• เหรียญหลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม จ.ปัตตานี ปี2537
    เหรียญหลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม อำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกพิธีเสาร์5 พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยมและคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ คงกระพันชาตรี ทำให้คนรักคนหลง และเป็นที่เมตตาแก่คนรอบข้าง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ดีนัก **

    ** หลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม มีประวัติกล่าวเป็นตำนานว่า พุทธศักราช ๒๓๐๒ หลวงพ่อทุ่งคา ไหลมาตามกระแสน้ำที่ฝั่งแม่น้ำยามูตอนบน ในหมู่บ้านชาวมุสลิม ชาวมุสลิมพยายามลากขึ้นทุกวิถีทางก็ไม่อาจจะนำขึ้นมาจากน้ำได้ จึงได้บอกให้ชาวพุทธมานำขึ้น ชาวพุทธได้จุดธูปเทียน อธิษฐาน อัญเชิญขอด้วยความเคารพ จึงอัญเชิญขึ้นฝั่งอย่างง่ายดาย เป็นที่อัศจรรย์ใจของชาวมุสลิม จึงได้พากันนับถือเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อทุ่งคา **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม จ.ปัตตานี ปี2537 เหรียญหลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม อำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกพิธีเสาร์5 พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยมและคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ คงกระพันชาตรี ทำให้คนรักคนหลง และเป็นที่เมตตาแก่คนรอบข้าง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ดีนัก ** ** หลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม มีประวัติกล่าวเป็นตำนานว่า พุทธศักราช ๒๓๐๒ หลวงพ่อทุ่งคา ไหลมาตามกระแสน้ำที่ฝั่งแม่น้ำยามูตอนบน ในหมู่บ้านชาวมุสลิม ชาวมุสลิมพยายามลากขึ้นทุกวิถีทางก็ไม่อาจจะนำขึ้นมาจากน้ำได้ จึงได้บอกให้ชาวพุทธมานำขึ้น ชาวพุทธได้จุดธูปเทียน อธิษฐาน อัญเชิญขอด้วยความเคารพ จึงอัญเชิญขึ้นฝั่งอย่างง่ายดาย เป็นที่อัศจรรย์ใจของชาวมุสลิม จึงได้พากันนับถือเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อทุ่งคา ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • พฤติกรรมกระทรวงการต่างประเทศไทยและอดีตรัฐบาลที่ผ่านๆมาไม่เคยทวงคืนดินแดนและอธิปไตยไทยตรงจุดนี้อย่างจริงจังเลย.
    ..การเมืองในรูปแบบปกตินี้คือรัฐบาลยุคปัจจุบันถือว่าไร้ฝีมือและศักยภาพทั้งหมด ทำไปทำมาตัวพ่อเหมือนกันที่บัดสบกับเขมรเหี้ยนี้ด้วย,ไปยอมรับ1:200,000ตามเขมรในmou43,44อีก,ไปร่วมเจรจากับอาชญากรสงครามที่จงใจยิงระเบิดฆ่าเด็กๆฆ่าประชาชนคนไทยอีก,ไร้จิตสำนึกจัดการอาชญากรแบบเขมรชัดเจน,มีกลิ่นเน่าเหม็นกับเขมรด้วย,เกาหลีใต้ยังแสดงบทบาทชัดเจน,รัฐบาลชุดนี้ถือว่าเทา ไม่บริสุทธิ์สมควรยุบอำนาจตนไปสะ.,อย่าถ่วงความถูกต้องดีงามและความเจริญของคนไทยเลย,ต้องพักงานภาคการเมืองของนักการเมืองทั้งหมดถือว่าสอบตกทั้งระบบในการดูแลปกครองประเทศไทยตัังแต่ปี2475มาถึงปัจจุบัน,สมบัติชาติเอย ทรัพยากรมีค่ามากมายทั่วประเทศล้วนตกไปในมือของประเทศต่างชาติและเอกชนต่างชาติหมด,เอกชนไทยก็เลวชั่วผูกขาดความมั่งคั่งร่ำรวยไปกับต่างชาติด้วย ตย.ชัดเจนคือบ่อน้ำมันและบ่อทองคำบนแผ่นดินไทย เรา..ประเทศไทยถูกพวกมันยึดครองหมด.,ทหารเลวชั่วไร้จิตสำนึกก็ทำชั่วเลวกับมันด้วย,ไม่แน่คือพวกอำมาตย์คณะกบฎ2475นี้ล่ะ.,ที่สืบทอดความอัปรีย์บัดสบถึงปัจจุบัน,เรา..ประชาชนคนไทยไม่ต้องการระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และก็ไม่ต้องการระบบคอมมิวนิสต์เผด็จการแบบจีนด้วยเช่นกันหรือระบบประชาธิปไตยส่งออกปลอมๆของฝรั่งเหมือนกันดั่งในปัจจุบันนี้,ระบบประชาธิปไตยของนายทุน อำนวยเอื้อนายทุนชัดเจนกว่าเป็นประโยชน์ของประชาชน,เรา..ประเทศไทยต้องออกแบบระบบปกครองเราใหม่จริงๆ,ระบบธรรมาธิปไตย ธรรมะจักรวาลสมควรเป็นต้นแบบของโลกบนแผ่นดินไทยเรานี้,ประชาชนเป็นกษัตริย์ปกครองโลกใบนี้ร่วมกัน มีหัวหน้ากษัตริย์ที่ทรงธรรมนำพาปกครองโลกนี้ ย่อมาคือประเทศไทยเรา,คุณสมบัติ ถ้าวิชาไม่มี บรรลุหยั่งเห็นในธรรม ในวิชาคุณวิเศษทางธรรม อย่าลิมาขึ้นนำพาปกครองประเทศ ตาทิพย์หูทิพย์อ่านจิตอ่านใจประชาชนต้องได้คุณนี้ แสดงว่าดีจริงจึงผ่านคุณวิชานี้ได้,รู้สมควรชอบดีชั่วงามจึงผ่านวิชานี้ได้และได้ครองวิชานี้เบื้องต้น,เพราะเมื่อขึ้นปกครอง จะนำพาประชาชนมีวิชานี้ยิ่งๆขึ้นไปด้วย มีหูทิพย์ตาทิพย์อ่านใจทางทิพย์ มนุษย์เราจะเคารพกันบนพื้นฐานแห่งธรรมทันที ธรรมจะปกครองควบคุมเรากันเองทั่วโลก,โลกจะเต็มด้วยแสงสว่างแห่งธรรม การก้าวล่วงในทางชั่วเลวแก่กันและกันจะไม่มีในหมู่มนุษย์โลกเราใบนี้ทันที,มารเลวชั่วเข้ามาในโลก มวลชาวโลกก็พร้อมสามัคคีพลังจิตพลังใจร่วมต่อสู้ได้สบาย,สันติสุขจะเกิดจริงแก่ทุกๆคน,ปัจจุบันผู้นำผู้ปกครองโลกไม่มีสิ่งนี้เลย ไม่สมควรเป็นผู้นำประเทศนั้นๆทั้งหมดหากหยิบตรงจุดนี้มาพิจารณากันจริงๆ ล้วนขาดคุณสมบัติ การปกครองจึงเลว เป็นผีเป็นครึ่งอสูร ,เรา..ประชาชนต้องสร้างมาตราฐานนี้,การเมืองไทยจึงยิ่งยุบไป มีแต่พวกชั่วเลวละโมบโลภในอำนาจอยากมีอำนาจเพื่อให้ตนและพวกพ้องเลวมีทางหาแดกทางชั่วเลวและสะดวกผ่านระบบกฎหมายที่ตนเขียนขึ้นเองแบบกฎหมายลักษณะต่างๆเช่นผีบ้ากฎหมายปิโตรเลียม ลามไปmou43,44สดๆร้อนๆในแบบปัจจุบันที่ร่วมกันขายชาติขายแผ่นดินในทางชั่วเลวโดยกระทรวงการต่างประเทศไทยล้วนเห็นตำจาลึกทุกๆรายละเอียดหมดล่ะ เสือก1:200,000ก็ชัดเจนว่าเสียดินแดนให้เขมรแน่นอนยังเสือกจะไปเจรจามันอีก,สรุป ยึดทรัพย์สินพวกเกี่ยวข้องกับmou43,44นี้ทั้งหมดก่อน ใครดำเนินการร่วมในเรื่องmouยึดทรัพย์สินเงินทองไว้ก่อนหมด มาแจ้งพิสูจน์ทรัพย์สินที่ได้มาอย่างบริสุทธิ์นั้นทีหลัง,หากเงินทองทรัพย์สินใดแจ้งที่มาที่ไปไม่ได้ จะถูกยึดและอายัดทันที,พวกจะเปิดด่านเอย ออกมาปกป้องให้ใช้mou43,44ใช้1:200,000ต้องยึดทรัยพ์สินเงินทองก่อนทั้งหมดคือชุดแรกทันที

    https://youtube.com/shorts/9nzZrC1cL2Q?si=XnZf_AE0IMY4_AEk
    พฤติกรรมกระทรวงการต่างประเทศไทยและอดีตรัฐบาลที่ผ่านๆมาไม่เคยทวงคืนดินแดนและอธิปไตยไทยตรงจุดนี้อย่างจริงจังเลย. ..การเมืองในรูปแบบปกตินี้คือรัฐบาลยุคปัจจุบันถือว่าไร้ฝีมือและศักยภาพทั้งหมด ทำไปทำมาตัวพ่อเหมือนกันที่บัดสบกับเขมรเหี้ยนี้ด้วย,ไปยอมรับ1:200,000ตามเขมรในmou43,44อีก,ไปร่วมเจรจากับอาชญากรสงครามที่จงใจยิงระเบิดฆ่าเด็กๆฆ่าประชาชนคนไทยอีก,ไร้จิตสำนึกจัดการอาชญากรแบบเขมรชัดเจน,มีกลิ่นเน่าเหม็นกับเขมรด้วย,เกาหลีใต้ยังแสดงบทบาทชัดเจน,รัฐบาลชุดนี้ถือว่าเทา ไม่บริสุทธิ์สมควรยุบอำนาจตนไปสะ.,อย่าถ่วงความถูกต้องดีงามและความเจริญของคนไทยเลย,ต้องพักงานภาคการเมืองของนักการเมืองทั้งหมดถือว่าสอบตกทั้งระบบในการดูแลปกครองประเทศไทยตัังแต่ปี2475มาถึงปัจจุบัน,สมบัติชาติเอย ทรัพยากรมีค่ามากมายทั่วประเทศล้วนตกไปในมือของประเทศต่างชาติและเอกชนต่างชาติหมด,เอกชนไทยก็เลวชั่วผูกขาดความมั่งคั่งร่ำรวยไปกับต่างชาติด้วย ตย.ชัดเจนคือบ่อน้ำมันและบ่อทองคำบนแผ่นดินไทย เรา..ประเทศไทยถูกพวกมันยึดครองหมด.,ทหารเลวชั่วไร้จิตสำนึกก็ทำชั่วเลวกับมันด้วย,ไม่แน่คือพวกอำมาตย์คณะกบฎ2475นี้ล่ะ.,ที่สืบทอดความอัปรีย์บัดสบถึงปัจจุบัน,เรา..ประชาชนคนไทยไม่ต้องการระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และก็ไม่ต้องการระบบคอมมิวนิสต์เผด็จการแบบจีนด้วยเช่นกันหรือระบบประชาธิปไตยส่งออกปลอมๆของฝรั่งเหมือนกันดั่งในปัจจุบันนี้,ระบบประชาธิปไตยของนายทุน อำนวยเอื้อนายทุนชัดเจนกว่าเป็นประโยชน์ของประชาชน,เรา..ประเทศไทยต้องออกแบบระบบปกครองเราใหม่จริงๆ,ระบบธรรมาธิปไตย ธรรมะจักรวาลสมควรเป็นต้นแบบของโลกบนแผ่นดินไทยเรานี้,ประชาชนเป็นกษัตริย์ปกครองโลกใบนี้ร่วมกัน มีหัวหน้ากษัตริย์ที่ทรงธรรมนำพาปกครองโลกนี้ ย่อมาคือประเทศไทยเรา,คุณสมบัติ ถ้าวิชาไม่มี บรรลุหยั่งเห็นในธรรม ในวิชาคุณวิเศษทางธรรม อย่าลิมาขึ้นนำพาปกครองประเทศ ตาทิพย์หูทิพย์อ่านจิตอ่านใจประชาชนต้องได้คุณนี้ แสดงว่าดีจริงจึงผ่านคุณวิชานี้ได้,รู้สมควรชอบดีชั่วงามจึงผ่านวิชานี้ได้และได้ครองวิชานี้เบื้องต้น,เพราะเมื่อขึ้นปกครอง จะนำพาประชาชนมีวิชานี้ยิ่งๆขึ้นไปด้วย มีหูทิพย์ตาทิพย์อ่านใจทางทิพย์ มนุษย์เราจะเคารพกันบนพื้นฐานแห่งธรรมทันที ธรรมจะปกครองควบคุมเรากันเองทั่วโลก,โลกจะเต็มด้วยแสงสว่างแห่งธรรม การก้าวล่วงในทางชั่วเลวแก่กันและกันจะไม่มีในหมู่มนุษย์โลกเราใบนี้ทันที,มารเลวชั่วเข้ามาในโลก มวลชาวโลกก็พร้อมสามัคคีพลังจิตพลังใจร่วมต่อสู้ได้สบาย,สันติสุขจะเกิดจริงแก่ทุกๆคน,ปัจจุบันผู้นำผู้ปกครองโลกไม่มีสิ่งนี้เลย ไม่สมควรเป็นผู้นำประเทศนั้นๆทั้งหมดหากหยิบตรงจุดนี้มาพิจารณากันจริงๆ ล้วนขาดคุณสมบัติ การปกครองจึงเลว เป็นผีเป็นครึ่งอสูร ,เรา..ประชาชนต้องสร้างมาตราฐานนี้,การเมืองไทยจึงยิ่งยุบไป มีแต่พวกชั่วเลวละโมบโลภในอำนาจอยากมีอำนาจเพื่อให้ตนและพวกพ้องเลวมีทางหาแดกทางชั่วเลวและสะดวกผ่านระบบกฎหมายที่ตนเขียนขึ้นเองแบบกฎหมายลักษณะต่างๆเช่นผีบ้ากฎหมายปิโตรเลียม ลามไปmou43,44สดๆร้อนๆในแบบปัจจุบันที่ร่วมกันขายชาติขายแผ่นดินในทางชั่วเลวโดยกระทรวงการต่างประเทศไทยล้วนเห็นตำจาลึกทุกๆรายละเอียดหมดล่ะ เสือก1:200,000ก็ชัดเจนว่าเสียดินแดนให้เขมรแน่นอนยังเสือกจะไปเจรจามันอีก,สรุป ยึดทรัพย์สินพวกเกี่ยวข้องกับmou43,44นี้ทั้งหมดก่อน ใครดำเนินการร่วมในเรื่องmouยึดทรัพย์สินเงินทองไว้ก่อนหมด มาแจ้งพิสูจน์ทรัพย์สินที่ได้มาอย่างบริสุทธิ์นั้นทีหลัง,หากเงินทองทรัพย์สินใดแจ้งที่มาที่ไปไม่ได้ จะถูกยึดและอายัดทันที,พวกจะเปิดด่านเอย ออกมาปกป้องให้ใช้mou43,44ใช้1:200,000ต้องยึดทรัยพ์สินเงินทองก่อนทั้งหมดคือชุดแรกทันที https://youtube.com/shorts/9nzZrC1cL2Q?si=XnZf_AE0IMY4_AEk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง เตียงหัก
    ” เตียงหัก !”

    (1)

    หลังจากที่กษัตริย์อับดุลลาแห่งซาอุดิอารเบีย สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.2015
    มงกุฏราชกุมาร เจ้าชายซาลมาน ซึ่งเป็นน้องชายก็ขึ้นครองบัลลังก์ต่อ เป็นช่วงที่ตะวันออกกลางกำลังแดดร้อน ลมพัดแรง จะถึงกับมีพายุทะเลทรายหรือไม่ น่าเป็นห่วง

    เยเมน ที่อยู่ทางใต้ของซาอุดิ กำลังวุ่นวายเกิดศึกชิงเก้าอี้กัน ทางเหนือหน่อไอซิสยังไม่หยุดงอกทั้งพันธุ์แท้ พันธุ์เทียม และกลายพันธุ์ ทั้งที่อิรัคและที่ซีเรีย ส่วนความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านชื่ออิสราเอล ก็ยังบูดเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะมองหน้าและยิ้มให้กันได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าเพื่อน น่าจะเป็นเรื่องอิหร่าน ซึ่งถึงจะอยู่ห่างกันคนละฟาก แต่ซาอุดิก็เห็นอิหร่านเป็นคู่แข่งรัศมี ชิงความเป็นพี่ใหญ่ในตะวันออกกลางกันมาตลอด

    อิหร่านกำลังก้มหน้าก้มตาพัฒนาระบบนิวเคลียร์ ที่อ้างว่าไม่ไช่เป็นอาวุธนะ อย่าเข้าใจผิด แต่ถึงอย่างนั้น ซาอุดิก็หงุดหงิด ไม่พอใจ จะพอใจได้ยังไง ก็ตัวเองยังไม่มีนิวเคลียร์กับ เขาสักลูก แถมอาวุธที่มีอยู่ ยังต้องกัดฟันซื้อ โดยเฉพาะจากอเมริกา นึกว่าเขาให้ฟรีๆหรือ เปล่าหรอก แค่ลดราคาให้เท่านั้นเอง เค็มชะมัด แบบนี้ไม่หงุดหงิดได้ไง

    แต่ที่ไม่พอใจมากที่สุด คือไม่พอใจในอากัปกริยา ท่าทีของอเมริกา มากกว่า

    ซาอุดิอารเบียกับอเมริกา มีความสัมพันธ์ยาวนาน และแข็งแรงอย่างเป็นทางการมาประมาณ 70 ปีแล้ว ตั้งแต่ประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt กับกษัตริย์ Abd al-Aziz ibn Sa’ud ผู้ก่อตั้งราชอาณาจักรซาอุดิอารเบีย นั่งจับมือกันบนเรือรบ USS Quincy เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1945

    แต่ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ จะแข็งแรงมากน้อยขนาดไหนไม่มีใครรู้ดี มีนักวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ ทั้ง 2 ประเทศ อุปมาไว้น่าฟังว่า มันเหมือนการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม a marriage for convenience ไม่ใช่มาจากรักแรกพบ หรือรักแบบดูดดื่มฝังใจ เพาะบ่มรอกันมา 20 ปี

    เมื่อเป็นการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม จะให้หวือหวา หวานชื่นกันตลอด คงเป็นไปไม่ได้ มันคงจะเป็นประเภท ต่างก็ยี่ต๊อกใส่กันว่า ฉันได้มากกว่าเสีย หรือเธอได้มากกว่าฉันหรือเปล่า ทำนองนั้น เรื่องอะไรที่ไม่พอใจ ตราบใดที่บัญชีของทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่เป็นตัวแดง ก็ยังคงกล้อมแกล้ม กัดฟันอยู่กันต่อไป

    ตลอดการอยู่ร่วมกันของคู่แต่งงาน ซาอุดิฉุนจัดครั้งแรก ก็เมื่ออเมริกามีทีท่าว่าจะมีใจให้กับอิสราเอล สาวข้างบ้าน ที่อเมริกาให้การรับรองเมื่อปี ค.ศ.1948 แต่มันเป็นช่วงระหว่างการก่อร่างสร้างเมืองของซาอุดิ กษัตริย์ Abd al-Aziz จึงต้องกัดฟันมองไปทางอื่นแทน ขณะที่รอบข้างกดดันให้ยกเลิกสัมปทาน ที่ซาอุดิให้แก่ Aramco ของอเมริกาตั้งแต่ ค.ศ.1933
    หลังจากนั้น ก็มีเรื่องการสั่งห้ามซื้อขายน้ำมัน Oil Embargo ระหว่างกลุ่มค้าน้ำมันชาติอาหรับ กับกลุ่มตะวันตกในปี ค.ศ.1973-74 ซึ่งเป็นการเล่นกล หลอกต้มทั้งคนขายน้ำมันและคนใช้ น้ำมัน โดยพวกนักการเงินวอลสตรีท ที่จัดฉากโดยนาย Henry Kissinger ตัวแสบ ภายใต้การชักใยของ พวกโคตรรวย Rockefeller แต่เรื่องนี้มันก็ลงความเห็นยากว่า ฝ่ายไหนเสียมากกว่า ดูเหมือนจะเป็นมวยล้มต้มคนดู พวกที่เสียหายจริงๆ น่าจะเป็นพวกซื้อน้ำมัน จนแล้วยังทำซ่า อยากเป็นเสือตัวที่ห้ามากกว่า ไปอ่านรายละเอียดได้ จากนิทานเรื่องมายากลยุทธนะครับ

    ซาอุดิ เริ่มขัดใจจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องการบุกเข้าไปขยี้อิรัคของอเมริกา ไม่ใช่เพราะซาอุดิใจอ่อนสงสารอิรัคหรอก อย่าเข้าใจผิด แต่ซาอุดิเห็นว่า เป็นการทำให้ดุลยอำนาจในภูมิภาคเอียง ไปเข้าทางอิหร่านมากกว่า เพราะเป็นการเปิดทางให้อิหร่าน เข้าไปสนับสนุนกลุ่ม Nouri al-Maliki ขึ้นมามีอำนาจในอิรัค หลังจากซัดดัมถูกโค่น และทำให้อิรัคกับอิหร่าน ก็ใกล้เคียงกับการเป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกันตั้งแต่บัดนั้น มันเป็นการเสริมบารมี เสริมกำลัง ให้กับอิหร่านมากขึ้น เกินกว่าที่ซาอุดิ จะไม่สนใจ

    แต่ที่เป็นหนามตำใจมาตลอด คือเรื่องสาวข้างบ้าน อิสราเอลนั่นแหละ ที่ทำให้ซาอุดิเห็นว่า อเมริกา ตาชั่งเอียงจนน่าเกลียด เรื่องนี้ไม่มีทางแก้แน่นอน ซาอุดิรู้ดีอยู่แก่ใจ มีแต่ทางเดินออก ซาอุดิจะกล้าเดินออกไหมเท่านั้น

    พอไปรวมกับเรื่องอียิปต์ ซึ่งซาอุดิเห็นว่า ขนาด Hosni Mubarak ผู้ซึ่งเป็นลูกหาบที่ซื่อสัตย์มาให้อเมริกา 30 กว่าปี อเมริกายังโยนทิ้งเฉย ปล่อยให้ Muslim Brotherhood มุสลิมหัวรุนแรงที่ไม่เอาพวกตะวัน ตก ขึ้นมาปกครองอียิปต์แทน แน่นอน ซาอุดิต้องหงุดหงิด กลุ้มใจ จนหน้าคล้ำหนักไปกว่าเดิม แบบนี้แปลว่าอะไร อเมริกาไม่สนใจหรือว่า มันจะยิ่งสร้างความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางมากขึ้น เผลอๆ เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดที่ซาอุดิก็ได้ อเมริกาปล่อยให้เป็นอย่านี้ได้อย่างไร

    เรื่องอิสราเอลยังแก้ไม่ออก เรื่องอียิปต์ดันมาเกิดขึ้นต่อ บวกกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ยังค้างคา นี่ยังมามีเรื่องซีเรียอีก เรื่องซีเรียที่ซาอุดิก็ไม่รัก เอะ เสี่ยซาอุรักใครมั่งนะ ชักสงสัย สู้กันมา3 ปีกว่าแล้ว เรื่องยังไม่จบเสียที ไอ้เจ้า Assad นี่มันทนทายาด แล้วอเมริกาก็ดันประกาศ (ในปี ค.ศ. 2013) ว่าจะไม่ใช้กองกำลังจัดการเรื่องซีเรีย โอ้ย กลุ้มใจโว้ย ยังถอนใจไม่หายเหนื่อย หน่อไอซิสก็ทะลี่งได้ปุ๋ยดี บานเต็มท้องทุ่งซีเรีย อิรัค นี่ถ้ามันดันชอบอากาศแถวซาอุดิ มางอกต่อแถวนี้ พวกซาอุดิจะเอาอยู่ไหม

    หงุดหงิดแล้ว ก็เลยพาลน้อยใจต่อ ซาอุดิน้อยใจ คิดหนัก คิดจริงจังคือ เรื่องอิหร่าน (อีกแล้ว) การเจรจา ระหว่างพวกตะวันตกกับอิหร่าน เรื่องการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ซาอุดิมองว่า ถ้าการเจรจาเข้าทางอิหร่าน ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะฝ่ายของซาอุดิจะเสียเปรียบ และอาจจะถึงเสียหายเลยทีเดียว ฝ่ายที่มีนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง คือฝ่ายที่มีอำนาจควบคุมอ่าวเปอร์เซีย รวมไปทั้งตะวันออกกลาง ที่สำคัญ ซาอุดิมองว่า การใช้วิธีเจรจากับอิหร่าน ดูเหมือนเป็นการเริ่มกลับมาสานสัมพันธ์ใหม่ระหว่างอเมริกากับอิหร่าน อย่าลืมว่าคู่นี้ เขาเคยเป็นคู่รัก คู่แค้นกันมาก่อน หรือถ่านไฟเก่ามันจะคุขึ้นมาใหม่ ?!?!

    (2)
    ตกลงอเมริกากำลัง “shifting away” หันเหไปจากสัมพันธ์พิเศษกับซาอุดิหรือ มันดูเหมือนมีอาการของการนอกใจ ที่มองเห็นได้จากทั้งฝ่ายซาอุดิและฝ่ายอเมริกาเอง

    ทางฝ่ายซาอุดินั้น อดีตหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรอง และอดีตฑูตซาอุดิประจำอเมริกา Prince Bandar bin Sultan พูดตั้งแต่ปลายปี 2013 แล้วว่า ทางซาอุดิอาจจะมีการเปลี่ยนแนวทางของความสัมพันธ์ ระหว่างซาอุดิกับอเมริกา เป็นการประท้วงอเมริกาที่ไม่ขยับอะไรเลย เกี่ยวกับเรื่องการรบในซีเรีย รวมทั้งการที่อเมริกามีท่าที เหมือนจะไปสานสัมพันธ์ใหม่กับอิหร่าน อ้อ เรื่องนี้เอง ที่มันคาใจคนนอนเตียงเดียวกัน

    คำพูดของ Prince Bandar คนเดียวคงไม่พอ Prince Turki al-Faisal อดีตหัวหน้าสายลับ และฑูตซาอุดิประจำสหประชาชาติ ออกมาทำเสียงเข้มว่า นโยบายเกี่ยวกับซีเรีย ของนายโอบามา ฟังแล้วน่าเศร้าใจ พร้อมกับบอกว่า ข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับอเมริกา เรื่องการห้ามมิให้ Assad ใช้อาวุธเคมี เป็นหลุมพรางล่อให้อเมริกาตกพลั่ก เขวไปจากการใช้กำลังทหารจัดการในซีเรีย

    เขาต่อว่ากันแรงดีนะครับ ไม่เหมือนสมันน้อย คำน้อยคำ ก็ไม่ค่อยจะกล้าออกมาพาดพิงถึงลูกพี่ เชื่องดีจัง ( ช ช้างสะกดนะครับ ไม่ใช่ ข ไข่ เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด ฮา)

    นักจัดรายการทีวีชาวอเมริกัน Fred Kaplan วิจารณ์ว่า คำพูดของฝ่ายซาอุดิในเรื่องนี้ เหมือน “game of high-way chicken” เขาเตือนนายโอบามาว่า ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไก่อาจหลุดมือ วิ่งหายไปได้ หรือโอบามาไม่สนใจ เพราะอเมริกากำลังตื่นเต้นกับการค้นพบพลังงานใหม่ ที่จะไม่ต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจแล้ว หรือปล่อยให้ไก่วิ่งจนเหนื่อยก่อน

    หลังจากนั้น ขบวนการกดดันอเมริกาโดยกลุ่ม Gulf Cooperation Council (GCC) ลูกน้องคุณพี่ซาอุก็เกิดขึ้น นำโดยอาหรับอามิเรต และกาต้าร์เศรษฐีใหญ่ทั้งคู่ ออกโรงเดินสายคุยกับพวกถังความคิด Think Tank ของอเมริกา พร้อมเอาเงินบริจาคกล่องใหญ่ไปฝาก การลงทุนได้ผล ถังความคิดรีบออกรายงานทันที อเมริกาจะปล่อยให้พรรคพวกในตะวันออกกลาง แก้ไขปัญหาเรื่องซีเรียกับไอซิส โดยลำพังหรือ มันดูเหมือนอเมริกากำลังทิ้งเพื่อนที่มีความสัมพันธ์พิเศษนะ เพราะถ้าพวกเขาจัดการไม่ได้ คนที่จะตกที่นั่งลำบากคืออเมริกา แหม! นึกว่าถังความคิดชั้นนำระดับโลกจะสั่งไม่ได้ มีเงินจ่ายก็ใช้ได้ทั้งนั่นแหละครับ

    อเมริกา ถึงยังทิ้งกระบองยอดเพชร ที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 70 ปี ไม่ลง

    นายโอบามา ทำหน้าชื่นไปหากษัตริย์ Abdullah เมื่อประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากนั่งปรับความไม่เข้าใจกัน การแถลงข่าวภายหลังการปรับคลื่น สรุปว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีการหารือกัน เรื่องซีเรีย เรื่องการป้องกันไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ การร่วมกันต่อต้านการก่อการร้าย และสนับสนุนการเจรจา เพื่อให้มีสันติภาพเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง (จากการแถลงข่าวของ ทำเนียบขาว เมื่อ 28 มีนาคม 2014)
    เอกสารที่แจกในการแถลงข่าว บอกด้วยว่าซาอุดิอารเบีย เป็นลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ที่ซื้ออาวุธของอเมริกา U S Foreign Military Sales (FMS) คือประมาณ 97 พันล้านเหรียญ และอเมริกา ส่งสินค้าออกไปยังซาอุดิอารเบียในปี 2013 จำนวน 35 พันล้านเหรียญ และขณะนี้มีชาวซาอุดิ ประมาณ 8 หมื่นคน เรียนหนังสืออยู่ในอเมริกา

    อืม ดูเหมือนจะเป็นรายงาน ที่แปลงความสัมพันธ์เป็นตัวเงิน (รายได้) ของอเมริกา มากกว่าจะเป็นการให้ข้อมูล ที่ทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น

    นอกจากนี้ การรายงานข่าวของสื่อในช่วงนั้น ยังสรุปไปทิศทางเดียวกันว่า แม้จะมีความเห็นไม่สอดคล้องกันทุกเรื่อง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับซาอุดิอารเบีย ก็ยังไม่ถึงขั้นแตกหัก not broken เตียงยังไม่หัก ไม่ชำรุดขาเตียงยังอยู่ครบดี ไม่ว่าจะเป็น การร่วมมือทางการต่อต้านผู้ก่อการร้าย การทหาร การธุรกิจและด้านยุทธศาสตร์ อู้ย พูดกันรู้เรื่องดีคร้าบ

    แต่ก็คงจะเร็วไป ที่จะสรุปว่าคู่นี่เขาจะยังมั่นคงกันดีตลอดไป เพราะมันก็ยังเห็นรอยร้าวค้างอยู่ และแม้จะยังไม่ถึงกับทำให้ซาอุดิอารเบีย แยกทางกับอเมริกา แต่ซาอุดิอารเบียก็บอกว่า ไม่ปิดทางตัวเองที่จะมองหาหุ้นส่วนรายใหม่เช่นเดียวกัน นโยบายไม่แทงม้าตัวเดียว ไม่ใช่มีแต่อเมริกาเท่านั้นที่เล่นเป็น เอะ แล้วใครนะที่ซาอุดิอารเบีย เริ่มเจรจาต้าอวยไว้

    (3)

    ถังความคิดตัวแสบ CSIS Think Tank ได้ออกรายงานการวิเคราะห์ The True Nature of the Saudi Succession “Crisis” วิกฤติตามธรรมชาติของการสืบสันตติวงศ์ของ Saudi เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2015 นี้ก่อนการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ Abdullah ไม่นานนัก

    รายงานสรุปว่า กษัตริย์ Abdullah ได้เตรียมการล่วงหน้ามานานแล้วอย่างเรียบร้อยดี ทั้งเรื่องในพระราชวงศ์ เรื่องในประเทศ ทั้งด้านศาสนา และรัฐบาล รวมทั้งเรื่องการต่างประเทศ เท่าที่จะทำได้ แน่นอนหลายปัจจัย ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องมีตามสภาพ….รายงานแจงค่อนข้างละเอียดว่า เตรียมการอะไร ใครเป็นใคร ตามประสา นิสัยเสือกทุกเรื่องของอเมริกา

    แต่ที่น่าจะสนใจคือ บางส่วนที่รายงานการวิคราะห์ดังกล่าวระบุถึง ซึ่งไม่ได้เกี่ยว หรือมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนกษัตริย์ผู้ปกครอง แต่เป็นเรื่องที่รายงานการวิเคราะห์ ระบุถึงสภาพสังคมของซาอุดิอารเบีย
    เป็นส่วนของรายงานที่บอกว่า ปี 2015 ซาอุดิจะมีประชากรประมาณ 27.8 ล้านคน ปี 2025 จะมี 31.9 ล้านคน และปี 2050 จะมีประชากร 40.3 ล้านคน ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียเป็นสังคมที่มีวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ในวัยที่ต้องทำงานแต่ไม่ทำงาน โดยอยู่ด้วยสวัสดิการของรัฐ มีตลาดแรงงานประมาณ 8.4 ล้านคน แต่เป็นชาวซาอุดิเพียง 1.7 ล้านคน ที่ผ่านมา ซาอุดิรับมือกับวัยรุ่นจำนวนมากที่ไม่ทำงานได้พอสมควร เพราะที่ผ่านมา ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่สูงกว่าปัจจุบันมากมาย

    ขณะที่อัตราประชากรเพิ่ม และมีคนไม่ยอมทำงาน แต่รายรับของประเทศ ซึ่งมาจากน้ำมันอย่างเดียว ลดลง ตามราคาน้ำมันโลก (หรือจากการร่วมมือกันกดราคาน้ำมันก็ตาม) ขณะเดียวกัน ซาอุดิก็มีรายจ่ายเกี่ยวกับความ มั่นคงของรัฐ สูงที่สุดในโลก ซาอุดิ มีสตรูมากหน้า ทั้งที่เป็นรัฐ และไม่ใช่รัฐ รวมทั้งมีก่อการร้ายเสมอ จากการที่เป็นผู้ดูแลสถานที่
    เรื่อง เตียงหัก ” เตียงหัก !” (1) หลังจากที่กษัตริย์อับดุลลาแห่งซาอุดิอารเบีย สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.2015 มงกุฏราชกุมาร เจ้าชายซาลมาน ซึ่งเป็นน้องชายก็ขึ้นครองบัลลังก์ต่อ เป็นช่วงที่ตะวันออกกลางกำลังแดดร้อน ลมพัดแรง จะถึงกับมีพายุทะเลทรายหรือไม่ น่าเป็นห่วง เยเมน ที่อยู่ทางใต้ของซาอุดิ กำลังวุ่นวายเกิดศึกชิงเก้าอี้กัน ทางเหนือหน่อไอซิสยังไม่หยุดงอกทั้งพันธุ์แท้ พันธุ์เทียม และกลายพันธุ์ ทั้งที่อิรัคและที่ซีเรีย ส่วนความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านชื่ออิสราเอล ก็ยังบูดเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะมองหน้าและยิ้มให้กันได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าเพื่อน น่าจะเป็นเรื่องอิหร่าน ซึ่งถึงจะอยู่ห่างกันคนละฟาก แต่ซาอุดิก็เห็นอิหร่านเป็นคู่แข่งรัศมี ชิงความเป็นพี่ใหญ่ในตะวันออกกลางกันมาตลอด อิหร่านกำลังก้มหน้าก้มตาพัฒนาระบบนิวเคลียร์ ที่อ้างว่าไม่ไช่เป็นอาวุธนะ อย่าเข้าใจผิด แต่ถึงอย่างนั้น ซาอุดิก็หงุดหงิด ไม่พอใจ จะพอใจได้ยังไง ก็ตัวเองยังไม่มีนิวเคลียร์กับ เขาสักลูก แถมอาวุธที่มีอยู่ ยังต้องกัดฟันซื้อ โดยเฉพาะจากอเมริกา นึกว่าเขาให้ฟรีๆหรือ เปล่าหรอก แค่ลดราคาให้เท่านั้นเอง เค็มชะมัด แบบนี้ไม่หงุดหงิดได้ไง แต่ที่ไม่พอใจมากที่สุด คือไม่พอใจในอากัปกริยา ท่าทีของอเมริกา มากกว่า ซาอุดิอารเบียกับอเมริกา มีความสัมพันธ์ยาวนาน และแข็งแรงอย่างเป็นทางการมาประมาณ 70 ปีแล้ว ตั้งแต่ประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt กับกษัตริย์ Abd al-Aziz ibn Sa’ud ผู้ก่อตั้งราชอาณาจักรซาอุดิอารเบีย นั่งจับมือกันบนเรือรบ USS Quincy เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1945 แต่ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ จะแข็งแรงมากน้อยขนาดไหนไม่มีใครรู้ดี มีนักวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ ทั้ง 2 ประเทศ อุปมาไว้น่าฟังว่า มันเหมือนการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม a marriage for convenience ไม่ใช่มาจากรักแรกพบ หรือรักแบบดูดดื่มฝังใจ เพาะบ่มรอกันมา 20 ปี เมื่อเป็นการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม จะให้หวือหวา หวานชื่นกันตลอด คงเป็นไปไม่ได้ มันคงจะเป็นประเภท ต่างก็ยี่ต๊อกใส่กันว่า ฉันได้มากกว่าเสีย หรือเธอได้มากกว่าฉันหรือเปล่า ทำนองนั้น เรื่องอะไรที่ไม่พอใจ ตราบใดที่บัญชีของทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่เป็นตัวแดง ก็ยังคงกล้อมแกล้ม กัดฟันอยู่กันต่อไป ตลอดการอยู่ร่วมกันของคู่แต่งงาน ซาอุดิฉุนจัดครั้งแรก ก็เมื่ออเมริกามีทีท่าว่าจะมีใจให้กับอิสราเอล สาวข้างบ้าน ที่อเมริกาให้การรับรองเมื่อปี ค.ศ.1948 แต่มันเป็นช่วงระหว่างการก่อร่างสร้างเมืองของซาอุดิ กษัตริย์ Abd al-Aziz จึงต้องกัดฟันมองไปทางอื่นแทน ขณะที่รอบข้างกดดันให้ยกเลิกสัมปทาน ที่ซาอุดิให้แก่ Aramco ของอเมริกาตั้งแต่ ค.ศ.1933 หลังจากนั้น ก็มีเรื่องการสั่งห้ามซื้อขายน้ำมัน Oil Embargo ระหว่างกลุ่มค้าน้ำมันชาติอาหรับ กับกลุ่มตะวันตกในปี ค.ศ.1973-74 ซึ่งเป็นการเล่นกล หลอกต้มทั้งคนขายน้ำมันและคนใช้ น้ำมัน โดยพวกนักการเงินวอลสตรีท ที่จัดฉากโดยนาย Henry Kissinger ตัวแสบ ภายใต้การชักใยของ พวกโคตรรวย Rockefeller แต่เรื่องนี้มันก็ลงความเห็นยากว่า ฝ่ายไหนเสียมากกว่า ดูเหมือนจะเป็นมวยล้มต้มคนดู พวกที่เสียหายจริงๆ น่าจะเป็นพวกซื้อน้ำมัน จนแล้วยังทำซ่า อยากเป็นเสือตัวที่ห้ามากกว่า ไปอ่านรายละเอียดได้ จากนิทานเรื่องมายากลยุทธนะครับ ซาอุดิ เริ่มขัดใจจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องการบุกเข้าไปขยี้อิรัคของอเมริกา ไม่ใช่เพราะซาอุดิใจอ่อนสงสารอิรัคหรอก อย่าเข้าใจผิด แต่ซาอุดิเห็นว่า เป็นการทำให้ดุลยอำนาจในภูมิภาคเอียง ไปเข้าทางอิหร่านมากกว่า เพราะเป็นการเปิดทางให้อิหร่าน เข้าไปสนับสนุนกลุ่ม Nouri al-Maliki ขึ้นมามีอำนาจในอิรัค หลังจากซัดดัมถูกโค่น และทำให้อิรัคกับอิหร่าน ก็ใกล้เคียงกับการเป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกันตั้งแต่บัดนั้น มันเป็นการเสริมบารมี เสริมกำลัง ให้กับอิหร่านมากขึ้น เกินกว่าที่ซาอุดิ จะไม่สนใจ แต่ที่เป็นหนามตำใจมาตลอด คือเรื่องสาวข้างบ้าน อิสราเอลนั่นแหละ ที่ทำให้ซาอุดิเห็นว่า อเมริกา ตาชั่งเอียงจนน่าเกลียด เรื่องนี้ไม่มีทางแก้แน่นอน ซาอุดิรู้ดีอยู่แก่ใจ มีแต่ทางเดินออก ซาอุดิจะกล้าเดินออกไหมเท่านั้น พอไปรวมกับเรื่องอียิปต์ ซึ่งซาอุดิเห็นว่า ขนาด Hosni Mubarak ผู้ซึ่งเป็นลูกหาบที่ซื่อสัตย์มาให้อเมริกา 30 กว่าปี อเมริกายังโยนทิ้งเฉย ปล่อยให้ Muslim Brotherhood มุสลิมหัวรุนแรงที่ไม่เอาพวกตะวัน ตก ขึ้นมาปกครองอียิปต์แทน แน่นอน ซาอุดิต้องหงุดหงิด กลุ้มใจ จนหน้าคล้ำหนักไปกว่าเดิม แบบนี้แปลว่าอะไร อเมริกาไม่สนใจหรือว่า มันจะยิ่งสร้างความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางมากขึ้น เผลอๆ เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดที่ซาอุดิก็ได้ อเมริกาปล่อยให้เป็นอย่านี้ได้อย่างไร เรื่องอิสราเอลยังแก้ไม่ออก เรื่องอียิปต์ดันมาเกิดขึ้นต่อ บวกกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ยังค้างคา นี่ยังมามีเรื่องซีเรียอีก เรื่องซีเรียที่ซาอุดิก็ไม่รัก เอะ เสี่ยซาอุรักใครมั่งนะ ชักสงสัย สู้กันมา3 ปีกว่าแล้ว เรื่องยังไม่จบเสียที ไอ้เจ้า Assad นี่มันทนทายาด แล้วอเมริกาก็ดันประกาศ (ในปี ค.ศ. 2013) ว่าจะไม่ใช้กองกำลังจัดการเรื่องซีเรีย โอ้ย กลุ้มใจโว้ย ยังถอนใจไม่หายเหนื่อย หน่อไอซิสก็ทะลี่งได้ปุ๋ยดี บานเต็มท้องทุ่งซีเรีย อิรัค นี่ถ้ามันดันชอบอากาศแถวซาอุดิ มางอกต่อแถวนี้ พวกซาอุดิจะเอาอยู่ไหม หงุดหงิดแล้ว ก็เลยพาลน้อยใจต่อ ซาอุดิน้อยใจ คิดหนัก คิดจริงจังคือ เรื่องอิหร่าน (อีกแล้ว) การเจรจา ระหว่างพวกตะวันตกกับอิหร่าน เรื่องการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ซาอุดิมองว่า ถ้าการเจรจาเข้าทางอิหร่าน ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะฝ่ายของซาอุดิจะเสียเปรียบ และอาจจะถึงเสียหายเลยทีเดียว ฝ่ายที่มีนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง คือฝ่ายที่มีอำนาจควบคุมอ่าวเปอร์เซีย รวมไปทั้งตะวันออกกลาง ที่สำคัญ ซาอุดิมองว่า การใช้วิธีเจรจากับอิหร่าน ดูเหมือนเป็นการเริ่มกลับมาสานสัมพันธ์ใหม่ระหว่างอเมริกากับอิหร่าน อย่าลืมว่าคู่นี้ เขาเคยเป็นคู่รัก คู่แค้นกันมาก่อน หรือถ่านไฟเก่ามันจะคุขึ้นมาใหม่ ?!?! (2) ตกลงอเมริกากำลัง “shifting away” หันเหไปจากสัมพันธ์พิเศษกับซาอุดิหรือ มันดูเหมือนมีอาการของการนอกใจ ที่มองเห็นได้จากทั้งฝ่ายซาอุดิและฝ่ายอเมริกาเอง ทางฝ่ายซาอุดินั้น อดีตหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรอง และอดีตฑูตซาอุดิประจำอเมริกา Prince Bandar bin Sultan พูดตั้งแต่ปลายปี 2013 แล้วว่า ทางซาอุดิอาจจะมีการเปลี่ยนแนวทางของความสัมพันธ์ ระหว่างซาอุดิกับอเมริกา เป็นการประท้วงอเมริกาที่ไม่ขยับอะไรเลย เกี่ยวกับเรื่องการรบในซีเรีย รวมทั้งการที่อเมริกามีท่าที เหมือนจะไปสานสัมพันธ์ใหม่กับอิหร่าน อ้อ เรื่องนี้เอง ที่มันคาใจคนนอนเตียงเดียวกัน คำพูดของ Prince Bandar คนเดียวคงไม่พอ Prince Turki al-Faisal อดีตหัวหน้าสายลับ และฑูตซาอุดิประจำสหประชาชาติ ออกมาทำเสียงเข้มว่า นโยบายเกี่ยวกับซีเรีย ของนายโอบามา ฟังแล้วน่าเศร้าใจ พร้อมกับบอกว่า ข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับอเมริกา เรื่องการห้ามมิให้ Assad ใช้อาวุธเคมี เป็นหลุมพรางล่อให้อเมริกาตกพลั่ก เขวไปจากการใช้กำลังทหารจัดการในซีเรีย เขาต่อว่ากันแรงดีนะครับ ไม่เหมือนสมันน้อย คำน้อยคำ ก็ไม่ค่อยจะกล้าออกมาพาดพิงถึงลูกพี่ เชื่องดีจัง ( ช ช้างสะกดนะครับ ไม่ใช่ ข ไข่ เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด ฮา) นักจัดรายการทีวีชาวอเมริกัน Fred Kaplan วิจารณ์ว่า คำพูดของฝ่ายซาอุดิในเรื่องนี้ เหมือน “game of high-way chicken” เขาเตือนนายโอบามาว่า ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไก่อาจหลุดมือ วิ่งหายไปได้ หรือโอบามาไม่สนใจ เพราะอเมริกากำลังตื่นเต้นกับการค้นพบพลังงานใหม่ ที่จะไม่ต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจแล้ว หรือปล่อยให้ไก่วิ่งจนเหนื่อยก่อน หลังจากนั้น ขบวนการกดดันอเมริกาโดยกลุ่ม Gulf Cooperation Council (GCC) ลูกน้องคุณพี่ซาอุก็เกิดขึ้น นำโดยอาหรับอามิเรต และกาต้าร์เศรษฐีใหญ่ทั้งคู่ ออกโรงเดินสายคุยกับพวกถังความคิด Think Tank ของอเมริกา พร้อมเอาเงินบริจาคกล่องใหญ่ไปฝาก การลงทุนได้ผล ถังความคิดรีบออกรายงานทันที อเมริกาจะปล่อยให้พรรคพวกในตะวันออกกลาง แก้ไขปัญหาเรื่องซีเรียกับไอซิส โดยลำพังหรือ มันดูเหมือนอเมริกากำลังทิ้งเพื่อนที่มีความสัมพันธ์พิเศษนะ เพราะถ้าพวกเขาจัดการไม่ได้ คนที่จะตกที่นั่งลำบากคืออเมริกา แหม! นึกว่าถังความคิดชั้นนำระดับโลกจะสั่งไม่ได้ มีเงินจ่ายก็ใช้ได้ทั้งนั่นแหละครับ อเมริกา ถึงยังทิ้งกระบองยอดเพชร ที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 70 ปี ไม่ลง นายโอบามา ทำหน้าชื่นไปหากษัตริย์ Abdullah เมื่อประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากนั่งปรับความไม่เข้าใจกัน การแถลงข่าวภายหลังการปรับคลื่น สรุปว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีการหารือกัน เรื่องซีเรีย เรื่องการป้องกันไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ การร่วมกันต่อต้านการก่อการร้าย และสนับสนุนการเจรจา เพื่อให้มีสันติภาพเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง (จากการแถลงข่าวของ ทำเนียบขาว เมื่อ 28 มีนาคม 2014) เอกสารที่แจกในการแถลงข่าว บอกด้วยว่าซาอุดิอารเบีย เป็นลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ที่ซื้ออาวุธของอเมริกา U S Foreign Military Sales (FMS) คือประมาณ 97 พันล้านเหรียญ และอเมริกา ส่งสินค้าออกไปยังซาอุดิอารเบียในปี 2013 จำนวน 35 พันล้านเหรียญ และขณะนี้มีชาวซาอุดิ ประมาณ 8 หมื่นคน เรียนหนังสืออยู่ในอเมริกา อืม ดูเหมือนจะเป็นรายงาน ที่แปลงความสัมพันธ์เป็นตัวเงิน (รายได้) ของอเมริกา มากกว่าจะเป็นการให้ข้อมูล ที่ทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น นอกจากนี้ การรายงานข่าวของสื่อในช่วงนั้น ยังสรุปไปทิศทางเดียวกันว่า แม้จะมีความเห็นไม่สอดคล้องกันทุกเรื่อง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับซาอุดิอารเบีย ก็ยังไม่ถึงขั้นแตกหัก not broken เตียงยังไม่หัก ไม่ชำรุดขาเตียงยังอยู่ครบดี ไม่ว่าจะเป็น การร่วมมือทางการต่อต้านผู้ก่อการร้าย การทหาร การธุรกิจและด้านยุทธศาสตร์ อู้ย พูดกันรู้เรื่องดีคร้าบ แต่ก็คงจะเร็วไป ที่จะสรุปว่าคู่นี่เขาจะยังมั่นคงกันดีตลอดไป เพราะมันก็ยังเห็นรอยร้าวค้างอยู่ และแม้จะยังไม่ถึงกับทำให้ซาอุดิอารเบีย แยกทางกับอเมริกา แต่ซาอุดิอารเบียก็บอกว่า ไม่ปิดทางตัวเองที่จะมองหาหุ้นส่วนรายใหม่เช่นเดียวกัน นโยบายไม่แทงม้าตัวเดียว ไม่ใช่มีแต่อเมริกาเท่านั้นที่เล่นเป็น เอะ แล้วใครนะที่ซาอุดิอารเบีย เริ่มเจรจาต้าอวยไว้ (3) ถังความคิดตัวแสบ CSIS Think Tank ได้ออกรายงานการวิเคราะห์ The True Nature of the Saudi Succession “Crisis” วิกฤติตามธรรมชาติของการสืบสันตติวงศ์ของ Saudi เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2015 นี้ก่อนการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ Abdullah ไม่นานนัก รายงานสรุปว่า กษัตริย์ Abdullah ได้เตรียมการล่วงหน้ามานานแล้วอย่างเรียบร้อยดี ทั้งเรื่องในพระราชวงศ์ เรื่องในประเทศ ทั้งด้านศาสนา และรัฐบาล รวมทั้งเรื่องการต่างประเทศ เท่าที่จะทำได้ แน่นอนหลายปัจจัย ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องมีตามสภาพ….รายงานแจงค่อนข้างละเอียดว่า เตรียมการอะไร ใครเป็นใคร ตามประสา นิสัยเสือกทุกเรื่องของอเมริกา แต่ที่น่าจะสนใจคือ บางส่วนที่รายงานการวิคราะห์ดังกล่าวระบุถึง ซึ่งไม่ได้เกี่ยว หรือมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนกษัตริย์ผู้ปกครอง แต่เป็นเรื่องที่รายงานการวิเคราะห์ ระบุถึงสภาพสังคมของซาอุดิอารเบีย เป็นส่วนของรายงานที่บอกว่า ปี 2015 ซาอุดิจะมีประชากรประมาณ 27.8 ล้านคน ปี 2025 จะมี 31.9 ล้านคน และปี 2050 จะมีประชากร 40.3 ล้านคน ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียเป็นสังคมที่มีวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ในวัยที่ต้องทำงานแต่ไม่ทำงาน โดยอยู่ด้วยสวัสดิการของรัฐ มีตลาดแรงงานประมาณ 8.4 ล้านคน แต่เป็นชาวซาอุดิเพียง 1.7 ล้านคน ที่ผ่านมา ซาอุดิรับมือกับวัยรุ่นจำนวนมากที่ไม่ทำงานได้พอสมควร เพราะที่ผ่านมา ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่สูงกว่าปัจจุบันมากมาย ขณะที่อัตราประชากรเพิ่ม และมีคนไม่ยอมทำงาน แต่รายรับของประเทศ ซึ่งมาจากน้ำมันอย่างเดียว ลดลง ตามราคาน้ำมันโลก (หรือจากการร่วมมือกันกดราคาน้ำมันก็ตาม) ขณะเดียวกัน ซาอุดิก็มีรายจ่ายเกี่ยวกับความ มั่นคงของรัฐ สูงที่สุดในโลก ซาอุดิ มีสตรูมากหน้า ทั้งที่เป็นรัฐ และไม่ใช่รัฐ รวมทั้งมีก่อการร้ายเสมอ จากการที่เป็นผู้ดูแลสถานที่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำหน้าที่ ขุดคุ้ย สอดส่อง ฉวยโฉบเอกสาร แต่ถ้าใครคิดว่าแบนี้อิหร่านคงโป๊ไม่เหลือ เรียกว่ายังไม่รู้จักอิหร่านจริง!

    แล้วก็เป็นไปตามคาด การเจรจาไม่เป็นผล ตกลงกันไม่ได้ วันสิ้นสุดการเจรจา ต้องมีการต่ออายุไปถึงกลางปี 2015 แสดงว่า อิสราเอลยังทำภาระกิจไม่สำเร็จ ระหว่างนี้หากมีการเปลี่ยนค่าย เปลี่ยนพฤติกรรม พวกซุ่มเงียบเปลี่ยนใจเปิดตัว อิสราเอลจะเอาอยู่ไหม น้ำมันในตะวันออกกลาง ยังเป็นของรัก ของหวง ของนักล่าใบตองแห้งและพวก โดยเฉพาะลูกพี่ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่กบไต๋เงียบกริบ และใช้นักล่า ออกหน้าแทน… อย่างเคย

    จะเห็นว่าอิสราเอล กำลังเล่นบทหนัก ในการหนุน หรือ ผลักดัน การขยับหมากของนักล่าใบตองแห้ง นอกจากนี้ อิสราเอลยังมีเป้าหมาย ลับลึกซ่อนอยู่อีกหลายเรื่อง

    ถ้าสังเกตกัน จะเห็นว่า อิสราเอล พยายามเน้นให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฝรั่งเศส เป็นเรื่องการรังแกยิว โดยนาย Liberman รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอล ซึ่งไปเดินแถวคล้องแขนที่ปารีสด้วย บอกว่า เขาดู CNN แล้ว ปรากฏว่า ไม่มีการเสนอข่าวในมุมของชาวยิวเลยนะ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต Kosher ที่ยิงกัน ก็เป็นของชาวยิว หรือ พวกตัวประกัน ก็เป็นพวกชาวยิว พร้อมพูดว่า
    ” เราควรต้องพูดกันอย่างซื่อสัตย์ ไม่ต้องอาย และ เอาทุกอย่างวางบนโต๊ะ เพราะที่มาของการฆาตกรรมหมู่ชาวยิว มาจากมุสลิมเคร่งจัดด้านหนึ่ง และการด่าชาวยิวอย่างรุนแรงและไม่มีเหตุผลอีกด้านหนึ่ง”

    นี่ก็เป็นการให้ข่าวแบบกาฝาก คราวนี้ฝากไปให้ใคร

    ฝรั่งเศส มีชาวยิวอาศัยอยู่จำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 6 แสนคน นับเป็นอันดับ 3 ในโลก รองจากอิสราเอล และอเมริกา และฝรั่งเศส อีกเช่นเดียวกัน ที่มีคนนับถืออิสลามอาศัยอยู่มากที่สุดในยุโรป มีจำนวนไม่น้อยกว่า 4.7 ล้านคน ถึง 7.7 ล้านคน แล้วแต่แหล่งที่มาของข้อมูล

    ยูเครน ที่กำลังเล่นกันจนเละ จะกลายเป็นโรงละครสัตว์อยู่แล้วนั้น อิสราเอลก็แอบสนับสนุนฝ่ายที่ต่อสู้กับคุณพี่ปูตินอย่างเงียบ เชียบ แต่แข็งขัน อย่าลืมว่า คุณนาย Nuland นางเหยี่ยวของอเมริกา เจ้าของวลีเด็ด **** EU เป็นคนเลือกนาย Yatsenyuk ยิวหนุ่ม ไปเป็นนายกรัฐมนตรียูเครน ยูเครนจึง ไม่ได้เป็นเพียงสนามชิงท่อส่งแก๊ส มีหลายฝ่าย แอบหวังที่จะเอายูเครน เป็นบ้านยิวสาขา 2

    ฝรั่งเศสจึงน่าสนใจ ที่จะใช้เป็นสนามทดลอง หรือห้องทดลอง ทฤษฏีต่างๆ ก่อนมีการปฏิบัติการณ์ของจริง เพื่อดูปฏิกริยา การโต้ตอบ และกำลังสนับสนุนของแต่ละฝ่าย

    ในการทำศึกสงคราม แต่ละฝ่าย ต่างมียุทธศาสตร์ และต่างมีวาระซ่อนเร้น ซึ่งเราอาจจะยังเห็นไม่หมด มองไม่ชัดในตอนนี้ เพราะพวกเขาคงจะยังไม่เปิดฉากแสดงกันที่สถานที่จริง หรือถ้าเปิด มันก็ดูเป็นฉาก ที่ไม่ต่อเนื่องกัน

    เช่นเรื่องยูเครนกับตะวันออกกลาง อาจเกี่ยวโยงกันอย่างที่เรานึกไม่ถึง และเช่นเดียวกับการลงมติ คว่ำบาตรรัสเซีย ที่กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป กำลังทดสอบความแข็งของข้อกัน และคงจะรู้กันเร็วๆนี้ ว่า ใครกันแน่ ที่ข้อแข็งในสหภาพยุโรป

    ส่วนเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งสมาชิกรัฐสภาอเมริกันกลุ่มหนึ่ง กำลังกระเหี้ยน กระหือรือ ที่จะยื่นเรื่องให้รัฐสภา ลงมติเพิ่มการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่ม ทั้งที่การเจรจาเรื่องพัฒนานิวเคลียร์ ที่เพิ่งเริ่ม หลังจากมีการต่ออายุใหม่ และมีข่าวว่า นายโอบามาบอกว่า พยายามจะใช้สิทธิวีโต้ เพราะการเจรจากับอิหร่านยังไปได้อยู่

    คงจะไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ถ้าการพยายามคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มนั้น ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มยิว ทั้งใน และนอกอเมริกา ถ้าอิหร่านล้มคว่ำตามบาตรในตะวันออกกลาง ที่จะลุกขึ้นตีปีกคืออิสราเอล เพราะถ้าเจอทั้งอิหร่าน และตุรกี พร้อมกัน ในตะวันออกกลาง มันเหนื่อยโว้ย สะกัดไปทีละประเทศ น่าจะดีกว่า ส่วนความฝันเรื่องยูเครน ถ้ารัสเซียหมดแรง ถอบฉากเลิกขวาง อิสราเอลก็หวานคอ เอะ นี่ตกลงเป็นเรื่องของยิวล้วนๆหรือไง แล้วพวกลูกพี่ ทั้งนักล่าใบตองแห้ง และชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่คอยกำกับ ทุกรายการ ยังต้องการให้จัดการเรื่องอะไรอีกครับ ?!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    18 มค. 2558
    ทำหน้าที่ ขุดคุ้ย สอดส่อง ฉวยโฉบเอกสาร แต่ถ้าใครคิดว่าแบนี้อิหร่านคงโป๊ไม่เหลือ เรียกว่ายังไม่รู้จักอิหร่านจริง! แล้วก็เป็นไปตามคาด การเจรจาไม่เป็นผล ตกลงกันไม่ได้ วันสิ้นสุดการเจรจา ต้องมีการต่ออายุไปถึงกลางปี 2015 แสดงว่า อิสราเอลยังทำภาระกิจไม่สำเร็จ ระหว่างนี้หากมีการเปลี่ยนค่าย เปลี่ยนพฤติกรรม พวกซุ่มเงียบเปลี่ยนใจเปิดตัว อิสราเอลจะเอาอยู่ไหม น้ำมันในตะวันออกกลาง ยังเป็นของรัก ของหวง ของนักล่าใบตองแห้งและพวก โดยเฉพาะลูกพี่ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่กบไต๋เงียบกริบ และใช้นักล่า ออกหน้าแทน… อย่างเคย จะเห็นว่าอิสราเอล กำลังเล่นบทหนัก ในการหนุน หรือ ผลักดัน การขยับหมากของนักล่าใบตองแห้ง นอกจากนี้ อิสราเอลยังมีเป้าหมาย ลับลึกซ่อนอยู่อีกหลายเรื่อง ถ้าสังเกตกัน จะเห็นว่า อิสราเอล พยายามเน้นให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฝรั่งเศส เป็นเรื่องการรังแกยิว โดยนาย Liberman รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอล ซึ่งไปเดินแถวคล้องแขนที่ปารีสด้วย บอกว่า เขาดู CNN แล้ว ปรากฏว่า ไม่มีการเสนอข่าวในมุมของชาวยิวเลยนะ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต Kosher ที่ยิงกัน ก็เป็นของชาวยิว หรือ พวกตัวประกัน ก็เป็นพวกชาวยิว พร้อมพูดว่า ” เราควรต้องพูดกันอย่างซื่อสัตย์ ไม่ต้องอาย และ เอาทุกอย่างวางบนโต๊ะ เพราะที่มาของการฆาตกรรมหมู่ชาวยิว มาจากมุสลิมเคร่งจัดด้านหนึ่ง และการด่าชาวยิวอย่างรุนแรงและไม่มีเหตุผลอีกด้านหนึ่ง” นี่ก็เป็นการให้ข่าวแบบกาฝาก คราวนี้ฝากไปให้ใคร ฝรั่งเศส มีชาวยิวอาศัยอยู่จำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 6 แสนคน นับเป็นอันดับ 3 ในโลก รองจากอิสราเอล และอเมริกา และฝรั่งเศส อีกเช่นเดียวกัน ที่มีคนนับถืออิสลามอาศัยอยู่มากที่สุดในยุโรป มีจำนวนไม่น้อยกว่า 4.7 ล้านคน ถึง 7.7 ล้านคน แล้วแต่แหล่งที่มาของข้อมูล ยูเครน ที่กำลังเล่นกันจนเละ จะกลายเป็นโรงละครสัตว์อยู่แล้วนั้น อิสราเอลก็แอบสนับสนุนฝ่ายที่ต่อสู้กับคุณพี่ปูตินอย่างเงียบ เชียบ แต่แข็งขัน อย่าลืมว่า คุณนาย Nuland นางเหยี่ยวของอเมริกา เจ้าของวลีเด็ด Fuck EU เป็นคนเลือกนาย Yatsenyuk ยิวหนุ่ม ไปเป็นนายกรัฐมนตรียูเครน ยูเครนจึง ไม่ได้เป็นเพียงสนามชิงท่อส่งแก๊ส มีหลายฝ่าย แอบหวังที่จะเอายูเครน เป็นบ้านยิวสาขา 2 ฝรั่งเศสจึงน่าสนใจ ที่จะใช้เป็นสนามทดลอง หรือห้องทดลอง ทฤษฏีต่างๆ ก่อนมีการปฏิบัติการณ์ของจริง เพื่อดูปฏิกริยา การโต้ตอบ และกำลังสนับสนุนของแต่ละฝ่าย ในการทำศึกสงคราม แต่ละฝ่าย ต่างมียุทธศาสตร์ และต่างมีวาระซ่อนเร้น ซึ่งเราอาจจะยังเห็นไม่หมด มองไม่ชัดในตอนนี้ เพราะพวกเขาคงจะยังไม่เปิดฉากแสดงกันที่สถานที่จริง หรือถ้าเปิด มันก็ดูเป็นฉาก ที่ไม่ต่อเนื่องกัน เช่นเรื่องยูเครนกับตะวันออกกลาง อาจเกี่ยวโยงกันอย่างที่เรานึกไม่ถึง และเช่นเดียวกับการลงมติ คว่ำบาตรรัสเซีย ที่กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป กำลังทดสอบความแข็งของข้อกัน และคงจะรู้กันเร็วๆนี้ ว่า ใครกันแน่ ที่ข้อแข็งในสหภาพยุโรป ส่วนเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งสมาชิกรัฐสภาอเมริกันกลุ่มหนึ่ง กำลังกระเหี้ยน กระหือรือ ที่จะยื่นเรื่องให้รัฐสภา ลงมติเพิ่มการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่ม ทั้งที่การเจรจาเรื่องพัฒนานิวเคลียร์ ที่เพิ่งเริ่ม หลังจากมีการต่ออายุใหม่ และมีข่าวว่า นายโอบามาบอกว่า พยายามจะใช้สิทธิวีโต้ เพราะการเจรจากับอิหร่านยังไปได้อยู่ คงจะไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ถ้าการพยายามคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มนั้น ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มยิว ทั้งใน และนอกอเมริกา ถ้าอิหร่านล้มคว่ำตามบาตรในตะวันออกกลาง ที่จะลุกขึ้นตีปีกคืออิสราเอล เพราะถ้าเจอทั้งอิหร่าน และตุรกี พร้อมกัน ในตะวันออกกลาง มันเหนื่อยโว้ย สะกัดไปทีละประเทศ น่าจะดีกว่า ส่วนความฝันเรื่องยูเครน ถ้ารัสเซียหมดแรง ถอบฉากเลิกขวาง อิสราเอลก็หวานคอ เอะ นี่ตกลงเป็นเรื่องของยิวล้วนๆหรือไง แล้วพวกลูกพี่ ทั้งนักล่าใบตองแห้ง และชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่คอยกำกับ ทุกรายการ ยังต้องการให้จัดการเรื่องอะไรอีกครับ ?! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 18 มค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง ห้องทดลอง
    “ห้องทดลอง”

    (1)

    ผ่านไปไม่กี่วัน จากไปเดินเรียงแถวคล้องแขน แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์น่า สลดที่ปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2015 ตุรกี ที่ส่งนายกรัฐมนตรี นาย Amed Davutoglu ไปร่วมเดินห่างไม่กี่แถว กับคู่แค้น Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ก็เกิดอาการเบรคแตก

    Independent สื่อค่ายชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ฉบับวันที่ 14 มกราคม 2015 รายงานว่า ประธานาธิบดี RecepTayip Erdogan ของตุรกี ให้ข่าวทันที ว่า

    ” พวกตะวันตก the west กำลังเล่นเกมส์ เล่นกันกลางกรุงปารีส ด้วยโดยการโยนให้มุสลิมเป็นเหยื่อ …คนฝรั่งเศส เป็นคนจัดการให้มีการฆ่า แล้วโยนบาปมาให้คนมุสลิม ฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศส ไม่รู้จักตามรอยคนออกมาจากคุกหรือไง? หลังจากเกิดเหตุ ก็มีการโจมตีสุเหร่าของอิสลาม …เห็นชัดถึงการตอแหล จอมปลอมของพวกตะวันตก เราไม่เคยมีส่วนร่วมในการก่อการร้ายใดเลย …เบื้องหลังเรื่องนี้ มันเกี่ยวกับการแบ่งแยกเรื่องเชื้อชาติ สร้างคำพูดใส่ร้าย และสร้างความเกลียดชังให้กับพวกมุสลิม”

    “กำลังมีการเล่นเกมส์กับโลกมุสลิม เราต้องรับรู้เรื่องนี้กันไว้ ” นาย Erdogan กล่าวเพิ่ม

    สหภาพมุสลิมในฝรั่งเศสรายงานว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ มีเหตุการณ์ที่แสดงถึงการต่อต้านมุสลิมประมาณ 50 รายการ ซึ่งรวมถึงการไล่ยิง และการพยายามเผาสุเหร่า

    นาย Erdogan ยังไม่จบง่ายๆ ด่าฝากแถมไปถึงการไปเดินเรียงแถวของ นาย Netanyahoo ว่า
    เขาทำไปได้ยังไง ทำไมคนที่สั่งฆ่าคน 2,500 คน ที่กาซ่า ยังมีหน้ามาเดินโบกมืออยู่ในปารีส เหมือนมีคนมาคอยต้อนรับด้วยความตื่นเต้น กล้าดีไปเดินอยู่ที่นั่นได้ยังไง ไม่นึกถึง เด็กและผู้หญิง ที่ตัวเองฆ่าบ้างเลยหรือ”

    คงยังไม่หนำใจ นายกเทศมนตรี เมืองหลวง Ankara ของตุรกี ช่วยออกมาเสริมอีก
    ” นี่ต้องเป็นผลงานของ Mossad ( หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล ที่ฝีมือชั่วไม่แพ้ CIA หรืออาจจะมากกว่า! ) อยู่เบื้องหลังแน่นอน เป็นการเพิ่มความรังเกียจต่อคนอิสลาม”

    โห รายการนี้ด่ากันแรงนะครับ ถ้าตุรกีไม่ได้ไปถูกเสี้ยนตำตีน หรือเหยียบไปบนขี้หมากองโต ที่กลางกรุงปารีส ระหว่างเดินเรียงแถวกันละก้อ สงสัยต้องมีเรื่องใหญ่คิดการณ์เอาไว้แล้ว ถึงได้ตอกใส่กันแรงขนาดนี้

    ฝ่ายอิสราเอล ก็ไม่ใช่เล่น ถูกด่าปั้บ ออกมาตอกกลับทันที ยังกะสั่งหนังสือพิมพ์ ให้ออกข่าวรอล่วงหน้า เหมือนกับรู้ว่า อีกฝ่ายจะพูดอะไร

    วันที่ 14 มกราคม วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์ the Jerusalem Post ลงข่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahoo และรัฐมนตรีต่างประเทศ นาย Avigdor Liberman บอกว่า นาย Erdogan ของตุรกี เป็นพวกเกลียดยิว anti-Semitic เป็นเพื่อนบ้านจอมป่วน และกล่าวอ้อมๆว่า ตุรกีให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้าย

    ” การปราบปรามผู้ก่อการร้าย ไม่มีวันทำสำเร็จหรอก ถ้าเรายังใช้วิธีเสแสร้ง หน้าไหว้หลังหลอกกันอยู่อย่างนี้ เราไม่ได้ยินผู้นำระดับโลกคนใดเลย ออกมามาประนามคำพูดของนาย Erdogan ไม่มีสักคนจริงๆ ” นาย Netanyahoo สำทับ

    คำสำทับนี้ดูเหมือนไม่ได้ส่งกลับ ไปที่ นาย Erdogan แต่น่าจะส่งไปไกลกว่านั้น

    เป็นที่รู้กันอยู่ว่า ตอนนี้นายโอบามา ไม่หวานชื่นกับ Nethanyahoo ไม่เหมือน ประธานาธิบดีอเมริกันคนอื่นๆ ที่คอยเอาใจพวกยิว โดยเฉพาะ ก่อนการเลือกตั้ง

    ขณะที่อิสราเอลเหน็บอเมริกา ตุรกี ซึ่งอเมริกามองว่าเป็นลูกกระเป๋งมาตลอด แต่กลับเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่ให้การสนับสนุนอย่างเปิดเผยต่อ องค์กรฮามาส Hamas ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ และเป็นองค์กรที่อเมริกา และสหภาพยุโรป ต่างขึ้นบัญชีดำ ให้เป็นผู้ก่อการร้ายระดับสำคัญ แต่ดูเหมือนตุรกีจะไม่สนใจ
    แถมล่าสุดเมื่อปลายเดือนธันวา คม ปี 2014 ตุรกีได้เชิญ นาย Khaled Meshaal หัวหน้ากลุ่มฮามาส ไปเยียนตุรกี และเอานาย Meshaal ไปเข้าร่วมประชุมพรรค AKP ของประธานาธิบดี Erdogan ด้วย แน่จริงๆ เรียกว่าท้าทายกันแบบไม่เกรงใจใครเลย
    เอะ แล้วตุรกีต้องเกรงใจใครหรือ?!

