• ..ผลงานของการไม่ยุบอำนาจรัฐบาลที่ไม่มีนายกฯประจำตำแหน่งคือว่างนายกฯนั่นเอง,ผลงานของกฎหมายเลือกตั้งของรัฐบาลทหารยึดอำนาจที่พากันเขียนขึ้น,นายกฯไม่ต้องเลือกทางตรงจากประชาชน,นายกฯไม่ซื่อสัตย์พ้นสภาพก็ให้แกนนำรัฐบาลเอานายกฯตัวใหม่มานั่งปกครองนั่งทับอำนาจได้ปกติ ไม่ยุบสภาเลือกตั้งใหม่อะไร ,นี้คือความบัดสบของการปกครองอนุรักษ์นิยมอำมาตย์ศักดินาเก่าชนชั้น,แม้หวาดกลัวพรรคอนาคตใหม่พรรคก้าวไกลที่ต่างชาติสนับสนุนชูสามนิ้วหมายล้มสถาบันก็ไม่จำเป็นทำเหี้ยเอาพรรคเพื่อไทยชูเล่นเป็นหัวโขนหุ่นเชิดแบบนี้,ประเทศชาติเสียหายเห็นตำตาบ้างมั้ย,เปิดหน้าชกกับฝรั่งเลย,ยึดอำนาจสภา.สส.สว.ไปเลย,ให้คณะมวลมหาชนแบบคณะรวมพลังแผ่นดินไทยไปเป็นนายกฯบริหารประเทศแทนในภาวะพิเศษก็ได้,ประชาชนยึดอำนาจก็ว่าโดยมีทหารถวายพานแทน,ไม่ถูกประจานประนามประฌามจากทั้งโลกด้วย มามุกตัดสิทธิเราประเทศไทยก็ไม่ได้ในเวทีโลกเพราะทำในนามมวลมหาประชาชนมิใช่ทหาร,กปปส.ยังถวายพานให้ทหารตบโต๊ะเบาๆพอเป็นพิธีว่า ฉันยึดอำนาจนะ, คณะรวมพลังแผ่นดินไทยก็ตบเท้าดังๆว่าเรามหาประชาชนคนไทยยึดอำนาจนะ,ทหารก็ออกปฏิบัติการแล้วถวายพานมาให้ประชาชนบ้างจะเป็นอะไร,
    ..จากพ.ค.คดีก็ลากยาวมามิย.จากมิ.ย. ก็ลากยาวหามุกเป็นก.ค. สิงหาจบพะนะ,คือเหี้ยไม่เด็ดขาดจัดการจริงนั้นเอง,นายกฯพ้นสภาพ รัฐบาลต้องพักงานทั้งหมดด้วย,สส.สว.ต้องถูกพักงานด้วย สภา.ต้องถูกพักงานด้วยทั้งหมด ,จากนั้นต้องสรรหาคณะใหม่จริงขึ้นมารักษารัฐบาลชั่วคราว จะไม่มีประโยชน์ทับซ้อนอีก ไม่เอาอำนาจเก่าใดๆมาขัดขวางคณะใหม่ได้อีก,ทีมงานบริหารชาติจะสามัคคีกันเพราะคนละชุดเลย,ชุดเก่ามันคนเดอะแก๊งเก่าจะไปหาความสามัคคีในทางความเป็นจริงยาก,คนของใครคนของมันนั้นเอง.
    ..ปัจจุบันพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า ยิ่งเป็นทีมเดิมยิ่งบรรลัยแม้สถานะนายกฯจะถูกตัดสินไปแบบนั้นแล้วก็ตาม.,ทหารทางพรมแดนเรามีครอบครัวมีคนที่รอเขากลับบ้านนะ,เช่นนั้น ส่ง สส.สว คนทั้งสภา คน ครม.ไปนั่งนอนกินประชุมตรงพื้นที่ขัดแย่งจริงสัก7วันเลย,คนพวกนี้ต้องเอาออกจากห้องแอร์มาดูงานหน้างานจริงๆเลย,เพราะอธิปไตยของแผ่นดินไทย ทุกๆคนมีส่วนรวมทั้งหมด ยิ่งทั้งสภานั้นก็ยิ่งเป็นแบบอย่างให้เห็นอีกด้วย.,

    https://youtube.com/watch?v=MKrWHjtZA60&si=t1DYtbyI18Ch78Bl
    ..ผลงานของการไม่ยุบอำนาจรัฐบาลที่ไม่มีนายกฯประจำตำแหน่งคือว่างนายกฯนั่นเอง,ผลงานของกฎหมายเลือกตั้งของรัฐบาลทหารยึดอำนาจที่พากันเขียนขึ้น,นายกฯไม่ต้องเลือกทางตรงจากประชาชน,นายกฯไม่ซื่อสัตย์พ้นสภาพก็ให้แกนนำรัฐบาลเอานายกฯตัวใหม่มานั่งปกครองนั่งทับอำนาจได้ปกติ ไม่ยุบสภาเลือกตั้งใหม่อะไร ,นี้คือความบัดสบของการปกครองอนุรักษ์นิยมอำมาตย์ศักดินาเก่าชนชั้น,แม้หวาดกลัวพรรคอนาคตใหม่พรรคก้าวไกลที่ต่างชาติสนับสนุนชูสามนิ้วหมายล้มสถาบันก็ไม่จำเป็นทำเหี้ยเอาพรรคเพื่อไทยชูเล่นเป็นหัวโขนหุ่นเชิดแบบนี้,ประเทศชาติเสียหายเห็นตำตาบ้างมั้ย,เปิดหน้าชกกับฝรั่งเลย,ยึดอำนาจสภา.สส.สว.ไปเลย,ให้คณะมวลมหาชนแบบคณะรวมพลังแผ่นดินไทยไปเป็นนายกฯบริหารประเทศแทนในภาวะพิเศษก็ได้,ประชาชนยึดอำนาจก็ว่าโดยมีทหารถวายพานแทน,ไม่ถูกประจานประนามประฌามจากทั้งโลกด้วย มามุกตัดสิทธิเราประเทศไทยก็ไม่ได้ในเวทีโลกเพราะทำในนามมวลมหาประชาชนมิใช่ทหาร,กปปส.ยังถวายพานให้ทหารตบโต๊ะเบาๆพอเป็นพิธีว่า ฉันยึดอำนาจนะ, คณะรวมพลังแผ่นดินไทยก็ตบเท้าดังๆว่าเรามหาประชาชนคนไทยยึดอำนาจนะ,ทหารก็ออกปฏิบัติการแล้วถวายพานมาให้ประชาชนบ้างจะเป็นอะไร, ..จากพ.ค.คดีก็ลากยาวมามิย.จากมิ.ย. ก็ลากยาวหามุกเป็นก.ค. สิงหาจบพะนะ,คือเหี้ยไม่เด็ดขาดจัดการจริงนั้นเอง,นายกฯพ้นสภาพ รัฐบาลต้องพักงานทั้งหมดด้วย,สส.สว.ต้องถูกพักงานด้วย สภา.ต้องถูกพักงานด้วยทั้งหมด ,จากนั้นต้องสรรหาคณะใหม่จริงขึ้นมารักษารัฐบาลชั่วคราว จะไม่มีประโยชน์ทับซ้อนอีก ไม่เอาอำนาจเก่าใดๆมาขัดขวางคณะใหม่ได้อีก,ทีมงานบริหารชาติจะสามัคคีกันเพราะคนละชุดเลย,ชุดเก่ามันคนเดอะแก๊งเก่าจะไปหาความสามัคคีในทางความเป็นจริงยาก,คนของใครคนของมันนั้นเอง. ..ปัจจุบันพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า ยิ่งเป็นทีมเดิมยิ่งบรรลัยแม้สถานะนายกฯจะถูกตัดสินไปแบบนั้นแล้วก็ตาม.,ทหารทางพรมแดนเรามีครอบครัวมีคนที่รอเขากลับบ้านนะ,เช่นนั้น ส่ง สส.สว คนทั้งสภา คน ครม.ไปนั่งนอนกินประชุมตรงพื้นที่ขัดแย่งจริงสัก7วันเลย,คนพวกนี้ต้องเอาออกจากห้องแอร์มาดูงานหน้างานจริงๆเลย,เพราะอธิปไตยของแผ่นดินไทย ทุกๆคนมีส่วนรวมทั้งหมด ยิ่งทั้งสภานั้นก็ยิ่งเป็นแบบอย่างให้เห็นอีกด้วย., https://youtube.com/watch?v=MKrWHjtZA60&si=t1DYtbyI18Ch78Bl
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ธนาธร' ชำแหละงบประมาณประเทศ ชี้ 'ทุกรัฐบาล' จัดเหมือนเดิม-ไม่พาไทยไปไหน จี้รื้อใหม่เพื่ออนาคต 10 ปี
    https://www.thai-tai.tv/news/20400/
    .
    #ธนาธร #งบประมาณประเทศ #พรรคอนาคตใหม่ #คณะก้าวหน้า #เศรษฐกิจไทย #ลดความเหลื่อมล้ำ #งบประมาณ2569 #นโยบายระยะยาว
    'ธนาธร' ชำแหละงบประมาณประเทศ ชี้ 'ทุกรัฐบาล' จัดเหมือนเดิม-ไม่พาไทยไปไหน จี้รื้อใหม่เพื่ออนาคต 10 ปี https://www.thai-tai.tv/news/20400/ . #ธนาธร #งบประมาณประเทศ #พรรคอนาคตใหม่ #คณะก้าวหน้า #เศรษฐกิจไทย #ลดความเหลื่อมล้ำ #งบประมาณ2569 #นโยบายระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • กู่ไม่กลับ! 'ธนาธร' ชี้ทหารไม่ควรให้ความเห็นเรื่องชายแดน ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน

    ///////////

    "ธนาธร" เชื่อยังไม่สายเกินไป แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ขอทั้งสองฝ่ายร่วมกันส่งเสียงดังๆ ต้องการความร่วมมือ-สันติภาพ แนะรัฐบาลต้องอดทน แม้ถูกยั่วยุ ย้ำโต๊ะเจรจา JBC ยังจำเป็น เพื่อทำให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รับประชาชนเรียกร้องนายกฯที่เป็นทหาร เหตุรัฐบาลพลเรือนคุมสถานการณ์ไม่ได้

    18 กรกฎาคม 2568 - ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านรายการ Exclusive Talk : ผ่าทางตัน ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น ถึงปัญหาชายแดนไทย กัมพูชาในขณะนี้ คิดว่าจะบานปลายหรือไม่ หรือควรแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ว่า ตนไม่กลัวเบื้องหลัง กลัวเบื้องหน้ามากกว่า ขอเกมของกัมพูชา คือต้องการสร้างความได้เปรียบในเวทีโลก ผ่านศาลโลก
    หรือกระบวนการของ UNGA UNHC ซึ่งเขาต้องการดันไปสู่จุดนั้น โดยใช้การสร้างความชอบธรรม

    ดังนั้น สิ่งที่เขาต้องการคือการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว ท่าทีของรัฐบาลไทย หรือกองทัพไทย จึงต้องอดทนอดกลั้น เป็นผู้ใหญ่ และไม่ไปตกหลุมเขา เราต้องไม่เริ่มก่อน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความขัดแย้งก่อตัวขึ้น มีการปะทะ จนนำมาสู่การบาดเจ็บล้นตาย เกิดการใช้ความรุนแรง ซึ่งก็จะเข้าทางเขา
    นายธนาธร มองว่า ความสำคัญของเรื่องนี้ ในวันนี้คือเบื้องหน้า ไม่ใช่เบื้องหลัง คือเราจะทำอย่างไร ให้สถานการณ์อ่อนลง ทำให้สถานการณ์กลับไปเป็นปกติได้เร็วที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้รัฐบาลพลเรือน ผ่านกลไก JBC ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาพูดคุยกัน เพื่อทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ
    นายธนาธร ระบุว่า การที่สถานการณ์ตึงเครียด เป็นเพราะรัฐบาลพลาดในกรณีคลิปเสียง ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง ซึ่งเป็นโจทย์ของตัวเอง จึงต้องทำท่าทีขึงขัง และนี่ก็เป็นสิ่งที่ตนกลัว เพราะถ้าทีขึงขังนี้ เกิดจากการที่ต้องการแก้ปัญหาทางการเมืองของตัวเอง แต่สิ่งที่เราต้องการคือต้องการลดความตึงเครียด ลดความรุนแรง ผ่านโต๊ะเจรจา เพราะหากเกิดอะไรขึ้น จะกลายเป็นข้ออ้าง ที่เขาสามารถใช้ในเวทีโลก และทำให้เราเสียเปรียบ ส่วนแปลกใจหรือไม่ ที่ผลโพลล่าสุด ออกมาว่านายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการ คือพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นทหาร นายธนาธร ระบุว่า ตนติดใจเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกัน มากกว่าเรื่องนี้ คือเรื่องการกลับเข้ามาไว้วางใจทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกังวล เนื่องจากประเทศไทยมีความหลากหลายเยอะมาก หลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรมเต็มไปหมด สิ่งที่เราต้องการคือสันติภาพ การอยู่ร่วมกัน การเคารพในตัวตน และศรัทธาของกันและกัน เราไม่ได้ต้องการสงคราม
    ดังนั้น สิ่งที่ตนเป็นกังวลก็คือ การใช้ความรู้สึก หรือสถานการณ์มาสร้างอารมณ์ความรู้สึก ชาตินิยมที่ล้นเกิน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังในสังคม เมื่อเมล็ดพันธุ์ของความเกลียดชังเบ่งบาน ก็จะเอาไม่ลง เพราะหากเมล็ดพันธุ์การแบ่งแยกผู้คน ที่ทำให้ผู้คนเกลียดกลัวกัน ระแวงกัน ด้วยการใช้ศาสนา ชาติพันธุ์ หรืออะไรก็ตาม มันนำมาสู่ ความเกลียดชังกันเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคนที่เดือดร้อน คือคนตัวเล็กตัวน้อยหน้างานของทั้งสองฝั่ง แต่คนที่ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
    จากการเบ่งบานของเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง ที่นั่งอยู่ที่กรุงพนมเปญ ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เสียอะไร

    เมื่อถามว่า ไม่ได้คิดบ้างหรือว่าเนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ประชาชนพึ่งพาไม่ได้เช่นนี้ จึงทำให้คนโหยหาทหาร นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอนที่สุดเราไม่ปฏิเสธว่า การที่รัฐบาลตอบโต้กัมพูชาในช่วงหลายเดือนก่อน น้อยเกินไป ช้าเกินไป แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง
    หากจะให้พูดกันตรงๆ คือทหารไม่สามารถออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ และไม่ควรจะให้ความเห็น ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ สะท้อนปัญหาการเมืองไทย ว่ารัฐบาลพลเรือนไม่สามารถแก้ปัญหาสถานการณ์กองทัพได้ แม้ว่าขณะนี้ รัฐบาลพลเรือนจะแก้ข้อผิดพลาดด้วยการมอบอำนาจให้กับทหาร
    เรื่องนี้ยังไม่สายเกินไป ว่าเราต้องการสันติภาพ นี่คือพี่น้องกัน เดินข้ามถนน เดินข้ามพรมแดน ก็พี่น้องกันแล้ว ความร่วมมือจะนำมาซึ่งการสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางวัฒนธรรมที่ดีกว่า เราอยากเห็นความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนบ้านเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ที่เผชิญหน้ากัน ดังนั้น เราต้องส่งเสียงทั้งสองฝ่าย ว่าสิ่งที่เราแสวงหารร่วมกัน คือ ความร่วมมือ และสันติภาพ ไม่ใช่ความเกลียดชัง และ
    สงคราม ส่งเสียงให้ดังๆ" นายธนาธร กล่าว
    กู่ไม่กลับ! 'ธนาธร' ชี้ทหารไม่ควรให้ความเห็นเรื่องชายแดน ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน /////////// "ธนาธร" เชื่อยังไม่สายเกินไป แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ขอทั้งสองฝ่ายร่วมกันส่งเสียงดังๆ ต้องการความร่วมมือ-สันติภาพ แนะรัฐบาลต้องอดทน แม้ถูกยั่วยุ ย้ำโต๊ะเจรจา JBC ยังจำเป็น เพื่อทำให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รับประชาชนเรียกร้องนายกฯที่เป็นทหาร เหตุรัฐบาลพลเรือนคุมสถานการณ์ไม่ได้ 18 กรกฎาคม 2568 - ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านรายการ Exclusive Talk : ผ่าทางตัน ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น ถึงปัญหาชายแดนไทย กัมพูชาในขณะนี้ คิดว่าจะบานปลายหรือไม่ หรือควรแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ว่า ตนไม่กลัวเบื้องหลัง กลัวเบื้องหน้ามากกว่า ขอเกมของกัมพูชา คือต้องการสร้างความได้เปรียบในเวทีโลก ผ่านศาลโลก หรือกระบวนการของ UNGA UNHC ซึ่งเขาต้องการดันไปสู่จุดนั้น โดยใช้การสร้างความชอบธรรม ดังนั้น สิ่งที่เขาต้องการคือการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว ท่าทีของรัฐบาลไทย หรือกองทัพไทย จึงต้องอดทนอดกลั้น เป็นผู้ใหญ่ และไม่ไปตกหลุมเขา เราต้องไม่เริ่มก่อน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความขัดแย้งก่อตัวขึ้น มีการปะทะ จนนำมาสู่การบาดเจ็บล้นตาย เกิดการใช้ความรุนแรง ซึ่งก็จะเข้าทางเขา นายธนาธร มองว่า ความสำคัญของเรื่องนี้ ในวันนี้คือเบื้องหน้า ไม่ใช่เบื้องหลัง คือเราจะทำอย่างไร ให้สถานการณ์อ่อนลง ทำให้สถานการณ์กลับไปเป็นปกติได้เร็วที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้รัฐบาลพลเรือน ผ่านกลไก JBC ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาพูดคุยกัน เพื่อทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ นายธนาธร ระบุว่า การที่สถานการณ์ตึงเครียด เป็นเพราะรัฐบาลพลาดในกรณีคลิปเสียง ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง ซึ่งเป็นโจทย์ของตัวเอง จึงต้องทำท่าทีขึงขัง และนี่ก็เป็นสิ่งที่ตนกลัว เพราะถ้าทีขึงขังนี้ เกิดจากการที่ต้องการแก้ปัญหาทางการเมืองของตัวเอง แต่สิ่งที่เราต้องการคือต้องการลดความตึงเครียด ลดความรุนแรง ผ่านโต๊ะเจรจา เพราะหากเกิดอะไรขึ้น จะกลายเป็นข้ออ้าง ที่เขาสามารถใช้ในเวทีโลก และทำให้เราเสียเปรียบ ส่วนแปลกใจหรือไม่ ที่ผลโพลล่าสุด ออกมาว่านายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการ คือพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นทหาร นายธนาธร ระบุว่า ตนติดใจเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกัน มากกว่าเรื่องนี้ คือเรื่องการกลับเข้ามาไว้วางใจทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกังวล เนื่องจากประเทศไทยมีความหลากหลายเยอะมาก หลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรมเต็มไปหมด สิ่งที่เราต้องการคือสันติภาพ การอยู่ร่วมกัน การเคารพในตัวตน และศรัทธาของกันและกัน เราไม่ได้ต้องการสงคราม ดังนั้น สิ่งที่ตนเป็นกังวลก็คือ การใช้ความรู้สึก หรือสถานการณ์มาสร้างอารมณ์ความรู้สึก ชาตินิยมที่ล้นเกิน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังในสังคม เมื่อเมล็ดพันธุ์ของความเกลียดชังเบ่งบาน ก็จะเอาไม่ลง เพราะหากเมล็ดพันธุ์การแบ่งแยกผู้คน ที่ทำให้ผู้คนเกลียดกลัวกัน ระแวงกัน ด้วยการใช้ศาสนา ชาติพันธุ์ หรืออะไรก็ตาม มันนำมาสู่ ความเกลียดชังกันเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคนที่เดือดร้อน คือคนตัวเล็กตัวน้อยหน้างานของทั้งสองฝั่ง แต่คนที่ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ จากการเบ่งบานของเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง ที่นั่งอยู่ที่กรุงพนมเปญ ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เสียอะไร เมื่อถามว่า ไม่ได้คิดบ้างหรือว่าเนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ประชาชนพึ่งพาไม่ได้เช่นนี้ จึงทำให้คนโหยหาทหาร นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอนที่สุดเราไม่ปฏิเสธว่า การที่รัฐบาลตอบโต้กัมพูชาในช่วงหลายเดือนก่อน น้อยเกินไป ช้าเกินไป แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง หากจะให้พูดกันตรงๆ คือทหารไม่สามารถออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ และไม่ควรจะให้ความเห็น ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ สะท้อนปัญหาการเมืองไทย ว่ารัฐบาลพลเรือนไม่สามารถแก้ปัญหาสถานการณ์กองทัพได้ แม้ว่าขณะนี้ รัฐบาลพลเรือนจะแก้ข้อผิดพลาดด้วยการมอบอำนาจให้กับทหาร เรื่องนี้ยังไม่สายเกินไป ว่าเราต้องการสันติภาพ นี่คือพี่น้องกัน เดินข้ามถนน เดินข้ามพรมแดน ก็พี่น้องกันแล้ว ความร่วมมือจะนำมาซึ่งการสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางวัฒนธรรมที่ดีกว่า เราอยากเห็นความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนบ้านเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ที่เผชิญหน้ากัน ดังนั้น เราต้องส่งเสียงทั้งสองฝ่าย ว่าสิ่งที่เราแสวงหารร่วมกัน คือ ความร่วมมือ และสันติภาพ ไม่ใช่ความเกลียดชัง และ สงคราม ส่งเสียงให้ดังๆ" นายธนาธร กล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ทักษิณ’ ซัดพรรคส้ม จะอภิปรายพาดพิงเพื่ออะไร ตนไม่ได้เป็นรัฐมนตรี สอนเป็นพรรคคนรุ่นใหม่อย่าทำอะไรที่น่ารำคาญ เดี๋ยวจะเสียไปอีกพรรค ย้อนถามจะซักฟอกปมชักใย ได้ปรึกษาคนก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่หรือยัง วันนี้นายก อบจ.ลำพูนมีใครไปดูแล

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000024812
    ‘ทักษิณ’ ซัดพรรคส้ม จะอภิปรายพาดพิงเพื่ออะไร ตนไม่ได้เป็นรัฐมนตรี สอนเป็นพรรคคนรุ่นใหม่อย่าทำอะไรที่น่ารำคาญ เดี๋ยวจะเสียไปอีกพรรค ย้อนถามจะซักฟอกปมชักใย ได้ปรึกษาคนก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่หรือยัง วันนี้นายก อบจ.ลำพูนมีใครไปดูแล อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000024812
    Like
    Haha
    Love
    Angry
    13
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1561 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนชนะกี่โมง? ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์"
    ฟันธงรัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ
    .
    ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ยอดนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศสายส้ม วิเคราะห์สงครามยูเครนแบบมั่นหน้า ด้วยการฟันธงว่า รัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ ปูตินจะถูกรัฐประหารเงียบ จนชาวเน็ตผู้มาจากอนาคตเข้าไปรุมคอมเมนต์เดือด เตือนความทรงจำ ถามเมื่อไหร่รัสเซียจะแพ้-ยูเครนจะชนะ?
    .
    ในสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่ผันผวนภายหลังการยกหูโทรศัพท์พูดคุยกันนานกว่า 90 นาทีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 โดยในประเด็นสงครามยูเครนนั้น นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการสังหารและการทำลายล้างที่ไม่จำเป็นเลย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนชาวรัสเซียและยูเครน!”
    .
    การเริ่มต้นพูดคุยระหว่าง ทรัมป์และปูติน อันนำมาสู่เหตุการณ์เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 สหรัฐฯ และรัสเซียนำโดย นายมาร์ค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งดำเนินการเปิดโต๊ะการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนกันเพียง 2 ฝ่าย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปราศจากตัวแทนของยูเครน และชาติต่าง ๆ ในยุโรปร่วมโต๊ะเลย แม้แต่คนเดียว
    .
    สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนและผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปอย่างมาก เพราะการเปิดโต๊ะเจรจาดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ยูเครนและยุโรปน่าจะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และพ่ายแพ้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางซากปรักหักพัง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เข้ารุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การแย่งชิงบีบบังคับเอาทรัพยากรเพื่อชดใช้เงินช่วยเหลือในสงคราม ความวุ่นวายทางการเมืองภายใน รวมไปถึงปัญหาสังคมและผู้อพยพ ฯลฯ
    .
    ในส่วนของผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องสงครามยูเครนในประเทศไทยส่วนหนึ่ง ได้มีผู้ย้อนไปหยิบยกการวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเป็นพิธีกรรายการข่าวทางช่องวอยซ์ทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกคณะก้าวหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้ในยูทูปช่อง คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ความยาวกว่า 25 นาที ในหัวเรื่องว่า "ช่อฟันธง! รัสเซียแพ้ย่อยยับ ปูตินชักศึกเข้าบ้าน!" (ลิงก์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ytfIw1BHnEM)
    .
    ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว "ช่อ พรรณิการ์" แห่งคณะก้าวหน้าได้กล่าวในตอนต้นว่า "ดิฉันขอฟันธง รัสเซียเธอแพ้แน่นอน นับวันแพ้ ทำไมถึงจะแพ้ เป็นเพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร?"
    .
    จากนั้น อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าววิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุที่รัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปนั้นมาจาก การบีบบังคับด้วยการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ-การเงินต่อยุโรป
    "มาตรการหลัก ๆ ที่ตอนนี้นำโดยสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ใช้อยู่จริง ๆ คือ มาตรการการเงิน ซึ่งมากไปกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจการค้านะ แต่เรียกว่าเป็นการทุบค่าเงินและตัดตอนทางการเงินแบบขนานใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา นานาประเทศตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T., ระบบการเงินของธนาคารต่าง ๆ, มีการฟรีซแอสเสท หรือสินทรัพย์ของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงประกาศไม่ให้มีการค้าขายกับรัสเซีย ..." น.ส.พรรณิการ์กล่าว และวิเคราะห์ต่อว่า นี่เองเป็นสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงอย่างมาก จนแทบจะไม่มีค่า แทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ
    .
    นอกจากนี้ ช่อ พรรณิการ์ ยังวิเคราะห์ต่ออย่างออกรสด้วยว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทีของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เลือกจะทำตามมาตรการคว่ำบาตรของอียู คือ การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียที่อยู่ในแบงก์สวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ใช่แค่การอายัดเฉพาะทรัพย์สินของรัฐ แต่เป็นทรัพย์สินของเอกชน และมหาเศรษฐีต่าง ๆ ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนายปูตินด้วยจะเป็นปัจจัยชี้ขายให้รัสเซียและนายปูตินพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
    .
    "ดิฉันคิดว่า เมื่อสวิตเซอร์แลนด์ทำขนาดนี้แล้ว ปูตินนับวันแพ้ได้เลยนะคะ" โฆษกคณะก้าวหน้าฟันธง
    .
    ล่วงเลยมาถึงวันนี้ เมื่อทีมงาน Sondhi X กลับไปสำรวจความเห็นของผู้ที่เข้ามาชมคลิปการวิเคราะห์สถานการณ์โลกดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ ทางยูทูปของคณะก้าวหน้าแล้วก็พบว่า มีผู้เข้าไปย้อนดูคลิปดังกล่าวและแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น
    • สวัสดีเรามาจากอนาคต 2025 ตอนนี้ทรัมป์กับปูตินเจรจากันแล้วนะเรื่องยูเครนโดยไม่มีไอ้กี้ หรือใช้คำว่าไม่เห็นหัวไอ้กี้ ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนไอ้กี้ก็หัวซุกหัวซุนเกาะยุโรปที่เหลืออย่างแนบแน่น จริงแล้วตอนนี้ ยูเครนต้องเลือกปธน.ใหม่แล้วนะ แต่ไอ้กี้ไม่ยอม และไม่ฟังเสียงปชช.เลย โคจรหวงอำนาจเลย ยังไงรบกวนคุณช่อประท้วงแทนปชช.ชาวยูเครนด้วยนะ หรือส่งให้ว่าที่ เลขา UN ด้วยนะครับ
    • เมื่อไรจะแพ้ รออยู่นะคับ
    • ทายแค่ ซ้ายขวายังผิดยังคิดจะมาบริหารประเทศ อายมั้ยส้ม
    • 20-2-2025 ทายผิดจนขนลุก ยูเครนเละโดนรุมทึ้งแบ่งเค้กผลประโยชน์ของชาติ แถมไม่มีสิทธิแม้แต่เข้าร่วมเจรจาสันติภาพเลือกชะตากรรมของชาติตัวเอง
    • ยูเครนชนะยังครับ รอจนเมื่อยแล้ว
    • สรุปทำไมวิเคราะห์ผิดหมดเลย ไม่มีข้อมูลเพียงพอรอบด้าน หรือไม่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ ถ้าได้บริหารประเทศวิเคราะห์ผิดแบบนี้แย่แน่นอน
    • สวัสดีเรามาจากอนาคต สภาพ ผิดทุกเรื่องตรงข้ามทุกอย่าง 5555
    • วิเคราะห์มาถึงขนาดนี้ ปัจจุบันคุณเห็นหรือยังใครเป็นคนทำสงคราม นาโต้ทำสงครามกับรัสเซีย ยูเครนเป็นสนามรบ ผู้สนับสนุนหลักคืออเมริกา
    รัสเซียบุกยูเครน ก็เพราะนาโต้ขยายอาณาเขตเข้ามาในยูเครน รัสเซียแค่ป้องกันตนเองจากกลุ่มนาโต้ มีหัวเรือเป็นสหรัฐอเมริกา ตัวตลกยูเครนคือหุ่นเชิด
    • ธงหักหมดแล้ว จากคนเคยเลือกและลาขาด
    .
    สำหรับคลิปการวิเคราะห์ดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ เรื่องสงครามยูเครน นับถึงเวลา 20.00น. ที่ผ่านมาของวันที่ 20 ก.พ. 68 มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.49 ล้านครั้ง
    ยูเครนชนะกี่โมง? ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ฟันธงรัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ . ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ยอดนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศสายส้ม วิเคราะห์สงครามยูเครนแบบมั่นหน้า ด้วยการฟันธงว่า รัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ ปูตินจะถูกรัฐประหารเงียบ จนชาวเน็ตผู้มาจากอนาคตเข้าไปรุมคอมเมนต์เดือด เตือนความทรงจำ ถามเมื่อไหร่รัสเซียจะแพ้-ยูเครนจะชนะ? . ในสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่ผันผวนภายหลังการยกหูโทรศัพท์พูดคุยกันนานกว่า 90 นาทีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 โดยในประเด็นสงครามยูเครนนั้น นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการสังหารและการทำลายล้างที่ไม่จำเป็นเลย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนชาวรัสเซียและยูเครน!” . การเริ่มต้นพูดคุยระหว่าง ทรัมป์และปูติน อันนำมาสู่เหตุการณ์เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 สหรัฐฯ และรัสเซียนำโดย นายมาร์ค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งดำเนินการเปิดโต๊ะการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนกันเพียง 2 ฝ่าย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปราศจากตัวแทนของยูเครน และชาติต่าง ๆ ในยุโรปร่วมโต๊ะเลย แม้แต่คนเดียว . สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนและผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปอย่างมาก เพราะการเปิดโต๊ะเจรจาดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ยูเครนและยุโรปน่าจะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และพ่ายแพ้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางซากปรักหักพัง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เข้ารุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การแย่งชิงบีบบังคับเอาทรัพยากรเพื่อชดใช้เงินช่วยเหลือในสงคราม ความวุ่นวายทางการเมืองภายใน รวมไปถึงปัญหาสังคมและผู้อพยพ ฯลฯ . ในส่วนของผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องสงครามยูเครนในประเทศไทยส่วนหนึ่ง ได้มีผู้ย้อนไปหยิบยกการวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเป็นพิธีกรรายการข่าวทางช่องวอยซ์ทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกคณะก้าวหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้ในยูทูปช่อง คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ความยาวกว่า 25 นาที ในหัวเรื่องว่า "ช่อฟันธง! รัสเซียแพ้ย่อยยับ ปูตินชักศึกเข้าบ้าน!" (ลิงก์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ytfIw1BHnEM) . ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว "ช่อ พรรณิการ์" แห่งคณะก้าวหน้าได้กล่าวในตอนต้นว่า "ดิฉันขอฟันธง รัสเซียเธอแพ้แน่นอน นับวันแพ้ ทำไมถึงจะแพ้ เป็นเพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร?" . จากนั้น อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าววิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุที่รัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปนั้นมาจาก การบีบบังคับด้วยการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ-การเงินต่อยุโรป "มาตรการหลัก ๆ ที่ตอนนี้นำโดยสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ใช้อยู่จริง ๆ คือ มาตรการการเงิน ซึ่งมากไปกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจการค้านะ แต่เรียกว่าเป็นการทุบค่าเงินและตัดตอนทางการเงินแบบขนานใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา นานาประเทศตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T., ระบบการเงินของธนาคารต่าง ๆ, มีการฟรีซแอสเสท หรือสินทรัพย์ของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงประกาศไม่ให้มีการค้าขายกับรัสเซีย ..." น.ส.พรรณิการ์กล่าว และวิเคราะห์ต่อว่า นี่เองเป็นสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงอย่างมาก จนแทบจะไม่มีค่า แทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ . นอกจากนี้ ช่อ พรรณิการ์ ยังวิเคราะห์ต่ออย่างออกรสด้วยว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทีของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เลือกจะทำตามมาตรการคว่ำบาตรของอียู คือ การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียที่อยู่ในแบงก์สวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ใช่แค่การอายัดเฉพาะทรัพย์สินของรัฐ แต่เป็นทรัพย์สินของเอกชน และมหาเศรษฐีต่าง ๆ ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนายปูตินด้วยจะเป็นปัจจัยชี้ขายให้รัสเซียและนายปูตินพ่ายแพ้อย่างแน่นอน . "ดิฉันคิดว่า เมื่อสวิตเซอร์แลนด์ทำขนาดนี้แล้ว ปูตินนับวันแพ้ได้เลยนะคะ" โฆษกคณะก้าวหน้าฟันธง . ล่วงเลยมาถึงวันนี้ เมื่อทีมงาน Sondhi X กลับไปสำรวจความเห็นของผู้ที่เข้ามาชมคลิปการวิเคราะห์สถานการณ์โลกดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ ทางยูทูปของคณะก้าวหน้าแล้วก็พบว่า มีผู้เข้าไปย้อนดูคลิปดังกล่าวและแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น • สวัสดีเรามาจากอนาคต 2025 ตอนนี้ทรัมป์กับปูตินเจรจากันแล้วนะเรื่องยูเครนโดยไม่มีไอ้กี้ หรือใช้คำว่าไม่เห็นหัวไอ้กี้ ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนไอ้กี้ก็หัวซุกหัวซุนเกาะยุโรปที่เหลืออย่างแนบแน่น จริงแล้วตอนนี้ ยูเครนต้องเลือกปธน.ใหม่แล้วนะ แต่ไอ้กี้ไม่ยอม และไม่ฟังเสียงปชช.เลย โคจรหวงอำนาจเลย ยังไงรบกวนคุณช่อประท้วงแทนปชช.ชาวยูเครนด้วยนะ หรือส่งให้ว่าที่ เลขา UN ด้วยนะครับ • เมื่อไรจะแพ้ รออยู่นะคับ • ทายแค่ ซ้ายขวายังผิดยังคิดจะมาบริหารประเทศ อายมั้ยส้ม • 20-2-2025 ทายผิดจนขนลุก ยูเครนเละโดนรุมทึ้งแบ่งเค้กผลประโยชน์ของชาติ แถมไม่มีสิทธิแม้แต่เข้าร่วมเจรจาสันติภาพเลือกชะตากรรมของชาติตัวเอง 😂 • ยูเครนชนะยังครับ รอจนเมื่อยแล้ว • สรุปทำไมวิเคราะห์ผิดหมดเลย ไม่มีข้อมูลเพียงพอรอบด้าน หรือไม่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ ถ้าได้บริหารประเทศวิเคราะห์ผิดแบบนี้แย่แน่นอน • สวัสดีเรามาจากอนาคต สภาพ ผิดทุกเรื่องตรงข้ามทุกอย่าง 5555 • วิเคราะห์มาถึงขนาดนี้ ปัจจุบันคุณเห็นหรือยังใครเป็นคนทำสงคราม นาโต้ทำสงครามกับรัสเซีย ยูเครนเป็นสนามรบ ผู้สนับสนุนหลักคืออเมริกา รัสเซียบุกยูเครน ก็เพราะนาโต้ขยายอาณาเขตเข้ามาในยูเครน รัสเซียแค่ป้องกันตนเองจากกลุ่มนาโต้ มีหัวเรือเป็นสหรัฐอเมริกา ตัวตลกยูเครนคือหุ่นเชิด • ธงหักหมดแล้ว จากคนเคยเลือกและลาขาด . สำหรับคลิปการวิเคราะห์ดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ เรื่องสงครามยูเครน นับถึงเวลา 20.00น. ที่ผ่านมาของวันที่ 20 ก.พ. 68 มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.49 ล้านครั้ง
    Haha
    Like
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1436 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณ-ธนาธร โต้เดือด อย่ารื้อโครงสร้าง ม.112 สวนกลับไม่เคยพูด-ตั้งแง่ร่วมรัฐบาล
    .
    ทักษิณให้สัมภาษณ์พาดพิงธนาธร เคยคุยเรื่องมาตรา 112 ว่าตัวเองก็โดน ขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ด้านธนาธรโต้ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับทักษิณ และไม่ใช่เงื่อนไขร่วมรัฐบาล ทักษิณก็รู้ดี เหน็บแทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา
    .
    วันนี้ (15 พ.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ว่า นายทักษิณรู้ดีที่สุด ว่าเหตุผลที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 สิ่งที่นายทักษิณกล่าว อาจทำให้คนทั่วเข้าใจไปได้ว่า ตนเคยคุยกับคุณทักษิณเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือมีความคิดรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันเรื่องนี้เลย การพูดคลุมเครือยังเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งต่อพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เพื่อพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่าเหตุที่ดีลร่วมรัฐบาลล่ม เป็นเพราะพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดราวาศอกเรื่อง 112
    .
    "มาตรา 112 ไม่ใช่เงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลเสนอให้การแก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และเมื่อถูกทักท้วงจากพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นแล้วก็ไม่ยอมถอย มาตรา 112 ไม่เคยอยู่ในเงื่อนไขตั้งแต่แรกต่างหาก ไม่มีอยู่ในเอ็มโอยูร่วมรัฐบาลที่เซ็นร่วมกันและเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะ คุณทักษิณรู้ดีที่สุด ไม่ใช่แกนนำพรรคก้าวไกลมุทะลุ ไม่มีวุฒิภาวะ แต่มีเหตุผลอื่นที่จะไม่ร่วมกัน แล้วใช้มาตรา 112 เป็นข้ออ้างต่างหาก ในทางกลับกัน คุณทักษิณเอง น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา" นายธนาธร กล่าว
    .
    นายธนาธร กล่าวว่า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ไม่เคยโฆษณาหรือใช้เรื่องมาตรา 112 เป็นประเด็นหลักในการรณรงค์เพื่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ซึ่งจะตอบหรือพูดเรื่องมาตรา 112 เมื่อถูกสื่อมวลชนหรือประชาชนถามเท่านั้น ตนทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่สั่งสมมาหลายสิบปีของประเทศไม่ใช่สิ่งที่ลัดขั้นตอนได้ แต่ต้องทำงานความคิดอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมเห็นชอบร่วมกัน และแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตนเห็นว่าถ้าไม่แก้ปัญหาโครงสร้าง ก็ปะผุประเทศไทยกันต่อไป ประเทศจะเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน มีแต่การให้คนในสังคมมีวุฒิภาวะพอ กล้ายอมรับปัญหา เผชิญหน้า และค่อยๆ พูดคุยหาทางออกร่วมกัน
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายทักษิณให้สัมภาษณ์ระหว่างช่วยหาเสียงตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ว่า คดีมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันไว้ว่า จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่แตะเรื่อง 112 แต่จริงๆ แล้วปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนก็เป็นเหยื่อรายหนึ่ง ในการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 คนที่รับคดีครั้งแรกบอกว่าเดี๋ยวจะหาว่าไม่จงรักภักดี ฟ้องไปก่อน ทั้งที่หลักฐานไม่มี คนที่สองไม่ฟ้องเดี๋ยวโดนอีก ก็ฟ้อง โดยที่ไม่ได้ดูความถูกต้องของพยานหลักฐาน จึงทำให้การจงรักภักดีและรักสถาบันฯ ไม่ถูกต้อง การจงรักภักดีที่ถูกต้อง คือการรักษากฎหมายที่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ง่ายในการแก้ซึ่งต้องใช้เวลา
    .
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ทั้งเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549, 2557 จนถึงพรรคการเมืองโดนยุบเพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเคยคุยกับนายธนาธร ว่าตนก็โดน 3 พรรค ต้องไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ดังนั้นขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ถ้าแก้ปัญหาด้วยหลักการ และเอาบ้านเมืองให้อยู่ได้จะดีที่สุด อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่คนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบันฯ เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธรหรือพรรคก้าวไกลไม่จงรักภักดี แต่ต้องยึดหลักให้ถูกต้อง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดที่โฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจที่จะทำ
    ..............
    Sondhi X
    ทักษิณ-ธนาธร โต้เดือด อย่ารื้อโครงสร้าง ม.112 สวนกลับไม่เคยพูด-ตั้งแง่ร่วมรัฐบาล . ทักษิณให้สัมภาษณ์พาดพิงธนาธร เคยคุยเรื่องมาตรา 112 ว่าตัวเองก็โดน ขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ด้านธนาธรโต้ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับทักษิณ และไม่ใช่เงื่อนไขร่วมรัฐบาล ทักษิณก็รู้ดี เหน็บแทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา . วันนี้ (15 พ.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ว่า นายทักษิณรู้ดีที่สุด ว่าเหตุผลที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 สิ่งที่นายทักษิณกล่าว อาจทำให้คนทั่วเข้าใจไปได้ว่า ตนเคยคุยกับคุณทักษิณเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือมีความคิดรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันเรื่องนี้เลย การพูดคลุมเครือยังเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งต่อพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เพื่อพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่าเหตุที่ดีลร่วมรัฐบาลล่ม เป็นเพราะพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดราวาศอกเรื่อง 112 . "มาตรา 112 ไม่ใช่เงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลเสนอให้การแก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และเมื่อถูกทักท้วงจากพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นแล้วก็ไม่ยอมถอย มาตรา 112 ไม่เคยอยู่ในเงื่อนไขตั้งแต่แรกต่างหาก ไม่มีอยู่ในเอ็มโอยูร่วมรัฐบาลที่เซ็นร่วมกันและเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะ คุณทักษิณรู้ดีที่สุด ไม่ใช่แกนนำพรรคก้าวไกลมุทะลุ ไม่มีวุฒิภาวะ แต่มีเหตุผลอื่นที่จะไม่ร่วมกัน แล้วใช้มาตรา 112 เป็นข้ออ้างต่างหาก ในทางกลับกัน คุณทักษิณเอง น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา" นายธนาธร กล่าว . นายธนาธร กล่าวว่า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ไม่เคยโฆษณาหรือใช้เรื่องมาตรา 112 เป็นประเด็นหลักในการรณรงค์เพื่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ซึ่งจะตอบหรือพูดเรื่องมาตรา 112 เมื่อถูกสื่อมวลชนหรือประชาชนถามเท่านั้น ตนทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่สั่งสมมาหลายสิบปีของประเทศไม่ใช่สิ่งที่ลัดขั้นตอนได้ แต่ต้องทำงานความคิดอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมเห็นชอบร่วมกัน และแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตนเห็นว่าถ้าไม่แก้ปัญหาโครงสร้าง ก็ปะผุประเทศไทยกันต่อไป ประเทศจะเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน มีแต่การให้คนในสังคมมีวุฒิภาวะพอ กล้ายอมรับปัญหา เผชิญหน้า และค่อยๆ พูดคุยหาทางออกร่วมกัน . ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายทักษิณให้สัมภาษณ์ระหว่างช่วยหาเสียงตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ว่า คดีมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันไว้ว่า จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่แตะเรื่อง 112 แต่จริงๆ แล้วปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนก็เป็นเหยื่อรายหนึ่ง ในการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 คนที่รับคดีครั้งแรกบอกว่าเดี๋ยวจะหาว่าไม่จงรักภักดี ฟ้องไปก่อน ทั้งที่หลักฐานไม่มี คนที่สองไม่ฟ้องเดี๋ยวโดนอีก ก็ฟ้อง โดยที่ไม่ได้ดูความถูกต้องของพยานหลักฐาน จึงทำให้การจงรักภักดีและรักสถาบันฯ ไม่ถูกต้อง การจงรักภักดีที่ถูกต้อง คือการรักษากฎหมายที่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ง่ายในการแก้ซึ่งต้องใช้เวลา . ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ทั้งเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549, 2557 จนถึงพรรคการเมืองโดนยุบเพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเคยคุยกับนายธนาธร ว่าตนก็โดน 3 พรรค ต้องไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ดังนั้นขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ถ้าแก้ปัญหาด้วยหลักการ และเอาบ้านเมืองให้อยู่ได้จะดีที่สุด อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่คนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบันฯ เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธรหรือพรรคก้าวไกลไม่จงรักภักดี แต่ต้องยึดหลักให้ถูกต้อง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดที่โฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจที่จะทำ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉีกหน้ากาก“ขิ่นแก้วตา”กับ“หม่องรังสิมันต์ โรม”
    สส.ไทยใจพม่าในพรรคประชาชน
    .
    จริงๆ แล้วผมไม่อยากพูดเรื่องนี้ แต่วันนี้ถึงจุดแตกหัก ต้องพูดแล้ว ทำไมผมถึงไม่อยากพูด รู้ไหม ? เพราะว่าคนที่ชื่อ "ธิษะณา ชุณหะวัณ" หรือที่เรียกว่า "แก้วตา" นั้น พ่อของเขาคือ "ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ" ซึ่งเป็นเพื่อนรักผม และปู่ของเขาคือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งผมเคารพนับถือและเราสนิทสนมกันมาก ครอบครัวนี้ แม้กระทั่งแม่ของเขา ชื่อ "โน" ก็รู้จักกันดี และเป็นหนึ่งในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ออกมาต่อสู้เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณ
    .
    แต่วันนี้ผมคิดว่าเด็กคนนี้ล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว และมันส่อวุฒิภาวะให้เห็นหลายๆมิติ มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่วันนี้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
    .
    มาดูคุณสมบัติ คุณวุฒิของคุณแก้วตากันหน่อย จบมหิดลอินเตอร์ เคยไปเรียนนอกตั้งแต่เด็ก แล้วไปจบ“SOAS”( School of Oriental and African Studies) University of London แต่คุณแก้วตายังอ่านตัวเลขมั่ว ผิดแล้วผิดอีก เรื่องนี้มันเป็นเรื่องตลก แต่มันไม่ตลกสำหรับผม และมิหนำซ้ำแล้วยังมีเรื่องเก่าๆ คุณไลฟ์สดถ่อย โชว์ถ่อย ด่าดับเพลิงกู้ภัย 22 มิถุนายน 2567 มันสะท้อนวุฒิภาวะของคุณ
    .
    ล่าสุดคุณธิษะณา ชุณหะวัณ อภิปรายเรื่องพม่า คำพูดของคุณไปเผยแพร่ต่อในโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook, YouTube, TikTok แล้วคนรับไม่ได้ พูดยังไง
    .
    "เรื่องพม่าอย่าหาทำครับ เอาให้คนไทยมีกิน มีใช้ คุณภาพชีวิตดีก่อน คิดจะช่วยประเทศอื่น คนไทยบางคนยังไม่มีบ้านอยู่ ยังไม่มีที่ทำมาหากิน แต่พวกคุณกลับเลือกที่จะช่วยพม่า คนไทยเป็นคนเลือกคุณให้เข้ามาทำงานให้ประชาชนชาวไทย ไม่ใช่พม่านะครับ ผมจะบอกว่าถ้ายังไม่สนใจ รอบหน้าผมไม่เลือกพวกคุณอีกแล้ว ไม่ต้องไปเลือกอีกแล้ว ไอ้พรรคส้มนี่"
    .
    “ เอาเรื่องคนภายในประเทศให้รอดก่อนดีไหม คุณ สส. ใจพม่า คุณมันคือจุดอ่อนของพรรค ทำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียง"
    .
    "คนต่างด้าวเข้ามาทำงาน นายจ้างให้เงินตอบแทนค่ะ เขาไม่ได้ใช้งานฟรี อย่าเรียกร้องอะไรให้เท่าเทียมคนไทย อยากเท่าเทียมให้ไปเรียกร้องสิทธิที่บ้านตัวเอง ไม่ควรได้สวัสดิการฟรีเหมือนคนไทย อยากเข้าโรงพยาบาลต้องจ่ายค่ารักษา อยากเรียนต้องจ่ายค่าเทอม ค่าสมุด ค่าหนังสือ ค่าอาหารเอง สุดท้ายนี้ ปัญหาในประเทศก็มากจนแก้ไม่ไหวอยู่แล้ว อย่าเพิ่มปัญหาให้คนในชาติอีกเลย เพราะมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลประทบจากคนต่างด้าวที่เข้ามาทำมาหากินในเมืองไทย เสียงเล็กๆ จากประชาชนที่เลือกคุณมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่"
    .
    ที่ผมอ่านให้ฟังนี่ก็คือแฟนคลับเก่าของพรรคอนาคตใหม่ที่เลือกคุณเข้ามา แล้วคุณไม่สังเกตหรือว่าวันนี้พรรคประชาชน (พม่า) เอาตีนก่ายหน้าผาก ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร เลยต้องออกคำสั่งให้ "หม่องรังสิมันต์ โรม" ออกมาชี้แจงตามทุกช่องทีวีหลักๆ ที่มันพยายามแก้ตัวว่า แก้ปัญหาพม่าเพื่อคนไทย ตรงไหนวะ ไอ้หม่อง มึงแก้แบบนี้เพื่อกระทืบคนไทย และวันนี้ พรรณิการ์ (ช่อ) วานิช ก็ออกมาแจ๊ดๆๆๆ แก้ตัวว่าพวกที่โจมตีนโยบายพม่าเป็นพวก IO… ใช่ IO เหรอ แฟนคลับคุณทั้งนั้น หยุดแก้ตัวได้แล้ว
    .
    พรรคของคุณนะ คุณแก้วตา เชื่อมโยงกับพรรค NLD ของอองซาน ซูจี ที่อเมริกันและอียูสนับสนุนอยู่ ด้วยเงินด้วยทอง ด้วยกำลังคนเข้าไปฝึกอาวุธให้ แล้วแอบส่งอาวุธเข้าไปให้พวก NLD เพื่อรบกับรัฐบาลของมิน อ่อง หล่าย สำหรับผมแล้วปัญหามันอยู่ที่ว่า พม่าลี้ภัยทางการเมืองเข้ามา แล้วเชื่อผมสิ ขบวนการนี้ เบื้องหลังก็คือตะวันตก และมันรู้ว่ามี สส.(เรือหาย)อย่างคุณแก้วตา คอยหนุนหลังมัน ซึ่งเบื้องหลังก็มีธนารธร จึงรุ่งเรืองกิจ และหม่องรังสิมันต์ โรม ตลอดจนผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาชน(พม่า)คอยสนับสนุนอยู่ เฮ้ย มาเลยๆ อยู่เมืองไทย เรามี สส. พรรคนี้ช่วยเราอยู่ตอนนี้
    .
    อะไรจะเกิดขึ้นล่ะถ้าพม่าเต็มบ้านเต็มเมือง ประเทศไทยวุ่นวาย ซึ่งมันก็สมใจพวกคุณแล้วใช่ไหม พวกพรรคประชาชน (พม่า) สมใจพวกคุณแล้วใช่ไหม เพราะคุณต้องการให้มีความวุ่นวาย ต้องการให้มันมีความฉิบหาย

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/N4prCnutKD6Uxh29/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ฉีกหน้ากาก“ขิ่นแก้วตา”กับ“หม่องรังสิมันต์ โรม” สส.ไทยใจพม่าในพรรคประชาชน . จริงๆ แล้วผมไม่อยากพูดเรื่องนี้ แต่วันนี้ถึงจุดแตกหัก ต้องพูดแล้ว ทำไมผมถึงไม่อยากพูด รู้ไหม ? เพราะว่าคนที่ชื่อ "ธิษะณา ชุณหะวัณ" หรือที่เรียกว่า "แก้วตา" นั้น พ่อของเขาคือ "ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ" ซึ่งเป็นเพื่อนรักผม และปู่ของเขาคือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งผมเคารพนับถือและเราสนิทสนมกันมาก ครอบครัวนี้ แม้กระทั่งแม่ของเขา ชื่อ "โน" ก็รู้จักกันดี และเป็นหนึ่งในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ออกมาต่อสู้เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณ . แต่วันนี้ผมคิดว่าเด็กคนนี้ล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว และมันส่อวุฒิภาวะให้เห็นหลายๆมิติ มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่วันนี้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ . มาดูคุณสมบัติ คุณวุฒิของคุณแก้วตากันหน่อย จบมหิดลอินเตอร์ เคยไปเรียนนอกตั้งแต่เด็ก แล้วไปจบ“SOAS”( School of Oriental and African Studies) University of London แต่คุณแก้วตายังอ่านตัวเลขมั่ว ผิดแล้วผิดอีก เรื่องนี้มันเป็นเรื่องตลก แต่มันไม่ตลกสำหรับผม และมิหนำซ้ำแล้วยังมีเรื่องเก่าๆ คุณไลฟ์สดถ่อย โชว์ถ่อย ด่าดับเพลิงกู้ภัย 22 มิถุนายน 2567 มันสะท้อนวุฒิภาวะของคุณ . ล่าสุดคุณธิษะณา ชุณหะวัณ อภิปรายเรื่องพม่า คำพูดของคุณไปเผยแพร่ต่อในโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook, YouTube, TikTok แล้วคนรับไม่ได้ พูดยังไง . "เรื่องพม่าอย่าหาทำครับ เอาให้คนไทยมีกิน มีใช้ คุณภาพชีวิตดีก่อน คิดจะช่วยประเทศอื่น คนไทยบางคนยังไม่มีบ้านอยู่ ยังไม่มีที่ทำมาหากิน แต่พวกคุณกลับเลือกที่จะช่วยพม่า คนไทยเป็นคนเลือกคุณให้เข้ามาทำงานให้ประชาชนชาวไทย ไม่ใช่พม่านะครับ ผมจะบอกว่าถ้ายังไม่สนใจ รอบหน้าผมไม่เลือกพวกคุณอีกแล้ว ไม่ต้องไปเลือกอีกแล้ว ไอ้พรรคส้มนี่" . “ เอาเรื่องคนภายในประเทศให้รอดก่อนดีไหม คุณ สส. ใจพม่า คุณมันคือจุดอ่อนของพรรค ทำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียง" . "คนต่างด้าวเข้ามาทำงาน นายจ้างให้เงินตอบแทนค่ะ เขาไม่ได้ใช้งานฟรี อย่าเรียกร้องอะไรให้เท่าเทียมคนไทย อยากเท่าเทียมให้ไปเรียกร้องสิทธิที่บ้านตัวเอง ไม่ควรได้สวัสดิการฟรีเหมือนคนไทย อยากเข้าโรงพยาบาลต้องจ่ายค่ารักษา อยากเรียนต้องจ่ายค่าเทอม ค่าสมุด ค่าหนังสือ ค่าอาหารเอง สุดท้ายนี้ ปัญหาในประเทศก็มากจนแก้ไม่ไหวอยู่แล้ว อย่าเพิ่มปัญหาให้คนในชาติอีกเลย เพราะมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลประทบจากคนต่างด้าวที่เข้ามาทำมาหากินในเมืองไทย เสียงเล็กๆ จากประชาชนที่เลือกคุณมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่" . ที่ผมอ่านให้ฟังนี่ก็คือแฟนคลับเก่าของพรรคอนาคตใหม่ที่เลือกคุณเข้ามา แล้วคุณไม่สังเกตหรือว่าวันนี้พรรคประชาชน (พม่า) เอาตีนก่ายหน้าผาก ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร เลยต้องออกคำสั่งให้ "หม่องรังสิมันต์ โรม" ออกมาชี้แจงตามทุกช่องทีวีหลักๆ ที่มันพยายามแก้ตัวว่า แก้ปัญหาพม่าเพื่อคนไทย ตรงไหนวะ ไอ้หม่อง มึงแก้แบบนี้เพื่อกระทืบคนไทย และวันนี้ พรรณิการ์ (ช่อ) วานิช ก็ออกมาแจ๊ดๆๆๆ แก้ตัวว่าพวกที่โจมตีนโยบายพม่าเป็นพวก IO… ใช่ IO เหรอ แฟนคลับคุณทั้งนั้น หยุดแก้ตัวได้แล้ว . พรรคของคุณนะ คุณแก้วตา เชื่อมโยงกับพรรค NLD ของอองซาน ซูจี ที่อเมริกันและอียูสนับสนุนอยู่ ด้วยเงินด้วยทอง ด้วยกำลังคนเข้าไปฝึกอาวุธให้ แล้วแอบส่งอาวุธเข้าไปให้พวก NLD เพื่อรบกับรัฐบาลของมิน อ่อง หล่าย สำหรับผมแล้วปัญหามันอยู่ที่ว่า พม่าลี้ภัยทางการเมืองเข้ามา แล้วเชื่อผมสิ ขบวนการนี้ เบื้องหลังก็คือตะวันตก และมันรู้ว่ามี สส.(เรือหาย)อย่างคุณแก้วตา คอยหนุนหลังมัน ซึ่งเบื้องหลังก็มีธนารธร จึงรุ่งเรืองกิจ และหม่องรังสิมันต์ โรม ตลอดจนผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาชน(พม่า)คอยสนับสนุนอยู่ เฮ้ย มาเลยๆ อยู่เมืองไทย เรามี สส. พรรคนี้ช่วยเราอยู่ตอนนี้ . อะไรจะเกิดขึ้นล่ะถ้าพม่าเต็มบ้านเต็มเมือง ประเทศไทยวุ่นวาย ซึ่งมันก็สมใจพวกคุณแล้วใช่ไหม พวกพรรคประชาชน (พม่า) สมใจพวกคุณแล้วใช่ไหม เพราะคุณต้องการให้มีความวุ่นวาย ต้องการให้มันมีความฉิบหาย ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/N4prCnutKD6Uxh29/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    3
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1562 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘จักรภพ’ แจงเหตุต้องหนี 15 ปี ทั้งที่คดีเคลียร์ง่ายนิดเดียว อ้างเพราะมีการขู่ฆ่า ส่งทีมลอบสังหาร บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ชี้เป็นคดีการเมือง เหมือนยุบพรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล-ไทยรักไทย
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000086915

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ‘จักรภพ’ แจงเหตุต้องหนี 15 ปี ทั้งที่คดีเคลียร์ง่ายนิดเดียว อ้างเพราะมีการขู่ฆ่า ส่งทีมลอบสังหาร บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ชี้เป็นคดีการเมือง เหมือนยุบพรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล-ไทยรักไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000086915 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    Angry
    Love
    Yay
    Wow
    Sad
    56
    7 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9478 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดปมที่มาความ คั่งของเจี๊ยบ
    เราจะเคยได้ยินวลีที่ว่า ไม่ได้มาแก้ไข แต่มาแก้ แ-ค้-น
    ที่เจี๊ยบใช้ตั้งแต่สมัยมาเป็นหัวโจกตัวแรกๆของพรรคอนาคตใหม่
    สามกีบก็ไม่รู้แหดรู้ตี๋เลยว่าอินี่หมายถึงอะไร
    แต่ก็เฮลั่น ลั่น หารู้ไม่ถูกอิเจี๊ยบอมเกียร์ใช้เป็นเครื่องมือ
    ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 20 ปีที่แล้ว
    ตอนนั้นเจี๊ยบก็ยังไม่เหี่ยวแบบนี้นะ
    แต่ก็จะสั้นๆแบบนี้ เวลาเดินกับใครต้องซอยเท้าถี่กว่าคนอื่นนิดนึง
    เจี๊ยบกว่าจะมีผรัวคนปัจจุบัน ผ่านมาหลายสนาม
    เจี๊ยบมีความรักกับชายผู้คิดมิดีต่อสถาบันอย่างสุดโต่ง
    ทั้งคลิป ทั้งปราศรัย ให้ความเท็จกระจายไปทั่ว
    โดยในเวลานั้น โทนี่ เป็นเจ้าของคลื่นวิทยุชุมชนทั่วประเทศ
    ปลุก ระ ดม ให้คนในชาติมุ่งร้ายต่อสถาบัน
    แต่ด้วยกรรมที่ก่อ ทำให้สุดท้าย หายตัวไป
    นอนคุยกับรากมะม่วงแบบไม่สมัครใจ จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้
    ว่าไปอยู่ใต้ต้นมะม่วงต้นไหน นี่แหละคือที่มา
    ของบรรทัดที่สองที่พิมพ์ไปแล้ว
    และที่เจี๊ยบไม่ยอมไปเพื่อไทย แต่กลับมาซุกก้าวไกล
    เพราะเพื่อไทย ยังสู้ไปกราบไปอยู่ ณ เวลานั้น
    รวมถึงโทนี่ ทิ้งสหายกลางทาง ไม่เหลียวแล
    จากที่เคยอัดฉีดให้สุรชัยเดือนละ 27 ล.บ.
    เรื่องการหายตัวไปของสุรชัย แซ่ด่าน
    ดังนั้น ในเวลานี้ที่ทั้งธนาธร หรือวิโรจน์
    ได้กลับลำมาอวยอิ๊งและโทนี่
    แต่เจี๊ยบอวยไม่ลง จึงพ่นคำต่างๆมาโพส
    เจี๊ยบก็ยังเหมือนเดิม โทษทหาร โทษสถาบัน โทษเพื่อไทย
    แต่ไม่เคยโทษตัวเอง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เปิดปมที่มาความ คั่งของเจี๊ยบ เราจะเคยได้ยินวลีที่ว่า ไม่ได้มาแก้ไข แต่มาแก้ แ-ค้-น ที่เจี๊ยบใช้ตั้งแต่สมัยมาเป็นหัวโจกตัวแรกๆของพรรคอนาคตใหม่ สามกีบก็ไม่รู้แหดรู้ตี๋เลยว่าอินี่หมายถึงอะไร แต่ก็เฮลั่น ลั่น หารู้ไม่ถูกอิเจี๊ยบอมเกียร์ใช้เป็นเครื่องมือ ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเจี๊ยบก็ยังไม่เหี่ยวแบบนี้นะ แต่ก็จะสั้นๆแบบนี้ เวลาเดินกับใครต้องซอยเท้าถี่กว่าคนอื่นนิดนึง เจี๊ยบกว่าจะมีผรัวคนปัจจุบัน ผ่านมาหลายสนาม เจี๊ยบมีความรักกับชายผู้คิดมิดีต่อสถาบันอย่างสุดโต่ง ทั้งคลิป ทั้งปราศรัย ให้ความเท็จกระจายไปทั่ว โดยในเวลานั้น โทนี่ เป็นเจ้าของคลื่นวิทยุชุมชนทั่วประเทศ ปลุก ระ ดม ให้คนในชาติมุ่งร้ายต่อสถาบัน แต่ด้วยกรรมที่ก่อ ทำให้สุดท้าย หายตัวไป นอนคุยกับรากมะม่วงแบบไม่สมัครใจ จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ ว่าไปอยู่ใต้ต้นมะม่วงต้นไหน นี่แหละคือที่มา ของบรรทัดที่สองที่พิมพ์ไปแล้ว และที่เจี๊ยบไม่ยอมไปเพื่อไทย แต่กลับมาซุกก้าวไกล เพราะเพื่อไทย ยังสู้ไปกราบไปอยู่ ณ เวลานั้น รวมถึงโทนี่ ทิ้งสหายกลางทาง ไม่เหลียวแล จากที่เคยอัดฉีดให้สุรชัยเดือนละ 27 ล.บ. เรื่องการหายตัวไปของสุรชัย แซ่ด่าน ดังนั้น ในเวลานี้ที่ทั้งธนาธร หรือวิโรจน์ ได้กลับลำมาอวยอิ๊งและโทนี่ แต่เจี๊ยบอวยไม่ลง จึงพ่นคำต่างๆมาโพส เจี๊ยบก็ยังเหมือนเดิม โทษทหาร โทษสถาบัน โทษเพื่อไทย แต่ไม่เคยโทษตัวเอง #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1084 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณิตศาสตร์การเมือง สนามเลือกตั้งราชบุรี

    การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2567 นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือกำนันตุ้ย อดีตนายก อบจ.ราชบุรี ได้ 242,297 คะแนน เอาชนะ นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หรือ หวุน ผู้สมัครจากพรรคประชาชน อดีตพรรคก้าวไกล ได้ 175,353 คะแนน ห่างกัน 66,944 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 455,400 คน คิดเป็น 67.31% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 676,526 คน มีบัตรดี 417,650 ใบ บัตรเสีย 16,500 ใบ และบัตรไม่เลือกผู้สมัครรายใด 21,250 ใบ คิดเป็น 4.67%

    เมื่อพิจารณาผลคะแนนเลือกตั้งแบบรายอำเภอทั้ง 10 อำเภอ พบว่านายชัยรัตน์มีคะแนนสูสีกับนายวิวัฒน์ในอำเภอเมืองราชบุรี นายชัยรัตน์ได้ 43,584 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 45,390 คะแนน ห่างกัน 1,806 คะแนน หรือ 3.98% และอำเภอสวนผึ้ง นายชัยรัตน์ได้ 7,468 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 8,027 คะแนน ห่างกัน 559 คะแนน หรือ 6.96% ส่วนอำเภอที่มีคะแนนห่างกันมากที่สุด คืออำเภอโพธาราม นายชัยรัตน์ได้ 27,833 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 46,354 คะแนน ห่างกัน 18,521 คะแนน หรือ 39.96%

    ถึงกระนั้น เมื่อเทียบกับผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน พบว่า นายวิวัฒน์ได้ 241,952 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 345 คะแนน ส่วนนางภรมน นรการกุมพล ผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าของนายธนาธร ได้ 74,929 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 100,424 คะแนน อันดับสาม นายอรรถพงศ์ ห้องริ้ว ผู้สมัครกลุ่ม New Gen ที่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน ได้ 54,153 คะแนน

    เนื่องจากการเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีครั้งนี้ พรรคประชาชนและผู้สนับสนุนคนสำคัญลงพื้นที่ อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ สส.พรรคคนอื่นๆ รวมทั้งสื่อมวลชนให้พื้นที่ข่าวนายชัยรัตน์ เปรียบได้กับสนามการเมืองระดับชาติ แต่นายวิวัฒน์แทบไม่มีพื้นที่ข่าวบนหน้าสื่อมวลชนเลย จึงต้องพิจารณาสนามเลือกตั้ง สส.ราชบุรี เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา

    แม้เก้าอี้ สส.แบบแบ่งเขตจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ 3 ที่นั่ง และพรรครวมไทยสร้างชาติ 2 ที่นั่ง แต่คะแนนบัตรเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พบว่า พรรคก้าวไกลนำเป็นอันดับหนึ่ง รวม 5 เขตได้ไป 233,608 คะแนน ส่วนอันดับ 2 เป็นของพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ได้ สส. แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มากถึง 102,757 คะแนน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 90,598 คะแนน และพรรคพลังประชารัฐ ได้ 10,192 คะแนน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คะแนนพรรคก้าวไกลหายไป 58,255 คะแนน

    นักการเมืองในพื้นที่ราชบุรีวิเคราะห์กันว่า คะแนนนิยมของนายชัยรัตน์และพรรคประชาชนช่วงแรก โดยเฉพาะหลังยุบพรรคก้าวไกลคะแนนดีมาก ทำให้ตระกูลนิติกาญจนาหวั่นไหวพอสมควร แต่ถูกโจมตีจากการปราศรัยพาดพิงโรงเรียนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ขณะที่หลายกลุ่มการเมืองในราชบุรีช่วยกันจับมือช่วยนายวิวัฒน์สู้กับพรรคประชาชน หลังพรรคก้าวไกลแม้ไม่ได้ สส.เขต แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่ง จึงช่วยกันสกัดไม่ให้พรรคประชาชนแจ้งเกิดการเมืองท้องถิ่นที่นี่

    #Newskit #อบจราชบุรี #เลือกตั้งราชบุรี
    คณิตศาสตร์การเมือง สนามเลือกตั้งราชบุรี การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2567 นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือกำนันตุ้ย อดีตนายก อบจ.ราชบุรี ได้ 242,297 คะแนน เอาชนะ นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หรือ หวุน ผู้สมัครจากพรรคประชาชน อดีตพรรคก้าวไกล ได้ 175,353 คะแนน ห่างกัน 66,944 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 455,400 คน คิดเป็น 67.31% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 676,526 คน มีบัตรดี 417,650 ใบ บัตรเสีย 16,500 ใบ และบัตรไม่เลือกผู้สมัครรายใด 21,250 ใบ คิดเป็น 4.67% เมื่อพิจารณาผลคะแนนเลือกตั้งแบบรายอำเภอทั้ง 10 อำเภอ พบว่านายชัยรัตน์มีคะแนนสูสีกับนายวิวัฒน์ในอำเภอเมืองราชบุรี นายชัยรัตน์ได้ 43,584 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 45,390 คะแนน ห่างกัน 1,806 คะแนน หรือ 3.98% และอำเภอสวนผึ้ง นายชัยรัตน์ได้ 7,468 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 8,027 คะแนน ห่างกัน 559 คะแนน หรือ 6.96% ส่วนอำเภอที่มีคะแนนห่างกันมากที่สุด คืออำเภอโพธาราม นายชัยรัตน์ได้ 27,833 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 46,354 คะแนน ห่างกัน 18,521 คะแนน หรือ 39.96% ถึงกระนั้น เมื่อเทียบกับผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน พบว่า นายวิวัฒน์ได้ 241,952 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 345 คะแนน ส่วนนางภรมน นรการกุมพล ผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าของนายธนาธร ได้ 74,929 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 100,424 คะแนน อันดับสาม นายอรรถพงศ์ ห้องริ้ว ผู้สมัครกลุ่ม New Gen ที่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน ได้ 54,153 คะแนน เนื่องจากการเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีครั้งนี้ พรรคประชาชนและผู้สนับสนุนคนสำคัญลงพื้นที่ อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ สส.พรรคคนอื่นๆ รวมทั้งสื่อมวลชนให้พื้นที่ข่าวนายชัยรัตน์ เปรียบได้กับสนามการเมืองระดับชาติ แต่นายวิวัฒน์แทบไม่มีพื้นที่ข่าวบนหน้าสื่อมวลชนเลย จึงต้องพิจารณาสนามเลือกตั้ง สส.ราชบุรี เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา แม้เก้าอี้ สส.แบบแบ่งเขตจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ 3 ที่นั่ง และพรรครวมไทยสร้างชาติ 2 ที่นั่ง แต่คะแนนบัตรเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พบว่า พรรคก้าวไกลนำเป็นอันดับหนึ่ง รวม 5 เขตได้ไป 233,608 คะแนน ส่วนอันดับ 2 เป็นของพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ได้ สส. แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มากถึง 102,757 คะแนน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 90,598 คะแนน และพรรคพลังประชารัฐ ได้ 10,192 คะแนน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คะแนนพรรคก้าวไกลหายไป 58,255 คะแนน นักการเมืองในพื้นที่ราชบุรีวิเคราะห์กันว่า คะแนนนิยมของนายชัยรัตน์และพรรคประชาชนช่วงแรก โดยเฉพาะหลังยุบพรรคก้าวไกลคะแนนดีมาก ทำให้ตระกูลนิติกาญจนาหวั่นไหวพอสมควร แต่ถูกโจมตีจากการปราศรัยพาดพิงโรงเรียนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ขณะที่หลายกลุ่มการเมืองในราชบุรีช่วยกันจับมือช่วยนายวิวัฒน์สู้กับพรรคประชาชน หลังพรรคก้าวไกลแม้ไม่ได้ สส.เขต แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่ง จึงช่วยกันสกัดไม่ให้พรรคประชาชนแจ้งเกิดการเมืองท้องถิ่นที่นี่ #Newskit #อบจราชบุรี #เลือกตั้งราชบุรี
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1941 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรค เ..ี้ย ต-า-ย-น-้ำ-ตื้-น
    #ไม่ได้ดูแหดดูตี๋
    ชุ่ยแล้ว ชุ่ยอยู ชุ่ยต่อไป
    ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ชุ่ยจนธนาธรถูกตัดสิทธิ์ เพราะไม่ดูว่ากฏหมายเค้าห้ามมีชื่อในหุ้นบริษัทแบบไหน
    จนปัจจุบัน ไปเซ๊งพรรคถิ่นกาขาว โดยไม่ได้ดูแหดดูตี๋
    ว่ากฏหมายกกต.ระบุชัดว่า พรรคการเมืองต้องมีครบทุกภาค กรณีที่แหว่งไปภาคใดภาคหนึ่ง ยาวเกิน 1 ปี ถือว่าพรรคนั้นสิ้นสภาพการเป็นพรรคการเมือง
    ยังไม่พอ ชุ่ยที่หนักสุดคือ
    เปิดรับบริจาคให้พรรคชื่อ พรรคประชาชน ออกใบเสร็จในนามพรรคประชาชน
    แต่พรรคชื่อประชาชน ยังไม่ได้ประกาศในราชกิจจา
    สถานะคือ พรรคเถื่อน ไม่มีอยู่ในสาระบบ
    ลามไปถึง การรับบริจาค ที่ถือว่ามิชอบด้วยกฏหมาย
    ถึงขั้น ห-ล-อ-ก-ล-ว-ง ปชช
    ไว้รออ่านในโพสถัดไป เดี๋ยวยาวเกิน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    พรรค เ..ี้ย ต-า-ย-น-้ำ-ตื้-น #ไม่ได้ดูแหดดูตี๋ ชุ่ยแล้ว ชุ่ยอยู ชุ่ยต่อไป ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ชุ่ยจนธนาธรถูกตัดสิทธิ์ เพราะไม่ดูว่ากฏหมายเค้าห้ามมีชื่อในหุ้นบริษัทแบบไหน จนปัจจุบัน ไปเซ๊งพรรคถิ่นกาขาว โดยไม่ได้ดูแหดดูตี๋ ว่ากฏหมายกกต.ระบุชัดว่า พรรคการเมืองต้องมีครบทุกภาค กรณีที่แหว่งไปภาคใดภาคหนึ่ง ยาวเกิน 1 ปี ถือว่าพรรคนั้นสิ้นสภาพการเป็นพรรคการเมือง ยังไม่พอ ชุ่ยที่หนักสุดคือ เปิดรับบริจาคให้พรรคชื่อ พรรคประชาชน ออกใบเสร็จในนามพรรคประชาชน แต่พรรคชื่อประชาชน ยังไม่ได้ประกาศในราชกิจจา สถานะคือ พรรคเถื่อน ไม่มีอยู่ในสาระบบ ลามไปถึง การรับบริจาค ที่ถือว่ามิชอบด้วยกฏหมาย ถึงขั้น ห-ล-อ-ก-ล-ว-ง ปชช ไว้รออ่านในโพสถัดไป เดี๋ยวยาวเกิน #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นับจากนี้ไปคนไทยจะตาสว่างเสียที
    ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส ในประเทศไทย
    มีมาโดยตลอด แต่อดีตจะทำแบบแอบๆทำ รู้กันเฉพาะกลุ่ม
    ภายใต้หนังสือและเว็บไซต์ที่ชื่อฟ้าเดียวกันที่มีเนื้อหา
    ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ร้ายต่อสถาบันกษัตรย์
    คาดว่าในเวลานั้น ธนาธรใช้ทุนส่วนตัวในการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระโตกกระตากนัก โดยมีนายชัยธวัชหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้ายก่อนถูกยุบเป็นบรรณาธิการอย่างเปิดเผย
    แต่วันหนึ่ง ธนาธร ช่อ และปิยบุตร เหมือนได้พลังวิเศษ
    คิดใหญ่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงแรก
    คนไทยยังรู้สึกถึงความหวังว่าการเมืองในประเทศไทย
    น่าจะเปลี่ยนไปได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่
    ทำให้ได้คะแนนเสียงมากอย่างน่าตกใจ
    รวมถึงการนำระบบไอโอบอท มาใช้ก่อนใคร
    ปั้นกระแสทวิตเตอร์ กำหนดเทรนให้มีแต่เรื่องราวของพรรคอนาคตใหม่
    ทำให้สื่อทุกสำนักวนเวียนอยู่แต่กับพรรคและคนของพรรคอนาคตใหม่เวลานั้น จนทำให้เกิดอุปทานหมู่ เวลาใครไปคอมเม้นตรงข้าม ก็ใช้บอทไอโอเข้าไปถล่ม จนคนคิดต่างไม่กล้าไปยุ่งเพราะเข้าใจว่า บอทไอโอคือคนจริงๆ
    เกิดปรากฏการคอมเม้นเป็นรูปส้มพร้อมกัน
    แต่เรื่องก็มาแตก ที่วิโรจน์ถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์มือถือหลายสิบเครื่องที่เป็นอุปกรณ์บอทไอโอที่นำเข้าระบบมาจากเวียดนาม
    แต่ตอนนี้ ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและป้องกันบอทไอโอและลบแอคเค้าบอทออกจากระบบแทบเกลี้ยง ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ไลฟ์สดของหัวหน้าพรรคเอง หรือนายพิธาก็ยังมีคนดูแค่สามสี่ร้อยคน
    ยังรวมไปถึงการที่พรรคก้าวไกลไม่กล้าทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อกฏหมาย
    ก็ยังมีงบจำนวนมหาศาลที่มีหลักฐานและพยานว่าบุ้งได้รับมาจากการส่งภาพการก่อความวุ่นวายจากสมุน และได้ตังมาก็เอามาเปย์ผู้ และให้เด็กในสังกัดกินอดๆอยากๆ แต่ต้นทางน้ำมานั้น จำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่ตรวจสอบบัญชีเพนกวิ้น มีไม่ต่ำกว่า ุ60 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับเซิทหาได้เป็นข้อมูลจากทางการไทยเองและทรายเจริญปุระ ก็เคยออกมาคอนเฟิร์มเองด้วยซ้ำ
    คำถามว่า งบทำบอทไอโอ งบสร้างความวุ่นวายในนามกลุ่มทะลุวัง หรือ งบในการสร้างพรรค มันเอามาจากไหนกันนะ
    ก็พบว่ามีการสืบเส้นทางการเงินมีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งของต่างชาติ เป็นจุดเชื่อมโยงเงินจากบางคนในสหรัฐเข้ากระเป๋าคนเหล่านี้
    จนในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิด ด้วยการที่ผู้นำจิตวิญญาณของอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ต่างเข้านอกออกในสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทยเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยเพนกวิ้นเช่นกัน
    จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข
    องค์กรแอมเนสตี้ ถึงขนาดออกอาการเหิมเกริม สั่งศาลรัฐธรรมนูญให้รีบกลับคำตัดสิน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการละเมิดศาลจากองค์กรต่างชาติแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย
    นอกจากนั้น ทูต 18 ประเทศ ที่ทำเกินหน้าที่การเป็นทูตประจำประเทศไทย รวมไปถึง สว.สหรัฐก็ออกมาขู่ศาลไทย อย่างกร่างๆ
    ดังนั้น ที่คิงส์โพธิ์แดงเคยให้ข้อมูลว่า เมกาคือผู้อยู่เ้บื้องหลัง
    ความพยายามในการก้าวก่าย และให้การสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มคนที่ให้ร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตรย์มาโดยตลอดนั้น ก็คือสหรัฐอเมริกา
    ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขม.112 นั้น มีความชัดเจนแม้ว่าหากตัดข้อนี้ไปพรรคอื่นๆก็พร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะเหตุใดทั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงยืนยันในจุดยืนนี้มาตลอด
    นั่นก็เพราะงบประมาณที่ให้การสนับสนุน ก็ให้มาทำเรื่องนี้โดยตรง
    เพราะการที่แก้ไขม112 โดยการให้ร้าย บิดเบือน พระมหากษัตย์ได้โดยผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยท ก็คุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะปั้นแต่งปลุกปั่นให้คนไทยรุ่นใหม่ มีความชิงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสหรัฐไม่มีฐานทัพในโซนนี้ หากได้ประเทศไทยในการตั้งฐานทัพด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ก็จะสามารถส่งจรวดไปจีนได้ในระยะวิถีกรณีมีความขัดแย้งกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ (ซึ่งข้อมูลเรื่องสหรัฐมีเป้าหมายตั้งฐานทัพในประเทศไทย มีหลักฐานอยู่ทั้งที่วิทยาลัยป้องกันราชอนาจักร และฝ่ายความมั่นคงจำนวนไม่น้อย)
    ....และโดยเฉพาะตอนนี้ จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้ใช้สูตรทางเศรษฐกิจและการลงทุนเข้ามาขายอนาเขตแบบเนียนๆทั้งกำพูชา สปปลาว และพม่าแล้ว เหลือแค่ไทยที่ขยับเข้ามาได้ยากกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากนักแต่ก็มาแล้วพอสมควรทีเดียว
    แต่สหรัฐที่ยังไม่สามารถมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือยึดประเทศไทยได้นั้น เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรที่ทรงอยู่เหนือการเมือง เป็นผู้ทรงให้ทรงเมตตาต่อพสกนิกรในทุกยุคทุกรัชสมัยจวบถึงปัจจุบัน มีผู้จงรักษภักดีต่อพระองค์ที่รักษาปกป้องไว้ซึ่งสามสถาบันหลักที่ยืนหยัดมั่นคงในความเป็นชาติได้ ดังนั้น ม.112 จึงเป็นกูญแจสำคัญที่ก้าวไกลและอนาคตใหม่พยายามผลักดันกฏหมายด้วยวาทะกรรมต่างๆให้ผู้หมิ่นสถาบันผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยตามกฏหมายนั่นเอง ไม่มีสถาบันกษัตริย์ก็สิ้นชาติ
    หากสังเกตุให้ดีแม้กระทั่งมีเป้าหมายลดกำลังทหาร ก็เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของชาติ โดยนำจุดบกพร่องเพียงส่วนน้อย มาตีให้เป็นเรื่อง่ส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความชอบธรรมและได้คะแนนเสียงกับกลุ่มเด็กโตที่กำลังจะเกณฑ์และกลัวการเป็นทหารมาเป็นคะแนนเสียงร่วม และพฤติกรรมที่สร้างแนวคิดไม่ให้ลูกมีความกตัญญูกับพ่อแม่ นั่นก็เพราะเมื่อเด็กห่างอกพ่อแม่ก็จะสามารถชักจูงได้โดยง่าย และเป็นฐานมวลชนที่พวกเขาเหล่านี้จูงไปไหนก็ไป
    ดังนั้น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คิงส์โพธิ์แดง นำเสนอมาโดยตลอด และทุกอย่างในข้อมูลของโพสนี้ได้มอบให้นั้น ล้วนมีหลักฐาน มีพยานที่หาได้ไม่ยากเลย
    ยกตัวอย่างเช่น ภาพเพนกวิ้น ที่เข้านอกออกในสถานฑุตสหรัฐก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น
    ดังนั้นพี่น้องชาวไทยอย่าแปลกใจถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระต่างชาติ หรือแม้กระทั่ง นาโต้ un รวมถึงความพยายามกดดันโดนทูตตะวันตกประจำประเทศไทย นั่นเพราะเรามีกลุ่มค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส-ต-ก-ยุ-ค อย่าธร ข่อ ปิยะบุตร และตัวแม่อย่างเจี๊ยบอมรัตน์ที่คิดว่าจะห-ล-อ-ก ใช้งบและอำนาจของสหรัฐและกลุ่มยุโรปเพื่อสานฝันของตัวเอง แต่แท้ที่จริงกลับถูกเค้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือยึดประเทศไทยเป็นฐานไม่รู้ตัว และมีคนอยากดังแบบพิธา ไอติม และสก็อยอย่างไอซ์ คนไม่อยากเป็นทหารอย่างจิรัฐ ก็มั่วๆรวมๆกันอยู่และยอมแลกความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัว
    นับจากวันที่ 7 สิงหา 67 นี้ไป เราจะถูกรุมวิจารณ์และกดดันจากสหรัฐและพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงองค์กรอิสระมากมาย
    คิงส์โพธิ์แดงจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติรับสถาบันร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตรย์ และ
    ช่วยเผยแพร่ความรู้นี้สู่พี่น้องชาวไทยเพื่อให้ประเทศไทยยังคงอยู่สืบไปนานเท่านาน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #นับจากนี้ไปคนไทยจะตาสว่างเสียที ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส ในประเทศไทย มีมาโดยตลอด แต่อดีตจะทำแบบแอบๆทำ รู้กันเฉพาะกลุ่ม ภายใต้หนังสือและเว็บไซต์ที่ชื่อฟ้าเดียวกันที่มีเนื้อหา ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ร้ายต่อสถาบันกษัตรย์ คาดว่าในเวลานั้น ธนาธรใช้ทุนส่วนตัวในการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระโตกกระตากนัก โดยมีนายชัยธวัชหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้ายก่อนถูกยุบเป็นบรรณาธิการอย่างเปิดเผย แต่วันหนึ่ง ธนาธร ช่อ และปิยบุตร เหมือนได้พลังวิเศษ คิดใหญ่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงแรก คนไทยยังรู้สึกถึงความหวังว่าการเมืองในประเทศไทย น่าจะเปลี่ยนไปได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่ ทำให้ได้คะแนนเสียงมากอย่างน่าตกใจ รวมถึงการนำระบบไอโอบอท มาใช้ก่อนใคร ปั้นกระแสทวิตเตอร์ กำหนดเทรนให้มีแต่เรื่องราวของพรรคอนาคตใหม่ ทำให้สื่อทุกสำนักวนเวียนอยู่แต่กับพรรคและคนของพรรคอนาคตใหม่เวลานั้น จนทำให้เกิดอุปทานหมู่ เวลาใครไปคอมเม้นตรงข้าม ก็ใช้บอทไอโอเข้าไปถล่ม จนคนคิดต่างไม่กล้าไปยุ่งเพราะเข้าใจว่า บอทไอโอคือคนจริงๆ เกิดปรากฏการคอมเม้นเป็นรูปส้มพร้อมกัน แต่เรื่องก็มาแตก ที่วิโรจน์ถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์มือถือหลายสิบเครื่องที่เป็นอุปกรณ์บอทไอโอที่นำเข้าระบบมาจากเวียดนาม แต่ตอนนี้ ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและป้องกันบอทไอโอและลบแอคเค้าบอทออกจากระบบแทบเกลี้ยง ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ไลฟ์สดของหัวหน้าพรรคเอง หรือนายพิธาก็ยังมีคนดูแค่สามสี่ร้อยคน ยังรวมไปถึงการที่พรรคก้าวไกลไม่กล้าทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อกฏหมาย ก็ยังมีงบจำนวนมหาศาลที่มีหลักฐานและพยานว่าบุ้งได้รับมาจากการส่งภาพการก่อความวุ่นวายจากสมุน และได้ตังมาก็เอามาเปย์ผู้ และให้เด็กในสังกัดกินอดๆอยากๆ แต่ต้นทางน้ำมานั้น จำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่ตรวจสอบบัญชีเพนกวิ้น มีไม่ต่ำกว่า ุ60 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับเซิทหาได้เป็นข้อมูลจากทางการไทยเองและทรายเจริญปุระ ก็เคยออกมาคอนเฟิร์มเองด้วยซ้ำ คำถามว่า งบทำบอทไอโอ งบสร้างความวุ่นวายในนามกลุ่มทะลุวัง หรือ งบในการสร้างพรรค มันเอามาจากไหนกันนะ ก็พบว่ามีการสืบเส้นทางการเงินมีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งของต่างชาติ เป็นจุดเชื่อมโยงเงินจากบางคนในสหรัฐเข้ากระเป๋าคนเหล่านี้ จนในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิด ด้วยการที่ผู้นำจิตวิญญาณของอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ต่างเข้านอกออกในสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทยเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยเพนกวิ้นเช่นกัน จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข องค์กรแอมเนสตี้ ถึงขนาดออกอาการเหิมเกริม สั่งศาลรัฐธรรมนูญให้รีบกลับคำตัดสิน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการละเมิดศาลจากองค์กรต่างชาติแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย นอกจากนั้น ทูต 18 ประเทศ ที่ทำเกินหน้าที่การเป็นทูตประจำประเทศไทย รวมไปถึง สว.สหรัฐก็ออกมาขู่ศาลไทย อย่างกร่างๆ ดังนั้น ที่คิงส์โพธิ์แดงเคยให้ข้อมูลว่า เมกาคือผู้อยู่เ้บื้องหลัง ความพยายามในการก้าวก่าย และให้การสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มคนที่ให้ร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตรย์มาโดยตลอดนั้น ก็คือสหรัฐอเมริกา ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขม.112 นั้น มีความชัดเจนแม้ว่าหากตัดข้อนี้ไปพรรคอื่นๆก็พร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะเหตุใดทั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงยืนยันในจุดยืนนี้มาตลอด นั่นก็เพราะงบประมาณที่ให้การสนับสนุน ก็ให้มาทำเรื่องนี้โดยตรง เพราะการที่แก้ไขม112 โดยการให้ร้าย บิดเบือน พระมหากษัตย์ได้โดยผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยท ก็คุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะปั้นแต่งปลุกปั่นให้คนไทยรุ่นใหม่ มีความชิงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสหรัฐไม่มีฐานทัพในโซนนี้ หากได้ประเทศไทยในการตั้งฐานทัพด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ก็จะสามารถส่งจรวดไปจีนได้ในระยะวิถีกรณีมีความขัดแย้งกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ (ซึ่งข้อมูลเรื่องสหรัฐมีเป้าหมายตั้งฐานทัพในประเทศไทย มีหลักฐานอยู่ทั้งที่วิทยาลัยป้องกันราชอนาจักร และฝ่ายความมั่นคงจำนวนไม่น้อย) ....และโดยเฉพาะตอนนี้ จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้ใช้สูตรทางเศรษฐกิจและการลงทุนเข้ามาขายอนาเขตแบบเนียนๆทั้งกำพูชา สปปลาว และพม่าแล้ว เหลือแค่ไทยที่ขยับเข้ามาได้ยากกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากนักแต่ก็มาแล้วพอสมควรทีเดียว แต่สหรัฐที่ยังไม่สามารถมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือยึดประเทศไทยได้นั้น เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรที่ทรงอยู่เหนือการเมือง เป็นผู้ทรงให้ทรงเมตตาต่อพสกนิกรในทุกยุคทุกรัชสมัยจวบถึงปัจจุบัน มีผู้จงรักษภักดีต่อพระองค์ที่รักษาปกป้องไว้ซึ่งสามสถาบันหลักที่ยืนหยัดมั่นคงในความเป็นชาติได้ ดังนั้น ม.112 จึงเป็นกูญแจสำคัญที่ก้าวไกลและอนาคตใหม่พยายามผลักดันกฏหมายด้วยวาทะกรรมต่างๆให้ผู้หมิ่นสถาบันผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยตามกฏหมายนั่นเอง ไม่มีสถาบันกษัตริย์ก็สิ้นชาติ หากสังเกตุให้ดีแม้กระทั่งมีเป้าหมายลดกำลังทหาร ก็เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของชาติ โดยนำจุดบกพร่องเพียงส่วนน้อย มาตีให้เป็นเรื่อง่ส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความชอบธรรมและได้คะแนนเสียงกับกลุ่มเด็กโตที่กำลังจะเกณฑ์และกลัวการเป็นทหารมาเป็นคะแนนเสียงร่วม และพฤติกรรมที่สร้างแนวคิดไม่ให้ลูกมีความกตัญญูกับพ่อแม่ นั่นก็เพราะเมื่อเด็กห่างอกพ่อแม่ก็จะสามารถชักจูงได้โดยง่าย และเป็นฐานมวลชนที่พวกเขาเหล่านี้จูงไปไหนก็ไป ดังนั้น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คิงส์โพธิ์แดง นำเสนอมาโดยตลอด และทุกอย่างในข้อมูลของโพสนี้ได้มอบให้นั้น ล้วนมีหลักฐาน มีพยานที่หาได้ไม่ยากเลย ยกตัวอย่างเช่น ภาพเพนกวิ้น ที่เข้านอกออกในสถานฑุตสหรัฐก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น ดังนั้นพี่น้องชาวไทยอย่าแปลกใจถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระต่างชาติ หรือแม้กระทั่ง นาโต้ un รวมถึงความพยายามกดดันโดนทูตตะวันตกประจำประเทศไทย นั่นเพราะเรามีกลุ่มค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส-ต-ก-ยุ-ค อย่าธร ข่อ ปิยะบุตร และตัวแม่อย่างเจี๊ยบอมรัตน์ที่คิดว่าจะห-ล-อ-ก ใช้งบและอำนาจของสหรัฐและกลุ่มยุโรปเพื่อสานฝันของตัวเอง แต่แท้ที่จริงกลับถูกเค้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือยึดประเทศไทยเป็นฐานไม่รู้ตัว และมีคนอยากดังแบบพิธา ไอติม และสก็อยอย่างไอซ์ คนไม่อยากเป็นทหารอย่างจิรัฐ ก็มั่วๆรวมๆกันอยู่และยอมแลกความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัว นับจากวันที่ 7 สิงหา 67 นี้ไป เราจะถูกรุมวิจารณ์และกดดันจากสหรัฐและพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงองค์กรอิสระมากมาย คิงส์โพธิ์แดงจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติรับสถาบันร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตรย์ และ ช่วยเผยแพร่ความรู้นี้สู่พี่น้องชาวไทยเพื่อให้ประเทศไทยยังคงอยู่สืบไปนานเท่านาน #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2261 มุมมอง 0 รีวิว