• ร้านบ้านเร้าไก่26 #นนทบุรี #ก๋วยเตี๋ยว #ข้าวมันไก่ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #ร้านอาหาร #กิน #อร่อย #อาหาร #noodles #food #foodie #thaifood #streetfood #eatery #delicious #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ร้านบ้านเร้าไก่26 #นนทบุรี #ก๋วยเตี๋ยว #ข้าวมันไก่ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #ร้านอาหาร #กิน #อร่อย #อาหาร #noodles #food #foodie #thaifood #streetfood #eatery #delicious #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี
    .
    นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    #ป่อเต็กตึ๊งช่วยชีวิตรักษาชีวิตสร้างชีวิต
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร . วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี . นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . #ป่อเต็กตึ๊งช่วยชีวิตรักษาชีวิตสร้างชีวิต #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 28-5-68
    .
    เช้าวันพุธ คุณสนธิมาเล่าถึงเรื่องร้อน ๆ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อพิรุธจากคำพิพากษาคดีแตงโมของศาลนนทบุรี, กรณี กยศ., ปัญหาทางการเมือง รวมไปถึงแนวทางการทำงานของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=IXfVyio76VE
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    สนธิเล่าเรื่อง 28-5-68 . เช้าวันพุธ คุณสนธิมาเล่าถึงเรื่องร้อน ๆ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อพิรุธจากคำพิพากษาคดีแตงโมของศาลนนทบุรี, กรณี กยศ., ปัญหาทางการเมือง รวมไปถึงแนวทางการทำงานของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=IXfVyio76VE . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    Like
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 489 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 28-5-68
    .
    เช้าวันพุธ คุณสนธิมาเล่าถึงเรื่องร้อน ๆ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อพิรุธจากคำพิพากษาคดีแตงโมของศาลนนทบุรี, กรณี กยศ., ปัญหาทางการเมือง รวมไปถึงแนวทางการทำงานของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=IXfVyio76VE
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    สนธิเล่าเรื่อง 28-5-68 . เช้าวันพุธ คุณสนธิมาเล่าถึงเรื่องร้อน ๆ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อพิรุธจากคำพิพากษาคดีแตงโมของศาลนนทบุรี, กรณี กยศ., ปัญหาทางการเมือง รวมไปถึงแนวทางการทำงานของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=IXfVyio76VE . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผัดไทยรองแชมป์โลก..ย่ามณี ผัดไทย
    รสเด็ด ที่ ซ๊อสผัดไทย ปรุงรสจากน้ำตาลโตนด+น้ำมะขามเปียก
    https://maps.app.goo.gl/Ed4xMPjfn3pY88tD6
    เปิด 10:00-20:00 น. ปิดวันจันทร์
    ร้านอยู่เลยตลาดต้นสัก ฝั่งทางซ้ายมือก่อนถึง ซอยนนทบุรี 17
    ผัดไทยรองแชมป์โลก..ย่ามณี ผัดไทย รสเด็ด ที่ ซ๊อสผัดไทย ปรุงรสจากน้ำตาลโตนด+น้ำมะขามเปียก https://maps.app.goo.gl/Ed4xMPjfn3pY88tD6 เปิด 10:00-20:00 น. ปิดวันจันทร์ ร้านอยู่เลยตลาดต้นสัก ฝั่งทางซ้ายมือก่อนถึง ซอยนนทบุรี 17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เจ้าท่าฯ”ลุยยกระดับปรับปรุงท่าเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยาออกแบบ “อารยสถาปัตย์” ส่งเสริมสิทธิเท่าเทียม รองรับบริการทุกกลุ่ม บริหารท่าเรืออัจฉริยะ Smart Pier ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมพลังงาน ตั้งเป้าปี 69 เสร็จครบ 29 แห่ง เชื่อม”ล้อ - ราง – เรือ” สะดวกไร้รอยต่อ คาดปี 70 มีผู้ใช้บริการท่าเรือโดยสารเฉลี่ย 53,000 คนต่อวัน

    นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือเป็นสถานีเรือโดยสารอัจฉริยะ (Smart Pier) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 29 ท่า นั้นปัจจุบันมีการปรับปรุงและแก้ไขในรูปแบบอารยสถาปัตย์แล้วเสร็จ 16 แห่ง อาทิ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือนนทบุรี ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือสาทร ท่าเรือราชินี ท่าเรือบางโพ ท่าเรือพายัพ ท่าเรือเตียน เป็นต้น ยังเหลืออีก 13 แห่ง ที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ตามแผนงานที่วางไว้

    โดยเมื่อเดือนเม.ย. 2568 เพิ่งเปิดให้บริการท่าเรือพระราม 7 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นอีกท่าเรือที่ปรับปรุงด้วยแนวคิด “ท่าเรือยุคใหม่ สะดวกปลอดภัย เทคโนโลยีก้าวไกล ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ซึ่งถือเป็นท่าเรือที่ได้ร่วมมือกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพลังงาน ติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปบนหลังคาท่าเรือ พร้อมสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV CHARGER) ให้เป็นท่าเรือ Smart Pier อย่างสมบูรณ์แบบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000049615

    #MGROnline #ท่าเรืออัจฉริยะ #SmartPier
    “เจ้าท่าฯ”ลุยยกระดับปรับปรุงท่าเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยาออกแบบ “อารยสถาปัตย์” ส่งเสริมสิทธิเท่าเทียม รองรับบริการทุกกลุ่ม บริหารท่าเรืออัจฉริยะ Smart Pier ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมพลังงาน ตั้งเป้าปี 69 เสร็จครบ 29 แห่ง เชื่อม”ล้อ - ราง – เรือ” สะดวกไร้รอยต่อ คาดปี 70 มีผู้ใช้บริการท่าเรือโดยสารเฉลี่ย 53,000 คนต่อวัน • นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือเป็นสถานีเรือโดยสารอัจฉริยะ (Smart Pier) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 29 ท่า นั้นปัจจุบันมีการปรับปรุงและแก้ไขในรูปแบบอารยสถาปัตย์แล้วเสร็จ 16 แห่ง อาทิ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือนนทบุรี ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือสาทร ท่าเรือราชินี ท่าเรือบางโพ ท่าเรือพายัพ ท่าเรือเตียน เป็นต้น ยังเหลืออีก 13 แห่ง ที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ตามแผนงานที่วางไว้ • โดยเมื่อเดือนเม.ย. 2568 เพิ่งเปิดให้บริการท่าเรือพระราม 7 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นอีกท่าเรือที่ปรับปรุงด้วยแนวคิด “ท่าเรือยุคใหม่ สะดวกปลอดภัย เทคโนโลยีก้าวไกล ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ซึ่งถือเป็นท่าเรือที่ได้ร่วมมือกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพลังงาน ติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปบนหลังคาท่าเรือ พร้อมสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV CHARGER) ให้เป็นท่าเรือ Smart Pier อย่างสมบูรณ์แบบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000049615 • #MGROnline #ท่าเรืออัจฉริยะ #SmartPier
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม นิดา เผยหลังศาลจังหวัดนนทบุรีพิพากษาคดี แตงโม นิดา ตกเรือเสียชีวิต ยกฟ้อง กระติก แซน ภีม ในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เนื่องจาก ไม่มีประจักษ์พยาน แนวทางการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานต่างๆ แตงโมเดินไปท้ายเรือไปเสี่ยงภัยและตกเรือเสียชีวิตด้วยตัวเอง คุณแม่ยังไม่เห็นด้วยจะไปปรึกษาอัยการ คัดสำเนาคำพิพากษา และยื่นอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน เพราะแม่ยังไม่เชื่อว่าการเสียชีวิตเกิดจากการกระทำของแตงโม ที่เดินไปแล้วตกท้ายเรือเอง แม่เชื่อว่า คนบนเรือมีส่วนทำให้ลูกสาวเสียชีวิต ส่วนจะนำหลักฐานใหม่อะไรที่แสดงว่าไม่ใช่การประมาทยื่นให้ศาลนั้น ขนาดประมาทยังเอาผิดไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดถึงการฆาตกรรม ก็ต้องยื่นอุทธรณ์ในคดีประมาท ซึ่งเมื่อศาลเริ่มอ่านคำพิพากษาศาลก็บอกแล้วว่า"ไม่มีประจักษ์พยาน"

    -แล้วแต่แม่เห็นสมควร
    -ปัดเคลียร์ข้าวเอื้อคดี
    -แค่นั้นก็พอพิจารณาได้
    -เป็นอำนาจประธานวุฒิสภา
    นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม นิดา เผยหลังศาลจังหวัดนนทบุรีพิพากษาคดี แตงโม นิดา ตกเรือเสียชีวิต ยกฟ้อง กระติก แซน ภีม ในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เนื่องจาก ไม่มีประจักษ์พยาน แนวทางการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานต่างๆ แตงโมเดินไปท้ายเรือไปเสี่ยงภัยและตกเรือเสียชีวิตด้วยตัวเอง คุณแม่ยังไม่เห็นด้วยจะไปปรึกษาอัยการ คัดสำเนาคำพิพากษา และยื่นอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน เพราะแม่ยังไม่เชื่อว่าการเสียชีวิตเกิดจากการกระทำของแตงโม ที่เดินไปแล้วตกท้ายเรือเอง แม่เชื่อว่า คนบนเรือมีส่วนทำให้ลูกสาวเสียชีวิต ส่วนจะนำหลักฐานใหม่อะไรที่แสดงว่าไม่ใช่การประมาทยื่นให้ศาลนั้น ขนาดประมาทยังเอาผิดไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดถึงการฆาตกรรม ก็ต้องยื่นอุทธรณ์ในคดีประมาท ซึ่งเมื่อศาลเริ่มอ่านคำพิพากษาศาลก็บอกแล้วว่า"ไม่มีประจักษ์พยาน" -แล้วแต่แม่เห็นสมควร -ปัดเคลียร์ข้าวเอื้อคดี -แค่นั้นก็พอพิจารณาได้ -เป็นอำนาจประธานวุฒิสภา
    Sad
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 748 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • คุณแม่เตรียมยื่นอุทธรณ์ ไม่เชื่อแตงโมตกเรือเอง : [THE MESSAGE]

    นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม นิดา เผยหลังศาลจังหวัดนนทบุรีพิพากษาคดี แตงโม นิดา ตกเรือเสียชีวิต ยกฟ้อง กระติก แซน ภีม ในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เนื่องจาก ไม่มีประจักษ์พยาน แนวทางการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานต่างๆ แตงโมเดินไปท้ายเรือไปเสี่ยงภัยและตกเรือเสียชีวิตด้วยตัวเอง คุณแม่ยังไม่เห็นด้วยจะไปปรึกษาอัยการ คัดสำเนาคำพิพากษา และยื่นอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน เพราะแม่ยังไม่เชื่อว่าการเสียชีวิตเกิดจากการกระทำของแตงโม ที่เดินไปแล้วตกท้ายเรือเอง แม่เชื่อว่า คนบนเรือมีส่วนทำให้ลูกสาวเสียชีวิต ส่วนจะนำหลักฐานใหม่อะไรที่แสดงว่าไม่ใช่การประมาทยื่นให้ศาลนั้น ขนาดประมาทยังเอาผิดไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดถึงการฆาตกรรม ก็ต้องยื่นอุทธรณ์ในคดีประมาท
    คุณแม่เตรียมยื่นอุทธรณ์ ไม่เชื่อแตงโมตกเรือเอง : [THE MESSAGE] นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม นิดา เผยหลังศาลจังหวัดนนทบุรีพิพากษาคดี แตงโม นิดา ตกเรือเสียชีวิต ยกฟ้อง กระติก แซน ภีม ในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เนื่องจาก ไม่มีประจักษ์พยาน แนวทางการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานต่างๆ แตงโมเดินไปท้ายเรือไปเสี่ยงภัยและตกเรือเสียชีวิตด้วยตัวเอง คุณแม่ยังไม่เห็นด้วยจะไปปรึกษาอัยการ คัดสำเนาคำพิพากษา และยื่นอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน เพราะแม่ยังไม่เชื่อว่าการเสียชีวิตเกิดจากการกระทำของแตงโม ที่เดินไปแล้วตกท้ายเรือเอง แม่เชื่อว่า คนบนเรือมีส่วนทำให้ลูกสาวเสียชีวิต ส่วนจะนำหลักฐานใหม่อะไรที่แสดงว่าไม่ใช่การประมาทยื่นให้ศาลนั้น ขนาดประมาทยังเอาผิดไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดถึงการฆาตกรรม ก็ต้องยื่นอุทธรณ์ในคดีประมาท
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 632 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • อบจ.นนทบุรี ต้อนรับคณะศึกษาดูงาน OTOP จากเนปาล แลกเปลี่ยนองค์ความรู้พัฒนาสินค้าชุมชน
    https://www.thai-tai.tv/news/18862/
    อบจ.นนทบุรี ต้อนรับคณะศึกษาดูงาน OTOP จากเนปาล แลกเปลี่ยนองค์ความรู้พัฒนาสินค้าชุมชน https://www.thai-tai.tv/news/18862/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถไฟฟ้าสายสีชมพู เปิดประตูสู่เมืองทองธานี

    วันอังคารที่ 20 พ.ค. รถไฟฟ้ามหานครสาย สีชมพู จะเปิดทดสอบระบบส่วนต่อขยายเมืองทองธานี 2 สถานี ได้แก่ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี (MT01) และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี (MT02) วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เปิดบริการเวลา 06.00 ถึง 22.00 น. วันเสาร์และวันอาทิตย์ เปิดบริการเวลา 06.00 ถึง 23.30 น. ความถี่ทุก 10 นาที ก่อนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์วันที่ 17 มิ.ย. ถือเป็นการเติมเต็มอาณาจักรเมืองทองธานี บนพื้นที่รวมกว่า 4,000 ไร่ ประกอบด้วยโครงการอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โรงแรม และพื้นที่ค้าปลีก ให้มีระบบคมนาคมขนส่งที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น

    จากเดิมการเดินทางมายังอิมแพ็คด้วยระบบขนส่งมวลชน มีทั้งรถประจำทาง รถตู้สาธารณะ และรถสองแถว แต่ต้องประสบปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะถนนแจ้งวัฒนะ แม้โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะให้บริการที่สถานีศรีรัช (PK09) ทางออก 1 แต่ต้องต่อรถสองแถว 12 บาท รถตู้ 15 บาท หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 30-40 บาท

    แต่รถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู ส่วนต่อขยายเมืองทองธานี เมื่อออกจากสถานีเมืองทองธานี (PK10) สามารถเปลี่ยนขบวนรถไปยังสถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี โดยเสียค่าโดยสารเพิ่ม 3-5 บาท แต่จ่ายสูงสุดในโครงข่ายสายสีชมพู (ศูนย์ราชการนนทบุรี-มีนบุรี) ไม่เกิน 45 บาท เมื่อถึงสถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี ใช้ทางออก 3 เพื่อไปยังอิมแพ็คได้ทันที

    หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามหานคร สายสีม่วง เดินทางข้ามสายที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ด้วยบัตร EMV (บัตรเครดิต VISA และ Mastercard ทุกธนาคาร บัตรเดบิตธนาคารกรุงไทย และยูโอบี) ยังมีส่วนลดค่าแรกเข้า 15 บาท ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว เปลี่ยนขบวนรถที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ไม่มีส่วนลดและไม่สามารถใช้บัตร EMV ได้ ต้องใช้บัตรแรบบิท หรือบัตรโดยสารเที่ยวเดียว

    การให้บริการจะใช้รถจำนวน 3 ขบวน จากทั้งหมด 42 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ มีที่นั่งทั้งหมด 60 ที่นั่งต่อขบวน รองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 738 คน ระยะแรกคาดว่าจะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการประมาณ 13,800 คน-เที่ยวต่อวัน จากปัจจุบันมีผู้โดยสารช่วงแคราย-มีนบุรีเฉลี่ยประมาณ 70,000 คน-เที่ยวต่อวัน และเมื่อเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์จะขยายเวลาให้บริการเป็น 06.00 ถึง 24.00 น. ความถี่ 10 นาทีต่อขบวน แต่ช่วงที่มีอีเวนต์ คอนเสิร์ต จะเพิ่มความถี่เป็น 5 นาทีต่อขบวน

    นอกจากนี้ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี ยังมีทางออก 1 ไปมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ทางออก 2 ไปโรงเรียนวัดผาสุกมณีจักร และทางออก 4 ไปซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 39

    #Newskit
    รถไฟฟ้าสายสีชมพู เปิดประตูสู่เมืองทองธานี วันอังคารที่ 20 พ.ค. รถไฟฟ้ามหานครสาย สีชมพู จะเปิดทดสอบระบบส่วนต่อขยายเมืองทองธานี 2 สถานี ได้แก่ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี (MT01) และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี (MT02) วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เปิดบริการเวลา 06.00 ถึง 22.00 น. วันเสาร์และวันอาทิตย์ เปิดบริการเวลา 06.00 ถึง 23.30 น. ความถี่ทุก 10 นาที ก่อนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์วันที่ 17 มิ.ย. ถือเป็นการเติมเต็มอาณาจักรเมืองทองธานี บนพื้นที่รวมกว่า 4,000 ไร่ ประกอบด้วยโครงการอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โรงแรม และพื้นที่ค้าปลีก ให้มีระบบคมนาคมขนส่งที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น จากเดิมการเดินทางมายังอิมแพ็คด้วยระบบขนส่งมวลชน มีทั้งรถประจำทาง รถตู้สาธารณะ และรถสองแถว แต่ต้องประสบปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะถนนแจ้งวัฒนะ แม้โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะให้บริการที่สถานีศรีรัช (PK09) ทางออก 1 แต่ต้องต่อรถสองแถว 12 บาท รถตู้ 15 บาท หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 30-40 บาท แต่รถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู ส่วนต่อขยายเมืองทองธานี เมื่อออกจากสถานีเมืองทองธานี (PK10) สามารถเปลี่ยนขบวนรถไปยังสถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี โดยเสียค่าโดยสารเพิ่ม 3-5 บาท แต่จ่ายสูงสุดในโครงข่ายสายสีชมพู (ศูนย์ราชการนนทบุรี-มีนบุรี) ไม่เกิน 45 บาท เมื่อถึงสถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี ใช้ทางออก 3 เพื่อไปยังอิมแพ็คได้ทันที หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามหานคร สายสีม่วง เดินทางข้ามสายที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ด้วยบัตร EMV (บัตรเครดิต VISA และ Mastercard ทุกธนาคาร บัตรเดบิตธนาคารกรุงไทย และยูโอบี) ยังมีส่วนลดค่าแรกเข้า 15 บาท ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว เปลี่ยนขบวนรถที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ไม่มีส่วนลดและไม่สามารถใช้บัตร EMV ได้ ต้องใช้บัตรแรบบิท หรือบัตรโดยสารเที่ยวเดียว การให้บริการจะใช้รถจำนวน 3 ขบวน จากทั้งหมด 42 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ มีที่นั่งทั้งหมด 60 ที่นั่งต่อขบวน รองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 738 คน ระยะแรกคาดว่าจะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการประมาณ 13,800 คน-เที่ยวต่อวัน จากปัจจุบันมีผู้โดยสารช่วงแคราย-มีนบุรีเฉลี่ยประมาณ 70,000 คน-เที่ยวต่อวัน และเมื่อเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์จะขยายเวลาให้บริการเป็น 06.00 ถึง 24.00 น. ความถี่ 10 นาทีต่อขบวน แต่ช่วงที่มีอีเวนต์ คอนเสิร์ต จะเพิ่มความถี่เป็น 5 นาทีต่อขบวน นอกจากนี้ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี ยังมีทางออก 1 ไปมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ทางออก 2 ไปโรงเรียนวัดผาสุกมณีจักร และทางออก 4 ไปซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 39 #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี
    .
    นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร . วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี . นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดสะพานมหาสวัสดิ์ แก้คอขวดราชพฤกษ์

    ถนนราชพฤกษ์ เส้นทางหลักจากย่านที่อยู่อาศัยบางใหญ่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี ไปยังสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน สู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจสาทรและสีลม ปัจจุบันการใช้ที่ดินในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยามีการพัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีปริมาณการจราจรมากกว่า 120,000 คันต่อวัน แมัจะมีการขยายถนนเป็น 10 ช่องจราจร แต่ก็มีบางจุดมีลักษณะเป็นคอขวด ทำให้การจราจรติดขัดในช่วงเช้าและเย็น หนึ่งในนั้นคือบริเวณสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ รอยต่อระหว่างเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

    กรมทางหลวงชนบท โดยสำนักก่อสร้างสะพาน จึงดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ ช่วง กม. 12+850 ถึง กม. 15+100 งบประมาณ 1,181.515 ล้านบาท ลักษณะเป็นสะพานยกระดับขนาด 2 ช่องจราจร ขนานไปกับสะพานเดิม กว้าง 8.50 เมตร ฝั่งขาเข้ายาว 2.10 กิโลเมตร และฝั่งขาออกยาว 1.90 กิโลเมตร พร้อมก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และงานเบ็ดเตล็ด เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2566 เป็นต้นมา โดยมีผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นสัญญา 30 ก.ย.2565 สิ้นสุดสัญญา 18 ธ.ค.2568

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ค. เปิดใช้สะพานฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ แล้ว รับรถจากวงเวียนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าไปยังทางพิเศษประจิมรัถยา ด่านตลิ่งชัน และทางแยกต่างระดับบรมราชชนนี ส่วนสะพานฝั่งขาออกกรุงเทพฯ จากสาทรมุ่งหน้าวงเวียนราชพฤกษ์ มีกำหนดจะเปิดในวันที่ 20 มิ.ย. ช่วยเพิ่มศักยภาพในการคมนาคมให้คล่องตัว ส่งเสริมและพัฒนาโครงข่ายถนนให้ครอบคลุมกับความต้องการในการเดินทาง อีกทั้งช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดอีกด้วย

    สะพานดังกล่าวออกแบบมาพิเศษคล้ายทางยกระดับ เนื่องจากเขตทางเดิมไม่เพียงพอที่จะก่อสร้างทางขนานกับสะพานเดิมในรูปแบบทั่วไปได้ โดยใช้โครงสร้างเสาและส่วนบนเป็นโครงสร้างเหล็ก เพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็ว และกระทบกับการจราจรบนถนนราชพฤกษ์ให้น้อยที่สุด โดยทางขนานขนาด 2 ช่องจราจร วางตัวอยู่เหนือสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ (ทางหลัก) เดิม ซึ่งทำให้บริเวณนี้ไม่เกิดสภาพเป็นคอขวด

    ถนนราชพฤกษ์ ระยะทาง 42 กิโลเมตร จากแยกตากสินเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 ถนนบรมราชชนนี ถนนนครอินทร์ (ไปตัวเมืองนนทบุรี) ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนชัยพฤกษ์ (ไปสะพานพระราม 4 และถนนแจ้งวัฒนะ) ถนนสาย 345 และจังหวัดปทุมธานี เป็นย่านที่อยู่อาศัยชานเมือง นอกจากโครงการหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งแล้ว ยังมีศูนย์การค้าและคอมมูนิตีมอลล์อีกด้วย

    #Newskit
    เปิดสะพานมหาสวัสดิ์ แก้คอขวดราชพฤกษ์ ถนนราชพฤกษ์ เส้นทางหลักจากย่านที่อยู่อาศัยบางใหญ่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี ไปยังสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน สู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจสาทรและสีลม ปัจจุบันการใช้ที่ดินในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยามีการพัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีปริมาณการจราจรมากกว่า 120,000 คันต่อวัน แมัจะมีการขยายถนนเป็น 10 ช่องจราจร แต่ก็มีบางจุดมีลักษณะเป็นคอขวด ทำให้การจราจรติดขัดในช่วงเช้าและเย็น หนึ่งในนั้นคือบริเวณสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ รอยต่อระหว่างเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี กรมทางหลวงชนบท โดยสำนักก่อสร้างสะพาน จึงดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ ช่วง กม. 12+850 ถึง กม. 15+100 งบประมาณ 1,181.515 ล้านบาท ลักษณะเป็นสะพานยกระดับขนาด 2 ช่องจราจร ขนานไปกับสะพานเดิม กว้าง 8.50 เมตร ฝั่งขาเข้ายาว 2.10 กิโลเมตร และฝั่งขาออกยาว 1.90 กิโลเมตร พร้อมก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และงานเบ็ดเตล็ด เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2566 เป็นต้นมา โดยมีผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นสัญญา 30 ก.ย.2565 สิ้นสุดสัญญา 18 ธ.ค.2568 ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ค. เปิดใช้สะพานฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ แล้ว รับรถจากวงเวียนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าไปยังทางพิเศษประจิมรัถยา ด่านตลิ่งชัน และทางแยกต่างระดับบรมราชชนนี ส่วนสะพานฝั่งขาออกกรุงเทพฯ จากสาทรมุ่งหน้าวงเวียนราชพฤกษ์ มีกำหนดจะเปิดในวันที่ 20 มิ.ย. ช่วยเพิ่มศักยภาพในการคมนาคมให้คล่องตัว ส่งเสริมและพัฒนาโครงข่ายถนนให้ครอบคลุมกับความต้องการในการเดินทาง อีกทั้งช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดอีกด้วย สะพานดังกล่าวออกแบบมาพิเศษคล้ายทางยกระดับ เนื่องจากเขตทางเดิมไม่เพียงพอที่จะก่อสร้างทางขนานกับสะพานเดิมในรูปแบบทั่วไปได้ โดยใช้โครงสร้างเสาและส่วนบนเป็นโครงสร้างเหล็ก เพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็ว และกระทบกับการจราจรบนถนนราชพฤกษ์ให้น้อยที่สุด โดยทางขนานขนาด 2 ช่องจราจร วางตัวอยู่เหนือสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ (ทางหลัก) เดิม ซึ่งทำให้บริเวณนี้ไม่เกิดสภาพเป็นคอขวด ถนนราชพฤกษ์ ระยะทาง 42 กิโลเมตร จากแยกตากสินเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 ถนนบรมราชชนนี ถนนนครอินทร์ (ไปตัวเมืองนนทบุรี) ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนชัยพฤกษ์ (ไปสะพานพระราม 4 และถนนแจ้งวัฒนะ) ถนนสาย 345 และจังหวัดปทุมธานี เป็นย่านที่อยู่อาศัยชานเมือง นอกจากโครงการหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งแล้ว ยังมีศูนย์การค้าและคอมมูนิตีมอลล์อีกด้วย #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อัยการดาว” เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ หลังมารดาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินสูญกว่า 7 แสนบาท

    วันนี้ (12 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด หรือ “อัยการดาว” อัยการมือทำคดีเเตงโม ดาราสาวชื่อดังตกเรือเสียชีวิต เมื่อครั้งนั่งตำเเหน่งอัยการจังหวัดนนทบุรี ได้รับมอบอำนาจจากมารดาเข้าเเจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บช.สอท.ให้ดำเนินคดีกับขบวนการ แก๊งคอลเซนเตอร์ซึ่งหลอกลวงมารดาของตนที่มีอายุเกือบ 80 ปี โดยมีพฤติการณ์เข้ามาตีสนิทในโลกออนไลน์หลอกให้โอนเงินในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียง 4-5 วัน ให้มีการโอนเงินจำนวนหลายสิบครั้งจนหมดยอดเงินถึง 7 เเสนกว่าบาทเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000044344

    #MGROnline #อัยการดาว #ตำรวจไซเบอร์
    “อัยการดาว” เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ หลังมารดาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินสูญกว่า 7 แสนบาท • วันนี้ (12 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด หรือ “อัยการดาว” อัยการมือทำคดีเเตงโม ดาราสาวชื่อดังตกเรือเสียชีวิต เมื่อครั้งนั่งตำเเหน่งอัยการจังหวัดนนทบุรี ได้รับมอบอำนาจจากมารดาเข้าเเจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บช.สอท.ให้ดำเนินคดีกับขบวนการ แก๊งคอลเซนเตอร์ซึ่งหลอกลวงมารดาของตนที่มีอายุเกือบ 80 ปี โดยมีพฤติการณ์เข้ามาตีสนิทในโลกออนไลน์หลอกให้โอนเงินในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียง 4-5 วัน ให้มีการโอนเงินจำนวนหลายสิบครั้งจนหมดยอดเงินถึง 7 เเสนกว่าบาทเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000044344 • #MGROnline #อัยการดาว #ตำรวจไซเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือกตั้งเทศบาล บ้านใหญ่ยึดเรียบ ซื้อเสียงไม่กลัวกฎหมาย
    .
    ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการเลือกตั้งระดับเทศบาล หลายสนามก็ไม่ได้มีอะไรผิดคาดเพราะบ้านใหญ่สามารถรักษาพื้นที่ได้ตามเดิม อันเป็นการแสดงให้เห็นว่ากระแสของการเมืองภาพใหญ่ไม่ได้มีผลต่อการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นมากนัก โดยเฉพาะผลการเลือกตั้งที่เทศบาลเมืองนนทบุรี และ ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044173

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เลือกตั้งเทศบาล บ้านใหญ่ยึดเรียบ ซื้อเสียงไม่กลัวกฎหมาย . ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการเลือกตั้งระดับเทศบาล หลายสนามก็ไม่ได้มีอะไรผิดคาดเพราะบ้านใหญ่สามารถรักษาพื้นที่ได้ตามเดิม อันเป็นการแสดงให้เห็นว่ากระแสของการเมืองภาพใหญ่ไม่ได้มีผลต่อการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นมากนัก โดยเฉพาะผลการเลือกตั้งที่เทศบาลเมืองนนทบุรี และ ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044173 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว่าที่นายกเล็ก กับความคาดหวังของคนนนทบุรี ตั้งคำถามงบเยอะแต่ปัญหาไม่ถูกแก้
    https://www.thai-tai.tv/news/18600/
    ว่าที่นายกเล็ก กับความคาดหวังของคนนนทบุรี ตั้งคำถามงบเยอะแต่ปัญหาไม่ถูกแก้ https://www.thai-tai.tv/news/18600/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวนนทบุรีโปรดทราบ พรรคส้มส่งคนโดนคดี มาชิงนายกเทศมนตรี
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #นนทบุรี
    ชาวนนทบุรีโปรดทราบ พรรคส้มส่งคนโดนคดี มาชิงนายกเทศมนตรี #คิงส์โพธิ์แดง #นนทบุรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • ปมร้อนข่าวลึก : จีนเทาปล้นจีนเทา ตำรวจ สตม.คนกลาง ส่องานเข้า ติดร่างแห
    .
    ตำรวจ สตม. ส่องานเข้า ด้วยน้ำมือจีนเทา ที่บุกมาฝังตัวในไทย เป็นคดีความขึ้นมา เมื่อมีหญิงชาวเมียนมา ชื่อ น.ส.อินชันดา จอ เข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเดือน มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042151

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปมร้อนข่าวลึก : จีนเทาปล้นจีนเทา ตำรวจ สตม.คนกลาง ส่องานเข้า ติดร่างแห . ตำรวจ สตม. ส่องานเข้า ด้วยน้ำมือจีนเทา ที่บุกมาฝังตัวในไทย เป็นคดีความขึ้นมา เมื่อมีหญิงชาวเมียนมา ชื่อ น.ส.อินชันดา จอ เข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเดือน มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042151 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตร.ปากเกร็ดรวบทันควัน! เพื่อนสนิทรัวยิงหนุ่มแบงก์ 17 นัด ดับคารถ ที่แท้ปมรักสามเส้าเคลียร์ไม่ลงตัว แย่งหญิงคนเดียวกัน

    จากกรณีเหตุยิงกันจนมีผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าปากซอยต้นสน 15 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายใต้อำนวยสั่งการของ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.ยศธเดช สุขเทียบ สว.สส.สภ.ปากเกร็ด ตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.ปากเกร็ด จับกุมตัวนายสิทธิพงษ์ สิงหพ หรือแม็ก อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีเลขที่ 614/2568 ลงวันที่ 3 พ.ค.68 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง , พาอาวุธปืนไปในทาง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต , ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน โดยตำรวจจับกุมตัวได้ที่ บ้านพักแห่งหนึ่ง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000041535

    #MGROnline #รัวยิง #หนุ่มแบงก์ #17นัด
    ตร.ปากเกร็ดรวบทันควัน! เพื่อนสนิทรัวยิงหนุ่มแบงก์ 17 นัด ดับคารถ ที่แท้ปมรักสามเส้าเคลียร์ไม่ลงตัว แย่งหญิงคนเดียวกัน • จากกรณีเหตุยิงกันจนมีผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าปากซอยต้นสน 15 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายใต้อำนวยสั่งการของ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.ยศธเดช สุขเทียบ สว.สส.สภ.ปากเกร็ด ตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.ปากเกร็ด จับกุมตัวนายสิทธิพงษ์ สิงหพ หรือแม็ก อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีเลขที่ 614/2568 ลงวันที่ 3 พ.ค.68 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง , พาอาวุธปืนไปในทาง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต , ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน โดยตำรวจจับกุมตัวได้ที่ บ้านพักแห่งหนึ่ง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000041535 • #MGROnline #รัวยิง #หนุ่มแบงก์ #17นัด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบก.นนทบุรี สั่ง ผกก.-รอง ผกก. เสริมทัพสอบสวนช่วย สภ.รัตนาธิเบศร์ หลังพนักงานสอบสวนป่วยซึมเศร้าจากงานล้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041494

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบก.นนทบุรี สั่ง ผกก.-รอง ผกก. เสริมทัพสอบสวนช่วย สภ.รัตนาธิเบศร์ หลังพนักงานสอบสวนป่วยซึมเศร้าจากงานล้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041494 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 658 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบก.นนทบุรี สั่ง ผกก.-รอง ผกก. เสริมทัพสอบสวนช่วย สภ.รัตนาธิเบศร์ หลังพนักงานสอบสวนป่วยซึมเศร้าจากงานล้น

    จากกรณีมีการเผยแพร่ภาพข่าวผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีปริมาณงานด้านสอบสวนจำนวนมากเกินขีดความสามารถ ส่งผลให้มีพนักงานสอบสวนจำนวนหลายรายเกิดภาวะเครียดสะสมจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ล่าสุด ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยสนับสนุนภารกิจเร่งด่วน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000041494

    #MGROnline #สภรัตนาธิเบศร์ #โรคซึมเศร้า
    ผบก.นนทบุรี สั่ง ผกก.-รอง ผกก. เสริมทัพสอบสวนช่วย สภ.รัตนาธิเบศร์ หลังพนักงานสอบสวนป่วยซึมเศร้าจากงานล้น • จากกรณีมีการเผยแพร่ภาพข่าวผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีปริมาณงานด้านสอบสวนจำนวนมากเกินขีดความสามารถ ส่งผลให้มีพนักงานสอบสวนจำนวนหลายรายเกิดภาวะเครียดสะสมจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ล่าสุด ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยสนับสนุนภารกิจเร่งด่วน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000041494 • #MGROnline #สภรัตนาธิเบศร์ #โรคซึมเศร้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • 30 เมษายน 2568-รายงานข่าวNBT News ระบุว่าทบ. แจงปมคลิปกลุ่มชายนับสิบแต่งชุดคล้ายสารวัตรทหารในงานอีเวนต์เอกชน ยังไม่ยืนยันเป็นกำลังพล อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่หากพบผิดจริง เตรียมสอบสวนทางวินัย

    กองทัพบก ชี้แจง ตามที่มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมภายในงานแห่งหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์และปรากฏภาพบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้น กองทัพบกได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นและขอชี้แจงดังนี้ จากผลการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท Quanhou ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

    ในขั้นต้น กองทัพบกได้ประสานกับกองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพบว่าไม่มีคำสั่งให้กำลังพลของหน่วยเข้าปฏิบัติภารกิจในงานดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลที่แต่งกายในลักษณะคล้ายสารวัตรทหารนั้นเป็นกำลังพลของกองทัพบกหรือไม่ หรือสังกัดหน่วยงานใด ซึ่งขณะนี้กองทัพบกอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด

    ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเป็นกำลังพลของกองทัพบกจริง จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยเนื่องจากถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบวินัยของทางราชการอย่างชัดเจน

    ทั้งนี้ในคลิปแสดงพิธีเปิดงาน https://www.facebook.com/share/v/14bPiUYy6s/?mibextid=wwXIfr
    30 เมษายน 2568-รายงานข่าวNBT News ระบุว่าทบ. แจงปมคลิปกลุ่มชายนับสิบแต่งชุดคล้ายสารวัตรทหารในงานอีเวนต์เอกชน ยังไม่ยืนยันเป็นกำลังพล อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่หากพบผิดจริง เตรียมสอบสวนทางวินัย กองทัพบก ชี้แจง ตามที่มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมภายในงานแห่งหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์และปรากฏภาพบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้น กองทัพบกได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นและขอชี้แจงดังนี้ จากผลการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท Quanhou ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในขั้นต้น กองทัพบกได้ประสานกับกองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพบว่าไม่มีคำสั่งให้กำลังพลของหน่วยเข้าปฏิบัติภารกิจในงานดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลที่แต่งกายในลักษณะคล้ายสารวัตรทหารนั้นเป็นกำลังพลของกองทัพบกหรือไม่ หรือสังกัดหน่วยงานใด ซึ่งขณะนี้กองทัพบกอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเป็นกำลังพลของกองทัพบกจริง จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยเนื่องจากถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบวินัยของทางราชการอย่างชัดเจน ทั้งนี้ในคลิปแสดงพิธีเปิดงาน https://www.facebook.com/share/v/14bPiUYy6s/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ถือได้ว่าเป็นฤดูกาลของการเลือกตั้งสนามจิ๋วอย่างนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลในหลายพื้นที่ โดยจังหวัดนนทบุรีเป็นอีกสนามหนึ่งที่มีการแข่งขันกันดุเดือด โดยล่าสุด 'สมนึก ธนเดชากุล' ผู้สมัครนายกเทศบาลนครนนทบุรี และอดีตแชมป์สนามนี้ 9 สมัยเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวยสภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี หลังจากโดนตัดต่อคลิปและมีการนำไปเผยแพร่ใน TikTok

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038689

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ช่วงนี้ถือได้ว่าเป็นฤดูกาลของการเลือกตั้งสนามจิ๋วอย่างนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลในหลายพื้นที่ โดยจังหวัดนนทบุรีเป็นอีกสนามหนึ่งที่มีการแข่งขันกันดุเดือด โดยล่าสุด 'สมนึก ธนเดชากุล' ผู้สมัครนายกเทศบาลนครนนทบุรี และอดีตแชมป์สนามนี้ 9 สมัยเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวยสภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี หลังจากโดนตัดต่อคลิปและมีการนำไปเผยแพร่ใน TikTok อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038689 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 748 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี
    .
    วันนี้ (วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นางชุติมา ตันติศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ จำนวน 6 ราย พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส จำนวน 10 ราย และมอบจักรยาน แก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน พร้อมกระบอกน้ำขนาด 1 ลิตร รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวชลบุรีในครั้งนี้ทั้งสิ้น 184,072 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นแปดพันห้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน) พร้อมกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น ฯลฯ โดยมี นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นายนัธทวัฒน์ ธนโชติชัยพัชร์ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี และนางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี
    .
    นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยเราได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี . วันนี้ (วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นางชุติมา ตันติศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ จำนวน 6 ราย พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส จำนวน 10 ราย และมอบจักรยาน แก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน พร้อมกระบอกน้ำขนาด 1 ลิตร รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวชลบุรีในครั้งนี้ทั้งสิ้น 184,072 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นแปดพันห้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน) พร้อมกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น ฯลฯ โดยมี นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นายนัธทวัฒน์ ธนโชติชัยพัชร์ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี และนางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี . นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยเราได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 829 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดภาพ พิธีลงนามสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ โดยมีนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงนามในสัญญา กับ กิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงาน ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการและการจ่ายเงินค่าจ้างเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นระยะเวลาควบคุมงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ (3 ปี) และระยะที่ 2 เป็นระยะเวลาควบคุมงานสำหรับงานรับประกันความชำรุดบกพร่องของผู้รับจ้างก่อสร้าง (2 ปี) ทำให้มีระยะเวลาผูกพันตามสัญญาจ้างเป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี และได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีคัดเลือกผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง3 บริษัท ควบคุมงาน ตึก สตง. เอกชนที่ได้รับงานควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง.วงเงิน 74.65 ล้านบาท 1. บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 8,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 63/123 ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย ปฏิวัติ ศิริไทย นาง พรรณนภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567 นาย ปฏิวัติ ศิริไทย ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พรรณภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ 2.บริษัท ว.และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2526 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 4,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 55 ซอยรามคำแหง 18 (แม้นเขียน 3) ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค ที่เกี่ยวข้อง ปรากฏชื่อ นาย โชควิชิต ลักษณากร นาย พลเดช เทอดพิทักษ์วานิช นาง ปราณีต แสงอลังการ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567 นาย โชควิชิต ลักษณากร ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พิมลดา ลักษณากร นาย วิชัย ลักษณากร นาย วิทู รักษ์วนิชพงศ์3. บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 2,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 76/2 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล นางสาว พนิดดา พิทักษ์เกียรติยศหลังจากมีการขยายสัญญา ครม.ชุดปัจจุบันนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน และโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง.. จนเกิดเหตุกาณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่มดังกล่าว .ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย
    เปิดภาพ พิธีลงนามสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ โดยมีนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงนามในสัญญา กับ กิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงาน ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการและการจ่ายเงินค่าจ้างเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นระยะเวลาควบคุมงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ (3 ปี) และระยะที่ 2 เป็นระยะเวลาควบคุมงานสำหรับงานรับประกันความชำรุดบกพร่องของผู้รับจ้างก่อสร้าง (2 ปี) ทำให้มีระยะเวลาผูกพันตามสัญญาจ้างเป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี และได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีคัดเลือกผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง3 บริษัท ควบคุมงาน ตึก สตง. เอกชนที่ได้รับงานควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง.วงเงิน 74.65 ล้านบาท 1. บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 8,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 63/123 ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย ปฏิวัติ ศิริไทย นาง พรรณนภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567 นาย ปฏิวัติ ศิริไทย ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พรรณภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ 2.บริษัท ว.และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2526 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 4,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 55 ซอยรามคำแหง 18 (แม้นเขียน 3) ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค ที่เกี่ยวข้อง ปรากฏชื่อ นาย โชควิชิต ลักษณากร นาย พลเดช เทอดพิทักษ์วานิช นาง ปราณีต แสงอลังการ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567 นาย โชควิชิต ลักษณากร ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พิมลดา ลักษณากร นาย วิชัย ลักษณากร นาย วิทู รักษ์วนิชพงศ์3. บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 2,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 76/2 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล นางสาว พนิดดา พิทักษ์เกียรติยศหลังจากมีการขยายสัญญา ครม.ชุดปัจจุบันนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน และโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง.. จนเกิดเหตุกาณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่มดังกล่าว .ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 519 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมคุมประพฤติ เผย สถิติคดีช่วงสงกรานต์วันที่สอง "เมาแล้วขับ" 982 คดี "ขับเสพ" 55 คดี รวม 1,037 คดี ติด EM จำนวน 6 ราย

    วันนี้ (13 เม.ย.) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำวันที่ 12 เม.ย.68 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของมาตรการควบคุมเข้มข้น พบว่ามีคดีเข้าสู่ระบบรวมทั้งสิ้น 1,037 คดี และศาลสั่งติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) จำนวน 6 ราย โดยแยกเป็น ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 982 คดี คิดเป็นร้อยละ 94.70 ติดอุปกรณ์ EM 3 ราย และ ขับเสพ จำนวน 55 คดี คิดเป็นร้อยละ 5.30 ติดอุปกรณ์ EM 3 ราย เพื่อการเฝ้าระวังพฤติกรรมเป็นระยะเวลา 15-30 วัน

    พ.ต.ต.สุริยา เผยว่า ขณะที่ยอดคดีสะสมตลอด 2 วัน (11–12 เม.ย.68) รวมทั้งสิ้น 1,363 คดี ติดอุปกรณ์ EM จำนวนรวม 15 ราย แบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 1,258 คดี คิดเป็นร้อยละ 92.30 ติด EM 4 ราย , ขับรถประมาท จำนวน 3 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.22 และ ขับเสพ จำนวน 102 คดี คิดเป็นร้อยละ 7.48 ติด EM 11 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับวันเดียวกันของปี 2567 ซึ่งมีคดีขับรถขณะเมาสุราจำนวน 1,131 คดี พบว่าในปี 2568 มีจำนวน 982 คดี ลดลง 149 คดี ส่วนจังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.สมุทรปราการ จำนวน 123 คดี 2.กรุงเทพมหานคร จำนวน 115 คดี และ 3.นนทบุรี จำนวน 110 คดี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035207

    #MGROnline #กรมคุมประพฤติ #สงกรานต์ #เมาแล้วขับ
    กรมคุมประพฤติ เผย สถิติคดีช่วงสงกรานต์วันที่สอง "เมาแล้วขับ" 982 คดี "ขับเสพ" 55 คดี รวม 1,037 คดี ติด EM จำนวน 6 ราย • วันนี้ (13 เม.ย.) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำวันที่ 12 เม.ย.68 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของมาตรการควบคุมเข้มข้น พบว่ามีคดีเข้าสู่ระบบรวมทั้งสิ้น 1,037 คดี และศาลสั่งติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) จำนวน 6 ราย โดยแยกเป็น ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 982 คดี คิดเป็นร้อยละ 94.70 ติดอุปกรณ์ EM 3 ราย และ ขับเสพ จำนวน 55 คดี คิดเป็นร้อยละ 5.30 ติดอุปกรณ์ EM 3 ราย เพื่อการเฝ้าระวังพฤติกรรมเป็นระยะเวลา 15-30 วัน • พ.ต.ต.สุริยา เผยว่า ขณะที่ยอดคดีสะสมตลอด 2 วัน (11–12 เม.ย.68) รวมทั้งสิ้น 1,363 คดี ติดอุปกรณ์ EM จำนวนรวม 15 ราย แบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 1,258 คดี คิดเป็นร้อยละ 92.30 ติด EM 4 ราย , ขับรถประมาท จำนวน 3 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.22 และ ขับเสพ จำนวน 102 คดี คิดเป็นร้อยละ 7.48 ติด EM 11 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับวันเดียวกันของปี 2567 ซึ่งมีคดีขับรถขณะเมาสุราจำนวน 1,131 คดี พบว่าในปี 2568 มีจำนวน 982 คดี ลดลง 149 คดี ส่วนจังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.สมุทรปราการ จำนวน 123 คดี 2.กรุงเทพมหานคร จำนวน 115 คดี และ 3.นนทบุรี จำนวน 110 คดี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035207 • #MGROnline #กรมคุมประพฤติ #สงกรานต์ #เมาแล้วขับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts