกริยาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากอเมริกา….

    ผ่านไปอีก 3 เดือน สิ่งที่โลกเห็นคือ ข่าวการเปิดตัวของ ISIS ในตะวันออกกลางในช่วงเดือนมิถุนาย น ค.ศ.2014 ที่บุกเข้าไปยึด Mosul เมืองน้ำมันดกของอิรัก และมีการขยายตัวของ ISIS ไปส่วนต่างๆของอิรัก หลังจากนั้นมีการเรียกร้อง จากพวกเสี่ยน้ำมันอาหรับค่ายอเมริกา ให้อเมริกาจัดการอย่างเด็ดขาดกับพวก ISIS ขณะที่ข้อเท็จจริงต่างชี้บอกว่า ISIS คือเมล็ดพันธุ์ที่อเมริกาเป็นผู้หว่านและเลี้ยงดูนั่นแหละ

    เมื่อทนเสียงเรียกร้องและความกดดันจากพวกเสี่ยน้ำมันไม่ไหว อเมริกาและพวก ก็ตกลงเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม ค.ศ.2014 ที่จะส่งปฏิบัติการถล่ม ISIS ทางอากาศ จนถึงวันนี้การเล่นไล่จับระหว่างอเมริกากับพวกและ ISIS ยังมีอยู่ โดยยังไม่มีผลสรุปว่าใครได้เปรียบ เสียบเปรียบกันชัดเจน จะแปลเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากเป็นการกลับไปยึดพื้นที่ในตะวันออกกลางของอเมริกาและพวก ซึ่งอาจจะขยายจากอิรักไปซีเรียและอิหร่าน และอาจจะถึงตุรกี (ขึ้นอยู่กับตุรกีจะเลือกเล่นกับฝ่ายใด) ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่ใช่บ้านของพวกอเมริกา

    มันอาจเป็นคำตอบแบบหนึ่งของอเมริกาด้วยว่า จากการเดินหมาก Crimea ของรัสเซีย อเมริกาก็คิดว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 ไม่ใช่เป็นเรื่องเกินความคาดหมาย แต่ที่อาจเกินความคาดหมายของอเมริกา คืออเมริกาคิดว่า อเมริกาเท่านั้นที่เล่นเกมรุกเป็น….ดังนั้นอเมริกาคงต้องเตรียมพร้อม

    ดูได้จากฝั่งของ 2 คู่หู รัสเซียและจีน แสดงการรุกคืบด้านการค้าอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการทำสัญญาสร้างท่อส่งแก๊สและน้ำมันเพิ่ม การตกลงซื้อขายพลังงาน โดยตกลงชำระค่าซื้อขายกันเป็นรูเบิล/หยวน ดอลล่าร์ไม่เกี่ยว ปูตินเดินหน้า ชักชวนคู่ค้าทั้งหลายให้ชำระเงินซื้อขายเป็นสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลล่าร์

    มันเป็นการส่งสัญญาณจากฝั่งรัสเซียและจีนว่า เราไม่ง้อดอลล่าร์ และเป็นการคว่ำบาตรดอลล่าร์ เป็นการตอบแทน จากฝ่ายที่ถูกอเมริกาและพวกหาเรื่องคว่ำบาตรข้างเดียวมาตลอด นี่นับเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์อเมริกา ที่ความเป็นเจ้าของดอลล่าร์ ถูกหักเสียหน้าแหก เสียตำแหน่ง อย่างน่าเอาปี๊บคลุมหัว

    อย่างนี้กลิ่นสงครามโลกครั้งที่ 3 จะจาง หรือยิ่งส่งกลิ่นฟุ้งกระจาย

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    3 ธค. 2557
    แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 7 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3” ตอนที่ 7 ผ่านไป 5 ปี ถึง ค.ศ.2013 ทั้ง Ukraine และ Georgia ก็ยังไม่ได้เข้าเป็นสมาชิกของ NATO ใครนะ มันกักกันได้เด็ดขาดขนาดนั้น อเมริกาหงุดหงิด ก็ท่อส่งไงคุณพี่ มันเป็นเครื่องมือที่ได้ผลชะงัด เรื่อง Georgia ยังพอทน แต่เรื่อง Ukraine นี่ เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย มันเป็นการวัดกำลัง ระหว่างอเมริกากับรัสเซียอย่างเห็นชัด เรียกว่าเป็นรายการชกโชว์ ก่อนรายการชกชิงแชมป์แล้วกัน แล้วอเมริกาจะอยู่เฉยๆได้หรือ เมื่ออเมริกาเอากองทัพของ NATO เข้าไปอยู่ใน Ukraine ตรงๆไม่ได้ อเมริกาก็ต้องใช้แผนเข้าทางหลังบ้าน แผนสกปรกเดิมๆที่อเมริกาถนัดใช้ ปฏิวัติสีส้ม Orange Revolution รอบ 2 จึงถูกนำไปใช้อีกรอบ คราวนี้อเมริกาส่งนางเหยี่ยว Victoria Nuland อดีตที่ปรึกษา Dick Cheney และเป็นผู้ชำนาญด้านรัสเซียมาคุมเกม Ukraine เอง เพื่อให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ของ Ukraine เป็นคนของอเมริกาให้ได้ แต่คราวนี้ไม่ง่ายเหมือนคราวก่อนๆ เพราะสหภาพยุโรปเริ่มยื่นหน้าเข้ามาใน Ukraine ด้วย ปัญหาของ Ukraine อันที่จริงมีผลกระทบกับชาวยุโรปโดยตรง หาก Ukraine ถูก แทรกแซงจนทำให้รัสเซียระงับการส่งแก๊ส ชาวยุโรปเป็นฝ่ายเดือดร้อน ไม่ใช่อเมริกา ครั้งนี้สหภาพยุโรปกับอเมริกา จึงไม่ได้ร้องเพลงเดียวกันที่ Ukraine เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2014 ชาว Ukraine ออก มาทำการประท้วงใหญ่ เป็นการประท้วงที่รุนแรง แต่สับสน ไม่รู้ว่าผู้ประท้วงต้องการอะไรกันแน่ ผู้กำกับเพียงบอกว่า ออกมากันให้เยอะๆและให้มีความรุนแรง ขนาด NATO หน่วย Gladio ซึ่งเป็นกองกำลังนอกระบบของตนมารวมด้วย ความรุนแรงจึงยกระดับ การเผาตึกรามบ้านช่องขยายวง มันต่างกันกับปฏิวัติสีส้ม เมื่อปี ค.ศ.2004 อย่างมาก มันเป็นการเดินหมากที่มุ่งจะเขี่ยรัสเซียให้ออกไปจาก Ukraine ให้จงได้ อเมริกาคิดว่ารัสเซียกล้ามยังไม่ขึ้น ไม่แน่ว่าอเมริกาเดินหมากตานี้ถูก ! แม้จะมีข่าวว่า จะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2014 ซึ่งรัสเซียก็มีสิทธิลุ้น ส่งคนของตัวเองเข้าประกวดเหมือ นกัน แต่ปูตินไม่เสี่ยงรอ รัสเซียไม่มีทางเลือกมาก หากเสีย Ukraine หมายถึงเสีย Crimea ด้วย การแก้เกม โดยปูตินให้ชาว Crimea ทำประชามติว่า ต้องการจะแยกตัวจาก Ukraine หรือไม่ จึงเกิดขึ้น และเมื่อชาว Crimea ต้องการกลับมาสู่อ้อมอกรัสเซีย รัสเซียจึงยกกองทัพเข้าไปปกป้อง Crimea และยึด Crimea กลับมาสู่รัสเซีย เมื่อ 21 มีนาคม 2014 Crimea นอก จากเป็นฐานทัพเรือใหญ่ของรัสเซียแล้ว ซึ่งที่รัสเซียพยายามปิดปากเงียบคือ รัสเซียยังมีคลังอาวุธใหญ่ ที่ลือกันว่าเป็นคลังอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย และมีคลังน้ำมันใหญ่อยู่ที่ Crimea ด้วย เสีย Crimea คงเหมือนเสียแขนขวา รัสเซียจึงไม่ยอมเสี่ยง การตัดสินใจของปูตินในการยึด Crimea เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ.2014 จึงไม่ต่างกับการจับตัวนาย Kho เมื่อปี 2003 เมื่อนาย Kho กำลัง จะเอาพลังงานของรัสเซียไปยกให้อเมริกา ปูตินและรัสเซียยอมถูกชาวโลกด่าประนาม และยอมถูกคว่ำบาตร ดีกว่าที่จะต้องเสียมากกว่า ถึงขนาดเสียประเทศ การยึด Crimea ของ รัสเซีย จึงเป็นการส่งสัญญาณยืนยันกับอเมริกาครั้งที่ 2 ว่า รัสเซียแม้หลังชนฝา แต่พร้อมที่จะสู้กับการรุมกินโต๊ะของอเมริกาและพวก ทุกรูปแบบ และคำตอบของอเมริกาคืออะไร? คำตอบเบื้องต้น ตามฟอร์มของอเมริกาและพวกคือ จัดการบีบให้สหประชาชาติคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม บาตรวางเรียงตั้งแต่ Crimea ไปถึงรัสเซีย รวมทั้งการประนามด่ารัสเซีย โดยสาระพัดสื่อของค่ายตะวันตก ไม่เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของรัสเซีย หลังจากนั้น เรื่อง Crimea ก็ดูจะจืด ทำท่าจะดังสู้เรื่อง Ukraine กับท่อแก๊สของรัสเซียไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่มีปฎิกริยาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากอเมริกา…. ผ่านไปอีก 3 เดือน สิ่งที่โลกเห็นคือ ข่าวการเปิดตัวของ ISIS ในตะวันออกกลางในช่วงเดือนมิถุนาย น ค.ศ.2014 ที่บุกเข้าไปยึด Mosul เมืองน้ำมันดกของอิรัก และมีการขยายตัวของ ISIS ไปส่วนต่างๆของอิรัก หลังจากนั้นมีการเรียกร้อง จากพวกเสี่ยน้ำมันอาหรับค่ายอเมริกา ให้อเมริกาจัดการอย่างเด็ดขาดกับพวก ISIS ขณะที่ข้อเท็จจริงต่างชี้บอกว่า ISIS คือเมล็ดพันธุ์ที่อเมริกาเป็นผู้หว่านและเลี้ยงดูนั่นแหละ เมื่อทนเสียงเรียกร้องและความกดดันจากพวกเสี่ยน้ำมันไม่ไหว อเมริกาและพวก ก็ตกลงเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม ค.ศ.2014 ที่จะส่งปฏิบัติการถล่ม ISIS ทางอากาศ จนถึงวันนี้การเล่นไล่จับระหว่างอเมริกากับพวกและ ISIS ยังมีอยู่ โดยยังไม่มีผลสรุปว่าใครได้เปรียบ เสียบเปรียบกันชัดเจน จะแปลเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากเป็นการกลับไปยึดพื้นที่ในตะวันออกกลางของอเมริกาและพวก ซึ่งอาจจะขยายจากอิรักไปซีเรียและอิหร่าน และอาจจะถึงตุรกี (ขึ้นอยู่กับตุรกีจะเลือกเล่นกับฝ่ายใด) ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่ใช่บ้านของพวกอเมริกา มันอาจเป็นคำตอบแบบหนึ่งของอเมริกาด้วยว่า จากการเดินหมาก Crimea ของรัสเซีย อเมริกาก็คิดว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 ไม่ใช่เป็นเรื่องเกินความคาดหมาย แต่ที่อาจเกินความคาดหมายของอเมริกา คืออเมริกาคิดว่า อเมริกาเท่านั้นที่เล่นเกมรุกเป็น….ดังนั้นอเมริกาคงต้องเตรียมพร้อม ดูได้จากฝั่งของ 2 คู่หู รัสเซียและจีน แสดงการรุกคืบด้านการค้าอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการทำสัญญาสร้างท่อส่งแก๊สและน้ำมันเพิ่ม การตกลงซื้อขายพลังงาน โดยตกลงชำระค่าซื้อขายกันเป็นรูเบิล/หยวน ดอลล่าร์ไม่เกี่ยว ปูตินเดินหน้า ชักชวนคู่ค้าทั้งหลายให้ชำระเงินซื้อขายเป็นสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลล่าร์ มันเป็นการส่งสัญญาณจากฝั่งรัสเซียและจีนว่า เราไม่ง้อดอลล่าร์ และเป็นการคว่ำบาตรดอลล่าร์ เป็นการตอบแทน จากฝ่ายที่ถูกอเมริกาและพวกหาเรื่องคว่ำบาตรข้างเดียวมาตลอด นี่นับเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์อเมริกา ที่ความเป็นเจ้าของดอลล่าร์ ถูกหักเสียหน้าแหก เสียตำแหน่ง อย่างน่าเอาปี๊บคลุมหัว อย่างนี้กลิ่นสงครามโลกครั้งที่ 3 จะจาง หรือยิ่งส่งกลิ่นฟุ้งกระจาย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 3 ธค. 2557
    0 Comments 0 Shares 309 Views 0 Reviews
  • แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    ตอนที่ 6

    ในบรรดารัฐเล็กรัฐน้อย ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต อเมริกามองว่า Ukraine มี ความสำคัญต่อรัสเซียและอเมริกาไม่น้อยกว่ากัน ดังนั้นอเมริกาจึงคิดเอา Ukraine มาเก็บไว้ในกระเป๋าตัวเองอย่างมิดชิด ก่อนที่รัสเซียจะรวบเอาไป

    Ukraine มีอาณาเขตติดต่อกับรัสเซีย มีความสำคัญที่เปิดเผยรู้กันทั่วคือ

    – เป็นเส้นทางวางท่อส่งแก๊ส เส้นสำคัญของรัสเซียมาสู่ตลาดยุโรป ที่ทำให้รัสเซียมีอำนาจต่อรองสูงกับสหภาพยุโรป

    – รัสเซียมีกองเรือรบฝูงใหญ่ อยู่ที่ทะเลดำ โดยเช่า Stevastopol ของ Ukraine เป็นฐานทัพเรือ สัญญาเช่านี้ถ้าไม่ต่ออายุ จะสิ้นสุดในปี ค.ศ.2017

    – แหลม Crimea ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายแล้ว Crimea กลายเป็นอยู่ในอาณาเขตของ Ukraine Crimea ซึ่งมีประชาชนประมาณ 2.3 ล้านคน ที่ส่วนใหญ่ยังนึกว่าตนเองเป็นคนรัสเซีย พูดภาษารัสเซีย และรัสเซียอ้างว่าถือ passport รัสเซียเสียด้วย

    สิ่งที่ผู้คนยังไม่ค่อยรู้กัน เกี่ยวกับความสำคัญของ Ukraine คือ

    – แหลม Crimea เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เป็นเหมือนประตูเข้าหลังบ้านรัสเซีย หากใครไปตั้งฐานยิงจรวดหันหัวให้ถูกทาง รัสเซียอาจไม่เหลือ !

    – ลึกลงใต้ทะเลดำ ด้านหน้าของแหลม Crimea เต็มไปด้วยแหล่งทรัพยากรน้ำมัน ที่ประมาณว่า มีมูลค่าหลายล้านล้านเหรียญ Exxon Mobil, Royal Dutch Shell หรือ BP และ หลายบริษัทน้ำมัน ได้ไปทำการสำรวจเรียบร้อยแล้ว และมีผลสำรวจออกมาว่า น่าจะเป็นแหล่งทรัพยากรใหญ่สู้กับแหล่งน้ำมันที่ทะเลเหนือได้ ซึ่งแหล่งน้ำมันที่ทะเลเหนือนั้น มีส่วนช่วยพยุงเศรษฐกิจของอังกฤษ นอร์เวย์ และหลายประเทศในยุโรปมาตั้งแต่เมื่อแหล่งน้ำมันที่ทะเลเหนือทำการผลิตน้ำมัน ได้ ในช่วงประมาณ ค.ศ.1970 กว่าเป็นต้นมา
    นอกจาก Ukraine ที่อเมริกาต้องการเก็บมาอยู่ในกระเป๋าแล้ว อเมริกายังต้องได้ Greorgia ซึ่งมีอาณาเขตด้านหนึ่งติดกับ Ukraine โดยมีเทือกเขา Caucasus กั้นอยู่ และอีกด้านหนึ่งติดกับรัสเซียและรัฐ Azerbijan

    ความสำคัญของ Georgia มีความต่างกับ Ukraine แม้จะน้อยกว่า แต่ถ้าฝ่ายใดได้ทั้ง Ukraine และ Georgia ไปด้วยกัน ย่อมได้เปรียบอีกฝ่ายอย่างยิ่ง

    – ปี ค.ศ.2002 BP ซึ่งมีประธานกรรมการชื่อ Tony Blair นายกรัฐมนตรีของอังกฤษในขณะนั้น ได้ทำสัญญาที่จะสร้างท่อส่งน้ำมัน ยาว 1,762 กิโลเมตร ที่ มีมูลค่าประมาณ 3.6 พันล้านเหรียญ จาก Baku ของ Azerbijan ผ่าน Tbilisi ของ Georgia มาสุดทางที่ Ceyhan ของตุรกี โดยมี Unocal ของอเมริกาและ Turkish Petroleum ของตุรกีร่วมทุนด้วย Ceyhan นี้อยู่ใกล้กับฐานทัพอากาศของอเมริกา ที่ตั้งอยู่ที่ Incirlik เป็นโครงการที่อังกฤษภาคภูมิใจหนักหนา เพราะเป็นผู้ริเริ่มร่วมกับรัฐบาล Bill Clinton ถึงขนาดนาย Blair เพ้อว่าเป็น Project of the Century ทีเดียว

    เมื่อท่อส่ง BTC ( Baku-Tbilisi-Ceyhan) นี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ.2005 การดูแลท่อส่งจะต้องได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก Georgia ซึ่งไม่ได้ร่วมลงทุนในการสร้างท่อส่งด้วย ดังนั้นการมีอิทธิพลเหนือรัฐบาล Greorgia จึงเป็นเรื่องสำคัญของกลุ่มผู้ลงทุน

    เพื่อให้มีอิทธิพลเหนือ Ukraine และ Greorgia อเมริกาจึงวางแผนครอบงำทั้ง 2 รัฐ โดยส่งคนของตนเอง หรือที่ตัวเองเลือก ไปเป็นผู้มีอำนาจปกครองทั้ง 2 รัฐ โดยมีเป้าหมายหลัก จะให้ทั้ง 2 รัฐ เข้าเป็นสมาชิกของ NATO เพื่อเปิดทางให้กองทัพของ NATO เข้าไปตั้งฐานทัพใน 2 รัฐ กุมคอหอยทั้ง 2 รัฐไว้ และเป็นการวางกองทัพของ NATO จ่ออยู่หน้าประตูหลังบ้านรัสเซียอีกด้วย เป็นการปิดล้อม Containment รัสเซียรอบใหม่ ที่อันตรายสำหรับรัสเซีย

    แต่การจัดฉากของ Washington เพื่อส่งคนของตน เอาไปปกครอง 2 รัฐ ชาวโลกรู้จักกันในชื่อของ ปฏิวัติหลากสี Color Revolution เพื่อความเป็นประชาธิปไตยของทั้ง 2 รัฐ ตามที่สื่อย้อมสีของฝั่งตะวันตกเรียก ตอแหลซ้ำซากจริงๆ แต่ชาวโลกส่วนใหญ่ ก็ยังให้ความเขื่อถืออย่างน่าสมเพช
    ปี ค.ศ.2003 อเมริกาจัดส่งนาย Saakashvili หนุ่มน้อยอายุ 37 ปี ! เข้าไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากนาย Shevardnadze ซึ่งครองตำแหน่งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1995 โดยการสร้างฉากปฏิวัติดอกกุหลาบ Rose Revolution ชื่อเพราะ แต่แรงเด็ด เขี่ยนาย Shevardnadze เสียกระเด็นจากทำเนียบประธานาธิบดี หายวับไปกับตา

    เมื่อนาย Saakashvili ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีเรียบร้อยในปี ค.ศ.2003 อเมริกาส่งของขวัญเป็นอาวุธและการฝึกอบรมจาก Pentagon เต็มรูปแบบไปให้ แค่นั้นยังไม่พอ อิสราเอลส่งที่ปรึกษาการทหาร (ก็ทหารรับจ้างนั่นแหละ !) ไปให้อีกหนึ่งพันคน เพื่อไปทำการฝึกให้แก่กองทัพ Greorgia ด้านการจู่โจมทางบกและทางอากาศ รวมทั้งการต่อสู้ป้องกันตัว เป็นลูกกระเป๋งเศรษฐีมันดีอย่างนี้เอง ถึงไม่ยอมเลิกเป็นกัน

    สำหรับ Ukraine ปี ค.ศ.2004 อเมริกาจัดส่งนาย Viktor Yushchenko อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางของUkraine ที่มีเมียเป็นคนอเมริกันจาก Chicago และเคยทำงานกับรัฐบาลอเมริกัน เข้าไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ โดยใช้ปฏิบัติการ ปฏิวัติสีส้ม Orange Revolution (รอบ 1) ชาว Uraine คงคล้ายๆกับสมันน้อยนะ ไม่ค่อยรู้สึกรู้สาว่าอะไรมันพิกลหรือเปล่า

    ทุกอย่างทำท่าเหมือนจะเป็นไปตาม แผนที่อเมริกาวางไว้ แต่พอถึงเดือนสิงหาคม ค.ศ.2008 กองทัพของ Georgia ก็ดันยกทัพเข้าไปยึดแคว้น South Ossetia ที่อยู่ในรัฐของตนเอง !

    Georgia มีปัญหาภายในมานานแล้ว เกี่ยวกับความต้องการแยกตัวของแคว้น South Ossetiaและ Abkhazia ซึ่ง เคยเป็นแคว้นที่ปกครองตนเอง สมัยยังขึ้นกับสหภาพโซเวียต เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย การแบ่งเขตแดนใหม่ ตาม Warsow Pact ทำให้ 2 แคว้นต้องไปรวมกับ Georgia ซึ่งมีวัฒนธรรมประเพณีต่างกัน และมักจะใช้ความรุนแรงกับ 2 รัฐเสมอ จึงมีเรื่องขัดแย้งและปะทะกันตลอด

    สำหรับรัสเซีย Ossetia เป็น เสมือนฐานทัพหนึ่งของรัสเซีย ที่คอยช่วยดูแลแนวเขตแดนระหว่างรัสเซียกับตุรกีและอิหร่าน ตั้งแต่สมัยซาร์ นอกจากเรื่องท่อส่งน้ำมันของ BP แล้ว ยังมีข่าวว่า Washington อาจจะมาตั้งฐานทัพใน Georgia อีกด้วย สำหรับรัสเซีย การบุกยึด Ossetia จึงเป็นข่าวร้าย
    ปูตินนำเรื่องเข้าสภา เพื่อให้สภาสนับสนุนการแยกตัวของแคว้น Ossetia และ Abkhazia เมื่อสภาให้ความเห็นชอบ ปูตินประกาศสนับสนุนการแยกตัวของทั้ง 2 แคว้น ประธานาธิบดี Saakashvili ประท้วงรัสเซีย บอกว่าอเมริกาและตะวันตกเห็นว่าทั้ง 2
    แค้วนเป็นของ Georgia ให้รัสเซียถอนการประกาศสนับสนุน แต่รัสเซียไม่ยอมถอน และประกาศเพิ่มว่าพร้อมที่จะส่งกำลังไปปกป้องทั้ง 2 รัฐ ปูตินกำลังคิดอะไร

    ช่วงนั้นคณะมนตรีของ NATO กำลังพิจารณาเรื่องการรับ Ukraineและ Georgia เข้าเป็นสมาชิกของ NATO ตามใบสั่งของ Washington สมาชิก NATO เห็นว่าถ้ารับ Georgia เข้าเป็นสมาชิก และหาก Georgia มีปัญหากับรัสเซีย ตามกฎบัตรของ NATO สมาชิก NATO ต้องทำสงครามกับรัสเซียเพื่อปกป้อง Georgia ด้วย

    มีสมาชิก 10 รายของ NATO ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ Georgia ซึ่งผู้ไม่เห็นด้วยมีทั้ง เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี่ อเมริกาจึงจำเป็นต้องคลายมือที่บีบ NATO ชั่วคราว ด้วยความขัดใจ และทั้ง Ukraineและ Georgia จึงยังไม่ได้ร่วมอยู่ในคอก NATO

    รัสเซียรอดจากการมีกองทัพของ NATO มาอยู่ที่ประตูหน้าบ้านไปอย่างเฉียดฉิว

    เยอรมันคงยังไม่พร้อม หรือคิดอยากทำสงครามกับรัสเซี ย เพราะขณะนั้น ท่อส่งแก๊ส Baltic Pipeline System (BPS) ยาว 1,200 กิโลเมตรใต้ทะเล Baltic ซึ่งเป็นการร่วมทุน ระหว่างเยอรมันกับรัสเซีย เพื่อส่งแก๊สของรัสเซีย จาก West Siberia มายังตลาดยุโรปตะวันตกก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำสงครามกับผู้ร่วมทุนเกี่ยวกับพลังงาน คงไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดของเยอรมัน

    ยุทธศาสตร์ท่อส่งของปูติน ได้ผลดีเกินกว่าที่อเมริกาประเมิน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    2 ธค. 2557
    แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3” ตอนที่ 6 ในบรรดารัฐเล็กรัฐน้อย ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต อเมริกามองว่า Ukraine มี ความสำคัญต่อรัสเซียและอเมริกาไม่น้อยกว่ากัน ดังนั้นอเมริกาจึงคิดเอา Ukraine มาเก็บไว้ในกระเป๋าตัวเองอย่างมิดชิด ก่อนที่รัสเซียจะรวบเอาไป Ukraine มีอาณาเขตติดต่อกับรัสเซีย มีความสำคัญที่เปิดเผยรู้กันทั่วคือ – เป็นเส้นทางวางท่อส่งแก๊ส เส้นสำคัญของรัสเซียมาสู่ตลาดยุโรป ที่ทำให้รัสเซียมีอำนาจต่อรองสูงกับสหภาพยุโรป – รัสเซียมีกองเรือรบฝูงใหญ่ อยู่ที่ทะเลดำ โดยเช่า Stevastopol ของ Ukraine เป็นฐานทัพเรือ สัญญาเช่านี้ถ้าไม่ต่ออายุ จะสิ้นสุดในปี ค.ศ.2017 – แหลม Crimea ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายแล้ว Crimea กลายเป็นอยู่ในอาณาเขตของ Ukraine Crimea ซึ่งมีประชาชนประมาณ 2.3 ล้านคน ที่ส่วนใหญ่ยังนึกว่าตนเองเป็นคนรัสเซีย พูดภาษารัสเซีย และรัสเซียอ้างว่าถือ passport รัสเซียเสียด้วย สิ่งที่ผู้คนยังไม่ค่อยรู้กัน เกี่ยวกับความสำคัญของ Ukraine คือ – แหลม Crimea เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เป็นเหมือนประตูเข้าหลังบ้านรัสเซีย หากใครไปตั้งฐานยิงจรวดหันหัวให้ถูกทาง รัสเซียอาจไม่เหลือ ! – ลึกลงใต้ทะเลดำ ด้านหน้าของแหลม Crimea เต็มไปด้วยแหล่งทรัพยากรน้ำมัน ที่ประมาณว่า มีมูลค่าหลายล้านล้านเหรียญ Exxon Mobil, Royal Dutch Shell หรือ BP และ หลายบริษัทน้ำมัน ได้ไปทำการสำรวจเรียบร้อยแล้ว และมีผลสำรวจออกมาว่า น่าจะเป็นแหล่งทรัพยากรใหญ่สู้กับแหล่งน้ำมันที่ทะเลเหนือได้ ซึ่งแหล่งน้ำมันที่ทะเลเหนือนั้น มีส่วนช่วยพยุงเศรษฐกิจของอังกฤษ นอร์เวย์ และหลายประเทศในยุโรปมาตั้งแต่เมื่อแหล่งน้ำมันที่ทะเลเหนือทำการผลิตน้ำมัน ได้ ในช่วงประมาณ ค.ศ.1970 กว่าเป็นต้นมา นอกจาก Ukraine ที่อเมริกาต้องการเก็บมาอยู่ในกระเป๋าแล้ว อเมริกายังต้องได้ Greorgia ซึ่งมีอาณาเขตด้านหนึ่งติดกับ Ukraine โดยมีเทือกเขา Caucasus กั้นอยู่ และอีกด้านหนึ่งติดกับรัสเซียและรัฐ Azerbijan ความสำคัญของ Georgia มีความต่างกับ Ukraine แม้จะน้อยกว่า แต่ถ้าฝ่ายใดได้ทั้ง Ukraine และ Georgia ไปด้วยกัน ย่อมได้เปรียบอีกฝ่ายอย่างยิ่ง – ปี ค.ศ.2002 BP ซึ่งมีประธานกรรมการชื่อ Tony Blair นายกรัฐมนตรีของอังกฤษในขณะนั้น ได้ทำสัญญาที่จะสร้างท่อส่งน้ำมัน ยาว 1,762 กิโลเมตร ที่ มีมูลค่าประมาณ 3.6 พันล้านเหรียญ จาก Baku ของ Azerbijan ผ่าน Tbilisi ของ Georgia มาสุดทางที่ Ceyhan ของตุรกี โดยมี Unocal ของอเมริกาและ Turkish Petroleum ของตุรกีร่วมทุนด้วย Ceyhan นี้อยู่ใกล้กับฐานทัพอากาศของอเมริกา ที่ตั้งอยู่ที่ Incirlik เป็นโครงการที่อังกฤษภาคภูมิใจหนักหนา เพราะเป็นผู้ริเริ่มร่วมกับรัฐบาล Bill Clinton ถึงขนาดนาย Blair เพ้อว่าเป็น Project of the Century ทีเดียว เมื่อท่อส่ง BTC ( Baku-Tbilisi-Ceyhan) นี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ.2005 การดูแลท่อส่งจะต้องได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก Georgia ซึ่งไม่ได้ร่วมลงทุนในการสร้างท่อส่งด้วย ดังนั้นการมีอิทธิพลเหนือรัฐบาล Greorgia จึงเป็นเรื่องสำคัญของกลุ่มผู้ลงทุน เพื่อให้มีอิทธิพลเหนือ Ukraine และ Greorgia อเมริกาจึงวางแผนครอบงำทั้ง 2 รัฐ โดยส่งคนของตนเอง หรือที่ตัวเองเลือก ไปเป็นผู้มีอำนาจปกครองทั้ง 2 รัฐ โดยมีเป้าหมายหลัก จะให้ทั้ง 2 รัฐ เข้าเป็นสมาชิกของ NATO เพื่อเปิดทางให้กองทัพของ NATO เข้าไปตั้งฐานทัพใน 2 รัฐ กุมคอหอยทั้ง 2 รัฐไว้ และเป็นการวางกองทัพของ NATO จ่ออยู่หน้าประตูหลังบ้านรัสเซียอีกด้วย เป็นการปิดล้อม Containment รัสเซียรอบใหม่ ที่อันตรายสำหรับรัสเซีย แต่การจัดฉากของ Washington เพื่อส่งคนของตน เอาไปปกครอง 2 รัฐ ชาวโลกรู้จักกันในชื่อของ ปฏิวัติหลากสี Color Revolution เพื่อความเป็นประชาธิปไตยของทั้ง 2 รัฐ ตามที่สื่อย้อมสีของฝั่งตะวันตกเรียก ตอแหลซ้ำซากจริงๆ แต่ชาวโลกส่วนใหญ่ ก็ยังให้ความเขื่อถืออย่างน่าสมเพช ปี ค.ศ.2003 อเมริกาจัดส่งนาย Saakashvili หนุ่มน้อยอายุ 37 ปี ! เข้าไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากนาย Shevardnadze ซึ่งครองตำแหน่งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1995 โดยการสร้างฉากปฏิวัติดอกกุหลาบ Rose Revolution ชื่อเพราะ แต่แรงเด็ด เขี่ยนาย Shevardnadze เสียกระเด็นจากทำเนียบประธานาธิบดี หายวับไปกับตา เมื่อนาย Saakashvili ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีเรียบร้อยในปี ค.ศ.2003 อเมริกาส่งของขวัญเป็นอาวุธและการฝึกอบรมจาก Pentagon เต็มรูปแบบไปให้ แค่นั้นยังไม่พอ อิสราเอลส่งที่ปรึกษาการทหาร (ก็ทหารรับจ้างนั่นแหละ !) ไปให้อีกหนึ่งพันคน เพื่อไปทำการฝึกให้แก่กองทัพ Greorgia ด้านการจู่โจมทางบกและทางอากาศ รวมทั้งการต่อสู้ป้องกันตัว เป็นลูกกระเป๋งเศรษฐีมันดีอย่างนี้เอง ถึงไม่ยอมเลิกเป็นกัน สำหรับ Ukraine ปี ค.ศ.2004 อเมริกาจัดส่งนาย Viktor Yushchenko อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางของUkraine ที่มีเมียเป็นคนอเมริกันจาก Chicago และเคยทำงานกับรัฐบาลอเมริกัน เข้าไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ โดยใช้ปฏิบัติการ ปฏิวัติสีส้ม Orange Revolution (รอบ 1) ชาว Uraine คงคล้ายๆกับสมันน้อยนะ ไม่ค่อยรู้สึกรู้สาว่าอะไรมันพิกลหรือเปล่า ทุกอย่างทำท่าเหมือนจะเป็นไปตาม แผนที่อเมริกาวางไว้ แต่พอถึงเดือนสิงหาคม ค.ศ.2008 กองทัพของ Georgia ก็ดันยกทัพเข้าไปยึดแคว้น South Ossetia ที่อยู่ในรัฐของตนเอง ! Georgia มีปัญหาภายในมานานแล้ว เกี่ยวกับความต้องการแยกตัวของแคว้น South Ossetiaและ Abkhazia ซึ่ง เคยเป็นแคว้นที่ปกครองตนเอง สมัยยังขึ้นกับสหภาพโซเวียต เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย การแบ่งเขตแดนใหม่ ตาม Warsow Pact ทำให้ 2 แคว้นต้องไปรวมกับ Georgia ซึ่งมีวัฒนธรรมประเพณีต่างกัน และมักจะใช้ความรุนแรงกับ 2 รัฐเสมอ จึงมีเรื่องขัดแย้งและปะทะกันตลอด สำหรับรัสเซีย Ossetia เป็น เสมือนฐานทัพหนึ่งของรัสเซีย ที่คอยช่วยดูแลแนวเขตแดนระหว่างรัสเซียกับตุรกีและอิหร่าน ตั้งแต่สมัยซาร์ นอกจากเรื่องท่อส่งน้ำมันของ BP แล้ว ยังมีข่าวว่า Washington อาจจะมาตั้งฐานทัพใน Georgia อีกด้วย สำหรับรัสเซีย การบุกยึด Ossetia จึงเป็นข่าวร้าย ปูตินนำเรื่องเข้าสภา เพื่อให้สภาสนับสนุนการแยกตัวของแคว้น Ossetia และ Abkhazia เมื่อสภาให้ความเห็นชอบ ปูตินประกาศสนับสนุนการแยกตัวของทั้ง 2 แคว้น ประธานาธิบดี Saakashvili ประท้วงรัสเซีย บอกว่าอเมริกาและตะวันตกเห็นว่าทั้ง 2 แค้วนเป็นของ Georgia ให้รัสเซียถอนการประกาศสนับสนุน แต่รัสเซียไม่ยอมถอน และประกาศเพิ่มว่าพร้อมที่จะส่งกำลังไปปกป้องทั้ง 2 รัฐ ปูตินกำลังคิดอะไร ช่วงนั้นคณะมนตรีของ NATO กำลังพิจารณาเรื่องการรับ Ukraineและ Georgia เข้าเป็นสมาชิกของ NATO ตามใบสั่งของ Washington สมาชิก NATO เห็นว่าถ้ารับ Georgia เข้าเป็นสมาชิก และหาก Georgia มีปัญหากับรัสเซีย ตามกฎบัตรของ NATO สมาชิก NATO ต้องทำสงครามกับรัสเซียเพื่อปกป้อง Georgia ด้วย มีสมาชิก 10 รายของ NATO ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ Georgia ซึ่งผู้ไม่เห็นด้วยมีทั้ง เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี่ อเมริกาจึงจำเป็นต้องคลายมือที่บีบ NATO ชั่วคราว ด้วยความขัดใจ และทั้ง Ukraineและ Georgia จึงยังไม่ได้ร่วมอยู่ในคอก NATO รัสเซียรอดจากการมีกองทัพของ NATO มาอยู่ที่ประตูหน้าบ้านไปอย่างเฉียดฉิว เยอรมันคงยังไม่พร้อม หรือคิดอยากทำสงครามกับรัสเซี ย เพราะขณะนั้น ท่อส่งแก๊ส Baltic Pipeline System (BPS) ยาว 1,200 กิโลเมตรใต้ทะเล Baltic ซึ่งเป็นการร่วมทุน ระหว่างเยอรมันกับรัสเซีย เพื่อส่งแก๊สของรัสเซีย จาก West Siberia มายังตลาดยุโรปตะวันตกก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำสงครามกับผู้ร่วมทุนเกี่ยวกับพลังงาน คงไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดของเยอรมัน ยุทธศาสตร์ท่อส่งของปูติน ได้ผลดีเกินกว่าที่อเมริกาประเมิน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 2 ธค. 2557
    0 Comments 0 Shares 407 Views 0 Reviews
  • กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอนที่ 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก”
    ตอนที่ 2
ก่อน หน้าวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.2014 อเมริกาบอกยังไม่มียุทธศาสตร์ เกี่ยวกับตะวันออกกลางประกาศอ อกมาให้โลกรู้ แต่โลกก็รู้ว่า อเมริกากำลังอึดอัดเต็มแก่ บรรดาถังความคิด think tank ต่างๆ ออกมาบอกว่า ขณะนี้อเมริกาใช้นโยบาย “Right Sizing” ขนาดกำลังดี คือกระบวนท่าที่อเมริกาใช้เกี่ยวกับตะวันออกกลาง พูดแบบนี้ชาวบ้านที่ไม่ใช่ตาสีตาสาก็เดาออก ว่าอเมริกากำลังอาการหนัก กระเป๋าแห้ง และน่าจะยังรักษาแผล จากการไปถล่มอิรักและล้มละลายกลับมาไม่หายดี มันเป็นการล้มละลายทางสังคม ทางการเมือง ทางการเงิน และทางยุทธศาสตร์ ครบทุกประการ แผลนี้น่าจะใหญ่และลึก ถึงขนาดคุณโอบามา หน้าดำ โทรม ผมหงอกโผล่กระจายเต็มหัว หมดราศีคนเป็นประธานาธิบดีหมายเลขหนึ่งของโลก เมื่อถูกถามว่าเรื่องซีเรียจะเอายังไง 3 ปีมาแล้วยังตีกรรเชียงไม่เลิก เรื่องซีเรียยังจัดการไม่ได้ เรื่องอิรักรอบสองกำลังจะโผล่มา คุณโอบามาแทบจะอยากกลับไปนุ่งโสร่งนอนเล่นที่อินโดนีเซียเหมือนตอนเป็นรุ่น กะทง
    รัฐบาล โอบามาถอนทหารประมาณ 100,000 นาย ออกจากอิรัก ลดขนาดกองกำลังในอาฟกานิสถาน เป็นการใช้ยุทธศาสตร์ตรงกันข้ามกับคาวบอย Bush ทั้งๆที่รู้ว่าขณะนี้ มีเจ้าพ่อทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ อย่างคุณพี่ปูตินกับอาเฮียกระเป๋าหนัก กำลังยืนจ้องดูตาเขม็งอยู่ แม้จะยังไม่ขยับหมาก แต่อเมริกาอย่าได้เผลอเชียว
    การเดินหมาก ขี่ช้างจับตั้กกะแตนที่อิรัก ของสายเหยี่ยวคาวบอย Bush ทำให้อเมริกาต้องกลับมาใช้นโยบาย Right Sizing บวกกับนโยบาย ให้คนในบ้านเขาจัดการกันเอง ตามที่เรายุ แผน Arab Spring จึงเกิดขึ้น แต่ใช่ว่า คาวบอย Bush จะพลาดรายเดียว รัฐบาล Obama ก็พลาด เช่นเดียวกัน แม้คนละแบบ แต่ผลลัพธ์สาหัสไม่แพ้กัน Arab Spring ทำให้เกิดกลุ่มต่อต้านอเมริกา และตะวันตกมากขึ้น และ Arab Spring ทำให้เกิดผึ้งแตกรัง ที่อิยิปต์ และ ลิเบีย และที่กำลังตามมา คือ ซีเรีย และ อิรัก อาจกลายเป็นสนามฆ่าที่โหดน่ากลัว
    และถึงบัดนี้ แม้คนในบ้านอเมริกาจะออกมาส่งเสียงว่า เรื่องตะวันออกกลางให้คนตะวันออกกลางจัดการกันเอง แต่ดูเหมือนโอบามาจะน้ำท่วมปาก หรือเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อคนตะวันออกกลาง อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง เป็นค่ายที่สนับสนุนอเมริกา เรียกร้องให้อเมริกาจัดการ เรื่องซีเรียกับอิรักให้ “เรียบร้อย” เรียบร้อยแบบไหนล่ะ ก็แบบที่คาวบอย Bush เคยทำไงล่ะ ถล่มมันให้เหี้ยนเลย
    เสี่ย ใหญ่ซาอุดิ ยื่นรายการต่อว่า ยาวเป็นหางว่าว ตะแคงข้างส่งให้ลูกพี่ด้วยความขัดใจ เรื่องอะไรบ้าง ก็ทุกเรื่องที่เล่ามาข้างต้นนั่นแหละ เสี่ยใหญ่ไม่ถูกใจเลยสักเรื่อง อเมริกายังจะเดินหน้าใช้ Right Sizing ขนาดกำลังพอดีอยู่อีกหรือ อย่างนี้พวกเราก็ม่อยกระรอกแหลกเกลื่อนกันหมด
    อเมริกาคิดหนัก ไม่ใช่ห่วงเสี่ยใหญ่ซาอุดิกับพวกหรอก อเมริกาห่วงไอ้ที่อยู่ใต้ดินของพวกเสี่ยใหญ่ซาอุดิกับพวกต่างหาก เรื่องลามมาถึงตรงนี้ ไม่ยกทัพกรีฑาไปกวาดทะเลทรายอีกรอบ ก็คงมีหวังเสร็จกลุ่ม เสี่ยนิวเคลียร์กับพวก และเพื่อนตัวใหญ่ที่กอดอกดูอยู่เงียบๆ อีก 2 ราย คุณพี่ปูตินและอาเฮีย จะปล่อยให้โอกาสทอง ลอยผ่านหน้าไปเฉยๆอย่างงั้นหรือ แต่ถ้าจะรบ อเมริกาจะไปแบบ Right Sizing ก็นอนอยู่บ้าน กอดคุณนายมิเชล (ถ้าคุณนายแกยอมนะ) ดีกว่า เพราะมันสู้เขาไม่ได้แน่ ถ้าจะไป มันต้องให้ใหญ่โต อลังการ กระเทือนโลก สมฐานะ ของพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก แล้วจะไปเดี่ยวๆได้อย่างอย่างไร เรามันคนใหญ่คนโต จะไปไหนที่ยังต้องมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง บางทีมากกว่าประชาชนที่ถูกเกณท์มาคอยรับซะอีก นี่จะยกทัพไปชิงแเดน อาจยาวไปถึงชิงโลก แบบนี้ต้องสั่งให้พรรคพวกและลูกกระเป๋ง ไม่ว่า หัวทอง หัวดำ หัวด่าง หัวล้าน ขานชื่อเอาไปให้ครบ เอ้อ เขียนแล้วเหนื่อยใจแทน
    แล้วก็เหมือนฉากหนัง Hollywood สร้าง ทยอยออกมาแสดงให้ดูกัน
    เมื่อ วันที่ 12 ,13 พฤษภาคม ค.ศ.2014 สถาบันข่าวกรองเกี่ยวกับความมั่นคงของแคนาดา Canadian Security Intelligence Service (CSIS) หน่วยงานของรัฐบาลแคนาดา จัดรายการสัมมนาใหญ่เกี่ยวกับตะวัน ออกกลาง โดยบอกว่า เป็นการจัดตามการกำกับของ Chatham House ถ้ายังจำกันได้ Chatham House เป็น think tank ที่มีอิทธิพลสูงสุดของอังกฤษ ที่เกิดคู่กับ Council for Foreign Relation (CFR) ของอเมริกา เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1919
    หลัง จากการสัมมนา CSIS แคนาดา เพิ่งออกรายงานเผยแพร่เมื่อกลางเดือนสิงหาคมนี้เอง กระดาษพิมพ์ยังร้อนอยู่เลย ยาวประมาณ 100 หน้า ส่วนที่วิเคราะห์อื่นๆ ส่วนใหญ่ เหมือนที่ค่ายต่างๆวิเคราะห์กัน ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่ที่น่าสนใจคือ รายงานนี้ระบุว่า ขบวนการ Al-Qaeda ยังไม่ตาย นอกจากยังไม่ตายแล้ว ยังฟื้นคืนชีพอย่างน่าทึ่ง !! ว้าว มาแล้ว หนังตื่นเต้น
    ตลอดช่วงปี ค.ศ.2009-2012 อเมริกาบอกว่าใช้ drone ถล่มฐานที่มั่นของกลุ่ม Al-Qaeda จนทำให้ระดับหัวหน้าของขบวนการตายเกลื่อน รวมทั้งลูกน้องระดับสำคัญอีกก ว่า 200 นาย ทำให้ขบวนการแตกกระเจิง ที่ไหนได้ ถึงถูกตัดหัวทิ้ง แต่ตัวยังอยู่ พวกที่เหลือ ค่อยๆย้ายฐาน แอบไปซ่อนตัว กระจายอยู่บริเวณอาฟริกาเหนือ อาฟริกาตะวันตก Sinai และที่ Levant
    Levant คือส่วนที่ชาวคริสต์เคยอยู่ในออตโตมาน ซึ่งปัจจุบันคือบริเวณที่ประกอบด้วย ไซปรัส อิสราเอล จอร์แดน เลบานอน ปาเลสไตน์ ซีเรีย และทางใต้ของตุรกี อืม! แดนเดือดเกือบทั้งนั้น
    ซีเรีย กำลังเป็นหัวหาดใหม่ของ Al-Qaeda เพื่อบุกกลับเข้าไปในตะวันออกกลาง ซีเรีย กลายเป็นแดนเดือดเหมือนที่อาฟกานิสถานเคยเป็นเมื่อ 30 ปีก่อน เป็นแม่เหล็กดึงดูด ให้พวกนักสู้หัวเห็ดกระหายเลือดทั้งหลาย หลั่งไหลเข้าไปจับจองพื้นที่ เพื่อสำแดงอิทธิฤทธิ์
    แม้จะมี ข่าวว่ากลุ่ม Al-Qaeda เอง ก็ไม่ได้ลงรอยกันนัก ระหว่างกลุ่มที่เป็นซีอ่ะห์กับสุนหนี่ แตกแยกเป็นกลุ่ม Jabhat al-Nusra และ Islamic State of Iraq and the Levant (ISIL) และกลุ่มเดิมคือพวกที่อยู่ในความดูแลของ Aymarn al-Zawahiri ซึ่งขึ้นมาเป็นหัวหน้าขบวนการแทนหลัง Bin Laden ถูกเก็บ แต่การแตกแยก กลับกลายเป็นการแข่งขัน สร้างความรุนแรงให้เพิ่มขึ้น
    นอกจากนี้ รายงานยังบอกว่า ขบวนการ Al-Qaeda ได้เริ่มมีการแตกหน่อรับสมาชิกเพิ่ม โดยเล็งไปที่กลุ่มชนชั้นกลางและ ชั้นสูงในปากีสถาน โดนเฉพาะพวกมีปริญญา วิศวฯ และวิทยาศาสตร์ Ahmad Faruq, Asim Lumar และ Abu Zar Assami ซึ่งเป็นชาวปากีสถาน ได้ก้าวขึ้นเป็นระดับหัวหน้าของขบวนการแล้ว พวกเขาคิดจะทำอะไรกันนะ
    รายงาน บอกว่าขณะนี้แม้ Al-Qaeda จะมีฐานใหม่ อยู่ที่ตะวันออกกลาง (Levant) และฐานที่เอเซียใต้ (South Asian) แต่เป้าหมายเดิม ที่จะทำลายล้างอเมริกาและตะวัน ตกไม่เปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ว่า การที่ Al-Qaeda สร้างฉากตื่นเต้นขึ้นที่ North Africa และ Levant เป็นการออกบัตรเชิญ พวกหนุ่มห้าวทั้งหลายให้มาร่วม รายการ ขณะนี้มีหนุ่มห้าวประมาณ 8,000 คน จากอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เยอรมัน และสวีเดน เข้ามาร่วมขบวนการด้วย และเป็นไปได้ว่าพวกหนุ่มห้าวนี้แหละ เมื่อกลับไปบ้าน ก็จะสร้างแผน เตรียมการในการก่อการร้ายในประเทศที่ตนเองพำนักอยู่ เพราะกลุ่มหนุ่มห้าว 8,000 คนนี้ สามารถเดินทางเข้าออกผ่านประเทศในสหภาพยุโรป และอเมริกาได้ อย่างยากต่อการตรวจสอบของฝ่ายความมั่นคง
    นี่! อย่างนี้ต้องปรบมือให้ ดังๆ ถือว่าเป็นการออกรายงาน ที่ใช้เรื่องและเวลาที่เหมาะสม แก่ยุทธศาสตร์ เพื่อการเปลี่ยนนโยบาย Right Sizing ยิ่งนัก แบบนี้ทั้งคนอเมริกา คนยุโรป ไม่แคล้วหน้าซีด หูตก หางจุก จมูกชื้น กันหมด ไม่มีทางเลือกอื่น จำเป็นต้องให้รัฐบาลโอบามา เดินหน้าถล่มซีเรียลูกเดียว แถมย้อนหลังมาแถมอิรัก และบวกอิหร่านรายสำคัญ หมากจริงด้วย ไม่งั้นอาจโดนขบวนการ Al-Qaeda ถล่มตึกอีกรอบ ถ้าเกิดจริง รอบนี้น่าเป็นห่วง กลัวหวยจะออกที่ทำเนียบขาว และรัฐสภาอังกฤษเหลือเกินครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
2 ตุลาคม 2557
    กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” ตอนที่ 2
ก่อน หน้าวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.2014 อเมริกาบอกยังไม่มียุทธศาสตร์ เกี่ยวกับตะวันออกกลางประกาศอ อกมาให้โลกรู้ แต่โลกก็รู้ว่า อเมริกากำลังอึดอัดเต็มแก่ บรรดาถังความคิด think tank ต่างๆ ออกมาบอกว่า ขณะนี้อเมริกาใช้นโยบาย “Right Sizing” ขนาดกำลังดี คือกระบวนท่าที่อเมริกาใช้เกี่ยวกับตะวันออกกลาง พูดแบบนี้ชาวบ้านที่ไม่ใช่ตาสีตาสาก็เดาออก ว่าอเมริกากำลังอาการหนัก กระเป๋าแห้ง และน่าจะยังรักษาแผล จากการไปถล่มอิรักและล้มละลายกลับมาไม่หายดี มันเป็นการล้มละลายทางสังคม ทางการเมือง ทางการเงิน และทางยุทธศาสตร์ ครบทุกประการ แผลนี้น่าจะใหญ่และลึก ถึงขนาดคุณโอบามา หน้าดำ โทรม ผมหงอกโผล่กระจายเต็มหัว หมดราศีคนเป็นประธานาธิบดีหมายเลขหนึ่งของโลก เมื่อถูกถามว่าเรื่องซีเรียจะเอายังไง 3 ปีมาแล้วยังตีกรรเชียงไม่เลิก เรื่องซีเรียยังจัดการไม่ได้ เรื่องอิรักรอบสองกำลังจะโผล่มา คุณโอบามาแทบจะอยากกลับไปนุ่งโสร่งนอนเล่นที่อินโดนีเซียเหมือนตอนเป็นรุ่น กะทง รัฐบาล โอบามาถอนทหารประมาณ 100,000 นาย ออกจากอิรัก ลดขนาดกองกำลังในอาฟกานิสถาน เป็นการใช้ยุทธศาสตร์ตรงกันข้ามกับคาวบอย Bush ทั้งๆที่รู้ว่าขณะนี้ มีเจ้าพ่อทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ อย่างคุณพี่ปูตินกับอาเฮียกระเป๋าหนัก กำลังยืนจ้องดูตาเขม็งอยู่ แม้จะยังไม่ขยับหมาก แต่อเมริกาอย่าได้เผลอเชียว การเดินหมาก ขี่ช้างจับตั้กกะแตนที่อิรัก ของสายเหยี่ยวคาวบอย Bush ทำให้อเมริกาต้องกลับมาใช้นโยบาย Right Sizing บวกกับนโยบาย ให้คนในบ้านเขาจัดการกันเอง ตามที่เรายุ แผน Arab Spring จึงเกิดขึ้น แต่ใช่ว่า คาวบอย Bush จะพลาดรายเดียว รัฐบาล Obama ก็พลาด เช่นเดียวกัน แม้คนละแบบ แต่ผลลัพธ์สาหัสไม่แพ้กัน Arab Spring ทำให้เกิดกลุ่มต่อต้านอเมริกา และตะวันตกมากขึ้น และ Arab Spring ทำให้เกิดผึ้งแตกรัง ที่อิยิปต์ และ ลิเบีย และที่กำลังตามมา คือ ซีเรีย และ อิรัก อาจกลายเป็นสนามฆ่าที่โหดน่ากลัว และถึงบัดนี้ แม้คนในบ้านอเมริกาจะออกมาส่งเสียงว่า เรื่องตะวันออกกลางให้คนตะวันออกกลางจัดการกันเอง แต่ดูเหมือนโอบามาจะน้ำท่วมปาก หรือเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อคนตะวันออกกลาง อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง เป็นค่ายที่สนับสนุนอเมริกา เรียกร้องให้อเมริกาจัดการ เรื่องซีเรียกับอิรักให้ “เรียบร้อย” เรียบร้อยแบบไหนล่ะ ก็แบบที่คาวบอย Bush เคยทำไงล่ะ ถล่มมันให้เหี้ยนเลย เสี่ย ใหญ่ซาอุดิ ยื่นรายการต่อว่า ยาวเป็นหางว่าว ตะแคงข้างส่งให้ลูกพี่ด้วยความขัดใจ เรื่องอะไรบ้าง ก็ทุกเรื่องที่เล่ามาข้างต้นนั่นแหละ เสี่ยใหญ่ไม่ถูกใจเลยสักเรื่อง อเมริกายังจะเดินหน้าใช้ Right Sizing ขนาดกำลังพอดีอยู่อีกหรือ อย่างนี้พวกเราก็ม่อยกระรอกแหลกเกลื่อนกันหมด อเมริกาคิดหนัก ไม่ใช่ห่วงเสี่ยใหญ่ซาอุดิกับพวกหรอก อเมริกาห่วงไอ้ที่อยู่ใต้ดินของพวกเสี่ยใหญ่ซาอุดิกับพวกต่างหาก เรื่องลามมาถึงตรงนี้ ไม่ยกทัพกรีฑาไปกวาดทะเลทรายอีกรอบ ก็คงมีหวังเสร็จกลุ่ม เสี่ยนิวเคลียร์กับพวก และเพื่อนตัวใหญ่ที่กอดอกดูอยู่เงียบๆ อีก 2 ราย คุณพี่ปูตินและอาเฮีย จะปล่อยให้โอกาสทอง ลอยผ่านหน้าไปเฉยๆอย่างงั้นหรือ แต่ถ้าจะรบ อเมริกาจะไปแบบ Right Sizing ก็นอนอยู่บ้าน กอดคุณนายมิเชล (ถ้าคุณนายแกยอมนะ) ดีกว่า เพราะมันสู้เขาไม่ได้แน่ ถ้าจะไป มันต้องให้ใหญ่โต อลังการ กระเทือนโลก สมฐานะ ของพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก แล้วจะไปเดี่ยวๆได้อย่างอย่างไร เรามันคนใหญ่คนโต จะไปไหนที่ยังต้องมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง บางทีมากกว่าประชาชนที่ถูกเกณท์มาคอยรับซะอีก นี่จะยกทัพไปชิงแเดน อาจยาวไปถึงชิงโลก แบบนี้ต้องสั่งให้พรรคพวกและลูกกระเป๋ง ไม่ว่า หัวทอง หัวดำ หัวด่าง หัวล้าน ขานชื่อเอาไปให้ครบ เอ้อ เขียนแล้วเหนื่อยใจแทน แล้วก็เหมือนฉากหนัง Hollywood สร้าง ทยอยออกมาแสดงให้ดูกัน เมื่อ วันที่ 12 ,13 พฤษภาคม ค.ศ.2014 สถาบันข่าวกรองเกี่ยวกับความมั่นคงของแคนาดา Canadian Security Intelligence Service (CSIS) หน่วยงานของรัฐบาลแคนาดา จัดรายการสัมมนาใหญ่เกี่ยวกับตะวัน ออกกลาง โดยบอกว่า เป็นการจัดตามการกำกับของ Chatham House ถ้ายังจำกันได้ Chatham House เป็น think tank ที่มีอิทธิพลสูงสุดของอังกฤษ ที่เกิดคู่กับ Council for Foreign Relation (CFR) ของอเมริกา เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1919 หลัง จากการสัมมนา CSIS แคนาดา เพิ่งออกรายงานเผยแพร่เมื่อกลางเดือนสิงหาคมนี้เอง กระดาษพิมพ์ยังร้อนอยู่เลย ยาวประมาณ 100 หน้า ส่วนที่วิเคราะห์อื่นๆ ส่วนใหญ่ เหมือนที่ค่ายต่างๆวิเคราะห์กัน ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่ที่น่าสนใจคือ รายงานนี้ระบุว่า ขบวนการ Al-Qaeda ยังไม่ตาย นอกจากยังไม่ตายแล้ว ยังฟื้นคืนชีพอย่างน่าทึ่ง !! ว้าว มาแล้ว หนังตื่นเต้น ตลอดช่วงปี ค.ศ.2009-2012 อเมริกาบอกว่าใช้ drone ถล่มฐานที่มั่นของกลุ่ม Al-Qaeda จนทำให้ระดับหัวหน้าของขบวนการตายเกลื่อน รวมทั้งลูกน้องระดับสำคัญอีกก ว่า 200 นาย ทำให้ขบวนการแตกกระเจิง ที่ไหนได้ ถึงถูกตัดหัวทิ้ง แต่ตัวยังอยู่ พวกที่เหลือ ค่อยๆย้ายฐาน แอบไปซ่อนตัว กระจายอยู่บริเวณอาฟริกาเหนือ อาฟริกาตะวันตก Sinai และที่ Levant Levant คือส่วนที่ชาวคริสต์เคยอยู่ในออตโตมาน ซึ่งปัจจุบันคือบริเวณที่ประกอบด้วย ไซปรัส อิสราเอล จอร์แดน เลบานอน ปาเลสไตน์ ซีเรีย และทางใต้ของตุรกี อืม! แดนเดือดเกือบทั้งนั้น ซีเรีย กำลังเป็นหัวหาดใหม่ของ Al-Qaeda เพื่อบุกกลับเข้าไปในตะวันออกกลาง ซีเรีย กลายเป็นแดนเดือดเหมือนที่อาฟกานิสถานเคยเป็นเมื่อ 30 ปีก่อน เป็นแม่เหล็กดึงดูด ให้พวกนักสู้หัวเห็ดกระหายเลือดทั้งหลาย หลั่งไหลเข้าไปจับจองพื้นที่ เพื่อสำแดงอิทธิฤทธิ์ แม้จะมี ข่าวว่ากลุ่ม Al-Qaeda เอง ก็ไม่ได้ลงรอยกันนัก ระหว่างกลุ่มที่เป็นซีอ่ะห์กับสุนหนี่ แตกแยกเป็นกลุ่ม Jabhat al-Nusra และ Islamic State of Iraq and the Levant (ISIL) และกลุ่มเดิมคือพวกที่อยู่ในความดูแลของ Aymarn al-Zawahiri ซึ่งขึ้นมาเป็นหัวหน้าขบวนการแทนหลัง Bin Laden ถูกเก็บ แต่การแตกแยก กลับกลายเป็นการแข่งขัน สร้างความรุนแรงให้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ รายงานยังบอกว่า ขบวนการ Al-Qaeda ได้เริ่มมีการแตกหน่อรับสมาชิกเพิ่ม โดยเล็งไปที่กลุ่มชนชั้นกลางและ ชั้นสูงในปากีสถาน โดนเฉพาะพวกมีปริญญา วิศวฯ และวิทยาศาสตร์ Ahmad Faruq, Asim Lumar และ Abu Zar Assami ซึ่งเป็นชาวปากีสถาน ได้ก้าวขึ้นเป็นระดับหัวหน้าของขบวนการแล้ว พวกเขาคิดจะทำอะไรกันนะ รายงาน บอกว่าขณะนี้แม้ Al-Qaeda จะมีฐานใหม่ อยู่ที่ตะวันออกกลาง (Levant) และฐานที่เอเซียใต้ (South Asian) แต่เป้าหมายเดิม ที่จะทำลายล้างอเมริกาและตะวัน ตกไม่เปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ว่า การที่ Al-Qaeda สร้างฉากตื่นเต้นขึ้นที่ North Africa และ Levant เป็นการออกบัตรเชิญ พวกหนุ่มห้าวทั้งหลายให้มาร่วม รายการ ขณะนี้มีหนุ่มห้าวประมาณ 8,000 คน จากอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เยอรมัน และสวีเดน เข้ามาร่วมขบวนการด้วย และเป็นไปได้ว่าพวกหนุ่มห้าวนี้แหละ เมื่อกลับไปบ้าน ก็จะสร้างแผน เตรียมการในการก่อการร้ายในประเทศที่ตนเองพำนักอยู่ เพราะกลุ่มหนุ่มห้าว 8,000 คนนี้ สามารถเดินทางเข้าออกผ่านประเทศในสหภาพยุโรป และอเมริกาได้ อย่างยากต่อการตรวจสอบของฝ่ายความมั่นคง นี่! อย่างนี้ต้องปรบมือให้ ดังๆ ถือว่าเป็นการออกรายงาน ที่ใช้เรื่องและเวลาที่เหมาะสม แก่ยุทธศาสตร์ เพื่อการเปลี่ยนนโยบาย Right Sizing ยิ่งนัก แบบนี้ทั้งคนอเมริกา คนยุโรป ไม่แคล้วหน้าซีด หูตก หางจุก จมูกชื้น กันหมด ไม่มีทางเลือกอื่น จำเป็นต้องให้รัฐบาลโอบามา เดินหน้าถล่มซีเรียลูกเดียว แถมย้อนหลังมาแถมอิรัก และบวกอิหร่านรายสำคัญ หมากจริงด้วย ไม่งั้นอาจโดนขบวนการ Al-Qaeda ถล่มตึกอีกรอบ ถ้าเกิดจริง รอบนี้น่าเป็นห่วง กลัวหวยจะออกที่ทำเนียบขาว และรัฐสภาอังกฤษเหลือเกินครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
2 ตุลาคม 2557
    0 Comments 0 Shares 371 Views 0 Reviews
  • “Bruno Le Maire ยุติบทบาทที่ ASML หลังรัฐบาลฝรั่งเศสล่ม — สะเทือนวงการชิปยุโรป”

    Bruno Le Maire อดีตรัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส ได้ยุติบทบาทที่ปรึกษาพิเศษของบริษัท ASML ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก Le Maire ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลใหม่ของฝรั่งเศส แต่รัฐบาลดังกล่าวกลับล่มภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการแต่งตั้ง

    Le Maire ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษของคณะกรรมการบริหาร ASML ตั้งแต่ปี 2024 โดยมีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำด้านการลงทุนเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมชิปในยุโรป ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของสหภาพยุโรปในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ และจีน

    ASML เพิ่งลงทุนกว่า 1.3 พันล้านยูโรในบริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI ของฝรั่งเศสชื่อ Mistral AI ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบปี และสะท้อนถึงความพยายามของยุโรปในการผลักดันเทคโนโลยีล้ำหน้าให้เติบโตภายในภูมิภาค

    แม้ ASML จะปฏิเสธให้ความเห็นว่า Le Maire จะกลับมารับตำแหน่งอีกหรือไม่หลังจากการล่มของรัฐบาล แต่การถอนตัวครั้งนี้ก็สร้างคำถามถึงเสถียรภาพของการผลักดันนโยบายเทคโนโลยีในยุโรป และบทบาทของนักการเมืองระดับสูงในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงระดับโลก

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Bruno Le Maire ยุติบทบาทที่ปรึกษาพิเศษของ ASML
    เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส และถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีกลาโหม
    รัฐบาลฝรั่งเศสชุดใหม่ล่มภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการแต่งตั้ง
    Le Maire ได้รับตำแหน่งที่ ASML ตั้งแต่ปี 2024 เพื่อให้คำแนะนำด้านการลงทุน
    ASML เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก
    ASML ลงทุน 1.3 พันล้านยูโรในบริษัท Mistral AI ของฝรั่งเศส
    การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เสริมสร้างระบบชิปในยุโรป
    ASML ปฏิเสธให้ความเห็นว่า Le Maire จะกลับมารับตำแหน่งอีกหรือไม่

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ASML เป็นบริษัทเดียวในโลกที่ผลิตเครื่อง EUV lithography ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตชิประดับ 3 นาโนเมตร
    Mistral AI เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อแข่งขันกับ OpenAI และ Anthropic
    การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศทำให้ยุโรปต้องเร่งสร้างความมั่นคงด้านชิป
    Le Maire เคยผลักดันโครงการ European Chips Act เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปภายในภูมิภาค
    การล่มของรัฐบาลฝรั่งเศสอาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของนโยบายเทคโนโลยีระดับชาติ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/06/bruno-le-maire-no-longer-advising-asml-company-says
    🇪🇺 “Bruno Le Maire ยุติบทบาทที่ ASML หลังรัฐบาลฝรั่งเศสล่ม — สะเทือนวงการชิปยุโรป” Bruno Le Maire อดีตรัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส ได้ยุติบทบาทที่ปรึกษาพิเศษของบริษัท ASML ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก Le Maire ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลใหม่ของฝรั่งเศส แต่รัฐบาลดังกล่าวกลับล่มภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการแต่งตั้ง Le Maire ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษของคณะกรรมการบริหาร ASML ตั้งแต่ปี 2024 โดยมีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำด้านการลงทุนเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมชิปในยุโรป ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของสหภาพยุโรปในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ และจีน ASML เพิ่งลงทุนกว่า 1.3 พันล้านยูโรในบริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI ของฝรั่งเศสชื่อ Mistral AI ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบปี และสะท้อนถึงความพยายามของยุโรปในการผลักดันเทคโนโลยีล้ำหน้าให้เติบโตภายในภูมิภาค แม้ ASML จะปฏิเสธให้ความเห็นว่า Le Maire จะกลับมารับตำแหน่งอีกหรือไม่หลังจากการล่มของรัฐบาล แต่การถอนตัวครั้งนี้ก็สร้างคำถามถึงเสถียรภาพของการผลักดันนโยบายเทคโนโลยีในยุโรป และบทบาทของนักการเมืองระดับสูงในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงระดับโลก ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Bruno Le Maire ยุติบทบาทที่ปรึกษาพิเศษของ ASML ➡️ เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส และถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ➡️ รัฐบาลฝรั่งเศสชุดใหม่ล่มภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการแต่งตั้ง ➡️ Le Maire ได้รับตำแหน่งที่ ASML ตั้งแต่ปี 2024 เพื่อให้คำแนะนำด้านการลงทุน ➡️ ASML เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ➡️ ASML ลงทุน 1.3 พันล้านยูโรในบริษัท Mistral AI ของฝรั่งเศส ➡️ การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เสริมสร้างระบบชิปในยุโรป ➡️ ASML ปฏิเสธให้ความเห็นว่า Le Maire จะกลับมารับตำแหน่งอีกหรือไม่ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ASML เป็นบริษัทเดียวในโลกที่ผลิตเครื่อง EUV lithography ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตชิประดับ 3 นาโนเมตร ➡️ Mistral AI เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อแข่งขันกับ OpenAI และ Anthropic ➡️ การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศทำให้ยุโรปต้องเร่งสร้างความมั่นคงด้านชิป ➡️ Le Maire เคยผลักดันโครงการ European Chips Act เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปภายในภูมิภาค ➡️ การล่มของรัฐบาลฝรั่งเศสอาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของนโยบายเทคโนโลยีระดับชาติ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/06/bruno-le-maire-no-longer-advising-asml-company-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bruno Le Maire no longer advising ASML, company says
    (Reuters) -France's former finance minister Bruno Le Maire is no longer an advisor at ASML, a spokesperson for the Dutch chip equipment maker told Reuters on Monday.
    0 Comments 0 Shares 265 Views 0 Reviews
  • “อุตสาหกรรมสิ่งทอในบังกลาเทศพลิกวิกฤตขยะด้วยเทคโนโลยี — เมื่อเศษผ้ากลายเป็นโอกาสระดับพันล้าน”

    บังกลาเทศ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเสื้อผ้าอันดับสองของโลก กำลังเผชิญกับปัญหาขยะสิ่งทอจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเศษผ้าจากการผลิตที่ยังไม่ได้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันประเทศสามารถรีไซเคิลเศษผ้าก่อนการบริโภคได้เพียง 5–7% เท่านั้น และมีเพียงไม่ถึง 5% ที่ถูกนำไปอัปไซเคิลเป็นสินค้าต่าง ๆ เช่น พรมตุ๊กตาและผ้าห่ม

    เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัท Reverse Resources ได้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยติดตามและจัดการขยะสิ่งทอแบบเรียลไทม์ โดยระบบจะช่วยให้โรงงานสามารถแยกประเภทเศษผ้า ติดป้ายกำกับ และลงทะเบียนข้อมูลบนคลาวด์ พร้อมติดตามการเคลื่อนย้ายระหว่างโรงงาน ผู้จัดการขยะ และผู้รีไซเคิล

    ระบบนี้ช่วยให้โรงงานได้รับราคาที่ดีขึ้นสำหรับเศษผ้า และแบรนด์สามารถตรวจสอบเส้นทางของขยะที่เกิดจากซัพพลายเออร์ได้อย่างโปร่งใส ปัจจุบันมีโรงงานกว่า 410 แห่งและแบรนด์ระดับโลกกว่า 60 รายเข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้ แม้จะยังครอบคลุมเพียง 1% ของตลาด แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่

    รายงานจาก GIZ และ H&M ระบุว่า ขยะสิ่งทอมากกว่า 55% ถูกส่งออกไปยังประเทศที่มีศูนย์รีไซเคิลพัฒนาแล้ว เช่น เวียดนาม ฟินแลนด์ สวีเดน อินเดีย และจีน ส่วนที่เหลือถูกนำไปใช้เป็นวัสดุยัดไส้ เผาเพื่อผลิตไฟฟ้า หรือฝังกลบ

    การติดตามขยะด้วยข้อมูลดิจิทัลไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้จัดการขยะรายเล็กในบังกลาเทศสามารถเข้าถึงตลาดรีไซเคิลระดับโลกได้โดยตรง ลดการพึ่งพาผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นที่เคยควบคุมการจัดการขยะแบบไม่เป็นทางการ

    นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปที่บังคับให้ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเก็บและรีไซเคิลสิ่งทอ จะยิ่งผลักดันให้แบรนด์แฟชั่นใช้วัสดุรีไซเคิลมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าโรงงานในบังกลาเทศต้องปรับตัวให้สามารถจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    บังกลาเทศสามารถรีไซเคิลขยะสิ่งทอได้เพียง 5–7% และอัปไซเคิลไม่ถึง 5%
    ขยะมากกว่า 55% ถูกส่งออกไปยังประเทศที่มีศูนย์รีไซเคิลพัฒนาแล้ว
    Reverse Resources พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อจัดการขยะสิ่งทอ
    ระบบช่วยแยกประเภทเศษผ้า ติดป้าย และติดตามการเคลื่อนย้าย
    โรงงานได้รับราคาที่ดีขึ้นเมื่อแยกและติดตามเศษผ้า
    แบรนด์สามารถตรวจสอบเส้นทางของขยะจากซัพพลายเออร์ได้
    ปัจจุบันมีโรงงานกว่า 410 แห่งและแบรนด์กว่า 60 รายเข้าร่วม
    การจัดการขยะแบบดิจิทัลช่วยลดการพึ่งพาผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น
    กฎหมายใหม่ของ EU บังคับให้ผู้ผลิตรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรีไซเคิล
    การรีไซเคิลในประเทศอาจเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้ถึง 5 พันล้านดอลลาร์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Reverse Resources ตั้งเป้าติดตามขยะสิ่งทอทั่วโลก 2.5 ล้านตันต่อปีภายในปี 2030
    การรีไซเคิลแบบ textile-to-textile ช่วยลดการใช้วัสดุใหม่และลดการปล่อย CO₂
    การใช้แพลตฟอร์ม SaaS ช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
    การแยกขยะตามชนิดเส้นใยตั้งแต่ต้นทางช่วยเพิ่มมูลค่าและลดขั้นตอน
    การจัดการขยะอย่างมีข้อมูลช่วยให้โรงงานเข้าถึงตลาดรีไซเคิลระดับโลกได้ง่ายขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/07/bangladesh039s-textile-firms-turn-to-technology-to-sort-waste-crisis
    🧵 “อุตสาหกรรมสิ่งทอในบังกลาเทศพลิกวิกฤตขยะด้วยเทคโนโลยี — เมื่อเศษผ้ากลายเป็นโอกาสระดับพันล้าน” บังกลาเทศ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเสื้อผ้าอันดับสองของโลก กำลังเผชิญกับปัญหาขยะสิ่งทอจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเศษผ้าจากการผลิตที่ยังไม่ได้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันประเทศสามารถรีไซเคิลเศษผ้าก่อนการบริโภคได้เพียง 5–7% เท่านั้น และมีเพียงไม่ถึง 5% ที่ถูกนำไปอัปไซเคิลเป็นสินค้าต่าง ๆ เช่น พรมตุ๊กตาและผ้าห่ม เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัท Reverse Resources ได้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยติดตามและจัดการขยะสิ่งทอแบบเรียลไทม์ โดยระบบจะช่วยให้โรงงานสามารถแยกประเภทเศษผ้า ติดป้ายกำกับ และลงทะเบียนข้อมูลบนคลาวด์ พร้อมติดตามการเคลื่อนย้ายระหว่างโรงงาน ผู้จัดการขยะ และผู้รีไซเคิล ระบบนี้ช่วยให้โรงงานได้รับราคาที่ดีขึ้นสำหรับเศษผ้า และแบรนด์สามารถตรวจสอบเส้นทางของขยะที่เกิดจากซัพพลายเออร์ได้อย่างโปร่งใส ปัจจุบันมีโรงงานกว่า 410 แห่งและแบรนด์ระดับโลกกว่า 60 รายเข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้ แม้จะยังครอบคลุมเพียง 1% ของตลาด แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ รายงานจาก GIZ และ H&M ระบุว่า ขยะสิ่งทอมากกว่า 55% ถูกส่งออกไปยังประเทศที่มีศูนย์รีไซเคิลพัฒนาแล้ว เช่น เวียดนาม ฟินแลนด์ สวีเดน อินเดีย และจีน ส่วนที่เหลือถูกนำไปใช้เป็นวัสดุยัดไส้ เผาเพื่อผลิตไฟฟ้า หรือฝังกลบ การติดตามขยะด้วยข้อมูลดิจิทัลไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้จัดการขยะรายเล็กในบังกลาเทศสามารถเข้าถึงตลาดรีไซเคิลระดับโลกได้โดยตรง ลดการพึ่งพาผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นที่เคยควบคุมการจัดการขยะแบบไม่เป็นทางการ นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปที่บังคับให้ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเก็บและรีไซเคิลสิ่งทอ จะยิ่งผลักดันให้แบรนด์แฟชั่นใช้วัสดุรีไซเคิลมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าโรงงานในบังกลาเทศต้องปรับตัวให้สามารถจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ บังกลาเทศสามารถรีไซเคิลขยะสิ่งทอได้เพียง 5–7% และอัปไซเคิลไม่ถึง 5% ➡️ ขยะมากกว่า 55% ถูกส่งออกไปยังประเทศที่มีศูนย์รีไซเคิลพัฒนาแล้ว ➡️ Reverse Resources พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อจัดการขยะสิ่งทอ ➡️ ระบบช่วยแยกประเภทเศษผ้า ติดป้าย และติดตามการเคลื่อนย้าย ➡️ โรงงานได้รับราคาที่ดีขึ้นเมื่อแยกและติดตามเศษผ้า ➡️ แบรนด์สามารถตรวจสอบเส้นทางของขยะจากซัพพลายเออร์ได้ ➡️ ปัจจุบันมีโรงงานกว่า 410 แห่งและแบรนด์กว่า 60 รายเข้าร่วม ➡️ การจัดการขยะแบบดิจิทัลช่วยลดการพึ่งพาผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ➡️ กฎหมายใหม่ของ EU บังคับให้ผู้ผลิตรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรีไซเคิล ➡️ การรีไซเคิลในประเทศอาจเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้ถึง 5 พันล้านดอลลาร์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Reverse Resources ตั้งเป้าติดตามขยะสิ่งทอทั่วโลก 2.5 ล้านตันต่อปีภายในปี 2030 ➡️ การรีไซเคิลแบบ textile-to-textile ช่วยลดการใช้วัสดุใหม่และลดการปล่อย CO₂ ➡️ การใช้แพลตฟอร์ม SaaS ช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ➡️ การแยกขยะตามชนิดเส้นใยตั้งแต่ต้นทางช่วยเพิ่มมูลค่าและลดขั้นตอน ➡️ การจัดการขยะอย่างมีข้อมูลช่วยให้โรงงานเข้าถึงตลาดรีไซเคิลระดับโลกได้ง่ายขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/07/bangladesh039s-textile-firms-turn-to-technology-to-sort-waste-crisis
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bangladesh's textile firms turn to technology to sort waste crisis
    Digital tracing helps Bangladesh sort management of textile waste and could boost exports.
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • “ศาลเนเธอร์แลนด์สั่ง Meta เคารพสิทธิผู้ใช้ — ต้องให้เลือกฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์ตามกฎหมาย DSA”

    ในวันที่โลกออนไลน์ถูกควบคุมด้วยอัลกอริทึมและโฆษณาแบบเจาะจง กลุ่มสิทธิดิจิทัล Bits of Freedom จากเนเธอร์แลนด์ได้ยื่นฟ้อง Meta (เจ้าของ Facebook และ Instagram) ฐานละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) ของสหภาพยุโรป ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้มีสิทธิเลือกเนื้อหาที่ตนเห็นได้อย่างแท้จริง

    ศาลอัมสเตอร์ดัมตัดสินว่า Meta ละเมิดกฎหมาย DSA โดยไม่ให้ผู้ใช้เลือกฟีดแบบไม่ใช้การวิเคราะห์โปรไฟล์อย่างชัดเจน และแม้ผู้ใช้จะเลือกฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์ไว้แล้ว แอปก็ยังกลับไปใช้ฟีดแบบอัลกอริทึมทุกครั้งที่เปิดใหม่หรือเปลี่ยนหน้า ซึ่งขัดต่อหลักการ “อำนาจในการเลือก” ที่ DSA กำหนดไว้

    ศาลสั่งให้ Meta ปรับปรุงแอปภายในสองสัปดาห์ ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์ได้ “โดยตรงและง่าย” และต้องจำค่าการเลือกของผู้ใช้ไว้ ไม่เปลี่ยนกลับโดยอัตโนมัติ หากไม่ปฏิบัติตาม Meta จะถูกปรับวันละ €100,000 สูงสุด €5 ล้าน

    Bits of Freedom ระบุว่า การที่ผู้ใช้ต้องค้นหาฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้ และยังถูกตัดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น Direct Message ถือเป็นการบิดเบือนสิทธิในการเลือก และเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะในช่วงเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเนเธอร์แลนด์ปลายเดือนนี้

    แม้ Meta จะประกาศว่าจะอุทธรณ์คำตัดสิน โดยอ้างว่าได้ปรับระบบตาม DSA แล้ว และควรให้คณะกรรมาธิการยุโรปเป็นผู้กำกับดูแล ไม่ใช่ศาลแต่ละประเทศ แต่คำตัดสินนี้ก็ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงว่า “แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ไม่ใช่ผู้แตะต้องไม่ได้”

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Bits of Freedom ฟ้อง Meta ฐานละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA)
    DSA กำหนดให้ผู้ใช้มีสิทธิเลือกเนื้อหาที่เห็นได้อย่างแท้จริง
    ศาลตัดสินว่า Meta ละเมิดสิทธิผู้ใช้โดยไม่ให้เลือกฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์อย่างถาวร
    แอปของ Meta จะกลับไปใช้ฟีดแบบอัลกอริทึมทุกครั้งที่เปิดใหม่หรือเปลี่ยนหน้า
    ศาลสั่งให้ Meta ปรับแอปภายใน 2 สัปดาห์ ให้เข้าถึงฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์ได้ง่ายและจำค่าการเลือก
    หากไม่ปฏิบัติตาม Meta จะถูกปรับวันละ €100,000 สูงสุด €5 ล้าน
    ผู้ใช้ที่เลือกฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์จะถูกตัดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น Direct Message
    Meta ระบุว่าจะอุทธรณ์ และควรให้คณะกรรมาธิการยุโรปเป็นผู้กำกับดูแล

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    DSA มีผลบังคับใช้ในปี 2024 เพื่อควบคุมแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ในยุโรป
    ฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์มักเรียกว่า “chronological feed” หรือ “non-personalized feed”
    การใช้อัลกอริทึมเพื่อแสดงเนื้อหาอาจส่งผลต่อการรับรู้และการมีส่วนร่วมทางสังคม
    การซ่อนตัวเลือกฟีดที่ไม่ใช้โปรไฟล์เป็นเทคนิคที่เรียกว่า “dark pattern”
    การตัดฟีเจอร์เมื่อเลือกฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์อาจละเมิดหลักการ “fair access”

    https://www.bitsoffreedom.nl/2025/10/02/judge-in-the-bits-of-freedom-vs-meta-lawsuit-meta-must-respect-users-choice/
    ⚖️ “ศาลเนเธอร์แลนด์สั่ง Meta เคารพสิทธิผู้ใช้ — ต้องให้เลือกฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์ตามกฎหมาย DSA” ในวันที่โลกออนไลน์ถูกควบคุมด้วยอัลกอริทึมและโฆษณาแบบเจาะจง กลุ่มสิทธิดิจิทัล Bits of Freedom จากเนเธอร์แลนด์ได้ยื่นฟ้อง Meta (เจ้าของ Facebook และ Instagram) ฐานละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) ของสหภาพยุโรป ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้มีสิทธิเลือกเนื้อหาที่ตนเห็นได้อย่างแท้จริง ศาลอัมสเตอร์ดัมตัดสินว่า Meta ละเมิดกฎหมาย DSA โดยไม่ให้ผู้ใช้เลือกฟีดแบบไม่ใช้การวิเคราะห์โปรไฟล์อย่างชัดเจน และแม้ผู้ใช้จะเลือกฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์ไว้แล้ว แอปก็ยังกลับไปใช้ฟีดแบบอัลกอริทึมทุกครั้งที่เปิดใหม่หรือเปลี่ยนหน้า ซึ่งขัดต่อหลักการ “อำนาจในการเลือก” ที่ DSA กำหนดไว้ ศาลสั่งให้ Meta ปรับปรุงแอปภายในสองสัปดาห์ ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์ได้ “โดยตรงและง่าย” และต้องจำค่าการเลือกของผู้ใช้ไว้ ไม่เปลี่ยนกลับโดยอัตโนมัติ หากไม่ปฏิบัติตาม Meta จะถูกปรับวันละ €100,000 สูงสุด €5 ล้าน Bits of Freedom ระบุว่า การที่ผู้ใช้ต้องค้นหาฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้ และยังถูกตัดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น Direct Message ถือเป็นการบิดเบือนสิทธิในการเลือก และเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะในช่วงเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเนเธอร์แลนด์ปลายเดือนนี้ แม้ Meta จะประกาศว่าจะอุทธรณ์คำตัดสิน โดยอ้างว่าได้ปรับระบบตาม DSA แล้ว และควรให้คณะกรรมาธิการยุโรปเป็นผู้กำกับดูแล ไม่ใช่ศาลแต่ละประเทศ แต่คำตัดสินนี้ก็ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงว่า “แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ไม่ใช่ผู้แตะต้องไม่ได้” ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Bits of Freedom ฟ้อง Meta ฐานละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) ➡️ DSA กำหนดให้ผู้ใช้มีสิทธิเลือกเนื้อหาที่เห็นได้อย่างแท้จริง ➡️ ศาลตัดสินว่า Meta ละเมิดสิทธิผู้ใช้โดยไม่ให้เลือกฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์อย่างถาวร ➡️ แอปของ Meta จะกลับไปใช้ฟีดแบบอัลกอริทึมทุกครั้งที่เปิดใหม่หรือเปลี่ยนหน้า ➡️ ศาลสั่งให้ Meta ปรับแอปภายใน 2 สัปดาห์ ให้เข้าถึงฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์ได้ง่ายและจำค่าการเลือก ➡️ หากไม่ปฏิบัติตาม Meta จะถูกปรับวันละ €100,000 สูงสุด €5 ล้าน ➡️ ผู้ใช้ที่เลือกฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์จะถูกตัดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น Direct Message ➡️ Meta ระบุว่าจะอุทธรณ์ และควรให้คณะกรรมาธิการยุโรปเป็นผู้กำกับดูแล ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ DSA มีผลบังคับใช้ในปี 2024 เพื่อควบคุมแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ในยุโรป ➡️ ฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์มักเรียกว่า “chronological feed” หรือ “non-personalized feed” ➡️ การใช้อัลกอริทึมเพื่อแสดงเนื้อหาอาจส่งผลต่อการรับรู้และการมีส่วนร่วมทางสังคม ➡️ การซ่อนตัวเลือกฟีดที่ไม่ใช้โปรไฟล์เป็นเทคนิคที่เรียกว่า “dark pattern” ➡️ การตัดฟีเจอร์เมื่อเลือกฟีดแบบไม่ใช้โปรไฟล์อาจละเมิดหลักการ “fair access” https://www.bitsoffreedom.nl/2025/10/02/judge-in-the-bits-of-freedom-vs-meta-lawsuit-meta-must-respect-users-choice/
    WWW.BITSOFFREEDOM.NL
    Judge in the Bits of Freedom vs. Meta lawsuit: Meta must respect users’ choice
    Bits of Freedom komt op voor internetvrijheid door de online grondrechten op communicatievrijheid en privacy te beschermen.
    0 Comments 0 Shares 300 Views 0 Reviews
  • “SiPearl เปิดตัว Athena1 — โปรเซสเซอร์อธิปไตยยุโรป 80 คอร์ สำหรับงานพลเรือนและกลาโหม พร้อมวางจำหน่ายปี 2027”

    ในยุคที่ความมั่นคงทางไซเบอร์และอธิปไตยด้านเทคโนโลยีกลายเป็นประเด็นระดับชาติ SiPearl บริษัทออกแบบโปรเซสเซอร์จากฝรั่งเศสที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป ได้เปิดตัว Athena1 โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานทั้งพลเรือนและกลาโหม โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยีของยุโรป

    Athena1 พัฒนาต่อยอดจาก Rhea1 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นแรกของบริษัทที่ใช้ในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ exascale โดย Athena1 จะมีจำนวนคอร์ตั้งแต่ 16 ถึง 80 คอร์ บนสถาปัตยกรรม Arm Neoverse V1 และมาพร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการเข้ารหัสขั้นสูง รองรับงานที่ต้องการความมั่นคง เช่น การสื่อสารลับ, การวิเคราะห์ข่าวกรอง, การประมวลผลในยานพาหนะทางทหาร และเครือข่ายยุทธวิธี

    แม้จะไม่มีหน่วยความจำ HBM2E เหมือน Rhea1 เนื่องจาก Athena1 ไม่เน้นงาน AI หรือ HPC แต่ยังคงใช้เทคโนโลยี DDR5 และ PCIe 5.0 เพื่อรองรับแบนด์วิดธ์ที่สูงพอสำหรับงานด้านกลาโหมและการประมวลผลภาคสนาม โดยมีจำนวนทรานซิสเตอร์มากถึง 61 พันล้านตัว

    การผลิตชิปจะดำเนินโดย TSMC ในไต้หวัน และมีแผนย้ายขั้นตอนการบรรจุชิปกลับมายังยุโรปในอนาคต เพื่อสร้างระบบอุตสาหกรรมภายในภูมิภาคให้แข็งแรงยิ่งขึ้น โดย Athena1 มีกำหนดวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2027

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    SiPearl เปิดตัว Athena1 โปรเซสเซอร์อธิปไตยยุโรปสำหรับงานพลเรือนและกลาโหม
    ใช้สถาปัตยกรรม Arm Neoverse V1 พร้อมตัวเลือกคอร์ตั้งแต่ 16 ถึง 80 คอร์
    พัฒนาต่อยอดจาก Rhea1 ที่ใช้ในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ JUPITER
    รองรับงานด้านความมั่นคง เช่น การเข้ารหัส, ข่าวกรอง, การประมวลผลในยานพาหนะ
    ไม่มี HBM2E แต่ใช้ DDR5 และ PCIe 5.0 เพื่อรองรับแบนด์วิดธ์สูง
    มีจำนวนทรานซิสเตอร์ 61 พันล้านตัว ผลิตโดย TSMC
    ขั้นตอนการบรรจุชิปจะย้ายกลับมาในยุโรปเพื่อเสริมอุตสาหกรรมภายใน
    วางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในครึ่งหลังของปี 2027
    เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุโรปในการสร้างอธิปไตยด้านเทคโนโลยี

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Arm Neoverse V1 เปิดตัวในปี 2020 และใช้ในงานเซิร์ฟเวอร์และ edge computing
    Rhea1 ใช้ใน JUPITER ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ exascale แห่งแรกของยุโรป
    HBM2E เหมาะกับงาน HPC และ AI แต่ไม่จำเป็นสำหรับงานด้านกลาโหม
    การใช้ PCIe 5.0 ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
    การผลิตโดย TSMC ช่วยให้มั่นใจในคุณภาพ แต่ยังต้องพึ่งพา supply chain ต่างประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/sipearl-unveils-europes-first-dual-use-sovereign-processor-with-80-cores-expected-in-2027-for-government-aerospace-and-defense-applications
    🛡️ “SiPearl เปิดตัว Athena1 — โปรเซสเซอร์อธิปไตยยุโรป 80 คอร์ สำหรับงานพลเรือนและกลาโหม พร้อมวางจำหน่ายปี 2027” ในยุคที่ความมั่นคงทางไซเบอร์และอธิปไตยด้านเทคโนโลยีกลายเป็นประเด็นระดับชาติ SiPearl บริษัทออกแบบโปรเซสเซอร์จากฝรั่งเศสที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป ได้เปิดตัว Athena1 โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานทั้งพลเรือนและกลาโหม โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยีของยุโรป Athena1 พัฒนาต่อยอดจาก Rhea1 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นแรกของบริษัทที่ใช้ในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ exascale โดย Athena1 จะมีจำนวนคอร์ตั้งแต่ 16 ถึง 80 คอร์ บนสถาปัตยกรรม Arm Neoverse V1 และมาพร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการเข้ารหัสขั้นสูง รองรับงานที่ต้องการความมั่นคง เช่น การสื่อสารลับ, การวิเคราะห์ข่าวกรอง, การประมวลผลในยานพาหนะทางทหาร และเครือข่ายยุทธวิธี แม้จะไม่มีหน่วยความจำ HBM2E เหมือน Rhea1 เนื่องจาก Athena1 ไม่เน้นงาน AI หรือ HPC แต่ยังคงใช้เทคโนโลยี DDR5 และ PCIe 5.0 เพื่อรองรับแบนด์วิดธ์ที่สูงพอสำหรับงานด้านกลาโหมและการประมวลผลภาคสนาม โดยมีจำนวนทรานซิสเตอร์มากถึง 61 พันล้านตัว การผลิตชิปจะดำเนินโดย TSMC ในไต้หวัน และมีแผนย้ายขั้นตอนการบรรจุชิปกลับมายังยุโรปในอนาคต เพื่อสร้างระบบอุตสาหกรรมภายในภูมิภาคให้แข็งแรงยิ่งขึ้น โดย Athena1 มีกำหนดวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2027 ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ SiPearl เปิดตัว Athena1 โปรเซสเซอร์อธิปไตยยุโรปสำหรับงานพลเรือนและกลาโหม ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Arm Neoverse V1 พร้อมตัวเลือกคอร์ตั้งแต่ 16 ถึง 80 คอร์ ➡️ พัฒนาต่อยอดจาก Rhea1 ที่ใช้ในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ JUPITER ➡️ รองรับงานด้านความมั่นคง เช่น การเข้ารหัส, ข่าวกรอง, การประมวลผลในยานพาหนะ ➡️ ไม่มี HBM2E แต่ใช้ DDR5 และ PCIe 5.0 เพื่อรองรับแบนด์วิดธ์สูง ➡️ มีจำนวนทรานซิสเตอร์ 61 พันล้านตัว ผลิตโดย TSMC ➡️ ขั้นตอนการบรรจุชิปจะย้ายกลับมาในยุโรปเพื่อเสริมอุตสาหกรรมภายใน ➡️ วางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในครึ่งหลังของปี 2027 ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุโรปในการสร้างอธิปไตยด้านเทคโนโลยี ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Arm Neoverse V1 เปิดตัวในปี 2020 และใช้ในงานเซิร์ฟเวอร์และ edge computing ➡️ Rhea1 ใช้ใน JUPITER ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ exascale แห่งแรกของยุโรป ➡️ HBM2E เหมาะกับงาน HPC และ AI แต่ไม่จำเป็นสำหรับงานด้านกลาโหม ➡️ การใช้ PCIe 5.0 ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ➡️ การผลิตโดย TSMC ช่วยให้มั่นใจในคุณภาพ แต่ยังต้องพึ่งพา supply chain ต่างประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/sipearl-unveils-europes-first-dual-use-sovereign-processor-with-80-cores-expected-in-2027-for-government-aerospace-and-defense-applications
    0 Comments 0 Shares 258 Views 0 Reviews
  • “GPU มูลค่า 568 ล้านดอลลาร์ถูกใช้ขุดคริปโตแทนฝึก AI — EU สอบสวน Northern Data ฐานเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน”

    ยุโรปกำลังสั่นสะเทือน เมื่อหน่วยงานอัยการของสหภาพยุโรป (EPPO) เปิดการสอบสวนบริษัท Northern Data AG จากเยอรมนี หลังพบว่า GPU ประสิทธิภาพสูงกว่า 10,000 ตัวที่ซื้อมาในนามการลงทุนด้าน AI อาจถูกนำไปใช้ขุดคริปโตแทน ซึ่งขัดต่อเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่สวีเดนมอบให้กับธุรกิจ AI

    ในปี 2023 Northern Data ได้ซื้อ Nvidia H100 GPU มูลค่ารวมกว่า €400 ล้าน โดยได้รับการยกเว้น VAT ประมาณ €100 ล้านจากนโยบายสนับสนุน AI ของสวีเดน แต่หลังจากนโยบายเปลี่ยนไปในปีเดียวกัน โดยยกเลิกสิทธิประโยชน์สำหรับธุรกิจขุดคริปโต บริษัทจึงหันมาอ้างว่าใช้ GPU เหล่านี้เพื่อการประมวลผล AI

    อย่างไรก็ตาม นักวิจัยพบว่า GPU เหล่านี้อาจถูกใช้ในศูนย์ข้อมูลที่เคยใช้ขุดคริปโตมาก่อน และมีพฤติกรรมที่ส่อว่าไม่ได้ใช้เพื่อฝึกโมเดล AI จริง ๆ ซึ่งนำไปสู่การสอบสวนในข้อหาเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน โดยมีการบุกค้นสำนักงานในแฟรงก์เฟิร์ตและโบเดน พร้อมควบคุมตัวบุคคล 4 ราย และสอบสวนพนักงานระดับสูงในสวีเดน

