• ถ้าเกิดความผิดพลาด..แก้ไขให้เร็ว..พยายาม...เท่าที่ทำได้ (อย่างเต็มกำลัง" สุดท้าย..ถ้ามันยังแก้ไขไม่ได้...ลองเปลี่ยน จากแก้ทั้งหมด ทุกอย่าง..เปลี่ยนเป็นทีละเล็กละน้อย...แต่ถ้ายังไม่ได้อีก..ก็ ทำใจยอมรับกับคำว่า #ช่างมัน...เพราะขีวิตไม่ได้สิ้นสุดตอนนี้เดี๋ยวนี้..ก็ต้องดำเนินต่อไป..จะในบทบาทที่ถูกตราหน้าว่า คนชั่ว คนเลว คนโกง..ก็ว่ากันไป....ถ้าคุณทำได้กับคำว่า ช่างมัน ...แต่ต้องผ่านกระบวนการข้างต้นอย่างเต็มที่ก่อนนะ...แสดงว่า คุณ ก้าวข้ามไปอีก 1 level แล้วและจงจำไว้ว่า ถ้าคุณกลับมาได้ในอนาคต ภาพจำในอดีต สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย อาจไม่มีคนพูดถึง หรือถึงขั้น ลืมไปเลย..
    ถ้าเกิดความผิดพลาด..แก้ไขให้เร็ว..พยายาม...เท่าที่ทำได้ (อย่างเต็มกำลัง" สุดท้าย..ถ้ามันยังแก้ไขไม่ได้...ลองเปลี่ยน จากแก้ทั้งหมด ทุกอย่าง..เปลี่ยนเป็นทีละเล็กละน้อย...แต่ถ้ายังไม่ได้อีก..ก็ ทำใจยอมรับกับคำว่า #ช่างมัน...เพราะขีวิตไม่ได้สิ้นสุดตอนนี้เดี๋ยวนี้..ก็ต้องดำเนินต่อไป..จะในบทบาทที่ถูกตราหน้าว่า คนชั่ว คนเลว คนโกง..ก็ว่ากันไป....ถ้าคุณทำได้กับคำว่า ช่างมัน ...แต่ต้องผ่านกระบวนการข้างต้นอย่างเต็มที่ก่อนนะ...แสดงว่า คุณ ก้าวข้ามไปอีก 1 level แล้วและจงจำไว้ว่า ถ้าคุณกลับมาได้ในอนาคต ภาพจำในอดีต สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย อาจไม่มีคนพูดถึง หรือถึงขั้น ลืมไปเลย..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปู้เหลียงเหรินแห่งสมัยถัง

    ในซีรีส์เรื่อง <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> มีกล่าวไว้ แคว้นอู๋มีลิ่วเต้าเหมิน แคว้นอันมีองครักษ์เสื้อแดง และแคว้นฉู่มีปู้เหลียงเหริน โดยที่เหรินหรูอี้ถูกเข้าใจว่าเป็นปู้เหลียงเหรินจากแคว้นฉู่

    ซีรีส์เรื่องนี้เป็นอาณาจักรและยุคสมัยสมมุติ ลิ่วเต้าเหมินและองครักษ์เสื้อแดงไม่มีจริงในประวัติศาสตร์ แต่ในสมัยราชวงศ์หมิงมีมือปราบลิ่วซ่านเหมินและมีองค์รักษ์เสื้อแพร (Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ลองค้นอ่านย้อนหลังจากสารบัญบนเพจนะคะ) ส่วนปู้เหลียงเหรินนั้น มีอยู่จริงในสมัยถัง เพื่อนเพจบางท่านอาจพอจำได้ว่าในเรื่อง <ตำนานลั่วหยาง> และ <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> มีปู้เหลียงเหรินปรากฏด้วย (แต่จำไม่ได้แล้วว่าซับไทยแปลไว้แตกต่างกันไหม)

    ในบันทึกเกร็ดประวัติของสมัยชิงมีเขียนถึงโดยคร่าวว่า ผู้มีหน้าที่การสืบตามและจับกุมคนร้ายนั้น ในสมัยถังเรียกว่าปู้เหลียงเหริน มีหัวหน้าเรียกว่าปู้เหลียงซ่วย สถานะเปรียบได้เป็นต้าสุยเหอของราชวงศ์ฮั่น (แต่... ต้าสุยหรือต้าสุยเหอนี้ ในสมัยฮั่นคือราชองครักษ์รักษาพระราชวังที่ประจำการอยู่หน้าประตูวัง) และตามพจนานุกรมฉบับสุยถังและห้าราชวงศ์ที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 1997 นั้น อธิบายถึงปู้เหลียงเหรินไว้ว่าเป็นคนที่ปฏิบัติภารกิจของทางการในสมัยถัง มีหน้าที่ตามสืบและจับกุมผู้กระทำความผิด

    คำว่า ‘ปู้เหลียงเหริน’ แปลตรงตัวว่าคนไม่ดี แล้วทำไมจึงใช้ชื่อนี้? คำตอบยังเป็นที่ถกกันจวบจนปัจจุบันเพราะไม่มีเอกสารยืนยันชัดเจน บ้างก็ว่าเป็นเพราะวิธีการสืบหาและจับคนร้ายของพวกเขานั้นโหดร้ายและสกปรก บ้างก็ว่าจริงแล้วพวกเขาเป็นอดีตอาชญากรที่ทางการให้ปฏิบัติภารกิจเพื่อสร้างผลงานไถ่โทษ และบ้างก็ว่าเป็นการเรียกย่อที่หมายถึงมือปราบที่มีหน้าที่จับกุมคนไม่ดี

    จากการพยายามไปหาข้อมูลมา Storyฯ รู้สึกว่า ปู้เหลียงเหรินเป็นกลุ่มคนที่เป็นปริศนาทางประวัติศาสตร์มิใช่น้อย เนื่องเพราะข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาแทบไม่ปรากฏ ทราบแต่ว่ามีอยู่ในสมัยถัง มีหน้าที่สืบหาและจับกุมคนร้าย แต่ตัวตนและสถานะของพวกเขาแท้จริงแล้วเป็นอย่างไรไม่มีการระบุชัด และในพงศาวดารถังลิ่วเตี่ยน ไม่ปรากฏตำแหน่งหัวหน้าปู้เหลียงซ่วยและไม่มีการกล่าวถึงปู้เหลียงเหริน

    และเนื่องด้วยมีเอกสารในสมัยชิงที่นิยามปู้เหลียงเหรินโดยเปรียบเทียบถึงราชองรักษ์ต้าสุยของสมัยฮั่นตามที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้มีคนสันนิษฐานว่าปู้เหลียงเหรินเป็นหน่วยงานลับที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้เท่านั้น

    แต่... ถ้าเป็นองค์กรลับก็ไม่ควรมีการกล่าวถึงอย่างเปิดเผย ทว่าในบันทึกในเกร็ดประวัติและรวมเรื่องสั้น ‘ฉาวเหยี่ยเชียนจ้าย’ ของสมัยถังนั้น มีการกล่าวถึงปู้เหลียงเหรินในคดีดังที่เกี่ยวข้องกับคดีคนหายจากตระกูลขุนนางระดับสูงในรัชสมัยขององค์ถังไท่จงหลี่ซื่อหมินแห่งราชวงศ์ถัง

    ในเมื่อองค์กรนี้มีตัวตนจริง แต่ไม่ปรากฏชื่อในหน่วยงานราชการอย่างเป็นทางการ แต่ก็อาจไม่เป็นความลับ จึงเป็นที่สันนิษฐานไปอีกว่า ปู้เหลียงเหรินจัดเป็นเจ้าหน้าที่หลวงที่ระดับต่ำมากหรือเสมียน เรียกว่า ‘ลี่’ (吏) (หมายเหตุ ถ้ามีตำแหน่งเป็นขุนนางจะเรียกว่า ‘กวน’/官) หรือเป็นเพียงคนที่ช่วยงานราชการโดยไม่มียศตำแหน่งอย่างแท้จริง และที่บอกว่าพวกเขามีสถานะที่ต่ำมากนั้น เป็นเพราะว่า พวกเขาเป็นอาชญกรมาก่อนและเข้ามาทำงานให้ทางการเพื่อไถ่โทษ ซึ่งสอดคล้องกับหนึ่งในที่มาของชื่อที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั่นเอง

    นอกจากตัวตนที่เป็นปริศนาแล้ว ที่เป็นปริศนายิ่งกว่าก็คือการหายตัวไปของปู้เหลียงเหริน เพราะไม่มีบันทึกว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่ข้อสันนิษฐานว่าเมื่อสิ้นราชวงศ์ถังกลุ่มปู้เหลียงเหรินก็หอบสมบัติหนีหายกันไป บ้างก็ว่าสลายตัวไป บ้างก็ว่าไปปักหลักที่ที่มั่นอื่นรอวันกลับมาทำงานอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่มีการยืนยัน แต่ข้อเท็จจริงคือหลังจากราชวงศ์ถังล่มสลายก็ไม่มีการเรียกมือปราบว่าปู้เหลียงเหรินอีกเลย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.ejdz.cn/download/news/n143411.html
    https://item.btime.com/f12taep1nci9228p25pl8r5dejl
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_13674760
    https://item.btime.com/f12taep1nci9228p25pl8r5dejl?page=1
    http://www.qulishi.com/article/201906/344565.html
    https://www.163.com/dy/article/GQNDI8640552B97M.html