    ข่าวหัวหน้าฮามาส ไปเดินฉุยฉายลอยชายอยู่ตุรกี แน่นอนยอมมีคนหงุดหงิด นักล่าใบตองแห้งหงุดหงิดง่ายอ ยู่แล้ว แค่ลมพัดใบตองแห้ง แกว่งแรงไปหน่อย ยังออกเสียงฮึมแฮ่เลย นี่หัวหน้าฮามาส ที่นักล่า อยากขยี้มาหลายรอบ แต่ไม่สำเร็จ ตอนนี้ลงทุนเปลี่ยนแผน ขยี้ไม่ตาย แต่ถ้าซื้อขายอาจจะโอเคมั่งนะ แต่ขอโทษ ฮามาส นอกจากไม่ยอมขายตัวแล้ว ยังไปนั่งสบายใจ เฮฮา กับสุดยอดนักไต่ลวด นายErdogan แชมป์เล่นเกมเสียว เหมือนโชว์ให้ใครดูเสียอีก แบบนี้นักล่าหรือจะปล่อยไปเฉยๆ

    วันที่ 8 มกราคม คศ 2015 คุณหนูเจน Psaki โฆษก กระทรวงการต่างประเทศของนักล่า เลยต้องออกมาทำหน้าเครียดแถลงข่าวว่า

    ” ท่าทีของเราต่อขบวนการฮามาสยังไม่เปลี่ยนนะ ฮามาสคือองค์กรต่างประเทศที่เกี่ยวพันกับการก่อการร้ายมาอย่างต่อเนื่อง และฮามาส ได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาอย่างชัดเจนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา (ช่วงสิงหาคม ปีที่แล้ว) ในความขัดแย้งกับอิสราเอล”

    “เรามีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับฮามาส และเมื่อรู้ว่า Meshaal ไปเยี่ยมตุรกี เราได้ขอให้รัฐบาลตุรกีกดดันฮามาส เพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันความรุนแรง” แหม คุณหนู ช่างไม่มีศิลปะในการพูดเสียเลย มิน่าแถลงข่าวที่ไร ถูกนักข่าวหนุ่มๆ ต้อนจนติดอ่าง ฮา

    ขณะเดียวกันมีข่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีบอกว่า ตุรกียินดีต้อนรับ Khaled Meshaal หัวหน้าฮามาส หลังจากมีข่าวว่า Meshaal ซึ่งลี้ภัยไปอยู่ที่กาต้าร์ ได้ถูกทางการของกาต้าร์ ขับออกนอกประเทศแล้ว และเขาอาจจะไปตุรกี

    เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีบอกว่า ไม่ว่าใคร จะเป็นคนของประเทศใด ก็สามารถเข้าออกตุรกีได้อยู่แล้ว ตราบใดที่ไม่มีปัญหาด้านกฏหมาย นี่มันต้องตอบแบบกลิ้งได้หลายตลบอย่างนี้ สมกับเป็นพวกนักไต่ลวดจริงๆ นักล่าใบตองแห้งน่าจะส่งคุณหนู Psaki มาฝึกงานแถวตุรกีซะหน่อยนะ ฮาอีกครั้ง

    อเมริกา อิสราเอล และตุรกี กำลังมีอะไรคาใจ หรือเล่นบทอะไรกันอยู่หรือ ถึงใช้วิธีเหมือนกาฝาก บินโฉบทิ้งของที่ระลึก แล้วแฉลบข้ามไปต่อ

    #######
    (2)

    ฝ่ายทางกลุ่มฮามาสเองก็ฉุนขาด เมื่อได้ฟังคำวิจารณ์ของอเมริกา เกี่ยวกับการไปนั่งชมวิวตุรกีของนายMehsaal ที่ถ่ายทอดโดยฝีปากของคุณหนู Psaki บอกว่าอเมริกาสามหาว และเหยียดเผ่าพันธ์มากไปแล้ว รัฐบาลอเมริกากำลังไต่อันดับ ทำตัวเข้าข่ายเป็นศัตรูที่แท้จริงของพวกเขาทีเดียว ทั้งนี้ตามคำแถลงของ Al-Qassam Brigades ฝ่ายกองทัพของกลุ่มฮามาส

    ส่วนเรื่องกาต้าร์ขับไล่ นายMeshaal ออกจากประเทศ กาต้าร์ไม่ยืนยัน แต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว กาต้าร์ขับไล่ระดับหัวหน้าของ Muslim Brotherhood 7 คน ที่กาต้าร์เลี้ยงดูไว้นานแล้วออกจากประเทศ เพื่อเป็นการเอาใจพวกราชวงศ์เสี่ยน้ำมันตะวันออกกลาง และรัฐบาลอียิปต์ อืม มาแปลก

    กาต้าร์ไม่ใช่นายทุนรายเดียวที่สนับสนันเลี้ยงดู Muslim Brotherhood ตุรกีก็สนับสนุนเช่นเดียวกัน

    Muslim Brotherhood เป็นกลุ่มอิสลามฝักใฝ่การเมือง ที่รวมตัวกันขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะโค่นล้มรัฐบาลอิสลาม ที่อยู่ใต้อิทธิพลของอเมริกา ตุรกีย่อมให้การสนับสนุนไว้ก่อน เพราะยังไม่แน่ใจอนาคตของตนเอง ส่วนกาต้าร์ละ เข้าไปเกี่ยวอะไรด้วย

    เมื่ออียิปต์เกิดอาหรับสปริง ที่ไม่แน่ว่า สาเหตุจะมาจากการที่ นายมูบารัค ของอียิปต์มีนโยบายเกี่ยวกับปาเลสไตน์ สวนทางกับอิสราเอลหรือเปล่า และอเมริกาภายใต้การกดดันของอิสราเอล จึงส่งอาหรับสปริง เป็นของขวัญให้นายมูบารัค

    ลูกไปเข้าทางของ Muslim Brotherhood อิยิปต์จึงได้ นาย Mohamed Morsi ของ Muslim Brotherhood มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องถูกใจตุรกีอย่างยิ่ง เพราะถ้าอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขต ด้านหนึ่ง ติดกับด้านใต้ของอิสราเอล มีผู้มีอำนาจปกครองเป็นพวกเดียวกับตุรกี เมื่อไหร่ที่อิสราเอลทำซ่า อาละวาดใส่ปาเลสไตน์ที่ตุรกีสนับสนุนมาตลอด ตุรกีกับอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขตประกบหัวท้ายอิสราเอลอยู่ คิดเล่นแซนด์วิช ผลัดกันโยนหัวปลีข้ามใส่อิสราเอล ก็น่าจะลดความกร่างของอิสราเอลไปได้บ้าง
    และก็เพราะการเดินสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบนี้ ในช่วงหลังๆของตุรกี โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับอิสราเอล สัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับตุรกี จึงไม่หวานอย่างเดิม และมีส่วนให้ นาย Morsi ของ Muslim Brotherhood น่าจะถูกใบสั่ง ให้ทหารอียิปต์ทำการปฏิวัติซ้อน ทำเอา นาย Morsi หล่นจากแท่นอำนาจไปอย่างรวดเร็ว หลังจากขึ้นมามีอำนาจได้เพียงปีเดียว ดูกันไว้เป็นตัวอย่างนะครับ ว่าเขาเล่นเกมกันอย่างไร

    นอกจากมีเรื่องกับอิสราเอลแล้ว เรื่องซีเรียก็เป็นปัญหาใหญ่ อเมริกาบอกชักจะเบื่อการเล่นเกมของตุรกี ที่พักหลังมีแต่ all pain, no gain แล้วนะ เราชักอยากให้ตุรกีเลือกข้างมาให้ชัดๆเลย เราไม่สนใจ และไม่เดือดร้อนเลย ถ้าไม่ได้ใช้ฐานทัพของเรา ที่อยู่ในตุรกีเพื่อทำการฝึกให้กับฝ่ายต่อต้านไอซิส หรือต่อต้านซีเรีย เราไม่ได้ต้องการให้กองทัพตุรกี ไปสู้ศึกที่ซีเรีย ที่เราต้องต้องการให้ตุรกีทำคือ ให้ตุรกีไปสืบดูให้ได้ และขจัดเส้นทางเข้าออกของผู้ก่อการร้าย เครือข่ายการธุรกิจ และการเงิน ที่ทำผ่านตุรกี ไปให้ซีเรีย ที่ทำให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายนี้โตขึ้นอย่างมากใน 3 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ตุรกีทำไม่ได้ หรือไม่ทำให้อเมริกา

    จะให้เข้าใจเรื่องนี้ดีขึ้น ผมขอแนะนำให้ท่านผู้อ่าน ไปเอาแผนที่มากางดู อียิปต์อยู่ด้านล่าง ถัดขึ้นมาข้างบนเอียงขวาหน่อย เป็นอิสราเอล เหนืออิสราเอลเป็นเลบานอน ระหว่างอิสราเอลกับเลบานอนมีเนื้อที่แถบเล็กๆ คือปาเลสไตน์ เหนือเลบานอนเป็นซีเรียและอิรัค เหนือชีเรียเป็นตุรกี เหนือตรุกีเป็นจอร์เจีย ใกล้กับเขตแดนรัสเซีย เหนืออิรัคเป็นอิหร่าน ซึ่งมีเขตแดนติดกับรัสเซียยาวเหยียด

    เล่าแผนที่มายาว เพื่อให้เห็นความสำคัญของปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย ตุรกี อิรัค และอิหร่าน ซึ่งเหมือนขนมชั้น ขวางทางเข้าสู่รัสเซีย มันเป็นขนมชั้นที่มีความสำคัญ ทั้งในมิติของสงครามภูมิภาค และมิติสงครามโลก !

    และหมากที่จะเดินให้เป็นสงครามภูมิภาค หรือสงครามโลกตัวสำคัญตัวหนึ่งของฝ่ายอเมริกาคือ อิสราเอล ซึ่งมีอิทธิพล และเล่ห์เหลี่ยมสูงมาก ถึงขนาด อาจจะเป็นตัวบีบ ให้อเมริกาเดินหมากตัวอื่นตามที่ตนเองต้องการ เผลอๆอาจจะเหลี่ยมสูง ถึงขนาดบีบให้ตัวอเมริกาเอง เดินตามที่อิสราเอลหลอกให้เดินก็มีทางเป็นไปได้

    ในขณะที่ตุรกีเป็นหมากตัวใหม่ ที่เหมือนแสดงตัวเปิดเผยว่า เราไม่ใช่อยู่ฝ่ายอเมริกาแล้วนะ ตุรกีและ อิหร่าน น่าจะเป็นหมากที่เดินตามจังหวะที่น่าสนใจ ให้กับฝ่ายรัสเซียในตะวันออกกลาง

    การขยับของอิสราเอล ตุรกี และอิหร่าน ย่อมมีความหมาย ไม่น้อยกว่าการขยับของฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมัน ในยุโรป มันดูเหมือนเป็นคนละเรื่อง แต่มันอาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน หรือต่อเนื่องกัน จึงโปรดอย่าลืมจับตา คอยดูการขยับของหมากทั้ง 6 ตัวนี้

    #####
    (3)

    อิหร่าน เป็นหมากอีกตัวที่สำคัญของฝ่ายรัสเซีย เพราะมีข่าวว่า กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่าง ซุ่มเงียบ อเมริกานักล่าใบตองแห้ง แน่นอน ย่อมหงุดหงิดออกอาการ น้ำลายฟูมปาก แต่ก็คิดหนัก เพราะอิหร่านนั้น เหมือนผีดิบคืนชีพ โดนอเมริกาบดขยี้มาหลายรอบ ไม่ตายคาที่เสียที แค่ช้ำใน กลัดหนองอยู่นาน ปล่อยให้อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์ไปเรื่อยๆ นอกจากเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้ ทั้งอิหร่านเอง และช่วยฝ่ายรัสเซียแล้ว ยังทำให้อิสราเอลไข้ขึ้น รู้สึกหนาวสั่นกลางแดดได้ ในตะวันออกกลาง แต่สูตรยาขจัดอิหร่านแบบยกเดียวจบ อเมริกายังคิดไม่สำเร็จ

    อิสราเอลตัวแสบ ต้องรู้อะไรลึกและมีแผนซับซ้อน จึงหนุน แนะ หรือสั่งให้อเมริกาใช้วิธีเจรจากับอิหร่านไปพลางๆก่อน และอเมริกาก็หันมาสั่งสหภาพยุโรปอีกต่อ เจรจากับอิหร่านต่อไปนะพวก เอะ ตกลงใครใหญ่กันแน่

    การเจรจากับอิหร่านในปี 2014 ดูเหมือนราบรื่นดี ผู้ที่รับบทหนักในการเดินสาย เดินสารปั่นหัว เหล่าคณะกรรมการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ กับอิหร่าน คือ รัฐมนตรีด้านงานข่าวกรอง Minister of Intelligence ของอิสราเอล นาย Yuval Steinitz ซึ่งเดินทางจนนักข่าวแซวว่า ได้ไมล์เลจเป็นบัตรแพลตินั่มหลายใบแล้ว นาย Steinitz เป็นคนไปเอาเอกสารลับมาป้อนให้ คณะกรรมการเจรจา เอาไว้ยันหน้ากับอิหร่าน นอกจากนั้น ทีมงานข่าวกรองของอิสราเอล หน่วยงาน Mossad ก็ทำงานหนัก เพราะเป็นตัวจริง
    เรื่อง ห้องทดลอง “ห้องทดลอง” (1) ผ่านไปไม่กี่วัน จากไปเดินเรียงแถวคล้องแขน แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์น่า สลดที่ปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2015 ตุรกี ที่ส่งนายกรัฐมนตรี นาย Amed Davutoglu ไปร่วมเดินห่างไม่กี่แถว กับคู่แค้น Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ก็เกิดอาการเบรคแตก Independent สื่อค่ายชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ฉบับวันที่ 14 มกราคม 2015 รายงานว่า ประธานาธิบดี RecepTayip Erdogan ของตุรกี ให้ข่าวทันที ว่า ” พวกตะวันตก the west กำลังเล่นเกมส์ เล่นกันกลางกรุงปารีส ด้วยโดยการโยนให้มุสลิมเป็นเหยื่อ …คนฝรั่งเศส เป็นคนจัดการให้มีการฆ่า แล้วโยนบาปมาให้คนมุสลิม ฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศส ไม่รู้จักตามรอยคนออกมาจากคุกหรือไง? หลังจากเกิดเหตุ ก็มีการโจมตีสุเหร่าของอิสลาม …เห็นชัดถึงการตอแหล จอมปลอมของพวกตะวันตก เราไม่เคยมีส่วนร่วมในการก่อการร้ายใดเลย …เบื้องหลังเรื่องนี้ มันเกี่ยวกับการแบ่งแยกเรื่องเชื้อชาติ สร้างคำพูดใส่ร้าย และสร้างความเกลียดชังให้กับพวกมุสลิม” “กำลังมีการเล่นเกมส์กับโลกมุสลิม เราต้องรับรู้เรื่องนี้กันไว้ ” นาย Erdogan กล่าวเพิ่ม สหภาพมุสลิมในฝรั่งเศสรายงานว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ มีเหตุการณ์ที่แสดงถึงการต่อต้านมุสลิมประมาณ 50 รายการ ซึ่งรวมถึงการไล่ยิง และการพยายามเผาสุเหร่า นาย Erdogan ยังไม่จบง่ายๆ ด่าฝากแถมไปถึงการไปเดินเรียงแถวของ นาย Netanyahoo ว่า เขาทำไปได้ยังไง ทำไมคนที่สั่งฆ่าคน 2,500 คน ที่กาซ่า ยังมีหน้ามาเดินโบกมืออยู่ในปารีส เหมือนมีคนมาคอยต้อนรับด้วยความตื่นเต้น กล้าดีไปเดินอยู่ที่นั่นได้ยังไง ไม่นึกถึง เด็กและผู้หญิง ที่ตัวเองฆ่าบ้างเลยหรือ” คงยังไม่หนำใจ นายกเทศมนตรี เมืองหลวง Ankara ของตุรกี ช่วยออกมาเสริมอีก ” นี่ต้องเป็นผลงานของ Mossad ( หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล ที่ฝีมือชั่วไม่แพ้ CIA หรืออาจจะมากกว่า! ) อยู่เบื้องหลังแน่นอน เป็นการเพิ่มความรังเกียจต่อคนอิสลาม” โห รายการนี้ด่ากันแรงนะครับ ถ้าตุรกีไม่ได้ไปถูกเสี้ยนตำตีน หรือเหยียบไปบนขี้หมากองโต ที่กลางกรุงปารีส ระหว่างเดินเรียงแถวกันละก้อ สงสัยต้องมีเรื่องใหญ่คิดการณ์เอาไว้แล้ว ถึงได้ตอกใส่กันแรงขนาดนี้ ฝ่ายอิสราเอล ก็ไม่ใช่เล่น ถูกด่าปั้บ ออกมาตอกกลับทันที ยังกะสั่งหนังสือพิมพ์ ให้ออกข่าวรอล่วงหน้า เหมือนกับรู้ว่า อีกฝ่ายจะพูดอะไร วันที่ 14 มกราคม วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์ the Jerusalem Post ลงข่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahoo และรัฐมนตรีต่างประเทศ นาย Avigdor Liberman บอกว่า นาย Erdogan ของตุรกี เป็นพวกเกลียดยิว anti-Semitic เป็นเพื่อนบ้านจอมป่วน และกล่าวอ้อมๆว่า ตุรกีให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้าย ” การปราบปรามผู้ก่อการร้าย ไม่มีวันทำสำเร็จหรอก ถ้าเรายังใช้วิธีเสแสร้ง หน้าไหว้หลังหลอกกันอยู่อย่างนี้ เราไม่ได้ยินผู้นำระดับโลกคนใดเลย ออกมามาประนามคำพูดของนาย Erdogan ไม่มีสักคนจริงๆ ” นาย Netanyahoo สำทับ คำสำทับนี้ดูเหมือนไม่ได้ส่งกลับ ไปที่ นาย Erdogan แต่น่าจะส่งไปไกลกว่านั้น เป็นที่รู้กันอยู่ว่า ตอนนี้นายโอบามา ไม่หวานชื่นกับ Nethanyahoo ไม่เหมือน ประธานาธิบดีอเมริกันคนอื่นๆ ที่คอยเอาใจพวกยิว โดยเฉพาะ ก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่อิสราเอลเหน็บอเมริกา ตุรกี ซึ่งอเมริกามองว่าเป็นลูกกระเป๋งมาตลอด แต่กลับเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่ให้การสนับสนุนอย่างเปิดเผยต่อ องค์กรฮามาส Hamas ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ และเป็นองค์กรที่อเมริกา และสหภาพยุโรป ต่างขึ้นบัญชีดำ ให้เป็นผู้ก่อการร้ายระดับสำคัญ แต่ดูเหมือนตุรกีจะไม่สนใจ แถมล่าสุดเมื่อปลายเดือนธันวา คม ปี 2014 ตุรกีได้เชิญ นาย Khaled Meshaal หัวหน้ากลุ่มฮามาส ไปเยียนตุรกี และเอานาย Meshaal ไปเข้าร่วมประชุมพรรค AKP ของประธานาธิบดี Erdogan ด้วย แน่จริงๆ เรียกว่าท้าทายกันแบบไม่เกรงใจใครเลย เอะ แล้วตุรกีต้องเกรงใจใครหรือ?! ข่าวหัวหน้าฮามาส ไปเดินฉุยฉายลอยชายอยู่ตุรกี แน่นอนยอมมีคนหงุดหงิด นักล่าใบตองแห้งหงุดหงิดง่ายอ ยู่แล้ว แค่ลมพัดใบตองแห้ง แกว่งแรงไปหน่อย ยังออกเสียงฮึมแฮ่เลย นี่หัวหน้าฮามาส ที่นักล่า อยากขยี้มาหลายรอบ แต่ไม่สำเร็จ ตอนนี้ลงทุนเปลี่ยนแผน ขยี้ไม่ตาย แต่ถ้าซื้อขายอาจจะโอเคมั่งนะ แต่ขอโทษ ฮามาส นอกจากไม่ยอมขายตัวแล้ว ยังไปนั่งสบายใจ เฮฮา กับสุดยอดนักไต่ลวด นายErdogan แชมป์เล่นเกมเสียว เหมือนโชว์ให้ใครดูเสียอีก แบบนี้นักล่าหรือจะปล่อยไปเฉยๆ วันที่ 8 มกราคม คศ 2015 คุณหนูเจน Psaki โฆษก กระทรวงการต่างประเทศของนักล่า เลยต้องออกมาทำหน้าเครียดแถลงข่าวว่า ” ท่าทีของเราต่อขบวนการฮามาสยังไม่เปลี่ยนนะ ฮามาสคือองค์กรต่างประเทศที่เกี่ยวพันกับการก่อการร้ายมาอย่างต่อเนื่อง และฮามาส ได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาอย่างชัดเจนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา (ช่วงสิงหาคม ปีที่แล้ว) ในความขัดแย้งกับอิสราเอล” “เรามีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับฮามาส และเมื่อรู้ว่า Meshaal ไปเยี่ยมตุรกี เราได้ขอให้รัฐบาลตุรกีกดดันฮามาส เพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันความรุนแรง” แหม คุณหนู ช่างไม่มีศิลปะในการพูดเสียเลย มิน่าแถลงข่าวที่ไร ถูกนักข่าวหนุ่มๆ ต้อนจนติดอ่าง ฮา ขณะเดียวกันมีข่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีบอกว่า ตุรกียินดีต้อนรับ Khaled Meshaal หัวหน้าฮามาส หลังจากมีข่าวว่า Meshaal ซึ่งลี้ภัยไปอยู่ที่กาต้าร์ ได้ถูกทางการของกาต้าร์ ขับออกนอกประเทศแล้ว และเขาอาจจะไปตุรกี เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีบอกว่า ไม่ว่าใคร จะเป็นคนของประเทศใด ก็สามารถเข้าออกตุรกีได้อยู่แล้ว ตราบใดที่ไม่มีปัญหาด้านกฏหมาย นี่มันต้องตอบแบบกลิ้งได้หลายตลบอย่างนี้ สมกับเป็นพวกนักไต่ลวดจริงๆ นักล่าใบตองแห้งน่าจะส่งคุณหนู Psaki มาฝึกงานแถวตุรกีซะหน่อยนะ ฮาอีกครั้ง อเมริกา อิสราเอล และตุรกี กำลังมีอะไรคาใจ หรือเล่นบทอะไรกันอยู่หรือ ถึงใช้วิธีเหมือนกาฝาก บินโฉบทิ้งของที่ระลึก แล้วแฉลบข้ามไปต่อ ####### (2) ฝ่ายทางกลุ่มฮามาสเองก็ฉุนขาด เมื่อได้ฟังคำวิจารณ์ของอเมริกา เกี่ยวกับการไปนั่งชมวิวตุรกีของนายMehsaal ที่ถ่ายทอดโดยฝีปากของคุณหนู Psaki บอกว่าอเมริกาสามหาว และเหยียดเผ่าพันธ์มากไปแล้ว รัฐบาลอเมริกากำลังไต่อันดับ ทำตัวเข้าข่ายเป็นศัตรูที่แท้จริงของพวกเขาทีเดียว ทั้งนี้ตามคำแถลงของ Al-Qassam Brigades ฝ่ายกองทัพของกลุ่มฮามาส ส่วนเรื่องกาต้าร์ขับไล่ นายMeshaal ออกจากประเทศ กาต้าร์ไม่ยืนยัน แต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว กาต้าร์ขับไล่ระดับหัวหน้าของ Muslim Brotherhood 7 คน ที่กาต้าร์เลี้ยงดูไว้นานแล้วออกจากประเทศ เพื่อเป็นการเอาใจพวกราชวงศ์เสี่ยน้ำมันตะวันออกกลาง และรัฐบาลอียิปต์ อืม มาแปลก กาต้าร์ไม่ใช่นายทุนรายเดียวที่สนับสนันเลี้ยงดู Muslim Brotherhood ตุรกีก็สนับสนุนเช่นเดียวกัน Muslim Brotherhood เป็นกลุ่มอิสลามฝักใฝ่การเมือง ที่รวมตัวกันขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะโค่นล้มรัฐบาลอิสลาม ที่อยู่ใต้อิทธิพลของอเมริกา ตุรกีย่อมให้การสนับสนุนไว้ก่อน เพราะยังไม่แน่ใจอนาคตของตนเอง ส่วนกาต้าร์ละ เข้าไปเกี่ยวอะไรด้วย เมื่ออียิปต์เกิดอาหรับสปริง ที่ไม่แน่ว่า สาเหตุจะมาจากการที่ นายมูบารัค ของอียิปต์มีนโยบายเกี่ยวกับปาเลสไตน์ สวนทางกับอิสราเอลหรือเปล่า และอเมริกาภายใต้การกดดันของอิสราเอล จึงส่งอาหรับสปริง เป็นของขวัญให้นายมูบารัค ลูกไปเข้าทางของ Muslim Brotherhood อิยิปต์จึงได้ นาย Mohamed Morsi ของ Muslim Brotherhood มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องถูกใจตุรกีอย่างยิ่ง เพราะถ้าอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขต ด้านหนึ่ง ติดกับด้านใต้ของอิสราเอล มีผู้มีอำนาจปกครองเป็นพวกเดียวกับตุรกี เมื่อไหร่ที่อิสราเอลทำซ่า อาละวาดใส่ปาเลสไตน์ที่ตุรกีสนับสนุนมาตลอด ตุรกีกับอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขตประกบหัวท้ายอิสราเอลอยู่ คิดเล่นแซนด์วิช ผลัดกันโยนหัวปลีข้ามใส่อิสราเอล ก็น่าจะลดความกร่างของอิสราเอลไปได้บ้าง และก็เพราะการเดินสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบนี้ ในช่วงหลังๆของตุรกี โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับอิสราเอล สัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับตุรกี จึงไม่หวานอย่างเดิม และมีส่วนให้ นาย Morsi ของ Muslim Brotherhood น่าจะถูกใบสั่ง ให้ทหารอียิปต์ทำการปฏิวัติซ้อน ทำเอา นาย Morsi หล่นจากแท่นอำนาจไปอย่างรวดเร็ว หลังจากขึ้นมามีอำนาจได้เพียงปีเดียว ดูกันไว้เป็นตัวอย่างนะครับ ว่าเขาเล่นเกมกันอย่างไร นอกจากมีเรื่องกับอิสราเอลแล้ว เรื่องซีเรียก็เป็นปัญหาใหญ่ อเมริกาบอกชักจะเบื่อการเล่นเกมของตุรกี ที่พักหลังมีแต่ all pain, no gain แล้วนะ เราชักอยากให้ตุรกีเลือกข้างมาให้ชัดๆเลย เราไม่สนใจ และไม่เดือดร้อนเลย ถ้าไม่ได้ใช้ฐานทัพของเรา ที่อยู่ในตุรกีเพื่อทำการฝึกให้กับฝ่ายต่อต้านไอซิส หรือต่อต้านซีเรีย เราไม่ได้ต้องการให้กองทัพตุรกี ไปสู้ศึกที่ซีเรีย ที่เราต้องต้องการให้ตุรกีทำคือ ให้ตุรกีไปสืบดูให้ได้ และขจัดเส้นทางเข้าออกของผู้ก่อการร้าย เครือข่ายการธุรกิจ และการเงิน ที่ทำผ่านตุรกี ไปให้ซีเรีย ที่ทำให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายนี้โตขึ้นอย่างมากใน 3 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ตุรกีทำไม่ได้ หรือไม่ทำให้อเมริกา จะให้เข้าใจเรื่องนี้ดีขึ้น ผมขอแนะนำให้ท่านผู้อ่าน ไปเอาแผนที่มากางดู อียิปต์อยู่ด้านล่าง ถัดขึ้นมาข้างบนเอียงขวาหน่อย เป็นอิสราเอล เหนืออิสราเอลเป็นเลบานอน ระหว่างอิสราเอลกับเลบานอนมีเนื้อที่แถบเล็กๆ คือปาเลสไตน์ เหนือเลบานอนเป็นซีเรียและอิรัค เหนือชีเรียเป็นตุรกี เหนือตรุกีเป็นจอร์เจีย ใกล้กับเขตแดนรัสเซีย เหนืออิรัคเป็นอิหร่าน ซึ่งมีเขตแดนติดกับรัสเซียยาวเหยียด เล่าแผนที่มายาว เพื่อให้เห็นความสำคัญของปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย ตุรกี อิรัค และอิหร่าน ซึ่งเหมือนขนมชั้น ขวางทางเข้าสู่รัสเซีย มันเป็นขนมชั้นที่มีความสำคัญ ทั้งในมิติของสงครามภูมิภาค และมิติสงครามโลก ! และหมากที่จะเดินให้เป็นสงครามภูมิภาค หรือสงครามโลกตัวสำคัญตัวหนึ่งของฝ่ายอเมริกาคือ อิสราเอล ซึ่งมีอิทธิพล และเล่ห์เหลี่ยมสูงมาก ถึงขนาด อาจจะเป็นตัวบีบ ให้อเมริกาเดินหมากตัวอื่นตามที่ตนเองต้องการ เผลอๆอาจจะเหลี่ยมสูง ถึงขนาดบีบให้ตัวอเมริกาเอง เดินตามที่อิสราเอลหลอกให้เดินก็มีทางเป็นไปได้ ในขณะที่ตุรกีเป็นหมากตัวใหม่ ที่เหมือนแสดงตัวเปิดเผยว่า เราไม่ใช่อยู่ฝ่ายอเมริกาแล้วนะ ตุรกีและ อิหร่าน น่าจะเป็นหมากที่เดินตามจังหวะที่น่าสนใจ ให้กับฝ่ายรัสเซียในตะวันออกกลาง การขยับของอิสราเอล ตุรกี และอิหร่าน ย่อมมีความหมาย ไม่น้อยกว่าการขยับของฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมัน ในยุโรป มันดูเหมือนเป็นคนละเรื่อง แต่มันอาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน หรือต่อเนื่องกัน จึงโปรดอย่าลืมจับตา คอยดูการขยับของหมากทั้ง 6 ตัวนี้ ##### (3) อิหร่าน เป็นหมากอีกตัวที่สำคัญของฝ่ายรัสเซีย เพราะมีข่าวว่า กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่าง ซุ่มเงียบ อเมริกานักล่าใบตองแห้ง แน่นอน ย่อมหงุดหงิดออกอาการ น้ำลายฟูมปาก แต่ก็คิดหนัก เพราะอิหร่านนั้น เหมือนผีดิบคืนชีพ โดนอเมริกาบดขยี้มาหลายรอบ ไม่ตายคาที่เสียที แค่ช้ำใน กลัดหนองอยู่นาน ปล่อยให้อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์ไปเรื่อยๆ นอกจากเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้ ทั้งอิหร่านเอง และช่วยฝ่ายรัสเซียแล้ว ยังทำให้อิสราเอลไข้ขึ้น รู้สึกหนาวสั่นกลางแดดได้ ในตะวันออกกลาง แต่สูตรยาขจัดอิหร่านแบบยกเดียวจบ อเมริกายังคิดไม่สำเร็จ อิสราเอลตัวแสบ ต้องรู้อะไรลึกและมีแผนซับซ้อน จึงหนุน แนะ หรือสั่งให้อเมริกาใช้วิธีเจรจากับอิหร่านไปพลางๆก่อน และอเมริกาก็หันมาสั่งสหภาพยุโรปอีกต่อ เจรจากับอิหร่านต่อไปนะพวก เอะ ตกลงใครใหญ่กันแน่ การเจรจากับอิหร่านในปี 2014 ดูเหมือนราบรื่นดี ผู้ที่รับบทหนักในการเดินสาย เดินสารปั่นหัว เหล่าคณะกรรมการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ กับอิหร่าน คือ รัฐมนตรีด้านงานข่าวกรอง Minister of Intelligence ของอิสราเอล นาย Yuval Steinitz ซึ่งเดินทางจนนักข่าวแซวว่า ได้ไมล์เลจเป็นบัตรแพลตินั่มหลายใบแล้ว นาย Steinitz เป็นคนไปเอาเอกสารลับมาป้อนให้ คณะกรรมการเจรจา เอาไว้ยันหน้ากับอิหร่าน นอกจากนั้น ทีมงานข่าวกรองของอิสราเอล หน่วยงาน Mossad ก็ทำงานหนัก เพราะเป็นตัวจริง
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • UN ห่วงป้าอังมาก
    เตรียมประสานพี่ฮวด
    รับป้าอัง ไปเป็นฮีโร่คนใหม่ ตามรอยหลวงตาสุจ
    อย่าไปตามรอยวันเฉลิมนะ
    #7ดอกจิก
    UN ห่วงป้าอังมาก เตรียมประสานพี่ฮวด รับป้าอัง ไปเป็นฮีโร่คนใหม่ ตามรอยหลวงตาสุจ อย่าไปตามรอยวันเฉลิมนะ #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛳 Jakarta Cruise Port ท่าเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในเขต North Jakarta ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางทะเลที่สำคัญของประเทศ ท่าเรือแห่งนี้มีความสามารถในการรองรับเรือสำราญทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง ทำให้เป็นจุดจอดของเรือสำราญต่างชาติหลายสายที่มุ่งมายังเมืองจาการ์ตา ⭕️

    Monas โมนัส
    หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของจาการ์ตา สร้างขึ้นในปี 1961 เพื่อเฉลิมฉลองการประกาศอิสรภาพของอินโดนีเซียจากเนเธอร์แลนด์ ตัวอนุสาวรีย์มีความสูง 132 เมตร

    Kota Tua เมืองเก่าจาการ์ตา
    เมืองเก่าจาการ์ตา หรือที่เรียกกันว่า Kota Tua เป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมดัตช์ โดยในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของบริษัท Dutch East India Company

    Istiqlal Mosque มัสยิดอิสติกลัล
    มัสยิดอิสติกลัลเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างขึ้นในปี 1978 ตัวอาคารมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยโดมขนาดใหญ่และหออะซานสูงตระหง่าน

    National Museum of Indonesia พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอินโดนีเซีย
    พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอินโดนีเซีย หรือที่เรียกกันว่า พิพิธภัณฑ์ช้าง เนื่องจากมีรูปปั้นช้างที่ทางเข้า ก่อตั้งขึ้นในปี 1862 โดยภายในมีการจัดแสดงสิ่งของโบราณและวัตถุทางวัฒนธรรมที่สำคัญของอินโดนีเซีย

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #JakartaCruisePort #INDONESIA #Monas #KotaTua #IstiqlalMosque #NationalMuseumofIndonesia #port #cruisedomain #thaitimes
    🛳 Jakarta Cruise Port ท่าเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในเขต North Jakarta ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางทะเลที่สำคัญของประเทศ ท่าเรือแห่งนี้มีความสามารถในการรองรับเรือสำราญทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง ทำให้เป็นจุดจอดของเรือสำราญต่างชาติหลายสายที่มุ่งมายังเมืองจาการ์ตา 🏁⭕️ ✔️ Monas ➡️ โมนัส หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของจาการ์ตา สร้างขึ้นในปี 1961 เพื่อเฉลิมฉลองการประกาศอิสรภาพของอินโดนีเซียจากเนเธอร์แลนด์ ตัวอนุสาวรีย์มีความสูง 132 เมตร ✔️ Kota Tua ➡️ เมืองเก่าจาการ์ตา เมืองเก่าจาการ์ตา หรือที่เรียกกันว่า Kota Tua เป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมดัตช์ โดยในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของบริษัท Dutch East India Company ✔️ Istiqlal Mosque ➡️ มัสยิดอิสติกลัล มัสยิดอิสติกลัลเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างขึ้นในปี 1978 ตัวอาคารมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยโดมขนาดใหญ่และหออะซานสูงตระหง่าน ✔️ National Museum of Indonesia ➡️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอินโดนีเซีย พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอินโดนีเซีย หรือที่เรียกกันว่า พิพิธภัณฑ์ช้าง เนื่องจากมีรูปปั้นช้างที่ทางเข้า ก่อตั้งขึ้นในปี 1862 โดยภายในมีการจัดแสดงสิ่งของโบราณและวัตถุทางวัฒนธรรมที่สำคัญของอินโดนีเซีย 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #JakartaCruisePort #INDONESIA #Monas #KotaTua #IstiqlalMosque #NationalMuseumofIndonesia #port #cruisedomain #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • มุสลิมไทยไม่ทน ฟาดอังคนา ส.ว. ไทยใจเขมร ทำมุสลิมโดนเหมา (15/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #มุสลิมไทย
    #อังคนา
    #สว
    #ไทยใจเขมร
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #การเมืองไทย
    #ข่าววันนี้
    #ข่าวtiktok
    #newsupdate
    มุสลิมไทยไม่ทน ฟาดอังคนา ส.ว. ไทยใจเขมร ทำมุสลิมโดนเหมา (15/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #มุสลิมไทย #อังคนา #สว #ไทยใจเขมร #ชายแดนไทยกัมพูชา #การเมืองไทย #ข่าววันนี้ #ข่าวtiktok #newsupdate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “พรรคไทยก้าวใหม่” ร่วมวางพวงมาลาถวายบังคม พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๙ เนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙
    https://www.thai-tai.tv/news/21871/
    .
    #พรรคไทยก้าวใหม่ #ไทยก้าวใหม่ #ในหลวงรัชกาลที่9 #วันนวมินทรมหาราช
    “พรรคไทยก้าวใหม่” ร่วมวางพวงมาลาถวายบังคม พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๙ เนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙ https://www.thai-tai.tv/news/21871/ . #พรรคไทยก้าวใหม่ #ไทยก้าวใหม่ #ในหลวงรัชกาลที่9 #วันนวมินทรมหาราช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    ตอนที่ 4

    สหภาพโซเวียตแม้จะล่มสลาย แต่กองกำลังของโซเวียตที่เคยเกรียงไกรและเข้มแข็งยังอยู่ เลือดนักสู้ไม่ได้จางจากไปหมด แม้จะทรุดโทรมไปบ้าง แต่ที่สำคัญยังมีนิวเคลียร์ เป็นเขี้ยวเล็บที่แอบซ่อน พอให้อเมริกาเห็นลางๆ

    แผนการของอเมริกาในช่วงปี ค.ศ.1990 กว่า จึงเป็นขบวนการหลอกล่อเอาอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตให้เข้ามาอยู่ในคอกของ NATO ซึ่งควบคุมชักใยและถือไม้กำกับโดยอเมริกา เป็นแผนที่เล่นตามสไตล์ที่อเมริกาถนัดจริงๆ เล่นรอบนอก ก่อนเจาะกล่องดวงใจ

    ถึงปี ค.ศ.2004 Poland, Czech Republic, Hungary, Estonia, Latvia, Lithuania, Bulgaria, Romania, Slovakia และSlovenia ก็จูงมือกันเดินเชื่องๆ เข้าเป็นสมาชิกของ NATO ตามใบสั่งของอเมริกา ส่วน Georgia และ Ukraine กำลังขัดสีฉวีวรรณ เพื่อเตรียมตัวเดินตามเข้าคอก ทุกจังหวะก้าวของอเมริกาในช่วง นี้ เป็นไปตามที่กำหนดไว้ใน Project of the New America Century (PNAC) ยุทธศาสตร์ของครู Mac ภายใต้เสื้อคลุมอเมริกา เขียนบทและกำกับการแสดงโดย CFR

    ผู้ที่รับบทหนักในการเดินแผน PNAC นอกเหนือจากกลุ่มเหยี่ยวพันธุ์ หนังหนากระหายเลือด **** Cheney, Donald Rumsfeld, Paul Wolfowitz, Richard Perle, Stephen Hadley และ Robert Kagan (ผัวของนางเหยี่ยว Victoria Nuland เจ้าของคำขวัญ “**** the EU”) ผู้ที่รับบทสำคัญ อีกคนหนึ่งคือ Bruce Jackson นายใหญ่ของบริษัทยักษ์ใหญ่ผลิตอาวุธ Lockheed Martin ซึ่งรับหน้าที่เป็นตัวแทนของอเมริกา ในการกำกับการขยายสมาชิก NATO โดยเฉพาะพวกที่เป็นอดีตสมาชิกสหภาพ โซเวียต ซึ่งนาย Bruce Jackson เรียกกลุ่มพวกนี้ว่า Vilnius Group of NATO (Vilnius เป็นชื่อเมืองหลวงของ Lituania) เนื่องจาก วันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ 2000 ที่เมือง Vilnius 9 ประเทศของกลุ่มประเทศในยุโรปได้ตกลงกันว่า แต่ละประเทศจะเดินหน้าเป็นประชาธิปไตย ปกครองตนเอง ว่าง่าย เชื่องดีจัง สมันน้อยมีเพื่อนแยะนะ

    เมื่อจัดการเรื่องสมาชิก NATO ได้ผลตามเป้าหมาย Bruce Jackson ก็เดินหน้าต่อตามใบสั่งใหม่ คือโครงการ Project on Transitional Democracies เพื่อนำประเทศเกิดใหม่พวกนี้เข้าสู่ขบวนการเป็นประชาธิปไตย โดยผ่านการปฏิบัติการ ที่พวกสื่อย้อมสีเรียกเสียสวยงามว่า การปฏิวัติหลากสี Color Revolutions เพื่อเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองประเทศแถบ Russia Eurasia เป็นบุคคลที่วอชิงตันส่งเข้าประกวด หรือเห็นชอบ ผู้ที่เป็นตัวจักรสำคัญ ในการดำเนินการตามโครงการนี้ นอกเหนือจากนาย Jackson แล้ว ยังมีนาย Scheunemann ซึ่งเกี่ยวพันใกล้ชิดกันแน่นหนากับ Boeing บริษัทค้าอาวุธใหญ่อีกบริษัทหนึ่งของอเมริกา
    น่าสนใจการทำงานของอเมริกา ที่เอาพ่อค้าขายอาวุธ มากำกับการปกครองแบบประชาธิปไตย มันเป็นการผสมพันธ์ ที่แสดงถึงความจอมปลอมได้อย่างสุดยอด แต่เรื่องแบบนี้ แม้เกิดขึ้นในแดนสมันน้อย ก็มองไม่เห็นดูไม่ออกกันหรอก

    การเอา NATO ปิดล้อมรัสเซีย การทำปฏิวัติหลากสี Color Revolutions ในแถบ Russia Eurasia และ การบุกขยี้อิรัก ดูเหมือนเป็นคนละเรื่องกัน แต่ความจริง มันคือยุทธศาสตร์ในกระดานเดียวกันของอเมริกา ที่นำไปสู่ปฏิบัติการแยกธาตุสลายรัสเซีย ซึ่งเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวในสายตาของอเมริกา (ในขณะนั้นและอาจจะในขณะนี้ด้วย) ที่มีศักยภาพพอที่จะเป็นคู่แข่งของอเมริกา ในการชิงความเป็นที่หนึ่งของโลก รัสเซียเท่านั้นคือเป้าหมายที่สำคัญของอเมริกา ในยุทธศาสตร์ของเกมชิงโลก

    การสิ้นสุดของการปกครองสหภาพโซเวียตโดย Yeltsin ทำ ให้แผนการของอเมริกาชะงักไปเล็กน้อยในความคิดของอเมริกา ขณะเดียวกัน ปูตินเริ่มไหวตัวและคิดสร้างรัสเซียใหม่อย่างระมัดระวัง หลังจากที่ถูก IMF และ ธนาคารของพวกฝรั่งตะวันตกกับผู้มีอิทธิพลชาวรัสเซีย ร่วมมือกันต้มและลอกคราบรัสเซียไปจนแทบจะเหลือแต่กระดูก ในสมัยที่ Gorbachev และ Yeltsin เปิดประตูเมืองให้ตะวันตกยกทีมกันเข้ามาเถือรัสเซีย

    การผลิตน้ำมันของรัสเซียค่อยๆเพิ่มขึ้น ในปี ค.ศ.2003 ช่วงที่อเมริกากำลังเพลินกับการยิงเป้าเคลื่อนที่ในอิรัก การผลิตน้ำมันของรัสเซียขยับเป็นที่สองของโลก รองจากซาอุดิอารเบียเท่านั้นเอง ตกใจหรืออเมริกา ?!

    อเมริกา วางแผนสลายสหภาพโซเวียต ต่อด้วยขยี้รัสเซีย แผนการยาวนานต่อเนื่องตั้งแต่ปี ค.ศ.1947 ไม่มีการหยุดพักเหนื่อย พักร้อน หรือทิ้งแผนเลย มีแต่เดินหน้า มีหรือรัสเซียจะไม่รู้ตัว รัสเซียไม่ใช่ประเทศเกิดใหม่ หรือเป็นสมันน้อยในทุ่งใหญ่ของนักล่า เลือดนักสู้ และความเขี้ยวของสหภาพโซเวียตยังอยู่ครบ แต่รัสเซียก็เหมือนคนเพิ่งฟื้นจากอาการป่วยปางตาย จะให้ลุกขึ้นฟิตวิ่งแข่งกีฬาโอลิมปิกคงไม่ไหว แต่รัสเซียภายใต้การนำของปูติน ก็เดินหน้าอย่างช้าๆแต่มั่นคง เต็มไปด้วยเหลี่ยมคม และทนทานต่อการเสียดสี เพื่อจะไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอเมริกาและพวกซ้ำซาก ความช้ำชอกจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ยังอยู่ครบในใจของชาวรัสเซีย

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    1 ธค. 2557
    แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3” ตอนที่ 4 สหภาพโซเวียตแม้จะล่มสลาย แต่กองกำลังของโซเวียตที่เคยเกรียงไกรและเข้มแข็งยังอยู่ เลือดนักสู้ไม่ได้จางจากไปหมด แม้จะทรุดโทรมไปบ้าง แต่ที่สำคัญยังมีนิวเคลียร์ เป็นเขี้ยวเล็บที่แอบซ่อน พอให้อเมริกาเห็นลางๆ แผนการของอเมริกาในช่วงปี ค.ศ.1990 กว่า จึงเป็นขบวนการหลอกล่อเอาอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตให้เข้ามาอยู่ในคอกของ NATO ซึ่งควบคุมชักใยและถือไม้กำกับโดยอเมริกา เป็นแผนที่เล่นตามสไตล์ที่อเมริกาถนัดจริงๆ เล่นรอบนอก ก่อนเจาะกล่องดวงใจ ถึงปี ค.ศ.2004 Poland, Czech Republic, Hungary, Estonia, Latvia, Lithuania, Bulgaria, Romania, Slovakia และSlovenia ก็จูงมือกันเดินเชื่องๆ เข้าเป็นสมาชิกของ NATO ตามใบสั่งของอเมริกา ส่วน Georgia และ Ukraine กำลังขัดสีฉวีวรรณ เพื่อเตรียมตัวเดินตามเข้าคอก ทุกจังหวะก้าวของอเมริกาในช่วง นี้ เป็นไปตามที่กำหนดไว้ใน Project of the New America Century (PNAC) ยุทธศาสตร์ของครู Mac ภายใต้เสื้อคลุมอเมริกา เขียนบทและกำกับการแสดงโดย CFR ผู้ที่รับบทหนักในการเดินแผน PNAC นอกเหนือจากกลุ่มเหยี่ยวพันธุ์ หนังหนากระหายเลือด Dick Cheney, Donald Rumsfeld, Paul Wolfowitz, Richard Perle, Stephen Hadley และ Robert Kagan (ผัวของนางเหยี่ยว Victoria Nuland เจ้าของคำขวัญ “Fuck the EU”) ผู้ที่รับบทสำคัญ อีกคนหนึ่งคือ Bruce Jackson นายใหญ่ของบริษัทยักษ์ใหญ่ผลิตอาวุธ Lockheed Martin ซึ่งรับหน้าที่เป็นตัวแทนของอเมริกา ในการกำกับการขยายสมาชิก NATO โดยเฉพาะพวกที่เป็นอดีตสมาชิกสหภาพ โซเวียต ซึ่งนาย Bruce Jackson เรียกกลุ่มพวกนี้ว่า Vilnius Group of NATO (Vilnius เป็นชื่อเมืองหลวงของ Lituania) เนื่องจาก วันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ 2000 ที่เมือง Vilnius 9 ประเทศของกลุ่มประเทศในยุโรปได้ตกลงกันว่า แต่ละประเทศจะเดินหน้าเป็นประชาธิปไตย ปกครองตนเอง ว่าง่าย เชื่องดีจัง สมันน้อยมีเพื่อนแยะนะ เมื่อจัดการเรื่องสมาชิก NATO ได้ผลตามเป้าหมาย Bruce Jackson ก็เดินหน้าต่อตามใบสั่งใหม่ คือโครงการ Project on Transitional Democracies เพื่อนำประเทศเกิดใหม่พวกนี้เข้าสู่ขบวนการเป็นประชาธิปไตย โดยผ่านการปฏิบัติการ ที่พวกสื่อย้อมสีเรียกเสียสวยงามว่า การปฏิวัติหลากสี Color Revolutions เพื่อเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองประเทศแถบ Russia Eurasia เป็นบุคคลที่วอชิงตันส่งเข้าประกวด หรือเห็นชอบ ผู้ที่เป็นตัวจักรสำคัญ ในการดำเนินการตามโครงการนี้ นอกเหนือจากนาย Jackson แล้ว ยังมีนาย Scheunemann ซึ่งเกี่ยวพันใกล้ชิดกันแน่นหนากับ Boeing บริษัทค้าอาวุธใหญ่อีกบริษัทหนึ่งของอเมริกา น่าสนใจการทำงานของอเมริกา ที่เอาพ่อค้าขายอาวุธ มากำกับการปกครองแบบประชาธิปไตย มันเป็นการผสมพันธ์ ที่แสดงถึงความจอมปลอมได้อย่างสุดยอด แต่เรื่องแบบนี้ แม้เกิดขึ้นในแดนสมันน้อย ก็มองไม่เห็นดูไม่ออกกันหรอก การเอา NATO ปิดล้อมรัสเซีย การทำปฏิวัติหลากสี Color Revolutions ในแถบ Russia Eurasia และ การบุกขยี้อิรัก ดูเหมือนเป็นคนละเรื่องกัน แต่ความจริง มันคือยุทธศาสตร์ในกระดานเดียวกันของอเมริกา ที่นำไปสู่ปฏิบัติการแยกธาตุสลายรัสเซีย ซึ่งเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวในสายตาของอเมริกา (ในขณะนั้นและอาจจะในขณะนี้ด้วย) ที่มีศักยภาพพอที่จะเป็นคู่แข่งของอเมริกา ในการชิงความเป็นที่หนึ่งของโลก รัสเซียเท่านั้นคือเป้าหมายที่สำคัญของอเมริกา ในยุทธศาสตร์ของเกมชิงโลก การสิ้นสุดของการปกครองสหภาพโซเวียตโดย Yeltsin ทำ ให้แผนการของอเมริกาชะงักไปเล็กน้อยในความคิดของอเมริกา ขณะเดียวกัน ปูตินเริ่มไหวตัวและคิดสร้างรัสเซียใหม่อย่างระมัดระวัง หลังจากที่ถูก IMF และ ธนาคารของพวกฝรั่งตะวันตกกับผู้มีอิทธิพลชาวรัสเซีย ร่วมมือกันต้มและลอกคราบรัสเซียไปจนแทบจะเหลือแต่กระดูก ในสมัยที่ Gorbachev และ Yeltsin เปิดประตูเมืองให้ตะวันตกยกทีมกันเข้ามาเถือรัสเซีย การผลิตน้ำมันของรัสเซียค่อยๆเพิ่มขึ้น ในปี ค.ศ.2003 ช่วงที่อเมริกากำลังเพลินกับการยิงเป้าเคลื่อนที่ในอิรัก การผลิตน้ำมันของรัสเซียขยับเป็นที่สองของโลก รองจากซาอุดิอารเบียเท่านั้นเอง ตกใจหรืออเมริกา ?! อเมริกา วางแผนสลายสหภาพโซเวียต ต่อด้วยขยี้รัสเซีย แผนการยาวนานต่อเนื่องตั้งแต่ปี ค.ศ.1947 ไม่มีการหยุดพักเหนื่อย พักร้อน หรือทิ้งแผนเลย มีแต่เดินหน้า มีหรือรัสเซียจะไม่รู้ตัว รัสเซียไม่ใช่ประเทศเกิดใหม่ หรือเป็นสมันน้อยในทุ่งใหญ่ของนักล่า เลือดนักสู้ และความเขี้ยวของสหภาพโซเวียตยังอยู่ครบ แต่รัสเซียก็เหมือนคนเพิ่งฟื้นจากอาการป่วยปางตาย จะให้ลุกขึ้นฟิตวิ่งแข่งกีฬาโอลิมปิกคงไม่ไหว แต่รัสเซียภายใต้การนำของปูติน ก็เดินหน้าอย่างช้าๆแต่มั่นคง เต็มไปด้วยเหลี่ยมคม และทนทานต่อการเสียดสี เพื่อจะไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอเมริกาและพวกซ้ำซาก ความช้ำชอกจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ยังอยู่ครบในใจของชาวรัสเซีย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 1 ธค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ พระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หลัง ภปร. ปี2542
    เหรียญพระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ พระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หลัง ภปร. ปี2542 // พระดีพิธีใหญ่ ที่ระลึกการก่อสร้างพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาด คุ้มครองป้องกันภัย และป้องกันอันตรายต่าง ๆ ช่วยขจัดอุปสรรคปัญหาต่างๆ ดลบันดาลประทานพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องการทำงาน กิจการราบรื่น ทำมาค้าขายร่ำรวย ช่วยเสริมดวงการเงิน ทำให้มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ประทานโชคลาภ และความอุดมสมบูรณ์ >>

    ** พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ หรือ พระพุทธรูปปางลีลาประทานพร ตั้งอยู่ที่ภูคกงิ้ว บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาบริเวณปากลำน้ำเหืองจรดกับแม่น้ำโขง สร้างขึ้นโดยกองทัพภาคที่ 2 และประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรม ราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ และในมหามงคลแห่งราชพิธีราชาภิเษก ครบ 50 ปี **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ พระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หลัง ภปร. ปี2542 เหรียญพระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ พระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หลัง ภปร. ปี2542 // พระดีพิธีใหญ่ ที่ระลึกการก่อสร้างพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ แคล้วคลาด คุ้มครองป้องกันภัย และป้องกันอันตรายต่าง ๆ ช่วยขจัดอุปสรรคปัญหาต่างๆ ดลบันดาลประทานพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องการทำงาน กิจการราบรื่น ทำมาค้าขายร่ำรวย ช่วยเสริมดวงการเงิน ทำให้มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ประทานโชคลาภ และความอุดมสมบูรณ์ >> ** พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ หรือ พระพุทธรูปปางลีลาประทานพร ตั้งอยู่ที่ภูคกงิ้ว บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาบริเวณปากลำน้ำเหืองจรดกับแม่น้ำโขง สร้างขึ้นโดยกองทัพภาคที่ 2 และประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรม ราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ และในมหามงคลแห่งราชพิธีราชาภิเษก ครบ 50 ปี ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP33 | ชุมชนสุเหร่า (เพชรบุรีซอย 7) อร่อยสุดซอย

    กลางเมืองใหญ่ย่านเพชรบุรีซอย 7 มีชุมชนมุสลิมเล็ก ๆ ที่อบอวลด้วยกลิ่นอาหาร และรอยยิ้มของผู้คนที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตเรียบง่ายไว้อย่างเหนียวแน่น

    ชุมชนสุเหร่าแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ศรัทธาและความสามัคคี แต่ยังเต็มไปด้วยของกินสุดเด็ดที่ขึ้นชื่อว่า "อร่อยสุดซอย" ตั้งแต่อาหารฮาลาลรสชาติดั้งเดิม ขนมพื้นบ้าน ไปจนถึงเมนูท้องถิ่นที่หาทานได้เฉพาะในชุมชนนี้เท่านั้น

    นอกจากความอร่อย ยังมีเรื่องราวของผู้คนในชุมชนที่อยู่กันแบบพี่น้อง ช่วยเหลือกันทั้งในชีวิตประจำวันและศาสนกิจ เป็นภาพสะท้อนของความงดงามที่อยู่ท่ามกลางความเร่งรีบของกรุงเทพฯ

    ติดตามเรื่องราวของชุมชนสุเหร่า เพชรบุรีซอย 7 แล้วคุณจะรู้ว่า...อร่อยจริง อบอุ่นจริง และมีหัวใจอยู่ในทุกคำ

    #สลามเมืองไทย #EP33 #ชุมชนสุเหร่า #เพชรบุรีซอย7 #อร่อยสุดซอย #อาหารฮาลาล #ชุมชนมุสลิมกลางเมือง #MuslimFoodCulture #ThaiMuslimCommunity #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP33 | ชุมชนสุเหร่า (เพชรบุรีซอย 7) อร่อยสุดซอย กลางเมืองใหญ่ย่านเพชรบุรีซอย 7 มีชุมชนมุสลิมเล็ก ๆ ที่อบอวลด้วยกลิ่นอาหาร และรอยยิ้มของผู้คนที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตเรียบง่ายไว้อย่างเหนียวแน่น ชุมชนสุเหร่าแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ศรัทธาและความสามัคคี แต่ยังเต็มไปด้วยของกินสุดเด็ดที่ขึ้นชื่อว่า "อร่อยสุดซอย" ตั้งแต่อาหารฮาลาลรสชาติดั้งเดิม ขนมพื้นบ้าน ไปจนถึงเมนูท้องถิ่นที่หาทานได้เฉพาะในชุมชนนี้เท่านั้น นอกจากความอร่อย ยังมีเรื่องราวของผู้คนในชุมชนที่อยู่กันแบบพี่น้อง ช่วยเหลือกันทั้งในชีวิตประจำวันและศาสนกิจ เป็นภาพสะท้อนของความงดงามที่อยู่ท่ามกลางความเร่งรีบของกรุงเทพฯ ติดตามเรื่องราวของชุมชนสุเหร่า เพชรบุรีซอย 7 แล้วคุณจะรู้ว่า...อร่อยจริง อบอุ่นจริง และมีหัวใจอยู่ในทุกคำ #สลามเมืองไทย #EP33 #ชุมชนสุเหร่า #เพชรบุรีซอย7 #อร่อยสุดซอย #อาหารฮาลาล #ชุมชนมุสลิมกลางเมือง #MuslimFoodCulture #ThaiMuslimCommunity #ThaiTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 4 – อิยิปต์ 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 4 ”
    อิยิปต์ 3
ตั้งแต่ ค.ศ.1882 เป็นต้นมา อียิปต์ก็กลายเป็นอาณานิคมของนักล่าชาวเกาะเต็มรูปแบบ แต่สถานะอียิปต์ภายนอกยังดูเหมือนเดิม ออตโตมานก็ยังนับอียิปต์เป็นส่วนหนึ่งของตนเหมือนเดิม อังกฤษเองในตอนนั้นกำลังคิดอยู่ว่าจะให้อียิปต์เป็นเมืองขึ้นของตนดีหรือไม่ คิดคำนวณรายรับรายจ่ายยังไม่ถูก เลยแค่ประกาศว่า ขณะนี้ เรา อังกฤษผู้เป็นจักรภพใหญ่ที่สุดในโลก อย่างที่ไม่มีผู้ใดจะเทียมทาน ได้มายึดครองอียิปต์เป็นการชั่วคราวแล้ว (Temporary occupation power) จึงประกาศมา ให้เป็นที่ทราบโดยทั่วกัน! นี่เป็นจักรภพ จักรวรรดิ เขาต้องประกาศแบบนี้ !
    ผู้ที่ใช้อำนาจปกครองอียิปต์ที่ผ่านมาคือ Khedive ก็เหมือนจะยอมรับในอำนาจอันยิ่งใหญ่ไพศาลของอังกฤษโดยไม่หือ อำนาจทั้งปวงในการบริหารและการฑูตก็เลยดูเหมือนเดินผ่านหน้า Khedive อย่างไม่เห็นหัว ตรงไปคุกเข่าต่อหน้าอังกฤษ ซึ่งให้ Major Baring มาเป็นผู้ดูแล ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1883-1907
    นายพัน Baring เป็นผู้มาทำหน้าที่ดูแลจัดเก็บเงินชำระหนี้ ( Commission of the Public Debt ) ทำหน้าที่อย่างดี เก็บเงินอียิปต์ไม่มีหล่นไปถึงชาวอียิปต์ จนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นถึง Lord Cromer ใครที่เป็นนักอ่านประวัติศาสตร์คงจะเคยได้ยินชื่อนายคนนี้ ใหญ่เหลือประมาณ เป็นที่รู้กันว่า ช่วงนั้นอียิปต์ปกครองโดยระบอบ Cromer ( Cromer Regime) แสดงให้เห็นถึงความไร้อำนาจของรัฐบาลอียิปต์โดยสิ้นเชิง
    เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม อังกฤษต้องแสดงอำนาจเหนืออียิปต์ย่างเต็มที่ อังกฤษประกาศอย่างเป็นทางการให้อียิปต์เป็นรัฐในอาณัติของอังกฤษ ( Protectorate ) เพราะอังกฤษต้องการควบคุมคลองสุเอช ไม่ให้ฝ่ายเยอรมันมาใช้เป็นทางผ่าน อังกฤษประกาศปิดคลอง และเมื่อออตโตมานประกาศตัวเข้าสู่สงครามอยู่ฝ่ายเยอรมัน อียิปต์ก็มึนหัวไม่รู้ว่าจะปฎิบัติตามคำสั่งของใคร ดีว่าในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 อียิปต์ไม่ได้ต้องเล่นบทเป็นตัวเอก
    แต่เมื่อสงครามโลกเสร็จสิ้น อียิปต์เห็นตัวอย่างของอาณาจักรออตโตมาน ความอยากเป็นอิสระจากออตโตมานและตะวันตกก็ค่อย ๆ เพาะตัวขึ้นในอียิปต์ อังกฤษต้องออกแรงยกทัพมาปราบหลายครั้ง ทั้งๆที่ช่วงนั้นอังกฤษอยากไปขุดน้ำมันที่ส่วนอื่นของตะวันออกกลางมากกว่า อียิปต์มีดีแค่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับป้องกันอินเดีย กล่องดวงใจ กับเป็นแหล่งฝ้าย แต่ฝ้ายมันจะเทียบน้ำมันได้อย่างไร อังกฤษจึงคิดหนักว่าจะจัดการกับอียิปต์อย่างไรดี
    ค.ศ.1922 อังกฤษตกลงใจว่า ควรจะให้อียิปต์เป็นอิสระ โดยมีผู้ปกครองประเทศเ ป็นพวกที่นิยมอังกฤษ ดีกว่าให้ชาวอียิปต์เรียกร้องอิสระภาพกันเอง แล้วเลือกพวกหัวรุนแรงรักชาติขึ้นปกครองอียิปต์ สมันน้อยอ่านตรงนี้แล้วคิดให้ลึก ๆ นะ
    แล้วอังกฤษก็ประกาศให้อียิปต์พ้นจากเป็นรัฐในอาณัติของอังกฤษในปีนั้นเอง โดยสงวนสิทธิไว้ 4 เรื่อง คือด้านการคมนาคม ความมั่นคง ผลประโยชน์ของชาวต่างชาติ และเรื่องซูดาน
    ดูเหมือนอียิปต์จะเป็นอิสระ แต่ก็เป็นภาพลวงตา เหมือนที่อังกฤษหลอกกับเหยื่อทุกราย ค.ศ. 1942 เมื่อกษัตริย์อียิปต์ต้องการจะแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งในความเห็นของอังกฤษ เป็นผู้ที่ต่อต้านอังกฤษอย่างรุนแรง อังกฤษจึงใช้วิธีให้มีการปฏิวัติซ้อน และให้กษัตริย์ตัดสินใจใหม่ แน่นอนคณะรัฐมนตรีที่กษัตริย์เลือก ก็เป็นไปตามที่อังกฤษเห็นชอบ !
    ความสำคัญของอียิปต์ในสายตาของอังกฤษเริ่มเปลี่ยนไป เปรียบเทียบฝ้ายกันน้ำมัน อียิปต์ก็เหมือนนางงามตกรุ่น ต้องไปเล่นรำวงแทน แต่อย่างน้อยด้วยจุดยุทธศาสตร์ที่เอาไว้ระวังกล่องดวงใจ อังกฤษก็ยังเก็บอียิปต์ไว้ก่อน แต่เมื่อถึงปี ค.ศ.1942 เมื่ออินเดียประกาศอิสภาพ หลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ การจะเก็บอียิปต์ไว้ ให้ต้องแบก ต้องเฝ้า มีค่าใช้จ่ายไม่คุ้มทุน เริ่มทำให้อังกฤษคิดหนัก แต่คลองสุเอชก็ไม่ได้ไร้ความหมายเสียสิ้นเชิง
    สาเหตุหนึ่งที่สร้างให้เกิดขบวนการมุสลิมหัวรุนแรงในอียิปต์ ก็มาจากการที่อังกฤษสร้างอิสราเอลให้ยิวมาจ่ออยู่ปลายจมูกของอียิปต์นั่นแหละ ชาวอียิปต์จะรับได้อย่างไร เดี๋ยวๆก็มีการมากระตุกขนจมูกกันอยู่เรื่อย มุสลิมหัวรุนแรง จึงต่อต้านชาวอียิปต์ที่นิยมอังกฤษและชาวอังกฤษเอง เหตุการณ์ประท้วงนี้เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขนาดนายกรัฐมนตรีอียิปต์ถูกลอบ ฆ่าในปี ค.ศ.1948 ปี ค.ศ.1951 อียิปต์อยู่ในภาวะฉุกเฉิน อังกฤษส่งกองทัพเข้ามาปราบ แต่ฝั่งอียิปต์ก็สู้ต่อ ในที่สุดก็ถึงจุดระเบิด ในปี ค.ศ.1952 เมื่อ Col. Nasser นำกองทัพเข้าไปยึดเมืองและขับไล่ราชวงศ์ออกไป
    Nasser เอง อันที่จริงไม่ได้เป็นฝ่ายที่ไม่เอาอังกฤษ เขาออกจะอยู่ตรงกลางและดูเหมือนจะไปกับตะวันตกได้เสียด้วยซ้ำในตอนแรก เขาพยายามเจรจาให้อังกฤษถอนทัพไปจากอียิปต์อย่างสวย และในปี ค.ศ. 1954 ก็ได้มีการลงนามในสัญญา Anglo Egyptian Treaty ซึ่งอังกฤษตกลงที่จะทยอยถอนทัพออกไปจากอียิปต์ แต่สงครามเย็นต่างหากที่ทำให้ Nasser เองทนคบกับฝั่งตะวันตกไม่ไหว
    การที่อิสราเอลกระแทกจมูกอียิปต์ที่ฉนวนกาซ่าบ่อยๆ มันเป็นสิ่งที่ Nasser รำคาญใจ แต่ยังเกรงใจอังกฤษ แม้อังกฤษจะเป็นคนเริ่มก่อเรื่อ ง Nasser เป็นคนมีเหตุผล เขาพยายามสาวจากผลไปหาเหตุ อิสราเอลเป็นซี้ของอเมริกา อเมริกาเป็นพวกกับอังกฤษ มันเป็นวงจรที่พัวพันแกะไม่ออกกระนั้นหรือ Nasser เริ่มหน่าย เมื่ออเมริกาสนับสนุนยิวให้กระทุ้งจมูกอียิปต์บ่อยๆ อียิปต์ก็หันไปหารัสเซียศัตรูของอเมริกาบ้าง เป็นการแก้แค้น
    รัสเซียตอบสนอง ให้การสนับสนุนอียิปต์ด้านการทหาร คราวนี้อเมริกาเป็นฝ่ายหงุดหงิดบ้าง และก็เป็นตามนิสัยสันดาน หงุดหงิดแล้วต้องแสดงอำนาจ อเมริการะงับการปล่อยเงินกู้สำหรับเขื่อน Aswan และสั่งให้อังกฤษหยุดปล่อยเงินกู้เช่นเดียวกัน อังกฤษไม่ขัดใจอเมริกา เพราะอังกฤษก็กำลังขัดใจ Nasser และ Nasser ก็เลยขัดใจบ้าง เลยประกาศยึดหุ้นคลองสุเอชทั้งหมดกลับมาเป็นของรัฐ
    คราวนี้อังกฤษขัดใจหนักกว่า ส่งกองทัพมาบุกอียิปต์ เดือนตุลาคม ค.ศ.1956 Suez war ก็เกิดขึ้น ฝั่งอังกฤษเช็คชื่อแล้วมาพร้อม หน้าทั้งอเมริกา ฝรั่งเศส และอิสราเอล Nasser ก็หันกลับไปยุอัลจีเรีย ให้ต่อต้านฝรั่งเศส ในที่สุด Suez war ก็สงบ กองทัพ Nasser น่วม แต่ Nasser ไม่คืนหุ้นและอียิปต์ก็ครอบครองคลองสุเอชแต่ผู้เดียว เป็นสมบัติของประเทศอียิปต์อย่างเต็มภาคภูมิ และก็ทำให้อังกฤษตัดใจได้ในที่สุด ที่จะล้างมือจากอียิปต์ ผลประโยชน์ที่ได้มีไม่มากพอ ขุดเขามาจนเกลี้ยงแล้ว ไปหาเหยื่อที่มีน้ำมันต่อดีกว่า แล้วอังกฤษก็ทิ้งอียิปต์ไปดื้อๆเช่นนั้น
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 ก.ย. 57
    เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 4 – อิยิปต์ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 4 ” อิยิปต์ 3
ตั้งแต่ ค.ศ.1882 เป็นต้นมา อียิปต์ก็กลายเป็นอาณานิคมของนักล่าชาวเกาะเต็มรูปแบบ แต่สถานะอียิปต์ภายนอกยังดูเหมือนเดิม ออตโตมานก็ยังนับอียิปต์เป็นส่วนหนึ่งของตนเหมือนเดิม อังกฤษเองในตอนนั้นกำลังคิดอยู่ว่าจะให้อียิปต์เป็นเมืองขึ้นของตนดีหรือไม่ คิดคำนวณรายรับรายจ่ายยังไม่ถูก เลยแค่ประกาศว่า ขณะนี้ เรา อังกฤษผู้เป็นจักรภพใหญ่ที่สุดในโลก อย่างที่ไม่มีผู้ใดจะเทียมทาน ได้มายึดครองอียิปต์เป็นการชั่วคราวแล้ว (Temporary occupation power) จึงประกาศมา ให้เป็นที่ทราบโดยทั่วกัน! นี่เป็นจักรภพ จักรวรรดิ เขาต้องประกาศแบบนี้ ! ผู้ที่ใช้อำนาจปกครองอียิปต์ที่ผ่านมาคือ Khedive ก็เหมือนจะยอมรับในอำนาจอันยิ่งใหญ่ไพศาลของอังกฤษโดยไม่หือ อำนาจทั้งปวงในการบริหารและการฑูตก็เลยดูเหมือนเดินผ่านหน้า Khedive อย่างไม่เห็นหัว ตรงไปคุกเข่าต่อหน้าอังกฤษ ซึ่งให้ Major Baring มาเป็นผู้ดูแล ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1883-1907 นายพัน Baring เป็นผู้มาทำหน้าที่ดูแลจัดเก็บเงินชำระหนี้ ( Commission of the Public Debt ) ทำหน้าที่อย่างดี เก็บเงินอียิปต์ไม่มีหล่นไปถึงชาวอียิปต์ จนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นถึง Lord Cromer ใครที่เป็นนักอ่านประวัติศาสตร์คงจะเคยได้ยินชื่อนายคนนี้ ใหญ่เหลือประมาณ เป็นที่รู้กันว่า ช่วงนั้นอียิปต์ปกครองโดยระบอบ Cromer ( Cromer Regime) แสดงให้เห็นถึงความไร้อำนาจของรัฐบาลอียิปต์โดยสิ้นเชิง เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม อังกฤษต้องแสดงอำนาจเหนืออียิปต์ย่างเต็มที่ อังกฤษประกาศอย่างเป็นทางการให้อียิปต์เป็นรัฐในอาณัติของอังกฤษ ( Protectorate ) เพราะอังกฤษต้องการควบคุมคลองสุเอช ไม่ให้ฝ่ายเยอรมันมาใช้เป็นทางผ่าน อังกฤษประกาศปิดคลอง และเมื่อออตโตมานประกาศตัวเข้าสู่สงครามอยู่ฝ่ายเยอรมัน อียิปต์ก็มึนหัวไม่รู้ว่าจะปฎิบัติตามคำสั่งของใคร ดีว่าในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 อียิปต์ไม่ได้ต้องเล่นบทเป็นตัวเอก แต่เมื่อสงครามโลกเสร็จสิ้น อียิปต์เห็นตัวอย่างของอาณาจักรออตโตมาน ความอยากเป็นอิสระจากออตโตมานและตะวันตกก็ค่อย ๆ เพาะตัวขึ้นในอียิปต์ อังกฤษต้องออกแรงยกทัพมาปราบหลายครั้ง ทั้งๆที่ช่วงนั้นอังกฤษอยากไปขุดน้ำมันที่ส่วนอื่นของตะวันออกกลางมากกว่า อียิปต์มีดีแค่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับป้องกันอินเดีย กล่องดวงใจ กับเป็นแหล่งฝ้าย แต่ฝ้ายมันจะเทียบน้ำมันได้อย่างไร อังกฤษจึงคิดหนักว่าจะจัดการกับอียิปต์อย่างไรดี ค.ศ.1922 อังกฤษตกลงใจว่า ควรจะให้อียิปต์เป็นอิสระ โดยมีผู้ปกครองประเทศเ ป็นพวกที่นิยมอังกฤษ ดีกว่าให้ชาวอียิปต์เรียกร้องอิสระภาพกันเอง แล้วเลือกพวกหัวรุนแรงรักชาติขึ้นปกครองอียิปต์ สมันน้อยอ่านตรงนี้แล้วคิดให้ลึก ๆ นะ แล้วอังกฤษก็ประกาศให้อียิปต์พ้นจากเป็นรัฐในอาณัติของอังกฤษในปีนั้นเอง โดยสงวนสิทธิไว้ 4 เรื่อง คือด้านการคมนาคม ความมั่นคง ผลประโยชน์ของชาวต่างชาติ และเรื่องซูดาน ดูเหมือนอียิปต์จะเป็นอิสระ แต่ก็เป็นภาพลวงตา เหมือนที่อังกฤษหลอกกับเหยื่อทุกราย ค.ศ. 1942 เมื่อกษัตริย์อียิปต์ต้องการจะแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งในความเห็นของอังกฤษ เป็นผู้ที่ต่อต้านอังกฤษอย่างรุนแรง อังกฤษจึงใช้วิธีให้มีการปฏิวัติซ้อน และให้กษัตริย์ตัดสินใจใหม่ แน่นอนคณะรัฐมนตรีที่กษัตริย์เลือก ก็เป็นไปตามที่อังกฤษเห็นชอบ ! ความสำคัญของอียิปต์ในสายตาของอังกฤษเริ่มเปลี่ยนไป เปรียบเทียบฝ้ายกันน้ำมัน อียิปต์ก็เหมือนนางงามตกรุ่น ต้องไปเล่นรำวงแทน แต่อย่างน้อยด้วยจุดยุทธศาสตร์ที่เอาไว้ระวังกล่องดวงใจ อังกฤษก็ยังเก็บอียิปต์ไว้ก่อน แต่เมื่อถึงปี ค.ศ.1942 เมื่ออินเดียประกาศอิสภาพ หลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ การจะเก็บอียิปต์ไว้ ให้ต้องแบก ต้องเฝ้า มีค่าใช้จ่ายไม่คุ้มทุน เริ่มทำให้อังกฤษคิดหนัก แต่คลองสุเอชก็ไม่ได้ไร้ความหมายเสียสิ้นเชิง สาเหตุหนึ่งที่สร้างให้เกิดขบวนการมุสลิมหัวรุนแรงในอียิปต์ ก็มาจากการที่อังกฤษสร้างอิสราเอลให้ยิวมาจ่ออยู่ปลายจมูกของอียิปต์นั่นแหละ ชาวอียิปต์จะรับได้อย่างไร เดี๋ยวๆก็มีการมากระตุกขนจมูกกันอยู่เรื่อย มุสลิมหัวรุนแรง จึงต่อต้านชาวอียิปต์ที่นิยมอังกฤษและชาวอังกฤษเอง เหตุการณ์ประท้วงนี้เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขนาดนายกรัฐมนตรีอียิปต์ถูกลอบ ฆ่าในปี ค.ศ.1948 ปี ค.ศ.1951 อียิปต์อยู่ในภาวะฉุกเฉิน อังกฤษส่งกองทัพเข้ามาปราบ แต่ฝั่งอียิปต์ก็สู้ต่อ ในที่สุดก็ถึงจุดระเบิด ในปี ค.ศ.1952 เมื่อ Col. Nasser นำกองทัพเข้าไปยึดเมืองและขับไล่ราชวงศ์ออกไป Nasser เอง อันที่จริงไม่ได้เป็นฝ่ายที่ไม่เอาอังกฤษ เขาออกจะอยู่ตรงกลางและดูเหมือนจะไปกับตะวันตกได้เสียด้วยซ้ำในตอนแรก เขาพยายามเจรจาให้อังกฤษถอนทัพไปจากอียิปต์อย่างสวย และในปี ค.ศ. 1954 ก็ได้มีการลงนามในสัญญา Anglo Egyptian Treaty ซึ่งอังกฤษตกลงที่จะทยอยถอนทัพออกไปจากอียิปต์ แต่สงครามเย็นต่างหากที่ทำให้ Nasser เองทนคบกับฝั่งตะวันตกไม่ไหว การที่อิสราเอลกระแทกจมูกอียิปต์ที่ฉนวนกาซ่าบ่อยๆ มันเป็นสิ่งที่ Nasser รำคาญใจ แต่ยังเกรงใจอังกฤษ แม้อังกฤษจะเป็นคนเริ่มก่อเรื่อ ง Nasser เป็นคนมีเหตุผล เขาพยายามสาวจากผลไปหาเหตุ อิสราเอลเป็นซี้ของอเมริกา อเมริกาเป็นพวกกับอังกฤษ มันเป็นวงจรที่พัวพันแกะไม่ออกกระนั้นหรือ Nasser เริ่มหน่าย เมื่ออเมริกาสนับสนุนยิวให้กระทุ้งจมูกอียิปต์บ่อยๆ อียิปต์ก็หันไปหารัสเซียศัตรูของอเมริกาบ้าง เป็นการแก้แค้น รัสเซียตอบสนอง ให้การสนับสนุนอียิปต์ด้านการทหาร คราวนี้อเมริกาเป็นฝ่ายหงุดหงิดบ้าง และก็เป็นตามนิสัยสันดาน หงุดหงิดแล้วต้องแสดงอำนาจ อเมริการะงับการปล่อยเงินกู้สำหรับเขื่อน Aswan และสั่งให้อังกฤษหยุดปล่อยเงินกู้เช่นเดียวกัน อังกฤษไม่ขัดใจอเมริกา เพราะอังกฤษก็กำลังขัดใจ Nasser และ Nasser ก็เลยขัดใจบ้าง เลยประกาศยึดหุ้นคลองสุเอชทั้งหมดกลับมาเป็นของรัฐ คราวนี้อังกฤษขัดใจหนักกว่า ส่งกองทัพมาบุกอียิปต์ เดือนตุลาคม ค.ศ.1956 Suez war ก็เกิดขึ้น ฝั่งอังกฤษเช็คชื่อแล้วมาพร้อม หน้าทั้งอเมริกา ฝรั่งเศส และอิสราเอล Nasser ก็หันกลับไปยุอัลจีเรีย ให้ต่อต้านฝรั่งเศส ในที่สุด Suez war ก็สงบ กองทัพ Nasser น่วม แต่ Nasser ไม่คืนหุ้นและอียิปต์ก็ครอบครองคลองสุเอชแต่ผู้เดียว เป็นสมบัติของประเทศอียิปต์อย่างเต็มภาคภูมิ และก็ทำให้อังกฤษตัดใจได้ในที่สุด ที่จะล้างมือจากอียิปต์ ผลประโยชน์ที่ได้มีไม่มากพอ ขุดเขามาจนเกลี้ยงแล้ว ไปหาเหยื่อที่มีน้ำมันต่อดีกว่า แล้วอังกฤษก็ทิ้งอียิปต์ไปดื้อๆเช่นนั้น สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 ก.ย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต "จ่าเอ็ม" จำเลยคดียิง "ลิม กิมยา" นักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาเสียชีวิตย่านถนนข้าวสาร พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ภรรยา 1.79 ล้านบาท ส่วนคนขับรถรับจ้างไปส่งที่คลองหาด จ.สระแก้ว ศาลยกฟ้อง เพราะไม่ปรากฎว่ามีเจตนาพิเศษ และค่าจ้างไปส่งเป็นราคาสมเหตุสมผล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000094654

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ศาลอาญาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต "จ่าเอ็ม" จำเลยคดียิง "ลิม กิมยา" นักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาเสียชีวิตย่านถนนข้าวสาร พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ภรรยา 1.79 ล้านบาท ส่วนคนขับรถรับจ้างไปส่งที่คลองหาด จ.สระแก้ว ศาลยกฟ้อง เพราะไม่ปรากฎว่ามีเจตนาพิเศษ และค่าจ้างไปส่งเป็นราคาสมเหตุสมผล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000094654 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาประหารชีวิต "จ่าเอ็ม"มือยิง "คิม ยาลิม"อดีตฝ่ายค้านกัมพูชา จำคุก 8เดือนข้อหายิงปืนในที่สาธารณะและจำคุก6 เดือนข้อหาพาอาวุธปืน แต่สารภาพลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนคนขับรถพิพากษายกฟ้อง เหตุไม่มีหลักฐานว่ามีเจตนาพิเศษพาจำเลยที่ 1 หลบหนี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000094603

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ศาลอาญาประหารชีวิต "จ่าเอ็ม"มือยิง "คิม ยาลิม"อดีตฝ่ายค้านกัมพูชา จำคุก 8เดือนข้อหายิงปืนในที่สาธารณะและจำคุก6 เดือนข้อหาพาอาวุธปืน แต่สารภาพลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนคนขับรถพิพากษายกฟ้อง เหตุไม่มีหลักฐานว่ามีเจตนาพิเศษพาจำเลยที่ 1 หลบหนี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000094603 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Immich v2.0.0 เปิดตัวเวอร์ชัน Stable อย่างเป็นทางการ — เสถียรขึ้น เร็วขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่และแผนบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส”

    Immich คือซอฟต์แวร์แบบ self-hosted สำหรับจัดการรูปภาพและวิดีโอ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลส่วนตัวของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการ Cloud จากผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Google Photos หรือ iCloud

    หลังจากใช้เวลากว่า 1,337 วันในการพัฒนา ล่าสุดทีมงาน Immich ได้ประกาศเปิดตัวเวอร์ชัน v2.0.0 อย่างเป็นทางการในฐานะ “Stable Release” ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของโครงการนี้

    การประกาศครั้งนี้มาพร้อมกับการยืนยันว่า Immich ได้แก้ไขปัญหาทางเทคนิคจำนวนมาก และเข้าสู่สถานะที่พร้อมใช้งานในระดับองค์กร โดยจะเน้นการรักษาความเข้ากันได้ระหว่างเวอร์ชัน และลดภาระในการอัปเดตในอนาคต พร้อมทั้งนำระบบ semantic versioning มาใช้เพื่อให้การจัดการเวอร์ชันมีความชัดเจน

    เพื่อเฉลิมฉลอง ทีมงานได้เปิดตัว Immich ในรูปแบบแผ่น DVD ที่สามารถบูตระบบได้ทันที พร้อมภาพตัวอย่างจากทีมงาน และวางจำหน่ายผ่านร้าน merch ที่มีดีไซน์ย้อนยุคให้เลือกซื้อ

    ในแผนงานอนาคต Immich เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ auto-stacking, ปรับปรุงการแชร์, การจัดการกลุ่ม, และระบบ ownership รวมถึงการพัฒนาให้เว็บและแอปมือถือมีฟีเจอร์เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส end-to-end ที่สามารถสำรองข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอกได้ พร้อมฟีเจอร์ “buddy backup” สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

    ทีมงานยังเน้นว่าจะไม่มีการล็อกฟีเจอร์ไว้หลัง paywall แต่จะมีบริการเสริมแบบสมัครใจเพื่อสนับสนุนโครงการ และจะเก็บข้อมูลการใช้งานอย่างโปร่งใส โดยเปิดให้ชุมชนร่วมแสดงความคิดเห็นก่อนนำไปใช้จริง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Immich v2.0.0 เปิดตัวเป็นเวอร์ชัน Stable อย่างเป็นทางการ
    ใช้ระบบ semantic versioning เพื่อจัดการเวอร์ชันแบบ MAJOR.MINOR.PATCH
    รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างแอปมือถือ v2.x.x กับเซิร์ฟเวอร์ v2.x.x ทุกเวอร์ชัน
    แก้ไขปัญหาทางเทคนิคจำนวนมาก และลบแบนเนอร์คำเตือนออกจากเว็บไซต์
    เปิดตัวแผ่น DVD ที่สามารถบูต Immich ได้ พร้อมภาพตัวอย่างจากทีมงาน
    ร้าน merch มีสินค้าดีไซน์ย้อนยุคให้เลือกซื้อ
    แผนงานอนาคตรวมถึง auto-stacking, การแชร์, การจัดการกลุ่ม และ ownership
    เตรียมเปิดบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส end-to-end และ buddy backup
    ไม่มีการล็อกฟีเจอร์ไว้หลัง paywall แต่มีบริการเสริมแบบสมัครใจ
    จะเก็บข้อมูลการใช้งานอย่างโปร่งใส โดยเปิดให้ชุมชนร่วมแสดงความคิดเห็น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Immich เป็นหนึ่งในโครงการ open-source ที่เติบโตเร็วที่สุดในกลุ่ม self-hosted media
    Semantic versioning ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถวางแผนการอัปเดตได้ง่ายขึ้น
    ระบบ buddy backup เป็นแนวคิดที่ใช้ในองค์กรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล
    การใช้ DVD บูตระบบเป็นการสร้างความทรงจำแบบ retro และลดความซับซ้อนในการติดตั้ง
    การเก็บข้อมูลการใช้งานแบบโปร่งใสช่วยลดความกังวลเรื่อง privacy ในชุมชน open-source

    https://github.com/immich-app/immich/discussions/22546
    📸 “Immich v2.0.0 เปิดตัวเวอร์ชัน Stable อย่างเป็นทางการ — เสถียรขึ้น เร็วขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่และแผนบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส” Immich คือซอฟต์แวร์แบบ self-hosted สำหรับจัดการรูปภาพและวิดีโอ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลส่วนตัวของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการ Cloud จากผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Google Photos หรือ iCloud หลังจากใช้เวลากว่า 1,337 วันในการพัฒนา ล่าสุดทีมงาน Immich ได้ประกาศเปิดตัวเวอร์ชัน v2.0.0 อย่างเป็นทางการในฐานะ “Stable Release” ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของโครงการนี้ การประกาศครั้งนี้มาพร้อมกับการยืนยันว่า Immich ได้แก้ไขปัญหาทางเทคนิคจำนวนมาก และเข้าสู่สถานะที่พร้อมใช้งานในระดับองค์กร โดยจะเน้นการรักษาความเข้ากันได้ระหว่างเวอร์ชัน และลดภาระในการอัปเดตในอนาคต พร้อมทั้งนำระบบ semantic versioning มาใช้เพื่อให้การจัดการเวอร์ชันมีความชัดเจน เพื่อเฉลิมฉลอง ทีมงานได้เปิดตัว Immich ในรูปแบบแผ่น DVD ที่สามารถบูตระบบได้ทันที พร้อมภาพตัวอย่างจากทีมงาน และวางจำหน่ายผ่านร้าน merch ที่มีดีไซน์ย้อนยุคให้เลือกซื้อ ในแผนงานอนาคต Immich เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ auto-stacking, ปรับปรุงการแชร์, การจัดการกลุ่ม, และระบบ ownership รวมถึงการพัฒนาให้เว็บและแอปมือถือมีฟีเจอร์เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส end-to-end ที่สามารถสำรองข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอกได้ พร้อมฟีเจอร์ “buddy backup” สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ทีมงานยังเน้นว่าจะไม่มีการล็อกฟีเจอร์ไว้หลัง paywall แต่จะมีบริการเสริมแบบสมัครใจเพื่อสนับสนุนโครงการ และจะเก็บข้อมูลการใช้งานอย่างโปร่งใส โดยเปิดให้ชุมชนร่วมแสดงความคิดเห็นก่อนนำไปใช้จริง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Immich v2.0.0 เปิดตัวเป็นเวอร์ชัน Stable อย่างเป็นทางการ ➡️ ใช้ระบบ semantic versioning เพื่อจัดการเวอร์ชันแบบ MAJOR.MINOR.PATCH ➡️ รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างแอปมือถือ v2.x.x กับเซิร์ฟเวอร์ v2.x.x ทุกเวอร์ชัน ➡️ แก้ไขปัญหาทางเทคนิคจำนวนมาก และลบแบนเนอร์คำเตือนออกจากเว็บไซต์ ➡️ เปิดตัวแผ่น DVD ที่สามารถบูต Immich ได้ พร้อมภาพตัวอย่างจากทีมงาน ➡️ ร้าน merch มีสินค้าดีไซน์ย้อนยุคให้เลือกซื้อ ➡️ แผนงานอนาคตรวมถึง auto-stacking, การแชร์, การจัดการกลุ่ม และ ownership ➡️ เตรียมเปิดบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส end-to-end และ buddy backup ➡️ ไม่มีการล็อกฟีเจอร์ไว้หลัง paywall แต่มีบริการเสริมแบบสมัครใจ ➡️ จะเก็บข้อมูลการใช้งานอย่างโปร่งใส โดยเปิดให้ชุมชนร่วมแสดงความคิดเห็น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Immich เป็นหนึ่งในโครงการ open-source ที่เติบโตเร็วที่สุดในกลุ่ม self-hosted media ➡️ Semantic versioning ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถวางแผนการอัปเดตได้ง่ายขึ้น ➡️ ระบบ buddy backup เป็นแนวคิดที่ใช้ในองค์กรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ➡️ การใช้ DVD บูตระบบเป็นการสร้างความทรงจำแบบ retro และลดความซับซ้อนในการติดตั้ง ➡️ การเก็บข้อมูลการใช้งานแบบโปร่งใสช่วยลดความกังวลเรื่อง privacy ในชุมชน open-source https://github.com/immich-app/immich/discussions/22546
    GITHUB.COM
    v2.0.0 - Stable Release of Immich · immich-app/immich · Discussion #22546
    v2.0.0 - Stable Release of Immich Watch the video Welcome Hello everyone, After: ~1,337 days, 271 releases, 78,000 stars on GitHub, 1,558 contributors, 31,500 members on Discord, 36,000 members on ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปู่ทวดโทะหน่อโทะ พ่อแก่โท๊ะ วัดตันติการาม จ.นราธิวาส ปี2539
    ปู่ทวดโทะหน่อโทะ เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน (พิเศษลงบรอนซ์เงิน) วัดตันติการาม (น้ำตอหลัง) ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ปี2539 //พระดีพิธีใหญ่ ขอได้ไหว์รับ ประสบการณ์สูง พบเห็นน้อย น่าใช้มาก //พระสถาพสวยมาก สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ขอได้ไหว์รับ น่าใช้มาก คุ้มครอง เรียกทรัพย์ โชคลาภ ว่ากันาจะคอยช่วยเหลือหนุนนำโชค ทำมาค้าขึ้น เรียกลูกค้าเข้าร้าน กิจการรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า ติดต่องานราบรื่น >>

    ** ปู่ทวดโท๊ะหรือพ่อแก่โท๊ะ เป็นที่สักการะบูชามีความศักดิ์สิทธิ์มากและคนที่ได้มากราบไหว้ขอพรบนบานศาลกล่าวกับปู่ทวดโท๊ะแห่งนี้ มักจะต้องได้กลับมาที่นี่อีก เพราะว่าต้องมาแก้บน โดยตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวด "อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง" กราบปู่ทวดโท๊ะเสร็จก็ขอพรหรือบนบานในสิ่งที่ต้องการ ขอให้สำเร็จลุล่วงตามความประสงค์ ถ้าสำเร็จแล้วจะกลับมาแก้บนด้วยสิ่งใดก็ว่ากันไป อาจจะนำเป็นรูปปั้นสัตว์ต่าง ๆ เช่น เสือ ม้า วัว หมู ช้าง มาถวายปู่ทวดโท๊ะก็ได้หรือจะแก้บนด้วยหมู เห็ด เป็ด ไก่ ก็ว่ากันไปตามกำลังทรัพย์ ซื้อประทัดมาจุดด้วย


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ปู่ทวดโทะหน่อโทะ พ่อแก่โท๊ะ วัดตันติการาม จ.นราธิวาส ปี2539 ปู่ทวดโทะหน่อโทะ เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน (พิเศษลงบรอนซ์เงิน) วัดตันติการาม (น้ำตอหลัง) ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ปี2539 //พระดีพิธีใหญ่ ขอได้ไหว์รับ ประสบการณ์สูง พบเห็นน้อย น่าใช้มาก //พระสถาพสวยมาก สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ขอได้ไหว์รับ น่าใช้มาก คุ้มครอง เรียกทรัพย์ โชคลาภ ว่ากันาจะคอยช่วยเหลือหนุนนำโชค ทำมาค้าขึ้น เรียกลูกค้าเข้าร้าน กิจการรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า ติดต่องานราบรื่น >> ** ปู่ทวดโท๊ะหรือพ่อแก่โท๊ะ เป็นที่สักการะบูชามีความศักดิ์สิทธิ์มากและคนที่ได้มากราบไหว้ขอพรบนบานศาลกล่าวกับปู่ทวดโท๊ะแห่งนี้ มักจะต้องได้กลับมาที่นี่อีก เพราะว่าต้องมาแก้บน โดยตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวด "อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง" กราบปู่ทวดโท๊ะเสร็จก็ขอพรหรือบนบานในสิ่งที่ต้องการ ขอให้สำเร็จลุล่วงตามความประสงค์ ถ้าสำเร็จแล้วจะกลับมาแก้บนด้วยสิ่งใดก็ว่ากันไป อาจจะนำเป็นรูปปั้นสัตว์ต่าง ๆ เช่น เสือ ม้า วัว หมู ช้าง มาถวายปู่ทวดโท๊ะก็ได้หรือจะแก้บนด้วยหมู เห็ด เป็ด ไก่ ก็ว่ากันไปตามกำลังทรัพย์ ซื้อประทัดมาจุดด้วย ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ดร.ก้องศักด' รับลูก 'สุธิยา' ตั้ง กก. สอบสมาคมยิงเป้าบิน ย้ำทำตามข้อเท็จจริง ไม่เข้าข้างใคร ผิดว่าไปตามผิด
    https://www.thai-tai.tv/news/21703/
    .
    #สุธิยาจิวเฉลิมมิตร #สมาคมยิงเป้าบิน #กกท #ก้องศักดยอดมณี #ธรรมนัสพรหมเผ่า #ความไม่โปร่งใส #ทุจริตกีฬา #ปัญหานักกีฬา
    'ดร.ก้องศักด' รับลูก 'สุธิยา' ตั้ง กก. สอบสมาคมยิงเป้าบิน ย้ำทำตามข้อเท็จจริง ไม่เข้าข้างใคร ผิดว่าไปตามผิด https://www.thai-tai.tv/news/21703/ . #สุธิยาจิวเฉลิมมิตร #สมาคมยิงเป้าบิน #กกท #ก้องศักดยอดมณี #ธรรมนัสพรหมเผ่า #ความไม่โปร่งใส #ทุจริตกีฬา #ปัญหานักกีฬา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยื่นคำขาดในวันอังคาร (30 ก.ย.) ให้เวลากลุ่มฮามาส “3 หรือ 4 วัน” ในการตอบรับแผนการของเขาที่มุ่งสร้างสันติภาพขึ้นมาในฉนวนกาซา ขณะที่กลุ่มนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ระบุว่าอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเสนอ ซึ่งอิสราเอลประกาศยอมรับไปแล้ว และเหล่าชาติอาหรับตลอดจนประเทศมุสลิมสำคัญก็พากันเห็นดีเห็นงาม เช่นเดียวกับพวกพันธมิตรของอเมริกาในยุโรป ตลอดจนรัสเซียและจีน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000093659

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยื่นคำขาดในวันอังคาร (30 ก.ย.) ให้เวลากลุ่มฮามาส “3 หรือ 4 วัน” ในการตอบรับแผนการของเขาที่มุ่งสร้างสันติภาพขึ้นมาในฉนวนกาซา ขณะที่กลุ่มนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ระบุว่าอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเสนอ ซึ่งอิสราเอลประกาศยอมรับไปแล้ว และเหล่าชาติอาหรับตลอดจนประเทศมุสลิมสำคัญก็พากันเห็นดีเห็นงาม เช่นเดียวกับพวกพันธมิตรของอเมริกาในยุโรป ตลอดจนรัสเซียและจีน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000093659 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 1 : “เสี้ยม 1”
    ตามประวัติศาสตร์ที่จารึกกันไว้ สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้จบสิ้นลงไปแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 แต่ความรุนแรงที่สงครามโลก ได้สร้างทิ้งไว้ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะยังไม่จบ การโต้แย้งเรื่องเขตแดน ซึ่งกำหนดขึ้นโดยเหล่านักล่าอาณานิคม โดยเฉพาะอังกฤษ เพื่อสนองตัณหาของพวกนักล่า ได้ทิ้งมรดกแห่งความขัดแย้งและความเศร้าสลดใจไว้ในภูมิภาคนี้ อย่างยากที่จะหาทางเยียวยา
    ที่เมือง Damascus ในซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองมากว่า 3 ปีแล้ว และยังไม่เห็นเค้าว่าจะจบลงเมื่อไหร่ กองทัพภาคที่ 4 ของรัฐบาลซีเรีย ขึ้นไปตั้งมั่นอยู่บนภูเขา Kassioun ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติบอกว่า แก๊สพิษที่ถูกยิงลงมาฟุ้งกระจายอยู่บริเวณเมืองชายขอบของ Damascus เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2013 นั้น ถูกยิงมาจากภูเขาดังกล่าว ทำให้มีคนตายไปประมาณ 1,400 คน เป็นยอดคนตายเฉพาะใน 1 วันเท่านั้น ตั้งแต่สงครามกลางเมืองเริ่ม จนถึงปัจจุบัน มีคนตายไปแล้วประมาณ 1.5 แสนคน
    Bagdad เมืองที่เคยเป็นวังเก่าในอิรัค 2 ปี หลังจากที่กองทัพอเมริกันถอนออกไป ชาวอิรัคได้มีโอกาสมาเดินเล่นในส่วนที่เรียกว่าเป็น Green – Zone ที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Tigris อีกครั้งหนึ่ง มันเป็นส่วนของเมืองแบกแดด ที่ทหารอเมริกันแอบใช้เป็นที่หลบภัย เมื่อทำให้ทั้งประเทศที่พวกเขาไปครอบครองอยู่ กลายเป็นแดนฆาตกรรมหมู่ ปัจจุบันสถานการณ์ดูเหมือนไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ การเดินเล่นใน Green Zone มีอายุสั้นจริง อีกด้านหนึ่งของกำแพงเป็น Red-Zone การถูกยิง การตายหมู่ กลับกลายมาเป็นเหตุการณ์ประจำวันอีกครั้ง แม้ทหารอเมริกันจะถอยทัพออกไปแล้ว ความสงบก็ไม่ได้กลับมา มีคนตายไปแล้วเป็นหมื่นคน
    Beirut เมืองหลวงของเลบานอน เมืองซึ่งเป็นที่ชื่นชมของชาวอาหรับ พวกเขาชอบใช้เบรุตเป็นสถานที่นัดพบ เป็นที่เดินเล่นทอดน่อง จูงมือกัน พักผ่อนหย่อนใจ และแข่งกันทำมาหากิน เป็นเส้นทางขนานคู่ระหว่างศาสนากับโลกีย์ มุสลิมกับคริสเตียน ชีอะห์กับสุหนี่ แล้วกลิ่นไอของการต่อสู้ที่ลิเบีย ซีเรีย และความไม่สงบที่เกิดขึ้นใน อียิปต์ และอิรัค ก็โชยมาใส่จมูกของชาวเบรุตที่กำลังเดินจูงมือกันอีกครั้ง คำถามเดิม ๆ วนกลับมาเข้ามาในใจของชาวเลบานอน แล้วเบรุตจะรอดไหม เราจะเจอคลื่นความไม่สงบ ความรุนแรงโหมใส่เราอีกครั้งไหม หรือว่ามันมาคอยเราอยู่แล้ว ตรงหัวมุมถนนอันเป็นที่รักของเราในเบรุตนี้เอง
    2 ปี หลังจากการลุกฮือเหมือนนัดกันในปี ค.ศ. 2011 สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะย้อนกลับไปทางความสิ้นหวังและเปล่าเปลี่ยวเหมือนอย่างที่ผ่านมา แทบจะไม่มีประเทศใดเลยในภูมิภาคนี้ ที่ไม่เคยผจญกับสงคราม หรือความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา และก็ดูเหมือนว่า จะไม่มีประเทศไหนเลยที่มีภูมิต้านทานแข็งแรงพอ ที่จะรับมือกับการจราจลรอบใหม่ ที่อาจจะระเบิดเป็นวงกว้างไปทั่วภูมิภาค ในอนาคตอันใกล้นี้ ขบวนการที่เรียกว่า Arab Spring ดูเหมือนจะจมโคลนไปแล้ว แทนที่จะงอกงาม หรือไม่ก็ถูกต่อต้าน หรือถูกโค่น ด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างดูเหมือนไม่มีวันจบสิ้น
    สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวภูมิภาคนี้จากสื่อฟอกย้อม คงมองเห็นว่าการต่อต้าน ลุกฮือที่เกิดขึ้นในตูนิเซีย ลิเบีย อียิปต์ และซีเรีย ก็คงเป็นพัฒนาการทางการเมืองตามปรกติของภูมิภาค แต่เปล่าหรอก ความไม่สงบเหล่านั้น มันเป็นหน่อใหม่ที่แตกเพิ่ม มาจากรากเหง้าของความขัดแย้ง ที่เจริญเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดยั้งมา เป็นเวลาประมาณ 100 ปีแล้ว และยังไม่เห็นทีท่าว่าจะสิ้นสุดแต่อย่างไร
    ยังไม่มีเหตุการณ์ใด ที่ผลของมันจะสามารถสร้างความตึงเครียดและขัดแย้ง ให้ใหม่สดเสมอ ต่อเนื่องและยาวนานในตะวันออกกลาง ได้เท่ากับผลของสงครามโลกครั้งที่ 1
    การสู้รบ ที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่า European Civil War ที่หมายถึงช่วงเวลาความรุนแรงที่เขย่ายุโรป ตั้งแต่ ค.ศ. 1914 เป็นต้นมาและสิ้นสุดเอาปี ค.ศ. 1945 ต่อด้วยสงครามเย็น ได้จบลงเมื่อ 1990 แต่สำหรับโลกอาหรับ ความตึงเครียดของพวกเขา ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันยังคงค้างคาอยู่ บรรดาชาวตะวันออกกลาง พบว่าตัวเองจำเป็นต้องไปฝึกหัดเป็นนักไต่ลวดกันถ้วนหน้า พวกเขาไม่ได้เป็นนักไต่ลวดธรรมดา เขาไต่ลวดและถือดาบไล่ฟันกันระหว่างไต่ลวดด้วย
    นัก (เขียน) ประวัติศาสตร์ฝรั่งบอกว่า ในภูมิภาคอันกว้างใหญ่ มี 2 ประเทศ คือ อียิปต์ และอิหร่าน ที่ดูเหมือนจะพอประคองตนเองให้อยู่รอดมาได้แม้จะโดนเขย่า โดนโค่นอยู่หลายครั้ง อีก 1 ประเทศ ที่ดูจะชำนาญในการประคองตนเองอย่างหวาดเสียว แม้จะถูกบีบถูกถีบทิ้งหลายครั้ง แต่ก็ลุกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วคือตุรกี และอีก 1 ประเทศที่แม้ไม่ถนัด ในการประคองตนเองอย่างหวาดเสียว แต่ใช้วิธีทำตัวอ่อน โอนไปตามกระแส เงินและน้ำมัน คือ Saudi Arabia ประเทศทั้ง 4 นี้ ล้อมรอบใจกลางของตะวันออกกลาง ซึ่งมี 5 ประเทศ และ 1 รัฐพิเศษ คือ เลบานอน ซีเรีย จอร์แดน อีรัค อิสราเอล และปาเลสไตน์ ซึ่งนักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน Fromkin เรียกกลุ่มประเทศนี้ว่า ลูก ๆ ของอังกฤษและฝรั่งเศส แต่ผมอยากจะแย้งนักประวัติศาสตร์ฝรั่งทั้งหลายว่า ไม่ว่าจะเป็น 4 ประเทศข้างต้น ก็ดูเหมือนจะเอาตัวรอดยาก แม้ว่าต่างจะฝึกเป็นนักไต่ลวดกันเป็นแถว และพวกประเทศที่ฝรั่งเรียกว่าเป็นลูก ที่นักล่าอาณานิคม “สร้าง” ก็ดูจะเป็นการสร้างขึ้นมาใช้เป็น “ไม้เสี้ยม” ตะวันออกกลาง ให้แตกให้แย้งกันเองอยู่เสมอต่างหาก
    ไม่มีกลุ่มประเทศไหน แม้จะมีขนาดเล็กเท่ากับกลุ่มเด็กถูกเสี้ยมข้างต้น ที่จะต้องผจญภัยสงคราม การขัดแย้งทางการเมือง สงครามกลางเมือง การโค่นล้ม การก่อการร้าย ได้มากเท่าที่กลุ่มเด็กถูกเสี้ยมโดน ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
    เพื่อที่จะเข้าใจความผิดปรกติของสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของภูมิภาค นี้ เราคงจะต้องตามไปรู้จักหัวหางของเหตุการณ์บางอย่างก่อน เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมทั้งความล้มเหลวของเหล่าผู้ปกครองและการเมืองในตะวันออกกลางเอง ที่ไม่สามารถจะต้านทาน หรือแก้เกมการครอบครอง และครอบงำโดยเหล่านักล่าอาณานิคม โดยเฉพาะชาติอังกฤษ และที่สำคัญ การค้นพบน้ำมัน การก่อตั้งอิสราเอล ก็เป็นปัจจัยที่เพิ่มความขัดแย้งในภูมิภาคนี้
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
17 สค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 1 : “เสี้ยม 1” ตามประวัติศาสตร์ที่จารึกกันไว้ สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้จบสิ้นลงไปแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 แต่ความรุนแรงที่สงครามโลก ได้สร้างทิ้งไว้ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะยังไม่จบ การโต้แย้งเรื่องเขตแดน ซึ่งกำหนดขึ้นโดยเหล่านักล่าอาณานิคม โดยเฉพาะอังกฤษ เพื่อสนองตัณหาของพวกนักล่า ได้ทิ้งมรดกแห่งความขัดแย้งและความเศร้าสลดใจไว้ในภูมิภาคนี้ อย่างยากที่จะหาทางเยียวยา ที่เมือง Damascus ในซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองมากว่า 3 ปีแล้ว และยังไม่เห็นเค้าว่าจะจบลงเมื่อไหร่ กองทัพภาคที่ 4 ของรัฐบาลซีเรีย ขึ้นไปตั้งมั่นอยู่บนภูเขา Kassioun ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติบอกว่า แก๊สพิษที่ถูกยิงลงมาฟุ้งกระจายอยู่บริเวณเมืองชายขอบของ Damascus เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2013 นั้น ถูกยิงมาจากภูเขาดังกล่าว ทำให้มีคนตายไปประมาณ 1,400 คน เป็นยอดคนตายเฉพาะใน 1 วันเท่านั้น ตั้งแต่สงครามกลางเมืองเริ่ม จนถึงปัจจุบัน มีคนตายไปแล้วประมาณ 1.5 แสนคน Bagdad เมืองที่เคยเป็นวังเก่าในอิรัค 2 ปี หลังจากที่กองทัพอเมริกันถอนออกไป ชาวอิรัคได้มีโอกาสมาเดินเล่นในส่วนที่เรียกว่าเป็น Green – Zone ที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Tigris อีกครั้งหนึ่ง มันเป็นส่วนของเมืองแบกแดด ที่ทหารอเมริกันแอบใช้เป็นที่หลบภัย เมื่อทำให้ทั้งประเทศที่พวกเขาไปครอบครองอยู่ กลายเป็นแดนฆาตกรรมหมู่ ปัจจุบันสถานการณ์ดูเหมือนไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ การเดินเล่นใน Green Zone มีอายุสั้นจริง อีกด้านหนึ่งของกำแพงเป็น Red-Zone การถูกยิง การตายหมู่ กลับกลายมาเป็นเหตุการณ์ประจำวันอีกครั้ง แม้ทหารอเมริกันจะถอยทัพออกไปแล้ว ความสงบก็ไม่ได้กลับมา มีคนตายไปแล้วเป็นหมื่นคน Beirut เมืองหลวงของเลบานอน เมืองซึ่งเป็นที่ชื่นชมของชาวอาหรับ พวกเขาชอบใช้เบรุตเป็นสถานที่นัดพบ เป็นที่เดินเล่นทอดน่อง จูงมือกัน พักผ่อนหย่อนใจ และแข่งกันทำมาหากิน เป็นเส้นทางขนานคู่ระหว่างศาสนากับโลกีย์ มุสลิมกับคริสเตียน ชีอะห์กับสุหนี่ แล้วกลิ่นไอของการต่อสู้ที่ลิเบีย ซีเรีย และความไม่สงบที่เกิดขึ้นใน อียิปต์ และอิรัค ก็โชยมาใส่จมูกของชาวเบรุตที่กำลังเดินจูงมือกันอีกครั้ง คำถามเดิม ๆ วนกลับมาเข้ามาในใจของชาวเลบานอน แล้วเบรุตจะรอดไหม เราจะเจอคลื่นความไม่สงบ ความรุนแรงโหมใส่เราอีกครั้งไหม หรือว่ามันมาคอยเราอยู่แล้ว ตรงหัวมุมถนนอันเป็นที่รักของเราในเบรุตนี้เอง 2 ปี หลังจากการลุกฮือเหมือนนัดกันในปี ค.ศ. 2011 สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะย้อนกลับไปทางความสิ้นหวังและเปล่าเปลี่ยวเหมือนอย่างที่ผ่านมา แทบจะไม่มีประเทศใดเลยในภูมิภาคนี้ ที่ไม่เคยผจญกับสงคราม หรือความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา และก็ดูเหมือนว่า จะไม่มีประเทศไหนเลยที่มีภูมิต้านทานแข็งแรงพอ ที่จะรับมือกับการจราจลรอบใหม่ ที่อาจจะระเบิดเป็นวงกว้างไปทั่วภูมิภาค ในอนาคตอันใกล้นี้ ขบวนการที่เรียกว่า Arab Spring ดูเหมือนจะจมโคลนไปแล้ว แทนที่จะงอกงาม หรือไม่ก็ถูกต่อต้าน หรือถูกโค่น ด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างดูเหมือนไม่มีวันจบสิ้น สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวภูมิภาคนี้จากสื่อฟอกย้อม คงมองเห็นว่าการต่อต้าน ลุกฮือที่เกิดขึ้นในตูนิเซีย ลิเบีย อียิปต์ และซีเรีย ก็คงเป็นพัฒนาการทางการเมืองตามปรกติของภูมิภาค แต่เปล่าหรอก ความไม่สงบเหล่านั้น มันเป็นหน่อใหม่ที่แตกเพิ่ม มาจากรากเหง้าของความขัดแย้ง ที่เจริญเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดยั้งมา เป็นเวลาประมาณ 100 ปีแล้ว และยังไม่เห็นทีท่าว่าจะสิ้นสุดแต่อย่างไร ยังไม่มีเหตุการณ์ใด ที่ผลของมันจะสามารถสร้างความตึงเครียดและขัดแย้ง ให้ใหม่สดเสมอ ต่อเนื่องและยาวนานในตะวันออกกลาง ได้เท่ากับผลของสงครามโลกครั้งที่ 1 การสู้รบ ที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่า European Civil War ที่หมายถึงช่วงเวลาความรุนแรงที่เขย่ายุโรป ตั้งแต่ ค.ศ. 1914 เป็นต้นมาและสิ้นสุดเอาปี ค.ศ. 1945 ต่อด้วยสงครามเย็น ได้จบลงเมื่อ 1990 แต่สำหรับโลกอาหรับ ความตึงเครียดของพวกเขา ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันยังคงค้างคาอยู่ บรรดาชาวตะวันออกกลาง พบว่าตัวเองจำเป็นต้องไปฝึกหัดเป็นนักไต่ลวดกันถ้วนหน้า พวกเขาไม่ได้เป็นนักไต่ลวดธรรมดา เขาไต่ลวดและถือดาบไล่ฟันกันระหว่างไต่ลวดด้วย นัก (เขียน) ประวัติศาสตร์ฝรั่งบอกว่า ในภูมิภาคอันกว้างใหญ่ มี 2 ประเทศ คือ อียิปต์ และอิหร่าน ที่ดูเหมือนจะพอประคองตนเองให้อยู่รอดมาได้แม้จะโดนเขย่า โดนโค่นอยู่หลายครั้ง อีก 1 ประเทศ ที่ดูจะชำนาญในการประคองตนเองอย่างหวาดเสียว แม้จะถูกบีบถูกถีบทิ้งหลายครั้ง แต่ก็ลุกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วคือตุรกี และอีก 1 ประเทศที่แม้ไม่ถนัด ในการประคองตนเองอย่างหวาดเสียว แต่ใช้วิธีทำตัวอ่อน โอนไปตามกระแส เงินและน้ำมัน คือ Saudi Arabia ประเทศทั้ง 4 นี้ ล้อมรอบใจกลางของตะวันออกกลาง ซึ่งมี 5 ประเทศ และ 1 รัฐพิเศษ คือ เลบานอน ซีเรีย จอร์แดน อีรัค อิสราเอล และปาเลสไตน์ ซึ่งนักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน Fromkin เรียกกลุ่มประเทศนี้ว่า ลูก ๆ ของอังกฤษและฝรั่งเศส แต่ผมอยากจะแย้งนักประวัติศาสตร์ฝรั่งทั้งหลายว่า ไม่ว่าจะเป็น 4 ประเทศข้างต้น ก็ดูเหมือนจะเอาตัวรอดยาก แม้ว่าต่างจะฝึกเป็นนักไต่ลวดกันเป็นแถว และพวกประเทศที่ฝรั่งเรียกว่าเป็นลูก ที่นักล่าอาณานิคม “สร้าง” ก็ดูจะเป็นการสร้างขึ้นมาใช้เป็น “ไม้เสี้ยม” ตะวันออกกลาง ให้แตกให้แย้งกันเองอยู่เสมอต่างหาก ไม่มีกลุ่มประเทศไหน แม้จะมีขนาดเล็กเท่ากับกลุ่มเด็กถูกเสี้ยมข้างต้น ที่จะต้องผจญภัยสงคราม การขัดแย้งทางการเมือง สงครามกลางเมือง การโค่นล้ม การก่อการร้าย ได้มากเท่าที่กลุ่มเด็กถูกเสี้ยมโดน ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะเข้าใจความผิดปรกติของสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของภูมิภาค นี้ เราคงจะต้องตามไปรู้จักหัวหางของเหตุการณ์บางอย่างก่อน เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมทั้งความล้มเหลวของเหล่าผู้ปกครองและการเมืองในตะวันออกกลางเอง ที่ไม่สามารถจะต้านทาน หรือแก้เกมการครอบครอง และครอบงำโดยเหล่านักล่าอาณานิคม โดยเฉพาะชาติอังกฤษ และที่สำคัญ การค้นพบน้ำมัน การก่อตั้งอิสราเอล ก็เป็นปัจจัยที่เพิ่มความขัดแย้งในภูมิภาคนี้ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
17 สค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 409 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดคำกล่าวถ้อยแถลงของ รมต.ต่างประเทศไทยฉบับเต็ม!
    .
    รมต.ต่างประเทศไทย 'ฟาด' เขมรเล่นบทเหยื่อ-บิดเบือนข้อเท็จจริงกลางเวที UN ลั่น! เหยื่อแท้จริงคือทหารไทย-พลเรือนผู้บริสุทธิ์ถูกจรวดเขมรโจมตี! ยืนหยัดปกป้องอธิปไตย - ผู้นำ-ทูตทั่วโลกปรบมือกึกก้อง!!!
    .
    เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 ว่า
    .
    ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และคณะผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ
    .
    - . ก่อนอื่น ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีกับท่านประธาน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 80
    .
    -. แม้ว่าข้าพเจ้าจะเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่รัฐบาลของข้าพเจ้าได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการที่ข้าพเจ้ามาอยู่ที่นี่ในวันนี้ เพราะเราเชื่อว่าช่วงเวลานี้มีความสำคัญ วาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาตินี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหประชาชาติกำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญ
    .
    -. ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นด้วยการย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของประเทศไทยต่อพหุภาคี
    .
    -. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกยังคงต้องการสหประชาชาติ และสหประชาชาติต้องการเราทุกคน แต่เพื่อให้สหประชาชาติบรรลุวัตถุประสงค์ เราต้องพัฒนาไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
    .
    -. ประเทศไทยก็กำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญเช่นกัน เผชิญกับความท้าทายเร่งด่วนภายในประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง แต่วิสัยทัศน์ของเราขยายออกไปนอกพรมแดน สู่โลกกว้าง เพราะเราเช่นเดียวกับทุกประเทศ ปรารถนาโลกที่สงบสุข ยุติธรรม และเปิดกว้าง
    .
    -. ด้วยจิตวิญญาณนี้เอง ประเทศไทยจึงพร้อมที่จะมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการจัดตั้งสหประชาชาติให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง นั่นคือการสร้างสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชนให้กับทุกคน

    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. หัวข้อการอภิปรายทั่วไปในปีนี้ คือ “Better Together” ซึ่งเตือนใจเราว่าสหประชาชาติจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว
    .
    -. ประการแรก เราต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวในฐานะประชาคมเดียวกัน
    .
    -. แปดสิบปีที่แล้ว ประชาคมชาติของเราได้นำกฎบัตรสหประชาชาติมาใช้ด้วยความหวังที่จะเกิดสันติภาพ แต่ปัจจุบัน เรากลับเผชิญกับโลกที่แตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากลัทธิกีดกันทางการค้า ความแตกแยก ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่เคยละเว้นแม้แต่ประเทศชาติ
    .
    -. สงครามในยูเครน ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ปีที่สามแล้ว ยังคงนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและการทำลายล้างอย่างใหญ่หลวง ในทำนองเดียวกัน ความทุกข์ทรมานอันน่าสยดสยองในฉนวนกาซา ซึ่งพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กๆ กำลังเผชิญชะตากรรมอันหนักอึ้ง ล้วนเป็นภาระหนักอึ้งต่อจิตสำนึกส่วนรวมของเรา เป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนว่าเมื่อสันติภาพถูกทำลาย ความเสียหายของมนุษย์ไม่เพียงแต่ตกอยู่กับประเทศชาติเท่านั้น แต่ยังตกอยู่กับประชาชนทั่วไปที่ชีวิตต้องแตกสลายอีกด้วย
    .
    -. ในฐานะประชาคมเดียวกัน ทุกประเทศต่างมีหน้าที่ร่วมกันในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของโลก
    .
    -. และความรับผิดชอบนี้ต้องครอบคลุมทุกฝ่าย พหุภาคีจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อผู้หญิงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในการรักษาสันติภาพ การป้องกันความขัดแย้ง หรือการตอบสนองด้านมนุษยธรรม เสียงและความเป็นผู้นำของพวกเขาจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนของเราและทำให้สันติภาพยั่งยืนยิ่งขึ้น ดิฉันมั่นใจว่าการเลือกตั้งท่านประธานาธิบดีให้เป็นผู้นำสมัชชาครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคนผลักดันวาระสตรีของสหประชาชาติด้วยความมุ่งมั่นที่มากขึ้น
    .
    -. ประเทศไทยตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของเรา กองกำลังรักษาสันติภาพของเรายังคงปฏิบัติหน้าที่ทั่วโลก ช่วยฟื้นฟูชีวิตที่แตกแยกจากความขัดแย้ง
    .
    -. ในประเทศ เราได้กวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล นี่ไม่ใช่แค่พันธกรณีตามสนธิสัญญาเท่านั้น แต่เป็นการคืนผืนดินที่ปลอดภัยให้ชุมชนที่พวกเขาสามารถอยู่อาศัยและเพาะปลูกได้ มันคือการปฏิบัติหน้าที่ของเราต่อประชาชน
    .
    -. การปกป้องประชาชนในประเทศเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจ เรายังต้องรับมือกับความท้าทายข้ามชาติ เช่น การอพยพย้ายถิ่นฐานที่เกิดจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ ซึ่งเป็นบททดสอบร่วมกันที่ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง
    .
    -. นี่คือภารกิจที่แท้จริงของประเทศไทย เป็นเวลากว่าทศวรรษที่เราได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้พลัดถิ่นจากเมียนมา วันนี้ เรากำลังมอบโอกาสให้พวกเขาได้ทำงานนอกที่พักพิงชั่วคราวมากขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีส่วนร่วมในสังคม ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแห่งความมุ่งมั่นของเราในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม
    .
    -. ในทำนองเดียวกัน ประเทศไทยกำลังเร่งความพยายามในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงทางออนไลน์ เนื่องจากผลกระทบเหล่านี้แผ่ขยายไปอย่างกว้างขวาง อาชญากรรมไร้พรมแดนต้องอาศัยความร่วมมือไร้พรมแดน
    .
    -. วิสัยทัศน์ของประชาคมหนึ่งเดียวต้องเริ่มต้นจากใกล้บ้าน ภูมิภาคต่างๆ คือรากฐานของประชาคมโลก ในภูมิภาคของเรา สันติภาพและเสถียรภาพยังเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามสร้างประชาคมอาเซียน
    .
    -. กระนั้น แม้แต่ในเพื่อนบ้านของเราเอง สถานการณ์ในเมียนมาร์ยังคงเป็นข้อกังวลอย่างยิ่ง ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดน และเรายังคงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเดินหน้าสู่การเจรจาและกระบวนการสันติภาพที่ยั่งยืน นี่คือรากฐานของสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมาร์
    .
    -. และแม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุด ข้อพิพาทก็อาจเกิดขึ้นได้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชาไม่น่าพึงปรารถนาและไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของเราเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด เราไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียนเดียวกัน
    .
    -. เช้าวันนี้ ผมตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปและในเชิงบวก เพื่อสะท้อนถึงความหวังสำหรับอนาคต แต่ผมต้องเขียนคำปราศรัยใหม่ เนื่องจากคำพูดที่น่าเสียใจที่สุดของเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผม ที่น่าตกใจคือกัมพูชายังคงแสดงตนเป็นเหยื่ออยู่ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กัมพูชาได้นำเสนอข้อเท็จจริงในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นเพียงการบิดเบือนความจริง
    .
    -. เรารู้ว่าใครคือเหยื่อที่แท้จริง พวกเขาคือทหารไทยที่สูญเสียขาจากทุ่นระเบิด เด็กๆ ที่โรงเรียนถูกยิงถล่ม และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังซื้อของในวันนั้นที่ร้านขายของชำที่ถูกโจมตีจากจรวดของกัมพูชา
    .
    -. เมื่อวานนี้ ผมได้พบกับเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาที่ห้องประชุมสหประชาชาติ เราได้พูดคุยเกี่ยวกับสันติภาพ การพูดคุย ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และความเชื่อมั่น ซึ่งต่อมาได้มีการเน้นย้ำเรื่องนี้ในการปรึกษาหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 4 ฝ่ายที่จัดโดยสหรัฐอเมริกา เราซาบซึ้งในความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสันติภาพ
    .
    -. แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาพูดในวันนี้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พูดในการประชุมเมื่อวานนี้ มันเผยให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชา ข้อกล่าวหาเหล่านี้เกินจริงจนทำให้ความจริงดูตลกขบขัน
    .
    -. ตั้งแต่แรกเริ่ม กัมพูชาได้ริเริ่มความขัดแย้งโดยมีเจตนาที่จะขยายข้อพิพาทเรื่องพรมแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และขยายขอบเขตไปสู่ระดับนานาชาติดังเช่นที่เกิดขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนี้
    .
    - หมู่บ้านที่เพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้อยู่ในดินแดนไทย จบประโยค ความจริงแล้ว หมู่บ้านเหล่านี้มีอยู่จริงเพราะประเทศไทยได้ตัดสินใจด้านมนุษยธรรมที่จะเปิดพรมแดนในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หลบหนีสงครามกลางเมืองในประเทศของตนเข้ามาหลบภัยในประเทศไทย เราตัดสินใจเช่นนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจและหลักการด้านมนุษยธรรม ในฐานะนักการทูตรุ่นเยาว์ ผมเองก็เคยประสบเหตุการณ์นี้มาเช่นกัน
    .
    -. แม้ว่าสงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลงและศูนย์พักพิงจะถูกปิดลง แต่หมู่บ้านชาวกัมพูชาได้ขยายพื้นที่ออกไปตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้จะมีการประท้วงจากประเทศไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยต่อคำขอเหล่านั้นในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกนี้
    .
    -. และเมื่อสันติภาพกลับคืนสู่กัมพูชาหลังข้อตกลงสันติภาพปารีส พ.ศ. 2534 เราอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างและฟื้นฟูประเทศกัมพูชาเพื่อรักษาสันติภาพ เราสร้างบ้าน ถนน และโรงพยาบาล เพราะสันติภาพในกัมพูชาเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทย นี่คือสิ่งที่เพื่อนบ้านควรทำเพื่อกันและกัน
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. การหยุดยิงยังคงเปราะบาง เราต้องทำให้มันได้ผล ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการกระทำที่จริงใจจากทั้งสองฝ่าย
    .
    -. น่าเสียดายที่การยั่วยุอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา รวมถึงการระดมพลพลเรือนเข้าสู่ดินแดนไทยและการยิงปืนเข้าใส่ฝ่ายเราเมื่อเร็วๆ นี้ ได้บั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน ข้าพเจ้ากำลังอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ที่กองทัพกัมพูชายิงใส่กองทัพไทยที่ประจำการตามแนวชายแดน เหตุการณ์ล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ กองทัพไทยยังคงตรวจจับโดรนสอดแนมของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยบุกรุกเข้ามาในดินแดนไทยเป็นประจำทุกวัน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมสมัยพิเศษที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย และได้ยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทวิภาคี
    .
    -. และขอให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยยืนหยัดและจะยืนหยัดเพื่อสันติภาพเสมอมา และจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกอย่างสันติต่อปัญหาปัจจุบันกับกัมพูชา ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะยืนหยัดและแน่วแน่ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเราเสมอ เราขอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับเราในการแก้ไขความแตกต่างผ่านการเจรจาอย่างสันติและกลไกที่มีอยู่
    .
    -. วันนี้ ประเทศของเราทั้งสองกำลังเผชิญกับทางเลือกที่ชัดเจน ในฐานะเพื่อนบ้านและมิตรสหาย เราต้องถามกัมพูชาว่าพวกเขาต้องการเลือกเส้นทางใด ระหว่างเส้นทางแห่งการเผชิญหน้าอย่างต่อเนื่อง หรือเส้นทางแห่งสันติภาพและความร่วมมือ
    .
    -. ประเทศไทยเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เพราะเราเชื่อว่าประชาชนของทั้งสองประเทศสมควรได้รับสิ่งเดียวกันนี้ แต่เราตั้งคำถามอย่างแท้จริงว่า กัมพูชามีเจตนาที่จะร่วมมือกับเราในการแสวงหาสันติภาพหรือไม่
    .
    -. สำหรับประเทศไทย การเจรจา ความไว้วางใจ และความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นหนทางสู่อนาคต เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ในการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรทั้งในอาเซียนและประเทศอื่นๆ รวมถึงมหาอำนาจ เพื่อแสวงหาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างยั่งยืน
    .
    -. การกล่าวถึงประชาคมหนึ่งเดียว ท่านประธานาธิบดี คือการยืนยันว่าเราผูกพันตามหลักการร่วมกันที่ว่าทุกคนเกิดมามีอิสระและเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีและสิทธิ
    .
    -. ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2568-2570 และประธานคณะกรรมการชุดที่สามของสมัชชาใหญ่ ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสำหรับทุกคน
    .
    -. สำหรับเรา ไม่ใช่แค่การมีที่นั่งในที่ประชุมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้ง ผู้พิการ และผู้ที่มักถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
    .
    -. การส่งเสริมสิทธิสตรีและเด็กหญิงก็เป็นศูนย์กลางของความพยายามนี้เช่นกัน การมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมและการปราศจากความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติไม่ได้เป็นเพียงสิทธิมนุษยชน แต่เป็นรากฐานของสังคมที่ยุติธรรมและยืดหยุ่น
    .
    -. สุขภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอีกประการหนึ่งที่ไม่อาจกล่าวเกินจริงได้ การสร้างหลักประกันการเข้าถึงการรักษาพยาบาลไม่ได้เป็นเพียงการช่วยชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้โอกาสทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและความมั่นคง
    .
    -. นี่คือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนสิทธิในการมีสุขภาพที่ดี ทั้งที่บ้านและทั่วโลก หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านของเราให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และทุกชุมชนจะได้รับเครื่องมือในการเติบโต
    .
    -. ประเทศไทยยังมีส่วนร่วมในความพยายามระดับโลกเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาด รวมถึงผ่านข้อตกลงการระบาดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เราไม่รู้ว่าโรคระบาดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด และมีเพียงการทำงานร่วมกันเท่านั้นที่ทำให้เราพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ได้
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. สันติภาพและสิทธิมนุษยชนไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากปราศจากการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ในปัจจุบัน การพัฒนากำลังถูกคุกคามจากลัทธิกีดกันทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้าอาจส่งผลดีในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วกลับส่งผลเสียต่อเราทุกคน และสร้างความแตกแยกเมื่อเราต้องการความสามัคคีมากที่สุด
    .
    -. ประเทศไทยเชื่อว่าความเจริญรุ่งเรืองที่แท้จริงไม่ได้สร้างขึ้นบนกำแพงภาษีศุลกากร แต่สร้างบนสะพานแห่งความไว้วางใจ
    .
    -. เส้นทางข้างหน้าของเราเปิดกว้างและการค้าที่เป็นธรรม โดยมีรากฐานมาจากการพัฒนาที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางและครอบคลุม แต่การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงการเติบโตเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับคุณค่าและความสมดุลระหว่างความก้าวหน้าและการอนุรักษ์
    .
    -. นี่คือเหตุผลที่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของประเทศไทย ซึ่งสร้างขึ้นบนความสมดุล ความยืดหยุ่น และความพอประมาณ ได้นำทางเส้นทางการพัฒนาของเรา ปรัชญานี้เตือนใจเราว่าความก้าวหน้าที่แท้จริงต้องเสริมพลังประชาชนควบคู่ไปกับการปกป้องโลก
    .
    -. เหลือเวลาอีกเพียงห้าปีในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เราต้องเสริมสร้างความร่วมมือในทุกระดับ และเผชิญหน้ากับความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางการเงินที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่ออนาคตร่วมกันของเรา
    .
    -. ในขณะเดียวกัน เราต้องไม่ลืมว่าโลกคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญในยุคสมัยของเรา กำลังขยายช่องว่างระหว่างผู้มีอันจะกินและผู้ไม่มี หากปราศจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เราจะล้มเหลวทั้งต่อประชาชนและโลกของเรา
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. ในวาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาติ ภารกิจของเรานั้นเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง นั่นคือ การรวมตัวกันภายใต้คำอุทิศตนเพียงหนึ่งเดียว
    .
    - เราทุกคนผูกพันกันด้วยอุดมการณ์ บรรทัดฐาน และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ แต่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การต่ออายุคำอุทิศตนของเราต่อลัทธิพหุภาคีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป
    .
    -. แต่ความจริงก็คือ ประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติเต็มไปด้วยคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แต่ไม่รักษาไว้ คำมั่นสัญญาที่ไม่ได้รับการปฏิบัติแต่ละครั้งจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือและทำลายความไว้วางใจทั่วโลก หากสหประชาชาติจะยังคงเป็นศูนย์กลางของลัทธิพหุภาคี เราไม่สามารถปล่อยให้วัฏจักรนี้ซ้ำรอยได้
    .
    -. นั่นคือเหตุผลที่ข้อตกลงเพื่ออนาคต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อปีที่แล้ว จะต้องกลายเป็นพิมพ์เขียวสำหรับการดำเนินการ เพื่อสร้างความก้าวหน้าที่มีความหมาย การดำเนินการระดับชาติของเราจะต้องสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาร่วมกันของเรา
    .
    -. แต่เพื่อให้สหประชาชาติสามารถดำเนินงานตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีทรัพยากรที่จำเป็น เราต้องแน่ใจว่าสหประชาชาติมีวิธีการที่จะบรรลุจุดหมายตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้สหประชาชาติยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสันติภาพและการพัฒนา
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. ในขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะสร้างใหม่ ฟื้นฟู และปฏิรูปสหประชาชาติ เราจำเป็นต้องยึดถือวิสัยทัศน์ One Future
    .
    -. เพื่อให้สหประชาชาตินำทางเราไปสู่อนาคต การปฏิรูปที่ครอบคลุม รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคง จึงเป็นสิ่งจำเป็น สหประชาชาติต้องมีตัวแทนมากขึ้น โปร่งใส รับผิดชอบ และเหมาะสมกับอนาคต ปฏิบัติสอดคล้องกัน เข้าถึงประชาชน และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง
    .
    -. นั่นคือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนโครงการริเริ่ม UN80 อย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่การปิดช่องว่างทางการเงิน แต่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะทำให้สหประชาชาติเชื่อมต่อกับประชาชนที่ตนรับใช้อีกครั้ง
    .
    -. แต่เมื่อเราเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสหประชาชาติ เราต้องตระหนักถึงข้อจำกัดของมัน สหประชาชาติไม่สามารถทำทุกอย่างได้ และลัทธิพหุภาคีก็ยิ่งใหญ่กว่าสหประชาชาติเพียงลำพัง สหประชาชาติจะเจริญรุ่งเรืองได้เมื่อมีรากฐานมาจากลัทธิภูมิภาคนิยมที่เข้มแข็ง สถาบันระดับภูมิภาคเป็นผู้ตอบสนองต่อวิกฤตการณ์เป็นลำดับแรก เป็นผู้สร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างพันธกรณีระดับโลกกับความเป็นจริงในระดับท้องถิ่น
    .
    -. สำหรับประเทศไทย อาเซียนคือบ้านและศูนย์กลางของเรา การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ ครั้งที่ 15 ที่จะถึงนี้ จะแสดงให้เห็นว่าหลักการร่วมกันกลายเป็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร ประเทศไทยมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันความร่วมมือนี้ เพื่อให้เสียงของภูมิภาคได้รับการรับฟังอย่างเต็มที่ในการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาระดับโลก
    .
    -. การสร้างประชาคมโลกที่เข้มแข็งนั้นต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของคนรุ่นเรา นั่นคือเหตุผลที่เราต้องยอมรับพลังของเยาวชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของแผนปฏิบัติการระดับโลกเพื่อเยาวชน ประเทศไทยขอยืนยันความมุ่งมั่นในการลงทุนและเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชน และมอบโอกาสที่แท้จริงในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
    .
    -. ด้วยแนวคิดนี้ ประเทศไทยภูมิใจที่ได้ตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมคณะผู้แทนระดับชาติของเราในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อให้พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการกำหนดอนาคตที่พวกเขาวาดฝันไว้
    .
    -. เพราะท้ายที่สุดแล้ว อนาคตเป็นของพวกเขา จึงควรเป็นผู้สร้างโดยพวกเขาเอง
    .
    ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และท่านผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ
    .
    -. ในวาระครบรอบ 80 ปี สหประชาชาติต้องดำรงไว้ซึ่งชื่อเสียงอันดีงาม นั่นคือ ชาติที่ยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียว เรามารวมตัวกันที่นี่ไม่เพียงเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังเพื่อมองไปข้างหน้าถึงสิ่งที่เราสามารถบรรลุร่วมกันได้มากกว่านี้อีกด้วย
    .
    -. บทเรียนจากแปดสิบปีนี้ชัดเจน: เราจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเรายืนหยัดเป็นประชาคมเดียว ผูกพันด้วยความทุ่มเทหนึ่งเดียว และร่วมแรงร่วมใจกันสร้างอนาคตอันเป็นหนึ่งเดียวสำหรับทุกคน นี่คือความหมายที่แท้จริงของ Better Together as One
    .
    -. ประเทศไทยให้คำมั่นที่จะทำหน้าที่ของเรา แต่ยิ่งไปกว่านั้น เราท้าทายตัวเราเองและมิตรสหายทุกท่านในวันนี้ ให้เปลี่ยนคำพูดให้เป็นการกระทำ นั่นคือวิธีที่เราจะทำให้แปดสิบปีข้างหน้าดีกว่าที่ผ่านมา
    .
    - ขอบคุณมาก ๆ ครับ
    เปิดคำกล่าวถ้อยแถลงของ รมต.ต่างประเทศไทยฉบับเต็ม! . รมต.ต่างประเทศไทย 'ฟาด' เขมรเล่นบทเหยื่อ-บิดเบือนข้อเท็จจริงกลางเวที UN ลั่น! เหยื่อแท้จริงคือทหารไทย-พลเรือนผู้บริสุทธิ์ถูกจรวดเขมรโจมตี! ยืนหยัดปกป้องอธิปไตย - ผู้นำ-ทูตทั่วโลกปรบมือกึกก้อง!!! . เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 ว่า . ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และคณะผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ . - . ก่อนอื่น ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีกับท่านประธาน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 80 . -. แม้ว่าข้าพเจ้าจะเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่รัฐบาลของข้าพเจ้าได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการที่ข้าพเจ้ามาอยู่ที่นี่ในวันนี้ เพราะเราเชื่อว่าช่วงเวลานี้มีความสำคัญ วาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาตินี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหประชาชาติกำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญ . -. ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นด้วยการย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของประเทศไทยต่อพหุภาคี . -. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกยังคงต้องการสหประชาชาติ และสหประชาชาติต้องการเราทุกคน แต่เพื่อให้สหประชาชาติบรรลุวัตถุประสงค์ เราต้องพัฒนาไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป . -. ประเทศไทยก็กำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญเช่นกัน เผชิญกับความท้าทายเร่งด่วนภายในประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง แต่วิสัยทัศน์ของเราขยายออกไปนอกพรมแดน สู่โลกกว้าง เพราะเราเช่นเดียวกับทุกประเทศ ปรารถนาโลกที่สงบสุข ยุติธรรม และเปิดกว้าง . -. ด้วยจิตวิญญาณนี้เอง ประเทศไทยจึงพร้อมที่จะมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการจัดตั้งสหประชาชาติให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง นั่นคือการสร้างสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชนให้กับทุกคน ท่านประธาน ครับ . -. หัวข้อการอภิปรายทั่วไปในปีนี้ คือ “Better Together” ซึ่งเตือนใจเราว่าสหประชาชาติจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว . -. ประการแรก เราต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวในฐานะประชาคมเดียวกัน . -. แปดสิบปีที่แล้ว ประชาคมชาติของเราได้นำกฎบัตรสหประชาชาติมาใช้ด้วยความหวังที่จะเกิดสันติภาพ แต่ปัจจุบัน เรากลับเผชิญกับโลกที่แตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากลัทธิกีดกันทางการค้า ความแตกแยก ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่เคยละเว้นแม้แต่ประเทศชาติ . -. สงครามในยูเครน ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ปีที่สามแล้ว ยังคงนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและการทำลายล้างอย่างใหญ่หลวง ในทำนองเดียวกัน ความทุกข์ทรมานอันน่าสยดสยองในฉนวนกาซา ซึ่งพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กๆ กำลังเผชิญชะตากรรมอันหนักอึ้ง ล้วนเป็นภาระหนักอึ้งต่อจิตสำนึกส่วนรวมของเรา เป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนว่าเมื่อสันติภาพถูกทำลาย ความเสียหายของมนุษย์ไม่เพียงแต่ตกอยู่กับประเทศชาติเท่านั้น แต่ยังตกอยู่กับประชาชนทั่วไปที่ชีวิตต้องแตกสลายอีกด้วย . -. ในฐานะประชาคมเดียวกัน ทุกประเทศต่างมีหน้าที่ร่วมกันในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของโลก . -. และความรับผิดชอบนี้ต้องครอบคลุมทุกฝ่าย พหุภาคีจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อผู้หญิงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในการรักษาสันติภาพ การป้องกันความขัดแย้ง หรือการตอบสนองด้านมนุษยธรรม เสียงและความเป็นผู้นำของพวกเขาจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนของเราและทำให้สันติภาพยั่งยืนยิ่งขึ้น ดิฉันมั่นใจว่าการเลือกตั้งท่านประธานาธิบดีให้เป็นผู้นำสมัชชาครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคนผลักดันวาระสตรีของสหประชาชาติด้วยความมุ่งมั่นที่มากขึ้น . -. ประเทศไทยตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของเรา กองกำลังรักษาสันติภาพของเรายังคงปฏิบัติหน้าที่ทั่วโลก ช่วยฟื้นฟูชีวิตที่แตกแยกจากความขัดแย้ง . -. ในประเทศ เราได้กวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล นี่ไม่ใช่แค่พันธกรณีตามสนธิสัญญาเท่านั้น แต่เป็นการคืนผืนดินที่ปลอดภัยให้ชุมชนที่พวกเขาสามารถอยู่อาศัยและเพาะปลูกได้ มันคือการปฏิบัติหน้าที่ของเราต่อประชาชน . -. การปกป้องประชาชนในประเทศเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจ เรายังต้องรับมือกับความท้าทายข้ามชาติ เช่น การอพยพย้ายถิ่นฐานที่เกิดจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ ซึ่งเป็นบททดสอบร่วมกันที่ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง . -. นี่คือภารกิจที่แท้จริงของประเทศไทย เป็นเวลากว่าทศวรรษที่เราได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้พลัดถิ่นจากเมียนมา วันนี้ เรากำลังมอบโอกาสให้พวกเขาได้ทำงานนอกที่พักพิงชั่วคราวมากขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีส่วนร่วมในสังคม ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแห่งความมุ่งมั่นของเราในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม . -. ในทำนองเดียวกัน ประเทศไทยกำลังเร่งความพยายามในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงทางออนไลน์ เนื่องจากผลกระทบเหล่านี้แผ่ขยายไปอย่างกว้างขวาง อาชญากรรมไร้พรมแดนต้องอาศัยความร่วมมือไร้พรมแดน . -. วิสัยทัศน์ของประชาคมหนึ่งเดียวต้องเริ่มต้นจากใกล้บ้าน ภูมิภาคต่างๆ คือรากฐานของประชาคมโลก ในภูมิภาคของเรา สันติภาพและเสถียรภาพยังเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามสร้างประชาคมอาเซียน . -. กระนั้น แม้แต่ในเพื่อนบ้านของเราเอง สถานการณ์ในเมียนมาร์ยังคงเป็นข้อกังวลอย่างยิ่ง ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดน และเรายังคงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเดินหน้าสู่การเจรจาและกระบวนการสันติภาพที่ยั่งยืน นี่คือรากฐานของสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมาร์ . -. และแม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุด ข้อพิพาทก็อาจเกิดขึ้นได้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชาไม่น่าพึงปรารถนาและไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของเราเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด เราไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียนเดียวกัน . -. เช้าวันนี้ ผมตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปและในเชิงบวก เพื่อสะท้อนถึงความหวังสำหรับอนาคต แต่ผมต้องเขียนคำปราศรัยใหม่ เนื่องจากคำพูดที่น่าเสียใจที่สุดของเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผม ที่น่าตกใจคือกัมพูชายังคงแสดงตนเป็นเหยื่ออยู่ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กัมพูชาได้นำเสนอข้อเท็จจริงในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นเพียงการบิดเบือนความจริง . -. เรารู้ว่าใครคือเหยื่อที่แท้จริง พวกเขาคือทหารไทยที่สูญเสียขาจากทุ่นระเบิด เด็กๆ ที่โรงเรียนถูกยิงถล่ม และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังซื้อของในวันนั้นที่ร้านขายของชำที่ถูกโจมตีจากจรวดของกัมพูชา . -. เมื่อวานนี้ ผมได้พบกับเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาที่ห้องประชุมสหประชาชาติ เราได้พูดคุยเกี่ยวกับสันติภาพ การพูดคุย ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และความเชื่อมั่น ซึ่งต่อมาได้มีการเน้นย้ำเรื่องนี้ในการปรึกษาหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 4 ฝ่ายที่จัดโดยสหรัฐอเมริกา เราซาบซึ้งในความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสันติภาพ . -. แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาพูดในวันนี้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พูดในการประชุมเมื่อวานนี้ มันเผยให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชา ข้อกล่าวหาเหล่านี้เกินจริงจนทำให้ความจริงดูตลกขบขัน . -. ตั้งแต่แรกเริ่ม กัมพูชาได้ริเริ่มความขัดแย้งโดยมีเจตนาที่จะขยายข้อพิพาทเรื่องพรมแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และขยายขอบเขตไปสู่ระดับนานาชาติดังเช่นที่เกิดขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนี้ . - หมู่บ้านที่เพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้อยู่ในดินแดนไทย จบประโยค ความจริงแล้ว หมู่บ้านเหล่านี้มีอยู่จริงเพราะประเทศไทยได้ตัดสินใจด้านมนุษยธรรมที่จะเปิดพรมแดนในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หลบหนีสงครามกลางเมืองในประเทศของตนเข้ามาหลบภัยในประเทศไทย เราตัดสินใจเช่นนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจและหลักการด้านมนุษยธรรม ในฐานะนักการทูตรุ่นเยาว์ ผมเองก็เคยประสบเหตุการณ์นี้มาเช่นกัน . -. แม้ว่าสงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลงและศูนย์พักพิงจะถูกปิดลง แต่หมู่บ้านชาวกัมพูชาได้ขยายพื้นที่ออกไปตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้จะมีการประท้วงจากประเทศไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยต่อคำขอเหล่านั้นในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกนี้ . -. และเมื่อสันติภาพกลับคืนสู่กัมพูชาหลังข้อตกลงสันติภาพปารีส พ.ศ. 2534 เราอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างและฟื้นฟูประเทศกัมพูชาเพื่อรักษาสันติภาพ เราสร้างบ้าน ถนน และโรงพยาบาล เพราะสันติภาพในกัมพูชาเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทย นี่คือสิ่งที่เพื่อนบ้านควรทำเพื่อกันและกัน . ท่านประธาน ครับ . -. การหยุดยิงยังคงเปราะบาง เราต้องทำให้มันได้ผล ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการกระทำที่จริงใจจากทั้งสองฝ่าย . -. น่าเสียดายที่การยั่วยุอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา รวมถึงการระดมพลพลเรือนเข้าสู่ดินแดนไทยและการยิงปืนเข้าใส่ฝ่ายเราเมื่อเร็วๆ นี้ ได้บั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน ข้าพเจ้ากำลังอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ที่กองทัพกัมพูชายิงใส่กองทัพไทยที่ประจำการตามแนวชายแดน เหตุการณ์ล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ กองทัพไทยยังคงตรวจจับโดรนสอดแนมของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยบุกรุกเข้ามาในดินแดนไทยเป็นประจำทุกวัน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมสมัยพิเศษที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย และได้ยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทวิภาคี . -. และขอให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยยืนหยัดและจะยืนหยัดเพื่อสันติภาพเสมอมา และจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกอย่างสันติต่อปัญหาปัจจุบันกับกัมพูชา ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะยืนหยัดและแน่วแน่ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเราเสมอ เราขอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับเราในการแก้ไขความแตกต่างผ่านการเจรจาอย่างสันติและกลไกที่มีอยู่ . -. วันนี้ ประเทศของเราทั้งสองกำลังเผชิญกับทางเลือกที่ชัดเจน ในฐานะเพื่อนบ้านและมิตรสหาย เราต้องถามกัมพูชาว่าพวกเขาต้องการเลือกเส้นทางใด ระหว่างเส้นทางแห่งการเผชิญหน้าอย่างต่อเนื่อง หรือเส้นทางแห่งสันติภาพและความร่วมมือ . -. ประเทศไทยเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เพราะเราเชื่อว่าประชาชนของทั้งสองประเทศสมควรได้รับสิ่งเดียวกันนี้ แต่เราตั้งคำถามอย่างแท้จริงว่า กัมพูชามีเจตนาที่จะร่วมมือกับเราในการแสวงหาสันติภาพหรือไม่ . -. สำหรับประเทศไทย การเจรจา ความไว้วางใจ และความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นหนทางสู่อนาคต เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ในการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรทั้งในอาเซียนและประเทศอื่นๆ รวมถึงมหาอำนาจ เพื่อแสวงหาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างยั่งยืน . -. การกล่าวถึงประชาคมหนึ่งเดียว ท่านประธานาธิบดี คือการยืนยันว่าเราผูกพันตามหลักการร่วมกันที่ว่าทุกคนเกิดมามีอิสระและเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีและสิทธิ . -. ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2568-2570 และประธานคณะกรรมการชุดที่สามของสมัชชาใหญ่ ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสำหรับทุกคน . -. สำหรับเรา ไม่ใช่แค่การมีที่นั่งในที่ประชุมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้ง ผู้พิการ และผู้ที่มักถูกทิ้งไว้ข้างหลัง . -. การส่งเสริมสิทธิสตรีและเด็กหญิงก็เป็นศูนย์กลางของความพยายามนี้เช่นกัน การมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมและการปราศจากความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติไม่ได้เป็นเพียงสิทธิมนุษยชน แต่เป็นรากฐานของสังคมที่ยุติธรรมและยืดหยุ่น . -. สุขภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอีกประการหนึ่งที่ไม่อาจกล่าวเกินจริงได้ การสร้างหลักประกันการเข้าถึงการรักษาพยาบาลไม่ได้เป็นเพียงการช่วยชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้โอกาสทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและความมั่นคง . -. นี่คือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนสิทธิในการมีสุขภาพที่ดี ทั้งที่บ้านและทั่วโลก หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านของเราให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และทุกชุมชนจะได้รับเครื่องมือในการเติบโต . -. ประเทศไทยยังมีส่วนร่วมในความพยายามระดับโลกเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาด รวมถึงผ่านข้อตกลงการระบาดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เราไม่รู้ว่าโรคระบาดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด และมีเพียงการทำงานร่วมกันเท่านั้นที่ทำให้เราพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ได้ . ท่านประธาน ครับ . -. สันติภาพและสิทธิมนุษยชนไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากปราศจากการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ในปัจจุบัน การพัฒนากำลังถูกคุกคามจากลัทธิกีดกันทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้าอาจส่งผลดีในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วกลับส่งผลเสียต่อเราทุกคน และสร้างความแตกแยกเมื่อเราต้องการความสามัคคีมากที่สุด . -. ประเทศไทยเชื่อว่าความเจริญรุ่งเรืองที่แท้จริงไม่ได้สร้างขึ้นบนกำแพงภาษีศุลกากร แต่สร้างบนสะพานแห่งความไว้วางใจ . -. เส้นทางข้างหน้าของเราเปิดกว้างและการค้าที่เป็นธรรม โดยมีรากฐานมาจากการพัฒนาที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางและครอบคลุม แต่การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงการเติบโตเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับคุณค่าและความสมดุลระหว่างความก้าวหน้าและการอนุรักษ์ . -. นี่คือเหตุผลที่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของประเทศไทย ซึ่งสร้างขึ้นบนความสมดุล ความยืดหยุ่น และความพอประมาณ ได้นำทางเส้นทางการพัฒนาของเรา ปรัชญานี้เตือนใจเราว่าความก้าวหน้าที่แท้จริงต้องเสริมพลังประชาชนควบคู่ไปกับการปกป้องโลก . -. เหลือเวลาอีกเพียงห้าปีในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เราต้องเสริมสร้างความร่วมมือในทุกระดับ และเผชิญหน้ากับความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางการเงินที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่ออนาคตร่วมกันของเรา . -. ในขณะเดียวกัน เราต้องไม่ลืมว่าโลกคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญในยุคสมัยของเรา กำลังขยายช่องว่างระหว่างผู้มีอันจะกินและผู้ไม่มี หากปราศจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เราจะล้มเหลวทั้งต่อประชาชนและโลกของเรา . ท่านประธาน ครับ . -. ในวาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาติ ภารกิจของเรานั้นเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง นั่นคือ การรวมตัวกันภายใต้คำอุทิศตนเพียงหนึ่งเดียว . - เราทุกคนผูกพันกันด้วยอุดมการณ์ บรรทัดฐาน และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ แต่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การต่ออายุคำอุทิศตนของเราต่อลัทธิพหุภาคีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป . -. แต่ความจริงก็คือ ประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติเต็มไปด้วยคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แต่ไม่รักษาไว้ คำมั่นสัญญาที่ไม่ได้รับการปฏิบัติแต่ละครั้งจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือและทำลายความไว้วางใจทั่วโลก หากสหประชาชาติจะยังคงเป็นศูนย์กลางของลัทธิพหุภาคี เราไม่สามารถปล่อยให้วัฏจักรนี้ซ้ำรอยได้ . -. นั่นคือเหตุผลที่ข้อตกลงเพื่ออนาคต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อปีที่แล้ว จะต้องกลายเป็นพิมพ์เขียวสำหรับการดำเนินการ เพื่อสร้างความก้าวหน้าที่มีความหมาย การดำเนินการระดับชาติของเราจะต้องสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาร่วมกันของเรา . -. แต่เพื่อให้สหประชาชาติสามารถดำเนินงานตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีทรัพยากรที่จำเป็น เราต้องแน่ใจว่าสหประชาชาติมีวิธีการที่จะบรรลุจุดหมายตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้สหประชาชาติยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสันติภาพและการพัฒนา . ท่านประธาน ครับ . -. ในขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะสร้างใหม่ ฟื้นฟู และปฏิรูปสหประชาชาติ เราจำเป็นต้องยึดถือวิสัยทัศน์ One Future . -. เพื่อให้สหประชาชาตินำทางเราไปสู่อนาคต การปฏิรูปที่ครอบคลุม รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคง จึงเป็นสิ่งจำเป็น สหประชาชาติต้องมีตัวแทนมากขึ้น โปร่งใส รับผิดชอบ และเหมาะสมกับอนาคต ปฏิบัติสอดคล้องกัน เข้าถึงประชาชน และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง . -. นั่นคือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนโครงการริเริ่ม UN80 อย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่การปิดช่องว่างทางการเงิน แต่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะทำให้สหประชาชาติเชื่อมต่อกับประชาชนที่ตนรับใช้อีกครั้ง . -. แต่เมื่อเราเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสหประชาชาติ เราต้องตระหนักถึงข้อจำกัดของมัน สหประชาชาติไม่สามารถทำทุกอย่างได้ และลัทธิพหุภาคีก็ยิ่งใหญ่กว่าสหประชาชาติเพียงลำพัง สหประชาชาติจะเจริญรุ่งเรืองได้เมื่อมีรากฐานมาจากลัทธิภูมิภาคนิยมที่เข้มแข็ง สถาบันระดับภูมิภาคเป็นผู้ตอบสนองต่อวิกฤตการณ์เป็นลำดับแรก เป็นผู้สร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างพันธกรณีระดับโลกกับความเป็นจริงในระดับท้องถิ่น . -. สำหรับประเทศไทย อาเซียนคือบ้านและศูนย์กลางของเรา การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ ครั้งที่ 15 ที่จะถึงนี้ จะแสดงให้เห็นว่าหลักการร่วมกันกลายเป็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร ประเทศไทยมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันความร่วมมือนี้ เพื่อให้เสียงของภูมิภาคได้รับการรับฟังอย่างเต็มที่ในการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาระดับโลก . -. การสร้างประชาคมโลกที่เข้มแข็งนั้นต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของคนรุ่นเรา นั่นคือเหตุผลที่เราต้องยอมรับพลังของเยาวชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของแผนปฏิบัติการระดับโลกเพื่อเยาวชน ประเทศไทยขอยืนยันความมุ่งมั่นในการลงทุนและเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชน และมอบโอกาสที่แท้จริงในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง . -. ด้วยแนวคิดนี้ ประเทศไทยภูมิใจที่ได้ตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมคณะผู้แทนระดับชาติของเราในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อให้พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการกำหนดอนาคตที่พวกเขาวาดฝันไว้ . -. เพราะท้ายที่สุดแล้ว อนาคตเป็นของพวกเขา จึงควรเป็นผู้สร้างโดยพวกเขาเอง . ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และท่านผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ . -. ในวาระครบรอบ 80 ปี สหประชาชาติต้องดำรงไว้ซึ่งชื่อเสียงอันดีงาม นั่นคือ ชาติที่ยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียว เรามารวมตัวกันที่นี่ไม่เพียงเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังเพื่อมองไปข้างหน้าถึงสิ่งที่เราสามารถบรรลุร่วมกันได้มากกว่านี้อีกด้วย . -. บทเรียนจากแปดสิบปีนี้ชัดเจน: เราจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเรายืนหยัดเป็นประชาคมเดียว ผูกพันด้วยความทุ่มเทหนึ่งเดียว และร่วมแรงร่วมใจกันสร้างอนาคตอันเป็นหนึ่งเดียวสำหรับทุกคน นี่คือความหมายที่แท้จริงของ Better Together as One . -. ประเทศไทยให้คำมั่นที่จะทำหน้าที่ของเรา แต่ยิ่งไปกว่านั้น เราท้าทายตัวเราเองและมิตรสหายทุกท่านในวันนี้ ให้เปลี่ยนคำพูดให้เป็นการกระทำ นั่นคือวิธีที่เราจะทำให้แปดสิบปีข้างหน้าดีกว่าที่ผ่านมา . - ขอบคุณมาก ๆ ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 661 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เฉลิมชัย-เดชอิศม์" กอดคอโชว์สื่อ ดับลือแตกหัก เผยยังไม่ได้คุยกับ อภิสิทธิ์ เรื่องอนาคตทางการเมืองของพรรค
    https://www.thai-tai.tv/news/21621/
    .#ไทยไท #เฉลิมชัยศรีอ่อน #ประชาธิปัตย์ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    "เฉลิมชัย-เดชอิศม์" กอดคอโชว์สื่อ ดับลือแตกหัก เผยยังไม่ได้คุยกับ อภิสิทธิ์ เรื่องอนาคตทางการเมืองของพรรค https://www.thai-tai.tv/news/21621/ .#ไทยไท #เฉลิมชัยศรีอ่อน #ประชาธิปัตย์ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 2 สวรรค์ล่ม

    ความรื่นเริงเฉลิมฉลองมันอายุสั้นจริง ๆ ยังไม่ทันที่การเก็บกวาดซากกำแพงเบอร์ลินให้สะอาดดี วอชิงตันและพวกยุโรปตะวันตก ก็มาพร้อมกับ สวรรค์บนดิน เครื่องมือ ช๊อคทางเศรษฐกิจ

    IMF มาพร้อมกับยาแรงตามสูตร การปฎิรูปตลาดการค้าเสรี (คุ้นกันใหม่คำนี้) บอก แหม ! ประเทศหลังม่านนี่มีตั้งแยะ แยกเป็น 6 ประเทศ ตาม Warsaw Pact (Bulgaria, Czecho, East Germany, Hungary, Poland และ Romania) และอีก 15 ประเทศที่อยู่ในสหภาพโซเวียต ตูจะไปจัดโปรแกรมใหม่ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ 21 โปรแกรม ยังไงไหว เอางี้แล้วกัน เอาสูตรสำเร็จไปใช้แล้วกันนะ Privatization แปรรูปยังไงละคุณน้องหลังม่าน แปรมันให้หมด รัฐวิสาหกิจที่ทำอุตสาหกรรมน่ะ แล้วก็ลดค่าเงินรัสเซี่ยนรูเบิล กับเงินอะไรเรียกไม่ถูก ของหลาย ๆ ประเทศนั่นด้วย ใช้สูตรชุดนี้มันทั้งหมดแหละ แหะ แหะ สำเร็จ เออ ไม่ใช่ เสร็จแล้วครับนายท่าน !

    IMF shock therapy หรือที่สมันน้อยรู้จักกันดี คือ โปรแกรม SAP (Structural Adjustment Policies) ก็เปิดประตูกว้าง ให้นักลงทุนตะวันตกหอบกระดาษสี เขียวตีเครื่องหมายว่า In God We Trust มาเป็นกระสอบ นำโดยนาย George Soros และนักค้าเหล็กหนีคุก ชื่อ Marc Rich (แหม ! พอบอกเป็นพวกคนหนีคุก รีบเดากันเชียวนะ ว่าจะเป็นอีกชื่อนึง อยู่กันคนละเมืองครับ มาไม่ทัน ติดนัดนักร้องอยู่ ฮา ) และธนาคารพวกตะกรุมตระกราม เช่น Credit Suisse และแน่นอนต้องมี Chase เจ้าเก่าของเขามาด้วย ก็ยกทีมกันมา
    นโยบายของ IMF แสนจะเอื้อให้ไอ้พวกหัวขะโมยพวกนี้ มาชี้นิ้ว จิ้มเอา จิ้มเอา เลือกทรัพย์สินประเภทเพชรประดับมงกุฎ ของรัสเซียไปในราคาสตางค์เดียว มันจิ้มซื้อตั้งแต่พลังงานน้ำมัน ไปจนถึงพลูโตเนี่ยม เฮ้อ ! เขียนไปแล้วก็นึกว่าเขียนเรื่อง ปรส. เบื่อครับ ! เรื่องซ้ำซาก เล่นซ้ำซาก แล้วก็ยอมให้เขาต้มซ้ำซาก เมื่อไหร่มันจะมีคนรู้ แล้วรื้อฉากแบบนี้ทิ้งเสียที คนเขียนคงไม่อยู่เขียนเรื่องซ้ำซาก แบบนี้ไปอีกนานหรอก อ่าน ๆ แล้วก็จำกันไว้บ้างนะครับ เล่าให้ลูกหลานฟังกันบ้างว่า รุ่น ปู่ ย่า พ่อ แม่ ถูกเขาต้มมาอย่างไร รุ่นเจ้าก็จะโดนอย่างเดิมแหละ ถ้าไม่ลุกขึ้นตื่นกันเสียที (ปตท. นี่ก้อค้างอยู่ ข่าวว่าเรียกคนที่เป็นที่ปรึกษาการเงินตอนแปรรูป มาถามว่าการแปรรูปเป็นธรรมไหม ราคาถูกต้องไหม ฯลฯ ก็น่าจะเดาคำตอบกันได้ แบบนี้ระวังชาวบ้านเขาจะเรียกว่า เมาหมัดนะครับ ไม่อยากใช้คำแรงกว่านี้)

    กินเนื้อแล้วก็โยนกระดูกติดเนื้อมาให้ พวกที่เคยทำหน้าที่ในรัฐบาล Yeltsin ที่อเมริกาเคยต้มให้ทำการแปรรูป จนรัสเซีย ฉ.ห รอบแรก จำได้ไหมครับ จำไม่ได้ไปเอานิทานเรื่องจริง เรื่องมายากลยุทธ มาอ่านอีกทีนะครับ รายการนี้เขาเรียกว่าแจกรางวัลให้คนขายชาติ มีทุกชาติแหละครับ มากน้อยอีกเรื่องนึง ผมขอแช่งจริง ๆ ยอมบาป อย่ามาท้วง มาต่อว่าผม ใครขายชาติ ผมแช่งจริงๆ

    ผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย Mikhail Gorbachev ได้พยายามที่จะฟื้นสหภาพโซเวี ยตจากนโยบาย Glasnost และ Perestroika แต่ไม่สำเร็จ เขาจึงหันหัวไปทางตะวันตก นาย Bush (คนพ่อ) ปราบปลื้มตบหัว 1 ที แล้วบอกดีมาก รู้ว่าควรทำอย่างไร เพื่อเป็นการตอบแทน เราสัญญาว่า อเมริกาจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ไม่ไปขม้ำประเทศที่เพิ่งหลุดมาจาก Warsaw Pact โอเคไหม ?
    Gorbachev เชื่อน้ำคำของนาย Bush ว่าจะไม่ตระบัดสัตย์ (โถ !) ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ระหว่างที่กำลังชุลมุลกับการเก็บสมบัติส่วนรวมไปเป็นของส่วนตัว นาย Gorbachev เลยลืมให้ นาย Bush ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร วอชิงตันบอกไม่มีปัญหา เราไม่ลืมหรอกน่า ว่าเราพูดอะไรไว้ (ทำหรือไม่ทำอีกเรื่องนึง เป็นประโยคที่นาย Gorbachev ก็คงลืมนึกอีกเช่นเดียวกัน)

    นอกจากลืมทวงสัญญาแล้ว นาย Gorbachev ยังดันไปตกปากรับคำด้วยว่า สหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งบัดนี้น้ำหนักลดหดตัวลงมาเหลือเป็นแค่ประเทศรัสเซียเล็ก ๆ สัญญาว่าจะค่อย ๆ รื้อถอนคลังอาวุธนิวเคลียร์ และตกลงที่จะลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ อีกด้วย อเมริกาและรัสเซีย ตกลงยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่ใช้จรวดยิ่งใส่กัน โดยลงนามในข้อตกลง Anti Ballistic Missile Treaty (ABM) 1972

    แล้วอยู่ดี ๆ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 นายบุช (คนลูก) ก็แจ้งรัสเซียว่า ไอถอนตัวจากสัญญา ABM งี่เง้านั่นแล้วนะ เกลอเอ๋ย นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ที่อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ น่า ! ทุกอย่างมันก็มีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ เพื่อเป็นการเปิดทางให้อเมริกาทิ้งหน่วยงาน US Missile Defense Agency มันน่างงไหมล่ะ !

    รัสเซียบอกมึนวู้ย ! รัสเซียยอมยกเลิก Warsaw Pact คู่สัญญาของ NATO รัสเซียยอมถอนทัพจากยุโรปตะวันออกและบริเวณที่เป็นสหภาพโซเวียตเดิม ทำให้รัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยเป็นของสหภาพโซเวียตกระดี้กระด้า ที่จะเป็นอิสระตามคำโฆษณาขายสินค้าของฝ่ายที่อยู่นอกม่าน เพราะเชื่อว่า ถ้าเข้าไปเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปแล้ว จะมีชีวิตที่ซาบซ่านกว่า Republic of Georgia ก็เป็นหนึ่งในรัฐเล็กรัฐน้อย ที่เคลิ้มกับคำโฆษณาขายสินค้านั้นด้วย

    ส่วนข้อตกลงของวอชิงตัน ว่าจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ของนาย Bush (คนพ่อ) ก็คงเป็นเพียงลมปากที่พัดไปในสายลมจริง ๆ เพราะต่อมา นาย Clinton ก็กลายเป็นคนขี้ลืมไปด้วย อเมริกายังเดินหน้า ล่อหลอกให้ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact ทีละประเทศ ให้เข้ามาอยู่กับ NATO แล้วในที่สุด NATO ก็ขยายปีกมาทางตะวันออก ยาวใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 2 สวรรค์ล่ม ความรื่นเริงเฉลิมฉลองมันอายุสั้นจริง ๆ ยังไม่ทันที่การเก็บกวาดซากกำแพงเบอร์ลินให้สะอาดดี วอชิงตันและพวกยุโรปตะวันตก ก็มาพร้อมกับ สวรรค์บนดิน เครื่องมือ ช๊อคทางเศรษฐกิจ IMF มาพร้อมกับยาแรงตามสูตร การปฎิรูปตลาดการค้าเสรี (คุ้นกันใหม่คำนี้) บอก แหม ! ประเทศหลังม่านนี่มีตั้งแยะ แยกเป็น 6 ประเทศ ตาม Warsaw Pact (Bulgaria, Czecho, East Germany, Hungary, Poland และ Romania) และอีก 15 ประเทศที่อยู่ในสหภาพโซเวียต ตูจะไปจัดโปรแกรมใหม่ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ 21 โปรแกรม ยังไงไหว เอางี้แล้วกัน เอาสูตรสำเร็จไปใช้แล้วกันนะ Privatization แปรรูปยังไงละคุณน้องหลังม่าน แปรมันให้หมด รัฐวิสาหกิจที่ทำอุตสาหกรรมน่ะ แล้วก็ลดค่าเงินรัสเซี่ยนรูเบิล กับเงินอะไรเรียกไม่ถูก ของหลาย ๆ ประเทศนั่นด้วย ใช้สูตรชุดนี้มันทั้งหมดแหละ แหะ แหะ สำเร็จ เออ ไม่ใช่ เสร็จแล้วครับนายท่าน ! IMF shock therapy หรือที่สมันน้อยรู้จักกันดี คือ โปรแกรม SAP (Structural Adjustment Policies) ก็เปิดประตูกว้าง ให้นักลงทุนตะวันตกหอบกระดาษสี เขียวตีเครื่องหมายว่า In God We Trust มาเป็นกระสอบ นำโดยนาย George Soros และนักค้าเหล็กหนีคุก ชื่อ Marc Rich (แหม ! พอบอกเป็นพวกคนหนีคุก รีบเดากันเชียวนะ ว่าจะเป็นอีกชื่อนึง อยู่กันคนละเมืองครับ มาไม่ทัน ติดนัดนักร้องอยู่ ฮา ) และธนาคารพวกตะกรุมตระกราม เช่น Credit Suisse และแน่นอนต้องมี Chase เจ้าเก่าของเขามาด้วย ก็ยกทีมกันมา นโยบายของ IMF แสนจะเอื้อให้ไอ้พวกหัวขะโมยพวกนี้ มาชี้นิ้ว จิ้มเอา จิ้มเอา เลือกทรัพย์สินประเภทเพชรประดับมงกุฎ ของรัสเซียไปในราคาสตางค์เดียว มันจิ้มซื้อตั้งแต่พลังงานน้ำมัน ไปจนถึงพลูโตเนี่ยม เฮ้อ ! เขียนไปแล้วก็นึกว่าเขียนเรื่อง ปรส. เบื่อครับ ! เรื่องซ้ำซาก เล่นซ้ำซาก แล้วก็ยอมให้เขาต้มซ้ำซาก เมื่อไหร่มันจะมีคนรู้ แล้วรื้อฉากแบบนี้ทิ้งเสียที คนเขียนคงไม่อยู่เขียนเรื่องซ้ำซาก แบบนี้ไปอีกนานหรอก อ่าน ๆ แล้วก็จำกันไว้บ้างนะครับ เล่าให้ลูกหลานฟังกันบ้างว่า รุ่น ปู่ ย่า พ่อ แม่ ถูกเขาต้มมาอย่างไร รุ่นเจ้าก็จะโดนอย่างเดิมแหละ ถ้าไม่ลุกขึ้นตื่นกันเสียที (ปตท. นี่ก้อค้างอยู่ ข่าวว่าเรียกคนที่เป็นที่ปรึกษาการเงินตอนแปรรูป มาถามว่าการแปรรูปเป็นธรรมไหม ราคาถูกต้องไหม ฯลฯ ก็น่าจะเดาคำตอบกันได้ แบบนี้ระวังชาวบ้านเขาจะเรียกว่า เมาหมัดนะครับ ไม่อยากใช้คำแรงกว่านี้) กินเนื้อแล้วก็โยนกระดูกติดเนื้อมาให้ พวกที่เคยทำหน้าที่ในรัฐบาล Yeltsin ที่อเมริกาเคยต้มให้ทำการแปรรูป จนรัสเซีย ฉ.ห รอบแรก จำได้ไหมครับ จำไม่ได้ไปเอานิทานเรื่องจริง เรื่องมายากลยุทธ มาอ่านอีกทีนะครับ รายการนี้เขาเรียกว่าแจกรางวัลให้คนขายชาติ มีทุกชาติแหละครับ มากน้อยอีกเรื่องนึง ผมขอแช่งจริง ๆ ยอมบาป อย่ามาท้วง มาต่อว่าผม ใครขายชาติ ผมแช่งจริงๆ ผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย Mikhail Gorbachev ได้พยายามที่จะฟื้นสหภาพโซเวี ยตจากนโยบาย Glasnost และ Perestroika แต่ไม่สำเร็จ เขาจึงหันหัวไปทางตะวันตก นาย Bush (คนพ่อ) ปราบปลื้มตบหัว 1 ที แล้วบอกดีมาก รู้ว่าควรทำอย่างไร เพื่อเป็นการตอบแทน เราสัญญาว่า อเมริกาจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ไม่ไปขม้ำประเทศที่เพิ่งหลุดมาจาก Warsaw Pact โอเคไหม ? Gorbachev เชื่อน้ำคำของนาย Bush ว่าจะไม่ตระบัดสัตย์ (โถ !) ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ระหว่างที่กำลังชุลมุลกับการเก็บสมบัติส่วนรวมไปเป็นของส่วนตัว นาย Gorbachev เลยลืมให้ นาย Bush ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร วอชิงตันบอกไม่มีปัญหา เราไม่ลืมหรอกน่า ว่าเราพูดอะไรไว้ (ทำหรือไม่ทำอีกเรื่องนึง เป็นประโยคที่นาย Gorbachev ก็คงลืมนึกอีกเช่นเดียวกัน) นอกจากลืมทวงสัญญาแล้ว นาย Gorbachev ยังดันไปตกปากรับคำด้วยว่า สหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งบัดนี้น้ำหนักลดหดตัวลงมาเหลือเป็นแค่ประเทศรัสเซียเล็ก ๆ สัญญาว่าจะค่อย ๆ รื้อถอนคลังอาวุธนิวเคลียร์ และตกลงที่จะลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ อีกด้วย อเมริกาและรัสเซีย ตกลงยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่ใช้จรวดยิ่งใส่กัน โดยลงนามในข้อตกลง Anti Ballistic Missile Treaty (ABM) 1972 แล้วอยู่ดี ๆ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 นายบุช (คนลูก) ก็แจ้งรัสเซียว่า ไอถอนตัวจากสัญญา ABM งี่เง้านั่นแล้วนะ เกลอเอ๋ย นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ที่อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ น่า ! ทุกอย่างมันก็มีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ เพื่อเป็นการเปิดทางให้อเมริกาทิ้งหน่วยงาน US Missile Defense Agency มันน่างงไหมล่ะ ! รัสเซียบอกมึนวู้ย ! รัสเซียยอมยกเลิก Warsaw Pact คู่สัญญาของ NATO รัสเซียยอมถอนทัพจากยุโรปตะวันออกและบริเวณที่เป็นสหภาพโซเวียตเดิม ทำให้รัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยเป็นของสหภาพโซเวียตกระดี้กระด้า ที่จะเป็นอิสระตามคำโฆษณาขายสินค้าของฝ่ายที่อยู่นอกม่าน เพราะเชื่อว่า ถ้าเข้าไปเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปแล้ว จะมีชีวิตที่ซาบซ่านกว่า Republic of Georgia ก็เป็นหนึ่งในรัฐเล็กรัฐน้อย ที่เคลิ้มกับคำโฆษณาขายสินค้านั้นด้วย ส่วนข้อตกลงของวอชิงตัน ว่าจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ของนาย Bush (คนพ่อ) ก็คงเป็นเพียงลมปากที่พัดไปในสายลมจริง ๆ เพราะต่อมา นาย Clinton ก็กลายเป็นคนขี้ลืมไปด้วย อเมริกายังเดินหน้า ล่อหลอกให้ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact ทีละประเทศ ให้เข้ามาอยู่กับ NATO แล้วในที่สุด NATO ก็ขยายปีกมาทางตะวันออก ยาวใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 1 สวรรค์บนดิน
    ระหว่างที่ลูกตาเกือบทุกคู่ของคนในโลกสวยงามใบนี้ กำลังจ้องเขม็งไปที่สนามกีฬารังนก ดีไซน์สุดยอด ของนาย Li Xinggang เพื่อดูพิธีเปิด การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคอลังการ ที่แดนมังกรของอาเฮีย เมื่อเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 2008 วันนั้นบรรดาคนใหญ่คนโตคนของโลก นั่งอยู่แถวนั้นกันเกือบทั้งนั้น ตั้งแต่ใหญ่หมายเลข 1 ของโลกฝั่งหนึ่ง เช่น ประธานาธิบดี GeorgeW. Bush ตัวแสบ และคุณพี่ปูติน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของรัสเซีย หมายเลข 1 ของโลกของฝั่งหนึ่ง ก็นั่งทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ไม่ไกลกัน แล้วถ้ายังไม่ลืมกัน ไอ้หมาไนโจรร้าย ซึ่งนึกว่าตัวเองใหญ่เกินฟ้า ก็กระเสือกกระสนให้เชิญตนเอง เพื่อหนีปัญหาการเมืองในบ้าน ไปนั่งเสนอหน้าอยู่แถวนั้นกับเขาด้วยเหมือนกัน

    วันเดียวกันนั่นเอง ก็มีข่าวเล็ก ๆ แทรกข่าวโอลิมปิคอันยิ่งใหญ่ ออกมาว่า กองทัพของ Georgia ได้บุกเข้าไปยึดเมือง South Ossetia เรียบร้อยแล้ว
    เป็นข่าวเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่มีใครสนใจ น้อยคนจะรู้จักว่า South Ossetia อยู่ที่ไหน บางคนไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ แน่นอนในแดนสมันน้อย มีน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะรู้จัก หรือแม้แต่จะได้ยินชื่อ South Ossetia เมืองอะไรน่ะ อยู่ที่ไหนนะ รู้จักแต่ เมืองโอริสสาในนิยายเรื่องอะไรสักอย่าง เมืองเดียวกันหรือเปล่านะ ก็ใครไม่รู้ดันถอดหลักสูตร ทั้งภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์สากลออกจากวิชาบังคับของนักเรียนมัธยม
    กว่าจะพอรู้เรื่องว่า มันเกี่ยวกับอะไร ก็ต้องรอให้ผู้สื่อข่าวทำหน้าฉลาด มาวิเคราะห์ให้ฟังก่อนว่า ชาวโลกทั้งหลายเอ๋ย การที่ Republic of Georgia เมืองที่พวกท่าน 90% ในโลกนี้ไม่รู้จัก แต่ดันยกทัพบุกเข้าไปใน South Ossetia ที่พวกท่าน 99.99% ยิ่งไม่รู้จักน่ะนะ มันเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับการเมืองของโลก เทียบเท่ากับ สมัยวิกฤติเกี่ยวกับฐานยิ่งจรวดที่คิวบา เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1962 เชียวนะ ความขัดแย้งระหว่างมวยคู่เก่าในยุคสงครามเย็น ที่อเมริกากับสหภาพโซเวียต 2 พี่เบิ้ม ยืนเท้าสะเอว ถลึงตาใส่กันไง จำได้ไหม แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่เกิดไม่ทัน คงไม่รู้ว่าตอนนั้น โลกเครียดกันขนาดไหน จวนเจียนจะต้องจัดกระเป๋าอพยพ (ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน) หนีสงครามกันแล้ว

    พวกที่ยังจำเหตุการณ์คิวบาได้ ก็เริ่มติดตามข่าว บ่นกันพึมพำ เอาอีกแล้วหรือ จะแลกหมัดแลกจรวดกันอีกแล้วหรือ ฝ่ายวิเคราะห์ข่าวบางคนก็ไปโน่นเลย จำกันได้ไหมครับ เหมือนเมื่อคราวที่ท่านอาร์คด ยุกเฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของราชวงศ์ Austria Hungarian ถูกพวก Serb ลอบฆ่าที่เมือง Serajevo เหตุการณ์เล็ก ๆ นั้น เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 (อันนี้ผู้ที่จำเหตุการณ์ได้คงไม่มีเหลือแล้ว เหลือแต่รุ่นคนเล่านิทาน ที่เคยรู้จากการเรียนประวัติศาสตร์สากล ตอน ม. 3) บางคนก็ออกมาพูดว่า หรือสงครามเย็นจะกลับมาใหม่ ไหนว่าจบไปแล้วไง

    วิกฤติคิวบา ปี ค.ศ. 1962 สำหรับท่านที่จำได้ เกิดขึ้นเพราะหน่วยลาดตระเวนของอเมริกา (ไม่รู้ตระเวนอยู่ในอเมริกาหรือคิวบา ชักสงสัย) ไปแอบถ่ายรูป ได้ภาพการก่อสร้างฐานยิงจรวดของโซเวียตที่คิวบา ห่างจาก Florida ไปเพียง 90 ไมล์ ระยะแค่นั้นจรวดใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ลงกลางบ้าน กลางห้องนอนคนอเมริกัน. แบบไม่ให้คนอเมริกันมีเวลาตั้งตัว ชนิดกำลังนอนเล่นอยู่ นุ่ง กุงเกง ใส่หมวกไม่ทันแล้วกัน โลกตะลึงกับการกระทำของโซเวียต สื่ออเมริกาช่วยกันถล่ม ประธานาธิบดี Kennedy ต้องยกเลิกนัดสาว ๆ แล้วมานั่งกุมขมับกับฝ่ายมั่นคงเป็นการด่วน
    แต่คงมีน้อยคน นอกเหนือจาก Pentagon และเจ้าหน้าที่ระดับสูง (มาก) ของอเมริกาและ NATO ที่จะรู้ความจริงว่าโซเวียตไม่ได้ไปกินยาม้าที่ไหนมาหรอก ถึงได้คึกคัก กล้าหาญชาญชัยที่จะตั้งฐานยิงจรวดที่คิวบา ท้าทายอเมริกาขนาดนั้น ความจริงแล้ว มันเป็นการตอบโต้ของสหภาพโซเวียต จากการที่อเมริกา (แอบ) ไปตั้งฐานยิ่งจรวดของตัว ชื่อ Thor กับ Jupitor ไว้ที่ตุรกี หนึ่งในสมาชิกของ NATO บนบริเวณที่ใกล้ชนิดจ่อคอหอยสหภาพโซเวียต โลกไม่รู้เพราะสื่อยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมดของโลก อยู่ในกระเป๋าของฝ่ายตะวันตก The West คืออเมริกา อังกฤษ และยุโรปตะวันตก เรียบร้อยแล้ว

    เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่คิวบา เมื่อปี ค.ศ. 1962 เหตุการณ์ของ Georgia ปี ค.ศ. 2008 ก็เป็นผลมาจากการตั้งใจสร้างแรงกระตุ้นต่อมอารมณ์ของรัสเซีย ของฝ่ายการเมืองและกองทัพของอเมริกา

    สงครามเย็น จบลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1989 โดย Mikhail Gorbachev กัดฟันประกาศต่อโลกว่าสหภาพโซเวียต ตัดสินใจที่จะไม่ส่งรถถังเข้าไปในเยอรมันตะวันออก เพื่อระงับการประท้วงรัฐบาล และยอมให้มีการทุบกำแพงเบอร์ลิน สัญญลักษณ์ของ ม่านเหล็ก “Iron Curtain” ซึ่งแบ่งยุโรปออกเป็นตะวันออกและตะวันตกทิ้งเสีย จริง ๆ แล้ว สหภาพโซเวียตกำลังอยู่ในอาการสาหัส ล้มละลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการเมือง

    สงครามเย็นจบลง ฝ่ายตะวันตก the West และแน่นอน โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าตัวจริงเป็นฝ่ายชนะ แค่หลอกขายสินค้ายี่ห้อ เสรีภาพ อิสรภาพ ประชาธิปไตย และความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจให้ชาวโลก โดยเฉพาะชาวยุโรปตะวันออก ประเทศที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ก็พากันหลงเชื่อหวังน้ำบ่อหน้ากันเป็นแถว
    เมื่อสงครามเย็นจบลง วอชิงตันตีฆ้องป่าวประกาศว่า ต่อไปนี้เราจะขยายกิจการ ส่งสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตยของเรา ไปทุกส่วนของโลก ที่เคยถูกขังอยู่ในกรงของระบอบสังคมนิยมของโซเวียตตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 และสำหรับบางประเทศหวังว่าคงรู้ตัว ว่าอยู่ในกรงเขา มาตั้งแต่สมัยปฎิวัติรัสเซียปี 1917 โน่นแน่ะ

    ประชาธิปไตยของวอชิงตันเป็นสินค้า ที่ทำกล่องใส่อย่างสวยหรู หลอกให้ซื้อง่าย ขายดีสำหรับพวกประเทศที่เกิดขึ้นใหม่ จากการที่โซเวียตล่มล้มละลายอยู่ที่ยุโรป แต่ประชาธิปไตยแท้จริงสำหรับอเมริกา คือการควบคุมเทคนิค และย้อมความคิดของมวลชน เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เรื่องนี้ง่ายมากสำหรับวอชิงตัน ซึ่งจัดเตรียมเครื่องมือเอาไว้พร้อม คือการควบคุมสื่อระดับโลก และการจัดการเปลี่ยนแนวทางเศรษฐกิจ โดยการกำกับควบคุมดูแลที่เล่นกันเป็นวง ร้องเพลงเดียวกัน ของ IMF และ World Bank

    วอชิงตันบอกว่าจะช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย หลังจากการล่มละลายของโซเวียต แต่ขอโทษเป็นประชาธิปไตยแบบพิเศษ จัดให้โดยเฉพาะเลย คือ ประชาธิปไตยแบบเบ็ดเสร็จ
    ที่มีแนวทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม แบบอเมริกาและควบคุมโดย NATO ฮา

    โลกชื่นชมยินดี ต่างตบมือให้อเมริกาผู้มาพร้อม กับประชาธิปไตย ที่ Berlin ชาวเยอรมันคนซื่อ ทั้งตะวันตก ตะวันออก ต่างร้องเพลง เต้นรำไปบนกำแพง ที่ใน Poland, Czechoslovakia และ Hungary ก็เช่นเดียวกัน พวกที่เคยอยู่หลังม่านเหล็ก ดีใจที่จะหลุดออกมาจากม่านและได้มีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่เสรี และร่ำรวยแบบคนอเมริกัน พวกเขาเชื่อสนิทใจจากการโฆษณาชวนเชื่อของจักรวรรดิอเมริกา ที่กรอกใส่เข้าไปในหูและหัวของเขาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยสื่อของฝั่งตะวันตก เรากำลังจะมาปลดปล่อยชาวยุโรปตะวันออกผู้ทุกข์ทรมานอยู่หลังม่านเหล็ก สวรรค์บนดินกำลังจะมาถึงแล้ว พวกเขาคงคิดแบบนั้น

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 1 สวรรค์บนดิน ระหว่างที่ลูกตาเกือบทุกคู่ของคนในโลกสวยงามใบนี้ กำลังจ้องเขม็งไปที่สนามกีฬารังนก ดีไซน์สุดยอด ของนาย Li Xinggang เพื่อดูพิธีเปิด การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคอลังการ ที่แดนมังกรของอาเฮีย เมื่อเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 2008 วันนั้นบรรดาคนใหญ่คนโตคนของโลก นั่งอยู่แถวนั้นกันเกือบทั้งนั้น ตั้งแต่ใหญ่หมายเลข 1 ของโลกฝั่งหนึ่ง เช่น ประธานาธิบดี GeorgeW. Bush ตัวแสบ และคุณพี่ปูติน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของรัสเซีย หมายเลข 1 ของโลกของฝั่งหนึ่ง ก็นั่งทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ไม่ไกลกัน แล้วถ้ายังไม่ลืมกัน ไอ้หมาไนโจรร้าย ซึ่งนึกว่าตัวเองใหญ่เกินฟ้า ก็กระเสือกกระสนให้เชิญตนเอง เพื่อหนีปัญหาการเมืองในบ้าน ไปนั่งเสนอหน้าอยู่แถวนั้นกับเขาด้วยเหมือนกัน วันเดียวกันนั่นเอง ก็มีข่าวเล็ก ๆ แทรกข่าวโอลิมปิคอันยิ่งใหญ่ ออกมาว่า กองทัพของ Georgia ได้บุกเข้าไปยึดเมือง South Ossetia เรียบร้อยแล้ว เป็นข่าวเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่มีใครสนใจ น้อยคนจะรู้จักว่า South Ossetia อยู่ที่ไหน บางคนไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ แน่นอนในแดนสมันน้อย มีน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะรู้จัก หรือแม้แต่จะได้ยินชื่อ South Ossetia เมืองอะไรน่ะ อยู่ที่ไหนนะ รู้จักแต่ เมืองโอริสสาในนิยายเรื่องอะไรสักอย่าง เมืองเดียวกันหรือเปล่านะ ก็ใครไม่รู้ดันถอดหลักสูตร ทั้งภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์สากลออกจากวิชาบังคับของนักเรียนมัธยม กว่าจะพอรู้เรื่องว่า มันเกี่ยวกับอะไร ก็ต้องรอให้ผู้สื่อข่าวทำหน้าฉลาด มาวิเคราะห์ให้ฟังก่อนว่า ชาวโลกทั้งหลายเอ๋ย การที่ Republic of Georgia เมืองที่พวกท่าน 90% ในโลกนี้ไม่รู้จัก แต่ดันยกทัพบุกเข้าไปใน South Ossetia ที่พวกท่าน 99.99% ยิ่งไม่รู้จักน่ะนะ มันเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับการเมืองของโลก เทียบเท่ากับ สมัยวิกฤติเกี่ยวกับฐานยิ่งจรวดที่คิวบา เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1962 เชียวนะ ความขัดแย้งระหว่างมวยคู่เก่าในยุคสงครามเย็น ที่อเมริกากับสหภาพโซเวียต 2 พี่เบิ้ม ยืนเท้าสะเอว ถลึงตาใส่กันไง จำได้ไหม แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่เกิดไม่ทัน คงไม่รู้ว่าตอนนั้น โลกเครียดกันขนาดไหน จวนเจียนจะต้องจัดกระเป๋าอพยพ (ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน) หนีสงครามกันแล้ว พวกที่ยังจำเหตุการณ์คิวบาได้ ก็เริ่มติดตามข่าว บ่นกันพึมพำ เอาอีกแล้วหรือ จะแลกหมัดแลกจรวดกันอีกแล้วหรือ ฝ่ายวิเคราะห์ข่าวบางคนก็ไปโน่นเลย จำกันได้ไหมครับ เหมือนเมื่อคราวที่ท่านอาร์คด ยุกเฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของราชวงศ์ Austria Hungarian ถูกพวก Serb ลอบฆ่าที่เมือง Serajevo เหตุการณ์เล็ก ๆ นั้น เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 (อันนี้ผู้ที่จำเหตุการณ์ได้คงไม่มีเหลือแล้ว เหลือแต่รุ่นคนเล่านิทาน ที่เคยรู้จากการเรียนประวัติศาสตร์สากล ตอน ม. 3) บางคนก็ออกมาพูดว่า หรือสงครามเย็นจะกลับมาใหม่ ไหนว่าจบไปแล้วไง วิกฤติคิวบา ปี ค.ศ. 1962 สำหรับท่านที่จำได้ เกิดขึ้นเพราะหน่วยลาดตระเวนของอเมริกา (ไม่รู้ตระเวนอยู่ในอเมริกาหรือคิวบา ชักสงสัย) ไปแอบถ่ายรูป ได้ภาพการก่อสร้างฐานยิงจรวดของโซเวียตที่คิวบา ห่างจาก Florida ไปเพียง 90 ไมล์ ระยะแค่นั้นจรวดใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ลงกลางบ้าน กลางห้องนอนคนอเมริกัน. แบบไม่ให้คนอเมริกันมีเวลาตั้งตัว ชนิดกำลังนอนเล่นอยู่ นุ่ง กุงเกง ใส่หมวกไม่ทันแล้วกัน โลกตะลึงกับการกระทำของโซเวียต สื่ออเมริกาช่วยกันถล่ม ประธานาธิบดี Kennedy ต้องยกเลิกนัดสาว ๆ แล้วมานั่งกุมขมับกับฝ่ายมั่นคงเป็นการด่วน แต่คงมีน้อยคน นอกเหนือจาก Pentagon และเจ้าหน้าที่ระดับสูง (มาก) ของอเมริกาและ NATO ที่จะรู้ความจริงว่าโซเวียตไม่ได้ไปกินยาม้าที่ไหนมาหรอก ถึงได้คึกคัก กล้าหาญชาญชัยที่จะตั้งฐานยิงจรวดที่คิวบา ท้าทายอเมริกาขนาดนั้น ความจริงแล้ว มันเป็นการตอบโต้ของสหภาพโซเวียต จากการที่อเมริกา (แอบ) ไปตั้งฐานยิ่งจรวดของตัว ชื่อ Thor กับ Jupitor ไว้ที่ตุรกี หนึ่งในสมาชิกของ NATO บนบริเวณที่ใกล้ชนิดจ่อคอหอยสหภาพโซเวียต โลกไม่รู้เพราะสื่อยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมดของโลก อยู่ในกระเป๋าของฝ่ายตะวันตก The West คืออเมริกา อังกฤษ และยุโรปตะวันตก เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่คิวบา เมื่อปี ค.ศ. 1962 เหตุการณ์ของ Georgia ปี ค.ศ. 2008 ก็เป็นผลมาจากการตั้งใจสร้างแรงกระตุ้นต่อมอารมณ์ของรัสเซีย ของฝ่ายการเมืองและกองทัพของอเมริกา สงครามเย็น จบลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1989 โดย Mikhail Gorbachev กัดฟันประกาศต่อโลกว่าสหภาพโซเวียต ตัดสินใจที่จะไม่ส่งรถถังเข้าไปในเยอรมันตะวันออก เพื่อระงับการประท้วงรัฐบาล และยอมให้มีการทุบกำแพงเบอร์ลิน สัญญลักษณ์ของ ม่านเหล็ก “Iron Curtain” ซึ่งแบ่งยุโรปออกเป็นตะวันออกและตะวันตกทิ้งเสีย จริง ๆ แล้ว สหภาพโซเวียตกำลังอยู่ในอาการสาหัส ล้มละลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการเมือง สงครามเย็นจบลง ฝ่ายตะวันตก the West และแน่นอน โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าตัวจริงเป็นฝ่ายชนะ แค่หลอกขายสินค้ายี่ห้อ เสรีภาพ อิสรภาพ ประชาธิปไตย และความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจให้ชาวโลก โดยเฉพาะชาวยุโรปตะวันออก ประเทศที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ก็พากันหลงเชื่อหวังน้ำบ่อหน้ากันเป็นแถว เมื่อสงครามเย็นจบลง วอชิงตันตีฆ้องป่าวประกาศว่า ต่อไปนี้เราจะขยายกิจการ ส่งสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตยของเรา ไปทุกส่วนของโลก ที่เคยถูกขังอยู่ในกรงของระบอบสังคมนิยมของโซเวียตตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 และสำหรับบางประเทศหวังว่าคงรู้ตัว ว่าอยู่ในกรงเขา มาตั้งแต่สมัยปฎิวัติรัสเซียปี 1917 โน่นแน่ะ ประชาธิปไตยของวอชิงตันเป็นสินค้า ที่ทำกล่องใส่อย่างสวยหรู หลอกให้ซื้อง่าย ขายดีสำหรับพวกประเทศที่เกิดขึ้นใหม่ จากการที่โซเวียตล่มล้มละลายอยู่ที่ยุโรป แต่ประชาธิปไตยแท้จริงสำหรับอเมริกา คือการควบคุมเทคนิค และย้อมความคิดของมวลชน เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เรื่องนี้ง่ายมากสำหรับวอชิงตัน ซึ่งจัดเตรียมเครื่องมือเอาไว้พร้อม คือการควบคุมสื่อระดับโลก และการจัดการเปลี่ยนแนวทางเศรษฐกิจ โดยการกำกับควบคุมดูแลที่เล่นกันเป็นวง ร้องเพลงเดียวกัน ของ IMF และ World Bank วอชิงตันบอกว่าจะช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย หลังจากการล่มละลายของโซเวียต แต่ขอโทษเป็นประชาธิปไตยแบบพิเศษ จัดให้โดยเฉพาะเลย คือ ประชาธิปไตยแบบเบ็ดเสร็จ ที่มีแนวทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม แบบอเมริกาและควบคุมโดย NATO ฮา โลกชื่นชมยินดี ต่างตบมือให้อเมริกาผู้มาพร้อม กับประชาธิปไตย ที่ Berlin ชาวเยอรมันคนซื่อ ทั้งตะวันตก ตะวันออก ต่างร้องเพลง เต้นรำไปบนกำแพง ที่ใน Poland, Czechoslovakia และ Hungary ก็เช่นเดียวกัน พวกที่เคยอยู่หลังม่านเหล็ก ดีใจที่จะหลุดออกมาจากม่านและได้มีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่เสรี และร่ำรวยแบบคนอเมริกัน พวกเขาเชื่อสนิทใจจากการโฆษณาชวนเชื่อของจักรวรรดิอเมริกา ที่กรอกใส่เข้าไปในหูและหัวของเขาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยสื่อของฝั่งตะวันตก เรากำลังจะมาปลดปล่อยชาวยุโรปตะวันออกผู้ทุกข์ทรมานอยู่หลังม่านเหล็ก สวรรค์บนดินกำลังจะมาถึงแล้ว พวกเขาคงคิดแบบนั้น สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 497 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP32 | วิถีชุมชน มุสลิมบางอ้อ

    ชุมชนมุสลิมบางอ้อ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของชุมชนที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างกลมกลืนกับความเปลี่ยนแปลงของเมืองใหญ่

    ในตอนนี้ รายการจะพาผู้ชมไปรู้จักกับเรื่องราวของผู้คนในชุมชนบางอ้อ ตั้งแต่การดำเนินชีวิตประจำวันตามหลักศาสนาอิสลาม การรวมตัวกันละหมาดที่มัสยิดบางอ้อ ไปจนถึงกิจกรรมที่เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่กับวัฒนธรรมของบรรพบุรุษ

    ท่ามกลางกรุงเทพมหานครที่วุ่นวาย ชุมชนแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความศรัทธา และสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างครอบครัวและเพื่อนบ้าน

    ติดตาม “วิถีชุมชน มุสลิมบางอ้อ” เพื่อเข้าใจว่า ความศรัทธาและวัฒนธรรมสามารถดำรงอยู่ได้แม้ในใจกลางเมืองหลวง

    #สลามเมืองไทย #EP32 #มุสลิมบางอ้อ #วิถีชุมชนมุสลิม #ชุมชนศรัทธา #มัสยิดบางอ้อ #ThaiMuslimCulture #MuslimCommunity #ชีวิตเรียบง่ายแต่มั่นคง #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP32 | วิถีชุมชน มุสลิมบางอ้อ ชุมชนมุสลิมบางอ้อ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของชุมชนที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างกลมกลืนกับความเปลี่ยนแปลงของเมืองใหญ่ ในตอนนี้ รายการจะพาผู้ชมไปรู้จักกับเรื่องราวของผู้คนในชุมชนบางอ้อ ตั้งแต่การดำเนินชีวิตประจำวันตามหลักศาสนาอิสลาม การรวมตัวกันละหมาดที่มัสยิดบางอ้อ ไปจนถึงกิจกรรมที่เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่กับวัฒนธรรมของบรรพบุรุษ ท่ามกลางกรุงเทพมหานครที่วุ่นวาย ชุมชนแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความศรัทธา และสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างครอบครัวและเพื่อนบ้าน ติดตาม “วิถีชุมชน มุสลิมบางอ้อ” เพื่อเข้าใจว่า ความศรัทธาและวัฒนธรรมสามารถดำรงอยู่ได้แม้ในใจกลางเมืองหลวง #สลามเมืองไทย #EP32 #มุสลิมบางอ้อ #วิถีชุมชนมุสลิม #ชุมชนศรัทธา #มัสยิดบางอ้อ #ThaiMuslimCulture #MuslimCommunity #ชีวิตเรียบง่ายแต่มั่นคง #ThaiTimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts