ปปง.ติดป้ายยึดทรัพย์โครงการคฤหาสน์หรูทุนจีนหลังละ 200 ล้านบาทย่านสนามบินน้ำ ล่าสุดผู้จัดการโครงการล่องหนแล้ว แต่คนงานยังเดินหน้าก่อสร้าง
3 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวมติชนระบุว่า หลังจากบริษัทแห่งหนึ่งของกลุ่มทุนจีนที่ร่วมกับคนไทย เข้าไปพัฒนาโครงการคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินประมาณ 30 ไร่ ติดถนนสนามบินน้ำ และแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาเป็นคฤหาสน์หรูราคาแพง เดิมเคยระบุว่าราคาเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท ล่าสุดระบุว่าเริ่มต้นหลังละ 200 ล้านบาท และสูงสุดอาจถึง 700 ล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยวหรู 5 ชั้น ประมาณ 60 หลัง ซึ่งทุกหลังมีห้องใต้ดินและสระว่ายน้ำ ยังมีอาคาร 2 ชั้น เป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน ท่าเรือ และเริ่มการก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
แต่ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมนี้ มีรายงานว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) ได้มีการดำเนินการปิดประกาศการยึดทรัพย์คฤหาสน์หรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567
ต่อมาบ่ายวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวมติชนลงพื้นที่ พบว่าโครงการยังคงมีการก่อสร้าง จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.)ของโครงการ ระบุเพียงว่า โครงการไม่ได้หยุดการก่อสร้าง ส่วนกรณีที่ ปปง.ได้นำป้ายมาติดประกาศยึดทรัพย์นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากวันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่โครงการ ส่วนผู้จัดการโครงการ ได้กลับไปประเทศจีน คาดว่าจะกลับมาในเร็วๆนี้
ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4826062#m1teo54z9zv43g2vhh4
#Thaitimes
3 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวมติชนระบุว่า หลังจากบริษัทแห่งหนึ่งของกลุ่มทุนจีนที่ร่วมกับคนไทย เข้าไปพัฒนาโครงการคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินประมาณ 30 ไร่ ติดถนนสนามบินน้ำ และแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาเป็นคฤหาสน์หรูราคาแพง เดิมเคยระบุว่าราคาเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท ล่าสุดระบุว่าเริ่มต้นหลังละ 200 ล้านบาท และสูงสุดอาจถึง 700 ล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยวหรู 5 ชั้น ประมาณ 60 หลัง ซึ่งทุกหลังมีห้องใต้ดินและสระว่ายน้ำ ยังมีอาคาร 2 ชั้น เป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน ท่าเรือ และเริ่มการก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
แต่ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมนี้ มีรายงานว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) ได้มีการดำเนินการปิดประกาศการยึดทรัพย์คฤหาสน์หรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567
ต่อมาบ่ายวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวมติชนลงพื้นที่ พบว่าโครงการยังคงมีการก่อสร้าง จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.)ของโครงการ ระบุเพียงว่า โครงการไม่ได้หยุดการก่อสร้าง ส่วนกรณีที่ ปปง.ได้นำป้ายมาติดประกาศยึดทรัพย์นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากวันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่โครงการ ส่วนผู้จัดการโครงการ ได้กลับไปประเทศจีน คาดว่าจะกลับมาในเร็วๆนี้
ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4826062#m1teo54z9zv43g2vhh4
#Thaitimes
ปปง.ติดป้ายยึดทรัพย์โครงการคฤหาสน์หรูทุนจีนหลังละ 200 ล้านบาทย่านสนามบินน้ำ ล่าสุดผู้จัดการโครงการล่องหนแล้ว แต่คนงานยังเดินหน้าก่อสร้าง
3 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวมติชนระบุว่า หลังจากบริษัทแห่งหนึ่งของกลุ่มทุนจีนที่ร่วมกับคนไทย เข้าไปพัฒนาโครงการคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินประมาณ 30 ไร่ ติดถนนสนามบินน้ำ และแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาเป็นคฤหาสน์หรูราคาแพง เดิมเคยระบุว่าราคาเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท ล่าสุดระบุว่าเริ่มต้นหลังละ 200 ล้านบาท และสูงสุดอาจถึง 700 ล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยวหรู 5 ชั้น ประมาณ 60 หลัง ซึ่งทุกหลังมีห้องใต้ดินและสระว่ายน้ำ ยังมีอาคาร 2 ชั้น เป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน ท่าเรือ และเริ่มการก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
แต่ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมนี้ มีรายงานว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) ได้มีการดำเนินการปิดประกาศการยึดทรัพย์คฤหาสน์หรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567
ต่อมาบ่ายวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวมติชนลงพื้นที่ พบว่าโครงการยังคงมีการก่อสร้าง จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.)ของโครงการ ระบุเพียงว่า โครงการไม่ได้หยุดการก่อสร้าง ส่วนกรณีที่ ปปง.ได้นำป้ายมาติดประกาศยึดทรัพย์นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากวันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่โครงการ ส่วนผู้จัดการโครงการ ได้กลับไปประเทศจีน คาดว่าจะกลับมาในเร็วๆนี้
ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4826062#m1teo54z9zv43g2vhh4
#Thaitimes