    ที่น่าสนใจคือ H100 GPU ไม่เหมาะกับการขุดคริปโตเลย — ราคาสูงมาก, ประสิทธิภาพต่อวัตต์ต่ำ และไม่รองรับอัลกอริธึมที่ใช้ใน Bitcoin หรือ Ethereum หลังปี 2022 ซึ่งทำให้ข้อกล่าวหานี้ดูขัดแย้งกับหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน แต่หากบริษัทมี GPU เหล่านี้อยู่แล้วและมีไฟราคาถูก ก็อาจใช้ขุดเหรียญเล็ก ๆ แบบฉวยโอกาสได้

    Northern Data ยืนยันว่าโครงสร้างพื้นฐานของตนถูกใช้เพื่อ cloud computing เท่านั้น และปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาฟอกเงิน ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า Tether ซึ่งเป็นเจ้าของหลักของ Northern Data กำลังเจรจาขอซื้อกิจการผ่านดีลหุ้นมูลค่ากว่า 1.17 พันล้านดอลลาร์

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Northern Data ถูกสอบสวนฐานเลี่ยงภาษีและฟอกเงินจากการใช้ GPU ผิดวัตถุประสงค์
    ซื้อ Nvidia H100 จำนวน 10,000 ตัว มูลค่ารวม €400 ล้าน พร้อมรับสิทธิยกเว้น VAT €100 ล้าน
    GPU ถูกอ้างว่าใช้เพื่อ AI แต่ถูกสงสัยว่าใช้ขุดคริปโตแทน
    EPPO บุกค้นสำนักงานในแฟรงก์เฟิร์ตและโบเดน พร้อมควบคุมตัว 4 ราย
    สอบสวนพนักงานระดับสูงในสวีเดน และตรวจสอบ 3 บริษัทลูกระหว่างปี 2021–2024
    Northern Data เคยมีประวัติใช้ GPU ขุด Ethereum ก่อนที่ระบบจะเปลี่ยนในปี 2022
    บริษัทยืนยันว่าใช้ GPU เพื่อ cloud computing และไม่ตอบข้อกล่าวหาฟอกเงิน
    Tether เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีข่าวว่า Rumble กำลังเจรจาซื้อกิจการ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    H100 GPU ถูกออกแบบเพื่องาน AI เช่น training LLMs และไม่เหมาะกับการขุดคริปโต
    อัลกอริธึมขุดคริปโต เช่น SHA-256 และ Ethash ใช้การประมวลผลแบบ integer ไม่ใช่ tensor
    ASIC คืออุปกรณ์ที่เหมาะกับการขุด Bitcoin มากกว่า GPU
    Ethereum เปลี่ยนเป็น proof-of-stake ในปี 2022 ทำให้ GPU ไม่จำเป็นอีกต่อไป
    การใช้ GPU ขุดเหรียญเล็ก ๆ อาจทำได้ในระยะสั้น หากมีไฟราคาถูกและอุปกรณ์ว่าง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/usd568-million-of-gpus-allegedly-misused-for-crypto-mining-caught-in-tax-evasion-and-money-laundering-probe-eu-claims-10-000-nvidia-h100-units-acquired-by-northern-data-may-not-have-been-used-for-ai
    💸 “GPU มูลค่า 568 ล้านดอลลาร์ถูกใช้ขุดคริปโตแทนฝึก AI — EU สอบสวน Northern Data ฐานเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน” ยุโรปกำลังสั่นสะเทือน เมื่อหน่วยงานอัยการของสหภาพยุโรป (EPPO) เปิดการสอบสวนบริษัท Northern Data AG จากเยอรมนี หลังพบว่า GPU ประสิทธิภาพสูงกว่า 10,000 ตัวที่ซื้อมาในนามการลงทุนด้าน AI อาจถูกนำไปใช้ขุดคริปโตแทน ซึ่งขัดต่อเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่สวีเดนมอบให้กับธุรกิจ AI ในปี 2023 Northern Data ได้ซื้อ Nvidia H100 GPU มูลค่ารวมกว่า €400 ล้าน โดยได้รับการยกเว้น VAT ประมาณ €100 ล้านจากนโยบายสนับสนุน AI ของสวีเดน แต่หลังจากนโยบายเปลี่ยนไปในปีเดียวกัน โดยยกเลิกสิทธิประโยชน์สำหรับธุรกิจขุดคริปโต บริษัทจึงหันมาอ้างว่าใช้ GPU เหล่านี้เพื่อการประมวลผล AI อย่างไรก็ตาม นักวิจัยพบว่า GPU เหล่านี้อาจถูกใช้ในศูนย์ข้อมูลที่เคยใช้ขุดคริปโตมาก่อน และมีพฤติกรรมที่ส่อว่าไม่ได้ใช้เพื่อฝึกโมเดล AI จริง ๆ ซึ่งนำไปสู่การสอบสวนในข้อหาเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน โดยมีการบุกค้นสำนักงานในแฟรงก์เฟิร์ตและโบเดน พร้อมควบคุมตัวบุคคล 4 ราย และสอบสวนพนักงานระดับสูงในสวีเดน ที่น่าสนใจคือ H100 GPU ไม่เหมาะกับการขุดคริปโตเลย — ราคาสูงมาก, ประสิทธิภาพต่อวัตต์ต่ำ และไม่รองรับอัลกอริธึมที่ใช้ใน Bitcoin หรือ Ethereum หลังปี 2022 ซึ่งทำให้ข้อกล่าวหานี้ดูขัดแย้งกับหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน แต่หากบริษัทมี GPU เหล่านี้อยู่แล้วและมีไฟราคาถูก ก็อาจใช้ขุดเหรียญเล็ก ๆ แบบฉวยโอกาสได้ Northern Data ยืนยันว่าโครงสร้างพื้นฐานของตนถูกใช้เพื่อ cloud computing เท่านั้น และปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาฟอกเงิน ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า Tether ซึ่งเป็นเจ้าของหลักของ Northern Data กำลังเจรจาขอซื้อกิจการผ่านดีลหุ้นมูลค่ากว่า 1.17 พันล้านดอลลาร์ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Northern Data ถูกสอบสวนฐานเลี่ยงภาษีและฟอกเงินจากการใช้ GPU ผิดวัตถุประสงค์ ➡️ ซื้อ Nvidia H100 จำนวน 10,000 ตัว มูลค่ารวม €400 ล้าน พร้อมรับสิทธิยกเว้น VAT €100 ล้าน ➡️ GPU ถูกอ้างว่าใช้เพื่อ AI แต่ถูกสงสัยว่าใช้ขุดคริปโตแทน ➡️ EPPO บุกค้นสำนักงานในแฟรงก์เฟิร์ตและโบเดน พร้อมควบคุมตัว 4 ราย ➡️ สอบสวนพนักงานระดับสูงในสวีเดน และตรวจสอบ 3 บริษัทลูกระหว่างปี 2021–2024 ➡️ Northern Data เคยมีประวัติใช้ GPU ขุด Ethereum ก่อนที่ระบบจะเปลี่ยนในปี 2022 ➡️ บริษัทยืนยันว่าใช้ GPU เพื่อ cloud computing และไม่ตอบข้อกล่าวหาฟอกเงิน ➡️ Tether เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีข่าวว่า Rumble กำลังเจรจาซื้อกิจการ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ H100 GPU ถูกออกแบบเพื่องาน AI เช่น training LLMs และไม่เหมาะกับการขุดคริปโต ➡️ อัลกอริธึมขุดคริปโต เช่น SHA-256 และ Ethash ใช้การประมวลผลแบบ integer ไม่ใช่ tensor ➡️ ASIC คืออุปกรณ์ที่เหมาะกับการขุด Bitcoin มากกว่า GPU ➡️ Ethereum เปลี่ยนเป็น proof-of-stake ในปี 2022 ทำให้ GPU ไม่จำเป็นอีกต่อไป ➡️ การใช้ GPU ขุดเหรียญเล็ก ๆ อาจทำได้ในระยะสั้น หากมีไฟราคาถูกและอุปกรณ์ว่าง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/usd568-million-of-gpus-allegedly-misused-for-crypto-mining-caught-in-tax-evasion-and-money-laundering-probe-eu-claims-10-000-nvidia-h100-units-acquired-by-northern-data-may-not-have-been-used-for-ai
    0 Comments 0 Shares 317 Views 0 Reviews
  • อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศอย่างเป็นทางการว่า สหภาพยุโรปได้ยึดเงินของรัสเซีย 4,000 ล้านยูโร จากดอกเบี้ยที่งอกเงยของทรัพย์สินรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ไปยังยูเครนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ในจำนวนเงิน 4,000 ล้านยูโร ทางสหภาพยุโรปจะหักไว้ 2,000 ล้านยูโร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตโดรน (UAV) ป้อนให้ยูเครน ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างสหภาพยุโรป (EU) กับยูเครน

    ทางด้านรัสเซียได้ออกมาตอบโต้การตัดสินใจของสหภาพยุโรปครั้งนี้อย่างทันที
    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ได้ออกคำเตือนอย่างแข็งกร้าวต่อผู้นำยุโรป ที่กำลังรวมหัวกันยึดทรัพย์สินของรัสเซียอย่างแยบยลและผิดกฎหมาย และรัสเซียยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลหรือประเทศใดก็ตามที่ขโมยเงินของรัสเซียอย่างแน่นอน

    เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้กล่าวว่า รัสเซียกำลังมองถึงความเป็นไปได้ในการอายัดทรัพย์สินของชาติตะวันตกถือมีอยู่ในรัสเซีย
    อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศอย่างเป็นทางการว่า สหภาพยุโรปได้ยึดเงินของรัสเซีย 4,000 ล้านยูโร จากดอกเบี้ยที่งอกเงยของทรัพย์สินรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ไปยังยูเครนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในจำนวนเงิน 4,000 ล้านยูโร ทางสหภาพยุโรปจะหักไว้ 2,000 ล้านยูโร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตโดรน (UAV) ป้อนให้ยูเครน ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างสหภาพยุโรป (EU) กับยูเครน ทางด้านรัสเซียได้ออกมาตอบโต้การตัดสินใจของสหภาพยุโรปครั้งนี้อย่างทันที 👉ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ได้ออกคำเตือนอย่างแข็งกร้าวต่อผู้นำยุโรป ที่กำลังรวมหัวกันยึดทรัพย์สินของรัสเซียอย่างแยบยลและผิดกฎหมาย และรัสเซียยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลหรือประเทศใดก็ตามที่ขโมยเงินของรัสเซียอย่างแน่นอน 👉เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้กล่าวว่า รัสเซียกำลังมองถึงความเป็นไปได้ในการอายัดทรัพย์สินของชาติตะวันตกถือมีอยู่ในรัสเซีย
    0 Comments 0 Shares 337 Views 0 0 Reviews
  • “EU Chips Act 2.0: เมื่อยุโรปยอมรับว่าแผนผลิตชิประดับโลกล้มเหลว — และต้องทุ่มงบเพิ่ม 4 เท่าเพื่อไม่ให้ตกขบวนเทคโนโลยี”

    สหภาพยุโรป (EU) เคยตั้งเป้าหมายไว้สูงลิ่วในปี 2022 ว่าจะครองส่วนแบ่งตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกให้ได้ 20% ภายในปี 2030 ผ่านโครงการ European Chips Act ที่มีงบประมาณกว่า 43,000 ล้านยูโร (ราว 50.4 พันล้านดอลลาร์) แต่ล่าสุด EU ต้องยอมรับว่าเป้าหมายนี้ “ไปไม่ถึง” และกำลังผลักดันเวอร์ชันใหม่ในชื่อ “Chips Act 2.0” โดยเสนอให้เพิ่มงบประมาณเป็น 4 เท่า และปรับยุทธศาสตร์ให้ตรงจุดมากขึ้น

    ข้อมูลล่าสุดจาก European Court of Auditors และกลุ่มพันธมิตร Semicon Coalition ที่นำโดยเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า EU จะสามารถครองตลาดได้เพียง 11.7% ภายในปี 2030 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 9.8% ในปี 2022 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยหนึ่งในสาเหตุหลักคือ Intel ยกเลิกแผนสร้างโรงงานผลิตชิปมูลค่า 30 พันล้านยูโรในเยอรมนี และอีกแห่งในโปแลนด์ ทำให้ความหวังในการดึงผู้ผลิตชิปรายใหญ่เข้าสู่ยุโรปพังทลาย

    Chips Act 2.0 จึงมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนเทคโนโลยีเฉพาะทาง, เร่งการอนุมัติโครงการโครงสร้างพื้นฐาน, และเพิ่มการเข้าถึงเงินทุนและบุคลากรในห่วงโซ่การผลิตชิป โดยมีบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Nvidia, Intel, ASML, STMicroelectronics และ Infineon เข้าร่วมลงนามสนับสนุนแผนใหม่นี้

    แม้ EU จะยังมีความหวังจากโรงงานของ TSMC ที่เมือง Dresden ประเทศเยอรมนี แต่ก็เป็นโครงการขนาดเล็กและไม่ใช่เทคโนโลยีขั้นสูงเท่าที่ใช้ในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ยุโรปยังคงตามหลังในสงครามเทคโนโลยีระดับโลก

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    EU ตั้งเป้าครองตลาดชิปโลก 20% ภายในปี 2030 ผ่าน Chips Act งบ 43,000 ล้านยูโร
    ล่าสุดคาดว่าจะทำได้เพียง 11.7% เพิ่มขึ้นจาก 9.8% ในปี 2022
    Intel ยกเลิกแผนสร้างโรงงานในเยอรมนีและโปแลนด์ ทำให้เป้าหมายสะดุด
    กลุ่ม Semicon Coalition นำโดยเนเธอร์แลนด์ผลักดัน Chips Act 2.0
    เสนอเพิ่มงบประมาณเป็น 4 เท่า และปรับยุทธศาสตร์ให้ตรงจุดมากขึ้น
    บริษัทใหญ่ เช่น Nvidia, Intel, ASML, STMicroelectronics และ Infineon ร่วมลงนามสนับสนุน
    Chips Act 2.0 เน้นการเร่งอนุมัติโครงการ, เพิ่มเงินทุน, และพัฒนาบุคลากร
    TSMC มีโรงงานใน Dresden แต่เป็นโครงการขนาดเล็ก ไม่ใช่เทคโนโลยีขั้นสูง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    สหรัฐฯ ลงทุนมหาศาลผ่าน Chips Act และ Inflation Reduction Act เพื่อดึงผู้ผลิตชิป
    จีน, เกาหลีใต้ และไต้หวันยังคงนำหน้าในด้านการผลิตและเทคโนโลยีชิป
    รถยนต์ยุคใหม่ใช้ชิปมากกว่า 3,000 ตัวต่อคัน ทำให้ความต้องการพุ่งสูง
    การแข่งขันในอุตสาหกรรมชิปเป็นเรื่องของความมั่นคงระดับชาติและเศรษฐกิจ
    EU ยังขาดระบบสนับสนุนแบบรวมศูนย์ ทำให้การลงทุนกระจายและไม่เกิดผลรวม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/eu-pushes-for-chips-act-2-0-investment-as-it-looks-set-to-miss-global-silicon-production-targets-by-a-wide-margin-seeks-quadrupling-of-semiconductor-investment-as-usd50-billion-initiative-flounders
    💥 “EU Chips Act 2.0: เมื่อยุโรปยอมรับว่าแผนผลิตชิประดับโลกล้มเหลว — และต้องทุ่มงบเพิ่ม 4 เท่าเพื่อไม่ให้ตกขบวนเทคโนโลยี” สหภาพยุโรป (EU) เคยตั้งเป้าหมายไว้สูงลิ่วในปี 2022 ว่าจะครองส่วนแบ่งตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกให้ได้ 20% ภายในปี 2030 ผ่านโครงการ European Chips Act ที่มีงบประมาณกว่า 43,000 ล้านยูโร (ราว 50.4 พันล้านดอลลาร์) แต่ล่าสุด EU ต้องยอมรับว่าเป้าหมายนี้ “ไปไม่ถึง” และกำลังผลักดันเวอร์ชันใหม่ในชื่อ “Chips Act 2.0” โดยเสนอให้เพิ่มงบประมาณเป็น 4 เท่า และปรับยุทธศาสตร์ให้ตรงจุดมากขึ้น ข้อมูลล่าสุดจาก European Court of Auditors และกลุ่มพันธมิตร Semicon Coalition ที่นำโดยเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า EU จะสามารถครองตลาดได้เพียง 11.7% ภายในปี 2030 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 9.8% ในปี 2022 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยหนึ่งในสาเหตุหลักคือ Intel ยกเลิกแผนสร้างโรงงานผลิตชิปมูลค่า 30 พันล้านยูโรในเยอรมนี และอีกแห่งในโปแลนด์ ทำให้ความหวังในการดึงผู้ผลิตชิปรายใหญ่เข้าสู่ยุโรปพังทลาย Chips Act 2.0 จึงมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนเทคโนโลยีเฉพาะทาง, เร่งการอนุมัติโครงการโครงสร้างพื้นฐาน, และเพิ่มการเข้าถึงเงินทุนและบุคลากรในห่วงโซ่การผลิตชิป โดยมีบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Nvidia, Intel, ASML, STMicroelectronics และ Infineon เข้าร่วมลงนามสนับสนุนแผนใหม่นี้ แม้ EU จะยังมีความหวังจากโรงงานของ TSMC ที่เมือง Dresden ประเทศเยอรมนี แต่ก็เป็นโครงการขนาดเล็กและไม่ใช่เทคโนโลยีขั้นสูงเท่าที่ใช้ในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ยุโรปยังคงตามหลังในสงครามเทคโนโลยีระดับโลก ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ EU ตั้งเป้าครองตลาดชิปโลก 20% ภายในปี 2030 ผ่าน Chips Act งบ 43,000 ล้านยูโร ➡️ ล่าสุดคาดว่าจะทำได้เพียง 11.7% เพิ่มขึ้นจาก 9.8% ในปี 2022 ➡️ Intel ยกเลิกแผนสร้างโรงงานในเยอรมนีและโปแลนด์ ทำให้เป้าหมายสะดุด ➡️ กลุ่ม Semicon Coalition นำโดยเนเธอร์แลนด์ผลักดัน Chips Act 2.0 ➡️ เสนอเพิ่มงบประมาณเป็น 4 เท่า และปรับยุทธศาสตร์ให้ตรงจุดมากขึ้น ➡️ บริษัทใหญ่ เช่น Nvidia, Intel, ASML, STMicroelectronics และ Infineon ร่วมลงนามสนับสนุน ➡️ Chips Act 2.0 เน้นการเร่งอนุมัติโครงการ, เพิ่มเงินทุน, และพัฒนาบุคลากร ➡️ TSMC มีโรงงานใน Dresden แต่เป็นโครงการขนาดเล็ก ไม่ใช่เทคโนโลยีขั้นสูง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ สหรัฐฯ ลงทุนมหาศาลผ่าน Chips Act และ Inflation Reduction Act เพื่อดึงผู้ผลิตชิป ➡️ จีน, เกาหลีใต้ และไต้หวันยังคงนำหน้าในด้านการผลิตและเทคโนโลยีชิป ➡️ รถยนต์ยุคใหม่ใช้ชิปมากกว่า 3,000 ตัวต่อคัน ทำให้ความต้องการพุ่งสูง ➡️ การแข่งขันในอุตสาหกรรมชิปเป็นเรื่องของความมั่นคงระดับชาติและเศรษฐกิจ ➡️ EU ยังขาดระบบสนับสนุนแบบรวมศูนย์ ทำให้การลงทุนกระจายและไม่เกิดผลรวม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/eu-pushes-for-chips-act-2-0-investment-as-it-looks-set-to-miss-global-silicon-production-targets-by-a-wide-margin-seeks-quadrupling-of-semiconductor-investment-as-usd50-billion-initiative-flounders
    0 Comments 0 Shares 296 Views 0 Reviews
  • ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว ตอนที่ 9 – Swinging State
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว”
    ตอนที่ 9 “Swinging state ? !” (ตอนจบ)
    ตุรกีเพิ่งมีการเลือกตั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2014 เป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปรากฎว่าพรรค AKP ของนาย Erdogan ซึ่งอยู่ในอำนาจมาตั้งแต่ ค.ศ. 2002 ได้อยู่ในอำนาจต่อไป นาย Erdogan ได้ประกาศก่อนการเลือกตั้งว่า ถ้าพรรค AKP ของเขาแพ้ เขาจะเลิกเล่นการเมืองเด็ดขาด เป็นการทิ้งไพ่ตายถูกจังหวะปรากฎว่าพรรค AKP ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นจาก 39% ในปี 2009 เป็น 46% ส่วนพรรคฝ่ายค้านได้ประมาณ 28% AKP ชนะขาดลอย ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้จะถูกพายุ ชื่อ Gulen พัดถล่มใส่ แต่ Erdogan ยังยืนอยู่ได้ ไม่ล้มคว่ำตามความตั้งใจของผู้สร้างพายุ ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของเขา แสดงว่าพายุ Gulan ระดับไม่น่าจะแรงพอที่จะทลายมือเก๋า อย่างนาย Erdogan ได้ หรือมันเป็นเพียง พายุ Gulen 1 พายุ Gulen 2 อาจรอจังหวะก่อตัว อยู่ที่ Langley !
    ตุรกีจะมีการเลือกตั้งอีกครั้ง ในเดือนสิงหาคมนี้ เป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งเดิมเป็นเหมือนตำแหน่งไม้ประดับ แต่ต่อไปอาจจะไม่ใช่เช่นนั้น นาย Erdogan เป็นนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ ค.ศ. 2003 และตามกฎของพรรค AKP เขาหมดสิทธิ์ที่จะได้รับการเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว ส่วนนาย Gul ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ตำแหน่งเขาจะหมดลงในเดือนสิงหาคม ที่จะมีการเลือกตั้งกันนี้
    เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 2014 ได้มีการปิดประตูนั่งจับเข่ากันระหว่างประธานาธิบดี Gul และนายกรัฐมนตรี Erdogan หลังจากนั้น AKP แถลงข่าวว่า ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนสิงหาคมที่จะมาถึงนี้ นาย Gul จะไม่ลงสมัครและพรรค AKP ตกลงส่งนาย Erdogan ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแทน
    แค่ออกข่าวว่านาย Erdogan จะลงแข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี สื่อทั่วภูมิภาคและในตุรกีก็ฟันธงเรียบร้อยแล้วว่า ประธานาธิบดีของตุรกีคนใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม จะเป็นชื่ออื่นไม่ได้ นอกจากชื่อ Erdogan และดูตามแผนการที่วางไว้ นาย Erdogan คงแก้กฎหมายให้ประธานาธิบดีมีอำนาจมากขึ้น เพราะ AKP คุมสภาได้อยู่แล้ว และนาย Erdogan น่าจะเป็นประธานาธิบดีติดต่อไป 2 สมัย New York Time ลงข่าวเมื่อ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2014 ว่า Erdogan น่าจะกลายเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดและนานที่สุดของตุรกี ยิ่งกว่าที่ Attaturk เคยมีเสียอีก แถมบอกว่า แผนการแบบนี้ เดินตามรอยของปูตินแห่งรัสเซียเปี้ยบเลย !
    เดือนสิงหาคมยังมาไม่ถึง แต่อุณหภูมิแถวยุโรปเริ่มร้อนชื้นอย่างรวดเร็วแล้ว ข่าวของนาย Erdogan ที่จะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ทำให้สหภาพยุโรปอารมณ์บูด (อีกแล้ว) EU ไม่สบอารมณ์ นาย Erdogan มาหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องจะใช้จมูกจีนหายใจ แต่ EU ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรกับนาย Erdogan แม้แต่น้อย นอกจากเรื่องที่ตุรกี ยื่นสมัครเป็นสมาชิก EU ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 ใบสมัครยังวางค้างอยู่ข้างโต๊ะ ฝุ่นจับหนาเขรอะ ไม่มีทีท่าว่า EU จะตอบรับประทับตราให้ตุรกีเป็น สมาชิก มีแต่ใบสั่งส่งไปเพิ่ม ให้แก้ไขนี่โน่นไปเรื่อย ๆ เขาว่าตุรกีต้องดำเนินการ ตามเงื่อนไขที่ EU วางไว้ สำหรับตุรกีทั้งหมด 35 ข้อ จนถึงบัดนี้ เพิ่งตกลงกันได้ไปเพียงข้อเดียว
    ตุรกี บอกเศรษฐกิจ เรา ตอนนี้ดีกว่าหลายประเทศใน EU เขาส่งใบสั่งมาผิดที่หรือเปล่านะ ! ?
    เพื่อให้แน่ใจว่า EU ได้รับข้อมูลถูกต้อง หลังจาก AKP ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนา คม มีข่าวลอยลมย้อนไปยุโรปว่า “อันที่จริง ยุโรปต้องการตุรกีมากกว่า ตุรกีต้องการยุโรป” ว่ากันไปตามจริง EU ไม่มีอะไรจะบี้ตุรกีได้เลย ที่สำคัญกองกำลังใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ NATOตั้งอยู่ในตุรกี และอย่าลืมเครื่องเรดาร์ของ NATO“ALTBMD” สำหรับป้องกันยุโรป ที่อเมริกา และ NATOบีบให้ตุรกียอม ก็ยังอยู่บนแผ่นดินตุรกี นี่ยังไม่ได้พูดถึงฐานทัพอเมริกาที่มีอยู่เต็มในตุรกี โดยเฉพาะฐานใหญ่ที่ Incirlik ที่ตุรกีมีสิทธิยกเลิก การให้อเมริกาเข้าใช้ฐานทัพ โดยบอกล่วงหน้า 3 วัน
    คิดดูให้ดี ใครได้ใครเสีย EU และ NATO (รวมทั้งอเมริกาหัวหน้าใหญ่ด้วยนั่นแหละ) อยากจะเปิดแนวรบเพิ่มหรือไง เรื่อง Ukraine ก็ยังไม่จบ รบกับคุณพี่ปูตินของผมก็เหนื่อยแฮ็กแล้ว เจอคุณลูกครึ่ง Erdogan ครึ่งฝรั่ง ครึ่งอาหรับ ครึ่งกล้า ครึ่งกลิ้งบอกได้ว่าไม่หมูครับ
    ผู้นำแถวยุโรป แม้จะไม่สบอารมณ์กับนาย Erdogan แต่จะทำอะไรได้ในเมื่อ ตุรกีตั้งอยู่ตรงนั้น และนาย Erdogan ก็จะอยู่ตรงนั้นไปอีกนานอย่างน้อยที่สุดก็ถึงปี 2019 ! ยกเว้นเสียแต่พายุ Gulen 2 จะก่อตัวได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง จนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนสิงหาคมจะถูกยกเลิก หรือเจอโรคเลื่อน หรือนาย Erdogan จะต้องเลื่อนตัวเองไปอยู่ที่อื่นก่อนหรือหลังวันเลือกตั้ง ! !
    แต่ Erdogan ทุ่มไปสุดตัวแล้ว เขาเลือกเส้นทางเดินของตุรกี และตัวเองแล้ว เขาพร้อมที่จะเป็นประธานาธิบดีของประเทศที่เป็นจุดสำคัญที่สุด ของบริเวณที่กำลังร้อนที่สุดของโลก เขาจะเป็นตัวเหวี่ยงน้ำหนักให้โลกเห็น อเมริกาจะปล่อยให้น้ำหนักนี้ ไปเพิ่มอยู่กับกลุ่มที่อยู่คนละด้านกับตัวเองหรือ
    ดูตัวอย่าง กรณีนาย Marcos ของฟิลิปปินส์, Shah แห่งอิหร่าน, Saddam Hussain ของ Iraq , Qadaffi ของ Libya, Mubarak ของอียิปต์ ฯลฯ เหล่าเด็กสร้างของอเมริกา เมื่อไปถึงจุดหนึ่ง ไม่หงอมือที่เคยเลี้ยง หรือไม่คุ้มกับการลงทุน จบอย่างไร คงพอเดากันได้ อเมริกาหมดประโยชน์กับใคร คนนั้นก็เหลือแต่ป้ายชื่อเป็นอนุสรณ์ อเมริกาใช้ประโยชน์ที่ใดไม่ได้ ประเทศนั้น ก็เหลือแต่ซาก ใครอื่นก็อย่าหวังจะได้ใช้ประโยชน์ในที่นั้นเช่นเดียวกัน
    แต่โลกวันนี้ใช่ว่าเหมือนเมื่อ 20 ปี ก่อน 10 ปี ก่อน 5 ปี ก่อน หรือแม้แต่ปีก่อน ไม่มีอะไรแน่นอน ลองนึกฝันเล่น ๆ ถ้าเหล่าประเทศ swinging states พร้อมใจกันเอาน้ำหนัก ไปอยู่กับฝ่ายตรงกันข้ามกับอเมริกา เราคงได้เห็นอะไรที่เกินกว่าเป็นความขัดแย้งระดับภูมิภาค
    นาย Erdogan สมกับความเป็นนักเอียงหัวตัวกลั่น จนถึงขนาดนี้ ยังคงมีคนไม่แน่ใจว่าเขาจะเอียงหัวไปทางไหน หรือเขาเป็นนกสองหัวตัวจริง เขาแสดงความเก๋า กลิ้ง ได้ทุกกระบวนท่า ล่าสุดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ตุรกีออกข่าวว่าได้เลื่อนการประกาศผลการคัดเลือกการทำจมูกตุรกีเป็นครั้งที่ 4 โดยเลื่อนออกไปถึงวันที่ 30 สิงหาคม อันเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดี จากนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม คนที่นอนหลับไม่สนิทไม่ควรมีชื่อ Erdogan เพียงคนเดียว
    และจากนี้ไป ท่าทีของตุรกีในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ก่อนและหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่มีต่อหลายประเทศในภูมิภาคไม่ว่าจะเป็น ซีเรีย อิรัค อิหร่าน และอิสราเอล ฯลฯ เป็นสิ่งที่ชาวเราจะต้องจับตาดู มันคงจะบอกอะไรได้ไม่น้อยว่า swinging state ตัวสำคัญนี้ จะเอียงไปอยู่ข้างใดของขั้วอำนาจโลก ที่กำลังประเมินและอาจจะไปถึงเป็นการประลองกำลังกันด้วยซ้ำ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
22 กค. 2557
    ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว ตอนที่ 9 – Swinging State นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว” ตอนที่ 9 “Swinging state ? !” (ตอนจบ) ตุรกีเพิ่งมีการเลือกตั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2014 เป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปรากฎว่าพรรค AKP ของนาย Erdogan ซึ่งอยู่ในอำนาจมาตั้งแต่ ค.ศ. 2002 ได้อยู่ในอำนาจต่อไป นาย Erdogan ได้ประกาศก่อนการเลือกตั้งว่า ถ้าพรรค AKP ของเขาแพ้ เขาจะเลิกเล่นการเมืองเด็ดขาด เป็นการทิ้งไพ่ตายถูกจังหวะปรากฎว่าพรรค AKP ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นจาก 39% ในปี 2009 เป็น 46% ส่วนพรรคฝ่ายค้านได้ประมาณ 28% AKP ชนะขาดลอย ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้จะถูกพายุ ชื่อ Gulen พัดถล่มใส่ แต่ Erdogan ยังยืนอยู่ได้ ไม่ล้มคว่ำตามความตั้งใจของผู้สร้างพายุ ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของเขา แสดงว่าพายุ Gulan ระดับไม่น่าจะแรงพอที่จะทลายมือเก๋า อย่างนาย Erdogan ได้ หรือมันเป็นเพียง พายุ Gulen 1 พายุ Gulen 2 อาจรอจังหวะก่อตัว อยู่ที่ Langley ! ตุรกีจะมีการเลือกตั้งอีกครั้ง ในเดือนสิงหาคมนี้ เป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งเดิมเป็นเหมือนตำแหน่งไม้ประดับ แต่ต่อไปอาจจะไม่ใช่เช่นนั้น นาย Erdogan เป็นนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ ค.ศ. 2003 และตามกฎของพรรค AKP เขาหมดสิทธิ์ที่จะได้รับการเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว ส่วนนาย Gul ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ตำแหน่งเขาจะหมดลงในเดือนสิงหาคม ที่จะมีการเลือกตั้งกันนี้ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 2014 ได้มีการปิดประตูนั่งจับเข่ากันระหว่างประธานาธิบดี Gul และนายกรัฐมนตรี Erdogan หลังจากนั้น AKP แถลงข่าวว่า ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนสิงหาคมที่จะมาถึงนี้ นาย Gul จะไม่ลงสมัครและพรรค AKP ตกลงส่งนาย Erdogan ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแทน แค่ออกข่าวว่านาย Erdogan จะลงแข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี สื่อทั่วภูมิภาคและในตุรกีก็ฟันธงเรียบร้อยแล้วว่า ประธานาธิบดีของตุรกีคนใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม จะเป็นชื่ออื่นไม่ได้ นอกจากชื่อ Erdogan และดูตามแผนการที่วางไว้ นาย Erdogan คงแก้กฎหมายให้ประธานาธิบดีมีอำนาจมากขึ้น เพราะ AKP คุมสภาได้อยู่แล้ว และนาย Erdogan น่าจะเป็นประธานาธิบดีติดต่อไป 2 สมัย New York Time ลงข่าวเมื่อ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2014 ว่า Erdogan น่าจะกลายเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดและนานที่สุดของตุรกี ยิ่งกว่าที่ Attaturk เคยมีเสียอีก แถมบอกว่า แผนการแบบนี้ เดินตามรอยของปูตินแห่งรัสเซียเปี้ยบเลย ! เดือนสิงหาคมยังมาไม่ถึง แต่อุณหภูมิแถวยุโรปเริ่มร้อนชื้นอย่างรวดเร็วแล้ว ข่าวของนาย Erdogan ที่จะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ทำให้สหภาพยุโรปอารมณ์บูด (อีกแล้ว) EU ไม่สบอารมณ์ นาย Erdogan มาหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องจะใช้จมูกจีนหายใจ แต่ EU ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรกับนาย Erdogan แม้แต่น้อย นอกจากเรื่องที่ตุรกี ยื่นสมัครเป็นสมาชิก EU ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 ใบสมัครยังวางค้างอยู่ข้างโต๊ะ ฝุ่นจับหนาเขรอะ ไม่มีทีท่าว่า EU จะตอบรับประทับตราให้ตุรกีเป็น สมาชิก มีแต่ใบสั่งส่งไปเพิ่ม ให้แก้ไขนี่โน่นไปเรื่อย ๆ เขาว่าตุรกีต้องดำเนินการ ตามเงื่อนไขที่ EU วางไว้ สำหรับตุรกีทั้งหมด 35 ข้อ จนถึงบัดนี้ เพิ่งตกลงกันได้ไปเพียงข้อเดียว ตุรกี บอกเศรษฐกิจ เรา ตอนนี้ดีกว่าหลายประเทศใน EU เขาส่งใบสั่งมาผิดที่หรือเปล่านะ ! ? เพื่อให้แน่ใจว่า EU ได้รับข้อมูลถูกต้อง หลังจาก AKP ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนา คม มีข่าวลอยลมย้อนไปยุโรปว่า “อันที่จริง ยุโรปต้องการตุรกีมากกว่า ตุรกีต้องการยุโรป” ว่ากันไปตามจริง EU ไม่มีอะไรจะบี้ตุรกีได้เลย ที่สำคัญกองกำลังใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ NATOตั้งอยู่ในตุรกี และอย่าลืมเครื่องเรดาร์ของ NATO“ALTBMD” สำหรับป้องกันยุโรป ที่อเมริกา และ NATOบีบให้ตุรกียอม ก็ยังอยู่บนแผ่นดินตุรกี นี่ยังไม่ได้พูดถึงฐานทัพอเมริกาที่มีอยู่เต็มในตุรกี โดยเฉพาะฐานใหญ่ที่ Incirlik ที่ตุรกีมีสิทธิยกเลิก การให้อเมริกาเข้าใช้ฐานทัพ โดยบอกล่วงหน้า 3 วัน คิดดูให้ดี ใครได้ใครเสีย EU และ NATO (รวมทั้งอเมริกาหัวหน้าใหญ่ด้วยนั่นแหละ) อยากจะเปิดแนวรบเพิ่มหรือไง เรื่อง Ukraine ก็ยังไม่จบ รบกับคุณพี่ปูตินของผมก็เหนื่อยแฮ็กแล้ว เจอคุณลูกครึ่ง Erdogan ครึ่งฝรั่ง ครึ่งอาหรับ ครึ่งกล้า ครึ่งกลิ้งบอกได้ว่าไม่หมูครับ ผู้นำแถวยุโรป แม้จะไม่สบอารมณ์กับนาย Erdogan แต่จะทำอะไรได้ในเมื่อ ตุรกีตั้งอยู่ตรงนั้น และนาย Erdogan ก็จะอยู่ตรงนั้นไปอีกนานอย่างน้อยที่สุดก็ถึงปี 2019 ! ยกเว้นเสียแต่พายุ Gulen 2 จะก่อตัวได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง จนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนสิงหาคมจะถูกยกเลิก หรือเจอโรคเลื่อน หรือนาย Erdogan จะต้องเลื่อนตัวเองไปอยู่ที่อื่นก่อนหรือหลังวันเลือกตั้ง ! ! แต่ Erdogan ทุ่มไปสุดตัวแล้ว เขาเลือกเส้นทางเดินของตุรกี และตัวเองแล้ว เขาพร้อมที่จะเป็นประธานาธิบดีของประเทศที่เป็นจุดสำคัญที่สุด ของบริเวณที่กำลังร้อนที่สุดของโลก เขาจะเป็นตัวเหวี่ยงน้ำหนักให้โลกเห็น อเมริกาจะปล่อยให้น้ำหนักนี้ ไปเพิ่มอยู่กับกลุ่มที่อยู่คนละด้านกับตัวเองหรือ ดูตัวอย่าง กรณีนาย Marcos ของฟิลิปปินส์, Shah แห่งอิหร่าน, Saddam Hussain ของ Iraq , Qadaffi ของ Libya, Mubarak ของอียิปต์ ฯลฯ เหล่าเด็กสร้างของอเมริกา เมื่อไปถึงจุดหนึ่ง ไม่หงอมือที่เคยเลี้ยง หรือไม่คุ้มกับการลงทุน จบอย่างไร คงพอเดากันได้ อเมริกาหมดประโยชน์กับใคร คนนั้นก็เหลือแต่ป้ายชื่อเป็นอนุสรณ์ อเมริกาใช้ประโยชน์ที่ใดไม่ได้ ประเทศนั้น ก็เหลือแต่ซาก ใครอื่นก็อย่าหวังจะได้ใช้ประโยชน์ในที่นั้นเช่นเดียวกัน แต่โลกวันนี้ใช่ว่าเหมือนเมื่อ 20 ปี ก่อน 10 ปี ก่อน 5 ปี ก่อน หรือแม้แต่ปีก่อน ไม่มีอะไรแน่นอน ลองนึกฝันเล่น ๆ ถ้าเหล่าประเทศ swinging states พร้อมใจกันเอาน้ำหนัก ไปอยู่กับฝ่ายตรงกันข้ามกับอเมริกา เราคงได้เห็นอะไรที่เกินกว่าเป็นความขัดแย้งระดับภูมิภาค นาย Erdogan สมกับความเป็นนักเอียงหัวตัวกลั่น จนถึงขนาดนี้ ยังคงมีคนไม่แน่ใจว่าเขาจะเอียงหัวไปทางไหน หรือเขาเป็นนกสองหัวตัวจริง เขาแสดงความเก๋า กลิ้ง ได้ทุกกระบวนท่า ล่าสุดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ตุรกีออกข่าวว่าได้เลื่อนการประกาศผลการคัดเลือกการทำจมูกตุรกีเป็นครั้งที่ 4 โดยเลื่อนออกไปถึงวันที่ 30 สิงหาคม อันเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดี จากนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม คนที่นอนหลับไม่สนิทไม่ควรมีชื่อ Erdogan เพียงคนเดียว และจากนี้ไป ท่าทีของตุรกีในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ก่อนและหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่มีต่อหลายประเทศในภูมิภาคไม่ว่าจะเป็น ซีเรีย อิรัค อิหร่าน และอิสราเอล ฯลฯ เป็นสิ่งที่ชาวเราจะต้องจับตาดู มันคงจะบอกอะไรได้ไม่น้อยว่า swinging state ตัวสำคัญนี้ จะเอียงไปอยู่ข้างใดของขั้วอำนาจโลก ที่กำลังประเมินและอาจจะไปถึงเป็นการประลองกำลังกันด้วยซ้ำ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
22 กค. 2557
    0 Comments 0 Shares 374 Views 0 Reviews
  • “ChatControl: กฎหมายใหม่ของ EU ที่จะสแกนทุกข้อความส่วนตัว — เมื่อการปกป้องเด็กกลายเป็นข้ออ้างในการสอดแนมประชาชน”

    สหภาพยุโรปกำลังผลักดันกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า “ChatControl” หรือชื่อเต็มคือ CSAR (Child Sexual Abuse Regulation) ซึ่งมีเป้าหมายในการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโลกออนไลน์ แต่เบื้องหลังของเจตนาดีนี้ กลับมีข้อเสนอที่อาจเปลี่ยนแปลงสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนยุโรปกว่า 450 ล้านคนอย่างถาวร

    ChatControl จะบังคับให้ทุกแพลตฟอร์มที่มีการสื่อสารระหว่างบุคคล — ไม่ว่าจะเป็นแอปแชตอย่าง Signal, WhatsApp, Telegram ไปจนถึงอีเมล, เกม, โซเชียลมีเดีย, แอปหาคู่, และแม้แต่บริการฝากไฟล์ — ต้องติดตั้งระบบ “Client-Side Scanning” ที่จะสแกนข้อความและภาพก่อนถูกเข้ารหัส ส่งผลให้แม้แต่แอปที่ใช้การเข้ารหัสแบบ End-to-End ก็ไม่สามารถปกป้องข้อมูลได้อีกต่อไป

    ระบบนี้จะตรวจจับ 3 ประเภทของเนื้อหา:
    เนื้อหาที่ผิดกฎหมายที่มีอยู่ในฐานข้อมูล
    เนื้อหาที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายโดยใช้ AI วิเคราะห์ภาพ
    พฤติกรรมการล่อลวงเด็กโดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อความ

    หากพบสิ่งต้องสงสัย ระบบจะรายงานอัตโนมัติไปยังศูนย์กลางของ EU โดยไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ก่อน ซึ่งอาจนำไปสู่การแจ้งความผิดพลาดจำนวนมหาศาล

    แม้จะมีข้ออ้างเรื่องการปกป้องเด็ก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกว่า 600 คนจาก 35 ประเทศได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกคัดค้านกฎหมายนี้ โดยชี้ว่าการสแกนฝั่งผู้ใช้เป็นการทำลายหลักการของการเข้ารหัส และเปิดช่องให้เกิดการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง

    ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ กฎหมายนี้ยังมีข้อยกเว้นให้กับบัญชีของรัฐบาลในกรณี “ความมั่นคงแห่งชาติ” ซึ่งหมายความว่าประชาชนจะถูกสอดแนม แต่รัฐบาลจะไม่ถูกตรวจสอบ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ChatControl คือกฎหมายใหม่ของ EU ที่จะบังคับให้ทุกแพลตฟอร์มสื่อสารต้องสแกนข้อความและภาพของผู้ใช้
    ใช้ระบบ Client-Side Scanning ที่ตรวจสอบเนื้อหาก่อนเข้ารหัส
    ครอบคลุมทุกบริการที่มีการสื่อสาร ไม่ใช่แค่แอปแชต แต่รวมถึงอีเมล, เกม, โซเชียล, ฝากไฟล์ ฯลฯ
    ตรวจจับเนื้อหา 3 ประเภท: เนื้อหาผิดกฎหมาย, เนื้อหาที่อาจผิดกฎหมาย, และพฤติกรรมล่อลวงเด็ก
    หากพบสิ่งต้องสงสัย ระบบจะรายงานอัตโนมัติไปยังศูนย์กลางของ EU
    ไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ก่อนส่งรายงาน
    กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้กับทุกประเทศสมาชิก EU โดยไม่มีข้อยกเว้น
    มีข้อยกเว้นให้กับบัญชีรัฐบาลในกรณีความมั่นคง
    ผู้เชี่ยวชาญกว่า 600 คนร่วมลงนามคัดค้าน โดยชี้ว่าเป็นการทำลายความปลอดภัยของระบบเข้ารหัส

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การสแกนฝั่งผู้ใช้ (Client-Side Scanning) เป็นเทคนิคที่บริษัทอย่าง Apple เคยเสนอ แต่ถูกวิจารณ์จนต้องยกเลิก
    การสแกนก่อนเข้ารหัสถือเป็นการ “เลี่ยง” การเข้ารหัส ไม่ใช่การ “ทำลาย” โดยตรง แต่ผลลัพธ์เหมือนกัน
    การใช้ AI วิเคราะห์ภาพและข้อความมีอัตราความผิดพลาดสูง โดยเฉพาะกับเนื้อหาทางการแพทย์หรือครอบครัว
    การสอดแนมแบบนี้อาจทำให้ผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมการสื่อสาร (chilling effect) และลดเสรีภาพในการแสดงออก
    บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีสแกน เช่น Thorn และ Microsoft PhotoDNA มีผลประโยชน์โดยตรงจากกฎหมายนี้

    https://metalhearf.fr/posts/chatcontrol-wants-your-private-messages/
    🕵️ “ChatControl: กฎหมายใหม่ของ EU ที่จะสแกนทุกข้อความส่วนตัว — เมื่อการปกป้องเด็กกลายเป็นข้ออ้างในการสอดแนมประชาชน” สหภาพยุโรปกำลังผลักดันกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า “ChatControl” หรือชื่อเต็มคือ CSAR (Child Sexual Abuse Regulation) ซึ่งมีเป้าหมายในการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโลกออนไลน์ แต่เบื้องหลังของเจตนาดีนี้ กลับมีข้อเสนอที่อาจเปลี่ยนแปลงสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนยุโรปกว่า 450 ล้านคนอย่างถาวร ChatControl จะบังคับให้ทุกแพลตฟอร์มที่มีการสื่อสารระหว่างบุคคล — ไม่ว่าจะเป็นแอปแชตอย่าง Signal, WhatsApp, Telegram ไปจนถึงอีเมล, เกม, โซเชียลมีเดีย, แอปหาคู่, และแม้แต่บริการฝากไฟล์ — ต้องติดตั้งระบบ “Client-Side Scanning” ที่จะสแกนข้อความและภาพก่อนถูกเข้ารหัส ส่งผลให้แม้แต่แอปที่ใช้การเข้ารหัสแบบ End-to-End ก็ไม่สามารถปกป้องข้อมูลได้อีกต่อไป ระบบนี้จะตรวจจับ 3 ประเภทของเนื้อหา: 🔖 เนื้อหาที่ผิดกฎหมายที่มีอยู่ในฐานข้อมูล 🔖 เนื้อหาที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายโดยใช้ AI วิเคราะห์ภาพ 🔖 พฤติกรรมการล่อลวงเด็กโดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อความ หากพบสิ่งต้องสงสัย ระบบจะรายงานอัตโนมัติไปยังศูนย์กลางของ EU โดยไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ก่อน ซึ่งอาจนำไปสู่การแจ้งความผิดพลาดจำนวนมหาศาล แม้จะมีข้ออ้างเรื่องการปกป้องเด็ก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกว่า 600 คนจาก 35 ประเทศได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกคัดค้านกฎหมายนี้ โดยชี้ว่าการสแกนฝั่งผู้ใช้เป็นการทำลายหลักการของการเข้ารหัส และเปิดช่องให้เกิดการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ กฎหมายนี้ยังมีข้อยกเว้นให้กับบัญชีของรัฐบาลในกรณี “ความมั่นคงแห่งชาติ” ซึ่งหมายความว่าประชาชนจะถูกสอดแนม แต่รัฐบาลจะไม่ถูกตรวจสอบ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ChatControl คือกฎหมายใหม่ของ EU ที่จะบังคับให้ทุกแพลตฟอร์มสื่อสารต้องสแกนข้อความและภาพของผู้ใช้ ➡️ ใช้ระบบ Client-Side Scanning ที่ตรวจสอบเนื้อหาก่อนเข้ารหัส ➡️ ครอบคลุมทุกบริการที่มีการสื่อสาร ไม่ใช่แค่แอปแชต แต่รวมถึงอีเมล, เกม, โซเชียล, ฝากไฟล์ ฯลฯ ➡️ ตรวจจับเนื้อหา 3 ประเภท: เนื้อหาผิดกฎหมาย, เนื้อหาที่อาจผิดกฎหมาย, และพฤติกรรมล่อลวงเด็ก ➡️ หากพบสิ่งต้องสงสัย ระบบจะรายงานอัตโนมัติไปยังศูนย์กลางของ EU ➡️ ไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ก่อนส่งรายงาน ➡️ กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้กับทุกประเทศสมาชิก EU โดยไม่มีข้อยกเว้น ➡️ มีข้อยกเว้นให้กับบัญชีรัฐบาลในกรณีความมั่นคง ➡️ ผู้เชี่ยวชาญกว่า 600 คนร่วมลงนามคัดค้าน โดยชี้ว่าเป็นการทำลายความปลอดภัยของระบบเข้ารหัส ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การสแกนฝั่งผู้ใช้ (Client-Side Scanning) เป็นเทคนิคที่บริษัทอย่าง Apple เคยเสนอ แต่ถูกวิจารณ์จนต้องยกเลิก ➡️ การสแกนก่อนเข้ารหัสถือเป็นการ “เลี่ยง” การเข้ารหัส ไม่ใช่การ “ทำลาย” โดยตรง แต่ผลลัพธ์เหมือนกัน ➡️ การใช้ AI วิเคราะห์ภาพและข้อความมีอัตราความผิดพลาดสูง โดยเฉพาะกับเนื้อหาทางการแพทย์หรือครอบครัว ➡️ การสอดแนมแบบนี้อาจทำให้ผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมการสื่อสาร (chilling effect) และลดเสรีภาพในการแสดงออก ➡️ บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีสแกน เช่น Thorn และ Microsoft PhotoDNA มีผลประโยชน์โดยตรงจากกฎหมายนี้ https://metalhearf.fr/posts/chatcontrol-wants-your-private-messages/
    METALHEARF.FR
    ChatControl wants to scan all your private messages
    The EU is pushing legislation that would scan all our private messages, even in encrypted apps.
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว”
    ตอนที่ 3 “นกหัวเอียง”
    ตุรกีเหมือนเป็นลูกครึ่ง ครึ่งฝรั่ง ครึ่งอาหรับ อยู่ที่ว่าตุรกีจะเอียงหัวไปทางไหน เอียงหัวไปทางซ้าย ก็กลายเป็นพวกฝรั่ง เอียงหัวไปทางขวา ก็กลายเป็นพวกอาหรับ แต่อเมริกาบอกตุรกีอย่างเอียงหัวไปซ้ายที ขวาที บ่อยนัก อเมริกาเวียนหัว
    อเมริกาบอกว่า แม้ตุรกีจะเป็นเพื่อนสนิทมิตรใกล้ แต่ตุรกีมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ซึ่งเหมือนเพื่อนบางคนของอเมริกาในยุโรป (ใครนะ ? )
    ในรายงานวิเคราะห์ของ Council on Foreign Relations Report No. 69 ซึ่งทำโดยคุณนาย Madeline K. Albright (อดีต รมว.ต่างประเทศอเมริกา สมัยนายบุช (ลูก) และพวก) อเมริกายอมรับว่า ความจริงแล้ว ตุรกีไม่เหมือนประเทศใดในโลก ! เป็นทั้งเพื่อนสนิทรู้ใจสาระพัดของอเมริกา ขณะเดียวกัน ก็ทำให้หัวอกอเมริกากลัดหนอง ได้อยู่หลายครั้งเช่นเดียวกัน และมันจะเป็นอยู่เช่นนี้ตลอดไป เพราะสาเหตุลึก ๆ ของความกลัดหนองนี้มาจาก ความไม่ไว้วางใจ ซึ่งกันและกันอย่างแท้จริงของทั้ง 2 ฝ่าย !
    แม้จะคบกันมา 60 ปีแล้ว ร่วมกิจการบนดินใต้ดินกันมาสาระพัด อเมริกาก็ยังอ่านตุรกีไม่ขาด ว่าตกลงตุรกีเป็นนกสองหัวหรือไม่ หรือตุรกีเป็นเพียงลูกครึ่ง ซึ่งมีทั้งความเป็นยุโรป และอาหรับอยู่ในตัว ในขณะที่อเมริกาไม่มีครึ่งไหนอยู่ในตัวเลย แล้วจะเข้าใจหัวอกของคนครึ่งลูกหรือเต็มใบได้อย่างไร
(ไม่เหมือนสมันน้อยนะ 60 ปีก่อน ว่านอนสอนง่าย ให้เดินต๊อก ๆ ตามยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังเดินตามเหมือนเดิม ไม่มีปากไม่มีเสียง น่ารักเสียไม่มี)
    สงครามเย็นจบไปแล้ว แต่หมากล้อมของอเมริกาดูเหมือนจะยังไม่จบ แล้วตุรกีเล่า ยังเป็นหมากให้อเมริกาเดินตามใจชอบเหมือนเดิม ๆ อยู่หรือเปล่า ตกลงหัวของตุรกีอยู่ทางไหนกันแน่ อเมริกาเริ่มแสดงอาการทวงบุญคุณ และตุรกีก็เริ่มแสดงอาการ บุญคุณใช้หมดแล้ว…หรือยังครับนายท่าน?
    ส่วนรายงาน CRS ฉบับวันที่ 27 มี.ค. 2014 บอกว่าตุรกี เริ่มมีการเปลี่ยนท่าที ลดการพึ่งพาอเมริกาลงไปหลายส่วน อาการแบบนี้แปลว่าอะไร เบื่อจะเล่นเป็นตัวประกอบแล้วหรือไง อยากเล่นเป็นตัวเอกบ้างละซิท่า
    อเมริกาตั้งความหวังไว้ว่า เมื่ออเมริกาประกาศ (ลวงโลกว่า) ถอนทหารจาก Iraq และ Afghanistan แล้ว ตุรกีจะต้องเป็นผู้รับไม้ไปทำการแทนต่อ หน้าฉากอเมริกาเล่นบทถอน แต่หลังฉาก ให้ตุรกีเล่นบทเข้าไปคุมพื้นที่แทน ! นายท่านมัวแต่ให้กระผมเล่นอยู่แต่หลังฉาก แล้วอย่างนี้ เมื่อไหร่ผมจะได้เป็นตัวเอกซะ ที เล่นหลังฉากมา 60 ปี แล้วนะขอรับ (โถ หัวอกเดียวกับสมันน้อยเลย ดีว่าสมันน้อย ไม่ต้องไปเก็บกวาดนอกบ้าน แค่เดินตามเขาชี้นิ้วในบ้านเราต๊อกๆ มา 60 ปี ประชาชี ก็ช้ำพอแล้ว พอหรือยัง พอหรือยัง)
    โดยภูมิประเทศที่ตั้ง ทำให้ตุรกีมีโอกาสติดต่อคบค้ากับ หลายประเทศ ไม่ว่าฝั่งยุโรป หรือฝั่งอาหรับ ประเทศที่ตุรกี คบค้ามานาน คือ อิหร่าน และรัสเซีย ทั้ง 3 ประเทศผูกพันธ์กัน ทั้งทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และมีส่วนผสมทางวัฒนธรรม การค้า ภาษา และศาสนาอีกด้วย แม้ว่าหลายครั้ง สัมพันธ์ 3 ประเทศ จะมีตกหลุม ตกรางไปบ้าง แต่ลึก ๆ แล้ว 3 ประเทศนี้ตัดกันไม่ง่าย ขายกันไม่ขาด ตุรกีไม่ปิดบัง มันมีมานานแล้วเพื่อนเก่าน่ะ เขาพวกมีประวัติศาสตร์ มีวัฒนธรรมยาวนาน เป็นอดีตจักรวรรดิด้วยกัน ทั้ง 3 ประเทศ ไม่ใช่ประเทศเกิดใหม่เพิ่งฉลองอิสรภาพ แต่เพื่อนใหม่อย่างอเมริกา ตุรกีก็คบ และดูเหมือนจะไม่สนใจว่า จะทำให้อเมริการู้สึกอย่างไร อเมริการู้สึกและไม่ใช่รู้สึกระดับธรรมดา อเมริกาจับตาส่องกล้องตามสัมพันธ์ของ 3 สหาย ตลอดทุกกระเบียดนิ้ว
    อเมริกายังจำได้ไม่มีวันลืม เมื่อปี ค.ศ. 2010 เกี่ยวกับเรื่อง Israel กับกองเรือที่ Gaza ที่ตุรกีโหวตสวนอเมริกา แต่เรื่องนี้ยังเล็ก สำหรับอเมริกา เมื่อเทียบกับอีกเรื่องในปีเดียวกัน เมื่อ UN Security Council ลงมติดให้สมาชิกคว่ำบาตรอิหร่าน แต่ตุรกี (และบราซิล พร้อมใจกัน) ลงมติสวนทางกับอเมริกา ทั้ง 2 เรื่อง เป็นประเด็นทางยุทธศาสตร์สำคัญของอเมริกาในภูมิภาคนี้
    เหตุการณ์วิกฤติที่ Crimea และ Ukraine ก็เป็นอีกกรณีที่ทำให้อเมริกาจับตาดูแบบไม่กระพริบว่าจะมีส่วนกระทบ หรือเปลี่ยนแปลงสัมพันธ์ระหว่างตุรกี กับรัสเซีย ในทางใดบ้างหรือไม่
    นอกจากนี้ในสายตาของอเมริกา การที่ตุรกีทำท่าออกหน้าเรื่อง Syria เหมือนจะยกทัพไปปราม รัฐบาล Asrad แต่เอาจริงก็แค่ส่งเสบียง ส่งกองกำลัง แบบตีปี๊บให้ดังมากกว่า เป็นไปได้ว่าตุรกีหวังจะให้อเมริกา และ NATO ออกหน้า (อย่าที่แอบคุยกันไว้) แต่เมื่อรัฐบาล Obama กลับลำถอยฉาก ออกมาจาก Syria ตุรกีก็เลยหยุดดูบ้าง ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว อเมริกาหวังจะให้ตุรกีเดินหน้าต่อไป
    ตุรกีหยุดเพราะอเมริกาถอย หรือตุรกีหยุด เพราะรัสเซียและอิหร่าน ไม่(เคย) เดินหน้าเข้าไปขยี้ Syria อเมริกาจึงยังจับตาดูตุรกีต่อไป
    อิหร่านและรัสเซีย เป็นคู่ค้าที่สำคัญของตุรกีในด้านพลังงาน เมื่ออเมริกาและสหภาพยุโรป ประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน ผู้ที่เดือดร้อนจนเหงื่อตกคือตุรกี ตุรกีพึ่งน้ำมันและแก๊ซจากอิหร่าน ห้ามค้าขายกับอิหร่านแล้วจะทำอย่างไร ตุรกีถาม อเมริกาบอก ก็ไม่ต้องซื้อ พูดง่ายนะ
    ตุรกีหน้ามืด หรือ อยากลองของกับอเมริกา หรือนี่คือ ตุรกี “ตัวจริง”
    แม้อเมริกาจะบอกให้ตุรกีเลิกคบกับอิหร่าน แต่ตุรกี โดยรัฐบาล AKP ของนาย Erdogan ยังเดินหน้า ซื้อขายน้ำมันและแก๊ซกับอิหร่านต่อไป ทำทั้งแบบเปิดเผยและปกปิด เพื่อเลี่ยงกฎเกณฑ์การคว่ำบาตรของอเมริกาและสหภาพยุโรป ส่วนหนึ่งที่ตุรกีทำคือ ทำผ่าน Halk Bankasi (People’s Bank) หรือที่เรียกว่า HalkBak ซึ่งเป็นของรัฐบาล อันเป็นต้นเหตุของการถูกกล่าวหาว่ารัฐบาลฉ้อโกง
    เมื่ออิหร่านขายน้ำมันและแก๊สให้ตุรกี ตุรกีจะจ่ายค่าซื้อขายผ่าน Halk Bank โดย Bank ซื้อทองคำ จ่ายเป็นค่าซื้อขายให้อิหร่านอีกต่อ แทนการจ่ายด้วยเงินตรา เพราะอิหร่านถูกห้ามการใช้เงินโอน ผ่านระบบเงินโอนระหว่างประเทศ swift International money system ตามการคว่ำบาตร ตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 ตุรกีเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดกฎการคว่ำบาตร เพราะไม่มีข้อห้ามไม่ให้ห้ามซื้อขาย แร่ธาตุมีค่ากับอิหร่าน
    ไม่นานหลังจากนั้นก็เริ่มมีข่าวว่า Halk Bank และรัฐบาลตุรกีร่วมกันฉ้อโกง ข่าวนี้เริ่มแพร่จากบุคคลในระดับสูงในสังคมตุรกี โดยผู้ที่มีส่วนในการบริหารประเทศตุรกีเองนั่นแหละ เรียกว่าเริ่มนินทากันในระดับสูงก่อนทำข่าวหลุดให้สื่อประโคม !
    เศรษฐกิจของตุรกี เริ่มมีผลกระทบจากการคว่ำบาตรอิหร่าน ทั้งหมดก็เพราะการเดินนโยบายโง่บริสุทธิ์ (หรือหนอนบ่อนไส้ !) ของรัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกี นาย Ahmet Davutoglu ที่แนะนำรัฐบาล AKP ให้ใช้นโยบาย Neo-Ottoman เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เป็น Turkish model Neo-Ottoman ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตันและ NATO
    อันที่จริงตุรกีไม่ได้ใช้สิทธิในฐานะสมาชิก NATOคัดค้าน เมื่อ NATO มีแผนจะถล่ม Libya ซึ่งก็เป็นมิตรเก่าของตุรกีเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ลามไปถึง Syria เมื่อตุรกีเดินเข้าไปถล่ม Syria ตุรกีรู้หรือไม่ว่ามันเป็นกับดัก ที่มีเหยื่อคอยอยู่แล้วหลายตัว เช่น Libya, Syria, Iraq และ Lebanon และจะทำให้ตุรกีเดินห่างจากมิตรเก่าแก่ เช่น อิหร่าน และรัสเซีย ที่ดูเหมือนจะผูกพันธ์กัน แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ
    และตุรกีก็ดูเหมือนไม่ฉุกใจคิด เลยว่า ทำไมรัสเซีย อิหร่าน และจีน จึงรวมตัวกัน จับมือคัดค้าน การถล่ม Syria นอกจากไม่ฉุกใจคิดแล้ว ตุรกี ยังเดินนำหน้าสู่กับดักด้วยตนเอง ด้วยการสนับสนุนทั้งด้านอาวุธ การฝึก การเงิน ให้แก่กบฎซีเรียอีกด้วย นี่เป็นการคิดดอกเบี้ยทบต้นของอเมริกากับตุรกี สำหรับเงินที่ลงทุนไป
    หรือตุรกี กำลังเล่นอะไร?
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
19 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว” ตอนที่ 3 “นกหัวเอียง” ตุรกีเหมือนเป็นลูกครึ่ง ครึ่งฝรั่ง ครึ่งอาหรับ อยู่ที่ว่าตุรกีจะเอียงหัวไปทางไหน เอียงหัวไปทางซ้าย ก็กลายเป็นพวกฝรั่ง เอียงหัวไปทางขวา ก็กลายเป็นพวกอาหรับ แต่อเมริกาบอกตุรกีอย่างเอียงหัวไปซ้ายที ขวาที บ่อยนัก อเมริกาเวียนหัว อเมริกาบอกว่า แม้ตุรกีจะเป็นเพื่อนสนิทมิตรใกล้ แต่ตุรกีมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ซึ่งเหมือนเพื่อนบางคนของอเมริกาในยุโรป (ใครนะ ? ) ในรายงานวิเคราะห์ของ Council on Foreign Relations Report No. 69 ซึ่งทำโดยคุณนาย Madeline K. Albright (อดีต รมว.ต่างประเทศอเมริกา สมัยนายบุช (ลูก) และพวก) อเมริกายอมรับว่า ความจริงแล้ว ตุรกีไม่เหมือนประเทศใดในโลก ! เป็นทั้งเพื่อนสนิทรู้ใจสาระพัดของอเมริกา ขณะเดียวกัน ก็ทำให้หัวอกอเมริกากลัดหนอง ได้อยู่หลายครั้งเช่นเดียวกัน และมันจะเป็นอยู่เช่นนี้ตลอดไป เพราะสาเหตุลึก ๆ ของความกลัดหนองนี้มาจาก ความไม่ไว้วางใจ ซึ่งกันและกันอย่างแท้จริงของทั้ง 2 ฝ่าย ! แม้จะคบกันมา 60 ปีแล้ว ร่วมกิจการบนดินใต้ดินกันมาสาระพัด อเมริกาก็ยังอ่านตุรกีไม่ขาด ว่าตกลงตุรกีเป็นนกสองหัวหรือไม่ หรือตุรกีเป็นเพียงลูกครึ่ง ซึ่งมีทั้งความเป็นยุโรป และอาหรับอยู่ในตัว ในขณะที่อเมริกาไม่มีครึ่งไหนอยู่ในตัวเลย แล้วจะเข้าใจหัวอกของคนครึ่งลูกหรือเต็มใบได้อย่างไร
(ไม่เหมือนสมันน้อยนะ 60 ปีก่อน ว่านอนสอนง่าย ให้เดินต๊อก ๆ ตามยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังเดินตามเหมือนเดิม ไม่มีปากไม่มีเสียง น่ารักเสียไม่มี) สงครามเย็นจบไปแล้ว แต่หมากล้อมของอเมริกาดูเหมือนจะยังไม่จบ แล้วตุรกีเล่า ยังเป็นหมากให้อเมริกาเดินตามใจชอบเหมือนเดิม ๆ อยู่หรือเปล่า ตกลงหัวของตุรกีอยู่ทางไหนกันแน่ อเมริกาเริ่มแสดงอาการทวงบุญคุณ และตุรกีก็เริ่มแสดงอาการ บุญคุณใช้หมดแล้ว…หรือยังครับนายท่าน? ส่วนรายงาน CRS ฉบับวันที่ 27 มี.ค. 2014 บอกว่าตุรกี เริ่มมีการเปลี่ยนท่าที ลดการพึ่งพาอเมริกาลงไปหลายส่วน อาการแบบนี้แปลว่าอะไร เบื่อจะเล่นเป็นตัวประกอบแล้วหรือไง อยากเล่นเป็นตัวเอกบ้างละซิท่า อเมริกาตั้งความหวังไว้ว่า เมื่ออเมริกาประกาศ (ลวงโลกว่า) ถอนทหารจาก Iraq และ Afghanistan แล้ว ตุรกีจะต้องเป็นผู้รับไม้ไปทำการแทนต่อ หน้าฉากอเมริกาเล่นบทถอน แต่หลังฉาก ให้ตุรกีเล่นบทเข้าไปคุมพื้นที่แทน ! นายท่านมัวแต่ให้กระผมเล่นอยู่แต่หลังฉาก แล้วอย่างนี้ เมื่อไหร่ผมจะได้เป็นตัวเอกซะ ที เล่นหลังฉากมา 60 ปี แล้วนะขอรับ (โถ หัวอกเดียวกับสมันน้อยเลย ดีว่าสมันน้อย ไม่ต้องไปเก็บกวาดนอกบ้าน แค่เดินตามเขาชี้นิ้วในบ้านเราต๊อกๆ มา 60 ปี ประชาชี ก็ช้ำพอแล้ว พอหรือยัง พอหรือยัง) โดยภูมิประเทศที่ตั้ง ทำให้ตุรกีมีโอกาสติดต่อคบค้ากับ หลายประเทศ ไม่ว่าฝั่งยุโรป หรือฝั่งอาหรับ ประเทศที่ตุรกี คบค้ามานาน คือ อิหร่าน และรัสเซีย ทั้ง 3 ประเทศผูกพันธ์กัน ทั้งทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และมีส่วนผสมทางวัฒนธรรม การค้า ภาษา และศาสนาอีกด้วย แม้ว่าหลายครั้ง สัมพันธ์ 3 ประเทศ จะมีตกหลุม ตกรางไปบ้าง แต่ลึก ๆ แล้ว 3 ประเทศนี้ตัดกันไม่ง่าย ขายกันไม่ขาด ตุรกีไม่ปิดบัง มันมีมานานแล้วเพื่อนเก่าน่ะ เขาพวกมีประวัติศาสตร์ มีวัฒนธรรมยาวนาน เป็นอดีตจักรวรรดิด้วยกัน ทั้ง 3 ประเทศ ไม่ใช่ประเทศเกิดใหม่เพิ่งฉลองอิสรภาพ แต่เพื่อนใหม่อย่างอเมริกา ตุรกีก็คบ และดูเหมือนจะไม่สนใจว่า จะทำให้อเมริการู้สึกอย่างไร อเมริการู้สึกและไม่ใช่รู้สึกระดับธรรมดา อเมริกาจับตาส่องกล้องตามสัมพันธ์ของ 3 สหาย ตลอดทุกกระเบียดนิ้ว อเมริกายังจำได้ไม่มีวันลืม เมื่อปี ค.ศ. 2010 เกี่ยวกับเรื่อง Israel กับกองเรือที่ Gaza ที่ตุรกีโหวตสวนอเมริกา แต่เรื่องนี้ยังเล็ก สำหรับอเมริกา เมื่อเทียบกับอีกเรื่องในปีเดียวกัน เมื่อ UN Security Council ลงมติดให้สมาชิกคว่ำบาตรอิหร่าน แต่ตุรกี (และบราซิล พร้อมใจกัน) ลงมติสวนทางกับอเมริกา ทั้ง 2 เรื่อง เป็นประเด็นทางยุทธศาสตร์สำคัญของอเมริกาในภูมิภาคนี้ เหตุการณ์วิกฤติที่ Crimea และ Ukraine ก็เป็นอีกกรณีที่ทำให้อเมริกาจับตาดูแบบไม่กระพริบว่าจะมีส่วนกระทบ หรือเปลี่ยนแปลงสัมพันธ์ระหว่างตุรกี กับรัสเซีย ในทางใดบ้างหรือไม่ นอกจากนี้ในสายตาของอเมริกา การที่ตุรกีทำท่าออกหน้าเรื่อง Syria เหมือนจะยกทัพไปปราม รัฐบาล Asrad แต่เอาจริงก็แค่ส่งเสบียง ส่งกองกำลัง แบบตีปี๊บให้ดังมากกว่า เป็นไปได้ว่าตุรกีหวังจะให้อเมริกา และ NATO ออกหน้า (อย่าที่แอบคุยกันไว้) แต่เมื่อรัฐบาล Obama กลับลำถอยฉาก ออกมาจาก Syria ตุรกีก็เลยหยุดดูบ้าง ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว อเมริกาหวังจะให้ตุรกีเดินหน้าต่อไป ตุรกีหยุดเพราะอเมริกาถอย หรือตุรกีหยุด เพราะรัสเซียและอิหร่าน ไม่(เคย) เดินหน้าเข้าไปขยี้ Syria อเมริกาจึงยังจับตาดูตุรกีต่อไป อิหร่านและรัสเซีย เป็นคู่ค้าที่สำคัญของตุรกีในด้านพลังงาน เมื่ออเมริกาและสหภาพยุโรป ประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน ผู้ที่เดือดร้อนจนเหงื่อตกคือตุรกี ตุรกีพึ่งน้ำมันและแก๊ซจากอิหร่าน ห้ามค้าขายกับอิหร่านแล้วจะทำอย่างไร ตุรกีถาม อเมริกาบอก ก็ไม่ต้องซื้อ พูดง่ายนะ ตุรกีหน้ามืด หรือ อยากลองของกับอเมริกา หรือนี่คือ ตุรกี “ตัวจริง” แม้อเมริกาจะบอกให้ตุรกีเลิกคบกับอิหร่าน แต่ตุรกี โดยรัฐบาล AKP ของนาย Erdogan ยังเดินหน้า ซื้อขายน้ำมันและแก๊ซกับอิหร่านต่อไป ทำทั้งแบบเปิดเผยและปกปิด เพื่อเลี่ยงกฎเกณฑ์การคว่ำบาตรของอเมริกาและสหภาพยุโรป ส่วนหนึ่งที่ตุรกีทำคือ ทำผ่าน Halk Bankasi (People’s Bank) หรือที่เรียกว่า HalkBak ซึ่งเป็นของรัฐบาล อันเป็นต้นเหตุของการถูกกล่าวหาว่ารัฐบาลฉ้อโกง เมื่ออิหร่านขายน้ำมันและแก๊สให้ตุรกี ตุรกีจะจ่ายค่าซื้อขายผ่าน Halk Bank โดย Bank ซื้อทองคำ จ่ายเป็นค่าซื้อขายให้อิหร่านอีกต่อ แทนการจ่ายด้วยเงินตรา เพราะอิหร่านถูกห้ามการใช้เงินโอน ผ่านระบบเงินโอนระหว่างประเทศ swift International money system ตามการคว่ำบาตร ตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 ตุรกีเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดกฎการคว่ำบาตร เพราะไม่มีข้อห้ามไม่ให้ห้ามซื้อขาย แร่ธาตุมีค่ากับอิหร่าน ไม่นานหลังจากนั้นก็เริ่มมีข่าวว่า Halk Bank และรัฐบาลตุรกีร่วมกันฉ้อโกง ข่าวนี้เริ่มแพร่จากบุคคลในระดับสูงในสังคมตุรกี โดยผู้ที่มีส่วนในการบริหารประเทศตุรกีเองนั่นแหละ เรียกว่าเริ่มนินทากันในระดับสูงก่อนทำข่าวหลุดให้สื่อประโคม ! เศรษฐกิจของตุรกี เริ่มมีผลกระทบจากการคว่ำบาตรอิหร่าน ทั้งหมดก็เพราะการเดินนโยบายโง่บริสุทธิ์ (หรือหนอนบ่อนไส้ !) ของรัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกี นาย Ahmet Davutoglu ที่แนะนำรัฐบาล AKP ให้ใช้นโยบาย Neo-Ottoman เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เป็น Turkish model Neo-Ottoman ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตันและ NATO อันที่จริงตุรกีไม่ได้ใช้สิทธิในฐานะสมาชิก NATOคัดค้าน เมื่อ NATO มีแผนจะถล่ม Libya ซึ่งก็เป็นมิตรเก่าของตุรกีเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ลามไปถึง Syria เมื่อตุรกีเดินเข้าไปถล่ม Syria ตุรกีรู้หรือไม่ว่ามันเป็นกับดัก ที่มีเหยื่อคอยอยู่แล้วหลายตัว เช่น Libya, Syria, Iraq และ Lebanon และจะทำให้ตุรกีเดินห่างจากมิตรเก่าแก่ เช่น อิหร่าน และรัสเซีย ที่ดูเหมือนจะผูกพันธ์กัน แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ และตุรกีก็ดูเหมือนไม่ฉุกใจคิด เลยว่า ทำไมรัสเซีย อิหร่าน และจีน จึงรวมตัวกัน จับมือคัดค้าน การถล่ม Syria นอกจากไม่ฉุกใจคิดแล้ว ตุรกี ยังเดินนำหน้าสู่กับดักด้วยตนเอง ด้วยการสนับสนุนทั้งด้านอาวุธ การฝึก การเงิน ให้แก่กบฎซีเรียอีกด้วย นี่เป็นการคิดดอกเบี้ยทบต้นของอเมริกากับตุรกี สำหรับเงินที่ลงทุนไป หรือตุรกี กำลังเล่นอะไร? สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
19 กค. 2557
    0 Comments 0 Shares 462 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 3 Emperor Bush !?

    George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ

    เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย
    นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม

    นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย

    Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ

    และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด
    คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO

    ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า !

    เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด

    คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 3 Emperor Bush !? George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า ! เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 Comments 0 Shares 418 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 2 สวรรค์ล่ม

    ความรื่นเริงเฉลิมฉลองมันอายุสั้นจริง ๆ ยังไม่ทันที่การเก็บกวาดซากกำแพงเบอร์ลินให้สะอาดดี วอชิงตันและพวกยุโรปตะวันตก ก็มาพร้อมกับ สวรรค์บนดิน เครื่องมือ ช๊อคทางเศรษฐกิจ

    IMF มาพร้อมกับยาแรงตามสูตร การปฎิรูปตลาดการค้าเสรี (คุ้นกันใหม่คำนี้) บอก แหม ! ประเทศหลังม่านนี่มีตั้งแยะ แยกเป็น 6 ประเทศ ตาม Warsaw Pact (Bulgaria, Czecho, East Germany, Hungary, Poland และ Romania) และอีก 15 ประเทศที่อยู่ในสหภาพโซเวียต ตูจะไปจัดโปรแกรมใหม่ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ 21 โปรแกรม ยังไงไหว เอางี้แล้วกัน เอาสูตรสำเร็จไปใช้แล้วกันนะ Privatization แปรรูปยังไงละคุณน้องหลังม่าน แปรมันให้หมด รัฐวิสาหกิจที่ทำอุตสาหกรรมน่ะ แล้วก็ลดค่าเงินรัสเซี่ยนรูเบิล กับเงินอะไรเรียกไม่ถูก ของหลาย ๆ ประเทศนั่นด้วย ใช้สูตรชุดนี้มันทั้งหมดแหละ แหะ แหะ สำเร็จ เออ ไม่ใช่ เสร็จแล้วครับนายท่าน !

    IMF shock therapy หรือที่สมันน้อยรู้จักกันดี คือ โปรแกรม SAP (Structural Adjustment Policies) ก็เปิดประตูกว้าง ให้นักลงทุนตะวันตกหอบกระดาษสี เขียวตีเครื่องหมายว่า In God We Trust มาเป็นกระสอบ นำโดยนาย George Soros และนักค้าเหล็กหนีคุก ชื่อ Marc Rich (แหม ! พอบอกเป็นพวกคนหนีคุก รีบเดากันเชียวนะ ว่าจะเป็นอีกชื่อนึง อยู่กันคนละเมืองครับ มาไม่ทัน ติดนัดนักร้องอยู่ ฮา ) และธนาคารพวกตะกรุมตระกราม เช่น Credit Suisse และแน่นอนต้องมี Chase เจ้าเก่าของเขามาด้วย ก็ยกทีมกันมา
    นโยบายของ IMF แสนจะเอื้อให้ไอ้พวกหัวขะโมยพวกนี้ มาชี้นิ้ว จิ้มเอา จิ้มเอา เลือกทรัพย์สินประเภทเพชรประดับมงกุฎ ของรัสเซียไปในราคาสตางค์เดียว มันจิ้มซื้อตั้งแต่พลังงานน้ำมัน ไปจนถึงพลูโตเนี่ยม เฮ้อ ! เขียนไปแล้วก็นึกว่าเขียนเรื่อง ปรส. เบื่อครับ ! เรื่องซ้ำซาก เล่นซ้ำซาก แล้วก็ยอมให้เขาต้มซ้ำซาก เมื่อไหร่มันจะมีคนรู้ แล้วรื้อฉากแบบนี้ทิ้งเสียที คนเขียนคงไม่อยู่เขียนเรื่องซ้ำซาก แบบนี้ไปอีกนานหรอก อ่าน ๆ แล้วก็จำกันไว้บ้างนะครับ เล่าให้ลูกหลานฟังกันบ้างว่า รุ่น ปู่ ย่า พ่อ แม่ ถูกเขาต้มมาอย่างไร รุ่นเจ้าก็จะโดนอย่างเดิมแหละ ถ้าไม่ลุกขึ้นตื่นกันเสียที (ปตท. นี่ก้อค้างอยู่ ข่าวว่าเรียกคนที่เป็นที่ปรึกษาการเงินตอนแปรรูป มาถามว่าการแปรรูปเป็นธรรมไหม ราคาถูกต้องไหม ฯลฯ ก็น่าจะเดาคำตอบกันได้ แบบนี้ระวังชาวบ้านเขาจะเรียกว่า เมาหมัดนะครับ ไม่อยากใช้คำแรงกว่านี้)

    กินเนื้อแล้วก็โยนกระดูกติดเนื้อมาให้ พวกที่เคยทำหน้าที่ในรัฐบาล Yeltsin ที่อเมริกาเคยต้มให้ทำการแปรรูป จนรัสเซีย ฉ.ห รอบแรก จำได้ไหมครับ จำไม่ได้ไปเอานิทานเรื่องจริง เรื่องมายากลยุทธ มาอ่านอีกทีนะครับ รายการนี้เขาเรียกว่าแจกรางวัลให้คนขายชาติ มีทุกชาติแหละครับ มากน้อยอีกเรื่องนึง ผมขอแช่งจริง ๆ ยอมบาป อย่ามาท้วง มาต่อว่าผม ใครขายชาติ ผมแช่งจริงๆ

    ผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย Mikhail Gorbachev ได้พยายามที่จะฟื้นสหภาพโซเวี ยตจากนโยบาย Glasnost และ Perestroika แต่ไม่สำเร็จ เขาจึงหันหัวไปทางตะวันตก นาย Bush (คนพ่อ) ปราบปลื้มตบหัว 1 ที แล้วบอกดีมาก รู้ว่าควรทำอย่างไร เพื่อเป็นการตอบแทน เราสัญญาว่า อเมริกาจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ไม่ไปขม้ำประเทศที่เพิ่งหลุดมาจาก Warsaw Pact โอเคไหม ?
    Gorbachev เชื่อน้ำคำของนาย Bush ว่าจะไม่ตระบัดสัตย์ (โถ !) ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ระหว่างที่กำลังชุลมุลกับการเก็บสมบัติส่วนรวมไปเป็นของส่วนตัว นาย Gorbachev เลยลืมให้ นาย Bush ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร วอชิงตันบอกไม่มีปัญหา เราไม่ลืมหรอกน่า ว่าเราพูดอะไรไว้ (ทำหรือไม่ทำอีกเรื่องนึง เป็นประโยคที่นาย Gorbachev ก็คงลืมนึกอีกเช่นเดียวกัน)

    นอกจากลืมทวงสัญญาแล้ว นาย Gorbachev ยังดันไปตกปากรับคำด้วยว่า สหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งบัดนี้น้ำหนักลดหดตัวลงมาเหลือเป็นแค่ประเทศรัสเซียเล็ก ๆ สัญญาว่าจะค่อย ๆ รื้อถอนคลังอาวุธนิวเคลียร์ และตกลงที่จะลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ อีกด้วย อเมริกาและรัสเซีย ตกลงยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่ใช้จรวดยิ่งใส่กัน โดยลงนามในข้อตกลง Anti Ballistic Missile Treaty (ABM) 1972

    แล้วอยู่ดี ๆ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 นายบุช (คนลูก) ก็แจ้งรัสเซียว่า ไอถอนตัวจากสัญญา ABM งี่เง้านั่นแล้วนะ เกลอเอ๋ย นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ที่อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ น่า ! ทุกอย่างมันก็มีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ เพื่อเป็นการเปิดทางให้อเมริกาทิ้งหน่วยงาน US Missile Defense Agency มันน่างงไหมล่ะ !

    รัสเซียบอกมึนวู้ย ! รัสเซียยอมยกเลิก Warsaw Pact คู่สัญญาของ NATO รัสเซียยอมถอนทัพจากยุโรปตะวันออกและบริเวณที่เป็นสหภาพโซเวียตเดิม ทำให้รัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยเป็นของสหภาพโซเวียตกระดี้กระด้า ที่จะเป็นอิสระตามคำโฆษณาขายสินค้าของฝ่ายที่อยู่นอกม่าน เพราะเชื่อว่า ถ้าเข้าไปเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปแล้ว จะมีชีวิตที่ซาบซ่านกว่า Republic of Georgia ก็เป็นหนึ่งในรัฐเล็กรัฐน้อย ที่เคลิ้มกับคำโฆษณาขายสินค้านั้นด้วย

    ส่วนข้อตกลงของวอชิงตัน ว่าจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ของนาย Bush (คนพ่อ) ก็คงเป็นเพียงลมปากที่พัดไปในสายลมจริง ๆ เพราะต่อมา นาย Clinton ก็กลายเป็นคนขี้ลืมไปด้วย อเมริกายังเดินหน้า ล่อหลอกให้ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact ทีละประเทศ ให้เข้ามาอยู่กับ NATO แล้วในที่สุด NATO ก็ขยายปีกมาทางตะวันออก ยาวใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 2 สวรรค์ล่ม ความรื่นเริงเฉลิมฉลองมันอายุสั้นจริง ๆ ยังไม่ทันที่การเก็บกวาดซากกำแพงเบอร์ลินให้สะอาดดี วอชิงตันและพวกยุโรปตะวันตก ก็มาพร้อมกับ สวรรค์บนดิน เครื่องมือ ช๊อคทางเศรษฐกิจ IMF มาพร้อมกับยาแรงตามสูตร การปฎิรูปตลาดการค้าเสรี (คุ้นกันใหม่คำนี้) บอก แหม ! ประเทศหลังม่านนี่มีตั้งแยะ แยกเป็น 6 ประเทศ ตาม Warsaw Pact (Bulgaria, Czecho, East Germany, Hungary, Poland และ Romania) และอีก 15 ประเทศที่อยู่ในสหภาพโซเวียต ตูจะไปจัดโปรแกรมใหม่ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ 21 โปรแกรม ยังไงไหว เอางี้แล้วกัน เอาสูตรสำเร็จไปใช้แล้วกันนะ Privatization แปรรูปยังไงละคุณน้องหลังม่าน แปรมันให้หมด รัฐวิสาหกิจที่ทำอุตสาหกรรมน่ะ แล้วก็ลดค่าเงินรัสเซี่ยนรูเบิล กับเงินอะไรเรียกไม่ถูก ของหลาย ๆ ประเทศนั่นด้วย ใช้สูตรชุดนี้มันทั้งหมดแหละ แหะ แหะ สำเร็จ เออ ไม่ใช่ เสร็จแล้วครับนายท่าน ! IMF shock therapy หรือที่สมันน้อยรู้จักกันดี คือ โปรแกรม SAP (Structural Adjustment Policies) ก็เปิดประตูกว้าง ให้นักลงทุนตะวันตกหอบกระดาษสี เขียวตีเครื่องหมายว่า In God We Trust มาเป็นกระสอบ นำโดยนาย George Soros และนักค้าเหล็กหนีคุก ชื่อ Marc Rich (แหม ! พอบอกเป็นพวกคนหนีคุก รีบเดากันเชียวนะ ว่าจะเป็นอีกชื่อนึง อยู่กันคนละเมืองครับ มาไม่ทัน ติดนัดนักร้องอยู่ ฮา ) และธนาคารพวกตะกรุมตระกราม เช่น Credit Suisse และแน่นอนต้องมี Chase เจ้าเก่าของเขามาด้วย ก็ยกทีมกันมา นโยบายของ IMF แสนจะเอื้อให้ไอ้พวกหัวขะโมยพวกนี้ มาชี้นิ้ว จิ้มเอา จิ้มเอา เลือกทรัพย์สินประเภทเพชรประดับมงกุฎ ของรัสเซียไปในราคาสตางค์เดียว มันจิ้มซื้อตั้งแต่พลังงานน้ำมัน ไปจนถึงพลูโตเนี่ยม เฮ้อ ! เขียนไปแล้วก็นึกว่าเขียนเรื่อง ปรส. เบื่อครับ ! เรื่องซ้ำซาก เล่นซ้ำซาก แล้วก็ยอมให้เขาต้มซ้ำซาก เมื่อไหร่มันจะมีคนรู้ แล้วรื้อฉากแบบนี้ทิ้งเสียที คนเขียนคงไม่อยู่เขียนเรื่องซ้ำซาก แบบนี้ไปอีกนานหรอก อ่าน ๆ แล้วก็จำกันไว้บ้างนะครับ เล่าให้ลูกหลานฟังกันบ้างว่า รุ่น ปู่ ย่า พ่อ แม่ ถูกเขาต้มมาอย่างไร รุ่นเจ้าก็จะโดนอย่างเดิมแหละ ถ้าไม่ลุกขึ้นตื่นกันเสียที (ปตท. นี่ก้อค้างอยู่ ข่าวว่าเรียกคนที่เป็นที่ปรึกษาการเงินตอนแปรรูป มาถามว่าการแปรรูปเป็นธรรมไหม ราคาถูกต้องไหม ฯลฯ ก็น่าจะเดาคำตอบกันได้ แบบนี้ระวังชาวบ้านเขาจะเรียกว่า เมาหมัดนะครับ ไม่อยากใช้คำแรงกว่านี้) กินเนื้อแล้วก็โยนกระดูกติดเนื้อมาให้ พวกที่เคยทำหน้าที่ในรัฐบาล Yeltsin ที่อเมริกาเคยต้มให้ทำการแปรรูป จนรัสเซีย ฉ.ห รอบแรก จำได้ไหมครับ จำไม่ได้ไปเอานิทานเรื่องจริง เรื่องมายากลยุทธ มาอ่านอีกทีนะครับ รายการนี้เขาเรียกว่าแจกรางวัลให้คนขายชาติ มีทุกชาติแหละครับ มากน้อยอีกเรื่องนึง ผมขอแช่งจริง ๆ ยอมบาป อย่ามาท้วง มาต่อว่าผม ใครขายชาติ ผมแช่งจริงๆ ผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย Mikhail Gorbachev ได้พยายามที่จะฟื้นสหภาพโซเวี ยตจากนโยบาย Glasnost และ Perestroika แต่ไม่สำเร็จ เขาจึงหันหัวไปทางตะวันตก นาย Bush (คนพ่อ) ปราบปลื้มตบหัว 1 ที แล้วบอกดีมาก รู้ว่าควรทำอย่างไร เพื่อเป็นการตอบแทน เราสัญญาว่า อเมริกาจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ไม่ไปขม้ำประเทศที่เพิ่งหลุดมาจาก Warsaw Pact โอเคไหม ? Gorbachev เชื่อน้ำคำของนาย Bush ว่าจะไม่ตระบัดสัตย์ (โถ !) ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ระหว่างที่กำลังชุลมุลกับการเก็บสมบัติส่วนรวมไปเป็นของส่วนตัว นาย Gorbachev เลยลืมให้ นาย Bush ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร วอชิงตันบอกไม่มีปัญหา เราไม่ลืมหรอกน่า ว่าเราพูดอะไรไว้ (ทำหรือไม่ทำอีกเรื่องนึง เป็นประโยคที่นาย Gorbachev ก็คงลืมนึกอีกเช่นเดียวกัน) นอกจากลืมทวงสัญญาแล้ว นาย Gorbachev ยังดันไปตกปากรับคำด้วยว่า สหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งบัดนี้น้ำหนักลดหดตัวลงมาเหลือเป็นแค่ประเทศรัสเซียเล็ก ๆ สัญญาว่าจะค่อย ๆ รื้อถอนคลังอาวุธนิวเคลียร์ และตกลงที่จะลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ อีกด้วย อเมริกาและรัสเซีย ตกลงยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่ใช้จรวดยิ่งใส่กัน โดยลงนามในข้อตกลง Anti Ballistic Missile Treaty (ABM) 1972 แล้วอยู่ดี ๆ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 นายบุช (คนลูก) ก็แจ้งรัสเซียว่า ไอถอนตัวจากสัญญา ABM งี่เง้านั่นแล้วนะ เกลอเอ๋ย นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ที่อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ น่า ! ทุกอย่างมันก็มีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ เพื่อเป็นการเปิดทางให้อเมริกาทิ้งหน่วยงาน US Missile Defense Agency มันน่างงไหมล่ะ ! รัสเซียบอกมึนวู้ย ! รัสเซียยอมยกเลิก Warsaw Pact คู่สัญญาของ NATO รัสเซียยอมถอนทัพจากยุโรปตะวันออกและบริเวณที่เป็นสหภาพโซเวียตเดิม ทำให้รัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยเป็นของสหภาพโซเวียตกระดี้กระด้า ที่จะเป็นอิสระตามคำโฆษณาขายสินค้าของฝ่ายที่อยู่นอกม่าน เพราะเชื่อว่า ถ้าเข้าไปเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปแล้ว จะมีชีวิตที่ซาบซ่านกว่า Republic of Georgia ก็เป็นหนึ่งในรัฐเล็กรัฐน้อย ที่เคลิ้มกับคำโฆษณาขายสินค้านั้นด้วย ส่วนข้อตกลงของวอชิงตัน ว่าจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ของนาย Bush (คนพ่อ) ก็คงเป็นเพียงลมปากที่พัดไปในสายลมจริง ๆ เพราะต่อมา นาย Clinton ก็กลายเป็นคนขี้ลืมไปด้วย อเมริกายังเดินหน้า ล่อหลอกให้ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact ทีละประเทศ ให้เข้ามาอยู่กับ NATO แล้วในที่สุด NATO ก็ขยายปีกมาทางตะวันออก ยาวใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 Comments 0 Shares 420 Views 0 Reviews
  • มีผลสํารวจหนึ่งที่น่าสนใจ และเกี่ยวกับประเทศไทยของเรา ซึ่งเป็นผลสำรวจจาก Democracy perception index 2025 ซึ่งถือเป็นการสำรวจด้านประชาธิปไตยประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดทำโดย Latana ร่วมกับ Alliance of Democracies
    .
    มีคำถามที่น่าสนจอยู่ข้อหนึ่ง “หากประเทศคุณโดนต่างชาติโจมตี คุณจะยอมมาสู้เพื่อปกป้องประเทศมั้ย?”
    .
    ผลการสำรวจแบ่งตามสี โดยที่สีนํ้าตาลยิ่งเข้มมาก ยิ่งพร้อมอาสาสู้
    ส่วนสีฟ้า แทนด้วยประชาชนที่ไม่พร้อมอาสาสู้
    ประมาณ 70% คนไทยวัย 18-55 ปี ตอบ พร้อมอาสาสู้!
    เวียดนาม อินเดีย เเละกลุ่มประเทศ Africa ตอนบนพร้อมสู้เช่นกัน
    น่าสนใจตรงที่ประเทศที่ไม่พร้อมสู้ กลับเป็นประเทศที่เน้นทำสงครามอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ซึ่งรวมถึงประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปหรือ EU ส่วนใหญ่ประชาชนก็ไม่ขอเอาชีวิตเข้าเเรก!
    .

    อีกหนึ่งผลสำรวจคือ:
    ประชาชนที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ให้คะแนนประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล "ย่ำแย่มากๆ"

    เปรียบเทียบกับประเทศจีนที่ประชาชนมีให้คะแนนประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลดีมาก
    .
    https://allianceofdemocracies.org/democracy-perception-index
    มีผลสํารวจหนึ่งที่น่าสนใจ และเกี่ยวกับประเทศไทยของเรา ซึ่งเป็นผลสำรวจจาก Democracy perception index 2025 ซึ่งถือเป็นการสำรวจด้านประชาธิปไตยประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดทำโดย Latana ร่วมกับ Alliance of Democracies . มีคำถามที่น่าสนจอยู่ข้อหนึ่ง “หากประเทศคุณโดนต่างชาติโจมตี คุณจะยอมมาสู้เพื่อปกป้องประเทศมั้ย?” . ผลการสำรวจแบ่งตามสี โดยที่สีนํ้าตาลยิ่งเข้มมาก ยิ่งพร้อมอาสาสู้ ส่วนสีฟ้า แทนด้วยประชาชนที่ไม่พร้อมอาสาสู้ 👉ประมาณ 70% คนไทยวัย 18-55 ปี ตอบ พร้อมอาสาสู้! 👉เวียดนาม อินเดีย เเละกลุ่มประเทศ Africa ตอนบนพร้อมสู้เช่นกัน 👉น่าสนใจตรงที่ประเทศที่ไม่พร้อมสู้ กลับเป็นประเทศที่เน้นทำสงครามอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ซึ่งรวมถึงประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปหรือ EU ส่วนใหญ่ประชาชนก็ไม่ขอเอาชีวิตเข้าเเรก! 😂 . อีกหนึ่งผลสำรวจคือ: 👉ประชาชนที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ให้คะแนนประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล "ย่ำแย่มากๆ" 👉เปรียบเทียบกับประเทศจีนที่ประชาชนมีให้คะแนนประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลดีมาก . https://allianceofdemocracies.org/democracy-perception-index
    0 Comments 0 Shares 358 Views 0 Reviews
  • “EU เรียกสอบ Apple, Google, Microsoft และ Booking — หวั่นแพลตฟอร์มกลายเป็นแหล่งหลอกลวงการเงิน”

    เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2025 สหภาพยุโรป (EU) ได้ส่งคำร้องขอข้อมูลอย่างเป็นทางการไปยังบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ได้แก่ Apple, Google, Microsoft และ Booking.com เพื่อสอบถามว่าแต่ละบริษัทมีมาตรการอย่างไรในการป้องกันการหลอกลวงทางการเงินบนแพลตฟอร์มของตน ภายใต้กฎหมาย Digital Services Act (DSA) ซึ่งเป็นกฎหมายหลักของ EU ที่บังคับให้แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาผิดกฎหมายและการใช้งานที่เป็นอันตราย

    EU กังวลว่า App Store และ Google Play อาจถูกใช้สร้างแอปปลอมที่แอบอ้างเป็นบริการธนาคารจริง หรือว่า Bing และ Booking อาจเผยแพร่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์หลอกลวง เช่น การจองที่พักปลอมหรือการเสนอธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะในยุคที่ AI ทำให้การสร้างเนื้อหาหลอกลวงมีความแนบเนียนและแพร่กระจายได้รวดเร็ว

    แม้คำร้องนี้จะยังไม่ใช่การเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็น “ขั้นตอนสำคัญ” ที่อาจนำไปสู่การตรวจสอบภายใต้ DSA และมีโอกาสถูกปรับสูงสุดถึง 6% ของรายได้ทั่วโลก หากพบว่าบริษัทไม่สามารถควบคุมเนื้อหาหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    บริษัทต่าง ๆ ได้ตอบสนองต่อคำร้องนี้ เช่น Google ระบุว่าได้บล็อกผลการค้นหาที่เป็นสแกมหลายร้อยล้านรายการต่อวัน ส่วน Booking เปิดเผยว่าระหว่างปี 2023–2024 ได้ลดจำนวนการจองปลอมจาก 1.5 ล้านรายการเหลือเพียง 250,000 รายการ

    การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี Donald Trump ขู่ว่าจะใช้มาตรการทางการค้าเพื่อตอบโต้ หากเห็นว่า EU ตั้งเป้าหมายเล่นงานบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันอย่างไม่เป็นธรรม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/24/eu-queries-apple-google-microsoft-over-financial-scams
    🌐 “EU เรียกสอบ Apple, Google, Microsoft และ Booking — หวั่นแพลตฟอร์มกลายเป็นแหล่งหลอกลวงการเงิน” เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2025 สหภาพยุโรป (EU) ได้ส่งคำร้องขอข้อมูลอย่างเป็นทางการไปยังบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ได้แก่ Apple, Google, Microsoft และ Booking.com เพื่อสอบถามว่าแต่ละบริษัทมีมาตรการอย่างไรในการป้องกันการหลอกลวงทางการเงินบนแพลตฟอร์มของตน ภายใต้กฎหมาย Digital Services Act (DSA) ซึ่งเป็นกฎหมายหลักของ EU ที่บังคับให้แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาผิดกฎหมายและการใช้งานที่เป็นอันตราย EU กังวลว่า App Store และ Google Play อาจถูกใช้สร้างแอปปลอมที่แอบอ้างเป็นบริการธนาคารจริง หรือว่า Bing และ Booking อาจเผยแพร่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์หลอกลวง เช่น การจองที่พักปลอมหรือการเสนอธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะในยุคที่ AI ทำให้การสร้างเนื้อหาหลอกลวงมีความแนบเนียนและแพร่กระจายได้รวดเร็ว แม้คำร้องนี้จะยังไม่ใช่การเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็น “ขั้นตอนสำคัญ” ที่อาจนำไปสู่การตรวจสอบภายใต้ DSA และมีโอกาสถูกปรับสูงสุดถึง 6% ของรายได้ทั่วโลก หากพบว่าบริษัทไม่สามารถควบคุมเนื้อหาหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทต่าง ๆ ได้ตอบสนองต่อคำร้องนี้ เช่น Google ระบุว่าได้บล็อกผลการค้นหาที่เป็นสแกมหลายร้อยล้านรายการต่อวัน ส่วน Booking เปิดเผยว่าระหว่างปี 2023–2024 ได้ลดจำนวนการจองปลอมจาก 1.5 ล้านรายการเหลือเพียง 250,000 รายการ การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี Donald Trump ขู่ว่าจะใช้มาตรการทางการค้าเพื่อตอบโต้ หากเห็นว่า EU ตั้งเป้าหมายเล่นงานบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันอย่างไม่เป็นธรรม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/24/eu-queries-apple-google-microsoft-over-financial-scams
    WWW.THESTAR.COM.MY
    EU queries Apple, Google, Microsoft over financial scams
    The European Union on Sept 23 demanded Big Tech players including Apple and Google explain what action they are taking against financial scams online, as Brussels seeks to show it is not shying away from enforcing its rules.
    0 Comments 0 Shares 249 Views 0 Reviews
  • ~เปิดลับ การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัติร์ย์ ตั้งแต่ปี2550เป็นต้นมา
    ==================

    ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์
    อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    =================================

    นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา การบ่อนทำลายสถาบันสูงสุด…เกิดขึ้นมากผิดปกติ …มีการเปิดเผย… ไม่เกรงกลัว…โดย กลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์…ไม่เพียงเคลื่อนไหวในประเทศเท่านั้น

    …แต่ยังไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ …โดยเฉพาะในสหรัฐ

    ~ ด้วยการป้อนชุดข้อมูล…ที่ดูเหมือนจริง…แต่เป็นความเท็จ …ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของนักล็อบบี้…จากสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียง…และบริษัทประชาสัมพันธ์ …ที่ถูกใครบางคนจ้างไว้ 3 บริษัท บริษัทละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 30.3 ล้านบาท)

    ~ เพื่อไปล็อบบี้…สมาชิกรัฐสภา…และรัฐบาลอเมริกัน…เพื่อผลทางการเมืองของตน… อย่างไรก็ดี …ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น… คือ เกิดกระแสต่อต้านสถาบันกษัตริย์ในหมู่นักการเมืองอเมริกันมากขึ้น…อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

    ~ ฝ่ายที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทยในสหรัฐ…ทวีความเข้มแข็งมากขึ้น… มีการสร้างเว็บไซต์ในรูปแบบหลากหลาย …เขียนบทความภาษาต่างๆ… ซึ่งส่วนใหญ่มาจากข้อเขียนของคนอเมริกัน 2 คน คนหนึ่ง…คือ

    - เจ.เค. แห่งคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ (Council on Foreign Relations) อันทรงอิทธิพลในสหรัฐ ที่ เจ.เค. ได้เขียนบทความ…โจมตีสถาบันกษัตริย์ และยกย่องเชิดชูฝ่ายตรงข้ามสถาบันกษัตริย์ว่า เป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" สลับกันมาหลายปีแล้ว

    - อีกคนหนึ่ง คือ เอ.เอ็ม.เอ็ม. ที่ยอมรับว่า… ได้รับการว่าจ้าง…ให้มาทำงานด้านนี้ และ…เป็นคนที่นำเอาคดีของ โจ กอร์ดอน และ อำพล ตั้งนพกุล หรือ “อากง” มาเขียนโจมตี ม.112 …เพื่อให้พาดพิงไปถึงพระมหากษัตริย์ไทย ในรัชกาลที่ 9

    ~ในความเป็นจริง… คนพวกนี้…ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย… แต่ได้รับข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ชาวไทย…สายสาธารณรัฐ…ที่คนไทยรู้จักดี

    ~ ในกลางปี 2556 …นักล็อบบี้พวกนี้…วางแผนผลักดันให้มีการอภิปรายเชิงวิชาการ…ในที่ประชุมประจำปี…ของสมาคมเอเชียศึกษา (Association of Asian Studies)… ซึ่งมีคนไทย…ที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์…มีอิทธิพลอยู่

    ~ การอภิปรายดังกล่าว…มีเป้าหมาย…มุ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์ไทย…ในรัชกาลที่ 9 เป็นการเฉพาะ …รวมทั้ง…มีแผนตีพิมพ์หนังสืออีกเล่มหนึ่ง…โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐ ……ที่ผู้เขียนอ้างหลักฐาน…จากห้องสมุดมหาวิทยาลัย
    ……รัฐสภาของสหรัฐ ……ที่ดูเผินๆ แล้วน่าเชื่อถือ …หรือเลือกเฉพาะส่วนที่สนับสนุนความคิดของตน…… เพื่อหาทางทำลายความเชื่อถือพระมหากษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 9

    ~ ก่อนหน้านี้…เมื่อปี 2554 …ในวาระครบ 7 รอบ 84 พรรษา…ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 …นักล็อบบี้อเมริกัน…ได้ส่งชุดข้อมูล…ที่ปั้นแต่งขึ้น…จนทำให้สมาชิกสภาสหรัฐหลงเชื่อ

    ~ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ…พยายามหลีกเลี่ยง…ไม่ส่งหนังสือถวายพระพร…ตามที่เคยปฏิบัติมา …จนสภาสูง…ต้องส่งหนังสือถวายพระพรแทน ……สะท้อนให้เห็นว่า…… นักล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน……ทำงานให้กับนายจ้างคนไทยที่ไม่ชอบสถาบันกษัตริย์อย่างได้ผล ……ทำให้รัฐสภาชุดก่อนเข้าใจผิด …และต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทย… ตกทอดมาถึงสภาใหม่ชุดที่ 113 ในปัจจุบัน

    ~ ไม่เพียงแต่เท่านั้น …สถาบันบางแห่งของสหรัฐ …เช่น กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National Endowment for Democracy) ยังจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐ……คิดเป็นเงินไทยกว่า 1,500 ล้านบาท และ…อีกโครงการเป็นเงิน 200-300 ล้านบาท ……ให้กับกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ …ตามที่กลุ่มพวกนี้ร้องขอมา

    ~ โดยอ้างว่า…เพื่อนำไปใช้ในการให้ความรู้ประชาชนในการพัฒนาประชาธิไตย แต่…กลับนำไปสร้างสื่อและเว็บไซต์ ปลุกระดม โฆษณาชวนเชื่อให้คนไทยบางกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะ เป็นสถาบันที่มีสิทธิเหนือประชาชน

    ~ นักล็อบบี้เหล่านี้…ได้สร้างข้อมูลขึ้นมาชุดหนึ่ง…หรือหลายชุด ……และไปเคลื่อนไหวชักจูง… ชี้นำ… โน้มน้าว…ให้สมาชิกรัฐสภา และสถาบันอื่นของสหรัฐ เชื่อในวาทะกรรมที่ว่า

    ~ สถาบันสูงสุดของไทย หรือ สถาบันกษัตริย์นั้น…เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ……สถาบันกษัตริย์ไทย…ทำลายสิทธิมนุษยชน …อ้างว่า…ปัญหาของเมืองไทย……ไม่ใช่เรื่องการเมือง…… แต่เป็นปัญหาการสืบราชสมบัติ ……ที่กษัตริย์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาน……เพื่อจะเสนอให้ใครบางคนเป็น “ทางออก” ของชาติ (จากการเลือกตั้ง เพื่อเป็นประมุขของรัฐ หรือ เป็นประธานาธิบดี นั่นเอง)

    ~ พวกนี้…พยายามป้อนข้อมูล…ให้รัฐสภาอเมริกันเชื่อว่า “สถาบันไม่สู้แล้ว” เพราะ…ถ้าสถาบันไม่สู้ …สหรัฐก็ไม่มีทางเป็นอื่น…นอกจากจะยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตย…ที่อยู่ตรงข้ามกับสถาบันกษัตริย์… และเป็นการส่งสัญญานไปยังประเทศ…ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน…ที่สนับสนุนสถาบันสูงสุด ตลอดมา …หากสหรัฐ…และประเทศเหล่านี้…สรุปว่า ฝ่ายสถาบันกษัตริย์แพ้แน่ …สหรัฐและประเทศเหล่านี้…ซึ่งคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศเขาเป็นสำคัญ…ก็ต้องเข้าข้างฝ่ายชนะ ที่ถือเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย"

    ~ อย่างไรก็ดี …ฝ่ายสถาบันกษัตริย์…ส่งสัญญาน…มาหลายครั้งแล้วว่า “ยังสู้” และ “ไม่ยอมแพ้” โดยเฉพาะ…ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555 ที่ประชาชนชาวไทย…ได้ไปชุมนุมที่ลานพระบรมรูปฯ อย่างมืดฟ้ามัวดิน…เพื่อเข้าเฝ้าถวายพระพร …สะท้อนให้เห็นว่า …ประชาชนพร้อมที่จะสู้เคียงข้าง แม้จะปรากฏ “แรงเฉื่อย” ในสถาบันทหาร และ รัฐบาลในยุคนั้นก็ตาม จึงมีแต่ประชาชนเท่านั้น…ที่จะเป็นกำแพงป้องกันสถาบันสูงสุดของประเทศ……ให้พ้นจากการคุกคามจากฝ่ายบ่อนทำลายในและนอกประเทศได้

    ~ รัฐบาลชุดก่อน…เคยให้ทุนมหาวิทยาลัยดังในอเมริกา …อาทิ คอร์แนล วิสคอนซิน เพนซิลเวเนีย ยูซีแอลเอ. จอห์น ฮอพกินส์ วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสร้าง “ศูนย์ไทยศึกษา” และ “เพื่อนประเทศไทย” เพื่อให้เข้าใจสถาบันกษัตริย์ของไทย แต่…ปรากฏว่า ……ศูนย์เหล่านี้……กลายเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่การต่อต้านสถาบันสูงสุดไปหมด ……และอาจขยายเครือข่ายกว้างขวางมากขึ้น…… ไปยังออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปอีกด้วย

    ~ ไทยถูกคุกคาม…ด้วยสงครามยุคใหม่ …ทั้งสงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare) เช่น การก่อความรุนแรงช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 และ…สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงครามทุน และ สงครามไซเบอร์ …สงครามทั้งสามนี้…มีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐ …แต่มีสนามรบอยู่ทั่วโลก

    ~ ในไทย สหรัฐต้องการใช้สนามบินอู่ตะเภา…เป็น Global Transpark ตอบสนองยุทธศาสตร์ของสหรัฐ ในภูมิภาคนี้ …มีข่าวว่า สหรัฐได้ส่งทหารรับจ้าง ที่เป็นทหารผ่านศึกแบบแรมโบ้ …ที่เรียกว่า “แบล็ควอเตอร์” ประมาณ 5-6 ชุดมาประจำอยู่ในไทย …โดยแต่ละคนได้รับค่าจ้างปีละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ …เบี้ยเลี้ยงต่างหาก …เพื่อใช้ในการปฏิบัติการลับ (Covert Action) ตามนโยบายของสหรัฐ …ซึ่งอเมริกาถนัดในเรื่องพวกนี้มาก …และประสบความสำเร็จในละตินอเมริกามาแล้ว

    ~ อันตรายที่เกิดขึ้น…ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น……เป็นเรื่องจริง…และหนักหนา ……ชาติและสถาบัน……กำลังเสี่ยงอันตรายอย่างคาดไม่ถึง ……สิ่งที่เห็นทั้งในไทยและในต่างประเทศ…เป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ที่โผล่เหนือน้ำเพียง 1 ส่วน แต่อีก 9 ส่วนอยู่ใต้น้ำ

    ~ บทความนี้……ไม่ต้องการให้คนไทย…ไปต่อต้านสหรัฐ …เพียงแต่ขอให้เพื่อนคนไทย…อย่าปล่อยให้คนมาทำร้ายประเทศชาติ…และราชบัลลังก์เท่านั้น …ปัญหาของประเทศไทย…ต้องแก้ด้วยคนไทยเป็นหลัก …เราต้องช่วยกันเป็นปราการด่านสุดท้าย……ในการปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ……ให้ต่างชาติได้ตระหนักว่า ……สถาบันสูงสุดยังสู้ ……และคนไทยพร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสถาบันสำคัญยิ่งของชาติ
    ขอบคุณเจ้าของภาพบทความและคนโพสครับ

    ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์
    อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    ~เปิดลับ การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัติร์ย์ ตั้งแต่ปี2550เป็นต้นมา ================== ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ================================= นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา การบ่อนทำลายสถาบันสูงสุด…เกิดขึ้นมากผิดปกติ …มีการเปิดเผย… ไม่เกรงกลัว…โดย กลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์…ไม่เพียงเคลื่อนไหวในประเทศเท่านั้น …แต่ยังไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ …โดยเฉพาะในสหรัฐ ~ ด้วยการป้อนชุดข้อมูล…ที่ดูเหมือนจริง…แต่เป็นความเท็จ …ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของนักล็อบบี้…จากสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียง…และบริษัทประชาสัมพันธ์ …ที่ถูกใครบางคนจ้างไว้ 3 บริษัท บริษัทละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 30.3 ล้านบาท) ~ เพื่อไปล็อบบี้…สมาชิกรัฐสภา…และรัฐบาลอเมริกัน…เพื่อผลทางการเมืองของตน… อย่างไรก็ดี …ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น… คือ เกิดกระแสต่อต้านสถาบันกษัตริย์ในหมู่นักการเมืองอเมริกันมากขึ้น…อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ~ ฝ่ายที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทยในสหรัฐ…ทวีความเข้มแข็งมากขึ้น… มีการสร้างเว็บไซต์ในรูปแบบหลากหลาย …เขียนบทความภาษาต่างๆ… ซึ่งส่วนใหญ่มาจากข้อเขียนของคนอเมริกัน 2 คน คนหนึ่ง…คือ - เจ.เค. แห่งคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ (Council on Foreign Relations) อันทรงอิทธิพลในสหรัฐ ที่ เจ.เค. ได้เขียนบทความ…โจมตีสถาบันกษัตริย์ และยกย่องเชิดชูฝ่ายตรงข้ามสถาบันกษัตริย์ว่า เป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" สลับกันมาหลายปีแล้ว - อีกคนหนึ่ง คือ เอ.เอ็ม.เอ็ม. ที่ยอมรับว่า… ได้รับการว่าจ้าง…ให้มาทำงานด้านนี้ และ…เป็นคนที่นำเอาคดีของ โจ กอร์ดอน และ อำพล ตั้งนพกุล หรือ “อากง” มาเขียนโจมตี ม.112 …เพื่อให้พาดพิงไปถึงพระมหากษัตริย์ไทย ในรัชกาลที่ 9 ~ในความเป็นจริง… คนพวกนี้…ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย… แต่ได้รับข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ชาวไทย…สายสาธารณรัฐ…ที่คนไทยรู้จักดี ~ ในกลางปี 2556 …นักล็อบบี้พวกนี้…วางแผนผลักดันให้มีการอภิปรายเชิงวิชาการ…ในที่ประชุมประจำปี…ของสมาคมเอเชียศึกษา (Association of Asian Studies)… ซึ่งมีคนไทย…ที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์…มีอิทธิพลอยู่ ~ การอภิปรายดังกล่าว…มีเป้าหมาย…มุ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์ไทย…ในรัชกาลที่ 9 เป็นการเฉพาะ …รวมทั้ง…มีแผนตีพิมพ์หนังสืออีกเล่มหนึ่ง…โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐ ……ที่ผู้เขียนอ้างหลักฐาน…จากห้องสมุดมหาวิทยาลัย ……รัฐสภาของสหรัฐ ……ที่ดูเผินๆ แล้วน่าเชื่อถือ …หรือเลือกเฉพาะส่วนที่สนับสนุนความคิดของตน…… เพื่อหาทางทำลายความเชื่อถือพระมหากษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 9 ~ ก่อนหน้านี้…เมื่อปี 2554 …ในวาระครบ 7 รอบ 84 พรรษา…ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 …นักล็อบบี้อเมริกัน…ได้ส่งชุดข้อมูล…ที่ปั้นแต่งขึ้น…จนทำให้สมาชิกสภาสหรัฐหลงเชื่อ ~ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ…พยายามหลีกเลี่ยง…ไม่ส่งหนังสือถวายพระพร…ตามที่เคยปฏิบัติมา …จนสภาสูง…ต้องส่งหนังสือถวายพระพรแทน ……สะท้อนให้เห็นว่า…… นักล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน……ทำงานให้กับนายจ้างคนไทยที่ไม่ชอบสถาบันกษัตริย์อย่างได้ผล ……ทำให้รัฐสภาชุดก่อนเข้าใจผิด …และต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทย… ตกทอดมาถึงสภาใหม่ชุดที่ 113 ในปัจจุบัน ~ ไม่เพียงแต่เท่านั้น …สถาบันบางแห่งของสหรัฐ …เช่น กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National Endowment for Democracy) ยังจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐ……คิดเป็นเงินไทยกว่า 1,500 ล้านบาท และ…อีกโครงการเป็นเงิน 200-300 ล้านบาท ……ให้กับกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ …ตามที่กลุ่มพวกนี้ร้องขอมา ~ โดยอ้างว่า…เพื่อนำไปใช้ในการให้ความรู้ประชาชนในการพัฒนาประชาธิไตย แต่…กลับนำไปสร้างสื่อและเว็บไซต์ ปลุกระดม โฆษณาชวนเชื่อให้คนไทยบางกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะ เป็นสถาบันที่มีสิทธิเหนือประชาชน ~ นักล็อบบี้เหล่านี้…ได้สร้างข้อมูลขึ้นมาชุดหนึ่ง…หรือหลายชุด ……และไปเคลื่อนไหวชักจูง… ชี้นำ… โน้มน้าว…ให้สมาชิกรัฐสภา และสถาบันอื่นของสหรัฐ เชื่อในวาทะกรรมที่ว่า ~ สถาบันสูงสุดของไทย หรือ สถาบันกษัตริย์นั้น…เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ……สถาบันกษัตริย์ไทย…ทำลายสิทธิมนุษยชน …อ้างว่า…ปัญหาของเมืองไทย……ไม่ใช่เรื่องการเมือง…… แต่เป็นปัญหาการสืบราชสมบัติ ……ที่กษัตริย์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาน……เพื่อจะเสนอให้ใครบางคนเป็น “ทางออก” ของชาติ (จากการเลือกตั้ง เพื่อเป็นประมุขของรัฐ หรือ เป็นประธานาธิบดี นั่นเอง) ~ พวกนี้…พยายามป้อนข้อมูล…ให้รัฐสภาอเมริกันเชื่อว่า “สถาบันไม่สู้แล้ว” เพราะ…ถ้าสถาบันไม่สู้ …สหรัฐก็ไม่มีทางเป็นอื่น…นอกจากจะยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตย…ที่อยู่ตรงข้ามกับสถาบันกษัตริย์… และเป็นการส่งสัญญานไปยังประเทศ…ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน…ที่สนับสนุนสถาบันสูงสุด ตลอดมา …หากสหรัฐ…และประเทศเหล่านี้…สรุปว่า ฝ่ายสถาบันกษัตริย์แพ้แน่ …สหรัฐและประเทศเหล่านี้…ซึ่งคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศเขาเป็นสำคัญ…ก็ต้องเข้าข้างฝ่ายชนะ ที่ถือเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" ~ อย่างไรก็ดี …ฝ่ายสถาบันกษัตริย์…ส่งสัญญาน…มาหลายครั้งแล้วว่า “ยังสู้” และ “ไม่ยอมแพ้” โดยเฉพาะ…ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555 ที่ประชาชนชาวไทย…ได้ไปชุมนุมที่ลานพระบรมรูปฯ อย่างมืดฟ้ามัวดิน…เพื่อเข้าเฝ้าถวายพระพร …สะท้อนให้เห็นว่า …ประชาชนพร้อมที่จะสู้เคียงข้าง แม้จะปรากฏ “แรงเฉื่อย” ในสถาบันทหาร และ รัฐบาลในยุคนั้นก็ตาม จึงมีแต่ประชาชนเท่านั้น…ที่จะเป็นกำแพงป้องกันสถาบันสูงสุดของประเทศ……ให้พ้นจากการคุกคามจากฝ่ายบ่อนทำลายในและนอกประเทศได้ ~ รัฐบาลชุดก่อน…เคยให้ทุนมหาวิทยาลัยดังในอเมริกา …อาทิ คอร์แนล วิสคอนซิน เพนซิลเวเนีย ยูซีแอลเอ. จอห์น ฮอพกินส์ วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสร้าง “ศูนย์ไทยศึกษา” และ “เพื่อนประเทศไทย” เพื่อให้เข้าใจสถาบันกษัตริย์ของไทย แต่…ปรากฏว่า ……ศูนย์เหล่านี้……กลายเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่การต่อต้านสถาบันสูงสุดไปหมด ……และอาจขยายเครือข่ายกว้างขวางมากขึ้น…… ไปยังออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปอีกด้วย ~ ไทยถูกคุกคาม…ด้วยสงครามยุคใหม่ …ทั้งสงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare) เช่น การก่อความรุนแรงช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 และ…สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงครามทุน และ สงครามไซเบอร์ …สงครามทั้งสามนี้…มีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐ …แต่มีสนามรบอยู่ทั่วโลก ~ ในไทย สหรัฐต้องการใช้สนามบินอู่ตะเภา…เป็น Global Transpark ตอบสนองยุทธศาสตร์ของสหรัฐ ในภูมิภาคนี้ …มีข่าวว่า สหรัฐได้ส่งทหารรับจ้าง ที่เป็นทหารผ่านศึกแบบแรมโบ้ …ที่เรียกว่า “แบล็ควอเตอร์” ประมาณ 5-6 ชุดมาประจำอยู่ในไทย …โดยแต่ละคนได้รับค่าจ้างปีละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ …เบี้ยเลี้ยงต่างหาก …เพื่อใช้ในการปฏิบัติการลับ (Covert Action) ตามนโยบายของสหรัฐ …ซึ่งอเมริกาถนัดในเรื่องพวกนี้มาก …และประสบความสำเร็จในละตินอเมริกามาแล้ว ~ อันตรายที่เกิดขึ้น…ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น……เป็นเรื่องจริง…และหนักหนา ……ชาติและสถาบัน……กำลังเสี่ยงอันตรายอย่างคาดไม่ถึง ……สิ่งที่เห็นทั้งในไทยและในต่างประเทศ…เป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ที่โผล่เหนือน้ำเพียง 1 ส่วน แต่อีก 9 ส่วนอยู่ใต้น้ำ ~ บทความนี้……ไม่ต้องการให้คนไทย…ไปต่อต้านสหรัฐ …เพียงแต่ขอให้เพื่อนคนไทย…อย่าปล่อยให้คนมาทำร้ายประเทศชาติ…และราชบัลลังก์เท่านั้น …ปัญหาของประเทศไทย…ต้องแก้ด้วยคนไทยเป็นหลัก …เราต้องช่วยกันเป็นปราการด่านสุดท้าย……ในการปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ……ให้ต่างชาติได้ตระหนักว่า ……สถาบันสูงสุดยังสู้ ……และคนไทยพร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสถาบันสำคัญยิ่งของชาติ ขอบคุณเจ้าของภาพบทความและคนโพสครับ ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    0 Comments 0 Shares 445 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 15 ช๊อกโกแลตมีประกัน (ตอนจบ)

    ฝูงชนออกมาตามถนนมากขึ้นทุกวัน ความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกวัน มือปืนซุ่มยิงเริ่มทำงานอย่างขยันขันแข็งขึ้นทุกวัน แล้ววันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ที่ Maiden Square ก็เหมือนเป็นสนามรบ ตำรวจปราบจราจลไม่สามารถทำอะไรได้มาก หัวหน้าฝ่ายค้าน Vitali Klitschko ซึ่งมาร่วมประชุมวันก่อนกับสหภาพยุโรป บอกขอยกเลิกข้อตกลงที่คุยกันไว้ โดยไม่ให้เหตุผล ส่วนนาย Yanukovich หายตัวไปจากเมือง Kiev !

    ใครเป็นคนเริ่มการซุ่มยิง ข่าววงในหลุดมาจากมือเก๋า ของหน่วยงานความมั่นคงของอเมริกา ว่า พวกซุ่มยิงหรือพวกแม่นปืน (sniper) มาจากองค์กรพวกขวาจัดของ Ukraine National Assembly – Ukanian People’s Self-Defense (UNA-UNSO)

    หัวหน้าของ UNA-UNSO คือนาย Andriy Shkil ซึ่งเป็นที่ปรึกษา ให้แก่คุณนายหางเปีย Tymoshenko มากว่า 10 ปี ! ตลอดเวลาที่อเมริกาเล่นละเลงสี ส้ม ในช่วงปี ค.ศ. 2003-2004 เพื่อหนุน Ukraine ให้เข้า NATO และชักใย นาย Viktor Yuskchenko สู้กับฝ่ายหนุนรัสเซียนั้น ข่าวบอกว่า UNA-UNSO ทำหน้าที่เป็นการ์ดคุ้มครองความปลอดภัย ให้คุณนายหางเปียและคุณหุ่น Yushchenko

    ข่าวว่า UNA_UNSO มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวก the German National Democratic Party (NDP) ของเยอรมัน
    ตั้งแต่สหภาพโซเวียต ล่มสลายในปี ค.ศ. 1991 สมาชิกที่มารวมตัวเป็นกลุ่ม UNA-UNSO มักอยู่เบื้องหลังการต่อต้านรัสเซียเกือบทุกรายการ แหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคงของอเมริการะบุว่า พวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม “GLADIO” ซึ่งเป็นองค์กรลับภายใต้การดูแลของ NATO และไม่ใช่พวก Ukraine รักชาติ อย่างที่พวกสื่อตะวันตกเอาไปลงกัน

    แหล่งข่าวเดียวกันนี้ ยืนยันว่า UNA-UNSO มีส่วนเกี่ยวข้อง (โดยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการ) ตั้งแต่เหตุการณ์ใน Lithunia เมื่อปี ค.ศ. 1991, Pridnister Republic 1992, anti Moscow Abkhazia War 1993, Chechen War, the US-organized Kosovo Campaign Against the Serbs และ Aug 8 2008 war in Georgia รายงานบอกว่า UNA-UNSO เกี่ยวข้องกับงานสกปรกของ NATO ทุกรายการตั้งแต่เลิกสงครามเย็นเป็นต้นมา โดยเป็นการทำงานในนามของ NATO และโยนให้รัสเซียเป็นแพะ โดยกลุ่มพวกนี้อ้างตัวว่า เป็นหน่วยงานพิเศษของรัสเซีย Russian special Forces

    ถ้าเป็นเรื่องจริงว่า UNA-UNSO ไม่ใช่ชาว Ukraine แต่เป็นหน่วยงานลับสูงสุดของ NATO โดยใช้ Ukraine เป็นฐาน ก็น่าคิดว่าการพยายาม เจรจาประนีประนอมของสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ Kiev โดยไม่เชิญตัวเล่นสำคัญไปร่วมด้วย เหตุการรุนแรงที่กำลังดำเนินอยู่ ก็น่าจะถูกวางยาให้การแอบเจรจา ล่มเละเรียบร้อย เป็นการสั่งสอน

    แต่อย่างว่า สหภาพยุโรปไม่มี NATO ก็เหมือนเต่าไม่มีกระดอง NATO ไม่มีอเมริกา ก็เหมือนเต่าตาบอด แถมไม่มีผักบุ้งให้กิน มันจะแตกกันจริงหรือ ร้าวอาจจะมี แต่เพื่อเป้าหมายเดียวกัน มันก็รวมตัวกันเล่นละครต่อไปได้น่า

    ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า หลังจากได้รับเลือกเป็นประธานาธิ บดี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2014 นี้เอง ประธานาธิบดี Petro Poroshenko เจ้าพ่อช๊อกโกแลต ก็แอบมีนัดกับคณะผู้แทน ที่นำโดยผู้อำนวยการของ National Service of Covert Operations (หรือ CIA National Clandestine Service) ชื่อนาย Frank Archibald รวมทั้ง นาย Jeffery Egan อดีตหัวหน้า CIA ประจำ Ukraine และนาย Raymond Mark Davidson หัวหน้า CIA ประจำ Ukraine คนปัจจุบัน, นาย Mark Buggy (CIA Istanbul) Andrzei Derlatka (CIA Polish intelligence Agency) และนาย Kevin Duffin เจ้าหน้าที่ CIA ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองประธานอาวุโสของบริษัทประกันภัย ชื่อ Brower
    แล้วประธานาธิบดี Poroshenko และนาย Archibald ก็ได้ลงนามในสัญญา ชื่อ “Agreement on Military Cooperation between U.S and Ukraine”

    เห็นรายชื่อและตำแหน่งของคณะผู้แทนของอเมริกา ที่เข้าพบประธานาธิบดีครั้งนี้ น่าสงสัย ว่าจะลับ ลวงหลอก หรือไง แต่เซียนแบบเรา ๆ (ฮา) ก็พอจะเดากันได้ ตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนปลอกกล้วยหรอก ที่สภาสูงจะอนุมัติ ให้อเมริกาให้ความร่วมมือทางทหาร โดยตรงกับ Ukraine ด้วยการส่งทหารไปทำการฝึกและเข้าร่วมการรบใน Ukraine มันก็เลยต้องเล่นกลกันหน่อย ใช้ให้บริษัทประกันภัย Brower ซึ่งเป็นของ CIA ออกหน้าแทน เรื่องแบบนี้ มันงานถนัดอยู่แล้ว ก็จัดการไม่ยาก และไม่เป็นข่าวมากนัก ขืนทำตรงไปตรงมา โป๊ตายชัก โลกรู้หมดว่า กำลังอะไร เอาน่าถึงโลกจะรู้แล้ว แต่อย่าให้ถึงกับเป็นข่าวว่อนเน็ตเลย

    นอกจากลงนาม เกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหาร กับบริษัทประกัน Brower แล้ว (จัดฉากได้ห่วยแตกจริง ๆ ) รัฐบาลใหม่ของ Ukraine ยังลงนามในสัญญา เพื่อรื้อฟื้นความร่วมมือของ LITPOLUKRBRIG (the Lithuanian – Polish – Brigade) ซึ่งเป็นการรวมมือหน่วยรบของกองกำลัง 3 ประเทศ อีกด้วย

    นาย Sergei Lavrov รมต. กระทรวงต่างประเทศรัสเซียบอกว่า มันง่ายมากสำหรับอเมริกา ที่จะกล่าวหาประเทศเขา เมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปรกติใดเกิดขึ้นใน Ukraine และบอกว่ารัสเซียต้องเป็นฝ่ายแก้ไข เขาบอกว่าขณะที่ ฝั่งตะวันออกและทางใต้ของ Ukraine ต่อต้านรัฐบาลที่อยู่ที่ Kiev ไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของ Kremlin มันน่าจะอธิบายให้เห็นสัมพันธ์ของรัฐบาลใน Kiev กับอเมริกาแล้วนะ

    ขณะเดี่ยวกับนายพล Rasmussen เลขาธิการ NATO บอกว่าแผนของ NATO ที่จะขยายไปทางตะวันออก ยังเดินหน้าต่อไป

    “NATO กำลังใช้วิกฤติการณ์ใน Ukraine เป็นเครื่องมือในการวางแผนการทำสงคราม และอเมริกาได้ตกลงแล้ว ที่จะตั้งฐานทัพที่ยุโรปตะวันออก” ศจ. Francis Boyle จาก Harvard ซึ่งเป็นผู้ชำนาญ ด้านรัสเซียกล่าว

    เขาบอกต่อไปว่า วิกฤติการณ์ใน Ukraine ได้ถูกวางแผนให้เป็นสงคราม นี่มันเป็นแผนการรบ มันเป็นบทเริ่มสำหรับให้ NATO ใช้กำลังทหาร ทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก เพื่อให้เข้าไปถึงรัสเซีย มันชัดเจนว่า NATO กำลังเดินเส้นทางนั้น
    ในวันกล่าวสุนทรพจน์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนาย Poroshenko เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2014 นี้เอง เขาได้กล่าว โดยสรุปว่า เขาพยายามจะใช้นโยบายการฑูต เพื่อให้เกิดสันติภาพและความมั่นคง และใช้กองทัพในกรณีที่ประเทศของเขา (Ukraine) ถูกข่มขู่ด้านอธิปไตยทางเขตแดน และผู้ใดที่รุกรานเขตแดนของ Ukraine โปรดจำไว้ด้วยว่า ใครมาด้วยดาบ ก็จะต้องแพ้ไปด้วยคมดาบ เช่นเดียวกัน ช็อกโกแลตชักไม่หวานเสียแล้ว

    ขณะเดียวกัน NATO ก็กำลังใช้กรณีของ Ukraine เป็นใบเบิกเงิน เงินค่าสมาชิก NATO เช่นเดียวกัน เรื่องนี้นาย Obama รีบทำหน้าใหญ่ บอกอเมริกาพร้อมที่จะควักกระเป๋า 1 พันล้านเหรียญ เพื่อเพิ่มกองกำลังสำหรับยุโรปตะวันออกโดยเฉพาะ แหม รวยจัง เงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐบาลบ้านตัวเองจ่ายเขาครบหรือยัง

    อันที่จริง นาย Obama ต้องการจะขอให้สภาสูงให้ blank cheque แก่เขาจำนวน 5 พันล้านเหรียญ เพื่อเอาเงินจำนวนนี้ ไปใช้สำหรับการรบในต่างประเทศ และโดยไม่นับรวมอยู่ในงบประมาณกลาโหม ยังไม่มีข่าวว่าสภาสูง อนุมัติหรือยัง

    เรื่องสภาสูงเป็นเรื่องนึง แต่เรื่องออกข่าวเกทับเป็นอีกเรื่องนึง

    ในการกล่าวสุนทรพจน์กับนักเรียน นายร้อย West Point ในวันจบหลักสูตร ประธานาธิบดี Obama ทำหน้าเข้ม (จริง ๆ ก็เข้มอยู่แล้ว ฮา) บอกว่าอเมริกายังจะเป็นผู้นำของโลกไปอีกหลายร้อยปี กองทัพของเรายังไม่มี
    ใครหน้าไหน ในโลกนี้มาทาบรัศมีได้ ใครที่บอกเป็นอย่างอื่น หรือบอกว่า อเมริกากำลังตกต่ำ เตี้ยลง เตี้ยลง หรือความเป็นผู้นำของ เรากำลังจะจางหายไป คิดใหม่นะ โอกาสที่ใครจะมาเทียบเรา แทบไม่มีเลย ไม่มีทางเฉียดเลยด้วยซ้ำ … อเมริกากำลังพูดกับใครกันแน่

    ในการประชุมขององค์กร Bilderberg องค์กรลับสุดยอดของโลก ครั้งที่ 62 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน คศ 2014 ที่กรุง Copenhagen, Denmark มีข่าวรั่วออกมาว่าประเด็นเรื่อง Ukraine เป็นวาระสำคัญและลับสุด ที่ประชุมหารือ ถึงการดำเนินการร่วมกัน ของอเมริกากับสหภาพยุโรป ในกรณีที่กองทัพของรัสเซียจะบุกเข้า Ukraine และความพร้อมของฝ่ายตะวันตกในการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    1 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 15 ช๊อกโกแลตมีประกัน (ตอนจบ) ฝูงชนออกมาตามถนนมากขึ้นทุกวัน ความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกวัน มือปืนซุ่มยิงเริ่มทำงานอย่างขยันขันแข็งขึ้นทุกวัน แล้ววันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ที่ Maiden Square ก็เหมือนเป็นสนามรบ ตำรวจปราบจราจลไม่สามารถทำอะไรได้มาก หัวหน้าฝ่ายค้าน Vitali Klitschko ซึ่งมาร่วมประชุมวันก่อนกับสหภาพยุโรป บอกขอยกเลิกข้อตกลงที่คุยกันไว้ โดยไม่ให้เหตุผล ส่วนนาย Yanukovich หายตัวไปจากเมือง Kiev ! ใครเป็นคนเริ่มการซุ่มยิง ข่าววงในหลุดมาจากมือเก๋า ของหน่วยงานความมั่นคงของอเมริกา ว่า พวกซุ่มยิงหรือพวกแม่นปืน (sniper) มาจากองค์กรพวกขวาจัดของ Ukraine National Assembly – Ukanian People’s Self-Defense (UNA-UNSO) หัวหน้าของ UNA-UNSO คือนาย Andriy Shkil ซึ่งเป็นที่ปรึกษา ให้แก่คุณนายหางเปีย Tymoshenko มากว่า 10 ปี ! ตลอดเวลาที่อเมริกาเล่นละเลงสี ส้ม ในช่วงปี ค.ศ. 2003-2004 เพื่อหนุน Ukraine ให้เข้า NATO และชักใย นาย Viktor Yuskchenko สู้กับฝ่ายหนุนรัสเซียนั้น ข่าวบอกว่า UNA-UNSO ทำหน้าที่เป็นการ์ดคุ้มครองความปลอดภัย ให้คุณนายหางเปียและคุณหุ่น Yushchenko ข่าวว่า UNA_UNSO มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวก the German National Democratic Party (NDP) ของเยอรมัน ตั้งแต่สหภาพโซเวียต ล่มสลายในปี ค.ศ. 1991 สมาชิกที่มารวมตัวเป็นกลุ่ม UNA-UNSO มักอยู่เบื้องหลังการต่อต้านรัสเซียเกือบทุกรายการ แหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคงของอเมริการะบุว่า พวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม “GLADIO” ซึ่งเป็นองค์กรลับภายใต้การดูแลของ NATO และไม่ใช่พวก Ukraine รักชาติ อย่างที่พวกสื่อตะวันตกเอาไปลงกัน แหล่งข่าวเดียวกันนี้ ยืนยันว่า UNA-UNSO มีส่วนเกี่ยวข้อง (โดยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการ) ตั้งแต่เหตุการณ์ใน Lithunia เมื่อปี ค.ศ. 1991, Pridnister Republic 1992, anti Moscow Abkhazia War 1993, Chechen War, the US-organized Kosovo Campaign Against the Serbs และ Aug 8 2008 war in Georgia รายงานบอกว่า UNA-UNSO เกี่ยวข้องกับงานสกปรกของ NATO ทุกรายการตั้งแต่เลิกสงครามเย็นเป็นต้นมา โดยเป็นการทำงานในนามของ NATO และโยนให้รัสเซียเป็นแพะ โดยกลุ่มพวกนี้อ้างตัวว่า เป็นหน่วยงานพิเศษของรัสเซีย Russian special Forces ถ้าเป็นเรื่องจริงว่า UNA-UNSO ไม่ใช่ชาว Ukraine แต่เป็นหน่วยงานลับสูงสุดของ NATO โดยใช้ Ukraine เป็นฐาน ก็น่าคิดว่าการพยายาม เจรจาประนีประนอมของสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ Kiev โดยไม่เชิญตัวเล่นสำคัญไปร่วมด้วย เหตุการรุนแรงที่กำลังดำเนินอยู่ ก็น่าจะถูกวางยาให้การแอบเจรจา ล่มเละเรียบร้อย เป็นการสั่งสอน แต่อย่างว่า สหภาพยุโรปไม่มี NATO ก็เหมือนเต่าไม่มีกระดอง NATO ไม่มีอเมริกา ก็เหมือนเต่าตาบอด แถมไม่มีผักบุ้งให้กิน มันจะแตกกันจริงหรือ ร้าวอาจจะมี แต่เพื่อเป้าหมายเดียวกัน มันก็รวมตัวกันเล่นละครต่อไปได้น่า ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า หลังจากได้รับเลือกเป็นประธานาธิ บดี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2014 นี้เอง ประธานาธิบดี Petro Poroshenko เจ้าพ่อช๊อกโกแลต ก็แอบมีนัดกับคณะผู้แทน ที่นำโดยผู้อำนวยการของ National Service of Covert Operations (หรือ CIA National Clandestine Service) ชื่อนาย Frank Archibald รวมทั้ง นาย Jeffery Egan อดีตหัวหน้า CIA ประจำ Ukraine และนาย Raymond Mark Davidson หัวหน้า CIA ประจำ Ukraine คนปัจจุบัน, นาย Mark Buggy (CIA Istanbul) Andrzei Derlatka (CIA Polish intelligence Agency) และนาย Kevin Duffin เจ้าหน้าที่ CIA ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองประธานอาวุโสของบริษัทประกันภัย ชื่อ Brower แล้วประธานาธิบดี Poroshenko และนาย Archibald ก็ได้ลงนามในสัญญา ชื่อ “Agreement on Military Cooperation between U.S and Ukraine” เห็นรายชื่อและตำแหน่งของคณะผู้แทนของอเมริกา ที่เข้าพบประธานาธิบดีครั้งนี้ น่าสงสัย ว่าจะลับ ลวงหลอก หรือไง แต่เซียนแบบเรา ๆ (ฮา) ก็พอจะเดากันได้ ตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนปลอกกล้วยหรอก ที่สภาสูงจะอนุมัติ ให้อเมริกาให้ความร่วมมือทางทหาร โดยตรงกับ Ukraine ด้วยการส่งทหารไปทำการฝึกและเข้าร่วมการรบใน Ukraine มันก็เลยต้องเล่นกลกันหน่อย ใช้ให้บริษัทประกันภัย Brower ซึ่งเป็นของ CIA ออกหน้าแทน เรื่องแบบนี้ มันงานถนัดอยู่แล้ว ก็จัดการไม่ยาก และไม่เป็นข่าวมากนัก ขืนทำตรงไปตรงมา โป๊ตายชัก โลกรู้หมดว่า กำลังอะไร เอาน่าถึงโลกจะรู้แล้ว แต่อย่าให้ถึงกับเป็นข่าวว่อนเน็ตเลย นอกจากลงนาม เกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหาร กับบริษัทประกัน Brower แล้ว (จัดฉากได้ห่วยแตกจริง ๆ ) รัฐบาลใหม่ของ Ukraine ยังลงนามในสัญญา เพื่อรื้อฟื้นความร่วมมือของ LITPOLUKRBRIG (the Lithuanian – Polish – Brigade) ซึ่งเป็นการรวมมือหน่วยรบของกองกำลัง 3 ประเทศ อีกด้วย นาย Sergei Lavrov รมต. กระทรวงต่างประเทศรัสเซียบอกว่า มันง่ายมากสำหรับอเมริกา ที่จะกล่าวหาประเทศเขา เมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปรกติใดเกิดขึ้นใน Ukraine และบอกว่ารัสเซียต้องเป็นฝ่ายแก้ไข เขาบอกว่าขณะที่ ฝั่งตะวันออกและทางใต้ของ Ukraine ต่อต้านรัฐบาลที่อยู่ที่ Kiev ไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของ Kremlin มันน่าจะอธิบายให้เห็นสัมพันธ์ของรัฐบาลใน Kiev กับอเมริกาแล้วนะ ขณะเดี่ยวกับนายพล Rasmussen เลขาธิการ NATO บอกว่าแผนของ NATO ที่จะขยายไปทางตะวันออก ยังเดินหน้าต่อไป “NATO กำลังใช้วิกฤติการณ์ใน Ukraine เป็นเครื่องมือในการวางแผนการทำสงคราม และอเมริกาได้ตกลงแล้ว ที่จะตั้งฐานทัพที่ยุโรปตะวันออก” ศจ. Francis Boyle จาก Harvard ซึ่งเป็นผู้ชำนาญ ด้านรัสเซียกล่าว เขาบอกต่อไปว่า วิกฤติการณ์ใน Ukraine ได้ถูกวางแผนให้เป็นสงคราม นี่มันเป็นแผนการรบ มันเป็นบทเริ่มสำหรับให้ NATO ใช้กำลังทหาร ทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก เพื่อให้เข้าไปถึงรัสเซีย มันชัดเจนว่า NATO กำลังเดินเส้นทางนั้น ในวันกล่าวสุนทรพจน์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนาย Poroshenko เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2014 นี้เอง เขาได้กล่าว โดยสรุปว่า เขาพยายามจะใช้นโยบายการฑูต เพื่อให้เกิดสันติภาพและความมั่นคง และใช้กองทัพในกรณีที่ประเทศของเขา (Ukraine) ถูกข่มขู่ด้านอธิปไตยทางเขตแดน และผู้ใดที่รุกรานเขตแดนของ Ukraine โปรดจำไว้ด้วยว่า ใครมาด้วยดาบ ก็จะต้องแพ้ไปด้วยคมดาบ เช่นเดียวกัน ช็อกโกแลตชักไม่หวานเสียแล้ว ขณะเดียวกัน NATO ก็กำลังใช้กรณีของ Ukraine เป็นใบเบิกเงิน เงินค่าสมาชิก NATO เช่นเดียวกัน เรื่องนี้นาย Obama รีบทำหน้าใหญ่ บอกอเมริกาพร้อมที่จะควักกระเป๋า 1 พันล้านเหรียญ เพื่อเพิ่มกองกำลังสำหรับยุโรปตะวันออกโดยเฉพาะ แหม รวยจัง เงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐบาลบ้านตัวเองจ่ายเขาครบหรือยัง อันที่จริง นาย Obama ต้องการจะขอให้สภาสูงให้ blank cheque แก่เขาจำนวน 5 พันล้านเหรียญ เพื่อเอาเงินจำนวนนี้ ไปใช้สำหรับการรบในต่างประเทศ และโดยไม่นับรวมอยู่ในงบประมาณกลาโหม ยังไม่มีข่าวว่าสภาสูง อนุมัติหรือยัง เรื่องสภาสูงเป็นเรื่องนึง แต่เรื่องออกข่าวเกทับเป็นอีกเรื่องนึง ในการกล่าวสุนทรพจน์กับนักเรียน นายร้อย West Point ในวันจบหลักสูตร ประธานาธิบดี Obama ทำหน้าเข้ม (จริง ๆ ก็เข้มอยู่แล้ว ฮา) บอกว่าอเมริกายังจะเป็นผู้นำของโลกไปอีกหลายร้อยปี กองทัพของเรายังไม่มี ใครหน้าไหน ในโลกนี้มาทาบรัศมีได้ ใครที่บอกเป็นอย่างอื่น หรือบอกว่า อเมริกากำลังตกต่ำ เตี้ยลง เตี้ยลง หรือความเป็นผู้นำของ เรากำลังจะจางหายไป คิดใหม่นะ โอกาสที่ใครจะมาเทียบเรา แทบไม่มีเลย ไม่มีทางเฉียดเลยด้วยซ้ำ … อเมริกากำลังพูดกับใครกันแน่ ในการประชุมขององค์กร Bilderberg องค์กรลับสุดยอดของโลก ครั้งที่ 62 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน คศ 2014 ที่กรุง Copenhagen, Denmark มีข่าวรั่วออกมาว่าประเด็นเรื่อง Ukraine เป็นวาระสำคัญและลับสุด ที่ประชุมหารือ ถึงการดำเนินการร่วมกัน ของอเมริกากับสหภาพยุโรป ในกรณีที่กองทัพของรัสเซียจะบุกเข้า Ukraine และความพร้อมของฝ่ายตะวันตกในการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 1 กค. 2557
    0 Comments 0 Shares 487 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 14 ตกสำรวจ

    ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี Ukraine เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปรากฎว่า ผู้ได้รับเลือกคือ นาย Petro Poroshenko เจ้าพ่อช็อคโกแลต อ้าว ! ไหงเป็นงั้น เดิมนางเหยี่ยว Nuland บอกจะเอา นาย Yats (Arseniy Yatssenyuk) มาลงแข่ง ระหว่างรอแข่งเอานาย Yats ไปเป็นนายกฯ กินเมืองไว้ก่อน แต่นาย Yats นี้อยู่พรรคเดียวกับคุณนายผมเปีย ซึ่งช่วงนั้นคุณนายติดคุกอยู่หลายข้อหา พอคุณนายผมเปีย หลุดจากคุก ไม่รู้ใครเป็นคนจัดการ ปล่อยตัวคุณนายออกมา (เออ ! เขาเล่นกันได้สนุกไม่แพ้บ้านเรา) ตกลงคุณนายผมเปียเลยไปลงสมัคร (ในฐานะหุ่นเชิดให้กับฝ่ายอเมริกา แต่สื่ออเมริกาบอกเป็นหุ่นเชิดของคุณพี่ปูติน !)

    ส่วนรายเจ้าพ่อช็อคโกแลต ก็กลับตาลปัตร คุณนาย Merkel และสหภาพยุโรปบอก ฉันจะเอานักมวย คือ นาย Vitaly Klitscheko แล้วถูกนางเหยี่ยวให้ F ไปหนึ่งตัวนั่นนะ ปรากฎว่านาย Klits เกิดอาการถอดใจ บอกว่าเจ้าพ่อช็อคโกแลตคะแนนดีกว่าผมแยะ สรุปเลยเป็นการแข่งระหว่างสหภาพยุโรปกับอเมริกา ! น่าสนใจ หมากตานี้ เหมือนจะเป็นรัสเซียนั่งดูอยู่บนภู !

    นาย Poroshenko ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีไปก็จริง แต่นักวิเคราะห์การเมือง ที่ไม่ได้เป็นหุ่นของฝ่ายตะวันตก บอกว่ามีตำแหน่งแต่ไม่มีอำนาจ จะแก้ไขปัญหา Ukraine อย่างจริงจังได้อย่างไร คอยดูฤดูใบไม้ร่วงนี้แล้วกัน ว่าถึงตอนนั้น Ukraine ยังเลี้ยงตัวเองได้อยู่หรือเปล่า และแก๊ซจากรัสเซีย จะยังส่งมาตามท่อส่งอยู่หรือเปล่า แล้วก็คงจะได้รู้กันว่าใครจะร่วงตามใบไม้

    วิกฤติ Ukraine คงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจบง่าย ๆ เหมือนไฟไหม้ฟาง อุตส่าห์วางแผน ลงแรง ลงเงิน กันไปแยะ คงเล่นกันอีกยาว ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าใครควรป็นคนตะโกน เราชนะ เราชนะแล้ว We Won, We Won !

    การ “เล่น” ของอเมริกาแรงขึ้นทุกวัน และเย้ยฟ้าท้าดิน ใครจะด่า ใครจะประท้วง ใครจะเปิดโปง อเมริกาไม่สนใจ เล่นต่อมันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ตะโกน เราชนะแล้ว หรือไง ?
    ก่อนการเลือกตั้งของ Ukraine เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Ukraine มันน่ามึนงงสงสัย ท้าทายความเข้าใจของชาวโลก ประธานาธิบดี Viktor Yanukovich ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง แล้วหลบหนี หายไปจากสงครามกลางเมืองในประเทศของตัวเอง หลังจากมีการประท้วงกันอย่างรุนแรง มีการยิงกัน ระเบิดใส่ทั้งคนทั้งตึก เผาบ้านช่อง ตึกรามไหม้วอด โดยผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ฝ่ายต่อต้าน”

    ฝ่ายต่อต้านบอก พวกเขาไม่พอใจที่ประธานาธิบดี Yanukovich ปฎิเสธที่จะรับข้อเสนอของสหภาพยุโรป ในการรับ Ukraine เป็นสมาชิก แต่ไม่มีใคร รวมทั้งสื่อตะวันตก ที่จะบอกถึงข้อเท็จจริงว่า ข้อเสนอของสหภาพยุโรป เป็นข้อเสนอ อย่างหลวม ๆ ไม่มีข้ออะไรชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับข้อเสนอของรัสเซีย ที่ประกาศจะยกหนี้ให้ Ukraine เป็นจำนวน 15 billion ยูโร และลดราคาแก๊ซที่ส่งให้ ลงจำนวน 1 ใน 3 ของราคาที่เคยซื้อขายกัน

    คนนอกฟังแล้วงง ตกลงฝ่ายต่อต้านต้องการอะไรกันแน่

    ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย หลังจากนางเหยี่ยว Nuland ให้ F แก่สหภาพยุโรป ไปไม่เท่าไหร่ สหภาพยุโรปตัดสินใจเดินหน้าแก้ ปัญหา Ukraine ต่อ โดยรมว. ตปท. เยอรมัน นาย Frank-Walter Steinmeier เสนอให้ฝรั่งเศส นาย Laurent Fabius บินมา Kiev และมาคุยหาทางออกร่วมกัน ก่อนที่สถานการณ์ใน Ukraine จะเดือดพล่านกว่านี้ รมว.ตปท. โปแลนด์ ก็ได้รับเชิญให้มาร่วมด้วย การเจรจาที่ Kiev ยังมีตัวแทนจากสหภาพยุโรปคนอื่นและ ตัวประธานาธิบดี Yanukovich รวมทั้งมีตัวแทนจากฝ่ายค้าน และตัวแทนจากรัสเซียมาร่วมหารือ แต่ไม่มีแม้แต่เงา คือ ตัวแทนของอเมริกา เพราะไม่ได้รับเชิญ !

    การเข้ามาพยายามแก้ไขสถานการณ์ของสหภาพยุโรป โดยไม่มีอเมริกา ถือเป็นเรื่องแปลกยิ่ง ทำให้เริ่มเห็นเค้าลาง ของรอยความไม่ลงกัน ระหว่างอเมริกากับสภาพยุโรป ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา (สงสัยอเมริกาให้คะแนน F กับสหภาพยุโรปมากไปหน่อย ฮา) คราวนี้สหภาพยุโรปอาจจะบอกว่า งั้นเราคุยกันเองบ้างก็ได้ ให้ F กับอเมริกาเป็นการตอบแทนไป

    หลังจากการคุย ทุกฝ่ายตกลงเห็นพ้อง ที่จะให้มีการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 และปล่อยตัว คุณนายหางเปีย Tymoshenko ออกจากคุก ดูเป็นการประนีประนอมที่น่าจะมีอนาคต และดูเหมือนจะเป็นทางออกให้กับทุกฝ่าย พอที่จะทำให้การจราจลหยุดลงได้

    คุยกันเสร็จไม่ทันพ้น 12 ชั่วโมง สถานการณ์กลับตาละปัตร เลวร้ายลงไปใหญ่ สงสัยเชิญแขกมามาคุยไม่ครบ แบบนี้ มันหักหน้า หักหลังกันหรือไง

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    1 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 14 ตกสำรวจ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี Ukraine เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปรากฎว่า ผู้ได้รับเลือกคือ นาย Petro Poroshenko เจ้าพ่อช็อคโกแลต อ้าว ! ไหงเป็นงั้น เดิมนางเหยี่ยว Nuland บอกจะเอา นาย Yats (Arseniy Yatssenyuk) มาลงแข่ง ระหว่างรอแข่งเอานาย Yats ไปเป็นนายกฯ กินเมืองไว้ก่อน แต่นาย Yats นี้อยู่พรรคเดียวกับคุณนายผมเปีย ซึ่งช่วงนั้นคุณนายติดคุกอยู่หลายข้อหา พอคุณนายผมเปีย หลุดจากคุก ไม่รู้ใครเป็นคนจัดการ ปล่อยตัวคุณนายออกมา (เออ ! เขาเล่นกันได้สนุกไม่แพ้บ้านเรา) ตกลงคุณนายผมเปียเลยไปลงสมัคร (ในฐานะหุ่นเชิดให้กับฝ่ายอเมริกา แต่สื่ออเมริกาบอกเป็นหุ่นเชิดของคุณพี่ปูติน !) ส่วนรายเจ้าพ่อช็อคโกแลต ก็กลับตาลปัตร คุณนาย Merkel และสหภาพยุโรปบอก ฉันจะเอานักมวย คือ นาย Vitaly Klitscheko แล้วถูกนางเหยี่ยวให้ F ไปหนึ่งตัวนั่นนะ ปรากฎว่านาย Klits เกิดอาการถอดใจ บอกว่าเจ้าพ่อช็อคโกแลตคะแนนดีกว่าผมแยะ สรุปเลยเป็นการแข่งระหว่างสหภาพยุโรปกับอเมริกา ! น่าสนใจ หมากตานี้ เหมือนจะเป็นรัสเซียนั่งดูอยู่บนภู ! นาย Poroshenko ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีไปก็จริง แต่นักวิเคราะห์การเมือง ที่ไม่ได้เป็นหุ่นของฝ่ายตะวันตก บอกว่ามีตำแหน่งแต่ไม่มีอำนาจ จะแก้ไขปัญหา Ukraine อย่างจริงจังได้อย่างไร คอยดูฤดูใบไม้ร่วงนี้แล้วกัน ว่าถึงตอนนั้น Ukraine ยังเลี้ยงตัวเองได้อยู่หรือเปล่า และแก๊ซจากรัสเซีย จะยังส่งมาตามท่อส่งอยู่หรือเปล่า แล้วก็คงจะได้รู้กันว่าใครจะร่วงตามใบไม้ วิกฤติ Ukraine คงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจบง่าย ๆ เหมือนไฟไหม้ฟาง อุตส่าห์วางแผน ลงแรง ลงเงิน กันไปแยะ คงเล่นกันอีกยาว ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าใครควรป็นคนตะโกน เราชนะ เราชนะแล้ว We Won, We Won ! การ “เล่น” ของอเมริกาแรงขึ้นทุกวัน และเย้ยฟ้าท้าดิน ใครจะด่า ใครจะประท้วง ใครจะเปิดโปง อเมริกาไม่สนใจ เล่นต่อมันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ตะโกน เราชนะแล้ว หรือไง ? ก่อนการเลือกตั้งของ Ukraine เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Ukraine มันน่ามึนงงสงสัย ท้าทายความเข้าใจของชาวโลก ประธานาธิบดี Viktor Yanukovich ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง แล้วหลบหนี หายไปจากสงครามกลางเมืองในประเทศของตัวเอง หลังจากมีการประท้วงกันอย่างรุนแรง มีการยิงกัน ระเบิดใส่ทั้งคนทั้งตึก เผาบ้านช่อง ตึกรามไหม้วอด โดยผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ฝ่ายต่อต้าน” ฝ่ายต่อต้านบอก พวกเขาไม่พอใจที่ประธานาธิบดี Yanukovich ปฎิเสธที่จะรับข้อเสนอของสหภาพยุโรป ในการรับ Ukraine เป็นสมาชิก แต่ไม่มีใคร รวมทั้งสื่อตะวันตก ที่จะบอกถึงข้อเท็จจริงว่า ข้อเสนอของสหภาพยุโรป เป็นข้อเสนอ อย่างหลวม ๆ ไม่มีข้ออะไรชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับข้อเสนอของรัสเซีย ที่ประกาศจะยกหนี้ให้ Ukraine เป็นจำนวน 15 billion ยูโร และลดราคาแก๊ซที่ส่งให้ ลงจำนวน 1 ใน 3 ของราคาที่เคยซื้อขายกัน คนนอกฟังแล้วงง ตกลงฝ่ายต่อต้านต้องการอะไรกันแน่ ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย หลังจากนางเหยี่ยว Nuland ให้ F แก่สหภาพยุโรป ไปไม่เท่าไหร่ สหภาพยุโรปตัดสินใจเดินหน้าแก้ ปัญหา Ukraine ต่อ โดยรมว. ตปท. เยอรมัน นาย Frank-Walter Steinmeier เสนอให้ฝรั่งเศส นาย Laurent Fabius บินมา Kiev และมาคุยหาทางออกร่วมกัน ก่อนที่สถานการณ์ใน Ukraine จะเดือดพล่านกว่านี้ รมว.ตปท. โปแลนด์ ก็ได้รับเชิญให้มาร่วมด้วย การเจรจาที่ Kiev ยังมีตัวแทนจากสหภาพยุโรปคนอื่นและ ตัวประธานาธิบดี Yanukovich รวมทั้งมีตัวแทนจากฝ่ายค้าน และตัวแทนจากรัสเซียมาร่วมหารือ แต่ไม่มีแม้แต่เงา คือ ตัวแทนของอเมริกา เพราะไม่ได้รับเชิญ ! การเข้ามาพยายามแก้ไขสถานการณ์ของสหภาพยุโรป โดยไม่มีอเมริกา ถือเป็นเรื่องแปลกยิ่ง ทำให้เริ่มเห็นเค้าลาง ของรอยความไม่ลงกัน ระหว่างอเมริกากับสภาพยุโรป ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา (สงสัยอเมริกาให้คะแนน F กับสหภาพยุโรปมากไปหน่อย ฮา) คราวนี้สหภาพยุโรปอาจจะบอกว่า งั้นเราคุยกันเองบ้างก็ได้ ให้ F กับอเมริกาเป็นการตอบแทนไป หลังจากการคุย ทุกฝ่ายตกลงเห็นพ้อง ที่จะให้มีการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 และปล่อยตัว คุณนายหางเปีย Tymoshenko ออกจากคุก ดูเป็นการประนีประนอมที่น่าจะมีอนาคต และดูเหมือนจะเป็นทางออกให้กับทุกฝ่าย พอที่จะทำให้การจราจลหยุดลงได้ คุยกันเสร็จไม่ทันพ้น 12 ชั่วโมง สถานการณ์กลับตาละปัตร เลวร้ายลงไปใหญ่ สงสัยเชิญแขกมามาคุยไม่ครบ แบบนี้ มันหักหน้า หักหลังกันหรือไง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 1 กค. 2557
    0 Comments 0 Shares 359 Views 0 Reviews
More Results