• โคตรโกรธ + โคตรเศร้า
    พลทหารขับ Grab
    โดนยึดทั้งรายได้-เงินเดือน
    ไม่มีเงินส่งให้เมียซื้อนมให้ลูกวัย5เดือน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    โคตรโกรธ + โคตรเศร้า พลทหารขับ Grab โดนยึดทั้งรายได้-เงินเดือน ไม่มีเงินส่งให้เมียซื้อนมให้ลูกวัย5เดือน #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุดรธานี-พ่อน้ำตาคลอหลังรู้ข่าวลูกชายที่เป็นพลทหารถูกนายรองผู้บังคับกองพัน กองบิน 23 สั่งให้เข้ากรุงเทพฯขับแกร๊บรับจ้างหาเงินให้ ข้องใจลูกชายไม่ได้เงินเดือนหรือเปล่าถึงไม่ได้ส่งให้เมียซื้อนมให้ลูกน้อยอายุ 5 เดือน ด้านรองเสธกองทัพอากาศรับปากจะดูแลความปลอดภัยให้พลทหาร พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วง

    จากกรณีข่าวฉาวในแวดวงทหาร ได้มีนายทหารระดับรองผู้บังคับกองพันนายหนึ่งในสังกัดกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานีใช้ตำแหน่งหน้าที่บังคับให้ทหารเกณฑ์ในปกครองเดินทางไปขับแกร็บคาร์รับจ้างในกรุงเทพฯเพื่อหารายได้ส่งให้ตนเอง โดยกำหนดเป้าให้มีรายได้ 3,000 บาท/วัน และหักแบ่งรายได้ให้ทหารเกณฑ์ผู้โชคร้ายรายนี้ 10 % ทหารเกณฑ์รายนี้ไม่สามารถทนถูกกดขี่ได้จึงเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ ต่อมาวานนี้(14 พ.ค.)ทางกองทัพอากาศได้สั่งย้ายนายทหารระดับรองผู้บังคับกองพันนอกรีตให้พ้นจากหน้าที่และตั้งกรรมการสอบเอาผิดทั้งวินัยและอาญา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000045338

    #MGROnline #พลทหาร #ทหารเกณฑ์
    อุดรธานี-พ่อน้ำตาคลอหลังรู้ข่าวลูกชายที่เป็นพลทหารถูกนายรองผู้บังคับกองพัน กองบิน 23 สั่งให้เข้ากรุงเทพฯขับแกร๊บรับจ้างหาเงินให้ ข้องใจลูกชายไม่ได้เงินเดือนหรือเปล่าถึงไม่ได้ส่งให้เมียซื้อนมให้ลูกน้อยอายุ 5 เดือน ด้านรองเสธกองทัพอากาศรับปากจะดูแลความปลอดภัยให้พลทหาร พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วง • จากกรณีข่าวฉาวในแวดวงทหาร ได้มีนายทหารระดับรองผู้บังคับกองพันนายหนึ่งในสังกัดกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานีใช้ตำแหน่งหน้าที่บังคับให้ทหารเกณฑ์ในปกครองเดินทางไปขับแกร็บคาร์รับจ้างในกรุงเทพฯเพื่อหารายได้ส่งให้ตนเอง โดยกำหนดเป้าให้มีรายได้ 3,000 บาท/วัน และหักแบ่งรายได้ให้ทหารเกณฑ์ผู้โชคร้ายรายนี้ 10 % ทหารเกณฑ์รายนี้ไม่สามารถทนถูกกดขี่ได้จึงเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ ต่อมาวานนี้(14 พ.ค.)ทางกองทัพอากาศได้สั่งย้ายนายทหารระดับรองผู้บังคับกองพันนอกรีตให้พ้นจากหน้าที่และตั้งกรรมการสอบเอาผิดทั้งวินัยและอาญา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000045338 • #MGROnline #พลทหาร #ทหารเกณฑ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เยี่ยมครอบครัว น้องทหารใหม่ 1/68"
    กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 เข้าพบปะเยี่ยมครอบครัว พลทหาร อภิรักษ์ มิปะทัง น้องทหารใหม่ ผลัดที่ 1 ประจำปี 2568 พร้อมมอบสิ่งอุปโภค - บริโภคให้กับครอบครัวน้องทหารใหม่ เพื่อคลายความกังวลในเรื่องความเป็นอยู่ และเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว ณ บ้านเลขที่ 109 ตำบลหนองหาน อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
    #Bootcamp168 #น้องคนเล็ก
    #กองพลทหารราบที่3
    #กองทัพภาคที่2
    #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    "เยี่ยมครอบครัว น้องทหารใหม่ 1/68" กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 เข้าพบปะเยี่ยมครอบครัว พลทหาร อภิรักษ์ มิปะทัง น้องทหารใหม่ ผลัดที่ 1 ประจำปี 2568 พร้อมมอบสิ่งอุปโภค - บริโภคให้กับครอบครัวน้องทหารใหม่ เพื่อคลายความกังวลในเรื่องความเป็นอยู่ และเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว ณ บ้านเลขที่ 109 ตำบลหนองหาน อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี #Bootcamp168 #น้องคนเล็ก #กองพลทหารราบที่3 #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทางบ้านทางครอบครัวไม่ค่อยให้แต่งหญิงจำแลงเป็นนางฟ้าผมยาว ทั้งๆที่อยากมานานแล้ว แต่ไม่ได้แต่งนางฟ้าไป ตอนไปตรวจเลือกยื่นเอกสารยกเว้นการคัดเลือกทหาร เนื่องจากปัญหาสุขภาพจิตที่เรื้อรังมาตั้งแต่ช่วงโควิดจนต้องมีทะเลาะเบาะแว้งกับครอบครัว้าง ก่อนหน้านี้ก็ทะเลาะรุนแรงกว่านี้ คือที่ผ่านมาเห็นข่าวพลทหารถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิตแล้วถ้าผมได้ใบแดงหรือได้สมัครผมอาจจะไม่ต่างจากพลทหารที่เสียชีวิตจากการทำโทษเกินกว่าเหตุและรุมทำร้ายจากเพื่อนพลทหารด้วยกัน
    ทางบ้านทางครอบครัวไม่ค่อยให้แต่งหญิงจำแลงเป็นนางฟ้าผมยาว ทั้งๆที่อยากมานานแล้ว แต่ไม่ได้แต่งนางฟ้าไป ตอนไปตรวจเลือกยื่นเอกสารยกเว้นการคัดเลือกทหาร เนื่องจากปัญหาสุขภาพจิตที่เรื้อรังมาตั้งแต่ช่วงโควิดจนต้องมีทะเลาะเบาะแว้งกับครอบครัว้าง ก่อนหน้านี้ก็ทะเลาะรุนแรงกว่านี้ คือที่ผ่านมาเห็นข่าวพลทหารถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิตแล้วถ้าผมได้ใบแดงหรือได้สมัครผมอาจจะไม่ต่างจากพลทหารที่เสียชีวิตจากการทำโทษเกินกว่าเหตุและรุมทำร้ายจากเพื่อนพลทหารด้วยกัน
    "นางฟ้า" เกณฑ์ทหารประจำปี 68 : [News story]

    เหล่านางฟ้า เกณฑ์ทหารประจำปี 68 สีสันที่หลายคนรอคอยว่าปีนี้สวยขนาดไหน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • หลังจากผ่านไป 6 วัน ในที่สุดรถกู้ภัยหุ้มเกราะ M88A2 “Hercules” ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 60 ตัน ที่จมอยู่ในหนองน้ำระดับความลึก 5 เมตรในลิทัวเนียก็ได้รับการกู้ขึ้นมาได้สำเร็จ

    ทีมกู้ภัยพบร่างทหารเพียง 3 ร่างที่อยู่ภายในรถ ส่วนศพที่ 4 เจอในเวลาต่อมาด้านนอกตัวรถ

    ทหารทั้ง 3 นาย ได้รับการระบุตัวตนแล้วคือ:
    จ่าสิบเอกโฮเซ ดูเอเนซ จูเนียร์ อายุ 25 ปี จากโจเลียต รัฐอิลลินอยส์
    จ่าสิบเอกเอ็ดวิน เอฟ. ฟรังโก อายุ 25 ปี จากเกล็นเดล รัฐแคลิฟอร์เนีย
    พลทหารชั้นหนึ่งดันเต ดี. ไททาโน อายุ 21 ปี จากเดเดโด กวม

    ส่วนศพของทหารรายที่ 4 ถูกพบหลังสุด คาดว่าจะสามารถประกาศรายชื่อได้หลังจากที่แจ้งญาติผู้เสียชีวิตแล้ว

    ทั้งหมดรับราชการเป็นผู้ดูแลระบบรถถัง M1 Abrams (91A) ในกรมทหารม้าที่ 7

    หลังจากผ่านไป 6 วัน ในที่สุดรถกู้ภัยหุ้มเกราะ M88A2 “Hercules” ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 60 ตัน ที่จมอยู่ในหนองน้ำระดับความลึก 5 เมตรในลิทัวเนียก็ได้รับการกู้ขึ้นมาได้สำเร็จ ทีมกู้ภัยพบร่างทหารเพียง 3 ร่างที่อยู่ภายในรถ ส่วนศพที่ 4 เจอในเวลาต่อมาด้านนอกตัวรถ ทหารทั้ง 3 นาย ได้รับการระบุตัวตนแล้วคือ: จ่าสิบเอกโฮเซ ดูเอเนซ จูเนียร์ อายุ 25 ปี จากโจเลียต รัฐอิลลินอยส์ จ่าสิบเอกเอ็ดวิน เอฟ. ฟรังโก อายุ 25 ปี จากเกล็นเดล รัฐแคลิฟอร์เนีย พลทหารชั้นหนึ่งดันเต ดี. ไททาโน อายุ 21 ปี จากเดเดโด กวม ส่วนศพของทหารรายที่ 4 ถูกพบหลังสุด คาดว่าจะสามารถประกาศรายชื่อได้หลังจากที่แจ้งญาติผู้เสียชีวิตแล้ว ทั้งหมดรับราชการเป็นผู้ดูแลระบบรถถัง M1 Abrams (91A) ในกรมทหารม้าที่ 7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในภูมิภาคเคิร์สก์
    กองกำลังรัสเซียจากหน่วยพลร่มกองพลที่ 51 ของกองพลทหารอากาศที่ 106 ได้เคลื่อนพลมาถึงชายแดนของรัสเซียแล้ว และผลักดันทหารยูเครนออกจากด่านตรวจรถยนต์เข้าออกระหว่างประเทศในเขต Sudzha

    ในภูมิภาคเคิร์สก์ กองกำลังรัสเซียจากหน่วยพลร่มกองพลที่ 51 ของกองพลทหารอากาศที่ 106 ได้เคลื่อนพลมาถึงชายแดนของรัสเซียแล้ว และผลักดันทหารยูเครนออกจากด่านตรวจรถยนต์เข้าออกระหว่างประเทศในเขต Sudzha
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพวิดีโอช่วงเวลาที่สมาชิกหน่วยรบพิเศษ Akhmat ของรัสเซีย ซึ่งเป็นอีกหน่วยหนึ่งที่เข้าร่วมภารกิจเสี่ยงชีวิตมุดท่อก๊าซในพื้นที่เขตรอบเมืองซูดจา(Sudzha) กำลังเคลื่อนตัวไปในทิศทางใกล้หมู่บ้าน Kubatkin ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่หน่วยนี้รับผิดชอบ หลังเพิ่งออกมาจากท่อก๊าซ

    ภารกิจครั้งนี้ นอกจากหน่วยพิเศษ Akhmat แล้ว ยังประกอบไปด้วยกองกำลังพิเศษของกองพลที่ 11 , กองพลทหารผ่านศึก และกองพลวอสตอก (Vostok)
    ภาพวิดีโอช่วงเวลาที่สมาชิกหน่วยรบพิเศษ Akhmat ของรัสเซีย ซึ่งเป็นอีกหน่วยหนึ่งที่เข้าร่วมภารกิจเสี่ยงชีวิตมุดท่อก๊าซในพื้นที่เขตรอบเมืองซูดจา(Sudzha) กำลังเคลื่อนตัวไปในทิศทางใกล้หมู่บ้าน Kubatkin ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่หน่วยนี้รับผิดชอบ หลังเพิ่งออกมาจากท่อก๊าซ ภารกิจครั้งนี้ นอกจากหน่วยพิเศษ Akhmat แล้ว ยังประกอบไปด้วยกองกำลังพิเศษของกองพลที่ 11 , กองพลทหารผ่านศึก และกองพลวอสตอก (Vostok)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5/
    รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha)

    กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย

    มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน

    จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน

    สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด
    51.23268252552627, 35.295863563677464

    5/ รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha) กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด 51.23268252552627, 35.295863563677464
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • 4/
    รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha)

    กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย

    มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน

    จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน

    สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด
    51.23268252552627, 35.295863563677464

    4/ รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha) กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด 51.23268252552627, 35.295863563677464
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 3/
    รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha)

    กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย

    มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน

    จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน

    สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด
    51.23268252552627, 35.295863563677464

    3/ รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha) กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด 51.23268252552627, 35.295863563677464
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • 2/
    รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha)

    กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย

    มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน

    จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน

    สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด
    51.23268252552627, 35.295863563677464

    2/ รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha) กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด 51.23268252552627, 35.295863563677464
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • 1/
    รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha)

    กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย

    มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน

    จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน

    สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด
    51.23268252552627, 35.295863563677464

    1/ รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha) กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด 51.23268252552627, 35.295863563677464
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพการต่อสู้ในชาซีฟ ยาร์ (Chasiv Yar)

    ทหารร่มรัสเซียจากกองพลทหารราบที่ 98 กำลังเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือเพื่อนทหารที่ได้รับบาดเจ็บภายในรถที่เสียหาย ขณะเดียวกันโดรน FPV ของยูเครนกำลังพุ่งเข้าโจมตีด้วยเช่นกัน
    ภาพการต่อสู้ในชาซีฟ ยาร์ (Chasiv Yar) ทหารร่มรัสเซียจากกองพลทหารราบที่ 98 กำลังเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือเพื่อนทหารที่ได้รับบาดเจ็บภายในรถที่เสียหาย ขณะเดียวกันโดรน FPV ของยูเครนกำลังพุ่งเข้าโจมตีด้วยเช่นกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากการตรวจสอบของ The Better ทราบว่า บุคคลที่เป็นผู้นำแม่บ้านชาวกัมพูชาไปร้องเพลงชาติบนปราสาทตาเมือนธมของประเทศไทย คือ 'อุตตมะเสนีย์ตรี (พลจัตวา) นัก วงส์' (ឧត្តមសេនីយ៍ត្រី នាក់ វង្ស) นายทหารของกัมพูชา วึ่งนอกจากจะพาคนเขมรกัมพูชาไปกระทำการล่วงละเมิดอธิปไตยของไทยในดินแดนของไทยแล้ว ยังท้าทายเจ้าหน้าที่ไทยอย่างร้ายแรงด้วย พลจัตตวา นัก วงษ์ มีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหาร 4 ซึ่งภาคทหารที่ 4 หรือ โยธภูมิภาค 4 (យោធភូមិភាគទី៤) กินพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร จังหวัดเสียมราฐ และจังหวัดกำปงธม ทางตอนเหนือละกลางส่วนเหนือของกัมพูชา โดยเฉพาะจังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร เป็นพื้นที่ที่ความขัดแย้งด้านพรมแดนกับไทยจำนวนหนึ่ง รวมถึงบริเวณปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และปราสาทเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 พลจัตวา นัก วงส์ เพิ่งจะได้นำข้าราชการกองพลเยี่ยมเยียนกองกำลังที่ประจำการในพื้นที่ประจำการของทหารกัมพูชาที่ประจันหน้ากับปราสาทตาเมือนธมของไทย และมอบสารอวยพรจาก ฮุน เซน และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต แก่ประชาชนเนื่องในโอกาสเทศกาลฉลองเทศกาลเทศกาลผชุมบิณฑ์ หรือเทศกาลเซ่นไหว้ลรรพบุรุษของชาวเขมรการกระทำของพลจัตวา นัก วงส์ที่ลุกล้ำอธิปไตยของไทยได้รับการชื่นชมจากชาวกัมพูชาในโซเชียลมีเดีย เช่น Sambath Khat กล่าวว่า "ในฐานะประชาชนชาวกัมพูชา ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการตัดสินใจสั่งการให้กองทัพรักชาติเข้มแข็งและมุ่งมั่นในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนสุวรรณภูมิเขมร โดยได้รับคำสั่งโดยตรงจากอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหารที่ 4"ส่วนคนเขมรกัมพูชาที่ใช้ชื่อว่า Phan Nith กล่าวอ้างคำพูดของ พลจัตวา นัก วงส์ที่ว่า "ถ้าจะยิงก็ยิงเลย อย่ากลัว!" และบอกต่อไปว่า อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ได้สั่งห้ามคนไทยยืนต่อแถวร้องเพลงบริเวณปราสาทตาเมือนธม เช่นเดียวกับทหารสยามที่สั่งห้ามพลเมืองเขมรยืนร้องเพลงชาติบริเวณปราสาทตาเมือนธม นี่คือคำพูดของอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ที่กล่าวและชี้ไปที่ใบหน้าของพวกอันธพาลสยามเหล่านั้น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทหารเขมรของเราอย่างอุตมะเสนีย์ตรี (นัก วงส์)ผู้บัญชาเขมรแห้งการกองพลทหารราบที่ 42 เป็นผู้กล้าหาญและกล้าหาญในการปกป้องดินแดนกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธม เขาไม่ยอมให้กับพวกอันธพาลสยามที่กำลังโจมตีคนเขมรเรา"ขณะที่บล็อเกอร์ชาวกัมพูชสอีกรายกล่าวยกย่องว่า "อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ เป็นคนรักชาติจริงๆ พวกเขาขวางเรา เราก็ขวางพวกเขา อย่าไปกลัว" แม้แต่สื่อกัมพูชาก็ยกย่องการกระทำของบุคคลนี้ โดย Beemax TV กล่าวว่า "คำพูดของ อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาชายแดน ทำให้ชาวกัมพูชาดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขากล้าพูดประโยคนี้กับกองทัพไทย โดยห้ามชาวกัมพูชาร้องเพลงชาติที่ปราสาทตาเมือนธม" โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
    จากการตรวจสอบของ The Better ทราบว่า บุคคลที่เป็นผู้นำแม่บ้านชาวกัมพูชาไปร้องเพลงชาติบนปราสาทตาเมือนธมของประเทศไทย คือ 'อุตตมะเสนีย์ตรี (พลจัตวา) นัก วงส์' (ឧត្តមសេនីយ៍ត្រី នាក់ វង្ស) นายทหารของกัมพูชา วึ่งนอกจากจะพาคนเขมรกัมพูชาไปกระทำการล่วงละเมิดอธิปไตยของไทยในดินแดนของไทยแล้ว ยังท้าทายเจ้าหน้าที่ไทยอย่างร้ายแรงด้วย พลจัตตวา นัก วงษ์ มีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหาร 4 ซึ่งภาคทหารที่ 4 หรือ โยธภูมิภาค 4 (យោធភូមិភាគទី៤) กินพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร จังหวัดเสียมราฐ และจังหวัดกำปงธม ทางตอนเหนือละกลางส่วนเหนือของกัมพูชา โดยเฉพาะจังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร เป็นพื้นที่ที่ความขัดแย้งด้านพรมแดนกับไทยจำนวนหนึ่ง รวมถึงบริเวณปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และปราสาทเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 พลจัตวา นัก วงส์ เพิ่งจะได้นำข้าราชการกองพลเยี่ยมเยียนกองกำลังที่ประจำการในพื้นที่ประจำการของทหารกัมพูชาที่ประจันหน้ากับปราสาทตาเมือนธมของไทย และมอบสารอวยพรจาก ฮุน เซน และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต แก่ประชาชนเนื่องในโอกาสเทศกาลฉลองเทศกาลเทศกาลผชุมบิณฑ์ หรือเทศกาลเซ่นไหว้ลรรพบุรุษของชาวเขมรการกระทำของพลจัตวา นัก วงส์ที่ลุกล้ำอธิปไตยของไทยได้รับการชื่นชมจากชาวกัมพูชาในโซเชียลมีเดีย เช่น Sambath Khat กล่าวว่า "ในฐานะประชาชนชาวกัมพูชา ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการตัดสินใจสั่งการให้กองทัพรักชาติเข้มแข็งและมุ่งมั่นในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนสุวรรณภูมิเขมร โดยได้รับคำสั่งโดยตรงจากอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหารที่ 4"ส่วนคนเขมรกัมพูชาที่ใช้ชื่อว่า Phan Nith กล่าวอ้างคำพูดของ พลจัตวา นัก วงส์ที่ว่า "ถ้าจะยิงก็ยิงเลย อย่ากลัว!" และบอกต่อไปว่า อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ได้สั่งห้ามคนไทยยืนต่อแถวร้องเพลงบริเวณปราสาทตาเมือนธม เช่นเดียวกับทหารสยามที่สั่งห้ามพลเมืองเขมรยืนร้องเพลงชาติบริเวณปราสาทตาเมือนธม นี่คือคำพูดของอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ที่กล่าวและชี้ไปที่ใบหน้าของพวกอันธพาลสยามเหล่านั้น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทหารเขมรของเราอย่างอุตมะเสนีย์ตรี (นัก วงส์)ผู้บัญชาเขมรแห้งการกองพลทหารราบที่ 42 เป็นผู้กล้าหาญและกล้าหาญในการปกป้องดินแดนกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธม เขาไม่ยอมให้กับพวกอันธพาลสยามที่กำลังโจมตีคนเขมรเรา"ขณะที่บล็อเกอร์ชาวกัมพูชสอีกรายกล่าวยกย่องว่า "อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ เป็นคนรักชาติจริงๆ พวกเขาขวางเรา เราก็ขวางพวกเขา อย่าไปกลัว" แม้แต่สื่อกัมพูชาก็ยกย่องการกระทำของบุคคลนี้ โดย Beemax TV กล่าวว่า "คำพูดของ อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาชายแดน ทำให้ชาวกัมพูชาดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขากล้าพูดประโยคนี้กับกองทัพไทย โดยห้ามชาวกัมพูชาร้องเพลงชาติที่ปราสาทตาเมือนธม" โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 738 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเพจ : เกร็ดประวัติศาสตร์ v 2

    ขุนรัตนา นายกองทะลวงฟันของพระองค์เจ้าขุนเณร
    ขุนรัตนาวุธ เป็นผู้นำการรบในสงคราม 9 ทัพ สมรภูมิรบทุ่งลาดหญ้าที่ไม่มีชื่อปรากฏในพงศาวดารหรือบันทึกลายลักษณ์อักษร แต่ปรากฏในตำนานเรื่องเล่าสืบทอดกันมาเท่านั้น ตามตำนานเล่าขานกันว่าขุนรัตนาวุธเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้นำกองทัพทะลวงฟันเข้าร่วมรบเป็นกองทัพเสริมกับกองทัพหลวงของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ร่วมกับทัพมอญอาสาที่นำโดยพระยาเจ่ง กษัตริย์มอญ ทว่าต่อมาขุนรัตนาวุธถูกอุบายของพม่าหลอกให้ไม่ออกไปรบช่วยเหลือกับกองทัพอาสามอญ ทำให้กองทัพอาสามอญต้องแตกพ่ายไป ด้วยความแค้น ขุนรัตนาวุธได้วางแผนแบ่งกองกำลังทะลวงฟัน และการรบแบบกองโจร ตัดการลำเลียงเสบียงของไพร่พลพม่าและชะลอการมาถึงของทัพอื่น ๆ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยให้กำลังพลพม่ามีจำนวนลดลงอันส่งผลต่อชัยชนะของสยามในสงครามเก้าทัพ ในสมรภูมิทุ่งลาดหญ้า ขุนรัตนวุธต่อสู้อย่างเต็มกำลังจนกระทั่งถูกฟันมือขวาขาดกระเด็นไปพร้อมดาบ (บางตำนานเล่าว่าเป็น "แขนขวา") ล้มลงกลางสมรภูมิ หลังขุนรัตนาวุธฟื้นขึ้นมาในค่ายหลวง ท่านได้ใช้นิ้วชี้ของมือซ้ายมาป้ายเลือดจากแขนขวา แล้วเขียนลงบนผืนผ้าใบ (บ้างว่าเป็น "ผ้าปูที่นอน" หรือ "กระโจม") ในค่ายว่า
    “จงรักษาลาดหญ้าไว้ด้วยชีวิต”
    ปัจจุบัน ขุนรัตนาวุธ เป็นที่เคารพสักการะของทหารและชาวจังหวัดกาญจนบุรี ท่านมีอนุสรณ์สถานเป็นรูปหล่อประดิษฐานอยู่ด้านหน้ากองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ใกล้กับค่ายฝึกเขาชนไก่

    อ้างอิง เกร็ดพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ลำจุล ฮวบเจริญ
    เรียบเรียงโดย เพจเกร็ดประวัติศาสตร์ v2
    จากเพจ : เกร็ดประวัติศาสตร์ v 2 ขุนรัตนา นายกองทะลวงฟันของพระองค์เจ้าขุนเณร ขุนรัตนาวุธ เป็นผู้นำการรบในสงคราม 9 ทัพ สมรภูมิรบทุ่งลาดหญ้าที่ไม่มีชื่อปรากฏในพงศาวดารหรือบันทึกลายลักษณ์อักษร แต่ปรากฏในตำนานเรื่องเล่าสืบทอดกันมาเท่านั้น ตามตำนานเล่าขานกันว่าขุนรัตนาวุธเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้นำกองทัพทะลวงฟันเข้าร่วมรบเป็นกองทัพเสริมกับกองทัพหลวงของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ร่วมกับทัพมอญอาสาที่นำโดยพระยาเจ่ง กษัตริย์มอญ ทว่าต่อมาขุนรัตนาวุธถูกอุบายของพม่าหลอกให้ไม่ออกไปรบช่วยเหลือกับกองทัพอาสามอญ ทำให้กองทัพอาสามอญต้องแตกพ่ายไป ด้วยความแค้น ขุนรัตนาวุธได้วางแผนแบ่งกองกำลังทะลวงฟัน และการรบแบบกองโจร ตัดการลำเลียงเสบียงของไพร่พลพม่าและชะลอการมาถึงของทัพอื่น ๆ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยให้กำลังพลพม่ามีจำนวนลดลงอันส่งผลต่อชัยชนะของสยามในสงครามเก้าทัพ ในสมรภูมิทุ่งลาดหญ้า ขุนรัตนวุธต่อสู้อย่างเต็มกำลังจนกระทั่งถูกฟันมือขวาขาดกระเด็นไปพร้อมดาบ (บางตำนานเล่าว่าเป็น "แขนขวา") ล้มลงกลางสมรภูมิ หลังขุนรัตนาวุธฟื้นขึ้นมาในค่ายหลวง ท่านได้ใช้นิ้วชี้ของมือซ้ายมาป้ายเลือดจากแขนขวา แล้วเขียนลงบนผืนผ้าใบ (บ้างว่าเป็น "ผ้าปูที่นอน" หรือ "กระโจม") ในค่ายว่า “จงรักษาลาดหญ้าไว้ด้วยชีวิต” ปัจจุบัน ขุนรัตนาวุธ เป็นที่เคารพสักการะของทหารและชาวจังหวัดกาญจนบุรี ท่านมีอนุสรณ์สถานเป็นรูปหล่อประดิษฐานอยู่ด้านหน้ากองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ใกล้กับค่ายฝึกเขาชนไก่ อ้างอิง เกร็ดพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ลำจุล ฮวบเจริญ เรียบเรียงโดย เพจเกร็ดประวัติศาสตร์ v2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 524 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพวิดีโอภายในโรงงานแห่งหนึ่งใน Chasiv Yar ที่ได้รับการปลดปล่อยโดยกรมทหารที่ 331 กองพลทหารอากาศที่ 98 แห่งกองทัพรัสเซีย
    ภาพวิดีโอภายในโรงงานแห่งหนึ่งใน Chasiv Yar ที่ได้รับการปลดปล่อยโดยกรมทหารที่ 331 กองพลทหารอากาศที่ 98 แห่งกองทัพรัสเซีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • รสนาเป็นพลทหารของประชาชนไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองพรรคใด ตามที่สื่อเต้าข่าว !?!

    วันนี้มีเพื่อนส่งคลิปนักข่าว3คนเครือเนชั่น ออกมาวิเคราะห์เรื่องนโยบายพลังงานของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.กระทรวงพลังงาน มีการเอาภาพใครต่อใครมาแปะข้างกายนายพีระพันธุ์ และพาดหัวใต้ภาพว่า ‘ขุนพลข้างกาย“พีระพันธุ์” พานโยบายย้อนยุค ?‘

    ในภาพดังกล่าว มีรูปดิฉันอยู่ด้วย และมีการพูดชื่อดิฉันชัดเจนในรายการ ทุนสื่อเนชั่นแกล้งเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!? สิ่งที่นักข่าวทั้ง3คนพูด ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรในเชิงวิเคราะห์ข่าวที่เต้าขึ้นมาแม้แต่น้อย แต่กล่าวหาดื้อๆว่าดิฉันเป็นขุนพล รมว.พีระพันธ์ุ

    นักข่าว นักสื่อมวลชนจะสื่อสารอะไรกับสังคมและประชาชนที่เวลานี้มีช่องทางอิสระในการหาความจริงได้มากกว่าทุนสื่อบางกลุ่มที่ทั้งตกยุค ตกเทรนด์พลังงานโลกยุคใหม่เสียอีก สื่อจึงควรมีเนื้อหาสาระ มีข้อมูลที่เป็นความจริงน่าเชื่อถือ มิเช่นนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นทุนสื่อของค่ายธุรกิจการเมืองบางกลุ่มที่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์พลังงานโลกจนต้องเต้าข่าว ปั่นข่าวโคมลอย เพื่อดิสเครดิตใครก็ตามที่มุ่งสู่การปลดแอกทุนพลังงานจากบ่าประชาชน สื่อเต้าข่าวจำพวกนี้ ควรระวังที่จะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือในอนาคตอันใกล้ !!

    ดิฉันก็จบคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ สิ่งที่เราได้รับการอบรมสั่งสอนคือสื่อต้องมีจริยธรรม ในการนำเสนอความจริงต่อสังคม การเต้าข่าวเลื่อนลอยถือว่าเป็นอนันตริยกรรมในวิชาชีพสื่อ ใช่หรือไม่??!!

    ดิฉันไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองของพรรคใดๆ ถ้าจะเป็น ก็จะเป็นเพียงพลทหารของประชาชน ที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างสุดฤทธิ์เท่านั้น

    ดิฉันทำงานต่อสู้เรื่องพลังงานมานานมากก่อนที่นักการเมืองคนใดจะสนใจประเด็นนี้เสียอีก

    รสนา โตสิตระกูล
    15 มกราคม 2568
    รสนาเป็นพลทหารของประชาชนไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองพรรคใด ตามที่สื่อเต้าข่าว !?! วันนี้มีเพื่อนส่งคลิปนักข่าว3คนเครือเนชั่น ออกมาวิเคราะห์เรื่องนโยบายพลังงานของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.กระทรวงพลังงาน มีการเอาภาพใครต่อใครมาแปะข้างกายนายพีระพันธุ์ และพาดหัวใต้ภาพว่า ‘ขุนพลข้างกาย“พีระพันธุ์” พานโยบายย้อนยุค ?‘ ในภาพดังกล่าว มีรูปดิฉันอยู่ด้วย และมีการพูดชื่อดิฉันชัดเจนในรายการ ทุนสื่อเนชั่นแกล้งเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!? สิ่งที่นักข่าวทั้ง3คนพูด ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรในเชิงวิเคราะห์ข่าวที่เต้าขึ้นมาแม้แต่น้อย แต่กล่าวหาดื้อๆว่าดิฉันเป็นขุนพล รมว.พีระพันธ์ุ นักข่าว นักสื่อมวลชนจะสื่อสารอะไรกับสังคมและประชาชนที่เวลานี้มีช่องทางอิสระในการหาความจริงได้มากกว่าทุนสื่อบางกลุ่มที่ทั้งตกยุค ตกเทรนด์พลังงานโลกยุคใหม่เสียอีก สื่อจึงควรมีเนื้อหาสาระ มีข้อมูลที่เป็นความจริงน่าเชื่อถือ มิเช่นนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นทุนสื่อของค่ายธุรกิจการเมืองบางกลุ่มที่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์พลังงานโลกจนต้องเต้าข่าว ปั่นข่าวโคมลอย เพื่อดิสเครดิตใครก็ตามที่มุ่งสู่การปลดแอกทุนพลังงานจากบ่าประชาชน สื่อเต้าข่าวจำพวกนี้ ควรระวังที่จะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือในอนาคตอันใกล้ !! ดิฉันก็จบคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ สิ่งที่เราได้รับการอบรมสั่งสอนคือสื่อต้องมีจริยธรรม ในการนำเสนอความจริงต่อสังคม การเต้าข่าวเลื่อนลอยถือว่าเป็นอนันตริยกรรมในวิชาชีพสื่อ ใช่หรือไม่??!! ดิฉันไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองของพรรคใดๆ ถ้าจะเป็น ก็จะเป็นเพียงพลทหารของประชาชน ที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างสุดฤทธิ์เท่านั้น ดิฉันทำงานต่อสู้เรื่องพลังงานมานานมากก่อนที่นักการเมืองคนใดจะสนใจประเด็นนี้เสียอีก รสนา โตสิตระกูล 15 มกราคม 2568
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 515 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจอแจ้งข้อหา 3 รายรวด..อาสากู้ภัยเชียงราย 2 หนุ่ม 1 สาว ฐานร่วมทำร้ายร่างกาย-แทงพลทหาร อส.สห.บาดเจ็บสาหัส จนต้องหนีตายไปถึงหน้าค่ายเม็งรายมหาราช เผยชนวนเหตุเกิดเขม่น-ตะโกนด่ากันกลางทาง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000003456

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เจอแจ้งข้อหา 3 รายรวด..อาสากู้ภัยเชียงราย 2 หนุ่ม 1 สาว ฐานร่วมทำร้ายร่างกาย-แทงพลทหาร อส.สห.บาดเจ็บสาหัส จนต้องหนีตายไปถึงหน้าค่ายเม็งรายมหาราช เผยชนวนเหตุเกิดเขม่น-ตะโกนด่ากันกลางทาง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000003456 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1307 มุมมอง 2 รีวิว
  • กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปแล้ว 1,000,000 นาย!

    “นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษ กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งรวมทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีรถถังและรถหุ้มเกราะประมาณ 20,000 คัน”

    รายงานโดย พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารของกองทัพรัสเซีย

    ประเด็นอื่นที่น่าสนใจของ เกราซิมอฟ:
    - เฉพาะในพื้นที่ภูมิภาคเคิร์ส กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปมากกว่า 42,000 นาย รถถังและรถหุ้มเกราะมากกว่า 1,800 คัน

    - การจัดตั้งกองทหารชุดแรกที่ติดตั้งระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ S-500 ซึ่งสามารถป้องกันขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ได้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

    - มีการปลดปล่อยนิคมมากกว่า 190 แห่งในปีนี้ รวมพื้นที่ประมาณ 4,500 ตารางกิโลเมตร อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย

    - การติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ภาคพื้นดินของกองทัพรัสเซียเสร็จสมบูรณ์แล้ว

    - ในปี 2024 มีการจัดตั้งในส่วนของกองกำลังภาคพื้นดิน(กองทัพบก) เพิ่มเติม ประกอบด้วย 2 กองทัพ 1 กองพลทหาร และ 16 หน่วยทหาร รวมถึงเขตทหารอีก 2 เขต

    - กองทัพเรือรัสเซียจะได้รับเรือดำน้ำนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์คลาส Borei-A จำนวน 3 ลำภายในปี 2028
    กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปแล้ว 1,000,000 นาย! “นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษ กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งรวมทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีรถถังและรถหุ้มเกราะประมาณ 20,000 คัน” รายงานโดย พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารของกองทัพรัสเซีย ประเด็นอื่นที่น่าสนใจของ เกราซิมอฟ: - เฉพาะในพื้นที่ภูมิภาคเคิร์ส กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปมากกว่า 42,000 นาย รถถังและรถหุ้มเกราะมากกว่า 1,800 คัน - การจัดตั้งกองทหารชุดแรกที่ติดตั้งระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ S-500 ซึ่งสามารถป้องกันขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ได้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว - มีการปลดปล่อยนิคมมากกว่า 190 แห่งในปีนี้ รวมพื้นที่ประมาณ 4,500 ตารางกิโลเมตร อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย - การติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ภาคพื้นดินของกองทัพรัสเซียเสร็จสมบูรณ์แล้ว - ในปี 2024 มีการจัดตั้งในส่วนของกองกำลังภาคพื้นดิน(กองทัพบก) เพิ่มเติม ประกอบด้วย 2 กองทัพ 1 กองพลทหาร และ 16 หน่วยทหาร รวมถึงเขตทหารอีก 2 เขต - กองทัพเรือรัสเซียจะได้รับเรือดำน้ำนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์คลาส Borei-A จำนวน 3 ลำภายในปี 2028
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศทาง Velyka Novosilka กองทัพรัสเซียเริ่มใช้รถไร้คนขับติดตั้งระเบิดภาคพื้นดิน “Krot” จากกองพลทหารช่างที่ 14 ของกองทัพรัสเซีย ในการทำลายฐานที่มั่นของกองกำลังยูเครน
    ทิศทาง Velyka Novosilka กองทัพรัสเซียเริ่มใช้รถไร้คนขับติดตั้งระเบิดภาคพื้นดิน “Krot” จากกองพลทหารช่างที่ 14 ของกองทัพรัสเซีย ในการทำลายฐานที่มั่นของกองกำลังยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีเผยแพร่ภาพวิดีโอการมาตรวจเยี่ยมเมืองโปครอฟสค์ (Pokrovsk) และมอบเหรียญกล้าหาญให้กับเจ้าหน้าที่ทหารของกองพลทหารราบแยกทางอากาศที่ 25 ซึ่งกำลังทำหน้าที่ปกป้องเมือง

    ที่ผ่านมาทหารยูเครนรวมถึงฝ่ายรัสเซีย มักจะล้อเลียนเกี่ยวกับเมืองที่เซเลนสกีมาตรวจเยี่ยม หลังผ่านไปไม่นาน เมืองเหล่านั้นมักถูกยึดครองอย่างง่ายดายจากฝ่ายรัสเซีย เช่น Avdiivka Bakhmut
    เซเลนสกีเผยแพร่ภาพวิดีโอการมาตรวจเยี่ยมเมืองโปครอฟสค์ (Pokrovsk) และมอบเหรียญกล้าหาญให้กับเจ้าหน้าที่ทหารของกองพลทหารราบแยกทางอากาศที่ 25 ซึ่งกำลังทำหน้าที่ปกป้องเมือง ที่ผ่านมาทหารยูเครนรวมถึงฝ่ายรัสเซีย มักจะล้อเลียนเกี่ยวกับเมืองที่เซเลนสกีมาตรวจเยี่ยม หลังผ่านไปไม่นาน เมืองเหล่านั้นมักถูกยึดครองอย่างง่ายดายจากฝ่ายรัสเซีย เช่น Avdiivka Bakhmut
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศทาง Pokrovsk
    ภาพการโจมตีด้วยระเบิดร่อน FAB-1500 ของกองทัพรัสเซีย เป้าหมายคือคลังกระสุนและอุปกรณ์ของกองพลทหารแห่งชาติที่ 2 ของยูเครน
    ทิศทาง Pokrovsk ภาพการโจมตีด้วยระเบิดร่อน FAB-1500 ของกองทัพรัสเซีย เป้าหมายคือคลังกระสุนและอุปกรณ์ของกองพลทหารแห่งชาติที่ 2 ของยูเครน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 992 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • 31 ตุลาคม 2567 -รายงานจากเพจเฟซบุ๊กของวาสนา นาน่วม นักข่าวสายความมั่นคงและทหาร นสพ.บางกอกโพสต์ ระบุเกี่ยวกับโผทหารว่า เขย่าผู้การ ทบ. “บิ๊กปู” เซ็นโผแรก ย้าย 362 พันเอกพิเศษ คอแดง-คอเขียว จัดแถว “รองผบ.พล.-ผู้การกรม ล้าง ปืนใหญ่ คอแดง พ้น พล.1 รอ. กองพล วงศ์เทวัญคอแดง เปลี่ยน ผบ.ร.31 รอ. หน่วยเดิม บิ๊กปู “ผู้การย้ง” ขึ้น รอง ผบ.พล.1 รอ.ขยับเพียบ บูรพาพยัคฆ์คอแดงพล.ร.2รอ.เปลี่ยน รบพิเศษคอแดง ผบ.รพศ.3 รอ.

    พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ลงนามคำสั่งกองทัพบก ที่ 406/2567 เรื่องให้นายทหารรับราชการและปรับเงินเดือน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 จัดแถวนายทหารระดับ พันเอกพิเศษ หรือโผ ผู้บังคับการกรม ระดับ “รองผบ.พล-ผู้การกรม” 362 นาย

    ที่น่าจับตา ในส่วนกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นหน่วยคุมกำลังหลักในกรุงเทพฯ และภาคกลาง โดยเฉพาะในหน่วยทหารคอแดง และขึ้นกับ ฉก.ทม.รอ.904 เช่น พล.1 รอ. และพล.ร.2 รอ.

    พ.อ.รณวรรณ พจน์สถิตย์ รองผบ.พล.1 รอ. (ตท.31) ข้ามหลุดสายวงศ์เทวัญ ไปเป็น รองผบ.มทบ.17

    ทั้งนี้ เป็นที่ตั้งข้อสังเกตุว่า อาจเพราะเป็นทหารเหล่าปืนใหญ่ ที่มาอยู่ในพล.1 รอ. ซึ่งเป็นกองพลทหารราบ ที่ ในที่สุด ผบ.พล.1 รอ. ก็ต้องเป็นทหารราบ
    จึงย้ายออก เพื่อเปิดทางให้ ผู้การย้ง พ.อ.คทาวุธ ชัยยัง ผบ.ร.31 รอ. (ตท.35) ขึ้นเป็น รองผบ.พล.1 รอ. พ.อ.กฤษดาหิรัญโรจน์ เสธ.พล.1 รอ. (ตท.36) เป็น ผบ.ร.31 รอ. แทน

    ที่สำคัญ คือ พ.อ.สาธิต ไวยนนท์ รองผบ.มทบ.310 (ตท.26) รุ่น ผบ.ทบ. ข้ามมาเป็น รองผบ.พล.1 รอ.

    ในส่วน พล.ร.2 รอ. กองพลบูรพาพยัคฆ์คอแดง พ.อ.ปฏิวัติ เพื่องประ ภัสสร์ ผบ.ร.12 รอ. (ตท.35) ขึ้นเป็น รองผบ.พล.ร.2 รอ. พ.อ.บัญชา ชาญฉลาด เสธ.พล.ร.2 รอ. (ตท.36) ขยับเป็น ผบ.ร.2 รอ. , พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี รองผบ.ร.12 รอ. (ตท.36) ขึ้นเป็น ผบ.ร.12 รอ.

    กองพลทหารราบที่9 กองพลทหารคอเขียว- พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ร.29 (ตท.32) ขึ้นเป็น รองผบ.พล.ร.9 , พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช เสธ.พล.ร.9 (ตท.33) เป็น ผบ.ร.29 , พ.อ.ชูพงษ์ สายอุบล ผบ.กรม.สน.พล.ร.9 (ตท.32) เป็น ผบ.ร.19

    กองพลทหารราบที่ 11- พ.อ.สังกาศ สร้อยคํา รอง ผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.13 (ตท.31) ข้ามกลับถิ่น มาเป็น รองผบ.พล.ร.11

    ในส่วน มทบ.ใน กองทัพภาค1 -
    พ.อ.ศตวรรษ อินทร์กง รองผบ.มทบ.17 (ตท.32) เป็น รองผบ.มทบ.12 , พ.อ.ชูชีพ โพธิ์นอก เสธ.มทบ.12 (ตท.28) เป็น รองผบ.มทบ.12 , พ.อ.พิทยากูล โพธิสุวรณ รองเสธ.ทภ.1 (ตท.29) ย้ายระนาบเป็น รองผบ.มทบ.13 , พ.อ.ธารา เจนตลอด รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.16 (ตท.26) เป็น รองผบ.มทบ.16 พ.อ.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.11 (ตท.27) เป็น รองผบ.มทบ.18 , พ.อ.ภัทราวุธ ทิพโกมุท รอง ผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.18 (ตท.27) เป็น รองผบ.มทบ.18

    พ.อ.อำนาจ วริชศักดิ์โสภานะ ผอ.กยก.ทภ.1 (ตท.35) ขัยเป็น ผบ.ม.5 รอ. , พ.อ.ณัฐฐา นวลศรีฉาย รองผบ.ม.4 รอ. (ตท.37) เป็น ผบ.ม.4 รอ.

    กองทัพภาคที่ 2 มีการขยับ
    พ.อ.ณรงค์ วิชญาณวรวุฒิ รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.24 (ตท.31) เป็น รองผบ.พล.ร.3 , พ.อ.จักรพงษ์ โพธิ์นาแค รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.29 (ตท.31) เป็น รองผบ.พล.ร.3 , พ.อ.สุพรเทพ ไชยยงค์ รองผบ.ร.8 (ตท.33) เป็น ผบ.ร.8 ,พ.อ.สุรกิจ กาฬเนตร เสธ.พล.ร.6 (ตท.32) เป็น ผบ.ร.16 พ.อ.ประวัติ จารุตัน รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.23 (ตท.29) เป็น รองผบ.พล.ม.3 ล พ.อ.บดินทร์ อุปสาร รองผบ.ม.6 (ตท.32) ขึ้นเป็น ผบ.ม.6 , พ.อ.เอนก พรหมทา รองผบ.ม.6 (ตท.35) เป็น ผบ.ม.7

    กองทัพภาคที่ 3 : พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย เสธ.พล.ร.4 (ตท.32) เป็น รองผบ.พล.ร.4 , พ.อ.วันชัย มณีวรรณ เสธ.พล.ร.7 (ตท.32) เป็น รองผบ.พล.ร.7

    พ.อ.ภาส วงศ์สารภี รอง ผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.33 (ตท.29 ) กลับเข้าไลน์ เป็นรอง ผบ.พล.ร.7 พ.อ.ยรรยง ทิพาปกรณ์ รองผบ.พล.ร.7 (ตท.28) เป็น รองผบ.มทบ.33 , พ.อ.ชนกานต์ แสงศร ผองกยก.ทภ.3 (ตท.35) เป็น ผบ.ร.14 , พ.อ.สุพรรณ ร้อยพุท รองผบ.ม.3 (ตท.33) เป็น ผบ.ม.2

    ส่วนกองทัพภาคที่ 4 มีการหมุนเวียนตำแหน่ง: พ.อ.วัชระ สุขวงศ์ นปก.ประจำ มทบ.41 (ตท.25) เป็น รองผบ.บชร.4 , พ.อ.อัทตเศรษฐ์ เต็มมีศรี ผองกขว.ทน.4 (ตท.27) เป็น รองผบ.มทบ.44 , พ.อ.พิเชษฐ์ ชุติเดโช รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.42 (ตท.29) เป็น รองผบ.มทบ.46 , พ.อ.ภูมเดชา พ่วงเจริญ รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.46 (ตท.26) เป็น รองผบ.มทบ.46

    หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ:
    พ.อ.สุนทร กำลังมา ผบ.รพศ.4 (ตท.29) เป็น รองผบ.พล.รพศ.1 , พ.อ.นิมิตร วีระพงศ์ รองผบ.รพศ.2 (ตท.32) เป็นผบ.รพศ.3 รอ. ,

    กองพลทหารปืนใหญ่: พ.อ.ศักดิ์ชัย พงคพนาไกร เสธ.พล.ปตอ. (ตท.31) เป็น รองผบ.พล.ปตอ.

    ที่มา : wassana nanuam https://www.facebook.com/share/154TquBDqq/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    31 ตุลาคม 2567 -รายงานจากเพจเฟซบุ๊กของวาสนา นาน่วม นักข่าวสายความมั่นคงและทหาร นสพ.บางกอกโพสต์ ระบุเกี่ยวกับโผทหารว่า เขย่าผู้การ ทบ. “บิ๊กปู” เซ็นโผแรก ย้าย 362 พันเอกพิเศษ คอแดง-คอเขียว จัดแถว “รองผบ.พล.-ผู้การกรม ล้าง ปืนใหญ่ คอแดง พ้น พล.1 รอ. กองพล วงศ์เทวัญคอแดง เปลี่ยน ผบ.ร.31 รอ. หน่วยเดิม บิ๊กปู “ผู้การย้ง” ขึ้น รอง ผบ.พล.1 รอ.ขยับเพียบ บูรพาพยัคฆ์คอแดงพล.ร.2รอ.เปลี่ยน รบพิเศษคอแดง ผบ.รพศ.3 รอ. พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ลงนามคำสั่งกองทัพบก ที่ 406/2567 เรื่องให้นายทหารรับราชการและปรับเงินเดือน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 จัดแถวนายทหารระดับ พันเอกพิเศษ หรือโผ ผู้บังคับการกรม ระดับ “รองผบ.พล-ผู้การกรม” 362 นาย ที่น่าจับตา ในส่วนกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นหน่วยคุมกำลังหลักในกรุงเทพฯ และภาคกลาง โดยเฉพาะในหน่วยทหารคอแดง และขึ้นกับ ฉก.ทม.รอ.904 เช่น พล.1 รอ. และพล.ร.2 รอ. พ.อ.รณวรรณ พจน์สถิตย์ รองผบ.พล.1 รอ. (ตท.31) ข้ามหลุดสายวงศ์เทวัญ ไปเป็น รองผบ.มทบ.17 ทั้งนี้ เป็นที่ตั้งข้อสังเกตุว่า อาจเพราะเป็นทหารเหล่าปืนใหญ่ ที่มาอยู่ในพล.1 รอ. ซึ่งเป็นกองพลทหารราบ ที่ ในที่สุด ผบ.พล.1 รอ. ก็ต้องเป็นทหารราบ จึงย้ายออก เพื่อเปิดทางให้ ผู้การย้ง พ.อ.คทาวุธ ชัยยัง ผบ.ร.31 รอ. (ตท.35) ขึ้นเป็น รองผบ.พล.1 รอ. พ.อ.กฤษดาหิรัญโรจน์ เสธ.พล.1 รอ. (ตท.36) เป็น ผบ.ร.31 รอ. แทน ที่สำคัญ คือ พ.อ.สาธิต ไวยนนท์ รองผบ.มทบ.310 (ตท.26) รุ่น ผบ.ทบ. ข้ามมาเป็น รองผบ.พล.1 รอ. ในส่วน พล.ร.2 รอ. กองพลบูรพาพยัคฆ์คอแดง พ.อ.ปฏิวัติ เพื่องประ ภัสสร์ ผบ.ร.12 รอ. (ตท.35) ขึ้นเป็น รองผบ.พล.ร.2 รอ. พ.อ.บัญชา ชาญฉลาด เสธ.พล.ร.2 รอ. (ตท.36) ขยับเป็น ผบ.ร.2 รอ. , พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี รองผบ.ร.12 รอ. (ตท.36) ขึ้นเป็น ผบ.ร.12 รอ. กองพลทหารราบที่9 กองพลทหารคอเขียว- พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ร.29 (ตท.32) ขึ้นเป็น รองผบ.พล.ร.9 , พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช เสธ.พล.ร.9 (ตท.33) เป็น ผบ.ร.29 , พ.อ.ชูพงษ์ สายอุบล ผบ.กรม.สน.พล.ร.9 (ตท.32) เป็น ผบ.ร.19 กองพลทหารราบที่ 11- พ.อ.สังกาศ สร้อยคํา รอง ผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.13 (ตท.31) ข้ามกลับถิ่น มาเป็น รองผบ.พล.ร.11 ในส่วน มทบ.ใน กองทัพภาค1 - พ.อ.ศตวรรษ อินทร์กง รองผบ.มทบ.17 (ตท.32) เป็น รองผบ.มทบ.12 , พ.อ.ชูชีพ โพธิ์นอก เสธ.มทบ.12 (ตท.28) เป็น รองผบ.มทบ.12 , พ.อ.พิทยากูล โพธิสุวรณ รองเสธ.ทภ.1 (ตท.29) ย้ายระนาบเป็น รองผบ.มทบ.13 , พ.อ.ธารา เจนตลอด รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.16 (ตท.26) เป็น รองผบ.มทบ.16 พ.อ.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.11 (ตท.27) เป็น รองผบ.มทบ.18 , พ.อ.ภัทราวุธ ทิพโกมุท รอง ผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.18 (ตท.27) เป็น รองผบ.มทบ.18 พ.อ.อำนาจ วริชศักดิ์โสภานะ ผอ.กยก.ทภ.1 (ตท.35) ขัยเป็น ผบ.ม.5 รอ. , พ.อ.ณัฐฐา นวลศรีฉาย รองผบ.ม.4 รอ. (ตท.37) เป็น ผบ.ม.4 รอ. กองทัพภาคที่ 2 มีการขยับ พ.อ.ณรงค์ วิชญาณวรวุฒิ รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.24 (ตท.31) เป็น รองผบ.พล.ร.3 , พ.อ.จักรพงษ์ โพธิ์นาแค รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.29 (ตท.31) เป็น รองผบ.พล.ร.3 , พ.อ.สุพรเทพ ไชยยงค์ รองผบ.ร.8 (ตท.33) เป็น ผบ.ร.8 ,พ.อ.สุรกิจ กาฬเนตร เสธ.พล.ร.6 (ตท.32) เป็น ผบ.ร.16 พ.อ.ประวัติ จารุตัน รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.23 (ตท.29) เป็น รองผบ.พล.ม.3 ล พ.อ.บดินทร์ อุปสาร รองผบ.ม.6 (ตท.32) ขึ้นเป็น ผบ.ม.6 , พ.อ.เอนก พรหมทา รองผบ.ม.6 (ตท.35) เป็น ผบ.ม.7 กองทัพภาคที่ 3 : พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย เสธ.พล.ร.4 (ตท.32) เป็น รองผบ.พล.ร.4 , พ.อ.วันชัย มณีวรรณ เสธ.พล.ร.7 (ตท.32) เป็น รองผบ.พล.ร.7 พ.อ.ภาส วงศ์สารภี รอง ผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.33 (ตท.29 ) กลับเข้าไลน์ เป็นรอง ผบ.พล.ร.7 พ.อ.ยรรยง ทิพาปกรณ์ รองผบ.พล.ร.7 (ตท.28) เป็น รองผบ.มทบ.33 , พ.อ.ชนกานต์ แสงศร ผองกยก.ทภ.3 (ตท.35) เป็น ผบ.ร.14 , พ.อ.สุพรรณ ร้อยพุท รองผบ.ม.3 (ตท.33) เป็น ผบ.ม.2 ส่วนกองทัพภาคที่ 4 มีการหมุนเวียนตำแหน่ง: พ.อ.วัชระ สุขวงศ์ นปก.ประจำ มทบ.41 (ตท.25) เป็น รองผบ.บชร.4 , พ.อ.อัทตเศรษฐ์ เต็มมีศรี ผองกขว.ทน.4 (ตท.27) เป็น รองผบ.มทบ.44 , พ.อ.พิเชษฐ์ ชุติเดโช รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.42 (ตท.29) เป็น รองผบ.มทบ.46 , พ.อ.ภูมเดชา พ่วงเจริญ รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.46 (ตท.26) เป็น รองผบ.มทบ.46 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ: พ.อ.สุนทร กำลังมา ผบ.รพศ.4 (ตท.29) เป็น รองผบ.พล.รพศ.1 , พ.อ.นิมิตร วีระพงศ์ รองผบ.รพศ.2 (ตท.32) เป็นผบ.รพศ.3 รอ. , กองพลทหารปืนใหญ่: พ.อ.ศักดิ์ชัย พงคพนาไกร เสธ.พล.ปตอ. (ตท.31) เป็น รองผบ.พล.ปตอ. ที่มา : wassana nanuam https://www.facebook.com/share/154TquBDqq/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 783 มุมมอง 0 รีวิว
  • 21/10/67

    "ฉันไว้ใจเธอ" คำพูดเดียว จดจำไม่ลืมเลือน

    เรื่องเล่าของ นพ.บุญยงค์ วงศ์รักมิตร อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เป็นบทความจาก หนังสือ ฅ.คน ฉบับ ๘๐ พรรษา พระราชาเหนือนิยาม เดือนธันวาคม 2550

    เรื่องเกิดในปี 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมทหารที่กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ที่เชียงกลาง ในคราวนั้นเล่ากันว่ามีนายทหารเข้ามากราบบังคมทูลฯ ว่า มีทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส นำตัวออกจากแนวหน้าไม่ได้ พระองค์ก็เลยเสด็จฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ พร้อมสมเด็จพระราชินี นายทหารที่โดยเสด็จฯ ก็ต้องคุ้มกันกันอุตลุด ก็นำทหารที่บาดเจ็บออกมาได้

    นพ.บุญยงค์ : "ผมจำได้แม่นยำ ชื่อ พลฯ บิน มาลิกา ถูกยิงไส้ไหล และที่โคนขา เสียเลือดมาก เดิมจะส่งตัวไปรักษาที่ รพ.พระมงกุฎ แต่ไม่ไหวต้องมารักษาที่ รพ.น่านก่อน"
    ชะตากรรมของพลทหารที่บาดเจ็บกลางสมรภูมิ ทำให้ชีวิตของคุณหมอผูกพันกับฟ้า

    การนำพลฯ บินมารับการรักษา ทำให้ในหลวงได้มีโอกาสเสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบ แล้วสิ่งที่หมอและพยาบาลทำการรักษาโดยไม่เห็นแก่เหนื่อยยาก ก็ทราบถึงพระเนตรพระกรรณ หลังเสด็จพระราชดำเนิน ได้ให้สมุหราชองครักษ์ พล.ร.อ. ม.จ.กาฬวรรณดิศ ดิศกุล นำหนังสือจากสำนักงานสมุหราชองครักษ์ แจ้งว่าในหลวงทรงพอพระราชหฤทัยกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ รพ.น่าน และมีพระประสงค์ที่จะสนับสนุนเครื่องมือแพทย์และความต้องการอื่น

    นพ.บุญยงค์ : "เราก็กราบบังคมทูลไปว่ามีอะไรบ้างที่เราขาดแคลน ทั้งเครื่องมือแพทย์ และการขยายอาคารเพื่อรับผู้บาดเจ็บ" หลังจากนั้นในหลวงก็ทรงมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากการสู้รบที่ รพ.น่าน อีกครั้ง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2511 นายแพทย์ผู้อำนวยการหนุ่มเข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูล ถวายรายงานอย่างฉาดฉาน

    สิ่งของพระราชทาน ได้แก่ เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ เครื่องดูดเลือดและน้ำจากปอด เครื่องรมยาสลบ เครื่องปรับอากาศ ประดิษฐานอยู่บนโต๊ะ ยังความปลาบปลื้มให้กับหมอหนุ่ม แต่ที่เหนืออื่นใด เมื่อพระองค์ท่านพระราชทานสิ่งของให้แล้วก็พระราชดำรัสว่า...

    “เงินที่ขอไปนั้น ฉันนำมามอบให้แล้ว ขอให้หมอดำเนินการก่อสร้างเองนะ ไม่ต้องผ่านราชการ ฉันไว้ใจเธอ”

    นพ.บุญยงค์ : "คำว่า ฉันไว้ใจเธอ ใครได้ฟังแล้วจะรู้สึกอย่างไร ท่านเป็นกษัตริย์ เราเป็นหมอบ้านนอก โอ้โฮ ใจเราในเวลานั้น เมื่อพระองค์ท่านรับสั่งแบบนี้ ย่อมมีผลต่อการทำงานต่าง ๆ มากมายโดยไม่อาจบิดพลิ้ว"

    นายแพทย์หนุ่มยังมีอันต้องสะดุ้งใจซ้ำเป็นคำรบสอง เมื่อทรงกำชับว่า "สร้างเสร็จแล้วให้บอกด้วยนะ จะมาเปิด"

    นพ.บุญยงค์ : "ยิ่งสะดุ้งมากขึ้นเพราะผมขอพระราชทานเงินไปสองแสนสี่ เพื่อใช้ต่อเติมอาคารไม้ให้รองรับผู้ป่วยได้อีก 20-25 คน เอาแค่พอใช้ได้ ไม่ได้คิดว่าจะทาสีด้วยซ้ำไป แต่พอพระองค์ท่านบอกว่าจะมาเปิด โอ้โฮ นึกไม่ออกเลยว่าจะทำอย่างไร"

    แต่ปัญหาทั้งมวลก็ลุล่วงไปได้ด้วยความช่วยเหลือของคนไข้รายหนึ่ง "คนไข้ที่เราดูแลเขามาพบ พาลูกชายมาด้วยชื่อ ทองจุล สิงหกุล เป็น ผอ. กรมโยธาฯ พอถามว่า คุณหมอมีอะไรให้ช่วยเหลือก็ขอให้บอก ผมบอกเลยว่ามีแน่ครับ ผมได้เงินพระราชทานมาขยายอาคาร ต้องเขียนแปลน ตอนนี้จะทำเป็นไม้แค่พอใช้ไม่ได้แล้ว เขาก็ช่วยเหลือเรื่องแบบ หาช่างรับเหมามาทำให้อย่างดีเลย ยิ่งรู้ว่าเป็นเงินพระราชทาน ผู้รับเหมาถึงขนาดควบคุมดูแลการก่อสร้างอย่างดี"

    ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างก็ได้ขอพระราชทานนาม ได้รับพระราชทานนามอาคารใหม่ว่า "พิทักษ์ไทย" เป็นอาคารที่ใช้รองรับผู้บาดเจ็บจากการสู้รบต่อเนื่องมาอีกหลายปี
    ปีถัดมา ภายหลังอาคารใหม่สร้างเสร็จแล้ว เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่จังหวัดน่านได้กราบบังคมทูลเชิญในหลวง เพื่อทรงเป็นองค์ประธานในการเปิดอาคารศาลากลางจังหวัด และอาคารโรงเรียนราชานุบาล ทางจังหวัดก็ถามผมว่า จะให้กราบบังคมทูลเชิญเพื่อทรงเปิดอาคารตึกพิทักษ์ไทยด้วยไหม ผมก็เห็นว่าพระองค์ท่านต้องเสด็จฯ ถึงสองแห่งแล้ว ก็บอกไปว่าคงไม่ต้องกระมัง แจ้งทางจังหวัดไปอย่างนั้น ปรากฏว่า ม.ล.ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา กรมวังผู้ใหญ่ ท่านมาเลย บอกคุณหมอ ในหลวงรับสั่งกับผมว่า...

    "แล้วตึกฉันล่ะ จะไม่ให้ฉันเปิดหรือ"

    ผมได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ เราไม่ได้เตรียมอะไรเลย ท่านก็บอกว่าไม่ต้องเตรียม หมอมีป้ายไหม... มีครับ หมอหาพรมมาผืนหนึ่ง เพราะท่านจะประทับยืนทรงพระสุหร่าย ส่วนอื่น ๆ จะจัดมาจากกรุงเทพฯ แล้วก็หาสมุดอัลบั้มเล่มหนึ่งสำหรับทรงลงพระนามปรมาภิไธย

    นพ.บุญยงค์ : "ผมก็ทำอย่างที่แนะนำ เตรียมทุกอย่างเพียงชั่วโมงเดียว ลงทุน 35 บาท ซื้อสมุด 1 เล่ม ครั้นเสร็จพิธี ยังทรงพระราชทานเงินอีก 5 หมื่นบาท เพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็นอื่น ๆ"

    คำของในหลวงมีความหมายกับชีวิตผมทั้งชีวิต เมื่อพระองค์ท่านทรงทราบว่ามีคนที่ได้รับบาดเจ็บกลางสมรภูมิ พระองค์ท่านตัดสินพระราชหฤทัยเด็ดเดี่ยวที่จะไปพาตัวออกมาให้ได้ แน่นอนเหลือเกินว่ามันต้องยากและเสี่ยงกว่าเราที่เป็นผู้ที่ดูแลต่อ ความพยายาม ความเพียรของพระองค์ต้องมากจริง ๆ และเมื่อได้พบพระองค์ท่าน และมีพระราชดำรัสว่า ฉันไว้ใจเธอ ก็ยิ่งทวีความหมาย

    คุณหมอบุญยงค์ ใช้ชีวิตราชการที่น่านต่อเนื่องจากปี 2507 จนถึงปี 2537 เป็นนายแพทย์ที่ปฏิเสธความก้าวหน้าบนเส้นทางวิชาชีพ รวมถึงตำแหน่งสำคัญทางการเมือง เพื่อดูแลประชาชนจังหวัดน่าน ตามรอยพระยุคลบาทของพระองค์ท่าน น้อมนำพระกระแสรับสั่ง
    "ฉันไว้ใจเธอ" คำพูดเดียวที่จดจำ ไม่ลืมเลือน

    คัดลอกจาก หนังสือ ฅ.คน ฉบับ ๘๐ พรรษา พระราชาเหนือนิยาม เดือนธันวาคม 2550

    #KingBhumibol
    Cr.บทความจากไลน์

    ปล. อาจารย์มอบหนังสือให้ผมและบรรจงเขียนพร้อมลายเซ็นต์ให้ ท่านเล่าเรื่องราวให้ฟังมากมายเช่นเดียวกับบทความด้านบน และ ชี้ให้เราดูรูปในหลวงบนผนังบ้านอาจารย์ ..เห็นแล้วน้ำตาซึม..ในวันที่พวกเราไปกราบอาจารย์กันครับ
    21/10/67 "ฉันไว้ใจเธอ" คำพูดเดียว จดจำไม่ลืมเลือน เรื่องเล่าของ นพ.บุญยงค์ วงศ์รักมิตร อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เป็นบทความจาก หนังสือ ฅ.คน ฉบับ ๘๐ พรรษา พระราชาเหนือนิยาม เดือนธันวาคม 2550 เรื่องเกิดในปี 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมทหารที่กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ที่เชียงกลาง ในคราวนั้นเล่ากันว่ามีนายทหารเข้ามากราบบังคมทูลฯ ว่า มีทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส นำตัวออกจากแนวหน้าไม่ได้ พระองค์ก็เลยเสด็จฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ พร้อมสมเด็จพระราชินี นายทหารที่โดยเสด็จฯ ก็ต้องคุ้มกันกันอุตลุด ก็นำทหารที่บาดเจ็บออกมาได้ นพ.บุญยงค์ : "ผมจำได้แม่นยำ ชื่อ พลฯ บิน มาลิกา ถูกยิงไส้ไหล และที่โคนขา เสียเลือดมาก เดิมจะส่งตัวไปรักษาที่ รพ.พระมงกุฎ แต่ไม่ไหวต้องมารักษาที่ รพ.น่านก่อน" ชะตากรรมของพลทหารที่บาดเจ็บกลางสมรภูมิ ทำให้ชีวิตของคุณหมอผูกพันกับฟ้า การนำพลฯ บินมารับการรักษา ทำให้ในหลวงได้มีโอกาสเสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบ แล้วสิ่งที่หมอและพยาบาลทำการรักษาโดยไม่เห็นแก่เหนื่อยยาก ก็ทราบถึงพระเนตรพระกรรณ หลังเสด็จพระราชดำเนิน ได้ให้สมุหราชองครักษ์ พล.ร.อ. ม.จ.กาฬวรรณดิศ ดิศกุล นำหนังสือจากสำนักงานสมุหราชองครักษ์ แจ้งว่าในหลวงทรงพอพระราชหฤทัยกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ รพ.น่าน และมีพระประสงค์ที่จะสนับสนุนเครื่องมือแพทย์และความต้องการอื่น นพ.บุญยงค์ : "เราก็กราบบังคมทูลไปว่ามีอะไรบ้างที่เราขาดแคลน ทั้งเครื่องมือแพทย์ และการขยายอาคารเพื่อรับผู้บาดเจ็บ" หลังจากนั้นในหลวงก็ทรงมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากการสู้รบที่ รพ.น่าน อีกครั้ง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2511 นายแพทย์ผู้อำนวยการหนุ่มเข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูล ถวายรายงานอย่างฉาดฉาน สิ่งของพระราชทาน ได้แก่ เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ เครื่องดูดเลือดและน้ำจากปอด เครื่องรมยาสลบ เครื่องปรับอากาศ ประดิษฐานอยู่บนโต๊ะ ยังความปลาบปลื้มให้กับหมอหนุ่ม แต่ที่เหนืออื่นใด เมื่อพระองค์ท่านพระราชทานสิ่งของให้แล้วก็พระราชดำรัสว่า... “เงินที่ขอไปนั้น ฉันนำมามอบให้แล้ว ขอให้หมอดำเนินการก่อสร้างเองนะ ไม่ต้องผ่านราชการ ฉันไว้ใจเธอ” นพ.บุญยงค์ : "คำว่า ฉันไว้ใจเธอ ใครได้ฟังแล้วจะรู้สึกอย่างไร ท่านเป็นกษัตริย์ เราเป็นหมอบ้านนอก โอ้โฮ ใจเราในเวลานั้น เมื่อพระองค์ท่านรับสั่งแบบนี้ ย่อมมีผลต่อการทำงานต่าง ๆ มากมายโดยไม่อาจบิดพลิ้ว" นายแพทย์หนุ่มยังมีอันต้องสะดุ้งใจซ้ำเป็นคำรบสอง เมื่อทรงกำชับว่า "สร้างเสร็จแล้วให้บอกด้วยนะ จะมาเปิด" นพ.บุญยงค์ : "ยิ่งสะดุ้งมากขึ้นเพราะผมขอพระราชทานเงินไปสองแสนสี่ เพื่อใช้ต่อเติมอาคารไม้ให้รองรับผู้ป่วยได้อีก 20-25 คน เอาแค่พอใช้ได้ ไม่ได้คิดว่าจะทาสีด้วยซ้ำไป แต่พอพระองค์ท่านบอกว่าจะมาเปิด โอ้โฮ นึกไม่ออกเลยว่าจะทำอย่างไร" แต่ปัญหาทั้งมวลก็ลุล่วงไปได้ด้วยความช่วยเหลือของคนไข้รายหนึ่ง "คนไข้ที่เราดูแลเขามาพบ พาลูกชายมาด้วยชื่อ ทองจุล สิงหกุล เป็น ผอ. กรมโยธาฯ พอถามว่า คุณหมอมีอะไรให้ช่วยเหลือก็ขอให้บอก ผมบอกเลยว่ามีแน่ครับ ผมได้เงินพระราชทานมาขยายอาคาร ต้องเขียนแปลน ตอนนี้จะทำเป็นไม้แค่พอใช้ไม่ได้แล้ว เขาก็ช่วยเหลือเรื่องแบบ หาช่างรับเหมามาทำให้อย่างดีเลย ยิ่งรู้ว่าเป็นเงินพระราชทาน ผู้รับเหมาถึงขนาดควบคุมดูแลการก่อสร้างอย่างดี" ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างก็ได้ขอพระราชทานนาม ได้รับพระราชทานนามอาคารใหม่ว่า "พิทักษ์ไทย" เป็นอาคารที่ใช้รองรับผู้บาดเจ็บจากการสู้รบต่อเนื่องมาอีกหลายปี ปีถัดมา ภายหลังอาคารใหม่สร้างเสร็จแล้ว เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่จังหวัดน่านได้กราบบังคมทูลเชิญในหลวง เพื่อทรงเป็นองค์ประธานในการเปิดอาคารศาลากลางจังหวัด และอาคารโรงเรียนราชานุบาล ทางจังหวัดก็ถามผมว่า จะให้กราบบังคมทูลเชิญเพื่อทรงเปิดอาคารตึกพิทักษ์ไทยด้วยไหม ผมก็เห็นว่าพระองค์ท่านต้องเสด็จฯ ถึงสองแห่งแล้ว ก็บอกไปว่าคงไม่ต้องกระมัง แจ้งทางจังหวัดไปอย่างนั้น ปรากฏว่า ม.ล.ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา กรมวังผู้ใหญ่ ท่านมาเลย บอกคุณหมอ ในหลวงรับสั่งกับผมว่า... "แล้วตึกฉันล่ะ จะไม่ให้ฉันเปิดหรือ" ผมได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ เราไม่ได้เตรียมอะไรเลย ท่านก็บอกว่าไม่ต้องเตรียม หมอมีป้ายไหม... มีครับ หมอหาพรมมาผืนหนึ่ง เพราะท่านจะประทับยืนทรงพระสุหร่าย ส่วนอื่น ๆ จะจัดมาจากกรุงเทพฯ แล้วก็หาสมุดอัลบั้มเล่มหนึ่งสำหรับทรงลงพระนามปรมาภิไธย นพ.บุญยงค์ : "ผมก็ทำอย่างที่แนะนำ เตรียมทุกอย่างเพียงชั่วโมงเดียว ลงทุน 35 บาท ซื้อสมุด 1 เล่ม ครั้นเสร็จพิธี ยังทรงพระราชทานเงินอีก 5 หมื่นบาท เพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็นอื่น ๆ" คำของในหลวงมีความหมายกับชีวิตผมทั้งชีวิต เมื่อพระองค์ท่านทรงทราบว่ามีคนที่ได้รับบาดเจ็บกลางสมรภูมิ พระองค์ท่านตัดสินพระราชหฤทัยเด็ดเดี่ยวที่จะไปพาตัวออกมาให้ได้ แน่นอนเหลือเกินว่ามันต้องยากและเสี่ยงกว่าเราที่เป็นผู้ที่ดูแลต่อ ความพยายาม ความเพียรของพระองค์ต้องมากจริง ๆ และเมื่อได้พบพระองค์ท่าน และมีพระราชดำรัสว่า ฉันไว้ใจเธอ ก็ยิ่งทวีความหมาย คุณหมอบุญยงค์ ใช้ชีวิตราชการที่น่านต่อเนื่องจากปี 2507 จนถึงปี 2537 เป็นนายแพทย์ที่ปฏิเสธความก้าวหน้าบนเส้นทางวิชาชีพ รวมถึงตำแหน่งสำคัญทางการเมือง เพื่อดูแลประชาชนจังหวัดน่าน ตามรอยพระยุคลบาทของพระองค์ท่าน น้อมนำพระกระแสรับสั่ง "ฉันไว้ใจเธอ" คำพูดเดียวที่จดจำ ไม่ลืมเลือน คัดลอกจาก หนังสือ ฅ.คน ฉบับ ๘๐ พรรษา พระราชาเหนือนิยาม เดือนธันวาคม 2550 #KingBhumibol Cr.บทความจากไลน์ ปล. อาจารย์มอบหนังสือให้ผมและบรรจงเขียนพร้อมลายเซ็นต์ให้ ท่านเล่าเรื่องราวให้ฟังมากมายเช่นเดียวกับบทความด้านบน และ ชี้ให้เราดูรูปในหลวงบนผนังบ้านอาจารย์ ..เห็นแล้วน้ำตาซึม..ในวันที่พวกเราไปกราบอาจารย์กันครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เรียกร้องให้กองทัพ "เสริมสร้างการฝึกและเตรียมพร้อมสำหรับสงครามอย่างครอบคลุม"

    เขากล่าวถ้อยคำดังกล่าวระหว่างการเยือนกองพลทหารจรวดของกองทัพปลดปล่อยประชาชน

    เพียงไม่กี่วันหลังจากการซ้อมรบครั้งใหญ่ทั่วไต้หวัน, สีจิ้นผิงก็เพิ่มจุดยืนที่ก้าวร้าวมากขึ้น

    เขาเรียกร้องให้ทหาร "เพิ่มความสามารถในการยับยั้งเชิงกลยุทธ์และการต่อสู้"

    "มุ่งพลังงานทั้งหมด[ของคุณ]ไปที่การต่อสู้, ทำงานหนักในการต่อสู้ และพัฒนาศักยภาพ[ของคุณ]ในการเอาชนะ," สี จิ้นผิง กล่าวเสริม
    .
    JUST IN: Chinese President Xi Jinping has called on his military to "comprehensively strengthen training and preparation for war."

    He made these remarks during a visit to a brigade of the People's Liberation Army Rocket Force.

    Just days after massive military drills around Taiwan, Xi is doubling down on his aggressive stance.

    He urged soldiers to "enhance their strategic deterrent and combat capability."

    “Focus all [your] energy on fighting, work hard on fighting and improve [your] capability to win,” Xi added.
    .
    Last edited 11:06 PM · Oct 19, 2024 · 2.2M Views
    https://x.com/HANKonX/status/1847670768173265256
    ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เรียกร้องให้กองทัพ "เสริมสร้างการฝึกและเตรียมพร้อมสำหรับสงครามอย่างครอบคลุม" เขากล่าวถ้อยคำดังกล่าวระหว่างการเยือนกองพลทหารจรวดของกองทัพปลดปล่อยประชาชน เพียงไม่กี่วันหลังจากการซ้อมรบครั้งใหญ่ทั่วไต้หวัน, สีจิ้นผิงก็เพิ่มจุดยืนที่ก้าวร้าวมากขึ้น เขาเรียกร้องให้ทหาร "เพิ่มความสามารถในการยับยั้งเชิงกลยุทธ์และการต่อสู้" "มุ่งพลังงานทั้งหมด[ของคุณ]ไปที่การต่อสู้, ทำงานหนักในการต่อสู้ และพัฒนาศักยภาพ[ของคุณ]ในการเอาชนะ," สี จิ้นผิง กล่าวเสริม . JUST IN: Chinese President Xi Jinping has called on his military to "comprehensively strengthen training and preparation for war." He made these remarks during a visit to a brigade of the People's Liberation Army Rocket Force. Just days after massive military drills around Taiwan, Xi is doubling down on his aggressive stance. He urged soldiers to "enhance their strategic deterrent and combat capability." “Focus all [your] energy on fighting, work hard on fighting and improve [your] capability to win,” Xi added. . Last edited 11:06 PM · Oct 19, 2024 · 2.2M Views https://x.com/HANKonX/status/1847670768173265256
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 48 0 รีวิว
Pages Boosts