• 💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยแพร่ข้อมูล
    ธนาคารพาณิชย์ไทยเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
    ส่งผลต่อภาวะต้นทุนทางการเงินที่เริ่มผ่อนคลาย
    สู่ตลาดสินเชื่อ

    ประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน
    หรือ กนง. มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเมื่อวันที่
    16 ต.ค. 2567 (จากระดับ 2.50% มาที่ 2.25%)
    ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งทยอยประกาศปรับลด
    อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.25% โดยให้มีผล
    ต้นเดือนพ.ย. 2567 พร้อมๆ กับต่ออายุมาตรการ
    ช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางไปจนถึงสิ้นปี 2567

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การทยอยปรับลด
    อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในครั้งนี้
    เป็นหนึ่งในกลไกการส่งผ่านต้นทุนทางการเงิน
    ที่ปรับผ่อนคลายลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    มาสู่ตลาดสินเชื่อ โดยคาดว่า สัดส่วนสินเชื่อรายย่อย
    และสินเชื่อธุรกิจ ที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากการปรับลด
    อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนสิ้นปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 40.9%
    ของสินเชื่อรวมทั้งระบบแบงก์ไทย

    ขณะที่ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขาเดียว
    ของธนาคารพาณิชย์ในรอบนี้จะทำให้ภาระดอกเบี้ย
    ของลูกหนี้รายย่อยและภาคธุรกิจปรับลดลงเกือบ
    1,300 ล้านบาท
    (คำนวณผลของภาระดอกเบี้ยที่จะปรับลดลง
    เฉพาะช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2567 โดยยังไม่ได้นับรวม
    สินเชื่อ ส่วนที่จะเข้าสู่ช่วงการปรับอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า)
    ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
    #thaitimes
    💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยแพร่ข้อมูล ธนาคารพาณิชย์ไทยเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ส่งผลต่อภาวะต้นทุนทางการเงินที่เริ่มผ่อนคลาย สู่ตลาดสินเชื่อ ประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2567 (จากระดับ 2.50% มาที่ 2.25%) ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งทยอยประกาศปรับลด อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.25% โดยให้มีผล ต้นเดือนพ.ย. 2567 พร้อมๆ กับต่ออายุมาตรการ ช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางไปจนถึงสิ้นปี 2567 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การทยอยปรับลด อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกลไกการส่งผ่านต้นทุนทางการเงิน ที่ปรับผ่อนคลายลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มาสู่ตลาดสินเชื่อ โดยคาดว่า สัดส่วนสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อธุรกิจ ที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากการปรับลด อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนสิ้นปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 40.9% ของสินเชื่อรวมทั้งระบบแบงก์ไทย ขณะที่ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขาเดียว ของธนาคารพาณิชย์ในรอบนี้จะทำให้ภาระดอกเบี้ย ของลูกหนี้รายย่อยและภาคธุรกิจปรับลดลงเกือบ 1,300 ล้านบาท (คำนวณผลของภาระดอกเบี้ยที่จะปรับลดลง เฉพาะช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2567 โดยยังไม่ได้นับรวม สินเชื่อ ส่วนที่จะเข้าสู่ช่วงการปรับอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า) ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยแพร่ข้อมูล
    หนี้ครัวเรือนปี 2567 อาจชะลอลงมาที่
    88.5-89.5% ต่อจีดีพี

    🚩โดยหนี้ครัวเรือนไทยชะลอลงตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565
    (ล่าสุด ไตรมาส 2/2567 เติบโตเพียง 1.3% ปีต่อปี
    นับเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุด ในสถิติข้อมูลหนี้ครัวเรือน
    ที่ย้อนหลังได้ถึงปี 2546

    🚩สะท้อน 4 เรื่องหลัก ได้แก่ หนี้รถทยอยหดตัว
    สินเชื่อบ้านโตช้า แต่หนี้เพื่ออุปโภคบริโภคอื่นๆ
    ที่ไม่ใช่บัตรเครดิ ตและสินเชื่อส่วนบุคคลยังเติบโต
    และหนี้จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่แบงก์ และ SFIs
    ทยอยเพิ่มสูงขึ้น

    🚩ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า หนี้ครัวเรือนไทย
    อาจเติบโตต่ำกว่า 1.0% ในปี 2567 เนื่องจาก
    เศรษฐกิจในภาพรวมยังมีสัญญาณฟื้นตัวช้า
    ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือน
    และความสามารถในการก่อหนี้ก้อนใหม่

    🚩ซึ่งทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับทบทวน
    ประมาณการสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปี 2567
    ลงมาที่กรอบ 88.5-89.5%

    🚩อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากผลสำรวจหนี้สินครัวเรือน
    ประจำไตรมาส 3/2567 ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย
    พบว่า ครัวเรือนในแต่ละกลุ่มระดับรายได้
    มีความสามารถในการรับมือกับภาระหนี้ที่แตกต่างกัน

    🚩ดังนั้นการลดลงของสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี
    ในภาพใหญ่ของทั้งประเทศ จึงไม่อาจสะท้อนว่า
    ภาระหนี้สินและปัญหาการชำระหนี้ในระดับครัวเรือน
    จะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามในทันที

    ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #หนี้ครัวเรือนไทย
    #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยแพร่ข้อมูล หนี้ครัวเรือนปี 2567 อาจชะลอลงมาที่ 88.5-89.5% ต่อจีดีพี 🚩โดยหนี้ครัวเรือนไทยชะลอลงตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 (ล่าสุด ไตรมาส 2/2567 เติบโตเพียง 1.3% ปีต่อปี นับเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุด ในสถิติข้อมูลหนี้ครัวเรือน ที่ย้อนหลังได้ถึงปี 2546 🚩สะท้อน 4 เรื่องหลัก ได้แก่ หนี้รถทยอยหดตัว สินเชื่อบ้านโตช้า แต่หนี้เพื่ออุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่บัตรเครดิ ตและสินเชื่อส่วนบุคคลยังเติบโต และหนี้จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่แบงก์ และ SFIs ทยอยเพิ่มสูงขึ้น 🚩ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า หนี้ครัวเรือนไทย อาจเติบโตต่ำกว่า 1.0% ในปี 2567 เนื่องจาก เศรษฐกิจในภาพรวมยังมีสัญญาณฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือน และความสามารถในการก่อหนี้ก้อนใหม่ 🚩ซึ่งทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับทบทวน ประมาณการสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปี 2567 ลงมาที่กรอบ 88.5-89.5% 🚩อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากผลสำรวจหนี้สินครัวเรือน ประจำไตรมาส 3/2567 ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ครัวเรือนในแต่ละกลุ่มระดับรายได้ มีความสามารถในการรับมือกับภาระหนี้ที่แตกต่างกัน 🚩ดังนั้นการลดลงของสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี ในภาพใหญ่ของทั้งประเทศ จึงไม่อาจสะท้อนว่า ภาระหนี้สินและปัญหาการชำระหนี้ในระดับครัวเรือน จะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามในทันที ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #หนี้ครัวเรือนไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยข้อมูล
    น้ำท่วมไทยปี 2567 นี้ คาดราคาผัก ข้าว และ ผลไม้
    ในไตรมาส 4/2567

    🚩แนวโน้ม ราคาผัก ยังปรับตัวสูงขึ้น ประมาณ 8%
    (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากสถานการณ์
    น้ำท่วมเกือบทุกภาค ทำให้ผลผลิตเสียหาย
    รวมทั้ง เดือน ตุลาคม เป็นเทศกาลกินเจ ส่งผลให้
    ราคาผักปรับตัวสูงขึ้น

    🚩ส่วนราคาข้าว ปรับตัวลดลง -10% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน)
    จากปัจจัยอินเดียกลับมาส่งออกข้าวอีกครั้ง

    🚩ในขณะที่ราคาผลไม้ ปรับตัวลดลง -5% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน)
    จากปัจจัยฤดูกาล

    ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ราคาผักข้าวผลไม้ #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยข้อมูล น้ำท่วมไทยปี 2567 นี้ คาดราคาผัก ข้าว และ ผลไม้ ในไตรมาส 4/2567 🚩แนวโน้ม ราคาผัก ยังปรับตัวสูงขึ้น ประมาณ 8% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากสถานการณ์ น้ำท่วมเกือบทุกภาค ทำให้ผลผลิตเสียหาย รวมทั้ง เดือน ตุลาคม เป็นเทศกาลกินเจ ส่งผลให้ ราคาผักปรับตัวสูงขึ้น 🚩ส่วนราคาข้าว ปรับตัวลดลง -10% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากปัจจัยอินเดียกลับมาส่งออกข้าวอีกครั้ง 🚩ในขณะที่ราคาผลไม้ ปรับตัวลดลง -5% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากปัจจัยฤดูกาล ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ราคาผักข้าวผลไม้ #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 654 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงาน
    ภาวะเศรษฐกิจโลก และ เศรษฐกิจไทย
    ประจำเดือน กันยายน 2567 พบว่า

    🚩เศรษฐกิจโลก กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น
    โดยเฉพาะจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
    และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

    🚩ส่วนเศรษฐกิจไทย ยังคงคาดการณ์การเติบโต
    ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปี 2567 ไว้ที่ 2.6%
    โดยคาดการณ์ว่า ครึ่งหลังของปี 2567
    เศรษฐกิจไทย จะเติบโตได้ดีขึ้นจากการส่งออก
    การลงทุน การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภาครัฐ

    ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงาน ภาวะเศรษฐกิจโลก และ เศรษฐกิจไทย ประจำเดือน กันยายน 2567 พบว่า 🚩เศรษฐกิจโลก กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน 🚩ส่วนเศรษฐกิจไทย ยังคงคาดการณ์การเติบโต ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปี 2567 ไว้ที่ 2.6% โดยคาดการณ์ว่า ครึ่งหลังของปี 2567 เศรษฐกิจไทย จะเติบโตได้ดีขึ้นจากการส่งออก การลงทุน การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภาครัฐ ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 580 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ ปี 2567
    แนวโน้มการส่งออกรถยนต์ของไทยในตลาดอาเซียน
    จะพ่ายแพ้ให้กับจีนเป็นครั้งแรก ในรอบ 9 ปี
    โดยไตรมาส 1/2567 ไทยส่งออกรถยนต์ในตลาดอาเซียน 23%
    ส่วนจีนส่งออกรถยนต์ในตลาดอาเซียน 27%

    🚩ซึ่งรถยนต์ปิกอัพ เป็นกลุ่มเดียวที่ไทยส่งออกในตลาดอาเซียนได้มากที่สุด
    ส่วนจีน จะครองตลาดรถบรรทุกขนาดมากกว่า 5 ตัน และรถยนต์ไฟฟ้า

    ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การส่งออกรถยนต์ #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ ปี 2567 แนวโน้มการส่งออกรถยนต์ของไทยในตลาดอาเซียน จะพ่ายแพ้ให้กับจีนเป็นครั้งแรก ในรอบ 9 ปี โดยไตรมาส 1/2567 ไทยส่งออกรถยนต์ในตลาดอาเซียน 23% ส่วนจีนส่งออกรถยนต์ในตลาดอาเซียน 27% 🚩ซึ่งรถยนต์ปิกอัพ เป็นกลุ่มเดียวที่ไทยส่งออกในตลาดอาเซียนได้มากที่สุด ส่วนจีน จะครองตลาดรถบรรทุกขนาดมากกว่า 5 ตัน และรถยนต์ไฟฟ้า ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การส่งออกรถยนต์ #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผย
    ข้อมูล 7 เดือน ปี 2567 จีนมีสัดส่วนการนำเข้า
    สินค้าของไทยลดลง ในขณะที่นำเข้าสินค้าเวียดนาม
    มากขึ้น และสินค้าที่จีนนำเข้าจากเวียดนาม
    ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องจักร และ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์

    🚩โดยจีนมีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าจากไทย คิดเป็น 1.9%
    ในขณะที่จีนมีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าจากเวียดนาม
    คิดเป็น3.6%

    🚩เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเปลี่ยนในรายสินค้า ที่จีนนำเข้า
    ระหว่างไทยและเวียดนาม พบว่า

    🚩การนำเข้าจากไทย :
    🔴เครื่องจักร (ลดลง -1.2%)
    🔴สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (ลดลง-0.2%)
    🟢ผลไม้ (เพิ่มขึ้น 34.4%)

    🚩การนำเข้าจากเวียดนาม :
    🟢เครื่องจักร (เพิ่มขึ้น 5.6%)
    🟢สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (เพิ่มขึ้น ุ6.3%)
    🟢ผลไม้ (เพิ่มขึ้น 0.5%)

    ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การนำเข้าของจีน
    #thaitime
    💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผย ข้อมูล 7 เดือน ปี 2567 จีนมีสัดส่วนการนำเข้า สินค้าของไทยลดลง ในขณะที่นำเข้าสินค้าเวียดนาม มากขึ้น และสินค้าที่จีนนำเข้าจากเวียดนาม ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องจักร และ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 🚩โดยจีนมีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าจากไทย คิดเป็น 1.9% ในขณะที่จีนมีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าจากเวียดนาม คิดเป็น3.6% 🚩เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเปลี่ยนในรายสินค้า ที่จีนนำเข้า ระหว่างไทยและเวียดนาม พบว่า 🚩การนำเข้าจากไทย : 🔴เครื่องจักร (ลดลง -1.2%) 🔴สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (ลดลง-0.2%) 🟢ผลไม้ (เพิ่มขึ้น 34.4%) 🚩การนำเข้าจากเวียดนาม : 🟢เครื่องจักร (เพิ่มขึ้น 5.6%) 🟢สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (เพิ่มขึ้น ุ6.3%) 🟢ผลไม้ (เพิ่มขึ้น 0.5%) ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การนำเข้าของจีน #thaitime
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥การแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท ที่แข็งค่าขึ้นในรอบกว่า 19 เดือน
    ล่าสุดอยู่ที่ 32.61 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
    ได้สร้างความกังวลเป็นอย่างมาก ต่อภาคธุรกิจไทย
    โดยเฉพาะภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และ การส่งออก
    ซึ่งเป็นอีก 2 ฟันเฟืองสำคัญ ที่ช่วยขับเคลื่อนอัตราการเติบโต
    ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ไทย นอกเหนือจาก ภาคการผลิต
    และ การบริโภคภายในประเทศ และ การใช้จ่ายภาครัฐ

    🚩โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น
    ทุก 1% จะมีผลกระทบต่อรายได้ผู้ส่งออกประมาณ 100,000 ล้านบาท
    ที่ต้องหายไป จากการลดกำลังการซื้อ หรือ ชะลอการซื้อลง
    คิดเป็น 0.5% ของ Nominal GDP

    🚩ยังไม่รวมกับภาคการท่องเที่ยว ที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
    อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจเข้ามาท่องเที่ยว และจับจ่ายใช้สอย
    ภายในประเทศไทย ที่อาจจะมีจำนวนลดลง และไม่ได้ตามเป้าหมาย

    ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    💥💥การแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท ที่แข็งค่าขึ้นในรอบกว่า 19 เดือน ล่าสุดอยู่ที่ 32.61 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ได้สร้างความกังวลเป็นอย่างมาก ต่อภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และ การส่งออก ซึ่งเป็นอีก 2 ฟันเฟืองสำคัญ ที่ช่วยขับเคลื่อนอัตราการเติบโต ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ไทย นอกเหนือจาก ภาคการผลิต และ การบริโภคภายในประเทศ และ การใช้จ่ายภาครัฐ 🚩โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น ทุก 1% จะมีผลกระทบต่อรายได้ผู้ส่งออกประมาณ 100,000 ล้านบาท ที่ต้องหายไป จากการลดกำลังการซื้อ หรือ ชะลอการซื้อลง คิดเป็น 0.5% ของ Nominal GDP 🚩ยังไม่รวมกับภาคการท่องเที่ยว ที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจเข้ามาท่องเที่ยว และจับจ่ายใช้สอย ภายในประเทศไทย ที่อาจจะมีจำนวนลดลง และไม่ได้ตามเป้าหมาย ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 711 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์การขยายตัว
    ทางเศรษฐกิจไทย ปี 2567 อยู่ที่ 2.6%
    จากแรงหนุนการฟื้นตัวภาคการส่งออก
    การท่องเที่ยวช่วงไฮต์ซีซั่น และมาตรการ
    การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นจากภาครัฐ

    🚩อย่างไรก็ตามผลกระทบจากน้ำท่วม
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
    รวมถึงอุปสงค์ หรือ กำลังซื้อในประเทศ
    ที่อ่อนแอลง ยังคงเป็นความเสี่ยง
    ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า

    🚩ประเด็นเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ สร้างทั้งโอกาส
    และความเสี่ยง ต่อเศรษฐกิจไทย
    โอกาสคือ ไทยในฐานะประเทศศูนย์กลาง
    อาเซียน และวางตัวเป็นกลาง ทางภูมิรัฐศาสตร์โลก
    ทำให้สามารถทำการค้าขายได้กับทุกฝ่าย
    แต่ความเสี่ยงคือ ผลกระทบจากมาตรการ
    การกีดกันทางการค้าโลก

    🚩แรงกดดันต่ออุตสาหกรรมไทย จะเพิ่มขึ้น
    ในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะการผลิต
    เช่น การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อาจจะเผชิญสถานการณ์
    การผลิตที่มีแนวโน้มที่จะผลิตออกมาล้นตลาด
    และยากที่จะส่งออกให้ได้ตามเป้า จากมาตรการ
    กีดกันการค้า

    🚩ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์โลก ความไม่สงบทางการเมือง
    ระหว่างประเทศ และทิศทางดอกเบี้ยขาลง
    ทำให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุน
    ในการเข้าซื้อจากนักลงทุน

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การขยายตัวทางเศรษฐกิจ
    #จีดีพี #thaitimes

    💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์การขยายตัว ทางเศรษฐกิจไทย ปี 2567 อยู่ที่ 2.6% จากแรงหนุนการฟื้นตัวภาคการส่งออก การท่องเที่ยวช่วงไฮต์ซีซั่น และมาตรการ การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นจากภาครัฐ 🚩อย่างไรก็ตามผลกระทบจากน้ำท่วม แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงอุปสงค์ หรือ กำลังซื้อในประเทศ ที่อ่อนแอลง ยังคงเป็นความเสี่ยง ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า 🚩ประเด็นเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ สร้างทั้งโอกาส และความเสี่ยง ต่อเศรษฐกิจไทย โอกาสคือ ไทยในฐานะประเทศศูนย์กลาง อาเซียน และวางตัวเป็นกลาง ทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ทำให้สามารถทำการค้าขายได้กับทุกฝ่าย แต่ความเสี่ยงคือ ผลกระทบจากมาตรการ การกีดกันทางการค้าโลก 🚩แรงกดดันต่ออุตสาหกรรมไทย จะเพิ่มขึ้น ในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะการผลิต เช่น การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อาจจะเผชิญสถานการณ์ การผลิตที่มีแนวโน้มที่จะผลิตออกมาล้นตลาด และยากที่จะส่งออกให้ได้ตามเป้า จากมาตรการ กีดกันการค้า 🚩ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์โลก ความไม่สงบทางการเมือง ระหว่างประเทศ และทิศทางดอกเบี้ยขาลง ทำให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุน ในการเข้าซื้อจากนักลงทุน #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การขยายตัวทางเศรษฐกิจ #จีดีพี #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1038 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยข้อมูล
    การเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ของอินโดนีเซีย
    ในไตรมาส 2/2567 เติบโตที่ 5.0%

    🚩คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี
    ของอินโดนีเซีย ทั้งปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 5.0%

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #จีดีพีอินโดนีเซีย
    #GDP #การเติบโตทางเศรษฐกิจ #thaitimes
    🔥🔥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยข้อมูล การเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ของอินโดนีเซีย ในไตรมาส 2/2567 เติบโตที่ 5.0% 🚩คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ของอินโดนีเซีย ทั้งปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 5.0% #หุ้นติดดอย #การลงทุน #จีดีพีอินโดนีเซีย #GDP #การเติบโตทางเศรษฐกิจ #thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 594 มุมมอง 0 รีวิว