    #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #ปู้เหลียงเหริน #มือปราบสมัยถัง
    ปู้เหลียงเหรินแห่งสมัยถัง ในซีรีส์เรื่อง <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> มีกล่าวไว้ แคว้นอู๋มีลิ่วเต้าเหมิน แคว้นอันมีองครักษ์เสื้อแดง และแคว้นฉู่มีปู้เหลียงเหริน โดยที่เหรินหรูอี้ถูกเข้าใจว่าเป็นปู้เหลียงเหรินจากแคว้นฉู่ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นอาณาจักรและยุคสมัยสมมุติ ลิ่วเต้าเหมินและองครักษ์เสื้อแดงไม่มีจริงในประวัติศาสตร์ แต่ในสมัยราชวงศ์หมิงมีมือปราบลิ่วซ่านเหมินและมีองค์รักษ์เสื้อแพร (Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ลองค้นอ่านย้อนหลังจากสารบัญบนเพจนะคะ) ส่วนปู้เหลียงเหรินนั้น มีอยู่จริงในสมัยถัง เพื่อนเพจบางท่านอาจพอจำได้ว่าในเรื่อง <ตำนานลั่วหยาง> และ <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> มีปู้เหลียงเหรินปรากฏด้วย (แต่จำไม่ได้แล้วว่าซับไทยแปลไว้แตกต่างกันไหม) ในบันทึกเกร็ดประวัติของสมัยชิงมีเขียนถึงโดยคร่าวว่า ผู้มีหน้าที่การสืบตามและจับกุมคนร้ายนั้น ในสมัยถังเรียกว่าปู้เหลียงเหริน มีหัวหน้าเรียกว่าปู้เหลียงซ่วย สถานะเปรียบได้เป็นต้าสุยเหอของราชวงศ์ฮั่น (แต่... ต้าสุยหรือต้าสุยเหอนี้ ในสมัยฮั่นคือราชองครักษ์รักษาพระราชวังที่ประจำการอยู่หน้าประตูวัง) และตามพจนานุกรมฉบับสุยถังและห้าราชวงศ์ที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 1997 นั้น อธิบายถึงปู้เหลียงเหรินไว้ว่าเป็นคนที่ปฏิบัติภารกิจของทางการในสมัยถัง มีหน้าที่ตามสืบและจับกุมผู้กระทำความผิด คำว่า ‘ปู้เหลียงเหริน’ แปลตรงตัวว่าคนไม่ดี แล้วทำไมจึงใช้ชื่อนี้? คำตอบยังเป็นที่ถกกันจวบจนปัจจุบันเพราะไม่มีเอกสารยืนยันชัดเจน บ้างก็ว่าเป็นเพราะวิธีการสืบหาและจับคนร้ายของพวกเขานั้นโหดร้ายและสกปรก บ้างก็ว่าจริงแล้วพวกเขาเป็นอดีตอาชญากรที่ทางการให้ปฏิบัติภารกิจเพื่อสร้างผลงานไถ่โทษ และบ้างก็ว่าเป็นการเรียกย่อที่หมายถึงมือปราบที่มีหน้าที่จับกุมคนไม่ดี จากการพยายามไปหาข้อมูลมา Storyฯ รู้สึกว่า ปู้เหลียงเหรินเป็นกลุ่มคนที่เป็นปริศนาทางประวัติศาสตร์มิใช่น้อย เนื่องเพราะข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาแทบไม่ปรากฏ ทราบแต่ว่ามีอยู่ในสมัยถัง มีหน้าที่สืบหาและจับกุมคนร้าย แต่ตัวตนและสถานะของพวกเขาแท้จริงแล้วเป็นอย่างไรไม่มีการระบุชัด และในพงศาวดารถังลิ่วเตี่ยน ไม่ปรากฏตำแหน่งหัวหน้าปู้เหลียงซ่วยและไม่มีการกล่าวถึงปู้เหลียงเหริน และเนื่องด้วยมีเอกสารในสมัยชิงที่นิยามปู้เหลียงเหรินโดยเปรียบเทียบถึงราชองรักษ์ต้าสุยของสมัยฮั่นตามที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้มีคนสันนิษฐานว่าปู้เหลียงเหรินเป็นหน่วยงานลับที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้เท่านั้น แต่... ถ้าเป็นองค์กรลับก็ไม่ควรมีการกล่าวถึงอย่างเปิดเผย ทว่าในบันทึกในเกร็ดประวัติและรวมเรื่องสั้น ‘ฉาวเหยี่ยเชียนจ้าย’ ของสมัยถังนั้น มีการกล่าวถึงปู้เหลียงเหรินในคดีดังที่เกี่ยวข้องกับคดีคนหายจากตระกูลขุนนางระดับสูงในรัชสมัยขององค์ถังไท่จงหลี่ซื่อหมินแห่งราชวงศ์ถัง ในเมื่อองค์กรนี้มีตัวตนจริง แต่ไม่ปรากฏชื่อในหน่วยงานราชการอย่างเป็นทางการ แต่ก็อาจไม่เป็นความลับ จึงเป็นที่สันนิษฐานไปอีกว่า ปู้เหลียงเหรินจัดเป็นเจ้าหน้าที่หลวงที่ระดับต่ำมากหรือเสมียน เรียกว่า ‘ลี่’ (吏) (หมายเหตุ ถ้ามีตำแหน่งเป็นขุนนางจะเรียกว่า ‘กวน’/官) หรือเป็นเพียงคนที่ช่วยงานราชการโดยไม่มียศตำแหน่งอย่างแท้จริง และที่บอกว่าพวกเขามีสถานะที่ต่ำมากนั้น เป็นเพราะว่า พวกเขาเป็นอาชญกรมาก่อนและเข้ามาทำงานให้ทางการเพื่อไถ่โทษ ซึ่งสอดคล้องกับหนึ่งในที่มาของชื่อที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั่นเอง นอกจากตัวตนที่เป็นปริศนาแล้ว ที่เป็นปริศนายิ่งกว่าก็คือการหายตัวไปของปู้เหลียงเหริน เพราะไม่มีบันทึกว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่ข้อสันนิษฐานว่าเมื่อสิ้นราชวงศ์ถังกลุ่มปู้เหลียงเหรินก็หอบสมบัติหนีหายกันไป บ้างก็ว่าสลายตัวไป บ้างก็ว่าไปปักหลักที่ที่มั่นอื่นรอวันกลับมาทำงานอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่มีการยืนยัน แต่ข้อเท็จจริงคือหลังจากราชวงศ์ถังล่มสลายก็ไม่มีการเรียกมือปราบว่าปู้เหลียงเหรินอีกเลย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.ejdz.cn/download/news/n143411.html https://item.btime.com/f12taep1nci9228p25pl8r5dejl Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_13674760 https://item.btime.com/f12taep1nci9228p25pl8r5dejl?page=1 http://www.qulishi.com/article/201906/344565.html https://www.163.com/dy/article/GQNDI8640552B97M.html #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #ปู้เหลียงเหริน #มือปราบสมัยถัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิหร่านและรัสเซีย

    👉ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และความมั่นคง:
    - รัสเซียและอิหร่านจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ในทุกพื้นที่ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งความมั่นคงและการป้องกันประเทศ
    - ทั้งสองประเทศจะประสานงานการดำเนินการทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกภายใต้ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระยะยาว
    - ทั้งสองประเทศจะเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติด้วยการต่อสู้กับภัยคุกคามร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ระหว่างหน่วย SVR ของรัสเซียและหน่วย VAJA ของอิหร่าน
    - ทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะจัดการซ้อมรบร่วมกันในทั้งสองประเทศและในระดับนานาชาติ
    - รัสเซียและอิหร่านจะร่วมมือกันจัดการกับภัยคุกคามทางทหารและความมั่นคงร่วมกันทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค เช่นเดียวกับข้อตกลงรัสเซีย-จีน
    - สร้างความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการประชุมประจำปีเพื่อทบทวนและผลักดันข้อตกลงทวิภาคี
    - ความร่วมมือจะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันการแทรกแซงของบุคคลที่สามในทะเลแคสเปียน เอเชียกลาง คอเคซัส และตะวันออกกลาง

    👉ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพลังงาน:
    - เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้ขยายออกไป โดยเน้นที่การลงทุนร่วมกันในดานโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือด้านธนาคาร และการสร้างเส้นทางการค้าผ่านอิหร่าน
    - ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันในภาคส่วนน้ำมันและก๊าซ โดยแบ่งปันเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านการผลิต การแปรรูป และการขนส่ง โดยมุ่งหวังที่จะมีอิทธิพลต่อตลาดน้ำมันและก๊าซโลก
    - ทั้งสองประเทศจะดำเนินโครงการร่วมกันที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ รวมถึงการสร้างโรงงานนิวเคลียร์

    👉ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี:
    - จัดทำแผนความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวาง
    - ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีอวกาศจะได้รับการเสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
    รายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิหร่านและรัสเซีย 👉ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และความมั่นคง: - รัสเซียและอิหร่านจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ในทุกพื้นที่ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งความมั่นคงและการป้องกันประเทศ - ทั้งสองประเทศจะประสานงานการดำเนินการทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกภายใต้ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระยะยาว - ทั้งสองประเทศจะเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติด้วยการต่อสู้กับภัยคุกคามร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ระหว่างหน่วย SVR ของรัสเซียและหน่วย VAJA ของอิหร่าน - ทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะจัดการซ้อมรบร่วมกันในทั้งสองประเทศและในระดับนานาชาติ - รัสเซียและอิหร่านจะร่วมมือกันจัดการกับภัยคุกคามทางทหารและความมั่นคงร่วมกันทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค เช่นเดียวกับข้อตกลงรัสเซีย-จีน - สร้างความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการประชุมประจำปีเพื่อทบทวนและผลักดันข้อตกลงทวิภาคี - ความร่วมมือจะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันการแทรกแซงของบุคคลที่สามในทะเลแคสเปียน เอเชียกลาง คอเคซัส และตะวันออกกลาง 👉ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพลังงาน: - เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้ขยายออกไป โดยเน้นที่การลงทุนร่วมกันในดานโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือด้านธนาคาร และการสร้างเส้นทางการค้าผ่านอิหร่าน - ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันในภาคส่วนน้ำมันและก๊าซ โดยแบ่งปันเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านการผลิต การแปรรูป และการขนส่ง โดยมุ่งหวังที่จะมีอิทธิพลต่อตลาดน้ำมันและก๊าซโลก - ทั้งสองประเทศจะดำเนินโครงการร่วมกันที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ รวมถึงการสร้างโรงงานนิวเคลียร์ 👉ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี: - จัดทำแผนความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวาง - ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีอวกาศจะได้รับการเสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ขอพาทุกคนมาสัมผัสความสงบและงดงามที่ “วัดปัญญานันทาราม” ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

    จุดเด่นของวัดปัญญานันทาราม:
    • เจดีย์พุทธคยา: จำลองมาจากประเทศอินเดีย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ ชั้นบนของเจดีย์เรียกว่า ชั้นพุทธเมตตา มีรูปหล่อของหลวงพ่อปัญญาประดิษฐานให้กราบไหว้

    • ภาพปริศนาธรรมแบบ 3 มิติ: ตั้งอยู่ที่ชั้นพุทธบารมี ใต้เจดีย์พุทธคยา เป็นภาพที่สื่อถึงธรรมะและแง่คิดในการดำเนินชีวิต

    • บรรยากาศเงียบสงบ: เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมและพักผ่อนจิตใจ

    💡 Tips:
    • แต่งกายสุภาพและถอดรองเท้าก่อนเข้าพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์

    📍 พิกัด: วัดปัญญานันทาราม คลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
    วันนี้ขอพาทุกคนมาสัมผัสความสงบและงดงามที่ “วัดปัญญานันทาราม” ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จุดเด่นของวัดปัญญานันทาราม: • เจดีย์พุทธคยา: จำลองมาจากประเทศอินเดีย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ ชั้นบนของเจดีย์เรียกว่า ชั้นพุทธเมตตา มีรูปหล่อของหลวงพ่อปัญญาประดิษฐานให้กราบไหว้ • ภาพปริศนาธรรมแบบ 3 มิติ: ตั้งอยู่ที่ชั้นพุทธบารมี ใต้เจดีย์พุทธคยา เป็นภาพที่สื่อถึงธรรมะและแง่คิดในการดำเนินชีวิต • บรรยากาศเงียบสงบ: เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมและพักผ่อนจิตใจ 💡 Tips: • แต่งกายสุภาพและถอดรองเท้าก่อนเข้าพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ 📍 พิกัด: วัดปัญญานันทาราม คลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก ตร.แจง ปมแต่งตั้ง พ.ต.อ.ไพรัตน์ รอง ผบก.อก.ภ.9 เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ โดยหน่วยเสนอเป็นผู้เหมาะสม อยู่ในกลุ่มอาวุโสร้อยละ 50 แม้ถูกออกหมายจับก็ยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะพรากสิทธิ์ แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งตรวจสอบทุกมิติ หากพบมีมูลทางวินัยพร้อมจะดำเนินการต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005567

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    โฆษก ตร.แจง ปมแต่งตั้ง พ.ต.อ.ไพรัตน์ รอง ผบก.อก.ภ.9 เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ โดยหน่วยเสนอเป็นผู้เหมาะสม อยู่ในกลุ่มอาวุโสร้อยละ 50 แม้ถูกออกหมายจับก็ยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะพรากสิทธิ์ แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งตรวจสอบทุกมิติ หากพบมีมูลทางวินัยพร้อมจะดำเนินการต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005567 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • โลกนี้ทรหดมาก มนุษย์เผาป่า ขุดสินแร่ขาย ขุดน้ำมันถ่ายหินขาย ทดลองระเบิดสารพัดชนิดบนโลก ทำสงครามกันบนโลกนี้นับพันครั้ง ตายลงก็ฝังลงบนผิวโลก มนุษย์เรียกร้องสิทธิต่างๆ แค่โลกไม่เคยเรียกร้องใดๆ
    โลกนี้ทรหดมาก มนุษย์เผาป่า ขุดสินแร่ขาย ขุดน้ำมันถ่ายหินขาย ทดลองระเบิดสารพัดชนิดบนโลก ทำสงครามกันบนโลกนี้นับพันครั้ง ตายลงก็ฝังลงบนผิวโลก มนุษย์เรียกร้องสิทธิต่างๆ แค่โลกไม่เคยเรียกร้องใดๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากจะคุมกำเนิดช้าง คุมกำเนิดนักการเมือง ข้าราชการเลวๆ จะดีกว่า
    หากจะคุมกำเนิดช้าง คุมกำเนิดนักการเมือง ข้าราชการเลวๆ จะดีกว่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลอิสราเอลเพิ่งให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายสำหรับการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ตั้งแต่เวลา 12.00 น. (ตามเวลาปาเลสไตน์)

    ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงนี้:
    - ในช่วงเฟสแรก จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลชุดแรกจำนวน 33 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับอยู่ในกาซามานาน 15 เดือนแล้ว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนจากเรือนจำอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลจะถอนทหารออกจากพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซาและชาวปาเลสไตน์ที่หนีภัยสู้รบจะสามารถกลับสู่บ้านเรือนของตนเองได้ และจะมีการเปิดทางให้รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปนำส่งความช่วยเหลือในกาซาได้วันละ 600 คัน ในเฟสแรกนี้จะใช้เวลานาน 6 สัปดาห์ และอาจขยายเวลาออกไปได้ หากภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น

    - ก่อนเข้าสู่เฟสที่ 2 จะมีการเจรจากันเพิ่มเติมของข้อตกลงหยุดยิง โดยจะมีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่เหลืออยู่ ขณะกองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังออกไปทั้งหมด

    - ส่วนเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้าย จะเป็นระยะการฟื้นฟูกาซาที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีและการส่งร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตแล้วทั้งหมดคืนแก่อิสราเอล
    .
    ผู้ติดตามทางการเมืองหลายรายแสดงความเห็น ข้อตกลงหยุดยิงนี้ไม่ใช่การนิรโทษกรรมให้กับอิสราเอล หรือเนทันยาฮูที่กำลังโดนข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงคราม พวกเขายังคงต้องถูกดำเนินคดี มิฉะนั้น หไม่มีใครควรอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศที่ประชาคมโลกใช้ร่วมกัน
    .
    (วิดีโอ1) อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น. อิสราเอลได้เพิ่มระดับความรุนแรงในการโจมตี โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบคือศูนย์การติดต่อสื่อสารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกาซา
    .
    นอกจากนี้ ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณะสุขของปาเลสไตน์ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 116 ราย รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ตั้งแต่เย็นวันพุธ หลังการประกาศข้อตกงหยุดยิง เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่โจมตีชุมชนหลายแห่งทั่วฉนวนกาซา รวมถึงจาบาเลีย และพื้นที่ตอนกลาง เช่น นูไซรัต


    รัฐบาลอิสราเอลเพิ่งให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายสำหรับการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ตั้งแต่เวลา 12.00 น. (ตามเวลาปาเลสไตน์) ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงนี้: - ในช่วงเฟสแรก จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลชุดแรกจำนวน 33 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับอยู่ในกาซามานาน 15 เดือนแล้ว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนจากเรือนจำอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลจะถอนทหารออกจากพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซาและชาวปาเลสไตน์ที่หนีภัยสู้รบจะสามารถกลับสู่บ้านเรือนของตนเองได้ และจะมีการเปิดทางให้รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปนำส่งความช่วยเหลือในกาซาได้วันละ 600 คัน ในเฟสแรกนี้จะใช้เวลานาน 6 สัปดาห์ และอาจขยายเวลาออกไปได้ หากภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น - ก่อนเข้าสู่เฟสที่ 2 จะมีการเจรจากันเพิ่มเติมของข้อตกลงหยุดยิง โดยจะมีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่เหลืออยู่ ขณะกองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังออกไปทั้งหมด - ส่วนเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้าย จะเป็นระยะการฟื้นฟูกาซาที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีและการส่งร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตแล้วทั้งหมดคืนแก่อิสราเอล . ผู้ติดตามทางการเมืองหลายรายแสดงความเห็น ข้อตกลงหยุดยิงนี้ไม่ใช่การนิรโทษกรรมให้กับอิสราเอล หรือเนทันยาฮูที่กำลังโดนข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงคราม พวกเขายังคงต้องถูกดำเนินคดี มิฉะนั้น หไม่มีใครควรอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศที่ประชาคมโลกใช้ร่วมกัน . (วิดีโอ1) อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น. อิสราเอลได้เพิ่มระดับความรุนแรงในการโจมตี โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบคือศูนย์การติดต่อสื่อสารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกาซา . นอกจากนี้ ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณะสุขของปาเลสไตน์ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 116 ราย รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ตั้งแต่เย็นวันพุธ หลังการประกาศข้อตกงหยุดยิง เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่โจมตีชุมชนหลายแห่งทั่วฉนวนกาซา รวมถึงจาบาเลีย และพื้นที่ตอนกลาง เช่น นูไซรัต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Robeauté จากปารีสได้ระดมทุนเกือบ 28 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาไมโครโรบ็อตขนาดเท่าเมล็ดข้าวที่สามารถช่วยศัลยแพทย์สมองในการผ่าตัดได้ โรบ็อตนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถเคลื่อนที่ได้เองและมีขนาดเล็กพอที่จะเข้าไปในสมองโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อที่ละเอียดอ่อน

    โรบ็อตนี้จะถูกใช้ในการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อสำหรับการตรวจชิ้นเนื้อในขั้นต้น และในอนาคตอาจถูกใช้ในการส่งยาตรงไปยังส่วนต่างๆ ของสมองหรือฝังอิเล็กโทรดเพื่อรักษาโรคพาร์กินสัน

    Bertrand Duplat และ Joana Cartocci ผู้ก่อตั้ง Robeauté ได้พัฒนาโรบ็อตนี้หลังจากที่แม่ของ Duplat ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในสมองที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ พวกเขาใช้เวลาห้าปีในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้โดยทำงานร่วมกับห้องปฏิบัติการต่างๆ

    โรบ็อตนี้ได้รับการทดสอบในสัตว์ทดลองและศพมนุษย์ และหวังว่าจะเริ่มการทดสอบในมนุษย์ในปี 2026 โดยต้องได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ก่อน

    การพัฒนาโรบ็อตนี้เป็นก้าวสำคัญในการผ่าตัดสมองที่มีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการผ่าตัดและเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับสมอง

    https://www.techspot.com/news/106402-robots-size-rice-grains-aim-revolutionize-brain-surgery.html
    บริษัท Robeauté จากปารีสได้ระดมทุนเกือบ 28 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาไมโครโรบ็อตขนาดเท่าเมล็ดข้าวที่สามารถช่วยศัลยแพทย์สมองในการผ่าตัดได้ โรบ็อตนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถเคลื่อนที่ได้เองและมีขนาดเล็กพอที่จะเข้าไปในสมองโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อที่ละเอียดอ่อน โรบ็อตนี้จะถูกใช้ในการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อสำหรับการตรวจชิ้นเนื้อในขั้นต้น และในอนาคตอาจถูกใช้ในการส่งยาตรงไปยังส่วนต่างๆ ของสมองหรือฝังอิเล็กโทรดเพื่อรักษาโรคพาร์กินสัน Bertrand Duplat และ Joana Cartocci ผู้ก่อตั้ง Robeauté ได้พัฒนาโรบ็อตนี้หลังจากที่แม่ของ Duplat ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในสมองที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ พวกเขาใช้เวลาห้าปีในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้โดยทำงานร่วมกับห้องปฏิบัติการต่างๆ โรบ็อตนี้ได้รับการทดสอบในสัตว์ทดลองและศพมนุษย์ และหวังว่าจะเริ่มการทดสอบในมนุษย์ในปี 2026 โดยต้องได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ก่อน การพัฒนาโรบ็อตนี้เป็นก้าวสำคัญในการผ่าตัดสมองที่มีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการผ่าตัดและเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับสมอง https://www.techspot.com/news/106402-robots-size-rice-grains-aim-revolutionize-brain-surgery.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Robots the size of rice grains aim to revolutionize brain surgery
    Existing solutions often involve stiff, invasive tools that can cause major damage to sensitive brain tissue. Robeauté's bot, which is roughly the size of a grain of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการที่ภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกฝังอยู่ในบล็อกเชนของบิตคอยน์ (Bitcoin) โดยบริษัท Marathon Digital Holdings (MARA) ซึ่งเป็นผู้ขุดบิตคอยน์รายใหญ่ที่สุดในวอลล์สตรีท ได้ฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกที่ 879613 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ที่กำลังจะมาถึง

    การฝังภาพนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ชุมชนคริปโตเคอเรนซีอยู่ในบรรยากาศที่คึกคัก เนื่องจากทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนคริปโตเคอเรนซีอย่างเปิดเผยคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแผนที่จะใช้บิตคอยน์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมาได้เพื่อสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก

    นอกจากนี้ ทีมงานของทรัมป์ยังพิจารณาการสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์แบบ "America-first" ที่จะให้ความสำคัญกับเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ เช่น Solana, USD Coin และ Ripple

    ในขณะเดียวกัน เดวิด แซคส์ ซึ่งจะเป็นหัวหน้าฝ่ายคริปโตและ AI ในรัฐบาลทรัมป์ จะจัดงาน Crypto Ball ครั้งแรกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยบัตร VIP สำหรับงานนี้มีราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ และผู้เข้าร่วมสามารถรับประทานอาหารค่ำส่วนตัวกับทรัมป์ได้ในราคา 1 ล้านดอลลาร์

    การฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกเชนของบิตคอยน์เป็นการแสดงความเคารพและการสนับสนุนจากชุมชนคริปโตเคอเรนซี ซึ่งคาดหวังว่าทรัมป์จะสามารถทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นและสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตเคอเรนซีได้

    https://wccftech.com/trump-immortalized-within-bitcoin-blockchain/
    บทความนี้กล่าวถึงการที่ภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกฝังอยู่ในบล็อกเชนของบิตคอยน์ (Bitcoin) โดยบริษัท Marathon Digital Holdings (MARA) ซึ่งเป็นผู้ขุดบิตคอยน์รายใหญ่ที่สุดในวอลล์สตรีท ได้ฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกที่ 879613 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ที่กำลังจะมาถึง การฝังภาพนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ชุมชนคริปโตเคอเรนซีอยู่ในบรรยากาศที่คึกคัก เนื่องจากทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนคริปโตเคอเรนซีอย่างเปิดเผยคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแผนที่จะใช้บิตคอยน์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมาได้เพื่อสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ทีมงานของทรัมป์ยังพิจารณาการสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์แบบ "America-first" ที่จะให้ความสำคัญกับเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ เช่น Solana, USD Coin และ Ripple ในขณะเดียวกัน เดวิด แซคส์ ซึ่งจะเป็นหัวหน้าฝ่ายคริปโตและ AI ในรัฐบาลทรัมป์ จะจัดงาน Crypto Ball ครั้งแรกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยบัตร VIP สำหรับงานนี้มีราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ และผู้เข้าร่วมสามารถรับประทานอาหารค่ำส่วนตัวกับทรัมป์ได้ในราคา 1 ล้านดอลลาร์ การฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกเชนของบิตคอยน์เป็นการแสดงความเคารพและการสนับสนุนจากชุมชนคริปโตเคอเรนซี ซึ่งคาดหวังว่าทรัมป์จะสามารถทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นและสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตเคอเรนซีได้ https://wccftech.com/trump-immortalized-within-bitcoin-blockchain/
    WCCFTECH.COM
    Trump Immortalized Within Bitcoin Blockchain
    As a token of appreciation, a major Bitcoin miner has encoded Trump's portrait within the cryptocurrency's blockchain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel Foundry ได้ประกาศการเข้าร่วมของลูกค้าใหม่ในโครงการ RAMP-C (Rapid Assured Microelectronics Prototypes - Commercial) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Trusted & Assured Microelectronics (T&AM) ภายใต้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สำหรับการวิจัยและวิศวกรรม (OUSD (R&E)) ลูกค้าใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ได้แก่ Trusted Semiconductor Solutions และ Reliable MicroSystems

    โครงการ RAMP-C ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการผลิต Intel 18A และการบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงสำหรับการผลิตต้นแบบและการผลิตในปริมาณมากของผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์และผลิตภัณฑ์สำหรับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

    Kapil Wadhera รองประธานของ Intel Foundry และผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มธุรกิจการบินและอวกาศ กลาโหม และรัฐบาล กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ Trusted Semiconductor Solutions และ Reliable MicroSystems เข้าร่วมโครงการ RAMP-C ความร่วมมือนี้จะช่วยขับเคลื่อนโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์ที่ปลอดภัยและทันสมัย ซึ่งมีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของประเทศ เราภูมิใจในบทบาทสำคัญของ Intel Foundry ในการสนับสนุนการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับลูกค้าใหม่ของเราเพื่อพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี Intel 18A ของเรา"

    โครงการ RAMP-C ได้รับความสำเร็จอย่างมากตั้งแต่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2021 โดย Intel Foundry มีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอนของโครงการ ตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างทรัพย์สินทางปัญญา และการเตรียมลูกค้าสำหรับการทดสอบชิปต้นแบบ จนถึงการขยายฐานลูกค้าและการผลิตต้นแบบขั้นสูง

    การขยายการผลิต Intel 18A ช่วยเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกด้วยแหล่งที่เชื่อถือได้และยั่งยืนของเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดสำหรับอุปกรณ์ไมโครอิเล็กทรอนิกส์

    https://www.techpowerup.com/331263/intel-foundry-adds-new-customers-to-ramp-c-project-for-us-defense
    Intel Foundry ได้ประกาศการเข้าร่วมของลูกค้าใหม่ในโครงการ RAMP-C (Rapid Assured Microelectronics Prototypes - Commercial) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Trusted & Assured Microelectronics (T&AM) ภายใต้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สำหรับการวิจัยและวิศวกรรม (OUSD (R&E)) ลูกค้าใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ได้แก่ Trusted Semiconductor Solutions และ Reliable MicroSystems โครงการ RAMP-C ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการผลิต Intel 18A และการบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงสำหรับการผลิตต้นแบบและการผลิตในปริมาณมากของผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์และผลิตภัณฑ์สำหรับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ Kapil Wadhera รองประธานของ Intel Foundry และผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มธุรกิจการบินและอวกาศ กลาโหม และรัฐบาล กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ Trusted Semiconductor Solutions และ Reliable MicroSystems เข้าร่วมโครงการ RAMP-C ความร่วมมือนี้จะช่วยขับเคลื่อนโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์ที่ปลอดภัยและทันสมัย ซึ่งมีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของประเทศ เราภูมิใจในบทบาทสำคัญของ Intel Foundry ในการสนับสนุนการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับลูกค้าใหม่ของเราเพื่อพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี Intel 18A ของเรา" โครงการ RAMP-C ได้รับความสำเร็จอย่างมากตั้งแต่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2021 โดย Intel Foundry มีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอนของโครงการ ตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างทรัพย์สินทางปัญญา และการเตรียมลูกค้าสำหรับการทดสอบชิปต้นแบบ จนถึงการขยายฐานลูกค้าและการผลิตต้นแบบขั้นสูง การขยายการผลิต Intel 18A ช่วยเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกด้วยแหล่งที่เชื่อถือได้และยั่งยืนของเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดสำหรับอุปกรณ์ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ https://www.techpowerup.com/331263/intel-foundry-adds-new-customers-to-ramp-c-project-for-us-defense
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel Foundry Adds New Customers to RAMP-C Project for US Defense
    Intel Foundry has announced the onboarding of new defense industrial base (DIB) customers, Trusted Semiconductor Solutions and Reliable MicroSystems, as part of the third phase of the Rapid Assured Microelectronics Prototypes - Commercial (RAMP-C) efforts under the Trusted & Assured Microelectronics...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงความท้าทายที่ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) เผชิญในการขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกา แม้ว่ากฎหมายของไต้หวันจะอนุญาตให้ TSMC ส่งออกเทคโนโลยีการผลิตล่าสุดไปยังโรงงานในต่างประเทศได้ แต่การดำเนินการนี้ยังคงมีความซับซ้อนเนื่องจากระยะทางและระบบราชการในสหรัฐอเมริกา

    C.C. Wei ประธานและซีอีโอของ TSMC อธิบายว่า การเพิ่มกำลังการผลิตเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำในสหรัฐอเมริกานั้นซับซ้อน เนื่องจากโรงงานในรัฐแอริโซนาอยู่ห่างไกลจากทีมวิจัยและพัฒนาในไต้หวัน ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่กำหนด นอกจากนี้ ระบบราชการในสหรัฐอเมริกายังทำให้การก่อสร้างโรงงานใช้เวลานานกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับไต้หวัน และมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติตามกฎระเบียบสูงถึง 35 ล้านดอลลาร์

    นอกจากนี้ การขาดแคลนซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นในสหรัฐอเมริกายังทำให้ TSMC ต้องขนส่งสารเคมีจากไต้หวันไปยังลอสแอนเจลิสและจากนั้นไปยังแอริโซนา ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายในการผลิต

    การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เช่น การออกแบบโรงงานใหม่เพื่อรองรับเครื่องมือ EUV ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและการใช้สารเคมีใหม่ที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีการผลิตใหม่

    การขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกายังคงเป็นความท้าทายที่ TSMC ต้องเผชิญ เนื่องจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีและระบบราชการที่เข้มงวดในสหรัฐอเมริกา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/bureaucracy-and-distance-mean-tsmcs-u-s-fabs-may-always-be-behind-taiwan
    บทความนี้กล่าวถึงความท้าทายที่ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) เผชิญในการขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกา แม้ว่ากฎหมายของไต้หวันจะอนุญาตให้ TSMC ส่งออกเทคโนโลยีการผลิตล่าสุดไปยังโรงงานในต่างประเทศได้ แต่การดำเนินการนี้ยังคงมีความซับซ้อนเนื่องจากระยะทางและระบบราชการในสหรัฐอเมริกา C.C. Wei ประธานและซีอีโอของ TSMC อธิบายว่า การเพิ่มกำลังการผลิตเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำในสหรัฐอเมริกานั้นซับซ้อน เนื่องจากโรงงานในรัฐแอริโซนาอยู่ห่างไกลจากทีมวิจัยและพัฒนาในไต้หวัน ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่กำหนด นอกจากนี้ ระบบราชการในสหรัฐอเมริกายังทำให้การก่อสร้างโรงงานใช้เวลานานกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับไต้หวัน และมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติตามกฎระเบียบสูงถึง 35 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ การขาดแคลนซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นในสหรัฐอเมริกายังทำให้ TSMC ต้องขนส่งสารเคมีจากไต้หวันไปยังลอสแอนเจลิสและจากนั้นไปยังแอริโซนา ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายในการผลิต การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เช่น การออกแบบโรงงานใหม่เพื่อรองรับเครื่องมือ EUV ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและการใช้สารเคมีใหม่ที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีการผลิตใหม่ การขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกายังคงเป็นความท้าทายที่ TSMC ต้องเผชิญ เนื่องจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีและระบบราชการที่เข้มงวดในสหรัฐอเมริกา https://www.tomshardware.com/tech-industry/bureaucracy-and-distance-mean-tsmcs-u-s-fabs-may-always-be-behind-taiwan
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Bureaucracy and distance mean TSMC's U.S. fabs may always be behind Taiwan
    TSMC says it is close to impossible to ramp up a leading-edge node in the U.S.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💜 #รีวิว เส้นทาง #จอร์แดน #อัมมาน จากคุณลัดดาวรรณนะคะ💜 เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.67 - 02 ม.ค.68 ที่ผ่านมานะคะ📍
    ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘

    📍จอร์แดน (Jordan) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในตะวันออกกลาง มีชื่อเสียงด้านประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมที่หลากหลาย และธรรมชาติที่สวยงาม จอร์แดนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจแหล่งโบราณคดีและประสบการณ์การผจญภัยในทะเลทราย

    ดูทัวร์จอร์แดนทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/c83f8e

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์จอร์แดน #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์โปรไฟไหม้ #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ที่หลุด #ท่องเที่ยว #เที่ยว #ทัวร์ทั่วโลก #linetoday #linetimeline #linevoom #line #etravelway #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์พรีเมี่ยม #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ถูก #ทัวร์คุณภาพ #ทัวร์สุดคุ้ม #แพคเกจทัวร์ต่างประเทศ #กรุ๊ปเหมา
    💜 #รีวิว เส้นทาง #จอร์แดน #อัมมาน จากคุณลัดดาวรรณนะคะ💜 เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.67 - 02 ม.ค.68 ที่ผ่านมานะคะ📍 ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘 📍จอร์แดน (Jordan) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในตะวันออกกลาง มีชื่อเสียงด้านประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมที่หลากหลาย และธรรมชาติที่สวยงาม จอร์แดนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจแหล่งโบราณคดีและประสบการณ์การผจญภัยในทะเลทราย ดูทัวร์จอร์แดนทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/c83f8e LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จอร์แดน #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์โปรไฟไหม้ #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ที่หลุด #ท่องเที่ยว #เที่ยว #ทัวร์ทั่วโลก #linetoday #linetimeline #linevoom #line #etravelway #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์พรีเมี่ยม #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ถูก #ทัวร์คุณภาพ #ทัวร์สุดคุ้ม #แพคเกจทัวร์ต่างประเทศ #กรุ๊ปเหมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่นอะไรกัน!?!
    ไบเดนออกกฎหมายแบน TikTok หากไม่ขายให้ชาวอเมริกัน ศาลฎีกาเห็นด้วยตามกฎหมายของไบเดน ล่าสุดไบเดนออกแถลงการณ์ต้องการให้ TikTok ยังคงมีอยู่ต่อไปในอเมริกา แต่ให้รัฐบาลถัดไปซึ่งก็คือทรัมป์ เป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรหลังมีคำตัดสินของศาล

    หลังจากศาลฎีกามีคำตัดสินเป็นเอกฉันท์ให้ยืนยันกฎหมายอนุญาตให้กฎหมายแบน Tiktok มีผลบังคับใช้ ซึ่งประธานาธิบดีไบเดนลงนามในกฎหมายดังกล่าวเมื่อเดือนเมษายน หลังจากผ่านการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันในรัฐสภา

    กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ TikTok ต้องขายให้กับผู้ซื้อชาวอเมริกันภายในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 นี้ มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐอเมริกาทันที

    ทางด้านฝ่ายบริหาร TikTok ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า คำตัดสินของศาลฎีกาจะส่งผลให้ต้องปิดการเข้าถึงแอป TikTok ที่ให้บริการชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านคนในวันอาทิตย์นี้ เว้นแต่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อให้บริษัทมั่นใจว่าจะไม่ถูกแบนตามที่กฎหมายระบุไว้


    และนี่เป็นที่มาของแถลงการณ์จากทำเนียบขาวเกี่ยวกับการตัดสินใจของศาลฎีกาเกี่ยวกับคำตัดสินเห็นด้วยในการแบน TikTok ซึ่งเป็นกฎหมายของไบเดนเอง:

    “TikTok ควรยังคงให้บริการแก่ชาวอเมริกัน”

    "ฝ่ายบริหาร เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ กำลังรอการตัดสินใจของศาลฎีกาสหรัฐเกี่ยวกับกรณี TikTok ที่เพิ่งมีขึ้น

    จุดยืนของประธานาธิบดีไบเดนเกี่ยวกับ TikTok นั้นชัดเจนมาหลายเดือนแล้ว รวมถึงตั้งแต่ที่รัฐสภาส่งร่างกฎหมายไปยังโต๊ะของประธานาธิบดีด้วยวิธีการแบบสองพรรคการเมืองอย่างท่วมท้น:

    TikTok ควรยังคงให้บริการแก่ชาวอเมริกันได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้การเป็นเจ้าของของชาวอเมริกันหรือเจ้าของรายอื่นที่แก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติที่รัฐสภาระบุไว้ในการพัฒนากฎหมายนี้

    เมื่อพิจารณาจากระยะเวลาอันสั้น ฝ่ายบริหารนี้จึงยอมรับว่าการดำเนินการเพื่อนำกฎหมายนี้ไปปฏิบัติจะต้องตกเป็นของฝ่ายบริหารชุดต่อไปซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์นี้"
    เล่นอะไรกัน!?! ไบเดนออกกฎหมายแบน TikTok หากไม่ขายให้ชาวอเมริกัน ศาลฎีกาเห็นด้วยตามกฎหมายของไบเดน ล่าสุดไบเดนออกแถลงการณ์ต้องการให้ TikTok ยังคงมีอยู่ต่อไปในอเมริกา แต่ให้รัฐบาลถัดไปซึ่งก็คือทรัมป์ เป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรหลังมีคำตัดสินของศาล หลังจากศาลฎีกามีคำตัดสินเป็นเอกฉันท์ให้ยืนยันกฎหมายอนุญาตให้กฎหมายแบน Tiktok มีผลบังคับใช้ ซึ่งประธานาธิบดีไบเดนลงนามในกฎหมายดังกล่าวเมื่อเดือนเมษายน หลังจากผ่านการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันในรัฐสภา กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ TikTok ต้องขายให้กับผู้ซื้อชาวอเมริกันภายในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 นี้ มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐอเมริกาทันที ทางด้านฝ่ายบริหาร TikTok ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า คำตัดสินของศาลฎีกาจะส่งผลให้ต้องปิดการเข้าถึงแอป TikTok ที่ให้บริการชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านคนในวันอาทิตย์นี้ เว้นแต่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อให้บริษัทมั่นใจว่าจะไม่ถูกแบนตามที่กฎหมายระบุไว้ และนี่เป็นที่มาของแถลงการณ์จากทำเนียบขาวเกี่ยวกับการตัดสินใจของศาลฎีกาเกี่ยวกับคำตัดสินเห็นด้วยในการแบน TikTok ซึ่งเป็นกฎหมายของไบเดนเอง: “TikTok ควรยังคงให้บริการแก่ชาวอเมริกัน” "ฝ่ายบริหาร เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ กำลังรอการตัดสินใจของศาลฎีกาสหรัฐเกี่ยวกับกรณี TikTok ที่เพิ่งมีขึ้น จุดยืนของประธานาธิบดีไบเดนเกี่ยวกับ TikTok นั้นชัดเจนมาหลายเดือนแล้ว รวมถึงตั้งแต่ที่รัฐสภาส่งร่างกฎหมายไปยังโต๊ะของประธานาธิบดีด้วยวิธีการแบบสองพรรคการเมืองอย่างท่วมท้น: TikTok ควรยังคงให้บริการแก่ชาวอเมริกันได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้การเป็นเจ้าของของชาวอเมริกันหรือเจ้าของรายอื่นที่แก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติที่รัฐสภาระบุไว้ในการพัฒนากฎหมายนี้ เมื่อพิจารณาจากระยะเวลาอันสั้น ฝ่ายบริหารนี้จึงยอมรับว่าการดำเนินการเพื่อนำกฎหมายนี้ไปปฏิบัติจะต้องตกเป็นของฝ่ายบริหารชุดต่อไปซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์นี้"
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ยุทธหัตถีแห่งหนองสาหร่าย”

    ดินแดนแห่งศักดิ์ศรี กรุงศรีอยุธยา เสียงกลองศึกดังก้อง พม่ายกทัพเข้ามา สมเด็จพระนเรศ ทรงนำทัพกู้แผ่นดิน ด้วยพระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ชัยชนะเหนือศัตรู

    * ณ หนองสาหร่าย เสียงช้างร้องก้องไพร พระองค์ดำ พระองค์ขาว จารึกไว้ในหัวใจ ชนช้างฟาดฟัน บั่นคอมังสามเกียด เลือดหลั่งรินบนหลังช้าง เพื่อชาติไทยเรา

    พระองค์ขาวทรงพลายปราบไตรจักร ฟันมางจาชโร จบสิ้นศึกเหนือสายน้ำ ไพร่พลไทยลุกฮือ รวมพลังเกินขวางกั้น ประวัติศาสตร์ย้ำเตือนเรา ให้ยืนหยัดสู้เพื่อไทย

    ซ้ำ *

    พระองค์ขาวทรงพลายปราบไตรจักร

    ** ช้างศึกยิ่งใหญ่ ฟาดงวงฟาดงา วิญญาณนักรบสืบมา ด้วยเลือดนักสู้ไม่เสื่อมคลาย เกียรติยศของผืนแผ่นดิน ค่าควรเมืองแห่งชนไทย เพลงยุทธหัตถี ขับขานไปให้โลกรู้

    ซ้ำ *, **

    ดินแดนแห่งศักดิ์ศรี ไทยเรานี้ไม่มีวันลืม เสียงกลองศึกดังก้อง ในหัวใจเราตลอดไป ยุทธหัตถีแห่งหนองสาหร่าย คือความภาคภูมิของคนไทย

    ขอสดุดีแด่วีรชน ให้คงอยู่ในใจนิรันดร์

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180850 ม.ค. 2568
    “ยุทธหัตถีแห่งหนองสาหร่าย” ดินแดนแห่งศักดิ์ศรี กรุงศรีอยุธยา เสียงกลองศึกดังก้อง พม่ายกทัพเข้ามา สมเด็จพระนเรศ ทรงนำทัพกู้แผ่นดิน ด้วยพระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ชัยชนะเหนือศัตรู * ณ หนองสาหร่าย เสียงช้างร้องก้องไพร พระองค์ดำ พระองค์ขาว จารึกไว้ในหัวใจ ชนช้างฟาดฟัน บั่นคอมังสามเกียด เลือดหลั่งรินบนหลังช้าง เพื่อชาติไทยเรา พระองค์ขาวทรงพลายปราบไตรจักร ฟันมางจาชโร จบสิ้นศึกเหนือสายน้ำ ไพร่พลไทยลุกฮือ รวมพลังเกินขวางกั้น ประวัติศาสตร์ย้ำเตือนเรา ให้ยืนหยัดสู้เพื่อไทย ซ้ำ * พระองค์ขาวทรงพลายปราบไตรจักร ** ช้างศึกยิ่งใหญ่ ฟาดงวงฟาดงา วิญญาณนักรบสืบมา ด้วยเลือดนักสู้ไม่เสื่อมคลาย เกียรติยศของผืนแผ่นดิน ค่าควรเมืองแห่งชนไทย เพลงยุทธหัตถี ขับขานไปให้โลกรู้ ซ้ำ *, ** ดินแดนแห่งศักดิ์ศรี ไทยเรานี้ไม่มีวันลืม เสียงกลองศึกดังก้อง ในหัวใจเราตลอดไป ยุทธหัตถีแห่งหนองสาหร่าย คือความภาคภูมิของคนไทย ขอสดุดีแด่วีรชน ให้คงอยู่ในใจนิรันดร์ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180850 ม.ค. 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • 433 ปี ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย ศึกแห่งเกียรติยศขององค์ดำ-องค์ขาว 🇹🇭🐘

    ย้อนไปเมื่อ 433 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ไทย ต้องจารึกไว้ด้วยความภาคภูมิใจ นั่นคือเหตุการณ์ “ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย” ที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พระองค์ดำ) และสมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) ในการต่อสู้กับทัพพม่า ณ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    สงครามครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ เพื่ออาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึง ศักดิ์ศรีของพระมหากษัตริย์ไทย ผู้ยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และประชาชนชาวไทย การยุทธหัตถีครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ยังคงมีการเล่าขาน และรำลึกถึงจนถึงทุกวันนี้

    สงครามบนหลังช้างที่สะท้อนศักดิ์ศรี
    ยุทธหัตถี หมายถึง การทำสงครามบนหลังช้าง โดยผู้บัญชาการสูงสุด ของกองทัพทั้งสองฝ่าย จะเผชิญหน้ากันบนหลังช้างศึก เป็นการต่อสู้ ที่ต้องอาศัยทั้งความสามารถ การฝึกฝน ความกล้าหาญของกษัตริย์ และช้างศึก การชนช้างนี้ถือว่า เป็นการทำศึกที่มีเกียรติยศ และเป็นที่ยอมรับ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย พม่า และกัมพูชา

    ในยุคโบราณ ช้างถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมี ของพระมหากษัตริย์ และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ การทำยุทธหัตถี จึงไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ เพื่อชัยชนะทางการทหารเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความกล้าหาญและความสามารถของผู้ปกครอง ที่นำทัพด้วยตัวเอง

    สงครามยุทธหัตถีในปี พ.ศ. 2135 มีต้นเหตุจากการที่กรุงหงสาวดี (พม่า) มีความต้องการ จะยึดครองกรุงศรีอยุธยา พระเจ้านันทบุเรง ผู้ปกครองหงสาวดีในเวลานั้น จึงส่งกองทัพใหญ่กว่า 240,000 นาย นำโดย พระมหาอุปราชา (มังสามเกียด) และมางจาชโร เจ้าเมืองจาปะโร เข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยา

    พระองค์ดำทรงทราบถึง การเคลื่อนทัพของพม่า จึงทรงระดมกำลังพลหนึ่งแสนนาย และเตรียมการป้องกันเมือง พร้อมกับทรงออกคำประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ในปี พ.ศ. 2127 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการต่อต้านการปกครองของพม่า อย่างเต็มตัว

    เมื่อกองทัพของมังสามเกียด เคลื่อนมาถึงสุพรรณบุรี พระองค์ดำทรงนำทัพหลวงไปตั้งค่าย ที่ตำบลหนองสาหร่าย พร้อมกับพระองค์ขาว

    เช้าวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง องค์ดำและองค์ขาว ทรงเครื่องพิชัยยุทธเต็มยศ พร้อมด้วยช้างศึกทรง 2 เชือก คือ

    เจ้าพระยาไชยานุภาพ (พลายภูเขาทอง) ช้างทรงของพระองค์ดำ
    เจ้าพระยาปราบไตรจักร (พลายบุญเรือง) ช้างทรงของพระองค์ขาว

    ทั้งสองพระองค์ทรงนำช้างศึกเข้าสู่สนามรบ แต่ระหว่างที่เคลื่อนทัพเกิดความวุ่นวาย ทำให้ช้างทรงของทั้งสองพระองค์ หลุดเข้าไปในวงล้อมของทัพพม่า และเผชิญหน้ากับมังสามเกียด และมางจาชโร โดยตรง

    เผชิญหน้าบนหลังช้าง
    พระองค์ดำทรงเรียกท้ามังสามเกียด ซึ่งสนิทสนมกันตั้งแต่วัยพระเยาว์ เมื่อครั้งองค์ดำ ทรงเป็นองค์ประกัน อยู่ที่กรุงหงสาวดี ให้มาทำยุทธหัตถี ด้วยพระดำรัส ที่แสดงถึงความองอาจว่า

    “พระเจ้าพี่เรา จะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด”

    มังสามเกียดจึงไสช้าง เข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพ เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด เมื่อถึงจังหวะสำคัญ พระองค์ดำทรงใช้พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ฟันเข้าที่พระอังสะขวา ของมังสามเกียด จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง

    ในขณะเดียวกัน พระองค์ขาวทรงฟันมางจาชโร จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้างเช่นกัน เป็นการปิดฉาก ศึกยุทธหัตถีอันยิ่งใหญ่

    ชัยชนะของพระองค์ดำ ในยุทธหัตถีครั้งนี้ ทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราชไว้ได้ และสร้างความเกรงขามให้แก่กรุงหงสาวดี จนไม่มีการรุกรานอีก เป็นเวลาหลายปี

    หลังสงคราม พระเจ้านันทบุเรงทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสไป ในศึกครั้งนี้ และกรุงศรีอยุธยาก็ได้สร้าง พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันสำคัญนี้

    ความสำคัญของยุทธหัตถี ในประวัติศาสตร์ไทย
    สัญลักษณ์ของเอกราช ยุทธหัตถีครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึง ความสามัคคีและการต่อสู้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ

    พระปรีชาสามารถของกษัตริย์ไทย สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถในการนำทัพ

    มรดกทางวัฒนธรรม การยุทธหัตถีได้กลายเป็นตำนาน ที่มีการเล่าขาน และเป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะ วรรณกรรม และภาพยนตร์

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยุทธหัตถี
    1. ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ไหน?
    ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    2. ช้างศึกคืออะไร?
    ช้างศึกคือช้างที่ได้รับการฝึกฝน เพื่อใช้ในการทำสงคราม มีลักษณะเด่นตามตำราคชลักษณ์

    3. ทำไมยุทธหัตถีถึงมีเกียรติ?
    เพราะเป็นการต่อสู้ ระหว่างกษัตริย์ทั้งสองฝ่าย อย่างตรงไปตรงมา และแสดงถึงความกล้าหาญ

    ยุทธหัตถีหนองสาหร่ายในปี พ.ศ. 2135 เป็นสงครามที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราช และศักดิ์ศรีของชาติไว้ได้

    เหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนไทย ในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และรักษาเกียรติภูมิของตน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180833 ม.ค. 2568

    #สมเด็จพระนเรศวร #ยุทธหัตถี #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามชนช้าง #กรุงศรีอยุธยา #ดอนเจดีย์ #หงสาวดี #ชาติไทย #วีรกรรมไทย #สงครามไทย

    🎉
    433 ปี ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย ศึกแห่งเกียรติยศขององค์ดำ-องค์ขาว 🇹🇭🐘 ย้อนไปเมื่อ 433 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ไทย ต้องจารึกไว้ด้วยความภาคภูมิใจ นั่นคือเหตุการณ์ “ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย” ที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พระองค์ดำ) และสมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) ในการต่อสู้กับทัพพม่า ณ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี สงครามครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ เพื่ออาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึง ศักดิ์ศรีของพระมหากษัตริย์ไทย ผู้ยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และประชาชนชาวไทย การยุทธหัตถีครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ยังคงมีการเล่าขาน และรำลึกถึงจนถึงทุกวันนี้ สงครามบนหลังช้างที่สะท้อนศักดิ์ศรี ยุทธหัตถี หมายถึง การทำสงครามบนหลังช้าง โดยผู้บัญชาการสูงสุด ของกองทัพทั้งสองฝ่าย จะเผชิญหน้ากันบนหลังช้างศึก เป็นการต่อสู้ ที่ต้องอาศัยทั้งความสามารถ การฝึกฝน ความกล้าหาญของกษัตริย์ และช้างศึก การชนช้างนี้ถือว่า เป็นการทำศึกที่มีเกียรติยศ และเป็นที่ยอมรับ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย พม่า และกัมพูชา ในยุคโบราณ ช้างถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมี ของพระมหากษัตริย์ และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ การทำยุทธหัตถี จึงไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ เพื่อชัยชนะทางการทหารเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความกล้าหาญและความสามารถของผู้ปกครอง ที่นำทัพด้วยตัวเอง สงครามยุทธหัตถีในปี พ.ศ. 2135 มีต้นเหตุจากการที่กรุงหงสาวดี (พม่า) มีความต้องการ จะยึดครองกรุงศรีอยุธยา พระเจ้านันทบุเรง ผู้ปกครองหงสาวดีในเวลานั้น จึงส่งกองทัพใหญ่กว่า 240,000 นาย นำโดย พระมหาอุปราชา (มังสามเกียด) และมางจาชโร เจ้าเมืองจาปะโร เข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยา พระองค์ดำทรงทราบถึง การเคลื่อนทัพของพม่า จึงทรงระดมกำลังพลหนึ่งแสนนาย และเตรียมการป้องกันเมือง พร้อมกับทรงออกคำประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ในปี พ.ศ. 2127 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการต่อต้านการปกครองของพม่า อย่างเต็มตัว เมื่อกองทัพของมังสามเกียด เคลื่อนมาถึงสุพรรณบุรี พระองค์ดำทรงนำทัพหลวงไปตั้งค่าย ที่ตำบลหนองสาหร่าย พร้อมกับพระองค์ขาว เช้าวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง องค์ดำและองค์ขาว ทรงเครื่องพิชัยยุทธเต็มยศ พร้อมด้วยช้างศึกทรง 2 เชือก คือ เจ้าพระยาไชยานุภาพ (พลายภูเขาทอง) ช้างทรงของพระองค์ดำ เจ้าพระยาปราบไตรจักร (พลายบุญเรือง) ช้างทรงของพระองค์ขาว ทั้งสองพระองค์ทรงนำช้างศึกเข้าสู่สนามรบ แต่ระหว่างที่เคลื่อนทัพเกิดความวุ่นวาย ทำให้ช้างทรงของทั้งสองพระองค์ หลุดเข้าไปในวงล้อมของทัพพม่า และเผชิญหน้ากับมังสามเกียด และมางจาชโร โดยตรง เผชิญหน้าบนหลังช้าง พระองค์ดำทรงเรียกท้ามังสามเกียด ซึ่งสนิทสนมกันตั้งแต่วัยพระเยาว์ เมื่อครั้งองค์ดำ ทรงเป็นองค์ประกัน อยู่ที่กรุงหงสาวดี ให้มาทำยุทธหัตถี ด้วยพระดำรัส ที่แสดงถึงความองอาจว่า “พระเจ้าพี่เรา จะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด” มังสามเกียดจึงไสช้าง เข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพ เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด เมื่อถึงจังหวะสำคัญ พระองค์ดำทรงใช้พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ฟันเข้าที่พระอังสะขวา ของมังสามเกียด จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง ในขณะเดียวกัน พระองค์ขาวทรงฟันมางจาชโร จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้างเช่นกัน เป็นการปิดฉาก ศึกยุทธหัตถีอันยิ่งใหญ่ ชัยชนะของพระองค์ดำ ในยุทธหัตถีครั้งนี้ ทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราชไว้ได้ และสร้างความเกรงขามให้แก่กรุงหงสาวดี จนไม่มีการรุกรานอีก เป็นเวลาหลายปี หลังสงคราม พระเจ้านันทบุเรงทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสไป ในศึกครั้งนี้ และกรุงศรีอยุธยาก็ได้สร้าง พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันสำคัญนี้ ความสำคัญของยุทธหัตถี ในประวัติศาสตร์ไทย สัญลักษณ์ของเอกราช ยุทธหัตถีครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึง ความสามัคคีและการต่อสู้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ พระปรีชาสามารถของกษัตริย์ไทย สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถในการนำทัพ มรดกทางวัฒนธรรม การยุทธหัตถีได้กลายเป็นตำนาน ที่มีการเล่าขาน และเป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะ วรรณกรรม และภาพยนตร์ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยุทธหัตถี 1. ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ไหน? ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี 2. ช้างศึกคืออะไร? ช้างศึกคือช้างที่ได้รับการฝึกฝน เพื่อใช้ในการทำสงคราม มีลักษณะเด่นตามตำราคชลักษณ์ 3. ทำไมยุทธหัตถีถึงมีเกียรติ? เพราะเป็นการต่อสู้ ระหว่างกษัตริย์ทั้งสองฝ่าย อย่างตรงไปตรงมา และแสดงถึงความกล้าหาญ ยุทธหัตถีหนองสาหร่ายในปี พ.ศ. 2135 เป็นสงครามที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราช และศักดิ์ศรีของชาติไว้ได้ เหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนไทย ในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และรักษาเกียรติภูมิของตน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180833 ม.ค. 2568 #สมเด็จพระนเรศวร #ยุทธหัตถี #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามชนช้าง #กรุงศรีอยุธยา #ดอนเจดีย์ #หงสาวดี #ชาติไทย #วีรกรรมไทย #สงครามไทย 🎉
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักข่าวโดนล็อคคอนำตัวออกจากห้องแถลงข่าวของบลิงเคน หลังยิงคำถามไม่ถูกใจ!!

    เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก่อนที่เขาจะหมดวาระจากตำแหน่ง หลังการประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส รวมทั้งข้อตกลงเรื่องตัวประกัน

    แซม ฮัสเซนี นักข่าวอเมริกันเชื้อสายจอร์แดน-ปาเลสไตน์ และคอลัมนิสต์ในสื่อหลายแห่ง ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงต่างประเทศล็อคคอลากออกจากห้องแถลงข่าว หลังจากที่เขาพยายามถามเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ซึ่งบลิงเคนอ้างว่าเป็นความสำเร็จทางการทูตในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

    บลิงเคนไม่ยอมตอบคำถามของฮัสเซนี หลังจากเขาพยายามถามว่าทำไมสหรัฐถึงยอมให้ฝ่ายอิสราเอลจบสงครามในกาซา ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลา 15 เดือนและคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนอย่างง่ายดาย

    ในระหว่างที่ฮัสเซนีรัวคำถามอยู่นั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับพยายามนำตัวเขา ออกจากห้องแถลงข่าว ทำให้เขาโกรธมากและตะโกนออกไปว่า "ไอ้ฆาตกร! ทำไมแกไม่อยู่ในกรุงเฮก!" (กรุงเฮก ในเนเธอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของศาลอาญาระหว่างประเทศ)

    ฮัสเซนีกล่าวภายหลังว่า เขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพียงแค่พยายามตั้งคำถามทั่วไปเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง แต่บลิงเคนไม่รู้คิดอะไรอยู่ ถึงไม่ยินยอมตอบคำถาม โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับระเบียบฮันนิบาล ไดเร็กทีฟ (Hannibal Directive) ซึ่งอนุญาตให้ทหารอิสราเอลดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพลเรือนและทหารของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวประกันตกไปอยู่ในมือศัตรู

    นักข่าวโดนล็อคคอนำตัวออกจากห้องแถลงข่าวของบลิงเคน หลังยิงคำถามไม่ถูกใจ!! เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก่อนที่เขาจะหมดวาระจากตำแหน่ง หลังการประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส รวมทั้งข้อตกลงเรื่องตัวประกัน แซม ฮัสเซนี นักข่าวอเมริกันเชื้อสายจอร์แดน-ปาเลสไตน์ และคอลัมนิสต์ในสื่อหลายแห่ง ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงต่างประเทศล็อคคอลากออกจากห้องแถลงข่าว หลังจากที่เขาพยายามถามเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ซึ่งบลิงเคนอ้างว่าเป็นความสำเร็จทางการทูตในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา บลิงเคนไม่ยอมตอบคำถามของฮัสเซนี หลังจากเขาพยายามถามว่าทำไมสหรัฐถึงยอมให้ฝ่ายอิสราเอลจบสงครามในกาซา ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลา 15 เดือนและคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนอย่างง่ายดาย ในระหว่างที่ฮัสเซนีรัวคำถามอยู่นั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับพยายามนำตัวเขา ออกจากห้องแถลงข่าว ทำให้เขาโกรธมากและตะโกนออกไปว่า "ไอ้ฆาตกร! ทำไมแกไม่อยู่ในกรุงเฮก!" (กรุงเฮก ในเนเธอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของศาลอาญาระหว่างประเทศ) ฮัสเซนีกล่าวภายหลังว่า เขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพียงแค่พยายามตั้งคำถามทั่วไปเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง แต่บลิงเคนไม่รู้คิดอะไรอยู่ ถึงไม่ยินยอมตอบคำถาม โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับระเบียบฮันนิบาล ไดเร็กทีฟ (Hannibal Directive) ซึ่งอนุญาตให้ทหารอิสราเอลดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพลเรือนและทหารของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวประกันตกไปอยู่ในมือศัตรู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • เหตุดีไม่ร้าย
    เหตุร้ายไม่ดี
    เหตุทุกข์นั้นมี
    ดีดับเหตุได้

    เหตุสุขให้มี
    ดีกรรมอาศัย
    ทุกข์มีดับไป
    ให้สุขแทนที่

    เจริญสติ
    จิตสงบดี
    นิ่งพาถ้วนถี่
    ดีปัญญาได้
    เหตุดีไม่ร้าย เหตุร้ายไม่ดี เหตุทุกข์นั้นมี ดีดับเหตุได้ เหตุสุขให้มี ดีกรรมอาศัย ทุกข์มีดับไป ให้สุขแทนที่ เจริญสติ จิตสงบดี นิ่งพาถ้วนถี่ ดีปัญญาได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคนิคการเตรียมวัสดุปลูกเมล่อน แบบมืออาชีพ! #เมล่อนญี่ปุ่น #เม ล่อน #ปลูกเมล่อน #melon #farm #ลิตเติ้ลฟาร์ม #สรีรวิทยาพืช #การ จัดการธาตุอาหารพืช #เทคนิคการ ปลูกเมล่อนคุณภาพ #วัสดุปลูก
    เทคนิคการเตรียมวัสดุปลูกเมล่อน แบบมืออาชีพ! #เมล่อนญี่ปุ่น #เม ล่อน #ปลูกเมล่อน #melon #farm #ลิตเติ้ลฟาร์ม #สรีรวิทยาพืช #การ จัดการธาตุอาหารพืช #เทคนิคการ ปลูกเมล่อนคุณภาพ #วัสดุปลูก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • Saloma Link สะพานที่มากกว่าไฟสวย

    มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ (Recreational Attraction) จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเสริมสร้างสุขภาพ ให้ความสนุกสนาน บันเทิง และการศึกษาหาความรู้ แม้ไม่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม แต่มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ River of Life บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek และสะพาน Saloma Link บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru

    กล่าวถึงสะพาน Saloma Link (ซาโลมาลิงก์) เป็นสะพานขนาดไม่ใหญ่ ยาว 69 เมตร กว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ข้ามทางด่วนสาย E12 อัมปัง-กัวลาลัมเปอร์ (AKLEH) และแม่น้ำแคลงที่อยู่เกาะกลาง มีทางลาดลงไปยังด้านข้างสุสานอิสลามจาลันอัมปัง แล้วออกทางแยกหน้าอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ ย่าน KLCC เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 โดยมีบริษัท VERITAS Design Group ออกแบบโครงสร้าง ใช้งบก่อสร้าง 31 ล้านริงกิต (237 ล้านบาท)

    จุดเด่นของสะพานซาโลมาลิงก์ คือการออกแบบโครงสร้างเหล็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากการจัดช่อดอกไม้มงคลที่เรียกว่า ซิเระ จุนจุง (Sireh Junjung) ในพิธีแต่งงานของชาวมาเลย์ ประดับด้วยกระจกและแผงไฟ LED รูปทรงเพชร ฉายแสงในรูปแบบต่างๆ หลากสีสัน ชื่อสะพานมาจาก ซาโลมา ชื่อเรียกของ ซัลมาห์ อิสมาอิล (Salmah Ismail) นักร้อง นักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์-มาเลเซีย ฉายามาริลิน มอนโรแห่งเอเชีย ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2526 ด้วยวัย 48 ปี และถูกฝังอยู่ในสุสานอิสลามจาลันอัมปัง

    ก่อนจะมาเป็นสะพานที่สวยงามแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคลง จากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกำปุงบารู (Kampung Baru) ชุมชนที่อยู่อีกฝั่ง แต่ได้รื้อสะพานเมื่อปี 2539 เพื่อก่อสร้างทางด่วนที่ยกสูงขึ้น เสมือนเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่อยู่ตรงกลาง

    ในยามค่ำคืน สะพานแห่งนี้จะเปิดไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม ล้อไปกับตึกแฝดปิโตรนาสทาวเวอร์ ที่เปิดไฟส่องไสวไปทั่วตึกเช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปสะพานโดยเฉพาะฝั่งกำปุงบารู จะเห็นด้านหลังทั้งสะพานและตึกปิโตรนาส เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเลเซียต้องไม่พลาด ซึ่งฝั่งกำปุงบารูจะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดเล็ก มีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดจำหน่าย ขึ้นลงได้จากบันไดและลิฟต์ และมีทางเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru ซึ่งเป็นสถานีใต้ดิน

    สะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. โปรดปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายรูป ไม่ปีนป่ายราวสะพาน และระวังสิ่งของที่ติดตัวตกจากสะพาน

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Saloma Link สะพานที่มากกว่าไฟสวย มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ (Recreational Attraction) จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเสริมสร้างสุขภาพ ให้ความสนุกสนาน บันเทิง และการศึกษาหาความรู้ แม้ไม่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม แต่มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ River of Life บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek และสะพาน Saloma Link บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru กล่าวถึงสะพาน Saloma Link (ซาโลมาลิงก์) เป็นสะพานขนาดไม่ใหญ่ ยาว 69 เมตร กว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ข้ามทางด่วนสาย E12 อัมปัง-กัวลาลัมเปอร์ (AKLEH) และแม่น้ำแคลงที่อยู่เกาะกลาง มีทางลาดลงไปยังด้านข้างสุสานอิสลามจาลันอัมปัง แล้วออกทางแยกหน้าอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ ย่าน KLCC เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 โดยมีบริษัท VERITAS Design Group ออกแบบโครงสร้าง ใช้งบก่อสร้าง 31 ล้านริงกิต (237 ล้านบาท) จุดเด่นของสะพานซาโลมาลิงก์ คือการออกแบบโครงสร้างเหล็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากการจัดช่อดอกไม้มงคลที่เรียกว่า ซิเระ จุนจุง (Sireh Junjung) ในพิธีแต่งงานของชาวมาเลย์ ประดับด้วยกระจกและแผงไฟ LED รูปทรงเพชร ฉายแสงในรูปแบบต่างๆ หลากสีสัน ชื่อสะพานมาจาก ซาโลมา ชื่อเรียกของ ซัลมาห์ อิสมาอิล (Salmah Ismail) นักร้อง นักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์-มาเลเซีย ฉายามาริลิน มอนโรแห่งเอเชีย ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2526 ด้วยวัย 48 ปี และถูกฝังอยู่ในสุสานอิสลามจาลันอัมปัง ก่อนจะมาเป็นสะพานที่สวยงามแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคลง จากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกำปุงบารู (Kampung Baru) ชุมชนที่อยู่อีกฝั่ง แต่ได้รื้อสะพานเมื่อปี 2539 เพื่อก่อสร้างทางด่วนที่ยกสูงขึ้น เสมือนเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่อยู่ตรงกลาง ในยามค่ำคืน สะพานแห่งนี้จะเปิดไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม ล้อไปกับตึกแฝดปิโตรนาสทาวเวอร์ ที่เปิดไฟส่องไสวไปทั่วตึกเช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปสะพานโดยเฉพาะฝั่งกำปุงบารู จะเห็นด้านหลังทั้งสะพานและตึกปิโตรนาส เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเลเซียต้องไม่พลาด ซึ่งฝั่งกำปุงบารูจะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดเล็ก มีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดจำหน่าย ขึ้นลงได้จากบันไดและลิฟต์ และมีทางเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru ซึ่งเป็นสถานีใต้ดิน สะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. โปรดปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายรูป ไม่ปีนป่ายราวสะพาน และระวังสิ่งของที่ติดตัวตกจากสะพาน #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันรายงานการโจมตีโรงเก็บก๊าซหลักของยูเครน

    โรงเก็บก๊าซแห่งนี้ถูกรัสเซียโจมตีมาอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 มีรายงานว่า สถานีจ่ายก๊าซซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลังเก็บก๊าซ Bilche-Volytsko-Uherske อาคารหลักทั้งหมด ห้องควบคุมหลัก หน่วยสูบจ่ายแก๊ส อยู่ในสถานะเสียหายอย่างรุนแรง

    รายงานล่าสุด โรงงานนี้ถูกปิดตัวลงแล้ว เนื่องจากการโจมตีของรัสเซีย ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่โรงเก็บก๊าซที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน แต่เป็นการโจมตีสถานีจ่ายก๊าซซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลังเก็บก๊าซที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานบนดิน เป้าหมายเพื่อไม่ให้มีการนำก๊าซออกไปใช้งานได้อีกต่อไป

    โรงเก็บก๊าซใต้ดิน Bilche-Volytsko-Uherske ของยูเครนเป็นโรงงานเก็บก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในเมืองสตรัย (Stryi) ภูมิภาคลวิฟ (Lviv) เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1985

    โรงจัดเก็บก๊าซใต้ดิน Bilche-Volytsko-Uherske แห่งนี้ดำเนินการโดย Ukrtransgaz ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานด้านพลังงานของยูเครน มีความจุ 17 bcm (billion cubic metres) และสามารถจัดเก็บได้มากกว่าคลังเก็บก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีถึง 4 เท่า

    ทางด้านยูเครนออกมาปฏิเสธการหยุดดำเนินการของโรงเก็บก๊าซแห่งนี้ โดยกล่าวว่าทุกอย่างยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ
    กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันรายงานการโจมตีโรงเก็บก๊าซหลักของยูเครน โรงเก็บก๊าซแห่งนี้ถูกรัสเซียโจมตีมาอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 มีรายงานว่า สถานีจ่ายก๊าซซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลังเก็บก๊าซ Bilche-Volytsko-Uherske อาคารหลักทั้งหมด ห้องควบคุมหลัก หน่วยสูบจ่ายแก๊ส อยู่ในสถานะเสียหายอย่างรุนแรง รายงานล่าสุด โรงงานนี้ถูกปิดตัวลงแล้ว เนื่องจากการโจมตีของรัสเซีย ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่โรงเก็บก๊าซที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน แต่เป็นการโจมตีสถานีจ่ายก๊าซซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลังเก็บก๊าซที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานบนดิน เป้าหมายเพื่อไม่ให้มีการนำก๊าซออกไปใช้งานได้อีกต่อไป โรงเก็บก๊าซใต้ดิน Bilche-Volytsko-Uherske ของยูเครนเป็นโรงงานเก็บก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในเมืองสตรัย (Stryi) ภูมิภาคลวิฟ (Lviv) เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1985 โรงจัดเก็บก๊าซใต้ดิน Bilche-Volytsko-Uherske แห่งนี้ดำเนินการโดย Ukrtransgaz ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานด้านพลังงานของยูเครน มีความจุ 17 bcm (billion cubic metres) และสามารถจัดเก็บได้มากกว่าคลังเก็บก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีถึง 4 เท่า ทางด้านยูเครนออกมาปฏิเสธการหยุดดำเนินการของโรงเก็บก๊าซแห่งนี้ โดยกล่าวว่าทุกอย่างยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • คู่ (อยู่ติดกัน) 23/ 45/ 56 /78 รวมตัวกลับ ถือว่า คู่มิตร..
    คู่นิยม 23_28 68 _89_ รวมตัวกลับ.. ถือเป็นเลขนิยม ..และ 69 ไม่กลับ.
    คู่ (อยู่ติดกัน) 23/ 45/ 56 /78 รวมตัวกลับ ถือว่า คู่มิตร.. คู่นิยม 23_28 68 _89_ รวมตัวกลับ.. ถือเป็นเลขนิยม ..และ 69 ไม่กลับ.
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • "คุณแม๊" พลิกแล้ว ยอมให้รื้อคดี
    ยัน "แตงโม"ถูกฆาตกรรม
    ลั่น "มาฆ่าลูกชั้นทำไม?"
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ หลังไมค์ ทางช่อง 3 ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงศ์ เกี่ยวกับการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ "แตงโม" เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) โดยทีมงานของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม, นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์, อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ โดยนางภนิดาระบุว่า ตนยินดีให้รื้อคดีแตงโม หากมีพยานหลักฐานใหม่ ระบุจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่สูญเปล่า และเชื่อว่าสามารถช่วยในการคลี่คลายคดีได้
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นแย้งกับการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่? นายภนิดาระบุว่า เห็นด้วย และเป็นสิ่งที่ดี
    "ไม่เลยค่ะ เห็นดี เห็นดี สิ่งที่ดีทำไปเถอะลูก น้องโมก็มาช่วยด้วยล่ะ ช่วยบอก 1-2-3 (หัวเราะ) ... มันก็ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลนะ ทำไปเถอะ ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ว่ามันจะแสวงหาอะไรได้หรือไม่เนี่ย มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สมมติว่าเจอหลักฐานใหม่ที่เขาว่า ต้องเป็นหลักฐานที่ใหม่เอี่ยมเลยที่ไม่ซ้ำเก่า"
    .
    นางภนิดายังระบุด้วยว่า ตนเชื่อว่าแตงโมถูกฆาตกรรมบนเรือ โดยตนเก็บข้อมูลมาตลอด บางเรื่องยังไม่ได้เปิดเผย ซึ่งอยู่ที่ตนเก็บไว้หมด โดยจะเอาหลักฐานไปให้นายอัจฉริยะ ทั้งนี้่ตนยอมรับว่านายอัจฉริยะเก่ง จริง ๆ เป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่ แต่เมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมาไม่มีคนสืบแบบนี้ ตำรวจก็ไม่ได้สืบเหมือนทีม อาจารย์ปานเทพ และนายอัจฉริยะ ที่เอาจริงเอาจัง
    .
    นางภนิดา กล่าวกับทีมข่าวช่อง 3 ด้วยว่า ตอนนี้ทีมนายอัจฉริยะ เดินหน้าเรื่องฆาตกรรม ประชาชนก็มองออกว่าแตงโมเสียชีวิตเพราะอะไร แต่ยังต้องสืบว่าแตงโม เสียชีวิตแบบไหน ใครทำ เสียชีวิตด้วยวิธีใด ต้องเอาคนบนเรือทั้งหมดมาสอบใหม่เพราะทำร้ายแตงโมทุกคน มีบาดแผลกันทุกคน อย่าง ’แซน วิศาพัช’ ก็โดนนายอัจฉริยะ เปิดเผยอึกอักมาหลายวัน
    .
    ส่วนกรณีที่ "ปอ" ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และ "แซน" นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นจำเลยในคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม" ออกมาตั้งโต๊ะแถลงตอบโต้ว่าการจำลองเหตุการณ์นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง มารดาของแตงโม ตอบว่า ตนไม่รู้ว่า "ปอ" กับ "แซน" จะพูดเรื่องนี้ทำไม เพราะมันตลกสิ้นดี
    .
    "(หัวเราะ) เขาจะพูดคำพวกนี้ทำไม มันตลกสิ้นดี เขาจะพูดทำไมว่ามันไม่ตรง มันจะตรงหรือไม่ตรง ไม่สนใจหรอกนะ เอาเป็นว่า คุณฆ่าแตงโมทำไมดีกว่า? ไอ้กระโดดเรือข้างซ้ายข้างขวา มันไม่ใช่ประเด็นการตายของน้องโม
    .
    "คือมันทำร้ายกันจริงๆ อันนี้เรื่องจริงลูก ต้องเชื่อคุณแม่เลยว่า เรื่องจริงมันเป็นเช่นนี้ และมันรุนแรงมาก คุณแม่มีสติพูดได้ขนาดนี้ ไม่อยากมีสติหรอก จริงๆ มันต้องพูดอ่ะเนอะ" นางภนิดากล่าว
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคุณแม่เชื่อว่าเหตุการณ์เสียชีวิตของแตงโมเป็นการฆาตกรรมหรือไม่? นางภนิดาตอบว่า แน่นอน
    "อ๊ะ! ก็ฆ่าลูกเราในเรือ ฆาตกรรมไหมล่ะ? ก็ฆ่าลูกเรา เขาเรียกว่าอะไรล่ะ ฆาตกรรม คำว่าอำพรางมันหมายความว่ายังไง? แกล้งฆ่าเหรอ หรือ แอบๆ ฆ่า มันไม่ต้องใช้คำว่าอำพรางแล้ว ตอนนั้น วันนั้นมันไม่มีหลักฐานจริง ๆ แต่วันนี้มีแล้ว วันนี้มีเยอะด้วย"
    .
    เมื่อถามว่ามีคำพูดอะไรอยากฝากถึง ปอ แซน และโรเบิร์ต (นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์) บ้างหรือไม่ นางภนิดาตอบว่า ไม่พูดได้ไหม เพราะตอนนี้คนเหล่านี้ก็น่าจะหนาวแย่แล้ว ตนไม่ชอบทับถมใคร ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกาลเวลา เพราะคนพวกนี้รู้อยู่แล้วว่าจะต้องโดนอะไร
    .
    ส่วนกรณีที่ แซน วิศาพัช ออกมาตอบโต้คนโน้นคนนี้ผ่านสื่อนั้น นางภนิดาระบุว่า "ใช่ ต้องเรียกว่าปากแซ๋บ ปากแจ๋ว โอ้โห! เถียงไม่หยุดเลย ผิดกับแซนเมื่อก่อน แซนเมื่อปีที่แล้วเงียบ ๆ แต่แซนเวลานี้พูดเยอะมาก"
    .
    คลิกชม >> "แม่ภนิดา" ยินดีรื้อคดี "แตงโม" ถ้ามีหลักฐานใหม่ ไม่สน "แซน-ปอ" โต้แย้ง ลั่น "ฆ่าลูกฉันทำไม" https://www.youtube.com/watch?v=_BOMPCebicE
    "คุณแม๊" พลิกแล้ว ยอมให้รื้อคดี ยัน "แตงโม"ถูกฆาตกรรม ลั่น "มาฆ่าลูกชั้นทำไม?" . วันนี้ (17 ม.ค.) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ หลังไมค์ ทางช่อง 3 ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงศ์ เกี่ยวกับการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ "แตงโม" เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) โดยทีมงานของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม, นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์, อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ โดยนางภนิดาระบุว่า ตนยินดีให้รื้อคดีแตงโม หากมีพยานหลักฐานใหม่ ระบุจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่สูญเปล่า และเชื่อว่าสามารถช่วยในการคลี่คลายคดีได้ . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นแย้งกับการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่? นายภนิดาระบุว่า เห็นด้วย และเป็นสิ่งที่ดี "ไม่เลยค่ะ เห็นดี เห็นดี สิ่งที่ดีทำไปเถอะลูก น้องโมก็มาช่วยด้วยล่ะ ช่วยบอก 1-2-3 (หัวเราะ) ... มันก็ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลนะ ทำไปเถอะ ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ว่ามันจะแสวงหาอะไรได้หรือไม่เนี่ย มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สมมติว่าเจอหลักฐานใหม่ที่เขาว่า ต้องเป็นหลักฐานที่ใหม่เอี่ยมเลยที่ไม่ซ้ำเก่า" . นางภนิดายังระบุด้วยว่า ตนเชื่อว่าแตงโมถูกฆาตกรรมบนเรือ โดยตนเก็บข้อมูลมาตลอด บางเรื่องยังไม่ได้เปิดเผย ซึ่งอยู่ที่ตนเก็บไว้หมด โดยจะเอาหลักฐานไปให้นายอัจฉริยะ ทั้งนี้่ตนยอมรับว่านายอัจฉริยะเก่ง จริง ๆ เป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่ แต่เมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมาไม่มีคนสืบแบบนี้ ตำรวจก็ไม่ได้สืบเหมือนทีม อาจารย์ปานเทพ และนายอัจฉริยะ ที่เอาจริงเอาจัง . นางภนิดา กล่าวกับทีมข่าวช่อง 3 ด้วยว่า ตอนนี้ทีมนายอัจฉริยะ เดินหน้าเรื่องฆาตกรรม ประชาชนก็มองออกว่าแตงโมเสียชีวิตเพราะอะไร แต่ยังต้องสืบว่าแตงโม เสียชีวิตแบบไหน ใครทำ เสียชีวิตด้วยวิธีใด ต้องเอาคนบนเรือทั้งหมดมาสอบใหม่เพราะทำร้ายแตงโมทุกคน มีบาดแผลกันทุกคน อย่าง ’แซน วิศาพัช’ ก็โดนนายอัจฉริยะ เปิดเผยอึกอักมาหลายวัน . ส่วนกรณีที่ "ปอ" ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และ "แซน" นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นจำเลยในคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม" ออกมาตั้งโต๊ะแถลงตอบโต้ว่าการจำลองเหตุการณ์นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง มารดาของแตงโม ตอบว่า ตนไม่รู้ว่า "ปอ" กับ "แซน" จะพูดเรื่องนี้ทำไม เพราะมันตลกสิ้นดี . "(หัวเราะ) เขาจะพูดคำพวกนี้ทำไม มันตลกสิ้นดี เขาจะพูดทำไมว่ามันไม่ตรง มันจะตรงหรือไม่ตรง ไม่สนใจหรอกนะ เอาเป็นว่า คุณฆ่าแตงโมทำไมดีกว่า? ไอ้กระโดดเรือข้างซ้ายข้างขวา มันไม่ใช่ประเด็นการตายของน้องโม . "คือมันทำร้ายกันจริงๆ อันนี้เรื่องจริงลูก ต้องเชื่อคุณแม่เลยว่า เรื่องจริงมันเป็นเช่นนี้ และมันรุนแรงมาก คุณแม่มีสติพูดได้ขนาดนี้ ไม่อยากมีสติหรอก จริงๆ มันต้องพูดอ่ะเนอะ" นางภนิดากล่าว . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคุณแม่เชื่อว่าเหตุการณ์เสียชีวิตของแตงโมเป็นการฆาตกรรมหรือไม่? นางภนิดาตอบว่า แน่นอน "อ๊ะ! ก็ฆ่าลูกเราในเรือ ฆาตกรรมไหมล่ะ? ก็ฆ่าลูกเรา เขาเรียกว่าอะไรล่ะ ฆาตกรรม คำว่าอำพรางมันหมายความว่ายังไง? แกล้งฆ่าเหรอ หรือ แอบๆ ฆ่า มันไม่ต้องใช้คำว่าอำพรางแล้ว ตอนนั้น วันนั้นมันไม่มีหลักฐานจริง ๆ แต่วันนี้มีแล้ว วันนี้มีเยอะด้วย" . เมื่อถามว่ามีคำพูดอะไรอยากฝากถึง ปอ แซน และโรเบิร์ต (นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์) บ้างหรือไม่ นางภนิดาตอบว่า ไม่พูดได้ไหม เพราะตอนนี้คนเหล่านี้ก็น่าจะหนาวแย่แล้ว ตนไม่ชอบทับถมใคร ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกาลเวลา เพราะคนพวกนี้รู้อยู่แล้วว่าจะต้องโดนอะไร . ส่วนกรณีที่ แซน วิศาพัช ออกมาตอบโต้คนโน้นคนนี้ผ่านสื่อนั้น นางภนิดาระบุว่า "ใช่ ต้องเรียกว่าปากแซ๋บ ปากแจ๋ว โอ้โห! เถียงไม่หยุดเลย ผิดกับแซนเมื่อก่อน แซนเมื่อปีที่แล้วเงียบ ๆ แต่แซนเวลานี้พูดเยอะมาก" . คลิกชม >> "แม่ภนิดา" ยินดีรื้อคดี "แตงโม" ถ้ามีหลักฐานใหม่ ไม่สน "แซน-ปอ" โต้แย้ง ลั่น "ฆ่าลูกฉันทำไม" https://www.youtube.com/watch?v=_BOMPCebicE
    Haha
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว

  • “บ้านเพื่อคนไทย”ยอดทะลัก “นายกฯ”กดปุ่มเปิดตัว แค่ 3 ชั่วโมงครึ่งประชาชนแห่ลงทะเบียนผ่านเวป ถึง 23 ล้านคน “สุริยะ”เผนหลังตรวจคุณสมบัติยังเกิน ให้กองสลากกำหนดวิธีจับสลาก ย้ำเป้าหมายก่อนหมดวาระรัฐบาลเพื่อไทย ปี70จะให้มีบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 3 แสนยูนิต

    นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบพื้นที่สถานีรถไฟที่มีศักยภาพ โดยเปิดโครงการนำร่อง 4 พื้นที่ ได้แก่ บางซื่อ กม.11, ธนบุรี ,เชียงราก, เชียงใหม่ สำหรับผู้สนใจต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นตามที่กำหนด เมื่อปิดลงทะเบียนแล้ว ตามกระบวนการจะส่งข้อมูลทั้งหมด ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อได้ผู้ผ่านคุณสมบัติแล้วหากจำนวนเกินก็จะให้กองสลากฯ สุ่มเหมือนออกล็อตเตอรี จะหาวิธีการ แรนดอม หรือจับสลาก ส่วน กรรมสิทธิ์อยู่ได้ถึง 99 ปี แต่เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายให้ที่ 30 ปี บวก 30 ปี ซึ่งจะมีการแก้ไขกฎหมายให้เป็น 99 ปี ต่อไป

    สำหรับพื้นที่บางซื่อ กม.11 นั้น เริ่มต้นจะมีประมาณ 1,700 ห้อง คาดว่าจะมีประมาณ 5 อาคาร รวมประมาณ เกือบ 10,000 ห้อง แต่หากมีความต้องการเพิ่มจะปรับขยายเป็นอาคาร 45 ชั้นได้ โดยเป้าหมายรัฐบาลก่อนหมดวาระพรรคเพื่อไทยในปี2570จะให้มีบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 300,000 ยูนิต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000005308

    #MGROnline #บ้านเพื่อคนไทย
    “บ้านเพื่อคนไทย”ยอดทะลัก “นายกฯ”กดปุ่มเปิดตัว แค่ 3 ชั่วโมงครึ่งประชาชนแห่ลงทะเบียนผ่านเวป ถึง 23 ล้านคน “สุริยะ”เผนหลังตรวจคุณสมบัติยังเกิน ให้กองสลากกำหนดวิธีจับสลาก ย้ำเป้าหมายก่อนหมดวาระรัฐบาลเพื่อไทย ปี70จะให้มีบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 3 แสนยูนิต • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบพื้นที่สถานีรถไฟที่มีศักยภาพ โดยเปิดโครงการนำร่อง 4 พื้นที่ ได้แก่ บางซื่อ กม.11, ธนบุรี ,เชียงราก, เชียงใหม่ สำหรับผู้สนใจต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นตามที่กำหนด เมื่อปิดลงทะเบียนแล้ว ตามกระบวนการจะส่งข้อมูลทั้งหมด ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อได้ผู้ผ่านคุณสมบัติแล้วหากจำนวนเกินก็จะให้กองสลากฯ สุ่มเหมือนออกล็อตเตอรี จะหาวิธีการ แรนดอม หรือจับสลาก ส่วน กรรมสิทธิ์อยู่ได้ถึง 99 ปี แต่เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายให้ที่ 30 ปี บวก 30 ปี ซึ่งจะมีการแก้ไขกฎหมายให้เป็น 99 ปี ต่อไป • สำหรับพื้นที่บางซื่อ กม.11 นั้น เริ่มต้นจะมีประมาณ 1,700 ห้อง คาดว่าจะมีประมาณ 5 อาคาร รวมประมาณ เกือบ 10,000 ห้อง แต่หากมีความต้องการเพิ่มจะปรับขยายเป็นอาคาร 45 ชั้นได้ โดยเป้าหมายรัฐบาลก่อนหมดวาระพรรคเพื่อไทยในปี2570จะให้มีบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 300,000 ยูนิต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000005308 • #MGROnline #บ้านเพื่อคนไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไฟไหม้บ่อขยะ บางปูหลายชุมชนจมควัน เพลิงที่สงบปะทุขึ้นอีกรอบ ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำดับไฟให้สนิท แจ้งเตือน ปชช.สวมหน้ากาก เลี่ยงสูดดมควันไฟ ต้องการที่พักพิงชั่วคราว ติดต่อ ทต.บางปู

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005284

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ไฟไหม้บ่อขยะ บางปูหลายชุมชนจมควัน เพลิงที่สงบปะทุขึ้นอีกรอบ ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำดับไฟให้สนิท แจ้งเตือน ปชช.สวมหน้ากาก เลี่ยงสูดดมควันไฟ ต้องการที่พักพิงชั่วคราว ติดต่อ ทต.บางปู อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005284 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 742 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts