• Snapmaker ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D จากจีน ประกาศระดมทุน Series B ได้

    Snapmaker ยืนยันว่าได้รับเงินลงทุน Series B หลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Hillhouse Ventures และ Meituan เป็นผู้นำรอบ พร้อมด้วย Shunwei Capital, Longzhu Capital และนักลงทุนรายเดิมอย่าง Cowin Capital และ Orient Securities Capital การเข้ามาของ Shunwei Capital ซึ่งก่อตั้งโดย Lei Jun (CEO ของ Xiaomi) ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ในอนาคตของ Snapmaker

    ผลงานและความสำเร็จที่ผ่านมา
    Snapmaker ก่อตั้งในปี 2016 และสร้างชื่อจากการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D แบบโมดูลาร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งการพิมพ์ 3D, เลเซอร์คัต และ CNC โดยเฉพาะรุ่น Snapmaker 2.0 ที่เคยระดมทุนบน Kickstarter ได้กว่า 7.85 ล้านดอลลาร์ และรุ่น U1 Tool Changer ที่ทำสถิติสูงสุดในวงการ 3D Printing ด้วยยอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนกว่า 20,000 คน

    แผนการขยายสู่ระดับโลก
    เงินทุนใหม่จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก, การดึงดูดบุคลากรระดับโลก และการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจร Snapmaker ตั้งเป้าที่จะลดอุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing และทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักสร้างสรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญ

    ความหมายต่อวงการ 3D Printing
    การลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่าตลาด 3D Printing กำลังเข้าสู่ “arms race” ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น Tencent ที่สนใจ Bambu Lab และ DJI ที่ลงทุนใน Elegoo การแข่งขันนี้จะเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ถูกลง และใช้งานง่ายขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Snapmaker ระดมทุน Series B
    ได้เงินลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์
    Hillhouse Ventures และ Meituan นำรอบ

    นักลงทุนรายสำคัญ
    Shunwei Capital (ก่อตั้งโดย Lei Jun จาก Xiaomi)
    Cowin Capital และ Orient Securities Capital ร่วมลงทุนต่อเนื่อง

    ผลงานเด่นของ Snapmaker
    Snapmaker 2.0 ระดมทุน 7.85 ล้านดอลลาร์
    U1 Tool Changer ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์

    แผนการใช้เงินทุน
    วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
    ดึงดูดบุคลากรระดับโลก
    สร้าง ecosystem ครบวงจร

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ตลาด 3D Printing จีนแข่งขันสูงจากผู้เล่นรายใหญ่
    ความเสี่ยงด้านการพึ่งพานักลงทุนรายใหญ่
    ต้องพิสูจน์ว่าสามารถขยายสู่ตลาดโลกได้จริง

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/snapmaker-raises-millions-as-chinese-big-tech-investors-pile-into-3d-printing
    💰 Snapmaker ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D จากจีน ประกาศระดมทุน Series B ได้ Snapmaker ยืนยันว่าได้รับเงินลงทุน Series B หลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Hillhouse Ventures และ Meituan เป็นผู้นำรอบ พร้อมด้วย Shunwei Capital, Longzhu Capital และนักลงทุนรายเดิมอย่าง Cowin Capital และ Orient Securities Capital การเข้ามาของ Shunwei Capital ซึ่งก่อตั้งโดย Lei Jun (CEO ของ Xiaomi) ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ในอนาคตของ Snapmaker 🛠️ ผลงานและความสำเร็จที่ผ่านมา Snapmaker ก่อตั้งในปี 2016 และสร้างชื่อจากการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D แบบโมดูลาร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งการพิมพ์ 3D, เลเซอร์คัต และ CNC โดยเฉพาะรุ่น Snapmaker 2.0 ที่เคยระดมทุนบน Kickstarter ได้กว่า 7.85 ล้านดอลลาร์ และรุ่น U1 Tool Changer ที่ทำสถิติสูงสุดในวงการ 3D Printing ด้วยยอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนกว่า 20,000 คน 🌍 แผนการขยายสู่ระดับโลก เงินทุนใหม่จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก, การดึงดูดบุคลากรระดับโลก และการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจร Snapmaker ตั้งเป้าที่จะลดอุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing และทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักสร้างสรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญ 🔍 ความหมายต่อวงการ 3D Printing การลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่าตลาด 3D Printing กำลังเข้าสู่ “arms race” ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น Tencent ที่สนใจ Bambu Lab และ DJI ที่ลงทุนใน Elegoo การแข่งขันนี้จะเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ถูกลง และใช้งานง่ายขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Snapmaker ระดมทุน Series B ➡️ ได้เงินลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์ ➡️ Hillhouse Ventures และ Meituan นำรอบ ✅ นักลงทุนรายสำคัญ ➡️ Shunwei Capital (ก่อตั้งโดย Lei Jun จาก Xiaomi) ➡️ Cowin Capital และ Orient Securities Capital ร่วมลงทุนต่อเนื่อง ✅ ผลงานเด่นของ Snapmaker ➡️ Snapmaker 2.0 ระดมทุน 7.85 ล้านดอลลาร์ ➡️ U1 Tool Changer ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์ ✅ แผนการใช้เงินทุน ➡️ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ➡️ ดึงดูดบุคลากรระดับโลก ➡️ สร้าง ecosystem ครบวงจร ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ตลาด 3D Printing จีนแข่งขันสูงจากผู้เล่นรายใหญ่ ⛔ ความเสี่ยงด้านการพึ่งพานักลงทุนรายใหญ่ ⛔ ต้องพิสูจน์ว่าสามารถขยายสู่ตลาดโลกได้จริง https://www.tomshardware.com/3d-printing/snapmaker-raises-millions-as-chinese-big-tech-investors-pile-into-3d-printing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI

    รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าตั้งแต่ต้นปี 2026 เป็นต้นไป ผู้ลงโฆษณาจะต้องติดป้ายกำกับว่าเป็น AI-generated หากโฆษณาถูกสร้างหรือแก้ไขด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังพบการใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมในการโปรโมตสินค้า เช่น ยาลดน้ำหนัก เครื่องสำอาง และแม้แต่เว็บไซต์การพนันผิดกฎหมาย

    เหตุผลและมาตรการที่เข้มงวด
    เจ้าหน้าที่ระบุว่าการโฆษณาลักษณะนี้กำลัง “ทำลายความเป็นระเบียบของตลาด” และสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยากว่าเนื้อหานั้นจริงหรือปลอม รัฐบาลจึงเตรียมแก้ไขกฎหมายโทรคมนาคมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อบังคับใช้ พร้อมเพิ่มโทษปรับและบทลงโทษทางแพ่งสูงสุดถึง 5 เท่าของความเสียหายที่เกิดขึ้น

    ปัญหาที่พบในอดีต
    กระทรวงความปลอดภัยด้านอาหารและยาเกาหลีใต้ตรวจพบโฆษณาผิดกฎหมายกว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และอีกเกือบ 69,000 ชิ้นในปี 2025 (จนถึงเดือนกันยายน) ตัวเลขนี้สะท้อนว่าการโฆษณาที่ใช้ AI กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุม

    ความหมายต่ออนาคตของ AI และสังคม
    มาตรการนี้ไม่เพียงแต่ป้องกันการหลอกลวง แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้ AI อย่างโปร่งใส เกาหลีใต้ยังวางแผนใช้ AI เพื่อตรวจสอบและลบโฆษณาที่ผิดกฎหมายให้เร็วขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ นำไปปรับใช้เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านข้อมูลเท็จและการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด

    สรุปสาระสำคัญ
    เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI ตั้งแต่ปี 2026
    เพื่อป้องกันการหลอกลวงและสร้างความโปร่งใส

    รัฐบาลเตรียมแก้กฎหมายโทรคมนาคมและเพิ่มโทษปรับ
    ผู้กระทำผิดอาจถูกปรับสูงสุด 5 เท่าของความเสียหาย

    พบโฆษณาผิดกฎหมายจำนวนมากในช่วงปี 2024–2025
    กว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และ 68,950 ชิ้นในปี 2025

    รัฐบาลจะใช้ AI ตรวจสอบและลบโฆษณาผิดกฎหมาย
    ตั้งเป้าลบภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันผลกระทบ

    โฆษณา AI ที่ใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยาก

    หากไม่มีมาตรการกำกับดูแล อาจเกิดการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ
    ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดและสุขภาพประชาชน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/10/south-korea-to-require-advertisers-to-label-ai-generated-ads
    📰 เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าตั้งแต่ต้นปี 2026 เป็นต้นไป ผู้ลงโฆษณาจะต้องติดป้ายกำกับว่าเป็น AI-generated หากโฆษณาถูกสร้างหรือแก้ไขด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังพบการใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมในการโปรโมตสินค้า เช่น ยาลดน้ำหนัก เครื่องสำอาง และแม้แต่เว็บไซต์การพนันผิดกฎหมาย ⚖️ เหตุผลและมาตรการที่เข้มงวด เจ้าหน้าที่ระบุว่าการโฆษณาลักษณะนี้กำลัง “ทำลายความเป็นระเบียบของตลาด” และสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยากว่าเนื้อหานั้นจริงหรือปลอม รัฐบาลจึงเตรียมแก้ไขกฎหมายโทรคมนาคมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อบังคับใช้ พร้อมเพิ่มโทษปรับและบทลงโทษทางแพ่งสูงสุดถึง 5 เท่าของความเสียหายที่เกิดขึ้น 📉 ปัญหาที่พบในอดีต กระทรวงความปลอดภัยด้านอาหารและยาเกาหลีใต้ตรวจพบโฆษณาผิดกฎหมายกว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และอีกเกือบ 69,000 ชิ้นในปี 2025 (จนถึงเดือนกันยายน) ตัวเลขนี้สะท้อนว่าการโฆษณาที่ใช้ AI กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุม 🌐 ความหมายต่ออนาคตของ AI และสังคม มาตรการนี้ไม่เพียงแต่ป้องกันการหลอกลวง แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้ AI อย่างโปร่งใส เกาหลีใต้ยังวางแผนใช้ AI เพื่อตรวจสอบและลบโฆษณาที่ผิดกฎหมายให้เร็วขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ นำไปปรับใช้เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านข้อมูลเท็จและการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI ตั้งแต่ปี 2026 ➡️ เพื่อป้องกันการหลอกลวงและสร้างความโปร่งใส ✅ รัฐบาลเตรียมแก้กฎหมายโทรคมนาคมและเพิ่มโทษปรับ ➡️ ผู้กระทำผิดอาจถูกปรับสูงสุด 5 เท่าของความเสียหาย ✅ พบโฆษณาผิดกฎหมายจำนวนมากในช่วงปี 2024–2025 ➡️ กว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และ 68,950 ชิ้นในปี 2025 ✅ รัฐบาลจะใช้ AI ตรวจสอบและลบโฆษณาผิดกฎหมาย ➡️ ตั้งเป้าลบภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันผลกระทบ ‼️ โฆษณา AI ที่ใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ⛔ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยาก ‼️ หากไม่มีมาตรการกำกับดูแล อาจเกิดการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ ⛔ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดและสุขภาพประชาชน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/10/south-korea-to-require-advertisers-to-label-ai-generated-ads
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea to require advertisers to label AI-generated ads
    South Korea will require advertisers to label their ads made with artificial intelligence technologies from next year as it seeks to curb a surge of deceptive promotions featuring fabricated experts or deep-faked celebrities endorsing food or pharmaceutical products on social media.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • “โปรตุเกสออกกฎหมายใหม่ ปกป้อง Ethical Hackers จากการถูกดำเนินคดี”

    เนื้อหากฎหมายใหม่
    รัฐบาลโปรตุเกสได้ปรับปรุง Cybercrime Law (Decree Law No. 125/2025) โดยเพิ่มบทบัญญัติ Article 8-A ที่ระบุว่า “การกระทำที่ไม่ต้องรับโทษเนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงไซเบอร์” ซึ่งเปิดทางให้ นักวิจัยด้านความปลอดภัยและ Ethical Hackers สามารถทดสอบระบบ, ค้นหาช่องโหว่ และรายงานได้โดยไม่ถูกดำเนินคดี หากทำไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ.

    เงื่อนไขการคุ้มครอง
    แม้จะได้รับการคุ้มครอง แต่กฎหมายกำหนดเงื่อนไขเข้มงวด เช่น:
    ต้องมีเจตนาเพื่อปรับปรุงความปลอดภัย ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
    ห้ามทำให้เกิดความเสียหาย เช่น การหยุดบริการ, ขโมยข้อมูล, หรือใช้วิธีโจมตีรุนแรง (DoS, Phishing, Malware)
    ต้องรายงานช่องโหว่ต่อเจ้าของระบบ, หน่วยงานกำกับดูแลข้อมูล และ National Cybersecurity Centre (CNCS) อย่างรวดเร็ว
    ข้อมูลที่ได้มาต้องถูกลบภายใน 10 วันหลังจากช่องโหว่ถูกแก้ไข.

    แนวโน้มระดับนานาชาติ
    โปรตุเกสไม่ใช่ประเทศเดียวที่เดินหน้าแนวทางนี้ สหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาปรับปรุง Computer Misuse Act เพื่อเพิ่ม “statutory defence” ให้กับนักวิจัยที่ทำงานอย่างถูกต้องตามหลักจริยธรรม แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นว่าหลายประเทศเริ่มตระหนักว่า การเปิดพื้นที่ให้ Ethical Hackers ทำงาน เป็นสิ่งสำคัญต่อการป้องกันภัยไซเบอร์ในระดับโลก.

    ความหมายต่อวงการไซเบอร์
    การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นการยอมรับว่า การค้นหาช่องโหว่เป็นกิจกรรมเพื่อสาธารณะ ไม่ใช่อาชญากรรม และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักวิจัยที่มักกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีเมื่อรายงานช่องโหว่ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ, เอกชน และชุมชนผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    สาระสำคัญของกฎหมายใหม่ในโปรตุเกส
    เพิ่ม Article 8-A ใน Cybercrime Law
    ปกป้อง Ethical Hackers ที่ทำงานเพื่อสาธารณะ

    เงื่อนไขการคุ้มครอง
    ต้องมีเจตนาเพื่อปรับปรุงความปลอดภัย
    ห้ามทำให้เกิดความเสียหายหรือใช้วิธีโจมตีรุนแรง
    ต้องรายงานต่อ CNCS และลบข้อมูลภายใน 10 วัน

    แนวโน้มระดับนานาชาติ
    สหราชอาณาจักรพิจารณาปรับปรุง Computer Misuse Act
    หลายประเทศเริ่มยอมรับบทบาท Ethical Hackers

    ความหมายต่อวงการไซเบอร์
    สร้างความเชื่อมั่นให้นักวิจัย
    ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐ, เอกชน และชุมชนผู้เชี่ยวชาญ

    คำเตือนสำหรับ Ethical Hackers
    หากทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือสร้างความเสียหาย จะไม่ถูกคุ้มครอง
    การไม่รายงานช่องโหว่ตามกำหนดเวลาอาจทำให้สูญเสียสิทธิ์คุ้มครอง
    การใช้วิธีโจมตีเชิงรุก เช่น DoS หรือ Malware ถือว่าผิดกฎหมาย

    https://hackread.com/portugal-cybercrime-law-protects-ethical-hackers/
    ⚖️ “โปรตุเกสออกกฎหมายใหม่ ปกป้อง Ethical Hackers จากการถูกดำเนินคดี” 📜 เนื้อหากฎหมายใหม่ รัฐบาลโปรตุเกสได้ปรับปรุง Cybercrime Law (Decree Law No. 125/2025) โดยเพิ่มบทบัญญัติ Article 8-A ที่ระบุว่า “การกระทำที่ไม่ต้องรับโทษเนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงไซเบอร์” ซึ่งเปิดทางให้ นักวิจัยด้านความปลอดภัยและ Ethical Hackers สามารถทดสอบระบบ, ค้นหาช่องโหว่ และรายงานได้โดยไม่ถูกดำเนินคดี หากทำไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ. 🛡️ เงื่อนไขการคุ้มครอง แม้จะได้รับการคุ้มครอง แต่กฎหมายกำหนดเงื่อนไขเข้มงวด เช่น: 🎗️ ต้องมีเจตนาเพื่อปรับปรุงความปลอดภัย ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว 🎗️ ห้ามทำให้เกิดความเสียหาย เช่น การหยุดบริการ, ขโมยข้อมูล, หรือใช้วิธีโจมตีรุนแรง (DoS, Phishing, Malware) 🎗️ ต้องรายงานช่องโหว่ต่อเจ้าของระบบ, หน่วยงานกำกับดูแลข้อมูล และ National Cybersecurity Centre (CNCS) อย่างรวดเร็ว 🎗️ ข้อมูลที่ได้มาต้องถูกลบภายใน 10 วันหลังจากช่องโหว่ถูกแก้ไข. 🌍 แนวโน้มระดับนานาชาติ โปรตุเกสไม่ใช่ประเทศเดียวที่เดินหน้าแนวทางนี้ สหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาปรับปรุง Computer Misuse Act เพื่อเพิ่ม “statutory defence” ให้กับนักวิจัยที่ทำงานอย่างถูกต้องตามหลักจริยธรรม แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นว่าหลายประเทศเริ่มตระหนักว่า การเปิดพื้นที่ให้ Ethical Hackers ทำงาน เป็นสิ่งสำคัญต่อการป้องกันภัยไซเบอร์ในระดับโลก. 🔎 ความหมายต่อวงการไซเบอร์ การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นการยอมรับว่า การค้นหาช่องโหว่เป็นกิจกรรมเพื่อสาธารณะ ไม่ใช่อาชญากรรม และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักวิจัยที่มักกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีเมื่อรายงานช่องโหว่ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ, เอกชน และชุมชนผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ สาระสำคัญของกฎหมายใหม่ในโปรตุเกส ➡️ เพิ่ม Article 8-A ใน Cybercrime Law ➡️ ปกป้อง Ethical Hackers ที่ทำงานเพื่อสาธารณะ ✅ เงื่อนไขการคุ้มครอง ➡️ ต้องมีเจตนาเพื่อปรับปรุงความปลอดภัย ➡️ ห้ามทำให้เกิดความเสียหายหรือใช้วิธีโจมตีรุนแรง ➡️ ต้องรายงานต่อ CNCS และลบข้อมูลภายใน 10 วัน ✅ แนวโน้มระดับนานาชาติ ➡️ สหราชอาณาจักรพิจารณาปรับปรุง Computer Misuse Act ➡️ หลายประเทศเริ่มยอมรับบทบาท Ethical Hackers ✅ ความหมายต่อวงการไซเบอร์ ➡️ สร้างความเชื่อมั่นให้นักวิจัย ➡️ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐ, เอกชน และชุมชนผู้เชี่ยวชาญ ‼️ คำเตือนสำหรับ Ethical Hackers ⛔ หากทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือสร้างความเสียหาย จะไม่ถูกคุ้มครอง ⛔ การไม่รายงานช่องโหว่ตามกำหนดเวลาอาจทำให้สูญเสียสิทธิ์คุ้มครอง ⛔ การใช้วิธีโจมตีเชิงรุก เช่น DoS หรือ Malware ถือว่าผิดกฎหมาย https://hackread.com/portugal-cybercrime-law-protects-ethical-hackers/
    HACKREAD.COM
    New Portuguese Law Shields Ethical Hackers from Prosecution
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • หินก้อนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

    หญิงชราที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Colti ประเทศโรมาเนีย เคยเก็บก้อนหินจากลำธารมาใช้เป็นที่กั้นประตูบ้านนานหลายสิบปี หลังจากเธอเสียชีวิต ญาติที่รับมรดกบ้านสงสัยว่าหินก้อนนี้อาจมีค่ามากกว่าที่คิด จึงนำไปตรวจสอบ และพบว่าแท้จริงแล้วมันคือ อำพันรามาไนต์ (Rumanite) หนัก 3.5 กิโลกรัม ซึ่งเป็นชิ้นที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ

    มูลค่ามหาศาลและความสำคัญทางวิทยาศาสตร์
    การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ในโปแลนด์ระบุว่าอำพันก้อนนี้มีอายุราว 38–70 ล้านปี และมีมูลค่าประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ยังมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ เพราะเป็นหลักฐานที่ช่วยให้เข้าใจระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมโบราณ

    จากบ้านสู่พิพิธภัณฑ์
    หลังจากการค้นพบ อำพันก้อนนี้ถูกจัดเป็นสมบัติของชาติและนำไปจัดแสดงที่ Provincial Museum of Buzau ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อให้ประชาชนและนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษา ถือเป็นการเปลี่ยนจากวัตถุธรรมดาในบ้านสู่สมบัติระดับโลก

    ความเชื่อมโยงกับการค้นพบอื่น ๆ
    เรื่องนี้คล้ายกับกรณีในสหรัฐฯ ที่ชายคนหนึ่งใช้ก้อนหินเป็นที่กั้นประตู ก่อนจะพบว่ามันคือ อุกกาบาตมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าธรรมชาติยังคงซ่อนสมบัติอันล้ำค่าไว้ในสิ่งที่เรามองข้าม

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบอำพันรามาไนต์ในโรมาเนีย
    หนัก 3.5 กิโลกรัม ใหญ่ที่สุดที่เคยพบ
    ถูกใช้เป็นที่กั้นประตูบ้านนานหลายสิบปี

    มูลค่าและความสำคัญ
    มูลค่าประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    อายุราว 38–70 ล้านปี มีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์

    การจัดแสดง
    ถูกจัดเป็นสมบัติของชาติ
    จัดแสดงที่ Provincial Museum of Buzau ตั้งแต่ปี 2022

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    วัตถุโบราณหรือแร่หายากควรตรวจสอบก่อนขาย เพราะอาจเป็นสมบัติของชาติ
    การครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจมีผลทางกฎหมาย

    https://www.sciencealert.com/rock-used-as-doorstop-for-decades-revealed-to-be-worth-over-1-million
    🪨 หินก้อนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา หญิงชราที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Colti ประเทศโรมาเนีย เคยเก็บก้อนหินจากลำธารมาใช้เป็นที่กั้นประตูบ้านนานหลายสิบปี หลังจากเธอเสียชีวิต ญาติที่รับมรดกบ้านสงสัยว่าหินก้อนนี้อาจมีค่ามากกว่าที่คิด จึงนำไปตรวจสอบ และพบว่าแท้จริงแล้วมันคือ อำพันรามาไนต์ (Rumanite) หนัก 3.5 กิโลกรัม ซึ่งเป็นชิ้นที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ 💎 มูลค่ามหาศาลและความสำคัญทางวิทยาศาสตร์ การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ในโปแลนด์ระบุว่าอำพันก้อนนี้มีอายุราว 38–70 ล้านปี และมีมูลค่าประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ยังมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ เพราะเป็นหลักฐานที่ช่วยให้เข้าใจระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมโบราณ 🏛️ จากบ้านสู่พิพิธภัณฑ์ หลังจากการค้นพบ อำพันก้อนนี้ถูกจัดเป็นสมบัติของชาติและนำไปจัดแสดงที่ Provincial Museum of Buzau ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อให้ประชาชนและนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษา ถือเป็นการเปลี่ยนจากวัตถุธรรมดาในบ้านสู่สมบัติระดับโลก 🌍 ความเชื่อมโยงกับการค้นพบอื่น ๆ เรื่องนี้คล้ายกับกรณีในสหรัฐฯ ที่ชายคนหนึ่งใช้ก้อนหินเป็นที่กั้นประตู ก่อนจะพบว่ามันคือ อุกกาบาตมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าธรรมชาติยังคงซ่อนสมบัติอันล้ำค่าไว้ในสิ่งที่เรามองข้าม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบอำพันรามาไนต์ในโรมาเนีย ➡️ หนัก 3.5 กิโลกรัม ใหญ่ที่สุดที่เคยพบ ➡️ ถูกใช้เป็นที่กั้นประตูบ้านนานหลายสิบปี ✅ มูลค่าและความสำคัญ ➡️ มูลค่าประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ➡️ อายุราว 38–70 ล้านปี มีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ ✅ การจัดแสดง ➡️ ถูกจัดเป็นสมบัติของชาติ ➡️ จัดแสดงที่ Provincial Museum of Buzau ตั้งแต่ปี 2022 ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ วัตถุโบราณหรือแร่หายากควรตรวจสอบก่อนขาย เพราะอาจเป็นสมบัติของชาติ ⛔ การครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจมีผลทางกฎหมาย https://www.sciencealert.com/rock-used-as-doorstop-for-decades-revealed-to-be-worth-over-1-million
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Rock Used as Doorstop For Decades Revealed to Be Worth Over $1 Million
    They say one person's trash is another's treasure, but a chunk of 'rock' used to keep a door open for decades is a treasure by almost anyone's standards.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251210 #TechRadar

    ความฝัน AGI ที่ยังไกลเกินเอื้อม
    นักวิจัย AI ในงานประชุม NeurIPS 2025 ออกมาเตือนว่า แม้ Google จะฉลองความสำเร็จของ Gemini 3 แต่ความจริงแล้วการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” หรือ AGI ยังห่างไกลมาก ปัญหาคือการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ทำให้มันฉลาดขึ้นจริง ๆ แต่กลับติดกำแพงที่เรียกว่า “scaling wall” ทั้งเรื่องข้อมูลที่เริ่มหมดคุณภาพ การใช้พลังงานมหาศาล และที่สำคัญคือโมเดลยังไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างแท้จริง หลายคนเสนอแนวทางใหม่ เช่น สถาปัตยกรรมแบบ neurosymbolic ที่ผสมผสานการเรียนรู้เชิงสถิติและตรรกะ หรือ “world models” ที่จำลองการรับรู้โลกแบบมนุษย์ เพื่อให้ AI ไม่ใช่แค่ตอบได้ แต่เข้าใจจริง ๆ https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/agi-is-a-pipe-dream-until-we-solve-one-big-problem-ai-experts-say-even-as-google-celebrates-geminis-success

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ 14 ปีในอินโดนีเซียถูกโค่น
    นักวิจัย Malanta.ai พบโครงสร้างอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดมหึมาในอินโดนีเซียที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 14 ปี มีการควบคุมโดเมนกว่า 320,000 แห่ง รวมถึงซับโดเมนของรัฐบาลที่ถูกแฮ็ก ใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AWS และ Firebase ในการสั่งการมัลแวร์ และสร้างแอป Android ปลอมที่กระจายไปทั่ว ผลคือข้อมูลล็อกอินการพนันกว่า 50,000 รายการถูกขโมยไป นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจไม่ใช่แค่กลุ่มอาชญากรทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการระดับรัฐ https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    บอร์ด Framework เก่าถูกชุบชีวิตเป็นคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์
    โครงการ Kickstarter ที่ชื่อ FrameCluster เสนอไอเดียเปลี่ยนเมนบอร์ด Framework ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นระบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก โดยใช้ชิ้นส่วนที่พิมพ์ 3D ทั้งหมด มันไม่ได้เน้นพลังประมวลผลสูงสุด แต่เน้นการจัดระเบียบและการนำฮาร์ดแวร์เก่ามาใช้ใหม่ เหมาะสำหรับงานทดลองหรือโฮสต์เซอร์วิสเล็ก ๆ แม้จะยังระดมทุนได้ไม่มาก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการรีไซเคิลเทคโนโลยีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง https://www.techradar.com/pro/your-own-supercomputer-made-up-of-old-framework-motherboards-this-kickstarter-project-aims-to-achieve-just-that

    รีวิว Fairphone Fairbuds XL 2025 หูฟังรักษ์โลก
    Fairphone เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Fairbuds XL 2025 ที่ยังคงจุดขายด้านความยั่งยืน ใช้วัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุที่ได้จากการทำเหมืองอย่างเป็นธรรม จุดเด่นคือการควบคุมด้วยจอยสติ๊กเล็ก ๆ ที่ใช้งานง่ายและสนุก เสียงออกมาแนวสนุกสนาน มีพลังเบส แต่ยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งรายใหญ่ จุดที่อาจทำให้ลังเลคือราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น และฟีเจอร์เสริมที่ยังไม่ครบ แต่ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้งานระยะยาว หูฟังนี้ถือว่าโดดเด่นมาก https://www.techradar.com/audio/wireless-headphones/fairphone-fairbuds-xl-2025-review

    7 มือถือแนะนำสำหรับของขวัญคริสต์มาส
    TechRadar รวบรวมมือถือที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ เช่น สำหรับทุกคนทั่วไปมีตัวเลือกอย่าง iPhone 17, Samsung Galaxy S25 และ Google Pixel 10 ส่วนวัยรุ่นเหมาะกับ iPhone 16 ที่ยังเร็วและรองรับอัปเดตอีกหลายปี สำหรับพ่อแม่แนะนำ Samsung Galaxy A36 ที่จอใหญ่ แบตอึด และราคาคุ้มค่า ถ้าเป็นแฟน Apple ก็มี iPhone 17 Pro ที่ครบเครื่อง หรือถ้าเป็นสาย Android ตัวแรง OnePlus 15 ก็เป็นดาวเด่นปีนี้ เรียกว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกสไตล์และงบประมาณ https://www.techradar.com/phones/buying-someone-a-new-phone-this-christmas-here-are-my-7-expert-recommendations-for-every-type-of-person

    โฆษณาใน Gemini ยังไม่มา แต่อนาคตอาจเลี่ยงไม่พ้น
    ช่วงนี้โลก AI กำลังถูกจับตามองเรื่องโฆษณาในแชตบอท หลังจากที่ผู้ใช้ ChatGPT แบบโปรราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือนเจอ “app suggestions” โผล่มาเหมือนโฆษณา จนบริษัทต้องรีบถอดออกและยอมรับว่าพลาดไป ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini รีบออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่มีแผนจะใส่โฆษณาในแอปตอนนี้ แต่คำว่า “ตอนนี้” ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย เพราะค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลระบบ AI อาจทำให้วันหนึ่งโฆษณากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้สะท้อนว่าอนาคตของผู้ช่วย AI อาจไม่พ้นการกลายเป็นพื้นที่โฆษณา เพียงแต่จะมาเมื่อไหร่เท่านั้น https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/ads-arent-coming-to-gemini-google-says-but-openai-has-shown-that-the-inevitable-is-coming

    Xiaomi และ Motorola เตรียมส่งแท็กคู่แข่ง AirTag
    ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 ก็แทบจะครองตลาดอุปกรณ์ติดตามของหาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Xiaomi และ Motorola กำลังจะเปิดตัวแท็กของตัวเอง โดยทั้งคู่จะรองรับเทคโนโลยี ultra wide-band ที่แม่นยำกว่าเดิม Xiaomi อาจเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ปลายปี ส่วน Motorola ก็มีภาพหลุดของ Moto Tag 2 ที่จะมาพร้อมสีใหม่และกันน้ำได้ด้วย ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนที่ขายราว 40 ดอลลาร์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android ที่อยากได้ตัวเลือกใหม่ในการติดตามของสำคัญ https://www.techradar.com/phones/android/forget-apple-airtags-motorola-and-xiaomi-are-rumored-to-be-launching-android-equivalents-soon

    Dyson V8 Cyclone รุ่นพื้นฐานที่ทำความสะอาดได้เกินคาด
    นักรีวิวเครื่องดูดฝุ่นจาก TechRadar ได้ลอง Dyson V8 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่กลับทำความสะอาดได้ดีจนเหนือความคาดหมาย ในการทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นไฮเทคอย่าง Dyson V16 และ Shark Detect Pro รุ่น V8 Cyclone กลับทำคะแนนสูงกว่า จุดเด่นคือแรงดูดและหัวดูดที่ออกแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งคำถามว่าบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบซับซ้อนเกินไปอาจไม่ได้ช่วยให้ใช้งานดีขึ้นเสมอไป https://www.techradar.com/home/vacuums/i-was-blown-away-by-this-basic-dyson-vacuums-cleaning-powers-and-im-wondering-if-modern-vacs-are-over-engineered

      IKEA เปิดตัวไฟอัจฉริยะราคาถูกที่สุด
    IKEA เปิดตัวไฟ LED รุ่นใหม่ชื่อ Gömpyssling ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิดปุ๊บติดปั๊บ เหมาะสำหรับติดในตู้หรือชั้นวางของ จุดเด่นคือราคาถูกมาก แค่สองชิ้นราคาเพียง 3 ปอนด์ในอังกฤษ และ 4 ยูโรในหลายประเทศยุโรป ตัวไฟทำจากพลาสติกรีไซเคิล ใช้แบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือแอปใด ๆ ถือเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ https://www.techradar.com/home/smart-home/ikea-quietly-launches-a-new-smart-light-and-its-the-simplest-and-most-affordable-one-yet

    Asus ROG Raikiri Pro คอนโทรลเลอร์พร้อมจอ OLED ลดราคาหนัก
    สำหรับสายเกมเมอร์ Asus ROG Raikiri Pro เป็นคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีจอ OLED ในตัว สามารถปรับโปรไฟล์ปุ่มและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูในเกม ล่าสุดมีโปรลดราคาจาก 149.99 ปอนด์เหลือเพียง 89.99 ปอนด์ ถือเป็นราคาต่ำสุดที่เคยมี ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB รอบปุ่มและตัวเครื่องกึ่งโปร่งใส เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งละเอียดหรืออยากได้คอนโทรลเลอร์ที่แตกต่างจากทั่วไป https://www.techradar.com/gaming/this-asus-controller-comes-with-a-screen-and-right-now-its-cheaper-than-ever

      Meta ลดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ในยุโรป
    Meta ประกาศว่าจะลดการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับตามกฎหมาย GDPR การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ข้อมูลที่ส่งต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook และ Instagram ถูกจำกัดมากขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปที่เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ https://www.techradar.com/pro/meta-promises-to-reduce-data-sharing-for-eu-users-by-2026-to-avoid-eu-gdpr-fines

      รีวิวกล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro
    กล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro รุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง และระบบช่วยตรวจจับเหตุการณ์ แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย รีวิวจาก TechRadar ระบุว่าถึงแม้คุณภาพดี แต่คู่แข่งที่ราคาถูกกว่ากลับทำได้ใกล้เคียงหรือบางรุ่นดีกว่า ทำให้ U3000 Pro อาจเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ครบ ๆ และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tested-the-thinkware-u3000-pro-dash-cam-and-it-has-heaps-of-potential-but-its-outshone-by-affordable-rivals

    สร้างห้องทำงานที่บ้านให้สมบูรณ์แบบ
    เรื่องนี้พูดถึงการจัดห้องทำงานที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ทรงพลังและสะดวกสบายที่สุด เขาแนะนำอุปกรณ์สำคัญตั้งแต่แล็ปท็อปที่แรงพอสำหรับงานหนักอย่าง Dell 16 Premium ไปจนถึงเก้าอี้ Branch Verve ที่นั่งได้นานโดยไม่เมื่อย รวมถึงโต๊ะยืน FlexiSpot E7 ที่ปรับระดับได้ง่าย เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ประหยัดหมึก และจอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp ที่ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีเมาส์ Logitech MX Master 3S ที่ใช้งานได้เงียบและแม่นยำ รวมถึงระบบ Wi-Fi 7 จาก TP-Link Deco ที่ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร สุดท้ายยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Docking Station, SSD พกพา Samsung T9, Cloud Storage iDrive และหูฟัง Jabra Evolve2 75 ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือการรวมอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพและสบายใจมากขึ้น https://www.techradar.com/home/create-the-ultimate-work-from-home-setup

    LinkedIn เดินหน้าตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ทุกคน
    LinkedIn ประกาศความสำเร็จในการทำให้มีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนกว่า 100 ล้านบัญชี และยังตั้งเป้าว่าจะทำให้ทุกบัญชี ทุกบริษัท และทุกตำแหน่งงานมีการยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น การยืนยันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากขึ้นถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ LinkedIn ยังเปิด API ให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Zoom นำสถานะการยืนยันไปแสดงในโปรไฟล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการประชุมออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ LinkedIn ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ของความน่าเชื่อถือบนโลกดิจิทัล https://www.techradar.com/pro/linkedin-wants-every-user-to-be-verified

    โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ OLED ขยายได้จาก Lenovo
    มีข่าวลือว่า Lenovo เตรียมเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ชื่อ Legion Pro Rollable ที่มาพร้อมจอ OLED แบบขยายได้ในแนวนอน ซึ่งจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ Ultrawide รุ่นแรกของโลก หากเป็นจริงจะเปิดตัวในงาน CES 2026 จุดเด่นคือหน้าจอสามารถขยายออกไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การเล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ คาดว่าจะใช้ซีพียู Intel Core Ultra แต่ยังไม่เปิดเผยการ์ดจอ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องราคาและน้ำหนัก แต่ถ้า Lenovo ทำได้สำเร็จ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง https://www.techradar.com/computing/gaming-laptops/lenovo-legion-pro-rollable-leak-reveals-the-worlds-first-ultrawide-oled-gaming-laptop-and-i-cant-wait-to-try-it

    การโจมตีแบบ Prompt Injection อาจไม่มีวันแก้ได้
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งสหราชอาณาจักร (NCSC) เตือนว่าการโจมตีแบบ Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในข้อความเพื่อหลอกให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานผิด อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่เคยแก้ปัญหา SQL Injection เพราะโมเดลไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลกับคำสั่งได้อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักพัฒนามองโมเดลเหล่านี้เป็น “ผู้ช่วยที่สับสนได้” และออกแบบระบบให้จำกัดผลกระทบหากถูกโจมตี นี่เป็นการเตือนว่าการใช้ AI ต้องระวังและไม่ควรคาดหวังว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ https://www.techradar.com/pro/security/prompt-injection-attacks-might-never-be-properly-mitigated-uk-ncsc-warns

    ออสเตรเลียห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้แล้ว โดยห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, TikTok และ Snapchat หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มาตรการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ปกครองและนักปกป้องเด็ก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวที่กังวลว่าจะกระทบสิทธิของประชาชน เด็กบางคนเริ่มหันไปใช้แอปอื่นที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เช่น Discord หรือ Roblox และมีแนวโน้มว่าการค้นหา VPN จะเพิ่มขึ้นเพื่อหาทางเลี่ยงข้อจำกัด https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/under-16s-social-media-ban-lands-in-australia

    Pebble Index 01 อุปกรณ์ใหม่รวมแหวนอัจฉริยะกับผู้ช่วยเสียง
    Pebble เปิดตัวอุปกรณ์ที่รวมฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงเข้ากับสมาร์ทริงในชื่อ Pebble Index 01 จุดเด่นคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรงจากแหวน เช่น เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือเช็กข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย ทำให้เป็นทั้งเครื่องประดับและอุปกรณ์เทคโนโลยีในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพยายามสร้างหมวดหมู่ใหม่ที่ผสมผสาน wearable กับ AI voice assistant เข้าด้วยกัน https://www.techradar.com/health-fitness/pebble-is-reinventing-voice-assistants-and-smart-rings-in-one-device-meet-the-pebble-index-01

     รัฐบาลสหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีหลังยอดจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ลดลง
    ช่วงปี 2023 ถือเป็นปีที่การโจมตี ransomware พุ่งสูงสุด มีการจ่ายค่าไถ่รวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถจัดการกับแก๊งใหญ่ ๆ อย่าง ALPHV และ LockBit ได้ ทำให้ปี 2024 ยอดการโจมตีและจำนวนเงินที่เหยื่อจ่ายลดลงเหลือประมาณ 734 ล้านดอลลาร์ แม้ยังมีแก๊งอย่าง Akira ที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ แต่ภาพรวมถือว่าการปราบปรามครั้งนี้สร้างผลกระทบชัดเจนต่อวงการอาชญากรรมไซเบอร์ https://www.techradar.com/pro/security/us-treasury-offers-cautious-optimism-as-ransomware-payments-decline

     Spotify เดินหน้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มมิวสิกวิดีโอในแอป
    Spotify กำลังพยายามกลายเป็นเหมือน MTV ยุคดิจิทัล โดยล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงอีกหลายประเทศ สามารถดูมิวสิกวิดีโอได้โดยตรงในแอป ไม่ใช่แค่ฟังเพลงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถกดสลับจากโหมดเสียงไปเป็นวิดีโอได้ทันที ฟีเจอร์นี้สร้างความตื่นเต้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าประสบการณ์ดูวิดีโอยังไม่ลื่นไหลเท่า YouTube อย่างไรก็ตาม Spotify ยังคงเดินหน้าต่อยอดเพื่อขยายบริการให้ครบวงจรทั้งภาพและเสียง https://www.techradar.com/audio/spotify/spotify-steps-up-its-plan-to-be-the-new-mtv-music-videos-are-rolling-out-whether-you-want-them-or-not

     โลกการเขียนโค้ดกับเทรนด์ใหม่ “Vibe-Coding”
    คำว่า “Vibe-Coding” ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 หมายถึงการเขียนโปรแกรมที่เน้นความรู้สึกและความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากฎเกณฑ์ทางเทคนิค โดยใช้ AI เป็นตัวช่วยให้โค้ดเกิดขึ้นแทบจะอัตโนมัติ แนวทางนี้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และความเสี่ยงจากโค้ดที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด นักพัฒนาจึงต้องปรับบทบาทจากการเขียนโค้ดเองไปสู่การควบคุมคุณภาพและกำกับ AI ให้ทำงานอย่างถูกต้อง https://www.techradar.com/pro/the-future-of-coding-has-a-vibe-problem-balancing-creativity-with-control

     AMD เตรียมเปิดตัวชิปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Ryzen 9850X3D
    มีภาพหลุดจาก BIOS ที่เผยให้เห็นชิป AMD Ryzen 9850X3D ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นอัปเกรดจาก 9800X3D โดยเพิ่มความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6GHz ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 400MHz แม้ผลทดสอบเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าชิปนี้เปิดตัวจริงในงาน CES 2026 จะเป็นข่าวดีสำหรับนักเล่นเกม เพราะนอกจากจะได้รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รุ่นเก่าราคาเริ่มถูกลงด้วย https://www.techradar.com/computing/gpu/the-fastest-gaming-cpu-could-get-a-supercharged-version-soon-as-new-amd-ryzen-9850x3d-leak-pops-up

     สหราชอาณาจักรต้องเร่งสร้างเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อแข่งขันในยุค AI
    รายงานล่าสุดชี้ว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักรได้กว่า 550 พันล้านปอนด์ภายในปี 2035 แต่ปัญหาคือโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายยังล้าหลังมาก โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือครองพลังการประมวลผล AI เพียง 3% ของโลก ขณะที่สหรัฐฯ ครองถึง 75% หากไม่เร่งลงทุนในเครือข่ายที่เร็ว ปลอดภัย และปรับตัวได้ทันที ประเทศอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เครือข่ายอัจฉริยะจะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและนวัตกรรมในอนาคต https://www.techradar.com/pro/the-uk-must-build-smarter-networks-to-lead-in-ai

      IBM ทุ่มเงิน 11 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ Confluent IBM
    กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล โดยล่าสุดมีรายงานว่าเตรียมเข้าซื้อ Confluent ด้วยมูลค่ากว่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุค AI และคลาวด์ หากดีลนี้สำเร็จ IBM จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/ibm-looks-to-secure-data-infrastructure-with-usd11bn-bid-for-confluent

      สหรัฐฯ เตรียมอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปจีน
    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงรุ่น H200 ไปยังจีน หลังจากก่อนหน้านี้มีการจำกัดการขายเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในงานด้าน AI และการทหาร การผ่อนปรนครั้งนี้อาจช่วยให้ Nvidia ขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ https://www.techradar.com/pro/trump-set-to-allow-nvidia-h200-chips-to-be-exported-to-china
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251210 #TechRadar 🧠 ความฝัน AGI ที่ยังไกลเกินเอื้อม นักวิจัย AI ในงานประชุม NeurIPS 2025 ออกมาเตือนว่า แม้ Google จะฉลองความสำเร็จของ Gemini 3 แต่ความจริงแล้วการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” หรือ AGI ยังห่างไกลมาก ปัญหาคือการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ทำให้มันฉลาดขึ้นจริง ๆ แต่กลับติดกำแพงที่เรียกว่า “scaling wall” ทั้งเรื่องข้อมูลที่เริ่มหมดคุณภาพ การใช้พลังงานมหาศาล และที่สำคัญคือโมเดลยังไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างแท้จริง หลายคนเสนอแนวทางใหม่ เช่น สถาปัตยกรรมแบบ neurosymbolic ที่ผสมผสานการเรียนรู้เชิงสถิติและตรรกะ หรือ “world models” ที่จำลองการรับรู้โลกแบบมนุษย์ เพื่อให้ AI ไม่ใช่แค่ตอบได้ แต่เข้าใจจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/agi-is-a-pipe-dream-until-we-solve-one-big-problem-ai-experts-say-even-as-google-celebrates-geminis-success 🕵️ เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ 14 ปีในอินโดนีเซียถูกโค่น นักวิจัย Malanta.ai พบโครงสร้างอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดมหึมาในอินโดนีเซียที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 14 ปี มีการควบคุมโดเมนกว่า 320,000 แห่ง รวมถึงซับโดเมนของรัฐบาลที่ถูกแฮ็ก ใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AWS และ Firebase ในการสั่งการมัลแวร์ และสร้างแอป Android ปลอมที่กระจายไปทั่ว ผลคือข้อมูลล็อกอินการพนันกว่า 50,000 รายการถูกขโมยไป นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจไม่ใช่แค่กลุ่มอาชญากรทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการระดับรัฐ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🖥️ บอร์ด Framework เก่าถูกชุบชีวิตเป็นคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์ โครงการ Kickstarter ที่ชื่อ FrameCluster เสนอไอเดียเปลี่ยนเมนบอร์ด Framework ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นระบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก โดยใช้ชิ้นส่วนที่พิมพ์ 3D ทั้งหมด มันไม่ได้เน้นพลังประมวลผลสูงสุด แต่เน้นการจัดระเบียบและการนำฮาร์ดแวร์เก่ามาใช้ใหม่ เหมาะสำหรับงานทดลองหรือโฮสต์เซอร์วิสเล็ก ๆ แม้จะยังระดมทุนได้ไม่มาก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการรีไซเคิลเทคโนโลยีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/your-own-supercomputer-made-up-of-old-framework-motherboards-this-kickstarter-project-aims-to-achieve-just-that 🎧 รีวิว Fairphone Fairbuds XL 2025 หูฟังรักษ์โลก Fairphone เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Fairbuds XL 2025 ที่ยังคงจุดขายด้านความยั่งยืน ใช้วัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุที่ได้จากการทำเหมืองอย่างเป็นธรรม จุดเด่นคือการควบคุมด้วยจอยสติ๊กเล็ก ๆ ที่ใช้งานง่ายและสนุก เสียงออกมาแนวสนุกสนาน มีพลังเบส แต่ยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งรายใหญ่ จุดที่อาจทำให้ลังเลคือราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น และฟีเจอร์เสริมที่ยังไม่ครบ แต่ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้งานระยะยาว หูฟังนี้ถือว่าโดดเด่นมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-headphones/fairphone-fairbuds-xl-2025-review 🎄 7 มือถือแนะนำสำหรับของขวัญคริสต์มาส TechRadar รวบรวมมือถือที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ เช่น สำหรับทุกคนทั่วไปมีตัวเลือกอย่าง iPhone 17, Samsung Galaxy S25 และ Google Pixel 10 ส่วนวัยรุ่นเหมาะกับ iPhone 16 ที่ยังเร็วและรองรับอัปเดตอีกหลายปี สำหรับพ่อแม่แนะนำ Samsung Galaxy A36 ที่จอใหญ่ แบตอึด และราคาคุ้มค่า ถ้าเป็นแฟน Apple ก็มี iPhone 17 Pro ที่ครบเครื่อง หรือถ้าเป็นสาย Android ตัวแรง OnePlus 15 ก็เป็นดาวเด่นปีนี้ เรียกว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกสไตล์และงบประมาณ 🔗 https://www.techradar.com/phones/buying-someone-a-new-phone-this-christmas-here-are-my-7-expert-recommendations-for-every-type-of-person 📰 โฆษณาใน Gemini ยังไม่มา แต่อนาคตอาจเลี่ยงไม่พ้น ช่วงนี้โลก AI กำลังถูกจับตามองเรื่องโฆษณาในแชตบอท หลังจากที่ผู้ใช้ ChatGPT แบบโปรราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือนเจอ “app suggestions” โผล่มาเหมือนโฆษณา จนบริษัทต้องรีบถอดออกและยอมรับว่าพลาดไป ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini รีบออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่มีแผนจะใส่โฆษณาในแอปตอนนี้ แต่คำว่า “ตอนนี้” ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย เพราะค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลระบบ AI อาจทำให้วันหนึ่งโฆษณากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้สะท้อนว่าอนาคตของผู้ช่วย AI อาจไม่พ้นการกลายเป็นพื้นที่โฆษณา เพียงแต่จะมาเมื่อไหร่เท่านั้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/ads-arent-coming-to-gemini-google-says-but-openai-has-shown-that-the-inevitable-is-coming 📱 Xiaomi และ Motorola เตรียมส่งแท็กคู่แข่ง AirTag ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 ก็แทบจะครองตลาดอุปกรณ์ติดตามของหาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Xiaomi และ Motorola กำลังจะเปิดตัวแท็กของตัวเอง โดยทั้งคู่จะรองรับเทคโนโลยี ultra wide-band ที่แม่นยำกว่าเดิม Xiaomi อาจเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ปลายปี ส่วน Motorola ก็มีภาพหลุดของ Moto Tag 2 ที่จะมาพร้อมสีใหม่และกันน้ำได้ด้วย ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนที่ขายราว 40 ดอลลาร์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android ที่อยากได้ตัวเลือกใหม่ในการติดตามของสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/forget-apple-airtags-motorola-and-xiaomi-are-rumored-to-be-launching-android-equivalents-soon 🧹 Dyson V8 Cyclone รุ่นพื้นฐานที่ทำความสะอาดได้เกินคาด นักรีวิวเครื่องดูดฝุ่นจาก TechRadar ได้ลอง Dyson V8 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่กลับทำความสะอาดได้ดีจนเหนือความคาดหมาย ในการทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นไฮเทคอย่าง Dyson V16 และ Shark Detect Pro รุ่น V8 Cyclone กลับทำคะแนนสูงกว่า จุดเด่นคือแรงดูดและหัวดูดที่ออกแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งคำถามว่าบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบซับซ้อนเกินไปอาจไม่ได้ช่วยให้ใช้งานดีขึ้นเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-was-blown-away-by-this-basic-dyson-vacuums-cleaning-powers-and-im-wondering-if-modern-vacs-are-over-engineered 💡  IKEA เปิดตัวไฟอัจฉริยะราคาถูกที่สุด IKEA เปิดตัวไฟ LED รุ่นใหม่ชื่อ Gömpyssling ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิดปุ๊บติดปั๊บ เหมาะสำหรับติดในตู้หรือชั้นวางของ จุดเด่นคือราคาถูกมาก แค่สองชิ้นราคาเพียง 3 ปอนด์ในอังกฤษ และ 4 ยูโรในหลายประเทศยุโรป ตัวไฟทำจากพลาสติกรีไซเคิล ใช้แบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือแอปใด ๆ ถือเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/ikea-quietly-launches-a-new-smart-light-and-its-the-simplest-and-most-affordable-one-yet 🎮 Asus ROG Raikiri Pro คอนโทรลเลอร์พร้อมจอ OLED ลดราคาหนัก สำหรับสายเกมเมอร์ Asus ROG Raikiri Pro เป็นคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีจอ OLED ในตัว สามารถปรับโปรไฟล์ปุ่มและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูในเกม ล่าสุดมีโปรลดราคาจาก 149.99 ปอนด์เหลือเพียง 89.99 ปอนด์ ถือเป็นราคาต่ำสุดที่เคยมี ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB รอบปุ่มและตัวเครื่องกึ่งโปร่งใส เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งละเอียดหรืออยากได้คอนโทรลเลอร์ที่แตกต่างจากทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/this-asus-controller-comes-with-a-screen-and-right-now-its-cheaper-than-ever 🌐  Meta ลดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ในยุโรป Meta ประกาศว่าจะลดการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับตามกฎหมาย GDPR การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ข้อมูลที่ส่งต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook และ Instagram ถูกจำกัดมากขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปที่เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/meta-promises-to-reduce-data-sharing-for-eu-users-by-2026-to-avoid-eu-gdpr-fines 🚗  รีวิวกล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro กล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro รุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง และระบบช่วยตรวจจับเหตุการณ์ แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย รีวิวจาก TechRadar ระบุว่าถึงแม้คุณภาพดี แต่คู่แข่งที่ราคาถูกกว่ากลับทำได้ใกล้เคียงหรือบางรุ่นดีกว่า ทำให้ U3000 Pro อาจเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ครบ ๆ และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tested-the-thinkware-u3000-pro-dash-cam-and-it-has-heaps-of-potential-but-its-outshone-by-affordable-rivals 🖥️ สร้างห้องทำงานที่บ้านให้สมบูรณ์แบบ เรื่องนี้พูดถึงการจัดห้องทำงานที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ทรงพลังและสะดวกสบายที่สุด เขาแนะนำอุปกรณ์สำคัญตั้งแต่แล็ปท็อปที่แรงพอสำหรับงานหนักอย่าง Dell 16 Premium ไปจนถึงเก้าอี้ Branch Verve ที่นั่งได้นานโดยไม่เมื่อย รวมถึงโต๊ะยืน FlexiSpot E7 ที่ปรับระดับได้ง่าย เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ประหยัดหมึก และจอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp ที่ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีเมาส์ Logitech MX Master 3S ที่ใช้งานได้เงียบและแม่นยำ รวมถึงระบบ Wi-Fi 7 จาก TP-Link Deco ที่ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร สุดท้ายยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Docking Station, SSD พกพา Samsung T9, Cloud Storage iDrive และหูฟัง Jabra Evolve2 75 ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือการรวมอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพและสบายใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/create-the-ultimate-work-from-home-setup 🔒 LinkedIn เดินหน้าตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ทุกคน LinkedIn ประกาศความสำเร็จในการทำให้มีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนกว่า 100 ล้านบัญชี และยังตั้งเป้าว่าจะทำให้ทุกบัญชี ทุกบริษัท และทุกตำแหน่งงานมีการยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น การยืนยันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากขึ้นถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ LinkedIn ยังเปิด API ให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Zoom นำสถานะการยืนยันไปแสดงในโปรไฟล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการประชุมออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ LinkedIn ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ของความน่าเชื่อถือบนโลกดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/linkedin-wants-every-user-to-be-verified 🎮 โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ OLED ขยายได้จาก Lenovo มีข่าวลือว่า Lenovo เตรียมเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ชื่อ Legion Pro Rollable ที่มาพร้อมจอ OLED แบบขยายได้ในแนวนอน ซึ่งจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ Ultrawide รุ่นแรกของโลก หากเป็นจริงจะเปิดตัวในงาน CES 2026 จุดเด่นคือหน้าจอสามารถขยายออกไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การเล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ คาดว่าจะใช้ซีพียู Intel Core Ultra แต่ยังไม่เปิดเผยการ์ดจอ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องราคาและน้ำหนัก แต่ถ้า Lenovo ทำได้สำเร็จ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-laptops/lenovo-legion-pro-rollable-leak-reveals-the-worlds-first-ultrawide-oled-gaming-laptop-and-i-cant-wait-to-try-it ⚠️ การโจมตีแบบ Prompt Injection อาจไม่มีวันแก้ได้ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งสหราชอาณาจักร (NCSC) เตือนว่าการโจมตีแบบ Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในข้อความเพื่อหลอกให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานผิด อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่เคยแก้ปัญหา SQL Injection เพราะโมเดลไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลกับคำสั่งได้อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักพัฒนามองโมเดลเหล่านี้เป็น “ผู้ช่วยที่สับสนได้” และออกแบบระบบให้จำกัดผลกระทบหากถูกโจมตี นี่เป็นการเตือนว่าการใช้ AI ต้องระวังและไม่ควรคาดหวังว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/prompt-injection-attacks-might-never-be-properly-mitigated-uk-ncsc-warns 🚫 ออสเตรเลียห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้แล้ว โดยห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, TikTok และ Snapchat หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มาตรการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ปกครองและนักปกป้องเด็ก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวที่กังวลว่าจะกระทบสิทธิของประชาชน เด็กบางคนเริ่มหันไปใช้แอปอื่นที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เช่น Discord หรือ Roblox และมีแนวโน้มว่าการค้นหา VPN จะเพิ่มขึ้นเพื่อหาทางเลี่ยงข้อจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/under-16s-social-media-ban-lands-in-australia 💍 Pebble Index 01 อุปกรณ์ใหม่รวมแหวนอัจฉริยะกับผู้ช่วยเสียง Pebble เปิดตัวอุปกรณ์ที่รวมฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงเข้ากับสมาร์ทริงในชื่อ Pebble Index 01 จุดเด่นคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรงจากแหวน เช่น เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือเช็กข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย ทำให้เป็นทั้งเครื่องประดับและอุปกรณ์เทคโนโลยีในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพยายามสร้างหมวดหมู่ใหม่ที่ผสมผสาน wearable กับ AI voice assistant เข้าด้วยกัน 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/pebble-is-reinventing-voice-assistants-and-smart-rings-in-one-device-meet-the-pebble-index-01 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีหลังยอดจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ลดลง ช่วงปี 2023 ถือเป็นปีที่การโจมตี ransomware พุ่งสูงสุด มีการจ่ายค่าไถ่รวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถจัดการกับแก๊งใหญ่ ๆ อย่าง ALPHV และ LockBit ได้ ทำให้ปี 2024 ยอดการโจมตีและจำนวนเงินที่เหยื่อจ่ายลดลงเหลือประมาณ 734 ล้านดอลลาร์ แม้ยังมีแก๊งอย่าง Akira ที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ แต่ภาพรวมถือว่าการปราบปรามครั้งนี้สร้างผลกระทบชัดเจนต่อวงการอาชญากรรมไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/us-treasury-offers-cautious-optimism-as-ransomware-payments-decline 🎵 Spotify เดินหน้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มมิวสิกวิดีโอในแอป Spotify กำลังพยายามกลายเป็นเหมือน MTV ยุคดิจิทัล โดยล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงอีกหลายประเทศ สามารถดูมิวสิกวิดีโอได้โดยตรงในแอป ไม่ใช่แค่ฟังเพลงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถกดสลับจากโหมดเสียงไปเป็นวิดีโอได้ทันที ฟีเจอร์นี้สร้างความตื่นเต้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าประสบการณ์ดูวิดีโอยังไม่ลื่นไหลเท่า YouTube อย่างไรก็ตาม Spotify ยังคงเดินหน้าต่อยอดเพื่อขยายบริการให้ครบวงจรทั้งภาพและเสียง 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/spotify-steps-up-its-plan-to-be-the-new-mtv-music-videos-are-rolling-out-whether-you-want-them-or-not 💻 โลกการเขียนโค้ดกับเทรนด์ใหม่ “Vibe-Coding” คำว่า “Vibe-Coding” ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 หมายถึงการเขียนโปรแกรมที่เน้นความรู้สึกและความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากฎเกณฑ์ทางเทคนิค โดยใช้ AI เป็นตัวช่วยให้โค้ดเกิดขึ้นแทบจะอัตโนมัติ แนวทางนี้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และความเสี่ยงจากโค้ดที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด นักพัฒนาจึงต้องปรับบทบาทจากการเขียนโค้ดเองไปสู่การควบคุมคุณภาพและกำกับ AI ให้ทำงานอย่างถูกต้อง 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-future-of-coding-has-a-vibe-problem-balancing-creativity-with-control ⚡ AMD เตรียมเปิดตัวชิปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Ryzen 9850X3D มีภาพหลุดจาก BIOS ที่เผยให้เห็นชิป AMD Ryzen 9850X3D ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นอัปเกรดจาก 9800X3D โดยเพิ่มความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6GHz ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 400MHz แม้ผลทดสอบเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าชิปนี้เปิดตัวจริงในงาน CES 2026 จะเป็นข่าวดีสำหรับนักเล่นเกม เพราะนอกจากจะได้รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รุ่นเก่าราคาเริ่มถูกลงด้วย 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/the-fastest-gaming-cpu-could-get-a-supercharged-version-soon-as-new-amd-ryzen-9850x3d-leak-pops-up 🌐 สหราชอาณาจักรต้องเร่งสร้างเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อแข่งขันในยุค AI รายงานล่าสุดชี้ว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักรได้กว่า 550 พันล้านปอนด์ภายในปี 2035 แต่ปัญหาคือโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายยังล้าหลังมาก โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือครองพลังการประมวลผล AI เพียง 3% ของโลก ขณะที่สหรัฐฯ ครองถึง 75% หากไม่เร่งลงทุนในเครือข่ายที่เร็ว ปลอดภัย และปรับตัวได้ทันที ประเทศอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เครือข่ายอัจฉริยะจะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและนวัตกรรมในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-uk-must-build-smarter-networks-to-lead-in-ai 💼  IBM ทุ่มเงิน 11 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ Confluent IBM กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล โดยล่าสุดมีรายงานว่าเตรียมเข้าซื้อ Confluent ด้วยมูลค่ากว่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุค AI และคลาวด์ หากดีลนี้สำเร็จ IBM จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/ibm-looks-to-secure-data-infrastructure-with-usd11bn-bid-for-confluent 🇨🇳  สหรัฐฯ เตรียมอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปจีน รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงรุ่น H200 ไปยังจีน หลังจากก่อนหน้านี้มีการจำกัดการขายเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในงานด้าน AI และการทหาร การผ่อนปรนครั้งนี้อาจช่วยให้ Nvidia ขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ 🔗 https://www.techradar.com/pro/trump-set-to-allow-nvidia-h200-chips-to-be-exported-to-china
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251210 #securityonline


    ช่องโหว่ร้ายแรงใน VMware vCenter เสี่ยงถูกยึดระบบ
    VMware ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-12346 ใน vCenter Server ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงและอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เสมือนทั้งหมดได้ทันที VMware ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานไอที https://securityonline.info/vmware-vcenter-critical-flaw-cve-2025-12346

    IBM ทุ่ม 11 พันล้านเหรียญซื้อ Confluent สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะเพื่อ AI
    IBM ประกาศดีลครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อ Confluent บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสตรีมข้อมูลที่สร้างบน Apache Kafka ด้วยมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะสร้าง “Intelligent Data Platform” เพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์และเชื่อมโยงจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว หรือดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร การเข้าซื้อครั้งนี้ยังถูกมองว่าเป็นการเสริมพลังให้ IBM หลังจากรายได้หลักเริ่มชะลอตัว โดย Confluent มีลูกค้ากว่า 6,500 ราย รวมถึง 40% ของ Fortune 500 ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นกลางปี 2026 และจะทำให้เทคโนโลยี Kafka และ Flink ถูกผนวกเข้ากับระบบของ IBM อย่างเต็มรูปแบบ https://securityonline.info/ibm-spends-11-billion-on-confluent-to-build-its-ai-intelligent-data-platform

    GrayBravo MaaS เปิดตัว CastleRAT แฝงตัวผ่าน Steam Community
    รายงานใหม่จาก Insikt Group เผยถึงการขยายตัวของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ GrayBravo ที่ให้บริการ Malware-as-a-Service โดยมีเครื่องมือใหม่ชื่อ CastleRAT ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องเหยื่อได้ จุดที่น่าสนใจคือการซ่อนเซิร์ฟเวอร์สั่งการผ่าน Steam Community Profiles ทำให้เปลี่ยนโครงสร้างได้โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ กลุ่มนี้แบ่งเป็นหลายคลัสเตอร์ เช่น การโจมตีอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยการปลอมเป็นบริษัทขนส่ง และการโจมตีผู้ใช้ Booking.com ผ่านอีเมลฟิชชิ่ง CastleRAT จึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นสูง https://securityonline.info/graybravo-maas-deploys-castlerat-backdoor-hiding-c2-with-steam-profile-dead-drop-resolvers

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Rockwell เสี่ยง SQLi และทำให้ระบบความปลอดภัยหยุดทำงาน
    Rockwell Automation ออกคำเตือนเกี่ยวกับสองช่องโหว่สำคัญ ช่องแรกคือ SQL Injection ใน FactoryTalk DataMosaix Private Cloud ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยตรง อีกช่องโหว่คือ DoS ในอุปกรณ์ GuardLink EtherNet/IP Interface ซึ่งเมื่อถูกโจมตีจะหยุดทำงานและต้องรีสตาร์ทด้วยมือ ไม่สามารถแก้ไขจากระยะไกลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและผู้ใช้งานถูกแนะนำให้อัปเดตซอฟต์แวร์ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบหยุดชะงัก https://securityonline.info/high-severity-rockwell-flaws-risk-industrial-sqli-data-tampering-and-safety-device-dos-requiring-manual-fix

    Itch.io ถูกโจมตีด้วย Lumma Stealer ผ่านอัปเดตเกมปลอม
    แพลตฟอร์มเกมอินดี้ Itch.io กลายเป็นเป้าหมายของแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้วิธีโพสต์คอมเมนต์ปลอมในหน้าเกม โดยอ้างว่าเป็น “อัปเดตเกม” และใส่ลิงก์ไปยังไฟล์ที่มี Lumma Stealer แฝงอยู่ ไฟล์หลัก game.exe ถูกสร้างด้วย Node.js และใช้เทคนิค reflective loading เพื่อซ่อน payload เมื่อรันแล้วจะขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน คุกกี้ และกระเป๋าเงินคริปโต ก่อนส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้แพลตฟอร์มเกมเป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ https://securityonline.info/itch-io-targeted-lumma-stealer-deployed-via-fake-updates-and-reflective-node-js-loader

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน n8n เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจาก Git Node
    เครื่องมือ workflow automation ยอดนิยม n8n ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-65964 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 โดยเกิดจากการตั้งค่า Git Node ที่เปิดให้ผู้ใช้กำหนดค่าได้อย่างอิสระ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนเส้นทาง hooksPath ไปยังโฟลเดอร์ที่มีสคริปต์อันตราย และเมื่อ Git ทำงานก็จะรันโค้ดที่ฝังไว้ทันที ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.119.2 และแนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการใช้ Git Node กับ repository ที่ไม่น่าเชื่อถือ https://securityonline.info/critical-n8n-rce-flaw-cve-2025-65964-allows-remote-code-execution-via-git-node-configuration-manipulation

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco ASA/FTD เสี่ยงถูกยึดระบบจากระยะไกล
    Cisco ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-26092 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 โดยเกิดจากการจัดการ SSL VPN ที่ผิดพลาดในอุปกรณ์ Adaptive Security Appliance (ASA) และ Firepower Threat Defense (FTD) ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนสามารถส่งคำสั่งพิเศษเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดถูกยึดครอง https://securityonline.info/cisco-critical-asa-ftd-vpn-flaw-cve-2025-26092-allows-unauthenticated-rce

    ช่องโหว่ใหม่ใน Windows 11 ทำให้สิทธิ์ผู้ใช้ถูกยกระดับ
    Microsoft เปิดเผยช่องโหว่ CVE-2025-23359 ใน Windows 11 ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไฟล์ระบบ โดยผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อยกระดับสิทธิ์จากผู้ใช้ทั่วไปไปเป็นผู้ดูแลระบบได้ทันที ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการอัปเดตระบบปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต https://securityonline.info/microsoft-windows-11-critical-eop-flaw-cve-2025-23359

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Android ทำให้ข้อมูลผู้ใช้เสี่ยงถูกขโมย
    Google ประกาศพบช่องโหว่ CVE-2025-12345 ใน Android ที่เปิดโอกาสให้แอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อความ รูปภาพ และข้อมูลตำแหน่ง โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีผลกระทบต่อหลายรุ่นของ Android ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว https://securityonline.info/android-critical-flaw-cve-2025-12345

    แฮกเกอร์โจมตีธนาคารด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury
    มีรายงานการโจมตีธนาคารในหลายประเทศด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลการเข้าสู่ระบบและทำธุรกรรมปลอม มัลแวร์นี้สามารถแฝงตัวในอีเมลฟิชชิ่งและแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนถูกต้อง เมื่อผู้ใช้ติดตั้งแล้ว BankFury จะดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบและส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้ทำให้หลายธนาคารต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและแจ้งเตือนลูกค้าให้ระวังการเปิดไฟล์หรือแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ https://securityonline.info/bankfury-malware-targets-banks-worldwide

    ช่องโหว่ในระบบดาวเทียมเสี่ยงถูกโจมตีจากไซเบอร์
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ในระบบควบคุมดาวเทียมที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ามาแทรกแซงการสื่อสารหรือควบคุมการทำงานของดาวเทียมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสาร การนำทาง และการสังเกตการณ์จากอวกาศ เหตุการณ์นี้ทำให้หลายองค์กรด้านอวกาศต้องเร่งตรวจสอบและอัปเดตระบบเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง https://securityonline.info/satellite-critical-cybersecurity-flaw
    📌🔐🟢 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟢🔐📌 #รวมข่าวIT #20251210 #securityonline 🖥️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน VMware vCenter เสี่ยงถูกยึดระบบ VMware ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-12346 ใน vCenter Server ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงและอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เสมือนทั้งหมดได้ทันที VMware ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานไอที 🔗 https://securityonline.info/vmware-vcenter-critical-flaw-cve-2025-12346 🏢 IBM ทุ่ม 11 พันล้านเหรียญซื้อ Confluent สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะเพื่อ AI IBM ประกาศดีลครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อ Confluent บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสตรีมข้อมูลที่สร้างบน Apache Kafka ด้วยมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะสร้าง “Intelligent Data Platform” เพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์และเชื่อมโยงจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว หรือดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร การเข้าซื้อครั้งนี้ยังถูกมองว่าเป็นการเสริมพลังให้ IBM หลังจากรายได้หลักเริ่มชะลอตัว โดย Confluent มีลูกค้ากว่า 6,500 ราย รวมถึง 40% ของ Fortune 500 ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นกลางปี 2026 และจะทำให้เทคโนโลยี Kafka และ Flink ถูกผนวกเข้ากับระบบของ IBM อย่างเต็มรูปแบบ 🔗 https://securityonline.info/ibm-spends-11-billion-on-confluent-to-build-its-ai-intelligent-data-platform 🕵️‍♂️ GrayBravo MaaS เปิดตัว CastleRAT แฝงตัวผ่าน Steam Community รายงานใหม่จาก Insikt Group เผยถึงการขยายตัวของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ GrayBravo ที่ให้บริการ Malware-as-a-Service โดยมีเครื่องมือใหม่ชื่อ CastleRAT ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องเหยื่อได้ จุดที่น่าสนใจคือการซ่อนเซิร์ฟเวอร์สั่งการผ่าน Steam Community Profiles ทำให้เปลี่ยนโครงสร้างได้โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ กลุ่มนี้แบ่งเป็นหลายคลัสเตอร์ เช่น การโจมตีอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยการปลอมเป็นบริษัทขนส่ง และการโจมตีผู้ใช้ Booking.com ผ่านอีเมลฟิชชิ่ง CastleRAT จึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นสูง 🔗 https://securityonline.info/graybravo-maas-deploys-castlerat-backdoor-hiding-c2-with-steam-profile-dead-drop-resolvers ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Rockwell เสี่ยง SQLi และทำให้ระบบความปลอดภัยหยุดทำงาน Rockwell Automation ออกคำเตือนเกี่ยวกับสองช่องโหว่สำคัญ ช่องแรกคือ SQL Injection ใน FactoryTalk DataMosaix Private Cloud ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยตรง อีกช่องโหว่คือ DoS ในอุปกรณ์ GuardLink EtherNet/IP Interface ซึ่งเมื่อถูกโจมตีจะหยุดทำงานและต้องรีสตาร์ทด้วยมือ ไม่สามารถแก้ไขจากระยะไกลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและผู้ใช้งานถูกแนะนำให้อัปเดตซอฟต์แวร์ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบหยุดชะงัก 🔗 https://securityonline.info/high-severity-rockwell-flaws-risk-industrial-sqli-data-tampering-and-safety-device-dos-requiring-manual-fix 🎮 Itch.io ถูกโจมตีด้วย Lumma Stealer ผ่านอัปเดตเกมปลอม แพลตฟอร์มเกมอินดี้ Itch.io กลายเป็นเป้าหมายของแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้วิธีโพสต์คอมเมนต์ปลอมในหน้าเกม โดยอ้างว่าเป็น “อัปเดตเกม” และใส่ลิงก์ไปยังไฟล์ที่มี Lumma Stealer แฝงอยู่ ไฟล์หลัก game.exe ถูกสร้างด้วย Node.js และใช้เทคนิค reflective loading เพื่อซ่อน payload เมื่อรันแล้วจะขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน คุกกี้ และกระเป๋าเงินคริปโต ก่อนส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้แพลตฟอร์มเกมเป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 🔗 https://securityonline.info/itch-io-targeted-lumma-stealer-deployed-via-fake-updates-and-reflective-node-js-loader 🛠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน n8n เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจาก Git Node เครื่องมือ workflow automation ยอดนิยม n8n ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-65964 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 โดยเกิดจากการตั้งค่า Git Node ที่เปิดให้ผู้ใช้กำหนดค่าได้อย่างอิสระ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนเส้นทาง hooksPath ไปยังโฟลเดอร์ที่มีสคริปต์อันตราย และเมื่อ Git ทำงานก็จะรันโค้ดที่ฝังไว้ทันที ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.119.2 และแนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการใช้ Git Node กับ repository ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/critical-n8n-rce-flaw-cve-2025-65964-allows-remote-code-execution-via-git-node-configuration-manipulation 🌐 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco ASA/FTD เสี่ยงถูกยึดระบบจากระยะไกล Cisco ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-26092 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 โดยเกิดจากการจัดการ SSL VPN ที่ผิดพลาดในอุปกรณ์ Adaptive Security Appliance (ASA) และ Firepower Threat Defense (FTD) ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนสามารถส่งคำสั่งพิเศษเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดถูกยึดครอง 🔗 https://securityonline.info/cisco-critical-asa-ftd-vpn-flaw-cve-2025-26092-allows-unauthenticated-rce 🧑‍💻 ช่องโหว่ใหม่ใน Windows 11 ทำให้สิทธิ์ผู้ใช้ถูกยกระดับ Microsoft เปิดเผยช่องโหว่ CVE-2025-23359 ใน Windows 11 ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไฟล์ระบบ โดยผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อยกระดับสิทธิ์จากผู้ใช้ทั่วไปไปเป็นผู้ดูแลระบบได้ทันที ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการอัปเดตระบบปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/microsoft-windows-11-critical-eop-flaw-cve-2025-23359 📱 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Android ทำให้ข้อมูลผู้ใช้เสี่ยงถูกขโมย Google ประกาศพบช่องโหว่ CVE-2025-12345 ใน Android ที่เปิดโอกาสให้แอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อความ รูปภาพ และข้อมูลตำแหน่ง โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีผลกระทบต่อหลายรุ่นของ Android ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว 🔗 https://securityonline.info/android-critical-flaw-cve-2025-12345 🏦 แฮกเกอร์โจมตีธนาคารด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury มีรายงานการโจมตีธนาคารในหลายประเทศด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลการเข้าสู่ระบบและทำธุรกรรมปลอม มัลแวร์นี้สามารถแฝงตัวในอีเมลฟิชชิ่งและแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนถูกต้อง เมื่อผู้ใช้ติดตั้งแล้ว BankFury จะดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบและส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้ทำให้หลายธนาคารต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและแจ้งเตือนลูกค้าให้ระวังการเปิดไฟล์หรือแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/bankfury-malware-targets-banks-worldwide 🛰️ ช่องโหว่ในระบบดาวเทียมเสี่ยงถูกโจมตีจากไซเบอร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ในระบบควบคุมดาวเทียมที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ามาแทรกแซงการสื่อสารหรือควบคุมการทำงานของดาวเทียมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสาร การนำทาง และการสังเกตการณ์จากอวกาศ เหตุการณ์นี้ทำให้หลายองค์กรด้านอวกาศต้องเร่งตรวจสอบและอัปเดตระบบเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง 🔗 https://securityonline.info/satellite-critical-cybersecurity-flaw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ASML ถูกวิจารณ์หนักหลังขาย DUV ให้จีน"

    บริษัท ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรโฟโตลิทอกราฟีรายใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเผชิญแรงกดดัน หลังมีรายงานว่าขายเครื่อง Deep Ultraviolet (DUV) ให้กับบริษัทจีนที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพ . แม้ ASML จะยืนยันว่าเครื่องจักรเหล่านี้เป็น เทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้ แต่หลายฝ่ายกังวลว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จะช่วยจีนพัฒนาโครงการด้านควอนตัมและการทหาร .

    มุมมองรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญ
    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรจะอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก ทำให้ ASML ไม่ผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจาก RAND Europa และผู้เชี่ยวชาญด้านจีนเตือนว่า บางชิ้นส่วนที่ขายไปมีความสำคัญต่อการทำงานของเครื่องจักร และควรอยู่ภายใต้การควบคุม . ข้อถกเถียงนี้สะท้อนถึงช่องโหว่ในนโยบายการควบคุมเทคโนโลยีขั้นสูง .

    ความเสี่ยงด้านควอนตัมและการทหาร
    หนึ่งในประเด็นที่น่ากังวลคือการที่เครื่องจักรถูกส่งไปยัง Shenzhen International Quantum Academy ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาควอนตัมของจีน . หน่วยข่าวกรองทหารเนเธอร์แลนด์เคยเตือนว่า การพัฒนาควอนตัมของจีนอาจมีผลต่อการใช้งานด้านทหาร เช่น ระบบสื่อสารที่ปลอดภัยและการคำนวณขั้นสูงสำหรับการออกแบบอาวุธ . แม้ DUV จะไม่ทันสมัยเท่า EUV แต่ก็ยังมีศักยภาพในการผลิตชิปที่ใช้ในงานวิจัยและการทหาร .

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
    กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดใน สงครามเทคโนโลยีระหว่างตะวันตกกับจีน โดยจีนพยายามหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้จะถูกจำกัดการนำเข้า EUV . การที่ ASML ถูกจับตามองอาจทำให้รัฐบาลยุโรปเข้มงวดขึ้นในการควบคุมการส่งออก แม้จะกระทบต่อธุรกิจ แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง .

    สรุปสาระสำคัญ
    ASML ขายเครื่อง DUV ให้จีน
    อ้างว่าเป็นเทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันไม่ผิดกฎหมาย
    ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความเสี่ยง
    บางชิ้นส่วนมีความสำคัญต่อการทำงาน ควรอยู่ภายใต้การควบคุม

    เชื่อมโยงกับโครงการควอนตัมของจีน
    Shenzhen International Quantum Academy ได้รับเครื่องจักรไปใช้งาน

    คำเตือนด้านความมั่นคง
    เทคโนโลยี DUV อาจช่วยจีนพัฒนาระบบควอนตัมและการทหาร

    คำเตือนด้านนโยบายการส่งออก
    ช่องโหว่ในกฎหมายอาจเปิดทางให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/asml-under-fire-for-selling-duv-equipment-to-chinese-firm-with-military-ties-says-the-machines-are-not-subject-to-export-controls-fears-grow-that-old-technology-will-bolster-beijings-quantum-effort
    🏭 "ASML ถูกวิจารณ์หนักหลังขาย DUV ให้จีน" บริษัท ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรโฟโตลิทอกราฟีรายใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเผชิญแรงกดดัน หลังมีรายงานว่าขายเครื่อง Deep Ultraviolet (DUV) ให้กับบริษัทจีนที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพ . แม้ ASML จะยืนยันว่าเครื่องจักรเหล่านี้เป็น เทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้ แต่หลายฝ่ายกังวลว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จะช่วยจีนพัฒนาโครงการด้านควอนตัมและการทหาร . ⚡ มุมมองรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรจะอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก ทำให้ ASML ไม่ผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจาก RAND Europa และผู้เชี่ยวชาญด้านจีนเตือนว่า บางชิ้นส่วนที่ขายไปมีความสำคัญต่อการทำงานของเครื่องจักร และควรอยู่ภายใต้การควบคุม . ข้อถกเถียงนี้สะท้อนถึงช่องโหว่ในนโยบายการควบคุมเทคโนโลยีขั้นสูง . 🔬 ความเสี่ยงด้านควอนตัมและการทหาร หนึ่งในประเด็นที่น่ากังวลคือการที่เครื่องจักรถูกส่งไปยัง Shenzhen International Quantum Academy ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาควอนตัมของจีน . หน่วยข่าวกรองทหารเนเธอร์แลนด์เคยเตือนว่า การพัฒนาควอนตัมของจีนอาจมีผลต่อการใช้งานด้านทหาร เช่น ระบบสื่อสารที่ปลอดภัยและการคำนวณขั้นสูงสำหรับการออกแบบอาวุธ . แม้ DUV จะไม่ทันสมัยเท่า EUV แต่ก็ยังมีศักยภาพในการผลิตชิปที่ใช้ในงานวิจัยและการทหาร . 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดใน สงครามเทคโนโลยีระหว่างตะวันตกกับจีน โดยจีนพยายามหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้จะถูกจำกัดการนำเข้า EUV . การที่ ASML ถูกจับตามองอาจทำให้รัฐบาลยุโรปเข้มงวดขึ้นในการควบคุมการส่งออก แม้จะกระทบต่อธุรกิจ แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ASML ขายเครื่อง DUV ให้จีน ➡️ อ้างว่าเป็นเทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้ ✅ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันไม่ผิดกฎหมาย ➡️ ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความเสี่ยง ➡️ บางชิ้นส่วนมีความสำคัญต่อการทำงาน ควรอยู่ภายใต้การควบคุม ✅ เชื่อมโยงกับโครงการควอนตัมของจีน ➡️ Shenzhen International Quantum Academy ได้รับเครื่องจักรไปใช้งาน ‼️ คำเตือนด้านความมั่นคง ⛔ เทคโนโลยี DUV อาจช่วยจีนพัฒนาระบบควอนตัมและการทหาร ‼️ คำเตือนด้านนโยบายการส่งออก ⛔ ช่องโหว่ในกฎหมายอาจเปิดทางให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญ https://www.tomshardware.com/tech-industry/asml-under-fire-for-selling-duv-equipment-to-chinese-firm-with-military-ties-says-the-machines-are-not-subject-to-export-controls-fears-grow-that-old-technology-will-bolster-beijings-quantum-effort
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่นยังล้าหลังด้านความมั่นคงไซเบอร์: คำเตือนจากหัวหน้าฝ่ายไซเบอร์

    หัวหน้าฝ่ายไซเบอร์ของญี่ปุ่นออกมาเตือนว่า ประเทศยังคง ล้าหลังด้านการป้องกันภัยไซเบอร์ เมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล แม้จะมีการลงทุนและพัฒนามากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ความท้าทายยังคงอยู่ โดยเฉพาะการขาดบุคลากรที่มีทักษะและการตอบสนองต่อภัยคุกคามที่ซับซ้อน.

    ช่องว่างด้านการป้องกันและบุคลากร
    รายงานชี้ว่า ญี่ปุ่นยังคงประสบปัญหา การขาดผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ และการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานที่ล้าสมัย ทำให้การรับมือกับการโจมตีที่ซับซ้อน เช่น ransomware และการโจมตีจากรัฐชาติ เป็นไปอย่างยากลำบาก ความล่าช้าในการปรับปรุงระบบยังทำให้ประเทศเสี่ยงต่อการโจมตีที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง.

    ความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
    หัวหน้าฝ่ายไซเบอร์เตือนว่า โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ เช่น พลังงาน การเงิน และการขนส่ง ยังคงเสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์ หากไม่เร่งปรับปรุงมาตรการป้องกัน อาจเกิดผลกระทบในวงกว้างต่อประชาชนและธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอาจใช้เป็นจุดอ่อน.

    ความจำเป็นในการเร่งปรับตัว
    ญี่ปุ่นถูกเรียกร้องให้ ลงทุนในบุคลากรและเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับการป้องกันภัยไซเบอร์ให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากยังคงล่าช้า อาจทำให้ประเทศเสียเปรียบในเวทีโลกและเสี่ยงต่อการโจมตีที่รุนแรงขึ้น.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สถานการณ์ปัจจุบันของญี่ปุ่น
    ยังล้าหลังด้านการป้องกันภัยไซเบอร์เมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล
    การลงทุนเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่เพียงพอ

    ปัญหาหลักที่พบ
    ขาดบุคลากรที่มีทักษะด้านไซเบอร์
    โครงสร้างพื้นฐานยังล้าสมัย
    การตอบสนองต่อภัยคุกคามซับซ้อนยังไม่ทันการณ์

    ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
    โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น พลังงาน การเงิน การขนส่ง เสี่ยงต่อการโจมตี
    อาจกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    หากไม่เร่งปรับปรุง ญี่ปุ่นอาจเสียเปรียบในเวทีโลก
    การโจมตีไซเบอร์อาจทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบวงกว้าง
    การขาดบุคลากรและการลงทุนที่ไม่เพียงพอคือจุดอ่อนสำคัญ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/10/japans-cyber-chief-warns-nation-still-behind-on-cybersecurity
    🛡️ ญี่ปุ่นยังล้าหลังด้านความมั่นคงไซเบอร์: คำเตือนจากหัวหน้าฝ่ายไซเบอร์ หัวหน้าฝ่ายไซเบอร์ของญี่ปุ่นออกมาเตือนว่า ประเทศยังคง ล้าหลังด้านการป้องกันภัยไซเบอร์ เมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล แม้จะมีการลงทุนและพัฒนามากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ความท้าทายยังคงอยู่ โดยเฉพาะการขาดบุคลากรที่มีทักษะและการตอบสนองต่อภัยคุกคามที่ซับซ้อน. 📉 ช่องว่างด้านการป้องกันและบุคลากร รายงานชี้ว่า ญี่ปุ่นยังคงประสบปัญหา การขาดผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ และการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานที่ล้าสมัย ทำให้การรับมือกับการโจมตีที่ซับซ้อน เช่น ransomware และการโจมตีจากรัฐชาติ เป็นไปอย่างยากลำบาก ความล่าช้าในการปรับปรุงระบบยังทำให้ประเทศเสี่ยงต่อการโจมตีที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง. 🌐 ความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ หัวหน้าฝ่ายไซเบอร์เตือนว่า โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ เช่น พลังงาน การเงิน และการขนส่ง ยังคงเสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์ หากไม่เร่งปรับปรุงมาตรการป้องกัน อาจเกิดผลกระทบในวงกว้างต่อประชาชนและธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอาจใช้เป็นจุดอ่อน. ⚠️ ความจำเป็นในการเร่งปรับตัว ญี่ปุ่นถูกเรียกร้องให้ ลงทุนในบุคลากรและเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับการป้องกันภัยไซเบอร์ให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากยังคงล่าช้า อาจทำให้ประเทศเสียเปรียบในเวทีโลกและเสี่ยงต่อการโจมตีที่รุนแรงขึ้น. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สถานการณ์ปัจจุบันของญี่ปุ่น ➡️ ยังล้าหลังด้านการป้องกันภัยไซเบอร์เมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล ➡️ การลงทุนเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่เพียงพอ ✅ ปัญหาหลักที่พบ ➡️ ขาดบุคลากรที่มีทักษะด้านไซเบอร์ ➡️ โครงสร้างพื้นฐานยังล้าสมัย ➡️ การตอบสนองต่อภัยคุกคามซับซ้อนยังไม่ทันการณ์ ✅ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ➡️ โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น พลังงาน การเงิน การขนส่ง เสี่ยงต่อการโจมตี ➡️ อาจกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ หากไม่เร่งปรับปรุง ญี่ปุ่นอาจเสียเปรียบในเวทีโลก ⛔ การโจมตีไซเบอร์อาจทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบวงกว้าง ⛔ การขาดบุคลากรและการลงทุนที่ไม่เพียงพอคือจุดอ่อนสำคัญ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/10/japans-cyber-chief-warns-nation-still-behind-on-cybersecurity
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Japan's cyber chief warns nation still behind on cybersecurity
    Japan still lags behind the US and Europe in defending against cyber threats and improvements are needed across the corporate sector, the nation's new cyber chief said.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • YouTube ครองใจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอังกฤษ

    รายงาน Online Nation 2025 ของ Ofcom เปิดเผยว่า ชาวอังกฤษใช้เวลาเฉลี่ย 51 นาทีต่อวันบน YouTube โดยบริการจาก Alphabet และ Meta ครองเวลาการใช้งานออนไลน์มากกว่าครึ่ง สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของภูมิทัศน์สื่อในสหราชอาณาจักร

    ในปี 2025 ชาวอังกฤษใช้เวลาเฉลี่ย 4 ชั่วโมงครึ่งต่อวันบนโลกออนไลน์ เพิ่มขึ้น 10 นาทีจากปีก่อน โดย YouTube เป็นบริการยอดนิยมที่สุดของ Alphabet มีผู้ใช้งานถึง 94% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผู้ใหญ่ แซงหน้า Google Search ที่มี 82%.

    Meta ยังคงแข็งแกร่ง
    แม้ YouTube จะเติบโต แต่บริการของ Meta ก็ยังครองตลาด โดย Facebook และ Messenger มีผู้ใช้ถึง 93% และ WhatsApp มีผู้ใช้ 90% ทำให้ทั้ง Alphabet และ Meta รวมกันครองเวลาการใช้งานออนไลน์มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในสหราชอาณาจักร.

    สื่อดั้งเดิมสูญเสียพื้นที่
    ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ YouTube และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทำให้ ผู้ชมของสื่อกระจายเสียงแบบดั้งเดิมลดลง ตัวอย่างเช่น Sky (ในเครือ Comcast) กำลังเจรจาซื้อ ITV ซึ่งเป็นสถานีฟรีทีวีใหญ่ที่สุดของอังกฤษ เพื่อปรับตัวต่อการแข่งขันกับแพลตฟอร์มดิจิทัล.

    ตลาดโฆษณาที่เปลี่ยนไป
    ในปี 2024 Meta และ Google ครองส่วนแบ่งโฆษณาในสหราชอาณาจักรมากถึง 60% โดย YouTube เป็นบริการที่มีผู้ชมมากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจาก BBC เท่านั้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีการ ปรับกฎเกณฑ์การโฆษณาใหม่ เพื่อสะท้อนการแข่งขันกับบริการดิจิทัล.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การใช้งาน YouTube ในสหราชอาณาจักร
    เฉลี่ย 51 นาทีต่อวันในปี 2025
    ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผู้ใหญ่ 94% ใช้ YouTube

    การใช้งานบริการอื่น ๆ
    Google Search มีผู้ใช้ 82%
    Facebook และ Messenger มีผู้ใช้ 93%
    WhatsApp มีผู้ใช้ 90%

    แนวโน้มสื่อและโฆษณา
    ผู้ชมสื่อดั้งเดิมลดลง
    Sky เจรจาซื้อ ITV เพื่อแข่งขันกับแพลตฟอร์มดิจิทัล
    Meta และ Google ครอง 60% ของตลาดโฆษณาในปี 2024

    คำเตือนต่อสื่อดั้งเดิมและตลาดโฆษณา
    การสูญเสียผู้ชมอาจทำให้สื่อดั้งเดิมเสื่อมความสำคัญ
    หากไม่ปรับกฎเกณฑ์โฆษณา อาจเกิดความไม่สมดุลในตลาด
    การพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลมากเกินไปอาจกระทบต่อความหลากหลายของสื่อ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/10/britons-watch-youtube-for-51-minutes-a-day-regulator-ofcom-says
    📺 YouTube ครองใจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอังกฤษ รายงาน Online Nation 2025 ของ Ofcom เปิดเผยว่า ชาวอังกฤษใช้เวลาเฉลี่ย 51 นาทีต่อวันบน YouTube โดยบริการจาก Alphabet และ Meta ครองเวลาการใช้งานออนไลน์มากกว่าครึ่ง สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของภูมิทัศน์สื่อในสหราชอาณาจักร ในปี 2025 ชาวอังกฤษใช้เวลาเฉลี่ย 4 ชั่วโมงครึ่งต่อวันบนโลกออนไลน์ เพิ่มขึ้น 10 นาทีจากปีก่อน โดย YouTube เป็นบริการยอดนิยมที่สุดของ Alphabet มีผู้ใช้งานถึง 94% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผู้ใหญ่ แซงหน้า Google Search ที่มี 82%. 📱 Meta ยังคงแข็งแกร่ง แม้ YouTube จะเติบโต แต่บริการของ Meta ก็ยังครองตลาด โดย Facebook และ Messenger มีผู้ใช้ถึง 93% และ WhatsApp มีผู้ใช้ 90% ทำให้ทั้ง Alphabet และ Meta รวมกันครองเวลาการใช้งานออนไลน์มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในสหราชอาณาจักร. 📉 สื่อดั้งเดิมสูญเสียพื้นที่ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ YouTube และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทำให้ ผู้ชมของสื่อกระจายเสียงแบบดั้งเดิมลดลง ตัวอย่างเช่น Sky (ในเครือ Comcast) กำลังเจรจาซื้อ ITV ซึ่งเป็นสถานีฟรีทีวีใหญ่ที่สุดของอังกฤษ เพื่อปรับตัวต่อการแข่งขันกับแพลตฟอร์มดิจิทัล. 💵 ตลาดโฆษณาที่เปลี่ยนไป ในปี 2024 Meta และ Google ครองส่วนแบ่งโฆษณาในสหราชอาณาจักรมากถึง 60% โดย YouTube เป็นบริการที่มีผู้ชมมากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจาก BBC เท่านั้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีการ ปรับกฎเกณฑ์การโฆษณาใหม่ เพื่อสะท้อนการแข่งขันกับบริการดิจิทัล. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การใช้งาน YouTube ในสหราชอาณาจักร ➡️ เฉลี่ย 51 นาทีต่อวันในปี 2025 ➡️ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผู้ใหญ่ 94% ใช้ YouTube ✅ การใช้งานบริการอื่น ๆ ➡️ Google Search มีผู้ใช้ 82% ➡️ Facebook และ Messenger มีผู้ใช้ 93% ➡️ WhatsApp มีผู้ใช้ 90% ✅ แนวโน้มสื่อและโฆษณา ➡️ ผู้ชมสื่อดั้งเดิมลดลง ➡️ Sky เจรจาซื้อ ITV เพื่อแข่งขันกับแพลตฟอร์มดิจิทัล ➡️ Meta และ Google ครอง 60% ของตลาดโฆษณาในปี 2024 ‼️ คำเตือนต่อสื่อดั้งเดิมและตลาดโฆษณา ⛔ การสูญเสียผู้ชมอาจทำให้สื่อดั้งเดิมเสื่อมความสำคัญ ⛔ หากไม่ปรับกฎเกณฑ์โฆษณา อาจเกิดความไม่สมดุลในตลาด ⛔ การพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลมากเกินไปอาจกระทบต่อความหลากหลายของสื่อ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/10/britons-watch-youtube-for-51-minutes-a-day-regulator-ofcom-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Britons watch YouTube for 51 minutes a day, regulator Ofcom says
    LONDON, Dec 10 (Reuters) - Britons watched YouTube on average for 51 minutes a day in 2025 on smartphones, tablets and PCs, regulator Ofcom said, noting that services from its owner Alphabet and from Meta account for more than half of all time spent online.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI ในห่วงโซ่ภัยคุกคามไซเบอร์: ความจริงที่ไม่ควรมองข้าม

    รายงานล่าสุดเผยว่า แม้บางนักวิจัยจะมองว่า ภัยคุกคามจาก AI เป็นเพียงการโฆษณาเกินจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้าน threat intelligence ยืนยันว่า AI ได้ถูกนำมาใช้จริงแล้วในหลายขั้นตอนของการโจมตีไซเบอร์ ตั้งแต่การสร้างมัลแวร์ที่ซับซ้อนขึ้น ไปจนถึงการทำ social engineering ที่แนบเนียนกว่าเดิม.

    ผู้เชี่ยวชาญจาก SentinelOne ระบุว่า AI ถูกใช้เพื่อปรับปรุงมัลแวร์ให้เร็วขึ้น และช่วยสร้างโค้ดหรือข้อความหลอกลวง ทำให้การโจมตีมีความยืดหยุ่นและยากต่อการตรวจจับมากขึ้น ซึ่งต่างจากมัลแวร์แบบดั้งเดิมที่มีรูปแบบตายตัว.

    หลักฐานใหม่จากงานวิจัย
    สองรายงานวิจัยล่าสุดจาก Google Threat Intelligence Group และ Anthropic ยืนยันว่า ผู้โจมตีได้เข้าสู่เฟสใหม่ของการใช้ AI ไม่ใช่แค่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่เริ่มนำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือปฏิบัติการ เช่น มัลแวร์ที่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ระหว่างการทำงาน หรือการใช้ AI เพื่อช่วยในการจารกรรมไซเบอร์.

    Anthropic ยังเปิดเผยกรณีที่กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐจีนใช้ AI เพื่อพยายามเจาะระบบขององค์กรระดับโลกกว่า 30 แห่ง ซึ่งแม้จะสำเร็จเพียงบางส่วน แต่ก็สะท้อนว่า ภัยคุกคามจาก AI ไม่ใช่เรื่องสมมติอีกต่อไป.

    ความท้าทายสำหรับ CISO และองค์กร
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การเพิกเฉยต่อภัยคุกคามจาก AI อาจทำให้องค์กรเสียเปรียบ เพราะผู้โจมตีมีความเร็วและความสามารถเหนือกว่า หากไม่ปรับกลยุทธ์ป้องกันให้ทัน องค์กรอาจไม่สามารถรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

    นอกจากนี้ยังมีความกังวลเรื่อง การขาดบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI และไซเบอร์ ซึ่งทำให้การป้องกันยากขึ้น ขณะเดียวกันการสื่อสารกับผู้บริหารและบอร์ดก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เข้าใจถึงความเสี่ยงและยอมลงทุนในมาตรการป้องกันที่เหมาะสม.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    AI ถูกนำมาใช้จริงในห่วงโซ่ภัยคุกคามไซเบอร์
    ใช้ปรับปรุงมัลแวร์ให้ซับซ้อนและเร็วขึ้น
    ใช้สร้างโค้ดและข้อความหลอกลวงเพื่อ social engineering

    งานวิจัยล่าสุดยืนยันการใช้ AI โดยผู้โจมตี
    Google พบมัลแวร์ที่ใช้ AI เปลี่ยนพฤติกรรมระหว่างทำงาน
    Anthropic พบการใช้ AI ในการจารกรรมไซเบอร์โดยกลุ่มรัฐจีน

    ผลกระทบต่อองค์กรและ CISO
    ผู้โจมตีมีความเร็วและความสามารถเหนือกว่า
    การขาดบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI ทำให้การป้องกันยากขึ้น
    ต้องสื่อสารกับบอร์ดเพื่อเพิ่มงบประมาณและมาตรการป้องกัน

    คำเตือนสำหรับธุรกิจ
    การมองข้ามภัยคุกคามจาก AI อาจทำให้องค์กรเสียเปรียบอย่างรุนแรง
    การพึ่งพาเครื่องมือ AI ที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์อาจสร้างความเสี่ยงใหม่
    หากไม่ปรับกลยุทธ์ป้องกันทันเวลา อาจไม่สามารถรับมือกับการโจมตีได้

    https://www.csoonline.com/article/4101936/ignoring-ai-in-the-threat-chain-could-be-a-costly-mistake-experts-warn.html
    🤖 AI ในห่วงโซ่ภัยคุกคามไซเบอร์: ความจริงที่ไม่ควรมองข้าม รายงานล่าสุดเผยว่า แม้บางนักวิจัยจะมองว่า ภัยคุกคามจาก AI เป็นเพียงการโฆษณาเกินจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้าน threat intelligence ยืนยันว่า AI ได้ถูกนำมาใช้จริงแล้วในหลายขั้นตอนของการโจมตีไซเบอร์ ตั้งแต่การสร้างมัลแวร์ที่ซับซ้อนขึ้น ไปจนถึงการทำ social engineering ที่แนบเนียนกว่าเดิม. ผู้เชี่ยวชาญจาก SentinelOne ระบุว่า AI ถูกใช้เพื่อปรับปรุงมัลแวร์ให้เร็วขึ้น และช่วยสร้างโค้ดหรือข้อความหลอกลวง ทำให้การโจมตีมีความยืดหยุ่นและยากต่อการตรวจจับมากขึ้น ซึ่งต่างจากมัลแวร์แบบดั้งเดิมที่มีรูปแบบตายตัว. 📑 หลักฐานใหม่จากงานวิจัย สองรายงานวิจัยล่าสุดจาก Google Threat Intelligence Group และ Anthropic ยืนยันว่า ผู้โจมตีได้เข้าสู่เฟสใหม่ของการใช้ AI ไม่ใช่แค่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่เริ่มนำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือปฏิบัติการ เช่น มัลแวร์ที่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ระหว่างการทำงาน หรือการใช้ AI เพื่อช่วยในการจารกรรมไซเบอร์. Anthropic ยังเปิดเผยกรณีที่กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐจีนใช้ AI เพื่อพยายามเจาะระบบขององค์กรระดับโลกกว่า 30 แห่ง ซึ่งแม้จะสำเร็จเพียงบางส่วน แต่ก็สะท้อนว่า ภัยคุกคามจาก AI ไม่ใช่เรื่องสมมติอีกต่อไป. ⚠️ ความท้าทายสำหรับ CISO และองค์กร ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การเพิกเฉยต่อภัยคุกคามจาก AI อาจทำให้องค์กรเสียเปรียบ เพราะผู้โจมตีมีความเร็วและความสามารถเหนือกว่า หากไม่ปรับกลยุทธ์ป้องกันให้ทัน องค์กรอาจไม่สามารถรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ. นอกจากนี้ยังมีความกังวลเรื่อง การขาดบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI และไซเบอร์ ซึ่งทำให้การป้องกันยากขึ้น ขณะเดียวกันการสื่อสารกับผู้บริหารและบอร์ดก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เข้าใจถึงความเสี่ยงและยอมลงทุนในมาตรการป้องกันที่เหมาะสม. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ AI ถูกนำมาใช้จริงในห่วงโซ่ภัยคุกคามไซเบอร์ ➡️ ใช้ปรับปรุงมัลแวร์ให้ซับซ้อนและเร็วขึ้น ➡️ ใช้สร้างโค้ดและข้อความหลอกลวงเพื่อ social engineering ✅ งานวิจัยล่าสุดยืนยันการใช้ AI โดยผู้โจมตี ➡️ Google พบมัลแวร์ที่ใช้ AI เปลี่ยนพฤติกรรมระหว่างทำงาน ➡️ Anthropic พบการใช้ AI ในการจารกรรมไซเบอร์โดยกลุ่มรัฐจีน ✅ ผลกระทบต่อองค์กรและ CISO ➡️ ผู้โจมตีมีความเร็วและความสามารถเหนือกว่า ➡️ การขาดบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI ทำให้การป้องกันยากขึ้น ➡️ ต้องสื่อสารกับบอร์ดเพื่อเพิ่มงบประมาณและมาตรการป้องกัน ‼️ คำเตือนสำหรับธุรกิจ ⛔ การมองข้ามภัยคุกคามจาก AI อาจทำให้องค์กรเสียเปรียบอย่างรุนแรง ⛔ การพึ่งพาเครื่องมือ AI ที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์อาจสร้างความเสี่ยงใหม่ ⛔ หากไม่ปรับกลยุทธ์ป้องกันทันเวลา อาจไม่สามารถรับมือกับการโจมตีได้ https://www.csoonline.com/article/4101936/ignoring-ai-in-the-threat-chain-could-be-a-costly-mistake-experts-warn.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Ignoring AI in the threat chain could be a costly mistake, experts warn
    While some researchers dismiss reports of AI-driven cyberattacks as merely marketing messages, threat intel experts counter that CISOs ignore mounting evidence of AI use in the threat chain at their own peril.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยรบเขมรส่อเค้าคล้ายสงครามยูเครน 2 : คนเคาะข่าว 08-12-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=PmzyQq8w04s
    ไทยรบเขมรส่อเค้าคล้ายสงครามยูเครน 2 : คนเคาะข่าว 08-12-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ . https://www.youtube.com/watch?v=PmzyQq8w04s
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel Core Ultra 7 270K Plus โผล่บน Geekbench แรงกว่า 265K

    รายงานจาก Tom’s Hardware เผยผลทดสอบ Intel Core Ultra 7 270K Plus รุ่นรีเฟรชจากตระกูล Arrow Lake ที่เพิ่งหลุดบน Geekbench โดยชิปใหม่นี้ทำคะแนนได้สูงกว่า Core Ultra 7 265K ถึง 5.6% ในการทดสอบ single-core และ 4.2% ใน multi-core แม้จะใช้หน่วยความจำ DDR5 ที่ช้ากว่า

    สเปกและการปรับปรุง
    Core Ultra 7 270K Plus มาพร้อม 24 คอร์ (8 P-cores + 16 E-cores) เทียบกับรุ่นเดิม 265K ที่มี 20 คอร์
    เพิ่มความเร็ว base และ turbo ของ E-core ขึ้นอีก 100 MHz
    รองรับ DDR5 ความเร็วสูงขึ้นจาก 6400 MT/s → 7200 MT/s
    ความเร็วสูงสุดที่ทดสอบได้เกือบ 5.5 GHz

    ผลการทดสอบ Geekbench
    Single-core: 3,235 คะแนน
    Multi-core: 21,368 คะแนน
    ทดสอบบน Gigabyte Z890 Eagle WiFi7 motherboard พร้อม RAM DDR5 4800 MT/s ขนาด 64 GB
    คาดว่าหากใช้ RAM ที่เร็วขึ้น คะแนนจะสูงกว่านี้อีก

    มุมมองตลาด
    แม้จะเป็นการอัปเดตที่ดี แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า Arrow Lake Refresh เป็นเพียง “stopgap” หรือการต่ออายุผลิตภัณฑ์ชั่วคราว ก่อนที่ Intel จะเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ Nova Lake ในปี 2026 เนื่องจาก AMD ยังคงครองตลาดด้วยชิปที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าในหลายด้าน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สเปกใหม่ของ Core Ultra 7 270K Plus
    24 คอร์ (8P + 16E)
    เพิ่มความเร็ว E-core และรองรับ DDR5 7200 MT/s

    ผลทดสอบ Geekbench
    Single-core 3,235 / Multi-core 21,368
    แรงกว่า 265K ถึง 5.6% และ 4.2%

    สถานการณ์ตลาด
    ใช้ LGA 1851 socket สามารถอัปเกรดได้ง่าย
    ถูกมองว่าเป็น stopgap รอ Nova Lake ในปี 2026

    คำเตือน
    หากผู้ใช้มี CPU Gen 14/15 อยู่แล้ว อัปเกรดอาจไม่คุ้มค่า
    การแข่งขันกับ AMD ยังเป็นความท้าทายใหญ่ของ Intel

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/geekbench-leak-sees-intels-upcoming-core-ultra-7-270k-comfortably-ahead-of-core-ultra-265k-alleged-result-shows-arrow-lake-refresh-chip-5-6-percent-ahead-of-the-265k
    🔍 Intel Core Ultra 7 270K Plus โผล่บน Geekbench แรงกว่า 265K รายงานจาก Tom’s Hardware เผยผลทดสอบ Intel Core Ultra 7 270K Plus รุ่นรีเฟรชจากตระกูล Arrow Lake ที่เพิ่งหลุดบน Geekbench โดยชิปใหม่นี้ทำคะแนนได้สูงกว่า Core Ultra 7 265K ถึง 5.6% ในการทดสอบ single-core และ 4.2% ใน multi-core แม้จะใช้หน่วยความจำ DDR5 ที่ช้ากว่า ⚙️ สเปกและการปรับปรุง 💠 Core Ultra 7 270K Plus มาพร้อม 24 คอร์ (8 P-cores + 16 E-cores) เทียบกับรุ่นเดิม 265K ที่มี 20 คอร์ 💠 เพิ่มความเร็ว base และ turbo ของ E-core ขึ้นอีก 100 MHz 💠 รองรับ DDR5 ความเร็วสูงขึ้นจาก 6400 MT/s → 7200 MT/s 💠 ความเร็วสูงสุดที่ทดสอบได้เกือบ 5.5 GHz 📊 ผลการทดสอบ Geekbench 💠 Single-core: 3,235 คะแนน 💠 Multi-core: 21,368 คะแนน 💠 ทดสอบบน Gigabyte Z890 Eagle WiFi7 motherboard พร้อม RAM DDR5 4800 MT/s ขนาด 64 GB 💠 คาดว่าหากใช้ RAM ที่เร็วขึ้น คะแนนจะสูงกว่านี้อีก 🔮 มุมมองตลาด แม้จะเป็นการอัปเดตที่ดี แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า Arrow Lake Refresh เป็นเพียง “stopgap” หรือการต่ออายุผลิตภัณฑ์ชั่วคราว ก่อนที่ Intel จะเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ Nova Lake ในปี 2026 เนื่องจาก AMD ยังคงครองตลาดด้วยชิปที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าในหลายด้าน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สเปกใหม่ของ Core Ultra 7 270K Plus ➡️ 24 คอร์ (8P + 16E) ➡️ เพิ่มความเร็ว E-core และรองรับ DDR5 7200 MT/s ✅ ผลทดสอบ Geekbench ➡️ Single-core 3,235 / Multi-core 21,368 ➡️ แรงกว่า 265K ถึง 5.6% และ 4.2% ✅ สถานการณ์ตลาด ➡️ ใช้ LGA 1851 socket สามารถอัปเกรดได้ง่าย ➡️ ถูกมองว่าเป็น stopgap รอ Nova Lake ในปี 2026 ‼️ คำเตือน ⛔ หากผู้ใช้มี CPU Gen 14/15 อยู่แล้ว อัปเกรดอาจไม่คุ้มค่า ⛔ การแข่งขันกับ AMD ยังเป็นความท้าทายใหญ่ของ Intel https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/geekbench-leak-sees-intels-upcoming-core-ultra-7-270k-comfortably-ahead-of-core-ultra-265k-alleged-result-shows-arrow-lake-refresh-chip-5-6-percent-ahead-of-the-265k
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • FDA รับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกเพื่อเร่งการพัฒนายารักษาโรคตับ

    องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ประกาศรับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแพทย์ประเมินโรคตับชนิดรุนแรงในกระบวนการทดลองยา เครื่องมือนี้มีชื่อว่า AIM-NASH ซึ่งทำงานบนระบบคลาวด์และใช้การวิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับ เพื่อประเมินสัญญาณของโรค เช่น การสะสมไขมัน, การอักเสบ และการเกิดพังผืด

    ปัจจุบันการประเมินโรคตับในผู้ป่วยที่เข้าร่วมการทดลองยามักต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหลายคนตรวจสอบชิ้นเนื้อด้วยตา ซึ่งใช้เวลานานและอาจมีความไม่สอดคล้องกัน AIM-NASH จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ มาตรฐานการประเมินที่แม่นยำและรวดเร็วกว่า โดยผลลัพธ์จาก AI จะถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย

    โรคที่เครื่องมือนี้มุ่งเป้า คือ Metabolic dysfunction-associated steatohepatitis (MASH) ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคนในสหรัฐฯ และอาจนำไปสู่ภาวะตับวายหรือมะเร็งตับได้ การใช้ AI ในการประเมินโรคนี้คาดว่าจะช่วยลดเวลาและต้นทุนในการพัฒนายาใหม่ลงได้ถึงครึ่งหนึ่งภายใน 3–5 ปี

    การรับรองครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะ FDA ยืนยันว่า AIM-NASH ให้ผลลัพธ์ที่ เทียบเคียงได้กับการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ และจะเปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เครื่องมือ AIM-NASH ได้รับการรับรองจาก FDA
    ใช้ AI วิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับเพื่อประเมินโรค
    ผลลัพธ์ถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย

    เป้าหมายการใช้งาน
    มุ่งช่วยเร่งการพัฒนายาสำหรับโรค MASH
    ลดเวลาและต้นทุนการทดลองยาลงได้มาก

    ความสำคัญของการรับรอง
    ผลลัพธ์จาก AIM-NASH เทียบเคียงได้กับผู้เชี่ยวชาญ
    เปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    แม้ AI จะช่วยเร่งการประเมิน แต่ยังต้องอาศัยแพทย์ตีความขั้นสุดท้าย
    หากพึ่งพา AI โดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อการวินิจฉัยผิดพลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/us-fda-qualifies-first-ai-tool-to-help-speed-liver-disease-drug-development
    🧪 FDA รับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกเพื่อเร่งการพัฒนายารักษาโรคตับ องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ประกาศรับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแพทย์ประเมินโรคตับชนิดรุนแรงในกระบวนการทดลองยา เครื่องมือนี้มีชื่อว่า AIM-NASH ซึ่งทำงานบนระบบคลาวด์และใช้การวิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับ เพื่อประเมินสัญญาณของโรค เช่น การสะสมไขมัน, การอักเสบ และการเกิดพังผืด ปัจจุบันการประเมินโรคตับในผู้ป่วยที่เข้าร่วมการทดลองยามักต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหลายคนตรวจสอบชิ้นเนื้อด้วยตา ซึ่งใช้เวลานานและอาจมีความไม่สอดคล้องกัน AIM-NASH จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ มาตรฐานการประเมินที่แม่นยำและรวดเร็วกว่า โดยผลลัพธ์จาก AI จะถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย โรคที่เครื่องมือนี้มุ่งเป้า คือ Metabolic dysfunction-associated steatohepatitis (MASH) ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคนในสหรัฐฯ และอาจนำไปสู่ภาวะตับวายหรือมะเร็งตับได้ การใช้ AI ในการประเมินโรคนี้คาดว่าจะช่วยลดเวลาและต้นทุนในการพัฒนายาใหม่ลงได้ถึงครึ่งหนึ่งภายใน 3–5 ปี การรับรองครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะ FDA ยืนยันว่า AIM-NASH ให้ผลลัพธ์ที่ เทียบเคียงได้กับการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ และจะเปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เครื่องมือ AIM-NASH ได้รับการรับรองจาก FDA ➡️ ใช้ AI วิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับเพื่อประเมินโรค ➡️ ผลลัพธ์ถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย ✅ เป้าหมายการใช้งาน ➡️ มุ่งช่วยเร่งการพัฒนายาสำหรับโรค MASH ➡️ ลดเวลาและต้นทุนการทดลองยาลงได้มาก ✅ ความสำคัญของการรับรอง ➡️ ผลลัพธ์จาก AIM-NASH เทียบเคียงได้กับผู้เชี่ยวชาญ ➡️ เปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ แม้ AI จะช่วยเร่งการประเมิน แต่ยังต้องอาศัยแพทย์ตีความขั้นสุดท้าย ⛔ หากพึ่งพา AI โดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อการวินิจฉัยผิดพลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/us-fda-qualifies-first-ai-tool-to-help-speed-liver-disease-drug-development
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US FDA qualifies first AI tool to help speed liver disease drug development
    Dec 8 (Reuters) - The U.S. Food and Drug Administration has qualified the first artificial intelligence tool designed to help doctors assess a severe form of fatty liver disease in drug trials, the agency said on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้คนกำลังอัปโหลดเวชระเบียนเข้าสู่ AI Chatbots

    ผู้คนทั่วโลกกำลังอัปโหลดผลตรวจเลือด, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัดเข้าสู่ AI Chatbots เช่น ChatGPT เพื่อหาคำตอบด้านสุขภาพ แต่สิ่งนี้สร้างทั้ง โอกาส และ ความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่อง ความแม่นยำของข้อมูล และ ความเป็นส่วนตัว

    แม้จะมีความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและความแม่นยำ แต่ผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลกเริ่มนำข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เช่น ผลตรวจเลือด, ภาพถ่ายทางการแพทย์, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัด ไปใส่ใน ChatGPT และ AI Chatbots อื่น ๆ เพื่อหาคำตอบที่รวดเร็วและเข้าใจง่ายกว่าการรอพบแพทย์

    ตัวอย่างเช่น Mollie Kerr วัย 26 ปี อัปโหลดผลตรวจฮอร์โมนเข้าสู่ ChatGPT และได้รับคำตอบว่าอาจเป็นเนื้องอกต่อมใต้สมอง แม้แพทย์จะสั่ง MRI ตรวจ แต่ผลกลับไม่พบเนื้องอกใด ๆ ขณะที่ Elliot Royce วัย 63 ปี ได้ผลลัพธ์ที่ช่วยชีวิต เมื่อ ChatGPT แนะนำให้ตรวจเชิงลึกจนพบการอุดตันเส้นเลือดหัวใจถึง 85% และได้รับการรักษาด้วยการใส่ stent

    อย่างไรก็ตาม งานวิจัยพบว่า ความแม่นยำของการวินิจฉัยจาก Chatbots ต่ำกว่า 50% หากผู้ใช้ไม่มีความรู้ทางการแพทย์ และที่สำคัญคือ กฎหมาย HIPAA ไม่ครอบคลุมบริษัทที่ให้บริการ Chatbots ทำให้ผู้ใช้แทบไม่มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลสุขภาพที่อัปโหลดไปแล้ว

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้บริษัทอย่าง OpenAI จะมีมาตรการป้องกัน เช่น การอนุญาตให้ผู้ใช้ opt-out จากการใช้ข้อมูลเพื่อฝึกโมเดล แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการรั่วไหล ข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดอ่อนอาจถูกเชื่อมโยงกลับไปยังบุคคล แม้จะลบชื่อหรือ metadata ออกไปแล้วก็ตาม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การใช้งานจริง
    ผู้ใช้ทั่วโลกอัปโหลดผลตรวจเลือด, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัดเข้าสู่ Chatbots
    บางกรณีช่วยให้ตรวจพบโรคร้ายแรง แต่บางกรณีให้ผลลัพธ์ผิดพลาด

    ความแม่นยำและข้อจำกัด
    งานวิจัยพบว่าความแม่นยำต่ำกว่า 50% หากไม่มีความรู้ทางการแพทย์
    Chatbots มักให้คำตอบทั่วไป ไม่ได้ปรับตามข้อมูลเฉพาะบุคคล

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว
    กฎหมาย HIPAA ไม่ครอบคลุมบริษัท Chatbots
    ผู้ใช้แทบไม่มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลที่อัปโหลดแล้ว

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    ข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดอ่อนอาจถูกเชื่อมโยงกลับไปยังบุคคล แม้จะลบชื่อออกแล้ว
    การรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพอาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติหรือผลกระทบทางสังคม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/people-are-uploading-their-medical-records-to-ai-chatbots
    🏥 ผู้คนกำลังอัปโหลดเวชระเบียนเข้าสู่ AI Chatbots ผู้คนทั่วโลกกำลังอัปโหลดผลตรวจเลือด, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัดเข้าสู่ AI Chatbots เช่น ChatGPT เพื่อหาคำตอบด้านสุขภาพ แต่สิ่งนี้สร้างทั้ง โอกาส และ ความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่อง ความแม่นยำของข้อมูล และ ความเป็นส่วนตัว แม้จะมีความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและความแม่นยำ แต่ผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลกเริ่มนำข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เช่น ผลตรวจเลือด, ภาพถ่ายทางการแพทย์, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัด ไปใส่ใน ChatGPT และ AI Chatbots อื่น ๆ เพื่อหาคำตอบที่รวดเร็วและเข้าใจง่ายกว่าการรอพบแพทย์ ตัวอย่างเช่น Mollie Kerr วัย 26 ปี อัปโหลดผลตรวจฮอร์โมนเข้าสู่ ChatGPT และได้รับคำตอบว่าอาจเป็นเนื้องอกต่อมใต้สมอง แม้แพทย์จะสั่ง MRI ตรวจ แต่ผลกลับไม่พบเนื้องอกใด ๆ ขณะที่ Elliot Royce วัย 63 ปี ได้ผลลัพธ์ที่ช่วยชีวิต เมื่อ ChatGPT แนะนำให้ตรวจเชิงลึกจนพบการอุดตันเส้นเลือดหัวใจถึง 85% และได้รับการรักษาด้วยการใส่ stent อย่างไรก็ตาม งานวิจัยพบว่า ความแม่นยำของการวินิจฉัยจาก Chatbots ต่ำกว่า 50% หากผู้ใช้ไม่มีความรู้ทางการแพทย์ และที่สำคัญคือ กฎหมาย HIPAA ไม่ครอบคลุมบริษัทที่ให้บริการ Chatbots ทำให้ผู้ใช้แทบไม่มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลสุขภาพที่อัปโหลดไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้บริษัทอย่าง OpenAI จะมีมาตรการป้องกัน เช่น การอนุญาตให้ผู้ใช้ opt-out จากการใช้ข้อมูลเพื่อฝึกโมเดล แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการรั่วไหล ข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดอ่อนอาจถูกเชื่อมโยงกลับไปยังบุคคล แม้จะลบชื่อหรือ metadata ออกไปแล้วก็ตาม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การใช้งานจริง ➡️ ผู้ใช้ทั่วโลกอัปโหลดผลตรวจเลือด, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัดเข้าสู่ Chatbots ➡️ บางกรณีช่วยให้ตรวจพบโรคร้ายแรง แต่บางกรณีให้ผลลัพธ์ผิดพลาด ✅ ความแม่นยำและข้อจำกัด ➡️ งานวิจัยพบว่าความแม่นยำต่ำกว่า 50% หากไม่มีความรู้ทางการแพทย์ ➡️ Chatbots มักให้คำตอบทั่วไป ไม่ได้ปรับตามข้อมูลเฉพาะบุคคล ✅ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว ➡️ กฎหมาย HIPAA ไม่ครอบคลุมบริษัท Chatbots ➡️ ผู้ใช้แทบไม่มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลที่อัปโหลดแล้ว ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ ข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดอ่อนอาจถูกเชื่อมโยงกลับไปยังบุคคล แม้จะลบชื่อออกแล้ว ⛔ การรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพอาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติหรือผลกระทบทางสังคม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/people-are-uploading-their-medical-records-to-ai-chatbots
    WWW.THESTAR.COM.MY
    People are uploading their medical records to AI chatbots
    Despite privacy risks and inaccuracy concerns, people are feeding blood test results, doctor's notes and surgical reports into ChatGPT and the like.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks

    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ (CISA) ออกประกาศเตือนว่า มีการโจมตีช่องโหว่ร้ายแรงใน เราเตอร์ D-Link รุ่นเก่า (EOL) และอุปกรณ์ Array Networks โดยใช้เทคนิค command injection และ buffer overflow ซึ่งกำลังถูกโจมตีจริงในหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น

    CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ใหม่เข้าสู่ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) Catalog เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2025 โดยพบว่าอุปกรณ์ D-Link Go-RT-AC750 มีช่องโหว่ CVE-2022-37055 ซึ่งเป็น buffer overflow ที่มีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 เกือบสูงสุด และไม่มีการออกแพตช์แก้ไข เนื่องจากอุปกรณ์รุ่นนี้หมดอายุการสนับสนุนแล้ว (End of Life)

    ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์ Array Networks ArrayOS AG gateways ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-66644 ซึ่งเป็น OS command injection ที่กำลังถูกโจมตีในญี่ปุ่น ทำให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่งอันตรายบนระบบได้โดยตรง

    ผลกระทบและความเสี่ยง
    ช่องโหว่เหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์เครือข่ายจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกดักข้อมูล, การโจมตีแบบ DDoS, หรือการใช้เป็นฐานโจมตีต่อไปยังระบบอื่น ๆ โดยเฉพาะองค์กรที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าที่ไม่ได้รับการสนับสนุนแล้ว

    สิ่งที่น่ากังวลคือ ไม่มีแพตช์แก้ไขสำหรับ D-Link รุ่นเก่า ทำให้ผู้ใช้ต้องหาทางเปลี่ยนหรือเลิกใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ทันที หากยังคงใช้งานอยู่จะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    CISA แนะนำให้องค์กรและผู้ใช้ทั่วไป เลิกใช้อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุน (EOL) และเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ใหม่ที่ยังได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ควรตรวจสอบระบบเครือข่ายว่ามีการใช้อุปกรณ์ Array Networks ที่มีช่องโหว่หรือไม่ และรีบติดตั้งแพตช์หรือหาทางป้องกันโดยเร็วที่สุด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบ
    CVE-2022-37055: Buffer Overflow ใน D-Link Go-RT-AC750 (CVSS 9.8)
    CVE-2025-66644: Command Injection ใน Array Networks AG gateways

    สถานการณ์การโจมตี
    ช่องโหว่ D-Link ไม่มีแพตช์เพราะหมดอายุการสนับสนุน
    ช่องโหว่ Array Networks กำลังถูกโจมตีจริงในญี่ปุ่น

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร
    อาจถูกควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล
    เสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นฐานโจมตี DDoS หรือเจาะระบบอื่น

    คำแนะนำด้านความปลอดภัย
    เลิกใช้อุปกรณ์ D-Link รุ่นเก่าที่หมดอายุการสนับสนุน
    ตรวจสอบและอัปเดตแพตช์ใน Array Networks โดยเร็วที่สุด

    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack/
    ⚡ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ (CISA) ออกประกาศเตือนว่า มีการโจมตีช่องโหว่ร้ายแรงใน เราเตอร์ D-Link รุ่นเก่า (EOL) และอุปกรณ์ Array Networks โดยใช้เทคนิค command injection และ buffer overflow ซึ่งกำลังถูกโจมตีจริงในหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ใหม่เข้าสู่ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) Catalog เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2025 โดยพบว่าอุปกรณ์ D-Link Go-RT-AC750 มีช่องโหว่ CVE-2022-37055 ซึ่งเป็น buffer overflow ที่มีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 เกือบสูงสุด และไม่มีการออกแพตช์แก้ไข เนื่องจากอุปกรณ์รุ่นนี้หมดอายุการสนับสนุนแล้ว (End of Life) ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์ Array Networks ArrayOS AG gateways ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-66644 ซึ่งเป็น OS command injection ที่กำลังถูกโจมตีในญี่ปุ่น ทำให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่งอันตรายบนระบบได้โดยตรง 🌐 ผลกระทบและความเสี่ยง ช่องโหว่เหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์เครือข่ายจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกดักข้อมูล, การโจมตีแบบ DDoS, หรือการใช้เป็นฐานโจมตีต่อไปยังระบบอื่น ๆ โดยเฉพาะองค์กรที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าที่ไม่ได้รับการสนับสนุนแล้ว สิ่งที่น่ากังวลคือ ไม่มีแพตช์แก้ไขสำหรับ D-Link รุ่นเก่า ทำให้ผู้ใช้ต้องหาทางเปลี่ยนหรือเลิกใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ทันที หากยังคงใช้งานอยู่จะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง 🛡️ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ CISA แนะนำให้องค์กรและผู้ใช้ทั่วไป เลิกใช้อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุน (EOL) และเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ใหม่ที่ยังได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ควรตรวจสอบระบบเครือข่ายว่ามีการใช้อุปกรณ์ Array Networks ที่มีช่องโหว่หรือไม่ และรีบติดตั้งแพตช์หรือหาทางป้องกันโดยเร็วที่สุด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบ ➡️ CVE-2022-37055: Buffer Overflow ใน D-Link Go-RT-AC750 (CVSS 9.8) ➡️ CVE-2025-66644: Command Injection ใน Array Networks AG gateways ✅ สถานการณ์การโจมตี ➡️ ช่องโหว่ D-Link ไม่มีแพตช์เพราะหมดอายุการสนับสนุน ➡️ ช่องโหว่ Array Networks กำลังถูกโจมตีจริงในญี่ปุ่น ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร ⛔ อาจถูกควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล ⛔ เสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นฐานโจมตี DDoS หรือเจาะระบบอื่น ‼️ คำแนะนำด้านความปลอดภัย ⛔ เลิกใช้อุปกรณ์ D-Link รุ่นเก่าที่หมดอายุการสนับสนุน ⛔ ตรวจสอบและอัปเดตแพตช์ใน Array Networks โดยเร็วที่สุด https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack/
    SECURITYONLINE.INFO
    CISA KEV Alert: EOL D-Link and Array Networks Command Injection Under Active Attack
    CISA KEV adds EOL D-Link and Array Networks flaws. ArrayOS AG (CVE-2025-66644) is actively exploited in Japan to drop PHP webshells. Retire EOL D-Link and patch ArrayOS AG immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar

    โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max
    ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review

    ลำโพง Marshall Middleton II
    Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review

    iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ
    แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า
    https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update

    ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้
    โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้
    https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers

    Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ
    นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน
    https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review

    กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag
    สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก
    https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review

    มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า
    จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea

    ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก
    เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev

    รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR
    มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review

    ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ
    มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
    https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021

    แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027
    Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses

    แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น
    นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly

    ชิปจีนท้าชน Nvidia
    บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น
    https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ
    เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review

    Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น
    ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum

    UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก
    UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง
    https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means

    AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน
    AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review

    ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด
    ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend

    Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค
    ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar 🎥 โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review 🔊 ลำโพง Marshall Middleton II Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review 📱 iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update 🛡️ ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้ โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers 💻 Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review 🎒 กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review 🏍️ มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea 🚗 ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev 📱 รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review 📷 ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021 🥽 แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027 Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses 🌿 แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly 💻 ชิปจีนท้าชน Nvidia บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 📱 รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review 💻 Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🧹 เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum 🖥️ UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means 🔥 AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review 🔔 ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend 🛡️ Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เด็กเล็กกับโซเชียลมีเดีย – สัญญาณอันตรายที่สังคมต้องรับมือ"

    รายงานจาก Centre for Social Justice (CSJ) ในสหราชอาณาจักรเผยว่า กว่า 814,000 เด็กอายุ 3–5 ปี กำลังใช้งานโซเชียลมีเดีย แม้ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ แต่กลับถูกป้อนด้วยคอนเทนต์และอัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้ใหญ่ ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและสุขภาพเด็ก.

    การวิเคราะห์นี้อ้างอิงข้อมูลประชากรปี 2024 และผลสำรวจจาก Ofcom ที่พบว่า เกือบ 40% ของผู้ปกครองเด็กเล็กยอมรับว่าลูกใช้โซเชียลมีเดีย อย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์ม สะท้อนว่าปัญหานี้ไม่ได้เป็นเพียงกรณีเฉพาะ แต่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ในวงกว้าง.

    Lord Nash อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการอังกฤษเรียกร้องให้มี การรณรงค์ด้านสาธารณสุข เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงผลเสีย และเสนอให้ ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี พร้อมบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรับผิดชอบหากปล่อยให้เด็กเล็กเข้าถึงแพลตฟอร์มได้.

    ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ที่กำหนดให้แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีได้ ถือเป็นก้าวแรกของโลกในการสร้างมาตรการเชิงกฎหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย.

    สรุปสาระสำคัญ
    สถานการณ์การใช้โซเชียลมีเดียในเด็กเล็ก
    เด็กอายุ 3–5 ปีในสหราชอาณาจักรกว่า 814,000 คนใช้งานโซเชียลมีเดีย
    เกือบ 40% ของผู้ปกครองยอมรับว่าลูกใช้แพลตฟอร์มออนไลน์

    ข้อเสนอและมาตรการ
    เรียกร้องให้ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี
    เสนอให้มีการรณรงค์สาธารณสุขเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง

    ตัวอย่างจากต่างประเทศ
    ออสเตรเลียออกกฎหมายใหม่บังคับใช้ 10 ธันวาคม 2025
    แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชี

    คำเตือนต่อสังคมและผู้ปกครอง
    เด็กเล็กที่ยังไม่รู้หนังสือกำลังถูกป้อนคอนเทนต์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่
    เสี่ยงต่อการพัฒนาสมองและสุขภาพจิตจากการเสพติดโซเชียลมีเดีย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/07/scale-of-social-media-use-in-pre-school-children-deeply-alarming
    📰 "เด็กเล็กกับโซเชียลมีเดีย – สัญญาณอันตรายที่สังคมต้องรับมือ" 👶 รายงานจาก Centre for Social Justice (CSJ) ในสหราชอาณาจักรเผยว่า กว่า 814,000 เด็กอายุ 3–5 ปี กำลังใช้งานโซเชียลมีเดีย แม้ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ แต่กลับถูกป้อนด้วยคอนเทนต์และอัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้ใหญ่ ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและสุขภาพเด็ก. 📊 การวิเคราะห์นี้อ้างอิงข้อมูลประชากรปี 2024 และผลสำรวจจาก Ofcom ที่พบว่า เกือบ 40% ของผู้ปกครองเด็กเล็กยอมรับว่าลูกใช้โซเชียลมีเดีย อย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์ม สะท้อนว่าปัญหานี้ไม่ได้เป็นเพียงกรณีเฉพาะ แต่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ในวงกว้าง. ⚖️ Lord Nash อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการอังกฤษเรียกร้องให้มี การรณรงค์ด้านสาธารณสุข เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงผลเสีย และเสนอให้ ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี พร้อมบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรับผิดชอบหากปล่อยให้เด็กเล็กเข้าถึงแพลตฟอร์มได้. 🌍 ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ที่กำหนดให้แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีได้ ถือเป็นก้าวแรกของโลกในการสร้างมาตรการเชิงกฎหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สถานการณ์การใช้โซเชียลมีเดียในเด็กเล็ก ➡️ เด็กอายุ 3–5 ปีในสหราชอาณาจักรกว่า 814,000 คนใช้งานโซเชียลมีเดีย ➡️ เกือบ 40% ของผู้ปกครองยอมรับว่าลูกใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ ✅ ข้อเสนอและมาตรการ ➡️ เรียกร้องให้ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี ➡️ เสนอให้มีการรณรงค์สาธารณสุขเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ✅ ตัวอย่างจากต่างประเทศ ➡️ ออสเตรเลียออกกฎหมายใหม่บังคับใช้ 10 ธันวาคม 2025 ➡️ แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชี ‼️ คำเตือนต่อสังคมและผู้ปกครอง ⛔ เด็กเล็กที่ยังไม่รู้หนังสือกำลังถูกป้อนคอนเทนต์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ ⛔ เสี่ยงต่อการพัฒนาสมองและสุขภาพจิตจากการเสพติดโซเชียลมีเดีย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/07/scale-of-social-media-use-in-pre-school-children-deeply-alarming
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Scale of social media use in pre-school children 'deeply alarming'
    Hundreds of thousands of pre-school children are "being fed content and algorithms designed to hook adults", a former education minister in Britain has warned.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภัยลวงตาแห่งยุคดิจิทัล – Deepfake กำลังท้าทายความเชื่อมั่นของสังคม"

    เทคโนโลยี Deepfake กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนทำให้วิดีโอปลอมมีความสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น คลิปที่แสดงภาพรถไฟ LRT ไฟไหม้ หรือคลิปนักการเมืองและคนดังโปรโมตการลงทุนที่ไม่จริง สิ่งเหล่านี้สร้างความสับสนและหลอกลวงผู้ชมได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มที่ผู้คนใช้กันทุกวันอย่าง WhatsApp และ TikTok

    รายงานจากหน่วยงานในมาเลเซียระบุว่า มีการลบวิดีโอหลอกลวงที่ใช้ Deepfake ไปแล้วกว่าพันกรณีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่านี่อาจเป็นเพียง "ยอดภูเขาน้ำแข็ง" เพราะหลายคนที่ถูกหลอกมักไม่ยอมเปิดเผย ทำให้จำนวนจริงอาจสูงกว่าที่เห็นในข่าวมาก

    ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ชี้ว่า Deepfake ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากสามารถใช้เพื่อสร้างข่าวปลอม ปั่นกระแสทางการเมือง หรือทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Liar’s Dividend” ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อข้อมูลที่ได้รับ

    ในระดับโลก หลายประเทศเริ่มพัฒนาเครื่องมือเพื่อตรวจสอบและติดตาม Deepfake เช่น การฝัง Watermark ดิจิทัล หรือการใช้ AI ตรวจจับความผิดปกติในภาพและเสียง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือการทำให้ผู้ใช้ทั่วไปมีทักษะด้าน "Digital Literacy" ที่ไม่ใช่แค่การใช้เทคโนโลยี แต่ต้องรู้จักตั้งคำถามและตรวจสอบข้อมูลก่อนเชื่อหรือแชร์ต่อ

    สรุปสาระสำคัญ
    การแพร่ระบาดของ Deepfake
    คลิปปลอมที่สมจริง เช่น รถไฟไฟไหม้ และนักการเมืองโปรโมตการลงทุน
    มีการลบวิดีโอหลอกลวงกว่า 1,000 กรณีในมาเลเซีย

    ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ
    ใช้สร้างข่าวปลอม ปั่นการเมือง และหลอกลวงทางการเงิน
    เกิด “Liar’s Dividend” ทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม

    แนวทางรับมือ
    การใช้ Watermark ดิจิทัล และ AI ตรวจจับความผิดปกติ
    การสร้างทักษะ Digital Literacy ให้ประชาชนรู้จักตรวจสอบข้อมูล

    คำเตือนต่อผู้ใช้งาน
    Deepfake กำลังพัฒนาเร็วขึ้นจนยากต่อการตรวจจับด้วยตาเปล่า
    ผู้ใช้ที่มีทักษะดิจิทัลต่ำเสี่ยงถูกหลอกง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวหรือวงสนทนาส่วนตัว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/artificially-intelligent-the-evolving-threat-of-deepfakes
    📰 "ภัยลวงตาแห่งยุคดิจิทัล – Deepfake กำลังท้าทายความเชื่อมั่นของสังคม" 🤖 เทคโนโลยี Deepfake กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนทำให้วิดีโอปลอมมีความสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น คลิปที่แสดงภาพรถไฟ LRT ไฟไหม้ หรือคลิปนักการเมืองและคนดังโปรโมตการลงทุนที่ไม่จริง สิ่งเหล่านี้สร้างความสับสนและหลอกลวงผู้ชมได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มที่ผู้คนใช้กันทุกวันอย่าง WhatsApp และ TikTok 📈 รายงานจากหน่วยงานในมาเลเซียระบุว่า มีการลบวิดีโอหลอกลวงที่ใช้ Deepfake ไปแล้วกว่าพันกรณีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่านี่อาจเป็นเพียง "ยอดภูเขาน้ำแข็ง" เพราะหลายคนที่ถูกหลอกมักไม่ยอมเปิดเผย ทำให้จำนวนจริงอาจสูงกว่าที่เห็นในข่าวมาก ⚠️ ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ชี้ว่า Deepfake ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากสามารถใช้เพื่อสร้างข่าวปลอม ปั่นกระแสทางการเมือง หรือทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Liar’s Dividend” ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อข้อมูลที่ได้รับ 🌐 ในระดับโลก หลายประเทศเริ่มพัฒนาเครื่องมือเพื่อตรวจสอบและติดตาม Deepfake เช่น การฝัง Watermark ดิจิทัล หรือการใช้ AI ตรวจจับความผิดปกติในภาพและเสียง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือการทำให้ผู้ใช้ทั่วไปมีทักษะด้าน "Digital Literacy" ที่ไม่ใช่แค่การใช้เทคโนโลยี แต่ต้องรู้จักตั้งคำถามและตรวจสอบข้อมูลก่อนเชื่อหรือแชร์ต่อ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การแพร่ระบาดของ Deepfake ➡️ คลิปปลอมที่สมจริง เช่น รถไฟไฟไหม้ และนักการเมืองโปรโมตการลงทุน ➡️ มีการลบวิดีโอหลอกลวงกว่า 1,000 กรณีในมาเลเซีย ✅ ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ ➡️ ใช้สร้างข่าวปลอม ปั่นการเมือง และหลอกลวงทางการเงิน ➡️ เกิด “Liar’s Dividend” ทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม ✅ แนวทางรับมือ ➡️ การใช้ Watermark ดิจิทัล และ AI ตรวจจับความผิดปกติ ➡️ การสร้างทักษะ Digital Literacy ให้ประชาชนรู้จักตรวจสอบข้อมูล ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้งาน ⛔ Deepfake กำลังพัฒนาเร็วขึ้นจนยากต่อการตรวจจับด้วยตาเปล่า ⛔ ผู้ใช้ที่มีทักษะดิจิทัลต่ำเสี่ยงถูกหลอกง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวหรือวงสนทนาส่วนตัว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/artificially-intelligent-the-evolving-threat-of-deepfakes
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Artificially intelligent: The evolving threat of deepfakes
    With artificial intelligence increasingly being used to augment and sometimes create photos and videos populating social media feeds, how can you tell what's authentic and what's not? Experts weigh in with some pointers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาษา Perl เสื่อมความนิยมลง ไม่ได้เกิดจากข้อจำกัดทางเทคนิค

    บทความนี้อธิบายว่า การที่ภาษา Perl เสื่อมความนิยมลง ไม่ได้เกิดจากข้อจำกัดทางเทคนิค แต่เป็นผลจาก วัฒนธรรมของชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนา ที่ทำให้ภาษาไม่สามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของโลกซอฟต์แวร์

    ผู้เขียนเล่าว่าช่วงยุค 90s–2000s Perl เคยเป็นภาษาที่โดดเด่นมาก โดยเฉพาะในงาน เว็บและระบบ UNIX แต่ชุมชน Perl เติบโตจากวัฒนธรรม sysadmin ที่มีลักษณะ ปิดกั้น, เน้นความยาก, และยกย่องความเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” มากกว่าการเปิดรับผู้ใช้ใหม่ สิ่งนี้สร้างบรรยากาศที่ไม่เป็นมิตรต่อมือใหม่ และทำให้การพัฒนาภาษาไม่ก้าวไปข้างหน้า

    นอกจากนี้ยังมีแนวคิด TIMTOWTDI (There Is More Than One Way To Do It) ที่แม้จะดูเสรี แต่กลับสร้างความซับซ้อนและ dependency hell ผ่าน CPAN เพราะทุกอย่างสามารถทำได้หลายวิธีโดยไม่ต้องรวมเข้าสู่ core language ผลลัพธ์คือภาษาไม่พัฒนาอย่างเป็นระบบ และเกิดความแตกแยกเมื่อมีการสร้าง Perl 6 ซึ่งกลายเป็น “schism” ที่สะท้อนความขัดแย้งภายในชุมชน

    เมื่อเทียบกับภาษาอื่น เช่น Ruby (Rails), PHP, และ Python ที่มีวัฒนธรรมเปิดกว้างและเน้นความง่ายต่อผู้ใช้ใหม่ ทำให้ Perl สูญเสียความนิยมอย่างรวดเร็ว แม้ในเชิงเทคนิค Perl จะยังคงมีความสามารถสูง แต่การไม่ปรับตัวทางวัฒนธรรมทำให้มันถูกแทนที่ในตลาดเว็บและระบบสมัยใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Perl เคยรุ่งเรืองในยุค 90s–2000s
    ใช้กันแพร่หลายในงานเว็บและระบบ UNIX

    วัฒนธรรมชุมชนแบบปิดกั้น
    เน้นความยาก, ยกย่องผู้เชี่ยวชาญ, ไม่เป็นมิตรต่อมือใหม่

    แนวคิด TIMTOWTDI
    ทำให้เกิดความซับซ้อนและ dependency hell ผ่าน CPAN

    การแตกแยกจาก Perl 6
    สะท้อนความขัดแย้งภายในชุมชนและทำให้การพัฒนาภาษาหยุดชะงัก

    ภาษาอื่นที่เข้ามาแทนที่
    Ruby (Rails), PHP, Python มีวัฒนธรรมเปิดกว้างและใช้ง่ายกว่า

    ข้อจำกัดที่แท้จริงของ Perl
    ไม่ใช่ด้านเทคนิค แต่เป็นด้านวัฒนธรรมและการปรับตัวของชุมชน

    https://www.beatworm.co.uk/blog/computers/perls-decline-was-cultural-not-technical
    📉 ภาษา Perl เสื่อมความนิยมลง ไม่ได้เกิดจากข้อจำกัดทางเทคนิค บทความนี้อธิบายว่า การที่ภาษา Perl เสื่อมความนิยมลง ไม่ได้เกิดจากข้อจำกัดทางเทคนิค แต่เป็นผลจาก วัฒนธรรมของชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนา ที่ทำให้ภาษาไม่สามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของโลกซอฟต์แวร์ ผู้เขียนเล่าว่าช่วงยุค 90s–2000s Perl เคยเป็นภาษาที่โดดเด่นมาก โดยเฉพาะในงาน เว็บและระบบ UNIX แต่ชุมชน Perl เติบโตจากวัฒนธรรม sysadmin ที่มีลักษณะ ปิดกั้น, เน้นความยาก, และยกย่องความเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” มากกว่าการเปิดรับผู้ใช้ใหม่ สิ่งนี้สร้างบรรยากาศที่ไม่เป็นมิตรต่อมือใหม่ และทำให้การพัฒนาภาษาไม่ก้าวไปข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีแนวคิด TIMTOWTDI (There Is More Than One Way To Do It) ที่แม้จะดูเสรี แต่กลับสร้างความซับซ้อนและ dependency hell ผ่าน CPAN เพราะทุกอย่างสามารถทำได้หลายวิธีโดยไม่ต้องรวมเข้าสู่ core language ผลลัพธ์คือภาษาไม่พัฒนาอย่างเป็นระบบ และเกิดความแตกแยกเมื่อมีการสร้าง Perl 6 ซึ่งกลายเป็น “schism” ที่สะท้อนความขัดแย้งภายในชุมชน เมื่อเทียบกับภาษาอื่น เช่น Ruby (Rails), PHP, และ Python ที่มีวัฒนธรรมเปิดกว้างและเน้นความง่ายต่อผู้ใช้ใหม่ ทำให้ Perl สูญเสียความนิยมอย่างรวดเร็ว แม้ในเชิงเทคนิค Perl จะยังคงมีความสามารถสูง แต่การไม่ปรับตัวทางวัฒนธรรมทำให้มันถูกแทนที่ในตลาดเว็บและระบบสมัยใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Perl เคยรุ่งเรืองในยุค 90s–2000s ➡️ ใช้กันแพร่หลายในงานเว็บและระบบ UNIX ✅ วัฒนธรรมชุมชนแบบปิดกั้น ➡️ เน้นความยาก, ยกย่องผู้เชี่ยวชาญ, ไม่เป็นมิตรต่อมือใหม่ ✅ แนวคิด TIMTOWTDI ➡️ ทำให้เกิดความซับซ้อนและ dependency hell ผ่าน CPAN ✅ การแตกแยกจาก Perl 6 ➡️ สะท้อนความขัดแย้งภายในชุมชนและทำให้การพัฒนาภาษาหยุดชะงัก ✅ ภาษาอื่นที่เข้ามาแทนที่ ➡️ Ruby (Rails), PHP, Python มีวัฒนธรรมเปิดกว้างและใช้ง่ายกว่า ‼️ ข้อจำกัดที่แท้จริงของ Perl ⛔ ไม่ใช่ด้านเทคนิค แต่เป็นด้านวัฒนธรรมและการปรับตัวของชุมชน https://www.beatworm.co.uk/blog/computers/perls-decline-was-cultural-not-technical
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 เรื่องที่ไม่ควรถาม ChatGPT

    ChatGPT ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ค้นหาข้อมูลไปจนถึงวางแผนงาน แต่บทความนี้ชี้ว่า หลายคำถามไม่ควรถามกับ ChatGPT เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้มองว่า ChatGPT เป็น “ผู้รู้ทุกเรื่อง” ทั้งที่จริงๆ แล้วมันยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยงสูง

    หนึ่งในข้อควรระวังคือ ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ หรือข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เพราะการสนทนาไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเสมอไป และมีกรณีที่ข้อมูลรั่วไหลจากการแฮ็กหรือบั๊กในระบบ นอกจากนี้ ChatGPT อาจ “จำ” และนำข้อมูลที่เคยได้รับไปใช้ซ้ำในบริบทอื่นโดยไม่ตั้งใจ

    อีกประเด็นคือ คำถามที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสม เช่น การขอคำแนะนำเรื่องยาเสพติดหรือการทำผิดกฎหมาย ถึงแม้ระบบจะมีข้อจำกัด แต่ก็มีวิธีหลีกเลี่ยงที่บางคนใช้ ซึ่งเสี่ยงทั้งต่อการถูกดำเนินคดีและการได้รับข้อมูลผิดๆ ที่อันตรายต่อชีวิต

    นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ไม่ควรถาม เช่น คำแนะนำทางการแพทย์ ความสัมพันธ์ การเงิน กฎหมาย และการทำนายอนาคต เพราะ ChatGPT ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และมีแนวโน้มให้ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องสำคัญของชีวิต

    14 เรื่องที่ไม่ควรถาม ChatGPT
    ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ เช่น ชื่อจริง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลบัตรเครดิต
    รหัสผ่านหรือข้อมูลบัญชีออนไลน์ เพราะอาจถูกนำไปใช้โดยไม่ตั้งใจหรือเสี่ยงต่อการรั่วไหล
    คำแนะนำทางการแพทย์ ChatGPT ไม่ใช่แพทย์ และอาจให้ข้อมูลผิดพลาดที่เป็นอันตราย
    คำแนะนำด้านสุขภาพจิต ไม่สามารถแทนที่นักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญได้
    คำแนะนำทางกฎหมาย อาจให้ข้อมูลไม่ถูกต้องและไม่สามารถใช้แทนทนายความได้
    คำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน มีความเสี่ยงสูงที่จะให้ข้อมูลผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม
    คำถามเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมาย เช่น วิธีแฮ็ก การใช้ยาเสพติด หรือการก่ออาชญากรรม
    ข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทหรือองค์กร เช่น โค้ดภายใน เอกสารลับ หรือข้อมูลลูกค้า
    การทำนายอนาคต ChatGPT ไม่มีความสามารถในการคาดการณ์ที่แม่นยำ
    คำถามเกี่ยวกับการเมืองที่อ่อนไหว อาจให้ข้อมูลที่มีอคติหรือไม่ถูกต้อง
    การใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การปฐมพยาบาลหรือการรับมือภัยพิบัติ
    คำถามที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ส่วนตัว เช่น การตัดสินใจเรื่องคู่ครองหรือครอบครัว
    การขอข้อมูลจาก Dark Web หรือเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย เป็นอันตรายและผิดกฎหมาย
    การใช้ ChatGPT เป็น “ผู้ตัดสินใจแทน” ไม่ควรฝากการตัดสินใจสำคัญให้กับ AI ที่อาจให้ข้อมูลผิดพลาด


    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลส่วนตัวไม่ควรใส่ใน ChatGPT
    เสี่ยงต่อการรั่วไหลและถูกนำไปใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ

    ไม่ควรถามเรื่องผิดกฎหมาย
    ข้อมูลการสนทนาอาจถูกใช้เป็นหลักฐาน และคำตอบอาจผิดพลาด

    ไม่ควรใช้ ChatGPT วิเคราะห์ข้อมูลที่มีการคุ้มครอง
    เช่น ข้อมูลทางการแพทย์หรือโค้ดลับของบริษัท

    คำแนะนำทางการแพทย์และสุขภาพจิต
    ChatGPT อาจให้ข้อมูลผิดและไม่สามารถแทนผู้เชี่ยวชาญได้

    เรื่องความสัมพันธ์และการเงิน
    มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับคำแนะนำที่ไม่เหมาะสมหรืออคติ

    การใช้ ChatGPT ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
    คำตอบผิดพลาดอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต

    การขอให้ทำนายอนาคตหรือเรื่องการเมือง
    ChatGPT มีอคติและไม่สามารถให้ข้อมูลที่แม่นยำได้

    https://www.slashgear.com/2042576/never-ask-chatgpt-these-things/
    🚫 14 เรื่องที่ไม่ควรถาม ChatGPT ChatGPT ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ค้นหาข้อมูลไปจนถึงวางแผนงาน แต่บทความนี้ชี้ว่า หลายคำถามไม่ควรถามกับ ChatGPT เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้มองว่า ChatGPT เป็น “ผู้รู้ทุกเรื่อง” ทั้งที่จริงๆ แล้วมันยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยงสูง หนึ่งในข้อควรระวังคือ ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ หรือข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เพราะการสนทนาไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเสมอไป และมีกรณีที่ข้อมูลรั่วไหลจากการแฮ็กหรือบั๊กในระบบ นอกจากนี้ ChatGPT อาจ “จำ” และนำข้อมูลที่เคยได้รับไปใช้ซ้ำในบริบทอื่นโดยไม่ตั้งใจ อีกประเด็นคือ คำถามที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสม เช่น การขอคำแนะนำเรื่องยาเสพติดหรือการทำผิดกฎหมาย ถึงแม้ระบบจะมีข้อจำกัด แต่ก็มีวิธีหลีกเลี่ยงที่บางคนใช้ ซึ่งเสี่ยงทั้งต่อการถูกดำเนินคดีและการได้รับข้อมูลผิดๆ ที่อันตรายต่อชีวิต นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ไม่ควรถาม เช่น คำแนะนำทางการแพทย์ ความสัมพันธ์ การเงิน กฎหมาย และการทำนายอนาคต เพราะ ChatGPT ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และมีแนวโน้มให้ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องสำคัญของชีวิต 📝 14 เรื่องที่ไม่ควรถาม ChatGPT ❓ ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ เช่น ชื่อจริง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลบัตรเครดิต ❓ รหัสผ่านหรือข้อมูลบัญชีออนไลน์ เพราะอาจถูกนำไปใช้โดยไม่ตั้งใจหรือเสี่ยงต่อการรั่วไหล ❓ คำแนะนำทางการแพทย์ ChatGPT ไม่ใช่แพทย์ และอาจให้ข้อมูลผิดพลาดที่เป็นอันตราย ❓ คำแนะนำด้านสุขภาพจิต ไม่สามารถแทนที่นักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญได้ ❓ คำแนะนำทางกฎหมาย อาจให้ข้อมูลไม่ถูกต้องและไม่สามารถใช้แทนทนายความได้ ❓ คำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน มีความเสี่ยงสูงที่จะให้ข้อมูลผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม ❓ คำถามเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมาย เช่น วิธีแฮ็ก การใช้ยาเสพติด หรือการก่ออาชญากรรม ❓ ข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทหรือองค์กร เช่น โค้ดภายใน เอกสารลับ หรือข้อมูลลูกค้า ❓ การทำนายอนาคต ChatGPT ไม่มีความสามารถในการคาดการณ์ที่แม่นยำ ❓ คำถามเกี่ยวกับการเมืองที่อ่อนไหว อาจให้ข้อมูลที่มีอคติหรือไม่ถูกต้อง ❓ การใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การปฐมพยาบาลหรือการรับมือภัยพิบัติ ❓ คำถามที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ส่วนตัว เช่น การตัดสินใจเรื่องคู่ครองหรือครอบครัว ❓ การขอข้อมูลจาก Dark Web หรือเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย เป็นอันตรายและผิดกฎหมาย ❓ การใช้ ChatGPT เป็น “ผู้ตัดสินใจแทน” ไม่ควรฝากการตัดสินใจสำคัญให้กับ AI ที่อาจให้ข้อมูลผิดพลาด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลส่วนตัวไม่ควรใส่ใน ChatGPT ➡️ เสี่ยงต่อการรั่วไหลและถูกนำไปใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ ✅ ไม่ควรถามเรื่องผิดกฎหมาย ➡️ ข้อมูลการสนทนาอาจถูกใช้เป็นหลักฐาน และคำตอบอาจผิดพลาด ✅ ไม่ควรใช้ ChatGPT วิเคราะห์ข้อมูลที่มีการคุ้มครอง ➡️ เช่น ข้อมูลทางการแพทย์หรือโค้ดลับของบริษัท ✅ คำแนะนำทางการแพทย์และสุขภาพจิต ➡️ ChatGPT อาจให้ข้อมูลผิดและไม่สามารถแทนผู้เชี่ยวชาญได้ ✅ เรื่องความสัมพันธ์และการเงิน ➡️ มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับคำแนะนำที่ไม่เหมาะสมหรืออคติ ‼️ การใช้ ChatGPT ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ⛔ คำตอบผิดพลาดอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ‼️ การขอให้ทำนายอนาคตหรือเรื่องการเมือง ⛔ ChatGPT มีอคติและไม่สามารถให้ข้อมูลที่แม่นยำได้ https://www.slashgear.com/2042576/never-ask-chatgpt-these-things/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    14 Things You Should Never Ask ChatGPT - SlashGear
    Many people trust chatbots without thinking twice. Here’s a grounded look at why that trust can fail and what’s worth handling offline.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar

    US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน
    Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million

    ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI)
    หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI
    การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament

    Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น
    รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark

    ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ
    ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน
    https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets

    Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง
    หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี
    https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated

    หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้
    แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า
    https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt

    Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ
    Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่
    https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone

    โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง
    TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป
    https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you

    ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า
    Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง
    ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง
    https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track

    รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K
    จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review

    แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้
    นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles

    ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600
    มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged

    รีวิว TerraMaster F2-425 NAS
    อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง
    https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review

    ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB

    นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่
    https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd

    Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว
    ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon

    Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6
    การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you

    ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life

      ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม
    การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar 📱🔒 US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 👵👩‍💻 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️📲 EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️💻 ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰🕵️ Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million 📱📡 ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI) หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🎲🤖 OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament ⚠️📂 Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark 🖥️ ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets 🎵 Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated 🪟 หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้ แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt 📱 Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone 🎮 โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you ⚙️ ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 🪟 Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🚀 5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track 🖥️ รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review 🎶 แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้ นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles 📱 ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600 มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged 💾 รีวิว TerraMaster F2-425 NAS อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง 🔗 https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review 💽 ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd 📱📖 Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon 🔊 Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6 การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you 🔋 ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life 🎬  ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้ ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วิธีใช้กล้อง Thermal ในบ้านและโรงรถ"

    กล้อง Thermal หรือกล้องอินฟราเรด ไม่ได้มีไว้ใช้เฉพาะงานวิศวกรรมหรือทหารเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในบ้านและโรงรถอย่างมาก เพราะสามารถตรวจจับความแตกต่างของอุณหภูมิได้ ทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ตาเปล่าไม่สามารถเห็นได้ เช่น น้ำรั่ว พลังงานรั่วไหล หรือแม้แต่สัตว์รบกวนที่ซ่อนอยู่ในผนัง

    หนึ่งในประโยชน์หลักคือการ ตรวจจับน้ำรั่ว ซึ่งมักจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะสายเกินไป กล้อง Thermal สามารถแสดงจุดที่มีความร้อนหรือความเย็นผิดปกติ ทำให้เรารู้ตำแหน่งที่น้ำซึมอยู่ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยตรวจสอบ การรั่วไหลของพลังงาน เช่น ช่องว่างตามหน้าต่างหรือประตู ที่ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    ในโรงรถ กล้อง Thermal ยังช่วยตรวจสอบ ระบบเบรกและเครื่องยนต์ ได้ เช่น หากเบรกบางล้อร้อนผิดปกติ อาจหมายถึงการสึกหรอไม่เท่ากัน หรือหากเครื่องยนต์มี กระบอกสูบทำงานผิดพลาด (misfiring cylinder) ก็จะเห็นเป็นจุดเย็นท่ามกลางความร้อนของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังใช้ตรวจสอบ ระบบไฟฟ้า เพื่อหาจุดเสี่ยงไฟไหม้จากสายไฟที่ร้อนผิดปกติได้ด้วย

    สุดท้าย กล้อง Thermal ยังมีประโยชน์ในงานทั่วไป เช่น ตรวจสอบ ฉนวนกันความร้อน, ระบบ HVAC, สุขภาพต้นไม้ในบ้าน, หรือแม้แต่การหาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank โดยไม่ต้องขุดค้นสุ่ม ทำให้เป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าและช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การใช้งานในบ้าน
    ตรวจจับน้ำรั่วและความชื้น
    ตรวจสอบการรั่วไหลของพลังงานและฉนวนกันความร้อน
    ตรวจสอบการทำงานของระบบ HVAC

    การใช้งานในโรงรถ
    ตรวจสอบความร้อนของเบรกและเครื่องยนต์
    ตรวจสอบกระบอกสูบที่ทำงานผิดพลาด
    ตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟไหม้

    การใช้งานทั่วไป
    ตรวจสอบสุขภาพต้นไม้และพืช
    หาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank
    ใช้ในการตรวจสอบบ้านก่อนซื้อหรือเช่า

    ข้อควรระวัง
    กล้อง Thermal ไม่สามารถ “มองทะลุผนัง” ได้จริง เพียงแค่แสดงความต่างอุณหภูมิ
    ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิภายนอกและการเก็บฉนวน
    ไม่ควรใช้แทนการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่พบความผิดปกติร้ายแรง

    https://www.slashgear.com/2037763/thermal-camera-uses-home-garage/
    🌡️ "วิธีใช้กล้อง Thermal ในบ้านและโรงรถ" กล้อง Thermal หรือกล้องอินฟราเรด ไม่ได้มีไว้ใช้เฉพาะงานวิศวกรรมหรือทหารเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในบ้านและโรงรถอย่างมาก เพราะสามารถตรวจจับความแตกต่างของอุณหภูมิได้ ทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ตาเปล่าไม่สามารถเห็นได้ เช่น น้ำรั่ว พลังงานรั่วไหล หรือแม้แต่สัตว์รบกวนที่ซ่อนอยู่ในผนัง หนึ่งในประโยชน์หลักคือการ ตรวจจับน้ำรั่ว ซึ่งมักจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะสายเกินไป กล้อง Thermal สามารถแสดงจุดที่มีความร้อนหรือความเย็นผิดปกติ ทำให้เรารู้ตำแหน่งที่น้ำซึมอยู่ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยตรวจสอบ การรั่วไหลของพลังงาน เช่น ช่องว่างตามหน้าต่างหรือประตู ที่ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในโรงรถ กล้อง Thermal ยังช่วยตรวจสอบ ระบบเบรกและเครื่องยนต์ ได้ เช่น หากเบรกบางล้อร้อนผิดปกติ อาจหมายถึงการสึกหรอไม่เท่ากัน หรือหากเครื่องยนต์มี กระบอกสูบทำงานผิดพลาด (misfiring cylinder) ก็จะเห็นเป็นจุดเย็นท่ามกลางความร้อนของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังใช้ตรวจสอบ ระบบไฟฟ้า เพื่อหาจุดเสี่ยงไฟไหม้จากสายไฟที่ร้อนผิดปกติได้ด้วย สุดท้าย กล้อง Thermal ยังมีประโยชน์ในงานทั่วไป เช่น ตรวจสอบ ฉนวนกันความร้อน, ระบบ HVAC, สุขภาพต้นไม้ในบ้าน, หรือแม้แต่การหาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank โดยไม่ต้องขุดค้นสุ่ม ทำให้เป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าและช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การใช้งานในบ้าน ➡️ ตรวจจับน้ำรั่วและความชื้น ➡️ ตรวจสอบการรั่วไหลของพลังงานและฉนวนกันความร้อน ➡️ ตรวจสอบการทำงานของระบบ HVAC ✅ การใช้งานในโรงรถ ➡️ ตรวจสอบความร้อนของเบรกและเครื่องยนต์ ➡️ ตรวจสอบกระบอกสูบที่ทำงานผิดพลาด ➡️ ตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟไหม้ ✅ การใช้งานทั่วไป ➡️ ตรวจสอบสุขภาพต้นไม้และพืช ➡️ หาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank ➡️ ใช้ในการตรวจสอบบ้านก่อนซื้อหรือเช่า ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ กล้อง Thermal ไม่สามารถ “มองทะลุผนัง” ได้จริง เพียงแค่แสดงความต่างอุณหภูมิ ⛔ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิภายนอกและการเก็บฉนวน ⛔ ไม่ควรใช้แทนการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่พบความผิดปกติร้ายแรง https://www.slashgear.com/2037763/thermal-camera-uses-home-garage/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    13 Handy Ways To Use A Thermal Camera Around The Home And Garage - SlashGear
    Surprising ways a thermal camera can flag home and car issues before they get costly, giving you a clearer picture behind the walls and under the hood.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความทนทานของ MacBook Pro M5

    ข่าวนี้เล่าถึงกรณีที่ MacBook Pro M5 ของผู้ใช้รายหนึ่งถูกลืมไว้บนหลังคารถ ก่อนจะตกลงและถูกล้อรถทับ แต่กลับเสียหายเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของโครงสร้าง Unibody Aluminum ที่ Apple ใช้มานาน

    ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งเล่าว่าเขาลืมวาง MacBook Pro M5 ไว้บนหลังคารถ เมื่อขับออกไปเครื่องตกลงและถูกล้อรถทับ แต่เมื่อเก็บกลับมา พบว่าเครื่องยังทำงานได้สมบูรณ์ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจและยืนยันถึงคุณภาพวัสดุที่ Apple ใช้

    โครงสร้าง Unibody Aluminum
    Apple ใช้การออกแบบ Unibody Aluminum มานานหลายปี ซึ่งช่วยให้เครื่องแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดและแรงบิด เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวอย่างชัดเจนว่าโครงสร้างดังกล่าวสามารถป้องกันความเสียหายได้ดีกว่าลaptops ส่วนใหญ่ในตลาด

    มุมมองจากฟิสิกส์
    ผู้เชี่ยวชาญบางคนอธิบายว่า การที่เครื่องไม่แตกหักเกิดจากแรงกดที่กระจายไปทั่วพื้นที่กว้าง ทำให้แรงไม่กระจุกตัวจนทำลายโครงสร้าง อีกทั้ง MacBook ยังถูกใส่ในซองราคาถูกที่ช่วยลดแรงกระแทกเล็กน้อย

    ผลสะท้อนในชุมชนออนไลน์
    เหตุการณ์นี้ถูกแชร์อย่างกว้างขวางใน Reddit และสื่อเทคโนโลยี โดยหลายคนยกให้เป็น “หลักฐานภาคสนาม” ของความทนทาน MacBook และบางรายถึงกับเปรียบว่า “อาจกันกระสุนได้” เนื่องจากเคยมีกรณีที่ MacBook ช่วยชีวิตคนในเหตุกราดยิง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    MacBook Pro M5 ถูกล้อรถทับแต่ยังใช้งานได้
    มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย

    โครงสร้าง Unibody Aluminum ของ Apple
    แข็งแรงและทนทานกว่า Laptops ส่วนใหญ่

    แรงกดถูกกระจายออกไปทั่วพื้นที่
    ลดความเสียหายจากการทับโดยตรง

    ชุมชนออนไลน์ยกเป็นตัวอย่างความทนทาน
    มีการเปรียบเทียบถึงความสามารถกันกระสุน

    เหตุการณ์นี้เป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่การรับประกัน
    ผู้ใช้ทั่วไปไม่ควรทดสอบด้วยการทำให้เครื่องตกหรือถูกทับ

    ความเสี่ยงจากการใช้งานผิดวิธี
    อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวรแม้มีโครงสร้างแข็งแรง

    https://wccftech.com/m5-macbook-pro-ran-over-by-car-by-sustains-minor-scratches/
    💻 ความทนทานของ MacBook Pro M5 ข่าวนี้เล่าถึงกรณีที่ MacBook Pro M5 ของผู้ใช้รายหนึ่งถูกลืมไว้บนหลังคารถ ก่อนจะตกลงและถูกล้อรถทับ แต่กลับเสียหายเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของโครงสร้าง Unibody Aluminum ที่ Apple ใช้มานาน ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งเล่าว่าเขาลืมวาง MacBook Pro M5 ไว้บนหลังคารถ เมื่อขับออกไปเครื่องตกลงและถูกล้อรถทับ แต่เมื่อเก็บกลับมา พบว่าเครื่องยังทำงานได้สมบูรณ์ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจและยืนยันถึงคุณภาพวัสดุที่ Apple ใช้ 🛡️ โครงสร้าง Unibody Aluminum Apple ใช้การออกแบบ Unibody Aluminum มานานหลายปี ซึ่งช่วยให้เครื่องแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดและแรงบิด เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวอย่างชัดเจนว่าโครงสร้างดังกล่าวสามารถป้องกันความเสียหายได้ดีกว่าลaptops ส่วนใหญ่ในตลาด 🔬 มุมมองจากฟิสิกส์ ผู้เชี่ยวชาญบางคนอธิบายว่า การที่เครื่องไม่แตกหักเกิดจากแรงกดที่กระจายไปทั่วพื้นที่กว้าง ทำให้แรงไม่กระจุกตัวจนทำลายโครงสร้าง อีกทั้ง MacBook ยังถูกใส่ในซองราคาถูกที่ช่วยลดแรงกระแทกเล็กน้อย 🌍 ผลสะท้อนในชุมชนออนไลน์ เหตุการณ์นี้ถูกแชร์อย่างกว้างขวางใน Reddit และสื่อเทคโนโลยี โดยหลายคนยกให้เป็น “หลักฐานภาคสนาม” ของความทนทาน MacBook และบางรายถึงกับเปรียบว่า “อาจกันกระสุนได้” เนื่องจากเคยมีกรณีที่ MacBook ช่วยชีวิตคนในเหตุกราดยิง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ MacBook Pro M5 ถูกล้อรถทับแต่ยังใช้งานได้ ➡️ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย ✅ โครงสร้าง Unibody Aluminum ของ Apple ➡️ แข็งแรงและทนทานกว่า Laptops ส่วนใหญ่ ✅ แรงกดถูกกระจายออกไปทั่วพื้นที่ ➡️ ลดความเสียหายจากการทับโดยตรง ✅ ชุมชนออนไลน์ยกเป็นตัวอย่างความทนทาน ➡️ มีการเปรียบเทียบถึงความสามารถกันกระสุน ‼️ เหตุการณ์นี้เป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่การรับประกัน ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปไม่ควรทดสอบด้วยการทำให้เครื่องตกหรือถูกทับ ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้งานผิดวิธี ⛔ อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวรแม้มีโครงสร้างแข็งแรง https://wccftech.com/m5-macbook-pro-ran-over-by-car-by-sustains-minor-scratches/
    WCCFTECH.COM
    M5 MacBook Pro’s Superior Build Quality Demonstrated In An Extreme Scenario When Its Owner Accidentally Ran Over It And It Only Sustained ‘Minor Scratches’
    An M5 MacBook Pro owner was thoroughly surprised at how durable his machine is because it only obtained minor scratches after being run over by a car
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียยังคงใช้ Starlink บนโดรนโจมตี

    รายงานล่าสุดจาก Ukraine Defense Express และภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ชาวยูเครน พบว่าโดรนรุ่น Molniya ถูกติดตั้ง Starlink Mini อย่างชัดเจน แม้เพนตากอนเคยยืนยันเมื่อปี 2024 ว่ามี “วิธีแก้ที่ดี” เพื่อหยุดการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่หลักฐานใหม่แสดงให้เห็นว่ารัสเซียยังคงหาช่องทางเข้าถึงระบบนี้ได้อยู่

    ความเสี่ยงจากการสื่อสารไร้ขีดจำกัด
    การติดตั้ง Starlink บนโดรนทำให้รัสเซียสามารถควบคุม UAV ได้ไกลกว่าระบบวิทยุทั่วไป และยังสามารถปรับเป้าหมายแบบเรียลไทม์ระหว่างบิน ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพของโดรนโจมตีแบบ “suicide drone” และทำให้การป้องกันของยูเครนยากขึ้นมาก

    ช่องทางมืดและตลาดผิดกฎหมาย
    มีรายงานว่ารัสเซียได้ จัดหาชุด Starlink ผ่านตลาดมืด และช่องทางที่ไม่เป็นทางการ แม้ SpaceX ยืนยันว่าไม่ได้ขายหรือให้บริการในรัสเซีย แต่การลักลอบนำเข้าอุปกรณ์ยังคงเกิดขึ้น และถูกนำไปใช้ในสนามรบเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการโจมตี

    มุมมองด้านความมั่นคงโลก
    นักวิเคราะห์เตือนว่าการใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์อย่าง Starlink ในสงคราม อาจเป็นตัวอย่างของการ “ทำให้เทคโนโลยีพลเรือนกลายเป็นเครื่องมือทางทหาร” ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อยูเครน แต่ยังสร้างแรงกดดันต่อกฎระเบียบสากลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอวกาศในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบโดรน Molniya ติดตั้ง Starlink Mini
    ภาพถ่ายจากผู้เชี่ยวชาญยูเครนยืนยันการใช้งานจริง

    ความสามารถของ Starlink ในการควบคุมระยะไกล
    ทำให้โดรนสามารถปรับเป้าหมายและสื่อสารได้แบบไร้ข้อจำกัด

    ตลาดมืดเป็นช่องทางจัดหาอุปกรณ์
    รัสเซียยังคงเข้าถึง Starlink แม้มีมาตรการป้องกันจากสหรัฐฯ

    ผลกระทบต่อความมั่นคงโลกและกฎระเบียบอวกาศ
    เทคโนโลยีพลเรือนถูกนำไปใช้ในสงครามจริง

    ความเสี่ยงต่อการโจมตีที่แม่นยำและยากต่อการป้องกัน
    เพิ่มประสิทธิภาพของโดรน suicide และทำให้ยูเครนเสียเปรียบ

    การควบคุมเทคโนโลยีพลเรือนที่ไม่เพียงพอ
    อาจกลายเป็นแบบอย่างให้ประเทศอื่นนำไปใช้ในสงคราม

    https://www.tomshardware.com/service-providers/network-providers/russia-still-using-starlink-guided-drones-in-ukraine-insists-report-starlink-mini-atop-grounded-drone-points-to-ongoing-issue-despite-u-s-dod-claims-threat-was-blunted
    🛰️ รัสเซียยังคงใช้ Starlink บนโดรนโจมตี รายงานล่าสุดจาก Ukraine Defense Express และภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ชาวยูเครน พบว่าโดรนรุ่น Molniya ถูกติดตั้ง Starlink Mini อย่างชัดเจน แม้เพนตากอนเคยยืนยันเมื่อปี 2024 ว่ามี “วิธีแก้ที่ดี” เพื่อหยุดการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่หลักฐานใหม่แสดงให้เห็นว่ารัสเซียยังคงหาช่องทางเข้าถึงระบบนี้ได้อยู่ ⚡ ความเสี่ยงจากการสื่อสารไร้ขีดจำกัด การติดตั้ง Starlink บนโดรนทำให้รัสเซียสามารถควบคุม UAV ได้ไกลกว่าระบบวิทยุทั่วไป และยังสามารถปรับเป้าหมายแบบเรียลไทม์ระหว่างบิน ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพของโดรนโจมตีแบบ “suicide drone” และทำให้การป้องกันของยูเครนยากขึ้นมาก 🌍 ช่องทางมืดและตลาดผิดกฎหมาย มีรายงานว่ารัสเซียได้ จัดหาชุด Starlink ผ่านตลาดมืด และช่องทางที่ไม่เป็นทางการ แม้ SpaceX ยืนยันว่าไม่ได้ขายหรือให้บริการในรัสเซีย แต่การลักลอบนำเข้าอุปกรณ์ยังคงเกิดขึ้น และถูกนำไปใช้ในสนามรบเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการโจมตี 🔒 มุมมองด้านความมั่นคงโลก นักวิเคราะห์เตือนว่าการใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์อย่าง Starlink ในสงคราม อาจเป็นตัวอย่างของการ “ทำให้เทคโนโลยีพลเรือนกลายเป็นเครื่องมือทางทหาร” ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อยูเครน แต่ยังสร้างแรงกดดันต่อกฎระเบียบสากลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอวกาศในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบโดรน Molniya ติดตั้ง Starlink Mini ➡️ ภาพถ่ายจากผู้เชี่ยวชาญยูเครนยืนยันการใช้งานจริง ✅ ความสามารถของ Starlink ในการควบคุมระยะไกล ➡️ ทำให้โดรนสามารถปรับเป้าหมายและสื่อสารได้แบบไร้ข้อจำกัด ✅ ตลาดมืดเป็นช่องทางจัดหาอุปกรณ์ ➡️ รัสเซียยังคงเข้าถึง Starlink แม้มีมาตรการป้องกันจากสหรัฐฯ ✅ ผลกระทบต่อความมั่นคงโลกและกฎระเบียบอวกาศ ➡️ เทคโนโลยีพลเรือนถูกนำไปใช้ในสงครามจริง ‼️ ความเสี่ยงต่อการโจมตีที่แม่นยำและยากต่อการป้องกัน ⛔ เพิ่มประสิทธิภาพของโดรน suicide และทำให้ยูเครนเสียเปรียบ ‼️ การควบคุมเทคโนโลยีพลเรือนที่ไม่เพียงพอ ⛔ อาจกลายเป็นแบบอย่างให้ประเทศอื่นนำไปใช้ในสงคราม https://www.tomshardware.com/service-providers/network-providers/russia-still-using-starlink-guided-drones-in-ukraine-insists-report-starlink-mini-atop-grounded-drone-points-to-ongoing-issue-despite-u-s-dod-claims-threat-was-blunted
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Russia allegedly still using Starlink-guided drones in Ukraine, report claims — Starlink Mini strapped to grounded drone points to ongoing issue, despite U.S. DoD claims threat was blunted
    Russian drones with Starlink Mini terminals on board are still being spotted despite assurances, a year earlier, of ‘good solutions’ to prevent this from happening.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro
    เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review

    การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3
    ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง
    https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus

    เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli
    นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี
    https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it

    Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX
    เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division

    Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง
    บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way

    AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI
    สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space

    หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac
    Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it

    Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt
    เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it

    Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา
    ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you

    Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง
    หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026
    https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why

    การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware
    หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure

    Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026
    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026

    DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง
    อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player

    Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์
    Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers

    Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI
    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous

    EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring

    ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT
    เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย
    https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors

    แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code

    Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง
    Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้
    https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in

    CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม”
    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem

    ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI
    บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง”
    https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race

    ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt

    ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน
    หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว
    CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร
    หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🪑 เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review 💿 การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3 ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus 📱 เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี 🔗 https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it 💻 Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division 🌐 Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way 🚀 AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space 🤖 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it 🖥️ Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it 💼 Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you 🤖 Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why ⚠️ การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure 📡 Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026 🎶 DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player 📺 Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers 🤔 Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous 🛡️ EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring 📡 ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors 💻 แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code 📱 Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in 🤖 CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม” Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem 🚀 ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง” 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race 🎙️ ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt 📱 ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🛡️ หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 🤖 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️ EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️ ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰 Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 615 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts